The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือนักเรียน ปีการศึกษา 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pair_rit, 2022-05-01 06:26:59

คู่มือนักเรียน ปีการศึกษา 2565

คู่มือนักเรียน ปีการศึกษา 2565

โครงสร้างหลกั สูตร ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6

โครงสร้างหลกั สตู รแผนที่ 3 (เนน้ คณติ ศาสตร์ – ภาษาอังกฤษ )

ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2

รหัสวิชา ชอ่ื วิชา น.ก. ชม./ส ชม./ภาค รหสั วชิ า ชอ่ื วิชา น.ก. ชม./ส ชม./ภาค

สาระการเรยี นรู้พนื้ ฐาน สาระการเรียนรู้พืน้ ฐาน 40
40
ท31101 ภาษาไทย 1 1.0 2 40 ท31102 ภาษาไทย 3 1.0 2 40

ค31101 คณติ ศาสตร์ 1 1.0 2 40 ค31102 คณิตศาสตร์ 2 1.0 2 20

ว31102 วทิ ยาศาสตรพ์ ้ืนฐาน 1 1.0 2 40 ว31103 วทิ ยาศาสตรพ์ ืน้ ฐาน 2 1.0 2 20
20
ว31104 วทิ ยาการคานวณ 1 0.5 1 20 ว31105 การออกแบบ 0.5 1 20
20
และเทคโนโลยี 1 20
40
ส31101 สังคมศกึ ษา 1 0.5 1 20 ส31104 สงั คมศึกษา 2 0.5 1 40

ส31102 พระพุทธศาสนา 1 0.5 1 20 ส31105 พระพุทธศาสนา 2 0.5 1 40
60
ส31103 ประวตั ศิ าสตร์ 1 0.5 1 20 ส31106 ประวัตศิ าสตร์ 2 0.5 1 20
20
พ31101 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 1 0.5 1 20 พ31102 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 2 0.5 1 20
20
ศ31101 ศิลปะ 1 0.5 1 20 ศ31102 ศิลปะ 2 0.5 1 40

ง31101 การงานอาชีพ 1.0 2 40 ง31102 การงานอาชพี 1.0 2 40

อ31101 ภาษาองั กฤษ 1 1.0 2 40 อ31102 ภาษาองั กฤษ 2 1.0 2 20
20
สาระการเรียนร้เู พมิ่ เติม (บงั คบั เฉพาะแผน ) สาระการเรยี นรเู้ พ่ิมเตมิ (บังคบั เฉพาะแผน ) 20
60
ท31201 การเขยี นร้อยแก้ว 1.0 2 40 ท31202 ภาษากับวัฒนธรรม 1.0 2

ค31201 คณิตศาสตรเ์ พม่ิ เตมิ 1 1.5 3 60 ค31202 คณติ ศาสตรเ์ พิ่มเติม 2 1.5 3

ว31261 เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 0.5 1 20 ว31262 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2 0.5 1

ส30221 หน้าท่พี ลเมอื ง 1 0.5 1 20 ส30222 หน้าท่ีพลเมือง 2 0.5 1

พ31201 บาสเกตบอล 1 0.5 1 20 พ31203 บาสเกตบอล 2 0.5 1

อ31201 ภาษาองั กฤษ อา่ น คิด วเิ คราะห์ 1 0.5 1 20 อ31202 ภาษาองั กฤษ อ่าน คดิ วิเคราะห์ 2 0.5 1

อ31205 ภาษาองั กฤษเพอื่ การสื่อสาร 1 1.0 2 40 อ31206 ภาษาองั กฤษเพือ่ การสื่อสาร 2 1.0 2

สารการเรียนรเู้ พม่ิ เติม ( เสรี ) สารการเรียนร้เู พม่ิ เตมิ ( เสรี )

เลอื กเรยี นสาระเพ่ิมเตมิ จากรายการแนบทา้ ย ภาคเรียนละ 1 หน่วยกติ เลอื กเรียนสาระเพ่มิ เติม จากรายการแนบท้าย ภาคเรียนละ 1 หน่วยกติ

1.0 2 40 1.0 2

กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน กิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน

- กจิ กรรมแนะแนว -1 20 - กจิ กรรมแนะแนว -1

- กจิ กรรมชมุ นมุ -1 20 - กิจกรรมชุมนมุ -1

- กิจกรรมบาเพญ็ ประโยชน์ -1 20 - กจิ กรรมบาเพ็ญประโยชน์ -1

3 60 3

โครงสร้างหลักสตู ร ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 – 6

โครงสร้างหลกั สตู รแผนท่ี 3 (เน้นคณติ ศาสตร์ – ภาษาอังกฤษ ) ม.5/4

ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรยี นที่ 2

รหัสวชิ า ช่ือวชิ า น.ก. ชม./ส ชม./ภาค รหสั วชิ า ชอ่ื วิชา น.ก. ชม./ส ชม./ภาค

สาระการเรียนรพู้ ื้นฐาน สาระการเรยี นรู้พ้นื ฐาน

ท32101 ภาษาไทย 3 1.0 2 40 ท32102 ภาษาไทย 4 1.0 2 40

ค32101 คณิตศาสตร์ 5 1.0 2 40 ค32102 คณิตศาสตร์ 7 1.0 2 40

ว32101 วทิ ยาศาสตรพ์ ืน้ ฐาน 3 1.0 2 40 ว32102 วทิ ยาศาสตรพ์ ้ืนฐาน 4 1.0 2 40

ว32103 วิทยาการคานวณ 2 0.5 1 20 ว32104 การออกแบบ 0.5 1 20
ส32101 สังคมศึกษา 3 1.0 2 และเทคโนโลยี 2 1.0 2 40

40 ส32104 สงั คมศกึ ษา 4

ส32102 พระพุทธศาสนา 3 0.5 1 20 ส32105 พระพทุ ธศาสนา 4 0.5 1 20

ส32103 ประวตั ิศาสตร์ 3 0.5 1 20 ส32106 ประวตั ิศาสตร์ 4 0.5 1 20

พ32101 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 3 0.5 1 20 พ32102 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 4 0.5 1 20

ศ32101 ศลิ ปะ 3 0.5 1 20 ศ32102 ศลิ ปะ 4 0.5 1 20

อ32101 ภาษาองั กฤษ 3 1.0 2 40 อ32102 ภาษาองั กฤษ 4 1.0 2 40

สาระการเรยี นรู้เพม่ิ เติม (บงั คบั เฉพาะแผน ) สาระการเรียนรเู้ พิ่มเติม (บังคบั เฉพาะแผน )

ท32201 การพูดในทช่ี ุมชน 1.0 2 40 ท32202 วรรณคดีมรดก 1.0 2 40

ค32201 คณิตศาสตร์เพิม่ เติม 3 1.5 3 60 ค32202 คณิตศาสตร์เพม่ิ เตมิ 4 1.5 3 60

ว32261 เทคโนโลยีสารสนเทศ 3 0.5 1 20 ว32262 เทคโนโลยีสารสนเทศ 4 0.5 1 20

I30201 การศึกษาคน้ ควา้ และ 1.0 2 40 I30202 การศกึ ษาค้นคว้าและ 1.0 2 40

สรา้ งองคค์ วามรู้ 1 ( IS1 ) สร้างองคค์ วามรู้ 2 ( IS2 )

ส32281 ทอ้ งถน่ิ ศึกษา 1 0.5 1 20 ส32282 ทอ้ งถิน่ ศึกษา 2 0.5 1 20

พ32201 แฮนดบ์ อล 0.5 1 20 พ32203 แบดมินตัน 0.5 1 20

อ32201 ภาษาองั กฤษอ่าน คดิ 0.5 1 20 อ32202 ภาษาอังกฤษอา่ น คิด 0.5 1 20

วิเคราะห์ 3 วิเคราะห์ 4

อ32204 ภาษาอังกฤษเพอื่ 1.0 2 40 อ32205 ภาษาองั กฤษเพ่ือ 1.0 2 40

ชวี ิตประจาวัน 1 ชวี ติ ประจาวัน 2

สารการเรียนรเู้ พิ่มเตมิ ( เสรี ) สารการเรียนรเู้ พิ่มเติม ( เสรี )

เลอื กเรียนสาระเพิม่ เติม จากรายการแนบท้าย ภาคเรียนละ 1 หน่วยกติ เลอื กเรียนสาระเพ่ิมเตมิ จากรายการแนบทา้ ย ภาคเรียนละ 1 หน่วยกิต

1.0 2 40 1.0 2 40

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น

- กิจกรรมแนะแนว -1 20 - กจิ กรรมแนะแนว -1 20

- กิจกรรมชุมนุม -1 20 - กจิ กรรมชมุ นมุ -1 20

- กจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์ -1 20 - กิจกรรมบาเพญ็ ประโยชน์ -1 20

3 60 3 60

โครงสร้างหลกั สตู ร ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย

ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 – 6

โครงสร้างหลกั สูตรแผนที่ 3 (เนน้ คณติ ศาสตร์ – ภาษาอังกฤษ ) ม.6/4

ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2

รหสั วชิ า ชื่อวชิ า น.ก. ชม./ส ชม./ภาค รหัสวชิ า ช่ือวชิ า น.ก. ชม./ส ชม./ภาค

สาระการเรยี นรพู้ ้นื ฐาน สาระการเรียนรู้พื้นฐาน

ท33101 ภาษาไทย 5 1.0 2 40 ท33102 ภาษาไทย 6 1.0 2 40

ค33101 คณติ ศาสตร์ 9 1.0 2 40 ค33102 คณิตศาสตร์ 11 1.0 2 40

ส33101 สงั คมศึกษา 5 0.5 1 20 ส33102 สงั คมศึกษา 6 0.5 1 20

พ33101 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 5 0.5 1 20 พ33102 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 6 0.5 1 20

ศ33101 ศิลปะ 5 0.5 1 20 ศ33102 ศลิ ปะ 6 0.5 1 20

ง33101 การงานอาชพี 3 0.5 1 20 ง33102 การงานอาชีพ 4 0.5 1 20

อ33101 ภาษาอังกฤษ 5 1.0 2 40 อ33102 ภาษาอังกฤษ 6 1.0 2 40

สาระการเรยี นรู้เพมิ่ เตมิ (บงั คับเฉพาะแผน ) สาระการเรยี นร้เู พิ่มเตมิ (บงั คบั เฉพาะแผน )

ท33201 เรียงถ้อยรอ้ ยคากรอง 1.0 2 40 ท33202 หลกั ภาษาไทย 1.0 2 40

ค33201 คณิตศาสตรเ์ พิ่มเตมิ 5 1.5 3 60 ค33202 คณิตศาสตร์เพ่ิมเติม 6 1.5 3 60

ว33263 วิทยาศาสตรเ์ พิ่มเตมิ 1 1 2 40 ว33264 วิทยาศาสตร์เพมิ่ เติม 2 1 2 40
ว33261 เทคโนโลยีสารสนเทศ 5 0.5 1 20 ว33262 เทคโนโลยีสารสนเทศ 6 1.0 2 40

ส33102 ศาสนาเปรยี บเทยี บ 1 0.5 1 20 ส33105 ศาสนาเปรยี บเทยี บ 1 0.5 1 20

ส33221 กฎหมายนา่ รู้ 0.5 1 20 ส33261 เหตุการณป์ ัจจบุ นั 0.5 1 20

ส30223 หนา้ ท่ีพลเมอื ง 3 0.5 1 20 ส30224 หนา้ ที่พลเมอื ง 4 0.5 1 20

พ33201 ศลิ ปะป้องกันตวั 0.5 1 20 พ33202 แชร์บอล 0.5 1 20

ว33261 เทคโนโลยีสารสนเทศ 3 0.5 1 20 ว33262 บทเรยี นสาเร็จรูป 1.0 2 40

อ33201 ภาษาอังกฤษอา่ น คดิ วเิ คราะห์ 5 0.5 1 20 อ33202 ภาษาองั กฤษอา่ น คดิ วเิ คราะห์ 6 0.5 1 20

อ33203 ภาษาอังกฤษเพ่อื ส่งิ แวดลอ้ ม 1.0 2 40 อ33204 ภาษาอังกฤษรอบรู้ 1.0 2 40

สารการเรียนรเู้ พ่มิ เติม ( เสรี ) สารการเรียนรู้เพมิ่ เตมิ ( เสรี )

เลือกเรียนสาระเพม่ิ เตมิ จากรายการแนบทา้ ย ภาคเรยี นละ 1 หนว่ ยกิต เลือกเรยี นสาระเพิม่ เติม จากรายการแนบท้าย ภาคเรียนละ 1 หนว่ ยกิต

1.0 2 40 1.0 2 40

กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน

- กิจกรรมแนะแนว - 1 20 - กิจกรรมแนะแนว -1 20

- กิจกรรมชุมนมุ - 1 20 - กจิ กรรมชุมนุม -1 20

- กิจกรรมบาเพญ็ ประโยชน์ - 1 20 - กจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์ - 1 20

3 60 3 60

โครงสร้างหลกั สตู ร ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 – 6

โครงสร้างหลักสูตรแผนท่ี 4 (เนน้ ภาษาต่างประเทศ )

ม.4/5 ภาษาญี่ปุน่ , ม.4/6 , 4/7 ภาษาจีน , ม.4/8 ภาษาฝรั่งเศส , ภาษาเยอรมัน

ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรยี นที่ 2

รหสั วชิ า ช่ือวชิ า น.ก. ชม./ส ชม./ภาค รหสั วิชา ชื่อวชิ า น.ก. ชม./ส ชม./ภาค

สาระการเรียนรพู้ น้ื ฐาน สาระการเรียนรพู้ น้ื ฐาน

ท31101 ภาษาไทย 1 1.0 2 40 ท31102 ภาษาไทย 2 1.0 2 40

ค31103 คณิตศาสตร์ 2 1.0 2 40 ค31104 คณติ ศาสตร์ 4 1.0 2 40

ว31102 วทิ ยาศาสตร์พืน้ ฐาน 1 1.0 2 40 ว31103 วทิ ยาศาสตรพ์ ื้นฐาน 2 1.0 2 40
ว31104 วทิ ยาการคานวณ 1 0.5 1 20 ว31105 การออกแบบ 0.5 1 20

และเทคโนโลยี 1

ส31101 สังคมศึกษา 1 0.5 1 20 ส31104 สงั คมศกึ ษา 2 0.5 1 20

ส31102 พระพุทธศาสนา 1 0.5 1 20 ส31105 พระพุทธศาสนา 2 0.5 1 20

ส31103 ประวตั ิศาสตร์ 1 0.5 1 20 ส31106 ประวัติศาสตร์ 2 0.5 1 20

พ31101 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 1 0.5 1 20 พ31102 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 2 0.5 1 20

ศ31101 ศลิ ปะ 1 0.5 1 20 ศ31102 ศลิ ปะ 2 0.5 1 20

ง31101 การงานอาชีพ 1.0 2 40 ง31102 การงานอาชีพ 1.0 2 40

อ31101 ภาษาอังกฤษ 1 1.0 2 40 อ31102 ภาษาอังกฤษ 2 1.0 2 40

สาระการเรยี นร้เู พมิ่ เตมิ (บงั คบั เฉพาะแผน ) สาระการเรยี นรูเ้ พมิ่ เติม (บงั คับเฉพาะแผน )

ท31201 การเขียนร้อยแกว้ 1.0 2 40 ท31202 ภาษากบั วัฒนธรรม 1.0 2 40

ว31261 เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 0.5 1 20 ว31262 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2 0.5 1 20

ส30221 หน้าท่ีพลเมอื ง 1 0.5 1 20 ส30222 หน้าท่พี ลเมือง 2 0.5 1 20

พ31201 บาสเกตบอล 1 0.5 1 20 พ31203 บาสเกตบอล 2 0.5 1 20

อ31201 ภาษาองั กฤษ อ่าน คิด วเิ คราะห์ 1 0.5 1 20 อ31202 ภาษาอังกฤษ อา่ น คดิ วิเคราะห์ 2 0.5 1 20

อ31205 ภาษาอังกฤษเพ่อื การส่ือสาร 1 1.0 2 40 อ31206 ภาษาองั กฤษเพอื่ การสือ่ สาร 2 1.0 2 40

ญ31201 ภาษาญป่ี นุ่ 1 3.0 6 120 ญ31202 ภาษาญ่ีปนุ่ 2 3.0 6 120

จ31201 ภาษาจีน 1 3.0 6 120 จ31202 ภาษาจีน 2 3.0 6 120

ฝ31201 ภาษาฝร่งั เศส 1 3.0 6 120 ฝ31202 ภาษาฝรัง่ เศส 2 3.0 6 120

ย31201 ภาษาเยอรมนั 1 3.0 6 120 ย31202 ภาษาเยอรมัน 2 3.0 6 120

กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น

- กจิ กรรมแนะแนว -1 20 - กิจกรรมแนะแนว -1 20

- กิจกรรมชมุ นุม -1 20 - กจิ กรรมชุมนุม -1 20

- กิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ -1 20 - กจิ กรรมบาเพ็ญประโยชน์ -1 20

3 60 3 60

โครงสร้างหลักสตู ร ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 – 6

โครงสรา้ งหลักสูตรแผนท่ี 4 (เนน้ ภาษาต่างประเทศ)

ม.5/5 ภาษาญป่ี นุ่ , ม.5/6 , 5/7 ภาษาจนี , ม.5/8 ภาษาฝรั่งเศส , ภาษาเยอรมนั

ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2

รหสั วิชา ชื่อวิชา น.ก. ชม./ส ชม./ภาค รหสั วิชา ชื่อวิชา น.ก. ชม./ส ชม./ภาค

สาระการเรยี นรู้พ้นื ฐาน สาระการเรียนรพู้ นื้ ฐาน

ท32101 ภาษาไทย 3 1.0 2 40 ท32102 ภาษาไทย 4 1.0 2 40

ค32103 คณติ ศาสตร์ 6 1.0 2 40 ค32104 คณิตศาสตร์ 8 1.0 2 40

ว32101 วทิ ยาศาสตรพ์ น้ื ฐาน 3 1.0 2 40 ว32102 วทิ ยาศาสตรพ์ น้ื ฐาน 4 1.0 2 40

ว32103 วทิ ยาการคานวณ 2 0.5 1 20 ว32104 การออกแบบ 0.5 1 20
ส32101 สงั คมศกึ ษา 3 1.0 2 และเทคโนโลยี 2 1.0 2 40

40 ส32104 สงั คมศกึ ษา 4

ส32102 พระพุทธศาสนา 3 0.5 1 20 ส32105 พระพทุ ธศาสนา 4 0.5 1 20

ส32103 ประวัติศาสตร์ 3 0.5 1 20 ส32106 ประวัตศิ าสตร์ 4 0.5 1 20

พ32101 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 3 0.5 1 20 พ32102 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 4 0.5 1 20

ศ32101 ศลิ ปะ 3 0.5 1 20 ศ32102 ศลิ ปะ 4 0.5 1 20

อ32101 ภาษาองั กฤษ 3 1.0 2 40 อ32102 ภาษาองั กฤษ 4 1.0 2 40

สาระการเรยี นร้เู พ่ิมเตมิ (บังคับเฉพาะแผน ) สาระการเรยี นร้เู พมิ่ เตมิ (บังคบั เฉพาะแผน )

ท32201 การพูดในท่ีชมุ ชน 1.0 2 40 ท32202 วรรณคดีมรดก 1.0 2 40

ว32261 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 3 0.5 1 20 ว32262 เทคโนโลยีสารสนเทศ 4 0.5 1 20

ส32281 ทอ้ งถน่ิ ศกึ ษา 1 0.5 1 20 ส32282 ท้องถน่ิ ศึกษา 2 0.5 1 20

พ32201 แฮนด์บอล 0.5 1 20 พ32203 แบดมนิ ตัน 0.5 1 20

อ32201 ภาษาอังกฤษ อา่ น คิด วิเคราะห์ 3 0.5 1 20 อ32202 ภาษาองั กฤษ อา่ น คดิ วิเคราะห์ 4 0.5 1 20

อ32204 ภาษาอังกฤษเพื่อชีวติ ประจาวนั 1 1.0 2 40 อ32205 ภาษาอังกฤษเพื่อชีวิตประจาวนั 2 1.0 2 40

ญ32201 ภาษาญปี่ ุน่ 3 3.0 6 120 ญ32202 ภาษาญปี่ ุน่ 4 3.0 6 120

จ32201 ภาษาจีน 3 3.0 6 120 จ32202 ภาษาจีน 4 3.0 6 120

ฝ32201 ภาษาฝรั่งเศส 3 3.0 6 120 ฝ32202 ภาษาฝรัง่ เศส 4 3.0 6 120

ย32201 ภาษาเยอรมัน 3 3.0 6 120 ย32202 ภาษาเยอรมนั 4 3.0 6 120

I30201 การศึกษาคน้ คว้าและ 1.0 2 40 I30202 การศกึ ษาค้นคว้าและ 1.0 2 40
สร้างองค์ความรู้ 1 ( IS1 ) สรา้ งองค์ความรู้ 2 ( IS2 )

กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน

- กจิ กรรมแนะแนว -1 20 - กิจกรรมแนะแนว - 1 20

- กิจกรรมชมุ นุม -1 20 - กิจกรรมชมุ นุม - 1 20

- กิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ - 1 20 - กจิ กรรมบาเพ็ญประโยชน์ - 1 20

3 60 3 60

โครงสร้างหลักสตู ร ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 – 6

โครงสรา้ งหลกั สูตรแผนท่ี 4 (เน้นภาษาต่างประเทศ)

ม.6/5 ภาษาญี่ป่นุ , ม.6/6 , 6/7 ภาษาจีน , ม.6/8 ภาษาฝรั่งเศส , ภาษาเยอรมัน

ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2

รหสั วชิ า ชอ่ื วชิ า น.ก. ชม./ส ชม./ภาค รหัสวชิ า ชือ่ วชิ า น.ก. ชม./ส ชม./ภาค

สาระการเรยี นรู้พืน้ ฐาน สาระการเรยี นรู้พื้นฐาน 2 40
2 40
ท33101 ภาษาไทย 5 1.0 2 40 ท33102 ภาษาไทย 6 1.0 2 40
1 20
ค33103 คณติ ศาสตร์ 10 1.0 2 40 ค33104 คณิตศาสตร์ 12 1.0 1 20
1 20
ว33101 วทิ ยาศาสตร์ 6 1.0 2 40 ว33102 วิทยาศาสตร์ 7 1.0 1 20
2 40
ส33101 สังคมศึกษา 5 0.5 1 20 ส33102 สงั คมศกึ ษา 6 0.5
2 40
พ33101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 5 0.5 1 20 พ33102 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 6 0.5 1 20
1 20
ศ33101 ศลิ ปะ 5 0.5 1 20 ศ33102 ศลิ ปะ 6 0.5 1 20
1 20
ง33101 การงานอาชีพ 3 0.5 1 20 ง33102 การงานอาชพี 4 0.5 2 40
2 40
อ33101 ภาษาอังกฤษ 5 1.0 2 40 อ33102 ภาษาองั กฤษ 6 1.0 1 20

สาระการเรยี นรเู้ พิม่ เติม (บังคับเฉพาะแผน ) สาระการเรียนรเู้ พิ่มเตมิ (บงั คบั เฉพาะแผน ) 2 40
6 120
ท33201 เรียงถอ้ ยรอ้ ยคากรอง 1.0 2 40 ท32202 หลกั ภาษาไทย 1.0 6 120
6 120
ส33221 กฎหมายน่ารู้ 0.5 1 20 ส33261 เหตุการณป์ จั จุบนั 0.5 6 120

ส33102 ศาสนาเปรียบเทียบ 1 0.5 1 20 ส33105 ศาสนาเปรียบเทยี บ 1 0.5 1 20
1 20
ส30223 หนา้ ทีพ่ ลเมือง 3 0.5 1 20 ส30224 หน้าท่พี ลเมือง 4 0.5 1 20
3 60
พ33201 ศิลปะปอ้ งกันตวั 0.5 1 20 พ32203 แชรบ์ อล 0.5

ว33263 วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ิมเติม 1 12 40 ว33264 วทิ ยาศาสตร์เพิ่มเตมิ 2 1
ว33261 เทคโนโลยีสารสนเทศ 5 0.5 1 20 ว33262 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 6 1.0

อ33201 ภาษาองั กฤษอ่าน คดิ 0.5 1 20 อ33202 ภาษาอังกฤษ อ่าน คิด 0.5

วเิ คราะห์ 5 วิเคราะห์ 6

อ33203 ภาษาองั กฤษเพื่อสิง่ แวดล้อม 1.0 2 40 อ33204 ภาษาอังกฤษรอบรู้ 1.0

ญ33201 ภาษาญี่ปนุ่ 5 3.0 6 120 ญ33202 ภาษาญ่ปี นุ่ 6 3.0

จ33201 ภาษาจนี 5 3.0 6 120 จ33202 ภาษาจนี 6 3.0

ฝ33201 ภาษาฝร่งั เศส 5 3.0 6 120 ฝ33102 ภาษาฝรัง่ เศส 6 3.0

ย33201 ภาษาเยอรมัน 5 3.0 6 120 ย33202 ภาษาเยอรมัน 6 3.0

กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น

- กิจกรรมแนะแนว - 1 20 - กิจกรรมแนะแนว -

- กิจกรรมชมุ นมุ - 1 20 - กจิ กรรมชุมนุม -

- กิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ -1 20 - กจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์ -

3 60

โครงสรา้ งหลักสตู ร ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 – 6

โครงสรา้ งหลักสูตรแผนที่ 5 (เน้นวทิ ยาศาสตร์ – คณติ ศาสตร์ – คอมพิวเตอร)์ ม.4/9

ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2

รหสั วชิ า ชอื่ วชิ า น.ก. ชม./ส ชม./ภาค รหัสวิชา ชื่อวิชา น.ก. ชม./ส ชม./ภาค

สาระการเรียนรู้พ้ืนฐาน สาระการเรียนรพู้ ืน้ ฐาน 2 40
2 40
ท31101 ภาษาไทย 1 1.0 2 40 ท31102 ภาษาไทย 2 1.0 1 20

ค31101 คณิตศาสตร์ 1 1.0 2 40 ค31102 คณติ ศาสตร์ 3 1.0 1 20
1 20
ว31104 วิทยาการคานวณ 1 0.5 1 20 ว31105 การออกแบบ 0.5 1 20
1 20
และเทคโนโลยี 1 1 20
2 40
ส31101 สังคมศกึ ษา 1 0.5 1 20 ส31104 สังคมศึกษา 2 0.5 2 40

ส31102 พระพทุ ธศาสนา 1 0.5 1 20 ส31105 พระพุทธศาสนา 2 0.5 3 60
1 20
ส31103 ประวัติศาสตร์ 1 0.5 1 20 ส31106 ประวตั ศิ าสตร์ 2 0.5 4 80
3 60
พ31101 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 1 0.5 1 20 พ31102 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 2 0.5 3 60

ศ31101 ศิลปะ 1 0.5 1 20 ศ31102 ศิลปะ 2 0.5 2 40
1 20
ง31101 การงานอาชพี 1 1.0 2 40 ง31102 การงานอาชีพ 2 1.0 1 20
1 20
อ31101 ภาษาองั กฤษ 1 1.0 2 40 อ31102 ภาษาอังกฤษ 2 1.0
1 20
สาระการเรยี นรเู้ พ่มิ เติม (บังคบั เฉพาะบางกลุ่ม) สาระการเรียนร้เู พมิ่ เตมิ (บังคบั เฉพาะบางกลมุ่ ) 1 20
1 20
ค31201 คณิตศาสตร์เพม่ิ เติม 1 1.5 3 60 ค31202 คณติ ศาสตร์เพิม่ เติม 2 1.5 3 60

ว31261 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 1 0.5 1 20 ว31262 เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 0.5

ว31201 ฟิสิกสเ์ พ่มิ เตมิ 1 2.0 4 80 ว31202 ฟิสกิ ส์เพม่ิ เตมิ 1 2.0

ว31221 เคมเี พ่ิมเติม 1 1.5 3 60 ว31222 เคมเี พ่ิมเติม 1 1.5

ว31241 ชวี วิทยาเพ่ิมเตมิ 1 1.5 3 60 ว31242 ชวี วิทยาเพ่มิ เติม 1 1.5

ว31271 การเขียนเว็บ 1.0 2 40 ว31272 การออกแบบส่อื สง่ิ พิมพ์เพ่ือ 1.0
แอปพลิเคชัน 0.5 1 การโฆษณา

ส30221 หน้าท่ีพลเมอื ง 20 ส30222 หนา้ ท่พี ลเมือง 0.5

พ31201 บาสเกตบอล 1 0.5 1 20 พ31203 บาสเกตบอล 2 0.5

อ31201 ภาษาอังกฤษ อา่ น คิด วิเคราะห์ 1 0.5 1 20 อ31202 ภาษาอังกฤษ อา่ น คดิ วิเคราะห์ 2 0.5

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน

- กิจกรรมแนะแนว - 1 20 - กิจกรรมแนะแนว -

- กจิ กรรมชมุ นุม - 1 20 - กิจกรรมชมุ นุม -

- กิจกรรมบาเพญ็ ประโยชน์ - 1 20 - กจิ กรรมบาเพ็ญประโยชน์ -

3 60

โครงสรา้ งหลกั สูตร ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 – 6

โครงสรา้ งหลกั สูตรแผนที่ 6 (เนน้ วิทยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์ – คอมพวิ เตอร์) ม.5/9

ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2

รหสั วชิ า ชือ่ วิชา น.ก. ชม./ส ชม./ภาค รหัสวิชา ช่อื วชิ า น.ก. ชม./ส ชม./ภาค

สาระการเรียนรู้พื้นฐาน สาระการเรยี นรพู้ น้ื ฐาน

ท32101 ภาษาไทย 3 1.0 2 40 ท32102 ภาษาไทย 4 1.0 2 40

ค32101 คณิตศาสตร์ 5 1.0 2 40 ค32102 คณติ ศาสตร์ 7 1.0 2 40

ว32103 วทิ ยาการคานวณ 2 0.5 1 20 ว32104 การออกแบบ 0.5 1 20
และเทคโนโลยี 2
12 40
ว32105 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ 1.0 2 40 ว32106 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ 1 2 40
(ฟิสกิ ส)์

ส32101 สงั คมศึกษา 3 40 ส32104 สังคมศกึ ษา 4 1.0 2

ส32102 พระพทุ ธศาสนา 3 0.5 1 20 ส32105 พระพุทธศาสนา 4 0.5 1 20

ส32103 ประวัติศาสตร์ 3 0.5 1 20 ส32106 ประวตั ิศาสตร์ 4 0.5 1 20

พ32101 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 3 0.5 1 20 พ32102 สุขศึกษาและพลศกึ ษา 4 0.5 1 20

ศ32101 ศิลปะ 3 0.5 1 20 ศ32102 ศลิ ปะ 4 0.5 1 20

อ32101 ภาษาอังกฤษ 3 1.0 2 40 อ32102 ภาษาองั กฤษ 4 1.0 2 40

สาระการเรยี นร้เู พิ่มเตมิ (บงั คับเฉพาะบางกลมุ่ ) สาระการเรียนรเู้ พ่ิมเติม (บังคบั เฉพาะบางกล่มุ )

ค32201 คณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 1.5 3 60 ค32202 คณิตศาสตร์เพ่ิมเติม 4 1.5 3 60

ว32261 เทคโนโลยีสารสนเทศ 3 0.5 1 20 ว32262 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 4 0.5 1 20

ว32201 ฟิสิกส์เพ่มิ เติม 3 2.0 4 80 ว32202 ฟสิ ิกส์เพิ่มเติม 4 2.0 4 80

ว32221 เคมเี พ่มิ เติม 3 1.5 3 60 ว32222 เคมีเพิม่ เตมิ 4 1.5 3 60

ว32241 ชีววิทยาเพม่ิ เตมิ 3 1.5 3 60 ว32242 ชวี วิทยาเพมิ่ เตมิ 4 1.5 3 60

ว32271 ไมโครคอนโทรลเลอร์ 12 40 ว32272 การออกแบบ 12 40
พ32201 แฮนดบ์ อล 0.5 1 ทางสถาปัตยกรรม 0.5 1 20

20 พ32203 แบดมนิ ตัน

อ31201 ภาษาอังกฤษ อา่ น คิด 0.5 1 20 อ32202 ภาษาอังกฤษ อา่ น คดิ 0.5 1 20
1.0 2 40
วเิ คราะห์ 3 วิเคราะห์ 4

I30201 การศกึ ษาคน้ คว้าและ 40 I30202 การศกึ ษาค้นคว้าและ 1.0 2
สรา้ งองคค์ วามรู้ 1 ( IS1 )
สรา้ งองค์ความรู้ 2 ( IS2 )

กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น

- กิจกรรมแนะแนว - 1 20 - กจิ กรรมแนะแนว - 1 20

- กิจกรรมชุมนุม - 1 20 - กจิ กรรมชุมนมุ - 1 20

- กจิ กรรมบาเพ็ญประโยชน์ - 1 20 - กจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์ - 1 20

3 60 3 60

โครงสรา้ งหลักสตู ร ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 – 6

โครงสรา้ งหลักสูตรแผนที่ 5 (เน้นวิทยาศาสตร์ – คณติ ศาสตร์ – คอมพิวเตอร)์ ม.6/9

ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2

รหัสวชิ า ชอ่ื วชิ า น.ก. ชม./ส ชม./ภาค รหัสวชิ า ชื่อวชิ า น.ก. ชม./ส ชม./ภาค

สาระการเรียนรู้พน้ื ฐาน สาระการเรียนรู้พื้นฐาน 2 40
2 40
ท33101 ภาษาไทย 5 1.0 2 40 ท33102 ภาษาไทย 6 1.0
2 40
ค33101 คณติ ศาสตร์ 9 1.0 2 40 ค33102 คณิตศาสตร์ 11 1.0
1 20
ว33103 วิทยาศาสตร์โลก 1.0 2 40 ว30121 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ (เคมี) 1.0 1 20
ส33101 และอวกาศ 0.5 1 1 20
พ33101 สงั คมศึกษา 5 0.5 1 20 ส33104 สงั คมศกึ ษา 6 0.5 1 20
20 พ33102 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 6 0.5 2 40
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 5
3 60
ศ33101 ศิลปะ 5 0.5 1 20 ศ33102 ศลิ ปะ 6 0.5 4 80
3 60
ง33101 การงานอาชีพ 3 0.5 2 40 ง33102 การงานอาชีพ 4 0.5 3 60

อ33101 ภาษาอังกฤษ 5 1.0 2 40 อ33102 ภาษาองั กฤษ 6 1.0 2 40
2 40
สาระการเรยี นร้เู พมิ่ เตมิ (บังคบั เฉพาะบางกลุ่ม) สาระการเรยี นรเู้ พิ่มเติม (บงั คับเฉพาะบางกลุม่ ) 1 20
1 20
ค33201 คณติ ศาสตรเ์ พิม่ เติม 5 1.5 3 60 ค33202 คณติ ศาสตร์เพิ่มเติม 6 1.5 1 20
ว33201 ฟสิ กิ ส์เพิม่ เตมิ 5 2.0 4 2.0
ว33221 เคมเี พิ่มเติม 5 1.5 3 80 ว33202 ฟสิ กิ ส์เพม่ิ เติม 6 1.5 1 20
ว33241 ชีววทิ ยาเพมิ่ เตมิ 5 1.5 3 60 ว33222 เคมีเพมิ่ เตมิ 6 1.5 1 20
60 ว33242 ชวี วิทยาเพ่มิ เตมิ 6 1 20
3 60
ว30261 ดาราศาสตร์เพ่ิมเตมิ 1.0 2 40
20 ว33262 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 6
ว33261 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 5 0.5 1 1.0
40 ว33272 เทคโนโลยแี ละนวตั กรรม
ว33271 การตดั ต่อภาพยนตร์ 1.0 2 20 ส30224 หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง 4 1.0
0.5
ส30223 หน้าท่ีพลเมือง 3 0.5 1

พ33201 ศิลปะปอ้ งกนั ตัว 0.5 1 20 พ33202 แชรบ์ อล 0.5
อ33201 ภาษาองั กฤษ อ่าน คิดวเิ คราะห์ 3 0.5 1
20 อ33202 ภาษาอังกฤษ อ่าน คดิ วิเคราะห์ 4 0.5

กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น

- กจิ กรรมแนะแนว -1 20 - กจิ กรรมแนะแนว -

- กิจกรรมชมุ นมุ -1 20 - กจิ กรรมชุมนุม -

- กจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์ -1 20 - กจิ กรรมบาเพ็ญประโยชน์ -
3 60

โครงสร้างเวลาเรียน

หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน กาหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียนดงั น้ี

กลุม่ สาระการเรียนร/ู้ กิจกรรม เวลาเรยี น ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
ม.4 – ม.6
*กลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้
- ภาษาไทย ม.1 ม.2 ม.3 240 (6 นก.)
- คณติ ศาสตร์ 240 (6 นก.)
- วทิ ยาศาสตร์ 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120(3 นก.) 240 (6 นก.)
-วทิ ย์-คอม 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.)
- สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 360 (9 นก.)
- สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 40 (1 นก.) 40 (1 นก.) 40 (1 นก.) 120 (3 นก.)
- ศิลปะ 160 (4 นก.) 160 (4 นก.) 160 (4 นก.) 120 (3 นก.)
- การงานอาชีพ 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 60 (3 นก.)
- ภาษาต่างประเทศ 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 240 (6 นก.)
รวมเวลาเรยี น (พ้ืนฐาน) 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 1,740 (43 นก.)
*กิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.)
*รายวิชา/กจิ กรรมทีส่ ถานศกึ ษา 920 (23 นก.) 920 (22 นก.) 920 (22 นก.) 360
ไม่นอ้ ยกวา่ 36 หน่วยกติ
จัดเพ่ิมเตมิ ตามความพรอ้ มและจดุ เน้น 120 120 120 ไมน่ ้อยกวา่ 1,440 ชว่ั โมง
ไมน่ อ้ ยกว่า 11 หนว่ ยกจิ รวม 3 ปี ไมน่ ้อยกวา่ 3600 ชัว่ โมง
รวมเวลาเรียนท้งั หมด ไม่นอ้ ยกว่า 440 ชวั่ โมง
ไม่น้อยกว่า 1200 ชวั่ โมง/ปี

สาระการเรยี นรู้เพ่ิมเติม ( เสรี ) ช้ันมธั ยมศกึ ษาตอนต้น

ใหเ้ ลือกเรียนภาคเรียนละ 1 หนว่ ยกิต จากรายวชิ าต่อไปนี้

ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2

รหัสวิชา ช่ือวชิ า ช้นั ชม./ส ชม./ภาค รหสั วิชา ชอื่ วชิ า ชนั้ ชม./ส ชม./ภาค

ง 20223 อาหารไทย ม.1/4-7 2 40 ง 20223 อาหารไทย ม.1/4-7 2 40
ง 20226 40
ง 20241 ไมจ้ ิ้มแสนสวย ม.1/4-7 2 40 ง 20226 ไมจ้ ้มิ แสนสวย ม.1/4-7 2 40
ง 21241 20
ง 20222 การปลูกพืชผกั ทว่ั ไป ม.1/4-7 2 40 ง 20241 การปลูกพชื ผักทวั่ ไป ม.1/4-7 2 40
ง 20242 40
ง 20288 ห้องสมดุ 1 ม.1/3-1/10 1 20 ง 21242 ห้องสมุด 2 ม.1/3-10 1 40
ง 20287 40
ง 20289 เคร่อื งดมื่ สมนุ ไพร ม.2/4-7 2 40 ง 20222 เครอื่ งด่ืมสมนุ ไพร ม.2/4-7 2 40
ง 20290 40
พ 20204 การปลกู พชื สมุนไพร ม.2/4-7 2 40 ง 20242 การปลกู พืชสมุนไพร ม.2/4-7 2 40
ศ 20241 40
ศ 20243 การปลูกพืชผักไร้ดิน ม.2/4-7 2 40 ง 20288 การปลกู พืชผักไร้ดิน ม.2/4-7 2 40
ศ 20245 40
ศ 20231 สถาบนั การเงนิ ม.3/4-7 2 40 ง 20287 สถาบันการเงนิ ม.3/4-7 2 40

การจดั สวน ม.3/4-7 2 40 ง 20289 การจัดสวน ม.3/4-7 2

ดอกไมป้ ระดิษฐ์ ม.3/4-7 2 40 ง 20290 ดอกไม้ประดิษฐ์ ม.3/4-7 2

แชร์บอล ม.1/4-1/7 2 40 พ 20204 แชรบ์ อล ม.1/4-1/7 2

ศลิ ปส์ ร้างสรรค์ 1 ม.1/4-1/7 2 40 ศ 20242 ศลิ ปส์ ร้างสรรค์ 2 ม.1/4-1/7 2

ศิลปส์ รา้ งสรรค์ 3 ม.2/5-2/7 2 40 ศ 20244 ศิลปส์ ร้างสรรค์ 4 ม.2/5-2/7 2

ศลิ ปส์ รา้ งสรรค์ 5 ม.3/5-3/7 2 40 ศ 20246 ศิลปส์ รา้ งสรรค์ 6 ม.3/5-3/7 2

ร้องประสานเสยี ง 1 ม.1/4-1/7 2 40 ศ 20232 รอ้ งประสานเสียง 2 ม.1/4-1/7 2

สาระการเรียนรู้เพิม่ เติม ( เสรี ) ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น

ใหเ้ ลือกเรยี นภาคเรยี นละ 1 หน่วยกิต จากรายวชิ าต่อไปน้ี

ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2

รหัสวิชา ช่อื วิชา ชน้ั ชม./ส ชม./ภาค รหสั วชิ า ชอ่ื วิชา ชนั้ ชม./ส ชม./ภาค

ศ 20233 ร้องประสานเสยี ง 3 ม.2/5-2/7 2 40 ศ 20234 ร้องประสานเสียง 4 ม.2/5-2/7 2 40

ศ 20235 ร้องประสานเสียง 5 ม.3/5-3/7 2 40 ศ 20236 รอ้ งประสานเสยี ง 6 ม.3/5-3/7 2 40

ศ 20211 ดนตรไี ทย 1 ม.1/4-1/7 2 40 ศ 20212 ดนตรไี ทย 2 ม.1/4-1/7 2 40

ศ 20213 ดนตรีไทย 3 ม.2/5-2/7 2 40 ศ 20214 ดนตรไี ทย 4 ม.2/5-2/7 2 40

ศ 20215 ดนตรไี ทย 5 ม.3/5-3/7 2 40 ศ 20216 ดนตรไี ทย 6 ม.3/5-3/7 2 40

ศ 20221 ดนตรสี ากล 1 ม.1/4-1/7 2 40 ศ 20222 ดนตรีสากล 2 ม.1/4-1/7 2 40

ศ 20223 ดนตรีสากล 3 ม.2/5-2/7 2 40 ศ 20224 ดนตรสี ากล 4 ม.2/5-2/7 2 40

ศ 20225 ดนตรสี ากล 5 ม.3/5-3/7 2 40 ศ 20226 ดนตรีสากล 6 ม.3/5-3/7 2 40

ศ 20201 นาฏศิลปไ์ ทย 1 ม.1/4-1/7 2 40 ศ 20202 นาฏศลิ ป์ไทย 2 ม.1/4-1/7 2 40

ศ 20203 นาฏศลิ ป์พื้นเมือง 1 ม.2/5-2/7 2 40 ศ 20204 นาฏศลิ ป์พื้นเมือง 2 ม.2/5-2/7 2 40

ศ 20205 นาฏศิลป์ไทย ม.3/5-3/7 2 40 ศ 20206 นาฏศิลปไ์ ทย ม.3/5-3/7 2 40
ประยกุ ต์ 1 ประยกุ ต์ 2

สาระการเรียนรู้เพิม่ เตมิ ( เสรี ) ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย

ให้เลอื กเรียนภาคเรียนละ 1 หน่วยกิต จากรายวิชาตอ่ ไปนี้

ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2

รหัสวชิ า ชือ่ วชิ า ชั้น ชม./ส ชม./ภาค รหัสวชิ า ช่อื วชิ า ชน้ั ชม./ส ชม./ภาค

ง 30294 บัญชีเบือ้ งตน้ 1 ม.4/4 2 40 ง 30295 บัญชีเบอ้ื งตน้ 2 ม.4/4 2 40

ง 30283 บญั ชกี จิ การ ม.6/4 2 40 ง 30284 บัญชกี ิจการ ม.6/4 2 40
จาหน่ายสนิ คา้ 1 จาหนา่ ยสินค้า 2
ศ 31201 2 40
ออกแบบ 1 ม.4/4 2 40 ศ 31202 ออกแบบ 2 ม.4/4

ศ 30216 ดนตรีไทย 1 ม.4/4 2 40 ศ 30217 ดนตรไี ทย 2 ม.4/4 2 40

ศ 31205 นาฏศิลปไ์ ทย 1 ม.4/4 2 40 ศ 31208 นาฏศลิ ป์ไทย 2 ม.4/4 2 40

ศ 30201 ตกแตง่ ภายใน 1 ม.4/4 2 40 ศ 30202 ตกแต่งภายใน 2 ม.4/4 2 40

ศ 30221 ปฏิบัติ ศ 30222 ปฏบิ ัติ
เคร่ืองดนตรีสากล 1 ม.4/4 2 40
เครอื่ งดนตรสี ากล 2 ม.4/4 2 40

ศ 30203 นาฏศิลป์ไทย 1 ม.4/4 2 40 ศ 30204 นาฏศลิ ป์ไทย 2 ม.4/4 2 40

ง 30281 บัญชกี จิ การ ม.5/4 2 40 ง 30282 บญั ชีกิจการ ม.5/4 2 40
ให้บริการ 1 ให้บริการ 2

ศ 30211 ตกแต่งภายนอก 1 ม.5/4 2 ศ 30212 ตกแตง่ ภายนอก 2 ม.5/4 2 40
40

สาระการเรยี นรเู้ พิม่ เตมิ ( เสรี ) ช้นั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย

ให้เลอื กเรียนภาคเรยี นละ 1 หนว่ ยกติ จากรายวิชาตอ่ ไปน้ี

ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2

รหสั วชิ า ชือ่ วชิ า ชนั้ ชม./ส ชม./ภาค รหัสวิชา ชื่อวิชา ชน้ั ชม./ส ชม./ภาค

ศ 30223 ปฏบิ ตั ิ ม.5/4 2 40 ศ 30224 ปฏิบัติ ม.5/4 2 40

เครอื่ งดนตรสี ากล 3 เครอ่ื งดนตรีสากล 4 2 40
2 40
ศ 30205 นาฏศิลปพ์ ้ืนเมือง 1 ม.5/4 2 40 ศ 30206 นาฏศลิ ป์พืน้ เมอื ง 2 ม.5/4
2 40
ศ 30213 ตกแตง่ สถานที่ ม.6/4 2 40 ศ 30214 ตกแต่งสถานท่ี ม.6/4
และบริเวณ 1 และบริเวณ 2 2 40

ศ 30225 ปฏบิ ตั ิ ม.6/4 2 40 ศ 30226 ปฏิบตั ิ ม.6/4

เครอ่ื งดนตรสี ากล 5 เครอ่ื งดนตรสี ากล 6

ศ 30209 ช่างทาผม ม.6/4 2 40 ศ 30210 ช่างแต่งหน้า ม.6/4

สาหรับเวลาเรียนเพ่ิมเติม จัดเป็นรายวิชาเพ่ิมเติม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนให้สอดคล้องกับความพร้อมจุดเน้น
ของโรงเรียน และเกณฑ์การจบหลกั สูตร

กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กาหนดไว้ในช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ปีละ 120 ช่ัวโมง และช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6
จานวน 360 ชั่วโมง เป็นเวลาสาหรับปฏิบัติกิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรยี น และกิจกรรมเพ่ือสังคม และสาธารณะประโยชน์
โรงเรียนจัดสรรเวลาให้ผเู้ รียนไดป้ ฏิบัตกิ ิจกรรมดงั น้ี

ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ (ม.1 – 3 ) รวม 3 ปี จานวน 45 ชว่ั โมง
ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย (ม.4 – 6 ) รวม 3 ปี จานวน 60 ชัว่ โมง

กล่มุ บริหารงานบคุ คลและกิจการนกั เรียน
โรงเรียนสตรวี ัดอปั สรสวรรค์

วสิ ัยทัศน์

สร้างคณุ ธรรม นาวนิ ัย มีความเปน็ ไทย สร้างบุคลากรสศู่ ตวรรษที่ ๒๑ ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง

พันธกิจ

๑. ปลูกฝงั นักเรยี นใหม้ คี ณุ ธรรม นาวินัย และความเปน็ ไทย
๒. บรหิ ารงานบคุ ลากรครู ใหม้ ีอัตรากาลังอยา่ งเหมาะสม
๓. มรี ะบบข้อมลู บคุ ลากรท่ีถูกต้องเป็นปัจจุบัน
๔. มกี ารส่งเสริม และพัฒนานักเรียน ครสู ู่ศตวรรษที่ ๒๑ ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

เปา้ ประสงค์

๑. พฒั นาใหโ้ รงเรียนมีคณุ ธรรม นาวนิ ยั และความเป็นไทย
๒. ครู บุคลากรได้รบั พฒั นาตามสมรรถนะประจาสายงาน
๓. สามารถนาข้อมูลไปพัฒนา ครู บุคลากรให้มีประสิทธิภาพสูงสุนกั เรียน ครูทกุ คนไดร้ ับการพฒั นา วินยั คณุ ธรรม

จรยิ ธรรม

กลุม่ บริหารงานบคุ คลและกิจการนักเรียน

นางอังสนา ตง้ั ตระกูล
รองผูอ้ านวยการกลุ่มบริหารงานบคุ คลและกจิ การนักเรียน

นางกัญจนา เหลยี่ มสมบัติ นายบดินทร์เดชา รตั นเจยี เจริญ

ผู้ช่วยรองผู้อานวยการกลุม่ บริหารงานบคุ คลและกจิ การนักเรียน ผชู้ ว่ ยรองผอู้ านวยการกลุม่ บรหิ ารงานบคุ คลและกจิ การนกั เรยี น

สายงานการบริหารกลมุ่ บริหารงานบคุ คลและกิจการนักเรยี น

ผอู้ านวยการโรงเรยี นสตรวี ัดอัปสรสวรรค์
นายสทิ ธศิ กั ดิ์ แกว้ สอนทะเล

รองผูอ้ านวยการกลุ่มบรหิ ารงานบุคคลและกจิ การนกั เรียน
นางอังสนา ตงั้ ตระกูล

ผ้ชู ว่ ยรองผ้อู านวยการกลุ่มบริหารงานบคุ คลและกจิ การนักเรยี น ผชู้ ่วยรองผู้อานวยการกลมุ่ บรหิ ารบคุ คลและกิจการนักเรยี น

นางกัญจนา เหลีย่ มสมบัติ นายบดินทร์เดชา รัตนเจียเจริญ

- งานพฒั นาความประพฤติและระเบยี บวนิ ยั - งานรักษาวนิ ยั ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา

นางกัญจนา เหล่ียมสมบตั ิ หวั หนา้ นายบดินทร์เดชา รตั นเจยี เจรญิ หวั หนา้

- งานสง่ เสรมิ กจิ การนกั เรียน - งานสานักงานกลุ่มบริหารงานบคุ คลและกิจการนักเรยี น

นางกัญจนา เหลยี่ มสมบตั ิ หัวหน้า นายถริ นษิ ฐ์ ฉัตรธนโชติ หัวหน้า

- งานรกั ษาวนิ ยั และแกไ้ ขพฤตกิ รรมท่ีไมพ่ ึงประสงค์ ( นักเรยี น ) - งานแผนงานกลมุ่ บริหารงานบุคคลและกิจการนกั เรียน

นางกัญจนา เหลยี่ มสมบัติ หวั หน้า - นายปรชั ญา จิตรร์ ะเบยี บ หัวหน้า

- งานระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรียน - งานสารสนเทศกลุม่ บริหารงานบุคคลและกจิ การนกั เรียน

นางสาวบตุ รยี า รตั นมณี หัวหน้า สบิ เอกนิพนธ์ ด้วงคาจันทร์ หวั หน้า

- งานสง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม - งานทะเบยี นประวัติขอ้ มลู และปรบั วฒุ ิการศึกษา

นางสาวพรพรรณ ศรสี ริ ิรัตน์ หัวหนา้ นางสาวพรสุดา รตั นกลุ หวั หนา้

- งานปอ้ งกันการใช้สารเสพตดิ และยาเสพติด - งานบาเหน็จความชอบ

นายภาณุมาต พงษเ์ ส็ง หัวหน้า นางสาวพรสดุ า รตั นกุล หัวหน้า

- งานสง่ เสริมประชาธิปไตย -งานเครื่องราชอิสรยิ าภรณ์

นายศุภชัย อัครชูวงศ์ หัวหน้า นางสาวภัทราภรณ์ เตชวาณิชย์ หัวหน้า

- งานทป่ี รกึ ษาคณะกรรมการนกั เรยี น - งานพัฒนาบุคลากรและส่งเสรมิ ประสิทธภิ าพ

นางกญั จนา เหลี่ยมสมบัติ หวั หน้า การปฏิบัติราชการ

- งานเครือข่ายผู้ปกครองนักเรยี น นางสาววิราณี โพธิพงศา หัวหน้า

นางกญั จนา เหล่ียมสมบตั ิ หวั หนา้ - งานใบประกอบวิชาชพี และบตั รขา้ ราชการ

- งานบันทกึ ขอ้ มลู นักเรียนประจาวัน นายสบงกช จานงค์ชอบ หัวหน้า

นายสมภาค หวังทอง หวั หน้า - งานประชาสมั พันธ์

- งานจัดทาคู่มอื นักเรียน - งานวารสารโรงเรยี น

นายปรัชญา จติ รร์ ะเบียบ หัวหน้า นางสาววรรณภิ า ขุนอินทร์ หัวหนา้

- งานระดับช้ันและคณะสี - งานรักษาความปลอดภยั

นางกัญจนา เหลีย่ มสมบตั ิ หัวหนา้ - งานพัสดกุ ลุ่มบรหิ ารงานบคุ คลและกิจการนกั เรยี น

- งานสารวตั รนักเรยี น นายธรรมนญู ลพรวี หวั หนา้

นายบดินทร์เดชา รัตนเจยี เจริญ หัวหน้า - งานบนั ทกึ การปฏบิ ัตริ าชการของครแู ละบคุ ลากร

นางสาวศภุ นุช พระบุ หัวหน้า

- งานประสาน ส่งเสรมิ ให้มีและเลื่อนวทิ ยฐานะ

นายภานุมาต พงษเ์ ส็ง หัวหน้า

ระเบียบโรงเรียนสตรวี ัดอัปสรสวรรค์
ว่าด้วยจรรยามารยาทและการทาความเคารพ

ของนกั เรียน พ.ศ.๒๕๖๑

หมวดที่ ๑
บททัว่ ไป

ด้วยจรรยามารยาทที่ดีงามของไทย เป็นเอกลักษณ์ของชาติและอัตลักษณ์ของ“โรงเรียน
สตรีวัดอัปสรสวรรค์”ทเ่ี น้นเร่อื ง “กลุ สตรไี ทยน้าใจงาม” จึงกาหนดระเบียบวา่ ด้วยจรรยามารยาทและ
การทาความเคารพของนกั เรียน ดงั ต่อไปนี้

ข้อ ๑ ระเบยี บนี้เรยี กว่า “ระเบียบจรรยามารยาทและการทาความเคารพ” ของนกั เรยี น พ.ศ. ๒๕๕๐
ข้อ ๒ ให้ใช้ระเบียบนี้ตั้งแต่ “วนั ถัดจากวันประกาศ”เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในระเบยี บนี้

๓.๑“นักเรียน” หมายถึง นักเรียนทกุ คนของโรงเรยี นสตรีวดั อปั สรสวรรค์
๓.๒“ครูเวรประจาวนั ” หมายถึง ครูท่ีได้รับการแตง่ ต้งั หรอื รบั มอบหมายใหป้ ฏิบัติ
ราชการจากทางโรงเรียนในการดูแลนักเรียน ตามสถานทีต่ ่างๆ ในแต่ละวัน
๓.๓“ครู” หมายถงึ ครูทุกคนท่ปี ฏบิ ัตริ าชการในโรงเรียนสตรีวดั อัปสรสวรรค์
๓.๔“แขกผมู้ เี กียรติ” หมายถงึ บคุ คลทีร่ ับการเชิญ หรือมาเย่ยี มชมโรงเรยี นเป็นหมู่
คณะหรือบุคคลเดยี ว
๓.๕“แบบกาหนดของสานักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ” หมายถึง
หนว่ ยงานกระทรวงวัฒนธรรม ทกี่ าหนดแบบอย่างการปฏิบัติมารยาทไทยออกไปใช้เปน็ แบบเดยี วกนั ท่ัวประเทศ

หมวดท่ี ๒
ว่าดว้ ยจรรยามารยาทและการทาความเคารพ

ข้อ ๔ การแสดงความเคารพเม่ือแรกเริ่มเขา้ สูบ่ ริเวณโรงเรยี น ให้ถอื ปฏิบตั ิดังน้ี
เมื่อนักเรียนเข้ามาสบู่ ริเวณโรงเรียนให้นกั เรียนหยุดยืนทาความเคารพครูเวรประจาวันด้วยการไหวโ้ ดย
ใช้การไหว้ตามแบบกาหนดของสานักงานคณะกรรมการวฒั นธรรมแห่งชาติไหว้พระตามจุดตาแหน่งที่
โรงเรยี นกาหนดโดยพรอ้ มเพยี งกนั

ข้อ ๕ การแสดงความเคารพเมอื่ อยู่ในหอ้ งเรียน ให้ปฏิบตั ดิ งั ตอ่ ไปน้ี
๕.๑ เมื่อครเู ข้ามาในห้องเรียนให้หัวหน้าชั้นบอกทาความเคารพโดยให้ใช้คาวา่ “นกั เรียน”

ให้นักเรียนทุกคนหยุดกิจกรรมต่างๆ ทุกอย่าง แล้วนั่งตัวตรงหัวหน้าบอกว่า “ทาความเคารพ”
ใหน้ กั เรยี นไหว้พรอ้ มกล่าวคาว่า “สวัสดคี ะ่ ”

๕.๒ ในระหว่างท่ีครูกาลังสอน หากมขี อ้ สงสัยในบทเรียนใหย้ กมือขนึ้ รอเพ่ือให้ครูอนุญาต
จงึ ยนื ถามขอ้ สงสยั ได้ เมอ่ื ได้รับคาอธบิ ายเขา้ ใจแลว้ ให้กลา่ วคาว่า “ขอบพระคุณคะ่ ”

๕.๓ เมือ่ จะเข้าไปหาครเู พอ่ื สง่ งาน หรือรับงานใหน้ กั เรียนยืนตรงในระยะที่หา่ งพอสมควร
เมื่อรบั หรอื สง่ งานแล้ว นักเรียนจะกลบั มาที่โตะ๊ ให้นักเรยี นทาความเคารพดว้ ย “การไหว้”

๕.๔ การออกหรือเข้าห้องเรียนในขณะที่ครูกาลังสอนหรืออยู่ในห้อง นักเรียนต้องขอ
อนุญาตก่อนทุกครั้ง โดยยืนตรงแล้วกล่าวคาว่า “ขออนุญาตค่ะ” เม่ือได้รับอนุญาตแล้วให้นักเรียน

“ไหว้” พรอ้ มกบั กลา่ วคาว่า “ขอบพระคณุ ค่ะ”

ข้อ ๖ การแสดงความเคารพเมือ่ อย่ภู ายนอกห้องเรียนให้ปฏบิ ตั ิดงั ตอ่ ไปนี้

๖.๑ เม่ือเดินสวนทางกับครู ผู้ท่ีเคารพ หรือแขกผู้มีเกียรติท่ีมาเย่ียมชมโรงเรียนหยุดยืนตรง

แล้ว “ไหว้” พร้อมกล่าวคาทักทายว่า“สวัสดีค่ะ” ด้วยก็ได้ ในกรณีนี้หากเป็นการพบกันครั้งแรกสาหรับครู

ใหป้ ฏบิ ตั ิดว้ ยการไหว้ และถา้ เป็นการพบกันในคร้ังตอ่ ๆ ไปใหย้ ืนตรง เปน็ การแสดงความเคารพ

๖.๒ เม่ือขึ้นลงบันไดให้ยึดหลักชิดขวามือเสมอ และเม่ือเดนิ สวนทางกับครู หรือผู้ที่เคารพ

หรอื แขกผ้มู ีเกยี รติ ให้นักเรียนหยุดยนื อยูก่ ับท่จี นกวา่ ครู ผู้ท่ีเคารพหรือแขกผมู้ ีเกียรติเดนิ ผา่ นไป

๖.๓ เมื่อจะเดินแซงครูให้นักเรียนกล่าวคาว่า“ขออนุญาตค่ะ” แล้วจึงเดินก้มหลังลงเล็กน้อย

แล้วเดินแซงผ่านไป

๖.๔ ขณะท่คี รหู รอื ผ้ทู ่เี คารพหรอื แขกผู้มเี กียรตอิ ยู่กับท่ี ถา้ นกั เรยี นตอ้ งการเดินผา่ น

ให้กม้ หลังเล็กนอ้ ย

๖.๕ เพื่อส่งเสริมความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะ ให้นักเรียนรุ่นน้องแสดงความเคารพรุ่นพี่

ดว้ ยการไหว้ และนกั เรียนรุ่นพค่ี วรรับไหว้รุน่ น้อง เปน็ การตอบรับการแสดงความเคารพซึ่งกนั และกัน

ขอ้ ๗การแสดงความเคารพ เมอื่ อยนู่ อกบรเิ วณโรงเรยี น ใหป้ ฏบิ ตั ดิ งั นี้

เมื่อพบครูให้นักเรียนทาความเคารพด้วยการ“ไหว้”อาจจะกล่าวทักทายตามควรแก่กรณี ท้ังนี้

การทาความเคารพใหพ้ ิจารณาตามความเหมาะสมกับกาลเทศะ เช่น กรณีขับขี่ยวดยานพาหนะอยใู่ นท่ี

คบั ขันอนั ตราย ให้กลา่ วคาสวัสดีและกม้ ศรี ษะพอประมาณ

การมาเรยี น การขาดเรยี น และการลาของนักเรยี น พ.ศ.๒๕๖๒

เพื่อการปฏิบัติตัวเหมาะสมกับสภาพของนักเรียน ในการศึกษาหาความรู้ในสถานศึกษา

“โรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์” จึงกาหนดระเบียบว่าด้วยการมาเรียน การขาดเรียนและการลาของ

นักเรยี นขึน้ โดยใหถ้ อื ปฏบิ ตั ิ ดังตอ่ ไปนี้

หมวดท่ี ๑
บททวั่ ไป

ขอ้ ๑ ระเบียบนเ้ี รียกวา่ “ระเบียบการมาเรียน การขาดเรยี น และการลา” ของนักเรียน พ.ศ. ๒๕๖๒

ข้อ ๒ ใหใ้ ช้ระเบียบน้ีตงั้ แต่“วันถัดจากวนั ประกาศ”เป็นตน้ ไป

ขอ้ ๓ ในระเบียบน้ี

๓.๑ “นกั เรยี น”หมายถงึ นกั เรียนทกุ คนของโรงเรยี นสตรีวดั อัปสรสวรรค์

๓.๒“ครเู วรประจาวนั ” หมายถงึ ครทู ีไ่ ดร้ บั การแตง่ ต้งั หรือรบั มอบหมายใหป้ ฏิบัติราชการ

จากทางโรงเรยี นในการดูแลนักเรยี น ตามสถานที่ต่าง ๆ ในแตล่ ะวัน

๓.๓“ครทู ่ีปรึกษา”หมายถงึ ครทู ี่ได้รบั การแตง่ ตง้ั หรอื รบั มอบหมายใหป้ ฏิบัตริ าชการจาก

ทางโรงเรยี นในการอบรม ดแู ล รับผดิ ชอบนกั เรียนทกุ คนในแตล่ ะห้อง

๓.๔“หัวหน้าระดับช้นั ” หมายถงึ ครทู ีไ่ ดร้ ับการแต่งต้งั หรือรบั มอบหมายใหป้ ฏิบัติราชการ

จากทางโรงเรยี น ในการควบคมุ ดแู ล รบั ผิดชอบนักเรยี นทุกคนในแต่ละระดับช้นั

๓.๕“หัวหน้าคณะสี” หมายถงึ บุคคลท่ีได้รบั การแตง่ ตง้ั หรอื รบั มอบหมายใหป้ ฏิบัตหิ น้าท่ี
จากทางโรงเรียน ในการควบคมุ ดแู ล รับผิดชอบนักเรยี นทกุ คนในแต่ละระดบั สี

๓.๖“ผู้ปกครอง”หมายถึง บุคคลซึ่งรับนกั เรยี นไวใ้ นความปกครอง หรอื อปุ การะเลี้ยงดูและ
เปน็ บุคคลทีน่ ักเรยี นอาศยั อยดู่ ว้ ยในสาเนาทะเบยี นบ้าน

หมวดที่ ๒
การมาเรยี น

ข้อ ๔ นกั เรยี นต้องแต่งชดุ นักเรียน ตามระเบยี บท่กี าหนดให้ และมาโรงเรยี นกอ่ น ๐๗.๔๕ น.
ข้อ ๕ นักเรียนทกุ คนต้องถือกระเป๋าตามแบบกาหนดของโรงเรียน ที่ใส่อุปกรณ์การศกึ ษาครบถ้วน
ในแต่ละวนั มาโรงเรยี น
ข้อ ๖ เม่ือมาโรงเรียนทุกเช้า นักเรียนทุกคนต้องทาความเคารพครูเวรที่ประตูเข้าโรงเรียน และ
ไหว้พระศากยมนุ ศี รอี ัปสรสวรรค์ (หลวงพ่อกา้ วหนา้ ) และรบั การตรวจความเรียบรอ้ ยในการแต่งกาย
ขอ้ ๗ ถ้านักเรียนคนใดแตง่ กายผดิ ระเบยี บไม่เรียบร้อย

๗.๑ ใหค้ รูเวรประจาวันตกั เตือนแนะนาแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง
๗.๒ครูเวรประจาวันบันทึก ชื่อ – สกุล เลขประจาตัว ช้ัน และรายการความผิดลงในแบบ
บันทึกนักเรียนผิดระเบียบประจาวัน ซ่ึงฝ่ายปกครองจะแจ้งไปให้หัวหน้าระดับชั้นและครูท่ีปรึกษา
ทราบเพือ่ ดาเนินการติดตามแกไ้ ขตอ่ ไป
ข้อ ๘ เวลา ๐๗.๔๐ น. โรงเรยี นจะเปิด“เพลงมารช์ ” ประจาโรงเรยี นช่วงน้ใี หน้ ักเรยี นมาพร้อม
กันบริเวณสนาม เพ่ือเขา้ แถวเรียบร้อยพรอ้ มทาพธิ ีหน้าเสาธง
๘.๑นกั เรยี นมาเข้าแถวร่วมกิจกรรมหนา้ เสาธงไมท่ นั ถือว่านักเรียนมาโรงเรียนสาย
ขอ้ ๙ เวลา ๘.๒๐ – ๘.๓๐ น. ครโู ฮมรูมตามห้องเรยี นของนักเรียนในคาบศูนย์ (หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง)
อนึ่งการเข้าเรยี นและเลิกเรียน ให้เปน็ ไปตามประกาศของโรงเรียน หรอื กระทรวงศกึ ษาธิการ
ข้อ ๑๐ นกั เรียนทีม่ าสายทางโรงเรยี นจะดาเนินการเรยี กมาตักเตือนหากยงั มาสายเหมอื นเดมิ
จะเชิญผปู้ กครองมาพบรองผู้อานวยการหรอื ผทู้ ่ไี ด้รบั มอบหมายตามลาดบั ตอ่ ไป
๑๐.๑ ถ้านกั เรียนมาสาย ด้วยเหตุจาเป็นอื่น ๆ โดยมีหนังสือรับรองจากผู้ปกครองที่ถูกต้อง
มาแสดงใหค้ รูบันทึกลงในแบบบนั ทกึ นักเรียนมาสายดว้ ย
ขอ้ ๑๑ เม่ือนักเรียนมาเรียนแล้วให้ประพฤตปิ ฏิบัติตัวในการศึกษาหาความรู้อย่างเต็มท่ีไม่ทาการ
หลีกเลยี่ ง หลบเลย่ี ง หลบหนีการเรียน นักเรียนคนใดปฏิบัติตวั ดังกลา่ วจะไดร้ ับโทษตามระเบียบว่าด้วย
วนิ ัยการเรยี น
ขอ้ ๑๒ เมอ่ื ถึงเวลา ๑๕.๑๐ น. หรือ ๑๖.๐๐ น. การเรียนการสอนประจาวนั ยตุ ลิ งถา้ นกั เรียนไม่
มีกิจกรรม ประชุม อบรม ให้นกั เรยี นกลับบา้ นได้
ขอ้ ๑๓ เมือ่ เลกิ เรียนให้นักเรยี นทุกคนเดินมาที่หน้าสานกั งานปกครองตามจดุ ทกี่ าหนด เพ่ือไหว้
พระและทาความเคารพครูเวรประจาวัน และตรวจความเรยี บร้อยของการแต่งตวั ก่อนออกจากบริเวณ
โรงเรยี น หากนกั เรียนต้องโดยสารรถประจาทาง ให้นกั เรยี นเข้าแถวให้เปน็ ระเบยี บในการข้ึนรถโดยสาร
ข้อ ๑๔ถา้ ครูเวรประจาวนั พบเหน็ นกั เรียนคนใดปฏบิ ัตไิ ม่ถกู ตอ้ ง ให้ดาเนินการตามขอ้ ๗, ๗.๑, ๗.๒
ข้อ ๑๕ นักเรียนทกุ คนจะตอ้ งกลับบา้ น และออกจากบริเวณโรงเรยี นไม่เกนิ ๑๗.๐๐ น.

ข้อ ๑๖ ในกรณีที่นักเรยี นจะต้องอยูท่ ากจิ กรรมหลงั เลิกเรยี น หรอื อยู่เกนิ ๑๗.๐๐ น. จะต้องมีครู
อยู่ควบคุมดูแลด้วยทุกครั้งและลงชื่อรับรองการทากิจกรรมรวมท้ังอนุญาตให้ทากิจกรรมต่อจนถึง
๑๘.๐๐ น. หากมีกิจกรรมท่ีต้องทาเกินกาหนดเวลาดังกล่าว ให้ทาบันทึกข้อความขออนุญาต
ผู้อานวยการโรงเรียนรบั ทราบ

ข้อ ๑๗หากเปน็ วันหยุดราชการถ้านักเรียนจะมาโรงเรยี นไม่ว่ากรณีใดๆ ให้แต่งกายสุภาพ สวมชุดนักเรียน (ไม่
สวมรองเท้าแตะ ฟองนา้ ไมส่ วมกางเกงขาสน้ั กางเกงยนี ส์ กางเกงชาวเล ไมส่ วมเสอื้ แขนกุด เอวลอย โชวส์ ะดือ ฯลฯ)

ข้อ ๑๘ นักเรียนที่มีธุระจาเป็นต้องทาหลังเลิกเรียนแล้วต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบล่วงหน้าใน
การกลับบ้านช้ากว่ากาหนด

ข้อ ๑๙กรณีป่วยไข้ การอนุญาตให้นักเรียนกลับบ้านให้อยู่ในดุลยพินิจของครูพยาบาล และได้รับ
อนุญาตจากครูท่ีปรึกษา โรงเรียนจะไม่อนุญาตให้กลับบ้านในกรณีนักเรียนโทรศัพท์แจ้งผู้ปกครองให้มารับ
กลบั บ้านเอง โดยไมผ่ า่ นการพจิ ารณาอนญุ าตจากครหู ้องพยาบาล ครูท่ีปรึกษา และกลมุ่ บริหารงานบุคคล

หมวดท่ี ๓

การขาดเรยี นและการลา

ข้อ ๒๐ การหยุดเรียนของนักเรียนทุกครั้งจะต้องมีใบลาท่ีมีการรับรองจากผู้ปกครอง ชี้แจง
สาเหตุของการลาหยุดโดยนาส่งต่อครทู ี่ปรกึ ษา

ข้อ ๒๑ หากนักเรียนผู้ใดหยุดเรียนโดยไม่ส่งใบลา ทางโรงเรียนจะถือว่าผู้น้ันขาดเรียนโดยไม่ทราบ
สาเหตุ และจะได้รับโทษตามระเบียบวา่ ดว้ ยวินยั นักเรียน

ขอ้ ๒๒ การขาดเรยี นและการลา ให้ยึดถอื แนวการปฏิบัติ ดังตอ่ ไปน้ี
๒๒.๑นกั เรียนขาดเรยี นตดิ ต่อกนั เกิน ๒วนั ทางโรงเรียนจะแจง้ ให้ผปู้ กครองทราบ
๒๒.๒ ถ้านักเรียนขาดเรียนติดต่อกันเกิน ๕ วันทาการ และ ๑๐ วันทาการ โดยไม่ทราบ

สาเหตุหรือไม่มีเหตุอันควรหรือโรงเรียนแจ้งผู้ปกครองรับทราบแล้วไม่ได้รับการติดต่อกลับมาให้ครูที่
ปรกึ ษาแจ้งให้หัวหน้าระดับหรือฝ่ายปกครองทราบ เพ่ือเสนอเรื่องต่อทางโรงเรียนในการพิจารณาแจ้ง
ชอ่ื นกั เรียนแขวนลอย และลงในบัญชีรายช่อื นักเรยี นแขวนลอยตามคาสัง่ กระทรวงศกึ ษาธิการ

ข้อ ๒๓ นักเรียนคนใดขาดเรียนเกิน ๗ วัน ซ่ึงได้ติดต่อทางโรงเรียนทราบล่วงหน้าแล้วเม่ือมาเรียน
ตามปกติใหน้ าผู้ปกครอง พร้อมหลกั ฐานการขาดเรยี น อาทิ ใบรับรองแพทยม์ าแสดงต่อทางโรงเรยี นด้วย

ข้อ ๒๔ หลักฐานการลาทุกชนิด หากนักเรียนปลอมแปลงแก้ไขเอกสารจะมีความผิดทางวินัย
และจะถกู ดาเนนิ การตามระเบียบวา่ ด้วยวินยั นักเรยี น

ข้อ ๒๕ การขาดเรียน หรือการส่งหลักฐานการลาคร้ังใด มีข้อน่าสงสัย หรือปกปิดอาพรางครูท่ี
ปรึกษา หัวหนา้ ระดบั ฝา่ ยปกครองอาจเชญิ ผปู้ กครองมายืนยนั การลาหยดุ ในครัง้ นน้ั

ขอ้ ๒๖ นักเรียนท่ีตอ้ งไปทากจิ ธุระกับผูป้ กครองท่ที ราบลว่ งหน้าแนน่ อน ใหน้ ักเรยี นสง่ ใบลาต่อ
ครทู ีป่ รึกษาล่วงหน้าก่อนวนั จะขาดเรยี น ๑วัน

ข้อ ๒๗ นักเรียนท่ขี าดเรียนด้วยสาเหตุป่วย หรือการทากจิ ธรุ ะท่ไี ม่ทราบล่วงหนา้ ให้นักเรยี นส่ง
ใบลาต่อครูท่ปี รึกษาในวันแรกทีม่ าเรยี นตามปกติ

ข้อ ๒๘ นักเรียนท่ีมีความจาเป็นในการทาธุระคร่ึงวัน ในวันเวลาที่มีการเรียนการสอนให้ปฏิบัติตาม
ดังต่อไปน้ี

๒๘.๑นักเรียนไปทากิจธุระช่วงเช้าและจะเข้าเรียนในช่วงบ่าย ให้นักเรียนนาใบลาหรือ
หนังสอื รบั รองจากผ้ปู กครองมาแสดงตอ่ ฝา่ ยปกครองรับทราบ

๒๘.๒นักเรียนไปทาธุระช่วงบ่ายและช่วงเช้ามาเรียน ให้นักเรียนนาผู้ปกครองมาลาพร้อม
แสดงบัตรประชาชนต่อฝ่ายปกครอง แล้วนาใบอนุญาตออกนอกโรงเรียน ไปให้ครูท่ีปรึกษาลงช่ือ
รับทราบและให้รอง-ผู้อานวยการบริหารงานบุคคลลงช่ืออนุญาต แล้วบันทึกลงในสมุดขออนุญาตออก
นอกโรงเรียนแสดงกบั ยามรักษาการณ์ เพือ่ นาส่งฝา่ ยปกครองต่อไป

ข้อ ๒๙ การขาดเรียนของนักเรียนขณะอยู่ในโรงเรยี น โดยมสี าเหตดุ งั ตอ่ ไปน้ี
๒๙.๑ นักเรียนป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ ให้พยาบาลท่ีทาหน้าท่ีพยาบาลของโรงเรยี นแจง้ ให้

ครทู ีป่ รึกษาทราบ เพ่อื ครทู ่ีปรกึ ษาแจ้งต่อครปู ระจาวิชาทีจ่ ะเขา้ สอนในวันน้ันทราบ
๒๙.๒นกั เรยี นที่เป็นตวั แทนโรงเรียน ไปร่วมกิจกรรมภายนอกโรงเรยี นหรอื เป็นนักเรยี นช่วยงาน

กจิ กรรมท่ีจัดภายนอกโรงเรยี น ให้ครูท่ีรับผิดชอบกิจกรรมทาหนังสือชี้แจงวัตถุประสงคก์ ารเข้าร่วมกิจกรรม
แจ้งชื่อ – สกุล เลขท่ี เลขประจาตัว ชั้น ของนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมตาม วัน เวลา สถานที่ ในการจัด
กิจกรรมแล้วเสนอต่อรองผู้อานวยการโรงเรียนกลุ่มงานวิชาการหรือผู้อานวยการโรงเรียน แล้วแจ้งฝ่าย
ปกครอง และครูทป่ี รึกษาทราบ โดยครูทป่ี รึกษาจะแจง้ ไปยังครูประจาวชิ าทราบต่อไป

ขอ้ ๓๐ ให้นักเรียนใช้แบบการลาในกรณีการลาป่วย หรือการลากิจตามแบบฟอร์มโรงเรียนโดย
ขอรับได้โดยไมเ่ สยี ค่าใช้จ่าย ได้ท่ีกลุ่มบริหารงานบคุ คล

ข้อ ๓๑ กรณีหนีเรียน การท่ีนักเรียนหายไปจากห้องเรียนในเวลาเรียนโดยไม่ได้แจ้งให้ครูประจา
วิชาทราบให้ครูประจาวิชาบันทึกลงในสมุดประจาห้องแล้วรายงานครูท่ีปรึกษาทราบเป็นลายลักษณ์
อกั ษรเพือ่ แก้ไขตอ่ ไป

ขอ้ ๓๒ ข้อปฏิบตั ขิ ณะมชี ว่ั โมงเรยี น
๓๒.๑ ในระหว่างท่ีมีช่ัวโมงเรยี น นักเรียนต้องอยู่ในห้องเรียนจะอย่ใู นทีอ่ นื่ ๆ ไม่ได้ เว้นแต่

ไดร้ ับการอนุญาตจากครทู ีส่ อนในคาบน้นั ๆ
๓๒.๒ ขณะท่ีมกี ารเรียนการสอน ไม่อนญุ าตใหน้ ักเรียนใชโ้ ทรศพั ทม์ ือถือหรือสาธารณะ
๓๒.๓ตง้ั ใจเรยี นฟังคาอธิบายของครดู ้วยความสงบเรยี บรอ้ ยไม่ลุกจากที่โดยไม่ได้รับอนุญาต
๓๒.๔ ไมน่ าวชิ าหรอื งานอน่ื ๆ มาทาขณะทีม่ ีการเรียนการสอน
๓๒.๕ในกรณีท่ีครูไม่อยู่ในห้องเรียน ให้นักเรียนทุกคนอยู่ในห้องด้วยความเป็นระเบียบ

เรยี บร้อยไม่ส่งเสียงหรือกระทาการใด ๆ อันเป็นการรบกวนห้องข้างเคียง หากภายใน ๑๕ นาที ครูยัง
ไม่เข้าหอ้ งเรยี น ใหห้ ัวหน้าห้องแจง้ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้น้นั ทราบโดยเร็ว

ข้อ ๓๓ ให้นักเรียนทุกคนปฏิบัติตามระเบียบน้ีอย่างเคร่งครัด หากผู้ใดฝ่าฝืน หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติ
ตามให้พิจารณาโทษตามระเบียบว่าด้วยวนิ ัยนักเรียน

ข้อ ๓๔ ให้รองผูอ้ านวยการกลมุ่ บริหารงานบคุ คล รกั ษาการให้เปน็ ไปตามระเบยี บน้ี

ประกาศ ณ วันท่ี ๓๑ เดอื นมนี าคม พ.ศ. ๒๕๖๕

นายสิทธศิ กั ด์ิ แกว้ สอนทะเล
ผอู้ านวยการโรงเรียนสตรวี ัดอัปสรสวรรค์

กฎกระทรวง
กาหนดความประพฤตขิ องนักเรยี นและนักศกึ ษา พ.ศ.๒๕๕๖

อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๖ และมาตรา ๖๕ แหง่ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๕๑
อันเปน็ กฎหมายที่มบี ทบัญญัตบิ างประการเก่ียวกับการจากัดสทิ ธแิ ละเสรีภาพของบคุ คล ซึ่งมาตรา ๒๙
ประกอบกับมาตรา๓๑ มาตรา๓๔ มาตรา ๓๖มาตรา ๓๙ มาตรา ๔๘และมาตรา ๕๐ของรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย บัญ ญัติให้กระทาได้โดยอาศัยอานาจตามบทบัญ ญัติแห่งกฎหมาย
รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ ออกกฎกระทรวงไวด้ งั ตอ่ ไปนี้

ขอ้ ๑ นกั เรยี นและนกั ศึกษาต้องไมป่ ระพฤติตน ดังตอ่ ไปนี้
(๑) หนเี รยี นหรอื ออกนอกสถานทีโ่ ดยไม่ได้รับอนญุ าตในชว่ งเวลาเรียน
(๒) เล่นการพนัน จัดให้มีการเลน่ การพนัน หรือมัว่ สมุ่ ในวงการพนัน
(๓) พกพาอาวุธ หรอื วัตถุระเบดิ
(๔) ซื้อ จาหน่าย แลกเปล่ยี น เสพสรุ าหรอื เครื่องดม่ื ท่มี แี อลกอฮอล์สง่ิ มึนเมา บุหรห่ี รอื ยาเสพติด
(๕) ลักทรพั ย์ กรรโชกทรพั ย์ ข่มขู่ หรือบังคบั ขืนใจเพือ่ เอาทรพั ย์บุคคลอ่ืน
(๖) ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทารา้ ยร่างกายผ้อู น่ื เตรียมการหรอื กระทาการใดๆอันน่าก่อให้เกิด

ความไม่สงบเรียบร้อย หรอื ขัดต่อศลี ธรรมอนั ดขี องประชาชน
(๗) แสดงพฤติกรรมทางชู้สาวซึ่งไม่เหมาะสมในท่สี าธารณะ
(๘) เก่ยี วข้องกับการคา้ ประเวณี
(๙) ออกนอกสถานท่พี ักเวลากลางคืน เพอื่ เท่ียวเตร่ หรือรวมกล่มุ อนั สรา้ งความเดอื ดรอ้ น

ใหแ้ กต่ นเองหรือผอู้ ืน่
ข้อ ๒ ให้โรงเรียนหรือสถานท่ีศึกษา กาหนดระเบียบว่าด้วยความประพฤติของนักเรียนและ

นักศึกษาได้เท่าที่ไมไ่ ดข้ ดั แย้งกบั กฎกระทรวงนี้

ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๖

นายจาตุรนต์ ฉายแสง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับน้ี คือ โดยที่มาตรา ๖๓ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖
บัญญัติให้โรงเรียนและสถานศึกษาต้องจัดให้มีระบบงานและกิจกรรมในการแนะแนวให้คาปรึกษาและฝึกอบรมแก่นักเรียน นักศึกษา
และผู้ปกครอง เพื่อส่งเสรมิ ความประพฤติท่ีเหมาะสม ความรับผิดชอบต่อสังคม และความปลอดภัยแก่นักเรียน และนักศึกษา ตาม
เกณฑ์ วิธกี ารและเงือ่ นไขทก่ี าหนดในกฎกระทรวง จงึ จาเปน็ ต้องออกกฎกระทรวงน

ขัน้ ตอนการดูแลระเบยี บแถวของครสู าหรับกิจกรรมหน้าเสาธง

๑.เม่ือนกั เรียนลงมาถงึ สนามใหค้ ุณครูยืนดูแลหัวแถว และทา้ ยแถว ดา้ นละ ๑ ท่าน
๒.ให้หัวหน้าห้องจัดระเบียบแถว โดยคุณครูคอยกากับ ให้นักเรียนยืนตรงต้ังแถวหน้ากระดานใน
ห้องของตนเอง และยนื ตรงแถวตอนลกึ ด้านหนา้ โดยให้นกั เรียนใช้เสียงนอ้ ยท่ีสุด
๓.คุณครูเดินสารวจการแต่งกายของนักเรียนในแถว หากนักเรียนคนใด แต่งกายไม่ถูกระเบียบใน
คร้ังแรกให้ตักเตือน แต่คร้ังต่อไปให้ตัดคะแนนพฤติกรรมได้เลย ในกรณีที่นักเรียนตัดทรงผมผู้ชายเปิดหู
หากเป็นนักเรยี นเก่าให้ส่งฝ่ายปกครองเพื่อถ่ายรูปทาประวัติในกรณีท่ีทาสีผม ให้คุณครูจดชื่อและให้ไป
ย้อมผมเปน็ สีดา เพ่อื ตรวจในวนั รงุ่ ขึน้
๔. ระหว่างทากิจกรรมหน้าเสาธงให้คุณครูคอยควบคุมดู แลให้นักเรียนทากิจกรรมด้วยความต้ังใจ
โดยไมค่ ยุ หรือเล่นกนั
๕.เม่ือนักเรียนทากิจกรรมหนา้ เสาธงเรียบรอ้ ยแลว้ ใหค้ ุณครูปลอ่ ยแถวนกั เรียน โดยครคู อยควบคุม
กากับดแู ลให้นกั เรยี นเดินแถวอยา่ งมีระเบียบจนกวา่ นกั เรียนจะเดนิ เขา้ ตวั อาคารเรียบรอ้ ยแลว้

ข้อกาหนดของโรงเรยี นสตรวี ัดอปั สรสวรรค์

๑. กาหนดเวลาทาการปกติของโรงเรียนสตรวี ดั อปั สรสวรรค์
๐๗.๔๐น. สญั ญาณครั้งท่ี ๑ เพลงมาร์ชอปั สรสวรรคเ์ ตรยี มเข้าแถว

๐๗.๔๕น. สัญญาณคร้งั ที่ ๒ นักเรยี นเข้าแถวตามที่กาหนดเพือ่ เคารพธงชาติสวดมนต์
สงบนิง่ แผเ่ มตตา ปฏิญาณตนร้องเพลงประจาโรงเรียน

๐๘.๒๐–๐๘.๓๐น.นักเรยี นและครูโฮมรมู เรอื่ ง หน้าทพ่ี ลเมอื ง ในห้องเรียน

ตารางเรยี น A (ตารางปกติ) ตารางเรยี น B (เรมิ่ เรียน ๐๙.๐๐ น. คาบละ ๕๐ นาท)ี
คาบที่ เวลา คาบท่ี เวลา

๑ ๐๘.๓๐-๐๙.๒๐ น. ๑ ๐๙.๐๐-๐๙.๕๐ น.
๒ ๐๙.๒๐-๑๐.๑๐ น. ๒ ๐๙.๕๐-๑๐.๔๐ น.
๓ ๑๐.๑๐ -๑๑.๐๐ น. ๓ ๑๐.๔๐-๑๑.๓๐ น.
๔ ๑๑.๐๐-๑๑.๕๐ น. ๔ ๑๑.๓๐-๑๒.๒๐ น.
๕ ๑๑.๕๐ -๑๒.๔๐ น. ๕ ๑๒.๒๐ -๑๓.๑๐ น.
๖ ๑๒.๔๐-๑๓.๓๐ น. ๖ ๑๓.๑๐-๑๔.๐๐ น.
๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๒๐ น. ๗ ๑๔.๐๐ -๑๔.๕๐ น.
๘ ๑๔.๒๐-๑๕.๑๐ น. ๘ ๑๔.๕๐-๑๕.๔๐ น.
๙ ๑๕.๑๐-๑๖.๐๐ น. ๙ ๑๕.๔๐-๑๖.๓๐ น.

ตารางเรยี น C (เริม่ เรียน ๐๙.๐๒๐ น. คาบละ ๔๐นาท)ี ตารางเรยี น D (เริ่มเรียน ๑๐.๐๐ น. คาบละ ๔๐ นาท)ี

คาบที่ เวลา คาบที่ เวลา

๑ ๐๙.๒๐-๑๐.๐๐ น. ๑ ๑๐.๐๐-๑๐.๔๐ น.

๒ ๑๐.๐๐-๑๐.๔๐ น. ๒ ๑๐.๔๐-๑๑.๒๐ น.

๓ ๑๐.๔๐-๑๑.๒๐ น. ๓ ๑๑.๒๐-๑๒.๐๐ น.

๔ ๑๑.๒๐-๑๒.๐๐ น. ๔ ๑๒.๐๐-๑๒.๔๐ น.

๕ ๑๒.๐๐-๑๒.๔๐ น. ๕ ๑๒.๔๐-๑๓.๒๐ น.

๖ ๑๒.๔๐-๑๓.๒๐ น. ๖ ๑๓.๒๐-๑๔.๐๐ น.

๗ ๑๓.๒๐-๑๔.๐๐ น. ๗ ๑๔.๐๐-๑๔.๔๐ น.

๘ ๑๔.๐๐-๑๔.๔๐ น. ๘ ๑๔.๔๐-๑๕.๒๐ น.

๙ ๑๔.๔๐-๑๕.๒๐ น. ๙ ๑๕.๒๐-๑๖.๐๐ น.

หมายเหตุ
- คาบท่ี ๔ ม.๑ และ ม.๖ พักกลางวัน
- คาบที่ ๕ ม.๒ และ ม.๔ พักกลางวัน
- คาบที่ ๖ ม.๓ และ ม.๕พักกลางวัน
- หลงั จากเลกิ เรยี นแลว้ นกั เรียนจะอยู่ในบรเิ วณโรงเรยี นได้ไม่เกนิ เวลา ๑๗.๐๐ น.

เว้นแต่มกี ิจกรรมพิเศษท่ีไดร้ ับมอบหมาย โดยมีครรู บั ผิดชอบในกิจกรรมนนั้ ควบคุมดูแล
๑. การเขา้ เรยี น นักเรียนต้องเข้าหอ้ งเรียนให้ตรงเวลา ถ้าเข้าหอ้ งเรียนหลังครูผสู้ อนทาการสอน

ไปแล้ว ๑๕ นาที ให้ถือว่าเข้าหอ้ งสายในวชิ าน้นั
๒. การทากิจกรรมนอกโรงเรียน เช่นการแข่งขันตอบปัญหา การแสดงศิลปะต่างๆการนา

ผลผลิตและผลงานของนักเรียนไปแสดง การไปทัศนศึกษา ในกรณีนี้ต้องถือปฏิบัติ คือ โรงเรียนจะมี
หนังสือขออนุญาตผู้ปกครองเพ่ือแจ้งใหผ้ ู้ปกครองทราบและอนุญาตนักเรยี นต้องนาหนงั สืออนุญาตจาก
ผู้ปกครองส่งคืนโรงเรียน และนักเรียนท่ีผู้ปกครองไม่อนุญาตทางโรงเรียนจะไม่อนุญาตให้นักเรียน
เข้าร่วมกิจกรรมน้ัน ๆ เช่นกัน

๓. การนาบุคคลภายนอกเข้ามาในโรงเรียน นักเรียนจะนาเข้ามาไม่ได้ ยกเว้นมาตดิ ต่อราชการ
และไม่ให้ข้ึนไปบนอาคาร ท้ังนี้เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดข้ึน โดยจะอนุญาตให้พบในบริเวณท่ี
กาหนดเทา่ นนั้

๔. การมาโรงเรียนสาย นักเรยี นท่มี าโรงเรียนไม่ทันเขา้ แถว ถือวา่ มาโรงเรียนสายต้องปฏบิ ัตดิ งั น้ี
๔.๑มาหลงั เข้าแถว แตท่ นั เรียนคาบท่ี ๑
- ให้ยืนเป็นแถวอยใู่ นท่ีท่ีครูเวรกาหนด
- เคารพธงชาติ สวดมนต์ ฯลฯพร้อมนักเรยี นท่มี าสาย
- เขยี นช่ือและชั้นเรียนลงในแบบบันทึกของงานกจิ กรรมนักเรยี น
- ทากจิ กรรมตามท่ีครเู วรเห็นสมควร
๔.๒ มาหลังสัญญาณเขา้ เรยี นคาบที่ ๑
- รายงานตอ่ เจา้ หนา้ ที่ เขียนช่อื และชนั้ เรียน สาเหตุการมาสายลงในใบรายงานการมาสาย

- นาใบรายงานการมาสายไปรายงานตวั ต่อครกู ลุ่มบรหิ ารงานบคุ คลแลว้ นาใบขอเขา้ เรียน
ไปให้ครูประจาวชิ าในคาบน้นั ๆ เพอ่ื เข้าเรียน

- ไปรายงานตัวกับครูท่ีปรกึ ษา
๕. การขออนุญาตออกนอกบรเิ วณโรงเรยี น หากนกั เรียนมีความจาเป็นต้องออกนอกบริเวณด้วย
สาเหตุจาเป็นต่าง ๆ ผู้ท่ีจะรับนักเรียนออกนอกบริเวณต้องเป็น พ่อ แม่ หรือผู้ปกครองนักเรียนท่ีให้
ขอ้ มลู กับฝา่ ยปกครองมารับเท่าน้นั โดยมลี าดบั การดาเนินการ ดังน้ี

๕.๑ เขียนบันทึกในแบบขออนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียนท้ังสองส่วน โดยผู้ปกครอง
ลงนามในแบบขออนุญาตนั้น

๕.๒ นาแบบขอออกนอกบรเิ วณโรงเรยี นให้ครทู ป่ี รกึ ษารบั ทราบและลงลายมอื ชือ่ รับรอง
๕.๓ นาแบบฟอร์มดังกล่าว สง่ กลุ่มบริหารงานบุคคลเพ่ือรับทราบ และลงช่ืออนุญาตโดยรอง
กลมุ่ บริหารงานบคุ คลหรือผู้ได้รบั มอบหมายอนญุ าต พร้อมกับลงรายการในสมุดควบคมุ การอนญุ าตการ
ออกนอกบริเวณที่ปอ้ มยามอีกคร้งั หนึง่
๕.๔ นาแบบฟอรม์ การอนญุ าตออกนอกบรเิ วณสง่ ที่ยามรกั ษาการณเ์ ก็บไวห้ น่ึงสว่ น
๖. การรักษาความสะอาด นักเรียนทุกคนต้องช่วยกันรักษาความสะอาด บริเวณโรงเรียน
ห้องเรียนก่อนและหลังเรียนแต่ละวิชา ต้องดูแลความเรียบร้อยของโต๊ะ เก้าอ้ีให้เป็นระเบียบและ
ไม่ทาลายทรัพย์สินของทางโรงเรียน
๗. การประหยดั นักเรียนต้องช่วยกนั ประหยดั สิ่งสาธารณูปโภค เช่น นา้ ไฟ เพ่ือฝึกนิสยั ที่ดีงาม
และหากพบการใช้ไฟฟา้ ภายในโรงเรียนผู้ปกครองต้องจา่ ยค่าปรับครง้ั ละ ๑๐๐ บาท
๘. การรบั ประทานอาหาร นกั เรยี นต้องไมน่ าอาหารและเครอ่ื งดืม่ ออกนอกบรเิ วณพนื้ ที่ที่กาหนด
นักเรยี นตอ้ งน่ังรับประทานให้เรยี บรอ้ ย
๙. การเป็นผูม้ ีคุณธรรม นักเรียนตอ้ งปฏบิ ัตติ นใหเ้ ป็นผ้มู ีศีลธรรม ไม่เห็นแกต้ ัวไม่ลกั ขโมยสิ่งของ
ของผู้อ่ืนเมื่อเก็บของท่ีผอู้ ่ืนทาตกหรือลืมไว้ ต้องนาส่งครูกลุ่มบริหารงานบุคคลเพ่ือประกาศหาเจ้าของ
ต่อไป
๑๐.กิริยามารยาทและการแต่งกาย นกั เรยี นต้องมีกิริยา วาจาท่ีสภุ าพ เรียบรอ้ ย และแต่งกาย
ให้ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียน โดยคานึงถึงศีลธรรม วัฒนธรรมและประเพณีท่ีดีงามของไทย
ท้งั ในและนอกโรงเรียน
๑๑. การปฏบิ ัตติ นเมอื่ การสวมชุดนักเรียน นกั เรียนพึงระวงั ควบคุมกริ ิยาวาจาให้สุภาพเรียบรอ้ ย
ไม่ประพฤติตนทาใหโ้ รงเรยี นเส่อื มเสียช่ือเสียง

ประกาศโรงเรยี นสตรวี ดั อปั สรสวรรค์
เร่อื ง ปรบั เปล่ยี นแก้ไขระเบียบการแตง่ กายของนกั เรยี นโรงเรยี นสตรีวัดอปั สรสวรรค์

----------------------------------------------------------------

ดว้ ยกลุ่มงานบริหารงานบุคคล ไดม้ ีการปรับเปล่ียนแก้ไขระเบยี บการแต่งกายของนักเรยี นโรงเรียน
สตรีวัดอัปสรสวรรค์เพ่ือให้สอดคล้องกับยุคสมัยในปัจจุบันเพ่ือให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและบรรลุ
เป้าหมายของโรงเรียนในการดูแลนักเรียนให้เป็นไปตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ สุภาพ
เรยี บร้อย ประหยัด เหมาะสมกบั สภาพและวยั ของนักเรียน จึงไดก้ าหนดการแต่งกายไว้ดงั นี้

ระเบยี บการแต่งกายของนกั เรียนโรงเรยี นสตรวี ัดอัปสรสวรรค์
ทรงผม
ทรงผมนกั เรียนมัธยมศึกษาตอนต้น

- นักเรียนไว้ผมส้ันให้ตัดทรงบ๊อบยาวเสมอกนั ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้านหน้าต่าจากระดับ
ต่ิงหูไม่เกิน ๑ น้ิวห้ามโกรกสีผม ย้อมผม ดัดผมหรือซอยผมทุกชนิด ให้หวีแสกตรงกลางหรือ
ด้านข้างแลว้ ตดิ กิบ๊ ธรรมดา สีดาห้ามตัดผมดา้ นหน้าเป็นผมหนา้ ม้า
- นักเรียนไว้ผมยาว ให้ถักเปียแล้วผูกโบว์ขนาด ๒ เซนติเมตร ๒ ข้าง ไม่ใช้โบว์สาเร็จรูป โบว์ท่ีใช้
ให้มสี ีเดียวคอื สีครีม (ผมยาวได้ไมเ่ กินคร่ึงหลงั )
ทรงผมนักเรยี นมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
- นกั เรยี นไว้ผมสั้นให้ตัดทรงบอ๊ บยาวเสมอกันท้ังดา้ นหน้าและด้านหลงั ด้านหนา้ ต่าจากระดบั ต่ิง
หูไม่เกิน ๑ นิ้วห้ามโกรกสีผม ย้อมผมดัดผมหรือซอยผมทุกชนิด ให้หวีแสกตรงกลางหรือ
ด้านขา้ งแล้วตดิ กิ๊บธรรมดา สดี าห้ามตัดผมด้านหนา้ เป็นผมหนา้ มา้
- นักเรยี นไวผ้ มยาวให้รวบผมหลงั ใบหรู วบให้ตงึ ด้วยยางเสน้ เล็กสีดาแล้วผูกโบวท์ บั ให้เรยี บร้อย
ห้ามโกรกสีผม ย้อมผม ดัดผมหรือยีผม ไม่ปล่อยผมสยายเม่ืออยู่ในเครื่องแบบนักเรียนทั้งใน
และนอกโรงเรียน การรวบผมต้องรวบระหว่างใบหู (ผมยาวได้ไม่เกินคร่ึงหลัง)ไม่มีไรผม หรือ
จอนผมหอ้ ยรุงรัง ดา้ นหน้าจะตอ้ งไมป่ ลอ่ ยยาวในลักษณะผมหนา้ มา้ หรอื ผมยกกระบังหนา้
ใหส้ งู ขนึ้ โบว์ที่ใชใ้ ห้มีสเี ดียว คอื สคี รมี มีขนาดความกวา้ ง ๑ นิว้ ไมใ่ ชโ้ บว์สาเร็จรปู ก๊บิ ท่ตี ิดผม
ใหใ้ ช้กิ๊บธรรมดาสีดาเท่านน้ั
ชดุ เครื่องแบบนกั เรยี น
๑. เสือ้ (ท้ังระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลายใช้ผ้าเหมอื นกนั แบบตา่ งกนั )
เสือ้ เครอื่ งแบบนกั เรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
-ชนิดของผ้าใช้ผ้าขาวเกล้ยี ง เน้อื ไมบ่ าง (เช่น ลนิ นิ หรอื โทเร ชนดิ เนอ้ื หนา)
-แบบเสื้อ แบบคอพับในตัว ลึกพอสวมศีรษะได้สะดวก สาบตลบเข้าข้างในส่วนบนของสาบ
ให้พอแบะคอแล้วไม่เห็นตะเข็บข้างใน มีปกขนาด๑๐–๑๕ ซม. ใช้ผ้าสองช้ันเย็บเข้าถ้า แขน
ยาวเพียงเหนือข้อศอกประมาณ ๗ ซม. ปลายแขนเส้ือจีบเล็กน้อย (ห้ามใช้ผ้าเฉลียง)

ไม่จีบต้นแขน ขอบปลายแขนประกอบด้วยผ้าสองชั้นกว้าง ๓ ซม. ความยาวของตัวเสื้อวดั จาก
ข้อมือขึ้นมาเมื่อยืนตรงระยะ ๑๐ ซม. ชายขอบเส้ือด้านล่าง พับไม่เกิน ๓ ซม. ริมขอบล่าง
ด้านหน้าข้างขวาติดกระเป๋าขนาด ๙–๑๐ ซม. ยาว ๑๐–๑๒ ซม. ตามส่วนของขนาดตัวเสื้อ
ปากกระเป๋าพับริมกว้างไม่เกนิ ๒ ซม. ตัวเส้ือตรงตลอดความหลวมของเส้ือวัดจากข้างหน้าซ้าย

และขวาห่างกนั ประมาณข้างละ ๕ซม.

-ผูกคอซองด้วยผ้าสีเดียวกันกับกระโปรง ชายสามเหล่ียมกว้าง๖–๗ซม. ยาว ๘๐–๑๐๐ซม.เงื่อน

กะลาสเี มื่อผูกแลว้ เง่ือนต่ากวา่ คอ ๖–๗ ซม.

-เส้ือชั้นใน ไม่อนุญาตให้สวมเส้ือช้ันในเพียงตัวเดียวต้องสวมเสื้อซับในทุกคร้ัง ทั้งมัธยมศึกษาตอนต้น

และมัธยมศึกษาตอนปลาย

เส้อื เครอ่ื งแบบนกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาตอนปลาย
- ชนดิ ของผ้า ใช้ผ้าขาวเกลย้ี ง เนื้อไมบ่ าง (เชน่ ลนิ ิน หรอื โทเร ชนดิ เนือ้ หนา)
- แบบเส้ือ แบบคอเชิ้ตผ่าอกตลอด ทั้งอกเสอ้ื ทาเป็นสาบ ตลบเข้าข้างในกว้าง๓ ซม.เจาะรัง

ดมุ เหนือเขม็ ขัดขนาดครงึ่ น้ิว๓ รงั ดุม ใชก้ ระดุมแบนสขี าว๓เม็ดแขนเส้ือยาวเหนอื ศอกประมาณ ๒
ซม. ไม่จีบตน้ แขน จีบปลายแขนเล็กน้อย (ห้ามใช้ผ้าเฉลียง)ขอบแขนประกอบด้วยผ้า๒ ชนั้ กว้าง
๓ ซม.ตัวเสอ้ื ทรงตรงตลอด ความหลวมของตวั เสื้อวดั จากข้างหนา้ ซา้ ยและขวาหา่ งกนั ประมาณขา้ ง
ละ ๕ ซม. ชายเสื้อสอดไว้ในกระโปรง

- เสื้อชั้นใน ถ้าสวมชนิดหลังเล็กต้องสวมเสื้อช้ันในตัวยาวคอกระเช้าทับอีกตัวหน่ึง และ
สอดชายเส้ือไว้ในกระโปรง
๒. กระโปรง เหมอื นกนั ทั้งมธั ยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย

- ชนิดของผ้า ห้ามใชผ้ ้าเน้ือหนา แบบยีนส์ ลายสอง เวสปอย หรือผ้าบางแบบผ้าจอร์เจีย ให้ใช้ผ้า
เน้อื หนา เรยี บ และผา้ โทเร

- สี ใช้สีน้าเงินเขม้ หรือกรมท่า“ห้ามใชส้ ดี า”
-แบบกระโปรงด้านหน้าและด้านหลังกระโปรงจบี ด้านละ ๖ กลีบ แบ่งเปน็ ๒ ข้าง ขา้ งละ ๓ กลบี
พบั กลบี ออกด้านนอก เย็บทับกลบี ยาวประมาณ ๘ ซม.กลบี เวน้ ระยะความกว้างระหวา่ งกลบี พองาม
- ความยาวของกระโปรง ให้ยาวคลุมเข่า
๓. เขม็ ขัด (ใชเ้ ฉพาะมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย)
-ใช้เขม็ ขัดหนังสดี า กว้าง ๔–๕ ซม. ตามส่วนขนาดตวั นกั เรยี น
- หวั รูปส่ีเหล่ยี มผนื ผ้าชนดิ หุม้ หนังสีดา มปี ลอกสเี ดียวกับเข็มขัด สอดเขา้ กับตัวเข็มขดั
ตัวปลอกกวา้ งประมาณ ๑.๕ ซม. หา้ มใช้เข็มขัดมลี วดลายหรือตวั อกั ษรใด ๆ บนเขม็ ขดั
๔. ถุงเท้า (มธั ยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย)
- ใช้ถุงเท้าผ้าหรือไนลอนแบบยาว สีขาวไม่มีลวดลายหรือสลับสีหรือขลิบ ขอบไม่หนา
หรือไม่บางจนเกนิ ไป
- ความยาวของถุงเทา้ ต้องยาวพอพับขอบไดป้ ระมาณ ๑.๕ น้วิ .
- หา้ มสวมถุงเทา้ สนั้ รดั ขอ้ เทา้ ชนิดพับขอบไม่ได้
๕.รองเท้า(มธั ยมศึกษาตอนต้นและมธั ยมศึกษาตอนปลาย)
- ใช้แบบหุ้มส้น หุ้มปลายเท้า หัวมน ชนิดมีสายรัดหลังเท้า หนังสีดา ไม่มีลวดลาย ส้นสูงไม่
เกิน ๓ ซม.

- รองเท้าผ้าใบต้องเป็นสีขาวธรรมดา ไม่หุ้มข้อ ไม่มีลวดลาย ไม่สลับสีใดๆ ทั้งส้นิ และเชือก

ผูกรองเทา้ ตอ้ งเป็นสีขาว และใช้เฉพาะวนั ทมี่ วี ิชาพลศกึ ษาเท่าน้นั

- ไมอ่ นญุ าตให้สวมรองเท้าผ้าใบสขี าวกบั ชดุ นักเรยี นและรองเท้าสีดากบั ชดุ พละ

๖. กางเกงวอร์ม (มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย)
- ใช้กางเกงวอร์มขายาว ผ้ายืด สีกรมท่า เส้ือและกางเกงพละได้จัดจาหน่ายไว้ท่ีกลุ่มสาระ

การเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษาและให้สวมกางเกงวอรม์ เฉพาะคาบพลศกึ ษาเทา่ นน้ั
๗. กระเป๋า

- ให้ใชก้ ระเป๋าหนังหรอื กระเป๋าหนงั เทยี มสีดาแบบกระเป๋าหนงั สือเรียน ห้ามใชก้ ระเป๋าหนัง
มีราคาแพง หรอื กระเป๋าทีม่ ที ่ีลอ็ กอนั เดยี วและขนาดต้องไมเ่ ล็กมากแบบอนุบาลหรปื ระถมศกึ ษา
และให้ใชก้ ระเปา๋ สะพายหลงั แบบของโรงเรยี นเทา่ น้ัน

- ให้ใชก้ ระเปา๋ เคียงแบบของโรงเรยี นไวใ้ สส่ ัมภาระอนื่ ๆโดยใช้คูก่ ับกระเป๋าหลักเทา่ นั้นและไม่
อนญุ าตให้ใช้กระเปา๋ เคียงเพยี งใบเดียวหรอื ใชก้ ระเปา๋ แบบอ่นื ๆในการใสส่ มั ภาระ
๘. นาฬิกา

- รูปเรือนและสายนาฬิกาเป็นแบบสุภาพหา้ มใชน้ าฬิกาแฟนซที ่ีหน้าปัดมีสีสันลวดลายหรือรูป
เรือนและขนาดทผี่ ดิ ปกติจากนาฬิกาท่ัวๆไป หรือนาฬิกาทสี่ อ่ แสดงความฟมุ่ เฟอื ยในการใช้งาน
สายนาฬกิ าเป็นแบบสแตนเลสหรือโลหะ ถา้ เป็นสายหนงั สีที่อนุญาตให้ใชไ้ ด้คอื สีดา สีกรมท่าหรือ
สนี ้าเงิน น้าตาลและเทา
๙. แว่นตา

-ถ้าต้องสวมแว่นตาต้องใช้กรอบสีสุภาพ คือ กรอบสีเงิน ทอง ดา นา้ ตาลไหม้ หรือสีเทาแก่
ไม่ใช้แว่นที่มีรูปแบบแปลกๆ แบบของแว่นตาต้องสุภาพตามลักษณะของผู้เป็นนักเรียนให้
เหมาะสมไม่ใหญ่เกินไปหรือขนาดกลมใหญ่จนเข้าลกั ษณะแบบแฟชนั่
๑๐. คอนแทคเลนส์

-อนุญาตให้ใส่คอนแทคเลนส์ ใส ไม่มีสี (สาหรับนักเรียนที่มีความผิดปกติทางสายตา) และไม่
ใส่คอนแทคเลนส์แบบแฟชั่น
๑๑. ของมคี า่

- ไม่นาส่ิงของมีค่ามาโรงเรียนทุกชนิด เช่น เครื่องประดับทองคา หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ท่ีมีราคามาใช้ในโรงเรียน (ถ้าสูญหายทางโรงเรียนจะไม่รับผิดชอบ)
๑๒ .เครื่องประดับ

- ไม่อนุญาตให้ใชเ้ ครื่องประดับใด ๆ ตกแตง่ ร่างกายหรอื แตง่ กายในลักษณะท่ีขดั ต่อสภาพของ
การเปน็ นกั เรียนที่ดีถงึ แมจ้ ะไม่ไดร้ ะบไุ วใ้ นระเบียบนี้ก็ตาม
๑๓. ตา่ งหู

- อนุญาตให้เจาะหูใส่ต่างหูเพื่อป้องกันรูหูตันเพียงข้างละ ๑ รูเท่านั้น ให้ใช้ต่างหูท่ีทาด้วย
โลหะสเี งนิ เทา่ น้ันเป็นรปู หว่ งเล็ก ๆ แบบเส้นลวดไมม่ ีลวดลายและไม่อนญุ าตใหใ้ สก่ ้านสดี า
๑๔. โทรศัพทเ์ คลอ่ื นที่
- โรงเรียนไมอ่ นุญาตให้นามาใช้ในขณะทมี่ ีการเรียนการสอน มีกิจกรรมและประชมุ หากฝ่าฝืน
โรงเรียนจะขออนุญาตเป็นผู้เก็บไว้และจะให้บิดา / มารดาหรือผู้ปกครองของนักเรียนเป็นผู้มารับคืน
เท่าน้ัน
- ห้ามนาอุปกรณ์สื่อสารมาชารต์ ไฟทโ่ี รงเรยี นโดยเด็ดขาด หากฝา่ ฝืนยึดอปุ กรณ์ในการชาร์ต

และโทรศัพท์ไว้โดยใหผ้ ูป้ กครองมารบั คนื หลงั เลกิ เรยี นเทา่ น้นั ถา้ หากมีการสญู หายเกดิ ขึน้ จะไม่
อนญุ าตใหด้ ูกล้องวงจรปดิ ของทางโรงเรยี น และทางโรงเรียนจะไมม่ กี ารรับผิดชอบใด ๆ ท้ังสิ้น

ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๖๕

( นายสิทธศิ ักด์ิ แก้วสอนทะเล )
ผู้อานวยการโรงเรยี นสตรีวดั อัปสรสวรรค์

เครือ่ งแบบและเครื่องหมายประกอบเครอ่ื งแบบยวุ กาชาด

๑.หมวกทาด้วยผ้าสีกรมท่า มีรูปทรงคงท่ี แบบมีแก๊ปขา้ งหน้า และตลบปีกข้างหน้าข้ึนทง้ั สองข้าง
ประดบั เครื่องหมายลายดนุ เปน็ รปู กาชาดทาด้วยโลหะสีเงิน มเี สน้ ขอบสนี า้ เงินแกอ่ ย่บู นพ้นื วงกลม
สีขาวล้อมกรอบเปน็ ชอ่ ชัยพฤกษ์ และตรงส่วนบนมีอุณาโลม ยอดอณุ าโลมมรี ศั มีจากฐาน เครื่องหมาย
ถงึ ยอดรศั มยี าว ๓ ซม. เคร่อื งหมายนป้ี ระดบั ดา้ นหน้ากลางหมวก (หมวกใช้ในโอกาสพิเศษ)

๒.เส้ือเช้ิตสีเทาอมฟ้า อกเช้ิตผ่าตลอดท่ีอกเสื้อ ทาเป็นสาบขนาด ๓ ซม. มีดุมขัดตลอดเหนือ
เข็มขัด ๔ ดุม แขนส้ันเหนือศอก ๑ นิ้ว พับตลอดปลายแขน ขนาด ๑ ซม. มีกระเป๋าสองข้าง
แบบปดิ ปากด้วยกระดุมสีเดียวกับเสอ้ื ตรงก่ึงกลางกระเป๋าพบั จบี เป็นแถวกว้างเทา่ กับสาบเสื้อ ตรงบ่า
ทั้งสองมีอินทรธนูติดกระดุมข้างละหนึ่งเม็ด ด้านหลังเส้ือตัดเรียบกระดุมท้ังส้ินมีลักษณะเป็นรูปกลม
แบน ขนาดเดียวกัน ทาด้วยวัสดสุ ีเดียวกับเสอื้ ท่ีอกเบ้ืองขวาติดเครื่องหมายยุวกาชาด ต้นแขนเบ้ือง
ซา้ ยติดแถบปา้ ยชอ่ื โรงเรยี น

๓. ผ้าผูกคอผ้ารูปสามเหลี่ยมมุมฉากสีกรมท่า มีด้านยาวประกอบมุมฉากด้านละ ๗๕ ซม.
เย็บริมท้ังสองด้าน เวลาใช้ให้พับด้านทแยงให้เรียบร้อยแล้วจีบกว้าง ๓ – ๔ ซม. ตลบไปมา ๔ คร้ัง
พบั หนงึ่ หรือสองครั้งพอเหมาะสมกบั ผูใ้ ช้ แลว้ ผูกเงอื่ นพริ อดทับปกเสอื้ เชิ้ตใหเ้ ป็นโบว์ กระชับอกเสื้อ
ตรงกระดมุ เม็ดทส่ี องจัดมุมของผา้ ผกู คอใหอ้ ยู่ตรงก่งึ กลางดา้ นหลัง

๔.กระโปรงใช้ผ้าและสีชนิดเดียวกับเสื้อ เป็นกระโปรงแบบสี่ตะเข็บเข้ารูป กระโปรงบานพองาม
ใช้สวมทบั เสือ้

๕.เข็มขัดทาด้วยหนงั สีดา กวา้ ง ๓.๕ ซม. มีหัวทาด้วยโลหะสเี งินรูปสี่เหลย่ี มผืนผ้ากว้างพอทีจ่ ะ
สวมกับสายเข็มขัดให้ได้พอดียาว ๔ -๕ ซม. ตรงกลางหัวเข็มขัดมีลายดุนเป็นรูปเคร่ืองหมายอย่าง
เดยี วกับเคร่ืองหมายประดบั หมวก ให้คาดทบั ขอบกระโปรง

๖.ถุงเท้าชนิดยาวสีขาว เวลาสวมให้พับขอบถงุ เท้าลงไปเพยี งขอ้ เท้าขนาด ๑.๕ นิ้ว
๗.รองเท้าผ้าใบสีขาวชนดิ ผกู ส้นสูงไมเ่ กนิ ๓ ซม. หรอื รองเท้าสดี าแบบนักเรียนหญิง

เคร่อื งแบบและเครอ่ื งหมายประกอบเครื่องแบบเนตรนารี

เนตรนารสี ามัญรนุ่ ใหญ่

๑. หมวกปกี แคบสเี ขยี วแก่มีตราหน้าหมวกรูปเคร่ืองหมายเนตรนารที าด้วยโลหะสีทอง ปีกหมวก
ดา้ นหลงั พับข้นึ

๒. เสื้อคอพับสีเขียวแก่(ผ้าโทเร เบอร์ ๓๒) แขนสั้นเหนือข้อศอกผ่าอกตลอด อกเส้ือทาเป็นสาบ
กว้าง๓.๕ ซม. มีดมุ เหนือเข็มขดั ๔ ดุม อกมีกระเปา๋ ข้างละหน่ึงกระเป๋า มีแถบตรงกึ่งกลางตามแนวดิ่ง
ปกรูปมนมีอินทรธนอู ยเู่ หนอื บ่าท้ังสองขา้ ง (ลกั ษณะอินทรธนูด้านไหล่กว้าง ๓.๔ ซม. เย็บติดกบั ตะเข็บ
ไหล่เสื้อด้านคอกวา้ ง ๒.๕ ซม. ปลายมน มีดุมติดทาด้วยวตั ถุสีเขียวแก่) ให้ชายเสื้อสอดเข้าในกระโปรง
หรอื เยบ็ ตดิ กับกระโปรงก็ได้

๓. กระโปรงสีเขียวแก่ยาวคลมุ เขา่ ด้านหนา้ ด้านหลังพับเป็นกลีบหันออกข้างข้างละหนึง่ กลีบ
๔. ผ้าผกู คอรูปสามเหล่ยี มหน้าจ่ัวสตี ามสีประจาเขตการศึกษามหี ว่ ง (วอลค์ เกิล) สวมผ้าผกู คอ
๕. เข็มขัดหนังสีดากว้างไม่เกนิ ๓ ซม. หัวรูปสี่เหล่ียมผืนผ้าทาด้วยโลหะสีทอง มีลายดุนเครอื่ งหมาย
เนตรนารี
๖. ถงุ เทา้ สขี าว พับสน้ั เพียงข้อเทา้
๗. รองเทา้ หนังสีดาหรือผา้ ใบสีดา(อนโุ ลมใชร้ องเทา้ ผ้าใบสีขาวไม่มลี วดลายบางโอกาส)
๘. เครือ่ งหมายเนตรนารีสามญั รุ่นใหญ่ทาดว้ ยโลหะสที องประกอบแถบโบอยู่ส่วนกลางมคี าวา่
สามัญรุ่นใหญ่ใช้กลัดติดอกเสื้อข้างซ้าย
๙. เคร่อื งหมายสังกัด – ช่ือสกุลหรือกองทาดว้ ยผ้าสีแดงตัวอักษรสีขาว ขลบิ ริมด้วยผ้าขาวตดิ โค้ง
ตามไหลเ่ ส้ือขา้ งขวา
๑๐.อนิ ทรธนสู เี ลอื ดหมูดา้ นบนปกั เครอื่ งหมายเนตรนารสี เี หลอื ง

หมายเหตุสาหรับเนตรนารีวิสามัญให้แต่งเคร่ืองแบบและเคร่ืองหมายประกอบเคร่อื งแบบให้
ถูกตอ้ งควบถว้ นตามข้อกาหนด

การแตง่ กายเคร่ืองแบบนกั เรียนระดับชน้ั ม.ตน้

ดา้ นหน้า ด้านข้าง ดา้ นหลงั

การแตง่ กายเครื่องแบบเนตรนารี

ดา้ นหน้า ดา้ นข้าง ดา้ นหลงั

การแต่งกายเครื่องแบบยุวกาชาด

ด้านหนา้ ด้านข้าง ดา้ นหลัง

การแตง่ กายชดุ พละ

แบบกระโปรง แบบกางเกง

การแต่งกายเคร่ืองแบบนกั เรียนระดบั ชั้น ม.ปลาย

ด้านหนา้ ดา้ นขา้ ง ด้านหลัง

แบบการปักช่ือและเครอ่ื งหมายเคร่อื งแบบนักเรยี น

ดา้ นซา้ ยของอกเส้อื ชือ่ – นามสกุล (ไมม่ ีคานาหนา้ ชือ่ )
ปักขนาด 0.8 ซ.ม.
กลุ สตรี นา้ ใจงาม
Front ไทย – สารบัญ
ชื่อนกั เรยี นหอ้ งเรยี น Gifted
ชอ่ื – นามสกลุ (ช่อื ภาษาอังกฤษ )
NATHATHAI S. ปักขนาด 0.8 ซ.ม.
Front ไทย – สารบญั

ชอ่ื เสื้อพละ ดา้ นขวาของอกเส้ือ ช่ือ – นามสกุล(ไม่มีคานาหน้าช่อื )
ชน้ั ม. ๑ /๑๐ ( เลขไทย )
ปักขนาด 0.8 ซ.ม.
Front ไทย – สารบัญ

แบบการปักชื่อเสอ้ื นักเรยี น

ปักดา้ นขวาของหนา้ อกเส้ือ ปักดา้ นซา้ ยของหนา้ อกเส้ือ

อ.ส. ชอื่ – นามสกลุ (ไมม่ ีคานาหน้าช่ือ )
กลุ สตรี น้าใจงาม
อักษร อ.ส.ขนาด 1.5 ซ.ม. ปักขนาด 0.8 ซ.ม.
ดาวปักขนาด 0.8 ซ.ม. Front ไทย – สารบญั
จานวนดาว - ตามระดับชัน้
สี -ตามคณะสีทสี่ งั กัด

เขม็ นางฟ้า ชือ่ –นามสกลุ (ไม่มีคานาหน้าชือ่ )
ปักขนาด 0.8 ซ.ม.
อ.ส. Front ไทย – สารบัญ

อักษร อ.ส.ขนาด 1.5 ซ.ม.
ดาวปักขนาด 0.8 ซ.ม.

จานวนดาว - ตามระดับชั้น
สี -ตามคณะสที ีส่ ังกัด

อ.ส. ชื่อ–นามสกุล(ชือ่ ภาษาองั กฤษ )

อกั ษร อ.ส.ขนาด 1.5 ซ.ม. NATHATHAI S.
ดาวปักขนาด 0.8 ซ.ม.
ปกั ขนาด 0.8 ซ.ม.
จานวนดาว - ตามระดบั ชนั้ Front ไทย – สารบญั
สี -ตามคณะสีทส่ี ังกัด

แบบการปักชื่อเสอ้ื เนตรนารี ยุวกาชาดและเส้อื พละ

ชื่อ – นามสกลุ
ชอื่ – นามสกลุ (ไมม่ คี านาหน้าช่ือ )

ปกั ขนาด 0.8 ซ.ม.
Front ไทย – สารบญั
ปักชอื่ บนผา้ สแี ดงตวั หนังสอื
สเี หลืองนาไปเยบ็ ติดบนตัวเสอ้ื

ชอ่ื – นามสกุล (ไมม่ คี านาหนา้ ช่ือ )
ปักขนาด 0.8 ซ.ม.
Front ไทย – สารบัญ

ปกั ช่ือบนผ้าสีขาวตัวหนังสอื สีกรมทา่
นาไปเยบ็ ตดิ บนตัวเสอื้

ชือ่ – นามสกุล
ชั้น ม. ๑ / ๑ ( เลขไทย )

ปกั ขนาด 0.8 ซ.ม.
ชอื่ –นามสกุล(ไมม่ คี านาหนา้ ชอื่ ) Front ไทย – สารบัญ

ช้ัน ม. ๑ /๑๐ ( เลขไทย )
ปักขนาด 0.8 ซ.ม.
Front ไทย – สารบญั

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น

คุณภาพผู้เรียนด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน๕ข้อ ได้ยึดตามกรอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ดงั น้ี

๑.ความสามารถในการสอื่ สาร หมายถึง ใชภ้ าษาถา่ ยทอดความคดิ ความรคู้ วามเข้าใจ
ความรู้สกึ และทัศนะของตนเองเพ่ือเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเปน็ ประโยชน์ต่อการ
พัฒนาตนเองและสังคมรวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆการเลือกรับ
หรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้องตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสารท่ีมี
ประสทิ ธิภาพโดยคานงึ ถึงผลกระทบทีม่ ีตอ่ ตนเองและสังคม

๒. ความสามารถในการคิด หมายถึง รู้จักคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดอย่างสร้างสรรค์
คิดอย่างมีวิจารณญาณ และคิดเป็นระบบเพ่ือนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพ่ือการ
ตัดสินใจเก่ยี วกบั ตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา หมายถึงเข้าใจความสัมพันธ์และการเปล่ียนแปลงของ
เหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคมแสวงหาความรู้ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่าง
ถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผลคุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศรวมท้ังตัดสินใจที่มี
ประสิทธภิ าพ โดยคานึงถงึ ผลกระทบที่เกิดขน้ึ ตอ่ ตนเองสงั คมและสงิ่ แวดลอ้ ม

๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต หมายถึงใช้กระบวนการต่าง ๆ ในการดาเนิน
ชวี ิตประจาวัน เรียนรดู้ ้วยตนเองตอ่ เนื่องทางานและอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสรมิ ความสัมพันธ์อันดี
ระหว่างบุคคลจัดการปัญหาและความขัดแยง้ ตา่ ง ๆอยา่ งเหมาะสมรู้จักปรบั ตัวให้ทันกับการเปลย่ี นแปลงของ
สังคมสภาพแวดล้อมและหลีกเล่ียงพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงคท์ ่ีส่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผูอ้ นื่

๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี หมายถึง รจู้ ักเลอื กและใช้เทคโนโลยีดา้ นตา่ ง ๆทกั ษะ
กระบวนการทางเทคโนโลยี เพอ่ื การพฒั นาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้การส่อื สาร การทางาน
การแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรคถ์ ูกตอ้ งเหมาะสมและมคี ณุ ธรรม

เปา้ หมายสดุ ท้ายของแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ (Ends)
๑.ระบบการศกึ ษาที่มีคุณภาพและประสทิ ธภิ าพสามารถเปน็ กลไกในการพัฒนาศกั ยภาพ
และขีดความสามารถของทุนมนุษย์ (Productivity) ท่ตี อบสนองความตอ้ งการของตลาดแรงงานและ
การพฒั นาประเทศเพ่อื ให้ประเทศสามารถก้าวขา้ มกับดบั ของประเทศทม่ี ีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศท่ี
พัฒนาแลว้ อย่างยงั่ ยืนภายใต้พลวัตของโลกศตวรรษที่๒๑
๒. ประชากรทกุ ชว่ งวัยสามารถเข้าถงึ โอกาสและความเสมอภาคทางการศกึ ษาและการ
เรียนรู้จากระบบการศึกษาท่ีมีความยืดหยุ่นหลากหลายและสนองตอบความต้องการของผู้เรียนเพื่อ
ยกระดับชนชั้นของสังคม๕ภายใต้ระบบเศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge Based Economy) ที่เอื้อ
ต่อการสร้างสังคมแห่งปัญญาและการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ท่ีประชาชนสามารถ
แสวงหาความรู้และเรยี นรู้ไดอ้ ย่างตอ่ เนอื่ งตลอดชีวิต

๓. ผู้เรียนแต่ละระดับการศกึ ษาได้รับการพัฒนาขีดความสามารถเต็มตามศักยภาพที่มอี ยใู่ น
ตัวตนของแต่ละบุคคลและมีคุณลักษณะนิสัย/พฤติกรรมที่พึงประสงค์มีองค์ความรู้ที่สาคัญและทักษะ
การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี๒๑รวมทั้งทักษะการดารงชีวติ และทักษะความรคู้ วามสามารถและสมรรถนะใน
การปฏบิ ัตงิ านท่ตี อบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและการพฒั นาประเทศ

๔. ภาคการศึกษามีทรัพยากรและทุนท่ีเพียงพอสาหรับการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ
มาตรฐานจากการมีส่วนร่วมในการระดมทุนและสนองทุนเพือ่ การศึกษาจากทุกภาคส่วนของสงั คมผ่าน
การเสยี ภาษีตามสิทธิและหนา้ ทขี่ องพลเมืองการบริจาคและการรว่ มรบั ภาระคา่ ใชจ้ า่ ยทางการศกึ ษา

๕. สถานศึกษามีระบบการบริหารและการจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพด้วยคุณภาพและ
มาตรฐานระดับสากลสามารถให้บริการการศึกษาท่ีตอบสนองความต้องการของบริบทเชิงพ้ืนที่
ระดับประเทศและระดับภูมิภาคในฐานะที่เป็นศูนย์กลางของการบริการด้านการศึกษาในภูมิภาค
อาเซียน (Hub for Education) และเป็นภาคเศรษฐกิจหนึ่งของระบบเศรษฐกิจของประเทศและของ
ภูมิภาคท่สี ร้างรายได้ใหก้ ับประเทศไทย

กิจกรรมส่งเสรมิ คา่ นยิ มไทย ๑๒ ประการ

การสร้างค่านยิ มหลกั ของคนไทย ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
เพื่อสร้างสรรคป์ ระเทศไทยให้เข้มแขง็ โดยต้องสรา้ งคนในชาติ ใหม้ คี ่านยิ มไทย ๑๒ประการ

๑. ความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
นิยาม การประพฤตปิ ฏิบัติตนท่ีแสดงถงึ ความสานึกและภาคภมู ิใจความเปน็ ไทยปฏิบัติตามหลัก
ศาสนาทีต่ นนับถือ และจงรักภักดตี ่อสถาบันพระมหากษตั รยิ ์

๒. ซือ่ สัตย์ เสียสละ อดทน มอี ดุ มการณใ์ นสิง่ ทีด่ ีงามเพือ่ สว่ นรวม
นิยาม การประพฤติปฏบิ ัติตนท่แี สดงถงึ การยึดมนั่ ในความถกู ตอ้ ง ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริง
ต่อตนเองและผู้อื่น ละความเห็นแก่ตัว รู้จักแบ่งปันช่วยเหลือสังคมและบุคคลท่ีควรให้ รู้จักควบคุม
ตวั เองเมื่อประสบกับความยากลาบากและสง่ิ ทก่ี อ่ ใหเ้ กิดความเสยี หาย

๓. กตญั ญตู ่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
นยิ าม การประพฤติทแ่ี สดงถึงการรูจ้ ักบุญคุณ ปฏิบัติตามคาส่งั สอนแสดงความรักความเคารพความ
เอาใจใส่รักษาชือ่ เสียงและตอบแทนบุญคุณของพ่อแมผ่ ูป้ กครองและครูอาจารย์

๔. ใฝห่ าความรู้ หม่นั ศึกษาเลา่ เรียนทงั้ ทางตรง และทางออ้ ม
นิยาม การประพฤติปฏิบัติตนท่ีแสดงถึงความต้ังใจเพียรพยายามในการศึกษาเล่าเรียนแสวงหา
ความร้ทู ัง้ ทางตรงและทางออ้ ม

๕. รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอนั งดงาม
นิยามการปฏิบัติตนท่ีแสดงถึงการเห็นคุณค่าความสาคัญภาคภูมิใจอนุรักษ์สืบทอดวัฒนธรรม
และประเพณไี ทยอนั ดงี าม

๖. มีศีลธรรมรักษาความสัตย์ หวังดตี อ่ ผอู้ น่ื เผ่ือแผ่และแบ่งปนั
นิยาม การประพฤติปฏิบัติตนโดยยึดมั่นในคาสัญญามีจิตใจโอบอ้อมอารีช่วยเหลือผู้อ่ืนเท่าที่
ชว่ ยได้ท้งั กาลงั ทรพั ย์กาลงั กายและกาลังสตปิ ัญญา

๗. เขา้ ใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุขที่ถูกตอ้ ง
นิยาม การแสดงถึงการมีความรู้ความเข้าใจปฏิบัติตนตามหน้าท่ีและสิทธิของตนเองเคารพสิทธิ
ของผ้อู น่ื ภายใต้การปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ

๘. มีระเบียบวินัยเคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จกั การเคารพผใู้ หญ่
นิยามการปฏิบัติตนตามขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ระเบียบข้อบงั คบั และกฎหมายไทยมีความเคารพและ
นอบน้อมต่อผู้ใหญ่

๙. มีสติรตู้ ัว รูค้ ิด รทู้ ารปู้ ฏิบัตติ ามพระราชดารัสของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว
นิยามการประพฤตปิ ฏบิ ัติตนอย่างมสี ติรู้ตวั รู้คดิ รู้ทาอยา่ งรอบคอบถูกต้องเหมาะสมและนอ้ มนา
พระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวมาเปน็ หลักปฏบิ ัตใิ นการดาเนินชีวิต

๑๐.ร้จู ักดารงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
นิยามการดาเนินชีวิตอย่างพอประมาณมีเหตุผลมีภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดีมีความรู้มีคุณธรรมและ
ปรบั ตัวเพื่ออยใู่ นสงั คมได้อยา่ งมคี วามสขุ ตามพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

๑๑.มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ ร่ายกาย และจิตใจ ไมย่ อมแพ้ต่ออานาจฝา่ ยตา่ หรอื กิเลสมี
ความละอายเกรงกลวั ต่อบาปตามหลักของศาสนา

นิยาม การปฏิบัติตนให้มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงปราศจากโรคภัยและมีจิตใจที่เข้มแข็งมีความ
ละอายเกรงกลวั ตอ่ บาปไมก่ ระทาความช่วั ใด ๆ ยดึ มั่นในการทาความดขี องศาสนา

๑๒. คานึงถึงผลประโยชนข์ องส่วนรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
นิยามการปฏิบัติตนและให้ความร่วมมือในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและประเทศชาติ
ยอมเสยี สละประโยชน์สว่ นตนเพอ่ื รกั ษาประโยชน์ของสว่ นรวม

ระเบียบโรงเรยี นสตรวี ดั อัปสรสวรรค์ วา่ ด้วยผูป้ กครองนกั เรียน

ประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันท่ี ๑๒ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๒๒ กลา่ วถงึ ระเบียบของเครือข่าย
ผู้ปกครองดังนี้

ก. วา่ ดว้ ยการปฏิบัติของผู้ปกครองนักเรยี น
๑. ผู้ปกครอง หมายถงึ บุคคลซง่ึ รับนกั เรียนไว้ในปกครอง หรอื อุปการะเลย้ี งดหู รอื บุคคล

ท่นี ักเรียนอาศัยอยู่ด้วย
๒. ให้นัก เรียน ที่ก าลังศึก ษาใน สถาน ศึกษ าสังกัด หรือใน ความควบคุมดูแลของ

กระทรวงศึกษาธกิ าร เว้นแตก่ ารศึกษาผูใ้ หญ่ มีผปู้ กครองตลอดเวลาทศ่ี กึ ษาอยู่
๓. ในวนั มอบตัวนกั เรยี นใหม่ ให้ผู้ปกครอง มามอบตัวนกั เรียนทส่ี ถานศึกษาพรอ้ มกบั ส่ง

หลกั ฐานเอกสารตา่ ง ๆ ตามท่ีสถานศึกษากาหนด ถ้าผู้ปกครองไมอ่ าจมามอบตัวนักเรยี นได้ตามเวลาท่ี
กาหนดเวลา ผู้ปกครองจะต้องมามอบตัวใหม่ ตาม วนั เวลา ทโี่ รงเรียนกาหนด

๔. ผปู้ กครองตอ้ งรว่ มมอื กบั ทางโรงเรยี นในการควบคมุ ความประพฤติและการศึกษา
เล่าเรียน คอยตักเตอื นนักเรียนในความปกครองให้หมน่ั ศึกษาเล่าเรียน และประพฤตติ นใหเ้ รียบร้อยตาม
ขอ้ บังคับและระเบียบวินัยของโรงเรียนทกุ ประการ เป็นผ้อู ุปถมั ภ์ด้านค่าเลา่ เรยี น เคร่อื งแบบนกั เรียน
อปุ กรณ์การเรียน ค่าอาหารให้พอใช้สอยและถูกต้องตามระเบียบ

๕. ผปู้ กครองควรติดตอ่ กบั สถานศึกษาอยู่เสมอ เพื่อจะได้รบั ทราบปัญหาต่าง ๆ เกีย่ วกับ
การศึกษาและความประพฤตขิ องนกั เรียนและรว่ มมือกบั สถานศกึ ษาแกไ้ ขปญั หานนั้ ๆ

๖. เมื่อผู้ปกครองยา้ ยทอี่ ยู่ ความเปน็ ผปู้ กครองส้ินสดุ ดว้ ยประการใด ๆ หรอื จะเปล่ียน
ผู้ปกครอง ผู้ปกครองตอ้ งแจ้งใหท้ างโรงเรยี นทราบภายใน ๓ วัน ผู้ปกครองคนใหม่ต้องมาทาใบมอบตวั ท่ี
โรงเรียน และปฏิบัติตามระเบียบ ว่าด้วยหน้าทีข่ องผู้ปกครอง

๗. สาหรบั นกั เรียนทศ่ี ึกษาอย่ใู นสถานศึกษาแลว้ หากโรงเรยี นตรวจสอบติดต่อหลกั ฐานการ
เปน็ ผู้ปกครองของนกั เรยี นแลว้ เห็นว่าคนใดไม่มผี ้ปู กครอง หรอื มผี ู้ปกครองไมเ่ หมาะสมก็ให้โรงเรียน
ดาเนนิ การใหเ้ ป็นไปตามระเบียบดงั น้ี

ข. วา่ ดว้ ยบุคคลที่เป็นผปู้ กครองของนักเรียนได้
๑. บดิ า มารดา
๒. ญาตผิ ู้ใหญเ่ สมอบดิ า มารดา หรอื ครู
๓. เจา้ ของหรอื ผ้จู ัดการหอพัก ซ่ึงบิดา มารดา ของนักเรียน และโรงเรียนพจิ ารณา

เหน็ วา่ สมควรเป็นผ้ปู กครองได้
๔. ผู้ท่ีบรรลุนติ ภิ าวะมบี า้ นอยูอ่ าศัย และมอี าชีพเปน็ หลักฐาน ซึง่ บิดา มารดามอบความ

ไว้วางใจใหเ้ ป็นผปู้ กครองนักเรียน (โรงเรียนไม่อนุญาตให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือผู้ที่ไร้อาชีพเป็น
ผู้ปกครองนักเรยี น)

ระเบยี บโรงเรยี นสตรีวดั อัปสรสวรรค์ ว่าดว้ ยเครอื ข่ายผ้ปู กครอง พุทธศักราช ๒๕๖๑

เพ่ื อ ให้ ก าร บริ ห าร แล ะ ก าร จั ดก าร เกี่ ย ว กั บ เค รื อ ข่าย ผู้ ป ก คร อ ง เป็น ไป อ ย่ าง มี ป ระ สิ ทธิ ภ าพ
สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
๒๕๔๕ และ อาศัยอานาจตามความในข้อ ๑๔ แห่งระเบียบสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น
พ้ืนฐาน ว่าด้วยเครือข่ายผู้ปกครอง พ.ศ. ๒๕๕๑ โรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ จึงกาหนดระเบียบเพ่ือ
เปน็ แนวทางบรหิ ารและจดั การรว่ มกันระหว่างสถานศึกษากับผปู้ กครอง ไว้ดังน้ี

ขอ้ ๑. ระเบียบนี้เรยี กว่า “ ระเบียบโรงเรยี นสตรีวดั อัปสรสวรรค์ วา่ ดว้ ยเครือข่ายผู้ปกครอง พ.ศ. ๒๕๖๑ ”
ขอ้ ๒. ระเบียบน้ีใหใ้ ชบ้ งั คับต้ังแตว่ ันถดั จากวนั ประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓. ให้ยกเลิกระเบียบโรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ ว่าด้วยเครือข่ายผู้ปกครอง และระเบียบ
ข้อบงั คับ ประกาศและคาส่ังอื่นในสว่ นทกี่ าหนดไวใ้ นระเบยี บนห้ี รอื ซง่ึ ขดั แยง้ กบั ระเบียบน้ี ใหใ้ ช้ระเบียบ
น้แี ทน
ขอ้ ๔. ในระเบยี บนี้ ถา้ ข้อความมไิ ดแ้ สดงให้เหน็ เป็นอย่างอ่นื
๑. “เครือข่ายผู้ปกครอง” หมายความว่า การรวมกันระหว่างผู้ปกครองนักเรียนใน
สถานศึกษาเดียวกันเพื่อร่วมมือกับสถานศึกษาในการประกอบกิจกรรมด้านการพัฒนาการเรียนรู้และ
พฤติกรรมของนกั เรยี น
๒. “ผ้ปู กครอง” หมายความว่า บดิ า มารดา หรอื บิดา หรือมารดา ซ่ึงเป็นผู้ใชอ้ านาจปกครอง
หรือผู้ปกครอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และหมายความรวมถึงบุคคลท่ีนักเรียนอยู่ด้วย
เปน็ ประจาหรอื นกั เรียนอยู่รบั ใช้การงาน
๓. “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการเครอื ข่ายผูป้ กครองโรงเรยี นสตรีวดั อัปสรสวรรค์
๔. “ผบู้ ริหารสถานศึกษา” หมายความว่า ผู้อานวยการโรงเรยี นสตรีวัดอัปสรสวรรค์หรือผรู้ ับ
มอบหมายแทน
๕. “สถานศึกษา” หมายความว่า โรงเรียนสตรีวดั อัปสรสวรรค์
๖. “นักเรยี น” หมายความว่า นกั เรยี นโรงเรยี นสตรีวัดอปั สรสวรรค์

ขอ้ ๕. วัตถุประสงคข์ องเครอื ข่ายผูป้ กครอง
๕.๑ เพื่อการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง บิดา มารดา ผู้ปกครองนักเรียนกับ

สถานศึกษา
๕.๒ เพ่ือให้ บิดา มารดา ผู้ปกครอง มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

และพฒั นาพฤติกรรมของนกั เรยี นใหเ้ ป็นคนดี คนเก่ง และอยู่ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข
๕.๓ ให้มีการแลกเปล่ียนความรู้ ประสบการณแ์ ละแนวคดิ ระหว่างผู้ปกครอง ครูและ

นกั เรยี นในสถานศกึ ษา
๕.๔ เพื่อจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้เกิดความรู้เป็นประสบการณ์สาหรับนักเรียน สามารถ

ช่วยเหลือตนเองได้ ดารงไว้ซ่ึงวัฒนธรรม ประเพณีและการละเว้นอบายมุขท้ังปวง เพื่อส่งเสริมความ
สามัคคี ช่วยเหลือเกอื้ กูลซงึ่ กันและกนั ตลอดถงึ การอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ ม

๕.๕ เพ่ือให้มีการติดต่อสื่อสารระหว่างสถานศึกษากับบิดา มารดา ผู้ปกครองอย่าง
รวดเร็วและมปี ระสทิ ธภิ าพ

๕.๖ จัดหารายได้โดยการจัดกิจกรรมต่างๆ หรือรับให้ หรือรับจากการบริจาค หรือมี
รายได้อืน่ ใด หรอื มที รัพย์สนิ ส่ิงของ เงินต่าง ๆ เพอ่ื นาไปใช้ในกิจกรรมการเรยี นการสอนและการพัฒนา
พฤติกรรมของนกั เรยี น

ข้อ ๖. องค์ประกอบของคณะกรรมการเครอื ขา่ ยผปู้ กครอง
คณะกรรมการประกอบดว้ ย เครอื ข่ายระดับห้องเรียน ระดับช้นั เรียน และระดบั โรงเรียน

๖.๑ คณะกรรมการเครือขา่ ยระดับหอ้ งเรยี น มีจานวน ๕ คน ประกอบด้วย ประธาน รอง
ประธาน เลขานุการ นายทะเบียน และประชาสัมพันธ์ โดยการคัดเลือกหรืออาสาสมัครจากผู้ปกครอง
ของนกั เรียนในแต่ละหอ้ งเรียน แลว้ ใหเ้ ลือกกนั เองเพ่ือดารงตาแหน่งดังกล่าว

๖.๒ คณะกรรมการเครือข่ายระดับช้ันเรียน ประกอบด้วย ประธาน รองประธาน
เลขานุการ นายทะเบียน ประชาสัมพันธ์ และกรรมการ โดยการเลือกกันเองจากคณะกรรมการระดับ
ห้องเรียนของชั้นเรียนน้ันๆท้ังหมด ห้องละ ๕ คน ซ่ึงประกอบด้วย ประธาน รองประธาน เลขานุการ
นายทะเบียนและประชาสัมพันธ์ระดบั ห้องเรยี นของช้นั เรียนนัน้ ๆ แลว้ ใหเ้ ลือกกนั เองเพ่ือดารงตาแหน่ง
ดังกล่าว

๖.๓ คณะกรรมการเครือข่ายระดับโรงเรียน มีจานวนท้ังสิ้น ๓๑ คน ประกอบด้วย
ประธาน รองประธานคนท่ี ๑ และรองประธานคนที่ ๒ เลขานุการ ผู้ช่วยเลขานุการ นายทะเบียน
ประชาสัมพันธ์ เหรัญญิกและกรรมการที่เหลือเป็นกรรมการ โดยการเลือกกันเองจากคณะกรรมการ
ระดบั ช้นั เรยี นของชั้นเรียนน้ันๆทัง้ หมด ชน้ั ละ ๕ คน ซ่ึงประกอบดว้ ย ประธาน รองประธาน เลขานุการ
นายทะเบียนและประชาสัมพันธ์ของทุกระดับชั้นเรียน แล้วให้เลือกกันเองเพ่ือดารงตาแหน่งดังกล่าว
กรณีผู้แทนของระดับชั้นใดได้รับการคัดเลือกเป็นประธานเครือข่ายผู้ปกครอง ให้เลือกผู้แทน ของ
ระดับชัน้ น้นั ๆ ข้ึนมาแทนตาแหนง่ ท่ีว่างเพือ่ ให้ครบจานวน ๓๑ คน โดยใหร้ ะดบั ช้นั นน้ั ๆ เป็นผู้สรรหา

ขอ้ ๗. คณุ สมบัติของกรรมการเครือขา่ ยผู้ปกครอง
๑. บรรลนุ ิตภิ าวะและมีสถานภาพเป็นผู้ปกครองโดยชอบด้วยกฎหมายของนกั เรยี นในขณะท่ี
นักเรียนยงั คงศกึ ษาอยู่ในโรงเรยี น
๒. ไมเ่ ปน็ โรคติดตอ่ ร้ายแรงหรอื โรคท่ีสังคมรังเกียจ
๓. ไมเ่ ป็นบคุ คลวกิ ลจรติ หรือไร้ความสามารถหรือเสมือนไรค้ วามสามารถหรอื เคยถูกพิพากษา
ให้เป็นบุคคลล้มละลาย
ขอ้ ๘. การพ้นจากตาแหน่งของกรรมการเครอื ข่ายผูป้ กครอง
๑. ตาย
๒. ลาออก
๓. ขาดคุณสมบตั ติ ามท่กี าหนดไว้ในข้อ ๗
๔. คณะกรรมการมีมติใหอ้ อก
๕. ได้รับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก เว้นแต่เป็นความผิดลหุโทษหรือความผิด
อนั ไดก้ ระทาโดยประมาท
ขอ้ ๙. วาระการดารงตาแหนง่ ของกรรมการเครือข่ายผปู้ กครอง
๑. คณะกรรมการทุกระดับ มีวาระ ๑ ปี ซ่ึงถือวันส่งมอบงานคณะกรรมการเครือข่าย
ผู้ปกครอง เป็นวันสิ้นสุดวาระการดารงตาแหน่ง และเป็นวันเร่ิมปฏิบัติหน้าท่ีของคณะกรรมการ
เครือขา่ ยผูป้ กครองชุดใหม่
๒. กรณีกรรมการพ้นจากตาแหน่ง ให้ดาเนนิ การเลือกตั้งหรือสรรหากรรมการคนใหม่แทนใน
ตาแหน่งที่ว่าง ภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันพ้นจากตาแหน่งและให้มีวาระเท่ากับเวลาท่ีเหลืออยขู่ องผู้ที่
ตนแทน โดยให้คณะกรรมการในระดับของตาแหน่งทว่ี า่ งลงเปน็ ผสู้ รรหา

๓. ให้ผู้บริหารสถานศึกษาจัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับ
หอ้ งเรยี น ระดับช้ันเรยี นและระดบั โรงเรยี นชุดใหม่ ภายใน ๓๐ วัน นับจากวนั เปดิ ภาคเรยี นแรก

ข้อ ๑๐. บทบาทและหนา้ ท่ีของคณะกรรมการเครอื ขา่ ยผู้ปกครอง
๑๐.๑ ให้ความร่วมมือสนับสนุนกิจกรรมของสถานศึกษา โดยผา่ นความเห็นชอบจาก

ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา
๑๐.๒ สง่ เสริมสนับสนุนร่วมสร้างสายใย เช่ือมสายสัมพันธ์อันดีระหว่างครู ผู้ปกครอง

และนักเรียน ในการดาเนินกจิ กรรมของโรงเรียน
๑๐.๓ ส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาการเรียนการสอนตลอดจนการดูแลเร่ืองระเบียบวินัย

และพฤติกรรมของบุตรหลานและนักเรียนของโรงเรียน
๑๐.๔ ให้ข้อคิดเห็นและเสนอแนะต่อสถานศึกษาในเรื่องต่างๆท่ีจะเป็นประโยชน์แก่

นกั เรียนและสถานศกึ ษา
๑๐.๕ จัดการประชุมคณะกรรมการและผู้ปกครองระดบั ห้องเรยี น และระดบั ช้ันเรียนตาม

ความเหมาะสมหรืออยา่ งน้อยปลี ะ ๒ คร้งั
๑๐.๖ ให้คณะกรรมการระดับห้องเรียนร่วมกับคุณครูท่ีปรึกษาของแต่ละห้องเรียน

จัดทาทาเนียบนักเรียนและผู้ปกครองโดยละเอียด และส่งมอบสาเนาให้เลขานุการคณะกรรมการใน
ระดบั ช้นั เรียนและระดับโรงเรยี นใหเ้ ปน็ ปัจจุบัน

๑๐.๗ คณะกรรมการในระดับโรงเรียน จะต้องรวบรวมข้อมูลและกิจกรรมของแต่ละ
ระดับชัน้ เพ่ือกาหนดกรอบแผนงาน โครงการนาเสนอโรงเรยี น เพือ่ ดาเนินการต่อไป

๑๐.๘ ให้คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับโรงเรียน จัดการประชุมใหญ่
คณะกรรมการเครือขา่ ยผู้ปกครองทุกระดับ เพ่ือติดตาม ประเมินผลกิจกรรมตามความเหมาะสมอย่าง
นอ้ ย ๒ คร้งั ตอ่ ปี

๑๐.๙ ให้คณะกรรมการทุกระดบั ดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ตามท่ีโรงเรียนขอความรว่ มมือ
โดยยดึ แนวปฏบิ ัติของสถานศกึ ษาเป็นหลกั

ข้อ ๑๑. การประชุมของคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองทุกระดบั ตอ้ งมีกรรมการมาเข้ารว่ ม
ประชุมไม่น้อยกว่าก่ึงหน่ึงของจานวนคณะกรรมการแต่ละระดับ จึงจะเป็นองค์ประชุมและมติของที่
ประชุมให้ถือเสียงข้างมากของกรรมการ และกรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้า
คะแนนเสียงเท่ากัน ใหป้ ระธานในทป่ี ระชมุ ออกเสียงเพ่มิ ขน้ึ อีกเสยี งหนงึ่ เพ่ือชีข้ าด

ข้อ ๑๒. ให้ผู้บริหารสถานศึกษา แต่งต้ังครู-อาจารย์เป็นผู้ประสานงานกับคณะกรรมการ
เครือข่ายผู้ปกครองในทุกระดับและจัดทาประกาศแจ้งให้ครู-อาจารย์ ผู้ปกครองและนักเรียนใน
สถานศึกษาทราบโดยทัว่ กัน

ขอ้ ๑๓. ขอ้ ปฏบิ ตั ิว่าด้วยการรับ – จา่ ยเงินของคณะกรรมการ
๑๓.๑ เมื่อมีรายได้หรือรายรับ อันเกิดจากการจัดกิจกรรมต่างๆ จากการบริจาค การ

ให้หรือยกให้ หรือจากอ่ืนใด ให้เหรัญญิกมีหน้าท่ีรับเงิน โดยการออกใบสาคัญรับเงินให้ไว้เป็นหลักฐานแล้ว
รวบรวมเงินท้ังหมดเก็บรักษาไว้ โดยนาเงินไปฝากธนาคารในบัญชีของคณะกรรมการที่เปิดบัญชีไว้ใน
รูปแบบ “ชื่อบุคคล บัญชีร่วม ๓ คน” ในวันทาการน้ันๆหรือโดยเร็วท่ีสุด และต้องทาบัญชีการรับเงิน
แยกไวใ้ หเ้ ป็นระเบียบเรยี บรอ้ ยและเก็บรกั ษาบญั ชไี วใ้ ห้สามารถตรวจสอบได้ในเวลาทส่ี มควร

๑๓.๒ คณะกรรมการเครือข่ายระดับโรงเรียน มอบหมายให้เหรัญญิกเป็นผู้ไป
ดาเนินการขอเปิดบัญชีธนาคารตามท่ีคณะกรรมการกาหนด โดยมีผู้อานาจลงนามเบิกถอนเงิน
ประกอบด้วย ครู-อาจารย์ คนใดคนหนึ่งท่ีได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ประสานงานกับคณะกรรมการระดับ
โรงเรียน และ ประธานคณะกรรมการระดับโรงเรียน และกรรมการที่ได้รับการคัดเลือกจาก
คณะกรรมการอีก ๑ คน ลงลายมือชื่อร่วมกนั จานวน ๒ ใน ๓ จึงมีอานาจเบกิ ถอนเงินจากบัญชีได้ หาก
ครู-อาจารย์ หรอื ประธานคนใดคนหน่งึ ไม่สามารถดาเนนิ การดังกลา่ วได้ ใหค้ ณะกรรมการระดับโรงเรยี น
รว่ มกันพิจารณาต่อไป

๑๓.๓ เมื่อคณะกรรมการพ้นวาระ ให้คณะกรรมการมอบเงินในบัญชีและทรัพย์สิน
ต่างๆทเ่ี หลอื ใหก้ บั คณะกรรมการชุดใหม่ทันที ในวันที่ส่งมอบงาน

ขอ้ ๑๔. วัตถปุ ระสงคข์ องการจา่ ยเงนิ
๑๔.๑ จ่ายเงินเป็นคา่ ใช้จ่ายในการดาเนินงานของคณะกรรมการ
๑๔.๒ จ่ายเงนิ เป็นค่าใชจ้ ่ายในการจัดกิจกรรมต่างๆของคณะกรรมการ
๑๔.๓ จ่ายเงนิ ทุนเพือ่ สนบั สนนุ กิจกรรมตา่ งๆเพ่อื การหารายได้
๑๔.๔ จ่ายเงนิ เพ่ือสนบั สนนุ ทุนการศกึ ษานักเรยี นหรอื กจิ กรรมตา่ ง ๆ ของโรงเรยี น ใน

สว่ นท่ไี มม่ งี บประมาณหรือมีไมเ่ พียงพอ
๑๔.๕ จ่ายเงนิ เพ่อื สนบั สนนุ สาธารณปู โภค อุปโภค หรอื อนื่ ใดแก่โรงเรียน
๑๔.๖ จา่ ยเงนิ ในกรณีอื่น ๆ ตามทคี่ ณะกรรมการระดบั โรงเรียนพจิ ารณาเห็นสมควร
๑๔.๗ การจ่ายเงินตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการ

ระดับโรงเรยี นเปน็ ผู้พิจารณาอนมุ ตั ิ ผูม้ อี านาจลงชอื่ เบกิ ถอนเงินจงึ จะดาเนนิ การได้
ขอ้ ๑๕. หากไม่มีคณะกรรมการรบั ผิดชอบดูแล เงิน ทรัพย์สินต่าง ๆ ที่ได้รับหรือมีอยู่ทั้งหมด

หรือไม่สามารถจัดการตามวัตถุประสงคข์ องคณะกรรมการแล้ว ให้เงิน ทรพั ย์สินต่าง ๆ ทงั้ หมดตกเป็น
ทรพั ย์สนิ ของสถานศกึ ษา

ข้อ ๑๖. หากมีปัญหาในการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ให้คณะกรรมการระดับโรงเรียนเป็นผู้
พจิ ารณาและวินจิ ฉัย มติของท่ปี ระชุมของคณะกรรมการใหถ้ อื เป็นท่ียตุ ิ

ขอ้ ๑๗. คณะกรรมการที่ได้จัดต้ังหรือกิจกรรมใดที่ได้ดาเนินการอยกู่ ่อนระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้
ปรับหรือจดั กจิ กรรมใหส้ อดคล้องกบั ระเบยี บนี้

ขอ้ ๑๘. การแก้ไขระเบียบนี้ สามารถกระทาไดต้ ามความเหมาะสมตามสมัยแหง่ กาลเวลาโดยให้
ผู้เสนอขอแก้ไขยื่นญัตติขอแก้ไขระเบียบต่อคณะกรรมการระดับโรงเรียนพิจารณาและต้องได้รับมติให้แก้ไข
ด้วยเสยี งขา้ งมากของจานวนกรรมการที่เขา้ ร่วมประชุมและครบองค์ประชมุ

ข้อ ๑๙. ให้ผู้บริหารสถานศึกษา กากับดูแล ให้เป็นไปตามระเบียบนี้ และเป็นผู้ลงนามใน
ประกาศแต่งตง้ั คณะกรรมการเครือขา่ ยผปู้ กครองได้

อัตลกั ษณ์ : กลุ สตรไี ทยน้าใจงาม

ข้อกาหนดต่าง ๆ ทตี่ ้องปฏิบตั ขิ องนักเรยี นโรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์
ตามระเบียบของโรงเรยี น ดงั น้ี

๑. ทรงผมตัดตามระเบียบของโรงเรยี น ไมส่ วมหมวกใด ๆ นอกจากเครือ่ งแบบเนตรนารีและ
ยวุ กาชาด

๒. สวมเสอ้ื ไม่คบั หรอื หลวมเกินไปจนดูไม่เหมาะสม ติดกระดมุ เสอ้ื ต้ังแตเ่ ม็ดทีส่ องจากคอลงมา
ชายเส้ืออยู่ในกระโปรง มองให้เหน็ เขม็ ขัดได้ชดั เจน ห้ามปล่อยชายเสื้อออกนอกกระโปรงทั้งในและนอก
โรงเรียน

๓. สวมกระโปรงต้องยาวคลมุ หวั เขา่ และใหเ้ ขม็ ขดั ท่ีคาดกระโปรงอยู่ระดบั เอวของนกั เรยี น
๔. สวมถุงเท้าสั้นสีขาว ไม่พับหรือปล่อยให้ร่นไปอยทู่ ี่ข้อเท้า และถุงเท้าต้องอยเู่ หนือตาตุ่ม
เลก็ นอ้ ย ๓ นิ้ว
๕. สวมรองเท้าหนังหรือผ้าใบสีขาว และต้องสวมใหเ้ รียบร้อยไม่เหยียบทับส้นรองเท้า ไมใ่ ช้
รองเทา้ กีฬาท่ีมีรปู ทรงไม่เหมาะสมมาสวมใส่
๖. ห้ามแต่งหน้าหรือเขียนคิว้ ด้วยเครือ่ งสาอาง และห้ามไว้เลบ็ หรอื ทาเล็บอย่างเด็ดขาด
๗. หา้ มสวมใสส่ รอ้ ยหรือเครือ่ งประดบั ของมคี ่า มาในขณะเขา้ โรงเรยี น

คณุ สมบตั ขิ องนักเรียนโรงเรยี นสตรวี ดั อปั สรสวรรค์

นกั เรยี นท่ดี พี ึงประพฤตแิ ละปฏบิ ตั ิตน ดังต่อไปนี้
๑. นักเรียนต้องมีเคร่ืองแต่งกาย เคร่ืองเขียน แบบเรียน และเครื่องใช้ต่าง ๆ ครบตามที่

โรงเรียนกาหนด
๒. นักเรียนต้องแต่งกายและประพฤติตนตามกฎระเบียบข้อบังของกระทรวงศึกษาธิการ

และขอ้ กาหนดของโรงเรยี น
๓. นกั เรียนต้องเช่ือฟงั และปฏิบัตติ นอยใู่ นโอวาทของครทู กุ ทา่ น
๔. นักเรยี นตอ้ งประพฤตปิ ฏบิ ัติตนให้สมกบั สภาพความเป็นนกั เรยี น เชน่ ไม่หนเี รยี น ไมส่ ูบบุหร่ี

ไมด่ ื่มเหล้า ไมเ่ สพสิ่งเสพติด ไม่เลน่ การพนัน ไม่ลักทรพั ย์ ไมท่ ะเลาะวิวาท ไม่มวั่ สมุ ในอบายมขุ ตา่ ง ๆ
๕. นักเรียนต้องประพฤติปฏิบัติตนตามกฎหมายของบ้านเมือง จารีตประเพณี และ

วฒั นธรรมอนั ดีงามของสถานการณ์บ้านเมอื ง
๖. นักเรียนต้องขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลา มีน้าใจนักกีฬา และยึดมั่นในหลัก

คุณธรรม จรยิ ธรรมที่ดี
๗. นักเรียนต้องสุภาพอ่อนน้อม มีสัมมาคารวะต่อบุคคลทั่วไป และปฏิบัติตนเหมาะสมตามวัย

เพศ และสถานภาพแห่งตน
๘. นักเรียนต้องมีความเสียสละ เอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่ เห็นประโยชน์ส่วนรวม รักษาทรัพย์สมบัติ

ของโรงเรียนของสงั คมท่ัวไป และมีความสามัคคีในหมู่คณะ รุ่นน้องนับถือรุ่นพี่ และรุ่นพี่ประพฤติปฏิบัติตน
ใหเ้ ป็นตัวอยา่ งท่ีดีแกร่ ุน่ นอ้ ง

๙. นักเรียนต้องสร้างช่ือเสียงให้แก่โรงเรียนทุกวิถีทาง และไม่กระทาการใด ๆ ที่เป็นการ
ทาลายช่ือเสียงของโรงเรยี น

๑๐. นักเรียนต้องพัฒนาศักยภาพ และสมรรถภาพของตนตลอดเวลา ท้ังทางด้านร่างกาย
จิตใจ อารมณส์ ตปิ ัญญา ความรู้ ความสามารถ และสงั คม

๑๑. ห้ามเลน่ ตามบริเวณต่าง ๆ ในขณะท่ีเป็นเวลาท่มี ีการเรียนการสอนตามตารางเรียนหรือ
สถานที่ท่ีกาหนดห้ามเล่น ยกเวน้ เวลาเช้ากอ่ นเข้าแถว เวลาพักกลางวนั และเวลาเลกิ เรียน และต้องอยู่
ในเครอ่ื งแบบนักเรียนทีเ่ รยี บร้อย

การปฏบิ ตั ติ นในการมาโรงเรยี นและเข้าเรยี น

๑. แต่งกายด้วยเครื่องแบบนกั เรียน หรอื เคร่อื งแตง่ กายทถ่ี ูกต้อง และเรียบร้อยตลอดเวลาท่ี
เดนิ ทางไปและกลับจากโรงเรยี น ขณะอยูใ่ นโรงเรยี นและการไปทากิจกรรมนอกโรงเรียน

๒. เขา้ มาในโรงเรยี นตอ้ งแต่งเครือ่ งแบบนกั เรียน หรือแตง่ กายสภุ าพเรยี บร้อยในวันราชการ
๓. แตง่ กายสุภาพเรียบรอ้ ย ไมส่ วมรองเทา้ แตะเขา้ มาในบรเิ วณโรงเรยี นในวนั หยุดราชการ
๔. ต้องไม่นารถส่วนตัวเข้ามาในบริเวณโรงเรียน และห้ามรถผู้ปกครองเข้ามาส่งและรับ
ภายในบรเิ วณโรงเรียน
๕. ไม่พกอาวุธ ไม่นาส่ิงมึนเมาทุกชนิดเข้ามาในบริเวณโรงเรียน ไม่นาของมีค่ามาโรงเรียน
และไมต่ กแตง่ เคร่ืองประดบั ใด ๆ ทงั้ สิน้
๖. มาถึงโรงเรียนก่อนสญั ญาณเข้าเรียนครัง้ แรก อยา่ งชา้ ไมเ่ กิน ๐๗.๕๐น.
๗. ต้องแสดงความเคารพครูด้วยการไหว้ ที่หน้าประตูโรงเรียน และรับการตรวจความ
เรียบร้อยก่อนจะเข้าและออกจากโรงเรียน และต้องสแกนบัตรประจาตัวนักเรียนท้ังเวลามาและเวลา
กลับทกุ ครง้ั
๘. ตอ้ งเขา้ แถวเคารพธงชาติ และกจิ กรรมอน่ื ๆ ที่กาหนดกอ่ นเขา้ เรียนในตอนเช้า
๙. ไมอ่ อกจากโรงเรียนก่อนเวลาโรงเรยี นเลกิ โดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าต
๑๐. ไมอ่ ยใู่ นบริเวณโรงเรียน โดยไม่มคี รคู วบคุมเกนิ เวลาที่โรงเรยี นกาหนด
๑๑. ตอ้ งเขา้ โรงเรยี น เขา้ หอ้ งประชุม หรือเขา้ รว่ มกจิ กรรมอยา่ งพร้อมเพรยี ง
๑๒. ต้องมีความเคารพ สารวม และรักษาระเบยี บวินัยในขณะอยโู่ รงเรยี น
๑๓. ตอ้ งทาความเคารพครแู ละผมู้ าเยอื น เม่อื พบปะในบริเวณโรงเรยี นด้วยวธิ กี ารท่ีเหมาะสม
และสมา่ เสมอ
๑๔. เม่ือมีความจาเป็นต้องหยุดเรียน นักเรียนหรือผู้ปกครองต้องแจ้งให้โรงเรียนทราบเป็น
ลายลักษณ์อักษร (ใบลาตามแบบฟอรม์ ใหถ้ ูกตอ้ ง)
๑๕. ไมน่ าสนิ คา้ ทุกประเภทขายในบรเิ วณโรงเรยี น ก่อนได้รบั อนญุ าต
๑๖. ไมน่ าหนังสือ เอกสาร และแผน่ ประกาศ มาแจกหรือตดิ ประกาศในบรเิ วณโรงเรียน กอ่ น
ไดร้ ับอนญุ าต
๑๗. ไม่นาบุคคลภายนอกเขา้ มาในบริเวณโรงเรยี น โดยมิได้รบั อนญุ าตจากทางโรงเรียน
๑๘. ต้องไม่นาอาหาร และเคร่อื งด่มื เขา้ ไปรับประทานในห้องเรียนหรือบริเวณอื่นที่นอกจาก
ห้องอาหาร และเศษขยะ ขวดน้าพลาสตกิ ตอ้ งทิ้งในจดุ ท่ีแตล่ ะคณะสีกาหนดให้
๑๙. ไม่เข้าไปในบรเิ วณตอ่ ไปน้ี คอื บา้ นพักคนงานภารโรง หรอื พนื้ ที่หวงห้ามอื่น ๆ

๒๐. มาโรงเรียน และกลบั บ้านใหต้ รงเวลา ไมไ่ ปในสถานทอี่ ันไมส่ มควร ในระหว่างเดนิ ทางไป
และกลับจากโรงเรียน

การปฏิบตั ติ นในพธิ ีการก่อนเขา้ ห้องเรียน

๑. สัญญาณคร้ังที่ ๑นักเรียนมาเข้าแถวประจาท่ีตามชั้นของตนเอง และจัดแถวให้เป็น
ระเบียบภายใตก้ ารควบคุมของหวั หน้าชัน้ ครทู ปี่ รกึ ษา ครฝู า่ ยปกครอง และหัวหนา้ ระดบั ชัน้

๒. สัญญาณคร้ังที่ ๒ นักเรยี นทุกคนต้องอยใู่ นความสงบ ผูด้ าเนนิ การพิธีการบอกทาความ
เคารพธงชาติขนึ้ สู่เสา นกั เรยี นทกุ คนร้องเพลงชาติ เพลงประจาโรงเรียนพรอ้ มกนั และสวดมนตไ์ หว้พระ

๓. เม่ือเสร็จพิธีการตามข้อ ๒ผู้ดาเนินการพิธีการจะแจ้งข่าวหรือประกาศประจาวัน และ
หรอื มกี ารอบรมนกั เรยี นประมาณ ๕ – ๑๐นาที โดยนักเรยี นทุกคนต้องอยูใ่ นความสงบสารวม หลังจาก
น้ันผดู้ าเนินการพิธีการจะอนุญาตให้นักเรียนเข้าห้องเรียนได้ ต้องอยูใ่ นความดูแลของครทู ี่ปรึกษาและ
หวั หนา้ ระดับชั้นเท่านน้ั

๔. การเดนิ เขา้ ห้องเรียน ตอ้ งเดนิ แถวอย่างมรี ะเบียบ ไมพ่ ูดคุย เล่น หรอื แตกแถว
๕. นักเรียนที่มาสายจะเข้าไปในแถวโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ได้ ให้เข้าแถวในกลุ่มผู้มาสาย
และปฏบิ ตั ิตามข้อกาหนดที่วางไวส้ าหรับนกั เรยี นทมี่ าสาย คอื หลังเวลา ๐๗.๕๐น. เป็นต้นไป

การปฏบิ ัตติ นในการเขา้ หอประชมุ

๑. นักเรียนทุกคนจะต้องรับผิดชอบว่าเป็นหน้าท่ีของตน ที่จะเข้าร่วมการประชุมทุกคร้ัง
ตามวนั เวลา และสถานท่ที ่ีโรงเรยี นกาหนดไว้ ผู้ทไี่ ม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้จะต้องไดร้ ับอนญุ าตจาก
ครูทปี่ รึกษา หรือหัวหน้าระดบั ช้ัน

๒. ตอ้ งเดินเข้าหอ้ งประชุมอย่างมีระเบียบ นั่งประจาที่ตามที่กาหนดไว้ และอยู่ในอาการสงบ
สารวม ตลอดเวลาการประชมุ

๓. ตอ้ งทาความเคารพ เมือ่ ผู้ใหก้ ารประชมุ เขา้ มาและจะออกจากหอ้ งประชมุ
๔. ต้องไมอ่ อกและเขา้ ห้องประชุม ขณะที่มกี ารประชมุ ก่อนได้รับอนญุ าต
๕. หลงั จากสิน้ สุดการประชมุ แล้ว นักเรียนจะออกจากหอ้ งประชุมได้ ต้องได้รบั อนญุ าตจาก
ผู้ดาเนินการจัดการประชมุ ก่อน และออกจากห้องประชุมเป็นห้อง ๆ อยา่ งมีระเบียบและอยใู่ นการดูแล
ของครทู ปี่ รกึ ษา

การปฏิบัตติ นในการเข้าหอ้ งเรียน

๑. ต้องเขา้ และออกจากหอ้ งเรยี น โดยพร้อมเพรยี งกัน
๒. ตอ้ งแต่งตั้งเวรทาความสะอาดห้องเรียน และดูแลความเรยี บร้อยของห้องเรยี นก่อนทจ่ี ะ
มกี ารเรียนการสอน และหลังเลกิ เรียนเปน็ ประจาทกุ วนั
๓. ต้องแต่งกายด้วยชุดแต่งกายที่โรงเรียนกาหนดในการเรียนแต่ละวิชา ในลักษณะท่ี
เรยี บร้อย
๔. ต้องทาความเคารพครผู สู้ อนและวิทยากร ก่อนและหลังเสรจ็ จากการส้ินสุดการเรียนการสอน
๕. ตอ้ งรักษาความสงบเรยี บรอ้ ย ในขณะที่มกี ารเรยี นการสอน
๖. ต้องใหค้ วามสนใจเฉพาะวิชาท่ีกาลงั เรียนเทา่ น้นั ไม่นาวชิ าอ่นื มาทาโดยเดด็ ขาด หรือเล่น
โทรศัพทม์ อื ถือในเวลาเรียน

๗. ต้องไต่ถามปญั หา เสนอแนะ และใหข้ ้อคิดในขณะทมี่ กี ารเรียนการสอน
๘. ต้องขออนญุ าตผสู้ อนหรือวทิ ยากร ก่อนจะทาการใด ๆ ที่เป็นการขัดจงั หวะการเรยี นการ
สอน เช่น การออกและเข้าห้องเรียนในขณะที่มีการเรียนการสอน หรือเม่ือต้องการท่ีจะแสดงความ
คดิ เห็นให้ขอ้ เสนอแนะ ตลอดจนความตอ้ งการที่จะลุกเดินไปติดต่อกบั เพอ่ื นรว่ มห้อง
๙. เปลีย่ นห้องเรียนด้วยความรวดเรว็ และเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย
๑๐. ต้องปฏบิ ัติตามกฎระเบียบ และข้อบงั คับในการใช้หอ้ งตา่ ง ๆ ตามทก่ี าหนดไว้อย่างเครง่ ครดั

การทาความเคารพ

นักเรียนทคุ นตอ้ งทาความเคารพครูทุกท่าน โดยปฏิบตั ดิ ังนี้
๑. เม่ือครูเข้าห้องสอนทุกคร้ัง ให้หัวหน้านักเรียนบอกทาความเคารพ โดยใช้คา "นักเรียน

เตรียม นักเรียนกราบ"ให้ทุกคนกล่าวพร้อมกันว่า "สวัสดีค่ะ" พร้อมกัน และเม่ือเวลาเลิกช้ันเรียนบอกทา
ความเคารพ "นักเรียนเตรยี ม นักเรียนกราบ"ให้ทกุ คนกลา่ วพรอ้ มกันว่า "ขอบคณุ ค่ะ"

๒. เมือ่ ครูพดู กบั นกั เรียนทกี่ าลังน่งั ทางานอยู่ ใหน้ กั เรียนยนื ขึ้นพูดกับครูในทา่ ยืนตรง
๓. เมื่อครทู ่านอ่ืนเขา้ มาในห้อง ให้หัวหนา้ ห้องบอกทาความเคารพ และกล่าวว่า "สวัสดคี ่ะ"
๔. การทาความเคารพในโอกาสตา่ ง ๆ พึงปฏิบตั ิดังน้ี
๔.๑เม่ืออยู่ในบรเิ วณโรงเรียน พบผใู้ หญ่เดินผา่ นมาใหท้ าความเคารพดว้ ยการยืนตรง
ถา้ นักเรยี นแต่งเคร่อื งแบบเนตรนารีใหท้ าวันทยหตั ถ์
๔.๒เมือ่ พบครนู อกบริเวณโรงเรยี น ใหท้ าความเคารพด้วยการคานบั หรอื ไหว้ตามความ
เหมาะสม

การออกนอกห้องเรียน

การออกนอกห้องเรยี นขณะท่มี ีการเรยี นการสอน
๑. ในระหวา่ งทมี่ ชี วั่ โมงเรยี น นักเรียนจะตอ้ งอยู่ในหอ้ งเรยี น จะไปอย่ใู นหอ้ งสมดุ โรงอาหาร

หรอื ทอ่ี นื่ ๆ ไมไ่ ด้ เวน้ แตไ่ ดร้ ับอนุญาตจากครูผสู้ อนในชัว่ โมงนัน้
๒. ต้องไมอ่ อกนอกห้องเรียนในช่ัวโมงแรกทีเ่ ขา้ หอ้ งเรยี น ทง้ั ในตอนเชา้ และหลงั พกั กลางวัน
๓. ถ้าจาเป็นตอ้ งออกจากหอ้ งเรียน ให้ขออนุญาตตอ่ ครูทก่ี าลังทาการสอน
๔. ในกรณที ี่ครไู มไ่ ดอ้ ยูใ่ นหอ้ งเรยี นใหท้ กุ คนอยู่ในห้องด้วยความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย ไม่สง่

เสียงหรอื กระทาการใด ๆ อันเป็นการรบกวนห้องเรียนใกล้เคียง และหวั หนา้ ช้ันแจ้งใหค้ รูท่ปี รึกษา หรือ
หวั หนา้ และรองหัวหน้าระดับช้นั โดยเร็ว

การออกนอกบรเิ วณโรงเรียน

๑. กรอกข้อความขออนุญาตตามแบบฟอรม์ การขออนญุ าตออกนอกบริเวณโรงเรยี น เสนอตอ่
ครทู ี่ปรึกษา หัวหนา้ ระดบั และรองผู้อานวยการกลมุ่ บริหารงานบคุ คล หรอื ผูท้ ไี่ ดร้ ับมอบหมายพิจารณา
อนญุ าตเป็นคนสุดทา้ ย

๒. ครูทป่ี ฏบิ ัติหนา้ ทเี่ วรประตูโรงเรียนของแต่ละคณะสีลงทะเบยี น และเก็บหลกั ฐานไว้ส่วนหนง่ึ
๓. นกั เรียนเอาหนงั สืออนุญาตอกี ส่วนหนง่ึ ติดตัวไปดว้ ย
๔. เม่อื นักเรียนกลับมาถึงโรงเรยี น ให้แสดงเอกสารการอนญุ าตกบั ครูเวร หรือผทู้ ไี่ ดร้ ับ
มอบหมายท่ีประตโู รงเรยี น


Click to View FlipBook Version