The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบรายงาน 3R8C คำโพนทอง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by madmhee, 2023-07-24 23:42:03

แบบรายงาน 3R8C คำโพนทอง

แบบรายงาน 3R8C คำโพนทอง

Keywords: รายงานผลการดำเนินงาน 3Rs8Cs

แบบรายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะผู้เรียน ที่ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงศตวรรษที่21 โรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ


คำนำ แบบรายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะผู้เรียน ที่ ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงศตวรรษที่ 21 ฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อสรุปผลการดำเนินงานของโรงเรียนคำโพนทอง ราษฎร์นิยม 1 ประกอบด้วย สรุปข้อมูลการพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ตามทักษะการ เรียนรู้ 3Rs8Cs การถอดบทเรียน (Lesson learned) การถอดประสบการณ์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และ คัดเลือกวิธีปฏิบัติที่ดี (Best practice) เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21ตามบริบทของพื้นที่และผู้เรียน การนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผล และรายงานผลการ ดำเนินงานของสถานศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 และใช้เป็นข้อมูลประกอบวางแผนในการส่งเสริมสถานศึกษาด้านการพัฒนาผู้เรียนให้มี คุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในปีการศึกษาต่อไป โรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม


สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ สารบัญ กิจกรรมที่ 1 แบบฟอร์มที่ รร.1 สรุปข้อมูลการพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ตามทักษะการเรียนรู้ 3Rs8Cs ……………………………………………………………. 1 แบบฟอร์มที่ รร.2 การถอดบทเรียน (Lesson learned) ……………………………… 3 กิจกรรมที่ 2 การถอดประสบการณ์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และคัดเลือกวิธีปฏิบัติที่ดี (Best practice) เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 ตามบริบทของพื้นที่และผู้เรียน .................................................. 52 กิจกรรมที่ 3 การนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผล และรายงานผลการดำเนินงานของ สถานศึกษา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ....................................................... 56


1 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs แบบรายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะผู้เรียน ที่ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงศตวรรษที่21 แบบฟอร์มที่ รร.1 สรุปข้อมูลการพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ตามทักษะการเรียนรู้ 3Rs8Cs โรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 --------------------------------------- - จำนวนนักเรียนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 61 คน (*นักเรียนกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนกลุ่มเดียวกันในทุกกิจกรรม) โดยแบ่งเป็นนักเรียนใน ช่วงชั้นที่ 1 จำนวน 26 คน ช่วงชั้นที่ 2 จำนวน 25 คน ช่วงชั้นที่ 3 จำนวน - คน ช่วงชั้นที่ 4 จำนวน – คน - จำนวนครูทั้งหมดที่ร่วมดำเนินงานตามกิจกรรมในโครงการ 5 คน (ถ้าครูคนเดียวกันทำกิจกรรมมากกว่า 1 กิจกรรม ให้รายงาน จำนวน 1 คน ไม่นับซ้ำ เช่น คุณครู A ทำกิจกรรมรักการอ่านและกิจกรรมจิตอาสา ให้ นับเป็น 1 คน ไม่ตามกิจกรรม กิจกรรมที่ดำเนินการส่งผลให้นักเรียน กลุ่มเป้าหมายเกิดทักษะการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่21 ดังนี้ จำนวนนักเรียน ที่ได้รับการพัฒนา (คน) สรุปนักเรียน ที่ได้รับการ พัฒนา (ร้อยละ) เอกสาร / หลักฐาน / ร่องรอย ทั้งหมด ได้รับการ พัฒนา ไม่ได้รับ การพัฒนา 3Rs 1.Reading (อ่านออก) 61 61 0 100 - นักเรียนอ่านออก เขียนได้ 100% - ผลสอบ RT NT 2.(w)Riting (เขียนได้) 61 61 0 100 - นักเรียนอ่านออก เขียนได้ 100% - ผลสอบ RT NT 3.(A)Rithemetics (คิดเลขเป็น) 61 61 0 100 -กิจกรรมเลขคณิต คิดสนุก 8Cs 1.Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมี วิจารณญาณ และทักษะในการ แก้ปัญหา) 61 61 0 100 -กิจกรรมการ เรียนรู้โดยใช้ โครงงานเป็นฐาน (PBL)


2 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs กิจกรรมที่ดำเนินการส่งผลให้นักเรียน กลุ่มเป้าหมายเกิดทักษะการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่21 ดังนี้ จำนวนนักเรียน ที่ได้รับการพัฒนา (คน) สรุปนักเรียน ที่ได้รับการ พัฒนา (ร้อยละ) เอกสาร / หลักฐาน / ร่องรอย ทั้งหมด ได้รับการ พัฒนา ไม่ได้รับ การพัฒนา 2.Creativity and innovation (ทักษะ ด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม) 61 61 0 100 -กิจกรรมโครงงาน วิทยาศาสตร์ -กิจกรรมประดิษฐ์ ของใช้จากเศษวัสดุ 3.Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจความต่าง วัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์) 61 61 0 100 -กิจกรรมอาเซียน 4.Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ) 61 61 0 100 -กิจกรรมส่งเสริม ประชาธิปไตยใน โรงเรียน 5.Communications, information and Media Literacy (ทักษะด้านการ สื่อสารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ) 61 61 0 100 -กิจกรรมส่งเสริม ทักษะ ICT 6.Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร) 61 61 0 100 -กิจกรรมการ เรียนรู้รูปแบบ Online 7.Career and Learning Skills (ทักษะ อาชีพ และทักษะการเรียนรู้) 61 61 0 100 -กิจกรรมส่งเสริม ทักษะอาชีพ 8.Compassion (ความมีเมตตากรุณา มี วินัย คุณธรรม และจริยธรรม) 61 61 0 100 -กิจกรรมพัฒนา ผู้เรียนมี คุณลักษณะอันพึง ประสงค์


3 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs แบบรายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะผู้เรียน ที่ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงศตวรรษที่21 (สำหรับโรงเรียน) แบบฟอร์มที่ รร.2 การถอดบทเรียน (Lesson learned) โรงเรียน คำโพนทองราษฎร์นิยม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 ชื่อผู้รายงาน นายนพรัตน์ มหิพันธุ์ หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ 07878676565 E-mail [email protected] 1.วัตถุประสงค์ของโครงการ 1.1 เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะ และทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) 1.2 เพื่อพัฒนาครูผู้สอนให้สามารถจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มี คุณลักษณะ และทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) 1.3 เพื่อพัฒนาสถานศึกษาให้มีวิธีปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะ และทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) 2. เป้าหมายในการดำเนินงานโครงการ 2.1 เชิงประมาณ 1) โรงเรียนได้ดำเนินงานพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ครบทุก กิจกรรม คิดเป็นร้อยละ 100 2) นักเรียนจำนวน 61 คน ได้รับการพัฒนาให้มีทักษะและคุณลักษณะในศตวรรษที่ 21 คิดเป็นร้อยละ 80 ขึ้นไป 3) โรงเรียนมีแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะ และทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) 2.2 เชิงคุณภาพ 1) นักเรียนได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะและคุณลักษณะในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) 2) ครูผู้สอนได้รับการพัฒนาและสามารถจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียน มีทักษะและคุณลักษณะในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) 3) โรงเรียนดำเนินการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีทักษะและ คุณลักษณะในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs)


4 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs โครงการ/กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ที่ดำเนินงาน 1. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ป.1-ป.2 อ่านออกเขียน 100% โดยใช้แนวทาง “5 ให้ โมเดล” ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ที่นักเรียนได้รับการพัฒนา 1) Reading (อ่านออก) 2) (w)Riting (เขียนได้) แนวทางดำเนินงาน ขั้นเตรียมการ (P : Plan) 1) ศึกษาเกสารหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เอกสารนวัตกรรมการพัฒนาการอ่านออก เขียนได้“แพรวาโมเดล” เอกสารการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยสมองเป็นฐาน (Brain based Learning : BBL) 2) คัดกรองความสามารถการอ่านของนักเรียน รู้จักนักเรียนรายบุคคล 3) จัดทำแผนการจัดการการเรียนรู้และออกแบบกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้การอ่าน ขั้นปฏิบัติ (D : Do) 4) จัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ กระบวนการ “5 ให้ อ่านออกเขียนได้ 100%” ดังนี้ 1. ให้ความรักก่อนให้ความรู้ได้แก่ กิจกรรมโฮมรูม ยิ้มไหว้ทักทายก่อนเรียน เอาใจใส่ สุขภาพนักเรียน ให้ความเคยชินกับสิ่งที่เรียนรู้ สอนให้เรียนรู้ตามลำดับจากง่ายไปหายาก ให้รางวัล ยกย่อง ชมเชยเมื่อนักเรียนทำสำเร็จ ให้คำแนะนำสั่งสอนนักเรียนด้วยความเมตตาต่อศิษย์ 2. ให้รู้จักเสียงพยัญชนะและสระไทย ได้แก่ - รู้จักรูปและเสียงพยัญชนะ - รู้จักรูปและเสียงสระ - รู้จักรูปและเสียงวรรณยุกต์ 3.ให้ประสมคำใหม่และอ่านเขียน ได้แก่ - ประสมคำ ๑ พยางค์ กับสระเสียงยาว กิจกรรมที่ 1 การดำเนินงานจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิค/วิธีการจัดการเรียนรู้ สื่อ นวัตกรรม เพื่อพัฒนา ผู้เรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ตามบริบทของพื้นที่และผู้เรียน


5 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs - ประสมคำ ๒ - ๓ พยางค์ กับสระเสียงยาว - ประสมคำ ๑ พยางค์ กับสระเสียงสั้น แม่ ก กา 4. ให้ผันวรรณยุกต์ทั้งห้าได้เนียน - รู้จักอักษรสามหมู่ - การผันวรรณยุกต์คำที่มีพยัญชนะต้นอักษรกลางแม่ ก กา ประสมสระเสียงยาว - การผันวรรณยุกต์คำที่มีพยัญชนะต้นอักษรสูงแม่ ก กา ประสมสระเสียงยาว - การผันวรรณยุกต์คำที่มีพยัญชนะต้นอักษรต่ำแม่ ก กา ประสมสระเสียงยาว - การผันวรรณยุกต์คำที่มีพยัญชนะต้นอักษรกลาง อักษรสูงและอักษรต่ำ แม่ ก กา ประสมสระเสียงยาว -การผันวรรณยุกต์คำที่มีพยัญชนะต้นอักษรกลาง อักษรสูงและอักษรต่ำ แม่ ก กา ประสมสระเสียงสั้น 5 ให้เรียน แจกลูกสะกดคำ ได้แก่ - แจกลูกสะกดคำที่มีตัวสะกดตรงมาตรากับสระเสียงยาว - แจกลูกสะกดคำที่มีตัวสะกดตรงมาตรากับสระเสียงสั้น - แจกลูกสะกดคำที่ตัวสะกดตรงมาตราและไม่ตรงมาตรากับสระเสียงสั้นและสระ เสียงยาว ขั้นตรวจสอบ (C: Check) 1. ให้นักเรียนออกเสียงพยัญชนะ ก-ฮ ให้ครูฟังทุกวันในสัปดาห์ที่ 1-2 2. ให้นักเรียนคัดตัวบรรจงเต็มบรรทัด ก-ฮ โดยไม่ต้องดูแบบ 3. ให้นักเรียนออกเสียงสระ และรู้จักการเปลี่ยนรูปสระในภาษาไทย 4. ให้นักเรียนอักษรสามหมู่ ได้แก่ อักษรกลาง อักษรสูง อักษรต่ำ 5. ให้นักเรียนอ่านคำให้ครูฟังและเขียนตามคำบอกได้ถูกต้อง ครูผู้สอนประเมินความสามารถการอ่าน การเขียนนักเรียนทุกคน โดยใช้แบบประเมิน การอ่าน การเขียนของระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และใช้แบบประเมินที่ครูผู้สอนออกแบบขึ้นเองเพื่อ ตอบสนองความแตกต่างของผู้เรียนรายบุคคล ขั้นนำผลไปใช้ (A:Act) 1.ครูนำผลการประเมินที่ได้ไปใช้ในการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนานักเรียนให้ดีขึ้นในระหว่าง เรียน และสอนซ่อมเสริมให้แก่นักเรียนที่พัฒนาการช้ากว่าปกติ เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเขียนได้ 100% 2. สรุปผลการประเมินความสามารถการอ่าน การเรียนของนักเรียน เมื่อครบ 4 สัปดาห์


6 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs 3. รายงานผลการพัฒนาการอ่าน การเขียนของนักเรียนชั้น ป.1 ให้ผู้ปกครอง ผู้อำนวยการ และผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ ผลการดำเนินงาน 1. นักเรียน ป.1 ร้อยละ 100 อ่านคำพื้นฐานได้ 2. นักเรียน ป.1 ร้อยละ 100 เขียนคำพื้นฐานได้ 3. นักเรียน ป.1 ร้อยละ 100 สามารถอ่านหนังสือแบบเรียนภาษาไทย ภาษาพาที่ ป.1 และ วรรณคดี ลำนำ ป.1. ได้ใน 4 สัปดาห์ 4. นักเรียน ป.1 ร้อยละ 100 มีทักษะพื้นฐานด้านการอ่านออกเขียนได้ ส่งผลดีต่อการจัดกิจกรรม เรียนรู้ในทุกกลุ่มสาระ ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน 1.นักเรียนความแตกต่างระหว่างบุคคลนักเรียนพร้อมในการเรียนรู้ต่างกัน 2. นักเรียนในวัยเรียนชั้น ป.1 มีความสนใจในช่วงเวาสั้นๆ 3. นักเรียนบางคนมีปัญหาด้านการออกเสียง ซึ่งมีเหตุจากพัฒนาการด้านร่างกายบกพร่อง ข้อเสนอแนะ 1. เน้นให้นักเรียนฟัง ออกเสียงให้ถูกต้อง ตามเสียงพยัญชนะและสระมาตราตัวสะกด 2. ใช้การสอนผ่านเพลง เกมส์ ใช้หลักการเรียนปนเล่น 3. สอนซ่อมเสริมเด็กอ่อน เด็กเก่งเพิ่มเติมเก่ง ช่วงเวลาว่างก่อนเลิกเรียน


7 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ภาพ กิจกรรมพัฒนาการอ่าน การเขียน นักเรียน ป.1-ป.2


8 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs 2 กิจกรรมการเขียนบันทึกประจำวันแต่งประโยคและผูกเรื่อง ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ที่นักเรียนได้รับการพัฒนา 1) Reading (อ่านออก) 2) (w)Riting (เขียนได้) แนวทางการดำเนินงาน ขั้นเตรียมการ (P : Plan) 1) ครูศึกษาเกสารหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เอกสารนวัตกรรมการพัฒนาการอ่านออก เขียนได้ “แพรวาโมเดล” เอกสารการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยสมองเป็นฐาน (Brain based Learning : BBL) 2) คัดกรองความสามารถการอ่านของนักเรียน รู้จักนักเรียนรายบุคคล 3) จัดทำแผนการจัดการการเรียนรู้และออกแบบกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้การอ่านและการเขียน ขั้นปฏิบัติ (D : Do) 1) ครูทบทวนความรู้ด้านการอ่านการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในสัปดาห์แรกของการ เปิดภาคเรียนที่ 1 ตามขั้นตอนที่ 1-4 ของนวัตกรรม แพรวาโมเดล ได้แก่ ขั้นที่ 1 รู้จักอักษรไทย ขั้นที่ 2 ประสมคาใหม่พร้อมอ่าน เขียน ขั้นที่ 3 ผันวรรณยุกต์ทั้งได้แนบเนียน ขั้นที่ 4 เรียนการแจกลูก 2) ครูจำแนกนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่กลุ่ม นักเรียนเก่ง นักเรียนปานกลาง และนักเรียนอ่อน 3) ครูกำหนดเป้าหมายการอ่านและการเขียนให้สอดคล้องกับความแตกต่างของผู้เรียนรายบุคคล 4) ครูให้นักเรียนรู้จักการแต่งประโยคและผูกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน 5) ให้นักเรียนฝึกแต่งประโยคจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเอง 6) ให้นักเรียนฝึกเขียนบันทึกประจำวัน 7) ให้นักเรียนเขียนบันทึกประจำวันทุกวัน แล้วนำมาอ่านให้เพื่อนๆ ฟังหน้าชั้นเรียน 8) ครูแนะนำการเขียนบันทึกประจำวันให้ชัดเจน สะกดคำให้ถูกต้อง และแต่งประโยคให้สมบูรณ์ ขั้นตรวจสอบ (C: Check) 1) ตรวจผลงานการเขียนบันทึกประจำวันของนักเรียน 2) ประเมินระดับคุณภาพการอ่านคล่อง เขียนคล่อง โดยคำนึงถึงความแตกต่างของนักเรียนรายบุคคล 3) ประเมินความคิดสร้างสรรค์ การใช้คำในการแต่งประโยค 4) ประเมินพฤติกรรมความรับผิดชอบในการเขียนบันทึกประจำวันอย่างตั้งใจ


9 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ขั้นนำผลไปใช้ (A:Act) 1) ครูนำผลการประเมินที่ได้ไปใช้ในการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนานักเรียนให้ดีขึ้นในระหว่างเรียน และ สอนซ่อมเสริมให้แก่นักเรียนที่พัฒนาการช้ากว่าปกติ เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเขียนได้ 100% 2) สรุปผลการประเมินความสามารถการอ่าน การเรียนของนักเรียน เมื่อครบ 4 สัปดาห์ 3) รายงานผลการพัฒนาการอ่าน การเขียนของนักเรียนชั้น ป.4 ให้ผู้ปกครอง ผู้อำนวยการ และผู้ที่ เกี่ยวข้องทราบ 2.3 ผลการดำเนินงาน 1) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ร้อยละ 100 สามารถอ่านคล่องเขียนคล่อง 2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ร้อยละ 80 ขึ้นไป สามารถเขียนบันทึกประจำวันเป็นประจำ 3) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ร้อยละ 100 สามารถเขียนสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ 4) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ร้อยละ 100 สามารถอ่านนำเสนอเรื่องราวบันทึกประจำวันของ ตนเองได้ ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน 1) นักเรียนไม่เห็นความสำคัญของการเขียนบันทึกประจำวัน 2) นักเรียนบางคนไม่มั่นใจเกี่ยวกับเรื่องราวเหตุการณ์ประจำวันที่นำมาเขียนเป็นประโยคและ ผูกเรื่องในบันทึกประจำวันของตนเอง 3) การเขียนบันทึกประจำวันอาจเป็นเพิ่มภาระการบ้านให้กับนักเรียนบางคน ข้อเสนอแนะ 4) ครูยกตัวอย่างการใช้บันทึกประจำวันให้ประโยชน์ 5) ครูอธิบายให้ให้นักเรียนเห็นคุณค่าของการเขียนสื่อความหมายและนำไปเป็นส่วนหนึ่งของการ เขียนในระดับที่สูงขึ้น เช่น การเขียนเรียงความ การเขียนโครงงาน เป็นต้น 6) ครูให้นักเรียนใช้ภาษาพูดง่ายๆ ในการบันทึกประจำวัน ใช้ถ้อยคำสุภาพไม่ให้เกิดความเสียหาย กับผู้อื่น 7) ครูอาจลดการบ้านให้สำหรับนักเรียนบางคนก็ได้แต่ต้องให้นักเรียนได้ฝึกความรับผิดชอบ


10 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ภาพ สรุปแผนการสอนบันทึกประจำวัน ป.3


11 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ภาพ กิจกรรมการเขียนบันทึกประจำวัน ป.3 ภาพ ผลสอบ NT ป.3 ปีการศึกษา 2565


12 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs 3 กิจกรรมอ่านวันละเรื่อง ปราดเปรื่องสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ที่นักเรียนได้รับการพัฒนา 1) Reading (อ่านออก) 2) (w)Riting (เขียนได้) 3) Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมี วิจารณญาณ และทักษะใน การแก้ปัญหา) 4) Compassion (ความมีเมตตากรุณา มีวินัย คุณธรรม และจริยธรรม) แนวทางการดำเนินงาน ขั้นเตรียมการ (P : Plan) 1) ครูศึกษาเกสารหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เอกสารนวัตกรรมการพัฒนาการอ่านออก เขียนได้ “แพรวาโมเดล” เอกสารการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยสมองเป็นฐาน (Brain based Learning : BBL) 2) คัดกรองความสามารถการอ่านของนักเรียน รู้จักนักเรียนรายบุคคล 3) จัดทำแผนการจัดการการเรียนรู้และออกแบบกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้การอ่านและการเขียน ย่อความ สรุปใจความสำคัญ ขั้นปฏิบัติ (D : Do) 4) ครูทบทวนความรู้ด้านการอ่านการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-5 ในสัปดาห์แรกของ การเปิดภาคเรียนที่ 1 ตามขั้นตอนที่ 1-4 ของนวัตกรรม แพรวาโมเดล ได้แก่ ขั้นที่ 1 รู้จักอักษรไทย ขั้นที่ 2 ประสมคาใหม่พร้อมอ่าน เขียน ขั้นที่ 3 ผันวรรณยุกต์ทั้งได้แนบเนียน ขั้นที่ 4 เรียนการแจกลูก 5) ครูกำหนดเป้าหมายการอ่านและการเขียนสรุปใจความสำคัญ ให้สอดคล้องกับความแตกต่างของ ผู้เรียนรายบุคคล 6) ให้นักเรียนอ่านเรื่องจากหนังสือในห้องสมุด เอกสาร วารสาร สื่อสิ่งพิมพ์ หรือสืบค้นเรื่องราว สาระน่ารู้ ที่ตนเองสนใจจากอินเทอร์เน็ต แล้วสรุปใจความสำคัญลงในสมุดบันทึกการอ่าน 7) ให้นักเรียนส่งสมุดบันทึกการอ่านให้ครูตรวจและผู้ปกครองลงนามท้ายเรื่อง 8) ให้นักเรียนอ่านบันทึกการอ่านของตนเองให้เพื่อนๆฟังที่หน้าชั้นเรียน ขั้นตรวจสอบ (C: Check)


13 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs 1) ตรวจผลงานการเขียนบันทึกการอ่านของนักเรียน 2) ประเมินระดับคุณภาพการอ่านคล่อง เขียนคล่อง โดยคำนึงถึงความแตกต่างของนักเรียนรายบุคคล 3) ประเมินความคิดสร้างสรรค์ การใช้คำในการสรุปความ 4) ประเมินพฤติกรรมความรับผิดชอบในการเขียนบันทึกการอ่าน ขั้นนำผลไปใช้ (A:Act) 1) ครูนำผลการประเมินที่ได้ไปใช้ในการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนานักเรียนให้ดีขึ้นในระหว่างเรียน และ สอนซ่อมเสริมให้แก่นักเรียนที่พัฒนาการช้ากว่าปกติ เพื่อให้นักเรียนอ่านออกเขียนได้ 100% 2) สรุปผลการประเมินความสามารถการอ่าน การเรียนของนักเรียน เมื่อครบ 4 สัปดาห์ 3) รายงานผลการพัฒนาการอ่าน การเขียนของนักเรียน ให้ผู้ปกครอง ผู้อำนวยการทราบ 2.3 ผลการดำเนินงาน 1) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ร้อยละ 100 สามารถอ่านคล่องเขียนคล่อง 2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ร้อยละ 100 ขึ้นไป สามารถเขียนบันทึกการอ่านได้ 3) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ร้อยละ 100 สามารถเขียนสื่อสารได้อย่างสร้างสรรค์ 4) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ร้อยละ 100 สามารถอ่านนำเสนอเรื่องราวบันทึกการอ่านของ ตนเองได้ ปัญหาที่พบจากการเขียนบันทึกรักการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 1. ลายมือของนักเรียนไม่เรียบร้อยสวยงาม 2. นักเรียนบางส่วนยังไม่สามารถเขียนย่อความหรือสรุปความด้วยภาษา สำนวนของตนเองได้ 3. หนังสือมีเนื้อหาที่ไม่เป็นที่น่าสนใจของนักเรียน ข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหา 1. ให้นักเรียนฝึกคัดลายมือด้วยเนื้อหาที่นักเรียนสนใจ ภายในเวลาที่เหมาะสมไม่เร่งรัดจนเกินไป 2. ให้นักเรียนฝึกเขียนย่อความหรือสรุปความด้วยแบบฟอร์มการเขียนย่อความ 3. ครูจัดหาหนังสือที่หลากหลายประเภท น่าสนใจ เหมาะสมกับนักเรียนทุกเพศ ทุกช่วงวัย


14 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ภาพ สรุปแผนการสอนย่อความ ป.4


15 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs 4. กิจกรรมนักประกาศข่าวรุ่นเยาว์ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ที่นักเรียนได้รับการพัฒนา 1) Reading (อ่านออก) 2) (w)Riting (เขียนได้) 3) Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมี วิจารณญาณ และทักษะใน การแก้ปัญหา) 4) Compassion (ความมีเมตตากรุณา มีวินัย คุณธรรม และจริยธรรม) แนวทางการดำเนินงาน ขั้นเตรียมการ (P : Plan) 1) ครูศึกษาเกสารหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เอกสารนวัตกรรมการพัฒนาการอ่านออก เขียนได้ “แพรวาโมเดล” เอกสารการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยสมองเป็นฐาน (Brain based Learning : BBL) 2) คัดกรองความสามารถการอ่านของนักเรียน รู้จักนักเรียนรายบุคคล 3) จัดทำแผนการจัดการการเรียนรู้และออกแบบกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้การอ่านและการเขียน ย่อความ สรุปใจความสำคัญและการอ่านข่าวประชาสัมพันธ์ ขั้นปฏิบัติ (D : Do) 1) ครูทบทวนความรู้ด้านการอ่านการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-5 ในสัปดาห์แรกของ การเปิดภาคเรียนที่ 1 ตามขั้นตอนที่ 1-4 ของนวัตกรรม แพรวาโมเดล ได้แก่ ขั้นที่ 1 รู้จักอักษรไทย ขั้นที่ 2 ประสมคาใหม่พร้อมอ่าน เขียน ขั้นที่ 3 ผันวรรณยุกต์ทั้งได้แนบเนียน ขั้นที่ 4 เรียนการแจกลูก 2) ครูกำหนดเป้าหมายการอ่านและการเขียนสรุปใจความสำคัญ ให้สอดคล้องกับความแตกต่างของ ผู้เรียนรายบุคคล 3) ให้นักเรียนอ่านเรื่องจากหนังสือในห้องสมุด เอกสาร วารสาร สื่อสิ่งพิมพ์ หรือสืบค้นเรื่องราว สาระน่ารู้ ที่ตนเองสนใจจากอินเทอร์เน็ต แล้วสรุปใจความสำคัญลงในสมุดบันทึกการอ่าน 4) ให้นักเรียนส่งสมุดบันทึกการอ่านให้ครูตรวจและผู้ปกครองลงนามท้ายเรื่อง


16 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs 5) นักเรียนนำเรื่องราว สาระน่ารู้ ข่าวสาร ที่ได้จากการบันทึกการอ่านในแต่วัน มาอ่านข่าว ประชาสัมพันธ์ ทางลำโพงกระจายเสียงของโรงเรียนในทุกวันช่วงเช้าก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติ โดยสลับ หมุนเวียนนักเรียนที่มาทำหน้าที่อ่านข่าววันละ 1 เรื่อง ขั้นตรวจสอบ (C: Check) 1) ตรวจผลงานการเขียนบันทึกการอ่านของนักเรียน 2) ประเมินระดับคุณภาพการอ่านคล่อง เขียนคล่อง โดยคำนึงถึงความแตกต่างของนักเรียนรายบุคคล 3) ประเมินความคิดสร้างสรรค์ การใช้คำในการสรุปความ 4) ประเมินพฤติกรรมความรับผิดชอบในการเขียนบันทึกการอ่าน และการอ่านข่าวประชาสัมพันธ์ ขั้นนำผลไปใช้ (A:Act) 1) ครูนำผลการประเมินที่ได้ไปใช้ในการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนานักเรียนให้ดีขึ้นในระหว่างการ ดำเนินงาน และแนะนำให้แก่นักเรียนที่พัฒนาการเขียนสรุปใจความสำคัญให้ครอบคลุมและชัดเจนมากขึ้น 2) สรุปผลการประเมินความสามารถการอ่าน การเขียนสื่อสารของนักเรียน เมื่อครบ 4 สัปดาห์ 3) รายงานผลการพัฒนาการอ่าน การเขียนของนักเรียน ให้ผู้ปกครอง ผู้อำนวยการทราบ ผลการดำเนินงาน 1) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 100 สามารถอ่านคล่องเขียนคล่อง 2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 80 ขึ้นไป สามารถเขียนสรุปใจความสำคัญได้ระดับดี 3) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 100 สามารถเขียนสื่อสารได้อย่างสร้างสรรค์ 4) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 100 สามารถอ่านนำเสนอเรื่องราว ข่าวสาร สาระน่ารู้ได้ อย่างชัดเจน ถูกต้องตามอักขระวิธี ปัญหาที่พบ 1. ลายมือของนักเรียนไม่เรียบร้อยสวยงาม 2. นักเรียนขาดความมั่นใจในการอ่านเรื่องออกทางลำโพงกระจายเสียง 3. หนังสือมีเนื้อหาที่ไม่เป็นที่น่าสนใจของนักเรียน ข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหา 1. ให้นักเรียนฝึกคัดลายมือด้วยเนื้อหาที่นักเรียนสนใจ ภายในเวลาที่เหมาะสมไม่เร่งรัดจนเกินไป 2. ให้นักเรียนฝึกอ่านเรื่องให้คล่องก่อนไปอ่านนำเสนอผ่านหอกระจายข่ายของโรงเรียน 3. ครูจัดหาหนังสือที่หลากหลายประเภท น่าสนใจ เหมาะสมกับนักเรียนทุกเพศ ทุกช่วงวัย


17 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ภาพ สมุดบันทึกการอ่าน ภาพ กิจกรรมบันทึกการอ่านและนักประกาศข่าวรุ่นเยาว์ ภาพ สำเนาเกียรติบัตรได้รับรางวัลเหรียญทองการแข่งขันกวีเยาวชนคนรุ่นใหม่


18 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs 5 กิจกรรมเลขคณิตคิดสนุก ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ที่นักเรียนได้รับการพัฒนา 1) (A)Rithemetics (คิดเลขเป็น) แนวทางการดำเนินงาน จากการดำเนินงานในปีการศึกษา 2565 ที่ผ่านมา กิจกรรมคณิตคิดเร็วเป็นกิจกรรมที่กระตุ้นให้ นักเรียนรู้จักคิดและแก้ปัญหา และมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของแบบฝึกทักษะใหม่ เป็นคณิตคิดเร็ว ทำให้ นักเรียนมีความกระตือรือร้นกับการทำแบบฝึกหัด ซึ่งมีข้อความให้คิดที่หลากหลายและสนุกท้าทาย ชวนให้ คิดและอยากเข้าร่วมแข่งขัน จึงทำเป็นโครงการต่อเนื่องในปีการศึกษา 2566 ขั้นเตรียมการ (P : Plan) 1) ประชุมปรึกษาหารือครูประจำชั้น กำหนดวัน เวลา ที่นักเรียนจะเข้าร่วมกิจกรรม เริ่มตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2566 - เดือนกุมภาพันธ์ 2567 2) สถานที่ในการจัดกิจกรรม คือ ห้องเรียน 3) ครูประจำชั้นรับผิดชอบในการออกแบบฝึกหัด และดูแลนักเรียนทำกิจกรรมคณิตคิดเร็ว และ เกมส์ปริศนาที่มีไม้ขีดไฟ. สมการทางคณิตศาสตร์ที่มีไม้ขีดไฟ เกมปริศนาที่มีไม้ขีดไฟ ที่สืบค้น จากอินเทอร์เน็ต 4) ครูประจำชั้นจัดทำแบบประเมิน และสรุปผลการจัดกิจกรรม ขั้นปฏิบัติ (D : Do) 1) ในการจัดกิจกรรมคณิตคิดเร็ว จัดการแข่งขันตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 - เดือนกุมภาพันธ์ 2567 จัดให้นักเรียนทุกระดับชั้นแข่งขันโดยใช้เวลา 5 นาที / ข้อสอบ 1 ชุด โดยทำในชั่วโมงคณิตศาสตร์ เดือนละ 10 ครั้ง 2) สรุปผลการแข่งขันดาวเด่นคณิตศาสตร์ประจำทุกห้องในแต่ละเดือนสำหรับผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดของ ห้อง ห้องเรียนละ 1 คน 3) แจกเกียรติบัตรให้นักเรียนที่ได้รับเลือกเป็นนักคำนวณดีเด่นในทุกต้นเดือนของเดือนถัดไป ขั้นตรวจสอบ (C: Check) 1) สังเกตนักเรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม 2) ประเมินพัฒนาการทักษะการคิดคำนวณของนักเรียน 3) ประเมินเจตคติที่ดีต่อการเรียนคณิตศาสตร์ 4) นักเรียนสามารถนำทักษะการคิดคำนวณไปประยุกต์ใช้ในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์


19 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ขั้นนำผลไปใช้ (A:Act) 1) ครูนำผลการประเมินที่ได้ไปใช้ในการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนานักเรียนให้ดีขึ้นในระหว่างการ ดำเนินงาน 2) สรุปผลการประเมินความสามารถการคิดคำนวณ เมื่อครบ 4 สัปดาห์ 3) รายงานผลการพัฒนาการคิดเลขเป็น ให้ผู้ปกครอง ผู้อำนวยการทราบ ผลการดำเนินงาน 1) นักเรียนทุกคนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ได้เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันคณิตคิดเร็ว คิดเป็นร้อยละ 100 2) นักเรียนพัฒนาทักษะการคิดคำนวณ ในระดับมาก-มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 100 3) นักเรียนนำไปประยุกต์ใช้ในการคิดคำนวณ ในระดับมาก-มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ100 ปัญหา / อุปสรรค 1) นักเรียนมีพื้นฐานในการคิดคำนวณที่แตกต่างกัน 2) นักเรียนให้ความสนใจในการทำกิจกรรมเพียงเวลาสั้นๆ ข้อเสนอแนะ 1) ควรจัดกิจกรรมให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง 2) ควรมีแบ่งกลุ่มคละนักเรียนเก่ง กลาง อ่อน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน 3) ควรสนับสนุนให้นักเรียนนำสูตรคูณใช้ในการคิดคำนวณ


20 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ภาพ เอกสารประกอบการจัดกิจกรรม เลขคณิตคิดสนุก ป.1-ป.6


21 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs 6 กิจกรรมโรงเรียนปลอดขยะ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ที่นักเรียนได้รับการพัฒนา C1:Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมี วิจารณญาณ และทักษะใน การแก้ปัญหา) แนวทางการดำเนินงาน ด้วยโรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม ดำเนินโครงการ “โรงเรียนปลอดขยะ(Zero Waste School)” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริม สนับสนุนนักเรียน ครู และบุคลากรในโรงเรียน ได้ดำเนินกิจกรรมลด คัดแยก และนำกลับขยะมาใช้ประโยชน์ การกำจัดขยะมูลฝอยอย่างถูกต้อง ปลูกฝังจิตสำนึก การลด คัดแยกขยะ และ นำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ สร้างระบบการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมต่างๆ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ในการจัดการขยะภายในสถานศึกษา รวมถึงเป็นการกระตุ้นและปลูกฝังลักษณะนิสัยรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม แก่ “ผู้เรียน” พร้อมสร้างความตระหนักและมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม สู่การเป็นโรงเรียนปลอดขยะอย่างแท้จริงและยั่งยืน วัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างจิตสำนึกและความรู้ความเข้าใจถึงแนวทางในการลดปริมาณขยะ การแยกขยะ และการนำขยะไปใช้ประโยชน์ รวมทั้งการรวบรวมขยะเพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ให้กับครู นักเรียนและ บุคลากรในโรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม 2) พัฒนาการเรียนการสอนการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การจัด กิจกรรมโดยใช้นักเรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ 3) เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของครู นักเรียน ผู้ปกครองและชุมชนโดยรอบโรงเรียน คำโพนทองราษฎร์นิยม ขั้นเตรียมการ (P : Plan) 1) สำรวจข้อมูลสภาพปัญหาขยะตั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ในโรงเรียน 2) ประชุมครู นักเรียน เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานและประชาสัมพันธ์ 3) นำเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ 4) แต่งตั้งครูคณะทำงาน แบ่งกลุ่มนักเรียนรับผิดชอบพื้นที่และรับผิดชอบกิจกรรม 5) กำหนดเป้าหมายการลดปริมาณขยะ 6) กำหนดปฏิทินและรูปแบบการติดตามประเมินผลการจัดการขยะในโรงเรียน ขั้นปฏิบัติ (D : Do) 1) ดำเนินงานกิจกรรมตามแผนงานที่กำหนดไว้ มีดังนี้ -กิจกรรมคัดแยกขยะ ตามหลัก ๓R


22 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs - กิจกรรมขยะรีไซเคิล - กิจกรรมประหยัดพลังงาน - กิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม - กิจกรรม 5 ส (Big Cleaning Day) - กิจกรรมลดใช้สารเคมีในโรงเรียน - กิจกรรมประดิษฐ์ของใช้จากเศษวัสดุ - กิจกรรมปุ๋ยหมักชีวภาพ ขั้นตรวจสอบ (C: Check) 1) ติดตาม ตรวจสอบ การจัดกิจกรรมเพื่อทราบปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน 2) ประเมินผลการดำเนินงานระหว่างจัดกิจกรรม เพื่อหาแนวทางพัฒนากระบวนการทำงาน ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น 3) สรุปผลการจัดกิจกรรม เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานในครั้งต่อไป ขั้นนำผลไปใช้ (A:Act) 1) ครูนำผลการประเมินที่ได้ไปใช้ในการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนานักเรียนให้ดีขึ้นในระหว่างการ ดำเนินงาน 2) สรุปผลการประเมินการบริหารจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง ถึงปลายทาง เมื่อครบ 4 สัปดาห์ 3) รายงานผลการลดปริมาณขยะในโรงเรียน


23 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ภาพ อินโฟกราฟิกเส้นทางการเรียนรู้การจัดการขยะ


24 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ผลการดำเนินงาน 1) ครู นักเรียน และบุคลากรโรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม ร้อยละ 100 เข้าร่วมโครงการโรงเรียน ปลอดขยะ 2) ครู นักเรียน และบุคลากรโรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม ร้อยละ 100 มีจิตสำนึก การลด คัด แยกขยะ และนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ในสถานศึกษา 3) ครู นักเรียน และบุคลากรโรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม ร้อยละ 100 พร้อมทั้ง ผู้ปกครองและ ชุมชนโดยรอบมีความพึงใจในการจัดการขยะมูลฝอยในโรงเรียน บทเรียนที่ได้รับ 1) ครู นักเรียนและบุคลากรโรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม มีความรู้และสามารถจัดการขยะถูกวิธี ตามหลัก 3R (Reduce : การลดปริมาณขยะ Reuse : การใช้ซ้ำ และ Recycle : การนำกลับมาใช้ใหม่) 2) ครู นักเรียนและบุคลากรโรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม มีระบบการจัดการขยะอย่างถูกวิธี 3) โรงเรียนสะอาด น่าอยู่ น่าเรียน และจัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัญหา / อุปสรรค 1) ปัญหาการกำจัดขยะโฟมกันกระแทก เนื่องที่จัดเก็บขยะมีพื้นที่จำกัด 2) ไม่มีที่กำจัดขยะอันตรายจำพวก หลอดไฟ ถ่านไฟฉาย และกระป๋องสารเคมี ข้อเสนอแนะ 1) ประสานหน่วยงานองค์การบริหารส่วนตำบลนำรถมาขนขยะไปกำจัดอย่างถูกวิธี 2) ปลูกจิตสำนึกให้แก่นักเรียนเข้าใหม่ให้ใส่ใจในการลดปริมาณขยะ และการคัดแยกขยะอย่างถูกต้อง


25 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs


26 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs


27 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ภาพ เส้นทางการจัดการขยะโรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม ภาพ สำเนาเกียรติบัตร เข้าร่วมโครงการโรงเรียนปลอดขยะระดับดีมาก


28 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs 7 กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning:PBL ) ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ที่นักเรียนได้รับการพัฒนา 1. 3Rs 2.8Cs แนวทางการดำเนินงาน การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning ) เป็นการเรียนรู้ที่จัด ประสบการณ์ในการปฏิบัติงานให้แก่ผู้เรียนเหมือนกับการทำงานในชีวิตจริงอย่างมีระบบ เพื่อเปิดโอกาสให้ ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ตรง ได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหา วิธีการหาความรู้ความจริงอย่างมีเหตุผล ได้ทำการ ทดลอง ได้พิสูจน์สิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง รู้จักการวางแผนการทำงาน ฝึกการเป็นผู้นำ ผู้ตาม ตลอดจนได้ พัฒนากระบวนการคิดโดยเฉพาะการคิดขั้นสูง และการประเมินตนเอง โดยมีครูเป็นผู้กระตุ้นเพื่อนำความ สนใจที่เกิดจากตัวผู้เรียนมาใช้ในการทำกิจกรรมค้นคว้าหาความรู้ด้วยตัวเอง นำไปสู่การเพิ่มความรู้ที่ได้จาก การลงมือปฏิบัติ การฟัง และการสังเกตจากผู้รู้ โดยผู้เรียนมีการเรียนรู้ผ่านกระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม ที่จะนำมาสู่การสรุปความรู้ใหม่ มีการเขียนกระบวนการจัดทำโครงงานและได้ผลการจัดกิจกรรมเป็นผลงาน แบบรูปธรรม โรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยมจึงมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ที่เน้นให้ผู้เรียน ได้รับประสบการณ์ชีวิตขณะที่เรียน ได้พัฒนาทักษะต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ตามหลักพัฒนาการตามลำดับขั้นความรู้ความคิดของบลูมทั้ง 6 ขั้น คือ ความรู้ความจำ ความเข้าใจ การประยุกต์ใช้ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การประเมินค่าและการคิดสร้างสรรค์ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ลง มือปฏิบัติเพื่อฝึกทักษะต่างๆด้วยตนเองทุกขั้นตอน โดยมีครูเป็นผู้ให้การส่งเสริม สนับสนุน และได้มีการ ดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้ ขั้นเตรียมการ (P : Plan) 1) ครูศึกษารูปแบบโครงงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียน แบ่งตามลักษณะ กิจกรรม ได้แก่ โครงงานเชิงสำรวจ โครงงานประเภททดลอง โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ โครงงานประเภท ทฤษฎี 2) ครูให้ความรู้นักเรียนเกี่ยวกับขั้นตอนการทำโครงงาน 3) ครูกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความสนใจ โดยควรเริ่มจากการสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนก่อน ควรสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองไม่เครียด เพื่อนักเรียนเกิดความพร้อมในการเรียนรู้ จากนั้นจับกลุ่มนักเรียน ด้วยวิธีการที่ทำให้นักเรียนเกิดความสนุกสนาน มีความสุข และเกิดความสนใจในเรื่องที่จะเรียน สำหรับวิธีการ จับกลุ่มสามารถกระทำได้โดยวิธีที่หลากหลาย เช่น การใช้เกม ใช้เนื้อเพลง ใช้เนื้อหาที่จะเรียน จับฉลาก เป็น ต้น 4) กำหนดปัญหา เป็นการเลือกกำหนดปัญหาที่จะศึกษา ซึ่งต้องเริ่มจากความสนใจของ นักเรียน ครูพยายามให้นักเรียนได้เลือกศึกษาปัญหาที่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถของนักเรียน และมี


29 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs แนวทางที่สามารถพิสูจน์ ทดสอบ หาคำตอบได้ ครูควรกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้นในการกำหนด ปัญหาด้วยวิธีการที่หลากหลายดังนี้ - การตั้งคำถามจากเรื่องใกล้ตัว - ใช้การสำรวจ โดยการมอบหมายให้นักเรียนไปสำรวจในท้องถิ่น - ใช้การศึกษานอกสถานที่ เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศในห้องเรียน - การสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้เกิดปัญหาและความสงสัยกับตัวผู้เรียน เช่น การจัด สภาพห้องเรียน สื่อ ป้ายนิเทศ เป็นต้น การกำหนดปัญหานี้เป็นขั้นที่ครูต้องใช้ความพยายามในการกระตุ้นนักเรียน แม้ปัญหาที่ นักเรียนร่วมกันกำหนดจะมีความหลายหลาย ครูต้องพยายามตะล่อมให้นักเรียนเลือกปัญหาที่สอดคล้องกับ หน่วยการเรียนรู้ที่วิเคราะห์ไว้ 5) ครูให้นักเรียนร่วมกันวางแผน เขียนโครงร่างของโครงงาน โดยผู้สอนใช้การสนทนา ประกอบที่แสดงขั้นตอนของโครงงาน เพื่อให้เกิดความชัดเจนในภาพรวมของโครงงานแต่ละขั้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเริ่มทีละขั้นตอน ได้แก่ (1)การกำหนดปัญหา (2) ความสำคัญของปัญหา (3) แนวทางการแก้ไข (4) การตั้งสมมติฐาน (5) วางแผนการรวบรวมข้อมูล (6) วางแผนการวิเคราะห์ข้อมูล (7) วางแผนการ นำเสนอข้องมูล โดยครูอาจนำรูปเล่มและแผงโครงงานได้ศึกษาเป็นตัวอย่าง เพื่อให้นักเรียนเกิดความเข้าใจ วิธีการนำเสนอและนำเสนอได้อย่างถูกต้อง ขั้นปฏิบัติ (D : Do) ลงมือปฏิบัติตามแผนที่วางไว้(ในข้อ 5) โดยครูต้องใช้การเสริมแรงและสนับสนุนให้นักเรียน เลือกวิธีการตามที่นักเรียนต้องการ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของการนำข้อมูลมาจัดหมวดหมู่ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ตามขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนการทำโครงงาน บทบาทของนักเรียน บทบาทของครู 1. การคิดและเลือกหัวข้อที่ ต้องการศึกษา นักเรียนสำรวจสภาพปัญหาที่พบ ในโรงเรียน หรือกำหนดประเด็นที่ มีความสนใจค้นคว้าหาคำตอบ ครูเตรียมกิจกรรมที่จะกระตุ้น ความสนใจของผู้เรียน โดยต้องคิด หรือเตรียมกิจกรรมที่ดึงดูดให้ ผู้เรียนสนใจ 2. การวางแผนในการทำ โครงงาน นักเรียนร่วมกันกำหนดปัญหา ตั้ง วัตถุประสงค์ ศึกษาเอกสารที่ เกี่ยวข้อง วางแผนโครงงาน ครูให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่มกันแสวงหา ความรู้ ใช้กระบวนการกลุ่มในการ วางแผนดำเนินกิจกรรม โดย นักเรียนเป็นผู้ร่วมกันวางแผน กิจกรรมการเรียนของตนเอง


30 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ขั้นตอนการทำโครงงาน บทบาทของนักเรียน บทบาทของครู 3. การลงมือทำโครงงาน นักเรียนสำรวจ ทดลอง ศึกษา เก็บรวบรวมข้อมูล ครูอำนวยความสะดวก ให้ คำปรึกษา ให้กำลังใจ เสริมแรงให้ นักเรียนทำโครงงานจนสำเร็จ 5. การเขียนรายงาน นักเรียนช่วยกันเขียนรายงาน ทำ รูปเล่มโครงงาน ครูแนะนำ ช่วยเหลือ การเขียน รายงานโครงงาน 6. การนำเสนอโครงงาน นักเรียนนำเสนอโครงงานใน รูปแบบต่างๆ เช่น นำเสนอปาก เปล่า นำเสนอแบบแผ่นพับ นำเสนอโดยใช้โปรแกรม MsPowerPoint เป็นต้น ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ แสดงผลงาน - ส่งผลงานนักเรียนเข้าแข่งขันใน ระดับ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 1 โครงการที่ดำเนินการ มีดังนี้ ชื่อโครงงาน ผู้จัดทำโครงงาน ครูที่ปรึกษา โครงงาน “กล่องนมรักษ์โลก” ชั้น ป.5 นางสุวณีย์ สงดี โครงการ “ปุ๋ยหมักใบไม้” ชั้น ป. 4-6 นายทรงวุฒิ โยคะสิงห์ โครงงาน “หน่อไม้ดอง” ชั้น ป.4 นางสาวอภิญญา อินอุ่นโชติ โครงงาน ขยะแลกเงิน ชั้น ป.3 นางสาวอภิญญา อินอุ่นโชติ โครงงาน โฟมแปลงร่าง ป.6 นางสาวกีรติกานต์ ศรีดอกไม้ โครงงาน ปุ๋ยหมักเศษอาหาร ป.1-2 นายทรงวุฒิ โยคะสิงห์ โครงงาน “น้ำยาทำความสะอาด จากน้ำหมักผลไม้รสเปรี้ยว ป.4-6 นางสาวกีรติกานต์ ศรีดอกไม้ ขั้นตรวจสอบ (C: Check) 1) ติดตาม ตรวจสอบ การจัดกิจกรรมเพื่อทราบปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน 2) ประเมินผลจากการปฏิบัติของนักเรียนสามารถประเมินได้เป็นสองส่วน คือ (1) นักเรียนประเมินการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยดูที่คุณภาพเป็นเกณฑ์ ลักษณะและ วิธีการที่ใช้ในการประเมินใช้การอภิปรายจากการทำงานและชิ้นงาน (2) ครูประเมินการทำโครงงาน ซึ่งครูจะประเมินในด้านของเนื้อหาสาระของ โครงงาน กระบวนการทำงาน การนำเสนอโครงงาน โดยใช้วิธีให้คะแนนตามเกณฑ์ที่สร้างขึ้น และควรให้ ผู้เรียนรับทราบเกณฑ์ดังกล่าวด้วยเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน


31 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ขั้นนำผลไปใช้ (A:Act) นำเสนอข้อมูลและเผยแพร่ข้อมูล โดยนักเรียนสามารถนำเสนอในส่วนที่เป็นกระบวนการ วิธีการ ขั้นตอนและผลลัพธ์หรือผลที่ได้จากการศึกษา ครูควรให้คำแนะนำ กระตุ้นให้เกิดการซักถามภายในชั้นเรียน และควรมีการนำเสนอผลงานต่อโรงเรียน ชุมชน เขตพื้นที่การศึกษา หรือในระดับอื่น ๆ ผลการดำเนินงาน 1) นักเรียน ป.1-ป.6 ร้อยละ 100 เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน 2) นักเรียน ป.1-ป.6 ร้อยละ 100 เกิดการเรียนรู้เกิดจากการลงมือปฏิบัติของนักเรียนเอง 3) ครู ร้อยละ 100 จัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้โครงงานเป็นฐาน 4) นักเรียน ป.1-ป.6 ร้อยละ 100 ได้ฝึกการเป็นผู้นำและผู้ตามในกระบวนการของการทำโครงงาน 5) นักเรียน ป.1-ป.6 ร้อยละ 100 ได้ฝึกแสดงความคิดเห็นและชื่นชมผลงานทั้งของตนเองและผู้อื่น ปัญหา / อุปสรรค 1) มีข้อจำกัดวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการทดลอง ทางวิทยาศาสตร์ 2) โครงงานใช้เวลามากและเสียค่าใช้จ่ายสูง 3) โครงงานไม่สอดคล้องกับประสบการณ์ชีวิตจริงของนักเรียน ข้อเสนอแนะ 1) ควรมีการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานอย่างต่อเนื่อง 2) ควรมีการส่งผลงานเข้าประกวดแข่งขันโครงงานเป็นประจำทุกปี


32 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ภาพ เอกสารรายงานโครงงาน


33 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs


34 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ภาพ กิจกรรโครงงานหน่อไม้ดอง ภาพ กิจกรรโครงงานปุ๋ยหมักใบไม้ ภาพ กิจกรรโครงงานแปรรูปอาหาร ภาพ กิจกรรโครงงานน้ำยาทำความสะอาดจากน้ำหมักผลไม้รสเปรี้ยว


35 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs กิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ที่นักเรียนได้รับการพัฒนา C4:Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ) แนวทางการดำเนินงาน โรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม มีเป้าหมายในการพัฒนานักเรียนทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ กิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียนจึงเป็น กิจกรรมที่จะสามารถพัฒนานักเรียนให้มีทักษะดังกล่าวข้างต้นได้ การสร้างลักษณะนิสัยให้นักเรียน รู้จัก ระเบียบข้อบังคับ กฎเกณฑ์และกติกาตลอดจนรู้จักรับผิดชอบหน้าที่ที่ตนพึงมีต่อหมู่คณะ ชุมชน และสังคมได้ อย่างเหมาะสม การนำรูปแบบประชาธิปไตยมาใช้ในโรงเรียน จะทำให้นักเรียนรู้จักปฏิบัติตนให้ถูกต้องตาม ภาระหน้าที่และมีวิถีชีวิตตามหลักประชาธิปไตย ให้นักเรียนมีความรู้ และมีส่วนร่วมกิจกรรมในการดูแล ปกครองภายในโรงเรียน ตามระบอบประชาธิปไตย ได้เรียนรู้และฝึกตนเองเกี่ยวกับการใช้สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและหน้าที่ตามระบบประชาธิปไตย มีประสบการณ์ในการเป็นผู้นำ และผู้ตามในระบอบ ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง รู้จักประสบการณ์ในการร่วมทำงานเป็นหมู่คณะ โดยยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น และส่งเสริมให้นักเรียนมีความรับผิดชอบร่วมกันในการรักษาไว้ซึ่งประโยชน์ทั้งปวงของโรงเรียน ขั้นเตรียมการ (P : Plan) 1. ประชุมคณะกรรมการดำเนินงานเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับแนวทางการจัดทำแผนงาน/โครงการ 2. แต่งตั้งครูผู้รับผิดชอบกิจกรรมและกำหนดปฏิทินการปฏิบัติงาน 3. ประชุมนักเรียนเพื่อเตรียมการเลือกตั้งประธานนักเรียนและคณะกรรมการสภานักเรียนชุดใหม่ 4. ทบทวนบทบาทหน้าที่ของประธานนักเรียนและคณะกรรมการสภานักเรียน ขั้นปฏิบัติ (D : Do) 1.ประกาศรับสมัครประธานนักเรียน 2.เปิดเวทีให้ผู้สมัครหาเสียง 3.เลือกตั้งประธานนักเรียนและแต่งตั้งคณะกรรมการสภานักเรียน 4. ขับเคลื่อนกิจกรรมนักเรียนต่อจากคณะกรรมการสภานักเรียนชุดเดิม โดยแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ ปฏิบัติตามกิจกรรม ดังนี้ (1) จัดประชุมคณะกรรมการนักเรียนเพื่อเสนอแนวทางพัฒนากิจการนักเรียน (2) กิจกรรมเข้าแถวหน้าเสาธง (3) กิจกรรมเขตพื้นที่สะอาดและห้องเรียนบรรยากาศดี (4) กิจกรรมประชาสัมพันธ์ข่าวสาร สาระน่ารู้ (5) กิจกรรมจิตอาสาช่วยเหลืองานในชุมชน (6) กิจกรรมคนดีศรีคำโพนทอง


36 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs (7) ขับเคลื่อนกิจกรรมอื่น ๆ ตามนโยบายของโรงเรียน ขั้นตรวจสอบ (C: Check) 1. ครูกำกับ ติดตาม การเข้าร่วมกิจกรรมของนักเรียน 2. ครูให้คำแนะนำ เสนอแนะแนวทางพัฒนาการทำงานของคณะกรรมการสภานักเรียนให้ เป็นไปอย่างมีมีประสิทธิภาพ 3. ครูประเมินการทำงานระหว่างจัดกิจกรรมทุกกิจกรรม แล้วสะท้อนผลให้นักเรียนทราบถึง ระดับคุณภาพการทำงาน เพื่อปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้น 4. ประเมินความพึงพอใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหลังจากแต่ละกิจกรรมเสร็จสิ้นลงไปแล้ว โดยจะเป็นการประเมินทั้งแบบประเมินและการสัมภาษณ์ ขั้นนำผลไปใช้ (A:Act) 1.สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมการสภานักเรียน 2.มอบเกียรติบัตรให้นักเรียนเพื่อเป็นเกียรติ ขวัญกำลังใจ ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อส่วนรวม 3.นำผลการดำเนินงานที่ได้จากการปฏิบัติมาศึกษาสภาพปัญหา เพื่อหาหนทางแก้ไข ในการปฏิบัติงานในปีการศึกษาครั้งต่อ ๆ ไป ผลการดำเนินงาน 1. นักเรียน ป.1-6 ร้อยละ 100 รู้จักใช้ชีวิตตามระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข 2. นักเรียน ป.1-6 ร้อยละ 100 กล้าแสดงออกทางความคิดเห็น มีภาวะผู้นำและผู้ตาม มีผลทำให้ นักเรียนมีความประพฤติที่ดีขึ้น 3. นักเรียน ป.1-6 ร้อยละ 100 มีจิตอาสาในการช่วยพัฒนาโรงเรียนและชุมชน 4. นักเรียน ป.1-6 ร้อยละ 100 มีคุณธรรม จริยธรรม ด้านความซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบและ สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ปัญหา / อุปสรรค 1. สื่อออนไลน์มีการเผยแพร่ข่าวสารการเรียกร้องสิทธิของตนเองจนเกินขอบเขตของกฎกติกาใน สังคม ทำให้นักเรียนมีความเชื่อที่เบี่ยงเบนไปในทางที่ไม่ถูกต้อง 2. นักเรียนส่วนใหญ่ใช้เวลาว่างอยู่กับสมาร์ทโฟน ทำให้การพูดคุยสนทนาระหว่างกันน้อยเกินไป ข้อเสนอแนะ 1.ควรมีการดำเนินการส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง 2.ส่งประกวดกิจกรรมสภานักเรียนในปีการศึกษาต่อไป


37 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ภาพ กิจกรรมเลือกตั้งประธานนักเรียน ภาพ จัดกิจกรรมหน้าเสาธงโดยคณะกรรมการนักเรียน ภาพ กิจกรรมจิตอาสาช่วยเหลือชุมชน


38 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ภาพ กิจกรรมเขตพื้นที่สะอาดและห้องเรียนบรรยากาศดี ภาพ มอบเกียรติบัตรคนดีศรีคำโพนทอง


39 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs กิจกรรมพัฒนาทักษะการใช้ ICT เพื่อการเรียนรู้ของนักเรียน ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ที่นักเรียนได้รับการพัฒนา - C5:Communications, information and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ) - C6:Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสาร) แนวทางการดำเนินงาน การจัดการเรียนรู้ในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการจัดการศึกษาสำหรับ ผู้เรียนเพื่อใช้ในการค้นคว้าสืบค้นข้อมูลและค้นหาองค์ความรู้ตามจินตนาการที่ผู้เรียนสนใจได้อย่างหลากหลาย รวดเร็ว กว้างขวาง เป็นเเหล่งเรียนรู้ไร้พรมแดนที่ทุกคนสามารถเข้าถึงเเหล่งข้อมูลได้ ดังนั้นคอมพิวเตอร์ เครื่องมือและอุปกรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น สมาร์โฟน แทปเล็ต จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการใช้เป็นสื่อการ เรียนรู้สู่โลกกว้าง ทางโรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยมจึงเห็นความสำคัญในการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้ นักเรียนได้ใช้ในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนานักเรียนมีทักษะด้านการสื่อสารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ขั้นเตรียมการ (P : Plan) 1. ประชุมครูเพื่อจัดทำแผนการพัฒนาทักษะการใช้ ICT เพื่อการเรียนรู้ของนักเรียน 2. เตรียมความพร้อมของสื่อคอมพิวเตอร์ และระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อการเรียนการสอน 3. กำหนดตารางเรียนและตารางเข้าใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อสืบค้นข้อมูล 4. แต่งตั้งครูและนักเรียนผู้รับผิดชอบห้องคอมพิวเตอร์ ขั้นปฏิบัติ (D : Do) 1.จัดกิจกรรมการเรียนการสอนการใช้โปรแกรมพื้นฐานแก่นักเรียน ได้แก่ โปรแกรม MS-Word MSExcel MS-PowerPoint โปรแกรม Paint โปรแกรม Google Chrome Line Facebooks และการสมัคร E:mail เป็นต้น 2.จัดกิจกรรมให้ความรู้นักเรียนเกี่ยวกับการใช้และบำรุงรักษาอุปกรณ์ ICT ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ สมาร์โฟน แทปเล็ต 3. จัดกิกจรรมให้นักเรียนเรียนรู้ในรูปแบบ Online โดยใช้Application Line ,ZOOM, Google Meet และอื่นๆ ตามความถนัด 4. จัดกิกจรรมอบรมให้ความรู้นักเรียนเกี่ยวกันการป้องกันภัยทางไซเบอร์ 5. จัดประสบการณ์ให้นักเรียนใช้ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ในทางสร้างสรรค์และเกิดประโยชน์ เช่น นำเสนอผลงานออนไลน์ ตรวจสอบข้อมูลผลการเรียนทางเว็บไซต์โรงเรียน ติดตามข้อมูลข่าวสารทางกลุ่มไลน์ โรงเรียน เฟสบุ๊คโรงเรียน เป็นต้น


40 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ขั้นตรวจสอบ (C: Check) 1. ประเมินทักษะการใช้สื่อ ICT เพื่อการเรียนรู้ของนักเรียน เช่น การจัดทำเอกสารโดยใช้เครื่อง คอมพิวเตอร์ การเข้าเรียนระบบออนไลน์ของนักเรียน การสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต 2. สังเกตุพฤติกรรมนักเรียนในการใช้เวลากับสื่อสังคมออนไลน์อย่างเหมาะสม 3. กำกับติดตาม สอบถาม สัมภาษณ์ การรู้เท่าภัยทางไซเบอร์และรู้วิธีหลีกเลี่ยง ป้องภัยที่อาจจะ เกิดขึ้น ส่งผลเสียต่อสุขภาพกาย และต่อทรัพย์ ขั้นนำผลไปใช้ (A:Act) 1.สรุปผลการพัฒนาทักษะการใช้สื่อ ICT เพื่อการเรียนรู้ของนักเรียน 2.นำผลการประเมินไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาในการจัดกิจกรรมครั้งถัดไป 3. รายงานผู้อำนวยการโรงเรียนทราบ ผลการดำเนินงาน 1.นักเรียนชั้น ป.1-ป.6 ร้อยละ 100 มีความรู้ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และ เครื่องมือสื่อสารเพื่อการเรียนรู้ 2. . นักเรียนชั้น ป.1-ป.6 ร้อยละ 100 ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาให้สามารถใช้เทคโนโลยี สารสนเทศในการประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ 3. นักเรียนชั้น ป.1-ป.6 ร้อยละ 100 มีความเท่าทันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและรู้จักวิธีป้องกัน ภัยทางไซเบอร์ 4. ครูผู้สอนร้อยละ 100 นำเทคโนโลยีสื่อสารมาใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนรู้แก่ผู้เรียน ปัญหา / อุปสรรค 1.เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียนต่อห้อง 2.เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าเนื่องจากเครื่องตกรุ่น อัพเดทโปรแกรมใหม่ๆไม่ได้ 3. โรงเรียนขาดแคลนงบประมาณในการซ่อมบำรุงห้องคอมพิวเตอร์ และขาดงบจัดซื้ออุปกรณ์ต่อพ่วง 4. นักเรียนบางคนไม่มีเครื่องมือและอุปกรณ์การสื่อสารทางออนไลน์(คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และ เครือข่ายอื่นเทอร์เน็ต) ใช้ศึกษาเรียนรู้เมื่ออยู่ที่บ้าน ข้อเสนอแนะ 1. ขอตั้งงบประมาณจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงเพิ่มเติม 2. ครูติดตาม ดูแลช่วยเหลือผู้เรียนให้เรียนรู้ด้านสื่อเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียม


41 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ภาพ การจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ ภาพ กิจกรรมเรียนรู้จากสื่อ DLTV ภาพ กิจกรรมการเรียนรู้แบบ Online


42 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs


43 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ภาพหน้าจอ เว็บไซต์โรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม https://khomphonthong.com/web2022/ ภาพหน้าจอ เฟสบุ๊คโรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม https://www.facebook.com/kompontong.kalasin


44 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs กิจกรรมส่งเสริมทักษะอาชีพ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ที่นักเรียนได้รับการพัฒนา C7: Career and Learning Skills(ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้) แนวทางการดำเนินงาน โรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยม ได้ศึกษาสภาพปัญหาด้านเศรษฐกิจ และสังคมในปัจจุบัน ที่สินค้ามี ราคาแพง ค่าครองชีพสูงขึ้น ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ปกครองและนักเรียน เนื่องจากอาชีพส่วนใหญ่ของ ผู้ปกครองนักเรียน เป็นอาชีพเกษตรกรรม มีปัญหาลงทุนสูงแต่ราคาผลผลิตตกต่ำทำให้มีรายได้น้อย นอกจากนี้ปัญหาด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมรอบตัวนักเรียนในปัจจุบัน ยังมีผลกระทบต่อวิถีชีวิต และการเรียน การสอนอย่างรุนแรง ดังนั้น การฝึกฝนให้เด็กนักเรียนมีทักษะอาชีพและนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาล 9 จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วย ให้นักเรียนรวมไปถึงผู้ปกครอง มีรายได้เสริม สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งในปัจจุบันและ อนาคต โรงเรียนคำโพนทองราษฎร์นิยมจึงได้จัดทำโครงการพัฒนานักเรียนมีทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ ภายใต้แนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีการดำเนินการดังนี้ ขั้นเตรียมการ (P : Plan) 1. เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ 2. แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน 3. ประชุม วางแผน กำหนดขอบข่ายงานการจัดการเรียนรู้ทักษะอาชีพ 4.ประชาสัมพันธ์กิจกรรมให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมตามความสนใจ ขั้นปฏิบัติ (D : Do) ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมทักษะอาชีพนักเรียน ดังนี้ 1.ตัดผมชาย“คำโพนทองบาเบอร์” นักเรียนได้เรียนรู้และปฏิบัติการเป็นช่างตัดผมและ สามารถตัดผมทรงนักเรียนให้กันและกันได้ เป็นความรู้ทักษะพื้นฐานในการตัดผมเพื่อนำไปพัฒนา ฝีมือเป็นช่างตัดผมต่อไป 2.กิจกรรมผลิตบล็อกปูพื้น นักเรียนได้เรียนรู้และได้ลงมือปฏิบัติในการผลิตบล็อกปูพื้น คอนกรีต พร้อมคิดราคาต้นคิดและตั้งราคาขาย+กำไร เพื่อนำทุนมาหมุนนเวียนในการผลิตและ จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง 3. ผลิตไม้กวาดทางมะพร้าว นักเรียนได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติการทำไม้กวาดใช้เองและ จำหน่าย โดยการนำวัสดุจากธรรมชาติในท้องถิ่นมาสร้างรายได้ 4. ผลิตภัณฑ์หน่อไม้ดอง นักเรียนได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติในการแปรรูปผลผลิตจากกอไผ่ที่ ปลูกในโรงเรียน มาแปลงเป็นสินค้าจนสามารถจำหน่ายได้ 5. ขายขยะรีไซเคิล นักเรียนได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติในการคัดแยกขยะ และนำขยะไป จำหน่ายสร้างรายได้แทนที่จะทิ้งหรือเผาทำลาย


45 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ขั้นตรวจสอบ (C: Check) 1. ติดตาม สำรวจจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม 2. ประเมินความสนของผู้เรียนในการเรียนรู้ทักษะอาชีพ 3. ตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของกิจกรรมฝึกทักษะอาชีพ 4. ประเมินผลการดำเนินงาน ขั้นนำผลไปใช้ (A:Act) 1. สรุปผลและนำผลการประเมินไปใช้เป็นแนวทางสนับสนุนส่งเสริมกิจกรรม 2. เสนอแนะแนวทางพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ทักษะอาชีพ 3. รายงานผลให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ ผลการดำเนินงาน 1) นักเรียนร้อยละ 90 ขึ้นไป วางแผนการทำงานและดำเนินการจนสำเร็จ 2) นักเรียนร้อยละ 90 ขึ้นไป ทำงานอย่างมีความสุข มุ่งมั่นพัฒนางาน และภูมิใจในผลงานของตนเอง 3) นักเรียนร้อยละ 90 ขึ้นไป ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ 4) นักเรียนร้อยละ 90 ขึ้นไป มีความรู้สึกที่ดีต่ออาชีพสุจริตและหาความรู้เกี่ยวกับอาชีพที่ตนเองสนใจ ปัญหา / อุปสรรค 1) ผลิตภัณฑ์ของนักเรียนบางคนไม่สามารถนำออกไปจำหน่าย 2) เงินทุนหมุนเวียนในการซื้อวัสดุอุปกรณ์มีไม่เพียงพอ ทำให้ขาดความต่อเนื่องในการผลิต ข้อเสนอแนะ ควรจัดหางบประมาณสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมฝึกทักษะอาชีพนักเรียนต่อเนื่องทุกปี ภาพ กิจกรรมผลิตบล็อกปูพื้นคอนกรีต


46 แบบรายงานผลการดา เนนิงาน 3Rs8Cs ภาพ กิจกรรมผลิตไม้กวาดทางมะพร้าว ภาพ กิจกรรมการผลิตหน่อไม้ดอง ภาพ กิจกรรมตัดผมชาย “คำโพนทองบาเบอร์”


Click to View FlipBook Version