SAR รร.บ้านห้วยยางดำ ปีการศึกษา 2565

๒.๕ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมี คุณภาพ ๒.๖ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการ เรียนรู้ ๑) ผลการประเมินตนเอง อยู่ในระดับคุณภาพ “ดีเลิศ” ๒) กระบวนการพัฒนา สถานศึกษามีการวางแผนปฏิบัติการ (Plan : P) กำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ พันธกิจ ไว้อย่างชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนตามความต้องการของชุมชน วัตถุประสงค์ของ แผนการจัดการศึกษาของชาติ นโยบายของรัฐบาลและต้นสังกัด ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของ สังคมพัฒนางานวิชาการเน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้าน ตามหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อผู้เรียนเกิด ทักษะการเรียนรู้ตามศตวรรษที่ ๒๑ ในลงมือปฏิบัติ (Do : D) ตามมาตรฐานที่ ๒ กระบวนการ บริหารและการจัดการได้มีการส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญ ตรงตามความต้องการ ให้เป็นชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) มาใช้ในการพัฒนางานและ การเรียนรู้ของผู้เรียน ผู้บริหารเข้ารับการอบรมพัฒนาศึกษาดูงานด้านหลักสูรและการบริหาร จัดการเป็นประจำส่งผลให้เป็นผู้ที่มีคุณธรรม จริยธรรม มีความมุ่งมั่น อุทิศตนในการทำงาน มี ความคิดริเริ่มและมีวิสัยทัศน์เป็นผู้นำทางวิชาการ มีผลงานเป็นที่พอใจของผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยสถานศึกษาได้มีโครงการนิเทศภายในเพื่อตรวจสอบ (Check : C) กระบวนการจัดการเรียน การสอนของครูผู้สอน เพื่อให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของบุคลากร (Action : A) อันนำไปสู่การพัฒนาผู้เรียนให้เต็มตามศักยภาพ ทำให้สถานศึกษามีการจัดสภาพแวดล้อมและ การบริการที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาครบทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ครูผู้สอนมีการออกแบบหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐานได้เหมาะสมกับความสามารถและความ ต้องการของนักเรียน และครูจัดกระบวนการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงจนสรุปความรู้ ได้ด้วยตนเอง ๓) หลักฐานเชิงประจักษ์ที่สนับสนุนผลการประเมิน วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล : แผนพัฒนาการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปี รายงาน การดำเนินงานของสถานศึกษาและรายบุคคล (SAR) หลักสูตรสถานศึกษา แผนการจัดการ เรียนรู้ การสัมภาษณ์ การสังเกตการปฏิบัติงานของบุคลากร การสังเกตพฤติกรรมของ บุคลากรและการทำงานเป็นทีม รายงานการจัดการเรียนการสอน บันทึกหลังแผนการจัดการ เรียนรู้

บุคลากรในโรงเรียนถือเป็นบุคคลที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการปฏิบัติงานของโรงเรียน ภายใต้การกำหนดค่าเป้าหมายและงานดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ วิธีการพัฒนาโรงเรียน ได้ดำเนินการวิเคราะห์สภาพปัจจุบันปัญหาผลการจัดการศึกษาที่ผ่านมา โดยการศึกษาข้อมูล สารสนเทศจากผลการนิเทศติดตามประเมินการจัดการศึกษาตามนโยบายการปฏิรูปการศึกษา กรอบนโยบายการจัดการศึกษาโรงเรียนได้จัดประชุมระดมความคิดจากบุคลากรใน สถานศึกษาเพื่อวางแผนร่วมกันกำหนดเป้าหมาย ปรับวิสัยทัศน์ กำหนดพันธกิจและให้ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาของหน่วยงานต้นสังกัดในการจัดก ารศึกษาของ สถานศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนมีการปรับแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาและแผนปฏิบัติ การประจำปีให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาความต้องการพัฒนาและนโยบายการปฏิรูป การศึกษา การจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี (Action Plan) พร้อมทั้งจัดหาทรัพยากรจัดสรร งบประมาณ มอบหมายงานให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการพัฒนาตามแผนงานทั้ง ๔ ฝ่าย เพื่อให้ บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาและแผนปฏิบัติการประจำปีผ่าน ความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้บริหารมีการนิเทศกำกับติดตามประเมินผล การดำเนินงานและสรุปผลการดำเนินงาน มีการดำเนินการพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียน รอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาทุกกลุ่มเป้าหมาย เชื่อมโยงกับชีวิตจริงจัดทำแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษาดำเนินงานพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางด้านวิชาชีพตาม ความต้องการของครูและสถานศึกษา เช่น การมอบหมายให้บุคลากรได้เข้าร่วมอบรมทั้งใน รูปแบบ Face to Face และ แบบ On-line เช่น การอบเกี่ยวกับความปลอดภัยในสถานศึกษา (Moe Seifty Center), การอบรมออนไลน์เกี่ยวกับการใช้โปรแกรม Canva เพื่อการศึกษา และ การสร้าง Google form และการอบรมเชิงปฏิบัติการที่ต้นสังกัดจัดขึ้น มีจัดสภาพแวดล้อมทาง กายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ (Learning environment) มีการจัดระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการเรียนรู้อย่างเหมาะสมคุณภาพ เช่น ระบบสารสนเทศ ห้องคอมพิวเตอร์ มีการประเมินผลตรวจสอบคุณภาพภายใน สถานศึกษาติดตามผลการดำเนินงาน และจัดทำรายงานผลการประเมินตนเองประจำปี อาทิ เช่น รายงานการประกันคุณภายในของสถานศึกษา SAR สถานศึกษาและรายบุคคล พร้อมทั้ง รายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาแก่สาธารณะชนและหน่วยงานต้นสังกัดอย่าง ต่อเนื่อง โดยโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ ได้ดำเนินโครงการพัฒนาบุคลากร ดังต่อไปนี้ ๑. โครงการสนับสนุนงานบริหารจัดสถานศึกษา ๒. โครงการพัฒนาระบบการเงินและบัญชี ๓. โครงการพัฒนาระบบการพัสดุและสินทรัพย์

๔. โครงการส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร ๔) จุดเด่น การบริหารงานของโรงเรียน ผู้บริหารได้ประยุกต์หลักการบริหารโดยใช้รูปแบบการ บริหารสู่ความยั่งยืน (SW.PK.-DALIS Model ) ร่วมกับกระบวนการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็น ฐาน (SBM) วงจรการบริหารงานคุณภาพ (PDCA) หลักธรรมาภิบาล (Good Governance) หลักการทำงานเป็นทีม (Team Work) เป็นกลยุทธ์ในการพัฒนาคุณภาพ มีการกำหนดทิศ ทางการทำงานที่ชัดเจน ครอบคลุมในเรื่องพันธกิจ วัตถุประสงค์และเป้าหมายทางการศึกษา ของโรงเรียน การพัฒนาโรงเรียนและบุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านบรรยากาศ และ สภาพแวดล้อมของโรงเรียน มีการบริหารและการจัดการอย่างเป็นระบบ (Systematic administration and management) โรงเรียนใช้เทคนิคที่หลากหลาย เช่น การประชุมก่อนการ ปฏิบัติงาน การทบทวนหลังการปฏิบัติงาน การประชุมเครือข่ายผู้ปกครอง การประชุม คณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการกำหนดเป้าหมาย กำกับติดตาม ประเมินผลการดำเนินงาน และรับทราบรายงานผลการจัดการศึกษา มีการนำเทคโนโลยี มีอุปกรณ์เทคโนโลยีที่เอื้อต่อ การจัดการเรียนการสอนในทุกห้องเรียน ๕) จุดที่ควรพัฒนา การสร้างเครือข่ายความร่วมมือการทำข้อตกลงการพัฒนา MOU กับหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานสาธารณสุขระดับชุมชน แนวทางในการพัฒนา ด้านวิชาการ ด้านบริหารจัดการที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนท้องถิ่น ส่งเสริม ความสัมพันธ์ของบุคลากรในเครือข่ายเพื่อความสะดวกในการดำเนินงาน การพัฒนาบุคลากรให้มี คุณภาพทั้งด้านการปฏิบัติงานและการปฏิบัติ การพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา สูมืออาชีพ (Smart Teacher) เพื่อให้ครูมีความรู้ความเข้าใจในเทคนิควิธีการ รูปแบบ กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการเรียนรู้ในศตวรรษ ที่ ๒๑ ควรมีการจัดการระบบ สารสนเทศที่เป็นระบบ เช่น มีเจ้าหน้าที่ประจำห้องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้นักเรียนได้ลงมือใช้งานและ เรียนรู้ เพื่อเกิดทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ สามารถคิดวิเคราะห์ คิดแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็น ระบบ

๖) แนวทางในการพัฒนาเพิ่มขึ้น อย่างน้อย ๑ (จากระดับคุณภาพ “ดีเลิศ” เป็น “ยอดเยี่ยม”) สถานศึกษามีการจัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาการจัดประสบการณ์ระดับการศึกษา ขึ้นพื้นฐาน โครงการจัดทำแผนปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องหรือมีการศึกษาดูงานในสถานศึกษา ต้นแบบ เพื่อนำมาปรับใช้ในการพัฒนา ปรับปรุง และแก้ไขคุณภาพของผู้เรียนและสถานศึกษา เช่น การส่งบุคลากรเข้าร่วมการพัฒนาด้านวิชาชีพทั้งแบบ Face to Face และแบบ Online และ มีการจัดทำรายงานการเข้าร่วมกิจกรรมและนำมาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม มีการต่อยอดใน โรงเรียนทั้งในระดับห้องเรียนและสถานศึกษา มีการรายงานกิจกรรมอย่างเป็นรูปธรรม มีการ พัฒนาบุคลากรในโรงเรียนอย่างต่อเนื่องและสามารถนำมาขยายผลลงสู่ระดับโรงเรียนได้ จัดทำผลการรายงานดำเนินของบุคลการในโรงเรียน ส่งเสริมให้ครูและบุคลากรได้พัฒนา วิชาชีพการทำวิทยฐานะในระดับต่าง ๆ เมื่อถึงเวลาการจัดทำแผนพัฒนาตนเองของครูและ บุคลากรทางการศึกษา (ID Plan) ครูสร้างชุมชนเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ทุกกลุ่มสาระการ เรียนรู้การสร้างชุนชนเรียนรู้ติดตามการอบรมพัฒนาครูและบุคลากร ด้วยการจัดกิจกรรม ส่งเสริมศักยภาพบุคลากรทางการศึกษา (Quality Teacher For Quality Education) เพื่อให้ครูมี ความรู้ความเข้าใจในเทคนิควิธีการ รูปแบบกระบวนการจัดการเรียนรู้ (Learning Method) ที่ สอดคล้องกับการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ ๒๑ อาทิเช่น การจัดการเรียนรู้แบบศูนย์การเรียน (Learning center), การจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดการสอน (Instructional Package), การจัดการ เรียนรู้โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI), การจัดการเรียนรู้ แบบโครงงาน (Project Method) และ การจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) เป็นต้น สรุปผลการประเมิน มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ข้อ ๑ การมีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน อยู่ในระดับ คุณภาพ ดีเลิศ ข้อ ๒ มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ ข้อ ๓ ดําเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตร สถานศึกษาและทุกกลุ่มเป้าหมาย อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ ข้อ ๔ พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ

ข้อ ๕ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ อย่างมีคุณภาพ อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ ข้อ ๖ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการ เรียนรู้ อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ๓.๑ จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตได้ ๓.๒ ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ๓.๓ มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ๓.๔ ตรวจสอบและประเมินผลผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน ๓.๕ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลป้อนกลับเพื่อปรับปรุงและพัฒนาการจัดการ เรียนรู้ ๑) ผลการประเมินตนเอง อยู่ในระดับคุณภาพ “ดีเลิศ” ๒) กระบวนการพัฒนา สถานศึกษาได้มีการสร้างความร่วมมือกับชุมชน กลุ่มตำบล และศูนย์เครือข่าย มีการ ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อกำหนดแนวทางในการจัดกระบวนการจัดการเรียนการ สอนมีการวางแผน (Plan : P) ร่วมกันกำหนดหลักสูตรสถานศึกษา จุดเน้น ครูผู้สอนมีการ ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ ออกแบบกิจกรรม การติดตาม การวัดผลประเมินผลที่เน้น ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Child-centered learning) โดยในการปฏิบัติ (Do : D) กิจกรรมจะมุ้งเน้น ให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ มี การใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ทั้งนี้ครูผู้สอนมีการบริหาร ชั้นเรียนเชิงบวก จัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน ทั้งในด้านของความสะอาด แสงสว่าง สิ่งรบกวนจากภายนอก เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างเต็มตามศักยภาพ ทั้งนี้ ครูผู้สอนยังได้มีการตรวจสอบ (Check : C) และประเมินผลผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมา พัฒนาผู้เรียน เพื่อนำไปสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลป้อนกลับเพื่อปรับปรุงและ พัฒนาการจัดการเรียนรู้ (Action : A) ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

๓) หลักฐานเชิงประจักษ์ที่สนับสนุนผลการประเมิน วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล : การสัมภาษณ์ การสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ตรวจ ใบงาน/ชิ้นงานนักเรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ทะเบียนการใช้อุปกรณ์การกีฬา ทะเบียน กิจกรรมการอ่านเสียงตามสาย วิธีการพัฒนาโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ ได้กำหนดเนื้อหาสาระการเรียนรู้ ครูผู้สอนทุก คนมีการกำหนดหลักสูตรสถานศึกษา ออกแบบการเรียนจัดการเรียนรู้ จัดทำแผนการจัดการ เรียนการสอน กิจกรรมที่สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดเป็นรายบุคคลอย่างเป็น รูปธรรมทั้งระบบ ซึ่งทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้มีการ บูรณาการสอดแทรกหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) เช่น กิจกรรมยุวเกษตร กิจกรรมลูกเสือ – เนตรนารี กิจกรรมนักวิทยาศาสตร์และการเรียนรู้จากสถานการณ์จริง (Authentic learning) กิจกรรม การอ่านเสียงตามสาย กิจกรรมเลี้ยงไก่ไข่ กิจกรรมกีฬาภายใน ฯลฯ โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียน เรียนรู้โดยผ่านกระบวนการคิดได้ปฏิบัติจริงด้วยวิธีการและแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะ เป็นสวนเกษตรของโรงเรียน ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ( Computer Laboratory) ห้องปฎิบัติการวิทยาศาสตร์ (Science Laboratory) เป็นต้น ครูมีการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียน เป็นสำคัญให้ผู้เรียนได้ลงมือทำตามการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning, Learning by doing โดยการกำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนอย่างชัดเจน มีการกำหนดค่าเป้าหมาย กำหนดวัตถุประสงค์ เขียนแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา ออกแบบการเรียนรู้และจัดการ เรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล สอนโดยใช้เทคโนโลยีและมีการพัฒนาตนเอง อย่างต่อเนื่อง มีการจัดการเรียนการสอน อย่างหลากหลาย เหมาะสมกับธรรมชาติและความ ต้องการของผู้เรียน กระตุ้นให้ผู้เรียนรู้จักคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ คิดแก้ปัญหาและ ตัดสินใจ โดยใช้กิจกรรม STEM, Scratch เป็นต้น มีการนำภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยีและสื่อ ที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน มีการจัดกิจกรรมเพื่อฝึกและส่งเสริม คุณธรรมจริยธรรมของผู้เรียน มีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนา สุนทรียภาพอย่างครบถ้วน ทั้งด้านดนตรี ศิลปะและกีฬา เช่น กิจกรรมวาดภาพทิวทัศน์ มีการ ส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย การทำงานร่วมกับผู้อื่น มีจิตรสาธารณะ อาทิ การพัฒนา ชุมชน การดูแลสิ่งแวดล้อมในชุมชน เก็บขยะปรับภูมิทัศน์ และความรับผิดชอบต่อกลุ่มร่วมกัน มีการทำกิจกรรมกลุ่มทั้งในชั้นเรียนและนอกชั้นเรียน มีการประเมินพัฒนาการของผู้เรียนด้วย วิธีการที่หลากหลายและต่อเนื่อง ด้านบรรยากาศห้องเรียน ครูผู้สอนมีการจัดการชั้นเรียนเชิงบวก โดยให้ความสำคัญ กับสภาพแวดล้อมในชั้นเรียน โดยให้มีความกว้างพอเหมาะห้องเรียนมีบรรยากาศดี มีมุม

ส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้และมุมจัดแสดงผลงาน มีการจัดห้องเรียนให้เป็นระเบียบ สะอาด น่าอยู่ น่าเรียน นอกจากนี้แล้วครูผู้สอนยังมีการประเมินผู้เรียนที่หลากหลาย เช่น การ สังเกต การสอบถาม การสำรวจ การวิเคราะห์ผลการเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อนำผลการ ประเมินไปพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนและพัฒนาการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาคุณภาพ นักเรียนต่อไป โรงเรียนมีการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาและอัตลักษณ์ที่ สถานศึกษากำหนด มีการจัดทำแผนการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับมาตรฐานตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีการประเมินผล ตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศึกษา การ สร้างชุมชนทางวิชาชีพ (PLC) ติดตามผลการดำเนินงานและจัดทำรายงานผลการประเมิน ตนเองประจำปี มีการนำผลการประเมินไปปรับปรุงพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โดยทุกฝ่ายมี ส่วนร่วมพร้อมทั้งรายงานผลการประเมินตนเองให้หน่วยงานต้นสังกัดอย่างต่อเนื่อง ด้านการประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำมาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยโรงเรียน บ้านห้วยยางดำ ได้กำหนดให้บุคลากรได้ติดตาม นิเทศ และประเมินผู้เรียนตามสภาพจริงโดย ใช้วิธีการที่หลากหลาย เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ การตรวจใบงาน แบบฝึกหัด การสังเกต พฤติกรรมในชั้นเรียน มีการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัยของ นักเรียน และจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ใช้เสื่อการสอนทั้งภายนอกและภายในโรงเรียน และ มีรูปแบบที่เหมาะสมในการพัฒนานักเรียน เพื่อให้คุณภาพผู้เรียนเป็นไปตามมาตรฐานที่ กระทรวงศึกษาธิการกำหนด ซึ่งทางโรงเรียนได้ดำเนินโครงการดังต่อไปนี้ ๑. โครงการวันสำคัญส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ ๒. โครงการสร้างทักษะชีวิตด้วยปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้กับนักเรียนโรงเรียน บ้านห้วยยางดำ ๓. โครงการเสริมสร้างพัฒนาการด้านร่างกาย (แข่งขันกีฬาภายใน) ๔. โครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ๕. โครงการปรับภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน ๖. โครงการนำนักเรียนไปทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ ๗. โครงการเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ เนตรนารี ๘. โครงการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ๙. โครงการส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน ๔) จุดเด่น สถานศึกษาได้จัดรูปแบบการเรียนการสอนที่หลากหลาย ทั้งในรูปแบบ On-site, Online และOn-hand เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการ

เรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนมีความสุขกับการเรียนรู้ สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่แบบออนไลน์ ครูมี ความรู้ความสามารถ ทำให้เกิดการพัฒนาตนเองตามคำแนะนำของครูนิเทศ ส่งผลให้เกิดการ เรียนรู้ที่มีคุณภาพและทำให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามผลการเรียนรู้ที่แต่ละรายวิชา กำหนดไว้ ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถ เป็นผู้ใฝ่เรียน มีการรายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและให้ ข้อมูลเพื่อสะท้อนและพัฒนานักเรียน นักเรียนมีร่างกายเติบโตตามวัย มีน้ำหนักส่วนสูงตาม เกณฑ์ มีทักษะการเคลื่อนไหวตามวัย สามารถดูแลสุขภาพและหลีกเลี่ยงต่อสภาวะที่เสี่ยงต่อ อุบัติเหตุ ภัย และสิ่งเสพติด มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่พึงประสงค์ มีจิตสำนึกในการ อนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข มีอารมณ์แจ่มใส ร่าเริง สนุกสนาน ร่วมกิจกรรมอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข มีสติปัญญาเรียนรู้ได้ตามกิจกรรม ประจำวันอย่างดี มีความสามารถในการเรียนรู้ ๕) จุดที่ควรพัฒนา สถานศึกษาควรจัดโครงการหรือกิจกรรมที่หลากหลายตรงกับความต้องการของ ผู้เรียนและมีความต่อเนื่อง มีการจัดกิจกรรมที่ผู้เรียนสามารถนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง พัฒนาครูทุกคนและกำกับติดตามให้ครูจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ อย่างแท้จริง เนื่องจากเป็นแนวทางสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายของการจัดการเรียนการ สอนควรจัดกิจกรรมที่เน้นการคิด วิเคราะห์นำสู่การปฏิบัติจริง ครูทุกคนควรจัดการกิจกรรม การเรียนรู้รูปแบบบูรณาการการเรียนรู้ (A model of Integration) มีการพัฒนาการจัดการเรียน การสอน และสะท้อนการจัดการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ใน การพัฒนางานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ควรนำภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัด กิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้ และการให้ข้อมูลย้อนกลับแก่นักเรียนทันทีเพื่อนักเรียนนำไปใช้ พัฒนาตนเอง ๖) แนวทางในการพัฒนาเพิ่มขึ้น อย่างน้อย ๑ (จากระดับคุณภาพ “ดีเลิศ” เป็น “ยอดเยี่ยม”) สถานศึกษาควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Child Center Learning) เพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจของนักเรียน โดยครูควรเพิ่ม รูปแบบวิธีการสอนที่หลากหลาย เช่น การสอนแบบโครงการ (Project Approach), การจัดการ เรียนการสอนแบบสืบค้น (Inquiry Instruction, การเรียนแบบร่วมมือ (Cooperative/Collaborative Learning) เป็นต้น สร้างศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น และจัด กิจกรรมเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพเครือข่ายร่วมกับชุมชนและเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อ

สร้างความแข็งแรงอย่างยั่งยืน พัฒนาความรู้และส่งเสริมให้เกิดความแข็งแรง พัฒนากิจกรรม ของนักเรียนเป็นรูปธรรม นักเรียนสามารถเข้าถึงแหล่งเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียน ผลจากการพัฒนาตามมาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียน เป็นสำคัญอยู่ในระดับ ดีเลิศ จำเป็นต้องยกระดับให้สูงขึ้น โรงเรียนวางแผนปรับปรุง เปลี่ยนแปลงกิจกรรมให้มีความเหมาะสม และจัดกิจกรรมตามโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อ ยกระดับมาตรฐานที่ ๓ ให้สูงขึ้น โดยจะดำเนินกิจกรรม/โครงการ ดังนี้ ๑) โครงการพัฒนาจุดเน้นเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ๒) โครงการพัฒนาบุคลากร ๓) โครงการสร้างทักษะชีวิตด้วยปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้กับนักเรียน ๔) โครงการพัฒนาปรับปรุงระบบเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน ๕) กิจกรรมศึกษาดูงาน/ทัศนศึกษา จากแหล่งการเรียนรู้ทั้งในและนอกชุมชน สรุปผลการประเมิน มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็น สำคัญ ข้อ ๑ จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนําไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ ข้อ ๒ ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ อยู่ในระดับ คุณภาพ ดีเลิศ ข้อ ๓ มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ ข้อ ๔ ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนําผลมาพัฒนาผู้เรียน อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ ข้อ ๕ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการ จัดการเรียนรู้ อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ

๓. สรุปผลการประเมินตามมาตรฐานการศึกษาเพื่อการประกันคุณภาพภายในของ สถานศึกษา “ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน” โรงเรียนบ้านห้วยยางดำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ มาตรฐานการศึกษา ระดับ คุณภาพ หลักฐาน/ผลงานเชิง ประจักษ์ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ๑) มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคํานวณ ๒) มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิด อย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความ คิดเห็น และแก้ปัญหา ๓) มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ๔) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร ๕) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตร สถานศึกษา ๖) มีความรู้ ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดี ต่องานอาชีพ ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ๑) การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่ สถานศึกษากําหนด ๒) ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย ๓) การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความ แตกต่างและหลากหลาย ๔) สุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคม ดีเลิศ - แผนการจัดจัดการ เรียนรู้ - แบบบันทึกหลังการ สอน - ภาพกิจกรรม - ชิ้นงาน-ภาระงาน นักเรียน - บันทึกการชั่ง น้ำหนักวัดส่วนสูง - บันทึกพัฒนาการ - บันทึกกิจกรรมการอ่าน เสียงตามสาย - รายงานผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน

มาตรฐานการศึกษา ระดับ คุณภาพ หลักฐาน/ผลงานเชิง ประจักษ์ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการ จัดการ ๒.๑ มีเป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่ สถานศึกษากําหนดชัดเจน ๒.๒ มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของ สถานศึกษา ๒.๓ ดําเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพ ผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและทุก กลุ่มเป้าหมาย ๒.๔ พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความ เชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ๒.๕ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคม ที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ ๒.๖ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อ สนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ ดีเลิศ - แผนปฏิบัติการประจำปี - หลักสูตรการศึกษาขั้น พื้นฐาน - รายงานผลการเข้าร่วม อบรมพัฒนาของครูและ บุคลากร - โครงการส่งเสริมและ พ ั ฒ น า ก า ร จั ด ป ร ะ ส บ ก า ร ณ ์ ร ะ ดั บ การศึกษาขั้นพื้นฐาน - แ ผ น ก า ร จั ด ป ร ะ ส บ ก า ร ณ ์ ท ี่ สอดคล้องกับมาตรฐาน ตามหลักสูต - รายงานผลการประเมิน ตนเองประจำปี (SAR) มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการ สอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ ๓.๑ จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและ ปฏิบัติจริง และสามารถนําไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ ๓.๒ ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่ง เรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ๓.๓ มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ๓.๔ ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็น ระบบ และนําผลมาพัฒนาผู้เรียน ๓.๕ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูล สะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการ เรียนรู้ ดีเลิศ - แผนการจัดการเรียนรู้ - ภาพกิจกรรม - การใช้เทคโนโลยีในการ จัดประสบการณ์ - ใบงาน-ชิ้นงานนักเรียน

๔. ผลการจัดการศึกษาตามหลักสูตรสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๔.๑ ผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน ระดับสถานศึกษา ๑) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา วิชา จำนวนนักเรียนที่ได้เกรด ๓ ขึ้นไป รวม ร้อยละ ป๑ ป๒ ป๓ ป๔ ป๕ ป.๖ ภาษาไทย ๒ ๘ ๗ ๑๖ ๑๐ ๖ ๔๙ ๗๖.๕๖ คณิตศาสตร์ ๔ ๘ ๘ ๑๔ ๙ ๔ ๔๗ ๗๓.๔๔ วิทยาศาสตร์ ๕ ๘ ๖ ๑๒ ๙ ๔ ๔๔ ๖๘.๗๕ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๖ ๘ ๘ ๑๖ ๑๐ ๘ ๕๖ ๘๗.๕๐ ประวัติศาสตร์ ๑ ๘ ๘ ๑๖ ๑๐ ๘ ๕๑ ๗๙.๖๙ สุขศึกษาและพลศึกษา ๙ ๑๐ ๘ ๑๖ ๑๐ ๘ ๖๑ ๙๕.๓๑ ศิลปะ ๖ ๑๑ ๘ ๑๖ ๑๐ ๖ ๕๗ ๘๙.๐๖ การงานอาชีพและ เทคโนโลยี ๙ ๑๑ ๘ ๑๖ ๑๐ ๖ ๖๐ ๙๓.๗๕ ภาษาอังกฤษ ๑ ๘ ๘ ๑๕ ๑๐ ๖ ๔๘ ๗๕.๐๐ ๒) ร้อยละของนักเรียนที่มีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน รายการ จำนวนนักเรียนที่ได้ระดับผ่านขึ้นไป (คน) รวม ร้อยละ ป๑ ป๒ ป๓ ป๔ ป๕ ป.๖ การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ๙ ๑๒ ๘ ๑๖ ๑๐ ๙ ๖๔ ๑๐๐.๐๐

๓) ร้อยละของนักเรียนที่มีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รายการ จำนวนนักเรียนที่ได้ระดับผ่านขึ้นไป (คน) รวม ร้อยละ ป๑ ป๒ ป๓ ป๔ ป๕ ป.๖ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๙ ๑๒ ๘ ๑๖ ๑๐ ๙ ๖๔ ๑๐๐.๐๐ ซื่อสัตย์สุจริต ๙ ๑๒ ๘ ๑๖ ๑๐ ๙ ๖๔ ๑๐๐.๐๐ มีวินัย ๙ ๑๒ ๘ ๑๖ ๑๐ ๙ ๖๔ ๑๐๐.๐๐ ใฝ่เรียนรู้ ๙ ๑๒ ๘ ๑๖ ๑๐ ๙ ๖๔ ๑๐๐.๐๐ อยู่อย่างพอเพียง ๙ ๑๒ ๘ ๑๖ ๑๐ ๙ ๖๔ ๑๐๐.๐๐ มุ่งมั่นในการทำงาน ๙ ๑๒ ๘ ๑๖ ๑๐ ๙ ๖๔ ๑๐๐.๐๐ รักความเป็นไทย ๙ ๑๒ ๘ ๑๖ ๑๐ ๙ ๖๔ ๑๐๐.๐๐ มีจิตสาธารณะ ๙ ๑๒ ๘ ๑๖ ๑๐ ๙ ๖๔ ๑๐๐.๐๐ ๓) ร้อยละของนักเรียนที่มีผลการประเมินสมรรถนะผู้เรียน รายการ จำนวนนักเรียนที่ได้ระดับผ่านขึ้นไป (คน) รวม ร้อยละ ป๑ ป๒ ป๓ ป๔ ป๕ ป.๖ ความสามารถใน ก า ร สื่อสาร ๙ ๑๒ ๘ ๑๖ ๑๐ ๙ ๖๔ ๑๐๐.๐๐ ความสามารถในการคิด ๙ ๑๒ ๘ ๑๖ ๑๐ ๙ ๖๔ ๑๐๐.๐๐ ความสามารถใน ก า ร แก้ปัญหา ๙ ๑๒ ๘ ๑๖ ๑๐ ๙ ๖๔ ๑๐๐.๐๐ ความสามารถในการใช้ ทักษะชีวิต ๙ ๑๒ ๘ ๑๖ ๑๐ ๙ ๖๔ ๑๐๐.๐๐ ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี ๙ ๑๒ ๘ ๑๖ ๑๐ ๙ ๖๔ ๑๐๐.๐๐

๔.๒ ผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน ระดับชาติ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ๔.๒.๑) ผลการทดสอบความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test : RT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ความสามารถ คะแนนเฉลี่ยร้อยละ ระดับสถานศึกษา คะแนนเฉลี่ยร้อยละ ระดับเขตพื้นที่ คะแนนเฉลี่ยร้อยละ ระดับประเทศ ด้านการอ่านออกเสียง ๖๕.๕๕ ๗๗.๐๗ ๗๗.๓๘ ด้านการอ่านรู้เรื่อง ๘๘.๐๐ ๗๘.๗๙ ๗๗.๑๙ คะแนนเฉลี่ย ๗๖.๗๗ ๗๗.๙๓ ๗๗.๒๘ ๔.๒.๒ ผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน (NT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๑) ตารางแสดงผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน (NT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำแนกรายด้านและภาพรวมของสถานศึกษา ความสามารถ คะแนนเฉลี่ยร้อยละ ระดับสถานศึกษา คะแนนเฉลี่ยร้อยละ ระดับเขตพื้นที่ การศึกษา คะแนนเฉลี่ยร้อยละ ระดับประเทศ ด้านคณิตศาสตร์ (Mathematics) ๒๔.๐๐ ๔๘.๔๙ ๔๙.๑๒ ด้านภาษาไทย (Thai Language) ๔๗.๑๔ ๕๔.๓๖ ๕๕.๘๖ รวมความสามารถทั้ง ๒ ด้าน ๓๕.๕๗ ๕๑.๔๓ ๕๒.๕๐ ๒) ตารางเปรียบเทียบคะแนนภาพรวมผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน (NT) และ ค่าร้อยละของผลต่างระหว่างปีการศึกษา ๒๕๖๔ และปีการศึกษา ๒๕๖๕ ความสามารถ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ร้อยละของผลต่าง ระหว่างปีการศึกษา ด้านคณิตศาสตร์ (Mathematics) ๖๒.๖๒ ๒๔.๐๐ - ๓๘.๖๒ ด้านภาษาไทย (Thai Language) ๖๕.๑๕ ๔๗.๑๔ - ๑๘.๐๑ รวมความสามารถทั้ง ๒ ด้าน ๖๓.๘๙ ๓๕.๕๗ - ๒๘.๓๒

๔.๒.๓ ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ๑) ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O - NET) ประจำปี การศึกษา ๒๕๖๕ คะแนนเฉลี่ยระดับ/ รายวิชา ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ คะแนนเฉลี่ยของโรงเรียน ๕๗.๔๐ ๓๗.๙๕ ๕๖.๖๐ ๓๖.๘๘ คะแนนเฉลี่ยระดับเขตพื้นที่ ๔๗.๓๐ ๓๔.๒๑ ๓๒.๘๙ ๓๒.๗๗ คะแนนเฉลี่ยระดับจังหวัด ๕๑.๑๗ ๒๕.๑๕ ๓๖.๖๘ ๓๒.๐๘ คะแนนเฉลี่ยระดับ สพฐ. ๕๒.๘๐ ๒๖.๕๒ ๓๗.๗๑ ๓๓.๕๗ คะแนนเฉลี่ยระดับประเทศ ๕๓.๘๙ ๒๘.๐๐ ๓๙.๓๔ ๓๗.๖๒ ๒) การเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O - NET) ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔ และปีการศึกษา ๒๕๖๕ รายวิชา/ปีการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ผลต่าง ภาษาไทย ๔๒.๒๕ ๕๗.๔๐ + ๑๕.๑๕ คณิตศาสตร์ ๒๙.๔๑ ๓๗.๙๕ + ๘.๕๔ วิทยาศาสตร์ ๓๓.๒๑ ๕๖.๖๐ + ๒๓.๓๙ ภาษาอังกฤษ ๔๗.๓๒ ๓๖.๘๘ - ๑๐.๔๔ รวมเฉลี่ย ๓๘.๐๕ ๔๗.๒๑ + ๙.๑๖

ตอนที่ ๔ สรุปผลการพัฒนาและการนำไปใช้ ๑. สรุปผลการดำเนินงานในภาพรวม ผลการดำเนินงานในภาพรวม โรงเรียนบ้านห้วยยางดำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๒ มีการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการของสถานศึกษา โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น เขตพื้นที่การศึกษา ศูนย์เครือข่าย กลุ่มตำบล ชุมชน ผู้ปกครอง ผู้บริหาร และคณะครู ในการสนับสนุนและกระบวนการจัดการเรียนการสอน มีการร่วมกันออกแบบ หลักสูตรสถานศึกษา ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ ออกแบบกิจกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็น ศูนย์กลาง เน้นการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning เสริมสร้างทักษะอาชีพ โดยน้อม นำหลักปรัชญาของหลักเศรษฐกิจพอเพียง เสริมสร้างกระบวนการคิด การรับฟังความคิดเห็น และการแสดงออกอย่างเหมาะสมให้กับนักเรียน เพื่อสนับสนุนให้ผู้เรียนเกิดทักษะการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ ๒๑ เกิดการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ซึ่งใน กระบวนการจัดการเรียนการสอนครูผู้สอนได้มีการจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ทั้งด้านของ สภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน การจัดโต๊ะเรียน ความสะอาดในชั้นเรียน มุมความรู้ สื่อการเรียนรู้ และนวัตกรรมที่ทันสมัย โดยนำความรู้ด้าน เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปรับใช้ในชั้นเรียน เช่น Youtube, Picker, Power point, บทเรียนสำเร็จรูป (CAI) เป็นต้น ทั้งนี้กระบวนการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอนได้รับการนิเทศติดตามจาก ผู้บริหาร คณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อสะท้อนผลและปรับปรุงคุณภาพของครูผู้สอน โดย อาศัยกระบวนการสร้างชุมชนทางวิชาชีพ PLC เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่างเต็ม ตามศักยภาพ ส่งผลให้ ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (RT) ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๑ ด้านการอ่านออกเสียง คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ ๖๕.๕๕ ต่ำกว่า ระดับประเทศ ด้านการอ่านรู้เรื่อง คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ ๘๘.๐๐ สูงกว่าระดับประเทศ และรวมทั้ง ๒ ด้าน คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ ๗๖.๗๗ ซึ่งต่ำกว่าระดับเขตพื้นที่และ ระดับประเทศ, ผลการสอบวัดความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ (NT) ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๓ ด้านภาษาไทย คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ ๒๔.๐๐ ต่ำกว่าระดับประเทศ ด้านคณิตศาสตร์คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ ๔๗.๑๗ ต่ำกว่าระดับประเทศ และรวมทั้ง ๒ ด้าน คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ ๓๕.๕๗ ซึ่งต่ำกว่าระดับประเทศ, ผลการทดสอบทาง การศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ วิชาภาษาไทย คะแนน

เฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ ๕๗.๔๐ สูงกว่าระดับประเทศ, วิชาคณิตศาสตร์ คะแนนเฉลี่ยคิดเป็น ร้อยละ ๓๗.๙๕ สูงว่าระดับประเทศ, วิชาวิทยาศาสตร์ คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ ๕๖.๖๐ สูงกว่าระดับประเทศ และวิชาภาษาอังกฤษ คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ ๓๖.๘๘ สูงกว่าระดับ เขตพื้นที่ โครงการ/กิจกรรมที่ประสบผลสำเร็จ ชื่อโครงการ/กิจกรรม ปัจจัยสนับสนุน ๑. โครงการปลูกฝังนิสัย รักการอ่านในโรงเรียน ผู้เรียนได้รับการดูแลเอาใส่ใจจากคณะครูและผู้บริหาร สถานศึกษามีทรัพยากรที่น่าสนใจสำหรับผู้เรียน เช่น หนังสือ นิทาน หนังสือสถานที่สำคัญ หนังสือการ์ตูนคุณธรรม หนังสือ เสริมทักษะการคิด หนังสือสารคดี เป็นต้น จึงส่งผลให้ผู้เรียน เกิดความสนใจและเกิดการอ่านหนังสือจนเป็นนิสัย ๒. สร้างทักษะชีวิตด้วย ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงให้กับนักเรียน โรงเรียนบ้านห้วยยางดำ สถานศึกษามีพื้นที่ในการสนับสนุนการสร้างทักษะอาชีพ ให้กับผู้เรียน มีชุมนุมยุวเกษตรสำหรับผู้เรียน นำผู้เรียนลง ปฏิบัติด้วยตนเองโดยอาศัยกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การทำ นาข้าว การเลี้ยงไก่ไข่ การปลูกมะนาว การปลูกพืชผักสวนครัว เป็นต้น ๓ .โ ค ร ง ก า ร ป ร ะ กั น ค ุ ณ ภ า พภ า ยใ น ข อ ง สถานศึกษา คณะครู บริหาร ชุมชน ผู้ปกครองและนักเรียนให้ความ ร่วมมือกับการดำเนินการประกันภายในของสถานศึกษา ทั้งใน ด้านการรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์คุณภาพการศึกษา ๔. โครงการนิเทศภายใน โรงเรียน ผู้บริหารและคณะกรรมการศึกษา มีการนิเทศ ติดตาม ผลการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอน มีการสะท้อนผล เพื่อ นำไปสู่การปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนการสอนของ ครูผู้สอน ส่งผลให้เกิดการพัฒนากระบวนการเรียนการสอน อย่างมีประสิทธิภาพ ๕. โครงการพัฒนาระบบ ดูแลช่วยเหลือนักเรียน คณะครูรู้จักนักเรียนรายบุคคล มีการเก็บข้อมูล สารสนเทศ รับรู้ปัญหาของนักเรียน มีการช่วยเหลือและ แก้ปัญหาให้กับผู้เรียนตามความต้องการ

ชื่อโครงการ/กิจกรรม ปัจจัยสนับสนุน ๖. โครงการปรับปรุงภูมิ ทัศน์และสิ่งแวดล้อมใน โรงเรียน สถานศึกษามีการดำเนินโครงการ โดยการปรับปรุง สร้างลานกิจกรรม BBL สร้างรั้วห้องอนุบาล รั้วสวนเกษตร ซึ่ง ได้รับความร่วมมือจากคณะครูและผู้บริหาร ที่ได้ดำเนินงาน ร่วมกัน เพื่อให้สภาพแวดล้อมในโรงเรียนเหมาะสมและเอื้อต่อ การเรียนรู้และความปลอดภัยของผู้เรียน ๗. เสริมสร้างเครือข่าย ความร่วมมือระหว่าง โรงเรียนกับชุมชน สถานศึกษาและชุมชนมีการดำเนินกิจกรรมต่างร่วมกัน โดยสถานศึกษาได้รับความร่วมมือจากชุมชน เช่น การปรับปรุง สภาพแวดล้อมในโรงเรียน ทั้งนี้สถานศึกษาได้มีการนำคณะครู และนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญกับทางชุมชน เช่น กิจกรรม วันเข้าพรรษา ร่วมกิจกรรมทางศาสนพิธีต่างๆ เป็นต้น ๘. โครงการเสริมสร้าง พัฒนาการด้านร่างกาย (แข่งขันกีฬาภายใน) สถานศึกษามีการนำนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา ภายใน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักการมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เสริมสร้างสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงให้กับผู้เรียน ๙. โครงการยกระดับ ผลสัมฤทธิ์การทดสอบ ทางการศึกษาระดับชาติ ขั้นพื้นฐาน (O-Net ป.6 และ NT ป.3) การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนอย่างมีคุณภาพ การ จัดการเรียนที่เน้นการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เกิดกระบวนการคิด วิเคราะห์ เน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและวางแผนการ แก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ๒. จุดเด่นและจุดที่ควรพัฒนา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑) มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน จุดเด่น นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖ เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึง ประสงค์ มีสุขนิสัยสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีจิตสาธารณะ มีสุนทรียภาพและลักษณะ นิสัยด้านศิลปะ มีทักษะในการทำงาน สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้และมีเจคติที่ดีต่ออาชีพ สุจริตและมีทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง รักการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองอย่าง ต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาความสามารถในด้านการอ่าน เขียน การสื่อสารภาษาไทยของผู้เรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖

จุดที่ควรพัฒนา นักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖ ควรได้รับการส่งเสริมและพัฒนาใน ด้านของคุณธรรม จริยธรรม มารยาทในการอยู่ร่วมกันในสังคม โดยโรงเรียนได้มีการกำหนด เป้าหมาย แนวทาง นโยบายและแผนพัฒนาทักษะการใช้ชีวิต กระบวนการคิดอย่างมี วิจารณญาณ และความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น รวมไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ แนวทางการพัฒนา สถานศึกษาและครูผู้สอนควรมีการออกแบบกิจกรรม ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ ที่เน้นให้ผู้เรียนรวบรวมความรู้ได้ทั้งด้วยตนเอง มีกระบวนการทำงานเป็นทีมเชื่อมโยงองค์ ความรู้และประสบการณ์มาใช้ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เช่น การกำหนดปัญหาโดยการทำ กิจกรรม เพื่อให้ผู้เรียนแก้ปัญหาร่วมกัน ใช้กิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ร่วมกับกระบวนการต่างๆ เช่น STEM ศึกษา การเรียนรู้แบบ BBL) พัฒนาให้นักเรียน มีความสามารถในการสร้าง นวัตกรรมมีการนำไปใช้และเผยแพร่ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อพัฒนาตนเอง และสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน อย่างสร้างสรรค์ และมีคุณธรรม โดยการ ใช้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง จัดครูเข้าสอนอย่างเป็นระบบ ๒) มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ จุดเด่น การบริหารงานของโรงเรียน ผู้บริหารได้ประยุกต์หลักการบริหารโดยใช้รูปแบบการ บริหารสู่ความยั่งยืน (SW.PK.-DALIS Model ) ร่วมกับวงจรการบริหารงานคุณภาพ (PDCA) หลักธรรมาภิบาล (Good Governance) หลักการทำงานเป็นทีม (Team Work) เป็นกลยุทธ์ใน การพัฒนาคุณภาพ มีการกำหนดทิศทางการทำงานที่ชัดเจน ครอบคลุมในเรื่องพันธกิจ วัตถุประสงค์และเป้าหมายทางการศึกษาของโรงเรียน การพัฒนาโรงเรียนและบุคลากร มีการ บริหารและการจัดการอย่างเป็นระบบ (Systematic administration and management) โรงเรียน ใช้เทคนิคที่หลากหลาย เช่น การประชุมก่อนการปฏิบัติงาน การทบทวนหลังการปฏิบัติงาน การประชุมเครือข่ายผู้ปกครอง การประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง มีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา

จุดที่ควรพัฒนา ควรมีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือการทำข้อตกลงการพัฒนา MOU กับ หน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานสาธารณสุขระดับชุมชน แนวทาง ในการพัฒนาด้านวิชาการ ด้านบริหารจัดการที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนท้องถิ่น ส่งเสริมความสัมพันธ์ของบุคลากรในเครือข่ายเพื่อความสะดวกในการดำเนินงาน การพัฒนาบุคลากร ให้มีคุณภาพทั้งด้านการปฏิบัติงานและการปฏิบัติ การพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการ ศึกษาสูมืออาชีพ (Smart Teacher) เพื่อให้ครูมีความรู้ความเข้าใจในเทคนิควิธีการ รูปแบบ กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการเรียนรู้ในศตวรรษ ที่ ๒๑ ควรมีการจัดการระบบ สารสนเทศที่เป็นระบบ เช่น มีเจ้าหน้าที่ประจำห้องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้นักเรียนได้ลงมือใช้งานและ เรียนรู้ เพื่อเกิดทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ สามารถคิดวิเคราะห์ คิดแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็น ระบบ แนวทางการพัฒนา สถานศึกษามีการจัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาการจัดประสบการณ์ระดับ การศึกษาขึ้นพื้นฐาน โครงการจัดทำแผนปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องหรือมีการศึกษาดูงานใน สถานศึกษาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับใช้ในการพัฒนา ปรับปรุง และแก้ไขคุณภาพของผู้เรียนและ สถานศึกษา เช่น การส่งบุคลากรเข้าร่วมการพัฒนาด้านวิชาชีพทั้งแบบ Face to Face และแบบ Online มีการต่อยอดในโรงเรียนทั้งในระดับห้องเรียนและสถานศึกษา มีการพัฒนาบุคลากรใน โรงเรียนอย่างต่อเนื่องและสามารถนำมาขยายผลลงสู่ระดับโรงเรียนได้ ส่งเสริมให้ครูและ บุคลากรได้พัฒนาวิชาชีพการทำวิทยฐานะในระดับต่างๆ ครูสร้างชุมชนเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้การสร้างชุนชนเรียนรู้ติดตามการอบรมพัฒนาครูและบุคลากร ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพบุคลากรทางการศึกษา (Quality Teacher For Quality Education) เพื่อให้ครูมีความรู้ความเข้าใจในเทคนิควิธีการ รูปแบบกระบวนการจัดการเรียนรู้ (Learning Method) ที่สอดคล้องกับการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ ๒๑ ๓) มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จุดเด่น สถานศึกษาได้จัดรูปแบบการเรียนการสอนที่หลากหลาย เพื่อให้การจัดการเรียน การสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนมีความสุขกับการ เรียนรู้ สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่แบบออนไลน์ ครูผู้สอนสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มี คุณภาพและทำให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามผลการเรียนรู้ที่แต่ละรายวิชา โดยมีการออกแบบ

กิจกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง ( Active Learning) ส่งผลให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่พึงประสงค์ มี จิตสำนึกในการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข มีอารมณ์ แจ่มใส ร่าเริง สนุกสนาน ร่วมกิจกรรมอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข มีสติปัญญาเรียนรู้ได้ตาม กิจกรรมประจำวันอย่างดี มีความสามารถในการเรียนรู้ จุดที่ควรพัฒนา สถานศึกษาควรจัดโครงการหรือกิจกรรมที่หลากหลายตรงกับความต้องการของ ผู้เรียนและมีความต่อเนื่อง มีการจัดกิจกรรมที่ผู้เรียนสามารถนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง พัฒนาครูทุกคนและกำกับติดตามให้ครูจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ อย่างแท้จริง เนื่องจากเป็นแนวทางสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายของการจัดการเรียนการ สอนควรจัดกิจกรรมที่เน้นการคิด วิเคราะห์นำสู่การปฏิบัติจริง ครูทุกคนควรจัดการกิจกรรม การเรียนรู้รูปแบบบูรณาการการเรียนรู้ (A model of Integration) มีการพัฒนาการจัดการเรียน การสอน และสะท้อนการจัดการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ใน การพัฒนางานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ควรนำภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัด กิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้ และการให้ข้อมูลย้อนกลับแก่นักเรียนทันทีเพื่อนักเรียนนำไปใช้ พัฒนาตนเอง แนวทางการพัฒนา สถานศึกษาควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Child Center Learning)เพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจของนักเรียน โดยครู ควรเพิ่มรูปแบบวิธีการสอนที่หลากหลาย เช่น การสอนแบบโครงการ (Project Approach), การ จ ั ดก า รเ รี ยนก า รสอ นแ บ บ สืบ ค ้ น ( Inquiry Instruction, ก า รเ รี ยนแ บ บ ร่ ว ม ม ื อ (Cooperative/Collaborative Learning) เป็นต้น สร้างศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงให้เป็น รูปธรรมมากขึ้น และจัดกิจกรรมเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพเครือข่ายร่วมกับชุมชนและเขต พื้นที่การศึกษา เพื่อสร้างความแข็งแรงอย่างยั่งยืน พัฒนาความรู้และส่งเสริมให้เกิดความ แข็งแรง พัฒนากิจกรรมของนักเรียนเป็นรูปธรรม นักเรียนสามารถเข้าถึงแหล่งเรียนได้อย่างมี ประสิทธิภาพทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน

๓. แนวทางการพัฒนาเพื่อให้ระดับคุณภาพเพิ่มขึ้นอย่างน้อย ๑ ระดับ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน สถานศึกษาต้องมีการส่งเสริมให้ผู้เรียนมี กระบวนการคิด การฝึกทักษะด้านกระบวนการแสดงความคิดเห็น รู้จักแก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวัน สามารถนำความรู้และทักษะที่เกิดจากการเรียนรู้มาสร้างนวัตกรรม บูรณาการ กับวิชาต่างๆ ส่งเสริมให้ผู้เรียนเข้าร่วมการแข่งกันวิชาการในทุกระดับ และพัฒนาให้ผู้เรียน สามารถใช้เทคโนโลยีในการสื่อสาร การเรียนรู้ และการพัฒนาองค์ความรู้ของตนเอง สามารถ ทำงานร่วมกับผู้อื่น และรวมทั้งส่งเสริมพัฒนาการทางด้านคุณธรรมจริยธรรม เสริมทักษะด้าน อาชีพ น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมให้นักเรียนได้ แสดงออกถึงความภูมิใจในท้องถิ่นและความรับผิดชอบต่อสังคม มาตรฐานที่ ๒ ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ ต้องมีการพัฒนาระบบข้อมูล สารสนเทศภายในโรงเรียน เพื่อใช้ในการรวบรวมข้อมูล เก็บข้อมูล เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการ นำมาพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา เพื่อให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดทอนความซ้ำซ้อนในการทำงานของบุคลากร มีการพัฒนาหลักสูตร การนิเทศการสอน และ การวิจัย มาตรฐานที่ ๓ ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ต้องมี การนำนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันในเวทีทุกระดับ พัฒนาเทคโนโลยีทางการเรียนรู้ ส่งเสริมให้ นักเรียนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่หลากหลาย จัดสื่อการสอน/นวัตกรรมที่เพียงพอต่อจำนวน ของนักเรียน และจัดกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนสำคัญ เน้นกิจกรรมการเรียนการ สอนในรูปแบบ Active Learning ในทุกระดับชั้น

๔.แบบอย่างที่ดี (Best Practice) หรือ นวัตกรรม (Innovation) (ถ้ามี) คุณธรรมนำความรู้มุ่งสู่ชุมชน หลุดพ้นจากยาเสพติดและอบายมุข โดยใช้วิธีการดำเนินงาน ตามแบบ Huaiyangdam Model

๕. ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาสู่แบบอย่างที่ดี (Best Practice) หรือ นวัตกรรม (Innovation) ๑) ควรพัฒนาคุณภาพของบุคลากรในทุกๆ ด้าน เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนที่มี ประสิทธิภาพสำหรับนักเรียน ๒) ควรเพิ่มกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้แสดงออกถึงความรู้ความสามารถของตนเองอย่าง เต็มที่ และมีกิจกรรมที่หลากหลายให้นักเรียนได้เลือกปฏิบัติอย่างเต็มความสามารถ ๓) ควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม แสดงความคิดเห็น แสดงความ ต้องการของผู้เรียน ๖. ความต้องการและการช่วยเหลือ โรงเรียนบ้านห้วยยางดำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๒ มีความต้องการและการช่วยเหลือ ดังต่อไปนี้ ๑) เพิ่มจำนวนบุคลากรในตำแหน่งครูผู้สอน เพื่อพัฒนากระบวนการจัดการเรียนการ สอนที่มีคุณภาพ ๒) เพิ่มจำนวนสื่อ/นวัตกรรมที่สนับสนุนกิจกรรมในการจัดการเรียนการสอน เช่น อุปกรณ์การทดลองทางวิทยาศาสตร์ สื่อการสอนสำเร็จรูป เป็นต้น ๓) เพิ่มจำนวนชุดโต๊ะเรียน เนื่องจากโต๊ะเรียนในโรงเรียนผ่านสภาพการใช้งานมาเป็น เวลานาน จึงเกิดการชำรุดเสียหาย ๔) นิเทศ ติดตาม กระบวนการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอน เพื่อนำมาปรับปรุง และพัฒนาคุณภาพของครูผู้สอน

ภาคผนวก

ประกาศโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาเพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ------------------------------- โดยที่มีประกาศใช้กฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ นโยบาย การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองที่กําหนดเป้าหมายและยุทธศาสตร์ในการ พัฒนาคุณภาพคนไทยและการศึกษาไทยในอนาคต ประกอบกับมีนโยบายให้ปฏิรูประบบการ ประเมินและการประกันคุณภาพทั้งภายในและภายนอกของทุกระดับก่อนจะมีการประเมิน คุณภาพในรอบต่อไป จําเป็นต้องปรับปรุงมาตรฐานการศึกษา ขั้นพื้นฐานให้สอดคล้องกัน จึง ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย เพื่อการ ประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ลงวันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อประกันคุณภาพภายใน ของสถานศึกษา ลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ ใช้มาตรฐาน การศึกษาศูนย์การศึกษาพิเศษ เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ลงวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕ มาตรา ๙ (๓) ได้กําหนดการจัดระบบ โครงสร้าง และกระบวนการจัดการศึกษา ให้ยึดหลักที่สําคัญข้อหนึ่ง คือ มีการกําหนดมาตรฐานการศึกษา และจัดระบบประกันคุณภาพ การศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา โดยมาตรา ๓๑ ให้กระทรวงมีอํานาจหน้าที่กํากับ ดูแลการศึกษาทุกระดับและทุกประเภท กําหนดนโยบาย แผน และมาตรฐานการศึกษาและ มาตรา ๔๔ ให้หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาจัดให้มีระบบประกันคุณภาพภายใน สถานศึกษา และให้ถือว่าการประกันคุณภาพภายในเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารการศึกษาที่ ต้องดําเนินการ อย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดทํารายงานประจําปีเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผย ต่อสาธารณชน เพื่อนําไปสู่การพัฒนาคุณภาพมาตรฐาน การศึกษา และเพื่อรองรับการประกันคุณภาพภายนอก ฉะนั้น อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๙ (๓) มาตรา ๔๘ แห่งพระราชบัญญัติ การศึกษา แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และมาตรา ๕ มาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบกับมติคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานในการประชุม ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔

เมื่อวันอังคาร ที่ ๑ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๔ โรงเรียนบ้านห้วยยางดำ จึงประกาศให้ใช้ มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อเป็นหลักในการเทียบเคียง สําหรับสถานศึกษา หน่วยงานต้นสังกัด และสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั้งประถมศึกษา ใน การพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุน กํากับดูแล และติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ตาม เอกสารแนบท้ายประกาศฉบับนี้ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่ วันที่ ๑ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ประกาศ ณ วันที่ ๑ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ (นางสาวอรวรรณ มะณีจันทร์) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ

ประกาศโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ เรื่อง กำหนดค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ..................................................................... โดยที่มีประกาศใช้กฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ นโยบาย การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองที่กําหนดเป้าหมายและยุทธศาสตร์ในการ พัฒนาคุณภาพคนไทยและ การศึกษาไทยในอนาคต ประกอบกับมีนโยบายให้ปฏิรูประบบการ ประเมินและการประกันคุณภาพทั้งภายใน และภายนอกของทุกระดับก่อนจะมีการประเมิน คุณภาพในรอบต่อไป จําเป็นต้องปรับปรุงมาตรฐานการศึกษา ขั้นพื้นฐานให้สอดคล้องกัน จึง ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย เพื่อการ ประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ลงวันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้ มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อประกันคุณภาพภายใน ของสถานศึกษา ลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา เพื่อ การประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ลงวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ โรงเรียนบ้านห้วย ยางดำ จึงขอปรับมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จากการมี ส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้อง ทั้งบุคลากรทุกคนในโรงเรียน ผู้ปกครอง และประชาชนในชุมชนให้ เหมาะสมและสอดคล้องกัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษา ขั้นพื้นฐาน การประเมินคุณภาพภายในและรองรับการประเมินคุณภาพภายนอก โดยความ เห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการประชุม ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อให้การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ มี คุณภาพและมาตรฐาน จึงกำหนดค่าเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของ สถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้

ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่ วันที่ ๑ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ประกาศ ณ วันที่ ๑ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ (นางสาวอรวรรณ มะณีจันทร์) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ

มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๖๕ มีจํานวน ๓ มาตรฐาน ได้แก่ ……………………………………...........................…………………. มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ แต่ละมาตรฐานมี รายละเอียดดังนี้ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ๑) มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคํานวณ ๒) มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหา ๓) มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ๔) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ๕) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ๖) มีความรู้ ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ๑) การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากําหนด ๒) ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย ๓) การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย ๔) สุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคม มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ๒.๑ มีเป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากําหนดชัดเจน ๒.๒ มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา ๒.๓ ดําเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษา และทุกกลุ่มเป้าหมาย ๒.๔ พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ

๒.๕ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมี คุณภาพ ๒.๖ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการ เรียนรู้ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ ๓.๑ จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนําไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตได้ ๓.๒ ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ๓.๓ มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ๓.๔ ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนําผลมาพัฒนาผู้เรียน ๓.๕ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการ จัดการเรียนรู้

เรื่อง กำหนดค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๕ มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา ค่าเป้าหมาย มาตรฐาน/ประเด็น การพิจารณา มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ดีเลิศ ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ดีเลิศ ๑) ความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสารและการคิดคำนวณ ดีเลิศ ๒) ความสามารถในการวิเคราะห์และคิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหา ดีเลิศ ๓) มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ดีเลิศ ๔) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ดีเลิศ ๕) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ดีเลิศ ๖) มีความรู้ ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ ดีเลิศ ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ดีเลิศ ๑) การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนดโดยไม่ ขัดกับกฎหมายและวัฒนธรรมอันดีของสังคม ดีเลิศ ๒) ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย ดีเลิศ ๓) การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย ดีเลิศ ๔) สุขภาวะทางร่างกายและลักษณะจิตสังคม ดีเลิศ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการของผู้บริหาร สถานศึกษา ดีเลิศ ๑. การมีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน ดีเลิศ ๒. มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา ดีเลิศ ๓. ดําเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตาม หลักสูตรสถานศึกษาและทุกกลุ่มเป้าหมาย ดีเลิศ

มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา ค่าเป้าหมาย มาตรฐาน/ประเด็น การพิจารณา ๔. พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ดีเลิศ ๕. จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการ เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ ดีเลิศ ๖. จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและ การจัดการเรียนรู้ ดีเลิศ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็น สำคัญ ดีเลิศ ๑.จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนําไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ ดีเลิศ ๒. ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ดีเลิศ ๓. มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ดีเลิศ ๔. ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนําผลมาพัฒนา ผู้เรียน ดีเลิศ ๕. มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและ ปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ ดีเลิศ

การให้ความเห็นชอบ ประกาศมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนบ้านห้วยยางดำ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ ในการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๑ เดือน มิถุนายน ๒๕๖๕ ณ ห้องประชุมโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๒ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้พิจารณามาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ของโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ เห็นชอบให้ ดำเนินการประกาศได้ (ลงชื่อ)............................................................... (นายสุนทร อาจสามารถ) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนบ้านห้วยยางดำ วันที่ ๑ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕

คำสั่งโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ ที่ ๑๐/๒๕๖๖ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๕ --------------------------------------------- ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยได้ระบุ ข้อ ๓ ให้สถานศึกษาแต่ละแห่งจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ภายในสถานศึกษาให้เป็น ไปตามมาตรฐานการศึกษาแต่ละระดับและประเภทการศึกษาที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการประกาศกำหนด พร้อมทั้งจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของ สถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาและดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้ จัดให้มีการ ประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา ติดตามผล การดำเนินการเพื่อพัฒนา สถานศึกษาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา และจัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง (SelfAssessment Report : SAR) นำเสนอผลการประเมินตนเองต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ความเห็นชอบ และจัดส่งรายงานต่อหน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลสถานศึกษา เป็นประจำทุกปี ดังนั้นเพื่อให้การประเมินคุณภาพภายในของโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ เป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ และโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ จากการ ประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๖ วันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๖ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินคุณภาพภายใน ของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ดังนี้ ๑. คณะกรรมการอำนวยการ ประกอบด้วย ๑.๑ นางสาวอรวรรณ มะณีจันทร์ ประธานกรรมการ ๑.๒ นางสาววิไลวรรณ งามจิตร กรรมการ ๑.๓ นางสาวพรรณนิดา สิงห์คำ ก ร ร ม ก า ร แ ล ะ เลขานุการ มีหน้าที่ ให้คำปรึกษา แนะนำ ดูแลและสนับสนุนการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุตาม วัตถุประสงค์ ตลอดทั้งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการดำเนินการ

๒. คณะกรรมการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ประกอบด้วย ๒.๑ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพเด็ก (๑) นางสาววิไลวรรณ งามจิตร ประธานกรรมการ (๒) นางสาวขนิษฐา ภิลัยวรรณ กรรมการ (๓) นางสาวมานิตา ใจสำราญ กรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสังเกต สัมภาษณ์ ศึกษาเอกสารหลักฐานข้อมูลเชิง ประจักษ์ และลงข้อสรุปเพื่อตัดสินผลการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา ระดับ ปฐมวัย มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพเด็ก ๒.๒ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ (๑) นางสาวอรวรรณ มะณีจันทร์ ประธานกรรมการ (๒) นางสาวมานิตา ใจสำราญ กรรมการ (๓) นางสาววิไลวรรณ งามจิตร กรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสังเกต สัมภาษณ์ ศึกษาเอกสารหลักฐานข้อมูลเชิง ประจักษ์ และลงข้อสรุปเพื่อตัดสินผลการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา ระดับ ปฐมวัย มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ๒.๓ มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ (๑) นางสาววิไลวรรณ งามจิตร ประธานกรรมการ (๒) นางสาวมานิตา ใจสำราญ กรรมการ (๓) นางสาวขนิษฐา ภิลัยวรรณ กรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสังเกต สัมภาษณ์ ศึกษาเอกสารหลักฐานข้อมูลเชิง ประจักษ์ และลงข้อสรุปเพื่อตัดสินผลการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา ระดับ ปฐมวัย มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ๓. คณะกรรมการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับ การศึกษา ขั้นพื้นฐาน ประกอบด้วย ๓.๑ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน (๑) นางสาวพรรณนิดา สิงห์คำ ประธานกรรมการ (๒) นางสาวขนิษฐา ภิลัยวรรณ กรรมการ (๓) นายชูศักดิ์ สัจจะสังข์ กรรมการ

(๔) นายวิชชรัตน์ พรมเดี่อ กรรมการ (๕) นางสาวมานิตา ใจสำราญ กรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสังเกต สัมภาษณ์ ศึกษาเอกสารหลักฐานข้อมูลเชิง ประจักษ์ และลงข้อสรุปเพื่อตัดสินผลการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา ระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ๓.๒ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ (๑) นางสาวอรวรรณ มะณีจันทร์ ประธานกรรมการ (๒) นางสาวมานิตา ใจสำราญ กรรมการ (๓) นางสาวขนิษฐา ภิลัยวรรณ กรรมการ (๔) นางพรรณี เปล่งงงูเหลือม กรรมการ (๔) นางสาวพรรณนิดา สิงห์คำ กรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสังเกต สัมภาษณ์ ศึกษาเอกสารหลักฐานข้อมูลเชิง ประจักษ์ และลงข้อสรุปเพื่อตัดสินผลการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา ระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ๓.๓ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ (๑) นางสาวพรรณนิดา สิงห์คำ ประธานกรรมการ (๒) นางสาวขนิษฐา ภิลัยวรรณ กรรมการ (๓) นายชูศักดิ์ สัจจะสังข์ กรรมการ (๔) นายวิชชรัตน์ พรมเดื่อ กรรมการ (๕) นางสาวมานิตา ใจสำราญ กรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสังเกต สัมภาษณ์ ศึกษาเอกสารหลักฐานข้อมูลเชิง ประจักษ์ และลงข้อสรุปเพื่อตัดสินผลการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา ระดับ ปฐมวัย มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการดังกล่าวมีหน้าที่ในการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐาน การศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัย และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๖

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ ๒๗ เดือน มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ .............................................................. (นางสาวอรวรรณ มะณีจันทร์) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ

คำสั่งโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ ที่ ๑๑/๒๕๖๖ เรื่อง คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำรายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report: SAR) ปีการศึกษา ๒๕๖๕ --------------------------------------------- ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยได้ระบุ ข้อ ๓ ให้สถานศึกษาแต่ละแห่งจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ภายในสถานศึกษาให้เป็น ไปตามมาตรฐานการศึกษาแต่ละระดับและประเภทการศึกษาที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการประกาศกำหนด พร้อมทั้งจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของ สถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาและดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้ จัดให้มีการ ประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา ติดตามผล การดำเนินการเพื่อพัฒนา สถานศึกษาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา และจัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง (SelfAssessment Report : SAR) นำเสนอผลการประเมินตนเองต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ความเห็นชอบ และจัดส่งรายงานต่อหน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลสถานศึกษา เป็นประจำทุกปี ดังนั้นเพื่อให้การประเมินคุณภาพภายในของโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ เป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ และโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ จากการ ประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๖ วันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๖ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินคุณภาพภายใน ของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ดังนี้ ๑. คณะกรรมการอำนวยการ ประกอบด้วย ๑.๑ นางสาวอรวรรณ มะณีจันทร์ ประธานกรรมการ ๑.๒ นางสาววิไลวรรณ งามจิตร กรรมการ ๑.๓ นางสาวพรรณนิดา สิงห์คำ ก ร ร ม ก า ร แ ล ะ เลขานุการ มีหน้าที่ ให้คำปรึกษา แนะนำ ดูแลและสนับสนุนการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุตาม วัตถุประสงค์ ตลอดทั้งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการดำเนินการ

๒. คณะกรรมการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ประกอบด้วย ๒.๑ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพเด็ก (๑) นางสาววิไลวรรณ งามจิตร ประธานกรรมการ (๒) นางสาวขนิษฐา ภิลัยวรรณ กรรมการ (๓) นางสาวมานิตา ใจสำราญ กรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสังเกต สัมภาษณ์ ศึกษาเอกสารหลักฐานข้อมูลเชิง ประจักษ์ และลงข้อสรุปเพื่อตัดสินผลการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา ระดับ ปฐมวัย มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพเด็ก ๒.๒ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ (๑) นางสาวอรวรรณ มะณีจันทร์ ประธานกรรมการ (๒) นางสาวมานิตา ใจสำราญ กรรมการ (๓) นางสาววิไลวรรณ งามจิตร กรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสังเกต สัมภาษณ์ ศึกษาเอกสารหลักฐานข้อมูลเชิง ประจักษ์ และลงข้อสรุปเพื่อตัดสินผลการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา ระดับ ปฐมวัย มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ๒.๓ มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ (๑) นางสาววิไลวรรณ งามจิตร ประธานกรรมการ (๒) นางสาวมานิตา ใจสำราญ กรรมการ (๓) นางสาวขนิษฐา ภิลัยวรรณ กรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสังเกต สัมภาษณ์ ศึกษาเอกสารหลักฐานข้อมูลเชิง ประจักษ์ และลงข้อสรุปเพื่อตัดสินผลการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา ระดับ ปฐมวัย มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ๓. คณะกรรมการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับ การศึกษา ขั้นพื้นฐาน ประกอบด้วย ๓.๑ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน (๑) นางสาวพรรณนิดา สิงห์คำ ประธานกรรมการ (๒) นางสาวขนิษฐา ภิลัยวรรณ กรรมการ (๓) นายชูศักดิ์ สัจจะสังข์ กรรมการ

(๔) นายวิชชรัตน์ พรมเดี่อ กรรมการ (๕) นางสาวมานิตา ใจสำราญ กรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสังเกต สัมภาษณ์ ศึกษาเอกสารหลักฐานข้อมูลเชิง ประจักษ์ และลงข้อสรุปเพื่อตัดสินผลการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา ระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ๓.๒ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ (๑) นางสาวอรวรรณ มะณีจันทร์ ประธานกรรมการ (๒) นางสาวมานิตา ใจสำราญ กรรมการ (๓) นางสาวขนิษฐา ภิลัยวรรณ กรรมการ (๔) นางพรรณี เปล่งงงูเหลือม กรรมการ (๔) นางสาวพรรณนิดา สิงห์คำ กรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสังเกต สัมภาษณ์ ศึกษาเอกสารหลักฐานข้อมูลเชิง ประจักษ์ และลงข้อสรุปเพื่อตัดสินผลการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา ระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ๓.๓ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ (๑) นางสาวพรรณนิดา สิงห์คำ ประธานกรรมการ (๒) นางสาวขนิษฐา ภิลัยวรรณ กรรมการ (๓) นายชูศักดิ์ สัจจะสังข์ กรรมการ (๔) นายวิชชรัตน์ พรมเดื่อ กรรมการ (๕) นางสาวมานิตา ใจสำราญ กรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสังเกต สัมภาษณ์ ศึกษาเอกสารหลักฐานข้อมูลเชิง ประจักษ์ และลงข้อสรุปเพื่อตัดสินผลการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา ระดับ ปฐมวัย มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการดังกล่าวมีหน้าที่ในการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐาน การศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัย และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๖

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ ๒๗ เดือน มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ .............................................................. (นางสาวอรวรรณ มะณีจันทร์) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ

บันทึกการพิจารณาให้ความเห็นชอบ งานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SELF ASSESSMENT REPORT : SAR) ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ของ โรงเรียนบ้านห้วยยางดำ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๒ ............................................................................................................................................... ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนบ้านห้วยยางดำ เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบรายงานการประเมินตนเอง ของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๕ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ใช้รายงานต่อหน่วยงานต้นสังกัด และ เผยแพร่ต่อสาธารณชนได้ ลงชื่อ....................................................... (นายสุนทร อาจสามารถ) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ ลงชื่อ....................................................... (นางสาวอรวรรณ มะณีจันทร์) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยยางดำ

รายงานผลการประเมินความสามารถด้านการอ่าน (RT) แบบสรุป R – School ๐๑

รายงานผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน (NT)

รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O - NET)