แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ-พัฒนาหน่วย

รายวิชา 1123708 การพัฒนาหน่วยการเรียนรู้สำหรบั บทเรียนภาษาองั กฤษ
หนว่ ยการเรียนรู้ เร่ือง People Identification

นำเสนอโดย
นายสหสั วรรษ ธรรมกิจ
รหัสนักศกึ ษา 61111596010
ชั้นปีที่ 4 หอ้ ง 1 สาขาวชิ าภาษาองั กฤษ

อาจารยท์ ปี่ รกึ ษา
ผู้ชว่ ยศาสตราจารยว์ ันวิสาข์ พลู ทอง

ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564
คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครสวรรค์

คำนำ

หน่วยการเรยี นรู้ เร่อื ง People identification เป็นสว่ นหนง่ึ ของรายวิชา การพัฒนาหนว่ ยการ
เรยี นรู้สำหรับบทเรยี นภาษาอังกฤษ รหสั วชิ า 1123708 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 ทีจ่ ดั ทำขนึ้ เพื่อให้ผูเ้ รยี น
ได้ศกึ ษาเนอื้ หาสาระทางภาษาองั กฤษท่ีอยูร่ อบๆ ตวั ผูเ้ รียนเพ่มิ เติมจากการเรียนการสอนในช้ันเรยี น โดยการ
วิเคราะห์มาจากสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วดั ในหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช
2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560) เพื่อนำมาใชใ้ นการออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวการสอนภาษาเพื่อการ
สื่อสาร 5 ขนั้ เน้นให้ผู้เรียนไดร้ ับท้งั ความร้แู ละฝกึ ปฏิบตั จิ ริง ทัง้ ในเรอ่ื งของคำศัพท์ ประโยค หลกั ไวยากรณ์ บท
สนทนาภาษาอังกฤษ เพื่อสามารถนำไปใชไ้ ด้จริงและเพอื่ พัฒนาทกั ษะการสือ่ สารภาษาอังกฤษทีเ่ ป็นประโยชน์ใน
การนำไปใช้ในชวี ิตประจำวัน

ผจู้ ดั ทำหวังเปน็ อย่างยิ่งวา่ การจัดทำหน่วยการเรยี นรสู้ ำหรบั บทเรียนภาษาองั กฤษในครั้งนจ้ี ะเปน็
ประโยชนส์ ำหรับผทู้ ่ีเรียนในรายวิชาภาษาองั กฤษ หากมขี ้อแนะนำที่เปน็ ประโยชน์ตอ่ การปรับปรุงหน่วยการเรียนรู้
เล่มน้กี รุณาแจง้ ผ้จู ัดทำ จกั เปน็ พระคุณอยา่ งยงิ่ และหากมขี ้อผิดพลาดประการใด ผ้จู ัดทำขอน้อมรบั และจะนำไป
ปรับปรงุ แก้ไขให้ดีขนึ้ ในโอกาสต่อไป

ผจู้ ดั ทำ
สหสั วรรษ ธรรมกิจ
(นายสหสั วรรษ ธรรมกิจ)

สารบัญ หนา้
1
เรือ่ ง 2
1. โครงสร้างรายวชิ าหนว่ ยการเรยี นรเู้ รอื่ ง People Identification 9
2. แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 18

ใบความรทู้ ่ี 1 เร่อื ง The position of Adjective 29
ใบงานท่ี 1 เร่ือง The position of Adjective 41
3. แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2 50
ใบความรู้ท่ี 1 เรือ่ ง Adjective order
ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง Adjective order 61
4. แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3
ใบความรูท้ ่ี 1 เร่อื ง Physical appearance (V.to.be)
ใบความรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง Physical appearance (V.to have)
ใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง Physical appearance
5. แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 4
ใบความรูท้ ี่ 1 เรื่อง What does Jackson look like?
ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง What does Jackson look like?
6. แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 5
ใบความร้ทู ่ี 1 เรอ่ื ง Personality
ใบงานที่ 1 เรื่อง Personality
7. แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 6
ใบความรเู้ รือ่ ง 1 เรอ่ื ง Personality and character
ใบงานที่ 1 เรื่อง Personality and character
ใบงานท่ี 2 เรอ่ื ง Personality and character
8. แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 7
ใบความรู้ท่ี 1 เรื่อง Same or Difference?
ใบงานที่ 1 เรอื่ ง Same or Difference?

9. แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 8 67
ใบความรู้ท่ี 1 เร่ือง My profile
ใบงานที่ 1 เรือ่ ง My profile
ใบงานท่ี 2 เรื่อง My profile

แผนการจดั การเรยี นรู้
รายวิชา ภาษาอังกฤษ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 2
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เร่อื ง Is she beautiful? จำนวน 1 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชว้ี ดั
มฐ.ต.1.1.ม.2/1 ปฏบิ ัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธบิ ายง่ายๆท่ีฟงั และอา่ น
มฐ.ต.1.2.ม.2/4 พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและให้ข้อมลู บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับเรอื่ งทฟ่ี งั หรอื อา่ น
อยา่ งเหมาะสม
2. สาระสำคญั
การเรียนรู้คำศพั ท์เกี่ยวกับคำคุณศัพท์บรรยายลกั ษณะรปู รา่ ง และบคุ ลกิ ลกั ษณะของบคุ คล ฝกึ ทักษะการฟังและ
การอ่านเรอ่ื งราวเก่ยี วกับการบรรยายรปู รา่ งลักษณะของบุคคล เพื่อเปน็ ประโยชนต์ ่อการนำภาษาไปใชส้ ่อื สารใน
ชีวิตจริง และสงั คมโลกได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1.นกั เรยี นบอกความหมายของคำคณุ ศพั ท์ (Adjectives) ท่ีกำหนดใหไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง (K)
2.นกั เรยี นระบุตำแหนง่ ของคำคณุ ศัพท์ (Adjectives) ในประโยคได้ถกู ตอ้ ง (P)
3. นกั เรยี นใฝ่เรียนรู้ (A)
4. สาระการเรยี นร/ู้ เน้อื หา
Function: บอกความหมายของคำคณุ ศัพท์ (Adjectives)
คำศพั ท์ (Vocabulary): good, bad, tall, short, fat, thin, happy, sad, ugly, beautiful.
โครงสรา้ งไวยากรณ์ (Grammar): The position of Adjectives
1. Subject + V.to be + article +Adjective + Noun.

EX. He is a good boy.
2. Subject + V.to be + Adjective.
EX. Ann is beautiful.
3. Subject + Linking Verb. +Adjective.
EX. My mother looks happy.
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุง่ มน่ั ในการทำงาน
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันนำ (Warm Up)
1. ครทู ักทายนกั เรยี นด้วยการสนทนาทั่วๆไป เช่น

Hello! Good morning. How are you today?
2. หลงั จากน้ันคุณครเู ปิดเพลงคุณศพั ท์ Adjective song by teacher bee ให้นกั เรยี นฟังและร้องไปพรอ้ มๆกนั
https://www.youtube.com/watch?v=2sUX-FgAV5k
ขั้นนำเสนอ (Presentation)

3.ครนู ำเสนอคำคณุ ศพั ทบ์ รรยายลักษณะรปู ร่าง และบุคคลกั ษณะของบคุ คล โดยใชบ้ ัตรรูปภาพและบัตรคำศพั ท์
พรอ้ มใหน้ ักเรยี นอ่านออกเสยี งตาม โดยคำศัพท์ทสี่ อนมีดงั น้ี good, bad, tall, short, fat, thin, happy, sad,
ugly, and beautiful
4.หลงั จากน้ันคณุ ครนู ำเสนอการวางตำแหนง่ ของคำคณุ ศพั ท์ (The position of Adjectives) ดังน้ี
1. Subject + V.to be + article +Adjective + Noun.
EX. He is a good boy.
2. Subject + V.to be + Adjective.
EX. Ann is beautiful.
3. Subject + Linking Verb. +Adjective.
EX. My mother looks happy.
ขัน้ ฝกึ (Practice)
5.คุณครใู หน้ กั เรยี นทำกิจกรรมร่วมมือแข่งขนั กัน โดยแบง่ นกั เรยี นกลมุ่ ละ 4 คนเทา่ ๆกนั
6.หลงั จากนน้ั คณุ ครูให้นกั เรยี นแขง่ ขันตอบคำถามเกยี่ วกับคำศัพท์ และโครงสรา้ งไวยากรณ์ พร้อมทำทา่ ทางตาม
คำคณุ ศพั ทใ์ ห้เกดิ ภาพ
7.กลุ่มใดมีคะแนนสะสมในระหวา่ งการทำกิจกรรมแข่งขนั มากทสี่ ดุ จะได้รับรางวัลจากคุณครู
ขัน้ นำไปใช้ (Production)
7. ครแู จกใบงานให้นกั เรยี นทำ โดยใบงานจะให้นกั เรียนเตมิ คำในชอ่ งว่างจากประโยคท่ีกำหนดให้ (ตาราง) ซึ่งจะมี
องคป์ ระกอบดังน้ี คำคณุ ศพั ท์ และการวางตำแหน่งของคณุ ศัพท์
8. ครูเฉลยใบงานทีแ่ จกใหน้ ักเรยี นทำ
ขน้ั สรุป (Wrap up)

9. ครสู รุปบทเรยี นว่าวนั นเ้ี รียนเรือ่ งอะไรมาบ้าง
8. สื่อการเรียนรู้
1. บตั รรูปภาพ
2. บตั รคำศพั ท์
3. ใบความรู้
4. ภาระงาน (ใบงาน)
5. คลปิ วดี ิโอ Adjectives song
https://www.youtube.com/watch?v=2sUX-FgAV5k

9. การวดั และประเมนิ ผล

ส่งิ ทีต่ อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั ผล เครื่องมือการวัด เกณฑก์ ารประเมินผล

ด้านความรู้ (K) สังเกตการตอบคำถาม - กิจกรรมการแข่งขัน -
บอกความหมายของ ในช่วงตอนฝกึ )
คำคณุ ศัพท์ (Adjectives) ที่ นกั เรยี นสามารถระบุ
ตำแหนง่ คำคณุ ศัพท์ไดอ้ ยา่ ง
กำหนดให้ไดถ้ กู ตอ้ ง น้อย 5 ข้อ จาก 10 ขอ้

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) -ใหน้ ักเรยี นทำภาระงาน - ภาระงานเกย่ี วกับ

ระบตุ ำแหน่งของ ระบตุ ำแหนง่ คำคุณศัพท์ คำคณุ ศัพท์ (Descriptive

คำคณุ ศัพท์ (Adjectives) เกลงในช่องว่างจาก Adjectives)

ในประโยคไดถ้ กู ต้อง ตารางท่ีกำหนดไดถ้ ูกตอ้ ง - กิจกรรมการแขง่ ขนั

ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม สังเกตการร่วมกจิ กรรม แบบสงั เกตการรว่ มกจิ กรรม ระดบั คณุ ภาพ
ใฝ่เรยี นรู้ 4 = ดมี าก
3 = ดี
2 = พอใช้

1 = ควรปรับปรุง
ผา่ นเกณฑร์ ะดับดีขึน้ ไป

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน เพื่อการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

ช่ือนกั เรยี น........................................................... ช้ัน.................ภาคเรียนที่.........ปีการศึกษา...............
คำช้ีแจง การบนั ทึกใหก้ าเครอ่ื งหมาย  ลงในช่องที่ตรงกับพฤติกรรมที่เกดิ ขน้ึ จรงิ

ใฝ่เรียนรู้ ระดบั การปฏิบตั ิ ไมท่ ำเลย/
เปน็ ประจำ บางคร้ัง น้อยครัง้ ไม่ชัดเจน
ที่ พฤตกิ รรม
(๓) (๒) (๑) (๐)
๑ ต้งั ใจเอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้
๒ สนใจเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรียนรตู้ ่าง ๆ
๓ ศึกษาคน้ คว้าหาความร้จู ากหนังสือ เอกสาร สง่ิ พมิ พ์

ส่ือเทคโนโลยตี ่าง ๆ แหลง่ เรียนรทู้ ้งั ภายในและ
ภายนอกโรงเรียน และเลอื กใชส้ ่ือไดอ้ ย่างเหมาะสม
๔ สามารถบนั ทกึ สรุปความรู้ วเิ คราะห์ ขอ้ มูลจากสงิ่ ที่
เรยี นรสู้ รปุ เปน็ องคค์ วามรู้
๕ แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ ดว้ ย วิธกี ารต่าง ๆและ นำไปใชใ้ น
ชวี ิตประจำวัน

รวมคะแนน/ระดบั คณุ ภาพ

ผู้ประเมนิ  ครู  พอ่ แม่/ผู้ปกครอง  ตนเอง  เพ่อื น

ลงชื่อ สหัสวรรษ ธรรมกจิ ผู้ประเมนิ
(นายสหัสวรรษ ธรรมกจิ )

เกณฑ์การประเมนิ เกณฑก์ ารตัดสิน

ระดับคุณภาพ ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๑๓-๑๕ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมนิ ข้อใดขอ้ หนงึ่ ตำ่ กวา่ ๒ คะแนน

ดเี ย่ียม ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๙-๑๒ คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ต่ำกวา่ ๐ คะแนน
ดี
ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๕-๘ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมินข้อใดข้อหนงึ่ ต่ำกวา่ ๐ คะแนน
ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๐-๔ คะแนน
ไม่ผ่าน

Name ……………………………………………………………….. Class…………… No: …………….

ใบงาน เรือ่ ง ตำแหน่งของ Adjective
หน่วยที่ 1 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง Is she beautiful?

รายวิชา ภาษาอังกฤษ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2

Direction: Identify the adjectives and its position in each sentence.

A: หนา้ คำนาม (ขยายคำนาม)
B: อยู่หลัง V.to be
C: อยู่หลัง linking Verb

No Sentence Adjective Position
Ex. They are good students. good A
1. This cat is fat.
2. These flowers smell good.

3. You look tired today.

4. The weather is too hot today.

5. My best friend is so sad.

6. I met a bad person standing in the park.

7. That girl seems like the stranger.

แผนการจดั การเรยี นรู้
รายวิชา ภาษาองั กฤษ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรือ่ ง The small young white cat couples จำนวน 1 ช่ัวโมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั
มฐ.ต.1.1.ม.2/1 ปฏบิ ัติตามคำขอรอ้ ง คำแนะนำ คำช้แี จง คำอธิบายง่ายๆท่ฟี งั และอ่าน
มฐ.ต.1.2.ม.2/4 พูดและเขียนเพ่ือขอและให้ข้อมูล บรรยาย และแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับเรอื่ งท่ฟี งั หรืออา่ น
อย่างเหมาะสม
2. สาระสำคัญ
การเรียนรูค้ ำศพั ทเ์ กยี่ วกบั คำคุณศัพทบ์ รรยายลักษณะรปู รา่ ง และบุคลกิ ลักษณะของบคุ คล (การเรยี งลำดบั
คำคณุ ศพั ท์) ฝกึ ทักษะการพูดและการเขียนเรอ่ื งราวเก่ียวกับการบรรยายรปู รา่ งลกั ษณะของบุคคลเป็นลำดับ เพอื่
เป็นประโยชน์ต่อการนำภาษาไปใชส้ ่อื สารในชีวิตจรงิ และสงั คมโลกได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1.นกั เรยี นบอกความหมายของคำคณุ ศพั ท์ (Adjectives) ท่กี ำหนดให้ได้ถูกต้อง (K)
2.เขยี นบรรยายภาพโดยเรยี งลำดบั คำ Adjective ไดถ้ ูกต้อง (P)
3.นกั เรยี นใฝ่เรียนรู้
4. สาระการเรยี นร้/ู เนอื้ หา
Function: บอกความหมายของคำคุณศัพท์ (Adjectives)
คำศพั ท์ (Vocabulary): handsome, fantastic, huge, skinny, round, oval, ancient ,color, origin and
wooden
โครงสร้างไวยากรณ์ (Grammar): (Order of Adjective)

1. Subject + V.to be + Article + Adjectives (Opinion, Size, Shape, Age, Color, Origin, Material) +
Noun.
EX. My friend is handsome huge Thai boy.
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุ่งม่นั ในการทำงาน
7. ขนั้ นำ (Warm Up)
1. ครูทกั ทายนกั เรยี นดว้ ยการสนทนาท่วั ๆไป เช่น

Hello! Good morning. How are you today?
2. คุณครรู ้องเพลง Adjective order ท่ีคุณครแู ตง่ ขนึ้ พร้อมใหน้ ักเรยี นมสี ว่ นรว่ มในช้ันเรยี น (Adjective Order
ทำนอง คอพบั
ขนั้ นำเสนอ (Presentation)
3.ครนู ำเสนอคำคุณศัพทบ์ รรยายลักษณะรปู รา่ ง และบคุ คลกั ษณะของบคุ คล (การเรยี งลำดบั คำคณุ ศพั ท์) โดยใช้
สอ่ื จรงิ พรอ้ มให้นักเรยี นอ่านออกเสยี งตาม โดยคำศัพท์ทีส่ อนมดี งั น้ี handsome, fantastic, huge, skinny,
round, oval, ancient, color, origin and wooden
4.หลังจากนนั้ คณุ ครนู ำเสนอโครงสรา้ งการเรยี งลำดับคำคุณศพั ท์ (Adjective of orders)

1. Subject + V.to be + Article + Adjectives (Opinion, Size, Shape, Age, Color, Origin, Material) +

Noun.

EX. My friend is handsome huge Thai boy.

ขัน้ ฝึก (Practice)

5. คุณครใู หน้ ักเรยี นทำกิจกรรมการแขง่ ขนั ร่วมกัน โดยแบ่งนักเรยี นออกเป็นกล่มุ ๆละ 5 คน

6. หลังจากนนั้ คุณครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกนั เรยี งคำ (คุณศัพท)์ ใหเ้ ป็นประโยคทก่ี ำหนดให้สมบรู ณ์

7. คุณครเู ฉลยคำตอบหน้าชั้นเรียน และอธบิ ายคำตอบอยา่ งละเอียด

ข้นั นำไปใช้ (Production)

8. ครแู จกใบงานใหน้ ักเรยี นทำ โดยใบงานจะใหน้ กั เรียนเขียนบรรยายภาพโดยเรยี งลำดับคำ Adjective ให้ถกู ต้อง

9. ครูเฉลยใบงานท่แี จกใหน้ กั เรยี นทำ

ขัน้ สรุป (Wrap up)

10. ครสู รุปบทเรียนว่าวนั น้เี รียนเรอื่ งอะไรมาบ้าง

8. สื่อการเรยี นรู้

1. สอ่ื จรงิ

2. ใบความรู้

3. ภาระงาน (ใบงาน)

9. การวดั และประเมนิ ผล

สง่ิ ทตี่ ้องการวดั วธิ กี ารวัดผล เคร่ืองมือการวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้ (K) สงั เกตการตอบคำถาม -
ในชว่ งตอนนำเสนอ)
-

บอกความหมายของ

คำคณุ ศัพท์ (Adjectives) ท่ี

กำหนดให้ได้ถูกตอ้ ง

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) การประเมินทักษะการ แบบประเมินทกั ษะการเขยี น ผา่ นเกณฑร์ ะดับดีข้นึ ไป

เขยี นบรรยายภาพโดย เขียน

เรียงลำดับคำ Adjective

ได้ถูกต้อง

ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ระดับคุณภาพ
4 = ดีมาก
ใฝเ่ รียนรู้ สังเกตการรว่ มกิจกรรม แบบสังเกตการร่วมกิจกรรม 3 = ดี
2 = พอใช้
1 = ควรปรับปรงุ
ผา่ นเกณฑร์ ะดับดีขึน้ ไป

การเขียน แบบบนั ทกึ การประเมินการเขียน

เลขที่ ประเดน็ / การใช้ภาษา เนื้อหา รวมคะแนน
ช่ือ – สกลุ คะแนน 12 8 20

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24

ลงช่ือ สหสั วรรษ ธรรมกิจ ผปู้ ระเมิน

(นายสหสั วรรษ ธรรมกิจ)
วนั ท่ี..........เดือน.................................พ.ศ. ............

เกณฑ์การให้คะแนนการเขียน

ระดับ เกณฑ์การให้คะแนน นา้ หนัก/ คะแนน
คะแนน ความสาคญั รวม

ประเด็น 4321 3 12
การประเมิน
การสะกด การสะกด สะกดคาผดิ สะกดคาผดิ 28
การใชภ้ าษา คาศพั ทถ์ ูกตอ้ ง มาก 5 20
การเลือกใชค้ า เขียนรูป
ตรงกบั เน้ือหา คาศพั ทผ์ ดิ มาก แต่พอเดา ประโยคไม่
ประโยค ถูกตอ้ ง ไมม่ ี
ถูกตอ้ ง เลก็ นอ้ ย พอเดา ความหมายได้ เครื่องหมาย
มีเครื่องหมาย วรรคตอน
วรรคตอนท่ี วามหมายได้ รูปประโยค
ถูกตอ้ ง
เขียนรูป ผดิ พลาดมาก

ประโยคผดิ เคร่ืองหมาย

หลกั ไวยากรณ์ วรรคตอนไม่

เลก็ นอ้ ย ครบหรือไม่

เครื่องหมาย ถูกตอ้ ง

วรรคตอนผดิ

เลก็ นอ้ ย

เน้ือหา มีรายละเอียด ร า ย ล ะ เ อี ย ด มีรายละเอียด มีรายละเอียด

เน้ือหาตรง ของเน้ือหามาก ของเน้ือหา ของเน้ือหา
กบั ลกั ษณะท่ี แ ต่ ยั ง ไ ม่ นอ้ ย นอ้ ยมาก

กาหนดมาก ครอบคลุม

ที่สุด ท้งั หมด

รวม

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน เพื่อการประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์

ชือ่ นักเรียน........................................................... ชั้น.................ภาคเรยี นท่.ี ........ปีการศึกษา...............
คำชีแ้ จง การบนั ทกึ ให้กาเครอ่ื งหมาย  ลงในชอ่ งทีต่ รงกับพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจรงิ

ใฝ่เรยี นรู้ ระดับการปฏบิ ัติ ไมท่ ำเลย/
เป็นประจำ บางครงั้ น้อยคร้งั ไม่ชัดเจน
ท่ี พฤติกรรม
(๓) (๒) (๑) (๐)
๑ ต้ังใจเอาใจใสแ่ ละมคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้
๒ สนใจเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นร้ตู า่ ง ๆ
๓ ศึกษาคน้ คว้าหาความรูจ้ ากหนงั สอื เอกสาร สิ่งพิมพ์

สือ่ เทคโนโลยตี ่าง ๆ แหลง่ เรยี นรู้ทง้ั ภายในและ
ภายนอกโรงเรียน และเลอื กใชส้ ่ือได้อย่างเหมาะสม
๔ สามารถบันทกึ สรปุ ความรู้ วเิ คราะห์ ข้อมูลจากสง่ิ ที่
เรยี นรู้สรุปเปน็ องค์ความรู้
๕ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ด้วย วธิ กี ารต่าง ๆและ นำไปใช้ใน
ชวี ิตประจำวนั

รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ

ผ้ปู ระเมนิ  ครู  พ่อแม/่ ผู้ปกครอง  ตนเอง  เพือ่ น

เกณฑก์ ารประเมิน ลงชื่อ สหสั วรรษ ธรรมกิจ ผู้ประเมนิ
(นายสหัสวรรษ ธรรมกิจ)
ระดับคณุ ภาพ
เกณฑก์ ารตัดสนิ
ดีเย่ียม
ดี ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๓-๑๕ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ต่ำกว่า ๒ คะแนน
ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๙-๑๒ คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่ึงต่ำกวา่ ๐ คะแนน

ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๕-๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดขอ้ หน่งึ ต่ำกวา่ ๐ คะแนน
ไม่ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๐-๔ คะแนน



แผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชา ภาษาอังกฤษ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เรอ่ื ง Physical Appearance จำนวน 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ัด
มฐ.ต.1.1.ม.2/1 ปฏิบัติตามคำขอรอ้ ง คำแนะนำ คำช้ีแจง คำอธบิ ายง่ายๆท่ฟี งั และอ่าน
มฐ.ต.1.2.ม.2/4 พูดและเขยี นเพอื่ ขอและให้ข้อมลู บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเร่ืองทีฟ่ งั หรอื อา่ น
อยา่ งเหมาะสม
2. สาระสำคญั
การเรยี นรคู้ ำศพั ทเ์ กี่ยวกบั คำคณุ ศัพทบ์ รรยายลักษณะกายภาพของบคุ คล (Physical Appearance) ฝึกทกั ษะการ
พูดและการเขียนเรอ่ื งราวเก่ียวกบั การบรรยายรปู รา่ งลกั ษณะกายภาพของบุคคล เพ่อื เป็นประโยชนต์ อ่ การนำ
ภาษาไปใช้สอ่ื สารในชวี ิตจริง และสังคมโลกไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งและบอกความหมายคำคุณศัพทลกั ษณะของบคุ คลทก่ี ำหนดใหไ้ ด้ถูกต้อง (K)
2.เลือกคำบรรยายลกั ษณะกายภาพบุคคลใหต้ รงกบั รูปภาพท่ีกำหนดได้ถูกต้อง (P)
3.นกั เรยี นใฝเ่ รยี นรู้
4. สาระการเรียนรู/้ เนื้อหา
Function: ความหมายของคำคุณศพั ทบ์ รรยายลกั ษณะกายภาพของบคุ คล (Physical adjectives)
คำศพั ท์ (Vocabulary): Shape, Face shape, Size, Eyes color, Lips, Hair, Height, Weight, Age, and
Appearance

โครงสร้างไวยากรณ์: How to describe people

1. Describing Height, Weight, Age

Subject + V.to be + (Height, Weight, Age).

EX. My dad is 52.

2. Describing Face shape, Eyes, Lips shape, Hair

Subject + V.to have + (Face shape, Eyes, Lips shape, Hair).

EX. I have thin lips.

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
7. ขั้นนำ (Warm Up)
1. ครูทักทายนกั เรียนดว้ ยการสนทนาทว่ั ๆไป เช่น

Hello! Good morning. How are you today?
2. คณุ ครใู หน้ ักเรยี นจับกลุ่มเปน็ วงกลมทำกจิ กรรม warm up “ตบมือ ตบอก ตบไหล”่ ดงั นี

มือ มือ มอื ตบอก ตบมือ ตบมอื ตบไหล่ (2X) แลว้ สลับๆกันไป (2X) ตบอก ตบไหล่ ตบมอื
ตบมือ
ขน้ั นำเสนอ (Presentation)
3.ครูนำเสนอคำคณุ ศัพทบ์ รรยายลกั ษณะกายภาพของบุคคล โดยใชส้ ่อื PowerPoint และสื่อจรงิ (กายภาพบคุ คล
ของนักเรียนในห้อง) พรอ้ มให้นักเรยี นอ่านออกเสยี งตาม โดยคำศัพทท์ ีส่ อนมีดงั นี้ Shape, Face shape, Size,
Eyes color, Lips, Hair, Height, Weight, Age and Appearance

4.หลังจากนนั้ คุณครนู ำเสนอโครงสร้างไวยากรณ์ของคุณศพั ท์บอกลกั ษณะกายภาพบุคคล (Physical Adjectives)
How to describe people
1. Describing Height, Weight, Age
Subject + V.to be + (Height, Weight, Age).
EX. My dad is 52.
2. Describing Face shape, Eyes, Lips shape, Hair
Subject + V.to have + (Face shape, Eyes, Lips shape, Hair).
EX. I have thin lips.

ข้ันฝึก (Practice)
5.คณุ ครสู ุม่ นกั เรียนออกมาทำกิจกรรมหน้าชน้ั เรยี น โดยใช้วงล้อหรรษาทเี่ ตรยี มไว้ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวน้นั คือ ให้
นกั เรยี นดรู ปู ภาพบุคคลทมี่ ชี อื่ เสยี ง 3 รปู จากสอื่ PowerPoint
6.หลังจากนัน้ ใหน้ กั เรียนเขียนข้อเปรยี บเทยี บลักษณะกายภาพของบคุ คลทั้ง 3 ว่าเหมือน หรอื แตกต่าง โดยใช้
คำศัพท์ท่ีกำหนดให้ บนกระดาษทีค่ ุณครูเตรยี มไว้ให้

7.เมอื่ นกั เรยี นทุกคนเขยี นข้อเปรียบเทยี บแลว้ ให้สลับกบั เพือ่ นขา้ งๆ เพื่อตรวจคำตอบไปพร้อมๆกนั

8. คณุ ครเู ฉลยคำตอบของกิจกรรมน้ีอยา่ งละเอยี ด

ขั้นนำไปใช้ (Production)

9. ครูแจกใบงานให้นกั เรียนทำ โดยใบงานจะให้นกั เรียนเลอื กคำบรรยายลกั ษณะกายภาพของบคุ คลใหส้ ัมพนั ธก์ บั

รูปภาพท่กี ำหนดให้

10. ครเู ฉลยใบงานท่ีแจกใหน้ ักเรียนทำ

ขัน้ สรปุ (Wrap up)

10. ครสู รปุ บทเรียนว่าวันนี้เรียนเรือ่ งอะไรมาบา้ ง

8. สอื่ การเรียนรู้

1. ส่อื PowerPoint

2.สอื่ จรงิ (บคุ คล)

3. วงล้อสุ่มหรรษา

4. ใบความรู้

5. ภาระงาน

9. การวดั และประเมนิ ผล

ส่ิงท่ีตอ้ งการวดั วิธีการวัดผล เคร่ืองมอื การวดั เกณฑ์การประเมนิ ผล

ด้านความรู้ (K) การประเมินทกั ษะการอา่ น แบบประเมนิ การอ่าน ผ่านเกณฑ์ 6 คะแนนขึ้นไป
อ่านออกเสียงและบอก
ความหมายคำคุณศัพท
ลักษณะของบคุ คลท่ี
กำหนดใหไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง

ด้านทักษะกระบวนการ (P) -ให้นักเรียนทำภาระงาน -ภาระงาน (Production) ผ่านเกณฑ์ 6 คะแนนข้นึ ไป
เลือกคำบรรยายลักษณะ เลอื กคำบรรยายลกั ษณะ
กายภาพบุคคลใหต้ รงกบั บคุ คลให้สอดคลอ้ งกับ
รูปภาพทีก่ ำหนดได้ถูกต้อง รูปภาพที่กำหนดไดถ้ ูกต้อง

ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ระดบั คณุ ภาพ
4 = ดีมาก
ใฝเ่ รยี นรู้ สงั เกตการรว่ มกจิ กรรม แบบสงั เกตการรว่ ม 3 = ดี
กจิ กรรม 2 = พอใช้
1 = ควรปรบั ปรุง
ผ่านเกณฑ์ระดบั ดขี ้ึนไป

แบบบันทกึ การประเมินการอ่าน

ประเดน็ /คะแนน ความเขา้ ใจ การจบั ใจความ การรู้ความหมาย รวมคะแนน
8 สาคญั 4 20
เลขที่ ชื่อ – สกลุ
8
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24

ลงช่ือ สหสั วรรษ ธรรมกิจ ผปู้ ระเมิน

(นายสหสั วรรษ ธรรมกิจ)
วนั ท่ี 4 เดือน มกราคม พ.ศ. 2565

เกณฑ์การให้คะแนนการอ่าน

ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน

น้าหนกั / คะแนน

ประเดน็ 4 3 2 1 ความสาคญั รวม
การประเมิน

ความเขา้ ใจ ตอบคาถาม ตอบคาถาม ตอบคาถาม ตอบคาถาม

หลงั จากท่ีอ่าน หลงั จากท่ีอ่าน หลงั จากที่อ่าน หลงั จากท่ีอ่าน 2 8
ไดท้ ้งั หมด ไดเ้ กือบ ไดเ้ ลก็ นอ้ ย ไดน้ อ้ ยมาก
ท้งั หมด

การจบั ใจความ จบั ใจความ จบั ใจความ จบั ใจความ จบั ใจความ
สาคญั สาคญั ของ สาคญั ของ สาคญั ของ สาคญั ของ

28
เน้ือหาได้ เน้ือหาไดเ้ กือบ เน้ือหาได้ เน้ือหาได้

ท้งั หมด ท้งั หมด เลก็ นอ้ ย นอ้ ยมาก

การรู้ความหมาย เม่ืออ่านพบ เมื่ออ่านพบ เม่ืออา่ นพบ เมื่ออ่านพบ
คาศพั ท์ คาศพั ทใ์ หม่ คาศพั ทใ์ หม่
คาศพั ทใ์ หม่ คาศพั ทใ์ หม่ สามารถเดา สามารถเดา
สามารถเดา สามารถเดา ความหมาย ความหมาย 1 4
ความหมาย ความหมาย คาศพั ทจ์ าก คาศพั ทจ์ าก
บริบทได้ บริบทไดน้ อ้ ย
คาศพั ทจ์ าก คาศพั ทจ์ าก เลก็ นอ้ ย มาก
บริบทได้ บริบทไดเ้ กือบ

ท้งั หมด ท้งั หมด

รวม 5 20

แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน เพ่ือการประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

ชือ่ นกั เรยี น........................................................... ชั้น.................ภาคเรียนท่ี.........ปีการศกึ ษา...............
คำช้ีแจง การบันทกึ ให้กาเครื่องหมาย  ลงในชอ่ งทต่ี รงกับพฤติกรรมทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ

ใฝ่เรยี นรู้ ระดบั การปฏิบตั ิ ไมท่ ำเลย/
เป็นประจำ บางครงั้ น้อยครั้ง ไม่ชัดเจน
ที่ พฤตกิ รรม
(๓) (๒) (๑) (๐)
๑ ต้ังใจเอาใจใสแ่ ละมคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้
๒ สนใจเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ
๓ ศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้จากหนังสอื เอกสาร สง่ิ พิมพ์

สื่อเทคโนโลยตี า่ ง ๆ แหล่งเรียนร้ทู ัง้ ภายในและ
ภายนอกโรงเรยี น และเลือกใช้สอื่ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
๔ สามารถบนั ทกึ สรุปความรู้ วิเคราะห์ ข้อมลู จากสงิ่ ที่
เรยี นรู้สรุปเป็น องค์ความรู้
๕ แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ด้วย วิธกี ารต่าง ๆและ นำไปใชใ้ น
ชีวติ ประจำวัน

รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ

ผู้ประเมนิ  ครู  พ่อแม/่ ผู้ปกครอง  ตนเอง  เพื่อน

เกณฑ์การประเมนิ ลงชือ่ สหสั วรรษ ธรรมกิจ ผู้ประเมนิ
(นายสหัสวรรษ ธรรมกิจ)
ระดบั คณุ ภาพ
เกณฑ์การตัดสนิ
ดีเย่ยี ม
ดี ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๓-๑๕ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดขอ้ หนง่ึ ตำ่ กวา่ ๒ คะแนน
ได้คะแนนรวมระหว่าง ๙-๑๒ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนง่ึ ต่ำกวา่ ๐ คะแนน

ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๕-๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดขอ้ หน่งึ ต่ำกวา่ ๐ คะแนน
ไม่ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๐-๔ คะแนน







แผนการจัดการเรียนรู้
รายวชิ า ภาษาอังกฤษ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่อง What does Jason look like? จำนวน 1 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด
มฐ.ต.1.1.ม.2/1 ปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชแ้ี จง คำอธิบายง่ายๆทีฟ่ งั และอ่าน
มฐ.ต.1.2.ม.2/4 พดู และเขียนเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับเรอื่ งทฟี่ งั หรืออ่าน
อยา่ งเหมาะสม
2. สาระสำคญั
การเรยี นรู้คำศัพทเ์ กย่ี วกบั คำคณุ ศัพท์บรรยายลักษณะกายภาพของบคุ คล (Physical Appearance) ฝึกทกั ษะการ
พดู และการเขียนเรอ่ื งราวเก่ียวกบั การบรรยายรูปรา่ งลกั ษณะกายภาพของบคุ คล เพอื่ เป็นประโยชน์ต่อการนำ
ภาษาไปใช้สอื่ สารในชวี ติ จรงิ และสังคมโลกได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งและบอกความหมายคำคณุ ศพั ท์ลกั ษณะของบคุ คลทีก่ ำหนดใหไ้ ดถ้ กู ต้อง (K)
2.เขียนคำบรรยายลกั ษณะบคุ คลตามรูปภาพท่กี ำหนดไดถ้ กู ต้อง (P)
3.นกั เรยี นใฝเ่ รยี นรู้ (A)
4. สาระการเรยี นรู/้ เนอ้ื หา
Function: ความหมายของคำคณุ ศพั ทบ์ รรยายลักษณะกายภาพของบคุ คล (Physical adjectives)
คำศพั ท์ (Vocabulary): Slanted, Long face, Brawny, Hazel eyes, Thin Lips, Black hair,
Average height, Overweight, Moustache and Beard
โครงสร้างไวยากรณ์: Do you know? What…..look like?

A: What + V.to do (do, does) + S + look like?
B: S + V.to be + Adjective. หรอื
S + V.to have (has, have) got + Adjective.
EX. A: What does she look like?

B: She is long face. หรอื
She has got black hair.
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
7. ขน้ั นำ (Warm Up)
1. ครทู ักทายนกั เรยี นด้วยการสนทนาท่วั ๆไป เช่น
Hello! Good morning. How are you today?
2. ครทู บทวนเน้ือหาเดิม (คำคณุ ศพั ทบ์ รรยายลักษณะบุคคล) โดยใช้ส่อื ออนไลน์ YouTube และใหน้ ักเรยี นร่วม
กิจกรรม (ถาม-ตอบ)
ขน้ั นำเสนอ (Presentation)

3.ครูนำเสนอคำคณุ ศพั ท์บรรยายลักษณะกายภาพของบคุ คล โดยใช้สอ่ื PowerPoint และบัตรคำศพั ท์ (กายภาพ
บคุ คลของนกั เรียนในหอ้ ง) พรอ้ มให้นักเรยี นอา่ นออกเสยี งตาม โดยคำศัพทท์ ่ีสอนมีดังน้ี Slanted, Long face,
Brawny, Hazel eyes, Thin Lips, Black hair, Average height, Overweight, Moustache and Beard
4.หลงั จากนน้ั คณุ ครูนำเสนอโครงสร้างไวยากรณข์ องคุณศพั ทบ์ อกลักษณะกายภาพบุคคล (Physical Adjectives)
Do you know? What…..look like?
A: What + V.to do (do, does) + S + look like?
B: S + V.to be + Adjective. หรอื
S + V.to have (has, have) got + Adjective.
EX. A: What does she look like?

B: She is long face. หรอื
She has got black hair.
ขนั้ ฝกึ (Practice)
5.คุณครใู หน้ กั เรียนทำกิจกรรมกลมุ่ ร่วมมือ โดยใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ ฝกึ การฟังจากคลปิ วีดิโอ What do you
look like? และเขียนคำศพั ท์บรรยายลักษณะบุคคลทน่ี กั เรยี นได้ยนิ ใหไ้ ดม้ ากทส่ี ดุ ลงบนลูกโปง่ ท่ีคุณครเู ตรยี มไว้
6.กลุ่มใดเขยี นคำศพั ท์ดงั กลา่ วไดม้ ากท่สี ดุ เปน็ ฝา่ ยชนะ
ขั้นนำไปใช้ (Production)
7. ครแู จกใบงานใหน้ กั เรยี นทำ โดยใบงานจะใหน้ ักเรียนเขียนคำบรรยายลักษณะกายภาพของบุคคลให้สมั พันธ์กับ
รูปภาพที่กำหนดให้
8. ครูเฉลยใบงานทแี่ จกใหน้ ักเรียนทำ
ขน้ั สรุป (Wrap up)

9. ครูสรุปบทเรียนว่าวันนีเ้ รียนเร่ืองอะไรมาบา้ ง

8. สอื่ การเรยี นรู้

1. ส่อื PowerPoint

2. คลิปวดี โิ อ What do you look like?

3. บตั รคำศพั ท์

4. ใบความรู้

5. ภาระงาน

9. การวัดและประเมนิ ผล

สิง่ ทีต่ อ้ งการวดั วธิ กี ารวดั ผล เครื่องมือการวัด เกณฑ์การประเมินผล

ด้านความรู้ (K)

อ่านออกเสียงและบอก การประเมินทกั ษะการอ่าน แบบประเมนิ การอ่าน ผ่านเกณฑ์ 6 คะแนนขนึ้ ไป
ความหมายคำคณุ ศัพท์ -ภาระงาน (Production) ผ่านเกณฑ์ 6 คะแนนข้ึนไป

ลกั ษณะของบคุ คลท่ี

กำหนดใหไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง

ด้านทักษะกระบวนการ (P) -ให้นักเรยี นทำภาระงาน

เขยี นคำบรรยายลักษณะ เขียนคำบรรยายลกั ษณะ

บุคคลตามรูปภาพทก่ี ำหนด บุคคลให้สอดคล้องกับ

ได้ถกู ต้อง รูปภาพท่กี ำหนดได้ถูกตอ้ ง

ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ระดบั คณุ ภาพ
4 = ดมี าก
ใฝ่เรียนรู้ สงั เกตการรว่ มกจิ กรรม แบบสังเกตการร่วม 3 = ดี
กจิ กรรม 2 = พอใช้
1 = ควรปรับปรงุ
ผ่านเกณฑร์ ะดบั ดีข้ึนไป

แบบบันทึกการประเมินการอ่าน ความเขา้ ใจ การจบั ใจความ การรู้ความหมาย รวมคะแนน
8 สาคญั 4 20
ประเดน็ /คะแนน
8
เลขท่ี ชื่อ – สกลุ

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24

ลงชื่อ สหสั วรรษ ธรรมกิจ ผปู้ ระเมิน

(นายสหสั วรรษ ธรรมกิจ)
วนั ท่ี 4 เดือน มกราคม พ.ศ. 2565

เกณฑ์การให้คะแนนการอ่าน

ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน

น้าหนกั / คะแนน

ประเดน็ 4 3 2 1 ความสาคญั รวม
การประเมิน

ความเขา้ ใจ ตอบคาถาม ตอบคาถาม ตอบคาถาม ตอบคาถาม

หลงั จากท่ีอ่าน หลงั จากท่ีอ่าน หลงั จากที่อ่าน หลงั จากท่ีอ่าน 2 8
ไดท้ ้งั หมด ไดเ้ กือบ ไดเ้ ลก็ นอ้ ย ไดน้ อ้ ยมาก
ท้งั หมด

การจบั ใจความ จบั ใจความ จบั ใจความ จบั ใจความ จบั ใจความ
สาคญั สาคญั ของ สาคญั ของ สาคญั ของ สาคญั ของ

28
เน้ือหาได้ เน้ือหาไดเ้ กือบ เน้ือหาได้ เน้ือหาได้

ท้งั หมด ท้งั หมด เลก็ นอ้ ย นอ้ ยมาก

การรู้ความหมาย เม่ืออ่านพบ เมื่ออ่านพบ เม่ืออา่ นพบ เมื่ออ่านพบ
คาศพั ท์ คาศพั ทใ์ หม่ คาศพั ทใ์ หม่
คาศพั ทใ์ หม่ คาศพั ทใ์ หม่ สามารถเดา สามารถเดา
สามารถเดา สามารถเดา ความหมาย ความหมาย 1 4
ความหมาย ความหมาย คาศพั ทจ์ าก คาศพั ทจ์ าก
บริบทได้ บริบทไดน้ อ้ ย
คาศพั ทจ์ าก คาศพั ทจ์ าก เลก็ นอ้ ย มาก
บริบทได้ บริบทไดเ้ กือบ

ท้งั หมด ท้งั หมด

รวม 5 20

การเขียน แบบบันทกึ การประเมินการเขียน

เลขที่ ประเดน็ / การใช้ภาษา เนื้อหา รวมคะแนน
ชื่อ - สกลุ คะแนน 12 8 20

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24

ลงช่ือ สหสั วรรษ ธรรมกิจ ผปู้ ระเมิน

เกณฑ์การให้คะแนนการเขยี น

ระดับ เกณฑ์การให้คะแนน นา้ หนัก/ คะแนน
คะแนน ความสาคญั รวม

ประเด็น 4321 3 12
การประเมิน
การสะกด การสะกด สะกดคาผิด สะกดคาผิด 28
การใชภ้ าษา คาศพั ทถ์ ูกตอ้ ง มาก 5 20
การเลือกใชค้ า เขียนรูป
ตรงกบั เน้ือหา คาศพั ทผ์ ดิ มาก แต่พอเดา ประโยคไม่
ประโยค ถูกตอ้ ง ไมม่ ี
ถูกตอ้ ง เลก็ นอ้ ย พอเดา ความหมายได้ เครื่องหมาย
มีเคร่ืองหมาย วรรคตอน
วรรคตอนท่ี วามหมายได้ รูปประโยค
ถูกตอ้ ง
เขียนรูป ผดิ พลาดมาก

ประโยคผดิ เครื่องหมาย

หลกั ไวยากรณ์ วรรคตอนไม่

เลก็ นอ้ ย ครบหรือไม่

เครื่องหมาย ถูกตอ้ ง

วรรคตอนผดิ

เลก็ นอ้ ย

เน้ือหา มีรายละเอียด ร า ย ล ะ เ อี ย ด มีรายละเอียด มีรายละเอียด

เน้ือหาตรง ของเน้ือหามาก ของเน้ือหา ของเน้ือหา

กบั ลกั ษณะท่ี แ ต่ ยั ง ไ ม่ นอ้ ย นอ้ ยมาก

กาหนดมาก ครอบคลุม

ที่สุด ท้งั หมด

รวม

แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน เพ่ือการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

ชือ่ นกั เรยี น........................................................... ชั้น.................ภาคเรียนท่ี.........ปีการศกึ ษา...............
คำช้ีแจง การบันทกึ ให้กาเครื่องหมาย  ลงในชอ่ งทต่ี รงกับพฤติกรรมทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ

ใฝ่เรยี นรู้ ระดบั การปฏิบตั ิ ไมท่ ำเลย/
เป็นประจำ บางครงั้ น้อยครั้ง ไม่ชัดเจน
ที่ พฤตกิ รรม
(๓) (๒) (๑) (๐)
๑ ต้ังใจเอาใจใสแ่ ละมคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้
๒ สนใจเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ
๓ ศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้จากหนังสอื เอกสาร สง่ิ พิมพ์

สื่อเทคโนโลยตี า่ ง ๆ แหล่งเรียนร้ทู ัง้ ภายในและ
ภายนอกโรงเรยี น และเลือกใช้สอื่ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
๔ สามารถบนั ทกึ สรุปความรู้ วิเคราะห์ ข้อมลู จากสงิ่ ที่
เรยี นรู้สรุปเป็น องค์ความรู้
๕ แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ด้วย วิธกี ารต่าง ๆและ นำไปใชใ้ น
ชีวติ ประจำวัน

รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ

ผู้ประเมนิ  ครู  พ่อแม/่ ผู้ปกครอง  ตนเอง  เพื่อน

เกณฑ์การประเมนิ ลงชือ่ สหสั วรรษ ธรรมกิจ ผู้ประเมนิ
(นายสหัสวรรษ ธรรมกิจ)
ระดบั คณุ ภาพ
เกณฑ์การตัดสนิ
ดีเย่ยี ม
ดี ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๓-๑๕ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดขอ้ หนง่ึ ตำ่ กวา่ ๒ คะแนน
ได้คะแนนรวมระหว่าง ๙-๑๒ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนง่ึ ต่ำกวา่ ๐ คะแนน

ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๕-๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดขอ้ หน่งึ ต่ำกวา่ ๐ คะแนน
ไม่ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๐-๔ คะแนน



แผนการจดั การเรยี นรู้
รายวชิ า ภาษาอังกฤษ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 2
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรือ่ ง Personality จำนวน 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด
มฐ.ต.1.1.ม.2/1 ปฏบิ ตั ิตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธบิ ายง่ายๆที่ฟงั และอา่ น
มฐ.ต.1.2.ม.2/4 พดู และเขยี นเพื่อขอและให้ขอ้ มลู บรรยาย และแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั เรื่องท่ฟี งั หรืออา่ น
อยา่ งเหมาะสม
2. สาระสำคัญ
การเรยี นรู้คำศพั ท์เกีย่ วกบั คำคณุ ศัพท์บรรยายลกั ษณะนิสยั ของบคุ คล (Personality adjectives) ฝึกทักษะการ
พดู และการเขียนเร่อื งราวเกี่ยวกับลกั ษณะนิสัยของบคุ คล เพ่ือเปน็ ประโยชน์ต่อการนำภาษาไปใชส้ ่ือสารในชวี ิต
จริง และสงั คมโลกไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1.นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งและบอกความหมายคำคณุ ศพั ท์ลกั ษณะนิสยั ของบุคคลท่ีกำหนดใหไ้ ด้ถูกตอ้ ง (K)
2.เติมคำลงในชอ่ งว่างให้สัมพนั ธก์ บั รปู ภาพลักษณะนิสยั ของบคุ คลไดถ้ ูกต้อง (P)
3.นกั เรยี นใฝเ่ รยี นรู้ (A)
4. สาระการเรยี นร้/ู เนอ้ื หา
Function: ความหมายของคำคณุ ศัพท์บรรยายลักษณะนสิ ยั ของบุคคล (Personality adjectives)
คำศพั ท์ (Vocabulary): Kind, lively, Friendly, Hard-working, Intelligent, Talkative, Quiet, Nervous,
lazy and Messy
โครงสรา้ งไวยากรณ์: Descriptive Personality Adjectives

Subject + V.to be + (Personality Adjectives)
EX. My brother is talkative.
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
7. ขั้นนำ (Warm Up)
1. ครทู กั ทายนกั เรยี นด้วยการสนทนาท่ัวๆไป เช่น

Hello! Good morning. How are you today?
2. คณุ ครูเปิดคลปิ วดิ โี อ Personality adjectives พรอ้ มให้ทำกิจกรรม Warm up โดยแสดงกิริยาทา่ ทางตาม
ลกั ษณะนิสัยจากคลปิ วดิ โี อ https://www.youtube.com/watch?v=R77xjEHtWy8
ขั้นนำเสนอ (Presentation)
3.ครนู ำเสนอคำคุณศพั ทบ์ รรยายลกั ษณะนิสัยของบุคคล โดยใชส้ ่ือ PowerPoint และสอื่ จริง (นิสยั ของบุคคลจาก
นกั เรยี นในหอ้ ง) พรอ้ มใหน้ กั เรยี นอา่ นออกเสยี งตาม โดยคำศพั ทท์ ส่ี อนมดี งั น้ี Kind, lively, Friendly, Hard-
working, Intelligent, Talkative, Quiet, Nervous, lazy and Messy
4.หลังจากนน้ั คุณครูนำเสนอโครงสร้างไวยากรณ์ของคณุ ศพั ทบ์ อกลกั ษณะนิสัยของบุคคล (Personality
Adjectives) (Descriptive Personality Adjectives)
Subject + V.to be + (Personality Adjectives)

EX. My brother is talkative.
ขน้ั ฝกึ (Practice)
5.คณุ ครใู หน้ กั เรยี นฝกึ สนทนาคณุ ศพั ท์บอกลักษณะนิสัยของบคุ คล (Personality Adjectives) กนั เป็นคหู่ น้าช้นั
เรยี น โดยใชป้ ระโยคดงั นีเ้ ช่น
A: What is your personality?
B: I am kind.
6.หลงั จากน้นั สลับกนั ฝกึ พดู บทสนทนาให้เกดิ ความเข้าใจ เรื่องคำศพั ท์ และไวยากรณท์ ี่นำเสนอ
ขน้ั นำไปใช้ (Production)
7. ครแู จกใบงานใหน้ กั เรียนทำ โดยใบงานจะให้เตมิ คำลงในชอ่ งวา่ งให้สัมพนั ธ์กบั รูปภาพลกั ษณะนสิ ยั ของบุคคล
8. ครเู ฉลยใบงานท่แี จกให้นักเรียนทำ
ข้ันสรปุ (Wrap up)
9. ครสู รปุ บทเรยี นวา่ วนั นีเ้ รียนเร่อื งอะไรมาบ้าง
8. สอื่ การเรียนรู้
1. สอ่ื PowerPoint
2. ส่อื จรงิ (ลักษณะนสิ ัยของบุคคล)
3. คลิปวีดโิ อ Personality Adjectives https://www.youtube.com/watch?v=R77xjEHtWy8
4. ใบความรู้
5. ภาระงาน

9. การวดั และประเมนิ ผล

ส่งิ ทตี่ ้องการวดั วิธีการวดั ผล เคร่ืองมือการวดั เกณฑก์ ารประเมินผล

ด้านความรู้ (K)

อา่ นออกเสียงและบอก การประเมนิ ทกั ษะการอ่าน แบบประเมินการอ่าน ผา่ นเกณฑ์ 6 คะแนนขนึ้ ไป
ความหมายคำคณุ ศพั ท์ -ภาระงาน (Production) ผา่ นเกณฑ์ 6 คะแนนขน้ึ ไป

ลกั ษณะนิสยั ของบุคคลที่

กำหนดให้ไดถ้ กู ต้อง

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) -ใหน้ ักเรยี นทำภาระงาน

เติมคำลงในชอ่ งว่างให้ เตมิ คำลงในช่องวา่ งให้

สัมพนั ธ์กับรปู ภาพลักษณะ สอดคลอ้ งกบั รูปภาพที่

นิสยั ของบุคคลไดถ้ กู ตอ้ ง กำหนดไดถ้ กู ต้อง

ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ระดบั คณุ ภาพ
4 = ดมี าก
ใฝ่เรยี นรู้ สังเกตการร่วมกจิ กรรม แบบสังเกตการรว่ ม 3 = ดี
กจิ กรรม 2 = พอใช้
1 = ควรปรับปรุง
ผา่ นเกณฑร์ ะดับดขี ้ึนไป

แบบบันทึกการประเมินการอ่าน ความเขา้ ใจ การจบั ใจความ การรู้ความหมาย รวมคะแนน
8 สาคญั 4 20
ประเดน็ /คะแนน
8
เลขท่ี ชื่อ – สกลุ

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24

ลงชื่อ สหสั วรรษ ธรรมกิจ ผปู้ ระเมิน

(นายสหสั วรรษ ธรรมกิจ)
วนั ท่ี 4 เดือน มกราคม พ.ศ. 2565

เกณฑ์การให้คะแนนการอ่าน

ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน

น้าหนกั / คะแนน

ประเดน็ 4 3 2 1 ความสาคญั รวม
การประเมิน

ความเขา้ ใจ ตอบคาถาม ตอบคาถาม ตอบคาถาม ตอบคาถาม

หลงั จากท่ีอ่าน หลงั จากท่ีอ่าน หลงั จากที่อ่าน หลงั จากท่ีอ่าน 2 8
ไดท้ ้งั หมด ไดเ้ กือบ ไดเ้ ลก็ นอ้ ย ไดน้ อ้ ยมาก
ท้งั หมด

การจบั ใจความ จบั ใจความ จบั ใจความ จบั ใจความ จบั ใจความ
สาคญั สาคญั ของ สาคญั ของ สาคญั ของ สาคญั ของ

28
เน้ือหาได้ เน้ือหาไดเ้ กือบ เน้ือหาได้ เน้ือหาได้

ท้งั หมด ท้งั หมด เลก็ นอ้ ย นอ้ ยมาก

การรู้ความหมาย เม่ืออ่านพบ เมื่ออ่านพบ เม่ืออา่ นพบ เมื่ออ่านพบ
คาศพั ท์ คาศพั ทใ์ หม่ คาศพั ทใ์ หม่
คาศพั ทใ์ หม่ คาศพั ทใ์ หม่ สามารถเดา สามารถเดา
สามารถเดา สามารถเดา ความหมาย ความหมาย 1 4
ความหมาย ความหมาย คาศพั ทจ์ าก คาศพั ทจ์ าก
บริบทได้ บริบทไดน้ อ้ ย
คาศพั ทจ์ าก คาศพั ทจ์ าก เลก็ นอ้ ย มาก
บริบทได้ บริบทไดเ้ กือบ

ท้งั หมด ท้งั หมด

รวม 5 20