127 บทที่ 5 ต ำรำมวยไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ต ำรำมวยไทยพระเจ้ำเสือ ต ำรำมวยไทย ต ำรับพระเจ้ำเสือ โดย ยศเรืองสำ (ค่ำยอำจำรย์เปลี่ยน สมชำติ) แนะ แนวทำงกำรฝึกฝนศิลปะมวยไทย สิ่งที่ควรรู้และพึงปฏิบัติของผู้ฝึกมวยเบื้องจ้น แนวทำงกำรฝึก ลูกไม้ แม่ไม้มวยไทย กำรไหว้ครู กำรฝึกท่ำเดินเท้ำมวยไทย กำรฝึกหมัด ศอก เข่ำ เตะ ถีบ กล แก้มวย กลมวยจู่โจม เหมำะกับผู้ที่สนใจ ส ำหรับป้องกันตัวและบริหำรร่ำงกำย เพื่อสุขภำพที่ดี และจิตใจที่แข็งแรง
128
129
130
131
132
133
134
135
136 ต ำรำมวยไทยสมัยรัชกำลที่ 2 ภำพไม้มวยไทยที่มำจำกวรรณคดีเรื่อง “ รำมเกียรติ์ ” ภำพศิลำจ ำหลัก เรื่องรำมเกียรติ์วัดพระเชตุพน วิมลมังคลำรำม(วัดโพธิ์) วัดโพธิ์เป็นวัดประจ ำ รัชกำลที่ 1 ภำพจ ำหลักและติดตั้งอยู่ระหว่ำงเสำเฉลียง ( เสำนำงเรียง ) ของพระอุโบสถ ด้ำนนอก จ ำหลักเป็นภำพสลักนูนต่ ำ บนแผ่นหินอ่อน เรื่องรำมเกียรติ์ มีทั้งหมด 152 ภำพ และมีโครง จำรึกบอกเนื้อเรื่องติดไว้ใต้ภำพ แต่ปัจจุบันได้เลื่อนรำง มองเห็นไม่ชัดเจน ภำพสลักศิลำเหล่ำนี้ มำจำกหนังใหญ่ตอนต่ำงๆ รัชกำลที่ 3 ทรงมีพระรำชปรำรภว่ำ “ หนังใหญ่เป็นกำรเล่น มหรสพของไทยมำแต่อยุธยำตอนต้นถึงสมัยรัตนโกสินทร์ กำรเล่นหนังใหญ่ต้องใช้ศิลปะชั้นสูง หลำยด้ำน เพระเหตุนี้ กำรเล่นหนังใหญ่จึงเป็นของเล่นให้ดีได้ยำกนับวัน แต่จะโทรมลงไป เพื่อให้อนุชนได้ชมภำพตัวหนังดังกล่ำว จึงให้หำตัวหนังใหญ่มำแกะลงบนแผ่นศิลำให้เหมือน หนังฉลุ ทุกส่วนติดไว้ให้ชม ” ซึ่งช่ำงได้คัดเลือกเอำแต่เฉพำะตอน ที่เห็นว่ำจะจ ำหลักเป็นภำพ ได้งดงำม จึงมีเนื้อเรื่องไม่ต่อเนื่องกันนัก แต่เนื้อเรื่องนั้นได้เริ่มตั้งแต่พระรำมตำมกวำง จำกแผน ของทศกัณฐ์ ที่ออกอุบำยให้มำรัศ แปลงเป็น กวำงทอง มำล่อพระรำม จนทัศกัณฐ์ลักนำงสีดำ จนถึงพระลักษณ์ ท ำศึกกับมูลพลัม ซึ่งเป็นอสูรตนส ำคัญ แห่งเมืองปำวตำล ที่มำช่วยทศกัณฐ์ รบกับฝ่ำยพระรำม และจบลงที่แผ่นสุดท้ำย สหัสเดชะตำย ภำพเรื่องรำมเกียรติในวัดโพธิ์ได้ ปรับปรุงโดย ร.3 มีทั้งหมด152ภำพ เกี่ยวกับมวยมี36 ภำพ อ้ำงอิงจำก เรือนไทย.วิชำกำร.ดอตคอม เรือนไทย>General Category>ชมรมอนุรักษ์ภำพ จิตกรรมไทย>ภำพศิลำจ ำหลัก เรื่องรำมเกียรติ์ วัดพระเชตุพน วิมลมังคลำรำม ( วัดโพธ์ ) ( เมื่อ 2สิงหำคม2511 )
137 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 1.กลขุนยักษ์พานาง 1.กลขุนยักษ์พานาง แสดงภำพทศพักตร์อุ้ม อรสี ดำเอย รีบออกนอกกุฎี ด่วนเต้ำ ขึ้นรถเลื่อนลอยลี เลอลำศมำแฮ นงนุชสุดเทวษเคร้ำ สวำทร้ำงห่ำงเกษม 2. สีดำยุชิงนำง 2. สีดำยุชิงนำง เถลิงลักษณสิบภักตรพ้อง ไภพำล สีดำยุยุทธนำกำร กีดกั้น โฉบชิงมิ่งสมรมำลย์ ประหวัดหวำดแหวนฤำ บัดรำพทรำบเหตุชั้น ถอดทิ้งทันทวี
138 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 3.พระรำมน้ำวศร 3.พระรำมน้ำวศร จักรกฤษณพิศณุขึ้น ศรสำย คอยฆ่ำพำลีหมำย มุ่งน้ำว เห็นฤทธิ์คิดเสียดำย เพรำะสัตย์ เสียนำ จนจิตรจ ำใจท้ำว ลั่นล้ำงวำงศร 4.สุครีพรั้งพำลี 4.สุครีพรั้งพำลี พำลีตีต่อน้อง เฉวียนฉวัด ศรจักรปักอกหัตถ์ จับไว้ เหลือบเห็นพระจักรรัตน์ เป็นสี่ กรแฮ คลำยโกรธน้องร้องไห้ สั่งแล้วลำตำย
139 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 5. กลปล ำปักหลั่น 5. กลปล ำปักหลั่น อสุรีต่อด้วย องคต องคตจับรำกษส จักมล้ำง ปักหลั่นเสื่อมเสียพยศ ขอโทษ ต่ำงไต่ถำมนำมอ้ำง เรื่องต้นตนแถลง 6. หนุมำนกระชำกปลิง 6. หนุมำนกระชำกปลิง ธำรกรนักสิทธิ์แสร้ง เป็นปลิง สำปสั่งคอยเกำะลิง ที่น้ ำ หนุมำนตื่นตนติง ลงสู่สระแฮ ปลิงเกำะกัดคำงปล้ ำ ปลดทิ้งฤๅถอน ต่ำงไต่ถำมนำมอ้ำง เรื่องต้นตนแถลง
140 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 7. กลหนุมำนทะยำน 7. กลหนุมำนทะยำน วำยุบุตรสำรภำพแพ้ รับผิด นำรทเมตตำจิตร ปลดให้ พลำงถำมที่ทำงทิศ อสุเรศ ดำบสบอกจ ำได้ เสร็จแล้ว ลำจร 8. หนุมำนข้ำมลงกำ 8. หนุมำนข้ำมลงกำ กองตระเวนอำกำศห้อม แหนลง กำเฮย เห็นบุตรพระพำยตรง สู่แคว้น เร่งพลรุกรณรงค์ รุมจับ กระบี่แฮ กระบี่ตระบัดขัดแค้น ไล่ล้ำง กลำงโพยม
141 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 9. หักอำกำศตะไล 9. หักอำกำศตะไล หนุมำนหำญหักเข้ำ โจมจับ อำกำศตะไลรับ รบด้วย หนุมำนตัดเศียรกับ แขนขำด ลงแฮ อำกำศตะไลม้วย มอดกลิ้งกลำงดิน 10. กลหนุมำนถวำยแหวน 10. กลหนุมำนถวำยแหวน วำยุบุตรอภิวำทไหว้ ถวำยแหวน นำงรับมำทรงแสน โศกเศร้ำ แจ้งเหตุพระดลแดน เดินป่ำ มำนำ นำงโศกลิงซบเกล้ำ เกลือกกลั้น กรรแสง
142 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 11. หนุมำนฟำดกุมภัณฑ์ 11. หนุมำนฟำดกุมภัณฑ์ วำยุบุตรฤทธิเร้ำ แรงรณ ไล่ฆ่ำกุมภัณฑ์พล แหลกหย้อย ยักษ์มำรบ่ทำนทน ทรุดท่ำว หนีแฮ ตำยแตกยับนับร้อย ตื่นครื้นเครงเสียง 12. หนุมำนคลุกฝุ่น 12. หนุมำนคลุกฝุ่น ศรเป็นนำครำชร้ำย เร็วรัด วำยุบุตรจับงูฟัด ฟำดทิ้ง พลย ักษ์ช่วยกันมัด เป็นหมู่ วำยุบุตร ท ำนองกลิ่ง ยักษ์ปล้ ำ น ำถวำย
143 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 13. หนุมำนผลำญพลยักษ์ 13. หนุมำนผลำญพลยักษ์ หนุมำนชำญเดชห้ำว หำญหัก เข้ำหว่ำงกลำงพลยักษ์ ไล่ล้ำง หมู่มำรบ่ทำนศัก ดำเดช ฉุดฉีกขำแขนขว้ำง เกลื่อนกลิ้งกลำงดิน 14. หนุมำนหักด่ำน 14. หนุมำนหักด่ำน ลูกลมเรืองฤทธิ์ร้ำย แรงรณ ขึ้นกลุ่มกุมกำจผจญ จับพลิ้ว กลอกกลับรับกลำงพล มำรพ่ำยหนีนำ บ้ำงหั่นฟันหัวหิ้ว คว่ำงคว้ำงกลำงแปลง
144 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 15. ขุนยักษ์จับลิง 15. ขุนยักษ์จับลิง อสูรพลยักษ์ร้ำย อุตตลุด รุมจับขุนวำยยุบุตร มัดไว้ ต่ำงเอำสำตรำวุธ ฟันฟำด ลิงกลับสังหำรให้ ยักษ์ร้ำยวำยชนม์ 16. หนุมำนชิงสำก 16. หนุมำนชิงสำก กุมภัณฑ์เพชฌฆำตเข้ำ รุมยก ลิงใส่ลงในครก โขลกจ้ ำ ก ำแหงหนุมำนชก ชิงสำก ได้แฮ ไล่ขยี้ตีซ้ ำ ยักษ์ร้ำยตำยเตียน
145 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 17. หนุมำนหักคอช้ำงเอรำวัน 17. หนุมำนหักคอช้ำงเอรำวัน มัดลิงกับหลักกลิ้ง กลำงแปลง ใสคชซับมันแทง คว่ำงคว้ำง วำยบุตรหลุดโลดแรง เร็วรวด ผลำญยักษ์หักคอช้ำง ชีพม้วยหมอครวญ 18. หนุมำนจับสุกรสำร 18. หนุมำนจับสุกรสำร วำยุบุตรวำงวิ่งก้ำว กันสกัด โจมจับสุกรสำรรัด รวบไว้ ลิงเลวช่วยกันมัด เป็นหมู่ เอำเชือกผูกคอให้ ลำกหล้ำมพำมำ
146 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 19. หนุมำนจับเบญกำย 19. หนุมำนจับเบญกำย ปำงบุตรมำรุตร้ำย รำยพล รอบแฮ กองก่ออัคคีลน รุมเร้ำ เบญกำยสุดแรงทน เพลิงเหำะ หนีนำ วำยุบุตรโจมจิกเกล้ำ จับได้มำถวำย 20. นิลพัทคัดศิขร 20. นิลพัทคัดศิขร นิลพัทบัดชกพ้อง ชมพู พลเอย ขนคัดศิขรดู ดื่นหน้ำ แต่ตนแบกผำชู สองหัตถ์ มำแฮ ร้องเรียกหนุมำนถ้ำ รับทิ้งถมถนน
147 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 21. หนุมำนรับศิขร 21. หนุมำนรับศิขร วำยุบุตรโบกหัตถ์ห้ำม เอำที นิลพัทไป่ยดี ว่ำช้ำ ทิ้งทุ่มโขดคิรี ทั้งคู่ลงแฮ วำยุบุตรโลดลอยคว้ำ รับได้โยใจ 22. หนุมำนหักภูผำ 22. หนุมำนหักภูผำ โยธำพำนเรศอื้อ แออัด หอบหักศิขรคัด เกลื่อนกลิ้ง พำนรขีดขืนขนัด นำเนก ขนส่งชมพูทิ้ง ทุ่มท้องสำคำร
148 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 23. สุครีพห้ำมทัพ 23. สุครีพห้ำมทัพ สุครีพรับเร่งเข้ำ กีดกำง ยึดหัตถ์สองนำยทำง ขู่คั้น สองนำยนั่งลงพลำง ยกผิด กันนำ สุครีพรีบพำชั้น สู่ท้ำวทูลนำย 24. หนุมำนจองถนน 24. หนุมำนจองถนน กระบี่วำยุบุตรพร้อม พำนร แสดงเดชหักศิขร เกลื่อนกลิ้ง เหล่ำลิงวิ่งขนคอน หำมหำบ มำนำ ถึงท่ำวำรีทิ้ง ทุ่มท้องสำคร
149 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 25. ปล ำสุพรรณมัจฉำ 25. ปล ำสุพรรณมัจฉำ เสร็จสองสังวำส โลมลำ วอนว่ำวำนนำงปลำ ป่ำวพ้อง คืนคำบศิลำมำ ดุจดังเดิมแฮ ครั้นเสร็จโลมลำน้อง สู่ท้ำวทูลแถลง 26. บั่นเศียรภำณุรำช 26. บั่นเศียรภำณุรำช วำยุบุตรฤทธิรู้ กลยักษ์ บ่ำแบกพสุธำผลัก พลิกพลิ้ว จิกเกศกุมภัณฑ์ชัก ตรี ตัดเศียรแฮ เอำบำทำคีบหัวหิ้ว เหำะแล้วพำมำ
150 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 27. องคตเปิดทวำร 27. องคตเปิดทวำร องคตยศยิ่งเชื้อ ชำยทหำร เป็นทูตถือรำชสำร สื่อใช้ นำยประตูบ่เปิดบำน ทวำเรศ รับนำ ถึงถีบทวำรวังให้ หักล้มพังลง 28. องคตฟำดอสุรี 28. องคตฟำดอสุรี อสุรีทั้งสี่เข้ำ โจมจับ องคตตนเดียวรับ รบด้วย ฟำดสี่อสุรีกับ ปรำสำท ยักษ์สี่มนตรีม้วย มอดกลิ้งกลำงดิน
151 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 29. ไมยรำพแก่วงรถ 29. ไมยรำพแก่วงรถ ไมยรำพทรำบเหตุแล้ว ไปลำแม่นำ พระแม่เห็นอัปรำ ตรัสห้ำม ไมยรำพประทุษฐทำ รุณโทษ แก่วงรถประชดฤคร้ำม เยำะเย้ยชนนี 30. ไมยรำพลักพระ 30. ไมยรำพลักพระ ริภำพไมยรำพเข้ำ ถึงองค์ บ่ำแบกพระหริวงศ์ รีบเต้ำ ช ำแรกแผ่นดินลง ยังภพ ตนนำ กรงใส่ไว้ยักษ์เฝ้ำ ห่อนให้ใครปลอม
152 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 31. หนุมำนแหวกฟอง 31. หนุมำนแหวกฟอง วำยุบุตรทรำบเหตุเต้ำ ตำมมำ พบรบกับมัจฉำ - ณุน้อย รู้จักลูกรักชอำ - วรณ์เทวศ ถำมท่ำทำงพลำงคล้อย คลำศเข้ำเมืองมำร 32. สยบไมยรำพ 32. สยบไมยรำพ หนุมำนหำรหักเข้ำ โรมรัน โจมจับไมยรำพยัน เหยียบไว้ มือขวำแกว่งขรรค์ฟัน เศียรขำด ซ้ำยบีบแมลงภู่ให้ ยักษ์ร้ำยวำยวำง
153 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 33. หนุมำนแบกพระ 33. หนุมำนแบกพระ เสร็จผลำญไมยรำพแล้ว หนุมำน บ่ำแบกพระอวตำร อยู่เกล้ำ รีบออกนอกบำดำล โดยด่วน หมำยมุ่งพลับพลำเข้ำ เขตไม้ไพรพนม 34. องคตตีทัพ 34. องคตตีทัพ องคตวำงวิ่งเข้ำ โหมหัก รบรับทัพหน้ำยักษ์ ควั่งคว้ำ หวดซ้ำยป่ำยขวำชัก ขำฉีก ฟำดฟัดตัดหัวขว้ำง เกลื่อนกลิ้ง กลำงดิน
154 ภำพไม้มวยไทยที่ได้ชื่อ มำจำกวรรณคดีเรื่อง “รำมเกียรติ์” วิเครำะห์ต ำรำมวยไทยที่ใช้ชื่อ จำกวรรณคดีไทยเรื่องรำมเกียรติ์ 35. กลลิงพริ ว 35. กลลิงพริ ว วำยุบุตรโจนจับจ้อง โจมผจญ ล้ำงเหล่ำอสุรพล เผ่ำร้ำย ตำยกลำดดำษดินดล ดำดื่น แตกย่อย่นจนท้ำย รถท้ำวกุมภกัณฐ์ 36. จับวิรุณมุข 36. จับวิรุณมุข หนุมำนโผนเผ่นเข้ำ บุกรุก โจมจับวิรุณมุข มัดได้ วำนรจับจิกจุก จูงลำก มำนำ ถึงส่งสุครีพไห้ ผู้เข้ำไถ่ถำม
155 ต ำรำมวยไทยสมัยรัชกำลที่ 3 จำกต ำรำมวยไทยโบรำณในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ จ ำนวน 4 รัชกำลคือ รัชกำลที่ 3 รัชกำลที่ 6 รัชกำลที่ 7 และรัชกำลที่ 9 จำกข้อมูลนี้ พบว่ำควำมรู้ไม้มวยไทยโบรำณใน รัชกำลที่ 6 รัชกำลที่ 7 รัชกำลที่ 9 มีชื่อไม้มวยก ำกับอยู่แล้ว ยกเว้นในสมัยรัชกำลที่ 3 เป็น เพียงภำพเขียนท่ำมวยลงในสมุดข่อยยังไม่มีชื่อไม้มวยก ำกับ ควรได้รับกำรตั้งชื่อภำพเพื่อ สะดวกในกำรด ำเนินกำรจัดกำรควำมรู้ต่อไป ชื่อประกอบภาพไม้มวยไทยโบราณจากต ารามวยไทย(สมุดข่อย) ในรัชกาลที่ 3 ล ำดับที่ ภำพไม้มวยไทยโบรำณ 1 “จดมวย” นักมวยทั้งสองคุมมวยจดจ้องกัน เตรียม ควำมพร้อมที่จะต่อสู้ หรือชกกัน แสดงถึงกำร เตรียมกำยเตรียมใจเพื่อรุกเข้ำท ำคู่ต่อสู้ ขณะเดียวกันก็เตรียมกำรป้องกันตัวด้วยกำร ยกแขนขึ้นสูงระดับศีรษะ ใบหน้ำ ล ำตัวและ พร้อมยกขำข้ำงหน้ำเพื่อป้องกันล ำตัว 2“จดสูง จดต่ า” นักมวยทั้งสองจดมวยเตรียมพร้อมที่ จะต่อสู้หรือชกกัน นักมวยทำงด้ำนซ้ำยจด มวยปกติหรือจดสูง นักมวยทำงด้ำนขวำจด มวยยอตัวลงต่ ำหรือจดต่ ำเตรียมควำมพร้อม ของร่ำงกำยที่จะรุก – รับ เข้ำท ำคู่ต่อสู้หรือ ป้องกันตัว
156 ล ำดับที่ ภำพไม้มวยไทยโบรำณ 3 + 4 “ปักษาแหวกรัง” ภำพด้ำนซ้ำย นักมวยทั้งสองจดมวย รุกเข้ำหำกันในระยะประชิดตัว ภำพด้ำนขวำ แสดงถึงนักมวยด้ำนซ้ำยรุกเข้ำวงในด้วยเท้ำซ้ำยน ำ ตำมด้วยหมัด ตรงหน้ำซ้ำยมือ นักมวยด้ำนขวำก้ำวเท้ำซ้ำยเข้ำวงใน เพื่อหลบหมัดตรงหน้ำซ้ำยมือ ของคู่ต่อสู้และเตรียมตอบโต้ด้วยหมัดตรงหน้ำซ้ำยมือเช่นกัน โดยมือขวำตั้งป้องกันไว้ 5 + 6 ท่ำหงษ์ปีกหัก ภำพด้ำนซ้ำย นักมวยทั้งสองจดมวยเข้ำหำกันพร้อมที่จะต่อสู้ ภำพด้ำนขวำ นักมวยด้ำนซ้ำยเข้ำรุกวงในด้วยหมัดตรงหน้ำซ้ำยและตำมด้วยหมัด ตรงหน้ำขวำโดยก้ำวเท้ำขวำน ำ แล้วนักมวยทำงด้ำนขวำมือหลบหมัดตรงหน้ำซ้ำย เข้ำวงในตำมด้วยศอกขวำเข้ำที่หัวไหล่หรือไหปลำร้ำของคู่ต่อสู้
157 ล ำดับที่ ภำพไม้มวยไทยโบรำณ 7 + 8 “สลับฟันปลา” ภำพด้ำยซ้ำย นักมวยทั้งสองจดมวยเข้ำต่อสู้กัน ฝ่ำยรุกคือนักมวยด้ำนขวำ ก้ำว เท้ำซ้ำยน ำ ตำมด้วยหมัดตรงหน้ำซ้ำยเข้ำหำคู่ต่อสู้ ฝ่ำยรับ นักมวยด้ำนซ้ำยมือหลบ หมัดฉำกออกด้ำนนอก โดยมือขวำและมือซ้ำยปัดแขนป้องกันตัว ภำพด้ำนขวำ เป็นภำพต่อเนื่องจำกภำพด้ำนซ้ำย นักมวยด้ำนขวำมือเป็นฝ่ำยรุก ก้ำว เท้ำขวำน ำ ตำมด้วยหมัดตรงหน้ำขวำเข้ำหำคู่ต่อสู้ นักมวยด้ำนซ้ำยเป็นฝ่ำยรับ หลบ หมัดฉำกออกด้ำนนอกลักษณะเดียวกับภำพด้ำนซ้ำย 9 + 10 “มอญยันหลัก” ภำพด้ำนซ้ำย คนที่อยู่ด้ำนซ้ำยเป็นฝ่ำยรุก พร้อมที่จะเข้ำมำกระท ำ แต่คนที่อยู่ด้ำน ขำวมือชิงกระท ำก่อน โดยใช้เท้ำซ้ำยถีบไปที่ขำหน้ำของคู่ต่อสู้ ลักษณะคล้ำยท่ำมอญ ยันหลัก แต่ท่ำยกเท้ำถีบไปไม่สูงมำกนัก ภำพด้ำนขวำ หลังจำกที่ป้องกันโดยชิงถีบแล้ว ทั้งสองฝ่ำยต่ำงถอยออกมำจดมวยอีก ครั้ง เพื่อเตรียมตัวหรือหำวิธีกำรที่จะเข้ำท ำคู่ต่อสู้อีกครั้งหนึ่งเมื่อมีจังหวะ
158 ล ำดับที่ ภำพไม้มวยไทยโบรำณ 11 “เอราวัณเสยงา” นักมวยด้ำนซ้ำยเป็นฝ่ำยรุกเดินเข้ำไปต่อย ส่วนด้ำนขวำใช้แขนซ้ำยป้องกันหมัดขวำ แล้วต่อยด้วยหมัดซ้ำยเข้ำที่คำงของคู่ต่อสู้ 12+13 “รักแร้หักแขน” ภำพด้ำนซ้ำย นักมวยทั้งสองต่ำงจดมวยพร้อมที่จะเข้ำต่อสู้ ภำพด้ำนขวำ เมื่อมีจังหวะนักมวยคนซ้ำยเข้ำชกด้วยหมัดตรงขวำ นักมวยคนขวำใช้ กำรตวัดแขนซ้ำยปัดหมัด พร้อมใช้รักแร้หนีบข้อมือของคู่ต่อสู้แล้ว ล็อกแขนเพื่อหักแขน ส่วนมือขวำใช้ประกอบกำรหักแขน
159 ล ำดับที่ ภำพไม้มวยไทยโบรำณ 14+15 “อีกาฉีกรัง” ภำพด้ำนซ้ำย คนด้ำนขวำพุ่งเข้ำจู่โจมโดยใช้กำรกระโดดเข้ำไปหำแล้วใช้แขนทั้ง สองข้ำงตลบแขนของคู่ต่อสู้ไว้ ภำพด้ำนขวำ เป็นภำพต่อเนื่อง เมื่อกันแขนทั้งสองของคู่ต่อสู้แล้ว ใช้เข่ำขึ้น กระแทกไปที่คู่ต่อสู้ 16 “องคตถวายสาร” นักมวยคนซ้ำยมือต่อยด้วยหมัดซ้ำย นักมวยคนขวำหลบหมัดแล้วใช้หมัดหงำยชกที่ ปลำยคำงของคู่ต่อสู้
160 ล ำดับที่ ภำพไม้มวยไทยโบรำณ 17+18 “หนุมานถวายแหวน” ภำพด้ำนซ้ำย นักมวยทั้งสองเข้ำต่อสู้กันโดยใช้หมัด ภำพด้ำนขวำ นักมวยคนขวำมีจังหวะดีกว่ำ จึงจู่โจมโดยกำรสืบเท้ำเข้ำวงในแล้วใช้ หมัดคู่ชกสวนเข้ำที่ใบหน้ำคู่ต่อสู้หรือปลำยคำงก็ได้ 19+20 “อิเหนาแทงกริช” ภำพด้ำนซ้ำย นักมวยทั้งสองต่ำงเข้ำต่อสู้กันโดยชกกันทั้งสองฝ่ำย ภำพด้ำนขวำ เมื่อมีจังหวะนักมวยคนขวำมือหลบหมัดเข้ำวงในใช้หมัดขวำต่อยเข้ำ ที่ล ำตัวของคู่ต่อสู้
161 ล ำดับที่ ภำพไม้มวยไทยโบรำณ 21+22 “หนูไต่ราว” ภำพด้ำนซ้ำย เมื่อนักมวยคนซ้ำยเข้ำชกด้วยหมัดขวำแล้ว นักมวยคนขวำรับด้วย กำรบิดตัวออกด้ำนนอกแล้วจับแขนคู่ต่อสู้ไว้ ภำพด้ำนขวำ ต่อเนื่องด้วยกำรใช้เข่ำขวำตีเฉียงไปที่ล ำตัวของคู่ต่อสู้ 23 “รัดงวงเอราวัณ” นักมวยด้ำนซ้ำย เข้ำโจมตีโดยกำรเตะเฉียงไปที่ล ำตัวของคนขวำ แต่นักมวยคนขวำ แก้ไขโดยกำรสืบเท้ำเข้ำประชิดคู่ต่อสู้อย่ำงรวดเร็ว เป็นกำรสลำยแรงเตะ แล้วใช้แขน ซ้ำยรวบขำของคู่ต่อสู้ไว้ ล็อกด้วยแขนให้มั่นแล้วใช้หมัดขวำต่อยไปที่ใบหน้ำของคู่ ต่อสู้
162 ล ำดับที่ ภำพไม้มวยไทยโบรำณ 24 “เถรกวาดลาน” จำกภำพจะเห็นนักมวยคนที่เตะเสียจังหวะ นักมวยอีกคนจึงฉวยโอกำสก้มหลบ แล้ว เตะด้วยเท้ำขวำไปที่เท้ำหลักของคู่ต่อสู้อย่ำงแรงเพื่อให้คู่ต่อสู้ล้มลง 25 “หักงวงไอยรา” นักมวยคนซ้ำยมือเตะซ้ำยไปที่ล ำตัวของคู่ต่อสู้ นักมวยคนขวำบิดตัวหนีเพื่อสลำยแรง เตะแล้วใช้แขนช้อนขำของคู่ต่อสู้ไว้ แล้วเตรียมใช้แขนขวำท ำร้ำยคู่ต่อสู้
163 ล ำดับที่ ภำพไม้มวยไทยโบรำณ 26+27 “ดับชวาลา” ภำพด้ำนซ้ำย นักมวยทั้งสองต่ำงเข้ำต่อยกันอย่ำงรวดเร็ว ภำพด้ำนขวำ นักมวยคนขวำมีจังหวะดีกว่ำจึงใช้หมัดซ้ำยต่อยเข้ำที่เบ้ำตำของคู่ต่อสู้ อย่ำงรวดเร็ว 28+29 “ถางป่า” ภำพด้ำนซ้ำย นักมวยทั้งสองต่ำงเขำชกกันและป้องกันตัว ภำพด้ำนขวำ นักมวยคนซ้ำยชกด้วยหมัดซ้ำย นักมวยคนขวำป้องกันแล้วตีศอกซ้ำย (ศอกคว่ ำ) เข้ำที่หน้ำผำกคู่ต่อสู้จำกที่สูงลงมำต่ ำ
164 ล ำดับที่ ภำพไม้มวยไทยโบรำณ 30+31 “คชสารกวาดหญ้า” ภำพด้ำนซ้ำย นักมวยคนซ้ำย ก้ำวเท้ำขวำพร้อมชกด้วยหมัดตรงหลังขวำ นักมวยคนขวำก้มหลบต่ ำ ภำพด้ำนขวำ คนขวำก้มหลบต่ ำด้วยกำรฉำกนอกด้ำนซ้ำยเข้ำประชิดในล็อคแขนคู่ ต่อสู้ แล้วทุ่มคู่ต่อสู้ให้ล้มลง 32+33 “บาทาลูบพักตร์” ภำพด้ำนซ้ำย นักมวยทั้งคู่ต่ำงจดมวยพร้อมที่จะต่อสู้กัน ภำพด้ำนขวำ นักมวยทำงขวำสืบเท้ำซ้ำยพร้อมชกหมัดตรงหน้ำซ้ำย นักมวย ทำงซ้ำยได้จังหวะยกเท้ำขวำขึ้นสูงเพื่อใช้ฝ่ำเท้ำถีบที่ใบหน้ำคู่ต่อสู้
165 ล ำดับที่ ภำพไม้มวยไทยโบรำณ 34+35 “โน้มคอเอราวัณ” ภำพด้ำนซ้ำย นักมวยคนซ้ำยเข้ำต่อยนักมวยคนขวำ ภำพด้ำนขวำ นักมวยคนขวำรอจังหวะแล้วสืบเท้ำเข้ำหำ ใช้มือซ้ำยล็อคแขนขวำ ของคู่ต่อสู้แล้วใช้มือขวำพยำยำมโน้มคอคู่ต่อสู้พร้อมกับตีเข่ำขวำที่ท้องของคู่ต่อสู้ 36+37 “ตลบขึ้น” ภำพด้ำนซ้ำย นักมวยคนขวำเข้ำจู่โจมด้วยกำรก้ำวเท้ำขวำพร้อมชกหมัดตรงหลัง ขวำคู่ต่อสู้ ภำพด้ำนขวำ นักมวยคนซ้ำยมือหลบหมัดเข้ำวงในใช้มือซ้ำยกันแขนขวำคู่ต่อสู้ ส่วนมือขวำใช้ตบแขนคู่ต่อสู้ลง พร้อมกับตีเข่ำขวำไปที่หน้ำท้องคู่ต่อสู้
166 ล ำดับที่ ภำพไม้มวยไทยโบรำณ 38+39 “นิลพัทหักสิงขร” ภำพด้ำนซ้ำย นักมวยทั้งสองต่ำงจดมวยพร้อมที่จะเข้ำต่อสู้กัน ภำพด้ำนขวำ นักมวยคนซ้ำยได้จังหวะใช้แขนซ้ำยกันหมัดของคู่ต่อสู้แล้วใช้มือขวำ คว้ำไปที่คอของคู่ต่อสู้พร้อมที่จะใช้อำวุธเข่ำหรืออื่นต่อไป 40+41 “หนุมานแหวกฟอง” ภำพด้ำนซ้ำย นักมวยทั้งสองต่ำงเข้ำต่อสู้กัน ภำพด้ำนขวำ เมื่อมีจังหวะนักมวยคนซ้ำยมือกดแขนคู่ต่อสู้แหวกออกพร้อมกระโดด เข่ำลอยเข้ำหำคู่ต่อสู้
167 ล ำดับที่ ภำพไม้มวยไทยโบรำณ 42 “พระรามหักศร” จำกภำพเมื่อคู่ต่อสู้ตีศอกขวำลงมำที่ใบหน้ำ ให้ฉำกหลบหมุนตัวออกด้ำนข้ำงใช้มือ ตะปบที่ข้อมือและศอกของคู่ต่อสู้แล้วบิดแขนของคู่ต่อสู้ลง 43 “หนุมานถอนตอ” จำกภำพนักมวยคนซ้ำยมือตีเข่ำไปที่คู่ต่อสู้ นักมวยคนขวำแก้โดยกำรใช้มือสอดเข้ำ ข้อพับแล้วชกหรือผลักก็ได้ให้คู่ต่อสู้ล้มหรือหงำยหลังไป
168 ล ำดับที่ ภำพไม้มวยไทยโบรำณ 44 “หนุมานแบกพระ” จำกภำพ เมื่อนักมวยคนขวำเตะเฉียงมำ นักมวยคนซ้ำยฉำกหลบแล้วก้มตัวเข้ำวงใน ใช้ไหล่ดันขำพับของคู่ต่อสู้ ใช้ขำขวำเหยียบหลังเท้ำของคู่ต่อสู้ไว้ แล้วชกหมัดเข้ำ ปลำยคำงของคู่ต่อสู้ 45+46 “โค่นมูลพล า” ภำพด้ำนซ้ำย นักมวยคนขวำเตะมำที่ล ำตัวของคู่ต่อสู้นักมวยคนซ้ำยใช้แขนซ้ำย ปัด สลำยแรงเตะ ภำพด้ำนขวำ นักมวยคนซ้ำยใช้แขนขวำสอดเข้ำรับกำรเตะแล้วใช้มือซ้ำยดันที่ท้ำย ทอยไว้ ยกตัวคู่ต่อสู้ทุ่มลงพื้น
169 3.2 ต ำรำมวยไทยของหลวงวิศำลดรุณกร (อั น สำริกบุตร) สมัยรัชกำลที่ 6 ประวัติปรมำจำรย์อำวุโสหลวงวิศำลดรุณกร (อั้น สำริกบุตร) อำจำรย์มวยไทย กระบี่ กระบองแห่งโรงเรียนสวนกุหลำบวิทยำลัย ท่ำนเป็นศิษย์เอกของพระไชยโชคชกชนะ (อ้น) และ ขุนยี่สำรสรรพยำกร (ครูแสงดำบ) ทั้ง 2 ท่ำนนี้เป็นบรมครูมวยและกระบี่กระบองเลื่องชื่อในรัช สมัยพระบำทสมเด็จพระปิยมหำรำช หลวงวิศำลดรุณกร (อั้น สำริกบุตร) ท่ำนเป็นอำจำรย์ฝ่ำย ปกครองโรงเรียนสวนกุหลำบวิทยำลัย(พ.ศ. 2461)ซึ่งถือได้ว่ำเป็นโรงเรียนพลศึกษำแห่งแรก ของเมืองไทย ต่อมำก็กลำยมำเป็นกรมพลศึกษำนั่นเอง ต ำรำมวยไทยของหลวงวิศำลดรุณกร (อั้น สำริกบุตร) ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 6 มีนำคม พ.ศ. 2466 และใช้เป็นหลักสูตรครูพลศึกษำ มี ข้อควำมบรรยำยถึงแม่ไม้มวยไทย ว่ำแม่ไม้มวยไทยมีทั้งท่ำเดี่ยว ท่ำคละเพลงมวยลูกไม้และ หมัดเด็ด เมื่อเรียนรู้จบทั้ง 3 ชั้นแล้วควรเรียน “ไม้มวย” อันเป็นวิชำมวยชั้นสูงหรือชั้นครู ไม้มวยมี 12 เพลง เพลงมวยมี 16 อย่ำง และปล้ ำมี 18 สถำน ดังนี้ ไม้มวย 12 เพลง ได้แก่ ประจบ ประกบ จับ ตัด ป้อง แหก กระแทก ถอง ชก เหน็บ ตุ๊ย และ สวม
170 เพลง มวย 16 อย่ำง ดังนี้ 1. ศีรษะใช้ 3 อย่ำง คือ ขวิดควำยซ้ำย 1 ขวิดควำยขวำ 1 ชนควำยกลำง 1 2. ศอกใช้ 4 อย่ำงคือ ชกด้วยศอก 1 ตัดด้วยศอก 1 งัดด้วยศอก 1 ถองด้วยศอก 1 3. มือใช้ 4 อย่ำงคือ ชกคำง 1 ชกตรง 1 ชกผิดฟำดกลับ 1 ชกไม่ถึงหลอกให้ตำม 1 4. เข่ำ ใช้ 2 อย่ำงคือ ตีเข่ำฟำดเรียกว่ำตีเข่ำลง 1 ตีเข่ำตรงเรียกว่ำตีเข่ำโทน 1 5. เท้ำใช้ 3 อย่ำง คือ ตะเข้ฟำดหำง 2 อย่ำง ฟำดไม่ถูก 1 ฟำดไปผิดฟำดกลับ1 ถ้ำเลือก ออกไปตรงเรียกว่ำเหน็บ 1 รวม16 อย่ำง กำรปล้ ำมี 18 อย่ำงคือ 1. จิกศีรษะ 2. กดคอ 3. หักแขน 4. หักขำ 5. ทุบคอ 6. ทุบ โครง 7. หยิกในตำ 8. หยิกไหประร้ำ 9. โดนด้วยตัว 10. โดนด้วยก้น 11. กัดหู 12. ถีบ 13. บิดแขน 14. บิดขำ 15. กระทืบหน้ำ 16. กระทืบอก 17. หยิกคอหอย 18. โดน ด้วยสะโพก ในต ำรำมวยไทยนี้ หลวงวิศำลดรุณกร (อั้น สำริกบุตร) ยังได้มอบคำถำเกี่ยวกับเกี่ยวกับ มวยไทยไว้เป็นที่ระลึก ดังนี้ คำถำ สี่พระองค์ใน นะ เดชรุกรำน มะ ห้ำวหำญฟันฟำด พะ พิฆำฏโหมฮึก ทะ ปรำบศึกถอยกด คำถำ ห้ำ พระองค์นอก นะ ย่ำนบทสงครำม โม ติดตำมศัตรู พุทธ ต่อสู้ไพริน ธำ ปรำบสิ้นพลไกร ยะ โชคไชยชนะ
171 3.3 ต ำรำมวยไทยของนำยชุบ นิวำสะวัต สมัยรัชกำลที่7
172 ต ำรำมวยไทยสมัยรัชกำลที่ 7 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยนำยชุบ นิวำสะวัต ครูพลศึกษำ เอก เป็นผู้เขียน โดยมีพี่ชำยชื่อนำยชิต นิวำสะวัต และน้องชำย ชื่อนำยสุวรรณ นิวำสะวัต ถือ ว่ำเป็นสำมพี่น้องตระกูลมวยดังในสมัยนั้น หนังสือมี 103 หน้ำ รำคำเล่มละ 1 บำท 25 สตำงค์ พิมพ์ครั้งแรก 1500 ฉบับ พิมพ์ที่โรงพิมพ์อักษรนิติ บำงขุนพรหม พระนคร เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2471 ช่วงนั้นถือว่ำเป็นยุคคำดเชือกอยู่ เพรำะเปลี่ยนจำกคำดเชือกมำสวม นวมในปี 2472 ในต ำรำมวยไทยนี้ ประกอบด้วย เรื่อง วิธีคุมหลัก วิธีก้ำวเท้ำ รุกประชิด ระยะ ต่อยเตะ กติกำ กำรฝึกหัด กำรให้น้ ำหนัก แม่ไม้ชกและปิดเชิงมือ กำรก้ำวสลับฟันปลำ ท่ำคละ สืบเท้ำชก คอยแก้รับ วิธีกระโดดชกและหลบ กำรแยกขำชกประจบ หลักแม่ไม้เชิงเท้ำ หลักแม่ ไม้ถีบและจับ หลักแม่ไม้หลบเตะ ท่ำเทพนม ขึ้นไม้พรหม ภำพลีลำกำรชก เป็นภำพขำวด ำ ไม่ได้บอกชื่อท่ำของแม่ไม้ ผู้แสดงแบบท่ำมวยไทยในภำพคือ นำยชุบ นิวำสะวัต (ขวำมือ) นำย สุวรรณ นิวำสะวัต (ซ้ำยมือ)ผู้วิจัย สนใจจะศึกษำค้นคว้ำน ำมำวิเครำะห์เพื่อจัดกำรควำมรู้ต่อไป ภำพท่ำมวยไทยมีดังนี้
173 ท่ำที่ 1 แสดงกำรคุมหลัก ท่ำที่ 2 กำรชกและปิดหมัดหน้ำ ท่ำที่ 3 กำรชกและปิดหมัดเฉียงขึ้น
174 ท่ำที่ 4 กำรชกและปิดหมัดเหวี่ยงแห ท่ำที่ 5 กำรชกและปิดหมัดขนำนคู่เฉียงขึ้น ท่ำคละที่ 1 สืบเท้ำหน้ำชกและถอยเท้ำหน้ำรับ ท่ำคละที่ 2 ก้ำวเท้ำหน้ำชกและสืบเท้ำหน้ำรับ
175 ท่ำคละที่ 3 กำรชกด้วยหมัดหน้ำและก้ำว เท้ำ หลังปิด ท่ำคละที่ 4 กำรชกด้วยหมัดหน้ำและถอย หลอกให้ตำม ท่ำคละที่ 5 กระโดดชกด้วยหมัดหน้ำและ กระโดดหนี ท่ำคละที่ 6 ก้ำวเท้ำหลังปิดและชกตอบ
176 ท่ำคละที่ 7 สืบเท้ำหน้ำปิดและชกตอบ ท่ำคละที่ 8 ก้ำวเท้ำขวำหลบหมัด ชกประจบ ท่ำคละที่ 9 ก้ำวเท้ำซ้ำยหลบหมัดชกประจบ ท่ำคละที่ 10 ก้ำวเท้ำขวำ แยกชกประจบ