๔๕ พิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๕๑), หน้า ๑๐๒-๑๐๕. กระทรวงศึกษาธิการ, เอกสารประกอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้(กรุงเทพฯ : ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่ง ประเทศไทย, ๒๕๕๒), หน้า ๕. ไพศาล หวังพานิช, การวัดผลการศึกษา, ( กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช, ๒๕๕๙), หน้า ๑๑. วาล แพร่ตนกุล, เทคนิคการวัดผล, (กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช, ๒๕๕๒), หน้า ๖. กาญจนา อรุณสอนศรี, ความพึงพอใจของสมาชิกสหกรณ์ต่อการดำเนินงานของสหกรณ์ การเกษตร ไชยปราการจํากัด อำเภอชัยปราการ จังหวัดเชียงใหม่, วิทยานิพนธ์, เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ๒๕๕๖), หน้า ๑๒. คณิต ดวงหัสดี, สุขภาพจิตกับความพึงพอใจในงานของข้าราชการตำรวจชั้นประทวนใน เขต เมืองและเขตชนบทของจังหวัดขอนแก่น, วิทยานิพนธ์, (ขอนแก่น : มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ๒๕๕๗), หน้า ๒๘. พิสณุ ฟองศรี, การสร้างและพัฒนาเครื่องมือวิจัย, (กรุงเทพฯ : ต้นแก้ว, ๒๕๕๗), หน้า ๕๘. สาโรช ไสยสมบัติ, การวัดความพึงพอใจ, (กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพาณิช, ๒๕๕๓), หน้า ๔๖. Luthans, F, Organizational behavior, (New York : MaGraw Hill, inc, 1995) : ๘๕. อุกกฤษฎ์ทรงชัยสงวน, ความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการบริหารจัดการโครงการพัฒนา สถานี ตำรวจเพื่อประชาชนของตำรวจภูธร อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น, วิทยานิพนธ์, ( ขอนแก่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ๒๕๕๓), หน้า ๓๗. อชิระ อุตมาน, สิทธิพล อาจอินทร์, การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดวิเคราะห์ของ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 5E, วารสาร, ขอนแก่น : มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ๒๕๕๕). พุทธิพงษ์ ศุภมัสดุอังกูล, การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการคิด วิเคราะห์ เรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบวัฏ จักรการ สืบเสาะหาความรู้ (5E), วารสาร, มหาวิทยาลัยศิลปากร : ๒๕๕๘). ดือนเพ็ญ ตุ่นค่า และ ลัดดา ศิลาน้อย, การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบ สืบ เสาะหาความรู้ 5E รายวิชา ๓๑๑๐๑ สังคมศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔, วารสาร, (ขอนแก่น : มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ๒๕๕๘). ราตรี ดิสถาพร, การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ เรื่องวิธีทางประวัติศาสตร์ ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ด้วยผังกราฟิก ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๕ ๒๕๖๑. ปฏิภาณ สร้างคำ และธัชชัย จิตรนันท์, การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พัฒนาการทาง
๔๖ ประวัติศาสตร์ไทยสมัยประชาธิปไตย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โดยการจัดการเรียนรู้แบบสืบ เสาะหาความรู้ ๕ ชั้น (5E), ๒๕๖๒. อนุรักษ์ สวัสดี, การพัฒนาการคิดวิเคราะห์การเรียนรู้โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ในรายวิชา สังคม ศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔, วิทยานิพนธ์, มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต : ๒๕๖๒).
๔๗ ภาคผนวก รายนามผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
๔๘ รายชื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ๑. อาจารย์วิรัตน์ ทองภู อาจารย์ประจำหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬา ลง กรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ๒. อาจารย์พันธิวา ทัพภูมี อาจารย์ประจำหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬา ลง กรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ๓. อาจารย์กนกวรรณ ประจันตะเสน อาจารย์ประจำหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาสังคม ศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬา ลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น
๔๙ ภาคผนวก แบบประเมินคุณภาพเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ
๕๐ แบบประเมินความสอดคล้องระหว่างแบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เรื่อง การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ใน รายวิชาประวัติศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓/๑ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๘๔ (สำราญ-เฟี้ย ฟาน) ตำบลสำราญ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น คำชี้แจง โปรดพิจารณาข้อสอบแต่ละข้อว่าสามารถวัดได้ตามความสามารถในการคิดวิเคราะห์เมื่อ พิจารณาแล้วให้ท่านทำเครื่องหมาย / ลงในช่องที่ตรงตามกับความคิดเห็นของท่านมากที่สุด โดยใช้ เกณฑ์ดังนี้ +๑ หมายถึง แน่ใจว่าข้อสอบมีความสอดคล้องกับความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ๐ หมายถึง ไม่แน่ใจว่าข้อสอบมีความสอดคล้องกับความสามารถในการคิดวิเคราะห์ -๑ หมายถึง แน่ใจว่าข้อสอบไม่มีความสอดคล้องกับความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง พระมหาจิรายุ จิรญาณเมธี/ยางศรี นิสิตระดับปริญญาตรี สาขาวิชาสังคมศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น
๕๑ วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ กำหนดสิ่งที่ต้องการ วิเคราะห์ ๑. ข้อใดเป็นการตั้งประเด็นที่ไม่เหมาะสมใน การศึกษาประวัติศาสตร์ ก. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กับ การสร้างชาติไทย ข. การเลิกทาสในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ค. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับ กัมพูชา ง. วีรกรรมของท้าวสุรนารีในประวัติศาสตร์ ไทย เฉลย ข้อ ค. การวิเคราะห์ . กำหนดปัญหาหรือ วัตถุประสงค์ ๒. การกำหนดหัวข้อหรือประเด็นที่ดีควรมี ลักษณะอย่างไร ก. กำหนดช่วงเวลาและพื้นที่ที่จะศึกษาให้ ชัดเจน ข. กำหนดหัวเรื่องกว้างๆ เพื่อศึกษาได้หลาย ประเด็น ค. นำประเด็นที่มีผู้ศึกษามาก่อนและมีการ ยอมรับแล้ว ง. กำหนดหัวเรื่องให้แคบจะได้ไม่เสียเวลา ศึกษา เฉลย ข้อ ก. การวิเคราะห์ กำหนดปัญหาหรือ วัตถุประสงค์ ๓. การกำหนดหัวเรื่องให้น่าสนใจจะเกิด ประโยชน์ อย่างไร การวิเคราะห์
๕๒ วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ ก. สะดวกในการศึกษาค้นคว้า ข. ศึกษาเรื่องที่แตกต่างจากผู้อื่น ค. เกิดการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ง. มีแรงกระตุ้นในการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เฉลย ข้อ ก กำหนดสิ่งที่ต้องการ วิเคราะห์ ๔. การกำหนดประเด็นมีประโยชน์อย่างไรต่อ วิธีการทางประวัติศาสตร์ ก. บอกความสนใจของผู้ศึกษาค้นคว้า ช. ป้องกันการศึกษาซ้ำกับผู้อื่น ค. กำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษา ง. ทำให้ทราบแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ เฉลย ข้อ ค. การวิเคราะห์ กำหนดสิ่งที่ต้องการ วิเคราะห์ ๕. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจัดเป็นหลักฐาน ประเภท ใด ก.หลักฐานชั้นต้น ข.หลักฐานชั้นรอง ค.หลักฐานปฐมภูมิ ง. หลักฐานที่เป็นลายลายลักษณ์อักษร เฉลย ข้อ ข. ความเข้าใจ กำหนดสิ่งที่ต้องการ วิเคราะห์ ๖. การบันทึกเรื่องราวในอดีตเกี่ยวกับ พระมหากษัตริย์ คือ หลักฐานใด ๘ ก.ตำานาน ข.พงศาวดาร ค.บันทึก ง.จดหมาย เฉลย ข้อ ค. การวิเคราะห์
๕๓ วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ กำหนดปัญหาหรือ วัตถุประสงค์ ๗. หลักฐานลายลักษณ์อักษรมีความสำคัญต่อ การศึกษาประวัติศาสตร์อย่างไร ก. เป็นหลักฐานที่ให้ข้อมูลประวัติศาสตร์ดี ที่สุด ข. เป็นหลักฐานที่ให้ข้อมูลง่ายกว่าหลักฐาน อื่น ค. เป็นหลักฐานที่มีจำนวนมาก หาง่าย ง. เป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือที่สุด เฉลย ข้อ ง. การวิเคราะห์ กำหนดสิ่งที่ต้องการ วิเคราะห์ ๘. เพราะเหตุใดจึงต้องศึกษาจากผลงานของ ผู้เชี่ยวชาญก่อนไปศึกษาในสถานที่จริง ก. หาความน่าเชื่อถือของผู้เชี่ยวชาญ ข. ทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อน ค. หากเข้าใจเรื่องแล้วไม่ต้องไปสถานที่จริง ง. เปรียบเทียบผลงานจากผู้เชี่ยวชาญแต่ละ คน เฉลย ข้อ ข. การวิเคราะห์ กำหนดปัญหาหรือ วัตถุประสงค์ ๙. หลักฐานประวัติศาสตร์มีความสำคัญต่อ วิธีการ ทางประวัติศาสตร์อย่างไร ก. ให้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ข. กำหนดวิธีการทางประวัติศาสตร์ ค. กำหนดหัวข้อหรือประเด็นทาง ประวัติศาสตร์ ง. ทำให้เกิดวิธีการทางประวัติศาสตร์ เฉลย ข้อ ก. การวิเคราะห์
๕๔ วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ กำหนดสิ่งที่ต้องการ วิเคราะห์ ๑๐.ข้อใดคือประโยชน์ที่ได้จากการตีความ ข้อมูล ก. รู้จักวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของข้อมูล ข. มีความอดทนในการอ่านเอกสารจำนวน มาก ค. รู้จักนำแนวคิดในปัจจุบันมาพิจารณาอดีต ง. มีจินตนาการเกี่ยวกับอดีต เฉลย ข้อ ก. การวิเคราะห์ กำหนดปัญหาหรือ วัตถุประสงค์ ๑๑.ถ้านักเรียนจะศึกษาประวัติศาสตร์ ขั้น แรก นักเรียนควรทำอย่างไร ก.รวบรวมข้อมูล ข.ตีความข้อมูล ค.ตรวจสอบข้อมูล ง. กำหนดหัวข้อที่จะศึกษา เฉลย ข้อ ง. การวิเคราะห์ กำหนดสิ่งที่ต้องการ วิเคราะห์ ๑๒.ข้อใดคือหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งหมด ก.จดหมาย ตํานาน พงศาวดาร ข.จารึก บันทึก ภาพถ่าย ค.จารึก ตำนาน วีดีโอ ง. วีดีโอ ภาพถ่าย เครื่องใช้ เฉลย ข้อ ก. การวิเคราะห์ กำหนดหลักการหรือ กฎเกณฑ์ ๑๓.ข้อใดคือเป้าหมายของการรวบรวมข้อมูล จาก หลายๆแหล่ง ก.เพื่อกำหนดหัวข้อเรื่องได้ ข.สันนิษฐานข้อมูลต่างๆ ค.บันทึกเรื่องราวได้มากๆ การวิเคราะห์
๕๕ วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ ง.รวบรวมหลักฐานที่ถูกต้อง เฉลย ข้อ ง. กำหนดหลักการหรือ กฎเกณฑ์ ๑๔.บทความทางวิชาการเป็นหลักฐานในชั้น ใด ก.ภาพถ่าย ข.นํานาน ค.พงศาวดาร ง.บทความทางวิชาการ เฉลย ข้อ ง. การวิเคราะห์ กำหนดหลักการหรือ กฎเกณฑ์ ๑๕.การเขียนเรื่องราวเป็นตัวอักษรลงในแผ่น ศิลา คือหลักฐานใด ก.ตำนาน ข.จารึก ค.พงศาวดาร ง.จดหมายเหตุ เฉลย ข้อ ข. การวิเคราะห์ กำหนดสิ่งที่ต้องการ วิเคราะห์ ๑๖.หลักฐานข้อใด แตกต่างจากข้ออื่น ก.จารึก ข.ตำนาน ค.โบราณวัตถุ ง.พงศาวดาร เฉลย ข้อ ค. การวิเคราะห์ กำหนดหลักการหรือ กฎเกณฑ์ ๑๗.หลักฐานทางประวัติศาสตร์ข้อใด แตกต่าง จาก ข้ออื่น ก.จารึก ข.รูปถ่าย ค.โบราณวัตถุ ง.โบราณสถาน เฉลย ข้อ ก. การวิเคราะห์
๕๖ วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ กำหนดหลักการหรือ กฎเกณฑ์ ๑๘.การศึกษาประวัติศาสตร์ เพื่อให้ทราบ ข้อมูลที่ เป็นจริงมากที่สุด ควรยึดสิ่งใดเป็น ก.หลักฐาน ข.นักโบราณคดี ง.วิธีเผยแพร่ข้อมูล เฉลย ข้อ ก. การวิเคราะห์ กำหนดการพิจารณา แยกแยะ ๑๙.ข้อใดจัดเป็นหลักฐานทางโบราณคดี ทั้งหมด ก. โครงกระดูก เครื่องมือ-เครื่องใช้ ข. ศิลาจารึก ซุ้มใบเสมา ค. พงศาวดารอยุธยา ตำนานท้าวแสนปม ง. วีดีทัศน์เรื่องจดหมายเหตุกรุงศรี รอยไทย เฉลย ข้อ ก. การวิเคราะห์ กำหนดการพิจารณา แยกแยะ ๒๐.หลักฐานชั้นต้นมีความน่าเชื่อถือกว่า หลักฐาน ชั้นรอง เพราะเหตุใด ก. หลักฐานชั้นรองใช้ข้อมูลจากหลักฐาน ชั้นต้น ข. หลักฐานชั้นต้นสร้างขึ้นปราศจากอคติ ค. หลักฐานชั้นต้นไม่สอดแทรกความคิดเห็น ของผู้สร้าง ง. ผู้สร้างหลักฐานชั้นต้นทราบข้อมูดีกว่า เฉลย ข้อ ข การวิเคราะห์ ลงชื่อ................................................................. (..............................................................) ผู้ประเมิน
๕๗ แบบประเมินความสอดคล้องระหว่างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กับจุดประสงค์การเรียนรู้ เรื่อง การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบสืบเสาะหาความรู้ ๕E ใน รายวิชาประวัติศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓/๑ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๘๔ (สำราญ-เฟี้ย ฟาน) ตำบลสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น คำชี้แจง โปรดพิจารณาข้อสอบแต่ละข้อว่าสามารถวัดได้ตามตรงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ เมื่อพิจารณา แล้วให้ท่านทำเครื่องหมาย / ลงในช่องที่ตรงตามกับความคิดเห็นของท่านมากที่สุด โดยใช้เกณฑ์ดังนี้ +๑ หมายถึง แน่ใจว่าข้อสอบมีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ๐ หมายถึง ไม่แน่ใจว่าข้อสอบมีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ -๑ หมายถึง แน่ใจว่าข้อสอบไม่มีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง พระมหาจิรายุ จิรญาณเมธี/ยางศรี นิสิตระดับปริญญาตรี สาขาวิชาสังคมศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น
๕๘ วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ ความรู้ความเข้าใจใน ความหมายเกี่ยวกับ วิธีการทาง ประวัติศาสตร์ ๒๑.ข้อใดไม่ใช่วิธีการทางประวัติศาสตร์ ก.การกำหนดหัวข้อ ข.การตีความหลักฐาน ค.การรวบรวมหลักฐาน ง.การเลียนแบบหลักฐาน เฉลย ข้อ ง. ความรู้ ความจำ . ความรู้ความเข้าใจใน ความหมายเกี่ยวกับ วิธีการทาง ประวัติศาสตร์ ๒๒.การนำเสนอข้อมูลควรยึดหลักในข้อใด ก.นำเสนอข้อมูลเฉพาะด้านที่ดี ข.นำเสนอข้อมูลตามความเป็นจริง ค.นำเสนอข้อมูลโดยใช้ความรู้สึกส่วนตัว ง.นำเสนอข้อมูลโดยใช้หลักฐานเพียงชิ้นเดียว เฉลย ข้อ ข. ความเข้าใจ ความหมายเกี่ยวกับ หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ๒๓.เรื่องราวเกิดขึ้นในอดีตและมีการเล่าสืบต่อกัน มา ก.จารึก ข.ตำนาน ค.โบราณวัตถุ ง.พงศาวดาร เฉลย ข้อ ค. ความรู้ ความจำ เห็นความสำคัญของ การใช้วิธีการทาง ประวัติศาสตร์ ๒๔.การตรวจสอบและตีความข้อมูลในข้อใดถูกต้อง ก.ใช้ข้อมูลที่ตนเองชอบมากที่สุด ข.เชื่อเฉพราะข้อมูลที่พ่อแม่เล่าให้ฟัง ค.เพิ่มเติมข้อมูลเพื่อให้เกิดความน่าสนใจ ง.เปรียบเทียบข้อมูลกับหลาย ๆ แหล่งข้อมูล เฉลย ข้อ ง. การวิเคราะห์
๕๙ วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ ความรู้ความเข้าใจใน ความหมายเกี่ยวกับ วิธีการทาง ประวัติศาสตร์ ๒๕.ถ้าต้องการทราบประวัติความเป็นมาควร รวบรวมข้อมูลจากหลักฐานในข้อใด ก.สอบถามจากเพื่อนข้างบ้าน ข.โบราณสถานที่เพิ่งก่อสร้าง ค.คำบอกเล่าของผู้สูงอายุในท้องถิ่น ง.ภาพถ่ายของตนเองตอนเด็ก เฉลย ข้อ ค. ความเข้าใจ ทักษะในการสืบค้น ข้อมูลโดยใช้วิธีการ ทางประวัติศาสตร์ ๒๖.กัลยากำลังเปรียบเทียบสาเหตุของการย้ายถิ่น ของชุมชนในอดีตว่าเป็นเพราะสาเหตุใด” จาก ข้อความที่กำหนดให้ แสดงว่ากัลยากำลังสืบค้น ความเป็นมาอยู่ในขั้นตอนใด ก.รวบรวมหลักฐาน ข. กำหนดหัวข้อเรื่อง ค.ตีความข้อมูล ง.นำาเสนอข้อมูล เฉลย ข้อ ค. การวิเคราะห์ ความรู้ความเข้าใจใน ความหมายเกี่ยวกับ วิธีการทาง ประวัติศาสตร์ ๒๗.ข้อใดเรียงลำดับขั้นตอนวิธีการสืบค้นความ เป็นมาของท้องถิ่นได้ถูกต้อง ๑.อยากทราบว่าในท้องถิ่นมีสถานที่สำคัญ ใดบ้าง ๒.จัดนิทรรศการเผยแพร่ ๓.ตรวจสอบข้อมูลที่ได้จากเอกสาร พงศาวดาร ๔.ค้นคว้าข้อมูลจากเอกสาร พงศาวดาร ๕. วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากเอกสาร พงศาวดาร ๑ ๒ ๔ ๕ ๓ ๑ ๔ ๓ ๕ ๒ ความรู้ ความจำ
๖๐ วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ ๔ ๓ ๕ ๑ ๒ ๔ ๑ ๓ ๕ ๒ เฉลย ข้อ ข. เห็นความสำคัญของ การใช้วิธีการทาง ประวัติศาสตร์ ๒๘.ถ้าต้องการสืบค้นความเป็นมา ควรปฏิบัติ อย่างไรเป็นขั้นตอนแรก ก.กำหนดหัวข้อ ข.รวบรวมข้อมูลหลักฐาน ค.น้าเสนอข้อมูล ง.ตรวจสอบลักษณะข้อมูล เฉลย ข้อ ข. การนำไปใช้ ความหมายของ วิธีการทาง ประวัติศาสตร์ ๒๙.ข้อใด ตอน กองการสืบค้นความเป็นมา ก.การตีความหลักฐาน ข.การรวบรวมข้อมูล ค.การตรวจสอบข้อมูล ง.การเรียบเรียงและนำเสนอข้อมูล เฉลย ข้อ ง. ความรู้ ความจำ ความหมายของ หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ๓๐.ข้อใดเป็นหลักฐานที่ไม่ใช่ลายลักษณ์อักษร ทั้งหมด ก.เครื่องประดับหิน ศิลาจารึก ข.สมุดข่อย โบราณสถาน ค.ขวานหินขัด ถ้วยชามสังคโลก ง.จารีกใบลาน พงศาวดาร เฉลย ข้อ ค. ความจำ
๖๑ วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ ทักษะในการสืบค้น ข้อมูลโดยใช้วิธีการ ทางประวัติศาสตร์ ๓๑.“วันชัยกับเพื่อนๆ กำลังคิดว่าจะศึกษาเรื่องใด ในชุมชน” จากข้อความที่กำหนดให้ วันชัยกับ เพื่อนๆ กำลัง ค้นความเป็นมาของชุมชนในชั้น ตอนใด ก.ตีความข้อมูล ข.กำหนดหัวข้อ ค.เรีบยเรียงข้อมูล ง.ตรวจสอบหลักฐาน เฉลย ข้อ ข. การวิเคราะห์ ความสำคัญของการ สืบค้นข้อมูลโดยใช้วิธ การทางประวัติศาสตร์ ๓๒.ถ้านักเรียนต้องการค้นคว้าเรื่องราวเกี่ยวกับ ท้องถิ่นของตนเอง ควรเริ่มค้นคว้าจาก แหล่งข้อมูลใดจึงจะ เอาชน ก.ร้านค้า ข.โรงแรม ค.ห้องสมุด ง.วัดในท้องถิ่น เฉลย ข้อ ง. การนำไปใช้ ความสำคัญของการ สืบค้นข้อมูลโดยใช้วิธ การทาง ประวัติศาสตร์ ๓๓.การศึกษาประวัติศาสตร์ เพื่อให้ทราบข้อมูลที่ เป็นจริงมากที่สุด ควรยึดสิ่งใดเป็นสำคัญ ก.หลักฐาน ข.นักโบราณคดี ค.เครื่องมือที่ใช้ชุด ง. วิธีเผยแพร่ข้อมูล เฉลย ข้อ ก. การนำไปใช้
๖๒ วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ ตระหนักและเห็น ความสำคัญของ ธนาคารกลาง ๓๔.หากต้องการเปิดบัญชีกับธนาคารเพื่อเก็บออม เงิน นักเรียนควรเปิดบัญชีเงินฝากประเภทใด ก. เงินฝากประจำ ข. เงินฝากออมทรัพย์ ค. เงินฝากกระแสรายวัน ง. เงินฝากเพื่อการลงทุน เฉลย ข้อ ข. การนำไปใช้ ความหมายของ หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ๓๕.หลักฐานที่เกิดร่วมสมัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือหลักฐานประเภทใด ก.ชั้นต้น ข.ชั้นกลาง ค.ชั้นรอง ง.ชั้นท้าย เฉลย ข้อ ก. ความรู้ ความจำ ความหมายของ หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ๓๖.หลักฐานในข้อใดให้ข้อมูลเกี่ยวกับความรู้สึก ของประชาชนในพื้นที่ที่มีต่อองค์พระปฐมเจดีย์ ก.แผนที่ ข.คำตัดสินของศาลโลก ค.แบบสอบถาม ง.หนังสือท่องเที่ยวองค์พระปฐมเจดีย์ เฉลย ข้อ ค. ความรู้ ความจำ ทักษะสืบค้นข้อมูล หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ๓๗.ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง ก.หนังสือเล่าเรื่องหัวเมืองใต้ เป็นหลักฐานที่ ไม่ใช่ตัวอักษร วิเคราะห์
๖๓ วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ ข.พงศาวดาร เป็นหลักฐานสมัยก่อน ประวัติศาสตร์ ค.ศิลาจารึก เป็นหลักฐานสมัยประวัติศาสตร์ ง.รูปถ่าย เป็นหลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เฉลย ข้อ ค. ทักษะสืบค้นข้อมูล หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ๓๘.ข้อใดไม่ใช่หลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ก.จดหมายเหตุของหมอบรัดเลย์ บ.ซากโครงกระดูกที่บ้านเชียง ค.เครื่องปั้นดินเผาบ้านนาดี ง.ภาพเขียนสีที่ผาแต้ม เฉลย ข้อ ก. วิเคราะห์ ทักษะสืบค้นข้อมูล หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ๓๙.ข้อใดเป็นหลักฐานชั้นรอง ก.ตำนาน ข.หนังสือพิมพ์ ค.รูปถ่าย ง.เครื่องมือหินขัด เฉลย ข้อ ก. วิเคราะห์ ทักษะสืบค้นข้อมูล หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ๔๐. ข้อใดไม่ใช่หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร ก.บันทึก ข.พงศาวดาร ค.ตำนาน ง.แถบวีดีทัศน์ เฉลย ข้อ ง. วิเคราะห์ ความหมายของ หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ๒๑. ข้อใดเป็นหลักฐานในสมัยประวัติศาสตร์ ก.ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ข.ภาชนะดินเผาบ้านเก่า ความรู้ ความจำ
๖๔ วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ ค. กาญจนบุรี ง.กำไลสำริดบ้านยางทองใต้ เฉลย ข้อ ก. ทักษะสืบในการ สืบค้นหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ๒๒. ในชุมชนค้นพบถ้วยชามโบราณ ทำให้ทราบ ข้อมูลใด ก. ชุมชนนี้ประกอบอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว ข. ชุมชนนี้เคยค้าขายกับชาวต่างชาติ ค. ชุมชนนี้มีการใช้ภาชนะดินเผา ง.ชุมชนนี้มีประชากรส่วนใหญ่เป็นราย เฉลย ข้อ ค. วิเคราะห์ ทักษะสืบในการ สืบค้นหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ๒๓. หลักฐานใดแตกต่างจากข้ออื่น ก.จารึก ข.ตานาน ค.โบราณวัตถุ ง.พงศาวดาร เฉลย ข้อ ค. วิเคราะห์ ความหมายของ หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ๒๔. เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตและมีการเล่าสืบต่อกัน มา ก.จารึก ข.ตานาน ค.โบราณวัตถุ ง.พงศาวดาร ความรู้ ความจำ
๖๕ วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ เฉลย ข้อ ข. ทักษะสืบในการ สืบค้นหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ๒๕. ข้อใดไม่จัดว่าเป็นการแบ่งประเภทหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ ก.หลักฐานชั้นต้น - หลักฐานชั้นรอง ข.หลักฐานที่เกิดขึ้นก่อน – เกิดขึ้นหลัง ค. หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร – หลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ง.หลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ - สมัย ประวัติศาสตร์ เฉลย ข้อ ข. วิเคราะห์ ทักษะสืบในการ สืบค้นหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ๒๖.เพราะเหตุใดจึงควรตรวจสอบหลักฐานก่อน นำมาใช้ ก.เพื่อให้ได้ข้อมูลที่หลากหลาย ข.เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริงมากที่สุด ค.เพื่อคัดเลือกเฉพาะข้อมูลสมัย ประวัติศาสตร์ ง.เพื่อแสดงว่าได้ค้นคว้าหลักฐานมา เฉลย ข้อ ข. วิเคราะห์ ความหมายของ หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ๒๗.ข้อใดเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับภาคอีสาน ก.แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ข.พระปฐมเจดีย์ ความเข้าใจ
๖๖ วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ ค.เวียงกุมกาม ง.ถ้ำผีแมน เฉลย ข้อ ก. เห็นความสำคัญของ กาใช้วิธีการทาง ประวัติศาสตร์ ๒๘. การตีความหลักฐานข้อมูลใหม่ควรพิจารณา จากข้อใด ก.ค้าบอกเล่าจากคนอื่น ข.หลักฐานที่น่าเชื่อถือที่สุด ค.ความพอใจของคนในชุมชน ง.ความพอใจของเจ้าของหลักฐาน เฉลย ข้อ ข. ความเข้าใจ ความหมายเกี่ยวกับ วิธีทางประวัติศาสตร์ ๒๙. ขั้นตอนสุดท้ายของวิธีการทางประวัติศาสตร์ คือข้อใด ก.ตั้วหาหลักฐานที่เป็นรูปถ่ายเอกสาร สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ข. เวฟนำข้อมูลมาจัดเป็นประเด็นสำคัญ สาเหตุ เหตุการณ์ต่างๆ ค. อ้ำตรวจสอบหลักฐานตามหลักวิชาการ ง. โชคนำข้อมูลมาเขียนเรียงความ เฉลย ข้อ ง. ความรู้ ความจำ ความหมายเกี่ยวกับ วิธีทางประวัติศาสตร์ ๓๐.ขั้นตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์ มีกี่ขั้นตอน ก.๓ ขั้นตอน ข.๔ ขั้นตอน ค.๕ ขั้นตอน ความรู้ ความจำ
๖๗ วัตถุประสงค์การ เรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ ง.5 ขั้นตอน เฉลย ข้อ ค. ลงชื่อ................................................................. (..............................................................) ผู้ประเมิน
๖๘ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๘๔ ที่ได้รับการจัดการเรียนการสอน โดยใช้รูปแบบ 5E กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม คำชี้แจง : โปรดพิจารณาข้อคำถามของแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการ เรียนรู้โดยใช้รูปแบบ 5E โปรดใส่เครื่องหมายถูก (✓) ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของท่านลงใน แบบประเมิน และหากท่านมีข้อเสนอแนะกรุณาระบุรายละเอียดให้เป็นแนวทางในการปรับปรุงต่อไป โดยกำหนดให้ความหมายเกณฑ์ประเมิน ดังนี้ ข้อ ประเด็นคำถาม ระดับความ คิดเห็น หมายเหตุ +๑ ๐ ๑ ๑ คำแนะนำในการจัดกิจกรรมชัดเจนและเข้าใจง่าย ๒ เนื้อหาเหมาะสมกับนักเรียน ๓ การนำเสนอเนื้อหามีลำดับขั้นตอนที่เหมาะสม ๔ เปิดโอกาสให้นักเรียนศึกษาด้วยตนเอง ๕ นักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น ๖ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้กระบวนการทำงาน ๗ เนื้อหาที่สอนมีความเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน ๘ วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกิจกรรมมีความเหมาะสม ๙ รูปแบบการสอนน่าสนใจ ภาพประกอบสวยงาม ๑๐ จำนวนข้อคำถามท้ายกิจกรรมมีความเหมาะสม ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม .......................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................. ลงชื่อ................................... (....................................................)
๖๙ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ รายวิชา ประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส๒๓๑๐๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ วิธีทางประวัติศาสตร์ เวลา ๑ ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ย่อยที่ ๑ เรื่อง ขั้นตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์ เวลา ๑ ชั่วโมง สอนวันที่………………………………………… ผู้สอน พระมหาจิรายุ จิรญาณเมธี/ยางศรี มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมายความสำคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ ตัวชี้วัด ม.๓/๑ สืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่น โดยใช้หลักฐานที่หลากหลา สาระสำคัญ การรวบรวม พิจารณาไตร่ตรอง วิเคราะห์และตีความจากหลักฐานแล้วนามาเปรียบเทียบ อย่าง เป็นระบบ เพื่ออธิบายเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในอดีตว่าเหตุใดจึงเกิดขึ้น หรือเหตุการณ์ในอดีตนั้นได้ เกิด และคลี่คลายอย่างไร จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในความหมายเกี่ยวกับวิธีการทางประวัติศาสตร์ (K) ๒. นักเรียนเกิดทักษะในการคิดใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในการสืบค้นข้อมูล (P) ๓. นักเรียนเห็นความสำคัญของการใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ (A) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซื่อสัตย์สุจริต มุ่งมั่นในการทำงาน มีวินัย รักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มีจิตสาธารณะ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร : ความสามารถในการคิด : ทักษะคิดวิเคราะห์ ความสามารถในการแก้ปัญหา : กระบวนการการสืบค้นข้อมูล
๗๐ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : กระบวนการการปฏิบัติ กระบวนการทำงาน ความสามารถ ในการใช้เทคโนโลยี ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : ด้านคุณลักษณะของผู้เรียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล เป็นเลิศวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๑. หลักความพอประมาณ : ในการจัดการเวลาการเรียนให้เหมาะสม ๒. หลักความมีเหตุผล : ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด ๓. หลักภูมิคุ้มกัน : นักเรียนทุกคนสามารถใช้ชีวิตในสังคมอย่างรอบคอบและไม่ประมาท และเกิดความสุข ๔. เงื่อนไขความรู้ : มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาการและความรู้เกี่ยวกับการดำเนิน ชีวิตอย่างถูกต้อง ๕. เงื่อนไขคุณธรรม : ดำเนินชีวิตด้วยคุณธรรมที่ถูกต้องและจริยธรรมที่ดีงาม สาระการเรียนรู้ - ขั้นตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์ หลักฐานหรือร่องรอยของการเรียนรู้ - ใบงานที่ ๑ กิจกรรมการเรียนการสอน กิจกรรมนำเข้าสู่บทเรียน ๑ การสร้างความสนใจ) ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียนพร้อมด้วยเช็คชื่อเป็นรายบุคคล ๒. ครูตั้งประเด็นคำถามโดยยกตัวอย่างบุคคลสำคัญ เช่น สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยใช้ คําถามเพื่อให้เชื่อมโยงกับวิธีการทางประวัติศาสตร์ - นักเรียนรู้จักบุคคลในภาพนี้หรือไม่ (ตัวอย่างคำตอบ รู้จัก/ไม่รู้จัก) - บุคคลในภาพนี้นักเรียนรู้จักมาจากที่ใด (ตัวอย่างคำตอบ จากการอ่านหนังสือ/ โทรทัศน์) - ถ้านักเรียนต้องการศึกษาข้อมูลประวัติความเป็นมาของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช นักเรียนควรศึกษาด้วยวิธีการใด (ตัวอย่างคำตอบการศึกษาค้นคว้าจากหนังสือวิธีการทางประวัติศาสตร์)
๗๑ ๓. นักเรียนศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความสำคัญของพระพุทธศาสนา จากหนังสือเรียน และแหล่งการเรียนรู้อื่นเพิ่มเติม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ขั้นที่ ๒ การสำรวจและค้นหา ๔. ครูให้นักเรียนศึกษา ใบความรู้ เรื่อง ขั้นตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์ ๕. ครูอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์เพิ่มเติมจากใบความรู้ที่แจกให้ นักเรียน จาก PowerPoint ขั้นที่ ๔ การขยายความรู้ ๖. ครูตั้งประเด็นคำถาม วิธีการทางประวัติศาสตร์ประกอบไปด้วยกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง ๗. ครูให้นักเรียนสรุปประเด็นสำคัญขั้นตอนและวิธีการทางประวัติศาสตร์เป็นแผนผัง ความคิด ขั้นสรุป/กิจกรรมรวบยอด ขั้นที่ ๕ การประเมินผล ๘. ครูให้สุ่มนักเรียนออกมานำเสนอแผนผังความคิดที่ตัวเองทำให้เพื่อนดูหน้าชั้นเรียน ๙. ครูและนักเรียนช่วยกันอภิปลายเกี่ยวกับขั้นตอนและความสำคัญของวิธีการทรง ประวัติศาสตร์ สื่อ/วัสดุอุปกรณ์/แหล่งการเรียนรู้ สื่อ ๑. PowerPoint ขั้นตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์ ๒. ภาพสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วัสดุอุปกรณ์ ๑. คอมพิวเตอร์ ๒. ใบความรู้ ขั้นตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์ แหล่งการเรียนรู้ ๑. ห้องสมุดโรงเรียน ๒. อินเตอร์เน็ต
๗๒ การวัดและประเมินผล สิ่งที่ต้องการวัด วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. ความรู้ความเข้าใจ ในความหมายเกี่ยวกับ วิธีการทาง ประวัติศาสตร์ (K) ตรวจแผนผังความคิด - แผนผัง ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ ๖๐% ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ๒. ทักษะในการคิดใช้ วิธีการทาง ประวัติศาสตร์ในการ สืบค้นข้อมูล (P) ตรวจแผนผังความคิด แผนผังความคิด ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ ๖๐% ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ๓. เห็นความสำคัญ ของการใช้วิธีการทาง ประวัติศาสตร์ (A) การสังเกตพฤติกรรม รายบุคคล แบบประเมิน พฤติกรรม รายบุคคล ผ่านเกณฑ์ประเมินระดับ คุณภาพพอใช้ขึ้นไป กิจกรรมเสนอแนะ
๗๓ บันทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................. ๒. ปัญหา/อุปสรรค ........................................................................................................................................... ........................ ........................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ............................. ๓. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ................................................................................................................................................ ................... ................................................................................................................ ................................................... .......................................................................................... ลงชื่อ......................................ผู้สอน (พระมหาจิรายุ จิรญาณเมธี) ........../........../.......... ความคิดเห็นครูพี่เลี้ยง ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ......................................................................................... ลงชื่อ......................................ครูพี่เลี้ยง (.............................................) ........../........../.......... ความคิดเห็น (ผู้บริหาร/รองผู้อำนวยการกลุ่มวิชาการ/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย) ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................................................... .... ........................................................................................... ลงชื่อ............................................. (............................................................) ตำแหน่ง.............................................. วันที่..............................................
๗๔ ใบความรู้ที่ ๑ เรื่อง ขั้นตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง วิธีการทางประวัติศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง ขั้นตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์ รายวิชาประวัติศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ขั้นตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์ วิธีการทางประวัติศาสตร์ คือ การรวบรวม พิจารณาไตร่ตรอง วิเคราะห์และตีความจาก หลักฐานแล้วนามาเปรียบเทียบอย่างเป็นระบบ เพื่ออธิบายเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในอดีตว่าเหตุ ใด จึงเกิดขึ้น หรือเหตุการณ์ในอดีตนั้นได้เกิดและคลี่คลายอย่างไร ซึ่งเป็นความมุ่งหมายที่สำคัญ อง การศึกษาประวัติศาสตร์ ขั้นตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์ ขั้นตอนที่ ๑ การกำหนดเป้าหมาย ขั้นตอนแรก นักประวัติศาสตร์ต้องมีจุดประสงค์ชัดเจนว่าจะศึกษาอะไร อดีตส่วนไหน สมัย อะไร และเพราะเหตุใด เป็นการตั้งคาถามที่ต้องการศึกษา นักประวัติศาสตร์ต้องอาศัยการ อ่าน การ สังเกต และควรต้องมีความรู้กว้าง ๆ ทางประวัติศาสตร์ในเรื่องนั้น ๆ มาก่อนบ้าง ซึ่งคา ถามหลักที่นัก ประวัติศาสตร์ควรคำนึงอยู่ตลอดเวลาก็คือทำไมและเกิดขึ้นอย่างไร ขั้นตอนที่ ๒ การรวบรวมข้อมูล หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ให้ข้อมูลมีทั้งหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร และหลักฐานที่ ไม่ เป็นลายลักษณ์อักษร มีทั้งที่เป็นหลักฐานชั้นต้น (ปฐมภูมิ) และหลักฐานชั้นรอง (ทุติยภูมิ) การ รวบรวมข้อมูลนั้นหลักฐานชั้นต้นมีความสำคัญและความน่าเชื่อถือมากกว่าหลักฐานชั้นรอง แต่ หลักฐานชั้นรองอธิบายเรื่องราวให้เข้าใจได้ง่ายกว่าหลักฐานชั้นต้น ในการรวบรวมข้อมูลประเภท ต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น ควรเริ่มต้นจากหลักฐานชั้นรองแล้วจึงศึกษาหลักฐานชั้นต้น ถ้าเป็นหลักฐาน ประเภทไม่เป็นลายลักษณ์อักษรก็ควรเริ่มต้นจากผลการศึกษาของนักวิชาการที่เชี่ยวชาญในแต่ละ ด้านก่อนไปศึกษาจากของจริงหรือสถานที่จริงการศึกษาประวัติศาสตร์ที่ดีควรใช้ข้อมูลหลาประเภท ขึ้นอยู่กับว่าผู้ศึกษาต้องการศึกษาเรื่องอะไรดังนั้นการรวบรวมข้อมูลที่ดีจะต้องจดบันทึกรายละเอียด ต่าง ๆ ทั้งข้อมูลและแหล่งข้อมูลให้สมบูรณ์และถูกต้องเพื่อการอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ ขั้นตอนที่ ๓ การประเมินคุณค่าของหลักฐาน วิพากษ์ วิธีทางประวัติศาสตร์ คือ การตรวจสอบหลักฐานและข้อมูลในหลักฐานเหล่านั้น ว่ามี ความน่าเชื่อถือหรือไม่ ประกอบด้วยการวิพากษ์หลักฐานและวิพากษ์ข้อมูลโดยขั้นตอนทั้งสอง จะ กระทาควบคู่กันไป เนื่องจากการตรวจสอบหลักฐานต้องพิจารณาจากเนื้อหาหรือข้อมูลภายใน หลักฐานนั้น และในการวิพากษ์ข้อมูลก็ต้องอาศัยรูปลักษณะของหลักฐานภายนอกประกอบด้วย การ
๗๕ วิพากษ์หลักฐานหรือวิพากษ์ภายนอกการวิพากษ์หลักฐาน (external criticism) คือ การ พิจารณา ตรวจสอบหลักฐานที่ได้คัดเลือกไว้แต่ละชิ้นว่ามีความน่าเชื่อถือเพียงใด แต่เป็นเพียงการประเมินตัว หลักฐาน มิได้มุ่งที่ข้อมูลในหลักฐาน ดังนั้น ขั้นตอนนี้เป็นการสกัดหลักฐานที่ไม่ น่าเชื่อถือออกไปการ วิพากษ์ ข้อมูลหรือวิพากษ์ภายในการวิพากษ์ข้อมูล (internal criticism) คือ การพิจารณาเนื้อหาหรือ ความหมายที่แสดงออกในหลักฐานเพื่อประเมินว่าน่าเชื่อถือเพียงใดโดย เน้นถึงความถูกต้องคุณค่า ตลอดจนความหมายที่แท้จริง ซึ่งนับว่ามีความสำคัญต่อการประเมิน หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร เพราะข้อมูลในเอกสารมีทั้งที่คลาดเคลื่อน และมีอคติของผู้บันทึก แฝงอยู่ หากนักประวัติศาสตร์ ละเลยการวิพากษ์ข้อมูล ผลที่ออกมาอาจจะผิดพลาดจากความเป็น จริง ขั้นตอนที่ ๔ การตีความหลักฐาน การตีความหลักฐาน หมายถึง การพิจารณาข้อมูลในหลักฐานว่าผู้สร้างหลักฐานมีเจตนาที่ แท้จริงอย่างไร โดยดูจากลีลาการเขียนของผู้บันทึกและรูปร่างลักษณะโดยทั่วไปของประดิษฐกรรม ต่าง ๆ เพื่อให้ได้ความหมายที่แท้จริงซึ่งอาจแอบแฝงโดยเจตนาหรือไม่ก็ตามในการตีความหลักฐาน นักประวัติศาสตร์จึงต้องพยายามจับความหมายจากสานวนโวหาร ทัศนคติความเชื่อฯลฯ ของ ผู้เขียน และสังคมในยุคสมัยนั้นประกอบด้วยเพื่อที่จะได้ทราบว่าถ้อยความนั้นนอกจากจะ หมายความตาม ตัวอักษรแล้วยังมีความหมายที่แท้จริงอะไรแฝงอยู่ ขั้นตอนที่ ๕ การสังเคราะห์และการวิเคราะห์ข้อมูล จัดเป็นขั้นตอนสุดท้ายของวิธีการทางประวัติศาสตร์ซึ่งผู้ศึกษาค้นคว้าจะต้องเรียบเรียง เรื่อง หรือนำเสนอข้อมูลในลักษณะที่เป็นการตอบหรืออธิบายความอยากรู้ ข้อสงสัยตลอดจน ความรู้ใหม่ ความคิดใหม่ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้านั้นในขั้นตอนนี้ ผู้ศึกษาจะต้องนาข้อมูลที่ผ่าน การตีความมา วิเคราะห์ หรือแยกแยะเพื่อจัดแยกประเภทของเรื่องโดยเรื่องเดียวกันควรจัดไว้ด้วยกัน รวมทั้งเรื่องที่ เกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กัน เรื่องที่เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน จากนั้นจึงนา เรื่องทั้งหมดมาสังเคราะห์ หรือรวมเข้าด้วยกัน คือ เป็นการจาลองภาพบุคคลหรือเหตุการณ์ในอดีต ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เห็น ความสัมพันธ์และความต่อเนื่อง โดยอธิบายถึงสาเหตุต่าง ๆ ที่ทาให้เกิด เหตุการณ์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และผล ทั้งนี้ผู้ศึกษาอาจนาเสนอเป็นเหตุการณ์พื้นฐานหรือเป็น เหตุการณ์เชิงวิเคราะห์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับ จุดมุ่งหมายของการศึกษา
๗๖ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ รายวิชา ประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส๒๓๑๐๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ วิธีทางประวัติศาสตร์ เวลา ๑ ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ย่อยที่ ๒ เรื่อง การสืบค้นข้อมูลโดยวิธีการทางประวัติศาสตร์ เวลา ๑ ชั่วโมง สอนวันที่…………………………………. ผู้สอน พระมหาจิรายุ จิรญาณเมธี/ยางศรี มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมายความสำคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ ตัวชี้วัด ส ๑.๑ ม.๓/๒ รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อตอบคาถามทางประวัติศาสตร์อย่างมีเหตุผล สาระสำคัญ การรวบรวม พิจารณาไตร่ตรอง วิเคราะห์และตีความจากหลักฐานแล้วนามาเปรียบเทียบ อย่าง เป็นระบบ เพื่ออธิบายเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในอดีตว่าเหตุใดจึงเกิดขึ้น หรือเหตุการณ์ในอดีตนั้นได้เกิด และ คลี่คลายอย่างไร จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรียนมีบอกความหมายของวิธีการทางประวัติศาสตร์ได้(K) ๒. นักเรียนเกิดทักษะในการสืบค้นข้อมูลโดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ (P) ๓. นักเรียนเห็นความสำคัญของการสืบค้นข้อมูลโดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ (A) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซื่อสัตย์สุจริต มุ่งมั่นในการทำงาน มีวินัย รักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มีจิตสาธารณะ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร : ความสามารถในการคิด : ทักษะคิดวิเคราะห์ ความสามารถในการแก้ปัญหา : กระบวนการสืบค้นข้อมูล ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : กระบวนการการปฏิบัติ กระบวนการทำงาน
๗๗ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : ด้านคุณลักษณะของผู้เรียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล เป็นเลิศวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๑. หลักความพอประมาณ : ในการจัดการเวลาการเรียนให้เหมาะสม ๒. หลักความมีเหตุผล : ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด ๓. หลักภูมิคุ้มกัน : นักเรียนทุกคนสามารถใช้ชีวิตในสังคมอย่างรอบคอบและไม่ประมาท และเกิดความสุข ๔. เงื่อนไขความรู้ : มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาการและความรู้เกี่ยวกับการดำเนิน ชีวิตอย่างถูกต้อง ๕. เงื่อนไขคุณธรรม : ดำเนินชีวิตด้วยคุณธรรมที่ถูกต้องและจริยธรรมที่ดีงาม สาระการเรียนรู้ - ขั้นตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์ หลักฐานหรือร่องรอยของการเรียนรู้ ใบงาน เรื่อง การสืบข้อมูลโดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ กิจกรรมการเรียนการสอน กิจกรรมนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นที่ ๑ การสร้างความสนใจ) ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียนพร้อมด้วยเช็คชื่อเป็นรายบุคคล ขั้นที่ ๒ การสำรวจและค้นหา ๒. ครูตั้งประเด็นคำถามเกี่ยวกับวิธีการทาง สถานที่ บุคคล ที่นักเรียนเคยใช้เคยเห็น (ตัวอย่าง ภาพวัดภูเขาทอง) - วัดภูเขาทองเกิดขึ้นได้อย่างไร - วัดภูเขาทองสร้างขึ้นที่ไหน - วัดภูเขาทองจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน มีหลักฐานอะไรบ้างที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ขั้นที่ ๓ การอธิบาย ๓. ครูอธิบายการสืบข้อมูลโดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ โดยอธิบายผ่านสื่อ PowerPoint ขั้นที่ ๔ การขยายความรู้
๗๘ ๔.ครูให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลที่นักเรียนสนใจ (โดยที่ครูจะให้นักเรียนกำหนดเองว่า นักเรียนจะ สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับอะไรในท้องถิ่นของตนเอง เช่น สถานที่สำคัญ บุคคลสำคัญ) โดย ให้นักเรียนหาข้อมูลที่ สนใจมาก่อนแล้วครูถึงแจกใบงาน เรื่อง การสืบข้อมูลโดยใช้วิธีการทาง ประวัติศาสตร์ ๕. ครูให้นักเรียนทำใบงาน เรื่องการสืบข้อมูลโดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์โดยที่ นักเรียน สืบค้นข้อมูลที่สนใจมาเอง กิจกรรมรวบยอด ขั้นที่ ๕ การประเมินผล ๖. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง การสืบค้นข้อมูลโดยวิธีการทางประวัติศาสตร์ สื่อ/วัสดุอุปกรณ์/แหล่งการเรียนรู้ สื่อ ๑. PowerPoint เรื่องการสืบค้นข้อมูลวิธีการทางประวัติศาสตร์ ๒. ภาพวัดภูเขาทอง วัสดุอุปกรณ์ ๑. คอมพิวเตอร์ ๒. ใบงาน เรื่องการสืบค้นข้อมูลวิธีการทางประวัติศาสตร์ แหล่งการเรียนรู้ ๑. ห้องสมุดโรงเรียน ๒. อินเตอร์เน็ต
๗๙ การวัดและประเมินผล ด้นการวัดประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑.ความหมายของ วิธีการทาง ประวัติศาสตร์ได้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ ๖๐% ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ๒.ทักษะในการสืบค้น ข้อมูลวิธีการทาง ประวัติศาสตร์ (P) ตรวจใบงาน ใบงาน ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ ๖๐% ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ๓.เห็นความสำคัญขง การสืบค้นข้อมูลโดยใช้ วิธีการทาง ประวัติศาสตร์ (A) การสังเกตพฤติกรรม รายบุคคล แบบประเมิน พฤติกรรมรายบุคคล ผ่านเกณฑ์การ ประเมินระดับ คุณภาพพอใช้ขึ้นไป กิจกรรมเสนอแนะ
๘๐ บันทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................. ๒. ปัญหา/อุปสรรค ........................................................................................................................................... ........................ ........................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ............................. ๓. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ................................................................................................................................................ ................... ................................................................................................................ ................................................... .......................................................................................... ลงชื่อ......................................ผู้สอน (พระมหาจิรายุ จิรญษณเมธี) ........../........../.......... ความคิดเห็นครูพี่เลี้ยง ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ......................................................................................... ลงชื่อ......................................ครูพี่เลี้ยง (............................................) ........../........../.......... ความคิดเห็น (ผู้บริหาร/รองผู้อำนวยการกลุ่มวิชาการ/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย) ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ........................................................................................... ลงชื่อ............................................. (............................................................) ตำแหน่ง.............................................. วันที่...............................................
๘๑ ใบงานที่ ๑ เรื่อง การสืบค้นข้อมูลโดยวิธีการทางประวัติศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง วิธีการทางประวัติศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง การสืบค้นข้อมูลโดยวิธีการทางประวัติศาสตร์ รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส๒๓๑๐๓ ภาคเรียนที่ ๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ การศึกษาเรื่อง.............................................................................................................................. ติดภาพ กำหนดหัวข้อ........................................................................................ การรวบรวมข้อมูลและหลักฐาน ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................ ................................ .................................................................................................. .............................................................. การตรวจสอบข้อมูลและหลักฐาน ............................................................................................................................. ................................... .................................................................................................................................. .............................. ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................... ................................................................. ............................................................................................................................. ................................... การสรุปความรู้
๘๒ .......................................................................................................................................... ...................... ............................................................................................................ .................................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................... ................................................................. ............................................................................................................................. ................................... .......................................................................................................................................................... ...... ............................................................................................................................ .................................... การนำเสนอข้อมูล ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................
๘๓ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ รายวิชา ประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส๒๓๑๐๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ วิธีทางประวัติศาสตร์ เวลา ๑ ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ย่อยที่ ๓ เรื่อง ข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เวลา ๑ ชั่วโมง สอนวันที่………………………………….. ผู้สอน พระมหาจิรายุ จิรญาณเมธี/ยางศรี มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๔.๑ เข้าใจความหมายความสำคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้ วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ ตัวชี้วัด ม.๓/๒ รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อตอบคาถามทางประวัติศาสตร์อย่างมีเหตุผล สาระสำคัญ ร่องรอยของสิ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ สร้างสรรค์ รวมทั้งร่องรอยของพฤติกรรมที่เกิดขึ้นใน อดีต และ เหลือ ตกค้างมาถึงปัจจุบัน ซึ่งสามารถใช้เป็นเครื่องนาทางในการศึกษา สืบค้น แสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยง กับเรื่องราว ในอดีตของมนุษย์ได้ในระดับหนึ่ง จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรียนมีบอกความหมายของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้ (K) ๒. นักเรียนเกิดทักษะในการสืบค้นข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์ (P) ๓. นักเรียนเห็นความสำคัญของข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์ (A) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซื่อสัตย์สุจริต มุ่งมั่นในการทำงาน มีวินัย รักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มีจิตสาธารณะ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร : ความสามารถในการคิด : ทักษะคิดวิเคราะห์ ความสามารถในการแก้ปัญหา : กระบวนการสืบค้นข้อมูล ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : กระบวนการการปฏิบัติ กระบวนการทำงาน ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี :
๘๔ ด้านคุณลักษณะของผู้เรียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล เป็นเลิศวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๑. หลักความพอประมาณ : ในการจัดการเวลาการเรียนให้เหมาะสม ๒. หลักความมีเหตุผล : ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด ๓. หลักภูมิคุ้มกัน : นักเรียนทุกคนสามารถใช้ชีวิตในสังคมอย่างรอบคอบและไม่ประมาท และเกิดความสุข ๔. เงื่อนไขความรู้ : มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาการและความรู้เกี่ยวกับการดำเนิน ชีวิตอย่างถูกต้อง ๕. เงื่อนไขคุณธรรม : ดำเนินชีวิตด้วยคุณธรรมที่ถูกต้องและจริยธรรมที่ดีงาม สาระการเรียนรู้ ข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หลักฐานหรือร่องรอยของการเรียนรู้ แผนผังความคิด กิจกรรมการเรียนการสอน กิจกรรมนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นที่ ๑ การสร้างความสนใจ ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียนพร้อมด้วยเช็คชื่อเป็นรายบุคคล ขั้นที ๒ การสำรวจและค้นหา ๒. ครูให้นักเรียนศึกษาข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เพื่อกระตุ้นความรู้เดิมของ นักเรียน โดย ครูให้นักเรียนศึกษาจากใบความรู้ เรื่อง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ๓. ครูให้นักเรียนดูภาพพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา พร้อมกับถามคำถาม -ภาพที่ครูให้นักเรียนดูเป็นภาพอะไร (แนวคำตอบ พระราชพงศาวดาร กรุงศรีอยุธยา) -พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หรือไม่ (แนวคาตอบ เป็นหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ขั้นที่ ๓ การอธิบาย ๓. ครูอธิบายพร้อมกับให้นักเรียนศึกษาข้อมูล เรื่องหลักฐานทางประวัติศาสตร์จากสื่อ PowerPoint แล้วให้นักเรียนแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ขั้นที่ ๔ การขยายความรู้
๘๕ ๕. ครูให้นักเรียนจับคู่แล้วให้นักเรียนสรุปประเด็นสำคัญของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เป็น แผนผังความคิด ๖. ครูให้นักเรียนตอบคําถาม นักเรียนรู้จักหลักฐานทางประวัติศาสตร์อะไรบ้าง (แนว คําตอบ ศิลา จารึก ใบลาน ถ้วยชามสังคโลก) -หลักฐานประเภทไหนที่เป็นหลักฐานประเภทลายลักษณ์อักษร (แนวคำตอบ ศิลา จารึก ใบลาน หนังสือพิมพ์ หนังสือเรียน) -หลักฐานประเภทไหนที่เป็นหลักฐานประเภทไม่เป็นลายลักษณ์อักษร (แนวคำตอบ โบราณสถาน โบราณวัตถุเจดีย์ ถ้วยชาม) กิจกรรมรวบยอด ขั้นที่ ๕ การประเมินผล ๗. ครูสุ่มนักเรียน ๒-๓ คู่ให้ออกมานำเสนอผลงานแผนผังความคิด ๘. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เพื่อให้นักเรียน เห็น คุณค่าและประโยชน์หลักฐานทางประวัติศาสตร์ สื่อ/วัสดุอุปกรณ์/แหล่งการเรียนรู้ สื่อ ๑. PowerPoint เรื่องข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ๒. ใบความรู้ วัสดุอุปกรณ์ ๑. คอมพิวเตอร์ แหล่งการเรียนรู้ ๑. ห้องสมุดโรงเรียน ๒. อินเตอร์เน็ต
๘๖ การวัดและประเมินผล ด้านการวัดประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑.บอกความหมายของ หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ (K) ตรวจแผนผัง ใบงาน ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ ๖๐% ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ๒.ทักษะการสืบค้น ข้อมูลหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ (P) ตรวจแผนผัง แบบสังเกต ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ ๖๐% ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ๓.เห็นความสำคัญของ ข้อมูลหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ (A) การสังเกตพฤติกรรม รายบุคคล แบบประเมินพฤติกรรม รายบุคคล ผ่านเกณฑ์การ ประเมินระดับ คุณภาพพอใช้ขึ้นไป กิจกรรมเสนอแนะ -
๘๗ บันทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................. ๒. ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................. ๓. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... .......................................................................................... ลงชื่อ......................................ผู้สอน (พระมหาจิรายุ จิรญาณเมธี) ........../........../.......... ความคิดเห็นครูพี่เลี้ยง .................................................................................................. ................................................................. ............................................................................................................................. ...................................... ......................................................................................... ลงชื่อ......................................ครูพี่เลี้ยง (.......................................) ........../........../.......... ความคิดเห็น (ผู้บริหาร/รองผู้อำนวยการกลุ่มวิชาการ/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย) ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ........................................................................................... ลงชื่อ............................................. (............................................................) ตำแหน่ง.............................................. วันที่..............................................
๘๘ ใบความรู้ที่ ๒ เรื่อง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง วิธีการทางประวัติศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง ข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์ รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส๑๕๑๐๒ ภาคเรียนที่ ๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ๑) แบ่งตามยุคสมัย (๑) หลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์คือ หลักฐานที่เกิดขึ้นในสมัยที่ยังไม่มีการบันทึก เป็น อักษรแต่เป็นพวกซากโครงกระดูกมนุษย์ จากสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องประดับ ร่องรอย การตั้งถิ่นฐานของชุมชน ตลอดจนความพยายามที่จะถ่ายทอด ประสบการณ์ของมนุษย์ก่อน ประวัติศาสตร์ ในลักษณะของการบอกเล่าต่อ ๆ กันมา เป็นนิทาน หรือตานานซึ่งเราเรียกว่า “มุขปาฐะ" (๒) หลักฐานสมัยประวัติศาสตร์คือ หลักฐานสมัยที่มนุษย์สามารถประดิษฐ์ตัวอักษร และ บันทึกในวัสดุต่าง ๆ มีร่องรอยที่แน่นอนเกี่ยวกับสังคมเมือง มีการรู้จักใช้เหล็กและโลหะอื่น ๆ มาเป็น เครื่องมือใช้สอยที่ประณีต มีร่องรอยศาสนสถานและประติมากรรมรูปเคารพในศาสนา อย่างชัดเจน ๒) แบ่งตามลักษณะหรือวิธีการบันทึก (๑) หลักฐานประเภทลายลักษณ์อักษร ได้แก่ จารึก ตานาน พงศาวดาร จดหมายเหตุ บันทึก ความทรงจำ เอกสารทางวิชาการ ชีวประวัติ จดหมายส่วนตัว หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร กฎหมาย วรรณกรรม ตำรา วิทยานิพนธ์ งานวิจัย ในการศึกษาประวัติศาสตร์ในประเทศ ไทย มีการเน้นการ ฝึกฝนทักษะการใช้หลักฐานประเภทลายลักษณ์อักษรเป็นส่วนใหญ่ จนอาจ กล่าวได้ว่าหลักฐานประเภท นี้เป็นแก่นของงานทางประวัติศาสตร์ไทย (๒) หลักฐานไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ได้แก่ หลักฐานโบราณคดี เช่น โบราณสถาน โบราณวัตถุ เงินตรา หลักฐานจากการบอกเล่า ที่เรียกว่า “มุขปาฐะ” หลักฐานด้านภาษา เกี่ยวกับ พัฒนาการของภาษาพูด หลักฐานทางศิลปกรรม ได้แก่ จิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม นาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์ หลักฐานประเภทโสตทัศน์ ได้แก่ ภาพถ่าย ภาพสไลด์ แผนที่ โปสเตอร์ แถบ บันทึกเสียง แผ่นเสียง ภาพยนตร์ ดวงตราไปรษณียากร ๓) แบ่งตามลาดับความสำคัญ (๑) หลักฐานชั้นต้นหรือหลักฐานปฐมภูมิ(Primary sources) หมายถึง หลักฐานที่ บันทึก สร้างหรือจัดหาขึ้น โดยผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นโดยพระ หรือบ่งบอกให้รู้ถึงเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นใน สมัยนั้นจริง ๆ ทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษร เช่น สนธิสัญญา บันทึกคาให้การ จดหมายเหตุ กฎหมาย ประกาศของทางราชการศิลาจารึก จดหมายโต้ตอบ และที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร เช่น ภาพเขียนสีผนัง ถ้า เครื่องมือเครื่องใช้เครื่องประดับ เจดีย์
๘๙ (๒) หลักฐานชั้นรองหรือหลักฐานทุติยภูมิ(Secondary sources) หมายถึง หลักฐาน ที่เกิด จากการนาหลักฐานชั้นต้นมาวิเคราะห์ ตีความเมื่อเวลาผ่านพ้นไปแล้ว ได้แก่ ตำนานพงศาวดาร นัก ประวัติศาสตร์บางท่านยังได้แบ่งหลักฐานประวัติศาสตร์ออกไปอีกเป็น หลักฐานชั้น ที่สามหรือตติยภูมิ (Tertiary sources) หมายถึง หลักฐานที่เขียนหรือรวบรวมขึ้นจากหลักฐาน ปฐมภูมิและทุติยภูมิ เพื่อ ประโยชน์ในการศึกษาอ้างอิง เช่น สารานุกรม หนังสือแบบเรียน ประวัติศาสตร์ต่าง ๆ แหล่งที่มาอ้างอิง สุริยันตร์ เชาวนปรีชา (๒๕๕๒)
๙๐ แบบประเมินการนำเสนอหน้าชั้นเรียน เกณฑ์การ ประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรุง (๑) ๑.การถ่ายทอ เนื้อหา คล่องแคล่วไม่ ติดขัด ทำให้ เข้าใจประเด็น ได้ ง่ายและเร็ว การ พูดมีการเว้น จังหวะและเน้นคำ เน้นสาระสำคัญ อย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ฟัง ติดตามการนำา เสนอความเร็ว ใน การพูดอยู่น ระดับเหมาะสม คล่องแคล่วไม่ ติดขัดทำให้เข้าใจ ประเด็นได้ง่าย การพูดมีการเว้น จังหวะอย่าง เหมาะสม ความเร็ว ในการ พูดอยู่ใน ระดับ เหมาะส, ไม่คล่องแคล่วมี การหยุดชะงัก บ้างบางครั้งพูดช้า จับประเด็นไม่ได้ ติดขัดหยุดชะงัก ในหลายจังหวะ พูดช้าหรือเร็ว เกินไป ๒.บุคลิกภาพ มีความมั่นใจสบ สายตาผู้ฟัง ตลอดเวลาเพื่อ ดึงดูดผู้ฟังให้ สนใจในเนื้อหาที่ ถ่ายทอดอย่าง เหมาะสม สบสายตาผู้ฟัง พอสมควร น้ำเสียงสะท้อนถึง ความมั่นใจ เสียง ดังเหมาะสม สบตาผู้ฟังน้อย น้ำเสียงสั่น ขาด ความมั่นใจเสียง เบาและสลับดัง ก้มหน้าไม่สบตา และน้ำเสียงสั่น และเบา ๓.การใช้ภาษา กายในการ สื่อสาร คล่องแคล่ว เช่น ยกมือ/ผายมือ แสดงกิริยาท่าทาง ประกอบการ นำเสนอเพื่อดึงดูด ความสนใจ แสดงกิริยาท่าทาง ประกอบการ นำเสนอ พอสมควร ใช้ภาษากาย สื่อสารน้อยครั้ง ไม่ใช้ภาษากาย สื่อสาร
๙๑ ๔.ความ เหมาะสมกับ เวลา ใช้เวลาในการ นำเสนอเหมาะสม ใช้เวลาในการ นำเสนอเกินเวลา ที่กำหนด ๑-๓ นาที ใช้เวลาในการ นำเสนอเกินเวลา ที่กำหนด ๔-๕ นาที ใช้เวลาในการ นำเสนอเกินเวลา ที่กำหนด มากกว่า ๕ นาที
๙๒ แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ เกณฑ์การประเมิน ระดับคุณภาพ ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรุง (๑) ๑.การร่วมกิจกรรม มีความกระตือรือร้น ในการร่วมกิจกรรม อย่างสม่ำเสมอ มีความกระตือรือร้น ในการร่วมกิจกรรม ในบางครั้ง ไม่มีความ กระตือรือร้นในการ ร่วมกิจกรรม ๒.การรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น รับฟังความคิดเห็น ของผู้อื่นอย่าง สม่ำเสมอ รับฟังความคิดเห็น ของผู้อื่นเป็นบางครั้ง ไม่รับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น ๓.ความรับผิดชอบ มีความรับผิดชอบใน งานที่ได้รับ มอบหมายอย่าง สม่ำเสมอ มีความรับผิดชอบใน งานที่ได้รับ มอบหมายใบางครั้ง ไม่มีความรับผิดชอบ ในงานที่ได้รับ มอบหมาย ๔.ขยันหมั่นเพียร มีความ ขยันหมั่นเพียร พยายามทำงานให้ สำเร็จอย่าง สม่ำเสมอ มีความ ขยันหมั่นเพียร พยายามทำงานให้ สำเร็จเป็นบางครั้ง ไม่มีความ ขยันหมั่นเพียร พยายามทำงานให้ สำเร็จ ๕.ตรงต่อเวลา ส่งชิ้นงานในเวลาที่ กำหนด ส่งชิ้นงานเสร็จตรง เวลา ส่งชิ้นงานช้ากว่า เวลาที่กำหนด เกณฑ์การให้คะแนน คะแนน ๑๑-๑๕ คะแนน หมายถึง ดี คะแนน ๖-๑๐ คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน ๑-๕ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ ๖ ขึ้นไป
๙๓ แบบประเมินแผนผังความคิด คำชี้แจง ให้ครูผู้สอนประเมินแผนผังความคิดของนักเรียน แล้วทำเครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรงกับ คะแนน ลำ ดับที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการ ประเมิน การร่วม กิจกรรม การยอมรับ ฟังคนอื่น ความ รับผิดชอบ ขยันหมั่นเพียร ตรงต่อเวลา รวม ๒๐ คะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ลงชื่อ............................................ผู้ประเมิน (.................................................) ................ /................ /................ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๖ - ๒๐ ดีมาก ๑๑ – ๑๕ ดี ๖ - ๑๐ พอใช้ ต่ำกว่า ๕ ปรับปรุง
๙๔ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล ชื่อ-สกุล ....................................................................................................... ชั้น ............เลขที่.............คำ ชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงใน ช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับ ที่ ชื่อ-นามสกุล เกณฑ์การให้คะแนน ความ ตั้งใจใน การ เรียน (๔) ความ สนใจใน และการ ซักถาม การตอบ ตำถาม (๔) มีส่วน ร่วมใน กิจกรรม (๔) รวม (๑๖) ระดับ คุณภาพ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ลงชื่อ.............................................ผู้ประเมิน ................ /................ /................