The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

13-พระมหาจิรายุ จิรญาณเมธี-การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 Eฯ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by social study, 2023-05-31 03:24:53

13-พระมหาจิรายุ จิรญาณเมธี-การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 Eฯ

13-พระมหาจิรายุ จิรญาณเมธี-การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ โดยใช้รูปแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 Eฯ

๙๕ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ ๔ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ ๒ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ ๑ คะแนน


๙๖ เกณฑ์การวัดและประเมินผลการสังเกตพฤติกรรมนักเรียนรายบุคคล (Rubric) ประเด็นการ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ต้องปรับปรุง (๑) ๑.ความตั้งใจใน การเรียน สนใจในการเรียน ไม่คุยหรือไม่เล่น ในขณะเรียน สนใจในการเรียน คุยกันเล็กน้อย ในขณะเรียน สนใจในการเรียน คุยกันและเล่นกัน ในขณะเรียน บางครั้ง ไม่สนใจในการ เรียนคุยและเล่น ในขณะเรียน ๒.ความสนใจ และการซักถาม มีการถามใน หัวข้อที่ตนไม่ เข้าใจทุกเรื่อง และกล้า แสดงออก มีการถามใน หัวข้อที่ตนไม่ เข้าใจส่วนมาก และกล้า แสดงออก มีการถามใน หัวข้อที่ตนไม่ เข้าใจส่วนมาก และไม่ค่อยกล้า แสดงออก ไม่ถามในหัวข้อที่ ตนไม่เข้าใจและ ไม่ค่อยกล้า แสดงออก ๓.การตอบ คำถาม ร่วมตอบคำถาม ในเรื่องที่ครูถาม และตอบถูกทุก ข้อ ร่วมตอบคำถาม ในเรื่องที่ครูถาม ส่วนมากถูก ร่วมตอบคำถาม ในเรื่องที่ครูถาม เป็นบางครั้งและ ตอบถูกเป็น บางครั้ง ไม่ตอบคำถาม ๔.มีส่วนร่วน กิจกรรม ร่วมมือและ ช่วยเหลือเพื่อนใน การทำกิจกรรม ร่วมมือและ ช่วยเหลือเพื่อน ส่วนใหญ่ในการ ทำกิจกรรม ร่วมมือและ ช่วยเหลือเพื่อนใน การทำกิจกรรม เป็นบางครั้ง ไม่มีความร่วมมือ ในขณะทำ กิจกรรม


๙๗ แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง วิธีการทางประวัติศาสตร์ คำชี้แจง แบบทดสอบเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน ๒๐ ข้อ โดยให้นักเรียน เลือก คำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว ให้ทำเครื่องหมาย X ลงในกระดาษที่แจกให้ ๑. ข้อใดเป็นการตั้งประเด็นที่ไม่เหมาะสมใน การศึกษาประวัติศาสตร์ ก. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กับการสร้างชาติไทย ข. การเลิกทาสในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ค. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับ กัมพูชา ง. วีรกรรมของท้าวสุรนารีในประวัติศาสตร์ ไทย เฉลย ข้อ ค. ๒. การกำหนดหัวข้อหรือประเด็นที่ดีควรมี ลักษณะอย่างไร ก. กำหนดช่วงเวลาและพื้นที่ที่จะศึกษาให้ ชัดเจน ข. กำหนดหัวเรื่องกว้างๆ เพื่อศึกษาได้หลาย ประเด็น ค. นำประเด็นที่มีผู้ศึกษามาก่อนและมีการ ยอมรับแล้ว ง. กำหนดหัวเรื่องให้แคบจะได้ไม่เสียเวลา ศึกษา เฉลย ข้อ ก. ๓. การกำหนดหัวเรื่องให้น่าสนใจจะเกิด ประโยชน์อย่างไร ก. สะดวกในการศึกษาค้นคว้า ข. ศึกษาเรื่องที่แตกต่างจากผู้อื่น ค. เกิดการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ง. มีแรงกระตุ้นในการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เฉลย ข้อ ก ๔. การกำหนดประเด็นมีประโยชน์อย่างไรต่อ วิธีการทางประวัติศาสตร์ ก. บอกความสนใจของผู้ศึกษาค้นคว้า ช. ป้องกันการศึกษาซ้ำกับผู้อื่น ค. กำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษา ง. ทำให้ทราบแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ เฉลย ข้อ ค. ๕.อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจัดเป็นหลักฐาน ประเภทใด ก.หลักฐานชั้นต้น ข.หลักฐานชั้นรอง ค.หลักฐานปฐมภูมิ ง. หลักฐานที่เป็นลายลายลักษณ์อักษร


๙๘ เฉลย ข้อ ข. ๖.การบันทึกเรื่องราวในอดีตเกี่ยวกับ พระมหากษัตริย์ คือ หลักฐานใด ๘ ก.ตำานาน ข.พงศาวดาร ค.บันทึก ง.จดหมาย เฉลย ข้อ ค. ๗. หลักฐานลายลักษณ์อักษรมีความสำคัญต่อ การศึกษาประวัติศาสตร์อย่างไร ก. เป็นหลักฐานที่ให้ข้อมูลประวัติศาสตร์ดี ที่สุด ข. เป็นหลักฐานที่ให้ข้อมูลง่ายกว่าหลักฐาน อื่น ค. เป็นหลักฐานที่มีจำนวนมาก หาง่าย ง. เป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือที่สุด เฉลย ข้อ ง. ๘. เพราะเหตุใดจึงต้องศึกษาจากผลงานของ ผู้เชี่ยวชาญก่อนไปศึกษาในสถานที่จริง ก. หาความน่าเชื่อถือของผู้เชี่ยวชาญ ข. ทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อน ค. หากเข้าใจเรื่องแล้วไม่ต้องไปสถานที่จริง ง. เปรียบเทียบผลงานจากผู้เชี่ยวชาญแต่ละ คน เฉลย ข้อ ข. ๙. หลักฐานประวัติศาสตร์มีความสำคัญต่อ วิธีการทางประวัติศาสตร์อย่างไร ก. ให้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ข. กำหนดวิธีการทางประวัติศาสตร์ ค. กำหนดหัวข้อหรือประเด็นทาง ประวัติศาสตร์ ง. ทำให้เกิดวิธีการทางประวัติศาสตร์ เฉลย ข้อ ก. ๑๐. ข้อใดคือประโยชน์ที่ได้จากการตีความ ข้อมูล ก. รู้จักวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของข้อมูล ข. มีความอดทนในการอ่านเอกสารจำนวน มาก ค. รู้จักนำแนวคิดในปัจจุบันมาพิจารณาอดีต ง. มีจินตนาการเกี่ยวกับอดีต เฉลย ข้อ ก. ๑๑.ถ้านักเรียนจะศึกษาประวัติศาสตร์ ขั้น แรกนักเรียนควรทำอย่างไร ก.รวบรวมข้อมูล ข.ตีความข้อมูล ค.ตรวจสอบข้อมูล ง. กำหนดหัวข้อที่จะศึกษา เฉลย ข้อ ง.


๙๙ ๑๒.ข้อใดคือหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งหมด ก.จดหมาย ตํานาน พงศาวดาร ข.จารึก บันทึก ภาพถ่าย ค.จารึก ตำนาน วีดีโอ ง. วีดีโอ ภาพถ่าย เครื่องใช้ เฉลย ข้อ ก. ๑๓. ข้อใดคือเป้าหมายของการรวบรวมข้อมูล จากหลายๆแหล่ง ก.เพื่อกำหนดหัวข้อเรื่องได้ ข.สันนิษฐานข้อมูลต่างๆ ค.บันทึกเรื่องราวได้มากๆ ง.รวบรวมหลักฐานที่ถูกต้อง เฉลย ข้อ ง. ๑๔.บทความทางวิชาการเป็นหลักฐานในชั้น ใด ก.ภาพถ่าย ข.นํานาน ค.พงศาวดาร ง.บทความทางวิชาการ เฉลย ข้อ ง. ๑๕.การเขียนเรื่องราวเป็นตัวอักษรลงในแผ่น ศิลาคือหลักฐานใด ก.ตำนาน ข.จารึก ค.พงศาวดาร ง.จดหมายเหตุ เฉลย ข้อ ข. ๑๖.หลักฐานข้อใด แตกต่างจากข้ออื่น ก.จารึก ข.ตำนาน ค.โบราณวัตถุ ง.พงศาวดาร เฉลย ข้อ ค. ๑๗. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ข้อใด แตกต่าง จากข้ออื่น ก.จารึก ข.รูปถ่าย ค.โบราณวัตถุ ง.โบราณสถาน เฉลย ข้อ ก. ๑๘.การศึกษาประวัติศาสตร์ เพื่อให้ทราบ ข้อมูลที่เป็นจริงมากที่สุด ควรยึดสิ่งใดเป็น ก.หลักฐาน ข.นักโบราณคดี ง.วิธีเผยแพร่ข้อมูล เฉลย ข้อ ก. ๑๙. ข้อใดจัดเป็นหลักฐานทางโบราณคดี ทั้งหมด


๑๐๐ ก. โครงกระดูก เครื่องมือ-เครื่องใช้ ข. ศิลาจารึก ซุ้มใบเสมา ค. พงศาวดารอยุธยา ตำานานท้าวแสนปม ง. วีดีทัศน์เรื่องจดหมายเหตุกรุงศรี รอยไทย เฉลย ข้อ ก. ๒๐. หลักฐานชั้นต้นมีความน่าเชื่อถือกว่า หลักฐานชั้นรอง เพราะเหตุใด ก. หลักฐานชั้นรองจากหลักฐาน ชั้นต้น ข. หลักฐานชั้นต้นสร้างขึ้นปราศจา ค. หลักฐานชั้นต้นไม่สอดแทรกความคิดเห็น สร้าง ผู้สร้างฐาน ทานข้อมูลกา เฉลย ข้อ ข


๑๐๑ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง วิธีการทางประวัติศาสตร์ คําชี้แจง แบบทดสอบเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ ๔ ตัวเลือก จำนวน ๓๐ ข้อ โดยให้นักเรียน เลือกคาตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว ให้ทำเครื่องหมาย X ลงในกระดาษที่แจกให้ ๑.ถ้าต้องการทราบประวัติความเป็นมาควรรวบรวมข้อมูลจากหลักฐานในข้อใด ก.สอบถามจากเพื่อนข้างบ้าน ข.โบราณสถานที่เพิ่งก่อสร้าง ค.คำบอกเล่าของผู้สูงอายุในท้องถิ่น ง.ภาพถ่ายของตนเองตอนเด็ก เฉลย ข้อ ค. ๒.ถ้าต้องการสืบค้นความเป็นมา ควรปฏิบัติอย่างไรเป็นขั้นตอนแรก ก.กำหนดหัวข้อ ข.รวบรวมข้อมูลหลักฐาน ค. นำเสนอข้อมูล ง.ตรวจสอบลักษณะข้อมูล เฉลย ข้อ ก. ๓.ข้อใดไม่ใช่วิธีการทางประวัติศาสตร์ ก.การกำหนดหัวข้อ ข.การตีความหลักฐาน ค.การรวบรวมหลักฐาน ง.การเลียนแบบหลักฐาน เฉลย ข้อ ง ๔.การนำเสนอข้อมูลควรยึดหลักในข้อใด ก.นำเสนอข้อมูลเฉพาะด้านที่ดี ข.นำเสนอข้อมูลตามความเป็นจริง ค.นำเสนอข้อมูลโดยใช้ความรู้สึกส่วนตัว ง.นำเสนอข้อมูลโดยใช้หลักฐานเพียงชิ้นเดียว เฉลย ข้อ ข ๕. การตรวจสอบและตีความข้อมูลในข้อใดถูกต้อง ก.ใช้ข้อมูลที่ตนเองชอบมากที่สุด ข.เชื่อเฉพราะข้อมูลที่พ่อแม่เล่าให้ฟัง


๑๐๒ ค.เพิ่มเติมข้อมูลเพื่อให้เกิดความน่าสนใจ ง.เปรียบเทียบข้อมูลกับหลาย ๆ แหล่งข้อมูล เฉลย ข้อ ง. ๖. ข้อใดไม่ใช่วิธีการทางประวัติศาสตร์ ก.การกำหนดหัวข้อ ข.การตีความหลักฐาน ค.การรวบรวมหลักฐาน ง.การเลียนแบบหลักฐาน เฉลย ข้อ ง. ๗. ข้อใดเรียงลำดับขั้นตอนวิธีการสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่นได้ถูกต้อง ๑.อยากทราบว่าในท้องถิ่นมีสถานที่สำคัญใดบ้าง ๒.จัดนิทรรศการเผยแพร่ ๓.ตรวจสอบข้อมูลที่ได้จากเอกสาร พงศาวดาร ๔.ค้นคว้าข้อมูลจากเอกสาร พงศาวดาร ๕. วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากเอกสาร พงศาวดาร ๑ ๒ ๔ ๕ ๓ ๑ ๔ ๓ ๕ ๒ ๔ ๓ ๕ ๑ ๒ ๔ ๑ ๓ ๕ ๒ เฉลย ข้อ ข. ๘. กัลยากำลังเปรียบเทียบสาเหตุของการย้ายถิ่นของชุมชนในอดีตว่าเป็นเพราะสาเหตุใด” จาก ข้อความที่กำหนดให้ แสดงว่ากัลยากำลังสืบค้นความเป็นมาอยู่ในขั้นตอนใด ก.รวบรวมหลักฐาน ข. กำหนดหัวข้อเรื่อง ค.ตีความข้อมูล ง.นำาเสนอข้อมูล เฉลย ข้อ ค ๙. วันชัยกับเพื่อนๆ กำลังคิดว่าจะศึกษาเรื่องใดในชุมชน” จากข้อความที่กำหนดให้ วันชัยกับเพื่อนๆ กำลัง ค้นความเป็นมาของชุมชนในชั้นตอนใด ก.ตีความข้อมูล ข.กำหนดหัวข้อ


๑๐๓ ค.เรีบยเรียงข้อมูล ง.ตรวจสอบหลักฐาน เฉลย ข้อ ข. ๑๐. ถ้าต้องการสืบค้นความเป็นมา ควรปฏิบัติอย่างไรเป็นขั้นตอนแรก ก.กำหนดหัวข้อ ข.รวบรวมข้อมูลหลักฐาน ค.น้าเสนอข้อมูล ง.ตรวจสอบลักษณะข้อมูล เฉลย ข้อ ข. ๑๑. ข้อใด ตอน กองการสืบค้นความเป็นมา ก.การตีความหลักฐาน ข.การรวบรวมข้อมูล ค.การตรวจสอบข้อมูล ง.การเรียบเรียงและนำเสนอข้อมูล เฉลย ข้อ ง. ๑๒. ถ้านักเรียนต้องการค้นคว้าเรื่องราวเกี่ยวกับท้องถิ่นของตนเอง ควรเริ่มค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลใด จึงจะ เอาชน ก.ร้านค้า ข.โรงแรม ค.ห้องสมุด ง.วัดในท้องถิ่น เฉลย ข้อ ง. ๑๓. การศึกษาประวัติศาสตร์ เพื่อให้ทราบข้อมูลที่เป็นจริงมากที่สุด ควรยึดสิ่งใดเป็นสำคัญ ก.หลักฐาน ข.นักโบราณคดี ค.เครื่องมือที่ใช้ชุด ง. วิธีเผยแพร่ข้อมูล เฉลย ข้อ ก. ๑๔. อใดเป็นหลักฐานที่ไม่ใช่ลายลักษณ์อักษรทั้งหมด ก.เครื่องประดับหิน ศิลาจารึก ข.สมุดข่อย โบราณสถาน


๑๐๔ ค.ขวานหินขัด ถ้วยชามสังคโลก ง.จารีกใบลาน พงศาวดาร เฉลย ข้อ ค. ๑๕. หลักฐานที่เกิดร่วมสมัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือหลักฐานประเภทใด ก.ชั้นต้น ข.ชั้นกลาง ค.ชั้นรอง ง.ชั้นท้าย เฉลย ข้อ ก. ๑๖. หลักฐานในข้อใดให้ข้อมูลเกี่ยวกับความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ที่มีต่อองค์พระปฐมเจดีย์ ก.แผนที่ ข.คำตัดสินของศาลโลก ค.แบบสอบถาม ง.หนังสือท่องเที่ยวองค์พระปฐมเจดีย์ เฉลย ข้อ ค. ๑๗. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง ก.หนังสือเล่าเรื่องหัวเมืองใต้ เป็นหลักฐานที่ไม่ใช่ตัวอักษร ข.พงศาวดาร เป็นหลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ค.ศิลาจารึก เป็นหลักฐานสมัยประวัติศาสตร์ ง.รูปถ่าย เป็นหลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เฉลย ข้อ ค. ๑๘. ข้อใดไม่ใช่หลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ก.จดหมายเหตุของหมอบรัดเลย์ บ.ซากโครงกระดูกที่บ้านเชียง ค.เครื่องปั้นดินเผาบ้านนาดี ง.ภาพเขียนสีที่ผาแต้ม เฉลย ข้อ ก. ๑๙. ข้อใดเป็นหลักฐานชั้นรอง ก.ตำนาน ข.หนังสือพิมพ์ ค.รูปถ่าย


๑๐๕ ง.เครื่องมือหินขัด เฉลย ข้อ ก. ๒๐. ข้อใดไม่ใช่หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร ก.บันทึก ข.พงศาวดาร ค.ตำนาน ง.แถบวีดีทัศน์ เฉลย ข้อ ง. ๒๑ .ข้อใดเป็นหลักฐานในสมัยประวัติศาสตร์ ก.ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ข.ภาชนะดินเผาบ้านเก่า ค. กาญจนบุรี ง.กำไลสำริดบ้านยางทองใต้ เฉลย ข้อ ก. ๒๒.ในชุมชนค้นพบถ้วยชามโบราณ ทำให้ทราบข้อมูลใด ก. ชุมชนนี้ประกอบอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว ข. ชุมชนนี้เคยค้าขายกับชาวต่างชาติ ค. ชุมชนนี้มีการใช้ภาชนะดินเผา ง.ชุมชนนี้มีประชากรส่วนใหญ่เป็นราย เฉลย ข้อ ค. ๒๓.หลักฐานใดแตกต่างจากข้ออื่น ก.จารึก ข.ตานาน ค.โบราณวัตถุ ง.พงศาวดาร เฉลย ข้อ ค. ๒๔.เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตและมีการเล่าสืบต่อกันมา ก.จารึก ข.ตานาน ค.โบราณวัตถุ ง.พงศาวดาร


๑๐๖ เฉลย ข้อ ข. ๒๕. ข้อใดไม่จัดว่าเป็นการแบ่งประเภทหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ก.หลักฐานชั้นต้น - หลักฐานชั้นรอง ข.หลักฐานที่เกิดขึ้นก่อน – เกิดขึ้นหลัง ค. หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร – หลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ง.หลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ - สมัยประวัติศาสตร์ เฉลย ข้อ ข. ๒๖.เพราะเหตุใดจึงควรตรวจสอบหลักฐานก่อนนำมาใช้ ก.เพื่อให้ได้ข้อมูลที่หลากหลาย ข.เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริงมากที่สุด ค.เพื่อคัดเลือกเฉพาะข้อมูลสมัยประวัติศาสตร์ ง.เพื่อแสดงว่าได้ค้นคว้าหลักฐานมา เฉลย ข้อ ข. ๒๗.ข้อใดเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับภาคอีสาน ก.แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ข.พระปฐมเจดีย์ ค.เวียงกุมกาม ง.ถ้ำผีแมน เฉลย ข้อ ก. ๒๘. การตีความหลักฐานข้อมูลใหม่ควรพิจารณาจากข้อใด ก.ค้าบอกเล่าจากคนอื่น ข.หลักฐานที่น่าเชื่อถือที่สุด ค.ความพอใจของคนในชุมชน ง.ความพอใจของเจ้าของหลักฐาน เฉลย ข้อ ข. ๒๙. ขั้นตอนสุดท้ายของวิธีการทางประวัติศาสตร์ คือข้อใด ก.ตั้วหาหลักฐานที่เป็นรูปถ่ายเอกสาร สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ข. เวฟนำข้อมูลมาจัดเป็นประเด็นสำคัญ สาเหตุ เหตุการณ์ต่างๆ ค. อ้ำตรวจสอบหลักฐานตามหลักวิชาการ ง. โชคนำข้อมูลมาเขียนเรียงความ เฉลย ข้อ ง.


๑๐๗ ๓๐.ขั้นตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์ มีกี่ขั้นตอน ก.๓ ขั้นตอน ข.๔ ขั้นตอน ค.๕ ขั้นตอน ง.5 ขั้นตอน เฉลย ข้อ ค


๑๐๘ ประวัติผู้วิจัย ๑. ชื่อ : พระมหาจิรายุ จิรญาณเมธี/ยางศรี ๒. เกิดวันที่ : วันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ ๓. สัญชาติ : ไทย เชื้อชาติ : ไทย ศสานา : พุทธ ๔. เลขที่ : ๙๒ หมู่ที่ ๑ ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัด หนองบัวลำภูรหัสไปรษณีย์ ๓๙๑๘๐ เบอร์โทร ๐๙๐๒๐๓๓๘๐๒ ๕. วุฒิการศึกษา :พ.ศ. ๒๕๕๖ สำเร็จการศึกษาประถมศึกษาจากโรงเรียนบ้านศรีบุญเรือง ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู พ.ศ. ๒๕๕๙ สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้นจาก โรงเรียนวัดศรี สระแก้ววิทยา ตำบลนามะเฟือง อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู พ,ศ. ๒๕๖๒ สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายจาก โรงเรียนวัดศรี สระแก้ววิทยา ตำบลนามะเฟือง อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู พ,ศ. ๒๕๕๙ สอบไล่ได้ นักธรรมขั้นเอก สำนักศาสนศึกษาวัดสว่างอารมณ์ ตำบลเมืองใหม่ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู พ,ศ. ๒๕๖๒ สอบไล่ได้ เปรียญธรรม ๔ ประโยค สำนักศาสนศึกษาวัดป่า โชติการาม ตำบลเมืองใหม่ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู ๖.ปัจจุบัน กำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขต ขอนแก่น คณะครุศาสตร์ สาขาสังคมศึกษา ชั้นปีที่ ๔


Click to View FlipBook Version