The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by พิชารัตน์ ชมภู, 2022-09-11 11:54:04

04 แผนฯ SPARK ม.2_Module 2

04 แผนฯ SPARK ม.2_Module 2

2 Myths & Legends

ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 2 เวลาเรียน 14 ช่ัวโมง

1 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/3 ระบุ/เขยี นประโยคและขอ้ ความใหส้ มั พนั ธ์กบั สื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบตา่ ง ๆ

ท่ีอา่ น
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ

แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองท่ีฟังและอา่ น พร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนา แลกเปลี่ยนขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณ์ต่าง ๆ
ในชีวติ ประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/4 พดู และเขยี นเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มลู บรรยาย และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องท่ีฟัง
หรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตกุ ารณ์ที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 1.3 ม. 2/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาคญั แก่นสาระ หัวขอ้ เร่ือง (topic) ที่ไดจ้ ากการวิเคราะห์
เรื่อง/ข่าว/เหตุการณ์/สถานการณ์ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม

85

ต 1.3 ม. 2/3 พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั กิจกรรม เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั และ
ประสบการณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลส้นั ๆ ประกอบ

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และ นาไปใช้ ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและ

วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม. 2/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

กบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ตวั ช้ีวดั
ต 2.2 ม. 2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยค

ชนิดต่าง ๆ และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและ
ภาษาไทย
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น
พืน้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 2/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู / ขอ้ เทจ็ จริงที่เก่ียวขอ้ งกบั กลุม่ สาระการเรียนรู้อื่น
จากแหล่งการเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน
สถานศึกษา และชุมชน

2 สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ท์ ประโยค สานวน และโครงสร้างทางภาษา ช่วยใหส้ ามารถจบั ใจความ

สาคญั รายละเอียดของขอ้ มลู ที่อา่ นและฟัง และลาดบั เหตุการณ์ได้ รวมท้งั ช่วยใหส้ ามารถพูดและ
เขียนสื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสมตามสถานการณ์ ตลอดจนเกิดความเขา้ ใจในวฒั นธรรมของ

86

เจา้ ของภาษาและของประเทศกล่มุ ประชาคมอาเซียน เขา้ ใจความเหมือนและความต่างของ
ภาษาองั กฤษและภาษาไทย

3 สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Appearance (hair: curly, wavy, straight, spiky, thick, long, short, brown,
fair, grey; eyes: big, small, blue, green; mouth: small, wide; nose: big,
long, small; face: round, long; lips: thin, full; height: tall, short, of
medium height; age: old, young, middle-aged; weight: overweight,
plump, thin, slim, well built, fat; looks: handsome, beautiful, ugly,
attractive)
Character (funny, brave, hardworking, stupid, patient, honest, lazy,
clever, impatient, dishonest, boring, cowardly)
Verbs (cool, fit together, cross, fight, elect, guide, shoot, admire, launch,
adapt, pray, transform)
Nouns (bridge of rocks, giant, enemy, eruption, surface, Irish legend,
result, size, boiling lava, place of myth and legend, civilisation,
astronomy, temple, pyramid, stone building, statue, ruler, dynasty,
tragedy, war, drought, president, farmhouse, lawyer, honesty, courage,
civil war, festival, gratitude, famine, celebrate, tradition)
Adjectives (powerful, mysterious, terrified, huge, ancient, diverse,
embarrassed)
Phrases (wonder of nature, get on well, pay respect)
Sentences (How was your weekend?, I’m sorry about that., What did you
watch?, It was brilliant., What’s it about?, Sounds exciting., Who stars in
it?, It’s a pity., You can rent it on DVD.)
Grammar: Past simple (regular and irregular verbs)
Used to
Prepositions of movement

87

Functions: Recommending a film
What were the special effects like?
The special effects were amazing.
Describing people’s appearance and character
Helen is young, tall and thin. She’s got long curly, fair hair and full lips.
Narrating a story
Once there was a giant called Finn MacCool who built a rock bridge
from Ireland to Scotland.

Pronunciation: /t/, /d/, /Id/
watch, liked, walked, played, wanted, stopped

2) Language Skills
Listening: ฟังเพอื่ หาขอ้ มลู เฉพาะ
Speaking: พดู บรรยายลกั ษณะและนิสัยของบคุ คล, สนทนาเกี่ยวกบั เหตกุ ารณ์ในอดีต,
เลา่ เรื่อง Finn MacCool and the Giant’s Causeway, สนทนาเกี่ยวกบั
ภาพยนตร์
Reading: อา่ นเพ่ือหาขอ้ มูลเฉพาะ, อ่านและลาดบั เหตุการณ์สาคญั
Writing: เขยี นสรุปเรื่องที่อา่ น, เขียนใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง, เขียนอีเมล,
แต่งบทสนทนาตามสถานณ์ท่ีกาหนด, เขียนบทความเกี่ยวกบั อารยธรรม
โบราณ, เขยี นชีวประวตั ิของ Abraham Lincoln และ Queen Victoria,
เขียนการ์ตูนช่องเก่ียวกบั ตานานของไทยหรือประเทศกลมุ่ ประชาคม
อาเซียน, เขียน quiz เก่ียวกบั เน้ือหาท่ีเรียนมาแลว้

3) Cultures ประเพณีที่เกี่ยวขอ้ งกบั ตานาน

4 สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

88

5 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มนั่ ในการทางาน

6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1) พูดบรรยายลกั ษณะและนิสัยของบุคคลอ่ืน
2) เขียนสรุปเร่ือง
3) เขยี น paragraph เกี่ยวกบั กิจกรรมท่ีตนเองทาในวนั สุดสปั ดาห์ที่ผา่ นมา
4) เขยี นอีเมล
5) แตง่ บทสนทนาเก่ียวกบั ภาพยนตร์ที่ดูทางโทรทศั น์
6) แสดงบทบาทสมมติ
7) เขียนบทความเก่ียวกบั ชุมชนอารยธรรมโบราณ
8) เขยี นสรุปชีวประวตั ิของ Abraham Lincoln จากขอ้ ความที่อ่าน
9) เขยี นชีวประวตั ิโดยยอ่ ของ Queen Victoria
10) ชิ้นงานการ์ตนู ช่องเก่ียวกบั ตานานของไทยหรือประเทศกลมุ่ ประชาคมอาเซียน

7 การวดั และการประเมินผล
7.1 การประเมินก่อนเรียน
7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
7.3 การประเมินหลงั เรียน
7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

89

1 Reading 2a & Vocabulary 2a

2 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรียนรู้
- บอกรายละเอียด เขียนสรุปขอ้ มลู และอภิปรายเกี่ยวกบั เร่ืองท่ีอ่านและฟังได้
- พดู บรรยายบุคคลตามภาพที่กาหนดใหไ้ ด้
- พดู บรรยายลกั ษณะและนิสัยของบคุ คลอ่ืนได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/3 ระบุ/เขยี นประโยคและขอ้ ความใหส้ มั พนั ธก์ บั สื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบตา่ ง ๆ
ท่ีอ่าน
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองท่ีฟังและอา่ น พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนา แลกเปลี่ยนขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณ์ต่าง ๆ
ในชีวิตประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/4 พูดและเขยี นเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มลู บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองท่ีฟัง
หรืออา่ นอยา่ งเหมาะสม

90

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การจบั ใจความสาคญั และรายละเอียดของขอ้ มลู ที่อ่านและฟังเป็นความสามารถที่สาคญั ประการ

หน่ึงของทกั ษะการรับสาร ซ่ึงจะนาไปสู่การสรุปสารที่รับได้ นอกจากน้ีการมีความรู้เกี่ยวกบั คาศพั ทแ์ ละ
ประโยคต่าง ๆ ตามเน้ือหาจะช่วยใหส้ ามารถนาส่ิงที่เรียนรู้ไปใชใ้ นการพดู /เขยี นสื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
ตลอดจนมีความเขา้ ใจในวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Appearance (hair: curly, wavy, straight, spiky, thick, long, short, brown,

fair, grey; eyes: big, small, blue, green; mouth: small, wide; nose: big,

long, small; face: round, long; lips: thin, full; height: tall, short, of

medium height; age: old, young, middle-aged; weight: overweight,

plump, thin, slim, well built, fat; looks: handsome, beautiful, ugly,

attractive)

Character (funny, brave, hardworking, stupid, patient, honest, lazy,

clever, impatient, dishonest, boring, cowardly)

Functions: Describing people’s appearance and character

Helen is young, tall and thin. She’s got long curly, fair hair and full lips.

2) Language Skills

Listening: ฟังเพอื่ หาขอ้ มูลเฉพาะ

Speaking: พูดบรรยายลกั ษณะและนิสัยของบคุ คล

Reading: อ่านเพ่ือหาขอ้ มลู เฉพาะและแสดงความคิดเห็น

Writing: เขยี นสรุปเรื่องที่อา่ น

4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 2) ความสามารถในการคิด
1) ความสามารถในการส่ือสาร

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 2) มุ่งมน่ั ในการทางาน
1) ใฝ่เรียนรู้

91

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
1. ครูพดู ทกั ทายนกั เรียน โดยใชค้ าทกั ทาย เช่น How are you doing? How’s going? จากน้นั ครูสุ่ม

ทกั ทายนกั เรียนเป็นรายบคุ คล 2-3 คน โดยใหน้ กั เรียนพูดตอบครูดว้ ยคาที่ไมซ่ ้ากนั เช่น Pretty
good./Not bad./Very well.
2. นกั เรียนอา่ นชื่อหน่วยการเรียนรู้ (Myths & Legends) ในหนงั สือเรียน หนา้ 21 แลว้ ร่วมกนั แสดง
ความคดิ เห็นวา่ หมายความวา่ อยา่ งไร
3. Find the page numbers for หน้า 21 ครูอธิบายคาวา่ quotation และ biography

quotation (n) = sentence or phrase from a book, speech etc. which you repeat in a
speech or piece of writing because it is interesting (ประโยคหรือ
วลีจากหนงั สือหรือสุนทรพจน์ท่ีถูกนามากล่าวซ้าเพราะน่าสนใจ)

biography (n = the story of a person’s life written by somebody else (ชีวประวตั ิ)
จากน้นั ใหน้ กั เรียนหาวา่ ภาพท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ท้งั 3 คาน้ีอยใู่ นหนงั สือเรียนหนา้ ใด เมื่อหาพบแลว้ ครู
ถามคาถามเพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน

a quotation (p. 22)
Do you think it is important to know what famous people said? Why (not)? Do you
know any famous quotations?
a biography (p. 29)
Can you name any other famous presidents?
What were they famous for?
a film poster (p. 27)
Where can you see a poster like this? What sort of films do you like?
How often do you go to the cinema? Who with?

92

ข้นั Pre-reading
1. หนงั สือเรียน หน้า 21 Ex. 1 ครูใหน้ กั เรียนดูภาพ แลว้ บอกวา่ รู้จกั ใครบา้ ง ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอก

ขอ้ มลู ท่ีรู้ ต่อมาครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านช่ือบุคคล ชื่อประเทศ และปี ท่ีอยใู่ ตภ้ าพ

BC ยอ่ มาจาก Before Christ คือ ช่วงเวลาท่ีเกิดข้ึนก่อนพระเยซูประสูติ หรือที่เรียก
กนั วา่ ก่อนคริสตกาล เช่น Rome was founded in 753 BC. แปลวา่ กรุงโรมสร้างเม่ือ
753 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช คาวา่ BC จึงถูกใชเ้ พอ่ื บ่งบอกถึงช่วงเวลาและเหตกุ ารณ์ที่
เกิดข้นึ ก่อนพระเยซูประสูติ
ท่ีมา: http://arjarnbomb.blogspot.com/2009/04/jesus.html

เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนอ่านคาศพั ทท์ ่ีกาหนดให้ และช่วยกนั บอกความหมาย โดยครูช่วยอธิบายคาที่
นกั เรียนไม่รู้ เช่น emperor, warrior

emperor (n) = the man who is the ruler of an empire (จกั รพรรดิ)
warrior (n) = a soldier or fighter who is brave and experienced – used about people in

the past (นกั รบ)
จากน้นั ครูถามคาถาม Who was a/an…? ใหน้ กั เรียนช่วยกนั พูดตอบ

2 Marie Curie was a Polish scientist.
3 Genghis Khan was a Mongolian emperor.
4 Amelia Earhart was an American pilot.
5 Cleopatra was an Egyptian queen.
6 Queen Victoria was a British queen.
7 Abraham Lincoln was an American president.
8 William Wallace was a Scottish warrior.

2. หนังสือเรียน หน้า 21 Ex. 2 ครูใหน้ กั เรียนจบั คกู่ บั เพอ่ื น พูดถาม-ตอบเก่ียวกบั ปี เกิดและเสียชีวติ ของ
บุคลในภาพ

93

A: When was Marie Curie born? B: In 1867. When did she die?

A: In 1934. When was Genghis Khan born? B: In 1162. When did he die?

A: In 1227. When was Amelia Earhart born? B: In 1897. When did she die?

A: In 1937. When was Cleopatra born? B: In 69 BC. When did she die?

A: In 30 BC. When was Queen Victoria born? B: In 1819. When did she die?

A: In 1901. When was Abraham Lincoln born? B: In 1809. When did he die?

A: In 1865. When was William Wallace born? B: In 1270. When did he die?

A: In 1305.

3. ครูใหน้ กั เรียนดูภาพวาดในหนงั สือเรียน หนา้ 22 แลว้ สงั เกตการแตง่ กายและแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั อายแุ ละเช้ือชาติของผหู้ ญิงในภาพ

4. หนงั สือเรียน หน้า 22 Ex. 1 ครูถามนกั เรียนวา่ เคยไดย้ นิ ชื่อ Pocahontas หรือไม่ แลว้ ครูใหน้ กั เรียน
ช่วยกนั บอกขอ้ มลู ของ Pocahontas ที่นกั เรียนรู้ จากน้นั ใหน้ กั เรียนอภิปรายร่วมกนั วา่ ทาไม
Pocahontas จึงถกู เรียกวา่ ‘Child of Peace’

5. ครูแบง่ กลุ่มนกั เรียนออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 3-5 คน ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มอา่ นคาถามและตวั เลือกท่ีใหม้ าใน
หนงั สือเรียน หนา้ 22 Ex. 2 และช่วยกนั ระดมสมองเพือ่ เลือกคาตอบในแต่ละขอ้ ท่ีคาดวา่ จะเป็น
คาตอบที่ถูกท่ีสุด โดยไม่อา่ นบทอา่ น

6. นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียนและฟังเร่ือง Pocahontas จาก CD ครูใหน้ กั เรียนขดี เส้นใตค้ าศพั ทย์ าก แลว้
อ่านออกเสียงคาศพั ทต์ ามครู 1 คร้ัง หลงั จากน้นั นกั เรียนอ่านคาศพั ทพ์ ร้อมกนั แลว้ ครูช่วยอธิบาย
ความหมายของคาศพั ท์ หรือใหน้ กั เรียนเปิ ดหาความหมายในพจนานุกรม
chief (n) = the most important person, or one of the most important people, in a
company or organisation (ผนู้ า, หวั หนา้ )
peace (n) = a situation in which there is no war or fighting (ความสงบ, สนั ติภาพ)
colonist (n) = someone who settles in a new colony (ชาวอาณานิคม)
settle (v) = to go to a place where no people have lived permanently before and start to
live there (ต้งั ถ่ินฐาน)
arrest (v) = to take someone to a police station by the police because the police think
they have done something illegal (จบั กุม)

94

ข้นั Reading
หนงั สือเรียน หน้า 22 Ex. 2 ครูใหน้ กั เรียนอา่ นบทอา่ นเรื่อง Pocahontas แลว้ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ร่วมกนั
พจิ ารณาคาตอบที่เลือกอีกคร้ัง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนใหต้ อบคาถามกลุ่มละ 1 ขอ้ โดยใหก้ ลุม่
อ่ืน ๆ ตรวจคาตอบร่วมกนั

1B 2B 3B 4C

ข้นั Post-reading
1. หนงั สือเรียน หน้า 22 Ex. 3 นกั เรียนอา่ นคาศพั ทท์ ่ีพิมพต์ วั หนาในแต่ละประโยคพร้อมกนั หากคาใด

นกั เรียนอ่านไมไ่ ด้ ให้อา่ นตามครู จากน้นั ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ีถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียก
นกั เรียนอา่ นประโยคพร้อมคาตอบท่ีเลือกคนละ 1 ประโยค ครูอธิบายเพ่มิ เติมสาหรับขอ้ ท่ีนกั เรียน
ยงั ไมเ่ ขา้ ใจ

1 chief 2 peace 3 arrested 4 colonists 5 manners

2. ครูถามคาถามใน THINK! และใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มอภิปราย และเขยี นประโยค 3-4 ประโยค เพื่อ
อธิบายและแสดงเหตุผล จากน้นั ใหต้ วั แทนแต่ละกลุ่มอ่านประโยคของกลุ่มตนเองใหเ้ พ่อื นฟัง

3. หนังสือเรียน หน้า 22 Ex. 4 ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ เขียนสรุปเรื่อง Pocahontas โดยใชค้ าที่
กาหนดให้ และใหน้ กั เรียนใชป้ ระโยคตวั อยา่ งที่ใหม้ าเป็นประโยคข้ึนตน้ เมื่อเขียนเสร็จแลว้ ครูให้
นกั เรียนแต่ละกลุ่มอา่ นสรุปเร่ืองของกลุ่มตนเองใหเ้ พ่ือนกลุ่มอื่นฟัง

4. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเรื่องท่ีเขียนสรุปไปเขียนลงในกระดาษและตกแต่งใหส้ วยงาม

Pocahontas was the daughter of Powhatan, an important Indian chief. Pocahontas
was from Virginia. Her real name was Matoaka. Pocahontas’ people were the
Powhatans, Pocahontas tried to promote peace between her people and the
English who came to live in Virginia as colonists. Pocahontas saved the life of an
English captain called John Smith. She married an English colonist called John
Rolfe. They had a son called Thomas. She died in England while she was visiting
King James I.

95

5. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 12 Exs. 1-4 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น

ช่ัวโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
1. ครูใหน้ กั เรียนวาดภาพเดก็ ผหู้ ญิงตามท่ีครูบรรยาย โดยครูพูดบรรยาย 2 คร้ัง

(Nina is a little girl. She is short and slim. She has got long, wavy hair. Her face is round. She has
got big blue eyes, small nose, small mouth and full lips.)
2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บรรยายลกั ษณะของ Nina โดยครูขออาสาสมคั ร 2 คน ออกมาช่วยกนั วาดภาพ
Nina ตามท่ีเพือ่ นบรรยายบนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบภาพท่ีตนเองวาดกบั ภาพที่
เพอื่ นวาดบนกระดาน
3. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั คาดเดาเก่ียวกบั เรื่องที่จะเรียนในวนั น้ี

ข้นั Presentation
1. หนังสือเรียน หน้า 23 Ex. 5 ครูใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงคาศพั ทพ์ ร้อมกนั แลว้ ครูช่วยอธิบายคาวา่

spiky และ fair
spiky (adj) = (hair) sticking straight up from the head ((ผม) ต้งั )
fair (adj) = very light in colour (สีออ่ น)

ต่อมาครูอา่ นคาสั่งและอธิบายวา่ คาคุณศพั ทท์ ่ีอยใู่ นแต่ละขอ้ ใชส้ าหรับบรรยายลกั ษณะของอวยั วะ
ใดอวยั วะหน่ึง แลว้ ให้นกั เรียนพิจารณาวา่ คาคุณศพั ทใ์ นแต่ละขอ้ ใชบ้ รรยายอวยั วะส่วนใด เสร็จแลว้
ตรวจคาตอบพร้อมกนั

1 hair 2 nose 3 face
4 eyes 5 mouth 6 lips

2. ครูพูดประโยค แลว้ ใหน้ กั เรียนสงั เกตการใชค้ าคณุ ศพั ทบ์ รรยายอวยั วะ เช่น Suda has got straight
hair. You have got blue eyes. จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนใหใ้ ชค้ าคุณศพั ทใ์ นแต่ละขอ้ บรรยาย
อวยั วะส่วนตา่ ง ๆ ของเพอื่ นในหอ้ ง

96

3. หนงั สือเรียน หน้า 23 Ex. 6 ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพื่อน ดูหัวขอ้ ในตารางและตวั อยา่ งคาคณุ ศพั ทท์ ี่อยู่
ในตารางในแตล่ ะหวั ขอ้ ครูถามนกั เรียนวา่ การบรรยายลกั ษณะของคนนอกจากการใชค้ าคุณศพั ท์
บรรยายอวยั วะใน Ex. 5 แลว้ นกั เรียนคิดวา่ การบรรยายลกั ษณะของคนสามารถบรรยายเก่ียวกบั
อะไรไดอ้ ีก (ความสูง อายุ น้าหนกั รูปร่างหนา้ ตา) จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านคาคุณศพั ทท์ ี่ใหม้ าพร้อม
กนั แลว้ ช่วยกนั บอกความหมาย

4. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคชู่ ่วยกนั จดั กลุม่ คาคุณศพั ทต์ ามหวั ขอ้ ในตาราง เสร็จแลว้ ครูวาดตารางบน
กระดาน และขออาสาสมคั ร 4 คน ออกมาเขยี นคาตอบคนละ 1 หวั ขอ้ ครูตรวจคาตอบบนกระดาน

HEIGHT AGE WEIGHT LOOKS
tall, short, of old, young, fat, overweight, handsome,
medium height middle-aged plump, thin, slim, beautiful, ugly,
well built attractive

หลงั จากน้นั ครูยกตวั อยา่ งประโยคการใชค้ าคุณศพั ทเ์ หล่าน้ี เช่น Malee is tall and slim. Ben is
young and handsome. แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนใหพ้ ดู ประโยคบรรยายเพอื่ นในหอ้ งโดยใชค้ าคณุ ศพั ท์
ใน Ex. 6

5. หนังสือเรียน หน้า 23 Ex. 7 ครูใหน้ กั เรียนดูภาพ Dave, Helen, Bill, Jim และ Ann และอ่านชื่อของ
บุคคลท้งั 5 แลว้ ครูอธิบายวา่ จะใหน้ กั เรียนพูดบรรยายบคุ คลท้งั 5 โดยใชค้ าคณุ ศพั ทจ์ าก Ex. 5 และ
Ex. 6 ครูถามคาถาม What does Dave look like? และใหน้ กั เรียนอา่ นประโยคตวั อยา่ งพร้อมกนั
จากน้นั ครูขออาสาสมคั รแถวละ 1 คน เพอ่ื ถามคาถาม What does … look like? แลว้ ให้นกั เรียนที่
เป็นผถู้ ามเลือกผตู้ อบเอง ครูกระตนุ้ ใหน้ กั เรียนพูดบรรยายบุคคลท้งั 5 ใหไ้ ดม้ ากที่สุด โดยครูเขยี น
คาถามและคาตอบของนกั เรียนบนกระดาน จากน้นั ให้นกั เรียนอ่านพร้อมกนั

Helen is young, tall and thin. She’s got long curly, fair hair and full lips.
Bill is young, short and fat. He’s got short, straight, fair hair, a round face and big eyes.
Jim is tall and well built. He’s got short, dark hair, a long face, a big nose and thin lips.
Ann is old and slim and of medium height. She’s got short, curly, grey hair and thin lips.

97

6. หนงั สือเรียน หน้า 23 Ex. 8 (ส่วนจบั คู่คา) ครูใหน้ กั เรียนฝ่ังซา้ ยอา่ นคาคุณศพั ท์ 1-6 และนกั เรียนฝ่ัง
ขวาอา่ นคาคณุ ศพั ท์ a-f คาใดท่ีนกั เรียนอ่านไมไ่ ดใ้ หอ้ ่านตามครู แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั พิจารณาวา่
คาคณุ ศพั ทเ์ หล่าน้ีใชบ้ รรยายเก่ียวกบั อะไร (ลกั ษณะนิสยั ) และครูสรุปใหอ้ ีกคร้ัง จากน้นั ใหน้ กั เรียน
จบั คูค่ าคุณศพั ทท์ ่ีมีความหมายตรงขา้ มกนั แลว้ ตรวจคาตอบร่วมกนั และครูช่วยอธิบายความหมาย
ของคาศพั ทท์ ี่นกั เรียนไมร่ ู้ เช่น
hardworking (adj) = working with a lot of effort (ขยนั )
cowardly (adj) = not brave (ข้ขี ลาด, ไมก่ ลา้ )

1e 2f 3a 4b 5c 6d

7. หนังสือเรียน หน้า 23 Ex. 8 (ส่วนเติมคา) ครูเขยี นคาถาม What is … like? บนกระดาน และให้
นกั เรียนดูประโยคขอ้ 1 และเดาคาตอบ ต่อมาครูถามคาถาม What is his dad like? และขอ
อาสาสมคั ร 1 คน บอกคาตอบ โดยพดู ตอบท้งั ประโยค ครูเขียนคาตอบบนกระดาน และใหน้ กั เรียน
พิจารณาร่วมกนั วา่ ถูกตอ้ งหรือไม่ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายวา่ สังเกตจากคาใดในประโยคจึง
ตอบเช่นน้นั เม่ือนกั เรียนตอบแลว้ ครูจึงอธิบายเพม่ิ เติมวา่ การจะเลือกใชค้ าใดเพื่อบรรยายลกั ษณะ
นิสัยน้นั ในแต่ละขอ้ จะมีคาหรือกลมุ่ คาที่เป็น clue word(s) เช่น ขอ้ 1 คือ can wait จากน้นั ให้
นกั เรียนช่วยกนั บอก clue word(s) ของแต่ละขอ้ แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คน ถามคาถามสาหรับ
ขอ้ 2-6 และใหผ้ ถู้ ามเลือกผตู้ อบเอง

1 patient 2 hardworking 3 stupid
4 funny 5 brave 6 honest

8. ครูถามคาถามนกั เรียน What does (ช่ือนกั เรียน) look like? และขออาสาสมคั รตอบ แลว้ ครูถาม
คาถาม What is she/he like? และขออาสาสมคั รตอบ จากน้นั ใหน้ กั เรียนสรุปการใชค้ าถาม What
does ... look like ? และWhat is ... like?

What does ... look like? ใชถ้ ามลกั ษณะรูปร่างหนา้ ตา
What is ... like? ใชถ้ ามลกั ษณะนิสยั

98

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 23 Ex. 9 ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 กลมุ่ กลุ่มแรกอา่ นคาถาม อีกกลุม่ หน่ึงอ่าน

คาตอบ จากน้นั สลบั บทบาทกนั
2. ใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั สนทนา โดยสามารถเปลี่ยน your best friend เป็นบคุ คลอ่ืนได้ เช่น เพื่อนในช้นั ,

your dad, your mum, your sister
3. ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพูดสนทนาหนา้ ช้นั เรียน

A: What does your mum look like?
B: She’s short and slim with long, curly, brown hair, green eyes and full lips.
A: What’s she like?
B: She’s hard working and clever.

ข้นั Production
1. หนงั สือเรียน หน้า 23 Ex. 10 ครูบอกนกั เรียนวา่ จะไดฟ้ ังเร่ืองราวของนกั รบหญิงคนหน่ึง แลว้

พจิ ารณาวา่ ประโยค 1-5 ถกู หรือผิด หากประโยคใดผิด ให้แกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง จากน้นั ครูใหน้ กั เรียน
อา่ นประโยค 1-5 พร้อมกนั แลว้ เปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังเรื่อง Boudicca: Britain’s First Warrior
ในขณะที่ฟังใหน้ กั เรียนขีดเส้นใตข้ อ้ มลู ท่ีผดิ และเขียนขอ้ มูลที่ถกู ตอ้ งไวด้ ว้ ย จากน้นั ครูใหน้ กั เรียน
ฟังเร่ืองอีกคร้ัง และตรวจคาตอบร่วมกนั

1 F She was born in Britain. 4T
2 F She was tall with long red hair. 5 F She died in about 60 AD.
3T

2. หนงั สือเรียน หน้า 23 Ex. 11 นกั เรียนนาขอ้ มลู จาก Ex. 10 มาเติมลงในช่องวา่ งในขอ้ ความให้
ถูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนอา่ น paragraph พร้อมกนั

99

Boudicca was born in Britain in the first century. She was very tall with long red
hair and very clever and brave. She went to war with the Romans. She died in
about 60 AD.

3. นกั เรียนทา Language Review 2a Exs. 1-2 ในหนงั สือเรียน หนา้ 106 ร่วมกนั ในช้นั
4. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 13 Exs. 5-8 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น

7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60
วิธีการวัด
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ นหรือ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
การฟัง
สงั เกตการอภิปรายแสดงความคิดเห็น สมดุ นกั เรียน -
เก่ียวกบั เร่ืองท่ีอา่ น
ตรวจการบรรยายลกั ษณะของบุคคล แบบประเมินการพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตามภาพท่ีกาหนด
ประเมินการพูดบรรยายลกั ษณะและ แบบประเมินการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
นิสยั ของบุคคลอ่ืน แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ประเมินการเขียนสรุปเร่ือง อนั พงึ ประสงค์
สังเกตความใฝ่ เรี ยนรู้และความมุ่งมนั่
ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์

100

2 Grammar 2b

2 ชั่วโมง

จุดประสงค์การเรียนรู้
- อธิบายความเหมือนและความแตกตา่ งของประโยคภาษาไทยและภาษาองั กฤษได้
- เขียนประโยค Past simple ไดถ้ ูกตอ้ ง
- เขยี น paragraph เกี่ยวกบั กิจกรรมท่ีตนเองทาในวนั สุดสปั ดาหท์ ี่ผา่ นมาได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตุการณ์ท่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ตวั ช้ีวดั
ต 2.2 ม. 2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยค
ชนิดต่าง ๆ และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและ
ภาษาไทย

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้และเขา้ ใจโครงสร้างทางภาษา ช่วยใหส้ ามารถพดู และเขยี นประโยคตา่ ง ๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง

และเหมาะสมตามสถานการณ์ ตลอดจนเกิดความเขา้ ใจในความเหมือนและความต่างของภาษาองั กฤษ
และภาษาไทย

101

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Grammar: Past simple (regular and irregular verbs)

Used to

Prepositions of movement

Pronunciation: /t/, /d/, /Id/

watch, liked, walked, played, wanted, stopped

2) Language Skills

Speaking: สนทนาเก่ียวกบั เหตุการณ์ในอดีต

Writing: เขยี นใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง

4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- ใฝ่เรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
1. ครูใหน้ กั เรียนขดี เส้นใตค้ ากริยาในเร่ือง Pocahontas หนงั สือเรียน หนา้ 22 จากน้นั ใหน้ กั เรียน

ช่วยกนั บอกคาท่ีขีดเส้นใต้ และครูเขียนบนกระดาน
2. นกั เรียนช่วยกนั ตรวจวา่ มีคาใดบา้ งที่ไมใ่ ช่คากริยาและเพิ่มคากริยาท่ีหายไป จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ น

คากริยาท้งั หมดบนกระดาน

102

ข้นั Presentation
1. ครูบอกนกั เรียนวา่ คากริยาบนกระดานน้นั อยใู่ นรูป Past simple แลว้ ใหน้ กั เรียนจบั กลุ่มยอ่ ย ช่วยกนั

จดั กลมุ่ คากริยาบนกระดาน โดยใหก้ าหนดเกณฑท์ ่ีใชใ้ นการจดั กลมุ่ เอง
2. ครูถามนกั เรียนแต่ละกล่มุ วา่ ใชเ้ กณฑใ์ ดในการจดั กลมุ่ แลว้ ครูสรุปใหฟ้ ังวา่ คากริยาบนกระดานจะ

แบ่งได้ 2 กลมุ่ คือ คากริยาที่เปล่ียนรูป เรียกวา่ irregular และคากริยาท่ีเติม -ed เรียกวา่ regular ครูขอ
อาสาสมคั รออกมาเขยี นผลการจดั กลุ่มคากริยาบนกระดาน

คากริยาที่เปล่ียนรูป ไดแ้ ก่ was, could, did, had, got
คากริยาท่ีเติม -ed ไดแ้ ก่ tried, arrived, settled, managed, believed, asked, started,
arrested, saved, stayed, liked, married, helped, died

จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนสงั เกตคากริยาท่ีเติม -ed แลว้ ช่วยกนั บอกวา่ จะแยกคากริยาที่เติม -ed เป็นกลมุ่
ยอ่ ยโดยใชเ้ กณฑใ์ นการแยกอยา่ งไร แลว้ ครูจึงสรุปใหฟ้ ังอีกคร้ัง

คากริยาท่ีเติม -ed ไดเ้ ลย ไดแ้ ก่ asked, started, arrested, helped
คากริยาท่ีลงทา้ ยดว้ ย e ใหเ้ ติม d ไดแ้ ก่ arrived, settled, managed, believed, saved, liked,
died
คากริยาท่ีลงทา้ ยดว้ ย y และขา้ งหนา้ y เป็นพยญั ชนะ ใหเ้ ปล่ียน y เป็น i แลว้ จึงเติม -ed
ไดแ้ ก่ tried, married
แต่ถา้ ขา้ งหนา้ y เป็นสระ ใหเ้ ติม -ed ไดเ้ ลย ไดแ้ ก่ stayed

3. ครูอธิบายการออกเสียงคากริยาท่ีเติม -ed โดยออกเสียงคากริยาบนกระดานใหน้ กั เรียนฟังทีละคา
แลว้ ครูถามนกั เรียนวา่ ไดย้ นิ ครูออกเสียงทา้ ยคากริยาเป็นเสียงอะไรบา้ ง ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ
แลว้ ครูจึงสรุปใหฟ้ ัง

103

คากริยาที่เติม -ed จะออกเสียงได้ 3 เสียง คอื
1) ออกเสียง /t/ เม่ือคากริยาลงทา้ ยดว้ ยเสียงไม่กอ้ ง (voiceless sound) ไดแ้ ก่ /k/, /p/, /s/

เช่น talk, tap, kiss
2) ออกเสียง /d/ เมื่อคากริยาลงทา้ ยดว้ ยเสียงกอ้ ง (voice sound) ไดแ้ ก่ /b/, /d/, /n/, /v/

เช่น rob, open, live
3) ออกเสียง /Id/ เม่ือคากริยาลงทา้ ยดว้ ยเสียง /t/, /d/ เช่น want, need

จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั จดั กลมุ่ คากริยาท่ีเติม -ed บนกระดานตามหลกั การออกเสียง -ed
เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนออกเสียงคากริยาท่ีจดั กลุม่ แลว้ คาละ 2 คร้ัง

/t/ /d/ /Id/
asked, helped, liked tried, arrived, settled, started, arrested
managed, believed, save,
stayed, married, died

4. ครูเขียนประโยคบนกระดาน
She /They went to the museum last month?
Did she/they go to the museum last week?
No, she/they didn’t.

ครูใหน้ กั เรียนสังเกตการใชค้ ากริยากบั ประธาน และรูปของคากริยาเมื่ออยใู่ นประโยคคาถาม และ
ประโยคคาตอบ จากน้นั ใหน้ กั เรียนอภิปรายร่วมกนั
5. หนังสือเรียน หน้า 24 Ex. 1 ครูใหน้ กั เรียนศึกษาตาราง และช่วยกนั สรุปรูปของคากริยา Past simple
ในประโยคบอกเลา่ ปฏิเสธ และคาถามอีกคร้ัง (คากริยา Past simple ใชไ้ ดก้ บั ประธานเอกพจนแ์ ละ
พหูพจน์ การทาเป็นประโยคปฏิเสธใหใ้ ช้ didn’t/did not มาวางขา้ งหนา้ คากริยาหลกั และเปล่ียน
คากริยาหลกั ใหอ้ ยใู่ นรูป base form ส่วนการทาเป็นประโยคคาถาม ใหใ้ ช้ did ข้นึ ตน้ ประโยค และ
เปล่ียนคากริยาหลกั ใหอ้ ยใู่ นรูป base form)

104

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 24 Ex. 2 นกั เรียนเขยี นรูป Past simple ของคากริยาที่กาหนดให้ เสร็จแลว้ ครูเปิ ด

CD ใหน้ กั เรียนฟังเพอ่ื ตรวจคาตอบ โดยครูเขยี นคาตอบบนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ระบุ
วา่ คากริยาคาใดเป็น irregular แลว้ ครูขออาสาสมคั รอ่านคากริยาท่ีเป็น irregular

1 came (I) 2 found (I) 3 changed 4 saw (I)
5 ate (I) 6 tried 7 had (I) 8 bought (I)
9 looked 10 went (I) 11 took (I) 12 gave (I)
13 listened 14 wanted 15 made (I)

2. หนงั สือเรียน หน้า 24 Ex. 3 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังการออกเสียงคากริยาท่ีเติม -ed และออกเสียง
ตาม จากน้นั ใหน้ กั เรียนฟัง CD อีกคร้ัง และทาเคร่ืองหมาย  ลงในตาราง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ
และใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดคากริยาเติม -ed ท่ีออกเสียงท้งั 3 เสียง เพิม่ เติม

/t/ /d/ / Id/ /t/ /d/ /Id/
watched  played 
wanted  stopped 
liked  walked 

3. หนงั สือเรียน หน้า 24 Ex. 4 นกั เรียนเปลี่ยนคากริยาในวงเลบ็ ใหอ้ ยใู่ นรูป Past simple เสร็จแลว้ ครู
สุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยคคนละ 1 ประโยค พร้อมสะกดคากริยา จากน้นั ให้นกั เรียนช่วยกนั ระบุ
วา่ คากริยาคาใดเป็น irregular และคาใดเป็น regular

1 took (I) 2 was (I) 3 visited (R) 4 went (I)
5 ate (I) 6 saw (I) 7 walked (R) 8 had (I)

105

ข้นั Production
1. หนงั สือเรียน หน้า 24 Ex. 5 นกั เรียนดูภาพ และเขียนประโยคใหมใ่ หถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูขอ

อาสาสมคั รอ่านประโยคขอ้ ละ 1 คน

2 They didn’t go with their parents. They went with their grandparent.
3 They didn’t wear their school uniform. They wore casual clothes.
4 They didn’t see an exhibition about the ancient Greeks. They saw an exhibition

about the ancient Egyptians.
5 Tom didn’t take his MP3 player. He took his digital camera.
6 Lucy didn’t buy a book from the gift shop. She bought some pencils.
7 They didn’t feel bored. They felt happy.

2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 14 Exs. 1-4 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น

ช่ัวโมงที่ 2

ข้นั Warm up
1. ครูบอกคากริยา Present simple ใหน้ กั เรียนบอก Past simple ของคากริยาน้นั
2. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละแถวแข่งกนั เปล่ียนประโยคบอกเลา่ เป็นประโยคคาถาม Yes/No question โดยครู

จะพูดประโยคบอกเล่า แถวใดยกมือข้ึนก่อนจะไดพ้ ดู ประโยคก่อน ถา้ พูดประโยคถูกตอ้ งจะได้ 1
คะแนน เช่น

T: Linda played basketball yesterday.
แถวที่ 1: Did Linda play basketball yesterday?
T: Correct. Get 1 point.

ข้นั Presentation
1. หนังสือเรียน หน้า 25 Ex. 7 ครูทบทวนประโยคคาถาม Yes/No question ในรูป Past simple โดย

นกั เรียนอ่านประโยคคาถามและคาตอบขอ้ 1 พร้อมกนั แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนทีละแถวใหถ้ าม
คาถาม และสุ่มเรียกอีกแถวใหต้ อบคาถาม จนครบท้งั 5 ขอ้

106

2 A: Did your dad drive you to school yesterday?
B: Yes, he did./No, he didn’t.

3 A: Did your family have a beach holiday last year?
B: Yes, they did./No, they didn’t.

4 A: Did you have a big breakfast yesterday morning?
B: Yes, I did./No, I didn’t.

5 A: Did your friend send you a text message last night?
B: Yes, he did./No, he didn’t.

2. ครูเขียนประโยคคาถามขอ้ 2 Did your dad drive you to school yesterday? บนกระดาน โดยขดี เส้น
ใตค้ าวา่ yesterday และเขยี นคาตอบ No, he didn’t. ครูถามนกั เรียนวา่ ถา้ ตอ้ งการถามเวลาท่ีถกู ตอ้ งที่
พ่อขบั รถพาไปโรงเรียน นกั เรียนจะใช้ wh-word คาใด ครูกระตนุ้ ใหน้ กั เรียนตอบ when เม่ือนกั เรียน
ตอบแลว้ ครูเขยี น When บนกระดาน ตามดว้ ยประโยคคาถามเดิม และตดั คาวา่ yesterday ออก
Question: Did your dad drive you to school yesterday?
Answer: No, he didn’t.
Question: When did your dad drive you to school?
Answer: Last Monday./Last week. etc.
ตอ่ มาครูเขียนคาถามขอ้ 5 Did your friend send you a text message last night? โดยขดี เสน้ ใต้ text
message แลว้ ถามนกั เรียนวา่ ถา้ ตอ้ งการคาตอบเป็นส่ิงอื่นที่ไม่ใช่ text message ตอ้ งถามวา่ อยา่ งไร
(What did your friend send you last night?) และถา้ ตอ้ งการคาตอบเป็นเวลาอื่นที่ไมใ่ ช่ last night
ตอ้ งถามวา่ อยา่ งไร (When did your friend send you a text message?)

3. ครูเขยี นประโยค Past simple ที่ใช้ used to และไมใ่ ช้ used to บนกระดาน และขดี เส้นใตค้ ากริยา
แลว้ ใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเห็นวา่ ประโยคท้งั สองเหมือนหรือตา่ งกนั อยา่ งไร
- My grandfather played tennis when he was young.
My grandfather used to play tennis when he was young.
- Did your grandfather play tennis when he was young?
Did your grandfather use to play tennis when he was young?
- Yes, he did.

107

จากน้นั ใหน้ กั เรียนศึกษาตารางในหนังสือเรียน หน้า 25 Ex. 9a และอภิปรายร่วมกนั วา่ ในภาษาไทยมี
รูปประโยคในลกั ษณะน้ีหรือไม่
4. ครูนาเสนอ prepositions of movement: across, along, into, over, past, through, up, down, towards
โดยการวาดภาพงา่ ย ๆ บนกระดาน และออกเสียง ใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม และช่วยกนั บอก
ความหมาย

ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 25 Ex. 8 ครูใหน้ กั เรียนเขียนประโยค Past simple เกี่ยวกบั ตนเองโดยใชค้ าบอก

เวลาท่ีกาหนดให้ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน อ่านประโยคของตนเอง เม่ือนกั เรียนอา่ น
ประโยคแลว้ ครูถามคาถามโดยใช้ when เป็นตวั อยา่ ง ให้นกั เรียนท้งั ช้นั ตอบพร้อมกนั เช่น

S1: I went to the cinema last night.
T: When did he go to the cinema?
Class: He went to the cinema last night.
จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน อา่ นประโยคของตนเอง แลว้ ครูขออาสาสมคั รเป็นผูถ้ ามคาถาม
โดยใช้ when และใหน้ กั เรียนท้งั ช้นั ตอบพร้อมกนั

I had cereal for breakfast yesterday morning.
I watched a DVD last night.
I bought a new CD yesterday.
I went to the cinema last Sunday.

2. หนังสือเรียน หน้า 25 Ex. 6 ครูใหน้ กั เรียนใชค้ าที่ใหม้ าเขียนประโยคคาถามใหถ้ ูกตอ้ ง พร้อมท้งั ตอบ
คาถามโดยเลือกจากคาตอบที่กาหนดให้ เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รอ่านคาถามและคาตอบ ให้
นกั เรียนตรวจคาตอบร่วมกนั

108

2 Where in Egypt did Cleopatra live? She lived in Alexandria.
3 Who did Lady Diana marry? She married Prince Charles.
4 What did Marie Curie discover? She discovered radium.
5 When did Leonardo da Vinci paint the Mona Lisa? He painted it from 1503-1506.
6 What did Amelia Earhart do? She flew across the Atlantic Ocean alone.
7 When did Abraham Lincoln die? He died in 1865.

3. หนงั สือเรียน หน้า 25 Ex. 9b ครูใหน้ กั เรียนเขยี นประโยคบอกสิ่งที่ Peter เคยทา/ไม่เคยทาเม่ือตอน
10 ขวบ โดยใช้ used to ร่วมกบั คาท่ีกาหนดให้ เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนอ่านประโยคพร้อมกนั เพอื่
ตรวจคาตอบ

2 He used to play in the street.
3 He didn’t use to surf the Net.
4 He used to wear glasses.
5 He didn’t use to play video games.
6 He didn’t use to go to bed late.
7 He used to ride a bike.
8 He didn’t use to drive a car.

4. ครูใหน้ กั เรียนจบั คูก่ บั เพอื่ น ผลดั กนั พูดบอกประสบการณ์ของตนเองตามขอ้ 1-8 ใน Ex. 9b เช่น I
didn’t use to play in the street. สุ่มเรียกนกั เรียน 2 คน พูดบอกประสบการณ์ของตนเองใหเ้ พอื่ นฟัง

5. หนงั สือเรียน หน้า 25 Ex. 10 นกั เรียนอา่ นเน้ือเรื่อง แลว้ นา preposition ไปเติมลงในช่องวา่ ง
เสร็จแลว้ ครูตรวจคาตอบ

1 along 2 past 3 through 4 towards 5 up
6 down 7 over 8 across 9 into

109

ข้นั Production
1. หนงั สือเรียน หน้า 25 Ex. 11 นกั เรียนเขียน paragraph เก่ียวกบั กิจกรรมที่ตนเองทาในวนั สุดสัปดาห์

ท่ีผา่ นมา โดยใหม้ ีความยาวอยา่ งนอ้ ย 5 ประโยค

Last weekend, I went shopping with my friend on Saturday. We tried on some
clothes and I bought a pair of jeans and then we had lunch. After, we went to
the cinema. I had a great time! On Sunday, I stayed at home and relaxed. I read
a book and watched some TV.

2. นกั เรียนทา Grammar Bank 2 ในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 75 Exs. 1-7
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 14-15 Exs. 5-8 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น

7. การวดั และการประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
วิธกี ารวดั
สงั เกตการอธิบายเปรียบเทียบความ สมดุ นกั เรียน -
เหมือนและความตา่ งของประโยค แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้
ภาษาองั กฤษและภาษาไทย
ตรวจการเขยี นประโยค Past simple แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ประเมินการเขียน paragraph เก่ียวกบั ประสงค์
กิจกรรมท่ีตนเองทาในวนั สุดสัปดาห์
ที่ผา่ นมา
สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มนั่
ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์

110

3 Skills 2c

2 ชั่วโมง

จุดประสงค์การเรียนรู้
- เขียนสรุปใจความสาคญั จากเรื่องท่ีอ่านได้
- เลา่ เร่ืองที่ฟังได้
- เขยี นอีเมลเล่าประสบการณ์ของตนเองได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องที่ฟังและอ่าน พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/4 พูดและเขียนเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องท่ีฟัง
หรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองตา่ ง ๆ โดยการพูด
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และข่าว/
เหตุการณ์ที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม

111

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้เกี่ยวกบั ใจความสาคญั เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ของการเขยี นตามลาดบั เหตุการณ์ รวมท้งั

การมีความรู้และความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การใชค้ าท่ีแสดงลาดบั เวลาจะช่วยใหส้ ามารถนาคาศพั ท์ ประโยค
ตา่ ง ๆไปใชใ้ นการเขียนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งตามโครงสร้างของการเขียน ไดถ้ ูกตอ้ งและน่าสนใจ

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verbs (cool, fit together, cross, fight)
Nouns (bridge of rocks, giant, enemy, eruption, surface, Irish legend, result,
size, boiling lava, place of myth and legend)
Adjectives (powerful, mysterious, terrified, huge)
Phrase (wonder of nature)
Functions: Narrating a story
Once there was a giant called Finn MacCool who built a rock bridge from
Ireland to Scotland.
2) Language Skills
Listening: ฟังเพอ่ื หาขอ้ มูลเฉพาะ
Speaking: เลา่ เรื่อง Finn MacCool and the Giant’s Causeway
Writing: เขียนอีเมล

4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มนั่ ในการทางาน

112

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงที่ 1

ข้นั Warm up
1. นกั เรียนดูภาพ Finn MacCool ในหนงั สือเรียน หนา้ 26 ครูสนทนาบอกนกั เรียนวา่ Finn MacCool

เป็นยกั ษ์ เพอื่ ใหน้ กั เรียนทราบขอ้ มูลเบ้ืองตน้ เก่ียวกบั Finn MacCool แลว้ ใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั นาคาที่
ครูกาหนดให้ ไดแ้ ก่ lived, sea, bridge, surface, walk, made เติมลงในขอ้ ความ (ครูอาจเขยี นขอ้ ความ
บนกระดานให้นกั เรียนลอกลงสมดุ หรือพิมพใ์ ส่กระดาษแจกนกั เรียน) เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ

The Giant Causeway is a bridge between Ireland and Scotland. Finn lived in Ireland.
He made a bridge by throwing rocks into the sea. People can walk on it but they
can’t walk to Scotland, because it is under the surface of the sea.

2. ครูขออาสาสมคั รอ่านขอ้ ความท่ีเติมสมบูรณ์แลว้ จากน้นั ครูบอกนกั เรียนวา่ ขอ้ ความน้ีเป็นส่วนหน่ึง
ของเรื่องท่ีจะเรียนในวนั น้ี

ข้นั Presentation
1. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นคาศพั ทใ์ นกรอบ check these words พร้อมกนั คา/กล่มุ คาใดนกั เรียนอา่ นไม่

ถูกตอ้ งใหน้ กั เรียนอา่ นตามครู จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกความหมาย คา/กลมุ่ คาใดที่นกั เรียน
บอกความหมายไม่ได้ ใหน้ กั เรียนเปิ ดหาความหมายในพจนานุกรม
2. หนงั สือเรียน หน้า 26 Ex. 1 ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน อ่านเน้ือเร่ือง Finn MacCool and the Giant’s
Causeway ท่ียงั ไมส่ มบรู ณ์ เพื่อใหน้ กั เรียนไดเ้ ห็นเน้ือเรื่องโดยรวม จากน้นั ครูขออาสาสมคั รตอบวา่
ในช่องวา่ งแตล่ ะขอ้ น่าจะเติมคาชนิดใด (noun/verb/adjective) พร้อมบอกเหตผุ ล โดยครูคอยอธิบาย
เพ่ิมเติม
3. ครูใหน้ กั เรียนจบั คชู่ ่วยกนั เติมเน้ือเร่ืองใหส้ มบรู ณ์ โดยเลือกคา/กล่มุ คาจากกรอบ check these words
มาเติม
4. ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังเรื่อง Finn MacCool and the Giant’s Causeway และตรวจคาตอบท่ี
นกั เรียนเติม

113

1. bridge of rocks 2. fit together 3. surface
4. huge 5. enemy 6. cross
7. terrified 8. result 9. eruption

ข้นั Practice
1. นกั เรียนอ่านเรื่อง Finn MacCool and the Giant’s Causeway ท่ีเติมสมบูรณ์แลว้ พร้อมกนั
2. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม กล่มุ ละ 4 คน ใหแ้ ต่ละกลุ่มตอบคาถามจากซองคาถามท่ีครูแจกใหก้ ลมุ่ ละ

1 ซอง

Questions
1) How many characters are in the story?
2) Who built the rock bridge?
3) Who push down the rocks? Why?
4) Why Finn’s wife dressed him in baby’s clothes?
5) Do you believe the legend or the scientists about the Giant’s Causeway? Why?

Suggested Answer Key
1) There are three characters in the story.
2) Finn MacCool did.
3) Benandonner did. He didn’t want Finn to follow him.
4) She couldn’t wake her husband.
5) (Ss’ own answer)

ข้นั Production
1. หนงั สือเรียน หน้า 26 Ex. 2a นกั เรียนอา่ น notes เกี่ยวกบั โครงเร่ืองของเร่ือง Finn MacCool and the

Giant’s Causeway แลว้ ช่วยกนั บอกขอ้ มลู
2. นกั เรียนฟังเรื่องอีกคร้ัง และเติมขอ้ มูลลงใน notes จากน้นั ครูขออาสาสมคั รบอกขอ้ มูลท่ีเติม

114

main character: Finn MacCool, his wife, Benandonner
where he/they lived: Finn MacCool and his wife lived in Ireland, Benandonner
lived in Scotland.
how the story began: Finn MacCool and Benandonner were enemies, but they
couldn’t cross the sea to fight.
what happened next: Finn had the idea to build a rock bridge across the sea, this
made him tired so he went to sleep.
what was the main event: While Finn was sleeping, Benandonner ran across the
bridge. Finn’s wife couldn’t wake her husband so she dressed him as a baby. When
Bnnandonner saw the size of the sleeping baby, he imagined the size of Finn; he
got scared.

3. นกั เรียนทา Language Review 2c Ex. 3 ในหนงั สือเรียน หนา้ 106 ร่วมกนั ในช้นั
4. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 16 Ex. 3 ใหน้ กั เรียนฟัง CD แลว้ จบั คบู่ ุคคลกบั กิจกรรมใหถ้ ูกตอ้ ง
5. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 16 Exs. 1-2 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น

ช่ัวโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
1. ครูเขียนประโยคเก่ียวกบั เร่ือง Finn MacCool and the Giant’s causeway บนกระดาน หรือพมิ พใ์ ส่

กระดาษแจกนกั เรียน แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นประโยคและพิจารณาวา่ ประโยคถกู หรือผดิ จากเร่ืองท่ีเรียน
มาแลว้ หากประโยคใดผิดใหน้ กั เรียนแกใ้ หถ้ ูกตอ้ ง

1 The Giant’s Causeway is a rock bridge between England and Scotland.
2 Giant Finn MacCool lived in Scotland while his enemy lived in England.
3 Giant Finn made the bridge by throwing the rocks into the sea.
4 Benandonner ran across the bridge and saw Finn’s baby.
5 Benandonner was terrified by the size of the baby and ran back home.

115

2. นกั เรียนตรวจคาตอบร่วมกนั

 1 The Giant’s Causeway is a rock bridge between Ireland and Scotland.
 2 Giant Finn MacCool lived in Ireland while his enemy lived in Scotland.
3
 4 Benandonner ran across the bridge and saw Finn’s in baby clothes.
5

ข้นั Presentation
1. หนงั สือเรียน หน้า 26 Ex. 2b ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 4 คน แลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นคากริยาที่

กาหนดใหพ้ ร้อมกนั ครูขออาสาสมคั รกลมุ่ ละ 1 คน บอก Past simple ของคากริยาดงั กลา่ ว
2. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั เขียนประโยคเก่ียวกบั เร่ือง Finn MacCool and the Giant’s

Causeway โดยใชค้ ากริยาท่ีกาหนดให้
3. ครูขอตวั แทนกลุม่ กลมุ่ ละ 1 คน อ่านประโยคของกล่มุ ตนเอง นกั เรียนคนอื่นช่วยตรวจความถูกตอ้ ง

หากมีประโยคใดไมถ่ ูกตอ้ ง นกั เรียนช่วยกนั ปรับแก้ จากน้นั ครูใหท้ ุกกลมุ่ นาประโยคท้งั หมดมาเรียง
ตามลาดบั เหตกุ ารณ์
4. ครูอธิบายการใชค้ าบอกลาดบั เหตกุ ารณ์ โดยยกตวั อยา่ งประโยค เช่น

- Once there was a princess called Snow White.
- One day a prince rode a horse into the forest and saw Snow White sleeping. etc.
5. ครูขออาสาสมคั รกลุ่มละ 1 คน แต่งประโยคโดยใชค้ าบอกลาดบั เหตุการณ์ท่ีกาหนดใหใ้ น Ex. 2b ครู
คอยใหค้ าแนะนา

ข้นั Practice
1. นกั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั ร้อยเรียงประโยคเกี่ยวกบั เร่ือง Finn MacCool and the Giant’s Causeway

ใหเ้ ป็นขอ้ ความ โดยเลือกใชค้ าบอกลาดบั เหตกุ ารณ์ที่กาหนดใหใ้ น Ex. 2b เป็นตวั เชื่อมประโยค ครู
เดินสังเกตการทางานของนกั เรียนและใหค้ าแนะนา
2. ครูใหแ้ ต่ละกล่มุ เลา่ เรื่องของกลุม่ ตนเองใหเ้ พือ่ นกลุ่มอ่ืนฟัง เมื่อกลุ่มอื่นฟังแลว้ ให้เปรียบเทียบกบั
เร่ืองของกลุม่ ตน

116

Once, there was a giant called Finn MacCool who built a rock bridge from Ireland
to Scotland. Finn lived in Ireland and his enemy, Benandonner, lived over the sea
in Scotland. They couldn’t cross the sea to fight. One day Finn threw rocks into
the sea and made a bridge. Then he was tired so he went to sleep. Benandonner
started running across the bridge. Finn’s wife tried to wake him up, but he
didn’t, so she dressed him in baby’s clothes. When Benandonner saw the sleeping
baby, he imagined the size of the father. He was scared. In the end, Benandonner
ran back to Scotland and pushed down the rocks so Finn couldn’t follow him.

ข้นั Production
1. หนังสือเรียน หน้า 26 Ex. 3 ครูใหน้ กั เรียนจินตนาการวา่ ไดไ้ ปเที่ยว Giant’s Causeway ที่ Ireland

แลว้ ใหน้ กั เรียนเขียนอีเมลถึงเพ่ือนตา่ งชาติ ความยาวประมาณ 60-80 คา โดยเขยี นเกี่ยวกบั where
you went, what it looks like, what the legend says, what you thought/how you felt ครูใหน้ กั เรียน
ข้นึ ตน้ อีเมลดว้ ย Dear และลงทา้ ยดว้ ย See you soon และแนะนาวา่ นกั เรียนสามารถใชข้ อ้ มูลจาก
เรื่อง Finn MacCool and the Giant’s Causeway ใน Ex. 1 และ Ex. 2 มาเขยี นได้
(สาหรับช้นั เรียนเด็กอ่อนครูอาจจะเขียนอีเมลใหด้ ูบนกระดาน โดยเวน้ ช่องวา่ งเพ่ือใหน้ กั เรียนนาคา
ที่กาหนดใหไ้ ปเติม เช่น คาวา่ time, best, bridge, rocks, surface, giant, cross, enemy)

Dear Andrew,
I’m back from Ireland. I had a wonderful time and I visited some great places, but
the best was the Giant’s Causeway. It’s a rock bridge that stretches from Ireland to
Scotland. It’s made of thousands of rocks that fit together to make a surface you
can walk on. It leads out into the sea. There is a legend that a giant called Finn
MacCool built the bridge to cross the sea to Scotland to fight his enemy. It was
amazing, I felt so small standing on it. I took lots of pictures for you to see.
See you soon,
Brian

117

2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 17 Ex. 8 ใหน้ กั เรียนฟัง CD แลว้ เติมคาลงในช่องวา่ ง
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 17 Exs. 4-7 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น

7. การวัดและการประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
สมดุ นกั เรียน -
วธิ กี ารวัด แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจการเขยี นขอ้ มลู ตามโครงเรื่องท่ีฟัง
สงั เกตการพูดเลา่ เร่ือง Finn MacCool and แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้
the Giant’s Causeway แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น
ประเมินการเขียนอีเมล ประสงค์
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มน่ั ใน
การทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์

118

4 Everyday English 2d

2 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรียนรู้
- ฟังบทสนทนาและบอกรายละเอียดสนบั สนุนได้
- แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ที่กาหนดได้
- สนทนาเกี่ยวกบั ภาพยนตร์ท่ีดูได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องท่ีฟังและอ่าน พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธิภาพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนา แลกเปล่ียนขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณ์ตา่ ง ๆ
ในชีวติ ประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/3 พูดและเขยี นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั กิจกรรม เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั และ
ประสบการณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลส้นั ๆ ประกอบ

119

สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และ นาไปใช้ ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและ

วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน
สถานศึกษา และชุมชน

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้และเขา้ ใจเก่ียวกบั ประโยคและสานวนท่ีใชใ้ นการสนทนาเก่ียวกบั ภาพยนตร์ จะช่วยให้

สามารถนาคาศพั ท์ สานวน และประโยคต่าง ๆ ไปใชใ้ นการสนทนาในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ตลอดจนมีความเขา้ ใจในวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Sentences (How was your weekend?, I’m sorry about that., What did you

watch?, It was brilliant., What’s it about?, Sounds exciting., Who stars in

it?, It’s a pity., You can rent it on DVD.)

Functions: Recommending a film

What were the special effects like?

The special effects were amazing.

2) Language Skills

Listening: ฟังเพอื่ หาขอ้ มลู เฉพาะ

Speaking: สนทนาเกี่ยวกบั ภาพยนตร์

Writing: แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ท่ีกาหนด

120

4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมน่ั ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงที่ 1

ข้นั Warm up
ครูสนทนากบั นกั เรียนเกี่ยวกบั กิจกรรมที่นกั เรียนทาในช่วงวนั หยดุ สุดสปั ดาห์ที่ผา่ นมา หากมี
นกั เรียนตอบวา่ ชมภาพยนตร์ครูชวนสนทนาต่อเกี่ยวกบั ภาพยนตร์ท่ีนกั เรียนช่ืนชอบ นกั แสดงที่
แสดงในภาพยนตร์เร่ืองน้นั

ข้นั Presentation
1. หนงั สือเรียน หน้า 27 Ex. 1a นกั เรียนอ่านประโยคท่ีกาหนดใหพ้ ร้อมกนั ครูถามความคิดเห็น

นกั เรียนวา่ จากประโยคท่ีอ่านน่าจะเป็นการสนทนาเก่ียวกบั เรื่องอะไร

The dialogue is about a film a person watched.

2. หนงั สือเรียน หน้า 27 Ex. 1b นกั เรียนฟังประโยคใน Ex. 1a จาก CD และอ่านตามทีละประโยค
พร้อมกนั จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านเป็นรายบคุ คล

3. หนงั สือเรียน หน้า 27 Ex. 2 ครูบอกนกั เรียนวา่ จะไดฟ้ ังบทสนทนา ใหน้ กั เรียนต้งั ใจฟังวา่
บทสนทนาดงั กลา่ วเก่ียวขอ้ งกบั เรื่องอะไร จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนปิ ดหนงั สือเรียนและฟังบทสนทนา
จาก CD ขณะที่นกั เรียนฟังบทสนทนาครูเขยี นคาถามท่ีกาหนดใหบ้ นกระดาน เมื่อนกั เรียนฟัง
บทสนทนาจบแลว้ ใหอ้ ่านคาถามพร้อมกนั

4. นกั เรียนฟังบทสนทนาอีกคร้ัง และช่วยกนั ตอบคาถาม ครูเขียนคาตอบบนกระดาน

121

1 2012.
2 A science-fiction film.
3 John Cusack, Amanda Peet and Danny Glover.
4 Yes, he did. The special effects were amazing.

ข้นั Practice
1. นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน หนา้ 27 Ex. 2 ครูใหน้ กั เรียนฟัง CD และอ่านบทสนทนาในหนงั สือเรียน

ตามไปดว้ ย
2. ครูสุ่มเรียกนกั เรียนตามเลขที่ใหอ้ า่ นบทสนทนาใน Ex. 2 จานวน 3-4 คู่
3. นกั เรียนตรวจคาตอบของคาถามใน Ex. 2 ที่ครูเขียนบนกระดาน และช่วยกนั ปรับแก้
4. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกความหมายของประโยคใน Ex. 1 เป็นภาษาไทย

ข้นั Production

1. ครูเขยี นประโยคเหล่าน้ีบนกระดาน

Did you enjoy your weekend? I’m sorry about that.

What did you watch? Really? What it’s about?

Sounds exciting. They are amazing.

Which actors are in it? It’s a shame I missed it.

และแจกกระดาษท่ีมีบทสนทนาใหน้ กั เรียนทุกคน จากน้นั ครูอธิบายวา่ ใหน้ กั เรียนเลือกประโยคบน

กระดานไปเติมในบทสนทนาใหส้ มบรู ณ์ เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนแลกเปลี่ยนกนั ตรวจ

A: Hi Ann. 1) Did you enjoy your weekend?
B: Not so good. I was ill so I stayed home.
A: 2) I’m sorry about that.
B: That’s OK. I watched a really good science-fiction film.
A: 3) What did you watch?
B: 2012. It was brilliant.
A: 4) Really? What it’s about?

122

B: It’s about the end of the world and how people try to stay alive. There are
lots of earthquakes, floods and fires!

A: 5) Sounds exciting. What were the special effects like?
B: 6) They are amazing. All the disasters looked real.
A: 7) Which actors are in it?
B: John Cusack plays a writer and it also stars Amanda Peet and Danny Glover.
A: It sounds great. 8) It’s a shame I missed it.
B: You can rent it on DVD.

2. นกั เรียนทา Language Review 2d Ex. 4 ในหนงั สือเรียน หนา้ 106 ร่วมกนั ในช้นั
3. หนงั สือเรียน หน้า 27 Ex. 5 ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพอ่ื นช่วยกนั แตง่ บทสนทนาเก่ียวกบั ภาพยนตร์

ที่ดูทางโทรทศั น์ โดยใชบ้ ทสนทนาจาก Ex. 2 เป็นตน้ แบบ

A: Hi Ann. How was your weekend?
B: Not so good. I was ill so I stayed home.
A: I’m sorry about that.
B: That’s OK. I watched a good comedy adventure film.
A: What did you watch?
B: Night at the Museum 2. It was brilliant.
A: Really? What’s it about?
B: It’s about a security guard who works in a museum where the exhibits come to life.
A: Sounds exciting. What were the special effects like?
B: The special effects were amazing.
A: Who stars in it?
B: Ben Stiller plays the security guard and it also stars Amy Adams and Owen Wilson.
A: It sounds great. It’s a pity I didn’t watch it.
B: You can rent it on DVD.

4. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 18 Exs. 3-4 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น

123

ช่ัวโมงที่ 2

ข้นั Warm up
ครูสนทนากบั นกั เรียนเก่ียวกบั ภาพยนตร์ท่ีนกั เรียนแตง่ บทสนทนาในชว่ั โมงท่ีแลว้

ข้นั Presentation
1. หนงั สือเรียน หน้า 27 Ex. 3 ครูใหน้ กั เรียนอา่ นประโยค 1-5 พร้อมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่าน

บทสนทนาอยา่ งรวดเร็วเพ่ือหาประโยคที่มีความหมายเหมือนกบั ประโยค 1-5

1 Did you enjoy your weekend? - How was your weekend?

2 That’s too bad. - I’m sorry about that.

3 Sounds really good. - Sounds exciting.

4 Which actors are in it? - Who stars in it?

5 It’s a shame I missed it. - It’s a pity I didn’t watch it.

2. หนังสือเรียน หน้า 27 Ex. 4 นกั เรียนฟังบทสนทนาอีกคร้ัง แลว้ ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 ฝ่ัง ใหฝ้ ั่ง
ซา้ ยอา่ นบทของ Ann และฝ่ังขวาอ่านบทของ Bill ครูใหน้ กั เรียนอา่ นตามครูสาหรับประโยคที่
นกั เรียนอ่านออกเสียงไมถ่ ูกตอ้ ง จากน้นั ใหท้ ้งั สองฝั่งสลบั กนั อ่านบทสนทนาอีกคร้ัง

3. ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4-5 คู่ อ่านบทสนทนาใหเ้ พ่ือนฟัง

ข้นั Practice
1. ครูใหน้ กั เรียนฝึกอ่านบทสนทนาท่ีนกั เรียนจบั คู่ช่วยกนั แตง่ ในชวั่ โมงท่ีแลว้
2. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคู่ฝึกสนทนาเพอื่ เตรียมแสดงบทบาทสมมติ ครูเดินสังเกตการสนทนาของ

นกั เรียนและใหค้ าแนะนา

ข้นั Production

1. ครูใหน้ กั เรียนออกมาแสดงบทบาทสมมติที่หนา้ ช้นั โดยครูเนน้ ใหน้ กั เรียนแสดงความรู้สึกและใช้
น้าเสียงใหส้ มจริง

2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 10 Exs. 4-5 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น

124

7. การวัดและการประเมนิ ผล

วธิ กี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ร้อยละ 60
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ นหรือ แบบฝึกหดั (Workbook)
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
การฟัง
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมินการแต่งบทสนทนาเก่ียวกบั แบบประเมินการเขียน
ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ภาพยนตร์ที่ดูทางโทรทศั น์

ประเมินการแสดงบทบาทสมมติ แบบประเมินการแสดงบทสนทนา/

บทบาทสมมติ

สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มนั่ แบบประเมินคุณลกั ษณะ

ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์

125

5 Across the curriculum 2e

2 ชั่วโมง

จุดประสงค์การเรียนรู้
- พูดแสดงความคิดเห็น สรุปเก่ียวกบั เรื่องท่ีฟังได้
- คน้ ควา้ ขอ้ มูลตามประเด็นที่กาหนดให้ได้
- เขยี นบทความตามประเด็นท่ีกาหนดใหไ้ ด้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องท่ีฟังและอา่ น พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตกุ ารณ์ที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม
สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น
พื้นฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 2/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อื่น
จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น

126

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้เก่ียวกบั ใจความสาคญั ใจความเฉพาะ และเขา้ ใจเกี่ยวกบั โครงสร้างของบทความ จะช่วย

ใหส้ ามารถอา่ นและเขียนบทความไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Nouns (civilisation, astronomy, temple, pyramid, stone building, statue,

ruler, dynasty, tragedy, war, drought)

Adjective (ancient)

Phrase (get on well)

2) Language Skills

Reading: อ่านและแสดงความคิดเห็นและสรุปเร่ือง

Writing: เขยี นบทความเก่ียวกบั อารยธรรมโบราณ

4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมน่ั ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงที่ 1

ข้นั Warm up
นกั เรียนอ่านช่ือเรื่อง “The Maya” ในหนงั สือเรียน หนา้ 28 และดูภาพประกอบ จากน้นั ครูสนทนา
กบั นกั เรียนเพ่ือตรวจสอบความรู้พ้ืนฐานของนกั เรียนเกี่ยวกบั เรื่องน้ี

127

ข้นั Presentation
1. หนังสือเรียน หน้า 28 Ex. 1a ครูใหน้ กั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน และเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังเสียงดนตรี

เม่ือฟังจบให้นกั เรียนจบั คู่กบั เพอื่ นเขยี นคาถาม 3 คาถาม เพื่อถามขอ้ มูลที่นกั เรียนตอ้ งการทราบ
เกี่ยวกบั อารยธรรมของชาวมายา

1 Where was it from? 2 When did it exist?
3 Why did it disappear?

2. ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน อ่านคาถามที่เขยี น ครูเขียนคาถามของนกั เรียนบนกระดาน และขอ
อาสาสมคั รท่ีสามารถตอบคาถามบนกระดานได้ (หากมี ครูเขียนคาตอบบนกระดาน)

3. หนังสือเรียน หน้า 28 Ex. 1b ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังเรื่อง The Maya และช่วยกนั ตอบคาถาม
บนกระดาน

1 Where was it from? (It was from southern Mexico and other parts of Central
America.)

2 When did it exist? (Not answer in text.)
3 Why did it disappear? (A tragedy happened. Some people say it was a war or a

drought.)

4. หนังสือเรียน หน้า 28 Ex. 2 นกั เรียนอ่านคาถามท่ีกาหนดให้ แลว้ ครูถามนกั เรียนวา่ Key words
ในคาถามแตล่ ะขอ้ คอื อะไร และตอ้ งการคาตอบเกี่ยวกบั อะไร
1) Key word คือ Where
2) Key words คือ What were … like?
3) Key words คอื What … good at?
4) Key words คอื What … see in Mayan cities?
5) Key words คอื How long … last?
6) Key words คือ How … disappear?

5. นกั เรียนจบั คกู่ บั เพือ่ นอ่านเรื่อง The Maya และช่วยกนั ตอบคาถาม จากน้นั ตรวจคาตอบร่วมกนั

128

1 The Mayan civilisation was in Southern Mexico and other parts of Central
America.

2 They were very clever and got on well with other people.
3 They were good at astronomy, architecture, writing and they had their own

system of mathematics.
4 You could see temples and pyramids with statutes of their gods or rulers on them.
5 It lasted for 2,000 years.
6 A tragedy like a war or a drought happened.

ข้นั Practice
1. นกั เรียนอา่ นคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words และหาความหมายจากพจนานุกรม
2. หนงั สือเรียน หน้า 28 Ex. 3 ครูใหน้ กั เรียนเลือกคาศพั ทจ์ ากกรอบ Check these words มาเติมลงใน

สรุปเรื่อง The Maya
3. ครูขออาสาสมคั รอ่านประโยคพร้อมคาตอบคนละ 1 ประโยค เพ่อื ตรวจคาตอบ

1 civilisation 2 got on well 3 temples 4 pyramids
5 statues 6 war 7 drought

ข้นั Production
1. ครูแจกกระดาษที่มีรายการคาจานวน 5 ขอ้ ใหน้ กั เรียนทกุ คน แลว้ ครูอธิบายวา่ ให้นกั เรียนเรียงคาที่

กาหนดใหเ้ ป็นประโยคที่ถกู ตอ้ ง

1 and / Central America / was / in / the Mayan / an / Southern Mexico / ancient
civilization / other parts of / .

2 Cities / full of / Mayan / were / temples / pyramids / and / .
3 stone buildings / on / were / statues / these / very tall / them / with / .
4 could / far away / the statues / people / see / from / .
5 a drought / disappeared / because of / they / a war / suddenly / or / .

129

1 The Mayan was an ancient civilisation in Southern Mexico and other parts of
Central America.

2 Mayan cities were full of temples and pyramids.
3 These stones buildings were very tall with statues on them.
4 People could see the statues from far away.
5 They disappeared suddenly because of a war or a drought.

2. นกั เรียนทา Language Review 2e & Prepositions Exs. 5-6 ในหนงั สือเรียน หนา้ 106 ร่วมกนั ในช้นั
3. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน ใหแ้ ต่ละกล่มุ คน้ ควา้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ชุมชนอารยธรรมโบราณ

อ่ืน ๆ พร้อมท้งั หาภาพประกอบ โดยเลือกมา 1 อารยธรรม และเตรียมขอ้ มลู ที่คน้ ควา้ ไดม้ าในชวั่ โมง
หนา้
4. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 18 Exs. 1-2 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น

ชั่วโมงที่ 2

ข้นั Warm up
1. ครูทบทวนคาศพั ทท์ ่ีเรียนในชวั่ โมงที่แลว้ ดว้ ยการเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน โดยเวน้ ตวั อกั ษรบางตวั

ไว้ เพอื่ ใหน้ กั เรียนเติมตวั อกั ษรลงในช่องวา่ งใหเ้ ป็นคาศพั ทท์ ี่ถูกตอ้ ง

1 c___l___t__n 2 a_t__n__y
3 s__t_e 4 d_s__p__r
5 a_c__t__t__e 6 a_c___t
7 p_r___d 8 d_n___y
9 t__g__y 10 d _ _ _ g _ t

130

1 civilisation 2 astronomy
3 statue 4 disappear
5 architecture 6 ancient
7 pyramid 8 dynasty
9 tragedy 10 drought

2. ครูขออาสาสมคั รสะกดคาศพั ทค์ นละ 1 คา และใหน้ กั เรียนคนท่ีเหลือตรวจความถกู ตอ้ ง

ข้นั Presentation
1. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังวา่ ครูจะพูดประโยคที่ประกอบดว้ ยประโยคยอ่ ย 2 ประโยค ใหน้ กั เรียน

สังเกตประโยคยอ่ ยท้งั สองวา่ คลอ้ ยตามกนั หรือขดั แยง้ กนั
- There were pyramids in Egypt, but there aren’t any pyramids in my country.
- Ayuthaya was a kingdom, and Sukhothai was a kingdom too.
- There is a giant stone bridge in Ireland, but there isn’t a stone bridge in my city.

2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรุปการใช้ too และ but โดยครูอธิบายเพมิ่ เติมหากนกั เรียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจ
3. THINK! หนงั สือเรียน หน้า 28 นกั เรียนจบั คูแ่ ตง่ ประโยคเปรียบเทียบชนเผา่ มายากบั เมือง/หมู่บา้ น

ของตนเอง

Mayan cities were full of temples; my city is full of temples too.
There were tall stone buildings in Mayan cities, but there weren’t tall stone
buildings in my cities.
The Maya had their own system of mathematics, but we didn’t have our system of
mathematics.

ข้นั Practice
1. ครูใหน้ กั เรียนแบง่ กลุม่ กลุ่มละ 4 คน แตง่ ประโยคเปรียบเทียบจงั หวดั ของตนเองกบั จงั หวดั อื่น ๆ ใน

ประเทศไทย โดยใช้ too และ but กลุม่ ละ 5 ประโยค

131

2. ครูใหต้ วั แทนกลุ่มอ่านประโยค กลุม่ ละ 2 ประโยค คอื ประโยคที่ใช้ too 1 ประโยค และประโยคท่ี
ใช้ but 1 ประโยค โดยครูเขียนประโยคของนกั เรียนบนกระดาน แลว้ ตรวจความถกู ตอ้ งร่วมกนั

ข้นั Production
1. หนังสือเรียน หน้า 28 Ex. 4 ครูใหน้ กั เรียนจบั กลมุ่ เดิมตามที่ครูมอบหมายใหไ้ ปคน้ ควา้ ขอ้ มูล

เกี่ยวกบั ชุมชนอารยธรรมโบราณอ่ืน ๆ จากชวั่ โมงท่ีแลว้ ครูแจกกระดาษ A4 ใหก้ ลมุ่ ละ 1 แผน่
จากน้นั ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มนาขอ้ มูลที่คน้ ควา้ ไดม้ าเขียนเป็นบทความส้นั ๆ ใหค้ รอบคลุมตามรายละเอียด
where it was and who lived there, what the people were like, what you could see there, how long
the civilisation lasted พร้อมท้งั นาภาพประกอบมาติดตกแต่งใหน้ ่าสนใจ
2. เมื่อทกุ กลุ่มเขยี นเสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั ร 1 กลุ่ม อ่านบทความใหเ้ พื่อนฟัง

The Nubian civilisation was an ancient civilisation in northern Sudan and southern
Egypt. The Nubian people were very rich because their land had a lot of gold
mines. They were very clever and had their own alphabet with 23 letters.
Nubian cities had lots of beautiful palaces and temples with statues like sphinxes.
The Egyptians and the Assyrians defeated them. They slowly lost all their land and
riches. The last Nubian kingdom disappeared in 1900.

7. การวดั และการประเมินผล

วธิ ีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
-
ตรวจการเขยี นสรุปเร่ืองท่ีอา่ น สมดุ นกั เรียน ระดบั คุณภาพ พอใช้

ประเมินการเขยี นบทความ แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ ผา่ น

เกี่ยวกบั ชุมชนอารยธรรมโบราณ

สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความ แบบประเมินคุณลกั ษณะ

มุ่งมนั่ ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์

132

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) อินเทอร์เน็ต

133

6 Writing 2f

2 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรียนรู้
- เขียนสรุปเร่ืองท่ีอา่ นได้
- คน้ ควา้ ขอ้ มลู ชีวประวตั ิบคุ คลสาคญั ได้
- เขียนชีวประวตั ิของบคุ คลสาคญั ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/4 พดู และเขยี นเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองที่ฟัง
หรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาคญั แก่นสาระ หวั ขอ้ เรื่อง (topic) ท่ีไดจ้ ากการวิเคราะห์
เรื่อง/ขา่ ว/เหตุการณ์ที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น
พื้นฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 2/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู / ขอ้ เทจ็ จริงที่เก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่ืน
จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น

134


Click to View FlipBook Version