The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ว30226

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Anocha Utumsakulrat, 2021-11-07 08:26:47

แผนการจัดการเรียนรู้ว30226

แผนการจัดการเรียนรู้ว30226

หลกั สูตรรายวิชา

(Course Development)

รหสั วิชา.... ว 30226...รายวชิ า.... เคมี 6.......
จำนวน....1.5.... หน่วยกิต ....3..... คาบ/ สัปดาห์

ภาคเรยี นท่ี ..2... ปีการศึกษา …2564…..

จัดทำโดย

.........นางสาวอโนชา...อทุ มุ สกลุ รตั น์.........

ตำแหนง่ ....ครูชำนาญการพิเศษ...........

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้.....วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี......

โรงเรียนสุวรรณารามวทิ ยาคม แขวงศริ ริ าช เขตบางกอกนอ้ ย กรุงเทพมหานคร
สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษามัธยมศกึ ษากรงุ เทพมหานคร เขต 1
สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

คำนำ

หลักสูตรรายวิชาฉบับนี้จัดทำข้ึนเพื่อเตรียมการในการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคมี 6 รหัสวิชา ว 30226
โดยครูผู้สอนได้ทำการศึกษาและวิเคราะห์กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.
2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ตามสาระและมาตรฐานการเรียนรู้
ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ และจดั ทำคำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา กำหนดเวลาเรียน น้ำหนักคะแนน กำหนด
ทักษะกระบวนการในการเรยี นการสอนตลอดจนการวดั และประเมินผลการเรยี นการสอนของครู

ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างย่ิงว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้และยกระดับผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนของผู้เรยี นโรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร
เขต 1 ตอ่ ไป

นางสาวอโนชา อทุ ุมสกุลรตั น์
ชอื่ ผ้จู ัดทำ

สารบัญ หนา้

คำนำ 1
1. หลักการและจุดมงุ่ หมายของหลกั สูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน 2551 1
1
หลักการ 2
จุดหมาย 2
2. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 3
3. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 3
4. วสิ ยั ทัศน์ของโรงเรยี น 3
พนั ธกจิ 4
เปา้ ประสงค์ 4
5. การกำหนดโครงการสอน 4
คำอธิบายรายวิชา (ดูรายละเอียดจากหลักสตู ร) 4
สาระ/มาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั (แกนกลาง) 4
มาตรฐานการเรยี นรู้ (ดูรายละเอียดจากหลกั สูตร) 4
ตวั ช้วี ัด หรือผลการเรียนรู้ (ดรู ายละเอียดจากหลกั สูตร) 5
6. ตารางโครงสรา้ งรายวิชา 6
7. การกำหนดโครงการสอนและกิจกรรมตลอดภาคเรยี น 6
8. แผนการวัดผลและภาระงาน 6
แนวการวดั ผล 6
แผนการวดั ผล
การกำหนดภาระงานนักเรียน

1. หลกั การและจุดม่งุ หมายของหลกั สูตรการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน 2551 1

หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน มุ่งพฒั นาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำลงั ของชาติให้เป็นมนุษย์ทม่ี ีความ

สมดุลทั้งดา้ นร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและเปน็ พลโลก ยึดม่ันในการปกครองตาม

ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข มคี วามรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้ง เจตคติ ท่ีจำเป็นต่อ

การศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวติ โดยมงุ่ เน้นผ้เู รียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเช่ือว่า

ทุกคนสามารถเรียนรแู้ ละพฒั นาตนเองไดเ้ ต็มตามศักยภาพ

หลักการ
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน มีหลักการท่ีสำคัญ ดังนี้
1. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้ เป็น

เป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพื้นฐานของความเป็นไทย
ควบคกู่ บั ความเป็นสากล

2. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพ่ือปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค และมี
คุณภาพ

3. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่สนองการกระจายอำนาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ให้
สอดคลอ้ งกบั สภาพและความตอ้ งการของท้องถ่ิน

4. เป็นหลักสูตรการศึกษ าท่ีมีโครงสร้างยืดหยุ่นทั้งด้านสาระการเรียนรู้ เวลาและการจัด
การเรียนรู้

5. เป็นหลกั สูตรการศกึ ษาท่ีเน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ
6. เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุก
กลุ่มเปา้ หมาย สามารถเทยี บโอนผลการเรยี นรู้ และประสบการณ์

จดุ หมาย
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒ นาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญ า มีความสุข

มศี ักยภาพในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชีพ จึงกำหนดเป็นจดุ หมายเพ่ือให้เกดิ กบั ผู้เรยี น เมอื่ จบการศกึ ษาข้ัน
พ้ืนฐาน ดงั น้ี

1. มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตาม
หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาทต่ี นนบั ถอื ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

2. มคี วามรู้ ความสามารถในการสอ่ื สาร การคิด การแกป้ ญั หา การใชเ้ ทคโนโลยี และมที ักษะชวี ติ
3. มสี ขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตท่ดี ี มสี ขุ นสิ ยั และรักการออกกำลังกาย
4. มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดม่ันในวิถีชีวิตและการปกครองตาม
ระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข
5. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิต
สาธารณะทมี่ ุ่งทำประโยชนแ์ ละสรา้ งส่งิ ที่ดงี ามในสังคม และอยู่รว่ มกันในสังคมอย่างมคี วามสขุ

2. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 2

หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน มุ่งให้ผู้เรยี นเกิดสมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ดงั น้ี

1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา

ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ

ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมท้ังการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหา

ความขัดแย้งต่างๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้

วธิ กี ารสื่อสาร ทมี่ ีประสทิ ธภิ าพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบที่มีต่อตนเองและสงั คม

2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง

สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสรา้ งองคค์ วามรู้หรือสารสนเทศเพ่ือ

การตัดสนิ ใจเกี่ยวกับตนเองและสงั คมไดอ้ ย่างเหมาะสม

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เปน็ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เผชิญได้อย่าง

ถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสั มพันธ์และการ

เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา

และมีการตัดสนิ ใจที่มีประสิทธภิ าพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบที่เกดิ ขึน้ ต่อตนเอง สังคมและส่งิ แวดลอ้ ม

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่างๆ ไปใช้ในการดำเนิน

ชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง การทำงาน และการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการ

สร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่างๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้

ทนั กับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรูจ้ ักหลีกเลย่ี งพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ที่ส่งผลกระทบ

ต่อตนเองและผอู้ ่นื

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่างๆ และมี

ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน การ

แกป้ ัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมคี ุณธรรม

3. คุณลักษณะอันพึงประสงค์

หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน มงุ่ พัฒนาผเู้ รียนให้มคี ณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ เพ่ือใหส้ ามารถ
อยรู่ ่วมกบั ผู้อืน่ ในสังคมได้อยา่ งมีความสขุ ในฐานะเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ดังนี้

1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
2. ซ่อื สัตย์สจุ ริต
3. มีวินัย
4. ใฝ่เรยี นรู้
5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง
6. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
7. รกั ความเป็นไทย
8. มีจติ สาธารณะ

3

4. วสิ ัยทศั น์ของโรงเรยี น

โรงเรียนสวุ รรณารามวทิ ยาคม เป็นโรงเรยี นส่งเสรมิ ทกั ษะการคิด เพอื่ พัฒนาผเู้ รียนใหม้ ีความรู้
คคู่ ณุ ธรรม บนพื้นฐานความเป็นไทยและหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

พันธกจิ
1) จดั การเรียนการสอนเพื่อพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น
2) พัฒนาครูและบุคลากรทางการศกึ ษา
3) การบริหารจัดการสถานศึกษา
4) พัฒนาชุมชน สังคม ธำรงสถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์

เปา้ ประสงค์
1) ผู้เรียนมีคุณสมบัติตามมาตรฐานนักเรียนโรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม 10 ข้อ ได้แก่ ทดแทน

บุญคุณบิดามารดา มาโรงเรียนเช้า เข้าห้องเรียนเสมอ พบเจอครูเคารพ คบหาเพื่อนดี สามัคคีหมู่คณะ ละเลิกสิ่ง
ชว่ั ประพฤติตัวดี มนี ำ้ ใจ ให้เกยี รติกนั และมีคุณลกั ษณะอันพึงประสงคต์ ามหลกั สูตร

2) ผเู้ รียนมีส่วนร่วมในการสืบสาน อนุรกั ษ์ ประเพณี และวฒั นธรรมไทย
3) ผเู้ รยี นนำหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงมาใชใ้ นการดำเนินชีวติ
4) ผู้เรียนมีความเป็นเลิศทางวิชาการ ส่ือสารได้อย่างน้อย 2 ภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตผลงาน
สร้างสรรค์ และรว่ มกนั รบั ผิดชอบสงั คม
5) ผู้เรียนมีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง จิตใจร่าเริงแจ่มใส มีสุขภาพจิตที่ดี ปลอดจากสิ่งเสพติด อบายมุข
และโรคเอดส์
6) ครูออกแบบและจัดการเรียนรู้ท่ีตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสติปัญญา
ตามศกั ยภาพ
7) ครแู ละบุคลากรมีความรู้และจริยธรรม มศี ักยภาพในหน้าท่ีของตน
8) สถานศกึ ษามสี ภาพแวดลอ้ มและการบริการทเ่ี อื้อตอ่ การเรียนรู้
9) สถานศกึ ษามกี ารบริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพ
10) มีการประสานงานกับคณะกรรมการสถานศึกษาฯ สมาคมศิษย์เก่า เครือข่ายผู้ปกครอง และ
หน่วยงานอ่นื ๆทีเ่ กีย่ วขอ้ ง เน้นการมีส่วนรว่ มของผูเ้ กี่ยวขอ้ งทกุ ฝ่ายในการพัฒนาโรงเรยี น

4

5. การกำหนดโครงการสอน/คำอธบิ ายรายวชิ า

โครงการสอนรายวชิ า
รหัสวชิ า.... ว 30226 ...รายวชิ า....เคมี..6.......
จำนวน....1.5.... หน่วยกิต ....3..... คาบ/ สปั ดาห์ ภาคเรียนที่ ...2... ปีการศึกษา …2564…..

สาระ/มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด (แกนกลาง)
-

คำอธิบายรายวชิ า (ดูรายละเอียดจากหลักสูตร)
ศึกษาการแก้ปัญหาในสถานการณ์ หรือประเด็นท่ีสนใจทำได้โดยการบูรณาการความรู้ ทางเคมีร่วมกับ

วิทยาศาสตร์แขนงอ่ืน รวมทั้งคณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการ
ออกแบบเชงิ วิศวกรรม โดยเน้นการคิดวเิ คราะห์ แก้ปญั หาและความคิดสร้างสรรค์

โดยใช้ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูลและ
การอภิปราย เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรยี นรู้ โดยใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศเป็น
เคร่ืองมือประกอบการนำเสนอท่ีมีประสิทธิภาพ และนำความรู้ท่ีได้จากการพัฒนากระบวนการคิด เข้าร่วม
ประชุมวิชาการ หรอื การแสดงผลงานอย่างสร้างสรรค์
มาตรฐานการเรียนรู้ (ดูรายละเอียดจากหลักสูตร)
สาระเคมี 3 : เขา้ ใจหลักการทำปฏบิ ตั กิ ารเคมี การวดั ปริมาณสาร หน่วยวดั และการเปลี่ยนหนว่ ย การคำนวณ
ปริมาณของสาร ความเขม้ ข้นของสารละลาย รวมท้ังการบรู ณาการ ความรู้และทักษะในการอธิบายปรากฏการณ์
ในชวี ติ ประจำวนั และการแก้ปัญหา ทางเคมี
ผลการเรยี นรู้

1. กำหนดปญั หา และนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้ความรูท้ างเคมีจากสถานการณท์ เ่ี กดิ ขนึ้ ใน
ชีวติ ประจำวัน การประกอบอาชพี หรืออุตสาหกรรม

2. แสดงหลักฐานถึงการบูรณาการความรู้ทางเคมรี ่วมกบั สาขาวิชาอนื่ รวมท้งั ทักษะกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตรห์ รือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม โดยเน้นการคดิ วเิ คราะห์ การแก้ปัญหาและความคิด
สร้างสรรค์ เพือ่ แก้ปญั หาในสถานการณ์หรือประเด็นท่สี นใจ

3. นำเสนอผลงานหรือชิน้ งานที่ไดจ้ ากการแก้ปญั หาในสถานการณห์ รอื ประเด็นท่ีสนใจโดยใชเ้ ทคโนโลยี
สารสนเทศ

4. แสดงหลักฐานการเขา้ ร่วมการสมั มนา การเขา้ ร่วมประชุมวชิ าการ หรือการแสดงผลงานส่งิ ประดษิ ฐ์ใน
งานนทิ รรศการ

รวมทั้งหมด 4 ผลการเรียนรู้

6. ตารางโครงสร้างรายวิชา

ลำดบั ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ ตัวช้ีวัด หรือ วิธีการประเมิน เวลา น้ำหนัก
ที่ (ชวั่ โมง) คะแนน
ผลการเรยี นรู้
1 การใชค้ วามรู้ทางเคมี 10 10
ในการแก้ปัญหา 1 1. ชุดกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ 5
20
2 การบรู ณาการความรู้ 2. สบื คน้ ข้อมูล/อภปิ รายกล่มุ 20
ในการแกป้ ญั หา 10
2 1. ชุดกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์

2. สบื คน้ ข้อมูล/อภิปรายกลมุ่

สอบกลางภาค 1 5
20
3 การนำเสนอผลงาน 3 1. ชดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตร์ 3 20
10
2. รายงาน 5 20
100
3. สืบค้นขอ้ มูล/อภปิ รายกลุ่ม 3
เวลา
4 การเข้ารว่ มประชมุ 4 1. ชุดกจิ กรรมวิทยาศาสตร์ 1 (ชัว่ โมง)

วิชาการ 2. รายงาน 2 15

สอบปลายภาค 1 30

รวม 60 12

อตั ราส่วนคะแนน

คะแนนเก็บระหว่างภาค : คะแนนปลายภาค = 80 : 20

K : P : A = 40 : 60 : …..

รวม 100 คะแนน

คะแนนเก็บก่อนสอบกลางภาค = 30 คะแนน

สอบกลางภาค = 20 คะแนน

คะแนนเก็บก่อนสอบปลายภาค = 30 คะแนน

คุณลกั ษณะ / จิตพสิ ัย = - คะแนน

สอบปลายภาค = 20 คะแนน

รวม 100 คะแนน

7. การกำหนดโครงการสอนและกิจกรรมตลอดภาคเรยี น

สปั ดาห์/ หนว่ ยการเรียนร/ู้ ผลการเรียนรู้ กิจกรรม /
แผนการ เนอ้ื หา กระบวนการเรยี นรู้
เรียนรทู้ ่ี

1 การใช้ความร้ทู างเคมีใน 1 รปู แบบการเรียนรแู้ บบโยนโิ ส

การแก้ปัญหา มนสิการตามขน้ั ตอนดงั นี้

1. ขน้ั พฒั นาปัญญา

2. ขน้ั นำปัญญาพัฒนาความคิด

3. ขั้นนำปัญญาพัฒนาตนเอง

2-3 การบูรณาการความรู้ใน 2 รปู แบบการเรียนรูแ้ บบโยนโิ ส
การแกป้ ัญหา มนสกิ ารตามข้ันตอนดงั น้ี
1. ขัน้ พัฒนาปัญญา
2. ขัน้ นำปญั ญาพัฒนาความคิด
3. ขัน้ นำปัญญาพฒั นาตนเอง

4 การนำเสนอผลงาน 3 รปู แบบการเรยี นรู้แบบโยนิโส
มนสกิ ารตามขัน้ ตอนดงั น้ี
1. ขั้นพฒั นาปัญญา
2. ขน้ั นำปญั ญาพฒั นาความคิด

6

3. ขนั้ นำปัญญาพฒั นาตนเอง

5 การเข้าร่วมประชมุ 4 รูปแบบการเรยี นรูแ้ บบโยนโิ ส 3

วชิ าการ มนสิการตามขั้นตอนดงั น้ี
1. ขั้นพฒั นาปัญญา
2. ข้นั นำปญั ญาพัฒนาความคิด

3. ข้ันนำปัญญาพฒั นาตนเอง

8. แผนการวัดผลและภาระงาน

แนวการวัดผล อตั ราสว่ น คะแนนระหว่างภาค : คะแนนปลายภาค = ...80.... : ....20.....
อตั ราสว่ น คะแนน K : P : A = ....40... : ...60... : ............

แผนการวัดผล

การประเมิน คะแนน วิธีวดั ชนดิ ของเครือ่ งมือ ตัวชว้ี ัด/ผลการ เวลาทีใ่ ช้
เรยี นรขู้ อ้ ท่ี (นาที/ครั้ง)

ก่อนกลางภาค 40 1.สืบค้นข้อมลู ชดุ กจิ กรรม 1-2 50 นาท/ี คร้ัง
2.อภปิ รายกลมุ่ วิทยาศาสตร์

กลางภาค 20 สอบ แบบวดั ผลสัมฤทธ์ิ 1-2 60 นาท/ี ครั้ง
หลงั กลางภาค 3-4 50 นาท/ี ครั้ง
20 1.สืบคน้ ขอ้ มลู ชุดกจิ กรรม
2.อภปิ รายกลมุ่ วทิ ยาศาสตร์

คณุ ลักษณะ / - - - - ตลอด
จติ พสิ ัย ภาคเรียน

ปลายภาค 20 สอบ แบบวัดผลสมั ฤทธิ์ 3-4 60 นาท/ี ครั้ง
รวม
100 คะแนน

การกำหนดภาระงานนักเรียน

ในการเรยี นรายวชิ า.เคมี..4..ได้กำหนดให้นกั เรียนทำกิจกรรม/ ปฏิบัติงาน (ช้ินงาน)….17....ชิ้น ดังน้ี

ที่ ชอื่ งาน ตวั ช้วี ัด/ผลการ ประเภทงาน กำหนดส่ง
1 รายงานผลการทดลอง เร่ือง การแก้ปญั หาดว้ ย
เรยี นร้ขู อ้ ท่ี กลมุ่ เดย่ี ว วนั /เดือน/ปี

1 ธ.ค 64

วธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตรโ์ ดยใช้ความรู้ทางเคมี

2 รายงานผลการทดลอง เรอ่ื ง สายไฟแป้งโดว์ 2 ม.ค 65

3 รายงานผลการทดลอง เรื่อง การแก้ปญั หาโดยการ 2 ม.ค 65
บูรณาการความรู้

4 นำเสนอรปู แบบการเขยี นบรรณานกุ รม 3 ม.ค 65

5 สืบค้นข้อมูลวธิ กี ารเขยี นอ้างอิงแบบแทรกในเนื้อหา 3  ก.พ 65

6 รายงาน การจดั ทำ และนำ เสนอข้อมูลในโปสเตอร์ 3  ก.พ 65

7 รายงานกจิ กรรม สืบคน้ ข้อมูลงานประชุมวิชาการ 4 ก.พ 65

8 รายงานกจิ กรรม การเขา้ รว่ มและการสรุปรายงาน 4 ก.พ 65

การเขา้ ประชุมวชิ าการที่นักเรียนสนใจ

7

หากนกั เรียนขาดส่งงาน 4 ช้ิน จะไดร้ ับผลการเรยี น “ร” ในรายวชิ านี้

ลงชื่อ........................................ครูผ้สู อน ลงชอ่ื ...........................................หัวหนา้ กลุ่มสาระฯ
(.นางสาวอโนชา...อุทมุ สกุลรัตน์..) (นายสรุ จักริ์ แก้วมว่ ง.)

ลงชื่อ........................................... ลงชือ่ ...........................................
(.นายศวิ าวฒุ ิ รัตนะ..) (..นางรพีพร คำบญุ มา..)
หวั หนา้ งานนเิ ทศ
รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารวิชาการ

ลงชื่อ ........................................................
(...นายจงจดั จนั ทบ...)

ผู้อำนวยการโรงเรยี นสุวรรณารามวิทยาคม

1

a

แผนการจัดการเรียนรู้

รหสั วชิ า.... ว30226...รายวิชา....เคม.ี .6.......
จำนวน....1.5.... หน่วยกิต ....3..... คาบ/ สปั ดาห์

ภาคเรียนท่ี ...2... ปีการศึกษา …2564…..

จดั ทำโดย

.........นางสาวอโนชา...อทุ ุมสกุลรัตน์.........

ตำแหน่ง ....ครู ……วิทยฐานะ……ครชู ำนาญการพิเศษ...........

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้.....วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี......

โรงเรียนสวุ รรณารามวิทยาคม แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรงุ เทพมหานคร
สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษามธั ยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1
สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

คำนำ

แผนการจดั การเรยี นรูเ้ ล่มน้ี จัดทำข้นึ เพ่ือใช้เปน็ แนวทางในการจัดการเรยี นการสอนรายวชิ ารายวชิ า
เพิ่มเตมิ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 รหัสวิชา ว30226 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 ที่เนน้ นักเรียนเป็นสำคัญ มี
การจัดกิจกรรมและการวัดผลประเมินผลท่ีหลากหลายสอดคล้องกับสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระ
การเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน
พทุ ธศักราช 2551 ซ่ึงประกอบด้วยหน่วยการเรียนรู้ จำนวน 4 หน่วย คือ หน่วยท่ี 1 การใช้ความรู้ทางเคมีใน
การแกป้ ัญหา หน่วยท่ี 2 การบูรณาการความรู้ในการแกป้ ัญหา หนว่ ยท่ี 3 การนำเสนอผลงาน และ หน่วยที่ 4
การเข้าร่วมประชุมวิชาการ

แผนการจัดการเรียนรู้เลม่ น้ีส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ท้ังเป็นรายบุคคลและ
รายกลุ่ม เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง ส่งเสริมให้
นักเรียนเชื่อมโยงความรู้ทั้งในและต่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ในเชิงบูรณาการด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย สร้าง
สถานการณ์การเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน โดยครูมีบทบาทหน้าท่ีในการเอ้ืออำนวยความสะดวกให้แก่
นักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีคุณภาพตามสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวช้ีวัด รวมทั้งพัฒนานักเรียนให้มี
สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามท่ีหลักสูตรกำหนด เพ่ือให้นักเรียนสามารถดำรงชีวิตอยู่
รว่ มกับผู้อื่นในสังคมไทยและสังคมโลกได้อย่างมีความสุขการปฏิบัติงานมุ่งผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนได้อย่างเป็น
ระบบ สง่ ผลใหผ้ ูเ้ รยี นมคี ุณภาพ และสถานศึกษามคี ณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษาอย่างแทจ้ รงิ

หวงั เป็นอย่างย่งิ ว่าแผนการจัดการเรียนรู้ เล่มนจี้ ะเปน็ ประโยชน์ต่อการนำไปประยุกต์ใช้ในการจดั การ
เรียนรใู้ หเ้ หมาะสมกบั สภาพแวดล้อมของนักเรียนตอ่ ไป

......................................................
(นางสาวอโนชา อทุ มุ สกุลรัตน์)

สารบญั

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การใชค้ วามรูท้ างเคมีในการแกป้ ญั หา หนา้
1-6
 แผนการเรียนรูท้ ่ี1 การใชค้ วามรู้ทางเคมีในการแก้ปัญหา
1
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การบูรณาการความรู้ในการแก้ปัญหา 7 - 19

 แผนการเรยี นรู้ท่ี2 กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม 7
14
 แผนการเรยี นรู้ที่3 การบูรณาการความรู้ในการแก้ปญั หา 20- 25
20
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การนำเสนอผลงาน 26- 31
26
 แผนการเรยี นรู้ที่4 การนำเสนอผลงาน 32 - 41

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4 การเขา้ ร่วมประชุมวชิ าการ

 แผนการเรียนรทู้ ี่5 การเข้ารว่ มประชมุ วชิ าการ

เครือ่ งมอื วดั และประเมินผล

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1

หน่วยการเรียนรทู้ ี่.1.การใชค้ วามร้ทู างเคมีในการแก้ปัญหา...เร่ือง..…..การใชค้ วามรูท้ างเคมใี นการแกป้ ญั หา….
รายวิชา……..............เคมี…6........ ............รหัสวชิ า…..............ว 30226......................ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่....6.....

กลุ่มสาระการเรียนรู้..วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี.. ปีการศกึ ษา… 2564...ภาคเรยี นท่.ี .2...เวลา...10..ชั่วโมง……
ผู้สอน.........................นางสาวอโนชา...อทุ ุมสกลุ รัตน์.........................................................................................

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้ (รายวชิ าพ้ืนฐานมที งั้ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้ีวัด

รายวชิ าเพิ่มเติมมีเฉพาะมาตรฐานการเรียนรแู้ ละผลการเรยี นร)ู้

1.1 มาตรฐานการเรียนรู้

สาระเคมี 3 : เขา้ ใจหลกั การทำปฏิบัติการเคมี การวัดปริมาณสาร หนว่ ยวัดและการเปลีย่ นหน่วย

การคำนวณปรมิ าณของสาร ความเข้มขน้ ของสารละลาย รวมทั้งการบรู ณาการ ความรูแ้ ละทักษะในการ

อธิบายปรากฏการณใ์ นชวี ิตประจำวันและการแก้ปัญหา ทางเคมี

1.2 ผลการเรียนรู้

1. กำหนดปัญหา และนำเสนอแนวทางการแกป้ ญั หาโดยใช้ความรทู้ างเคมีจากสถานการณ์ท่ีเกิดขึน้ ใน

ชีวิตประจำวัน การประกอบอาชีพ หรอื อตุ สาหกรรม

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด (หลอมจากผลการเรยี นรู้ทีใ่ ช้ในหน่วยการเรยี นรนู้ ี้เขียนเป็นแบบความ

เรยี ง)

ความร้เู กี่ยวกับเน้ือหาวิชาเคมี สามารถนำมาประยุกต์ใชใ้ นการแกป้ ญั หาจากสถานการณท์ เี่ กิดข้ึนใน

ชีวิตประจำวนั การประกอบอาชพี หรอื อตุ สาหกรรม โดยใช้ความรู้ทางเคมแี ละวิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ได้

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/สาระการเรยี นรูเ้ พ่ิมเติม (รายวิชาเพ่ิมเตมิ )

สถานการณ์บางสถานการณ์ในชีวิตประจำวันการประกอบอาชีพ หรอื อตุ สาหกรรม สามารถนำความรู้

ทางเคมไี ปใช้ประโยชน์หรือแกป้ ัญหาได้

3.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น (ถา้ ในคำอธิบายรายวิชาพูดถงึ หลกั สูตรท้องถิ่นใหใ้ ส่ลงไปดว้ ย

...............................................................-...........................................................................................

4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. ระบุปัญหาท่เี กย่ี วขอ้ งกบั ความรทู้ างเคมจี ากสถานการณ์ท่ีกำหนด (K)

2. ออกแบบแนวทางการแก้ปญั หาโดยใช้ความร้ทู างเคมีและวิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ (P)

3. ต้ังใจเรียนรู้และแสวงหาความรู้ (A)

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เลือกเฉพาะขอ้ ทเี่ กิดในหนว่ ยการเรยี นร้นู ี)้

 1. ความสามารถในการสื่อสาร  2. ความสามารถในการคดิ
 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา  4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (เลือกเฉพาะข้อที่เกิดในหน่วยการเรยี นรนู้ ี้)

 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  2. ซื่อสัตยส์ ุจริต

 3. มวี ินัย  4. ใฝ่เรยี นรู้
 5. อยู่อย่างพอเพียง  6. มุ่งมั่นในการทำงาน

1

 7. รกั ความเปน็ ไทย  8. มจี ติ สาธารณะ
7. ดา้ นคุณลักษณะของผเู้ รียนตามหลกั สูตรมาตรฐานสากล

 1. เป็นเลิศวิชาการ  2. ส่อื สารสองภาษา  3. ลำ้ หนา้ ทางความคิด

 4. ผลติ งานอย่างสรา้ งสรรค์  5. ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก
8. ทักษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คือการเรียนรู้ 3R X 8C 2L

 R1 –Reading (อ่านออก)  R2-(W) Ringting (เขยี นได)้  R3- (A) Rithmetics (คดิ เลขเป็น)
 ทกั ษะดา้ นการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem
Solving)

 ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)

 ทกั ษะดา้ นความเข้าใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)

 ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเป็นทมี และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and
Leadership)

 ทกั ษะด้านการสอื่ สาร สารสนเทศและรู้เทา่ ทันสอื่ (Communications, Information, and Media Literacy)
 ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT
Literacy)

 ทักษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)
 ความมเี มตตา (วนิ ยั คุณธรรม จริยธรรม (Compassion)

9. บรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

1. หลักความพอประมาณ : กำหนดจำนวนสมาชกิ ในกลมุ่ ใหเ้ หมาะสมกับจำนวนสมาชกิ ในห้องเรียนคือ

ประมาณกลมุ่ ละ 4 – 6 คน

2. หลักความมีเหตผุ ล : ใหน้ กั เรียนสรา้ งสรรค์ผลงานและเกิดทักษะการปฏิบัติ , เลอื กใช้สารเคมีได้อยา่ ง

คุม้ คา่

3. หลกั ภูมคิ ุ้มกัน : ให้นักเรยี นเกิดทกั ษะการทำงานกลุม่ และกล้าแสดงออก

4. เง่ือนไขความรู้ : การวางแผนงานทจ่ี ะทำกอ่ นแลว้ ค่อยลงมือทำอยา่ งระมัดระวงั , เขยี นสมการการ

เปล่ยี นแปลงจากการทดลอง

5. เง่ือนไขคณุ ธรรม : อดทนทจ่ี ะทำงาน และมีความขยนั ทจ่ี ะทำงานให้ออกมาไดด้ ที ส่ี ุด , มีวินัยในการ

ทำการทดลอง

10. ชนิ้ งาน/ภาระงานรวบยอด

ผลการเรยี นรู้ ช้นิ งาน ภาระงาน

1 - รายงานผลการทดลอง เร่ือง การ - การอภิ ปราย ผลก ารท ดลอ งการ

แก้ปัญหาด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ แก้ปัญหาดว้ ยวิธกี ารทางวิทยาศาสตร์โดย

โดยใช้ความรทู้ างเคมี ใช้ความรทู้ างเคมี

11. การวัดประเมนิ ผล 3.การวัดประเมนิ การปฏิบตั ิ
11.1การวัดและประเมนิ ผลชิน้ งาน/ภาระงานรวบยอด 2

วิธกี าร
1.การสงั เกตการณ์
2.การใชช้ ดุ กิจกรรมวทิ ยาศาสตรร์ อ่ งรอยบ่งช้ี

เครือ่ งมือ

1. แบบสงั เกตการณ์

2. ชดุ กิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ 3. แบบวดั ประเมินการปฏบิ ตั ิ

เกณฑ์

1.การประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)

2.การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น ผ่าน 1

รายการถือวา่ ไมผ่ า่ น

11.2 การวดั และประเมนิ ผลระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (ประเมนิ จากแผนการจดั การเรียนรขู้ อง

หน่วยการเรียนรนู้ ี้)

ส่ิงทต่ี ้องการวัด วธิ วี ัดผล เคร่ืองมือวัดผล เกณฑก์ ารประเมนิ

1. ความรเู้ กยี่ วกับ -การสอบถาม ซักถาม - แบบประเมินการ - นักเรยี นได้คะแนน

- วธิ ีการทางวิทยาศาสตร์ ความคิดเห็น อภปิ รายแสดงความ 12 คะแนนขนึ้ ไป

-การตอบคำถาม คดิ เหน็ หรอื รอ้ ยละ 80

-การตรวจผลงาน ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

นกั เรียน - แบบประเมนิ การ - นกั เรียนได้คะแนน

ตรวจผลงานนกั เรยี น ประเมินผลงาน

13 คะแนนขน้ึ ไป

หรอื ร้อยละ 80

ถือว่าผ่านเกณฑ์

2.ทกั ษะกระบวนการคิด และ - การอภปิ รายแสดง - แบบประเมินการ -นกั เรียนไดค้ ะแนน

ทกั ษะกระบวนการกลุ่ม ความคดิ เห็น อภปิ รายแสดงความ 12 คะแนนข้ึนไป

คดิ เหน็ หรือรอ้ ยละ 80 ถือว่า

- สงั เกตพฤตกิ รรมการ - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์

ทำงานกลุ่ม พฤตกิ รรมการ

ทำงานกลุ่ม

3. คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ - สังเกตค่านยิ มในการ - แบบประเมิน - นักเรียนไดค้ ะแนน

และสมรรถนะผ้เู รยี น ทำงานรว่ มกับผ้อู น่ื คุณลกั ษณะอันพงึ ประเมนิ คณุ ลกั ษณะ

- มวี ินัยในการทำงานกลุ่ม และการทำงานใน ประสงค์ อันพึงประสงค์

- นกั เรียนเหน็ ความสำคัญ ระบบกลุ่ม - แบบประเมนิ 26 คะแนนข้นึ ไป

ของการทำงานร่วมกับผู้อืน่ และ อภปิ ราย แสดงความ สมรรถนะผ้เู รยี น หรือร้อยละ 80

การทำงานในระบบกลุ่ม คดิ เห็นเกี่ยวกบั ผลการ -แบบทดสอบ ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์

- ยอมรบั ความคิดเห็นซ่ึงกัน ทดลอง Rubin’s Self - นกั เรยี นไดค้ ะแนน

และกันมีความเสียสละและ Esteem Scale การประเมินสมรรถนะ

อดทน 29 คะแนนขนึ้ ไป

- นกั เรียนมีการเหน็ คุณค่าใน หรือรอ้ ยละ 80

ตนเอง (Self-esteem) ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

12. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ช่วั โมงที่ 1-3

3

1. ข้นั ตั้งประเด็นปญั หา/สมมตฐิ าน (Hypothesis Formulation)
1.1 ครูแสดงรปู สิง่ ตา่ ง ๆ ที่อยรู่ อบตัว เช่น อาหาร ยานพาหนะ ยา อปุ กรณไ์ ฟฟา้ และช้ีให้เห็นวา่

การคดิ คน้ ประดษิ ฐ์ หรือปรับปรุงสิ่งต่าง ๆ เหล่าน้ัน เก่ียวข้องกับการใช้ความรใู้ นวิชาเคมีท้ังส้ิน
1.2 ครูให้นักเรยี นพจิ ารณารูป “ตำราฝนหลวงพระราชทาน” แล้วใช้คำถามนำว่า การทำฝน

หลวงใช้ความร้วู ิชาเคมเี รือ่ งใด เพื่อนำเข้าส่กู ารอธิบายการทำฝนหลวง
1.3 นักเรียนศึกษาขัน้ ตอนการทำฝนหลวง ตามรายละเอียดในชุดกจิ กรรม จากนนั้ รว่ มกนั อภิ

ปรายโดยเนน้ ประเดน็ การใชค้ วามรู้ทางเคมีทเี่ ก่ียวข้องในข้นั กอ่ กวนขนั้ เลยี้ งให้อว้ น และขน้ั โจมตี ตามลำดบั
ชวั่ โมงที่ 4-8
2. ขนั้ สบื ค้นความรู้ (Searching for Information)
2.1 แบ่งนกั เรียนออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4- 5 คน แต่ละกลุ่มมนี ักเรียนเก่ง ปานกลาง อ่อน คละกัน

ให้นักเรียนทบทวนความรู้เก่ียวกับข้ันตอนในวิธกี ารทางวทิ ยาศาสตร์ตามรายละเอียดในชุดกิจกรรมโดยใช้สื่อ
เพาว์เวอร์พอยด์ท่ีครูสร้างข้ึน ประกอบการอธิบาย โดยเน้นการอธิบายเกี่ยวกับการตั้งสมมติฐาน รวมท้ัง
ทบทวนความหมายของตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรท่ีต้องควบคุมให้คงที่

2.2 ครใู ห้ความรูว้ า่ การระบุปัญหาหรอื กำหนดโจทยว์ จิ ัยของนักวิทยาศาสตรต์ อ้ งอาศยั ขอ้ มูล
จากการสังเกต จากนน้ั ยกตวั อย่างการระบปุ ญั หาจากกรณกี ารทำฝนหลวงซ่งึ เปน็ ปญั หาที่มีตัวแปร
ท่ีเก่ียวข้องหลายตัวแปร แล้วอธิบายให้เห็นความสำคัญของการต้ังคำถามและสมมติฐานย่อยเพ่ือนำไปสู่การ
กำหนดตัวแปรในการทดลอง โดยให้นักเรียนพิจารณาข้อมูลในตารางท่ี 1 ตัวอย่างคำถามและสมมติฐานจาก
กรณกี ารทำฝนหลวง

2.3 ครูช้ใี ห้เหน็ ว่า ตัวอย่างคำถามในตาราง 1 เปน็ คำถามทเ่ี ก่ียวข้องกบั ตัวแปรตน้ ซ่ึงมีผลตอ่ ตวั
แปรตามรว่ มกันคอื การรวมตวั ของเมฆทีเ่ กิดเปน็ ฝนได้ และคำถามเหล่านี้ชว่ ยกำหนดขอบเขตของการทดลอง
ที่จะใชต้ อบคำถามหรอื พิสจู นส์ มมติฐานได้ชัดเจนขึ้น

2.4 ครใู หน้ ักเรียนพิจารณาสถานการณ์ตัวอย่างซึง่ เป็นปญั หาเกีย่ วกับกลน่ิ ฉุนแอมโมเนียของ
ปาทอ่ งโก๋ จากนั้นให้นกั เรียนศึกษาตวั อยา่ งการระบปุ ญั หา การต้งั คำถามและสมมติฐาน รวมทั้งการ
ออกแบบการทดลองเพอ่ื ตรวจสอบสมมตฐิ าน ตามรายละเอยี ดในชุดกจิ กรรม และใหน้ กั เรียนตอบคำถาม
ตรวจสอบความเข้าใจ

2.5 ครูและนกั เรียนรว่ มกันอภิปรายเกีย่ วกับแนวทางการแกป้ ัญหากล่นิ และความกรอบของ
ปาทอ่ งโก๋ เพือ่ ให้ได้ข้อสรุปตามรายละเอียดในชดุ กิจกรรม

ช่ัวโมงท่ี 9-13
3. ขน้ั สรปุ องคค์ วามรู้ (Knowledge Formation)

3.1 นกั เรยี นและครรู ่วมกันอภปิ รายและสรปุ ผลการทดลองโดยใช้ชุดกจิ กรรมประกอบ
3.2 ครูใหน้ ักเรียนทำกิจกรรมที่ 1 การแก้ปญั หาดว้ ยวิธีการทางวิทยาศาสตร์โดยใช้ความรู้ทางเคมี
โดยร่วมกับสมาชิกในกลุ่มตามข้ันตอนดังน้ี

1) ระบปุ ัญหาจากสถานการณ์ท่กี ำหนดให้
2) ตง้ั คำถาม สมมติฐาน และระบตุ วั แปรจากสถานการณท์ ่ีกำหนดให้โดยใชค้ วามรู้ทางเคมี
3) ออกแบบวธิ ีการตรวจสอบสมมติฐาน
4) นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหา
3.3 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปราย ตรวจความถกู ตอ้ ง ตอบคำถามข้อสงสัยตา่ ง ๆ
3.4 ใหน้ กั เรียนช่วยกันเฉลยคำตอบพรอ้ มทั้งให้เหตุผล

4

ช่วั โมงท่ี 14-15

4. ข้ันการสอ่ื สารและนำเสนอ (Effective Communication)

4.1 ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ทำกิจกรรม ปฏบิ ตั ิการ คดิ ดี ผลงานดี มคี วามสุข อ่านขา่ วท่ี

กำหนดให้และเตมิ ข้อความลงในช่องว่างให้ถูกต้องและสมบูรณ์ ตามรายละเอยี ดในชดุ กจิ กรรม

5. ขน้ั การบรกิ ารสงั คมและสาธารณะ (Public Service)

5.1 ตัวแทนนักเรยี นแต่ละกล่มุ ออกมาแสดงถงึ จุดเดน่ จุดด้อยของกลุม่ ตัวเองเมอื่ ได้ทำกิจกรรม

มาจนครบ

5.2 ร่วมกนั คดั เลอื กผลงานทีด่ ที ่ีสุดในช้ันเรยี น

13. ส่ือการเรยี นรู้/แหล่งเรียนรู้

13.1สื่อการเรยี นรู้

- ชดุ กิจกรรมวิทยาศาสตร์ตามแนวคิดโยนโิ สมนสิการ เร่อื ง การใช้ความรู้ทางเคมีในการแก้ปญั หา

- ส่อื ppt

13.2แหลง่ เรียนรู้

1) อินเตอรเ์ น็ต 2) หอ้ งสมดุ

14. บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู้

ผลการสอน รายละเอียด

1. ด้านความรู้ : ......................................................................................

- วธิ กี ารทางวิทยาศาสตร์ ......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

2. ด้านกระบวนการ : ......................................................................................

- ทักษะกระบวนการคิดแก้ปญั หา ......................................................................................

- ทักษะกระบวนการคดิ อย่างมี ......................................................................................
......................................................................................
วิจารณญาณ
- ทักษะกระบวนการกลุ่ม ......................................................................................
......................................................................................

......................................................................................

3. ดา้ นคุณธรรมจริยธรรมและค่านยิ ม ......................................................................................

อนั พึงประสงค์ : ......................................................................................

- มีวินัย ......................................................................................

- ใฝ่เรยี นรู้ ......................................................................................

- อยู่อย่างพอเพียง ......................................................................................

5

- รกั ความเป็นไทย ......................................................................................

4. ปัญหาการสอน

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

5. วธิ แี กป้ ัญหา

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

ลงช่ือ........................................ครูผู้สอน ลงชื่อ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระฯ
(.นางสาวอโนชา...อทุ มุ สกลุ รตั น์..) (นางกณิการ์ พฒั รากลุ )

ลงชื่อ...........................................
(นางรพีพร คำบุญมา)

รองผู้อำนวยการกลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ

ลงชื่อ ........................................................
(นายสรุ ยิ ันต์ เหล่ามะลึก)

ผอู้ ำนวยการโรงเรียนสวุ รรณารามวิทยาคม

6

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2

หน่วยการเรยี นรู้ท.ี่ 2.การบูรณาการความรใู้ นการแกป้ ญั หา...เรือ่ ง..…..กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม….
รายวิชา……..............เคมี…6........ ............รหสั วิชา…..............ว 30226......................ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่.ี ...6.....
กลุ่มสาระการเรียนรู้..วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี . ปีการศึกษา… 2564...ภาคเรยี นท.ี่ .2...เวลา...15...ช่ัวโมง…
ผู้สอน.........................นางสาวอโนชา...อทุ ุมสกุลรัตน์.........................................................................................

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ (รายวชิ าพื้นฐานมที ้ังมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชวี้ ดั
รายวิชาเพม่ิ เติมมเี ฉพาะมาตรฐานการเรียนรู้และผลการเรยี นรู้)

1.1 มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระเคมี 3 : เขา้ ใจหลักการทำปฏิบัติการเคมี การวดั ปริมาณสาร หน่วยวดั และการเปล่ียนหนว่ ย

การคำนวณปรมิ าณของสาร ความเข้มข้นของสารละลาย รวมทัง้ การบรู ณาการ ความรู้และทกั ษะในการ
อธิบายปรากฏการณใ์ นชีวติ ประจำวนั และการแก้ปัญหา ทางเคมี

1.2 ผลการเรียนรู้
ข้อที่ 2 แสดงหลักฐานถงึ การบรู ณาการความร้ทู างเคมรี ว่ มกบั สาขาวิชาอน่ื รวมท้งั ทกั ษะกระบวนการ

ทางวิทยาศาสตรห์ รือกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม โดยเนน้ การคิดวเิ คราะห์ การแก้ปญั หาและความคิด
สรา้ งสรรค์ เพ่ือแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือประเด็นทส่ี นใจ
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด (หลอมจากผลการเรียนรู้ทใี่ ช้ในหน่วยการเรยี นรนู้ ีเ้ ขยี นเป็นแบบความ
เรยี ง)

กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เป็นขั้นตอนท่ีนำมาใช้ในดำเนินการเพ่ือแก้ปัญหาหรือสนอง
ความตอ้ งการ ซึ่งกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมนจ้ี ะเร่ิมจากการระบปุ ัญหาทีพ่ บแลว้ กำหนดเป็นปญั หาท่ี
ต้องการแก้ไข จากน้ันจึงทำการค้นหาแนวคิดท่ีเก่ียวข้องและทำการวิเคราะห์เพื่อเลือกวิธีการท่ีเหมาะสม
สำหรับการแก้ไข เม่ือได้วิธีการที่เหมาะสมแล้วจึงทำการวางแผนและพัฒนาสิ่งของเคร่ืองใช้หรือวิธีการ เมื่อ
สร้างช้ินงานหรือวิธีการเรียบร้อยแล้วจึงนำไปทดสอบ หากมีข้อบกพร่องก็ให้ทำการปรับปรุงแก้ไขเพ่ือให้
ส่ิงของเคร่ืองใช้หรือวิธีการนั้นสามารถใช้แก้ไขปัญหาหรือสนองความต้องการได้ ส่วนในตอนสุ ดท้ายจะ
ดำเนินการประเมนิ ผลว่าส่ิงของเครอื่ งใช้หรอื วิธกี ารน้ันจะสามารถใชแ้ ก้ปญั หาหรอื สนองความตอ้ งการได้ตามท่ี
กำหนดไว้หรอื ไม่ ดังนนั้ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมจึงประกอบดว้ ย 6 ข้นั ตอน ดงั น้ี

ขน้ั ที่ 1 ระบปุ ัญหา (Problem Identification)
ขนั้ ท่ี 2 รวบรวมข้อมลู และแนวคดิ ที่เกย่ี วขอ้ งกับปญั หา (Related Information Search)
ขัน้ ท่ี 3 ออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหา (Solution Design)
ข้ันที่ 4 วางแผนและดำเนนิ การแกป้ ัญหา (Planning and Development)
ขน้ั ท่ี 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแกไ้ ขวิธกี ารแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน (Testing, Evaluation
and Design Improvement)
ข้ันท่ี 6 นำเสนอวธิ กี ารแกป้ ัญหา ผลการแกป้ ัญหาหรือชนิ้ งาน (Presentation)
3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง/สาระการเรียนร้เู พิ่มเตมิ (รายวิชาเพิม่ เติม)

7

• การศกึ ษาและการแก้ปัญหาในสถานการณ์หรอื ประเดน็ ที่สนใจทำไดโ้ ดยการบูรณาการความรู้ทางเคมี

รว่ มกบั วทิ ยาศาสตรแ์ ขนงอืน่ รวมทงั้ คณติ ศาสตรเ์ ทคโนโลยีและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือ

กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม โดยเนน้ การคดิ วเิ คราะหแ์ กป้ ญั หาและความคดิ สรา้ งสรรค์

3.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถ่ิน (ถ้าในคำอธิบายรายวชิ าพดู ถึงหลกั สูตรทอ้ งถ่นิ ใหใ้ ส่ลงไปด้วย

...............................................................-...........................................................................................

4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. อธบิ ายวิธกี ารทางวิทยาศาสตร์หรอื กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม (K)

2. ออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้การบรู ณาการความรู้ทางเคมรี ว่ มกับศาสตร์อนื่ แกป้ ัญหา

สถานการณห์ รอื ประเดน็ ทสี่ นใจ (P)

3. ต้งั ใจเรยี นรู้และแสวงหาความรู้ (A)

5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน (เลือกเฉพาะขอ้ ทีเ่ กดิ ในหน่วยการเรียนรู้น)ี้

 1. ความสามารถในการสือ่ สาร  2. ความสามารถในการคิด
 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา  4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (เลือกเฉพาะข้อทเ่ี กิดในหนว่ ยการเรียนรู้น้)ี

 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  2. ซือ่ สัตย์สุจริต

 3. มวี ินัย  4. ใฝ่เรียนรู้
 5. อยู่อย่างพอเพียง  6. มงุ่ มั่นในการทำงาน
 7. รักความเปน็ ไทย  8. มีจิตสาธารณะ
7. ดา้ นคณุ ลกั ษณะของผ้เู รียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

 1. เปน็ เลิศวิชาการ  2. สื่อสารสองภาษา  3. ลำ้ หน้าทางความคิด

 4. ผลติ งานอยา่ งสร้างสรรค์  5. รว่ มกนั รับผิดชอบต่อสังคมโลก
8. ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21 คอื การเรียนรู้ 3R X 8C 2L

 R1 –Reading (อ่านออก)  R2-(W) Ringting (เขยี นได)้  R3- (A) Rithmetics (คดิ เลขเปน็ )
 ทักษะด้านการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem
Solving)

 ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)

 ทกั ษะดา้ นความเข้าใจความตา่ งวัฒนธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)

 ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทมี และภาวะผนู้ ำ (Collaboration, Teamwork and
Leadership)

 ทกั ษะด้านการสือ่ สาร สารสนเทศและรู้เทา่ ทันสอ่ื (Communications, Information, and Media Literacy)
 ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT
Literacy)

 ทักษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)
 ความมีเมตตา (วนิ ัย คุณธรรม จรยิ ธรรม (Compassion)

9. บูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

1. หลักความพอประมาณ : กำหนดจำนวนสมาชิกในกลมุ่ ใหเ้ หมาะสมกับจำนวนสมาชกิ ในห้องเรียนคอื

ประมาณกลุ่มละ 4 – 6 คน

8

2. หลักความมเี หตุผล : ใหน้ กั เรยี นสร้างสรรค์ผลงานและเกดิ ทักษะการปฏิบตั ิ , เลือกใช้สารเคมีได้อย่าง

คุ้มคา่

3. หลกั ภูมิค้มุ กัน : ใหน้ กั เรียนเกดิ ทักษะการทำงานกลมุ่ และกล้าแสดงออก

4. เงอ่ื นไขความรู้ : การวางแผนงานทีจ่ ะทำกอ่ นแลว้ ค่อยลงมือทำอยา่ งระมดั ระวงั , เขยี นสมการการ

เปล่ียนแปลงจากการทดลอง

5. เง่ือนไขคณุ ธรรม : อดทนที่จะทำงาน และมคี วามขยันทจ่ี ะทำงานใหอ้ อกมาได้ดีทีส่ ุด , มวี ินยั ในการ

ทำการทดลอง

10. ชนิ้ งาน/ภาระงานรวบยอด

ผลการเรียนรู้ ชนิ้ งาน ภาระงาน

2 - รายงานผลการทดลอง เร่ือง สายไฟ - การอภปิ รายผลการทดลอง

แปง้ โดว์

11. การวัดประเมนิ ผล

11.1 การวัดและประเมินผลช้ินงาน/ภาระงานรวบยอด

วิธกี าร

1.การสงั เกตการณ์

2.การใช้ชุดกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์รอ่ งรอยบง่ ชี้ 3.การวดั ประเมินการปฏิบัติ

เครอ่ื งมอื

1. แบบสังเกตการณ์

2. ชุดกจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์ 3. แบบวัดประเมนิ การปฏบิ ตั ิ

เกณฑ์

1.การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)

2.การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผ่าน 1

รายการถือว่า ไมผ่ ่าน

11.2 การวดั และประเมินผลระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (ประเมนิ จากแผนการจดั การเรยี นรขู้ อง

หน่วยการเรยี นรนู้ )้ี

ส่งิ ทีต่ ้องการวดั วิธวี ดั ผล เคร่อื งมือวดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ

1. ความรเู้ กยี่ วกับ -การสอบถาม ซักถาม - แบบประเมินการ - นกั เรียนไดค้ ะแนน

- กระบวนการออกแบบเชิง ความคิดเหน็ อภิปรายแสดงความ 12 คะแนนขึน้ ไป

วศิ วกรรม -การตอบคำถาม คิดเห็น หรอื ร้อยละ 80

-การอภปิ รายและ ถอื ว่าผ่านเกณฑ์

รายงานผลการทำ - แบบประเมนิ การ - นกั เรยี นไดค้ ะแนน

กิจกรรม ตรวจผลงานนักเรียน ประเมนิ ผลงาน

-การตรวจผลงาน 13 คะแนนขนึ้ ไป

นกั เรียน หรือรอ้ ยละ 80

ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

2.ทักษะกระบวนการคิดอย่างมี - การอภปิ รายแสดง - แบบประเมนิ การ -นกั เรยี นได้คะแนน

วิจารณญาณ ทกั ษะการแกป้ ญั ความคิดเห็น อภิปรายแสดงความ 12 คะแนนขน้ึ ไป

9

หา และทักษะกระบวนการ - สงั เกตพฤติกรรมการ คดิ เหน็ หรอื ร้อยละ 80 ถือว่า

กลุ่ม ทำงานกลุ่ม - แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์

พฤติกรรมการ

ทำงานกลมุ่

3. คุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ - สงั เกตค่านิยมในการ - แบบประเมนิ - นกั เรียนได้คะแนน

และสมรรถนะผ้เู รียน ทำงานร่วมกบั ผูอ้ นื่ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประเมินคณุ ลกั ษณะ

- มวี ินยั ในการทำงานกล่มุ และการทำงานใน ประสงค์ อนั พงึ ประสงค์

- นกั เรยี นเห็นความสำคัญ ระบบกลุม่ - แบบประเมิน 26 คะแนนข้นึ ไป

ของการทำงานร่วมกับผูอ้ ืน่ และ อภิปราย แสดงความ สมรรถนะผ้เู รยี น หรอื รอ้ ยละ 80

การทำงานในระบบกลุ่ม คิดเห็นเก่ียวกับผลการ -แบบทดสอบ ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

- ยอมรับความคิดเหน็ ซึง่ กนั ทดลอง Rubin’s Self - นักเรียนได้คะแนน

และกนั มีความเสยี สละและ Esteem Scale การประเมนิ สมรรถนะ

อดทน 29 คะแนนขึน้ ไป

- นักเรียนมีการเหน็ คุณค่าใน หรือรอ้ ยละ 80

ตนเอง (Self-esteem) ถือว่าผ่านเกณฑ์

12. กจิ กรรมการเรียนรู้

ชัว่ โมงท่ี 1-6

1. ข้ันตงั้ ประเด็นปัญหา/สมมติฐาน (Hypothesis Formulation)

1.1 ครใู ห้ความร้วู ่า ในการแกป้ ัญหานอกจากจะใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์แล้ว ยงั สามารถ

ใชก้ ระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมได้อกี ด้วย จากนั้นใช้คำถามนำวา่ กระบวนการออกแบบเชงิ

วิศวกรรมมขี ั้นตอนแตกตา่ งจากวิธีการทางวทิ ยาศาสตร์หรือไม่ เพ่อื นำเข้าสู่กิจกรรม “สายไฟแป้งโดว์”

2. ขั้นสบื ค้นความรู้ (Searching for Information)

2.1 แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 4- 5 คน แต่ละกลุ่มมีนักเรียนเก่ง ปานกลาง อ่อน คละกัน

ใหน้ ักเรียนทำกิจกรรม สายไฟแป้งโดว์ ตามรายละเอียดในชดุ กิจกรรม

2.2 ครูอธิบายเง่ือนไขเกี่ยวกับความสว่างของหลอด LED ว่า ควรเห็นจุดสว่างท้ังด้านบนและ

ดา้ นล่าง เมอื่ มองจากดา้ นข้างของหลอด LED ดังรูป 1 แต่หากมจี ดุ สว่างเฉพาะด้านล่างเมื่อสังเกตจากด้านขา้ ง

ของหลอด LED ดงั รปู 2 ถือว่ายงั ไม่สว่าง

2.3 ครูชีใ้ ห้เห็นว่า เนื่องจากหลอด LED แต่ละชนิด และแป้งโดวแ์ ตล่ ะสูตร อาจให้ผลการทดลอง
ที่ควรทำการทดสอบก่อน เพ่ือให้ม่ันใจว่า หลอด LED สว่างเม่ือต่อด้วยสายไฟที่ต่อกับคลิปปากจระเข้แต่ไม่
สวา่ งเม่ือตอ่ ด้วยแป้งโดว์

10

แตกต่างกัน นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มไม่สามารถขอแป้งโดวแ์ ละสารเคมที ้ังหมดเพิม่ ได้
3. ขนั้ สรปุ องคค์ วามรู้ (Knowledge Formation)
3.1 นกั เรยี นและครรู ่วมกนั อภปิ รายและสรุปผลการทดลองโดยใช้ชดุ กจิ กรรมประกอบ
3.2 ครูครูช้ใี ห้เหน็ วา่ การตอ่ วงจรไฟฟา้ ในกิจกรรม เปน็ แบบอนกุ รม จากนนั้ ใหค้ รูสาธติ การใช้

แป้งโดวท์ ีน่ ำไฟฟ้ามาตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบขนาน ดงั รูป แลว้ ให้นักเรยี นเปรียบเทยี บความสวา่ งของหลอด LED

3.3 ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ ร่วมกันอภปิ ราย ตรวจความถกู ต้อง ตอบคำถามข้อสงสัยต่าง ๆ
3.4 ให้นักเรยี นช่วยกันเฉลยคำตอบพรอ้ มท้ังให้เหตผุ ล
3.5 ครูและนักเรียนร่วมกนั อภิปรายผลท่เี กดิ ข้นึ เพ่อื ใหไ้ ด้ข้อสรปุ ว่า การตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบขนาน
และอนุกรมมีผลต่อความสว่างของหลอด LED โดยหากต่อหลอด LED แบบขนานจะทำให้มีความสว่าง
มากกว่าการต่อแบบอนุกรม เนื่องจากการต่อแบบขนานจะทำให้หลอด LED ท้ังสองหลอดมีความต่างศักย์
เท่ากับความต่างศักย์ของแหล่งกำเนดิ ไฟฟ้า ส่วนการต่อแบบอนุกรม ความต่างศักย์ของแหล่งกำเนดิ ไฟฟ้าจะ
ถูกแบง่ ออกให้แต่ละหลอด ทำใหม้ ีความสว่างน้อยลง ตามรายละเอียดในชุดกิจกรรม
3.6 ครชู ใี้ ห้เหน็ วา่ การบรู ณาความรจู้ ากหลาย ๆ ศาสตร์ จะช่วยใหแ้ กป้ ัญหาได้อยา่ งมปี ระสิทธิ
ภาพมากขนึ้ เช่น ในกิจกรรม หากใช้ความร้เู ร่ือง การต่อวงจรไฟฟา้ รว่ มกับความร้เู รื่องสารละลายอิเลก็ โทรไลต์
จะช่วยให้สามารถสรา้ งสายไฟจากแป้งโดว์โดยใช้สารเคมีน้อยลงได้
ชั่วโมงที่ 7-15
4. ขน้ั การสื่อสารและนำเสนอ (Effective Communication)
4.1 วธิ ีการทางวิทยาศาสตร์และกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมมีสว่ นของวัตถปุ ระสงค์และ
ข้นั ตอนท่เี หมอื นและต่างกันอย่างไร
4. ครเู ชือ่ มโยงขัน้ ตอนที่ได้ดำเนินการในกจิ กรรมกับการอธิบายรายละเอียดแต่ละข้นั ตอนของ
กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมตามรายละเอยี ดในชดุ กจิ กรรม โดยใชร้ ูปประกอบการอธบิ ายดังนี้

11

5. ข้ันการบริการสงั คมและสาธารณะ (Public Service)

5.1 ครกู ำหนดสถานการณ์ “แก้ปัญหามลพษิ ทางอากาศ ลดการใช้น้ำมนั ” ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่ม

แกป้ ัญหาดังกลา่ วโดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ออกมามานำเสนอแสดงถงึ จุดเดน่ จดุ ด้อยของ

กลุ่มตวั เองเม่อื ได้ทำกิจกรรมมาจนครบกระบวนการ

5.2 รว่ มกนั คัดเลือกผลงานที่ดที ี่สุดในชน้ั เรยี น

13. สอื่ การเรียนรู้/แหล่งเรยี นรู้

13.1สอ่ื การเรียนรู้

- ชุดกจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์ตามแนวคดิ โยนิโสมนสิการ เร่ือง การบรู ณาการความรู้ในการแกป้ ญั หา

- สอ่ื ppt

13.2 แหล่งเรียนรู้

1) อนิ เตอรเ์ นต็ 2) หอ้ งสมดุ

14. บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู้

ผลการสอน รายละเอียด

1. ด้านความรู้ : ......................................................................................

- กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม ......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

2. ดา้ นกระบวนการ : ......................................................................................

- ทกั ษะกระบวนการคิดแก้ปัญหา ......................................................................................

- ทกั ษะกระบวนการกลมุ่ ......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

3. ดา้ นคุณธรรมจริยธรรมและคา่ นยิ ม ......................................................................................

อันพึงประสงค์ : ......................................................................................

- มีวินัย - การเกดิ self esteem ......................................................................................

- ใฝเ่ รียนรู้ ......................................................................................

- อยู่อย่างพอเพียง ......................................................................................

- รกั ความเปน็ ไทย ......................................................................................

4. ปญั หาการสอน

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

......................................................................................

12

5. วธิ ีแก้ปญั หา
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................

ลงช่ือ........................................ครูผู้สอน ลงช่ือ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระฯ
(.นางสาวอโนชา...อุทมุ สกุลรตั น์..) (นางกณิการ์ พฒั รากลุ )

ลงช่ือ...........................................
(นางรพีพร คำบุญมา)

รองผู้อำนวยการกลมุ่ บริหารวิชาการ

ลงช่ือ ........................................................
(นายสรุ ยิ นั ต์ เหลา่ มะลึก)

ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นสวุ รรณารามวิทยาคม

13

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่.2.การบรู ณาการความรู้ในการแกป้ ญั หา...เรือ่ ง..…..การบูรณาการความรู้ในการแกป้ ญั หา….
รายวชิ า……..............เคมี…6........ ............รหัสวิชา…..............ว 30226......................ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี....6.....

กลุ่มสาระการเรยี นรู้..วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.. ปีการศกึ ษา… 2564...ภาคเรยี นที่..2...เวลา...15...ชว่ั โมง…
ผสู้ อน.........................นางสาวอโนชา...อุทมุ สกุลรตั น์.........................................................................................

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั /ผลการเรียนรู้ (รายวิชาพน้ื ฐานมที ั้งมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชวี้ ดั

รายวิชาเพิม่ เติมมเี ฉพาะมาตรฐานการเรยี นร้แู ละผลการเรยี นร)ู้

1.1 มาตรฐานการเรยี นรู้

สาระเคมี 3 : เขา้ ใจหลักการทำปฏิบตั กิ ารเคมี การวดั ปริมาณสาร หน่วยวดั และการเปลี่ยนหน่วย

การคำนวณปรมิ าณของสาร ความเข้มข้นของสารละลาย รวมท้งั การบูรณาการ ความรแู้ ละทักษะในการ

อธิบายปรากฏการณใ์ นชีวิตประจำวนั และการแก้ปัญหา ทางเคมี

1.2 ผลการเรียนรู้

ขอ้ ท่ี 2 แสดงหลกั ฐานถึงการบูรณาการความรทู้ างเคมีร่วมกบั สาขาวิชาอน่ื รวมทง้ั ทักษะกระบวนการ

ทางวทิ ยาศาสตร์หรอื กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม โดยเนน้ การคดิ วเิ คราะห์ การแก้ปญั หาและความคดิ

สร้างสรรค์ เพื่อแก้ปญั หาในสถานการณ์หรอื ประเด็นทีส่ นใจ

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (หลอมจากผลการเรียนรู้ทใ่ี ช้ในหนว่ ยการเรียนรู้น้ีเขียนเป็นแบบความ

เรียง)

ส่ิงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันนั้นจะเป็นสิ่งที่เกี่ยวเน่ืองสัมพันธ์กันกับศาสตร์ในสาขาต่างๆ

ผสมผสานกัน ทักษะจากหลายๆ ศาสตร์มาแกป้ ญั หาได้กับชีวิตจริง

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง/สาระการเรยี นรู้เพิม่ เตมิ (รายวชิ าเพ่มิ เตมิ )

• การศกึ ษาและการแก้ปญั หาในสถานการณห์ รอื ประเด็นทีส่ นใจทำได้โดยการบรู ณาการความรู้ทางเคมี

รว่ มกบั วทิ ยาศาสตร์แขนงอืน่ รวมท้ังคณิตศาสตรเ์ ทคโนโลยีและทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์หรอื

กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม โดยเนน้ การคดิ วเิ คราะห์แก้ปัญหาและความคดิ สร้างสรรค์

3.2 สาระการเรยี นรูท้ ้องถ่นิ (ถ้าในคำอธบิ ายรายวิชาพูดถึงหลักสูตรท้องถิน่ ให้ใส่ลงไปดว้ ย

...............................................................-...........................................................................................

4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. อธิบายความรเู้ กย่ี วกับกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม (K)

2. เลือกสถานการณ์ปญั หาหรือประเดน็ ทส่ี นใจและออกแบบแนวทางการแกป้ ญั หาโดยการบรู ณาการ

ความรทู้ างเคมกี ับความรใู้ นศาสตร์อืน่ (P)

3. เหน็ คุณค่าทางวิทยาศาสตร์ ตั้งใจเรียนรูแ้ ละแสวงหาความรู้ (A)

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น (เลือกเฉพาะข้อทเี่ กดิ ในหนว่ ยการเรยี นร้นู ้ี)

 1. ความสามารถในการสื่อสาร  2. ความสามารถในการคดิ
 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา  4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

14

6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (เลอื กเฉพาะข้อที่เกิดในหน่วยการเรยี นรู้น)ี้

 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  2. ซ่ือสัตยส์ ุจริต

 3. มวี นิ ยั  4. ใฝเ่ รียนรู้
 5. อยู่อย่างพอเพียง  6. มงุ่ มั่นในการทำงาน
 7. รักความเป็นไทย  8. มจี ติ สาธารณะ
7. ดา้ นคณุ ลกั ษณะของผู้เรียนตามหลกั สูตรมาตรฐานสากล

 1. เปน็ เลิศวชิ าการ  2. ส่ือสารสองภาษา  3. ล้ำหน้าทางความคิด

 4. ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์  5. รว่ มกนั รบั ผดิ ชอบตอ่ สังคมโลก
8. ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ 21 คอื การเรียนรู้ 3R X 8C 2L

 R1 –Reading (อ่านออก)  R2-(W) Ringting (เขยี นได้)  R3- (A) Rithmetics (คดิ เลขเป็น)
 ทักษะดา้ นการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem

Solving)

 ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)

 ทักษะด้านความเข้าใจความตา่ งวฒั นธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)

 ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and
Leadership)

 ทกั ษะดา้ นการสื่อสาร สารสนเทศและรเู้ ทา่ ทันสื่อ (Communications, Information, and Media Literacy)
 ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing and ICT iteracy)
 ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning)

9. บูรณคากวาามรตมาเี มมตหตลาัก(ปวรินัชัยญคาุณขธอรงรเมศรจษรฐยิ กธจิรรพมอเ(พCoียmง passion)

1. หลกั ความพอประมาณ : กำหนดจำนวนสมาชกิ ในกลมุ่ ให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในหอ้ งเรียนคอื

ประมาณกลุ่มละ 4 – 6 คน

2. หลกั ความมเี หตผุ ล : ให้นกั เรียนสรา้ งสรรค์ผลงานและเกิดทักษะการปฏิบตั ิ , เลือกใช้สารเคมีไดอ้ ย่าง

ค้มุ ค่า

3. หลักภมู ิคมุ้ กนั : ใหน้ ักเรียนเกิดทักษะการทำงานกลุ่ม และกล้าแสดงออก

4. เง่อื นไขความรู้ : การวางแผนงานท่ีจะทำก่อนแล้วคอ่ ยลงมือทำอย่างระมดั ระวงั , เขียนสมการการ

เปล่ียนแปลงจากการทดลอง

5. เง่ือนไขคณุ ธรรม : อดทนทจี่ ะทำงาน และมีความขยันท่จี ะทำงานใหอ้ อกมาไดด้ ที ส่ี ดุ , มวี นิ ัยในการ

ทำการทดลอง

10. ช้ินงาน/ภาระงานรวบยอด

ผลการเรียนรู้ ชิน้ งาน ภาระงาน

2 -รายงานกิจกรรม การแก้ปัญหาโดย - การอภิปรายผลการแก้ปัญหา

การบูรณาการความรู้

11. การวัดประเมนิ ผล
11.1การวัดและประเมินผลชนิ้ งาน/ภาระงานรวบยอด
วิธีการ

15

1.การสังเกตการณ์

2.การใชช้ ุดกิจกรรมวิทยาศาสตรร์ อ่ งรอยบง่ ชี้ 3.การวดั ประเมนิ การปฏิบัติ

เครอื่ งมอื

1. แบบสงั เกตการณ์

2. ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ 3. แบบวดั ประเมินการปฏบิ ัติ

เกณฑ์

1.การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics)

2.การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้ังแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น ผ่าน 1

รายการถอื ว่า ไม่ผ่าน

11.2 การวดั และประเมินผลระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (ประเมนิ จากแผนการจดั การเรยี นรขู้ อง

หน่วยการเรียนรนู้ ี)้

ส่งิ ท่ตี ้องการวดั วธิ ีวดั ผล เคร่ืองมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมนิ

1. ความรเู้ กยี่ วกับ -การสอบถาม ซกั ถาม - แบบประเมินการ - นักเรยี นได้คะแนน

- กระบวนการออกแบบเชิง ความคดิ เห็น อภิปรายแสดงความ 12 คะแนนขึน้ ไป

วิศวกรรม -การตอบคำถาม คิดเห็น หรอื รอ้ ยละ 80

-การอภปิ รายและ ถือว่าผ่านเกณฑ์

รายงานผลการทำ - แบบประเมนิ การ - นกั เรียนไดค้ ะแนน

กิจกรรม ตรวจผลงานนักเรยี น ประเมินผลงาน

-การตรวจผลงาน 13 คะแนนขึ้นไป

นักเรียน หรอื ร้อยละ 80

ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์

2.ทักษะกระบวนการคิดอย่างมี - การอภปิ รายแสดง - แบบประเมินการ -นกั เรียนได้คะแนน

วจิ ารณญาณ ทักษะการแกป้ ญั ความคดิ เห็น อภิปรายแสดงความ 12 คะแนนขึ้นไป

หา และทักษะกระบวนการ - สังเกตพฤตกิ รรมการ คดิ เหน็ หรือร้อยละ 80 ถอื วา่

กลมุ่ ทำงานกลมุ่ - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์

พฤตกิ รรมการ

ทำงานกลุ่ม

3. คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ - สังเกตค่านิยมในการ - แบบประเมิน - นักเรียนไดค้ ะแนน

และสมรรถนะผู้เรยี น ทำงานรว่ มกับผู้อ่นื คณุ ลกั ษณะอันพึง ประเมินคณุ ลักษณะ

- มีวนิ ยั ในการทำงานกลมุ่ และการทำงานใน ประสงค์ อันพึงประสงค์

- นักเรียนเหน็ ความสำคญั ระบบกล่มุ - แบบประเมิน 26 คะแนนข้นึ ไป

ของการทำงานร่วมกับผอู้ นื่ และ อภิปราย แสดงความ สมรรถนะผูเ้ รยี น หรอื ร้อยละ 80

การทำงานในระบบกลุ่ม คิดเหน็ เกย่ี วกับผลการ -แบบทดสอบ ถือว่าผ่านเกณฑ์

- ยอมรับความคดิ เห็นซ่ึงกัน ทดลอง Rubin’s Self - นักเรยี นได้คะแนน

และกนั มีความเสียสละและ Esteem Scale การประเมนิ สมรรถนะ

อดทน 29 คะแนนข้นึ ไป

- นกั เรียนมีการเหน็ คุณค่าใน หรอื ร้อยละ 80

ตนเอง (Self-esteem) ถือว่าผ่านเกณฑ์

16

12. กจิ กรรมการเรียนรู้
ชวั่ โมงที่ 1

1. ขนั้ ต้ังประเด็นปญั หา/สมมติฐาน (Hypothesis Formulation)
1.1 ครูมอบหมายให้นักเรียนสำรวจปญั หาท่ีเกดิ ขนึ้ ใน โรงเรียน ท้องถน่ิ จังหวดั ประเทศ หรือ

ระดับโลกและ สบื ค้นขอ้ มูลประกอบ จากน้ันเลือกสถานการณป์ ญั หา โดยหากเนน้ วธิ กี ารทางวิทยาศาสตรค์ วร
มีการตง้ั คำถาม แตห่ ากเน้นกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมควรระบปุ ัญหาและเงอื่ นไขให้ชดั เจน

ชั่วโมงท่ี 2-4

2. ขั้นสืบคน้ ความรู้ (Searching for Information)
2.1 ครูให้นักเรียนนำเสนอสถานการณ์ปัญหาท่ีนักเรียนสนใจจะแก้ไข พร้อมข้อมูลสนับสนุน

เพื่อให้เหน็ ความสำคญั ของปัญหา
2.2 นำเสนอคำถามหรือปัญหาและ เง่ือนไข ครคู วรวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการตอบคำถาม

หรอื แก้ปญั หานัน้

2.3 ครูมอบหมายให้นักเรียน สืบค้นข้อมูลท่ีเก่ียวข้องโดยครูอาจแนะนำแหล่งสืบค้น ข้อมูล
เพ่ิมเติม

ช่วั โมงท่ี 5-7
3. ขน้ั สรปุ องค์ความรู้ (Knowledge Formation)

3.1 ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มนำข้อมูลทไ่ี ด้จากการสืบค้นมาอภปิ รายร่วมกนั ภายในกลุ่ม

3.2 โดยครใู หค้ ำแนะนำในกล่มุ ท่มี ีขอ้ สงสัยหรอื ต้องการความชว่ ยเหลือ
ชัว่ โมงที่ 8-15

4. ขน้ั การสอื่ สารและนำเสนอ (Effective Communication)
4.1 ครูใหน้ ักเรยี นกำหนดวัตถปุ ระสงค์ ขอบเขตของงานและ ออกแบบวธิ ีดำเนินการหลงั จากทไ่ี ด้

ขอ้ มลู เพยี งพอแล้ว

- หากเน้นวิธีการทางวิทยาศาตร์หลังจากต้ังคำถาม และสบื ค้นขอ้ มลู แล้ว ให้นกั เรยี นตง้ั
สมมตฐิ าน กำหนดตัวแปร และออกแบบวิธกี ารตรวจสอบสมมติฐาน

- หากเนน้ กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมหลงั ระบุ ปญั หาและสืบค้นข้อมูลแล้ว ให้
นกั เรียนออกแบบ วิธีการแกป้ ัญหา

4.2 ครใู หน้ ักเรียนนำเสนอแนวทางการแกป้ ญั หาทีไ่ ด้ ออกแบบไว้

- หากเน้นวธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์ ครูวเิ คราะห์ว่าสมมติฐาน และตวั แปรต่าง ๆ ทนี่ ักเรยี น
กำหนดขนึ้ มีความสอดคล้องกบั คำถามหรือไม่ วิธีการตรวจสอบสมมติฐานสอดคล้องกับสมมตฐิ านและเป็น

แนวทางนำไปสกู่ ารตอบคำถามไดห้ รอื ไม่ โดยครอู าจใหข้ อ้ เสนอแนะเพิ่มเตมิ ในการปรบั ปรุงแก้ไข
- หากเนน้ กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม ครวู ิเคราะหว์ า่ วิธีการแก้ปัญหาทน่ี กั เรยี น

ออกแบบไว้ สอดคล้องกับปัญหาและนำไปสแู่ นวทางการแกป้ ัญหาได้หรอื ไม่ โดยครอู าจใหข้ ้อเสนอแนะ

เพิม่ เตมิ ในการปรบั ปรุงแกไ้ ข
4.3 ครใู หน้ ักเรยี นดำเนินการแก้ปญั หาตามทไ่ี ด้ออกแบบ วธิ กี ารไว้ โดยครูอำนวยความสะดวก

เกย่ี วกบั อุปกรณ์ สารเคมี และสถานท่ีสำหรบั ทำปฏิบัติการ และคอยให้ คำแนะนำปรึกษา รวมท้งั กระตุ้นให้
นกั เรียนใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรร์ ะหว่างดำเนินการแกป้ ัญหา

5. ข้นั การบริการสงั คมและสาธารณะ (Public Service)

17

5.1 ครูให้นกั เรียนนำผลการดำเนินการมาปรกึ ษาหารอื เพื่อใหค้ ำแนะนำเก่ียวกบั การสรุปผลการ

ดำเนนิ การ

5.2 ร่วมกันคัดเลอื กผลงานทีด่ ที ่ีสดุ ในชัน้ เรยี น

13. สอ่ื การเรียนรู้/แหลง่ เรียนรู้

13.1สอื่ การเรยี นรู้

- ชดุ กจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์ตามแนวคดิ โยนโิ สมนสิการ เรื่อง การบูรณาการความรู้ในการแก้ปัญหา

- สือ่ ppt

13.2แหลง่ เรียนรู้

1) อนิ เตอรเ์ น็ต 2) หอ้ งสมดุ

14. บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู้

ผลการสอน รายละเอียด

1. ด้านความรู้ : ......................................................................................

- การบรู ณาการความรู้ในการแก้ปญั หา ......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

2. ดา้ นกระบวนการ : ......................................................................................

- ทกั ษะกระบวนการคดิ แกป้ ัญหา ......................................................................................

- ทกั ษะกระบวนการกลมุ่ ......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

3. ดา้ นคณุ ธรรมจริยธรรมและค่านิยม ......................................................................................

อันพึงประสงค์ : ......................................................................................

- มวี ินัย - การเกิด self esteem ......................................................................................

- ใฝ่เรียนรู้ ......................................................................................

- อยู่อย่างพอเพียง ......................................................................................
- รักความเปน็ ไทย
......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

.....................................................................................

4. ปัญหาการสอน

18

....................................................................... .....................................................................................
....................................................................... .....................................................................................
....................................................................... .....................................................................................
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................

......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................

5. วิธแี กป้ ญั หา
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................

ลงชอ่ื ........................................ครูผูส้ อน ลงช่อื ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระฯ
(.นางสาวอโนชา...อุทุมสกุลรัตน.์ .) (นายสรุ จักริ์ แกว้ ม่วง.)

ลงชอ่ื ...........................................
(นางรพีพร คำบญุ มา)

รองผู้อำนวยการกลุม่ บริหารวชิ าการ

ลงชอื่ ........................................................
(นายสุริยนั ต์ เหลา่ มะลึก)

ผอู้ ำนวยการโรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม

19

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่.3……………..การนำเสนอผลงาน……..……....เรอ่ื ง………..……..การนำเสนอผลงาน…….…….…..
รายวิชา……..............เคมี…6........ ............รหสั วชิ า…..............ว 30226......................ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่....6.....

กลุ่มสาระการเรยี นรู้..วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.. ปีการศกึ ษา… 2564...ภาคเรียนท่.ี .2...เวลา...12...ชวั่ โมง…
ผู้สอน.........................นางสาวอโนชา...อทุ มุ สกุลรัตน์.........................................................................................

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ (รายวิชาพนื้ ฐานมีท้ังมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชวี้ ัด
รายวชิ าเพ่มิ เติมมเี ฉพาะมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละผลการเรียนรู)้

1.1 มาตรฐานการเรียนรู้
สาระเคมี 3 : เข้าใจหลกั การทำปฏิบัติการเคมี การวัดปรมิ าณสาร หนว่ ยวดั และการเปลย่ี นหน่วย

การคำนวณปริมาณของสาร ความเข้มข้นของสารละลาย รวมทัง้ การบรู ณาการ ความรู้และทักษะในการ

อธบิ ายปรากฏการณใ์ นชีวิตประจำวันและการแก้ปัญหา ทางเคมี
1.2 ผลการเรียนรู้

ขอ้ ที่ 3 นำเสนอผลงานหรอื ชิ้นงานทไ่ี ดจ้ ากการแกป้ ญั หาในสถานการณห์ รือประเดน็ ที่สนใจโดยใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศ

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (หลอมจากผลการเรียนรู้ทใ่ี ช้ในหน่วยการเรยี นรู้น้ีเขียนเปน็ แบบความ

เรียง)

การนำเสนอผลงานเป็นการสอ่ื สารเพ่อื สรปุ ให้บุคคลอน่ื ได้รับทราบถึงผลการดำเนนิ การท่ี ผู้นำเสนอ

ได้ศึกษามาการนำเสนอสาระสำคัญของผลงานควรทำให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและเป็นสื่อประกอบอย่าง

เหมาะสมและมีคุณภาพโดยท่ัวไปการนำเสนอผลงานทางวทิ ยาศาสตร์อาจอยู่ในรูปของรายงานการบรรยาย

บทความหรือการแสดงช้ินงานซ่ึงการเข้าใจหลักการในการเตรียมนำเสนอในแต่ละรูปแบบเป็นการส่งเสรมิ ให้

การนำเสนอน้ันมีประสิทธภิ าพมากขนึ้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง/สาระการเรยี นรู้เพิ่มเตมิ (รายวิชาเพมิ่ เติม)

• การนำเสนองานหรือแสดงผลงาน เป็นการเปิดโอกาสให้ผมู้ ีสว่ นร่วมได้แลกเปล่ยี นแนวคดิ ผลงาน รวมท้งั

เพิม่ โอกาสในการพัฒนางานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครือ่ งมือประกอบการนำเสนอ ซงึ่ จะทำใหก้ าร

สอ่ื สารมีประสิทธิภาพมากข้นึ

3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ (ถ้าในคำอธิบายรายวชิ าพดู ถงึ หลกั สูตรท้องถนิ่ ใหใ้ ส่ลงไปด้วย

...............................................................-...........................................................................................

4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธิบายจัดทำรายงานการแกป้ ญั หาโดยการบูรณาการความรู้ (K)

2. นำเสนอผลงานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (P)

3. เหน็ คุณค่าทางวทิ ยาศาสตร์ ต้งั ใจเรยี นรู้และแสวงหาความรู้ (A)

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เลอื กเฉพาะขอ้ ท่เี กดิ ในหนว่ ยการเรยี นรูน้ ้)ี

 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร  2. ความสามารถในการคิด
 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา  4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

20

 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (เลือกเฉพาะข้อทเี่ กิดในหนว่ ยการเรยี นรนู้ )ี้

 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์  2. ซือ่ สตั ย์สุจรติ

 3. มวี ินัย  4. ใฝ่เรียนรู้
 5. อยู่อย่างพอเพยี ง  6. ม่งุ ม่ันในการทำงาน
 7. รักความเป็นไทย  8. มีจติ สาธารณะ
7. ดา้ นคุณลักษณะของผูเ้ รยี นตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

 1. เปน็ เลิศวิชาการ  2. ส่ือสารสองภาษา  3. ล้ำหนา้ ทางความคิด

 4. ผลิตงานอยา่ งสรา้ งสรรค์  5. ร่วมกันรับผิดชอบตอ่ สังคมโลก
8. ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คอื การเรยี นรู้ 3R X 8C 2L

 R1 –Reading (อ่านออก)  R2-(W) Ringting (เขยี นได)้  R3- (A) Rithmetics (คดิ เลขเปน็ )
 ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem
Solving)

 ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)

 ทักษะด้านความเข้าใจความตา่ งวฒั นธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)

 ทกั ษะดา้ นความร่วมมอื การทำงานเปน็ ทีมและภาวะผนู้ ำ (Collaboration, Teamwork and
Leadership)

 ทกั ษะดา้ นการสอ่ื สาร สารสนเทศและร้เู ท่าทันสื่อ (Communications, Information, and Media Literacy)
 ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT
Literacy)

 ทักษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning)
 ความมเี มตตา (วนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม (Compassion)

9. บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

1. หลกั ความพอประมาณ : กำหนดจำนวนสมาชกิ ในกลุม่ ใหเ้ หมาะสมกับจำนวนสมาชิกในหอ้ งเรียนคอื

ประมาณกลุ่มละ 4 – 6 คน
2. หลกั ความมเี หตผุ ล : ใหน้ ักเรียนสรา้ งสรรค์ผลงานและเกดิ ทักษะการปฏิบัติ , เลือกใชส้ ารเคมีได้อยา่ ง

ค้มุ ค่า

3. หลกั ภูมคิ ุม้ กัน : ใหน้ กั เรยี นเกิดทักษะการทำงานกลุ่ม และกล้าแสดงออก
4. เงอื่ นไขความรู้ : การวางแผนงานท่ีจะทำกอ่ นแลว้ ค่อยลงมอื ทำอย่างระมัดระวงั , เขียนสมการการ

เปล่ยี นแปลงจากการทดลอง
5. เง่ือนไขคุณธรรม : อดทนทจ่ี ะทำงาน และมคี วามขยันท่ีจะทำงานให้ออกมาไดด้ ีท่ีสุด , มีวินยั ในการ

ทำการทดลอง
10. ชิ้นงาน/ภาระงานรวบยอด

ผลการเรยี นรู้ ช้ินงาน ภาระงาน

3 -ก า ร น ำ เส น อ รู ป แ บ บ ก า ร เขี ย น - การอภิปรายความรู้เกี่ยวกับรูปแบบ

บรรณานกุ รม และวธิ ีการนำเสนอผลงาน

-รายงานการสืบค้นข้อมูลวิธีการเขียน

อ้างองิ แบบแทรกในเนือ้ หารายงาน

21

11. การวัดประเมนิ ผล

11.1การวดั และประเมนิ ผลชนิ้ งาน/ภาระงานรวบยอด

วิธีการ

1.การสงั เกตการณ์

2.การใชช้ ดุ กิจกรรมวิทยาศาสตรร์ อ่ งรอยบง่ ชี้ 3.การวัดประเมนิ การปฏิบตั ิ

เครื่องมือ

1. แบบสังเกตการณ์

2. ชดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตร์ 3. แบบวัดประเมนิ การปฏบิ ัติ

เกณฑ์

1.การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)

2.การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผา่ นต้ังแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น ผ่าน 1

รายการถือว่า ไม่ผ่าน

11.2 การวดั และประเมินผลระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (ประเมนิ จากแผนการจัดการเรยี นรขู้ อง

หนว่ ยการเรียนรนู้ )้ี

สิง่ ทตี่ ้องการวดั วิธวี ดั ผล เครอื่ งมือวัดผล เกณฑก์ ารประเมนิ

1. ความรเู้ ก่ียวกับ -การสอบถาม ซักถาม - แบบประเมนิ การ - นักเรียนได้คะแนน

- รปู แบบและวิธีการนำเสนอ ความคิดเห็น อภิปรายแสดงความ 12 คะแนนข้นึ ไป

ผลงาน -การตอบคำถาม คิดเหน็ หรอื รอ้ ยละ 80

-การอภปิ รายและ ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

รายงานผลการทำ - แบบประเมินการ - นักเรยี นได้คะแนน

กจิ กรรม ตรวจผลงานนักเรียน ประเมินผลงาน

-การตรวจผลงาน 13 คะแนนขึ้นไป

นกั เรยี น หรอื ร้อยละ 80

ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

2.ทักษะกระบวนการ - การอภิปรายแสดง - แบบประเมินการ -นักเรยี นได้คะแนน

- ทักษะการจัดกระทำและส่ือ ความคิดเห็น อภปิ รายแสดงความ 12 คะแนนขน้ึ ไป

ความหมายข้อมลู - สงั เกตพฤติกรรมการ คิดเหน็ หรอื ร้อยละ 80 ถอื วา่

- ทักษะการสร้างสรรค์และ ทำงานกล่มุ - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์

นวัตกรรม พฤตกิ รรมการ

ทำงานกลมุ่

3. คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ - สังเกตค่านิยมในการ - แบบประเมนิ - นักเรยี นได้คะแนน

และสมรรถนะผู้เรยี น ทำงานรว่ มกับผูอ้ ่นื คุณลกั ษณะอันพงึ ประเมนิ คุณลกั ษณะ

- มวี ินยั ในการทำงานกลมุ่ และการทำงานใน ประสงค์ อันพึงประสงค์

- นกั เรยี นเห็นความสำคัญ ระบบกลุ่ม - แบบประเมิน 26 คะแนนข้ึนไป

ของการทำงานร่วมกับผอู้ น่ื และ อภิปราย แสดงความ สมรรถนะผ้เู รียน หรือร้อยละ 80

การทำงานในระบบกลุ่ม คดิ เห็นเกยี่ วกบั ผลการ -แบบทดสอบ ถือวา่ ผ่านเกณฑ์

- ยอมรับความคิดเหน็ ซึง่ กนั ทดลอง Rubin’s Self - นักเรียนได้คะแนน

22

และกันมีความเสียสละและ Esteem Scale การประเมินสมรรถนะ
อดทน 29 คะแนนขนึ้ ไป
- นกั เรียนมีการเห็นคณุ ค่าใน หรอื ร้อยละ 80

ตนเอง (Self-esteem) ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

12. กิจกรรมการเรียนรู้
ชวั่ โมงท่ี 1
1. ข้นั ต้งั ประเดน็ ปญั หา/สมมติฐาน (Hypothesis Formulation)

1.1 ครใู ห้นักเรียนยกตัวอย่างรูปแบบการนำเสนอหรือการเผยแพรผ่ ลงานทางวชิ าการแลว้ ร่วมกัน
อภปิ รายเพ่อื ให้ไดข้ ้อสรปุ ว่า รปู แบบการนำเสนอหรือเผยแพรผ่ ลงานทางวิชาการทนี่ ิยมคอื รายงาน โปสเตอร์

และการบรรยาย เพ่อื นำเข้าส่กู ารอธิบายรายละเอียดในแตล่ ะรูปแบบ
1.2 ครอู ธิบายองค์ประกอบและการเขยี นรายงาน ตามรายละเอยี ดในหนงั สอื เรียน โดยอาจ

อธบิ ายเพ่มิ เติมในบางประเด็น ดังนี้

- ในสว่ นนำ ใชร้ ปู ประกอบการอธบิ ายเกย่ี วกับบทคดั ยอ่ และช้ีแจงเพมิ่ เตมิ วา่ บทคัดยอ่ สว่ น
ใหญม่ ีความยาวประมาณ 1 หน้า

- ในสว่ นเนอ้ื หา จำนวนบทในรายงานอาจมมี ากกวา่ หรือนอ้ ยกวา่ 5 บท กไ็ ด้ ขนึ้ อยกู่ บั
รายละเอียดของเนอื้ หา เชน่ อาจรวมทฤษฎแี ละงานวิจัยท่ีเกย่ี วข้องไว้ในบทนำเป็น 1 บท ได้ ในสว่ นของผล
การดำเนนิ การและการอภปิ รายขอ้ มลู ถ้ามขี อ้ มูลจากการดำเนินการท่ีมปี ระเด็นแตกตา่ งกนั อาจเขียนแยกบท

ได้
ชวั่ โมงที่ 2-9

2. ขั้นสืบค้นความรู้ (Searching for Information)
2.1 ครูให้นกั เรยี นทำกิจกรรม “สืบค้นข้อมูลรูปแบบการเขียนบรรณานกุ รม”
2.2 ครูใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมเสนอแนะเร่ืองเร่ือง “สืบค้นขอ้ มูลวธิ ีการเขียนอ้างอิงแบบแทรกใน

เนอ้ื หา” เพือ่ ใหน้ กั เรียนได้ศกึ ษารูปแบบการอา้ งอิงแบบแทรกในเน้อื หา
2.3 ครูอธิบายการนำเสนอโปสเตอร์ ทั้งในส่วนของการจัดทำและการพูดนำเสนอโปสเตอร์ตาม

รายละเอียดในหนงั สอื เรียน โดยครอู าจอธิบายเพิ่มเตมิ เก่ยี วกับรปู แบบโปสเตอรท์ ่ีนยิ มใช้ในการนำเสนอในงาน
ประชุมวชิ าการ

2.4 ครูให้นกั เรยี นทำกิจกรรม การจัดทำและนำเสนอขอ้ มูลในโปสเตอร์

ช่ัวโมงท่ี 10-12
3. ขน้ั สรปุ องคค์ วามรู้ (Knowledge Formation)

3.1 ครูและนกั เรียนร่วมกันอภิปรายเก่ยี วกบั การนำเสนอดว้ ยการบรรยายท้ังในสว่ นของการ
จัดเตรียมเนอ้ื หาและสื่อประกอบ รวมทงั้ การพูดนำเสนอ เพอ่ื ให้ได้ข้อสรุปตามรายละเอยี ดในชุดกิจกรรมโดย
ในส่วนของการเตรียมสไลด์ ครอู าจใชร้ ูปประกอบเพื่อให้นกั เรียนพิจารณาตวั อย่างสไลดท์ ่ีเหมาะสม

และไม่เหมาะสม
3.2 ครใู หน้ ักเรยี นทำกจิ กรรม การนำเสนอผลงานจากกจิ กรรม “การแกป้ ัญหาโดยการบรู ณาการ

ความรู้”
4. ขน้ั การส่ือสารและนำเสนอ (Effective Communication)
4.1 ครแู จ้งขอ้ กำหนดเก่ียวกับขนาดและรูปแบบของ โปสเตอร์ และระยะเวลาในการบรรยาย

แล้วใหน้ ักเรยี น จดั ทำโปสเตอร์หรือสไลดป์ ระกอบการบรรยายเพอื่ ใช้ ในการนำเสนอผลงาน

23

5. ขั้นการบริการสังคมและสาธารณะ (Public Service)

5.1 ครใู หน้ กั เรียนนำเสนอผลงาน และแลกเปล่ียนความรู้

5.2 รว่ มกันคดั เลอื กผลงานท่ดี ีที่สุดในชัน้ เรียน

13. ส่ือการเรียนรู้/แหล่งเรยี นรู้

13.1สือ่ การเรยี นรู้

- ชุดกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ตามแนวคิดโยนิโสมนสิการ เรอื่ ง การนำเสนอผลงาน

- ส่อื ppt

13.2แหล่งเรยี นรู้

1) อนิ เตอร์เน็ต 2) หอ้ งสมดุ

14. บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู้

ผลการสอน รายละเอยี ด

1. ดา้ นความรู้ : ......................................................................................

- การนำเสนอผลงาน ......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

2. ด้านกระบวนการ : ......................................................................................

- ทักษะการจัดกระทำและส่ือความหมาย ......................................................................................

ข้อมูล ......................................................................................

- ทกั ษะการสร้างสรรค์และนวัตกรรม ......................................................................................

- ทกั ษะการส่อื สารสารสนเทศและการรเู้ ท่า ......................................................................................

ทนั สอ่ื ......................................................................................

......................................................................................

.....................................................................................

......................................................................................

3. ด้านคณุ ธรรมจริยธรรมและค่านิยม ......................................................................................

อันพงึ ประสงค์ : ......................................................................................

- มีวินยั ......................................................................................

- ใฝเ่ รียนรู้ ......................................................................................

- อยู่อย่างพอเพียง ......................................................................................

- รกั ความเป็นไทย ......................................................................................
- การเกิด self esteem
......................................................................................

......................................................................................

.....................................................................................

24

4. ปัญหาการสอน
....................................................................... .....................................................................................
....................................................................... .....................................................................................
....................................................................... .....................................................................................
....................................................................... ......................................................................................

....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................

......................................................................................
......................................................................................
......................................................................................

5. วธิ แี ก้ปญั หา
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................

ลงชอื่ ........................................ครูผสู้ อน ลงช่ือ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระฯ
(.นางสาวอโนชา...อทุ มุ สกุลรัตน์..) (นายสรุ จักริ์ แกว้ มว่ ง.)

ลงช่ือ...........................................

(นางรพีพร คำบญุ มา)
รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารวิชาการ

ลงช่ือ ........................................................

(นายสรุ ยิ ันต์ เหลา่ มะลึก)
ผอู้ ำนวยการโรงเรียนสวุ รรณารามวิทยาคม

ลงชื่อ ........................................................
(...นายจงจัด จนั ทบ...)

ผู้อำนวยการโรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม

25

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่.4………..การเข้ารว่ มประชมุ วชิ าการ……....เร่อื ง……….การเข้ารว่ มประชมุ วชิ าการ.…….…..
รายวชิ า……..............เคมี…6........ ............รหัสวิชา…..............ว 30226......................ชั้นมธั ยมศึกษาปที .่ี ...6.....

กลุ่มสาระการเรยี นรู้..วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.. ปีการศกึ ษา… 2564...ภาคเรียนที.่ .2...เวลา...3...ชั่วโมง…
ผู้สอน.........................นางสาวอโนชา...อทุ ุมสกุลรัตน์.........................................................................................

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ (รายวิชาพน้ื ฐานมีท้ังมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชี้วดั
รายวิชาเพมิ่ เตมิ มีเฉพาะมาตรฐานการเรยี นร้แู ละผลการเรียนรู้)

1.1 มาตรฐานการเรียนรู้
สาระเคมี 3 : เข้าใจหลกั การทำปฏิบัติการเคมี การวัดปริมาณสาร หน่วยวดั และการเปลย่ี นหนว่ ย

การคำนวณปรมิ าณของสาร ความเข้มขน้ ของสารละลาย รวมทง้ั การบูรณาการ ความรู้และทักษะในการ

อธิบายปรากฏการณ์ในชวี ติ ประจำวนั และการแก้ปญั หา ทางเคมี
1.2 ผลการเรยี นรู้

ขอ้ ที่ 4 แสดงหลกั ฐานการเขา้ รว่ มการสัมมนา การเขา้ ร่วมประชุมวิชาการ หรือการแสดงผลงาน
สิง่ ประดษิ ฐ์ในงานนิทรรศการ

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด (หลอมจากผลการเรียนรู้ท่ใี ช้ในหน่วยการเรยี นรนู้ ้ีเขยี นเป็นแบบความ

เรียง)

การสัมมนาการประชุมวิชาการหรืองานนิทรรศการเป็นเวทีท่ีเปิดโอกาส ให้นักเรียนได้เผยแพร่

ความร้หู รอื นำผลงานท่ไี ดท้ ำมาซึ่งจะทำใหน้ ักเรยี นได้รบั คำแนะ

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง/สาระการเรยี นรู้เพ่ิมเตมิ (รายวิชาเพิ่มเตมิ )

• การสมั มนา การประชุมวิชาการ หรือการรว่ มแสดงผลงาน สิ่งประดิษฐใ์ นงานนิทรรศการเปน็ การเปิด

โอกาสให้ผูม้ สี ่วนรว่ มได้แลกเปลยี่ นความคดิ แสดงทศั นคติต่อกรณีศึกษา สถานการณ์หรือประเด็นสำคญั ทาง

เคมีซึง่ ช่วยสง่ เสริมให้พัฒนากระบวนการคดิ ทักษะการสื่อสารทกั ษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อการคน้ คว้าและการ

ส่อื สาร ซึง่ สามารถทำไดห้ ลายระดบั โดยอาจเปน็ ระดับชัน้ เรียน โรงเรยี น กลุม่ โรงเรียนชมุ ชน ระดบั ชาติหรือ

นานาชาติ

3.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน (ถา้ ในคำอธบิ ายรายวิชาพดู ถงึ หลกั สูตรท้องถ่ินให้ใส่ลงไปดว้ ย

...............................................................-...........................................................................................

4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธบิ ายรูปแบบและความสำคญั ของการประชมุ วิชาการ (K)

2. จดั ทำรายงานสรุปการประชมุ วชิ าการ (P)

3. เหน็ คุณค่าทางวทิ ยาศาสตร์ ต้ังใจเรยี นร้แู ละแสวงหาความรู้ (A)

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น (เลอื กเฉพาะขอ้ ที่เกิดในหน่วยการเรยี นรู้นี้)

 1. ความสามารถในการสื่อสาร  2. ความสามารถในการคดิ
 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา  4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

26

6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (เลือกเฉพาะข้อท่ีเกิดในหน่วยการเรียนรู้น้ี)

 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  2. ซอ่ื สัตยส์ จุ รติ

 3. มีวนิ ยั  4. ใฝ่เรียนรู้
 5. อยู่อย่างพอเพียง  6. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
 7. รกั ความเปน็ ไทย  8. มีจิตสาธารณะ
7. ดา้ นคุณลักษณะของผเู้ รยี นตามหลกั สูตรมาตรฐานสากล

 1. เป็นเลิศวิชาการ  2. สอ่ื สารสองภาษา  3. ลำ้ หน้าทางความคิด

 4. ผลิตงานอยา่ งสรา้ งสรรค์  5. รว่ มกันรบั ผิดชอบตอ่ สังคมโลก
8. ทักษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คือการเรียนรู้ 3R X 8C 2L

 R1 –Reading (อ่านออก)  R2-(W) Ringting (เขียนได)้  R3- (A) Rithmetics (คดิ เลขเป็น)
 ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem
Solving)
 ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)
 ทกั ษะด้านความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)

 ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทมี และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and
Leadership)

 ทกั ษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและรู้เทา่ ทันส่อื (Communications, Information, and Media Literacy)
 ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร (Computing and ICT
Literacy)

 ทักษะอาชีพ และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)
ความมเี มตตา (วนิ ยั คุณธรรม จริยธรรม (Compassion)

9. บรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

1. หลักความพอประมาณ : กำหนดจำนวนสมาชิกในกลุ่มให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในห้องเรียนคือ

ประมาณกลุม่ ละ 4 – 6 คน

2. หลักความมเี หตุผล : ให้นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานและเกิดทักษะการปฏิบัติ , เลือกใช้สารเคมีได้อย่าง
ค้มุ ค่า

3. หลักภมู คิ ุม้ กนั : ใหน้ ักเรยี นเกดิ ทักษะการทำงานกลุม่ และกล้าแสดงออก

4. เงื่อนไขความรู้ : การวางแผนงานที่จะทำก่อนแลว้ คอ่ ยลงมือทำอยา่ งระมัดระวงั , เขยี นสมการการ
เปลีย่ นแปลงจากการทดลอง

5. เง่ือนไขคณุ ธรรม : อดทนที่จะทำงาน และมคี วามขยันท่ีจะทำงานให้ออกมาไดด้ ีท่ีสดุ , มวี ินยั ในการ
ทำการทดลอง

10. ชิน้ งาน/ภาระงานรวบยอด

ผลการเรยี นรู้ ช้นิ งาน ภาระงาน

-รายงานกิจกรรม สืบค้นข้อมูลงาน - การอภิปรายความรู้เกี่ยวกับงาน

ประชุมวชิ าการ ประชมุ วชิ าการ

4 -รายงานกิจกรรม การเข้าร่วมและการ

สรุปรายงานการเข้าประชุมวิชาการที่

นกั เรียนสนใจ

27

11. การวัดประเมนิ ผล

11.1การวัดและประเมินผลช้นิ งาน/ภาระงานรวบยอด

วิธีการ

1.การสงั เกตการณ์

2.การใชช้ ดุ กิจกรรมวิทยาศาสตรร์ อ่ งรอยบง่ ช้ี 3.การวัดประเมนิ การปฏบิ ัติ

เครื่องมอื

1. แบบสงั เกตการณ์

2. ชดุ กิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ 3. แบบวัดประเมินการปฏบิ ัติ

เกณฑ์

1.การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)

2.การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น ผ่าน 1

รายการถอื ว่า ไม่ผา่ น

11.2 การวดั และประเมนิ ผลระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ประเมินจากแผนการจัดการเรยี นรขู้ อง

หน่วยการเรียนรนู้ ้)ี

ส่งิ ทีต่ อ้ งการวดั วธิ ีวดั ผล เครือ่ งมือวัดผล เกณฑ์การประเมนิ

1. ความรูเ้ กีย่ วกับ -การสอบถาม ซักถาม - แบบประเมนิ การ - นกั เรยี นไดค้ ะแนน

- ข้อควรปฏิบัตใิ นการเข้าร่วม ความคดิ เหน็ อภิปรายแสดงความ 12 คะแนนขึน้ ไป
ประชุมวิชาการ คิดเหน็
-การตอบคำถาม หรอื รอ้ ยละ 80
-การอภปิ รายและ ถือว่าผ่านเกณฑ์

รายงานผลการทำ - แบบประเมนิ การ - นักเรียนไดค้ ะแนน

กิจกรรม ตรวจผลงานนักเรยี น ประเมินผลงาน

-การตรวจผลงาน 13 คะแนนขึน้ ไป

นกั เรียน หรือรอ้ ยละ 80

ถือว่าผ่านเกณฑ์

2.ทกั ษะกระบวนการ - การอภปิ รายแสดง - แบบประเมนิ การ -นกั เรยี นได้คะแนน

- ทักษะการสบื ค้น ความคดิ เห็น อภปิ รายแสดงความ 12 คะแนนขึน้ ไป

- สงั เกตพฤตกิ รรมการ คดิ เหน็ หรอื รอ้ ยละ 80 ถอื ว่า

ทำงานกลุ่ม - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์

พฤตกิ รรมการ

ทำงานกลุม่

3. คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ - สังเกตค่านิยมในการ - แบบประเมนิ - นกั เรียนได้คะแนน

และสมรรถนะผู้เรยี น ทำงานร่วมกับผอู้ นื่ คณุ ลกั ษณะอันพึง ประเมินคณุ ลักษณะ

- มวี นิ ยั ในการทำงานกล่มุ และการทำงานใน ประสงค์ อนั พึงประสงค์

- นกั เรยี นเหน็ ความสำคัญ ระบบกลุ่ม - แบบประเมนิ 26 คะแนนขนึ้ ไป

ของการทำงานร่วมกับผูอ้ ืน่ และ อภิปราย แสดงความ สมรรถนะผ้เู รียน หรอื รอ้ ยละ 80

การทำงานในระบบกลุ่ม คิดเหน็ เกยี่ วกับผลการ -แบบทดสอบ ถือวา่ ผ่านเกณฑ์

- ยอมรบั ความคิดเหน็ ซ่ึงกนั ทดลอง Rubin’s Self - นักเรยี นไดค้ ะแนน

และกนั มีความเสียสละและ Esteem Scale การประเมนิ สมรรถนะ

28

อดทน 29 คะแนนขึน้ ไป

- นักเรยี นมีการเหน็ คณุ ค่าใน หรอื รอ้ ยละ 80

ตนเอง (Self-esteem) ถอื ว่าผ่านเกณฑ์

12. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ชว่ั โมงท่ี 1

1. ข้ันต้ังประเด็นปญั หา/สมมตฐิ าน (Hypothesis Formulation)

1.1 ครูอธิบายถงึ รูปแบบและความสำคัญของการประชมุ วชิ าการ ตามรายละเอียดในชดุ กิจกรรม

1.2 ครใู ห้นักเรียนทำกจิ กรรม “สบื คน้ ขอ้ มลู งานประชุมวิชาการ”

2. ขน้ั สืบค้นความรู้ (Searching for Information)

2.1 ครูและนักเรียนอภปิ รายร่วมกนั เกีย่ วกับบทบาทในฐานะผูฟ้ ังและผ้นู ำเสนอในงานประชมุ

วิชาการ โดยให้นักเรียนเขียนข้อควรปฏิบัติในฐานะผู้ฟังและผู้นำเสนอท่ีดี อย่างละ 1 ข้อ ลงในกระดาษ

รว่ มกันจดั หมวดหมู่

2.2 อภิปรายเพ่ือนำไปสู่ข้อสรุปและเปรียบเทียบกับบทบาทในฐานะผู้ฟังและผู้นำเสนอ ตาม

รายละเอียดในชุดกิจกรรม

ช่วั โมงที่ 2
3. ขน้ั สรปุ องคค์ วามรู้ (Knowledge Formation)

3.1 ครูยกตัวอย่างคำถามทีไ่ ม่เหมาะสมในฐานะผู้ฟงั เพ่ิมเติม ดังตวั อยา่ งต่อไปนี้
- คำถามไมช่ ดั เจน ไมเ่ ฉพาะเจาะจง หรือกวา้ งเกนิ ไป เชน่ ทำเรอื่ งนไี้ ปทำไม่ สรุปท้งั หมด

ใหฟ้ ังอีกคร้ังได้หรือไม่ หากไม่เข้าใจส่วนใดควรใช้คำถามท่ีมคี วามชดั เจนและเจาะจงมากขึน้ เช่น เพราะเหตุใด
จึงตอ้ งทำการทดลองในสว่ น

- คำถามนอกเร่ือง เช่น ในงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องกับการหาประสทิ ธิภาพท่ีกรองน้ำจากเปลือก
สม้ กล้วย เงาะ และมังคุด แต่ใช้คำถามวา่ ถ้าใช้เปลือกทุเรียนหรือเปลือกส้มโอจะดีกว่าหรือไม่ หากต้องการ
ทราบข้อมูลในสว่ นที่ไมไ่ ดด้ ำเนินการแต่เชื่อมโยงกบั ส่ิงทท่ี ำได้ ควรมีสมมติฐาน หรือเหตุผลสนับสนุนประกอบ
คำถาม

- คำถามดูหมิ่น เช่น งานน้ีลอกใครมาหรือเปล่า งานน้ีทำเองหรือเปล่า หากสงสัยว่างานน้ี
อาจมีความซ้ำซ้อนกับงานอ่ืน หรืองานบางส่วนอาจไม่ได้ทำขึ้นเอง ควรใช้คำถามว่า ผลงานน้ีมีส่วนใดท่ีใหม่
หรอื ไม่ซ้ำซ้อนกบั งานอืน่ หรอื ผู้นำเสนอมสี ่วนร่วม ในการดำเนนิ การส่วนใดบา้ ง

3.2 ครูอธิบายการเขียนรายงานการเข้ารว่ มการประชมุ วชิ าการ ตามรายละเอยี ดในชุดกิจกรรม
4. ขนั้ การส่อื สารและนำเสนอ (Effective Communication)

4.1 ครใู หน้ กั เรียนทำกจิ กรรม “การเขา้ ร่วมและการสรปุ รายงานการเข้าประชุมวชิ าการ”
4.2 ครูแนะนำใหน้ ักเรยี นเขา้ ร่วมประชมุ วชิ าการทีจ่ ัดขึน้ โดยหน่วยงานต่าง ๆ หรอื ครูจัดการ
ประชมุ วิชาการในระดับช้ันเรียน โรงเรียน หรอื กลมุ่ โรงเรยี น เพ่ือใหน้ ักเรยี นทุกคนไดม้ ปี ระสบการณก์ ารเข้า
รว่ มประชมุ วิชาการ
5. ขัน้ การบรกิ ารสงั คมและสาธารณะ (Public Service)
5.1 ครูใหน้ ักเรยี นนำเสนอ จัดทำสรปุ รายงานการเขา้ ร่วมประชมุ วชิ าการ และแลกเปล่ยี นความรู้
5.2 รว่ มกนั คดั เลือกผลงานที่ดีที่สุดในชั้นเรียน
13. ส่อื การเรียนรู้/แหลง่ เรียนรู้

29

13.1สือ่ การเรยี นรู้

- ชดุ กิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ตามแนวคดิ โยนโิ สมนสิการ เร่อื ง การเขา้ ร่วมประชมุ วิชาการ

- สื่อ ppt

13.2แหลง่ เรยี นรู้

1) อนิ เตอรเ์ นต็ 2) หอ้ งสมดุ

14. บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้

ผลการสอน รายละเอยี ด

1. ดา้ นความรู้ : ......................................................................................

- ข้อควรปฏิบตั ใิ นการเข้ารว่ มประชมุ ......................................................................................

วิชาการ ......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

2. ด้านกระบวนการ : ......................................................................................

- ทักษะการสื่อสารสารสนเทศและการ ......................................................................................

ร้เู ท่าทันสือ่ ......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

......................................................................................

.....................................................................................

......................................................................................

3. ดา้ นคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและค่านยิ ม ......................................................................................

อนั พึงประสงค์ : ......................................................................................

- มีวนิ ัย ......................................................................................

- ใฝ่เรียนรู้ ......................................................................................

- อยู่อย่างพอเพียง ......................................................................................

- รักความเป็นไทย ......................................................................................
- การเกิด self esteem
......................................................................................

......................................................................................

.....................................................................................

4. ปัญหาการสอน

....................................................................... .....................................................................................

....................................................................... .....................................................................................

....................................................................... .....................................................................................

30

....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................

......................................................................................
......................................................................................

......................................................................................

5. วิธแี กป้ ัญหา
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................
....................................................................... ......................................................................................

ลงชื่อ........................................ครผู ู้สอน ลงชือ่ ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระฯ
(.นางสาวอโนชา...อุทุมสกุลรัตน์..) (นายสรุ จกั ร์ิ แก้วม่วง.)

ลงช่อื ...........................................
(นางรพีพร คำบุญมา)

รองผู้อำนวยการกลมุ่ บริหารวิชาการ

ลงชอ่ื ........................................................
(นายสรุ ยิ ันต์ เหล่ามะลึก)

ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นสุวรรณารามวิทยาคม

31

แบบประเมนิ การอภปิ รายแสดงความคดิ เห็น
วชิ า .......................................................................................................... ชั้น ………………………………

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ..............................กิจกรรม ……………………………………………………………………….…

คำชี้แจง : ให้ประเมนิ จากการสังเกตการรว่ มอภปิ รายในระหวา่ งเรียน และการปฏบิ ัติกจิ กรรมกลมุ่

โดยให้ระดับคะแนนลงในตารางที่ตรงกบั พฤตกิ รรมของผ้เู รยี น

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ต้องปรับปรงุ

รวม สรุปผลการ

รายการประเมนิ 15 ประเมนิ
คะแน

เลขท่ี ชอื่ -นามสกุล น

การแสดงความ คะแนน ผ่าน ไม่
ิคดเ ็หน ทีท่ ำได้ ผา่ น
ยอมรับฟังความ
ิคดเ ็หนของ ู้ผอื่น
ตรงประเ ็ดน
สมเห ุตสมผล
มีความเ ื่ชอมั่นใน
การแสดงออก

ลงช่ือ ................................................................................. ผูป้ ระเมนิ
เกณฑ์การประเมนิ : นักเรยี นได้คะแนน 12 คะแนนข้ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

32

แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์

คำช้แี จง : ใหส้ งั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ งที่ตรง
กบั ระดบั คะแนน

คุณลักษณะอนั พึง รายการที่ประเมนิ ระดบั คะแนน
ประสงค์ดา้ น 321

3.1 ตรงต่อเวลา

1. มวี ินัย 3.2 ปฏิบตั งิ านเรียบรอ้ ยเหมาะสม
3.3 ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง
4.1 กระตอื รอื ร้นในการแสวงหาข้อมลู

2. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.2 มกี ารจดบันทกึ ความรู้อยา่ งเป็นระบบ

4.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล
5.1 ใช้วัสดุ สิง่ ของ เคร่ืองใช้ อยา่ งประหยดั

3. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและร้คู ณุ ค่า

4. รักความเป็นไทย 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเก็บออม
7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย
7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย

ลงชอ่ื ................................................................................. ผ้ปู ระเมิน
/ /......................... ......................... .............................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ให้ 3 คะแนน
- พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
- พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัตชิ ัดเจนและบ่อยคร้ัง
- พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัตบิ างครั้ง

33

แบบประเมินผลงานผู้เรยี น

ชือ่ - นามสกุล .................................................................................. ชั้น …………………........
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ................................ กจิ กรรม ……………….………………......................

คำช้ีแจง: ให้ผปู้ ระเมนิ ขีด ✓ ลงในช่องท่ตี รงกับระดบั คะแนน

ประเดน็ ทีป่ ระเมิน ผู้ประเมิน

ตนเอง เพ่ือน ครู

432143214321

1. ตรงจดุ ประสงค์ท่กี ำหนด

2. มีความถกู ตอ้ งสมบรู ณ์

3. มคี วามคดิ สร้างสรรค์

4. มีความเป็นระเบียบ

รวม
รวมทุกรายการ

เฉล่ีย

ผู้ประเมนิ (ตนเอง)........................................................... ผ้ปู ระเมิน .......................................................... (เพ่อื น)

ผปู้ ระเมนิ ................................................................ (คร)ู

34

เกณฑก์ ารให้คะแนนผลงาน

ประเด็นท่ีประเมนิ คะแนน

1. ผลงานตรงกบั 4 3 2 1
จุดประสงค์ท่ีกำหนด
ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานไม่
2. ผลงานมคี วามถูกต้อง กบั จดุ ประสงค์ กับจดุ ประสงค์ กับจุดประสงค์ สอดคล้องกบั
สมบรู ณ์ ทกุ ประเด็น เป็นสว่ นใหญ่ บางประเด็น จดุ ประสงค์
เนือ้ หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ
3. ผลงานมคี วามคิด เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกตอ้ งเป็น ผลงานไม่ถูกตอ้ ง
สร้างสรรค์ ผลงานถกู ตอ้ ง เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเดน็ เป็นสว่ นใหญ่
ครบถว้ น ผลงานมีแนวคดิ ผลงานมีความ ผลงานไม่แสดง
4. ผลงานมคี วามเป็น แปลกใหมแ่ ตย่ งั น่าสนใจ แตย่ งั ไม่ แนวคดิ ใหม่
ระเบยี บ ผลงานแสดงออก ไมเ่ ปน็ ระบบ มแี นวคิดแปลก
ถึงความคดิ ใหม่ ผลงานส่วนใหญ่
สรา้ งสรรค์ ผลงานสว่ นใหญม่ ี ไม่เป็นระเบยี บ
แปลกใหม่ ความเปน็ ผลงานมีความ และมขี ้อ
และเปน็ ระบบ ระเบียบแตย่ ังมี เปน็ ระเบยี บแตม่ ี บกพร่องมาก
ข้อบกพร่อง ขอ้ บกพร่อง
ผลงานมคี วามเปน็ เลก็ นอ้ ย บางส่วน
ระเบียบแสดงออก
ถงึ ความประณีต

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

นกั เรียนได้คะแนน 13 คะแนนขน้ึ ไป หรือรอ้ ยละ 80 ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

35

แบบประเมินพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

กลุ่ม ..........................................................................................................

สมาชิกในกล่มุ 1. 2....................................................................... ......................................................................

3. 4....................................................................... ......................................................................

5. 6....................................................................... ......................................................................

คำช้แี จง: ใหน้ ักเรยี นทำเคร่อื งหมาย ✓ ในชอ่ งที่ตรงกบั ความเป็นจรงิ

พฤตกิ รรมท่ีสงั เกต คะแนน 1
32

1. มสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็
2. มีความกระตือรอื ร้นในการทำงาน
3. รบั ผิดชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย
4. มีข้ันตอนในการทำงานอยา่ งเป็นระบบ
5. ใช้เวลาในการทำงานอยา่ งเหมาะสม

รวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

พฤติกรรมท่ีทำเปน็ ประจำ ให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมท่ีทำเป็นบางครงั้ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมทีท่ ำนอ้ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
13-15 ดี
8-12 ปานกลาง

5-7 ปรบั ปรงุ

36


Click to View FlipBook Version