ก
ประกาศโรงเรยี นวดั บางกระเจา้
เรอื่ ง ใหใ้ ช้หลักสูตรโรงเรียนวดั บางกระเจา้ พุทธศกั ราช 256๕
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551
---------------------------------------------------------
โรงเรียนวัดบางกระเจ้า สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ได้ดำเนินการ
พัฒนาหลักสูตรโรงเรียนวัดบางกระเจ้า พุทธศักราช 256๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช2551 และเอกสารประกอบหลักสูตรขึ้นเพื่อใช้เปน็ กรอบและทิศทางในการจัดการเรยี นการสอน
ของโรงเรียนวดั บางกระเจา้
โดยจัดทำและพัฒนาหลกั สูตรตามแนวคดิ หลักสูตรอิงมาตรฐาน คือ กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้
เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดในหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เปิดโอกาสให้โรงเรยี นสามารถกำหนดทิศทางในการจัดทำหลักสูตรการเรียน
การสอนในแตล่ ะระดับตามความพร้อมและจดุ เนน้ โดยมีกรอบแกนกลางเป็นแนวทางท่ีชัดเจนเพ่ือตอบสนอง
นโยบายไทยแลนด์ 4.0 มีความพร้อมในการก้าวสสู่ ังคมคุณภาพ มีความร้อู ยา่ งแท้จริง
มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีความสมดุลทั้งร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทย
และพลโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้
และทกั ษะพน้ื ฐาน รวมทงั้ การมเี จตคติทีจ่ ำเป็นต่อการศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต
โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่าทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตาม
ศกั ยภาพและมีทักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21
ทั้งนี้ หลักสูตรโรงเรียนได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อวันท่ี
18 เดอื นเมษายน พ.ศ. 256๕ จงึ ประกาศใหใ้ ชห้ ลักสูตรโรงเรยี นตง้ั แต่บดั นี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 18 เดือนเมษายน พ.ศ. 256๕
(พระครูสาครวิรยิ คุณ) (นางสาวชนกฐยิ ะพร คำภเู วยี งทศิ)
ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวัดบางกระเจา้
คำนำ
กระทรวงศึกษาธิการมีคำสั่งให้ใช้มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชีว้ ัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับ
ปรับปรุง พ.ศ. 2560) เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2560 และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมี
ข
คำสั่งให้ เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์
(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ลงวันที่ 5 มกราคม 2561 รวมท้ังประกาศเรอ่ื งการบริหารจดั การหลักสูตร
สถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ .ศ. 2560)ตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ลงวนั ท่ี 8 มกราคม 2561 โรงเรียนวัดบาง
กระเจ้าจึงได้ทำการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ
เทคโนโลยี สาระภูมศิ าสตร์ในกลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม และการงานอาชพี ใช้
ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – ๖ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์และเป็นกรอบในการวางแผนและพัฒนาหลักสูตรของ
สถานศึกษาและจัดการเรียนการสอน อีกทั้งในปีการศึกษา 256๕ โรงเรียนวัดบางกระเจ้าได้จัดการเรียน
การสอนโดยเน้นให้ผู้เรียนเกิดความรู้ มีคุณธรรมและเสริมสร้างทักษะอาชีพ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนา
คุณภาพผู้เรียน ให้มีกระบวนการนำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ โดยมีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด โครงสร้างเวลา
เรยี น ตลอดจนเกณฑก์ ารวดั ประเมนิ ผล ให้มคี วามสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู้ เปดิ โอกาสให้โรงเรียน
สามารถกำหนดทิศทางในการจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละระดับตามความพร้อมและจุดเน้น
โดยมีกรอบแกนกลางเป็นแนวทางที่ชัดเจนเพ่ือตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 มีความพร้อมในการก้าวสู่
สงั คมคณุ ภาพ มีความรู้อย่างแท้จริง และมีทักษะในศตวรรษท่ี 21
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ในเอกสารนี้ ช่วยทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในทุก
ระดับเห็นผลคาดหวังที่ต้องการในการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนที่ชัดเจนตลอดแนว ซึ่งจะสามารถช่วยให้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับท้องถิ่นและสถานศึกษาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรได้อย่างมั่นใจ ทำให้การจัดทำ
หลักสูตรในระดับสถานศึกษามีคุณภาพและมีความเป็นเอกภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความชัดเจนเรื่อง
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และช่วยแก้ปัญหาการเทียบโอนระหว่างสถานศึกษา ดังนั้นในการพัฒนา
หลักสูตรในทุกระดับตั้งแต่ระดับชาติจนกระทั่งถึงสถานศึกษา จะต้องสะท้อนคุณภาพตามมาตรฐานการ
เรียนรู้และตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน รวมทั้งเป็นกรอบทิศทางในการจั ด
การศกึ ษาทุกรปู แบบ และครอบคลมุ ผู้เรียนทุกกลมุ่ เป้าหมายในระดับการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน
การจัดหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่คาดหวังได้ ทุกฝ่ายท่ี
เกี่ยวข้องทั้งระดับชาติ ชุมชน ครอบครัว และบุคคลต้องร่วมรับผิดชอบ โดยร่วมกันทำงานอย่างเป็ นระบบ
และต่อเนื่อง ในการวางแผน ดำเนินการ ส่งเสริมสนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนา
เยาวชนของชาตไิ ปสูค่ ุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้ท่กี ำหนดไว้
โรงเรยี นวดั บางกระเจ้า
สารบญั ค
เรอ่ื ง หน้า
ประกาศโรงเรยี น ก
คำนำ ข
สารบญั ค
สว่ นท่ี 1 ความนำ 1
1
ความนำ 1
วสิ ัยทัศน/์ พนั ธกจิ 2
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 3
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 4
ทักษะ ๓R๘C ๔
วิทยาการคำนวณ 5
สว่ นท่ี 2 โครงสร้างหลักสตู รโรงเรียนวัดบางกระเจ้า ๑๒
สว่ นที่ ๓ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ 62
ส่วนท่ี ๔ คำอธบิ ายรายวิชาโครงสรา้ งรายวิชากลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ 86
สว่ นที่ ๕ เกณฑก์ ารจบการศกึ ษา
๑
ส่วนที่ 1
ความนำ
หลักสูตรโรงเรียนวัดบางกระเจ้า พุทธศักราช 256๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช๒๕๖๐) เป็นแผนหรือแนวทาง หรือข้อกำหนดของ
การจัดการศกึ ษาของโรงเรยี นวัดบางกระเจ้าทจ่ี ะใช้ในการจัดการเรยี นการสอนเพื่อพฒั นาผู้เรยี นให้มีคุณภาพ
ตามมาตรฐานที่กำหนด มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อและ
ประกอบอาชีพทีส่ ุจริต ตลอดจนการรู้จักอนุรักษว์ ัฒนธรรม ประเพณที ้องถนิ่ โดยมุ่งหวังให้มีความสมบูรณ์
ท้งั ดา้ นร่างกาย จติ ใจ และสติปัญญา อีกทั้งมีความรแู้ ละทกั ษะทีจ่ ำเปน็ สำหรบั การดำรงชวี ติ และมีคณุ ภาพได้
มาตรฐานสากล ดังนั้นหลักสูตรโรงเรียนวัดบางกระเจ้า พุทธศักราช 256๕ ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช๒๕๖๐) จึงประกอบด้วยสาระสำคัญ
ของหลักสูตรแกนกลาง สาระความรู้ที่เกี่ยวข้องกบั ชุมชนท้องถิ่น และสาระสำคญั ที่โรงเรียนพัฒนาเพิ่มเติม
โดยจัดเป็นสาระการเรียนรู้รายวิชาพื้นฐานตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้เพิ่มเตมิ
จัดกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี นเปน็ รายปีในระดับประถมศกึ ษา และกำหนดคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ของโรงเรยี น
วสิ ัยทัศน์
ภายในปี 256๖ โรงเรียนวัดบางกระเจ้าเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ ครูมีความเป็นมืออาชีพในการ
พัฒนาผู้เรียนให้มีความเป็นเลิศทางวิชาการควบคู่คุณธรรม จริยธรรม พร้อมทั้งส่งเสริมความสามารถตาม
ศักยภาพของผเู้ รียน มีการบรหิ ารจัดการอย่างเปน็ ระบบ และมีประสทิ ธิภาพ
พันธกจิ
แนวปฏบิ ัตแิ ละบทบาทหน้าทขี่ องโรงเรียนวดั บางกระเจ้าทต่ี ้องทำ เพอื่ ใหบ้ รรลวุ สิ ัยทัศน์ มดี งั นี้
จดั การศึกษาอยา่ งมคี ณุ ภาพทุกระดบั เพอื่ เตรียมพรอ้ มเขา้ สู่ประชาคมอาเซียน
จัดการเรยี นรู้เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญ และตามจดุ เนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียน
ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม จิตสาธารณะ สืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทย ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง
พัฒนาครูให้มีความรู้ความสามรถในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ครบถ้วนตาหลักสูตร โดยใช้สื่อ
นวัตกรรม เทคโนโลยเี พื่อตอบสนองต่อความตอ้ งการของผ้เู รยี น
พฒั นาระบบดแู ลชว่ ยเหลือ และการแนะแนว
ส่งเสรมิ การออกกำลงั การเลน่ กฬี า ดนตรี เพอ่ื สขุ ภาพ และเพ่อื การเข้าร่วมแข่งขนั
๒
ส่งเสริมให้นักเรียนได้รับการพัฒนาคุณธรรม ให้สอดคล้องกับคุณลักษณะที่พึ่งประสงค์ของโรงเรียนที่ตั้งไว้
และนักเรียนเปน็ ผูม้ ีสมรรถนะตามที่โรงเรียนต้องการครบถ้วน
ส่งเสรมิ ใหค้ รมู ีการพัฒนาศักยภาพตรงตามมาตรฐานวชิ าชีพ
สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นหลักสตู รโรงเรียนอนบุ าลบา้ นแพ้ว(วนั ครู 2500)
ในการพฒั นาผูเ้ รียนโรงเรยี นวดั บางกระเจา้ มุ่งเน้นพัฒนาผเู้ รยี นใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งจะ
ชว่ ยให้ผู้เรยี นเกดิ สมรรถนะสำคญั ๕ ประการ ดงั น้ี
๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้
ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
และประสบการณ์อนั จะเป็นประโยชนต์ ่อการพัฒนาตนเองและสังคมรวมทงั้ การเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลด
ปัญหาความขัดแย้งต่างๆการเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารดว้ ยหลักเหตผุ ลและความถูกต้อง ตลอดจนการ
เลือกใช้วิธีการสือ่ สาร ท่มี ีประสิทธภิ าพโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบทม่ี ตี ่อตนเองและสังคม
๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง
สร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพ่ือนำไปส่กู ารสร้างองคค์ วามรหู้ รอื สารสนเทศ
เพื่อการตดั สนิ ใจเกี่ยวกบั ตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆที่เผชิญ ได้อย่าง
ถูกต้องเหมาะสม บนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ
เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไข
ปญั หา และมกี ารตดั สินใจที่มีประสิทธภิ าพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบท่ีเกดิ ขนึ้ ตอ่ ตนเอง สงั คมและส่งิ แวดล้อม
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้
ในการดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกัน
ในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่าง
เหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยง
พฤติกรรมไม่พึงประสงคท์ ส่ี ่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อื่น
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะ
กระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน การ
แก้ปญั หาอย่างสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม
๓
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
โรงเรียนวัดบางกระเจา้ มุง่ พฒั นาผู้เรยี นใหม้ ีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เพอ่ื ใหส้ ามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม
ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดงั นี้
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
มพี ฤติกรรมทแ่ี สดงถงึ การเคารพ การเทดิ ทูนสถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
เข้าร่วมกจิ กรรมทางพุทธศาสนา และวนั สำคัญของชาติ
๒. ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
ไมล่ ักขโมย
ไม่พูดปด
๓. มีวนิ ยั
มาโรงเรยี นแตเ่ ช้า ปฏบิ ัติกจิ กรรมหนา้ เสาธงอย่างสม่ำเสมอ
ปฏิบตั ติ นตามระเบยี บของโรงเรียนและสงั คม
๔. ใฝเ่ รียนรู้
แสวงหาความรอู้ ย่เู สมอ มีนิสัยรักการอ่านและการเขียน
มที กั ษะการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขยี นอย่างสร้างสรรค์
๕. อยูอ่ ย่างพอเพียง
รู้จักเก็บอออม
ประหยัดพลังงานและสงิ่ ของเคร่ืองใช้
๖. มุ่งมั่นในการทำงาน
ขยนั หมน่ั เพียร มคี วามอดทน อดกล้ัน
ทำงานรว่ มกับผอู้ ่ืนและมีทกั ษะเป็นผู้นำ และผตู้ ามท่ดี ี
๗. รกั ความเปน็ ไทย
มจี ติ สำนึกในความเป็นไทย
มีความชน่ื ชม และเขา้ ร่วมกจิ กรรมเกีย่ วกบั วัฒนธรรมและประเพณไี ทย
๘. มีจิตสาธารณะ
รกั ษาส่งิ แวดล้อม รกั ษาความสะอาดของโรงเรยี นและชมุ ชน ไม่ทำลายสาธารณะสมบัติ
มีความรกั ความสามัคคเี ห็นอกเห็นใจ เออ้ื อาทรต่อคนรอบขา้ ง ช่วยเหลอื สงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสมเมอื่ มีโอกาส
๔
ทกั ษะ ๓R 8C
การพฒั นาผ้เู รยี นโรงเรยี นวดั บางกระเจ้า มุง่ เน้นพัฒนาผเู้ รยี นให้มที ักษะ ๓R 8C ดงั นี้
๓R คือ Reading อา่ นออก (W) Riting เขียนได้ (A) Rithmatic มีทกั ษะในการคำนวณ
๘C คือ ⚫ Critical Thinking and Problem Solving : มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมี
วจิ ารณญาณ และแกไ้ ขปญั หาได้
⚫ Creativity and Innovation : คิดอยา่ งสร้างสรรค์ คดิ เชิงนวตั กรรม
⚫ Collaboration Teamwork and Leadership : ความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะ
ผนู้ ำ
⚫ Communication Information and Media Literacy : ทักษะในการสอ่ื สาร และการรู้เท่า
ทนั สื่อ
⚫ Cross-cultural Understanding : ความเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม กระบวนการ
คดิ ข้ามวัฒนธรรม
⚫ Computing and ICT Literacy : ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ และการรู้เท่าทันเทคโนโลยี ซ่ึง
เยาวชนในยุคปัจจุบนั มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีอย่างมากหรือเป็น Native Digital ส่วน
คนรุ่นเก่าหรือผู้สูงอายุเปรียบเสมือนเป็น Immigrant Digital แต่เราต้องไม่อายที่จะเรียนรู้แม้ว่าจะสูงอายุ
แลว้ กต็ าม
⚫ Career and Learning Skills : ทกั ษะทางอาชีพ และการเรยี นรู้
⚫ Compassion : มีคุณธรรม มีเมตตา กรุณา มีระเบียบวินัย ซึ่งเป็นคุณลักษณะพื้นฐานสำคัญ
ของทกั ษะขั้นตน้ ท้งั หมด และเป็นคณุ ลกั ษณะทเี่ ดก็ ไทยจำเป็นต้องมี
วทิ ยาการคำนวณ
วทิ ยาการคำนวณ ประกอบดว้ ย ๓ องคค์ วามรู้ ดงั น้ี
1. การคดิ เชงิ คำนวณ (computational thinking) คือ เข้าใจและเรยี นรวู้ ิธีคดิ และแก้ปัญหาเชิงวิเคราะห์
มีลำดบั วธิ คี ดิ ซง่ึ นอกจากการเรยี นการเขยี นโปรแกรมแล้ว หัวใจที่สำคัญกวา่ คือ สอนให้เราเช่อื มโยงปญั หา
ตา่ ง ๆ และแกไ้ ขปัญหาได้
2. ใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม (digital technology) ท้ังเทคนิควธิ กี ารต่าง ๆ เก่ียวกบั เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั
ในยุค 4.0 และเปน็ ทางเลือกในการบูรณาการเข้ากบั วิชาอื่นไดด้ ้วย
3. รเู้ ทา่ ทนั สื่อและเทคโนโลยดี จิ ิทลั (media and information literacy) พดู ง่าย ๆ คือ แยกแยะได้วา่
ขอ้ มลู ไหนเปน็ จรงิ หรอื หลอกลวง รู้กฎหมายและลิขสิทธ์ิต่าง ๆ บนโลกไซเบอร์ เพอ่ื ให้ใช้งานกนั ได้อย่าง
ถูกต้องและปลอดภยั
๕
ส่วนที่ 2
โครงสรา้ งหลกั สตู รโรงเรียนวดั บางกระเจา้
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ /กจิ กรรม ระดบั ประถมศึกษา / เวลาเรียน
ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6
ภาษาไทย 200 200 200 160 160 160
คณิตศาสตร์ 160 160 160 160 160 160
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑20 ๑20 ๑20 ๑๒0 ๑๒0 ๑๒0
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม 40 40 40 80 80 80
ศาสนาศลี ธรรม จรยิ ธรรม
หนา้ ทพ่ี ลเมือง วฒั นธรรมและการดำเนินชีวิต ฯ
เศรษฐศาสตร์ 40 40 40 40 40 40
ภมู ศิ าสตร์
ประวัตศิ าสตร์
สขุ ศกึ ษา และพลศกึ ษา 40 40 40 80 80 80
ศลิ ปะ 40 40 40 80 80 80
การงานอาชพี 40 40 40 80 80 80
ภาษาองั กฤษ 200 200 200 80 80 80
รวมเวลาเรยี นพื้นฐาน 880 880 880 880 880 880
รายวิชาเพิ่มเตมิ
หนา้ ท่ีพลเมือง 40 40 40 40 40 40
สารพดั ประโยชน์จากตน้ จาก 40 40 40 40 40 40
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน
กิจกรรมแนะแนว 40 40 40 40 40 40
กิจกรรมนักเรยี น
- ลูกเสอื /เนตรนารี 40 40 40 40 40 40
- ชุมนมุ 30 30 30 30 30 30
กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ 10 10 10 10 10 10
รวมเวลากจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน 120 120 120 120 120 120
รวมเวลาทง้ั หมด 1,080 ช่ัวโมง 1,080 ชัว่ โมง
๖
โครงสร้างหลักสตู รระดบั ชั้นปี
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1
รายวชิ า / กิจกรรม เวลาเรยี น (ช่ัวโมง / ปี)
รายวชิ าพน้ื ฐาน 840
200
ท 11101 ภาษาไทย 160
ค 11101 คณติ ศาสตร์ ๑20
ว 11101 วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 40
ส 11101 สงั คมศึกษา 40
ส 11102 ประวัตศิ าสตร์ 40
พ 11101 สุขศึกษา และพลศึกษา 40
ศ 11101 ศลิ ปะ 40
ง 11101 การงานอาชพี 200
อ 11101 ภาษาองั กฤษ ๘0
40
รายวิชาเพ่มิ เติม 40
ส 11201 หน้าที่พลเมือง 120
ง 1๑๒01 สารพัดประโยชนจ์ ากตน้ จาก 40
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน 40
กจิ กรรมแนะแนว 30
กจิ กรรมนกั เรียน 10
1,080
- ลูกเสอื / เนตรนารี
- ชมุ นุม
กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณะประโยชน์
รวมเวลาเรียนทง้ั สิน้
๗
โครงสร้างหลักสตู รระดบั ชน้ั ปี
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2
รายวิชา / กจิ กรรม เวลาเรียน (ช่ัวโมง / ปี)
840
รายวชิ าพ้นื ฐาน 200
ท 12101 ภาษาไทย 160
ค 12101 คณติ ศาสตร์ 120
ว 12101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 40
ส 12101 สังคมศกึ ษา 40
ส 12102 ประวัติศาสตร์ 40
พ 12101 สุขศึกษา และพลศึกษา 40
ศ 12101 ศิลปะ 40
ง 12101 การงานอาชพี 200
อ 12101 ภาษาองั กฤษ ๘0
40
รายวิชาเพิม่ เติม 40
ส 12201 หน้าทพี่ ลเมอื ง 120
ง 1๒๒01 สารพดั ประโยชนจ์ ากตน้ จาก 40
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน 40
30
กิจกรรมแนะแนว 10
กิจกรรมนักเรียน 1,080
- ลกู เสอื / เนตรนารี
- ชุมนมุ
กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณะประโยชน์
รวมเวลาเรยี นทงั้ ส้ิน
๘
โครงสรา้ งหลกั สูตรระดับชัน้ ปี
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3
รายวิชา / กจิ กรรม เวลาเรียน (ชั่วโมง / ปี)
รายวชิ าพนื้ ฐาน 840
ท 13101 ภาษาไทย 200
ค 13101 คณิตศาสตร์ 160
ว 13101 วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๑20
ส 13101 สงั คมศึกษา 40
ส 13102 ประวตั ศิ าสตร์ 40
พ 13101 สุขศกึ ษา และพลศึกษา 40
ศ 13101 ศลิ ปะ 40
ง 13101 การงานอาชพี 40
อ 13101 ภาษาองั กฤษ 200
รายวชิ าเพมิ่ เติม ๘0
ส 13201 หนา้ ที่พลเมอื ง 40
ง 1๓๒01 สารพัดประโยชนจ์ ากตน้ จาก 40
กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน 120
กจิ กรรมแนะแนว 40
กจิ กรรมนักเรยี น
- ลูกเสือ / เนตรนารี 40
- ชมรม ชมุ นุม 30
กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ 10
รวมเวลาเรียนทงั้ สน้ิ 1,080
๙
โครงสร้างหลกั สูตรระดับช้นั ปี
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4
รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรียน (ช่ัวโมง / ปี)
840
รายวิชาพื้นฐาน 160
ท 14101 ภาษาไทย 160
ค 14101 คณิตศาสตร์ ๑๒0
ว 14101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 80
ส 14101 สงั คมศึกษา 40
ส 14102 ประวัติศาสตร์ 80
พ 14101 สขุ ศกึ ษา และพลศึกษา 80
ศ 14101 ศลิ ปะ 80
ง 14101 การงานอาชพี 80
อ 14101 ภาษาอังกฤษ ๘80
40
รายวิชาเพิ่มเติม 40
ส 14201 หนา้ ทพี่ ลเมอื ง 120
ง 1๔๒01 สารพดั ประโยชนจ์ ากตน้ จาก 40
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น 40
กจิ กรรมแนะแนว 30
กจิ กรรมนักเรยี น 10
1,080
- ลกู เสอื / เนตรนารี
- ชมรม ชมุ นุม
กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณะประโยชน์
รวมเวลาเรียนท้งั สนิ้
๑๐
โครงสรา้ งหลักสูตรระดบั ช้นั ปี
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรยี น (ชั่วโมง / ป)ี
840
รายวชิ าพนื้ ฐาน 160
ท 15101 ภาษาไทย 160
ค 15101 คณิตศาสตร์ 120
ว 15101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 80
ส 15101 สงั คมศกึ ษา 40
ส 15102 ประวตั ิศาสตร์ 80
พ 15101 สขุ ศกึ ษา และพลศกึ ษา 80
ศ 15101 ศลิ ปะ 80
ง 15101 การงานอาชีพ 80
อ 15101 ภาษาอังกฤษ ๘0
40
รายวิชาเพิ่มเติม 40
ส 15201 หน้าท่พี ลเมอื ง 120
ง 1๕๒01 สารพัดประโยชน์จากต้นจาก 40
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน 40
กิจกรรมแนะแนว 30
กิจกรรมนกั เรยี น 10
1,080
- ลูกเสือ / เนตรนารี
- ชมรม ชมุ นมุ
กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์
รวมเวลาเรยี นทง้ั สน้ิ
๑๑
โครงสรา้ งหลกั สูตรระดับชนั้ ปี
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 6
รายวชิ า / กิจกรรม เวลาเรยี น (ชั่วโมง / ป)ี
840
รายวิชาพน้ื ฐาน 160
ท 16101 ภาษาไทย 160
ค 16101 คณิตศาสตร์ ๑๒๐
ว 16101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 80
ส 16101 สงั คมศกึ ษา 40
ส 16102 ประวตั ศิ าสตร์ 80
พ 16101 สุขศึกษา และพลศกึ ษา 80
ศ 16101 ศลิ ปะ 80
ง 16101 การงานอาชีพ 80
อ 16101 ภาษาองั กฤษ ๘0
40
รายวชิ าเพม่ิ เติม 40
ส 16201 หนา้ ท่พี ลเมือง 120
ง 1๖๒01 สารพัดประโยชนจ์ ากต้นจาก 40
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น 40
กจิ กรรมแนะแนว 30
กจิ กรรมนักเรยี น 10
1,080
- ลูกเสือ / เนตรนารี
- ชมรม ชมุ นุม
กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์
รวมเวลาเรยี นทงั้ สน้ิ
๑๒
สว่ นท่ี ๓
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี ๑ ภาษาเพอ่ื การสอื่ สาร
มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตคี วามเรอ่ื งทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมี
เหตผุ ล
มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรสู้ ึก และความ
คิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
มาตรฐาน ต ๑.๓ นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่างๆ โดยการพดู และ
การเขียน
สาระท่ี ๒ ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต ๒.๑ เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ ได้อยา่ ง
เหมาะสมกบั กาลเทศะ
มาตรฐาน ต ๒.๒ เข้าใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
กับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
สาระท่ี ๓ ภาษากบั ความสมั พนั ธก์ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื
มาตรฐาน ต ๓.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชอ่ื มโยงความรู้กบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อนื่ และเปน็ พน้ื ฐาน
ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน
สาระท่ี ๔ ภาษากบั ความสมั พันธก์ บั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต ๔.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
มาตรฐาน ต ๔.๒ ใชภ้ าษาต่างประเทศเปน็ เครอ่ื งมอื พ้นื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชพี และ
การแลกเปลย่ี นเรียนรู้กับสังคมโลก
คุณภาพผเู้ รยี น
จบชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓
ปฏบิ ัติตามคำสั่ง คำขอรอ้ งท่ีฟัง อา่ นออกเสียงตัวอักษร คำ กลมุ่ คำ ประโยคง่ายๆ และ บทพูดเข้าจังหวะ
ง่ายๆ ถกู ต้องตามหลักการอ่าน บอกความหมายของคำและกลุม่ คำที่ฟังตรงตามความหมาย ตอบคำถามจาก
การฟงั หรืออ่านประโยค บทสนทนาหรือนิทานง่ายๆ
๑๓
⚫ พูดโตต้ อบดว้ ยคำสั้นๆ งา่ ยๆ ในการสอ่ื สารระหว่างบุคคลตามแบบท่ีฟงั ใช้คำสงั่ และคำขอร้อง
งา่ ยๆ บอกความต้องการง่ายๆ ของตนเอง พดู ขอและใหข้ ้อมลู เกี่ยวกับตนเองและเพ่ือน
บอกความรสู้ ึกของตนเองเกยี่ วกบั สงิ่ ตา่ งๆ ใกลต้ วั หรือกจิ กรรมตา่ งๆ ตามแบบท่ีฟัง
⚫ พูดใหข้ ้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรอื่ งใกล้ตัว จดั หมวดหมู่คำตามประเภทของบุคคล สัตว์ และ
สิง่ ของตามที่ฟงั หรืออา่ น
* พูดและทำท่าประกอบ ตามมารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา บอกชื่อและคำศัพท์
ง่ายๆ เกี่ยวกับเทศกาล/วันสำคัญ/งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา เข้าร่วม
กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเี่ หมาะกบั วยั
⚫ บอกความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คำ กลุ่มคำ และประโยคง่ายๆ ของภาษาต่างประเทศและ
ภาษาไทย
• บอกคำศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วข้องกบั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ นื่
• ฟัง/พดู ในสถานการณ์งา่ ยๆ ท่ีเกดิ ข้ึนในหอ้ งเรยี น
• ใชภ้ าษาต่างประเทศ เพอ่ื รวบรวมคำศัพทท์ เี่ กี่ยวขอ้ งใกล้ตวั
• มีทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศ (เน้นการฟัง-พดู ) สื่อสารตามหัวเรื่องเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว
โรงเรียน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว อาหาร เครื่องดื่ม และเวลาว่างและนันทนาการ ภายในวง คำศัพท์
ประมาณ ๓๐๐-๔๕๐ คำ (คำศพั ท์ทเ่ี ป็นรูปธรรม)
• ใช้ประโยคคำเดียว (One Word Sentence) ประโยคเดี่ยว (Simple Sentence) ในการสนทนา
โต้ตอบตามสถานการณใ์ นชวี ิตประจำวนั
จบช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖
⚫ ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง และคำแนะนำที่ฟังและอ่าน อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ นิทาน
และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือก /ระบุประโยคและข้อความตรงตาม
ความหมายของสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายที่อ่าน บอกใจความสำคัญ และตอบคำถามจากการฟัง
และอา่ น บทสนทนา นิทานงา่ ยๆ และเรอ่ื งเลา่
⚫ พดู /เขยี นโต้ตอบในการส่ือสารระหว่างบุคคล ใช้คำสงั่ คำขอร้อง และใหค้ ำแนะนำ พูด/เขียน
แสดงความต้องการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์
งา่ ยๆ พดู และเขียนเพื่อขอและใหข้ ้อมูลเก่ียวกับตนเอง เพอื่ น ครอบครัว และเรอ่ื งใกล้ตัว พดู /เขียน
แสดงความรสู้ ึกเกย่ี วกับเร่อื งต่างๆ ใกลต้ ัว กจิ กรรมต่างๆ พรอ้ มทงั้ ให้เหตุผลส้นั ๆ ประกอบ
⚫ พูด/เขยี นใหข้ ้อมลู เกย่ี วกับตนเอง เพื่อน และสง่ิ แวดลอ้ มใกล้ตวั เขยี นภาพ แผนผัง แผนภูมิ และ
ตารางแสดงขอ้ มลู ตา่ งๆ ทฟ่ี ังและอา่ น พดู /เขยี นแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับเรอ่ื งตา่ งๆ ใกล้ตวั
๑๔
• ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรม
ของเจ้าของภาษา ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาล/วันสำคัญ/งานฉลอง/ชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา
เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
• บอกความเหมือน/ ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมาย
วรรคตอน และการลำดับคำ ตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย เปรียบเทียบความ
เหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลองและประเพณีของเจา้ ของภาษากับของไทย
• ค้นคว้า รวบรวมคำศัพท์ที่เก่ียวข้องกับกล่มุ สาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่งการเรยี นรู้ และนำเสนอด้วย
การพูด/การเขียน
• ใช้ภาษาสอื่ สารในสถานการณ์ตา่ งๆ ทเ่ี กิดขน้ึ ในห้องเรยี นและสถานศึกษา
• ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื ค้นและรวบรวมขอ้ มลู ตา่ งๆ
• มีทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศ (เน้นการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน) สื่อสารตามหัวเรื่องเกี่ยวกับ
ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สง่ิ แวดลอ้ ม อาหาร เคร่ืองดื่ม เวลาวา่ งและนันทนาการ สขุ ภาพและสวัสดิการ การ
ซอ้ื -ขาย และลมฟ้าอากาศ ภายในวงคำศพั ท์ประมาณ ๑,๐๕๐-๑,๒๐๐ คำ (คำศัพท์ที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม)
• ใชป้ ระโยคเดีย่ วและประโยคผสม (Compound Sentences) ส่อื ความหมายตามบริบทต่างๆ
๑๕
ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
สาระท่ี ๑ ภาษาเพอื่ การสอื่ สาร
มาตรฐาน ต ๑.๑ เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งที่ฟงั และอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เหน็
อยา่ งมเี หตผุ ล
ชน้ั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. ปฏบิ ัติตามคำสั่งง่ายๆ ที่ฟัง คำสั่งทีใ่ ช้ในห้องเรยี น เชน่ Stand up./Sit down./ Listen./
Repeat./Quiet!/ Stop! etc.
๒. ระบตุ ัวอักษรและเสยี ง อา่ นออก ตวั อักษร (letter names) เสยี งตัวอกั ษรและสระ (letter
เสียงและสะกดคำงา่ ยๆ ถูกต้องตาม sounds) และการสะกดคำ
หลกั การอา่ น หลักการอา่ นออกเสยี ง เชน่
- การออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะทา้ ยคำ
- การออกเสียงเนน้ หนกั -เบา (stress)ในคำและ
กลุม่ คำ
- การออกเสียงตามระดับเสียงสูง-ตำ่ (intonation)
ในประโยค
๓. เลอื กภาพตรงตามความหมาย คำ กลมุ่ คำ และความหมาย เกีย่ วกับตนเอง ครอบครวั
ของคำและกลมุ่ คำที่ฟงั โรงเรยี น สงิ่ แวดล้อมใกล้ตวั อาหาร เครอื่ งด่ืม และนนั ทนาการ
ภายในวงคำศัพทป์ ระมาณ ๑๕๐-๒๐๐ คำ (คำศพั ท์ทเี่ ป็น
รปู ธรรรม)
๔. ตอบคำถามจากการฟังเร่ือง บทอ่านเก่ียวกับเรื่องใกลต้ ัว หรอื นิทานที่มภี าพประกอบ
ใกล้ตวั ประโยคคำถามและคำตอบ
- Yes/No Question เช่น
Is it a/an..? Yes, it is./No, it is not. etc.
- Wh-Question เชน่
What is it? It is a/an... etc.
ป.๒ ๑. ปฏบิ ัตติ ามคำสั่ง และคำขอร้อง คำส่งั และคำขอร้องทใ่ี ชใ้ นห้องเรยี น
งา่ ย ๆ ท่ีฟงั - คำส่ัง เช่น Show me a/an.../ Open your book.
Don’t talk in class. etc.
- คำขอร้อง เชน่ Please come here./ Come here,
please. Don’t make a loud noise, please./ Please
don’t make a loud noise. etc.
๑๖
ชน้ั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๒ ๒.ระบตุ วั อักษรและเสยี ง อา่ นออก ตวั อกั ษร เสยี งตัวอกั ษรและสระ การสะกดคำ และประโยค
เสียงคำ สะกดคำ และอ่าน หลกั การอา่ นออกเสยี ง เชน่
ประโยคงา่ ยๆ ถูกต้องตามหลกั การ - การออกเสยี งพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะท้ายคำ
อา่ น - การออกเสียงเน้นหนัก-เบา ในคำและกลมุ่ คำ
- การออกเสียงตามระดับเสียงสงู -ต่ำ ในประโยค
๓. เลอื กภาพตรงตามความหมาย คำ กลมุ่ คำ ประโยคเดยี่ ว (simple sentence) และ
ของคำ กลุ่มคำ และประโยคท่ีฟัง ความหมาย เก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิง่ แวดลอ้ ม
ใกลต้ วั อาหาร เครื่องด่มื และนันทนาการ เป็นวงคำศพั ท์
สะสมประมาณ ๒๕๐-๓๐๐ คำ (คำศัพท์ท่ีเปน็ รปู ธรรรม)
๔. ตอบคำถามจากการฟงั ประโยค ประโยค บทสนทนา หรือนิทานทม่ี ีภาพประกอบ
บทสนทนา หรือนิทานง่ายๆ ท่ีมภี าพ ประโยคคำถามและคำตอบ
ประกอบ - Yes/No Question เช่น
Is this/that a/an..? Yes, it is./No, it isn’t. etc.
- Wh-Question เชน่
What is this/that/it? This/that/It is a/an…
How many…? There is/are…
Where is the…? It is in/on/under… etc.
ป.๓ ๑. ปฏบิ ตั ติ ามคำส่ัง และคำขอรอ้ งที่ คำสงั่ และคำขอรอ้ งทใ่ี ช้ในห้องเรยี น
ฟัง หรืออา่ น - คำส่ัง เชน่ Give me a/an.../Draw and color the
picture./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Don’t eat in
class. etc.
- คำขอรอ้ ง เช่น Please take a queue./ Take a
queue, please./ Don’t make a loud noise, please./
Please don’t make a loud noise./ Can you help
me, please? etc.
๒. อ่านออกเสยี งคำ สะกดคำ อา่ น คำ กลุม่ คำ ประโยคเดยี่ ว และบทพูดเข้าจังหวะ และการ
กลมุ่ คำ ประโยค และบทพูดเขา้ สะกดคำ
จังหวะ (chant) งา่ ยๆ ถูกตอ้ งตาม การใช้พจนานุกรม
หลกั การอ่าน หลกั การอ่านออกเสียง เช่น
- การออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยญั ชนะท้ายคำ
- การออกเสียงเนน้ หนัก-เบา ในคำและกล่มุ คำ
- การออกเสียงตามระดบั เสียงสงู -ตำ่ ในประโยค
๑๗
ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๓ ๓. เลือก/ระบุภาพ หรือสัญลักษณ์ตรง กลมุ่ คำ ประโยคเดยี่ ว สญั ลักษณ์ และความหมายเก่ียวกบั
ตามความหมายของกลุ่มคำและ ตนเอง ครอบครวั โรงเรียน สิ่งแวดลอ้ มใกล้ตวั อาหาร
ประโยคที่ฟัง เคร่อื งด่ืม และนนั ทนาการ เป็น วงคำศพั ทส์ ะสมประมาณ
๓๕๐-๔๕๐ คำ (คำศัพท์ท่เี ป็นรูปธรรรม)
๔. ตอบคำถามจากการฟงั หรืออ่าน ประโยค บทสนทนา หรอื นิทานทม่ี ภี าพประกอบ
ประโยค บทสนทนา หรือนิทาน ประโยคคำถามและคำตอบ
งา่ ยๆ - Yes/No Question เชน่
Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./
No,…isn’t/aren’t/can’t. etc.
- Wh-Question เช่น
What is this/that/it? This/that/It is a/an…
How many…? There is/are…
Where is/are…?
It is
In /on /under…
They are
ป.๔ ๑. ปฏบิ ตั ติ ามคำสั่ง คำขอร้อง และ คำสง่ั และคำขอร้องที่ใช้ในห้องเรียน และคำแนะนำในการ
คำแนะนำ (instructions) ง่ายๆ ท่ี เล่นเกม การวาดภาพ หรือการทำอาหารและเคร่ืองด่ืม
ฟังหรืออา่ น - คำสง่ั เช่น Look at the…/here/over there./ Say it
again./ Read and draw./ Put a/an…in/on/under
a/an…/ Don’t go over there. etc.
- คำขอรอ้ ง เชน่ Please take a queue./ Take a
queue, please./ Can you help me, please? etc.
- คำแนะนำ เชน่ You should read everyday./Think
before you speak./ คำศพั ท์ท่ีใช้ในการเล่นเกม Start./
My turn./ Your turn./ Roll the dice./ Count the
number./ Finish./ คำบอกลำดับข้ันตอน First,...
Second,… Then,… Finally,... etc.
๑๘
ชน้ั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๔ ๒. อ่านออกเสยี งคำ สะกดคำ อ่าน คำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความ บทพูดเข้าจังหวะ และการ
กลมุ่ คำ ประโยค ข้อความง่ายๆ สะกดคำ
และบทพดู เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตาม การใช้พจนานุกรม
หลกั การอ่าน หลกั การอา่ นออกเสียง เชน่
- การออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะท้ายคำ
- การออกเสยี งเน้นหนกั -เบา ในคำและกลุ่มคำ
- การออกเสียงตามระดับเสียงสงู -ต่ำ ในประโยค
๓. เลือก/ระบภุ าพ หรือสญั ลกั ษณ์ กลุ่มคำ ประโยคเดยี่ ว สัญลักษณ์ เคร่อื งหมาย และ
หรอื เครื่องหมายตรงตามความหมาย ความหมาย เกีย่ วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น สงิ่ แวดล้อม
ของประโยคและข้อความสัน้ ๆ ทฟ่ี ัง อาหาร เคร่ืองด่มื เวลาว่างและนนั ทนาการ สขุ ภาพและ
หรอื อ่าน สวัสดกิ าร การซ้ือ-ขาย และลมฟา้ อากาศ และเปน็ วงคำศัพท์
สะสมประมาณ ๕๕๐-๗๐๐ คำ (คำศัพท์ที่เปน็ รปู ธรรมและ
นามธรรม)
๔. ตอบคำถามจากการฟงั และอ่าน ประโยค บทสนทนา นทิ านท่ีมีภาพประกอบ
ประโยค บทสนทนา และนิทาน คำถามเกย่ี วกับใจความสำคญั ของเร่ือง เชน่ ใคร
ง่ายๆ ทำอะไร ที่ไหน
- Yes/No Question เชน่
Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./
No,…isn’t/aren’t/can’t.
Do/Does/Can/Is/Are...? Yes/No… etc.
- Wh-Question เช่น
Who is/are…? He/She is…/They are…
What…?/Where…? It is …/They are…
What...doing? …is/am/are… etc.
- Or-Question เช่น
Is this/it a/an...or a/an…? It is a/an…
ป.๕ ๑. ปฏบิ ตั ติ ามคำสั่ง คำขอร้อง และ คำสั่งและคำขอรอ้ งทีใ่ ชใ้ นห้องเรียน ภาษาทา่ ทาง และ
คำแนะนำงา่ ยๆ ที่ฟังและอา่ น คำแนะนำในการเล่นเกม การวาดภาพ หรือการทำอาหารและ
เครื่องด่ืม
- คำส่ัง เชน่ Look at the…/here/over there./ Say it
again./ Read and draw./ Put a/an…in/on/under
a/an…/ Don’t go over there. etc.
๑๙
ชน้ั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๕ - คำขอรอ้ ง เชน่ Please take a queue./ Take a
queue, please./ Can/Could you help me,
please? etc.
- คำแนะนำ เชน่ You should read everyday./
Think before you speak./ คำศพั ทท์ ใ่ี ชใ้ นการเลน่
เกม Start./ My turn./ Your turn./ Roll the dice./
Count the number./ Finish./ คำบอกลำดับข้ันตอน
First,… Second,… Next,… Then,… Finally,…
etc.
๒. อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ ประโยค ขอ้ ความ และบทกลอน
และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตาม การใชพ้ จนานุกรม
หลกั การอ่าน หลกั การอ่านออกเสียง เช่น
- การออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะท้ายคำ
- การออกเสยี งเนน้ หนัก-เบา ในคำและกลมุ่ คำ
- การออกเสยี งตามระดบั เสียงสูง-ต่ำ ในประโยค
- การออกเสยี งเช่อื มโยง (linking sound) ใน
ข้อความ
- การออกเสยี งบทกลอนตามจงั หวะ
๓. ระบ/ุ วาดภาพ สัญลกั ษณ์ หรอื กลมุ่ คำ ประโยคผสม ขอ้ ความ สัญลกั ษณ์
เครื่องหมายตรงตามความหมายของ เครอื่ งหมาย และความหมายเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว
ประโยคและข้อความส้นั ๆ ทีฟ่ ัง หรือ โรงเรียน สิง่ แวดล้อม อาหาร เครือ่ งดื่ม เวลาว่างและ
อ่าน นนั ทนาการ สุขภาพและสวัสดิการ การซ้ือ-ขาย และ
ลมฟา้ อากาศ และเปน็ วงคำศัพท์สะสมประมาณ ๗๕๐-
๙๕๐ คำ (คำศัพทท์ เ่ี ป็นรูปธรรมและนามธรรม)
๔. บอกใจความสำคญั และตอบ ประโยค บทสนทนา นทิ าน หรือเรอ่ื งส้ันๆ
คำถามจากการฟังและอ่านบท คำถามเกยี่ วกับใจความสำคัญของเร่ือง เชน่ ใคร
สนทนา และนิทานง่ายๆ หรือ ทำอะไร ท่ีไหน เมื่อไร
เรือ่ งสัน้ ๆ - Yes/No Question เช่น
Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can.
No,…isn’t/aren’t/can’t.
Do/Does/Can/Is/Are...? Yes/No… etc.
๒๐
ชน้ั ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๕ - Wh-Question เชน่
Who is/are…? He/She is…/They are…
What…?/Where…? It is …/They are…
What...doing? …is/am/are… etc.
- Or-Question เชน่
Is this/it a/an...or a/an…? It is a/an…
etc.
ป.๖ ๑. ปฏบิ ัติตามคำส่ัง คำขอร้อง และ คำสง่ั คำขอร้อง ภาษาท่าทาง และคำแนะนำในการ
คำแนะนำท่ีฟังและอ่าน เลน่ เกม การวาดภาพ การทำอาหารและเครอ่ื งด่มื และ
การประดิษฐ์
- คำสั่ง เช่น Look at the…/here/over there./ Say
it again./ Read and draw./ Put a/an…in/on/under
a/an…/ Don’t go over there. etc.
- คำขอรอ้ ง เช่น Please look up the meaning in
a dictionary./ Look up the meaning in a
dictionary, please./ Can/Could you help me,
please? etc.
- คำแนะนำ เช่น You should read everyday./
Think before you speak./ คำศพั ท์ท่ีใช้ในการเล่น
เกม Start./ My turn./ Your turn./ Roll the dice./
Count the number./ Finish./คำบอกลำดบั ขัน้ ตอน
First,… Second, Next, Then, Finally,… etc.
๒. อ่านออกเสยี งข้อความ นทิ าน ข้อความ นิทาน และบทกลอน
และบทกลอนส้ันๆ ถูกต้องตาม การใชพ้ จนานุกรม
หลักการอา่ น หลกั การอา่ นออกเสยี ง เช่น
- การออกเสยี งพยญั ชนะต้นคำและพยัญชนะทา้ ยคำ
- การออกเสียงเน้นหนกั -เบา ในคำและกล่มุ คำ
- การออกเสยี งตามระดับเสียงสงู -ต่ำ ในประโยค
- การออกเสียงเชือ่ มโยง (linking sound) ใน
ขอ้ ความ
- การออกเสยี งบทกลอนตามจังหวะ
๒๑
ชน้ั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๖ ๓. เลือก/ระบุประโยค หรือข้อความ ประโยค หรือข้อความ สญั ลักษณ์ เครื่องหมาย
สัน้ ๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรอื และความหมายเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น
เครื่องหมายที่อา่ น สง่ิ แวดลอ้ ม อาหาร เครื่องดมื่ เวลาวา่ งและ
นันทนาการ สขุ ภาพและสวัสดกิ าร การซ้ือ-ขาย และ
ลมฟ้าอากาศ และเป็นวงคำศัพท์สะสมประมาณ
๑,๐๕๐-๑,๒๐๐ คำ (คำศพั ท์ท่ีเปน็ รูปธรรมและ
นามธรรม)
๔. บอกใจความสำคัญและตอบ ประโยค บทสนทนา นิทาน หรอื เร่ืองเล่า
คำถามจากการฟงั และอา่ นบท คำถามเกย่ี วกับใจความสำคญั ของเรื่อง เชน่ ใคร
สนทนา นทิ านง่ายๆ และเร่ืองเล่า ทำอะไร ท่ีไหน เมอื่ ไร อย่างไร ทำไม
- Yes/No Question เชน่
Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./
No,…isn’t/aren’t/can’t.
Do/Does/Can/Is/Are...? Yes/No…
etc.
- Wh-Question เชน่
Who is/are…? He/She is…/They
are…
What…?/Where…? It is …/They are…
What...doing? …is/am/are… etc.
- Or-Question เช่น
Is this/it a/an...or a/an…? It is a/an…
Is/Are/Was/Were/Did…or…? etc.
๒๒
สาระที่ ๑ ภาษาเพอื่ การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต ๑.๒ มที ักษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ
และความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. พูดโต้ตอบดว้ ยคำสัน้ ๆ งา่ ยๆ ใน บทสนทนาทใ่ี ช้ในการทักทาย กลา่ วลา ขอบคุณ
การสอื่ สารระหวา่ งบุคคลตามแบบที่ ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ความทใ่ี ชแ้ นะนำตนเอง
ฟงั เชน่ Hi/ Hello/ Good morning/ Good
afternoon/ Good evening/ I am…/ Goodbye./
Bye./ Thank you./ I am sorry. etc.
๒. ใชค้ ำส่งั ง่ายๆ ตามแบบท่ีฟัง คำส่งั ทใ่ี ชใ้ นห้องเรียน
๓. บอกความต้องการงา่ ยๆ ของ คำศัพท์ สำนวน และประโยคทใ่ี ช้บอกความต้องการ
ตนเองตามแบบที่ฟัง เชน่ I want…/Please,… etc.
๔. พดู ขอและให้ข้อมลู ง่ายๆ เก่ียวกบั คำศัพท์ สำนวน และประโยคท่ใี ช้ขอและให้ข้อมลู
ตนเองตามแบบท่ีฟัง เกย่ี วกบั ตนเอง เชน่ What’s your name?/ My
name is…/ I am…/ How are you?/ I am fine.
etc.
ป.๒ ๑. พดู โตต้ อบดว้ ยคำสนั้ ๆ ง่ายๆ ใน บทสนทนาทใี่ ช้ในการทักทาย กลา่ วลา ขอบคณุ
การสอ่ื สารระหวา่ งบุคคลตามแบบที่ ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ความทีใ่ ช้แนะนำตนเอง
ฟัง เช่น Hi/ Hello/ Good morning/ Good
afternoon/ Good evening/ How are you?/
I’m fine./ I am… / Goodbye./ Bye./ Thank
you./ I am sorry. etc.
๒. ใชค้ ำสั่งและคำขอร้องงา่ ยๆ ตาม คำสั่งและคำขอร้องท่ีใช้ในห้องเรียน
แบบท่ีฟัง
๓. บอกความต้องการง่ายๆ ของ คำศัพท์ สำนวน และประโยคทใ่ี ชบ้ อกความต้องการ
ตนเองตามแบบที่ฟัง เชน่ I want…/ Please,… etc.
๔. พูดขอและให้ข้อมูลงา่ ยๆ เก่ยี วกบั คำศัพท์ สำนวน และประโยคทใ่ี ช้ขอและให้ข้อมลู
ตนเองตามแบบที่ฟงั เกี่ยวกับตนเอง เช่น What’s your name?/ My
name is…/ I am…/ How are you?/ I am fine.
etc.
๒๓
ชน้ั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๓ ๑. พูดโตต้ อบด้วยคำสนั้ ๆ งา่ ยๆ ใน บทสนทนาท่ีใชใ้ นการทักทาย กลา่ วลา ขอบคณุ
การสอ่ื สารระหว่างบุคคลตามแบบที่ ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ความที่ใชแ้ นะนำตนเอง
ฟัง เช่น Hi/ Hello/ Good morning/ Good
afternoon/ Good evening/ I am sorry./ How
are you? I’m fine.Thank you. And you?/ Nice
to see you./ Nice to see you too./
Goodbye./Bye./ See you soon/ later./
Thanks./ Thank you./ Thank you very
much./ You’re welcome. etc.
๒ .ใชค้ ำส่งั และคำขอร้องงา่ ยๆ ตาม คำส่งั และคำขอร้องทใี่ ช้ในห้องเรียน
แบบทีฟ่ ัง
๓. บอกความต้องการง่ายๆ ของ คำศัพท์ สำนวน และประโยคที่ใชบ้ อกความต้องการ
ตนเองตามแบบที่ฟัง เชน่ Please,…/ May I go out?/ May I come in?
etc.
๔. พดู ขอและให้ข้อมูลง่ายๆ เกี่ยวกับ คำศัพท์ สำนวน และประโยคทใ่ี ชข้ อและให้ข้อมูล
ตนเอง และเพ่ือนตามแบบท่ีฟัง เกี่ยวกบั ตนเอง และเพื่อน เชน่
What’s your name My name is…
How are you? I am fine.
What time is it? It is one o’clock.
What is this? It is a/an….
๕. บอกความร้สู กึ ของตนเองเกี่ยวกับ คำและประโยคที่ใชแ้ สดงความรูส้ กึ เชน่ ดใี จ เสยี ใจ
ส่ิงตา่ งๆ ใกลต้ วั หรอื กจิ กรรมตา่ งๆ ชอบไม่ชอบ เชน่ Yeah!/ Great!/ Cool!/ I’m
ตามแบบที่ฟงั happy./ I like cats./ I don’t like snakes. etc.
ป.๔ ๒ .ใชค้ ำส่งั คำขอร้อง และคำขอ คำสง่ั คำขอร้อง และคำขออนุญาตที่ใช้ใน
อนญุ าตง่ายๆ หอ้ งเรยี น
๓. พดู /เขยี นแสดงความต้องการ คำศัพท์ สำนวน และประโยคท่ใี ชแ้ สดงความต้องการ
ของตนเอง และขอความช่วยเหลอื และขอความช่วยเหลอื ในสถานการณ์ต่างๆ เช่น I
ในสถานการณง์ า่ ยๆ want …/ Please…/ May…?/ I need your help./
Please help me./ Help me! etc.
๒๔
ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
๔. พดู /เขียนเพื่อขอและให้ข้อมลู คำศัพท์ สำนวน และประโยคทีใ่ ช้ขอและใหข้ ้อมูล
เกย่ี วกบั ตนเอง เพื่อน และครอบครวั เกยี่ วกับตนเอง สิง่ ใกลต้ ัว เพ่ือน และครอบครวั เชน่
What’s your name? My name is…
What time is it? It is one o’clock.
What is this? It is a/an…
How many…are there? There is a/an…/There
are…
Where is the…? It is in/on/under…
etc.
๕. พูดแสดงความรูส้ ึกของตนเอง คำและประโยคที่ใชแ้ สดงความรูส้ ึก เชน่ ดใี จ เสยี ใจ
เกยี่ วกับเร่ืองตา่ งๆ ใกลต้ วั และ ชอบ ไม่ชอบ รัก ไมร่ กั เช่น
กิจกรรมต่างๆ ตามแบบที่ฟงั I/You/We/They like…/He/She likes…
I/You/We/They love…/He/She loves…
I/You/We/They don’t like/love/feel…
He/She doesn’t like/love/feel…
I/You/We/They feel… etc.
ป.๕ ๑. พูด/เขยี นโตต้ อบในการสอื่ สาร บทสนทนาที่ใชใ้ นการทักทาย กลา่ วลา ขอบคณุ
ระหวา่ งบุคคล ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรกอยา่ งสุภาพ ประโยค/
ข้อความท่ีใชแ้ นะนำตนเอง เพือ่ น และบุคคลใกล้ตัว
และสำนวนการตอบรบั เชน่ Hi/ Hello/ Good
morning/ Good afternoon/ Good evening/ I
am sorry./ How are you?/ I’m fine. Thank
you. And you?/ Hello. I am…/ Hello,…I am…
This is my sister. Her name is… /Hello,…/
Nice to see you. Nice to see you too./
Goodbye./ Bye./ See you soon/later./
Good/Very good./ Thanks./ Thank you./
Thank you very much./ You’re welcome./
It’s O.K. etc.
๒๕
ชน้ั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๕ ๒. ใชค้ ำสัง่ คำขอร้อง คำขอ คำสั่ง คำขอรอ้ ง คำแนะนำทีม่ ี ๑-๒ ขนั้ ตอน
อนุญาต และให้คำแนะนำง่ายๆ คำศัพท์ สำนวน และประโยคทีใ่ ช้บอกความต้องการ
๓. พดู /เขียนแสดงความตอ้ งการ
ขอความช่วยเหลอื ตอบรับและ ขอความชว่ ยเหลือ ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วาม
ปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลือใน
สถานการณ์ง่ายๆ ชว่ ยเหลอื เชน่ Please…/ May…?/ I need…/
๔. พดู /เขยี นเพื่อขอและใหข้ ้อมูล
เกยี่ วกับตนเอง เพ่ือน ครอบครัว Help me!/ Can/ Could…?/ Yes,.../No,… etc.
และเรือ่ งใกล้ตัว
คำศัพท์ สำนวน และประโยคทใี่ ช้ขอและใหข้ ้อมลู
๕. พูด/เขยี นแสดงความรสู้ ึกของ
ตนเองเก่ียวกบั เรื่องตา่ งๆ ใกล้ตัว เกีย่ วกับตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเรอื่ งใกล้ตวั เชน่
และกจิ กรรมต่างๆ พร้อมทัง้ ให้
เหตุผลสนั้ ๆ ประกอบ What do you do? I’m a/an…
ป.๖ ๑. พดู /เขยี นโต้ตอบในการส่ือสาร What is she/he? …is a/an (อาชีพ)
ระหวา่ งบุคคล
How old/tall…? I am…
Is/Are/Can…or…? …is/are/can…
Is/Are…going to…or…? …is/are going to…
etc.
คำและประโยคท่ใี ชแ้ สดงความรสู้ ึก เช่น ชอบ ไม่
ชอบ ดีใจ เสียใจ มีความสขุ เศรา้ หิว รสชาติ เชน่
I’m…/He/She/It is…/You/We/They are…
I/You/We/They like…/He/She likes…because…
I/You/We/They love…/He/She
loves…because…
I/You/We/They don’t
like/love/feel…because…
He/She doesn’t like/love/feel…because…
I/You/We/They feel…because… etc.
บทสนทนาท่ีใชใ้ นการทักทาย กล่าวลา ขอบคณุ
ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรกอย่างสุภาพ ประโยค/
ข้อความท่ีใชแ้ นะนำตนเอง เพ่อื น และบคุ คลใกลต้ วั
และสำนวนการตอบรับ เช่น Hi/ Hello/ Good
morning/ Good afternoon/ Good evening/ I
am
๒๖
ชน้ั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๖ sorry./ How are you?/ I’m fine./ Very well./
Thank you. And you?/ Hello. I am… Hello,…I
am… This is my sister. Her name is…
Hello,…/ Nice to see you. Nice to see you,
too./ Goodbye./ Bye./ See you soon/later./
Great!/ Good./ Very good. Thank you./ Thank
you very much./ You’re welcome./ It’s O.K./
That’s O.K./ That’s all right./ Not at all./ Don’t
worry./ Never mind./ Excuse me./ Excuse me,
Sir./Miss./Madam. etc.
๒. ใชค้ ำสง่ั คำขอร้อง และให้ คำสั่ง คำขอร้อง และคำแนะนำที่มี ๒-๓ ขั้นตอน
คำแนะนำ
๓. พูด/เขียนแสดงความตอ้ งการ คำศัพท์ สำนวน และประโยคท่ีใช้บอกความต้องการ
ขอความชว่ ยเหลือ ตอบรับและ ขอความช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏิเสธการใหค้ วาม
ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือใน ชว่ ยเหลือ เชน่ Please…/ May…?/ I need…/
สถานการณ์ง่ายๆ Help me!/ Can/Could…?/ Yes,.../No,… etc.
๔. พูดและเขียนเพ่อื ขอและใหข้ ้อมูล คำศัพท์ สำนวน และประโยคทีใ่ ชข้ อและใหข้ ้อมูล
เกย่ี วกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และ เกย่ี วกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเร่ืองใกลต้ ัว
เร่อื งใกลต้ ัว เช่น
What do you do? I’m a/an…
What is she/he? …is a/an (อาชีพ)
How old/tall…? I am…
๕. พูด/เขยี นแสดงความรสู้ ึกของ คำและประโยคที่ใชแ้ สดงความร้สู ึก และการให้
ตนเองเก่ียวกับเรอื่ งตา่ งๆ ใกล้ตัว เหตผุ ลประกอบ เช่น ชอบ/ไม่ชอบ ดีใจ เสียใจ มี
กจิ กรรมต่างๆ พร้อมท้ังใหเ้ หตุผล ความสุข เศรา้ หิว รสชาติ สวย นา่ เกลียด
สั้นๆ ประกอบ เสียงดงั ดี ไมด่ ี เช่น
I’m…/He/She/It is…/You/We/They are…
I/You/We/They like…/He/She
likes…because…
๒๗
ชน้ั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๖ I/You/We/They love…/He/She
loves…because…
I/You/We/They don’t
like/love/feel…because…
He/She doesn’t like/love/feel…because…
I/You/We/They feel…because… etc.
สาระท่ี ๑ ภาษาเพอ่ื การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต ๑.๓ นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพดู
และการเขยี น
ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. พดู ใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเองและ คำและประโยคที่ใช้ในการพดู ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับตนเอง
เรื่องใกลต้ วั บุคคลใกล้ตัว และเรอ่ื งใกล้ตัว เช่น บอกช่ือ อายุ
รูปรา่ ง สว่ นสูง เรยี กสิ่งตา่ งๆ จำนวน ๑-๒๐ สี
ขนาด สถานท่ีอยูข่ องสง่ิ ของ
ป.๒ ๑. พดู ใหข้ ้อมูลเกย่ี วกบั ตนเองและ คำและประโยคท่ใี ชใ้ นการพูดให้ข้อมูลเก่ียวกบั ตนเอง
เร่ืองใกล้ตัว บุคคลใกล้ตวั และเรือ่ งใกลต้ วั เชน่ บอกชื่อ อายุ
รูปรา่ ง ส่วนสูง เรียกส่ิงต่างๆ จำนวน ๑-๓๐ สี
ขนาด สถานที่อยู่ของสง่ิ ของ
ป.๓ ๑. พูดให้ขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเองและ คำและประโยคท่ีใช้ในการพูดให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง
เรือ่ งใกลต้ วั บุคคลใกล้ตวั และเรื่องใกลต้ ัว เชน่ บอกชือ่ อายุ
รปู รา่ ง สว่ นสงู เรยี กสงิ่ ต่างๆ จำนวน ๑-๕๐ สี
ขนาด สถานท่ีอยูข่ องสิง่ ของ
๒. จัดหมวดหมคู่ ำตามประเภทของ คำ กลุ่มคำทมี่ ีความหมายเกีย่ วกบั บุคคล สตั ว์ และ
บุคคล สัตว์ และสิ่งของ ตามท่ฟี ัง สิ่งของ เชน่ การระบุ/เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของ
หรืออ่าน ภาพกับคำ หรือกลุม่ คำ โดยใช้ภาพ แผนภมู ิ
แผนภาพ แผนผัง
ป.๔ ๑. พดู /เขยี นใหข้ ้อมลู เกยี่ วกับตนเอง ประโยคและข้อความท่ีใช้ในการพูดใหข้ ้อมูลเก่ียวกับ
และเร่ืองใกลต้ วั ตนเอง บคุ คล สัตว์ และเรอื่ งใกล้ตวั เชน่ ชอื่ อายุ
๒๘
๒. พูด/วาดภาพแสดงความสัมพันธ์ รูปร่าง สี ขนาด รูปทรง สง่ิ ตา่ งๆ จำนวน ๑-๑๐๐
ของสง่ิ ตา่ งๆ ใกลต้ วั ตามที่ฟังหรอื วนั เดอื น ปี ฤดกู าล ที่อย่ขู องส่ิงตา่ งๆ
อา่ น เครื่องหมายวรรคตอน
๓. พูดแสดงความคิดเหน็ ง่ายๆ คำ กลุ่มคำทมี่ ีความหมายสมั พันธ์ของส่ิงตา่ งๆ ใกล้
เกีย่ วกับเรอ่ื งตา่ งๆ ใกล้ตวั ตัว เชน่ การระบุ/เช่ือมโยงความสมั พนั ธข์ องภาพกบั
คำ หรือกลมุ่ คำ โดยใช้ภาพ แผนภมู ิ แผนภาพ
ประโยคท่ใี ชใ้ นการแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับเร่ือง
ต่างๆ ใกล้ตวั
ชนั้ ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๕ ๑. พูด/เขยี นใหข้ ้อมลู เกยี่ วกับ ประโยคและขอ้ ความที่ใช้ในการใหข้ ้อมูลเกยี่ วกบั บุคคล
ตนเองและเร่อื งใกลต้ ัว สัตว์ สถานที่ และกจิ กรรมต่างๆ เชน่ ขอ้ มูลสว่ นบุคคล
เรือ่ งตา่ งๆ ใกลต้ วั จำนวน ๑-๕๐๐ ลำดับที่ วัน เดือน
ปี ฤดูกาล เวลา สภาพดนิ ฟ้าอากาศ อารมณ์
ความรูส้ ึก สี ขนาด รปู ทรง ทอี่ ยู่ของสง่ิ ต่างๆ
เคร่ืองหมายวรรคตอน
๒. เขยี นภาพ แผนผัง และแผนภูมิ คำ กล่มุ คำ ประโยคที่แสดงข้อมลู และความหมายของ
แสดงขอ้ มูลตา่ งๆ ตามท่ีฟังหรืออา่ น เรื่องต่างๆ ภาพ แผนผงั แผนภูมิ ตาราง
๓. พดู แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับ ประโยคท่ใี ชใ้ นการพดู แสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั
เรื่องต่างๆ ใกลต้ ัว กจิ กรรมหรือเร่ืองต่างๆ ใกล้ตัว
ป.๖ ๑. พูด/เขยี นให้ข้อมลู เกย่ี วกบั ประโยคและข้อความทใี่ ช้ในการใหข้ ้อมูลเกยี่ วกบั
ตนเอง เพ่ือน และส่ิงแวดลอ้ มใกล้ ตนเอง กิจวัตรประจำวัน เพื่อน สงิ่ แวดลอ้ มใกลต้ วั
ตวั เชน่ ข้อมลู สว่ นบคุ คล เรยี กสง่ิ ต่างๆ จำนวน ๑-๑,๐๐๐
ลำดับที่ วนั เดอื น ปี ฤดูกาล เวลา กิจกรรมทีท่ ำ สี
ขนาด รูปทรง ที่อยู่ของสง่ิ ต่างๆ ทิศทางง่ายๆ สภาพ
ดินฟ้าอากาศ อารมณ์ ความร้สู ึก
เครอ่ื งหมายวรรคตอน
๒. เขยี นภาพ แผนผัง แผนภมู ิ คำ กลุ่มคำ และประโยคที่มีความหมายสมั พันธ์กับภาพ
และตารางแสดงข้อมูลต่างๆ ท่ฟี ัง แผนผัง แผนภมู ิ และตาราง
หรอื อ่าน
๓. พูด/เขียนแสดงความคิดเห็น ประโยคทใ่ี ช้ในการแสดงความคิดเห็น
เกย่ี วกบั เรื่องตา่ งๆ ใกลต้ วั
๒๙
สาระที่ ๒ ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต ๒.๑ เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง
เหมาะสมกับกาลเทศะ
ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. พูดและทำท่าประกอบ ตาม วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เชน่ การใช้สีหนา้
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ทา่ ทางประกอบการพดู ขณะแนะนำตนเอง การ
สมั ผสั มอื การโบกมอื การแสดงอาการตอบรับหรือ
ปฏิเสธ
๒. บอกชื่อและคำศัพทเ์ ก่ยี วกับ คำศัพทเ์ กย่ี วกับเทศกาลสำคัญของเจ้าของภาษา เชน่
เทศกาลสำคญั ของเจา้ ของภาษา วนั คริสต์มาส วนั ข้นึ ปใี หม่ วันวาเลนไทน์
๓. เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและ กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเล่นเกม
วฒั นธรรมทเ่ี หมาะกับวัย การรอ้ งเพลง การเล่านิทานประกอบทา่ ทาง
วนั ครสิ ต์มาส วันขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์
ป.๒ ๑. พดู และทำท่าประกอบ ตาม วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น การใช้สีหน้า
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา ท่าทางประกอบการพดู ขณะแนะนำตนเอง การ
สมั ผัสมอื การโบกมอื การแสดงอาการตอบรับหรือ
ปฏเิ สธ
๒. บอกชื่อและคำศัพท์เกี่ยวกับ คำศัพท์เกี่ยวกับเทศกาลสำคัญของเจ้าของภาษา เช่น
เทศกาลสำคญั ของเจา้ ของภาษา วันคริสต์มาส วนั ขน้ึ ปใี หม่ วนั วาเลนไทน์
๓. เข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและ กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเลน่ เกม
วฒั นธรรมท่เี หมาะกบั วยั การรอ้ งเพลง การเล่านิทานประกอบท่าทาง
วนั คริสต์มาส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์
ป.๓ ๑. พูดและทำทา่ ประกอบ ตาม มารยาทสังคม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น
มารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจา้ ของ การขอบคุณ ขอโทษ การใช้สหี นา้ ทา่ ทางประกอบ
ภาษา การพูดขณะแนะนำตนเอง การสัมผัสมือ การโบก
มอื การแสดงอาการตอบรับหรือปฏเิ สธ
๒. บอกชื่อและคำศัพท์งา่ ยๆ เกี่ยวกับ คำศัพท์เกยี่ วกบั เทศกาล/วนั สำคญั /งานฉลอง และ
เทศกาล/วนั สำคญั /งานฉลอง และ ชีวติ ความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา เชน่ วนั ครสิ ต์มาส
ชีวิตความเปน็ อยขู่ องเจา้ ของภาษา วันขน้ึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ เครอ่ื งแตง่ กาย อาหาร
เครอ่ื งดื่ม
๓๐
ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๓ ๓. เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและ กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเล่นเกม
วัฒนธรรมทีเ่ หมาะกบั วยั การรอ้ งเพลง การเลา่ นทิ านประกอบทา่ ทาง
วันคริสตม์ าส วันขึน้ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์
ป.๔ ๑. พูดและทำทา่ ประกอบอย่างสุภาพ มารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เชน่
ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของ การขอบคณุ ขอโทษ การใช้สีหนา้ ท่าทางประกอบ
เจา้ ของภาษา การพดู ขณะแนะนำตนเอง การสมั ผัสมือ การโบกมือ
การแสดงความรสู้ ึกชอบ/ไม่ชอบ การแสดงอาการ
ตอบรับหรือปฏเิ สธ
๒. ตอบคำถามเกี่ยวกับเทศกาล/ คำศัพท์และข้อมูลเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สำคญั /งาน
วันสำคญั / งานฉลองและชวี ติ ความ ฉลอง และชวี ิตความเป็นอยู่ของเจา้ ของภาษา เช่น
เป็นอยงู่ ่ายๆ ของเจ้าของภาษา วนั คริสตม์ าส วนั ขึ้นปใี หม่ วันวาเลนไทน์
เครือ่ งแตง่ กาย ฤดกู าล อาหาร เครอ่ื งดืม่
๓. เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและ กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเลน่ เกม
วฒั นธรรมที่เหมาะกบั วยั การรอ้ งเพลง การเลา่ นิทานประกอบท่าทาง บทบาท
สมมตุ ิ วนั คริสต์มาส วันข้ึนปีใหม่ วนั วาเลนไทน์
ป.๕ ๑. ใชถ้ ้อยคำ น้ำเสียง และกริ ิยา การใช้ถอ้ ยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทาง ตามมารยาท
ท่าทางอยา่ งสุภาพ ตามมารยาทสังคม สงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น
และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา การขอบคณุ ขอโทษ การใช้สีหน้าทา่ ทาง
ประกอบการพดู ขณะแนะนำตนเอง การสมั ผสั มือ
การโบกมือ การแสดงความรู้สกึ ชอบ/ไมช่ อบ การ
กลา่ วอวยพร การแสดงอาการตอบรับหรือปฏิเสธ
๒. ตอบคำถาม/บอกความสำคญั ของ ข้อมูลและความสำคญั ของเทศกาล/วันสำคัญ/งาน
เทศกาล/วนั สำคัญ/งานฉลองและชวี ิต ฉลองและชีวิตความเปน็ อยู่ของเจา้ ของภาษา เช่น
ความเป็นอยู่ง่ายๆ ของเจ้าของภาษา วนั คริสตม์ าส วันขึน้ ปีใหม่ วันวาเลนไทน์
เคร่ืองแตง่ กาย ฤดกู าล อาหาร เครอ่ื งดื่ม
๓. เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและ กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเลน่ เกม
วัฒนธรรมตามความสนใจ การรอ้ งเพลง การเลา่ นิทาน บทบาทสมมุติ
วันขอบคุณพระเจ้า วนั ครสิ ต์มาส วันขึ้นปีใหม่
วนั วาเลนไทน์
๓๑
ชน้ั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๖ ๑. ใช้ถ้อยคำ น้ำเสยี ง และกริ ิยา การใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกริ ิยาทา่ ทาง ตามมารยาท
ท่าทางอย่างสภุ าพเหมาะสม ตาม สงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เช่น การ
มารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของ ขอบคุณ ขอโทษ การใช้สหี นา้ ท่าทางประกอบการ
เจ้าของภาษา พดู ขณะแนะนำตนเอง การสมั ผสั มือ การโบกมือ
การแสดงความรูส้ ึกชอบ/ไมช่ อบ การกลา่ วอวยพร
การแสดงอาการตอบรบั หรือปฏิเสธ
๒. ให้ขอ้ มลู เกย่ี วกับเทศกาล/วนั ข้อมูลและความสำคญั ของเทศกาล/วันสำคญั /
สำคัญ/งานฉลอง/ชีวติ ความเปน็ อยู่ งานฉลองและชวี ติ ความเป็นอยูข่ องเจา้ ของภาษา
ของเจ้าของภาษา เช่น วนั คริสตม์ าส วนั ขึ้นปีใหม่ วนั วาเลนไทน์
เครอ่ื งแต่งกายตามฤดูกาล อาหาร เคร่ืองดืม่
๓. เขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและ กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเล่นเกม
วัฒนธรรมตามความสนใจ การรอ้ งเพลง การเลา่ นิทาน บทบาทสมมุติ
วันขอบคุณพระเจ้า วันครสิ ต์มาส วนั ขึ้นปใี หม่
วันวาเลนไทน์
๓๒
สาระที่ ๒ ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต ๒.๒ เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากบั
ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
ชนั้ ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑.ระบตุ วั อกั ษรและเสียงตัวอักษรของ ตัวอักษรและเสยี งตวั อักษรของภาษาต่างประเทศ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย และภาษาไทย
ป.๒ ๑.ระบุตัวอักษรและเสียงตัวอักษรของ ตัวอกั ษรและเสยี งตัวอักษรของภาษาต่างประเทศ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย และภาษาไทย
ป.๓ ๑. บอกความแตกตา่ งของเสียง ความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คำ กล่มุ คำ และ
ตัวอกั ษร คำ กลมุ่ คำ และประโยค ประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
ง่ายๆ ของภาษาตา่ งประเทศและ
ภาษาไทย
ป.๔ ๑. บอกความแตกตา่ งของเสยี ง ความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คำ กลมุ่ คำ และ
ตวั อักษร คำ กลมุ่ คำ ประโยค และ ประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
ขอ้ ความของภาษาต่างประเทศและ
ภาษาไทย
๒. บอกความเหมือน/ความแตกต่าง ความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาล และ
ระหว่างเทศกาลและงานฉลอง งานฉลองตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากับ ของ
ตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากบั ไทย
ของไทย
ป.๕ ๑. บอกความเหมือน/ความแตกตา่ ง ความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียง
ระหว่างการออกเสียงประโยค ประโยคชนดิ ต่างๆ ของเจ้าของภาษากับของไทย
ชนดิ ต่างๆ การใชเ้ ครื่องหมาย การใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลำดบั คำตาม
วรรคตอน และการลำดับคำ (order) โครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศและ
ตามโครงสรา้ งประโยค ของ ภาษาไทย
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
๒. บอกความเหมือน/ความแตกต่าง ความเหมอื น/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลและ
ระหวา่ งเทศกาลและงานฉลอง งานฉลองของเจ้าของภาษากับของไทย
ของเจ้าของภาษากับของไทย
๓๓
ชนั้ ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๖ ๑. บอกความเหมือน/ความแตกตา่ ง ความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสยี ง
ระหว่างการออกเสยี งประโยค ประโยคชนิดตา่ งๆ ของเจ้าของภาษากับของไทย
ชนดิ ตา่ งๆ การใช้เคร่ืองหมาย การใชเ้ คร่อื งหมายวรรคตอนและการลำดับคำตาม
วรรคตอน และการลำดบั คำตาม โครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและ
โครงสร้างประโยค ของ ภาษาไทย
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
๒. เปรียบเทียบความเหมอื น/ความ การเปรยี บเทยี บความเหมือน/ความแตกตา่ งระหว่าง
แตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง เทศกาล งานฉลอง และประเพณขี องเจ้าของภาษา
และประเพณีของเจา้ ของภาษากับ กบั ของไทย
ของไทย
สาระท่ี ๓ ภาษากบั ความสมั พันธก์ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ นื่
มาตรฐาน ต ๓.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชือ่ มโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพนื้ ฐานใน
การพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั น์ของตน
ชน้ั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. บอกคำศัพท์ท่เี ก่ยี วข้องกบั กลมุ่ คำศัพท์ท่เี กย่ี วข้องกับกลุม่ สาระการเรียนรู้อน่ื
สาระการเรียนรู้อ่ืน
ป.๒ ๑. บอกคำศัพท์ท่เี ก่ยี วข้องกบั กลมุ่ คำศัพท์ทีเ่ กี่ยวข้องกับกล่มุ สาระการเรยี นรู้อ่นื
สาระการเรียนรู้อืน่
ป.๓ ๑. บอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลมุ่ คำศัพทท์ ี่เก่ียวขอ้ งกับกลุม่ สาระการเรียนรู้อื่น
สาระการเรยี นรู้อน่ื
ป.๔ ๑. คน้ ควา้ รวบรวมคำศัพท์ท่ี การคน้ ควา้ การรวบรวม และการนำเสนอ คำศพั ท์
เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรอู้ ื่น ทเ่ี กย่ี วข้องกบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อื่น
และนำเสนอด้วยการพูด / การเขยี น
ป.๕ ๑. คน้ ควา้ รวบรวมคำศพั ท์ที่ การค้นควา้ การรวบรวม และการนำเสนอคำศพั ท์ที่
เกยี่ วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรูอ้ ่ืน เก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นร้อู น่ื
และนำเสนอดว้ ยการพูด / การเขียน
ป.๖ ๑. ค้นคว้า รวบรวมคำศัพท์ท่ี การค้นคว้า การรวบรวม และการนำเสนอคำศพั ทท์ ี่
เก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ ื่น เกยี่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื
จากแหลง่ เรียนรู้ และนำเสนอด้วย
การพูด / การเขียน
๓๔
สาระท่ี ๔ ภาษากบั ความสมั พันธก์ บั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต ๔.๑ ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. ฟัง/พดู ในสถานการณ์ง่ายๆ ที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรยี น การใชภ้ าษาในการฟัง/พูดในสถานการณ์ง่ายๆ ทเี่ กิดขน้ึ ใน
หอ้ งเรยี น
ป.๒ ๑. ฟัง/พูดในสถานการณ์ง่ายๆ ทเี่ กิดขึ้นในหอ้ งเรยี น การใช้ภาษาในการฟัง/พูดในสถานการณง์ ่ายๆ ท่ีเกิดข้ึนใน
ห้องเรยี น
ป.๓ ๑. ฟงั /พูดในสถานการณ์งา่ ยๆ ที่เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียน การใชภ้ าษาในการฟงั /พดู ในสถานการณง์ ่ายๆ ท่เี กิดข้ึนใน
หอ้ งเรยี น
ป.๔ ๑. ฟงั และพดู /อา่ นในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นใน การใชภ้ าษาในการฟงั และพูด/อา่ นในสถานการณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ ใน
หอ้ งเรยี นและสถานศึกษา ห้องเรยี น
ป.๕ ๑. ฟงั พูด และอา่ น/เขยี นในสถานการณ์ต่างๆ ที่ การใช้ภาษาในการฟงั พูด และอา่ น/เขียนในสถานการณ์
เกดิ ข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา ต่างๆ ท่เี กดิ ขึ้นในห้องเรียน
ป.๖ ๑. ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณต์ า่ งๆ ท่ีเกดิ ขนึ้ ใน การใชภ้ าษาสอื่ สารในสถานการณ์ตา่ งๆท่ีเกดิ ข้ึนในหอ้ งเรยี น
หอ้ งเรยี นและสถานศึกษา และสถานศึกษา
สาระท่ี ๔ ภาษากบั ความสมั พันธก์ บั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต ๔.๒ ใช้ภาษาตา่ งประเทศเปน็ เครื่องมือพืน้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการ
แลกเปลย่ี นเรยี นรู้กบั สังคมโลก
ชน้ั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. ใช้ภาษาต่างประเทศ เพื่อรวบรวมคำศัพท์ที่ การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคำศพั ท์ทเ่ี กีย่ วข้อง
เกี่ยวขอ้ งใกล้ตัว ใกลต้ ัว จากส่ือต่างๆ
การใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ทเ่ี กย่ี วข้อง
ป.๒ ๑. ใชภ้ าษาต่างประเทศ เพ่ือรวบรวมคำศพั ท์ท่ี ใกลต้ วั จากส่อื ต่างๆ
เกย่ี วขอ้ งใกล้ตวั การใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ที่เกีย่ วข้อง
ใกลต้ วั จากสอ่ื ตา่ งๆ
ป.๓ ๑. ใชภ้ าษาต่างประเทศ เพ่ือรวบรวมคำศัพท์ท่ี การใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสบื ค้นและการรวบรวม
เกยี่ วขอ้ งใกล้ตวั คำศัพท์ทีเ่ กย่ี วข้องใกล้ตวั จากส่ือและแหล่งการเรยี นรตู้ ่างๆ
การใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสบื ค้นและการรวบรวม
ป.๔ ๑. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื คน้ และรวบรวม คำศัพท์ที่เกีย่ วขอ้ งใกลต้ ัว จากส่ือและแหลง่ การเรียนร้ตู ่างๆ
ข้อมลู ตา่ งๆ การใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบค้นและการรวบรวม
คำศัพท์ท่ีเกีย่ วขอ้ งใกลต้ ัว จากส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้ต่างๆ
ป.๕ ๑. ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบค้นและรวบรวม
ขอ้ มลู ต่างๆ
ป.๖ ๑. ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื คน้ และรวบรวม
ขอ้ มูลตา่ งๆ
๓๕
คำอธิบายรายวิชา
๓๖
อ11101 ภาษาองั กฤษ๑ คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ
เวลา 200 ช่วั โมง
ปฏิบัติตามคำสั่งง่ายๆที่ฟังตัวอักษรและเสียงและสะกดคำง่ายๆถกู ต้องตามหลักการอ่าน ภาพตรง
ตามความหมายของคำและกลุ่มคำที่ฟังเรื่องใกล้ตัว คำสั้นๆง่ายๆในการสื่อสารระหว่างบุคคลตามแบบที่ฟัง
คำสั่งง่ายๆตามแบบที่ฟังความต้องการง่ายๆของตนเองตามแบบที่ฟัง การขอและให้ข้อมูลง่ายๆเกี่ยวกับ
ตนเองตามแบบที่ฟังข้อมูลง่ายๆ เกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัวตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ชื่อและ
คำศัพท์เกี่ยวกับเทศกาลสำคัญของเจา้ ของภาษาการเขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับ
วัย การระบุตัวอักษรและเสียงอกั ษรของภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ) และภาษาไทย คำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง
กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น การฟัง/พูดในสถานการณ์ง่ายๆที่เกิดขึ้นในห้องเรียน การใช้ภาษาต่างประเทศ
(ภาษาอังกฤษ) เพ่อื รวบรวมคำศัพท์ทเ่ี ก่ยี วข้องใกล้ตัว
โดยการปฏิบัติตาม ระบุ อ่านออกเสียง เลือกภาพ ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก พูดขอ ให้ข้อมูลทำท่า
ประกอบ เข้าร่วมฟัง/พูดเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เกิด
สมรรถนะตามความต้องการของหลักสูตร มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ขึ้นในตัวของผู้เรียน และสามารถอยู่
ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจ
พอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และได้มีการบูรณาการ
อาเซียนศึกษาได้ศึกษาวิวัฒนาการของการผนึกกำลังรวมกลุ่มกันเป็นอาเซียน กลไกการทำงานของอาเซียน
การเมืองการปกครองท่ีหลากหลายในอาเซยี นอตั ลักษณ์ประจำชาติของอาเซียน การเผยแผศ่ าสนาในอาเซียน
การสร้างสัมพันธไมตรีกับภาคีนอกอาเซียน การส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศในอาเซียน การพัฒนา
สังคมตามแบบอย่างของคนเก่งอาเซียน และการจัดตั้งประชาคมอาเซียน โดยเน้นการจัดตั้งประชาคม
การเมืองและความม่ันคงอาเซียน รวมทง้ั ความท้าทายกับการกา้ วไปสู่ประชาคมอาเซียน บรู ณาการเศรษฐกิจ
พอเพียงเพื่อให้นักเรียนรู้และเข้าใจประวัติความเป็นมาความหมายหลักปรัชญาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
บรู ณาการการรีไซเคิลเพ่ือเปน็ การนำเศษวัสดุของเหลือกนิ เหลือใช้มาแปรรูปใหมเ่ พ่ือนำกลับมาใช้งานอีกคร้ัง
เป็นการจัดการวัสดุเหลือใชท้ กี่ ำลงั จะเป็นขยะ โดยนำไปผา่ นกระบวนการแปรสภาพ และนำกลบั มาใชใ้ หม่
และได้มีการบรู ณาการถึงหลกั สตู รต้านทุจรติ ศึกษา เพ่ือให้นกั เรยี นมคี วามซอ่ื สตั ย์สุจริตสามารถแยกแยะ
ระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตวั และผลประโยชนส์ ว่ นรวม
รหสั ตวั ชี้วัด
ต1.1 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3 ป.1/4
ต1.2 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3 ป.1/4
ต1.3 ป.1/1
ต2.1 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3
ต3.1 ป.1/1
๓๗
ต4.1 ป.1/1
ต4.2 ป.1/1
รวม 16 ตัวช้ีวดั
อ ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ๔ ๓๘
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔
โครงสรา้ งรายวชิ าพืน้ ฐาน
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ
เวลา ๘๐ ชวั่ โมง
หน่วยท่ี ชอื่ หน่วย มาตรฐาน สาระสำคัญ/สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนกั
1 การเรียนรู้ การเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด (ชว่ั โมง) (คะแนน)
ต ๑.๑ - คำสง่ั และคำขอร้องทใี่ ชใ้ นหอ้ งเรยี น
Hello English ป ๔/๑,ป.๔/๒ป.๔/๓,ป๔/๔ - คำ กลมุ่ คำ ประโยค ขอ้ ความ บทพดู ๑๐
ต 1.2 เขา้ จงั หวะและการสะกดคำ
ป 4/1,ป.๔/๒,ป.4/4 - ประโยคคำถามเก่ยี วกับใจความสำคัญ
ต 1.3 ป.4/2 ของเร่อื ง
ต 2.1 ป 4/1,ป.4/3 - บทสนทนาที่ใช้ในการทักทายกลา่ ลา
ต 2.2 ป 4/1 ขอบคุณ ขอโทษ ประโยคแนะนำ
ตนเอง เพือ่ น ครอบครวั และบุคคลอ่นื
(บรู ณาการอาเซยี น) ใกลต้ วั และสำนวนการตอบรบั
- คำส่งั คำขอรอ้ ง และคำขออนญุ าต
ทใี่ ชใ้ นห้องเรียน
- พดู เขยี น เพ่ือขอและใหข้ ้อมลู เกยี่ วกบั
ตนเอง เพ่อื น
- พดู แสดงความสัมพันธข์ องสง่ิ ตา่ งๆใกล้
ตัวตามทฟ่ี ังหรืออา่ น
- พดู และทำทา่ ประกอบอย่างสภุ าพตาม
มารยาทสงั คมและวัฒนธรรมเจ้าของ
ภาษา
- เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาวฒั นธรรมท่ี
เหมาะสมกับวยั
- บอกความเหมือน ความแตกต่าง
ระหว่างเทศกาลและงานฉลองตาม
วฒั นธรรมเจ้าของภาษา
๓๙
หน่วย ชือ่ หนว่ ย มาตรฐาน สาระสำคัญ/สาระการเรียนรู้ เวลา นำ้ หนกั
(ชั่วโมง) (คะแนน)
ท่ี การเรียนรู้ การเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด - คำ กลมุ่ คำ ประโยคเดี่ยว และบทพดู
เขา้ จังหวะ และการสะกดคำ 10
2 All about me ต 1.1 ป.4/2, - การใช้พจนานกุ รม
- หลกั การอา่ นออกเสยี ง เชน่ การอ่าน
ป4/3,ป.4/4 ออกเสยี งพยัญชนะต้นคำแลพยญั ชนะ
ทา้ ยคำ การออกเสียงเน้นหนักเบาใน
ต 1.2 ป.4/4 คำและกลุ่มคำ การออกเสยี งตาม
ระดบั เสยี งสูง ต่ำในประโยค
ต 1.3 ป.4/1 - กลุ่มคำ ประโยคเดย่ี ว สญั ลกั ษณแ์ ละ
ความหมายเกย่ี วกับตนเอง ครอบครวั
ต 2.1 ป.4/3 โรงเรยี น ส่ิงแวดล้อมใกล้ตวั
- ประโยค บทสนทนา นทิ านทีม่ ี
ต 4.1 ป 4/1 ภาพประกอบ คำถาม ใจความสำคญั
ของเร่อื ง เช่น ใคร ทำอะไร ทไี่ หน
- คำศัพท์ สำนวนภาษาและประโยค
ทใี่ ช้ขอและให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง
ส่งิ ใกลต้ วั เพือ่ น และครอบครวั
- ประโยคและขอ้ ความทีใ่ ชใ้ นการให้
ขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเองบุคคล สัตวแ์ ละ
เรอื่ งใกล้ตวั เชน่ ชื่อ อายุ รูปร่าง สี
ขนาด รูปทรง สี จำนวน ๑ – ๑๐๐
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม
เชน่ การเลน่ เกม การร้องเพลง การเล่า
นทิ านประกอบท่าทาง บทบาทสมมุติ
๔๐
หน่วย ชื่อ มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชวี้ ดั สาระสำคญั /สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั
(ช่วั โมง) (คะแนน)
ท่ี หนว่ ยการเรยี นรู้
10
3 Family ต 1.1 ป.4/1, - คำสงั่ และคำขอรอ้ งทใ่ี ชใ้ นหอ้ งเรยี น
ป.4/2,ป.4/3,ป.4/4 และคำแนะนำในการเล่นเกม การวาด
ต 1.2 ป.4/4 ภาพ หรือการทำอาหารและเครื่องดมื่
ต 1.3 ป.4/1,ป.4/2 - กลุ่มคำ ประโยคเดีย่ ว สัญลักษณ์
ต 2.1 ป.4/3 เครอ่ื งหมายและความหมายเก่ียวกบั
ต 2.2 ป 4/1 ตนเอง ครอบครวั
ต 4.1 ป.4/1 - คำ กลุ่มคำ ประโยค ขอ้ ความ บทพดู
ต 4.2 ป 4/1
เขา้ จังหวะและ การสะกดคำ
(บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง) - การออกเสยี งพยญั ชนะตน้ คำ ท้ายคำ
การออกเสียงหนัก เบาในคำ การออก
เสียงสงู ต่ำในประโยค
- คำศพั ทส์ ำนวนภาษาและประโยค
ทใ่ี ชข้ อและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกับตนเอง
ส่ิงใกลต้ ัว เพื่อน และครอบครัว
- คำ กลมุ่ คำที่มีความหมายสมั พันธ์ของ
ส่ิงต่างๆใกลต้ วั เชน่ การระบุ เชือ่ มโยง
ความสัมพันธ์ของภาพกับคำ กล่มุ คำ
โดยใช้ภาพแผนภูมิ แผนภาพ แผนผัง
- การค้นควา้ รวบรวมและการนำเสนอ
คำศัพทท์ เี่ กี่ยวข้องกบั กลุ่มสาระอน่ื
- ความแตกตา่ งของเสียงตวั อกั ษร คำ
กลุ่มคำ และประโยคของภาษาต่าง
ประเทศและภาษาไทย
- การใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น
และการรวบรวมคำศัพทท์ ่ีเก่ยี วขอ้ ง
ใกลต้ ัวจากสอื่ และแหล่งการเรียนรู้
ตา่ งๆ
๔๑
หนว่ ย ชอ่ื มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระสำคญั /สาระการเรียนรู้ เวลา นำ้ หนกั
(ช่ัวโมง) (คะแนน)
ที่ หน่วยการเรยี นรู้
10
4 School ต 1.1 ป.4/2,ป.4/4 - คำ กลมุ่ คำ ประโยคเดีย่ ว และบทพดู
ต 1.2 ป.4/4 เข้าจงั หวะ และการสะกดคำ
ต 1.3 ป.4/1 - การใช้พจนานกุ รม
ต 2.1 ป.4/3 - หลกั การอ่านออกเสยี ง
ต 4.1 ป.4/1 เชน่ การอา่ นออกเสียง พยญั ชนะต้นคำ
และพยญั ชนะทา้ ยคำ
(บรู ณาการยาเสพติด) - การออกเสียงเนน้ หนกั เบาในคำ กลมุ่ คำ
- การออกเสยี งตามระดบั เสยี งสูง ต่ำ
ในประโยค
- ประโยค บทสนทนา นิทาน ทีม่ ีภาพ
ประกอบ คำถาม ใจความสำคัญของ
เรอื่ ง เช่น ใคร ทำอะไร ท่ีไหน
- คำศัพท์ สำนวนภาษาและประโยคทีใ่ ช้
ขอและใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกับตนเองส่ิงใกลต้ วั
เพือ่ น และครอบครวั
- ประโยคและข้อความที่ใชใ้ นการใหข้ อ้ มลู
เกยี่ วกับตนเอง บคุ คล สตั ว์ เรอื่ งใกลต้ วั
เชน่ ช่ือ อายุ รูปรา่ ง สี ขนาด รูปทรง
จำนวน 1-100 วนั เดือน ปี ฤดกู าล
ตำแหน่งของสิง่ ตา่ ง ๆ
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่
การเล่นเกม การรอ้ งเพลง การเล่านทิ าน
ประกอบท่าทาง บทบาทสมมุติ
๔๒
หน่วย ช่ือ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชีว้ ดั สาระสำคญั /สาระการเรียนรู้ เวลา นำ้ หนกั
(ชวั่ โมง) (คะแนน)
ท่ี หน่วยการเรยี นรู้
10
5 Body& Health ต 1.1 ป.4/2,ป.4/3 - คำ กลมุ่ คำ ประโยคเดีย่ ว และบทพูด
ต 1.3 ป.4/1,ป.4/2 เข้าจังหวะ และการสะกดคำ
- การใชพ้ จนานกุ รม
- หลกั การอา่ นออกเสยี ง
เช่น การอา่ นออกเสยี ง พยญั ชนะต้นคำ
และพยญั ชนะท้ายคำ
- การออกเสยี งเนน้ หนกั เบาในคำและ
กลุ่มคำ
- การออกเสยี งตามระดบั เสยี งสูง ตำ่
ในประโยค
- ประโยคและข้อความทีใ่ ช้ในการใหข้ อ้ มลู
เกยี่ วกับตนเอง บุคคล สัตว์ และใกลต้ ัว
เชน่ ชอื่ อายุ รปู รา่ ง สี ขนาด รปู ทรง
จำนวน 1-100 วนั เดือน ปี ฤดกู าล
ตำแหน่งของส่งิ ต่าง ๆ
- คำศพั ท์ สำนวนภาษา และประโยค
ทใ่ี ชข้ อ และให้ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง
เพอื่ น สง่ิ ใกล้ตัว และครอบครวั
๔๓
หน่วย ชื่อ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั สาระสำคัญ/สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั
การเรียนรู้ท่ี หนว่ ยการเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) (คะแนน)
6 Nature ต 1.1 ป.4/2, - คำ กลมุ่ คำ ประโยคเด่ียว และบทพดู 10
ป.4/4 เข้าจงั หวะ และการสะกดคำ
ต 1.2 ป.4/4, - การใช้พจนานกุ รม
ป.4/5 - หลักการอา่ นออกเสยี ง เชน่
ต 1.3 ป.4/1 - การอ่านออกเสยี ง พยญั ชนะตน้ คำและ
ต 2.1 ป.4/3 พยญั ชนะทา้ ยคำ
ต 4.1 ป.4/1 - การออกเสียงเนน้ หนกั
- เบาในคำและกลมุ่ คำ
- การออกเสียงตามระดบั เสยี งสงู ต่ำใน
ประโยค
- ประโยค บทสนทนา นทิ านทม่ี ภี าพประกอบ คำถาม
ใจความสำคัญของเรอื่ ง เชน่ ใคร ทำอะไร ทไี่ หน
- คำศัพท์ สำนวนภาษาและประโยคทีใ่ ชข้ อและใหข้ ้อมูล
เกยี่ วกับตนเอง สิง่ ใกล้ตวั เพอื่ น และครอบครัว
- ประโยคและขอ้ ความที่ใช้ในการใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง
บุคคล สตั ว์ และเรอ่ื งใกลต้ วั เชน่ ช่ือ อายุ รูปร่าง สี ขนาด
รปู ทรง จำนวน 1-100 วนั เดอื น ปี ฤดกู าล ตำแหนง่ ของ
สง่ิ ตา่ ง ๆ
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมเช่น การเล่นเกม การ
รอ้ งเพลง การเล่านทิ านประกอบทา่ ทาง บทบาทสมมตุ ิ
- คำและประโยคทใ่ี ชแ้ สดงความรสู้ กึ เชน่ ดีใจ เสยี ใจ ชอบ
ไมช่ อบ
๔๔
หน่วย ช่ือ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด สาระสำคัญ/สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั
(ช่วั โมง) (คะแนน)
ท่ี หน่วยการเรยี นรู้
10
7 Food & Drink ต 1.1 ป.4/1,ป.4/2,ป.4/3, - คำสั่งและคำขอรอ้ งท่ใี ชใ้ นห้องเรยี น
ป.4/4 - คำ กลมุ่ คำ ประโยค ขอ้ ความ บทพดู
ต 1.2 ป 4/1,ป.4/2,ป.4/3, เขา้ จังหวะและการสะกดคำ
ป.4/4,ป.4/5 - กลุ่มคำ ประโยคเด่ียว สญั ลกั ษณ์
ต 1.3 ป.4/1, เครอื่ งหมาย
ป.4/2 - ประโยคคำถามเกย่ี วกบั ใจความสำคญั
ต 2.1 ป 4/1, ป.4/2,ป.4/3 ของเรอื่ ง
ต 2.2 ป 4/1 - บทสนทนาท่ใี ช้ในการทกั ทายกลา่ วลา
ต 4.1 ป.4/1 ขอบคณุ ขอโทษ การพดู คุยแทรก
ต 4.2 ป.4/1 อย่างสุภาพ และสำนวนการตอบรับ
- คำส่งั คำขอรอ้ ง และคำขออนญุ าต
ที่ใชใ้ นหอ้ งเรยี น
- พูด เขยี น เพอื่ ขอและให้ขอ้ มูล
เกย่ี วกับตนเอง เพ่อื น
- พดู แสดงความสัมพนั ธข์ องส่ิงตา่ งๆ
ใกลต้ วั ตามท่ีฟงั หรืออา่ น
- พดู และทำท่าประกอบอยา่ งสุภาพ
ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม
เจ้าของภาษา
- เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและ
วฒั นธรรมท่ีเหมาะสมกบั วัย
- บอกความเหมือน ความแตกตา่ ง
ระหว่างเทศกาลและงานฉลองตาม
วัฒนธรรมเจ้าของภาษา
- การคน้ คว้า รวบรวมและการนำเสนอ
คำศพั ทท์ เี่ กีย่ วข้องกบั กลมุ่ สาระอนื่
๔๕
หนว่ ย ช่อื มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วัด สาระสำคญั /สาระการเรียนรู้ เวลา นำ้ หนกั
(ชว่ั โมง) (คะแนน)
ที่ หนว่ ยการเรยี นรู้
10
8 Number&Color ต1.1 ป.4/1 ,ป.4/2,ป.4/3, - คำส่ังและคำขอร้องทใ่ี ชใ้ นหอ้ งเรยี น
ป.4/4 - คำ กลมุ่ คำ ประโยค ข้อความ บทพดู
ต1.2 ป 4/1 , ป.4/2,ป.4/3, เขา้ จงั หวะและการสะกดคำ
ป.4/4,ป.4/5 - กล่มุ คำ ประโยคเดีย่ ว สัญลกั ษณ์
ต1.3 ป.4/1, เครื่องหมาย
ป.4/2 - ประโยคคำถามเก่ียวกับใจความสำคัญ
ต2.1 ป.4/1, ป.4/2,ป.4/3 ของเรอื่ ง
ต2.2 ป.4/1 - บทสนทนาทใ่ี ช้ในการทักทายกลา่ วลา
ต4.1 ป.4/1 ขอบคุณ ขอโทษ การพดู คุยแทรก
ต4.2 ป.4/1 อย่างสุภาพ และสำนวนการตอบรบั
- คำสง่ั คำขอรอ้ งและคำขออนญุ าต
ทใ่ี ช้ในห้องเรยี น
- พดู เขียน เพือ่ ขอและใหข้ อ้ มลู
เกีย่ วกบั ตนเอง เพื่อน
- พูดแสดงความสมั พันธ์ของส่ิงต่างๆใกล้
ตัวตามทีฟ่ งั หรอื อา่ น
- พูดและทำทา่ ประกอบอย่างสุภาพ
ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรม
เจ้าของภาษา
- เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและ
วฒั นธรรมทีเ่ หมาะสมกับวัย
- บอกความเหมอื น ความแตกตา่ ง
ระหว่างเทศกาลและงานฉลองตาม
วฒั นธรรมเจา้ ของภาษา
- การค้นคว้า รวบรวมและการนำเสนอ
คำศัพทท์ ่เี ก่ียวข้องกับกลุม่ สาระอน่ื
อ ๑๕๑๐๑ ภาษาอังกฤษ๕ ๔๖
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๕
โครงสรา้ งรายวชิ าพื้นฐาน
กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ
เวลา ๘๐ ชว่ั โมง
หน่วย ชือ่ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวดั สาระสำคัญ/สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนกั
(ชั่วโมง) (คะแนน)
ท่ี หนว่ ยการเรยี นรู้
10
1 Hello English ต 1.1 ป.5/1, ป.5/2,ป.5/3 - คำสงั่ และคำขอรอ้ งทใ่ี ชใ้ นห้องเรยี น
ต 1.2 ป.5/1, ป.5/2,ป.5/3, - คำ กลมุ่ คำ ประโยค ข้อความ บทพดู
ป.5/4
ต 1.3 ป.4/2 เข้าจังหวะและการสะกดคำ
- กลุ่มคำ ประโยคเด่ยี ว สญั ลกั ษณ์
ต 2.1 ป.5/1, ป.5/3 เครอ่ื งหมาย
ต 2.2 ป.5/1 - ประโยคคำถามเก่ยี วกับใจความสำคญั
ของเรอ่ื ง
(บูรณาการอาเซยี น) - บทสนทนาที่ใช้ในการทกั ทายกล่าวลา
ขอบคุณ ขอโทษ การพดู คยุ แทรกอยา่ ง
สภุ าพ
- คำสั่ง คำขอรอ้ งและคำขออนญุ าตทีใ่ ช้
ในห้องเรยี น
- คำ กลมุ่ คำ ทแี่ สดงขอ้ มูลความหมาย
ของเรอ่ื งต่างๆ ภาพ แผนผงั แผนภมู ิ
ตารางโดยใช้ภาพ แผนภมู ิ แผนภาพ