ิ
สนคารเบีย
PINUS CARIBAEA MORELET
โดย
สาโรจน วัฒนสุขสกุล
์
SAROJ WATTANASUKSAKUL
่
ํ
ั
สวนวนวัฒนวิจัย สานกวิชาการปาไม
่
้
้
กรมปาไม
่
2544
สนคารเบีย ( Pinus caribaea Morelet )
ิ
i
สารบัญ
้
หนา
คํานํา 1
ิ
้
ลักษณะทั วไปของไมสนคารเบีย
์
ื
ื
ชอพฤกษศาสตรและชอพื นเมือง (Botanical and common name) 2
ื
ิ
ประวัตชอ (Name history) 2
ี
ความผันแปรระหว่างวาไรต (Variety variation) 3
ลักษณะทางวนวัฒนวิทยา (Silvicultural features) 4
การกระจายพันธุ ์
ู
ิ
ี
ี
ุ
ี
การกระจายพันธ์ของสนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซส 10
(Distribution of Pinus caribaea var. hondurensis)
ิ
ุ
ี
การกระจายพันธ์ของสนคารเบยวาไรต บาฮาเมนซส 14
ี
ี
(Distribution of Pinus caribaea var. bahamensis)
การกระจายพันธ์ของสนคารเบยวาไรต คารเบย 16
ุ
ิ
ิ
ี
ี
ี
(Distribution of Pins caribaea var. caribaea)
ประวัติการนําสนคารเบียไปปลูกนอกถิ นกําเนิด 18
ิ
้
การนําสนคารเบียเขามาปลูกในประเทศไทย 21
ิ
การขยายพันธุ ์
ุ
การขยายพันธ์โดยอาศัยเพศ (Sexual reproduction) 30
การขยายพันธ์โดยไม่อาศัยเพศ (Asexual reproduction) 30
ุ
การจัดการเมล็ดสนคารเบีย 34
ิ
่
้
การปลูกสรางสวนปาสนคารเบีย
ิ
่
ี
ิ
้
หลักการพิจารณาในการปลูกสรางสวนปาไม้สนคารเบย 43
การเตรยมกล้าไม้ (Seedling preparation) 45
ี
การเตรยมพื นท (Site preparation) 49
ี
ี
การปลูก (Planting) 50
ั
ุ
การบํารงดแลรกษา (Maintenance) 51
ู
ิ
การเจรญเติบโตและผลผลิต 54
ii
สารบัญ (ตอ)
่
หน้า
โรค แมลงและตําหนิที เกิดตามธรรมชาติ
ิ
ี
โรคทเกดกับกล้าไม้ (Seedling diseases) 63
่
ี
โรคและแมลงทเกดกับไม้ในสวนปา (Plantation diseases) 63
ิ
ิ
ิ
ี
ิ
ื
ตําหนทเกดในเน อไม้ตามธรรมชาต (Natural defects) 65
้
้
ลักษณะโครงสรางของเนอไมและการใชประโยชน ์
้
ื
ลักษณะทางอนาโตมี (Anatomical features) 69
ลักษณะทางกายภาพ (Physical features) 72
องค์ประกอบทางเคมีในเน อไม้ (Chemical constituents) 79
ื
ิ
กลสมบัต (Mechanical properties) 82
การใช้ประโยชน์ (Utilization) 83
เอกสารอางอิง 87
้
iii
สารบัญตาราง
หน้า
ิ
ู
ี
ิ
ี
ตารางท 1 ถิ นกําเนดสนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซสแถบชายฝ งทะเล 13
ั
ี
ี
ี
ิ
ิ
ี
ี
ู
ตารางท 2 ถิ นกําเนดสนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซสแถบในทวีป 13
ี
ี
ี
ิ
ี
ิ
ี
ตารางท 3 ถิ นกําเนดสนคารเบยวาไรต บาฮาเมนซส 14
ี
ตารางท 4 ถิ นกําเนดสนคารเบยวาไรต คารเบย 16
ี
ิ
ิ
ี
ี
ิ
ี
ิ
ิ
ิ
ี
ี
ตารางท 5 ถิ นกําเนดสนคารเบยทนําเข้ามาปลูกในแปลงทดลองถิ นกําเนดนานาชาต ิ
ในประเทศไทย ป 2515 23
ี
ิ
ี
ี
ตารางท 6 แม่ไม้สนคารเบย 90 แม่ไม้ทนํามาทดสอบสายพันธ์ ุ
ี
ี
ทสถานทดลองปลูกพรรณไม้ห้วยบง จังหวัดเชยงใหม่ ป 2523 25
ี
ี
ี
ี
ตารางท 7 แม่ไม้สนคารเบย 88 แม่ไม้ทนํามาทดสอบสายพันธ์ ุ
ิ
ี
ี
ี
ี
ทสถานทดลองปลูกพรรณไม้ห้วยบง จังหวัดเชยงใหม่ ป 2524 26
ี
ี
ี
่
ตารางท 8 แม่ไม้สนชนดตาง ๆ ของ Oxford Forestry Institute ในประเทศไทย 28
ิ
ี
ี
ุ
ตารางท 9 พื นทสวนอนรกษ์พันธ์สนคารเบยในพื นทจังหวัดเชยงใหม่ 29
ี
ิ
ี
ุ
ั
ี
ุ
ตารางท 10 การให้คะแนนในการคัดเลือกแม่ไม้สนของโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สน 35
ี
ุ
ั
ี
ิ
ี
ิ
ุ
ั
ตารางท 11 สถิตการเก็บและการใช้เมล็ดสนคารเบยของโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สน 37
ุ
ิ
ี
ตารางท 12 ขนาดโคนและผลผลิตเมล็ดสนคารเบยตอ 1 โคน 38
ี
่
ี
ิ
ี
่
ี
ี
ตารางท 13 นํ าหนัก 1,000 เมล็ดของสนคารเบยทอายุตาง ๆ ในแหล่งผลิตเมล็ดไม้ป 2514
ี
ี
ี
ทสถานทดลองปลูกพรรณไม้ห้วยบง จังหวัดเชยงใหม่ 40
ตารางท 14 การทดสอบคณภาพเมล็ดสนคารเบยของโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สน 41
ั
ุ
ุ
ุ
ี
ิ
ี
ตารางท 15 เปอรเซ็นต์การงอกของเมล็ดสนคารเบยแหล่งห้วยบงและบอแก้ว
์
ิ
่
ี
ี
ทเก็บรกษาไว้ในห้องเย็นในระยะเวลาตาง ๆ 41
ี
ั
่
่
ี
ิ
ตารางท 16 การแบงโซนพื นท และคัดเลือกถิ นกําเนดสนคารเบยสําหรบปลูกสรางสวนปา 44
ั
ี
้
่
ิ
ี
้
่
ี
ุ
ิ
ี
ู
ิ
ั
ตารางท 17 แผนการดําเนนงานการปลูกสรางและบํารงดแลรกษาสวนปาสนคารเบย 46
ี
ิ
ี
ู
ี
ี
ิ
ิ
ตารางท 18 การเจรญเตบโตของสนคารเบยในพื นทระดับสง (จังหวัดเชยงใหม่)
ุ
ี
และในพื นทระดับตํา (จังหวัดชมพร) อายุ 9 ½ ป 54
ี
iv
่
สารบัญตาราง (ตอ)
้
หนา
ี
ิ
ี
ิ
ิ
ิ
ี
ตารางท 19 การเจรญเตบโตของสนคารเบยแปลงทดลองถิ นกําเนดป 2515
ี
ี
ี
ทสถานทดลองปลูกพรรณไม้ห้วยบง จังหวัดเชยงใหม่ อายุ 25 ป 55
ี
ตารางท 20 การเจรญเตบโตของสนคารเบยถิ นกําเนดตาง ๆ ในระยะกล้าไม้
ี
ิ
ิ
ิ
่
ิ
ี
ุ
ี
ทสถานบํารงพันธ์ไม้สน จังหวัดเชยงใหม่ อายุ 5 เดอน 56
ุ
ื
ี
ี
ตารางท 21 การเจรญเตบโตและปรมาตรของสนคารเบยในแปลงทดลอง
ิ
ี
ิ
ี
ิ
ิ
ี
ั
ุ
ิ
่
ุ
ถิ นกําเนดป 2522 ทสถานปรบปรงแหล่งผลิตเมล็ดพันธ์ไม้ปา
ี
ี
ี
หนองกระทง จังหวัดเชยงใหม่ อายุ 20 ป ี 57
ิ
ิ
ิ
ิ
ตารางท 22 การเจรญเตบโตของสนคารเบยในแปลงทดสอบถิ นกําเนดป 2523
ิ
ี
ี
ี
ี
ี
ี
ี
ทสถานทดลองปลูกพรรณไม้ห้วยบง จังหวัดเชยงใหม่ อายุ 19 ป 58
ี
ิ
ตารางท 23 การเจรญเตบโตของสนคารเบยในแปลงทดสอบสายพันธ์ป 2535
ิ
ิ
ี
ี
ุ
ทสถานทดลองปลูกพรรณไม้ห้วยบง จังหวัดเชยงใหม่ อายุ 1-7 ป ี 58
ี
ี
ี
ี
ี
ี
ิ
ิ
ี
ี
ตารางท 24 การเจรญเตบโตของสนคารเบยอายุ 1-10 ป ทบ้านบอหลวง จังหวัดเชยงใหม่ 59
ิ
่
่
ตารางท 25 การเจรญเตบโตและปรมาตรของสนคารเบยถิ นกําเนดและอายุตาง ๆ 60
ิ
ิ
ี
ิ
ิ
ี
ิ
ี
ิ
ตารางท 26 การเจรญเตบโตและอัตราการเพิ มพูนของสนคารเบยในแปลงทดลอง
ี
ิ
ิ
ิ
ี
ิ
ถิ นกําเนดท Jari ประเทศบราซล อายุ 6 ป ี 61
ิ
ี
ิ
ี
ตารางท 27 การเจรญเตบโตและผลผลิตของสนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซส
ู
ี
ี
ิ
ในประเทศฟจและจาไมกา เมื ออายุ 15 ป 61
ี
ิ
ิ
ั
ี
ี
ตารางท 28 ความยาว trachied ของสนคารเบยทระดับเพียงอกตามแนวรศมี 73
ิ
ี
ิ
ี
ี
ตารางท 29 ขนาด trachied ของสนคารเบยทั ง 3 วาไรต จากพื นทและอายุตาง ๆ 74
่
ี
ี
ิ
ี
ี
ตารางท 30 ขนาด trachied ทโคน กลาง และปลายลําต้นของสนคารเบย 76
ี
ตารางท 31 สวนประกอบทางเคมีของไม้สนคารเบย 80
ี
่
ิ
ี
ิ
ิ
่
ี
่
ี
ตารางท 32 สวนประกอบของ turpentine ในไม้สนคารเบยจากถิ นกําเนดตาง ๆ 81
ี
ี
็
ตารางท 33 ดัชนการใช้ประโยชน์ไม้โตเรวบางประการ 84
v
สารบัญภาพ
หน้า
ิ
ี
ี
ภาพท 1 ลักษณะปลีดอกตัวผู้ของสนคารเบย 5
ี
ี
ภาพท 2 ลักษณะปลีดอกตัวเมียของสนคารเบย 5
ิ
ี
ภาพท 3 ลักษณะใบและ ดอก การพัฒนาของโคนและเมล็ด
ี
ิ
และการงอกของสนคารเบย 9
ี
ี
ิ
ภาพท 4 ขอบเขตการกระจายพันธ์ของสนคารเบยตามธรรมชาต 11
ุ
ิ
ี
ภาพท 5 ขอบเขตการกระจายพันธ์ของสนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซส 12
ี
ิ
ุ
ี
ี
ู
ภาพท 6 ขอบเขตการกระจายพันธ์ของสนคารเบยวาไรต บาฮาเมนซส 15
ิ
ี
ี
ุ
ี
ี
ิ
ี
ี
ี
ุ
ภาพท 7 ขอบเขตการกระจายพันธ์ของสนคารเบยวาไรต คารเบย 17
ิ
ี
ี
ี
ภาพท 8 พื นทททําการทดลองปลูกสนคารเบย 20
ิ
ี
ี
ิ
ั
ี
ุ
ุ
ี
่
ี
ภาพท 9 ทตั งหนวยงานทปฏิบัตงานเกยวกับการปรบปรงพันธ์ไม้สนในประเทศไทย 27
ี
ิ
ภาพท 10 การตอนก งสนคารเบย 31
ี
ี
ิ
ิ
ี
ภาพท 11 ก งตอนสนคารเบยในถุงชํา 31
ิ
ี
ี
ภาพท 12 การปกชําสนคารเบย 32
ิ
ี
ั
ภาพท 13 การต่อยอดสนคารเบย 33
ี
ี
ิ
ี
ิ
ี
่
ภาพท 14 แปลงปลูกสนคารเบยอายุ 30 ป ทสถานทดลองปลูกพรรณไม้บอแก้ว
ี
ี
ี
ี
จังหวัดเชยงใหม่ 62
ี
ภาพท 15 ลักษณะ foxtail 67
ภาพท 16 ลักษณะ basket whorl 67
ี
ภาพท 17 ลักษณะ ramicorn 68
ี
ภาพท 18 ลักษณะทางอนาโตมีของสนคารเบยทางด้าน transverse section 70
ิ
ี
ี
ี
ี
ิ
ภาพท 19 ลักษณะทางอนาโตมีของสนคารเบยทางด้าน tangential longitudinal section 70
ิ
ี
ี
ภาพท 20 ลักษณะทางอนาโตมีของสนคารเบยทางด้าน radial longitudinal section 71
1
ํ
คํานา
ไม้สนคาริเบีย (Pinus caribaea Morelet) เป็ นไม้ในตระกูล Pinaceae มีถิ น
กําเนดอยู่ในทวีปอเมรกากลางและมีการกระจายพันธ์ตามธรรมชาตอยู่เปนบรเวณกว้างขวาง
ิ
ิ
ิ
ุ
็
ิ
ู
ึ
ื
ึ
ี
้
ิ
สามารถข นได้ในสภาพภมิประเทศและสภาพดนฟาอากาศทแตกต่างกัน กล่าวคอสามารถข นได้ตั ง
่
ี
แตพื นท ราบตดชายฝ งทะเล ทมีความสงเทากับระดับนํ าทะเลจนถึง 1,000 เมตรของพื นทภายใน
ิ
่
ี
ู
ั
ี
ิ
ิ
ี
ิ
็
ี
ี
ี
ทวีปทเปนภเขา ปรมาณนํ าฝนเฉลี ยปละ 660 – 3,500 มิลลิเมตร มีการเจรญเตบโตได้ดในพื นท
ู
ึ
ี
ื
ิ
ู
ี
็
้
ระดับตําของเขตรอนช นแถบใกล้เส้นศูนย์สตร เปนหนงในไม้สนไม่กชนดทมีความโดดเดนในเรอง
่
ื
ั
้
รปทรงและการเจรญเตบโต ซงปจจบันมีกว่า 60 ประเทศในเขตรอนให้ความสนใจและได้นําไม้
ุ
ู
ิ
ิ
ึ
ุ
ิ
ชนดน ีไปทดลองปลูกและทําการปรบปรงพันธ์ เพื อสนองความต้องการของสังคมในยุคอุตสาห
ั
ุ
ื
กรรมและเทคโนโลยี เนองจากไม้สนคารเบยมีความเหมาะสมสําหรบเปนวัตถุดบในอุตสาหกรรม
ี
ิ
็
ั
ิ
่
ิ
หลายชนด โดยเฉพาะอย่างยิ งในอุตสาหกรรมผลิตเยื อและกระดาษ และใช้ในอุตสาหกรรมการกอ
้
สราง
ู
็
ี
ิ
ี
็
่
สนคารเบยเปนไม้ตางถิ นทนําเข้ามาทดลองปลกในประเทศไทยเปนเวลากว่า 30 ป ี
ี
ุ
พบว่าสามารถเจรญเตบโตและปรบตัวได้ดในหลายสภาพพื นทและได้มีการคัดเลอกสายพันธ์และ
ื
ิ
ิ
ี
ั
ั
ุ
้
ุ
ถิ นกําเนดมาปรบปรงพันธ์โดยโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สนเพื อจัดสรางเปนสวนผลิตเมล็ด
็
ิ
ั
ุ
ุ
ุ
(Seed Orchard) ทั งแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ ตลอดจนการทดลองผสมข้ามพันธ์เพื อสราง
้
ู
็
สายพันธ์ใหม่ๆ ให้มีผลตอบแทนทางเศรษฐกจสง ซงเปนแนวทางทเหมาะสมในการสงเสรมการ
ิ
ิ
ึ
ุ
่
ี
ิ
่
ี
่
ปลูกสรางสวนปาไม้สนคารเบยตอไปในอนาคต
้
2
้
ลักษณะทั วไปของไมสนคารเบีย
ิ
ื
ื
์
ื
ื
ชอทางพฤกษศาสตรและชอพ นเมอง (Botanical and common name)
Botanical name : Pinus caribaea Morelet
Synonyms : Pinus bahamensis Griseb. , P. hondurensis Seneclauze , P. hondurensis Loock
P . recurvata Rowlee
Family : Pinaceae
Genus : Pinus (Shaw, 1914 ; Mirov, 1967)
ิ
ิ
Common name : ในลาตนอเมรกาเรยก Pino de la costa, Pino costanero, Pino colorado, Pino
ี
ี
caribaea, Ocote blanco และ Pino macho (Lamb, 1973) ไม้เรยก Caribbean
pine หรอ Caribbean pitch pine
ื
ประวัติชอ (Name history)
ื
ี
ิ
กอนป 1950 สนคารเบย ถูกจัดรวมอยู่กับ Slash pine ( P. elliottii var. elliottii
่
ี
และ P. elliottii var. densa Little and Dorman) หลังจากการศึกษาของ Loock (1950) และ
ุ
ั
Little และ Dorman (1952, 1954) ปรากฏว่า Slash pine มีการกระจายพันธ์จํากัดอยู่แตในสหรฐ
่
ิ
่
ั
็
อเมรกาและถูกกําหนดว่าเปน P. elliottii Engelm. สวน P. caribaea Morelet จะใช้สําหรบไม้สนทมี
ี
ิ
ุ
่
ิ
การกระจายพันธ์ในประเทศควบา บาฮามา และอเมรกากลาง ตอมาในป 1957 ได้มีการศึกษาใน
ี
ื
รายละเอียดเรอยมา โดย Barrett และ Golfari (1962) และ Luckhoff (1964) ได้แสดงให้เหนว่า
็
สนคารเบย ควรจะจัดแบงเปน 3 วาไรต (variety) เพื อครอบคลุมประชากรในประเทศควบา (Cuba),
ิ
ี
ี
ิ
็
่
ิ
ื
อเมรกากลาง (Central America), บาฮามา (Bahama), และเกาะไคคอส (Caicos) ซงชอของวาไรต
ึ
ี
ี
็
ั
ทกําหนดโดย Barrett และ Golfari (1962) เปนทยอมรบกันคือ
ี
ี
ิ
ิ
(1) สนคารเบย วาไรต คารเบย (Pinus caribaea Mor. var. caribaea) เปนสนคาร
็
ิ
ี
ี
ี
ี
ุ
ิ
เบยทกระจายพันธ์ในประเทศควบา (Cuba) และ ไอเซลออฟไพน์ (Isle of Pines)
ิ
ี
ิ
ี
ู
ี
(2) สนคารเบย วาไรต ฮอนดเรนซส (Pinus caribaea Mor. var. hondurensis Barr .
and Golf. Nov var.) เปนสนคารเบยทกระจายพันธ์ในประเทศแถบอเมรกากลาง
็
ิ
ุ
ี
ิ
ี
3
ิ
ี
(3) สนคารเบย วาไรต บาฮาเมนซส (Pinus caribaea Mor. var. bahamensis Barr.
ี
ี
็
ี
ุ
ี
ิ
And Golf. Nov. var. เปนสนคารเบย ทกระจายพันธ์ในประเทศบาฮามาและเกาะไคคอส
่
ความผันแปรระหวางวาไรตี (Variety variation)
่
ี
็
จากการท Barrett และ Golfari (1962) ได้จัดแบงไม้สนคารเบยเปน 3 วาไรต
ี
ิ
ี
ซงแตละวาไรต มีลักษณะตาง ๆ ทสําคัญดังน ี
ึ
ี
่
่
ี
ี
ิ
ี
ี
ู
็
สนคารเบย วาไรต คารเบย มีใบรปเข็มจับเปนกลุ่ม ๆ ละ 3 ใบ (น้อยมากทจะพบ 4
ิ
ี
ิ
่
ี
ิ
ื
ื
ใบ) โดยโคน (cone) หรอผล มีขนาด 5 – 10 เซนตเมตร ตามความยาว เมล็ดจะมีปกเชอมยึดตดแนน
ื
ิ
ื
ี
ชอพื นเมืองเรยกว่าพิโนมาโช (pino macho) หรอ พิโนอมารลโล (pino amarillo)
ู
ิ
็
ี
สนคารเบย วาไรต ฮอนดเรนซส มีใบรปเข็มจับเปนกลุ่ม ๆ ละ 3 - 5 ใบ (อาจมี 6
ี
ู
ี
่
ใบในไม้อายุน้อย) โคนมีความยาว 6 – 14 เซนตเมตร เมล็ดมีปกหลุดรวงงายอาจจะมีจํานวนน้อยท ี
ิ
ี
่
่
ี
จะมีปกติดยึดแนนกับเมล็ด
็
ิ
สนคารเบย วาไรต บาฮาเมนซส มีใบรปเข็มจับเปนกลุ่ม ๆ ละ 2 - 3 ใบ โคนมีความ
ู
ี
ี
ี
ี
ี
ี
ื
ี
ิ
ี
ี
ยาว 4 – 12 เซนตเมตร เมล็ดมีปกไม่ตดยึด หายากทเดยวทจะมีปกตดยึด ชอพื นเมืองเรยกบาฮามัส
ิ
ิ
ไพน์ (Bahamas pine), เยลโล่ไพน์ (yellow pine)
ี
ได้มีการศึกษากล้าไม้ของสนคารเบยทั ง 3 วาไรต พบว่า สนคารเบยวาไรต คาร ิ
ิ
ี
ี
ี
ิ
ิ
ี
ุ
ี
้
ู
ิ
เบย จะสรางใบทตยภมิเมื ออายุของกล้าได้ 5 – 7 สัปดาห์ สนคารเบยวาไรต บาฮาเมนซสจะเกดใบ
ี
ิ
ี
ุ
ี
ิ
ุ
ู
ิ
ื
ทตยภมิเมออายุ 10 – 12 สัปดาห์ และกล้าของสนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซสจะเกดใบทตยภมิเมื อ
ี
ิ
ี
ิ
ู
ู
ิ
ิ
ุ
่
ิ
ี
ู
ุ
ิ
ู
็
อายุ 12 – 19 สัปดาห์ ซงเปนใบทตยภมิทเกดจากลําต้นกล้าไม้ สวนใบทตยภมิทเกดจากการแตกยอด
ึ
ี
ิ
ิ
ี
ั
ี
่
ใหม่จะเกดข นเมื อกล้าอายุได้ 10 สัปดาห์ สําหรบสนคารเบยวาไรต คารเบย และในชวง 16 – 20
ิ
ึ
ี
ี
สัปดาห์ในสนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซส
ิ
ี
ู
ี
ิ
ั
ี
ี
ี
ึ
ี
ี
การทสนคารเบยวาไรต คารเบยมีใบเล ยงสเขยวเข้ม จงทําให้ได้รบพลังงานมากกว่า
ี
ิ
ี
ี
็
ี
ู
ี
วาไรต บาฮาเมนซสและวาไรต ฮอนดเรนซสซงมีใบเล ยงสเขยวแกมม่วง อันเปนผลทําให้สนคารเบย
ี
ี
ิ
ึ
ี
ี
ี
็
ู
วาไรต คารเบยสามารถพัฒนาใบทตยภมิได้เรวกว่าอีก 2 วาไรต และการทเกดใบทตยภมิเรวจงทําให้
ิ
ิ
ี
ุ
ึ
ี
ิ
ู
ี
็
ิ
ุ
ี
ิ
ึ
ี
ทนแล้งได้ดซงเปนการปรบตัวของสนคารเบยวาไรต คารเบย จะทําให้กล้าไม้สามารถมีชวิตอยู่รอด
ิ
ี
็
ี
ี
ี
ั
่
ี
ี
ู
ได้ด ในชวงฤดแล้งทรนแรงแถบตะวันตกของประเทศควบา
ุ
ิ
ี
สนคารเบยวาไรต คารเบย ปกตจะมีรปทรงดและมีความสมํ าเสมอกว่าวาไรต อื น ๆ
ู
ี
ี
ี
ิ
ี
ิ
ิ
ิ
ี
การเกด foxtail (ลักษณะเรอนยอดคล้ายหางกระรอก คอมยอดเดยวๆไม่มีก งก้าน) มีน้อยและมีทรง
ื
ี
ิ
ื
ี
ิ
ื
็
ี
ี
ิ
พุ่มเรอนยอดแคบทรงปรามิด ซงมีฉัตรของก งขนาดเล็กในแนวระดับทเรยงตัวอย่างเปนระเบยบ ลํา
ึ
ิ
ี
์
ิ
ต้นตรง แตเมื ออายุ 6 ป ไปแล้วยอดนํา (leading shoot) มักจะเกดการคดงอ ปรากฏการณเกดการคด
่
4
ุ
ี
ี
ิ
ี
ั
ิ
ี
ของลําต้นน เกดจากปจจัยของสภาพพื นท คาดหมายกันว่าความผิดปกตน มีสาเหตมาจากลมทมีกําลัง
ี
แรงเพราะจะปรากฏให้เหนตอนแรก ๆ ทระดับความสงเดยวกันของต้นไม้จํานวนมากในหมู่ไม้นั น
ู
็
ี
ึ
ื
่
ิ
็
ิ
่
่
ึ
ๆ ซงการคดงอจะเกดบนสวนของลําต้นเปนชวงสั น ๆ เหนอข นไปจากสวนน ีแล้วจะมีการเจรญ
็
เตบโตเปนปกต ได้มีการศึกษาความผันแปรในระหว่างถ นกําเนดตาง ๆ 9 ถิ นกําเนด กับความมาก
ิ
ิ
ิ
่
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
น้อยของการคดงอหรอลักษณะการเจรญเตบโตของสนคารเบยวาไรต บาฮาเมนซส จากถิ นกําเนด
ี
ิ
ื
ี
ี
แอนดรอส (Andros) จะมีลักษณะคล้ายสนคารเบยวาไรต คารเบยในเรองลําต้นและทรงพุ่ม แตมี
ี
ี
ี
ิ
่
ิ
ื
ความสมํ าเสมอน้อยกว่าและมีลักษณะ foxtail มากกว่า นอกจากน มีก งทเปน ramicorn (ต้นสองนาง
ี
็
ี
ิ
่
ึ
ิ
ิ
ี
ิ
ึ
ทมีก งหนงใหญและอีกก งหนงมีขนาดเล็ก) เกดขึ นมาก
ลักษณะทางวนวัฒนวิทยา (Silvicultural features)
ี
ิ
ู
ี
่
ิ
ี
ลําตน (stem) สนคารเบยเปนไม้สนทมีขนาดใหญในสภาพธรรมชาตต้นทโตมาก ๆ สงถึง
็
้
ู
ี
ุ
45 เมตร และมีความโตทางเส้นผ่าศูนย์กลางถง 1.35 เมตร เมื อขึ นอยู่ในพื นททมีความอดมสมบรณ ์
ี
ึ
ื
ู
ิ
แตอย่างไรก็ตามรปทรงของลําต้นและเรอนยอดมีความผันแปรแตกตางกันเชน มีก งสั น ยาว แนน
่
่
่
่
ิ
ี
่
ิ
่
ื
่
ู่
โปรง ชัน ตั งฉาก หรอลลงแตกตางกันไปในแตละถิ นกําเนดและวาไรต ในประเทศเบลิซ ถิ นกําเนด
ุ
่
ิ
ิ
แถบ คาบสมทร (Insular) จะมีขนาดเล็กกว่าถิ นกําเนดในทวีป (penisular) ในปาธรรมชาตบางพื นท ี
ิ
ี
็
เกดเปนปาชนดเดยวกัน (pure stand) และจะมีกลุ่มไม้อายุเดยวกันกระจายไปทั ว โดยมีไม้ใบกว้าง
ี
่
ิ
็
่
่
ิ
็
ี
ิ
พวกไม้โอ๊กและกอแทรกอยู่ด้วยเปนหย่อม ๆ ในแงทางนเวศวิทยาแล้วไม้สนคารเบยจัดเปนกลุ่มไม้
ี
ึ
่
ิ
็
ื
็
fire climax ซงจะมีไฟเกดขึ นเปนคร ังคราวแตต้นไม้ยังคงอยู่ได้ ไฟจะเปนตัวจํากัดหรอกดกันการ
ี
แกงแย่งพื นทของไม้ใบกว้าง สนคารเบยจะมีเรอนยอดทยังมีชวิต 1/4 - 2/3 ของความสงของลําต้น
ี
ี
ื
ี
ู
ิ
่
่
แตถ้าข นอยู่เดยวๆ หรอหางกันจะมีเรอนยอดแผ่กว้าง ก งก้านใหญ ความสงน้อย บางต้นบดคดงอ มี
ื
ื
ี
ึ
ิ
ู
่
ิ
่
เส ยนบด (spiral grain) มีเปลือกสนํ าตาลดําถึงเทาดํา หนาประมาณ 0.5 – 1.0 เซนตเมตร เปลือก
ี
ิ
ี
ิ
่
็
็
แตกเปนรองต นๆ ตามยาวและแนวขวางของลําต้นเปนระยะๆ เปลือกหลุดลอกเปนเกล็ดยาว
ื
็
ิ
ิ
10 – 15 เซนตเมตร และกว้าง 2 – 5 เซนตเมตร
็
ู
ใบ (Leaf) ไม้สนคารเบยมีใบเปนรปเข็ม (needle) ยาวจับเปนกลุ่ม (fascicle) กลุ่มละ
ี
ิ
็
็
ี
ิ
3 - 5 ใบ ยาวประมาณ 15 - 25 เซนตเมตร หนา 1.5 มิลลิเมตร มีสเขยวเข้มเปนมัน ปลายแข็ง
ี
ี
ิ
มีปากใบเปนแถบสขาวอยู่รอบ ๆ ใบ กลุ่มใบหอห้มด้วยกาบสนํ าตาลออนยาว 1.0 - 1.2 เซนตเมตร
็
่
ี
่
ุ
่
ิ
ี
ิ
ื
อยู่ทโคนใบซงจะเปลี ยนเปนสนํ าตาลเข้มเกอบดําเมื อใบแก ใบจะตดอยู่กับก งประมาณ 2 ปจงรวง
่
ึ
ี
็
ี
ึ
ลงมา
5
ดอก (Flower) สนคารเบยเปนไม้ทมีดอกแยกเพศ (monoecious) อยู่ต้นเดยวกัน ปลีดอก
ี
ี
็
ิ
ี
ิ
ื
็
ตัวผู้ (male strobili) มีขนาดเล็กจํานวนมากมีก้านสั นเล็กตดอยู่รอบเกอบปลายก งเปนกลุ่มสั น ๆ
ิ
่
่
่
สวนใหญอยู่ตอนล่างของทรงพุ่มแตละปลีดอก ยาว 20 – 32 มิลลิเมตร กว้าง 5 มิลลิเมตร
ี
มี 12 – 18 กะเปาะเกสร กาบรองดอก (scarious margin) สนํ าตาลแดง อยู่ทฐานของปลี (ภาพท 1)
ี
ี
่
ื
ุ
ี
ปลีดอกตัวเมีย (female strobili) สวนมากพบตอนบนของเรอนยอด (ภาพท 2) ใกล้ปลายยอดสดของ
ิ
็
ิ
ี
ิ
ก งทกําลังยืดขยายออกและตอมาจะอยู่ด้านข้างของก ง เกดอยู่เปนฉัตร ๆ ละ 2 – 4 ปลี และมี 1 – 3
่
่
ี
่
ฉัตร ตอป ต้นทมีปลีดอกตัวผู้มากจะมีลักษณะการจัดของใบแตกตางออกไปอย่างเดนชัด ทําให้เกด
ี
่
ิ
ชองว่างระหว่างใบเมื อปลีดอกได้รวงหล่นไปแล้ว
่
่
ิ
้
ภาพที 1 ลักษณะปลีดอกตัวผูของสนคารเบีย
ิ
ภาพที 2 ลักษณะปลีดอกตัวเมียของสนคารเบีย
6
ี
็
่
ู
ี
ผล (Fruit) ผลของสนคารเบยเรยกว่าโคน (cone) มีลักษณะเปนรปกรวย เมื อแกมีความสม
ิ
็
ิ
ดลย์ไม่บดเบ ยวยาว 5 – 10 เซนตเมตร กว้าง 2.5 –3.5 เซนตเมตร โคนจะรวงอย่างรวดเรวเมื อแก ่
ี
่
ุ
ิ
ิ
่
ี
่
ู
ิ
เต็มท แตบางท้องทโคนอาจจะตดอยู่บนต้นเปนปหรอนานกว่า ระหว่างต้นไม้แตละต้นอาจจะมีรป
ี
ื
ี
็
์
ทรงและขนาดของโคนแตกตางกัน เมื อกลีบของโคนอ้าออกจะมีลักษณะรปรางแบบถังเบยร ซงกลีบ
ึ
ี
่
ู
่
โคนจะมีความยืดหยุ่น ในแตละโคนจะมีกลีบประมาณ 150 – 190 กลีบ และจะมีเมล็ดทสมบรณ ์
ู
ี
่
ประมาณ70 เปอรเซ็นต์ ในแตละกลีบจะมีเมล็ดอยู่ทโคนกลีบ 1 ค ู่
่
ี
์
ี
่
่
็
ี
ิ
ู
็
เมล็ด (seed) เมล็ดของสนคารเบย จะมีลักษณะเปนรปไขเรยวความยาวเปนสองเทาของ
็
ความกว้าง มีปลายแหลมเปนสามเหลี ยมทั งสองด้าน ความกว้างของเมล็ดประมาณ 3 มิลลิเมตร และ
ี
ี
ิ
ี
ยาวน้อยกว่า 6 มิลลิเมตร (Lamb, 1973) สนคารเบยวาไรต บาฮาเมนซส มีขนาดของเมล็ดโตข น
ึ
ี
ี
เมื อปลูกในทสงข น สของเมล็ดจะแตกตางกันไปจากสดําประเทาจนถึงสนํ าตาลอ่อน สนคารเบยวา
ู
่
ี
ิ
ี
ึ
ี
ไรต ฮอนดเรนซสและวาไรต บาฮาเมนซสมีปกยึดตดแนนอยู่กับเมล็ด และไม่สามารถเอาปกออกจาก
ี
ี
ิ
่
ี
ี
ู
ี
ี
ี
ุ
ี
เมล็ดได้นอกจากทําลายเปลือกห้มเมล็ด สนคารเบยจากประเทศเบลิซ ทําการแยกเอาปกออกจาก
ิ
ิ
ี
เมล็ดยากกว่าแหล่งกําเนดอื น ๆ ในพื นทวีป โดยทั วไปปกของเมล็ดจะมีความยาว 10 – 20 มิลลิเมตร
่
ึ
็
ื
ซงเปนสัดสวนกับความยาวของเมล็ด ลักษณะภายในเมล็ดเหมือนกับไม้ตระกูลสนทั วไป คอมต้น
ี
ี
ื
ั
ี
อ่อน (embryo) ฝงอยู่ตามแนวยาวของเน อเยื อททําหน้าทเก็บอาหาร (female gametophytic tissue
หรอ endosperm)
ื
การออกดอกติดโคนและการพัฒนาของเมล็ด (Reproductive biology)
ิ
่
พบว่าสนคารเบยสามารถออกดอกได้เรวตั งแตปท 3 แม้ว่าการเกดดอกจะแตกต่าง
็
ี
ี
ี
ิ
ั
่
ิ
ี
่
ี
กันไปแล้วแตท้องท และยังไม่ทราบชัดว่าปจจัยส งแวดล้อมของท้องทมีผลตอการออกดอกอย่างไร
ี
ี
ิ
็
่
่
ดอกในชวงอายุน้อยสวนมากเปนดอกตัวเมีย ถิ นกําเนดจากพื นทภายในทวีปของสนคารเบยวาไร
ิ
็
ู
๊
ู
ี
ี
ิ
ี
่
ต ฮอนดเรนซสเทานั นทมีแนวโน้มออกดอกเรวโดยเฉพาะอย่างยิ งถิ นกําเนดปอปทน บางคร ังถิ น
กําเนดจากชายฝ งทะเลออกดอกเรวบ้างเหมือนกันแตสวนใหญคอนข้างยาก ในประเทศไนจเรย
ิ
็
่
่
ั
่
่
ี
ี
ี
ี
ี
ั
ิ
ี
ี
ึ
ู
(Nigeria) สนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซสออกดอกเมื ออายุเพียง 3 ปครง ขณะทถิ นกําเนดจากชายฝ ง
ิ
่
ทะเลมีเฉพาะถิ นกําเนดซานโตสเทานั นทออกดอก Greaves (1978) ได้สังเกตการออกดอกของสน
ี
ิ
ี
ู
ี
ี
ี
ี
ิ
คารเบยในพื นทระดับสงและระดับตําในประเทศศรลังกา (Srilangka) ทอายุ 5 ป ปรากฏว่าสนคาร ิ
ู
ี
ี
ี
ี
ิ
ิ
เบยให้ดอกทั งสามวาไรต สําหรบสนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซสมดอกเฉพาะถิ นกําเนดในทวีป คอ
ื
ั
ี
ี
ิ
ถิ นกําเนดซานโตสเทานั น
่
7
ี
่
่
่
ื
ิ
ในพื นทปาธรรมชาตปลีดอกตัวเมียจะกอตัวข ึนในชวงเดอนกันยายนถึง
เดอนตลาคม ประมาณ 2 – 3 เดอนกอนการผสมเกสร ปลดอกทพรอมผสมเกสรจะพบเหนได้จาก
่
ื
็
ี
ี
ื
้
ุ
เดอนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ในประเทศฮอนดรส และเดอนธันวาคมถึงมีนาคมในประเทศเบลิซ
ื
ื
ู
ั
ิ
(Lamb, 1973) การเกดดอกจะล่าช้าออกไปเมื อความสงจากระดับนํ าทะเลและละตจดเพิ มข ึน
ิ
ู
ู
ู
ิ
ี
่
ิ
ี
ี
สวนปาแถบใต้เส้นศูนย์สตรในควีนสแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย สนคารเบยวาไรต คารเบยออกดอก
ื
ื
ุ
ู
ี
ิ
ชวงเดอนมิถนายนถึงเดอนกรกฎาคม สนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซสจะออกดอกจากเดอนมีนาคม
ื
่
ี
ี
ิ
ี
ถึงเดอนมิถุนายน และ สนคารเบยวาไรต ีบาฮาเมนซสจะออกดอกจากเดอนเมษายนถึงเดอน
ี
ื
ื
ื
มิถุนายน (Slee และ Nilkes,1968) แถบบรเวณอกูดอส (Agudos region) ในประเทศบราซล (Brazil)
ิ
ิ
ี
่
ิ
ี
ื
ู
สนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซส จะมีการผสมเกสรตั งแตเดอนเมษายนถึงเดอนมิถุนายน (Bertolani
ื
ี
ื
ิ
ิ
ึ
และ Nicolielo, 1978) สวนในประเทศฟจ (Fiji) สนคารเบยออกดอกในกลางเดอนมีนาคมถงปลาย
ี
่
ิ
ู
ื
ื
่
ิ
เดอนสงหาคม มีชวงทออกดอกสงในเดอนมิถุนายนถึงเดอนกรกฎาคม (Bell, 1979) การออกดอก
ื
ี
ู
่
นอกฤดเปนเรองปกตทั งในปาธรรมชาตและสวนปา
่
ิ
ิ
็
ื
หลังจากผสมเกสร ปลีดอกตัวเมียซงยาวประมาณ 10 – 12 มิลลิเมตร จะโตขึ นโดยมี
ึ
ขนาดยาว 15 – 20 เซนตเมตร และกว้าง 10 มิลลิเมตร เปลี ยนจากสชมพูเปนเขยวอ่อนถึงนํ าตาล
ี
ิ
ี
็
็
ื
ี
ในขณะเดยวกันก้านของผลอ่อนหรอโคนเลท (conlet) จะยืดยาวออกเปน 10 – 15 มิลลิเมตร และ
ิ
ิ
ุ
ื
โค้งงอ ขบวนการน ส นสดภายใน 1 – 2 เดอนหลังจากการผสมเกสร โคนเลทจะมีขนาดเหมือนเดม
ี
ั
ึ
่
ื
โดยไม่เปลี ยนแปลงเปนเวลาประมาณ 12 เดอน จนกระทั งเซลล์ไขได้รบการผสม โคนเลทจงจะ
็
ื
็
เจรญเตบโตจนมีขนาดเต็มทภายในชวงเวลา 3 เดอนและจะแกตัวอย่างรวดเรว ซงนับเวลาหลังจาก
่
ึ
ิ
ิ
ี
่
ิ
ื
์
ู
่
การผสมเกสรจนเจรญเตบโตเปนโคนแกสมบรณใช้เวลา 18 – 21 เดอน
ิ
็
ิ
ี
ิ
ู
ในปาธรรมชาตประเทศฮอนดรสและประเทศนคารากัวโคนสนคารเบยจะแก ่
ิ
่
ั
ื
่
ื
ื
ประมาณเดอนเมษายนถึงเดอนกรกฎาคม ในประเทศเบลิซโคนจะแกจากเดอนมิถุนายนถึงเดอน
ื
่
ิ
ื
สงหาคม และในประเทศบาฮามาโคนจะแกในเดอนสงหาคม
ิ
่
ี
่
ู
ี
สวนปาในพื นทใต้เส้นศูนย์สตร เชน ในควีนสแลนด์ ประเทศออสเตรเลยโคนจะ
แกประมาณเดอนมกราคมถึงเดอนกุมภาพันธ์ (Slee และ Nikles, 1968) ในแถบอกูดอสของประเทศ
ื
ื
่
ู
ี
ี
ี
ี
ื
ิ
บราซลโคนของสนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซสจะแกประมาณเดอนมีนาคม และสนคารเบยวาไรต
่
ี
ิ
ิ
คารเบยโคนจะแกเดอนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ในประเทศฟจโคนแกพรอมเก็บได้ในปลายเดอน
ิ
ิ
ี
ื
ิ
้
ื
่
่
มกราคมถึงต้นมีนาคม (Bell, 1979)
่
่
ู
ี
่
ิ
็
ุ
่
ื
ในปาธรรมชาตชวงโคนแกจะตรงกับต้นฤดฝนเปนเชนน เกอบทกประเทศ ถึงแม้ว่า
ิ
ื
็
จะมีสภาพฝนตก การแตกอ้าหรอเปดของโคนและการรวงของเมล็ดจะรวดเรวมากเกดภายในชวง
ิ
่
่
่
ื
ื
ี
ี
่
หนงเดอนหรอตํากว่าน อย่างไรก็ดความแตกต่างระหว่างต้นและกลุ่มไม้จะยืดชวงเวลาการแกของ
ึ
8
ิ
็
่
ื
ี
่
โคนออกไปในแตละท้องทเปน 2 – 3 เดอน โดยทั วไปแล้วการแกของโคนจะเกดในเวลาไลเลยกัน
่
ี
่
ู
ั
แม้ว่าจะมีเวลาออกดอกแตกต่างกัน (Lamb, 1973) แตในปาธรรมชาตในประเทศฮอนดรสจะพบต้น
่
ิ
ี
ี
่
ไม้ทมีโคนแก่และอ่อนในชวงเวลาเดยวกัน
่
ู
การลีบของโคนเล็ตอาจเกดขึ นได้ เนองจากการผสมเกสรไม่สมบรณ การแกงแย่ง
ิ
์
ื
ิ
ิ
ระหว่างโคนเล็ตและการเจรญเตบโตทางลําต้น และการทําลายจากแมลง หลังจากการผสมของไข ่
แล้วยังมีการลีบของโคนเล็ตอีกมาก
่
ิ
ู
ื
ผลผลิตเมล็ดของสวนปานอกถิ นกําเนดจะตําเสมอ (Lamb, 1973) เนองจากอุณหภมิ
ื
ื
่
ิ
เย็นทําให้ไม่เกดดอก หรอช นจัดชวงออกดอกทําให้เกสรไปไม่ถึงปลีดอกตัวเมีย ดังนั นแหล่งผลิต
ิ
ุ
็
ี
ี
้
ี
ื
ู
เมล็ดหรอสวนผลิตเมล็ดพันธ์นอกถิ นกําเนดจะต้องอยู่ในพื นททเปนเขตรอนและมีฤดหนาวทมี
อากาศแห้งแล้งเดนชัด
่
ู
ี
ิ
ิ
ี
ถิ นกําเนดภายในทวีปของสนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซส คอนข้างออกดอกเรว
ี
่
็
กว่าถ นกําเนดชายฝ งทะเล และให้โคนเลทมากกว่า (Greaves, 1980 และ Barnes et al., 1980)
ิ
ิ
ั
ั
ุ
ุ
สําหรบในประเทศไทยนั นทางโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สนได้ทําการศึกษาการ
ั
ิ
ิ
ิ
เกดดอกตดโคนของสนคารเบย ถ นกําเนดเมาเทนไพน์รดจ์ ในแหล่งผลิตเมล็ดไม้ (seed production
ี
ิ
ิ
ิ
area) ทสถานทดลองปลูกพรรณไม้ห้วยบง อําเภอฮอด จังหวัดเชยงใหม่ ในป พ.ศ. 2519 – 2522 พบ
ี
ี
ี
ี
ิ
ุ
ื
ิ
ิ
่
ื
ว่าสนคารเบยเร มมีดอกตัวผู้ประมาณปลายเดอนตลาคมถึงต้นเดอนพฤศจกายนซงเกสรเร มแกและ
ี
ิ
ึ
ื
ถูกปลดปล่อยไปตามลมปลายเดอนพฤศจิกายนถึงกลางเดอนธันวาคม สวนดอกตัวเมียก็ปรากฏให้
ื
่
ื
ื
ิ
ึ
ิ
็
ึ
่
ุ
ี
เหนในชวงไล่เลยกัน ซงการผสมพันธ์จะเกดข นประมาณกลางเดอนพฤศจกายนถึงกลางเดอน
ธันวาคม โคนทได้รบการผสมแล้วจะพัฒนาไปเรอย ๆ ใช้ระยะเวลาประมาณ 20 – 22 เดอน ถงจะ
ึ
ี
ื
ั
ื
่
ิ
่
ี
็
ื
ึ
แกและพรอมทจะเก็บได้คอจะแกประมาณปลายเดอนมิถุนายนถึงเดอนสงหาคมซงเปนชวงฤดฝน
้
ื
ู
ื
่
ทําให้ไม่สะดวกในการตากโคนเพื อสกัดเอาเมล็ดโดยใช้แสงแดดตามธรรมชาต ิ
ึ
เมื อโคนแกเต็มทก็จะอ้าออกและทําให้เมล็ดหลุดรวง และแพรกระจายไปโดยลมซง
่
ี
่
่
่
สวนใหญจะอยู่ในรศมี 25 เมตร มีอยู่บ้างเหมือนกันทลมพัดกระจายหางออกไปถึง 100 เมตร ใน
่
่
ี
ั
ู
ี
ิ
่
ขณะทบางคร ังลมพายุสามารถหอบเมล็ดกระจายออกไปได้ไกล ปกตโคนสนจะแก่ในชวงฤดฝนเมื อ
ื
็
่
เมล็ดรวงลงมาพบกับความช นจะงอกอย่างรวดเรว โดยตอนแรกรากอ่อน (radicle) จะงอกออกมา
ู
กอน และเจรญเปนรากแก้ว หลังจากนั นก้านชใบเล ยง (hypocotyl) จะยืดยาวออกและเกดใบเลี ยง
ี
ิ
ิ
่
็
ิ
เหนอผิวดน ซงยังมีเปลือกของเมล็ดตดค้างอยู่ จํานวนใบเล ยงจะมี 4 – 8 ใบ หลังจากนั นจะเกด
ึ
ี
ิ
ิ
ื
ึ
ี
ใบอ่อนและใบเต็มวัยซงลักษณะกล้าไม้ของแตละวาไรต มีความแตกตางกัน (Luckhoff, 1964) โดย
่
่
ี
ี
ี
ิ
ี
ี
ิ
ุ
ี
ู
ิ
ี
กล้าไม้ของ สนคารเบยวาไรต คารเบยและวาไรต บาฮาเมนซสมีสเขยวอ่อน และมีใบทตยภมิหลังจาก
ู
ื
ื
ี
่
กล้าไม้อายุ 2 – 3 เดอน สวนใบปฐมภมิจะหมดไปหลังจากกล้าไม้มีอายุ 6 เดอน ในขณะทกล้าไม้
9
ิ
ิ
ี
ิ
่
ี
ี
ู
็
ิ
ของสนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซสจากผืนแผ่นดนใหญ มีการเจรญเตบโตอย่างรวดเรว ลําต้นผอม
ิ
ื
ี
็
สง ใบเต็มวัยจะเกดขึ นเมื อกล้าไม้อายุได้ 9 เดอน และใบปฐมภมิจะตดอยู่เปนเวลา 1 ป หรอนานกว่า
ื
ู
ู
ิ
ี
ู
ั
ู
ี
ี
ิ
น กล้าไม้สนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซสจากประเทศฮอนดรส จะมีลักษณะคล้ายกับกล้าไม้ของสน
ี
์
์
ี
ู
โอคารปาจากประเทศเดยวกัน แตจะมีก้านชใบเล ยงยาวกว่าและไม่มีสชมพูเหมือนกับสนโอคารปา
ี
่
ี
ี
ซงสนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซสจะมีใบเล ยงสเขยวอ่อนและยาวมากกว่า ลักษณะของใบและดอก
ี
ี
ี
ู
ึ
ี
ิ
ี
ี
การพัฒนาของโคนและเมล็ด และการงอกของสนคารเบย ดังแสดงในภาพท 3
ี
ิ
ิ
ภาพที 3 ลักษณะใบและดอก การพัฒนาของโคนและเมล็ด และการงอกของสนคารเบีย
ที มา : Robbin (1983)
10
การกระจายพันธุ ์
ิ
ู
ี
ี
่
ุ
ี
ขอบขายพื นทการกระจายพันธ์ของสนคารเบยจะอยู่ในสภาพภมิอากาศทมีฝน
ู
้
ในฤดรอนและแห้งแล้งในฤดหนาว ไม่มีนํ าค้างแข็ง (frost) อากาศอบอุ่นและช นเกอบตลอดป ี
ู
ื
ื
ู
ุ
ี
ิ
็
ี
ู
่
ุ
ปรมาณนํ าฝนเปนสวนของภมิอากาศทมีความผันแปรมากทสดปรมาณนํ าฝนสงสดถึง 4,000
ิ
ุ
่
็
ี
มิลลิเมตรตอป ท Laguna del Pinar ซงเปนจดใต้สดของขอบเขตการกระจายพันธ์ของสนคารเบย
ึ
ี
ี
ิ
ุ
ุ
ึ
ี
ื
ุ
่
สวนท้องทซงแห้งแล้งทสดคอ Los Limones เปนพื นทตอนบนของหบเขา Choketeca อยู่ใน
็
ี
ี
ุ
ประเทศฮอนดรส ซงมีปรมาณนํ าฝนประมาณ 660 มิลลิเมตรตอป ี
่
ิ
ู
ึ
ั
ี
ความกว้างขวางของการกระจายพันธ์ของไม้สนคารเบยทั ง 3 วาไรต ครอบคลุมทาง
ี
ุ
ิ
ี
ื
ื
ื
0
0
ิ
/
/
ิ
ี
ี
ู
ื
ละตจดเกอบ 15 ดกร คอจาก 12 13 เหนอ ในประเทศนคารากัว จนถึง 27 00 เหนอ ท Little
ื
0
ื
่
ู
ี
ิ
Abaco Island ในประเทศบาฮามา สวนระยะในทางลองตจดมีความยาวเกอบถึง 17 ดกร คอจาก 71
ี
40 ตะวันตก ในเกาะ Caicos ถึง 89 25 ตะวันตก ทเมือง Poptun ประเทศกัวเตมาลา (ภาพท 4)
0
/
ี
ี
/
การกระจายพันธุของสนคารเบียวาไรตี ฮอนดูเรนซส
ี
ิ
์
(Distribution of Pinus caribaea var. hondurensis)
สนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซสมีการกระจายพันธ์อยู่จําเพาะในพื นทผืนแผ่นดน
ิ
ี
ุ
ี
ี
ิ
ี
ู
ู
่
ื
ิ
ี
ั
ั
ุ
ใหญของทวีปอเมรกากลางกับทเกาะ Guanaja นอกชายฝ งทะเลเหนอของประเทศฮอนดรส จดใต้สด
ุ
ื
ของชวงการกระจายพันธ์อยู่ท 12 13 เหนอ คอตอนเหนอของเมือง Bluefield ในประเทศนคารากัว
ื
่
/
ี
ุ
0
ื
ิ
ุ
ุ
ุ
จดจํากัดของขอบเขตการกระจายพันธ์ตอนเหนอสดอยู่ท 18 00 เหนอ เกอบถึงชายแดนระหว่าง
/
ื
ื
ี
0
ื
ิ
ึ
ื
ี
ประเทศเบลิซกับประเทศเม็กซโก อย่างไรก็ดเกอบแนชัดว่ายังมีอกทหนงคอมมทางตะวันออกเฉยง
ี
ุ
ื
่
ี
ี
ั
ุ
ึ
ิ
ื
ึ
ใต้ของรฐ Quintana Roo ในประเทศเม็กซโก ซงอยู่เหนอเส้นเขตแดนข นไปจากจุดสงสดในประเทศ
ู
ี
ี
เบลิซ (ภาพท 5 และตารางท 1 และ 2)
ปาสวนใหญของวาไรต น จะเกดเปนผืนยาวซงมีความกว้างตาง ๆ กัน บนพื นทราบ
่
ี
ิ
ึ
่
่
ี
ี
่
็
ี
่
ู
ั
ิ
ื
ั
ระดับตําของชายฝ งมหาสมุทรแอตแลนตค (Atlantic) ทมีความช นในบรรยากาศสง เชนทราบชายฝ ง
ี
ู
ั
ี
ั
ี
ี
ื
ทะเลของประเทศเบลิซ ทราบชายฝ งทะเลทางตะวันออกเฉยงเหนอของประเทศฮอนดรส และทราบ
ี
ิ
ั
ี
ี
ื
ชายฝ งทะเลทางตะวันออกเฉยงเหนอของประเทศนคารากัว การกระจายพันธ์ของสนคารเบยวาไรต น
ิ
ี
ุ
ี
่
็
ื
่
ื
ุ
มีจดใหญ ๆ หลายแหง ทเปนผืนปาไม่ตอเชอมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ งทางชายฝ งทะเลตอนเหนอของ
่
ั
่
ึ
ั
ประเทศฮอนดรสซงเปนเทอกเขาสงอยู่เกอบตดทะเล
ู
ื
ิ
ู
็
ื
11
่
ิ
ุ
การกระจายของปาสนจะเกดแทรกเข้าไปในพื นทภายในทวีปตามแนวของหบเขา
ี
่
ั
่
ิ
่
ั
ู
่
ได้เปนระยะไกลตาง ๆ กัน ในประเทศนคารากัวและฮอนดรส พบว่าปาบางแหงอยู่หางจากชายฝ ง
็
ี
ิ
ู
ี
่
่
ิ
ทะเลเข้าไป 200 – 300 กโลเมตร แม้ว่าปาสนคารเบยวาไรต ฮอนดเรนซสสวนใหญจะเกดบนพื นท ี
ิ
ิ
่
ี
ี
ี
ิ
่
่
ราบระดับตําใกล้กับระดับนํ าทะเล แตมีบางสวนของปาทเกดในพื นทภายในทวีปทอยู่บนพื นทใน
ี
่
ระดับสงถึง 800 เมตร สงข นไปจากน ปกตจะพบสนโอคารปา (Pinus oocarpa Schiede) ข นแทน
ู
ึ
ู
์
ิ
ี
ึ
ภาพที 4 ขอบเขตการกระจายพันธุของสนคารเบียตามธรรมชาติ
ิ
์
ที มา : Greaves (1980)
12
ภาพที 5 ขอบเขตการกระจายพันธุของสนคารเบียวาไรตี ฮอนดูเรนซส
ิ
์
ี
ที มา : Greaves (1978)
13
ี
ั
ิ
ตารางที 1 ถิ นกําเนิดสนคารเบียวาไรตี ฮอนดูเรนซส แถบชายฝงทะเล
ู
่
ิ
ู
ู
ิ
ตําแหนง ประเทศ ท้องท ี ละตจด ลองกจด สงจากระดับ
นํ าทะเล(ม.)
4 Nicaragua Pinar 12 13 N 83 42 W <10
2 Nicaragua Karawala 12 58 N 83 34 W <10
3 Nicaragua Alamicamba 13 34 N 84 17 W 20 - 30
1 Nicaragua Kuakuil 14 12 N 83 30 W 20
5 Nicaragua Rio Coco / Slilma Sia 14 45 N 83 55 W 0 - 100
7 Honduras Brus Lagoon 15 45 N 84 40 W 0 - 100
8 Honduras Guanaja 16 27 N 85 54 W 50 - 100
16 Honduras Guanaja 16 28 N 85 54 W 0 – 300
10 Belize Las Lomitas 16 28 N 88 33 W 30
9 Belize Silver creek 16 40 N 88 25 W 30 – 100
23 Belize Melinda 17 01 N 88 20 W 10 - 15
19 Belize Santos Pine Ridge 17 34 N 88 33 W 20 - 40
ที มา : Greaves (1978)
ตารางที 2 ถิ นกําเนิดสนคารเบียวาไรตี ฮอนดูเรนซสแถบ ในทวีป
ิ
ี
ิ
ู
ิ
ู
ตําแหนง ประเทศ ท้องท ี ละตจด ลองกจด สงจากระดับ
่
ู
นํ าทะเล (ม.)
21 Nicaragua Santa Clara 13 48 N 86 12 W 600 - 700
13 Honduras Los Limones 14 03 N 86 42 W 200 - 700
14 Honduras Culmi 15 06 N 85 37 W 300 – 700
17 Honduras Potosi 15 20 N 88 25 W 50 - 700
12 Honduras Los Briones 15 34 N 86 44 W 100 – 700
6 Guatemal Poptun 16 21 N 89 25 W 500
a
20 Belize Mountain Pine Ridge 17 00 N 88 55 W 400
ิ
22 Australia Byfield ถิ นกําเนดเดม 22 50 S 151 E 30
ิ
Mountain Pine Ridge
ที มา : Greaves (1978)
14
์
ิ
ี
การกระจายพันธุของสนคารเบียวาไรตี บาฮาเมนซส
(Distribution of Pinus caribaea var. bahamensis)
ี
ิ
ี
ึ
ไม้สนคารเบยวาไรต ีบาฮาเมนซส จะพบข นอยู่บนเกาะสําคัญ ๆ 5 หมู่เกาะใน
ื
ประเทศบาฮามา คอ Great Bahama, Great and Little Abaco, New Providence และ Andros
ี
ี
ึ
ึ
(ภาพท 6 และตารางท 3) เคยมีรายงานว่าพบข นอยู่บนเกาะ Barry ซงตั งอยู่ระหว่างเกาะ Andros
และ Abaco นอกจากน ียังพบว่ามีข ึนอยู่บนหมู่เกาะ Pine cay, North Caicos และ Grand (หรอ
ื
ุ
่
Middle) Caicos ในหมู่เกาะ Turks และหมู่เกาะ Caicos ชวงการกระจายพันธ์ตามละตจดคอจาก 21 0
ื
ู
ิ
่
/
ื
ู
่
ี
45 เหนอ ถึง 27 00 เหนอ ชวงระดับความสงทมีปาสนจะมีตั งแตระดับนํ าทะเลจนถึง 30 เมตร
ื
/
่
0
ตารางที 3 ถิ นกําเนิดสนคารเบียวาไรตี บาฮาเมนซส
ี
ิ
ู
ิ
่
ู
ิ
ตําแหนง ประเทศ ท้องท ี ละตจด ลองกจด สงจากระดับ
ู
นํ าทะเล (ม.)
31 Bahama Andros 24 53 N 78 07 W 3
47 Bahama New 25 01 N 77 28 W 3
Providence
49 Bahama Andros 25 02 N 78 06 W 3
46 Bahama Andros 25 05 N 78 04 W 3
48 Bahama Great Abaco 25 59 N 77 15 W 3
38 Bahama Grand Bahama 26 40 N 78 12 W 20
ที มา : Greaves (1978)
15
ภาพที 6 ขอบเขตการกระจายพันธุของสนคารเบียวาไรตี บาฮาเมนซส
ิ
์
ี
ที มา : Greaves (1978)
16
ิ
ิ
์
การกระจายพันธุของสนคารเบียวาไรตี คารเบีย
(Distribution of Pinus caribaea var. caribaea)
0
/
่
ู
ิ
ี
ี
ี
ิ
ึ
ื
ึ
ไม้สนคารเบยวาไรต น จะพบข นกระจายอยู่ในชวงละตจด 21 35 เหนอ ถง 22 0
ึ
ื
50 เหนอ ข นอยู่แยกจากกันบนพื นทตาง ๆ หลายแหงบนเกาะของประเทศคิวบา และ Isle of pines
่
่
ี
/
ิ
ู
่
(ภาพท 7 และตาราง 4) ปาสนหลัก ๆ ในประเทศควบา จะข นอยู่ในชวงความสงจาก 46 เมตร ถง
ึ
่
ี
ึ
ึ
ี
ั
333 เมตร จากระดับนํ าทะเลอย่างกระจัดกระจาย พบไม้สนแคระแกรนข นอยู่บนพื นทราบชายฝ ง
ี
่
ทะเลตอนใต้อยู่สงจากระดับไม่กเมตรบนเกาะ Isle of Pines และมีปาไม้สนแบบสะวานาข นอยู่
ู
ึ
ี
่
ี
ื
็
็
่
่
อย่างหนาแนนทางตอนเหนอและทางตะวันตกเปนเน อทสองในสามของเกาะ พื นทสวนใหญเปนท ี
ื
ี
ราบ มีน้อยมากทจะสงเกน 30 เมตร จากระดับนํ าทะเล
ิ
ู
ิ
ิ
ตารางที 4 ถิ นกําเนิดสนคารเบียวาไรตี คารเบีย
ิ
ู
ตําแหนง ประเทศ ท้องท ี ละตจด ลองตจด สงจากระดับ
ู
่
ิ
ู
นํ าทะเล (ม.)
50 Cuba - 22 30 N 83 50 W 100
28 Cuba Cayo La Mula 22 33 N 83 48 W 110
25 Cuba Los Palacios 22 34 N 83 12 W 50
27 Cuba Manuel 22 37 N 83 40 W 150
26 Cuba Los Cabanas 22 40 N 83 23 W 160
30 Cuba El Buren 22 45 N 83 28 W 300
24 Cuba Marbajita 22 48 N 83 29 W 80
56 Cuba Pinar del Rio 22 49 N 82 57 W -
55 Cuba Batey 22 50 N 83 27 W -
ที มา : Greaves (1978)
17
์
ิ
ภาพที 7 ขอบเขตการกระจายพันธุของสนคารเบียวาไรตี คารเบีย
ิ
ที มา : Greaves (1978)
18
ิ
ประวัติการนําสนคารเบียไปปลูกนอกถิ นกําเนิด
ู
่
ิ
ี
ตามประวัตทกล่าวไว้ไม่ละเอียดนักของการปาไม้ประเทศฮอนดรสเกี ยวกับไม้สน
ั
ี
ี
้
ิ
ึ
็
ิ
คารเบยมีการเร มปองกันไฟและเก็บเมล็ดคร ังแรกใกล้เมืองเบลิซซงเปนเมืองหลวงในพื นทแถบ
ึ
แม่นํ าเบลิซทเรยกกันว่า Old man’s rest โดย Luckhoff (1964) ได้บันทกไว้ว่ามีการนําเมล็ดออก
ี
ี
ั
ั
ิ
ิ
ั
์
ี
ไปคร งแรกยังเมือง Placerville รฐแคลิฟอรเนย ประเทศสหรฐอเมรกา และประเทศอาฟรกาใต้ในป ี
ี
1927 ดังนั นจงมีความเปนไปได้ว่าเมล็ดนาจะมาจากแถบทราบชายฝ งทะเลแถบ Old man’s rest
็
ั
ึ
่
ิ
ิ
0
ั
/
เมล็ดทสงมายังอาฟรกาใต้ได้นําไปปลูกท Dukuduku อยู่ประมาณละตจด 28 30 ใต้ แถบชายฝ ง
ู
ี
ี
่
ี
์
็
ี
ทะเลของ Zululand ในป 1927 เปนพื นทประมาณ 6 เอเคอร (2.4 เฮกแตร) กล้าไม้ทผลิตได้บาง
์
ี
ิ
สวนยังสงไปท Port Durnford ซงอยู่ทละตจด 29 ใต้ โดยปลูกผสมกับ P. elliottii var. elliottic แต ่
ึ
่
่
ี
0
ู
ี
บันทกต่าง ๆ ทนสาบสญหายไปจนกระทั งป 1948 จงมีการช ชัดว่ามีสนคารเบยต้นใหญข นอยู่กระจัด
ี
ึ
ึ
ิ
ี
ี
ึ
่
ู
ี
ี
ี
กระจายในสวนปา Port Durnford แปลงปลูกป 1929 โดยทต้นไม้มีการเจรญเตบโตทางความสงและ
ิ
ู
ิ
่
ี
ู
ิ
ี
ความโตด ได้มีการตัดสางต้นทมีรปทรงเลวและต้นทเกด foxtail ของสนคารเบยวาไรต ฮอนดเรน
ี
ี
ิ
ู
ี
ี
ี
ิ
ู
ี
ซสออกจากสวนน พบว่าต้นดทเหลืออยู่มีลําต้นเปลาตรงรปทรงดและมีผลผลิตปรมาตรใต้เปลือก
ี
ี
ี
ี
ู
่
เฉลี ยสงกว่าไม้สนเอลลิออททไอทปลูกอยู่ใกล้กันถึง 4 เทา
ี
์
0
ิ
ี
ู
ิ
ั
ู
สําหรบท Placerville มลรฐแคลิฟอรเนยทละตจด 38 43 เหนอ ลองกจด
ื
ี
ั
ี
/
ี
0
ี
/
ื
12 50 ตะวันตก Luckhoff ได้มาสํารวจในป 1957 พบสนคารเบยหลงเหลอรอดอยู่ 2 ต้น แม้ว่าทน ี
ิ
ี
ิ
ิ
็
่
จะมีนํ าค้างแข็ง (frost) เกดข นคอนข้างรนแรง อาจเปนไปได้ว่าความแห้งแล้งทําให้การเจรญเตบโต
ิ
ึ
ุ
ิ
ื
่
ิ
ี
็
็
ชะงักไว้กอนเกดนํ าค้างแข็งก็เปนได้ เกอบจะเปนเวลาเดยวกันในป 1930 ได้มีการปลูกสนคารเบยไว้
ี
ี
ึ
ี
ิ
ู
ี
0
ั
แปลงหนงทเมือง Imbil มลรฐควีนส์แลนด์ประเทศออสเตรเลยทละตจด 30 ใต้ ซงมีปรมาณนํ าฝน
ี
ึ
ิ
ึ
ิ
ิ
ิ
1,140 มิลิเมตร บนพื นทซงมีสภาพดน basaltic เหมาะแกการเจรญเตบโตของ Araucaria
่
ี
ื
ี
ื
่
ึ
่
ิ
้
cunninghami หรอเหมาะตอปาดบช นเขตรอน ในป 1965 ได้มีการตรวจวัดไม้ในแปลงปลูกน ี ซง
ู
ี
ี
บางต้นมีรปทรงเปลาตรงดเยี ยมสงถง 30 เมตรและมีความโตทางเส้นผ่าศูนย์กลางทระดับอกถึง 40
ึ
ู
ี
ิ
ื
ิ
ี
เซนติเมตร และได้ถูกช ชัดว่าแปลงน คอสนคารเบยวาไรต คารเบยจากประเทศควบา (Nikles, 1978)
ี
ี
ิ
ี
ิ
ี
และยังพบว่ามีแปลงสนคารเบยวาไรต บาฮาเมนซสอยู่ท Imbil น ีอีกด้วย และมีอีกแปลงปลูกอีก
ี
ี
ี
แปลงหนงทเมือง Banyabba ในมลรฐ New South Wales ซงเปนวาไรต บาฮาเมนซส ซงมีอายุเทา
ี
ั
ึ
่
ี
ึ
ี
็
ึ
กัน
ี
หลังจากรนแรกของการนําไม้สนคารเบยไปปลกต่างถิ นเหล่าน มีไม่กประเทศทให้
ู
ี
ุ่
ี
ิ
ี
ิ
ความสนใจทดลองปลูกสนคารเบย จนกระทั งประเทศฮอนดรสเองได้ปลกสรางสวนปาสนคารเบย
ิ
ี
่
ู
ู
ี
้
ั
ู
วาไรต ฮอนดเรนซส ตั งแตป 1943 เรอยมาและประเทศควบามีการปลกสรางสวนปาสนคารเบยข น
ี
ึ
ู
่
ี
่
ื
ี
ี
ิ
ิ
้
19
ิ
ี
ี
ี
ในหลายพื นท โดยใช้วาไรต คารเบยบนทสง 610 เมตร จากระดับนํ าทะเลทเมือง Trinity Hills ตั ง
ู
ี
ี
ี
ี
ิ
่
ิ
ี
็
แตป 1945 เปนต้นมา (Fors, 1947) ในป 1946 ได้มีการนําเมล็ดและดนจากแหล่งกําเนดสนคารเบย
ิ
ชายฝ งทะเลของ ประเทศฮอนดรสไปยังประเทศตรนแดด (Trinidad) และแปลงทดลองแรก ๆ ได้
ิ
ิ
ั
ั
ู
ี
ี
ิ
เกดขึ นท Arena forest และ Northern Range ในป 1948 หลังจากนั นไม่นานได้มีการปลูกไม้ชนดน ี
ิ
โดยใช้เมล็ดจากประเทศฮอนดรส ในประเทศสรนัม (Surinum) และ กูยานา (Guyana) ในพื นท ี
ั
ิ
ุ
ู
ั
ตะวันตกของมาเลเซยเร มปลูกในป 1953 ประเทศอาฟรกาใต้และมลรฐควีนส์แลนด์ประเทศออสเตร
ี
ี
ิ
ิ
้
ื
ื
ึ
ี
ี
เลยได้ร อฟนความสนใจไม้สนคารเบยข นมาอีก ในขณะพรอม ๆ กันน ี Loock และ Luckhoff ได้
ิ
ู
ี
ี
ุ
ึ
ั
ิ
ี
ี
่
่
ิ
ขยายการเดนทางศึกษาดงานในป 1957 ซงทําให้ได้รบข้อมูลททรงคณคาตาง ๆ เกยวกับสนคารเบย
่
ิ
ี
ิ
มากมาย ประเทศอาฟรกาตะวันออกและอาฟรกากลางเร มมีการปลูกทดลองตั งแตป 1957 ตอจากนั น
ิ
่
ี
ิ
ี
้
่
ี
ได้มีการจัดสัมมนาโดย FAO เกยวกับไม้สนเขตรอนขึ นทประเทศเม็กซโกในป 1960 ซงไม่ได้กอ
ึ
ให้เกดผลอะไรมากนัก นอกจากเปนการกระต้นให้ประเทศตาง ๆ ในเขตรอนให้ตนขึ นมาเหนถึงคณ
้
่
ุ
็
็
ิ
ุ
ื
ี
้
่
คาความสําคัญของไม้สนเหล่าน โดยเฉพาะอย่างยิ งในเรองความหลากหลายของไม้สนเขตรอนทข น
ึ
ื
ี
่
่
อยู่ในพื นทราบระดับตําเหล่าน ซงมีศักยภาพสงตอการปลูกสรางสวนปาผืนใหญในเชงพาณชย์ หลัง
้
่
ิ
ิ
ู
ี
ี
ึ
ี
่
ิ
ู
ื
ิ
ู
ิ
จากนั นได้มีการทดลองถิ นกําเนดในรปแบบเดยวกันในประเทศตาง ๆ คอ ฟจ ซดาน อูกานดา
ี
ี
ี
ื
่
ี
เคนยา แทนซาเนย แซมเบย โรดเซย มาลาไว อาฟรกาใต้ และ ควีนส์แลนด์ รายชอประเทศตาง
ิ
ี
่
ี
ี
็
ี
ี
ึ
ี
ี
่
ๆ ทดําเนนการแบบเดยวกันน เพิ มข นมาอย่างรวดเรว ได้แก แกมเบย เซยรารโอน ไนจเรย มาดากา
ี
ิ
ิ
สกา บราซล อารเจนตนา เวเนซเอล่า จาไมก้า โคลัมเบย สตารก้า ซาบา ซาลาวัค อินเดย ศร ี
์
ิ
ู
ี
ี
ิ
ลังกา เทอรทอรเหนอของออสเตรเลย โซโลมอน ฮาวาย กานา ดาโฮแม่ โตโก และนวกน (ภาพท
่
ิ
ี
ี
ื
ี
ี
ิ
ิ
8) จนกระทั งมีการกอตั งหนวยงานวนวัฒนวิทยาเขตรอนข นท Commonwealth Forestry Institute
ึ
ี
้
่
่
์
(CFI) มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอรด ในป 1963 โดยทางปฏิบัตแล้วถือได้ว่าการทดลองตาง ๆ ทมีมาแล้ว
ี
่
ิ
ี
ิ
ึ
ปลกข นจากเมล็ดไม้สนคารเบย วาไรต ฮอนดเรนซสทได้จากประเทศฮอนดรส ซง Luckhoff และ
ู
ึ
ู
ี
ี
ู
ี
ี
ั
่
่
ี
Barrett เทานั นทมีเมล็ดไม้สนคารเบยทกวาไรต เมล็ดของ Luckhoff ได้สงไปเพาะทประเทศอาฟร ิ
ี
ี
ี
ิ
ุ
ั
ี
ี
ี
ี
ิ
ี
็
กาใต้ สําหรบการทดลองถิ นกําเนดททําหลายซํ าในป 1959 คร ังน เปนคร ังแรกทช ชัดว่าความแตก
ุ
ี
่
่
็
ตางในระยะไม้หนม (Sapling) ของวาไรต ตาง ๆ เปนผลของความแตกตางทางด้านพันธกรรม
ุ่
่
่
ิ
ี
็
ี
ิ
ี
ี
จากป 1969 เปนต้นมาเมล็ดคารเบยวาไรต คารเบยจากประเทศควบาจะหาได้ยาก แตเมล็ดวาไร
ิ
่
ี
ิ
ู
ี
ี
ต ฮอนดเรนซสและบาฮาเมนซสได้ถูกแจกจายเพื อทําการทดลองถิ นกําเนดกันบ้างพอสมควร โดย
์
่
หนวยงานของออกซ์ฟอรดพรอมกับตัวอย่างของวาไรต คารเบยจากประเทศควบาจํานวนเล็กน้อย จน
ิ
ิ
้
ี
ี
้
ั
ื
ิ
ี
กระทั งเดอนเมษายน 1972 รฐบาลประเทศควบาเสนอให้เมล็ดวาไรต คารเบยแกประเทศเขตรอน
ิ
่
ี
ตาง ๆ เพื อทําการทดลองปลูก
่
20
ื
ิ
ภาพที 8 พ นที ที ทําการทดลองปลูกสนคารเบีย
ที มา : Plumptre (1984)
21
การนําสนคารเบียเขามาปลูกในประเทศไทย
ิ
้
ไม้สนคารเบยได้นําเข้ามาปลูกในประเทศไทยคร งแรกในป 2507 ภายใต้โครงการ
ี
ี
ั
ิ
ิ
ึ
่
สํารวจวัตถุดบเพื อทําเยื อกระดาษ ซงมีระยะดําเนนการระหว่างป พ.ศ. 2507 – 2510 โดยความชวย
ี
ิ
่
ิ
เหลือจากโครงการพัฒนาแหงสหประชาชาต (United Nation Development Project : UNDP) ซงได้
ึ
้
ี
ิ
นําไม้สนในเขตรอน (Tropical) และไม้สนในเขตอบอุ่น (Temperate) จากต่างประเทศหลายชนด ท
คาดว่าเหมาะสมสําหรบทําเยื อกระดาษได้แก ไม้สนคารเบย (P. caribaea Morelet) สนพาทล่า
ู
ี
่
ิ
ั
ิ
(P. patula Schiede and Deppe) สนเอลลิออททไอ (P. elliottii Engelm) สนทด้า (P. taeda L.) ปลูก
ี
ทดลองรวมกับไม้สนพื นเมืองของไทยคอไม้สนสามใบ (P. kesiya Royle ex Gordon) และสนสองใบ
่
ื
ุ
ิ
ั
(P. merkusii Jungh et de Vriese) มีวัตถุประสงค์เพื อหาชนดพันธ์ไม้สนทเหมาะสมสําหรบการปลูก
ี
ึ
่
สรางสวนปาเพื อรองรบอุตสาหกรรมผลิตเยื อและกระดาษ ได้ดําเนนการทดลองใน 4 พื นท ซงมี
้
ี
ั
ิ
ู
่
่
ื
ลักษณะภมิประเทศและภมิอากาศตาง ๆ กัน ได้แก ศูนย์ทดลองปลูกพันธ์ไม้ภาคเหนอ (สถาน ี
ุ
ู
ี
ุ
่
ี
่
ั
ทดลองปลูกพรรณไม้บอแก้วในปจจบัน) ตําบลบอหลวง อําเภอฮอด จังหวัดเชยงใหม่ ทบ้านห้วย
ทา อําเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรสะเกษ ทบ้านห้วยมุด อําเภอนาสาร จังหวัดสราษฎรธาน และทบ้าน
ี
ี
ุ
ี
์
ี
ลําเภา-ลําทราย จังหวัดกาญจนบร ผลปรากฏว่าไม้สนคารเบยสามารถปรบตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม
ั
ิ
ี
ุ
ี
ู
ิ
ิ
ี
ของประเทศไทยได้ด มีอัตราการเจรญเตบโตทางด้านความสงและความโตทางเส้นผ่าศูนย์กลางด ี
้
กว่าไม้สนพื นเมือง และไม้สนชนดอื น ๆ ทนําเข้ามาปลูกพรอมกัน
ิ
ี
ุ
ิ
ิ
หลังจากทโครงการสํารวจวัตถุดบเพื อทําเยื อกระดาษส นสดลง ทางประเทศไทย
ี
์
่
ั
โดยกรมปาไม้ได้รบความรวมมือทางวิชาการจากรัฐบาลประเทศเดนมารกโดย DANIDA (Danish
่
ั
ุ
็
International Development Agency) ได้ทําการจัดตั งโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สนไม้โตเรวข นท ี
ุ
ึ
ึ
ิ
บ้านแม่สะนาม อําเภอฮอด จังหวัดเชยงใหม่ ในป พ.ศ. 2512 ซงยังคงดําเนนการค้นคว้าวิจัยเกยวกับ
ี
ี
ี
ื
ไม้สนอย่างตอเนอง โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ดังน ี
่
1. ทําการศึกษาวิจัยทดลองไม้สนพื นเมืองและไม้สนทนําเข้ามาจากตางประเทศ
่
ี
ุ
ั
ุ
2. สํารวจคัดเลือกแม่ไม้ไว้ทําการขยายพันธ์และปรบปรงพันธ์ ุ
ุ
ึ
้
3. สรางสายพันธ์ลูกผสม (Hybrid) ใหม่ ๆ ข นมา
ี
ิ
ุ
้
ั
ุ
4. สรางสวนอนรกษ์พันธ์ไม้สนชนดและแหล่งทด ี
ิ
5. จัดสรางแหล่งผลิตเมล็ดไม้และสวนผลิตเมล็ดไม้ของชนดและถิ นกําเนดทด ี
ิ
้
ี
ุ
สําหรบผลิตเมล็ดคณภาพดให้มีปรมาณเพียงพอตอความต้องการในการปลูก
ั
่
ิ
ี
สรางสวนปาไม้สน
่
้
22
ิ
ื
โดยในป พ.ศ. 2514 ได้นําไม้สนคารเบย 2 แหล่งกําเนด คอจาก Bowenia,
ิ
ี
ี
ั
ู
Queensland ประเทศออสเตรเลีย และ Cayo จากประเทศฮอนดรส มาปลูกทดสอบรวมกับไม้สน
่
สองใบ สนสามใบ สนโอคารปา และสนจน (Cupressus lusitanica) ทสถานทดลองปลูกพรรณไม้
ี
์
ี
ี
็
ี
ห้วยบง อําเภอฮอด จังหวัดเชยงใหม่ และยังได้ปลูกเปนแหล่งผลิตเมล็ดไม้ (Seed Production Area)
ิ
ี
ี
่
็
ุ
ในบรเวณใกล้เคยงกัน มีพื นทประมาณ 10 ไร ซงปจจบันยังใช้เปนแหล่งเก็บเมล็ด นอกจากน ยังได้
ี
ั
ึ
ุ
็
ี
ี
ุ
ี
ปลูกเปน Arboretum ทสถานบํารงพันธ์ไม้สน บ้านแม่สะนาม จังหวัดเชยงใหม่
่
่
่
ในปพ.ศ.2515ได้รบความรวมมือกับสถาบันปาไม้แหงสหราชอาณาจักร
ี
ั
(Commonwealth Forestry Institute : CFI หรอ Oxford Forestry Institute : OFI ในปจจบัน) โดยการ
ื
ั
ุ
ิ
ิ
ิ
ี
ประสานงานของ DANIDA ทําการทดลองถิ นกําเนดนานาชาตของไม้สนคารเบย จํานวน 22
ี
ี
ี
ี
ู
ถิ นกําเนด (ตารางท 5) ใน 4 พื นทของประเทศไทย คอ ทสถานทดลองปลกพรรณไม้ห้วยบง จังหวัด
ื
ิ
ิ
ิ
เชยงใหม่ จํานวน 13 ถิ นกําเนด ห้วยยะอุ จังหวัดตาก จํานวน 9 ถิ นกําเนด สถานทดลองปลูก
ี
ี
์
ิ
ุ
ิ
ู
่
ุ
พรรณไม้หนองค จังหวัดสรนทร จํานวน 10 ถิ นกําเนด และทแปลงทดลองทาแซะ จังหวัดชมพร
ี
ี
ี
ิ
จํานวน 14 ถิ นกําเนด โดยทห้วยยะอุ จังหวัดตากและทสถานทดลองปลูกพรรณไม้หนองค ต้นไม้
ี
ู
ี
ุ
ิ
่
ี
ิ
ั
่
ี
ได้รบความเสยหายตั งแตต้นไม้ยังเล็ก ๆ สวนทจังหวัดชมพรนั นต้นไม้มีอัตราการเจรญเตบโตดมาก
ี
แตแปลงทดลองได้รบความเสยหายจากพายุเกย์ในปลายปพ.ศ. 2532 คงเหลือแปลงทดลองอยู่ทเดยว
ี
ั
ี
่
ี
ี
ี
ี
ื
คอทสถานทดลองปลูกพรรณไม้ห้วยบง จังหวัดเชยงใหม่
ิ
ุ
ตอมาโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สนก็ได้นําเมล็ดไม้สนคารเบยจากแหล่งตาง ๆ เข้า
ี
่
่
ุ
ั
ี
มาปลูกเปนสวนอนรกษ์พันธ์ในภมิภาคตาง ๆ ในประเทศไทย และในป พ.ศ. 2520 – 2521 ได้รบ
ั
ุ
ุ
ู
ั
็
่
่
ุ
ความชวยเหลือจาก UNEP (United Environment Programme) ทําการปลูกสรางสวนอนรกษ์พันธ์ไม้
ุ
ั
้
์
ี
สนคารเบย สนโอคารปา และยูคาลิปตัสคามาลดเลนซส ข นทสถานทดลองปลูกพรรณไม้ห้วยบง
ี
ี
ิ
ู
ิ
ึ
ั
ี
ิ
ู
จังหวัดเชยงใหม่ ซงใช้ไม้สนคารเบยจากถิ นกําเนด Limones ประเทศฮอนดรส และทางโครงการฯ
ี
ิ
ึ
ุ
ิ
ี
ั
ี
่
ได้นําไม้สนคารเบยถิ นกําเนดตาง ๆ มาทดสอบเพิ มเตมในป พ.ศ. 2522 ทสถานปรบปรงแหล่งผลต
ิ
ิ
ี
ิ
ี
ื
่
ิ
ี
เมล็ดพันธ์ไม้ปาหนองกระทง จังหวัดเชยงใหม่ จํานวน 8 แหล่ง คอ Melinda และ Mt. Pine Ridge
ุ
ประเทศเบลิซ, Pinar del Rio ประเทศควบา, Santa Clara และ Alamicamba ประเทศนคารากัว,
ิ
ิ
ั
ี
Guanaja ประเทศ ฮอนดรส, Andros ประเทศบาฮามา และ Poptun ประเทศกัวเตมาลา และป 2523 ท ี
ู
ี
ื
สถานฯ ห้วยบง จังหวัดเชยงใหม่ 9 แหล่ง คอ La Mosquitia, La Brea – Colon, Limones และ San
ี
ู
ั
ิ
ิ
Carlos – Yoro ประเทศฮอนดรส; Lololo, Drasa และNausori Highland ประเทศฟจ; Alamicamba
ประเทศนคารากัว และ Poptun ประเทศกัวเตมาลา และได้สงกล้าไม้สนคารเบยบางสวนไป
่
ิ
่
ิ
ี
ิ
ี
่
ทดลองปลูกทสวนปาสมเด็จ จํานวน 6 ถิ นกําเนดได้แก La Brea, San Carlos, Poptun,
่
ี
La Mosquitia, Lololo, และ Nausori Highland ในป 2519 ทางศูนย์ ฯ ได้นําเมล็ดไม้สนคารเบยอีก
ิ
ี
23
ิ
้
ตารางที ถิ นกําเนิดสนคารเบียที นําเขามาทดลองปลูกในแปลงทดลองถิ นกําเนิด
ี
นานาชาติ ในประเทศไทย ป
ิ
S.No. ถิ นกําเนด พื นที ที นําไปปลูกทดลอง
สถานีฯ ห้วยบง ท่าแซะ ** ห้วยยะอุ * หนองคู *
ุ
เชียงใหม ่ ชุมพร ตาก สรนทร ์
ิ
2005 Kua kuil, Nicaragua /
2006 Karawala, Nicaragua /
2007 Alamicamba, Nicaragua / / / /
2008 Rio Coco, Nicaragua / / / /
2009 Poptun, Guatemala / /
2011 Guanaja, Honduras / / /
2012 Poptun, Guatemala / /
2019 Limones, Honduras / / /
2020 Culmi, Honduras / / /
2021 Brus, Honduras / / /
2022 Guanaja, Honduras /
2023 Potosi, Honduras / / /
2024 Santos, Honduras /
2025 Santos, Honduras / /
2026 Byfield, Queensland, Aus. /
2027 Andros, Bahamas / / / /
2013 Flores Cruz, Cuba / / /
2014 Palacaios, Cuba /
2015 Cubanas, Cuba /
2010 Brus, Honduras /
2016 Buren, Cuba /
2017 Karawala, Nicaragua /
ที มา : โครงการปรบปรุงพันธุไมสน จังหวัดเชยงใหม ่
้
ี
์
ั
่
ั
* แปลงทดลองได้รบความเสยหายตั งแตต้นไม้ยังเล็ก
ี
ี
ี
ั
** แปลงทดลองได้รบความเสยหายจากพายุเกย์ ป
24
ู
ิ
ื
ั
7 ถิ นกําเนดคอ Rio Coco, Alamicamba ประเทศนคารากัว, Guanaja ประเทศฮอนดรส, Poptun
ิ
ประเทศกัวเตมาลา, Andros ประเทศบาฮามา, Kajabana ประเทศควบา และ Rockhamton,
ิ
่
ิ
ี
Queensland ประเทศออสเตรเลย มาปลูกทดสอบถิ นกําเนดทห้วยยะอุ จังหวัดตาก แตแปลงทดลอง
ี
ี
่
ั
ได้รบความเสยหายจากไฟไหม้ตั งแตต้นไม้ยังเล็ก
ุ
ั
ั
สําหรบแปลงทดสอบสายพันธ์แปลงแรกของโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สนได้ทํา
ุ
ุ
ุ
การปลูกในป พ.ศ. 2523 เปนแปลงทดสอบสายพันธ์นานาชาตโดยนําเมล็ดมาจากแม่ไม้ในสวนผลิต
็
ี
ิ
่
เมล็ดไม้ แหล่งตาง ๆ จาก Queensland ประเทศออสเตรเลียได้แก Byfield, Toolara, Kennedy Seed
่
ิ
ู
ิ
Orchrd และ Cardwell และจากประเทศฮอนดรส, ฟจ และ Malalo Manga Seed Orchard ประเทศ
ั
ี
ุ
ู
คองโก (Congo) รวมทั งหมด 90 สายพันธ์ (families) ดังตารางท 6 โดยวางผังปลกแบบ Randomized
Block Design 8 Blocks 6 Sub-block ปลูกแบบ Single Tree Plot ใช้ระยะปลูก 3 x 3 เมตร และตอ
่
มาในป 2524 ก็ได้มีการทดสอบสายพันธ์ ไม้สนคารเบยนานาชาตแปลงท 2 โดยได้รบการ
ิ
ี
ี
ิ
ี
ุ
ั
สนับสนนเมล็ดจากสถาบันปาไม้แหงสหราช อาณาจักร (OFI) จํานวน 88 สายพันธ์ (ตารางท 7)
ุ
่
ี
ุ
่
ุ
ทําการวางผังปลูกแบบเดยวกับแปลงทดสอบสายพันธ์ป 2523
ี
ี
ั
ุ
ในป พ.ศ. 2520 – 2522 ทางโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สน ได้ทําการคัดเลือกแม่ไม้
ุ
ี
สนคารเบยจากแหลงตาง ๆ ทนําเข้ามาปลกในประเทศไทยไว้จํานวน 150 แม่ไม้ ซงแม่ไม้บางสวน
ี
ี
ึ
ิ
่
่
่
ู
็
ึ
ุ
็
ุ
่
ได้ทําการขยายพันธ์โดยการตอยอด (grafting) ซงเปนการขยายพันธ์แบบไม่อาศัยเพศไปปลูกเปน
สวนผลิตเมล็ดไม้ (Clonal Seed Orchard) ทสถานอนรกษ์พันธ์ไม้ปาอินทขล จํานวน 110 clone
ี
ี
ั
่
ุ
ุ
ิ
่
่
ิ
็
ื
ี
โดยใช้ระยะปลก 9 X 9 เมตร มีเน อทประมาณ 27 ไร และบางสวนนําไปปลูกเปนสวนผลิตก งพันธ์ ุ
ู
ี
ุ
ี
ี
(Scion Orchard) ทสถานบํารงพันธ์ไม้สน จังหวัดเชยงใหม่ในป พ.ศ. 2531
ี
ุ
ุ
ุ
ั
ในป พ.ศ. 2530 ทางโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สนก็ได้ทําการคัดเลือกแม่ไม้
ี
ั
ุ
ิ
ี
สนคารเบยเพิ มอีก 200 แม่ไม้ คอ เบอร 151 – 304 ได้ทําการคัดเลือกจากสวนอนรกษ์พันธ์ไม้สน
์
ุ
ื
ิ
์
ี
ี
คารเบยถิ นกําเนด Limones แปลงป 2520 และแม่ไม้เบอร 305 – 350 ทําการคัดเลือกในแปลง
ิ
ี
ุ
ั
ี
ิ
อนรกษ์พันธ์ไม้สนคารเบยถิ นกําเนด Limones แปลงป 2521 ของสถานทดลองปลูกพรรณไม้ห้วย
ิ
ุ
ี
บง จังหวัดเชยงใหม่ สําหรบแม่ไม้เบอร 151 – 350 นั น ได้ทําการเก็บเมล็ดมาปลูกทดสอบแล้ว
์
ั
ี
ี
ี
จํานวน 70 แม่ไม้ในป 2535 ทสถานทดลองปลูกพรรณไม้ห้วยบง จังหวัดเชยงใหม่
ี
ี
่
ั
ุ
ตั งแตจัดตั งโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สนในป พ.ศ. 2512 เปนต้นมา ทางโครงการ
ุ
ี
็
ี
ุ
็
ิ
ิ
่
ุ
ั
ปรบปรงพันธ์ไม้สนได้นําไม้สนคารเบยแหล่งตางๆมาทดลองปลูกเปนแปลงทดสอบชนดไม้
ิ
ุ
(Species trial) แหล่งผลิตเมล็ดไม้ (Seed Production Area) สวนรกขชาต (Aboretum) แปลง
ุ
ุ
ิ
ทดสอบถ นกําเนด (Porvenance trial) แปลงทดสอบสายพันธ์ (Progeny trial) สวนผลิตกิ งพันธ์
ิ
25
่
์
้
ิ
่
ตารางที แมไมสนคารเบีย แมไมที นํามาทดสอบสายพันธุที
้
ี
้
้
่
ี
สถานีทดลองปลูกพรรณไมหวยบง จังหวัดเชยงใหม ป
เบอรแม่ไม้ แหล่ง ถิ นกําเนดเดิม L = Lowland
ิ
์
(Family No.) (Provenance) (Origin) H = Highland
2050, 2148 Byfield, Queensland, Australia Beenburrum L
2052, 2055 Byfield, Queensland, Australia Tuan Toolara L
2057 - 2062, 2064, 2066, Byfield, Queensland, Australia Byfield L
2069-2071, 2081-2088,
2092-2095, 2097, 2098,
2100, 2111-2117
2073, 2076, 2150, 2151 Kennedy Seed Orchard, Queensland Byfield L
2074, 2075 Byfield, Queensland, Australia Byfield L
2072 , 2078 Byfield, Queensland, Australia Kennedy / Cardwell L
2079 Byfield, Queensland, Australia Atherton Table Land H
2080 Toolara, Queensland, Australia Tuan Toolara L
2101, 2103, 2106, 2107, Cardwell, Queenland, Australia Kennedy / Cardwell L
2109, 2118 - 2121
2122 - 2125, 2127 - Honduras rep. Honduras H
2134, 2137, 2139
2141 Fiji, Island Fij, Drasa Seed Orchard L
2145 Fiji, Island Fiji, Nausori Highland H
2153 Byfield, Queensland, Australia Maekay - Proserpine L
2154 Kennedy Seed Orchard, Queensland Kennedy / Cardwell L
2155 Malalo, Manga Seed Orchard, Congo H
Congo
2160, 2162, 2163, 2165, Queensland, Australia Byfield L
2166, 2169, 2187 Queensland, Australia
2173, 2174, 2179, 2182 Queensland, Australia Kennedy / Cardwell L
2184 Tuan Toolara L
ที มา : โครงการปรบปรุงพันธุไมสน จังหวัดเชยงใหม ่
์
ั
ี
้
26
ิ
่
้
ตารางที แมไมสนคารเบีย แมไม ที นํามาทดสอบสายพันธุที
่
์
้
ี
่
้
สถานีทดลองปลูกพรรณไมหวยบง จังหวัดเชยงใหม ป
ี
้
PIC No. Provenances Elevation (m)
2046 La Mosquitia, Honduras 10
2047 Lololo, Fiji Island 35.1
2188 - 2203 Karawala Site No. P.c 02, Nicaragua 10
2204 - 2207 Alamicamba Site No. P.c 03, Nicaragua 25
2208 - 2223 Los Limones Site No. P.c 13, Honduras 700
2224 - 2231 Culmi Site No. P.c 14, Honduras 550
2232 - 2247 Guauaja Site No. P.c 16, Honduras 75
2248 - 2263 Mt. Pine Ridge Site No. P.c 20, Belize 400
2264 - 2266 Araslaya Site No. P.c 64, Honduras Rep.
2267 Riotwas Site No. P.c 65, Honduras Rep.
2268 - 2275 Kwambonamb Site No. P.c 67, Queensland, Australia
้
ี
ที มา : โครงการปรบปรุงพันธุไมสน จังหวัดเชยงใหม ่
ั
์
ุ
ั
ุ
(Scion Orchard) สวนผลิตเมล็ดไม้ (Seed Orchard) และสวนอนรกษ์พันธ์ (Gene Conservation)
ในภมิภาคตาง ๆ ของประเทศไทย (ภาพท 9) นอกจากน เมล็ดทเก็บจากสวนผลิตเมล็ดและแหล่ง
ี
ู
ี
่
ี
็
่
่
่
ี
ั
่
่
ิ
ี
ผลิตเมล็ดไม้สนคารเบย ได้ถูกแจกจ่ายไปยังหนวยงานตาง ๆ สวนใหญเปนหนวยงานของรฐทสังกัด
็
ิ
่
ี
่
กรมปาไม้ เพื อนําไปทดลองปลูก แตสวนปาไม้สนคารเบยนั นยังมีการปลูกกันน้อยมาก อาจจะเปน
่
็
เพราะว่าหาเมล็ดยากและยังไม่มีคนรจักแพรหลายเหมือนกับไม้สัก ประด ชงชันหรอไม้โตเรวชนด
ิ
ู่
ื
ู
่
้
ิ
ู
็
ิ
่
อื น ๆ เชน ยูคาลิปตัสคามาลดเลนซส และกระถินเทพา เปนต้น
27
ี
ุ
ี
ุ
่
/
ู
0
0
/
1. สถานบํารงพันธ์ไม้สน จังหวัดเชยงใหม 18 04 N 98 10 E สง 1,100 เมตร
ี
ู
/
/
0
0
2. สถานฯ ห้วยบง จังหวัดเชยงใหม ่ 18 10 N 98 25 E สง 800 เมตร
ี
/
/
0
3. สถานฯ แมแตง จังหวัดเชยงใหม ่ 19 08 N 98 55 E สง 300 เมตร
ู
0
ี
่
ี
ู
0
/
ุ
0
/
4. ห้วยยะอ จังหวัดตาก 16 45 N 98 50 E สง 300 เมตร
/
0
/
ุ
ิ
ี
่
ู
5. สถานฯ ทาตม จังหวัดสรนทร ์ 15 20 N 103 45 E สง 150 เมตร
0
ู
0
/
/
0
่
ู
ุ
6. ทาแซะ จังหวัดชมพร 10 52 N 99 15 E สง 100 เมตร
0
0
/
/
ี
่
ู
ื
ี
ู
7. ศนย์วนวัฒนวิจัยท 1 อําเภอเมอง จังหวัดเชยงใหม 18 47 N 98 57 E สง 340 เมตร
/
0
0
/
ี
่
ู
ี
8. สถานฯ หนองกระทิง จังหวัดเชยงใหม 17 56 N 98 17 E สง 900 เมตร
ภาพที 9 ที ตังหนวยงานที ปฏิบัติงานเกี ยวกับการปรบปรุงพันธุไมสนในประเทศไทย
่
ั
์
้
ั
ที มา : โครงการปรบปรุงพันธุไมสน จังหวัดเชยงใหม ่
์
ี
้
28
้
นอกจากน Oxford Forestry Institute ได้มีการคัดเลือกแม่ไม้สนเขตรอน สําหรบ
ี
ั
ี
ี
้
ี
์
เอเซยตะวันออกเฉยงใต้ เพื อจัดสราง Regional Seed Orchard ของสนคารเบย สนโอคารปา และสน
ิ
ู
ี
ู
ุ
ื
ี
ี
ั
ุ
เทคนมาน ในการน ทางโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สนได้ทําการคัดเลอกและลงทะเบยนแม่ไม้ทั ง 3
ื
ิ
ชนดไว้จํานวน 13 แม่ไม้ คอตั งแตแม่ไม้เบอร OFI 89-101 (ตารางท 8)
ี
์
่
้
ตา ราง ที 8 แมไมสนชนิดตาง ๆ ของ Oxford Forestry Institute ในประเทศไทย
่
่
์
ิ
ิ
เบอรแม่ไม้ ชนด ถิ นกําเนดเดม หมายเหต ุ
ิ
่
OFI 89 - 90 P. caribaea Guatemala สวนปาแม่สะนาม 1973
OFI 91 P. caribaea Mt. Pine Ridge, แหล่งผลิตเมล็ดไม้ (SPA) ห้วยบง
Cayo, Honduras 1971 (2002)
OFI 92 P. caribaea Byfield, Queensland แหล่งผลิตเมล็ดไม้ (SPA) ห้วยบง
1971 (2003)
ิ
OFI 93 P. oocarpa Conacaste, Honduras แปลงทดลองถิ นกําเนด PO 1972
ห้วยบง แปลงที P O1 (3038)
ิ
OFI 94 P. patula ssp. Yucul , Nicaragua แปลงทดลองถิ นกําเนด PO 1972
tecunumanii ห้วยบง แปลงที P O3 (3036)
ิ
OFI 95 P. oocarpa Zamaran, Honduras แปลงทดลองถิ นกําเนด PO 1972
ห้วยบง แปลงที P O4 (3045)
ิ
OFI 96 P. caribaea Alamicamba, Honduras แปลงทดลองถิ นกําเนด PO 1972
ห้วยบง แปลงที P O1 (2007)
OFI 97 P. oocarpa Angele, Nicaragua แปลงทดลองถิ นกําเนด PO 1972
ิ
ห้วยบง แปลงที P O5 (3044)
ิ
OFI 98 P. oocarpa Bonete, Nicaragua แปลงทดลองถิ นกําเนด PO 1972
ห้วยบง แปลงที P O5 (3042)
OFI 99 P. caribaea Kuakuil, Honduras แปลงทดลองถิ นกําเนด PC ห้วยบง
ิ
PC 2 (2005)
OFI 100 P. caribaea Kuakuil, Honduras แปลงทดลองถิ นกําเนด PC 1972
ิ
PC 5 (2005)
OFI 101 P. oocarpa Guiamaca, Honduras แปลง Block Planting ห้วยบง
1971 (3001)
้
์
ั
ที มา : โครงการปรบปรุงพันธุไมสน จังหวัดเชยงใหม ่
ี
29
ุ
ี
ิ
ั
้
ั
ุ
่
สําหรบการจัดสรางสวนอนรกษ์พันธ์ไม้สนคารเบยแหล่งตาง ๆ ของโครงการปรบ
ั
ิ
่
ี
ุ
ุ
ปรงพันธ์ไม้สนในจังหวัดเชยงใหม่ ตั งแตเร มดําเนนการจนถึงปจจบัน มีพื นทรวมกันทั งหมด
ิ
ี
ุ
ั
2,144.6 ไร (ตารางท 9)
่
ี
ั
ื
ื
ี
ตารางที 9 พ นที สวนอนุรกษพันธุสนคารเบีย ในพ นที จังหวัดเชยงใหม ่
์
์
ิ
่
พื นที (ไร)
ิ
ชนดและถิ นกําเนด สถานีฯ ห้วยบง สถานีบํารงพันธ์ ุ สถานีฯ สถานีฯ
ุ
ิ
ไม้สน หนองกระทิง อินทขิล
P. caribaea var. hondurensis
Alamicamba, Honduras 129 - - 62
La Mosquitia, Honduras 180 - 80 60
La Brea, Honduras 15 - 27 -
Guanaja, Honduras 3 - - -
Poptun, Guatemala 160 - 115 -
San Carlos, Honduras 31 - - -
Culmi, Honduras 160 - 212 100
Limones, Honduras 250 160 80 -
Santa Clara, Nicaragua 43 - 50 -
Guatemala - 100 - -
Lololo (Mt. Pine Ridge) - - 62 -
P. caribaea var. caribaea
Pina del Rio, Cuba - 65 - -
P.caribaea var. bahamensis
Andros, Bahamas - 0.6 - -
รวม 971 325.6 626 222
ที มา : โครงการปรบปรุงพันธุไมสน จังหวัดเชยงใหม ่
ั
้
ี
์
30
์
การขยายพันธุ
โดยทั วไปพืชพรรณทกชนดจะมีการขยายพันธ์เองตามธรรมชาตอยู่แล้ว ทั งน เพื อ
ุ
ุ
ิ
ี
ิ
ุ
ึ
ี
่
็
่
ึ
็
ื
เปนการดํารงไว้ซงเผ่าพันธ์เดมและเปนการขยายหรอกระจายเผ่าพันธ์เพิ มข น ไม้ปาก็เชนเดยวกัน
ุ
ิ
ุ
่
ี
่
่
ุ
็
การขยายพันธ์ไม้ปา (forest tree propagation) ในอดตสวนใหญเปนการขยายพันธ์เองตามธรรมชาต ิ
ิ
ื
่
่
จากเมล็ดโดยอาศัยธรรมชาตคอ ลมและนํ า ตลอดจนคนและสัตว์ชวยในการกระจายพันธ์ ตอมา
ุ
ิ
ี
ุ
ุ
มนษย์มีความต้องการใช้ประโยชน์จากไม้มากขึ น มีการกําหนดชนดพันธ์ไม้ทต้องการใช้ประโยชน์
ุ
่
็
ึ
ี
ิ
ิ
ี
ึ
ึ
ุ
ิ
เพิ มข น จงได้มีการคดค้นวิธการเพื อการขยายพันธ์ไม้ปากันข น ไม้สนคารเบยก็เปนพันธ์ไม้ชนด
หนงทมนษย์มีความต้องการใช้ประโยชน์และได้นําวิธการขยายพันธ์ไม้ปามาใช้ปรบปรงพันธ์ ุ
ี
ุ
ี
่
ุ
ั
ุ
ึ
ึ
เพื อให้ได้ผลตอบสนองตอความต้องการใช้ประโยชน์ ซงการขยายพันธ์ไม้สนคารเบยสามารถทําได้
่
ิ
ุ
ี
2 แบบ ดังน ี
์
ั
การขยายพันธุโดยอาศยเพศ (Sexual reproduction)
ี
การขยายพันธ์แบบน เปนวิธการขยายพันธ์แบบทั ว ๆ ไป โดยอาศัยเมล็ดซงเกดจากการผสม
ิ
็
ุ
ุ
ึ
ี
กันของไข่ของดอกตัวเมีย (female flower) จากต้นแม่กับเกสรตัวผู้ (pollen) จากต้นพ่อ ซงกล้าไม้ท ี
ึ
ได้จะมีความผันแปรจากต้นพ่อและแม่มากน้อยแคไหนข นอยู่กับความสามารถในการถ่ายทอดทาง
ึ
่
ุ
ุ
ุ
ั
ุ
พันธกรรมของต้นพ่อและแม่เหล่านั น นักปรบปรงพันธ์ได้นําเอาหลักความผันแปรทางพันธกรรม
ุ
ุ
ั
ี
ี
ุ
(genetic variance) น มาใช้ในการปรบปรงพันธ์ไม้ปาให้มีคณลักษณะตามทต้องการได้ การขยาย
่
่
่
พันธ์โดยวิธน สามารถทําได้งายและสามารถขยายพันธ์ได้จํานวนมากในชวงเวลาสั นๆ คาใช้จายถูก
่
ุ
่
ี
ี
ุ
่
ี
ี
ั
ื
กว่าวิธอื น สะดวกในการจัดการขนสงและสามารถเก็บรกษาเมล็ดไว้ได้นานหลายป โดยลดความช น
ิ
ี
ั
ของเมล็ดให้เหลือน้อยกว่า 8 เปอรเซ็นต์ และเก็บไว้ในห้องเย็น ซงเมล็ดสนคารเบย 1 กโลกรม มี
ิ
ึ
์
เมล็ดประมาณ 45,000 – 50,000 เมล็ด สามารถผลิตกล้าไม้ได้ประมาณ 30,000 - 35,000 กล้า
์
ั
่
การขยายพันธุโดยไมอาศยเพศ (Asexual reproduction)
เปนการขยายพันธ์โดยไม่ต้องรอให้ต้นไม้ออกดอกตดผลกอน แตสามารถจะนําเอาสวน
ุ
็
ิ
่
่
่
ตางๆของต้นไม้เชน ยอด และก งไปทําการขยายพันธ์ได้หลายวิธ เชน
่
ุ
ิ
ี
่
่
ี
การตอนกิ ง (air layering หรอ marcotting) โดยการใช้มีดคม ๆ ควั นเปลอกรอบ ๆ ก งทมี
ื
ื
ิ
ี
่
ิ
ิ
์
อายุ 1 ป หางกันประมาณ 1.5 – 2 เซนตเมตร ลอกเปลือกและขูดเยื อเจรญออกแล้วใช้ฮอรโมน IBA
์
ี
ี
ิ
ื
้
ื
(Indole Butyric Acid) 500 ppm หรอ เซราดกซ์ เบอร 3 ปายทรอยควั นใช้ดนเหนยวทมีความช นพอ
ี
ิ
31
ุ
่
ื
่
ี
้
่
สมควรหอห้มรอยควั นนั น หลังจากนั นเอาขุยมะพราวทแชนํ าเพื อให้มีความช นพอเหมาะใสถุง
ิ
ิ
ิ
่
่
ุ
พลาสติกผูกปากถุงและใช้มีดผ่าตรงกลางถุงนําไปหอห้มรอบต้มดนบนก งตอน ผูกยึดกับก งให้แนน
ุ
ื
(ภาพท 10 ) หลังจากนั นประมาณ 2 เดอน กิ งตอนจะเร มมีรากโผล่ออกมาต้องรอให้รากแกเปนสนํ า
ิ
็
่
ี
ี
์
่
็
ื
ึ
ตาลกอนถึงจะตัดไปชําในถุงดน (ภาพท 11) เปอรเซนต์ความสําเรจจะมากหรอน้อยข นอยู่กับอายุ
ิ
็
ี
ึ
ู
์
ี
ี
ของไม้ทจะทําการตอนและความชํานาญ ต้นไม้ทมีอายุน้อยจะมีเปอรเซ็นต์การแตกรากสง ซงจาก
ั
ุ
การตอนก งของโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สนได้ผลสําเรจ 40 – 60 เปอรเซ็นต์
ิ
์
็
ุ
ภาพที 10 การตอนกิ งสนคารเบีย
ิ
ิ
ํ
ภาพที 11 กิ งตอนสนคารเบียในถุงชา
32
็
ิ
ํ
การปกชากิ ง (cutting) เปนการนําก งยอดจากต้นแม่ทมีความยาว 4 – 5 ตัดแบบปากฉลาม
ั
//
//
ี
ี
ุ่
ั
ิ
่
ั
่
ุ
เอามาจมในสารเคมีทชวยกระต้นให้เกดราก เชน IBA แล้วนําไปปกชําในกระบะทราย ควบคุมปจจัย
ิ
ี
ิ
ส งแวดล้อมให้พอเหมาะหรอปกชําในกระโจมถงพลาสตก (ภาพท 12) ประมาณ 2 เดอน ก งชําก็จะ
ุ
ื
ื
ั
ิ
์
แตกราก แตจากการทดลองของโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สนยังได้เปอรเซ็นต์การแตกรากน้อยซงยัง
ั
ึ
ุ
่
ุ
ั
ื
่
ั
ี
ั
ดําเนนการศึกษาทดลองอยู่ สําหรบปจจัยทมีผลตอการปกชํานั นมีอยู่ 2 ปจจัย คอ
ั
ิ
1. ปจจัยเกยวกับสภาพของก งไม้สนคารเบย เชนอายุของต้นแม่และตําแหนงของก ง
่
่
ั
ิ
ิ
ิ
ี
ี
ิ
ี
ี
ี
์
จากการทดลองพบว่าก งชําทนํามาจากต้นแม่อายุน้อยจะให้เปอรเซ็นต์การออกรากดกว่าต้นแม่ทมี
์
อายุมาก และตําแหนงของก งบรเวณกลาง ๆ เรอนยอดจะให้เปอรเซ็นต์การออกรากดทสด ฉะนั น
ื
ิ
ี
ิ
ุ
่
ี
กอนทจะนําก งไม้ทมีอายุมากๆมา ปกชํา ก็ควรทําให้ก งไม้มีความหนม (rejuvenile) เสยกอน โดย
่
ี
ี
ิ
ั
ิ
ี
่
ุ่
ี
ื
ื
ึ
่
ี
การตัดให้แตกยอดข นมาใหม่ หรอการใช้วิธการเสยบยอดแบบตอเนอง (serial grafting)
ั
ู
่
2. ปจจัยเกยวกับส งแวดล้อม ได้แก ฤดกาลในการปกชํา จากการทดลองพบว่าฤด ู
ี
ิ
ั
่
่
์
ู
ี
หนาวจะให้เปอรเซ็นต์การออกรากดกว่าฤดกาลอื น ๆ การใช้สารเรงราก เชน ใช้ IBA และ NAA
่
่
ู
ื
(Naphthalene acetic acid) จะชวยเรงการออกรากเรวข นและมีรากมากขึ น อุณหภมิและความช นจะ
ึ
็
ู
ี
ู
ต้องมีความเหมาะสม คอ อุณหภมิกลางวันประมาณ 21 – 27 องศาเซลเซยส และอุณหภมิกลางคน
ื
ื
ิ
ี
ประมาณ 15 องศาเซลเซยส โดยปกตก งชําควรได้รบแสงสว่างประมาณ 30 – 50 เปอรเซ็นต์ และอีก
์
ั
ิ
ี
ึ
ั
ปจจัยหนงทควรคํานงถึงคือวัสดทใช้ในการปกชํา ปกติจะต้องใช้วัสดทโปรง ถ่ายเทอากาศด อุ้มนํ า
ึ
ี
ั
ุ
ี
ุ
ี
่
ุ
ี
ี
ได้มากและระบายนํ าได้ด วัสดทใช้ทั วไปได้แกทรายหยาบ และข เถ้าแกลบ
่
ี
ิ
ั
ภาพที 12 การปกชาสนคารเบีย
ํ
33
็
่
การเสยบยอดหรอตอยอด (grafting) เปนการนําเอายอดจากต้นแม่พันธ์ (scion) มาเสยบกับ
ุ
ี
ื
ี
ั
ุ
ี
ี
ิ
็
ึ
ี
ต้นตอ (stock) เปนวิธทนยมทํากันในโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สน ดังแสดงในภาพท 13 ซงการ
ุ
ื
็
ั
ขยายพันธ์แบบน ได้รบผลสําเรจ 70 – 80 เปอรเซนต์ แตปรากฏว่ามีข้อเสยตรงทเกดภาวะเน อเยื อไม่
่
ุ
ิ
ี
็
ี
ี
์
็
่
ึ
ประสานกัน (Incompatibility) ซงจะแสดงอาการให้เหนในเวลาตอมา และทําให้ต้นไม้อ่อนแอมีโรค
่
ั
ี
ี
ั
ิ
ี
และแมลงเข้าทําลายได้งาย สําหรบปจจัยทมีผลตอการเสยบยอดหรอเปลี ยนยอดของไม้สนคารเบย
ื
่
่
สามารถแบงได้ดังน ี
ุ
1. ขนาดของก งพันธ์ (scion) และต้นตอ (stock) ควรใช้ขนาดทเทาๆ กัน
ี
ิ
่
่
2. ระยะเวลาในการเปลี ยนยอด ชวงทเหมาะสมคอชวงเดอนเมษายน – พฤษภาคม
ื
ี
่
ื
่
และชวงเดอนตลาคม – พฤศจกายน แตอย่างไรก็ตามความสําเรจก็ข ึนอยู่กับความชํานาญของ
ื
ุ
็
่
ิ
ุ
บคลากร และเครองมือจะต้องสะอาดปราศจากเช อโรค
ื
ื
ิ
่
ภาพที 13 การตอยอดสนคารเบีย
ื
ุ
สําหรบการขยายพันธ์โดยใช้ช นสวนเล็กๆในสภาพปลอดเช อ (micropropagation) นั น ได้
ั
ิ
่
ุ
ิ
ี
็
่
ถูกนํามาใช้ในพืชเกษตรอย่างแพรหลายและใช้ในการขยายพันธ์ไม้ปาหลายชนดทประสบผลสําเรจ
่
ิ
ั
ี
ุ
แตสําหรบไม้สนคารเบยนั น ปจจบันในประเทศไทยยังไม่มีขยายพันธ์แบบน
่
ั
ี
ุ
34
การจัดการเมล็ดสนคารเบีย
ิ
ี
็
ี
ุ
็
ั
ั
การปรบปรงไม้สนจําเปนต้องอาศัยการจัดการเมล็ดทด เมล็ดเปนปจจัยสําคัญอันดับแรก
ิ
่
ิ
ของการขยายพันธ์ไม้ปา ไม่ว่าจะเปนการทดสอบชนดไม้ (Species trial) การทดสอบถิ นกําเนด
ุ
็
ุ
ั
้
ุ
้
(Provenance trial) การปลูกสรางสวนอนรกษ์พันธ์ (Gene conservation) และการสรางสวนผลิต
่
ุ
ิ
เมล็ดพันธ์ (Seedling seed orchard) ทกขั นตอนต้องอาศัยเมล็ดและการปฏิบัตตอเมล็ดอย่างถูกต้อง
ุ
ิ
การจัดการเมล็ดไม้มีขั นตอนดําเนนการดังตอไปน ี
่
แหลงเก็บเมล็ด แหล่งเมล็ดพันธ์มีความสําคัญมากเพราะเมล็ดทเก็บจากแหล่งทดจะให้
ุ
ี
ี
ี
่
ุ
่
ื
ุ
ุ
ี
ี
็
ิ
ิ
กล้าไม้ทมีคณภาพทั งทางด้านทางพันธกรรม เนองจากไม้สนคารเบยเปนพันธ์ไม้ตางถ น ดังนั นจํา
เปนต้องจัดสรางแหล่งผลิตเมล็ด (Seed Production Area) สวนผลิตเมล็ด (Seed Orchard) นอกจาก
้
็
ี
ี
ั
น ก็เก็บจากแม่ไม้ทได้คัดเลอกจากแปลงทดลองตางๆและจากแม่ไม้ในสวนอนรกษ์พันธ์ ทสถาน ี
ื
ุ
ี
่
ุ
ี
่
บํารงพันธ์ไม้สน สถานทดลองปลูกพรรณไม้ห้วยบง สถานทดลองปลูกพรรณไม้บอแก้ว อําเภอฮอด
ี
ุ
สถานปรบปรงแหลงผลตเมล็ดพันธ์ไม้ปาหนองกระทง อําเภออมกอย และสถานอนรกษ์พันธ์ไม้ปา
ี
ี
ิ
ุ
ั
ุ
่
่
ุ
ิ
ุ
ั
่
๋
อินทขล อําเภอแม่แตง จังหวัดเชยงใหม่
ี
ิ
ิ
่
่
ื
็
การคัดเลอกแมไมสนคารเบีย พิจารณาจากลักษณะตาง ๆ 4 ลักษณะเปนหลักเกณฑ์
้
่
ื
(สมยศ, 2530) โดยมีการให้คะแนนแม่ไม้ตามลักษณะตาง ๆ (ดังตารางท 10) และเลอกแม่ไม้ทได้
ี
ี
ื
คะแนนสงสดก่อนตามลําดับลงมา ลักษณะดังกล่าว คอ
ู
ุ
ิ
ุ
ิ
1. ความเจรญเตบโต (growth) 2. คณลักษณะ (quality)
ุ
3. สขลักษณะ (health) 4. การติดดอกออกผล (fecundity)
ิ
ี
็
การเก็บเมล็ดไม โดยทั วไปในการเก็บเมล็ดไม้สนคารเบยจําเปนต้องปนข นไปเก็บบนต้น
ี
ึ
้
้
ึ
ี
ึ
ซงได้มีการพัฒนาวิธการเก็บโคนโดยการใช้บันไดข นต้นไม้ และการใช้สะเปอร (Spurs) พรอม
์
ิ
ื
์
ุ
ึ
อุปกรณครบชดในการปนต้นไม้ ซงประกอบด้วย รองเท้าหนังแบบทหาร เข็มขัดนรภัย เชอก หมวก
ี
ุ
ึ
ี
ี
ถุงมือหนัง ตะขอเก็บเมล็ดไม้ จะต้องมีการบันทกรายละเอยดแหล่งเมล็ดไม้ไว้ทกคร ัง รายละเอยด
ตาง ๆ ทควรบันทกไว้คอ ลักษณะของแม่ไม้ แหล่ง ลักษณะภมิประเทศ สภาพหมู่ไม้ สของผล หรอ
ึ
ู
่
ื
ี
ี
ื
โคน ปรมาณผลหรอเมล็ดทเก็บได้ วันเดอนป ทเก็บ ผู้เก็บ และควรทําแผนทคราว ๆ ของแหล่ง
ิ
ื
ี
ี
ี
ื
ี
่
เมล็ดไม้ทเก็บไว้ด้วยเพื อสะดวกในการเก็บคร ังตอไป และควรทําแผ่นปายบันทกรายละเอียด
้
่
ึ
ี
ดังกล่าวใสไว้ในถุงบรรจโคนสนและผูกไว้ทปากถุงอีก 1 แผ่น ถุงหรอภาชนะทบรรจโคนสนควร
ี
ี
ื
ุ
่
ุ
35
้
์
ิ
ั
้
้
ตารางที 10 การใหคะแนนในการคัดเลอกแมไมสนคารเบียของโครงการปรบปรุงพันธุไมสน
ื
่
Code Character Asseessment Score
VIGOUR
H Height m
D Diameter cm
QUALITY
FKP Fork Absent 2
Present 1
STR Stem straightness above 1.3 m Straight 9 - 7
Medium 6 - 4
Crooked 3 - 1
BSP Basal sweep Absent 2
Present 1
FTP Foxtail Absent 2
Present 1
CDP Crown defect e.g. Basket whorls,
ramicorn, kinkiness Absent 2
Present 1
BRC Branch coarseness Fine 9 - 7
Medium 6 - 4
Coarse 3 - 1
WDP Wood density by Pilodyne
HEALTH
GHE General health Healthy 3
Unhealthy 2
Dying/dead 1
ICP Incompatibility of stock/scion Absent 4
Present good 3
Present medium 2
Present bad 1
PFD Pest and Disease (termites, Shootborers,
defoliators, & fungi etc.) Absent 2
Present 1
36
่
ตารางที 10 (ตอ)
Code Character Asseessment Score
FLOWERING
CLN Conelet (count) 0 1
latest pollinated female cones 1 - 3 (2) 2
4 - 15 (8) 3
16 - 60 (32) 4
61 - 250 (125) 5
251 – 1,000 (500) 6
1001 – 4,000 (2000) 7
CNN Mature cones (count) 0 1
due to open this year 1 - 3 (2) 2
4 - 15 (8) 3
16 - 60 (32) 4
61 - 250 (125) 5
251 - 1000 (500) 6
1001 - 4000 (2,000) 7
OCN Old cones, remaining on branches 0 1
after shedding. (count) 1 - 3 (2) 2
4 - 15 (8) 3
16 - 60 (32) 4
61 - 250 (125) 5
251 - 1000 (500) 6
1001 - 4000 (2,000) 7
MFN Male strobili Many 3
Few 2
Absent 1
้
ี
ที มา : โครงการปรบปรุงพันธุไมสน จังหวัดเชยงใหม ่
ั
์
37
็
ี
ี
ื
ื
ี
ี
เปนผ้าหรอกระสอบหรอกล่องทมีการระบายอากาศด ในขณะทรอการขนสงไปยังสถานททําการ
่
ุ
ิ
ุ
ิ
ี
ิ
ั
คัดแยกเมล็ด สถิตการเก็บและปรมาณการใช้เมล็ดไม้สนคารเบยในโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สน
ี
ดังตารางท 11
ั
ิ
้
์
ตารางที 11 สถิติการเก็บและการใชเมล็ดสนคารเบียของโครงการปรบปรุงพันธุไมสน
้
ป พ.ศ. ปรมาณเมล็ดทเก็บ (กโลกรม) ปรมาณการใช้เมล็ด (กโลกรม)
ั
ิ
ี
ั
ิ
ิ
ิ
ี
2529 14.00 6.13
2530 25.15 8.99
2531 13.41 30.32
2532 22.90 3.74
2533 23.20 18.46
2534 - 4.53
2535 49.15 16.60
2536 49.00 9.15
2537 - 12.00
2538 - 23.25
2539 - 12.75
2540 26 2
2541 17 9.1
2542 21 3.79
2543 29 1.75
ั
ที มา : อําไพ (2541) และ โครงการปรบปรุงพันธุไมสน
์
้
ิ
การคัดแยกเมล็ดไม้สนคารเบีย ในการเก็บโคนสนทุกครั ง ควรตรวจชั งนํ าหนักสดของ
ิ
่
ิ
โคนสนทกกระสอบ กอนคัดแยกเมล็ดควรตัดขั วและคัดแยกเศษก งและใบสนท ง (Pre-cleaning)
ุ
ื
ื
่
เพื อสะดวกในการคัดแยกเมล็ดในภายหลัง หลังจากนั นนําโคนสนใสกระสอบหรอเขงไม้ไผ่ หรอ
่
ี
ุ
ู
่
กล่อง ทมีรพรน นําไปเก็บไว้ในทรมและอากาศถ่ายเทด (Pre – curing) ประมาณ 7 – 10 วัน เพื อให้
ี
ี
38
ี
ิ
ื
ความช นลดลงและสมําเสมอภายในโคน ปกติการเก็บโคนสนคารเบยจะเก็บในชวงประมาณเดอน
ื
่
็
ึ
ี
ี
่
ู
มิถุนายน- กรกฎาคม ซงเปนชวงฤดฝน ถ้าใช้วิธการคัดแยกโดยวิธการผึงแดด (Natural heat source)
ึ
่
้
จะมีอุปสรรคตอการตัดแยกเมล็ดออกจากโคนอย่างมาก จงต้องใช้การคัดแยกเมล็ดด้วยความรอนใน
ุ
ู
0
เตาอบ (Artificial heat source) ซงควบคมอุณหภมิประมาณ 45 C ใช้เวลาในการคัดแยกเมล็ด
ึ
ี
ี
ิ
ประมาณ 3 – 5 วัน หลังจากทโคนเปดอ้าออกแล้วต้องรบเอาเมล็ดออกจากโคนทันท เพราะถ้าโคน
ี
ได้รบความช นอาจจะทําให้โคนปดลงได้ในเวลาอันสั น การคัดแยกเมล็ดออกจากโคนในปรมาณ
ื
ิ
ิ
ั
่
ื
ึ
มากๆ ควรใช้เครองหมุนเขย่าเมล็ด (tumbler) ซงจะชวยลดระยะเวลาในการทํางาน และชวยให้เมล็ด
่
่
ี
ิ
ี
หลุดรวงจากโคนได้งาย เมล็ดทหลุดรวงจากโคนจะมีปกตดอยู่ และอาจจะมีเศษช นสวนของโคน
ิ
่
่
่
็
ปะปนอยู่บ้าง จําเปนต้องทําความสะอาด โดยใช้เครองแยกปกเมล็ด (Dewinger) หลังจากนั นทํา
ี
ื
ความสะอาดเมล็ดโดยการฝด ซงสามารถคัดแยกเมล็ดสนให้มีความบรสทธ ิได้มากกว่า 90
ิ
ุ
ั
ึ
็
์
ิ
ี
เปอรเซนต์ จากการศึกษาขนาดของโคนและผลผลิตของเมล็ดไม้สนคารเบยของโคนสน 1 ลูก
ี
ดังตารางท 12
ิ
ตารางที 12 ขนาดโคนและผลผลิตเมล็ดสนคารเบียตอ 1 โคน
่
ี
ิ
แหล่ง สถานฯ อินทขล สถานฯ ห้วยบง เฉลี ย
ี
นํ าหนักโคน(กรัม) 32.08 50.17 41.13
ิ
ขนาดโคน (เซนตเมตร)
ยาว 7.44 10.16 8.80
กว้าง 3.65 3.7 3.68
นํ าหนักปก + เมล็ด 0.67 1.14 0.91
ี
(กรัม)
นํ าหนักเมล็ด (กรัม) 0.32 0.75 0.54
จํานวนเมล็ด 14 30 22
ิ
ั
จํานวนเมล็ด /กโลกรม 44,330 38,810 41,570
ิ
่
ั
ผลผลิต(กโลกรม/ไร) 0.11 2.23
ี
ี
อายุททําการศึกษา (ป) 8 16
ที มา : อําไพ และคณะ (2541)
39
ุ
่
้
การทดสอบคุณภาพเมล็ดไม การทดสอบเมล็ดไม้จะชวยประเมินคณภาพของเมล็ด
นั น ๆ กอนทจะนําไปใช้ในการเพาะเพื อเตรยมกล้าไม้สําหรบการปลูกทดลองหรอการปลูกสราง
ี
ื
ี
่
ั
้
ิ
ี
ุ
ี
ั
สวนปา วิธการทโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สนปฏิบัตอยู่มีขั นตอนดังน ี
ุ
่
1. การสมตัวอย่างเมล็ด (Seed sampling) การทดสอบคณภาพเมล็ดจําเปน
ุ่
ุ
็
ุ
ี
ี
ต้องสมตัวอย่างเมล็ดเพื อให้ได้ตัวแทนทดทสด
ี
ุ่
ุ
่
2. การทดสอบความบรสทธ ิของเมล็ด (Purity test) เพื อให้ทราบสวน
ิ
ิ
ุ
ี
ิ
่
ิ
ประกอบของเมล็ดพันธ์และเพื อจําแนกชนดเมล็ดและส งอื น ๆ ทปะปนอยู่ คาความบรสทธของเมล็ด
ิ
ุ
ู
คํานวณได้จากสตร
ิ
ุ
ิ
เปอรเซ็นต์ความบรสทธของเมล็ด = นํ าหนักเมล็ดบรสทธ x 100
์
ิ
ุ
ิ
นํ าหนักเมล็ดทั งหมด
สวนใหญเมล็ดไม้ตระกูลสนมีสวนทเปนปก (wing) และ integument ทห้มอยู่รอบ ๆ
ุ
ี
ี
็
่
ี
่
่
ิ
ุ
เมล็ดจะถูกแยกออกจากเมล็ดบรสทธ (Burg, 1985)
ิ
็
3. การทดสอบความมีชวิตของเมล็ด (Viability test) เปนการทดสอบ
ี
ึ
ี
โอกาสทเมล็ดจะสามารถงอกเปนต้นได้ ซงจะใช้ระยะเวลาในการศึกษาสั นกว่าการทดสอบการงอก
็
ี
่
็
ของเมล็ด วิธงาย ๆ คือการผ่าเมล็ด (Cutting test) โดยนําเมล็ดมาผ่าด้วยมีด และแยกเมล็ดออกเปน
เมล็ดด (good seed) เมล็ดเสย (bad seed) และเมล็ดลีบ (empty seed)
ี
ี
4. การทดสอบนํ าหนักเมล็ด (1000 - seed weight) นํ าหนักเมล็ดจะแสดง
ิ
ี
ุ
ี
ให้ทราบถึงคณภาพของเมล็ดในด้านขนาดของเมล็ด ในเมล็ดไม้ชนดเดยวกันเมล็ดทมีขนาดใหญ ่
ื
ย่อมมีนํ าหนักของเมล็ดมากกว่าและคณภาพดกว่าเมล็ดทมีขนาดเล็ก เนองจากเมล็ดขนาดใหญ่มีการ
ี
ุ
ี
สะสมอาหารไว้มากกว่า การตรวจสอบนํ าหนักของเมล็ดจะสามารถคํานวณเมล็ดทต้องการใช้ใน
ี
ื
ั
่
ี
้
การเตรยมกล้าไม้สําหรบการปลูกสรางสวนปาได้อย่างถูกต้อง ตามกฎของ ISTA หรอ International
ิ
็
ึ
Seed Testing Association (Anonymus, 1985) ซงเปนองค์การระหว่างชาตได้กําหนดให้มีการตรวจ
สอบนํ าหนักเมล็ดโดยคํานวณหานํ าหนักของเมล็ดด 100 เมล็ดจํานวน 8 ซํ า (replication) แล้วจง
ึ
ี
ี
่
คํานวณหานํ าหนักของ 1000 เมล็ด อย่างไรก็ดควรมีคาความแปรปรวน (coefficient of variation)
ึ
ี
ึ
น้อยกว่า 4.0 ถ้าหากมากกว่าควรทจะใช้จํานวนซํ าเพิ มข น ซงจากการศึกษาของ อําไพ และสาโรจน์
ี
(2541)พบว่าเมล็ดสนคารเบยจะมีนํ าหนักของเมล็ดแตกตางกันไปตามอายุของต้นไม้ทเก็บ
ิ
ี
่
ี
(ตารางท 13)
40
้
ี
ิ
่
่
ตารางที 13 นํ าหนัก 1000 เมล็ด ของสนคารเบียที อายุตาง ๆ ในแหลงผลิตเมล็ดไมป 2514
ที สถานีทดลองปลูกพรรณไมหวยบง จังหวัดเชยงใหม
้
้
ี
่
ี
อายุ (ป) นํ าหนัก 1000 เมล็ด (กรัม)
16 20.63
17 17.75
18 22.75
19 18.50
20 20.38
21 21.63
22 21.88
23 21.00
ที มา : อําไพ และ สาโรจน (2541)
์
5. การทดสอบความช นของเมล็ด (Seed moisture test) มีผลตอการเก็บ
่
ื
ิ
ิ
ั
ี
็
ี
่
ั
รกษาเมล็ดโดยตรง โดยปกตในการเก็บรกษาเมล็ดไม้สนคารเบยเปนเชนเดยวกับการเก็บรกษาเมล็ด
ั
ื
็
์
ุ
ไม้ตระกูลสน คอจะควบคมความช นของเมล็ดให้ตํากว่า 8 เปอรเซนต์ (Rudolf, 1961) หากเมล็ดมี
ื
ู
ื
์
์
ึ
ื
ความช นสงกว่า 8 เปอรเซ็นต์ ก็ต้องนําเมล็ดไปผึงจนกว่าความช นจะลดลงตํากว่า 8 เปอรเซ็นต์ จงจะ
ั
เก็บรกษาในห้องเย็น
6. การทดสอบการงอกของเมล็ด (Germination test) เพื อให้ทราบถึง
ปรมาณของเมล็ดทยังคงมีชวิตอยู่และสามารถทจะผลิตเปนกล้าไม้ทสมบรณได้ โดยปกตจะใช้เมล็ด
ิ
็
์
ิ
ี
ี
ี
ี
ู
ึ
่
ในการทดสอบจํานวน 4 ซํ า แตละซํ ามีจํานวน 100 เมล็ด แตอาจเพิ มจํานวนซํ าให้มากข นเปน 8 ซํ า
่
็
ื
ิ
่
เพื อความแม่นยําของการทดสอบ หรออาจจะลดจํานวนเมล็ดตอซํ าลงหากเมล็ดมีปรมาณน้อย ตาม
ู
็
กฎของ ISTA ได้ระบมาตรฐานการเพาะเมล็ดไม้ตระกูลสนไว้ว่าเปนอุณหภมิสลับระหว่าง 20 C
0
ุ
็
0
เปนเวลา 16 ชั วโมง และ 30 C เปนเวลา 8 ชั วโมง โดยให้แสง 8 ชั วโมงตอวัน และใช้ความเข้มของ
็
่
แสง 750 - 1,250 Lux ระยะเวลาทใช้ในการหาอัตราการงอกประมาณ 21 วัน ถ้าเมล็ดยังมีการงอก
ี
ี
อยู่ อาจจะยืดเวลาออกไปอีก 7 วัน ในระยะททําการทดสอบต้องนับและแยกกล้าไม้ออกบอย ๆ
่
เพราะเมล็ดทเนาอาจจะเปนต้นเหตให้เมล็ดอื นเนาตามไปด้วย
่
ี
่
ุ
็
41
ั
ิ
ั
้
การเก็บรกษาเมล็ดไม (Seed storage) การเก็บรกษาเมล็ดไม้สนคารเบยจะเก็บรกษาไว้ท ี
ั
ี
ู
ื
0
์
อุณหภมิประมาณ 4 C โดยมีความช นของเมล็ดก่อนเก็บรกษาตํากว่า 8 เปอรเซ็นต์ จะทําให้สามารถ
ั
เก็บรกษาเมล็ดไว้ได้นานกว่า 4 ป โดยเปอรเซ็นต์การงอกแตกตางกันไม่มากนัก (อําไพ และคณะ,
ั
ี
์
่
ี
2541) ดังตารางท 14 และ 15
์
ั
ิ
ตารางที 14 การทดสอบคุณภาพเมล็ดสนคารเบียของโครงการปรบปรุงพันธุไมสน
้
ิ
ุ
ิ
ความบรสทธ ความมีชวิต นํ าหนัก ความช นของ การงอกของ
ี
ื
แหล่ง ของเมล็ด ของเมล็ด 1000 เมล็ด เมล็ด เมล็ด
(%) (%) (กรัม) (%) (%)
อินทขล 99.75 99.00 19.25 5.0 56.00
ิ
ห้วยบง 99.30 96.00 18.00 6.2 64.00
่
บอแก้ว 98.35 87.50 20.88 5.0 46.50
ที มา : อําไพ และคณะ (2541)
ิ
่
้
่
ตารางที 15 เปอรเซนตการงอกของเมล็ดสนคารเบียแหลงหวยบงและบอแกว
์
์
็
้
ที เก็บรกษาไวในหองเย็นในระยะเวลาตาง ๆ
้
ั
้
่
ปท ี แหล่งห้วยบง (%) แหล่งบอแก้ว (%)
่
ี
0 64.00 46.50
1 64.25 46.75
2 72.75 48.00
3 71.25 43.50
4 66.50 36.75
5 45.50 จํานวนเมล็ดไม่พอทดสอบ
ที มา : อําไพ และคณะ (2541)
42
็
ั
่
ึ
้
การลงทะเบียนประวัติเมล็ดไม การเก็บเมล็ดทกคร งจําเปนต้องมีการบันทกรายละเอียดตาง
ุ
ๆ และลงทะเบยนไว้เปนหลักฐาน เพราะจะทําให้สามารถตรวจสอบประวัตเมล็ดไม้หลังจากทนําไป
ี
ี
ิ
็
ี
่
ี
ิ
ี
ุ
ี
ปลูกในท้องทตาง ๆ ทําให้ทราบแหล่งแม่ไม้สนคารเบยทผลิตเมล็ดทมีคณภาพด
ี
การลงทะเบยนหมายเลขรหัสเมล็ดไม้ในโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สน มีอยู่ 5
ุ
ั
ี
ุ
่
หมวด โดยใช้หมายเลข 4 ตัว ตัวแรกจะบอกถึงชนดไม้ และอีก 3 ตัวตอมาจะเปนการให้หมายเลข
ิ
็
่
ื
ิ
ุ
เมล็ดไม้ทเก็บมาตั งแตเร มโครงการปรบปรงพันธ์ไม้สนตอเนองจนถึงปจจบัน หมายเลขหมวดดัง
ุ
ั
่
ุ
ี
ั
กล่าว คอ
ื
0…. เร มต้นด้วย 0 หมายถึง สนสามใบ
ิ
1…. เร มต้นด้วย 1 หมายถึง สนสองใบ
ิ
2…. เร มต้นด้วย 2 หมายถึง สนคารเบย
ี
ิ
ิ
์
3…. เร มต้นด้วย 3 หมายถึง สนโอคารปา และสนชนดอื นๆ
ิ
ิ
ิ
4…. เร มต้นด้วย 4 หมายถึง ยูคาลิปตัส
ิ
5…. เร มต้นด้วย 5 หมายถึง ไม้ใบกว้าง
ิ
ิ
ี
เมล็ดไม้สนคารเบยเร มต้นด้วย 2….. เชน
่
็
2002 เปน เมล็ดสนคารเบยจาก Bowenia, Queensland, Australia
ี
ิ
2009 เปน เมล็ดสนคารเบยจาก Poptun, Guatemala
ิ
ี
็
ิ
ี
2020 เปน เมล็ดสนคารเบยจาก Culmi, Honduras
็
43
การปลูกสรางสวนปาสนคารเบีย
่
ิ
้
เนองจากสนคารเบยมีการกระจายพันธ์ตามธรรมชาตอยู่เปนบรเวณกว้างขวาง
ุ
ื
ิ
ิ
ี
ิ
็
่
ึ
ู
้
ิ
ี
่
ึ
สามารถข นได้ในสภาพภมิประเทศและสภาพดนฟาอากาศทแตกตางกันสามารถข นได้ตั งแตพื นท
ี
ู
่
ิ
ั
ี
ี
ราบตดชายฝ งทะเลทมีความสงเทากับระดับนํ าทะเลจนถึง 1,000 เมตรของพื นทภายในทวีปทเปนภ ู
็
ี
ึ
ี
ี
ี
็
ิ
่
เขา ปรมาณนํ าฝนเฉลี ยปละ 660 – 3,500 มิลลิเมตร เปนหนงในไม้สนไม่กชนดทมีความโดดเดนใน
ิ
็
เรองรปทรงและการเจรญเตบโต และมีความเหมาะสมสําหรบเปนวัตถุดบในอุตสาหกรรมผลตเยื อ
ิ
ั
ื
ิ
ิ
ู
ิ
็
่
่
และกระดาษ ตลอดจนใช้ในอุตสาหกรรมการกอสราง จากการนําสนคารเบยซงเปนไม้ตางถ นเข้ามา
้
ิ
ี
ึ
ิ
ั
ิ
ู
ิ
ทดลองปลกในประเทศไทยคร งแรกในป 2507 พบว่าสามารถเจรญเตบโตและปรบตัวได้ดทั งในพื น
ี
ี
ั
ี
ิ
ึ
ี
ทระดับสงคอทจังหวัดเชยงใหม่ซงสงจากระดับนํ าทะเลประมาณ 800 – 1,100 เมตร ปรมาณนํ าฝน
ู
ู
ื
ี
ี
ื
ุ
ิ
ู
1,100 – 1,400 มิลลเมตร และในพื นทระดับตําคอทจังหวัดชมพรซงสงจากระดับนํ าทะเลประมาณ 60
ี
ึ
ี
ื
ิ
เมตร มีปรมาณนํ าฝน 1,500 มิลลเมตร และได้มีการนําไปทดลองปลกทางภาคตะวันออกเฉยงเหนอท ี
ู
ิ
ิ
ี
ึ
์
จังหวัดสรนทรและศรษะเกษ ซงสงจากระดับนํ าทะเล 130 – 170 เมตร มีปรมาณนํ าฝน ประมาณ
ุ
ิ
ู
1,300 มิลลิเมตร การเจรญเตบโตก็อยู่ในเกณฑ์ด ในการปลูกเพื อการพาณชย์นั นจะต้องคัดเลือกวาไร
ี
ิ
ิ
ิ
ิ
ี
ต และถิ นกําเนดทเหมาะสม
ี
้
้
่
ิ
หลักการพิจารณาในการปลูกสรางสวนปาไมสนคารเบีย
ิ
ี
้
่
โดยทั วไปการปลูกสรางสวนปาไม้สนคารเบยนั น จะต้องพิจารณาถึงสวนประกอบ
่
ึ
่
่
ตางๆ ซงสามารถแบงได้ดังน ี
่
ื
้
1. วัตถุประสงค์หรอเปาหมายในการปลูกจะต้องเดนชัดว่าประโยชน์
ิ
ื
ุ
ึ
ุ
้
ิ
ั
่
สดท้ายใช้ทําอะไรเชน เพื อการอนรกษ์ หรอปลูกเพื อการพาณชย์ ซงการปลูกเชงการค้านั นต้องมีเปา
หมายทแนนอน เชน เพื อทําทอนซงสําหรบไม้แปรรป ทําเยื อกระดาษ ทําไฟเบอรบอรด ทําแผ่นใย
ู
์
่
์
ุ
่
ั
ี
่
ี
ู
ู
ื
ไม้อัด เพื อเจาะเอายาง หรอหลายอย่างผสมผสานกัน เพื อให้ได้ผลประโยชน์สงสด เมื อเตรยมข้อมล
ุ
่
ึ
ิ
พรอมจะทําให้การวางแผนดําเนนการงายข น
้
ี
้
็
ึ
2. การเลือกพื นทเปาหมายทจะปลกซงเปนขั นตอนสําคัญอีกขั นตอนหนง
ี
ึ
ู
ี
ึ
ิ
่
ู
เพราะไม้สนคารเบยสามารถข นได้ในหลายสภาพพื นท ทมีภมิอากาศแตกตางกันอย่างมาก ตั งแต ่
ี
ี
ิ
ื
ความสงจากระดับนํ าทะเล 0 ถึง 1,000 เมตร ปรมาณนํ าฝนตั งแต 650 – 3,500 มิลลิเมตร ตอป หรอ
ู
ี
่
่
ึ
็
่
่
อาจจะถึง 4,000 มิลลิเมตร ความเปนกรดดางของดิน 5.5 – 8 เปนต้น แตไม่สามารถข นได้ในสภาพ
็