MEGAMOUTH SHARK
ฉลามเมกาเม้าท์ (Megachasma pelagios) เป็นฉลาม
นำ้�ลกึ ชนิดหน่ึง มนษุ ยม์ ักไม่ค่อยพบเหน็ และเป็น
ฉลามทเ่ี ล็กท่ีสุดในบรรดาฉลามปอ้ นอาหารด้วย
ตัวกรองทีย่ งั หลงเหลอื อยู่ 3 ตวั ควบคู่ไปกับฉลาม
วาฬที่คอ่ นขา้ งใหญ่กวา่ และฉลามบาสกงิ นบั ตงั้ แต่
การคน้ พบในปี 2519 มกี ารสังเกตหรือจับตัวอยา่ ง
นอ้ ยกว่า 100 ตัวอยา่ ง[2] เชน่ เดียวกบั ฉลามกิน
เน้ืออกี 2 ตวั มนั แหวกวา่ ยโดยอา้ ปากกว้าง กรอง
นำ้�ส�ำ หรบั แพลงกต์ อนและแมงกะพรนุ สังเกตได้
จากหัวโตที่มรี มิ ฝปี ากเป็นยาง เมกะเมา้ ท์ไม่เหมอื น
กบั ฉลามชนิดอ่นื ๆ ที่มักถกู มองว่าเปน็ สายพนั ธุ์ที่
ยังหลงเหลอื อยเู่ พียงชนิดเดียวในวงศ์ Megachasmi-
dae แมว้ ่านกั วทิ ยาศาสตรบ์ างคนแนะนำ�วา่ อาจอยู่
ในวงศ์ Cetorhinidae
ลกั ษณะท่ีปรากฏของเมกะเม้าท์นนั้ โดดเดน่ แต่
อย่างอน่ื ไม่คอ่ ยมใี ครรู้จักเกี่ยวกบั มัน มสี นี ้ำ�ตาล
อมด�ำ อยูด่ ้านบน ดา้ นล่างเปน็ สขี าว และมีหาง
อสมมาตรทมี่ ีกลีบดา้ นบนยาว คลา้ ยกับฉลาม
นวด ด้านในของรอ่ งเหงือกน้นั เรียงรายไปด้วยไม้
ค�ำ้ เหงอื กทเี่ หมอื นน้ิวซ่ึงจบั อาหารได้ นักวา่ ยน�ำ้
ทค่ี ่อนข้างยากจน เมกะเม้าทม์ รี า่ งกายทีอ่ ่อนน่มุ
ป้อแป้และไม่มกี ระดกู งูหาง megamouth นั้นมีความ
กระฉบั กระเฉงนอ้ ยกวา่ ฉลามที่ป้อนอาหารแบบ
กรองอ่ืน ๆ อย่างมาก ฉลามบาสกิง และฉลามวาฬ
megamouth มรี ูปรา่ งอ้วนและหวั โป่งยาวและกว้าง
48 deep sea monster
CHIMAERA
หรือมอี กี ชื่อทเี่ ปน็ ทรี่ ้จู กั คอื ฉลามผี เป็นปลากระดกู อ่อนในลำ�ดบั Chi-
maeriformes ปลาคเิ มยี รานนั้ เปน็ ญาตหิ า่ ง ๆ ของปลาฉลามเน่ืองจาก
การวิวัฒนการของพวกมนั นัน้ แยกตวั ออกมาจากฉลามตง้ั แต่ 400 ล้าน
ปที ่ีแลว้ [2]ในปัจจุบันนีส้ ามารถพบได้ตามทะเลลึก ปลาคิเมียราอาศัย
อยู่ในทะเลลกึ โดยอย่ทู ่ีระดับความลกึ ประมาณ 2,600 เมตร ยกเวน้
สกลุ Callorhinchus ทีจ่ ะอาศัยอยูบ่ รเิ วณน�ำ้ ลึก 200 เมตร จึงท�ำ ให้
พวกมันสามารถถูกจับมาแสดงโชวท์ ี่พพิ ธิ ภัณฑ์สัตวน์ �ำ้ [4]
พวกมันมลี �ำ ตัวยาวและมีหัวขนาดใหญแ่ ละมชี อ่ งปิดเหงอื กช่องเดยี ว
เมือ่ โดเต็มวัยอาจมคี วามยาวถึง 150 ซ.ม.[5]พวกมันเปน็ ปลากระดู
กอ่อนมีผิวหนังทเ่ี รยี บเนียนมีสนี �ำ้ ตาลถงึ เทาและมคี รีบหลงั เปน็ กระดู
กออ่ นพวกมันมลี กั ษณะบางประการคล้ายปลาฉลามเชน่ การปฏิสนธิ
ภายในของเพศเมีย, การวางไข่แบบมถี งุ หุ้มไข่และยงั มกี ารใชป้ ระสาท
สมั ผสั ทางไฟฟ้าในการหาเหย่อื เหมอื นกนั [6]ถงึ จะมลี กั ษณะคลา้ ยปลา
ฉลามแต่มันมสี ง่ิ ทแี ตกต่างและแปลงออกไปคอื ปลาคิเมียราเพศผู้น้ัน
จะมีอวยั วะสืบพันธ์ทุ ่สี ามารถยดื หดได้อยบู่ นหน้าผาก[7] และมคี รบี
เอว[5]และยังมสี งิ่ ทีแ่ ตกตา่ งจากฉลามอกี เชน่ ขากรรไกรรวมกับกระ
โหลกศรี ษะ, มีการแยกกนั ระหว่างทวารหนกั และอวัยวะเพศ, ไม่มฟี นั ที่
แหลมคมและมแี ผ่นปดิ เหงอื กเหมอื นปลากระดูกแขง็
ถุงหุม้ ไขข่ องปลาคเิ มยี รา
49 deep sea monster
นอกจากตาทีอ่ ยู่บนยอดแลว้ นกั ดูดาวยงั มปี าก STARGAZER
ขนาดใหญ่ทหี่ ันขึน้ ดา้ นบนในหวั ทใ่ี หญ่ นิสยั ปกติ
ของพวกเขาคือการฝังตัวเองในทราย และกระโดด
ข้นึ ไปเพ่ือซุ่มโจมตเี หยอ่ื (ปลาหน้าดินและสตั ว์
ไม่มกี ระดูกสันหลงั ) ที่ผ่านไปเหนือศรี ษะ บาง
ชนดิ มเี หย่อื ล่อรูปหนอนงอกออกมาจากพน้ื ปาก
ซึง่ สามารถกระดกิ เพอ่ื ดึงดูดความสนใจของเหยอ่ื
ได้ ครบี หลังและกน้ ท้งั สองค่อนขา้ งยาว บางตัว
ไมม่ ีหนามหลัง ความยาวมตี ัง้ แต่ 18 ถึง 90 ซม.
ส�ำ หรบั นกั ดดู าวยักษ์ Kathetostoma giganteum
นกั ดูดาวมีพษิ พวกมนั มหี นามพษิ ขนาดใหญ่
สองอันตั้งอยู่หลงั รูพรนุ และเหนอื ครีบอก สปชี ี
ส์ในสกลุ Astroscopus และ Uranoscopus ยัง
สามารถทำ�ใหเ้ กิดไฟฟ้าชอ็ ตได้ สปีชีส์ Astrosco-
pus มีอวัยวะไฟฟา้ เพยี งชิน้ เดียวทีป่ ระกอบ
ด้วยกล้ามเนือ้ ตาทถ่ี ูกดดั แปลง ในขณะทส่ี ปีชสี ์
Uranoscopus มมี าจากกล้ามเนื้อโซนคิ [2] สอง
สกุลนใ้ี น stargazers น้ันมาจากวิวฒั นาการอิสระ
แปดประการของ bioelectrogenesis[2] พวกมนั
มีเอกลกั ษณ์เฉพาะในหมปู่ ลาไฟฟา้ ที่ไมม่ ตี วั รบั
ไฟฟา้ พิเศษ
52 deep sea monster
FLYING SAUCER JELLYFISH
จุดแสงเรืองสีฟา้ ไล่วนเป็นวงรอบๆ ขอบของร่ม ในยามที่มนั รสู้ ึกว่ามีศัตรเู ข้ามาใกล้ ได้อีกดว้ ย ซึ่งนักวทิ ยาศาสตรเ์ ชือ่
ว่าสญั ญาณจดุ แสงสฟี า้ น้ี แทนทจี่ ะเอาไวไ้ ล่ศตั รไู ปไกลๆ กลับนา่ จะววิ ฒั นาการขนึ้ มาเพอ่ื เรยี กหาสตั วผ์ ูล้ ่าตัวทีใ่ หญก่ ว่า
เพอื่ มาขม่ ขหู่ รือจัดการกับศัตรูตวั แรกแทน
เทคนคิ การใช้แสงเรืองสฟี ้ารอบขอบของร่มหนวดน้ี เปน็ แรงบนั ดาลใจ Dr. Edith Eidder พฒั นาระบบติดตามท่เี รยี กว่า
“Eye in the Sea” ขึ้นมา โดยนอกจากจะใช้ไฟสแี ดงอ่อนซ่งึ ไมร่ บกวนทะเลลึกแลว้ เธอยงั ติดไฟวงแหวนสฟี ้าสดเพ่ือ
ดึงดดู สัตว์ผลู้ า่ ต่างๆ ให้เข้ามาหาและทีมงานของเธอจะไดศ้ ึกษาอยา่ งสะดวก
นอกจากนี้ หนวดของมนั ยงั มคี วามน่าสนใจอกี นิดดว้ ย นกั วทิ ยาศาสตรท์ ่ีสังเกตพวกมนั จากเรอื ดำ�น�้ำ ลกึ พบว่า หนวด
แต่ละเสน้ ของมันจะยาวไม่เทา่ กนั หนวดที่ยาวทำ�หน้าทีจ่ บั เหยอื่ ประเภทไซโฟโนฟอร์ แมงกะพรุน หรอื หววี ุ้น ส่วน
หนวดที่สนั้ กวา่ มีไวจ้ ับแพลงก์ตอนสตั ว์
55 deep sea monster
57 deep sea monster
GIANT SQUID
บางทใี นทะเลลกึ อาจไมม่ สี ิง่ มีชีวิตอนื่ ท่มี ีช่อื เสียงและเข้าใจผิดเหมอื นปลาหมึกยกั ษ์ ปรากฏในภาพยนตรแ์ ละเรอ่ื งราวสมมติ
จนถึงจดุ ทีค่ นส่วนใหญเ่ ชอ่ื ว่าไมม่ อี ยูจ่ ริง แต่มัน่ ใจไดเ้ ลยว่ามนั เป็นเรื่องจรงิ มาก ปลาหมกึ ยักษ์ทีเ่ ขา้ ใจยากซึ่งเปน็ ที่รจู้ ักใน
ทางวทิ ยาศาสตรว์ ่า Architeuthis dux เปน็ หน่งึ ในสตั ว์ทใ่ี หญ่ทสี่ ดุ ในโลก เปน็ ทท่ี ราบกันดวี ่ามคี วามยาวไดถ้ ึง 60 ฟตุ เปน็
สัตวไ์ ม่มีกระดกู สันหลงั ทใ่ี หญท่ ี่สุดในโลกและเป็นหนง่ึ ในสิง่ มีชีวติ ทใี่ หญ่ทสี่ ดุ ในทะเล หลายคนเชอ่ื วา่ Kraken ที่นา่ กลัวใน
ตำ�นานโบราณอาจมพี ้ืนฐานมาจากสัตวป์ ระหลาดในชวี ิตจรงิ อย่างนอ้ ยบางส่วน ปลาหมึกยกั ษ์เป็นหอยและเป็นสมาชิก
ของกลุ่มเซฟาโลพอดซึง่ รวมถงึ ปลาหมึกยักษแ์ ละปลาหมึกอืน่ ๆ ไม่คอ่ ยมใี ครรูจ้ ักเกีย่ วกบั สง่ิ มชี ีวิตลกึ ลับเหลา่ น้เี พราะจน
58 deep sea monster
กระทง่ั เมอ่ื เรว็ ๆ นไ้ี ม่มีใครเหน็ ชวี ิตในป่า สิ่งที่เรารู้สว่ น คลุมมคี รบี เล็ก 2 อันท่ีใชช้ ว่ ยเคลอ่ื นตวั สัตวใ์ นน�ำ้ แม้ว่า
ใหญ่มาจากรา่ งของปลาหมึกตายทเี่ กยฝ่ังหรือถูกดงึ ขึ้น แหลง่ ทมี่ าของการเคลื่อนไหวหลักของมนั คือการขบั เคล่ือน
มาในแหของชาวประมง การคน้ พบครัง้ ยง่ิ ใหญเ่ กดิ ขึน้ ด้วยไอพ่น ปลาหมึกสามารถเคลอื่ นตวั ผา่ นน�ำ้ ด้วยความเรว็
ในเดอื นกันยายนปี 2004 เม่อื นักวจิ ยั จากประเทศญ่ีปุ่น สงู โดยนำ�น�ำ้ เขา้ ไปในโพรงเส้อื คลมุ แลว้ ขบั ออกด้วยแรง
สามารถถา่ ยภาพปลาหมึกเป็นๆ ในป่าได้ ในปี 2549 ทมี มหาศาล
งานเดียวกนั สามารถถา่ ยวิดโี อของปลาหมกึ ยกั ษ์เปน็ ๆ ปลาหมกึ ยกั ษม์ ีระบบประสาททซี่ ับซอ้ นและสมองท่ีพฒั นา
ไดเ้ ป็นครง้ั แรก หลกั ฐานน้ีและหลักฐานอืน่ ๆ เมือ่ เร็ว อยา่ งมาก เช่ือกันวา่ มีความฉลาดสูงและอาจเป็นหนึง่ ใน
ๆ นช้ี ีใ้ ห้เห็นวา่ สง่ิ มชี วี ติ เหลา่ นอ้ี าจอดุ มสมบรู ณก์ วา่ สัตวไ์ มม่ กี ระดกู สันหลงั ที่ฉลาดทีส่ ดุ ในมหาสมุทร ดวงตา
ท่ีคดิ ไว้กอ่ นหน้านี้ เชน่ เดียวกบั ลูกพล่ี ูกน้องปลาหมกึ ของพวกเขาอยใู่ นหมทู่ ใ่ี หญ่ทสี่ ุดในโลก รองจากลูกพล่ี กู
อน่ื ๆ ร่างกายของปลาหมึกยกั ษป์ ระกอบด้วยเสือ้ คลุม น้องทใี่ หญ่กว่าของพวกเขาเทา่ น้นั คือปลาหมกึ มหึมา ตา
แปดแขน และหนวดท่ยี าวกวา่ สองเส้น เสอ้ื คลุมหรือลำ� ยกั ษเ์ หลา่ นี้จรงิ ๆ แลว้ มขี นาดเทา่ กับจานอาหารคำ่�ทั่วไป
ตวั หลักของปลาหมกึ โดยท่วั ไปจะมีความยาวประมาณ ซึ่งมีเส้นผา่ นศนู ยก์ ลางเกือบหน่ึงฟตุ ตาโตเปน็ การปรบั
6 ฟุต (2 เมตร) แขนและหนวดมคี วามยาวเกือบเทา่ ตัว ตัวท่สี �ำ คญั ทช่ี ่วยใหป้ ลาหมกึ หาอาหารในความมืดของ
ของสตั ว์ พื้นผวิ ด้านในของแขนและหนวดมีถ้วยดดู หลาย มหาสมุทรลกึ ปลาหมึกอาจมองไม่เหน็ สี แตต่ าเฉพาะของ
ร้อยชนิ้ เรยี งกัน โดยมขี นาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางประมาณ พวกมันไดร้ บั การปรับแต่งอย่างประณตี เพ่ือแยกแยะความ
หนึ่งถึงสองนว้ิ ถ้วยดูดแต่ละอนั ล้อมรอบดว้ ยขอบหยัก แตกตา่ งในระดับแสง
ท่ีแหลมซง่ึ ชว่ ยให้ปลาหมึกจับเหยอ่ื ได้ ส่วนบนของเสื้อ ปลาหมกึ ยักษเ์ ปน็ สตั ว์จำ�พวกหอยท่ีมีขนาดใหญเ่ ป็นอันดับ
สองของโลกและเป็นสตั ว์ไม่มีกระดูกสนั หลังท่ีใหญเ่ ปน็ อนั ดับสองดว้ ย ปลาหมึกมหมึ านนั้ ใหญ่ท่สี ดุ ปลาหมกึ ยกั ษต์ วั
เมยี มีขนาดใหญก่ ว่าตวั ผู้มาก ตวั เมียมีความยาวเฉลีย่ ประมาณ 43 ฟุต (13 เมตร) เช่ือกันว่าผชู้ ายทม่ี ขี นาดเล็กกว่ามาก
จะเตบิ โตไดป้ ระมาณ 33 ฟุต (10 เมตร) มกี ารอา้ งสทิ ธิข์ องตัวอยา่ งทีม่ ีความสงู ไม่เกิน 66 ฟตุ (20 เมตร) แตย่ งั ไม่มี
การบนั ทึกอย่างเป็นทางการ ไม่คอ่ ยมีใครรู้เรือ่ งพฤติกรรมการสบื พนั ธ์ุของปลาหมึกยกั ษ์ เชอื่ กันว่าโตเตม็ ทเ่ี มอ่ื อายุได้
3 ปี และเพศผจู้ ะมขี นาดทีเ่ ลก็ กวา่ ตัวเมีย ตัวเมียวางไข่จำ�นวนมาก มกี ารสงั เกตเดก็ และเยาวชนในนา่ นนำ้�ผวิ ดินนอก
ชายฝ่งั นวิ ซแี ลนด์ พพิ ิธภณั ฑ์สตั วน์ ำ�้ หลายแหง่ กำ�ลงั พยายามจับและรักษาตวั อยา่ งเด็กเพื่อพยายามเรยี นร้เู พ่มิ เตมิ เกย่ี ว
กับส่ิงมีชีวติ ลึกลบั น้ี
ปลาหมกึ ยักษพ์ บได้ทั่วมหาสมทุ รทัว่ โลก โดย WORLD WIDE DISTRIBUTION OF
ปกตแิ ล้วจะพบพวกมนั ท่ีความลึกระหวา่ ง 1,000 THE GIANT SQUID
ฟุต (300 เมตร) ถงึ ประมาณ 2,000 ฟุต (600
เมตร) แม้ว่าจะมเี อกสารรายงานของตวั อย่าง (WIKIPEDIA PUBLIC DOMAIN IMAGE)
ที่พบได้ลึกถงึ 3,800 ฟตุ (1175 เมตร) มกั พบ
บรเิ วณแนวลาดของทวีปและเกาะจากมหาสมุทร
แอตแลนติกเหนือใกล้นิวฟนั ดแ์ ลนด์ นอรเ์ วย์
และเกาะองั กฤษ และมหาสมุทรแอตแลนติก
ใตใ้ กล้แอฟรกิ าตอนใต้ นอกจากน้ยี ังพบใน
มหาสมุทรแปซิฟิกเหนอื ใกล้ญี่ปนุ่ และแปซิฟกิ
ตะวนั ตกเฉยี งใต้ใกลอ้ อสเตรเลยี และนิวซแี ลนด์
ปลาหมึกยกั ษ์หาได้ยากในเขตขว้ั โลกและเขตรอ้ น
59 deep sea monster
60 deep sea monster
GIANT ISOPOD พบไดใ้ นสวน อันที่จรงิ สิ่งมีชวี ติ ท่เี หมอื นแมลงนบี้ างครงั้
เรียกวา่ ตวั หนอนยักษ์ ไอโซพอดยกั ษม์ ักไมท่ ำ�การประมง
ดูเหมือนวา่ มนั เพง่ิ คลานออกมาจากภาพยนตรน์ ยิ าย ในเชิงพาณชิ ย์ แมว้ า่ บางชนดิ จะพบได้ในรา้ นอาหารรมิ
วทิ ยาศาสตรท์ ีไ่ มด่ ี ไอโซพอดขนาดยักษน์ ้ันไมต่ ้องสงสยั ทะเลในไตห้ วันตอนเหนอื เปน็ ครงั้ คราว ซง่ึ น�ำ ไปต้มและ
เลยว่าเป็นหน่ึงในส่ิงมชี ีวิตท่แี ปลกประหลาดที่สุดท่ีพบ เสิร์ฟพรอ้ มขา้ ว ขนาดมหมึ าของไอโซพอดยักษเ์ ป็นผล
ในทะเลลกึ รู้จกั กันในทางวทิ ยาศาสตรว์ ่า Bathynomus มาจากปรากฏการณท์ เี่ รยี กวา่ ยักษ์ในทะเลลกึ นีค่ อื แนว
giganteus เปน็ หนึง่ ในสมาชิกของสกุล Bathynomus โนม้ ท่ีสตั วน์ ำ�้ ครสั เตเชยี นน้ำ�ลึกและสัตวอ์ น่ื ๆ จะเติบโต
ประมาณเกา้ คน นอกจากน้ยี ังเป็นสมาชิกท่ีใหญท่ ่สี ดุ ท่ี เปน็ ขนาดที่ใหญ่กว่าสายพนั ธท์ุ ี่คลา้ ยกันในน�ำ้ ต้ืน ตัว
ร้จู กั กนั ดีในตระกูล isopod ซึ่งเป็นกลุม่ ของสตั วจ์ ำ�พวก อยา่ งอน่ื ๆ ได้แก่ ปลาหมกึ ยักษ์และหนอนหลอดยกั ษ์
ครสั เตเชยี ท่ีมคี วามสมั พันธ์ใกล้ชิดกับก้งุ และปู ไอโซ
พอดยักษ์ยังเก่ยี วข้องกับแมลงตัวเล็ก ๆ ทีค่ ณุ สามารถ
61 deep sea monster
ปลาหมกึ ยกั ษเ์ ติบโตไดส้ งู ถึง 60 ฟตุ ในทะเลลกึ ในการเปรียบเทียบ ลูกพ่ลี กู นอ้ งในน�ำ้ ตน้ื ของมนั จะยาวประมาณสองฟุต
เทา่ นั้น สาเหตขุ องความแตกตา่ งของขนาดยงั คงเปน็ ปรศิ นา แมว้ ่านกั วิจยั บางคนเช่อื วา่ อาจเปน็ การปรับตัวเพ่อื ช่วยให้
สตั ว์รับมือกบั แรงกดดันมหาศาล ไอโซพอดยกั ษส์ ามารถเติบโตไดย้ าวกว่า 16 นว้ิ ซ่ึงทำ�ให้เป็นหนึง่ ในสมาชกิ ที่ใหญท่ ี่สดุ
ของตระกูลครสั เตเชยี น เช่นเดยี วกบั ลูกพี่ลกู น้องบนพ้ืนดนิ ตัวแมลง ร่างกายของไอโซพอดยกั ษไ์ ด้รับการปกปอ้ งโดย
เปลือกแข็งทีแ่ บ่งออกเปน็ สว่ นๆ ท�ำ ให้แขง็ แรงและยืดหย่นุ ไดใ้ นเวลาเดียวกนั เมอ่ื ถกู คกุ คาม สัตว์ชนดิ นีส้ ามารถม้วนตัว
เป็นลกู บอลเพอ่ื ปอ้ งกนั ด้านล่างทีเ่ ปราะบางของมนั ไอโซพอดมตี าแบบประสม ซง่ึ มีแงม่ มุ แยกกนั มากกวา่ 4,000 ดา้ น
เชน่ เดยี วกบั คู่ขนานบนบก สง่ิ นที้ ำ�ให้สัตวม์ มี ุมมองที่กวา้ ง และทำ�ใหม้ ันไวต่อการเคล่ือนไหวอยา่ งรวดเร็วมาก เนอ่ื งจาก
แสงจะสลวั มากในทะเลลกึ ไอโซพอดขนาดยักษจ์ งึ ได้พัฒนาเสาอากาศขนาดใหญเ่ พื่อชว่ ยให้รูส้ กึ ได้รอบตัวขณะคลานไป
ตามพ้ืนมหาสมุทร
62 deep sea monster
Vampire Squid
หมกึ แวมไพร์ เปน็ สัตวท์ มี่ อี ายุอยมู่ านานกวา่ 200 ล้าน
ปีแลว้ โดยจดั อยใู่ นวงศ์Vampyroteuthidae และสกลุ
Vampyroteuthis ซ่ึงมเี พยี งชนิดเดียวเทา่ นัน้ ทย่ี งั ดำ�รง
เผ่าพันธม์ุ าจนถงึ ปจั จบุ นั นับเปน็ สายที่เชื่อมต่อระหวา่ ง
หมึกสายกับหมึกกล้วย ซ่ึงหมึกแวมไพร์ จดั เป็นหมึกที่
อยใู่ นอนั ดับของตนเอง หมึกแวมไพร์ ได้ชือ่ นี้มาจากรปู
ร่างหน้าตาท่ีแลดนู า่ กลัว โดยมพี ังผดื เชือ่ มตอ่ กนั ระหว่าง
หนวดแต่ละเสน้ ท้งั หมด 8 เส้น เสมือนร่มหรอื ครบี แลดู
คลา้ ยเสื้อคลมุ ตัวใหญ่ ใช้สำ�หรับวา่ ยไปมาเหมอื นการบิน
ของนกหรอื คา้ งคาว แต่หมกึ แวมไพรก์ ลบั เป็นสตั วท์ ไี่ ม่มี
อันตรายใด ๆ มคี วามยาวเต็มท่ีประมาณ 28 เซนติเมตร
เทา่ น้นั มีสีผวิ น�ำ้ ตาลแดงปนดำ� ดา้ นในของลำ�ตัวเปน็ สี
ด�ำ สนิทและมีหนามแหลม ๆ เรียงตวั ตามแนวของหนวด
มีดวงตากลมโตสีแดงก่�ำ หรอื สนี ำ�้ เงนิ หมึกแวมไพร์ เปน็
หมกึ ทีอ่ าศัยอยใู่ นทะเลลกึ ทีม่ ีความลกึ ตัง้ แต่ 300-3,000
เมตร เปน็ สถานท่ี ๆ ไม่มแี สง และมปี รมิ าณออกซเิ จน
นอ้ ย แต่หมึกแวมไพร์กอ็ าศยั อยู่ไดเ้ ป็นอยา่ งดี และมกั
ตกเป็นอาหารของสัตวท์ ะเลท่ีมีขนาดใหญ่กว่าได้ จงึ มี
กลไกในการป้องกันตนเองด้วยการเรืองแสงลำ�ตัวตัวเอง
ได้ ซงึ่ เกิดจากแบคทเี รีย ทสี่ ่องแสงเรือง ๆ เป็นสฟี ้า
หรอื สีน�้ำ เงิน ซงึ่ ท�ำ ใหต้ าของผู้ทมี่ าคกุ คามพร่ามวั ไปได้
63 deep sea monster
64 deep sea monster
ปลากงิ้ กา่ ทะเลลึกมลี กั ษณะคลา้ ยกบั ปลากง้ิ กา่ น�้ำ ตื้น ซง่ึ สะท้อนให้เห็นในชื่อสามัญ ตวั เต็มวยั
จะมีความยาวมากกวา่ 70 ซม. และมรี ูปร่างเป็นทรงกระบอกเรียว หัวกระดกู ท่เี หมือนกิง้ ก่า
แบนราบไม่เหมือนกับปลาสว่ นใหญ่ และปากขนาดมหมึ านน้ั เตม็ ไปดว้ ยฟันทยี่ าว คม และ
เหมือนเข็มหลายชุดสำ�หรับเจาะและดกั เหยือ่ Bathysaurus ferox มีสีขาว เทาหรอื น�ำ้ ตาล
และปกคลมุ ด้วยเกล็ดแข็ง ซง่ึ จะขยายใหญ่ข้นึ ตามแนวด้านข้าง ดวงตาท่ีโตและโตอย่างดี
พรอ้ มรูม่านตาขนาดใหญ่เป็นหลกั ฐานยนื ยนั ถึงความส�ำ คัญของการมองเหน็ ในการตรวจ
หาเหย่ือ แม้วา่ แสงแดดท่ีตกค้างจะไม่ทะลุผ่านสว่ นลกึ ของกง้ิ กา่ ทะเลลกึ แตด่ วงตาของ
พวกมนั ก็ชว่ ยในการตรวจจับแหลง่ ก�ำ เนิดแสงทตี่ กคา้ งหรอื แสงจากสิ่งมชี วี ติ ไดอ้ ย่าง
ชดั เจน เป็นที่ทราบกันดวี า่ ปลาจง้ิ จกทะเลลกึ มตี ับท่ีกว้างใหญซ่ งึ่ ประกอบขนึ้ เปน็
20% ของนำ้�หนักท้งั หมด ท�ำ หนา้ ทเ่ี ปน็ พลงั งานส�ำ รองเพอื่ รกั ษาการเจริญเติบโต
ระหว่างชว่ งใหอ้ าหารเปน็ ระยะ ปลากง้ิ ก่าทะเลลกึ (Bathysaurus ferox) เป็นปลา
ในวงศ์ Bathysauridae รว่ มกบั ปลากง้ิ กา่ ไฮฟนิ (Bathysaurus mollis) แมว้ า่ จะดู
คลา้ ยคลึงกนั แตก่ ็แตกต่างจาก “ปลาก้ิงก่า” อื่นๆ ทคี่ ณุ อาจค้นุ เคยซงึ่ อาศยั อยู่
ในน่านน้�ำ ชายฝง่ั เขตร้อนและก่งึ เขตรอ้ น ปลาก้ิงกา่ ทะเลลึก (ไมน่ ่าแปลกใจ
) อาศยั อยใู่ นทะเลลกึ พวกมันถกู พบท่คี วามลกึ มากกว่า 3,000 ฟุต ซง่ึ อยู่
ใน “เท่ยี งคนื ” หรอื โซน aphotic ไม่มแี สงแดดส่องผา่ นผืนน้ำ�ลกึ เชน่ น้ี
ได้ สัตวท์ ่ีอาศยั อยทู่ ีน่ ่นั ตอ้ งปรบั ตัวให้เข้ากบั ความมดื มดิ
พบไดใ้ นน�้ำ ลกึ ทั่วโลก ยกเว้นบรเิ วณเสา แต่คุณไมจ่ �ำ เป็นตอ้ งอยู่ที่
ละติจดู สงู เพอื่ รับนำ�้ เยน็ —น้ำ�ลกึ กเ็ ยน็ พอ! ปลาจิ้งจกทะเลลกึ อาศยั อยใู่ น
อุณหภมู ปิ ระมาณ 38 องศาฟาเรนไฮต์ พวกมนั เติบโตไดย้ าวประมาณ 15-23 นว้ิ
แตป่ ลาจ้งิ จกทะเลลึกทใี่ หญ่ทส่ี ดุ ที่บันทกึ ไว้นน้ั มคี วามยาว 33 นิว้ และหนกั 15 ปอนด์
ลกั ษณะเด่นทีส่ ดุ ของปลาก้งิ กา่ ทะเลลึกคือฟันทแ่ี ผดเผา พวกมนั เปน็ นักล่าที่ปลายสดุ
ซ่งึ หมายความว่าพวกมันอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารของระบบนเิ วศ อนั ท่ีจรงิ ปลาก้งิ กา่
ทะเลลึกเปน็ หน่ึงในสตั วน์ ักล่าทรี่ ู้จกั ทลี่ ึกทส่ี ุด และจะกินทกุ อย่างที่มันเจอ พวกมันเปน็ นกั
ล่าซมุ่ โจมตี หมายความวา่ พวกมนั รออยู่บนพื้นทะเลโดยอา้ ปากค้าง อดทนรออาหารว่ายนำ�้
ผา่ นไป เนือ่ งจากในทะเลลึกมีเหย่อื เพยี งไม่ก่ตี วั ปลากง้ิ ก่าทะเลลกึ จึงไมจ่ ้จู ีจ้ ุกจกิ มนั จะกิน
ปลาชนดิ อ่ืน ครสั ตาเซียน และแมแ้ ต่ปลาก้ิงกา่ ทะเลลึกอื่นๆ
สภาพแวดล้อมทเ่ี บาบางนย้ี ังหมายความวา่ ปลาจ้ิงจกในทะเลลกึ ไม่สามารถจจู้ ี้จกุ จกิ เม่อื
ตอ้ งหาค่คู รอง พวกเขาไดพ้ ฒั นากลยุทธ์ทีน่ า่ สนใจเพือ่ ตอ่ ส้กู บั สิง่ นี้: ปลาจิง้ จกใต้ทะเลลกึ เป็นก
ระเทยพร้อมกนั หรือพรอ้ มกนั ซึ่งหมายความว่าสามารถผลติ เซลลส์ ืบพนั ธ์ไุ ดท้ ้ังชายและหญงิ
ในเวลาเดยี วกัน ดว้ ยวิธีนี้ พวกเขาสามารถผสมพนั ธุก์ ับคูน่ อนทพี่ วกเขาเจอ แทนท่ีจะตอ้ งรอ
เพศตรงขา้ ม
หวังวา่ การเรยี นรู้เพมิ่ เติมเกย่ี วกับปลาจิ้งจกใตท้ ้องทะเลลกึ จะทำ�ให้คณุ ซาบซ้งึ ในสิ่ง
ใหม่ๆ สำ�หรบั นกั ล่าฟันใหญ่ สลับเพศ และโจมตีแบบลอบเร้น และจำ�ไว้วา่ หาก
คุณกำ�ลังมองหาปลาเพม่ิ เพื่อเตมิ ไฟให้กับฝนั ร้าย อย่ามองไปไกลกวา่ ทะเลลกึ
65 deep sea monster
DEEPSEA LIZARDFISH
แมว้ ่าพวกมนั จะเป็นสง่ิ มีชวี ติ ทวั่ ไปในพนื้ มหาสมุทร แตป่ ลาทะเลน�้ำ ลึกเหลา่
น้ีถอื เปน็ ข้อกงั วลในการอนรุ กั ษ์
66 deep sea monster
RIFTIA PACHYPTILA
Riftia pachyptila หรอื ท่รี ้จู กั กนั ทัว่ ไปว่าเปน็ หนอนหลอดยักษ์ และรจู้ กั กนั น้อยในชื่อ Giant beardworm เปน็ สัตว์ไมม่ ี
กระดกู สันหลังในทะเลในไฟลัมแอนเนลดิ า[1] (แตเ่ ดิมจัดอยูใ่ นไฟลมั โพโกโนฟอราและเวสตเิ มนตเิ ฟอรา) ที่เกีย่ วข้อง
กบั หนอนทอ่ ทีม่ กั พบในกระแสน้ำ�และทะเลน้ำ�ขึน้ นำ้�ลง โซน R. pachyptila อาศัยอยบู่ นพื้นมหาสมุทรแปซฟิ ิกใกลก้ ับ
ปล่องไฮโดรเทอรม์ อล ช่องระบายอากาศให้อุณหภมู ิแวดลอ้ มตามธรรมชาติในสภาพแวดลอ้ มตั้งแต่ 2 ถึง 30 °C[2] ใน
ขณะเดยี วกนั ก็สามารถทนต่อระดับไฮโดรเจนซัลไฟด์ท่ีสงู มากได้ เวริ ์มเหลา่ น้ีสามารถยาวได้ถึง 3 ม. (9 ฟตุ 10 น้ิว)[3]
และล�ำ ตัวท่อของพวกมันมีเสน้ ผ่านศนู ย์กลาง 4 ซม. (1.6 นิว้ )
67 deep sea monster
R. pachyptila ถกู ค้นพบในปี 1977 ในการเดินทางสำ�รวจ DSV Alvin ทีอ่ าบน�ำ้ ในอเมริกาไปยงั รอยแยกกาลาปากอส น�ำ
โดยนกั ธรณีวทิ ยา แจ็ค คอร์ลสิ [4] การคน้ พบนไี้ มค่ าดคดิ เนือ่ งจากทมี กำ�ลงั ศึกษาปล่องไฮโดรเทอรม์ อล และไม่มีนัก
ชีววทิ ยารวมอยู่ในการสำ�รวจ หลายชนดิ ท่ีพบอาศยั อยู่ใกลป้ ลอ่ งไฮโดรเทอร์มอลระหวา่ งการสำ�รวจครง้ั น้ีไมเ่ คยพบเหน็
มาก่อน
68 deep sea monster
หรือเรยี กอกี อยา่ งวา่ ปลาฉลามซกิ าร์ เป็นสายพันธป์ุ ลาฉลาม เตอรน์ ้นั พบไดใ้ นสตั ว์เลยี้ งลูกดว้ ยนมและปลาในทะเล
หลงั หนามขนาดเล็กในวงศ์Dalatiidae ฉลามชนิดนี้พบได้ หลากหลายชนิด เชน่ เดยี วกบั บนเรือดำ�น้�ำ สายเคเบลิ
ท่วั ไปในเขตอบอนุ นา่ นน�้ำ มหาสมุทรท่วั โลก โดยเฉพาะอย่าง ใต้น�้ำ และแมแ้ ตร่ ่างกายมนุษย์ นอกจากนี้ยังกินเหยอ่ื
ยิง่ บรเิ วณใกล้เกาะ และไดร้ ับการบนั ทึกความลกึ ท่สี ุดเทา่ พบ ทม่ี ีขนาดเล็กกว่าเช่นปลาหมกึ ฉลามคุ๊กกค้ี ตั เตอรม์ ีการ
อยู่ที่ 3.7 กิโลเมตร (2.3 ไมล์) ฉลามคุกกคี้ ัตเตอมลี ำ�ตัวเป็น ดดั แปลงส�ำ หรับการโฉบในคอลมั น์นำ้�และมีแนวโน้ม
แนวยาวทรงกระบอก มจี มูกส้นั ทอื่ ตาขนาดใหญ่สองขา้ ง ที่จะพง่ึ พาการพรางตัวและการอุบายเพือ่ จบั เหย่ือที่
ไมม่ ีกระดกู สันหลังและครีบหลงั และมคี รีบหางขนาดใหญ่ ว่องไวมากขน้ึ ปลอกคอสีเข้มของมันดเู ลียนแบบเงาของ
ตัวมันเป็นสนี �ำ้ ตาลเข้ม มีสเี ข้มรอบคอและช่องเหงือก ฉลาม ปลาตัวเลก็ ในขณะท่สี ่วนอนื่ ๆ ของร่างกายของมันจะ
คุก๊ กี้คตั เตอร์ (Isistius brasiliensis) หรอื ที่เรยี กว่าฉลามซิการ์ กลมกลนื ไปกบั แสงทสี่ ่องลงมาผ่านโฟโตโฟเรสบรเิ วณ
เป็นสายพนั ธข์ุ องฉลามสควาลฟิ อร์มขนาดเลก็ ในตระกูล หน้าท้อง เมอ่ื นักล่าทีอ่ ยากเป็นนกั ลา่ เข้าใกลเ้ หยื่อลอ่
Dalatiidae ปลาฉลามตัวน้พี บไดใ้ นน่านน้�ำ มหาสมุทรท่อี บอุน่ ฉลามจะยึดตวั มนั เองโดยใช้รมิ ฝปี ากดูดและคอหอย
ทว่ั โลก โดยเฉพาะบริเวณใกลเ้ กาะ และบนั ทึกได้ลึกถงึ 3.7 เฉพาะ และตัดเน้อื ชน้ิ หน่ึงอย่างเรยี บร้อยโดยใชช้ ุด
กม. (2.3 ไมล)์ มนั เคลื่อนตวั ในแนวตงั้ สงู สุด 3 กม. (1.9 ฟันลา่ งคล้ายเล่อื ยสายพาน สายพนั ธุน์ ้ีรจู้ กั เดินทางใน
ไมล์) ทกุ วัน โดยเขา้ ใกลพ้ ้นื ผวิ ในตอนพลบคำ่�และลงมาใน โรงเรียน
ยามรุง่ สาง ฉลามคกุ๊ กคี้ ัตเตอร์มคี วามยาวเพียง 42–56 ซม แมว้ ่าจะไม่คอ่ ยพบเหน็ เนื่องจากที่อยอู่ าศยั ในมหาสมทุ ร
. (16.5–22 น้ิว) มีลำ�ตวั ยาว ทรงกระบอก มจี มกู สนั้ ทู่ ตาโต แต่ก็มรี ายงานการโจมตมี นุษย์จ�ำ นวนหนง่ึ วา่ มีสาเหตุ
ครีบหลงั ไรห้ นามเลก็ ๆ สองอัน และครีบหางขนาดใหญ่ มาจากฉลามคุ๊กก้ี อยา่ งไรกต็ าม ฉลามจิว๋ ตัวนี้ไม่
มสี นี ้ำ�ตาลเข้ม โดยมีโฟโตโฟเรสเปล่งแสงปกคลมุ ดา้ นลา่ ง ถือวา่ อนั ตรายมาก สหภาพนานาชาตเิ พอื่ การอนุรักษ์
ยกเว้น “ปลอกคอ” สดี �ำ รอบๆ ลำ�คอและร่องเหงอื ก ธรรมชาตไิ ดร้ ะบุใหป้ ลาฉลามคุ๊กก้มี ีความกังวลน้อย
ชอ่ื “ปลาฉลามคกุ๊ กี้คตั เตอร์” หมายถงึ นิสยั การกนิ ของมัน ทส่ี ุด เนื่องจากมีการกระจายอย่างกว้างขวาง ไมม่ ีมูลคา่
โดยการเซาะปล๊กั แบบกลม ราวกับตดั ด้วยที่ตัดคกุ กีอ้ อก ทางการคา้ และไม่อ่อนไหวต่อการประมงเปน็ พิเศษ
จากสัตวข์ นาดใหญ่กว่า เครอ่ื งหมายที่ทำ�โดยฉลามค๊กุ กค้ี ัต
69 deep sea monster
COOKIECUTTER SHARK
70 deep sea monster
THAUMATICHTHYS AXELI
Thaumaichthys axeli เปน็ ปลาตกเบ็ดใต้ท้องทะเลลกึ ของพวกมัน ผูค้ น้ พบทราบถงึ ปลาตกเบ็ดที่ค้นพบกอ่ น
ของตระกูล Thaumaichthyidae Thaumatichthys axeli หน้านท้ี มี่ ีเอสกา้ (อวัยวะแสง) ในปากของมัน Thauma-
อาศยั อยู่ทีค่ วามลึกประมาณ 3,600 เมตร (ในเขตก้น tichthys pagidostomus แต่เนอื่ งจากตวั อย่างเดยี วของ T.
บึง้ ) ซึ่งลึกกวา่ สมาชกิ ในสกลุ Thaumaichthys เชน่ เดยี ว pagidostomus ถกู วัดที่ 8 ซม. จงึ ถือวา่ ไมน่ า่ จะอยใู่ นสกุล
กับสมาชกิ คนอืน่ ๆ ในครอบครัว พวกมนั มอี วยั วะแสง เดยี วกนั ต่อมากต็ ระหนักว่าความแตกต่างของขนาดนั้น
ท่ีแยกออกเปน็ งา่ มภายในปาก ซ่ึงใชส้ �ำ หรบั ล่อเหยื่อ มาจากอายุ และกาลาเทธาอูมากถ็ ูกรวมเข้ากบั พระธรรม
ฟันโคง้ ขนาดใหญ่ “กรามบนเหมือนหวี” มกี ารสรา้ ง ธิส ตัวอย่างแรกของ Thaumatichthys ถกู เก็บรวบรวมโดย
ตวั อยา่ งที่วดั ไดส้ ูงถึงประมาณ 50 ซม. Thaumaichthys คณะส�ำ รวจชาวอเมรกิ ันในอินโดนีเซียในปี 1908 และ
axeli ถูกคน้ พบระหวา่ งการสำ�รวจ Galathea ในปี ตั้งชื่อสายพันธว์ุ า่ pagidostomus (“ปากกบั ดัก”) ตวั อยา่ ง
1950–1952 Anton Bruun อธบิ ายว่ามนั เปน็ “การจบั ต่อมาจากมหาสมทุ รแอตแลนติกเหนือถกู วางโดย Regan
ทแี่ ปลกประหลาดทีส่ ดุ ของ Galathea Expedition และ และ Trewavas (1932) ให้เป็นสกลุ ใหม่ Amacrodon โดย
เป็นหนึ่งในสงิ่ มชี วี ิตที่แปลกประหลาดทส่ี ุดในความ พิจารณาจากความแตกต่างของฟนั Bruun มอบหมาย
หลากหลายของโลกของปลา” ตวั อยา่ งท่เี กบ็ รวบรวมโดย Galathea Expedition ในปี
จากการคน้ พบ เชื่อกันวา่ เปน็ ตวั แทนของสกลุ ใหม่ และ 1950–1952 ให้เปน็ สกุลทีส่ าม Galatheathauma (“Gala-
ได้รับชอ่ื Galatheathauma axeli (สกลุ ทตี่ งั้ ช่อื ตามเรอื thea’s Wonder”) เนอ่ื งจากมขี นาดใหญก่ ว่าตัวอย่างก่อน
หนา้ น้ีมาก อย่างไรกต็ าม การตรวจสอบในภายหลงั ของ
71 deep sea monster
ตัวอยา่ งทีท่ ราบ -32 ตวั อยา่ งท่ที ราบในขณะนั้นพบวา่ ความแตกต่างเหลา่ นีเ้ นอ่ื งมาจากอายุ ดงั น้ันจึงมสี กลุ ทถี่ กู ตอ้ ง
เพียงสกุลเดยี วคือ Thaumatichthys ซ่ึงมสี ามชนิด
ญาติสนิทของธอมาติคธสิ คือ Lasiognathus ซงึ่ มีกระดูกขากรรไกรทีข่ ยายใหญข่ น้ึ มฟี ันบน ฟนั บน esca และเพอควิ ลัม
บนทแี่ ตกแขนง นอกจากน้ียงั มีความแตกตา่ งอยา่ งมนี ยั สำ�คัญระหวา่ งสองจ�ำ พวกแมว้ า่ Lasiognathus มลี กั ษณะหลาย
อยา่ งรว่ มกบั ครอบครัว Oneirodidae (ซึง่ กอ่ นหนา้ น้ถี ูกวางไว้) มากกวา่ Thaumaichthys
72 deep sea monster
สี อวยั วะทผ่ี วิ หนงั ) และมักท�ำ ใหส้ ับสน[3] อลิ ลิ ครีบอกทำ�มุม และด้วยครบี องุ้ เชิงกราน ปล่อยให้
เซยี มมีความยาวเท่ากบั กระดูกสันหลังสว่ นหลงั ที่ ปลากบ “เดนิ ” ท่กี ้นทะเลและรักษาตำ�แหนง่ ทมี่ น่ั คง
สอง และมกั มแี ถบสีเขม้ กระดกู สนั หลังส่วนหลงั ที่ ส�ำ หรับการซุม่ โจมตี
สองอยใู่ นแนวตง้ั และเคลื่อนท่ไี ด้ ในขณะทกี่ ระดกู
สนั หลงั ที่สามงอไปทางดา้ นหลงั ล�ำ ตวั พวกเขา
แยกออกจากกนั และจากครีบหลงั อย่างดี[2]
73 deep sea monster
HAIRY FROGFISH
ปลาตวั หนึง่ แหวกวา่ ยอย่ใู นน้ำ�เหนือกลมุ่ ปะการงั บนพ้นื ทะเล ทนั ใดนั้น ส่งิ
มชี ีวติ ทมี่ ขี นดกคล้ายหยดนำ้�ก็โผลอ่ อกมาจากปะการงั จบั ปลาเขา้ ปากแล้ว
กนิ ขนม ส่งิ มีชวี ิตทแ่ี ปลกประหลาดไม่ใช่สัตว์ทะเลในต�ำ นาน แตเ่ ปน็ ปลากบ
มขี นดก และรูปลักษณข์ องมนั ก็ไม่ใชเ่ พียงลกั ษณะแปลก ๆ เพยี งอยา่ งเดียว
เทา่ นัน้
ปลากบมีขนดกเป็นปลาชนดิ หนง่ึ ท่มี ีหนามปกคลุม เงี่ยงเหลา่ นีซ้ ่ึงมีลักษณะ
คลา้ ยเสน้ ผม ทำ�ใหส้ ตั ว์ทะเลสามารถพรางตวั กับปะการงั และสาหร่ายได้ พบ
มากในนา่ นน�้ำ อ่นุ ท่วั โลก ปลากบมีขนสามารถเปลี่ยนสีเพือ่ ให้กลมกลนื กับ
สภาพแวดล้อมได้
สตั วเ์ หลา่ นีอ้ าจซอ่ นตัวอย่ใู นสายตาได้ดีเยีย่ ม อย่างไรก็ตาม พวกเขาท�ำ อะไร
บางอย่างที่ทำ�ใหพ้ วกเขาโดดเด่นกว่าสตั ว์ทะเลอนื่ ๆ มากมาย ปลา—ซง่ึ ปกติจะ
ยาวประมาณสนี่ ้ิว—ไม่วา่ ยน้ำ� แทนทจ่ี ะเดินบนครีบกว้างตามพื้นทะเลเพือ่ มอง
หาขนมกนิ
เมื่อพดู ถงึ มอ้ื อาหาร ปลากบมขี นดกไมจ่ ูจ้ จ้ี ุกจกิ เกินไป พวกเขากินก้งุ และปลา
อื่นๆ เชน่ ปลาลิ้นหมา พวกนี้บางครั้งแอบข้นึ เหยอ่ื ของพวกเขา แตบ่ างคร้ังพวก
เขากท็ �ำ ให้เหย่ือมาหาพวกเขา ปลากบมขี นยาวพิเศษบนครบี หลงั ที่ดเู หมอื น
หนอน ดว้ ยการโบกเหย่อื น้ีไปข้างหน้าปาก พวกเขาสามารถลอ่ เปา้ หมายใน
ระยะทโ่ี ดดเด่น พดู ถงึ สถานการณข์ นดก!
ปลาตวั เล็กตัวน้ีโตได้ยาวถงึ 22 ซม. (8.7 นว้ิ ) เชน่ เดยี วกบั สมาชิกคนอนื่ ๆ ใน
ครอบครวั มนั มีล�ำ ตัวทีโ่ ค้งมนและขยายออกได้ และผวิ หนังทีอ่ ่อนนมุ่ ของมนั
ถกู ปกคลมุ ดว้ ยสปนิ นลู ผวิ หนงั ท่ีจดั เรียงอย่างไม่เป็นระเบียบซ่งึ มีขนคลา้ ยขน
ปากท่ีใหญ่ของมนั ขยายออกไปข้างหน้า ทำ�ให้มนั กลนื เหย่ือท่ีมขี นาดใหญพ่ อๆ
กับตัวมนั เองได้ สขี องล�ำ ตวั น้นั แปรผนั อยา่ งมากเนือ่ งจากปลาแต่ละตวั มักจะ
เขา้ กับสภาพแวดลอ้ มของพวกมนั Frogfishes มีความสามารถในการเปลยี่ นสี
และรปู แบบของเมด็ สี โดยใช้เวลาเพียงไม่กีส่ ปั ดาห์ในการปรับตวั สที ีโ่ ดดเด่น
แตกต่างกนั ไปตั้งแต่สีเหลอื งไปจนถึงสีส้มอมนำ้�ตาล โดยผ่านเฉดสีต่างๆ แตก่ ็
อาจเปน็ สเี ขียว สีเทา สนี ้ำ�ตาล เกอื บขาว หรือแม้แตส่ ดี ำ�สนิทโดยไม่มลี วดลาย
ใดๆ ล�ำ ตัวและครีบสามารถทำ�เครอื่ งหมายดว้ ยแถบสเี ขม้ ขนานกนั อย่างครา่ ว
ๆ หรอื รอยเปอ้ื นท่ยี าวขึ้น บางตัวมรี งั สแี ผอ่ อกมาจากดวงตา[2]
กระดกู สันหลังส่วนหลงั อันแรก อิลลิเซยี ม ทิปไปขา้ งหน้า และดดั แปลงเพื่อ
ใชเ้ หมอื นคันเบด็ ปลายของมันมลี กั ษณะเหมอื น esca (ลอ่ ) ซึง่ เมื่อโบกมอื จะ
ดึงดดู เหย่ือท่ไี ม่สงสัย กระดูกสันหลังสว่ นหลงั ประกอบด้วยสว่ นต่อยาวสองถึง
เจ็ดส่วน เหย่ือล่อเปน็ วิธกี ารแยกแยะ A. striatus กบั Antennarius hispidus ได้
อยา่ งงา่ ยดาย ซึง่ ไม่เช่นนน้ั จะมลี ักษณะทางกายภาพทีค่ ล้ายคลึงกนั (ลายทาง
74 deep sea monster
Hairy frogfish
Chaunax เปน็ สกุลของปลากระดูกในทะเลคางคกตระกูล Chaunacidae [1] พบในมหาสมุทรเขตรอ้ นและกึง่ เขตร้อน
ทว่ั โลก และสปชี ีสส์ ว่ นใหญพ่ บไดท้ รี่ ะดับความลกึ ระหวา่ ง 180 ถงึ 1,100 ม. (590 และ 3,610 ฟุต) แต่ C. endeav-
ouri เกิดขน้ึ ไดต้ ้นื ถงึ 50 ม. (160 ฟุต) และ C. fimbriatus ทล่ี กึ ทีส่ ดุ เทา่ กบั 1,985 ม. (6,512 ฟตุ )[2][3] มีความยาว
รวม 11-40 ซม. (4.3–15.7 นว้ิ ) ทัง้ นี้ข้นึ อยู่กับสายพนั ธุท์ เ่ี ก่ยี วขอ้ ง ปลา Chaunax suttkusi คอ่ นขา้ งจะระบุวา่ เปน็
ปลาตวั กลม บบี เล็กนอ้ ย หางมนเล็ก หัวใหญ่ และตาสูงที่ด้านขา้ งของหวั มันยงั โดดเด่นด้วยสผี วิ ของมัน เป็นสีชมพู
ออ่ นอมชมพู [10] ในขณะท่ีสว่ นบนและลำ�ตวั มจี ุดสีเหลอื งและด้านขา้ งของครีบมสี แี ดง สว่ นใหญจ่ ะพบสมาชิกของ
ปลาอย่ใู กล้พนื้ มหาสมทุ ร ตามแนวปะการงั หอยนางรม พ้ืนนุ่ม และใกล้พนื้ ผิวทเ่ี ป็นโคลน นิสัยการกนิ ของพวก
มนั หมนุ รอบพ้ืนมหาสมทุ ร ซึ่งบางครง้ั อาจพบสัตวท์ ะเลขนาดเลก็ เพียงไม่กช่ี นดิ เทา่ นนั้ เปน็ ผลใหพ้ วกเขาพฒั นา
กลไกการประหยัดพลงั งานเพอื่ ให้สามารถอยูร่ อดได้ด้วยอาหารน้อยลง ตระกูลปลาเป็นนกั ล่าท่ีสมำ�่ เสมอ พวกมัน
เคลื่อนไหวชา้ จนเหย่อื ไม่รูถ้ งึ การมีอยขู่ องมนั ในส่วนลึกของพ้นื มหาสมุทร พวกมันกินเหย่อื เกือบทุกอย่าง เชน่ ปลา
ทะเลตัวเล็ก ๆ ทีอ่ าจเป็นสว่ นหน่ึงของอาหาร
75 deep sea monster
JAPON (PARATYPE OF CHAUNAX ABEI)
76 deep sea monster
COMMERSON’S FROGFISH
ปลากบของคอมเมอร์สันโตได้ถึง 38 ซม. (15 นิ้ว) เช่น
เดยี วกับสมาชกิ คนอนื่ ๆ ในครอบครัว มันมรี า่ งกายที่
เปน็ รูปทรงกลมและขยายได้ ผวิ หนังทีอ่ อ่ นนมุ่ ปกคลมุ
ด้วยสปินนลู ผวิ หนังขนาดเลก็ ผิวของมนั ถูกปกคลมุ
บางส่วนด้วยสว่ นท่ยี ่นื ออกมาคล้ายหดู เลก็ ๆ บางสว่ น
บางส่วนมรี ูปรา่ งแปรผัน มีรอยเหมือนตกสะเก็ด และ
จุดเลก็ ๆ น้อยๆ (ocelli) ท่ีชวนใหน้ ึกถึงรใู นฟองน้�ำ
ปากที่ใหญ่ของมนั จะขยายพันธ์ุ ทำ�ให้กนิ เหย่อื ทีม่ ี
ขนาดใหญ่พอๆ กบั ตวั มนั เอง สขี องพวกมันมีความ
แปรปรวนอย่างมาก เนอื่ งจากพวกมันมกั จะเข้ากับ
สภาพแวดลอ้ ม Frogfish สามารถเปลยี่ นสีไดภ้ ายใน
ไมก่ ่ีสปั ดาห์ อยา่ งไรก็ตาม สีท่โี ดดเด่นจะเปลย่ี นจาก
สีเทาเปน็ สดี ำ� โดยผ่านเฉดสที เ่ี ก่ียวขอ้ งกันทง้ั หมด
เช่น ครีม ชมพู เหลือง แดง และน�้ำ ตาล และมักจะ
มจี ดุ ตากลมหรือจุดที่มสี เี ข้มกวา่ พนื้ หลัง ตัวอย่างเดก็
และเยาวชนสามารถสบั สนไดง้ า่ ยกบั Antennarius
maculatus และ Antennarius pictus ท่เี ก่ยี วขอ้ ง เพอ่ื
แยกความแตกตา่ งของสปชี ีสเ์ หลา่ น้ี A. maculatus มกั
จะมขี อบสแี ดงหรือสสี ม้ บนครบี ทัง้ หมด ในขณะที่ A.
maculatus มหี ูดจ�ำ นวนมากบนผิวหนงั และ A. pictus
ปกคลมุ ดว้ ย ocelli A. pictus มจี ดุ ตาสามจุดบนครบี
หาง [1]
กระดูกสนั หลงั ส่วนหลังสว่ นแรกคอื illicium ถูก
ดดั แปลงเพอื่ ใช้เปน็ คนั เบด็ ส่วนปลายของมนั ถกู
ประดบั ดว้ ย esca (ล่อ) ทม่ี ลี กั ษณะเฉพาะซึง่ คล้ายกับ
ปลาตวั เล็กหรอื ก้งุ ท่มี ีสชี มพูถึงนำ้�ตาล illicium มคี วาม
ยาวเปน็ สองเทา่ ของกระดกู สันหลังสว่ นหลงั ที่สอง
และมกั มแี ถบสีเข้ม กระดกู สนั หลังส่วนหลงั ที่สองตัง้
ตรงและเคล่ือนท่ีได้ กระดูกสันหลังทีส่ ามโคง้ ไปทาง
ด้านหลงั ล�ำ ตัว และทั้งสองขา้ งแนบกบั ศรี ษะอย่างเย่อื
เมือก แยกออกจากกนั และครีบหลงั ไดเ้ ป็นอยา่ งดี
77 deep sea monster
Antennarius commerson อาศยั อยใู่ นนา่ นน�ำ้ เขตร้อนและกงึ่ เขตรอ้ นต้ังแตม่ หาสมุทรอนิ เดียไปจนถึงชายฝง่ั ตะวันออกของ
มหาสมทุ รแปซิฟกิ [3] พบในทะเลสาบและโขดหินและแนวปะการังทก่ี �ำ บัง มกั เก่ยี วขอ้ งกับฟองน้ำ�ขนาดใหญ่ บนเชือกใต้
นำ้� บนเสาท่าเทียบเรอื หรือโครงสร้างใดๆ ท่ลี กึ ถึง 70 ม. (230 ฟุต) โดยเกิดข้ึนโดยเฉลี่ยทีค่ วามลกึ 20 ม. ในฐานะท่ีเป็น
ปลากบท้ังหมด A. hispidus เป็นสตั วก์ ินเนือ้ ท่กี ินเน้อื เปน็ อาหาร ซ่ึงโจมตสี ัตว์ขนาดเล็กใดๆ ทผี่ ่านเขา้ มาในระยะ ส่วนใหญ่
เปน็ ปลาชนิดอ่นื แต่บางคร้ังกเ็ ปน็ สตั ว์กินเนอื้ ด้วย ปลากบของ Commerson มวี ถิ ีชีวติ แบบหนา้ ดินและโดดเดยี่ ว พวกเขา
รวมตัวกันในชว่ งผสมพนั ธุ์ แต่จะไม่ทนกนั อีกตอ่ ไปหลงั จากการปฏสิ นธิ ตวั เมียสามารถฆ่าหรอื กนิ ตวั ผไู้ ด้ถ้าเขาอยูใ่ กล้ ๆ
[2] มนั ใช้สว่ นปลายแบนเล็ก ๆ เปน็ เหยื่อตกปลา ในฐานะท่ีเป็นทุกfrogfishes , A. hispidusเปน็ โลภกินเนอ้ื ซง่ึ การโจมตใี ด
ๆ สตั วข์ นาดเลก็ ทผ่ี า่ นการภายในชว่ งปลาสว่ นใหญอ่ ่นื ๆ แต่บางครัง้ ก็ congeners [2] frogfish ของ Commerson มีวิถีชวี ติ
แบบหน้าดนิ และโดดเดย่ี ว พวกเขารวมตัวกนั ในช่วงเวลาผสมพนั ธุ์ แต่จะไมย่ อมใหแ้ ต่ละอ่นื ๆ มากขนึ้ หลงั จากการกระ
ท�ำ ของการปฏสิ นธิ ตวั เมียสามารถฆ่าหรือกินตัวผ้ไู ด้หากอยใู่ กล้ [2]ใช้สว่ นปลายแบนเลก็ ๆ เปน็ เหย่อื ตกปลา
78 deep sea monster
79 deep sea monster
RED-LIPPED BATFISH
ปลาค้างคาวปากแดงหรือปลาคา้ งคาว
กาลาปากอส (Ogcocephalus darwini) เปน็ ปลา
ทมี่ สี ัณฐานวิทยาท่ีผิดปกตซิ งึ่ พบได้ทวั่ หม่เู กาะ
กาลาปาโกสและนอกประเทศเปรูท่ีระดบั ความ
ลึก 3 ถงึ 76 เมตร (10 ถงึ 249 ฟุต) ปลา
ค้างคาวปากแดงมีความเก่ียวขอ้ งอย่างใกล้ชิด
กบั ปลาค้างคาวปากสดี อกกหุ ลาบ (Ogcocepha-
lus porrectus) ซ่ึงพบได้ใกลก้ บั เกาะโคโคสนอก
ชายฝัง่ แปซฟิ กิ ของคอสตารกิ า ปลาชนดิ นข้ี นึ้
ชื่อเรอื่ งรมิ ฝปี ากสแี ดงสดเปน็ หลัก ปลาแบทฟิ
ชไมใ่ ช่นกั ว่ายนำ�้ ทีด่ ี พวกเขาใชค้ รีบอก กระดูก
เชงิ กราน และทวารท่ปี รับให้เหมาะสมเพือ่ “
เดนิ ” บนพน้ื มหาสมทุ ร เมอื่ ปลาแบทฟชิ เติบโต
เต็มท่ี ครีบหลงั ของมนั จะกลายเป็นโครงคลา้ ย
กระดกู สนั หลงั เดยี ว (คดิ ว่าทำ�หน้าที่เปน็ เหยอ่ื
ลอ่ เหยอื่ เปน็ หลัก) ปลาคา้ งคาวปากแดงยาว
ได้ถงึ 40 เซนติเมตร (16 นิ้ว) [2] สลี ำ�ตัวเป็น
สีน�ำ้ ตาลออ่ นและดา้ นหลงั สีเทาอมเทา โดยมีสี
เคาเตอร์แรเงาดา้ นล่างสขี าว ดา้ นบนของปลา
ตะเพยี นมักมแี ถบสีนำ้�ตาลเขม้ ตงั้ แต่หวั จนถงึ
หาง จมูกและเขาของปลาค้างคาวปากแดงมีสี
น�ำ้ ตาลปน ตามช่ือของปลา ปลาค้างคาวมรี มิ
ฝีปากสีแดงสวา่ งเกอื บเรอื งแสง สขี องสควอเม
ช่นั ของปลาค้างคาวปากแดงมีลักษณะเหมอื น
สีชากรีนทีม่ ีเนอ้ื สัมผัสค่อนขา้ งเรียบ หวั เข็มขัด
ถกู ปกปิดโดยชน้ั ของสปนิ นูลชน้ั ดี เมือ่ เปรียบ
เทียบกับ porrectus ปลาคา้ งคาวปากแดงจะมเี สน้ รอบวงของจานท่ีส้ันกว่า แตม่ ีครีบครีบอกท่ีมีเสน้ ใยสงู กวา่ เกีย่ ว
กับจ�ำ นวนของเกลด็ ตามแนวดา้ นขา้ ง มักจะมเี กล็ดยอ่ ยทส่ี ี่ถงึ เก้า หกถึงเกา้ บนแก้ม โดยปกติ ปลาคา้ งคาวปากแดงมี
กระดูกสนั หลงั ประมาณ 19-20 ตัว[2]
ดา้ นบนของหัวปลาแบทฟชิ มีส่วนของร่างกายพิเศษที่ยน่ื ออกไปด้านนอกทีเ่ รยี กว่าอิลลิเซยี ม หลังจากทปี่ ลาแบทฟิชปาก
แดงโตเตม็ ท่ี ครีบหลังของมนั จะกลายเปน็ เส้นโครงคล้ายกระดกู สนั หลงั ท่ีย่ืนออกมาจากส่วนบนของหัว ปลาคา้ งคาวใช้
อิลลิเซียมเพอื่ ลอ่ เหยื่อให้เขา้ ใกล้[4][แหลง่ ที่ไม่นา่ เชอื่ ถอื ?]
ที่ดา้ นบนของอลิ ลเิ ซียมคือเอสคา เอสกา้ เปลง่ แสงจา้ และเนือ่ งจากปลาเหล่านอี้ าศัยอยใู่ นนำ�้ ลกึ แสงจงึ ล่อปลาตวั อ่ืน
ไปยังตำ�แหนง่ ทีป่ ลาแบทฟชิ อยู่ เอสกา้ ล่อเหยอื่ ไปท่ีปลาแบทฟชิ ซง่ึ จะท�ำ ใหม้ ันกินสิ่งมชี วี ติ เลก็ ๆ เหล่าน้ันท่ตี กลงไปใน
กับดกั ของมนั ปลาค้างคาวปากแดงมีริมฝีปากสีแดงสดมาก ซง่ึ ทำ�ใหผ้ ูค้ นแยกแยะพวกมนั จากปลาค้างคาวตัวอืน่ ได้ นัก
ชวี วิทยาทางทะเลเช่ือว่าริมฝปี ากสแี ดงสดของปลาค้างคาวปากแดงอาจถูกน�ำ มาใชเ้ พอ่ื เพ่มิ การรบั รู้สายพนั ธุร์ ะหว่างการ
วางไข่ เชอ่ื กันวา่ การเผยรมิ ฝีปากสามารถดึงดดู ทางเพศได้
80 deep sea monster
HAPLOPHRYNE
Haplophryne mollis ตัวเมียท่โี ตเต็มวยั จะมขี นาดใหญก่ ว่าตัวผู้ที่โตเตม็ วัยมาก โดยมีความยาวสงู สุด 16 ซม. (6.3 นว้ิ
) แต่ 8 ซม. (3 นิ้ว) นน้ั มคี วามยาวมากกว่าปกติ เช่นเดียวกบั ปลาตกปลาอื่น ๆ ครีบหลังด้านหนา้ จะถกู แทนท่ดี ว้ ยล่อ
(illicium หรือ esca) ทีย่ นื่ ออกมาด้านหนา้ และเหนือปากเพอื่ ดงึ ดดู เหย่ือ แต่ในสายพันธ์ุน้ีประกอบด้วยแผ่นหนงั และไม่มี
“คนั เบด็ ” “. ปลามีการตกแต่งคลา้ ยกระดูกสนั หลงั เหนอื ตาและท่ีมุมกราม หวั มีขนาดใหญแ่ ละเปน็ เหล่ยี ม ปากกวา้ ง
มาก มีฟนั เลก็ จำ�นวนมากในขากรรไกรท้ังสองข้าง ครบี หลังซึ่งไมม่ ีเง่ยี งแต่ประกอบดว้ ยครีบอ่อนสามอนั ตง้ั อยูด่ ้านหลัง
ล�ำ ตวั ครบี ทวารยังมสี ามครีบออ่ นและหางโค้งมน
ไม่เหมือนกับปลาตกเบด็ ทะเลลึกอนื่ ๆ สว่ นใหญ่ H. mollis ไมม่ สี คี ล้�ำ และทัง้ สองเพศมสี ซี ีดและโปรง่ แสง โดยท่กี ลา้ ม
เนอ้ื และส่วนต่างๆ ของโครงกระดูกมองเห็นไดช้ ดั เจนผา่ นผิวหนัง เพศผู้ทมี่ ชี วี ติ อยูอ่ ยา่ งอิสระจะเตบิ โตได้เพยี งประมาณ
2 ซม. (0.8 น้วิ ) และแตกตา่ งจากตัวเมียทีโ่ ตเตม็ วยั และตัวเมียเนื่องจากขาดกระบองสัน้ คลา้ ยฟองสบู่และมีครบี ทค่ี อ่ น
ขา้ งเล็ก ตวั เมยี จะขาดการประดบั ประดาบนศีรษะ เน่ืองจากปลาชนิดนอี้ าศัยอยู่ลึกมาก มนุษย์จึงไม่คอ่ ยพบปลาชนดิ นี้
ในปี 2552 มรี ายงานว่าพบตัวอยา่ งเพศหญิง 88 ตวั อย่าง ตัวอยา่ งประเภทนถี้ กู อธบิ ายโดยนักสตั ววิทยาชาวเยอรมัน
August Brauer ในปี 1902 จากมหาสมทุ รอนิ เดยี ตัวอย่างอีก
ตวั อยา่ งหนงึ่ ของมหาสมุทรอินเดยี คอื ชายที่มชี ีวติ อย่อู ยา่ งอสิ ระ
ซง่ึ ถูกจับไดจ้ ากรัฐเวสเทริ ์นออสเตรเลีย ตวั อยา่ งอ่นื ๆ ถูกลากอวน
มาจากมหาสมุทรแอตแลนติก ทะเลแคริบเบยี น และอา่ วเมก็ ซโิ ก
ระหว่าง 55°N ถงึ 40°S ตวั อยา่ งอ่ืนๆ ถูกพบในมหาสมุทรแปซฟิ ิก
นอกออสเตรเลยี ตะวนั ออก นิวแคลิโดเนีย และนวิ ซีแลนด์ โดยมี
การค้นพบท่ีแยกไดใ้ กลฮ้ าวายและในอ่าวปานามา[4] พบในเขตน้ำ�
ต้ืนและเขตน้�ำ ต้ืนของเขตรอ้ นและกง่ึ เขตร้อนของมหาสมุทรโลกท่ี
ระดบั ความลึกประมาณ 2,250 ม. (7,400 ฟตุ )
81 deep sea monster
82 deep sea monster
TRANSPARENT SEA CUCUMBER
นักวิจัยจากส�ำ มะโนของสง่ิ มีชวี ิตในทะเล มนั ได้! ดแู พลงกต์ อนสัตว์สุดเจง๋ ท่คี น้ พบโดย
ไดค้ ้นพบปลงิ ทะเลใสท่ีผิดปกติน้ี (Enypni- Census of Marine Life หรือเรียนรู้เพ่ิมเติม
astes sp.) ในอา่ วเม็กซิโกทคี่ วามลึก 2,750 เก่ยี วกบั ทะเลลกึ
เมตร มนั คืบคลานไปขา้ งหน้าบนหนวด
ของมันอยา่ งชา้ ๆ ด้วยความเร็วประมาณ 2
เซนตเิ มตรต่อนาที ในขณะท่กี วาดตะกอนที่
อุดมดว้ ยเศษซากเข้าไปในปากของมนั มนั
โปร่งใสมากจนคุณสามารถมองเหน็ ทางเดนิ
อาหารของมนั ทคี่ ดเคี้ยวผา่ นรา่ งกายของ
83 deep sea monster
84 deep sea monster
GLASS SQUID
ทมี นักวิทยาศาสตร์ที่สำ�รวจทอ้ งทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกสามารถบนั ทกึ ภาพเคล่ือนไหวทหี่ าดไู ด้ยากย่ิง
ของ “หมึกแกว้ ” หรือ “หมึกสายแกว้ ” (glass octopus) สัตว์น�้ำ ลกึ ซ่งึ มรี า่ งกายโปรง่ ใสจนมองเห็นอวัยวะภายใน
ทีมนักวจิ ยั จากสถาบนั มหาสมุทรชมดิ ต์ (Schmidt Ocean Institute) บนั ทกึ วดิ ีโอทนี่ า่ ตื่นตาของหมกึ แก้วไวไ้ ด้ในภารกจิ การ
สำ�รวจกน้ มหาสมทุ รเป็นเวลา 34 วนั โดยพวกเขาไดพ้ บเจอกบั หมกึ ชนิดนี้ถึง 2 คร้ังในทะเลลกึ ใกล้กับหม่เู กาะฟีนิกซ์ ซ่งึ
อยูห่ า่ งจากนครซดิ นยี ข์ องออสเตรเลียไปทางตะวันออกเฉียงเหนอื ราว 5,100 กโิ ลเมตรหมึกยกั ษไ์ ดฉ้ ายา “จอมบูลลแ่ี ห่ง
ทอ้ งทะเล” ชอบออกหมัดไล่ตอ่ ยปลาทเ่ี กลยี ดขี้หน้าพันธุวิศวกรรมเลยี นแบบเซลลห์ มกึ กลว้ ย ทำ�ใหเ้ ซลล์มนษุ ย์โปร่งใส
คล้ายล่องหนไดห้ มึกยักษค์ ือเอเลียนจากตา่ งดาวจรงิ หรอื ภาพท่ีได้เผยใหเ้ หน็ หมกึ ทมี่ ีผวิ หนงั โปรง่ ใสราวกับแกว้ จนมอง
เห็นไดเ้ พียงลกู ตา เส้นประสาทตา และระบบย่อยอาหารของมันงานวจิ ัยทตี่ พี มิ พใ์ นวารสารสมาคมชวี วทิ ยาทางทะเลของ
สหราชอาณาจักร เมื่อปี 1992 ระบวุ ่า ดวงตาทรงกระบอกของหมกึ ชนิดน้ีอาจมีววิ ฒั นาการเพอ่ื ใหศ้ ัตรูหรอื เหยือ่ มองเห็น
ไดย้ าก เวลาทม่ี องขน้ึ มาจากด้านลา่ ง ถอื เปน็ กลยุทธใ์ นการพรางตัวอย่างหนึง่ ของพวกมนั หมกึ แก้ว มชี ่ือทางวทิ ยาศาสตร์
วา่ Vitreledonella richardi อาศยั อยูใ่ นทะเลเขตร้อนและเขตกง่ึ รอ้ น ทคี่ วามระดับลกึ 200 - 3,000 เมตรจากผิวน�ำ้
ทะเล โดยจากการศกึ ษาของทมี นักวิทยาศาสตรจ์ ากมหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ ระบุว่ามีการพบหมกึ ชนดิ น้ีในทะเล
แถบอ่าวไทยและทะเลอันดามัน แม้นักวทิ ยาศาสตร์รจู้ ักมันมานานกว่า 100 ปีแลว้ แต่แทบไมเ่ คยมีใครได้เห็นภาพของ
มนั ตอนทยี่ งั มชี วี ิตอย่เู ลย จงึ ท�ำ ให้การศึกษาเกี่ยวกบั สตั ว์ชนดิ นีท้ �ำ ได้ยาก โดยทผ่ี ่านมา นกั วิทยาศาสตร์ตอ้ งศกึ ษาพวก
มันจากซากที่ถูกพบอยู่ในท้องของสัตว์นักล่าด้วยเหตุนี้ทีมวิจัยจึงหวังว่าวิดีโอที่บันทึกได้จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา
วจิ ัย และช่วยให้เราไดท้ ำ�ความเข้าใจเก่ียวกบั หมึกชนิดน้ไี ด้มากข้นึ สำ�หรบั ภารกจิ ครง้ั น้ที มี นักวิทยาศาสตร์ได้ส�ำ รวจกน้
มหาสมทุ รครอบคลมุ พนื้ ที่ 30,000 ตารางกิโลเมตร และพวกเขาบอกวา่ ยงั มอี ะไรอีกมากใหค้ ้นหาในทอ้ งทะเลนางเวน
ดี ชมิดต์ ซงึ่ รว่ มก่อตัง้ สถาบนั มหาสมุทรชมดิ ต์กบั สามี คือ นายเอรกิ ชมดิ ต์ อดตี ซีอีโอบริษทั กูเกลิ กล่าวว่า “การสำ�รวจ
เชน่ น้สี อนให้เราร้วู า่ ท�ำ ไมเราจงึ ตอ้ งเพม่ิ ความพยายามในการฟน้ื ฟู และทำ�ความเข้าใจกับระบบนิเวศทางทะเลของโลกให้
มากข้นึ เพราะหว่ งโซช่ วี ติ อันย่งิ ใหญท่ ีเ่ ร่ิมต้นขึน้ ในมหาสมุทรมคี วามสำ�คญั ตอ่ สขุ ภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์เรา”
86 deep sea monster
THE FLAMINGO TONGUE
SNAIL
สสี ันส้มๆเหลอื งๆของเจา้ หอยเบ้ยี ลิน้ เฟมมงิ โกน้ ้นั ดูสดใส แต่จรงิ ๆแล้วมนั ไมไ่ ดเ้ ปน็ ส่วนนึงของตัว
มนั เอง แต่เป็นเสมอื นเส้อื ผ้าทป่ี กคลมุ มันอยู่ ขนาดตวั ของมนั เฉลี่ยอยทู่ ปี่ ระมาณ 0.98-1.38 น้ิว
เท่านัน้ เอง เราจะพบหอยเบย้ี ล้ินเฟมมิงโกไ้ ด้ท่มี หาสมุทรแอตแลนติกและทะเลคาริบเบยี น เปน็
พนั ธุท์ ีพ่ บไดบ้ อ่ ยทส่ี ุดในสกลุ Cyphoma ซ่ึงอาศัยอยใู่ นนา่ นน�้ำ เขตรอ้ นของมหาสมุทรแอตแลนติก
ตะวนั ตกตง้ั แตน่ อร์ทแคโรไลนาไปจนถงึ ชายฝง่ั ทางเหนอื ของบราซิล รวมท้งั นอกประเทศเบอร์มิ
วดา ในทะเลแครบิ เบียนและอ่าวเมก็ ซโิ ก และนอกชายฝงั่ เลสเซอร์แอนทิลลิส
Cyphoma สามสายพันธุ์ที่เรยี กว่า Cyphoma gibbosum, Cyphoma signatum และ Cyphoma mcgintyi
พบว่ามีความคลา้ ยคลึงกันทางพนั ธกุ รรมแม้วา่ ฟีโนไทป์ของพวกมันจะแนะนำ�เป็นอย่างอน่ื สาย
พันธ์ขุ อง Cyphoma signatum และ Cyphoma mcgintyi สามารถแยกแยะได้จากรูปแบบทแี่ ตกต่าง
กัน ไม่ว่าจะมลี ายปลายน้วิ หรือจดุ สีน้�ำ ตาล อย่างไรกต็ าม หากทง้ั สองสายพันธ์ุถกู จ�ำ แนกตาม
ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยาของพวกมนั ก็จะเปน็ การยากทีจ่ ะแยกแยะพวกมัน เปน็ ทที่ ราบกัน
ดวี ่าจีโนไทป์ของสปชี ีสเ์ หล่านี้มคี วามคล้ายคลงึ กนั มากแม้ว่าฟีโนไทปข์ องพวกมันจะแตกตา่ ง
กนั ดังนน้ั สปีชสี เ์ หลา่ น้จี ึงถูกตัง้ สมมตฐิ านวา่ มีลกั ษณะทางกายภาพท่มี ากอ่ นองคป์ ระกอบทาง
พันธกุ รรมของพวกมัน หอยทากทม่ี ีชวี ติ ปรากฏเป็นสสี ้มเหลืองสดใสและมีเครอื่ งหมายสดี ำ�
อยา่ งไรกต็ าม สีเหลา่ น้ีไมอ่ ยู่ในเปลือก แต่เกิดจากเนื้อเย่อื ของเส้อื คลุมทม่ี ีชวี ติ ซ่งึ มักจะปิดเปลือก
อยูเ่ ท่าน้นั ฝาครอบปกี นกสามารถหดกลบั ได้ ทำ�ให้เหน็ เปลือกได้ แต่สง่ิ นมี้ กั เกดิ ขึ้นเมื่อสัตว์ถกู
โจมตีเท่านนั้
เปลือกหอยมีความยาวเฉล่ยี 25–35 มม. (0.98–1.38 นว้ิ ) โดยมขี นาดต่ำ�สดุ 18 มม. (0.71 น้วิ )
และความยาวเปลือกสูงสดุ 44 มม. (1.7 นว้ิ ) รูปรา่ งมักจะยืดออกและด้านหลังแสดงสันเขาขวาง
87 deep sea monster
หนา พื้นผวิ ด้านหลังเรยี บและเปน็ มนั เงา และอาจเป็นสี ออกมา พวกมนั คอื แพลงกโ์ ทนิกและไปเกาะกับปะการงั
ขาวหรือสสี ้ม โดยไม่มีเครือ่ งหมายใดๆ เลย ยกเว้นแถบ กอรโ์ กเนียนตัวอื่นในท่สี ุด ตวั ออ่ นมกั จะอยใู่ ต้ก่งิ ปะการัง
สีขาวหรือสคี รีมตามยาว ฐานและด้านในของเปลอื ก ในขณะทต่ี ัวเต็มวยั จะมองเห็นไดช้ ัดเจนและเคลอ่ื นไหว
ชะนีมีสขี าวหรอื ชมพู มีรูรับแสงกว้าง ความลกึ ต�่ำ สุดท่ี ได้ไกลกว่า ผู้ใหญ่ขูดตง่ิ เนือ้ ออกจากปะการงั ดว้ ยเรดลู า
บันทกึ ไวค้ ือท่พี ้นื ผิว และความลกึ สูงสุดทบี่ นั ทกึ ไวค้ ือ ท้ิงรอยแผลเป็นจากการป้อนอาหารไวบ้ นปะการงั ไดง้ า่ ย
29 ม.[5] อยา่ งไรก็ตาม ปะการงั สามารถสรา้ งตง่ิ เน้อื ข้ึนมาใหม่ได้
หอยทากลน้ิ นกฟลามิงโกดูดกินโดยการดเู น้ือเย่อื ของ ดงั น้ัน การปล้นสะดมโดย C. gibbosum โดยทัว่ ไปจะไม่
ปะการังออ่ นทม่ี ันอาศยั อยู่ เหยอ่ื ทว่ั ไป ไดแ้ ก่ Briareum เป็นอนั ตรายถงึ ชวี ิต สปีชสี น์ เ้ี คยพบเห็นได้ท่วั ไป แตก่ ลบั
spp. Gorgonia spp. Plexaura spp. และ Plexaurella กลายเปน็ เรอื่ งธรรมดาในพน้ื ทท่ี ี่มีผมู้ าเยือนอย่างหนัก
spp. ตัวเต็มวยั ของ C. gibbosum ติดไข่กบั ปะการังท่เี พงิ่ เน่ืองจากมีนักด�ำ น้ำ�ตนื้ และนกั ดำ�น้ำ�เกบ็ สะสมมากเกนิ ไป
กนิ เขา้ ไป หลงั จากน้นั ประมาณ 10 วนั ตวั อ่อนจะฟกั ซ่ึงทำ�ใหเ้ ข้าใจผิดคดิ ว่าสีสนั สดใสอยู่ในกระดองของสัตว์
88 deep sea monster
89 deep sea monster
DUMBO OCTOPUS
หมึกดัมโบ (อังกฤษ: Grimpoteuthis) เป็นช่ืออย่างไมเ่ ป็นทางการของ
สายพนั ธปุ์ ลาหมึกท่เี พ่ิงได้รบั การค้นพบ โดยอยู่ในสายพันธุ์หมกึ ร่ม
หมึกดัมโบ ไดร้ ับการกล่าวว่าเปน็ ปลาหมึกมีลักษณะคลา้ ยกับผีท่ี
ปรากฏในเกมแพก็ -แมน และบา้ งก็วา่ คล้ายกับตัวละครชือ่ เพริ ์ล ที่
ปรากฏในการ์ตูนเร่อื งนโี ม...ปลาเลก็ หัวใจโต.๊ ..โต รวมถงึ คลา้ ยกบั
ตวั ละครในการต์ ูนโปเกมอน มันจึงไดร้ บั การเรียกชือ่ เลน่ ว่า Adorabi-
lis ซึ่งหมายถงึ “น่ารักและน่าทะนุถนอม จากการสงั เกตพฤตกิ รรม
ในพพิ ธิ ภณั ฑส์ ตั ว์น้�ำ พบว่าพวกมันใช้เวลาแทบท้งั หมดอยบู่ นพ้นื ดนิ
ตะกอน และในเบือ้ งต้นนักวิทยาศาสตร์ได้คาดวา่ อาจใช้เวลาในการ
ฟกั ตวั ออกจากไข่ประมาณ 2 ถงึ 3 ปี โดยพวกมนั วางไขใ่ นระดบั นำ�้
ลกึ 200 ถึง 600 เมตร ในนำ�้ ทีม่ สี ภาพเยน็ จัดที่อุณหภูมิเพียง 6 องศา
เซลเซยี ส เจา้ หมึกดัมโบมลี ักษณะครบี ใหญ่บนลำ�ตัว ตัวของมันจะมี
ความอ่อนนมุ่ และกงึ่ โปร่งแสง ซง่ึ ครีบนีจ้ ะชว่ ยในการวา่ ยนำ้�และการ
ประคองตัว และมีพงั ผดื ระหว่างหนวด เจ้าหมึกดัมโบเคลอ่ื นไหวโดย
กระพอื ครบี อยา่ งชา้ ๆ และพวกมันใชแ้ ขนหรือหนวดของมันบังคบั
ทิศทาง เพือ่ ดนั นำ้�เขา้ ช่องดดู น�้ำ และพน่ ออกมาให้ตัวมนั ลอยข้นึ จน
สามารถมองเห็นเหย่ือ เหยอื่ ของมนั ไดแ้ ก่ หนอน หอยทาก และสัตว์
ทะเลที่ไม่มกี ระดูกสันหลังทงั้ หลาย เมื่อเจอเหย่ือเจา้ หมกึ กจ็ ะโจมตีและ
กนิ เหยื่อทัง้ ตัว ศตั รขู องเจา้ หมกึ ดัมโบมีอย่หู ลายชนิดด้วยความท่ตี วั เลก็
ของเจ้าหมึก แนน่ อนวา่ ศตั รขู องมันกค็ งหนไี มพ่ ้น ฉลาม วาฬเพชรฆาต
ปลาขนาดใหญ่ท้งั หลาย หรอื แม้แต่ปลาหมึกดว้ ยกนั เอง เจา้ หมกึ มวี ธิ ี
การตอ่ สู้เอาตวั รอดด้วยการพ่นน�ำ้ หมึกใสศ่ ตั รเู พอื่ ให้ศัตรูมองไมเ่ หน็
แล้วรีบหนีไปซอ่ นตัวใหเ้ ร็วท่ีสดุ และอีกหนึง่ ความสามารถในการเอา
ตวั รอดของเจ้าหมึกก็คือการเปล่ียนสผี ิวเพือ่ พรางตัว เปน็ อย่างไรบา้ ง
คะกบั หมกึ ดัมโบ ทเ่ี รานำ�มาฝากกัน เรยี กได้วา่ เป็นสตั ว์น้อยนา่ รักทอี่ ยูใ่ ตท้ ้องทะเลลกึ มากอีกชนิดหนึ่ง ทใ่ี คร
เหน็ ก็ต้องเอน็ ดู เพราะเจ้าหมกึ ดมั โบเน่ยี ช่ังนา่ รกั นา่ ทะนุถนอมมากๆ เป็นสัตว์ท่หี ายากและควรแก่การอนรุ ักษ์
ไว้สดุ ๆ ทางเราหวงั วา่ บทความนี้จะถูกใจคนรกั สัตวท์ ะเลทท่ี ง้ั แปลกและหายาก หรอื ผูท้ ตี่ อ้ งการหาข้อมลู ของ
สตั ว์ทะเลอย่างเจ้าหมึกดมั โบนะคะ
90 deep sea monster
CROCODILE ICEFISH
ปลาจระเขน้ �ำ้ แข็ง เปน็ สัตว์มีกระดูกสนั หลงั เพียงชนดิ เดยี วในโลก ที่ ไม่มี ฮีโมโกลบนิ
ย่งิ กวา่ น้ัน กล้ามเนื้อของพวกมนั ทุกส่วน ยกเว้นกล้ามเนือ้ หัวใจ จะไม่มี ไมโยโกลบิน(Myoglobin คือ สารท่ที ำ�ให้กลา้ ม
เน้ือมีสแี ดง และยิ่งมไี มโยโกลบินมากกจ็ ะยงิ่ ท�ำ ใหก้ ลา้ มเนือ้ มีสีแดงเข้มขึน้ ) เปน็ เหตุให้พวกมนั มีรา่ งกายใส
ปลานำ้�แข็งจระเข้ กนิ ตวั เคย(Krill) ตวั โคพีพอดส์(copepods)เปน็ แพลงกต์ อนสตั ว์ และปลา เป็นอาหาร
พวกมนั มีระบบเผาผลาญ(Metabolism) ทอ่ี าศัยเพยี ง ออกซเิ จน ท่ลี ะลายในเลอื ดใสๆของพวกมนั ท่ีมคี วามเชอื่ วา่
ออกซเิ จน จากน้ำ�ถกู ดดู ซึมเข้าทางผิวหนงั ของปลาโดยตรง(ทัว่ ไปปลาจะดดู ซึมออกซิเจนผา่ นเหงอื ก) เนือ่ งจากในน�ำ้
เยน็ จัด ออกซเิ จน สามารถละลายในนำ้�ไดด้ ี และมากกวา่ ปกติมาก
93 deep sea monster
ทีจ่ ริงเจ้าปลาชนดิ น้อี าจดไู มไ่ ด้แปลกอะไร แต่ผมบอกตามตรงนะครบั ถา้ ดูขอ้ มูลลกึ
ๆ แลว้ ก็นา่ แปลกใจอยูไ่ ม่นอ้ ยกับรปู ร่างและโครงสรา้ งทางกายภาพของมนั เพราะฉ
น้ันกอ็ ดใจไมไ่ ด้ทีจ่ ะเก็บมานำ�เสนอใหร้ จู้ ักกนั ครบั เพราะงนั้ วันนีเ้ รามารู้จกั เจา้ ปลา
ประหลาดชนดิ นีก้ นั ปลาน้�ำ แขง็ จระเข้ นีม้ ชี ่ือวิทยาศาสตรว์ ่า Channichthyidae ปลานำ�้
แข็งจระเข้ หรอื ปลาเลือดขาว เป็นปลาท่อี าศัยอยู่ ในนำ้�เย็น ในบริเวณ แอนตารค์ ตกิ ้า
(Antarctica) และ ทางใต้ของอเมรกิ าใต้ ขณะนม้ี ีการคน้ พบและรจู้ กั อยู่ 15 สายพันธุ์
แตท่ ่ีนา่ สนใจสำ�หรับเจา้ ปลาชนิดดงั กล่าวกค็ อื เจา้ ปลาชนิดน้ไี มม่ ี สัตว์มีกระดูกสนั
หลงั เพียงชนิดเดียวในโลก ท่ี ไมม่ ี ฮโี มโกลบนิ ท�ำ ใหเ้ ลอื ดของมันไมเ่ ปน็ สีแดง เหมือน
กบั สง่ มชี ีวิตมีกระดกู สันหลงั ชนิดอ่นื ย่งิ กว่านน้ั กล้ามเนอื้ ของพวกมันทุกส่วน ยกเว้น
กล้ามเน้อื หัวใจ จะไมม่ ี ไมโยโกลบนิ (Myoglobin คือ สารทท่ี �ำ ให้กลา้ มเนือ้ มสี ีแดง
และยงิ่ มไี มโยโกลบนิ มากกจ็ ะย่ิงทำ�ใหก้ ล้ามเน้ือมีสแี ดงเข้มขนึ้ ) เป็นเหตใุ ห้พวกมนั มี
ร่างกายใส ซงึ่ ร่างกายของพวกมันพวก มันมีระบบเผาผลาญสารอาหาร(Metabolism)
ทอ่ี าศัยเพียง ออกซิเจน ที่ละลายในเลอื ดใสๆของพวกมัน และนอกจากนี้ ออกซเิ จน
จากน�้ำ จะถูกดูดซึมเข้าทางผิวหนงั ของปลาโดยตรงซงึ่ ไม่จ�ำ เปน็ ต้องผ่านเหงือกเหมอื น
ปลาชนดิ อืน่ เนื่องจากในนำ้�เยน็ จัด ออกซเิ จน สามารถละลายในน�้ำ ไดด้ ี และมากกวา่
ปกติมาก ปลาน�ำ้ แข็งจระเข้ น้มี ีชอื่ วิทยาศาสตรว์ า่ Channichthyidae ปลาน้ำ�แข็งจระเข้
ขณะนี้มกี ารคน้ พบและรจู้ ักอยู่ 15 สายพันธุ์
พวกมนั ได้รบั ช่ือมาว่า ปลานำ�้ แข็งจระเข้ เนอ่ื งจากมีแหลง่ ทอ่ี ยู่อาศัย ในน�้ำ เย็น ใน
บรเิ วณ แอนตารค์ ตกิ า้ (Antarctica) และ ทางใตข้ องอเมริกาใต้
บา้ งกม็ ีการเรียกชอ่ื ปลาน�ำ้ แข็งจระเข้ วา่ ปลาเลอื ดขาว เนื่องจากพวกมนั มเี ลอื ดท่ีใส
เหมือนน้ำ� เน่อื งจากในเลือด ของ ปลานำ�้ แขง็ จระเข้ นัน้ ไม่มี ฮโี มโกลบนิ (Hemoglobin)
และหรือ ไมม่ ีเม็ดเลอื ดแดง(defunct erythrocytes ผมไม่แน่ใจวา่ แปลถกู หรือเปล่าอันนี้
นะครบั )
94 deep sea monster
WHALEFISH
เวลฟชิ (Whalefish) เป็นปลาทะเลลึกจดั อยใู่ นวงศ์ Cetomimidae ซงึ่ มีอยูป่ ระมาณ 30 สายพนั ธยุ์ ่อย ปกติแลว้ มคี วาม
ยาวลำ�ตวั ประมาณ 20 เซนตเิ มตร บางสปีชสี ์สามารถยาวไดถ้ ึง 40 เซนติเมตร อาศยั อยใู่ ตท้ ะเลลึกลงไปตัง้ แต่ 1 -
3.5 กโิ ลเมตร ซึง่ เป็นพืน้ ทมี่ ดื มิด เพราะแสงอาทิตย์ส่องลงไปไม่ถงึ พวกมนั เกิดมาพรอ้ มดวงตาทเ่ี ลก็ มากและเกือบ
บอด ท�ำ ให้มันไรศ้ ักยภาพในการมองเห็น
แต่มนั มีส่งิ พิเศษทแ่ี ลกมา น่นั กค็ อื ปุ่มรบั ความรู้สึก (Sensory pores) ที่มีขนาดใหญ่มาก ไลย่ าวตงั้ แตห่ ัวจรด
ขา้ งล�ำ ตวั คล้ายกบั เกลด็ ของจระเข้ ซง่ึ ปุม่ ข้างล�ำ ตวั นี้ท�ำ ใหป้ ลาเวลฟชิ สามารถตรวจจับแรงสนั่ สะเทือนในนำ้�ได้ ทำ�ให้
มันสามารถรบั รแู้ ละแยกแยะไดเ้ ม่อื มีอะไรเขา้ มาใกลต้ วั ไมว่ า่ จะเปน็ เหยื่อหรือนักล่า เวลฟิชมีลำ�ตัวสแี ดงสดใส แต่ใน
ทะเลลกึ ระดบั ที่แสงไม่สามารถสอ่ งไปถงึ ไดน้ นั้ คลน่ื ความถแ่ี สงของสแี ดงจะถกู ดูดกลืนหายไป และสแี ดงเขม้ นีช้ ่วย
ใหม้ ันหลบหนนี กั ลา่ ได้อยา่ งงา่ ยดาย เพราะเม่ืออยู่ในระดบั น้�ำ ทีล่ ึกขนาดน้ัน สแี ดงก็คือสีด�ำ เวลฟชิ จึงเหมอื นปลาที่
หายตัวในความมดื มิดแหง่ ท้องทะเลลึก แตท่ �ำ ไมมนั ถงึ ชอ่ื ว่า Whalefish กนั ล่ะ นัน่ เปน็ เพราะนกั สมุทรศาสตรค์ น้ พบ
97 deep sea monster