1
แผนการจดั การเรยี นรู้
มุ่งเน้นสมรรถนะอาชพี และบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
รหัสวิชา 30102-2006 ชอ่ื วิชามาตรวิทยาอตุ สาหกรรม
ท-ป-น (2-2-3)
หลักสูตรประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชั้นสูง (ปวส.) พทุ ธศักราช 2563
ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขาวชิ าเทคนคิ การผลิต
จดั ทาโดย
วา่ ท่ีร้อยเอกรงุ่ สวา่ ง บญุ หนา
ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ
ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
แผนกวชิ าชา่ งกลโรงงาน วิทยาลยั การอาชีพศรีสะเกษ
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
2
การตรวจสอบและอนุญาตใหใ้ ชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้
รหัสวิชา 30102-2006 ช่ือวชิ า มาตรวทิ ยาอตุ สาหกรรม ท-ป-น (2-2-3)
หลกั สตู ร ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชนั้ สูง พทุ ธศักราช 2563
ประเภทวิชา อตุ สาหกรรม สาขาวิชา เทคนิคการผลิต
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ครผู ู้สอน วา่ ที่ร้อยเอกรงุ่ สวา่ ง บุญหนา
ได้จดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้ตามข้อกาหนดของสถานศกึ ษา ดังน้ี
มกี ารวเิ คราะหห์ ลักสูตรรายวิชา เพอื่ กาหนดหนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่มุง่ เน้นสมรรถนะอาชีพ (หนา้ 6-7)
แผนการจัดการเรียนรู้มีการบูรณาการคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์
และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (หน้า 10)
แผนการจัดการเรียนรู้มกี ารกาหนดรปู แบบการเรียนรู้สู่การปฏิบัติและกิจกรรมการจัดการเรียนรู้
ท่หี ลากหลาย เชน่ Questioning Method, CIPPA Model เป็นตน้ (หน้า 11)
แผนการจัดการเรียนรู้มีการกาหนดการใช้สื่อ เคร่ืองมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีการจัดการ
เรยี นรทู้ เี่ หมาะสม และนามาใชใ้ นการจัดการเรียนการสอน (หน้า 12)
แผนการจัดการเรียนรู้มีการกาหนดแนวทางการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง ด้วยรูปแบบ
วธิ กี ารที่หลากหลาย (หน้า 13)
ลงช่ือวา่ ทร่ี อ้ ยเอก...........................................ครูผ้สู อน
(รุ่งสวา่ ง บญุ หนา)
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ
ได้ตรวจสอบแผนการจัดการเรยี นรู้แล้ว
เปน็ ไปตามข้อกาหนดของสถานศึกษา ควรอนุญาตใหใ้ ช้ในการสอนได้
ควรปรบั ปรงุ เก่ียวกบั
............................................................................................................................. ............................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
ลงช่ือว่าที่ร้อยเอก...........................................
(รุ่งสว่าง บุญหนา)
หวั หนา้ แผนกวชิ าช่างกลโรงงาน
3
ตรวจสอบแล้ว พบว่า
เปน็ ไปตามขอ้ กาหนดของสถานศึกษา ควรอนญุ าตให้ใชใ้ นการสอนได้
มรี ายละเอยี ดอ่ืน ๆ ที่ครผู ู้สอนจัดทาเพิม่ เติม เชน่ มีการปรับประยกุ ต์หลกั สตู รรายวิชา
(ตัวอยา่ ง หนา้ ................)
อ่นื ๆ................................................................................................................................................
ลงช่ือว่าที่ร้อยเอก...........................คณะกรรมการตรวจสอบ
(รงุ่ สว่าง บญุ หนา)
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะครชู านาญการพิเศษ
ไดต้ รวจสอบแผนการจดั การเรียนรู้แล้ว
เหน็ ควรอนญุ าตให้ใชใ้ นการสอนได้
ควรปรับปรุงดงั เสนอ
ลงช่อื ...........................................
(นางเอมอร ภมู ิภกั ดิ์)
หวั หนา้ งานพัฒนาหลกั สูตรการเรียนการสอน
เหน็ ควรอนุญาตให้ใช้ในการสอนได้
ควรปรบั ปรงุ ดังเสนอ
อืน่ ๆ
........................................................................................ ...................................................... ...........
................................................................................................................................................................
ลงช่ือ...........................................รองผอู้ านวยการฝาุ ยวิชาการ
(นายสายนั ต์ กุลรัตน์)
วันท่ี .............. เดือน ………………. พ.ศ. ................
อนญุ าต
ไม่อนุญาต เนอ่ื งจาก
........................................................................................ .........................................................
................................................................................................................................................................
ลงชื่อ............................................. ผูอ้ านวยการวิทยาลยั การอาชีพศรีสะเกษ
(นายไพบูลย์ มศี ิลป์)
วนั ท่ี .............. เดือน ………………. พ.ศ. ..................
1
คานา
แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเล่มนี้
จัดทาข้ึนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นแนวทางในจัดการเรียนการสอน วิชามาตรวิทยาอุตสาหกรรม
รหสั 30102-2006 ท-ป-น (2-2-3) ตามหลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพชน้ั สูง พทุ ธศักราช 2563 ประเภท
วิชาอุตสาหกรรม สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประกอบด้วย ข้ันตอนการสอน กระบวนการ
เรียนการสอนและกจิ กรรมในการจดั การเรียนการสอน
แผนการเรยี นร้นู ้ีประกอบด้วยรายละเอยี ดตา่ ง ๆ ของรายวิชา โดยแบ่งเน้ือหาออกเป็น 10 หน่วย
การเรียนรู้ ใช้เวลาในการสอน 72 ชั่วโมง/ภาคเรียน (สอบกลางภาคและปลายภาค 8 ชั่วโมง) วิธีที่ใช้สอน
มีหลากหลายวิธี เช่น Questioning Method, Active Learning, Cooperative Learning, CIPPA
Model, The use of Community activities เป็นต้น งานที่มอบหมายให้ทาจะมีลักษณะงานเดี่ยวและ
งานกลุ่ม โดยมีส่ือการสอนท่ีหลากหลายตามบริบทของสถานศึกษา มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งใน
ห้องเรียน นอกหอ้ งเรยี น และบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกบั รายวิชาอืน่ ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
ขอขอบคุณ ผู้มีส่วนในการให้คาแนะนาการจัดทาแผนการเรียนรู้ทุกท่าน หวังว่าแผนการเรียนรู้
เล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ท่ีทาการสอนในรายวิชามาตรวิทยาอุตสาหกรรมและผู้ท่ีสนใจ หากมี
ข้อเสนอแนะประการใด ผูจ้ ดั ทายินดนี ้อมรบั ไวด้ ้วยความขอบคณุ ยิ่ง
วา่ ท่ีร้อยเอกรุ่งสว่าง บุญหนา
สารบัญ 2
คานา หนา้
สารบัญ
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ า 1
การวเิ คราะหส์ มรรถนะการเรียนรู้ 2
ตารางวเิ คราะห์หลักสตู รรายวชิ า
กาหนดการจดั การเรียนรู้ 3
การวดั ผลและประเมินผลการเรียนรู้ 4
แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายหน่วย 6
7
หนว่ ยท่ี 1 หลักการวัด 8
หน่วยที่ 2 มาตรฐานการวดั
หน่วยที่ 3 นยิ ามศัพทม์ าตรวทิ ยา 9
หน่วยที่ 4 การสอบเทียบเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ 14
หนว่ ยท่ี 5 การสอบเทียบเวอร์เนยี ร์ไฮเกจ 19
หนว่ ยที่ 6 การสอบเทียบไมโครมเิ ตอร์ 23
หนว่ ยที่ 7 การสอบเทยี บนาฬิกาวัด 29
หน่วยที่ 8 การสอบเทยี บไดอลั เทสอนิ ดเิ คเตอร์ 34
หนว่ ยท่ี 9 หลักการทางานของเคร่ืองมือวดั สามแกน (CMM) 40
หนว่ ยท่ี 10 กฎหมายและพระราชบญั ญัติเกี่ยวกับการชัง่ ตวงวัด 44
49
53
3
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชา
มงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชีพและบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
หลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพช้ันสูง พุทธศกั ราช 2563
ประเภทวชิ า อตุ สาหกรรม สาขาวิชา เทคนิคการผลิต
รหสั วชิ า 30102-2006 ชอื่ วิชา มาตรวทิ ยาอุตสาหกรรม
ท-ป-น (2-2-3) ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
จดุ ประสงคร์ ายวชิ า
1. เข้าใจประวตั ิความเป็นมาและความสาคญั ของการวัด มาตรฐานการวดั ระบบหน่วยวดั
ความหมายของสัญลักษณ์ GD&Tและหลกั การทางานของเครื่องมือวัดสามแกน (CMM)
2. ใชเ้ ครื่องมอื วัด บารุงรกั ษาเครื่องมือวัดและอปุ กรณ์ ตลอดจนสอบเทยี บเครื่องมอื วดั ดา้ นมติ ิ
3. มีกจิ นิสยั ในการทางานดว้ ยความประณีต รอบคอบ ปลอดภยั มีความตระหนักถึงคุณภาพของงาน
การสรปุ รายงานผลการวัด
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความร้เู กีย่ วกับประวัตคิ วามเปน็ มาและความสาคัญของการวัด การสอบเทียบในงานมาตร
วิทยาบทบาทความสาคญั ของกฎหมายและพระราชบญั ญัติเกยี่ วกบั การช่ังตวงวดั ของประเทศไทย
มาตรฐาน ISO 9000 ISO 14000 และHACCP
2. ความรู้เกยี่ วกับหลักการวดั มาตรฐานการวัด ระบบหน่วยวดั ความหมายของสัญลักษณ์ GD&T
นยิ ามศพั ทม์ าตรวทิ ยา วิธกี ารวดั ค่าความผดิ พลาดในการวัด ใช้สถิตใิ นการวัด ตรวจสอบ หาคา่ ความไม่
แนน่ อน (Uncertainty) มาตรฐาน ISO/IEC 17025
3. ใชแ้ ละบารงุ รักษาเครอื่ งมือวดั ดา้ นมติ ิ
4. สอบเทยี บเคร่อื งมือวัดด้านมิติ ตามข้นั ตอนสอบเทียบ (Calibrate Procedures) บารุงรกั ษา
เครื่องมือและอุปกรณ์
คาอธบิ ายรายวิชา
ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและความสาคัญของการวัด การสอบเทียบในงาน
มาตรวิทยา บทบาทความสาคัญของกฎหมายและพระราชบัญญัติเก่ียวกับการชั่งตวงวัดของประเทศไทย
มาตรฐาน ISO 9000 ISO 1400 และ HACCP หลักการวัด มาตรฐานการวัด ระบบหน่วยวัด ความหมาย
ของสัญลักษณ์ GD&T นิยามศัพท์มาตรวิทยา วิธีการวัด ค่าความผิดพลาดในการวัด ใช้สถิติในการวัด
ตรวจสอบ หาค่าความไมแ่ นน่ อน (Uncertainty) มาตรฐาน ISO/IEC 17025 สาหรับห้องปฏิบัติการ การ
รักษาสภาพแวดลอ้ มของห้องปฏิบัตกิ าร การใชแ้ ละบารุงรกั ษาเคร่ืองมือวัดด้านมิติ สอบเทียบเครื่องมือวัด
ดา้ นมติ ิ ตามขนั้ ตอนสอบเทียบ (Calibrate Procedures) บารุงรกั ษาเครอ่ื งมือและอุปกรณ์
4
รหสั วิชา 30102-2006 การวิเคราะห์สมรรถนะการเรียนรู้ ท-ป-น (2-2-3)
ชื่อวิชา มาตรวทิ ยาอุตสาหกรรม
ช่อื หน่วย สมรรถนะการเรียนรู้
หน่วยท่ี 1 หลกั การวดั 1. แสดงความรู้เก่ียวกับหลักการวัด
2. ปฏิบตั ิกิจกรรมเกี่ยวกับหลักการวดั
หนว่ ยที่ 2 มาตรฐานการวัด 3. แสดงพฤติกรรมเป็นผู้มีความรู้ คุณธรรม จริยธรรม ใน
ดา้ นความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย สนใจใฝุรู้ ตรงต่อเวลา
หน่วยท่ี 3 นยิ ามศัพท์มาตรวทิ ยา และมีสมั มาคารวะ
1. แสดงความรู้เกย่ี วกบั มาตรฐานการวดั
หน่วยท่ี 4 การสอบเทียบ 2. ปฏบิ ัติกิจกรรมเก่ยี วกับมาตรฐานการวัด
เวอรเ์ นยี ร์คาลิปเปอร์ 3. แสดงพฤติกรรมเปน็ ผู้มีความรู้ คุณธรรม จริยธรรม ใน
หนว่ ยท่ี 5 การสอบเทียบ ดา้ นความรบั ผิดชอบ มรี ะเบยี บวนิ ยั สนใจใฝุรู้ ตรงต่อเวลา
เวอร์เนยี ร์ไฮเกจ และมีสมั มาคารวะ
หน่วยที่ 6 การสอบเทยี บไมโครมิเตอร์ 1. แสดงความรู้เกย่ี วกับนิยามศัพทม์ าตรวทิ ยา
หนว่ ยท่ี 7 การสอบเทียบนาฬิกาวัด 2. ปฏิบตั ิกิจกรรมเก่ยี วกับนิยามศัพทม์ าตรวิทยา
3. แสดงพฤติกรรมเปน็ ผมู้ ีความรู้ คุณธรรม จรยิ ธรรม ใน
ดา้ นความรบั ผดิ ชอบ มรี ะเบยี บวินยั สนใจใฝรุ ู้ ตรงตอ่ เวลา
และมีสัมมาคารวะ
1. แสดงความรู้เก่ยี วกับการสอบเทียบเวอร์เนียร์คาลปิ เปอร์
2. ปฏิบตั ิการการสอบเทยี บเวอร์เนยี รค์ าลปิ เปอร์
3. บารุงรักษาเวอรเ์ นยี ร์คาลปิ เปอร์
1. แสดงความรู้เกย่ี วกับการสอบเทยี บเวอรเ์ นียร์ไฮเกจ
2. ปฏิบตั ิการการสอบเทยี บเวอร์เนียร์ไฮเกจ
3. บารุงรักษาเวอร์เนยี ร์ไฮเกจ
1. แสดงความรู้เก่ียวกับการสอบเทียบไมโครมิเตอร์
2. ปฏิบตั ิการการสอบเทียบไมโครมิเตอร์
3. บารุงรักษาไมโครมเิ ตอร์
1. แสดงความรู้เกี่ยวกับการสอบเทยี บนาฬกิ าวัด
2. ปฏิบัติการการสอบเทียบนาฬิกาวัด
3. บารุงรกั ษาเครื่องมอื วดั นาฬกิ าวัด
5
รหสั วิชา 30102-2006 การวิเคราะหส์ มรรถนะการเรยี นรู้ ท-ป-น (2-2-3)
ชือ่ วิชา มาตรวิทยาอุตสาหกรรม
ช่อื หน่วย สมรรถนะการเรียนรู้
หนว่ ยที่ 8 การสอบเทยี บไดอัลเทสอินดเิ คเตอร์ 1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั การสอบเทยี บ
ไดอลั เทสอินดิเคเตอร์
2. ปฏิบัติการการสอบเทยี บไดอัลเทสอินดิเคเตอร์
3. บารุงรกั ษาเคร่ืองมือวดั ไดอลั เทสอินดเิ คเตอร์
หน่วยที่ 9 หลกั การทางานของเครื่องมือวดั 1. แสดงความรู้เกีย่ วกับหลักการทางานของเคร่ืองมอื
สามแกน (CMM) วดั สามแกน (CMM)
2. ปฏิบตั ิกจิ กรรมเกย่ี วกับหลักการทางานของ
เครื่องมือวดั สามแกน (CMM)
3. บารงุ รกั ษาเครื่องมอื วดั เคร่ืองมือวดั สามแกน
(CMM)
หนว่ ยท่ี 10 กฎหมายและพระราชบญั ญัติ 1. แสดงความรู้เก่ียวกับกฎหมายและพระราชบัญญัติ
เก่ยี วกบั การช่งั ตวงวดั เก่ยี วกับการชัง่ ตวงวดั
2. ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเกี่ยวกับกฎหมายและ
พระราชบัญญัติเกี่ยวกับการช่งั ตวงวัด
3. แสดงพฤติกรรมเปน็ ผูม้ ีความรู้ คุณธรรม จรยิ ธรรม
ในดา้ นความรบั ผดิ ชอบ มีระเบียบวินยั สนใจใฝรุ ู้ ตรง
ตอ่ เวลา และมสี มั มาคารวะ
รหัสวิชา 30102-2006 ตารางวเิ คราะห์หลกั สตู รรายวิชา 6
ท-ป-น (2-2-3)
ชอื่ วิชา มาตรวิทยาอุตสาหกรรม
พทุ ธพิ ิสยั (30%)
พฤติกรรม ความรู้
ความเ ้ขาใจ
ชือ่ หน่วย การนาไปใช้
การ ิวเคราะห์
การสังเคราะห์
การประเมินค่า
ทักษะพิ ัสย (50%)
ิจตพิ ัสย (20%)
รวม (100%)
ลาดับความสาคัญ
จานวน ่ัชวโมง
1. หลักการวัด 111 - - - 2 5 84
2. มาตรฐานการวดั 111 - - - 2 5 8 12
3. นิยามศัพท์มาตรวทิ ยา 211 - - - 2 6 78
4. การสอบเทยี บเวอร์เนยี ร์คาลิปเปอร์ - 1 1 1 - - 12 2 17 1 8
5. การสอบเทียบเวอร์เนียร์ไฮเกจ - 11 - - 9 2 13 4 8
6. การสอบเทียบไมโครมิเตอร์ - 1 1 1 - - 11 2 16 2 8
7. การสอบเทียบนาฬกิ าวดั - 11 - - 8 2 12 5 4
8. การสอบเทยี บไดอลั เทสอินดเิ คเตอร์ - 1 1 1 - - 10 2 15 3 4
9. หลักการทางานของเครอ่ื งมอื วดั สามแกน (CMM) 2 2 1 - - - - 2 7 6 4
10. กฎหมายและพระราชบญั ญตั เิ ก่ียวกบั การชั่งตวงวัด 1 1 - - - - - 2 4 9 4
สอบกลางภาคเรียน -- -- - - - - - - 4
สอบปลายภาคเรียน -- -- - - - - - -4
รวม 7 11 9 3 - - 50 20 100 72
ลาดบั ความสาคัญ 2 13
หมายเหตุ ทกั ษะพสิ ยั จติ พสิ ัย
พทุ ธพิ ิสัย 1. เลียนแบบ 1. รับรู้
2. ทาได้ตามแบบ 2. ตอบสนอง
1. ความรู้ 3. ทาได้ถูกต้อง แม่นยา 3. เหน็ คณุ ค่า
2. ความเขา้ ใจ 4. ทาไดต้ ่อเนอื่ ง ประสาน 4. จัดระบบคณุ ค่า
3. การนาไปใช้ 5. ทาได้อย่างเป็นธรรมชาติ 5. พัฒนาเปน็ ลักษณะนสิ ยั
4. การวเิ คราะห์
5. การสงั เคราะห์
6. การประเมนิ ค่า
7
รหสั วิชา 30102-2006 กาหนดการจดั การเรยี นรู้ ท-ป-น (2-2-3)
ชอื่ วิชา มาตรวทิ ยาอตุ สาหกรรม
หน่วยที่ ชอ่ื หน่วย/รายการสอน สัปดาหท์ ี่ ช่วั โมงท่ี จานวนชว่ั โมง
1 1-4 4
1 หลกั การวดั 2 5-8 4
3 9-12 4
2 มาตรฐานการวัด 4-6 13-24 12
7-8 21-32 8
3 นิยามศัพท์มาตรวทิ ยา 9 33-36 4
37-44 8
4 การสอบเทียบเวอรเ์ นียร์คาลิปเปอร์ 10-11 45-52 8
12-13 53-60 8
5 การสอบเทียบเวอร์เนยี ร์ไฮเกจ 14-15 61-64 4
16 65-68 4
สอบกลางภาคเรยี น 17 69-72 4
18 72
6 การสอบเทียบไมโครมเิ ตอร์
7 การสอบเทียบนาฬิกาวดั
8 การสอบเทียบไดอัลเทส
9 หลกั การทางานของเคร่ืองมือวดั สามแกน (CMM)
10 กฎหมายและพระราชบญั ญัติเกยี่ วกบั การชั่งตวงวัด
สอบปลายภาคเรยี น
รวม
8
รหัสวชิ า 30102-2006 การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ท-ป-น (2-2-3)
20 คะแนน
ชอ่ื วิชา มาตรวทิ ยาอุตสาหกรรม
10 คะแนน
1. คะแนนคุณธรรม จริยธรรม คะแนนระหวา่ งเรียน 70 คะแนน 20 คะแนน
1.1 มีความรับผดิ ชอบ 30 คะแนน 20 คะแนน
1.2 มรี ะเบยี บวนิ ัย 4 คะแนน
1.3 สนใจใฝรุ ู้ 4 คะแนน
1.4 ตรงตอ่ เวลา 4 คะแนน
1.5 มีสมั มาคารวะ 4 คะแนน
4 คะแนน
2. แบบฝกึ หดั
3. ใบงาน คะแนนสอบปลายภาค
4. สอบกลางภาค
0-49 คะแนน ระดบั คะแนน ระดบั ผลการเรียน ระดบั คะแนน 1
55-59 คะแนน ระดบั คะแนน 0 50-54 คะแนน ระดบั คะแนน 2
65-69 คะแนน ระดบั คะแนน 1.5 60-64 คะแนน ระดบั คะแนน 3
75-79 คะแนน ระดบั คะแนน 2.5 70-74 คะแนน ระดับคะแนน 4
3.5 80-100 คะแนน
หมายเหตุ วิชาทฤษฎแี ละปฏิบัติ คะแนนระหว่างเรียน : คะแนนปลายภาค 70 : 30
9
แผนการจดั การเรยี นรู้
ม่งุ เน้นสมรรถนะอาชพี และบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
รหัสวชิ า 30102-2006 ช่อื วชิ า มาตรวทิ ยาอุตสาหกรรม ท-ป-น (2-2-3)
หน่วยท่ี 1 ชอ่ื หน่วย หลักการวดั
จานวน 4 ชว่ั โมง ชัว่ โมงที่ 1-4 สัปดาห์ท่ี 1
สาระสาคัญ
การวัด คือ การใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ ชุดปฏิบัติการเพื่อการตัดสินค่าปริมาณที่ถูกวัดด้วยการ
เปรยี บเทยี บจากคา่ มาตรฐานหรอื เครอื่ งมือวัดใหท้ ราบวา่ ขนาดของช้นิ งานน้นั ๆมีขนาดจรงิ เท่าใด
การวัดมีความสาคัญและจาเป็นต่อชีวิตประจาวันอย่างมากในทุกยุคทุกสมัย จาเป็นอย่างย่ิงที่
จะต้องศกึ ษาพน้ื ฐานการวดั ละเอียดเพ่อื ทจี่ ะสามารถวัดขนาดชนิ้ งานได้อย่างถูกตอ้ ง
หัวข้อเร่อื ง
1. ความเปน็ มาของการวดั
2. ประเภทของเครื่องมอื วัด
3. ระบบหนว่ ยการวัด
4. การแปลงค่าระหวา่ งหน่วยการวัด
5. กฎการใช้เครื่องมอื วัด
สมรรถนะย่อย
1. แสดงความรู้เก่ียวกบั พน้ื ฐานการวดั ประวัติการวดั ,ชนดิ เครือ่ งมือวดั ,ระบบการวัด การ
บารงุ รักษาเครอื่ งมอื วัด
2. ปฏิบัติกจิ กรรมเกย่ี วกับพ้นื ฐานการวดั
3. แสดงพฤติกรรมเป็นผู้มีความรู้ คุณธรรม จริยธรรม ในด้านความรับผิดชอบ มรี ะเบียบวนิ ัย
สนใจใฝรุ ู้ ตรงตอ่ เวลา และมีสัมมาคารวะ
10
จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
1. บอกความเปน็ มาของการวัดได้
2. อธบิ ายวิธีจาแนกประเภทของเคร่ืองมือวดั ได้
3. อธบิ ายระบบหน่วยการวัดได้
4. สามารถคานวณการแปลงคา่ ระหว่างหนว่ ยการวัดได้
5. บอกกฎการใช้เคร่อื งมือวัดได้
การบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
3. ห่วง
1. พอประมาณ
1.1 ใชว้ ัสดุอปุ กรณ์อยา่ งประหยัด
1.2 ใชว้ สั ดอุ ุปกรณใ์ หเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ
1.3 เลือกใชว้ สั ดุให้เหมาะสมกับการนาไปใช้งาน
2. มีเหตผุ ล
2.1 นาความรทู้ ่ีมีไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวนั
2.2 วเิ คราะห์ และนาความรูไ้ ปปฏบิ ัตไิ ด้ถกู ต้อง
3. มภี ูมิคุม้ กัน
3.1 ปฏบิ ตั งิ านตามหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมาย
3.2 ปฏบิ ตั งิ านด้วยความรอบคอบ และเป็นระเบียบเรยี บร้อย
3.3 คานงึ ถึงความปลอดภัยในการปฏบิ ัติงาน
2. เงอ่ื นไข
1. ความรู้
1.1 รอบรู้ มีความรู้ มีทกั ษะ เกี่ยวกับความรู้พ้นื ฐานการวัดละเอยี ด
1.2 รอบคอบ มีการวางแผน การคดิ วเิ คราะหก์ ารปฏิบตั ิงานอยา่ งมีเหตุผล
1.3 ระมัดระวัง ใชเ้ ครื่องมือในการปฏิบตั ิงานตามระเบียบ และคาแนะนาของผ้สู อน
2. คุณธรรม
เปน็ ผทู้ ม่ี ี ความรบั ผิดชอบ ระเบยี บวินยั สัมมาคารวะ ตรงตอ่ เวลา และสนใจใฝรุ ู้
11
กิจกรรมการเรยี นการสอน
สปั ดาห์ที่ 1
ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรยี น – ปฐมนเิ ทศ
1. ครูชี้แจงเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ ในรายวิชา เช่น คาอธิบายรายวิชา การแบ่งเนื้อหาการ
เรียน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล และข้อตกลงต่าง ๆ ในการเรียนรายวิชามาตรวิทยาอุตสาหกรรม
หลงั จากนั้นให้นักศึกษาสอบถามเพื่อเป็นการปรับความเข้าใจให้ตรงกัน และเพื่อเป็นการสร้างข้อตกลงใน
การเรียนการสอนรว่ มกัน
2. ครูช้ีแจงนกั ศึกษาถงึ วตั ถุประสงคข์ องการทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและวธิ ีการทาแบบทดสอบ
3. ครูใหน้ ักศึกษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน
4. ครูตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
5. ครูแจ้งคะแนนการทาแบบทดสอบก่อนเรียน และทาความเข้าใจกับนักศึกษาว่า ผลการ
ทดสอบเพ่ือเป็นการวดั ความร้พู ืน้ ฐานเท่านั้น ไม่มผี ลตอ่ การวดั ผลคะแนนรวม
6. ครูบรรยายด้วยโปรแกรม PowerPoint เกย่ี วกบั หลกั การวดั ให้นกั ศกึ ษารว่ มกันดู
7. ครูนาเข้าสู่บทเรียน “การใช้เครื่องมือวัดในงานอุตสาหกรรม ซ่ึงเครื่องมือวัดมีหลายชนิด
หลายประเภท มีราคาที่แตกต่างกัน บางชนิดสามารถใช้แทนกันได้ไม่จาเป็นจะต้องใช้เครื่องมือวัดท่ีราคา
แพงๆ ช้ินงานที่ไม่ละเอียดมากนัก ไม่จาเป็นต้องใช้ไมโครมิเตอร์ ซึ่งราคาแพง ใช้เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์
วดั ช้นิ งานแทน”
ข้นั สอน
10. ครูใช้วิธีการสอนแบบต้ังคาถาม (Questioning Method) ให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจาก
ประสบการณ์ ตามหวั ข้อตอ่ ไปน้ี
10.1 ความเป็นมาของการวดั
10.2 ประเภทของเคร่อื งมอื วดั
10.3 ระบบหนว่ ยการวดั
10.4 การแปลงคา่ ระหว่างหนว่ ยการวัด
10.5 กฎการใชเ้ ครอ่ื งมอื วัด
11. จากนั้นแบ่งกลุม่ ผ้เู รยี นแบบคละ เก่ง ปานกลาง อ่อน ออกเป็น 8 กลุ่ม และแนะนาการเรียน
แบบ CIPPA Model, Questioning Method ทาใบงานท่ี 1.1 โดยให้ทบทวนความรู้เดิม แสวงหาความรู้
ใหม่ ศึกษาทาความเข้าใจข้อมูลโดยการเช่ือมโยงกับความรู้เดิม มีการแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับ
กลมุ่ สรุป นาเสนอผลงาน โดยครแู ละเพ่ือน ๆ รว่ มกนั ประเมินผล
12
ขนั้ สรปุ และประเมินผล
12. ครูและนกั ศึกษาอภปิ รายและสรุปรว่ มกันเกีย่ วกบั สาระการเรียนรู้ เพ่ือให้ได้ความรู้ตามหัวข้อ
ทีไ่ ดศ้ กึ ษามา และเพิ่มเติมในสว่ นท่ีไมไ่ ด้กลา่ วถึงเพ่ือใหม้ ีความสมบรู ณ์ยง่ิ ขึ้นในการนาไปใช้
ส่ือการเรียนการสอน
1. หนังสอื เรียนวชิ ามาตรวทิ ยาอตุ สาหกรรม บริษัทศูนยห์ นังสือเมืองไทย จากดั
2. เอกสารประกอบการสอน วชิ ามาตรวิทยาอุตสาหกรรม
3. สื่อของจรงิ เช่น เวอร์เนียร์คาลปิ เปอร์ ไมโครมเิ ตอร์
4. ส่อื PowerPoint
5. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลงั เรียน
6. แบบฝึกหัดท้ายหน่วยการเรียน
7. ใบงาน
8. อินเตอร์เน็ตสาหรับค้นควา้ ขอ้ มูลเพ่มิ เติม
หลักฐานการเรียนรู้/แหลง่ เรยี นรู้
1. หลักฐานการเรยี นรู้
1.1 หนังสอื เรียนวิชามาตรวทิ ยาอตุ สาหกรรม บริษทั ศูนยห์ นังสอื เมืองไทย จากัด
1.2 เอกสารประกอบการสอน วชิ ามาตรวิทยาอุตสาหกรรม
1.3 สอ่ื ของจรงิ เชน่ เวอร์เนยี รค์ าลปิ เปอร์ ไมโครมเิ ตอร์
1.4 ส่อื อนิ เทอรเ์ น็ต
2. หลกั ฐานการปฏิบัตงิ าน
2.1 แบบทดสอบก่อนเรยี น/หลังเรียน
2.2 แบบฝึกหัดท้ายหน่วยการเรียน
2.3 ใบงาน
2.4 ผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมการเรยี น
13
การวัดผลประเมนิ ผล
1. เครือ่ งมือวดั ผล
1.1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลงั เรยี น
1.2 แบบฝกึ หัดท้ายหนว่ ยการเรียน
1.3 ใบงาน
1.4 แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
2. วิธีวดั ผล
2.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรียน
2.2 ตรวจแบบฝึกหัดทา้ ยหน่วยการเรียน
2.3 ตรวจใบงาน
2.4 สังเกตและประเมินพฤติกรรมดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะ
อันพงึ ประสงค์
3. เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
3.1 แบบทดสอบก่อนเรียน (ตามสภาพจรงิ )/หลังเรยี น ตอ้ งมีคะแนนไม่น้อยกว่า 50%
3.2 แบบฝึกหดั ท้ายหน่วยการเรยี น ตอ้ งมีคะแนนไมน่ ้อยกว่า 50%
3.3 ใบงาน ต้องมคี ะแนนไม่น้อยกว่า 50%
3.4 แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักศึกษาต้องมี
พฤติกรรมครบทุกข้อจึงถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
14
แผนการจัดการเรียนรู้
มงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชพี และบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
รหสั วชิ า 30102-2006 ชือ่ วิชา มาตรวทิ ยาอตุ สาหกรรม ท-ป-น (2-2-3)
หน่วยท่ี 2 ชอ่ื หนว่ ย มาตรฐานการวัด
จานวน 4 ชวั่ โมง ช่ัวโมงที่ 5-8 สัปดาห์ที่ 2
สาระสาคัญ
การวัดคอื การคานวณค่าปริมาณท่ไี ม่ทราบค่าว่ามีปริมาณท่ีกาหนดคงท่ีเท่าใดมีปริมาณที่กาหนดคง
ท่ีน้ีเรียกว่าหน่วย (Unit) ฉะน้ันการวัดจึงต้องมีระบบหน่วยวัดท่ีถูกต้องเช่ือถือได้ และใช้สะดวก ดังน้ัน
เพ่ือให้เป็นสากลทั่วโลกหน่วยวัดจึงต้องใช้ค่าเหมือนกันซ่ึงจาเป็นต้องมีคาจากัดความท่ีชัดเจนเก่ียวกับ
หน่อยวัดและวิธีคานวณปรับเทียบกับระบบวัดลักษณะน้ีเรียกว่า มาตรฐาน (Standard) ในการใช้งาน
ประจาวัน การวัดด้วยเครื่องวัดจะต้องนาค่าวัดมาปรับเทียบกับมาตรฐานที่ใช้อ้างอิงภายในท้องถ่ินซึ่ง
เทียบเท่ากับการนามาปรับเทียบกับมาตรฐานที่สูงข้ึนและสูงข้ึนเร่ือยไปเพ่ือให้การปรับเทียบตรงตาม
มาตรฐานระดับประเทศซึ่งกาหนดคุณสมบตั ิเฉพาะทต่ี กลงกันเป็นสากล การปรบั เทยี บ (Calibration)
คือการตรวจสอบระบบวัดให้ตรงกับมาตรฐานเม่ือระบบอยู่ในสภาพท่ีสอดคล้องกับสภาพท่ีกาหนดไว้ใน
มาตรฐาน
หัวข้อเรือ่ ง
1. มาตรฐานสากล (INTERNATIONAL STANDARDS)
2. มาตรฐานเบ้ืองต้น (PRIMARY STANDARDS)
3. มาตรฐานชั้นที่สอง (SECONDARY STANDARDS)
4. มาตรฐานการใชง้ าน (WORKING STANDARDS)
สมรรถนะย่อย
1. แสดงความรู้เกยี่ วกับมาตรฐานการวัด
2. ปฏิบตั ิกิจกรรมเก่ยี วกบั มาตรฐานการวัดได้
3. แสดงพฤติกรรมเป็นผมู้ ีความรู้ คุณธรรม จรยิ ธรรม ในดา้ นความรบั ผดิ ชอบ มีระเบยี บวนิ ัย
สนใจใฝรุ ู้ ตรงต่อเวลา และมีสมั มาคารวะ
15
จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม
1. อธิบายมาตรฐานสากลได้
2. อธิบายมาตรฐานเบื้องต้นได้
3. อธบิ ายมาตรฐานชน้ั ทีส่ องได้
4. อธบิ ายมาตรฐานการใชง้ านได้
การบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
3. ห่วง
1. พอประมาณ
1.1 ใช้วัสดอุ ปุ กรณ์อย่างประหยดั
1.2 ใชว้ ัสดุอปุ กรณใ์ ห้เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ
1.3 เลอื กใชว้ ัสดใุ หเ้ หมาะสมกับการนาไปใช้งาน
2. มีเหตุผล
2.1 นาความรทู้ ีม่ ีไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจาวัน
2.2 วเิ คราะห์ และนาความรู้ไปปฏิบัตไิ ด้ถูกต้อง
3. มีภมู ิคมุ้ กัน
3.1 ปฏิบตั งิ านตามหน้าท่ที ี่ได้รับมอบหมาย
3.2 ปฏบิ ัติงานด้วยความรอบคอบ และเปน็ ระเบียบเรยี บร้อย
3.3 คานงึ ถึงความปลอดภัยในการปฏิบตั งิ าน
2. เง่อื นไข
1. ความรู้
1.1 รอบรู้ มีความรู้ มที กั ษะ เกี่ยวกับความรู้มาตรฐานการวัด
1.2 รอบคอบ มีการวางแผน การคิดวิเคราะหก์ ารปฏิบัติงานอย่างมีเหตุผล
1.3 ระมัดระวัง ใช้เคร่ืองมือในการปฏบิ ตั ิงานตามระเบียบ และคาแนะนาของผู้สอน
2. คณุ ธรรม
เป็นผูท้ ม่ี ี ความรับผดิ ชอบ ระเบยี บวินยั สมั มาคารวะ ตรงต่อเวลา และสนใจใฝรุ ู้
16
กจิ กรรมการเรียนการสอน
สัปดาหท์ ี่ 2
ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน
1. แจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรูใ้ ห้นักศกึ ษาทราบ เร่อื ง มาตรฐานการวดั
2. ครชู ้แี จงนกั ศกึ ษาถงึ วัตถุประสงคข์ องการทาแบบทดสอบก่อนเรยี นและวธิ ีการทาแบบทดสอบ
3. ครใู หน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบก่อนเรยี น
4. ครูตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน
5. ครูแจ้งคะแนนการทาแบบทดสอบก่อนเรียน และทาความเข้าใจกับนักศึกษาว่า ผลการ
ทดสอบเพอ่ื เป็นการวัดความรู้พื้นฐานเท่านน้ั ไมม่ ีผลต่อการวดั ผลคะแนนรวม
6. ครูบรรยายดว้ ยโปรแกรม PowerPoint เกีย่ วกบั มาตรฐานการวดั ให้นกั ศึกษารว่ มกันดู
7. ครูนาเข้าสู่บทเรียน “มาตรฐานที่เป็นข้อตกลงของนานาชาติกาหนดหน่วยการวัดที่แน่นอน
ขึ้นมาแทนเพ่ือให้มีความเท่ียงตรงสูง สาหรับการใช้งานทางเทคโนโลยีด้านการผลิตและการวัด
มาตรฐานสากลน้ีจะถกู ตรวจเชค็ และทดสอบคา่ อย่างสมา่ เสมอ โดยการวัดแบบสมบูรณ์ในเทอมของหน่วย
พนื้ ฐาน มาตรฐานสากลนจี้ ะถกู เกบ็ รักษามาตรฐานไว้ท่ีสานักงานมาตรฐานน้าหนกั และการวดั นานาชาติ”
ขน้ั สอน
10. ครูใช้วิธีการสอนแบบตั้งคาถาม (Questioning Method) ให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจาก
ประสบการณ์ ตามหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้
10.1 มาตรฐานสากล
10.2 มาตรฐานเบ้ืองตน้
10.3 มาตรฐานชั้นทสี่ อง
10.4 มาตรฐานการใช้งาน
11. จากน้ันแบ่งกลุ่มผู้เรยี นแบบคละ เก่ง ปานกลาง อ่อน ออกเป็น 8 กลุ่ม และแนะนาการเรียน
แบบ CIPPA Model, Questioning Method ทาใบงานที่ 2.1 โดยให้ทบทวนความรู้เดิม แสวงหาความรู้
ใหม่ ศึกษาทาความเข้าใจข้อมูลโดยการเช่ือมโยงกับความรู้เดิม มีการแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับ
กลุ่ม สรุป นาเสนอผลงาน โดยครูและเพือ่ น ๆ รว่ มกนั ประเมนิ ผล
ขัน้ สรปุ และประเมินผล
12. ครแู ละนักศกึ ษาอภปิ รายและสรปุ รว่ มกันเกย่ี วกบั สาระการเรียนรู้ เพ่ือให้ได้ความรู้ตามหัวข้อ
ที่ได้ศึกษามา และเพิ่มเติมในสว่ นที่ไม่ไดก้ ลา่ วถึงเพอื่ ให้มีความสมบรู ณย์ ิง่ ขน้ึ ในการนาไปใช้
17
ส่อื การเรยี นการสอน
1. หนงั สอื เรยี นวิชามาตรวิทยาอตุ สาหกรรม บริษัทศูนยห์ นังสือเมืองไทย จากัด
2. เอกสารประกอบการสอน วชิ ามาตรวิทยาอตุ สาหกรรม
3. สือ่ ของจรงิ เช่น เวอร์เนียร์คาลปิ เปอร์ ไมโครมเิ ตอร์
4. ส่อื PowerPoint
5. แบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลังเรียน
6. แบบฝึกหดั ท้ายหนว่ ยการเรียน
7. ใบงาน
8. อนิ เตอรเ์ นต็ สาหรบั ค้นควา้ ข้อมลู เพิ่มเติม
หลักฐานการเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้
1. หลกั ฐานการเรียนรู้
1.1 หนงั สอื เรียนวิชามาตรวิทยาอตุ สาหกรรม บริษัทศูนย์หนงั สอื เมืองไทย จากัด
1.2 เอกสารประกอบการสอน วิชามาตรวทิ ยาอตุ สาหกรรม
1.3 สือ่ ของจรงิ เชน่ เวอร์เนียรค์ าลปิ เปอร์ ไมโครมิเตอร์
1.4 สอื่ อินเทอรเ์ น็ต
2. หลกั ฐานการปฏบิ ัตงิ าน
2.1 แบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรยี น
2.2 แบบฝกึ หัดทา้ ยหน่วยการเรียน
2.3 ใบงาน
2.4 ผลการปฏิบตั กิ ิจกรรมการเรยี น
การวัดผลประเมนิ ผล
1. เครอ่ื งมือวัดผล
1.1 แบบทดสอบก่อนเรยี น/หลงั เรียน
1.2 แบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยการเรยี น
1.3 ใบงาน
1.4 แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
18
2. วธิ ีวัดผล
2.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรยี น
2.2 ตรวจแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยการเรยี น
2.3 ตรวจใบงาน
2.4 สงั เกตและประเมินพฤติกรรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะ
อันพึงประสงค์
3. เกณฑ์การประเมินผล
3.1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (ตามสภาพจรงิ )/หลังเรียน ตอ้ งมคี ะแนนไมน่ ้อยกว่า 50%
3.2 แบบฝึกหดั ทา้ ยหนว่ ยการเรยี น ตอ้ งมีคะแนนไม่น้อยกว่า 50%
3.3 ใบงาน ต้องมคี ะแนนไมน่ ้อยกว่า 50%
3.4 แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักศึกษาต้องมี
พฤติกรรมครบทุกข้อจึงถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
19
แผนการจัดการเรยี นรู้
มงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชีพและบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
รหัสวชิ า 30102-2006 ชอ่ื วิชา มาตรวิทยาอุตสาหกรรม ท-ป-น (2-2-3)
หนว่ ยที่ 3 ชื่อหนว่ ย นิยามศัพทม์ าตรวิทยา
จานวน 4 ชว่ั โมง ช่วั โมงที่ 9-12 สปั ดาห์ท่ี 3
สาระสาคัญ
มาตรวิทยา (Metrology) คือวิทยาศาสตร์ที่เก่ียวข้องกับการวัด การวิเคราะห์ การทดสอบ ท้ัง
ภาคทฤษฎีและปฏิบัติจริง มีการกาหนดรายละเอียดของหน่วยวัด มาตรฐานด้านการวัดที่เป็นสากลเพื่อ
เป็นอ้างองิ ของกจิ กรรมการวัดต่างๆ
หวั ข้อเรื่อง
1. การสอบเทียบ
2 ความสามารถสอบกลบั ได้
3 ความไม่แน่นอนของการวัด
สมรรถนะย่อย
1. แสดงความรู้เกี่ยวกับนยิ ามศัพท์มาตรวิทยา
2. ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเกย่ี วกบั มาตรฐานการวัดได้
3. มีความรู้ คณุ ธรรม จริยธรรม ในด้านความรับผิดชอบ มรี ะเบียบวนิ ัย สนใจใฝุรู้ ตรงต่อเวลา
และมีสัมมาคารวะ
จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1. อธิบายการสอบเทยี บได้
2 อธบิ ายความสามารถสอบกลับได้
3 อธิบายความไมแ่ น่นอนของการวัด
20
การบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
3. ห่วง
1. พอประมาณ
1.1 ใช้วสั ดอุ ปุ กรณ์อยา่ งประหยัด
1.2 ใชว้ สั ดอุ ปุ กรณ์ใหเ้ กิดประโยชน์สงู สุด
1.3 เลือกใชว้ ัสดุให้เหมาะสมกับการนาไปใชง้ าน
2. มเี หตผุ ล
2.1 นาความรทู้ ีม่ ีไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาวัน
2.2 วิเคราะห์ และนาความรูไ้ ปปฏบิ ตั ไิ ด้ถูกตอ้ ง
3. มีภมู คิ มุ้ กัน
3.1 ปฏิบตั ิงานตามหนา้ ทที่ ่ีไดร้ บั มอบหมาย
3.2 ปฏิบตั งิ านด้วยความรอบคอบ และเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย
3.3 คานึงถึงความปลอดภัยในการปฏิบตั งิ าน
2. เง่อื นไข
1. ความรู้
1.1 รอบรู้ มีความรู้ มีทกั ษะ เกี่ยวกับความรู้ศัพทม์ าตรวิทยา
1.2 รอบคอบ มีการวางแผน การคดิ วเิ คราะหก์ ารปฏบิ ตั ิงานอยา่ งมเี หตผุ ล
1.3 ระมัดระวัง ใช้เคร่ืองมือในการปฏิบัติงานตามระเบยี บ และคาแนะนาของผู้สอน
2. คุณธรรม
เปน็ ผูท้ มี่ ี ความรบั ผดิ ชอบ ระเบียบวนิ ัย สมั มาคารวะ ตรงต่อเวลา และสนใจใฝรุ ู้
กิจกรรมการเรียนการสอน
สปั ดาหท์ ่ี 3
ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
1. แจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรใู้ ห้นกั ศึกษาทราบ เร่ือง ศพั ทม์ าตรวทิ ยา
2. ครชู ี้แจงนกั ศึกษาถึงวัตถปุ ระสงค์ของการทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและวิธีการทาแบบทดสอบ
3. ครูใหน้ กั ศึกษาทาแบบทดสอบก่อนเรยี น
4. ครูตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
5. ครูแจ้งคะแนนการทาแบบทดสอบก่อนเรียน และทาความเข้าใจกับนักศึกษาว่า ผลการ
ทดสอบเพอ่ื เป็นการวดั ความรู้พน้ื ฐานเทา่ น้ัน ไมม่ ีผลต่อการวัดผลคะแนนรวม
21
6. ครูบรรยายดว้ ยโปรแกรม PowerPoint เกี่ยวกับศพั ท์มาตรวิทยา
7. ครูนาเข้าสู่บทเรียน “มาตรวิทยา (Metrology) คือวิทยาศาสตร์ท่ีเกี่ยวข้องกับการวัด การ
วเิ คราะห์ การทดสอบ ทัง้ ภาคทฤษฎีและปฏิบตั จิ ริง มกี ารกาหนดรายละเอียดของหน่วยวัด มาตรฐานด้าน
การวัดทเี่ ปน็ สากลเพอ่ื เป็นอ้างองิ ของกจิ กรรมการวดั ต่างๆ”
ขน้ั สอน
10. ครูใช้วิธีการสอนแบบต้ังคาถาม (Questioning Method) ให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจาก
ประสบการณ์ ตามหัวข้อตอ่ ไปน้ี
10.1 อธบิ ายการสอบเทยี บได้
10.2 อธบิ ายความสามารถสอบกลบั ได้
10.3 อธบิ ายความไมแ่ นน่ อนของการวดั
11. จากนน้ั แบ่งกลุม่ ผูเ้ รียนแบบคละ เกง่ ปานกลาง อ่อน ออกเป็น 8 กลุ่ม และแนะนาการเรียน
แบบ CIPPA Model, Questioning Method ทาใบงานท่ี 3.1 โดยให้ทบทวนความรู้เดมิ แสวงหาความรู้
ใหม่ ศึกษาทาความเขา้ ใจข้อมลู โดยการเชอ่ื มโยงกบั ความรู้เดมิ มีการแลกเปลี่ยนความรู้ความเขา้ ใจกับ
กล่มุ สรปุ นาเสนอผลงาน โดยครแู ละเพอ่ื น ๆ รว่ มกนั ประเมนิ ผล
ขน้ั สรุปและประเมินผล
12. ครูและนกั ศกึ ษาอภิปรายและสรุปรว่ มกนั เก่ยี วกบั สาระการเรียนรู้ เพ่ือให้ได้ความรู้ตามหัวข้อ
ทีไ่ ด้ศกึ ษามา และเพิ่มเตมิ ในส่วนทไี่ ม่ได้กลา่ วถึงเพอื่ ให้มคี วามสมบรู ณ์ย่งิ ขน้ึ ในการนาไปใช้
สอื่ การเรยี นการสอน
1. หนงั สอื เรียนวิชามาตรวิทยาอตุ สาหกรรม บริษัทศูนย์หนังสือเมืองไทย จากัด
2. เอกสารประกอบการสอน วิชามาตรวทิ ยาอตุ สาหกรรม
3. สือ่ ของจรงิ เชน่ เวอรเ์ นียร์คาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์
4. สื่อ PowerPoint
5. แบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลังเรียน
6. แบบฝกึ หัดทา้ ยหนว่ ยการเรียน
7. ใบงาน
8. อินเตอรเ์ น็ตสาหรบั คน้ คว้าขอ้ มลู เพิ่มเติม
22
หลกั ฐานการเรียนรู้/แหลง่ เรยี นรู้
1. หลกั ฐานการเรยี นรู้
1.1 หนังสือเรยี นวิชามาตรวิทยาอุตสาหกรรม บริษัทศูนยห์ นังสือเมืองไทย จากัด
1.2 เอกสารประกอบการสอน วชิ ามาตรวิทยาอตุ สาหกรรม
1.3 สอื่ อินเทอรเ์ นต็
2. หลกั ฐานการปฏบิ ัตงิ าน
2.1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลงั เรียน
2.2 แบบฝกึ หัดทา้ ยหนว่ ยการเรียน
2.3 ใบงาน
2.4 ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเรยี น
การวดั ผลประเมินผล
1. เครือ่ งมือวดั ผล
1.1 แบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรยี น
1.2 แบบฝึกหดั ท้ายหนว่ ยการเรยี น
1.3 ใบงาน
1.4 แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
2. วิธวี ดั ผล
2.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรยี น
2.2 ตรวจแบบฝึกหัดทา้ ยหน่วยการเรียน
2.3 ตรวจใบงาน
2.4 สังเกตและประเมินพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์
3. เกณฑก์ ารประเมินผล
3.1 แบบทดสอบก่อนเรยี น (ตามสภาพจรงิ )/หลงั เรียน ต้องมคี ะแนนไม่น้อยกวา่ 50%
3.2 แบบฝกึ หดั ทา้ ยหนว่ ยการเรียน ต้องมีคะแนนไม่น้อยกว่า 50%
3.3 ใบงาน ตอ้ งมีคะแนนไม่น้อยกวา่ 50%
3.4 แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นักศึกษาต้องมี
พฤติกรรมครบทุกข้อจึงถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
23
แผนการจัดการเรียนรู้
มุ่งเน้นสมรรถนะอาชพี และบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
รหัสวชิ า 30102-2006 ชอ่ื วชิ า มาตรวทิ ยาอุตสาหกรรม ท-ป-น (2-2-3)
หนว่ ยท่ี 4 ชอ่ื หน่วย การสอบเทียบเวอรเ์ นียรค์ าลปิ เปอร์
จานวน 8 ชวั่ โมง ชัว่ โมงท่ี 13-20 สัปดาหท์ ่ี 4-5
สาระสาคญั
เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์เป็นเครื่องมือวัดที่วัดขนาดชิ้นงานได้ค่าละเอียดมากกว่าบรรทัดเหล็ก โดยใช้
หลักการของสเกลท่ีแตกต่างกันสองสเกลมาทาบกันทาให้สเกลทั้งสองเกิดการเยื้องกัน ทาให้สามารถอ่าน
ค่าความละเอียดได้มากข้ึน เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ระบบเมตริกมีค่าความละเอียด 1 (0.05 มม.) 1
20 50
1 1
(0.02 มม.) เวอรเ์ นยี ร์คาลปิ เปอรร์ ะบบอังกฤษมีค่าความละเอียด 128 น้ิว และ 1,000 นิ้ว เวอร์เนียร์
คาลิปเปอร์วัดขนาดชิ้นงานได้หลายขนาด เชน่ วดั ขนาดความโตภายนอก วัดขนาดความโตภายใน และ
วัดขนาดความลกึ
หัวข้อเรื่อง
1. อา่ นคา่ เวอรเ์ นยี รค์ าลปิ เปอร์ระบบเมตรกิ
2. อา่ นคา่ เวอรเ์ นยี รค์ าลิปเปอรร์ ะบบอังกฤษ
3 การวัดขนาดชน้ิ งานดว้ ยเวอร์เนียรค์ าลปิ เปอร์
4. สอบเทียบเวอร์เนยี รค์ าลิปเปอร์
5. ข้อควรระวงั การจดั เกบ็ และบารุงรกั ษาเวอร์เนยี รค์ าลิปเปอร์
สมรรถนะยอ่ ย
1. อ่านค่าเวอรเ์ นียร์คาลิปเปอร์ได้
2. ใช้เวอร์เนยี รค์ าลปิ เปอร์วัดช้นิ งานได้
3. สอบเทยี บเวอรเ์ นียร์คาลิปเปอร์ได้
4. บารงุ รกั ษาเวอรเ์ นียร์คาลิปเปอร์ได้
24
จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. อธิบายลกั ษณะท่วั ไปของเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ได้
2. บอกชนิดของเวอรเ์ นยี รค์ าลปิ เปอร์ได้
3. อธิบายขดี มาตราบนเวอรเ์ นียรค์ าลปิ เปอรร์ ะบบเมตรกิ และระบบองั กฤษได้
4. อา่ นคา่ เวอร์เนียรค์ าลปิ เปอร์ได้
5. สามารถวัดขนาดช้ินงานด้วยเวอร์เนยี ร์คาลปิ เปอร์ได้
6. สามารถสอบเทียบเวอรเ์ นยี ร์คาลิปเปอร์ได้
7. บอกข้อควรระวงั การจดั เกบ็ และบารงุ รกั ษาเวอร์เนยี รค์ าลิปเปอร์ได้
การบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
3. ห่วง
1. พอประมาณ
1.1 ใชว้ สั ดุอุปกรณ์อยา่ งประหยัด
1.2 ใช้วัสดุอปุ กรณ์ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสุด
1.3 เลือกใชว้ ัสดุใหเ้ หมาะสมกบั การนาไปใช้งาน
2. มีเหตผุ ล
2.1 นาความรู้ทมี่ ีไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจาวัน
2.2 วเิ คราะห์ และนาความรไู้ ปปฏบิ ตั ไิ ด้ถูกต้อง
3. มภี มู ิคุ้มกัน
3.1 ปฏิบตั ิงานตามหนา้ ทท่ี ี่ได้รบั มอบหมาย
3.2 ปฏิบัติงานดว้ ยความรอบคอบ และเปน็ ระเบียบเรียบร้อย
3.3 คานงึ ถึงความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
2. เงอ่ื นไข
1. ความรู้
1.1 รอบรู้ มีความรู้ มีทกั ษะ เกย่ี วกบั ความรู้สอบเทียบเวอร์เนียร์คาลปิ เปอร์
1.2 รอบคอบ มีการวางแผน การคดิ วเิ คราะหก์ ารปฏบิ ตั ิงานอยา่ งมีเหตผุ ล
1.3 ระมดั ระวัง ใชเ้ ครื่องมือในการปฏิบัติงานตามระเบียบ และคาแนะนาของผสู้ อน
2. คุณธรรม
เป็นผูท้ ม่ี ี ความรบั ผิดชอบ ระเบียบวนิ ยั สัมมาคารวะ ตรงตอ่ เวลา และสนใจใฝรุ ู้
25
กิจกรรมการเรียนการสอน
สัปดาหท์ ่ี 4
ขน้ั นาเข้าสู่บทเรยี น
1. แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรูใ้ ห้นกั ศกึ ษาทราบ เรือ่ ง เวอรเ์ นียร์คาลปิ เปอร์
2. ครชู ีแ้ จงนักศึกษาถงึ วัตถุประสงค์ของการทาแบบทดสอบก่อนเรยี นและวธิ ีการทาแบบทดสอบ
3. ครูใหน้ ักศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน
4. ครตู รวจแบบทดสอบก่อนเรียน
5. ครูแจ้งคะแนนการทาแบบทดสอบก่อนเรียน และทาความเข้าใจกับนักศึกษาว่า ผลการ
ทดสอบเพือ่ เป็นการวดั ความรู้พ้นื ฐานเท่านน้ั ไม่มีผลตอ่ การวัดผลคะแนนรวม
6. ครูบรรยายดว้ ยโปรแกรม PowerPoint เก่ยี วกับเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์
7. ครูนาเข้าสู่บทเรียน “เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์เป็นเคร่ืองมือวัดที่วัดขนาดช้ินงานได้ค่าละเอียด
มากกวา่ บรรทัดเหล็ก โดยใชห้ ลักการของสเกลทแี่ ตกตา่ งกันสองสเกลมาทาบกันทาให้สเกลทั้งสองเกิดการ
เยื้องกนั ทาใหส้ ามารถอา่ นคา่ ความละเอยี ดไดม้ ากขน้ึ ”
ข้ันสอน
10. ครูใช้วิธีการสอนแบบต้ังคาถาม (Questioning Method) ให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจาก
ประสบการณ์ ตามหัวข้อตอ่ ไปนี้
10.1 ประวัตคิ วามเป็นมาของเวอรเ์ นียร์คาลปิ เปอร์
10.2 ชนดิ ของเวอร์เนียรค์ าลิปเปอร์
10.3 ส่วนประกอบและหน้าทข่ี องเวอร์เนยี รค์ าลิปเปอร์
11. จากนนั้ แบ่งกลมุ่ ผ้เู รียนแบบคละ เก่ง ปานกลาง ออ่ น ออกเป็น 8 กล่มุ และแนะนาการเรยี น
แบบ CIPPA Model, Questioning Method ทาใบงานท่ี 4.1 โดยให้ทบทวนความรเู้ ดมิ แสวงหาความรู้
ใหม่ ศึกษาทาความเขา้ ใจข้อมูลโดยการเชอ่ื มโยงกบั ความรู้เดิม มกี ารแลกเปล่ยี นความรู้ความเขา้ ใจกบั
กลมุ่ สรุป นาเสนอผลงาน โดยครูและเพ่อื น ๆ ร่วมกนั ประเมนิ ผล
ขน้ั สรุปและประเมนิ ผล
12. ครูและนกั ศกึ ษาอภิปรายและสรุปรว่ มกนั เกยี่ วกับสาระการเรียนรู้ เพื่อให้ได้ความรู้ตามหัวข้อ
ทไี่ ดศ้ ึกษามา และเพิม่ เติมในส่วนที่ไม่ได้กลา่ วถึงเพอ่ื ให้มคี วามสมบูรณ์ย่ิงข้ึนในการนาไปใช้
26
สปั ดาห์ที่ 5
ข้นั นาเขา้ สูบ่ ทเรียน
1. แจ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ให้นกั ศึกษาทราบ เรอ่ื ง เวอรเ์ นียรค์ าลิปเปอร์
2. ครูชแี้ จงนักศึกษาถงึ วัตถุประสงคข์ องการทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนและวิธกี ารทาแบบทดสอบ
3. ครใู หน้ ักศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
4. ครูตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน
5. ครูแจ้งคะแนนการทาแบบทดสอบก่อนเรียน และทาความเข้าใจกับนักศึกษาว่า ผลการ
ทดสอบเพือ่ เป็นการวัดความร้พู ื้นฐานเท่าน้ัน ไมม่ ีผลตอ่ การวัดผลคะแนนรวม
6. ครูบรรยายด้วยโปรแกรม PowerPoint เกย่ี วกบั เวอรเ์ นยี รค์ าลปิ เปอร์
7. ครนู าเขา้ สู่บทเรยี น “วธิ ีการแบ่งสเกลและอา่ นค่าเวอร์เนยี รค์ าลิปเปอรร์ ะบบเมตริก”
ขัน้ สอน
10. ครูใช้วิธีการสอนแบบต้ังคาถาม (Questioning Method) ให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจาก
ประสบการณ์ ตามหวั ขอ้ ตอ่ ไปนี้
10.4 วธิ ีการแบ่งสเกลและอ่านค่าเวอร์เนียรค์ าลปิ เปอร์ระบบเมตริก
10.5 วิธีการแบ่งสเกลและอ่านค่าเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ระบบองั กฤษ
10.6 การวดั ขนาดช้ินงานดว้ ยเวอร์เนียรค์ าลปิ เปอร์
11. จากนนั้ แบ่งกลุ่มผูเ้ รยี นแบบคละ เก่ง ปานกลาง อ่อน ออกเป็น 8 กลุ่ม และแนะนาการเรียน
แบบ CIPPA Model, Questioning Method ทาใบงานท่ี 4.2 โดยให้ทบทวนความรู้เดิม แสวงหาความรู้
ใหม่ ศึกษาทาความเข้าใจข้อมูลโดยการเชื่อมโยงกับความรู้เดิม มีการแลกเปล่ียนความรู้ความเข้าใจกับ
กลมุ่ สรุป นาเสนอผลงาน โดยครูและเพื่อน ๆ ร่วมกันประเมนิ ผล
ขั้นสรุปและประเมินผล
12. ครูและนักศึกษาอภปิ รายและสรุปร่วมกนั เกีย่ วกบั สาระการเรียนรู้ เพื่อให้ได้ความรู้ตามหัวข้อ
ทไ่ี ด้ศึกษามา และเพ่ิมเติมในสว่ นท่ีไมไ่ ดก้ ลา่ วถงึ เพ่ือใหม้ คี วามสมบูรณ์ยิ่งขึ้นในการนาไปใช้
สอื่ การเรียนการสอน
1. หนังสอื เรียนวิชามาตรวทิ ยาอุตสาหกรรม บริษัทศนู ย์หนังสอื เมืองไทย จากัด
2. เอกสารประกอบการสอน วิชามาตรวทิ ยาอตุ สาหกรรม
3. สอ่ื ของจริง เชน่ เวอร์เนยี ร์คาลปิ เปอร์ ไมโครมเิ ตอร์
27
4. ส่อื PowerPoint
5. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลงั เรยี น
6. แบบฝกึ หดั ท้ายหน่วยการเรยี น
7. ใบงาน
8. อนิ เตอร์เน็ตสาหรับคน้ ควา้ ข้อมลู เพิม่ เติม
หลกั ฐานการเรียนรู้/แหลง่ เรยี นรู้
1. หลกั ฐานการเรียนรู้
1.1. หนังสอื เรียนวชิ ามาตรวิทยาอุตสาหกรรม บริษัทศูนย์หนงั สอื เมืองไทย จากัด
1.2. เอกสารประกอบการสอน วิชามาตรวทิ ยาอุตสาหกรรม
1.3 ส่อื ของจริง เชน่ เวอร์เนียรค์ าลิปเปอร์
1.4 ส่ืออินเทอรเ์ นต็
2. หลักฐานการปฏบิ ัตงิ าน
2.1 แบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรียน
2.2 แบบฝึกหดั ท้ายหนว่ ยการเรียน
2.3 ใบงาน
2.4 ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมการเรยี น
การวดั ผลประเมินผล
1. เคร่ืองมือวดั ผล
1.1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลงั เรียน
1.2 แบบฝกึ หดั ท้ายหน่วยการเรียน
1.3 ใบงาน
1.4 แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
2. วธิ วี ดั ผล
2.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรียน
2.2 ตรวจแบบฝึกหัดท้ายหนว่ ยการเรียน
2.3 ตรวจใบงาน
2.4 สงั เกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงค์
28
3. เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
3.1 แบบทดสอบก่อนเรยี น (ตามสภาพจรงิ )/หลงั เรยี น ตอ้ งมีคะแนนไมน่ ้อยกว่า 50%
3.2 แบบฝกึ หดั ทา้ ยหนว่ ยการเรียน ต้องมีคะแนนไมน่ ้อยกว่า 50%
3.3 ใบงาน ตอ้ งมคี ะแนนไมน่ ้อยกว่า 50%
3.4 แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ นักศึกษาต้องมี
พฤติกรรมครบทุกข้อจึงถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
29
แผนการจดั การเรยี นรู้
มงุ่ เน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
รหัสวิชา 30102-2006 ช่อื วิชา มาตรวิทยาอตุ สาหกรรม ท-ป-น (2-2-3)
หน่วยที่ 5 ช่อื หนว่ ย การสอบเทยี บเวอร์เนียร์ไฮเกจ
จานวน 8 ชวั่ โมง ชั่วโมงที่ 21-28 สัปดาห์ท่ี 6-7
สาระสาคญั
เวอร์เนียไฮเกจ (Vernier Height Gauge) ใช้สาหรับงานวัดความสูงหรือร่างแบบท่ัวไป มีการแบ่ง
สเกลและค่าละเอียดดังนี้ ระบบเมตริก: มีขนาด 200, 300, 450, 600, 1000 และ 1500 มิลลิเมตร
ตามลาดบั มคี ่าความละเอยี ดที่ 0.02 และ 0.05 มิลลเิ มตร
หวั ขอ้ เร่อื ง
1. การอา่ นคา่ เวอรเ์ นยี ไฮเกจ ระบบเมตรกิ
2. การอ่านคา่ เวอร์เนียไฮเกจ ระบบอังกฤษ
3 การวดั ขนาดชิน้ งานดว้ ยเวอรเ์ นียไฮเกจ
4. สอบเทียบเวอร์เนียไฮเกจ
5. ข้อควรระวัง การจดั เก็บและบารงุ รกั ษาเวอรเ์ นียไฮเกจ
สมรรถนะยอ่ ย
1. อา่ นคา่ เวอร์เนยี ไฮเกจได้
2. ใช้เวอร์เนยี ร์เวอร์เนียไฮเกจได้
3. สอบเทียบเวอรเ์ นียไฮเกจได้
4. บารุงรักษาเวอรเ์ นียไฮเกจได้
จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. อา่ นคา่ เวอรเ์ นียไฮเกจได้
2. สามารถวดั ขนาดชน้ิ งานด้วยเวอร์เนียไฮเกจได้
30
3. สามารถสอบเทียบเวอร์เนยี ไฮเกจได้
7. บอกข้อควรระวงั การจัดเก็บและบารุงรักษาเวอรเ์ นียไฮเกจได้
การบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
3. ห่วง
1. พอประมาณ
1.1 ใชว้ ัสดอุ ุปกรณ์อย่างประหยัด
1.2 ใชว้ ัสดอุ ุปกรณ์ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ
1.3 เลอื กใชว้ ัสดุให้เหมาะสมกับการนาไปใชง้ าน
2. มเี หตผุ ล
2.1 นาความร้ทู ่มี ีไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจาวนั
2.2 วิเคราะห์ และนาความรไู้ ปปฏิบัติได้ถูกต้อง
3. มภี ูมิคมุ้ กนั
3.1 ปฏบิ ตั ิงานตามหน้าทีท่ ่ีได้รบั มอบหมาย
3.2 ปฏิบัติงานดว้ ยความรอบคอบ และเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ย
3.3 คานงึ ถึงความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
2. เงอ่ื นไข
1. ความรู้
1.1 รอบรู้ มีความรู้ มที กั ษะ เกีย่ วกับความรู้สอบเทียบเวอรเ์ นยี ไฮเกจ
1.2 รอบคอบ มีการวางแผน การคดิ วเิ คราะห์การปฏบิ ัติงานอย่างมเี หตุผล
1.3 ระมดั ระวัง ใชเ้ คร่ืองมือในการปฏิบตั ิงานตามระเบยี บ และคาแนะนาของผ้สู อน
2. คณุ ธรรม
เปน็ ผู้ทม่ี ี ความรับผิดชอบ ระเบยี บวินัย สมั มาคารวะ ตรงตอ่ เวลา และสนใจใฝรุ ู้
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
สปั ดาห์ท่ี 6
ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน
1. แจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ให้นกั ศึกษาทราบ เรอ่ื ง เวอรเ์ นียไฮเกจ
2. ครชู ้ีแจงนักศกึ ษาถึงวัตถุประสงค์ของการทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนและวธิ กี ารทาแบบทดสอบ
3. ครใู หน้ ักศกึ ษาทาแบบทดสอบก่อนเรียน
31
4. ครูตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน
5. ครูแจ้งคะแนนการทาแบบทดสอบก่อนเรียน และทาความเข้าใจกับนักศึกษาว่า ผลการ
ทดสอบเพื่อเป็นการวดั ความร้พู ้ืนฐานเทา่ นั้น ไมม่ ีผลต่อการวัดผลคะแนนรวม
6. ครูบรรยายด้วยโปรแกรม PowerPoint เกีย่ วกบั เวอรเ์ นียไฮเกจ
7. ครนู าเข้าสู่บทเรียน “เวอร์เนียไฮเกจเป็นเครื่องมือวัดที่วัดขนาดชิ้นงานได้ค่าละเอียดมากกว่า
บรรทดั เหล็ก โดยใช้หลักการของสเกลที่แตกตา่ งกนั สองสเกลมาทาบกันทาให้สเกลทั้งสองเกิดการเย้ืองกัน
ทาให้สามารถอา่ นค่าความละเอียดไดม้ ากขึน้ ”
ข้ันสอน
10. ครูใช้วิธีการสอนแบบต้ังคาถาม (Questioning Method) ให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจาก
ประสบการณ์ ตามหวั ข้อตอ่ ไปน้ี
10.1 อา่ นคา่ เวอรเ์ นยี ไฮเกจ
10.2 วดั ช้ินงานด้วยเวอรเ์ นียไฮเกจ
11. จากน้ันแบ่งกลุม่ ผเู้ รียนแบบคละ เก่ง ปานกลาง ออ่ น ออกเป็น 8 กลุม่ และแนะนาการเรยี น
แบบ CIPPA Model, Questioning Method ทาใบงานที่ 5.1 โดยให้ทบทวนความรู้เดิม แสวงหาความรู้
ใหม่ ศึกษาทาความเข้าใจข้อมลู โดยการเชอื่ มโยงกับความรู้เดิม มีการแลกเปลย่ี นความรู้ความเขา้ ใจกบั
กลมุ่ สรุป นาเสนอผลงาน โดยครแู ละเพือ่ น ๆ ร่วมกนั ประเมินผล
ขัน้ สรุปและประเมนิ ผล
12. ครแู ละนักศกึ ษาอภิปรายและสรุปร่วมกนั เกย่ี วกบั สาระการเรียนรู้ เพ่ือให้ได้ความรู้ตามหัวข้อ
ท่ไี ด้ศกึ ษามา และเพิม่ เตมิ ในส่วนทีไ่ มไ่ ด้กลา่ วถงึ เพอื่ ให้มคี วามสมบูรณย์ ่ิงข้ึนในการนาไปใช้
สัปดาห์ที่ 7
ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรียน
1. แจ้งจุดประสงค์การเรยี นร้ใู ห้นกั ศึกษาทราบ เรือ่ ง เวอร์เนยี ไฮเกจ
2. ครชู ี้แจงนกั ศกึ ษาถึงวัตถปุ ระสงค์ของการทาแบบทดสอบก่อนเรยี นและวิธกี ารทาแบบทดสอบ
3. ครูใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
4. ครตู รวจแบบทดสอบก่อนเรยี น
5. ครูแจ้งคะแนนการทาแบบทดสอบก่อนเรียน และทาความเข้าใจกับนักศึกษาว่า ผลการ
ทดสอบเพ่อื เป็นการวัดความรู้พน้ื ฐานเท่านั้น ไมม่ ีผลต่อการวัดผลคะแนนรวม
6. ครูบรรยายด้วยโปรแกรม PowerPoint เกยี่ วกับเวอรเ์ นียไฮเกจ
7. ครนู าเขา้ สู่บทเรยี น “วธิ ีการแบง่ สเกลและอา่ นค่าเวอรเ์ นยี ไฮเกจระบบเมตรกิ ”
32
ขั้นสอน
10. ครูใช้วิธีการสอนแบบต้ังคาถาม (Questioning Method) ให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจาก
ประสบการณ์ ตามหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้
10.4 วิธกี ารแบง่ สเกลและอา่ นคา่ เวอรเ์ นยี ไฮเกจระบบเมตริก
10.5 วิธีการแบง่ สเกลและอ่านคา่ เวอรเ์ นยี ไฮเกจระบบองั กฤษ
10.6 การวัดขนาดช้นิ งานดว้ ยเวอร์เนียไฮเกจ
11. จากน้ันแบ่งกล่มุ ผู้เรยี นแบบคละ เก่ง ปานกลาง อ่อน ออกเป็น 8 กลุ่ม และแนะนาการเรียน
แบบ CIPPA Model, Questioning Method ทาใบงานท่ี 5.2 โดยให้ทบทวนความรู้เดิม แสวงหาความรู้
ใหม่ ศึกษาทาความเข้าใจข้อมูลโดยการเช่ือมโยงกับความรู้เดิม มีการแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับ
กลมุ่ สรปุ นาเสนอผลงาน โดยครแู ละเพ่อื น ๆ ร่วมกันประเมินผล
ขนั้ สรุปและประเมินผล
12. ครูและนกั ศกึ ษาอภิปรายและสรุปร่วมกนั เกยี่ วกบั สาระการเรียนรู้ เพื่อให้ได้ความรู้ตามหัวข้อ
ที่ไดศ้ ึกษามา และเพิ่มเตมิ ในสว่ นท่ไี มไ่ ดก้ ลา่ วถงึ เพอื่ ให้มคี วามสมบรู ณ์ยิง่ ขึน้ ในการนาไปใช้
ส่อื การเรียนการสอน
1. หนงั สือเรียนวิชามาตรวทิ ยาอตุ สาหกรรม บริษทั ศูนยห์ นังสอื เมืองไทย จากัด
2. เอกสารประกอบการสอน วชิ ามาตรวิทยาอตุ สาหกรรม
3. ส่อื ของจริง เชน่ เวอรเ์ นยี ไฮเกจ
4. สื่อ PowerPoint
5. แบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลังเรยี น
6. แบบฝกึ หัดท้ายหนว่ ยการเรยี น
7. ใบงาน
8. อนิ เตอรเ์ น็ตสาหรบั ค้นคว้าขอ้ มูลเพมิ่ เติม
หลกั ฐานการเรยี นรู้/แหลง่ เรยี นรู้
1. หลกั ฐานการเรยี นรู้
1.1. หนังสือเรียนวชิ ามาตรวทิ ยาอตุ สาหกรรม บริษทั ศูนย์หนงั สือเมืองไทย จากัด
1.2. เอกสารประกอบการสอน วิชามาตรวิทยาอตุ สาหกรรม
33
1.3 ส่อื ของจริง เชน่ เวอร์เนยี ไฮเกจ
1.4 สื่ออนิ เทอรเ์ นต็
2. หลกั ฐานการปฏิบตั ิงาน
2.1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลงั เรียน
2.2 แบบฝกึ หดั ท้ายหน่วยการเรยี น
2.3 ใบงาน
2.4 ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมการเรยี น
การวัดผลประเมินผล
1. เครื่องมือวัดผล
1.1 แบบทดสอบก่อนเรยี น/หลังเรียน
1.2 แบบฝึกหัดท้ายหน่วยการเรียน
1.3 ใบงาน
1.4 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
2. วธิ ีวดั ผล
2.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรียน
2.2 ตรวจแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยการเรยี น
2.3 ตรวจใบงาน
2.4 สังเกตและประเมนิ พฤติกรรมด้านคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะ
อันพงึ ประสงค์
3. เกณฑ์การประเมินผล
3.1 แบบทดสอบก่อนเรยี น (ตามสภาพจริง)/หลังเรียน ต้องมีคะแนนไม่น้อยกวา่ 50%
3.2 แบบฝึกหัดท้ายหน่วยการเรยี น ตอ้ งมคี ะแนนไม่น้อยกว่า 50%
3.3 ใบงาน ต้องมคี ะแนนไม่น้อยกว่า 50%
3.4 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นักศึกษาต้องมี
พฤติกรรมครบทุกข้อจึงถือว่า ผา่ นเกณฑ์
34
แผนการจัดการเรียนรู้
มุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
รหสั วิชา 30102-2006 ช่อื วิชา มาตรวทิ ยาอตุ สาหกรรม ท-ป-น (2-2-3)
หนว่ ยท่ี 6 ชื่อหน่วยการสอบเทยี บไมโครมิเตอร์
จานวน 8 ชัว่ โมง ชว่ั โมงท่ี 37-44 สัปดาห์ท่ี 10-11
สาระสาคญั
ไมโครมิเตอร์เป็นเคร่ืองมือวัดละเอียดที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความ
ละเอียดและเท่ียงตรงสูง หลักการทางานของไมโครมิเตอร์ได้พัฒนามาจากการหมุนเคลื่อนที่ของชุด
เกลียว โดยการเคล่ือนท่ีของเกลียวปากเดียว หมุนเคล่ือนที่ไปครบ 1 รอบ การเคล่ือนท่ีของเส้นขอบ
เกลียว 1 รอบ จะเท่ากับ 1 ระยะพิตช์ของเกลียว เช่นเกลียวของไมโครมิเตอร์ ระบบเมตริกมีระยะพิตช์
เท่ากับ 0.5 มม. ไมโครมิเตอรม์ หี นว่ ยการวัดท้งั ระบบเมตริกและระบบองั กฤษ สามารถวัดค่าความละเอียด
ได้ 1 มม. (0.01 มม.) 1 มม. (0.001 มม.) 1 มม. (0.001น้ิว)
100 1,000 1,000
หัวขอ้ เร่อื ง
1. สว่ นประกอบและหน้าทีข่ องไมโครมเิ ตอร์
2. วธิ กี ารแบ่งสเกลและอ่านค่าไมโครมเิ ตอรร์ ะบบเมตริก
3. วิธีการแบง่ สเกลและอ่านคา่ ไมโครมเิ ตอร์ระบบองั กฤษ
4. การสอบเทียบไมโครมเิ ตอร์
5. การวดั ขนาดชน้ิ งานด้วยไมโครมิเตอร์
6. ข้อควรระวงั การจัดเก็บและบารงุ รกั ษาไมโครมเิ ตอร์
สมรรถนะย่อย
1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั ไมโครมเิ ตอร์
2. อา่ นค่าไมโครมเิ ตอร์ได้
3. ใช้ไมโครมเิ ตอร์วดั ช้ินงานได้
4. บารงุ รกั ษาไมโครมิเตอร์ได้
35
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1. บอกส่วนประกอบและหนา้ ที่ของไมโครมิเตอร์วัดได้
2. อธิบายวธิ ีการแบ่งสเกลและอา่ นคา่ ไมโครมเิ ตอรว์ ัดนอกระบบเมตริกได้
3. อธบิ ายวิธกี ารแบ่งสเกลและอ่านค่าไมโครมิเตอรว์ ดั นอกระบบอังกฤษได้
4. สามารถสอบเทียบไมโครมเิ ตอรไ์ ด้
5. สามารถวดั ขนาดชิน้ งานด้วยไมโครมิเตอร์ได้
6. บอกข้อควรระวงั การจดั เก็บและบารงุ รกั ษาไมโครมเิ ตอร์ได้
การบรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
3. ห่วง
1. พอประมาณ
1.1 ใชว้ ัสดุอปุ กรณ์อย่างประหยดั
1.2 ใช้วัสดุอปุ กรณใ์ ห้เกิดประโยชน์สูงสุด
1.3 เลือกใชว้ สั ดใุ หเ้ หมาะสมกบั การนาไปใชง้ าน
2. มเี หตผุ ล
2.1 นาความรทู้ ่มี ีไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจาวัน
2.2 วิเคราะห์ และนาความรไู้ ปปฏิบัตไิ ด้ถูกตอ้ ง
3. มีภูมคิ มุ้ กนั
3.1 ปฏิบตั ิงานตามหน้าท่ที ่ีได้รบั มอบหมาย
3.2 ปฏบิ ตั ิงานดว้ ยความรอบคอบ และเป็นระเบียบเรียบร้อย
3.3 คานงึ ถึงความปลอดภัยในการปฏบิ ตั งิ าน
2. เง่ือนไข
1. ความรู้
1.1 รอบรู้ มีความรู้ มที กั ษะ เก่ียวกบั ความรู้ไมโครมิเตอร์
1.2 รอบคอบ มีการวางแผน การคดิ วเิ คราะหก์ ารปฏิบัติงานอยา่ งมเี หตุผล
1.3 ระมดั ระวัง ใช้เครื่องมือในการปฏบิ ตั ิงานตามระเบยี บ และคาแนะนาของผู้สอน
2. คุณธรรม
เปน็ ผู้ทม่ี ี ความรับผิดชอบ ระเบยี บวนิ ัย สมั มาคารวะ ตรงต่อเวลา และสนใจใฝรุ ู้
36
กิจกรรมการเรยี นการสอน
สปั ดาหท์ ่ี 10
ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน
1. แจง้ จุดประสงค์การเรียนรใู้ ห้นกั ศกึ ษาทราบ เร่อื ง ไมโครมิเตอร์
2. ครชู ีแ้ จงนักศกึ ษาถงึ วตั ถุประสงคข์ องการทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและวธิ ีการทาแบบทดสอบ
3. ครูใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน
4. ครูตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น
5. ครูแจ้งคะแนนการทาแบบทดสอบก่อนเรียน และทาความเข้าใจกับนักศึกษาว่า ผลการ
ทดสอบเพอ่ื เป็นการวดั ความร้พู ้นื ฐานเท่านัน้ ไม่มีผลต่อการวัดผลคะแนนรวม
6. ครูบรรยายด้วยโปรแกรม PowerPoint เกี่ยวกบั ไมโครมิเตอร์
7. ครูนาเข้าสู่บทเรียน “ไมโครมิเตอร์เป็นเครื่องมือวัดละเอียดที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในงาน
อุตสาหกรรมที่ต้องการความละเอียดและเท่ียงตรงสูง หลักการทางานของไมโครมิเตอร์ได้พัฒนามาจาก
การหมุนเคลื่อนที่ของชุดเกลียว โดยการเคลื่อนท่ีของเกลียวปากเดียว หมุนเคล่ือนท่ีไปครบ 1 รอบ การ
เคลอื่ นท่ขี องเสน้ ขอบเกลยี ว 1 รอบ จะเทา่ กับ 1 ระยะพติ ชข์ องเกลียว”
ขน้ั สอน
10. ครูใช้วิธีการสอนแบบต้ังคาถาม (Questioning Method) ให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจาก
ประสบการณ์ ตามหัวขอ้ ตอ่ ไปน้ี
10.1 ประวัติความเป็นมาและหลกั การทางานของไมโครมเิ ตอร์
10.2 ส่วนประกอบและหนา้ ที่ของไมโครมิเตอร์วัดนอก
11. จากน้ันแบ่งกลุ่มผู้เรียนแบบคละ เก่ง ปานกลาง อ่อน ออกเป็น 8 กลุ่ม และแนะนาการเรียน
แบบ CIPPA Model, Questioning Method ทาใบงานที่ 6.1 โดยให้ทบทวนความรู้เดิม แสวงหาความรู้
ใหม่ ศึกษาทาความเข้าใจข้อมูลโดยการเช่ือมโยงกับความรู้เดิม มีการแลกเปล่ียนความรู้ความเข้าใจกับ
กลมุ่ สรุป นาเสนอผลงาน โดยครแู ละเพอื่ น ๆ รว่ มกนั ประเมนิ ผล
ขั้นสรุปและประเมินผล
12. ครูและนักศึกษาอภปิ รายและสรุปรว่ มกนั เกยี่ วกับสาระการเรียนรู้ เพ่ือให้ได้ความรู้ตามหัวข้อ
ท่ไี ดศ้ กึ ษามา และเพม่ิ เติมในสว่ นทไี่ ม่ได้กลา่ วถงึ เพ่อื ให้มีความสมบรู ณย์ ิ่งขึน้ ในการนาไปใช้
37
สปั ดาห์ที่ 11
ข้นั นาเขา้ ส่บู ทเรียน
1. แจง้ จุดประสงค์การเรียนรใู้ ห้นักศกึ ษาทราบ เร่อื ง ไมโครมเิ ตอร์
2. ครชู แี้ จงนักศกึ ษาถึงวตั ถุประสงค์ของการทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนและวิธีการทาแบบทดสอบ
3. ครใู หน้ กั ศึกษาทาแบบทดสอบก่อนเรียน
4. ครูตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน
5. ครูแจ้งคะแนนการทาแบบทดสอบก่อนเรียน และทาความเข้าใจกับนักศึกษาว่า ผลการ
ทดสอบเพอ่ื เป็นการวัดความรู้พนื้ ฐานเทา่ นนั้ ไมม่ ผี ลตอ่ การวัดผลคะแนนรวม
6. ครูบรรยายดว้ ยโปรแกรม PowerPoint เกยี่ วกบั ไมโครมิเตอร์
7. ครนู าเข้าสูบ่ ทเรยี น “วิธีการแบง่ สเกลและอ่านคา่ ไมโครมเิ ตอร์ระบบเมตริก”
ขัน้ สอน
10. ครูใช้วิธีการสอนแบบตั้งคาถาม (Questioning Method) ให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจาก
ประสบการณ์ ตามหัวขอ้ ต่อไปนี้
10.3 วิธีการแบง่ สเกลและอา่ นคา่ ไมโครมเิ ตอรร์ ะบบเมตรกิ
10.4 วิธกี ารแบ่งสเกลและอ่านค่าไมโครมิเตอร์ระบบอังกฤษ
10.5 การสอบเทยี บไมโครมเิ ตอร์
10.6 การวดั ชน้ิ งานดว้ ยสอบเทียบไมโครมิเตอร์
10.5 การบารงุ ดแู ลรักษาไมโครมเิ ตอร์
11. จากน้ันแบ่งกลุ่มผู้เรียนแบบคละ เก่ง ปานกลาง อ่อน ออกเป็น 8 กลุ่ม และแนะนาการเรียน
แบบ CIPPA Model, Questioning Method ทาใบงานท่ี 6.2 โดยให้ทบทวนความรู้เดิม แสวงหาความรู้
ใหม่ ศึกษาทาความเข้าใจข้อมูลโดยการเชื่อมโยงกับความรู้เดิม มีการแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับ
กลมุ่ สรปุ นาเสนอผลงาน โดยครแู ละเพอ่ื น ๆ รว่ มกันประเมินผล
ขน้ั สรุปและประเมินผล
12. ครูและนกั ศึกษาอภปิ รายและสรุปรว่ มกนั เก่ียวกับสาระการเรียนรู้ เพื่อให้ได้ความรู้ตามหัวข้อ
ที่ไดศ้ กึ ษามา และเพม่ิ เตมิ ในส่วนทไ่ี ม่ได้กลา่ วถงึ เพ่ือให้มคี วามสมบรู ณ์ยง่ิ ขน้ึ ในการนาไปใช้
ส่อื การเรยี นการสอน
1. หนงั สอื เรียนวิชามาตรวทิ ยาอุตสาหกรรม บริษทั ศูนย์หนังสือเมืองไทย จากัด
2. เอกสารประกอบการสอน วิชามาตรวทิ ยาอุตสาหกรรม
38
3. ส่อื ของจริง เช่น ไมโครมเิ ตอร์
4. สอ่ื PowerPoint
5. แบบทดสอบก่อนเรยี น/หลงั เรียน
6. แบบฝกึ หัดท้ายหน่วยการเรียน
7. ใบงาน
8. อนิ เตอร์เนต็ สาหรับคน้ ควา้ ขอ้ มูลเพมิ่ เติม
หลกั ฐานการเรียนรู้/แหลง่ เรยี นรู้
1. หลกั ฐานการเรียนรู้
1.1 หนังสือเรยี นวิชามาตรวิทยาอุตสาหกรรม บริษทั ศนู ยห์ นังสอื เมืองไทย จากดั
1.2. เอกสารประกอบการสอน วิชามาตรวิทยาอตุ สาหกรรม
1.3. ส่อื ของจรงิ เชน่ ไมโครมิเตอร์
1.4. สอื่ PowerPoint
1.5. อินเตอรเ์ นต็ สาหรบั ค้นคว้าข้อมูลเพ่ิมเติม
2. หลกั ฐานการปฏบิ ตั ิงาน
2.1 แบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรียน
2.2 แบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยการเรยี น
2.3 ใบงาน
2.4 ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมการเรียน
การวัดผลประเมนิ ผล
1. เครือ่ งมือวดั ผล
1.1 แบบทดสอบก่อนเรยี น/หลงั เรียน
1.2 แบบฝกึ หดั ท้ายหนว่ ยการเรยี น
1.3 ใบงาน
1.4 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
2. วิธีวัดผล
2.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรยี น
2.2 ตรวจแบบฝึกหดั ท้ายหนว่ ยการเรยี น
2.3 ตรวจใบงาน
39
2.4 สงั เกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์
3. เกณฑก์ ารประเมินผล
3.1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน (ตามสภาพจริง)/หลังเรียน ต้องมคี ะแนนไมน่ ้อยกว่า 50%
3.2 แบบฝึกหัดท้ายหน่วยการเรยี น ต้องมีคะแนนไม่น้อยกว่า 50%
3.3 ใบงาน ตอ้ งมคี ะแนนไม่น้อยกวา่ 50%
3.4 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ นักศึกษาต้องมี
พฤติกรรมครบทุกข้อจึงถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
40
แผนการจดั การเรียนรู้
มุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
รหสั วชิ า 30102-2006 ชือ่ วชิ า มาตรวทิ ยาอตุ สาหกรรม ท-ป-น (2-2-3)
หน่วยท่ี 7 ช่อื หน่วย การสอบเทยี บนาฬิกาวดั
จานวน 8 ชวั่ โมง ชัว่ โมงที่ 45-52 สปั ดาหท์ ี่ 12-13
สาระสาคญั
นาฬิกาวัดเป็นเครื่องมือที่ใช้วัดและตรวจสอบชิ้นงาน ตรวจสอบความเท่ียงตรงของช้ินงาน วัด
ระยะเย้อื งศูนย์ วัดตรวจสอบความขนานของช้ินงาน การทางานของนาฬิกาวัดใช้หลักการเคลื่อนท่ีในแนว
เสน้ ตรงเปลยี่ นเป็นการเคลื่อนทีใ่ นแนวเส้นรอบวง โดยใช้เฟืองขับ เฟืองสะพาน เฟืองตาม เป็นตัวส่งกาลัง
ทาใหเ้ ขม็ นาฬิกาหมุนในแนวเส้นรอบวง
หัวข้อเรื่อง
1. ส่วนประกอบของนาฬกิ าวัด
2. อา่ นคา่ นาฬกิ าวัด
3. การสอบเทียบนาฬิกาวัด
4. การบารุงรกั ษานาฬิกาวัด
สมรรถนะย่อย
1. แสดงความรู้เกีย่ วกับนาฬิกาวัด
2. อ่านค่านาฬกิ าวดั ได้
3. สอบเทยี บใช้นาฬิกาวัดได้
4. บารงุ รักษานาฬิกาวดั ได้
จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1. สามารถอ่านคา่ นาฬิกาวัดได้
2. สามารถใช้งานนาฬกิ าวดั ได้
41
3. สามารถสอบเทียบนาฬกิ าวัดได้
4. บอกข้อควรระวงั การจัดเก็บและบารุงรกั ษานาฬิกาวัดได้
การบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
3. ห่วง
1. พอประมาณ
1.1 ใช้วสั ดุอปุ กรณ์อยา่ งประหยัด
1.2 ใช้วสั ดุอุปกรณ์ให้เกดิ ประโยชน์สูงสดุ
1.3 เลือกใชว้ ัสดุใหเ้ หมาะสมกับการนาไปใช้งาน
2. มเี หตผุ ล
2.1 นาความรู้ทมี่ ีไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน
2.2 วเิ คราะห์ และนาความร้ไู ปปฏบิ ตั ิได้ถูกตอ้ ง
3. มีภมู คิ ุม้ กนั
3.1 ปฏบิ ัตงิ านตามหน้าทีท่ ี่ได้รบั มอบหมาย
3.2 ปฏิบัตงิ านดว้ ยความรอบคอบ และเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย
3.3 คานึงถึงความปลอดภัยในการปฏบิ ัตงิ าน
2. เงอ่ื นไข
1. ความรู้
1.1 รอบรู้ มคี วามรู้ มที ักษะ เกยี่ วกับนาฬกิ ารวดั
1.2 รอบคอบ มีการวางแผน การคิดวเิ คราะหก์ ารปฏิบัติงานอยา่ งมเี หตผุ ล
1.3 ระมัดระวัง ใชเ้ ครื่องมือในการปฏบิ ตั ิงานตามระเบยี บ และคาแนะนาของผสู้ อน
2. คณุ ธรรม
เปน็ ผ้ทู ม่ี ี ความรบั ผดิ ชอบ ระเบียบวินัย สมั มาคารวะ ตรงต่อเวลา และสนใจใฝรุ ู้
กิจกรรมการเรยี นการสอน
สปั ดาห์ที่ 12
ขัน้ นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น
1. ครูชี้แจงเกี่ยวกบั จุดประสงค์ของหนว่ ยการเรยี นท่ี 7
2. ครชู ีแ้ จงนกั ศกึ ษาถงึ วัตถปุ ระสงค์ของการทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและวิธีการทาแบบทดสอบ
3. ครใู หน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบก่อนเรยี น
42
4. ครูตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
5. ครูแจ้งคะแนนการทาแบบทดสอบก่อนเรียน และทาความเข้าใจกับนักศึกษาว่า ผลการ
ทดสอบเพอื่ เปน็ การวัดความรู้พนื้ ฐานเท่านัน้ ไมม่ ผี ลตอ่ การวัดผลคะแนนรวม
6. ครูบรรยายดว้ ยโปรแกรม PowerPoint เกี่ยวกบั การสอบเทียบนาฬิกาวัด ให้นักศึกษาร่วมกัน
เรียนรู้
7. ครูนาเข้าสู่บทเรียน “นาฬิกาวัดเป็นเคร่ืองมือที่ใช้วัดและตรวจสอบช้ินงาน ตรวจสอบความ
เทีย่ งตรงของชิน้ งาน วดั ระยะเยอ้ื งศูนย์ วัดตรวจสอบความขนานของช้ินงาน การทางานของนาฬิกาวัดใช้
หลกั การเคลือ่ นทใ่ี นแนวเสน้ ตรง”
ขั้นสอน
10. ครูใช้วิธีการสอนแบบตั้งคาถาม (Questioning Method) ให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจาก
ประสบการณ์ ตามหัวขอ้ ตอ่ ไปน้ี
10.1 การอ่านค่านาฬกิ าวัด
11. จากนั้นแบ่งกลุ่มผู้เรียนแบบคละ เก่ง ปานกลาง อ่อน ออกเป็น 8 กลุ่ม และแนะนาการเรียน
แบบ CIPPA Model, Questioning Method ทาใบงานที่ 8.1 โดยให้ทบทวนความรู้เดิม แสวงหาความรู้
ใหม่ ศึกษาทาความเข้าใจข้อมูลโดยการเช่ือมโยงกับความรู้เดิม มีการแลกเปล่ียนความรู้ความเข้าใจกับ
กลุ่ม สรุป นาเสนอผลงาน โดยครแู ละเพ่ือน ๆ ร่วมกันประเมินผล
ขัน้ สรปุ และประเมินผล
12. ครูและนักศึกษาอภปิ รายและสรปุ ร่วมกนั เกี่ยวกับสาระการเรียนรู้ เพ่ือให้ได้ความรู้ตามหัวข้อ
ทไ่ี ดศ้ กึ ษามา และเพ่ิมเติมในส่วนทไี่ ม่ไดก้ ลา่ วถึงเพอ่ื ให้มคี วามสมบูรณย์ ิง่ ข้ึนในการนาไปใช้
สอ่ื การเรยี นการสอน
1. หนังสอื เรยี นวิชามาตรวิทยาอุตสาหกรรม บริษทั ศูนย์หนังสอื เมืองไทย จากดั
2. เอกสารประกอบการสอน วิชามาตรวิทยาอตุ สาหกรรม
3. ส่อื ของจรงิ เชน่ นาฬิกาวัด
4. สอื่ PowerPoint
5. แบบทดสอบก่อนเรยี น/หลังเรียน
6. แบบฝกึ หัดท้ายหนว่ ยการเรียน
7. ใบงาน
8. อินเตอร์เนต็ สาหรับคน้ ควา้ ข้อมูลเพ่มิ เติม
43
หลักฐานการเรยี นรู้/แหล่งเรียนรู้
1. หลักฐานการเรยี นรู้
1.1 หนังสอื เรยี นวิชามาตรวิทยาอุตสาหกรรม บริษัทศูนยห์ นังสือเมืองไทย จากดั
1.2. เอกสารประกอบการสอน วชิ ามาตรวทิ ยาอตุ สาหกรรม
1.3. สอ่ื ของจรงิ เชน่ ไมโครมเิ ตอร์
1.4. สือ่ PowerPoint
1.5. อินเตอรเ์ น็ตสาหรบั ค้นควา้ ขอ้ มูลเพ่มิ เติม
2. หลักฐานการปฏบิ ตั งิ าน
2.1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลงั เรียน
2.2 แบบฝึกหัดท้ายหนว่ ยการเรยี น
2.3 ใบงาน
2.4 ผลการปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียน
การวดั ผลประเมนิ ผล
1. เคร่อื งมือวดั ผล
1.1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลงั เรยี น
1.2 แบบฝกึ หดั ทา้ ยหนว่ ยการเรียน
1.3 ใบงาน
1.4 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
2. วธิ วี ัดผล
2.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรยี น
2.2 ตรวจแบบฝกึ หดั ทา้ ยหน่วยการเรยี น
2.3 ตรวจใบงาน
2.4 สังเกตและประเมนิ พฤติกรรมด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์
3. เกณฑก์ ารประเมินผล
3.1 แบบทดสอบก่อนเรยี น (ตามสภาพจริง)/หลงั เรยี น ตอ้ งมคี ะแนนไมน่ ้อยกวา่ 50%
3.2 แบบฝกึ หดั ท้ายหนว่ ยการเรียน ต้องมีคะแนนไมน่ ้อยกว่า 50%
3.3 ใบงาน ต้องมีคะแนนไมน่ ้อยกวา่ 50%
3.4 แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักศึกษาต้องมี
พฤติกรรมครบทุกข้อจึงถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
44
แผนการจัดการเรยี นรู้
ม่งุ เนน้ สมรรถนะอาชพี และบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
รหัสวิชา 30102-2006 ชือ่ วชิ า มาตรวทิ ยาอุตสาหกรรม ท-ป-น (2-2-3)
หน่วยที่ 8 ช่อื หน่วย การสอบเทียบไดอัลเทสอินดิเคเตอร์
จานวน 8 ชั่วโมง ชั่วโมงท่ี 53-60 สัปดาหท์ ี่ 14-15
สาระสาคญั
ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ นาฬิกาวัดที่เหมาะกับงานวัดแบบเปรียบเทียบพื้นท่ีแคบ มีหัวสัมผัสวัดและ
แกนวัดเป็นลักษณะคานยื่นออกมาจากชุดนาฬิกาวัดเพื่อทาการวัดและตรวจสอบ มีค่าความละเอียดและ
ความถกู ต้องสงู
หัวข้อเรอื่ ง
1. สว่ นประกอบของไดอัลเทสอินดเิ คเตอร์
2. การอา่ นค่าไดอัลเทสอินดิเคเตอร์
3. การสอบเทียบสว่ นประกอบของไดอัลเทสอินดิเคเตอร์
4. การบารงุ รักษาสว่ นประกอบของไดอัลเทสอินดเิ คเตอร์
สมรรถนะยอ่ ย
1. แสดงความรู้เกย่ี วกับไดอลั เทสอินดิเคเตอร์
2. อา่ นค่าไดอลั เทสอนิ ดเิ คเตอร์ ได้
3. สอบเทยี บไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ ได้
4. บารงุ รักษาไดอลั เทสอินดิเคเตอร์ ได้
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1. สามารถอา่ นค่าไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ ได้
2. สามารถใชง้ านไดอัลเทสอนิ ดเิ คเตอร์ ได้
3. สามารถสอบเทียบไดอลั เทสอินดิเคเตอร์ ได้
4. บอกขอ้ ควรระวงั การจดั เกบ็ และบารงุ รกั ษาไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ ได้
45
การบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
3. ห่วง
1. พอประมาณ
1.1 ใช้วัสดอุ ปุ กรณ์อย่างประหยัด
1.2 ใชว้ ัสดอุ ปุ กรณใ์ ห้เกิดประโยชนส์ ูงสดุ
1.3 เลือกใชว้ ัสดใุ หเ้ หมาะสมกับการนาไปใช้งาน
2. มีเหตุผล
2.1 นาความร้ทู ่มี ีไปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจาวัน
2.2 วิเคราะห์ และนาความรู้ไปปฏบิ ัติได้ถูกตอ้ ง
3. มภี ูมคิ ุ้มกัน
3.1 ปฏิบัตงิ านตามหนา้ ท่ีที่ได้รบั มอบหมาย
3.2 ปฏิบตั ิงานดว้ ยความรอบคอบ และเปน็ ระเบียบเรียบร้อย
3.3 คานึงถึงความปลอดภัยในการปฏิบตั ิงาน
2. เงอ่ื นไข
1. ความรู้
1.1 รอบรู้ มคี วามรู้ มที กั ษะ เกี่ยวกบั ไดอลั เทสอนิ ดเิ คเตอร์
1.2 รอบคอบ มีการวางแผน การคดิ วิเคราะห์การปฏบิ ตั ิงานอย่างมีเหตุผล
1.3 ระมัดระวัง ใช้เคร่ืองมือในการปฏบิ ตั ิงานตามระเบยี บ และคาแนะนาของผ้สู อน
2. คณุ ธรรม
เปน็ ผ้ทู มี่ ี ความรบั ผิดชอบ ระเบียบวินยั สมั มาคารวะ ตรงต่อเวลา และสนใจใฝุรู้
กิจกรรมการเรียนการสอน
สปั ดาห์ที่ 14
ข้นั นาเข้าสู่บทเรยี น
1. ครูชี้แจงเกี่ยวกับจดุ ประสงค์ของหน่วยการเรยี นท่ี 8
2. ครชู ีแ้ จงนักศึกษาถึงวตั ถุประสงค์ของการทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนและวธิ ีการทาแบบทดสอบ
3. ครูใหน้ ักศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
4. ครตู รวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน
5. ครูแจ้งคะแนนการทาแบบทดสอบก่อนเรียน และทาความเข้าใจกับนักศึกษาว่า ผลการ
ทดสอบเพ่อื เปน็ การวดั ความรพู้ น้ื ฐานเทา่ นั้น ไม่มผี ลต่อการวัดผลคะแนนรวม
46
6. ครูบรรยายด้วยโปรแกรม PowerPoint เกี่ยวกับการสอบเทียบไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ ให้
นักศกึ ษารว่ มกนั เรยี นรู้
7. ครูนาเข้าสู่บทเรียน “ ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ นาฬิกาวัดที่เหมาะกับงานวัดแบบเปรียบเทียบ
พ้ืนที่แคบ มีหัวสัมผัสวัดและแกนวัดเป็นลักษณะคานย่ืนออกมาจากชุดนาฬิกาวัดเพื่อทาการวัดและ
ตรวจสอบ มคี า่ ความละเอียดและความถูกตอ้ งสูง”
ขน้ั สอน
10. ครูใช้วิธีการสอนแบบตั้งคาถาม (Questioning Method) ให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจาก
ประสบการณ์ ตามหัวขอ้ ต่อไปน้ี
10.1 ส่วนประกอบของไดอัลเทสอนิ ดเิ คเตอร์
10.2 การอา่ นคา่ ไดอลั เทสอินดิเคเตอร์
11. จากนั้นแบ่งกลุ่มผู้เรียนแบบคละ เก่ง ปานกลาง อ่อน ออกเป็น 8 กลุ่ม และแนะนาการเรียน
แบบ CIPPA Model, Questioning Method ทาใบงานท่ี 8.1 โดยให้ทบทวนความรู้เดิม แสวงหาความรู้
ใหม่ ศึกษาทาความเข้าใจข้อมูลโดยการเชื่อมโยงกับความรู้เดิม มีการแลกเปล่ียนความรู้ความเข้าใจกับ
กลุ่ม สรุป นาเสนอผลงาน โดยครแู ละเพื่อน ๆ รว่ มกนั ประเมินผล
ขัน้ สรุปและประเมนิ ผล
12. ครูและนกั ศกึ ษาอภปิ รายและสรปุ รว่ มกนั เก่ียวกับสาระการเรียนรู้ เพื่อให้ได้ความรู้ตามหัวข้อ
ท่ีได้ศกึ ษามา และเพ่ิมเติมในสว่ นท่ไี ม่ได้กลา่ วถงึ เพ่อื ใหม้ ีความสมบูรณย์ ิ่งขึ้นในการนาไปใช้
สัปดาหท์ ี่ 15
ขนั้ นาเขา้ สูบ่ ทเรียน
1. ครูช้ีแจงเก่ียวกับจุดประสงค์ของหนว่ ยการเรียนท่ี 8
2. ครชู ้แี จงนักศึกษาถงึ วตั ถปุ ระสงคข์ องการทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนและวธิ กี ารทาแบบทดสอบ
3. ครูใหน้ ักศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
4. ครตู รวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน
5. ครูแจ้งคะแนนการทาแบบทดสอบก่อนเรียน และทาความเข้าใจกับนักศึกษาว่า ผลการ
ทดสอบเพื่อเป็นการวดั ความรพู้ ื้นฐานเทา่ นัน้ ไมม่ ผี ลตอ่ การวดั ผลคะแนนรวม
6. ครูบรรยายด้วยโปรแกรม PowerPoint เกี่ยวกับการสอบเทียบไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ ให้
นักศกึ ษารว่ มกนั เรียนรู้
47
7. ครูนาเข้าสู่บทเรียน “ ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ นาฬิกาวัดที่เหมาะกับงานวัดแบบเปรียบเทียบ
พ้ืนท่ีแคบ มีหัวสัมผัสวัดและแกนวัดเป็นลักษณะคานยื่นออกมาจากชุดนาฬิกาวัดเพื่อทาการวัดและ
ตรวจสอบ มคี ่าความละเอยี ดและความถูกตอ้ งสงู ”
ข้ันสอน
10. ครูใช้วิธีการสอนแบบตั้งคาถาม (Questioning Method) ให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจาก
ประสบการณ์ ตามหัวข้อต่อไปนี้
10.3 การสอบเทยี บไดอลั เทสอนิ ดเิ คเตอร์
10.4 การใช้งานไดอลั เทสอนิ ดเิ คเตอร์
10.5 การบารงุ ดูแลรักษาไดอลั เทสอนิ ดิเคเตอร์
11. จากนั้นแบ่งกลุ่มผู้เรียนแบบคละ เก่ง ปานกลาง อ่อน ออกเป็น 8 กลุ่ม และแนะนาการเรียน
แบบ CIPPA Model, Questioning Method ทาใบงานที่ 8.2 โดยให้ทบทวนความรู้เดิม แสวงหาความรู้
ใหม่ ศึกษาทาความเข้าใจข้อมูลโดยการเชื่อมโยงกับความรู้เดิม มีการแลกเปล่ียนความรู้ความเข้าใจกับ
กลุ่ม สรปุ นาเสนอผลงาน โดยครแู ละเพื่อน ๆ ร่วมกนั ประเมนิ ผล
ข้ันสรปุ และประเมินผล
12. ครูและนกั ศึกษาอภปิ รายและสรุปรว่ มกนั เกยี่ วกับสาระการเรียนรู้ เพื่อให้ได้ความรู้ตามหัวข้อ
ท่ีไดศ้ กึ ษามา และเพิม่ เตมิ ในสว่ นทไี่ มไ่ ดก้ ล่าวถึงเพื่อใหม้ คี วามสมบรู ณย์ ง่ิ ขึน้ ในการนาไปใช้
สอื่ การเรยี นการสอน
1. หนงั สอื เรียนวิชามาตรวทิ ยาอุตสาหกรรม บริษทั ศูนยห์ นังสอื เมืองไทย จากดั
2. เอกสารประกอบการสอน วชิ ามาตรวิทยาอุตสาหกรรม
3. สือ่ ของจรงิ เช่น เวอรเ์ นยี ร์คาลปิ เปอร์ ไมโครมเิ ตอร์
4. สอื่ PowerPoint
5. แบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลังเรียน
6. แบบฝกึ หัดท้ายหนว่ ยการเรียน
7. ใบงาน
8. อนิ เตอรเ์ นต็ สาหรับคน้ ควา้ ขอ้ มลู เพิ่มเติม