เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง หนอนชาพาตะลุย จัดทำขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อใช้เป็นสื่อประกอบการเรียนการสอนใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ผู้เรียนสามารถ เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง เข้าใจง่าย และสามารถนำใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมี ประสิทธิภาพ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริงโดยใช้กระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อให้ นักเรียนมีความรู้และมีทักษะในการเกษตรและยังปลูกฝังจิตสำนึกให้ตระหนักในการ ประหยัดตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับเอกสารเล่มนี้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติของชาวาวี สายพันธุ์ชา การปลูกชา การดูแลและขยายพันธุ์ชา วิธีการเก็บเกี่ยวชา การนำชามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ วัฒนธรรมการนำชาไปใช้ประโยชน์ของแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ ในการจัดทำเอกสารเล่มนี้ ผู้จัดทำได้ศึกษาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น ตำรา อินเทอร์เน็ต และปราชญ์ ชาวบ้าน โดยมีจุดมุ่งหมายให้นักเรียนได้เรียนรู้และพัฒนาให้เกิดองค์ความรู้สามารถ นำไปปฏิบัติได้จริง ขอขอบคุณผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวาวี คณะครู นักเรียน ปราชญ์ชาวบ้าน ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้กรุณาให้คำชี้แนะ ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดทำจน สำเร็จลุล่วงด้วยดีมา ณ ที่นี้เป็นอย่างสูง โรงเรียนบ้านวาวี
สารบัญ หน้า คำนำ ก สารบัญ ข คำชี้แจงการใช้เอกสารประกอบการเรียน 1 คำแนะนำสำหรับครู 2 คำแนะนำสำหรับนักเรียน 3 มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด 4 ตัวชี้วัดท้องถิ่น 15 สาระสำคัญและสาระการเรียนรู้ 16 กำหนดการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 17 กำหนดการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 19 เครื่องมือการวัดผลและประเมินผล 21 แบบประเมินแผนผังมโนทัศน์ 22 แบบบันทึกการประเมินการอ่าน 24 แบบประเมินโครงงานทดลองวิทยาศาสตร์ 26 แบบบันทึกการประเมินในงาน/ ชิ้นงาน 29 แบบบันทึกผลจากการสังเกตการปฏิบัติงานกลุ่ม 31 แบบบันทึกผลจากการสังเกตการปฏิบัติรายบุคคล 34 แบบบันทึกการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 37 ภาคผนวก ภาคผนวก ก เนื้อหาสาระเรื่องชา
คำชี้แจงการใช้เอกสารประกอบการเรียน เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง หนอนชาพาตะลุย จัดทำขึ้นเพื่อให้นักเรียนใช้ ศึกษาเรื่องชาในท้องถิ่น โดยจัดแบ่งเนื้อหาออกเป็น 7 เล่ม ดังนี้ เล่มที่ 1 ประวัติของชาวาวี เล่มที่ 2 สายพันธุ์ชา เล่มที่ 3 การปลูกชา เล่มที่ 4 การดูแลและขยายพันธุ์ชา เล่มที่ 5 วิธีการเก็บเกี่ยวชา เล่มที่ 6 การนำชามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เล่มที่ 7 วัฒนธรรมการนำชาไปใช้ประโยชน์ของกลุ่มชาติพันธุ์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง หนอนชาพาตะลุย จะเป็น ประโยชน์ต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน และสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาการ จัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรงเรียนบ้านวาวี 1
1. ศึกษาเนื้อหาของเอกสารประกอบการเรียนอย่างละเอียด 2. เลือกและประยุกต์ใช้อุปกรณ์ให้ถูกต้องตามความเหมาะสม 3. ใช้เอกสารประกอบการเรียนควบคู่กับแผนการจัดการเรียนรู้ พร้อมทั้งศึกษา แผนการจัดการเรียนรู้อย่างละเอียด 4. แบ่งกลุ่มนักเรียนแบบคละความสามารถด้วยวิธีการหลากหลาย 5. แนะนำ ชี้แจงวิธีการศึกษาเอกสารประกอบการเรียนให้นักเรียนอย่างละเอียด 6. สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานของนักเรียนระหว่างทำกิจกรรม 7. แนะนำช่วยเหลือเมื่อนักเรียนมีปัญหาในการศึกษาค้นคว้าเอกสารประกอบการ เรียน และการปฏิบัติกิจกรรมประเมินผลการปฏิบัติงานของนักเรียนตามสภาพ จริง 2
เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง หนอนชาพาตะลุย จัดทำขึ้นเพื่อให้นักเรียนใช้ ศึกษาหาความรู้ได้ด้วยตนเอง โดยก่อนศึกษาเอกสารประกอบการเรียน ควรอ่าน คำแนะนำให้เข้าใจ และปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ดังนี้ 1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม เลือกประธานกลุ่ม และเลขานุการกลุ่ม 2. ศึกษาจุดประสงค์เพื่อให้ทราบว่าเมื่อศึกษาแล้ว นักเรียนจะมีความรู้อะไรบ้าง 3. ศึกษาเนื้อหาจากสมุดเล่มเล็กให้เข้าใจ 4. ให้นักเรียนปฏิบัติตามใบงานที่กำหนดให้ 5. นักเรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง 6. หลังจากปฏิบัติกิจกรรมแล้ว นักเรียนจะต้องจัดเก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อย 3
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อนำไปใช้ ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท 1.1 ป 1/1 อ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง และข้อความสั้นๆ ท 1.1 ป 2/1 อ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรอง ง่ายๆ ได้ถูกต้อง ท 1.1 ป 3/1 อ่านออกเสียงคำ ข้อความ เรื่องสั้นๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ถูกต้อง คล่องแคล่ว ท 1.1 ป 4/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท 1.1 ป 5/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท 1.1 ป 6/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท 1.1 ป 1/3 ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน ท 1.1 ป 2/3 ตั้งคำถามและตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน ท 1.1 ป 3/3 ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน ท 1.1 ป 4/3 อ่านเรื่องสั้นๆ ตามเวลาที่กำหนด และตอบคำถามจากเรื่อง ที่อ่าน ท 1.1 ป 5/3 อธิบายความหมายโดยนัยจากเรื่องที่อ่านอย่างหลากหลาย ท 1.1 ป 6/3 อ่านเรื่องสั้นๆ อย่างหลากหลาย โดยจับเวลาแล้วถาม เกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน 4
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจถึงผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการของจำนวนและความสัมพันธ์ ระหว่างการดำเนินการต่าง ๆ และใช้การดำเนินการในการแก้ปัญหา ตัวชี้วัด ค 1.2 ป.1/1 บวก ลบ และบวก ลบระคนของจำนวนนับไม่เกินหนึ่งร้อย และศูนย์ พร้อมทั้งตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของ คำตอบ ค 1.2 ป.2/1 บวก ลบ คูณ หาร และบวก ลบ คูณ หารระคนของจำนวน นับ ไม่เกินหนึ่งพันและศูนย์พร้อมทั้งตระหนักถึงความสม เหตุ สมผลของคำตอบ ค 1.2 ป.3/1 บวก ลบ คูณ หาร และบวก ลบ คูณ หารระคนของจำนวนนับ ไม่เกินหนึ่งแสน และศูนย์ พร้อมทั้งตระหนักถึงความ สมเหตุสมผลของคำตอบ ค 1.2 ป.4/1 บวก ลบ คูณ หาร และบวก ลบ คูณ หารระคนของ จำนวน นับ และศูนย์ พร้อมทั้งตระหนักถึงความสมเหตุ สมผลของ คำตอบ ค 1.2 ป.5/1 บวก ลบ คูณ หาร และบวก ลบ คูณระคนของเศษส่วน พร้อมทั้งตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบ ค 1.2 ป.6/1 บวก ลบ คูณ หารและบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน จำนวนคละ และทศนิยมพร้อมทั้งตระหนักถึงความ สมเหตุสมผลของคำตอบ 5
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ ต้องการวัด ตัวชี้วัด ค 2.1 ป. 1/1 บอกความยาว น้ำหนัก ปริมาตรและความจุโดยใช้หน่วยที่ไม่ใช่ หน่วยมาตรฐาน ค 2.1 ป. 2/1 บอกความยาวเป็นเมตร และเซนติเมตร และเปรียบเทียบความยาวใน หน่วยเดียวกัน ค 2.1 ป. 3/1 บอกความยาวเป็น เมตร เซนติเมตร และมิลลิเมตร เลือก เครื่องวัดที่เหมาะสมและเปรียบเทียบความยาว ค 2.1 ป. 4/1 บอกความ สัมพันธ์ของหน่วยการวัดความยาว น้ำหนัก ปริมาตร หรือความจุ และเวลา ค 2.1 ป. 5/1 บอกความ สัมพันธ์ของหน่วยการวัด ปริมาตรหรือความจุ ค 2.1 ป. 6/1 อธิบายเส้นทางหรือบอกตำแหน่งของ สิ่งต่างๆ โดยระบุ ทิศทางและระยะทางจริงจากรูปภาพ แผนที่ และแผนผัง 6
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตที่ทำงานสัมพันธ์กัน มีกระบวนการสืบ เสาะหาความรู้ ตัวชี้วัด ว 1.1 ป.1/2 สังเกตและอธิบายลักษณะและหน้าที่ของโครงสร้างภายนอกของ พืชและสัตว์ ว 1.1 ป.2/2อธิบายอาหาร น้ำ อากาศ เป็นปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และการเจริญเติบโตของพืชและสัตว์และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ว 1.1 ป.4/2อธิบาย น้ำ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แสง และคลอโรฟิลล์ เป็น ปัจจัยที่จำเป็นบางประการต่อการเจริญเติบโตและการสังเคราะห์ ด้วยแสงของพืช ว 1.1 ป.4/3ทดลองและอธิบาย การตอบสนองของพืชต่อแสง เสียง และการ สัมผัส ว 1.1 ป.5/1สังเกตและระบุส่วนประกอบของดอกและโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับ การสืบพันธุ์ของพืชดอก ว 1.1 ป.5/2อธิบายการสืบพันธุ์ของพืชดอก การขยายพันธุ์พืช และนำความรู้ ไปใช้ประโยชน์ 7
มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ในการสืบ เสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา รู้ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มี รูปแบบที่แน่นอน สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ ภายใต้ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ ในช่วงเวลานั้นๆ เข้าใจว่า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อมมีความ เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัด ว 8.1 ป.1/1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่จะศึกษาตามที่กำหนดให้หรือตาม ความสนใจ ว 8.1 ป.2/1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่จะศึกษาตามที่กำหนดให้และตามความสนใจ ว 8.1 ป.3/1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่จะศึกษาตามที่กำหนดให้และตามความสนใจ ว 8.1 ป.4/1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็น หรือเรื่อง หรือสถานการณ์ที่จะศึกษาตามที่ กำหนดให้ และตามความสนใจ ว 8.1 ป.5/1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็นหรือเรื่อง หรือสถานการณ์ที่จะศึกษาตามที่ กำหนด ให้และตามความสนใจ ว 8.1 ป.6/1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็น หรือเรื่อง หรือสถานการณ์ที่จะศึกษา ตามที่กำหนดให้และตามความสนใจ ว 8.1 ป.1/2 วางแผน การสังเกต สำรวจตรวจสอบ ศึกษาค้นคว้า โดยใช้ความคิด ว 8.1 ป.3/2 วางแผน การสังเกต เสนอวิธีสำรวจตรวจสอบ ศึกษาค้นคว้า โดยใช้ ความคิดของตนเอง ของกลุ่มและคาดการณ์สิ่งที่จะพบ ว 8.1 ป.4/2 วางแผน การสังเกต เสนอวิธีสำรวจตรวจสอบ หรือศึกษาค้นคว้า และ คาดการณ์สิ่งที่จะพบจากการสำรวจตรวจสอบ ว 8.1 ป.5/2 วางแผน การสังเกต เสนอการสำรวจตรวจสอบ หรือศึกษาค้นคว้า และ คาดการณ์สิ่งที่จะพบจากการสำรวจตรวจสอบ ว 8.1 ป.6/2 วางแผน การสังเกต เสนอการสำรวจตรวจสอบ หรือศึกษาค้นคว้า คาดการณ์ สิ่งที่จะพบจากการสำรวจตรวจสอบ 8
มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์วัฒนธรรม มีจิตสำนึกและมีส่วนร่วม ในการอนุรักษ์ ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตัวชี้วัด ส 5.2 ป.1/1 บอกสิ่งต่างๆ ที่เกิดตามธรรมชาติที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ ส 5.2 ป.2/1 อธิบายความสำคัญและคุณค่าของสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและ ทางสังคม ส 5.2 ป.3/1 เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในชุมชนจากอดีต ถึงปัจจุบัน ส 5.2 ป.4/1 อธิบายสภาพ แวดล้อมทางกายภาพของชุมชนที่ส่งผลต่อการ ดำเนินชีวิตของคนในจังหวัด ส 5.2 ป.5/1 วิเคราะห์สภาพแวดล้อม ทางกายภาพที่มีอิทธิพลต่อลักษณะ การตั้งถิ่นฐานและการย้ายถิ่นของประชากรในภูมิภาค ส 5.2 ป.6/1 วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อม ทางธรรมชาติ กับสิ่งแวดล้อมทางสังคมในประเทศ 9
มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ป.1/2 เล่นเกมเบ็ดเตล็ดและเข้าร่วมกิจกรรมทางกายที่ใช้การ เคลื่อนไหวตามธรรมชาติ พ 3.1 ป.2/2 เล่นเกมเบ็ดเตล็ดและเข้าร่วมกิจกรรมทางกายที่วิธีเล่น อาศัย การเคลื่อนไหวเบื้องต้นทั้งแบบอยู่กับที่ เคลื่อนที่และใช้ อุปกรณ์ประกอบ พ 3.1 ป.3/2 เคลื่อนไหวร่างกายที่ใช้ทักษะการเคลื่อนไหวแบบบังคับทิศทาง ในการเล่นเกมเบ็ดเตล็ด พ 3.1 ป.4/3 เล่นเกมเลียนแบบและกิจกรรมแบบผลัด พ 3.1 ป.5/2 เล่นเกมนำไปสู่กีฬาที่เลือกและกิจกรรมการเคลื่อนไหวแบบ ผลัด พ 3.1 ป.6/2 จำแนกหลักการเคลื่อนไหวในเรื่องการรับแรง การใช้แรง และความสมดุลในการเคลื่อนไหวร่างกายในการเล่นเกม เล่นกีฬา และนำผลมาปรับปรุง เพิ่มพูนวิธีปฏิบัติของตนและผู้อื่น 10
มาตรฐาน ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องาน ศิลปะอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ตัวชี้วัด ศ 1.1 ป.1/5 วาดภาพระบายสีภาพธรรมชาติตามความรู้สึกของตนเอง ศ 1.1 ป.2/6 วาดภาพเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวของตนเอง และเพื่อนบ้าน ศ 1.1 ป.3/6 วาดภาพถ่ายทอดความคิดความรู้สึกจากเหตุการณ์ชีวิตจริง โดยใช้เส้น รูปร่าง รูปทรง สีและพื้นผิว ศ 1.1 ป.4/5 มีทักษะพื้นฐานในการใช้วัสดุ อุปกรณ์สร้างสรรค์งานวาด ภาพระบายสี ศ 1.1 ป.5/3 วาดภาพ โดยใช้เทคนิคของแสงเงา น้ำหนัก และวรรณะสี ศ 1.1 ป.6/3 สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์จากรูปแบบ 2 มิติ เป็น 3 มิติ โดย ใช้หลักการของแสงเงาและน้ำหนัก 11
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการ เรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน ตัวชี้วัด ต 3.1 ป.1/1 บอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ต 3.1 ป.2/1 บอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ต 3.1 ป.3/1 บอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ต 3.1 ป.4/1 ค้นคว้า รวบรวมคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ อื่นและนำเสนอด้วยการพูดการเขียน ต 3.1 ป.5/1 ค้นคว้า รวบรวมคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ อื่น และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน ต 3.1 ป.6/1 ค้นคว้า รวบรวมคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ อื่นจากแหล่งเรียนรู้และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน 12
มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการ ทำงาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทำงานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลักษณะนิสัยในการทำงาน มีจิตสำนึก ในการใช้พลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม เพื่อการดำรงชีวิตและครอบครัว ตัวชี้วัด ง 1.1 ป.1/2 ใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือง่าย ๆ ในการทำงานอย่าง ปลอดภัย ง 1.1 ป.2/2 ใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือ ในการทำงานอย่างเหมาะสมกับ งานและประหยัด ง 1.1 ป.3/2 ใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือ ตรงกับลักษณะงาน ง 1.1 ป.4/2 ทำงานบรรลุเป้าหมายที่วางไว้อย่างเป็นขั้นตอน ด้วยความขยัน อดทนรับผิดชอบ และซื่อสัตย์ ง 1.1 ป.5/2 ใช้ทักษะการจัดการในการทำงาน อย่างเป็นระบบ ประณีต และมี ความคิดสร้างสรรค์ ง 1.1 ป.6/2 ใช้ทักษะการจัดการในการทำงาน และมีทักษะการทำงาน ร่วมกัน ง 1.1 ป.1/3 ทำงานเพื่อช่วยเหลือตนเองอย่างกระตือรือร้นและตรงเวลา ง 1.1 ป.2/3 ทำงานเพื่อช่วยเหลือตนเองและครอบครัวอย่างปลอดภัย ง 1.1 ป.3/3 ทำงานอย่างเป็นขั้นตอนตามกระบวนการทำงานด้วยความสะอาด ความรอบคอบ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ง 1.1 ป.4/3 ปฏิบัติตนอย่างมีมารยาท ในการทำงาน ง 1.1 ป.5/3 ปฏิบัติตนอย่างมีมารยาทในการทำงานกับสมาชิกในครอบครัว ง 1.1 ป.6/3 ปฏิบัติตนอย่างมีมารยาทในการทำงานกับครอบครัวและผู้อื่น 13
มาตรฐาน ง 2.1 เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้าง สิ่งของเครื่องใช้ หรือวิธีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เลือกใช้เทคโนโลยีในทางสร้างสรรค์ต่อชีวิต สังคม สิ่งแวดล้อม และมีส่วนร่วมใน การจัดการเทคโนโลยีที่ยั่งยืน ตัวชี้วัด ง 2.1 ป.2/2 สร้างของเล่นของใช้อย่างง่าย โดยกำหนดปัญหาหรือความ ต้องการ รวบรวมข้อมูล ออกแบบ โดยถ่ายทอดความคิดเป็น ภาพร่าง 2 มิติ ลงมือสร้าง และประเมินผล ง 2.1 ป.3/1 สร้างของเล่นของใช้อย่างง่าย โดยกำหนด ปัญหาหรือความ ต้องการ รวบรวมข้อมูล ออกแบบ โดยถ่ายทอดความคิดเป็น ภาพร่าง 2 มิติ ลงมือสร้าง และประเมินผล ง 2.1 ป.5/2 สร้างสิ่งของเครื่องใช้ตามความสนใจอย่างปลอดภัย โดยกำหนด ปัญหาหรือความต้องการ รวบรวมข้อมูล เลือกวิธีการ ออกแบบ โดยถ่ายทอดความคิดเป็นภาพร่าง 3 มิติ ลงมือสร้าง และ ประเมินผล ง 2.1 ป.6/2 สร้างสิ่งของเครื่องใช้ตามความสนใจ อย่างปลอดภัย โดย กำหนดปัญหา หรือความต้องการ รวบรวมข้อมูล เลือกวิธีการ ออกแบบโดยถ่ายทอดความคิดเป็นภาพร่าง 3 มิติ หรือแผนที่ ความคิด ลงมือสร้าง และ ประเมินผล 14
ตัวชี้วัดท้องถิ่น 1. นักเรียนสามารถเล่าเรื่องประวัติชาในท้องถิ่นได้ 2. นักเรียนแสดงบทบาทสมมุติเกี่ยวกับประวัติชาได้ 3. ตั้งคำถามและตอบคำถามเกี่ยวกับชาวาวีได้ 4. นักเรียนบอกสายพันธุ์ชาในท้องถิ่นอย่างน้อย 2 สายพันธุ์ 5. บอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับชาได้ 6. เรียงลำดับขั้นตอน วิธี อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการเก็บเกี่ยวชาตามวิถีชีวิตในท้องถิ่น การใช้ อุปกรณ์ที่มีในท้องถิ่น วิธีการเก็บ ลักษณะชาที่ต้องเก็บตามที่ท้องถิ่นซึ่งทำตามกันมา 7. เต้นรำตามประเพณีในท้องถิ่นด้วยความสนุกสนาน มีการเคลื่อนไหวร่างกายอย่าง สวยงามในการเต้นรำทำท่าเสมือนว่าออกไปเก็บชา 8. มีจินตนาการในการใช้ชีวิตเกี่ยวกับชาในท้องถิ่นของตนได้ และสามารถวาดออกมาได้ อย่างสวยงามและเข้าใจ 9. บอกความสำคัญของชาและวิธีอนุรักษ์ชาในท้องถิ่นได้ 10. วัดน้ำหนัก ปริมาตร ความจุของผลิตภัณฑ์ชาวาวีได้ 11. นักเรียนสามารถเล่าเรื่องวิถีชีวิตของชุมชนตามความรู้สึกของตนเอง 12. ใช้เครื่องมือที่หาได้ในท้องถิ่นทำการปลูกชาได้ 13. บอกความรู้สึกของตนเองที่มีต่อวิถีชีวิตชุมชนวาวีได้ 14. ออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์จากชาได้ 15. อธิบายวัฒนธรรมของชุมชนวาวีที่มีผลต่อการนำชาไปใช้ประโยชน์ของกลุ่มชาติพันธุ์ ต่างๆได้ 16. อธิบายปัจจัยแวดล้อมที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของชาในท้องถิ่นได้ 15
สาระสำคัญ หมู่บ้านวาวี ในสมัยก่อนเริ่มมีการทำเมี่ยงแบบโบราณ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีใบ ชามาก ต่อมามีพ่อค้าชาวจีนเข้ามาแนะนำและสอนทำชาแห้ง โดยชาที่ปลูก มี 2 สาย พันธุ์ คือ ชาอัสสัม และชาอู่หลง ซึ่งชาอัสสัมจะขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด ส่วนชา อู่หลงมีการขยายพันธุ์โดยการปักชำ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูกชา คือ ช่วงฤดูฝน โดยเป็นช่วงที่ดินมีความชุ่มชื้น การปลูกชาและการดูแลต้นชานั้น จะไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ส่วนการเก็บเกี่ยวชานั้น จะทำการเก็บในช่วงเดือนมีนาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเวลา ที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยว คือ ตอนเช้าหลังจากที่แดดไล่น้ำค้างออกจากยอดชา และ พักต้นชาในช่วงฤดูหนาว ในช่วงที่พักจะมีการดูแลต้นชา โดยต้นชาหนึ่งต้นจะมีระยะ รอยในการเด็ดประมาณ 45 วัน ด้านวัฒนธรรมการนำชาไปใช้ประโยชน์ของกลุ่มชาติ พันธุ์ในชุมชนบ้านวาวี ซึ่งมีชนเผ่าที่หลากหลายมาอาศัยอยู่ร่วมกัน โดยแต่ละชาติพันธุ์ ก็จะมีวัฒนธรรมประเพณีที่แตกต่างกันไป แต่มีสิ่งที่มีเหมือนกัน คือ การประกอบอาชีพ เกี่ยวกับชา สาระการเรียนรู้ 1. ประวัติชาวาวี 2. สายพันธุ์ชา 3. ปลูกอย่างไรให้ได้ชาดี 4. การดูแลและขยายพันธุ์ชา 5. การเก็บเกี่ยวชา 6. ผลิตภัณฑ์จากชา 7. วัฒนธรรมการนำชาไปใช้ประโยชน์ของกลุ่มชาติพันธุ์ 16
กำหนดการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 ปีการศึกษา 256๖ โรงเรียนบ้านวาวี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงราย เขต 2 หน่วยการเรียนรู้ 7 หน่วย เวลา 20 ชั่วโมง คะแนนเต็ม 100 คะแนน ที่ ชื่อแผนการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) 1 ประวัติชาวาวี ท 1.1 ป 1/1 ท 1.1 ป 2/1 ท 1.1 ป 3/1 ตัวชี้วัดท้องถิ่น 1. ตัวชี้วัดท้องถิ่น 2. ส 5.2 ป.1/1 ส 5.2 ป.2/1 ส 5.2 ป.3/1 ส 5.2 ป.4/1 ส 5.2 ป.5/1 ส 5.2 ป.6/1 ตัวชี้วัดท้องถิ่น ข้อ 9. ศ 1.1 ป.1/5 ศ 1.1 ป.2/6 ศ 1.1 ป.3/6 ตัวชี้วัดท้องถิ่น 11. ประวัติของชาวาวี 3 2 สายพันธุ์ชา ว 1.1 ป.1/2 ว 8.1 ป.1/1 ว 8.1 ป.3/1 ตัวชี้วัดท้องถิ่น 2. ท 1.1 ป 1/1 ท 1.1 ป 2/1 ท 1.1 ป 3/1 ตัวชี้วัดท้องถิ่น 4. ต 3.1 ป.1/1 ต 3.1 ป.2/1 ต 3.1 ป.3/1 ตัวชี้วัดท้องถิ่น 13. สายพันธุ์ชา 2 3 ปลูกอย่างไรให้ได้ชาดี ว 1.1 ป.1/2 ว 1.1 ป.2/2 ค 2.1 ป. 1/1 ค 2.1 ป. 2/1 ค 2.1 ป. 3/1 ง 1.1 ป.1/2 ง 1.1 ป.2/2 ง 1.1 ป.3/2 ตัวชี้วัดท้องถิ่น 12. การปลูกชา 3 4 การดูแลและ ขยายพันธุ์ชา ว 1.1 ป.1/2 ว 1.1 ป.2/2 ตัวชี้วัดท้องถิ่น 16. ง 1.1 ป.1/2 ง 1.1 ป.1/3 ง 1.1 ป.2/2 ง 1.1 ป.2/3 ง 1.1 ป.3/2 ง 1.1 ป.3/3 ตัวชี้วัดท้องถิ่น 12. ท 1.1 ป.1/1 ท 1.1 ป.1/3 ท 1.1 ป.2/1 ท 1.1 ป.2/3 ท 1.1 ป.3/1 ท 1.1 ป.3/3 ตัวชี้วัดท้องถิ่น 1. ตัวชี้วัดท้องถิ่น 3. การดูแลและขยายพันธุ์ ชา 3 17
ที่ ชื่อแผนการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) 5 การเก็บเกี่ยวชา ง 1.1 ป.1/2 ง 1.1 ป.2/2 ง 1.1 ป.3/2 ง 1.1 ป.1/3 ง 1.1 ป.2/3 ง 1.1 ป.3/3 ตัวชี้วัดท้องถิ่น 6. พ 3.1 ป.1/2 พ 3.1 ป.2/2 พ 3.1 ป.3/2 ตัวชี้วัดท้องถิ่น 7. ศ 1.1 ป.1/5 ศ 1.1 ป.2/6 ศ 1.1 ป.3/6 ตัวชี้วัดท้องถิ่น 8. การเก็บเกี่ยวชา 3 6 ผลิตภัณฑ์จากชา ค 2.1 ป. 1/1 ค 2.1 ป . 2/1 ค 2.1 ป. 3/1 ต ั ว ช ี ้ วั ด ท้องถิ่น 10. ศ 1.1 ป.1/5 ศ 1.1 ป . 2/6 ศ 1.1 ป.3/6 ต ั ว ช ี ้ วั ด ท้องถิ่น 13. ง 2.1 ป.2/2 ง 2.1 ป.3/1 ตัวชี้วัดท้องถิ่น 14. ผลิตภัณฑ์จากชา 3 7 วัฒนธรรมการนำชา ไปใช้ประโยชน์ของ กลุ่มชาติพันธุ์ ส 5.2 ป.1/1 ส 5.2 ป.2/1 ส 5.2 ป.3/1 พ 3.1 ป.1/2 พ 3.1 ป.2/2 พ 3.1 ป.3/2 ตัวชี้วัดท้องถิ่น 10. ท 1.1 ป 1/1 ท 1.1 ป 2/1 ท 1.1 ป 3/1 ท 1.1 ป 1/3 ท 1.1 ป 2/3 ท 1.1 ป 3/3 วัฒนธรรมการนำชาไป ใช้ประโยชน์ของกลุ่ม ชาติพันธุ์ 3 รวม 20 18
กำหนดการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ปีการศึกษา 256๖ โรงเรียนบ้านวาวี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงราย เขต 2 หน่วยการเรียนรู้ 7 หน่วย เวลา 20 ชั่วโมง คะแนนเต็ม 100 คะแนน ที่ ชื่อแผนการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) 1 ประวัติชาวาวี ท 1.1 ป 4/1 ท 1.1 ป 5/1 ท 1.1 ป 6/1 ท 1.1 ป 4/3 ท 1.1 ป 5/3 ท 1.1 ป 6/3 ตัวชี้วัดท้องถิ่น ข้อ 1. ข้อ 2. ส 5.2 ป.4/1 ส 5.2 ป.5/1 ส 5.2 ป.6/1 ตัวชี้วัดท้องถิ่น ข้อ 9. ข้อ 13. ศ 1.1 ป.4/5 ศ 1.1 ป.5/3 ศ 1.1 ป.6/3 ตัวชี้วัดท้องถิ่น ข้อ 13. ประวัติของชาวาวี 3 2 สายพันธุ์ชา ว 8.1 ป.4/2 ว 8.1 ป.5/2 ว 8.1 ป.6/2 ท 1.1 ป 4/3 ท 1.1 ป 5/3 ท 1.1 ป 6/3 ตัวชี้วัดท้องถิ่น ข้อ 4. ต 3.1 ป.4/1 ต 3.1 ป.5/1 ต 3.1 ป.6/1 ตัวชี้วัดท้องถิ่น ข้อ 5. สายพันธุ์ชา 2 3 ปลูกอย่างไรให้ได้ชาดี ว 1.1 ป.4/2 ว 1.1 ป.4/3 ว 1.1 ป.5/1 ว 1.1 ป.5/2 ค 1.2 ป.4/1 ค 1.2 ป.5/1 ค 1.2 ป.6/1 ค 2.1 ป. 4/1 ค 2.1 ป. 5/1 ง 1.1 ป.4/2 ง 1.1 ป.5/2 ง 1.1 ป.6/2 ตัวชี้วัดท้องถิ่น ข้อ 12. การปลูกชา 3 4 การดูแลและ ขยายพันธุ์ชา ว 1.1 ป.4/2 ว 1.1 ป.4/3 ว 1.1 ป.5/1 ว 1.1 ป.5/2 ง 1.1 ป.4/2 ง 1.1 ป.5/2 ง 1.1 ป.6/2 ง 1.1 ป.1/3 ตัวชี้วัดท้องถิ่น ข้อ 12. ท 1.1 ป 4/1 ท 1.1 ป 5/1 ท 1.1 ป 6/1 ท 1.1 ป 4/3 ท 1.1 ป 5/3 ท 1.1 ป 6/3 ตัวชี้วัดท้องถิ่น ข้อ 11. การดูแลและขยายพันธุ์ ชา 3 19
ที่ ชื่อแผนการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) 5 การเก็บเกี่ยวชา ง 1.1 ป.1/2 ง 1.1 ป.2/2 ง 1.1 ป.3/2 ตัวชี้วัดท้องถิ่น ข้อ 6. พ 3.1 ป.4/3 พ 3.1 ป.5/2 พ 3.1 ป.6/2 ตัวชี้วัดท้องถิ่น ข้อ 7. ศ 1.1 ป.4/5 ศ 1.1 ป.5/3 ศ 1.1 ป.6/3 การเก็บเกี่ยวชา 3 6 ผลิตภัณฑ์จากชา ค 2.1 ป. 4/1 ค 2.1 ป. 5/1 ค 2.1 ป. 6/1 ตัวชี้วัดท้องถิ่น ข้อ 10. ศ 1.1 ป.4/5 ศ 1.1 ป.5/3 ศ 1.1 ป.6/3 ตัวชี้วัดท้องถิ่น ข้อ 13. ง 2.1 ป.5/2 ง 2.1 ป.6/2 ตัวชี้วัดท้องถิ่น ข้อ 14. ผลิตภัณฑ์จากชา 3 7 วัฒนธรรมการนำชา ไปใช้ประโยชน์ของ กลุ่มชาติพันธุ์ ส 5.2 ป.5/1 ส 5.2 ป.6/1 พ 3.1 ป.4/3 พ 3.1 ป.5/2 พ 3.1 ป.6/2 ท 1.1 ป 4/3 ท 1.1 ป 5/3 ท 1.1 ป 6/3 ตัวชี้วัดท้องถิ่น ข้อ 15. วัฒนธรรมการนำชาไป ใช้ประโยชน์ของกลุ่ม ชาติพันธุ์ 3 รวม 20 20
เครื่องมือวัดผลและประเมินผล
แบบประเมินแผนผังมโนทัศน์ คำชี้แจง 1. ทำเครื่องหมาย ( / ) ลงในช่องคะแนนตามเกณฑ์การประเมินพฤติกรรม 2. รวมคะแนนการประเมิน และเปรียบเทียบกับเกณฑ์การประเมิน นักเรียนกลุ่มที่........................................ชื่อกลุ่ม..................................................................... รายการประเมิน คะแนน 4 3 2 1 1. สรุปความรู้ได้ถูกต้อง ครบตรงประเด็น 2. การเชื่อมโยงความรู้ได้ถูกต้องตามลำดับขั้นความสัมพันธ์ 3. มีความคิดสร้างสรรค์ในการเขียนผังความคิด รวม ลงชื่อ.............................................................ผู้ประเมิน (............................................................) ……………./………………………./………………. เกณฑ์การให้คะแนน ความถูกต้องของเนื้อหา 4 หมายถึง มีเนื้อหาสาระครบถ้วนสมบูรณ์ 3 หมายถึง มีเนื้อหาสาระค่อนข้างครบถ้วน 2 หมายถึง มีเนื้อหาสาระไม่ครบถ้วนแต่ภาพรวมของสาระทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์พอใช้ 1 หมายถึง มีเนื้อหาสาระไม่ครบถ้วนแต่ภาพรวมของสาระทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ต้องปรับปรุง 22
เกณฑ์การประเมินระดับคุณภาพแผนผังมโนทัศน์ รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) 1. สรุปความรู้ได้ ถูกต้อง ครบตรง ประเด็น สามารถสรุป ความรู้ได้ครบและ ตรงประเด็นและ ถูกต้องทุกหัวข้อ สามารถสรุป ความรู้ได้ครบ ตรงประเด็นและมี ความถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ สรุปความรู้ไม่ครบ ทุกประเด็น สรุปความรู้ไม่ ถูกต้อง 2. การเชื่อมโยง ความรู้ได้ถูกต้อง ตามลำดับขั้น ความสัมพันธ์ สามารถเชื่อมโยง ความรู้ได้ถูกต้อง ตามลำดับ ความสัมพันธ์ สามารถเชื่อมโยง ความรู้ได้ และ ลำดับความ สัมพันธ์ได้ ค่อนข้างครบ สามารถเชื่อมโยง ความรู้และลำดับ ความสัมพันธ์ได้ บ้าง สามารถเชื่อมโยง ความรู้ได้ แต่ไม่ เป็นไปตามลำดับ ความสัมพันธ์ 3. มีความคิด สร้างสรรค์ในการ เขียนผังความคิด สามารถเขียนผัง ความคิดได้ใน รูปแบบที่ถูกต้อง และสวยงาม สามารถเขียนผัง ความคิดได้ ถูกต้องและมี ข้อบกพร่องเพียง เล็กน้อย สามารถเขียนผัง ความคิดได้ และมี ข้อบกพร่องเป็น บางส่วน สามารถเขียนผัง ความคิดได้ แต่ ขาดรูปแบบและ ความสวยงาม คะแนนตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน คุณภาพ 10 - 12 7 – 9 4 – 6 1 – 3 ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 23
แบบบันทึกการประเมินการอ่าน เลขที่ ประเด็น/คะแนน ชื่อ - สกุล ความเข้าใจ การจับใจความสำคัญ การรู้ความหมาย รวมคะแนน 8 8 4 20 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 ลงชื่อ.........................................................ผู้ประเมิน (................................................................) วันที่..........เดือน.................................พ.ศ. ................. 24
เกณฑ์การให้คะแนนการอ่าน ระดับ คะแนน ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน น้ำหนัก/ ความสำคัญ คะแนน รวม 4 3 2 1 ความเข้าใจ ตอบคำถาม หลังจากที่ อ่านได้ ทั้งหมด ตอบคำถาม หลังจากที่ อ่านได้เกือบ ทั้งหมด ตอบคำถาม หลังจากที่ อ่านได้ เล็กน้อย ตอบคำถาม หลังจากที่ อ่านได้น้อย มาก 2 8 การจับใจความ สำคัญ จับใจความ สำคัญของ เนื้อหาได้ ทั้งหมด จับใจความ สำคัญของ เนื้อหาได้ เกือบทั้งหมด จับใจความ สำคัญของ เนื้อหาได้ เล็กน้อย จับใจความ สำคัญของ เนื้อหาได้ น้อยมาก 2 8 การรู้ ความหมาย คำศัพท์ เมื่ออ่านพบ คำศัพท์ใหม่ สามารถเดา ความหมาย คำศัพท์จาก บริบทได้ ทั้งหมด เมื่ออ่านพบ คำศัพท์ใหม่ สามารถเดา ความหมาย คำศัพท์จาก บริบทได้ เกือบทั้งหมด เมื่ออ่านพบ คำศัพท์ใหม่ สามารถเดา ความหมาย คำศัพท์จาก บริบทได้ เล็กน้อย เมื่ออ่านพบ คำศัพท์ใหม่ สามารถเดา ความหมาย คำศัพท์จาก บริบทได้ น้อยมาก 1 4 รวม 5 20 เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน คุณภาพ 10 - 12 7 – 9 4 – 6 1 – 3 ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 25
แบบประเมินโครงงานทดลองวิทยาศาสตร์ กลุ่มที่ ชั้น...................... วันที่ สมาชิก 1. 2. 3. 4. 5. 6. คำชี้แจง โปรดทำเครื่องหมาย / ลงในช่องระดับคุณภาพ ของโครงงาน ตามความเป็นจริง ที่ รายการประเมิน คะแนน 4 3 2 1 1 การออกแบบการทดลอง 2 การเก็บรวบรวมข้อมูล 3 ผลการทดลอง 4 การนำเสนอผลการทดลองด้วยปากเปล่า รวม ลงชื่อ.........................................................ผู้ประเมิน (................................................................) วันที่..........เดือน.................................พ.ศ. ................. 26
เกณฑ์การให้คะแนนการทำโครงงานทดลองวิทยาศาสตร์ รายการประเมิน คำอธิบายคุณภาพ ดีมาก( 4 ) ดี ( 3 ) พอใช้ ( 2 ) ปรับปรุง ( 1 ) 1.การออกแบบ การทดลอง แบบทดลองที่ใช้ แสดงให้เห็นว่า นักเรียนได้มีการ วิเคราะห์ปัญหา และออกแบบ ทดลองได้ด้วย ตนเองและสามารถ ทำการทดลองได้ อย่างเหมาะสม แบบการทดลองที่ ใช้แสดงให้เห็นว่า นักเรียนได้นำ ความคิด กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ใช้ใน การทดลองโดยมี การควบคุมตัวแปร ต่างๆ แบบทดลองที่ใช้ แสดงให้เห็นว่า นักเรียนได้นำ ความคิด กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์แต่ จำเป็นต้องช่วยใน การควบคุมตัวแปร แบบทดลองที่ใช้ แสดงให้เห็นว่า นักเรียนสามารถ ทำการทดลองได้ เมื่อได้รับความ ช่วยเหลือจากครู 2 . ก า ร เ ก็ บ รวบรวมข้อมูล ข้อมูลที่ได้รับการ รวบรวมและจด บันทึกไว้เป็นลำดับ ซึ่งสะท้อนผลการ ทดลองได้อย่าง ถูกต้องแม่นยำ ข้อมูลที่ได้รับการ จดบันทึกไว้เป็น ตัวแทนของผลการ ทดลอง ข้อมูลที่ได้รับจด บันทึกไว้อย่างไม่ เป็นระบบหรือเป็น ระบบขึ้นใน ภายหลังได้รับการ ช่วยเหลือจากครู ข้อมูลที่ได้รับจด บันทึกไว้อย่างไม่ สมบูรณ์หรือจด บันทึกภายหลัง จากได้รับความ ช่วยเหลือจากครู 3. ผลการทดลอง ในการรายงานผล การทดลองมีการ อธิบายผลการ ทดลองชัดเจนมี การใช้ข้อมูลจาก แหล่งต่างๆหรือ จากการทดลอง อื่นๆประกอบ คำอธิบาย ในการรายงานผล การทดลองแสดงให้ เห็นว่านักเรียนมี ความเข้าใจในผล การทดลองและรู้ว่า จะอธิบายผลการ ทดลองอย่างไร ในการรายงานผล การทดลองมีการ แสดงผลการ ทดลอง การสรุปผล ยังไม่สมบูรณ์ หรือ มีการสรุปผลแต่ สรุปหลังจากถูก ถามคำถาม ในการรายงานผล การทดลองมีการ แสดงผลการ ทดลอง ขาดการ สรุปผลหรือไม่ สมบูรณ์ หรือ สับสน 4. การนำเสนอผล การทดลองด้วย ปากเปล่า การพูดนำเสนอทำ ได้ชัดเจน ถูกต้อง ผู้ฟังให้ความสนใจ มีท่าทางน้ำเสียง และการสบสายตา ผู้ฟังดีมาก การพูดนำเสนอ ได้รับการจัดเตรียม ด้วยความช่วยเหลือ บางประการจากครู แต่มีการนำเสนอ ผลการทดลองการ พูดมีเหตุผลและใช้ ท่าทางประกอบ น้ำเสียงและการ สบตาผู้ฟังทำได้ดี การพูดนำเสนอทำ ได้หลังจากได้รับ การสอนจากครู มี การใช้ท่าทาง น้ำเสียง และการ สบตาผู้ฟัง การพูดนำเสนอทำ ได้หลังจากได้รับ การสอนจากครู 27
เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน คุณภาพ 14 - 16 10 - 13 6 - 9 0 - 5 ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 28
แบบบันทึกการประเมินใบงาน/ชิ้นงาน เลขที่ ชื่อ - สกุล เนื้อหาสาระ ความถูกต้อง ของเนื้อหา สาระ การใช้ภาษา รวมคะแนน 8 8 4 20 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 ลงชื่อ................................................ผู้ประเมิน (................................................) วันที่..........เดือน.........................พ.ศ. ................. 29
เกณฑ์การประเมินใบงาน/ชิ้นงาน ประเด็น การประเมิน ระดับคะแนน / ระดับคุณภาพ น้ำหนัก ความสำคัญ คะแนน ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) รวม เนื้อหาสาระ มีเนื้อหา สาระ ครบถ้วนตาม ประเด็นที่ กำหนด ทั้งหมด มีเนื้อหาสาระ ค่อนข้าง ครบถ้วนตาม ประเด็นที่ กำหนด ทั้งหมด มีเนื้อหา สาระไม่ ครบถ้วนตาม ประเด็นแต่ ภาพรวมของ สาระทั้งหมด อยู่ในเกณฑ์ พอใจ มีเนื้อหาสาระ ไม่ครบถ้วน ภาพรวมของ สาระทั้งหมด อยู่ในเกณฑ์ ต้องปรับปรุง 2 8 ความถูกต้อง ของเนื้อหา สาระ เนื้อหาสาระ ทั้งหมด ถูกต้องตาม ข้อเท็จจริง และหลักวิชา เนื้อหาสาระ เกือบทั้งหมด ถูกต้องตาม ข้อเท็จจริง และหลักวิชา เนื้อหาสาระ บางส่วน ถูกต้องตาม ข้อเท็จจริง และหลักวิชา ต้องแก้ไข บางส่วน เนื้อหาสาระ ส่วนใหญ่ไม่ ถูกต้องตาม ข้อเท็จจริง หลักวิชาต้อง แก้ไขเป็น ส่วนใหญ่ 2 8 ภาษาถูกต้อง เหมาะสม สะกดการันต์ ถูกต้อง ถ้อยคำ สำนวน เหมาะสมดี มากลำดับ ความได้ ชัดเจน สะกดการันต์ ถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ ถ้อยคำ สำนวน เหมาะสมดี ลำดับความ ได้ดีพอใช้ สะกดการันต์ มีผิดอยู่บ้าง ถ้อยคำ สำนวน เหมาะสม พอใช้ ลำดับ ความพอ เข้าใจ สะกดการันต์ มีผิดอยู่บ้าง ถ้อยคำ สำนวนไม่ เหมาะสม ลำดับความ ไม่เข้าใจ 1 4 รวม 5 20 เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน คุณภาพ 17 - 20 14 - 16 11 - 13 0 - 10 ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 30
แบบบันทึกผลจากการสังเกตการปฏิบัติงานกลุ่ม กิจกรรมที่สังเกต เรื่อง กลุ่มที่ ชั้น...................... วันที่ สมาชิก 1. 2. 3. 4. 5. 6. คำชี้แจง ให้ผู้ประเมินเขียนเครื่องหมาย ✓ลงในช่องระดับคุณภาพ รายการละ 1 ระดับ ที่ พฤติกรรม/ลักษณะตัวบ่งชี้ ระดับคุณภาพ หมายเหตุ 4 3 2 1 1 ร่วมกันวางแผน และแบ่งหน้าที่การทำงานกับเพื่อนในกลุ่ม และจัดเตรียมวัสดุ/อุปกรณ์ พร้อมก่อนการปฏิบัติงาน 2 ปฏิบัติงานหรือทำการทดลอง ตามขั้นตอนและวิธีการที่ได้ ตกลงกัน 3 ระมัดระวังเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน หรือ ทำการทดลอง 4 ร่วมแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ 5 ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ ทันเวลา และมีคุณภาพ รวมคะแนน ระดับคะแนนเฉลี่ย = การประเมินผลรวมและระดับคุณภาพ ดังนี้ 4 หมายถึง ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมนั้นอย่างสม่ำเสมอ 3 หมายถึง ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมนั้นบ่อยครั้ง 2 หมายถึง ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมนั้นเป็นครั้งคราว 1 หมายถึง ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมนั้นน้อยครั้ง เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน คุณภาพ 17 - 20 14 - 16 11 - 13 0 - 10 ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 31
เกณฑ์การให้คะแนนการทำงานกลุ่ม ประเด็น การ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน น้ำหนัก/ ความสำคัญ คะแนน รวม ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) ความ ร่วมมือ สมาชิกในกลุ่ม ทุกคนร่วมกัน วางแผน และ แบ่งหน้าที่การ ทำงานกับเพื่อน ในกลุ่มและ จัดเตรียมวัสดุ/ อุปกรณ์ พร้อม ก่อนการ ปฏิบัติงาน สมาชิกในกลุ่ม ทุกคนร่วมมือ กันทำงาน ส่วนใหญ่มีการ ประสานงาน ที่ดี เปิดโอกาสให้ สมาชิกกลุ่มอื่นมี ส่วนร่วมใน กิจกรรมบางช่วง ของการนำเสนอ สมาชิกในกลุ่ม ทุกคนทำงานที่ ได้รับมอบหมาย แต่ยังขาดการ ประสานงานใน กลุ่ม เปิดโอกาส ให้สมาชิกกลุ่ม อื่นมีส่วนร่วม น้อยมากในช่วง ของการนำเสนอ สมาชิกในกลุ่ม บางคนไม่ทำงาน กลุ่ม ขาดการ ประสานงาน สมาชิกกลุ่มอื่นไม่มี โอกาสเข้าร่วม กิจกรรมในช่วงของ การนำเสนอ 1 4 ขั้นตอนการ ทำงาน มีการกำหนด ขั้นตอนการ ทำงานที่ชัดเจน ตั้งแต่เริ่มทำงาน จนกระทั่งเห็น ผลงานสมบูรณ์ มีการกำหนด ขั้นตอนการ ทำงานค่อนข้าง ชัดเจนตั้งแต่ เริ่มการทำงาน จนกระทั่งเห็น ผลงานสมบูรณ์ มีการกำหนด ขั้นตอนการ ทำงานแต่ยังมี ความสำเร็จของ งานไม่ค่อย สมบูรณ์ มีการกำหนด ขั้นตอนการ ทำงานไม่ชัดเจน ทำ ให้ผลงานไม่ สมบูรณ์ 1 8 ความ ปลอดภัย มีความ ระมัดระวัง เพื่อให้เกิดความ ปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงาน หรือ ทำการทดลอง มีความ ระมัดระวังใน บางส่วนในขณะ ปฏิบัติงาน หรือ ทำการทดลอง มีความ ระมัดระวังน้อย สะเพร่า ในขณะ ปฏิบัติงาน หรือ ทำการทดลอง ไม่ระมัดระวัง ในขณะปฏิบัติงาน หรือทำการทดลอง 1 4 การแสดง ความ คิดเห็น สมาชิกทุกคน ร่วมแสดงความ คิดเห็น สมาชิกส่วนใหญ่ ร่วมแสดง ความคิดเห็น สมาชิกมากกว่า ครึ่งร่วมแสดง ความคิดเห็น สมาชิกไม่ให้ ความร่วมมือใน การแสดงความ คิดเห็น 1 4 32
ความ รับผิดชอบ สมาชิกทุกคน ทำงานที่ได้รับ มอบหมายจน งานและนำเสนอ เสร็จสมบูรณ์ ทันเวลา สมาชิกส่วนใหญ่ ทำงานที่ได้รับ มอบหมายและ นำเสนอจนเสร็จ สิ้นสมบูรณ์ สมาชิกบางคน เลี่ยงงาน ไม่ทำ หน้าที่ตามที่ได้ รับมอบหมาย งานเสร็จ และ นำเสนอ แต่ไม่ ค่อยสมบูรณ์ ทันเวลา สมาชิกไม่มี ความรับผิดชอบ ทำให้งานไม่ บรรลุเป้าหมาย 1 4 รวม 5 20 เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน คุณภาพ 17 - 20 14 - 16 11 - 13 0 - 10 ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 33
แบบบันทึกผลจากการสังเกตการปฏิบัติงานรายบุคคล คำชี้แจง ให้ผู้ประเมินเขียนเครื่องหมาย ✓ลงในช่องระดับคุณภาพ รายการละ 1 ระดับ ชื่อ-สกุล การวัดผลและประเมินผล รวม ระดับคุณภาพ มีส่วน ร่วมใน การ ปฏิบัติ กิจกรรม สืบค้น ข้อมูล และ อธิบาย สิ่งที่ได้ เรียนรู้ ร่วม อภิปราย เนื้อหาที่ ได้เรียนรู้ กระตือรือร้น ในการ แสวงหา ความรู้ การ นำเสนอ ผลการ เรียนรู้ 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 15 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20. 21. 22. รวม 34
เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน คุณภาพ 11 - 15 6 - 10 0 - 5 ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ลงชื่อ................................................ผู้ประเมิน (................................................) วันที่..........เดือน.........................พ.ศ. ................. 35
เกณฑ์การให้คะแนนการทำงานรายบุคคล ประเด็นการ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน น้ำหนัก/ ความสำคัญ คะแนน รวม ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) การมีส่วน ร่วม มี ส ่ ว น ร ่ ว มใ น ก า ร ปฏิบัติกิจกรรมตั้งแต่ เริ่มต้นจนจบกิจกรรม ค่อนข้างมีส่วนร่วมใน การปฏิบัติกิจกรรม ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ กิจกรรม มีส่วนร่วมน้อยใน การปฏิบัติกิจกรรม ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ กิจกรรม 1 3 การสืบค้น ข้อมูลและ อธิบายสิ่งที่ ได้เรียนรู้ มีการสืบค้นข้อมูลและ อธิบายสิ่งที่ได้เรียนรู้ ให้สมาชิกในกลุ่มได้ฟัง มีการสืบค้นข้อมูล บางส่วน และอธิบาย ได้บ้าง ไ ม ่ ม ี ก า ร ส ื บ ค้ น ข้อมูลเลย 1 3 การร่วม อภิปราย เนื้อหาที่ได้ เรียนรู้ แสดงข้อคิดเห็นและ ยอมรับฟังข้อคิดเห็น ของผู้อื่น และร่วม พ ิ จ า ร ณ า อ ย ่ า ง มี เหตุผล แสดงข้อคิดเห็นและรับ ฟังข้อคิดเห็นของผู้อื่น บ้าง ไม่รับฟังและแสดง ข้อคิดเห็นของผู้อื่น 1 3 ความ กระตือรือร้น กระตือรือร้นในการหา ข้อมูลเพื่อให้มาซึ่ง คำตอบที่สมบูรณ์ ค่อนข้างกระตือรือร้น ในการหาข้อมูลเพื่อให้ มาซึ่งคำตอบ ไม่กระตือรือร้นใน การหาข้อมูลเพื่อให้ ได้มาซึ่งคำตอบ 1 3 การนำเสนอ ผลการ เรียนรู้ เป็นตัวแทนนำเสนอ ผ ล ง า น ท ี ่ เ ส ร ็จสิ้น สมบูรณ์ มีส่วนสนับสนุนในการ น ำ เ ส น อ ผ ล ง า น ค่อนข้างมาก มีส่วนช่วยในการ นำเสนอน้อย 1 3 รวม 5 15 เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน คุณภาพ 11 - 15 6 - 10 0 - 5 ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 36
แบบบันทึกการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ชื่อ-สกุล...........................................................................ชั้น..............................เลขที่....................... คำชี้แจง : ให้ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. มีวินัย 1.1 เข้าเรียนตรงเวลา 1.2 แต่งกายเรียบร้อยเหมาะสมกับกาลเทศะ 1.3 ปฏิบัติตามกฎระเบียบของห้อง 2. ใฝ่หาความรู้ 2.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ 2.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 2.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล 3. มุ่งมั่นในการ ทำงาน 3.1 มีความตั้งใจ และพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 3.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ รวม ลงชื่อ................................................ผู้ประเมิน (................................................) วันที่..........เดือน.........................พ.ศ. ................. เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ไม่ได้ปฏิบัติ ให้ 1 คะแนน การประเมินผลรวมและระดับคุณภาพ ดังนี้ คะแนน 24 - 32 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 16 - 23 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 8 - 15 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง สรุปผลการประเมิน ผ่าน ไม่ผ่าน 37
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก
บทที่ 1 ประวัติของชาวาวี ประวัติของชาวาวี สมัยเริ่มต้นในหมู่บ้านวาวีมีชาวบ้านอยู่ประมาณ 20 กว่าหลังคา มีผู้บุกเบิก ชื่อพลนาทุน ขุนนา เข้ามาในปี พ.ศ.2458 เริ่มเข้ามาในหมู่บ้านวาวี เริ่มแรกท่านได้เข้ามาอยู่ที่หมู่บ้านขุน สรวย หลังจากนั้นได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่หมู่บ้านวาวี ซึ่งในเวลานั้นจะมีการทำเหมี้ยงแบบโบราณอยู่ โดยการใช้กระทะใหญ่ๆ ก่อนแล้วค่อยมาทำชาและตอนนั้นประเทศไทยยังไม่มีการทำชามีแต่การ ทำเหมี้ยง ซึ่งทำแต่ในภาคเหนือเท่านั้น มีการทำเหมี้ยงกันมากที่อำเภอดอยสะเก็ดและอำเภอ เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โดยครั้งแรกตั้งใจว่าจะมาทำสวนเหมี้ยงที่หมู่บ้านขุนสรวยก่อน สอง ปีหลังจากนั้น ก็ได้ย้ายมาทำสวนเหมี้ยงที่สวนวาวี แล้วก็มีพ่อค้าเมืองจีนจากอำเภอฝาง มาแนะนำ ว่าให้ทำชาแห้ง โดยพ่อค้าเมืองจีนได้มาสอนวิธีการทำชาแห้งให้แก่ชาววาวี ซึ่งในสมัยนั้นนิยมทำ เหมี้ยงยังไม่มีใครทำชาเลย ดังนั้น หมู่บ้านวาวีจึงเป็นหมู่บ้านในการทำชาแห้งแห่งแรกในประเทศ ไทย และต่อมาในปีพ.ศ.2500 หมู่บ้านวาวีก็เริ่มมีชาวเขาเผ่าลาหู่ กะเหรี่ยง เย้าเข้ามาอยู่ก่อน แถวห้วยชมภู โดยมีพ่อค้าคนจีนชื่อ นายพร เกี่ยวการค้า เป็นคนจีนแต้จิ๋ว ชาวอำเภอฝางจะ เรียกว่า “เถ้าแก่แฉ่” ซึ่งเป็นคนประมูลชาทั้งหมดตั้งแต่จังหวัดเชียงใหม่ถึงจังหวัดเชียงราย ซึ่งในสมัยก่อนมีการขุดพบของเก่า โบราณ เช่น ถ้วย หม้อ คนในสมัยนั้นยังมีการปลูก เหมี้ยงไว้ และมีผู้คนมาบุกเบิกทำชา และในสมัยนั้นก็มีชาอยู่ก่อนแล้วแล้วก็ขยายขึ้นไปเรื่อยๆ มี การปลูกเพิ่มขึ้นอีก และต้นชานี้จะไม่ปล่อยให้มันสูงมากเพราะจะยากลำบากในการเก็บ ส่วนมาก เขาจะตัดแต่งกิ่งไม่ให้มันสูง พันธุ์ชาจะมี 2 พันธุ์ คือ ชาอัสสัม และชาอู่หลง ซึ่งชาอัสสัมนี้เป็นชาที่นิยมปลูกมากใน หมู่บ้านวาวี ชาอัสสัมมีที่มาจากประเทศอินเดีย และรองลงมาก็คือ ชาอู่หลง การผลิตชา 1 ยอด 2 ใบ เป็นมาตรฐานของใบชา ชาอัสสัมสามารถทำได้เป็นชาประเภทอื่นได้อย่างหลากหลาย แต่ ชาอู่หลงนี้ทำได้ไม่มาก ลักษณะของใบชาอัสสัม สังเกตได้จากลำต้น ใบซึ่งใบจะใหญ่ และกว้าง ชาอัสสัมมีหลาย ชนิด หลายพันธุ์ แต่ยังไม่ได้แยกสายพันธุ์ไว้ ชาอัสสัมนี้เมื่อชงแล้วบางอย่างมีสีเข้ม สีจาง มี เอกลักษณ์ของมันคือกลิ่นของชาจะหอมน่ากิน ชาอู่หลงยังไม่อร่อยเท่าชาอัสสัม แต่อยู่ที่กรรมวิธี การผลิต แต่ถ้าเราทำอย่างประณีต ก็จะมีราคาแพง ลักษณะของชาที่ดี 1. มีกลิ่นหอม 2. สีออกจางๆ เหลืองใสๆ 3. ถ้าทิ้งไว้นานๆสีมันจะไม่จาง 4. ถ้าทำไม่ถูกต้องรสชาติของชาก็จะไม่อร่อย
บทที่ 2 สายพันธุ์ชา ชาเป็นพืชในวงศ์ (family) Theaceae สกุล (genus) Camellia ที่มีมากกกว่า 300 ชนิด (species) ชาที่ผลิตทางการค้าส่วนใหญ่มาจาก 2 สายพันธุ์ คือ Camellia sinensis var. sinensis (Chinese tea) และ Camellia sinensis var. assamica (Assam tea หรือ Indian tea) ชาสายพันธุ์จีนเป็นชาที่ใบมีขนาดเล็ก และแคบ ทนทานต่อสภาพอากาศหนาวเย็นมากกว่าชา สายพันธุ์อัสสัม การจำแนกสายพันธุ์ชานอกจากพันธุ์ชาทางการค้า 2 กลุ่มหลักที่กล่าวไว้แล้วยัง พบสายพันธุ์ลูกผสม (hybrid) ที่เกิดจากการผสมข้ามระหว่างสายพันธุ์ทำให้ได้ชาลูกผสมที่มี ลักษณะทางฟีโนไทป์แตกต่างกัน (heterogeneous) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการ การปรับปรุงพันธุ์ชา (tea breeding) การปรับปรุงพันธุ์ชาทำให้ได้พันธุ์ชามีลักษณะทางกายภาพ ขนาดและลักษณะใบ ที่แตกต่างกันออกไป รวมทั้งให้รสชาติของน้ำชาที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกัน นับตั้งแต่สมัยอดีต ประเทศไทยได้ทดลองนำเอาชาสายพันธุ์จีนที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์จากประเทศไต้หวันเข้ามา ปลูกในเขตพื้นที่สูงของจังหวัดเชียงราย แล้วขยายพันธุ์ พร้อมทั้งเพิ่มพื้นที่ปลูกอย่างต่อเนื่อง ส่วนประกอบของต้นชา ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ที่สำคัญดังนี้ 1. ราก ชาเป็นพืชที่มีรากแก้วและรากฝอย แต่ไม่มีรากขน ต้นชาที่ได้จากการปักชำจะ ไม่มีรากแก้ว รากชาจะมีการสะสมของคาร์โบไฮเดรตในรูปของแป้ง การแตกยอดของต้นชาขึ้นอยู่ กับอาหารสำรองคาร์โบไฮเดรตในราก 2. ใบ เป็นใบเดี่ยว การจัดเรียงของใบเป็นแบบสลับ 1 ใบต่อ 1 ข้อ ขอบใบหยักแบบฟัน เลื่อย ปลายใบแหลม หน้าเป็นมัน ใต้ใบมีขนอ่อนปกคลุม ชาสายพันธุ์จีนมีขนาดใบเล็กและหนา ว่าสายพันธุ์อัสสัม 3. ดอก ดอกชาเกิดระหว่างลำต้นกับใบ มีทั้งดอกเดี่ยวและดอกช่อ (2-4 ดอก) ก้านดอก สั้น กลีบเลี้ยงสีเขียวเข้ม กลีบดอกมีสีขาว เป็นดอกสมบูรณ์เพศมีทั้งเกสรตัวผู้และตัวเมียในดอก เดียวกัน ดอกมีกลิ่นหอม 4. ผล ผลชามีลักษณะเป็นแคปซูล เปลือกหนามีสีเขียวอมน้ำตาล แบ่งเป็น 3 ช่อง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5-2.0 ซม. หลังจากผสมเกสรแล้วกลีบดอกและเกสรตัวผู้จะ ร่วง เริ่มติดเป็นผล ผลชาจะแก่เต็มที่เมื่ออายุ 9-12 เดือน เมื่อผลแก่เต็มที่ผลจะแตก เมล็ดจะ ร่วงลงดิน 5. เมล็ด เมล็ดชาจะพบในผลประมาณ 1-3 เมล็ด มีรูปร่างกลม มีใบเลี้ยง 2 ใบอวบหนา มีน้ำมันห่อหุ้มต้นอ่อน
รูปที่ 1 ลักษณะใบชา (A) ดอก (B) ผล (C) และเมล็ดชา (D) สายพันธุ์ชา สายพันธุ์ชาที่ปลูกในหมู่บ้านวาวีแบ่งได้เป็น 2 สายพันธุ์ คือ ชาสายพันธุ์อัสสัม (Camellia sinensis var. assamica) และชาสายพันธุ์จีน (Camellia sinensis var. sinensis) ชาอัสสัม เป็นชาพื้นเมืองดั้งเดิมของไทยที่พบได้ตามภูเขาสูงในแถบภาคเหนือ ส่วนชาจีน (อู่หลง) เป็นชาที่ นำเข้ามาจากประเทศไต้หวัน และจีน เป็นสายพันธุ์ที่ได้จากการปรับปรุงพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์อู่หลง เบอร์ 17 หรืออู่หลงก้านอ่อน และ อู่หลงเบอร์ 12 หรือชิงซินอู่หลง ใบชาสดนิยมนำมาผลิตชา เพื่อให้ได้คุณภาพดี จะใช้เฉพาะยอดอ่อน 1 ก้าน 2 ใบ เก็บมาไม่เกิน 2 ชั่วโมง นำมาเข้า กระบวนการผึ่ง หมัก คั่ว นวด และอบที่แตกต่างกัน ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ชาที่ดี มีสี กลิ่น และรสชาติ ของน้ำชาที่แตกต่างกันไป ขั้นตอนการผลิตที่หลากหลาย ซับซ้อน ประกอบกับความชำนาญของ ผู้ผลิตชาแต่ละราย รวมทั้งสายพันธุ์ชา สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ความอุดมสมบูรณ์ของดิน และน้ำ ตลอดจนองค์ประกอบทางเคมีในใบชาสดจะเป็นตัวกำหนดคุณภาพและลักษณะเฉพาะ ของชาชนิดต่างๆ (อินทร์สร ประหยัดยอด, 14 สิงหาคม 2561)
ลักษณะของชา กลุ่มชาพันธุ์อัสสัม (Assam Tea) กลุ่มนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Camellia sinensis var. assamica สามารถเรียกได้หลายชื่อ เช่น ชาอัสสัม ชาพื้นเมือง ชาป่า หรือชาเมี่ยง เป็นต้น ชาอัสสัมเป็นพันธุ์ชาที่ใบใหญ่กว่าชาพันธุ์จีน เป็นพันธุ์ที่เจริญเติบโตได้ดีในป่าเขตร้อนชื้นที่มีร่มไม้และแสงแดดพอประมาณ ชาพันธุ์อัสสัมพ บมากบนเขตพื้นที่สูงแถบภาคเหนือของไทยในจังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย น่าน ลำปาง และแพร่ รูปที่ 2 ชาพันธุ์อัสสัม และการปลูกชาอัสสัม ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของชาสายพันธุ์อัสสัม (Assam Tea) • ลำต้น เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง-ใหญ่ ผิวลำต้นเรียบ กิ่งอ่อนปกคลุมด้วยขนอ่อน ชาในกลุ่มนี้ มีลักษณะเป็นไม้ขนาดใหญ่ ต้นใหญ่สูงประมาณ 6-18 เมตร และมีขนาดใหญ่กว่าชาใน กลุ่มชาจีนอย่างเด่นชัด กิ่งที่มีอายุมากจะเปลี่ยนเป็นสีเทา • ใบ มีลักษณะเป็นใบเดี่ยว ปลายใบแหลม การเรียงตัวของใบบนกิ่งเป็นแบบสลับและเวียน (spiral) ใบมีความกว้างประมาณ 3.0-6.0 เซนติเมตร ยาวประมาณ 7.0-16.0 เซนติเมตร แต่อาจพบใบที่มีขนาดใหญ่กว่าที่กล่าว คือใบมีความกว้าง 5.6-7.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 17.0-22.0 เซนติเมตร ขอบใบมีหยักเป็นฟันเลื่อยเด่นชัด จำนวนหยัก ฟันเลื่อยเฉลี่ยประมาณ 9 หยัก/ความกว้างของใบ 1.0 นิ้ว ส่วนของก้านใบและด้านท้อง ใบมีขนอ่อนปกคลุม แผ่นใบมีสีเขียวอ่อนถึงสีเขียวเข้ม • ดอก เจริญจากตาบริเวณง่ามใบบนกิ่ง ในแต่ละตาประกอบด้วยตาที่เจริญไปเป็นกิ่งใบอยู่ ด้านบนของตา ส่วนใหญ่ดอกออกติดกันเป็นกลุ่ม ช่อละประมาณ 2-4 ดอก/ตา ก้านดอก ยาวประมาณ 10.0-12.0 มิลลิเมตร กลีบเลี้ยงมีจำนวน 5-6 กลีบ แต่ละกลีบมีขนาดไม่ เท่ากัน มีรูปทรงโค้งมนยาว กลีบดอกติดอยู่กับวง corolla ที่มีลักษณะคล้ายถ้วยหงาย กลีบดอกมีจำนวน 5-6 กลีบ ส่วนโคนกลีบติดกับฐานดอกแคบ ส่วนปลายกลีบบานออก วงเกสรตัวผู้ประกอบด้วยอับละอองเกสรสีเหลืองติดอยู่ที่ส่วนปลายของก้านชูอับละออง เกสรสีขาว ยาวประมาณ 5.0 มิลลิเมตร เกสรตัวเมีย (style) มีลักษณะเป็นก้านกลม
ภายในรังไข่แบ่งออกเป็น 1-3 ช่อง ดอกเมื่อบานเต็มที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3.65 เซนติเมตร • ผล เป็นแคปซูล เมื่อผลแก่เต็มที่เปลือกจะแตกออก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.0-4.0 เซนติเมตร • เมล็ด ค่อนข้างกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 11.0-12.0 มิลลิเมตร ผิวของ เมล็ดเรียบ แข็ง มีสีน้ำตาล หรือ น้ำตาลอมแดง หรือน้ำตาลเข้มเกือบดำ กลุ่มชาพันธุ์จีน(อู่หลง)(Chinese Tea) กลุ่มนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Camellia sinensis var. sinensis เป็นสายพันธุ์ที่นำเข้ามา จากประเทศไต้หวัน และจีน เป็นสายพันธุ์ที่ได้จากการปรับปรุงพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์อู่หลงเบอร์ 17 หรืออู่หลงก้านอ่อน (Chin Shin Oolong No.17) อู่หลงเบอร์ 12 (Chin Hsuan Oolong No.12) พันธุ์สี่ฤดู(Si Ji หรือ Four Season) พันธุ์ถิกวนอิม (Tieguanyin) เป็นต้น เป็นสาย พันธุ์ที่นิยมปลูกเนื่องจากให้ผลผลิตสูงและเป็นที่ต้องการของตลาด ปลูกมากในพื้นที่ภาคเหนือ ตอนบน เช่น จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน การปลูกจะปลูกเป็นแถวแบบขั้นบันได มีการ จัดการแปลงปลูกอย่างเป็นระบบ และตัดแต่งกิ่งอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ชาแตกยอดใหม่และสะดวก ต่อการเก็บเกี่ยวผลผลิต (สายลม และคณะ 2552) รูปที่ 3 ชาพันธุ์จีน และการปลูกชาจีน มีลักษณะลำต้นเป็นพุ่มเตี้ย สูงประมาณ 2-6 เมตร ใบมีสีเขียวเข้ม ขนาดเล็ก ยาวแคบ ตั้ง ตรง ขอบใบหยักแบบฟันเลื่อย ผิวใบเรียบ ใบค่อนข้างตั้งกว่าชาอัสสัม การเรียงตัวของใบเป็นแบบ สลับและเกลียว ต้นเจริญเติบโตช้ากว่าชาอัสสัม ทนทานต่ออุณหภูมิต่ำและสภาพแวดล้อมที่ แปรปรวนได้ดี ขยายพันธุ์หรือเพาะปลูกโดยการปักชำ ค่อนข้างปลูกยาก ต้องดูแลเอาใจใส่ มีการ ตัดตกแต่งกิ่งอยู่เสมอ มีอุปกรณ์และกรรมวิธีหลายขั้นตอน มีรสชาติขมนิดๆ กลิ่นหอม (อินทร์สร ประหยัดยอด, 14 สิงหาคม 2561)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของชาสายพันธุ์จีน (Chinese Tea) • ลำต้น ชาสายพันธุ์จีนมีลักษณะลำต้นเป็นพุ่มเตี้ย สูงประมาณ 1-6 เมตร กิ่งอ่อนปกคลุม ด้วยขนอ่อน กิ่งแก่มีสีเทา • ใบ มีก้านใบสั้น แผ่นใบมีปลายใบโค้งมน บางครั้งอาจพบว่าแผ่นใบค่อนข้างกลม ใบกว้าง ประมาณ 2.0-3.0 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5.0-10.0 เซนติเมตร ขอบใบหยักเป็นรูป โค้งเล็กน้อย ส่วนปลายของหยักฟันเลื่อยมีสีดำ แผ่นใบมีสีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม กาบหุ้มใบ ยาวประมาณ 8.0 มิลลิเมตร ด้านนอกของกาบปกคลุมด้วยขนอ่อน • ดอก มีตาเจริญบริเวณระหว่างง่ามใบกับกิ่ง ในแต่ละตาประกอบด้วยตาที่เจริญไปเป็นกิ่ง ใบอยู่ด้านบนของตา ส่วนด้านล่าง ประกอบด้วยตาที่เจริญเป็น 1-2 ดอกต่อตา แต่บางครั้ง อาจพบว่า มีจำนวนดอกประมาณ 2-7 ดอกต่อตา ก้านและดอกยาวรวมกันประมาณ 12.0-15.0 มิลลิเมตร ส่วนของก้านยาวประมาณ 8.0-10.0 มิลลิเมตร กลีบเลี้ยงมี จำนวน 5-6 กลีบ แต่ละกลีบมีขนาดไม่เท่ากัน มีรูปทรงโค้งมน ยาวประมาณ 3.0-5.0 มิลลิเมตร กลีบดอกติดอยู่วง corolla ที่มีลักษณะถ้วยหงายตื้นๆ ยาวประมาณ 1.5-2.0 เซนติเมตร กลีบดอกมีจำนวน 7-8 กลีบ ส่วนโคนกลีบติดกับฐานดอกแคบ ส่วนปลายกลีบ บานออก กลีบดอกมีความยาวประมาณ 1.0-2.0 เซนติเมตร กว้างประมาณ 0.8-2.3 เซนติเมตร เกสรตัวผู้มีจำนวนมาก ประกอบด้วยอับละอองเกสรสีเหลืองติดอยู่ที่ส่วนปลาย ของก้านชูอับละอองเกสรสีขาว ยาวประมาณ 8.0-13.0 มิลลิเมตร ส่วนล่างของก้าน ติดกันเป็นวงกว้างประมาณ 1.0-2.0 มิลลิเมตร วงของเกสรตัวเมียยาวประมาณ 8.0- 12.0 มิลลิเมตร ประกอบด้วยรังไข่ที่ปกคลุมด้วยขน ปากเกสร (style) เป็นก้านกลม ส่วน ปลายแบ่งออกเป็น 3 แฉก ภายในรังไข่แบ่งออกเป็น 3 ช่อง • ผล เป็นแคปซูล ขนาดผลมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.0-4.0 เซนติเมตร เมื่อผลแก่ เต็มที่เปลือกจะแตกออก • เมล็ด ค่อนข้างกลม มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10.0-14.0 มิลลิเมตร ผิวของเมล็ด เรียบ มีสีน้ำตาล หรือ น้ำตาลอมแดง หรือ น้ำตาลเข้มเกือบดำ
บทที่ 3 ปลูกอย่างไรให้ได้ชาดี 1. การขยายพันธุ์ชา ปัจจุบันการขยายพันธุ์ชาของชาวบ้านวาวีนิยมขยายพันธุ์ 2 วิธี คือ การเพาะเมล็ด และ การปักชำ 1.1 การขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด เป็นวิธีที่นิยมใช้กับชาสายพันธุ์อัสสัม ผลชาที่นำมาเพาะต้องเป็นผลชาที่แก่จัด โดยสังเกตจากเปลือกของผลชาจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำตาล ขั้นตอนการเพาะเมล็ดชา 1. เก็บผลชาที่แก่จัดจากต้นชา 2. นำผลชาไปผึ่งให้แห้งในที่ร่ม เปลือกของผลจะแตกออกในระยะ 1-2 วัน 3. คัดแยกเมล็ดออกจากเปลือก โดยนำเมล็ดชาไปแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 1 วัน เมล็ดชาที่สมบูรณ์จะจมน้ำ 4. นำเมล็ดชาที่สมบูรณ์มาเพาะในแปลงเพาะชำ วางเมล็ดโดยคว่ำตาเมล็ดลงตรง กลางหลุม กลบเมล็ดด้วยทราย หนาประมาณ 1 นิ้ว รดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอใน ระหว่างเพาะเมล็ด 5. เมื่อเมล็ดงอก และต้นชามีอายุประมาณ 12-18 เดือน ต้นชาจะแข็งแรงเต็มที่ มีรากแก้วที่สมบูรณ์ สามารถนำต้นชาออกปลูกลงแปลงได้ 1.2 การขยายพันธุ์ชาโดยการปักชำ เป็นวิธีการขยายพันธุ์ที่ให้ลักษณะตรงตามสายพันธุ์เดิม นิยมใช้กับการขยายพันธุ์ ชาจีน เช่น ชาพันธุ์อู่หลงเบอร์ 12 อู่หลงเบอร์ 17 เป็นต้น ขั้นตอนการปักชำ 1. คัดเลือกต้นพันธุ์ที่แข็งแรง ไม่พบการทำลายของโรคและแมลง เลือกกิ่งที่ สมบูรณ์ อายุของกิ่งไม่แก่หรืออ่อนจนเกินไป สังเกตจากสีของกิ่งควรมีสีน้ำตาล แกมเขียว 2. ตัดกิ่งชำให้มี 1 ใบ 1 ข้อ
3. นำกิ่งพันธุ์ที่เตรียมไว้ปักชำในแปลงเพาะชำ การปักชำให้ปักกิ่งส่วนโคนเอียงทำ มุม 45 องศากับพื้นดิน จัดใบให้หันไปทิศทางเดียวกัน แล้วใช้ถุงพลาสติกใสคลุมทำ เป็นอุโมงค์เพื่อลดการสูญเสียน้ำจากใบ และช่วยเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ 4. การให้น้ำควรให้ วันละ 1 ครั้ง หลังปักชำประมาณ 3-4 เดือน ให้นำ ถุงพลาสติกคลุมแปลงออก รอต้นกล้าต่อไปจนต้นอายุประมาณ 12-18 เดือน จึง สามารถย้ายปลูกได้ โดยช่วงก่อนย้ายลงปลูกประมาณ 2 สัปดาห์ ควรตัดยอดเพื่อ กระตุ้นให้ต้นแตกกิ่งก้าน รูปที่ 4 การขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด (ซ้าย) และการปักชำ (ขวา) 2. การปลูกและดูแลรักษาชา 2.1 การเตรียมดิน ควรทำการขุดพลิกหน้าดินและขุดพรวนเพื่อปรับโครงสร้างดิน และกำจัดวัชพืช อย่างน้อย 2 ครั้ง ก่อนปลูก ถ้าปลูกในพื้นที่ลาดชัน ตั้งแต่ 45 องศาขึ้นไป ต้องวางแนวปลูกแบบขั้นบันได เพื่อลดการพังทลายของหน้าดิน และให้มีความกว้างของขั้นบันได อย่างน้อย 1 เมตร