บัญชีรายการชุดโครงการส าคัญ โครงการส าคัญ แหล่งงบประมาณ หน่วยด าเนินการ พ.ศ. 2566 81. โครงการจัดท าพร้อม ติดตั้งตะแกรงกันขยะ ปตร.มะทาย งบปกติ โครงการส่งน้ าและ บ ารุงรักษา พระยาบรรลือ 700,000 82. โครงการซ่อมแซม ปตร.กลางตลองลากค้อน (กม.2+370) งบปกติ โครงการส่งน้ าและ บ ารุงรักษา พระยาบรรลือ 900,000 83. โครงการซ่อมแซม คลองระบายน้ าใหญ่ มหาราช 2 กม.48+000 ถึง กม.51+000 งบปกติ โครงการส่งน้ าและ บ ารุงรักษา มหาราช 1,385,965 84. โครงการก าจัดวัชพืช ปตร.ปลายคลองบางแก้ว งบปกติ โครงการส่งน้ าและ บ ารุงรักษา มหาราช 114,630 85. โครงการซ่อมแซมท่อ ระบายน้ าคลองระบาย ใหญ่แม่น้ า 7 ฝั่งซ้าย กม. 8+200 งบปกติ โครงการส่งน้ าและ บ ารุงรักษายางมณี 810,000 86. โครงการซ่อมแซมท่อ ระบายน้ าปลายคลองส่ง น้ า 1 ขวา กม.41+900 งบปกติ โครงการส่งน้ าและ บ ารุงรักษายางมณี 906,000
งบประมาณด าเนินการ (ล้านบาท) พ.ศ. 2567 พ.ศ. 2568 พ.ศ. 2569 พ.ศ. 2570 รวม 5 ปี 700,000 700,000 700,000 700,000 3,500,000 900,000 900,000 900,000 900,000 4,500,000 1,385,965 1,385,965 1,385,965 1,385,965 6,929,825 114,630 114,630 114,630 114,630 573,150 810,000 810,000 810,000 810,000 4,050,000 906,000 906,000 906,000 906,000 4,530,000 - 104 -
บัญชีรายการชุดโครงการส าคัญ โครงการส าคัญ แหล่งงบประมาณ หน่วยด าเนินการ พ.ศ. 2566 87. โครงการบ ารุงรักษา ทางล าเลียงใหญ่ งบปกติ โครงการส่งน้ าและ บ ารุงรักษารังสิต เหนือ 860,000 88. โครงการบริหารการ ส่งน้ าในเขต งบปกติ โครงการส่งน้ าและ บ ารุงรักษารังสิต เหนือ 1,753,200 89. โครงการซ่อมแซม ทรบ.คลองทางออก กม. 5+150 งบปกติ โครงการส่งน้ าและ บ ารุงรักษารังสิต เหนือ 1,500,000 90. โครงการซ่อมแซมคัน กั้นน้ าคลองผักไห่-เจ้าเจ็ด กม.6+800 – กม. 6+900 งบปกติ โครงการส่งน้ าและ บ ารุงรักษารังสิต เหนือ 1,500,000 ประเด็นการพัฒนาที่ 4 เพิ่มความสามารถในการแข่งขันภาคการเกษตรด้วยเทคโนโลยี นวัตกร1. โครงการพัฒนา ศักยภาพโลจิสติกส์เกษตร เพื่อลดการสูญเสีย งบปกติ สนง.เกษตรจังหวัด 23,000 2. โครงการ 1 อ าเภอ 1 แปลง เกษตรอัจฉริยะ งบปกติ สนง.เกษตรจังหวัด 5,200
งบประมาณด าเนินการ (ล้านบาท) พ.ศ. 2567 พ.ศ. 2568 พ.ศ. 2569 พ.ศ. 2570 รวม 5 ปี 860,000 860,000 860,000 860,000 4,300,000 1,753,200 1,753,200 1,753,200 1,753,200 8,766,000 1,500,000 1,500,000 1,500,000 1,500,000 7,500,000 1,500,000 1,500,000 1,500,000 1,500,000 7,500,000 รรม และโลจิสติกส์ 23,000 23,000 23,000 23,000 115,000 5,200 5,200 5,200 5,200 26,000 - 105 -
บัญชีรายการชุดโครงการส าคัญ โครงการส าคัญ แหล่งงบประมาณ หน่วยด าเนินการ พ.ศ. 2566 3. โครงการส่งเสริมการใช้ เครื่องจักรกลทางการเกษตร งบปกติ สนง.เกษตรจังหวัด 29,700 4. โครงการพัฒนา กระบวนการผลิต มาตรฐานปลอดภัยและ แปรรูปสินค้าเกษตร อาหารเพื่อสุขภาพที่มี คุณภาพและมูลค่าสูง โดย ใช้เทคโนโลยีและ นวัตกรรมที่เป็นมิตรปับ สิ่งแวดล้อม งบกลุ่มจังหวัดภาค กลางตอนบน สนง.เกษตรจังหวัด 5,214,000 5. โครงการพัฒนา เทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน ในศูนย์เรียนรู้การเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิต สินค้าเกษตร งบปกติ สนง.การปฏิรูป ที่ดินจังหวัด 132,800 6. โครงการเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตข้าว ด้วยเทคโนโลยีเกษตร อัจฉริยะ งบปกติ สนง.การปฏิรูป ที่ดินจังหวัด 210,000 7. โครงการพัฒนา เทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสาร งบปกติ สนง.สหกรณ์ จังหวัด 232,800
งบประมาณด าเนินการ (ล้านบาท) พ.ศ. 2567 พ.ศ. 2568 พ.ศ. 2569 พ.ศ. 2570 รวม 5 ปี 29,700 29,700 29,700 29,700 148,500 5,214,000 5,214,000 5,214,000 5,214,000 26,070,000 132,800 132,800 132,800 132,800 664,000 210,000 210,000 210,000 210,000 1,050,000 232,800 232,800 232,800 232,800 1,164,000 - 106 -
บัญชีรายการชุดโครงการส าคัญ โครงการส าคัญ แหล่งงบประมาณ หน่วยด าเนินการ พ.ศ. 2566 8. โครงการพัฒนา เทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน ในศูนย์เรียนรู้การเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิต สินค้าเกษตร งบปกติ สถานีพัฒนาที่ดิน พระนครศรีอยุธยา 132,800 9. โครงการเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตข้าว ด้วยเทคโนโลยีการเกษตร อัจฉริยะ งบปกติ สถานีพัฒนาที่ดิน พระนครศรีอยุธยา 210,000 10. โครงการท่อวัดระดับ น้ าอัจฉริยะเครื่องมือ ตรวจวัดสภาพอากาศ งบปกติ ศูนย์วิจัยข้าว พระนครศรีอยุธยา 165,000 11. โครงการเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตข้าว ด้วยเทคโนโลยีเกษตร อัจฉริยะ งบปกติ ศูนย์วิจัยข้าว พระนครศรีอยุธยา 210,000 12. โครงการส่งเสริม ประสิทธิภาพด้านการเงิน การบัญชีของสหกรณ์และ กลุ่มเกษตรกรด้วย เทคโนโลยีสารสนเทศ งบปกติ สนง.ตรวจบัญชี สหกรณ์ที่ 1 62,200
งบประมาณด าเนินการ (ล้านบาท) พ.ศ. 2567 พ.ศ. 2568 พ.ศ. 2569 พ.ศ. 2570 รวม 5 ปี 132,800 132,800 132,800 132,800 664,000 210,000 210,000 210,000 210,000 1,050,000 165,000 165,000 165,000 165,000 825,000 210,000 210,000 210,000 210,000 1,050,000 62,200 62,200 62,200 62,200 311,000 - 107 -
บัญชีรายการชุดโครงการส าคัญ โครงการส าคัญ แหล่งงบประมาณ หน่วยด าเนินการ พ.ศ. 2566 13. . โครงการส่งเสริม ประสิทธิภาพด้านการเงิน การบัญชีของสหกรณ์และ กลุ่มเกษตรกรด้วย เทคโนโลยีสารสนเทศ – อบรม งบปกติ สนง.ตรวจบัญชี สหกรณ์ พระนครศรีอยุธยา 62,200 14. โครงการสนับสนุน โครงการอันเนื่องมาจาก พระราชด าริ (ถ่ายทอด ความรู้และเทคโนโลยีด้าน การประมง) งบปกติ ศูนย์วิจัยและ พัฒนาการเพาะเลี้ยง สัตว์น้ าจืด พระนครศรีอยุธยา 57,500 15. โครงการซ่อมแซม และบ ารุงรักษารถสูบน้ า เคลื่อนที่ด้วยระบบไฟฟ้า จ านวน 10 คัน งบปกติ โครงการ ชลประทาน พระนครศรีอยุธยา - รวมทั้งสิ้น 120,604,617
งบประมาณด าเนินการ (ล้านบาท) พ.ศ. 2567 พ.ศ. 2568 พ.ศ. 2569 พ.ศ. 2570 รวม 5 ปี 62,200 62,200 62,200 62,200 311,000 57,500 57,500 57,500 57,500 287,500 1,600,000 - - - 1,600,000 177,675,317 93,564,417 93,564,417 93,564,417 578,973,185 - 108 -
ส่วนที่ 5 แบบสรุปโครงการแบบย่อ (Project idea) ประเด็นการพัฒนาที่ 1 พัฒนาศักยภาพเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง หัวข้อ รายละเอียด 1. ชื่อโครงการส าคัญ การเสริมสร้างองค์ความรู้และเพิ่มศักยภาพให้เกษตรกรในการผลิตสินค้า เกษตรปลอดภัยตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2. ชื่อแผนงาน ยกระดับการผลิตสินค้าและบริการมูลค่าสูง ภาคเกษตร อุตสาหกรรม การค้า ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรมและภูมิปัญญา อย่างสร้างสรรค์ 3. แนวทางการพัฒนา สนับสนุนการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และภูมิปัญญาอย่างสร้างสรรค์ เพื่อ เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 4. หลักการและเหตุผล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้น้อมน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ มาเป็นแนวทางในการด าเนินงานโครงการ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคไวรัสโคโรนา 2019 บรรเทาปัญหาการว่างงาน ลดปัญหาการ เคลื่อนย้ายแรงงานภาคการเกษตรกรรมไปสู่ภาคอื่นๆ และสร้างความ เข้มแข็งให้ชุมชนในท้องถิ่น ให้มีความมั่นคงในการเป็นแหล่งผลิตอาหาร มี ทางเลือก มีอาหาร มีอาชีพ มีความอุดมสมบูรณ์ มีความอบอุ่นจาก ครอบครัว แล้วความสุขตามวิถีชีวิตพอเพียงจะเกิดขึ้นกับชุมชน ซึ่งเป็น ศาสตร์ ที่เป็นทางรอดของเกษตรกรไทย เพื่อมุ่งสู่ระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้ จัดท าโครงการศึกษาดูงานหลักสูตร “การเสริมสร้างองค์ความรู้และเพิ่ม ศักยภาพให้เกษตรกรในการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยตามแนวทางเกษตร ทฤษฎีใหม่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา” โดยน าเกษตรกรที่เข้าร่วม โครงการดังกล่าวไปศึกษาดูงาน เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของเกษตรกร และสร้างองค์ความรู้ให้เข้าใจแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ เกษตรทฤษฎีใหม่ น้อมน าไปสู่การปฏิบัติ รวมทั้งพัฒนาต่อยอดจาก นวัตกรรมและเทคโนโลยีจากแปลงตัวอย่างที่ศึกษาดูงาน เพื่อร่วมกัน ขับเคลื่อนภาคการเกษตรอย่างยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะเป็นการช่วย ให้เกษตรกรสามารถ เลี้ยงตนเองและสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้อย่าง พอเพียงและยั่งยืน 5. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ ความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ 2. เพื่อฟื้นฟูภาคการเกษตร โดยมุ่งเน้นเกษตรกรที่มีความตั้งใจเอาใจใส่ อย่างจริงจัง และการน าเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาต่อยอด เพิ่มรายได้.ใน การท าการเกษตรปลอดภัยตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่
- 110 - หัวข้อ รายละเอียด 6. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย จ านวนเกษตรกรในพื้นที่ 16 อ าเภอ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งสิ้น จ านวน 90 คน 7. พื้นที่เป้าหมาย เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 8. กิจกรรมหลัก พัฒนาประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร อุตสาหกรรม การค้าและบริการ อย่างสร้างสรรค์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 8.1 กิจกรรมหลักที่ 1 งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การศึกษาดูงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมต้นแบบสู่เกษตรกร และการเสริมสร้างองค์ความรู้ในการท าการเกษตรทฤษฎีใหม่ 329,980 บาท (สามแสนสองหมื่นเก้าพันเก้าร้อยแปดสิบบาทถ้วน) ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 9. หน่วยงานด าเนินการ ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 10. ระยะเวลาในการด าเนิน โครงการ 1 ปี (ปีงบประมาณ 2567) 11. งบประมาณ งบประมาณจ านวน 329,980 บาท (สามแสนสองหมื่นเก้าพันเก้าร้อย แปดสิบบาทถ้วน) 12. ผลผลิต (Output) เกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องที่ผ่านการพัฒนาศักยภาพและศึกษาดูงาน ได้รับองค์ ความรู้และเสริมสร้างศักยภาพในการผลิตพืชปลอดภัย ตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ จ านวน 90 คน หรือคิดเป็นร้อย ละ 100 ของกลุ่มเป้าหมายในหลักสูตร 13. ผลลัพธ์จากการด าเนิน โครงการ (Outcome) เกษตรกรสามารถน าแนวคิด องค์ความรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการท าการเกษตรทฤษฎีใหม่ รวมทั้ง เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ได้ เรียนรู้ ไปปรับใช้ในการผลิตพืชปลอดภัย เพื่อขยายผลให้เกิดประโยชน์ สาธารณะในวงกว้างเพื่อเผยแพร่นวัตกรรมการเกษตร ตลอดจนถ่ายทอด ความรู้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการเกษตร ให้แก่เกษตรกรและบุคคล อื่นๆ รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ก่อให้เกิดความมั่นคง ทางอาหาร และการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
- 111 - หัวข้อ รายละเอียด ๑. ชื่อโครงการ ส่งเสริมการลดต้นทุนการปลูกข้าวของสมาชิกสหกรณ์และ เกษตรกรทั่วไป 2. ความส าคัญของโครงการ หลักการ และเหตุผล ส านักงานสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีสหกรณ์ใน ความดูแล และแนะน า ส่งเสริม จ านวน 70 แห่ง สมาชิก สหกรณ์มีจ านวนทั้งสิ้น 78,189 คน แต่มีสมาชิกมาท ากิจกรรม กับสหกรณ์เพียง 40,444 คน คิดเป็นร้อยละ 51.73 ซึ่ง ถือ ว่าน้อยมาก โดยเฉพาะสหกรณ์ภาคการเกษตรซึ่งมีจ านวน 28 แห่ง มีสมาชิก 50,417 คน สมาชิกมาท ากิจกรรมกับสหกรณ์ จ านวน 18,466 คน คิดเป็นร้อยละ 36.6 ซึ่งสาเหตุหลักที่ สมาชิกมาท ากิจกรรมน้อยเกิดจากการที่สมาชิกเป็นหนี้กับ สหกรณ์ซึ่งเป็นหนี้ที่สมาชิกกู้จากสหกรณ์มาเพื่อลงทุนในการ ประกอบอาชีพ และอาชีพส่วนใหญ่ ของสมาชิกสหกรณ์ การเกษตรคือ การท านา แต่สมาชิกไม่มีรายได้ที่จะน ามาใช้หนี้ กับสหกรณ์เพราะผลผลิต (ข้าว) ได้น้อยเนื่องจากต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ยมีราคาสูงมาก ประกอบกับในช่วงนี้ เกิดโรคระบาด ไวรัสCovid-19 ท าให้เกิดผลกระทบต่อการท ามาหากินของทุก อาชีพ ซึ่งแม้ในปีปัจจุบัน ก็ยังไม่สามารถมีหน่วยงานใดยืนยันได้ ว่าโรคระบาดไวรัส Covid-19 จะหายไปจากโลกนี้ได้อย่าง ถาวร จากปัญหาดังกล่าวคณะกรรมการด าเนินการของสหกรณ์ ภาคการเกษตร จึงมีแนวทางน าปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงมา ส่งเสริมและให้สมาชิกสหกรณ์น ามาปรับใช้ในชีวิตประจ าวัน เริ่มต้นจากการปลูกทุกอย่างที่อยากกิน กินทุกอย่างที่ปลูก ส่วน ในการประกอบอาชีพเพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต สหกรณ์จะ ส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ซึ่งมีราคาถูกกว่าปุ๋ยเคมี และสหกรณ์จะจัดท าโครงการส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ปลูก พืชผักสวนครัว เพื่อให้สมาชิกสหกรณ์จะสามารถลดค่าใช้จ่ายใน ครัวเรือนได้อีกทางหนึ่ง และในกรณีที่ผักสวนครัวมีเกินความ ต้องการ สมาชิกสามารถน ามาฝากขายที่สหกรณ์ หรือสามารถ ขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นการเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว และมี เงินมาช าระหนี้ให้กับสหกรณ์ ส่งผลให้สหกรณ์เข็มแข้งเป็นที่พึ่ง ให้กับสมาชิกได้อย่างยั่งยืนต่อไป 3. วัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรทั่วไปลดรายจ่ายทั้ง ในชีวิตประจ าวันและการประกอบอาชีพเกษตรกรรม 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย สมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรและเกษตรกรทั่วไปสามารถลด ต้นทุนการผลิตได้ร้อยละ 3 ของฤดูการผลิตเมื่อเทียบกับฤดูการ
- 112 - หัวข้อ รายละเอียด ผลิตครั้งก่อน 4. พื้นที่เป้าหมาย ทั้ง 16 อ าเภอ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 5. กิจกรรมหลัก ด าเนินงาน 3 กิจกรรม 1.ให้ความรู้เกี่ยวกับการลดต้นทุนการผลิต 2.มอบพันธุ์พืชสวนครัว 3.มอบปุ๋ยอินทรีย์ 6. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 7. ระยะเวลาในการด าเนินงาน ปีงบประมาณ 2567 8. งบประมาณ 623,000 บาท ๙. ผลผลิต (output) สมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรสามารถลดรายจ่ายในครัวเรือนได้ อย่างน้อยร้อยละ 3 ๑๐.ผลที่คาดว่าจะได้รับ (Outcome) สมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรมีความอยู่ดีกินดีและสันติสุข
- 113 - ประเด็นการพัฒนาที่ 2 เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสินค้าเกษตรตลอดโซ่อุปทาน หัวข้อ รายละเอียด ๑. ชื่อโครงการ ส่งเสริมการปลูกข้าวสู่ตลาดโลก 2. ความส าคัญของโครงการ หลักการ และเหตุผล ปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายที่จะพัฒนาและผลักดันให้สหกรณ์ ภาคการเกษตรเป็นกลไกส าคัญในการขับเคลื่อนการปฏิรูปภาค การเกษตร สอดคล้องกับการด าเนินงานการขับเคลื่อนแผน แม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สนับสนุนให้เกิดการพัฒนา เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรมีการปรับตัวไปสู่กระบวนการ ผลิตที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ กระทรวงเกษต รและสหกรณ์ จึงได้ก าหนดให้มีนโยบ าย “การตลาดน าการผลิต” โดยมุ่งเน้นการวางแผนการผลิตสินค้า เกษตร การจัดท าข้อมูลผลผลิตและข้อมูลความต้องการของ ตลาด ศึกษาข้อมูลและแนวโน้มและความนิยมของผู้บริโภคมา ก าหนด แนวทางการส่งเสริมให้เกษตรกรมีการผลิตสินค้าเกษตร ที่เหมาะสมตามความต้องการของตลาดเพื่อลดปัญหาราคา ผลผลิตตกต่ าหรือภาวะสินค้าเกษตรล้นตลาด ลดต้นทุนการผลิต และยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรและแก้ไขปัญหาในส่วนของ เกษตรกรที่ยังขาดความรู้ขาดเงินทุน และขาดตลาดรองรับสินค้า เกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ มีภารกิจหลักในการส่งเสริมสถาบัน เกษตรกร (สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร) ให้สามารถเป็นองค์กรใน การขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐสู่การปฏิบัติในระดับชุมชนได้อย่าง มีประสิทธิภาพ ส านั กงาน สห กรณ์ จังห วัดพ ระนครศ รีอยุ ธย า จึงได้ ประสานงานกับบริษัทไทยฮา จ ากัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัท ส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศ และมีนโยบายในการส่งเสริม ให้เกษตรกรปลูกข้าวพันธุ์ RJ 22 เป็นพันธุ์ข้าวที่มูลนิธิร่วมใจ พัฒ น าเป็นผู้คิดค้น แล ะก าลังเป็นที่ต้องก ารของตล าด ต่างประเทศ ในการนี้บริษัทก าหนดแผนที่จะส่งเสริมให้เกษตรกร ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาปลูกข้าวพันธุ์ RJ 22 จ านวน 100,000 ไร่ โดยบริษัทก าหนดแนวทางท า MOU ในการ ส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรและเกษตรกรทั่วไป ปลูกข้าวพันธุ์ RJ 22 แบบครบวงจรตั้งแต่ขบวนการ (ต้นน้ า) สหกรณ์การเกษตรท่าเรือ จ ากัด เป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว RJ 22 เพื่อจ าหน่ายให้กับสหกรณ์ภาคการเกษตรในระดับอ าเภอ
- 114 - หัวข้อ รายละเอียด น าไปส่งเสริมให้สมาชิกปลูก เมื่อผลผลิตออกสู่ตลาด (ขบวนการ ปลายน้ า) สหกรณ์ภาคการเกษตรจะเป็นผู้รวบรวม และที่ส าคัญ บริษัทไทยฮา จ ากัด (มหาชน) เป็นผู้รับซื้อข้าวจากสมาชิก สหกรณ์และเกษตรกรทั่วไปทุกเมล็ดในราคาท้องตลาดของข้าว ขาวบวกกับราคาข้าวหอมปทุมแล้วหาร 2 น าไปแปรรูปแล้วส่ง ขายตลาดต่างประเทศต่อไป ท าให้สมาชิกของสหกรณ์และ เกษตรกรทั่วไปมีตลาดที่แน่นอนสอดคล้องกับนโยบาย “ตลาด น าการผลิต” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 3. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1.เพื่อส่งเสริมและสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรทั่วไปเรียนรู้และ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการท านาแบบเดิมมาสู่การท านาแบบใหม่ อย่างเช่นการเปลี่ยนมาใช้พันธุ์ข้าวที่มีความต้องการของตลาด 2.เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรและเกษตรทั่วไป มีรายได้ที่แน่นอน 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรทั่วไปมีรายได้ที่แน่นอน 4. พื้นที่เป้าหมาย ทั้ง 16 อ าเภอ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 5. กิจกรรมหลัก ด าเนินงาน 4 กิจกรรม 1. ให้ความรู้กับสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรทั่วไป 2. จัดพิธีท าบันทึกข้อตกลง 3. สรุปผลโครงการ 4. ติดตามผล/รายงานผลในที่ประชุมทุกเดือน 6. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 7. ระยะเวลาในการด าเนินงาน ปีงบประมาณ 2567 8. งบประมาณ 705,800 บาท ๙. ผลผลิต (output) สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรทั่วไปมีรายได้ที่แน่นอนฤดูการผลิต ละประมาณ 8,500 บาทต่อไร่ต่อคน ๑๐.ผลที่คาดว่าจะได้รับ (Outcome) เมื่อสมาชิกสหกรณ์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ส่งผลให้สหกรณ์มีความ เข้มแข็งเป็นองค์กรที่พร้อมจะขับเคลื่อนนโยบายของภาครัฐอย่าง เต็มที่
- 115 - หัวข้อ รายละเอียด ๑. ชื่อโครงการ บริหารจัดการเกษตรปลอดภัยแบบครบวงจร 2. ความส าคัญของโครงการ หลักการ และเหตุผล จากยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นแผนพัฒนาประเทศที่ ก าหนดกรอบและแนวทางการพัฒนา จากวิสัยทัศน์ “ประเทศ ไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วย พัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ยุทธศาสตร์ชาติ ด้ านก ารส ร้างก ารเติบโตบนคุณ ภ าพชีวิตที่เป็นมิต รกับ สิ่งแวดล้อม ประเด็นการพัฒนาที่ 3 พัฒนาภาคการเกษตร อุตสาหกรรม การค้าและบริการ โดยใช้นวัตกรรม และภูมิ ปัญญาที่สร้างสรรค์ การส่งเสริมสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพและมาตรฐานเป็น นโยบายส าคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และจังหวัด พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคมีความห่วงใย สุขภาพให้ความส าคัญกับการเลือกซื้อสิ้นค้าเกษตรที่มีความ ปลอดภัยได้คุณภาพและมาตรฐาน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดย ส านักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นหน่วยงานที่มี ภารกิจในการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรให้มีความรู้ ทักษะ และความช านาญให้สามารถผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและได้ มาตรฐาน จึงได้ด าเนินการขับเคลื่อนการด าเนินงานส่งเสริมการ ผลิตพืชปลอดภัย ด้วยการสร้างการรับรู้ถ่ายทอดความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับการผลิตพืชปลอดภัยให้กับเกษตรกรในพื้นที่จ านวน 17,034 ราย มีการขอรับรองมาตรฐาน GAP จ านวน 131 ราย และได้การรับรองมาตรฐาน GAP จ านวน 352 ราย และเกษตร อินทรีย์ จ านวน 1 ราย จ านวนครัวเรือนเกษตรกร จ านวน 44,175 ครัวเรือน จากการขอรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรจะ เห็นว่าคิดเป็นเพียง ร้อยละ 1.09 เท่านั้น จึงมีความจ าเป็นต้อง พัฒนาให้เกษตรกรและเจ้าหน้าที่มีความรู้เกี่ยวกับกระบวนการ ผลิตสินค้าเกษตรตั้งแต่ต้นทางมีคุณภาพและได้มาตรฐานตาม ความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ และให้เกษตรกร สามารถผลิตสินค้าเกษตรตามระบบการจัดการคุณภาพ GAP และ อินทรีย์เพิ่มขึ้น ด้วยการขับเคลื่อนส่งเสริมสนับสนุนพัฒนา เกษตรกรผู้ผลิตพืชและพื้นที่ที่มีศักยภาพทางการผลิตและ การตลาดสินค้าเกษตรได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ปลอดภัยทั้ง ผู้ผลิต ผู้บริโภค เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีการพัฒนาระบบ การผลิตสินค้าเกษตรตลอดห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนต่อไป ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้
- 116 - หัวข้อ รายละเอียด ด าเนินการขับเคลื่อนการด าเนินงานส่งเสริมการผลิตพืช ปลอดภัย ด้วยการสร้างการรับรู้ถ่ายทอดความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ การผลิตพืชปลอดภัยให้กับเกษตรกรในพื้นที่จ านวน 17,034 ราย มีการขอรับรองมาตรฐาน GAP จ านวน 131 ราย และได้ การรับรองมาตรฐาน GAP จ านวน 352 ราย และเกษตร อินทรีย์ จ านวน 1 ราย จ านวนครัวเรือนเกษตรกร จ านวน 44,175 ครัวเรือน จากการขอรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรจะ เห็นว่าคิดเป็นเพียง ร้อยละ 1.09 เท่านั้น จึงมีความจ าเป็นต้อง พัฒนาให้เกษตรกรและเจ้าหน้าที่มีความรู้เกี่ยวกับกระบวนการ ผลิตสินค้าเกษตรตั้งแต่ต้นทางมีคุณภาพและได้มาตรฐานตาม ความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ และให้เกษตรกร สามารถผลิตสินค้าเกษตรตามระบบการจัดการคุณภาพ GAP และ อินทรีย์เพิ่มขึ้น ด้วยการขับเคลื่อนส่งเสริมสนับสนุนพัฒนา เกษตรกรผู้ผลิตพืชและพื้นที่ที่มีศักยภาพทางการผลิตและ การตลาดสินค้าเกษตรได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ปลอดภัยทั้ง ผู้ผลิต ผู้บริโภค เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีการพัฒนาระบบ การผลิตสินค้าเกษตรตลอดห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนต่อไป 3. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อให้เกิดจุดเรียนรู้การผลิตพืชสู่มาตรฐานเกษตรปลอดภัย 2. เพื่อพัฒนาเกษตรกรให้มีความรู้ความเข้าใจด้านการผลิตตาม ระบบมาตรฐานเกษตรปลอดภัย 3. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการอบรมมีความสามารถในการถ่ายทอด ความรู้แก่เกษตรกรให้ปฏิบัติตามเกณฑ์ก าหนดของมาตรฐานที่ ได้รับการอบรมได้อย่างถูกต้อง 4. เพื่อพัฒนาให้เกษตรกรมีความพร้อมในการขอรับรอง มาตรฐานแหล่งผลิต GAP พืช, มาตรฐานอินทรีย์ และการ รับรองแบบมีส่วนร่วม PGS 5. เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีการพัฒนาการกระบวนการผลิตเข้า สู่การผลิตพืชปลอดภัยตั้งแต่ระดับครัวเรือน 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย 1. เกษตรกรผู้ผลิตมีการผลิตสินค้าเกษตรตามระบบคุณภาพ และมาตรฐาน GAP, มาตรฐานอินทรีย์ และการรับรอง แบบมี ส่วนร่วม PGS ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรผู้ผลิตมีการ จัดการระบบการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยต่อทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นที่ต้องการของตลาด 2. เกษตรกรผู้ผลิตได้รับความรู้ในเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรม การผลิตพืชปลอดภัยและสามารถน าประยุกต์ใช้ได้ตั้งแต่ระดับ ครัวเรือน ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรมีพืชปลอดภัยบริโภคตั้งแต่ใน ระดับครัวเรือน และสามารถขยายไปสู่การผลิตเพื่อการค้าได้ใน
- 117 - หัวข้อ รายละเอียด อนาคต 4. พื้นที่เป้าหมาย ทั้ง 16 อ าเภอ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 5. กิจกรรมหลัก ด าเนินงาน 5 กิจกรรม 1. พัฒนาเจ้าหน้าที่และเกษตรกรสู่ที่ปรึกษาด้าน GAP พืช อาหาร 2. ฝึกอบรมเพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน 3. ศึกษาดูงานการผลิตพืชปลอดภัยแบบครบวงจร 4. ส่งเสริมสนับสนุนการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัย ตามมาตรฐานอินทรีย์ และการรับรองแบบมีส่วนร่วม PGS 5. ส่งเสริมการผลิตพืชปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ในครัวเรือน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 6. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 7. ระยะเวลาในการด าเนินงาน ปีงบประมาณ 2567 8. งบประมาณ 12,801,900 บาท ๙. ผลผลิต (output) 1. เกษตรกรเป้าหมาย จ านวน 400 ราย ได้รับการถ่ายทอด ความรู้ตามระบบมาตรฐาน GAP, มาตรฐานอินทรีย์ และการ รับรองแบบมีส่วนร่วม PGS 2. เกษตรกรและเจ้าหน้าที่ จ านวน 60 คน ได้รับความรู้ความ เข้าใจเกณฑ์ก าหนดของมาตรฐานการปฏิบัติที่ดีส าหรับพืช อาหาร 3. เกษตรกรกร 2,000 คน ได้รับความรู้ในเรื่องเทคโนโลยีและ นวัตกรรมการผลิตพืชปลอดภัยและสามารถน าประยุกต์ใช้ได้ ตั้งแต่ระดับครัวเรือน ๑๐.ผลที่คาดว่าจะได้รับ (Outcome) 1. จุดเรียนรู้แปลง GAP ต้นแบบ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จ านวน 16 จุด 2. เกษตรกรร้อยละ 50 มีความพร้อมในการขอการรับรองมาตรฐาน แหล่งผลิต GAP พืช, มาตรฐานอินทรีย์ และการรับรอง แบบมีส่วนร่วม PGS 3. มีที่ปรึกษาด้านมาตรฐาน GAP พืชอาหารจ านวน 44 คน 4. เกษตรกรกร 2,400 คน มีการผลิตพืชปลอดภัยในครัวเรือนไว้ เพื่อบริโภค
- 118 - หัวข้อ รายละเอียด ๑. ชื่อโครงการ พัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชน/กลุ่มองค์กรเกษตรกรผู้ประกอบกิจการ ท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่อสร้างเครือข่ายและรายได้ชุมชน 2. ความส าคัญของโครงการ หลักการและเหตุผล จากยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นแผนพัฒนาประเทศที่ก าหนดกรอบและแนว ทางการพัฒนา จากวิสัยทัศน์ “ประเทศไทย มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็น ประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ประเด็นการพัฒนา ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดที่มีต้นทุนทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ท้องถิ่น และทรัพยากรทางธรรมชาติที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้าน การเกษตร อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยว จึงถือเป็นจุดแข็งด้านการ ท่องเที่ยว โดยมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรทั้งหมด 22 แห่ง ด าเนินการในรูป วิสาหกิจชุมชน 14 แห่ง และเกษตรกรทั่วไป 8 แห่ง ดังนั้น การยกระดับแหล่ง ท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว จึงเป็นสิ่งส าคัญใน การสร้างงาน สร้างรายได้ ของชุมชน จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลกระทบ ต่อประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้ ให้แก่ประเทศไทย และยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัด พระนครศรีอยุธยาซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวส าคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและ ต่างประเทศเป็นจ านวนมาก แต่ผลกระทบที่ได้รับจากการระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 ท าให้สมาชิกและเครือข่ายแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรกร ขาด รายได้จากการจ าหน่ายสินค้าและให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการฟื้นฟู เศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงมีความจ าเป็นต้องฟื้นฟู กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้มีศักยภาพและความพร้อมในการรองรับ นักท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และลดความเหลื่อมล้ าของ ชุมชนและเป็นทางเลือกให้แก่นักท่องเที่ยวในการเดินทางท่องเที่ยว ดังนั้น ในการ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเราจ าเป็นต้องมีความรู้และการบริหารจัดการแหล่ง ท่องเที่ยวในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม การออกแบบสิ่งอ านวยความสะดวกในแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงความ ปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยวและความปลอดภัยในการให้บริการนักท่องเที่ยว เพื่อ สร้างความประทับใจและความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ 3. วัตถุประสงค์ของ โครงการ 1. เพื่อพัฒนาศักยภาพสมาชิกกลุ่มฯ ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิง เกษตรให้ได้มาตรฐาน มีศักยภาพการผลิต การตลาด และบริการ สามารถ บริหารจัดการตนเองได้ 2. เพื่อยกระดับแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้ได้มาตรฐาน สอดคล้องกับ มาตรการ/แนวทางของภาครัฐ ในเรื่องของความปลอดภัยและวิถีชีวิตใหม่
- 119 - หัวข้อ รายละเอียด 3. เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจาก การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งในและนอกชุมชน 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย 1. สมาชิกวิสาหกิจชุมชน/สมาชิกกลุ่มองค์กรเกษตรกร ผู้ประกอบกิจการ ท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีความรู้ ความเข้าใจ แนวทางการขับเคลื่อนการ ท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ร้อยละ 60 ของผู้เข้าร่วม โครงการ 2. วิสาหกิจชุมชน/กลุ่มองค์กรเกษตรกร ผู้ประกอบกิจการท่องเที่ยวเชิง เกษตร เกิดการสร้างรายได้ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 3. เกิดแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรต้นแบบ เพื่อขยายผลให้เกิดประโยชน์ ส าธารณ ะใน วงกว้ าง ในก ารเผยแพ ร่คว าม รู้ ค วามก้ าวหน้ าท าง เทคโนโลยีการเกษตร จ านวน 2 แห่ง 4. พื้นที่เป้าหมาย ทั้ง 16 อ าเภอ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 5. กิจกรรมหลัก ด าเนินงาน 3 กิจกรรม 1. กิจกรรมอบรมพัฒนาศักยภาพสมาชิกแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร 2. สัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ศึกษาดูงานเพื่อส่งเสริมและพัฒนา3. ศักยภาพ สมาชิกแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรสนับสนุนปัจจัยเพื่อพัฒนาเป็นแหล่ง ท่องเที่ยวเชิงเกษตรต้นแบบ 6. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 7. ระยะเวลาในการ ด าเนินงาน ปีงบประมาณ 2567 8. งบประมาณ 553,300 บาท ๙. ผลผลิต (output) 1. สมาชิกวิสาหกิจชุมชน/สมาชิกกลุ่มองค์กรเกษตรกร ได้รับการพัฒนา ศักยภาพ เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถขับเคลื่อนแหล่งท่องเที่ยวเชิง เกษตรของตนเองให้เกิดความยั่งยืนได้ 2. แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้รับการพัฒนา เกิดการสร้างรายได้ 3. เกิดแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรต้นแบบ เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ศึกษาดูงาน ๑๐.ผลที่คาดว่าจะได้รับ (Outcome) 1. สมาชิกวิสากิจชุมชน/สมาชิกกลุ่มองค์กรเกษตรกร สามารถขับเคลื่อน แหล่งท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน 2. เกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน 3. เกิดแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรต้นแบบเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาดูงาน 2 แห่ง
- 120 - หัวข้อ รายละเอียด ๑. ชื่อโครงการ ยกระดับสินค้าเกษตรสร้างมูลค่า และผู้ประกอบการยุคใหม่ 2. ความส าคัญของโครงการ หลักการและเหตุผล เนื่องจากในชุมชนมีเกษตรกร กลุ่มองค์กรเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ที่มีความสามารถในการผลิตพืชผลทางการเกษตรทางการเกษตร เช่น ข้าว กล้วย มะม่วง มะนาว อ้อย เป็นต้น แล้วจ าหน่ายผลผลิตให้แก่พ่อค้าคน กลาง หรือจ าหน่ายเอง ซึ่งราคาจ าหน่ายผลผลิตต้องอ้างอิงตามราคาตลาด ไม่สามารถก าหนดราคาขายเองได้ เนื่องด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ ต้นทุน วัตถุดิบ หรือปัจจัยการผลิตมีราคาสูงขึ้นส่งผลให้ เกษตรกร กลุ่มองค์กร เกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน มีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น แต่สินค้ายังคงขาย ได้ในราคาเท่าเดิม และสอดคล้องกับยุค new normal ที่ส่งผลให้การตลาด แบบเดิมๆซบเซาไป ขายสินค้าได้น้อยลง ดังนั้น กลุ่มองค์กรเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน จึงต้องปรับตัวเพื่อให้ อยู่รอดได้ในยุคสมัยใหม่ โดยการพัฒนาสินค้าเกษตรแบบเดิมๆ น ามา ปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงพัฒนาเป็นสินค้าใหม่ และบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพ สวยงาม ตรงตามความต้องการของตลาดและผู้บริโภค และพัฒนาการท า การตลาดเปลี่ยนจากการขายแบบเดิม หรือแบบ offline พัฒนาเป็นการ ขายแบบใหม่ แบบ online ผ่านแฟตฟรอม์ต่างๆ รวมถึงการถ่ายรูป การ สร้าง content ให้ดึงดูดความสนใจของลูกค้า 3. วัตถุประสงค์ของ โครงการ 1. เพื่อยกระดับสินค้าเกษตรสู่การแปรรูป สร้างมูลค่า 2. เพื่อพัฒนากลุ่มองค์กรเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ให้ยกระดับเป็น ผู้ประกอบการยุคใหม่ 3. เพื่อส่งเสริมการสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับกลุ่มองค์กร เกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ให้อยู่รอดได้ในยุคใหม่ 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย กลุ่มองค์กรเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ได้รับองค์ความรู้ส าหรับการท า ตลาดออนไลน์ 4. พื้นที่เป้าหมาย ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แบ่งเป็น 1. กลุ่มองค์กรเกษตรกร (3ก) จ านวน 16 กลุ่ม 2. วิสาหกิจชุมชน จ านวน 16 แห่ง 5. กิจกรรมหลัก ด าเนินงาน 2 กิจกรรม 1. อบรมพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ 2. สนับสนุนบรรจุภัณฑ์ 6. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 7. ระยะเวลาในการ ด าเนินงาน ปีงบประมาณ 2567
- 121 - หัวข้อ รายละเอียด 8. งบประมาณ 2,461,500 บาท ๙. ผลผลิต (output) 1. กลุ่มองค์กรเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ได้รับสนับสนุนองค์ความรู้ พัฒนาเป็นสินค้าใหม่ 1 ผลิตภัณฑ์ 2. กลุ่มองค์กรเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ได้รับสนับสนุนบรรจุภัณฑ์ 3. กลุ่มองค์กรเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน สามารถจ าหน่ายออนไลน์ได้ ๑๐ .ผลที่ ค าด ว่ าจ ะได้ รับ (Outcome) กลุ่มองค์กรเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน มีรายได้เพิ่มขึ้น 10 % หัวข้อ รายละเอียด ๑. ชื่อโครงการ พัฒนาการผลิตข้าวในพื้นที่แปลงนาทุ่งมะขามหย่อง ต าบลบ้านใหม่ อ าเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2. ความส าคัญของโครงการ หลักการและเหตุผล จากยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นแผนพัฒนาประเทศที่ก าหนดกรอบและ แนวทางการพัฒนา จากวิสัยทัศน์ “ประเทศไทย มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโต บนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม ประเด็นการพัฒนาที่ 3 พัฒนาภาคการเกษตร อุตสาหกรรม การค้าและบริการ โดยใช้นวัตกรรม และภูมิปัญญาที่สร้างสรรค์ โครงการตามแนวพระราชด าริในพื้นที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นการด าเนินงานเพื่อขยายผลพระราชด าริ ฯ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการ พัฒนาอาชีพและรายได้ทางด้านการเกษตร นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรม นาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราช ชนนีพันปีหลวง ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่มีต่อพสกนิกร ชาวไทย ถือเป็นหน้าที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่จะต้องขยายผลให้ เป็นที่ประจักษ์และเกิดคุณประโยชน์กับเกษตรกรให้มากที่สุด โดยพิจารณา ถึงการแก้ปัญหา การพัฒนารายได้และการลดต้นทุน การเป็นศูนย์เรียนรู้ ด้านการเกษตร ตลอดจนเป็นแหล่งถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านอาชีพ การเกษตร ทั้งกับเกษตรกรในพื้นที่ และผู้สนใจโดยทั่วไป พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปี หลวง และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชด าเนินเป็นการส่วนพระองค์เพื่อถวาย ราชสักการะ พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย เมื่อวันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม 2555 เวลา 17.55 น. ณ ทุ่งมะขามหย่อง ต าบลบ้านใหม่
- 122 - หัวข้อ รายละเอียด อ าเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในโอกาสนั้น นางสาวยิ่ง ลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายที่ดินแปลงที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชด าเนินไปทรงเกี่ยวข้าว บริเวณทุ่ง มะขามหย่องเมื่อปีพุทธศักราช 2539 พื้นที่ 7 ไร่ 2 งาน 14 ตารางวา เพื่อเป็นการน้อมร าลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในการเสด็จพระราช ด าเนินทุ่งมะขามหย่อง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นการเสด็จพระ ราชด าเนินมาพระราชทานขวัญและก าลังใจให้พสกนิกรที่ผ่านพ้นวิกฤตน้ า ท่วมปี 2554 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้ขอพระราชทานพระบรมรา ชานุญาต จัดงานเฉลิมฉลองทุกวันที่ 25 พฤษภาคม เป็นประจ าทุกปี และ ในโอกาสเดียวกันนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ขอพระราชทานพระบรม ราชานุญาตปลูกข้าวในที่ดินส่วนพระองค์ พื้นที่ 7 ไร่ 2 งาน 14 ตารางวา โดยมี นายทวี พันธุ์เสือ เกษตรกรผู้ดูแลแปลงนาส่วนพระองค์ เมื่อเก็บเกี่ยว ผลผลิตแล้วจะทูลเกล้าถวายเมล็ดพันธุ์ข้าวตามจ านวนที่ได้ผลผลิตเป็น ประจ าทุกปี เนื่องจากกิจกรรมพัฒนาการผลิตข้าวในพื้นที่แปลงนาส่วนพระองค์ (ทุ่งมะขามหย่อง) ยังขาดความต่อเนื่องในด้านต่าง ๆ และยังไม่เป็นที่รู้จัก แพร่หลายแก่สาธารณชน อีกทั้งในปัจจุบันนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ใช้ใน การผลิตข้าวมีความก้าวหน้าและพัฒนามากขึ้น จากเหตุผลดังกล่าว ส านักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้จัดท าโครงการ/ กิจกรรม เพื่อพัฒนาการเกษตรตามแนวพระราชด าริ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปี 2567 เพื่อขับเคลื่อนงานตามแนวพระราชด าริให้เกิดผลสัมฤทธิ์กับเกษตรกรตาม พระราชประสงค์และสามารถ เป็นแหล่งถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านอาชีพ การเกษตรทั้งกับเกษตรกรในพื้นที่ และผู้สนใจโดยทั่วไป 3. วัตถุประสงค์ของ โครงการ 1. เพื่อให้ประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีโอกาสน้อมร าลึกถึงพระ มหากรุณาธิคุณต่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลย เดชมหาราช บรมนาถบพิตร 2. เพื่อให้ประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและผู้สนใจทั่วไป ได้เรียนรู้ การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีได้มาตรฐาน ตลอดจนเทคโนโลยีและ นวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่ 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย 1. ประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้น้อมร าลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ต่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 2. ประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เรียนรู้กระบวนการผลิตเมล็ด พันธุ์ข้าว เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร และได้ร่วมสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีของชาวนา 3. มีแปลงเรียนรู้การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว พื้นที่ 5.25 ไร่
- 123 - หัวข้อ รายละเอียด 4. พื้นที่เป้าหมาย แปลงนาส่วนพระองค์ (ทุ่งมะขามหย่อง) อ าเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 5. กิจกรรมหลัก ด าเนินงาน 4 กิจกรรม 1. จัดงานร าลึกเสด็จพระราชด าเนินแปลงนาทุ่งมะขามหย่อง 2. จัดงานเก็บเกี่ยวข้าวแปลงนา ทุ่งมะขามหย่อง 3. จัดท าป้ายแปลงให้คงสภาพเดิมตลอดฤดูกาลผลิต 4. จัดท าแปลงสาธิตและจัดการผลผลิต 6. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 7. ระยะเวลาในการ ด าเนินงาน ปีงบประมาณ 2567 8. งบประมาณ 784,000 บาท ๙. ผลผลิต (output) 1. ประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้น้อมร าลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ต่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิ พลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 2. ประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เรียนรู้กระบวนการผลิตเมล็ด พันธุ์ข้าว เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรและได้ร่วม อนุรักษ์สืบสาน วัฒนธรรมประเพณีของชาวนา 3. มีแปลงเรียนรู้การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม พื้นที่ 5.25 ไร่ ๑๐.ผลที่คาดว่าจะได้รับ (Outcome) 1. ประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้น้อมร าลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณต่อ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลย เดชมหาราช บรมนาถบพิตร 2. ประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา น าความรู้ที่ได้ไปปรับใช้เพื่อพัฒนา อาชีพด้านการเกษตรของตนเอง 3. มีการอนุรักษ์วัฒนธรรมและประเพณีชาวนา และเผยแพร่ต่อสาธารณชน 4. มีผลผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี
- 124 - หัวข้อ รายละเอียด ๑. ชื่อโครงการ ส่งเสริมและพัฒนาสวนพุทราประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา 2. ความส าคัญของโครงการ หลักการและเหตุผล โครงการตามแนวพระราชด าริในพื้นที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นการด าเนินงานเพื่อขยายผลพระราชด าริฯ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการ พัฒนาอาชีพและรายได้ทางด้านการเกษตร นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถใน รัชกาลที่ 9 ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่มีต่อพสกนิกรชาว ไทย ถือเป็นหน้าที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่จะต้องขยายผลให้เป็นที่ ประจักษ์ และเกิดคุณประโยชน์กับเกษตรกรให้มากที่สุด โดยพิจารณาถึง การแก้ปัญหา การพัฒนารายได้และการลดต้นทุน การเป็นศูนย์เรียนรู้ด้าน การเกษตร ตลอดจนเป็นแหล่งถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านอาชีพการเกษตรทั้ง กับเกษตรกรในพื้นที่ และผู้สนใจโดยทั่วไป สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชด าริให้อนุรักษ์ต้นพุทราต้นไม้โบราณมี ความส าคัญทางประวัติศาสตร์กลางเมืองประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ห ลังพ บ ใน ต าน าน เป็น ต้ น ไม้ ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ที่ มี คุ ณ ค่ าจังห วั ด พระนครศรีอยุธยาเป็นหนึ่งในสิบสองจังหวัดของประเทศไทยที่มีการ จัดสร้างสวนสาธารณะเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จย่าฯ (สมเด็จพระ ศรีนครินทราบรมราชชนนีในรัชกาลที่ 9) ซึ่งปัจจุบันสวนสมเด็จย่าตั้งอยู่ บริเวณเกาะเมือง พื้นที่ถูกใช้ประโยชน์ในเชิงการพักผ่อนของเมืองอยุธยา มี สระน้ า มีศาลาและพันธุ์ไม้ที่ให้ความร่มเย็นแก่ผู้มาใช้บริการ ปัจจุบันมีพื้นที่ บางส่วนที่ยังว่างเปล่า ควรจะมีการปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้นเพิ่มเติม เพื่อให้มี พื้นที่พักผ่อนที่เหมาะสมเพิ่มขึ้น ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาใน ขณะนั้น มอบหมายให้ส านักงานเกษตรจังหวัดเข้าท าการเก็บประวัติส ารวจ ต้นพุทราภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา รอบวิหารพระ มงคลบพิตรที่มีอยู่ทั้งหมดจ านวน 872 ต้น มีอายุเก่าแก่กว่า 130 ปี ทั้งหมด โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชด าริให้อนุรักษ์พันธุ์ และต้นพุทราที่มีอยู่ ในโบราณสถานอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาทั้งหมด และ ภายในสวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ให้คงอยู่และให้ขยายพันธุ์ เพิ่มเติม จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ด าเนินการตัดแต่ง ใส่ปุ๋ยบ ารุงต้น พุทราภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา รอบวิหารพระมงคล บพิตรและจัดท าแปลงพันธ์พุทราพื้นเมืองในสวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนค รินทราบรมราชชนนี รวมทั้งขยายพันธุ์พุทราดังกล่าว มอบหมายให้ หน่วยงานเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา, องค์การบริหารส่วนจังหวัด พระนครศรีอยุธยาและศูนย์เพาะกล้าไม้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อนุบาล รักษา เพื่อขยายพันธุ์ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- 125 - หัวข้อ รายละเอียด 3. วัตถุประสงค์ของ โครงการ 1. เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งทรงเป็นที่ รักใคร่ของประชาชนชาวไทยทั่วไป และเป็นการระลึกถึงพระมหา กรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยตลอดมา 2. เพื่อเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์ต้นพุทราและไม้ผลอื่นๆ อันเป็นพืช ส าคัญของประวัติศาสตร์ที่คู่บ้านคู่เมืองกรุงศรีอยุธยาให้เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้น รวมทั้งการเป็นจัดพื้นที่ให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่มาของพุทราในเกาะ เมืองกรุงศรีอยุธยา 3. เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์แก่จังหวัด พระนครศรีอยุธยา อีกทั้งเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมการกินและวิถีชีวิตที่บ่ง บอกเอกลักษณ์การเป็นเมืองกรุงเก่าของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้เป็นที่ รู้จักอย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย 1.เชิงปริมาณ ได้แก่ ต้นพุทราพื้นเมือง จ านวน 872 ต้น 2. เชิงคุณภาพ ได้แก่ ร้อยละ 80 ของผู้เข้าร่วมโครงการได้เรียนรู้และเห็นถึง ความส าคัญของต้นพุทราในพื้นที่ประวัติศาสตร์ 4. พื้นที่เป้าหมาย ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา รอบวิหารพระมงคลบพิตร อ าเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 5. กิจกรรมหลัก ด าเนินงาน 2 กิจกรรม 1. ปกปักทรัพยากร 2. อนุรักษ์และสร้างจิตส านึก 6. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 7. ระยะเวลาในการ ด าเนินงาน ปีงบประมาณ 2567 8. งบประมาณ 1,000,000 บาท ๙. ผลผลิต (output) 1. เป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จย่าฯ ที่พระองค์ทรงเป็นที่รักใคร่ของ ประชาชนชาวไทยทั่วไป และเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระองค์ท่านที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยตลอดมา 2. เป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์พืชส าคัญของประวัติศาสตร์ที่คู่บ้านคู่เมือง กรุงศรีอยุธยา ให้เป็นที่ประจักษ์แก่การเรียนรู้ที่มาของพุทราในเกาะ เมืองกรุงศรีอยุธยา 3 . เป็ น ก า รส่งเส ริม ก า รท่ องเที่ ย วเชิงป ระ วัติ ศ าส ต ร์แก่ จังห วัด พระนครศรีอยุธยา อีกทั้งเป็นการเผยแพร่กิจกรรมการด าเนินงานให้เป็นที่ รู้จักโดยทั่วไป 3. กลุ่มองค์กรเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน สามารถ จ าหน่ายออนไลน์ได้
- 126 - หัวข้อ รายละเอียด ๑๐.ผลที่คาดว่าจะได้รับ (Outcome) 1. ประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีโอกาสร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จย่าฯ ที่พระองค์ทรงเป็นที่รักใคร่ของประชาชนชาวไทยทั่วไป และเป็นการระลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อ พสกนิกรชาวไทยตลอดมา 2. ประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับรู้การส่งเสริมและอนุรักษ์พุทรา ประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นพืชส าคัญทางประวัติศาสตร์ที่คู่บ้านคู่เมืองกรุงศรีอยุธยา 3. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และเผยแพร่ กิจกรรมการด าเนินงานให้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป หัวข้อ รายละเอียด ๑. ชื่อโครงการ การจัดงานมหกรรมแสดงและจ าหน่ายสินค้าเกษตร จังหวัด พระนครศรีอยุธยา 2. ความส าคัญของโครงการ หลักการ และเหตุผล จากยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นแผนพัฒนาประเทศที่ ก าหนดกรอบและแนวทางการพัฒนา จากวิสัยทัศน์ “ประเทศ ไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วย พัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ยุทธศาสตร์ชาติด้าน การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประเด็นการพัฒนาที่ 3 พัฒนาภาคการเกษตร อุตสาหกรรม การค้าและบริการ โดยใช้นวัตกรรม และภูมิปัญญาที่สร้างสรรค์ ด้วยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีนโยบายน้อมน าศาสตร์แห่ง พระราชา องค์ความรู้ นวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย เพื่อน าไป ถ่ายทอดให้ประชาชน เกษตรกร และเยาวชนได้น าไปปรับใช้ใน การด ารงชีพ ห รือแก้ไขปัญ ห าให้กับชุมชน สังคม และ ประเทศชาติ เช่น การแสดงนวัตกรรมใหม่ๆ ที่หลากหลายสาขา โดยการน าศาสตร์พระราชามาบูรณาการและเชื่อมโยงกับศาสตร์ ชุมชน ศาสตร์สากล เช่น การแนะน าให้ความรู้ การแก้ไขปัญหา ให้เกษตรกรช่วงเกิดวิกฤต การส่งเสริมอาชีพตามปรัชญ า เศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นต้น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยส านักงานเกษตรจังหวัด พระนครศรีอยุธยาก าหนดจัดงาน “งานมหกรรมจ าหน่ายสินค้า เกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา” จ านวน 2 ครั้ง โดยในครั้งที่ 1 ก าหนดภายใต้งานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก ในช่วงเดือน ธันวาคม 2566 จ านวน 10 วัน และครั้งที่ 2 “งานมหกรรม จ าหน่ายสินค้าเกษตร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (Ayutthaya Kaset Expo)” ใน ระหว่างช่วงเดือนเมษ ายน - มิถุนายน 2567 จ านวน 5 วัน เพื่อเป็นการน้อมน าศาสตร์พระราชา
- 127 - หัวข้อ รายละเอียด หลักการทรงงาน หลักปรัชญ าเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้ง โครงการพระราชด าริต่างๆ มาบูรณาการและเชื่อมโยงกับศาสตร์ อื่นๆ เพื่อให้ประเทศชาติ และประชาชนคนไทยได้มีคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีและมีความยั่งยืน อีกทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ นวัตกรรมทางการเกษตรสถานที่ผลิต สถานที่จ าหน่ายของ ผู้ประกอบการ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย ตลอดจนน าผลผลิตและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ที่ใช้วัตถุดิบ ปลอดภัย และได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยของ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาจ าหน่ายแก่ผู้บริโภคโดยตรง เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกรเป้าหมาย พัฒนาคุณภาพของผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของ ผู้บริโภค และเพื่อเป็นการพัฒนาช่องทางการตลาดให้กับ เกษตรกร ส่งผลให้เกษตรกรให้ความส าคัญกับคุณภาพของ ผลผลิต และมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ หากไม่ได้รับสนับสนุน งบประมาณ เกษตรกร กลุ่มเกษตรกรเป้าหมาย อาจจะยังไม่ให้ ความส าคัญกับคุณภาพ ความปลอดภัยของผลผลิต ไม่สามารถ ก าหนดราคาผลผลิตเองได้ ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด ซึ่งอาจจะส่งผลให้รายได้ไม่แน่นอน เกิดความไม่มั่นคงในอาชีพ 3. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อเทิดทูนพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเบศร มหาภูมิ พลอดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพิตร เกี่ยวกับ พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจต่างๆ ที่มีต่อเกษตรกร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2 . สนับสนุนและเชื่อมโยงให้กลุ่มผู้ผลิต และเครือข่าย ผู้ประกอบการสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัยของจังหวัด พระนครศรีอยุธยา น าผลผลิตเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง 3. เพื่อสร้างรายได้แก่ผู้ผลิต กลุ่มเกษตรกร พร้อมทั้งส่งเสริม ช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัย ของจังหวัด พระนครศรีอยุธยา 4. เพื่อเผยแพร่นวัตกรรมการเกษตร ตลอดจนถ่ายทอดความรู้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการเกษตร ภาครัฐ และเอกชน ให้แก่เกษตรกร นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนผู้สนใจทั่วไป 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย 1. กลุ่มผู้ผลิต และเครือข่ายผู้ประกอบการสินค้าเกษตรและ อาหารปลอดภัยของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีช่องทาง การตลาดสินค้าเกษตร อย่างน้อย 1 จุด 2. สร้างรายได้ให้แก่ ผู้ผลิต กลุ่มเกษตรกร และเชื่อมโยง เครือข่ายให้กลุ่มผู้ผลิต และเครือข่ายผู้ประกอบการสินค้าเกษตร 3. ผู้เข้าร่วมโครงการ ร้อยละ 20 สามารถน าความรู้ทาง เทคโนโลยีการเกษตรไปปรับใช้ได้
- 128 - หัวข้อ รายละเอียด 4. พื้นที่เป้าหมาย อ าเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 5. กิจกรรมหลัก การจัดงานมหกรรมแสดงและจ าหน่ายสินค้าเกษตร จังหวัด พระนครศรีอยุธยา จ านวน 2 ครั้ง ดังนี้ 1.งานมหกรรมแสดงและจ าหน่ายสินค้าเกษตรพระนครศรีอยุธยา ภายใต้งานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก ประจ าปี 2566 2. งานมหกรรมแสดงและจ าหน่ายสินค้าเกษตร จังหวัด พระนครศรีอยุธยา (Ayutthaya Kaset Expo) 6. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 7. ระยะเวลาในการด าเนินงาน ปีงบประมาณ 2567 8. งบประมาณ 5,000,000 บาท ๙. ผลผลิต (output) 1. เกิดการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เกี่ยวกับพระราช ประวัติ พระราชกรณียกิจต่างๆ ที่มีต่อเกษตรกร จังหวัด พระนครศรีอยุธยา 2 . มีการเชื่อมโยงเครือข่ายให้กลุ่มผู้ผลิต และเครือข่าย ผู้ประกอบการสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัยของจังหวัด พระนครศรีอยุธยา น าผลผลิตเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง 3. มีการสร้างรายได้แก่ผู้ผลิต กลุ่มเกษตรกร พร้อมทั้งส่งเสริม ช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัยของจังหวัด พระนครศรีอยุธยา 4. มีการเผยแพร่นวัตกรรมการเกษตร ตลอดจนถ่ายทอดความรู้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการเกษตร ภาครัฐและเอกชนให้แก่ เกษตรกร นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนผู้สนใจทั่วไป ๑๐.ผลที่คาดว่าจะได้รับ (Outcome) 1. ผู้เข้าร่วมชมงานได้น้อมร าลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตรที่ทรงมีต่อพสกนิกรในด้านการ พัฒนาการเกษตรจากนิทรรศการกลาง 2. หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยีและ ประสบการณ์ด้านการเกษตร และยังมีการ เผยแพร่พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ให้เป็นที่รู้จัก และยอมรับกันในหมู่ ของเกษตรกร และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง 3. เกษตรกรสามารถที่จะน าแนวความคิด และเทคโนโลยีที่ได้ พบเห็นจ ากก ารแสดงนิท รรศก ารไปใช้ในก ารป รับป รุง ประสิทธิภาพของการผลิตในฟาร์ม ให้สอดคล้องกับความ ต้องการของตลาด และสภาวะการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก 4. เกษตรกรสามารถน าความรู้จากการฝึกอบรมไปพัฒนาอาชีพ
- 129 - หัวข้อ รายละเอียด การเกษตรให้ดีขึ้น 5. เกิดเครือข่ายแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นและความ ร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่าง หน่วยงานอันจะส่งผลให้เกิด การพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการขยายตัวของธุรกิจเกษตร 6. เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ตระหนักถึง ความส าคัญของอาชีพเกษตรกรรมในฐานะผู้ผลิตอาหาร และ ครัวของโลก หัวข้อ รายละเอียด ๑.ชื่อโครงการ การสร้างเครือข่ายและส่งเสริมอาชีพการเกษตรเพื่อสร้างรายได้ ในชุมชน (เห็ดตับเต่า) 2. ความส าคัญของโครงการ หลักการ และเหตุผล รัฐบาลได้มีนโยบายยกระดับการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิดหลัก สร้างสรรค์พลังไทย ท่องเที่ยวปลอดภัยเศรษฐกิจไทยยั่งยืน โดยการส่งเสริมการท่องเที่ยว ในเมืองรองหรือระดับชุมชน ส่งเสริมให้ นักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวในแหล่งชุมชนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งต าบล สามเรือน อ าเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้มีพืช เศรษฐกิจที่ส าคัญ ได้แก่ เห็ดตับเต่า ที่ขึ้นกระจายอยู่ทั่วบริเวณต าบล โดยได้รับความร่วมมือจากท้องถิ่น ในการพัฒนาให้เป็นแหล่ง ท่องเที่ยวเชิงนิเวศเกษตรทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สามารถ ท่องเที่ยวได้ทั้งทางบกและทางน้ า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปเห็ด ตับเต่า มีการท าประมงตามวิถีพื้นถิ่นดั้งเดิม มีผลิตภัณฑ์ชุมชน และ เป็นส่วนหนึ่งในการสนองพระราชด าริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตามโครงการ อนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชด าริ ในจังหวัด พระนครศรีอยุธยา จ านวน 4 แห่ง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับองค์การบริหารส่วนต าบลสาม เรือน ในการพัฒนาเห็ดตับเต่าสู่การเป็นพืชอัตลักษณ์พื้นถิ่น เพื่อเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications หรือ GI) เพื่อเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของท้องถิ่นที่แสดงความเชื่อมโยงของ ธรรมชาติและชุมชน โดยมีการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการพัฒนา เป็นพืชอัตลักษณ์ท้องถิ่น สร้างการรับรู้และส่งเสริมให้เกษตรกรให้ ความส าคัญการพัฒนาเป็นพืชอัตลักษณ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ สินค้า และมีการจัดกิจกรรมงาน “วันเห็ดตับเต่างามที่สามเรือน” ซึ่ง มีการจัดต่อเนื่องเป็นประจ าทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ เห็ดตับเต่าเป็นที่รู้จักแก่ประชาชนทั่วไปในการบริโภค และส่งเสริม
- 130 - หัวข้อ รายละเอียด วิสาหกิจชุมชนผู้เพาะปลูกเห็ดตับเต่า ให้มีการพบปะแลกเปลี่ยน ความรู้ ภูมิปัญญาในการเพาะเห็ดตับเต่าให้มีประสิทธิภาพและมี ผลผลิตที่มีคุณภาพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนในชุมชน นอกจากนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังต้องการพัฒนาพื้นที่เพาะเห็ดตับเต่าให้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งใหม่ของ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งขณะนี้จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยว เข้ามาเที่ยวชมและศึกษาในแต่ละปีเป็นจ านวนมาก ส าหรับผู้ที่มา เที่ยวชมงานในครั้งนี้ จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตทางธรรมชาติ การ ล่องเรือชมวิถีชีวิตริมน้ าของชาวบ้านต าบลสามเรือน ร่วมบันทึกภาพ แหล่งเพาะเห็ดตับเต่าที่เจริญเติบโตท่ามกลางดงโสน ชมการสาธิต และชิมเมนูอาหารที่ปรุงจากเห็ดตับเต่า สินค้าแปรรูปจากเห็ดตับเต่า อาหารคาวหวานประจ าท้องถิ่น และเลือกซื้อเห็ดตับเต่าสดราคาถูก โดยคาดว่าผลตอบรับจากการจัดงานวันเห็ดตับเต่างามที่สามเรือน จะส่งผลให้เกษตรกรน าความรู้ แนวความคิด และเทคโนโลยีที่ได้พบ เห็นจากการแสดงนิทรรศการไปใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของ การผลิตในแปลงเห็ดตับเต่า ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และท าให้มีรายได้จากการจ าหน่ายผลิตภัณฑ์เห็ดตับเต่า และสินค้า ชุมชน อีกทั้งเป็นการเผยแพร่พันธุ์พืช ท้องถิ่น ให้แก่ ประชาชน เกษตรกรต่างพื้นที่ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนซึ่งจะ ก่อให้เกิดเครือข่ายแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นและความร่วมมือ อย่างต่อเนื่อง ในการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการขยายตัวของ ธุรกิจเกษตรในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้จัดกิจกรรม การสร้าง เครือข่ายและส่งเสริมอาชีพการเกษตรเพื่อสร้างรายได้ในชุมชน (เห็ด ตับเต่า) ดังกล่าวขึ้น 3. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อเป็นการสนองพระราชด าริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตาม โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด าริ ใน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2. เพื่อพัฒนาให้เห็ดตับเต่าเป็นพืชอัตลักษณ์พื้นถิ่น 3. ส่งเสริมอาชีพการเกษตร และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และ เกษตรกรที่ป ระกอบอาชีพเพาะเห็ดตับเต่า และแปรรูป ผลิตภัณฑ์จากเห็ดตับเต่า ภายใต้การจัดกิจกรรมงานวันเห็ด ตับเต่างามที่สามเรือน 4. เพื่อส่งเสริมการแสดงและจ าหน่ายผลิตภัณฑ์เห็ดตับเต่า โดย สร้างรายได้แก่ผู้ผลิต กลุ่มเกษตรกรพร้อมทั้งส่งเสริมช่องทาง การตลาดสินค้าเกษตรและอาห ารปลอดภัยของจังหวัด พระนครศรีอยุธยา
- 131 - หัวข้อ รายละเอียด 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย 1. เห็ดตับเต่าได้รับรองเป็นพืชอัตลักษณ์พื้นถิ่น ของต าบลสาม เรือน อ าเภอบางปะอิน 2. เกษตรกรร้อยละ 10 ของเป้าหมายโครงการฯมีอาชีพและ รายได้เพิ่มมากขึ้นจากการเข้าร่วมกิจกรรมงานวันเห็ดตับเต่างาม ที่สามเรือน 3. กลุ่มเกษตรกรมีช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรและอาหาร ปลอดภัยของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 4. พื้นที่เป้าหมาย ต าบลสามเรือน อ าเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 5. กิจกรรมหลัก ด าเนินงาน 2 กิจกรรม ดังนี้ 1. กิจกรรมถ่ายทอดความรู้พัฒนาเห็ดตับเต่าสู่การเป็นพืชอัต ลักษณ์พื้นถิ่น 2. กิจกรรมจัดงานวันเห็ดตับเต่างามที่สามเรือน 6. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 7. ระยะเวลาในการด าเนินงาน ปีงบประมาณ 2567 8. งบประมาณ 1,848,800 บาท ๙. ผลผลิต (output) 1. เกษตรกรมีอาชีพและรายได้เพิ่มมากขึ้นจากการได้รับรองเป็น พืชอัตลักษณ์พื้นถิ่นและจากการเข้าร่วมกิจกรรมงานวันเห็ด ตับเต่างามที่สามเรือน 2. สามารถมีช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัย ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3. มีการเชื่อมโยงให้กลุ่มผู้ผลิต และเครือข่ายผู้ประกอบการ สินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัยของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา น าผลผลิตเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง ๑๐.ผลที่คาดว่าจะได้รับ (Outcome) 1. เกษตรกรสามารถน าแนวความคิด และเทคโนโลยีที่ได้พบเห็น จากการแสดงนิทรรศการไปใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของ การผลิตในแปลง ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด 2. เกษตรกรมีรายได้จากการแสดงจ าหน่ายสินค้า ท าให้กลุ่ม วิสาหกิจชุมชนมีความเข้มแข็ง 3. ประชาชนสามารถน าความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ให้ เป็นประโยชน์ สร้างรายได้โดยสามารถถ่ายทอดให้คนรุ่นหลัง ได้สืบสานต่อไป 4. เกิดเครือข่ายแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นและความ ร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยงาน อันจะส่งผลให้เกิดการ พัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการขยายตัวของธุรกิจเกษตร
- 132 - หัวข้อ รายละเอียด ๑. ชื่อโครงการ ยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงสัตว์ปีกในกลุ่มฟาร์มเกษตรกรรายย่อย 2. ความส าคัญของโครงการ หลักการ และเหตุผล การเลี้ยงไก่พื้นเมืองในฟาร์มเกษตรกรรายย่อยส่วนใหญ่เป็นการ เลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติ จึงเป็นเหตุให้เกิดความสูญเสีย ทางผลผลิตได้ หากเกษตรกรสามารถเลี้ยงได้อย่างถูกวิธีจะ สามารถป้องกันโรคได้ ซึ่งการขับเคลื่อนฟาร์มที่มีระบบการ ป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (Good Farming Management: GFM) ถือเป็นการยกระดับและส่งเสริมให้ฟาร์ม รายย่อยให้เป็นฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ ที่เหมาะสม เพื่อลดปัญหาจากโรคระบาดสัตว์ และส่งเสริมให้ สินค้าปศุสัตว์มีความปลอดภัย 3. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อให้เกษตรกรผู้อบรมมีความรู้ความเข้าใจถึงระบบการ ป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม Good Farming Management (GFM) 2. เพื่อให้เกษตรกรผู้อบรมสามารถปฏิบัติตามข้อก าหนด และ ด าเนินการจัดการได้อย่างถูกต้อง 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย กลุ่มเป้าหมาย: เกษตรกรรายย่อยผู้เลี้ยงสัตว์ปีก ทั้งหมด 160 ราย 1. ความส าเร็จของผู้ฝึกอบรมได้ตามเกณฑ์มาตรฐานการ ฝึกอบรม ร้อยละ 80 ๒. เกษตรกรปรับระบบการเลี้ยงให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ ร้อยละ 60 4. พื้นที่เป้าหมาย ทั้ง 16 อ าเภอ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 5. กิจกรรมหลัก อบรมระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม 1. คัดเลือกเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่พื้นเมือง/ไก่ชน 2. จัดอบรมเกษตรกรตามเกณฑ์และหัวข้อที่ก าหนด 3. การตรวจติดตามฟาร์มของเกษตรกร 6. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานปศุสัตว์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 7. ระยะเวลาในการด าเนินงาน ปีงบประมาณ 2567 8. งบประมาณ 164,800 บาท ๙. ผลผลิต (output) 1. เกษตรกรจ านวน 160 ราย มีความรู้ความเข้าใจถึงระบบ การป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม Good Farming Management (GFM) 2. เกษตรกรจ านวน 160 ราย สามารถปฏิบัติตามข้อก าหนด และด าเนินการจัดการได้อย่างถูกต้อง ๑๐.ผลที่คาดว่าจะได้รับ (Outcome) 1. เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจถึงระบบการป้องกันโรค และ การเลี้ยงสัตว์ปีกได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ 2. ระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมสามารถ ลดอัตราการป่วยและตายของสัตว์ได้อย่างยั่งยืน
- 133 - หัวข้อ รายละเอียด ๑. ชื่อโครงการ ถ่ายทอดความรู้การขุนโคเนื้อเพศผู้เพื่อเพิ่มมูลค่าในฟาร์มโคเนื้อ เกษตรกรรายย่อย 2. ความส าคัญของโครงการ หลักการ และเหตุผล การเลี้ยงโคเนื้อในเกษตรกรรายย่อยจะเลี้ยงลูกโคเพศเมียไว้เป็น แม่พันธุ์ เพื่อขยายพันธุ์ นิยมขายลูกโคเพศผู้หลังอย่านม ในราคา ถูกเพื่อไม่ต้องเป็นภาระในด้านการเลี้ยงดูท าให้ราคาลูกโคเพศผู้ หลังอย่านมราคาถูกไม่มีมูลค่าคุ้มค่าแก่การเลี้ยง การขุนลูกโค เพศผู้จึงเป็นการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งให้เกษตรกรรายย่อย 3. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. ให้ความรู้ด้านการเลี้ยงลูกโคเพศผู้เพื่อขุนเป็นโคเนื้อคุณภาพ 2. สามารถเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จ านวน 150 ราย 4. พื้นที่เป้าหมาย พื้นที่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 5. กิจกรรมหลัก -คัดเลือกเกษตรกรเพื่อเข้าโครงการ -ศึกษาและอบรมเกษตรกร จ านวน 150 ราย 5.1 กิจกรรมหลักที่ 1 งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถ่ายทอดความรู้การขุนโคเนื้อเพศผู้ งบประมาณ 107,700 บาท ปศุสัตว์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส านักงานปศุสัตว์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 6. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานปศุสัตว์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 7. ระยะเวลาในการด าเนินงาน ปีงบประมาณ 2567 8. งบประมาณ 107,700บาท ๙. ผลผลิต (output) 1. เกษตรกรจ านวน 150ราย มีความรู้ความเข้าใจและมีทักษะ ในการเลี้ยงโคเนื้อเพื่อขุนเพิ่มมากขึ้น 2. เกษตรกรจ านวน 150 ราย มีความรู้ในการดูแลสุขภาพโค เนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. เกษตรกรจ านวน 150 ราย สามารถพัฒนาปรับปรุงการผลิต และการจัดการด้านอาหารได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ๑๐.ผลที่คาดว่าจะได้รับ (Outcome) 1. เกษตรกรความรู้ความเข้าใจการเลี้ยงโคเนื้อได้อย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ 2. โคเนื้อของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์มีสุขภาพดีขึ้น อัตราการป่วย และอัตราการตายลดลง 3. เกษตรกรสามารถจัดการด้านการเลี้ยงโคเนื้อและพัฒนาการ ผลิตเนื้อโคขุนคุณภาพได้
- 134 - หัวข้อ รายละเอียด 1. ชื่อโครงการส าคัญ โครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตและการตลาด กลุ่มดอกไม้ประดิษฐ์ ต าบลคลองสวนพลู 2. หลักการและเหตุผล ดอกไม้ประดิษฐ์จากต้นโสน ต าบลคลองสวนพลู สวยงามโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่มด้วยฝีมือ และความช านาญ การย้อมสี การจัดกลีบ และการเข้าช่อดอกอย่างประณีตสวยงาม มีรูปทรง สีสันเลียนแบบดอกไม้ธรรมชาติ ซึ่งคิดค้นโดยคนต าบลคลองสวน พลู อ าเภอพระนครศรีอยุธยา น าต้นโสนมาลองฝานเป็นแผ่นบาง และท าเป็นดอกไม้ประดิษฐ์ มีการสืบทอดฝีมือจากรุ่นสู่รุ่นมานาน มากกว่า 30 ปีจนเป็นที่รู้จักและได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน ภาครัฐ เป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาดูงานให้แก่นักเรียน นักศึกษา และ ประชาชนทั่วไป มีลูกค้าเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ เป็นทั้งอาชีพ หลักและอาชีพเสริม สร้างรายได้ และมีการรวมกลุ่มกัน จดทะเบียน จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนกลุ่มดอกไม้ประดิษฐ์ ต าบลคลองสวนพลู ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2565 มีสมาชิกทั้งหมด 15 ราย ทางกลุ่มได้มี การต่อยอดผลิตภัณฑ์ดอกไม้ประดิษฐ์จากต้นโสน ที่มีผลิตภัณฑ์ทั้ง ดอกเดี่ยว จัดช่อ จัดแจกัน กระเช้า พวงหรีด และดอกไม้จัดตาม ความต้องการของลูกค้า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา – 2019 และเศรษฐกิจปัจจุบันท าให้มีการ จ าหน่ายสินค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ ลดลง กลุ่มจึงมีความต้องการ พัฒนาศักยภาพการผลิต และสร้างการตลาด เพื่อให้สินค้าเป็นที่ ต้องการมากขึ้น และสร้างศูนย์เรียนรู้ในชุมชน สมาชิกสามารถเป็น วิทยากรสอนให้ผู้ที่สนใจเรียนรู้การท าดอกไม้ประดิษฐ์จากต้นโสน ได้ 3. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตดอกไม้ประดิษฐ์จากต้นโสน 2. เพื่อพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงาม 3. เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดในรูปแบบออนไลน์ 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย 1. มีบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีความสวยงาม เพิ่มมูลค่าของ ผลิตภัณฑ์ได้ 2. สามารถสร้างช่องทางการตลาดออนไลน์ได้ 5. พื้นที่เป้าหมาย ที่ท าการวิสาหกิจชุมชนกลุ่มดอกไม้ประดิษฐ์ ต าบลคลองสวน พลู หมู่ที่ 7 ต าบลคลองสวนพลู อ าเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 6. กิจกรรมหลัก 6.1 กิจกรรมหลักที่ 1 งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ พัฒนาและสนับสนุนบรรจุภัณฑ์ส าหรับใส่ดอกไม้ประดิษฐ์ จ านวน 35,000 บาท ส านักงานเกษตรอ าเภอพระนครศรีอยุธยา ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- 135 - หัวข้อ รายละเอียด 6.2 กิจกรรมหลักที่ ๒ งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ อบรมการจัดท าแผนธุรกิจและการเป็นวิทยากร จ านวน 6,850 บาท ส านักงานเกษตรอ าเภอพระนครศรีอยุธยา ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 7. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานเกษตรอ าเภอพระนครศรีอยุธยา ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 8. ระยะเวลาในการด าเนินโครงการ ปีงบประมาณ 2568 - 2570 9. งบประมาณ และแหล่ง งบประมาณ 41,850 บาท 10.ผลผลิต (Output) 1. สมาชิกกลุ่มได้รับความรู้เพิ่มเติมจากการฝึกอบรม 2. สมาชิกกลุ่มสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ให้เกิดความหลากหลาย เพิ่มขึ้น มีบรรจุภัณฑ์ของที่ระลึกสวยงามเพิ่มมูลค่าของ ผลิตภัณฑ์ได้ 3. สมาชิกกลุ่มมีรายได้เพิ่มขึ้นจากช่องทางการตลาดออนไลน์ 11. ผลลัพธ์จากการด าเนินโครงการ (Outcome) เชิงปริมาณ 1. สมาชิกกลุ่มมีรายได้เพิ่มขึ้น มากกว่าร้อยละ 50 2. เพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ มากกว่าร้อยละ 70 เชิงคุณภาพ 1. สมาชิกกลุ่มมีรายได้เพิ่มขึ้น 2. สมาชิกกลุ่มสามารถเป็นวิทยากรได้ 3. มีช่องทางประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ท าให้เป็นที่ รู้จักของบุคคลภายนอกพื้นที่มากขึ้น
- 136 - หัวข้อ รายละเอียด 1. ชื่อโครงการส าคัญ การผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูงและการแปรรูป 2. หลักการและเหตุผล เนื่องจากปัจจุบันอาหารปลอดภัยเป็นที่ต้องการของตลาดสูง และยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค วิสาหกิจชุมชนเป็น องค์กรเกษตรกรที่ด าเนินการโดยคณะบุคคลที่รวมตัวกันเพื่อ ประกอบกิจการ เพื่อสร้างรายได้และเพื่อการพึ่งพาตนเองของ ครอบครัวชุมชนและระหว่างชุมชน อีกทั้งเป็นการรวมตัวกัน เพื่อ ช่วยแก้ไขปัญหาของเกษตรกรในการประกอบอาชีพในพื้น เพื่อผลิต สินค้าเกษตรมูลค่าสูงและการแปรรูป วิสาหกิจชุมชนท่าหลวง ท่องเที่ยว เกษตร (กา) แฟ ได้ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2566 มีสมาชิก ทั้งหมด 7 ราย เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรมูลค่าสูงพร้อม ทั้งท าการแปรรูป และส่งเสริมให้ชาวบ้านในชุมชนผลิตสินค้าเกษตร มูลค่าสูงส่งให้กับวิสาหกิจชุมชนท่าหลวง ท่องเที่ยว เกษตร (กา) แฟ เพื่อให้ชาวบ้านในชุมชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้นและมีสุขภาพที่ดี เนื่องจากกินพืชผักปลอดภัย พื้นที่ส่วนใหญ่ของต าบลท่าหลวง เป็น พื้นที่ทางการเกษตร อาชีพหลักคือ ท านา และมีเกษตรกรยากจน บางครัวเรือนไม่มีรายได้ ว่างงาน และไม่มีพื้นที่ท าการเกษตร ราคา ผลผลิตเป็นไปตามกลไกลทางการตลาด และถูกกดราคาจากพ่อค้า คนกลาง และที่ส าคัญยัง ไม่มีสถานที่ตลาดรองรับสินค้าเกษตรของ ชุมชน อีกทั้งกลุ่มเกษตรกรมักขาดโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อใช้ ในการพื้นฟูและปรับเปลี่ยนอาชีพให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมของ ท้องถิ่นนั้นส่งผลกับภาพรวมของเศรษฐกิจรากหญ้าของประเทศ ดังนั้นการส่งเสริมให้ชุมชนได้ปลูกพืชผักมูลค่าสูงและท าการแปร รูป จะเป็นการลดรายจ่ายและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในครัวเรือน เป็นไปตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งสามารถสร้างความยั่งยืน ให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี เพื่อให้สมาชิกของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่าหลวง ท่องเที่ยว เกษตร (กา) แฟ ในการปลูกพืชผักที่มีคุณภาพของกลุ่มวิสาหกิจฯ ให้เป็น สินค้าชุมชน เป็นการเพิ่มศักยภาพอาชีพของกลุ่มวิสาหกิจฯ และ คนในชุมชนให้เข็มแข็งและมั่นคง และเกษตรกรในชุมชนสามารถมา เรียนรู้เพื่อน าไปเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักได้ด้วย แต่ยังขาด สมาชิกเพิ่มและขาดเงินทุน ในการต่อยอดขยายการตลาดและ สถานที่จ าหน่ายสินค้าเกษตรมูลค่าสูง สินค้าแปรรูป การพัฒนา คุณภาพและผลผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการทางการตลาดได้ 3. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. สมาชิกกลุ่มมีรายได้เพิ่มขึ้น 2. ผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูงให้มีคุณภาพปลอดภัยผู้บริโภคมี ความมั่นใจ 3. เพื่อผู้ผลิตและผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดี
- 137 - หัวข้อ รายละเอียด 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย เกษตรกรในพื้นที่ได้รับการพัฒนาความรู้ มีรายได้มั่นคงและ ยั่งยืน 5. พื้นที่เป้าหมาย บ้านใหม่พัฒนา หมู่ที่ ๓ ต าบลท่าหลวง อ าเภอท่าเรือ 6. กิจกรรมหลัก ระบุแนวทางและวิธีการด าเนินงานที่เป็นกิจกรรมหลักที่ส่งผล ให้โครงการบรรลุวัตถุประสงค์ 6.1 กิจกรรมหลักที่ 1 งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ การผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูงและการแปรรูป ๖๐๐,๐๐๐ บาท 1. ส านักงานเกษตรและสหกรณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๒.ส านักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๓. 6.2 กิจกรรมหลักที่ ๒ งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ ร้านค้าชุมชนพร้อมอุปกรณ์ภายในร้าน 500,000 บาท 1. ส านักงานเกษตรและสหกรณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๒.ส านักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๓. ส านักงานเกษตรอ าเภอท่าเรือ 7. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานเกษตรอ าเภอท่าเรือ ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 8. ระยะเวลาในการด าเนิน โครงการ ๒ ปี 9. งบประมาณ และแหล่ง งบประมาณ - 10.ผลผลิต (Output) สามารถผลิตผักเพื่อการจ าหน่าย จ านวน ๑๐ ราย สามารถ ผลิตผักสลัดและผักเคลได้ปีละไม่ต่ ากว่า ๑๐๐-120 กิโลกรัม/ ปี 11. ผลลัพธ์จากการด าเนิน โครงการ (Outcome) สมาชิกจ านวน ๑๐ รายมีรายได้จากการขายผัก ปีละไม่ต่ ากว่า ๑๕,๐๐๐ บาท เกษตรกรมีรายได้เสริมจาการ เพิ่มรายได้และ ลดรายจ่ายภายในครัวเรือน
- 138 - หัวข้อ รายละเอียด 1. ชื่อโครงการส าคัญ โครงการส่งเสริมการผลิตชาชายา 2. หลักการและเหตุผล เนื่องจากในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโค โรนา (Covid -19) ส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายๆ พื้นที่ ท าให้ประชาชนปรับพฤติกรรมในการใช้จ่าย โดยลดการซื้อ สิ่งของที่ฟุ่มเฟือยและมีราคาสูง นอกจากนี้ประชาชนส่งใหญ่ยัง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภค เนื่องจากรายได้ที่ลดลง รวมทั้งหันมาดูแลเรื่องสุขภาพมากขึ้น กลุ่มจึงคิดที่จะท าสินค้า ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ คือ ชาใบชายา มีสรรพคุณประโยชน์ มากมาย มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการหมุนเวียนโลหิต ควบคุมระดับน้ าตาลให้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน บ ารุงสมองและ สายตา ช่วยลดคอเลสเตอรอล บรรเทาริดสีดวงทวาร บรรเทา อาการไอเจ็บคอ ล้างพิษในตับ เพิ่มแคลเซียมให้กระดูก รักษา โรคกระดูกพรุน ลดการสะสมและลดการติดเชื้อในปอด ป้องกันโลหิตจางโดยเพิ่มธาตุเหล็กให้กับเลือด ช่วยบรรเทาโรค ไขข้ออักเสบ ลดการอักเสบในเส้นเลือด ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีอยู่ แล้วในพื้นที่เป็นหลักและต้องการสร้างอัตลักษณ์ของกลุ่มเพื่อ เป็นการจดจ าของกลุ่มและสินค้า รวมทั้งกลุ่มมีความต้องการใช้ ตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้รับการสนับสนุนมาเพื่อให้เกิด ความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด 3. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อส่งเสริมการผลิตวัตถุดิบในการน ามาผลิตชาชายาของ เกษตรกรในพื้นที่ 2. เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิก 3. เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดในรูปแบบออนไลน์ 4. เพื่อส่งเสริมสินค้าและกิจกรรมกลุ่มให้มีความหลากหลาย 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย ๑. สมาชิกวิสาหกิจชุมชน จ านวนไม่น้อยกว่า ๑๐ ราย มี ความรู้ความเข้าใจในการผลิตชาจากใบของต้นชายา ๒. สมาชิกกลุ่มและเกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 5 ๓. กลุ่มสามารถเป็นจุดสาธิต และเป็นจุดเรียนรู้ให้แก่บุคคล ทั่วไปในชุมชนได้ 5. พื้นที่เป้าหมาย ที่ท าการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มบ้านไร่แฮนด์เมด ๘๕/๑ หมู่ ๖ ต าบลพระนอน อ าเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 6. กิจกรรมหลัก 6.1 กิจกรรมหลักที่ 1 งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ การจัดซื้อจัดจ้างวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือ จ านวน 16,900 บาท ส านักงานเกษตรอ าเภอนครหลวง
- 139 - หัวข้อ รายละเอียด 6.2 กิจกรรมหลักที่ ๒ งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ จัดอบรมเพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับสมาชิกในกลุ่ม จ านวน 17,100 บาท ส านักงานเกษตรอ าเภอนครหลวง 7. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานเกษตรอ าเภอนครหลวง ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 8. ระยะเวลาในการด าเนิน โครงการ ปีงบประมาณ 2568 - 2570 9. งบประมาณ และแหล่ง งบประมาณ 34,000 บาท 10.ผลผลิต (Output) 1. สมาชิกกลุ่มได้รับความรู้เพิ่มเติมจากการฝึกอบรม 2. สมาชิกกลุ่มสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ให้เกิดความหลากหลาย เพิ่มขึ้น มีบรรจุภัณฑ์ของที่ระลึกสวยงามเพิ่มมูลค่าของ ผลิตภัณฑ์ได้ 3. สมาชิกกลุ่มมีรายได้เพิ่มขึ้นจากช่องทางการตลาดออนไลน์ 11. ผลลัพธ์จากการด าเนิน โครงการ (Outcome) 1. สมาชิกกลุ่มและเกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น 2. สมาชิกมีความรู้ความเข้าใจในการผลิตชาจากใบของต้น ชายาและสามารถพัฒนาอาชีพได้ 3. มีช่องทางประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ท าให้เป็นที่รู้จักของ บุคคลภายนอกพื้นที่มากขึ้น ๔. เป็นจุดเรียนรู้ให้แก่บุคคลทั่วไปในชุมชน ชุมชนใกล้เคียง ผู้สนใจผลิตภัณฑ์ และบุคคลทั่วไป
- 140 - หัวข้อ รายละเอียด 1. ชื่อโครงการส าคัญ โครงการส่งเสริมการใช้น้ าหมักชีวภาพทดแทนการใช้สารเคมีและ สารสกัดจากสะเดา 2. หลักการและเหตุผล การท าเกษตรในทศวรรษหน้า ผลผลิตส าหรับผู้บริโภคจะเป็น คุณภาพเป็นหลัก หรืออาหาร ปลอดภัย (food safety) การค้า จะเน้นด้านคุณภาพของผลผลิตมากขึ้น การท าการเกษตรด้วย ระบบ อินทรีย์จะเข้ามามีบทบาททดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีและ สารเคมีทางการเกษตร ปัจจุบันการท าการเกษตรของประเทศ ไทย มีการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีก าจัดศัตรูพืชจ านวน มาก ซึ่งมี ราคาแพงเพิ่มขึ้นทุกปีตามภาวะราคาตลาดน้ ามันโลก สารเคมีที่ ใช้มีการสะสมในดิน น้ าและผลผลิต เป็นอันตรายต่อผู้ผลิตและ ผู้บริโภค และผลผลิตที่เป็นสินค้าส่งออกมีโอกาสที่จะถูกประเทศ คู่ ค้าส่งคืนกลับ จึงมีความจ าเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนระบบการ ผลิตใหม่ หันมาใช้สารอินทรีย์ทดแทน อย่างน้อยให้ปลอดภัยต่อ ผู้บริโภค (อาหารปลอดสารพิษ) และพัฒนาไปสู่อาหารไร้สารพิษ และเกษตร อินทรีย์ในที่สุด จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น กรม พัฒนาที่ดินในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนส่งเสริมการ ใช้สารอินทรีย์ทดแทนสารเคมีทางการเกษตร จึงจ าเป็นที่จะต้อง ให้เกษตรกรมีความรู้ ความเข้าใจ รู้จัก ผลิตและใช้สารอินทรีย์ ทดแทนสารเคมีโดยจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรเครือข่ายผู้ใช้สารอินทรีย์ ในการเกษตร และสร้างกลุ่มเกษตรกรให้เข้มแข็ง สามารถใช้ที่ดิน เพื่อการเกษตรได้อย่างยั่งยืน 3. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจในการผลิตและการใช้ สารอินทรีย์อย่างมีประสิทธิภาพในการลดการใช้ปุ๋ยเคมี 2. เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรมีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้ ในการพัฒนาการเกษตร แบบยั่งยืน 3. เพื่อพัฒนาเป็นกลุ่มเกษตรอินทรีย์ในอนาคต 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย - 5. พื้นที่เป้าหมาย หมู่ที่ 3 ต าบลไม้ตรา อ าเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 6. กิจกรรมหลัก 6.1 กิจกรรมหลักที่ 1 งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ จัดอบรมการผลิตและการใช้สารอินทรีย์ทดแทนสารเคมีทางการ เกษตรให้กับเกษตรกร จ านวน 21,925 บาท ส านักงานเกษตรอ าเภอบางไทร ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- 141 - หัวข้อ รายละเอียด 6.2 กิจกรรมหลักที่ ๒ งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ จัดอบรมการผลิตสารสงัดจากสะเดาให้กับเกษตรกร จ านวน 38,325 บาท ส านักงานเกษตรอ าเภอบางไทร ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 7. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานเกษตรอ าเภอบางไทร ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 8. ระยะเวลาในการด าเนิน โครงการ ปีงบประมาณ 2568 - 2570 9. งบประมาณ และแหล่ง งบประมาณ 60,250 บาท 10.ผลผลิต (Output) 1. เกษตรกรมีการใช้สารเคมีทางการเกษตรลดลง ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ 2. ผลผลิตที่ได้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค รสชาติดีมีคุณภาพ 3. เกษตรกรมีสุขอนามัยดีขึ้น 4. ฟื้นฟูดินให้ดีขึ้น มีความยั่งยืนทางการเกษตร และรักษา สิ่งแวดล้อม
- 142 - หัวข้อ รายละเอียด 1. ชื่อโครงการส าคัญ โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากต้นโสนหางไก่ของวิสาหกิจชุมชน บ้านกรด 2. หลักการและเหตุผล เกษตรกรและคนในชุมชนบ้านสามขาตะวันออก หมู่ที่ 5 ต าบล บ้านกรด ได้รวมกลุ่มกันน าต้นโสนหางไก่มาผลิตเป็นดอกไม้ที่ใช้ ในงานพิธีส าคัญต่างๆ เมื่อตลาดมีความต้องการใช้ดอกไม้จ านวน มาก ท าให้ต้นโสนหางไก่ในชุมชนไม่เพียงพอประกอบกับมีการ ปรับเปลี่ยนวิถีการปลูกข้าวท าให้ต้นโสนลดหายไป กลุ่มต้อง พึ่งพาต้นโสนหางไก่จากพื้นที่อื่น และปริมาณเศษต้นโสนหางไก่ก็ มีเหลือทิ้งเป็นจ านวนมาก ทางกลุ่มจึงมีความสนใจต้องการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากต้นโสนหางไก่ ด้วยกรผสานภูมิ ปัญญาท้องถิ่นและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มี คุณภาพต่อไป 3. วัตถุประสงค์ของโครงการ 3.1 เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับต้นโสนหางไก่ 3.2 เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรและคนในชุมชนปลูกต้นโสนหางไก่ เพื่อการอนุรักษ์และการค้า 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย วิสาหกิจชุมชนบ้านกรด ได้ผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่จากต้นโสนหาง ไก่ อย่างน้อย 1 ผลิตภัณฑ์ และมีแปลงสาธิตการปลูกต้นโสน หางไก่ จ านวน 1 แปลง 5. พื้นที่เป้าหมาย วิสาหกิจชุมชนบ้านกรด หมู่ที่ 5 บ้านสามขาตะวันออก ต าบล บ้านกรด อ าเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 6. กิจกรรมหลัก 1. รับสมัครผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ 2. ขอสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานท้องถิ่น/จังหวัด 3. ประสานขอความอนุเคราะห์วิทยากรจากหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง 4. จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการฝึกอบรม 5. จัดฝึกอบรม 6. ติดตามผล 6.1 กิจกรรมหลักที่ 1 งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ การผลิตกระดาษจากต้นโสนหางไก่ 100,000 บาท สถาบันการศึกษา ส านักงานเกษตรอ าเภอ/ส านักงานพัฒนาชุมชนอ าเภอ/อปท. 6.2 กิจกรรมหลักที่ 2 งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ ศึกษาการเจริญเติบโตของต้นโสนหางไก่ในพื้นที่นาข้าวต าบลบ้าน กรดเพื่อการอนุรักษ์พืชท้องถิ่น 50,000 บาท ส านักงานเกษตรจังหวัด/อ าเภอ อปท.
- 143 - หัวข้อ รายละเอียด 6.2 กิจกรรมหลักที่ 3 งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ การฝึกอบรมการท าบัญชีแก่สมาชิกวิสาหกิจชุมชนบ้านกรด 30,000 บาท ส านักงานเกษตรอ าเภอ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ 7. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานเกษตรอ าเภอบางปะอิน 8. ระยะเวลาในการด าเนินโครงการ เมษายน 2566 - กันยายน 2570 9. งบประมาณ และแหล่งงบประมาณ งบประมาณ 180,000 บาท โดยแหล่งงบปกติ งบจังหวัด/กลุ่มจังหวัด งบอื่น ๆ 10. ผลผลิต (Output) กระดาษจากเศษต้นโสนหางไก่ และ การเพิ่มขึ้นของต้นโสนหาง ไก่ในชุมชน 11. ผลลัพธ์จากการด าเนินโครงการ (Outcome) เชิงปริมาณ - เศษต้นโสนหางไก่ ร้อยละ 100 น ามาผลิตเป็นกระดาษได้ - มีแปลงสาธิตการปลูกต้นโสนหางไก่ จ านวน 1 แปลง เชิงคุณภาพ - สมาชิกวิสาหกิจชุมชนบ้านกรด ร้อยละ 80 สามารถเข้าใจการ เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร หัวข้อ รายละเอียด 1. ชื่อโครงการส าคัญ โครงการส่งเสริมการผลิตพืชผักปลอดภัยจากสารพิษ (ตามระบบมาตรฐาน GAP) 2. หลักการและเหตุผล จากการที่ต้องผลิตพืชผักให้ได้ปริมาณมากท าให้เกษตรกรต้องใช้ สารเคมีและปุ๋ยเคมี ในการเร่งผลผลิต ท าให้ผู้บริโภคได้รับสารเคมี เข้าไปสะสมในร่างกายและท าลายสุขภาพในเวลาต่อมา ทั้งยัง ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม จึงด าเนินการส่งเสริมและสนับสนุน ให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนระบบการผลิตจากเกษตรใช้สารเคมี เป็น เกษตรที่มีระบบการผลิตมาตรฐานเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) โดย การให้ความรู้ในการปลูกพืชผักและส่งเสริมให้มีการจัดการผลผลิต ที่ดีมีคุณภาพ เพื่อจัดจ าหน่ายต่อไป 3. วัตถุประสงค์ของโครงการ 3.1 เพื่อลดต้นทุนการผลิตโดยการผลิตสารชีวภัณฑ์ และปุ๋ยอินทรีย์ ทดแทนการใช้สารเคมี 3.2 เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรโดยผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP 3.3 เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกและขยายพื้นที่การปลูกพืชผักปลอด สารพิษมากยิ่งขึ้น 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย - ระดับความส าเร็จในการขยายพื้นที่ ในการปลูกพืชผักปลอด สารพิษเพิ่มมากขึ้น
- 144 - หัวข้อ รายละเอียด 5. พื้นที่เป้าหมาย - บ้านหลุมทองหลาง หมู่ 5 ต าบลสิงหนาท อ าเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 6. กิจกรรมหลัก 6.1 ถ่ายทอดความรู้มาตรฐานเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) 6.2 ถ่ายทอดความรู้การผลิต และการใช้สารชีวภัณฑ์ และ ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง 6.3 จัดท าแปลงเรียนรู้การผลิตพืชปลอดภัย เพื่อเป็นแหล่ง เรียนรู้ของชุมชน และพื้นที่ใกล้เคียง 6.1 กิจกรรมที่ 1 งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ ถ่ายทอดความรู้มาตรฐานเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) 17,800 บาท กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร 6.2 กิจกรรมที่ 2 งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ ถ่ายทอดความรู้การผลิต และการใช้สารชีวภัณฑ์ และ ปุ๋ย อินทรีย์คุณภาพสูง 25,550 บาท กรมส่งเสริมการเกษตร , กรมพัฒนาที่ดิน 6.3 กิจกรรมที่ 3 งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ จัดท าแปลงเรียนรู้การผลิตพืชปลอดภัย เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ ของชุมชน และพื้นที่ใกล้เคียง 36,650 บาท กรมส่งเสริมการเกษตร ส านักงานเกษตรและสหกรณ์, กรมวิชาการ และกรมพัฒนาที่ดิน 7. หน่วยงานที่รับผิดชอบ - กรมส่งเสริมการเกษตร - กรมวิชาการเกษตร - กรมพัฒนาที่ดิน - ส านักงานเกษตร และสหกรณ์ 8. ระยะเวลาในการด าเนินโครงการ - ปีงบประมาณ 2566 - 2567 9. งบประมาณ และแหล่งงบประมาณ - 80,000 บาท 10. ผลผลิต (Output) - ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 11. ผลลัพธ์จากการด าเนินโครงการ (Outcome) 11.1 เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิต และมีสุขภาพอนามัย ดีขึ้น 11.2 เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปลูกพืชผักปลอดสารพิษ 11.3 เกษตรกรสามารถขยายพื้นที่ในการปลูกพืชผักปลอด สารพิษเพิ่มมากขึ้น
- 145 - หัวข้อ รายละเอียด 1. ชื่อโครงการส าคัญ โครงการแปรรูปผลผลิตข้าวคุณภาพดี 2. หลักการและเหตุผล บ้ านล าแดง หมู่ที่ 3 ต าบลหันตะเภา อ าเภอวังน้อย จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม พื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นทุ่งนา และมีการรวมกลุ่มกันจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนนาแปลงใหญ่ข้าว หันตะเภา เพื่อจ าหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวสารบรรจุถุง แต่เนื่องจากการ จ าหน่ายข้าวสารมีข้อจ ากัดเรื่องต้นทุนการจัดส่งผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า ในต่างจังหวัด/ต่างประเทศ ประกอบกับราคาข้าวที่ตกต่ า เกษตรกรจึงมี ความประสงค์รวมกลุ่มกัน สร้างมูลค่าให้กับข้าวสารโดยการแปรรูปเป็น โจ๊ก และอาหารเสริม เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพอาชีพของกลุ่มวิสาหกิจ ฯ และคนในชุมชนให้เข็มแข็งและมั่นคง และเกษตรกรในชุมชนสามารถ เรียนรู้เพื่อน าไปเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักได้ด้วย 3. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อสร้างมูลค่า และแปรรูปข้าวเป็นโจ๊ก/อาหารเสริม 2. เพื่อพัฒนาศักยภาพ และสร้างอาชีพให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูก ข้าว 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย 1. เกษตรกรเข้าร่วมโครงการแปรรูปผลผลิตข้าวคุณภาพดี จ านวน 30 ราย 2. เกษตรกรสามารถแปรรูปข้าวเป็นโจ๊ก และอาหารเสริมได้ 3. มีผลิตภัณฑ์โจ๊ก และอาหารเสริม จ าหน่ายในชุมชนและผู้ที่สนใจ 5. พื้นที่เป้าหมาย บ้านล าแดง หมู่ที่ 3 ต าบลหันตะเภา อ าเภอวังน้อย จังหวัด พระนครศรีอยุธยา 6. กิจกรรมหลัก การจัดอบรมการแปรรูปข้าวเป็นโจ๊ก อาหารเสริม และการ ออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อจ าหน่าย พร้อมทั้งสนับสนุนปัจจัยการผลิต 6.1 กิจกรรมหลักที่ 1 งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ การแปรรูปข้าวเป็นโจ๊ก และอาหารเสริม จ านวน 135,220 บาท มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ มหาวิทยาลัยราชภัฎ พระนครศรีอยุธยา กศน. อบต. ศูนย์วิจัยข้าว โรงไฟฟ้า 7. หน่วยงานด าเนินงาน ก รม ส่งเส ริ ม ก า รเก ษ ต ร โด ย ส านั กง าน เก ษ ต ร จังห วั ด พระนครศรีอยุธยา/ส านักงานเกษตรอ าเภอวังน้อย ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 8. ระยะเวลาในการด าเนินโครงการ ปีงบประมาณ 2568 - 2570 9. งบประมาณ และแหล่งงบประมาณ 135,220 บาท 10. ผลผลิต (Output) เกษตรกรในหมู่บ้าน มีการแปรรูปข้าวเป็นโจ๊ก และอาหารเสริม 11. ผลลัพธ์จากการด าเนินโครงการ (Outcome) 1. เกษตรกร 30 ราย มีรายได้เพิ่มขึ้น 2. มีความมั่นคงทางด้านรายได้ 3. เกษตรกรและผู้บริโภคมีสุขภาพดี 4. สามารถสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน
- 146 - หัวข้อ รายละเอียด 1. ชื่อโครงการส าคัญ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเมล่อนสู่เกษตรมูลค่าสูง 2. หลักการและเหตุผล การท าเกษตรในพื้นที่ต าบลบ้านแถว อ าเภอเสนา จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ส่วนใหญ่เป็นการผลิตข้าว ซึ่งในบางปี ประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ า ผลผลิตต่อไร่ต่ า ต้นทุนการผลิต สูง และสภาพพื้นที่ที่เป็นทุ่งรับน้ า ท าให้ประสบปัญหาน้ าท่วม ซ้ าซากในทุกปี เกษตรกรขาดความรู้ความเข้าใจในการ ปรับเปลี่ยนพื้นที่หรือปรับเปลี่ยนพืชที่ปลูกให้เป็นพืชที่มีมูลค่า สูง ดังนั้นเกษตรกรต าบลบ้านแถวจึงได้น าปัญหาที่เกิดขึ้นมา วิเคราะห์ เพื่อค้นหาศักยภาพของพื้นที่ และความต้องการของ เกษตรกร เพื่อจัดท าโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเมล่อน สู่เกษตรมูลค่าสูงนี้ขึ้น 3. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1.เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มกัน 2.เพื่อให้เกษตรกรปลูกเมล่อนคุณภาพดี 3.เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 4.เพื่อพัฒนาพื้นที่ปลูกเมล่อนเป็นแหล่งเรียนรู้ต้นแบบของ ต าบล 4. ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย 1.เกษตรกรมีการรวมกลุ่มกัน อย่างน้อย 1 กลุ่ม 2.เกษตรกรสามารถปลูกเมล่อนได้คุณภาพดีตามมาตรฐาน GAP 3.เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น อย่างน้อย 20% 4.มีแหล่งเรียนรู้การปลูกเมล่อนต้นแบบของต าบล จ านวน 1 แห่ง 5. พื้นที่เป้าหมาย พื้นที่หมู่ที่ 3 ต าบลบ้านแถว อ าเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 6. กิจกรรมหลัก 6.1 กิจกรรมหลักที่ 1 งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ ส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกเมล่อน - อบรมให้ความรู้ด้านการรวมกลุ่ม - การจัดท าบัญชีต้นทุนการเกษตร - การวางแผนการผลิต การปลูก และการดูแลรักษาเมล่อน ให้มีคุณภ าพ และการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม การเกษตร 5,000 บาท ส านักงานเกษตรอ าเภอเสนา ส านักงานสหกรณ์การเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส านักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- 147 - หัวข้อ รายละเอียด 6.2 กิจกรรมหลักที่ 2 งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ สนับสนุนปัจจัยการผลิต - เมล็ดพันธุ์เมล่อนคุณภาพดี - โรงเรือน - ระบบน้ า และวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ 480,000 บาท ส านักงานเกษตรอ าเภอเสนา ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 6.3 กิจกรรมหลักที่ 3 งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ สนับสนุนการผลิตเมล่อน GAP - การตรวจวิเคราะห์ดิน - ส่งเสริมการผลิตและการใช้สารชีวภัณฑ์ - ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินและการใช้ปุ๋ย อินทรีย์ 15,000 บาท ส านักงานเกษตรอ าเภอเสนา ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส านักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 6.3 กิจกรรมหลักที่ 4 งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบ หน่วยงานร่วมด าเนินการ ส่งเสริมด้านการตลาดและเครือข่าย - สร้างแบรนด์สินค้า - ส่งเสริมการตลาดออนไลน์ - ส่งเสริมการท าบรรจุภัณฑ์ - สร้างเครือข่ายเกษตรกรด้านการผลิตและการตลาด 20,000 บาท ส านักงานเกษตรอ าเภอเสนา ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส านักงานพัฒนาชุมชนอ าเภอเสนา ส านักงานพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 7. หน่วยงานด าเนินงาน ส านักงานเกษตรอ าเภอเสนา ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส านักงานพัฒนาชุมชนอ าเภอเสนา ส านักงานสหกรณ์การเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส านักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส านักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส านักงานพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 8. ระยะเวลาในการด าเนินโครงการ มิถุนายน 2566 – กันยายน 2570 9. งบประมาณ และแหล่งงบประมาณ งบประมาณ 520,000 บาท แหล่งงบประมาณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- 148 - หัวข้อ รายละเอียด 10. ผลผลิต (Output) 1.เกษตรกรมีการรวมกลุ่มกันของเกษตรกรต าบลบ้านแถว 2.เกษตรกรได้รับการอบรม มีความรู้เพิ่มขึ้น 3.เกษตรกรสามารถปลูกเมล่อนได้คุณภาพดี ตามมาตรฐาน GAP 4.เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 5.มีแหล่งเรียนรู้การปลูกเมล่อนต้นแบบของต าบล 11. ผลลัพธ์จากการด าเนินโครงการ (Outcome) 1.มีกลุ่มเกษตรกรเพิ่มขึ้น 2.มีแหล่งเรียนรู้ของต าบล 3.เกษตรกรมีความรู้เพิ่มขึ้น 4.เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 5.มีแหล่งเรียนรู้ต้นของต าบล พัฒนาไปสู่การท่องเที่ยวเชิงเกษตร หัวข้อ รายละเอียด 1. ชื่อโครงการส าคัญ โครงการสนับสนุนกลุ่มส่งเสริมเกษตรกร 2. หลักการและเหตุผล ปัจจุบันการรวมตัวกันของเกษตรกรนับเป็นแนวทางส าคัญ ต่อการพัฒนาด้านการเกษตร เพราะการรวมตัวกัน นอกจากจะ เป็นการเพิ่มอ านาจต่อรอง ทั้งด้านการซื้อปัจจัยการผลิต การ ขายผลผลิต ยังน ามาซึ่งความร่วมมือกันของหมู่คณะ ซึ่งกลุ่ม มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมในการพัฒนาแก้ปัญหาสามารถพึ่งตนเอง ได้ และน าไปสู่ความเข้มแข็งของชุมชน ส านักงานเกษตรอ าเภออุทัย จึงได้เล็งเห็นความส าคัญของ การรวมกลุ่มส่งเสริมอาชีพเกษตรกร เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพ ให้กับเกษตรกรที่มีความต้องการพัฒนาในกิจกรรมตามความ ต้องการ จึงได้จัดท า โครงการสนับสนุนกลุ่มส่งเสริมอาชีพ เกษตรกรขึ้น เพื่อส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่ม เพื่อร่วมกันพัฒนา ความรู้ความสามารถทางการเกษตรที่ก่อให้เกิดการพัฒนา อาชีพการเกษตรกร เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ในอันที่ จะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น มีความมั่นคงในการ ประกอบอาชีพ พึ่งพาตนเองได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 3. วัตถุประสงค์ของโครงการ 1 เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มช่วยเหลือซึ่งกันและกันใน การประกอบกิจกรรมด้านการเกษตร 2 เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรร่วมกันแก้ไขปัญหาการผลิต และ การตลาด 3 เพื่อเป็นศูนย์กลางรับความรู้ในการถ่ายทอดวิชาการไปสู่ เกษตรกร 4 เพื่อใช้กระบวนการกลุ่มในการพัฒนาเกษตรกรให้มีความมั่นคง ในการประกอบอาชีพ