The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

งานวิจัยเชิงสำรวจชาติพันธุ์กะเหรี่ยงสุโขทัย-ฉบับสมบูรณ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pattaranai, 2022-01-31 22:18:48

งานวิจัยเชิงสำรวจชาติพันธุ์กะเหรี่ยงสุโขทัย-ฉบับสมบูรณ์

งานวิจัยเชิงสำรวจชาติพันธุ์กะเหรี่ยงสุโขทัย-ฉบับสมบูรณ์

๘๙

ในพื้นที่กะเหรี่ยงจังหวัดสุโขทัย ทั้งนี้ในกระบวนการดำเนินการเปิดเวทีประชาคมเพื่อร่วมหาแนวทาง
การจัดเก็บข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรีย่ งและข้อมูลมรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธ์ุในพ้นื ที่
จังหวดั สโุ ขทัยนน้ั ได้มกี ารเปดิ เวทปี ระชาคม ดังน้ี

การเปิดเวทีประชาคมเพื่อระดมความคิด และวางแผนการดำเนินงานเพื่อร่วมหาแนวทางการ
จัดเก็บข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง และข้อมูลมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่
บ้านห้วยหยวก หมู่ที่ ๕ ตำบลบ้านแก่ง อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย และกะเหรี่ยงบ้านแม่สาน หมู่ที่ ๖
ตำบลแม่สำ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย และโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมดังนี้ ประกอบด้วยปราชญ์ชุมชน
และสมาชิกในชุมชนกะเหรี่ยง ผ้นู ำชมุ ชนท้องถิน่ ผนู้ ำทางศาสนา นกั พัฒนาชมุ ชน และนกั วิชาการภายนอก
ณ ลานชุมชนหมู่บ้านห้วยหยวก หมู่ที่ ๕ ตำบลบ้านแก่ง ในวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ และ ณ ท่ีหน่วยศึกษา
การพัฒนาการอนุรักษ์ต้นน้ำแม่สาน ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ซึ่งการเปิดเวทีประชาคมในครั้งนี้
ได้มีมติในการคิดแนวทางการศึกษาวิจัยการสำรวจ และจัดเก็บข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง และข้อมูล
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย : ตามโครงการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาว
กะเหรี่ยงจังหวัดสุโขทัย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามแบบสำรวจมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
(แบบ มภ. ๑) และแบบจดั ทำรายการเบ้อื งตน้ มรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม (แบบ มภ. ๒)

อภิปรายผลการวิจัย

1. การศึกษาวิจัยการสำรวจ และจัดเก็บข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง และข้อมูลมรดกภูมิปัญญา
ทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ผลจากการศึกษาพบว่า กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง
อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย มีทุนทางวัฒนธรรมชุมชนที่ดีงามจำนวนมากทั้งในด้านโบราณสถาน
โบราณวัตถุแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม การแต่งกาย ภาษา ขนบธรรมเนียมประเพณี
พิธีกรรม ศิลปหัตถกรรม ดนตรี และการละเล่น ตลอดจนการดำรงอยู่ร่วมกันในสังคมของชาวกะเหรี่ยง
จังหวัดสุโขทัยซึ่งนับเป็นวัฒนธรรมแสดงให้เห็นถึง ความงดงามและเสน่ห์ของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง
จังหวัดสุโขทัย ที่มีการสืบทอดจากบรรพบุรุษมาสู่ลูกหลานชาวกะเหรี่ยงในยุคสมัยปัจจุบัน โดยวัฒนธรรม
ไม่ได้เจาะจงเพยี งแค่ศิลปะและวรรณกรรมเท่านั้น หากแต่มีความหมายที่รวมถึงค่านิยมสิทธิต่าง ๆ ของคน
ในสังคม ขนบธรรมเนียมประเพณี และความเชื่อต่าง ๆ อีกด้วย ทำให้วัฒนธรรมได้หมายรวมถึงความดงี าม
ความงาม และความเจริญในชีวิตมนุษย์โดยจะปรากฏให้เห็นในลักษณะของรูปธรรมต่าง ๆ ตลอดจนได้สืบทอด
มาจนถึงคนในรุ่นปัจจุบัน ซึ่งวัฒนธรรมจะถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และสร้างสรรค์ขึ้นไปตามยุคสมัย
จากการที่วัฒนธรรมเกดิ การเปลีย่ นแปลงไปตามกาลเวลา และยุคสมัย ย่อมรวมไปถึงวัฒนธรรมในกล่มุ ชาติ
พันธุ์กะเหรี่ยงจังหวัดสุโขทัยที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เนื่องจากสภาพสังคมและความก้าวหน้า
ทางเทคโนโลยีในปัจจุบันที่เข้ามามีบทบาทต่อการดำรงชีวิตของคนกะเหรี่ยงในจังหวัดสุโขทัย ซึ่งการเปลี่ยนแปลง
ทางสังคมดังกล่าวได้นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมภายในชุมชน ทำให้วัฒนธรรมบางอย่าง

๙๐

ของชาวกะเหรี่ยงได้ถูกปรับเปลี่ยน ดัดแปลง และบางอย่างได้ถูกกลืนกลายไปตามยุคสมัย เช่น ที่อยู่อาศัย
ของชาวกะเหรีย่ ง ภาษากะเหรีย่ ง การแตง่ กายกะเหรี่ยง ขนบธรรมเนยี ม ประเพณกี ะเหรี่ยง อาหารทอ้ งถิ่น
และการใชส้ มนุ ไพรในการรกั ษาโรค เป็นต้น ทั้งนีก้ ารเปล่ียนแปลง ทางวฒั นธรรมดังกล่าว ย่อมมาจากปจั จัย
ในด้านสังคม เศรษฐกิจ และทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ซึ่งนับเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมขึ้นภายในชุมชน กะเหรี่ยงจังหวัดสุโขทัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งการไหลบ่า
ของวัฒนธรรมภายนอกที่เข้ามามีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของชาวกะเหรี่ยงจังหวัดสุโขทัย ซึ่งเข้ามาสร้าง
ความสะดวกสบายและสร้างคุณภาพชีวิต ของคนกะเหรี่ยงให้มีวิถีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น เช่น เส้นทางการคมนาคม
เทคโนโลยีการติดต่อสื่อสาร ระบบทางการศึกษา ตลอดจนการบริหารจัดการชุมชนด้วยโครงสร้างระบบรัฐ
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำ ให้ชุมชนกะเหรี่ยงเกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมทั้งสิ้น โดยการ
เปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมกะเหรี่ยงจงั หวัดสุโขทัยทำให้เหน็ ว่านอกจากการรับวัฒนธรรมภายนอกที่เข้ามา
มีบทบาทต่อวิถีการดำรงอยู่ของชาวกะเหรี่ยงจังหวัดสุโขทัยอย่างรวดเร็วแล้วนั้น ในพื้นที่ชุมชนกะเหรี่ยง
จังหวัดสุโขทัยในปัจจุบันเริ่มมีกลุ่มคนภายนอกเข้าไปอยู่อาศัยมากขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจ และการโยกย้าย
ถ่นิ ฐานของบคุ คลในท้องถ่นิ อน่ื ๆ มาตงั้ รกรากในพ้นื ท่กี ะเหร่ียงจงั หวดั สโุ ขทัย ทำใหใ้ นพ้ืนท่ีชุมชนกะเหรี่ยง
จังหวัดสุโขทัยมีความหลากหลายทางกลุ่มชาติพันธุ์มากขึ้น เช่น ม้ง เมี่ยน ลีซอ เย้า ไทพวน เป็นต้น
จึงทำให้วัฒนธรรมบางอย่างได้ถูกผสมผสานดัดแปลงขึ้นมาใหม่ ด้วยเหตุที่มีบุคคลในกลุ่มชาติพันธ์ุอื่น ๆ
เข้ามาอาศัยในพ้ืนท่ชี ุมชนกะเหรย่ี งนนั้ ยอ่ มเป็นอกี หนึ่งปจั จยั ทนี่ ำมาสกู่ ารเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมอกี ด้วย

ผลที่ได้จากการศึกษาที่กล่าวถึงบริบททางสังคมและวัฒนธรรมกะเหรี่ยงจังหวัดสุโขทัย พบว่า
ชาวกะเหรี่ยงในจังหวัดสุโขทัยมีสังคมและวัฒนธรรมเดียวกัน มีการสืบทอดการเรียนรู้ในด้านต่างๆภายใน
สังคมชาวกะเหรี่ยงด้วยกันเอง และยังคงเป็นเอกลักษณ์เหมือนกับของกลุ่มกะเหรี่ยงในจังหวัดอื่นๆอีกด้วย
สอดคล้องกับการให้คำนิยามด้านสังคมและวัฒนธรรมของ ณัฎฐ์ชรัชช์ สาระหงส์ (๒๕๖๑) พบว่า ชาวปกาเกอะญอ
มีนิสัยรักสันโดษ เรียบง่าย มีภูมิปัญญาในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ทำการเกษตรแบบพอเลี้ยงตัวได้
เพาะปลูกพืชพรรณต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นอาหารโดยไม่ต้องพึ่งพาสังคมภายนอกมากนัก เห็นได้จากการที่
ชาวปกาเกอะญอในเขตทีส่ ูงจะทำไรห่ มุนเวียนโดยไม่ถางปา่ จนไม่เหลือไม้ใหญ่แล้วปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่นกับ
คนกลมุ่ อ่นื หรือเกษตรกรในเขตพื้นราบ ซึ่งมงุ่ เนน้ ความมั่งค่ังทางเศรษฐกิจตามแนวคิดทุนนยิ มเสรเี ป็นสำคัญ
สอดคลอ้ งกับการให้คำนยิ ามดา้ นสงั คมและวัฒนธรรมของ เกศศริ ิ วงศ์สองชน้ั และคณะ (๒๕๖๐) ซ่ึงปัจจัย
ที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมประเพณีชนเผ่าปกาเกอะญอนั้น โดยทั่วไปแล้วอาจมีการ
เปลี่ยนแปลงไปเพราะสังคมในทุกวันนี้รับวัฒนธรรมจากภายนอกเข้ามาใช้จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
อยู่ตลอดเวลา แต่การเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นช้าหรือเร็วนั้นมักจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆที่มาเกี่ยวข้อง
อย่างเช่น การพัฒนาความรู้และ เทคโนโลยีการสื่อสารที่ใหม่ ๆ ที่มีให้พบเห็นกันอยู่ในทุกวันนี้จะเห็นว่า
มีความทันสมยั มากขึน้ จงึ ทำให้ชาวบา้ นเปล่ียนทศั นคติความเช่ือแบบเดิม และหนั ไปหาค่านิยมแบบใหม่แทน
เพื่อต้องการที่จะไม่ให้คนอื่นมองว่าตนเองล้าหลังไม่ทันสมัย ด้านการศึกษาของเด็กในหมู่บ้านที่ส่วนใหญ่

๙๑

จะเข้ามาศึกษาโรงเรียนในตัวเมืองร่วมกับเด็กคนไทย จึงซึมซับสิ่งที่พบเห็นเป็นประจำ และเกิดความคิด
สร้างสิ่งใหม่ ๆ กับตนเองมากขึ้นจากเดิมในเรื่องในเรื่องต่าง ๆ ทั้งความเป็นอยู่ การแต่งกาย ภาษา และวัฒนธรรม
เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีอยู่ว่ายุคสมัยใหม่การสื่อสารทางเทคโนโลยีและปัจจัยสุดท้ายนั้นอาจรวมไปถึง
การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติของสิ่งแวดล้อม เช่น สภาพดินฟ้าอากาศที่ทำให้เกิดความแห้งแล้ง จึงทำให้
ชาวบ้านคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ มาเพื่อแก้ปัญหา และรับสิ่งใหม่ ๆ จากภายนอกเข้ามามีบทบาทในหมู่บ้านซึ่งเหน็
ได้อย่างชัดเจน แนวทางการสืบทอด และอนุรักษ์วิถีชีวิตของวัฒนธรรมในหมู่บ้านกะเหรี่ยงนั้นได้มีการ
เปลี่ยนแปลงไปมากจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งในเรื่องความเป็นอยู่ การแต่งกาย ภาษาและวัฒนธรรม
ได้เปลี่ยนไปไปตามยุคตามสมัยเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสังคมปัจจุบัน สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงก็มีหลาย
สาเหตุ ทั้งการแพร่กระจายวัฒนธรรมจากภายนอกเข้ามาสู่ภายในหมู่บ้าน และการมีเงื่อนไขระหว่าง
คนในหมู่บ้านกับภาครัฐที่จะต้องมีของตกลงในเรื่องของการใช้พื้นที่ป่า การเรียนรู้ที่มีมากขึ้นขอ งเยาวชน
เช่น เด็ก และเยาวชนมีการศึกษาเล่าเรียนเพิ่มมากขึ้น การพัฒนาของเทคโนโลยี เช่น การติดต่อสื่อสารกนั
โดยใช้โทรศัพท์ การเข้าถึงของอินเตอร์เน็ต และการวิวัฒนาการทางวัฒนธรรมซึ่งก็เป็นปัจจัยทั้งส้ิน
ที่มาของการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยงแต่หากวัฒนธรรมกะเหรี่ยงก็ไม่ได้เปลี่ยนไป
ทั้งหมดแต่หากเปลี่ยนไปในแนวลูกผสมคือการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมกะเหรี่ยง และวัฒนธรรมอ่ืน
เพื่อการปรับตัว และเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับสังคมไม่ให้เกิดความล้าหลัง ซึ่งก็ถือว่าเป็นการผสมผสานกันได้
อย่างลงตัวในระดับหนึ่ง แต่หากเด็กในปัจจุบันนั้นยังไม่ค่อยสนใจวัฒนธรรมกะเหรี่ยงสนใจแต่วัฒนธรรม
ภายนอกอย่างเดียว ในอนาคตวัฒนธรรมกะเหร่ยี งคงเลือนหายไปเป็นแน่แท้ ความเปน็ โลกสมัยใหม่กําลังจะ
ท้าทายแนวความคิดเรื่องของวัฒนธรรม และทุบทำลายความเป็นอัตลักษณ์ของชาวบ้านกระเหรี่ยง การขับเคลื่อน
ของสังคมทั้งในเรื่องของผู้คน การขายวัฒนธรรม และในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม และผลที่ได้จาก
การศึกษาด้านการเปลีย่ นแปลงทางวฒั นธรรมกะเหรี่ยงจังหวัดสุโขทัยน้ี สอดคล้องกับแนวคิดทฤษฎีการแพร่กระจาย
ทางวัฒนธรรม ของวุฒิ บุญเลิศ (๒๕๔๕) พบว่าทุกจังหวัดมีทั้งปกาเกอะญอ และโพล่งตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่
มีทง้ั ทอ่ี ยู่แยกตามเขตพื้นท่ีอำเภอ และทอ่ี ยรู่ ว่ มอำเภอเดยี วกนั มีหลักฐานท่บี ง่ ชวี้ า่ มีการอพยพหรือถูกอพยพ
เคลือ่ นยา้ ยภายในจังหวัด ขา้ มจงั หวดั และข้ามประเทศ เชน่ ปกาเกอะญอในจังหวัดเชียงรายบางส่วนอพยพมาจาก
แม่ฮ่องสอน ส่วนโพล่งในจังหวัดเชียงรายอพยพมาจากลำพูนและลำปาง ส่วนกะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน
ที่เป็นปกาเกอะญอ และโพล่งตั้งถิ่นฐานในที่ที่เป็นดอย และที่ราบเชิงเขาคล้าย ๆ กัน โพล่งในจังหวัด
เชียงใหม่ตั้งอยู่ในพื้นท่ีราบต่ำกว่าพ้ืนที่ที่ปกาเกอะญอต้ังถิน่ ฐานอยู่ และโพล่งบางส่วนได้มีการอพยพไปไว้ที่
ดอยเต่า อำเภอฮอด เพราะเป็นพื้นที่ น้ำท่วมจากการสร้างเขื่อนภูมิพล กล่าวโดยรวมจากหลักฐานโบราณ
มีชุมชนกะเหรี่ยงอาศัยอยู่ในภาคเหนือมานานประมาณ ๖๐๐-๗๐๐ ปี หรือมากกว่านั้น แต่ชุมชนกะเหรี่ยง
ในปัจจุบันมีอายุอย่างมากไม่เกิน ๔๐๐ ปี ทั้งนี้อาจเกี่ยวกับวิถีชีวิตการทำไร่หมุนเวียน และระบบความเช่ือ
ในการย้ายหมู่บ้านเมื่อชุมชนต้องเผชิญกับภัยพิบัติต่าง ๆ การแพร่กระจายวัฒนธรรมโดยใช้การแบ่งกลุ่ม
พื้นที่เชิงวัฒนธรรมโดยอาศัยหน่วยต่าง ๆ ที่มีลักษณะทางกายภาพและลักษณะทางพัฒนาการของมนุษย์

๙๒

ที่สอดคล้องกันเป็นพื้นฐานรวมทั้งลักษณะภูมิอากาศประวัติศาสตร์ภาษาหรืออื่น ๆ สอดคล้องกับแนวคิด
ทฤษฎขี อง นฤมล ลภะวงศ์ (๒๕๕๗) พบว่า กระบวนการจดั การเพอื่ รกั ษาอตั ลักษณ์ทางวัฒนธรรมของกลุ่ม
ชาตพิ นั ธปุ์ กาเกอะญอบา้ นหนองมณฑา (มอวาคี) ตำบลแมว่ นิ อำเภอแมว่ าง จงั หวดั เชยี งใหม่ พบวา่ ภายใน
ชุมชนมีระบบการปกครอง และโครงการสร้างความสัมพันธ์ของคนในชุมชนที่เหนียวแน่น จึงทำให้คนใน
ชุมชนเกิดความตระหนักรักในความเป็นชาติพันธุ์ของตนเอง เกิดความต้องการและพยายามที่จะรักษาอัต
ลักษณ์ทางวัฒนธรรมความเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอะญอเอาไว้ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
ในปัจจุบัน โดยใช้โรงเรียนบ้านมอวาคีเป็นกลไกในการถ่ายทอดวิถีชีวิตแบบปกาเกอะญอรักษาอัตลักษณ์
ทางวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม มีผู้รู้ผู้อาวุโสในชุมชนเป็นผู้ถ่ายทอด ให้แก่เด็กนักเรียน เช่น ภาษา การแต่งกาย
นิทาน บทธา การสืบทอดในเรอื่ งการทอผ้า การทำนา การทำไร่หมุนเวียน ฯลฯ

ผลที่ได้จากการศึกษาที่กล่าวถึงอัตลักษณ์มรดกทางวัฒนธรรมกะเหรี่ยงจังหวัดสุโขทัย พบว่า
ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงจังหวัดสุโขทัย ยังแสดงถึงคุณค่าในความเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นปกาเกอะญอ
อาจจะปรากฏอยู่ในรูปแบบของจารีตประเพณีหรือการแสดงออก ทางวัฒนธรรมของแต่ละสังคม ซึ่งเป็นวิถี
การดำรงอยู่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดที่สามารถสื่อออกมาให้ เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม ทั้งในด้านการแต่งกาย
และภาษา ท่ีสามารถบ่งบอกและสื่อสารให้เห็นถึงเอกลักษณ์ในการใช้สัญลักษณ์ความเป็นปกาเกอะญอ
ยังคงรักษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมไม่ให้สูญหายไปจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ซึ่งสอดคล้องกับการให้
คำนิยามด้านสังคมและวัฒนธรรมของ ณัฎฐ์ชรัชช์ สาระหงส์ (๒๕๖๑) พบว่า ศักยภาพทางวัฒนธรรมของ
ชาวปกาเกอะญอนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องใช้เวลาในการศึกษาเรียนรู้ จดจํา และลงมือปฏิบัติเพื่อให้
เกิดความรู้ความเข้าใจ แม้ว่าชุมชนปกาเกอะญอจะยังคงความสามารถในสืบทอดองค์ความรู้และวิธีการใน
การดำรงชีวิตบนพื้นฐานของปัจจัยสี่ไว้ได้ก็ตาม แต่การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม
ภายนอกส่งผลต่อชุมชนในหลายส่วน ทั้งนี้ในด้านกระบวนการจัดการเพื่อรักษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม
ของกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ นฤมล ลภะวงศ์ (๒๕๕๗) พบว่า ภายในชุมชน มีระบบการปกครอง
และโครงการสร้างความสัมพันธ์ของคนในชุมชนที่เหนียวแน่น จึงทำให้คนในชุมชน เกิดความตระหนัก
รักในความเป็นชาติพันธุ์ของตนเอง เกิดความต้องการและพยายามที่จะรักษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม
ความเป็นกลุ่มชาตพิ ันธุ์ปกาเกอะญอเอาไว้ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในปัจจุบัน โดยใช้โรงเรยี น
บ้านมอวาคีเป็นกลไกในการถ่ายทอดวิถีชีวิตแบบปกาเกอะญอรักษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม
มีผู้รู้ ผู้อาวุโสในชุมชนเป็นผู้ถ่ายทอด ให้แก่เด็ก นักเรียน เช่น ภาษา การแต่งกาย นิทาน บทธา การสืบทอด
ในเรอ่ื งการทอผ้า การทำนา การทำ ไร่หมนุ เวยี น ฯลฯ

จากการศึกษาวิจัยการสำรวจและจัดเก็บข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและข้อมูลมรดกภูมิปัญญา
ทางวัฒนธรรมของกลมุ่ ชาติพันธุ์ในพ้นื ทจี่ งั หวดั สุโขทยั ทง้ั ในดา้ น บรบิ ททางสงั คม ด้านวฒั นธรรม อัตลักษณ์
มรดกทางวัฒนธรรมของชุมชนกะเหรี่ยงจังหวัดสุโขทัย ทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุโขทัยได้เล็งเห็น
ความสำคญั ทางดา้ นวัฒนธรรมของชุมชนกะเหรยี่ งอำเภอศรีสชั นาลยั จังหวัดสุโขทยั ในด้านการสง่ เสรมิ การ

๙๓

จัดการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมโดยชุมชนปกาเกอะญอในจังหวัดสุโขทัย เพื่อเสนอชื่อเป็นมรดกภูมิปัญญา
ทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ เผยแพร่ข้อมูลภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมชาวกะเหรี่ยงในจังหวัดสุโขทัย
และประชาสัมพนั ธ์ข้อมลู ชาตพิ ันธ์กุ ะเหรย่ี งเพื่อการส่งเสรมิ การท่องเทยี่ วเชิงวัฒนธรรมในชาตพิ ันธ์กุ ะเหรี่ยง
จังหวัดสุโขทยั

ข้อเสนอแนะของการวิจัย

ข้อเสนอแนะที่ได้จากการศึกษาวิจัยเรื่อง การศึกษาวิจัยการสำรวจและจัดเก็บข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์
กะเหรี่ยง และขอ้ มลู มรดกภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพนั ธ์ุในพืน้ ท่ีจังหวดั สุโขทัย มดี ังน้ี

ข้อเสนอแนะเชงิ นโยบาย
๑. จากผลการวิจัยพบว่า วัฒนธรรมกะเหรี่ยงจังหวัดสุโขทัยใกล้สูญหายไปจากสังคม เนื่องจาก
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนโยบายภาครัฐที่มุ่งเน้นความเป็นไทย จึงควรมีนโยบายในการส่งเสริม
การดำเนนิ งานกจิ กรรมทางวฒั นธรรมของชุมชนกะเหร่ียงจังหวดั สุโขทยั เพื่อส่งเสรมิ และอนุรักษ์วัฒนธรรม
ชุมชนไม่ให้ถูกกลืนสูญหายไปจากสังคมไทยในช่วงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านงบประมาณ
และบุคลากรท่มี คี วามรคู้ วามสามารถในด้านวัฒนธรรมกะเหรี่ยงในชมุ ชน เพือ่ ร่วมขบั เคลื่อนการดำเนินงาน
ดา้ นการอนรุ ักษว์ ฒั นธรรมกะเหร่ียงและสง่ เสริมการทอ่ งเท่ียวภายในพืน้ ที่อยา่ งจริงจงั
2. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมชุมชนกะเหรี่ยงจังหวัดสุโขทัย ได้แก่ องค์การ
บรหิ ารส่วนตำบล องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั สโุ ขทัย สถานศกึ ษาในพืน้ ทีอ่ ำเภอศรีสัชนาลัย ควรขยายผลนำ
กิจกรรมการอนุรักษ์วัฒนธรรมกะเหรี่ยงไปต่อยอดในพื้นที่อื่น ๆ เพื่อให้เกิดกิจกรรมการอนุรักษ์วัฒนธรรม
กะเหรี่ยงมากยิ่งขึ้น อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนกะเหรี่ยงในชุมชน และบุคคลที่มีความสนใจ
ในการศกึ ษาข้อมลู ตลอดจนเร่อื งราวทางวฒั นธรรมของกล่มุ ชาติพนั ธก์ุ ะเหร่ียง
ข้อเสนอแนะในการทำวจิ ัยคร้งั ตอ่ ไป
1. ควรมีการศึกษาวิจัยการสำรวจและจัดเก็บข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและข้อมูลมรดกภูมิ
ปัญญาทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ในจังหวัดสุโขทัย เช่น ม้ง เมี่ยน ลีซอ เย้า ไทพวน เป็นต้น
เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความเข้มแข็งในด้านวัฒนธรรมและด้านอื่นๆให้กับกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ
ในสังคมไม่ใหถ้ กู กลืนกลายไปในยุคสมยั ใหมท่ ่มี ีความเจริญก้าวหนา้ ในด้านเทคโนโลยีอยา่ งรวดเร็ว
2. ควรมกี ารศึกษาแนวทางการส่งเสรมิ การทำวิจัยการท่องเที่ยวดา้ นวัฒนธรรมในพ้ืนที่ชุมชนกลุ่ม
ชาติพันธุ์กะเหรี่ยงเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และประชาสัมพันธ์
วัฒนธรรมกะเหรยี่ งจังหวดั สุโขทัยให้เปน็ ที่รูจ้ กั แกส่ าธารณชนต่อไป

บรรณณานุกรม

เกศศิริ วงศ์สองชนั้ และคณะ. (๒๕๖๐). การปรับตัวทางวัฒนธรรมในโลกสมัยใหมข่ องชาวกะเหร่ยี ง
หม่บู า้ นกะเหรยี่ งน้ำตก ตำบลคลองลานพฒั นา อำเภอคลองลาน จงั หวดั กำแพงเพชร.
วทิ ยานพิ นธห์ ลักสูตรสาขาวิชาการพัฒนาสังคม คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏกําแพงเพชร.

จริ าภรณ์ กาญจนสุพรรณ. (๒๕๖๒). การวจิ ัยเชิงปฏบิ ัติการแบบมสี ่วนร่วมเพ่ืออนรุ ักษว์ ัฒนธรรมกะเหรยี่ ง
อยา่ งยง่ั ยนื : กรณีศกึ ษากล่มุ ชาตพิ นั ธ์ุกะเหรยี่ งจงั หวัดราชบรุ ี. วทิ ยานิพนธห์ ลักสตู รปรัชญาดษุ ฎีบัณฑิต
สาขาวิชาพัฒนศึกษา ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ภาควิชาพื้นฐานทางการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร.

ณฎั ฐช์ รชั ช์ สาระหงส์. (๒๕๖๑). ศกั ยภาพทางวัฒนธรรมของชาวปกาเกอะญอ : พลวตั การจัดการทอ่ งเท่ียว
ทางวัฒนธรรมโดยชุมชน จังหวัดแม่ฮ่องสอน วิทยานิพนธ์หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา
วฒั นธรรมศาสตร์ คณะวัฒนธรรมศาสตร์มหาวิทยาลยั มหาสารคาม.

ดรณั ยทุ ธวงศส์ ุข. (2557). การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม กรณีศึกษาชาวกะเหรย่ี งทยิ พุ า ตาํ บลชะแล
อาํ เภอทองผาภมู ิ จังหวดั กาญจนบุรี.

นฤมล ลภะวงศ์. (๒๕๕๗). กระบวนการจดั การเพื่อรกั ษาอัตลักษณ์ทางวฒั นธรรมของกลุ่มชาตพิ ันธุ์
ปกาเกอะญอบ้านหนองมณฑา (มอวาคี) ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์
หลักสูตรสาขาวชิ าการจัดการศิลปะและวัฒนธรรม บัณฑติ วทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่.

แนวนโยบายและการปฏบิ ตั ิในการฟนื้ ฟูวิถีชาวกะเหรยี่ ง. (๒๕๕๔). กรงุ เทพ. โรงพิมพแ์ ห่งจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.

วทิ ยา บษุ บงค์. (2548). ศกึ ษาการเปลยี่ นแปลงทางสงั คมและวัฒนธรรมของชุมชนตําบลแหลมตะลุมพกุ
อําเภอปากพนงั จงั หวดั นครศรีธรรมราช.

ยศ สนั ตสมบัติ, (บก.). (2551). “บทนำ”. ใน อำนาจ พ้ืนที่ และอตั ลกั ษณ์ทางชาติพนั ธ์:ุ การเมอื ง
วัฒนธรรมของรัฐชาติในสังคมไทย, หน้า 1-38. กรุงเทพฯ: ศูนยม์ านุษยวทิ ยาสิรนิ ธร
(องค์การมหาชน).

วุฒิสทิ ธ์ิ จรี ะกมล. (๒๕๖๑). ดนตรีชาวเขาเผ่ากะเหร่ียงบ้านแม่สาน อำเภอศรีสัชนาลยั จังหวดั สุโขทัย.
วทิ ยานพิ นธห์ ลกั สูตรสาขาวชิ าดนตรี คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั มหาสารคาม.

สมภพ เพ็ญจันทร์. (๒๕๕๓). บทความวชิ าการฟอ้ นเจิง. คร(ู ชำนาญการพเิ ศษ) วิทยาลยั นาฏศลิ ป์เชียงใหม.่
สรรเกียรติ กุลเจริญ. (2558). การเปล่ยี นแปลงของวัฒนธรรมทอ้ งถิน่ :ศกึ ษากรณีงานประเพณสี งกรานต์

พระประแดง อาํ เภอพระประแดง จงั หวดั สมุทรปราการ.
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (2021). ชาวกะเหรี่ยง. เข้าถึงได้จาก https://th.wikipedia.org/wiki. อินเทอร์เน็ต.

เขา้ ถงึ เมอื่ 15 ตุลาคม 2564)

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก เคร่อื งมือท่ใี ชใ้ นการวจิ ยั

๙๗

แนวทางการสมั ภาษณผ์ เู้ ข้าร่วมวจิ ัย

การศึกษาวิจัยการสำรวจและจัดเก็บข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและข้อมูลมรดกภูมิปัญญา
ทางวฒั นธรรมของกลุ่มชาตพิ นั ธ์ใุ นพืน้ ที่จงั หวัดสโุ ขทัย
แนวทางการสัมภาษณป์ ระเดน็ : บริบททางสงั คมด้านวัฒนธรรมของกลุม่ กะเหรย่ี งจงั หวดั สุโขทัย

วนั ทีเ่ ดอื น___________________________พ.ศ._________เวลา___________

นาย/นางสาว________________________________________________________ (ผู้เกบ็ ขอ้ มลู )

ข้อมลู เกี่ยวกับผใู้ หข้ อ้ มลู

นาย/นาง/นางสาว สกลุ อายุ (ป)ี
บ้านเลขที่ ถนน หมูท่ ี่ บา้ น
ตำบล อำเภอ จังหวัด รหัสไปรษณีย์
โทรศัพท์ E-mail
อาชีพ ตำแหนง่
สถานที่ทำงาน

1. วัฒนธรรมของกล่มุ กะเหรีย่ งจังหวัดสุโขทยั เปน็ อย่างไร

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๒. ภมู ิปัญญาของกลมุ่ กะเหร่ียงจังหวัดสุโขทัยเป็นอย่างไร

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๙๘

***หมายเหตุ : คำช้แี จงในการตอบแบบสัมภาษณ์
1. หากท่านไม่ต้องการตอบคำถามใด หรือไม่สะดวกใจที่จะให้ข้อมูลในคำถามส่วนใดของ
แบบสอบถามนี้ ทา่ นสามารถไม่ตอบแบบคำถามในแบบสัมภาษณน์ ไี้ ดใ้ นทกุ กรณี
2. หากทา่ นไม่มน่ั ใจในข้อมูลสว่ นใดทา่ นมสี ทิ ธ์ิทจ่ี ะไม่ตอบคำถามดงั กลา่ วได้
3. แบบสัมภาษณ์นี้ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของท่าน และจะไม่เปิดเผยผู้ให้
สมั ภาษณ์หากท่านไม่ อนุญาตใหเ้ ปิดเผยตัวตน

๙๙

แบบสัมภาษณเ์ พือ่ การวจิ ัย

การศึกษาวิจัยการสำรวจและจัดเก็บข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและข้อมูลมรดกภูมิปัญญา
ทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาตพิ ันธใ์ุ นพ้ืนทจี่ งั หวดั สโุ ขทัย

คำชแ้ี จง

1. แบบสัมภาษณน์ ี้มีวัตถุประสงค์
๑. เพือ่ สำรวจและจัดเก็บขอ้ มลู กลุม่ ชาติพนั ธุ์กะเหรี่ยงในพนื้ ที่จงั หวดั สุโขทัยสำหรับสนับสนุนการ

พัฒนาฐานขอ้ มูลกล่มุ ชาติพนั ธ์ุ
๒. เพ่ือสำรวจและจดั เกบ็ ข้อมูลมรดกภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมกล่มุ ชาติพนั ธุ์กะเหรี่ยงจงั หวัด

สุโขทยั สำหรบั เตรยี มขึ้นทะเบียนมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวัฒนธรรม
๓. เพือ่ เผยแพรแ่ ละประชาสัมพนั ธ์ข้อมลู ชาติพนั ธ์ุกะเหรี่ยงและการส่งเสรมิ การท่องเท่ยี วเชงิ

วัฒนธรรมในชาตพิ ันธกุ์ ะเหรี่ยงจงั หวดั สโุ ขทยั
2. คำตอบจากแบบสัมภาษณเ์ พ่อื ให้ทราบองค์ความรู้ด้านบรบิ ททางสังคม ข้อมลู มรดกทางวัฒนธรรม
อัตลักษณ์ทางวฒั นธรรมของกลุ่มชาตพิ นั ธ์ุกะเหรีย่ งจังหวัดสโุ ขทัย
3. แบบสมั ภาษณแ์ บง่ ออกเปน็ 3 ตอน คอื

ตอนท่ี 1 ข้อมูลทว่ั ไปเก่ียวกบั การการสัมภาษณ์
ตอนท่ี 2 ขอ้ มูลสว่ นตวั ของผูใ้ ห้สัมภาษณ์
ตอนที่ 3 ประเด็นสัมภาษณ์
4. ขอความกรณุ าท่านตอบแบบสมั ภาษณ์ให้ตรงตามความเปน็ จริงมากทสี่ ุด

ตอนที่ 1 การบนั ทึกขอ้ มูลท่ัวไปเกีย่ วกบั การสัมภาษณ์

เรื่อง การศึกษาวิจัยการสำรวจและจัดเก็บข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและข้อมูลมรดกภูมิปัญญาทาง
วฒั นธรรมของกล่มุ ชาติพนั ธุใ์ นพืน้ ที่จงั หวดั สุโขทัย

ชอื่ ผูใ้ หส้ มั ภาษณ์..............................................................................................................................................

e-mail address……………………………………………..............................………………………….……………..…………..

เบอรโ์ ทรศพั ท์……………………………………………………………………………………….................................................

เวลา............................................วันท่.ี .......................เดอื น.....................................................พ.ศ..................

สถานท่ี.......................................... เลขที่............หมู่...............อำเภอศรีสัชนาลยั จงั หวัดสุโขทัย

ชอ่ื ผูส้ ัมภาษณ์ :

๑๐๐

ตอนท่ี 2 ข้อมลู สว่ นตวั ของผใู้ หส้ มั ภาษณ์

1. ตำแหน่งในปจั จุบนั

1. ( ) นายก อบต. 5. ( ) ผู้นำชุมชน

2. ( ) ผู้ใหญ่บ้าน 6. ( ) ปราชญ์ชาวบา้ น

3. ( ) ตวั แทนหรือผู้แทนของหม่บู ้าน 7. ( ) พฒั นาชุมชน

4. ( ) ครู 8. ( ) อืน่ ๆ ระบุ_________________

2. ระดับการศกึ ษา

1. ( ) ต่ำกว่ามัธยมศึกษา 5. ( ) ปริญญาตรี

2. ( ) มัธยมศกึ ษาตอนตน้ /ปวช. 6. ( ) ปรญิ ญาโท

3. ( ) มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 7. ( ) ปริญญาเอก

4. ( ) อนปุ ริญญา /ปวส. 8. ( ) อ่ืน ๆ ระบุ____________

๓. เพศ

1. ( ) ชาย 2. ( ) หญงิ

๔. อายุ

1. ( ) ตำ่ กว่า 20 ปี 4. ( ) 41-50 ปี

2. ( ) 20-30 ปี 5. ( ) 51-60 ปี

3. ( ) 31-40 ปี 6. ( ) มากกว่า 60 ปี

5) ภาษาท่ีใชใ้ นการสื่อสารในชวี ิตประจำวัน ตอบไดม้ ากกวา่ 1 ข้อ

1. ( ) กะเหร่ยี ง 3. ( ) ลาว

2. ( ) ภาษาไทย 4. ( ) อืน่ ๆ ระบุ___________

๑๐๑

6) อายกุ ารอาศยั อยใู่ นหมบู่ า้ น...............................ปี

1. ( ) ต่ำกวา่ 5 ปี 4. ( ) 16-20 ปี

2. ( ) 5-10 ปี 5. ( ) มากกวา่ 20 ปี

3. ( ) 11-15 ปี

7) สถานภาพสมรส

1. ( ) โสด 3. ( ) หย่ารา้ ง

2. ( ) สมรส 4. ( ) หมา้ ย

๘) อาชีพ

1. ( ) เกษตรกร 3. ( ) คา้ ขาย

2. ( ) ขา้ ราชการ 4. ( ) อนื่ ๆ ระบุ_________________

ตอนที่ 3 ประเด็นสัมภาษณ์

แนวทางการสัมภาษณป์ ระเดน็ : บรบิ ททางสงั คมของกลุ่มกะเหรีย่ งจังหวดั สโุ ขทัย

๑. บรบิ ททางสังคม (ภูมปิ ระเทศ/ภูมิอากาศ/ประวัติศาสตร์/สถานที่สำคญั /เรอ่ื งราวบอกเลา่ นิทานตำนาน
ทเี่ กย่ี วขอ้ ง)

1.1 สภาพภมู ิประเทศในชุมชนของทา่ นมลี ักษณะอย่างไร

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๑.๒ เล่าประวัติความเป็นมาของหม่บู า้ นท่ีท่านอาศัยอยู่

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________

๑๐๒

แนวทางการสัมภาษณ์ประเด็น : ขอ้ มูลมรดกทางวัฒนธรรมของกลมุ่ กะเหร่ียงจงั หวดั สโุ ขทัย

๒. ข้อมูลมรดกทางวัฒนธรรม (สถานที่สำคัญ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วธรรมชาตภิ ายในหม่บู า้ น)

๒.๑ สถานทีส่ ำคญั ตา่ ง ๆ ภายในชุมชนของท่าน

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________

๒.๒ แหลง่ ทอ่ งเท่ยี วธรรมชาตภิ ายในชุมชนของทา่ น

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๑๐๓

แนวทางการสัมภาษณป์ ระเดน็ : อตั ลักษณ์ทางวฒั นธรรมของกล่มุ กะเหร่ยี งจงั หวัดสโุ ขทยั

๓. อตั ลกั ษณ์ทางวัฒนธรรม

๓.๑ ลกั ษณะการแต่งกายของคนในชุมชนของท่าน การแบง่ อายุ ช่วงวัย การบ่งบอกถึงสถานะ

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๓.๒ การใชภ้ าษาเพอื่ การสอ่ื สารของคนในชมุ ชนของท่าน

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๓.๓ ลักษณะท่อี ยอู่ าศยั ลกั ษณะบา้ นเรอื นที่ท่านอาศัยอยู่

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๑๐๔

๓.๔ ความเช่ือเรอ่ื งการเกดิ ภายในชมุ ชนของท่าน

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๓.๕ ความเช่ือเร่ืองการตายภายในชุมชนของทา่ น

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๓.๖ ประเพณีพธิ กี ารแตง่ งานภายในชุมชนของทา่ น

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๓.๗ ประเพณีต่าง ๆ ภายในชมุ ชนของท่าน

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๓.๘ ค่านยิ มตา่ ง ๆ ของคนภายในชุมชนของท่าน

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๑๐๕

๓.๙ ตำนานหรอื การเลา่ ขานจากบุคคลในชมุ ชนของท่าน

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๓.๑๐ อาหารประจำทอ้ งถิ่น (อาหารคาว-อาหารหวาน) ในชมุ ชนของท่าน

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๓.๑๑ บอกลกั ษณะงานหตั ถกรรม (ผา้ ทอ) อธบิ ายการทอผ้า ลวดลายของผ้าทอ

ชอื่ ลวดลายของผา้ ทอ

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๓.๑๒ บอกลักษณะงานฝีมือในชมุ ชนของท่าน (จกั สาน)

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๑๐๖

๓.๑๓ วธิ ีการรกั ษาโรคตา่ งๆ ท่ีเกิดภายในหมู่บา้ นของทา่ น

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๓.๑๔ การทำมาหากินหรืออาชีพตา่ ง ๆ ภายในหม่บู า้ นของท่าน

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๓.๑๕ เหตกุ ารณ์สำคญั ต่างๆทเ่ี กดิ ภายในหมูบ่ ้านของท่าน

เหตุการณ์ทปี่ ระทบั ใจ

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

เหตุการณ์ทางธรรมชาติ

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

โครงการตามพระราชดำริ

______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๑๐๗

๓.๑๖ อตั ลักษณท์ ่ีโดดเดน่ ของหมบู่ า้ นของท่าน
ตน้ ไมท้ ่คี นในชมุ ชนนับถือ
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

บุคคลที่มชี อื่ เสยี งในหมบู่ ้าน
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________

๓.๑๖ วาดแผนท่ีภายในชุมชนของทา่ น แสดงพกิ ดั สถานท่ี เส้นทางต่างๆภายในหมบู่ ้าน

ภาคผนวก ข รายช่อื ผู้ทรงคุณวฒุ ติ รวจเครื่องมอื วจิ ยั

๑๐๙

รายช่ือผ้ทู รงคณุ วฒุ ติ รวจสอบเคร่อื งมือวิจยั

1. รองศาสตราจารย์ ดร.ขวัญชีวนั บวั แดง
ภาควิชาสังคมวิทยาและมานษุ ยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่
เช่ียวชาญด้านกลุ่มชาตพิ นั ธุก์ ะเหร่ยี งภมู ิภาคเหนือ

2. นายสมชาย เดอื นเพ็ญ
รองปลดั เทศบาลตำบลในเมอื ง อำเภอสวรรคโลก จงั หวัดสโุ ขทัย
ผทู้ รงคณุ วฒุ ิหนว่ ยศลิ ปกรรมและส่ิงแวดล้องจังหวดั สุโขทยั
เช่ยี วชาญดา้ นกลมุ่ ชาตพิ นั ธกุ์ ะเหรี่ยงภูมิภาคเหนอื

3. นายธรี วัฒน์ ชื่นดวง
อาจารย์โรงเรียนปรนิ สร์ อยแยลสว์ ทิ ยาลยั
ทปี่ รกึ ษาวัฒนธรรมกะเหร่ียงในพื้นทไ่ี ทย-เมยี นมา
เชย่ี วชาญดา้ นกล่มุ ชาติพนั ธ์ุกะเหร่ียงภูมภิ าคเหนือ

ภาคผนวก ค ผ้รู ่วมดำเนินการวจิ ัยการสำรวจและจดั เกบ็ ขอ้ มูลกล่มุ ชาตพิ นั ธ์ุกะเหรี่ยง
และขอ้ มลู มรดกภมู ิปัญญาทางวฒั นธรรมของกลมุ่ ชาติพนั ธุใ์ นพื้นท่จี ังหวดั สโุ ขทยั

๑๑๑

ผู้รว่ มดำเนนิ การวจิ ยั การสำรวจและจัดเก็บข้อมูลกลุ่มชาติพนั ธ์กุ ะเหร่ียง
และข้อมลู มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธ์ใุ นพ้นื ทีจ่ งั หวัดสโุ ขทยั

ทปี่ รึกษาคณะดำเนินงานวจิ ยั

นายวริ ุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวดั สโุ ขทัย

นายชยชัย แสงอินทร์ รองผู้วา่ ราชการจังหวดั สโุ ขทัย

นางบุญชู สาดี วฒั นธรรมจังหวัดสโุ ขทัย

นายสมพงค์ ชมชยั นายอำเภอศรีสัชนาลยั

นายกองค์การบริหารสว่ นตำบลแม่สำ อำเภอศรีสชั นาลัย จงั หวดั สโุ ขทยั

นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบา้ นแก่ง อำเภอศรสี ัชนาลยั จงั หวัดสโุ ขทัย

ปลดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบลแมส่ ำ อำเภอศรีสชั นาลยั จังหวัดสโุ ขทัย

ปลัดองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบลบา้ นแก่ง อำเภอศรสี ัชนาลยั จังหวัดสโุ ขทัย

ผ้อู ำนวยการโรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตำบลบา้ นทา่ โพธ์ิ อำเภอศรีสชั นาลยั จงั หวดั สุโขทยั

กำนันบา้ นแม่สาน อำเภอศรสี ัชนาลัย จงั หวัดสุโขทยั

กำนันบา้ นหว้ ยหยวก อำเภอศรีสัชนาลยั จังหวดั สุโขทยั

ผู้ใหญบ่ ้าน บา้ นแม่สาน อำเภอศรสี ัชนาลยั จังหวดั สโุ ขทัย

ผู้ใหญบ่ ้าน บา้ นหว้ ยหยวก อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวดั สโุ ขทยั

บคุ ลากรในสถานศึกษา อำเภอศรสี ชั นาลัย จังหวดั สโุ ขทยั

นายนันทวัฒน์ เขม็ ทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าแพ รักษาการในตำแหน่ง
ผู้อำนวยการโรงเรยี นบ้านหว้ ยหยวก
นายนิรชุ ขอสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสันหีบ รักษาการในตำแหนง่
ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นแม่สาน
นายมานะ คราพนั ธ์ุ อดตี ข้าราชการครโู รงเรยี นบ้านห้วยหยวก
นายโรจน์ อนิ ดนตรี อดีตขา้ ราชการครโู รงเรียนบา้ นแม่สาน
นายกวี แก้วประเสริฐ อดีตข้าราชการครูโรงเรียนบา้ นแมส่ าน
นายถนอม เรอื งม่ัน นกั การภารโรงเรียนบา้ นหว้ ยหยวก

๑๑๒

ปราชญด์ า้ นดนตรแี ละการละเล่นกะเหร่ยี ง

นายตบิ๊ แก้ว ค้างคีรี ผู้เชีย่ วชาญการฟ้อนดาบฟอ้ นเจงิ
สมาชกิ โทวัฒนา คา้ งคีรี ผู้เชี่ยวชาญการฟอ้ นดาบฟอ้ นเจิง
นายศรีชัย ค้างครี ี นักดนตรกี ะเหรีย่ ง
นายวชิระ คา้ งคีรี นกั ดนตรีกะเหรย่ี ง
นายศริ ิเวช ค้างครี ี นกั ดนตรีกะเหรย่ี ง
นางสาวณฐั จรยี ์ ทองคุม้ นักแสดงกะเหรยี่ ง
นางสาวสุภาณี ชมุ่ เย็น นักแสดงกะเหร่ียง
ด.ญ.กนกวลยั คา้ งครี ี นกั แสดงกะเหรยี่ ง
ด.ญ.อรอรุ ินทร์ คา้ งครี ี นักแสดงกะเหรยี่ ง
ด.ญ.ศลณั ยา ค้างครี ี นกั แสดงกะเหรี่ยง
ด.ญ.ณฐั ชยา ค้างคีรี นักแสดงกะเหรย่ี ง
ด.ญ.สุชานันท์ คา้ งครี ี นกั แสดงกะเหรย่ี ง
ด.ญ.ทินมณี ค้างคีรี นักแสดงกะเหรย่ี ง
ด.ญ.เพ็ญนภา ยินดี นกั แสดงกะเหรี่ยง

ปราชญ์ด้านสมนุ ไพรกะเหรีย่ ง

นายสขุ ซอย คา้ งคีรี หมอยาพ้นื บา้ นกะเหรยี่ ง

ปราชญ์ด้านภาษากะเหร่ยี ง

นายสขุ ซอย คา้ งคีรี ผเู้ ช่ียวชาญด้านภาษากะเหรย่ี ง
นางแนะ๊ พอ ค้างครี ี ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากะเหร่ียง
นางสาวณปภัช ค้างคีรี ผเู้ ชี่ยวชาญดา้ นภาษากะเหรีย่ ง
นายติ๊บแกว้ คา้ งครี ี ผู้เชย่ี วชาญด้านภาษากะเหร่ียง
นายรงั แก้ว ค้างครี ี ผู้เชี่ยวชาญดา้ นภาษากะเหรี่ยง
ปราชญด์ า้ นอาหารกะเหร่ียง

นางแกว้ ค้างคีรี ผ้เู ชย่ี วชาญด้านอาหารกะเหรย่ี ง
นางยะซอย ค้างคีรี ผเู้ ชี่ยวชาญดา้ นอาหารกะเหร่ยี ง
นางขันแก้ว ค้างคีรี ผ้เู ชี่ยวชาญด้านอาหารกะเหรี่ยง
นางแกว้ แฮ ค้างคีรี ผเู้ ชี่ยวชาญดา้ นอาหารกะเหรย่ี ง
นางตบ๊ิ ค้างคีรี ผู้เชย่ี วชาญด้านอาหารกะเหรย่ี ง

๑๑๓

ปราชญด์ า้ นประเพณพี ิธกี รรมกะเหรย่ี ง

นางแดง คา้ งครี ี ผู้นำพิธีกรรมกะเหร่ียง
นายสุขซอย ค้างครี ี ผ้นู ำพิธีกรรมกะเหรี่ยง
นายจนั ทรน์ ้อย ค้างคีรี ผู้นำพิธกี รรมกะเหรย่ี ง

ปราชญ์ด้านหตั ถกรรมและจกั สาน

นางราตรี ค้างคีรี ผู้เชย่ี วชาญด้านผ้าทอกะเหรย่ี ง
นางนภิ า คา้ งครี ี ผู้เชยี่ วชาญดา้ นผ้าทอกะเหร่ียง
นางแน๊ะพอ คา้ งครี ี ผู้เช่ยี วชาญด้านผ้าทอกะเหร่ียง
นางสาวณปภัช ค้างคีรี ผเู้ ชย่ี วชาญด้านผา้ ทอกะเหรย่ี ง
นางแก้ว คา้ งครี ี ผเู้ ช่ียวชาญด้านผา้ ทอกะเหรี่ยง
นางวรญั ญา ดวงมั่น ผู้เชย่ี วชาญดา้ นผา้ ทอกะเหรย่ี ง

กลุ่มคณะกรรมการแหลง่ เรียนรู้วัฒนธรรมกะเหรยี่ ง

นางบญุ ชู สาดี วฒั นธรรมจังหวัดสุโขทยั
นายจตรุ ภัทร อม่ิ เพง็ ผอู้ ำนวยการกลมุ่ ยุทธศาสตร์ และเฝา้ ระวงั ทางวฒั นธรรม
นายมนตรี มสุ ิกาพรรณ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ
นางสาวนชิ าภา สมพันธ์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ
นางสาวน้อมจติ ร ประภูชะกัง นักวิชาการวฒั นธรรมชำนาญการ
นางสาวเกสรา บญุ ชัยเรืองขจร นักวชิ าการวัฒนธรรมชำนาญการ
นางสาวดวงพร เจริญวงษ์ นกั วชิ าการวฒั นธรรม


Click to View FlipBook Version