The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by เกศรา แก้วเกิด, 2020-09-14 11:56:56

การจัดการและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ของบริษัทแจ่มเจริญเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

Work-Shop- 4

40

FC Economy Awareness (จิตสำนึกการประหยัด)
14
คำ ความเขา้ ใจถึงวธิ ีการใช้ทรัพยากรอยา่ งประหยัดและดำเนนิ การวางแผนและจัดสรรการ
นิยาม ใชท้ รพั ยากรได้อย่างเหมาะสมและใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สุด พร้อมทง้ั สามารถให้คำแนะนำและจูงใจ

ผูอ้ ืน่ ในการใช้ทรัพยากรทม่ี ีอยู่ให้เกดิ ความคุ้มคา่ มากทีส่ ุด

ระดบั รายละเอียดพฤติกรรม

1 อธิบายและใช้ทรัพยากรได้อยา่ งคุ้มคา่ รวมทั้งเขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ีจดั ขึน้

▪ อธิบายถงึ วธิ กี ารใช้ทรัพยากรในการดำเนินงานของหนว่ ยงานอย่างคุ้มคา่ ได้

▪ ใช้ทรพั ยากรในการดำเนินงานตามแผนท่กี ำหนดไว้

▪ เขา้ รว่ มกิจกรรมหรอื โครงการตา่ ง ๆ ทจี่ ัดขนึ้ เพอื่ รณรงค์ใหเ้ กิดจติ สำนกึ ของการประหยัด

2 ช้แี นะเลือกใชท้ รัพยากร และนำเสนอความคดิ เหน็

▪ ช้ีแนะให้สมาชกิ ในทมี ช่วยและรว่ มมือกนั ใช้ทรัพยากรอย่างประหยดั

▪ เลือกใช้ทรัพยากรอนื่ มาทดแทน กรณีที่ทรพั ยากรที่ต้องใช้มไี ม่เพยี งพอ / ขาดแคลน

▪ นำเสนอความคดิ เห็นในการใชท้ รัพยากรท่ีมอี ยู่ใหเ้ กดิ ประโยชน์มากท่ีสุด

3 เสนอแนะวิธีการประหยดั นำเสนอวิธีการส่งเสริมและตอบขอ้ ซักถามแก่ผู้อื่น

▪ เสนอแนะผู้อ่นื ถงึ วธิ ีการใชท้ รัพยากรในการดำเนนิ การอย่างประหยดั และค้มุ คา่

▪ นำเสนอกจิ กรรม / โครงการส่งเสริมใหผ้ ู้อ่ืนตระหนักถึงการใชท้ รัพยากรอย่างประหยัด

▪ ตอบข้อซักถามผู้อ่ืนถึงเหตุผลและผลกระทบทเ่ี กดิ ข้ึนจากการใช้ทรัพยากรอย่างประหยดั

4 วางแผน จูงใจผู้ใต้บังคบั บัญชา และติดตามการใช้ทรัพยากรของหน่วงงาน

▪ วางแผนการใชท้ รัพยากรที่มอี ยู่ในหนว่ ยงานในการดำเนนิ งานได้อย่างประหยดั และคุ้มคา่

▪ พูดจงู ใจผู้ใตบ้ ังคบั บญั ชาและผทู้ ่เี กีย่ วขอ้ งใหค้ ำนึงถงึ การใช้ทรัพยากรของหนว่ งงานอย่าง

ประหยัดและคุม้ คา่ มากทส่ี ุด

▪ ติดตามและให้ข้อมลู ป้อนกลบั แก่ผูอ้ น่ื ถงึ วิธกี ารใช้ทรัพยากรท่ีมอี ยู่ของหน่วยงาน

5 วิเคราะห์ความค้มุ ค่า และกำหนดนโยบายและแผนงาน

▪ วิเคราะหค์ วามคุ้มค่าของการใช้ทรพั ยากรในการดำเนินงาน

▪ กำหนดนโยบายและแผนงานระดบั องคก์ ารในการใช้ทรพั ยากรให้เกดิ ความคุ้มคา่ สงู สดุ

41

FC Engineering Management (การบริหารจดั การงานวิศวกรรม)
15
คำ ความเข้าใจในหลกั การและวิธกี ารบรหิ ารจดั การงานวิศวกรรม การเช่ือมโยง ความ
นิยาม เกี่ยวข้องของงานวศิ วกรรมกับงานด้านอ่นื ๆ การตรวจสอบความกา้ วหนา้ ของงาน พร้อมท้งั

สามารถจดั การแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่เกดิ ขนึ้ จากการดำเนินงาน และพฒั นากลยุทธ์และ
นโยบายเพอื่ เพมิ่ ประสทิ ธิภาพงานวิศวกรรม

ระดบั รายละเอียดพฤติกรรม

1 อธบิ ายหลักการ และเกบ็ รวบรวมข้อมูลท่ีเกี่ยวขอ้ ง

▪ อธิบาย ได้ถึงหลักการและวธิ กี ารบริหารจัดการงานด้านวิศวกรรม

▪ เก็บรวบรวมข้อมูล ทเ่ี กย่ี วข้องกับงานด้านวศิ วกรรมได้ตามแนวทางทีก่ ำหนดขึน้

2 อธิบายบทบาทหน้าที่ และความเชื่อมโยงของงาน และจัดทำรายงานความก้าวหน้า

▪ อธิบาย ได้ถงึ บทบาทหนา้ ท่ีและความเชอ่ื มโยงของงานวิศวกรรมกบั งานดา้ นอน่ื ๆ ได้ตาม

กรอบหรือแนวทางปฏิบัติที่กำหนด

▪ จดั ทำ รายงานและบนั ทกึ ความกา้ วหนา้ ของการดำเนินงานด้านวิศวกรรม

3 รายงานความกา้ วหน้าของงาน ใหข้ ้อมูลป้อนกลบั และให้คำแนะนำผู้อนื่

▪ ตรวจสอบและรายงานความคืบหน้าของการดำเนินงานดา้ นวศิ วกรรมใหก้ ับบุคคลท่ี

เก่ยี วข้อง

▪ ใหข้ ้อมลู ป้อนกลับแก่ผไู้ ด้บังคับบญั ชาเกยี่ วกบั ผลการดำเนินงานดา้ นวศิ วกรรม

▪ ใหค้ ำแนะนำ ผู้อน่ื ถึงวธิ กี ารและขน้ั ตอนการดำเนนิ งานด้านวศิ วกรรม

4 แกไ้ ขปัญหาและอุปสรรค และพัฒนารปู แบบการดำเนินงาน

▪ คดิ หาวธิ กี ารแกไ้ ขปัญหาหรอื อุปสรรคทเ่ี กิดขน้ึ ในการดำเนินงานดา้ นวิศวกรรม

▪ คดิ หาวธิ ีการพฒั นากระบวนการและขั้นตอนดำเนินงานด้านวศิ วกรรม

5 กำหนดนโยบาย กลยุทธ์ และนำเทคนคิ ใหม่ๆ มาใช้

▪ กำหนดนโยบายและกลยุทธ์ในการดำเนินงานด้านวิศวกรรม

▪ นำเทคโนโลยใี หม่ๆมาใชใ้ นการบรหิ ารจดั การงานวิศวกรรม

42

FC Expertise (ความเชีย่ วชาญในงาน)
16
คำ ความเช่ียวชาญและความสามารถในการปฏิบตั งิ านทไ่ี ด้รบั มอบหมายได้อยา่ งมี
นยิ าม ประสิทธภิ าพพร้อมทั้งปรับเปล่ยี นและพฒั นารูปแบบและวิธีการดำเนนิ งานเพอื่ พฒั นา

ประสทิ ธภิ าพการดำเนินงานอย่เู สมอรวมถงึ ความสามารถในการสอนให้ผู้อื่นปฏิบตั งิ านไดอ้ ยา่ งมี
ประสทิ ธิภาพ

ระดับ รายละเอยี ดพฤติกรรม

1 อธิบายบทบาทหน้าท่ี วิธีการทำงานและดำเนินงานตามหนา้ ที่

▪ อธบิ ายบทบาทหน้าที่ ขั้นตอน และวธิ ีการทำงานได้อย่างถูกต้อง

▪ ดำเนินงานตามหนา้ ทีท่ ่ีได้รบั มอบหมายตามกรอบหรือแนวทางทกี่ ำหนดขึน้ ได้

2 ศึกษาความรเู้ พ่ิมเติม เสนอวิธกี ารเพ่ิมประสิทธิภาพการทำงานและตอบข้อซกั ถาม

▪ ศึกษาหาความรแู้ ละตดิ ตามข่าวสาร เทคโนโลยีใหม่ๆที่เก่ียวข้องกบั งานของตน

▪ เสนอวธิ กี ารปรบั เปลยี่ นรปู แบบการทำงานใหม้ ีประสิทธิภาพมากยิ่งขึน้

▪ ตอบข้อซักถามเกี่ยวกับงานที่รับผดิ ชอบไดต้ ามกรอบหรอื แนวทางทกี่ ำหนด

3 ปรบั เปลี่ยนรปู แบบการทำงานใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ สอนผู้อนื่ และตอบข้อซักถาม

▪ ปรบั เปลีย่ นรปู แบบวธิ ีการทำงานใหม้ ปี ระสิทธภิ าพมากย่งิ ขึน้

▪ นำเครอ่ื งมือหรือเทคโนโลยีสมยั ใหม่มาใช้ในการพฒั นาประสิทธิภาพการทำงาน

▪ สอนใหผ้ ูอ้ ่ืนสามารถปฏิบัตงิ านได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

▪ ตอบข้อซกั ถามแก่ผู้อนื่ ทัง้ งานท่ีรับผดิ ชอบและงานทีเ่ กยี่ วข้องได้

4 แก้ไขปัญหากำหนดแนวทางป้องกนั และใหค้ ำปรกึ ษาแนะนำผ้อู นื่

▪ แก้ไขปัญหาและอปุ สรรคในการทำงานได้อย่างเหมาะสมและมปี ระสิทธิภาพ

▪ กำหนดแนวทางป้องกันการเกิดปญั หาและอุปสรรคซ้ำของการดำเนนิ งาน

▪ ใหค้ ำปรกึ ษาแนะนำผอู้ ืน่ ถงึ วิธีการปฏบิ ตั งิ านอย่างมปี ระสิทธิภาพ

5 วางแผนพฒั นากลยุทธ์และสอนผู้อ่ืน

▪ วางแผนพัฒนากลยทุ ธ์และแผนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธภิ าพอยู่เสมอ

▪ สอนให้ผู้อนื่ พฒั นาประสิทธภิ าพการปฏบิ ตั ิงานอย่เู สมอ

43

FC Finance Management (การบริหารการเงนิ )
17
คำ การบริหารการเงนิ ใหม้ ีความสอดคล้องเหมาะสมกับนโยบาย และทศิ ทางการดำเนิน
นิยาม ธรุ กิจขององค์การ รวมทง้ั การใหข้ อ้ เสนอแนะและความคิดเหน็ ทีเ่ ปน็ ประโยชน์ตอ่ การกำหนด

นโยบายและแผนการดำเนินธุรกจิ ขององคก์ าร

ระดบั รายละเอียดพฤติกรรม

1 รวบรวมข้อมูล อธิบายและตอบข้อซักถามเกี่ยวกบั หลักการบรหิ ารการเงนิ

▪ รวบรวมขอ้ มูลทเี่ กยี่ วข้องกับงานดา้ นการจัดการทางการเงนิ ไดต้ ามแนวทางที่กำหนดข้ึน

▪ อธบิ ายได้ถงึ หลักการ ทฤษฎี และรูปแบบการบรหิ ารการเงิน ตลอดจนปัจจัยสำคัญตา่ งๆ

ทมี่ ผี ลกระทบต่อการบริหารการเงิน

▪ ตอบข้อซกั ถามเกย่ี วกับแนวคิดดา้ นการบริหารการเงนิ ตามหลกั การหรือทฤษฎที ่ีกำหนด

ข้นึ

2 แกไ้ ขปัญหา และให้คำแนะนำผู้อ่ืนถงึ วธิ ีการบริหารการเงิน

▪ แกไ้ ขปัญหาทีเ่ กิดขน้ึ ในการบริหารการเงินได้ในขอบเขตความรับผิดชอบของตน

▪ ให้คำแนะนำผอู้ น่ื ภายในองค์การถงึ วธิ กี ารและแนวทางในการบริหารการเงนิ ได้ตามกรอบ

หรือแนวทางที่กำหนดขนึ้

3 ตรวจสอบการปฏิบัตงิ าน และจดั ทำรายงานการบรหิ ารการเงิน

▪ นำเสนอประเดน็ หรือข้อควรระวังหรือข้อทผี่ ดิ พลาดในการบรหิ ารจดั การงานด้านการเงิน

แกผ่ ูอ้ ่ืน

▪ จัดทำรายงานสรปุ ผลการบรหิ ารจัดการการเงนิ ของหนว่ ยงาน

▪ สอนแนะใหผ้ ูอ้ ืน่ เข้าใจถงึ วิธีการ และหลักการบรหิ ารจดั การงานดา้ นการเงิน

4 วิเคราะหข์ อ้ มลู และวางแผนการบรหิ ารการเงนิ ภายในองค์การ

▪ วเิ คราะห์ข้อมูลและปจั จัยแวดลอ้ มภายในที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารการเงนิ ภายใน

องค์การ

▪ วางแผนการบริหารการเงินขององค์การให้เกิดสภาพคล่องและเงินหมนุ เวียนภายใน

องค์การได้ทันที

5 กำหนดนโยบายการบริหารการเงนิ และเสนอข้อมูลทเี่ ปน็ ประโยชน์

▪ กำหนดนโยบายการบรหิ ารการเงนิ ให้สอดคล้องกับนโยบายการดำเนนิ ธุรกจิ ขององค์การ

▪ เสนอแนะความคดิ เห็นและข้อมูลท่เี ปน็ ประโยชนต์ อ่ การกำหนดนโยบายและแผนการ

ดำเนินธุรกจิ ขององคก์ าร

44

FC Fiscal Management (การบรหิ ารจดั การงบการเงิน)
18
คำ ความเขา้ ใจถึงหลักการบรหิ ารจดั การงบการเงิน ความสามารถในการจัดทำ ตรวจสอบ
นิยาม และแก้ไขขอ้ ผดิ พลาดของงบการเงิน พร้อมทั้งสามารถกำหนดนโยบายการใชจ้ ่ายเงิน การติดตาม

ตรวจสอบการใชจ้ ่ายเงินใหส้ อดคลอ้ งกบั กลยทุ ธข์ ององค์การ

ระดับ รายละเอียดพฤติกรรม

1 อธบิ ายหลักการบริหารจัดการงบการเงนิ และรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

▪ อธิบายได้ถึงหลกั การ และวิธีการบริหารจดั การงบการเงนิ

▪ รวบรวมข้อมลู เพื่อจัดทำรายงานงบการเงนิ ได้ตามแนวทางและหลักปฏิบตั ิท่ีกำหนดข้นึ

2 จดั ทำงบการเงนิ และใหค้ ำแนะนำผูอ้ ่ืน

▪ อ่านและวิเคราะห์รายงานงบการเงนิ ได้

▪ จัดทำงบการเงนิ และสรปุ รายงานงบการเงนิ ได้ถูกต้อง

▪ ให้คำแนะนำผู้อน่ื ถงึ วิธีการอ่านงบการเงนิ อยา่ งถูกต้องตามหลักการ

3 ตรวจสอบและแกไ้ ขขอ้ ผิดพลาดของการจดั ทำงบการเงิน

▪ ตรวจสอบความถูกต้องของการจดั ทำงบการเงนิ

▪ แกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาดทพ่ี บในการจดั ทำงบการเงนิ และนำเสนอข้อควรระมดั ระวงั ในการ

จัดทำงบการเงิน

▪ สอนใหผ้ อู้ ื่นสามารถจัดทำงบการเงนิ ได้เปน็ ไปตามหลักการท่ีกำหนดขึ้น

4 ตรวจสอบการใช้เงนิ และวางแผนการใชเ้ งนิ ขององคก์ าร

▪ ตดิ ตามและตรวจสอบการใช้จา่ ยเงนิ ภายในองค์การใหเ้ ป็นไปตามนโยบายขององค์การ

▪ วางแผนการใช้จ่ายเงนิ ขององค์การใหส้ อดคลอ้ งกับกลยุทธ์การดำเนนิ ธุรกจิ ขององค์การ

5 กำหนดนโยบายการบรหิ ารงบการเงนิ และเสนอขอ้ มลู ท่ีเปน็ ประโยชน์

▪ กำหนดนโยบายการบรหิ ารจดั การงบการเงนิ ให้สอดคล้องกับนโยบายการดำเนินธุรกิจ

ขององค์การ

▪ เสนอแนะความคดิ เหน็ และข้อมูลท่เี ป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายและแผนการ

ดำเนินธรุ กจิ ขององค์การ

45

FC Follow Up (การตดิ ตามงาน)
19
คำ ความสามารถในการติดตามความก้าวหนา้ ของงาน และจัดทำรายงานสถานะของการ
นยิ าม ติดตามงาน รวมถึงการวางแผนพัฒนารปู แบบและปรบั เปล่ียนวธิ ีการตดิ ตามงานให้มีประสทิ ธภิ าพ

พร้อมท้งั พูดจงู ใจใหผ้ ู้อ่ืนยึดม่ันต่อประสิทธภิ าพของผลงาน และสง่ มอบงานให้ทันตามกำหนดเวลา
ทตี่ ้งั ไว้

ระดับ รายละเอียดพฤติกรรม

1 อธบิ ายหลักหาร วธิ ีการ บอกวันเวลา และติดตามความก้าวหนา้ ของงาน

▪ อธิบายได้ถงึ หลักการ และวธิ ีการติดตามงาน

▪ แจ้งวนั เวลาทต่ี อ้ งตรวจสอบสถานะของงานจากผอู้ ื่นได้

▪ ติดตามความกา้ วหน้าของงานจากผู้อ่ืนตามระยะเวลาทกี่ ำหนดได้

2 ตอบข้อซกั ถามและรายงานสถานะใหผ้ บู้ งั คับบัญชาและผู้ที่เกยี่ วขอ้ ง

▪ ตอบข้อซักถามแก่ผู้อ่ืนทง้ั ภายในและภายนอกองค์การถงึ ความคืบหนา้ ของงานท่ี

รบั ผิดชอบ

▪ รายงานสถานะของงานที่ทำการตดิ ตามให้ผูบ้ งั คบั บญั ชาหรือผ้ทู เี่ กยี่ วข้องทราบ

3 ปรบั เปลี่ยนเทคนคิ และวธิ ีการ และจัดทำรายงาน

▪ ปรบั เปลี่ยนเทคนคิ และวิธีการในการตดิ ตามงานใหเ้ หมาะสมกบั ผู้ถูกติดตามงาน

▪ ให้คำแนะนำผู้อ่ืนถึงวธิ ีการตดิ ตามงานเพอ่ื จดั สง่ ให้ผู้ทเ่ี ก่ียวขอ้ งได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

4 ตดิ ตามงานเรง่ ดว่ น พูดจงู ใจ ใหค้ ำแนะนำ

▪ ติดตามงานท่มี คี วามเรง่ ดว่ นหรืองานโครงการพิเศษไดก้ ่อนเวลาทต่ี อ้ งสง่ มอบงาน

▪ พดู จูงใจให้ผู้อ่ืนยดึ ม่นั ต่อคุณภาพของผลงาน และส่งมอบงานใหท้ นั เวลาทีก่ ำหนด

▪ ให้คำแนะนำผ้อู นื่ ถึงวิธกี ารตดิ ตามงานทเ่ี หมะสมและมปี ระสิทธิภาพ

5 วางแผนพฒั นารูปแบบและวิธกี ารติดตามงานให้มีประสิทธภิ าพมากยิง่ ขึ้น

▪ วางแผนพฒั นารปู แบบและวิธีการตดิ ตามงานใหม้ ีประสิทธิภาพมากย่ิงขน้ึ

▪ ตดิ ตามงานทีม่ ีความสำคญั ระดบั องค์การ พร้อมทง้ั ใหค้ ำแนะนำให้งานสำเรจ็ ตาม

เปา้ หมายทก่ี ำหนดไว้

46

FC Forecast Skills (ทักษะการคาดคะเน)
20
คำ การวเิ คราะห์และคาดคะเนผลกระทบท้งั ทางตรงและอ้อมทเ่ี กิดข้นึ จากการดำเนนิ งาน
นยิ าม พร้อมสามาถนำข้อมูลการวเิ คราะหม์ าใชใ้ นการวางแผนดำเนินงาน และวางแผนการป้องกัน

ปญั หาอุปสรรคท่ีเกิดข้นึ ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ

ระดับ รายละเอียดพฤตกิ รรม

1 อธิบายถงึ ผลกระทบทางตรง และผู้ได้รบั ผลกระทบ รวมทงั้ รวบรวมข้อมูลได้

▪ อธบิ ายผลกระทบทางตรงท่เี กิดขน้ึ จากการปฏบิ ตั ิงานได้

▪ อธิบายไดว้ า่ ใครได้รับผลกระทบจากการปฏบิ ัตงิ านของตน

▪ รวบรวมข้อมูลตามที่ไดร้ ับมอบหมายเพื่อนำมาใชป้ ระกอบในการคาดคะเนได้

2 อธบิ ายถึงผลกระทบทางอ้อม และใหค้ ำแนะนำแกผ่ ้อู นื่ ได้

▪ อธบิ ายผลกระทบทางอ้อมท่ีเกิดขนึ้ จากการปฏบิ ัตงิ านได้

▪ ใหค้ ำแนะนำ ผู้อนื่ ถงึ วิธีการคาดคะเนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในการทำงาน

3 วเิ คราะห์ นำเสนอแนวทางเลือก และอธบิ ายผลกระทบของหน่วยงาน

▪ วิเคราะห์ได้ถึงปัจจยั แวดล้อมทเ่ี กยี่ วข้องและสัมพันธก์ นั กบั การดำเนนิ งานของหน่วยงาน

▪ นำเสนอแนวทางเลือกการดำเนนิ งานจากข้อมลู ทีร่ วบรวมและวเิ คราะห์ได้

▪ อธิบายผลกระทบทง้ั ทางตรงและอ้อมจากการดำเนนิ งานของหน่วยงานได้

4 วางแผนการดำเนินงาน และแผนป้องกนั ปญั หาและอุปสรรค

▪ วางแผนการดำเนนิ งานทีก่ ่อให้เกดิ ประโยชน์สงู สุดของหน่วยงานจากข้อมลู และ

วเิ คราะหจ์ ากผลกระทบท่ีเกิดขึน้

▪ วางแผนปอ้ งกนั ปญั หาหรืออุปสรรคทอ่ี าจเกิดขึ้นจากการดำเนินงานของหน่วยงานจาก

ข้อมูลการวเิ คราะหผ์ ลกระทบทเ่ี กดิ ขึ้น

5 กำหนดกลยทุ ธ์และนโยบายที่กอ่ ใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุดต่อองคก์ าร

▪ อธบิ ายปัจจัยที่เก่ยี วข้องกบั การดำเนนิ งานขององค์การ และอธบิ ายผลกระทบทัง้

ทางตรงทางอ้อมจากการดำเนินธุรกิจองค์การ

▪ กำหนดกลยุทธแ์ ละนโยบายขององค์การทมี่ ่งุ ก่อให้เกิดผลลัพธ์ทีเ่ ปน็ ประโยชน์แก่องค์การ

และหลกี เล่ยี งผลกระทบทางลบที่อาจเกิดข้ึน

47

FC Honesty and Integrity (ความซื่อสัตย์สจุ ริต)
21
คำ ความเข้าใจในระเบียบหรือข้อบังคับขององค์การ สอนแนะพดู จงู ใจใหผ้ ู้อนื่ ปฏิบตั ติ นดว้ ย
นิยาม ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ ในการทำงาน รวมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำและอธบิ ายถงึ แนวทางและหลัก

ปฏิบตั ิตนในการทำงานดว้ ยความซ่ือสัตย์

ระดบั รายละเอียดพฤตกิ รรม

1 ปฏิบัติตนตามระเบยี บ ยอมรับขอ้ ผิดพลาดของตนเอง และให้ขอ้ มลู ตามความเป็นจรงิ

▪ ปฏิบตั ิตนตามระเบียบหรือข้อบงั คับขององค์การ

▪ ยอมรับข้อผดิ พลาดของตนเอง ไมก่ ลา่ วโทษผู้อ่นื และดำเนินการแก้ไขขอ้ ผิดพลาด

▪ ให้ขอ้ มลู ความเปน็ จรงิ ที่เกี่ยวข้องกับงานแกผ่ ้อู น่ื โดยไม่บิดเบือนข้อมลู ท่ีได้

2 พดู เตือน และตอบขอ้ ซักถามแก่ผอู้ นื่ ได้

▪ พูดเตือนใหเ้ พ่ือนร่วมงานปฏิบตั ติ นตามระเบยี บบงั คับขององค์การ

▪ ตอบข้อซกั ถามแก่ผู้อื่นถงึ ประโยชน์และขอ้ เสยี ในการไม่ปฏิบตั ติ ามระเบยี บหรอื ข้อบังคบั

ขององค์การ

3 ใหค้ ำปรึกษาแนะนำและยอมรับข้อผดิ พลาดของหน่วยงาน

▪ สอนแนะผใู้ ต้บังคบั บัญชาถงึ กรอบหรือแนวทางการปฏิบัติงานด้วยความซ่ือสตั ย์สุจรติ

▪ พูดชกั จูงให้ผใู้ ต้บังคบั บญั ชาปฏิบัติตนและทำงานด้วยความซอื่ สัตย์

4 ให้คำปรึกษาแนะนำและยอมรับข้อผิดพลาดของหนว่ ยงาน

▪ ใหค้ ำปรกึ ษาแนะนำและขอ้ เสนอแนะในการสรา้ งความซ่ือสัตยส์ จุ รติ ด้วยหลกั จริยธรรม

และศีลธรรมแกผ่ ู้อืน่

▪ ยอมรับข้อผดิ พลาดทเี่ กิดขึน้ ของเลยงานไมก่ ล่าวโทษผู้อนื่ และดำเนนิ การแก้ไข

ขอ้ ผดิ พลาด

5 นำเสนอหลกั การทำงานแกห่ น่วยงานภายนอกและสนับสนนุ ให้เกิดความซ่ือสตั ย์ใน

การทำงาน

▪ นำเสนอหลกั การทำงานด้วยความโปรง่ ใสในการดำเนินธรุ กิจขององค์การแกห่ นว่ ยงาน

ภายนอก

▪ คดิ หาวิธีการสนับสนนุ และจูงใจให้พนักงานในองค์การยดึ มั่นและปฏบิ ตั ติ นอย่างซ่ือสัตย์

สุจรติ

48

FC Human Relation (มนษุ ยสมั พันธ์ในการทำงาน)
22
คำ ความสามารถในการสร้างและรกั ษาความสัมพนั ธ์กับเพ่ือนร่วมงาน บคุ คลท่วั ไป รวมถงึ
บคุ คลหรอื หนว่ ยงานภายนอกทม่ี ีความสำคญั ต่อการดำเนินธรุ กจิ ขององค์การ พร้อมทัง้
นิยาม ความสามารถในการวางแผนและจัดกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพนั ธ์

ระดับ รายละเอยี ดพฤตกิ รรม

1 ย้มิ แย้มแจ่มใส และให้ความช่วยเหลือแกเ่ พื่อนร่วมงาน

▪ ยิ้มแย้มแจ่มใส และทักทายเพ่ือนร่วมงาน

▪ ให้ความช่วยเหลือและให้คำแนะนำแกเ่ พ่อื นร่วมงาน

2 ทำความรูจ้ ักกับผู้อื่น และเสนอความช่วยเหลอื

▪ แนะนำตนเองและทำความรู้จักกบั ผทู้ เ่ี ก่ียวข้องในการทำงานก่อน

▪ อาสา เข้าชว่ ยเหลือหรอื ใหค้ ำแนะนำแกผ่ ้อู น่ื แมไ้ ม่มีการร้องขอก่อน

3 เข้ารว่ มกจิ กรรม แกไ้ ขขอ้ ขัดแย้ง และให้คำแนะนำ

▪ เขา้ รว่ มกจิ กรรม และงานเลีย้ งสังสรรค์เพ่ือทำความรู้จักและรกั ษาความสัมพันธ์กบั ผู้อน่ื

▪ แก้ไขปญั หาหรอื ข้อขดั แย้งกบั ผู้อน่ื โดยอ้างองิ เหตผุ ลและตั้งอยบู่ นข้อเท็จจริง

▪ ให้คำแนะนำผู้อื่นถึงวธิ กี ารสร้างสัมพันธภาพและทำความรู้จักกับผูอ้ ื่น

4 วางแผนจดั กิจกรรมและสร้างความสัมพนั ธก์ ับบุคคลภายนอก

▪ วางแผนและจัดกจิ กรรมเพ่อื เสรมิ สร้างและรักษาความสมั พันธภาพระหว่างพนักงาน

ภายในองค์การ

▪ คดิ หาวิธที ำความรู้จกั เพ่ือสร้างความสัมพันธก์ ับลูกคา้ หรือบคุ คลภายนอกองค์การ

5 สร้างและรักษาความสมั พนั ธ์กับผู้ท่ีมคี วามสำคัญต่อธรุ กิจและแกไ้ ขข้อขัดแย้ง

▪ แนะนำตนเองเพ่ือทำความรจู้ ักกับบคุ คลหรอื หนว่ ยงานภายนอกท่ีมีความสำคัญต่อ

องค์การ

▪ คดิ หาวธิ ีการรกั ษาความสัมพันธ์กบั บุคคลหรอื หน่วยงานภายนอกที่มคี วามสำคญั ต่อ

องค์การ

▪ แกไ้ ขปญั หาหรือข้อขดั แย้งท่ีเกิดข้นึ ระหว่างองคก์ ารกบั บคุ คลหรอื หน่วยงานภายนอก

องค์การ

49

FC Human Resource Information Management (การบรหิ ารจดั การข้อมูล
23 สารสนเทศดา้ นงานบุคคล)

คำ การวางแผน พฒั นา และปรับปรุงระบบสารสนเทศด้านงานบคุ คลให้มปี ระสทิ ธิภาพ
นยิ าม พรอ้ มใช้งานอยู่เสมอ รวมท้งั การรวบรวมปัญหา การตรวจสอบและการแก้ไขปัญหาตา่ งๆ ที่

เกิดข้ึนจากผใู้ ชบ้ รกิ ารของหน่วยงานตา่ งๆ
ระดบั รายละเอยี ดพฤติกรรม

1 รแู้ ละเข้าใจหลักการทำงานของระบบข้อมูลสารสนเทศงานบุคคล
▪ อธิบาย ไดถ้ งึ ความสำคัญ หน้าทกี่ ารงาน และองคป์ ระกอบการจดั การสารสนเทศงาน
บคุ คล
▪ ตอบข้อซักถามแก่ผอู้ ่นื ได้ถูกตอ้ งตามหลักการจดั ทำข้อมูลสารสนเทศดา้ นงานบุคคล
▪ ตรวจเชค็ การใช้ระบบสารสนเทศงานบุคคลของหน่วยงานตามมาตรฐานแนวทางที่
กำหนด

2 รวบรวมปญั หา ตรวจสอบ และใหค้ ำแนะนำไดเ้ บือ้ องต้น
▪ รวบรวมและนำเสนอปญั หาการใชร้ ะบบสารสนเทศงานบุคคลของหน่วยงานตา่ งๆต่อ
ผู้บังคบั บญั ชา
▪ ตรวจสอบ ข้อมลู การทำงานของระบบข้อมูลสารสนเทศงานบุคคล
▪ ใหค้ ำแนะนำเกี่ยวกับข้อมูลเบื้องตน้ ในการแก้ไขปญั หาการใช้สารสนเทศดา้ นงานบุคคล

3 แกไ้ ขปัญหา ใหค้ ำแนะนำถึงวิธกี ารทำงานและสอนแนะผู้ใตบ้ งั คบั บัญชา
▪ แกไ้ ขปัญหาท่ีเกิดข้ึนในการปฏิบตั งิ านในความรับผิดชอบตามแนวปฏิบัติทก่ี ำหนดข้ึน
▪ ให้คำแนะนำเกยี่ วกบั การใช้ หรอื วธิ ีการทำงานของระบบข้อมลู สารสนเทศด้านงาน
บคุ คล
▪ สอนแนะผู้ใตบ้ งั คับบัญชาถึงเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ใหมๆ่ ในระบบสารสนเทศด้าน
งานบุคคล

4 วางแผน จัดสรรการใช้ทรพั ยากรได้อย่างเพียงพอ และติดตามความก้าวหนา้
▪ วางแผนจัดสรรการใช้ทรัพยากร สิ่งอำนวยความสะดวกของการให้บรกิ ารระบบ
สารสนเทศด้านงานบุคคล
▪ ติดตามและนำเสนอตอ่ ผู้ทเี่ กี่ยวข้องความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศด้านงา
บุคคล

5 คิดรเิ ร่มิ ปรับปรงุ และถ่ายทอดพัฒนาการจัดข้อมูลสารสนเทศงานบุคคล
▪ คิดรเิ ร่มิ นำระบบสารสนเทศดา้ นงานบุคคลใชเ้ ปน็ เครื่องมือในการบริหารงานของ
หน่วยงานต่างๆ
▪ ปรับปรงุ และพฒั นาระบบสารสนเทศงานบคุ คลใหม้ ีประสิทธิภาพพร้อมใชง้ านอยเู่ สมอ
▪ ถา่ ยทอดนโยบาย เปา้ หมาย การดำเนินธุรกจิ ในด้านเทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ ให้
สอดคลอ้ งกบั การจัดการขอ้ มูลสารสนเทศดา้ นบคุ คลขององค์การ

50

FC Interviewing Skills (ทกั ษะการสัมภาษณ)์
24
คำ ความเข้าใจขัน้ ตอนและวิธีการสัมภาษณ์ มเี ทคนคิ ในการตงั้ คำถาม การใช้คำถามติดตาม
นิยาม และให้คำปรึกษาแกผ่ ู่อ่นื ถึงแนวปฏิบัตเิ กยี่ วกบั ขัน้ ตอนการสมั ภาษณ์เพื่อคัดเลอื กบคุ ลากรทีม่ ี

ประสิทธิภาพสูงสดุ

ระดบั รายละเอียดพฤติกรรม
1 จดั เตรยี มข้อมลู อธิบายและตอบข้อซักถามแกผ่ ้อู ื่น
▪ จัดเตรยี มเอกสารและข้อมลู ต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องเพอ่ื ใช้ประกอบในการสัมภาษณ์
▪ อธบิ ายหลักการ ความสำคัญ แนวทางการปฏิบตั ิของการเป็นผสู้ ัมภาษณ์
▪ อธิบายไดถ้ ึงคุณลกั ษณะ คุณสมบัตขิ องผู้สมคั รทหี่ นว่ ยงานและองค์การตอ้ งการ
2 รู้และเข้าใจหลกั การสรา้ งคำถาม การใชค้ ำถามตดิ ตามในการสมั ภาษณเ์ บือ้ งต้น
▪ ใชห้ ลกั การ วิธกี ารสรา้ งข้อคำถามกับผ้ถู ูกสัมภาษณ์ไดเ้ บ้ืองตน้ ตามมาตรฐานท่อี งคก์ าร
กำหนด
▪ ต้ังคำถามและใช้คำถามตดิ ตาม พรอ้ มทง้ั สรุปผลการสัมภาษณ์ในระดับความรบั ผดิ ชอบ
ได้
▪ อธิบายได้ถงึ บุคลิกลกั ษณะ นิสยั ของผู้ถูกสัมภาษณ์ โดยประมวลผลจากการสัมภาษณ์
3 มเี ทคนิคในการสัมภาษณเ์ ชิงลกึ ในระดบั ผบู้ ริหาร วิเคราะหป์ ญั หาที่พบและนำเสนอ
แกไ้ ข
▪ ใชห้ ลักการ วธิ กี ารสร้างข้อคำถามกับผู้ถูกสมั ภาษณ์ในระดับผบู้ รหิ ารได้
▪ มีเทคนิคในการตั้งคำถาม ถามเพื่อสัมภาษณผ์ ้สู มัครได้อย่างมีประสทิ ธิภาพในการ
คดั เลอื ก
▪ วิเคราะห์ปัญหาในการสมั ภาษณค์ ัดเลือกทพ่ี บ และนำเสนอแก้ปัญหาขององค์การ
4 วิเคราะห์ผลการสัมภาษณ์ จัดทำแผนงาน และให้คำปรกึ ษาแก่ผ้อู ่นื
▪ วเิ คราะห์ผลการสัมภาษณ์คัดเลือกพนักงานได้ตรงกับคุณลักษณะท่ีต้องการ
▪ จดั ทำแผนงานการสัมภาษณ์และการพัฒนา ให้เหมาะสมกับแนวทางการคัดเลือกใน
ปจั จบุ ัน
▪ ใหค้ ำปรึกษาแก่ผู้อน่ื ถึงแนวทางวธิ ีการสมั ภาษณเ์ พ่อื คัดเลือกผู้สมัครงาน
5 ศึกษาแนวทาง วิทยาการสมัยใหมเ่ พ่ือใชใ้ นการสมั ภาษณ์คัดเลือกบุคลากร
▪ ศึกษาและนำเสนอแนวทางใหม่ วิทยาการสมยั ใหมเ่ พื่อใช้สัมภาษณ์คดั เลือกบุคลากร
▪ นำเครอ่ื งมือ แนวทางใหม่ๆมาประยุกต์ใชใ้ นการสมั ภาษณเ์ พ่ือคัดเลอื กพนักงานของ
องค์การ
▪ สอนแนะผูอ้ ่ืนถึงหลักปฏิบัติและขนั้ ตอนการสัมภาษณท์ ่ีถูกต้อง เหมาะสม

51

FC Leadership Skills (ทักษะการเปน็ ผูน้ ำ)
25
คำ การกำหนดทศิ ทาง เป้าหมายในการทำงานของหนว่ ยงานและองค์การสร้างความเชอื่ ม่ัน
นยิ าม ความไว้วางใจ ความน่าเชื่อถือ และเปน็ ต้นแบบท่ดี ีในการทำงาน รวมทั้งการกระตุ้นจงู ใจ และให้

คำปรึกษาแนะนำแก้ผู้อน่ื ถงึ แนวทางการทำงานให้มีประสทิ ธภิ าพมากขึน้

ระดับ รายละเอยี ดพฤตกิ รรม
1 อธิบายทิศทางในการทำงาน และสรา้ งความเช่ือม่ันให้เกดิ ข้ึนในหน่วยงาน
▪ อธบิ ายทิศทาง เป้าหมายในการทำงานให้กบั ผู้ใตบ้ งั คับบญั ชาไดอ้ ยา่ งชัดเจนเปน็ ลำดับ
ขั้นตอน
▪ อธิบายความคาดหวงั ในผลการทำงานท่ชี ัดเจนให้แก่สมาชกิ ในทมี
▪ หาวธิ ีการสร้างความเชื่อมัน่ และทำให้ความรูส้ ึกท่ีดใี ห้เกิดขน้ึ แกห่ น่วยงาน
2 พดู สง่ เสรมิ กระต้นุ จูงใจ และจัดหาเครอ่ื งมือทจี่ ำเปน็
▪ พดู สง่ เสริมให้เพ่ือนร่วมงานทำงานตามท่ีไดร้ ับมอบหมายให้ดว้ ยตนเอง
▪ กระตุ้นจูงใจให้เพื่อนรว่ มงานนำเสนอความคดิ เห็นเพิ่มเติมในการทำงานใหด้ ีขน้ึ
▪ จดั หาเคร่อื งมือ สิง่ อำนวยความสะดวกท่ีจำเปน็ แก่หน่วยงานเพ่ือให้งานมปี ระสิทธภิ าพ
3 เปน็ ต้นแบบทดี่ ใี นการทำงานแบบผ้นู ำ และแสดงพฤติกรรมทีเ่ หมาะสม
▪ หาวิธีการสรา้ งความสมดลุ ในการทำงานให้แกส่ มาชิกในทีมเรื่องการทำงาน สุขภาพ
และชวี ิตครอบครวั
▪ เปน็ ต้นแบบทีด่ ใี นการทำงานท้ังในเรื่องความคดิ ความเปน็ ผ้นู ำ และพฤติกรรมแก่
สมาชกิ ในทมี
▪ เปดิ จับฟัง และยอมรบั ความคดิ เห็นตอบกลับทง้ั ทางบวก และทางลบเพ่อื นำมาปรับปรงุ
ตนเอง
4 ถา่ ยทอดกลยุทธ์ จงู ใจให้สมาชกิ ในทีมกระตือรอื รน้ ในการทำงาน
▪ ถ่ายทอดกลยุทธ์ ทศิ ทางในการดำเนินธรุ กิจให้สมาชิกในทีมรับทรายเป้าหมายองค์กร
▪ หาวิธีการจงู ใจผู้ใตบ้ งั คับบญั ชาให้เกิดความกระตือรือร้นในการทำงาน
▪ สอนแนะผู้ใตบ้ ังคับบญั ชาถงึ แนวทางในการทำงานโดยอ้างถึงเหตุการณ์ต่างๆท่ีเกีย่ วข้อง
ได้
5 กำหนดแผนกลยุทธ์ หาวธิ กี ารสร้างความไว้วางใจ และให้คำปรึกษาแนะนำ
▪ กำหนดแผนกลยทุ ธ์ในการทำงานให้สอดคล้องกับCorporate Strategic ขององค์การ
▪ หาวิธกี ารในการสรา้ งความไว้วางใจ และความน่าเช่ือถือแก่สมาชกิ ในทมี และ
บุคคลภายนอก
▪ ใหค้ ำปรกึ ษาแนะนำ ชว่ ยเหลอื แก้ไข และหาทางออกในการทำงานให้กับสมาชิกในทีม

52

FC Market Analysis (การวิเคราะห์ตลาด)
26
คำ ความเขา้ ใจในวัตถุประสงค์ รูปแบบและวิธีการวเิ คราะหต์ ลาดรวมถงึ การเก็บรวบรวม
นิยาม ขอ้ มลู และจัดทำเปน็ รายงาน พรอ้ มท้ังนำขอ้ มลู การวิเคราะหต์ ลาดมาใช้ในการวางแผนดำเนิน

ธุรกจิ ขององค์การ

ระดบั รายละเอยี ดพฤตกิ รรม

1 อธิบายรปู แบบวธิ กี ารวิเคราะห์ เก็บรวบรวมข้อมูล และตอบข้อซกั ถามได้

▪ อธบิ ายได้ถึงวัตถปุ ระสงค์ รูปแบบ และวิธีการวเิ คราะหต์ ลาด

▪ รวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอกองค์การเพื่อนำมาใช้

ประกอบการวิเคราะห์ตลาด

▪ ตอบข้อซกั ถามเก่ียวกับวธิ กี ารวเิ คราะหต์ ลาดไดต้ ามกรอบหรอื แนวทางท่ีกำหนด

2 จดั กลุม่ ข้อมูล วิเคราะห์ขอ้ มูล และจัดทำรายงานเบือ้ งตน้

▪ จัดกลมุ่ ของข้อมูลท่ีตอ้ งการใชใ้ นการวิเคราะห์ออกเปน็ หมวดหมู่

▪ วเิ คราะหข์ ้อมลู การตลาดไดต้ ามกรอบหรอื แนวทางทกี่ ำหนด

▪ จัดทำรายงานการวิเคราะห์ข้อมลู การตลาดได้ตามแนวทางปฏิบัติทีก่ ำหนดขึน้

3 วิเคราะหข์ อ้ มูล การจัดทำรายงานได้หลากหลาย และสอนผูอ้ ื่น

▪ วเิ คราะหข์ ้อมลู ตลาดที่มคี วามซับซอ้ นและใช้วทิ กี่ ารวิเคราะห์ที่หลากหลาย

▪ จดั ทำรายงานการวเิ คราะหต์ ลาดได้หลากหลายรปู แบบ

▪ สอนให้ผู้อน่ื เกบ็ รวบรวมข้อมูล จัดหมวดหมูข่ องขอ้ มูล และวเิ คราะห์ตลาดได้

4 ตรวจสอบความถูกต้อง และเลือกใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์

▪ ตรวจสอบความถูกตอ้ ของการวเิ คราะห์ตลาด

▪ นำเสนอผลกการวจิ ัยตลาดได้หลากหลายรปู แบบ

▪ เลอื กใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอรท์ ชี่ ว่ ยในการวเิ คราะห์ตลาดใหเ้ กิดประโยชนส์ งู สุดได้

5 กำหนดรูปแบบวิธีการ และนำข้อมูลไปใช้

▪ กำหนด วัตถุประสงคร์ ูปแบบและวธิ กี ารวเิ คราะห์ตลาดได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการ

นำขอ้ มลู ไปใช้

▪ นำข้อมลู การวเิ คราะหต์ ลาดไปใชใ้ นการวางแผนการดำเนนิ ธรุ กิจ

53

FC Negotiation Skills (ทกั ษะการเจรจาต่อรอง)
27
คำ ความสามารถในการกำหนดเทคนคิ วิธีการ และกลยทุ ธท์ ่เี หมาะสมกับสถานการณท์ ่ี
นิยาม เกิดข้นึ รวมทง้ั ความสามารถในการเจรจาต่อรอง โดยใชห้ ลักการ เหตผุ ลและยกตวั อย่างประกอบ

ตลอดจนการสอนและให้คำแนะนำแกผ่ ู้อืน่ ถึงวธิ กี ารเจรจาตอ่ รองได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ

ระดับ รายละเอียดพฤตกิ รรม

1 อธิบายหลักการเจรจาต่อรอง และเจรจากบั คนใกล้ชดิ

▪ อธิบายไดถ้ ึงหลักการ และวธิ ีการเจรจาตอ่ รอง

▪ เจรจาต่อรองกบั เพื่อนร่วมงานทมี่ คี วามสนิทสนมใกลช้ ิดกันได้

2 อธิบายสาเหตุและผลลัพธ์ และเจรจาต่อรองตามแนวทาง

▪ อธิบายถงึ สาเหตแุ ละผลลัพธ์ที่ต้องการเจรจาต่อรองได้

▪ เจรจาตอ่ รองกบั ผู้อนื่ ได้ตามแนวทางท่ีกำหนดไวไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม

3 เจรจาต่อรองโดยใชเ้ หตุผล สอนและใหค้ ำแนะนำแกผ่ ู้อ่นื

▪ เจรจาต่อรองโดยใช้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบได้อย่างเหมาะสม

▪ สอนเทคนิคและวธิ ีการเจรจาต่อรองใหผ้ ้อู นื่ ท้ังภายในและภายนอกองค์การ

▪ ใหค้ ำแนะนำผอู้ ืน่ ถึงวธิ ีการเจรจาต่อรองทเ่ี หมาะสม

4 กำหนดเทคนคิ และวิธีการที่เหมาะ และเจรจาต่อรองประเด็นระดบั หน่วยงาน

▪ ปรับเปล่ยี นเทคนิคและวิธกี ารเจรจาใหส้ อดคล้องเหมาะสมกบั บคุ คล ประเด็นและ

สถานการณ์

▪ เจรจาต่อรองประเด็นสำคัญระดบั หนว่ ยงาน โดยกอ่ ให้เกดิ ประโยชนร์ ว่ มกนั กับทุกฝ่าย

(Win-Win Solution)

5 กำหนดหลยุทธ์ และเจรจาต่อรองประเดน็ วิกฤต

▪ กำหนดกลยุทธแ์ ละแนวทางในการเจรจาต่อรองระดับองค์การให้เหมาะสมกับบุคคล

องค์การ ประเดน็ และสถานการณ์

▪ เจรจาตอ่ รองในสถานการณว์ ิกฤต (Crisis) ท่สี ่งผลกระทบต่อการดำเนนิ งานธุรกจิ ของ

องค์การ

▪ วางแผนการเจรจาต่อรองเพ่ือให้ผลการเจรจาเป็นประโยชน์ตอ่ องค์การมากทส่ี ุด

54

FC Product and Service Knowledge (ความรู้เก่ียวกับสนิ คา้ และบริการ)
28
คำ ความรู้และความเข้าใจในลกั ษณะประเภทของสินค้า และบรกิ ารขององคก์ ร รวมท้ังการ
นิยาม ใหข้ อ้ เสนอแนะและตอบข้อซักถามในประเด็นตา่ งๆ ที่เกย่ี วข้องกบั สนิ ค้า และการใหบ้ ริการตาม

แนวทางท่ีถูกต้อง ตลอดจนแผนสรา้ ง หาช่องทางในตลาดสนิ ค้าใหม่ๆ และการให้บริการที่เหนือ
ความคาดหมาย

ระดับ รายละเอียดพฤติกรรม
1 รแู้ ละเขา้ ใจรปู แบบ ประเภทของสินคา้ และบรกิ ารในบทบาทหน้าของตนเอง
▪ อธบิ ายไดถ้ งึ รปู แบบ ประเภท รายละเอียดของสนิ คา้ และบริการแต่ละประเภท
▪ แสวงหาข้อมูลต่างๆ ท่เี กีย่ วข้องกับสนิ ค้าและบริการเพอื่ เข้าใจความต้องการ และบรบิ ท
ของลกู คา้
▪ อธบิ ายได้ถึงบทบาทหนา้ ที่ ความรับผิดชอบของตนเองในตัวสนิ ค้าแตล่ ะประเภทและ
การให้บริการ
2 ระบุ ตอบขอ้ ซักถาม และสืบคน้ ขอ้ มลู สินค้าและการให้บรกิ าร
▪ ระบไุ ด้ถงึ ประโยชนท์ ่ีไดร้ ับจากการใชส้ นิ ค้า หรือบริการของตน
▪ ตอบข้อซักถามผู้อนื่ เกยี่ วกบั สินคา้ และการให้บรกิ ารขององค์การได้ตามแนวทางท่ี
ถกู ต้อง
▪ สบื ค้นข้อหามลู สินค้า และบริการของคู่แขง่ เพ่ือหาแนวทางปฏิบตั ิใหเ้ กิดข้อได้เปรียบ
3 วิเคราะหป์ จั จยั สภาพแวดล้อม และเสนอแนวทางการปรับเปลย่ี นการปฏิบัตงิ าน
▪ วิเคราะห์ปัจจยั สภาพแวดล้อมต่างๆ ทง้ั ภายในและภายนอกทีม่ ผี ลกระทบต่อสินคา้ และ
บรกิ าร
▪ เสนอแนวทางการปรับเปล่ยี นรูปแบบของสินคา้ และบรกิ ารของหนว่ ยงานให้เหมาะสม
กบั ปัจจุบัน
▪ ระบไุ ด้ถึงข้อได้เปรยี บของสนิ ค้า และบริการของตน เม่ือเปรียบเทียบกบั คู่แขง่ ขนั
4 วางแผนกำหนดรูปแบบ และเสนอแผนการพฒั นารูปแบบของสนิ คา้
▪ วางแผนและกำหนดรูปแบบ ประเภท รายละเอยี ดของสนิ ค้า และแนวทางในการ
ให้บริการ
▪ วิเคราะห์และประเมนิ ความพงึ พอใจของลกู ค้า เพื่อนำข้อมลู มาพัฒนารูปแบบสนิ ค้า
และบรกิ าร
▪ นำเสนอแผนการปรบั ปรุงและพัฒนารูปแบบของสนิ คา้ และบรกิ ารในหน่วยงานของ
ตนเองได้
5 ติดตามสถานการณ์ และวางแผนสร้างโอกาสและหาชอ่ งทางในตลาดสินค้าใหม่ๆ
▪ คาดการณ์แนวและสถานการณใ์ นอนาคตที่อาจสง่ ผลกระทบต่อสนิ คา้ และบริการของ
องค์การ
▪ วางแผนการสรา้ ง และหาช่องทางในตลาดสินค้าใหมๆ่ และสร้างการให้บริการท่ีเหนือ
ความคาดหมาย
▪ ให้คำปรึกษาและเสนอแนะถึงความรู้ ขอ้ มลู เชิงลึกในตวั สินคา้ และการให้บริการแก่
พนักงาน

55

FC Product Inspection (การตรวจเชค็ สินค้า)
29
คำ ความเขา้ ใจหลักการและวธิ ีการตรวจเชค็ สินคา้ ความสามารถในการตรวจเช็คสินค้าจด
นยิ าม บนั ทึกและ. ทำรายการสรปุ ผลการตรวจสอบเชค็ สินคา้ รวมทงั้ การกำหนดนโยบายการตรวจเช็ค

สินค้าตลอดจนพัฒนาปรบั เปลี่ยนวิธีการตรวจเชค็ สนิ ค้าใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพมากยง่ิ ขน้ึ

ระดับ รายละเอยี ดพฤติกรรม

1 อธิบายหลักการ วิธกี ารตรวจเชค็ และรายการประเภทสินค้า

▪ อธิบายหลักการและวธิ ีการตรวจเช็คสนิ ค้า

▪ อธิบายรายการและประเภทสินคา้ ท่ตี ้องทำรายการตรวจเชค็

2 ตรวจเชค็ สินค้าและจดบันทึก

▪ ตรวจเช็คสินคา้ ตามหลกั การและวธิ ีการภายใต้คำแนะนำ

▪ จดบนั ทึกการตรวจสอบเช็คสินค้าได้อย่างถกู ต้องครบถว้ น

3 ตรวจเช็คสนิ คา้ จดั ทำรายงานและใหค้ ำแนะนำผ้อู ่ืน

▪ จดั ทำรายการสรุปรายการและจำนวนสินคา้ ในสต๊อกไดถ้ ูกตอ้ งตามรปู แบบท่ีกำหนด

▪ สง่ ต่อข้อมลู สต๊อกสนิ ค้าให้กับหนว่ ยงานที่เกีย่ วข้องได้ถกู ต้องและทันเวลา

▪ ใหค้ ำแนะนำผู้อน่ื ถงึ วธิ กี ารสต๊อกสินค้า

4 ตรวจสอบ พัฒนาวิธกี ารและสอนผู้อน่ื

▪ ตรวจสอบความถูกตอ้ งของรายการสนิ คา้ และรายงานสรปุ สนิ คา้ ในสตอ๊ ก

▪ พฒั นาและปรบั เปลี่ยนวธิ ีการบรหิ ารสตอ๊ กสินคา้ ให้มีประสทิ ธิภาพมากย่ิงขนึ้

▪ สอนให้ผู้อนื่ มาสารถบรหิ ารสตอ๊ กสนิ ค้าได้

5 กำหนดนโยบาย แผนงาน และนำเทคโนโลยีมาใช้

▪ กำหนดนโยบาย และแผนงานการบรหิ ารสตอ๊ กสินค้าได้สอดคล้องกบั นโยบายการดำเนิน

ธุรกจิ ขององค์การ

▪ นำเทคโนโลยหี รือโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาใชใ้ นการบริหารสต๊อกสินคา้ ใหม้ ี

ประสทิ ธิภาพมากยง่ิ ขึน้

56

FC Product Management in Warehouse (การบริหารจัดการสนิ ค้าในคลัง)
30
คำ ความรคู้ วามเข้าใจแนวคิด หลักการ ข้ันตอนและวธิ กี ารทำงานเกี่ยวกับการบรหิ ารจัดการ
นิยาม สนิ คา้ ในคลัง สามารถรวบรวมปญั หานำเสนอแนวทางแก้ไขและปรบั ปรุงวธิ กี าร ขนั้ ตอนในการ

บริหารจัดการสนิ ค้าในคลังให้เปน็ ไปตามมาตรฐานสากล พรอ้ มทัง้ กำหนดนโยบายวิเคราะห์
เปรียบเทยี บวธิ ีการปฏบิ ัตงิ านให้สอดคล้องกบั เป้าหมายขององค์การ

ระดับ รายละเอียดพฤตกิ รรม
อธบิ ายแนวคดิ หลกั การ ขน้ั ตอนและวิธีการจัดการสนิ คา้ ในคลัง
1 ▪ อธบิ ายได้ถึงแนวคดิ หลกั การขั้นตอนและวิธกี ารทำงานในคลังสินค้าพัสดแุ ละจดั หาสินค้า

▪ ระบุขอบเขตความรบั ผิดชอบในการปฏิบัติงานและความเกี่ยวโยงกบั หน่วยงานอื่นๆ
▪ ตอบข้อซักถามในงานทรี่ ับผดิ ชอบในเบ้ืองต้นตามแนวปฏบิ ตั ทิ ่ีกำหนดขนึ้
รวบรวมปญั หานำเสนอแนวทางแกไ้ ขและใหค้ ำแนะนำแกผ่ อู้ นื่
2 ▪ ให้คำแนะนำในข้นั ตอนและวิธที ำงานทีค่ วรปฏิบัตขิ องหน่วยงานแก่ผู้อนื่ ได้

▪ รวบรวมปัญหาและแนวทางแก้ไขเพ่ือนำเสนอต่อผ้ใู ตบ้ ังคบั บัญชา
▪ ประสานงานกับหนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวขอ้ งเพ่อื ใหจ้ ดั การสินคา้ ในคลังมปี ระสิทธิภาพ
วางแผนจดั สรรการใช้ทรัพยากรในการบรหิ ารจัดการสนิ คา้ ในคลังให้มีประสิทธภิ าพ
3 ▪ วางแผนจัดสรรการใช้ทรัพยากรสงิ่ อำนวยความสะดวกในการบรหิ ารจดั การสนิ คา้ ในคลงั

▪ ควบคมุ ติดตามการบริหารงานประจำวันในคลงั สินคา้ ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานทีก่ ำหนด
ขึ้น
▪ วิเคราะห์ปัญหาอุปสรรคในการจัดการคร้ังสินค้าและนำเสนอแนวทางแกไ้ ขพร้อมกับให้
คำปรกึ ษา
ปรบั ปรุงวิธีการข้นั ตอนในการบรหิ ารจดั การสินค้าในคลังให้เปน็ ไปตาม
4 มาตรฐานสากล

▪ ปรบั ปรงุ วิธกี ารและขั้นตอนการบริหารจดั การสินค้าในคลงั ให้เปน็ ไปตามมาตรฐานสากล
▪ สอนงานผอู้ ืน่ ถึงวิธกี ารและขั้นตอนแนวทางในการปฏบิ ตั งิ านเก่ียวกับการจัดการสินค้าใน
คลงั
▪ หาวิธกี ารกระตุ้นจงู ใจหรือผลักดนั ให้มีการปฏิบัติตามระบบงานต่างๆของบริษัท
กำหนดนโยบายวิเคราะห์เปรียบเทยี บวธิ กี ารปฏบิ ัติงานใหส้ อดของกับเป้าหมาย
5 องค์การ

▪ กำหนดนโยบายเป้าหมายการบรหิ ารจัดการสินค้าในคลังให้สอดคล้องกบั แผนงานองคก์ ร
▪ วิเคราะหเ์ ปรียบเทียบแนวทางวิธกี ารปฏิบัติงานด้านคร้งั สินค้าขององค์กรตนและองค์การ
อนื่
▪ ถา่ ยทอดนโยบายใหพ้ ดู ใต้บงั คบั บัญชาพร้อมกบั วางแผนผลักดนั ให้เกดิ ผลในทางปฏิบตั ิ

57

FC Product Pricing (การต้ังราคาสินค้า)
31
คำ ความเขา้ ใจหลักการ วธิ กี ารตั้งราคา ความสามารถในการกำหนดราคาสินค้าได้อย่าง
นิยาม เหมาะสม โดยติดตามข้อมลู ข่าวสารและสถานการณ์ความเคล่ือนไหวของราคาสินค้าในตลาดอยู่

เสมอ พร้อมท้ังสามารถกำหนดนโยบายแลกลยทุ ธก์ ารตง้ั ราคาสินค้าให้สามารถแข่งขนั ในตลาดได้

ระดบั รายละเอียดพฤตกิ รรม

1 อธิบายถึงหลกั การ วิธกี ารต้ังราคาสนิ ค้า และรวบรวมข้อมูลได้

▪ อธบิ ายได้ถงึ หลักการ และวธิ ีการตัง้ ราคาสินค้า

▪ รวบรวมและนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ทเี่ กยี่ วขอ้ งกับความเคลือ่ นไหวของสินค้าของค่แู ข่ง

ตอ่ ผูบ้ งั คับบัญชา

2 เสนอแนะแหล่งข้อมลู ขา่ วสาร และกำหนดราคาสินคา้

▪ เสนอแนะแหล่งข้อมูลเพ่ือรวบรวมความเคลือ่ นไหวของสินค้าคแู่ ข่งแก่สมาชกิ ในทมี

▪ กำหนดราคาสนิ คา้ ภายใต้คำแนะนำได้อย่างเหมาะสม

3 คาดการณ์สถานการณค์ วามเคลือ่ นไหวของสนิ ค้า กำหนดราคาสินคา้ และให้

คำแนะนำผู้อ่นื

▪ วิเคราะหแ์ ละคาดการณ์ถึงสถานการณ์ความเคล่อื นไหวของราคาสนิ คา้ ในตลาด

▪ กำหนดราคาสนิ ค้าไดเ้ หมาะสม และสอดคลอ้ งกับราคาตลาด

▪ ให้คำแนะนำแกผ่ อู้ ื่นถงึ วิธกี ารตง้ั ราคาสินค้า

4 ตรวจสอบ แกไ้ ขปญั หา และสอนผอู้ ื่น

▪ ตรวจสอบการต้งั ราคาสินคา้ ของผูใ้ ต้บังคบั บัญชา

▪ นำเสนอแนวทางเลอื กในการแก้ไขปัญหาที่เกดิ ข้นึ จากการต้ังราคาสินค้า

▪ สอนผอู้ ืน่ ถึงวธิ ีการต้ังราคาสินค้า

5 กำหนดนโยบาย กลยุทธ์ และวเิ คราะหค์ าดการณ์

▪ กำหนดนโยบาย และกลยุทธก์ ารต้ังราคาสินคา้ ใหส้ ามารถแข่งขนั ในตลาดสินค้าได้

▪ วเิ คราะห์และคาดการณ์สถานการณ์การดำเนินงานของคูแ่ ขง่ ทมี่ ผี ลต่อการตั้งราคาสินคา้

58

FC Production Skills (ทักษะการผลิต)
32
คำ ความสามารถในการปฏิบัติหน้าท่ีด้านการผลิตได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ เปน็ ไปตาม
นิยาม แผนงานท่ีกำหนด รวมถงึ ความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรค พร้อมท้งั ความสามารถใน

การกำหนดนโยบาย ข้ันตอน และวธิ กี ารผลติ ใหเ้ ปน็ ไปอย่างมีประสิทธิภาพสงู สดุ ต่อการดำเนนิ
ธุรกจิ ขององค์การ

ระดบั รายละเอยี ดพฤติกรรม

1 อธบิ ายหลักการ วิธีการควบคุมเคร่อื งจักร และจัดทำเอกสาร/รายงานการผลติ

▪ อธบิ ายได้ถงึ หลกั การ ข้ันตอนและวิธีการผลิต

▪ ควบคมุ เคร่ืองจักรท่ีใช้ในการผลติ สนิ ค้าไดต้ ามกรอบหรือแนวทางท่กี ำหนดขึน้

▪ จัดทำเอกสารและรายงานการผลติ ไดต้ ามแนวทางทกี่ ำหนดข้นึ

2 ซ่อม ตรวจสอบการควบคมุ เครอ่ื งจักร และให้คำแนะนำผู้อน่ื

▪ ซอ่ มเครื่องจกั รได้ กรณีที่อะไหลห่ รืออปุ กรณม์ ีปัญหาหรือชำรุดเสียหาย

▪ ตรวจสอบการควบคุมเคร่ืองจักรให้เป็นไปตามกรอบหรือแนวทางทก่ี ำหนดขน้ึ

▪ ให้คำแนะนำผอู้ ่นื ถงึ ขน้ั ตอนและวธิ ีการผลิตทถี่ ูกต้องและมีประสทิ ธิภาพ

3 แก้ไขปญั หา และสอนผอู้ ่ืน

▪ แก้ไขปญั หาและอุปสรรคทสี่ ่งผลตอ่ การผลิตได้อย่างเหมาะสม และทันเวลา

▪ สอนใหผ้ ู้อ่นื สามารถปฏบิ ตั หิ น้าท่ีเพ่ือให้การผลติ ประสทิ ธิภาพสูงสดุ

4 เสนอแนวทางป้องกนั ปัญหา และตดิ ตามตรวจสอบ

▪ เสนอแนวทางป้องกันปัญหาท่ีเกิดข้นึ จากการผลิต เพ่ือป้องกันการเกดิ ซำ้ ของปัญหา

▪ ตดิ ตามและตรวจสอบการปฏบิ ัตงิ านของผใู้ ต้บงั คบั บัญชาให้ถกู ต้องตามข้นั ตอนและ

วธิ ีการผลติ

5 กำหนดนโยบาย แผนงาน และพฒั นาขน้ั ตอนการผลิต

▪ กำหนดนโยบาย และแผนการดำเนินการผลติ ท่มี ีประสิทธิภาพและสอดคลอ้ งกับการ

ดำเนินงานธรุ กจิ ขององค์การ

▪ พัฒนาขนั้ ตอนและวิธีการผลิตให้เกิดประสิทธภิ าพสงู สดุ ต่อองค์การ

59

FC Selling Skills (ทักษะการขาย)
33
คำ ความสามารถในการเสนอขายสนิ คา้ และบริการ การพดู โน้มนา้ วใจโดยยกจดุ เดน่ และ
นิยาม เปรียบเทยี บสินคา้ หรือบริการ พรอ้ มทั้งความสามารถในการเจรจาตอ่ รองราคาและเง่ือนไขที่

กอ่ ให้เกดิ ประโยชน์สูงสดุ กบั ทุกฝ่าย และความสามารถในการกำหนดนโยบายและกลยทุ ธการขาย

ระดับ รายละเอียดพฤติกรรม

1 อธิบายหลักการ วธิ กี าร และคณุ ลักษณะของสินค้าหรือบรกิ าร และตอบข้อซกั ถามได้

▪ อธิบายหลกั การ ข้นั ตอน และวธิ กี ารขายที่มีประสิทธภิ าพได้

▪ อธิบายลกั ษณะเบ้อื งตน้ ของสินค้าและบริการทีต่ ้องการขายได้

▪ ตอบข้อซักถามเก่ยี วกบั สนิ ค้าและบริการท่ีตนรับผดิ ชอบได้

2 เสนอขายและพดู โนม้ นา้ ว

▪ เสนอขายสนิ ค้าหรือบริการ โดยใหข้ ้อมลู เกีย่ วกบั สนิ ค้าหรือบริการได้อย่างถูกต้อง

▪ พดู โนม้ นา้ วใจลกู คา้ โดยยกจุดเดน่ และข้อดขี องสนิ ค้าประกอบการชาย

3 เสนอขาย พูดโน้มน้าว เจรจาต่อรอง และให้คำแนะนำผู้อ่ืน

▪ เสนอขายสินค้าหรือบริการและพดู โนม้ น้าวใจลูกค้าโดยสามารถเปรยี บเทยี บสนิ คา้ หรือ

บรกิ ารขององค์การกับสนิ คา้ หรือบริการในกล่มุ เดียวกนั หรือเปรียบเทียบกับคู่แข่งได้

▪ เจรจาต่อรองราคาและเงื่อนไขของสนิ คา้ หรอื บรกิ ารกับลูกค้าเพ่ือใหเ้ กิดประโยชนก์ บั ท้ัง

องค์การและลูกคา้ ได้

▪ ใหค้ ำแนะนำผู้อน่ื ในการขายสินคา้ และบริการอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ

4 เสนอขาย เจรจาต่อรอง และสินผูอ้ ืน่

▪ เสนอขายสินคา้ หรือบริการท่ีมจี ำนวนการสง่ั ซอื้ มาก และเจรจาตอ่ รองราคาและเง่ือนไข

ที่เกิดประโยชนส์ งู สดุ กบั ทกุ ฝ่ายทีเ่ กยี่ วข้อง

▪ สอนให้ผ้อู ื่นสามารถขายได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

5 กำหนดนโยบาย กลยุทธ์ และการปรับเปลีย่ นรูปแบบการขายทเ่ี หมาะสม

▪ กำหนดนโยบาย และกลยุทธ์การขายท่เี หมาะสม และสอดคลอ้ งกับแนวทางการดำเนิน

ธรุ กิจขององค์การ

▪ พฒั นาและปรับเปลี่ยนรปู แบบการขายให้เหมาะสมกับสถานการณ์แวดล้อมอยเู่ สมอ

60

FC Spare Part Management (การบรหิ ารจัดการอะไหล่)
34
คำ ความเข้าใจในคุณสมบัตขิ นั้ ตอนการทำงานการสัง่ สำโรงจดั หาอะไรและวัสดซุ ่อมแซมที่มี
นยิ าม คุณภาพตามที่กำหนดทง้ั ปริมาณคุณภาพระยะเวลาและราคาท่ีเหมาะสมรวมท้ังการวางแผน

จัดสรรทรัพยากรให้พร้อมใช้งานตลอดจนการสร้างมาตรฐานงานบริการและบริหารจัดการระบบ
ขอ้ มลู

ระดบั รายละเอยี ดพฤตกิ รรม
1 รู้และเขา้ ใจในคณุ สมบตั แิ ละขน้ั ตอนการทำงานของอะไรชิ้นส่วนเครือ่ งจักร
▪ อธิบายถึงคุณสมบัติขั้นตอนการทำงานของอะไรเคร่ืองมือและอุปกรณ์ในการผลิตท่ี
รับผดิ ชอบ
▪ ระบถุ ึงปัญหาและสาเหตุการแยกอะไหลว่ สั ดุซ่อมบำรุงวัสดุสิ้นเปลืองทใ่ี ชใ้ นการผลิต /ค่า
อะไหล่
▪ ปฏิบัตหิ นา้ ที่ไดต้ ามมาตรฐานในการบำรุงรักษาซ่อมแซมเครื่องมืออปุ กรณใ์ ห้พร้อมใช้
งานอย่เู สมอ
2 การสงั่ สำรองอะไหล่การจัดเกบ็ การขอ้ มลู การจดั การอะไรให้เหมาะสม
▪ สั่งอะไรมาสำรองเพม่ิ เตมิ จากทถี่ กู เบิกจา่ ยไปจากหน่วยงานไดต้ ามสตู รหรือหลกั เกณฑ์ที่
ไดก้ ำหนดข้นึ ตามหลักวิชาการ
▪ ศกึ ษาหาแนวทางการจดั การอะไหลท่ ่ีเหมาะสมและจัดให้มกี ารเกบ็ ข้อมลู ท่ีจำเปน็ กบั การ
จัดการอะไหล่
3 จดั หาอะไหล่และวัสดุซอ่ มบำรงุ ให้มปี ระสทิ ธภิ าพตามข้อกำหนด
▪ จัดหาอะไหลแ่ ละวัสดซุ ่อมบำรุงตามความต้องการทง้ั ปริมาณคุณภาพระยะเวลาและ
ราคาทเี่ หมาะสม
▪ คดิ หาวธิ ีการนำเอาอะไรและวัสดซุ ่อมบำรงุ ทีใ่ ช้ไม่ได้แลว้ กลบั มาใชใ้ หเ้ ป็นประโยชนใ์ น
หนว่ ยงาน
4 วางแผนจดั หาทรัพยากรใหม้ ีสมรรถนะพร้อมใช้งานตามเปา้ หมายทก่ี ำหนด
▪ ควบคุมติดตามตรวจสอบค่าใช้จ่ายท้งั หมดในการสัง่ ซื้อการเก็บรักษาอะไหลแ่ ละวัสดุซอ่ ม
บำรุง
▪ กำหนดแผนงานความต้องการทงั้ อะไหล่และวัสดุซ่อมบำรุงทตี่ อ้ งใช้เพื่อใหพ้ ร้อมใชง้ าน
ตามเป้าหมายและความต้องการทรัพยากรในการจดั การ
▪ จดั ทำโครงการหรือจะหาเลยและวสั ดุซอ่ มบำรงุ ในประเทศแทนการสั่งซ้ือจาก
ต่างประเทศ
5 กำหนด นโยบาย สร้างมาตรฐานการบรกิ ารและการบรหิ ารจดั การระบบขอ้ มูล
▪ กำหนดนโยบายวธิ กี ารทีช่ ัดเจนในการส่ัง การเลือกผู้จำหนา่ ยการสง่ เสริมการตรวจรับ
การจัดเก็บและการเบิกจ่ายอะไหล่และวสั ดุซอ่ มบำรงุ ทใ่ี ชใ้ นหนว่ ยงาน
▪ สร้างมาตรฐานในเป็นทย่ี อมรับในปจั จยั service level, acceptable stock outs,
safety stock
▪ บรหิ ารจัดการระบบขอ้ มลู ของอะไหลแ่ ละวสั ดซุ ่อมบำรงุ ให้สามารถตรวจสอบติดตามได้
ตลอดเวลา

61

FC Stock Management (การบริหารสต็อกสินคา้ )
35
คำ ความเข้าใจรายการและประเภทของสนิ ค้าและความสามารถในการจดั เรียงสินค้าตรวจเช็ค
นยิ าม และบันทึกรายการและจำนวนของสนิ ค้าได้อยา่ งถกู ต้องรวมทงั้ ความสามารถในการกำหนดนโยบาย

และแผนงานการบริหารสตอ๊ กสินคา้ ไดส้ อดคล้องกับแนวทางการดำเนนิ ธุรกจิ ขององค์การ

ระดับ รายละเอียดพฤติกรรม

1 อธบิ ายและตอบข้อซักถาม

▪ อธิบายได้ถึงหลักการและวิธีการบรหิ ารสตอ๊ กสนิ ค้า

▪ อธบิ ายรายการและประเภทของสินคา้ ในสต๊อกได้

▪ ตอบข้อซักถามเกี่ยวกับรายละเอยี ดของสนิ คา้ ในสต๊อกได้

2 จัดทำตรวจเช็คและบนั ทกึ รายการสินคา้

▪ จัดทำรายการสินค้าในสต๊อกและจดั แบง่ หมวดหมู่ตามประเภทของสินค้าได้

▪ ตรวจเช็คและบนั ทึกจำนวนสินค้าในสตอ๊ ก ตามหมวดหมไู่ ด้ถกู ต้อง

3 จัดทำรายงานสง่ ตอ่ ขอ้ มูลและให้คำแนะนำผู้อ่นื

▪ จัดทำรายงานสรุปรายการและจำนวนสินค้าในสต๊อกได้ถูกตอ้ งตามรปู แบบที่กำหนด

▪ สง่ ต่อข้อมูลสต๊อกสินค้าใหก้ ับหนว่ ยงานท่เี ก่ียวข้องได้ถูกต้องและทนั เวลา

▪ ให้คำแนะนำผูอ้ ่ืนถึงวธิ ีการบริหารสต๊อกสินค้า

4 ตรวจสอบพัฒนาวธิ กี ารและสอนผู้อนื่

▪ ตรวจสอบความถูกต้องของรายการสินคา้ และรายการสรปุ สินคา้ ในสตอ๊ ก

▪ พฒั นาและปรับเปลี่ยนวิธกี ารบรหิ ารสต๊อกสินค้าให้มปี ระสิทธิภาพมากยิ่งขนึ้

▪ สอนใหผ้ ูอ้ ืน่ สามารถบรหิ ารสตอ๊ กสินค้าได้

5 กำหนดนโยบายแผนงานและนำเทคโนโลยีมาใช้

▪ กำหนดนโยบายและแผนงานการบรหิ ารสต๊อกสินคา้ ได้สอดคลอ้ งกบั นโยบายการดำเนิน

ธุรกจิ ขององค์กร

▪ นำเทคโนโลยีหรอื โปรแกรมคอมพิวเตอร์มาใช้ในการบรหิ ารสต๊อกสินคา้ ใหม้ ีประสิทธภิ าพ

มากยิง่ ข้ึน

62

FC Systems Thinking (ความคิดเปน็ ระบบ)
36
คำ ความเขา้ ใจทฤษฎี องคป์ ระกอบพน้ื ฐานของความคดิ เชิงระบบ การคน้ หาและแก้ไขปัญหา
ข้นั ตอนการทำงานดว้ ยแนวทางใหมๆ่ รวมท้ังสอนสมาชิกในทีมใหม้ องภาพรวมและแกไ้ ขปัญหา
นิยาม รว่ มกัน ตลอดจนการวางแผนสรา้ งจิตสำนกึ ให้พนักงานตระหนักถึงความเปน็ ส่วนหน่ึงขององค์การ

ระดับ รายละเอียดพฤตกิ รรม

1 รู้ เข้าใจ ทฤษฎี องคป์ ระกอบพ้นื ฐานของความคิดเชิงระบบ

▪ อธิบายทฤษฎี ความหมาย ชนดิ องคป์ ระกอบพืน้ ฐานของความคิดเชงิ ระบบ

▪ อธบิ ายถึงหน้าที่ความรับผดิ ชอบ และปญั หาท่เี กิดขึ้น เพื่อนำเสนอแนวทางแก้ไขต่อ

ผู้บงั คับบญั ชา

▪ กลา้ เสนอความคดิ เหน็ และวิธกี ารทำงานใหม่ ๆ ของตนเองในท่ปี ระชุม

2 คน้ หา แกไ้ ขปัญหาขน้ั ตอนการทำงาน รวมทั้งคิดหาแนวทางใหม่ ๆ ในการทำงาน

▪ ค้นหาวธิ ีการทำงาน แนวความคดิ ในการแก้ไขปัญหาใหม่ๆ โดยไมย่ ดึ ตดิ กับรูปแบบการ

ทำงานแบบเดิม

▪ แกป้ ัญหาข้นั ตอนในการทำงานทผี่ ิดพลาด โดยหาแนวทางใหม่ ๆ เพือ่ ไมใ่ ห้ผดิ พลาดซำ้ อีก

▪ แยกแยะถึงปัญหา อุปสรรค เหตุการณ์ทเ่ี กิดขึ้น และปจั จยั ทท่ี ำให้เกดิ สาเหตนุ ัน้ ๆ ข้นึ

3 ยอมรับฟงั สอนสมาชกิ ในทีมใหม้ องภาพร่วมกนั พึ่งพา แกไ้ ขปญั หารว่ มกันได้

▪ ยอมรับฟงั ความคิดเห็น หรอื แนวทางใหม่ ๆ ของผูใ้ ต้บังคับบัญชาทีน่ ำเสนอขนึ้

▪ สอนให้สมาชกิ ในทีมมองภาพรวมรว่ มกันของหนว่ ยงาน พง่ึ พาอาศยั กันและกัน แก้ไขปญั หา

ร่วมกนั

▪ คดิ หาวธิ ีการกระตุ้นใหผ้ ใู้ ตบ้ ังคับบัญชาเสนอแนวทางแก้ไขปัญหารว่ มกัน เพื่อปรับปรงุ

ระบบงาน

4 อธบิ ายภาพรวมใหส้ มาชิกในทมี แชร์มมุ มอง เปดิ ใจรบั ฟังความคดิ เหน็ พนักงาน

▪ อธิบายภาพรวมให้กบั สมาชิกในทีม แชร์มุมมอง เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของพนักงานทุก

คน

▪ วางแผนแก้ไขปญั หาในการทำงานอย่างเป็นระบบ เช่น ปัญหาทีถ่ กู แก้ไขแลว้ ไม่ควรเกิดขึ้น

ซำ้ อกี

▪ ออกแบบโครงการหรอื กิจกรรมกบั สมาชิกในทีมเพื่อให้รว่ มกนั เปล่ยี นแปลงระบบภายใน

องค์การ

5 แลกเปล่ยี นทัศนะ วางแผนสร้างจิตสำนกึ ในพนักงานตระหนักถงึ ความเป็นสว่ นหน่ึงของ

องคก์ าร

▪ แลกเปลยี่ นทศั นะกบั ผู้เก่ยี วข้องดว้ ยการนำสมมุติฐานของแต่ละฝ่ายมาคยุ กนั อย่างเปิดเผย

▪ วางแผนสร้างจิตสำนกึ ให้พนักงานตระหนกั ถงึ ความเปน็ ส่วนหน่งึ ของทีม องค์การ ความเป็น

เจา้ ของ

▪ กำหนดแนวทางการปฏิบตั ิเชิงรกุ ท่สี ามารถแกป้ ัญหาได้ทันเหตกุ ารณ์ มองเหน็ โอกาสใน

อนาคต

63

Work Shop 11 กำหนดระดับความคาดหวัง (E) ของ Compertency Model

ตารางที่ 13 กำหนดระดับความคาดหวัง (E) ของ Compertency Model

ร ช่อื สมรรถนะ ระดบั ความคาดหวงั (E)และเป้าหมาย
หสั
กรรมการบรหิ า ผู้จดั การ ผู้จัก

แผนกการเงินและ การแผนก

บริหารงานบคุ คล พัฒนา

ผลติ ภณั ฑ์

Core Competency (CC) 5 44

C จรยิ ธรรม 4 44
C1 ทางธรุ กจิ
4 33
C ความคิด
C2 สรา้ งสรรค์ 4 33

C การมุ่งเนน้ 5 44
C3 ลกู ค้า

C มุ่งผลสัมฤทธ์ิ
C4

C ทำงานเปน็
C5 ทีม

M การ 5 44
C1 มอบหมายงาน 5 44
5 44
M กำหนด 5 33
C2 เป้าหมาย 5 44

M การจูงใจ
C3 พนักงาน

M วางแผนกล
C4 ยุทธ์

M การมี
C5 วสิ ัยทัศน์

F มีความรู้ด้าน 5 33
C6 ธุรกจิ 5 44
5 33
F ทกั ษะการ 5 44
C20 คาดคะเน
5 44
F ทักษะการ
C27 เจรจาตอ่ รอง

F ทกั ษะความรู้
C28 เกี่ยวกบั สนิ ค้าและ

บรกิ าร

F มีความคดิ
C36 เปน็ ระบบ

Work Shop 12 CDR (Competency Development Roadm

ตารางที่ 14 CDR (Competency Development Roadmap)

ระดบั ความรูเ้ กยี่ วกับผลิตภัณฑ์ การอบรม
1 รแู้ ละเขา้ ใจรูปแบบ ประเภทของสนิ คา้ และ หลกั สตู ร
บรกิ ารในบทบาทหนา้ ของตนเอง วิทยากร
▪ อธบิ ายไดถ้ ึงรูปแบบ ประเภท รายละเอียดของ
สนิ คา้ และบริการแต่ละประเภท การอบรม
▪ แสวงหาข้อมูลตา่ งๆ ทเี่ ก่ยี วข้องกับสนิ คา้ และ หลกั สตู ร
บริการเพอ่ื เขา้ ใจความต้องการ และบรบิ ทของ วิทยากร
ลกู ค้า
▪ อธิบายไดถ้ ึงบทบาทหน้าที่ ความรบั ผิดชอบของ
ตนเองในตวั สนิ คา้ แตล่ ะประเภทและการใหบ้ รกิ าร
2 ระบุ ตอบข้อซักถาม และสบื ค้นขอ้ มลู สินคา้ และ
การให้บริการ
▪ ระบุได้ถงึ ประโยชนท์ ไ่ี ด้รบั จากการใช้สินคา้ หรอื
บรกิ ารของตน
▪ ตอบขอ้ ซักถามผู้อื่นเกย่ี วกบั สนิ คา้ และการ
ให้บรกิ ารขององค์การไดต้ ามแนวทางทถ่ี ูกต้อง
▪ สืบค้นข้อหามลู สนิ คา้ และบริการของคู่แข่ง เพือ่
หาแนวทางปฏบิ ตั ใิ ห้เกิดขอ้ ได้เปรยี บ

64

map)

10 20 70

ม (Training) การประชุม (Meeting) การปฏบิ ตั งิ านจรงิ (OJT)
: บทบาทและหนา้ ท่ี การประชมุ :แผนกพัฒนา -หนา้ ที่และความ
: นายพงศ์พนั ธ์ เถาจู ผลติ ภัณฑ์ รับผิดชอบของตวั เอง
เรื่อง : ประเภทสินคา้ และ คนสอนงาน:นายพงศ์
บริการ พนั ธ์ เถาจู

ม (Training) การเป็นพ่เี ลีย้ ง (Mentoring) การตดิ ตามแม่แบบ (Job
: เทคนิคการขาย พี่เลย้ี ง : นางสาวสภุ าพร สุข Shadow)
: ดร.เสรี วงศ์มณฑา ชีวา
แม่แบบ :
ตำแหนง่ : ผจู้ ัดการแผนก นางสาวปพชิ ญา ดว้ งกอ่ เกิด
พฒั นาผลติ ภัณฑ์
ตำแหน่ง : หัวหนา้ ฝา่ ย
เรื่อง : การแนะนำสนิ คา้ ขายและการตลาด

เร่อื งทีต่ ดิ ตาม : การ
ใหบ้ รกิ ารลกู ค้า

ระดับ ความรเู้ ก่ยี วกับผลติ ภัณฑ์ หลกั สูตร
3 วเิ คราะห์ปจั จัยสภาพแวดลอ้ ม และเสนอแนว สภาพแวดลอ้ มในก
ทางการปรับเปลีย่ นการปฏบิ ตั งิ าน
▪ วิเคราะห์ปจั จยั สภาพแวดลอ้ มตา่ งๆ ทัง้ ภายใน วิทยากร
และภายนอกทม่ี ีผลกระทบตอ่ สนิ ค้า และบริการ แจ่มจรสั
▪ เสนอแนวทางการปรับเปล่ยี นรปู แบบของสินคา้
และบริการของหน่วยงานใหเ้ หมาะสมกับ
ปัจจบุ ัน
▪ ระบไุ ด้ถงึ ขอ้ ได้เปรยี บของสินค้า และบริการของ
ตน เมื่อเปรียบเทียบกับคแู่ ข่งขนั

4 วางแผนกำหนดรูปแบบ และเสนอแผนการ การอบรม
พัฒนารูปแบบของสินค้า
▪ วางแผนและกำหนดรปู แบบ ประเภท หลักสตู ร
รายละเอียดของสินคา้ และแนวทางในการ พัฒนาผลิตภณั ฑ์
ให้บรกิ าร
วิทยากร

▪ วเิ คราะหแ์ ละประเมินความพงึ พอใจของ
ลกู คา้ เพ่ือนำข้อมลู มาพฒั นารปู แบบสินค้าและ
บรกิ าร
▪ นำเสนอแผนการปรับปรุงและพฒั นารูปแบบ
ของสนิ ค้า และบริการในหน่วยงานของตนเอง
ได้
ติดตามสถานการณ์ และวางแผนสรา้ งโอกาส
5 และหาช่องทางในตลาดสินค้าใหม่ๆ การเรียน
▪ คาดการณ์แนวและสถานการณใ์ นอนาคตท่ี
อาจสง่ ผลกระทบตอ่ สนิ ค้าและบรกิ ารของ (Self-Learning)
องค์การ https : w
เทคนิคก

(Attracting Mark

65

10 20 70
: ปจั จยั
การขาย การเป็นพเ่ี ลย้ี ง (Mentoring) การติดตามแมแ่ บบ (Job
พีเ่ ล้ียง : นางสาวสภุ าพร สุข Shadow)
: อาจารย์วิบลู ย์เพ็ญ ชวี า
ตำแหน่ง : ผู้จัดการแผนก แม่แบบ :
พัฒนาผลติ ภณั ฑ์ นางสาวปพิชญา ด้วงกอ่ เกิด
เรื่อง : การดำเนนิ งานขาย
และปจั จยั สงิ่ แวดล้อม ตำแหน่ง : หัวหน้าฝา่ ย
ขายและการตลาด

เรอื่ ง : วิธีการวเิ คราะห์
ปัจจัยสิง่ แดลอ้ มในงายขาย

ม (Training) การประชุม (Meeting) การดูงานนอกสถานท่ี
ร : เทคนิคการ การประชมุ : เรอ่ื งการ (Site Visit)
พฒั นาผลิตภัณฑ์
: นายวรรษา วิจติ ร เรื่อง: การนำข้อเสนอแนะ สถานที่ : บรษิ ทั วาตะ
จากลกู ค้ามาวิเคราะห์ ศลิ ปว์ ศิ วกรรม จำกดั

เร่อื ง : การพัฒนา
ผลิตภัณฑ์

นรูอ้ ยา่ งต่อเนื่อง การประชมุ (Meeting) การดูงานนอกสถานที่
ชื่อเรื่อง : การวางแผน (Site Visit)
www.youtube นโยบายการตลาด
การตลาดแบบดึงดูด เรอ่ื ง : การหาลกู คา้ ใหม่ สถานที่ : อู่ ST ทรัค
keting) เรอ่ื ง : การหาลกู ค้าใหม่

ระดบั ความรเู้ กีย่ วกับผลิตภณั ฑ์
▪ วางแผนการสรา้ ง และหาช่องทางในตลาด
สนิ ค้าใหม่ๆ และสรา้ งการให้บรกิ ารท่ีเหนือ
ความคาดหมาย
▪ ใหค้ ำปรกึ ษาและเสนอแนะถึงความรู้ ข้อมลู
เชิงลึกในตวั สินค้า และการให้บริการแก่
พนกั งาน

66
10 20 70

ระดับ มคี วามรู้ด้านธุรกจิ

1 อธบิ ายได้ถงึ ธรุ กิจองค์การ และบทบาทหน้าท่ี การอบรม

ของตนเอง หลักสตู ร

▪ อธิบาย ได้ถงึ ธรุ กิจขององคก์ าร เป้าหมายถึง วทิ ยากร

ธุรกิจ และนโยบายการดำเนนิ ธรุ กิจ เพญ็ แจม่ จรสั

▪ อธิบายถึงบทบาทหน้าที่ของตนเอง และความ

เชือ่ มโยงธุรกจิ ขององคก์ าร

2 นำความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการปฏิบัติงาน การอบรม

และตอบข้อซักถาม หลักสูตร

▪ นำความรู้และขอ้ มลู ทเ่ี กี่ยวข้องกบั ธรุ กิจมา ความรกู้ ับธรุ กิจ

ประยุกตใ์ ช้ในการปฏิบัตงิ าน วิทยากร

▪ ตอบข้อซักถาม ของผู้อ่ืนท่ีเก่ียวกบั ธรุ กจิ ของ เพญ็ แจม่ จรสั

องค์การ เปา้ หมายทางธรุ กจิ รูปแบบและ

นโยบายการดำเนนิ ธุรกจิ ขององค์การได้

3 วิเคราะหป์ ัจจยั สภาพแวดลอ้ ม และเสนอ การอบรม

แนวทางปรบั เปล่ียนการปฏิบัติงาน หลกั สูตร

▪ วิเคราะหป์ ัจจัยสภาพแวดล้อมต่างๆทั้งภายใน สภาพแวดล้อมท่ีก

และภายนอกท่มี ผี ลกระทบต่อการดำเนนิ ธุรกิจ ดำเนินธุรกิจ

ในหนว่ ยงานทต่ี นเองรบั ผิดชอบ วิทยากร

▪ เสนอแนวทางการปรับเปลี่ยนรูปแบบการ แดงฉ่ำ

ปฏิบัติงานของตนเองให้เหมาะสมกับการ

ดำเนินธุรกจิ

67

10 20 70
ม (Training) การติดตามแม่แบบ
ร : การดำเนินธุรกิจ การสอนงาน (Coaching) (Job Shadow)
ร : อาจารย์วิบลู ย์ เรอื่ ง : บทบาทและหนา้ ท่ี แมแ่ บบ : ผจู้ ัดการ
ของพนักงาน แผนกพฒั นาผลติ ภณั ฑ์
ม (Training) ผู้สอน : นางสาวสภุ าพร สขุ เรอื่ งที่ตดิ ตาม : การ
ร : การประยกุ ต์องค์ ชีวา เช่ือมโยง
ร : อาจารยว์ บิ ลู ย์ ตำแหน่ง : ผจู้ ัดการแผนก
พัฒนาผลิตภณั ฑ์ การติดตามแม่แบบ
(Job Shadow)
การประชุม (Meeting)
หวั ข้อ : การฝกึ อบรมใน แม่แบบ : ผจู้ ัดการ
องค์กร แผนกพฒั นาผลิตภัณฑ์
เรอ่ื ง : เปา้ หมายและ
นโยบายธรุ กจิ เรื่องท่ตี ดิ ตาม : การนำ
องค์ความรูม้ าใช้กับธุรกิจ

ม (Training) การประชมุ (Meeting) การดงู านนอกสถานที่
ร : ปจั จัย หวั ขอ้ : การฝกึ อบรมใน (Site Visit)
กระทบต่อการ องค์กร
เรอื่ ง : ผลกระทบดา้ นการ สถานท่ี : เทสโก้โลตสั
ร : อาจารย์สังคม ดำเนินธรุ กิจ เรือ่ ง : กลยุทธ์ในการ
อย่รู อดของธรุ กิจ

ระดบั มีความรดู้ า้ นธรุ กจิ

4 วเิ คราะห์ปัจจัยสภาพแวดล้อม และเสนอ การอบร

แผนพฒั นาการปฏิบัติงาน หลักสตู ร

▪ วเิ คราะห์ปัจจยั สภาพแวดลอ้ มตา่ งๆท้ังภายใน วทิ ยากร

และภายนอกทมี่ ีผลกระทบต่อการดำเนนิ ธรุ กจิ สวัสดิ์

ขององค์การโดยรวม

▪ เสนอแผนการปรับปรุงพัฒนาการดำเนินธุรกิจ

ในหน่วยงานของตนเอง

5 ติดตามสถานการณ์ และวางแผนสร้างโอกาส การอบร

▪ คาดการณ์ แนวโน้มและสถานการณ์ในอนาคต หลักสูตร

ท่ีอาจสง่ ผลกระทบต่อธุรกจิ ขององค์การ ทางธุรกจิ

▪ วางแผนการสร้างมูลค่าและโอกาสทางธุรกิจ วิทยากร

ใหก้ บั องค์การ

68

10 20 70

รม (Training) การประชุม (Meeting) การดงู านนอกสถานท่ี
ร : S.W.A.T หัวข้อ :การฝึกอบรมภายใน (Site Visit)
ร : ดร.พิมพ์แพร ศรี องค์กร
เรอ่ื ง : การวิเคราะห์ สถานท่ี : บรษิ ัท
สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด

เรื่อง : การสร้างโอกาส
ทางธรุ กิจ

รม (Training) การประชุม (Meeting) การดงู านนอกสถานที่

ร : การสร้างโอกาส หัวขอ้ : การฝกึ อบรมภายใน (Site Visit)

องค์กร สถานที่ : บรษิ ทั วาตะ

ร : นายวรรษา วจิ ิตร เรอื่ ง : แผนธุรกิจของบริษัท ศิลปว์ ศิ วกรรม จำกดั

เรื่อง : โอกาสทางธรุ กจิ

ระดับ ทักษะการเจรจาตอ่ รอง การอบรม
หลกั สตู ร
1 อธบิ ายหลักการเจรจาตอ่ รอง และเจรจากับ ตอ่ รอง
คนใกล้ชิด วิทยากร
▪ อธิบายไดถ้ งึ หลกั การ และวิธีการเจรจาตอ่ รอง จนั ทร์
▪ เจรจาต่อรองกบั เพื่อนร่วมงานทมี่ ีความสนทิ
สนมใกล้ชิดกันได้

2 อธิบายสาเหตแุ ละผลลัพธ์ และเจรจาตอ่ รอง การอบรม

ตามแนวทาง หลักสูตร

▪ อธิบายถงึ สาเหตแุ ละผลลพั ธ์ท่ีตอ้ งการเจรจา เจรจา

ตอ่ รองได้ วิทยากร

▪ เจรจาตอ่ รองกบั ผู้อืน่ ได้ตามแนวทางท่ีกำหนด จันทร์

ไวไ้ ด้อย่างเหมาะสม

3 เจรจาต่อรองโดยใชเ้ หตผุ ล สอนและให้ การอบรม

คำแนะนำแกผ่ ู้อนื่ หลกั สตู ร

▪ เจรจาตอ่ รองโดยใชเ้ หตผุ ลและยกตัวอย่าง ตอ่ รอง

ประกอบได้อยา่ งเหมาะสม วทิ ยากร

▪ สอนเทคนิคและวิธีการเจรจาต่อรองให้ผูอ้ ่ืนทั้ง จรัส

ภายในและภายนอกองค์การ

▪ ใหค้ ำแนะนำผอู้ ่นื ถึงวธิ ีการเจรจาต่อรองที่

เหมาะสม

69

10 20 70

ม (Training) การเปน็ พเี่ ล้ยี ง (Mentoring) การปฏบิ ตั งิ านจริง

ร : หลักการเจรจา ชื่อ : นางสาวปพชิ ญา ดว้ ง (OJT)

กอ่ เกดิ งานที่ปฏบิ ตั ิ : การฝึก

: คณุ ธวชั ชัย ดวง ตำแหน่ง : หัวหนา้ ฝ่ายขาย เทคนคิ การเจรจากับเพ่ือน

และการตลาด รว่ มงาน

เรอ่ื ง : การเจรจาตอ่ รอง ผู้สอน :

นางสาวปพิชญา ด้วงก่อเกิด

ม (Training) การเปน็ พีเ่ ล้ียง (Mentoring) การปฏิบัติงานจริง

ร : การวางแผนกอ่ น ชื่อ : นางสาวปพิชญา ด้วง (OJT)

กอ่ เกดิ งานทป่ี ฏิบตั ิ : การฝกึ

: คณุ ธวชั ชยั ดวง ตำแหน่ง : หวั หนา้ ฝา่ ยขาย เทคนิคการวางแผนก่อนเจรจา

และการตลาด ผสู้ อน :

เรื่อง : การวางแผนก่อนการ นางสาวปพิชญา ดว้ งก่อเกิด

เจรจา

ม (Training) การประชมุ (Meeting) การปฏิบัตงิ านจริง

ร : เทคนคิ การเจรจา หัวขอ้ : การฝึกอบรมภายใน (OJT)

องค์กร งานที่ปฏบิ ตั ิ : การ

: นายนโรดม แจม่ เรื่อง : การเจรจากบั เพื่อน เจรจาตอ่ งรองภายในองคก์ ร

รว่ มงานต่างแผนก ผู้สอน : นายนโรดม

แจม่ จรสั

ระดับ ทกั ษะการเจรจาต่อรอง การอบรม
หลักสูตร
4 กำหนดเทคนิคและวธิ ีการท่ีเหมาะสม และ พฤติกรรมส่วนบคุ
เจรจาตอ่ รองประเดน็ ระดบั หน่วยงาน ต่อรอง
▪ ปรับเปลย่ี นเทคนคิ และวธิ ีการเจรจาให้ วทิ ยากร
สอดคล้องเหมาะสมกบั บุคคล ประเดน็ และ จรัส
สถานการณ์
▪ เจรจาต่อรองประเด็นสำคัญระดบั หน่วยงาน การอบรม
โดยกอ่ ใหเ้ กิดประโยชนร์ ว่ มกันกับทุกฝ่าย หลักสูตร
(Win-Win Solution) WIN
วทิ ยากร
5 กำหนดหลยุทธ์ และเจรจาตอ่ รองประเดน็ สามคั คี
วกิ ฤต
▪ กำหนดกลยุทธแ์ ละแนวทางในการเจรจา
ต่อรองระดบั องค์การใหเ้ หมาะสมกบั บุคคล

องค์การ ประเด็นและสถานการณ์
▪ เจรจาตอ่ รองในสถานการณว์ ิกฤต (Crisis) ท่ี

ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานธรุ กจิ ของ
องค์การ
▪ วางแผนการเจรจาต่อรองเพ่ือใหผ้ ลการเจรจา
เป็นประโยชนต์ อ่ องค์การมากที่สุด

70

10 20 70
ม (Training)
ร : การวเิ คราะห์ การเปน็ พ่เี ลย้ี ง (Mentoring) การปฏบิ ตั ิงานจรงิ
คคลก่อนเจรจา
ชอ่ื : นายนโรดม แจ่มจรัส (OJT)
: นายนโรดม แจ่ม
เร่อื ง : การศกึ ษาพฤติกรรม งานทปี่ ฏิบัติ : การ

ก่อนเจรจา เจรจาตอ่ รองภายในองค์กร

ผู้สอน : นายนโรดม

แจ่มจรสั

ม (Training) การเปน็ พ่ีเลยี้ ง (Mentoring) การปฏบิ ัติงานจริง
ร : การเจรจา WIN-
ชอ่ื : นายนโรดม แจม่ จรสั (OJT)
: อาจารยส์ ุชาติ
ตำแหน่ง : กรรมการบริหาร งานท่ีปฏบิ ัติ : การ

เร่อื ง : เทคนิคการเจรจา เจรจา WIN TO WIN

WIN TO WIN ผู้สอน : นายนโรดม

แจ่มจรัส

ตำแหนง่ :

กรรมการบรหิ าร

ระดับ ทักษะการคาดคะเน

1 อธบิ ายถึงผลกระทบทางตรง และผู้ไดร้ ับ การอบรม

ผลกระทบ รวมท้ังรวบรวมขอ้ มลู ได้ หลักสตู ร
▪ อธบิ ายผลกระทบทางตรงท่ีเกิดขึ้นจากการ การคาดคะเน

ปฏบิ ตั ิงานได้ วิทยากร

▪ อธิบายได้วา่ ใครได้รบั ผลกระทบจากการ สามคั คี

ปฏิบตั ิงานของตน
▪ รวบรวมข้อมูลตามที่ไดร้ ับมอบหมายเพ่อื

นำมาใชป้ ระกอบในการคาดคะเนได้

2 อธบิ ายถงึ ผลกระทบทางอ้อม และให้คำแนะนำ การอบรม

แก่ผอู้ ืน่ ได้ หลักสตู ร
▪ อธิบายผลกระทบทางออ้ มทีเ่ กิดขน้ึ จากการ คาดคะเน

ปฏบิ ตั ิงานได้ วทิ ยากร

▪ ให้คำแนะนำ ผ้อู ่ืนถึงวธิ ีการคาดคะเนผลกระทบ สามัคคี

ที่อาจเกิดขนึ้ ในการทำงาน

3 วเิ คราะห์ นำเสนอแนวทางเลือก และอธิบาย การอบรม

ผลกระทบของหน่วยงาน หลักสตู ร
▪ วิเคราะห์ได้ถงึ ปัจจัยแวดล้อมทเ่ี กี่ยวขอ้ งและ ความสำคัญกบั กา

สัมพนั ธก์ ันกบั การดำเนนิ งานของหนว่ ยงาน วทิ ยากร

▪ นำเสนอแนวทางเลอื กการดำเนนิ งานจากขอ้ มูล สามัคคี

ทรี่ วบรวมและวเิ คราะห์ได้
▪ อธบิ ายผลกระทบทัง้ ทางตรงและอ้อมจากการ

ดำเนนิ งานของหน่วยงานได้

71

10 20 70

ม (Training) การประชุม (Meeting) การปฏิบัติงานจรงิ

ร : การหาขอ้ มลู เพือ่ หวั ขอ้ : การฝึกอบรมภายใน (OJT)

องคก์ ร งานท่ีปฏบิ ัติ : รวบรวม

: อาจารยส์ ุชาติ เรื่อง : ผไู้ ดร้ บั สว่ นได้ส่วนเสยี ขอ้ มูลเพือ่ การคาดคะเน

จากการทำงาน ผ้สู อน : นายพงศ์พนั ธ์

เถาจู

ตำแหน่ง : หัวหนา้ ฝ่าย

ผลติ

ม (Training) การประชมุ (Meeting) การปฏิบัตงิ านจรงิ

ร : ผลกระทบจากการ หวั ข้อ : การฝึกอบรมภายใน (OJT)

องค์กร งานที่ปฏิบัติ : การให้

: อาจารย์สชุ าติ เรื่อง : ผลกระทบทเี่ กดิ จาก คำแนะนำผ้อู น่ื ถงึ ผลกระทบท่ีเกดิ

การคาดคะเน จากการคาดคะเนในการทำงาน

ผู้สอน : นางสาวสโรชา

วงศว์ ิชติ

ตำแหน่ง : หัวหนา้ ฝา่ ย

บุคคล

ม (Training) การประชุม (Meeting) การปฏิบตั งิ านจริง

ร : ปจั จัยแวดลอ้ มท่มี ี หัวข้อ : การฝึกอบรมภายใน (OJT)

รทำงาน องค์กร งานทป่ี ฏบิ ัติ :

: อาจารยส์ ุชาติ เรอ่ื ง : แนวทางเลือกจาก ผลกระทบทางตรงและทางอ้อม

ข้อมูลท่ีสง่ ผลกระทบตอ่ การดำเนินงาน จากการทำงาน

ผสู้ อน : นางสาวสโรชา

วงศว์ ิชติ

ระดบั ทักษะการคาดคะเน

4 วางแผนการดำเนนิ งาน และแผนปอ้ งกัน การอบรม

ปญั หาและอุปสรรค หลักสตู ร

▪ วางแผนการดำเนินงานท่ีก่อให้เกิดประโยชน์ ป้องกนั ปัญหา

สูงสุดของหนว่ ยงานจากข้อมูลและวเิ คราะห์ วิทยากร

จากผลกระทบทีเ่ กิดข้ึน สามัคคี

▪ วางแผนปอ้ งกนั ปัญหาหรืออุปสรรคทีอ่ าจ

เกดิ ข้นึ จากการดำเนนิ งานของหน่วยงานจาก

ขอ้ มูลการวเิ คราะห์ผลกระทบทีเ่ กดิ ขน้ึ

5 กำหนดกลยุทธ์และนโยบายทีก่ ่อใหเ้ กิด การอบรม

ประโยชน์สูงสดุ ต่อองค์การ หลักสูตร

▪ อธบิ ายปัจจยั ทเี่ กยี่ วข้องกบั การดำเนินงานของ ยุทธขององค์กร

องค์การ และอธิบายผลกระทบทง้ั ทางตรง วิทยากร

ทางอ้อมจากการดำเนินธรุ กจิ องค์การ เพ็ญ แจม่ จรัส

▪ กำหนดกลยทุ ธ์และนโยบายขององค์การทมี่ ุ่ง

กอ่ ใหเ้ กดิ ผลลพั ธท์ เี่ ป็นประโยชนแ์ ก่องคก์ าร

และหลีกเลยี่ งผลกระทบทางลบทอี่ าจเกดิ ข้นึ

72

10 20 ตำแหน่ง : หวั หนา้ ฝ่าย
ม (Training) การประชุม (Meeting) บคุ คล
ร : การวางแผนและ หวั ข้อ : การฝกึ อบรมภายใน
: อาจารยส์ ชุ าติ องค์กร 70
เรอ่ื ง : การวางแผนเพ่ือ
ม (Training) ป้องกันปัญหา การปฏบิ ตั ิงานจริง
ร : การกำหนดกล (OJT)
: อาจารย์วบิ ูลย์ การประชุม (Meeting)
หัวข้อ : การฝึกอบรมภายใน งานท่ีปฏิบตั ิ : อปุ สรรค
องค์กร ทเี่ กิดจากการทำงาน
เรอื่ ง : กลยุทธ์ของธุรกจิ
ผู้สอน : นายพงศพ์ ันธ์
เถาจู

ตำแหน่ง : หัวหน้าฝา่ ย
ผลิต

การปฏิบัตงิ านจริง
(OJT)

งานท่ีปฏบิ ตั ิ :ศกึ ษา
ผลกระทบจากนโยบายทีม่ ีต่อ
องค์กร

ผู้สอน : นายนโรดม
แจ่มจรัส

ตำแหนง่ :
กรรมการบริหาร

ระดับ ความคิดเปน็ ระบบ

1 รู้ เขา้ ใจ ทฤษฎี องคป์ ระกอบพนื้ ฐานของ การอบรม

ความคิดเชิงระบบ หลักสูตร
▪ อธบิ ายทฤษฎี ความหมาย ชนิด องค์ประกอบ ระบบ

พ้ืนฐานของความคิดเชงิ ระบบ วิทยากร

▪ อธบิ ายถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ และปญั หาที่ ชมพเู วศ

เกดิ ขึน้ เพ่ือนำเสนอแนวทางแกไ้ ขต่อ

ผูบ้ งั คบั บญั ชา
▪ กลา้ เสนอความคิดเห็น และวธิ ีการทำงานใหม่ ๆ

ของตนเองในท่ปี ระชุม

2 ค้นหา แกไ้ ขปัญหาขั้นตอนการทำงาน รวมทั้ง การอบรม

คดิ หาแนวทางใหม่ ๆ ในการทำงาน หลกั สตู ร
▪ คน้ หาวธิ ีการทำงาน แนวความคิดในการแก้ไข การแก้ปัญหาในกา

ปัญหาใหมๆ่ โดยไมย่ ึดติดกบั รูปแบบการทำงาน วทิ ยากร

แบบเดมิ ชมพเู วศ

▪ แก้ปัญหาขนั้ ตอนในการทำงานทผ่ี ิดพลาด โดย

หาแนวทางใหม่ ๆ เพ่ือไมใ่ ห้ผิดพลาดซำ้ อกี
▪ แยกแยะถงึ ปัญหา อุปสรรค เหตกุ ารณ์ทีเ่ กิดขน้ึ

และปจั จัยที่ทำใหเ้ กดิ สาเหตุน้ันๆ ขึ้น

3 ยอมรับฟงั สอนสมาชิกในทีมใหม้ องภาพ การอบรม

ร่วมกัน พงึ่ พา แกไ้ ขปญั หาร่วมกันได้ หลักสตู ร

▪ ยอมรับฟงั ความคดิ เห็น หรือแนวทางใหม่ ๆ ของ ทมี

ผใู้ ต้บังคับบัญชาทีน่ ำเสนอขนึ้ วิทยากร

ชมพ

73

10 20 70
ม (Training)
ร : การคิดอย่างมี การประชมุ (Meeting) การปฏิบัติงานจริง
หวั ข้อ : การฝกึ อบรมภายใน (OJT)
: อาจารย์วชิ ติ กง องค์กร
เรื่อง : การฝกึ คิดอยา่ งมีระบบ งานที่ปฏิบัติ :อภปิ ราย
ความคิดเหน็ ตอ่ ที่ประชมุ

ผสู้ อน : นายนโรดม
แจม่ จรสั

ตำแหนง่ :
กรรมการบริหาร

ม (Training) การประชมุ (Meeting) การปฏิบัติงานจริง
ร : แนวทางเลอื ก หวั ขอ้ : การฝกึ อบรมภายใน (OJT)
ารทำงาน องคก์ ร
: อาจารย์วชิ ิต กง เรอ่ื ง : การแก้ปัญหาและ งานทีป่ ฏิบัติ :ยก
แนวทางปอ้ งกัน ประเด็นปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ 1 – 10
ประเดน็
ม (Training) การประชุม (Meeting)
ร : การทำงานเปน็ หัวข้อ : การฝึกอบรมภายใน ผสู้ อน : นายนโรดม
องคก์ ร แจม่ จรสั
ร : อาจารย์วิชติ กง เรอ่ื ง : การแก้ปญั หาเป็นทมี
พูเวศ ตำแหนง่ :
กรรมการบริหาร

การปฏิบตั งิ านจริง
(OJT)

งานทป่ี ฏบิ ัติ :การ
แก้ปญั หาของเพ่ือนจากความ
ผิดพลาด

ผสู้ อน : นายพงศพ์ ันธ์
เถาจู

ระดับ ความคิดเป็นระบบ การอบรม
หลักสูตร
▪ สอนใหส้ มาชิกในทีมมองภาพรวมร่วมกนั ของ สามัคคีในองค์กร
หน่วยงาน พง่ึ พาอาศัยกันและกนั แก้ไขปัญหา วิทยากร
ชมพูเวศ
ร่วมกัน
▪ คดิ หาวิธีการกระตุ้นใหผ้ ู้ใต้บงั คบั บัญชาเสนอแนว การอบรม
หลักสตู ร
ทางแก้ไขปัญหารว่ มกนั เพื่อปรบั ปรงุ ระบบงาน มสี ่วนร่วมในองค์ก
วทิ ยากร
4 อธิบายภาพรวมให้สมาชกิ ในทีม แชรม์ ุมมอง ชมพเู วศ
เปดิ ใจรบั ฟังความคดิ เห็นพนกั งาน
▪ อธิบายภาพรวมให้กบั สมาชิกในทีม แชรม์ มุ มอง
เปิดใจรบั ฟังความคิดเหน็ ของพนักงานทกุ คน
▪ วางแผนแกไ้ ขปัญหาในการทำงานอยา่ งเป็นระบบ
เชน่ ปัญหาท่ีถกู แกไ้ ขแล้วไมค่ วรเกิดขนึ้ ซ้ำอีก
▪ ออกแบบโครงการหรอื กิจกรรมกบั สมาชิกในทมี
เพอ่ื ให้รว่ มกนั เปล่ยี นแปลงระบบภายในองคก์ าร

5 แลกเปล่ียนทศั นะ วางแผนสรา้ งจติ สำนึกใน
พนกั งานตระหนกั ถึงความเปน็ ส่วนหนงึ่ ขององคก์ าร
▪ แลกเปลยี่ นทัศนะกบั ผู้เกย่ี วขอ้ งดว้ ยการนำ
สมมุตฐิ านของแตล่ ะฝา่ ยมาคุยกนั อย่างเปิดเผย
▪ วางแผนสร้างจติ สำนึกใหพ้ นักงานตระหนักถงึ
ความเปน็ สว่ นหน่ึงของทีม องคก์ าร ความเปน็
เจา้ ของ
▪ กำหนดแนวทางการปฏบิ ตั เิ ชิงรกุ ท่สี ามารถ
แกป้ ัญหาไดท้ นั เหตกุ ารณ์ มองเหน็ โอกาสใน

อนาคต

74
10 20 70

ม (Training) การประชุม (Meeting) การดูงานนอกสถานท่ี
ร : การสร้างความ หวั ข้อ : การฝึกอบรมภายใน (Site Visit)
องค์กร
: อาจารยว์ ิชติ กง เรื่อง : ข้อเสนอแนะและ สถานท่ี : บรษิ ทั สหวิรยิ า
ความเหน็ ของพนักงาน สติล จำกดั

ม (Training) การประชุม (Meeting) เร่อื ง : การระดมความ
ร : จิตสำนกึ ของการ หวั ข้อ : การฝกึ อบรมภายใน คดิ เหน็ และข้อเสนอแนะจาก
กร พนกั งาน
: อาจารยว์ ิชติ กง องคก์ ร
เรื่อง : ทศั นะคติของการเปน็ การติดตามแมแ่ บบ (Job
Shadow)
ผนู้ ำ
แมแ่ บบ :
กรรมการบรหิ าร

เร่ืองทต่ี ดิ ตาม : นโยบาย
เชิงรกุ และการสรา้ งโอกาส

Work Shop 13 แผนพฒั นาสมรรถนะของการดำเนนิ งาน

ตารางที่ 15 แผนพฒั นาสมรรถนะของการดำเนนิ งาน

ร ชอื่ สมรรถนะ ระดับความ
หัส จรยิ ธรรมทางธุรกิจ คาดหวัง
ความคิดสร้างสรรค์ 5
C การมุ่งเนน้ ลกู คา้ 4
C1 มุง่ ผลสัมฤทธิ์ 4
ทำงานเป็นทีม 4
C การมอบหมายงาน 5
C2 กำหนดเป้าหมาย 5
การจูงใจพนักงาน 5
C วางแผนกลยทุ ธ์ 5
C3 การมวี สิ ยั ทัศน์ 5
มคี วามรู้ดา้ นธุรกจิ 5
C 1.อธบิ ายได้ถึงธรุ กจิ องคก์ าร และบทบาทหนา้ ท่ขี องตนเอง 5
C4

C
C5

M
C1

M
C2

M
C3

M
C4

M
C5

F
C6

75

10 20 70

การอบรม (Training) การสอนงาน (Coaching) การตดิ ตามแมแ่ บบ

(Job Shadow)

▪ อธิบาย ไดถ้ ึงธุรกจิ ขององค์การ เป้าหมายถงึ ธรุ กจิ และนโยบายการ ธรุ
ดำเนินธุรกจิ วิบ

▪ อธบิ ายถงึ บทบาทหนา้ ทีข่ องตนเอง และความเช่ือมโยงธรุ กจิ ของ ธุร
องค์การ วิบ

2.นำความรไู้ ปประยุกตใ์ ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ าน และตอบข้อซกั ถาม ส
▪ นำความรแู้ ละข้อมลู ทเี่ ก่ียวข้องกบั ธุรกจิ มาประยกุ ต์ใช้ในการ ด

ปฏบิ ัตงิ าน
▪ ตอบขอ้ ซกั ถาม ของผูอ้ น่ื ทเ่ี กยี่ วกบั ธุรกิจขององคก์ าร เปา้ หมายทาง

ธุรกิจ รูปแบบและนโยบายการดำเนนิ ธรุ กจิ ขององค์การได้

3.วเิ คราะหป์ จั จัยสภาพแวดล้อม และเสนอแนวทางปรับเปล่ยี นการ
ปฏิบตั ิงาน

▪ วิเคราะห์ปัจจัยสภาพแวดล้อมต่างๆท้ังภายในและภายนอกท่ีมี
ผลกระทบตอ่ การดำเนนิ ธรุ กิจในหนว่ ยงานที่ตนเองรับผิดชอบ

▪ เสนอแนวทางการปรับเปลย่ี นรปู แบบการปฏิบตั งิ านของตนเองให้
เหมาะสมกบั การดำเนินธรุ กจิ

4.วเิ คราะหป์ ัจจัยสภาพแวดล้อม และเสนอแผนพฒั นาการปฏบิ ตั งิ าน
▪ วิเคราะหป์ จั จัยสภาพแวดลอ้ มตา่ งๆทั้งภายในและภายนอกที่มี

ผลกระทบต่อการดำเนินธรุ กิจขององคก์ ารโดยรวม
▪ เสนอแผนการปรับปรงุ พัฒนาการดำเนินธรุ กิจในหน่วยงานของตนเอง

5.ติดตามสถานการณ์ และวางแผนสรา้ งโอกาส

76

หลกั สตู ร : การดำเนนิ เร่อื ง : บทบาทและหน้าที่ แมแ่ บบ : ผู้จัดการ
รกิจ ของพนกั งาน แผนกพฒั นาผลิตภณั ฑ์

วทิ ยากร : อาจารย์ ผูส้ อน : นางสาวสภุ าพร สขุ เรื่องท่ตี ดิ ตาม : การ
บลู ยเ์ พญ็ แจม่ จรสั ชวี า เชื่อมโยง

ตำแหน่ง : ผ้จู ดั การแผนก
พัฒนาผลิตภัณฑ์

การอบรม (Training) การประชุม (Meeting) การติดตามแมแ่ บบ
หลกั สตู ร : การดำเนิน หวั ข้อ : การฝกึ อบรมภายใน (Job Shadow)
รกิจ องค์กร
วิทยากร : อาจารย์ เร่ือง : เปา้ หมายและ แม่แบบ : ผจู้ ัดการ
บูลยเ์ พญ็ แจม่ จรสั นโยบายธรุ กจิ แผนกพัฒนาผลิตภณั ฑ์

เร่อื งท่ตี ิดตาม : การ
นำองคค์ วามรู้มาใช้กบั ธรุ กิจ

การอบรม (Training) การประชมุ (Meeting) การดงู านนอกสถานที่
หลกั สตู ร : ปจั จยั หวั ข้อ : การฝึกอบรมภายใน (Site Visit)
สภาพแวดลอ้ มทีก่ ระทบต่อการ องคก์ ร
ดำเนนิ ธรุ กิจ เรื่อง : ผลกระทบดา้ นการ สถานที่ : เทสโก้โลตสั
วิทยากร :อาจารยส์ งั คม ดำเนนิ ธรุ กิจ เรื่อง : กลยทุ ธในการ
แดงฉำ่ อยู่รอดของธุรกจิ
การประชมุ (Meeting)
การอบรม (Training) การดูงานนอกสถานที่
หลกั สตู ร : S.W.A.T (Site Visit)

สถานที่ : บรษิ ัท
เซ็นทรัลพฒั นา จำกดั

เร่อื ง : การสรา้ ง
โอกาสทางธรุ กจิ


Click to View FlipBook Version