คมู่ อื ครูหนงั สือเรียน
งานสีรถยนต์
เบอื้ งตน้
สงวนลิข ิสท ์ธิ สำ� ันก ิพมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) ำจ�กัด
2101-2503
GPAS มาตรฐานสากลศตวรรษที่
5 21
STEPs
เสนอแนวทางการจัดกจิ กรรม
เน้นใหผ้ เู้ รยี นสร้างความรู้
ใช้ความร้ผู ลติ ผลงาน
ใชก้ ระบวนการออกแบบการ
เรียนรแู้ บบ Backward Design
เปน็ เปา้ หมาย
คณุ ภาพรายวชิ าใหผ้ ู้เรียน
ผลติ ความรู้ ตรวจสอบ
และประเมนิ ตนเอง
ออกแบบกจิ กรรมสรา้ งวินัย
โดยใช้สถานการณจ์ รงิ
เนน้ สรา้ งสมรรถนะ
ในศตวรรษท่ี 21
ส�ำ นกั พมิ พ์ บริษัทพฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) จ�ำ กัด
คมู่ ือครูหนังสือเรียน
งานสรี ถยนต์
เบอ้ื งตน้
2101-2503
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
สงวนลิขสิทธ์ิ
ส�ำ นักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) จำ�กดั
พ.ศ. 2562
website : ส�ำ นักพิมพ์ บริษัทพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) จ�ำ กัด
1256/9 ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสติ กรงุ เทพฯ 10300
www.iadth.com โทร. 0-2243-8000 (อัตโนมัติ 15 สาย), 0-2241-8999
แฟกซ์ : ทุกหมายเลข, แฟกซอ์ ัตโนมตั ิ : 0-2241-4131, 0-2243-7666
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดคำ� น�ำ
คู่มือครูรายวิชา งานสีรถยนต์เบื้องต้น (รหัสวิชา 2101-2503) ฉบับน้ี ส�ำนักพิมพ์
บริษัทพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) จ�ำกดั จดั ท�ำขน้ึ เพอ่ื อ�ำนวยความสะดวกส�ำหรบั ครหู รือผู้สอน
ใช้เป็นแนวทางในการออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพและ
เกิดประสทิ ธิผลตามหลักสตู รประกาศนียบตั รวชิ าชพี พทุ ธศกั ราช 2556 ส�ำนักงานคณะกรรมการ-
การอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยใช้ควบคู่กับหนังสือเรียนท่ีส�ำนักพิมพ์ได้เรียบเรียงข้ึน
ตามจดุ ประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคำ� อธบิ ายรายวชิ า ซงึ่ ผา่ นการตรวจประเมนิ คณุ ภาพ
จากสำ� นักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษาเป็นท่ีเรียบร้อยแล้ว
แนวคิดส�ำคัญในการจัดท�ำคู่มือครูฉบับน้ี ส�ำนักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.)
จ�ำกัด ได้ยึดแนวคิดการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติ สร้างความรู้จากการปฏิบัติ
และนำ� ความร้ไู ปประยุกต์ใช้ในชีวิตจรงิ ได้ โดยใชก้ ระบวนการจดั การเรยี นรแู้ บบ GPAS 5 Steps
และออกแบบหน่วยการเรียนรู้แบบ Backward Design เน้นผู้เรียนแสดงออกและผลิตผลงาน
ตามภาระงาน น�ำผลงานและการแสดงออกของผู้เรียนมาใช้ประเมินผลการเรียนตามจุดประสงค์
รายวิชาในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ตลอดทั้งรายวิชา เป็นการประเมินตามสภาพจริง (Authentic
Assessment) สอดคล้องกับบริบทและการเปลี่ยนแปลงของสังคมและแนวคิดการพัฒนาคน
ในศตวรรษที่ 21 เพื่อยกระดบั คุณภาพของผู้เรียนใหส้ ูงขึ้นตามมาตรฐานสากล
ส�ำนักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จ�ำกัด ได้น�ำรูปแบบและเทคนิควิธีจัด
การเรียนรู้ตามแนวทางขา้ งต้น ไปทดลองใชก้ บั ผเู้ รียนในระดบั ต่างๆ แล้วปรากฏผลเป็นท่ีพอใจยงิ่
ผเู้ รยี นสามารถคดิ วเิ คราะห์ แกป้ ญั หา สอื่ สาร และผลติ ผลงานดว้ ยทมี งานทใี่ ชจ้ ติ ปญั ญาในระดบั สงู
ผ่านการประเมินความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และค่านิยมในทุกด้าน จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
หากผู้สอนได้ใช้คู่มือฉบับน้ีควบคู่กับหนังสือเรียนอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผู้สอนด�ำเนินกิจกรรม
การเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุตามท่ีหลักสูตรฯ ก�ำหนด ช่วยยกระดับคุณภาพ
การศกึ ษาไทยให้ทดั เทียมกบั ประเทศอืน่ ในทสี่ ดุ
ส�ำนักพมิ พ์ บรษิ ัทพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) จ�ำกัด
สารบัญ
คำ�นำ� สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด หนา้
คำ�ช้แี จง 2
4
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 25
39
ความรู้เบ้ืองต้นเกีย่ วกับงานสรี ถยนต ์ 55
75
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2
การใชป้ ืนพน่ ส ี
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3
การผสมสแี ละการเทียบส ี
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4
การพ่นสที ับหน้า
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดค�ำชแี้ จง
เพื่อให้สามารถน�ำคู่มือครูไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาควบคู่กับหนังสือเรียนท่ีส�ำนักพิมพ์
บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จ�ำกัด จัดท�ำข้ึน ผู้สอนควรได้ศึกษารายละเอียดค�ำชี้แจงการใช้คู่มือครู เพ่ือให้เกิด
ความเขา้ ใจและดำ� เนินการตามแนวทางทเ่ี สนอแนะไวใ้ นคูม่ ือครูอยา่ งถูกวิธี ซงึ่ มีรายละเอียดดังนี้
โครงสร้างและองคป์ ระกอบสำ� คญั ของค่มู อื ครู
คู่มอื ครฉู บบั นี้แบง่ โครงสรา้ งและองคป์ ระกอบของเนือ้ หาไวเ้ ปน็ 4 ส่วน ดังน้ี
สว่ นที่ 1 ส่วนน�ำ ประกอบดว้ ย
1.1 ความรคู้ วามเข้าใจเบื้องตน้ ก่อนน�ำค่มู ือครูไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน
1.2 ยทุ ธศาสตรก์ ารยกระดบั คณุ ภาพการศึกษาอาชีวศึกษาตามมาตรฐานสากลในศตวรรษที่ 21
1.3 แนวคิดหลักการการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ระดับอาชีวศึกษาโดยใช้กระบวนการจัด
การเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps ตามมาตรฐานสากลในศตวรรษที่ 21
1.4 ค�ำแนะน�ำในการน�ำค่มู ือครูไปใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน
สว่ นที่ 2 สว่ นแนะนำ� โครงสร้างของหนงั สือเรยี นท่ใี ช้คกู่ ับค่มู ือครูฉบับน้ี ประกอบดว้ ย
2.1 ค�ำอธบิ ายรายวชิ า งานสีรถยนต์เบอื้ งต้น (รหัสวิชา 2101-2503)
จดุ ประสงค์รายวชิ า เพื่อให้
1. มคี วามเขา้ ใจในการใช้เครอื่ งมือและอปุ กรณ์ความรู้พน้ื ฐานเก่ยี วกับสีพน่ รถยนต์
2. มีความสามารถในการใช้เคร่ืองมือและอุปกรณ์ การเลือกใช้วัสดุปฏิบัติงานผสมและ
เทียบสรี ถยนต์
3. มีกิจนิสัยในการท�ำงานที่ดี มีความประณีต รอบคอบ ปลอดภัย และมีจิตส�ำนึกที่ดีใน
การบำ� รุงรักษา เครอ่ื งมืออปุ กรณแ์ ละสภาพแวดลอ้ ม
สมรรถนะรายวชิ า
1. แสดงความรู้เกย่ี วกับหลกั การใช้เครือ่ งมอื อปุ กรณ์ ความรพู้ ื้นฐานเก่ียวกบั สพี ่นรถยนต์
2. ผสมสีและเทียบสีตรงตามมาตรฐานของงานสีรถยนต์
3. ใช้เครื่องมืออุปกรณ์และวัสดุงานสีรถยนต์ในการผสมสี การเทียบสี และการพ่นสีทับหน้า
รถยนต์
คำ� อธิบายรายวิชา
ศึกษาและปฏบิ ัตเิ ก่ยี วกบั การใชเ้ ครื่องมืออุปกรณแ์ ละวสั ดุงานสรี ถยนต์ การผสมสี การเทียบสี
การพ่นสที ับหน้า ความปลอดภัยในการปฏบิ ตั งิ าน
สุดยอดคู่มือครู 4
2.2 การจัดหน่วยการเรยี นรู้
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่ือง ชวั่ โมง หมายเหตุ
การเรียน สปั ดาหท์ ่ี 1-4
1 ความรเู้ บื้องต้นเกย่ี วกบั งานสีรถยนต์
28
2 การใชป้ ืนพ่นสี 28 สปั ดาหท์ ี่ 5-8
สอบกลางภาค 7 สปั ดาหท์ ี่ 9
3 การผสมสีและการเทียบสี 28 สปั ดาหท์ ่ี 10-13
4 การพน่ สที บั หน้า 28 สปั ดาหท์ ่ี 14-17
สอบปลายภาค 7 สปั ดาหท์ ี่ 18
รวมเวลาเรียน 126
ส่วนที่ 3 ขอ้ เสนอแนะแนวทางในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนรายหน่วยการเรยี นรู้ ประกอบด้วย
3.1 การออกแบบการจดั การเรียนรูร้ ายหน่วยการเรียนรดู้ ้วย GPAS 5 Steps
3.2 การบรู ณาการกจิ กรรมการเรยี นรู้
3.3 แผนการประเมนิ จดุ ประสงค์การเรียนรแู้ ละสมรรถนะประจำ� หนว่ ย
สว่ นท่ี 4 การออกแบบการเรียนรรู้ ะดับหน่วยการเรียนรแู้ ละแผนการจัดการเรียนรูร้ ายชว่ั โมง ประกอบดว้ ย
4.1 แนวทางการจัดการเรยี นรรู้ ะดบั หน่วยการเรียนรทู้ กุ หนว่ ยการเรียนรู้ครบทั้งรายวิชา
4.2 แผนการจัดการเรียนร้รู ายช่วั โมงในแต่ละหน่วยการเรียนรคู้ รบทกุ หนว่ ยการเรยี นรู้
4.3 เกณฑ์ประเมินคุณภาพ (Rubrics) ตามภาระงาน/ช้ินงาน/การแสดงออกของผู้เรียนในแต่ละ
หน่วยการเรียนร้คู รบทกุ หนว่ ยการเรียนรู้
4.4 ตัวอย่างผังกราฟิก แบบบันทึกรวบรวมข้อมูลและสรุปความรู้ความเข้าใจส�ำหรับผู้เรียนใช้ประกอบ
การเรยี นการสอนทุกหน่วยการเรียนรู้
นอกจากรายละเอยี ดท่ีกล่าวถึงในคู่มอื ครูฉบบั นแ้ี ล้ว ส�ำนักพมิ พ์ บริษัทพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) จ�ำกดั ยังได้จดั ทำ�
CD ในการเอ้อื ประโยชนแ์ กผ่ ู้สอน ดงั น้ี
ออกแบบหนว่ ยการเรียนรูท้ กุ หนว่ ยการเรียนรคู้ รบทั้งรายวชิ า
แผนการจดั การเรยี นรูร้ ายช่ัวโมงในแตล่ ะหน่วยการเรยี นรู้ครบทกุ หน่วยการเรียนรู้
เกณฑ์ประเมินคุณภาพ (Rubrics) ตามภาระงาน/ชิ้นงาน/การแสดงออกของผู้เรียนในแต่ละ
หนว่ ยการเรียนรูค้ รบทกุ หน่วยการเรยี นรู้
ตัวอย่างผังกราฟิก แบบบันทึก รวบรวมข้อมูล และสรุปความรู้ความเข้าใจส�ำหรับผู้เรียนใช้ประกอบ
การเรียนการสอนทกุ หน่วยการเรยี นรู้
5 สุดยอดคู่มือครู
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด สว่ นที่ 1 สว่ นน�ำ
1.1 ความรคู้ วามเข้าใจเบอื้ งตน้ กอ่ นน�ำคมู่ อื ครไู ปใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน
แนวคดิ ทิศทางในการจัดการเรยี นรู้เพ่อื ยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษาไทย
การศึกษาไทยในปัจจุบันยึดแนวคิดที่ว่า “การศึกษาคือชีวิต” (Education is Life) โดยมีความเชื่อว่า
“ชวี ติ ตอ้ งมกี ารเรยี นร”ู้ ตอ้ งพฒั นาทง้ั ความรู้ ความคดิ ความสามารถ และประสบการณต์ า่ งๆ ทงั้ ดา้ นศาสนา ศลิ ปะ วฒั นธรรม
ธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม สังคมศาสตร์ มนษุ ยศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเศรษฐศาสตรอ์ ยา่ งสมดุล ทง้ั น้ีเพอื่ ให้
สามารถนำ� ไปใชใ้ นการดำ� รงชวี ติ อยรู่ ว่ มกนั ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ปรชั ญาพนื้ ฐานและกรอบแนวคดิ ดงั กลา่ วจงึ มงุ่ พฒั นาชวี ติ ใหเ้ ปน็
“มนุษย์ที่สมบูรณ์ท้ังทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการด�ำรงชีวิต
สามารถอย่รู ว่ มกบั ผอู้ ืน่ ได้อย่างมคี วามสขุ ”
ดังท่ีได้บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545 และ
(ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2553 มาตรา 6 และมาตรา 7 ดังนี้
มาตรา 6 การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ ท้ังทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา
ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการด�ำรงชวี ติ สามารถอยู่รว่ มกับผูอ้ น่ื ได้อย่างมคี วามสุข
มาตรา 7 ในกระบวนการเรียนรู้ต้องมุ่งปลูกฝังจิตสำ� นึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันม ี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รู้จักรักษาและส่งเสริมสิทธิ หน้าท่ี เสรีภาพ ความเคารพกฎหมาย ความเสมอภาค และ
ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รู้จักรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมและของประเทศชาติ รวมทั้ง
ส่งเสริมศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมของชาติ การกีฬา ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภูมิปัญญาไทย และความรู้อันเป็นสากล ตลอดจน
อนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม มีความสามารถในการประกอบอาชีพ ร้จู กั พงึ่ ตนเอง มคี วามคิดริเรม่ิ สร้างสรรค์
ใฝ่รู้ และเรยี นรูด้ ว้ ยตนเองอย่างต่อเนอ่ื ง
แนวการจดั การศกึ ษา
เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามความมุ่งหมายในการจัดการศึกษาที่บัญญัติไว้ในมาตรา 6 และมาตรา 7 ตาม
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2553
ดงั ทก่ี ลา่ วถงึ ขา้ งต้น จงึ ได้มบี ทบัญญัตวิ า่ ดว้ ยแนวการจดั การศึกษาตามมาตราดังตอ่ ไปนี้
มาตรา 22 การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่า
ผเู้ รียนมีความสำ� คญั ทสี่ ดุ กระบวนการจดั การศกึ ษาตอ้ งสง่ เสริมใหผ้ เู้ รยี นสามารถพฒั นาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ
มาตรา 23 การจัดการศึกษาทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ต้องเน้น
ความสำ� คญั ทงั้ ความรู้ คณุ ธรรม กระบวนการเรยี นรแู้ ละบรู ณาการตามความเหมาะสมของแตล่ ะระดบั การศกึ ษาในเรอื่ งตอ่ ไปนี้
(1) ความรู้เรื่องเก่ียวกับตนเองและความสัมพันธ์ของตนเองกับสังคม ได้แก่ ครอบครัว ชุมชน ชาติ และสังคมโลก
รวมถึงความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของสังคมไทย และระบบการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
อนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ
สุดยอดคู่มือครู 6
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด (2) ความรู้และทักษะด้านวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทง้ั ความรู้ ความเขา้ ใจ และประสบการณ์ เร่อื งการจดั การ
การบ�ำรุงรักษาและการใช้ประโยชน์จากทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยา่ งสมดุลยั่งยืน
(3) ความรู้เก่ยี วกบั ศาสนา ศลิ ปะ วฒั นธรรม การกีฬา ภูมปิ ัญญาไทย และการประยกุ ต์ใช้ภูมิปญั ญา
(4) ความรูแ้ ละทักษะดา้ นคณติ ศาสตรแ์ ละด้านภาษา เน้นการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง
(5) ความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพและการดำ� รงชีวติ อย่างมคี วามสขุ
มาตรา 24 การจัดกระบวนการเรยี นรู้ให้สถานศึกษาและหนว่ ยงานท่เี กย่ี วขอ้ งดำ� เนินการ ดงั ตอ่ ไปน้ี
(1) จดั เนื้อหา สาระ และกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน โดยค�ำนึงถึงความแตกต่าง
ระหวา่ งบุคคล
(2) ฝกึ ทกั ษะ กระบวนการคดิ การจดั การ การเผชญิ สถานการณแ์ ละประยกุ ตค์ วามรมู้ าใชเ้ พอ่ื ปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หา
(3) จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ท�ำได้ คิดเป็น ท�ำเป็น รักการอ่าน
และเกดิ การใฝร่ ู้อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
(4) จัดการเรียนการสอนโดยผสมผสานสาระความรู้ต่างๆ อย่างได้สัดส่วนสมดุลกัน รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรม
ค่านยิ มทดี่ งี ามและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ไวใ้ นทุกวิชา
(5) ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียน และอ�ำนวยความสะดวกเพ่ือให้
ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และมีความรอบรู้ รวมทั้งสามารถใช้การวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ ท้ังน้ีผู้สอนและ
ผเู้ รยี นอาจเรยี นรู้ไปพรอ้ มกันจากสอ่ื การเรยี นการสอนและแหล่งวทิ ยาการประเภทตา่ งๆ
(6) จัดการเรียนรู้ให้เกิดได้ทุกเวลา ทุกสถานท่ี มีการประสานความร่วมมือบิดามารดา ผู้ปกครอง และบุคคล
ในชมุ ชนทุกฝา่ ย เพอ่ื รว่ มกนั พฒั นาผู้เรียนตามศกั ยภาพ
มาตรา 26 ให้สถานศึกษาจัดการประเมินผู้เรียนโดยพิจารณาจากพัฒนาการของผู้เรียน ความประพฤติ การสังเกต
พฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรม และการทดสอบ ควบคู่ไปในกระบวนการเรียนการสอนตามความเหมาะสมของ
แต่ละระดับ และรูปแบบการศึกษาให้สถานศึกษาใช้วิธีการที่หลากหลายในการจัดสรรโอกาสการเข้าศึกษาต่อ และให้น�ำ
ผลการประเมินผูเ้ รียนตามวรรคหนึง่ มาใช้ประกอบการพจิ ารณาดว้ ย
มาตรา 30 ให้สถานศกึ ษาพฒั นากระบวนการเรียนการสอนที่มปี ระสทิ ธิภาพ รวมท้ังการส่งเสรมิ ให้ผู้สอนสามารถวิจยั
เพือ่ พฒั นาการเรียนรทู้ เี่ หมาะสมกับผู้เรียนในแต่ละระดบั การศึกษา
คุณลกั ษณะ สมรรถนะ และศักยภาพผู้เรยี นท่เี ป็นสากล
การจัดการเรียนรู้ในปัจจุบัน มุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้ ความสามารถ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในศตวรรษ
ที่ 21 และเป็นไปตามปฏญิ ญาวา่ ดว้ ยการจัดการศกึ ษาของ UNESCO ได้แก่
Learning to know: หมายถึงการเรียนเพื่อให้มีความรู้ในส่ิงต่างๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อไป ได้แก่ การรู้จัก
การแสวงหาความรู้ การต่อยอดความรู้ทมี่ อี ยู่ รวมทัง้ การสร้างความร้ขู ้นึ ใหม่
Learning to do: หมายถึงการเรียนเพ่ือการปฏิบัติหรือลงมือท�ำ ซึ่งน�ำไปสู่การประกอบอาชีพจากความรู ้
ทไ่ี ดศ้ กึ ษามา รวมทง้ั การปฏบิ ตั ิเพื่อสรา้ งประโยชน์ใหส้ ังคม
7 สุดยอดคู่มือครู
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด Learning to live together: หมายถึงการเรียนรู้เพื่อการด�ำเนินชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
ท้งั การด�ำเนินชีวิตในการเรียน ครอบครัว สังคม และการทำ� งาน
Learning to be: หมายถึงการเรียนรู้เพื่อให้รู้จักตนเองอย่างถ่องแท้ รู้ถึงศักยภาพ ความถนัด ความสนใจ
ของตนเอง สามารถใช้ความรู้ความสามารถของตนเองให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม เลือกแนวทางการพัฒนาตนเอง
ตามศักยภาพ วางแผนการเรยี นตอ่ การประกอบอาชพี ทสี่ อดคล้องกับศักยภาพของตนเองได้
ท้ังนี้เพ่ือพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ ทั้งในฐานะพลเมืองไทยและพลโลกเทียบเคียงได้กับนานาอารยประเทศ โดย
มุ่งเน้นให้ผ้เู รยี นมีศักยภาพท่ีสำ� คัญ ดังน้ี
1. ความร้พู ้นื ฐานในยุคดิจทิ ลั (Digital-Age Literacy) มคี วามรพู้ ้ืนฐานท่ีจ�ำเปน็ ทางวิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์
เทคโนโลยี รูภ้ าษาข้อมูลสารสนเทศ และทัศนภาพ รพู้ หุวัฒนธรรมและมีความตระหนกั สำ� นึกระดบั โลก
2. ความสามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ (Inventive Thinking) มีความสามารถในการปรับตัว
สามารถจัดการสภาวการณ์ที่มีความซับซ้อน เป็นบุคคลท่ีใฝ่รู้ สามารถก�ำหนดหรือตั้งประเด็นค�ำถาม (Hypothesis
Formulation) เพอื่ นำ� ไปสกู่ ารศกึ ษาคน้ ควา้ แสวงหาความรู้ มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะหข์ อ้ มลู สารสนเทศ
และสรุปองค์ความรู้ (Knowledge Formulation) ใชข้ ้อมูลเพือ่ การตัดสนิ ใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อยา่ งเหมาะสม
3. ทักษะการส่ือสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Communication) ความสามารถในการรับและส่งสาร
การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด
ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเอง เพื่อแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์
ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมท้ังมีทักษะในการเจรจาต่อรองเพ่ือขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ตลอดจน
สามารถเลือกใช้วิธีการส่อื สารทม่ี ีประสทิ ธิภาพ โดยค�ำนงึ ถึงผลกระทบที่มตี ่อตนเองและสังคม
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (Life Skill) ความสามารถในการน�ำกระบวนการต่างๆ ไปใช้ใน
การด�ำเนินชีวิตประจ�ำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การท�ำงานและอยู่ร่วมกันในสังคม เข้าใจ
ความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคม สามารถจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่างๆ และน�ำไปสู่
การปฏิบัติ สามารถปรับตัวไดอ้ ยา่ งเหมาะสมนำ� ไปส่กู ารใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม การบรกิ ารสาธารณะ (Public Service)
รวมทั้งการเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก (Global Citizen)
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี (Information, Media and Technology Skills) การสืบค้นความรู้
จากแหลง่ เรยี นรู้ และวธิ กี ารทหี่ ลากหลาย (Searching for Information) เลอื กใชเ้ ทคโนโลยดี า้ นตา่ งๆ และมที กั ษะกระบวนการ
ทางเทคโนโลยีเพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การท�ำงาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ได้
อย่างถูกต้อง เหมาะสม และมคี ุณธรรม
นอกจากน้ียังมีผู้กล่าวถึงประสบการณ์จริงของผู้เรียนในยุคของการสื่อสารโลกไร้พรมแดนบนความหลากหลาย
ของพหุวัฒนธรรม การเพ่ิมพูนสมรรถนะผู้เรียนให้สามารถครองชีวิตในโลกยุคใหม่น้ี ควรประกอบไปด้วยสมรรถนะสำ� คัญ
ดังน้ี
สุดยอดคู่มือครู 8
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
1. การอยรู่ ว่ มกันในสังคมพหุวัฒนธรรม
2. การเปน็ ผนู้ �ำและมีความรับผดิ ชอบ
3. การท�ำงานเปน็ ทมี และการสือ่ สาร
4. การคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณและการแกป้ ญั หา
5. การมีส่วนรว่ มในสังคมโลกและความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม
นอกเหนือจากสมรรถนะส�ำคัญที่กล่าวถึงข้างต้นแล้ว การด�ำรงชีวิตในโลกยุคใหม่ต้องเตรียมคนให้พัฒนา
ความรู้ ทักษะ เจตคติ และค่านิยมทุกด้าน ได้แก่ การเป็นนักประดิษฐ์สร้างสรรค์ เป็นผู้ประกอบการท่ีประสบความส�ำเร็จ
เป็นคนท่ีกระตือรือร้นที่จะมีส่วนร่วม และเป็นบุคคลที่เรียนรู้ตลอดชีวิต ซ่ึงมีองค์ประกอบท่ีเป็นสมรรถนะหลักท่ีส�ำคัญ
คือความสามารถในการประดิษฐ์และสร้างสรรค์ ความสามารถในการสื่อสารในต่างวัฒนธรรม ความสามารถในการคิด
แกป้ ญั หาและคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั แนวคดิ ใหมใ่ นการพฒั นาอาชวี ศกึ ษาไทย ทต่ี อ้ งจดั การศกึ ษาเพอื่ สรา้ ง
ผปู้ ระกอบการทผี่ ลติ ผลงานอยา่ งสรา้ งสรรคไ์ รข้ ดี จ�ำกดั ดว้ ยนวตั กรรมและเทคโนโลยที ก่ี า้ วหนา้ ทนั สมยั ในโลกพหวุ ฒั นธรรม
ไร้พรมแดน
9 สุดยอดคู่มือครู
1.2 ยุทธศาสตร์การยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษาอาชีวศึกษาตามมาตรฐานสากล
ในศตวรรษท่ี 21
นโยบายการบริหารจดั การอาชีวศึกษา (นโยบาย 4 มติ ิ)
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด มิติท่ี 1 การสร้างโอกาสทางการศึกษา
มติ ทิ ี่ 2 การพัฒนาคุณภาพ ยทุ ธศาสตรก์ ารยกระดับคุณภาพการศกึ ษาอาชวี ศึกษา
ตามมาตรฐานสากลในศตวรรษที่ 21
1. สถานศึกษาอาชีวศึกษาจัดการศึกษาให้ตอบสนอง
2.1 ดา้ นคณุ ภาพผเู้ รียน ความต้องการด้านการพัฒนาคนอาชีวศึกษาทั้งในระดับประเทศ
2.1.1 เร่งยกระดับคุณภาพผู้เรียนให้พร้อมเข้าสู่ประชาคม- ภมู ภิ าคอาเซยี น และประชาคมโลก โดยใหค้ วามสำ� คญั กบั คณุ ภาพ
อาเซยี น
2.1.2 ปฏริ ปู กระบวนการเรยี นรู้ โดยยดึ ผเู้ รยี นเปน็ ศนู ยก์ ลาง ผ้สู �ำเรจ็ อาชีวศึกษาเป็นสำ� คัญ
2.1.3 ปรบั ปรงุ หลักสตู รอาชีวศกึ ษาทุกระดบั
2.1.4 ยกระดบั คณุ ภาพผเู้ รยี น โดยผลการประเมนิ ระดบั ชาติ 2. สถานศึกษาอาชีวศึกษามุ่งมั่นจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนบรรลุ
(V-Net) และการประเมนิ มาตรฐานวชิ าชีพ จดุ ประสงคแ์ ละสมรรถนะรายวชิ า และพฒั นาไปสมู่ าตรฐานวชิ าชพี
2.1.5 พัฒนาแนวทางการประเมินผูเ้ รยี นตามสภาพจริง อาชีวศึกษาในระดับมาตรฐานสากล และวิสัยทัศน์เพื่อการเรียนรู้
2.1.6 รว่ มมอื กบั ภาคเอกชนในการเรยี นการสอน และฝกึ งาน ในศตวรรษท่ี 21
ในสถานประกอบการ 3. สถานศึกษาอาชีวศึกษาปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้เน้นผู้เรียน
2.1.7 พัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้วยกิจกรรมองค์การวิชาชีพ เป็นส�ำคัญ ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล โดยประยุกต์
การบริการสังคม จติ อาสา และกฬี า ใช้ทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences: MI) และการจัด
2.2 ดา้ นคณุ ภาพครู การเรียนรู้ตามหลักการ Brain-Based Learning (BBL)
2.2.1 ก�ำหนดมาตรฐานสมรรถนะครูอาชวี ศึกษา
2.2.2 พฒั นาครโู ดยใช้เครือข่าย/สมาคมวิชาชีพ Backward Design, GPAS 5 Steps ในการสรา้ งความรใู้ นระดับ
2.2.3 พัฒนาระบบนิเทศศึกษา
2.2.4 เร่งยกระดับวทิ ยฐานะ ความคิดรวบยอดและหลักการตรงตามมาตรฐานสากลและ
2.3 ด้านคุณภาพการเรียนการสอน วสิ ยั ทัศนเ์ พอ่ื การเรยี นรูใ้ นศตวรรษท่ี 21
2.3.1 วิจยั ปฏบิ ตั ิการ เพือ่ พฒั นาระบบการเรยี นรู้สู่การเป็น 4. สถานศึกษาอาชีวศึกษาเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โดยใช้
ผปู้ ระกอบการ แผนการสอนตามแนวทางการออกแบบการเรียนรู้ Backward
2.3.2 สง่ เสรมิ การพัฒนานวัตกรรมของผเู้ รยี นและผูส้ อน Design, GPAS 5 Steps และการประเมนิ ตามสภาพจรงิ ด้วยมิติ
คุณภาพโดยใช้เกณฑ์ Rubrics เพ่ือให้เป็นยุทธศาสตร์ประจ�ำ
2.3.3 ส่งเสริมนวตั กรรมการจดั การอาชวี ศกึ ษา ห้องเรียน
- โรงเรียนเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ (Project 5. สถานศึกษาอาชีวศึกษาส่งเสริมการน�ำนวัตกรรมการจัดการ
Based Learning และการประดิษฐค์ ดิ คน้ )
- วิทยาลัยเทคนิคมาบตาพุด (Constructionism) อาชีวศึกษามาใช้ ได้แก่ การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน
- วิทยาลัยการท่องเทยี่ วถลาง (Project Based Learning) และการใช้ปัญหาเป็นฐาน
2.3.4 จัดการเรียนการสอน English Program และ (Problem Based Learning) เพ่ือเนน้ การสรา้ งนวัตกรรมใหม่ๆ
Mini English Program ดา้ นอาชวี ศึกษา และการบ่มเพาะค่านิยมหลัก 12 ประการ ผ่านโครงงาน และ
2.3.5 นำ� ระบบ ICT มาใชเ้ พื่อการเรยี นการสอน สร้างความรู้ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ
2.4 ดา้ นคุณภาพสถานศกึ ษา ทเ่ี ปน็ รปู ธรรม
“ปรับการเรียน เปลี่ยนการสอน ปฏิรูปการสอบ ให้ทันกับ 6. สถานศึกษาอาชีวศึกษาสร้างวัฒนธรรมการสร้างความรู้
ยุคสมัยอยา่ งมีคณุ ภาพ” (Knowledge Management: KM) ท้ังในระดับผู้เรียน ระดับ
ผู้สอน และระดับผู้บริหาร เพื่อพัฒนาสถานศึกษาอาชีวศึกษา
มิติท่ี 3 การสรา้ งประสิทธภิ าพในด้านการบริหาร เป็นชุมชนแหง่ การเรียนรแู้ บบมืออาชีพ (Professional Learning
จัดการ Community) ที่สอดคล้องกบั มาตรฐานสากล และวิสยั ทัศน์เพ่อื
มติ ทิ ี่ 4 ความร่วมมือในการจัดการอาชวี ศกึ ษา การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
สุดยอดคู่มือครู 10
1.3 แนวคดิ หลกั การการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนร้รู ะดับอาชวี ศึกษา
โดยใช้กระบวนการจัดการเรยี นรู้ GPAS 5 Steps ตามมาตรฐานสากลในศตวรรษท่ี 21
กระบวนการพัฒนาผู้เรียนสู่คุณภาพในศตวรรษที่ 21 ตามมาตรฐานสากล กระบวนการเรียนรู้แบบ
GPAS 5 Steps การจดั การเรียนรทู้ เ่ี นน้ การพัฒนาทักษะการคิดและสร้างความรู้โดยผูเ้ รียน
ดังได้กล่าวถึงแล้วในตอนต้นว่าโลกยุคใหม่ต้องเตรียมคนให้พัฒนาท้ังความรู้ ทักษะ เจตคติ และค่านิยม
อย่างสมดุลทุกด้านเพื่อการด�ำเนินชีวิต ด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพ และอยู่ร่วมในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์
ย่ังยืน มีกระบวนการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และริเร่ิมผลิตผลงานด้วยเจตคติ
และค่านิยมเพ่ือความยั่งยืนของโลก จึงเป็นเป้าหมายส�ำคัญในการพัฒนาผู้เรียน โดยเฉพาะงานอาชีวศึกษาท่ีต้องสร้างคน
เพื่อการแข่งขันในโลกอาชีพ ส�ำนักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จ�ำกัด ได้น�ำนวัตกรรมกระบวนการจัดการ
เรียนรทู้ ีเ่ น้นกระบวนการคิด การสรา้ งความรู้ และการนำ� ความรูไ้ ปใช้ผลติ ผลงานด้วยค่านยิ มเพือ่ สังคม เพอื่ โลกสอดคล้อง
กบั การเรยี นรูใ้ นศตวรรษท่ี 21 โดยน�ำมาใช้ในการออกแบบการจดั การเรียนรู้ พัฒนาคู่มอื ครใู นรายวิชาต่างๆ มนี วตั กรรมท่ี
เปน็ กระบวนการเรียนร้ทู ่ีน�ำมาประยกุ ตใ์ ช้ ดังนี้
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
ยทุ ธศาสตรก์ ารเรยี นรู้ 2001 ศตวรรษท่ี 21
ทกั ษะกระบวนการหรอื การรว่ มกนั เรยี นรู ้ (Participatory Learning)
รว่ มกนั ประเมนิ รว่ มกนั สรา้ งทางเลอื ก
ขอ้ ดี ขอ้ เสยี ประโยชน์ โทษ ตดั สนิ ใจเพม่ิ คณุ คา่ คาดหมายแนวโนม้
ผลตอ่ เนอ่ื ง เลอ่ื กทดี่ กี วา่ สรา้ งภาพงาน
วจิ ารณ์ สรา้ งคา่ นยิ ม
โครงสรา้ งคา่ นยิ ม โครงสรา้ งการกระทา
(Structure of Value) (Structure of Acting)
รว่ มกนั จดั ขอ้ มลู ใหม้ คี วามหมาย รว่ มกนั ปฏบิ ตั จิ รงิ
จาแนก จัดกลมุ่ หาความสมั พนั ธ์ วางแผนงาน
ความคดิ รวบยอด
(Structure of Thinking) ตดิ ตามผล ปรับปรงุ จัดระบบ
การลงมอื ทาจรงิ ใชค้ วามรู้
(Performing)
encode decode รว่ มกนั สรา้ งความรู้
คน้ พบหลกั การธรรมชาตไิ ดเ้ อง
รว่ มกนั รวบรวมขอ้ มลู ใชก้ ระบวนการคดิ สรปุ ผล
ฟัง อา่ น สงั เกต บนั ทกึ อยา่ งสอดคลอ้ งกบั ขอ้ มลู จรงิ
เรม่ิ จากสง่ิ ทเ่ี กดิ ขนึ้ จรงิ การลงมอื ทาจรงิ สรา้ งความรู้
(Experimental Approach) (Construction of Knowledge)
สรปุ รายงานผล เป้ าหมาย Portfolio 12 34 ประเมนิ ตนเอง
การเรยี นรู้ K นาสคู่ า่ นยิ ม คณุ ธรรม
P
A (Self-Regulating)
11 สุดยอดคู่มือครู
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด ทักษะการคิดและกระบวนการเรยี นรู้ GPAS
กลุ่มนักวิชาการและนักการศึกษาจากกระทรวงศึกษาธิการได้สังเคราะห์กระบวนการเรียนรู้ GPAS มาจากแนวคิด
ทางพุทธศาสนาท่ีกล่าวถึง ปัญญา 3 ด้าน ได้แก่ 1. สุตมยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการสดับรู้การเล่าเรียนหรือปัญญา
ที่เกิดจากปรโตโฆสะ 2. จินตามยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการคิดพิจารณาหาเหตุผล หรือปัญญาท่ีเกิดจากโยนิโสมนสิการ
และ 3. ภาวนามยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการฝึกอบรมลงมือปฏิบัติหรือปัญญาที่เกิดจากการปฏิบัติบ�ำเพ็ญ (พระพรหม
คุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต): 2548) และแนวคิดโครงสร้าง 3 ชั้นแห่งปัญญา (Three Story Intellect) ท่ีประกอบด้วย
การรวบรวมข้อมลู (Gathering) การจดั กระท�ำข้อมลู (Processing) และการประยกุ ตใ์ ชข้ อ้ มลู ความรู้ (Applying) (Jerry
Goldberg: 1996, Art Costa: 1997, Robin Forgarty: 1997) รวมท้ังแนวคิดการพัฒนาคนให้มีบุคลิกภาพการก�ำกับ
ตนเอง (Self-Regulating) มาสงั เคราะห์เปน็ โครงสรา้ งทกั ษะการคดิ GPAS ดังแผนภาพ
4 Self-Regulating: S การก�ำกับตนเอง
3 Applying: A การประยุกต์ใชค้ วามรู้
2 Processing: P การจดั กระท�ำขอ้ มลู
1 Gathering: G การรวบรวม คัดเลอื กข้อมูล
แผนภาพโครงสร้างทกั ษะการคดิ GPAS
จากโครงสร้างทักษะการคิดน้ี สามารถน�ำมาก�ำหนดเป็นกระบวนการพัฒนาทักษะการคิด โดยมีการก�ำกับตนเอง
(Self–Regulating) เป็นแกนในการพฒั นาทกั ษะดงั แผนภมู ิ
แผนภมู ิกระบวนการพฒั นาทกั ษะการคดิ
ความหมายของทักษะการคดิ ในโครงสรา้ ง GPAS
ทักษะการคดิ ในโครงสร้าง GPAS มที ักษะทส่ี อดคลอ้ งกับการจดั การเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21 ทศิ ทางการศึกษาไทย
และหลกั สตู รการเรียนการสอนในทุกระดบั การศกึ ษา ขอยกมาเป็นตวั อย่าง ดังนี้
ทักษะการคดิ ระดับการรวบรวมขอ้ มลู (Gathering: G) ได้แก่
1. การก�ำหนดประเด็นในการรวบรวมข้อมูล (Focusing Skill) หมายถึงการก�ำหนดขอบเขตการศึกษาและ
มุ่งความสนใจไปในทิศทางตามจุดประสงคท์ ตี่ อ้ งการศึกษาให้ชัดเจน เพ่อื ที่จะได้คดั เลอื กเฉพาะขอ้ มูลทเี่ กี่ยวขอ้ ง
อา้ งอิงพจนานกุ รมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระพรหมคณุ าภรณ์ (ป.อ. ปยตุ โฺ ต): 2548
สุดยอดคู่มือครู 12
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด 2. การสังเกตด้วยประสาทสัมผัส (Observing) หมายถึงการรับรู้และรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับส่ิงใดสิ่งหนึ่ง
โดยใช้ประสาทสัมผัสท้ัง 5 เพ่ือให้ได้รายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งน้ันๆ ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ท่ีไม่มีการใช้ประสบการณ์และ
ความคิดเหน็ ของผสู้ งั เกตในการเสนอข้อมลู ข้อมูลจากการสงั เกตมีท้ังขอ้ มลู เชงิ ปริมาณและขอ้ มลู เชิงคณุ ภาพ
3. การเข้ารหัสและบันทึกข้อมูล (Encoding & Recording) หมายถึงกระบวนการประมวลข้อมูลของสมอง
เมือ่ รับสง่ิ เรา้ จากประสาทสมั ผัสท้ัง 5 จะได้รบั การบนั ทกึ ไวใ้ นความจำ� ระยะส้ัน หากต้องการเกบ็ ข้อมลู ไวใ้ ช้ต่อๆ ไป ข้อมูลนั้น
จะตอ้ งเปลย่ี นรปู โดยการเขา้ รหสั (Encoding) เพอื่ นำ� ไปเกบ็ ไวใ้ นความจำ� ระยะยาว ซง่ึ จะสามารถเรยี กขอ้ มลู มาใชไ้ ดภ้ ายหลงั
โดยการถอดรหัส (Decoding)
4. การดึงข้อมูลเดิมมาใช้และย่อความ (Retrieving & Summarizing) หมายถึงการน�ำข้อมูลที่มีอยู่น�ำกลับมา
ใชใ้ หม่ และการจับใจความส�ำคัญของเร่อื งทีต่ ้องการสรุปแลว้ เรยี บเรยี งใหก้ ระชับครอบคลุมสาระสำ� คญั
ทักษะการคดิ ระดับการจดั กระทำ� ข้อมูล (Processing: P)
1. การจ�ำแนก (Discriminating) หมายถงึ การแยกแยะสง่ิ ต่างๆ ตามมติ ทิ กี่ �ำหนด
2. การเปรียบเทียบ (Comparing) หมายถึงการค้นหาความเหมือนหรือความแตกต่างขององค์ประกอบ
ต้งั แต ่ 2 องค์ประกอบข้นึ ไป เพอื่ ใชใ้ นการอธิบายเรอ่ื งใดเรอ่ื งหนงึ่ ในเกณฑ์เดยี วกนั
3. การจัดกลุ่ม (Classifying) หมายถึงการน�ำสิ่งต่างๆ มาแยกเป็นกลุ่มตามเกณฑ์ท่ีได้รับการยอมรับทางวิชาการ
หรอื การยอมรับโดยทั่วไป
4. การจัดล�ำดับ (Sequencing) หมายถึงการน�ำข้อมูลหรือเรื่องราวที่เกิดข้ึนมาจัดเรียงให้เป็นล�ำดับว่าอะไรมาก่อน
อะไรมาหลงั
5. การสรุปเช่ือมโยง (Connecting) หมายถึงการบอกความสัมพันธ์ท่ีเกี่ยวข้องเช่ือมโยงกันของข้อมูลอย่างมี
ความหมาย
6. การไตร่ตรองด้วยเหตุผล (Reasoning) หมายถึงความสามารถในการบอกที่มาของส่ิงใดๆ หรือเหตุการณ์ใดๆ
หรอื สิ่งท่เี ปน็ สาเหตขุ องพฤตกิ รรมน้ันได้
7. การวิจารณ์ (Criticizing) หมายถึงการท้าทายและโต้แย้งข้อสมมติฐานที่อยู่เบ้ืองหลังเหตุผลที่โยงความคิด
เหล่านั้น เพ่อื เปิดทางสูแ่ นวความคดิ อ่นื ๆ ท่อี าจเป็นไปได้
8. การตรวจสอบ (Verifying) หมายถงึ การยืนยันหรือพิสูจนข์ อ้ มลู ทีส่ ังเกตรวบรวมมาตามความถกู ตอ้ งเปน็ จรงิ
ทกั ษะการคิดระดับการประยุกตใ์ ช้ (Applying: A)
1. การใช้ความรู้อย่างสร้างสรรค์ (Creative) หมายถึงการน�ำความรู้ท่ีเกิดจากความเข้าใจไปใช้ในการสร้างสรรค์
สิง่ ใหมห่ รือแกป้ ญั หา ท่มี ีอยใู่ หด้ ีขึน้
2. การวิเคราะห์ (Analysis) หมายถึงความสามารถในการแยกแยะหลักการ องค์ประกอบส�ำคัญหรือส่วนย่อย
ตลอดจนหาความสัมพนั ธร์ ะหว่างสว่ นต่างๆ ท่ีเก่ียวข้อง
3. การสังเคราะห์ (Synthesis) หมายถึงการน�ำความรู้ท่ีผ่านการวิเคราะห์มาผสมผสานสร้างส่ิงใหม่ท่ีมีลักษณะ
ต่างจากเดิม
4. การตัดสินใจ (Decision Making) หมายถึงการพิจารณาเลือกทางเลือกต้ังแต่ 2 ทางเลือกข้ึนไป ทางเลือก
หรอื ตวั เลอื กนนั้ อาจเปน็ วตั ถสุ งิ่ ของหรอื แนวปฏบิ ตั ติ า่ งๆ เพอื่ ใชใ้ นการแกป้ ญั หาหรอื ดำ� เนนิ การเพอ่ื ใหบ้ รรลตุ ามวตั ถปุ ระสงค์
ทต่ี ้ังไว้
5. การนำ� ความรู้ไปปรบั ใช ้ (Transferring) หมายถงึ การถ่ายโอนความรู้ทีม่ ีอยไู่ ปปรับใชใ้ นสถานการณอ์ ่นื
6. การแก้ปัญหา (Problem Solving) หมายถึงการวิเคราะห์สถานการณ์ที่ยาก เพ่ือจุดประสงค์ในการแก้ไข
สถานการณ์หรือขจดั ให้ปญั หาน้นั หมดไป นำ� ไปสสู่ ภาวะที่ดีกว่าหรือมีทางออก
13 สุดยอดคู่มือครู
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด 7. การคิดวิเคราะห์วิจารณ์ (Critical Thinking) หมายถึงความสามารถในการพิจารณา ประเมิน และตัดสิน
สิ่งตา่ งๆ หรือเรอ่ื งราวทเ่ี กดิ ขึน้ ท่ีมขี อ้ สงสัยหรอื ข้อโตแ้ ย้ง โดยการพยายามแสวงหาค�ำตอบท่ีมีความสมเหตสุ มผล
8. การคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) หมายถึงความสามารถในการคิดได้อย่างกว้างไกลหลายทิศทาง
อยา่ งเป็นกระบวนการ โดยใชจ้ ินตนาการทีห่ ลากหลายเพ่อื ก่อใหเ้ กดิ ความแปลกใหมใ่ นการสร้าง ผลติ ดัดแปลงงานต่างๆ
ซึ่งจะต้องเช่ือมโยงระหว่างประสบการณ์เก่ากับประสบการณ์ใหม่ ความคิดสร้างสรรค์จะเกิดข้ึนได้ก็ต่อเม่ือผู้คิดมีอิสระ
ทางความคิด
ทกั ษะการคิดระดับการก�ำกับตนเอง (Self-Regulating: S)
1. การตรวจสอบและควบคุมการคิด (Metacognition) หมายถึงการท่ีบุคคลรู้และเข้าใจถึงความคิดของตนเอง
ไตร่ตรองก่อนกระท�ำอะไรอย่างใดอย่างหน่ึง เป็นการประเมินการคิดของตนเองและใช้ความรู้น้ันในการควบคุมหรือปรับ
การกระท�ำของตนเอง ซึ่งครอบคลุมถึงการวางแผนการควบคุมก�ำกับการกระท�ำของตนเอง การตรวจสอบความก้าวหน้า
และการประเมินผล
2. การสร้างค่านิยมการคิด (Thinking Value) หมายถึงการคดิ เพือ่ ประโยชน์ในระดบั ต่างๆ ได้แก่ เพอ่ื ประโยชนต์ น
กล่มุ ตน เพ่ือสังคมและเพอ่ื ประโยชน์ของกลุม่ และเพ่อื ประโยชน์ของประเทศชาตแิ ละโลก ทกุ องคป์ ระกอบ
3. การสร้างนิสัยการคิด (Thinking Disposition) หมายถึงลักษณะเฉพาะของการกระท�ำของคนที่มีสติปัญญา
เม่ือเผชิญหน้ากับปัญหา การตัดสินใจท่ีจะแก้ปัญหาจะไม่กระท�ำทันทีทันใดก่อนที่จะมีข้อมูลหลักฐานชัดเจนเพียงพอ
นสิ ยั แห่งการคิด คอื รูว้ ่าจะใช้ปญั ญาท�ำอยา่ งไรในการหาค�ำตอบ นสิ ยั แห่งการคดิ ท่ีดคี วรมดี ังนี้
3.1 นสิ ยั การคดิ ทด่ี ตี ้องกล้าเสี่ยงและผจญภยั (กลา้ ที่จะคดิ )
3.2 นสิ ยั การคิดทด่ี ตี ้องคิดแปลก คิดแยกแยะ ชตี้ วั ปญั หา คดิ ส�ำรวจไต่สวน
3.3 นิสยั การคดิ ท่ีดตี ้องสรา้ งค�ำอธิบายและสรา้ งความเข้าใจ
3.4 นิสยั การคดิ ท่ดี ตี ้องสร้างแผนงานและมกี ลยทุ ธ์
3.5 นสิ ยั การคิดที่ดตี ้องเปน็ การใชค้ วามระมัดระวงั ทางสติปญั ญา ใช้สตปิ ัญญาอยา่ งรอบคอบ
บนั ได 5 ขน้ั ของการจัดการเรยี นรู้ส่มู าตรฐานสากล (Five Steps for Student Development)
โรงเรียนมาตรฐานสากลได้ปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะและศักยภาพความเป็น
สากล โดยจัดเป็นหลักสูตรการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study: IS) เป็นเครื่องมือส�ำคัญของแนวคิดใน
การศกึ ษาตลอดชวี ติ มคี วามมงุ่ หมายเพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ หาความรดู้ ว้ ยตนเองเกยี่ วกบั ประเดน็ ทอ่ี ยใู่ นความตอ้ งการ
และความสนใจอย่างเป็นระบบ เป็นการเพ่ิมพูนความรู้ ความเข้าใจ อีกท้ังได้พัฒนาทักษะกระบวนการคิด ตระหนักถึง
ความส�ำคัญของกระบวนการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง และสามารถน�ำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้ การศึกษา
ค้นควา้ ดว้ ยตนเอง แบง่ เปน็ 3 สาระ ดังแผนภมู ิ
IS 3 การนำ� องค์ความรู้ไปใช้บรกิ ารสงั คม
(Social Service Activity)
IS 2 การส่อื สารและการนำ� เสนอ
(Communication and Presentation)
IS 1 การศึกษาค้นคว้าและสรา้ งองคค์ วามรู้
(Research and Knowledge Formulation)
แผนภมู ิการจัดหลกั สตู รการเรียนรู้ การศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเอง (Independent Study: IS)
สุดยอดคู่มือครู 14
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด IS 1 การศกึ ษาค้นควา้ และสรา้ งองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formulation) เป็นสาระที่มุ่งให ้
ผู้เรียนก�ำหนดประเด็นปัญหา ต้ังสมมติฐาน ค้นคว้า แสวงหาความรู้และฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสร้าง
องคค์ วามรู้
IS 2 การสือ่ สารและการน�ำเสนอ (Communication and Presentation) เปน็ สาระที่มุง่ ใหผ้ เู้ รียนนำ� ความรู้
ที่ได้รับมาพัฒนาวิธีการถ่ายทอด สื่อสารความหมาย แนวคิด ข้อมูล และองค์ความรู้ ด้วยวิธีการน�ำเสนอที่เหมาะสม
หลากหลายรปู แบบ และมปี ระสทิ ธภิ าพ
IS 3 การน�ำองค์ความรู้ไปใช้บริการสงั คม (Social Service Activity) เป็นสาระท่ีม่งุ ให้ผู้เรยี นนำ� องค์ความรู้
ประยุกต์ใช้องค์ความรู้ไปสู่การปฏิบัติหรือน�ำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม เกิดการบริการสาธารณะ (Public
Service) กระบวนการส�ำคญั ในการจดั การเรียนรู้การศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเองทงั้ 3 ระดับ (Independent Study: IS 1-3)
จัดกระบวนการเรียนรู้เป็น “บันได 5 ขั้นของการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนมาตรฐานสากล (Five Steps for Student
Development)” ไดแ้ ก่
ขนั้ ที่ 1 การตง้ั ประเดน็ คำ� ถามหรอื การตงั้ สมมตฐิ าน (Hypothesis Formulation) เปน็ การฝกึ ใหผ้ เู้ รยี นรจู้ กั คดิ
สังเกต ตั้งค�ำถามอย่างมีเหตุผลและสร้างสรรค์ ซึ่งจะส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ในการตั้งค�ำถาม (Learning to
Question)
ขน้ั ที่ 2 การสืบค้นความรู้จากแหลง่ เรยี นรูแ้ ละสารสนเทศ (Searching for Information) เป็นการฝึกแสวงหา
ความรู้ ข้อมูล และสารสนเทศจากแหล่งเรียนรู้อย่างหลากหลาย เช่น ห้องสมุด อินเทอร์เน็ต หรือจากการปฏิบัติทดลอง
เปน็ ต้น ซึ่งสง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรียนเกดิ การเรียนรูใ้ นการแสวงหาความรู้ (Learning to Search)
ขัน้ ท่ี 3 การสร้างองค์ความรู้ (Knowledge Formulation) เปน็ การฝกึ ให้น�ำความรู้ ข้อมูล และสารสนเทศท่ไี ด้
จากการแสวงหาความรู้มาอภปิ ราย เพือ่ นำ� ไปสู่การสรปุ และสรา้ งสรรคอ์ งคค์ วามรู้ (Learning to Construct)
ข้ันท่ี 4 การสอ่ื สารและการน�ำเสนออย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Communication) เป็นการฝึกใหผ้ เู้ รียน
น�ำความรทู้ ไี่ ด้มาสอื่ สารอย่างมีประสิทธภิ าพ ซง่ึ จะสง่ เสริมใหผ้ ู้เรียนเกิดการเรยี นรู้และมที ักษะในการส่อื สาร (Learning to
Communicate)
ขน้ั ท่ี 5 การบริการสังคมและจติ สาธารณะ (Public Service) เปน็ การนำ� ความรูส้ ู่การปฏบิ ัติ ซึง่ ผู้เรียนจะตอ้ ง
เช่ือมโยงความรู้ไปสู่การสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและชุมชนรอบตัวตามวุฒิภาวะของผู้เรียน ซึ่งจะส่งเสริมให้ผู้เรียน
มจี ติ สาธารณะและบริการสงั คม (Learning to Serve)
จากแนวคดิ การพฒั นาทกั ษะการคิด GPAS และการเรียนรู้ด้วยตนเอง IS 5 Steps ทีก่ ลา่ วถึงข้างต้น สำ� นักพมิ พ ์
บริษทั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) จ�ำกดั ได้น�ำมาสังเคราะห์หลอมรวมเปน็ การจัดกระบวนการเรียนรทู้ ี่พฒั นาทกั ษะการคดิ
เน้นผู้เรียนสร้างความรู้ ใช้ความรู้ผลติ ผลงาน เปน็ กระบวนการเรยี นรูแ้ บบ GPAS 5 Steps ดงั น้ี
Step 1 Gathering (ขั้นรวบรวมขอ้ มลู )
Step 2 Processing (ขัน้ คิดวิเคราะห์และสรุปความร)ู้
Step 3 Applying and Constructing the Knowledge (ขั้นปฏบิ ัตแิ ละสรุปความรหู้ ลงั การปฏบิ ตั ิ)
Step 4 Applying the Communication Skill (ข้นั ส่อื สารและนำ� เสนอ)
Step 5 Self–Regulating (ข้ันประเมินเพอื่ เพิ่มคุณค่าบริการสงั คมและจิตสาธารณะ)
15 สุดยอดคู่มือครู
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดสรุปได้ดงั แผนภมู ิดงั น้ี
การนำ� กระบวนการเรยี นรู้ GPAS 5 Steps ไปใชใ้ นการออกแบบการเรยี นรู้
กระบวนการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps สอดคลอ้ งกับทฤษฎพี ัฒนาการทางเชาวป์ ญั ญาของเพียเจต์ (Jean Piaget)
และของวีก๊อทสกี้ (Semyonovich Vygotsky) เป็นรากฐานส�ำคัญของทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism)
ท่ีเน้นการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนคิดลงมือท�ำและสรุปความรู้ด้วยตนเอง โดยการปะทะสัมพันธ์กับประสบการณ์ต่างๆ และมี
การแลกเปลย่ี นเรียนรู้ ทำ� ใหผ้ ูเ้ รยี นมขี ้อมูลและมมุ มองหลากหลาย น�ำไปสู่การปรบั โครงสรา้ งความรู้ ความคดิ รวบยอด หรอื
หลักการส�ำคัญที่ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study) เป็นแนวทางท่ีตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล
ทั้งในแง่ความสนใจ ประสบการณ์ วิธีการเรียนรู้ และการให้คุณค่าความรู้ที่ผู้เรียนแต่ละคนสร้างขึ้นอย่างมีความหมาย
เพื่อน�ำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ชุมชน และสังคมโลก การเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เป็นกระบวนการ
“Acting on” ไม่ใช่ “Taking in” กล่าวคือเป็นกระบวนการท่ีผู้เรียนจะต้องจัดกระท�ำกับข้อมูลไม่ใช่เพียงรับข้อมูลเข้ามา
และนอกจากกระบวนการเรียนรู้จะเป็นกระบวนการปฏิสัมพันธ์ภายในสมอง (Internal Mental Interaction) แล้วยังเป็น
กระบวนการทางสังคมอีกด้วย การสร้างความรู้จึงเป็นกระบวนการทั้งด้านสติปัญญาและสังคมควบคู่กัน การเรียนการสอน
ต้องเปล่ียนจาก “Instruction” ไปเป็น “Construction” คือเปล่ียนจาก “การให้ความรู้” เป็น “การให้ผู้เรียนสร้างความรู ้
ใช้ความรู้ผลิตผลงาน” ซ่ึงการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับแนวคิดน้ี คือการออกแบบการเรียนรู้แบบ Backward
Design แบง่ เปน็ 3 ข้ันตอน คอื
ขัน้ ตอนที่ 1 ก�ำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ท่ีสะท้อนผลการเรียนรู้ ซึ่งบอกให้ทราบว่าต้องการให้ผู้เรียนรู้อะไร และ
สามารถท�ำอะไรไดเ้ มือ่ จบหนว่ ยการเรียนรู้
สุดยอดคู่มือครู 16
ขัน้ ตอนที่ 2 กำ� หนดหลกั ฐาน รอ่ งรอยการเรยี นรทู้ ชี่ ดั เจนและแสดงใหเ้ หน็ วา่ ผเู้ รยี นเกดิ ผลการเรยี นรตู้ ามเปา้ หมาย
การเรยี นรู้
ขัน้ ตอนที่ 3 ออกแบบกระบวนการ/กจิ กรรมการเรียนรู้ที่ชว่ ยพฒั นาผู้เรียนใหม้ ีคณุ ภาพตามเปา้ หมายการเรยี นรู้
(รายละเอียดไดเ้ สนอแนะไวใ้ นค�ำแนะนำ� ในการนำ� คู่มือครไู ปใชใ้ นการจัดการเรียนการสอน)
การประเมินตามสภาพจรงิ (Authentic Assessment)
การประเมินผลตามสภาพจริงเป็นทางเลือกหนึ่งในการประเมินผลการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
และปฏิบัติจริง สามารถน�ำไปสู่การพัฒนาผู้เรียนอย่างแท้จริง สามารถประเมินความสามารถทักษะการคิดขั้นสูงที่ซับซ้อน
ตลอดจนความสามารถในการแก้ปัญหาและการประยุกต์ใช้ความรู้ในการผลิตผลงานช้ินงานต่างๆ ได้ วิธีการประเมินผล
ดงั กลา่ วเปน็ การประเมนิ ผลเชงิ บวกเพอ่ื คน้ หาความสามารถ จดุ เดน่ และความกา้ วหนา้ ของผเู้ รยี น รวมทงั้ ใหค้ วามชว่ ยเหลอื
แก่ผู้เรียนในจุดที่ต้องพัฒนาให้สูงข้ึนตามศักยภาพ เป็นเครื่องมือประเมินผลที่มีประสิทธิภาพท่ีใช้ในการประเมินผล
เพื่อพัฒนาผู้เรียน (Formative Evaluation) หรืออีกนัยหน่ึงเรียกว่า Assessment for Learning รวมท้ังสามารถใช้ใน
การประเมินผลรวม (Summative Evaluation) หรือ Assessment of Learning ในสถานการณ์การเรียนการสอนที่
ใกลเ้ คียงชีวติ จริง
การประเมินผลตามสภาพจริงจะมีความต่อเนื่องในการให้ข้อมูลเชิงคุณภาพที่เป็นประโยชน์ต่อผู้สอนได้ใช้เป็น
แนวทางการจัดกิจกรรมการสอนให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลได้ และท่ีส�ำคัญมีการจัดการเรียนการสอนจากแนวคิดท่ี
เปล่ยี นไปจากเดิมไปสู่การจัดการเรียนการสอนแบบใหม่ ดงั ตารางตอ่ ไปนี้
ตารางเปรียบเทียบกระบวนการเรยี นการสอนจากแนวคดิ เดิมและแนวคิดใหม่
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
แนวคิดเดมิ แนวคดิ ใหม่
1. วางแผนโดยยดึ พฤติกรรมเป็นหลกั 1. วางแผนจากสิ่งท่ีผู้เรียนอยากรู้และอยากท�ำ
2. สอนไปตามหัวข้อของเนอ้ื หา
3. มีจุดประสงคก์ วา้ งๆ ในกรอบของหน่วยการเรียนรู้
4. มกั เน้นเพยี ง 1-2 สมรรถภาพและวิธกี ารเรยี น 2. เกิดการเรียนร้ทู ี่ลกึ ซงึ้
5. ผสู้ อนเปน็ ผ้ดู �ำเนนิ การ 3. มจี ดุ ประสงค์ท่ชี ัดเจน
6. ยดึ ตำ� ราเรียนเปน็ หลัก 4. ใชส้ มรรถภาพและวิธกี ารเรยี นที่หลากหลาย
7. ใชก้ ฎเกณฑ์บังคับเสมอๆ 5. ผู้เรียนมีความต้องการเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด
8. ภาระงานและกระบวนการถูกแบ่งเปน็ สว่ นยอ่ ย
9. ผูเ้ รยี นปฏบิ ตั ิงานโดยไมท่ ราบจุดมงุ่ หมายท่ชี ัดเจน การศกึ ษาและการเรียนรู้
10. ประเมินผลครั้งเดียวเมอื่ จบบทเรยี น 6. ใช้แหลง่ การเรียนรู้
11. ผู้สอนเป็นผูป้ ระเมิน 7. สนองความตอ้ งการของผูเ้ รียนอยา่ งเหมาะสม
12. ผู้สอนร้เู กณฑก์ ารประเมินแต่ผู้เดียว 8. ภาระงานและกระบวนการรวมอยู่ดว้ ยกนั
13. ประเมนิ ผลเฉพาะภาคความรู้ 9. ผ้เู รยี นปฏิบัตงิ านโดยมจี ดุ มุ่งหมายทชี่ ัดเจน
10. ประเมินผลตลอดเวลาต้ังแต่เร่ิมปฏิบัติจนส้ินสุด
ภาระงาน
11. ผเู้ ชยี่ วชาญเรื่องน้นั เป็นผู้ประเมิน
12. ผู้สอนและผูเ้ รียนรเู้ กณฑก์ ารประเมินท้งั สองฝา่ ย
13. ประเมนิ ผลทง้ั ความรู้ ความเขา้ ใจ และกระบวนการ
ทผ่ี เู้ รียนนำ� ความรตู้ ่างๆ มาประยกุ ตใ์ ช้
อ้างองิ จาก Kentucky Department of Education, 1998 “How to Develop a Standard-Based Unit of Study” p3.
17 สุดยอดคู่มือครู
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด การประเมินตามสภาพจริงเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งส�ำหรับการวัดและการประเมินผล ซึ่งเข้ามามีบทบาททดแทน
แบบทดสอบมาตรฐานซ่ึงส่วนใหญ่เป็นแบบทดสอบเลือกตอบที่ไม่สามารถวัดและประเมินผลความรู้และทักษะได้ ลักษณะ
สำ� คัญของการประเมนิ ตามสภาพจริงมอี งคป์ ระกอบส�ำคัญดงั นี้
1. เป็นงานปฏิบัติท่ีมีความหมาย (Meaningful Task) งานที่ให้ผู้เรียนปฏิบัติต้องเป็นงานท่ีสอดคล้องกับ
ชีวติ ประจ�ำวนั เปน็ เหตกุ ารณ์จริงมากกว่ากจิ กรรมทจ่ี ำ� ลองข้นึ เพื่อใช้ในการทดสอบ
2. เป็นการประเมินรอบด้านด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย (Multiple Assessment) เป็นการประเมินผู้เรียนทุกด้าน
ทั้งความรู้ ความสามารถ และทักษะ ตลอดจนคุณลักษณะนิสัย โดยใช้เครื่องมือที่เหมาะสมสอดคล้องกับวิธีแห่ง
การเรยี นรแู้ ละพฒั นาการของผเู้ รยี น เนน้ ใหผ้ เู้ รยี นตอบสนองดว้ ยการแสดงออก สรา้ งสรรค์ ผลติ หรอื ทำ� งาน ในการประเมนิ
ของผูส้ อนจึงตอ้ งประเมนิ หลายๆ ครง้ั ดว้ ยวธิ ีการทีห่ ลากหลายและเหมาะสม เน้นการลงมอื ปฏิบัติมากกว่าการประเมนิ ด้าน
องคค์ วามรู้
3. ผลผลิตมีคุณภาพ (Quality Products) ผู้เรียนจะมีการประเมินตนเองตลอดเวลาและพยายามแก้ไขจุดด้อย
ของตนเอง จนกระทัง่ ได้ผลงานท่ีผลติ ขึน้ อยา่ งมีคณุ ภาพ ผ้เู รียนเกดิ ความพึงพอใจในผลงานของตนเอง มกี ารแสดงผลงาน
ของผู้เรยี นต่อสาธารณชน เพ่อื เปดิ โอกาสใหผ้ อู้ ่นื ไดเ้ รยี นรแู้ ละชื่นชม จากการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน ผู้เรยี นมโี อกาส
เลือกปฏิบัติงานได้ตามความพึงพอใจ นอกจากนี้ยังจ�ำเป็นต้องมีมาตรฐานของงานหรือสภาพความส�ำเร็จของงานท่ีเกิดจาก
การก�ำหนดร่วมกันระหว่างผู้สอน ผู้เรียน และอาจรวมถึงผู้ปกครองด้วย มาตรฐานหรือสภาพความส�ำเร็จดังกล่าวจะเป็น
สงิ่ ทช่ี ว่ ยบง่ บอกว่างานของผเู้ รียนมีคณุ ภาพอยใู่ นระดบั ใด
4. ใช้ความคิดระดับสูง (Higher-Order Thinking) ในการประเมินตามสภาพจริง ผู้สอนต้องพยายามให้
ผเู้ รยี นแสดงออกหรอื ผลิตผลงานขึน้ มา ซ่ึงเปน็ ผลงานทีเ่ กิดจากการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมินทางเลือก ลงมือกระท�ำ
ตลอดจนการใชท้ กั ษะการแก้ปญั หาเมื่อพบปญั หาท่เี กิดขึ้น ซ่ึงต้องใช้ความสามารถในการคดิ ระดบั สูง
5. มีปฏิสัมพันธ์ทางบวก (Positive Interaction) ผู้เรียนต้องไม่รู้สึกเครียดหรือเบื่อหน่ายต่อการประเมิน
ผูส้ อน ผู้ปกครองและผู้เรยี นตอ้ งมีความร่วมมอื ทดี่ ตี อ่ กันในการประเมิน และการใช้ผลการประเมินแกไ้ ขปรบั ปรุงผ้เู รยี น
6. งานและมาตรฐานต้องชัดเจน (Clear Tasks and Standard) งานและกิจกรรมที่จะให้ผู้เรียนปฏิบัติ
มขี อบเขตชัดเจน สอดคลอ้ งกับจดุ หมายหรือสภาพท่ีคาดหวังความต้องการทใ่ี หเ้ กิดพฤติกรรมดังกล่าว
7. มกี ารสะทอ้ นตนเอง (Self-Reflections) ตอ้ งมกี ารเปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รยี นแสดงความรสู้ กึ ความคดิ เหน็ หรอื เหตผุ ล
ตอ่ การแสดงออก การกระทำ� หรือผลงานของตนเองวา่ ท�ำไมถึงปฏิบตั ิ ไมป่ ฏบิ ตั ิหรือท�ำไมถงึ ชอบและไมช่ อบ
8. มีความสัมพันธ์กับชีวิตจริง (Transfer into Life) ปัญหาท่ีเป็นสิ่งเร้าให้ผู้เรียนได้ตอบสนองต้องเป็นปัญหา
ท่ีสอดคล้องกับชีวิตประจ�ำวัน พฤติกรรมท่ีประเมินต้องเป็นพฤติกรรมท่ีเกิดข้ึนจริงในชีวิตประจ�ำวันท้ังท่ีสถานศึกษา
และทบี่ า้ น ดังนนั้ ผ้ปู กครองผเู้ รยี นจึงนับวา่ มีบทบาทเปน็ อย่างย่งิ ในการประเมนิ ตามสภาพจรงิ
9. เป็นการประเมินอย่างต่อเนื่อง (Ongoing or Formative) ต้องประเมินผู้เรียนอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาและ
ทุกสถานท่ีอย่างไม่เป็นทางการ ซ่ึงจะท�ำใหเ้ ห็นพฤตกิ รรมทแ่ี ท้จริง เห็นพัฒนาการ ค้นพบจดุ เดน่ และจุดด้อยของผู้เรยี น
10. เป็นการบูรณาการความรู้ (Integration of Knowledge) งานท่ีให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัตินั้น ควรเป็นงานที่ต้อง
ใช้ความรู้ ความสามารถ และทักษะที่เกิดจากการเรียนรู้ในหลายสาขาวิชา ลักษณะส�ำคัญดังกล่าวจะช่วยแก้ไขจุดอ่อนของ
การจัดการเรียนรู้และการประเมินผลแบบเดิมที่พยายามแยกย่อยจุดประสงค์ออกเป็นส่วนๆ และประเมินผลเป็นเร่ืองๆ
ดังน้ันผู้เรียนจึงขาดโอกาสที่จะบูรณาการความรู้และทักษะจากวิชาต่างๆ เพ่ือใช้ในการปฏิบัติงานหรือแก้ปัญหาที่พบ ซึ่ง
สอดคล้องกับชีวิตประจ�ำวัน หรือปัญหาน้ันต้องใส่ความรู้ ความสามารถ และทักษะจากหลายๆ วิชามาช่วยในการท�ำงาน
หรอื แก้ไขปญั หา
สุดยอดคู่มือครู 18
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด1.4 ค�ำแนะนำ� ในการนำ� คมู่ ือครูไปใช้ในการจัดการเรยี นการสอน
ส่วนประกอบของคูม่ ือครู
คู่มอื ครมู ีองค์ประกอบสำ� คัญ 3 สว่ น ดังนี้
สว่ นที่ 1 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนส�ำหรับคร ู คอื สว่ นทีน่ �ำเสนอในเอกสารฉบบั นี้ ประกอบด้วยสาระสำ� คัญ
3 รายการ คอื
1. รูปแบบเทคนิควิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้ คู่มือครูฉบับนี้น�ำเสนอ “กระบวนการจัดการเรียนรู้แต่ละหน่วย
ด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps” แต่ละ Steps น�ำเสนอข้ันตอน/วิธีด�ำเนินกิจกรรมส�ำคัญท่ีเป็นหัวใจส�ำคัญ
ของการจัดการเรียนรู้แต่ละขั้นตอนที่เน้นการเรียนรู้ตามแนวคิด “ผู้เรียนร่วมกันสร้างความรู้ด้วยกระบวนการคิดวิเคราะห ์
และลงมอื ปฏบิ ตั นิ �ำความรไู้ ปใชผ้ ลติ ผลงานและตรวจสอบตนเอง” โดยยดึ เนอ้ื หาในหนว่ ยการเรยี นรทู้ กี่ �ำหนดในหนงั สอื เรยี น
เปน็ หลัก
แต่ถ้าหนังสือเรียนหน่วยใดมีเน้ือหาสาระที่จัดให้เรียนรู้ในหลายความคิดรวบยอดแตกต่างกัน หรือจ�ำนวน
หัวเร่ืองมากจนไม่สามารถใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps ให้ครอบคลุมหัวเร่ืองทั้งหมดในหน่วยน้ันได้ จะจัด
ด�ำเนินการออกแบบการเรียนรู้แยกเป็นเรื่องๆ 2 หรือ 3 เรื่อง เพื่อใช้กระบวนการ GPAS 5 Steps ให้จบเน้ือหานั้นตาม
ความแตกต่างของความคิดรวบยอดหรือหัวข้อเรื่อง แต่จะรวมการประเมินไว้ในหน่วยเดียวกันตามต้นฉบับหนังสือเรียน
เพอ่ื ไม่ให้สับสนในการประเมนิ จดุ ประสงคป์ ระจ�ำหน่วยการเรยี นร ู้ ดังรายละเอียดในเอกสาร
2. การบูรณาการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ทุกหน่วยการเรียนรู้ได้น�ำเสนอ “การบูรณาการกิจกรรมการเรียนรู้”
ไวต้ อ่ จากคำ� แนะนำ� ในการจดั กระบวนการจดั การเรยี นรแู้ ตล่ ะหนว่ ยการเรยี นรู้ หรอื หากเนอื้ หาในหนว่ ยการเรยี นรถู้ กู แบง่ กลมุ่
หวั ขอ้ เนื้อหาเป็นหลายเร่ืองเพ่อื จัดกระบวนการเรยี นรู้แบบ GPAS 5 Steps แยกจากกนั กใ็ ห้มกี ารน�ำเสนอ “การบรู ณาการ
กิจกรรมการเรยี นรู้” ทกุ หวั ขอ้ เรือ่ ง กิจกรรมบูรณาการการเรียนร้มู หี ัวข้อสำ� คัญดังน้ี
2.1 สมรรถนะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ ความตระหนักรู้ในตน (Personal Spirit) การคิด (Thinking)
การแก้ปญั หา (Problem Solving) การทำ� งานเปน็ ทีม (Team) การสื่อสาร (Communication) และอ่ืนๆ ซ่งึ จดั บูรณาการ
เข้าไปในกระบวนการจัดกิจกรรมแต่ละขั้นตอน เช่น การให้ผู้เรียนท�ำงานและเรียนรู้เป็นกลุ่ม ผลัดเปล่ียนกันแบ่งบทบาท
หน้าท่ีให้รับผิดชอบในกลุ่ม เรียนรู้ร่วมกัน คิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และประเมินตนเอง ซ่ึงจัดไว้ในกิจกรรมการเรียนรู้
ทกุ หนว่ ยการเรียนรแู้ ลว้
2.2 การเรียนรู้สู่อาเซียน ส่วนใหญ่เน้นไปท่ีการบูรณาการค�ำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเนื้อหาที่ก�ำหนดให้ใน
หน่วยการเรียนรู้ ช่วยให้ผู้เรียนได้เพิ่มพูนความรู้ภาษาอังกฤษ และมีเจตคติที่ดีต่อการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็น
ภาษากลางที่ใช้ส่ือสารในกลุ่มประเทศอาเซียน และอาจจัดให้ศึกษาภูมิประเทศ ภูมิปัญญา ศิลปะ วัฒนธรรม การปกครอง
และงานอาชพี ของประเทศในอาเซียน ในประเด็นทสี่ อดคล้องกับเน้ือหาในหนว่ ยการเรียนรนู้ ้นั ๆ
2.3 ทักษะชีวิต เป็นการบูรณาการท้ังความรู้ในสาระที่เรียน ทักษะและค่านิยมไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงหรือ
สถานการณจ์ ำ� ลองในกจิ กรรมส่งเสริมการเรียนรู้ หรอื ประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจำ� วัน เพ่ือพัฒนาคณุ ภาพชีวิตและพฒั นาธุรกิจ
ให้ประสบความส�ำเร็จ ได้แก่ การสรา้ งมนษุ ยสัมพันธ์ การรจู้ ักตนเองและเรียนรผู้ อู้ น่ื การคดิ แกป้ ญั หาและตัดสินใจเชงิ บวก
ซ่งึ ชว่ ยพฒั นาด้วยจิตปญั ญาให้ผเู้ รียนเฉพาะสว่ นท่ีสอดคลอ้ งกับเนอื้ หาในหนว่ ยการเรยี นรู้
2.4 ค่านิยมหลัก 12 ประการ เน้นการปลูกฝังจริยธรรมค่านิยมท่ีดีงามตามลักษณะท่ีดีของคนไทย โดยเลือก
มาใช้แตล่ ะหนว่ ยการเรียนรดู้ ว้ ยการใหผ้ เู้ รียนได้ตระหนักถึงจริยธรรม ค่านิยมทเ่ี ลือกมาก�ำหนดในกระบวนการจัดกจิ กรรม
ทส่ี มั พันธ์กับเนือ้ หาในหนว่ ยที่เรยี นและกระบวนการเรียนรู้ทุกขั้นตอน
19 สุดยอดคู่มือครู
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด 2.5 กิจกรรมท้าทาย เป็นกิจกรรมเสริมความถนัด ความสนใจของผู้เรียนที่เพ่ิมเติมจากกิจกรรมในบทเรียน
ซึ่งอาจท�ำเป็นกลุ่มหรือรายบุคคลก็ได้ กิจกรรมท้าทายจะเป็นส่วนเติมเต็มความรู้ทักษะของผู้เรียน เสริมสร้างสมรรถนะ
ให้สูงขึ้นต่อเนื่องจากกิจกรรมในบทเรียน ผู้เรียนท่ีสนใจสามารถใช้เวลานอกบทเรียนปฏิบัติกิจกรรมนี้ด้วยความรับผิดชอบ
ของตน
3. แผนการประเมินจุดประสงค์การเรียนรู้และสมรรถนะประจ�ำหน่วย เป็นส่วนท่ีออกแบบไว้ส�ำหรับผู้สอนใช้ใน
การประเมินจุดประสงค์การเรียนรู้ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ เน้นการประเมินสภาพจริง (Authentic Assessment)
โดยน�ำเอาภาระงาน/ช้ินงาน/การแสดงออกของผู้เรียนท่ีปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ ตามข้ันตอนของกระบวนการ
เรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps ทส่ี อดคล้องสัมพันธก์ ับจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ในหนว่ ยการเรยี นรูแ้ ต่ละหน่วยมาก�ำหนดระดบั
คุณภาพหรือคะแนนในภาระงาน/ช้ินงาน/การแสดงออกของผู้เรียนแต่ละเร่ืองตามที่ออกแบบไว้ เพื่อสรุปผลการประเมิน
ในหน่วยการเรยี นรนู้ ้นั ดังน้ี
3.1 ภาระงาน/ชิ้นงาน/การแสดงออกของผู้เรียนระหว่างเรียน ได้แก่ ภาระงานในการรวบรวมข้อมูล
(G: Gathering) การวิเคราะห์ข้อมูลสรุปความรู้ความเข้าใจ (P: Processing และ A: Applying and Constructing
Knowledge) การน�ำเสนอผลการน�ำไปใช้และสรุปความรู้ความเข้าใจ (A: Applying & Communication Skill)
ที่เกิดขึ้น ในระหว่างปฏิบัติกิจกรรมในแต่ละข้ันตอน ส่วนใหญ่เป็นการประเมินเชิงคุณภาพจัดระดับคุณภาพไว้ 4 ระดับ
คือ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) และต้องปรับปรุง (1) และอาจให้ค่าน�้ำหนักแต่ละรายการคิดเป็นคะแนน ท้ังนี้ข้ึนอยู่กับ
ผ้สู อนจะพิจารณาเพิม่ เตมิ ใหเ้ หมาะสมกบั บริบทของการจดั การเรียนรู้
3.2 ภาระงาน/ช้ินงานรวบยอดเม่ือจบหน่วยการเรียนรู้ อยู่ในขั้นการประเมินตนเองเพ่ือเพิ่มคุณค่าบริการสังคม
และจิตสาธารณะ (S: Self–Regulating) ได้แก่ คะแนนจากผลการปฏิบัติกิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ คะแนนจากผล
การปฏิบัติกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ คะแนนจากผลการประเมินตนเอง และคะแนนจากแบบทดสอบ (ศึกษาเอกสาร
ในเลม่ ประกอบ)
สว่ นที่ 2 การออกแบบการจดั การเรยี นรรู้ ะดบั หนว่ ยการเรยี นร ู้ ในสว่ นนไ้ี ดน้ ำ� กระบวนการจดั การเรยี นรสู้ �ำหรบั ผสู้ อน
ในส่วนท่ี 1 มาขยายให้เห็นรายละเอียดในวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ชัดเจนมากข้ึน โดยประยุกต์ใช้แนวทางการออกแบบ
การเรียนรู้แบบ Backward Design ของ Grant Wiggins and Jay McTighe กำ� หนดไว้ 3 ข้นั ตอน ไดแ้ ก่
ข้ันตอนที่ 1 ก�ำหนดเป้าหมายคุณภาพผู้เรียน (Stage 1-Desired Results) ในการออกแบบการเรียนรู้ระดับ
หน่วยการเรยี นรู้ในทีน่ ไ้ี ดก้ �ำหนดเปา้ หมายคุณภาพผู้เรียนเปน็ เป้าหมายย่อยๆ ไวด้ งั นี้
1. ความคิดรวบยอด/ความเขา้ ใจท่ีคงทน
2. สาระการเรียนรู้
3. สมรรถนะประจ�ำหน่วย
4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ขั้นตอนท่ี 2 ก�ำหนดหลักฐานร่องรอยภาระงาน/ช้ินงาน/การแสดงออกของผู้เรียนส�ำหรับการประเมิน
(Stage 2-Assessment Evidence) ในทนี่ ีไ้ ด้ก�ำหนดสาระสำ� คัญในการประเมนิ ผล ไดแ้ ก่
1. วิธีประเมินท่ีสอดคล้องจุดประสงค์การเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้ ได้แก่ ภาระงาน/ช้ินงาน/การแสดงออก
ของผู้เรยี น แยกเปน็
ภาระงาน/ชิน้ งานระหวา่ งเรยี น
ภาระงาน/ช้นิ งานรวบยอดในหนว่ ยการเรียนรู้
สุดยอดคู่มือครู 20
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด 2. เกณฑ์ประเมินจุดประสงค์การเรียนรู้จากภาระงาน/ชิ้นงาน/การแสดงออกของผู้เรียนระหว่างเรียน ก�ำหนดเป็น
ระดับคุณภาพ 4 ระดับ ดังได้กล่าวแล้วข้างต้น มีค�ำอธิบายเกณฑ์การประเมินแต่ละระดับทุกจุดประสงค์การเรียนรู้ เพ่ือให้
ผู้ประเมินสามารถประเมินไดเ้ ท่ยี งตรงสอดคล้องกับความเป็นจริง ไดน้ �ำเสนอในหน่วยการเรียนรู้ทุกหน่วยอยา่ งละเอียด
ขนั้ ตอนที่ 3 ออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Stage 3-Learning Plan) ในทนี่ ไี้ ดก้ ำ� หนดกระบวนการเรยี นรทู้ เี่ นน้ ทกั ษะ
การคิด การปฏิบตั จิ ริงทผี่ ู้เรยี นเป็นผสู้ ร้างความรู้ ใช้ความรูผ้ ลิตผลงาน ด้วยกระบวนการ GPAS 5 Steps ดงั นี้
Step 1 Gathering (ขน้ั รวบรวมขอ้ มลู )
Step 2 Processing (ขัน้ คดิ วิเคราะหแ์ ละสรุปความร)ู้
Step 3 Applying and Constructing the Knowledge (ขนั้ ปฏบิ ัติและสรปุ ความรูห้ ลังการปฏิบัติ)
Step 4 Applying the Communication Skill (ข้ันส่ือสารและนำ� เสนอ)
Step 5 Self–Regulating (ข้นั ประเมินเพือ่ เพ่ิมคุณค่าบริการสงั คมและจิตสาธารณะ)
รายละเอยี ดนำ� เสนอใน CD ทีใ่ ช้ค่กู ับเอกสารฉบบั นี้
ส่วนท่ี 3 แผนการจัดการเรียนรู้ ได้จัดท�ำเป็นแผนรายชั่วโมงท่ีแสดงรายละเอียดการด�ำเนินกิจกรรมแต่ละขั้นตอน
ตาม GPAS 5 Steps ให้ชัดเจนมากขึ้น ผู้สอนสามารถปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของผู้เรียนและห้องเรียนแต่ละแห่งใน
แตล่ ะโอกาส ในแผนการจดั การเรยี นรู้ไดน้ �ำเสนอรายละเอียดดงั นี้
1. สาระสำ� คญั ของเรื่องหรือเน้อื หาทเ่ี รียน
2. ค�ำถามท่ีผู้สอนใช้ถามผู้เรียนเพ่ือกระตุ้นให้แสวงหาข้อมูล ค�ำตอบ หรือข้อสรุปด้วยตนเองในแต่ละขั้นตอน
ในชว่ั โมงสอน
3. แบบบันทึกผังกราฟิก (Graphic Organizers) ที่ให้ผู้เรียนน�ำไปใช้ในข้ันตอนต่างๆ ของการจัดการเรียนรู้ตาม
กระบวนการเรยี นรแู้ บบ GPAS 5 Steps เชน่ ผงั กราฟกิ ในการสงั เกตรวบรวมและบนั ทกึ ขอ้ มลู ผงั กราฟกิ การวเิ คราะหข์ อ้ มลู
และสรุปความรูใ้ นรปู แบบตา่ งๆ เปน็ ตน้
4. สอ่ื อปุ กรณ์และแหล่งเรียนร้สู �ำหรับผสู้ อนและผเู้ รียนทจ่ี ะหาความรู้เพิ่มเตมิ ในเน้อื หาแต่ละหน่วยการเรยี นรู้
5. กิจกรรมเสนอแนะ สำ� หรบั ผู้สอน เสริมความร้แู ละทกั ษะใหก้ ับผู้เรยี นที่มีจดุ เด่นทจ่ี ะเรียนร้ใู ห้เตม็ ตามศักยภาพ
6. บันทึกหลังสอนส�ำหรับผู้สอน ประเมินการจัดการเรียนรู้ในแต่ละแผน เป็นแบบบันทึกการประเมินเชิงระบบ
ประกอบดว้ ยหวั ขอ้ ส�ำคญั คือ
ความพร้อมกอ่ นด�ำเนินกิจกรรม (สือ่ วสั ดอุ ปุ กรณ์ การเขา้ ช้ันเรยี น พนื้ ฐานความรเู้ ดิมของผู้เรยี น)
บรรยากาศการเรยี นรู้ (ความสนใจ ปฏิสัมพันธ์ในห้อง ความราบร่ืนในการดำ� เนนิ กจิ กรรมการเรยี นการสอน)
ผลการเรียนรู้ (จ�ำนวนผู้เรียนที่มีผลงานระหว่างเรียนและผลการประเมินบรรลุวัตถุประสงค์แต่ละระดับ
ผ้เู รียนทเ่ี ปน็ ผู้นำ� ผ้เู รยี นท่ีต้องใหค้ วามสนใจเพม่ิ เติม)
แนวทางการพฒั นาในคร้ังต่อไป (สิง่ ทต่ี ้องยุติ สิง่ ท่ีน�ำมาใช้ต่อ สงิ่ ท่ตี ้องปรบั ปรงุ เพ่ิมเติม)
รายละเอียดนำ� เสนอใน CD ทใี่ ชค้ ู่กบั เอกสารฉบับน้ี
หมายเหต:ุ สว่ นท่ี 2 และสว่ นท่ี 3 ทางส�ำนกั พมิ พ์ บรษิ ทั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) จ�ำกัด ได้จดั ท�ำเป็นไฟล์เอกสาร
Word บนั ทกึ ลงในแผ่น CD ผสู้ อนสามารถคัดลอก ดัดแปลง หรอื ปรับเปล่ียนรายละเอยี ดเพอื่ น�ำไปใชใ้ น
การจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ตรงตามความต้องการ ความพร้อม และ
ความสนใจของผู้เรยี นแต่ละคนหรือแตล่ ะหอ้ งเรยี น
21 สุดยอดคู่มือครู
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดพัฒนาความ น�ำ ข้อมูลมาจำ�แนก สร้างความรขู้ ้ันสงู คอื คดิ ออกแบบ
สามารถในการ จัดกลุ่ม วเิ คราะห์ ความรรู้ ะดับคณุ ธรรม หลายๆ แบบ
เกบ็ ขอ้ มูล พสิ ูจน์ ทดลอง จริยธรรม โดยใหน้ ำ� เพ่ือสร้าง
รวบรวมขอ้ มลู จาก วจิ ยั ให้เห็นล�ำ ดับ ผลการคิดของตนเอง ทางเลือกหรือ
การฟงั การอ่าน ความส�ำ คัญและ มาไตรต่ รองว่าวิธีคดิ เพือ่ หาวิธี
การดงู าน การส�ำ รวจ ความสมั พันธ์ ดงั กลา่ วจะนำ�ไป หลายๆ วธิ ี
การสัมภาษณ์ เชื่อมโยง ใหร้ วู้ ่า สผู่ ลส�ำ เรจ็ หรือไม่ ทีจ่ ะนำ�ความรู้
การไปดเู หตกุ ารณ์ อะไรคอื ปัญหา ส่งประโยชน์ถึงสงั คม ไปปฏบิ ัติให้
หรอื สถานการณ์ ทีแ่ ทจ้ รงิ อะไรคอื สาธารณะ และ เต็มศักยภาพ
ท่ีเกดิ ขน้ึ จรงิ เพอ่ื น�ำ สาเหตทุ ่ีนำ�สู่ ส่งิ แวดลอ้ มหรอื ไม่ และงดงาม
ขอ้ มูลไปจัดกระท�ำ ปัญหา ผลกระทบ ถ้าไมถ่ ึงจะปรับ และน�ำ ผลไปสู่
ให้เกิดความหมาย ของปัญหา ตรงไหน อยา่ งไร ความส�ำ เรจ็
ผ่านกระบวนการ วธิ แี กป้ ญั หา จึงจะเป็นไปตาม แบบคงทน
คดิ วเิ คราะห์ แนวทางปอ้ งกนั วตั ถปุ ระสงค์ จึงกล้า อยา่ งมีล�ำ ดับ
สาเหตไุ ม่ให้ วิจารณ์ กล้าเสนอแนะ ขั้นตอน เพ่อื การ
ข้อมูล เกดิ ขน้ึ และ อย่างสร้างสรรค์ ตรวจสอบท่มี ี
น�ำ สปู่ ัญหา รับฟังข้อเสนอแนะ ประสทิ ธิภาพ
ขอ้ วจิ ารณ์ จากเพื่อน และแกป้ ัญหาใน
ครู พ่อแม่ อยา่ งมี แตล่ ะข้ันตอนได้
เหตุผล ทบทวน ตรงวตั ถุประสงค์
ปรับปรุงด้วยความยินดี
มคี ่านิยมในความเป็น
ประชาธิปไตยเสมอ
สวังิเเคครราาะะหห์ ์ ประเมแนิ ผนกGาPรทAสาสอSงรเน้าล–งอื คกBมู่ ือacคkรู
คณุ ภาพครอบคลุมการสอนแบบเน้นผูเ้ รยี นเป็นสำ�คัญ แบบสร้าง
แบบพัฒนาพหปุ ัญญา แบบทักษะกระบวนการทาง
สรปุ รายงานผล ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั Portfolio
สุดยอดคู่มือครู 22
สามารถคดิ สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดก่อนลงมอื ปฏิบัติการปฏิบตั ทิ ดี่ จี งึ ตอ้ งปฏบิ ัติดร.ศกั ดสิ์ นิ โรจนส์ ราญรมย์
ตัดสินใจเลอื ก น�ำ แนวคิดและ ตามแผนทีว่ างไว้ ผ่าน
แนวทางหรอื ตัดสนิ ใจมาจดั การวเิ คราะห์ การไตรต่ รอง เมอ่ื งานส�ำ เรจ็ รู้จัก
วิธที ด่ี ที ีส่ ุดที่ ลำ�ดบั ข้นั ตอน ไว้อย่างดแี ล้ว การปฏบิ ัติ ประเมนิ งานท้งั ดว้ ย
น�ำ ไปสคู่ วาม การทำ�งาน จริงจึงเปน็ การพัฒนา เหตุผลควบคู่กับการ
ส�ำ เรจ็ ได้จริง เพอื่ สามารถ การทำ�งานรว่ มกับผู้อ่นื หรอื ประเมนิ ตนเองเสมอ
น�ำ ประโยชน์ ด�ำ เนนิ งานไป ท�ำ งานเป็นทมี ทตี่ ้องมีการ ถา้ กระบวนการนัน้
ไปสสู่ งั คม ตามแผนการคดิ จัดการแบง่ งานใหต้ รงตาม น�ำ ไปสู่ผลจริง กจ็ ะ
สาธารณะ ทผ่ี า่ นการ ความถนัด แชรค์ วามคดิ น�ำ กระบวนการนน้ั
สง่ิ แวดลอ้ ม ไตรต่ รองมา ประสบการณ์ ร้จู ักรับฟงั ไปพฒั นาหรอื
เปน็ วธิ ีที่ อยา่ งดีแล้ว และ รจู้ ักเสนอแนะ มคี า่ นยิ ม ท�ำ งานในกล่มุ สาระ
คมุ้ คา่ เพือ่ พสิ ูจน์ให้ แสดงออกเป็นประชาธปิ ไตย อน่ื ๆ เพ่ือให้ไดง้ าน
ตัง้ อยบู่ น เห็นวา่ ส่ิงท่ีคิด รู้จกั อดทน ขยนั รับผิดชอบ ทม่ี คี ุณภาพและ
หลักการของ ไว้เมอื่ นำ�ไป ในหนา้ ทกี่ ารท�ำ งานหรอื คุณค่าเพิม่ ขนึ้ เสมอ
ปรชั ญา ปฏบิ ัตจิ ริงแลว้ การปฏบิ ตั ิ ม่งุ หวังเพอื่ ให้ ขัน้ ตอนใดทม่ี ีจุดอ่อน
เศรษฐกจิ สามารถด�ำ เนนิ ได้งานท่ีดขี น้ึ เพอื่ ประโยชน์ ก็ตอ้ งปรับปรุง
พอเพียง การไดต้ าม ของสงั คมสว่ นรวมทกี่ วา้ งไกล ให้ดียิ่งขน้ึ เม่ือได้
ท่คี ดิ ไว้หรอื ไม่ ข้ึน ค�ำ นึงถึงผลกระทบ กระบวนการที่ดแี ลว้
ตัดสนิ ใจ เพอ่ื น�ำ ไปสู่ ต่อสาธารณะและสง่ิ แวดล้อม ก็สรุปกระบวนการ
การแกป้ ญั หา มากยง่ิ ขึน้ อกี ท้ังยังน�ำ กรอบ นนั้ ใหเ้ ป็นหลักการ
และพัฒนาการ ความคิดมาปฏิบัตเิ พ่อื พัฒนางานท่ดี ขี อง
เก็บข้อมลู และ การออกแบบ สรา้ งนวตั กรรม ตนเอง เป็นเคร่อื งมอื
การคิดตอ่ ไป ดว้ ยสือ่ เทคโนโลยไี ด้อยา่ ง การเรยี นรู้
ทัดเทยี มกบั ความเป็นสากล ใชเ้ รียนร้ขู ้อมูลได้
ทกุ โอกาสทว่ั โลก
วางแผน ลงมือปฏบิ ัติ และทุกสถานการณ์
ทกุ เง่ือนไข
คwรaบrdกรDะeบsวiนgกnารเรียนรู้ ได้ตลอดชวี ิต
ความรู้ แบบวจิ ัยในช้นั เรียน แบบโครงงาน แบบเพ่ิมพลังสมอง
วทิ ยาศาสตร์ แบบ 5Es แบบปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ฯลฯ สรา้ งความรู้
เสนโอคเปรงน็ งชา้นินงาน
KAP 1 2 3 4 ประเมนิ ตนเอง นำ�สู่ค่านิยม คุณธรรม
23 สุดยอดคู่มือครู
21
สุดยอดคู่มือครู 24
สงวนลขิ สทิ ธ์ิ สำ�นกั พมิ พ์ บรษิ ัทพฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) จ�ำ กดั
GPAS 5 STEPs 1. Gขั้นaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
A3. ข้ันปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Apply4.inขg้ันสthื่อeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlaเพt่ิมinคgุณค่า
pplying and Constructing the Knowledge
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต
ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก
asean
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดความรเู้ บ้ืองตน้ เกี่ยวกับงานสีรถยนต์ 9หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 ความรเู้ บอื้ งตน้ เกยี่ วกบั
งานสรี ถยนต์
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี สาระการเรียนรู้
1. วัตถุประสงค์ของการพ่นสีรถยนต์ (หนังสือเรียน
1 ความรเู้ บ้อื งต้น
เกี่ยวกบั งานสรี ถยนต์ หนา้ 11)
2. ประเภทของสพี น่ รถยนต์ (หนงั สอื เรยี น หนา้ 11-13)
สาระส�าคญั 3. ประเภทของสีทับหน้าแบ่งตามการแห้งตัวของสี
งานสีรถยนต์ผู้เรียนจะต้องศึกษาความรู้พื้นฐานเก่ียวกับประเภทของสี ส่วนประกอบของสี (หนังสือเรียน หนา้ 13-14)
เครื่องมอื อุปกรณ์เบอ้ื งต้นและความปลอดภัยในงานสีรถยนต์ 4. สว่ นประกอบของสี (หนังสือเรยี น หนา้ 14-15)
5. ขั้นตอนการทำ�สีรถใหม่จากโรงงาน (หนังสือเรียน
สาระการเรียนรู้
หนา้ 15-20)
1. วตั ถปุ ระสงคข์ องการพ่นสรี ถยนต์ 6. เครื่องมอื และอปุ กรณ์งานสรี ถยนต์ (หนงั สือเรียน
2. ประเภทของสีพ่นรถยนต์
3. ประเภทของสที ับหน้าแบง่ ตามการแหง้ ตัวของสี หน้า 20-22)
4. ส่วนประกอบของสี 7. ความปลอดภัยในงานสีรถยนต์ (หนังสือเรียน
5. ขัน้ ตอนการทาำ สรี ถใหม่จากโรงงาน
6. เคร่อื งมือและอุปกรณ์งานสีรถยนต์ หนา้ 23-26)
7. ความปลอดภัยในงานสีรถยนต์ สมรรถนะประจำ�หนว่ ย
แสดงความรู้เกี่ยวกับความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับ
การประเมินผล งานสรี ถยนต์
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ภาระงาน/ชนิ้ งาน/การแสดงออกของผเู้ รยี น 1. อธบิ ายวัตถุประสงค์ของการพน่ สีรถยนต์
ภาระงาน/ชนิ้ งานระหว่างเรยี น 2. อธิบายประเภทของสีพ่นรถยนต์และประเภท
1. ผงั กราฟกิ แสดงการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั งานสรี ถยนต์
2. ผงั กราฟกิ สรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั งานสรี ถยนต์ ของสที ับหนา้ แบ่งตามการแหง้ ตวั ของสไี ด้
3. การนำ�เสนอผลการสรุปความร้คู วามเข้าใจเก่ยี วกับความร้เู บ้อื งต้นเก่ยี วกับงานสี 3. อธบิ ายสว่ นประกอบต่างๆ ของสไี ด้
4. อธิบายขั้นตอนการทำ�สรี ถใหม่จากโรงงานได้
รถยนต์ 5. อธิบายการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์งานสีรถยนต์
ดว้ ยความปลอดภัย
6. มีเจตคติท่ีดีในการเรียนเร่ืองความรู้เบ้ืองต้น
เกี่ยวกับงานสีรถยนต์ และรักษ์ค่านิยมหลัก
12 ประการของไทย
ภาระงาน/ชน้ิ งานรวบยอดในหนว่ ยการเรยี นรู้
1. ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ
2. ผลการประเมินตนเอง
3. คะแนนผลการทดสอบ
25 สุดยอดคู่มือครู
GPAS 5 STEPs 1. Gข้ันaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต
10 งานสีรถยนต์เบอื้ งตน้ จำ�กัด 2.5 ขน้ั ตอนการท�ำ สรี ถใหมจ่ ากโรงงาน
• การท�ำ สรี ถใหมจ่ ากโรงงานมกี ข่ี น้ั ตอน อะไรบา้ ง
สมรรถนะประจา� หนว่ ย (พว.)
• การท�ำ สรี ถใหมจ่ ากโรงงานแตล่ ะขน้ั ตอน ท�ำ อะไรบา้ ง
แสดงความรูเ้ ก่ยี วกับความรู้เบือ้ งตน้ เก่ยี วกับงานสีรถยนต์ 2.6 เครอ่ื งมอื และอปุ กรณง์ านสรี ถยนต์
• อปุ กรณส์ �ำ คญั ในงานซอ่ มสรี ถยนตม์ อี ะไรบา้ ง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ • อปุ กรณส์ �ำ คญั ในงานซอ่ มสรี ถยนตแ์ ตล่ ะชนดิ มหี นา้ ทอ่ี ะไร
2.7 ความปลอดภยั ในงานสรี ถยนต์
1. อธบิ ายวัตถปุ ระสงค์ของการพ่นสรี ถยนต์ • อนั ตรายจากสรี ถยนตเ์ กดิ จากอะไรไดบ้ า้ ง
2. อธิบายประเภทของสีพ่นรถยนตแ์ ละประเภทของสีทบั หน้าแบง่ ตามการแห้งตัวของสีได้ • ผลทเ่ี กดิ จากอนั ตรายของสรี ถยนตค์ อื อะไร
3. อธบิ ายสว่ นประกอบต่างๆ ของสีได้ • อปุ กรณส์ �ำ หรบั ปอ้ งกนั อนั ตรายจากสรี ถยนตม์ อี ะไรบา้ ง
4. อธิบายขัน้ ตอนการทาำ สีรถใหมจ่ ากโรงงานได้ • อปุ กรณส์ �ำ หรบั ปอ้ งกนั อนั ตรายจากสรี ถยนตแ์ ตล่ ะชนดิ ชว่ ยปอ้ งกนั อะไร
5. อธิบายการใช้เครื่องมอื และอุปกรณ์งานสรี ถยนตด์ ว้ ยความปลอดภยั • อุปกรณ์สำ�หรับป้องกันอันตรายจากสีรถยนต์แต่ละชนิดช่วยป้องกันได้
6. มีเจตคติทด่ี ีในการเรียน เรื่อง ความรเู้ บอ้ื งต้นเก่ยี วกับงานสรี ถยนต์ และรักษ์ค่านยิ มหลกั
อยา่ งไร
12 ประการของไทย 3. แตล่ ะกลมุ่ บนั ทกึ ผลการศกึ ษาตามหวั ขอ้ ทก่ี ำ�หนดลงผงั กราฟกิ (เลอื กออกแบบ
และใชผ้ งั กราฟกิ ใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะของขอ้ มลู ) ดงั ตวั อยา่ ง
ผังสาระการเรยี นรู้ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ
วัตถุประสงคข์ องการพ่นสีรถยนต์
ประเภทของสพี ่นรถยนต์
ความรูเ้ บ้อื งต้น ประเภทของสที ับหน้าแบง่ ตามการแหง้ ตวั ของสี
เก่ียวกับ สว่ นประกอบของสี
ข้นั ตอนการทำาสรี ถใหม่จากโรงงาน
งานสีรถยนต์ เคร่ืองมือและอุปกรณง์ านสรี ถยนต์
ความปลอดภัยในงานสีรถยนต์ ความรู้เบ้อื งตน้ เกยี่ วกบั งานสีรถยนต์ 11
Step 1 g 1. วตั ถปุ ระสงค์ของการพน่ สีรถยนต์
สำ�นักพิมพ์ การพ่นสีเป็นการนำาเอาสารเคมีท่ีเรียกว่า “สี” ท่ีอยู่ในสภาพของเหลวไปฉีดพ่นบนผิวงานเพ่ือ
Gatherin ขน้ั รวบรวมข้อมลู เคลือบผิวงานน้นั ไว้ สที ี่พ่นบนตัวถังรถยนตเ์ มือ่ แห้งตวั แลว้ จะเปน็ ช้นั สที ี่แข็งเรียกว่า “ฟลิ ์มส”ี
1. แบ่งกลุ่มผู้เรียนร่วมกันศึกษาเอกสารหนังสือเรียนเร่ืองความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับสงวนลิข ิสท ิธ์ สีรถยนต์ที่มองเห็นเป็นสีสันต่างๆ นั้นเป็นสีทับหน้าชั้นสุดท้าย ซึ่งท่ีจริงแล้วสีรถยนต์จะ
งานสรี ถยนต์ มีอยู่หลายชั้น ชั้นสีแต่ละช้ันจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน การพ่นสีรถยนต์มีวัตถุประสงค์หลักอยู่
2 ประการ ได้แก่
2. ต้งั คำ�ถามให้ผ้เู รียนเสนอข้อมูลจากประสบการณ์ของตนเก่ยี วกับความร้เู บ้อื งต้น
เกย่ี วกบั งานสรี ถยนต์ ดงั ตวั อยา่ ง 1.1 เพอ่ื ปอ้ งกันการเสื่อมสภาพของตัวรถจากสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ เช่น แสงอาทติ ย์,
นำ้า, อากาศ, สสารตา่ งๆ ทมี่ ีผลกระทบกับผิวเหล็ก
2.1 วตั ถปุ ระสงคข์ องการพน่ สรี ถยนต์
• ท�ำ ไมเราตอ้ งพน่ สรี ถยนต์ 1.2 เพอ่ื ความสวยงามและบง่ บอกเอกลกั ษณ์ การพน่ สนี อกจากจะตอ้ งการใหเ้ กดิ สสี นั สวยงาม
• สที พ่ี น่ บนตวั ถงั รถยนตเ์ มอ่ื แหง้ ตวั แลว้ เรยี กวา่ อะไร แลว้ ยังมวี ัตถปุ ระสงคเ์ พอื่ แบง่ แยกประเภทของรถยนต์ เช่น รถตำารวจ รถดบั เพลิง รถรับจ้างตา่ งๆ
2.2 ประเภทของสพี น่ รถยนต์
• สพี น่ รถยนตม์ กี ป่ี ระเภท อะไรบา้ ง ภาพท่ี 1.1 สภาพแวดล้อมที่มีผลต่อสีรถยนต์
• สพี น่ รถยนตแ์ ตล่ ะประเภทมลี กั ษณะอยา่ งไร ท่ีมา: บริษทั โตโยตา้ มอเตอร์ ประเทศไทย จาำ กดั
2.3 ประเภทของสที บั หนา้ แบง่ ตามการแหง้ ตวั ของสี
• สที บั หนา้ แบง่ ตามการแหง้ ตวั มกี ป่ี ระเภท อะไรบา้ ง 2. ประเภทของสพี น่ รถยนต์
• สที บั หนา้ แบง่ ตามการแหง้ ตวั แตล่ ะประเภท มคี ณุ ลกั ษณะอยา่ งไร
2.4 สว่ นประกอบของสี โดยท่ัวไปสพี น่ รถยนต์มีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่
• สว่ นประกอบของสพี น่ รถยนตม์ อี ะไรบา้ ง
• สว่ นประกอบของสพี น่ รถยนตแ์ ตล่ ะชนดิ มลี กั ษณะอยา่ งไร 2.1 สีโซลิด
สีโซลิดเป็นสีชนิดอะครีลิคยูรีเทน 2 องค์ประกอบ เมื่อแห้งตัวแล้วจะมีความเงาและ
ความแข็งในตัวเองเป็นสีท่ีไม่มีเม็ดผงสีอื่นผสมอยู่ การใช้งานต้องผสมฮาร์ดเดนเนอร์ตามอัตราส่วน
ที่ถูกต้อง เป็นสีที่ไม่ต้องการพ่นทับด้วยช้ันเคลียร์ (แลกเกอร์) แต่หากจะพ่นทับสามารถทำาได้ซ่ึง
ไม่นิยมทำากันเน่ืองจากสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ ปกติสีชนิดน้ีจะมีราคาค่อนข้างสูงเม่ือเทียบกับ
สีเมทลั ลกิ ท่วั ไป แตเ่ นอ่ื งจากขน้ั ตอนการพน่ ไมซ่ บั ซอ้ นจงึ ทาำ ใหค้ า่ แรงในการซ่อมถูกกว่าสีเมทลั ลกิ
สุดยอดคู่มือครู 26
Ap3p. lขyั้นiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ขั้นส่ือสารและน�ำเสนอ 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlaเพtิ่มinคgุณค่า
ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill
กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก
asean
12 งานสรี ถยนตเ์ บ้ืองตน้
จำ�กัด
(พว.)
ภาพที่ 1.2 ช้ันของสโี ซลิด อะลูมิเนียม (Aluminium) หมายถึง ธาตุลำ�ดับที่ 13 สัญลักษณ์ Al
ท่มี า: บรษิ ทั โตโยตา้ มอเตอร์ ประเทศไทย จาำ กดั เป็นโลหะ ลักษณะเป็นของแข็งสีขาวคล้ายเงิน หลอมละลายที่ 660 Cํ
ใช้ประโยชน์ได้มากมาย เช่น นำ�ไปผสมกับโลหะอื่นเป็นโลหะเจือ ใช้ทำ�
2.2 สเี มทลั ลกิ เครื่องครัว
บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ
สีเมทัลลิกเป็นสีที่มีผงประกาย (อะลูมิเนียม) ผสมกับผงสี เม่ือแห้งตัวแล้วผิวสีจะไม่มี
ความเงาในตัวเองจะต้องพ่นเคลียร์ทับหน้าลงอีกชั้นจึงจะเกิดความเงาและความแข็งแรงของช้ันสี
คุณสมบัติเด่นของสีเมทัลลิก คือ จะเกิดประกายแวววาวเม่ืออยู่ใต้แสงแดดเกิดการเปล่ียนแปลง
ในโทนสีได้อย่างมากมาย มุมมองผิวหน้าสีในทิศทางหน้าแสงหรือทิศทางหลังแสงและคุณสมบัติที่ดี
ในการสะท้อนแสงกับการส่องผ่าน การเรียกโทนสีหรือเฉดสีชนิดนี้จะเรียกเฉดสีขึ้นก่อนแล้วตาม
ดว้ ยคำาว่า “เมทลั ลกิ ” เช่น แดงเมทลั ลิก, นำ้าเงินเมทลั ลกิ ฯลฯ บางครง้ั เรียกวา่ “สีลไู ซด”์
ภาพท่ี 1.3 ชั้นของสเี มทลั ลิก ความรู้เบ้ืองต้นเก่ยี วกับงานสีรถยนต์ 13
ที่มา: บริษทั โตโยตา้ มอเตอร์ ประเทศไทย จำากดั
2.3 สีชนิดพิเศษ
ep 2 g
สีชนิดพิเศษเป็นสีที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างจากสีโซลิดและสีเมทัลลิก สีพิเศษจะ
rocessin สำ�นักพิมพ์ เรยี กชอ่ื ตามผงประกายทน่ี าำ มาผสมกบั ผงสีหรอื เรียกตามวธิ กี ารพน่ เชน่
St ข้ันคิดวิเคราะห์
และสรุปความรู้ • สมี ุก 3 ช้นั เป็นการพ่นสีทับหน้า 3 ชั้น คือ ช้นั ท่ี 1 เป็นสที บั หน้าโซลดิ ชน้ั ที่ 2 เป็น
สีมุก ชน้ั ที่ 3 เป็นชนั้ เคลียร์
P
• สีไมกา้ เปน็ สีท่มี ผี งไมก้าผสมกับผงสี
สงวนลิข ิสท ิธ์ • สกี ราไฟต์เป็นสที ี่มีผงกราไฟต์ผสมกับผงสี ฯลฯ
1. ผู้เรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับงานสี
รถยนต์ท่ีรวบรวมได้จากการศึกษาค้นคว้าและระดมความคิด ภาพที่ 1.4 ชัน้ ของสีมกุ
ของสมาชกิ รว่ มด้วย ที่มา: บรษิ ัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จาำ กัด
2. เชอ่ื มโยงความคลา้ ยคลงึ /แตกตา่ งของขอ้ มลู ทน่ี ำ�มาอภปิ ราย และ 3. ประเภทของสีทับหน้าแบง่ ตามการแห้งตัวของสี
รว่ มกนั สรปุ ความรูต้ ามหัวขอ้ อภปิ ราย จากนั้นบนั ทึกผลขอ้ สรปุ
เปน็ ความเขา้ ใจของกลมุ่ และรายบคุ คล 3.1 สอี บ
สีอบเป็นสีท่ีต้องใช้ความร้อนในการอบ อุณหภูมิที่อบประมาณ 140 ำ การแห้งตัวของ
สีประเภทนี้เป็นแบบองค์ประกอบเดียวใช้ในโรงงานผลิตรถยนต์ เรียกสีประเภทน้ีว่า “สีอบ” หรือ
“สีแห้งช้า”
3.2 สยี ูรีเทน
สียูรีเทนเป็นสีท่ีมีการแห้งตัวโดยสองส่วนผสมกันเป็นส่วนผสมของไอโซไซยาเนทท่ีอยู่
ในฮาร์ดเดนเนอร์และแอลกอฮอล์จะผสมกันสร้างเป็นโครงสร้างเรียกว่ายูรีเทนอะครีลิคหรือ
โพลีเอสเตอร์ สีประเภทนี้จะมีความแข็งรองลงมาจากสีอบเป็นสีที่นิยมใช้พ่นซ่อม โดยทั่วไปใน
ปัจจบุ นั เรยี กสปี ระเภทน้ีว่า “สีกง่ึ แหง้ ช้า” หรอื “สี 2K”
27 สุดยอดคู่มือครู
GPAS 5 STEPs 1. Gขั้นaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21
ทักษะชีวิต
14 งานสรี ถยนต์เบอ้ื งตน้ 3 . ผเู้ รยี นน�ำ ขอ้ สรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจจากการเรยี นรแู้ ละฝกึ ปฏบิ ตั ิ
ที่ได้มาแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างกลุ่มในช้ันเรียน
3.3 สแี ลกเกอร์ และวิเคราะห์แนวทางนำ�ไปใช้ประโยชน์ โดยการทำ�กิจกรรม
ตรวจสอบความเขา้ ใจ (หนังสอื เรยี น หนา้ 28)
สีแลกเกอร์หรือสีแห้งเร็วที่รู้จักกันโดยทั่วไปเป็นสีท่ีใช้งานง่ายโดยผสมสารละลาย
ทนิ เนอร์แลว้ นาำ ไปใชง้ านไดเ้ ลยแตม่ ีความคงทนน้อยไมน่ ยิ มใชใ้ นงานซ่อมสี 4. กล่มุ ผเู้ รียนรว่ มกนั สรปุ แนวคดิ เกยี่ วกบั ความรู้เบ้อื งตน้ เกี่ยวกบั
งานสีรถยนต์
4. สว่ นประกอบของสี จำ�กัด
สีเป็นของเหลวท่ีมีความหนืดสูงประกอบด้วยส่วนประกอบต่างๆ เมื่อผสมเข้าด้วยกันจะมี (พว.)
ลักษณะเหนียวและมีความหนืด ถ้าเป็นสีชนิดแห้งเร็วเมื่อใช้งานจะต้องเจือจางด้วยทินเนอร์
ในส่วนสีชนดิ สององค์ประกอบจะเพิม่ ฮาร์ดเดนเนอร์ด้วยส่วนประกอบของสี ไดแ้ ก่
ภาพที่ 1.5 สว่ นประกอบของสี บริ ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการโมเลกุล (Molecule) หมายถงึ ส่วนทีเ่ ล็กทส่ี ุดของสาร ซง่ึ สามารถด�ำ รงอยไู่ ด้
ทม่ี า: บรษิ ทั โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำากัด ตามล�ำ พงั และยงั คงรักษาสมบัตติ ่างๆ ของสารน้ันไวไ้ ด้ โมเลกุลประกอบด้วย
อะตอมของธาตุเดิม เรยี กวา่ “อณู”
4.1 เรซน่ิ ความร้เู บื้องตน้ เก่ียวกับงานสีรถยนต์ 15
เรซนิ่ เปน็ ของเหลวขน้ และโปรง่ ใสจาำ พวก 4.2 ผงสี
ฟิล์ม เรซ่ินจะเพ่ิมความเงางาม, ความแข็งและ
การยดึ ตดิ แน่นกบั สี ผงสีเป็นฝุ่นผงท่ีทำาให้เป็น
สตี า่ งๆ และสรา้ งความหนาของผิวสี ผงสี
ภาพท่ี 1.6 ลักษณะของเรซ่ิน จะผสมกับเรซิ่นและสารอ่ืนจะไม่ละลาย
ทม่ี า: บรษิ ัท โตโยตา้ มอเตอร์ ประเทศไทย จาำ กดั ในนำ้าหรือสารละลาย
ep 3 wldedge ภาพที่ 1.7 ผงสีชนิดต่างๆ
St ทม่ี า: บรษิ ทั โตโยตา้ มอเตอร์ ประเทศไทย จำากดั
สำ�นักพิมพ์ 4.3 สารละลายหลกั
ขัน้ ปฏบิ ัตแิ ละสรปุ ความรู้ สารละลายหลักเป็นสารละลายเรซ่ินให้คลุกเคล้าเข้ากับสีจะระเหยตัวได้เร็วเมื่อนำาสีไป
conAstru หลังการปฏบิ ตั ิ
ctpipnlgyitnhge aknno ใชง้ าน
สงวน ิลข ิสทธิ์ 4.4 สารปรุงแตง่
สารปรุงแต่งเป็นสารท่ีผสมเพิ่มเข้าไปในสีในปริมาณเล็กน้อยเพื่อให้สอดคล้องกับ
1. ผู้สอนทบทวน/ยกตัวอย่าง/แนะนำ�อุปกรณ์ที่เป็นของจริง วัตถปุ ระสงค์การใช้งาน
ของสีพ่นรถยนต์และสีทับหน้า แบ่งตามการแห้งตัวของสี
แต่ละประเภทและส่วนประกอบของสี แล้วสาธิตการผสมสี 4.5 ฮาร์ดเดนเนอรห์ รอื ฟิลม์ สโี ซลิด
พร้อมอธิบายถึงลักษณะของสี และลักษณะของสีเม่ือใส่ ฮาร์ดเดนเนอร์หรือฟิล์มสีโซลดิ เปน็ สารทชี่ ่วยปกคลุมโมเลกุลในเรซนิ่
ส่วนประกอบแต่ละอย่าง จากน้ันสาธิตข้ันตอนการทำ�สี
รถยนต์ใหม่และการทำ�งานของอุปกรณใ์ หผ้ เู้ รยี นดู 4.6 สารละลาย/ทนิ เนอร ์
สารละลาย/ทินเนอร์เป็นของเหลวท่ีช่วยละลายส่วนผสมของสีให้มีค่าความหนืดที่
2. ผเู้ รยี นแตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาตวั อยา่ งของจรงิ ของสพี น่ รถยนตแ์ ละ เหมาะสมในการพน่
สที ับหนา้ แตล่ ะประเภท และส่วนประกอบของสี แลว้ ทดลอง
ผสมสี จากน้ันฝกึ ปฏิบัตจิ ริงเก่ียวกับขั้นตอนการท�ำ สีรถใหม่ 4.7 สีเคลยี ร ์
เคร่ืองมือและอุปกรณ์งานสีรถยนต์ และความปลอดภัยใน สีเคลียร์จะมีลักษณะใสไม่มีสีและผงสีผสมอยู่ โดยจะใช้พ่นลงบนสีทับหน้าเพ่ือความเงางาม
งานสีรถยนตใ์ นโรงงานหรืออ่ซู ่อมรถยนต์ ของสีเมทาลิกหรอื สีพิเศษ ในขณะเดยี วกันจะทาำ หน้าท่ีเป็นชั้นปอ้ งกนั สที บั หนา้ ดว้ ย
5. ขัน้ ตอนการท�าสรี ถใหม่จากโรงงาน
การที่จะเป็นช่างสีรถยนต์ที่ดีจะต้องทราบถึงวิธีการทำาสีรถยนต์ในโรงงานผลิตเพื่อเป็น
ประโยชน์ในการปฏิบัติงานซ่อม เช่น หากรู้ว่าสีจากโรงงานผลิตมีขบวนการชุบกันสนิม “ชุบ ED” ซึ่ง
ผิวท่ีชุบจะมีความบางมากเม่ือทำาการซ่อมบริเวณที่เสียหายจึงไม่ควรขัดสีรองพื้นดังกล่าวออก
มากเกินไปหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรขัดอย่างระวังให้ผิวเหล็กเสียหายน้อยที่สุด ข้ันตอนการทำาสี
รถยนต์จะประกอบด้วยชั้นสี 3 ชั้น คือ ช้ันสีรองพื้นไพรเมอร์, สีรองพื้นเซอร์เฟสเซอร์และชั้นสี
ทบั หนา้ โดยมีกระบวนการต่างๆ ดงั น้ี
สุดยอดคู่มือครู 28
Ap3p. lขy้ันiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlaเพt่ิมinคgุณค่า
ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill
กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก
asean
16 งานสรี ถยนต์เบ้อื งตน้
5.1 การล้างและการกาำ จดั ไขมนั
การลา้ งดว้ ยน้ำาอุ่น 1 การล้างดว้ ยน้ำาอ่นุ 2 การขจัดคราบไขมนั การล้างดว้ ยนาำ้
ภาพท่ี 1.8 การลา้ งและการกำาจดั ไขมนั จำ�กัด
5.2 การเตรียมผวิ ด้วยกรรมวิธีทางเคมี (พว.)
การปรับสภาพผิวโลหะ การชบุ ด้วยซิงค์ฟอสเฟต
เพือ่ ใหไ้ ดฟ้ ิล์มซิงคฟ์ อสเฟตทห่ี นาแนน่ , ตวั ถงั จะถกู ชบุ ดว้ ยนำ้ายาทมี่ ีสว่ นผสมของบ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ
ตัวถังจะถกู ชุบดว้ ยสารไทเทเนียมฟอสเฟต ซงิ ค์โมโนฟอสเฟต เพอื่ จะทาำ ให้
เพื่อลา้ งใหเ้ ป็นผลกึ ของเหลว ฟิล์มซงิ คฟ์ อสเฟตเกาะตวั รถ
ภาพท่ี 1.9 การชบุ นาำ้ ยา
5.3 การล้างน้ำาและการอบแหง้ กระแสไฟฟา้ (ElectricCurrent)เกดิ จากการเคลอื่ นทข่ี องอเิ ลก็ ตรอน
ในตัวกลางหรอื ตวั นำ�ไฟฟ้าท่อี ยู่ภายใต้อิทธพิ ลของสนามไฟฟ้า
ลา้ งนำ้า ลา้ งดว้ ยน้ำาสะอาด การอบแหง้
ตัวถังรถจะถูกล้างด้วยน้ำา 3 คร้ัง ล้างในน้ำาสะอาดเพ่ือขจัด อบให้แห้งโดยใช้อุณหภูมิ ความรู้เบื้องตน้ เก่ียวกบั งานสรี ถยนต์ 17
เพือ่ กาำ จดั นา้ำ ยาต่างๆ ทห่ี ลงเหลือ คราบเศษสีจากขั้นตอน ประมาณ 100 - 110 Cำ 5.4 การชุบสีดว้ ยประจไุ ฟฟ้า (ED)
จากการชบุ ด้วยนำา้ ยา การชบุ
ภาพท่ี 1.10 การล้างนำา้ และการอบแหง้
ep 4kille
St ชุบลงไปทั้งคันในถังแล้วปล่อยกระแสไฟฟ้า นำาตัวถังรถขึ้นจากถังชุบแล้วผ่ึงสีให้สีหยด
สำ� ันกพิมพ์ (200-300 V) เพ่ือให้สีตกผลึกไปเกาะติดกับ จนกระทงั่ แห้ง
Acommpupnlyicinagtiotnh s ขน้ั ส่ือสารและนำ� เสนอ ตวั ถงั รถ
1. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มออกแบบหรือหาวิธีนำ�เสนอให้ผู้อ่ืนรับรู้ ภาพท่ี 1.11 ขน้ั ตอนการชุบน้าำ ยาและการทำาใหแ้ ห้ง
และสอื่ สารไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยอาจนำ�ตวั อยา่ งของจรงิ
มาสาธิตหรือนำ�เสนอ และอภิปรายร่วมกันถึงเทคนิควิธีสงวน ิลข ิสท ิธ์ ล้างน้ำาอีกคร้ังเพื่อขจัดสีทตี่ กคา้ ง อบให้แห้งโดยใช้อุณหภูมิประมาณ 170 ำC
ท่ีเหมาะสม บูรณาการการใช้คำ�ศัพท์ภาษาอังกฤษแทรก ประมาณ 25-30 นาที เพื่อให้ผิวสีมีการแห้ง
ในการรายงาน และแข็งตัวอย่างสมบูรณ์ท่ีความหนาช้ันสี
15-20 ไมครอน
2. สุ่มกลุ่มผู้เรียนนำ�เสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจ
โดยผสู้ อนและผเู้ รยี นรว่ มกนั ประเมนิ ผล การน�ำ เสนอตามเกณฑ์ ภาพที่ 1.12 ขัน้ ตอนการลา้ งนำ้าและการอบแหง้
ทก่ี ำ�หนด
5.5 ขนั้ ตอนการพ่นอนั เดอรโ์ ค้ด (Undercoat) และการซีลเลอร ์ (Sealer) ตัวถัง
หลังจากทำาการชุบ ED แล้ว จะพ่นอันเดอร์โค้ดเพ่ือการปรับปรุงคุณสมบัติการป้องกัน
สนิมและการต้านทานการกระแทกและการซีลเลอร์ตัวถังเพื่อป้องกันการรบกวนจากเสียง การส่ัน
สะเทือนและการซึมผ่านของน้ำาและความช้นื
29 สุดยอดคู่มือครู
GPAS 5 STEPs 1. Gข้ันaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21
ทักษะชีวิต
18 งานสีรถยนตเ์ บอื้ งต้น
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดพ่นบริเวณตัวถังด้านล่างและ ซีลบริเวณแนวรอยต่อระหว่าง ตดิ บรเิ วณพนื้ รถและบรเิ วณ
บรเิ วณซมุ้ ล้อ ช้ินสว่ นแผงตวั ถงั แผงใตห้ น้าปดั หลัง
เคร่อื งยนต์
ภาพท่ี 1.13 ขั้นตอนอนั เดอรโ์ คด้ และการซลี เลอรต์ วั ถงั ยางมะตอย (Asphalt) เป็นของเหลวข้นหนืดที่ได้มาจากกระบวนการ
ทมี่ า: บรษิ ัท โตโยตา้ มอเตอร์ ประเทศไทย จำากดั กลน่ั นา้ํ มนั ปโิ ตรเลยี ม มอี �ำ นาจการยดื สงู เปน็ กง่ึ ของแขง็ สดี �ำ หรอื นา้ํ ตาลแก่
แกมดำ� รวมถึงเป็นของผสมระหว่างสารประกอบไฮโดรคาร์บอนกับสาร
5.6 ขน้ั ตอนการพน่ สีรองพน้ื เซอรเ์ ฟสเซอร์ อินทรีย์อืน่ ๆ
หลังจากทำาการซีลเลอร์ตัวถังและปูแผ่นยางมะตอยเรียบร้อยแล้วจึงเร่ิมทำาการพ่น
สีรองพ้ืนช้ันที่ 2 จุดประสงค์เพ่ือให้เกิดการเกาะตัวกันได้ดีระหว่างช้ันสี ED กับชั้นสีทับหน้ารวมถึง
การทำาให้สีทับหน้าเรียบเสมอกัน โดยในข้ันตอนนี้จะหมายรวมไปถึงภายในห้องเครื่อง ห้องเก็บของ
ท้ายรถและโครงประตดู ว้ ยเป็นการพน่ ทั้งคันยกเว้นใตท้ ้องรถ
ความรู้เบอื้ งต้นเก่ยี วกับงานสีรถยนต์ 19
ภาพท่ี 1.14 การพ่นสีรองพ้ืนเซอรเ์ ฟสเซอร์
ทม่ี า: บริษัท โตโยตา้ มอเตอร์ ประเทศไทย จำากัด
ประจุไฟฟ้า (Electric Charge) หมายถึง อนุภาคท่ีแสดงอำ�นาจไฟฟ้า ชั้นสกี นั กระแทกจะ อบแห้งทอี่ ณุ หภมู ิ พ่นสีรองพื้นโดยใช้ ภายในหอ้ งเครอื่ งยนต์
ได้แก่ โปรตอนและอิเล็กตรอน วัตถุใดท่ีมีจำ�นวนโปรตอนมากกว่า พ่นหลงั จากท่ีตดิ ประมาณ 90 ํC ในเวลา ประจุไฟฟา้ และหอ้ งเกบ็ ของ
จำ�นวนอิเล็กตรอน กำ�หนดให้วัตถุนั้นมีประจุไฟฟ้าบวก แต่ถ้ามีจำ�นวน กระดาษเสรจ็ แลว้ 5-10 นาที ทา้ ยรถ พ่นด้วยสีที่
อิเล็กตรอนมากกวา่ จำ�นวนโปรตอน ก�ำ หนดใหว้ ัตถนุ น้ั มปี ระจไุ ฟฟา้ ลบ ใกลเ้ คียงกบั
สีภายนอก
ภาพที ่ 1.15 ข้นั ตอนการพน่ สีรองพน้ื เซอร์เฟสเซอร์
5.7 ขั้นตอนการขัดนา้ํ
ข้ันตอนการขัดน้ําเพ่ือกําจัดส่ิงตกค้าง ชั้นออกไซด์ เม็ดฝุ่นและผิวหน้าขรุขระที่ยัง
หลงเหลือติดอยู่บนผิวสีรองพื้นท่ีอบแห้งแล้ว การเตรียมผิวหน้าด้วยการขัดนํ้าจะใช้กระดาษทราย
เบอร์ 400 ทาํ การขดั ผวิ สรี องพ้นื ใหเ้ กดิ ความเรยี บและทําใหก้ ารยึดเกาะของสที บั หน้ามปี ระสทิ ธภิ าพ
ดขี น้ึ
กระดาษทราย (Sandpaper) เปน็ กระดาษทมี่ สี ารขดั ถตู ดิ หรอื เคลอื บอยบู่ นผวิ ภาพท ่ี 1.16 การขดั น้าํ
ของกระดาษ นยิ มใชข้ ดั ตกแต่งผิวของชิ้นงานให้สวยงาม สามารถแบ่งออกได้
เปน็ 2 ประเภท ไดแ้ ก่ กระดาษทรายขัดแห้งและกระดาษทรายขดั นํา้
สุดยอดคู่มือครู 30
Ap3p. lขyั้นiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ข้ันส่ือสารและน�ำเสนอ 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlaเพtิ่มinคgุณค่า
ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill
กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก
asean
20 งานสีรถยนตเ์ บอื้ งต้น หุ่นยนต์ (Robot) สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ตามลักษณะการใช้งาน
ดังน้ี
5.8 ขน้ั ตอนการพ่นสที บั หนา้ 1. หุ่นยนต์ชนิดติดต้ังอยู่กับที่ (Fixed Robot) เป็นหุ่นยนต์ที่ไม่สามารถ
เคลอื่ นทไ่ี ปไหนไดด้ ว้ ยตนเอง มลี กั ษณะเปน็ แขนกลสามารถขยบั และเคลอ่ื นไหว
การพ่นสีทับหน้าใช้อุปกรณ์การพ่นสีแบบอัตโนมัติในการพ่น บางข้ันตอนใช้อุปกรณ์ ได้เฉพาะแต่ละข้อตอ่ ภายในตนเอง นิยมน�ำ ไปใชใ้ นโรงงานอุตสาหกรรม
การพ่นสอี ตั โนมตั แิ ละหนุ่ ยนตร์ ว่ มกนั 2. หนุ่ ยนตช์ นดิ เคลอื่ นทไ่ี ด้ (Mobile Robot) เปน็ หนุ่ ยนตท์ ส่ี ามารถเคลอ่ื นที่
ไปไหนมาไหนได้ด้วยตนเองโดยการใช้ล้อหรือขา ปัจจุบันยังเป็นงานวิจัย
เพ่ือพัฒนาหุ่นยนต์ออกมาใช้งานในรปู แบบตา่ งๆ เชน่ ห่นุ ยนตส์ �ำ รวจดาวอังคารจำ�กัด
ขององคก์ ารนาซา เป็นตน้
ภาพที่ 1.17 การพ่นสีทับหน้า (พว.)
6. เครอื่ งมือและอปุ กรณง์ านสรี ถยนต์
อุปกรณม์ าตรฐานท่ีมีความสำาคัญในงานซอ่ มสรี ถยนต์ ได้แก่
6.1 เครื่องอดั อากาศ บริ ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ
เคร่ืองอัดอากาศหรือเรียกกันโดยท่ัวไปว่า “ป๊ัมลม” เป็นอุปกรณ์ผลิตลมเพื่อนำามาใช้
ในการทำางานสีรถยนต์ ลมแรงดันสูงมีความจำาเป็นมากในงานซ่อมตัวถังและสีรถยนต์เพราะเครื่องมือ
ต่างๆ เช่น ปนื พ่นสี เครอื่ งขดั สี เครอื่ งมอื ดึงตัวถัง ฯลฯ ต้องใช้ลมเพื่อทาำ ใหเ้ ครื่องมอื ทำางาน
เคร่ืองอัดอากาศปัจจุบันถูกพัฒนาข้ึนมาเพ่ือใช้งานตามลักษณะงาน ซ่ึงพบเห็นได้หลากหลาย
รูปแบบ ได้แก่
6.1.1 เคร่ืองอัดอากาศแบบลูกสูบ เคร่ืองอัดอากาศชนิดนี้นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
ในปัจจุบันสามารถอัดอากาศได้ทั้งความดันต่ำา ความดัน
ปานกลางจนกระทั่งถึงความดันสูง เครื่องอัดอากาศ
แบบลูกสูบนี้มีให้เลือกใช้งานตั้งแต่แบบสูบเดียวและ
แบบหลายสูบให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม
ว่าต้องการถังเก็บใหญ่เท่าใด มีความจำาเป็นใช้ลมเท่าใด
ปั๊มลมชนิดนี้เป็นที่นิยมใช้ในอู่ซ่อมสีท่ัวไปเน่ืองจาก ความรเู้ บ้ืองต้นเกยี่ วกบั งานสรี ถยนต์ 21
ถังปั๊มลมมีขนาดใหญ่ แต่มีข้อเสียคือเสียงการทำางาน ภาพที่ 1.18 ปมั๊ ลมแบบ 3 ลูกสูบ
คอ่ นข้างดังมาก ทม่ี า: http//www.aacthaishop.com
St ep 5 ting ภาพท่ี 1.19 ปัม๊ ลมแบบโรตาร่ี 6.1.2 เครื่องอัดอากาศแบบโรตารี่ เป็น
ที่มา: http//www.aacthaishop.com ปั๊มลมที่ใช้มอเตอร์ขับหัวป๊ัมลมโดยตรง ข้อดีคือ
f-Regula สำ� ันกพิมพ์ สามารถผลิตลมได้รวดเร็วเพราะความเร็วรอบสูง
ขั้นประเมินเพอ่ื เพ่ิมคณุ คา่ ข้อเสียคือการสึกหรอจะสูงมากเพราะว่าปั๊มลม
บรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ ลูกสูบท่ัวไปแบบใช้สายพานความเร็วรอบจะต่ำากว่า
แบบน้ี 3 ถึง 4 เท่าตวั
Sel 6.1.3 เครื่องอัดอากาศแบบโรตาร่ีสกรู
เป็นเครื่องอัดอากาศขนาดใหญ่ท่ีทำางานด้วยสกรูสองตัว
ท่ีไม่สัมผัสกันทำาให้เป็นเคร่ืองอัดท่ีมีการสึกหรอ
สงวนลิข ิสท ิธ์ น้อย เครื่องอัดอากาศแบบนี้โครงสร้างเป็นตัวสกรู
1. ผเู้ รยี นแตล่ ะกลมุ่ และรายบคุ คลตรวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจ ทำาให้อัตราส่วนของความดันมีค่าคงท่ีเหมาะสำาหรับ ภาพท่ี 1.20 ปมั๊ ลมแบบโรตารี่สกรู
ของตนเองหลังจากรับฟังการนำ�เสนอของสมาชิกกลุ่มอ่ืน ใช้ในโรงงานขนาดใหญ่ท่ีต้องใช้ปริมาณลมต่อเน่ือง ท่มี า: http//www.em-group.co.th/Technoloty_
ปรบั ปรงุ ชนิ้ งานของกลมุ่ ตนเองใหส้ มบรู ณแ์ ละบนั ทกึ เพม่ิ เตมิ
เปน็ ประจาำ High_Efficiency_Machine2_2.thml
2. นำ�เสนอผลการปฏิบัติงานแสดงในป้ายนิเทศหรือเผยแพร่
สูห่ อ้ งเรียนอนื่ หรอื สาธารณะ ภาพที่ 1.21 ชุดกรองลม 6.2 ชุดกรองลม
ที่มา: http//www.jindasup.com/wizContent.
3. ผู้เรียนแต่ละคนทำ�แบบทดสอบ (หนังสือเรียน หน้า 29-30) ทำาหน้าที่ควบคุมความแรงดันลมท่ี
แลกเปลี่ยนกันตรวจให้คะแนน จากนั้นสรุปคะแนนใน asp?wizConID=268&txtmMenu_ID=7 ออกมาจากเคร่ืองอัดอากาศให้มีความดันใช้งาน
แบบประเมินตนเอง (หนังสือเรียน หน้า 30) และกำ�หนด คงที่ตลอดเวลาและเป็นตัวดักกรองน้ำาในอากาศที่
แนวทางการพฒั นาตนเอง ผ่านมาก่อนท่ีจะไหลไปตามท่อทางเดินของลม
เครื่องควบคุมความดันนี้จะมีเกจวัดเพ่ือใช้ใน
การตั้งคา่ ความดนั ขณะนาำ ลมไปใช้งาน
6.3 สายลม ภาพที่ 1.22 สายลม
ท่มี า: http//www.tarad.com/chanvit/
สายลมเปน็ ทอ่ ทางเดนิ ของอากาศอดั เพอ่ื นาำ ลม
หรืออากาศอัดไปใช้งาน สายลมโดยทั่วไปมีหลายแบบ
ใหเ้ ลอื กใชใ้ นงานตวั ถงั และสรี ถยนตส์ ว่ นมากจะใชส้ ายลม
แบบชนิดอ่อนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของสายค่อนข้างเล็ก
เนือ่ งจากเครือ่ งมืออปุ กรณ์ตา่ งๆ ใช้แรงดนั ลมไม่มากและ
เพ่อื ความคล่องตวั ในการปฏบิ ัติงาน
31 สุดยอดคู่มือครู
GPAS 5 STEPs 1. Gขั้นaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21
ทักษะชีวิต
22 งานสรี ถยนต์เบอื้ งต้น
6.4 ขอ้ ตอ่ สายลม
ข้อต่อสายลมเป็นข้อต่อสวมเร็วท่ีผลิตข้ึนมาเพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานใช้ต่อกับ
เคร่ืองมืออุปกรณ์ตา่ งๆ เชน่ ปนื พ่นสี เครื่องขัดเตรยี มพื้น ตอ่ พ่วงสายลมด้วยกัน เปน็ ต้น
ภาพท่ี 1.23 ขอ้ ตอ่ สายลม สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
ทีม่ า: http//www.kosanaland.com/pneumatics_sub_coupler.html
6.5 หอ้ งพน่ ส ี
ในงานซ่อมสีรถยนต์ห้องพ่นสีถือว่ามีความสำาคัญมาก ย่ิงหากเป็นการพ่นซ่อมท้ังคัน
การพน่ สีอาจจะทาำ ไมไ่ ด้เลยเพราะสภาพอากาศ ฝุ่นละออง ความชน้ื ฯลฯ จะก่อให้เกิดปญั หาทัง้ ก่อน
และหลงั การพ่นสี หอ้ งพ่นสีจงึ ถูกสร้างข้นึ มาเพ่อื
1) ควบคุมมลภาวะที่เป็นพิษจากการพ่นสีไม่ให้ออกไปสู่บรรยากาศภายนอกโดยตรง
ห้องพ่นจะมีแผ่นกรองอากาศเพื่อใช้ดักฝุ่นละอองสีและลดความรุนแรงของกลิ่นสีกับสารละลาย
ทนิ เนอร์
2) ป้องกันฝ่นุ ละอองและความชื้นในอากาศขณะทำาการพ่นสี
3) ใช้อบแห้งสี (หอ้ งพน่ ชนิดมเี ครอื่ งให้ความรอ้ นในตัว)
ภาพที่ 1.24 ห้องพ่นสี ความรเู้ บอื้ งต้นเกี่ยวกับงานสรี ถยนต์ 23
ท่มี า: http//www.gp-balance.com/
7. ความปลอดภัยในงานสีรถยนต์
ห้องพ่นสีมีหลายประเภทข้ึนอยู่กับลักษณะของการใช้งาน เช่น ห้องพ่นสีแบบใช้ม่านก้ัน
ช่วยให้อากาศถ่ายเทสะดวก ห้องอบและพ่นสีสะดวกต่อการใช้งานท่ีต้องการความรวดเร็ว และ การปฏิบัติงานสีรถยนต์จะต้องคำานึงถึงความปลอดภัย ภาพท่ี 1.25 ผู้ปว่ ยโรคปอด
สามารถทำางานตอ่ เนือ่ งได้ ในการปฏิบัติงานเป็นสำาคัญ โดยจะต้องศึกษาและทำาความเข้าใจ ทีม่ า: บรษิ ัท สีดูปองด์
ในวิธีการปฏิบัติงานเพราะในงานสีรถยนต์มีการใช้วัตถุดิบท่ีมี
สารละลาย (Solution) เป็นของผสมที่มีองคป์ ระกอบตง้ั แต่ 2 ชนดิ ข้ึนไป สารเคมีซ่ึงอาจก่อให้เกิดอันตรายกับสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน
มารวมกัน โดยองค์ประกอบท่ีมีปริมาณมากท่ีสุด เรียกว่า ก่อให้เกดิ โรคจากการทาำ งาน เช่น โรคมะเรง็ ปอด เปน็ ตน้ ดังนัน้
“ตัวทำ�ละลาย” (Solvent) และส่วนประกอบอื่นๆ ที่มีปริมาณน้อยกว่า ผู้ปฏิบัติงานควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความปลอดภัย
เรยี กว่า “ตัวถูกละลาย” (Solute) ในงานสีรถยนตด์ ังน้ี
สุดยอดคู่มือครู 32 ในอนาคตการเป็นช่างสีหากไม่อยากเป็นอย่างภาพด้านบน จะต้องศึกษาและทำาความเข้าใจถึง
อันตรายที่จะเกิดข้ึนกับชีวิตตัวเองไม่ควรประมาทหรือละเลยในเร่ืองของความปลอดภัย อันตรายที่
เกิดจากงานสีรถยนตม์ ดี ังต่อไปน้ี
7.1 อันตรายจากสีและสารละลาย
7.1.1 สีและทินเนอร์ ประกอบด้วยสารตัวทำาลายท่ีแตกต่างกัน หากสัมผัสกับสาร
เหล่าน้ีด้วยอวัยวะส่วนใดส่วนหน่ึงหรือสูดดมไอระเหยของสารละลายและเมื่อสารละลายเข้าสู่
ร่างกายจะทำาให้เกิดการปวดศีรษะ ผิวหนังอักเสบ โลหิตจางหรือหมดสติได้ ถ้าสารตัวทำาละลาย
ดงั กลา่ วสะสมอยภู่ ายในรา่ งกายในระยะเวลาอนั ยาวนานจะทำาใหเ้ กดิ ความผดิ ปกตขิ องอวยั วะภายใน
เช่น ปอด ตับ ไต เป็นตน้
7.1.2 สารไอโซไซยาเนต เป็นสารประกอบในฮาร์ดเดนเนอร์ที่มีการใช้ในสียูรีเทน เม่ือ
สัมผัสถูกผิวหนังจะทำาให้เกิดอาการคันโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรงจะเกิด
รอยผดผื่นข้ึนบนผิวหนังอย่างชัดเจนรวมถึงอาการต่างๆ เช่น แสบคอ คันที่ผิวหนัง หายใจขัด
เวียนศีรษะ ปวดหัวและไอหอบหืด
เป็นต้น ดังน้ันช่างสีจะต้องทำา
ความเข้าใจและรู้จักถึงพิษภัยและ
อันตรายของสารเคมีเหล่าน้ี เพื่อ
ท่ีจะได้หาทางป้องกันตัวเองไม่ให้
ได้รับอันตรายในระหว่างปฏิบัติงาน
ทุกคร้งั
ภาพท่ี 1.26 อวยั วะภายในทร่ี ับสารพิษ
ท่ีมา: บริษัท สดี ูปองด์
Ap3p. lขy้ันiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlaเพt่ิมinคgุณค่า
ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill
กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก
asean
24 งานสรี ถยนต์เบ้อื งตน้ บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
7.2 อนั ตรายจากพนื้ ทีป่ ฏิบตั งิ าน • การทำ�งานเป็นทีม ทีมละ 5-6 คน ฝึกการคิดวิเคราะห์
การแกป้ ัญหา
ในพื้นที่ปฏิบัติงานควรจะมีเคร่ืองระบายอากาศเพ่ือป้องกันสารละเหยและฝุ่นละออง • การค้นควา้ หาขอ้ มูลจากแหลง่ ข้อมูลทีม่ ีคณุ ภาพน่าเชือ่ ถือ
ต่างๆ เช่น ห้องพ่นสี ห้องผสมสี ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จำาเป็นต้องได้รับการตรวจสอบและบำารุงรักษา • การใช้สอ่ื /เทคโนโลย/ี สงิ่ ทีน่ า่ สนใจอ่นื ๆ
ตลอดระยะเวลาการใช้งานอยา่ งสมำา่ เสมอ
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
ตู้พ่นแผ่นเทยี บสี หอ้ งพน่ สีชนิดดดู
ภาพท่ี 1.27 ระบบหมุนเวียนอากาศ
7.3 อนั ตรายจากไฟ
สว่ นประกอบของสแี ละสารตวั ทาำ ละลายจะประกอบไปดว้ ยสารทไี่ วตอ่ การเกดิ ประกายไฟ
ซึ่งสารดังกล่าวจะมีนำ้าหนักมากกว่าอากาศ ดังนั้นจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับอันตราย
จากวัสดุงานสี เพ่ือป้องกันสีและสารตัวทำาละลายได้รับความร้อนหรือประกายไฟจนทำาให้เกิด
เพลงิ ไหมข้ ึ้นได้
ความรเู้ บอ้ื งต้นเก่ียวกบั งานสีรถยนต์ 25
ติดตงั้ ระบบดูดอากาศ ปดิ ฝากระป๋องหลงั ใชง้ าน อยา่ สบู บุหรใี่ นบริเวณปฏบิ ัติงาน 7.4 อุปกรณเ์ พ่อื ความปลอดภยั
ภาพท่ี 1.28 อันตรายจากไฟ
7.4.1 แว่นตาหรือหน้ากากกระจก
แวน่ ตาในงานสรี ถยนตม์ ไี วเ้ พอื่ ใสป่ อ้ งกนั สารละลาย
จากสีและทินเนอร์รวมท้ังฝุ่นละอองจากเคร่ืองขัด
เตรียมพื้นตา่ งๆ
ภาพท่ี 1.29 การปอ้ งกนั อนั ตรายทเ่ี กดิ ขน้ึ กบั ตา
ทม่ี า: บริษัท สดี ูปองด์
7.4.2 หน้ากากปดิ จมกู
1) หนา้ กากกนั ฝุน่ ขนาดของเมด็ ฝุ่นทมี่ ีผลตอ่ ปอด คือ ขนาด 0.2 ถึง 5 ไมครอน
หน้ากากกันฝุ่น คือ อุปกรณ์ที่ทำาขึ้นมาเพ่ือป้องกันการสูดดมฝุ่นละอองเท่าน้ันไม่สามารถป้องกัน
สารละเหยและกล่ินได้จงึ ไมค่ วรใส่พ่นสี
ภาพที่ 1.30 หน้ากากกนั ฝุน่ แบบแขง็ ภาพท่ี 1.31 หนา้ กากกนั ฝุ่นแบบอ่อน
ไมครอน (Micron) หรือไมโครเมตร (Micrometre) เป็น 2) หน้ากากพ่นสี ใช้ในงานพ่นสีท่ัวไปสามารถป้องกันฝุ่น สารละเหยและ
หน่วยวัดความยาว 1 ไมครอนมีค่าเท่ากับ 1 ใน 1,000,000 กลนิ่ ได้ มหี ลายรปู แบบและหลายราคา
ของ 1 เมตรหรอื เท่ากบั 10,000 องั สตรอม ใช้สัญลกั ษณ์ mm
ภาพท่ี 1.32 หนา้ กาก 2 ตัวกรอง ภาพท่ี 1.33 หน้ากากแบบตวั กรองเดีย่ ว
ท่ีมา: บรษิ ัท สีดปู องด์
33 สุดยอดคู่มือครู
GPAS 5 STEPs 1. Gขั้นaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต
26 งานสรี ถยนตเ์ บื้องต้น
ไฟฟา้ สถติ (Static Electricity) เปน็ ปรากฏการณท์ ป่ี รมิ าณประจไุ ฟฟา้
7.4.3 ชุดพ่นสี เป็นชุดป้องกัน ขั้วบวกและขั้วลบบนผิววัสดุมีไม่เท่ากัน ซึ่งโดยปกติจะแสดงในรูป
ของช่างสีเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายสัมผัสกับ การดึงดดู การผลกั กนั และเกดิ ประกายไฟ
ฝุ่นละอองและสารเคมีโดยตรง ชุดป้องกันบาง
แบบทำาจากวัสดปุ ้องกันไฟฟา้ สถติ
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
ภาพท่ี 1.34 ชุดพน่ สี
ท่มี า: บรษิ ัท สีดูปองด์
7.4.4 ถุงมือผ้า ใช้ในงานเตรียม
พ้ืน งานขัดต่างๆ เพ่ือป้องกันอันตรายจาก
เคร่อื งขัด
ภาพที่ 1.35 ถุงมอื ผา้
7.4.5 ถงุ มอื ปอ้ งกนั สารละลาย เปน็
ถุงมือใช้ป้องกันสารละลายถูกผิวหนังใช้ในงาน
พน่ สี ผสมสแี ละลา้ งปนื พ่นสี
ภาพที่ 1.37 รองเทา้ นริ ภัย ภาพท่ี 1.36 ถุงมือในงานสี ความรเู้ บอื้ งตน้ เก่ียวกบั งานสรี ถยนต์ 27
7.4.6 รองเท้านิรภัย (รองเท้าป้องกัน สรุปความรเู้ บอื้ งตน้ งานสีรถยนต์
ไฟฟ้าสถิต) รองเท้าชนิดนี้ถูกเรียกติดปากกันว่า
“รองเท้าหัวเหล็ก” เพราะมีแผ่นโลหะอยู่เหนือ จากเน้ือหาในหน่วยน้ีได้กล่าวถึงสีและประเภทของสี ข้ันตอนการทำาสีรถยนต์ในโรงงาน
บรเิ วณนิ้วเทา้ พื้นรองเท้าจะทำาใหห้ นา เพ่อื ป้องกัน ผลิต อุปกรณ์เคร่ืองมือพ้ืนฐานในงานซ่อมสีรถยนต์ทั้งหมดดังกล่าวมาน้ีเป็นเพียงความรู้ใน
อันตรายจากการปฏิบัติงาน รองเท้านิรภัยที่ดีควร ภาพรวมกว้างๆ เพ่ือให้ผู้เรียนได้เห็นเบ้ืองต้นเท่านั้น ในหน่วยอื่นๆ ที่จะเรียนต่อไปจากหน่วยนี้
จะมีการปอ้ งกันไฟฟ้าสถติ ด้วย รายละเอียดเคร่ืองมืออุปกรณ์ วัสดุที่ใช้ในงานสีต่างๆ จะมีมากขึ้น ซ่ึงจะแยกตามลักษณะงาน
เชน่ งานเตรียมพน้ื งานพ่นสี งานผสมสเี ทยี บสี เปน็ ต้น
asean การเรียนรู้สู่อาเซียน
ช่างสีรถยนต์เป็นช่างท่ีมีความเสี่ยงในการเกิดโรคท่ีเก่ียวกับระบบทางเดินหายใจสูง
เรียนรู้คำ�ศัพท์ภาษาอังกฤษท่ีเก่ียวข้องกับเน้ือหาใน เนื่องจากลักษณะงานเป็นตัวบังคับให้ต้องอยู่กับฝุ่นละอองและสารระเหยท่ีเป็นพิษโดยตรงต่อ
หน่วยการเรียนรู้ตามเอกสารหนังสือเรียนงานสีรถยนต์เบื้องต้น รา่ งกาย โรคภัยตา่ งๆ อาจจะไม่เกิดให้เห็นในทนั ทีทนั ใด แตจ่ ะเกิดขน้ึ แนน่ อนหากไม่มกี ารป้องกัน
โดยฝึกใช้คำ�ศัพท์ดังกล่าวในการนำ�เสนอผลงานใน Step 4 เพราะพิษเหล่านั้นจะสะสมไปเร่ือยๆ จนร่างกายต้านทานไม่ได้จึงแสดงออกมาและอาจจะรู้
Applying the Communication Skill เมือ่ สายเกินไป จงตระหนักอย่าประมาทเพราะความสะดวกอยา่ งเดียว
สุดยอดคู่มือครู 34
Ap3p. lขy้ันiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ข้ันสื่อสารและน�ำเสนอ 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlaเพtิ่มinคgุณค่า
ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill
กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก
asean
28 งานสรี ถยนต์เบอ้ื งตน้ สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
คำ�ชแ้ี จง กจิ กรรมตรวจสอบคว�มเข้�ใจเป็นกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะเฉพ�ะด�้ นคว�มรู้-คว�มจำ�
เพือ่ ใช้ในก�รตรวจสอบคว�มเข้�ใจต�มจุดประสงค์ก�รเรียนรู้
จงตอบคำ�ถ�มตอ่ ไปนี้
1. จงบอกวัตถุประสงคข์ องการพ่นสี (จ.1)
(แนวทางการตอบ วัตถุประสงค์ของการพ่นสีรถยนต์ ได้แก่ เพื่อป้องกันการเส่ือมสภาพของตัวรถจาก
สภาพแวดลอ้ มตามธรรมชาติ เช่น แสงอาทิตย์ น้�า อากาศ หรือสสารตา่ งๆ ท่ีมผี ลกระทบต่อผวิ เหลก็ และเพือ่
ความสวยงามและบง่ บอกเอกลกั ษณ์ การพ่นสีนอกจากจะตอ้ งการใหเ้ กิดสีสนั สวยงามแล้วยังมีวตั ถปุ ระสงค์
เพอื่ แบง่ แยกประเภทของรถยนต์ เชน่ รถต�ารวจ รถดบั เพลงิ เปน็ ตน้ หรอื อน่ื ๆ ขนึ้ อยกู่ บั ดลุ ยพนิ จิ ของผสู้ อน)
2. บอกความหมายของสีตอ่ ไปน้ี (จ.2)
สีอบ (แนวทางการตอบ สีอบเป็นสีท่ีต้องใชค้ วามร้อนในการอบทีอ่ ุณหภูมปิ ระมาณ 140o โดยการแห้งตวั ของ
สีประเภทนี้เป็นแบบองค์ประกอบเดียวกับที่ใช้ในโรงงานผลิตรถยนต์ เรียกว่า “สีอบ” หรือ “สีแห้งช้า” หรือ
อ่นื ๆ ขน้ึ อยกู่ ับดลุ ยพนิ จิ ของผูส้ อน)
สยี รู เี ทน (แนวทางการตอบ สียูรีเทนเป็นสีท่ีมีการแห้งตัวโดยสองส่วนผสมกันเป็นส่วนผสมของ
ไอโซไซยาเนทที่อยู่ในฮาร์ดเดนเนอร์และแอลกอฮอล์จะผสมกันสร้างเป็นโครงสร้างเรียกว่า
ยูรเี ทนอะครลี คิ หรือโพลเี อสเตอร์ หรอื อ่นื ๆ ข้นึ อยู่กบั ดลุ ยพินิจของผู้สอน)
สแี หง้ เร็ว (แนวทางการตอบ สแี หง้ เรว็ หรอื สีแลกเกอร์เป็นสีท่ีใช้งานง่าย โดยผสมกับสารละลายทนิ เนอรแ์ ลว้
สามารถนา� ไปใชง้ านไดเ้ ลย แตม่ คี วามคงทนนอ้ ยไมน่ ยิ มใชใ้ นงานซอ่ มสี หรอื อน่ื ๆ ขนึ้ อยกู่ บั ดลุ ยพนิ จิ ของผสู้ อน)
3. จงอธิบายประเภทของสีทับหนา้ ที่แบ่งตามการหดตวั ของสแี ละสว่ นประกอบของสโี ดยสงั เขป
(จ.3, จ.4)
(แนวทางการตอบ สีทบั หน้าทแี่ บง่ ตามการหดตวั ของสี ไดแ้ ก่ สีอบ สยี ูรเี ทน และสีแลกเกอร์ ส่วนประกอบของ
สี ได้แก่ เรซน่ิ ผงสี สารละลายหลัก สารปรุงแตง่ ฮารด์ เดนเนอร์หรือฟลิ ม์ สีโซลิด สารละลายหรอื ทนิ เนอร์ และ
สีเคลียร์ หรอื อนื่ ๆ ขึน้ อยู่กบั ดุลยพนิ ิจของผสู้ อน)
4. จงบอกลักษณะเดน่ ของปม๊ั ลมพรอ้ มทงั้ การใชป้ ๊มั ลมอย่างปลอดภยั (จ.5, จ.6)
ป๊ัมแบบลกู สบู (แนวทางการตอบ ปัม๊ แบบลูกสูบนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสามารถอัดอากาศได้
ทง้ั ความดันตา�่ ความดันปานกลาง และความดนั สูง แต่มเี สยี งการท�างานคอ่ นข้างดังมาก หรืออนื่ ๆ ขน้ึ อยู่กับ
ดลุ ยพนิ ิจของผูส้ อน)
ป๊มั แบบโรตารี่ (แนวทางการตอบ ป๊มั แบบโรตารี่เป็นปั๊มลมทใี่ ช้มอเตอรข์ ับหวั ป๊มั ลมโดยตรง สามารถผลติ
ลมไดเ้ รว็ แตก่ ารสึกหรอสูงมากเพราะปม๊ั ลูกสบู ท่ัวไปแบบใช้สายพานความเร็วรอบจะต�า่ กว่าแบบนีถ้ ึง 3 ถึง 4
เทา่ ตวั หรืออืน่ ๆ ขึน้ อยู่กบั ดลุ ยพินจิ ของผู้สอน)
ปัม๊ แบบโรตารีส่ กรู (แนวทางการตอบ ปั๊มโรตาร่ีสกรูเป็นเคร่ืองอัดอากาศขนาดใหญ่ท่ีท�างานด้วยสกรูสองตัว
ที่ไม่สัมผัสกัน ท�าให้เครื่องอัดมีการสึกหรอน้อย และมีโครงสร้างเป็นตัวสกรูท�าให้อัตราส่วนของความดันมีค่าคงท่ี
เหมาะสา� หรบั ใชใ้ นโรงงานขนาดใหญท่ ต่ี อ้ งใชป้ รมิ าณลมตอ่ เนอ่ื งเปน็ ประจา� หรอื อน่ื ๆ ขน้ึ อยกู่ บั ดลุ ยพนิ จิ ของผสู้ อน)
จ. หมายถึง ตรงตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 ขอ้ ท่ี ...
ทักษะชีวิต
ฝึกปฏิบัติจริงและติดต่อกับอู่ซ่อมรถเพื่อสัมภาษณ์รวบรวมข้อมูลอู่ซ่อมรถ
ที่ประสบความสำ�เร็จในการทำ�สีรถยนต์ในท้องถ่ิน หรือเรียนรู้แนวคิดการทำ�สีรถยนต์
ของอ่ซู ่อมรถนน้ั
35 สุดยอดคู่มือครู
GPAS 5 STEPs 1. Gข้ันaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต
ผู้สอนให้ผู้เรียนทำ�แบบทดสอบ จากน้ันให้ สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด ความร้เู บื้องต้นเกย่ี วกบั งานสรี ถยนต์ 29
ผเู้ รยี นแลกกนั ตรวจค�ำ ตอบ โดยผสู้ อนเปน็ ผเู้ ฉลย
แบบทดสอบ
เฉลยแบบทดสอบ
1. ตอบ 4. เพราะสารละลายหลักเป็นสารละลาย จงเลือกค�ำ ตอบทถี่ ูกต้องที่สดุ เพยี งค�ำ ตอบเดยี ว
เรซิ่นให้คลุกเคล้าเข้ากับสี ซึ่งจะระเหยตัวได้เร็ว 1. สารละลายหลักมคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด
เมื่อนำ�สไี ปใชง้ าน 1. เปน็ สารท่แี ยกประเภทของส ี 2. เป็นสารท่ที าำ ให้สีมีความเงา
2. ตอบ 5. เพราะสารไอโซไซยาเนตเปน็ สารประกอบ 3. เปน็ สารทีป่ กคลมุ โมเลกลุ ของส ี 4. เป็นสารละลายเรซิ่นระเหยตวั ได้
ในฮาร์ดเดนเนอร์ที่มีการใชใ้ นสยี ูรเี ทน ซง่ึ เมอ่ื ถูก 5. เปน็ สารทีท่ ำาใหเ้ กิดประกาย
ผิวหนังจะท�ำ ใหเ้ กดิ อาการคนั 2. สารไอโซไซยาเนตทท่ี าำ ให้เกิดผดผืน่ คันผสมอยใู่ นขอ้ ใด
3. ตอบ 3. เพราะสีโซลิดเป็นสีชนิดอะครีลิคยูรีเทน 1. น้ำายาเชด็ คราบ 2. ทินเนอร์
2 องค์ประกอบ เม่ือแห้งตัวแลว้ จะมคี วามเงาและ 3. สแี ลกเกอร ์ 4. สโี ป๊วแหง้ เร็ว
ความแขง็ ในตวั เอง 5. ฮาร์ดเดนเนอร์
4. ตอบ 3. เพราะสียูรีเทนเป็นสีท่ีมีการแห้งตัว โดย 3. สีทม่ี คี วามเงาและความแขง็ แรงในตัวเองคือสีในขอ้ ใด
สองส่วนผสมกันเป็นส่วนผสมของไอโซไซยาเนต 1. สไี มก้า 2. สลี ไู ซด์
ทีอ่ ยูใ่ นฮาร์ดเดนเนอรแ์ ละแอลกอฮอล์ 3. สโี ซลดิ 4. สีเมทลั ลิก
5. ตอบ 2. ขั้นตอนการทำ�สีรถใหม่จากโรงงาน 5. สีกราไฟต์
เริ่มจากการล้างและการกำ�จัดไขมัน การเตรียม 4. สที ีแ่ หง้ ตวั โดยใชส้ ่วนผสม 2 ส่วนผสมกันคือสใี นข้อใด
ผิวด้วยกรรมวิธีทางเคมี การล้างน้ําและ 1. สีอบ 2. สีลไู ซด์
การอบแห้ง การชุบสีด้วยประจุไฟฟ้า (ED) 3. สียูรีเทน 4. สีแลกเกอร์
ขั้นตอนการพ่นอันเดอร์โค้ท (Undercoat) และ 5. สีไมกา้
การซีลเลอร์ (Sealer) ตัวถัง ข้ันตอนการพ่นสี 5. ขั้นตอนอนั เดอร์โค้ทและการซีลเลอรต์ วั ถังรถใหม่ ทำาหลงั จากข้ันตอนใด
รองพื้นเซอร์เฟสเซอร์ ข้ันตอนการขัดนํ้า และ 1. การลา้ งดว้ ยน้าำ ยาเคมีและอบแห้ง 2. การชบุ สดี ว้ ยประจไุ ฟฟ้า
ขนั้ ตอนการพ่นสีทบั หน้า 3. การพ่นสรี องพืน้ 4. การพ่นสกี ันกระแทก
6. ตอบ 2. ข้ันตอนการล้างและกำ�จัดไขมัน 5. การพ่นสีกนั สนิม
เริ่มจากการล้างด้วยนํ้าอุ่น 1 การล้างด้วยนํ้าอุ่น 6. ขั้นตอนการล้างและการกาำ จัดไขมันรถใหม ่ ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้อง
2 การขจัดคราบไขมัน และการลา้ งด้วยน้ํา 1. ล้างดว้ ยนาำ้ – ขจดั คราบไขมัน – ล้างด้วยน้ำาอ่นุ ครั้งท ่ี 1 – ล้างด้วยนา้ำ อุ่นครั้งที่ 2
2. ลา้ งดว้ ยน้ำาอนุ่ ครงั้ ที่ 1 – ล้างด้วยนำ้าอนุ่ คร้ังที ่ 2 - ขจัดคราบไขมนั - ล้างดว้ ยน้าำ
3. ลา้ งดว้ ยน้ำาอนุ่ ครั้งที่ 1 – ขจัดคราบไขมัน - ลา้ งดว้ ยนา้ำ อ่นุ คร้งั ท ี่ 2 - ล้างด้วยนำ้า
4. ลา้ งดว้ ยน้ำาอ่นุ คร้งั ที่ 1 – ล้างด้วยนาำ้ - ลา้ งด้วยนา้ำ อุ่นคร้งั ท ่ี 2 – ขจดั คราบไขมัน
5. ล้างดว้ ยนำ้าอ่นุ ครัง้ ที ่ 1 – ขจัดคราบไขมนั – ล้างด้วยนาำ้ อนุ่ ครงั้ ท่ ี 2 – ลา้ งดว้ ยนา้ำ อ่นุ ครัง้ ที ่ 3
ค่านิยมหลัก 12 ประการ
• มีศลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวังดีตอ่ ผู้อ่ืน เผื่อแผแ่ ละแบง่ ปัน
• ใฝ่หาความรู้ หม่ันศึกษาเลา่ เรยี นท้งั ทางตรงและทางออ้ ม
• มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรจู้ กั เคารพผใู้ หญ่
• มีสตริ ้ตู วั รูค้ ิด รู้ท�ำ รู้ปฏบิ ตั ิตามพระราชด�ำ รัสของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั
• รู้จักดำ�รงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำ�รัส
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้จักอดออมไว้ใช้เม่ือยามจำ�เป็น มีไว้พอกินพอใช้
ถา้ เหลอื กแ็ จกจ่ายจำ�หนา่ ย และพร้อมทีจ่ ะขยายกิจการเมอื่ มคี วามพรอ้ ม เมื่อมีภูมคิ ุม้ กนั
ที่ดี
สุดยอดคู่มือครู 36
Ap3p. lขy้ันiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ขั้นส่ือสารและน�ำเสนอ 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlaเพt่ิมinคgุณค่า
pplying the Communication Skill
ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก
asean
30 งานสีรถยนต์เบื้องต้น เฉลยแบบทดสอบ
7. ขนาดอนุภาคท่เี ปน็ อันตรายต่อร่างกายคือข้อใด
1. 0.01-1 ไมครอน 2. 0.02-2 ไมครอน 7. ตอบ 5. เพราะขนาดของฝุ่นที่เป็นอันตรายต่อ
3. 0.1–2 ไมครอน 4. 0.2–3 ไมครอน ร่างกาย คอื 0.2-5 ไมครอน
5. 0.2–5 ไมครอน
8. เครอื่ งอดั อากาศ (ป๊ัมลม) ชนิดใดที่มีขนาดใหญ่ทสี่ ดุ 8. ตอบ 4. เพราะเคร่ืองอัดอากาศแบบโรตาร่ี-
1. แบบลกู สบู 2. แบบโรตารี่ สกรูเป็นเครื่องอัดอากาศขนาดใหญ่ทำ�งาน
3. แบบลูกสบู นอน 4. แบบโรตารส่ี กรู ด้วยสกรูสองตัวท่ีไม่สัมผัสกัน ทำ�ให้เคร่ืองอัด
5. แบบลกู สบู วี มีการสึกหรอน้อย และมีโครงสร้างเป็น
9. ปั๊มลมทีม่ ีการสกึ หรอสงู กว่าชนดิ อนื่ คอื ปม๊ั ลมในขอ้ ใด ตัวสกรูทำ�ให้อัตราส่วนของความดันมีค่าคง
1. ปัม๊ แบบโรตารี ่ 2. ปม๊ั แบบลูกสูบต้งั ท่ีเหมาะสำ�หรับใช้ในโรงงานขนาดใหญ่ท่ีต้องใช้
3. ปั๊มแบบโรตารี่สกรู 4. ปั๊มแบบสกรู ปริมาณลมต่อเน่อื งเป็นประจำ�
5. ปม๊ั แบบลูกสูบนอน
10. ขอ้ ใดกล่าวไมถ่ ูกต้องเก่ียวกับวัตถุประสงค์ของการพน่ สีรถยนต์ 9. ตอบ 1. เพราะป๊ัมลมแบบโรตารี่เป็นปั๊มลมที่ใช้
1. ปอ้ งกันตัวรถจากรอยขดี ข่วน 2. ปอ้ งกันตวั รถจากความรอ้ น มอเตอรข์ บั หวั ปม๊ั ลมโดยตรง สามารถผลติ ลมได้
3. ปอ้ งกันตวั รถจากความชื้น 4. ป้องกันตวั รถจากสารละลาย เร็ว แต่การสึกหรอสูงมากเพราะปั๊มลูกสูบทั่วไป
5. ป้องกันตวั รถจากกรดเกลอื แบบใชส้ ายพานความเรว็ รอบจะตา่ํ กวา่ แบบนถี้ งึ
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด 3 ถึง 4 เทา่ ตัว
แบบประเมินตนเอง
คำ� ช้ีแจง ตอนท ี่ 1 ใหผ้ ้เู รียนประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ โดยเขียนเคร่ืองหมำย ✓ ลงในช่องระดับ 10. ตอบ 1. วัตถุประสงค์ของการพ่นสีรถยนต์
คะแนนและเติมขอ้ มลู ตำมควำมเป็นจรงิ ได้แก่ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของตัวรถ
ระดับคะแนนตอนท่ ี 1 5 : มำกท่ีสุด 4 : มำก 3 : ปำนกลำง 2 : น้อย 1 : ควรปรับปรุง จากสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ เช่น
ตอนท่ ี 2 ให้นักเรียนน�ำคะแนนจำกแบบทดสอบมำเติมลงในช่องว่ำง และเขยี น แสงอาทิตย์ น้ํา อากาศ หรือสสารต่างๆ ที่มี
เครื่องหมำย ✓ ลงในช่องสรปุ ผล ผลกระทบต่อผิวเหล็ก และเพ่ือความสวยงาม
ตอนท ่ี 1 (ผลกำรเรยี นรู้) และบ่งบอกเอกลักษณ์ การพ่นสีนอกจากจะ
ตอนท่ี 2 (แบบทดสอบ) ตอ้ งการใหเ้ กดิ สสี นั สวยงามแลว้ ยงั มวี ตั ถปุ ระสงค์
รำยกำร 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ เพ่ือแบง่ แยกประเภทของรถยนต์ เชน่ รถตำ�รวจ
คะแนน รถดบั เพลงิ เปน็ ตน้
1. ผเู้ รยี นมีความรู ้ ความเข้าใจในเนื้อหา สรุปผล
2. ผู้เรยี นได้ทา� กจิ กรรมสง่ เสริมการเรยี นรูท้ สี่ อดคลอ้ งกับเน้อื หา
และจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 9-10 (ดมี าก)
3. ผู้เรยี นได้เรยี นและท�ากิจกรรมที่สง่ เสริมกระบวนการคดิ 7-8 (ด)ี
เกดิ การคน้ พบความรู้ 5-6 (พอใช้)
4. ผูเ้ รยี นสามารถประยุกตค์ วามรู้เพ่ือี ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจา� วนั ได้ ต�า่ กวา่ 5
5. ผ้เู รียนได้เรยี นรอู้ ะไรจากการเรยี น (ควรปรับปรุง)
6. ผเู้ รียนต้องการทา� ส่ิงใดเพื่อพัฒนาตนเอง
7. ความสามารถทีถ่ ือว่าผ่านเกณฑป์ ระเมินของผเู้ รียน คือ
กิจกรรมท้าทาย
ให้ผู้เรียนฝึกวิเคราะห์การทำ�สีรถยนต์ของอู่ซ่อมรถที่สนใจในเรื่องใด
เร่ืองหนึ่ง โดยการวิเคราะห์การทำ�งานตามกระบวนการทำ�สีรถยนต์ท่ีเรียน
มาแล้ว และสรุปความเปน็ ไปได้ทีผ่ ้เู รียนจะปฏิบัตใิ นเร่ืองนน้ั
37 สุดยอดคู่มือครู
ตารางสรปุ คะแนนการประเมนิ จดุ ประสงค์การเรียนรู้
และสมรรถนะประจ�ำหน่วย
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ความรูเ้ บือ้ งตน้ เกยี่ วกับงานสีรถยนต์
คะแนนตาม จปส. รายหนว่ ยการเรยี นรู้
1. สงวนลิข ิสท ิ์ธ สำ� ันกพิมพ์ บริ ัษทพอ ิธบายวัต ุถประสง ์คของการ ่พนสีรถยนต์ัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
2. อ ิธบายประเภทของสี ่พนรถยน ์ตและประเภทของ ีส ัทบห ้นาชิ้นงาน/การแสดงออก รวม
แ ่บงตามการแห้งตัวของสีไ ้ดทก่ี �ำหนดในหนว่ ยการเรยี นรหู้ รอื หนว่ ยย่อย
3. อธิบายส่วนประกอบ ่ตางๆ ของสีไ ้ด
4. อ ิธบายข้ันตอนการทำ� ีสรถให ่มจากโรงงานไ ้ด
5. อ ิธบายการใช้เค ่ืรองมือและ ุอปกรณ์งาน ีสรถยน ์ต ้ดวย
ความปลอด ัภย
6. ีมเจตคติท่ีดีในการเ ีรยนเ ืร่องความรู้เ ืบ้อง ้ตนเ ่ีกยว ักบงาน ีส
รถยนต์ และรัก ์ษ ่คา ินยมหลัก 12 ประการของไทย
ภาระงาน/ชน้ิ งานระหวา่ งเรียน - 20
1. ผังกราฟกิ แสดงการเก็บรวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกับความรเู้ บื้องตน้ เกย่ี วกับ 4 4 4 4 4
- 20
งานสีรถยนต์
5 30
2. ผังกราฟิกสรุปความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับงาน 4 4 4 4 4
สีรถยนต์ - 10
10 10
3. การนำ�เสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับความรู้เบ้ืองต้น 5 5 5 5 5 - 10
เกย่ี วกบั งานสรี ถยนต์ 15 100
การประเมนิ รวบยอด 2 2 22 2
1. ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
2. ผลการประเมินตนเอง - - -- -
3. คะแนนผลการทดสอบ 2 2 22 2
รวม 17 17 17 17 17
สุดยอดคู่มือครู 38
GPAS 5 STEPs 1. Gข้ันaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
A3. ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Apply4.inขg้ันสth่ือeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlaเพt่ิมinคgุณค่า
pplying and Constructing the Knowledge
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21 ทักษะชีวิต
ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก
asean
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดการใชป้ นื พน่ สี 31หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 การใชป้ ืนพน่ สี
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี การใชป้ นื พน่ สี สาระการเรยี นรู้
1. หลกั การของปืนพ่นสี (หนงั สือเรียน หนา้ 33)
2 2. ชนิดของปืนพ่นสี (หนังสือเรียน หนา้ 33-35)
3. โครงสร้างและส่วนประกอบของปืนพ่นสี
สาระสา� คัญ
(หนงั สือเรียน หน้า 35-38)
การที่จะพ่นสีให้ผิวสีมีความสวยงาม มีหลักการทำางานอย่างไรและจำาเป็นจะต้องรู้จักเทคนิค 4. เทคนิคและวิธีการใช้ปืนพ่นสี (หนังสือเรียน
วธิ กี ารใช้ปนื พน่ สีรวมถึงการทำาความสะอาดปืนพ่นสี
หนา้ 39-42)
สาระการเรยี นรู้ 5. การทำ�ความสะอาดปืนพ่นสี (หนังสือเรียน
1. หลักการของปนื พน่ สี
2. ชนิดของปืนพ่นสี หนา้ 42-45)
3. โครงสรา้ งและส่วนประกอบของปนื พ่นสี สมรรถนะประจำ�หนว่ ย
4. เทคนคิ และวธิ กี ารใชป้ ืนพ่นสี แสดงความรเู้ กย่ี วกับการใช้ปนื พน่ สี
5. การทำาความสะอาดปนื พน่ สี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายหลกั การของปืนพ่นสีได้
2. อธบิ ายชนดิ ของปืนพ่นสไี ด้
3. อธิบายโครงสร้างและส่วนประกอบของปืน
พน่ สไี ด้
4. อธิบายเทคนิคและวิธีการใช้งานปืนพ่นสีได้
อยา่ งถูกตอ้ ง
5. ทำ�ความสะอาดปืนพน่ สไี ด้
6. มีเจตคติท่ีดีในการเรียนเรื่องการใช้ปืนพ่นสี
และรักษ์ค่านยิ มหลัก 12 ประการของไทย
การประเมินผล ภาระงาน/ชน้ิ งานรวบยอดในหนว่ ยการเรยี นรู้
1. ผลการปฏิบัตกิ จิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ
ภาระงาน/ชนิ้ งาน/การแสดงออกของผเู้ รยี น 2. ผลการปฏิบัติใบงาน
ภาระงาน/ช้ินงานระหว่างเรียน 3. ผลการประเมนิ ตนเอง
1. ผงั กราฟกิ แสดงการเกบ็ รวบรวมข้อมูลเก่ยี วกบั การใชป้ นื พ่นสี 4. คะแนนผลการทดสอบ
2. ผงั กราฟกิ สรุปความรคู้ วามเขา้ ใจเก่ยี วกับการใช้ปืนพ่นสี
3. การนำ�เสนอผลการสรุปความรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกับการใชป้ ืนพน่ สี 39 สุดยอดคู่มือครู
GPAS 5 STEPs 1. Gข้ันaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21
ทักษะชีวิต
32 งานสีรถยนต์เบื้องต้น 2.4 เทคนคิ และวธิ กี ารใชป้ นื พน่ สีจำ�กัด
• การใชป้ นื พน่ สมี เี ทคนคิ วธิ กี ารใชอ้ ยา่ งไรบา้ ง
สมรรถนะประจ�าหนว่ ย 2.5 การท�ำ ความสะอาดปนื พน่ สี
แสดงความรเู้ กยี่ วกับการใชป้ ืนพน่ สี • การท�ำ ความสะอาดปนื พน่ สแี บบไหลลงมกี ข่ี น้ั ตอนอะไร
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ บา้ ง
1. อธิบายหลกั การของปืนพ่นสีได้ • การบำ�รุงรักษาปืนพ่นสีให้มีอายุการใช้งานได้นานและ
2. อธบิ ายชนิดของปนื พ่นสไี ด้
3. อธบิ ายโครงสร้างและส่วนประกอบของปืนพ่นสไี ด้ ท�ำ งานไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพควรท�ำ อยา่ งไร
4. อธิบายเทคนคิ และวิธกี ารใช้งานปืนพน่ สไี ด้อยา่ งถูกต้อง 3. แตล่ ะกลมุ่ บนั ทกึ ผลการศกึ ษาตามหวั ขอ้ ทก่ี �ำ หนดลงผงั กราฟกิ
5. ทำาความสะอาดปนื พ่นสีได้
6. มีเจตคติทดี่ ใี นการเรียน เรือ่ ง การใชป้ นื พน่ สี และรกั ษ์ค่านยิ มหลกั 12 ประการของไทย (เลือกออกแบบและใช้ผังกราฟิกให้เหมาะสมกับลักษณะ
ของขอ้ มลู ) ดงั ตวั อยา่ ง
ผังสาระการเรยี นรู้ (พว.)
การใชป้ นื พ่นสี หลกั การของปนื พน่ สี บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ
ชนดิ ของปืนพน่ สี
โครงสร้างและส่วนประกอบของปืนพ่นสี
เทคนคิ และวธิ กี ารใชป้ ืนพน่ สี
การทำาความสะอาดปืนพน่ สี
Step 1 g การใช้ปนื พ่นสี 33
สำ�นักพิมพ์ 1. หลกั การท�างานของปืนพน่ สี
Gatherin ขนั้ รวบรวมข้อมูล
ปืนพ่นสีเป็นอุปกรณ์ท่ีจะทำาให้สีเป็นละอองเล็กๆ เพ่ือให้ละอองสีไปเกาะผิวงานท่ีต้องการ
1. แบ่งกลุ่มผู้เรียนร่วมกันศึกษาเอกสารหนังสือเรียนเร่ืองการใช้สงวนลิข ิสท ิธ์ ทาำ ให้เรียบและมคี วามหนาของสีสม่าำ เสมอกนั
ปนื พน่ สี หลักการของการพ่นสีจะมีลักษณะเช่นเดียวกับการทำาให้ของเหลวเป็นฝอยละอองเม่ือลม
ถูกอัดจะปล่อยลมจากรูลมในหัวปืน แรงดันลมจะถูกสร้างขึ้นที่รูจ่ายลม หากมีการปล่อยสีให้ไหล
2. ตง้ั ค�ำ ถามใหผ้ เู้ รยี นเสนอขอ้ มลู จากประสบการณข์ องตนเกย่ี วกบั (กดไกปืนพ่นสี) สีท่ีถูกปล่อยจะถูกแรงดันลมทำาให้แตกกระจายเกิดเป็นฝอยละอองคล้ายกับว่า
การใชป้ นื พน่ สี ดงั ตวั อยา่ ง ลมกับสีเป็นส่งิ เดยี วกนั ถกู ฉีดไปพรอ้ มกนั กลายเปน็ “สเปรยส์ ”ี
2.1 หลกั การของปนื พน่ สี ภาพท่ ี 2.1 หัวปนื พ่นสี
• ปนื พน่ สมี หี ลกั การท�ำ งานคลา้ ยกบั อะไร
• ปนื พน่ สมี หี ลกั การท�ำ งานอยา่ งไร 2. ชนดิ ของปนื พ่นสี
2.2 ชนดิ ของปนื พน่ สี
• ปนื พน่ สรี ถยนตม์ กี แ่ี บบ อะไรบา้ ง ปนื พน่ สีท่ใี ชใ้ นงานพ่นสีรถยนต์แบ่งออกได ้ 3 แบบดังนี้
• ปนื พน่ สรี ถยนตแ์ ตล่ ะแบบมขี อ้ ดี ขอ้ เสยี อยา่ งไร
2.3 โครงสรา้ งและสว่ นประกอบของปนื พน่ สี 1. แบบไหล ลง 2. แบบดูด 3. แบบลมอดั
• สว่ นประกอบของปนื พน่ สมี อี ะไรบา้ ง
สุดยอดคู่มือครู 40
Ap3p. lขyั้นiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ข้ันสื่อสารและน�ำเสนอ 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlaเพtิ่มinคgุณค่า
ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill
กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก
asean
34 งานสีรถยนต์เบอ้ื งต้น
โครงสรา้ งภายในแบ่งตามลักษณะองค์ประกอบของสแี ละลม
1. แบบไหลลง 2. แบบดูด 3. แบบลมอัด จำ�กัด
สี (พว.)
ลม แรงโน้มถ่วงของโลกเป็นแรงที่โลกดึงดูดวัตถุบนโลกไม่ให้หลุดลอยไป
ภาพท่ ี 2.2 ลกั ษณะปืนพ่นสี ในอวกาศ โดยแรงโนม้ ถว่ งของโลกจะมผี ลตอ่ วตั ถมุ ากหรอื นอ้ ยเพยี งใด
ขน้ึ อยู่กับมวลของวตั ถุและระยะห่างของวัตถุกับจดุ ศนู ยก์ ลางของโลก
ท่ีมา: บริษทั โตโยต้า มอเตอร ์ ประเทศไทย จำากดั
บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ
2.1 ปนื พน่ สแี บบไหลลง ภาพที ่ 2.3 ปนื พ่นสีแบบไหลลง สุญญากาศ (Vacuum) เปน็ บรเิ วณท่ไี ม่มอี ากาศ โมเลกุล หรอื อะตอม
ใดๆ อย่เู ลย
ถ้วยสีจะติดต้ังอยู่เหนือหัวปล่อยสี สีจะเข้าสู่
หวั ปลอ่ ยสโี ดยแรงโนม้ ถว่ งของโลกและแรงสญุ ญากาศภายใน
ข้อดี
การปล่อยสีจะสมำา่ เสมอ อัตราการไหลของสคี งที่
เหมาะสำาหรบั งานซอ่ มสีทั่วไป
ข้อเสีย
ไม่เหมาะกับการพ่นสีที่ต้องทำาติดต่อกันบนพ้ืนที่
บรเิ วณกว้างเพราะถ้วยบรรจสุ มี ขี นาดเลก็
2.2 ปนื พ่นสีแบบดดู การใชป้ ืนพ่นสี 35
ถ้วยใส่สีจะติดตั้งอยู่ด้านล่างของหัวพ่นสี สีจะถูก ข้อเสีย
ดูดขึน้ ตามแรงดดู ของสุญญากาศทหี่ ัวจ่ายสี มีนำ้าหนักมากเพราะถ้วยบรรจุสีมีขนาดใหญ ่ การทำาความสะอาดใช้ทินเนอร์มากกว่าปืน
ขอ้ ดี
ภาพที่ 2.4 ปืนพน่ สแี บบดดู เหมาะสำาหรับการพ่นงานที่มีพื้นที่กว้างๆ เพราะถ้วย แบบไหล
บรรจุสมี ขี นาดใหญ่
g 2.3 ปืนพน่ สแี บบลมอดั ปืนพ่นสีแบบลมอัดเป็นแบบถังสีและ
ปืนพ่นสีแยกจากกัน ต้องใช้ลมอัดเข้าไปในถังสีและ
ep 2 สำ�นักพิมพ์ ดนั ใหส้ ไี หลออกมาตามสายยางโดยสจี ะถกู อดั ในถงั สี
ดว้ ยลมและจา่ ยไปยงั ปนื พน่ สี
Strocessin ข้นั คดิ วเิ คราะห์ ขอ้ ดี
และสรุปความรู้ เหมาะสำาหรับการพ่นพ้ืนที่ขนาดใหญ่ได้
อยา่ งตอ่ เนื่องสามารถใช้กบั สที ่มี ีความหนืดสูงได้
P
ข้อเสยี
การบรรจุสีต้องใช้ปริมาณมากไม่เหมาะ
สงวนลิข ิสท ิธ์ ภาพที ่ 2.5 ปืนพ่นสีแบบลมอัด สาำ หรบั งานพ่นซอ่ มสที ัว่ ไป
1. ผู้เรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการใช้ปืนพ่นสีที่รวบรวมได้ ที่มา: http://www.iwata-th.com
จากการศึกษาคน้ ควา้ และระดมความคดิ ของสมาชิกรว่ มดว้ ย
หมายเหตุ ปัจจุบันปืนพ่นสีแบบลมอัดท่ีรวมปืนและกระป๋องสีมีราคาถูกลง และมีจำาหน่ายทั่วไป
2. เชอื่ มโยงความคลา้ ยคลงึ /แตกตา่ งของขอ้ มลู ทน่ี ำ�มาอภปิ ราย และ ตามท้องตลาด
รว่ มกันสรปุ ความร้ตู ามหัวขอ้ อภิปราย จากนัน้ บนั ทึกผลข้อสรปุ
เปน็ ความเข้าใจของกลุ่มและรายบคุ คล 3. โครงสรา้ งและสว่ นประกอบของปืนพ่นสี
ถว้ ยใส่สี
ทางเดินของสี
เขม็ ควบคมุ ปริมาณ
รูจา่ ยสี
รคู วบคุมอากาศ
สกรูปรับปริมาณสี
สกรูปรับความกว้างของสเปรย์
สกรูปรับแรงดันลม
ไกปืนพน่ สี
ท่อลมผ่าน
ภาพท ่ี 2.6 โครงสรา้ งภายในของปนื แบบไหลลง
ท่ีมา: บรษิ ัท โตโยตา้ มอเตอร ์ ประเทศไทย จำากดั
41 สุดยอดคู่มือครู
GPAS 5 STEPs 1. Gข้ันaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21
ทักษะชีวิต
36 งานสรี ถยนต์เบ้ืองตน้ 3 . ผเู้ รยี นน�ำ ขอ้ สรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจจากการเรยี นรแู้ ละฝกึ ปฏบิ ตั ิ
ท่ีได้มาแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างกลุ่มในชั้นเรียน
สกรปู รบั ความกวา้ งของสเปรย์ หัวปืน และวิเคราะห์แนวทางนำ�ไปใช้ประโยชน์ โดยการทำ�กิจกรรม
สกรูปรับปริมาณสี รูจ่ายสี ตรวจสอบความเข้าใจ (หนงั สือเรยี น หนา้ 46)
ท่อลมผ่าน เขม็ ควบคุมปรมิ าณสี 4. กล่มุ ผูเ้ รียนรว่ มกันสรปุ แนวคิดเกย่ี วกบั การใชป้ นื พ่นสีจำ�กัด
ทอ่ ดดู สี
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21(พว.)
ไกปนื
พ่นสี • การทำ�งานเป็นทีม ทีมละ 5-6 คน ฝึกการคิดวิเคราะห์
การแกป้ ัญหา
ภาชนะใสส่ ี • การค้นคว้าหาข้อมลู จากแหล่งข้อมลู ทมี่ ีคุณภาพนา่ เชื่อถือ
• การใชส้ ่อื /เทคโนโลย/ี สิ่งท่ีนา่ สนใจอืน่ ๆ
สกรูปรับแรงดนั ลม : อากาศ
: สี
ภาพท ่ี 2.7 โครงสรา้ งภายในของปนื แบบดูด บริ ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ
ที่มา: บริษัท โตโยตา้ มอเตอร ์ ประเทศไทย จาำ กดั
ในงานพ่นสีรถยนต์มีลักษณะงานพ่นท่ีแตกต่างกันหลากหลาย เช่น งานพ่นสีรองพ้ืน
งานพ่นสีทับหน้า งานพ่นสีแบบพ่นซ่อม งานพ่นเคลียร์ทับหน้าและอื่นๆ งานพ่นต่างๆ ท่ีกล่าวมานี้
มีความต้องการในการใช้ปริมาณสี ความกว้างของสเปรย์สี แรงดันลม ตลอดจนวิธีการพ่นที่
แตกตา่ งกัน
3.1 สกรปู รับปริมาณสี สกรูปรบั ปรมิ าณสี
• ถ้าต้องการให้สีที่ออกปริมาณมากให้หมุน
ทวนเข็มนาฬิกา
• ถ้าต้องการปริมาณสีน้อยให้สกรูปรับเข้าถ้า
หมุนเข้าจนสุดสีจะไมไ่ หลออก
ภาพที ่ 2.8 สกรปู รบั ปรมิ าณสี การใช้ปนื พน่ สี 37
ทีม่ า: บรษิ ทั โตโยต้า มอเตอร ์ ประเทศไทย จาำ กดั
3.2 สกรูปรบั ความกวา้ งของสเปรย์
หมุนสกรูออกจะทำาให้เกิดสเปรย์เป็นรูปวงรี ถ้าหมุนสกรูเข้าจะทำาให้เกิดสเปรย์เป็น สกรปู รับความกวา้ งของสเปรย์
รูปวงกลม สเปรย์รูปวงรีเหมาะสมสำาหรับพ่นสีที่มีพ้ืนท่ีกว้าง สเปรย์รูปกลมเหมาะสมสำาหรับพ่น
พ้นื ทีเ่ ล็กๆ
ep 3 wldedge หมนุ สกรอู อก การปรบั แตง่ รปู แบบความกวา้ ง หมนุ สกรูเขา้
St สำ�นักพิมพ์ ภาพท ่ี 2.9 สกรปู รบั ความกว้างของสเปรย์
ขน้ั ปฏบิ ัตแิ ละสรุปความรู้ ท่มี า: บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำากดั
conAstru หลงั การปฏบิ ตั ิ
ctpipnlgyitnhge aknno 3.3 สกรปู รบั แรงดนั ลม สกรูปรบั
แรงดันลม
หมุนสกรูออกปริมาณของแรงดันลมจะเพ่ิมข้ึนและ
สงวน ิลข ิสทธิ์ ถ้าหมุนสกรูเข้าแรงดันลมจะน้อยลง การปรับสกรูหมุนเข้าให้สุด
1. ผู้สอนทบทวน/ยกตัวอย่างปืนพ่นสีแต่ละชนิดที่เป็นของจริง แรงดันลมจะไม่มี
อธบิ ายพรอ้ มถอดและแสดงใหผ้ เู้ รยี นเหน็ แตล่ ะสว่ นประกอบ
ของปืนพ่นสี พร้อมหน้าที่ของแต่ละส่วนประกอบการทำ�งาน ภาพที่ 2.10 สกรูปรับแรงดันลม
ของปืนแต่ละชนิด จากน้ันทบทวนเทคนิคและวิธีการ ทม่ี า: บรษิ ทั โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จาำ กดั
ใช้ปืนพ่นสีและข้ันตอนการท�ำ ความสะอาดปืนพ่นสี สาธิตวิธี
การใช้ปนื พ่นสีและการทำ�ความสะอาดปืนพน่ สีตามขนั้ ตอน 3.4 หวั ปนื พน่ สี
2. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาตัวอย่างของจริงของปืนพ่นสี หัวปืนพ่นสีจะมีรู 3 รู มีหน้าที่แตกต่างกันสุญญากาศจะเกิดข้ึนที่รูจ่ายสีทำาหน้าท่ีพ่นสี
แตล่ ะชนดิ และแตล่ ะสว่ นประกอบของปนื พน่ สี พรอ้ มศกึ ษา ออกไป รูควบคุมอากาศจะใช้แรงจากการอัดอากาศเป็นตัวทำาให้เกิดรูปร่างและมุมของละอองสี
การทำ�งานของปืนแต่ละชนิด จากนั้นฝึกปฏิบัติตามใบงาน รูชว่ ยปรบั ความกว้างของสเปรย์สีจะเป็นตวั ชว่ ยกระจายตวั ของละอองส ี
ที่ 2.1 การพ่นสีโดยใช้นํ้า (หนังสือเรียน หน้า 47-48) และ
ใบงานท่ี 2.2 การใชป้ นื พน่ สี (หนังสอื เรียน หน้า 50-52) รจู ่ายสี
รูอากาศชว่ ยในการปรับ รคู วบคมุ อากาศ
ความกว้างของสเปรย์สี
ภาพท ่ี 2.11 หัวปนื พ่นสี
สุดยอดคู่มือครู 42
Ap3p. lขyั้นiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ขั้นส่ือสารและน�ำเสนอ 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlaเพtิ่มinคgุณค่า
ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill
38 งานสรี ถยนตเ์ บือ้ งตน้ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก
asean
asean การเรียนรู้สู่อาเซียน
เรียนรู้คำ�ศัพท์ภาษาอังกฤษท่ีเกี่ยวข้องกับเน้ือหาใน
หน่วยการเรียนรู้ตามเอกสารหนังสือเรียนงานสีรถยนต์เบื้องต้น
โดยฝึกใช้คำ�ศัพท์ดังกล่าวในการนำ�เสนอผลงานใน Step 4
Applying the Communication Skill
จำ�กัด
ภาพที่ 2.12 การปรับหวั ปนื พ่นสี (พว.)
3.5 ไกปืน
ไกปืนมีการทำางาน 2 ขั้นตอน เม่ือกดไกปืนในจังหวะแรกจะทำาให้วาล์วควบคุมลม
ทำางานลมจะถูกพ่นออกไป เมื่อกดไกปืนต่อไปจังหวะท่ีสองจะทำาให้เข็มควบคุมปริมาณสีเปิดออก
ลมทผี่ สมกนั กบั สจี ะถูกพน่ ออกไป
บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ
วาล์วควบคมุ ลมทำางาน เขม็ ควบคุมปรมิ าณสี
ตาำ แหนง่ เดยี ว ทาำ งานรว่ มกัน
กดไกปนื จงั หวะท่ี 1 กดไกปืนจงั หวะท่ ี 2
ภาพท่ ี 2.13 การทำางานไกปนื การใช้ปืนพน่ สี 39
ทมี่ า: บรษิ ัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จาำ กดั
ep 4Stkille 4. เทคนคิ และวิธกี ารใช้ปืนพน่ สี
mmpupnlyicinagtiotnh s ขน้ั สอื่ สารและนำ� เสนอAcoสำ� ันกพิมพ์ เทคนคิ และวธิ ีการใชป้ ืนพน่ ส ี ได้แก่ ภาพที่ 2.14 การจบั ปืนพน่ สี
ทม่ี า: บริษัท อ๊คั โซ่ โนเบล
1. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มออกแบบหรือหาวิธีนำ�เสนอให้ผู้อ่ืนรับรู้ 4.1 การจับปืนพ่นสี
และสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาจท�ำ PowerPoint
วดี ทิ ศั น์ น�ำ ตวั อยา่ งของจรงิ มาสาธติ หรอื น�ำ เสนอ และอภปิ ราย การจับปืนพ่นสีโดยพ้ืนฐานทั่วไปสามารถจับได้
ร่วมกันถึงเทคนิควิธีท่ีเหมาะสม บูรณาการการใช้คำ�ศัพท์ 2 แบบ คอื
ภาษาองั กฤษแทรกในการรายงาน 1) ใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้และนิ้วก้อยเป็น
ตวั ประคองปนื ใชน้ ว้ิ กลางและนว้ิ นางกดไกปนื
2. สุ่มกลุ่มผู้เรียนนำ�เสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจ 2) ใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วก้อยและนิ้วนางประคอง
โดยผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันประเมินผล การนำ�เสนอ ปืนพน่ สี ใช้นิว้ ช้ีและนว้ิ กลางกดไกปืน
ตามเกณฑท์ กี่ �ำ หนด
สงวน ิลข ิสท ิธ์ ข้อแนะนาำ ไม่ควรใช้น้ิวชี้กดไกปืนพ่นสีเพียงนิ้วเดียวเพราะจะทำาให้การบังคับไกปืนยากควบคุม
การพน่ ได้ไม่ดี
4.2 หลกั พน้ื ฐานในการควบคุมปืนพน่ สี
การบงั คับควบคมุ ปนื พ่นสี มีหลักสาำ คญั 4 ข้อ ดังน้ี
1. ระยะห่างของปืนพ่นสี (Spray Gun Distance)
2. มุมปืนพ่นส ี (Spray Gun Angle)
3. ชว่ งความเร็วในการเดินปืนพน่ ส ี (Stroke Speed)
4. การซ้อนเทย่ี วพ่นแบบเหลือ่ มทบั กัน (Pattern Overlapping)
4.2.1 ระยะห่างของปืนพ่นสี ระยะห่างระหว่างปืนพ่นสีกับชิ้นงานท่ีพ่นจะต้องเท่ากัน
ทุกจุดเพื่อให้สีมีความหนาเท่ากันท้ังช้ินงาน ถ้าปืนพ่นสีมีระยะใกล้กับผิวช้ินงานจะทำาให้สีที่พ่น
ออกไปยงั ผิวงานมคี วามหนามากและเกิดการไหลตัวของเน้ือส ี ในทางกลบั กนั ถ้าปนื พน่ สมี ีระยะห่าง
ออกจากผิวงานมากจะทำาให้ปริมาณสีพ่นออกไปกระทบผิวงานบางสีที่แห้งตัวในอากาศก่อนถึง
ผิวงานทำาให้ผวิ งานหยาบ ระยะห่างของการพน่ สที ัว่ ไปจะอยูใ่ นชว่ ง 10–20 เซนตเิ มตร ท้งั นร้ี ะยะหา่ ง
ยงั ขึ้นอยู่กับประเภทของสี การปรับปรมิ าณสีและปริมาณลม
43 สุดยอดคู่มือครู
GPAS 5 STEPs 1. Gขั้นaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต
40 งานสรี ถยนตเ์ บ้อื งตน้ กิจกรรมท้าทาย
ดี ให้ผู้เรียนฝึกวิเคราะห์การเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจ
ทสี่ นใจ เรื่องใดเร่ืองหนง่ึ โดยการวเิ คราะหง์ านตามกระบวนการ
ของผู้ประกอบการที่เรียนมาแล้ว และสรุปความเป็นไปได้ที่
ผ้เู รียนจะเป็นผปู้ ระกอบการในเรือ่ งน้ัน
จำ�กัด
ระยะห่าง
10-20 ซม. (พว.)
ภาพท่ ี 2.15 ระยะห่างของปืนพ่นสี ไม่ดี
ทมี่ า: บรษิ ทั โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จาำ กัด
4.2.2 มุมปืนพ่นสี ปืนพ่นสีจะต้องถือให้ตั้งฉากกับผิวช้ินงานในขณะทำาการพ่นสีและ
ขนานไปกบั ผวิ ชน้ิ งานเพื่อใหผ้ ิวงานมคี วามหนาของสเี ท่ากันทุกจดุ
บริ ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ
หมายเหต ุ การพ่นสีบางประเภท มุมปืนพ่นไม่ต้องการให้ตั้งฉากกับผิวงานเพื่อรักษาคุณสมบัติ
ของเม็ดสีหรือผงสี
ด ี ไมด่ ี
ดี ไมด่ ี ไมด่ ี การใชป้ ืนพ่นสี 41
ภาพท่ี 2.16 มมุ ของปนื พ่นสี
ทม่ี า: บรษิ ทั โตโยต้า มอเตอร ์ ประเทศไทย จำากัด ตำาแหน่งที่ยืนทำาการพ่นเป็นส่วนหนึ่งที่สำาคัญในการรักษาระดับให้ปืนพ่นสีตั้งฉากและ
ขนานกับผิวช้ินงาน เน่ืองจากการเดินแนวปืนพ่นสีจะต้องใช้ลำาตัวโยกโดยใช้เข่าและเอวเป็นจุดหมุน
ep 5 ting จะตอ้ งยืนเพอื่ ใหไ้ หล่ของมือที่ถือปนื พน่ อยตู่ รงกึ่งกลางด้านหน้าของชนิ้ งานท่ที ำาการพน่
การยืนจะต้องยืนให้เท้าแยกออกจากกันโดยให้กว้างกว่าตำาแหน่งของไหล่เล็กน้อยและ
f-Regula สำ�นักพิมพ์ โยกเข่าตามจงั หวะการพ่นไปด้วย
St ข้นั ประเมินเพอ่ื เพิ่มคุณคา่
บริการสงั คมและจติ สาธารณะ
Sel
สงวน ิลข ิสทธ์ิ
1. ผเู้ รยี นแตล่ ะกลมุ่ และรายบคุ คลตรวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจ ภาพที่ 2.17 ตำาแหนง่ การยืน
ของตนเองหลังจากรับฟังการนำ�เสนอของสมาชิกกลุ่มอื่น ทม่ี า: บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จาำ กัด
ปรบั ปรงุ ชนิ้ งานของกลมุ่ ตนเองใหส้ มบรู ณแ์ ละบนั ทกึ เพม่ิ เตมิ
4.2.3 ความเร็วในการเดนิ ปืนพน่ สี ความเร็วของปืนพ่นสใี นการพน่ กลับไปมามผี ลต่อ
2. นำ�เสนอผลการปฏิบัติงานแสดงในป้ายนิเทศหรือเผยแพร่ ผิวสีที่พ่นอย่างมาก ถ้าหากความเร็วในการเดินปืนพ่นสีช้าจะทาำ ให้ช้ันของสีหนาหรืออาจทำาให้สีไหล
สหู่ อ้ งเรียนอืน่ หรือสาธารณะ ได้และถ้าความเร็วในการเดินปืนพ่นสีเร็วจะทำาให้ชั้นสีบางหรือเกิดผิวหยาบสีจะเรียบหรือไม่เรียบ
ขึ้นอยู่กับช่วงความเร็วของการเดินปืนพ่นสี สำาหรับการพ่นซ่อมสีโดยทั่วไปความเร็วที่เหมาะสม
3. ผู้เรียนแต่ละคนทำ�แบบทดสอบ (หนังสือเรียน หน้า 54-55) ทีใ่ ช้เดินปืนพน่ สีจะอยรู่ ะหวา่ ง 900-1,200 มม./วินาที
แลกเปลี่ยนกันตรวจให้คะแนน จากนั้นสรุปคะแนนใน
แบบประเมินตนเอง (หนังสือเรียน หน้า 55) และกำ�หนด ตารางท่ี 2.1 ความสมั พันธร์ ะหวา่ งปริมาณอัตราการกระจายสี ระยะปืนพน่ สีและความเรว็
แนวทางการพัฒนาตนเอง ในการพน่
ปริมาณสีท่ีจ่าย ระยะปืนพน่ สี ความเร็วในการพ่น
มาก ไกล ธรรมดา
น้อย ไกล ช้า
มาก ใกล ้ เร็ว
น้อย ใกล ้ ธรรมดา
ทม่ี า: บริษทั โตโยตา้ มอเตอร ์ ประเทศไทย จาำ กัด
สุดยอดคู่มือครู 44
Ap3p. lขyั้นiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ขั้นส่ือสารและน�ำเสนอ 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlaเพt่ิมinคgุณค่า
ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill
กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก
asean
42 งานสีรถยนตเ์ บ้อื งตน้ ค่านิยมหลัก 12 ประการ
ภาพท่ี 2.18 ชว่ งความเร็วในการพ่นสี • มศี ีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผอู้ น่ื เผอ่ื แผ่และแบ่งปัน
• ใฝ่หาความรู้ หมน่ั ศึกษาเลา่ เรยี นท้ังทางตรงและทางออ้ ม
4.2.4 การซอ้ นเทยี่ วพน่ แบบเหลอ่ื มทบั กนั เมอ่ื สถี กู พน่ ออกจากปนื พน่ สกี ารกระจายตวั • มรี ะเบยี บวนิ ัย เคารพกฎหมาย ผ้นู ้อยรจู้ ักเคารพผู้ใหญ่
ของละอองสีที่บริเวณขอบด้านบนและด้านล่างจะมีปริมาณสีบางกว่าตรงส่วนกลางของสเปรย์สี • มสี ติรูต้ วั รู้คดิ ร้ทู �ำ รู้ปฏบิ ัตติ ามพระราชด�ำ รัสของพระบาทสมเดจ็ -
การซ้อนเทีย่ วพน่ เปน็ การทำาใหส้ มี กี ารกระจายตัวเพอ่ื ใหส้ ีมีความหนาเทา่ กันตลอดทงั้ ชนิ้ งาน ระยะท่ี
เหมาะสมของการพ่นใหส้ ีเหล่อื มทับกันประมาณ 21 - 32 ของความกวา้ งของละอองสี พระเจ้าอยู่หัว
• รู้จักดำ�รงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตาม
พระราชดำ�รัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้จักอดออมไว้ใช้
เม่ือยามจำ�เป็น มีไว้พอกินพอใช้ ถ้าเหลือก็แจกจ่ายจ�ำ หน่าย และ
พร้อมทจ่ี ะขยายกิจการเมอ่ื มคี วามพร้อม เมื่อมภี มู ิคุ้มกันที่ดี
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
ภาพท่ ี 2.19 การซอ้ นเทย่ี วพ่นสี การใชป้ ืนพน่ สี 43
5. การทา� ความสะอาดปืนพน่ สี ขั้นตอนการทำาความสะอาดปนื พ่นสี
ในหน่วยการเรียนนี้ขอนำาเสนอการทำาความสะอาดปืนพ่นสีแบบไหลลงและสามารถ
หลังการใช้ปืนพ่นสีจะต้องทำาความสะอาดให้ดีทุกครั้ง เพราะถ้าล้างปืนพ่นสีไม่สะอาดจะทำาให้
หาข้อมลู เพิม่ เติมไดจ้ ากภาคผนวก
การใช้งานใช้ได้ไม่ดีและหากปล่อยให้สีติดปืนพ่นสีนานๆ ปืนพ่นสีอาจจะใช้งานไม่ได้ นอกจากน้ี
การทำาความสะอาดปนื พ่นสีทผ่ี ิดวิธีจะทาำ ให้ประสทิ ธิภาพการทาำ งานลดลงหรอื ชาำ รุดได้ 1. พ่นสีทเ่ี หลอื ในถ้วยใสส่ อี อกให้หมดโดยการ 2. ใส่ทินเนอร์ในถ้วยใส่สีแล้วกดไกปืนพ่น
ทักษะชีวิต กดไกปนื พ่นสีเพอื่ ไล่สอี อก ดังภาพ ลา้ งหลายๆ คร้งั ดงั ภาพ
ฝกึ ปฏบิ ตั ติ ามใบงานที่ 2.1 และใบงานท่ี 2.2 เรยี นรกู้ ารเปน็
ผู้มีกิจนิสัยในการทำ�งานที่ดี สนใจใฝ่รู้ มีมนุษยสัมพันธ์ มีวินัย
และความรบั ผดิ ชอบ
ภาพที ่ 2.20 การพ่นสที ่เี หลอื ท้งิ
ภาพที่ 2.21 การกดไกปืนพน่ ลา้ งหลายๆ ครง้ั
3. ใช้ผ้าปิดด้านหน้าของหัวปืนพ่นสีและกด 4. ทาำ ความสะอาดถว้ ยใสส่ โี ดยการใชแ้ ปรงลา้ ง
ไกปืนพ่นสีเบาๆ แรงดันลมจะดันทินเนอร์ ดงั ภาพ
ให้หมุนวนภายในตัวปืนพ่นเป็นการทำา
ความสะอาดทางไหลของส ี ดงั ภาพ
ภาพท ่ี 2.22 การใชผ้ า้ ปดิ ด้านหนา้ ของหวั ปนื พน่ สี ภาพที ่ 2.23 การลา้ งถ้วยใส่สี
45 สุดยอดคู่มือครู
GPAS 5 STEPs 1. Gข้ันaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต
44 งานสีรถยนต์เบื้องต้น
5. ปฏิบัติซ้ำาข้ันตอนท่ี ➁, ➂ และ ➃ หลายๆ ครั้ง จนกระทั่งทินเนอร์ไล่สีออกจนสะอาดแล้วใช้
แปรงล้างทาำ ความสะอาดตวั ปืนพ่นสอี กี ครง้ั
6. ถอดหัวปืนพน่ สีและทาำ ความสะอาดโดยใช้ 7. ทำาความสะอาดฝาปดิ ถ้วยปนื พ่นส ี
แปรงล้าง ดังภาพ
ดังภาพ
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
ภาพที ่ 2.24 การลา้ งหัวปืน ภาพท ่ี 2.25 การใช้กระดาษชาำ ระ (ชนดิ หนา)
เช็ดฝาปิดถว้ ยปืน
หมายเหตุ ทำาความสะอาดหวั ปนื พ่นสีโดยใช้แปรงล้าง ระวังอยา่ ให้หัวปืนพน่ สเี กดิ ความเสียหาย
ขณะทำาความสะอาด เน่ืองจากจะทำาให้รูจ่ายสีเสียรูปทรงทำาให้การพ่นสีสเปรย์ไม่ได้
สดั สว่ น
ข้อควรจำา ไมค่ วรใชเ้ ขม็ ลวดหรอื แปรงลวดแทงทรี่ ตู า่ งๆ ของหวั ปืนพน่ สี เพราะจะทำาให้หวั ปืน
เสียหาย หากสีแห้งติดที่รูจ่ายสีให้นำาไปแช่ทินเนอร์เพื่อทำาให้สีอ่อนตัวลงจากน้ันใช้
ไม้จมิ้ ฟนั เลก็ ๆ แทงเศษสที ี่ติดอยอู่ อก
ภาพที่ 2.26 ไม่ควรใช้เข็มหรือลวด การใชป้ ืนพน่ สี 45
การบำารุงรกั ษาปืนพน่ สี
1. ไม่ควรนำาปืนพ่นสีจุ่มในทินเนอร์ เพราะอาจทำาลายสารหล่อล่ืนที่หยอดไว้ ควรจุ่มเฉพาะ
หัวปืนโดยระวังไม่ให้ตำาแหนง่ แพคคงิ สมั ผสั กับทินเนอร์โดยตรง
2. ไม่ควรใช้แปรงลวดหรอื มีดปลายแหลมขดู หัวลม
3. ควรหลอ่ ลื่นกา้ นวาวลล์ มโดยใชน้ ำ้ามันหล่อล่ืนใส
4. ควรหล่อล่ืนแพคคงิ ต่างๆ และเขม็ ควบคมุ สี
สรุปการใช้งานปืนพน่ สี
การพน่ สรี ถยนตม์ วี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ทำาใหส้ ที พ่ี น่ ไปนน้ั เมอ่ื แหง้ ตวั แลว้ สตี อ้ งมคี วามสวยงาม
เรียบสมำ่าเสมอเท่ากันทุกจุด การที่จะทำาให้สีมีความหนาและเรียบเท่ากันทุกจุดได้น้ันต้องใช้หลัก
การพน้ื ฐานของการพน่ ส ี คอื ระยะหา่ งของปนื พน่ สกี บั ชนิ้ งาน มมุ ของปนื พน่ สกี บั ชนิ้ งาน ความเรว็
ในการพ่นต้องเท่ากันทุกจุดและการซ้อนเที่ยวพ่นต้องสมำ่าเสมอทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมา ถ้าทำาได้
ทุกข้อในการพ่นสีลักษณะท่าทางการพ่นจะคล้ายๆ หุ่นยนต์กำาลังทำางาน ท่ีเป็นเช่นน้ันเพราะว่า
การพ่นสีจะให้ได้สีเหมือนสีรถใหม่จากโรงงานนั้นต้องพ่นเลียนแบบเคร่ืองจักรในโรงงานผลิตให้
มากทีส่ ดุ
ปืนพ่นสีปัจจุบันมีราคาต้ังแต่หลักร้อยจนถึงหลักหมื่น ปืนที่ราคาแพงจะมีคุณสมบัติดีกว่า
ปนื ราคาถูก เชน่
• การปรับความกว้างของสเปรย์สี ปืนบางยี่ห้อสามารถทำาได้กว้างกว่าปืนพ่นสีแบบ
ธรรมดา 2–3 เทา่ ทาำ ใหใ้ ชเ้ วลาในการพ่นนอ้ ยลง
• แรงดันลมมีสเกลบอกที่ตัวปืนพ่นส ี
สุดยอดคู่มือครู 46
Ap3p. lขy้ันiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ข้ันส่ือสารและน�ำเสนอ 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlaเพt่ิมinคgุณค่า
ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill
กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก
asean
46 งานสีรถยนต์เบื้องต้น
กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
ค�ำ ชแ้ี จง กจิ กรรมตรวจสอบคว�มเข้�ใจเปน็ กจิ กรรมฝึกทักษะเฉพ�ะด�้ นคว�มรู้-คว�มจ�ำ
เพือ่ ใชใ้ นก�รตรวจสอบคว�มเข�้ ใจต�มจดุ ประสงค์ก�รเรียนรู้
จงตอบคำ�ถ�มต่อไปนี้
1. จงเขยี นชอ่ื ชิ้นส่วนโครงสรา้ งของปนื พ่นสีตามลูกศรท่ีกา� หนดไว้ (จ.1)
หวั ปนื
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
สกรปู รับความกว้างของสเปรย์ รูจา่ ยสี
สกรปู รับปรมิ าณสี เขม็ ควบคุมปริมาณสี
ท่อลมผา่ น ท่อดูดสี
สกรปู รับแรงดันลม ภาชนะใส่สี
: อากาศ
: สี
2. การควบคุมปืนพ่นสีมีหลกั สา� คัญ 4 ขอ้ คือ (จ.2, จ.3, จ.4)
(แนวทางการตอบ หลักในการควบคุมปืนพ่น ได้แก่ ระยะห่างของปืนพ่นสี มุมปืนพ่นสี ช่วงความเร็วใน
การเดินปนื พ่นสี และการซ้อนเท่ียวพน่ แบบเหลื่อมทบั กนั หรอื อนื่ ๆ ข้นึ อย่กู บั ดุลยพินิจของผสู้ อน)
3. จงอธิบายการทา� ความสะอาดปนื พ่นสีโดยสังเขป (จ.5)
(แนวทางการตอบ การทา� ความสะอาดปืนพ่นสเี ร่ิมตน้ จากพ่นสีท่ีเหลอื ในถ้วยใส่สีออกใหห้ มด ใส่ทินเนอร์ใน
ถ้วยใสส่ ีและกดไกปนื พ่นล้างหลายๆ ครั้ง ใชผ้ า้ ปิดด้านหนา้ ของหวั ปนื พ่นสแี ละกดไกปืนเบาๆ แรงดนั ลมจะ
ดนั ทนิ เนอรใ์ หห้ มนุ วนภายในตวั ปนื พน่ และเปน็ การทา� ความสะอาดทางไหลของสี จากนน้ั ทา� ความสะอาดถว้ ย
ใสส่ ีและหวั ปืนพ่นสโี ดยใช้แปรงล้าง หรอื อ่ืนๆ ขึ้นอย่กู ับดลุ ยพนิ จิ ของผ้สู อน)
จ. หมายถึง ตรงตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 ข้อท่ี ...
47 สุดยอดคู่มือครู
GPAS 5 STEPs 1. Gข้ันaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21
ทักษะชีวิต
การใชป้ นื พน่ สี 47
ใบงานที่ 2.1 หน่วยที่ 2
จำานวน 2 ชัว่ โมง
วิชา งานสีรถยนต์เบอื้ งต้น รหสั วชิ า 2101-2503
ชอื่ งาน การพ่นสโี ดยใชน้ ้าำ
จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด48 งานสรี ถยนต์เบอ้ื งตน้
1. ใชป้ ืนพน่ สไี ด้ถกู ตอ้ งตามหลกั การ
2. ยนื พ่นสีถูกหลักการ 5. ยืนให้ห่างจากช้ินงานพอประมาณไม่ใกล้หรือไกลเกินไป ไม่ให้แขนยืนไปข้างหน้ามากจะ
3. พ่นสถี กู ตอ้ งตามหลัก ระยะหา่ ง มุม ความเรว็ และการซ้อนเทีย่ วพน่ ทาำ ให้ปวดเมอ่ื ยและยากต่อการพน่
4. มีกิจนิสยั ในการทำางานท่ดี ี สนใจใฝ่ร ู้ มมี นุษยสัมพันธ ์ มีวินัยและความรบั ผิดชอบ 6. ฝกึ การพ่นส ี ยดึ หลักการพน่ 4 ขอ้ คือ
เครอื่ งมอื และอุปกรณ์ 6.1 ระยะห่างของปืนพ่นสีกับช้ินงานต้องเท่ากันทุกจุด ปกติระยะห่างประมาณ 10-20
1. ปืนพ่นส ี 1 ตัว ต่อผเู้ รยี น 5 คน เซนตเิ มตร
2. ทอ่ ลม 6.2 มุมของหัวปนื พน่ สจี ะตอ้ งตัง้ ฉากกับผวิ ช้ินงาน
3. เครอื่ งปม๊ั ลม 6.3 ความเรว็ ในการพน่ แบบไปกลบั ตอ้ งสมาำ่ เสมอ โดยทว่ั ไปประมาณ 90-120 เซนตเิ มตร
4. ชิ้นงานฝึก (แผงประตู, บังโคลนหน้า) ตอ่ วนิ าที
วสั ดุ 6.4 การซ้อนเท่ยี วพ่นสีตอ้ งสมำา่ เสมอ ปกตใิ หซ้ อ้ นเทย่ี วพน่ แบบ 1/2 หรือ 2/3
1. ส ี (สาำ หรบั ใชท้ ดลองพน่ อาจผสมเตรียมไว้กอ่ นทำากจิ กรรมใบงานกไ็ ด)้ 7. ฝึกพ่นเสมือนพ่นจริง 3 เทีย่ ว
ข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน 7.1 พน่ บางๆ ในเที่ยวแรก (พน่ โปรย) เดินปืนเรว็
1. จดั เตรียมวัสดอุ ปุ กรณ์ 7.2 เที่ยวท ่ี 2-3 พน่ ปกตติ ามหลักการพ่น
1.1 ชิ้นงานฝกึ แผงประตู บงั โคลนหนา้ 8. ทาำ ความสะอาดปืนพ่นสี
1.2 ป๊มั ลม 8.1 เทสีทเี่ หลอื ในถ้วยปืนพน่ สอี อก
2. ตอ่ ท่อลมเขา้ กับปืนพ่น ใส่สลี งในถว้ ยปืนพน่ สี 8.2 พ่นนาำ้ ทีต่ กค้างในปนื พน่ สีทิง้
3. จบั ปืนพน่ สี (จับได ้ 2 แบบ) 8.3 เตมิ ทนิ เนอร์ลงในถว้ ยปนื พ่นสีเล็กนอ้ ยแลว้ พน่ สอี อกเพื่อปอ้ งกนั การเกิดสนมิ
3.1 ใช้น้ิวหัวแม่มือกับนิ้วชี้และน้ิวก้อยเป็นตัวประคองปืน ใช้น้ิวกลางและนิ้วนาง 8.4 ใชผ้ ้าสะอาดเชด็ ปนื พ่นสี
กดไกปืน 9. ทำาความสะอาดบริเวณปฏบิ ัติงาน
3.2 ใชน้ ้ิวหวั แมม่ ือ น้วิ กอ้ ยและนิ้วนางประคองปนื ใช้นวิ้ ชีแ้ ละน้วิ กลางกดไกปืน
4. ปรบั ปนื พ่นสี ข้อควรระวงั เพอ่ื ให้ผวิ สีทอ่ี อกจากปนื พ่นสเี ทา่ กันทุกจดุ
4.1 ปรับปริมาณส ี หมุน สกรูปรับปรมิ าณสีเข้าสุดแล้วคลายออก 2-3 รอบ 1. ในการพ่นสจี ะตอ้ งกดไกปืนพน่ สกี ่อนเขา้ หาผวิ ชนิ้ งาน 2-4 เซนติเมตรขนึ้ ไป
4.2 ปรับความกว้างของสเปรยส์ ี หมุนสกรปู รบั สเปรยอ์ อกให้สุด 2. เมือ่ พน่ สีสดุ ชิ้นงานจะต้องพน่ สีเลยออกจากชิน้ งาน 2-4 เซนติเมตรขน้ึ ไป
4.3 ปรบั แรงดนั ลมใหไ้ ด้แรงดันประมาณ 2-3 กิโลกรัม/ตารางเซนตเิ มตร
สุดยอดคู่มือครู 48
Ap3p. lขyั้นiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ข้ันส่ือสารและน�ำเสนอ 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlaเพt่ิมinคgุณค่า
ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill
กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก
asean
เวลาเริ่มตน้ แบบประเมินผล การใชป้ นื พน่ สี 49
ชื่อ งาน พน่ สโี ดยใชส้ ี เลขท ี่
เวลาเสร็จ
สกุล
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
ข้นั ตอนการปฏบิ ัตงิ าน คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน
(ทำาถกู ) (ทำาไมถ่ กู ) (ผดิ บางส่วน) (ถูกบางสว่ น)
1. การจับปืนพ่นส ี
2. ลักษณะการยนื 5 0 3 2
3. ระยะหา่ งของปืนพน่ สีกับชน้ิ งาน 5 0 3 2
4. มมุ ของปนื พ่นสีกบั ช้นิ งาน 5 0 3 2
5. ความเร็วในการพ่นส ี 5 0 3 2
6. การซอ้ นเทยี่ วพ่น 5 0 3 2
5 0 3 2
คะแนนรวม (30 คะแนน) . ...........................คะแนน
เกณฑ์การประเมิน 50 งานสีรถยนตเ์ บ้ืองตน้
คะแนน 25 - 30 = ดมี าก
คะแนน 20 - 24 = ดี
คะแนน 15 - 19 = พอใช้
คะแนนตำ่ากวา่ 15 = ปรบั ปรงุ
ลงชื่อ....................................................ผสู้ อน
( )
ใบงานที่ 2.2 หน่วยที่ 2
จำานวน 4 ชั่วโมง
วชิ า งานสรี ถยนต์เบอ้ื งตน้ รหัสวิชา 2101-2503
ชอื่ งาน การใช้ปนื พน่ สี (พน่ สแี ห้งเรว็ )
จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม
1. การใช้ปืนพน่ สีไดถ้ ูกตอ้ งตามหลักการ
2. การยนื พน่ สีถูกตอ้ งตามหลักการ
3. พ่นสถี ูกต้องตามหลกั ระยะห่าง มุม ความเรว็ และการซ้อนเท่ียวพ่น
5. ทำาความสะอาดปนื พน่ สีไดอ้ ย่างถูกต้องตามหลักการ
6. มกี จิ นสิ ัยในการทำางานทีด่ ี สนใจใฝ่ร ู้ มมี นษุ ยสัมพันธ ์ มีวนิ ยั และความรับผดิ ชอบ
เครื่องมือและอปุ กรณ์
1. ปนื พน่ ส ี 1 ตัว ตอ่ ผ้เู รียน 5 คน
2. สายลม
3. เครอ่ื งปมั๊ ลม
4. ชิน้ งานฝึก (แผงประต ู บงั โคลนหน้า)
5. ถาดลา้ งปืนพ่นสี
6. แปรงทำาความสะอาดปนื พน่ สีขนาด 1 น้วิ
วัสดุ
1. สที บั หน้าแห้งเรว็
2. ทินเนอร์
ขั้นตอนการปฏบิ ตั ิงาน
1. จัดเตรยี มวสั ดุอปุ กรณ์
1.1 ชนิ้ งานฝึก แผงประตู บงั โคลนหน้า
1.2 ปมั๊ ลม
1.3 สายลม
1.4 อุปกรณค์ วามปลอดภัย หน้ากากพน่ ส ี ถงุ มือพน่ ส ี แวน่ ตา ถุงมอื ปอ้ งกันสารละลาย
2. สวมอุปกรณ์ความปลอดภัย หน้ากากพ่นสี ถุงมือพ่นสี แว่นตา ต่อสายลมเข้ากับปืนพ่น
ใสส่ ที ผ่ี สมแลว้ ลงในถ้วยปนื พ่นสี
49 สุดยอดคู่มือครู