The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือครู วิชาเพศวิถีศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือครู วิชาเพศวิถีศึกษา

คู่มือครู วิชาเพศวิถีศึกษา

1. ขGั้นaรtวhบeรrวiมnขg้อมูล 2 . ขPั้นrคoิดcวeิเsคsรiาnะหg์และสรุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต

108 เพศวิถศี กึ ษา ผู้สอนให้ผู้เรียนท�ำแบบทดสอบ จากนั้นให้ผู้เรียนแลกกัน
ตรวจคำ� ตอบ โดยผสู้ อนเปน็ ผู้เฉลย
แบบทดสอบ
สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด กฎหมายใกล้ตัว 109
คำาส่ัง จงเลอื กคาำ ตอบท่ถี ูกต้องท่สี ดุ เพยี งคาำ ตอบเดยี ว
1. ความหมายของกฎหมายอาญาคือข้อใด 5. การกระทาำ ผิดทางอาญาโดยไม่เจตนาตรงกบั ข้อใด
1. ว่าด้วยการกระทำาความผดิ และกำาหนดโทษ 1. การยกพวกตกี นั และใช้อาวธุ
2. ชว่ ยใหส้ งั คมอยู่กนั อย่างมีความสขุ 2. นายดำาใชป้ นื ยงิ นายขาวเพื่อขม่ ขู่
3. ปอ้ งกันเหตุร้ายขึ้นในสงั คม 3. นายแดงขับรถด้วยความเร็วสูงชนคนไดร้ บั บาดเจบ็
4. เกย่ี วกบั สทิ ธ ิ หนา้ ท ี่ นติ กิ รรม สิทธิในทรัพย์สิน 4. การปล้นทรพั ย์
5. ป้องกันและบรรเทาการบาดเจ็บ 5. ถกู ทงั้ ข้อ 2. และข้อ 3.
2. ความหมายของกฎหมายแพ่งคือข้อใด
1. วา่ ด้วยการกระทาำ ความผิดและกาำ หนดโทษ 6. การกระทาำ ผิดทางอาญาโดยประมาทตรงกบั ข้อใด
2. ช่วยให้สงั คมอย่กู ันอยา่ งมคี วามสขุ 1. การยกพวกตีกนั และใชอ้ าวุธ
3. ป้องกนั เหตุร้ายข้ึนในสังคม 2. นายดำาใช้ปืนยงิ นายขาวเพือ่ ข่มขู่
4. เกย่ี วกับสิทธิ หนา้ ท่ ี นิติกรรม สทิ ธใิ นทรัพย์สนิ 3. นายแดงขับรถดว้ ยความเรว็ สูงชนคนไดร้ ับบาดเจบ็
5. ปราบปรามการทจุ ริต 4. การปลน้ ทรัพย์
3. ขอ้ ใดเป็นโทษทางอาญา 5. ถกู ทง้ั ข้อ 2. และขอ้ 3.
1. ประหารชีวิต
2. จาำ คุก 7. ทุกคนตอ้ งทาำ บตั รประชาชนเม่อื อายคุ รบกปี่ ี
3. ปรับ 1. 7 ปีบรบิ ูรณ์
4. ยอมความได้ 2. 15 ปบี รบิ ูรณ์
5. ถกู ทกุ ขอ้ 3. 20 ปีบริบรู ณ์
4. การทาำ ผิดทางอาญาโดยเจตนาตรงกับข้อใด 4. เมือ่ เข้าส่วู ยั รุน่
1. การยกพวกตีกันและใชอ้ าวธุ 5. ถกู ทกุ ข้อ
2. นายดาำ ใช้ปืนยงิ นายขาวเพอ่ื ขม่ ขู่
3. นายแดงขับรถด้วยความเรว็ สูงชนคนได้รับบาดเจ็บ 8. ชาย หญงิ จะหมนั้ กันได้ถกู ตอ้ งตามกฎหมายตรงกับขอ้ ใด
4. ถูกทงั้ ข้อ 2. และขอ้ 3. 1. ตอ้ งมอี ายไุ ม่ต่าำ กว่า 17 ปีบริบูรณ์
5. ถูกทุกขอ้ 2. ตอ้ งเป็นทีย่ นิ ยอมของทงั้ สองฝา่ ย
3. ของหมั้นจะตกเปน็ ของฝา่ ยหญิงทนั ท ี เมอ่ื ฝา่ ยชายส่งมอบ
100 สุดยอดคูม่ อื ครู 4. ถูกทงั้ ข้อ 1. และขอ้ 2.
5. ถูกทุกข้อ

9. สทิ ธิและเสรภี าพส่วนบุคคลประกอบด้วยสิง่ ใด
1. สิทธิและเสรภี าพในชีวติ และรา่ งกาย
2. เสรีภาพในเคหสถาน
3. สทิ ธิในครอบครัว
4. เสรีภาพในการนับถอื ศาสนา
5. ทกุ ข้อเปน็ สิทธิและเสรภี าพ

A3. ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ A4. ขั้นส่ือสารและน�ำเสนอ 5. ขS้ันeปlรf-ะRเมeินgเพu่ือlaเพtiิ่มnคgุณค่า

pplying and Constructing the Knowledge pplying the Communication Skill

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

110 เพศวิถีศกึ ษา เฉลยแบบทดสอบ
1. ตอบ 1. กฎหมายอาญา ว่าด้วยการ
10. ขอ้ ใดกลา่ วไดถ้ ูกตอ้ ง กระท�ำความผิดและก�ำหนดโทษ ซึ่งตัว
1. ทกุ คนมสี ทิ ธไิ ดร้ ับการศกึ ษาอยา่ งเท่าเทยี มกนั จากรฐั โดยไมเ่ กบ็ คา่ ใชจ้ ่าย เลือกอื่นไม่ใช่ความหมายของกฎหมาย
2. ผูพ้ ิการต้องไดร้ บั ความชว่ ยเหลอื จากรฐั อยา่ งเหมาะสม อาญา
3. ทกุ คนมีสิทธิในทรพั ย์สินของตนเองและผอู้ นื่ 2. ตอบ 4. ความหมายของกฎหมายแพ่ง
4. ทกุ คนมีสทิ ธิกระทาำ การใดๆ กไ็ ดท้ ที่ าำ ให้ผ้อู น่ื ไมเ่ ดอื ดร้อน คือ เป็นกฎหมายท่ีเก่ียวข้องกับสิทธิ
5. ถกู ทง้ั ขอ้ 1. และขอ้ 2. หนา้ ท่ี นติ กิ รรม สทิ ธใิ นทรพั ยส์ นิ
สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด 3. ตอบ 5. โทษทางอาญา คอื ประหารชวี ติ
แบบประเมินตนเอง จำ� คกุ ปรบั และยอมความได้
คาำ ช้แี จง ตอนท ี่ 1 ใหผ้ ู้เรยี นประเมนิ ผลการเรยี นรู้ โดยเขยี นเครือ่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งระดับคะแนน 4. ตอบ 1. การยกพวกตีกันและใช้อาวุธ
และเตมิ ขอ้ มูลตามความเป็นจริง เปน็ การกระทำ� ความผดิ โดยเจตนา เมอ่ื
ระดบั คะแนนตอนท่ ี 1 5 : มากท่สี ดุ 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : น้อย 1 : ควรปรับปรงุ เทยี บกบั ตวั เลอื กที่ 2 ซง่ึ นายดำ� ใชป้ นื ยงิ
ตอนท่ี 2 ใหผ้ เู้ รยี นนาำ คะแนนจากแบบทดสอบมาเตมิ ลงในชอ่ งวา่ ง และเขยี นเครอื่ งหมาย ✓ นายขาวเพ่ือข่มขู่เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนา
ลงในช่องสรุปผล จะฆา่ นายขาวแตอ่ ยา่ งใด
5. ตอบ 5. การกระทำ� ผดิ ทางอาญาโดยไม่
ตอนที่ 1 (ผลการเรยี นรู้) ตอนที ่ 2 (แบบทดสอบ) เจตนา คอื ตวั เลอื กที่ 2 และ 3 นายดำ� ใช้
ปนื ยงิ นายขาวเพอ่ื ขม่ ขู่ และนายแดงขบั
รายการ 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ รถด้วยความเร็วสูงจนท�ำให้ชนคนได้รับ
บาดเจบ็ เปน็ ความประมาทไมไ่ ดเ้ จตนา
1. ผเู้ รยี นมีความรู้ ความเข้าใจในเนือ้ หา คะแนน แตก่ ารกระทำ� ผดิ ในขอ้ 1 และขอ้ 4 นน้ั
เปน็ การกระทำ� ทจี่ งใจซง่ึ มกี ารใชอ้ าวธุ ใน
2. ผเู้ รยี นไดท้ ำากจิ กรรมสง่ เสริมการเรียนรทู้ ีส่ อดคลอ้ งกบั เน้ือหา (ข้อละ 1 คะแนน) การยกพวกตกี นั และการปลน้ ทรพั ย์
และจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 6. ตอบ 3. การกระทำ� ผดิ ทางอาญาในขอ้ ที่ 3
สรุปผล เปน็ การขบั รถดว้ ยความเรว็ สงู จงึ ทำ� ใหช้ น
9 - 10 (ดมี าก) คนได้รับบาดเจ็บ เป็นความประมาท
3. ผู้เรยี นได้เรียนและทำากิจกรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ที่สง่ เสรมิ 7 - 8 (ดี) เลินเล่อจนท�ำให้ผู้อ่ืนได้รับความเดือด
กระบวนการคดิ เกิดการค้นพบความรู้ 5 - 6 (พอใช)้ รอ้ น
4. ผูเ้ รียนสามารถประยุกตค์ วามรเู้ พอี่ื ใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจาำ วนั ได้ ตาำ่ กว่า 5 7. ตอบ 1. ทุกคนต้องท�ำบัตรประชาชน
5. ผเู้ รียนไดเ้ รียนรู้อะไรจากการเรยี น (ควรปรบั ปรุง) เมอ่ื อายคุ รบ 7 ปี ตามกฎหมาย
8. ตอบ 5. ชายหรอื หญงิ จะหมน้ั กนั ไดก้ ต็ อ่
6. ผู้เรยี นต้องการทำาสิ่งใดเพ่ือพัฒนาตนเอง เมอ่ื อายไุ มต่ ำ่� กวา่ 17 ปี บรบิ รู ณ์ และเปน็
ทย่ี นิ ยอมทงั้ สองฝา่ ย ซงึ่ ขงหมน้ั จะตกเปน็
7. ความสามารถทีถ่ อื วา่ ผา่ นเกณฑป์ ระเมินของผเู้ รยี น คือ ของฝา่ ยหญงิ ทนั ที เมอ่ื ฝา่ ยชายสง่ มอบ


9. ตอบ 5. สทิ ธแิ ละเสรภี าพสว่ นบคุ คล ประกอบดว้ ยทกุ ขอ้ ทกี่ ลา่ วมา
คอื สทิ ธแิ ละเสรภี าพในชวี ติ และรา่ งกาย เสรภี าพในเคหสถาน สทิ ธิ
ในครอบครวั และเสรภี าพในการนบั ถอื ศาสนา
10. ตอบ 5. ตวั เลอื กที่ 1 และ 2 กลา่ วถกู ตอ้ ง คอื ทกุ คนมสี ทิ ธไิ ดร้ บั การ
ศกึ ษาอยา่ งเทา่ เทยี มกนั จากรฐั โดยไมเ่ กบ็ คา่ ใชจ้ า่ ย และผพู้ กิ ารตอ้ ง
ไดร้ บั ความชว่ ยเหลอื จากรฐั อยา่ งเหมาะสม สว่ นตวั เลอื กในขอ้ ท่ี 3
และ 4 นน้ั กลา่ วไมถ่ กู ตอ้ ง คอื ทกุ คนมสี ทิ ธใิ นทรพั ยส์ นิ ของตนเอง
และผอู้ นื่ ซงึ่ เราไมม่ สี ทิ ธใิ นทรพั ยข์ องผอู้ นื่ ทกุ คนมสี ทิ ธกิ ระทการ
ใดๆ ก็ได้ท่ีท�ำให้ผู้อ่ืนไม่เดือดร้อน ซ่ึงอาจเป็นการกระท�ำที่ผิด
กฎหมายกไ็ ด้

สุดยอดคูม่ ือครู 101

ตารางสรุปคะแนนการประเมนิ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
และสมรรถนะประจำ� หนว่ ย

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 กฎหมายใกลต้ ัว

คะแนนตาม จปส. รายหน่วยการเรียนรู้
1. สงวนลิข ิสท ์ธิ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชอ ิธบายากาความหมายและ ัลร (พว.)กษณะของำจ�กัด
กฎหมายไ ้ด ช้นิ งาน/การแสดงออก รวม
2. ประ ุยก ์ตใ ้ชกฎหมาย ี่ทเ ี่กยว ้ของ ักบตนเองทีก่ �ำหนดในหนว่ ยการเรยี นรหู้ รือหน่วยยอ่ ย
และครอบค ัรวไ ้ด
3. อ ิธบาย ิสท ิธมนุษยชนไ ้ด
4. อธิบายประมวลกฎหมายอาญามาตรา
๒๗๖ ถึงมาตรา ๒๘๗ ไ ้ด
ภาระงาน/ชนิ้ งานระหว่างเรียน
เร่ืองท่ี 1 กฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับตนเองและครอบครัว สิทธิและ
การแสดงออก
1. ผังกราฟกิ แสดงการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เก่ยี วกับกฎหมายทเี่ กยี่ วข้องกบั
ตนเองและครอบครวั สิทธแิ ละการแสดงออก
2. ผงั กราฟกิ สรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั กฎหมายทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ตนเอง
และครอบครัว สิทธแิ ละการแสดงออก
3. การนำ�เสนอผลการสรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั กฎหมายทเี่ กย่ี วขอ้ ง
กับตนเองและครอบครวั สิทธแิ ละการแสดงออก
เรื่องท่ี 2 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖-๒๘๗
1. ผงั กราฟกิ แสดงการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๒๗๖-๒๘๗
2. ผังกราฟิกสรุปความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๒๗๖-๒๘๗
3. การนำ�เสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับประมวลกฎหมาย
อาญามาตรา ๒๗๖-๒๘๗
การประเมินรวบยอด
1. ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ
2. ผลการปฏิบัตกิจกรรมสง่ เสริมการเรยี นรู้
3. ผลการประเมินตนเอง
4. คะแนนผลการทดสอบ

รวม

หมายเหตุ: คะแนนการประเมนิ จุดประสงคก์ ารเรยี นร้ขู ้ึนอยกู่ บั การออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ของผู้สอน
102 สุดยอดคูม่ อื ครู

1. ขGั้นaรtวhบeรrวiมnขg้อมูล 2 . ขPั้นrคoิดcวeิเsคsรiาnะหg์และสรุปความรู้

A3. ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ A4. ข้ันสื่อสารและน�ำเสนอ 5 . ขSั้นeปlรf-ะRเมeินgเพuื่อlaเพti่ิมnคgุณค่า

pplying and Constructing the Knowledge pplying the Communication Skill

บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก
asean

7หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ีสงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัดสังคมและวฒั นธรรมท่สี ง่ ผล หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7
ต่อพฤติกรรม
สังคมและวฒั นธรรม
สาระสาำ คญั ท่สี ง่ ผลต่อพฤติกรรม
สถาบนั ทางสังคม หมายถึงแบบแผนในการคิด การกระทาำ ทีค่ นในสังคมยึดถือ ยอมรบั และ
ประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ อ่ กนั มา ภายใตก้ ฎเกณฑข์ องสงั คม เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการพน้ื ฐานของสมาชกิ สาระการเรียนรู้
ในสงั คม รวมท้งั กาำ หนดสถานภาพและบทบาทของบุคคลตา่ งๆ เช่น สถาบนั ครอบครวั มบี ทบาทใน 1. สถาบันทางสังคม (หนังสือเรียน หน้า 113-
การให้กำาเนิดชีวิตใหม่และให้ความรักความอบอุ่นแก่สมาชิกในครอบครัว โดยพ่อแม่มีบทบาท 116)
ในการเป็นผอู้ บรมและดูแลลกู เพ่ือใหเ้ ป็นสมาชกิ ท่ดี ขี องสงั คมตอ่ ไป 2. วฒั นธรรมไทย ภมู ปิ ญั ญาไทย และวฒั นธรรม
เนื่องจากในปัจจุบันได้มีการติดต่อสร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก การรับ สากล (หนังสือเรยี น หน้า 117-121)
วัฒนธรรมสากลจึงเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาของประเทศ วัฒนธรรมของชาวต่างชาติที่มีวิถี 3. คา่ นยิ มเรอ่ื งเพศตามแนวปฏบิ ตั ทิ างสงั คมและ
การดาำ เนินชีวติ ท่แี ตกตา่ งไปจากคนไทย บางเรือ่ งอาจจะขดั ต่อศลี ธรรมท่ีดขี องไทย ดงั นัน้ การเลือกรบั วัฒนธรรม (หนังสือเรยี น หน้า 122-126)
วฒั นธรรมสากลท่ีเหมาะสม จึงควรรบั วฒั นธรรมที่เหมาะสมกับวถิ ชี ีวติ ของคนไทย เชน่ ความขยนั สมรรถนะประจ�ำหน่วย
หมั่นเพียรในการประกอบอาชีพ ไม่เกียจคร้านในการทำางาน กล้าคิด กลา้ ทาำ ในสิ่งทถ่ี ูกตอ้ ง 1. แสดงความรเู้ กยี่ วกบั สงั คมและวฒั นธรรมทสี่ ง่
ค่านิยมทางเพศท่ีถูกต้องจะช่วยลดปัญหาทางสังคมในเร่ืองความไม่มั่นคงและความแตกแยก ผลต่อพฤติกรรม
ของสถาบันครอบครัวได้มาก รวมท้ังลดปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ปัญหาการทำาแท้ง 2. ปฏบิ ตั ติ นตามคา่ นยิ มของสงั คมและวฒั นธรรม
และปญั หาอาชญากรรมทางเพศในสังคม ทีด่ งี าม
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
สาระการเรียนรู้ 1. อธบิ ายเกี่ยวกับสถาบันทางสงั คมได้
1. สถาบันทางสังคม 2. เปรียบเทียบวัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาไทย
2. วฒั นธรรมไทย ภมู ปิ ัญญาไทย และวฒั นธรรมสากล และวัฒนธรรมสากลได้
3. ค่านิยมเรือ่ งเพศตามแนวปฏิบตั ทิ างสังคมและวัฒนธรรม 3. เชื่อมโยงค่านิยมเรื่องเพศตามสังคมและ
วัฒนธรรม และนำ� ไปปรบั ใช้ในชีวิตประจำ� วนั
ได้อย่างเหมาะสม

การประเมินผล ภาระงาน/ช้นิ งานรวบยอดในหน่วยการเรียนรู้
1. ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ
ภาระงาน/ช้นิ งาน/การแสดงออกของผู้เรียน 2. ผลการปฏบิ ัติกิจกรรมส่งเสรมิ การเรยี นรู้
ภาระงาน/ชน้ิ งานระหวา่ งเรียน 3. ผลการประเมินตนเอง
1. ผงั กราฟกิ แสดงการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เกยี่ วกบั สงั คมและวฒั นธรรมทส่ี ง่ ผล 4. คะแนนผลการทดสอบ
ตอ่ พฤติกรรม
2. ผังกราฟิกสรุปความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรมท่ีส่ง สดุ ยอดคมู่ ือครู 103
ผลต่อพฤตกิ รรม
3. การน�ำเสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับสังคมและวัฒนธรรม
ท่ีส่งผลตอ่ พฤติกรรม

1 . ขG้ันaรtวhบeรrวiมnขg้อมูล 2 . ขPั้นrคoิดcวeิเsคsรiาnะหg์และสรุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21 ทักษะชีวิต

ep 1 ข้ันรวบรวมข้อมลู 112 เพศวถิ ศี ึกษา

Gathering สมรรถนะประจำาหน่วย
1. แสดงความรู้เก่ยี วกบั สังคมและวัฒนธรรมท่ีสง่ ผลต่อพฤตกิ รรม
1. แบ่งกลุ่มผู้เรียนร่วมกันศึกษาเอกสาร 2. ปฏิบตั ติ นตามคา่ นิยมของสงั คมและวัฒนธรรมท่ดี งี าม
ห นั ง สื อ เรี ย น เ กี่ ย ว กั บ สั ง ค ม แ ล ะ
วฒั นธรรมที่สง่ ผลต่อพฤติกรรม จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
2. ต้ังค�ำถามให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจาก 1. อธบิ ายเก่ยี วกบั สถาบันทางสังคมได้
ประสบการณท์ รี่ บั รสู้ งั คมและวฒั นธรรม 2. เปรียบเทยี บวัฒนธรรมไทย ภูมิปญั ญาไทย และวฒั นธรรมสากลได้
ท่ีส่งผลต่อพฤติกรรม ตามหัวข้อที่ 3. เช่ือมโยงค่านิยมเรื่องเพศตามสังคมและวัฒนธรรม และนำาไปปรับใช้ในชีวิตประจำาวันได้
ก�ำหนดให้ (ศึกษารายละเอียดค�ำถาม อยา่ งเหมาะสม
จากแผนการจัดการเรียนรู้)
3. แตล่ ะกลมุ่ บนั ทกึ ผลการศกึ ษาตามหวั ขอ้ ผงั สาระการเรยี นรู้
ทกี่ ำ� หนดลงในผงั กราฟกิ (เลอื กออกแบบSt
และใชผ้ งั กราฟกิ ใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะ สงั คมและ สถาบันทางสังคม
ของขอ้ มูล) ดงั ตัวอยา่ งสงวนลิขสิท ิธ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ำจ�กัดวฒั นธรรม วัฒนธรรมไทย ภมู ปิ ัญญาไทย และวฒั นธรรมสากล
ท่ีส่งผลตอ่ ค่านิยมเร่อื งเพศตามแนวปฏบิ ัติทางสงั คมและวฒั นธรรม
พฤตกิ รรม

บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21

การทำ� งานกลมุ่ ชว่ ยฝกึ กระบวนการทำ� งานแบบประชาธปิ ไตยและ
ส่งเสรมิ กระบวนการคิดการแก้ปญั หาให้แกผ่ เู้ รียน

104 สุดยอดคู่มอื ครู

A3. ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ A4. ข้ันสื่อสารและน�ำเสนอ 5 . ขSั้นeปlรf-ะRเมeินgเพu่ือlaเพti่ิมnคgุณค่า

pplying and Constructing the Knowledge pplying the Communication Skill

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

สงั คมและวัฒนธรรมท่สี ่งผลต่อพฤตกิ รรม 113 ep 2 ข้นั คิดวิเคราะห์และสรปุ ความรู้

1. สถาบนั ทางสงั คม Processing
สงวนลิขสิท ิธ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ำจ�กัด St
1.1 ความหมายของสถาบันทางสงั คม 1. ผู้เรียนร่วมกันวิเคราะห์และอภิปรายเกี่ยวกับองค์
ประกอบของสถาบันทางสังคม วัฒนธรรมไทย
สถาบันทางสังคม หมายถึงแบบแผนในการคิด การกระทำาที่คนในสังคมยึดถือ ยอมรับ ภูมิปัญญาไทย วัฒนธรรมสากล และคา่ นิยมเรื่องเพศ
และประพฤติปฏิบัติสืบต่อกันมาภายใต้กฎเกณฑ์ของสังคม เพ่ือตอบสนองความต้องการพ้ืนฐาน ด้านบวกและดา้ นลบ โดยใชข้ อ้ มูลความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการ
ของสมาชิกในสังคม และกำาหนดสถานภาพและบทบาทของบคุ คลตา่ งๆ เชน่ สถาบนั ครอบครวั มบี ทบาท ศกึ ษาคน้ ควา้ จากหนงั สอื เรยี น เอกสาร และแหลง่ เรยี น
ในการให้กำาเนิดชีวิตใหม่ และให้ความรักความอบอุ่นแก่สมาชิกในครอบครัว โดยพ่อแม่มีบทบาท ร้อู น่ื ๆ หรอื ประสบการณ์ของผู้เรยี น
ในการเป็นผู้อบรมและดูแลลูก เพ่ือให้เป็นสมาชิกที่ดีของสังคมต่อไป สถาบันทางสังคมจึงเกิดขึ้นจาก 2. ผู้เรียนร่วมกันเชื่อมโยงความคล้ายคลึง/แตกต่างของ
ความต้องการของสมาชิกในสังคมจะดาำ รงหรอื สูญสนิ้ ไปกไ็ ด้ แตเ่ นือ่ งจากสถาบนั ทางสังคมเปน็ ทย่ี อมรับ ข้อมูลท่ีน�ำมาอภิปรายและร่วมกันสรุปความรู้ตาม
ของสังคมส่วนใหญ่ จึงมักไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนแปลงได้ยาก สถาบันทางสังคมที่เป็น หัวข้ออภิปราย แสดงเป็นความคิดรวบยอดหรือหลัก
สถาบนั พน้ื ฐานของสงั คมไทย ไดแ้ ก่ สถาบนั ครอบครวั สถาบนั การศกึ ษา สถาบนั ศาสนา สถาบนั เศรษฐกจิ การลงในผังกราฟกิ มิตทิ ี่วเิ คราะห์ ด้านบวก ด้านลบ จุดสนใจ
และสถาบนั ทางการเมืองการปกครอง องค์ประกอบของสถาบนั
1.1.1 สถาบนั ครอบครัว เปน็ สถาบนั ท่ีมคี วามสำาคญั อยา่ งมาก เนอื่ งจากเปน็ สถาบันพื้นฐาน ทางสังคมไทย
ของสังคม เพราะทุกสังคมมนุษย์จะต้องมีสถาบันน้ี นอกจากน้ียังเป็นองค์กรหรือหน่วยทางสังคมท่ีมี องค์ประกอบของสถาบัน
ขนาดเลก็ ท่ีสุดที่ก่อตั้งข้ึนจากสมาชิกชายและหญงิ ทำาหนา้ ท่ีเปน็ บิดาและมารดาท่จี ะให้กำาเนดิ สมาชกิ ใหม่ ทางสงั คมสากล
และเป็นพ่อแบบ แม่แบบในการถ่ายทอดสิ่งต่างๆ และให้การศึกษาในข้ันแรกแก่สมาชิกใหม่ต่อไป
บทบาทและความสาำ คญั ของสถาบันครอบครัวมีดังนี้ วฒั นธรรมไทย
1) ครอบครัวมีบทบาทในการกำาหนดสถานะทางสังคมให้แก่สมาชิกใหม่ เช่น วัฒนธรรมสากล
การกำาหนดเชื้อชาติ ศาสนา นอกจากน้ียังเป็นสถาบันพ้ืนฐานในการพัฒนาสังคมและเป็นหน่วยวาง
รากฐานการปกครองในระดบั ต่างๆ 3. ผเู้ รยี นบนั ทกึ ผลขอ้ สรปุ เปน็ ความรคู้ วามเขา้ ใจของกลมุ่
2) ครอบครัวเป็นต้นกำาเนิดของบุคลิกภาพและคุณลักษณะของสมาชิก จากการมี และรายบคุ คล
ปฏิสัมพันธ์กัน เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีแก่สมาชิกในครอบครัวด้วยการให้ความรัก ความอบอุ่น
ทาำ ใหม้ กี ารถา่ ยโยงความรสู้ กึ นกึ คดิ ทศั นคติ ความเชอ่ื จากสมาชกิ รนุ่ หนง่ึ ไปสอู่ กี รนุ่ หนง่ึ การเปน็ พอ่ แบบ 114 เพศวถิ ีศึกษา
แม่แบบ สิ่งแวดล้อมในครอบครัวจะช่วยหล่อหลอมพ้ืนฐานทางบุคลิกภาพและคุณลักษณะทั้งทาง
ด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม ให้แก่สมาชกิ ในครอบครวั 1.1.2 สถาบันการศึกษา เป็นสถาบันสำาหรับการพัฒนามนุษย์ต่อจากสถาบันครอบครัว
3) ครอบครวั เปน็ สถาบนั พ้ืนฐานทางการศกึ ษาของสงั คม มบี ทบาทเป็นแหลง่ เรยี นรู้ มีจุดมุ่งหมายในการท่ีจะทำาให้สมาชิกในสังคมเกิดการเรียนรู้ มีความรู้ความสามารถ เป็นบุคคล
ถ่ายทอดองค์ความรู้ ฝึกฝนสมาชิกในครอบครัวให้รู้จักระเบียบของสังคม ด้วยการอบรมส่ังสอน ที่ประกอบไปด้วยคุณธรรม ศีลธรรม และวัฒนธรรม ปัจจุบันสถาบันการศึกษาเป็นสถาบันท่ีมี
เป็นธุระจัดหาสถานที่เรียน เพ่ือสร้างคุณภาพชีวิตให้แก่สมาชิกในครอบครัว ให้เติบโตเป็นบุคคลท่ีมี ความสาำ คญั ในดา้ นกอ่ ใหเ้ กดิ ความคดิ ปญั ญาในการแกไ้ ขปญั หาตา่ งๆ รวมทงั้ ทำาใหเ้ กดิ การประดษิ ฐค์ ดิ คน้
ประสิทธภิ าพและเป็นพลเมืองท่ดี ขี องสงั คม นวัตกรรมใหม่ๆ ที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการและให้ความสะดวกสบายในการดำารงชีวิตของ
คนในสังคมซึ่งมีหลายระดับ เช่น โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย บทบาทและความสำาคัญของสถาบัน
4) ครอบครัวเป็นสถาบันท่ีสามารถตอบสนองความต้องการพ้ืนฐานของมนุษย์ได้ การศกึ ษามดี ังน้ี
ในทุกระดับ ทั้งความต้องการทางด้านร่างกาย ความต้องการทางด้านจิตใจ และความต้องการทาง 1) บทบาทในการขัดเกลาทางสังคม เพ่ือให้สมาชิกมีคุณลักษณะตามท่ีสังคม
ดา้ นสังคม ต้องการ ดว้ ยการอบรมสมาชิกให้มีคุณธรรม จริยธรรม และเป็นคนดีของสังคม
2) เปน็ แหลง่ เรยี นร ู้ ถา่ ยทอดความรู้ ความสามารถ ทกั ษะ และเทคโนโลยี ทาำ ใหส้ มาชกิ
ฐานะหรือเกียรติภูมิของบุคคลหรือกลุ่ม เป็นต�ำแหน่ง ในสงั คมเปน็ ผทู้ ีค่ ิดเป็น ทาำ เปน็ แกป้ ญั หาเป็น
ของบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มหน่ึงที่ ได้รับความนับถือจาก 3) เลอื กสรรและกาำ หนดบทบาทของสมาชกิ ในสงั คม เชน่ ใหก้ ารอบรมและฝกึ วชิ าชพี
สาธารณชน ตามความสนใจของบคุ คล เพือ่ นำาไปประกอบอาชพี และพัฒนาอาชพี สำาหรับการดำารงชวี ติ ในอนาคต
4) ผสมกลมกลนื ทางสงั คมและวฒั นธรรม เชน่ สอนใหส้ มาชกิ ใหมท่ มี่ าจากสงั คมอนื่
ประโยชน์ อยา่ งยิง่ เนือ้ ความอย่างยงิ่ ได้เรยี นรู้ภาษาและวัฒนธรรมของตน ปลูกฝังใหส้ มาชกิ ในสังคมรู้จกั อนรุ กั ษแ์ ละสง่ เสริมศิลปวฒั นธรรม
ขนบธรรมเนียมประเพณีท่ีดีงาม
เป็นการกระท�ำท่ีคนเราสมมติขึ้น เป็นข้ันเป็นตอน 1.1.3 สถาบันศาสนา ศาสนา ตามความหมายของพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
มีระเบียบวิธี เพ่ือเป็นส่ือหรือหนทางที่จะน�ำมาซ่ึง พ.ศ. 2542 หมายถึงลัทธิ ความเชื่อถือของมนุษย์อันมีหลัก คือแสดงกำาเนิดและความส้ินสุดของโลก
ความส�ำเร็จในสิ่งที่คาดหวังไว้ ซึ่งท�ำให้เกิดความสบายใจ อันเป็นไปในฝ่ายปรมัตถ์ประการหน่ึง แสดงหลักธรรมเกี่ยวกับบุญบาปอันเป็นไปในฝ่ายศีลธรรม
และมีกำ� ลงั ใจที่จะดำ� เนนิ ชีวิตต่อไป ประการหนึ่ง พรอ้ มทัง้ ลทั ธพิ ิธที ่กี ระทำาตามความเหน็ หรือตามคำาส่งั สอนในความเชอื่ ถือนนั้ ๆ

เปน็ วชิ าเกีย่ วกบั เวทมนตร์ คาถา และเลขยันต์ ประกอบ สถาบันศาสนา หมายถึงแบบแผนของความคิด การกระทำาในเรื่องเก่ียวกับจิตใจ
กับการใช้อ�ำนาจสมาธิจิต การสาธยายเวทมนตร์คาถา ความเช่ือ และพฤตกิ รรมของมนุษย์ ทีม่ ีความเกี่ยวขอ้ งกับความสัมพนั ธ์ระหว่างมนษุ ยก์ บั ส่ิงเหนอื ธรรมชาติ
การภาวนา และการปลุกเสก เป็นสถาบันที่ครอบคลุมในเรื่องต่างๆ เช่น การปฏิบัติตนของศาสนิกชน พิธีกรรมต่างๆ ความเชื่อ
ทางไสยศาสตร์หรือความเชอื่ ของแตล่ ะศาสนา ตวั อยา่ งสถาบันศาสนา เชน่ วดั สาำ นกั สงฆ์ สภาครสิ ตจกั ร
แห่งประเทศไทย มัสยดิ สเุ หรา่ บทบาทและความสาำ คัญของสถาบันศาสนามีดังน้ี
1) เป็นท่ียึดเหน่ียวจิตใจ เพ่ือให้เกิดความม่ันคงทางจิตใจและช่วยกล่อมเกลาจิตใจ
ของสมาชกิ ในสงั คม
2) สร้างความเป็นปึกแผ่นให้แก่สังคม โดยการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่าง
สมาชกิ ทาำ ใหเ้ กดิ ความสมั พนั ธอ์ นั ดตี อ่ กนั อยา่ งใกลช้ ดิ เปน็ การควบคมุ สงั คมไมใ่ หเ้ กดิ ความแตกแยกกนั
3) เสริมสร้างและถ่ายทอดวัฒนธรรมแก่สังคม ด้วยการอบรมศีลธรรม จริยธรรม
ให้สมาชิกในสังคมรู้จักการดำาเนินชีวิตอย่างถูกต้อง มีเป้าหมายในชีวิต และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่น
ไดอ้ ย่างสนั ตสิ ุข

สดุ ยอดค่มู ือครู 105

1 . ขG้ันaรtวhบeรrวiมnขg้อมูล 2 . ขPั้นrคoิดcวeิเsคsรiาnะหg์และสรุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต

สงั คมและวัฒนธรรมทสี่ ่งผลต่อพฤตกิ รรม 115 สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด116 เพศวถิ ศี ึกษา

4) เปน็ บอ่ เกดิ แหง่ ศลิ ปวฒั นธรรมและประเพณที ด่ี งี าม เชน่ การจดั ใหม้ กี ารบรรพชา 1.2 ความสมั พันธ์ของสถาบันทางสังคม
อปุ สมบท การทาำ บุญต่างๆ
5) เปน็ แบบอยา่ งของความประพฤตทิ ด่ี งี ามใหแ้ กส่ มาชกิ ฝกึ ใหส้ มาชกิ มรี ะเบยี บวนิ ยั สังคมจะมีความเจริญรุ่งเรืองย่อมเกิดจากการมีสมาชิกในสังคมท่ีมีคุณภาพ สมาชิก
และมหี ลกั ปฏิบัติทถี่ กู ตอ้ ง ที่มีคุณภาพย่อมต้องเกิดจากสถาบันทางสังคมท่ีมีคุณภาพเช่นเดียวกัน ซ่ึงสถาบันทางสังคมทุกสถาบัน
6) เป็นพ้ืนฐานสำาคัญของอำานาจรัฐ เช่น ในระบอบการปกครองบางระบอบ ล้วนมีความสัมพันธ์ท่ีเชื่อมโยงถึงกัน มีหน้าที่ตอบสนองความต้องการและมีส่วนร่วมในการผลักดัน
หรอื ในสงั คมทีม่ ผี ู้นาำ ศาสนาเป็นผูน้ ำาทางการเมือง ให้สมาชิกในสังคมเป็นบคุ คลที่มคี ุณภาพ และธาำ รงให้สงั คมเจรญิ กา้ วหนา้
1.1.4 สถาบนั ทางเศรษฐกจิ คอื กลมุ่ ของระเบยี บกฎเกณฑห์ รอื ระบบความสมั พนั ธท์ างสงั คม
ในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หมายถึงการผลิตสินค้า บริการ การอุปโภคและบริโภค การแลกเปลี่ยนหรือ สมาชิกในสังคมต้องได้รับความรัก ความอบอุ่น การอบรมขัดเกลาขั้นพ้ืนฐานจากสถาบัน
การค้าขาย การกระจายผลประโยชน์ให้แก่สมาชิกในสังคม สถาบันทางเศรษฐกิจเป็นสถาบันที่สนอง ครอบครัว เมื่อก้าวเข้าสู่สถาบันการศึกษาก็ต้องได้รับการปลูกฝัง อบรม ให้ความรู้ทางวิชาการ ทักษะ
ความตอ้ งการของสมาชกิ ในดา้ นปจั จยั 4 และการบรกิ ารในดา้ นสงิ่ อำานวยความสะดวกตา่ งๆ ในการดาำ เนนิ ชวี ติ การประกอบอาชีพ ระเบียบทางสังคม รวมทั้งศีลธรรม จริยธรรม ให้สามารถดำารงชีวิตอยู่ในสังคม
กลมุ่ สงั คมในสถาบนั ทางเศรษฐกจิ เชน่ รา้ นคา้ โรงงานอตุ สาหกรรม องคก์ รทางเศรษฐกจิ กระทรวงพาณชิ ย์ ร่วมกับผู้อ่ืนได้ โดยสถาบันศาสนา สถาบันทางเศรษฐกิจ และสถาบันทางการเมืองการปกครองจะเข้ามา
บทบาทและความสำาคญั ของสถาบนั ทางเศรษฐกจิ ดังนี้ มีบทบาทเกี่ยวขอ้ งสัมพันธก์ นั ด้วย

1) ผลิตสนิ คา้ และบริการ เพ่อื ตอบสนองความต้องการของสมาชกิ ในสงั คม สถาบันทางสังคมแต่ละสถาบันต่างเข้ามามีบทบาทกับการดำาเนินชีวิตของสมาชิกในสังคม
2) จดั สรรและกระจายสินคา้ และบรกิ ารไปส่สู มาชกิ ในสังคมอยา่ งทวั่ ถงึ ดังน้ันจึงไม่มีสถาบันทางสังคมใดท่ีสามารถดำารงอยู่ได้เพียงลำาพัง โดยสมาชิกในสังคมจำาเป็นต้อง
3) พัฒนาและสร้างความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพ เพื่อความ พ่ึงพาอาศยั สถาบนั ทางสงั คมแต่ละสถาบนั ตลอดชีวติ
อุดมสมบูรณ์และความมัน่ คงของสมาชิก
4) เปน็ องค์ประกอบสำาคัญในการสร้างรากฐานทางการเมอื ง สถาบันทางสงั คม
5) เป็นเครื่องมือท่ีดีในการลดปริมาณการต่อสู้ทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาวะ
ท่ีทรพั ยากรและการผลติ ของมนุษย์อยใู่ นวงจำากดั และในขณะทม่ี นษุ ยม์ คี วามต้องการทางวัตถุมากขึน้ เป็นแบบแผนในการคดิ การกระทำาทคี่ นในสังคมยดึ ถอื ยอมรบั และประพฤตปิ ฏิบตั ิสบื ต่อมา ภายใต้กฎเกณฑข์ องสังคม
1.1.5 สถาบันทางการเมืองการปกครอง หมายถึงองค์กรที่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเข้ามา และมีการกาำ หนดสถานภาพและบทบาทของบคุ คลต่างๆ
ดาำ เนนิ กจิ กรรมทางการเมอื งรว่ มกนั โดยมรี ะเบยี บแบบแผน กฎเกณฑ์ กระบวนการและวธิ กี ารดำาเนนิ งาน
ทั้งในส่วนท่ีเป็นแบบแผนและในส่วนท่ีไม่เป็นแบบแผน เพ่ือให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรนั้นๆ
ในทางการเมอื งโดยชอบธรรม
สถาบันทางการเมืองการปกครองเป็นสถาบันท่ีเก่ียวข้องกับการบริหารประเทศ
การรักษาความสงบสุข ความมั่นคงของชาติ การมีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองของประชาชน
ครอบคลุมไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีความสำาคัญอย่างย่ิงสำาหรับการเมืองการปกครอง
ของไทย เนื่องจากการปกครองของไทยเป็นแบบระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมุข ดังนั้นสถาบันพระมหากษัตริย์จึงมีความสำาคัญ เพราะเป็นสถาบันปกครองที่อยู่คู่กับ
แผ่นดินไทยมาช้านาน และสถาบันพระมหากษัตริย์ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน เป็นท่ีเคารพ
ของปวงชนชาวไทยตลอดมา

เปน็ ระบอบการปกครองทอี่ ำ� นาจอธปิ ไตยเปน็ ของปวงชน
ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพโดยผู้ปกครองประเทศที่มาจาก
การเลือกตั้งของประชาชนเป็นเพียงตัวแทนท่ีได้รับมอบ
อำ� นาจใหใ้ ชอ้ ำ� นาจอธิปไตยแทนประชาชน

สถาบันครอบครัว เป็นสถาบันที่มีความสำาคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นสถาบันพื้นฐานของสังคม
ในการถ่ายทอดส่ิงต่างๆ และให้การศกึ ษาข้นั แรกแก่สมาชิกใหม่
สถาบนั การศกึ ษา
เป็นสถาบันท่ีให้สมาชิกในสังคมเกิดการเรียนรู้พร้อมกับการสร้างคุณธรรม
สถาบนั ศาสนา ศีลธรรม และวัฒนธรรม มีความสำาคัญก่อให้เกิดความคิดที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ
สถาบันเศรษฐกจิ รวมท้ังเกดิ การประดษิ ฐ์คิดคน้ นวัตกรรมใหมๆ่ ท่ที ันสมยั
สถาบนั การเมือง
เป็นสถาบันที่ครอบคลุมในเรื่องการปฏิบัติของศาสนิกชน พิธีกรรมต่างๆ
การปกครอง ความเช่อื ของแตล่ ะศาสนา

เป็นสถาบันท่ีสนองความต้องการของสมาชิกในด้านปัจจัย 4 และการบริการ
ในดา้ นสิง่ อำานวยความสะดวกต่างๆ ในการดาำ เนินชวี ติ

เป็นสถาบันท่ีเกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศ การรักษาความสงบสุข ความม่ันคง
ของชาติ การมีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองของประชาชน ครอบคลุม
รวมไปถงึ สถาบันพระมหากษตั ริย์ท่เี ปน็ ศูนย์รวมจติ ใจของประชาชนชาวไทยตลอดมา

สถาบันทางสังคมทุกสถาบันมีความสัมพันธ์ที่เช่ือมโยงกัน มีหน้าท่ีตอบสนองความต้องการและมีส่วนร่วม
ในการผลักดนั ใหส้ มาชิกในสังคมเปน็ บคุ คลทมี่ ีคุณภาพ และธำารงให้สังคมเจรญิ ก้าวหนา้

106 สุดยอดคู่มือครู

A3. ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ A4. ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ 5 . ขS้ันeปlรf-ะRเมeินgเพu่ือlaเพtiิ่มnคgุณค่า

pplying and Constructing the Knowledge pplying the Communication Skill

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

สงั คมและวฒั นธรรมทส่ี ่งผลต่อพฤติกรรม 117 ep 3 ขนั้ ปฏบิ ัตแิ ละสรปุ ความรู้
หลังการปฏิบัติ
2. วฒั นธรรมไทย ภมู ิปญั ญาไทย และวฒั นธรรมสากล สงวนลิขสิท ิธ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ำจ�กัด St AthpeplKyninogwlaenddgeConstructing

2.1 วฒั นธรรมไทย 1. ผู้เรียนน�ำข้อสรุปความรู้ความเข้าใจท่ีได้แลกเปล่ียน
เรยี นรรู้ ว่ มกนั ระหวา่ งกลมุ่ ในชน้ั เรยี น มาวเิ คราะหโ์ ดย
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ให้ความหมาย “วัฒนธรรม” ว่า การทำ� กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
สิ่งท่ีทำาความเจริญงอกงามให้แก่หมู่คณะ เช่น วัฒนธรรมในการแต่งกาย และเป็นวิถีชีวิตของหมู่คณะ 2. กลุ่มผู้เรียนร่วมกันสรุปแนวคิดเก่ียวกับสังคมและ
เชน่ วัฒนธรรมพ้ืนบา้ น วัฒนธรรมชาวเขา วฒั นธรรมทส่ี ง่ ผลตอ่ พฤตกิ รรม จากนนั้ ทำ� กจิ กรรมสง่
เสริมการเรียนรู้
พระยาอนุมานราชธน ได้ให้ความหมายของวัฒนธรรมว่า หมายถึงส่ิงท่ีมนุษย์เปล่ียนแปลง
ปรับปรุง หรือผลิตข้ึน เพื่อความเจริญงอกงามในวิถีชีวิตมนุษย์ในส่วนรวมที่ถ่ายทอดกันได้ เลียนแบบ หรอื ยง เสฐยี รโกเศศ เปน็ นกั ปราชญแ์ ละนกั การศกึ ษาคน
กันได้ สำ� คญั ของไทย เป็นหนง่ึ ในบุคคลสำ� คัญของโลก ประจ�ำปี
พ.ศ. 2531 ขององคก์ ารศกึ ษาวทิ ยาศาสตรแ์ ละวฒั นธรรม
สำานกั งานคณะกรรมการวัฒนธรรมแหง่ ชาติ ได้ใหค้ วามหมายของ “วฒั นธรรม” ว่า หมายถงึ แห่งสหประชาชาติ (ยเู นสโก)
ความเจริญงอกงามซ่ึงเป็นผลจากระบบความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ มนุษย์กับสังคม และ
มนุษย์กับธรรมชาติ จำาแนกออกเป็น 3 ด้าน คือจิตใจ สังคม และวัตถุ มีการส่ังสมและสืบทอดจาก 118 เพศวถิ ีศึกษา
คนรุ่นหนึ่งไปสู่คนอีกรุ่นหน่ึง จากสังคมหน่ึงไปสู่อีกสังคมหน่ึง จนกลายเป็นแบบแผนที่สามารถเรียนรู้
และกอ่ ให้เกิดผลิตกรรมและผลิตผลทงั้ ทเ่ี ป็นรปู ธรรมและนามธรรม อันควรค่าแกก่ ารวจิ ัย อนรุ กั ษ์ ฟนื้ ฟู
ถ่ายทอด เสริมสร้างเอตทัคคะ และแลกเปลี่ยน เพ่ือสร้างดุลยภาพแห่งความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์
สังคม ธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยให้มนุษย์สามารถดำารงชีวิตอย่างมีความสุข สันติสุข และอิสรภาพ อันเป็น
พน้ื ฐานแห่งอารยธรรมของมนษุ ย์

ดังนั้นวัฒนธรรมไทย หมายถึงลักษณะที่แสดงออกถึงความเจริญงอกงามในวิถีการดำาเนิน
ชีวิตของคนไทยที่บรรพบุรุษไทยสั่งสมความรู้ และได้ถ่ายทอดความรู้น้ันมาสู่ชนรุ่นหลังต่อมา
โดยได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมกับยุคสมัย เป็นสิ่งที่ดีมีคุณค่าท่ีประชาชนชาวไทย
ควรร่วมกันอนรุ ักษไ์ วใ้ ห้กับลูกหลานต่อไป

วัฒนธรรมทำาให้คนในสังคมสามารถบ่งช้ีสภาพแบบแผนการดำาเนินชีวิต ทำาให้เป็น
มนุษย์ท่ีสมบูรณ์ มนุษย์ใช้วัฒนธรรมในการตอบสนองความต้องการของชีวิตและปรับตัวให้เข้ากับ
สงั คมแตล่ ะแห่ง วัฒนธรรมจงึ สามารถกอ่ ใหเ้ กดิ ความสมานฉนั ท์ ความภาคภูมิใจ และการสะทอ้ นตัวตน
ของความเปน็ คนในสงั คมได้

วัฒนธรรมไทยเป็นภูมิความรู้ท่ีบรรพบุรุษไทยสร้างสมมาและถ่ายทอดความรู้นั้นสู่
ชนรุ่นหลัง เป็นแบบแผนการดำาเนินชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของคนไทย เกิดจากความพยายามท่ีจะ
ปรับตัวใหเ้ หมาะสมกับสภาพแวดล้อม ทาำ ให้เกดิ ความภาคภมู ใิ จในความเป็นไทย มคี วามรกั ความสามัคคี
ความรู้สกึ เปน็ อนั หน่งึ อนั เดยี วกนั

รอบรู้อาเซียนและโลก 2.1.1 ลักษณะและความสำาคัญของวัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมไทยเป็นเอกลักษณ์ของ
ความเป็นชาติไทย เป็นผลรวมจากความรู้ ความคิด สติปัญญาของมนุษย์ท่ีส่ังสมสืบต่อกันมา โดยผ่าน
asean การปรับปรุงพัฒนาให้เหมาะสมต่อการเปล่ียนแปลงตามยุคสมัยของสังคมไทย ท้ังวัฒนธรรมด้ังเดิม
ของไทยและวัฒนธรรมที่ได้รับจากชนชาติต่างๆ ถูกนาำ มาปรับปรุง ผสมผสาน และกล่อมเกลาจนเป็น
• การบูรณาการค�ำศัพท์ภาษาอังกฤษเก่ียวกับเนื้อหาที่ สว่ นหนง่ึ ของวัฒนธรรมไทยในทสี่ ดุ วัฒนธรรมไทยมีลกั ษณะและความสำาคัญท่ีสะท้อนคา่ นิยมดงั นี้
ก�ำหนดให้ในบทเรียน ช่วยให้ผู้เรียนได้เพิ่มพูนความ 1) สร้างความรักและความผูกพันในครอบครัว โดยพ้ืนฐานสังคมไทยจะเป็น
รู้ภาษาอังกฤษ และมีเจตคติที่ดีต่อการส่ือสารด้วย ครอบครัวใหญ่ มีสมาชิกอาศัยอย่รู ่วมกนั จำานวนมาก เมือ่ ถึงเทศกาลสำาคัญ เช่น วันสงกรานตซ์ ง่ึ ถือเป็น
ภาษาอังกฤษท่ีใช้เป็นภาษากลางในการท�ำงาน วันขึ้นปีใหม่ของไทย ทุกคนในครอบครัวจะมารวมตัวกัน โดยบิดามารดาจัดเส้ือผ้าชุดใหม่ให้แก่
ของอาเซยี น บุตรหลาน มีการรดน้ำาดำาหัวขอพรจากผู้ใหญ่ เป็นการแสดงออกถึงความรักความผูกพันของสมาชิก
• การศกึ ษาเปรยี บเทยี บคา่ นยิ มและวฒั นธรรมของไทย ในครอบครวั
และประเทศในอาเซียนอย่างเข้าใจ จะช่วยให้ผู้เรียน 2) ความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ วัฒนธรรมไทยให้ความสำาคัญต่อผู้ใหญ่และ
สามารถปฏบิ ตั ติ นไดส้ อดคลอ้ งกบั สงั คมทม่ี คี วามหลาก ผู้มีพระคุณเป็นอย่างมาก การตอบแทนพระคุณสามารถทำาได้หลายรูปแบบ เช่น การท่ีลูกชาย
หลายทางวฒั นธรรม ไดอ้ ุปสมบทเพอ่ื ทดแทนพระคุณของพ่อแม่
3) เป็นเอกลักษณท์ างด้านศลิ ปกรรม ประกอบด้วย

(1) สถาปัตยกรรม ไดแ้ ก่ การสร้างบ้านเรือนของประชาชน การสร้างวัดวาอาราม
ตา่ งๆ

(2) จติ รกรรม ไดแ้ ก่ การวาดภาพตามฝาผนงั โบสถ์ ซงึ่ เปน็ เรอ่ื งราวของพทุ ธประวตั ิ
ในพระพทุ ธศาสนา

(3) วรรณกรรม ได้แก่ ไตรภูมิพระร่วง ทางด้านอักษรศาสตร์ ได้แก่ ศิลาจารึก
ของพอ่ ขนุ รามคำาแหงมหาราช

(4) ประติมากรรม ได้แก่ การปัน้ หรือหลอ่ พระพุทธรปู ปางต่างๆ
4) สร้างความสามัคคีในชุมชน เช่น ในวันสำาคัญทางพระพุทธศาสนา ชาวบ้าน
จะไปรว่ มกันเตรยี มงานสำาหรับการทำาบญุ อยา่ งพรอ้ มเพรียง
5) ความศรัทธาในการทาำ บุญให้ทาน คนไทยสว่ นใหญ่มคี วามศรทั ธาในหลักคำาสอน
ของพระพุทธศาสนาในวันสำาคัญทางศาสนา เช่น วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา วันอาสาฬหบูชา คนไทย
แต่ละครอบครวั จะนิยมไปทาำ บุญตกั บาตรดว้ ยจติ ใจศรทั ธา
2.1.2 ประเภทของวัฒนธรรมไทย แบ่งออกเป็น 4 ประเภทดงั น้ี
1) คติธรรม ได้แก่ วัฒนธรรมทางศีลธรรมและจิตใจ อันเป็นคติหรือหลักการ
ในการดำาเนินชวี ิตที่รับมาจากหลกั ธรรมคำาสอนทางพระพุทธศาสนา
2) วัตถุธรรม ได้แก่ วัฒนธรรมทางวัตถุที่คนในสังคมประดิษฐ์คิดค้นข้ึนมา

สุดยอดค่มู ือครู 107

1. ขGั้นaรtวhบeรrวiมnขg้อมูล 2 . ขP้ันrคoิดcวeิเsคsรiาnะหg์และสรุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21 ทักษะชีวิต

สังคมและวฒั นธรรมท่ีส่งผลต่อพฤติกรรม 119 สงวนลิขสิท ิธ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ำจ�กัด St ep 4 ขัน้ สอื่ สารและน�ำเสนอ

เพื่อใช้อำานวยความสะดวกในการดำาเนินชีวิตประจำาวัน หรือส่ิงก่อสร้างต่างๆ เช่น บ้านทรงไทย วัด ACpopmlyminugnitchaetion Skill
เจดีย์ เครอื่ งมอื ในการประกอบอาชพี
3) เนติธรรม ได้แก่ วัฒนธรรมทางกฎหมายหรือขนบธรรมเนียมจารีตประเพณี 1. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มออกแบบหรือหาวิธีน�ำเสนอให้ผู้อื่น
เปน็ ระเบียบขอ้ บังคับ เพอ่ื ใหส้ มาชกิ ในสังคมไดป้ ฏบิ ตั ติ าม รับรู้และสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคนิควิธี
4) สหธรรม ได้แก่ วัฒนธรรมทางสังคม ซ่ึงเป็นมารยาทในสังคมท่ีสมาชิกทุกคน ที่เหมาะสม บูรณาการการใช้สื่อ/เทคโนโลยี/ค�ำศัพท์
พึงปฏิบัติต่อกันในโอกาสต่างๆ เช่น การทักทายโดยการไหว้ การแต่งกายอย่างสุภาพเมื่อไปในงาน เพิม่ เติม/สิ่งทนี่ า่ สนใจแทรกในการรายงาน
พิธีต่างๆ 2. สมุ่ กลมุ่ ผู้เรียนนำ� เสนอผลการสรุปความรู้ความเขา้ ใจ

2.2 ภมู ปิ ญั ญาไทย เปน็ ศิลปะการต่อสู้ ท่มี ีความโดดเดน่ ด้านเทคนคิ การตอ่ สู้
โดยทว่ั ไปเปน็ ทรี่ จู้ กั วา่ เปน็ “นวอาวธุ ” ซงึ่ ประกอบดว้ ยการ
ภูมิปัญญาไทย หมายถึงความรู้อันเกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างคนกับส่ิงแวดล้อม เป็น โจมตจี ากร่างกายทงั้ หมดั ศอก เขา่ และเทา้
ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และความฉลาดในการประดิษฐ์คิดค้น จนกระท่ังกลายเป็น
ผลผลิตทเ่ี ปน็ วัตถุ และเปน็ เร่ืองของจติ ใจอันมปี ระโยชน์ต่อการดำารงชวี ติ และมีการถ่ายทอดสบื ตอ่ กนั มา 120 เพศวิถีศึกษา
จากบรรพบุรุษจนถึงคนรุ่นปัจจุบัน เป็นองค์ความรู้และความสามารถส่วนรวมซ่ึงเป็นที่ยอมรับ 6) สาขาสวัสดิการ หมายถึงความสามารถในการจัดสวัสดิการ การประกันคุณภาพ
ในระดับชาติ ชีวิตใหเ้ กิดความมัน่ คงทางเศรษฐกิจ สงั คม และวฒั นธรรม
2.2.1 การจดั แบง่ สาขาภมู ปิ ญั ญาไทย ไดม้ กี ารกาำ หนดสาขาภมู ปิ ญั ญาไทยไวอ้ ยา่ งหลากหลาย 7) สาขาศิลปกรรม หมายถึงความสามารถในผลิตงานทางด้านศิลปะสาขาต่างๆ
ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่หน่วยงาน องค์กร และนักวิชาการได้กาำ หนด ในภาพรวม เช่น จติ รกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม ทัศนศิลป์ คตี ศิลป์ ศลิ ปะมวยไทย
ของภูมิปญั ญาไทยสามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 10 สาขาดังน้ี 8) สาขาการจัดการองค์กร หมายถึงความสามารถในการบริหารจัดการดำาเนินงาน
1) สาขาเกษตรกรรม หมายถึงความสามารถในการผสมผสานองค์ความรู้ ทักษะ ขององคก์ รชมุ ชนตา่ งๆ ใหส้ ามารถพฒั นาและบรหิ ารองคก์ รของตนเองไดต้ ามบทบาทและหนา้ ทขี่ ององคก์ ร
และเทคนิคด้านการเกษตรกับเทคโนโลยี โดยการพัฒนาบนพื้นฐานคุณค่าดั้งเดิมซ่ึงคนสามารถ 9) สาขาภาษาและวรรณกรรม หมายถึงความสามารถในผลิตผลงานท่ีเก่ียวกับ
พง่ึ พาตนเองในภาวการณต์ ่างๆ ได้ ดา้ นภาษา ท้งั ภาษาท้องถิ่น ภาษาโบราณ ภาษาไทย ตลอดจนวรรณกรรมทุกประเภท
2) สาขาอตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม หมายถงึ การรจู้ กั ประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี มยั ใหม่ 10) สาขาศาสนาและประเพณี หมายถึงความสามารถในการประยุกต์และปรับใช้
ในการแปรรูปผลิตผลเพ่ือชะลอการนำาเข้าตลาด แก้ปัญหาในการบริโภคให้ปลอดภัย ประหยัดและ หลกั ธรรมคาำ สอนทางศาสนา ความเชื่อ และประเพณีดงั้ เดมิ ท่มี คี ุณคา่ ให้เหมาะสมต่อการประพฤติปฏบิ ัติ
เป็นธรรม อนั เปน็ กระบวนการที่ทาำ ให้ชุมชนทอ้ งถน่ิ สามารถพ่ึงพาตนเองทางเศรษฐกจิ ได้ ทง้ั การผลติ และ ให้บังเกดิ ผลดีตอ่ บคุ คลและสิ่งแวดล้อม
การจาำ หน่ายผลติ ผลทางหตั ถกรรม 2.2.2 คุณค่าและความสำาคัญของภูมิปัญญาไทย ภูมิปัญญาไทยเป็นส่ิงท่ีบรรพบุรุษได้
3) สาขาการแพทย์แผนไทย หมายถึงความสามารถในการจัดการป้องกันและ สรา้ งสรรคแ์ ละสืบทอดความรู้นัน้ อย่างตอ่ เนื่องจากอดีตส่ปู ัจจุบนั ทำาใหค้ นในชาติเกดิ ความภูมใิ จ ดังนน้ั
รักษาสุขภาพของคนในชมุ ชน โดยเน้นใหช้ ุมชนสามารถพงึ่ พาตนเองทางด้านสุขภาพและอนามยั ได้ ภมู ิปญั ญาไทยจงึ มคี ณุ ค่าและความสำาคัญดงั น้ี
4) สาขาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม หมายถึงความสามารถ 1) ภูมิปัญญาไทยมีส่วนช่วยสร้างชาติให้เป็นปึกแผ่น เมื่อประเทศประสบปัญหา
เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ทั้งการอนุรักษ์ การพัฒนา และการใช้ประโยชน์ สามารถใช้ภูมิปัญญาไทยในการแก้ไขปัญหาต่างๆ จนประสบผลสำาเร็จเรื่อยมา เช่น เมื่อ พ.ศ. 2540
จากคุณค่าของทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มอยา่ งสมดลุ และยั่งยนื ประเทศไทยประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรง
5) สาขากองทุนและธุรกิจชุมชน หมายถึงความสามารถในการบริหารจัดการ พระราชทานแนวคดิ เศรษฐกิจพอเพยี งพ่อื ใช้ในการแกไ้ ขปญั หา ทำาใหค้ นไทยมีคณุ ภาพชีวิตท่ีดขี ้ึน
ด้านการบริการกองทุนและธุรกิจในชุมชน ทั้งท่ีเป็นเงินตราและโภคทรัพย์ เพื่อส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่
ของสมาชกิ ในชมุ ชน 2) ภูมิปัญญาไทยช่วยสร้างความภาคภูมิใจและเป็นสิ่งท่ีสร้างช่ือเสียงให้กับ
ประเทศชาติ เชน่ มวยไทยเป็นศิลปะการต่อส้อู นั เปน็ เอกลักษณ์ของคนไทยท่ไี ดร้ ับการยอมรับไปท่วั โลก
ทักษะชีวิต อาหารไทยเป็นที่รู้จักท่ัวโลก ภาษาไทยท่ีใช้สำาหรับการติดต่อส่ือสารกันเป็นของตนเอง ล้วนทำาให้เกิด
ความภาคภมู ิใจแก่คนไทยทั้งสิ้น
การน�ำความรู้เร่ืองสังคมและวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อ
พฤติกรรมมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ�ำวัน เพื่อพัฒนา 3) ภูมิปัญญาไทยเป็นการนำาพระธรรมคำาสอนของศาสนามาประยุกต์ใช้กับ
คุณภาพชีวิต เป็นการเสริมสร้างทักษะชีวิตท่ีมีผลดีต่อ การดำาเนินชีวิตอย่างเหมาะสม ประชาชนส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนาที่สอนให้พุทธศาสนิกชน
ตนเองและสงั คม เปน็ ผู้ทมี่ เี หตผุ ล เชอื่ มัน่ ในการกระทาำ ของตนหรอื กรรม การเป็นผทู้ ่ีมีใจเมตตากรณุ า เหน็ อกเห็นใจผู้อืน่
มีความเออ้ื เฟ้ือเผื่อแผ่ รจู้ ักการแบ่งปันสิง่ ของและความมนี ำ้าใจตอ่ ผูอ้ น่ื
ความรู้ ความสามารถ ความเชื่อ ท่ีน�ำมาไปสู่การปฏิบัติ
เพ่อื แกไ้ ขปญั หาของมนุษย์ หรือ ภมู ปิ ัญญา คือ พ้นื ความ 4) ภูมิปัญญาไทยเป็นการสร้างความสมดุลระหว่างคนในสังคมและธรรมชาติ
รู้ของปวงชนในสังคมน้ัน ๆ และปวงชนในสงั คมยอมรับรู้ ได้อย่างยั่งยืน ซ่ึงภูมิปัญญาไทยจะมีความสัมพันธ์กับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เช่น การเพาะเห็ดฟาง
เชอ่ื ถอื เขา้ ใจ รว่ มกัน เรยี กว่า ภมู ปิ ญั ญา จากทะลายปาล์ม ซ่ึงเป็นการใช้ทะลายปาล์มนำ้ามันที่ผ่านการสกัด และนำามาเป็นวัตถุดิบสำาคัญ
ในการเพาะเห็ดฟาง เป็นการสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรนาพญาร่วมใจ
จังหวัดชมุ พร

5) ภูมิปัญญาไทยสามารถปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงได้ ลักษณะท่ีสำาคัญของ

108 สุดยอดคมู่ อื ครู

A3. ข้ันปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ A4. ข้ันส่ือสารและน�ำเสนอ 5. ขSั้นeปlรf-ะRเมeินgเพuื่อlaเพti่ิมnคgุณค่า

pplying and Constructing the Knowledge pplying the Communication Skill

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

สงั คมและวฒั นธรรมทสี่ ง่ ผลต่อพฤตกิ รรม 121 สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด ค่านิยมหลัก 12 ประการ

ภูมิปัญญาไทย คือเป็นส่ิงท่ีสามารถปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เพื่อนำามา • มีศลี ธรรม รกั ษาความสัตย์ หวงั ดตี ่อผ้อู น่ื เผอื่ แผ่และ
ใช้ประโยชนก์ บั การดำาเนินชวี ติ ได้อย่างมีประสิทธภิ าพ แบ่งปัน
• ใฝ่หาความรู้ หม่ันศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและ
2.3 วฒั นธรรมสากล ทางออ้ ม

วัฒนธรรมสากล คือวัฒนธรรมซึ่งเป็นท่ียอมรับกันอย่างกว้างขวาง ในปัจจุบัน 122 เพศวถิ ีศกึ ษา
มีท้ังวัฒนธรรมของชาติตะวันตก วัฒนธรรมของจีน เกาหลี ญี่ปุ่น โดยวัฒนธรรมที่สำาคัญ เช่น
เครือ่ งแตง่ กายสากล ดนตรสี ากล การค้าเสรี การปกครองในระบอบประชาธิปไตย 3. คา่ นิยมเรอื่ งเพศตามแนวปฏบิ ัติทางสงั คมและวัฒนธรรม
2.3.1 วัฒนธรรมสากลท่ีสำาคญั มดี ังน้ี
1) การใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสาร ภาษาอังกฤษจัดเป็นวัฒนธรรมสากล 3.1 วัฒนธรรม ศลี ธรรมจรรยาในเร่อื งเพศ
เนื่องจากเป็นภาษาที่ประชาชนในประเทศต่างๆ ทั่วโลกนิยมใช้เป็นส่ือกลางในการติดต่อสื่อสารกัน
มากที่สุด วัฒนธรรม ศลี ธรรมจรรยาในเร่อื งเพศ มีรายละเอยี ดดงั นี้
2) การค้าเสรี เป็นรูปแบบการค้าที่ไม่มีการกีดกันในรูปแบบต่างๆ มีการแข่งขันกัน 3.1.1 วฒั นธรรมในเรอ่ื งเพศ เปน็ วถิ ชี วี ติ ในดา้ นความประพฤตเิ กยี่ วกบั เพศ ซง่ึ เปน็ ทย่ี อมรบั
อย่างเสรี เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทำาให้เกิดการขยายตัวทางด้านการค้า สินค้าและบริการต่างๆ มี และสบื ทอดปฏิบัตติ อ่ เนือ่ งกันมายาวนาน วฒั นธรรมในเรอื่ งเพศในสงั คมไทย ไดแ้ ก่
ปรมิ าณทเี่ พียงพอตอ่ ความต้องการของผ้บู ริโภค มคี ณุ ภาพที่ได้มาตรฐานปลอดภัยตอ่ ผ้บู ริโภค
3) ประชาธิปไตย เป็นรูปแบบการปกครองท่ีประชาชนเป็นเจ้าของอำานาจ และ 1) การทสี่ ามภี รรยาปฏิบตั ิตนด้วยความซอื่ สตั ย์ตอ่ กัน ไมน่ อกใจกัน
มอบหมายใหต้ ัวแทนของตนเปน็ ผใู้ ชอ้ ำานาจอธปิ ไตยแทน ยึดหลักความเสมอภาค หลักสทิ ธิและเสรีภาพ 2) การท่ีสามีภรรยามีความมุ่งมั่นที่จะสร้างครอบครัวให้มั่นคง มีความสงบสุข
ใช้หลักนิติธรรมในการปกครองประเทศ และการตัดสินปัญหาต่างๆ ที่เกิดข้ึน ในสังคมจะต้องฟังเสียง ในครอบครัว
ส่วนใหญ่ แตเ่ คารพในเสียงสว่ นน้อย เปน็ วฒั นธรรมสากลท่ีประเทศตา่ งๆ นิยมนาำ ไปใชป้ ฏบิ ตั ิ 3) การท่ีสามีภรรยาให้การอบรมเลี้ยงดูบุตรด้วยความรัก ความเอาใจใส่ เพื่อ
4) วิถีชีวิต วัฒนธรรมสากลจะให้ความสำาคัญกับการรักษาสุขภาพอนามัยของตน ให้บุตรเป็นคนเก่ง คนดี มคี วามสขุ และมีอนาคตท่ดี ี
กระตนุ้ ใหป้ ระชาชนในประเทศต่างๆ มีสขุ ภาพอนามัยท่ีแข็งแรง มอี ายุยนื ยาว 4) การมีเพศสมั พันธอ์ ยา่ งปลอดภัยด้วยการใช้ถงุ ยางอนามยั
2.3.2 การเลือกรับวฒั นธรรมสากลที่เหมาะสม 5) การจัดพิธีมงคลสมรส ซ่ึงเป็นพิธีกรรมที่ยึดถือปฏิบัติมาแต่โบราณ เพ่ือให้สังคม
ไดร้ ับรูแ้ ละเป็นสัญลักษณข์ องความผูกพนั ฉนั สามภี รรยาอย่างถกู ต้อง
เนอื่ งจากในยคุ ปจั จบุ นั มกี ารตดิ ตอ่ สมั พนั ธก์ บั ประเทศตา่ งๆ ทว่ั โลก การรบั วฒั นธรรม 3.1.2 ศีลธรรมจรรยาในเร่ืองเพศ เป็นเคร่ืองหมายแสดงออกถึงวัฒนธรรมทางเพศท่ีดีงาม
สากลจงึ เปน็ ประโยชน์ตอ่ การพฒั นาประเทศ ดังนัน้ การเลือกรับวฒั นธรรมควรปฏบิ ัติดังน้ี ของคนในสงั คม ศีลธรรมจรรยาในเรอ่ื งเพศในสงั คมไทย ได้แก่
1) การปฏิบัติตนท่ีดีต่อกันไม่ว่าจะเป็นคู่รักหรือเป็นสามีภรรยา โดยไม่เอาเปรียบ
1) การเลอื กรบั วฒั นธรรมทม่ี ปี ระโยชนต์ อ่ ตนเองและประเทศชาตใิ นดา้ นตา่ งๆ เปน็ ซ่ึงกันและกัน
สำาคญั เชน่ ความเจรญิ ทางดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เพือ่ ปรับใชก้ บั การดาำ เนนิ ชีวิตและการพัฒนา 2) การใหเ้ กยี รติยกย่องซง่ึ กันและกัน ไม่มีการพดู ให้อกี ฝ่ายหน่ึงไดร้ บั ความเสียหาย
ประเทศได้อย่างเหมาะสม รวมถึงวัฒนธรรมท่ีเก่ียวกับการประกอบอาชีพท่ีมีความหลากหลาย เพื่อให้ แม้จะเลกิ คบหาหรอื หยา่ รา้ งกนั ไปแล้ว
สามารถปรับตวั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3) การมีเจตคติทางเพศด้านบวก โดยตระหนักว่าเรื่องเก่ียวกับเพศและพฤติกรรม
ทางเพศเป็นธรรมชาตขิ องมนุษย์ และมขี อบเขตในการแสดงออกท่เี หมาะสม
2) การนำาวัฒนธรรมสากลมาปรับใช้กับวัฒนธรรมไทยให้เหมาะสมกับยุคสมัย 4) การมีความรับผิดชอบในเรอ่ื งตา่ งๆ ท่ีจะเกดิ ขึ้นหลังจากมีความสมั พันธก์ นั แล้ว
โดยเลือกสรรเฉพาะส่วนที่ดี ซึ่งจะทำาให้ประเทศมีความก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว และถ้านำามาปรับใช้ 5) การตระหนกั ถึงศีลธรรมอันดีงาม เช่น ไม่กระทาำ การกระทำาท่ผี ดิ ศีล 5 ขอ้ ท่ี 3 คอื
อย่างเขา้ ใจ ทาำ ให้สามารถรักษาเอกลกั ษณ์ของความเป็นไทยไวไ้ ด้ การละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ไดแ้ ก่ การมคี วามสมั พนั ธ์ฉนั ชู้สาวกบั ชายหรอื หญงิ ทมี่ ีคคู่ รองแลว้
การนอกใจสามีหรือภรรยา
3) การเลอื กรบั วฒั นธรรมทไ่ี มข่ ดั ตอ่ ศลี ธรรมอนั ดงี ามของประชาชน วฒั นธรรมสากล 6) การตระหนักถึงศีลธรรมอันดีงาม เช่น ไม่กระทำาความผิดในเร่ืองของการทำาแท้ง
เป็นวัฒนธรรมของชาวต่างชาติที่มีวิถีการดำาเนินชีวิตท่ีแตกต่างไปจากคนไทย ซึ่งบางเร่ืองอาจจะขัดต่อ หากตงั้ ครรภใ์ นเวลาทไี่ มส่ มควร ซง่ึ เปน็ การกระทำาทผี่ ดิ ศลี 5 ขอ้ ท่ี 1 เพราะการทำาแทง้ กค็ อื การฆา่ หนง่ึ ชวี ติ
ศีลธรรมท่ีดีของไทย ดังนั้นการเลือกรับวัฒนธรรมสากลที่เหมาะสมควรจะรับเอาวัฒนธรรมที่ 7) การตระหนักและรู้สึกผิดในการหลอกลวงฝ่ายตรงข้าม เพ่ือให้ได้ส่ิงที่ตนต้องการ
แตเ่ ป็นการทาำ ใหอ้ กี ฝา่ ยสูญเสีย ซงึ่ เปน็ สิ่งทีผ่ ดิ ศลี ธรรม

สุดยอดคมู่ ือครู 109

1. ขG้ันaรtวhบeรrวiมnขg้อมูล 2. ขP้ันrคoิดcวeิเsคsรiาnะหg์และสรุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21 ทักษะชีวิต

สังคมและวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อพฤตกิ รรม 123 สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด124 เพศวิถศี กึ ษา
2) การไม่สนับสนุนใหพ้ ูดคยุ เรื่องเพศอย่างเปดิ เผย ทำาให้เดก็ และวยั รุ่นขาดความรู้
3.2 ค่านิยมในเร่ืองเพศตามวฒั นธรรมไทย ท่ีถูกต้อง ขาดการอบรมชี้แนะที่เหมาะสม ทำาให้ต้องเรียนรู้ด้วยตนเองหรือเรียนรู้จากเพ่ือนและส่ือ
ซึ่งบางคร้ังอาจเปน็ ไปในทางทีผ่ ิด
ค่านิยมในเรื่องเพศ คือความรู้สึก การเห็นคุณค่าหรือความเช่ือที่มีต่อเร่ืองใดเร่ืองหนึ่งใน 3) การคิดว่าเพศหญิงเป็นฝ่ายตอบสนองความต้องการทางเพศของฝ่ายชาย
เร่ืองเพศ ซึ่งได้ยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนเพื่อดำาเนินชีวิต ค่านิยมในเร่ืองเพศมีความสำาคัญ ทำาให้เกดิ การข่มขืนกระทำาชำาเรา เกดิ อาชพี ขายบรกิ ารทางเพศซง่ึ นำามาซ่ึงปัญหาสงั คม
ต่อการดำาเนินชีวติ และการแสดงออกของพฤตกิ รรมในเรื่องเพศ 4) การคิดว่ามีความสัมพันธ์ทางเพศก่อนแต่งงานมิใช่เรื่องเสียหาย ทำาให้เกิด
การมีเพศสัมพันธ์ก่อนการมีคู่ครองที่แท้จริง นำามาซ่ึงปัญหาต่างๆ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
คา่ นยิ มในเรอ่ื งเพศของบคุ คลเกดิ จากการอบรมสง่ั สอนจากพอ่ แมใ่ นสถาบนั ครอบครวั สถาบนั การต้งั ครรภ์กอ่ นวยั อนั ควร การทำาแท้ง
การศึกษา ประสบการณ์ กระบวนการขัดเกลาและถ่ายทอดทางสังคม ขนบธรรมเนียมประเพณี 5) การคิดว่ามีความสัมพันธ์ทางเพศโดยไม่ต้องเป็นคนรักหรือคู่ครองกันเป็น
วัฒนธรรมของสังคม และคำาสอนในศาสนาตา่ งๆ ซง่ึ มที ง้ั ด้านบวกและดา้ นลบดงั น้ี เร่ืองปกต ิ ซึ่งสง่ ผลใหเ้ กดิ การตดิ เชอื้ โรคเอดส์หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธ์ การทำาแทง้
3.2.3 ค่านิยมในเรื่องเพศท่ีเหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย ซ่ึงเป็นท่ียอมรับว่าเป็นสิ่งดีงาม
1. ค่านยิ มในเรือ่ งเพศดา้ นบวก เชน่ ยดึ ม่ันในเร่ืองการรกั นวลสงวนตวั การรักษาพรหมจารี ควรยดึ เป็นหลกั ในการดาำ เนินชวี ติ ในเรอ่ื งเพศ มีดังน้ี
การเข้าตามตรอกออกตามประตู และคบหากนั อยา่ งเปดิ เผยโดยทีพ่ อ่ แมท่ ้ังสองฝา่ ยรบั รู้ มกี ารแสดงออก
ทางเพศอยา่ งเหมาะสมและคาำ นงึ ถงึ กาลเทศะ ซง่ึ จะสง่ ผลใหก้ ารดาำ เนนิ ชวี ติ มคี วามสขุ และมคี วามปลอดภยั 1) ผู้ชายควรให้เกียรติและช่วยปกป้องอันตรายให้แก่ผู้หญิง เพราะผู้ชายเป็นเพศ
ในเรื่องเพศ ที่แข็งแรงกว่า จงึ ควรดแู ลชว่ ยเหลอื และมคี วามเป็นสุภาพบรุ ุษ ใหเ้ กียรตแิ กผ่ หู้ ญงิ

2. ค่านิยมในเรื่องเพศด้านลบ เชน่ ไม่รักนวลสงวนตัว มีความสมั พนั ธท์ างเพศก่อนแตง่ งาน 2) ผู้ชายและผหู้ ญิงมสี ิทธิและศกั ดศิ์ รเี ท่าเทียมกนั ตามหลักสิทธมิ นุษยชน แตกต่าง
การคบผชู้ ายหรือผูห้ ญิงหลายคนซง่ึ จะสง่ ผลใหเ้ กิดปญั หาตามมา และถกู สังคมตำาหนิได้ จากอดีตที่ผู้ชายมีสิทธิและศักดิ์ศรีเหนือกว่าผู้หญิงมาก ในสังคมปัจจุบันผู้หญิงมีเสรีภาพมากขึ้นและ
3.2.1 ค่านยิ มในเร่อื งเพศท่ีถกู ตอ้ งตามลกั ษณะสังคมและวฒั นธรรมไทย มคี วามสามารถเท่าเทียมกับผูช้ าย สามารถเปน็ ผนู้ าำ ครอบครวั ได้
1) การเข้าตามตรอกออกตามประตู คือการพบปะติดต่อกันระหว่างฝ่ายชายและ
ฝ่ายหญิงที่กระทำาอย่างเปิดเผย อยู่ในสายตาของพ่อแม่ผู้ปกครองของท้ังสองฝ่าย ทำาให้ได้รับคำาแนะนำา 3) การแสดงออกในเรอื่ งความพงึ พอใจหรอื ความสนใจตอ่ เพศตรงขา้ ม จะตอ้ งปฏบิ ตั ิ
ในการตดั สินใจที่ดี ซึ่งนาำ ไปสกู่ ารมคี รอบครวั ทมี่ ่ันคง ตามจารตี ประเพณขี องสงั คมไทย และถกู ตอ้ งตามคา่ นยิ มทส่ี งั คมไทยยอมรบั ได้ เชน่ การไมม่ เี พศสมั พนั ธ์
2) การใช้เวลาในการคบหาดูใจกันเป็นพอสมควร เป็นการเรียนรู้ทำาความเข้าใจ กอ่ นทจ่ี ะแตง่ งาน
ซึ่งกันและกนั กอ่ นตดั สนิ ใจแต่งงาน เพ่อื ให้ใช้ชวี ติ คูร่ ่วมกนั อย่างราบรื่น
3) การรกั นวลสงวนตวั หมายถงึ การทะนถุ นอมดแู ลตนเองใหบ้ รสิ ทุ ธิ์ ไมม่ เี พศสมั พนั ธ์ 4) การปฏบิ ตั ติ นในเรอื่ งเพศใหถ้ กู ตอ้ งตามหลกั ธรรมทางศาสนาทต่ี นเองนบั ถอื เชน่
กอ่ นแต่งงาน ไมแ่ ต่งกายล่อแหลม เพราะอาจนาำ ไปสู่การถูกล่วงละเมิดทางเพศ การรักษาศีล 5 ในพระพุทธศาสนา มีข้อควรปฏิบัติเก่ียวกับเรื่องเพศ คือศีลข้อที่ 3 ห้ามประพฤติผิด
4) ไม่สำาส่อนทางเพศ เพราะอาจทำาให้ติดโรคเอดส์หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกามหรือผิดลูกเมียของผู้อื่น ดังน้ันคนเราจึงต้องแสดงออกซึ่งพฤติกรรมทางเพศที่ถูกต้องตาม
และสง่ ผลกระทบตอ่ ความมั่นคงในครอบครัว หลกั ธรรมของศาสนา
5) ผู้ชายมีความรับผิดชอบต่อเพศหญิง ไม่หลอกลวงหรือข่มเหงน้ำาใจ และมี
ความรบั ผดิ ชอบในการเลย้ี งดคู รอบครวั 5) ผู้ชายและผู้หญิงควรยึดม่ันในเร่ืองของความเป็นสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี
6) การวางตวั ต่อกันในที่สาธารณะอยา่ งเหมาะสม ไมแ่ สดงความรักอย่างเปิดเผย ไมก่ ระทาำ พฤตกิ รรมท่เี จตนาลว่ งเกินต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึง่ ทงั้ ทางกายและวาจา

ค่านิยมทางเพศที่ถูกต้องจะช่วยลดปัญหาทางสังคมในเรื่องความไม่ม่ันคงของ 6) การรจู้ กั รกั นวลสงวนตวั ทง้ั ผชู้ ายและผหู้ ญงิ โดยเฉพาะผหู้ ญงิ ควรแตง่ กายใหร้ ดั กมุ
สถาบันครอบครัวและความแตกแยกในครอบครัวได้ รวมท้ังลดปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เหมาะสมกับกาลเทศะ พร้อมทั้งวางตัวหรือแสดงพฤติกรรมท่ีเหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย เพราะ
ปัญหาการทำาแทง้ และปัญหาอาชญากรรมทางเพศในสงั คมไดเ้ ช่นกัน การแต่งกายที่ล่อแหลมเป็นการกระทำาท่ีย่ัวยุอารมณ์ของเพศตรงข้าม อาจนำามาซ่ึงการกระทำาอนาจาร
3.2.2 คา่ นยิ มในเรื่องเพศทไี่ ม่ถกู ตอ้ งตามวฒั นธรรมไทย การข่มขืนกระทำาชาำ เราได้
1) การยกย่องฝ่ายชายให้เป็นใหญ่มากกว่าฝ่ายหญิง ทำาให้ปิดกั้นความสามารถ
ของฝ่ายหญงิ 7) การเลือกคู่ครองด้วยความสมัครใจ เพราะทุกคนมอี ิสระในการรับผิดชอบตอ่ ชีวิต
ของตนเองทงั้ ทางรา่ งกายและจิตใจ รวมถงึ เรื่องเพศด้วย

8) การเขา้ สพู่ ธิ สี มรสอยา่ งถกู ตอ้ ง ซงึ่ เปน็ พธิ กี รรมทป่ี ฏบิ ตั มิ าแตโ่ บราณ เพอื่ ใหส้ งั คม
ได้รับรู้ และยงั เป็นสัญลักษณข์ องความผกู พนั ฉันสามีภรรยาอย่างถกู ตอ้ ง

110 สุดยอดค่มู ือครู

A3. ข้ันปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ A4. ขั้นส่ือสารและน�ำเสนอ 5. ขSั้นeปlรf-ะRเมeินgเพuื่อlaเพtiิ่มnคgุณค่า

pplying and Constructing the Knowledge pplying the Communication Skill

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

สงั คมและวัฒนธรรมทส่ี ง่ ผลตอ่ พฤตกิ รรม 125

9) การจดทะเบียนสมรส ซ่ึงถอื วา่ เปน็ สามีภรรยากนั โดยสมบรู ณท์ างกฎหมาย สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด 126 เพศวิถีศึกษา
10) การแสดงออกถงึ ความรกั ใคร่ ควรอยใู่ นความเหมาะสม 7) การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานอาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา เช่น การตั้งครรภ์
11) สามีภรรยาควรยึดถือค่านิยมในการครองชีวิตคู่แบบครอบครัวเดียว เพราะเป็น
รูปแบบที่เหมาะสมกับหลักมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน เป็นรากฐานและเป็นหลักประกันท่ีมั่นคง ทไี่ มพ่ งึ ประสงค์ การทาำ แท้ง
ของชีวิตครอบครัวได้อย่างแท้จริง อีกทั้งครอบครัวแบบครอบครัวเดียวยังช่วยพัฒนาศักยภาพของ 8) การถ่ายคลิปวิดีโอลามกหรือการแชตผ่านกล้องทางอินเทอร์เน็ต อาจทำาให้เกิด
สมาชิกทุกคนในครอบครวั ให้สามารถดาำ เนนิ ชวี ิตในด้านต่างๆ ไดอ้ ย่างเตม็ ที่
12) การทาำ แทง้ เปน็ การกระทาำ ทผี่ ดิ กฎหมาย ยกเวน้ การทาำ แทง้ ทม่ี เี หตผุ ลทางการแพทย์ ปัญหาอาชญากรรมตามมา
ได้แก่ การตั้งครรภ์ท่ีอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพของมารดา การต้ังครรภ์ที่ถูกข่มขืน และ การเลือกรับวัฒนธรรมตะวันตกท่ีเหมาะสมมาปรับใช้ในการดำาเนินชีวิตจะช่วยให้
การตงั้ ครรภข์ องหญงิ ทเี่ ปน็ โรคจติ การทาำ แทง้ นอกจากจะผดิ กฎหมายแลว้ ยงั เปน็ อนั ตรายตอ่ สขุ ภาพและ
ชวี ิตของผูร้ บั การทำาแท้ง เพราะอาจทาำ ใหเ้ กิดการเสียเลือดมาก การตดิ เช้ือท่ีมดลกู ทำาใหต้ ้องตดั มดลกู ทง้ิ มคี วามปลอดภยั ในเร่ืองเพศ เป็นทีย่ อมรับและช่ืนชมของผู้อ่ืน สามารถดาำ รงชวี ติ ได้อยา่ งมีความสุข
ซึ่งหากแพทย์ช่วยไม่ทันจะทำาให้เสียชีวิต นอกจากน้ีอาจมีการอักเสบเร้ือรังหรือการอุดตันของท่อนาำ ไข่ 3.3.3 ค่านยิ มในเรอื่ งเพศทีม่ ีความเหมาะสมของครู่ ัก
ทำาใหเ้ ป็นหมันและมลี กู ไม่ได้เมอ่ื มีความพร้อม
13) การมคี า่ นยิ มในการมเี พศสมั พนั ธท์ ปี่ ลอดภยั คอื ปลอดภยั จากโรคตดิ ตอ่ ทางเพศ การมีคนรักของวัยรุ่นจะต้องมีขอบเขต อยู่ในสายตาและความดูแลของพ่อแม่
สัมพนั ธแ์ ละโรคเอดส์ ตลอดจนปลอดภยั จากการตง้ั ครรภ์ท่ไี มพ่ งึ ประสงค์ ทั้งสองฝา่ ย วยั รนุ่ ท่ีมคี นรกั ควรปฏบิ ตั ติ นในขอบเขตทเ่ี หมาะสมดังนี้

3.3 ค่านยิ มในเรือ่ งเพศตามวฒั นธรรมอน่ื 1) การคบหากันระหว่างชายและหญิง ต้องยึดครองประเพณีของวัฒนธรรมไทย
ควรหลกี เล่ยี งการกระทำาท่จี ะเป็นการล่วงละเมดิ อีกฝ่ายหน่ึง
ค่านิยมในเรื่องเพศของวัยรุ่นไทยได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ท้ังนี้เป็นเพราะวัฒนธรรม
จากชาติอื่นได้เข้ามามีบทบาทและมีอิทธิพลมากข้ึน โดยเฉพาะวัฒนธรรมตะวันตกที่แพร่เข้ามา 2) ไม่อยู่ในท่ีลับตาคนตามลำาพังสองต่อสอง เช่น ในห้อง ในบ้านท่ีไม่มีใครอยู่
ทางส่ือต่างๆ ท้ังโทรทัศน์ ภาพยนตร์ หนังสือ และอินเทอร์เน็ต ทำาให้เกิดพฤติกรรมลอกเลียนแบบ ซง่ึ จะทำาใหเ้ กดิ บรรยากาศทจี่ ะนาำ ไปสู่การมีความสมั พนั ธท์ างเพศได้
วัฒนธรรมบางอย่างก็ส่งผลดีต่อการดำาเนินชีวิต แต่วัฒนธรรมบางอย่างส่งผลให้เกิดปัญหาสังคม
ตามมา จงึ ควรเลือกรับวัฒนธรรมที่ดแี ละมคี วามเหมาะสมกบั วัฒนธรรมไทยมาปรับใชใ้ ห้เหมาะสม 3) รู้จักการปฏิเสธ โดยเฉพาะผู้หญิงต้องรู้จักการปฏิเสธอย่างจริงจังและเด็ดขาด
3.3.1 คา่ นิยมทางเพศทเี่ หมาะสมตามวฒั นธรรมตะวนั ตก พูดใหเ้ ห็นถึงผลเสยี ของการมเี พศสัมพันธก์ ่อนวัยอันควร

1) การแสดงความเปน็ สภุ าพบุรุษใหเ้ กียรตผิ ้หู ญิง 4) มีความเมตตาต่อกัน ไม่ทำาร้ายท้ังทางร่างกายและทางจิตใจ ให้กำาลังใจกัน
2) การมคี วามซื่อสัตยต์ อ่ สามภี รรยา ไม่นอกใจ ชว่ ยเหลอื กนั ในเรอ่ื งต่างๆ โดยเฉพาะเร่ืองเรยี นซ่ึงเปน็ เรอื่ งสาำ คญั ท่สี ุดสำาหรับวยั รุ่น
3) สามมี คี วามรกั และความรบั ผดิ ชอบตอ่ ครอบครวั ขยนั ทาำ งานเพอื่ เลย้ี งดคู รอบครวั
4) ผหู้ ญงิ สามารถแสดงความคดิ เหน็ หรอื โตแ้ ยง้ ในเรอื่ งตา่ งๆ อยา่ งเทา่ เทยี มกบั ผชู้ าย
5) การมเี พศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยด้วยการใช้ถงุ ยางอนามัย
3.3.2 คา่ นิยมทางเพศที่ไม่เหมาะสมตามวัฒนธรรมตะวนั ตก
1) การแต่งกายลอ่ แหลม เปิดเผย เพ่ือให้เป็นทีส่ นใจหรอื ดงึ ดูดเพศตรงขา้ ม
2) การคบเพือ่ นตา่ งเพศครั้งละหลายๆ คน
3) การออกเดตหรือไปเทยี่ วกับเพื่อนต่างเพศสองตอ่ สอง
4) การแสดงความสนใจตอ่ เพศตรงข้ามจนไมเ่ หมาะสม
5) การแสดงความรกั ด้วยการกอดจบู ในท่ีสาธารณะอย่างเปิดเผย
6) การไปเท่ยี วกลางคนื กับเพ่ือนตา่ งเพศในสถานบันเทงิ

เป็นการสนทนา โดยการเขียนบทสนทนาระหว่างคนสอง
คนหรือมากกว่าน้ันโดยใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์หรือ
อนิ เทอร์เนต็

สรุป

ในสังคมไทย วัฒนธรรมท่ีเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมทางเพศของคนสมัยก่อนไม่แสดงออก

อย่างเด่นชัดเช่นปัจจุบัน  โดยเฉพาะพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นควรอยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่  เช่น 
ไม่แสดงความรักต่อกันสายตาของคนอ่ืน  คู่รักท่ีจะแต่งงานกันควรได้รับการยินยอมเห็นชอบของ
ผู้ใหญ่ ปัจจุบันวัยรุ่นได้รับวัฒนธรรมหลากหลายจากกลุ่มต่างๆ  ท้ังในประเทศและต่างประเทศท่ัวโลก
ผ่านสื่อต่างๆ ซึ่งมีทั้งส่ิงเหมาะสมและไม่เหมาะสม เนื่องจากแบบแผนวัฒนธรรมของแต่ละสังคม
อาจไม่เหมือนกัน สิ่งที่สังคมยึดถือว่าเป็นสิ่งท่ีดีงามอาจไม่เหมาะสมในอีกสังคมหน่ึง  จึงควรรับและ
ปรับให้เข้ากับสังคมของตน เราจึงควรแสวงหาความรู้และคำาแนะนำาที่ผู้ใหญ่ซ่ึงจะทำาให้เราได้เรียนรู้และ
ซึมซับส่ิงท่ีดีไว้ ทำาให้ดำาเนินชีวิตอย่างถูกต้อง ในทางตรงข้ามหากเลือกพฤติกรรมทางเพศท่ีผิดๆ ท่ีพบ
ในสอ่ื บคุ คลในสังคมทแี่ สดงให้เห็น หรือผา่ นส่ือตา่ งๆ โดยขาดการไตรต่ รอง ใชว้ จิ ารณญาณทีไ่ ม่ถูกตอ้ ง
พิจารณา อีกท้ังไม่มีผู้ใหญ่ท่ีมีความคิดที่ถูกต้องคอยแนะนำาให้ความคิดเห็น ก็อาจจะทำาให้วัยรุ่น
รับวฒั นธรรมทไี่ มเ่ หมาะสมกับสงั คมไทยมาประพฤตปิ ฏิบัติจนทาำ ใหเ้ กิดปญั หาข้นึ ได้

สดุ ยอดคมู่ ือครู 111

1. ขGั้นaรtวhบeรrวiมnขg้อมูล 2. ขP้ันrคoิดcวeิเsคsรiาnะหg์และสรุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21 ทักษะชีวิต

สังคมและวัฒนธรรมทสี่ ่งผลต่อพฤติกรรม 127สงวนลิขสิท ิธ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ำจ�กัด Step 5 ขบ้ันรปกิ ราระเสมงั ินคเพมแื่อลเพะจ่มิ ิตคสุณาคธา่ารณะ

กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ Self-Regulating

คาำ ชี้แจง กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจเป็นกิจกรรมฝึกทักษะเฉพาะด้านความรู้-ความจำา เพื่อใช้ใน 1. ผเู้ รยี นแตล่ ะกลมุ่ และรายบคุ คลตรวจสอบความรคู้ วาม
การตรวจสอบความเขา้ ใจตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เข้าใจของตนเองหลังจากรับฟังการน�ำเสนอของ
สมาชิกกลุ่มอื่น ปรับปรุงชิ้นงานของกลุ่มตนเองให้
คำาสั่ง สมบูรณ์และบนั ทกึ เพ่ิมเตมิ
ตอนที่ 1 จงตอบคำาถามตอ่ ไปนี้ 2. น�ำผลงานแสดงในป้ายนิเทศหรือเผยแพร่สู่ห้องเรียน
1. จงอธบิ ายความหมายและความสำาคัญของสถาบนั ทางสงั คมโดยสังเขป อนื่ หรือสาธารณะ
2. จงเปรยี บเทียบลกั ษณะเด่นของวฒั นธรรมไทย ภูมิปญั ญาไทย และวัฒนธรรมสากลโดยสังเขป 3. ผู้เรียนแต่ละคนท�ำแบบทดสอบ แลกเปลี่ยนกันตรวจ
3. ค่านิยมในเรื่องเพศทถี่ ูกต้องและไมถ่ กู ต้องในสังคมไทยมีลักษณะอยา่ งไร ให้คะแนน จากนั้นประเมินสรุปผลการท�ำกิจกรรม
4. ค่านิยมในเรื่องเพศทเ่ี หมาะสมกบั วัฒนธรรมไทยควรมลี กั ษณะเช่นใด ทำ� แบบประเมนิ ตนเอง และกำ� หนดแนวทางการพฒั นา
5. ค่านิยมในเร่อื งเพศจากวฒั นธรรมอื่นทค่ี วรนำามาปรับใชไ้ ด้แก่อะไรบ้าง ตนเอง

ตอนท่ี 2 จงขีดเคร่อื งหมาย ✓หน้าข้อความทีถ่ ูกตอ้ งและเคร่ืองหมาย ✗ หนา้ ข้อความที่ผดิ

✓ 1. ครอบครวั มบี ทบาทอยา่ งมากในการกาำ หนดสถานะทางสังคม
✗ 2. วัฒนธรรมทางวัตถุทค่ี นในสังคมประดษิ ฐ์คดิ คน้ ข้นึ มาใชอ้ าำ นวยความสะดวกในชวี ติ
✗ 3. ความร้อู นั เกิดจากความสัมพนั ธร์ ะหว่างคนกบั สงิ่ แวดลอ้ มเปน็ ภูมปิ ญั ญาสากล
✓ 4. ภมู ิปญั ญาไทยเปน็ สง่ิ ทีบ่ รรพบรุ ุษสืบทอดความรจู้ ากอดตี ถึงปจั จบุ ัน
✓ 5. การมเี พศสมั พนั ธอ์ ย่างปลอดภัยดว้ ยการใชถ้ ุงยางเป็นศลี ธรรมจรรยาในเรือ่ งเพศ
✓ 6. การไม่กระทำาความผิดในเร่ืองการทำาแท้งหากต้ังครรภ์ในเวลาที่ไม่เหมาะสมเป็นค่านิยม

ในเร่อื งเพศทีเ่ หมาะสมกับวฒั นธรรมไทย
✓ 7. ผู้ชายไม่ควรหลอกลวงหรือข่มเหงนำ้าใจและม่ีความรับผิดชอบในการเล้ียงดูครอบครัว

เป็นค่านยิ มในเรื่องเพศที่เหมาะสม
✗ 8. การคดิ วา่ การมคี วามสมั พนั ธท์ างเพศกอ่ นแตง่ งานมใิ ชเ่ รอ่ื งเสยี หาย เปน็ คา่ นยิ มทถี่ กู ตอ้ ง

ของวฒั นธรรมไทย
✓ 9. การรกั ษาศลี ขอ้ ที่ 3 หา้ มประพฤตผิ ดิ ในกามหรอื ผดิ ลกู เมยี ของผอู้ นื่ เปน็ คา่ นยิ มเรอื่ งเพศ

ท่ีเหมาะกบั วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมสากล
✓ 10. การยกย่องฝ่ายชายให้เป็นใหญ่มากกว่าฝ่ายหญิง เป็นค่านิยมที่ไม่ถูกต้องตาม

วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมสากล

128 เพศวิถีศึกษา

ตอนท ี่ 3 จงเลอื กคำาตอบท่ถี ูกตอ้ งทสี่ ดุ เตมิ ลงในช่องวา่ ง

1. การดำาเนนิ ชีวติ 6. การแต่งกาย
2. การเคารพสทิ ธิเสรภี าพ 7. หลกั เกณฑ์
3. การปฏิบัตติ ามกรอบของวฒั นธรรม 8. ภมู ิปญั ญาไทย
4. ความภาคภมู ิใจ 9. เอกลกั ษณ์
5. สภาพแวดลอ้ ม 10. ความเจริญ

วัฒนธรรมไทย ภมู ิปญั ญาไทย และวัฒนธรรมสากล

วัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาไทย วัฒนธรรมสากล การอนุรักษ์ การเลือกรับ
วัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมสากล
ความสำาคัญของ การจัดแบง่ สาขา คุณคา่ และ ประเภทของ ลกั ษณะและ และภูมิปัญญาไทย ที่เหมาะสม
วัฒนธรรมไทย ภูมปิ ัญญาไทย ความสาำ คญั ของ วัฒนธรรมสากล ความสำาคัญของ ที่เหมาะสม
ภมู ิปัญญาไทย วฒั นธรรมสากล

สามารถทาำ ไดโ้ ดย การเลือกรบั
เปน็ สง่ิ ทแ่ี สดงถงึ มีการกำาหนด เป็นส่ิงท่ีบรรพบุรุษ การใช้ชอ้ นสอ้ มใน เป็นวัฒนธรรมที่ วธิ กี ารดงั ต่อไปนี้ วฒั นธรรมสากล
แบบแผน สาขาไว้อยา่ ง ไดส้ ร้างสรรคม์ าอย่าง การรบั ประทาน มลี ักษณะสำาคญั 1. การเผยแพร่ ที่เหมาะสม
1 หลากหลาย ต่อเนอื่ งต้งั แตอ่ ดีต อาหาร 6 เช่น เปน็ วัฒนธรรม ควรปฏิบัตดิ งั นี้
ทเี่ ป็น 9 ขึ้นอยูก่ ับ วัฒนธรรมทีม่ ี 1. การเลอื กรบั
ของคนไทย เป็น 7 ท่ี จนถงึ ปัจจุบัน โดยการใสส่ ูท 10 ทาง และภูมิปัญญาไทย วัฒนธรรมทม่ี ี
8 จงึ มี ผกู เนกไท ให้กว้างขวาง ประโยชนต์ ่อตนเอง
ความพยายาม หนว่ ยงาน คุณค่าและความสำาคัญ การสอ่ื สารโดยใช้ ดา้ นเทคโนโลยี 2. การปลูกฝงั และประเทศชาตใิ น
ท่จี ะปรับตัวให้ องคก์ ร และ เช่น การสร้างชาติให้ ภาษาองั กฤษ จีน การมคี วามขยนั วฒั นธรรมและ ดา้ นต่างๆ เป็นสาำ คญั
มคี วามเหมาะสม นกั วิชาการ เป็นปกึ แผน่ ญ่ปี ุ่น ลกั ษณะของ ขันแข็งใน 2. การรจู้ กั การนำาเอา
กบั 5 ได้กาำ หนด เช่น การช่วยสรา้ ง 4 ท่อี ยอู่ าศยั ที่ การทาำ งาน ภมู ิปญั ญาไทย
ใหก้ ับเยาวชน
ทาำ ใหเ้ กดิ สาขาเกษตรกรรม และเป็นสิ่งที่สร้างช่ือ เปน็ ตกึ สร้าง การใฝ่รู้ ใฝ่เรียน 3. การรว่ มมือ วฒั นธรรมสากล
ความภาคภูมิใจ สาขาการแพทย์ เสยี งใหก้ บั ประเทศชาติ ดว้ ยปูนซเี มนต์ ในสง่ิ ใหม่ๆ อย่างจรงิ จังของ มาปรับใช้กบั
ในความเปน็ ไทย แผนไทย การเคารพกติกา
สาขาภาษาและ สงั คม 2 ทกุ ภาคสว่ นในสงั คม วฒั นธรรมไทย
วรรณกรรม 4. การศึกษาคน้ คว้า ใหม้ ีความเหมาะสม
ของผ้อู ื่น และ เก่ียวกับภูมิปัญญาไทย 3. การเลือกรับเอา
เป็นผู้ท่ีกลา้ คิด และนำาผลทไ่ี ดจ้ ากการ วฒั นธรรมที่ไมข่ ดั
กลา้ ทาำ ในสง่ิ ใหมๆ่ ศึกษามาประยกุ ตใ์ ช้ ต่อศีลธรรมอนั ดงี าม
ในการดาำ เนนิ ชวี ติ ของประชาชน
5. 3
ประเพณีทด่ี งี าม

112 สุดยอดคมู่ ือครู

A3. ข้ันปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ A4. ขั้นส่ือสารและน�ำเสนอ 5. ขSั้นeปlรf-ะRเมeินgเพuื่อlaเพti่ิมnคgุณค่า

pplying and Constructing the Knowledge pplying the Communication Skill

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

สงั คมและวฒั นธรรมทีส่ ง่ ผลตอ่ พฤตกิ รรม 129 กิจกรรมท้าทาย

กิจกรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ การน�ำความรเู้ รอ่ื งสังคมและวัฒนธรรม
ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมมาประยุกต์ใช้ในชีวิต
ประจำ� วนั เพื่อพฒั นาคณุ ภาพชีวิต เปน็ การ
เสริมสร้างทักษะชีวิตที่มีผลดีต่อตนเองและ
สังคม
สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัดคำาชี้แจง กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรปู้ ระกอบดว้ ยกจิ กรรมหลากหลายทฝ่ี กึ ทกั ษะทกุ ดา้ นตามจดุ ประสงค์
เชิงพฤติกรรมเพื่อให้เกิดสมรรถนะในการเรียนร ู้ สามารถปฏิบัติกิจกรรมท้ังในและนอกสถานท ี่
ตามความเหมาะสมกับผเู้ รยี นและส่ิงแวดลอ้ มของสถานศึกษา

1. ให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันระดมสมองบอกค่านิยมในเรื่องเพศ
ตามวฒั นธรรมไทยทคี่ วรอนุรักษม์ าใหม้ ากทส่ี ุด แล้วคัดเลอื กให้เหลอื 3-5 ตัวอย่าง จากน้นั ส่งตวั แทน
ออกมานาำ เสนอหน้าช้ันเรยี น

2. แบ่งผู้เรียนออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายเสนอกับฝ่ายค้าน ให้แต่ละฝ่ายส่งตัวแทนฝ่ายละ 3 คนเพ่ือโต้วาที
ในญตั ติที่วา่ “รกั แบบตะวันตกดีกว่ารักแบบไทย”

3. ให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน แสดงละครเกี่ยวกับค่านิยมทางเพศตามวัฒนธรรมไทย
และค่านิยมทางเพศตามวฒั นธรรมตะวันตก แลว้ ออกมาแสดงหนา้ ช้นั เรียนทีละกลมุ่

4. แบ่งกลุ่มผู้เรียนออกเป็น 5 กลุ่ม จัดทำาโครงงานเกี่ยวกับเป้าหมายและแนวปฏิบัติในการดำาเนินชีวิต
ทม่ี คี วามสุข

สรุปผลการท�ากจิ กรรม

คำาชีแ้ จง ให้ผเู้ รยี นประเมินผลการทาำ กิจกรรม โดยเขยี นเคร่ืองหมาย ✓ลงในช่อง ตามความเป็นจรงิ

ความร ู้ (K) ทักษะ (P) คุณลกั ษณะ (A) เกณฑ์การประเมนิ
การมีมนษุ ยสัมพันธ์ใน ทำาเครอื่ งหมาย ✓
ความรู้ ความเข้าใจ การปฏิบตั งิ านทไ่ี ดร้ บั
การนาำ ไปใช้ การวิเคราะห์ มอบหมายเสรจ็ ตามเวลา การปฏิบตั กิ ิจกรรม ในแตล่ ะตอน 3 ข้อ
การสงั เคราะห์ ทกี่ าำ หนด ความมีวนิ ยั ตรงตอ่ เวลา คอื ผา่ นการประเมิน
การประเมินค่า การปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความ ความซ่ือสตั ย์สุจรติ
การศึกษาคน้ คว้า ละเอียด รอบคอบ ปลอดภยั ในการทำางาน 1. ความรู้ (K) ไม่ผ่าน
การแสวงหาแหล่งข้อมูล เรียบรอ้ ย สวยงาม ประพฤตติ นดว้ ยความ ผ่าน

และการรวบรวมขอ้ มูล ความสมบรู ณ์ของงาน ถกู ต้องตามศลี ธรรม 2. ทักษะ (P)
การแสดงความคิดเหน็ การปฏบิ ตั งิ านท่ที ำาใหเ้ กดิ อันดงี าม
อยา่ งมีเหตุผล หรอื แสดง สมรรถนะแก่ผเู้ รยี น เจตคตทิ ่ีดีในการปฏบิ ตั ิ ผ่าน ไม่ผา่ น
ข้นั ตอนและกระบวนการ ทกั ษะการวางแผน การคดิ กิจกรรม
ทำากจิ กรรม สร้างสรรค์ การออกแบบ ความพอเพียงและความ 3. คณุ ลักษณะ (A)
ผา่ น ไม่ผ่าน

การหาประสบการณ์ การผลิต พอประมาณ
ความรู้ใหม่ การตัดสินใจในการแก้ปัญหา

หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินผลการทำากิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพ่ือประเมินว่า ผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู้
ตามบริบทต่างๆ หรือไม่ โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน คือ ความรู้หรือพุทธิพิสัย = Knowledge (K) ทักษะหรือ
ทกั ษะพิสัย = Practice (P) คุณลกั ษณะหรือจิตพสิ ยั = Attitude (A)

สดุ ยอดคมู่ ือครู 113

1 . ขGั้นaรtวhบeรrวiมnขg้อมูล 2 . ขPั้นrคoิดcวeิเsคsรiาnะหg์และสรุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต

ผู้สอนให้ผู้เรียนท�ำแบบทดสอบ จากน้ัน 130 เพศวิถศี กึ ษา
ให้ผู้เรียนแลกกันตรวจค�ำตอบ โดยผู้สอน
เป็นผู้เฉลย แบบทดสอบ

สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัดคาำ สัง่ จงเลือกคาำ ตอบทถี่ กู ตอ้ งทีส่ ุดเพยี งคาำ ตอบเดียว
1. สถาบันทางสงั คมที่เล็กทส่ี ดุ คอื ขอ้ ใด

1. ทอ้ งถิน่
2. ชมุ ชน
3. ครอบครวั
4. องคก์ รของรฐั
5. ประเทศชาติ
คำาช้ีแจง ใชต้ ัวเลือกต่อไปนีต้ อบคาำ ถามขอ้ 2-5 ท่สี อดคล้องสมั พันธก์ นั
1. สถาบนั ครอบครัว
2. สถาบันการศกึ ษา
3. สถาบนั ศาสนา
4. สถาบันเศรษฐกิจ

2. ใช้เป็นแหลง่ เรียนรู้ ตรงกบั ข้อใด 2
3. ใช้เปน็ ทีผ่ ลิตสนิ คา้ บรกิ าร การคา้ ขาย
4. ชว่ ยขดั เกลา ยดึ เหน่ียวจิตใจ 4

3
5. เปน็ ตน้ กำาเกดิ ของบุคลิกภาพและคณุ ลักษณะนสิ ัย
1

6. สถาบนั ใดท่เี กย่ี วขอ้ งกบั การบรหิ ารประเทศ การรกั ษาความสงบสุข ความมัน่ คงของชาติ
1. สถาบนั ศาสนา
2. สถาบันการศกึ ษา
3. สถาบนั การเมืองการปกครอง
4. สถาบนั ทางเศรษฐกิจ
5. สถาบันครอบครัว

7. วฒั นธรรมไทยมคี วามเกี่ยวขอ้ งกบั ข้อใด
1. การเจริญงอกงามดา้ นจิตใจ สังคม วัตถุ
2. เปน็ ส่ิงท่ีสืบทอดจากรุ่นสูร่ ุน่
3. เปน็ อารยธรรมท่ชี ่วยให้มนษุ ย์ดาำ รงชีวติ อย่างมคี วามสขุ
4. เปน็ แบบแผนในการดำาเนินชีวิต
5. ถกู ทกุ ขอ้

114 สุดยอดคู่มอื ครู

A3. ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ A4. ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ 5. ขSั้นeปlรf-ะRเมeินgเพu่ือlaเพtiิ่มnคgุณค่า

pplying and Constructing the Knowledge pplying the Communication Skill

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

สังคมและวฒั นธรรมทส่ี ่งผลตอ่ พฤติกรรม 131 เฉลยแบบทดสอบ

คำาช้ีแจง ใชต้ วั เลอื กตอ่ ไปนี้ตอบคาำ ถามขอ้ 8-10 ทส่ี มั พันธส์ อดคล้องกนั 1. ตอบ 3. ครอบครวั เปน็ สถาบนั ทางสงั คม
1. ภูมิปัญญาไทย ที่เล็กท่ีสุด เม่ือเทียบกับท้องถิ่น ชุมชน
2. คา่ นยิ มทางเพศที่ไมเ่ หมาะสม องค์กรของรฐั และประเทศชาติ
3. จติ รกรรมท่เี ป็นเอกลกั ษณด์ า้ นศิลปกรรม 2. ตอบ 2. สถาบันที่ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้
4. แพทยแ์ ผนไทย สอดคล้องกับสถาบนั การศึกษา
สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด 3. ตอบ 4. สถาบันท่ีใช้ผลิตสินค้าและ
8. การวาดภาพตามฝาผนังโบสถ์ 3 บริการการค้าขายสอดคล้องกับสถาบัน
เศรษฐกจิ
9. ความรู้ความสามารถประสบการณ์อยา่ งชาญฉลาดทมี่ กี ารถา่ ยทอดสบื ตอ่ กนั มา 1 4. ตอบ 3. สถาบันท่ีช่วยขัดเกลาและยึด
10. การคบเพือ่ นต่างเพศครัง้ ละหลายๆ คน เหน่ียวจิตใจ สอดคล้องกับสถาบัน
2 ศาสนา
5. ตอบ 1. สถาบันที่เป็นต้นก�ำเนิดของ
แบบประเมินตนเอง บุ ค ลิ ก ภ า พ แ ล ะ คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ นิ สั ย
คำาชแี้ จง ตอนท่ ี 1 ให้ผเู้ รยี นประเมนิ ผลการเรียนรู้ โดยเขยี นเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในช่องระดบั คะแนน สอดคล้องกบั สถาบนั ครอบครัว
และเตมิ ข้อมูลตามความเป็นจรงิ 6. ตอบ 3. สถาบนั ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การบรหิ าร
ระดบั คะแนนตอนที ่ 1 5 : มากทสี่ ุด 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : นอ้ ย 1 : ควรปรบั ปรุง ประเทศ การรักษาความสงบสุข ความ
ตอนที ่ 2 ใหผ้ เู้ รยี นนาำ คะแนนจากแบบทดสอบมาเตมิ ลงในชอ่ งวา่ ง และเขยี นเครอื่ งหมาย ✓ ม่ันคงของชาติ คือ สถาบันการเมือง
ลงในช่องสรปุ ผล การปกครอง
7. ตอบ 5. ทุกข้อมีความเกี่ยวข้องกับ
ตอนท ่ี 1 (ผลการเรยี นร้)ู ตอนท ี่ 2 (แบบทดสอบ) วัฒนธรรม คือ เป็นความเจรญิ งอกงาม
ด้านจติ ใจ สงั คม วตั ถุ โดยสืบทอดจาก
รายการ 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ รุ่นสู่รุ่น เป็นอารยธรรมท่ีช่วยให้มนุษย์
ด�ำรงชีวิตอย่างมีความสุข และใช้เป็น
1. ผู้เรยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจในเน้ือหา คะแนน แบบแผนในการด�ำเนนิ ชีวติ
8. ตอบ 3. การวาดภาพตามฝาผนังโบสถ์
2. ผ้เู รียนไดท้ าำ กิจกรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรูท้ ่ีสอดคลอ้ งกับเนอ้ื หา (ข้อละ 1 คะแนน) เป็นจิตรกรรมท่ีเป็นเอกลักษณ์ด้าน
และจุดประสงค์การเรยี นรู้ ศิลปกรรม
สรปุ ผล 9. ตอบ 1. ภมู ปิ ญั ญาไทย คอื ความรคู้ วาม
9 - 10 (ดีมาก) สามารถหรือประสบการณ์อย่าง
3. ผู้เรยี นได้เรียนและทำากิจกรรมสง่ เสริมการเรยี นรู้ท่ีสง่ เสรมิ 7 - 8 (ด)ี ชาญ ฉลาดทถี่ า่ ยทอดสืบกนั มา
กระบวนการคิด เกิดการคน้ พบความรู้ 5 - 6 (พอใช)้ 10. ตอบ 2. การคบเพื่อนต่างเพศคร้ังละ
ต่ำากว่า 5 หลายๆ คน เปน็ ค่านิยมทีไ่ มเ่ หมาะสม
4. ผูเ้ รียนสามารถประยกุ ตค์ วามรู้เพ่ืีอใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาำ วันได้ (ควรปรบั ปรุง)
5. ผเู้ รียนได้เรียนรูอ้ ะไรจากการเรียน

6. ผู้เรียนต้องการทาำ สงิ่ ใดเพ่อื พฒั นาตนเอง

7. ความสามารถท่ถี ือว่าผา่ นเกณฑ์ประเมนิ ของผ้เู รียน คือ

สดุ ยอดคมู่ ือครู 115

ตารางสรุปคะแนนการประเมินจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
และสมรรถนะประจำ� หน่วย

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 สังคมและวฒั นธรรมที่ส่งผลต่อพฤติกรรม

คะแนนตาม จปส. รายหนว่ ยการเรยี นรู้
1. สงวนลิข ิสท ์ิธ บริ ัษทพัฒนาคอธิบายสถา ับนทาง ัสงคมไ ้ดุณภาพวิชาการ (พว.) ำจ�กัด
2. เป ีรยบเ ีทยบวัฒนธรรมไทย ภูมิ ัปญญาไทย และวัฒนธรรมสากลชน้ิ งาน/การแสดงออกรวม
ไ ้ดทีก่ �ำหนดในหนว่ ยการเรียนรู้หรือหนว่ ยย่อย
3. เ ื่ชอมโยง ่คานิยมเ ืร่องเพศตาม ัสงคมและ ัวฒนธรรม และ �นำไป
ป ัรบใ ้ชในชีวิตประจ�ำ ัวนไ ้ดอย่างเหมาะสม
ภาระงาน/ชิ้นงานระหว่างเรยี น
1. ผงั กราฟกิ แสดงการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั สงั คมและวฒั นธรรมทสี่ ง่
ผลตอ่ พฤติกรรม
2. ผังกราฟิกสรุปความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรมท่ีส่งผล
ต่อพฤติกรรม
3. การนำ�เสนอผลการสรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั สงั คมและวฒั นธรรม
ท่สี ่งผลตอ่ พฤตกิ รรม
การประเมนิ รวบยอด
1. ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ
2. ผลการปฏิบตั กิจกรรมส่งเสรมิ การเรียนรู้
3. ผลการประเมนิ ตนเอง
4. คะแนนผลการทดสอบ

รวม

หมายเหตุ: คะแนนการประเมนิ จุดประสงค์การเรียนรูข้ นึ้ อยกู่ บั การออกแบบแผนการจัดการเรยี นรขู้ องผสู้ อน

116 สุดยอดค่มู ือครู

1. ขG้ันaรtวhบeรrวiมnขg้อมูล 2. ขPั้นrคoิดcวeิเsคsรiาnะหg์และสรุปความรู้

A3. ข้ันปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ A4. ข้ันสื่อสารและน�ำเสนอ 5. ขS้ันeปlรf-ะRเมeินgเพuื่อlaเพti่ิมnคgุณค่า

pplying and Constructing the Knowledge pplying the Communication Skill

บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก
asean

8หน่วยการเรียนร้ทู ี่สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัดปัญหาและการเลอื กใช้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 8
แหล่งบรกิ ารช่วยเหลอื
ปญั หาและการเลือกใช้
สาระสำาคัญ แหล่งบริการช่วยเหลอื
ปัญหาต่างๆ ในสงั คมไทยเกดิ ข้นึ จากหลายเหตปุ จั จัย ซง่ึ สง่ ผลกระทบทั้งตอ่ ตนเอง ครอบครัว
และสงั คม การปอ้ งกันปญั หาจึงต้องอาศยั ความร่วมมอื จากทุกฝา่ ย เพ่อื ใหส้ ังคมเกดิ ความสงบสขุ สาระการเรยี นรู้
สารเสพตดิ มสี ว่ นประกอบของสารพษิ ทเ่ี ปน็ อนั ตรายตอ่ รา่ งกายและสง่ ผลกระทบตอ่ จติ ใจ ผทู้ ี่ 1. ปัญหาความรุนแรงและการเลือกเลือกใช้
ตดิ สารเสพตดิ จะมลี กั ษณะอาการและพฤตกิ รรมทแี่ ปลกไปจากคนปกต ิ สารเสพตดิ บางชนดิ ออกฤทธิ์ แหล่งบริการช่วยเหลือ (หนังสือเรียน หน้า
คล้ายหรือเหมือนกัน บางชนิดออกฤทธิ์ต่างกัน ส่งผลให้อาการของผู้ที่ติดสารเสพติดในแต่ละชนิด 134-137)
คลา้ ยหรอื ตา่ งกนั ไปขนึ้ อยกู่ บั ชนดิ ของสารเสพตดิ ทใี่ ช้ แตก่ ารใชส้ ารเสพตดิ มผี ลทำาใหเ้ กดิ ปญั หาทาง 2. ปัญหาสารเสพติดและการเลือกใช้แหล่ง
เพศตามมา เชน่ การมเี พศสมั พนั ธเ์ พราะฤทธข์ิ องสารเสพตดิ ประเภทกลอ่ มประสาท การถกู มอมเมา บรกิ ารชว่ ยเหลอื (หนงั สอื เรยี น หนา้ 137-141)
ด้วยสารเสพติด การล่อลว่ งไปกระทำาอนาจารหรือขม่ ขืน 3. ปัญหาสุขภาพทางเพศและการเลือกใช้
แหล่งบริการช่วยเหลือ (หนังสือเรียน หน้า
สาระการเรยี นรู้ 142-146)
1. ปญั หาความรนุ แรงและการเลอื กใช้แหลง่ บริการช่วยเหลือ สมรรถนะประจำ� หนว่ ย
2. ปญั หาสารเสพตดิ และการเลือกใชแ้ หลง่ บริการชว่ ยเหลอื 1. แสดงความรู้เก่ียวกับปัญหาและการเลือกใช้
3. ปญั หาสขุ ภาพทางเพศและการเลอื กใชแ้ หลง่ บริการช่วยเหลือ แหล่งบริการชว่ ยเหลือ
2. หลกี เลย่ี งปญั หาความรนุ แรง สารเสพตดิ และ
ปัญหาสขุ ภาพทางเพศ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายปัญหาความรุนแรงและเลือกใช้
แหล่งบริการชว่ ยเหลอื ได้
2. อธิบายปัญหาสารเสพติดและเลือกใช้
แหลง่ บรกิ ารช่วยเหลือได้
3. อธิบายปัญหาสุขภาพทางเพศและเลือกใช้
แหลง่ บรกิ ารช่วยเหลือไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

การประเมนิ ผล ภาระงาน/ชน้ิ งานรวบยอดในหนว่ ยการเรียนรู้
1. ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ
ภาระงาน/ช้ินงาน/การแสดงออกของผู้เรยี น 2. ผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรู้
ภาระงาน/ช้นิ งานระหวา่ งเรียน 3. ผลการประเมินตนเอง
1. ผังกราฟิกแสดงการเก็บรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับปัญหาและการเลือกใช้ 4. คะแนนผลการทดสอบ
แหล่งบรกิ ารชว่ ยเหลอื
2. ผังกราฟิกสรุปความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับปัญหาและการเลือกใช้ สดุ ยอดคูม่ อื ครู 117
แหลง่ บริการชว่ ยเหลอื
3. การน�ำเสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับปัญหาและการเลือกใช้
แหลง่ บรกิ ารช่วยเหลือ

1 . ขGั้นaรtวhบeรrวiมnขg้อมูล 2. ขPั้นrคoิดcวeิเsคsรiาnะหg์และสรุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21 ทักษะชีวิต

ep 1 ขนั้ รวบรวมข้อมูล ปญั หาและการเลือกใช้แหล่งบริการช่วยเหลอื 133

Gathering สมรรถนะประจำาหนว่ ย
1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ปญั หาและการเลอื กใชแ้ หล่งบรกิ ารช่วยเหลือ
1. แบ่งกลุ่มผู้เรียนร่วมกันศึกษาเอกสาร 2. หลกี เลย่ี งปัญหาความรนุ แรง สารเสพตดิ และปัญหาสุขภาพทางเพศ
หนังสือเรียนเกี่ยวกับปัญหาและการ
เลอื กใช้แหล่งบริการช่วยเหลอื จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
2. ตั้งค�ำถามให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจาก 1. อธบิ ายปัญหาความรนุ แรงและเลือกใช้แหล่งบริการช่วยเหลือได้
ประสบการณ์ท่ีรับรู้ปัญหาและการ 2. อธิบายปัญหาสารเสพติดและเลือกใช้แหลง่ บรกิ ารชว่ ยเหลือได้
เลือกใช้แหล่งบริการช่วยเหลือ ตาม 3. อธิบายปัญหาสขุ ภาพทางเพศและเลือกใช้แหล่งบรกิ ารชว่ ยเหลอื ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
หัวข้อที่ก�ำหนดให้(ศึกษารายละเอียด
คำ� ถามจากแผนการจัดการเรยี นรู้) ผงั สาระการเรยี นรู้
St3. แตล่ ะกลมุ่ บนั ทกึ ผลการศกึ ษาตามหวั ขอ้
ทก่ี ำ� หนดลงในผงั กราฟกิ (เลอื กออกแบบ ปัญหาและ ปญั หาความรุนแรงและการเลอื กใช้แหล่งบรกิ ารชว่ ยเหลือ
สงวนลิขสิท ิธ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ำจ�กัด และใชผ้ งั กราฟกิ ใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะการเลอื กใช้ปัญหาสารเสพตดิ และการเลอื กใช้แหลง่ บรกิ ารชว่ ยเหลอื
ของข้อมลู ) ดังตวั อยา่ ง แหลง่ บรกิ าร ปญั หาสขุ ภาพทางเพศและการเลอื กใชแ้ หลง่ บรกิ ารชว่ ยเหลอื
ชว่ ยเหลือ

ปญั หาและแหล่งบริการช่วยเหลอื

บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21

การท�ำงานกลุ่มจะช่วยฝึกกระบวนการท�ำงานแบบประชาธิปไตย
และส่งเสริมกระบวนการคิดการแกป้ ัญหาให้แกผ่ ู้เรยี น

118 สุดยอดคมู่ อื ครู

A3. ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ A4. ข้ันส่ือสารและน�ำเสนอ 5. ขS้ันeปlรf-ะRเมeินgเพuื่อlaเพti่ิมnคgุณค่า

pplying and Constructing the Knowledge pplying the Communication Skill

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

134 เพศวิถีศึกษา ep 2 ขนั้ คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรุปความรู้

1. ปัญหาความรนุ แรงและการเลือกใชแ้ หลง่ บรกิ ารชว่ ยเหลอื Processing
สงวนลิขสิท ิธ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ำจ�กัด St
1.1 ประเภทของความรุนแรง 1. ผู้เรียนร่วมกันวิเคราะห์และอภิปรายเกี่ยวกับปัญหา
และการเลือกใช้แหล่งบริการช่วยเหลือ โดยใช้ข้อมูล
ความรนุ แรงแบง่ ออกเปน็ ประเภทต่างๆ ดังนี้ ความรู้ความเข้าใจท่ีได้จากการศึกษาค้นคว้าจาก
1.1.1 ความรุนแรงทีบ่ คุ คลทาำ ตอ่ ตนเอง เช่น การฆา่ ตัวตาย การทาำ ร้ายตนเอง หนังสือเรียน เอกสาร แหล่งเรียนรู้อ่ืนๆ หรือ
1.1.2 ความรนุ แรงระหวา่ งบคุ คล เชน่ การทะเลาะววิ าท การขม่ ขนื ความรนุ แรงในครอบครวั ประสบการณข์ องผูเ้ รยี น
ชุมชนหรอื สถาบันการศกึ ษา 2. ผู้เรียนร่วมกันเช่ือมโยงความคล้ายคลึง/แตกต่างของ
1.1.3 ความรุนแรงท่ีเก่ียวกับกลุ่มคน เช่น วัยรุ่นยกพวกตีกัน การต่อสู้ระหว่างกลุ่มชนที่มี ข้อมูลที่น�ำมาอภิปรายและร่วมกันสรุปความรู้ตาม
อดุ มคตทิ างการเมอื งทแ่ี ตกตา่ งกัน การตอ่ สู้ด้วยอาวุธของชนกล่มุ นอ้ ย หัวข้ออภิปราย แสดงเป็นความคิดรวบยอดหรือหลัก
การลงในผังกราฟิก
1.2 รูปแบบของความรนุ แรง ตารางวเิ คราะห์ปญั หาและแนวทางใช้แหล่งบรกิ ารชว่ ยเหลอื

ความรุนแรงแบง่ ออกไดห้ ลายรปู แบบดังนี้ ประเภท ลกั ษณะ แนวทาง แหล่งบริการ
1.2.1 ความรุนแรงทางร่างกาย ได้แก่ การทำาร้ายตัวเองหรือผู้อ่ืนให้ได้รับบาดเจ็บทาง ปัญหา ปัญหา แก้ไข ชว่ ยเหลือ
ร่างกายหรอื เสียชวี ติ ปญั หา
1.2.2 ความรุนแรงทางเพศ ได้แก่ การพูดหรือการกระทำาท่ีมีจุดมุ่งหมายในด้านเพศ เช่น ความรนุ แรง
การพดู จาลวนลาม การข่มขนื การกดข่ที างเพศ ปญั หา
1.2.3 ความรุนแรงทางจิตใจ ได้แก่ การพูดหรือทำาให้ผู้อื่นได้รับความกระทบกระเทือน ยาเสพติด
ทางจติ ใจ ปัญหา
1.2.4 การลดิ รอนสทิ ธ ิ์ ไดแ้ ก ่ การปดิ กน้ั บคุ คลจากการมีหรอื ใชส้ ิทธิทพี่ ึงมีพงึ ได้ สุขภาพทางเพศ

1.3 ปัจจยั ที่มผี ลต่อความรุนแรง 3. ผเู้ รยี นบนั ทกึ ผลขอ้ สรปุ เปน็ ความรคู้ วามเขา้ ใจของกลมุ่
และรายบคุ คล
ปจั จัยที่ส่งผลตอ่ ความรนุ แรง ไดแ้ ก่
1.3.1 ตัวบุคคล ได้แก่ การขาดคุณธรรม จริยธรรม ความรับผิดชอบ บกพร่องในด้านของ ปญั หาและการเลอื กใชแ้ หล่งบรกิ ารชว่ ยเหลือ 135
การใชส้ ตคิ วบคมุ ตนเอง ใช้ความรุนแรงเพราะอารมณเ์ พียงช่ัววูบ
1.3.2 ครอบครัว ได้แก่ การซึมซับความรุนแรงจากพฤติกรรมของพ่อแม่หรือบุคคล 1.4 ปญั หาความรุนแรงทีส่ าำ คญั ในสงั คมไทย
ในครอบครวั ทำาใหเ้ กิดพฤติกรรมเลยี นแบบความรุนแรง การใช้กาำ ลังเพราะคดิ วา่ เป็นเร่ืองปกต ิ
1.3.3 ค่านิยมท่ีผิด ได้แก่ การถูกปลูกฝังให้ใช้ความรุนแรง คิดว่าการแสดงออกโดยใช้ ความรุนแรงก่อให้เกิดปญั หาต่างๆ ตามมาในสงั คมไทยดงั น้ี
ความรุนแรงจะได้รับส่ิงท่ีต้องการ รวมท้ังการปลูกฝังให้รักในสถาบันการศึกษา เพื่อน พวกพ้อง และ 1.4.1 ความรุนแรงทางเพศท่ีเกิดกับผู้หญิงและเด็ก ได้แก่ การข่มขืน กระทำาชำาเรา
ศักดศิ์ รีของกล่มุ ซึง่ เป็นสาเหตขุ องปญั หานกั เรียนตกี นั การล่วงละเมดิ ทางเพศ ซ่งึ ส่วนใหญจ่ ะเกดิ กับเด็กผูห้ ญงิ ทมี่ ีอายุต่ำากว่า 18 ปี
1.3.4 ส่ือมวลชน ไดแ้ ก ่ การนาำ เสนอขา่ ว ละคร หรอื ภาพยนตร ์ ทมี่ ีการใช้ความรุนแรงหรอื 1.4.2 การใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงและเด็ก ได้แก่ ความรุนแรงในครอบครัวระหว่างสามี
สอ่ื ลามกอนาจาร เปน็ การกระตนุ้ ใหอ้ ยากเลยี นแบบพฤตกิ รรม และเกิดการยอมรับว่าพฤติกรรมเหลา่ น้ัน ภรรยา การทาำ ร้ายร่างกายเด็ก การใชแ้ รงงานและการบงั คบั ค้าประเวณเี ดก็
วา่ เป็นเรื่องปกติ สามารถทำาได้โดยไม่ผิด 1.4.3 ปัญหานักเรียนตีกัน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มข้ึนเรื่อยๆ เช่น ปัญหานักเรียนอาชีวศึกษาชาย
ตีกัน วัยรุ่นหญิงมีการตบตีกัน โดยบ่อยคร้ังที่มีการถ่ายคลิปวิดีโอและส่งต่อกันทางโทรศัพท์เคลื่อนท่ี
เป็นชนเผ่าหรือ คนต่างชาติที่อาศัยรวมกันกับชนเผ่าอื่น โพสต์ลงเว็บไซต ์ เพ่อื ประกาศศักดิ์ศรแี ละประจานคูอ่ ร ิ ซง่ึ เปน็ การกระทาำ ทีไ่ ม่เหมาะสม
ท่มี จี ำ� นวนมากกว่า เป็นชนกลมุ่ ท่มี คี วามแตกตา่ งชนส่วน 1.4.4 การฆา่ ตวั ตาย เป็น 1 ใน 10 ของสาเหตุการตายที่สำาคญั ของคนไทย
ใหญใ่ นดา้ นตา่ งๆ มกั เปน็ กลมุ่ ทอ่ี พยพจากประเทศอน่ื และ 1.4.5 ความรุนแรงทางการเมือง เกิดจากความขัดแย้งของอุดมการณ์ทางการเมือง ทำาให้
เขา้ มาพกั อาศัยอยู่ชว่ั คราว เกิดการชุมนุมประท้วงในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดสำาคัญของแต่ละภูมิภาค ทำาให้เกิดเหตุการณ์
ความรนุ แรง การปะทะกนั ระหว่างเจา้ หนา้ ท่ีและผู้ชุมนุม เกดิ การสูญเสียชีวติ และทรัพยส์ นิ สง่ ผลกระทบ
ตอ่ ภาพรวมของประเทศ
1.4.6 เหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ ทำาให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำานวนมาก
โดยความถ่ีของการเกิดเหตุการณ์อาจจะน้อยลง แต่ความรุนแรงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง
มีมากข้นึ เหตุการณ์ความรุนแรงในภาคใตส้ ง่ ผลคุกคามสขุ ภาวะในทุกดา้ น ตั้งแตบ่ คุ คลไปจนถึงสังคม

1.5 การป้องกันปัญหาความรุนแรงในสงั คม

ปญั หาของความรนุ แรงมสี าเหตมุ าจากสภาพทรดุ โทรมของสงั คม ดงั นนั้ ความรว่ มมอื ระหวา่ ง
พ่อแม่ คร ู ผู้ปกครอง และชุมชน จงึ เปน็ ส่ิงจำาเปน็ เพ่ือให้ชุมชนท่ีอยู่อาศัยมีประสิทธิภาพในการป้องกัน
ความรนุ แรงเพ่ิมมากขน้ึ โดยเฉพาะในส่วนของโรงเรียนหรือสถานศึกษาควรมีการป้องกนั ดังนี้
1.5.1 การป้องกันข้ันต้น ได้แก่ การสร้างความผูกพัน สร้างความมีระเบียบวินัย สอนวิธี
แกป้ ญั หาโดยสันตวิ ิธ ี ผู้ใหญ่ เชน่ พอ่ แม ่ ครู ผ้ปู กครอง ควรทาำ ตนเปน็ ตัวอย่างของความรกั ใคร่ปรองดอง
ให้ความอบอุ่นแก่บุตรหลานหรือเด็กในปกครอง และทำาตนเป็นผู้มีระเบียบวินัยเพ่ือเป็นตัวอย่างที่ดี
ช่วยกันตักเตอื นด้วยความหว่ งใย
1.5.2 การแก้ปญั หาเฉพาะตัว ได้แก ่ จดั ให้มคี รูท่ปี รกึ ษา ครแู นะแนว ฝึกอบรมผู้ปกครอง
อาสาสมัครใหช้ ว่ ยเหลอื สถานศึกษา สงั เกตพฤติกรรมผูเ้ รยี นในชนั้ เรียน
1.5.3 การสร้างบรรยากาศในครอบครวั สถานศกึ ษา ชุมชน ให้สง่ ผลต่อการปรบั พฤตกิ รรม
โดยยึดหลักความผูกพัน ร่วมกันสนับสนุนและส่งเสริมการทำากิจกรรมตามความถนัด การสร้างวินัยท่ีดี
มิใชเ่ กิดจากการบังคบั แต่หากเกิดจากการเห็นคุณคา่ ของความมวี ินัยในของตนเอง

สุดยอดคมู่ อื ครู 119

1 . ขGั้นaรtวhบeรrวiมnขg้อมูล 2 . ขP้ันrคoิดcวeิเsคsรiาnะหg์และสรุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21 ทักษะชีวิต

136 เพศวิถีศกึ ษา สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัดรัฐบาลไทยแบ่งอ�ำานาจออกเป็น 3 ฝ่าย คือ ฝ่าย
นติ บิ ญั ญตั ิ ฝา่ ยบรหิ าร และฝา่ ยตลุ าการ
1.5.4 ระดบั นโยบายและแผนปฏบิ ตั งิ าน รฐั บาลควรมงุ่ เนน้ ปอ้ งกนั ปญั หาพนื้ ฐานของสงั คม
เช่น ให้ชาวบ้านกินดีอยู่ดี ลดปัญหาความยากจน ส่งเสริมกิจกรรมในชุมชนให้พึ่งตนเองได้ รวมทั้งให้ ปญั หาและการเลอื กใช้แหลง่ บริการช่วยเหลอื 137
ความรเู้ กีย่ วกับพฒั นาการของเด็ก และการเลยี้ งดูเด็กใหแ้ กพ่ ่อแมแ่ ละวยั รุน่ 6) มูลนิธผิ ้หู ญงิ ตง้ั อยู่ที ่ 295 ซอยจรัญสนิทวงศ ์ 62 เขตบางพลดั กรงุ เทพฯ 10700
โทร. 0-2433-5149, 0-2435-1246
1.6 หน่วยงานทีใ่ ห้ความชว่ ยเหลือเมอ่ื เกิดปัญหาความรนุ แรงตอ่ สตรีและเด็ก 7) มูลนิธเิ พ่ือนหญิง ต้ังอย่ทู ่ี 386/61-62 ซอยรัชดาภิเษก 42 ถนนรชั ดาภเิ ษก แขวง
ลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. 0-2513-1001
ปจั จบุ นั มหี นว่ ยงานทงั้ ภาครฐั และเอกชนหลายหนว่ ยงานทใี่ หค้ วามชว่ ยเหลอื แกผ่ ทู้ ถ่ี กู กระทาำ 8) มูลนิธสิ ่งเสรมิ โอกาสผู้หญิง ตง้ั อยทู่ ี ่ 57/60 ถนนติวานนท ์ จังหวดั นนทบุร ี 11000
ความรนุ แรงทีค่ วรทราบ ดงั น ี้ โทร. 0-2526-8311
1.6.1 หนว่ ยงานภาครฐั 9) มูลนธิ ริ ่วมดว้ ยชว่ ยกัน ตงั้ อยูท่ ่ีสำานักขา่ วไอเอน็ เอน็ 287/195 ซอยรามคาำ แหง 21
1) ศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กและครอบครัว กระทรวงศึกษาธิการ ต้ังอยู่ที่อาคารสามัญ ถนนประดิษฐม์ นธู รรม แขวงวงั ทองหลาง เขตวงั ทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 โทร. 0-2730-2400
99 ช้ัน 2 บริเวณ ด้านหน้าอาคารสำานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ 10) มูลนิธิสันติสุข ต้ังอยู่ที่ 100/4 ถนนอาจณรงค์ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย
ถนนราชดำาเนินนอก เขตดสุ ิต กรุงเทพฯ 10300 โทร. 0-2281-8755, 0-2628-5607 หรือโทรสายดว่ น 1579 กรงุ เทพฯ 10110 โทร. 0-2240-1729
2) ฝ่ายสวัสดิการและการสงเคราะห์ กองสังคมสงเคราะห์ สำานักสวัสดิการสังคม
กรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ท่ีศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ถนนมิตรไมตรี แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพฯ 10400
3) กองสวัสดิภาพเดก็ สตร ี ผสู้ งู อาย ุ ผพู้ กิ าร และผดู้ ้อยโอกาส ตงั้ อยทู่ ่ศี ูนยเ์ ยาวชน
ไทย-ญป่ี นุ่ ดนิ แดง ถนนมติ รไมตรี แขวงดินแดง เขตดนิ แดง กรุงเทพฯ 10400
4) สำานักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและ
ความมัน่ คงของมนุษย ์ ตัง้ อย่ทู ่ีอาคารซันทาวเวอรส์ A ช้นั 22-23 เลขที่ 123 ถนนวภิ าวดีรังสติ เขตจตจุ ักร
กรงุ เทพฯ 10900
5) บา้ นตะวนั ใหม่ มลู นธิ ปิ อ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ ตงั้ อยทู่ สี่ ำานกั งาน ป.ป.ส.
เลขท ี่ 5 ถนนดินแดง เขตพญาไท กรงุ เทพฯ 10400 โทร. 0-2704-1250
1.6.2 หนว่ ยงานภาคเอกชน
1) มูลนธิ ปิ วีณา หงสกุล เพ่ือเดก็ และสตร ี ตงั้ อยูท่ ่ ี 1047-51 ผึง้ หลวง คอมเพล็กซ ์
ซอยอมรพนั ธ์ 12 ถนนพหลโยธนิ แขวงคลองถนน เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220 โทร. 0-2972-5489
2) สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ต้ังอยู่ท่ี 501/1 ถนนเดชะตุงคะ แขวงสีกัน
เขตดอนเมอื ง กรงุ เทพฯ 10210 โทร. 0-2929-2301-7
3) มูลนิธคิ ุ้มครองเดก็ ตง้ั อยทู่ ่ ี 80/1 ถนนลาดพร้าว แขวงวงั ทองหลาง เขตบางกะป ิ
กรุงเทพฯ 10310 โทร. 0-2539-4041
4) มูลนิธิเดก็ ตง้ั อยทู่ ่ี 95/24 หม ู่ 6 ซ.กระทมุ่ ลม้ 18 ถ.พุทธมณฑลสาย 4 ต.กระทุม่ ลม้
อ.สามพราน จ.นครปฐม 73220 โทร. 0-2814-1481-7
5) มูลนธิ ศิ นู ยพ์ ิทักษ์สทิ ธิเดก็ ตัง้ อย่ทู ี ่ 185/16 ถนนจรญั สนิทวงศ ์ 12 แขวงทา่ พระ
เขตบางกอกใหญ ่ กรงุ เทพฯ 10600 โทร. 0-2412-1196, 0-2412-0739

2. ปัญหาสารเสพติดและการเลือกใชแ้ หล่งบริการชว่ ยเหลอื

2.1 ปญั หาสารเสพตดิ

สารเสพติดมีส่วนประกอบของสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและส่งผลกระทบต่อจิตใจ
ผทู้ ต่ี ดิ สารเสพตดิ จะมลี กั ษณะอาการและพฤตกิ รรมทแ่ี ปลกไปจากคนปกติ สารเสพตดิ บางชนดิ ออกฤทธิ์
คล้ายหรือเหมือนกัน บางชนิดออกฤทธิ์ต่างกัน ส่งผลให้อาการของผู้ที่ติดสารเสพติดในแต่ละชนิด
คล้ายหรือต่างกันไปข้ึนอยู่กับชนิดของสารเสพติดที่ใช้ การใช้สารเสพติดมีผลให้เกิดปัญหาทางเพศ
ตามมา เช่น การมีเพศสัมพันธ์เพราะฤทธิ์ของยาเสพติดประเภทกล่อมประสาท การถูกมอมเมา
ดว้ ยสารเสพตดิ การลอ่ ลว่ งไปทำาอนาจารหรอื ขม่ ขนื การมเี พศสมั พนั ธก์ บั ผใู้ ชส้ ารเสพตดิ ชนดิ ใชเ้ ขม็ ฉดี ยา
อาจส่งผลให้ติดโรคทางเพศสมั พนั ธห์ รอื โรคเอดส์ได้

2.2 การบาำ บดั รักษาผตู้ ิดยาเสพติด

การบำาบัดรักษาผู้ติดสารเสพติด หมายถึงการดำาเนินงานเพื่อแก้ไขสภาพร่างกายและจิตใจ
ของผู้ตดิ สารเสพตดิ ให้เลกิ จากการเสพ และสามารถกลบั ไปดำารงชวี ติ อยใู่ นสงั คมไดอ้ ย่างปกติสขุ

2.3 การบาำ บัดรกั ษาตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข

การบาำ บดั รกั ษาตามขน้ั ตอนของกระทรวงสาธารณสขุ ดาำ เนินการเปน็ 2 ประเภทดังน ้ี
2.3.1 การบำาบัดรักษาประเภทผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยสามารถเข้าไปรับการบำาบัดรักษาใน
โรงพยาบาลแบบผู้ป่วย โดยการรับยาไปรับประทานทุกๆ 7 วัน รวม 3 คร้ัง ตลอดจนการให้คำาปรึกษา
แนะแนวเป็นกลุ่มและรายบุคคลกับผู้ป่วยและญาติ เพ่ือให้เข้าใจถึงการปฏิบัติตน การปรับเปล่ียน
ความคดิ และให้ความรูเ้ กยี่ วกบั การปอ้ งกนั การกลับไปตดิ ซำา้ ของผู้ป่วย

120 สุดยอดค่มู อื ครู

A3. ข้ันปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ A4. ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ 5. ขS้ันeปlรf-ะRเมeินgเพu่ือlaเพtiิ่มnคgุณค่า

pplying and Constructing the Knowledge pplying the Communication Skill

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

138 เพศวถิ ีศกึ ษา ep 3 ขนั้ ปฏบิ ตั ิและสรุปความรู้
หลังการปฏิบัติ
2.3.2 การบำาบัดรักษาประเภทผู้ป่วยใน เป็นการรับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาไว้ในโรงพยาบาล สงวนลิขสิท ิธ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ำจ�กัด St tAhpeplKyninogwlaenddgeConstructing
โดยแบง่ ระยะของการบาำ บัดรกั ษาออกเปน็ 4 ระยะดังน้ี
1) ระยะเตรียมการก่อนการรักษา (Pre-admission) เป็นการเตรียมความพร้อม 1. ผู้เรียนน�ำข้อสรุปความรู้ความเข้าใจที่ได้แลกเปลี่ยน
ใหก้ บั ผปู้ ว่ ยกอ่ นการบาำ บดั รกั ษา โดยเจา้ หนา้ ทขี่ องโรงพยาบาล ไดแ้ ก ่ แพทย ์ พยาบาล นกั สงั คมสงเคราะห ์ เรยี นรรู้ ว่ มกนั ระหวา่ งกลมุ่ ในชน้ั เรยี น มาวเิ คราะหโ์ ดย
หรือนักจิตวิทยา ช่วยชักจูงแนะนำาให้ผู้ป่วยเต็มใจเข้ารับการบำาบัดรักษา ยอมรับในสภาพการติด การท�ำกิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ (หนังสือเรียน
สารเสพติดของตน มีความตั้งใจที่อยากจะเลิกเสพ และสามารถเข้ารับการรักษาอย่างต่อเน่ือง หน้า 147-148)
จนครบทุกขั้นตอน นอกจากน้ียังมีการเตรียมความพร้อมให้กับครอบครัวของผู้ป่วยเพ่ือให้เข้ามา 2. กลุ่มผู้เรียนร่วมกันสรุปแนวคิดเกี่ยวกับสังคมและ
มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและให้กำาลังใจแก่ผู้ป่วย ในระยะเตรียมการนี้จะมีการสัมภาษณ์ประวัติ วฒั นธรรมทสี่ ง่ ผลตอ่ พฤตกิ รรม จากนนั้ ทำ� กจิ กรรมสง่
การติดสารเสพติดเพื่อทาำ ความรู้จักและเข้าใจผู้ป่วยให้ดีย่ิงข้ึน การตรวจร่างกายเพ่ือตรวจสภาพร่างกาย เสรมิ การเรียนรู้ (หนังสือเรียนหน้า 149)
ว่าทรุดโทรมมากน้อยเพียงใด มีการตรวจสภาพร่างกายและจิตใจ เอกซเรย์ ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ
ตลอดจนการใหค้ าำ ปรกึ ษาแกผ่ ูป้ ว่ ยและญาติ ระยะเตรยี มการก่อนการรักษานี้จะใช้เวลาประมาณ 1-7 วนั รังสี หรือ แสงชนิดหน่ึงท่ีเราไม่สามารถมองเห็น ได้ด้วย
2) ระยะถอนพิษยา (Detoxification) เป็นระยะที่เน้นการบำาบัดรักษาอาการทาง ตาเปลา่ เชน่ เดยี วกบั แสงสวา่ งธรรมดา เอก็ ซเ์ รยม์ ลี กั ษณะ
ร่างกายท่ีเกิดจากการใช้สารเสพติดด้วยการใช้ยาอ่ืนทดแทน เช่น เมทาโดน (Methadone) เพื่อช่วย เปน็ ทง้ั คลน่ื และอนภุ าค ของแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ทมี่ ชี ว่ งคลนื่ สนั้
ระงับความอยากหรือความต้องการ ระยะถอนพิษยานี้จะใช้เวลาประมาณ 15-45 วัน ถ้าผู้ป่วย มาก
ยอมเข้ารับการบำาบัดรักษาตามกรรมวิธีนี้จนครบกำาหนดระยะเวลา จะสามารถถอนพิษยาได้ทุกราย
การถอนพษิ ยาน้ีจะเรว็ หรือช้าขน้ึ อย่กู ับสภาพร่างกาย และความหนักเบาในการติดสารเสพติดของผปู้ ว่ ย ปญั หาและการเลือกใช้แหล่งบริการช่วยเหลือ 139
3) ระยะฟื้นฟูสมรรถภาพ (Rehabilitation) เป็นระยะท่ีสำาคัญที่สุดในการบำาบัด
รักษา คือการทำาให้ผู้ป่วยเลิกเสพได้อย่างแท้จริง เสริมสร้างกำาลังใจให้มีจิตใจท่ีเข้มแข็งพอที่จะละเว้น • แพทย์นัดผู้ป่วยมาพบท่ีโรงพยาบาลเป็นระยะๆ แต่มักพบว่าผู้ป่วย
การใช้สารเสพติด และสามารถดำารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข ระยะฟ้ืนฟูสมรรถภาพนี้จะใช้ ไมม่ าตามนัด
เวลาประมาณ 6-12 เดือน ระยะน้ีจะสามารถสร้างเสริมสุขภาพให้สมบูรณ์ขึ้น ปรับปรุงนิสัยและ • แพทย์หรือพยาบาลไปเยี่ยมผปู้ ว่ ยทบ่ี ้าน อาจนดั หมายลว่ งหน้าหรือไม่นดั
ความประพฤติท่ีจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติดอีก โดยมีเจ้าหน้าท่ีให้การบำาบัดรักษาหลายฝ่าย ได้แก่ หมายล่วงหน้าก็ได้ จะทำาให้เห็นสภาพท่ีแท้จริงของผู้ป่วย แต่วิธีนี้จะสิ้นเปลืองงบประมาณ บุคลากร
แพทย์ พยาบาล นกั สงั คมสงเคราะห ์ นกั จติ วทิ ยา ครูอาชวี บำาบัด พระภกิ ษุ โดยจัดกิจกรรมในรปู แบบของ และเวลา
กล่มุ บำาบัด ชุมชนบำาบดั อาชีวบำาบดั ศาสนบำาบัด จะเหน็ ไดว้ า่ ระยะฟ้นื ฟูสมรรถภาพนี้ใช้เวลาคอ่ นขา้ งนาน (2) การติดตามทางอ้อม โดยผู้ติดตามผลไม่ได้พบกับผู้ป่วยโดยตรง ผู้ป่วย
และมุ่งเน้นทางด้านจิตใจ ถ้าผู้ป่วยเข้ารับการบำาบัดรักษาตามกรรมวิธีนี้จนครบกำาหนดจะทำาให้เลิกเสพ จะได้รับส่งแบบสอบถามทางไปรษณีย ์ การพูดคุยทางโทรศัพท์ การติดต่อผ่านบุคคลท่ีสาม แต่มักจะได้
ได้ค่อนข้างย่ังยืน แต่ยังมีปัจจัยอ่ืนอีกที่อาจทำาให้ความเข้มแข็งทางจิตใจของผู้บำาบัดลดลงและหันไปใช้ ขอ้ มูลไม่ครบถ้วน และไมส่ ามารถให้คำาปรึกษาได้อยา่ งสมบรู ณ์
สารเสพตดิ อกี เช่น กลุม่ เพ่อื นทีเ่ สพ สภาพแวดลอ้ ม ปญั หาสว่ นตัวของผูเ้ สพ
4) ระยะติดตามหลังการบำาบัดรักษา ระยะนี้จะใช้เวลา 1-5 ปี วิธีการติดตาม 2.4 การบาำ บดั รกั ษาผู้ตดิ สารเสพติด
หลังการบาำ บัดรักษา สามารถทำาได้ 2 รปู แบบดังนี้
(1) การติดตามทางตรง โดยติดตามผลกับผู้ป่วยโดยตรง ทาำ ให้สามารถซกั ถามผล การใหก้ ารบำาบัดรกั ษาผตู้ ดิ สารเสพตดิ แบ่งได้ 2 รปู แบบดังน้ี
ได้ละเอียด พร้อมกับตรวจหาสารเสพติดได้ และให้คำาแนะนำาช่วยแก้ปัญหาได้โดยตรง การติดตาม 2.4.1 การบำาบัดรักษาทางร่างกาย สามารถทำาได้ 3 รปู แบบ คือ
ทางตรงสามารถทำาได ้ 2 รปู แบบ คอื 1) แบบแผนปัจจบุ นั ทำาได ้ 3 วธิ ี คือ
(1) การใชย้ าทดแทน โดยการให้ยาผปู้ ่วย เพอ่ื ใหร้ สู้ ึกไม่อยากเสพสารเสพติด
รอบรู้อาเซียนและโลก (2) การใช้ยาต้านฤทธ์ิสารเสพติด ยาต้านฤทธิ์น้ีจะไปห้ามฤทธ์ิของสารเสพติด
จงึ ทำาใหอ้ าการอยากเสพค่อยๆ หายไป
asean (3) การรักษาให้คงสภาพการติดยา คือการให้สารเสพติดแก่ผู้ป่วยภายใต้
การควบคมุ ของแพทย์
การบูรณาการค�ำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเนื้อหาท่ี 2) แบบแผนโบราณ คือการใชย้ าสมุนไพรในการบาำ บัดรกั ษา
กำ� หนดใหใ้ นบทเรยี น ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ พม่ิ พนู ความรภู้ าษา 3) การรกั ษาดว้ ยคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้า อปุ กรณท์ ใ่ี ช้ ได้แก่ เคร่อื งกระต้นุ ไฟฟา้
องั กฤษ และมเี จตคตทิ ดี่ ตี อ่ การสอ่ื สารดว้ ยภาษาองั กฤษที่ 2.4.2 การบาำ บดั รักษาทางจิตใจ สามารถทาำ ได ้ 4 รูปแบบ คือ
ใช้เปน็ ภาษากลางในการทำ� งานของอาเซียน 1) จิตบำาบัด สภาพโดยทั่วไปของผู้ติดสารเสพติดจะเกิดจากจิตใจท่ีอ่อนไหว
การบำาบัดรักษาจึงจำาเป็นต้องอาศัยวิธีการทางจิตบำาบัดเพื่อการฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ป่วยให้เข้มแข็ง
และสามารถแก้ปัญหาทเ่ี กิดข้ึนโดยไมต่ อ้ งพง่ึ พาสารเสพติด
2) ศาสนาหรือศาสนบำาบัด เป็นการบำาบัดรักษาทางจิตใจที่ต้องอาศัยความเล่ือมใส
ศรัทธาในศาสนาทีต่ นเองนับถอื
3) อาชีวบำาบัด เป็นการฟ้ืนฟูสมรรถภาพที่มักใช้ร่วมกับวิธีอื่นเพ่ือให้ผู้ป่วยได้ใช้
เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เห็นคุณค่าของการทำางาน และให้ใช้เวลาหมดไปกับการทำางาน จะได้ไม่มีเวลา
คดิ เร่ืองอื่นหรอื คิดเร่อื งการใช้สารเสพติด
4) ชมุ ชนบาำ บดั เปน็ รปู แบบหนงึ่ ของการบาำ บดั รกั ษาในขน้ั ฟน้ื ฟสู มรรถภาพทจ่ี ะทาำ ให้
ผู้รับการบำาบัดได้พัฒนาตนเอง โดยการสร้างครอบครัวจำาลองขนาดใหญ่ให้ผู้ป่วยได้มีโอกาสปรับปรุง
เปล่ยี นแปลง และฝึกฝนตนเองในชุมชน

สุดยอดค่มู ือครู 121

1. ขGั้นaรtวhบeรrวiมnขg้อมูล 2. ขP้ันrคoิดcวeิเsคsรiาnะหg์และสรุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต

140 เพศวถิ ศี กึ ษา สงวนลิขสิท ิธ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ำจ�กัด St ep 4 ขน้ั สอ่ื สารและนำ� เสนอ

2.5 หนว่ ยงานที่ใหค้ วามชว่ ยเหลอื บาำ บัดรักษาและฟ้นื ฟผู ูต้ ดิ สารเสพตดิ CApopmlyminugnitchaetion Skill

หนว่ ยงานที่ช่วยเหลือบาำ บัดรักษาและฟ้ืนฟผู ตู้ ิดสารเสพตดิ อยหู่ ลายแหล่ง เช่น 1. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มออกแบบหรือหาวิธีน�ำเสนอให้ผู้อ่ืน
2.5.1 สถาบนั ธัญญารักษ ์ ทต่ี ัง้ 60 ถ.พหลโยธิน ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธญั บุรี จ.ปทมุ ธานี 12130 รับรู้และสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคนิควิธี
โทร. 0-2531-0080-8 ให้บริการบำาบัดรักษาผู้ติดสารเสพติดทุกประเภทแบบสมัครใจ มีทั้งผู้ป่วยนอก ท่ีเหมาะสม บูรณาการการใช้สื่อ/เทคโนโลยี/ค�ำศัพท์
และผปู้ ว่ ยใน เพิม่ เตมิ /สง่ิ ที่น่าสนใจแทรกในการรายงาน
2.5.2 โรงพยาบาลอานันทมหดิ ล ท่ีต้งั 35 ม.6 ต.เขาสามร้อยยอด อ.เมอื ง จ.ลพบรุ ี 15000 2. สมุ่ กล่มุ ผเู้ รียนนำ� เสนอผลการสรปุ ความรู้ความเข้าใจ
โทร.0-3648-6011-5 เป็นโรงพยาบาลท่ีรกั ษาโรคทัว่ ไปและรักษาผ้ตู ดิ สารเสพตดิ ทุกประเภท ทาำ หน้าทใี่ ห้
การบำาบัดรักษาทหารประจำาและทหารเกณฑ์ที่ติดสารเสพติดที่ส่งมาจากหน่วยรักษาพยาบาลของ ปัญหาและการเลือกใชแ้ หล่งบริการช่วยเหลอื 141
กองทัพบกทว่ั ประเทศ รวมทัง้ ใหบ้ รกิ ารแกพ่ ลเรอื นในเขตจังหวดั ลพบุรแี ละจงั หวัดใกลเ้ คียงด้วย ผ่านข้ันตอนการถอนพิษยาแล้ว หรือกำาลังรักษาอยู่ หรือไม่เคยบำาบัดรักษาเลยแต่มีความตั้งใจจริง
2.5.3 ศนู ยบ์ าำ บดั รกั ษายาเสพตดิ ภาคเหนอื ทตี่ งั้ กม.28 ถ.เชยี งใหม-่ ฝาง อ.แมร่ มิ จ.เชยี งใหม ่ ท่จี ะเลิกเสพ
50180 โทร. 0-5329- 7976-7, 0-5337-2436 ให้บริการบำาบัดรักษาผู้ติดสารเสพติดทั้งแบบผู้ป่วยนอก 2.5.11 ศูนย์ให้คำาปรึกษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้มีปัญหาเก่ียวกับยาเสพติดราชดำาริ ที่ตั้ง
และผปู้ ่วยใน สถานบริการสาธารณสุขราชดำาริ (ช้ัน 5) ถ.บางกอก-บาซาร์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
2.5.4 ศูนย์บำาบัดรักษายาเสพติดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ตั้ง 335 ม.12 บ้านชานเมือง โทร. 0-2254-2039 บรกิ ารใหค้ ำาปรกึ ษาและฟน้ื ฟสู มรรถภาพผ้ทู มี่ ปี ญั หาเกีย่ วกับสารเสพตดิ
ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 58000 โทร. 0-5361-2607 ให้บริการบำาบัดรักษาผู้ติดสารเสพติด 2.5.12 ศนู ย์เกิดใหม่ (ชาย) ที่ตั้ง 96 ม.4 อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี 70150 โทร. 0-3226-1039-40
โดยเฉพาะผูต้ ิดสารเสพติดในพื้นท่สี งู ทงั้ แบบผปู้ ว่ ยนอกและผปู้ ว่ ยใน ใหบ้ รกิ ารผ้ตู ิดสารเสพตดิ เพศชาย อายุไม่เกิน 40 ป ี
2.5.5 ศูนย์บำาบัดรักษายาเสพติดภาคใต้ ที่ต้ัง 186 ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา 90000 2.5.13 ศูนย์เกิดใหม่ (หญิง) ท่ีต้ัง 33 ถ.มิซซัง-อุทิศ ใกล้โรงเรียนดาราจรัส ต.บางคล้า
โทร.0-7446-7453, 0-7446-7468 ใหบ้ รกิ ารบำาบดั รกั ษาผตู้ ิดสารเสพตดิ ท้ังแบบผปู้ ว่ ยนอกและผ้ปู ่วยใน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา 24110 โทร. 0-3854-1693 ให้บริการผู้ติดสารเสพติดเพศหญิง อายุ 14-35 ป ี
2.5.6 ศนู ยบ์ าำ บดั รกั ษายาเสพตดิ จงั หวดั ปตั ตาน ี ทต่ี งั้ 294 ม.6 ต.รสู ะมแิ ล อ.เมอื ง จ.ปตั ตาน ี ทีถ่ อนพิษยาแลว้ และสมคั รใจเข้ารบั การบำาบัดรกั ษา
94000 โทร. 0-7333-3291, 0-7331-3772 ให้บริการบำาบัดรักษาผู้ติดสารเสพติด ทั้งแบบผู้ป่วยนอก 2.5.14 ศนู ย์เบิกอรณุ ในประเทศไทย ท่ีตงั้ หมูบ่ า้ นเลา่ ฟ ู ต.ปา่ ตึง อ.แม่จนั จ.เชยี งราย 57110
และผู้ป่วยใน ให้บรกิ ารผ้ตู ิดสารเสพตดิ ทุกประเภท ไมจ่ ำากัดเชือ้ ชาติ ศาสนา แต่ยึดมน่ั คาำ สอนของพระเยซเู จ้าเป็นหลัก
2.5.7 ศูนย์บำาบัดรักษายาเสพติดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ท่ีตั้ง 775 ถ.มะลิวัลย์ ต.ศิลา ในการบาำ บัดรกั ษา โดยบำาบัดรักษาภายในระยะเวลาทก่ี าำ หนด (6 เดือน) หรือมากกวา่ น้นั แล้วแตส่ มัครใจ
อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000 โทร. 0-4324-5366 ให้บริการบำาบัดรักษาผู้ติดสารเสพติด ทั้งแบบ 2.5.15 บ้านสันติสุข ท่ีต้ัง 77 บ้านเนินล่ี ม.2 ต.ห้างสูง อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี 20190
ผูป้ ่วยนอกและผู้ป่วยใน โทร. 0-3828-2965 รับการฟน้ื ฟูสมรรถภาพผตู้ ิดสารเสพติดเพศชาย อายุ 15-35 ปี ทผ่ี า่ นการถอนพษิ ยา
2.5.8 โรงพยาบาลอินทรบ์ รุ ี ทตี่ ้งั 37/7 ต.ทับยา อ.อนิ ทร์บุรี จ.สงิ ห์บุร ี 16110 โทร. 0-3658- แลว้ ดว้ ยความสมัครใจ และมีญาตหิ รอื ผปู้ กครองรบั รอง
9937 ให้บริการ บำาบัดรักษา และฟ้ืนฟูสมรรถภาพ ท้ังประชาชนท่ัวไปและนักเรียนที่มีปัญหาสารเสพติด 2.5.16 ศนู ยฟ์ น้ื ฟสู มรรถภาพอาำ เภอตากใบ (บา้ นชวี ติ ใหม)่ ทต่ี งั้ อ.ตากใบ จ.นราธวิ าส 96110
จดั ต้ังเปน็ คลนิ กิ สุขภาพจิตโรงเรียน ใหบ้ รกิ ารฟ้ืนฟูสมรรถภาพผตู้ ดิ สารเสพติดในจงั หวัดนราธวิ าสและจังหวดั ใกลเ้ คยี ง
2.5.9 ศูนย์แสงทองส่องใจ โรงพยาบาลแก้งคร้อ ท่ีตั้ง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ 36150 2.5.17 ศนู ยแ์ สงธรรมนาำ ทางชวี ติ ทตี่ ง้ั ม ี 3 แหง่ ไดแ้ ก ่ วดั ปา่ เปา้ อ.เหลา่ เสอื โกก้ จ.อบุ ลราชธาน ี
โทร. 0-4488-1076, 0-4488- 1234 ให้บรกิ ารบำาบัดรกั ษาผู้ตดิ สารเสพตดิ ทุกประเภทแบบผูป้ ่วยนอก วัดยางลุ่ม ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และสำานักสงฆ์ป่าดอนหมาก ต.เป้า อ.ตระการพืชผล
2.5.10 สถานฟ้ืนฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดแขวงประเวศ (บ้านพิชิตใจ) ท่ีต้ัง 99/9 จ.อุบลราชธานี ให้การบำาบัด ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดสารเสพติด โดยมีหน่วยงานของรัฐให้การส่งเสริม
ซ.ออ่ นนชุ 90 แขวง ประเวศ กรุงเทพฯ 10250 โทร. 0-2329-1353, 0-2329-1566 ใหบ้ ริการบาำ บดั รกั ษา และสนับสนนุ มีพระเป็นผอู้ าำ นวยการ
ผู้ติดสารเสพติดเพศชาย อายุระหว่าง 17-35 ปี มีญาติหรือผู้ปกครองรับรอง ไม่อยู่ในระหว่างดาำ เนินคด ี 2.5.18 ศนู ยพ์ ฒั นาคณุ ธรรม มหาวชริ าลงกรณราชวทิ ยาลยั ทตี่ ง้ั 57 ม.1 ต.สนบั ทบึ อ.วงั นอ้ ย
จ.พระนครศรีอยุธยา ให้บริการถอนพิษยาในวันแรก จากนั้นจะเป็นกระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพ
ทักษะชีวิต รา่ งกายและจิตใจในวันตอ่ ๆ ไป ซ่งึ มีรปู แบบต่างๆ ทีจ่ ะเนน้ กระบวนการทางจติ วิทยาและศาสนาเปน็ หลกั
2.5.19 สำานักสงฆ์ถ้ำากระบอก ที่ต้ัง ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี 18120 ให้บริการ
การนำ� ความรเู้ รอ่ื งปญั หาและการเลอื กใชแ้ หลง่ บรกิ าร บาำ บัดรักษาผ้ตู ิดสารเสพติดด้วยวธิ แี ผนโบราณ ใชส้ มุนไพรในการบาำ บัดรักษา
ช่วยเหลือมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ�ำวัน เพ่ือใช้เป็น 2.5.20 โรงเรยี นววิ ัฒน์พลเมืองกองทัพเรอื 1 ที่ต้งั ศูนย์ฝกึ ทหารใหม ่ กรมยุทธการทหารเรอื
แนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาท่ีอาจจะเกิดข้ึน ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 20180 ให้บริการบำาบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดสารเสพติด
ซึ่งเป็นการเสริมสร้างทักษะชีวิตที่มีผลดีต่อตนเองและ แบบควบคุมตวั ไม่เขม้ งวดตามนโยบายรฐั บาล
สงั คม

122 สุดยอดคูม่ อื ครู

A3. ข้ันปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ A4. ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ 5 . ขSั้นeปlรf-ะRเมeินgเพuื่อlaเพtiิ่มnคgุณค่า

pplying and Constructing the Knowledge pplying the Communication Skill

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

142 เพศวิถีศกึ ษา ค่านิยมหลัก 12 ประการ

3. ปญั หาสุขภาพทางเพศและการเลือกใช้แหล่งบรกิ ารชว่ ยเหลือ • มศี ีลธรรม รกั ษาความสัตย์ หวังดีต่อผอู้ น่ื เผ่อื แผแ่ ละ
แบง่ ปนั
การดำาเนินชีวิตในสังคมปัจจุบันทำาให้คนขาดการดูแลสุขภาพ มีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสม • ใฝ่หาความรู้ หม่ันศึกษาเล่าเรียนท้ังทางตรงและ
เนื่องจากสภาพสังคมที่มีการแข่งขัน ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม ที่ทำาให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ทางอ้อม
การตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เป็นสาเหตุ • รักษาวฒั นธรรมประเพณีไทยอันงดงาม
สาำ คญั ของการเจ็บป่วย เกิดโรค และเสียชีวติ สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
ปัญหาและการเลอื กใช้แหล่งบรกิ ารช่วยเหลอื 143
3.1 สาเหตขุ องปัญหา
3.2.6 การเขา้ รบั การรกั ษาทางการแพทย ์ เมอื่ เกดิ อาการเจบ็ ปว่ ยควรเขา้ รบั การรกั ษาทางการ
สาเหตขุ องปัญหาสขุ ภาพทางเพศแบ่งได้ดงั น้ี แพทยอ์ ย่างเหมาะสม
3.1.1 พฤตกิ รรมเสย่ี งทางสขุ ภาพ เปน็ พฤตกิ รรมทคี่ นในชมุ ชนปฏบิ ตั แิ ละมโี อกาสทจ่ี ะทาำ ให้
เกดิ ปญั หาสุขภาพขึ้นกับตนเองหรอื ชุมชน
3.1.2 ปัจจัยที่ไม่ใช่พฤติกรรม หมายถึงปัจจัยท่ีอยู่นอกเหนือจากพฤติกรรมของบุคคล
โดยอาจเป็นสิ่งแวดล้อมหรือระบบสาธารณูปโภคในชุมชนท่ีไม่สะอาดหรือไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น
การไมม่ ีระบบกำาจัดขยะในชมุ ชน การขาดแคลนน้าำ อาหาร

3.2 แนวทางแก้ไขปญั หาสขุ ภาพ

3.2.1 การเลือกกิจกรรมในการออกกำาลังกาย เป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันปัญหาสุขภาพ
ทางเพศโดยออกกำาลงั กายเพอื่ ใหเ้ หมาะสมกับตนเอง
3.2.2 การพักผ่อน คลายเครียด เป็นส่ิงท่ีมีความสำาคัญต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต
เปน็ การชว่ ยให้ร่างกายได้ผ่อนคลายจากความเหนือ่ ย เมื่อยลา้ และทาำ ให้รา่ งกายเกิดความสดชื่นขึ้น
3.2.3 การทำากิจกรรมต่างๆ ตามความชอบของแต่ละบุคคล ทำาให้เกิดความเพลิดเพลิน
และมีความสุขตามความพอใจ ทุกคนต้องรู้จักแสวงหาและตัดสินใจเลือกการให้ความสุขแก่ตนเอง
อย่างเหมาะสม เชน่ การเล่นดนตร ี ร้องเพลง ดูหนัง ไปเท่ียว ทาำ กจิ กรรมนันทนาการ
3.2.4 การเรียนรู้วธิ กี ารป้องกันโรคตดิ ตอ่ และวธิ ีการปฏบิ ัติทางเพศอย่างเหมาะสม เพื่อให้
เข้าใจในสภาพปัญหา เกิดการเรียนรู้ สามารถตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น
การใช้ถุงอนามัย การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย การปรับเปล่ียนพฤติกรรม การหลีกเล่ียง
เพศสมั พันธ์ท่ไี มป่ ลอดภยั
3.2.5 การเรยี นรู้วิธกี ารวางแผนครอบครัว การวางแผนครอบครัว แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
ใหญ่ คือ
1) การคมุ กาำ เนดิ ชวั่ คราว ใชเ้ มอื่ ตอ้ งการเวน้ ระยะการมบี ตุ ร และถา้ ตอ้ งการจะมบี ตุ ร
ต่อไปก็จะสามารถมีได้อีก วิธีคุมกำาเนิดช่ัวคราวในเพศชาย เช่น การใช้ถุงยางอนามัย ในเพศหญิง เช่น
การรับประทานยาคุมกำาเนิด ยาฉดี คุมกาำ เนดิ การใสห่ ่วงอนามยั
2) การคุมกำาเนิดชนิดถาวร ใช้เม่ือไม่ต้องการมีบุตรอีก มีปัญหาทางสุขภาพ
ไม่สามารถมบี ตุ รได้ ไดแ้ ก ่ การทาำ หมัน

3.3 หนว่ ยงานท่ใี หค้ วามชว่ ยเหลือบาำ บดั รักษา ได้แก่
3.3.1 หน่วยทบ่ี รกิ ารปรกึ ษาสขุ ภาพ (คลนิ กิ นิรนาม)
โทรศัพท์
1) โรงพยาบาลบำาราศนราดรู 0-2590-3737

0-2590-3510

2) กล่มุ โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พันธ ์ สาำ นักโรคเอดส ์ 0-2286-4453

วณั โรค และโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสัมพันธ์ 0-2286-0431 ตอ่ 41

3) หนว่ ยกามโรคและโรคเอดส์บางเขน 0-2521-0819 

0-2972-9606-9 ตอ่ 30

4) คลินิกนริ นาม สภากาชาดไทย 0-2256-4107-9

จันทร์ - ศุกร ์ (12.00 น. - 19.00 น.)

เสาร ์ (13.00 น. - 16.00 น.)

5) โรงพยาบาลรัฐบาลทกุ แห่ง

3.3.2 หนว่ ยงานทีใ่ ห้บริการปรึกษาปัญหาทางโทรศัพท์
หนว่ ยงานทีใ่ หบ้ รกิ ารในวนั และเวลาราชการ (จนั ทร ์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.)

1) โรงพยาบาลบาำ ราศนราดูร 0-2590-3737

0-2590-3510

2) กล่มุ โรคติดต่อทางเพศสมั พันธ์ สาำ นักโรคเอดส ์ 0-2286-4453

วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสมั พันธ ์ 0-2286-0431 ตอ่ 41

3) หนว่ ยกามโรคและโรคเอดส์บางเขน 0-2521-0819

0-2972-9606–9 ต่อ 30

4) สมาคมวางแผนครอบครัวแหง่ ประเทศไทย 0-2941-2320 ตอ่ 181 และ

182

5) ชมรมแสงเทียนเพอื่ ชีวิต 0-2590-3506

6) ชมรมเพอื่ นวนั พธุ 0-2253-2666

สดุ ยอดคู่มือครู 123

1. ขG้ันaรtวhบeรrวiมnขg้อมูล 2. ขP้ันrคoิดcวeิเsคsรiาnะหg์และสรุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21 ทักษะชีวิต

144 เพศวิถีศกึ ษา

3.3.3 หน่วยงานทใ่ี หบ้ รกิ ารทั้งในและนอกเวลาราชการ 0-2277-7699, 0-2277-8811 (ฟร)ี
1) มูลนิธศิ ูนย์ฮอตไลน ์

จันทร์ – ศกุ ร์ (8.30 น. – 1800 น.)

เสาร์ (9.00 น. – 18.00 น.)

2) มูลนิธิเขา้ ถงึ เอดส์ 0-2372-2222
สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
ทุกวนั (15.00 น. – 20.00 น.)
3.3.4 โรงพยาบาลเขตกรุงเทพมหานคร ที่เข้าร่วมโครงการการเข้าถึงบริการยาต้านไวรัส
ระดับชาติสำาหรับผู้ติดเช้อื และผปู้ ว่ ยเอดส์

โรงพยาบาล โทรศัพท์ โรงพยาบาล โทรศพั ท์

1) โรงพยาบาลแม่และเด็ก 0-2521-3064 1 2) โรงพยาบาลหลวงพอ่ ทวี 0-2429-3575 
ศักด์ฯิ อุทิศ

2) คณะแพทย์ศาสตร์ 0-2419-7000 13) โรงพยาบาลตากสิน 0-2437-0123-30
ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล

3) โรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์ 0-2252-8181  14) โรงพยาบาลราชวถิ ี 0-2246-0052 

4) โรงพยาบาลรามาธิบดี 0-2246-0024 15) โรงพยาบาลนพรัตน์ 0-2517-4270
ม.มหดิ ล ราชธานี
16) โรงพยาบาลตาำ รวจ 0-2252-8111-25
5) โรงพยาบาลพระป่นิ เกล้า 0-2468-1116-20 17) โรงพยาบาลสิรินทร 0-2328-6900
18) โรงพยาบาลเลดิ สนิ 0-2235-0330-7
6) โรงพยาบาลภูมิพล 0-2531-1970-99
19) สถาบันสขุ ภาพเดก็ 0-2246-5991
7) โรงพยาบาล 0-2246-1400-28 แหง่ ชาติมหาราชนิ ี
พระมงกุฎเกลา้ ฯ

8) โรงพยาบาลหนองจอก 0-2543-1150

9) โรงพยาบาลกลาง 0-2221-6141 20) ศูนย์บรกิ ารสาธารณสขุ 0-2240-2056
41 คลองเตย

10) โรงพยาบาลราชพพิ ัฒน์ 0-2421-2222 21) ศนู ย์วิจัยโรคเอดส์ 0-2256-1407-8
บางแค สภากาชาดไทย
ปัญหาและการเลือกใช้แหล่งบริการช่วยเหลือ 145

11) โรงพยาบาลลาดกระบงั 0-2326-7987

3.3.5 หนว่ ยงานท่ใี หบ้ ริการด้านสวสั ดกิ ารและสงั คมสงเคราะห์
โทรศัพท์

1) ด้านการศกึ ษา

(1) มลู นธิ ิราชประชาสมาสยั ฯ 0-2591-3720

(2) กลุ่มปญั ญาภวิ ัฒน์ 0-2591-0450–2 ตอ่ 307

(3) มลู นิธิหมอเสม พรงิ้ พวงแก้ว 0-5342-3862

2) ดา้ นท่ีพกั อาศัยและใหก้ ารดูแล

(1) สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรฯี 0-2929-2222, 0-2245-0457, 

0-2642-8949

(2) คณะภคินศี รีชมุ พาบาล

(3) เมอร์ซี่เซน็ เตอร์ 0-2633-5771–6, 0-2671-5313 

(4) สถานสงเคราะหเ์ ดก็ อ่อน 0-5321-1877

บา้ นเวยี งพิงค ์ 0-5322-0802

(5) สถานสงเคราะห์เด็กออ่ นพญาไท 0-2245-5635

0-2247-9190

(6) สถานสงเคราะหเ์ ด็กหญงิ 0-4229-5251

ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ 0-4229-5074 

(7) บ้านอากาเป้ (มูลนิธิสหทัย 0-5380-0946

สังคมศกึ ษาสงเคราะห์)

(8) มลู นิธเิ ก้ือดรณุ 0-5340-8424

(9) สวนสันตธิ รรม 0-2563-1203

(10) วดั พระบาทนำา้ พุ 0-3641-3805

(11) โครงการสามคั คธี รรมนำาสงั คม 0-7649-1180-1

3) ดา้ นการดูแลรกั ษาทบี่ ้าน

(1) องคก์ รหมอไร้พรมแดน 0-2370-3087

(2) องค์การสยามแคร์ 0-2539-5299

0-2530-5902

(3) มูลนธิ เิ ขา้ ถงึ เอดส ์ 0-2372-2113–4

(4) มูลนิธดิ วงประทปี 0-2671-4045

0-2249-3553

124 สุดยอดคู่มือครู

A3. ข้ันปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ A4. ขั้นส่ือสารและน�ำเสนอ 5 . ขS้ันeปlรf-ะRเมeินgเพuื่อlaเพtiิ่มnคgุณค่า

pplying and Constructing the Knowledge pplying the Communication Skill

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

146 เพศวิถศี ึกษา

4) ดา้ นการสงเคราะหแ์ ละทุนประกอบอาชีพ

(1) กรมพฒั นาสงั คมและสวสั ดิการสังคม 0-2659-6399

0-2659-6933 สายดว่ น 1157

(2) กองสวัสดกิ ารแรงงาน 0-2245-6774

(3) มลู นิธิเพอ่ื เยาวชนชนบท 0-2416-8073-4
สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
(4) ศนู ยช์ ว่ ยเหลือแรงงานอพยพหญงิ 0-2266-4439

(5) บ้านสุขสนั ต ์ จ.สงขลา 0-7431-3409

(6) ศนู ย์เพ่อื ผูเ้ ดนิ ทางทะเล จงั หวัดภูเก็ต 0-7621-7218

(7) สาำ นักพฒั นาสงั คมและสวสั ดิการสังคมจังหวดั

ทกุ จังหวดั

(8) สาำ นักงานสวสั ดกิ ารแรงงานจังหวดั ทกุ จังหวดั

5) หนว่ ยงานที่ให้บรกิ ารดา้ นสทิ ธิมนษุ ยชน

(1) คณะกรรมการสิทธมิ นษุ ยชนแห่งชาติ 0-2219-3573 หรอื 1377

(2) สำานกั อยั การพิเศษฝ่ายชว่ ยเหลอื 0-2541-2830

ทางกฎหมาย 0-2541-2770 ตอ่ 1200 หรอื 1207

(3) ศนู ยค์ มุ้ ครองสทิ ธดิ า้ นเอดส ์ 0-2953-5355-6

(4) สำานกั งานอัยการจงั หวัด ทกุ จงั หวัด

สรุป

สิ่งแวดล้อมทางสังคม ประกอบด้วยวัฒนธรรม ค่านิยม กฎหมาย ระเบียบวินัย จารีตประเพณี

ความคิดความเชื่อ การเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ และที่สำาคัญมากคือระบบความสัมพันธ์ของคน
ในสงั คม ถา้ ส่งิ ตา่ งๆ ที่กลา่ วถึงเกดิ ปัญหาขนึ้ เพียงอย่างหนง่ึ อยา่ งใด ย่อมทาำ ให้เกิดผลกระทบตอ่ ทกุ อยา่ ง
และผลสุดท้ายก็คือปัญหาของคนในสังคม สังคมไทยก็เป็นเช่นเดียวกับสังคมอื่นๆ ทั่วโลกท่ีมีปัญหา
เพราะทุกสังคมมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่ิงเหล่านี้เป็นปัจจัยพื้นฐานทำาให้เกิดปัญหาสังคมได ้ ปัญหาสังคม
อาจมีความรนุ แรงและส่งผลกระทบต่อสังคมในระดบั และขอบเขตท่ตี ่างกัน เราจึงตอ้ งรู้จักเลือกใชบ้ ริการ
จากแหล่งช่วยเหลือต่างๆ ใหถ้ กู ตอ้ งตรงกับปญั หานั้น เพือ่ ให้ปญั หาได้บรรเทาเบาบางลง

ปญั หาและการเลอื กใชแ้ หล่งบริการช่วยเหลอื 147

กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ

คาำ ชแี้ จง กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจเป็นกิจกรรมฝึกทักษะเฉพาะด้านความรู้-ความจำา เพื่อใช้ใน
การตรวจสอบความเขา้ ใจตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

คำาสงั่
ตอนที ่ 1 จงตอบคำาถามต่อไปน้ี
1. จงอธบิ ายปัญหาความรนุ แรงและการเลอื กใชแ้ หล่งบรกิ ารชว่ ยเหลอื โดยสงั เขป
2. จงยกตวั อยา่ งปญั หาความรุนแรง และแนวทางการแก้ปัญหา
3. จงอธิบายถึงปัญหาสารเสพติดและการเลอื กใชแ้ หล่งบรกิ ารชว่ ยเหลือโดยสังเขป
4. จงยกตัวอยา่ งปญั หาสารเสพตดิ และแนวทางการแกป้ ญั หา
5. จงอธบิ ายการปญั หาสุขภาพทางเพศและการเลอื กใช้แหลง่ บรกิ ารช่วยเหลือโดยสังเขป

ตอนท่ ี 2 จงจบั คูข่ ้อต่อไปน้ใี หถ้ ูกตอ้ ง

ฆ 1. หน่วยงานที่ใหค้ วามช่วยเหลอื เมือ่ เกดิ ปญั หาความรนุ แรงต่อสตรีและเด็ก
ฌ 2. การนำาเสนอข่าวทีม่ ีการใชค้ วามรนุ แรง
ข 3. หนว่ ยงานให้ความชว่ ยเหลือบาำ บัดรกั ษาและฟ้นื ฟูผ้ตู ิดสารเสพติด
ง 4. การคุมกาำ เนดิ แบบใส่ถงุ ยางอนามัย
ค 5. การเสริมสรา้ งกำาลงั ใจให้มจี ติ ใจเขม้ แขง็
จ 6. การทะเลาะวิวาท การข่มขืน
ช 7. หน่วยงานทใี่ หค้ ำาปรึกษาสขุ ภาพ
ซ 8. การสรา้ งความมีระเบยี บวนิ ยั
ก 9. การใช้ยาตา้ นฤทธ์ิสารเสพตดิ
ฅ 10. การพดู หรอื กระทาำ ให้ผู้อืน่ ไดร้ ับความกระทบกระเทอื นจิตใจ

ก. การบาำ บดั รกั ษาผตู้ ดิ สารเสพติด ข. ศูนย์แสงธรรมนำาทางชวี ติ
ค. ระยะฟื้นฟูสมรรถภาพ ง. รปู แบบของความรุนแรง
จ. บ้านตะวันใหม่ ฉ. การคมุ กาำ เนิดช่ัวคราว
ช. ความรุนแรงระหว่างบุคคล ซ. ปจั จยั ท่ีมผี ลต่อความรุนแรง
ฌ. คลนิ กิ นริ นาม สภากาชาดไทย ญ. การป้องกันปญั หาความรุนแรงในสังคม
ฎ. ส่ือมวลชน ฏ. การลดิ รอนสิทธ์ิ

สุดยอดคูม่ อื ครู 125

1 . ขG้ันaรtวhบeรrวiมnขg้อมูล 2. ขPั้นrคoิดcวeิเsคsรiาnะหg์และสรุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21 ทักษะชีวิต

148 เพศวถิ ศี กึ ษา ep 5 ขบนั้รปิกราระเสมังินคเพมแ่อื ลเพะจ่ิมิตคสุณาคธ่าารณะ

ตอนท ่ี 3 จงขดี เครอื่ งหมาย ✓หน้าข้อความทถี่ กู ตอ้ งและเครอ่ื งหมาย ✗ หนา้ ขอ้ ความทผี่ ดิ Self-Regulating

✗ 1. การจดั ให้มีครทู ่ีปรกึ ษาเปน็ การแกป้ ญั หาความรุนแรงขัน้ ต้นของผ้เู รียน 1. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มและรายบุคคลตรวจสอบความรู้
✗ 2. ปญั หาความรุนแรงควรปรึกษาสถาบนั ธัญญารักษ์ ความเขา้ ใจของตนเองหลงั จากรบั ฟงั การนำ� เสนอของ
✓ 3. รัฐบาลควรมุ่งเน้นป้องกันปัญหาพน้ื ฐานของสังคม เชน่ การลดปญั หาความยากจน สมาชิกกลุ่มอื่น ปรับปรุงชิ้นงานของกลุ่มตนเองให้
✓ 4. ผลกระทบของปญั หาสังคมทำาให้เกดิ ปัญหาครอบครัว สมบูรณแ์ ละบนั ทึกเพ่มิ เตมิ
✓ 5. การพักผ่อน คลายเครียด เป็นสงิ่ สำาคัญตอ่ สุขภาพ 2. น�ำผลงานแสดงในป้ายนิเทศหรือเผยแพร่สู่ห้องเรียน
✓ 6. การเรียนรู้วิธีป้องกันโรคและปฏิบัติทางเพศอย่างเหมาะสมเป็นการเรียนรู้ท่ีดีที่สุดของ อ่ืนหรอื สาธารณะ
วัยรุ่น 3. ผู้เรียนแต่ละคนท�ำแบบทดสอบ (หนังสือเรียนหน้า
✓ 7. วยั รุ่นควรเรยี นร้เู ร่ืองการวางแผนครอบครัว 150-151) แลกเปล่ียนกันตรวจให้คะแนน จากนั้น
✓ 8. หากมีปญั หาสุขภาพทางเพศสามารถตดิ ต่อมลู นิธิเก้ือดรุณ ประเมินสรุปผลการท�ำกิจกรรม (หนังสือเรียนหน้า
✗ 9. ปจั จัยทอี่ ยนู่ อกเหนอื จากพฤติกรรมของบคุ คลไม่ใชส่ าเหตุของปญั หาสขุ ภาพทางเพศ 149) ทำ� แบบประเมนิ ตนเอง (หนังสือเรียนหนา้ 151)
✓ 10. การมคี ูน่ อนหลายคนโดยไม่ปอ้ งกนั อาจเกดิ ปญั หาการตัง้ ครรภ์ไม่พึงประสงค์ และก�ำหนดแนวทางการพฒั นาตนเอง
สงวนลิขสิท ิธ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ำจ�กัด St
กิจกรรมท้าทาย ปัญหาและการเลอื กใชแ้ หล่งบรกิ ารช่วยเหลอื 149

• ให้ผู้เรียนแต่ละคนเขียนค�ำขวัญ “การป้องกัน กิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรู้
สารเสพติด” และนำ� มาประกวดให้รางวลั
• ใหผ้ เู้ รยี นโตว้ าทเี รอ่ื งปญั หาสขุ ภาพทางเพศปอ้ งกนั ได้ คำาชี้แจง กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรปู้ ระกอบดว้ ยกจิ กรรมหลากหลายทฝี่ กึ ทกั ษะทกุ ดา้ นตามจดุ ประสงค์
เชิงพฤติกรรมเพื่อให้เกิดสมรรถนะในการเรียนร ู้ สามารถปฏิบัติกิจกรรมท้ังในและนอกสถานท ี่
ตามความเหมาะสมกบั ผู้เรียนและสง่ิ แวดล้อมของสถานศกึ ษา

1. ให้ผเู้ รียนแบง่ กลมุ่ กลุม่ ละ 3-5 คน เลอื กข่าวสารจากหนงั สอื พิมพ์ วารสาร หรืออินเทอร์เน็ต เกย่ี วกับ
ปัญหาต่างๆ ของวัยรุ่น มากลุ่มละ 1 ข่าว วิเคราะห์ข่าวที่เกิดขึ้น ส่งตัวแทนกลุ่มมารายงานและ
ร่วมกนั อภปิ รายหน้าช้ันเรียน
2. ให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน สัมภาษณ์เพ่ือนร่วมสถานศึกษา 3 คน เรื่อง ปัญหาวัยรุ่นและ
แหล่งบริการช่วยเหลือท่ีเกย่ี วกับปญั หานั้นๆ โดยจัดทาำ สรปุ ส่งตัวแทนนาำ เสนอหน้าชนั้ เรยี น
3. ใหผ้ เู้ รยี นเขยี นผงั ความคดิ สรปุ เกยี่ วกบั ปญั หาและการเลอื กใชแ้ หลง่ บรกิ ารชว่ ยเหลอื ทมี่ คี วามสมั พนั ธ ์
กับการดาำ รงชีวติ ของผเู้ รียน

สรุปผลการท�ากจิ กรรม

คำาช้ีแจง ใหผ้ เู้ รยี นประเมินผลการทำากจิ กรรม โดยเขียนเครอื่ งหมาย ✓ลงในช่อง ตามความเป็นจรงิ

ความร ู้ (K) ทกั ษะ (P) คุณลกั ษณะ (A) เกณฑก์ ารประเมนิ
การมีมนษุ ยสัมพันธ์ใน ทำาเครอื่ งหมาย ✓
ความรู้ ความเขา้ ใจ การปฏิบตั ิงานทไี่ ดร้ บั
การนาำ ไปใช้ การวิเคราะห์ มอบหมายเสรจ็ ตามเวลา การปฏิบตั กิ ิจกรรม ในแต่ละตอน 3 ข้อ
การสังเคราะห์ ทกี่ าำ หนด ความมวี นิ ัย ตรงต่อเวลา คือ ผ่านการประเมิน
การประเมนิ คา่ การปฏบิ ัติงานด้วยความ ความซ่ือสตั ย์สุจริต
ละเอยี ด รอบคอบ ปลอดภัย ในการทำางาน 1. ความร้ ู (K)
การศกึ ษาค้นคว้า เรยี บรอ้ ย สวยงาม ประพฤตติ นดว้ ยความ ผ่าน ไม่ผา่ น
การแสวงหาแหลง่ ข้อมลู
และการรวบรวมขอ้ มลู ความสมบรู ณ์ของงาน ถูกตอ้ งตามศีลธรรม 2. ทกั ษะ (P)
การแสดงความคดิ เห็น การปฏบิ ัติงานทท่ี าำ ใหเ้ กดิ อันดีงาม
อยา่ งมีเหตผุ ล หรือแสดง สมรรถนะแกผ่ ู้เรียน เจตคตทิ ีด่ ีในการปฏบิ ัติ ผ่าน ไม่ผา่ น
กิจกรรม
ขัน้ ตอนและกระบวนการ ทักษะการวางแผน การคดิ ความพอเพยี งและความ 3. คุณลกั ษณะ (A)
ทำากจิ กรรม สรา้ งสรรค ์ การออกแบบ ผ่าน ไมผ่ ่าน

การหาประสบการณ์ การผลติ พอประมาณ
ความรูใ้ หม่ การตัดสินใจในการแกป้ ัญหา

หมายเหต ุ เกณฑ์การประเมินผลการทำากิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพ่ือประเมินว่า ผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู้
ตามบริบทต่างๆ หรือไม่ โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน คือ ความรู้หรือพุทธิพิสัย = Knowledge (K) ทักษะหรือ
ทกั ษะพิสยั = Practice (P) คุณลกั ษณะหรือจิตพสิ ัย = Attitude (A)

126 สุดยอดคู่มอื ครู

A3. ข้ันปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ A4. ข้ันสื่อสารและน�ำเสนอ 5. ขS้ันeปlรf-ะRเมeินgเพuื่อlaเพti่ิมnคgุณค่า

pplying and Constructing the Knowledge pplying the Communication Skill

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

150 เพศวถิ ศี กึ ษา ผู้สอนให้ผู้เรียนท�ำแบบทดสอบ จากน้ันให้ผู้เรียนแลกกัน
ตรวจคำ� ตอบ โดยผสู้ อนเปน็ ผู้เฉลย
แบบทดสอบ

คาำ ส่งั จงเลอื กคาำ ตอบทถ่ี กู ตอ้ งที่สดุ เพยี งคำาตอบเดียว เฉลยแบบทดสอบ
สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด 1. ตอบ 2. การข่มขืนกระท�ำช�ำเราเป็นความรุนแรงที่
ค าำ ชแ้ี จง ใช้ตัวเลอื กตอ่ ไปน้ีตอบคำาถามขอ้ 1-3 ท่ีมีความสอดคล้องสมั พนั ธก์ นั กระท�ำต่อบคุ คลอน่ื
2. ตอบ 1. การฆา่ ตวั ตาย ทำ� รา้ ยตนเองเปน็ ความรนุ แรง
1. ความรุนแรงท่กี ระทำาตอ่ ตนเอง ทก่ี ระท�ำต่อตนเอง
2. ความรนุ แรงที่กระทาำ ต่อบคุ คลอ่นื 3. ตอบ 3. การทะเลาะวิวาท ยกพวกตีกัน เป็นความ
3. ความรนุ แรงทีเ่ กยี่ วกับกลุ่มคน รุนแรงทเี่ กย่ี วกบั กลมุ่ คน
4. ความรนุ แรงในสังคม 4. ตอบ 2. การพูดลามก การข่มขืน เป็นความรุนแรง
ทางเพศ ซ่ึงตัวเลือกอื่นเป็นความรุนแรงท่ีไม่เก่ียวกับ
1. การข่มขนื กระทาำ ชาำ เรา 2 เพศ
2. การฆา่ ตวั ตาย ทำาร้ายตนเอง 1 5. ตอบ 5. ทกุ ขอ้ เปน็ ความรนุ แรงในสงั คมไทย คอื ความ
3. การทะเลาะวิวาท ยกพวกตีกนั 3 รนุ แรงในเดก็ ความรนุ แรงในสตรี ความรนุ แรงทางการ
เมือง การฆ่าตัวตาย
4. ขอ้ ใดเปน็ ความรุนแรงทางเพศ
1. การทำาร้ายผูอ้ น่ื ให้ไดร้ บั บาดเจบ็ 2. การพดู ลามก การข่มขืน
3. การพูดทที่ าำ ให้ผู้อน่ื เสียหาย 4. การปิดกน้ั ลิดรอนสิทธผิ์ ้อู ืน่
5. การบกุ รกุ ในเคหสถาน

5. ข้อใดเป็นปัญหาความรนุ แรงในสงั คมไทย 2. ความรนุ แรงในสตรี
1. ความรนุ แรงในเดก็
3. ความรุนแรงทางการเมือง 4. การฆ่าตัวตาย
5. ทุกขอ้ เป็นปัญหาความรุนแรง

6. การใช้สารเสพตดิ อาจกอ่ ให้เกดิ ปัญหาใดตามมาได้
1. ปญั หาทางเพศ 2. ปัญหาการทะเลาะวิวาท
3. ปัญหาการเกดิ อุบัติเหตุ 4. ปญั หาสุขภาพ
5. ถกู ทกุ ขอ้ 2. การใชถ้ งุ ยางอนามยั
7. การวางแผนครอบครัวทด่ี ีทสี่ ดุ คอื ขอ้ ใด 4. การใส่หว่ งยางอนามยั
1. การคุมกาำ เนดิ
3. การทาำ หมัน
5. การรับประทานยาคุมกำาเนิด

ปัญหาและการเลอื กใชแ้ หลง่ บริการชว่ ยเหลือ 151

6. ตอบ 5. การใช้สารเสพติดอาจก่อให้เกิดปัญหา คาำ ชี้แจง ใชต้ ัวเลือกตอ่ ไปนีต้ อบคำาถามข้อ 8-10 ท่ีสอดคลอ้ งสมั พันธก์ ัน
ทางเพศ ปัญหาการทะเลาะวิวาท ปัญหาการเกิด 1. หน่วยงานโรค สาธารณสขุ จงั หวดั
อุบัติเหตุ และปัญหาดา้ นสุขภาพ 2. มูลนธิ ปิ วณี า หงสกลุ เพ่ือเดก็ และสตรี
7. ตอบ 1. การคมุ ก�ำเนิดเป็นการวางแผนครอบครัวท่ีดี 3. สำานักสงฆ ์ ถ้าำ กระบอก จังหวดั สระบุรี
ทสี่ ดุ เม่อื เทยี บกับขอ้ อ่นื ๆ 4. คณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชนแห่งชาติ
8. ตอบ 2. เม่ือพบการท�ำทารณุ กรรมเด็ก สามารถแจง้
หรือติดต่อหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง คือมูลนิธิปวีณา 8. เมือ่ พบการทาำ ทารุณกรรมเดก็ 2
หงสกุล เพือ่ เด็กและสตรี 9. ตนเองเกดิ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ ์ 1
9. ตอบ 1. เม่ือตนเองเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 10. เป็นสถานทรี่ ักษาและบาำ บัดผตู้ ดิ ยาเสพติด 3
สามารถติดต่อเพื่อท�ำการรักษาได้ที่หน่วยงานโรค
สาธารณสุขจังหวัด แบบประเมินตนเอง
10. ตอบ 3. สถานทส่ี ำ� หรบั รกั ษาและบำ� บดั ผตู้ ดิ ยาเสพตดิ คำาชี้แจง ตอนท ี่ 1 ใหผ้ ู้เรยี นประเมนิ ผลการเรยี นร ู้ โดยเขยี นเครื่องหมาย ✓ ลงในชอ่ งระดับคะแนน
ในตัวเลอื กคอื สำ� นกั สงฆ์ ถ้�ำกระบอก จงั หวัดสระบรุ ี และเติมขอ้ มูลตามความเป็นจรงิ
ท้ังนี้ยังมีสถานที่ส�ำหรับรักษาและบ�ำบัดผู้ที่ติดยาเสพ ระดับคะแนนตอนท ี่ 1 5 : มากทสี่ ดุ 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : น้อย 1 : ควรปรบั ปรงุ
ติดอีกหลายแห่ง เช่น ส�ำนักป้องกันและบ�ำบัดผู้ติด ตอนที่ 2 ใหผ้ เู้ รยี นนาำ คะแนนจากแบบทดสอบมาเตมิ ลงในชอ่ งวา่ ง และเขยี นเครอื่ งหมาย ✓
ยาเสพตดิ กรุงเทพมหานครฯ เปน็ ต้น ลงในช่องสรุปผล

ตอนท ่ี 1 (ผลการเรียนร)ู้ ตอนท่ ี 2 (แบบทดสอบ)

รายการ 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ

1. ผเู้ รียนมคี วามร ู้ ความเข้าใจในเนือ้ หา คะแนน

2. ผ้เู รยี นไดท้ ำากจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรียนรู้ท่สี อดคล้องกบั เนอื้ หา (ข้อละ 1 คะแนน)
และจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
สรุปผล
9 - 10 (ดมี าก)
3. ผ้เู รยี นได้เรยี นและทำากจิ กรรมสง่ เสริมการเรยี นรู้ทส่ี ง่ เสรมิ 7 - 8 (ด)ี
กระบวนการคิด เกดิ การค้นพบความรู้ 5 - 6 (พอใช)้
4. ผเู้ รียนสามารถประยกุ ต์ความรเู้ พอืี่ ใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจาำ วนั ได้ ตำา่ กวา่ 5
5. ผู้เรียนไดเ้ รยี นรอู้ ะไรจากการเรียน (ควรปรบั ปรงุ )

6. ผเู้ รยี นตอ้ งการทาำ ส่งิ ใดเพ่ือพัฒนาตนเอง

7. ความสามารถทถ่ี ือวา่ ผา่ นเกณฑป์ ระเมินของผูเ้ รยี น คือ


สุดยอดคู่มือครู 127

ตารางสรุปคะแนนการประเมินจดุ ประสงค์การเรียนรู้
และสมรรถนะประจำ� หนว่ ย

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 8 ปัญหาและการเลือกใชแ้ หลง่ บรกิ ารช่วยเหลือ

คะแนนตาม จปส. รายหน่วยการเรียนรู้
1. สงวน ิลขสิท ิธ์ บริ ัษทพัฒนาคอ ิธบายปัญหาความรุนแรงและการเลือกใช้แหล่งบริการุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
ช่วยเห ืลอได้ชิน้ งาน/การแสดงออก รวม
2. อธิบายปัญหาสารเสพติดและการเลือกใช้แหล่งบริการทีก่ �ำหนดในหน่วยการเรยี นรู้หรอื หน่วยย่อย
่ชวยเห ืลอไ ้ด
3. อ ิธบายปัญหาสุขภาพทางเพศและการเลือกใช้แหล่งบริการ
่ชวยเหลือได้อ ่ยางเหมาะสม
ภาระงาน/ช้นิ งานระหวา่ งเรยี น
1. ผังกราฟิกแสดงการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาและการเลือกใช้
แหลง่ บริการชว่ ยเหลือ
2. ผังกราฟิกสรุปความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับปัญหาและการเลือกใช้แหล่ง
บริการช่วยเหลือ
3. การนำ�เสนอผลการสรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั ปญั หาและการเลอื ก
ใช้แหลง่ บริการชว่ ยเหลือ
การประเมนิ รวบยอด
1. ผลการปฏิบัตกิ ิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ
2. ผลการปฏบิ ัตกจิ กรรมส่งเสริมการเรียนรู้
3. ผลการประเมินตนเอง
4. คะแนนผลการทดสอบ

รวม

หมายเหตุ: คะแนนการประเมนิ จดุ ประสงค์การเรียนรูข้ นึ้ อยูก่ ับการออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ของผู้สอน

128 สุดยอดคู่มือครู

สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด

ส�ำ นักพมิ พ์ บรษิ ัทพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) จำ�กดั website:
1256/9 ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดสุ ติ กรงุ เทพฯ 10300
โทร. 0-2243-8000 (อตั โนมตั ิ 15 สาย), 0-2241-8999 www.iadth.com
แฟกซ์: ทกุ หมายเลข, แฟกซอ์ ตั โนมัติ: 0-2241-4131, 0-2243-7666

สงวนลิขสิทธิ์ หนังสอื เลม่ นี้ได้จดทะเบยี นลขิ สิทธ์ถิ กู ต้องตามกฎหมาย


Click to View FlipBook Version