The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มืออบรมแกนนำ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by khammanatt, 2021-08-12 02:06:23

คู่มืออบรมแกนนำ

คู่มืออบรมแกนนำ

๙๕

รายวชิ า การจัดตง้ั องคก์ รแกนนำสง่ เสรมิ ความประพฤตินักเรยี นและนกั ศึกษา

ระยะเวลา ๓ ช่ังโมง
วตั ถปุ ระสงค์

๑. เพือ่ ให้ผูเ้ ข้ารบั การฝึกอบรมมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในโครงสร้างองค์กรแกนนำส่งเสริม
ความประพฤติ นักเรยี นและนักศึกษา

๒. เพอ่ื ใหผ้ เู้ ข้ารบั การฝกึ อบรมนำความรทู้ ่ีไดร้ ับไปประยุกต์ใช้ในการจดั ต้ังคณะกรรมการ
ดำเนินงาน ส่งเสรมิ ความประพฤตินักเรยี นและนักศึกษาในสถานศึกษาได้อย่างถูกต้อง

ขอบขา่ ยเนือ้ หาวิชา
๑. โครงสร้างและองค์ประกอบของคณะกรรมการดำเนินงานแกนนำสง่ เสริมความประพฤติ

นักเรียนและนกั ศกึ ษา
๒. กระบวนการและข้ันตอนการจดั ต้งั คณะกรรมการดำเนินงานแกนนำส่งเสริมความประพฤติ

นกั เรียนและนกั ศึกษา
๓. ข้ันตอนและวิธีการปฏบิ ัตงิ านของคณะกรรมการแกนนำส่งเสรมิ ความประพฤตินักเรียน

และนกั ศกึ ษา

กิจกรรมการเรยี นรู้
๑. บรรยาย
๒. การระดมสมอง
๓. การแสดงบทบทสมมตุ ิ

สอ่ื การฝกึ อบรม
๑. เอกสารประกอบการฝึกอบรม
๒. สื่ออเิ ล็กทรอนิกส์
๓. ใบงาน
๔. ทัศนูปกรณ์
๕. เกม เพลง

การวัดและประเมนิ ผล
๑. การสังเกต
๒. การซักถาม

๙๖

เนือ้ หาวิชาการจดั ตง้ั องค์กรแกนนำส่งเสรมิ ความประพฤตินักเรยี นและนักศึกษา

ขัน้ ตอนการดำเนนิ กจิ กรรม
๑. บรรยายเก่ียวกบั
- โครงสร้างและองคป์ ระกอบของคณะกรรมการดำเนินงานแกนนำส่งเสรมิ ความประพฤติ

นักเรยี นและนักศึกษา
- กระบวนการและขัน้ ตอนการจัดตัง้ คณะกรรมการดำเนนิ งานแกนนำส่งเสริมความ

ประพฤตินกั เรียนและนักศกึ ษา
- ข้ันตอนและวิธกี ารปฏิบัตงิ านของคณะกรรมการแกนนำส่งเสรมิ ความประพฤตนิ กั เรียน

และนกั ศกึ ษา
- สรุปและรายงานผล การปฏบิ ตั ิงานของคณะกรรมการแกนนำสง่ เสริมความประพฤติ

นกั เรียนและนักศึกษาต่อครู อาจารย์ พนักงานเจา้ หนา้ ที่ ในสถานศกึ ษา
๒. ลงมือปฏิบัตจิ ริง โดย
- แบง่ กลมุ่ ผูเ้ ข้าอบรมออกเป็นโรงเรียน และให้แตล่ ะกลุ่มเลอื กคณะกรรมการตามโครงสรา้ ง

และองคป์ ระกอบของคณะกรรมการดำเนินงาน
- ใหป้ ระธานและเลขานุการของแต่ละโรงเรยี นเขา้ มาเป็นคณะกรรมการองคก์ รแกนนำส่งเสรมิ

ความประพฤตนิ ักเรียนและนักศกึ ษา
- ใหค้ ณะกรรมการองค์กรแกนนำสง่ เสริมความประพฤตินกั เรยี นและนักศึกษาคิดแผนการ

ดำเนนิ งานขององค์กร
๓. นำเสนอและแลกเปล่ียนเรียนรู้
- นำเสนอแผนการดำเนนิ งานขององคก์ รแกนนำสง่ เสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา

.

๙๗

ใบงาน
รายวิชาการการจัดตัง้ องค์กรแกนนำสง่ เสริมความประพฤตินกั เรยี นและนกั ศกึ ษา

คำช้แี จง ใหแ้ ต่ละโรงเรยี นจัดทำโครงสรา้ งของคณะกรรมการแกนนำส่งเสริมความประพฤตินักเรยี นและ
นักศกึ ษา ตามตำแหนง่ ต่อไปนี้

๑. ประธาน ชอ่ื ................................... สกลุ ............................... โรงเรียน ...............................
๒. รองประธาน ชอ่ื .................................... สกลุ ................................ โรงเรียน ...............................
๓. รองประธาน ชื่อ ................................... สกลุ ............................... โรงเรียน ...............................
๔. กรรมการ ชอื่ ................................... สกลุ ............................... โรงเรยี น ...............................
๕. กรรมการ ช่อื ................................... สกลุ ............................... โรงเรียน ...............................
๖. กรรมการ ชื่อ ................................... สกลุ ............................... โรงเรียน ...............................
๗. กรรมการ ชื่อ ................................... สกลุ ............................... โรงเรยี น ...............................
๘. กรรมการ ชื่อ ................................... สกลุ ............................... โรงเรียน ...............................
๙. กรรมการ ช่ือ ................................... สกลุ ............................... โรงเรยี น ...............................
๑๐. กรรมการ ชื่อ ................................... สกลุ ................................โรงเรียน ...............................
๑๑. เลขานุการ ชอ่ื ................................... สกลุ ................................โรงเรียน ...............................
๑๒.ผ้ชู ว่ ยเลขานกุ าร ช่ือ ............................. สกุล ................................โรงเรียน ..............................
๑๓. เหรญั ญกิ ชื่อ ................................... สกลุ .................................โรงเรยี น ...............................
๑๔. ปฏคิ ม ช่ือ ................................... สกลุ ................................โรงเรียน ...............................
๑๕. ประชาสัมพนั ธ์ ชื่อ .............................. สกลุ ................................ โรงเรียน ..............................

๙๘

เนื้อหารายวิชา การจดั ต้ังองคก์ รแกนนำสง่ เสรมิ ความประพฤตินกั เรียนและนักศกึ ษา

๑. องคป์ ระกอบของคณะกรรมการดำเนินงานแกนนำส่งเสริมความประพฤตนิ ักเรยี นและนักศึกษา

องค์ประกอบของคณะกรรมการแกนนำส่งเสรมิ ความประพฤตนิ กั เรยี นและนักศึกษา ประกอบด้วย

- ประธาน จำนวน 1 คน

- รองประธาน จำนวน 2 คน

- กรรมการ จำนวน 8 คน

- เลขสนุการ จำนวน 1 คน

- ผชู้ ่วยเลขานุการ จำนวน 1 คน

- เหรญั ญิก จำนวน 1 คน

- ปฏคิ ม จำนวน 1 คน

- ประชาสัมพันธ์ จำนวน 1 คน

หมายเหตุ สามารถปรบั ไดต้ ามความเหมาะสมและบริบท และควรให้มีตัวแทนทุกโรงเรยี น

๒. กระบวนการและขนั้ ตอนการจดั ตั้งคณะกรรมการดำเนินงานสง่ เสริมความประพฤตินกั เรยี นและ

นักศกึ ษา

2.1 แต่ละโรงเรยี นคดั เลอื กคณะกรรมการ

2.2 ประธานและเลขานุการของแตล่ ะโรงเรียนมาเปน็ คณะกรรมการองค์กรฯ

2.3 เลอื กตำแหนง่ ต่างๆของคณะกรรมการ

2.4 วางแผนการดำเนนิ งาน

๒.๕ นำเสนอแผนการดำเนินงาน

๓. ขนั้ ตอนและวิธกี ารปฏิบัติงานของคณะกรรมการส่งเสรมิ ความประพฤตินักเรียนและนักศกึ ษา

3.1 การดำเนินงานภายในโรงเรียน

1) ครูผู้รบั ผิดชอบจัดทำคำสง่ั เสนอแตง่ ตง้ั แกนนำสง่ เสริมความประพฤตินักเรียนและ

นักศึกษา

2) สร้างช่องทางการตดิ ต่อสอ่ื สารของแกนนำสง่ เสรมิ ความประพฤตนิ กั เรยี นและนกั ศึกษา

3) จัดทำตารางการปฎบิ ตั ิงานของแกนนำสง่ เสรมิ ความประพฤตนิ กั เรียนและนักศึกษา

4) ควบคุมดแู ลและให้คำแนะนำในการปฏิบัตงิ านของแกนนำสง่ เสริมความประพฤตนิ กั เรยี น

และนกั ศกึ ษา

3.๒ การดำเนินงานภายนอกโรงเรยี น

๑) ประสานความรว่ มมือกับเครือขา่ ยแกนนำต่างสถานศกึ ษา เพื่อสง่ เสรมิ ความประพฤติ

นกั เรยี นและนักศึกษา

๒) สง่ เสริมสนับสนุนและดำเนินการการจดั กิจกรรมทีเกี่ยวขอ้ งกับการส่งเสริมความประพฤติ

นักเรยี นและนักศึกษา

3.๓ แนวทางการสร้างขวญั กำลังใจ

จดั ทำเข็มแกนนำ/เส้ือ/ปลอกแขน หรือ อืน่ ๆ ตามความเหมาะสม

3.๔ สงิ่ ทผ่ี ูผ้ า่ นการอบรมจะได้รบั

วุฒบิ ัตรผา่ นการอบรมและหมวก กสน.

๙๙

ตวั อยา่ งรา่ งคำสัง่ ของโรงเรียน

คำสง่ั โรงเรียน......................
ท่ี ......../............

เร่ือง แตง่ ต้ังคณะกรรมการดำเนินงานแกนนำสง่ เสรมิ ความประพฤตินักเรยี นและนักศึกษา

ตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขในการจัดระบบงานและกิจกรรมในการแนะ
แนว ให้คำปรกึ ษาและฝึกอบรมแก่นักเรียน นักศึกษา และผปู้ กครอง พ.ศ. 2548 ข้อ 3 (4) จัดให้มีมาตรการ
ส่งเสริมความปลอดภัย ป้องกัน และแก้ไขปัญหาความรุนแรง โดยให้มีแผนงาน ผู้รับผิดชอบ และการติดตาม
ตรวจสอบ เพื่อให้เกิดประสิทธิ์ภาพ และระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการปฏิบัติหน้าท่ีของพนักงาน
เจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 ข้อ 8 ส่วนราชการของกระทรวงศึกษาธิการ
อาจจัดให้มีส่วนการประสานงานส่งเสริมความประพฤตินักเรียนละนักศึกษาในเขตพ้ืนที่การศึกษา หรือใน
เขตพื้นท่ีจังหวัด แล้วแต่กรณี เพ่ือทำหน้าท่ีสนับสนันการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าท่ี และประสานงาน
กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพ่ือดำเนินการให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และประกาศ
ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด.................ที่........./......... เรื่อง............................เพื่อเป็นการส่งเสริม
ความประพฤติท่เี หมาะสม ความรับผดิ ชอบต่อสังคมและความปลอดภัยแก่นกั เรียน จึงขอแตง่ ตัง้ คณะกรรมการ
ดำเนินงานแกนนำสง่ เสรมิ ความประพฤตินกั เรียนและนักศึกษา ดังตอ่ ไปน้ี

๑. คณะกรรมการทป่ี รึกษา ประกอบด้วย

๑.๑ ผ้อู ำนวยการโรงเรยี น ท่ปี รึกษา

๑.๒ รองอำนวยการโรงเรียน ท่ปี รกึ ษา

๑.๓ ผู้ชว่ ยผูอ้ ำนวยการ ที่ปรกึ ษา (ถ้ามี)

มีหนา้ ที่ สง่ เสริมสนบั สนนุ ให้คำปรึกษา และอำนวยความสะดวกในการปฏบิ ัติงาน

๒. คณะกรรมการอำนวยการ ประกอบดว้ ย

๒.๑ รองผู้อำนวยการ (ทร่ี ับผิดชอบ) ทีป่ รึกษา

๒.๒ หวั หน้าฝา่ ยปกครอง ทปี่ รึกษา

๒.๓ ครูผูร้ บั ผิดชอบ ประธาน

๒.๔ ครูในฝ่ายปกครอง กรรมการ

๒.๕ หัวหนา้ ระดบั ชน้ั /สายชน้ั กรรมการ

๒.๖ ครูในฝ่ายปกครอง เลขานุการ

มีหนา้ ที่ แนะนำดูแลให้คำปรึกษา และอำนวยความสะดวกในการปฏบิ ตั ิงาน

๑๐๐

๓. คณะกรรมการดำเนนิ งาน ประกอบด้วย

๓.๑ นกั เรียน ประธาน

๓.๒ นักเรียน รองประธาน คนท่ี 1

๓.๓ นักเรียน รองประธาน คนที่ 2

๓.๔ นักเรียน กรรมการ

๓.๕ นักเรียน กรรมการ

๓.๖ นักเรียน กรรมการ

๓.๗ นักเรยี น เลขานกุ าร

๓.๘ นกั เรยี น ผูช้ ว่ ยเลขานุการ

๓.๙ นกั เรยี น เหรญั ญกิ

๓.๑๐ นกั เรียน ปฏคิ ม

๓.๑๑ นักเรียน ประชาสัมพนั ธ์

หมายเหตุ ตำแหน่งอนื่ ๆ ตามความเหมาะสม

มีหน้าที่
1) หาขอ้ มูลเกี่ยวกบั ความประพฤตขิ องนักเรียนหรือนกั ศกึ ษาทไี่ มเ่ หมาะสม
2) ใหค้ ำปรกึ ษาแนะนำแก่นักเรียนหรอื นักศกึ ษา
3) สอดสองดูแลรวมทัง้ รายงานตอครู อาจารยฝ์ า่ ยปกครอง หรือครู พสน.ในโรงเรียน เกยี่ วกับ
พฤติกรรมของนกั เรียน นักศึกษาหรือแหลงทม่ี ั่วสมุ ของนักเรียนหรือนกั ศึกษา
4) ประสานความร่วมมอื กับเครอื ข่ายแกนนำตา่ งสถานศึกษา เพื่อสง่ เสริมความประพฤตนิ ักเรยี น
และนักศึกษา
5) ส่งเสรมิ สนบั สนนุ และดำเนนิ การการจดั กิจกรรมทีเก่ียวขอ้ งกบั การส่งเสรมิ ความประพฤติ
นักเรยี นและนักศึกษา
6) ปฏบิ ัตงิ านอ่ืนตามที่ไดร้ ับมอบหมาย

ขอให้ผู้ที่ได้รับแต่งต้ังปฏิบัติหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมายให้มีประสิทธิภาพ เกิดผลดีต่อตนเองและ
สถานศึกษาต่อไป

ทั้งนี้ ตัง้ แต่บัดนี้เป็นต้นไป

ส่งั ณ วนั ที่...........เดือน....................พ.ศ. .............

(........................................................)
ผู้อำนวยการโรงเรยี น......................................

๑๐๑

รายวิชา กิจกรรมกลุม่ สมั พันธ์

ระยะเวลา ๑ ชวั่ โมง

วตั ถุประสงค์
๑. เพ่อื ใหผ้ รู้ ับการฝึกอบรมเกิดความสนกุ สนาน รา่ เรงิ และเกิดปฏสิ มั พันธ์อนั ดรี ะหว่างผ้เู ข้ารบั

การฝึกอบรม
๒. เพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างประสบการณ์ และสร้างทัศนคติ

ทด่ี ตี อ่ กนั และพรอ้ มทจ่ี ะฝึกอบรม

ขอบขา่ ยเนื้อหาวิชา
๑. เกมส์
๒. เพลง

กจิ กรรมการเรยี นรู้
๑. การสาธติ
๒. การระดมสมอง
๓. การฝึกปฏบิ ัติ

สื่อการฝกึ อบรม
๑. ใบงาน
๒. อปุ กรณป์ ระกอบการเลน่ เกม
๓. เคร่ืองประกอบจังหวะ ดนตรี

การวดั และประเมินผล
๑. การสงั เกต
๒. การรว่ มกิจกรรม

๑๐๒

เน้อื หาวิชา กิจกลุ่มสมั พนั ธ์

ขน้ั ตอนการดำเนินกิจกรรม
วิทยากรกลา่ วทักทายและสรา้ งความคุ้นเคยเพ่ือให้ผเู้ ข้ารับการอบรมร้สู กึ ผ่อนคลาย

กิจกรรมการเรยี นรู้
๑. เริม่ กิจกรรมเด่ียวโดยการออกท่าทางด้วยการปรบมือประกอบเพลงจังหวะที่ไมช่ ้าหรอื เร็วจนเกนิ ไป

เช่นเพลง เช้าวนั หนึ่งวันนั้น
“เช้าวันหนง่ึ วนั นัน้ วนั หนงึ่ วนั นั้น เจด็ นาฬกิ า

เธอกระโดดเขา้ มา มาบอกว่ารกั รักฉนั คนเดยี ว
ฉนั ก็บอกวา่ รกั ก็บอกว่ารกั รักเธอคนเดียว
คนอ่นื จะไม่แลเหลยี ว จะไม่แลเหลียวใหเ้ สียเวลา”

๒. จากน้นั เริม่ เล่นเปน็ คู่ และเพิม่ จำนวนคนขึ้นเร่ือย ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยโดยใชเ้ พลงและท่าทาง
เป็นส่อื (ทา่ ทางวิทยากรสามารถออกแบบเองไดต้ ามถนดั )

๓. เพื่อทำความรจู้ ักกันมากขึ้นวิทยากรจะทำกจิ กรรม มาตามนัด โดยวทิ ยากรจะแจกใบงานใหค้ นละ
๑ ใบ ดงั น้ี

เวลา บคุ คลทนี่ ัดหมาย สถานที่
๐๘.๐๐ น. ป้ายรถเมล์
๐๙.๐๐ น. Café’
๑๐.๐๐ น. น้ำตกเจ็ดสาวนอ้ ย

๔. วิทยากรให้เวลา ประมาณ ๑๐ นาที ให้แต่ละท่านไปทักทายสนทนากับเพ่ือนร่วมอบรมด้วยการ
สวัสดีทักทาย แนะนำตัวเอง ขออนุญาตนัดหมายกับเพื่อนที่ทำความรู้จัก โดยให้ได้รายชื่อผู้ท่ีนัดหมาย
มากทส่ี ุด

๕. เมื่อหมดเวลาให้ทกุ คนน่งั ท่ี วทิ ยากรสุม่ การนดั หมาย โดยเรียกผอู้ บรมทลี ะท่าน แล้วนำใบงานมา
อา่ นแลว้ ถาม เวลาน้ี ทา่ นนัดใคร ใหช้ ี้ตวั ใหถ้ กู ถา้ ไม่ถกู อาจจะถูกลงโทษดว้ ยการเต้นรำร้องเพลงสนุกสนาน
แล้วให้คนทีเ่ พ่ือนทายไม่ถูกปรากฏตวั แลว้ นำใบงานมาเล่นเป็นคนต่อไป ทำเช่นนี้ประมาณ ๕-๖ คน

๖. วทิ ยากรเปลย่ี นกจิ กรรมโดยการให้จับกลุม่ กลุ่มละประมาณ ๗-๑๐ คน แล้วใหท้ กุ คนยนื จับมือ
กันเป็นวงกลม รอสัญญาณจากวทิ ยากร เมื่อได้ยินสญั ญาณเรมิ่ ใหท้ ุกคนช่วยกนั หาวิธียนื หันหลงั ใหก้ นั โดยจับ
มอื กันตลอดเวลาหา้ มปล่อยมือ

๗. เม่อื ทกุ ทีมทำประสบความสำเรจ็ แลว้ วทิ ยากรบอกใหแ้ ตล่ ะทมี ยงั ไมป่ ล่อยมือออกจากกนั จากน้ัน
แต่ละทมี รอฟังสญั ญาณจากวิทยากร เมอื่ ได้ยนิ สัญญาณ ให้แตล่ ะทมี หาวธิ ียนื หันหนา้ เข้าหากนั โดยไม่ปล่อย
มือออกจากกนั

๘. เม่อื แต่ละทีมทำสำเร็จแล้ว วทิ ยากรให้แตล่ ะทีมนั่งลงเป็นวงกลม แลว้ ให้แตล่ ะทีมสรุปกจิ กรรม ดังน้ี
๘.๑ เขยี นแสดงความรูส้ ึกทไี่ ด้เลน่ กิจกรรม
๘.๒ อปุ สรรคทท่ี ำให้การเลน่ กิจกรรมน้ปี ระสบความสำเรจ็ ช้ามาจากอะไร
๘.๓ สิ่งทท่ี ำใหก้ ิจกรรมประสบความสำเร็จมาจากอะไร
๘.๔ ทมี มคี วามสำคญั หรือไม่ในการทำกจิ กรรม

๑๐๓

๙. วิทยากรร่วมสรุปให้เห็นความสำคัญของมิตรภาพ และการทำงานร่วมกันเป็นทีม มีความสำคัญ
ในการดำรงชีวิตร่วมกนั ในสังคมอย่างมคี วามสุข

๑๐. วิทยากรช้แี จงขอ้ ตกลงร่วมกันระหว่างการฝึกอบรม Power Point
๑๐.๑ การตรงตอ่ เวลา และเข้ารบั การอบรมและปฏิบตั ิกจิ กรรมตามตารางการอบรม
๑๐.๒ การแบง่ กลุ่ม และช่อื กลุม่
๑๐.๓ การแต่งกาย แตง่ กายสภุ าพ
พิธเี ปดิ พิธีปิด เคร่ืองแบบนักเรียน
ระหว่างอบรม
- หญงิ สวมเสื้อมีแขน กางเกงขายาว ไม่มรี อยขาด รองเท้าห้มุ ส้น
- ชาย สวมเสอื้ มแี ขน กางเกงขายาว ไมม่ รี อยขาด รองเทาหุ้มสน้
๑๐.๔ ไมพ่ กพาอาวธุ ของมีคม ไม่เลน่ การพนนั ไม่ยงุ่ เก่ียวกบั สงิ่ เสพติด ไมด่ ่ืมของมนึ เมา
๑๐.๕ ไมป่ ระพฤติตนในเรือ่ งชสู้ าว
๑๐.๖ ไม่ทง้ิ สิง่ ของมคี ่าไวใ้ นทพ่ี ัก
๑๐.๗ มเี วลาในการอบรมไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาอบรมทง้ั หมด

๑๐๔

ใบงาน “มาตามนัด”

คำชีแ้ จง ให้ทา่ นไปทักทายเพอ่ื นร่วมอบรม และแนะนำตนเองใหเ้ พือ่ ทราบว่าทา่ นชื่อ นามสกุลอะไร แลว้ ทำ
การนดั หมายกันตามเวลาท่ที า่ นต้องการนดั หมายจากตารางข้างลา่ งน้ี

เวลา บุคคลท่ีนัดหมาย สถานท่ี
๐๘.๐๐ น. ปา้ ยรถเมล์
๐๙.๐๐ น. บา้ นเพ่ือน
๑๐.๐๐ น. หา้ งสรรพสินค้า
๑๑.๐๐ น. FS ท่ีโรบินสนั
๑๒.๐๐ น. ทานขา้ ว
๑๓.๐๐ น. Café’ ในหา้ ง Big C
๑๔.๐๐ น. ไปเท่ยี วน้ำตก
๑๕.๐๐ น. ถนนรมิ ทะเล
๑๖.๐๐ น. ทบ่ี า้ น
๑๗.๐๐ น. สวนสาธารณะ
๑๘.๐๐ น. ทานขา้ ว
๑๙.๐๐ น. ตลาดถนนคนเดิน
๒๐.๐๐ น. บา้ นเพ่อื น
๒๑.๐๐ น. โรบินสนั
๒๒.๐๐ น. รา้ นอาหารตะวันแดง
๒๓.๐๐ น. ต่างจังหวัด
๐๐.๐๐ น. เขาใหญ่
๐๑.๐๐ น. หอ้ งสมดุ
๐๒.๐๐ น. สวนสาธารณะ
๐๓.๐๐ น. โรงแรม
๐๔.๐๐ น. ทบ่ี ้าน
๐๕.๐๐ น. เสาชงิ ชา้
๐๖.๐๐ น. รา้ นข้าวตม้
๐๗.๐๐ น. โรงเรยี น

๑๐๕

ใบงาน การสรปุ กิจกรรม

คำชีแ้ จง ให้กล่มุ ของท่านระดมสมองแสดงความคิดแล้วเขียนลงกระดาษฟลิปชารท์ ตามหัวขอ้ ดงั น้ี
๑. เขยี นแสดงความรสู้ กึ ที่ไดเ้ ล่นกิจกรรม
๒. อปุ สรรคทท่ี ำให้การเลน่ กิจกรรมนี้ประสบความสำเร็จช้ามาจากอะไร
๓. สง่ิ ท่ีทำใหก้ จิ กรรมประสบความสำเร็จเรว็ มาจากอะไร
๔. ทมี มีความสำคัญหรือไม่ในการทำกิจกรรม
๕. จากน้นั ใหส้ ่งตวั แทนออกมานำเสนอต่อท่ปี ระชุม

๑๐๖

ใบความร้สู ำหรบั วทิ ยากร
วชิ ากิจกรรมกลุ่มสมั พนั ธ์

ขอบข่ายกจิ กรรมกล่มุ สมั พนั ธ์
การจัดกจิ กรรมกลมุ่ สมั พนั ธ์ เพอ่ื เปน็ การสรา้ งความคุ้นเคยใหก้ ับสมาชิกผู้เข้าอบรมน้นั มีความจำเปน็

อยา่ งยิ่งสำหรบั การจัดการฝึกอบรมแต่ละครัง้ เพราะจะเปน็ การกระต้นุ ให้ผเู้ ขา้ รบั การอบรมได้แสดงออกและมี
การเปล่ยี นแปลงพฤติกรรมไปตามวัตถปุ ระสงคข์ องการฝึกอบรมนัน้ ๆอันจะเปน็ ผลทำให้การฝึกอบรมดำเนนิ ไป
ด้วยความราบรนื่

วตั ถปุ ระสงคก์ ิจกรรมกลุม่ สัมพันธ์
๑. เพอ่ื ใหผ้ รู้ ับการอบรมหรือเขา้ ร่วมกจิ กรรมเปดิ ใจรว่ มกัน ยอมรบั ซ่ึงกันและกนั และยอมรบั ในความ

แตกตา่ งของผู้ร่วมงาน
๒. เพอ่ื ใหผ้ ู้รบั การอบรมกลา้ แสดงออก และปรับตวั เขา้ หากันอยา่ งเร็วที่สดุ
๓. เพือ่ ให้ผรู้ ับการอบรมหรือเขา้ รว่ มกิจกรรมได้เรยี นรูแ้ ละเขา้ ใจในพฤติกรรมของผ้รู ่วมกิจกรรม

ยอมรบั ฟงั และเห็นประโยชน์ความคิดของผู้อืน่ อันจะก่อให้เกดิ ผลในเชิงบวกต่อองค์กร
๔. เพือ่ เสรมิ สร้างความเปน็ อันหนึง่ อนั เดียวกนั และเกิดความรสู้ ึกท่ดี ีต่อกัน
๕. สรา้ งบรรยากาศสนุกสนาน ผ่อนคลายความเครียด

การจดั ประเภทของกลุ่มสัมพันธ์
กิจกรรมกลมุ่ สมั พนั ธส์ ามารถแบ่งออกได้ ๒ ประเภท (วรภา ชัยเลศิ วณิชยกลุ , ๒๕๓๕ : ๕-๖)
๑. แบบท่ยี ึดสถานที่ในการอบรมเป็นหลัก แบง่ เป็น ๒ ประเภท คือ
๑.๑ กิจกรรมในสถานท่ี เป็นกิจกรรมที่ใช้ในห้องฝึกอบรม ซ่ึงการจัดที่น่ังก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม

ทั้งน้ีย่อมต้องพิจารณาข้อจำกัดต่างๆเช่น ขนาดของห้อง จำนวนผู้เข้ารับการอบรม ลักษณะของโต๊ะ เก้าอี้ท่ีใช้
ประกอบกันไปด้วย กิจกรรมในสถานท่ีนี้โดยทั่วไปแล้วจะเป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนน่ังอยู่กับที่ วาดภาพ
วาดลักษณะเด่นของตนเอง ทายลักษณะนิสัยในรูปแบบต่างๆ หรือหากจะมีการเคลื่อนไหวก็จะเคลื่อนไหวท่ีไม่
รุนแรง หรือเร็วมากนกั เพราะอาจเกิดอันตรายจากโต๊ะ เก้าอี้ ซงึ่ เปน็ ส่ิงกีดขวางอยู่

๑.๒ กิจกรรมนอกสถานท่ี เป็นกิจกรรมท่ีจำเป็นต้องอาศัยสถานที่บรเิ วณกว้างขวางการจัดกิจกรรม
เพ่ือสร้างความคุ้มเคยนอกสถานที่น้ัน ที่นิยมกันจะจัดประกอบการสัมมนาตามต่างจังหวัดซ่ึงอาจไปพัก
ตามศูนย์ฝึกอบรมหรือตามโรงแรมต่างๆ โดยจัดที่นั่งให้เหลือเฉพาะเก้าอี้เป็นวงกลมวงเดียวกิจกรรมท่ีใช้
ก็สามารถกำหนดให้หลากหลาย สามารถประยุกต์กิจกรรมนันทนาการบางกิจกรรมที่สอดแทรกแง่คิด
ที่ผสมผสานได้ บางหน่วยงานกำหนดในโปรแกรมว่า “กิจกรรมเสริมสร้างกลุ่มสัมพันธ์”เลยก็มี ทั้งน้ีเพ่ือสร้าง
ความรสู้ ึกทด่ี ีต่อกนั อนั จะชว่ ยลดหรอื ป้องกันปญั หาความขดั แยง้ ที่จะเกดิ ข้นึ ในช่วงการสมั มนาที่มตี อ่ ไป

กิจกรรมที่แบ่งโดยสถานที่เป็นหลักนี้ บางกิจกรรมไม่สามารถจะแบ่งแยกให้เด่นชัดได้ คือ สามารถ
ใช้ได้ท้ัง 2 ประเภท ขึ้นอยกู่ ับความเหมาะสมและการนำไปปรับใชต้ ลอดจนทักษะความคิดริเร่มิ สร้างสรรคข์ อง
ผ้นู ำกิจกรรมดว้ ย

๒. แบบทย่ี ดึ ช่วงเวลาท่ีใชใ้ นการสร้างความค้นุ เคยเปน็ หลัก
๒.๑ กิจกรรมท่ใี ช้ในวนั แรกเมื่อเปิดการอบรม โดยทว่ั ไปกจิ กรรมนี้จะจัดทนั ทีที่พิธเี ปิดการฝึกอบรม

ไดเ้ สร็จสิน้ ไป ซงึ่ อาจมีการค่ันรายการโดยการพกั เบรค หรือไมก่ ็แลว้ แตค่ วามเหมาะสม เวลาในการจัดกิจกรรม

๑๐๗

มกั จะกำหนด ไว้ประมาณ ๓๐-๔๕ นาที ซง่ึ หากผูด้ ำเนินกจิ กรรมไม่สามารถดำเนนิ กจิ กรรมให้แลว้ เสร็จใน
เวลาท่ีกำหนด ก็อาจไปดำเนินการตอ่ โดยขอใช้เวลาในช่วงเชา้ เวลา ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐ น. กอ่ นเร่มิ การฝึกอบรม
ในวนั ต่อๆ ไป หรือขอผเู้ ขา้ รบั การฝึกอบรมเข้าช้นั เรยี นมาในช่วย ไหแ้ ล้วเสร็จ

๒.๒ กิจกรรมทใ่ี ชส้ อดแทรกหรอื ค่นั รายการระหว่างดำเนนิ การอบรม มักจะใช้เรียก
ความสนใจจากกลมุ่ หรอื ใชแ้ ทรกในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น

- ใช้คั่นเวลาคณะรอวทิ ยากร เมอ่ื มีเหตขุ ลุกขลกั ไม่สามารถได้ทนั เวลา
- ใชเ้ ปดิ รายการในชว่ งเช้าเพ่ือทบทวนเน้ือหา และสรา้ งความต่อเนอ่ื งกบั บทเรียนก่อน
- ใชแ้ ทรกในชว่ งว่าง โดยขอความร่วมมือจากผู้เขา้ การอบรมให้เข้าช้ันเรียนในช่วงเช้าหรอื ชว่ ง
บ่ายให้เร็วกวา่ กำหนด เพื่อจัดกิจกรรมนใ้ี ห้แก่กลมุ่ โดยเฉพาะช่วงเชา้ หรือช่วงบา่ ยใหเ้ ร็วกวา่ กำหนดจดั
กจิ กรรมนใี้ ห้แกก่ ลุ่มโดยเฉพาะ

การเลอื กกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์
กอ่ นเลือกใช้กิจกรรมใดกต็ าม สิ่งทผ่ี ู้นำกิจกรรมนำมาเปน็ องคป์ ระกอบในการพิจารณาตามลำดับขัน้

เพอ่ื ช่วยในการดำเนนิ กจิ กรรมราบรน่ื และยงั เกดิ ผลดตี ามตอ้ งการคอื
๑. ระดับสมั พันธภาพของผเู้ ข้ารบั การอบรม
ระดับความสัมพันธ์จะเป็นตัวกำหนดวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง ซ่ึงจะกล่าวใน

ขอ้ ควรคำนงึ ประการต่อไป โดยท่วั ไปแลว้ ระดับสัมพันธภาพของผู้เข้าร่วมการอบรมสามารถแบ่งออกได้ 3 ระดบั คอื
๑.๑ ผู้เข้ารับการอบรมที่ไม่เคยรู้จักหรือคุ้นเคยกันมาก่อน หรืออาจจะเคยเพียงแค่เห็นหน้าผ่านไปผ่านมา

เท่าน้ัน ตัวอย่างของสัมพันธภาพในระดับน้ี เช่น ผู้เข้ารับการอบรมในหลักสูตรปฐมนิเทศพนักงานใหม่
ซึ่งจะต้องส่งไปประจำทำงานแยกย้ายตามแผนกหรือฝ่ายต่างๆ หรืออาจจะเป็นหลักสูตรฝึกอบรมที่เป็นความ
ต้องการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ท่ีจะส่งพนักงานหรือเจ้าหน้าที่มาเพ่ิมพูนความรู้ทักษะ ทัศนคติ ท่ีเหมาะสม
ในการปฏบิ ัติงาน

๑.๒ ผู้เข้ารบั การฝึกอบรมทีร่ ู้จักกันมานานแล้ว ระดับการรจู้ ักกันนจ้ี ะเป็นการรู้จักแบบไมล่ ึกซึ่งนัก
ทราบว่าอยู่ท่ีทำงานเดียวกัน อาจจะเคยพบปะ ติดต่องานกันบ้าง พุดคุยทักทายกันบ้าง ตัวอย่างของการ
ฝึกอบรมซึ่งผู้เข้ารับการอบรมส่วนใหญ่จะจัดอยู่ในแบบน้ี คือหลักสูตรอบรมผู้บังคับบัญชา อบรมนักบริหาร
ระดบั ต้นของหน่อยงาน อบรมสัมพนั ธภาพในการทำงานร่วมกันสำหรบั องค์กรซ่งึ มขี นาดใหญ่เป็นต้น

๑.๓ ผูเ้ ข้ารับการอบรมรู้จกั กันอย่างสนิทสนม อาจจะเน่ืองมาจากเคยทำงานรว่ มกันมานาน หรือ
ต้องทำงานติดต่อกันใกล้ชิดกันเป็นประจำ ตัวอย่างของการฝึกอบรมหลักสูตรสำหรับบุคคลที่มีสัมพันธภาพ
ระดับน้ี เช่น การอบรมพฒั นาทมี งานของฝา่ ย แผนก หรือการสมั มนาปญั หาในการปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั เป็นตน้

จากการพิจารณาระดับสัมพันธภาพ ประกอบหลักสูตรท่ีจัดน้ีเองจะเป็นตัวกำหนดวัตถุประสงค์ของ
การจัดกิจกรรม เพื่อสร้างความคุ้นเคยซ่ึงกำหนดได้เหมาะสมมากน้อยเพียงใดนั้น ข้ึนอยู่กับคุณภาพของข้อมูล
ทผ่ี ้จู ัดทำดำเนนิ การมีอย่นู นั่ เอง วา่ จะวิเคราะหร์ ะดบั สมั พนั ธภาพไดถ้ กู ตอ้ งใกล้เคียงความจรงิ ได้เพียงใด

๒. วัตถปุ ระสงค์ของการจัดกจิ กรรมเพ่ือสรา้ งความคนุ้ เคย
ในการเลือกใช้กิจกรรมเพื่อสร้างความคุ้นเคยนั้น ต้องคำนึงว่าจัดเพื่ออะไร ต้องการให้บรรลุ

วัตถุประสงค์ในข้อใดบ้าง มิใช่จัดเพ่ือความสนุกสนานเฮฮาแต่เพียงอย่างเดียว วัตถุประสงค์กลาง ๆ ที่พอยึด
เปน็ แนวทางได้ คอื

๒.๑ กรณีระดับสัมพันธภาพของผู้เข้ารับการอบรมเป็นแบบที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนผู้จัดย่อม
กำหนดวัตถุประสงค์หลักที่จะให้คนในกลุ่มน้ีรู้จักกันอย่างรวดเร็วในเวลาอั้นสั้น ในบรรยากาศที่เป็นมิตรตื่นตัว
สนุกสนาน

๑๐๘

๒.๒ กรณีที่ระดับสัมพันธภาพของผู้เข้ารับการอบรมเป็นแบบคุ้นเคยรู้จักกันมาบ้างแล้วผู้จัดย่อม
กำหนดกิจกรรมที่จะให้เขาได้รู้จักกันดียิ่งขึ้น กล่าวคือมิใช้รู้จักภายนอกผิวเผินเช่นเดิมแต่จะเลือกกิจกรรมท่ีให้
แต่ละคนได้รู้รายละเอียดเก่ียวกับบุคคลผู้น้ันเพิ่มมากข้ึน ได้มีโอกาสสนิทสนมกันและเร่ิมท่ีจะทำความเข้าใจ
เรียนรู้จกั ท่จี ะยอมรบั กนั และกัน

๒.๓ กรณีที่ระดับสัมพันธภาพของผู้เข้าอบรมเป็นแบบรู้จักกันอย่างสนิทสนม กิจกรรมที่ใช้
มักกำหนดให้ผู้เข้ารับการอบรมได้เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกัน ได้รู้จักสนิทใจคอที่แท้จริงของกันและกันรู้จักให้
อภัยหรือเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน หรือมิเช่นน้ีอาจจะมุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนเพื่อนำไปสู่
เนือ้ หาทต่ี ้องการ

ในการเลือกกิจกรรมต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์หลักสำคัญ อย่างไรก็ตามหากผู้นำรู้จักใช้กิจกรรมต่างๆ
อย่างกว้างขวางจะพบว่ามีหลายกิจกรรมท่ีดี เม่ือใช้แล้วสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้มากกว่า 1 ประการ เช่น
นอกจากจะให้กลุ่มได้รู้จักกันอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้นแล้ว ยังช่วยให้กลุ่มเกิดบรรยากาศที่สนุกสนานได้ฝึก
การทำงานเปน็ ทมี หรือสามารถโยงเข้าสเู่ น้อื หาได้อีกด้วย

อยา่ งไรก็ตามมไิ ด้หมายความว่าการจัดกิจกรรมเพอื่ สร้างความคุ้นเคยน้ันจำเป็นในสถานการณ์เสมอไป
หากผู้เขา้ อบรมมีความคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว กลุ่มไม่มปี ญั หาเรื่องอคติท่มี ีตอ่ กนั และมีทศั นคติที่ดตี ่อการฝึกอบรม
อยู่แลว้ ก็อาจจะเร่ิมการอบรมในทันทีเลยได้

๓. ข้อมูลต่าง ๆ เกยี่ วกบั ผเู้ ข้าอบรม
เม่อื พจิ ารณาระดบั ความสมั พันธภาพของผเู้ ขา้ รับการอบรมและกำหนดวัตถปุ ระสงค์ท่ตี อ้ งการไว้

อยา่ งชดั เจนแลว้ การจะจดั กิจกรรมใหบ้ รรลผุ ลสำเร็จยอ่ มตอ้ งคำนึงถึงกลุม่ เป้าหมายเป็นองค์ประกอบสำคัญ
อีกเชน่ เดยี วกนั ท้ังนี้ เพราะกลุ่มแตล่ ะกลุ่มจะมีพฤตกิ รรมที่แตกตา่ งกนั ออกไปขอ้ ที่ต้องการพจิ ารณาเมือ่ ผ้นู ำ
สามารถควบคุมการดำเนินกจิ กรรมใหบ้ รรลุเป้าหมายอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพดังน้ี คอื

๓.๑ จำนวนผเู้ ข้ารับการอบรม หากเป็นกลุ่มเล็กกค็ วรเลือกกิจกรรมท่ีจะเปิดโอกาสให้สมาชิกบางคน
ได้แสดงออกในรปู แบบกลุ่มย่อยมากกว่าเป็นรายบุคคล ท้ังนี้เพ่ือประหยัดเวลาและลดความเครียดของสมาชิก
บา้ งคนทไ่ี ม่คุน้ เคยกับการแสดงต่อหน้าชุมชนมากนกั

๓.๒ เพศ กรณีท่ีรับการอบรมมีท้ังเพศหญิงและเพศชายคละกัน การจัดกิจกรรมจะมชี ีวิตชีวาคกึ คัก
กว่ากันเป็นของธรรมดา แต่โดยท่ัวไปผู้จัดการไม่สามารถกำหนดได้ เนื่องจากจะต้องข้ึนอยู่กับลักษณะเนื้อหา
ของหลักสูตร กรณีเป็นชายล้วนนิยมใช้กิจกรรมท่ีเน้นให้เห็นถึงสารประโยชน์ท้ังได้จากการเข้าร่วมกิจกรรม
แข่งขันสนุกสนานเร้าใจชวนให้ติดตาม ส่วนกรณีเป็นหญิงล้วน ๆ ควรเป็นกิจกรรมที่ไม่โลดโผนนัก เน้นการ
สร้างบรรยากาศท่ีเปน็ มติ ร สุภาพ

๓.๓ วัย หรืออายุภาพรวมๆ ของผู้เข้ารับการอบรม ท้ังน้ี เพ่ือเลือกกิจกรรมให้เหมาะสมกับสภาพ
ร่างกาย สภาพอารมณ์ และประสบการณ์ความนึกคิดตา่ งๆ ซึ่งมีวัยเป็นตัวกำหนด หากวัยแตกต่างกันหรอื คละ
กันมาก กิจกรรมทีเ่ ลือกควรระมดั ระวงั เป็นพเิ ศษใหส้ ามารถตอบสนองทุกวัยได้

- กรณีผู้เข้ารับการอบรมส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว กิจกรรมควรจะมีความรวดเร็วกระชับ
หลากหลาย และต้องเน้นกตกิ าการแขง่ ขนั ท่ีชดั เจน พร้อมทั้งมีรางวลั เป็นสิง่ จงู ใจให้อยากมีส่วนร่วมในกจิ กรรม
มากขึ้น

- กรณีท่ีผู้เข้ารับการอบรมส่วนใหญ่อยู่ในวัยกลางคน กิจกรรมควรต้องการเคลื่อนไหวบ้าง
แต่มิใช่การเคล่อื นไหวรนุ แรง หรือมกี ารแข่งขันเอาชนะกันแบบเข้มข้นเกินไป ควรเน้นใช้ความคดิ การวางแผน
การทำงานตา่ งๆ ใหม้ าก

- กรณีท่ีผู้เข้าร่วมการอบรมส่วนใหญ่เป็นสูงอายุ หากมีการเคล่ือนไหวควรเป็นการเคล่ือนไหว
แบบเดินไปเดินมาสบายๆ ไม่เร่งรีบ กิจกรรมควรเป็นการใช้สมอง การใช้ความคิด การคิดแก้ปัญหาร่วมกัน

๑๐๙

รวมท้ังการให้บุคคลเหล่านี้ได้มีโอกาสเผยตัวเองในสิ่งที่ทำให้เจ้าตัวเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจ ซ่ึงอาจเป็น
ประสบการณ์สำเร็จของชวี ิตการทำงานในอดีตก็ได้

๓.๔ พื้นฐานความรู้และประสบการณ์ ผู้มีพื้นฐานทางการศึกษาไม่สูงนักหรือมีประสบการณ์น้อย
ควรเลือกกิจกรรมที่มีข้ันตอนไม่ยุ่งยากซับซ้อน เข้าใจง่าย เพ่ือความสะดวกสบายที่จะเข้าร่วมกิจกรรมได้เต็มที่
ไม่เล็งเห็นคุณค่า กิจกรรมท่ีเหมาะสมสำหรับคนกลุ่มนี้จึงควรเป็นกิจกรรมท่ีท้าท้ายความสามารถโดยเฉพาะ
ในการใช้ความคดิ เปน็ สำคัญ

๓.๕ พ้นื ฐานประสบการณ์ในการอบรม หากผู้เข้าร่วมกจิ กรรมสามารถทราบข้อมูลประวตั ิการเข้า
รับการอบรมหลักสูตรก่อนๆ ของผู้เข้ารับการอบรมได้จะช่วยให้สามารถเลือกกิจกรรมที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำกับ
ที่ผูเ้ ขา้ รบั การอบรมร้จู ักมาแล้ว หรืออาจดึงผทู้ ี่มีประสบการณ์มาเปน็ ผู้ชว่ ยนำกจิ กรรมดว้ ยก็ได้

๔. เวลา
ผนู้ ำกิจกรรมควรเลือกกจิ กรรมที่เหมาะสมกบั เวลา หรอื หากจำเปน็ ตอ้ งมีกิจกรรมต่อเนื่องเนื่องจาก

ผู้เข้ารับการอบรมมีจำนวนมาก ก็ควรเลือกกิจกรรมที่สามารถตัดต่อกันได้ โดยไม่ทำให้เสียหายความสัมพันธ์
หรือความต่อเน่ืองไป การบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือบริหารให้เป็นไปตามตารางเวลาท่ีกำหนด
จะชว่ ยสร้างภาพพจนท์ ดี่ ตี อ่ ผเู้ ขา้ รับการอบรมเอง และตอ่ วิทยากรทจี่ ะตอ้ งทำหนา้ ทีบ่ รรยายในช่วงเวลาต่อไป

๕. สถานท่ี
หากเลือกได้ห้องที่ต้องใช้การฝึกอบรมควรมีขนาดกว้างขวางพอท่ีจะจัดกิจกรรมได้สะดวก และโต๊ะ

หรือเก้าอี้ที่ควรเป็นอุปกรณ์ที่คล่องตัวในการเคลื่อนย้ายไปมา อย่างไรก็ตาม ในการจัดกิจกรรมเพ่ือสร้าง
ความคุ้นเคย ในวันแรกเม่ือเปิดการอบรมนี้ ผู้จัดมักต้องใช้สถานที่ซึ่งจัดไว้สำหรับการเรียนโดยเฉพาะอยู่แล้ว
การเลือก กิจกรรมจึงควรคำนึงถึงความสะดวกในการเคลื่อนไหวของผู้เข้ารับการอบรมกรณีทตี่ ้องมีการแข่งขัน
ดว้ ย อนั เนอื่ งมาจากการตำแหน่งในการนัง่ เปน็ เหตุ

๖. อปุ กรณ์และส่ิงอำนวยความสะดวกอ่ืน ๆ
ผู้จัดกิจกรรมควรเตรียมการให้พร้อมว่ากิจกรรมท่ีเลือกใช้ต้องใช้กิจกรรมอะไรบ้าง จำนวนเท่าใด

หลักในการเตรียมอุปกรณ์ควรเตรียมไว้ให้เกินจำนวนผู้เข้ารับการอบรม และพร้อมท่ีจะยืดหยุ่นเพ่ิม ลดได้
ตามเหตุการณ์เฉพาะท่ีอาจจะเกิดข้นึ ซึง่ ย่อมขนึ้ อยกู่ บั ลกั ษณะของกิจกรรมนั้นเองด้วย

กรณีท่ีจัดหาอุปกรณ์ไม่ได้ตามต้องการผู้นำกิจกรรมควรคิดดัดแปลง หรือหาส่ิงอื่นที่สามารถใช้
ทดแทนกันได้ก็จะเป็นการช่วยลดข้อจำกัดต่างๆ ลง และควรมีการตรวจสอบความพร้อมใช้อุปกรณ์ล่วงหน้า
เพือ่ ความมนั่ ใจทกุ คร้ังกอ่ นดำเนินกจิ กรรม

ส่วนส่ิงของอำนวยความสะดวกอ่ืนๆ นั้น หากผู้จัดสามารถจัดหามาใช้ได้จะเป็นการทุ่นเวลา หรือ
ช่วยในการส่ือสารใหช้ ดั เจนยง่ิ ขึน้ เช่น เทปเพลงที่เปิดคลอเบาๆ ขณะทำกิจกรรมเพ่ือสรา้ งบรรยากาศ แผ่นใสท่ี
ใช้กับเคร่ืองฉายภาพข้ามศีรษะ เพ่ือประกอบการอธิบายกติกาการแข่งขันให้เข้าใจชัดเจนตรงกัน ผู้จัดกิจกรรม
ควรศึกษาวิธกี ารใช้เครอ่ื งหรือสิ่งอำนวยความสะดวกเหลา่ น้นั เพ่อื ปอ้ งกนั การขดั ขอ้ งใช้งานไม่ไดอ้ ีก

๗. ผู้ชว่ ยผจู้ ัดกิจกรรมควรเตรียมผู้ช่วยเหลอื ไว้ในกรณีต่อไปนี้ คอื
๗.๑ เมื่อผู้เข้ารับการอบรมมีจำนวนมาก ผู้นำกิจกรรมคนเดียวไม่สามารถดูแลทุกคนได้อย่างทั่วถึง

หรือคอยดูแลในเร่ืองการรักษากติกา กรณีที่มีการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันประเภททีมหรือการแข่งขัน
รายบุคคล

๗.๒ เม่ือผู้จัดการเองทราบว่าคนไม่ค่อยมีอารมณ์ขันมากนัก หรือมีประสบการณ์ในการเป็นผู้นำ
กิจกรรมมาไม่มากนัก อาจเตรียมผู้ช่วยสร้างบรรยากาศประกอบได้ เช่น ให้ผู้ช่วยคอยซักถามย่ัวเย้ากระเซ้า
แหย่ผ้เู ขา้ รบั การอบรมในประเภทท่จี ะชว่ ยใหเ้ กิดความครึกคร้ืนสนุกสนาน

๑๑๐

ในการเลือกผู้ช่วยเหลือนี้ควรคำนึงถึงคนท่ีเป็นผู้ช่างสังเกต รู้จักใช้ประโยชน์จากการสังเกตมนุษย์
พฤติกรรมในการฝึกอบรม และควรจะมีความรู้กิจกรรมนั้นๆ รวมท้ังการกำหนดบทบาทก็ย่อมซับซ้อนกันให้
แน่ใจวา่ ผู้ช่วยจะเข้ามามบี ทบาทในช่วงไหนมากน้อยเพียงใด
จะเร่มิ กจิ กรรมกลมุ่ สมั พันธอ์ ยา่ งไร

ในการดำเนนิ กจิ กรรมกล่มุ สมั พันธ์น้นั ผจู้ ดั กิจกรรมจะต้องพิจารณาถึงปญั หาและประโยชนก์ อ่ น
ตัดสินใจว่าจะเลือกใช้กิจกรรมใดกิจกรรมหน่งึ ทีเ่ หมาะสม และจะต้องมีการเตรียมการดังน้ี

๑. วางแผนดำเนนิ การ โดยศกึ ษาทำความเข้าใจ และบทบาทลำดบั ขนั้ ตอนก่อนลงมือทำกจิ กรรมว่าจะ
ดำเนินเรือ่ งอะไร ปฏิบตั ิอย่างไร และจบลงด้วยอะไร จะใช้อุปกรณ์ สถานที่และเครื่องอำนวยความสะดวก
อะไรบ้าง

๒. จดั เตรียมอปุ กรณ์ในการดำเนินงานให้พร้อม รวมท้งั ผชู้ ่วยในการดำเนินกิจกรรม
๓. ดำเนนิ กิจกรรม โดยยดึ ถือขน้ั ตอนดังน้ี

๓.๑ การทกั ทายผูเ้ ข้ารับการอบรม
๓.๒ การสร้างบรรยากาศก่อนนำเขา้ สู่กิจกรรม
๓.๓ อธบิ ายวตั ถุประสงคแ์ ละวธิ ีการเลน่
๓.๔ บอกกติกาและเงอื่ นไขตา่ ง ๆ
๓.๕ เปดิ โอกาสใหซ้ กั ถาม(ยกเวน้ บางกิจกรรมที่ห้ามซักถาม)
๓.๖ ควบคมุ เวลาการดำเนนิ การใหเ้ ปน็ ไปตามท่ีกำหนดไว้
๓.๗ สร้างบรรยากาศและกระตนุ้ ให้แต่ละคนมสี ว่ นร่วมในกลุ่มของตน
๓.๘ สังเกตพฤติกรรมของสมาชิกแตล่ ะกล่มุ
๔. สรปุ และประเมินผล
ในระหว่างการปฏิบัติกิจกรรมนั้น ผูจ้ ัดการอบรมต้องคำนึงก็คือ ปฏิกิริยาของผู้เข้ารับการอบรมว่า
ดำเนินไปแล้วตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ รวมถึงปัญหาและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของสมาชิก เม่ือจบ
กจิ กรรมแล้วต้องมกี ารสรุป เสนอแนะ และตชิ มสมาชกิ ในการปฏิบตั ิกิจกรรมแต่ละกิจกรรมดว้ ย

ผนู้ ำกิจกรรมกล่มุ สมั พันธ์ควรมคี ุณสมบตั ิอย่างไร
การที่จะเป็นผู้นำกจิ กรรมกลุ่มสัมพันธ์ที่ดำเนินการได้อย่างดีและมีประสทิ ธิภาพตามท่ีต้องการ ควรจะ

มคี ณุ สมบตั ิ ๓ ประการ ดงั นี้
๑. ด้านความรู้ ควรมีความรู้พ้ืนฐานท่ีจำเป็น สามารถศึกษาค้นคว้าเพ่ิมเติมจากการอ่านเอกสารตำรา

โดยเฉพาะอย่างย่ิง ความรู้พื้นฐานทางด้านจิตวทิ ยาเก่ยี วกับพฤติกรรมศาสตร์ และความร้เู กีย่ วกับกระบวนการ
กลุ่ม กลุ่มสัมพันธ์ การละลายพฤติกรรมตลอดจนบทบาทของสมาชิกแต่ละคน และที่สำคัญก็ คือ จะต้องมี
ความรใู้ นหลักการพ้ืนฐานของการฝกึ อบรม

๒. ด้านทักษะ ผู้นำกิจกรรมควรมีการฝึกตนเองให้มีความสามารถในการทำหน้าที่โดยเน้ นทักษะ
ดังตอ่ ไปน้ี

๒.๑ ทักษะในการพดู กระตุน้ จูงใจ และสรา้ งบรรยากาศท่ีดี
๒.๒ ทกั ษะการอธบิ าย ชแี้ จงแนวทางดำเนนิ กิจกรรมได้อยา่ งชัดเจน การใชภ้ าษาที่เข้าใจงา่ ยและ
เหมาะสม
๒.๓ ทกั ษะการสงั เกตพฤติกรรมของกลุ่มและสมาชิกภายในกลุ่ม
๒.๔ ทกั ษะในการสรุป จับประเดน็ และสามารถดึงประเด็นทีน่ า่ สนใจออกมาได้
๒.๕ ทักษะในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

๑๑๑

๒.๖ ทักษะในการยืดหยุ่นรู้จักผ่อนส้ันผ่อนยาวประนีประนอมและประสานข้อขัดแย้งอันอาจจะ
เกิดขึน้

๓. ด้านทัศนคติ ผู้นำกิจกรรมควรเห็นคุณค่าและประโยชน์ของการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความคุ้นเคย
ด้วยตนเองอย่างแท้จริง และควรสร้างความรู้สึกให้มีความรักและสนุกกับงานน้ี ซึ่งจะช่วยให้สามารถแสดง
บทบาทของผู้นำกจิ กรรมได้อย่างเหมาะสมยิ่งขน้ึ

นอกเหนือจากคุณสมบัติท้ัง ๓ ประการดังกล่าวแล้ว ผู้นำกิจกรรมควรมีคุณลักษณะหรือบุคลิกภาพ
เฉพาะตวั บางประการเปน็ สว่ นประกอบกย็ ิ่งจะเสรมิ ใหบ้ ทบาทของผู้นำกิจกรรมโดดเดน่ มากข้นึ

คุณลกั ษะของผู้นำกจิ กรรมกลุ่มสัมพนั ธท์ ี่ดี จะต้องประกอบดว้ ย
๑. แกป้ ัญหาเฉพาะหน้าไดด้ ี
๒. มคี วามกระตือรอื รน้ คลอ่ งแคลว่ วอ่ งไว
๓. มีอารมณ์ขัน
๔. ตรงตอ่ เวลาและรจู้ กั รกั ษาเวลา
๕. ใจกวา้ งและมีความคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรค์
๖. ร้จู กั เปน็ ผนู้ ำและผตู้ ามทด่ี ี
๗. รู้จกั ใช้น้ำเสยี ง หนกั -เบา
๘. สามารถร้องเพลงและแสดงกิจกรรมต่าง ๆ ได้
๙. มีความยุตธิ รรมและซ่ือสัตย์
๑๐. มคี วามเปน็ ประชาธปิ ไตย
นอกจากคณุ ลักษณะเหล่านแ้ี ล้ว ผู้นำกิจกรรมควรจะเปิดใจกว้างยอมรับขอ้ ติชมจากเพื่อนร่วมงานและ

ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ตลอดจนประเมินผลการปฏิบัติหน้าท่ีผู้นำกิจกรรมของตนเองด้วยใจเป็นธรรม และ
ไม่ท้อถอยเมื่อการดำเนินกิจกรรมไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ท่ีวางไว้ แต่จดจำและนำเอาความผิดพลาดและ
ปัญหาตา่ ง ๆ มาเปน็ แนวทางปรับปรุงกิจกรรมครง้ั ตอ่ ๆ ไปให้ประสบผลสำเรจ็ ยิง่ ข้ึน

หนงั สืออ้างองิ

จันทมิ า ทอดสนิท. (๒๕๕๔). ผลของโปรแกรมการพัฒนาความสามารถในการใหค้ ำปรึกษาของ

เพื่อนทีป่ รึกษา. วิทยานิพนธ์ ศษ.ม. (จติ วทิ ยาการศกึ ษาและการให้คำปรกึ ษา). ขอนแก่น :

มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น.

ทิศนา แขมณ.ี คมู่ ือการจัดกิจกรรมกลุ่มสมั พนั ธ์. กรงุ เทพมหานคร, โรงพมิ พจ์ ุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย,
2523.

ธันยพร จารุไพศาล. การฟงั อย่างลกึ ซง้ึ (Deep Listening) เขา้ ถงึ ไดจ้ าก

https://www.workwithpassiontraining.com/17282288
บัญชา ศรีประมง. กิจกรรมเสรมิ สร้างมนุษยสัมพันธ์. กรุงเทพมหานคร, อมรินทร์การพิมพ์ 2521.
พลศกึ ษา, กรม. ค่มู ือผ้นู ำนนั ทนาการ. กรุงเทพ, โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกดั .

2553
มณั ฑรา ธรรมบุศย.์ จติ วิทยาสำหรับครู. เข้าถงึ ไดจ้ าก

https://sites.google.com/site/psychologybkf1/home/citwithya-kar-
naeanaew-laea-kar-hi-kha-pruksa/prapheth-laea-khan-txn-kar-hi-kha-pruksa
วรภา ชยั เลศิ วณิชกุล. คูม่ อื การจดั กิจกรรมเพ่ือสร้างความคุ้นเคยในการฝึกอบรม.
กรุงเทพมหานคร, โรงพิมพ์บริษัทประชาชนจำกดั , 2535.
อัญชนา เวสารัชช.์ กจิ กรรมละลายพฤติกรรม. กรงุ เทพมหานคร, โรงพิมพ์สำนักงาน กพ, ม.ป.ป.
Healthcarethai. ลักษณะของเพ่อื นทีด่ ี. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก https://www.healthcarethai.com

ภาคผนวก

๑๑4

โครงการฝึกอบรมแกนนำสง่ เสริมความประพฤตินกั เรียนและนักศกึ ษา

หลักการและเหตผุ ล
ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) ยุทธศาสตร์ท่ี ๓ ด้านการพัฒนาและส่งเสริมการพัฒนา

ทรัพยากรมนุษย์ มีเป้าหมายเพ่ือพัฒนาคนในทุกมิติและทุกช่วงวยั ให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพโดย คนไทย
มพี ร้อมทั้งกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการที่ดรี อบด้าน และมีสขุ ภาวะท่ดี ีในทุกช่วงวยั มจี ิตสาธารณะ รับผดิ ชอบ
ต่อสังคมและผู้อื่น มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย รักษาศีลธรรม และเป็นพลเมืองดีของชาติ มีหลักคิดที่
ถูกต้อง มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษท่ี ๒๑ มีความสามารถในการแก้ไขปัญหา ปรับตัว สื่อสารและทำงานร่วมกับ
ผู้อ่ืนได้อย่างมีประสิทธิผล นอกจากน้ีแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ข้อที่ ๑o การปรับเปลี่ยนค่านิยมและ
วัฒนธรรม ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และการเสริมสร้างจิตสาธารณะและการเป็นพลเมืองท่ีดีซึ่ง
สอดคล้องกับแผนปฏิรูปประเทศ ๙.(๕) การมีส่วนร่วม การเรียนรู้ การรับรู้ และการส่งเสริมกิจกรรม
ทางสังคมแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) ข้อ ๑ การเสริมสร้าง
และพัฒนาทรัพยากรทุนมนุษย์

สำนักการลูกเสอื ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน สำนกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร เป็นหนว่ ยงานท่มี ี
อำนาจหน้าท่ี ส่งเสริม สนับสนุน ศกึ ษา วิเคราะห์ วิจัยเพื่อการพัฒนานักเรียนนักศกึ ษา และการป้องกัน แก้ไข
ส่งเสริม คุ้มครองความประพฤติและสิทธิของนักเรียนและนักศึกษา ตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองเด็ก
พ.ศ. ๒๕๔๖ หมวด ๗ ว่าด้วยการส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา เพ่ือให้นักเรียนและนักศึกษา
เป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม เป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ สามารถตอบยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูป
ประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ข้างต้น รวมทั้งการดำเนินการตามภารกิจของสำนัก ต้อง
อาศัยความร่วมมือจากบุคลากรทุกภาคสว่ น โดยเฉพาะอย่างย่งิ สถานศกึ ษาต้องให้ความสำคัญ และเปิดโอกาส
ให้นักเรียนและนักศึกษา สำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน ได้ตระหนักและเห็นความสำคัญ
ดังกล่าว จงึ กำหนดจัดโครงการฝึกอบรมแกนนำส่งเสรมิ ความประพฤตนิ ักเรียนและนักศึกษา ขน้ึ

วตั ถปุ ระสงค์
๑ เพ่ือสร้างแกนนำนกั เรียน ในการเป็นแบบอยา่ งท่ีดีในด้านความประพฤติท่ีเหมาะสม
๒ เพอ่ื สรา้ งการมสี ่วนรว่ มของนักเรียน ในการดำเนินงานส่งเสรมิ ความประพฤติ การเผยแพรแ่ ละ

สามารถประยุกตใ์ ช้ทักษะชวี ิตในศตวรรษท่ี ๒๑ มาใชใ้ นชีวิตประจำวนั

กลุม่ เปา้ หมาย
๑. นักเรียนท่เี ข้าร่วมโครงการ จำนวน 25 รุ่น ๆ ละ 8๐ คน รวมจำนวน 2,000 คน
๒. คณะวทิ ยากร/ครู/เจ้าหน้าท่ที เ่ี กยี่ วข้อง จำนวน 25 รุ่น ๆ ละ 30 คน รวมจำนวน 750 คน

รวมจำนวนทั้งสนิ้ 2,750 คน

ค่าเป้าหมายตัวช้ีวัดโครงการ
นักเรยี น สถานศึกษา และหน่วยงานเครอื ข่ายท่ีเก่ียวขอ้ ง ร้อยละ ๘๐ มีการนำความร้ทู ่ีไดร้ ับไปใชใ้ น

การขบั เคล่ือนการส่งเสรมิ ความประพฤติ ในสถานศึกษา ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

๑๑5

ตัวชว้ี ัดของโครงการ
๑. ตวั ชีว้ ัดเชิงปริมาณ
นักเรียนทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการผา่ นเกณฑ์การฝึกอบรม ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80
๒. ตัวชี้วัดเชิงคณุ ภาพ
ระดับความสำเร็จในการนำความรูท้ ่ไี ดร้ ับไปใช้ในการขับเคล่ือนการส่งเสรมิ ความประพฤติ ใน

สถานศึกษา ได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ

วิธีดำเนนิ การ
กจิ กรรมท่ี ๑ จัดประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั ิการจดั ทำร่างหลกั สูตรและคมู่ ือการฝึกอบรมแกนนำส่งเสริมความ

ประพฤตินกั เรยี นและนักศกึ ษา (กนส.) จำนวน ๑ คร้ัง โดยมขี ้นั ตอนดงั นี้
๑) ศกึ ษาวิเคราะห์ สงั เคราะห์ขอ้ มูล เพอื่ จัดทำรายละเอยี ดโครงการ
๒) ขออนมุ ัติโครงการ
๓) แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนนิ งาน
๔) จดั ทำรา่ งหลกั สตู รแกนนำส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศกึ ษา
๕) ดำเนนิ การจัดประชุมเชงิ ปฏบิ ัติการ
๖) ปรบั ปรงุ และจัดทำรา่ งหลักสูตรแกนนำสง่ เสรมิ ความประพฤตนิ กั เรยี นและนักศกึ ษา
๗) จัดทำสำเนา เผยแพร่ ประชาสมั พนั ธ์ แก่สำนกั งานศกึ ษาธิการจงั หวดั เพ่อื นำไปใช้ในก

จดั การฝกึ อบรม
กจิ กรรมท่ี ๒ การโอนจัดสรรและดำเนินการจัดกจิ กรรม ใหส้ ำนักงานศึกษาธิการจังหวัดจัดการฝกึ อบรม

แกนนำสง่ เสรมิ ความประพฤตินกั เรยี น นกั ศึกษาตามหลักสูตรท่ีกำหนด จำนวน ๒๕ รุน่ โดยมีขั้นตอนดังน้ี
๑) ศกึ ษาวิเคราะห์ สงั เคราะห์ขอ้ มูล เพ่อื จดั ทำรายละเอยี ดโครงการ
๒) ขออนุมัติดำเนนิ กิจกรรม
๓) จดั ทำหนงั สอื ขออนุมตั ิจดั สรรงบประมาณให้สำนกั งานศกึ ษาธิการจังหวัด
๔) จัดส่งหนังสอื แจง้ การโอนจัดสรรให้สำนักงานศึกษาธิการจงั หวัดทราบ
๕) ประสานงานและตดิ ตามการใช้งบประมาณใหเ้ ป็นไปตามเปา้ หมายของโครงการ

กิจกรรมที่ ๓ การติดตามและประเมนิ ผลโครงการฝึกอบรมแกนนำสง่ เสรมิ ความประพฤตินักเรยี นและ
นกั ศกึ ษา มขี นั้ ตอนดังตอ่ ไปน้ี

๑) ศึกษาวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล เพือ่ จัดทำรายละเอียดการประเมนิ ผลโครงการ
๒) จดั ทำเคา้ โครงและเครื่องมือการประเมินผลโครงการ
๓) ขออนมุ ัตดิ ำเนินกจิ กรรมการติดตามและประเมินผลโครงการ
๔) จัดทำแผน และออกติดตามและประเมนิ โครงการ จำนวน ๔ ภาค ๆ ละ ๒ รุ่น รวม ๘ รุ่น
๕) วิเคราะห์และสรุปขอ้ มูล เพ่อื จดั ทำเอกสารสรุปผลการประเมนิ โครงการ
๖) จดั พิมพเ์ อกสารฉบบั สมบูรณ์ และเผยแพร่
กจิ กรรมท่ี ๔ การประชุมเชิงปฏบิ ตั กิ ารสรุปผลการดำเนนิ โครงการการฝกึ อบรมแกนนำส่งเสริมความ
ประพฤตินักเรียนและนกั ศึกษา
๑) ศกึ ษาวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล เพื่อจดั ทำสรุปผลการดำเนนิ โครงการการฝึกอบรมแกน
นำส่งเสริมความประพฤตินกั เรียนและนักศึกษา
๒) ขออนุมัตดิ ำเนินกิจกรรม
๓) แต่งตงั้ คณะกรรมการดำเนินงาน
๔) จัดทำกรอบการสรุปผลการดำเนนิ โครงการ

๑๑6

๕) ดำเนินการจดั ประชุมเชงิ ปฏิบตั กิ าร
๖) ปรับปรุงและจดั ทำร่างสรุปเอกสาร
๗) จัดทำสำเนา เผยแพร่ ประชาสมั พันธแ์ ก่สำนักงานศึกษาธกิ ารจงั หวัด

ระยะเวลาและสถานทีด่ ำเนินการ
ระหว่างเดอื นพฤศจกิ ายน ๒๕๖๓ - เดือนกันยายน ๒๕๖๔

งบประมาณ
แผนงานพน้ื ฐานด้านการพัฒนาและเสริมสรา้ งศักยภาพคน ผลผลิต : ผู้ไดร้ ับการส่งเสริมและพฒั นา

คณุ ธรรม จรยิ ธรรม เงนิ อุดหนนุ การพฒั นาความประพฤตินักเรียนและนักศึกษาตามหลักคณุ ธรรม จริยธรรม
กจิ กรรมลกู เสือ ยวุ กาชาดและกิจการนกั เรียน

หนว่ ยงานรับผิดชอบ/
กลมุ่ ส่งเสรมิ และพฒั นากิจการนักเรยี นและนักศึกษา สำนักการลูกเสอื ยวุ กาชาดและกิจการนกั เรยี น

ผลที่คาดว่าจะได้รับ
นกั เรียนทผ่ี า่ นการฝึกอบรมสามารถนำความรู้ท่ีได้รบั ไปประยกุ ตใ์ ช้ในการดำเนินชวี ติ ประจำวนั และ

เปน็ เครอื ข่ายในการดำเนนิ งานสง่ เสรมิ ความประพฤตินักเรียนและนักศกึ ษารว่ มกบั สถานศกึ ษา และหน่วยงาน
ภายนอกสถานศกึ ษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

๑๑7

รายการใชจ้ ่ายงบประมาณ

โครงการฝกึ อบรมแกนนำส่งเสรมิ ความประพฤตินักเรียนและนกั ศกึ ษา

ประกอบดว้ ย รายละเอยี ดดงั น้ี
๑. คา่ เช่าทรพั ย์สินเพื่อใช้ในการดาเนนิ งานการจัดกจิ กรรมต่างๆ เชน่ โต๊ะ เกา้ อ้ี เตน็ ทเ์ วที เครอ่ื งเสยี ง
2. ค่าธรรมเนยี มธนาคาร
3. คา่ ใช้จา่ ยในการจัดซ้ือวสั ดแุ ละอุปกรณ์ท่ีจาเป็นในการดาเนินกิจกรรมโครงการ
4. คา่ อาหารวา่ งและเคร่อื งดื่ม
5. คา่ อาหาร สาหรบั นักเรียน นกั ศึกษา เยาวชน คณะกรรมการ เจา้ หนา้ ท่แี ละครูที่เขา้ ร่วม

กิจกรรมตามโครงการ
6. ค่าจา้ งเหมารถยนตเ์ ป็นค่าพาหนะสาหรับรับ– สง่ นกั เรียนและนักศกึ ษา ครู อาจารย์ และ

คณะกรรมการ ทเี่ ขา้ รว่ มกิจกรรมต่างๆ ตามโครงการ
7. ค่าธรรมเนยี มการใช้สถานที่จัดดาเนินโครงการ
8. คา่ สมนาคุณวทิ ยากร
9. ค่าเบีย้ เลี้ยงและค่าทพ่ี ักของคณะกรรมการ เจา้ หน้าทีแ่ ละครู
10. คา่ พาหนะเดนิ ทางไป–กลับของคณะกรรมการ เจ้าหน้าท่ีและครู
11. ค่าใชจ้ า่ ยอ่ืนๆ จากรายการที่เพิม่ เตมิ ใหใ้ ชร้ ะเบียบกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยคา่ ใช้จ่ายในการ

ฝึกอบรมการจดั งานและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ
12.กรณนี อกเหนือจากรายการนใ้ี หน้ าเสนอปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หรอื ผู้ท่ีได้รับมอบหมาย

พิจารณาเป็นคราวๆ ไป

หมายเหตุ : ใหเ้ บกิ ค่าใชจ้ ่ายรายการขา้ งตน้ โดยใช้ระเบยี บกระทรวงการคลัง ว่าดว้ ยค่าใชจ้ ่ายในการฝึกอบรม
การจดั งานและการประชุมระหว่างประเทศ (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2555

๑๑8

๑๑9

การจดั ทำป้ายโครงการ

มีสว่ นประกอบดังนี้
๑. ตราสัญลกั ษณ์ สำนักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ
๒. ชือ่ โครงการ “โครงการฝกึ อบรมแกนนำสง่ เสริมความประพฤตินักเรียนและนักศกึ ษา”
๓. ช่อื หนว่ ยงานทจ่ี ัดสรรงบประมาณให้ดำเนนิ โครงการ
“สำนกั การลูกเสอื ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรยี น สำนักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร”
๔. ชือ่ หนว่ ยงานทจ่ี ดั โครงการ
“สำนกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวัด..................................................................................”
๕. วนั ทด่ี ำเนนิ การ/สถานที่
ระหว่างวันท่ี .................... เดอื น .......................................พ.ศ. .............................
ณ .............................................................................................................................
๖. ภาพประกอบพืน้ หลัง ขอให้พิจารณาตามความเหมาะสม

ตรา
ศธจ.

โครงการฝกึ อบรมแกนนำส่งเสริมความประพฤตนิ กั เรยี นและนกั ศึกษา
โดย...สำนักการลกู เสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรยี น

รว่ มกบั สำนักงานศึกษาธกิ ารจงั หวดั ......................................
ระหวา่ งวันท่ี ..........เดอื น........................พ.ศ. ...................
ณ .............................................................................................................

๑20

แบบทดสอบกอ่ น - หลงั การเข้ารับการฝึกอบรม

๑. เปน็ การใชว้ ิธีเอาแพ้เอาชนะ เพ่ือให้ตนเองสามารถบรรลคุ วามต้องการ อาจจะต้องใช้อำนาจหรอื การแสดง
ความกา้ วรา้ วรุนแรง เป็นวิธีการแก้ไขความขัดแยง้ แบบใด
ก. การปรองดอง
ข. การประนปี ระนอม
ค. การใช้อำนาจ
ง. การแกป้ ัญหาร่วมกนั

๒. ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้องเก่ยี วกับการรงั แกกนั
ก. เป็นพฤติกรรมท่ีทำให้ผู้อ่นื เจ็บปวดทางรา่ งกายและจติ ใจ
ข. ผู้ที่รังแกมักมีอำนาจเหนอื กว่า เช่น รปู ร่างใหญก่ ว่า แขง็ แรงกว่า
ค. ผทู้ ่ีถูกรังแกรู้สกึ สนกุ ท่ีถกู แกล้ง
ง. ถกู ท้ังข้อ ก. และ ข.

๓. การรังแกกนั มีก่รี ปู แบบ และมีรปู แบบอะไรบ้าง
ก. 2 รปู แบบ การรังแกกันทางรา่ งกาย และการรังแกทางวาจา
ข. 2 รูปแบบ การรงั แกกันทางร่างกาย และการรงั แกทางสังคม
ค. 4 รูปแบบ การรงั แกกันทางร่างกาย การรังแกทางวาจา การรังแกทางสังคม การรังแกทางโลก
ออนไลน์
ง. 4 รปู แบบ การรงั แกกนั ทางรา่ งกาย การรังแกทางวาจา การรงั แกทางสงั คม การรงั แกกันทาง
อารมณ์

๔. ขอ้ ใดไมใ่ ชเ่ ทคนิคการฟงั อยา่ งลกึ ซ้ึง (Deep Listening) ในเรอื่ งการฟังดว้ ยความสนใจใครร่ ู้
ก. เปิดกวา้ งไม่ตัดสนิ
ข. เขา้ ใจตามความเปน็ จรงิ
ค. ตามอารมณ์ผ้พู ูด
ง. เข้าใจผู้พูดมากขนึ้

๕. ข้อใดกล่าวถูกตอ้ งเกี่ยวกับการรงั แกกนั
ก เป็นพฤติกรรมทท่ี ำใหผ้ ู้อื่นเจ็บปวดทางรา่ งกายและจติ ใจ
ข ผู้ทร่ี ังแกมกั มีอำนาจเหนือกว่า เชน่ รูปร่างใหญ่กวา่ แข็งแรงกว่า
ค ผ้ทู ่ีถูกรงั แกรู้สกึ สนุกที่ถูกแกล้ง
ง ถกู ท้ังข้อ ก. และ ข.

๖. สถานการณ์ใดท่ีจดั ว่าเปน็ การรังแกกัน
ก. เวยี รบ์ อกเพื่อนในห้องว่าพ่อแม่ของบีเลกิ กนั แล้ว
ข บอยโกรธทุกครงั้ ท่ถี ูกเพ่อื นเรยี กด้วยช่ือพ่อของตัวเองแต่กไ็ มร่ ู้จะทำยังไง
ค หมากไมไ่ ดค้ ุยกับแป้งมาเป็นอาทติ ย์แลว้
ง โป๊ปเรียกชื่อนทั เป็นชื่อพอ่ ของนัททุกครงั้ ทีเ่ จอกนั

๑21

๗. บเี ป็นคนใจกว้างและยอมรับฟงั ความคิดเห็นของเพอ่ื น ตรงกบั ลักษณะของเพ่ือนทป่ี รึกษาด้านใด
ก. บุคลกิ ภาพ
ข. จรรยาบรรณ
ค. มนุษยสัมพนั ธ์
ง. ความเชี่ยวชาญ

๘. ข้อใดทีเ่ พือ่ นท่ีปรกึ ษาไมค่ วรปฏบิ ัติในขณะใหค้ ำปรึกษา

ก. ก้อยพดู นอ้ ย ฟังมาก
ข. ไก่อารมณด์ ี ยิ้มแย้มแจ่มใส
ค. ก๊กิ มองหน้าสบตานักเรียนเสมอ
ง. กุ๊กเห็นเพื่อนร้องไห้ จึงร้องตาม
๙. เมือ่ คณุ เผชญิ หน้ากับปัญหาทีต่ ้องได้รบั การแก้ไขคณุ จะทำอยา่ งไร
ก. เสนอวธิ แี ก้ปญั หาและบอกวา่ เป็นวิธีทีถ่ กู ต้องแล้ว
ข. เสนอหาวิธีการแกไ้ ขท่ีมีความเปน็ ไปได้และขอใหค้ นอ่ืนออกความคิดเห็น
ค. ทำการระดมสมองกับเพ่ือน
ง. ขอคำแนะนำจากผู้เป็นหัวหน้า
๑๐. ภาวะผู้นำที่มีประโยชน์ในการพฒั นางานคือข้อใด
ก. แบบประชาธปิ ไตย
ข. แบบเผดจ็ การ
ค. แบบกลอบุ ายเปน็ หลัก
ง. ถกู ทุกขอ้
๑๑. การทำงานเปน็ ทมี ขอ้ ใดผิด
ก. ทุกคนทสี ว่ นในร่วมในการกำหนดวัตถุประสงค์
ข. มีการวางแผนรว่ มกนั ต่อเน่ือง
ค. มกี ารบำรุงขวัญ มีผลงานกลมุ่
ง. ถูกทุกข้อ
๑๒. ข้อใดคือการกระทำความผิดตาม พรบ. คอมพิวเตอร์
ก. การเผยแพรข่ ้อมลู ภาพใบหนา้ เกยี่ วกบั เยาวชน
ข. การเผยแพร่คลิปที่มเี นื้อหาลามกอนาจาร
ค. การนำผลงานของผอู้ ืน่ มาเป็นของตนเอง
ง. ถกู ทุกขอ้
๑๓. ด.ช.ไอซ์ โพสต์ภาพผู้เสียชีวติ ระหวา่ งพบเจออุบตั เิ หตุระหวา่ งเดนิ ทางกลับบ้าน ด.ช.แดง
สามารถทำไดห้ รือไม่
ก. ไดเ้ พราะเปน็ การสง่ ขา่ วสื่อสารถงึ ญาติ ๆ ของผู้เสียชวี ติ
ข. ไมไ่ ด้ เพราะจะทำใหบ้ ดิ ามารดา คูส่ มรสหรือบุตรของผตู้ ายเสยี ชอ่ื เสียง ถูกดหู มิ่น

เกลยี ดชงั หรือไดร้ บั ความเสยี หาย
ค. ได้แตต่ ้องโพสต์ภาพที่ไม่อุจจาดตา ทำการปกปดิ ภาพบางสว่ น และมีเจตนาในลกั ษณะเปน็ การ

สอ่ื สารส่งข่าวถึงญาติของผู้เสยี หาย
ง. ไม่ได้ ไม่ใชญ่ าติของเรา

๑๒2

๑๔. ใครมีพฤติกรรมทเ่ี หมาะสมในการใช้อนิ เตอร์เนต็
ก. น้ำฝน ใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อทำร้ายหรอื รบกวนผู้อน่ื
ข. เกรท ใช้อนิ เตอรเ์ น็ตเพื่อการคา้ ผิดกฎหมายหรือศลี ธรรม
ค. พลอย โพสต์ Facebook ตอ่ วา่ เพื่อน
ง. ว้นุ เส้น ใช้อนิ เตอร์เน็ตในการคน้ หาขอ้ มูลเกีย่ วกบั การศึกษาต่อ

๑๕. อาชญากรคอมพวิ เตอรไ์ ด้แก่บุคคลใด
ก. เจมส์ hack ขอ้ มลู ลูกค้าของบริษัทเพ่ือนนำข้อมูลไปแสวงหาประโยชนส์ ่วนตน
ข. แมค่ า้ ขายของออนไลน์ ผู้ท่ีมีความรแู้ ละทักษะด้านคอมพิวเตอร์เปน็ อย่างดี
ค. นกั การเมืองหาเสียงผ่าน Facebook หรอื Instagram หรือ Admin ให้ความรเู้ รอื่ ง
ง. ถกู ทกุ ขอ้

๑๖. กด Like ขอ้ ใดทำได้ และไม่ผดิ พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์
ก. กด Like ใหก้ ำลังใจชื่นชอบกรณีเพอ่ื นโพสต์รายงานผลการดำเนนิ งาน
ข. กด Like กรณเี พื่อนช่ือแดงโพสต์ดา่ เพ่ือนชื่อดำท่ียมื เงนิ แลว้ ไม่ยอมใช้
ค. กด Like เม่ือเพอ่ื นโพสตร์ ูปวนั งานรับปริญญา
ง. ถกู ท้ัง ก. และ ค.

๑๗. นกั เรยี นคดิ วา่ ส่อื ออนไลนช์ นดิ ใดมปี ระโยชน์และค้มุ ค่าท่สี ดุ เพราะเหตุใด
ก. Tik Tok เพราะนิยมกนั ในหมคู่ นหนมุ่ สาว
ข. You tube เพราะสามารถถา่ ยทอดเรอื่ งราวต่าง ๆ ได้เป็นอยา่ งดี
ค. Face book เพราะสามารถตอบสนองความต้องการของทกุ คนได้อย่างแพรห่ ลาย
ง. Line เพราะใชต้ ดิ ต่อสือ่ สารกันง่าย

๑๘. ข้อใดท่ีนกั เรยี นไมส่ ามารถกระทำไดเ้ นื่องจากผดิ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์
ก. ชาลแี ชรว์ ิธีการทำปุ๋ยหมกั โดยใชใ้ บไม้ไผ่
ข. คิมฝากรา้ นใน Facebook ของญาญ่า
ค. เมญา่ กด Like ข่าวการเมือง
ง. มกุ ดาแชรร์ ูปภาพการทำเกษตรอินทรยี ์ให้ปนั ปัน

๑๙. นกั เรยี นมวี ิธีการใชส้ อ่ื ออนไลน์ให้เหมาะสมกับสภาพสังคมปัจจุบนั อยา่ งไร
ก. ทนั ตอ่ เหตุการณ์
ข. มีความนิยมใช้สูง
ค. สนองต่อความตอ้ งการของผู้ใชง้ าน
ง. คุ้มค่าและมีประโยชน์

๒๐. นกั เรียนจะเลอื กใช้ส่ือออนไลน์ชนิดใดท่ตี อบสนองต่อการเรยี นหนงั สอื ได้มากที่สุด
ก. Google
ข. Facebook
ค. Instagram
ง. Email

๑๒3

เฉลยแบบทดสอบกอ่ น - หลงั การเขา้ รับการฝึกอบรม

ขอ้ 1 ค ขอ้ 2 ง ข้อ 3 ค
ข้อ 4 ค ข้อ 5 ง ข้อ 6 ข
ขอ้ 7 ค ขอ้ 8 ง ขอ้ 9 ข
ข้อ 10 ก ขอ้ 11 ง ขอ้ 12 ง
ข้อ 13 ค ข้อ 14 ง ข้อ 15 ก
ข้อ 16 ง ข้อ 17 ข ข้อ 18 ข
ข้อ 19 ง ขอ้ 20 ก

๑๒4

แบบรายงานผลการดำเนินงาน

โครงการฝึกอบรมแกนนำส่งเสรมิ ความประพฤตนิ กั เรยี นและนกั ศกึ ษา

1. ชอื่ หน่วยงาน ………………………………………………….......................……………………..……………………………

2. ห้วงเวลารายงาน  ไตรมาสที่ 1 : ต.ค. - ธ.ค. 6๓  ไตรมาสท่ี 2 : ม.ค. - มี.ค. 6๔
 ไตรมาสที่ 3 : เม.ย.- มิ.ย. 6๔  ไตรมาสท่ี 4 : ก.ค. - ก.ย. 6๔

สถานะโครงการ  ยังไมส่ น้ิ สุดโครงการ  สนิ้ สุดโครงการแล้ว

3. ช่อื งาน /โครงการ..........................................................................................................

4. หลกั การและเหตผุ ล
.................................................................................................................................................

............................................................................................................................................................................

5. วตั ถปุ ระสงค์
๑. ............................................................................................................................................
2. ............................................................................................................................................
3. ............................................................................................................................................

6. คา่ เป้าหมาย (ตวั ชวี้ ดั ความสำเรจ็ ของโครงการ)
6.1 เชงิ ปรมิ าณ ...................................................................................................................................
6.2 เชิงคณุ ภาพ ..................................................................................................................................

7. ระยะเวลาดำเนินการ/สถานทีจ่ ัดกจิ กรรม
7.1 ระยะเวลา .................................................................................................................................
7.2 สถานท่ีจดั โครงการ ....................................................................................................................

8. การดำเนนิ การภายในโครงการ
.................................................................................................................................................................

............................................................................................................... ...............................................................

9. ผลการดำเนินงานและผลผลติ ท่ีเกิดข้นึ จากการดำเนนิ โครงการ
9.1 เชิงปรมิ าณ:
คณะวิทยากรและครูผู้ควบคุมเข้าร่วมโครงการ จำนวน .........คน และนักเรียนเข้าร่วมโครงการ

จำนวน .........คน จากสถานศึกษา............แหง่ ดงั น้ี
1) ข้อมูลโรงเรยี น....................................................สังกัด.................................................................

อำเภอ..............................จงั หวัด................................. ครูผคู้ วบคมุ จำนวน........คน นกั เรียน จำนวน...........คน
2) ข้อมูลโรงเรียน....................................................สังกดั .................................................................

อำเภอ..............................จงั หวดั ................................. ครผู คู้ วบคมุ จำนวน........คน นักเรียน จำนวน...........คน
3) ข้อมูลโรงเรยี น....................................................สังกดั .................................................................

อำเภอ..............................จังหวดั ................................. ครูผคู้ วบคมุ จำนวน........คน นกั เรียน จำนวน...........คน

๑๒5

4) ข้อมูลโรงเรยี น....................................................สงั กดั .................................................................
อำเภอ..............................จังหวดั ................................. ครูผูค้ วบคมุ จำนวน........คน นกั เรียน จำนวน...........คน

5) ข้อมูลโรงเรยี น....................................................สงั กดั ............................................................. ....
อำเภอ..............................จงั หวัด................................. ครผู ู้ควบคมุ จำนวน........คน นักเรยี น จำนวน...........คน

ฯลฯ

หมายเหตุ โปรดแนบขอ้ มูล/เอกสารรายช่ือครูผคู้ วบคุมและรายช่ือนักเรียน ตามแบบรายงานผลการดำเนินงาน
9.2 เชิงคุณภาพ :
9.1 ผเู้ ข้ารับการฝึกอบรมมีเวลาในการเข้าร่วมกิจกรรมโครงการ ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ ๘๐
9.2 ผ้เู ขา้ รับการฝกึ อบรมต้องผ่านการประเมินผลตามโครงสรา้ งของหลักสตู รไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๖๐

10. ภาพกจิ กรรม (เนน้ ภาพท่ีเยาวชนร่วมกิจกรรมโครงการ เป็นภาพทส่ี ่อื ถึงการดำเนนิ การสคู่ วามสำเร็จของ
เปา้ ประสงค์ จำนวน 6 ภาพ ขนาดของ file ภาพ เทา่ กบั หรอื มากกวา่ 2 MB )

รูปที่ 1 รปู ที่ 2 รปู ที่ 3

รูปท่ี 4 รูปท่ี 5 รูปที่ 6

11. งบประมาณ งบประมาณทีไ่ ด้รับ ................................. บาท (...........................................................)
งบประมาณท่ใี ชไ้ ป ................................. บาท (.............................................................)

แหล่งงบประมาณ งบประมาณ พ.ศ. 256๔ แผนงานพื้นฐานด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน
ผลผลิต : ผไู้ ด้รับการสง่ เสริมและพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม เงินอุดหนุนการพัฒนาความประพฤตินักเรยี นและ
นกั ศกึ ษาตามหลกั คุณธรรม จรยิ ธรรม กิจกรรมลกู เสอื ยุวกาชาดและกิจการนกั เรยี น
12. ปัญหา อปุ สรรค และข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

13. ประโยชน์ท่ีสาธารณชนไดร้ ับ
............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
14. ผู้รายงาน ....................................................ตำแหน่ง...................................................................................
หน่วยงาน .........................................โทรศพั ท.์ .............................. โทรสาร.............................. E-mail : ......…….…………
วันที่รายงาน ..................................................................................................................................................

๑๒6

แบบรายงานผลการขบั เคลื่อนการดำเนินงาน
สง่ เสริมความประพฤตินกั เรียนและนักศกึ ษาในสถานศกึ ษา

คำชีแ้ จง กรุณากรอกข้อมลู เกีย่ วกับการดำเนนิ งานขับเคลอ่ื นการสง่ เสรมิ ความประพฤตนิ กั เรยี นและ
นักศึกษา ในสถานศกึ ษาของทา่ น ตามความเปน็ จริง ซึ่งขอ้ มูลดังกลา่ วจะเปน็ ประโยชน์ในการจัดทำ
คำของบประมาณ และปรับปรงุ ผลการดำเนนิ งานในปตี อ่ ไป

๑. ขอ้ มูลเบอ้ื งต้น
ชอ่ื สถานศกึ ษา ..................................................................สงั กดั ...........................................................................
อำเภอ/เขต..............................................จังหวดั ...................................................................................................
โทรศัพท.์ ..................................................................... โทรสาร.............................................................................

๒. ผลการดำเนินงาน
๒.๑ สถานศึกษาของท่าน ได้ดำเนินกิจกรรมในการขับเคล่ือนการส่งเสริมความประพฤติในสถานศึกษาหรือไม่
( ) ได้ดำเนินกจิ กรรมขบั เคล่ือนการสง่ เสริมความประพฤตินักเรยี นและนักศึกษา
( ) ไมไ่ ด้ดำเนนิ กจิ กรรมขับเคล่อื นการสง่ เสริมความประพฤตินกั เรียนและนกั ศึกษา
๒.๒ หากมกี ารขบั เคล่อื นการดำเนนิ งานส่งเสริมความประพฤตินักเรยี นและนักศึกษา สานศึกษา

ของทา่ นไดด้ ำเนินกิจกรรมอะไร และมวี ิธีการดำเนนิ กจิ กรรมอยา่ งไร
.................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
.................................................................................................................... ..........................................................

.................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................................................... ..........................................................

.................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................................................... ..........................................................

.................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................................................... ..........................................................
๓. ปญั หา และอปุ สรรค

.............................................................................................................. ...................................................
..............................................................................................................................................................................
...................................................................................................... ........................................................................

.................................................................................................................................................. ...............
..............................................................................................................................................................................
...................................................................................................... ........................................................................

๑๒7

๔. แนวทางแกไ้ ขหรือข้อเสนอแนะ

....................................................................................... .......................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
....................................................................................... .......................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
๕. ผ้รู ายงาน ...........................................ตำแหนง่ .......................................หนว่ ยงาน .......................................
โทรศัพท.์ ...................................................โทรสาร.....................................................E-mail:……....…………………………..………..
วนั ทร่ี ายงาน ........................................................................................................................................................

หมายเหตุ สำนักงานศกึ ษาธิการจังหวดั รวบรวมและสง่ ไปยังสำนักการลูกเสอื ยวุ กาชาดและกจิ การนักเรียน
อาคารเสมารกั ษ์ สำนกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ ถนนราชดำเนินนอก แขวงดุสติ เขตดสุ ิต
กรงุ เทพมหานคร ๑๐๓๐๐

๑๒8

แบบสำรวจความพงึ พอใจ

โครงการฝึกอบรมแกนนำส่งเสริมความประพฤตนิ ักเรียนและนักศึกษา
วันท.ี่ ...........เดอื น........................พ.ศ.....................
ณ ...................................................................

คำชี้แจง

แบบสำรวจนี้มวี ตั ถุประสงค์เพ่อื ศึกษาความพึงพอใจของผู้เขา้ ร่วมโครงการที่มีต่อการจัดกจิ กรรม
โครงการฝกึ อบรมแกนนำสง่ เสรมิ ความประพฤตินักเรียนและนกั ศึกษา เพ่อื นำผลการสำรวจไปพฒั นาและ

ปรับปรุงการดำเนนิ การทม่ี ีคุณภาพต่อไป
โปรดใสเ่ ครื่องหมาย  ลงในชอ่ ง  หรือเติมข้อความทต่ี รงกบั ความเป็นจรงิ ลงในชอ่ งว่าง

ตอนท่ี 1 ข้อมลู ท่ัวไป

๑. เพศ  ชาย  หญงิ

2. อาย.ุ ......................ปี

3. ระดบั การศึกษา

มัธยมศกึ ษาตอนตน้  ชั้นปที ่ี 1  ชัน้ ปที ี่ 2  ชนั้ ปที ่ี 3

มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (สายสามัญ)  ชนั้ ปีที่ 4  ชั้นปีท่ี 5  ชัน้ ปที ี่ 6

มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (สายอาชีพ)  ปวช.๑  ปวช.๒  ปวช.๓

 อืน่ ๆ (โปรดระบ)ุ .......................................

ตอนท่ี 2 ความพึงพอใจท่ีมตี อ่ การให้บริการด้านต่างๆ

ท่านมคี วามพึงพอใจต่อการให้บรกิ ารด้านต่างๆ เหลา่ น้ีอย่างไรบ้าง โปรดทำเครื่องหมาย ในช่อง

ท่ตี รงกบั ความคิดเห็นของทา่ นมากทีส่ ุด โดย

5 = พอใจมากท่ีสดุ 4 = พอใจมาก

3 = พอใจปานกลาง 2 = พอใจน้อย

1 = พอใจน้อยท่สี ุด

การให้บริการ ระดบั ความพึงพอใจ
54321
1. ความพงึ พอใจต่อกระบวนการ/ขน้ั ตอนการดำเนนิ การ
1.1 ขนั้ ตอนการดำเนนิ การไม่ซับซ้อนเข้าใจง่าย
1.2 การดำเนนิ การมีความถกู ต้องและรวดเร็ว
1.3 ระยะเวลาในการดำเนินการเหมาะสมกบั กจิ กรรมโครงการ
1.4 ความชัดเจนในการอธบิ ายหรือชแี้ จง
1.5 การใหบ้ รกิ ารเป็นไปตามลำดบั ก่อน-หลงั อย่างยุตธิ รรม

2. ความพึงพอใจต่อเจา้ หนา้ ที่ผู้ดำเนนิ โครงการ
2.1 เจา้ หน้าทมี่ ีความสุภาพ เป็นมิตร
2.2 เจา้ หน้าทใ่ี ห้บรกิ ารด้วยความสะดวก รวดเรว็
2.3 เจ้าหนา้ ท่ีดูแลเอาใจใส่ กระตือรอื รน้ เตม็ ใจให้บรกิ าร

๑๒9

การใหบ้ รกิ าร ระดับความพึงพอใจ
54321
2.4 เจา้ หน้าทีใ่ หค้ ำแนะนำหรอื ตอบข้อซกั ถามได้เปน็ อย่างดี

2.5 เจ้าหน้าทใี่ ห้คำอธบิ ายและตอบข้อสงสัยไดต้ รงประเด็น

๓. ความพึงพอใจตอ่ ส่งิ อำนวยความสะดวก
3.1 สถานทใี่ นการดำเนินโครงการสะอาด เรยี บรอ้ ย
3.2 มคี วามชัดเจนของสถานที่ทใ่ี ห้บริการ
3.3 เครอื ข่ายคอมพวิ เตอรม์ ีประสิทธภิ าพและเพยี งพอ
3.4 จำนวนส่ือหรือเคร่ืองคอมพิวเตอร์มีเพยี งพอ

4. ความพงึ พอใจต่อคณุ ภาพของการให้บริการ
4.1 ได้รับบรกิ ารท่ีตรงตามความต้องการ
4.2 ไดร้ ับบริการที่ครบถ้วน ถูกตอ้ ง
4.3 มีความชดั เจนในการใหค้ ำแนะนำที่เปน็ ประโยชน์

ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................. ........................................

************************

ตราสัญลัก
ประจำหนว่ ยงา

............. หนว่ ยงา
วุฒบิ ัตรฉบบั นใ้ี ห

................................

ไดผ้ า่ นการฝึกอบรมโครงการฝกึ อบรมแกนนำ

ระหวางวนั ท่ี ................. เดอื น ..
ณ ...................................................................... อำเภอ...

จัดโดย ........................................................
ร่วมกบั ..........................................................

ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ........................

(.......................
หัวหนา้ หน

กษณ์
านของผู้จดั

านผ้จู ดั ...............
หไ้ ว้เพื่อแสดงว่า

...............................

ำส่งเสริมความประพฤตนิ กั เรียนและนักศกึ ษา

................................ พ.ศ. ๒๕๖๔
............................................. จังหวัด...............................
.....................................................................
.....................................................................
.......................... พ.ศ. ๒๕๖๔

..............................)
นว่ ยงานผูจ้ ดั

๑30

ตราสญั ล
ประจำหนว่ ยงา

แบบวฒุ

.............. หน่วยงา
เกยี รติบัตรฉบบั นใี้

................................

ไดใ้ ห้การสนบั สนนุ การดำเนินโครงการฝึกอบรมแก

ระหวา่ งวันท่ี ................. เดอื น .
ณ ...................................................................... อำเภอ..

จดั โดย ........................................................
รว่ มกบั ..........................................................

ใหไ้ ว้ ณ วันที่ .......................
(นายการุณ ส
ปลดั กระทรวง
(...........................
หวั หน้าหนว่ ย

ลักษณ์
านของผ้จู ดั

ฒิบัตร

านผูจ้ ดั ................
ใหไ้ วเ้ พอ่ื แสดงวา่

...............................

กนนำส่งเสริมความประพฤตินกั เรียนและนกั ศึกษา

................................. พ.ศ. ๒๕๖๔
.............................................. จังหวัด...............................
.....................................................................
.....................................................................

........................... พ.ศ. ๒๕๖๔
สกุลประดษิ ฐ์)
งศึกษาธิการ
..........................)
ยงานผจู้ ดั

130

ตราสญั ล
ประจำหนว่ ยง

แบบเกยี

..........หนว่ ยงา
เกยี รตบิ ตั รฉบับนี้ใ

................................

เป็นวทิ ยากรโครงการฝึกอบรมแ

ระหว่างวันที่ ................ เดอื น ....
ณ ................................................................................ อ

จดั โดย ...................................................
รว่ มกับ ....................................................

ให้ไว้ ณ วนั ท่ี .....................

(.........................
หวั หนา้ หนว่

ลักษณ์
งานของผ้จู ดั

ยรตบิ ัตร

านผจู้ ัด..........
ใหไ้ ว้เพอ่ื แสดงว่า

...............................

แกนนำส่งเสริมความประพฤติ

............................... พ.ศ. ๒๕๖๔
อำเภอ.............................. จังหวัด.................................
...............................................................
...............................................................

........................ พ.ศ. ๒๕๖๔

............................)
วยงานผู้จดั

๑๓1

๑๓2

คำส่งั สำนักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร
ท่ี ๓๕๘ /๒๕๖๔

เร่ือง แตง่ ต้ังคณะกรรมการจดั ประชุมเชงิ ปฏิบตั กิ ารจดั ทำรา่ งหลกั สตู รและคู่มือฝกึ อบรมแกนนำส่งเสริม
ความประพฤตนิ กั เรียนและนกั ศึกษา

ตามที่ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้อนุมัติให้สำนักการลูกเสือ ยุวกาชาด และกิจการนักเรียน
จัดดำเนินงานกิจกรรมที่ ๑ ประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำร่างหลักสูตรและคู่มือฝึกอบรมแกนนำส่งเสริมความประพฤตินักเรียน
และนักศึกษา โดยมวี ัตถุประสงคเ์ พ่ือจดั ทำหลักสูตรและคู่มือการจัดกจิ กรรมโครงการฝึกอบรมแกนนำส่งเสริมความประพฤติ
นกั เรยี นและนกั ศึกษา นน้ั

เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และบรรลุตามวัตถุประสงค์ท่ีกำหนดไว้ จึงแต่งตั้ง
คณะกรรมการดำเนินงานจัดประชุมเชงิ ปฏิบัติการจดั ทำร่างหลักสูตรและคู่มอื ฝึกอบรมแกนนำส่งเสริมความประพฤตินักเรียน
และนักศกึ ษา ดงั ต่อไปน้ี

คณะทปี่ รึกษา

๑. รองปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ (นายสุทิน แกว้ พนา)
๒. ผ้อู ำนวยการสำนักการลูกเสอื ยุวกาชาด และกิจการนกั เรียน
๓. ผ้อู ำนวยการกลมุ่ สง่ เสรมิ และพฒั นาการลกู เสอื
๔. ผู้อำนวยการกลมุ่ ส่งเสริมและพัฒนายุวกาชาด
๕. ผ้อู ำนวยการกลมุ่ สง่ เสรมิ และพัฒนากิจการนักเรยี นและนักศึกษา
๖. ผอู้ ำนวยการศูนยพ์ ฒั นาบุคลากรทางการลกู เสอื ยุวกาชาดและกจิ กรรมเยาวชน
๗. ผูอ้ ำนวยการกลมุ่ อำนวยการ
มีหน้าทรี่ ับผดิ ชอบ

ให้คำปรึกษา แนะนำ ประสานงาน อำนวยความสะดวกและกำกับดูแลให้การดำเนินงาน
เปน็ ไปดว้ ยความเรยี บร้อย และบรรลุตามวัตถปุ ระสงค์ของโครงการ

คณะกรรมการยกร่างหลกั สูตรและคมู่ อื การส่งเสริมความประพฤตนิ ักเรียนและนกั ศกึ ษา

๑. นายทองพูล จันทบรู ณ์ ประธานกรรมการ

ผู้อำนวยการกล่มุ สง่ เสริมและพัฒนากจิ การนักเรยี นและนักศกึ ษา

สำนักการลูกเสือ ยวุ กาชาดและกจิ การนักเรยี น

๒. นางสรอ้ ยทอง บตุ ตะ รองประธานกรรมการ

นักทรพั ยากรบุคคลชำนาญการพเิ ศษ

สำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกจิ การนักเรยี น

/๓. นายเศรษฐา...

-๒- ๑๓3

๓. นายเศรษฐา เสนะวงศ์ กรรมการ
ศกึ ษาธิการจังหวดั ตราด กรรมการ
สำนักงานศกึ ษาธกิ ารจังหวัดตราด กรรมการ
กรรมการ
๔. นายสันตภิ ทั ร โคจจี ลุ กรรมการ
ศึกษาธิการจังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี กรรมการ
สำนักงานศึกษาธกิ ารจงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี กรรมการ
กรรมการ
๕. นางอรทยั เกิดภิบาล กรรมการ
รองศึกษาธิการจังหวัดตรงั กรรมการ
สำนักงานศกึ ษาธิการจงั หวดั ตรงั กรรมการ
กรรมการ
๖. นางกชพร มณีพงษ์
รองผอู้ ำนวยการสำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต ๔ /๑๕. นายไพโรจน.์ ..
สำนักงานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต ๔

๗. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พัชรี ถุงแก้ว
มหาวิทยาลัยราชภฏั บรุ รี มั ย์

๘. ว่าท่ีร้อยตรี วิศษิ ฐ พชรวโรทยั
ผู้อำนวยการโรงเรยี นวัดบางพนู
สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑

๙. ว่าท่ีรอ้ ยเอก ภพู ยงค์ คงชนะ
ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการสรุ าษฎรธ์ านี
สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต ๑๑

๑๐. นายโสภณ ทองจิตร
ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
สำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต ๑๑

๑๑. นายวานิช อนิ ทร์สวุ รรณ
ผอู้ ำนวยการโรงเรียนเขาพนมแบกศึกษา
สำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต ๑๑

๑๒. นางสาวสายสนุ ีย์ ศรสี ุวรรณ
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นส่ีแยกบางเตย (แก่นจำเนยี รอนุสรณ์)
สำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑

๑๓. นางชอ่ มาลยั คงศริ ิ
ผ้อู ำนวยการโรงเรียนวดั บางเตยใน
สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑

๑๔. นายนริ ุทธ์ แกว้ นิคม
รองผู้อำนวยการโรงเรียนเพชรพิทยาคม
สำนกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๔๐

-๓- ๑๓4

๑๕. นายไพโรจน์ เดชะรัตนางกูร กรรมการ
รองผู้อำนวยการโรงเรียนเมอื งราดวทิ ยาคม กรรมการ
สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๔๐ กรรมการ
กรรมการ
๑๖. นางสาวสนุ ันทนิ ี สขุ สวสั ดิ์ กรรมการ
รองผู้อำนวยการโรงเรียนนวมินทราชินทู ศิ หอวัง นนทบุรี กรรมการ
สำนักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต ๓ กรรมการ
กรรมการ
๑๗. นายเบญจพันธ์ุ ผ่องสวัสด์ิ กรรมการ
ครู วทิ ยฐานะ ชำนาญการพเิ ศษ
โรงเรยี นสตรปี ระเสริฐศิลป์ /๒๔. นายมงคล...
สำนักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต ๑๗

๑๘. นายศุภกร รตั นวงษ์
ครู วทิ ยฐานะ ชำนาญการ
โรงเรยี นสตรปี ระเสริฐศิลป์
สำนักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๑๗

๑๙. นางสาวกนกวรรณ ไกรภูมิ
ครู
โรงเรยี นเตรยี มอุดมศึกษาพฒั นาการสรุ าษฎรธ์ านี
สำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑๑

๒๐. นายอภิเชษฐ จนั ทนา
ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพเิ ศษ
โรงเรียนทุ่งโพธิท์ ะเลพิทยา
สำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต ๔๑

๒๑. นางสาวเมขลา ถน่ิ วิมล
ครู วทิ ยาฐานะ ชำนาญการ
โรงเรียนสุเหร่าใหมเ่ จรญิ
สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาปทมุ ธานี เขต ๑

๒๒. นายจรญู จนั ทะคาม
เจา้ หน้าทบี่ รหิ ารการศึกษา คศ. ๓
หวั หนา้ ศนู ย์พฒั นาบคุ ลากรทางการลูกเสอื
ยวุ กาชาดและกจิ กรรมเยาวชนจงั หวดั อดุ รธานี

๒๓. นางปาลกิ า นธิ ปิ ระเสริฐกุล
ผู้อำนวยการกลมุ่ ลกู เสือ ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรียน
สำนักงานศกึ ษาธิการจงั หวัดชลบรุ ี

-๔- ๑๓5

๒๔. นายมงคล สายสงู กรรมการ
ผอู้ ำนวยการกลมุ่ ลกู เสอื ยุวกาชาดและกจิ การนักเรียน กรรมการ
สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดน่าน กรรมการ
กรรมการ
๒๕. นายประเทือง สว่าง กรรมการ
เจา้ หน้าทบี่ รหิ ารการศึกษา คศ.๓ กรรมการ
สำนกั งานศกึ ษาธิการจงั หวัดมหาสารคาม กรรมการ
กรรมการ
๒๖. นางประภัทศร เหลอื งประเสริฐ กรรมการ
นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพเิ ศษ กรรมการ
สำนกั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ กรรมการ
กรรมการ
๒๗. นายวินัย นารผี ล กรรมการ
พยาบาลวิชาชีพปฏบิ ัตกิ าร
สถาบนั สุขภาพจติ เดก็ และวยั รุ่นราชนครนิ ทร์ /๓๗. นางสาวกิตติยา...

๒๘. นางสาววรรณนสิ า สุขทอง
นกั จิตวทิ ยาคลินกิ ปฏบิ ัตกิ าร
สถาบนั สขุ ภาพจิตเด็กและวยั ร่นุ ราชนครนิ ทร์

๒๙. นางสาวสุดาภรณ์ คำดวงดาว
นักกจิ กรรมบำบัดปฏบิ ตั กิ าร
สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวยั รุ่นราชนครนิ ทร์

๓๐. นายสุวรรณ ปลายแก่น
ขา้ ราชการบำนาญ

๓๑. นายพนม รอดสันเทียะ
ข้าราชการบำนาญ

๓๒. นายอาทติ ย์ พงษ์สุวรรณ
ขา้ ราชการบำนาญ

๓๓. นางเนาวรตั น์ ชสู กลุ
ข้าราชการบำนาญ

๓๔. นายยนิ ดี ปน้ั แววงาม
ข้าราชการบำนาญ

๓๕. นางสาวอรวรรณ งามพรหม
นักจดั การงานทว่ั ไปชำนาญการ
สำนักการลกู เสอื ยุวกาชาดและกจิ การนักเรยี น

๓๖. นางสุวนดิ า พูลแสง
เจ้าพนกั งานธุรการชำนาญงาน
สำนกั การลกู เสือ ยุวกาชาดและกจิ การนักเรยี น

๑๓6

-๕-

๓๗. นางสาวกิตตยิ า หลอ่ ตจะกูล กรรมการ

เจา้ พนกั งานธุรการชำนาญงาน

สำนักการลกู เสือ ยุวกาชาดและกจิ การนกั เรยี น

๓๘. นายไพศกั ด์ิ ประชายูร กรรมการ

เจา้ หน้าท่ปี ฏบิ ตั ิงานดา้ นข้อมลู สารสนเทศ

สำนกั การลกู เสอื ยุวกาชาดและกิจการนักเรยี น

๓๙. นายนพรตั น์ อนิ ทรช์ ู กรรมการ

เจา้ หน้าท่ีปฏบิ ตั ิงานด้านขับรถยนต์

สำนักการลกู เสือ ยวุ กาชาดและกิจการนกั เรยี น

๔๐. นายธญั ธนา ประภาวงค์ กรรมการ

เจา้ หน้าท่ปี ฏิบัตงิ านด้านขับรถยนต์

สำนกั การลกู เสือ ยวุ กาชาดและกจิ การนักเรยี น

๔๑. นายอาสาฬห์ พรหมรักษ์ กรรมการแลเลขานุการ

นกั ทรพั ยากรบุคคลชำนาญการพเิ ศษ

สำนกั การลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรยี น

๔๒. นางสาวอุษณี กติ ตธิ นะบรู ณ์ กรรมการแลผู้ช่วยเลขานุการ

นักวชิ าการศกึ ษาชำนาญการ

สำนักการลูกเสอื ยวุ กาชาดและกิจการนักเรยี น

๔๓. นางสาวพรนิภา จงเจรญิ กรรมการแลผชู้ ่วยเลขานกุ าร

พนกั งานพมิ พ์ ส ๔

สำนักการลกู เสือ ยวุ กาชาดและกิจการนักเรยี น

มีหนา้ ท่รี บั ผดิ ชอบ

ใหข้ อ้ คิด ข้อเสนอและจัดทำเค้าโครงรา่ งหลกั สตู รและคู่มือฝกึ อบรมแกนนำสง่ เสรมิ ความประพฤตนิ ักเรียน

และนักศึกษา ตามที่ได้รับมอบหมายและเป็นผู้รับผิดชอบในการนำเสนอสาระสำคัญ และรายละเอียดของวิชาที่ได้รับ

มอบหมายในการประชุมเชิงปฏิบัติการเพ่ือจัดทำหลักสูตรและคู่มือ การฝึกอบรมแกนนำส่งเสริมความประพฤติ

นักเรยี นและนักศึกษา

คณะกรรมการจดั ทำหลกั สตู รและคู่มือการส่งเสริมความประพฤตนิ กั เรยี นและนกั ศกึ ษา

๑. นายทองพูล จนั ทบรู ณ์ ประธานคณะทำงาน

ผูอ้ ำนวยการกลมุ่ ส่งเสริมและพฒั นากิจการนกั เรยี นและนกั ศกึ ษา

สำนักการลูกเสือ ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรยี น

๒. นางสร้อยทอง บุตตะ รองประธานคณะทำงาน

นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการพเิ ศษ

สำนักการลกู เสือ ยุวกาชาดและกจิ การนกั เรียน

/๓. นายเศรษฐา...

-๖- ๑๓7

๓. นายเศรษฐา เสนะวงศ์ กรรมการ
ศึกษาธกิ ารจงั หวดั ตราด กรรมการ
สำนกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวดั ตราด กรรมการ
กรรมการ
๔. นายสันตภิ ัทร โคจีจลุ กรรมการ
ศึกษาธกิ ารจังหวัดสุราษฎร์ธานี กรรมการ
สำนักงานศึกษาธิการจงั หวัดสุราษฎร์ธานี กรรมการ
กรรมการ
๕. นางอรทยั เกิดภิบาล กรรมการ
รองศึกษาธิการจงั หวัดตรงั กรรมการ
สำนกั งานศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั ตรงั กรรมการ
กรรมการ
๖. นางกชพร มณพี งษ์
รองผู้อำนวยการสำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต ๔
สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๔

๗. นางสาวสุวภิ า ต้งั ก่อสกุล
รองผ้อู ำนวยการสำนกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑๔
สำนักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต ๑๔

๘. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ พชั รี ถุงแก้ว
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั บุรรี มั ย์

๙. วา่ ทรี่ อ้ ยตรี วศิ ษิ ฐ พชรวโรทัย
ผู้อำนวยการโรงเรยี นวัดบางพนู
สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาปทมุ ธานี เขต ๑

๑๐. วา่ ที่ร้อยเอก ภูพยงค์ คงชนะ
ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรยี มอุดมศกึ ษาพฒั นาการสรุ าษฎรธ์ านี
สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต ๑๑

๑๑. นางสาวสาพิตี ข้อออ
ผู้อำนวยการโรงเรยี นวัดทา่ ศาลาราม (เรือนบุญนาคาลยั )
สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเพชรบรุ ี เขต ๒

๑๒. นายสรุ พล พมิ พส์ อน
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นคลองขลงุ ราษฎรร์ ังสรรค์
สำนักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต ๔๑

๑๓. นายศิลปปนิ พรหมมณี
ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นหินกอง
สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบครี ีขนั ธ์ เขต ๑

๑๔. นายวานิช อนิ ทรส์ วุ รรณ
ผ้อู ำนวยการโรงเรียนเขาพนมแบกศึกษา
สำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต ๑๑

/๑๕. นางสาวสายสุนยี .์ ..

-๗- ๑๓8
กรรมการ
๑๕. นางสาวสายสนุ ีย์ ศรสี วุ รรณ กรรมการ
ผู้อำนวยการโรงเรียนส่แี ยกบางเตย (แกน่ จำเนยี รอนสุ รณ์) กรรมการ
สำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต ๑ กรรมการ
กรรมการ
๑๖. นายสรุ ยิ า สุนาอาจ กรรมการ
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนบ้านคำโป้งเปง้ โคตรธสิ ารวทิ ยา กรรมการ
สำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาหนองคาย เขต ๑ กรรมการ
กรรมการ
๑๗. นายนริ ุทธ์ แก้วนคิ ม กรรมการ
รองผู้อำนวยการโรงเรียนเพชรพิทยาคม
สำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๔๐ /๒๕. นายสมศักด.์ิ ..

๑๘. นายไพโรจน์ เดชะรัตนางกรู
รองผู้อำนวยการโรงเรยี นเมืองราดวิทยาคม
สำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๔๐

๑๙. นางสาวสนุ นั ทินี สขุ สวัสด์ิ
รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นนวมนิ ทราชินทู ศิ หอวงั นนทบรุ ี
สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต ๓

๒๐. นายเบญจพนั ธุ์ ผ่องสวัสด์ิ
ครู วทิ ยฐานะ ชำนาญการพเิ ศษ
โรงเรยี นสตรีประเสรฐิ ศลิ ป์
สำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศึกษา เขต ๑๗

๒๑. นายศุภกร รตั นวงษ์
ครู วทิ ยฐานะ ชำนาญการ
โรงเรยี นสตรปี ระเสริฐศลิ ป์
สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต ๑๗

๒๒. นางสาวกนกวรรณ ไกรภมู ิ
ครู
โรงเรียนเตรยี มอุดมศึกษาพฒั นาการสรุ าษฎรธ์ านี
สำนักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๑๑

๒๓. นายอภเิ ชษฐ จนั ทรา
ครู วทิ ยฐานะ ชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนทุง่ โพธ์ิทะเลพทิ ยา
สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๔๑

๒๔. นางสาวเมขลา ถิ่นวมิ ล
ครู วทิ ยฐานะ ชำนาญการ
โรงเรยี นสุเหร่าใหมเ่ จรญิ
สำนกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาปทมุ ธานี เขต ๑

-๘- ๑๓9

๒๕. นายสมศกั ด์ิ เลิศปรีชาสกลุ กรรมการ
นักทรพั ยากรบุคคลชำนาญการพเิ ศษ
ศนู ยพ์ ัฒนาบคุ ลากรทางการลูกเสอื ยุวกาชาดและกจิ กรรมเยาวชน กรรมการ
“กฐิน กุยยกานนท์”
กรรมการ
๒๖. นายจรญู จันทะคาม กรรมการ
เจา้ หนา้ ท่ีบริหารการศึกษา คศ. ๓ กรรมการ
หัวหน้าศนู ย์พัฒนาบุคลากรทางการลกู เสือ ยุวกาชาดและกจิ กรรมเยาวชน กรรมการ
จงั หวดั อุดรธานี กรรมการ
กรรมการ
๒๗. นายสุพจน์ ศรวี งศ์แสง กรรมการ
ผ้อู ำนวยการกลุม่ ลูกเสอื ยุวกาชาดและกจิ การนกั เรยี น กรรมการ
สำนักงานศึกษาธิการจังหวดั กาฬสินธ์ุ กรรมการ

๒๘. นางสาวมนัสชล แพไธสง /๓๖. นายมงคล...
ผู้อำนวยการกล่มุ ลกู เสือ ยุวกาชาดและกจิ การนักเรียน
สำนกั งานศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั ขอนแกน่

๒๙. นางปาลิกา นิธปิ ระเสริฐกุล
ผู้อำนวยการกลุ่มลกู เสอื ยวุ กาชาดและกิจการนักเรียน
สำนักงานศกึ ษาธกิ ารจังหวัดชลบุรี

๓๐. นางอำไพ จนั ทรห์ ลา้ ฟา้
ผู้อำนวยการกลุ่มลกู เสือ ยุวกาชาดและกิจการนกั เรยี น
สำนกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวดั เชยี งใหม่

๓๑. นางผกาอุษา สุนทรนนท์
ผูอ้ ำนวยการกลุม่ ลูกเสอื ยวุ กาชาดและกิจการนักเรียน
สำนักงานศึกษาธิการจังหวดั ตรัง

๓๒. นางธัญญาภรณ์ สงิ ห์ไฝแก้ว
ผ้อู ำนวยการกลมุ่ ลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน
สำนักงานศกึ ษาธกิ ารจังหวัดตาก

๓๓. นางสาววรรณวิมล ภักดี
ผู้อำนวยการกลุ่มลูกเสอื ยุวกาชาดและกจิ การนกั เรียน
สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครนายก

๓๔. นางนงลักษณ์ เศรษฐพฐู ์
ผ้อู ำนวยการกลมุ่ ลูกเสือ ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรียน
สำนกั งานศึกษาธกิ ารจงั หวัดนครพนม

๓๕. นางสุวคนธ์ บัวรัตนกาญจน์
ผู้อำนวยการกลุ่มลูกเสอื ยุวกาชาดและกจิ การนักเรยี น
สำนกั งานศึกษาธิการจังหวัดนครศรธี รรมราช

-๙- ๑40

๓๖. นายมงคล สายสงู กรรมการ
ผอู้ ำนวยการกลุ่มลูกเสอื ยวุ กาชาดและกจิ การนักเรียน กรรมการ
สำนักงานศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั นา่ น กรรมการ
กรรมการ
๓๗. นางกุลธดิ า ซว้ นลมิ่ กรรมการ
ผู้อำนวยการกลุ่มลกู เสือ ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรียน กรรมการ
สำนกั งานศกึ ษาธิการจงั หวัดปทมุ ธานี กรรมการ
กรรมการ
๓๘. นางสาวจนิ ตนา สงั ข์รุ่ง กรรมการ
ผู้อำนวยการกลมุ่ ลูกเสอื ยุวกาชาดและกิจการนกั เรยี น กรรมการ
สำนกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวัดประจวบครี ีขันธ์ กรรมการ

๓๙. นางนันทยิ า ดาราแม /๔๗. นายวิภูธนนิ ท.์ ..
ผู้อำนวยการกลมุ่ ลกู เสือ ยวุ กาชาดและกิจการนกั เรียน
สำนักงานศกึ ษาธกิ ารจังหวดั ปัตตานี

๔๐. นางอไุ รวรรณ วิชยั กุล
ผอู้ ำนวยการกลุ่มลกู เสือ ยวุ กาชาดและกจิ การนักเรียน
สำนักงานศึกษาธกิ ารจงั หวดั พทั ลงุ

๔๑. นายอรรถนนท์ อุดคำมี
ผู้อำนวยการกลุ่มลกู เสือ ยุวกาชาดและกิจการนกั เรียน
สำนักงานศกึ ษาธกิ ารจังหวดั แพร่

๔๒. นางสรชุ า หตุ ะจูฑะ
ผ้อู ำนวยการกลมุ่ ลูกเสือ ยุวกาชาดและกจิ การนักเรียน
สำนักงานศึกษาธิการจงั หวัดภเู ก็ต

๔๓. นางสาวมทั นา สภุ สวสั ด์ิ
ผอู้ ำนวยการกลุ่มลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน
สำนกั งานศึกษาธกิ ารจังหวัดมกุ ดาหาร

๔๔. นางณชิ ากร หาญคำมลู
ผอู้ ำนวยการกลุ่มลูกเสือ ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรยี น
สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสกลนคร

๔๕. นางสาวสหนนั ท์ ศรีแสง
ผู้อำนวยการกลมุ่ ลกู เสอื ยวุ กาชาดและกิจการนกั เรยี น
สำนกั งานศกึ ษาธิการจังหวัดสรุ าษฎร์ธานี

๔๖. นางกลั ยาลกั ษณ์ อย่บู าง
ผอู้ ำนวยการกลมุ่ ลูกเสอื ยวุ กาชาดและกิจการนักเรียน
สำนักงานศึกษาธกิ ารจงั หวดั อุตรดิตถ์


Click to View FlipBook Version