่
ื
ช่วยเหลอซงกันและกัน
ึ
ื่
เมอประสบภัย
泰文版
คู่มือป้องกัน โรคโควิด-19
新型冠状病毒肺炎防护手册
คณะกรรมการสุขภาพแห่งมณฑลหยุนหนาน
มหาวิทยาลัยการแพทย์คุนหมิง
สถาบันการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ มณฑลหยุนหนาน
สำานักพิมพ์หยุนหนาน เอ็ดดูเคชั่น
ผู้แต่ง
บริษัท สำานักพิมพ์หยุนหนาน กรุ๊ป จำากัด
สำานักพิมพ์ภาพและเสียงอิเล็กทรอนิคส์หยุนหนาน เอ็ดดูเคชั่น
คู่มือป้องกันโรคโควิด-19
คณะกรรมการสุขภาพแห่งมณฑลหยุนหนาน
มหาวิทยาลัยการแพทย์คุนหมิง ผู้แต่ง
สถาบันการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ มณฑลหยุนหนาน
สำานักพิมพ์หยุนหนาน เอ็ดดูเคชั่น
ผู้จัดทำา : Li Wei , Hu Ping
ผู้วางแผน : Li Wei
ผู้รวบรวม : Yang Jun , Zhao Yi
บรรณาธิการผู้รับผิดชอบ : Zhao Yi , Sun Hongyu, Lei Falin ,
Wu Huajuan , Zhang Li , Lv Min , Wang Xiyun , Ran Xu ,
Zhao Yixin , Zhang Jingyu , Rong Jing , Cheng Zhaohua ,
Dong Qiuxiang , Xu Zihan , Luo Xuan , Xu Jian
ปรับปรุงข้อมูล : Du Zhen , Yang Bin
ภาพประกอบ : Li Jiaying
ออกแบบหน้าปก : Qin Huixian
จัดทำาโดย : สำานักพิมพ์หยุนหนาน เอ็ดดูเคชั่น
จัดพิมพ์โดย : บริษัท สำานักพิมพ์หยุนหนาน กรุ๊ป
สำานักพิมพ์ภาพและเสียงอิเล็กทรอนิคส์หยุนหนาน เอ็ดดูเคชั่น
ที่อยู่ : สวนการศึกษา ถนนซีฝูลู่ เขตซีชาน นครคุนหมิง
ไปรษณีย์ : 650228
เบอร์โทร : 0871-64623598
รายชื่อบรรณาธิการ
ั
ิ
้
หวหนาบรรณาธการ : Yuan Bin , He Xiangqun , Bai Song , Xuan Yucai
ิ
้
ผูด�าเนนการหลัก : Xu Chuanzhi , Tang Songyuan , Xu Honghui , Duan Yong
ิ
รองบรรณาธการ : Pan Xuyang , Wang Yongzhong , Zhang Ruilin , Zhou Hongxing
Li Kelin , Deng Rui , Huang Youqing , Cui Wenlong , Huang Yuan
Liu Huiqun
ผูสนบสนุนการแปล :
้
ั
้
๑. ความรูทั่วไป
01
้
เชอไวรสโคโรนาสายพันธุใหม และ โรคโควิด-19 คืออะไร
ื
่
ั
์
่
็
ึ
ั
ั
ี
ี่
ึ
ื
ื
ุ
เช้อไวรสโคโรนา เปนกล่มสายพันธทมความหลากหลาย ซงรวมถงเช้อไวรสหลายๆ
ุ
์
่
ชนด พวกมันเปนสาเหตททำาให้เกิดไข้หวัด และอาจจะทำาให้เกิดอาการปวยทรนแรง จน
ี
ุ
ุ
็
ิ
ี
่
่
ี
ี่
์
ื
ี
ุ
์
ี
ี
กระทั่งเสยชวิตได้ โดยโรคเมอรส และโรคซารสทเคยมการแพร่ระบาดก็มสาเหตมาจากเช้อ
ั
ี
ไวรสโคโรนา เช่นเดยวกัน
ั
ิ
่
ึ
ั
ุ
ุ
็
ื
ื
เช้อไวรสโคโรนาสายพันธใหม่ เปนเช้อไวรสโคโรนาชนดใหม่ ซงไม่เคยพบว่ามนษย์
์
ิ
สามารถตดเช้อชนดน้ได้ เมอได้ตดเช้อไวรสชนดน้จะทำาให้ปอดอักเสบ องค์การอนามัยโลก
ิ
ี
ื่
ื
ั
ิ
ี
ิ
ื
ตั้งชอให้กับโรคชนดน้ว่า“COVID-19”
ิ
ื่
ี
1
02
เชอไวรสของโรคโควิด-19 มีลักษณะพิเศษอยางไร
ื
ั
้
่
ี
ื
้
่
ี
ั
ึ
ั
เช้อไวรสของโรคโควิด-19 จะมความไวต่อรงส UV และความรอน ซงจะถูกกำาจัด
ได้ด้วยความรอนท 56℃ เป็นเวลานาน 30 นาที , ไดเมทิลอีเทอร์ , แอลกอฮอล์ทางการ
ี่
้
ิ
ี
แพทย์ทมความเข้มข้น 75% , นำ้ายาฆ่าเช้อคลอรน , ตัวทำาละลายไขมันกรดเปอรอะซตกและ
์
ี
ิ
ื
ี่
ื
ิ
์
ี
ั
ุ
ี
์
คลอโรฟอรม แต่สารคลอรเฮกซดนจะไม่มคณสมบัตในการกำาจัดเช้อไวรสได้
ิ
ิ
เนองจากบรเวณรอบๆผิวของมัน
ื่
มลักษณะคล้ายมงกุฏ ดังนั้นพวกเราจง ึ
ี
้
ี
เรยกมันว่าไวรส Corona ฉันสามารถทำาให้คนตัวรอน ม ี
ั
ื่
ี
ไข้ ไอ ไม่มแรง อ่อนเพลย ปวดเมอย
ี
ตามตัว หายใจลำาบาก หรอจนกระทั่ง
ื
ี
เสยชวิต
ี
ธันวาคม 2562
่
ื
่
่
ผู้ปวยทมอาการปอดอักเสบข้นมาอย่างต่อเนอง ในนครอู่ฮั่น มณฑลหเปย ประเทศ
่
ี
ึ
ู
ี
จีน
12 มกราคม 2563
ี
่
ิ
ั
องค์การอนามัยโลกได้เรยกเช้อไวรสโคโรนาสายพันธใหม่ชนดน้ ว่า “2019-nCoV” ซง ึ
ี
ื
ุ
์
เปนชอชั่วคราว
ื่
็
11 กุมภาพันธ 2563
์
็
องค์การอนามัยโลกได้ตั้งชอให้โรคทเกิดจากเช้อไวรสโคโรนาสายพันธใหม่ อย่างเปน
ี่
ื
ั
์
ื่
ุ
ทางการว่า“COVID-19”
2
03
่
่
เชอไวรสของโรคโควิด-19 แพรระบาดอยางไร
ั
้
ื
่
การแพรระบาดโดยตรง
ุ
ื่
ื
ั
ิ
ผ่านละอองสารคัดหลั่งในระยะใกล้กับผู้ตดเช้อ เช่น จาม ไอ หรอพูดคย เมอได้รบเช้อ
ื
ื
จะทำาให้เกิดการตดเช้อ
ิ
ื
การแพรระบาดโดยการสมผัส
ั
่
ี่
ุ
ละอองสารคัดหลั่งทเกาะอยู่ตามพื้นผิววัสด เมอสัมผัสโดนตัวหรอจับต้องใช้งาน หลัง
ื
ื่
ื
็
ิ
ื
จากนั้นนำาไปสัมผัสทปาก จมูก หรอดวงตา เปนต้น จะทำาให้เกิดการตดเช้อได้
ี่
่
่
การแพรระบาดโดยผานอากาศ
เมออยู่ในสภาพแวดล้อมแบบปดเปนเวลานานและมปรมาณละอองของไวรสเข้มข้น
่
ื
ั
ิ
ี
ิ
็
ั
่
ู
ื
ื
สงก็อาจจะเกิดการแพร่เช้อได้เช่นกัน เนองจากในการแยกเช้อไวรสของโรคโควิด-19 ในปสสาวะ
ื
ั
ิ
ื
และอจจาระจะต้องใช้ความระมัดระวังเกียวกับกับละอองทกระจายออกส่ส่งแวดล้อมหรอ
่
ี
่
ู
ุ
ทำาให้เกิดการแพร่เช้อแบบการสัมผัส
ื
3
04
สตวเลี้ยงสามารถแพรระบาดเชอไวรสของโรคโควิด-19 ไดหรอไม ่
้
ื
้
ื
์
ั
ั
่
ี
ี
ื
ุ
ั
ในปจจบัน ยังไม่มหลักฐานบ่งช้ว่าสัตว์เล้ยงจะสามารถแพร่เช้อโรคโควิด-19ได้ หลัง
ี
ื
ี
ี่
จากสัมผัสกับสัตว์เล้ยงแล้วให้ใช้สบ่และนำ้าเปล่าล้างมอ สามารถช่วยลดแบคทเรยทั่วไปทอยู่
ู
ี
ี
ี
ิ
ในสัตว์เล้ยงได้ เช่น เอสเชอรเชย โคไล และเช้อซาลโมเนลลา เปนต้น
ื
็
ี
05
้
้
้
ั
่
็
เพราะเหตุใดจึงตองท�าการกักตัวดูอาการผูที่สมผัสกับผูปวยเปน
เวลา 14 วัน
ั
ี่
เนองจากระยะฟกตัวของโรคโควิด-19 จะอยู่ทประมาณ 1-14 วัน โดยส่วนมากจะอยู่ใน
ื่
่
ื
ี
ี
ิ
ช่วง 3-7 วัน หากพ้น 14 วันไปแล้วยังไม่มอาการเจ็บปวย ในเบ้องต้นจะวินจฉัยว่าไม่มการตด
ิ
เชื้อ
็
การควบคมทางการแพทย์อย่างเข้มงวด เปนหนงในขั้นตอนความรบผิดชอบต่อสขภาพ
ุ
ั
่
ุ
ึ
ี่
ิ
ของประชาชน และเปนวิธการปฏบัตทั่วไปทใช้ในประชาคมโลก
ี
็
ิ
06
์
จะพิจารณาอยางไรวาตนเองสมควรจะตองไปพบแพทยหรอไม ่
่
ื
้
่
ี
ี
ุ
หากมไข้ (อณหภูมใต้รกแร ≥37.3℃) ไม่มแรง ไอแห้ง อาการเหล่าน้ก็ยังไม่สามารถ
ี
ั
้
ิ
ึ
ิ
ั
ี
ี
ื
ั
ุ
ยืนยันได้ว่าคณได้รบเช้อ แต่หากมอาการเหล่าน้ปรากฎข้น จะต้องรบเข้ารบการตรวจวินจฉัย
ี
ในสถาบันการแพทย์โดยทันท ี
ิ
ี่
ื
① ก่อนหน้าทจะแสดงอาการปวย 14 วันมประวัตการเดนทางท่องเทยวหรอพักอาศัย
ี่
ิ
่
ี
ิ
ในบรเวณทเกิดการแพร่ระบาดของโรค ② ก่อนหน้าที่จะแสดงอาการป่วย 14 วัน ได้มีการใกล้
ี่
ิ
ิ
ิ
ี
ื
ี
่
่
ั
ชดหรอสัมผัสกับผู้ปวยโรคโควิด-19(ได้รบการยืนยันจากการตรวจสอบกรดนวคลอกทให้ผล
เปนบวก) ③ ก่อนหน้าที่จะแสดงอาการป่วย 14 วัน มีการใกล้ชิดหรือสัมผัสกับผู้ที่เดินทางมา
็
จากแหล่งแพร่ระบาดของโรค ④ การรวมกลุ่มชุมนุม (ภายในระยะเวลา 14 ได้ไปหรืออยู่ใน
ิ
ี่
่
ี
ี่
สภาพแวดล้อมทพบผู้ปวยมากกว่า 2 คนข้นไปทมไข้และโรคระบบทางเดนหายใจ เช่น ทบ้าน
ี่
ึ
็
ี
สำานักงาน ห้องเรยน เปนต้น )
4
07
่
สงสยวาตนเองหรอคนรอบตัวติดเชอโรคโควิด-19 จะท�าอยางไร
้
ื
่
ื
ั
หากสงสัยว่าตนเองหรอคนรอบตัวตดเช้อโรคโควิด-19 ควรจะรบแจ้งคนในครอบครว
ิ
ั
ื
ี
ื
ี
ั
ี
และรกษาระยะห่าง สวมใส่หน้ากากอนามัยและให้รบไปโรงพยาบาลใกล้เคยงเพื่อพบแพทย์
่
ให้เรวทสด
ุ
ี
็
ุ
หลกเลยงการออกนอกบ้าน การชมนมหรอท่องเทยว ใส่หน้ากากอนามัยแม้จะอยู่ใน
ี
่
ุ
ี
ื
ี
่
ี่
บ้าน ให้อยู่ในสถานทอากาศถ่ายเทและมการฆ่าเช้อโรค ไม่สัมผัสกับคนในครอบครวและจะ
ั
ื
ี
ต้องไม่อยู่ใกล้กัน (น้อยกว่า 1 เมตร)
08
่
์
้
ขอควรระวังอยางไรเมื่อไปพบแพทยที่โรงพยาบาล
ี
ื
่
เมอไปพบแพทย์ทโรงพยาบาลใกล้เคยง จะต้องแจ้งข้อมูลทละเอยดและเปนความจรง
่
่
ี
ิ
ี
็
ี
ื
แก่แพทย์ผู้ทำาการตรวจอาการ บอกเล่าเรองราวและส่งทได้เจอหรอสัมผัสมา โดยเฉพาะอย่าง
ิ
ี่
ื่
ื
ยิ่ง ว่าเคยมการเดนทางหรอพักอาศัยในบรเวณทมการแพร่ระบาดของเช้อหรอไม่ ได้สัมผัสกับ
ิ
ื
ื
ี
ิ
ี
ี่
็
ื
ื
ิ
ื
ื
ผู้ตดเช้อหรอไม่ หรอสัมผัสกับสัตว์หรอไม่ เปนต้น
ิ
ี
ี่
พยายามหลกเลยงการใช้งานบรการสาธารณะร่วมกับผู้อน เช่นโดยสารรถไฟใต้ดน รถ
ิ
ื่
ี่
ประจำาทางสาธารณะ เปนต้น หลกเลยงการไปยังสถานทแออัด ผู้คนพลกพล่าน และส่งสำาคัญ
ิ
็
ี่
ุ
ี
ิ
้
คอจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์แบบใช้แล้วท้งอยู่ตลอดเวลา เพ่อปองกัน
ื
ื
ื่
ตนเองและผู้อน
5
09
ั
โรคโควิด-19 สามารถรกษาไดหรอไม ่
้
ื
ี่
ปอดอักเสบทเกิดจากเช้อไวรสของโรคโควิด-19 สามารถรกษาได้ แต่เนองจากใน
ั
ื่
ื
ั
ี
ปจจบันยังไม่พบยาทมผลในการต้านไวรสโรคโควิด-19 โดยเฉพาะ สำาหรบวิธการรกษาคน
ุ
ี
ี่
ั
ั
ั
ั
ปวย ทสำาคัญคอใช้วิธการรกษาตามอาการ (หากมไข้สง ให้ทำาการลดไข้ เมอไอ ก็ทำาให้หยุด
ื่
ั
ื
ู
ี
ี
่
ี่
ิ
ิ
ี
ั
้
ุ
อาการไอ) และวิธการเสรม (เสรมสรางโภชนาการและเพิ่มภูมต้านทาน) ในปจจบันแพทย์ผู้
ิ
ี่
เชยวชาญได้พยายามเร่งทำาการค้นหาและวิจัยยาทมผลต่อการรกษาโดยเฉพาะ แต่สำาหรบตัว
ั
ี่
ั
ี
ั
ไวรสเอง จะต้องอาศัยความแข็งแรงของร่างกายเพื่อสรางภูมค้มกันเพื่อกำาจัดไวรสเหล่านั้นให้
ิ
้
ั
ุ
หมดไป
ื่
เนองจากโรคโควิด-19 มลักษณะอาการทรนแรง ดังนั้นเมอตดเช้อโรคโควิด-19 ควร
ี่
ื
ุ
ิ
ี
ื่
ี
ั
ั
ื
ี
ื
รบทำาการพบแพทย์โดยทันท และจะต้องเช้อฟงคำาสั่งแพทย์อย่างเคร่งครด ให้ความร่วมมอใน
การรกษา
ั
10
มีวัคซนรกษาโรคโควิด-19หรอไม ่
ี
ื
ั
ิ
็
ยังไม่มในขณะน้ โรคชนดใหม่จำาเปนจะต้องใช้เวลาในการวิจัยและพัฒนาวัคซนค่อน
ี
ี
ี
ุ
ั
ี
ข้างนาน ปจจบันนักวิจัยในประเทศจนและประเทศต่างๆทั่วโลก กำาลังแข่งกับเวลาในการพัฒนายา
ิ
และวัคซนในการรกษาและปองกันการตดเช้อโรคโควิด-19
้
ั
ี
ื
6
11
่
้
้
ื
้
การใสหนากากอนามัยและการลางมือจะสามารถปองกันเชอโรคโควิด-19ได ้
้
หรอไม ่
ื
ั
การสวมใส่หน้ากากอนามัยและการล้างมอบ่อยๆจะช่วยปองกันไม่ให้ไวรสเข้าส่ร่างกาย
ื
้
ู
ี
็
ี
่
่
ื
ี
ี
แต่ก่อนอนจำาเปนจะต้องแน่ใจได้ว่ามการสวมใส่หน้ากากอนามัยทได้มาตรฐานและมวิธการ
ล้างมอทถูกต้อง ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถปองกันตนเองได้
้
ื
ี่
๒. อาการ
01
ื
้
หากคุณติดเชอโรคโควิด-19 แลว จะมีอาการอยางไร
้
่
ั
ร่างกายของเราไม่สามารถต่อต้านเช้อไวรสของโรคโควิด-19 ได้ หากสัมผัส
ื
ุ
ิ
ื
ี
ื
ั
ิ
ี่
หรอใกล้ชดผู้ปวย ไม่ชอบการล้างมอ ภูมค้มกันลดลง พวกเราก็มโอกาสทจะได้รบเช้อ
่
ื
ี
็
่
ี
ิ
เมอเร่มปวย พวกเราก็จะมอาการ ตัวรอน เปนไข้ ไอ หายใจลำาบาก และอาจจะมอาการ
ื่
้
้
ู
่
ึ
ื
ซม รสกทั่วทั้งร่างกายอ่อนแรง หรอแม้กระทั่งบางคนอาจจะมอาการปวยหนัก จนต้อง
ี
ึ
นอนอยู่บนเตยงเปนเวลานาน เช้อของโรคโควิด-19 ทำาให้เกิดอาการปวยได้มากมาย
่
ี
็
ื
่
ี
ี
หากปวยหนักจะทำาให้ผู้ทมร่างกายอ่อนแอเสยชวิตได้
ี
ี่
7
02
เมือเชอไวรสของโรคโควิด-19 อยูในรางกายเราจะมีอะไรเปลียนแปลง
ั
่
่
้
ื
่
่
ี
่
ผู้ปวยโรคโควิด-19จะมขั้นตอนการแสดงอาการแตกต่างกันออก
ึ
ี
้
ไป เร่มแรกอาจจะมอาการตัวรอน เปนไข้ ไอ รสกร่างกายไม่มแรง และ
้
็
ี
ิ
ู
ิ
ี
ั
จะค่อยๆเกิดอาการหายใจล้มเหลว โดยทั่วไปไวรสชนดน้จะมระยะฟกตัว
ั
ี
ี
ี
ในร่างกายประมาณ 7 วัน และบางทอาจจะมระยะฟกตัวถง 14 วัน โดย
ั
ึ
ื
ั
ประมาณ พวกคณรหรอไม่ในช่วงระยะฟกตัวพวกมันทำาอะไรกันบ้าง? ถูก
้
ุ
ู
ต้อง พวกมันได้มการแบ่งตัวอย่างรวดเรวในร่างกายของคณ เรวจนกระทั่ง
็
็
ี
ุ
ี
ี
ุ
ความแข็งแรงในร่างกายของคณกำาจัดมันไม่ทันเลยทเดยว เพียงแค่เข้าส่ ู
ุ
ร่างกายของคณ คณก็จะกลายเปน “เครองถ่ายเอกสาร” ให้กับพวกมัน ช่วย
ื
่
็
ุ
ื
ื
เหลอพวกมันในการแพร่เช้อไปส่ผู้อน
ื
่
ู
03
้
์
เมื่อตองไปพบแพทยในโรงพยาบาลจะปองกันตนเองไดอยางไร
้
่
้
หากรสกไม่สบาย จะต้องไปพบแพทย์ทันท ในขั้นตอนการ
้
ึ
ี
ู
ตรวจจะต้องไม่ไปสัมผัสกับอปกรณหรอเครองมอแพทย์โดยไม่
ื
ื
่
์
ื
ุ
็
จำาเปน จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ตลอดการบวน
ื
ี
ี
การในการตรวจ ให้ความร่วมมอกับแพทย์และพยาบาล หลกเลยง
่
ื
้
ิ
การใช้ลฟต์ เพ่อปองกันตนเองและผู้อน หลังจากกลับจากการตรวจ
ื
่
ื
ู
รกษาจะต้องใช้สบ่และนำ้าสะอาดล้างมอทันท ี
ั
8
04
โรคโควิด-19 ไขหวัดทั่วไปและไขหวัดใหญ ่
้
้
่
่
่
่
ื
คุณรูหรอไมวามันมีความแตกตางกันยางไร
้
่
ื่
ึ
็
ไข้หวัดทั่วไปจะเกิดจากร่างกายของเราสัมผัสความเย็น และเหนอยล้า เปนต้น ซงอาการ
ื
ี
ทพบโดยทั่วไปคอ คัดจมูก นำ้ามูกไหล จาม และส่วนใหญ่จะไม่มไข้ ปวดหัว ปวดข้อหรอไม่
ื
ี่
ี่
สบายตัวทชัดเจน ความแข็งแรงและความอยากอาหารจะไม่ได้รบผลกระทบ ผู้ทเปนหวัด
ี่
ั
็
ั
ิ
ื่
ระบบทางเดนหายใจส่วนบนจะได้รบผลกระทบค่อนข้างหนัก แต่ส่วนอนๆของร่างกายจะไม่
ุ
ี
ี
ได้รบผลกระทบเท่าใดนัก และโดยทั่วไปไม่มผลรนแรงถงชวิต
ึ
ั
ิ
ไข้หวัดใหญ่ เปนโรคระบบทางเดนหายใจทเกิดจากไวรสไข้หวัดใหญ่ ไม่เพียงแต่สราง
็
้
ั
ี่
ื
ิ
ั
ปญหาให้กับระบบทางเดนหายใจส่วนบน แต่ยังทำาให้เกิดการตดเช้อในระบบทางเดนหายใจ
ิ
ิ
ิ
ี
ู
ื
ู
ส่วนล่าง นั่นก็คอปอดเอกเสบนั่นเอง จะมการแพร่ระบาดในช่วงฤดหนาวและฤดใบไม้ผล ผู้
ี
ุ
็
ปวยไข้หวัดใหญ่จะแสดงอาการค่อนข้างเรว และรนแรง มผลทั่วทั้งร่างกาย มไข้ และภายใน
่
ี
ระยะเวลา 1-2 วัน จะทำาให้อณหภูมในร่างกายสงถง 39℃ หรือมากกว่านั้น โดยจะมีอาการ
ึ
ุ
ิ
ู
ทแสดงออกชัดเจน เช่น ปวดหัว กล้ามเน้ออ่อนแรง ความอยากอาหารลดลง เปนต้น ไข้หวัด
ื
ี่
็
่
ี่
ี
ี
ใหญ่จะมผลต่อผู้ปวยทร่างกายอ่อนแอ ซงอาจจะทำาให้เสยชวิตได้
่
ึ
ี
่
ิ
ผู้ตดเช้อโรคโควิด-19 ในช่วงแรกจะไม่มอาการปวย จะต้องทำาการตรวจสอบจากทาง
ื
ี
ี่
่
เดนหายใจจงจะพบไวรส ในตอนทอาการปวยยังไม่รนแรงจะแสดงอาการไข้อ่อนๆ ไอ หนาว
ั
ุ
ึ
ิ
ู
ี
้
ึ
สั่นและรสกไม่สบายตัว หากมอาการหนัก ก่อนหน้า 3-5 วันจะมอาการตัวรอน มไข้ ไอ และ
้
ี
ี
่
ุ
่
ิ
จะค่อยๆหมดแรง หลังจากนั้นหนงสัปดาหอาการปวยจะเร่มรนแรงข้น ปอดของผู้ปวยจะถูก
่
ึ
์
ึ
ุ
ั
ยึดครองโดยไวรส และพัฒนากลายเปนปวดบวม จนกระทั่งกลายเปนปอดอักเสบอย่างรนแรง
็
็
9
05
่
แผนกผู้ปวยนอก
หากสงสยวาตนเองหรอคนในครอบครวติด
ั
ื
่
ั
ั
ื
้
่
เชอไวรสของโรคโควิด-19 ควรจะท�าอยางไร
ิ
ั
ื
หากสงสัยว่าตนเองตดเช้อไวรสของโรคโควิด-19 ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยทางการ
ี
ี
ี่
ี่
แพทย์และให้รบไปโรงพยาบาลทอยู่ใกล้ทสดเพื่อทำาการตรวจอาการโดยทันท ในขณะทำาการ
ุ
ั
ตรวจให้เล่ารายละเอยดการเดนทางและการสัมผัสกับผู้คนก่อนหน้าให้แพทย์รบทราบ ใน
ิ
ี
ี
ิ
ุ
ื
ุ
ุ
ขณะเดยวกันจะต้องระมัดระวังสขอนามัยส่วนบคคล ล้างมอบ่อยๆ จะต้องเปดหน้าต่างทกวัน
เพื่อให้อากาศถ่ายเท
ั
ื
หากสงสัยว่าเพื่อนของคณตดเช้อไวรสของโรคโควิด-19 ควรสวมใส่หน้ากากอนามัย
ิ
ุ
ั
ี
ื
ทางการแพทย์ รกษาระยะห่าง หลกเลยงการเข้าใกล้หรอการสัมผัส แนะนำาให้เพื่อนเข้ารบการ
ั
ี่
ื
ิ
ื
ี
ี
ิ
ตรวจอาการโดยทันท หากมเพื่อนหรอญาตถูกวินจฉัยว่าตดเช้อของโรคโควิด-19 ควรส่งผู้
ิ
ิ
่
ปวยไปยังโรงพยาบาลเฉพาะด้านเพื่อทำาการรกษา และให้ทำาการฆ่าเช้อในบรเวณหรอส่งของ
ื
ื
ิ
ั
ี่
ทเขาเคยสัมผัสก่อนหน้า
10
06
ี
ิ
ื
ุ
ั
ทกคนมโอกาสตดเช้อไวรสของ
้
ื
เชอโรคโควิด-19 ชอบคนประเภทไหน โรคโควิด-19 ได้ทั้งนั้น แต่คนทสขภาพ
ี
ุ
่
ี
ิ
ี
ด มภูมต้านทานแข็งแรง พวกเขามักจะ
ิ
่
ออกกำาลังกายสมำาเสมอ จตใจเบกบาน
ิ
ื
่
ี
โอกาสทจะถูกแพร่เช้ออาจจะค่อนข้าง
ี
ิ
่
น้อย แต่คนทมภูมต้านทานอ่อนแอ เช่น
ี
่
ี
คนแก่และเด็กน้อยทมความต้านทาน
ี
่
ตำา ตลอดจนคนทมักจะปวยง่าย จะม ี
่
ี
่
ื
โอกาสได้รบการแพร่เช้อค่อนข้างสง
ู
ั
อาการปวยก็จะค่อนข้างหนัก นอกจาก
่
่
ี
ี
น้ ียังมแพทย์และพยาบาลทอยู่แนว
่
ี
่
็
หน้า ทสัมผัสผู้ปวยเปนจำานวนมาก ก็ม ี
ื
ั
โอกาสได้รบการแพร่เช้อเช่นกัน ดังนั้น
ุ
ทกคนจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย
ี
่
ี
ี
่
ล้างมอบ่อยๆ ไม่ไปยังสถานททมผู้คน
ื
ื
ี
เปนจำานวนมาก เช่นน้ เช้อไวรส “ก็ยาก
ั
็
ี
ทจะเข้าส่ร่างกาย” ได้แล้ว
ู
่
11
้
๓. การปองกัน
01
จะปองกันอยางไรเมื่ออยูที่บาน
่
่
้
้
่
้
้
ขอ1.ลางมือบอยๆ
ื
จะต้องล้างมอให้สะอาดโดยทันท เมอ หลังจากกลับจากข้างนอกถงบ้าน , ก่อน
ึ
ื่
ี
ื
ั
และหลังรบประทานอาหาร , หลังจากไอหรอจาม , หลังจากเข้าห้องนำ้า , หลังจากสัมผัส
กับสัตว์และจัดการกับอจจาระ
ุ
① ⑦
หันฝามอเข้าหากัน ใช้น้วมอถูไปมาทั้งสองข้าง ล้างทข้อมอ สลับไปมาทั้งสองข้าง
่
ื
ื
ิ
ี่
ื
② ⑥
ื
่
ใช้ฝามอถูกับด้านหลังมออกข้าง ทำา
ื
ี
ื
ี
ิ
่
สลับไปมาทั้งสองข้าง ใช้น้วทั้ง 5 ถูวนไปบนฝามออกข้าง
ทำาสลับกันสองข้าง
③ ④ ⑤
ึ
ึ
่
่
ี
ื
ื
เอามอข้างหนงจับมออกข้างหนง ใช้
ื
่
ื
ิ
หันฝามอเข้าหากัน ใช้มอทั้งสองข้างถู น้วทั้งสองข้างประสานกันและถูไปมา
้
ิ
ไขว้กันไปมา น้วโปงถูวนไปมา สลับทั้งสองข้าง
12
้
่
ิ
้
ขอ2.เปดใหอากาศถายเทบอยๆ
่
ิ
เปดหน้าต่างภายในห้องทกวัน เพื่อให้มการถ่ายเทอากาศอยู่เสมอ
ุ
ี
่
่
ื
้
้
ขอ3.ฆาเชอบอยๆ
ี
ุ
็
โต๊ะ เก้าอ้ในบ้าน ม้านั่ง เปนต้น จะต้องทำาความสะอาดทกวันและมการฆ่าเช้อเปน
็
ี
ื
ประจำา
ี
ุ
ิ
หากมแขกมาบ้าน จะต้องรบทำาการฆ่าเช้อส่งของและวัสดโดยทันท ี
ื
ี
้
ขอ4. มีมารยาทในการจามและไอ
ิ
ื
ิ
กรณาใช้กระดาษทชช่หรอข้อศอกปดปากและจมูก หรอ
ุ
ื
ู
ื
ี
สวมหน้ากากอนามัย ขณะไอหรอจาม เช่นนน้แล้วไวรสก็จะ
ั
ื
่
ุ
ไม่สามารถแพร่กระจายออกมาได้ ไม่ว่าคณจะปวยหรอไม่
ิ
ื่
ก็ตาม เมอจามจะต้องปดปากและจมูกให้เรยบรอย!
้
ี
13
ี่
ี
ื
ื่
เมอไอหรอจาม จะต้องหลกเลยงไม่หันไปทางผู้อน ื่
ื
ื
ื่
เมอไอหรอจาม จะต้องใช้มอปองปากและจมูก
้
เมอไอหรอจาม จะต้องใช้กระดาษทชช่ปดปากและจมูก หลัง
ู
ิ
ิ
ื่
ื
ู
ิ
ื
ิ
ิ
ี่
จากนั้นให้นำากระดาษทชช่ทใช้แล้วท้งในถัง “ขยะตดเช้อ”
ิ
ู
หากไม่มกระดาษทชช่ สามารถใช้ด้านในของศอกหรอ ื
ี
ื
เส้อปดปากและจมูก
ิ
ิ
หากมอของคณสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากทางเดนหายใจ
ื
ุ
ควรทำาการล้างมอในทันท ี
ื
ื
่
หากทราบว่าตนเองตดเช้อเกียวกับทางเดนหายใจ
ิ
ิ
ควรจะกักตัวอยู่บ้าน สอบถามข้อมูลตามอาการปวย
่
ทเกิดข้น พบแพทย์ และหากออกไปภายนอกจะต้อง
ึ
ี่
สวมใส่หน้ากากอนามัย
14
้
่
้
้
่
่
ี
ขอ5. ใชชวิตประจ�าวันตามปกติ และออกก�าลังกายอยางเหมาะสมที่บานโดยไมสงผลกระ
้
ทบตอเพื่อนบานของคุณ
่
ขอ6. ตรวจเชคสุขภาพประจ�าวันของคุณและครอบครว
้
็
ั
เมอพบว่าตนเองหรอคนในครอบครวมอาการปวยดังน้ ควรจะทำาการกักตัว และ
ี
ื
่
ื
ี
่
ั
ิ
ไปพบแพทย์เพื่อรบความช่วยเหลอโดยทันท อาการทเข้าข่ายต้องสงสัยว่าตดเช้อ จะรวม
ี่
ื
ี
ั
ื
็
ถง เปนตัวรอน เปนไข้ ไอ เจ็บคอ แน่นหน้าอก หายใจลำาบาก เบออาหาร ไม่มแรง ซม
้
็
ี
ึ
ื่
ึ
ื
ื
ี
ิ
คลนไส้ ท้องเสย ปวดศรษะ ใจสั่น ตาแดง ปวดตามข้อหรอปวดกล้ามเน้อบรเวณเอวและ
ี
ื่
หลัง เปนต้น
็
้
้
ั
ี
ขอ7. เตรยมพรอมในการปองกันครอบครว
้
ื่
1.เมอตนเองหรอคนในครอบครวออกไปข้างนอก จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย
ั
ื
ิ
ื
สวมใส่หน้ากากอนามัย ละอองเช้อโรคก็จะถูกปดกั้นโดยหน้ากากอนามัย ไม่สามารถ
ิ
ปลวเข้าปากและจมูกของผู้คนได้
่
ุ
ี
ิ
2. หากพบว่าคนในครอบครวแสดงพฤตกรรมทไม่ถูกสขลักษณะ เช่น การบ้วน
ั
็
ื
ื
นำ้าลายหรอเสมหะลงบนพื้น เปนต้น ให้ทำาการห้ามและตักเตอนโดยทันท ี
ื
ิ
ั
3.หากมสมาชกในครอบครวเปนบคลากรทางการแพทย์ จะต้องเตอนให้เพิ่มความ
ี
ุ
็
ระมัดระวังในการดแลตนเองให้มากข้น
ึ
ู
15
ขอควรระวังทั่วไป
้
เลือกหนากากอนามัยอยางไร
่
้
ี
ี
ี่
ั
หน้ากากอนามัยทมประสทธภาพ : ใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์แบบใช้คร้งเดยวท้ง ิ
ิ
ิ
หน้ากากอนามัย N95
ั
ี
หน้ากากอนามัยทางการแพทย์แบบใช้คร้งเดยวท้ง ิ
หน้ากากผ้า
้
่
้
้
ี
จะตองสวมใสหนากากอนามัยอยางถูกวิธจึงจะสามารถปองกันตนเองได ้
่
ขันที่ 1
้
ก่อนจะทำาการสวมใส่หน้ากาก
อนามัยจะต้องล้างมอให้สะอาด กำาจัด
ื
ั
ี
ี
แบคทเรยและไวรสออกจากมอเสยก่อน
ี
ื
ขันที่ 2
้
ปรบส่วนทเปนโลหะของ
ี
็
ั
่
หน้ากากให้กระชับกับสันจมูก
ตรวจสอบในส่วนจมูกและใบหน้า
ส่วนล่างว่าถูกหน้ากากครอบคลม ุ
ิ
ิ
อย่างมดชดหรอไม่ หากมช่องโหว่
ื
ี
ไวรสจะสามารถเข้าส่ร่างกายได้
ั
ู
16
้
ขันที่ 3
หลังจากสวมใส่หน้ากากอนามัย
แล้ว เนองจากตัวกรองทดดซับจะอยู่ด้าน
ื่
ี่
ู
นอกของหน้ากาก จะต้องระมัดระวังไม่
ให้มอไปสัมผัสโดน
ื
ขันที่ 4
้
ปรบส่วนบนของหน้ากากของหน้ากากให้
ั
กระชับกับสันจมูก ตรวจสอบในส่วนจมูกและ
ใบหน้าส่วนล่างว่าถูกหน้ากากครอบคลมอย่าง
ุ
ิ
มดชดหรอไม่ หากมช่องโหว่ ไวรสจะสามารถ
ื
ี
ิ
ั
เข้าส่ร่างกายได้
ู
วิธการถอดหนากากอนามัยที่ถูกตอง
้
้
ี
ื
ี
ื
ื
ี่
1. ก่อนอนจะต้องทำาการถอดเชอกหรอห่วงทคล้องหเสยก่อน (ด้านซ้ายหรอด้านขวาก็ได้)
ื่
ู
่
2. หากสวมใส่แว่นตา ให้ระมัดระวังโดยการใช้มอข้างหนงประคองแว่นตาไว้ในขณะถอดสายคล้อง
ึ
ื
ุ
เพื่อปองกันไม่ให้แว่นตาหลดออกมา
้
ี
ิ
ื
ุ
ี่
3. หลังจากนั้นให้ปลดเชอกหรอสายคล้องอกด้าน จับทเชอกเพื่อนำาไปท้ง โดยในทกขั้นตอนห้ามใช้
ื
ื
ิ
มอสัมผัสกับบรเวณพื้นผิวด้านหน้าของหน้ากากอนามัย
ื
้
็
่
ื
้
้
ผูที่ไมมีอาการไข หรอไอ เปนตน
้
ใหท�าลายหนากากใหชารุดและนาไปทิ้งลงในถัง “ขยะติดเชอ”
้
้
้
�
�
ื
็
้
สาหรบผูที่มีอาการเปนไข ไอ เปนตน ้
็
้
�
ั
�
้
่
่
้
้
ใหนาหนากากที่ไมใชแลวแชลงในน้ารอนหรอน้าที่มีอุณหภูมิ 56℃ เป็นต้นไป ประมาณ 30 นาที หรือ
้
�
้
ื
�
์
�
ิ
้
ื
้
ใชแอลกอฮอลพนเพื่อฆาเชอโรค หลังจากนนท�าการปดผนกใหมิดชดกอนาไปทิ้งลงในถัง “ขยะติดเชอ”
่
ื
ั
้
ึ
้
่
ิ
่
้
17
02
้
้
่
จะปองกันตนเองในสถานที่สาธารณะไดอยางไร
ื
เมือออกไปภายนอก จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย เพ่อลดความเสยงในการสัมผัสกับสาเหตของการปวย
ี
่
ุ
่
่
ี
ื
ั
ื
ิ
ุ
ิ
ี
หลังกลับจากภายนอกทกคร้งจะต้องทำาการล้างมอโดยทันท หากมอาการไข้หรออาการตดเช้อโรคทางเดนหายใจ
ื
ี
ี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมไข้อย่างต่อเนอง จะต้องรบไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการโดยทันท ี
ื่
์
้
้
็
่
้
์
ิ
ุ
พยายามหลีกเลี่ยงสถานที่ผูคนแออัด เชน ซุปเปอรมารเก็ต , รานขายของ , สวนสนก , รานอนเตอรเนต , ห้อง
์
ุ
เล่นเกม , รานอาหาร เปนต้น และไม่เข้าร่วมชมนมเปนกล่ม ุ
ุ
็
้
็
�
่
้
ื
ื่
ื
ู
ไมบวนน้าลายหรอเสมหะลงพื้น โดยสามารถบ้วนเสมหะหรอนำ้าลายลงบนกระดาษทชช่ และเมอสะดวก
ิ
ื
ี
่
่
ี
ู
ให้นำาไปท้งลงในถังขยะทมดชด ในขณะทหากต้องการไอหรอจาม จะต้องใช้กระดาษทชช่ปดปากและจมูกให้
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
เรยบรอยเสยก่อน และนำากระดาษทใช้แล้วท้งลงในถัง “ขยะตดเช้อ” เพื่อปองกันการแพร่กระจายของไวรส หลัง
ิ
ี
ื
ี่
ิ
ั
้
ี
้
ื
ื
ื
้
ื
จากไอหรอจามแล้วจะต้องทำาการล้างมอให้สะอาด เพื่อปองกันไม่ให้มอสัมผัสกับดวงตา จมูกหรอปาก
้
ื
่
็
ี
ื
ื
ี่
ฆาเชอโดยทันที เมอสัมผัสกับส่งของในสถานทสาธารณะ เช่น หนังสอ เก้าอ้ โต๊ะ เปนต้น ให้ทำาการล้างมอโดย
ื่
ิ
ี
ี่
ทันทหรอใช้นำ้ายาทมส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในการฆ่าเช้อในการทำาความสะอาดมอ ื
ี
ื
ื
้
เมื่อมีการพบปะกับผูอื่นในสถานที่สาธารณะ จะตองรกษาระยะหางระหวางผูคนอยางนอย 1 เมตร (ประมาณ 1
้
่
่
ั
้
่
้
้
็
ชวงความยาวแขน) เปนตนไป
่
ั
้
พยายามหลีกเลี่ยงการรบประทานอาหารภายนอกบาน
18
03
ิ
้
้
้
่
เมื่อใชบรการรถโดยสารสาธารณะจะปองกันตนเองไดอยางไร
โดยสารรถประจ�าทาง
ื
่
ื
ื
่
1. เมอโดยสาร 2. เมอไอหรอ 3. เมอพบผู้ 4. หลังจากลง
ื
่
รถประจำ า ทาง จามจะต้องพยายาม ป่ วยไข้หวัดบนรถ จากรถให้ทำาการล้าง
ี
จะต้องสวมใส่ หันไปด้านทไม่มคน โดยสารประจำาทาง มือด้วยสบู่หรือนำ้ายา
ี
่
หน้ากากอนามัย ใช้ด้านในของศอก พยายามอย่าสัมผัส ล้างมือโดยทันที หรือ
ื
พยายามเลอกใช้งาน หรือกระดาษทิชชู่ หรือเข้าใกล้ สามารถ ใช้เจลล้างมือทาให้
่
หน้ากากอนามัยทใช้ ปิดปากและจมูกก่อน เปิ ดหน้าต่างรถ ทั่วมือ
ี
ี
ื
ทางการแพทย์แบบ ไอหรือจาม โดยสาร เพ่อให้มการ
ิ
ี
คร้งเดยวท้ง ถ่ายเทของอากาศ
ั
่
์
เมื่อโดยสารรถยนตสวนตัว
ี
์
1. ในสถานการณทั่วไป รถยนต์ส่วนตัวไม่มความจำาเปนต้องดำาเนนการจัดการในการฆ่าเช้อโรค พยายามให้
ื
ิ
็
มการถ่ายเทอากาศบ่อยๆก็เพียงพอแล้ว
ี
ี
2. หลังจากทผู้ขับกลับมาจากสถานทสาธารณะภายนอก แนะนำาให้ใช้นำ้ายาฆ่าเช้อใน
ื
่
่
ี
็
ื
การกำาจัดเช้อโรคทอาจจะตดมาบนมอเสยก่อน และหากจำาเปนก็สามารถใช้นำ้ายาฆ่าเช้อโรค
ิ
ี
่
ี
ื
ื
ทมส่วนผสมของคลอรนหรอแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 75% เปนต้น เช็ดถูบรเวณพื้นผิวของ
ี
ื
็
ี่
ิ
ี
ส่งของภายในรถ
ิ
3. หากมผู้ปวยทต้องสงสัย (มไข้, ไอ, เจ็บคอ เปนต้น) โดยสารมาบนรถ ควรรกษาระยะ
ี่
่
ั
ี
็
ี
ิ
ห่างอย่างเหมาะสม อย่าเปดเครองปรบอากาศภายในรถ ให้เปดหน้าต่างในระดับทเหมาะสม
ิ
ั
ี่
ื่
ิ
ี
ื่
เพื่อระบายอากาศ เมอผู้ปวยต้องสงสัยลงจากรถให้รบเปดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ และให้
่
ี
่
ิ
ี่
ทำาการฆ่าเช้อโรคบนพื้นผิวของส่งของทผู้ปวยต้องสงสัยสัมผัสโดยทันท หากเปนผู้ปวยทได้
่
็
ี่
ื
ี
็
ิ
ิ
รบการวินจฉัยว่าเปนผู้ตดเช้อโดยสารมาบนรถ จะต้องทำาการฆ่าเช้อโรคโดยทันทและแจ้งให้
ั
ื
ื
หน่วยงานทเกี่ยวข้องในท้องถ่นมาดำาเนนการจัดการในขั้นตอนต่อไป
ิ
ิ
ี่
19
๔. โภชนาการทางวิทยาศาสตร ์
้
่
ิ
่
01 บรโภคอาหารอยางไรใหหางไกลจากโรคโควิด-19
บรโภคอาหารที่อุดมดวยธญพืชเปนหลัก
ิ
็
ั
้
ี
ิ
็
ิ
จะต้องบรโภคอาหารประเภทธัญพืชเปนประจำา โดยในแต่ละวันจะต้องมปรมาณ
ี
ั
ั
ไม่น้อยกว่า 250-400 กรม รวมถงข้าว , ข้าวสาล , ข้าวโพด , บักวีต , มันเทศ , มันฝร่ง
ึ
็
เปนต้น
่
�
ออกก�าลังกายอยางเหมาะสมสม�่าเสมอเพื่อรกษาน้าหนกตัว
ั
ั
ุ
ออกกำาลังกายอย่างเหมาะสมเปนประจำา ไม่ควรนั่งเปนระยะเวลานานลกขยับร่าง
็
็
ุ
กายทกๆชั่วโมง
์
ิ
บรโภคผักผลไม , ผลิตภัณฑจากนม , ถั่วเหลือง
้
ิ
ึ
ิ
ุ
บรโภคผักและผลไม้สด โดยทกๆวันจะต้องบรโภคให้ได้มากกว่า 5 ประเภทข้น
่
ึ
ึ
ึ
่
ึ
่
็
ไป โดยปรมาณทเหมาะสมจะต้องให้ได้มากกว่า 500 กรมข้นไป ซงครงหนงจะต้องเปน
ิ
ั
ี่
ี่
ื
ี
ผักผลไม้ทมสเข้ม นอกจากน้จะต้องดมนมทกวัน และทานผลตภัณฑ์จากถั่วเหลองเพิ่ม
ื่
ุ
ี
ิ
ี
มากข้น
ึ
20
่
ิ
ื
บรโภคเน้อปลา สตวปก ไข เน้อสตวในปรมาณที่เหมาะสม
ี
ั
ื
์
ิ
์
ั
ื
บรโภคโปรตนอย่างเพียงพอ ซงรวมถงเน้อสัตว์ไม่ตดมัน สัตว์ปก ปลา กุ้ง ไข่
ี
ิ
ึ
ิ
ี
ึ
่
ิ
ิ
็
เปนต้น โดยในแต่ละวันควรบรโภคให้ได้ประมาณ 150-200 กรม ควรบรโภคไข่ไก่ทกๆ
ุ
ั
ี่
ี
วัน วันละ 1 ฟอง หลกเลยงการรบประทานไขมัน ผลตภัณฑ์ทผ่านการรมควันหรอการ
ิ
ั
ื
ี่
็
หมัก เปนต้น
�
ิ
ลดการบรโภคเค็ม มัน ควบคุมน้าตาลและจ�ากัดการดื่มสุรา
่
ี
ิ
ิ
อาหารเบาๆทรสชาตไม่จัดจ้าน โดยในแต่ละวันบรโภคอาหารทมส่วนผสมของเกลอใน
่
ื
ี
ี
ิ
ื
ุ
ปรมาณไม่เกิน 6 กรัม เด็กและทารกไม่ควรดมสรา ควบคมการบรโภคนำ้าตาลไม่ให้เกินวัน
ิ
ุ
่
่
ี
ี
ื
่
ุ
ื
ื
ิ
ละ 50 กรัม หรอดทสดคอบรโภคให้ตำากว่า 25 กรัม ดมนำ้าอย่างเพียงพอต่อร่างกาย โดยแต่ละ
่
ุ
็
ิ
ิ
วันควรดมนำ้าวันละ 7-8 แก้ว (1500-1700 มิลลลตร) และควรเปนนำ้าต้มสก
ื
่
ิ
่
่
ั
้
ไมใชทรพยากรอาหารอยางสนเปลือง
้
่
ิ
ี
ิ
ื
ิ
ื
ุ
้
ู
รคณค่าของอาหาร ควรเตรยมอาหารตามปรมาณการบรโภคทแท้จรง เพ่อไม่ให้เหลอท้ง ิ
ี
ี
่
ี
ื
โดยเปล่าประโยชน์ เลอกอาหารทสดสะอาดถูกสขอนามัยและใช้วิธการปรงอาหารทเหมาะสม
ุ
ุ
่
ี
ี
ี
้
ุ
ี
่
ุ
่
แยกอาหารสดออกจากอาหารทปรงสกแล้ว นำาอาหารทสกแล้วมาผ่านความรอนอกคร้ง ั
ุ
ิ
เรยนรวิธการอ่านฉลากอาหาร และเลอกผลตภัณฑ์อาหารอย่างเหมาะสม พยายาม
ื
ี
ี
้
ู
รบประทานอาหารทบ้าน เพลดเพลนกับอาหารและการกระชับความสัมพันธ์ในครอบครว
ั
ั
ิ
ิ
่
ี
ู
ื
้
ี
สบทอดวัฒนธรรมอันดงาม สรางอารยธรรมอาหารในรปแบบใหม่
21
่
่
้
02 จะจัดอัตราสวนและเวลาของอาหารทังสามมื้ออยางเหมาะสมได ้
่
อยางไร
ั
พลังงานและสารอาหารทได้รบ สำาหรบอาหาร
ั
ี่
ื
ี
็
ม้อเช้า กลางวัน และเย็น ควรเปนไปดังน้ คอ 25%-
ื
30% , 35%-40% , 30%-35% ของในแต่ละวัน
้
อัตราสวนอาหารทังสามมื้อ
่
ั
เวลารบประทานอาหารทังสามมื้อ
้
อาหารเช้าทเหมาะสมควรรบประทานใน
ั
ี
่
ั
เวลา 6:30~8:30 , อาหารกลางวันทเหมาะสมควรรบ
ี่
ี่
ประทานในเวลา 11:30~13:30 และอาหารเย็นทเหมาะ
สมควรรบประทานในเวลา 17:30~19:30
ั
22
่
้
้
ั
ื
้
่
้
03 จะเพิมภูมิคุมกันในการปองกันการติดเชอไวรส COVID-19 ไดอยางไร
ั
เพิ่มการดดซมสารต้านอนมูลอสระ โดยให้รบประทานผลไม้ตระกูลส้มจำานวน 2 ลูกต่อวัน เพื่อ
ุ
ึ
ู
ิ
ิ
เพิ่มวิตามน C ให้แก่ร่างกาย
ิ
ื
รับประทานมะเขอเทศตลอดจนผลไม้ทมีสแดงหรอสเข้มเพ่อเพ่มวิตามิน B ต่างๆ
ี
่
ื
ี
ี
ื
ให้กับร่างกาย
ิ
ื่
เสรมวิตามน A ให้กับร่างกายอย่างเหมาะสม โดยการรบประทานเครองในสัตว์
ั
ิ
ุ
สัปดาหละ 1 คร้ง แต่ละคร้งประมาณ 30-50 กรม โดยประมาณ ซงจะช่วยให้เยื่อบทาง
ั
์
ึ
่
ั
ั
ื
ิ
้
ั
ิ
ี
ิ
ิ
เดนหายใจทำางานได้อย่างมประสทธภาพ ปองกันไม่ให้เกิดการตดเช้อจากไวรสได้
อย่างง่ายดาย
ี
ไม่ควรออกกำาลังกายอย่างหนักหน่วงในช่วงเวลาน้ เนองจากการออกกำาลังกาย
ื่
ี่
ุ
ิ
ุ
ิ
ิ
หนักจะไประงับการทำางานของระบบภูมค้มกัน (ระบบภูมค้มกันทเกี่ยวข้องกับการตด
ื
เช้อทางเดนหายใจส่วนบน) ในช่วงระยะเวลาน้สามารถออกกำาลังกายเบาๆหรอออก
ี
ื
ิ
กำาลังกายทใช้กำาลังปานกลางได้
ี่
ื่
์
ั
รบประทานคารโบไฮเดรตอย่างเพียงพอ เช่น ข้าว และอาหารประเภทแปงอนๆ
้
ุ
เนองจากคารโบไฮเดรตเปนอาหารทสำาคัญทสดสำาหรบเซลล์ของภูมค้มกัน
์
ี่
ุ
็
ี่
ั
ื่
ิ
ในแต่ละวันพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าทำาให้ตนเองตกอยู่ภายใต้สภาวการณทเครยด
ี
์
่
ี
ื
หรอวิตกกังวล
23
ี
้
ั
๕. การรบมือกับความเครยดภายใตสภาวการณ ์
การระบาดของโรค
่
่
01 ติดตออยางสม�่าเสมอ
็
้
ื่
ี่
ิ
ู
ภายใต้สภาวะวิกฤต เปนเรองปกตทผู้คนจะรสกเสยใจ กดดัน สับสน กลัวหรอ
ื
ี
ิ
ึ
โกรธ
ื
ี
่
ุ
่
การสนทนาพูดคยกับบคคลทคณเชอมั่นจะสามารถลดอาการเหล่าน้ลงได้ ให้
ุ
ี
ุ
ิ
ตดต่อกับเพื่อนและสมาชกในครอบครวของคณอย่างสมำาเสมอ
่
ั
ุ
ิ
24
ั
02 รกษาแนวทางสุขภาพที่แข็งแรง
ี่
ุ
ุ
็
ึ
หากคณจำาเปนจะต้องอยู่ทบ้าน จะต้องรกษาแนวทางสขภาพทแข็งแรง รวมถงการ
ี่
ั
ิ
บรโภคอย่างเหมาะสม พักผ่อนเพียงพอ ออกกำาลังกายและตดต่อสัมพันธทางสังคมกับ
์
ิ
ู
้
ิ
์
ิ
ิ
ื
ี
คนทคณรจัก ตลอดจนสมาชกในครอบครัวและเพ่อนผ่านทางจดหมายอเล็กทรอนคสและ
ุ
่
โทรศัพท์
่
03 การขอความชวยเหลือ
ื
ั
์
ี่
ื่
ุ
ู
ุ
ไม่ควรคลายอารมณด้วยการสบบหร ดมสราหรอรบประทานยา
ุ
ื
้
่
ื
หากคณรสกไม่สบายใจ สามารถขอความช่วยเหลอจากเจ้าหน้าทหรอทปรกษา
ี
่
ี
ึ
ึ
ู
ุ
ุ
ทางด้านสขภาพได้ หากคณต้องการ ให้จัดทำาแผนการ ว่าต้องการค้นหาบคคลใดและจะ
ุ
ื
ค้นหาข้อมูลทางด้านสขภาพกายและใจได้อย่างไร เพื่อให้สามารถช่วยเหลอได้ทันท่วงท ี
ุ
ิ
ี
ิ
อย่างมประสทธภาพ
้
้
ิ
04 ท�าความเขาใจกับขอเท็จจรง
ิ
ี่
ื
รวบรวมข้อมูลทจะสามารถช่วยเหลอคณในยามเกิดวิกฤตได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้
ุ
ื
ื
ั
ี
้
ได้รบการปองกันและช่วยเหลอได้ทันท่วงท ค้นหาแหล่งข้อมูลทน่าเชอถอ เช่น เว็บไซต์
ื่
ี่
ุ
็
องค์การอนามัยโลก หน่วยงานสาธารณสขของรฐ เปนต้น
ั
25
05 บรรเทาความวิตกกังวล
ี่
ื
ี
ี่
้
ื
ั
ั
ื
ลดหรอหลกเลยงการชมหรอรบฟงข่าวสาร รายงาน ทจะสรางความวิตกกังวลหรอ
ึ
ิ
ั
่
ื
ี่
ึ
ไม่สบายใจให้กับคณหรอสมาชกในครอบครว ซงจะช่วยลดความวิตกกังวลทเกิดข้นได้
ุ
06 ควบคุมอารมณ ์
ื
ุ
ุ
่
ี
ุ
ี
ใช้ทักษะทคณเคยม เพ่อช่วยเหลอในการจัดการความทกข์ยากของคณ และใช้
ื
ทักษะเหล่าน้ช่วยเหลอคณในการควบคมอารมณช่วงระยะเวลาการระบาดของโรค
ี
ุ
ุ
ื
์
26
้
ั
๖. ตอบขอสงสยโดยผูเชยวชาญ
้
ี่
ื
่
่
ิ
์
่
่
ื
้
ั
01 ไมบรโภคสตวปาก็จะไมติดเชอใชหรอไม ่
ื
ั
ุ
ื
ในปจจบันเช้อไวรสโคโรนา ได้มการแพร่เช้อเกินขอบเขต
ั
ี
ิ
ึ
ุ
่
ี
ธรรมชาต ซงไม่ได้มเพียงแค่มนษย์และสัตว์ปาเท่านั้น แต่มการแพร่
ี
่
ื
ู
ิ
เช้อระหว่างคนส่คน โดยการหายใจและการสัมผัสใกล้ชดผ่านละออง
สารคัดหลั่งเปนหลัก
็
์
นอกจากหนากากอนามัยทางการแพทยที่ใชแลวทิ้ง , หนากาก N95
้
้
้
้
หรอ KN95 แลว หนากากอื่นๆ (หนากากธรรมดาทั่วไป , หนากากผา 02
้
้
้
้
้
ื
เปนตน) จะชวยปองกันไวรสไดหรอไม? การสวมใสหนากากหลาย
ื
้
็
่
้
้
้
่
ั
่
้
ื
้
่
ื
ั
ชนจะสามารถปองกันการติดเชอโรคโควิด-19 ไดหรอไม? หนากาก
้
้
้
ื
ิ
่
ิ
ั
ยิ่งหนา ยิ่งมีประสทธภาพในการปองกันไวรสสูงใชหรอไม ่
้
ื่
ื
ี่
ก่อนอนต้องบอกว่า หน้ากากอนๆทนอกเหนอไปจาก หน้ากากอนามัยทางการแพทย์
ื่
ิ
ี
ทใช้แล้วท้ง, หน้ากาก N95 และ KN95 แล้ว จะให้ประสทธภาพไม่ดเท่ากับ 3 ชนดทกล่าวมา
ี่
ิ
ี่
ิ
ิ
ั
็
สำาหรบหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ทใช้แล้วท้งนั้น หากเปนหน้ากากทได้มาตรฐานและ
ี
่
ิ
่
ี
ั
้
มการสวมใส่อย่างถูกวิธ ก็สามารถปองกันไวรสได้อย่างมประสทธภาพเพียงพอแล้ว ต่อให้ใส่
ิ
ี
ิ
ี
ี
ี
ึ
ิ
ิ
ี
ิ
หน้ากากอนามัยเพ่มข้นอกหลายชั้นก็จะไม่เพ่มประสทธภาพในการใช้งานอก แต่กลับจะ
ิ
ทำาให้หายใจลำาบากข้น
ึ
27
่
่
ั
์
03 หากรอบตัวไมมีสถานการณการแพรระบาดของไวรส
สามารถสวมใสหนากากอนามัยไดหรอไม ่
ื
่
้
้
ไม่ว่ารอบตัวจะมการแพร่ระบาดของไวรสหรอไม่ เมอออกไป
ั
ื
่
ี
ื
ั
ุ
ื
ิ
ข้างนอกแนะนำาให้สวมใส่หน้ากากอนามัย ในปจจบันโรคตดเช้อไวรส
ั
COVID-19กำาลังแพร่ระบาด ผู้ปวยทตดเช้อไวรส COVID-19 อาจจะ
ื
่
ี่
ิ
ั
่
ุ
ุ
ปรากฏข้นทั่วทกมมโลก และผู้ปวยบางคนก็อาจจะยังไม่แสดงอาการ
ึ
ี
ี
่
ุ
ิ
ด้วยเหตน้ทกคนจะมโอกาสเสยงในการตดไวรสจากการสัมผัสกับผู้
ั
ี
ุ
ปวยโดยไม่รตัว
่
ู
้
ี่
้
ื
้
ดื่มสุราและสูบบุหรสามารถปองกันการติดเชอ 04
โรคโควิด-19ไดหรอไม ่
้
ื
ี
ในขณะสบบหร มอจะมการสัมผัสโดนจมูกไปมา และไวรส
ู
ื
ี่
ั
ุ
ู
ี
ู
อาจจะเข้าส่ร่างกายได้จากการสัมผัสเช่นน้ นอกจากน้ในขณะสบ
ี
บหรจะไม่สามารถสวมใส่หน้ากากอนามัยได้ และด้วยเหตน้ยิ่ง
ุ
ี
ุ
ี
่
็
้
่
ี
ี
จะเปนการลดการปองกันให้กับตนเอง ส่วนแอลกอฮอล์ทมความ
ั
เข้มข้น 75% นั้นสามารถฆ่าไวรสได้ แต่แอลกอฮอล์สำาหรบฆ่า
ั
็
เช้อไวัรสและแอลกอฮอล์สำาหรบดมนั้นเปนส่งทแตกต่างกัน หาก
ี่
ิ
ื่
ั
ั
ื
นำาแอลกอฮอล์ทมความเข้มข้นสงสัมผัสกับไวรสโดยตรงอาจจะ
ั
ู
่
ี
ี
ิ
ื่
ิ
ี
ั
มประสทธภาพในการกำาจัดไวรส แต่เมอดมแอลกอฮอล์ลงไปใน
ื่
ท้อง ความเข้มข้นจะลดลงอย่างรวดเรว และยากทจะสามารถกำาจัด
ี่
็
่
่
ั
ื
ื
ิ
ุ
ไวรสได้ นอกจากน้ ีเมอดมสราในปรมาณมากๆจะทำาให้ความ
ื
ั
ต้านทานในร่างกายลดลง ยิ่งทำาให้ง่ายต่อการรบเช้อ
28
ั
้
ี
ิ่
่
รบประทานกระเทียม ดื่มชา เปนตน สงเหลาน้สามารถ
็
05 ปองกันการติดเชอโรคโควิด-19ไดหรอไม ่
้
ื
้
้
ื
ี
ี
สารสกัดจากกระเทยมมสรรพคณในการกำาจัดแบคทเรย
ี
ี
ุ
ั
ี
ได้ แต่ตัวกระเทยมเองไม่มฤทธ์ ิในการต้านไวรส ดังนั้นจงไม่ม ี
ึ
ี
ื
ี
่
ี
ประโยชน์ทจะรบประทานโดยตรงหรอดมนำ้าคั้นจากกระเทยม ใน
ื
่
ั
ี
ื
่
ิ
ุ
้
ั
ื
ปจจบันยังไม่มหลักฐานว่าการดมชาจะช่วยปองกันการตดเช้อโรค
โควิด-19ได้
่
ดื่มน้าที่มีอุณหภูมิ 60℃ หรอตมน้ารอนกอนอาบจะ 06
ื
�
้
�
้
้
ื
ื
้
สามารถปองกันการติดเชอไวรสโรคโควิด-19ไดหรอไม ่
้
ั
ุ
ภายใต้สถานการณทั่วไป การต้มนำ้าอณหภูมิ 56℃ นาน 30 นาที
์
ิ
ี
ื
ิ
จะสามารถฆ่าเช้อแบคทเรยได้อย่างมประสทธภาพ แต่เปาหมายของ
้
ี
ี
ู
ื
้
ไวรสคอการทำาลายระบบทางเดนหายใจ และนำ้ารอนจัดเข้าส่ทางเดน
ั
ิ
ิ
ื
้
ั
้
อาหาร ดมนำ้ารอนหรออาบนำ้ารอนไม่เพียงแต่ฆ่าไวรสไม่ได้ แต่จะ
ื่
ทำาให้โดนนำ้ารอนลวกและเกิดอาการบาดเจ็บได้
้
ื
ั
้
ในชวงระยะเวลาการระบาดของโรคติดเชอไวรส
่
07 COVID-19เราไมสามารถรบประทานสตวปกและอาหาร
่
ี
ั
ั
์
้
่
ทะเลไดใชหรอไม ่
ื
ั
สาเหตหลักของไวรส COVID-19 ในคร้งน้ เกิดจากการค้าสัตว์
ุ
ั
ี
็
ี่
ี่
ั
ุ
ุ
ปาทผิดกฎหมาย และในปจจบันยังไม่สามารถสรปสัตว์ทเปนพาหะได้
่
ื
ิ
อย่างแน่ชัด ผลตภัณฑ์จากเน้อสัตว์ทกประเภททจำาหน่ายผ่านช่องทาง
ี่
ุ
่
ทถูกต้องยังคงสามารถรบประทานได้
ั
ึ
29
็
้
่
ในชวงเวลาการระบาดของโรคโควิด-19 จ�าเปนจะตอง
08 กักตัวอยูบาน 14 วันใชหรอไม ่
่
ื
่
้
ิ
้
ุ
ทกคนจะต้องเพ่มความตระหนักในการปองกัน หากตรวจพบไว
็
ให้รบแยกกักตัว ก็จะสามารถลดการแพร่ระบาดลงได้ แต่ไม่จำาเปนจะ
ี
ื
ี
ี
่
่
ี
ี
่
ิ
ต้องตนตระหนก พยายามหลกเลยงการพบปะญาตมตร หลกเลยงสถาน
ิ
ื่
ททมผู้คนแออัด สวมใส่หน้ากากอนามัยเมอออกจากบ้าน ภายในห้องจะ
ี
ี่
ี่
ต้องมอากาศถ่ายเท ล้างมอบ่อยๆ ออกกำาลังกายบ่อยๆ หลกเลยงการนอน
ี
ี่
ื
ี
ดก พักผ่อนไม่เพียงพอ
ึ
ื
้
้
ี
้
ยาปฏิชวนะหรอยาตานไขหวัดสามารถปองกันการ
้
ื
ติดเชอไวรส โรคโควิด-19 ไดหรอไม ่ 09
ื
้
ั
ี
ั
ื
ั
ี
ี
ิ
ยาปฏชวนะใช้สำาหรบรกษาโรคตดเช้อแบคทเรย แต่โรคโควิด-19 จัด
ิ
ื่
ิ
อยู่ในประเภทไวรส เมอใช้ยาปฏชวนะไม่เพียงแต่ไม่มผลในเชงปองกันและ
้
ี
ิ
ี
ั
รกษา แต่กลับจะส่งผลเสยต่อร่างกาย ยาต้านไข้หวัดใหญ่ เช่น Oseltamivir
ี
ั
ี
้
ั
(Tamiflu) , Ribavirin เปนต้น ยาเหล่าน้ไม่มสรรพคณในการปองกันเช้อไวรส
ี
ื
็
ุ
ึ
ี
ุ
ั
ั
ของโรคโควิด-19 ยิ่งไปกว่านั้นจนถงปจจบันยังไม่มยารกษาตัวใดทให้ผลใน
ี่
ั
การรกษาโรคโควิด-19ได้
์
่
ิ
็
ื่
ั
ื
โทรศพทมือถือ หรอเครองใชอิเล็กทรอนคสตางๆจ�าเปน
์
้
10 ตองท�าการฆาเชอหรอไม ่
้
่
ื
ื
้
็
ิ
จำาเปน โดยหลังจากกลับจากภายนอกแล้ว แนะนำาให้ทำาการปด
โทรศัพท์มอถอ ใช้สำาลชบแอลกอฮอล์ทมความเข้มข้น 75% เช็ดทอปกรณ ์
ื
ี่
ุ
ื
ุ
ี
ี
ี่
มอถอเพื่อฆ่าเช้อ ขณะทำาการเช็ด อย่าละเลยบรเวณหฟง ไมโครโฟน ช่อง
ื
ิ
ื
ั
ื
ู
ั
ู
์
ี
์
ุ
เสยบหฟงและสายชารตของอปกรณ และขอบรอยต่อต่างๆ
30