The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วารสารกรมอู่ทหารเรือ ประจำปี 2555 เล่ม 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by supanp, 2022-05-11 05:13:21

วารสารกรมอู่ทหารเรือ ประจำปี 2555 เล่ม 2

วารสารกรมอู่ทหารเรือ ประจำปี 2555 เล่ม 2

Keywords: การต่อเรือ,วารสาร อร.

วันที่ 9 มกราคม พุทธศกั ราช 2433
พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว
เสดจ็ พระราชดำเนนิ ทรงกระทำพธิ ีเปิด อ่เู รือหลวง

ในปจั จุบนั คอื กรมอทู่ หารเรือ
ทางราชการไดถ้ อื เอาวนั ที่ 9 มกราคม ของทุกปี

เป็นวนั คลา้ ยวนั สถาปนากรมอทู่ หารเรอื
นบั ถึงปัจจบุ นั รวม 122 ปี

วารสารกรมอูท่ หารเรือ ประจำปี 2555

ISSN : 0857-4766



ประธานทีป่ รกึ ษา

พลเรอื โท มานิตย์ สูนนาดำ เจา้ กรมอูท่ หารเรอื


คณะท่ปี รึกษา

พลเรือตรี พสิ นั ต ์ รัตนภูเ่ พช็ ร รองเจา้ กรมอูท่ หารเรอื

พลเรือตรี หม่อมหลวงอนนุ พนันท์ นวรตั น์ รองเจ้ากรมอู่ทหารเรอื

พลเรือตรี ฉัตรชยั ทตั ตะวร รองเจ้ากรมอูท่ หารเรอื

พลเรอื ตรี วิทวัส ณ นคร เจา้ กรมแผนการชา่ ง กรมอู่ทหารเรือ

พลเรอื ตรี สุรพงษ์ อำนรรฆสรเดช ผู้อำนวยการอทู่ หารเรอื ธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ

พลเรือตรี สุรศิษฎ์ สวา่ งจันทร ์ รองผอู้ ำนวยการอทู่ หารเรือพระจลุ จอมเกลา้ กรมอทู่ หารเรอื

พลเรอื ตรี พลชยั สุนทรวณชิ ผอู้ ำนวยการอรู่ าชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอูท่ หารเรอื

พลเรือตรี วัฒนชยั ปิยภัทร ์ ผชู้ ่วยผู้อำนวยการฝ่ายแผน อู่ทหารเรือพระจลุ จอมเกลา้ กรมอทู่ หารเรือ

พลเรือตรี สมศักด์ิ พยคั คง ผู้ชว่ ยผอู้ ำนวยการฝา่ ยผลิต อูท่ หารเรอื พระจลุ จอมเกล้า กรมอทู่ หารเรือ


บรรณาธกิ าร
เจ้ากรมพฒั นาการช่าง กรมอูท่ หารเรือ

พลเรือตรี ณเรศ ชุ่มกมล

ผู้ชว่ ยบรรณาธิการ
นาวาเอก พิสทุ ธ์ิ ไขส่ ุวรรณ

นาวาเอก จกั รชัย ชื่นวาริน นาวาเอก สงิ ขร ธรี ะสนิ ธ
์ุ
นาวาเอก ประดิษฐ สำอางค์อนิ ทร ์
นาวาเอก สงกรานต์ ต่อศร


ประจำกองบรรณาธิการ

นาวาเอก ชีวิน หวังในธรรม นาวาเอก โอภาส บูรณสัมฤทธิ นาวาเอก วีรยุทธ ตุลวรรธนะ

นาวาเอก เอกสทิ ธ์ิ รอดอยู่ นาวาเอก วิโรจน์ นลิ พงษ ์ นาวาเอกหญงิ กาญจนา ทรงวรวิทย

นาวาเอก กติ ติ ยุกติรัตน นาวาเอก สกล สิริปทมุ รัตน์ นาวาเอก จรี าวฒั น์ ธีรนฐั พงศ์

นาวาเอกหญงิ สุภัทรา ธรี พงษพ์ ิศทุ ธ ์ นาวาเอกหญิง ภัทราภรณ์ พฒั นพนั ธ์ุ นาวาโท พสิ ิฏฐ์ นลิ ชงั

นาวาโท สุทัศน์ วนั ทะเวก


สำนักงาน

กองวิจัยและพัฒนา กรมพัฒนาการช่าง กรมอทู่ หารเรือ

2 ถนนอรณุ อมรนิ ทร์ แขวงศิรริ าช เขตบางกอกนอ้ ย กรงุ เทพ ฯ 10700

โทร. 0 2475 4745, 0 2475 4041 โทรสาร 0 2475 4041


ออกแบบ – ถา่ ยภาพประกอบ – จดั พิมพ

หจก. นายวิทย์ พริ้นตงิ้ แอนด์มลั ติมเี ดยี 19/37 ถนนบางไผ่ – หนองเพรางาย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบรุ ี 11110

โทร. 0 2597 5874, 08 1924 0473 โทรสาร 0 2597 5876

e - mail : witpm @ yahoo.com



ข้อคดิ เห็นและบทความที่นำลงวารสารกรมอู่ทหารเรือเป็นของผเู้ ขยี น

มิใชข่ อ้ คิดเหน็ หรือนโยบายของหน่วยงานใดของรัฐ และมไิ ด้ผกู พันตอ่ ทางราชการแต่อย่างใด

บรรณาธิการแถลง




การจัดทำวารสารกรมอู่ทหารเรือ เป็นกิจกรรมที่ได้ปฏิบัติสืบทอดกันมาช้านาน โดยมี
วัตถุประสงค์เพ่ือเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการด้านวิศวกรรมทางเรือ และประชาสัมพันธ์ผลงาน
ของกรมอู่ทหารเรือให้สาธารณชนได้รับทราบ โดยมอบให้เป็นท่ีระลึกเน่ืองในวันคล้ายวันสถาปนา
กรมอู่ทหารเรือ ซึง่ ตรงกบั วันท่ี 9 มกราคม ของทุกปี

ปีพุทธศักราช 2555 น้ี ได้เวียนมาครบรอบ 122 ปี ที่กรมอู่ทหารเรือได้ก่อกำเนิด นับตั้งแต่
วนั ท่ี 9 มกราคม พุทธศักราช 2433 ทพ่ี ระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั รชั กาลที่ 5 ไดเ้ สดจ็
พระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีเปิด “อู่เรือหลวง” ณ ที่ตั้งปัจจุบันของกรมอู่ทหารเรือแห่งนี้
ตลอดระยะเวลาท่ีผ่านมาย่อมเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมว่า กรมอู่ทหารเรือมุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจ
การซ่อมและสร้างเรือเพ่ือเสริมสร้างศักยภาพและสมุททานุภาพของกองทัพเรือ ด้วยใจรัก ตั้งใจจริง
และเพียรพยายามอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งยังพัฒนาตนเอง ให้ก้าวหน้าทันสมัยและก้าวทัน
เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพ่ือดำรงไว้ซึ่งความเป็นท่ีหนึ่งในวงการวิศวกรรม
ทางเรือระดับชาตแิ ละให้เป็นทยี่ อมรับในระดบั สากล

วารสารกรมอู่ทหารเรือฉบับนี้ ได้รวบรวมกิจกรรมและผลงานท่ีสำคัญของกรมอู่ทหารเรือ
รวมถึงการดำเนินการด้านบรรเทาสาธารณภัยเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจากมหาอุทกภัย
ที่เกิดข้ึนในปีท่ีผ่านมา อีกท้ังยังมีผลงานวิจัยพัฒนาและบทความทางวิชาการด้านวิศวกรรม
ทางเรือเพ่ือถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์ และแนวคิดเชิงวิชาการสู่สังคมภายนอก อันจะนำไปสู่สังคม
แห่งการเรียนรู้ ท้ังน้ีการนำเสนอเน้ือหาในฉบับน้ีได้พลิกโฉมให้แตกต่างไปจากฉบับก่อน ๆ ด้วยสาระ
ที่หลากหลาย โดยจัดแยกตามกลุม่ เพื่อให้ง่ายตอ่ การอ่านและการเข้าใจ

สุดท้ายนี้ กองบรรณาธิการวารสารกรมอู่ทหารเรือ ขอขอบคุณผู้บังคับบัญชาทุกระดับ
ผู้มีอุปการคุณ และผู้ร่วมงานทุกท่าน ที่ได้ให้การสนับสนุนและร่วมแรง ร่วมใจ ในการจัดทำวารสาร
ฉบับนี้จนสำเร็จเป็นรูปเล่มสวยงาม และหวังเป็นอย่างย่ิงว่าวารสารกรมอู่ทหารเรือฉบับน้ี
จะเป็นประโยชน์และชว่ ยใหผ้ ู้อา่ นทกุ ทา่ นรู้จกั กรมอทู่ หารเรือดีย่ิงข้นึ


บรรณาธิการ

คำปรารภของเจ้ากรมอู่ทหารเรือ


นับจากเมื่อครั้งท่ีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ เสด็จพระราชดำเนนิ มาทรง
เปิดอเู่ รือหลวงแหง่ น้ี เมือ่ วันท่ี 9 มกราคม 2433 มาจนถงึ ปจั จุบนั
นับเป็นเวลาได้ 122 ปี ซ่ึงเป็นห้วงเวลาที่เต็มไปด้วยพัฒนาการที่มี
ความต่อเน่ืองและยาวนาน งานฝีมือช่างที่เก่ียวกับเรือน้ัน ได้มีการ
สืบทอดองค์ความรู้ต่อกันมาหลายรุ่น รวมท้ังวิวัฒนาการด้าน
เทคโนโลยีและดา้ นวศิ วกรรมต่าง ๆ ที่เกย่ี วข้อง ทำให้กรมอทู่ หารเรอื
เป็นหน่วยงานท่ีอยู่ในระดับแนวหน้า ในงานด้านวิศวกรรมเรือและ
วิศวกรรมเคร่ืองกลเรือ


ในปี พ.ศ.2554 เป็นปีแห่งการเฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั เน่ืองในโอกาสพระราชพธิ ี
มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ซึ่งตลอดระยะเวลาดังกล่าว กรมอู่ทหารเรือได้ดำเนิน
โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งท่ีเป็นโครงการของกรมอู่ทหารเรือเอง และโครงการท่ี
ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ได้แก่ โครงการเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา (ชุดเรือ
ต.994) ได้ทำการส่งมอบเรือ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2554 โครงการซ่อมบำรุงเรือพระราชพิธีเฉลิมพระเกียรติ
84 พรรษา กรมอู่ทหารเรือร่วมกับกรมการขนส่งทหารเรือและกรมศิลปากร ได้ดำเนินการซ่อมทำเรือพระราชพิธี
เรยี บร้อยแล้วรวมทง้ั สิ้น 54 ลำ โครงการพพิ ิธภณั ฑอ์ ่เู รอื หลวงเฉลมิ พระเกียรติ 84 พรรษา ได้ทำพธิ เี ปิดพิพิธภัณฑ์
อู่เรอื หลวงฯ เม่อื วนั ท่ี 25 สงิ หาคม 2554 โครงการเรอื ตรวจการณไ์ กลฝง่ั เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา (ร.ล.กระบ่ี)
ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานในพิธีปล่อยเรือ
ลงน้ำ เมอื่ วันศุกรท์ ่ี 2 ธันวาคม 2554

และเนอ่ื งจากกรณที เ่ี กดิ อทุ กภยั ครงั้ ใหญท่ ผ่ี า่ นมา กรมอทู่ หารเรอื ไดร้ ะดมสรรพกำลงั ในการสรา้ งเรอื ทอ้ งแบน
สร้างแพที่พักขนาดเล็ก สร้างแพปฏิบัติการช่วยเหลือขนาดใหญ่ สร้างแพสุขา สร้างเครื่องผลักดันน้ำสนับสนุน
หนว่ ยเหนอื เพอ่ื นำไปชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั ในพนื้ ทตี่ า่ ง ๆ นอกจากนี้ ไดส้ รา้ งแพขนยา้ ยเครอื่ งจกั รอปุ กรณ์ พรอ้ มกบั
ส่งชุดปฏิบัติการช่วยเหลือขนย้ายในนิคมอุตสาหกรรม กับทั้งได้จัดกำลังพลพร้อมส่ิงอุปกรณ์ ออกช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยในพ้ืนท่ีห่างไกลตลอดระยะเวลาของการประสบภัยพิบัติ ได้จัดต้ังศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของ
กรมอู่ทหารเรือข้ึน เพื่อเป็นส่วนอำนวยการ ประสานงานในการให้การสนับสนุนช่วยเหลือ รวมท้ังได้จัดตั้ง
ศนู ยอ์ พยพโดยใชพ้ น้ื ทข่ี องโรงเรยี นชา่ งกรมอทู่ หารเรอื เปน็ ทพี่ กั พงิ สำหรบั ผปู้ ระสบภยั ตลอดจนไดร้ ะดมสรรพกำลงั
และทรัพยากรท่ีจำเป็น เพ่ือการระวังป้องกันไม่ให้กรมอู่ทหารเรือประสบกับภาวะน้ำท่วมซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการ
ปฏบิ ตั ภิ ารกิจในการบรรเทาภยั พิบตั ดิ ังกลา่ วทีเ่ กดิ ข้นึ ได้

ในวารสารกรมอู่ทหารเรือ ได้รวบรวมเหตุการณ์ ผลงานในปีท่ีผ่านมา รวมทั้งบทความทางวิชาการ
เพอ่ื เปน็ แหลง่ ความรู้ ใหไ้ ดร้ ับทราบข้อมลู หรือทำการศึกษาคน้ คว้า ขอขอบคณุ กองบรรณาธิการ ผใู้ ห้การสนับสนุน
และผู้เกี่ยวข้อง ท่ีได้ร่วมกันจัดทำวารสารกรมอู่ทหารเรือฉบับน้ี เพื่อประโยชน์ทางด้านการเรียนรู้ และดำรงคุณค่า
ทางวชิ าการ ต่อไป

พลเรอื โท

(มานิตย์ สูนนาดำ)

เจ้ากรมอทู่ หารเรอื

วารสารกรมอทู่ หารเรือ
ประจำปี 2555


สารบญั


เร่อื ง หน้า


การซ่อมทำเรอื
8

n ผลงานการซอ่ มทำเรอื
กองบรรณาธกิ ารวารสารกรมอู่ทหารเรอื


การสร้างเรอื
12

n การสร้างเรือตรวจการณ์ใกลฝ้ ั่ง ต.994 26

คณะอนกุ รรมการฝา่ ยสร้างเรอื ตรวจการณใ์ กล้ฝ่งั ต.994

n การสร้างเรือตรวจการณ์ไกลฝ่ัง
กองแผนและประมาณการชา่ ง อรู่ าชนาวีมหดิ ลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรอื


การศกึ ษา อบรม
36

n การศึกษา อบรม
กรมพัฒนาการช่าง กรมอู่ทหารเรอื


ดา้ นวิชาการ
48

n การลงนามความร่วมมอื ทางวชิ าการ กบั โรงเรียนจติ รลดา
n การลงนามความร่วมมือทางวิชาการ กับวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม 49

n การวิจยั และพฒั นาของกรมอ่ทู หารเรือ 50

กองวจิ ัยและพัฒนา กรมพฒั นาการช่าง กรมอู่ทหารเรือ

n การเสวนา/สัมมนาทางวิชาการ 53

กรมแผนการชา่ ง กรมอทู่ หารเรือ

n ระบบสารสนเทศการบริหารงานซอ่ มทำเรอื ของกรมอทู่ หารเรือ 60

คณะทำงานจดั ทำระบบสารสนเทศการบริหารงานซอ่ มทำเรอื ของกรมอู่ทหารเรอื

n ระบบสารสนเทศโรงเรียนชา่ งกรมอูท่ หารเรอื 66

โรงเรียนชา่ งกรมอทู่ หารเรือ กองการศกึ ษา กรมพัฒนาการชา่ ง กรมอูท่ หารเรอื
70

n การซอ่ มบำรงุ ตามสภาพ (Condition Based Maintenance : CBM)
นาวาเอก เปรมมนัส สวุ รรณดุล และ นาวาตรี เกษม วิจติ ราภรณ์พงศ
์ 81

n การควบคมุ คณุ ภาพเรือตรวจการณไ์ กลฝง่ั (OPV)
นาวาเอก สนั ติรัตน์ ธาระเขตต์

ปกหนา้

การทดลองเรือในทะเล

ของเรอื ตรวจการณใ์ กล้ฝง่ั เฉลมิ พระเกียรติ

84 พรรษา (เรือ ต.994)


ปกในหน้า

พระราชานุสาวรีย์

จอมพลเรือ สมเด็จพระมหติ ลาธิเบศร

อดุลยเดชวกิ รม พระบรมราชชนก


ปกในหลัง

พิพธิ ภัณฑอ์ เู่ รอื หลวง


เฉลมิ พระเกียรติ 84 พรรษา


ปกหลงั

เรอื ตรวจการณไ์ กลฝง่ั

เฉลิมพระเกยี รติ 84 พรรษา

(เรอื หลวงกระบ)่ี


n การนำหลักการ FMEA มาใช้ในงานควบคมุ คุณภาพ 90

กองควบคุมคณุ ภาพ อรู่ าชนาวมี หิดลอดลุ ยเดช กรมอทู่ หารเรือ

n แนวทางการป้องกันการกดั กรอ่ นภายในตัวเรือ 99

เรอื เอก นรศิ นมุ่ พวง

n จากเหล็ก...สู่...ไม้ คร้ังแรกของประเทศไทย 112

นาวาเอก วทิ ยา พันธ์โุ ภคา และ เรือเอก อนุชา ลกู จันทร ์


กจิ กรรมในรอบป ี


n กจิ กรรมในรอบปี 127


กองบรรณาธกิ ารวารสารกรมอูท่ หารเรือ
139

n การจดั สรา้ งพระราชานุสารีย์ จอมพลเรอื สมเด็จพระมหติ ลาธเิ บศร 147

อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ณ อรู่ าชนาวีมหดิ ลอดุลยเดช กรมอ่ทู หารเรือ

นาวาเอกหญิง กาญจนา ทรงวรวทิ ย

n การจดั สร้างเรือใบซเู ปอร์มดดว้ ยไฟเบอรก์ ลาส
นาวาเอก ยุทธนา ดวงจนั ทร์

n ยังไงก็ชา่ ง...ยังไงก็ไมท่ ิ้งกัน 151

กองการศกึ ษา กรมพฒั นาการช่าง กรมอูท่ หารเรอื

ว 60ารสารกรมอู่ทหารเรอื ประจำปี 2555

ระบบสารสนเทศการบริหารงานซอ่ มทำเรือ

ของกรมอู่ทหารเรือ


คณะทำงานจดั ทำระบบสารสนเทศการบริหารงานซอ่ มทำเรอื ของกรมอทู่ หารเรือ


กระบวนการซ่อมเรือของกรมอู่ทหารเรือ ขึ้นใช้เองบ้าง แผนกกรรมวิธีข้อมูลและสถิติ
กองจดั การ กรมอทู่ หารเรอื ดำเนนิ การใหบ้ า้ งหนว่ ย
ต้ั ง แ ต่ อ ดี ต จ น ถึ ง ปั จ จุ บั น ก ล่ า ว ไ ด้ ว่ า เ ป็ น ซอ่ มดำเนนิ การใหบ้ า้ ง เรยี กไดว้ า่ “ตา่ งคนตา่ งทำ”
กระบวนการที่มีความสลับซับซ้อน เริ่มจาก ข้อมูลกระจัดกระจาย ไม่เป็นแหล่งข้อมูลเดียวกัน
กระบวนการเสนอความต้องการงบประมาณใน (Single Database) เป็นการยากท่ีจะค้นหา
การซ่อมทำเรือ กระบวนการจัดหาอะไหล่และ และใช้เวลาในการสืบค้นข้อมูลนานจนบางคร้ัง
วสั ดุ เพอ่ื การซอ่ มทำเรอื การเกบ็ และการเบกิ - จา่ ย ไมท่ นั เวลาตอ่ การใชง้ าน กรมอทู่ หารเรอื ไดเ้ ลง็ เหน็
อะไหล่/วัสดุ ข้ันตอนการซ่อมเรือและการทดสอบ ปัญหานี้และได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหา
ทดลอง แต่ละกระบวนการตามท่ีกล่าว ยังมีการ จึงได้มีนโยบายในการปรับปรุงระบบสารสนเทศ
ดำเนนิ การกระบวนการยอ่ ย ๆ อกี หลายกระบวนการ การบริหารงานซ่อมทำเรือให้มีประสิทธิภาพและ
การดำเนินการต่าง ๆ จะปฏิบัติได้อย่างสมบูรณ์ เป็นระบบเดียวกนั ทกุ หน่วยซอ่ ม

และมีประสิทธิภาพได้ จำเป็นจะต้องมีข้อมูลท่ี
ถูกต้อง สามารถสนับสนุนข้อมูลให้แก่การดำเนิน การดำเนินงานของกรมอทู่ หารเรอื

งานในแต่ละกระบวนการได้อย่างรวดเร็ว กรมอู่ทหารเรือได้แต่งต้ังคณะทำงาน
การจัดเก็บข้อมูลและการนำข้อมูลออกมาใช้งาน จัดทำระบบสารสนเทศการบริหารงานซ่อมทำเรือ
จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง กรมอู่ทหารเรือได้มีการ ของกรมอู่ทหารเรอื และใหท้ ำหนา้ ที่ ดงั น้ี

พัฒนาในเรื่องเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลมาตลอด 1. ดำเนินการจัดทำระบบสารสนเทศ
ไม่ว่าจะเป็นด้านการซ่อมเรือ ด้านการศึกษา การบริหารงานซ่อมทำเรือของกรมอู่ทหารเรือ
การงบประมาณ การพัสดุ หรือด้านธุรการ (ระบบสารสนเทศเพ่ือสนับสนุนการวางแผนการ
เป็นต้น แต่การพัฒนาท่ีผ่านมาส่วนใหญ่เกิดจาก ซ่อมทำเรือ) ให้มีระบบฐานข้อมูลที่เป็นมาตรฐาน
การท่ีผู้ปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ ดำเนินการจัดทำ เดียวกนั ทั้งกรมอ่ทู หารเรอื

61 ระบบสารสนเทศการบรหิ ารงานซ่อมทำเรือของกรมอ่ทู หารเรอื


2. พิจารณารูปแบบการแปรรูปแหล่ง การดำเนินการของคณะทำงาน ฯ

ข้อมูลดิบ (Data) ให้เป็นข้อมูลท่ีมีประโยชน์ คณะทำงาน ฯ ไดร้ ว่ มกนั พจิ ารณาวเิ คราะห์
(Information) ซึ่งช่วยในการวิจัย เป็นตัวนำ ปัญหาที่มีมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ต้ังแต่เรื่อง
ข้อมูลก้าวสู่การตัดสินใจของการบริหารงาน ข้อมูลรายละเอียดเรือ (Ship Configuration)
ซ่อมทำเรือของกรมอ่ทู หารเรอื
แผนการซ่อมทำ การงบประมาณ สถานภาพอเู่ รอื
3. จัดทำรูปแบบการรายงานต่าง ๆ ท่ี ใบสั่งงาน ประวัติการใช้เรือ ประวัติการสร้าง
เกี่ยวข้องกับการบริหารงานซ่อมทำเรือของ ประวัติการซ่อมทำ การควบคุมคุณภาพ รายงาน
กรมอู่ทหารเรือ ให้เป็นรูปแบบทางอิเล็กทรอนิกส์ การซ่อมทำ การจดั ซ้อื - จัดจ้าง การบริหารพัสดุ
และเพ่ิมความรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำให้กับ คงคลัง การจัดการความรู้ด้านการซ่อมทำ และ
การรายงาน การนำเสนอขอ้ มลู สถติ ติ วั แปรตา่ ง ๆ การกำลังพลด้านช่าง ได้หาแนวทางแก้ปัญหา
ของระบบสารสนเทศ
ต่าง ๆ เพ่ือให้ระบบสารสนเทศสามารถรองรับ
4. พัฒนาจดั ทำ Software ค่มู ือการใช้ และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานและ
งานระบบสารสนเทศและจัดอบรมผู้ปฏิบัติงาน ผู้บังคับบัญชาได้ โดยคณะทำงาน ฯ ได้ดำเนิน
เพอื่ กรอกข้อมูลในระบบสารสนเทศ
การไปแล้ว ดงั น้


ว 62ารสารกรมอทู่ หารเรือ ประจำปี 2555

1. กำหนดองค์ประกอบของระบบ 1.3 ดา้ นหนว่ ยซอ่ มเปน็ องคป์ ระกอบ
ได้กำหนดองค์ประกอบของการซ่อมทำเรือเป็น ส่วนที่บอกว่า หน่วยซ่อมของกรมอู่ทหารเรือ
7 ด้าน และยงั แยกออกเปน็ 15 Module ดว้ ยกัน มี ขี ด ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร ซ่ อ ม ท ำ เ ท่ า ใ ด
คือ
กระบวนการในการซ่อมทำจนงานเสร็จเป็น
1.1 ด้านข้อมูลรายละเอียดของเรือ อย่างไรและใชอ้ ะไรบา้ งในการซอ่ มทำ

(Ship Configuration) เป็นองคป์ ระกอบที่แสดง - Module สถานภาพอเู่ รือ

ให้รู้ว่า เรือแต่ละลำท่ีกรมอู่ทหารเรือรับผิดชอบ - Module ใบสง่ั งาน

ซ่อมทำ มีอุปกรณ์ใดบ้างที่ติดต้ังอยู่ในเรือ แต่ละ 1.4 ดา้ นประวัติ เป็นองคป์ ระกอบ
อุปกรณ์มีรายละเอียดของจำนวน ชนิด ประเภท ทม่ี คี วามสำคญั เพอื่ ใหท้ ราบถงึ ประวตั คิ วามเปน็ มา
ตราอักษร ฯลฯ อะไรบ้าง รวมทั้งสถานภาพของ ตั้งแต่การสร้าง การใชง้ าน และการซอ่ มทำ

อุปกรณน์ ้ันในปจั จบุ นั ดว้ ย
- Module ประวตั ิการสรา้ ง

- Module Ship Configuration
- Module ประวัตกิ ารใชง้ าน

1.2 ด้ า น ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร - Module ประวัติการซอ่ มทำ

เป็นการนำนโยบายของระดับบริหาร แผนงาน - Module การควบคมุ คุณภาพ

ต่าง ๆ มาแปลงไว้เป็นฐานข้อมูล เช่น นโยบาย - Module รายงานการซ่อมทำ

การกำหนดอายุเรือ วงรอบการซ่อมทำเรือ 1.5 ด้านการบริหารพัสดุ เป็นองค์
แผนการจัดเรือเข้าซ่อม การแบ่งประเภทเรือ ประกอบท่ีใช้สำหรับบริหารการพัสดุ ขบวนการ
การแบ่งมอบเรือให้หน่วยซ่อมรับผิดชอบ จัดหา การจัดเก็บ จ่ายแจก จำหน่าย การเสนอ
แผนการงบประมาณในแต่ละป ี
ความต้องการ เพือ่ ใชพ้ ัสดใุ นการซอ่ มบำรงุ

- Module แผนซอ่ มทำ
- Module Inventory Control

- Module การงบประมาณ
- Module ใบเบิก

63 ระบบสารสนเทศการบรหิ ารงานซ่อมทำเรือของกรมอ่ทู หารเรอื


- Module การจดั ซอื้ - จดั จ้าง
เนื่องจากการพัฒนาระบบสารสนเทศ
1.6 ด้านองค์ความรู้ เป็นองค์ ของกรมอู่ทหารเรือที่จะมีการพัฒนาท้ังในเร่ือง
ประกอบที่ใช้ข้อมูล ความรู้ ข่าวสาร แบบแปลน Software และ Hardware รวมถึงการฝึกอบรม
ขอ้ มลู เทคนคิ เอกสาร ตำรา คมู่ อื ฯลฯ
ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน โดยทางดา้ น Software คณะจดั ทำ ฯ
- Module KM
จะดำเนินการจัดทำเอง โดยอาศัยองค์ความรู้จาก
1.7 ด้านการกำลังพล เป็นองค์ บุคลากรของกรมอู่ทหารเรือเอง ส่วนทางด้าน
ป ร ะ ก อ บ ท่ี ท ำ ใ ห้ ท ร า บ จ ำ น ว น แ ร ง ง า น Hardware ซง่ึ จะตอ้ งมกี ารปรบั ปรงุ ระบบเครอื ขา่ ย
Competency เก่ยี วกับการซ่อมทำเรือ
และอปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ จงึ ไดเ้ สนอของบประมาณ
- Module กำลงั พลสายช่าง
จากกรมการส่ือสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ
2. จัดทำแผนภูมิการดำเนินงาน
ทหารเรือ (สสท.ทร.) ในวงเงินงบประมาณ
3. เสนอของบประมาณในการดำเนิน 9,279,620.- บาท โดยแบ่งเบิกจ่ายงบประมาณ
โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศการบริหารงาน เป็น 5 ปี ตง้ั แต่ปีงบประมาณ 2555 - 2559

ซอ่ มทำเรือของกรมอูท่ หารเรอื



แผนงานการพฒั นาระบบสารสนเทศการบรหิ ารงานซ่อมทำเรอื ของกรมอู่ทหารเรอื



ล ำด ับ ท ่ ี แ ผน ง าน
255 5 ง 2บ5ป5ร6ะ ม 2า5ณ57ป ร ะ2จ5ำ5ป8 ี 2 5 5 9

ารสนบั สนนุ


1 การพฒั นาระบบสารสนเทศการบริหารงาน

ซ่อมทำเรอื ของกรมอู่ทหารเรอื (อร.)

1.1 พัฒนาซอพต์แวรร์ ะบบสารสนเทศการบริหาร

งานซ่อมทำเรือของกรมอู่ทหารเรือ (อร.)

- การพฒั นา ปรบั ปรุง - Module : ใบส่งั งาน /

การพสั ดุ / Configuration

- การพฒั นา ปรบั ปรงุ - Module : Referant (KM) / กำลังพล

- การพัฒนา ปรบั ปรุง - Module : แผนซอ่ มบำรงุ /

การงบประมาณ / สถานภาพอู่เรอื / การควบคมุ คุณภาพ

- การพฒั นา ปรบั ปรงุ - Module : ประวตั ิการสร้าง /

ประวตั ิการใช้ / ประวตั กิ ารซ่อม / รายงานซ่อมทำ

1.2 นำเขา้ ข้อมลู ตัง้ ต้นระบบ ในแต่ละ Module หนว่ ยใน อร.

2 จัดทำเอกสารคมู่ อื ตา่ ง ๆ ของระบบ

3 จัดประชมุ อบรม สมั มนา การใช้ระบบ หน่วยใน อร.

4 จัดหาอปุ กรณ์และคอมพิวเตอรส์ ำหรับการพฒั นาระบบ สสท.ทร.

(จดั ทำแผนเสนอความตอ้ งการ)

4.1 ปรับปรงุ เพ่อื เพ่ิมประสทิ ธภิ าพเครือข่าย

ของส่วนบัญชาการ กรมอู่ทหารเรือ เพือ่ รองรับระบบ

4.2 ปรับปรงุ เพ่อื เพมิ่ ประสิทธภิ าพเครือข่าย

ของอูท่ หารเรอื ธนบรุ ี กรมอทู่ หารเรือ เพ่ือรองรับระบบ

4.3 ปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสทิ ธภิ าพเครือขา่ ย ของ

อู่ทหารเรอื พระจลุ จอมเกลา้ กรมอทู่ หารเรอื เพ่ือรองรบั ระบบ

4.4 ปรบั ปรุงเพ่อื เพ่ิมประสิทธภิ าพเครือขา่ ย ของ

อู่ราชนาวมี หิดลอดลุ ยเดช กรมอูท่ หารเรือ เพ่อื รองรับระบบ

4.5 จดั หาอุปกรณแ์ ละคอมพิวเตอร์ สำหรับผู้ใชร้ ะบบ

ว 64ารสารกรมอทู่ หารเรอื ประจำปี 2555

ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะไดร้ ับ
ความกา้ วหนา้ โครงการ

1. หนว่ ยซ่อมตา่ ง ๆ ของกรมอทู่ หารเรือ 1. ค ว า ม ก้ า ว ห น้ า ใ น ก า ร จั ด ท ำ
มีระบบสารสนเทศท่ีทันสมัยใช้และเป็นระบบ Software คณะทำงาน ฯ ไดพ้ จิ ารณาวา่ Module
เดียวกันทัง้ หมด
ใบส่ังงาน Module Ship Configuration และ
2. ใช้ระบบสารสนเทศเป็นตัวปรับ Module การบริหารพัสดุ เป็นความสำคัญที่สุด
กระบวนการทำงานของแต่ละหน่วยซ่อมให้เป็น ของการบริหารงานซ่อมทำเรือ จึงได้เร่ิมจัดทำ
แบบเดยี วกัน
โปรแกรมใบส่ังงาน Ship Configuration และ
3. เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว การบริหารงานพัสดุ เป็นงานอันดับแรกของ
ในการตรวจสอบข้อมูล อุปกรณ์ เครื่องจักร การจัดทำโปรแกรม ซ่ึงในปีงบประมาณ 2554
ประจำเรือต่าง ๆ
ท่ีผ่านมามีความกา้ วหน้า ดังนี้

4. เพ่ือให้ทราบกำหนดเวลาในการซ่อม 1.1 Module ใบสั่งงาน ได้แบ่ง
บำรงุ เครอ่ื งจกั ร อุปกรณ์ ประจำเรือต่าง ๆ
ช่วงการดำเนินงาน ออกเปน็ 2 ช่วง คอื ช่วงแรก
5. เพ่ือให้ทราบรายละเอียดการซ่อม การเขียนใบส่ังงานเป็น Process ที่เก่ียวข้องกับ
บำรุง พร้อมรายการอะไหล่/พัสดุท่ีจำเป็นต้อง การส่ังงาน ประกอบด้วยข้อมูลรายละเอียดงาน
ใช้ในการซ่อมบำรุง แต่ละระดับการซ่อมทำของ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้ทราบข้อมูลการปฏิบัติงาน
แต่ละอปุ กรณ์
ดำเนินการแล้วเสร็จ ช่วงที่ 2 การรายงาน
6. จัดทำรายการความต้องการอะไหล่/ ความก้าวหน้าการซ่อมทำเป็น Process เพ่ือ
พัสดุ เพื่อสนับสนุนการซ่อมทำเรือตามแผน ให้การติดตามการซ่อมทำ ทราบสถานภาพการ
จดั ทำความต้องการงบประมาณในการซอ่ มทำเรือ
ดำเนนิ งาน รายละเอยี ดการปฏิบตั ิงาน จนกระท้งั
7. มรี ะบบฐานขอ้ มลู ทส่ี ามารถเชอื่ มโยง ปิดใบสั่งงาน สามารถรวบรวมการใช้แรงงาน
กนั ไดท้ ุกหน่วยซ่อม
ระยะเวลาดำเนินงานได้อย่างถูกต้อง ช่วงท่ี 2 น้ี
8. สามารถนำเอาข้อมูลในการปฏิบัติ ประกอบด้วย 3 Sub – Process การรายงาน
จากทุกภาคส่วนมาวิเคราะห์และจัดทำเป็นสถิติ ความก้าวหน้า/การจ่ายงาน/การปิดใบส่ังงาน
ตา่ ง ๆ เพอ่ื ใชใ้ นการปรบั ปรงุ และพฒั นาการทำงาน คณะทำงาน ฯ วเิ คราะหร์ ะบบและจดั ทำ Database
ของกรมอู่ทหารเรอื ต่อไป
ระบบการจ่ายงานแล้วเสร็จและกำลังดำเนินการ
9. ระบบสารสนเทศสามารถเพิ่ม ดา้ นโปรแกรม สว่ นระบบการรายงานความกา้ วหนา้ /
ประสิทธิภาพในการทำงานท้ังทางด้านการบริหาร การปิดใบส่ังงาน กำลังดำเนินการวิเคราะห์และ
จัดการ ด้านการซ่อมทำของหน่วยซ่อม ด้าน จดั ทำ Database ต่อไป

ประวัติการซ่อมสร้าง ด้านการบริหารพัสดุ ด้าน 1.2 Module Ship Configuration
องค์ความรู้ในการซ่อมสร้างเรือ และด้านการ ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ โครงสร้างระบบ
กำลงั พล
การจดั เกบ็ (Ship Work Breakdown System)

รายการทะเบียนเครอ่ื งยนต์ (Item List) รายการ

65 ระบบสารสนเทศการบรหิ ารงานซ่อมทำเรือของกรมอ่ทู หารเรอื


อ้างองิ เครอ่ื งยนต์ (Engine Referent) ทั้งหมดน้ี ความสำคัญของโมดูลในการพัฒนาระบบ ดังน้ี
ได้ดำเนินการทดลองใช้งานในห้องทดลอง โมดูลแรก คือ โมดูลใบเบิก ขณะนี้ได้ทำการ
ปฏิบัติการ ปัจจุบันเน่ืองจากได้วิเคราะห์ว่าจะมี วิเคราะห์และออกแบบระบบเรียบร้อยแล้ว เร่ิม
การเรียกใช้ข้อมูลในระบบจำนวนมาก อีกทั้ง ดำเนนิ การพัฒนาโปรแกรมไปแลว้ ประมาณ 50%
ข้อมูลกลุ่มนี้ใช้สำหรับต้ังต้นการทำงานให้กับ ถัดไปคือ โมดูล Inventory Control ได้ดำเนิน
โมดูลอ่ืน จึงได้ดำเนินการปรับแต่งใช้เทคนิคการ การวิเคราะห์ระบบไปแล้วประมาณ 70% ขาดใน
รับ – ส่งขอ้ มูลให้มคี วามเรว็ สงู อีกทัง้ ไดป้ รับปรุง ส่วนที่เป็นกระซับหน่วยและได้เริ่มการออกแบบ
รายละเอียดฐานข้อมูลเพ่ิมเติมและการสื่อสารกับ โปรแกรมไปแล้วบางส่วน แต่ยังไม่ได้เริ่มพัฒนา
ผู้ใช้ (User Interface) เพ่ือให้สอดคล้องกับการ โปรแกรมและโมดูลสุดท้าย คือ โมดูลการจัดซ้ือ
ใช้งานและสะดวกกบั ผ้ใู ช้งานไดม้ ากทสี่ ดุ
จัดจ้าง ได้ดำเนินการในส่วนวิเคราะห์ไปแล้ว
1.3 Module การบริหารพัสดุ ประมาณ 50% ยังขาดในส่วนเช่ือมต่อระหว่าง
ประกอบด้วย โมดลู ตา่ ง ๆ ดงั นี้ การจัดซ้อื จัดจ้าง หน่วยต่าง ๆ ในการติดตามสถานการณ์จัดซื้อ
ใบเบิก และ Inventory Control การดำเนินการ จัดจ้าง และการผ่านข้อมูลสู่โมดูล Inventory
เพ่ือให้สอดคลอ้ งกับระบบใบสงั่ งาน จึงเรียงลำดบั Control


ระบบสารสนเทศการบริหารงานซ่อมทำเรือของกรมอู่ทหารเรือ
ท่ีกำลังดำเนินการจัดทำอยู่ในขณะน้ี หากได้ดำเนินการจนเสร็จสมบูรณ์
จะทำให้กรมอู่ทหารเรือก้าวไปข้างหน้าอีกข้ันหน่ึงในการซ่อมทำเรือ
สามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยเหลือและเสริมการปฏิบัติงาน การบริหาร
งานซ่อมทำเรือจะมีประสิทธิภาพเพิ่มข้ึน โดยระบบนี้ได้ถูกพัฒนาลงบน
เว็บแอพพลิเคช่ันผ่านระบบเครือข่ายของกองทัพเรือ สามารถเช่ือมโยง
ขอ้ มลู ถงึ กนั ทกุ หนว่ ยซอ่ ม เชน่ อทู่ หารเรอื ธนบรุ ี กรมอทู่ หารเรอื อทู่ หารเรอื
พระจลุ จอมเกลา้ กรมอทู่ หารเรอื อรู่ าชนาวมี หดิ ลอดลุ ยเดช กรมอทู่ หารเรอื
กรมโรงงาน ฐานทพั เรอื สตั หบี รวมถงึ หนว่ ยทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เชน่ กองเรอื ยทุ ธการ
กรมส่งกำลังบำรุงทหารเรือ และกรมกำลังพลทหารเรือ เป็นต้น ซึ่ง
หน่วยต่าง ๆ เหล่าน้ีจะได้นำและสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลซ่ึงกันและกัน
ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ใช้งาน
ผู้บังคบั บัญชา และกรมอูท่ หารเรอื

ว 66ารสารกรมอทู่ หารเรอื ประจำปี 2555

ระบบสารสนเทศโรงเรยี นช่างกรมอทู่ หารเรือ


โรงเรยี นชา่ งกรมอทู่ หารเรือ กองการศึกษา กรมพฒั นาการช่าง กรมอูท่ หารเรือ


ในการดำเนินการดังกล่าวต้องประสบ
ปัญหาและข้อจำกัดต่าง ๆ ท้ังทางด้านบุคลากรท่ี
ต้องมีความรู้และเข้าใจข้ันตอนการปฏิบัติในเร่ือง
ตา่ ง ๆ ท่เี ก่ยี วข้องกบั การดำเนินการจัดการศึกษา
ก า ร เ ก็ บ ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล แ ล ะ เ ก็ บ ข้ อ มู ล อ้ า ง อิ ง
ด้ า น ง บ ป ร ะ ม า ณ ที่ ต้ อ ง มี ก า ร ว า ง แ ผ น ก า ร ใช้
งบประมาณล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ ด้านวัสดุ
อุ ป ก ร ณ์ ใ น ก า ร เรี ย น ก า ร ส อ น ท่ี ต้ อ ง เ พี ย ง พ อ
ความเป็นมา
ต่อการปฏิบัติ รวมถึงรองรับมาตรฐานและตัวบ่งชี้
โรงเรียนช่างกรมอู่ทหารเรือ กองการ การประกันคุณภาพการศึกษาในด้านนวัตกรรม
ศึกษา กรมพัฒนาการช่าง กรมอู่ทหารเรือ วิชาชีพและงานวิจัย และด้านระยะเวลาที่จำกัด
จัดการเรียนการสอนหลักสูตรประกาศนียบัตร ซึง่ ต้องปฏิบตั ใิ หเ้ สร็จส้ินตามระยะเวลาท่กี ำหนด

วิชาชีพ มีการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของ จากขอ้ จำกดั ในดา้ นตา่ ง ๆ ทก่ี ลา่ วมาแลว้
การจดั การศกึ ษา เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นชา่ งกรมอทู่ หารเรอื ทำให้จำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ใช้ในการบริหาร
ได้มีความรู้และประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน และจัดการศึกษาที่ดี มีประสิทธิภาพ เพื่อใช้
ตามสาขาวิชาท่ีเปิดสอน เพ่ือให้นักเรียนท่ีสำเร็จ เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ และเกิดประโยชน์ต่อ
การศกึ ษาแลว้ ไดร้ บั การบรรจตุ ามหนว่ ยงานตา่ ง ๆ หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องและกองทัพเรือ ดังน้ัน
สามารถปฏบิ ตั งิ านไดท้ นั ที นอกจากนกี้ ารปรบั ปรงุ ด้วยการสนับสนุนจาก กรมอู่ทหารเรือ โดย
และพัฒนาการดำเนินการด้านการเรียนการสอน กรมพัฒนาการช่างจึงได้กำหนดแผนสนับสนุน
ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรฐานและ การดำเนินกิจกรรมภายใต้โครงการพัฒนาระบบ
ตัวบ่งช้ีการประกันคุณภาพการศึกษาของสถาบัน สารสนเทศโรงเรียนช่างกรมอู่ทหารเรือ ซ่ึงมี
ปอ้ งกนั ประเทศ กองบญั ชาการกองทพั ไทย (สปท.) ระยะเวลาดำเนินการ 365 วันพร้อมทั้งสนับสนุน
และสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน งบประมาณในการพัฒนาระบบดังกล่าว เม่ือ
คุณภาพการศึกษา (สมศ.) อีกดว้ ย
1 ตลุ าคม พ.ศ.2553 เปน็ ต้นมา

67 ระบบสารสนเทศโรงเรยี นชา่ งกรมอู่ทหารเรอื


วตั ถุประสงค
์ เม่ือระบบสารสนเทศโรงเรียนช่างกรมอู่ทหารเรือ
เพื่อให้โรงเรียนช่างกรมอู่ทหารเรือ สามารถใช้งานได้ดีก็จะสามารถให้การสนับสนุน
มีโปรแกรมระบบงานสารสนเทศโรงเรียนช่าง ระบบบรหิ าร การศกึ ษาของสถานศึกษาอน่ื ๆ ทม่ี ี
กรมอู่ทหารเรือ ให้สามารถสนับสนุนการบริหาร การบรหิ ารจดั การในลกั ษะคลา้ ยคลงึ กบั โรงเรยี นชา่ ง
และจัดการศึกษา ต้ังแต่การรับสมัครนักเรียน กรมอทู่ หารเรอื ได้

การคัดเลือกนักเรียน ประวัตินักเรียน การจัดการ ลักษณะการทำงานของระบบสารสนเทศ
ศึกษา การงบประมาณ การวัดและประเมินผล โรงเรียนชา่ งกรมอู่ทหารเรือ

และการประกันคุณภาพการศึกษา เพ่ือให้ เป็นระบบสารสนเทศที่สามารถเช่ือมโยง
สอดคล้องกับมาตรฐานและตัวบ่งชี้การประกัน และแลกเปล่ียนข้อมูลภายใน โรงเรียนช่างกรมอู่
คุณภาพการศึกษาของสถาบันป้องกันประเทศ ทหารเรอื ได้โดยอัตโนมัติ โดยลักษณะการทำงาน
กองบัญชาการกองทัพไทยและสำนักงานรับรอง เป็นแบบเครือข่าย (Client-Server) ซึ่งมีเครื่อง
มาตรฐาน และประเมนิ คุณภาพการศกึ ษา รวมทัง้ แม่ข่าย (Server) ในการจัดเก็บข้อมูลในลักษณะ
ในการพัฒนาระบบสารสนเทศของโรงเรียนช่าง รวมศูนย์กลาง(Centralize) ทำให้ผู้ใช้สามารถ
กรมอู่ทหารเรือ เป็นการพัฒนาโดยใช้กำลังพล เรยี กดขู อ้ มลู ทตี่ อ้ งการทราบไดท้ นั ที รวมทงั้ ในการ
ภายในโรงเรียนช่างกรมอู่ทหารเรือเอง ทำให้เกิด จัดเกบ็ ข้อมูลนั้นใช้โปรแกรมจัดการฐานข้อมูลซ่ึง
การพัฒนาบุคลากรของหน่วยงานและเป็น สามารถรองรบั ขอ้ มลู ของนกั เรยี น ขอ้ มลู การเรยี น-
ตัวอย่างท่ีดีสำหรับนักเรียนช่างกรมอู่ทหารเรือ การสอน ข้อมูลงบประมาณ ข้อมูลการประกัน
ในการที่จะสร้างสรรค์ผลงานท่ีมีคุณค่าต่อ คุณภาพการศึกษา และข้อมูลการวัดและประเมิน
กรมอู่ทหารเรือและกองทัพเรืออีกทางหนึ่งด้วย ผลนักเรยี นได้อยา่ งพอเพยี งและมีประสิทธิภาพ


แผนผังแสดงการทำงานแบบเครอื ขา่ ย (Client-Server)

ว 68ารสารกรมอทู่ หารเรือ ประจำปี 2555

ระบบสารสนเทศโรงเรียนช่างกรมอู่ทหารเรือ ประกอบด้วยระบบงานย่อยเพื่อรองรับ
การใช้งานให้สามารถตอบสนองตามวัตถุประสงค์ จำนวน ๘ ระบบ ดงั น
้ี
l ระบบงานข้อมลู นักเรียน

l ระบบงานปกครอง

l ระบบงานข้อมลู ครู

l ระบบงานฝา่ ยศึกษา

l ระบบงานประเมินและวัดผล

l ระบบงานงบประมาณ

l ระบบงานประกนั คุณภาพการศกึ ษา

l ระบบจดั การการเรียนรู้

(Knowledge Management)


แผนผงั การดำเนนิ งานของระบบสารสนเทศ

โรงเรียนช่างกรมอ่ทู หารเรือ

69 ระบบสารสนเทศโรงเรยี นชา่ งกรมอู่ทหารเรอื


ระบบสารสนเทศโรงเรียนช่างกรมอู่
ทหารเรือ มีขีดความสามารถในการแสดงผล
ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงข้อมูลและ
จัดการข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียน การแสดงผลการ
เรียน การจัดการทะเบียนสมาชิก การเก็บข้อมูล
เอกสารอ้างอิงเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการ
ประกันคุณภาพการศึกษา สถิติการเรียน และ
การใชง้ บประมาณ

ระบบสารสนเทศโรงเรียนช่างกรมอู่
ทหารเรือ เป็นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ท่ีปัจจุบันเป็นที่ยอมรับและมีการใช้งานอย่าง
แพร่หลายในประเทศไทย การใช้ระบบดังกลา่ วใน
การดำเนินการบริหารและจัดการศึกษาของ
โรงเรียนช่างกรมอู่ทหารเรือ ซ่ึงมีหน้าท่ีสำคัญใน
การผลิตบุคลากรของกองทัพเรือด้านการช่าง
เ ท ค นิ ค ร ะ ดั บ ผู้ ป ฏิ บั ติ ใ ห้ มี ศั ก ย ภ า พ ร อ ง รั บ
ต่อความต้องการของกองทัพเรือ โดยระบบ
ดังกล่าวจะช่วยให้ครูผู้สอนประหยัดเวลาในการ
ดำเนินการทางด้านงานธุรการ ทำให้มเี วลาในการ
ท่ีจะสอนและสร้างสรรค์ผลงานท่ีดีต่อนักเรียน
มากย่ิงขึ้น ตลอดจนในปัจจุบันมีการดำเนินการ
ตรวจสอบการประกันคุณภาพการศึกษาตาม
ม า ต ร ฐ า น แ ล ะ ตั ว บ่ ง ชี้ ก า ร ป ร ะ กั น คุ ณ ภ า พ
ก า ร ศึ ก ษ า ข อ ง ส ถ า บั น ป้ อ ง กั น ป ร ะ เ ท ศ
กองบัญชาการกองทัพไทย และสำนักงานรับรอง
มาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา ระบบ
ดังกล่าวจะสามารถช่วยให้โรงเรียนช่างกรมอู่ ของโรงเรียนช่างกรมอู่ทหารเรือได้อย่างมี
ทหารเรอื มคี วามพรอ้ มในการรองรบั การตรวจสอบ ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ภ า ย ใ ต้ ท รั พ ย า ก ร อั น จ ำ กั ด
ในปีปัจจุบัน หรือย้อนหลังได้ทันที อย่างไรก็ตาม คณะทำงานพัฒนาระบบสารสนเทศโรงเรียนช่าง
การทำให้ระบบสารสนเทศโรงเรียนช่างกรมอู่ กรมอู่ทหารเรือหวังเป็นอย่างย่ิงว่าระบบน้ีจะ
ทหารเรือ สามารถเกิดประโยชน์สูงสุดและดำรง ก่อให้ประโยชน์ต่อโรงเรียนช่างกรมอู่ทหารเรือ
อยู่ได้อย่างต่อเน่ือง ย่อมต้องการการพัฒนาให้ ตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาระบบดัง
ก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี กล่าวได้เป็นอย่างดี มีการพัฒนาระบบเพ่ิมเติมใน
สารสนเทศและส่ิงที่สำคัญไม่น้อยกว่าคือการ เชิงต่อยอด ซึ่งจะให้เกิดผลประโยชน์ในการ
ทำให้ระบบเป็นทีย่ อมรับของผู้ใชง้ านในด้านความ พัฒนาศักยภาพในการซ่อม สร้างเรือของกรมอู่
สามารถในการบริหารและจัดการการศึกษา ทหารเรือและกองทัพเรอื ใหม้ ปี ระสิทธิภาพตอ่ ไป

ว 70ารสารกรมอูท่ หารเรือ ประจำปี 2555

การซอ มบํารุงตามสภาพ


(Condition Based Maintenance : CBM)


นาวาเอก เปรมมนัส สุวรรณดลุ

หวั หนา้ แผนกวเิ คราะห์งานชา่ ง กองควบคมุ คุณภาพ กรมพฒั นาการชา่ ง กรมอู่ทหารเรอื


นาวาตรี เกษม วจิ ิตราภรณ์พงศ

ประจำแผนกวิเคราะห์งานชา่ ง กองควบคมุ คณุ ภาพ กรมพฒั นาการชา่ ง กรมอู่ทหารเรอื





การซอ่ มบำรงุ ตามสภาพ (Condition Based Maintenance : CBM) เปน็ การ

ซอ่ มบำรงุ เครอ่ื งจกั รตามแนวคดิ การซอ่ มบำรงุ เชงิ คาดการณ์ (Predictive Maintenance
Concept) โดยการคาดคะเนอัตราการเสื่อมสภาพของเคร่ืองจักร โดยใช้เครื่องมือหรือ
วิธีการให้ได้มาซึ่งข้อมูลท่ีสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์สภาพที่แท้จริง
ของเคร่ืองจักรได้ ซ่ึงจะช่วยทำให้การวางแผนซ่อมทำเครื่องจักรเป็นไปอย่างถูกต้องและ
มีประสิทธิภาพ เพ่ือการวางแผนซ่อมทำเครื่องจักรและอุปกรณ์ในเรือท่ี กรมอู่ทหารเรือ
รับผิดชอบ เป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพตลอดจนช่วยให้หน่วยซ่อม
ในสายวทิ ยาการ กรมอทู่ หารเรอื มีศกั ยภาพและขีดความสามารถในการนำ CBM ไปใช้
ในการประเมินสภาพเครื่องจกั รและอปุ กรณ์ในเรือ

71 การซ่อมบำรุงตามสภาพ


กรอบความร่วมมือ


ข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ
ระหว่างกองทัพเรือโดยกรมอู่ทหารเรือ กับ
สถาบันไทย – เยอรมัน ซ่ึงเป็นองค์กรที่มีความรู้
และความเชี่ยวชาญทางด้านการซ่อมบำรุง
เครื่องจักรตามสภาพ (CBM) มีวัตถุประสงค์ที่จะ
ทำการวิจัยร่วมกันในการนำ CBM ไปใช้ในการ
ประเมินสภาพเคร่ืองจักรและอุปกรณ์ในเรือ โดย
สถาบันไทย – เยอรมัน จะเป็นผู้ถ่ายทอดองค์
ความรู้และเทคโนโลยีทางด้าน CBM ให้แก่กรมอู่
ทหารเรือ พร้อมท้ังสนับสนุนเครื่องมือและ
อุปกรณ์ต่าง ๆ ของสถาบันไทย – เยอรมัน เพ่ือ
ใช้ในการทำวจิ ยั โดยกรมอทู่ หารเรือ ไดข้ อรบั การ
สนับสนุนเรือรบจำนวน 1 ลำ จากกองเรือยุทธ
การเพอ่ื ใชเ้ ปน็ กรณศี กึ ษา (Case Study) ตลอดจน
สนับสนุนข้อมูล เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่าง ๆ
ในการทำวิจยั



ระยะเวลาของความรว่ มมือ


ความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกองทัพเรือโดยกรมอู่ทหารเรือและสถาบันไทย – เยอรมัน
ในครงั้ นมี้ ีระยะเวลาดำเนนิ การเปน็ เวลา 2 ปี ตงั้ แต่ 14 ธนั วาคม พ.ศ.2553

ว 72ารสารกรมอูท่ หารเรือ ประจำปี 2555

การซ่อมบำรุงตามสภาพ (Condition อุปกรณ์ในเรือที่เหมาะสมมีอยู่ 3 วิธี คือ (1)
Based Maintenance : CBM)
การวิเคราะห์ความส่ันสะเทือน (Vibration
การซ่อมบำรุงตามสภาพเป็นแนวทาง Analysis) (2) การถา่ ยภาพความรอ้ น (Infrared
การซ่อมบำรุงท่ีจะช่วยทำให้การวางแผนซ่อมทำ Thermography) และ (3) การวิเคราะห์น้ำมัน
เครื่องจักรเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ หล่อล่ืน (Oil Analysis) แต่ละวิธีมีแนวทาง
ปัจจุบันเคร่ืองมือหรือวิธีการท่ีนิยมใช้ในการตรวจ การดำเนนิ การสรุปได้ดังน
ี้
สภาพเครอื่ งจกั รตามหลกั การของ CBM มี 6 วธิ ี
คอื (1) การวเิ คราะหค์ วามสน่ั สะเทอื น (Vibration 1. การวิเคราะห์ความส่ันสะเทือน
Analysis) (2) การถ่ายภาพความร้อน (Infrared (Vibration Analysis) เป็นวิธีการที่ดีที่สุด
Thermography) (3) การวิเคราะห์สัญญาณ วิธีหน่ึงในการตรวจสอบสภาวะทางพลวัตร
กระแสมอเตอร์ (Motor Current Signature (Dynamic) การวิเคราะห์การสั่นสะเทือน
Analysis) (4) การตรวจวัดด้วย Stroboscope นอกจากตรวจสอบในเชิงพยากรณ์แล้ว ยัง
(5) การตรวจวัดด้วย Ultrasonic และ (6) สามารถตรวจสอบวินิจฉัยหาสาเหตุของความผิด
การวิเคราะห์น้ำมันหล่อล่ืน (Oil Analysis) ป ก ติ ข อ ง เ ค ร่ื อ ง จั ก ร อุ ป ก ร ณ์ ไ ด้ เ ป็ น อ ย่ า ง ดี
จากการพิจารณาศักยภาพและขีดความสามารถ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ เครอื่ งจักรอุปกรณ์เชงิ กล


ของหน่วยซ่อมในสายวิทยาการกรมอู่ทหารเรือ
ประกอบกับการชำรุดเสียหายของเคร่ืองจักร
อุปกรณ์ท่ีมีส่วนเคลื่อนไหว (Moving Part)
มักจะแสดงออกให้ตรวจพบได้จากลักษณะของ
การสั่นสะเทือน การเปล่ียนแปลงของอุณหภูมิ
และสารเจือปนในน้ำมันหล่อใช้แล้ว ดังนั้น
เคร่ืองมือหรือวิธีการตามหลักการของ CBM
ท่ีจะนำมาใช้ในการประเมินสภาพเครื่องจักรและ

รูปแบบของ Vibration Spectrum

73 การซ่อมบำรุงตามสภาพ


แนวทางการปฏิบัติคือ การนำเคร่ืองวัด
การสั่นสะเทือนไปใช้ประเมินสภาพเครื่องจักร
และอปุ กรณใ์ นเรอื เชน่ เครอื่ งยนต์ดีเซล เกียร์ทด
มอเตอร์ และปม๊ั เปน็ ตน้ โดยไดก้ ำหนดจดุ ตรวจวดั
ของเคร่ืองจักรและอุปกรณ์เหล่าน้ี ให้เก็บข้อมูล
ในรูปแบบของ Vibration Spectrum ท่ีมี
ลักษณะเฉพาะ สามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์
แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ส ภ า พ ห รื อ ค ว า ม ผิ ด ป ก ติ ข อ ง
เคร่ืองจักรและอุปกรณ์ได้ เช่น การไม่สมดุล
(Imbalance) การเย้ืองแกน (Misalignment)

การหลดุ หลวมทางกล (Mechanical Looseness)
การชำรุดของเฟือง (Gear Tooth Defect)
สายพานชำรดุ (Belt Defect) การชำรดุ ของแบรง่ิ
(Bearing Defect) เป็นตน้ เพอื่ ให้หน่วยซ่อมใน
สายวิทยาการของกรมอู่ทหารเรือ สามารถใช้เป็น
แนวทางปฏิบัติในการตรวจวัดการสั่นสะเทือน
เพ่ือประเมินสภาพเครื่องจักร และอุปกรณ์ในเรือ
ที่ถกู ต้องและเปน็ มาตรฐานเดียวกนั


2. การถ่ายภาพความร้อน (Infrared
Thermography) คือ การวิเคราะห์ภาพถ่าย
ของการแผ่ความร้อนด้วยรังสีอินฟราเรด โดย
อาศัยความสามารถในการวัดค่าอุณหภูมิแบบ
ไม่สัมผัสวัตถุ โดยใช้กล้องถ่ายภาพด้วยรังสี
อินฟราเรดในการตรวจสอบหรือเรียกอีกอย่าง
หน่ึงว่า Thermal Imaging ซ่ึงเครื่องจักร
เคร่ืองมือ วัสดุ อุปกรณ์ต่าง ๆ ในเรือมักเกิด
ความร้อนข้ึนอย่างผิดปกติก่อนท่ีจะเกิดความ
เสียหาย วัตถุประสงค์ของการถ่ายภาพความร้อน
(Infrared Thermography) คือ การตรวจสอบ
ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับอุปกรณ์ทางกลและ
อุปกรณไ์ ฟฟา้ ใหไ้ ด้ กอ่ นท่อี ปุ กรณเ์ หลา่ นัน้ จะเกิด
การชำรุดแบบฉุกเฉิน (Breakdown) ทำให้
ส า ม า ร ถ ว า ง แ ผ น ก า ร บ ำ รุ ง รั ก ษ า ไ ด้ อ ย่ า ง มี
ประสิทธิภาพและยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในงานซ่อม
บำรุง (Maintenance Cost) ได้อีกด้วย แต่การ
ใช้ภาพถ่ายการแผ่ความร้อนเพียงอย่างเดียว

ว 74ารสารกรมอู่ทหารเรือ ประจำปี 2555

จะไม่สามารถบอกได้ถึงสาเหตุของการเกิดความ
ผิดปกติของอุปกรณ์นั้น ๆ ดังน้ันการหาสาเหตุ
ของปัญหาจะต้องอาศัยเครื่องมือชนิดอื่น ๆ
มาช่วยในการตรวจหรือทดสอบด้วย เช่น
การวิเคราะห์ความสั่นสะเทือน (Vibration
Analysis) การวิเคราะห์น้ำมันหล่อล่ืน (Oil
Analysis) อลุ ตราโซนคิ (Ultrasonic) เปน็ ตน้


คณะทำงานร่วมของกรมอู่ทหารเรือกับ
สถาบันไทย – เยอรมัน จึงมีแนวทางในการ
ปฏิบัติ คือ การตรวจวัดความร้อนด้วยกล้อง
Thermal Infrared เพอ่ื ประเมนิ สภาพเคร่อื งจกั ร
แ ล ะ อุ ป ก ร ณ์ ใ น เ รื อ ค ว บ คู่ กั บ ก า ร ต ร ว จ วั ด
การส่ันสะเทือนเพ่ือนำผลท่ีได้มาทำการประเมิน
สภาพร่วมกนั


3. การวิเคราะห์น้ำมันหล่อล่ืน (Oil
Analysis) การวิเคราะห์น้ำมันหล่อลื่นหมายถึง
การนำน้ำมันหล่อลื่นท่ีใช้อยู่ในเครื่องยนต์มา
ท ำ ก า ร ต ร ว จ วิ เ ค ร า ะ ห์ คุ ณ ส ม บั ติ ท า ง เ ค มี
คุณสมบัติทางกายภาพ ปริมาณการปนเปื้อนของ
เศษโลหะตามมาตรฐานอ้างอิงโดยวัตถุประสงค์
หลักของการวิเคราะห์น้ำมันหล่อลื่น คือ (1)
สามารถตรวจวิเคราะห์ถึงสาเหตุการชำรุดเพื่อนำ
มาใช้ในการกำหนดแนวทางป้องกันไม่ให้เกิด
ความเสียหายข้ึนอีกในอนาคต (2) เพ่ือเป็นการ
ประเมินสภาพของน้ำมันหล่อลื่นท่ีอยู่ในระหว่าง กิจกรรมด้านการบำรุงรักษา การวิเคราะห์น้ำมัน
การใช้งานรวมไปถึงการประเมินสถานภาพ หลอ่ ลื่นสามารถแบ่งออกเปน็ 3 กลมุ่ หลกั คอื (1)
เครื่องยนต์ (3) เพื่อให้หน่วยซ่อมบำรุง สามารถ การวิเคราะห์คุณสมบัติของน้ำมันหล่อลื่น (Fluid
วางแผนด้านการเตรียมทรัพยากรท่ีต้องการ เช่น Properties Analysis) เป็นการวิเคราะหท์ ่มี ุ่งเน้น
วางแผนบุคลากร เครื่องมือ การจัดหาอะไหล่ คุณสมบัตทิ างเคมี ทางกายภาพ และสารปรงุ แตง่
และงบประมาณ ไดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ลและมปี ระสทิ ธภิ าพ (Additive) (2) การวิเคราะห์สง่ิ สกปรกปนเปอ้ื น
มากยิง่ ขน้ึ
(Fluid Contamination Analysis) ท่ีมาจาก

การวิเคราะห์น้ำมันหล่อลื่นมีเทคนิคและ สิ่งแวดล้อม หรือถูกสร้างขึ้นภายในระบบหล่อล่ืน
วิธีการวิเคราะห์หลายรูปแบบเพื่อให้ได้ข้อมูล (3) การวิเคราะห์เศษโลหะจากการสึกหรอของ
เชิงตัวเลขที่นำมาประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับ เครื่องยนต์ (Wear Debris Analysis)

75 การซ่อมบำรุงตามสภาพ


แนวทางการวิเคราะห์น้ำมันหล่อลื่นจะ
เป็นการนำน้ำมันหล่อลื่นท่ีผ่านการใช้งานจาก
เครื่องยนต์ที่เป็นเคร่ืองจักร และอุปกรณ์ในเรือ
มาตรวจวิเคราะห์ปริมาณโลหะท่ีเจือปนอยู่ใน
น้ำมันหล่อล่ืน ซ่ึงเป็นการวิเคราะห์การสึกหรอ
หรือกลไกต่าง ๆ ที่สัมผัสกันในเคร่ืองยนต์ ทำให้
อนุภาคเล็ก ๆ ของโลหะหลุดออกปะปนอยู่ใน
น้ำมันหล่อลื่น ทำให้ทราบอัตราการสึกหรอและ
ชนิดของโลหะ และทราบถึงจุดที่เกิดการสึกหรอ
ซึ่งทำให้ทราบแนวโน้มความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
กับเครื่องยนต์และสามารถค้นหาสาเหตุได้ก่อน
การชำรุดเสียหายที่รุนแรง สามารถใช้ร่วมกับ
เทคโนโลยีการตรวจสอบสภาพของเครื่องจักร
และอุปกรณ์ในเรือท่ีใช้อยู่ในปัจจุบัน เช่น
การวิเคราะห์ความสั่นสะเทือน (Vibration
Analysis) สามารถนำข้อมูลไปใช้ประกอบการ
วางแผนการซ่อมทำ การตรวจสอบด้วยวิธีการน้ี
จะต้องได้รับการสนับสนุนการตรวจสอบ Wear
Metal ในนำ้ มนั หลอ่ ลน่ื ดว้ ยเครอ่ื ง ICP (Inductive
Couple Plasma – Atomic Emission
Spectrometer ICP - AES) ซึ่งคณะทำงานได้
กำหนดแนวทางปฏิบัติการเก็บตัวอย่างน้ำมัน
หล่อล่ืนของเครื่องยนต์ที่ใช้ภายในเรือตามหลัก
วิชาการ โดยกำหนดตำแหน่งการเก็บตัวอย่าง
น้ำมันหล่อล่ืน อุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บตัวอย่าง
น้ำมันหล่อลื่นและขั้นตอนการเก็บตัวอย่างน้ำมัน
หล่อล่ืน เพื่อให้หน่วยซ่อมในสายวิทยาการ
กรมอู่ทหารเรือใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการเก็บ
ตัวอย่างน้ำมันหล่อลื่นท่ีได้มาตรฐานและถูกต้อง
ตามหลกั วิชาการ

ว 76ารสารกรมอูท่ หารเรือ ประจำปี 2555

การชำรุดเสียหายของเครื่องจักรอุปกรณ์มักแสดงออกให้ตรวจพบ

ได้จากลักษณะของการส่ันสะเทือน การเปล่ียนแปลงของอุณหภูมิ และสารเจือปน
ในน้ำมันหล่อล่ืน กรมอู่ทหารเรือโดยคณะทำงานร่วมกับสถาบันไทย – เยอรมัน
ได้นำเครื่องมือและวิธีการตามหลักการของ CBM มาใช้ในการประเมินสภาพ
เครื่องจักรและอุปกรณ์ในเรือ 3 วิธีด้วยกัน การวิเคราะห์ความส่ันสะเทือน
(Vibration Analysis) การถ่ายภาพความร้อน (Infrared Thermography) และ
การวิเคราะห์น้ำมันหล่อล่ืน (Oil Analysis) เพ่ือให้การพัฒนาการซ่อมบำรุงเรือ
ตามสภาพ (CBM) เกิดผลในการปฏิบัติท่ีเป็นรูปธรรม สามารถรองรับแนวทาง
ตามหลักการบริหารงานซ่อมบำรุงเรือของกรมอู่ทหารเรือ พ.ศ.2554 ให้บรรลุ
วตั ถปุ ระสงคต์ ามนโยบายของเจา้ กรมอทู่ หารเรอื ทต่ี อ้ งการใหผ้ ลงานการซอ่ มทำเรอื
ของกรมอู่ทหารเรือและหนว่ ยซ่อมในสายวิทยาการ กรมอูท่ หารเรอื มีประสทิ ธิภาพ
และประสิทธิผลสูงขึ้น หน่วยซ่อมในสายวิทยาการกรมอู่ทหารเรือ จึงนำการซ่อม
บำรุงเรือตามสภาพนี้ไปใช้ในการประเมินสภาพเคร่ืองจักรและอุปกรณ์ก่อนนำเรือ
เข้ารบั การซ่อมทำ รวมทัง้ ดำเนินการถา่ ยทอดการซอ่ มบำรุงตามสภาพ (Condition
Based Maintenance : CBM) ใหห้ นว่ ยทเ่ี กย่ี วขอ้ งในสายวทิ ยาการกรมอทู่ หารเรอื
ใหเ้ ขา้ ใจถงึ แนวคดิ และการปฏบิ ตั ทิ เ่ี ปน็ มาตรฐานเดยี วกนั อยา่ งถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ
สามารถประเมินสภาพของเคร่ืองจักรและอุปกรณ์ในเรือได้อย่างถูกต้องใกล้เคียง
ความเป็นจริง




บรรณานกุ รม

กอ่ เกียรติ บญุ ชูกศุ ล, สมศกั ด์ิ ไชยะภนิ นั ท์ และชัยโรจน์ คุณพนชิ กิจ. การวิเคราะห์การส่นั

สะเทอื น การเฝ้าตรวจและการจัดการการบำรงุ รกั ษา. กรุงเทพ ฯ : เม็ดทรายพริน้ ติง้ ,

2540.

คณะทำงานพัฒนาระบบการตรวจสภาพเรือ กรมพฒั นาการช่าง กรมอ่ทู หารเรอื . ระบบการตรวจ

สภาพเรอื กรมอทู่ หารเรอื พ.ศ. 2554. กรุงเทพ ฯ : มปส., 2554.

สถาบนั ไทย – เยอรมนั . Vibration Analysis and Data Collection. กรงุ เทพ ฯ : มปส., 2554.

81 การควบคุมคณุ ภาพเรอื ตรวจการณไ์ กลฝ่ัง (OPV)



การควบคมุ คุณภาพเรือตร
วจการณนาไ์วกาเอลกฝสันัง่ติรตั น(์OธาPระVเขต)ต


นายทหารปฏบิ ัติการประจำกรมวทิ ยาศาสตรท์ หารเรือ


ช่วยราชการ อูร่ าชนาวีมหดิ ลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรอื

การสร้างเรือตรวจการณ์ไกลฝ่ังโดย
อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ
นับเป็นภารกิจการสร้างเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
นับต้ังแต่อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช เปิดใช้งานมา
กองควบคุมคุณภาพ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช
กรมอทู่ หารเรือ ในฐานะที่ได้รบั มอบหมายภารกจิ
ในการควบคุมคุณภาพ การสร้างเรือตรวจการณ์
ไกลฝั่งน้ี จึงได้จัดทำ คู่มือคุณภาพ เพ่ือใช้เป็น
นโยบายด้านการควบคุมคุณภาพโครงการสร้าง
เรือตรวจการณ์ไกลฝ่ัง เพื่อให้ผู้ท่ีเกี่ยวข้องกับการ
สร้างเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งได้ทราบถึงนโยบาย
ด้านการจัดการการควบคุมคุณภาพ ขอบเขตของ
ระบบการควบคุมคุณภาพและใช้เป็นแนวทาง
ใ น ก า ร ค ว บ คุ ม คุ ณ ภ า พ โ ค ร ง ก า ร ส ร้ า ง เ รื อ
ตรวจการณ์ไกลฝงั่ ต่อไป

ว 82ารสารกรมอู่ทหารเรอื ประจำปี 2555

นยิ าม


คมู่ ือคณุ ภาพ (Quality Manual)

คู่มือคุณภาพ คือ เอกสารท่ีระบุถึง นโยบาย การจัดองค์กรและหน้าที่ของหน่วยงานต่าง ๆ
ทตี่ อ้ งดำเนินงานเกยี่ วข้องกบั คณุ ภาพของหนว่ ยงาน


แผนคุณภาพ (Quality Plan)


แผนควบคุมคุณภาพ คือ แผนปฏิบัติการซ่ึงแสดงรายละเอียดการดำเนินการของหน่วย
ในการควบคมุ คุณภาพของแต่ละงาน เพอื่ ใหผ้ ลงานสรา้ งเรือมคี ณุ ภาพ

เอกสารประกอบการทำงาน (Work Procedure) คือ เอกสารที่ระบุมาตรฐาน คำแนะนำ อุปกรณ์
เครื่องมือ ลำดบั ขน้ั ตอนและวิธที ำงาน

เอกสารประกอบการทำงานประกอบด้วย

เอกสารขัน้ ตอนการปฏิบัตงิ าน คือ เอกสารท่ีระบถุ ึงลำดบั ขนั้ ตอนในการปฏิบัตงิ าน

เอกสารวิธีการปฏบิ ตั งิ าน คอื เอกสารทอี่ ธบิ ายถงึ รายละเอยี ดวิธีการปฏิบตั ิงาน

เอกสารแบบฟอร์ม คือ แบบฟอร์มสำหรับเก็บข้อมูลที่ได้จากการปฏิบัติงานและเป็นข้อมูล
ทน่ี ำไปใชใ้ นการประเมินคุณภาพของระบบ

เ อกสารตรวจสอบ (Test Protocal) คอื เอกสารทีร่ ะบุถึงวตั ถุประสงค์ ขอบเขต เอกสารอ้างอิงหรอื
เอกสารประกอบเคร่ืองมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้และขั้นตอนในการตรวจสอบ ตลอดจนแบบฟอร์มบันทึก
ผลการตรวจวัด/ทดสอบทที่ ำขณะดำเนนิ งานนัน้

83 การควบคุมคณุ ภาพเรอื ตรวจการณไ์ กลฝ่ัง (OPV)



การทดสอบและทดลองเรอื (Test and Trial)



การตรวจสอบและทดลองในโรงงาน (Factory Acceptance Test, FAT) หมายถึง
การตรวจวัดและทดสอบท่ีกระทำภายในส่ิงแวดล้อมของโรงงาน เริ่มตั้งแต่ข้ันตอนการสร้างไปจนถึง
ประกอบเป็นอุปกรณ์ทพ่ี ร้อมทำงานได้ เช่น การตรวจสอบรอยเช่ือมประสาน การตรวจสอบการทาสี
ตวั เรือต่าง ๆ เปน็ ตน้

การตรวจสอบการติดตั้ง (Installation Inspection) หมายถึงการตรวจสอบการนำเอา
ช้ินส่วนอุปกรณ์หรือเคร่ืองจักรท่ีผ่านการตรวจสอบคุณภาพในโรงงานแล้วมาประกอบหรือติดตั้ง
บนเรอื

การทดลองเรือในท่า (Harbour Acceptance Test, HAT) หมายถึง การทดลอง
การทำงานของอุปกรณ์ หรือ เคร่ืองจักรที่ติดตั้งบนเรือแล้ว เพื่อตรวจสอบระบบการทำงานในขณะท่ี
เรอื อยใู่ นทา่

การทดลองเรือในทะเล (Sea Acceptance Trials, SAT) หมายถึง การนำเรือที่ผ่าน
การตรวจสอบคุณภาพแล้วไปแล่นทดลองในทะเลเพ่ือตรวจสอบระบบการทำงานทั้ง สาขาตัวเรือ
กลจกั ร ไฟฟา้ ว่าสามารถทำงานไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพตามความตอ้ งการของผ้ใู ชเ้ รอื หรอื ไม





การแบง่ สว่ นราชการ


กองควบคุมคุณภาพ อ่รู าชนาวมี หิดลอดลุ ยเดช กรมอ่ทู หารเรอื มกี ารแบง่ สว่ นราชการดังน้ี


กองควบคมุ คณุ ภาพ


อรู่ าชนาวีมหิดลอดลุ ยเดช





แผนกตัวเรอื แผนกกลจักร แผนกไฟฟา้

กองควบคมุ คณุ ภาพ ฯ กองควบคมุ คณุ ภาพ ฯ กองควบคมุ คุณภาพ ฯ

ว 84ารสารกรมอทู่ หารเรอื ประจำปี 2555

ภารกจิ


กองควบคุมคุณภาพ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ มีหน้าท่ีตรวจ วิเคราะห์
ทดสอบ ทดลอง ประเมินคา่ และควบคมุ คุณภาพ การซอ่ มสร้าง ดัดแปลง เรอื และอุปกรณ์ การชา่ ง
ตลอดจนการผลติ โดยตลอดท้งั กระบวนการของโรงงานตา่ ง ๆ และการทดลองเรอื

แผนกตัวเรอื

มีหน้าที่ตรวจ วิเคราะห์ ทดสอบ ทดลอง ประเมินค่า และควบคุมคุณภาพ การซ่อม สร้าง
และดัดแปลง โครงสร้าง และส่วนประกอบตัวเรือ ท่อทาง และฉนวน ตลอดจนการพ่น และทาสี
ทาน้ำยา เคลอื บผิว การพน่ ทราย และการเชื่อมประสาน และมีหนา้ ที่กำหนดวิธีและข้ันตอน รวมทั้ง
เกณฑ์ในการทดลอง ให้คำปรึกษาทางช่าง และดำเนินการทดลองเรือทั้งก่อนและหลังการซ่อม
หรือสรา้ ง ตลอดจนจัดทำเอกสาร และรายงานผลการทดลองเรอื ในสาขาตวั เรอื

แผนกกลจกั ร

มีหน้าท่ีตรวจ วิเคราะห์ ทดสอบ ทดลอง ประเมินค่า และควบคุมคุณภาพ การผลิต
การซ่อม และติดต้ังจักรกลและอุปกรณ์ของเรือในสาขากลจักร ตลอดจนการถอดประกอบ
เพลาใบจักร ใบจักร และหางเสือ การทดสอบศูนย์ และการทดสอบความสั่นสะเทือน และมีหน้าท่ี
กำหนดวิธีและข้ันตอน รวมท้ังเกณฑ์ในการทดลอง ให้คำปรึกษาทางช่าง และดำเนินการทดลองเรือ
ทั้งก่อนและหลังการซ่อม หรือสร้าง ตลอดจนจัดทำเอกสาร และรายงานผลการทดลองเรือในสาขา
กลจกั ร

แผนกไฟฟ้า

มหี นา้ ทตี่ รวจ วเิ คราะห์ ทดสอบ ทดลอง ประเมนิ คา่ และควบคมุ คณุ ภาพ การซอ่ ม และตดิ ตงั้
เครอื่ งจักร และอุปกรณ์ของเรอื ในสาขาไฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนกิ ส์ และมีหน้าที่กำหนดวิธแี ละขนั้ ตอน
รวมทง้ั เกณฑใ์ นการทดลอง ใหค้ ำปรกึ ษาทางชา่ ง และดำเนนิ การทดลองเรอื ทง้ั กอ่ นและหลงั การซอ่ ม
หรือสร้าง ตลอดจนจัดทำเอกสารและรายงานผลการทดลองเรอื ในสาขาไฟฟ้า

85 การควบคุมคณุ ภาพเรอื ตรวจการณไ์ กลฝ่ัง (OPV)



ระบบคณุ ภาพ



กองควบคุมคุณภาพ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ ได้จัดให้มีการควบคุม
คุณภาพงานสร้างเรือ โดยนำร่างเอกสารมาตรฐานเรือหลวง ตอนที่ 900 (ผนวก ก) และ NAVSEA
0900-LP-039-9010 SHIP WORK BREAKDOWN STRUCTURE มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ
โดยกำหนดเอกสารทต่ี ้องใช้ประกอบการควบคุมคณุ ภาพการสรา้ งเรือ มีดังน
้ี
1. คูม่ อื คุณภาพ

2. แผนคุณภาพ (QCP)

3. เอกสารประกอบการทำงาน

4. มาตรฐานพัสดุช่างกรมอู่ทหารเรือ มาตรฐานงานช่างกรมอู่ทหารเรือ คำแนะนำทาง
ช่างกรมอู่ทหารเรือ มาตรฐานสากลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนแบบ ข้อกำหนด และคู่มือของ
เครือ่ งจกั รอุปกรณท์ ่เี ก่ียวขอ้ งกับงานสร้างเรอื

5. เอกสารตรวจสอบพร้อมแบบฟอร์มบันทึกผล

6. เอกสารรับรองวิธีการปฏิบัติงานและเอกสารรับรองเจ้าหน้าที่ท่ีปฏิบัติงาน (Procedure
Qualification & Personal Qualification)

ในการควบคุมคุณภาพการสร้างเรือได้กำหนดให้มีการตรวจสอบและทดลองระหว่าง
การสร้างและทดลองเม่ือสร้างแล้วเสร็จ โดยเร่ิมต้ังแต่ การตรวจสอบในโรงงาน การตรวจสอบ
การติดตัง้ การทดลองเรอื ในทา่ และการทดลองเรือในทะเล ในการน้ไี ด้แบ่งการตรวจสอบและทดลอง
ออกเปน็ 3 สาขาตามการแบง่ สว่ นราชการ ดงั น
้ี
1. สาขาตัวเรอื เอกสารที่เกย่ี วข้องเริม่ ต้นด้วย 1xxx

2. สาขากลจกั ร เอกสารทเี่ กยี่ วข้องเรม่ิ ต้นดว้ ย 2xxx

3. สาขาไฟฟา้ เอกสารทเี่ กย่ี วขอ้ งเร่ิมตน้ ดว้ ย 3xxx

โดย xxx เป็นการให้หมายเลขตาม NAVSEA 0900-LP-039-9010 SHIP WORK
BREAKDOWN STRUCTURE

สำหรับขนั้ ตอนการตรวจสอบและทดลองได้กำหนดหมายเลข ดงั ตอ่ ไปน้ี

หมายเลขเอกสารตรวจสอบสำหรับการทดสอบระบบต่าง ๆ ประกอบดว้ ยเลข 2 กลุ่ม

กลุม่ 1 เปน็ เลข 3 ตัว ใช้บอกวา่ เป็นการทดสอบและตรวจสอบในข้นั ตอนใด

901 - การตรวจสอบและทดลองในโรงงาน (FAT) และการตรวจสอบการติดตงั้ บนเรือ

902 - การทดลองเรอื ในทา่ (HAT)

903 - การทดลองเรอื ในทะเล (SAT)

กลุม่ 2 เป็นเลข 4 ตัว หลังบอกให้ทราบถงึ สาขาและระบบทตี่ รวจสอบ

โดยสรุป การให้หมายเลขเอกสารตรวจสอบในระบบการควบคุมคุณภาพของกองควบคุมคุณภาพ
อู่ราชนาวมี หดิ ลอดลุ ยเดช กรมอทู่ หารเรอื มีดงั น
้ี
เล ข 3 ตัวแรก บอกใหท้ ราบถึงขั้นตอนการตรวจสอบและทดลอง

เลข 4 ตวั หลงั บอกใหท้ ราบถึงสาขาและระบบที่ตรวจสอบ เชน่

ว 86ารสารกรมอู่ทหารเรอื ประจำปี 2555

901 – 1185 การตรวจสอบฐานแท่นเครอ่ื งจักรบนดาดฟา้ (ฝา่ ยตัวเรือ)

902 – 2230 การทดลองระบบเครอ่ื งจักรใหญ,่ ระบบขับเคลอื่ น (ฝ่ายกลจักร)

902 – 3311 การทดลองหนา้ ทา่ เครื่องกำเนดิ ไฟฟา้ (ฝา่ ยไฟฟา้ )

สำหรับการควบคุมคุณภาพเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง กองควบคุมคุณภาพ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช
กรมอูท่ หารเรือ ไดก้ ำหนดใหม้ เี อกสารตรวจสอบทง้ั หมด ดังน
ี้
901 - การตรวจสอบและทดลองในโรงงาน (FAT) และการตรวจสอบการตดิ ต้งั บนเรือ

สาขาตัวเรอื 21 ฉบับ

สาขากลจักร 21 ฉบับ

สาขาไฟฟ้า 10 ฉบบั

902 - การทดลองเรือในท่า (HAT)

สาขาตวั เรอื 3 ฉบบั

สาขากลจกั ร 19 ฉบับ

สาขาไฟฟา้ 9 ฉบบั

903 - การทดลองเรือในทะเล (SAT)

สาขาตัวเรือ 3 ฉบับ

สาขากลจักร 19 ฉบบั

สาขาไฟฟา้ 1 ฉบบั



ตัวอยา่ งแผนควบคมุ คุณภาพ (QCP) ทใ่ี ชใ้ นการควบคมุ คณุ ภาพเรอื ตรวจการณ์ไกลฝงั่


ตอนที่ 901 - การตรวจสอบและทดลองในโรงงาน และการตรวจสอบการติดต้งั บนเรอื (FAT)

87 การควบคุมคณุ ภาพเรอื ตรวจการณไ์ กลฝ่ัง (OPV)



ตอนที่ 902 - การทดลองเรอื ในทา่ (HAT)

ตอนที่ 903 - การทดลองเรือในทะเล (SAT)

ว 88ารสารกรมอ่ทู หารเรอื ประจำปี 2555

การควบคุมคุณภาพเรือตรวจการณ์ และรอยเชื่อมต่อบล็อก โดยใช้ข้ันตอนและ
ไกลฝง่ั ก่อนการเรมิ่ งานดา้ นตัวเรือไดท้ ำการตรวจ มาตรฐานเหมือนกับ เอกสาร 901 - 1120
สอบกระบวนการเชอื่ ม (901 - 1074 การตรวจสอบ สำหรับการตรวจแนวเช่ือมบล็อกในข้ันตอนนี้
กระบวนการเช่ือม) ในขั้นตอนนี้ได้ให้ฝ่ายผลิต จะเพ่ิมการตรวจสอบด้วยวิธีถ่ายภาพด้วยรังสี
จัดทำกระบวนการเชื่อมและนำช้ินทดสอบ (X - Ray) โดยใช้แบบของ BVT ที่ผ่านการ
ไปตรวจสอบตามข้ันตอนในเอกสารตรวจสอบ ตรวจสอบจาก Lloyd’s เรียบร้อยแล้ว สำหรับ
โดยดำเนนิ การตามมาตรฐาน AWS D 1.1 เมือ่ ได้ เกณฑ์การยอมรับใช้ ตาม Lloyd’s และ AWS
กระบวนการเช่ือมท่ีผ่านการทดสอบตามเกณฑ์ สำหรับระบบอ่ืน ๆ ท่ีเหลือกำลังอยู่ระหว่าง
แล้ว (901 - 1074 การตรวจสอบกระบวนการ การดำเนินการตามเอกสารท่ีกำหนดในคู่มือ
เช่ือม) ได้ดำเนินการทดสอบฝีมือช่างเช่ือม คณุ ภาพ

ตามมาตรฐานงานช่างกรมอู่ทหารเรือ (มอร.112 การควบคุมคุณภาพเรือตรวจการณ์
– 0001 – 0831 “การทดสอบวัดระดับฝีมือ ไกลฝั่งตาม คู่มือคุณภาพ ที่ได้กล่าวไปแล้วน้ัน
ช่างเช่ือมไฟฟ้า”) เม่ือผ่านข้ันตอนน้ีแล้วได้เร่ิม จะสำเร็จได้ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยที่
ตรวจสอบในระหว่างการประกอบช้ินส่วนต่าง ๆ เก่ียวข้อง ลำพังกองควบคุมคุณภาพ อู่ราชนาวี
ของบล็อก (901 - 1120 การตรวจสอบระหว่าง มหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ ไม่สามารถที่จะ
การสร้างส่วนประกอบบล็อก) เร่ิมจากการ ดำเนินการให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานถ้าไม่ได้รับ
ตรวจสอบวัสดุที่นำมาใช้ทำส่วนประกอบบล็อก ความร่วมมือจากทุกฝ่ายท่ีเกี่ยวข้อง ข้อบกพร่อง
ตรวจสอบความถูกต้องของส่วนประกอบบล็อก ท่ีพบและข้อเสนอแนะที่ กองควบคุมคุณภาพ
เช่น Bracket, Floor, Beam, Girder ฯลฯ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ
การเจาะช่องต่าง ๆ ของบล็อก ตามแบบที่ รายงานเป็นคำแนะนำท่ีช่วยให้การสร้างเรือ
กำหนด การเตรียมแนวเช่ือมให้เป็นไปตามแบบท่ี ตรวจการณ์ไกลฝ่ังได้ผลงานท่ีมีคุณภาพ แต่ถ้า
กำหนดและการตรวจสอบแนวเชื่อม ให้เป็นไป สงิ่ ทกี่ องควบคมุ คณุ ภาพ อรู่ าชนาวมี หดิ ลอดลุ ยเดช
ตามมาตรฐาน โดยขั้นตอนการตรวจสอบได้ กรมอู่ทหารเรือ รายงานไม่ได้รับการตอบสนอง
ดำเนินการตาม Inspector’s Manual, Chapter และแก้ไขในระหว่างการสร้าง การแก้ไขภายหลัง
7, Section 1, Revision 1 และ ตาม IACS 47 จะยุ่งยากและใช้เวลามาก ถ้าการควบคุมคุณภาพ
รวมทั้ง ตามข้อกำหนดของ BVT และ Lloyd ส า ม า ร ถ ด ำ เ นิ น ก า ร ไ ด้ ต า ม แ ผ น ท่ี ว า ง ไว้
เม่ือดำเนินการตรวจสอบระหว่างการประกอบ เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง จะได้คุณภาพ สมกับท่ีจะ
บล็อกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไป ได้แก่ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเพื่อเป็นการ
การตรวจสอบการประกอบบล็อก (901-1121 เฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
การตรวจสอบการประกอบบล็อก) โดยการตรวจ เน่ืองในโอกาสมหามงคลท่ีทรงเจริญพระชมมายุ
สอบขนาดของบลอ็ ก ตรวจสอบระดบั ความตรงแนว ครบ 84 พรรษาในวันท่ี 5 ธนั วาคม พ.ศ.2554

89 การควบคุมคณุ ภาพเรอื ตรวจการณไ์ กลฝ่ัง (OPV)



บรรณานกุ รม

American Welding Society, AWS D 1.1/D 1.1 M:2004, Structural Welding Code-Steel.


BVT,Guide to BVT Welding (OPVs)

IACS,No.47 Shipbuilding and Repair Quality Standard

Lloyd’Register of Shipping, Rulefinder 2009, Version 9.12,July 2009

MIL.STD. 1689 A (SH) Fabrication Welding and Inspection of Ship Structures.

NAVSEA 0900-LP-039-9010 Ship Work Breakdown Structure. Washington,D.C.,

The Naval Ship Engineering Center, August 1977.

Royal Thai Navy Dockyard, Quality Assurance Division. Nondestructive Test Section,

Inspector’s Manual, Chapter 7, Section 1, Revision 1,VISUAL INSPECTION OF

WELDS AND BASE MATERIALS.

กรมพฒั นาฝีมือแรงงาน. มาตรฐานการทดสอบฝมี ือช่างเชอ่ื มไฟฟ้า. กรงุ เทพ ฯ : มปส, มปป.

แบบหมายเลข B90-100-03-0002,Thailand OPV Shell Expansion Non - Destructive

Examination for Welding, Rev.003

อ่ทู หารเรอื ,กรม. ร่างมาตรฐานเรอื หลวง ตอนที่ 900 การควบคมุ คุณภาพ.

(อยู่ระหว่างขออนุมัติ ทร.)

อู่ทหารเรอื ,กรม. มาตรฐานงานช่าง กรมอู่ทหารเรอื มอร. 100 – 0001 – 0731

“เกณฑค ์ วามคลาดเคล่อื นในการ สร้างส่วนประกอบตัวเรอื เหล็ก”. กรุงเทพ ฯ : มปส, มปป.

อทู่ หารเรือ,กรม. มาตรฐานงานชา่ ง มอร. 112 – 0001 – 0831 “การทดสอบวดั ระดับฝมี อื

ช่างเชือ่ มไฟฟ้า”. กรงุ เทพ ฯ : มปส, มปป.

อู่ทหารเรอื ,กรม. มาตรฐานงานช่าง มอร. 114 – 0002 - 0331 “การทดสอบฝีมือชา่ งเชื่อมไฟฟ้า

และการทดสอบกรรมวิธีสำหรับงานท่อท่ีสรา้ งจากโลหะผสมของทองแดงและนิเกลิ ”.

กรงุ เทพ ฯ : มปส, มปป.

ว 90ารสารกรมอทู่ หารเรอื ประจำปี 2555

การนาํ หลักการ FMEA มาใชในงานควบคุมคุณภาพ


กองควบคมุ คณุ ภาพ อู่ราชนาวมี หิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ

วัตถุประสงค์หลักของการบำรุงรักษา
เครื่องจักรและอุปกรณ์ในเรือรบ คือ การทำให้ เมื่อเกิดข้อขัดข้องข้ึนกับเครื่องจักรและ
เคร่ืองจักรและอุปกรณ์ที่ต้องได้รับการบำรุง อุปกรณ์ท้ังท่ีได้คาดการณ์ไว้ก่อนและท่ีไม่ได ้
รักษามีสมรรถนะความพร้อมใช้งานสูงสุดด้วยค่า คาดการณ์ไว้ก่อน บางครั้งฝ่ายซ่อมบำรุงก็มักจะ
ใช้จ่ายที่ต่ำท่ีสุด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยใน ทำการซ่อมแซมเฉพาะส่วนท่ีชำรุดเสียหาย โดย
การทำงานและผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมด้วย ไม่วิเคราะห์หาสาเหตุของการชำรุดเสียหายที่เกิด
สมรรถนะความพร้อมใช้งานสูงสุดจะเกิดขึ้นเมื่อ ข้ึนหรือมีการหาเพียงสาเหตุเบื้องต้น ไม่ใช่สาเหตุ
ไม่มีการหยุดเครื่องจักรและอุปกรณ์อันเป็นผลมา ทแี่ ท้จรงิ หรอื สาเหตรุ าก (Root Causes) ของการ
จากการบำรุงรักษาหรือมีการหยุดเคร่ืองจักรและ ชำรุดเสียหาย ดังน้ันส่วนใหญ่จึงมักไม่ได้ทำการ
อุปกรณ์ เพ่ือทำการบำรุงรักษาแต่ไม่กระทบ แก้ไขท่ีสาเหตุรากของการชำรุดเสียหายที่เกิดข้ึน
กระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าท่ีตามภารกิจท่ี กับเครื่องจักรและอุปกรณ์นั้น ๆ ทำให้ข้อขัดข้อง
กำหนด ซึ่งทั้งสองกรณีน้ ี จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อ ท่ีนำไปสู่ความเสียหายแบบเดิมก็จะเกิดข้ึนซ้ำซาก
ไม่มีข้อขัดข้องเกิดข้ึนกับเครื่องจักรและอุปกรณ์ กลายเป็นปัญหาเร้ือรังผลท่ีตามมา คือ ผู้ท่ีรับผิด
ท้ังหมดหรือมีข้อขัดข้องเกิดข้ึน แต่ได้ตรวจพบ ชอบงานบำรุงรักษาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการ
ก่อนท่ีจะทำให้เครื่องจักรและอุปกรณ์น้ัน ๆ ซ่อมแซมการชำรุดเสียหาย แบบเดิมที่เกิดกับ
เกิดความเสียหายและมีเวลาพอที่สามารถจัดทำ เครื่องจักรและอุปกรณ์อันเดิมคร้ังแล้วคร้ังเล่า ซึ่ง
แผนการซ่อมแซมหรือการบำรุงรักษาแก้ไขได้ ข้อขดั ขอ้ งเหล่านนี้ อกจากจะทำให้สมรรถนะความ
โดยไม่กระทบกระเทือน ต่อการผลิตหรือการทำ พร้อมของเครื่องจักรและอุปกรณ์ลดลงแล้ว ยัง
หน้าท่ี ดังนั้นข้อขัดข้องของเคร่ืองจักรและ พบว่าการแก้ไขปัญหาเรื้อรังเหล่านี้ในแต่ละปีจะ
อุปกรณ์จึงเป็นส่ิงท่ีไม่พึงประสงค์ให้เกิดข้ึนหรือ ใช้ค่าใช้จ่ายสูงของงบประมาณค่าใช้จ่ายในการ
อาจเปรียบเสมือนเป็นศัตรูท่ีสำคัญของการบำรุง บำรงุ รกั ษาประจำปีทั้งหมดท่มี ีอย
ู่
รกั ษาก็ว่าได ้

91 การนำหลกั การ FMEA มาใชใ้ นงานควบคมุ คุณภาพ


ดังนั้นกองควบคุมคุณภาพ อู่ราชนาวี 1. ประเมินสภาพการขัดข้องท่ีเป็นไป
มหดิ ลอดลุ ยเดช กรมอทู่ หารเรอื ซ่งึ มีหนา้ ทีใ่ นการ ได้ (Potential Failure Modes) ของช้ินส่วน
ตรวจ วิเคราะห์ ทดสอบ ทดลอง ประเมินค่า หรือกระบวนการ

และควบคมุ คณุ ภาพในการซอ่ มสรา้ ง ดดั แปลงเรอื 2. ผลกระทบ (Effect on Outcomes)
และอุปกรณ์การช่าง ตลอดจนการผลิตโดยตลอด and/or Product Performance

ทงั้ กระบวนการของโรงงานต่าง ๆ จึงมีส่วนในการ 3. สภาพขัดข้องท่ีได้รับการระบุต้อง
แก้ไขปัญหาการซ่อมแซมดังกล่าวข้างต้น สามารถแยกแยะ ลด และควบคุมได้ (Risk
ซ่ึงปัจจุบันน้ีมีวิธีการหรือหลักการต่าง ๆ ท่ีช่วย Reduction)

ในการวิเคราะห์ ทำได้โดยวิธีการท่ีเรียกว่า 4. ต้ อ ง เ รี ย น รู้ ค ร อ บ ค ลุ ม ท้ั ง
การวิเคราะหค์ ุณลกั ษณะของข้อขัดข้องหรอื ความ กระบวนการ (Process Understanding)

เสียหายซึ่งทำให้เกิดผลกระทบตามมา (Failure 5. สามารถสรุปสภาพขัดข้องท่ีสำคัญ
Mode and Effect Analysis) หรือบางครง้ั นิยม ปัจจัยที่มีผลกระทบหรือเป็นสาเหตุทำให้เกิด
เรียกโดยใช้ตัวย่อภาษาอังกฤษคือ  FMEA  เป็น สภาพขดั ข้อง

เทคนิคท่ีใช้หลักการ Reliability Engineering
เพื่อวิเคราะห์ว่าแต่ละส่วนของระบบ จะมีโอกาส ขนั้ ตอนการจดั ทำ FMEA

ที่ทำงานผิดพลาดหรือขัดข้องได้อย่างไร (Failure
Mode) และมีผลกระทบต่อทั้งระบบอย่างไร 1. ก ำ ห น ด อุ ป ก ร ณ์ ที่ จ ะ ท ำ ก า ร
(Effect Analysis) แต่ละส่วนท่ีทำการวิเคราะห์ วิ เ ค ร า ะ ห์ พ ร้ อ ม ร า ย ล ะ เ อี ย ด โ ด ย พิ จ า ร ณ า จ า ก
ส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ ์ เช่น เคร่ืองไฟฟ้า P&ID (Piping and Instrument Diagram) หรือ
มอเตอร์ต่าง ๆ เป็นต้น ดังน้ัน แผนกกลจักร แผนภูมิกระบวนการทำงานพร้อมรายละเอียด
กองควบคุมคุณภาพ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช การทำงานของอุปกรณ์นั้น ๆ เพื่อความสะดวก
กรมอู่ทหารเรือ จึงมีแนวความคิดที่จะดำเนินการ ควรกำหนดรหัสของอุปกรณ์ให้ตรงกับบัญชี
ประยุกต์ใช้ FMEA โดยทำในลักษณะเป็นทีม อะไหลแ่ ละพสั ดุชา่ ง

FMEA ในการเข้าไปตรวจวัดค่าต่าง ๆ พร้อม 2. พิจารณาข้อขัดข้องหรือความผิด
รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์อย่างบูรณาการร่วม พลาด (Failure Mode) ที่อาจเกิดขึ้นของ
กับกองแผนหรือกองโรงงานต่าง ๆ เพ่ือใช้ในการ อุปกรณ์นั้น ข้อขัดข้องน้ี คือ การที่อุปกรณ์น้ัน
ตัดสินใจในการซ่อมทำเคร่ืองจักรและอุปกรณ ์ เสยี หรืออาจรวมไปถึงค่าตา่ ง ๆ ที่ไม่ไดต้ ามเกณฑ์
ที่เกิดการขัดข้องนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป มาตรฐานท่ีกำหนดไว้ เช่น ค่ากำลังดันลมท่ีต่ำ
FMEA จะเนน้ ทอี่ ปุ กรณไ์ มไ่ ดม้ งุ่ เนน้ ทคี่ วามผดิ พลาด กว่ามาตรฐานที่ต้องการหรือค่าความส่ันสะเทือน
ของคน (Human Failure)
ทเ่ี กินเกณฑท์ ่ีกำหนด เปน็ ตน้

FMEA เป็นกระบวนการที่พิจารณาจาก
การขัดข้องของชิ้นส่วนย่อยท่ีอาจมีผลกระทบต่อ 3. พิ จ า ร ณ า ผ ล ที่ จ ะ เ กิ ด ข้ึ น จ า ก
ระบบใหญ่ในลักษณะที่เป็นความสัมพันธ์ระหว่าง ข้อขัดข้องหรือความผิดพลาดนั้น โดยพิจารณา
กนั แบบตอ่ เน่อื ง ซึง่ มหี ลกั การสำคญั ดังนี้
ไปทลี ะข้อขดั ขอ้ งหรอื ความผดิ พลาด

4. กำหนดระดบั ความเสยี่ ง โดยพจิ ารณา
ใ น ป ร ะ เ ด็ น โ อ ก า ส เ กิ ด แ ล ะ ค ว า ม รุ น แร ง ท่ี จ ะ
เกิดขึ้น

ว 92ารสารกรมอทู่ หารเรือ ประจำปี 2555

5. กำหนดวิธีป้องกันโดยพยายามใช้วิธี ความสามารถในการตรวจจับปัญหา
ทางวิศวกรรมหรอื เทคโนโลยเี ปน็ สำคัญ
ก่อนท่ีจะเกิดผลกระทบต่อระบบ โดยการ
ปอ้ งกนั ปญั หา

การพิจารณาแยกแยะคุณลักษณะ โดย RPN = ตัวเลขแสดงลำดบั ความ
ต่าง ๆ ของกระบวนการ/ช้นิ ส่วนอปุ กรณ์
สำคัญกอ่ นหลังของปญั หา

1. ป ร ะ เ มิ น ค่ า ค ว า ม รุ น แร ง ข อ ง RPN = S x O x D

ข้อขัดข้อง (Severity of Failures : S) เป็น S = ความรุนแรงของปัญหา
ผลกระทบที่เกิดจากการขัดข้อง ซ่ึงอาจทำให ้ (Severity)

สูญเสียลูกค้า ส่งผลให้เกิดความรู้สึกทางลบ O = ค ว า ม ถ่ี ข อ ง ปั ญ ห า
ตอ่ ลกู ค้า ผปู้ ฏิบัตงิ านได้รับ
(Occurrence หรอื Frequency)

การกำหนดคะแนนจะขึ้นกับความ D = ความเป็นไปได้ในการ
เข้มงวดที่กระทบกับระบบ ลูกค้า และ/หรือ แกป้ ญั หา (Detection)

สิ่งแวดล้อม โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 ระดับ
ดังนี้
เป้าหมาย ให้จัดลำดับความสำคัญของ
วกิ ฤตริ ะดับที่ 1 มโี อกาสถงึ ขั้นเสีย RPN (Risk Priority Number) ที่มีค่าเรียงจาก
ชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ ระบบสูญเสียหน้าท่ีการ มากทีส่ ดุ ไปหาค่านอ้ ยทสี่ ุด

ทำงานหลกั หรอื ท้งั 2 กรณี ใหม้ ีคา่ เปน็ 4
S คือ ความรุนแรงของข้อขัดข้อง
วิกฤติระดับท่ี 2 ระบบหรือหน่วย (คา่ 1 – 4 นอ้ ย - มาก)

หลักสูญเสียหน้าท่ีการทำงานหลัก ซ่ึงเป็น คะแนน 1 ไ ม่ มี ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ
สว่ นวกิ ฤติของการทำงาน ใหม้ ีค่าเปน็ 3
ระบบ

วกิ ฤตริ ะดับที่ 3 หนว่ ยรองสูญเสยี คะแนน 2 ห น่ ว ย ร อ ง สู ญ เ สี ย
หน้าท่ีการทำงาน ซ่ึงเป็นส่วนที่มีความสำคัญ หน้าที่การทำงาน ซ่ึงเป็นส่วนท่ีมีความสำคัญ
ไมม่ าก ให้มีค่าเปน็ 2
ไมม่ าก

วิกฤติระดับท่ี 4 ไม่มีผลกระทบ คะแนน 3 ระบบหรือหน่วยหลัก
ตอ่ ระบบ ให้มีค่าเป็น 1
สูญเสยี หน้าท่กี ารทำงานหลกั

คะแนน 4 มีโอกาสถึงขั้นเสียชีวิต
2. ประเมินความน่าจะเป็นของโอกาส หรือได้รับบาดเจ็บ ขั้นวิกฤต มีผลกระทบต่อ
(Probability of Occurrences) การเกดิ ขอ้ ผิด ระบบอน่ื ๆ ผลกระทบต่อหน่วยงานอ่นื ๆ

พลาด ความถี่ของปัญหา (Occurrence : O)
เป็นการศึกษาความเช่ือมั่นตามหลักสถิติของการ - O คอื ความเสี่ยงของปัญหา (คา่ 1 - 4
น้อย มาก)

เกิดเหตุการณ์ท่ีผิดพลาด โดยใช้ข้อมูลในอดีต คะแนน 1 ไมม่ ีความเสย่ี งเลย

แปลงเป็นสารสนเทศของแนวโนม้ การเกดิ
คะแนน 2 มีความเสีย่ งน้อย หนว่ ย

3. ประเมินโอกาสท่ีจะสามารถสืบค้น รองอาจจะสูญเสียหน้าที่การทำงาน ซึ่งเป็นส่วน
หรือตรวจสอบข้อผิดพลาดได้ก่อนท่ีจะเกิดความ ท่มี ีความสำคญั ไม่มาก

เสียหายแก่ระบบงาน โอกาสการตรวจจับ คะแนน 3 มีความเสี่ยงปานกลาง
(Detection : D)
อ า จ ท ำ ใ ห้ ร ะ บ บ ห รื อ ห น่ ว ย ห ลั ก สู ญ เ สี ย ห น้ า ท่ี
การทำงานหลกั

93 การนำหลกั การ FMEA มาใชใ้ นงานควบคมุ คุณภาพ


คะแนน 4 มีความเสี่ยงมาก ถงึ ข้นั เรียงลำดับค่า RPN จากนั้นวิเคราะห์
วกิ ฤต มผี ลกระทบตอ่ ระบบอ่ืน ๆ หรือหนว่ ยงาน เลือกทำตาม RPN จากมากไปน้อย

อื่น ๆ
ตัวอย่าง ตรวจสอบสภาพ/ซ่อมทำชุด
D คือ ความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหา รับแรงสั่นสะเทือนเครื่องไฟฟ้าหมายเลข 2 ซ่ึง
(ค่า 1 - 4 ง่าย - ยาก)
แผนกกลจักร กองควบคุมคุณภาพ อู่ราชนาวีมหิ
คะแนน 1 สามารถแก้ไขได้ง่าย ดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ ได้ดำเนินการตรวจ
ไมต่ ้องใช้อะไหล่
วัดค่าการสั่นสะเทือนเครื่องไฟฟ้าหมายเลข 2
คะแนน 2 สามารถแก้ไขได้เอง ขณะเครื่องไม่จ่ายภาระ ผลการตรวจวัดการสั่น
อาจตอ้ งการใช้อะไหล่ทส่ี ามารถจัดหาหรือรอได้
สะเทือน พบว่ามีค่าการสั่นสะเทือนสูงเกินเกณฑ์
คะแนน 3 สามารถแก้ไขได้เอง จากการตรวจสอบค่า Vibration Spectrum
แตต่ ้องใช้อะไหลเ่ ฉพาะทางหรอื อะไหล่ราคาแพง
Plot พบว่าการสัน่ สะเทือนสูงเกนิ เกณฑ์ สาเหตุ
คะแนน 4 ไม่สามารถแก้ไขได้เลย เกิดจากการหลวมคลอนของชุดรองรับเคร่ือง
ไมม่ อี ะไหลเ่ ปลี่ยนหรือตอ้ งสง่ ซ่อมบรษิ ทั
ไฟฟ้าหมายเลข 2 ทำให้เกิดการผิดศูนย์เชิงมุม
ค่า RPN = S x O x D
ระหว่างเครื่องยนต์ขับกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ดังมี
รายละเอยี ด ตอ่ ไปน
้ี


ร ะบบ/อุปกรณ์ ตำแหนง่ แนว ค่าวดั ได้ กอ่ น/หลงั เกณฑ์
สภาพ สาเหตุ

5 พ.ย.45 3 พ.ย.54 หนว่ ย mm./sec.


เครื่องยนต์ขบั ฯ#2 MB7 V 2.90 20.60 26.00 Peak พอใช ้ -



เครอื่ งกำเนดิ ไฟฟ้า#2 LG H 8.42 20.70 14.00 Rms แกไ้ ข -



LG V 7.26 21.20 14.00 Rms แกไ้ ข -


จากข้อขัดข้องที่เกิดจากค่าการส่ันสะเทือนเกินเกณฑ์กำหนด สามารถวิเคราะห์เบ้ืองต้น
โดย FMEA ได้ตามตารางดังนี้ ซ่ึงค่า RPN จะเป็นค่าที่ใช้ในการตัดสินใจในการที่จะซ่อมทำต่อไป
เพราะผลของความเสียหายมีค่าแตกต่างกันทีจ่ ะส่งผลกระทบไปสรู่ ะบบอน่ื ๆ หรืออาจเปน็ เหตใุ หเ้ รอื
ไม่สามารถออกปฏิบัติการได้




รูปที่ 1 คราบน้ำมนั และสิ่งสกปรก
รูปที่ 2 สลกั ขาเคร่ืองตัวตวั ล่างคราบสนมิ กระจาย

ว 94ารสารกรมอู่ทหารเรือ ประจำปี 2555

รปู ท่ี 3 สภาพของ Shock Mount
รปู ที่ 4 Coupling Rubber


ตารางการทำ FMEA (Failure Mode Effects Analysis) บางสว่ นของชุดรบั แรงส่นั สะเทือน

เครือ่ งไฟฟา้ หมาย หมายเลข 2 เรือหลวงสีชัง


FMEA เป็นเคร่ืองมือที่เหมาะกับการ Analysis คือการกำหนดเหตุการณ์ท่ีอาจเกิดข้ึน
ช้ีบ่งว่า อุปกรณ์ เครื่องมือที่ใช้อยู่ในกระบวนการ จากความผิดพลาดหรือบกพร่องของอุปกรณ์
มีโอกาส จะทำงานผิดพลาดอะไรได้บ้าง และส่ง เคร่ืองมือ หรือความผิดพลาดท่ีเกิดจากมนุษย์
ผลกระทบความเสียหายอะไรบ้าง ค่า RPN จะ การวิเคราะห์ Hazard and Operability Study
เป็นตัวบ่งช้ีว่าผลกระทบจะมากน้อยเท่าไร ซงึ่ เปน็ เทคนคิ การบง่ ชอ้ี ยา่ งเปน็ ระบบถงึ สง่ิ เบย่ี งเบน
การทำ FMEA จึงต้องมีทีมงานที่มีความเข้าใจ (Deviation) ไปจากระบบที่ได้จากการออกแบบ
ในเทคนิค FMEA และเข้าใจการทำงานของ ระบบ ซึ่งทั้งหมดน้ีทางกองควบคุมคุณภาพ
เคร่อื งจักรและอุปกรณ์เป็นอย่างด ี อย่างไรกต็ าม อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ
เพ่ือให้การวิเคราะห์มีความน่าเช่ือถือมากข้ึน จะคอ่ ย ๆ นำหลกั การดงั กลา่ วขา้ งตน้ มาประยกุ ต ์
จำเป็นที่จะต้องมีเทคนิคการวิเคราะห์อ่ืน ๆ เช่น ใช้ในการพัฒนาการดำเนินงานด้านการควบคุม
Fault Tree Analysis เป็นวิธีหน่ึงในการ คุณภาพของอู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่
วิ เ ค ร า ะ ห์ ค่ า ค ว า ม น่ า เช่ื อ ถื อ ข อ ง ร ะ บ บ ทหารเรือตอ่ ไป

(Reliability) การวิเคราะห์ Event Tree

99 แนวทางการป้องกนั การกัดกรอ่ นภายในตวั เรอื


แนวทางการปอ้ งกนั การกัดกรอ่ นภายในตวั เรอื


เรอื เอก นรศิ นุ่มพวง

ประจำแผนกทดสอบโครงสรา้ ง กองควบคุมคณุ ภาพ อู่ทหารเรอื พระจลุ จอมเกลา้


ชว่ ยราชการ กรมแผนการชา่ ง กรมอทู่ หารเรอื


ปัจจุบันจำนวนเรือที่ใช้ในภาคธุรกิจขนส่งทางน้ำมีปริมาณเพิ่มข้ึนตาม


สภาวะเศรษฐกิจและเกิดความเสียหายเส่ือมสภาพจากการกัดกร่อน
(Corrosion) ของเหล็กโครงสร้างภายในตัวเรือ ส่งผลให้ปริมาณเรือท่ีจะซ่อม
บำรุงตัวเรือเพ่ิมข้ึน ดังนั้นการซ่อมบำรุงตัวเรือในแต่ละครั้งจะใช้งบประมาณค่า
ซ่อมบำรุงเพิ่มข้ึนเป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งเรือส่วนใหญ่จะใช้วิธีการ
ป้องกันการกัดกร่อนภายนอกตัวเรือ ด้วยการติดตั้งสังกะสีกันกร่อน (Zinc
Anode) และการเคลือบผวิ (Coating) ดว้ ยสกี นั เพรยี ง แตก่ ารเกดิ การกดั กร่อน
ได้เกิดภายในตัวเรือมากเช่นกัน ดงั น้นั ถา้ หนว่ ยซ่อมบำรงุ เรอื ได้พัฒนา นำวิธกี าร
ป้องกันการกัดกร่อนภายในตัวเรือ จะทำให้การเสื่อมสภาพเรือลดลง ส่งผลให้
ปริมาณจำนวนงานซ่อมบำรุงตัวเรือ ตามแผนระยะเวลาลดลงประหยัด
งบประมาณค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงและเอกสารวิจัยส่วนใหญ่จะกล่าวเฉพาะสาเหตุ
เกิดการกัดกร่อนภายในตัวเรือ แต่ไม่ได้อธิบายวิธีป้องกันการกัดกร่อน จึงต้อง
ดำเนนิ การทดลองเพือ่ ค้นหาวิธีป้องกันการกัดกร่อนภายในตวั เรอื ทถ่ี ูกตอ้ งตอ่ ไป

ว 100ารสารกรมอูท่ หารเรือ ประจำปี 2555

การวิเคราะหส์ าเหตทุ ีท่ ำให้เกิดการกดั กร่อนภายในตวั เรอื


เริ่มจากสำรวจตรวจสภาพความเสียหายของตัวเรือแล้ว แบ่งพื้นที่ที่เกิดการกัดกร่อนภายใน
เรอื โดยการกำหนดพื้นทเี่ กิดการกดั กร่อนภายในตวั เรือเหนอื แนวน้ำ แสดงภาพในรปู ท่ี 1.1 (ก) และ
พื้นทเี่ กิดการกัดกรอ่ นภายในตวั เรอื ใต้แนวนำ้ แสดงภาพในรปู ที่ 1.1 (ข)





(ก) (ข)

รูปที่ 1.1


ภาพ (ก) การกดั กรอ่ นภายในตัวเรอื เหนือแนวนำ้

ภาพ (ข) การกัดกรอ่ นภายในตัวเรอื ใตแ้ นวน้ำ

จากการสำรวจสภาพความเสียหายที่เกิด
จากการกัดกร่อนภายในตัวเรือทั้งหมด จะเกิด
ทั้ ง เ ป ลื อ ก เรื อ แ ล ะ โ ค ร ง ส ร้ า ง ภ า ย ใ น เรื อ
หน่วยซ่อมบำรุงจะต้องดำเนินการนำเรือเข้าซ่อม
ซ่ึงบางหน่วยงานจะใช้อู่แห้ง (Dry Dock)
บางหน่วยงานจะใช้ชานยกเรือข้ึนซ่อมบนลาน
ซ่อม เพ่ือซ่อมตัวเรือใต้แนวน้ำ โดยวางแผนการ
ซอ่ มตัวเรอื มกี ารกำหนดจดุ การซ่อมแลว้ วางแผน รูปที่ 1.2 การกดั กรอ่ นภายในตัวเรอื เหนือแนวนำ้

การซ่อมตามลำดับเพ่ือป้องกันตัวเรือเกิดการบิด
เบ้ียวหรือเกิดแรงเค้นตกค้างที่บริเวณโครงสร้างท่ี
ตัวเรือสูงเกิน จะส่งผลให้ตัวเรือเกิดการบิดเบี้ยว
ได้เช่นกัน ความเสียหายบริเวณภายในเปลือกเรือ
แสดงภาพในรูปท่ี 1.2 และความเสียหายบริเวณ
กงยดึ เปลือกเรือใตท้ อ้ งเรือ แสดงภาพในรปู ที่ 1.3

รูปท่ี 1.3 การกัดกรอ่ นภายในใต้ทอ้ งเรือ

101 แนวทางการป้องกนั การกัดกรอ่ นภายในตวั เรอื


สาเหตุท่ีทำให้เกิดการกัดกรอ่ น
รูปที่ 1.4 น้ำทะเลขงั ภายในตวั เรือใตแ้ นวน้ำ

รปู ที่ 1.5 ความชืน้ ภายในตัวเรือเหนือแนวน้ำ

1. เกิดการกัดกร่อนภายในตัวเรือใต้ รปู ที่ 1.6 ปรมิ าณสว่ นผสมในนำ้ ทะเลใตท้ ้องเรือ [1]

แนวน้ำ สาเหตุจากของเหลว (นำ้ ทะเล) ขังภายใน
ใต้ทอ้ งเรอื แสดงภาพในรูปที่ 1.4

2. เกิดการกัดกร่อนภายในตัวเรือเหนือ
แนวน้ำ สาเหตุจากความช้ืนมีน้ำทะเลขังภายใน
ตวั เรือใตแ้ นวนำ้ แสดงภาพในรูปท่ี 1.5




ศึกษากระบวนการท่ีทำให้เกิดการกัดกร่อน
ภายในตัวเรือ


1. อธิบายจดุ ที่เกิดการกดั กรอ่ น [1] เพื่อ
เปรียบเทียบเป็นเงื่อนไขนำไปสร้างเป็นช้ินงาน
ตัวอย่างที่จะใช้ในการทดลองเริ่มจากน้ำทะเลที่ขัง
อยู่ภายในใต้ท้องเรือ (Bottom) ของเรือบรรทุก
น้ำมนั (Cargo Oil Tank) ที่มีส่วนผสมของน้ำมนั
กับเศษตะกอน (Products 24%) ผสมกับ
สารเคมีท่ีมีส่วนผสมในน้ำมัน (Chemical 5%)
ผสมกับน้ำทะเลที่รั่วซึมจากท่อน้ำทะเลท่ีนำมาใช้
ภายในเรือ (Crude Oil 71%) แสดงภาพใน รปู ท่ี
1.6

การเปล่ียนแปลงของอุณหภูมิที่สูงเพิ่ม
ข้ึนและลดลงเป็นปัจจัยหนึ่ง [2] เร่งปฏิกิริยาของ
น้ำใต้ท้องเรือเปล่ยี นแปลงจากของเหลวกลายเป็น
ก๊าซแสดง ภาพในรูปท่ี 1.7 (ก) ซึ่งในน้ำมัน

(ก) รปู ที่ 1.7
(ข)


ภาพ (ก) นำ้ ทะเลผสมดว้ ย Crude Oil และ Sludge ที่สะสมภายในใตท้ อ้ งเรอื บรรทุกนำ้ มนั

ภาพ (ข) แผน่ เหล็กทีม่ ีกำมะถนั (Sulfur) ผสมกับ ส่ิงสกปรกต่าง ๆ (Defect) [2]

ว 102ารสารกรมอูท่ หารเรือ ประจำปี 2555

(ก) รปู ท่ี 1.8
(ข)


ภาพ (กภ)าInพe(rขt)Gกaาsรก+ดั Hก2รS่อนจบัจากกนั คเปวาน็ มหชยื้นด
น้ำ [2]


รปู ที่ 1.9 ตรวจสอบจดุ ทเี่ ริ่มต้นเกิดการกดั กร่อนตรงบริเวณรอยเชือ่ มตอ่ แล้วจะขยายตัวเพม่ิ ขน้ึ


(Crude Oil) น้ัน จะมีส่วนผสมของก๊าซมลทิน การต้ังสมมุติฐานแรงที่กระทำต่อโครงสร้าง
เช่น ไนโตรเจน ฮีเลียม และมีกำมะถัน (Sulfur) ตัวเรือเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการกัดกร่อน
ขเ(Inขมอe)่ืองrซรtค่งึววGกมาา๊aตมซsัวช+Iกn้ืนับeเHอrปt2อ็SนGกห+aซยsิเดOจ+นน2 ้Hำแ(จ2สOSับด2+ทง)ภี่พกOาื้นลพ2าผใจนยิวะรเเอปูปหย็ทนล่ใู ่ี็นกก1๊ราใ.ูปตซ7้ สรา้ งเป็นเงื่อนไขในการทดลอง


1. กรรมวิธีการสร้างตัวเรือ Weld
Shipbuilding ในบริเวณแนวเชื่อมโครงสร้าง
ตัวเรือ ทำใหเ้ กิดแรงทีต่ กคา้ งภายในตวั เรือจนเกดิ
ดาดฟ้าเรอื ( Deck ) แสดงภาพในรูปที่ 1.8 (ก) การบิดเบ้ียว (Distortion) ได้แก่ ความเครียด
และจะเกิดการกัดกร่อนจากความชื้นท่ีพื้นผิว (Strain) และความเค้น (Stress) ทำให้สีเสื่อม
เหล็กใตด้ าดฟา้ เรอื (Deck) สลับกนั ไปตลอดเวลา สภาพเร็วเป็นบางส่วน เมื่อสีเส่ือมสภาพที่รอย
แสดงภาพในรูปที่ 1.8 (ข) โดยการกัดกร่อนจะ เช่ือมเป็นโลหะส่วนผสมท่ีมีปริมาณน้อยจะเป็น
เร่ิมจากจุดแรกที่บริเวณรอยเช่ือมต่อของตัวเรือ อะโนด (Anode) จา่ ยอิเล็กตรอนใหก้ บั แผน่ เหลก็
แสดงภาพในรูปที่ 1.9 และจะขยายตัวเพมิ่ ขนึ้
ท่ีเป็นคาโทด (Cathode) จึงเกิดการกัดกร่อน

103 แนวทางการป้องกนั การกัดกรอ่ นภายในตวั เรอื


ดังน้ันในการออกแบบทดลองจะต้องเช่ือมไฟฟ้า 2. การป้องกันเกิดการกัดกร่อนชิ้นงาน
ท่ีช้นิ งานเหมือนกับรอยเชื่อมโครงสรา้ งตัวเรอื
ที่อยู่ในความช้ืน (Humidity) โดยใช้การเคลือบ
2. แรงคลื่นทะเลตามธรรมชาติ เป็น ผิว (Coating) ด้วยสีชนิดพิเศษท่ีมีผงโลหะผสม
สาเหตุทำให้เกิดแรงท่ีกระทำลงบนโครงสร้าง เพื่อต้านทานการเกิดการกัดกร่อนและคุณสมบัติ
ภายในตัวเรือ ได้แก่ แรงดึง (Tensile) และ ให้ความยึดเกาะโลหะดมี ีความยดื หยนุ่ สูง

แรงอัด (Compression) ทำให้สีเส่ือมสภาพเร็ว

หลุดร่อนเป็นบางส่วน ดังน้ันในการออกแบบ ดำเนินการทดลองเคลือบผิวสำหรับ
ทดลองจะต้องเพิ่มแรงที่กระทำต่อช้ินงาน โดย ป้ อ ง กั น ก า ร กั ด ก ร่ อ น จ า ก ข อ ง เ ห ล ว
การเช่อื มไฟฟ้าแลว้ จุ่มนำ้ อยา่ งรวดเร็ว
และจากความชน้ื



1. สร้างช้ินงานทดลอง

การตั้งสมมติฐานสภาวะเกิดการกัดกร่อนใช้ เตรียมวัสดตุ ดั แผ่นเหล็ก ขนาด 7 cm. x
เป็นเงื่อนไขในการทดลอง
14 cm. x 0.4 cm. แสดงภาพในรูปท่ี 1.10 (ก)
แลว้ เชอื่ มเป็นแนว (Weld Joint) จะเกดิ อณุ หภูมิ
1. การป้องกันเกิดการกัดกร่อนช้ินงาน สูงแล้วจุ่มน้ำอย่างรวดเร็ว (Quenching) ต่อไป
ท่ีอยู่ในของเหลว (น้ำทะเล) โดยการติดสังกะสี นำไปขัดผิวด้วยกระดาษทราย ขนาดเบอร์ 600
กันกร่อน (Zinc Anode) ป้องกันการกัดกร่อน (Polishing Paper #600) เพื่อให้เกิดแรงเค้น
บริเวณท่ีสีเสื่อมสภาพเร็วเป็นบางส่วนภายใน
ใตท้ ้องเรือ


7 cm.
Base
Base Metal
Base Metal

14 cm.

Weld Joint

(ก)
(ข)


(ค)

รปู ท่ี 1.10 ภาพ (ก) ช้นิ งานทดลองเตรยี มเชือ่ มไฟฟ้า


ภาพ (ข) ช้นิ งานทเ่ี ช่ือมไฟฟ้าเสรจ็ แล้ว

ภาพ (ค) ช้ินงานท่ผี ่านการเช่อื มแลว้

ว 104ารสารกรมอ่ทู หารเรือ ประจำปี 2555

ตกค้างในช้ินงาน เป็นการเร่งปฏิกิริยาลดการ
ยึดเกาะและคุณสมบัติของสีท่ีทนต่อแรงเค้น
เพ่ิมข้ึน แสดงภาพในรูปท่ี 1.10 (ข) ชิ้นงาน
ทดลองแสดงภาพในรูปที่ 1.10 (ค)


2. ทำการเคลอื บผิวช้ินงานทดลอง
(ก)

เ ค ลื อ บ ผิ ว ช้ิ น ง า น ท ด ล อ ง ด้ ว ย สี (ข)

Inorganic Zinc 75% หนา 80 µm แสดงภาพ
ในรปู ที่ 1.11 (ก) สี Epoxy ชนิดพิเศษ หนา 200 (ค)

µm แสดงภาพในรูปท่ี 1.11 (ข) และเคลือบผิว
รองพื้น ด้วยสี Inorganic Zinc 75% หนา (ง)

80 µm แล้วเคลือบผิวชั้นบนด้วยสี Epoxy รูปท่ี 1.11

ชนิดพิเศษ หนา 200 µm แสดงภาพในรูปท่ี ภาพ (ก) เคลอื บผวิ สี Inorganic Zinc 75%

1.11 (ค) ชิ้นงานใช้ทดลอง ทำ X - Groove หนา 80 µm

แสดงภาพในรูปท่ี 1.11 (ง)
ภาพ (ข) เคลือบผิวสี Epoxy หนา 200 µm

ภาพ (ค) เคลอื บผิวสี Inorganic Zinc 75%


หนา 80 µm และชัน้ บนดว้ ยสี Epoxy

3. ทำการทดลองเคลือบผวิ ดว้ ย 4 วิธีดงั น
้ี ภาพ (ง) แสดงช้ินงานทำ X - Groove

3.1 ทำการทดลองหมอกเกลือ (Salt ท่ีผิวเตรยี มทำการทดลอง

Spray Test) [3] ส่งชิ้นงานท่ีห้องทดลอง (LAB)
มาตรฐาน ดงั น
้ี

- ชิ้นงานท่ีเคลือบผิวช้ันเดียว ด้วย
สี Inorganic Zinc 75% หนา 80 µm จำนวน
6 ช้ิน


- ชิ้นงานที่เคลือบผิวชั้นเดียว ด้วย
สี Epoxy หนา 200 µm จำนวน 6 ชิ้น


- ชน้ิ งานทเ่ี คลอื บผวิ สองชนั้ รองพนื้
ด้วยสี Inorganic Zinc 75% หนา 80 µm แล้ว
พ่นทับชั้นบนด้วยสี Epoxy หนา 200 µm
จำนวน 6 ช้ิน เพื่อทดสอบคุณสมบัติเฉพาะตัว
ของสีในด้านความต้านทานการกัดกร่อนของเวลา
ต่อการเสื่อมสภาพของสีในสภาวะของการเร่ง
ปฏกิ ิรยิ าให้อยใู่ นสภาวะเปียกและแห้งสลบั กนั ไป

105 แนวทางการป้องกนั การกัดกรอ่ นภายในตวั เรอื


3.2 ทำการทดลองตากไว้ริมทะเล
(Exposed in Marine Atmosphere Test)
[4] ใช้เวลา 2,000 ช่ัวโมง ทดลองช้ินงาน
ที่บริเวณลานซ่อมเรือซินโครลิฟท์ (ติดทะเล)
แสดงภาพตัวอย่างในรูปท่ี 1.12 (ก) และทดลอง
จรงิ ในรูปท่ี 1.12 (ข) โดยใชช้ ้ินงานทดลอง ดังนี้

- ชน้ิ งานทเ่ี คลอื บผวิ ชน้ั เดยี ว ดว้ ยสี
Inorganic Zinc 75% หนา 80 µm จำนวน
2 ชิน้
(ก)

- ชนิ้ งานทเี่ คลอื บผวิ ชน้ั เดยี ว ดว้ ยสี
Epoxyหนา 200 µm จำนวน 2 ชน้ิ

- ชน้ิ งานทเี่ คลอื บผวิ สองชน้ั รองพนื้
ดว้ ยสี Inorganic Zinc 75% หนา 80 µm แล้ว
พ่นทับชั้นบนด้วยสี Epoxy หนา 200 µm
จำนวน 2 ช้นิ เพื่อทดสอบผลจากตัวเร่งปฏิกริ ิยา
ทำให้เกิดความล้า (Fatigue) และแรงเครียด
(Stresses) ของแนวเชื่อมไฟฟ้า (Weld Joint)
ดังน้
ี (ข)

รูปที่ 1.12

- เ ร่ ง ป ฏิ กิ ริ ย า ท า ง ก า ย ภ า พ ภาพ (ก) ตวั อย่างทดลองตากไวร้ มิ ทะเล [4]

(Physical and Chemical Stress)
ภาพ (ข) ทำการทดลองในโครงการ




- การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ 18 - 3.3 ทำการทดลองจุ่มในน้ำทะเล
50 ºC จะเกิดการขยายตัวหดตัวของฟิล์มสีและ
เน้ือโลหะ

- การเปล่ียนแปลงความชื้น ใน (Immersion Test) [2] ใช้เวลา 2,000 ชั่วโมง
สภาพเปียกและแหง้ เกดิ สลบั กนั ตามธรรมชาต
ิ นำชิ้นงานแช่ภายในตู้ทดลองท่ีห้องทดลอง
- ความเปน็ กรด – ด่าง (pH) และ แสดงภาพในรปู ที่ 1.13 โดยใช้ช้ินงาน ดงั น้ี

ละอองเกลอื (Salt Concentration) ตามธรรมชาติ - ชน้ิ งานทเี่ คลอื บผวิ ชนั้ เดยี ว ดว้ ยสี
เป็นละอองท่ีมีอัตราการกัดกร่อนสูงจะจับบริเวณ Inorganic Zinc 75% หนา 80 µm จำนวน 2 ชน้ิ

ที่ผิวของสีทำใหส้ เี กิดโปง่ พองงา่ ยขึ้น
- ชิ้นงานที่เคลือบผิวช้ันเดียว ด้วย
- ความไวต่อรังสี (Intensity of สี Epoxy หนา 200 µm จำนวน 2 ชิ้น

UV Radiation) ที่จะเกิดการเปล่ียนแปลง - ชน้ิ งานทเ่ี คลอื บผวิ สองชน้ั รองพนื้
อุณหภูมิสงู ตลอดเวลาตามธรรมชาติ จะทำให้เกิด ด้วยสี Inorganic Zinc 75% หนา 80 µm แลว้
กัดกร่อนจากรังสี (UV) เปน็ รอยแตกรา้ ว (Crack) พ่นทับช้ันบน ด้วยสี Epoxy หนา 200 µm
ท่ีบรเิ วณพ้ืนผิวฟิล์มสี
จำนวน 2 ชิน้

ว 106ารสารกรมอทู่ หารเรือ ประจำปี 2555

- ใช้ของเหลวนำ้ ทะเล (NaCl) ผสม
เศษตะกอน (Sludge) และนำ้ มันที่ใชแ้ ลว้

- นำช้ินงานบรรจุในตู้ทดลองต้ังไว้
ทอี่ ุณหภูมหิ อ้ ง

- เ พื่ อ ท ด ส อ บ คุ ณ ส ม บั ติ ก า ร
ต้านทานการกัดกร่อนของผิวชั้นฟิล์มสีที่จุ่มใน
ของเหลว



3.4 ทำการทดลองแช่ในความชื้น รูปที่ 1.13 ทดลองจ่มุ ในนำ้ ทะเลภายในตู้ทดลอง

(Humidity Test) [5] ใช้เวลา 2,000 ชั่วโมง
แสดงภาพตัวอย่างในรูปที่ 1.14 (ก) ช้ินงาน
ภายในตู้ทดลอง แสดงภาพในรูปท่ี 1.14 (ข) ท่ี
ห้องทดลองโดยใช้ชนิ้ งาน ดงั น
้ี
- ช้ินงานท่ีเคลือบผิวช้ันเดียว ด้วย
สี Inorganic Zinc 75% หนา 80 µm จำนวน
2 ช้ิน

- ชน้ิ งานทเ่ี คลอื บผวิ ชนั้ เดยี ว ดว้ ยสี
Epoxy หนา 200 µm จำนวน 2 ช้นิ

- ช้ินงานท่ีเคลือบผิวสองชั้น รอง (ก)

พ้ืน ดว้ ยสี Inorganic Zinc 75% หนา 80 µm
แล้วพ่นทับชั้นบนด้วยสี Epoxy หนา 200 µm
จำนวน 2 ชิน้

- ใชข้ องเหลว (NaCl) แล้วเกิดแกส๊
ไฮโดรเจน (H2-) แบลระรอจอุชก้ินซงเิ าจนนใน(Oตู้ต2)้ัง
ไว้ท่ีกลางแจ้ง

อณุ หภมู ิ 40ํ C และอณุ หภูมิ 24 - 30ํ C สลบั กัน
12 ชั่วโมง จะเกิดไอความช้นื จับทชี่ ิ้นงาน

- ใช้ฝาครอบปิดสนิท เจาะรูใส่ล้ิน
ปิด - เปดิ โดยจะเปิดทุก 6 ชวั่ โมง ทง้ิ ไว้ 30 นาที (ข)


แล้วปิด
รปู ท่ี 1.14

- ภายในตู้จะเกิดความชื้นสูงมาก ภาพ (ก) ตวั อย่างของการวางชิน้ งานทดลอง
เพ่ือเร่งปฏิกิริยาการหดตัวและขยายตัวของสี ภายในตูท้ ดลอง [5]

ทำให้เกิดฟิลม์ แตกร้าวและโปง่ พองอย่างรวดเร็ว
ภาพ (ข) ทำการทดลองในโครงการ

107 แนวทางการป้องกนั การกัดกรอ่ นภายในตวั เรอื


4. ผลการทดลองเคลือบผวิ

เพื่อทดสอบคุณสมบัติเฉพาะของสีที่มีความเหมาะสมในการป้องกันการกัดกร่อนของเรือ
ตามหลกั กรรมวิธแี ละการเลือกใช้สใี นงานด้านซ่อมเรือ (Marine) ไดท้ ำการทดลองหลายวธิ ีแลว้ นำผล
ทดลองท่ีได้ ทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบให้ได้คุณสมบัติของสีและกรรมวิธีการเคลือบผิว ท่ีจะนำไป
ปฏิบัติใช้ป้องกันการกัดกร่อนได้จริงภายในตัวเรือในการตรวจสอบผลการทดลองเคลือบผิว 1.สี
Inorganic Zinc (Zinc Silicate) และ 2. สี Epoxy โดยจะนำพ้ืนที่ช้ินงานในร่องเหล็กขูด (X -
Groove) ทัง้ 2 เสน้ ท่ีใน 1 เสน้ ขนาด กวา้ ง 0.1 เซนติเมตร ยาว 10 เซนติเมตร แบง่ เป็น 10 ส่วน
เท่า ๆ กัน แล้วนำชิ้นงานท่ีปรากฏสนิมในร่องขีดท่ีแบ่งไว้ 10 ส่วนมาเปรียบเทียบในรูปที่ใช้อ้างอิง
ตามมาตรฐาน Degree of Rusting and Area Reference Method : ISO 4628/3 Paint and
Vanished โดยใชม้ าตรฐานในการตรวจสอบ แสดงในตารางที่ 1.1


ตารางที่ 1.1 มาตรฐานอ้างองิ ท่ใี ช้ตรวจสอบผลปรมิ าณสนิมการทดลองเคลอื บผิว


วธิ ีการทดลองเคลือบผวิ
มาตรฐานการอา้ งองิ

1. ทดลองหมอกเกลอื
ISO 4628 :Paint and Varnishes

(Salt Spray Test)
–Evaluation of Degradation of Paint Coating

2. ทดลองจมุ่ ในนำ้ ทะเล
–Designation of Intensity, Quantity and Intensity,

(Immersion Test)
Quantity and Size of Common Type of Defect.

3. ทดลองตากไว้รมิ ทะเล
ISO4682/1: General Principles and Rating Schemes.

(Advance Cyclic Test
ISO4682/2: Designation of Degree of Blistering.

Or Expose Environments)
ISO4682/3: Designation of Degree of Rusting.

ISO4682/4: Designation of Degree of Cracking.

4. ทดลองแช่ในความช้นื
ISO4682/3: Designation of Degree of Flanking.




(Humidity Test)


4.1 ผลตรวจสอบใต้ผิวเคลือบสี ด้วย

กลอ้ ง SEM (Scanning Electron Microscope)
พื้นผิวที่เป็นสีขาวคือ Binder ในสีท่ีทำหน้าที่ยึด การทดลองวิธีจ่ายอิเล็กตรอน
เกาะในฟิล์ม แสดงให้เห็นว่าสี Inorganic Zinc (Cathodic Protection) แบบตดิ โลหะกนั กรอ่ น
น้ันมีฟิล์มที่ยึดเกาะพ้ืนผิวโลหะ ไม่เกิดการ (Sacrificial Anode) สำหรับป้องกันการ
กัดกร่อนแสดงภาพในรูปที่ 1.15 (ก) เมื่อตัด กดั กรอ่ นจากของเหลว [6]

ด้านขา้ ง (Cross Section) จะพบเน้อื สีจะมรี พู รุน
หยาบเน่ืองจากมีผงสังกะสี ที่เป็นส่วนผสม ท ำ ก า ร ท ด ล อ ง วิ ธี จุ่ ม ใ น น้ ำ ท ะ เ ล
จึงทำหน้าที่จ่ายอิเล็กตรอน ทำให้เนื้อเหล็ก (Immersion Test) ใช้เวลา 2,000 ชั่วโมง กรณี
ไม่เปน็ สนิม แสดงภาพในรูปท่ี 1.15 (ข) ปัญหาเกิดการกัดกร่อนในของเหลว (น้ำทะเล)
ทดลองชิ้นงานที่ห้องทดลอง โดยดำเนินการ
ทดลอง ดังนี้

ว 108ารสารกรมอทู่ หารเรือ ประจำปี 2555

Binder


Steel
Zinc


(ก)
(ข)

รปู ท่ี 1.15 ภาพจากกล้อง SEM ภาพ (ก) บริเวณพ้ืนผวิ เหลก็

ภาพ (ข) ดา้ นตัดข้าง (Cross Section) ท่เี คลอื บผิวด้วยสี Inorganic Zinc Primer


- ตัดแผ่นเหล็กท่ีใช้สร้างตัวเรือ (Low Anode) โดยใช้สังกะสีกันกร่อน (Zinc Anode)
Carbon Steel) ขนาด 20 cm. x 30 cm. หนา ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพ่ิมประสิทธิภาพการ
0.4 cm. จำนวน 4 แผ่น แสดงภาพในรปู ท่ี 1.16 ป้องกันการกัดกร่อนภายในตัวเรือ โดยการ
(ก) แลว้ ตัดแทง่ สงั กะสกี นั กรอ่ น ขนาด 1.6 cm. คำนวณอัตราการกัดกร่อนเปรียบเทียบระหว่าง
x 6.6 cm. หนา 1.6 cm. จำนวน 2 แผ่น แสดง แผ่นเหล็กที่ติดสังกะสีกันกร่อน กับแผ่นเหล็กท่ี
ภาพในรูปท่ี 1.16 (ข) แล้วทำการเชื่อมติดบน ไม่ได้ตดิ สงั กะสีกันกร่อน

แผ่นเหล็ก จำนวน 2 แผ่น แสดงภาพในรูปท่ี - วัดชั่งนำ้ หนักที่สญู เสียไปของสังกะสกี ัน
1.16 (ค) แล้วนำชนิ้ งานแช่ไวใ้ นนำ้ ทะเลภายในถัง กร่อน แผ่นเหล็กท่ีติดแผ่นสังกะสีกันกร่อนและ
ขนาด 100 cm. x 200 cm. x 50 cm. แสดง แผน่ เหลก็ ทไ่ี ม่ไดต้ ิดสงั กะสีกันกร่อน

ภาพในรูปที่ 1.17 (ก)
- ตรวจสอบท่ีบริเวณผิวของแผ่นเหล็ก
เพื่อต้องการทดลองการใช้วิธีการป้องกัน และสังกะสีกันกร่อน เกิดการกัดกร่อนเป็น
การกัดกร่อนแบบติดโลหะกันกร่อน (Sacrificial รปู แบบไหน


(ก) (ข) (ค)

รปู ที่ 1.16 ภาพ (ก) แผน่ เหล็กทีต่ ัดเสรจ็ แล้ว ภาพ (ข) สังกะสีกนั กร่อน


ภาพ (ค) แผน่ เหลก็ ติดสงั กะสีกนั กร่อน

109 แนวทางการป้องกนั การกัดกรอ่ นภายในตวั เรอื


(ก)
(ข)

รูปที่ 1.17


ภาพ (ก) ภาพนำช้ินงานวางเรียงเตรียมลงในถงั ทดลอง

ภาพ (ข) ภาพนำชิ้นงานข้นึ จากถงั ทดลองแช่น้ำสะอาดเสร็จการทดลอง


ผลคำนวณอัตราการกัดกรอ่ นของการทดลองแบบตดิ โลหะกนั กร่อน (Sacrificial
Anode)


แผน่ เหล็ก B ทตี่ ิดสงั กะสกี นั กรอ่ น จะมีอตั ราการกัดกรอ่ น 1.60 mpy ทีต่ ำ่ กวา่ แผน่ เหล็ก A
ทีไ่ ม่ได้ติดสงั กะสีกนั กร่อน มีอตั ราการกัดกรอ่ น 4.43 mpy ซึ่งตา่ งกัน 2.83 mpy (4.43 - 1.60 =
2.83 mpy) ทำให้ทราบว่า ถ้านำ สังกะสีน้ี ไปติดตั้งภายในท้องเรือก็จะสามารถป้องกันแผ่นเหล็กท่ี
ไม่ได้เคลือบผิว แต่ต้องวิเคราะห์คำนวณความสามารถในการจ่ายอิเล็กตรอนของสังกะสี ด้วยว่า
จะครอบคลุมพื้นท่ผี ิวได้เปน็ จำนวนเท่าไร แสดงผลคำนวณอัตราการกดั กรอ่ นและในกราฟรูปที่ 1.18


รูปท่ี 1.18 กราฟ แสดงอตั ราการกดั กร่อน Corrosion Rate (Mil Per Year)

ของแผน่ เหล็กที่ 2,000 ชั่วโมง


Click to View FlipBook Version