+:* :!
:+D !< : H##+8 )@ /<(: =
E-8D*5? !5 č + E-83!/ĉ * :! ĉ: J
2: :+ + 9 2 < F#+č
+83/ĉ: /!9 L= \ųUT !9 *:*! VYZY
F * 8 ++): < :+ :+ :ĉ #+8D 0 / @ 2< (:
2;!9 ++): < :+ V
2;!9 :!D-
: < :+/@ 2< (:
รายงาน
การเดนิ ทางไปประชุมทวิภาคี และเยือนองค์กรและหนว่ ยงานต่าง ๆ
ณ สาธารณรัฐสงิ คโปร์
ระหว่างวนั ท่ี ๘-๑๐ กนั ยายน ๒๕๖๕
โดย คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วฒุ สิ ภา
สานกั กรรมาธกิ าร ๒
สานักงานเลขาธิการวุฒิสภา
คณะกรรมาธกิ ารการตา่ งประเทศ วฒุ สิ ภา
นางพิกลุ แกว้ ไกรฤกษ์
ประธานคณะกรรมาธกิ าร
นายกติ ติ วะสนี นท์ พลเอก สุรพงษ์ สวุ รรณอัตถ์ ศาสตราจารย์พเิ ศษกาญจนารตั น์ ลีวโิ รจน์
รองประธานคณะกรรมาธิการ
รองประธานคณะกรรมาธิการ รองประธานคณะกรรมาธิการ
คนทห่ี นึง่
คนท่ีสอง คนทสี่ าม
นางดวงพร รอดพยาธิ์ พลเอก ทวปี เนตรนยิ ม พลเอก นาวิน ดาริกาญจน์
เลขานุการคณะกรรมาธิการ โฆษกคณะกรรมาธกิ าร รองโฆษกคณะกรรมาธกิ าร
คนท่ีหน่งึ
นายอนุศาสน์ สวุ รรณมงคล พลเอก ธรี เดช มีเพียร นายสวุ พนั ธุ์ ตนั ยุวรรธนะ
รองโฆษกคณะกรรมาธิการ ประธานทปี่ รึกษาคณะกรรมาธกิ าร ที่ปรกึ ษาคณะกรรมาธิการ
คนท่สี อง
คณะกรรมาธิการการตา่ งประเทศ วฒุ สิ ภา
นางผาณติ นิตทิ ัณฑ์ประภาศ พลเอก ฉตั รเฉลมิ เฉลมิ สุข พลเอก เลศิ ฤทธ์ิ เวชสวรรค์
ทีป่ รึกษาคณะกรรมาธกิ าร ที่ปรกึ ษาคณะกรรมาธิการ กรรมาธิการ
นายถวิล เปลี่ยนศรี นายสมชาย ชาญณรงค์กุล นายบรรชา พงศ์อายกุ ลู
กรรมาธกิ าร กรรมาธิการ กรรมาธิการ
นายกูรดสิ ถ์ จันทรศ์ รีชวาลา พลเอก เฉลิมพล ศรสี วสั ด์ิ พลเอก วรเกยี รติ รัตนานนท์
กรรมาธกิ าร กรรมาธิการ กรรมาธิการ
คานา
คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ เป็นคณะกรรมาธกิ ารสามัญประจาวุฒิสภาตามข้อ ๗๘ วรรคสอง
ของข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๖๒ มีหน้าที่และอานาจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ
กระทากิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับการต่างประเทศ
ความสมั พันธ์ระหว่างประเทศ บทบาท และการยอมรับประเทศไทยในประชาคมโลก คนไทยโพน้ ทะเล
สถานการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นอันอาจส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ รวมทั้งภาพลักษณ์ของประเทศ
พจิ ารณาศึกษา ติดตาม เสนอแนะ และเรง่ รดั การปฏิรูปประเทศ และแผนแมบ่ ทภายใต้ยทุ ธศาสตรช์ าติ
ทอ่ี ย่ใู นหน้าท่ีและอานาจ และอน่ื ๆ ท่ีเกีย่ วขอ้ ง
เ พ่ื อ ใ ห้ เ กิ ด ป ร ะ โ ย ช น์ สู ง สุ ด ใ น ก า ร พิ จ า ร ณ า ศึ ก ษ า เ ร่ื อ ง ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง กั บ กิ จ ก า ร ด้ า น ก า ร
ต่างประเทศ รวมท้ังการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ
คณะกรรมาธกิ ารจึงเดินทางไปประชุมทวิภาคีและเยือนองค์กรและหน่วยงานตา่ ง ๆ ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์
ระหว่างวันที่ ๘-๑๐ กันยายน ๒๕๖๕ โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเช่ือมความสัมพันธ์ระหว่างกัน และ
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ อาทิ ประเด็นสถานการณ์ระหว่างประเทศ ความร่วมมือ
ระหว่างกนั ในด้านตา่ ง ๆ ทง้ั ภายใตก้ รอบทวภิ าคี และกรอบพหภุ าคี ซ่งึ การเดินทางในคร้ังน้ีเป็นสว่ นหนง่ึ
ที่ช่วยเสรมิ การปฏบิ ตั ิภารกจิ ตามหนา้ ที่และอานาจของคณะกรรมาธกิ าร
คณะกรรมาธิการได้นาองค์ความรู้และข้อคิดเห็นต่าง ๆ ที่ได้จากการเดินทางในคร้ังน้ีไปใช้
ประโยชน์ในการปฏิบัติภารกิจตามหน้าท่ีและอานาจของคณะกรรมาธิการ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
ข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่ปรากฏในรายงานการเดินทางฉบับน้ีจะเป็น
ประโยชนต์ ่อการดาเนนิ งานในอนาคตของวฒุ ิสภา รฐั บาล และสว่ นราชการทม่ี ภี ารกจิ ที่เก่ยี วข้องตอ่ ไป
คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒสิ ภา
พฤศจกิ ายน ๒๕๖๕
สารบัญ
หนา้
๑. การประชุมทวิภาคกี บั สมาชิกรฐั สภาสงิ คโปร์ ณ รัฐสภาสงิ คโปร์ ๒
๒. การเขา้ เยีย่ มคารวะนายชตุ ินทร คงศักด์ิ เอกอัครราชทตู ณ สงิ คโปร์ ๕
และรับฟังบรรยายสรุปความสมั พนั ธร์ ะหว่างประเทศไทยกบั สาธารณรัฐสงิ คโปร์
ณ สถานเอกอคั รราชทตู ไทย
๓. การประชุมทวภิ าคแี ละเยอื นกับผแู้ ทน Strategy Group ๗
ณ Prime Minister’s Office
๔. การประชมุ ทวภิ าคี และเยือน Yusof Ishak Institute (The Institute of Southeast
Asian Studies: ISEAS) ณ ISEAS ๑๐
๕. การประชุมทวิภาคกี ับ Professor Chan Heng Chee, Chairperson of ISEAS ๑๔
ภาคผนวก (๑)
๑. กาหนดการเดนิ ทาง (๓)
๒. รายชอื่ คณะเดนิ ทาง (๔)
๓. ข้อมูลความสมั พันธร์ ะหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐสิงคโปร์ (๑๑)
๔. Factsheet สาธารณรฐั สงิ คโปร์
๕. เอกสารประกอบการประชุมทวภิ าคี (๑๓)
(๒๗)
- Strategy Group, PMO
- Yusof Ishak Institute (ISEAS)
รายงานการเดนิ ทางไปประชุมทวภิ าคีและเยอื นองคก์ รและหนว่ ยงานตา่ ง ๆ
ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์
ระหวา่ งวันท่ี ๘-๑๐ กันยายน ๒๕๖๕
ของคณะกรรมาธกิ ารการตา่ งประเทศ วฒุ สิ ภา
--------------------
คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา มีหน้าท่ีและอานาจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ
กระทากิจการ พจิ ารณาสอบหาข้อเท็จจริงหรือศกึ ษาเรอ่ื งใดๆ ทีเ่ กี่ยวกบั การต่างประเทศ ความสัมพันธ์
ระหว่างประเทศ บทบาท และการยอมรับประเทศไทยในประชาคมโลก คนไทยโพ้นทะเล สถานการณ์ใด ๆ
ทเี่ กิดข้ึนอันอาจส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ รวมท้งั ภาพลักษณ์ของประเทศ พิจารณาศึกษา ติดตาม
เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏริ ปู ประเทศ และแผนแม่บทภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาตทิ ีอ่ ย่ใู นหนา้ ที่และอานาจ
และอืน่ ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง
การเดินทางไปประชุมทวิภาคีและเยือนองค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์
ของคณะกรรมาธกิ ารในคร้ังนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสร้างสมั พันธภาพอันดีระหว่างกัน
การแลกเปล่ียนความคดิ เห็นเก่ียวกับยุทธศาสตร์ชาตดิ ้านการต่างประเทศ การดาเนินนโยบายด้านการ
ตา่ งประเทศภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันท่ามกลางความขัดแย้งของประเทศมหาอานาจ การแพร่ระบาด
ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ตลอดจนการสานความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เพ่ือให้เกิดความ
ตอ่ เนือ่ งเพ่อื ประโยชนข์ องท้ังสองประเทศตอ่ ไป
คณะกรรมาธิการได้เดินทางไปสาธารณรัฐสิงคโปร์ ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ ๘ ถึงวันเสาร์ท่ี ๑๐
กันยายน ๒๕๖๕ โดยมนี างพิกลุ แก้ว ไกรฤกษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการตา่ งประเทศ วฒุ สิ ภา เป็น
หัวหน้าคณะเดินทาง ในการนี้ คณะกรรมาธิการมีกาหนดการเข้าร่วมประชุมทวิภาคี และเยือนบุคคล
สาคัญ องค์กรและหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ของสาธารณรฐั สงิ คโปร์ ดงั น้ี
-๒-
๑. การประชุมทวิภาคีกบั สมาชกิ รัฐสภาสงิ คโปร์ ณ รฐั สภาสิงคโปร์
เม่ือวันพฤหัสบดีที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๖.๐๐ นาฬิกา นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์
ประธานคณะกรรมาธิการการตา่ งประเทศ วฒุ สิ ภา พร้อมดว้ ยคณะกรรมาธกิ ารการตา่ งประเทศ วุฒสิ ภา
ได้เข้าร่วมหารือทวิภาคีกับสมาชิกรัฐสภาสิงคโปร์ ณ รัฐสภาสิงคโปร์ โดยมีนาย Darryl David
นาย Dennis Tan นางสาว Mariam Jaafar และนางสาว Poh Li San ให้การต้อนรับและ
ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคณะกรรมาธิการ โอกาสน้ี ทั้งสองฝ่ายได้กล่าวเน้นย้าถึงความสัมพันธ์
อันดีระหว่างรัฐสภาไทยและรัฐสภาสิงคโปร์ ซ่ึงรัฐสภาไทยได้มีการจัดต้ังกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภา
ไทย-สิงคโปร์ และเพื่อเป็นการสร้างและพัฒนาความร่วมมือด้านนิติบัญญัติให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งข้ึน
คณะกรรมาธิการจึงเสนอให้รัฐสภาสิงคโปร์ผลักดันการจัดตั้งกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาสิงคโปร์ -ไทย
ข้นึ ในอนาคตอันใกล้
นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา ในฐานะ
ประธานคณะอนุกรรมการด้านพิธีการ การอานวยความสะดวก และงานเลี้ยง ในการเป็นเจ้าภาพ
จัดการประชุมรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (Asia Pacific Parliamentary Forum: APPF)
ครั้งที่ ๓๐ ได้กล่าวเชิญให้รัฐสภาสิงคโปร์ส่งสมาชิกเข้าร่วมการประชุมประจาปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและ
แปซิฟิก (Asia Pacific Parliamentary Forum: APPF) ครั้งที่ ๓๐ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๖-
๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๕ ณ รัฐสภาไทย และปีนี้ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
ดังกล่าว
สมาชิกรัฐสภาสิงคโปร์ได้กล่าวถึงประเด็นท้าทายของสิงคโปร์ โดยเฉพาะประเด็น
เกี่ยวกับจานวนประชากรและทรัพยากรธรรมชาติซ่ึงสิงคโปร์มีน้อย จึงมีความจาเป็นท่ีต้องมีวิธีการ
บริหารจัดการที่ดีควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยสิงคโปร์ได้ให้ความสาคัญในการแก้ไขปัญหา
การเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และเชื่อม่ันว่าการร่วมมือกันภายในอาเซียน
-๓-
จะเป็นหนทางท่ีดีสาหรับทุกประเทศในการก้าวผ่านความยากลาบากภายหลังสถานการณ์การแพร่
ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
คณะกรรมาธิการได้ร่วมแลกเปลี่ยนและแสดงความคิดเห็นกับสมาชิกรัฐสภา
สิงคโปร์ มีประเด็นสาคัญดังน้ี
๑. รัฐบาลไทยมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพให้กับประชาชน รวมถึง
การให้ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยซ่ึงเป็นอีกหนึ่งความช่วยเหลือที่รัฐบาลไทยให้ความสาคัญและ
ดาเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความท้าทายอย่างมาก ในส่วนของสิงคโปร์นั้น
สมาชิกรัฐสภาสิงคโปร์ได้กล่าวถึงกลไกที่รัฐบาลสิงคโปร์ใช้ดาเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
กล่าวคือ รัฐบาลจะให้เงินอุดหนุนต่าง ๆ แก่ประชาชน อาทิ ค่ารักษาพยาบาล และที่อยู่อาศัย ท้ังนี้
ได้มีการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ ๑๗ และมีการจัดเก็บภาษีเงินได้แบบวิธีการหัก
ภาษีเงินได้ ณ ท่ีจ่าย (Source Withholding)
๒. ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ส่งผลให้
ประชากรโลกตระหนัก และให้ความสาคัญกับการทาประกันสุขภาพมากขึ้น โดยประเทศไทยมี
ประชากรทาประกันสุขภาพประมาณร้อยละ ๒๐ ของจานวนประชากรท้ังหมด ในขณะที่สิงคโปร์มี
ประชากรทาประกันสุขภาพประมาณร้อยละ ๗๐ ของจานวนประชากรท้ังหมด นอกจากน้ัน รัฐบาล
สิงคโปร์มีเงินอุดหนุนให้กับประชาชน มีการจัดตั้งกองทุนสารองเลี้ยงชีพกลาง (The Central
Provident Fund: CPF) ทเ่ี ปน็ ระบบประกันสังคมเต็มรปู แบบ โดยประชาชนจะตอ้ งจา่ ยเงนิ เข้ากองทนุ
และสามารถนามาใช้ในการรักษาพยาบาล (Healthcare) ได้ อีกท้ังรัฐบาลสิงคโปร์มีระบบประกันค่า
รกั ษาพยาบาล Medishield ในกรณที ี่เปน็ การรักษาโรคร้ายแรงอกี ด้วย
๓. คณะกรรมาธิการได้แจ้งให้ทราบว่า ในระหว่างการประชุมรัฐสภาภาคพ้ืนเอเชียและ
แปซิฟิก (APPF) ครง้ั ท่ี ๓๐ ซงึ่ จะจัดขึน้ ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๕ ณ รัฐสภาไทย จะมีการ
หารือและแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นรว่ มกันภายใต้หัวขอ้ “บทบาทของรัฐสภาในการเร่งรัดการพัฒนาท่ี
ยั่งยืนภายหลังการระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙” (Parliaments and the Post-COVID-19
Sustainable Development) และในการประชมุ ครั้งนีม้ วี าระครอบคลมุ ประเดน็ ต่าง ๆ โดยเฉพาะ
-๔-
ประเด็นการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ที่จะนามาหารือในกลุ่ม
ประเทศสมาชิกภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก อาทิ บทบาทของรัฐสภาในการส่งเสริมการใช้พลังงาน
หมุนเวียนเพื่อบรรลุเป้าหมาย ความเป็นกลางทางคาร์บอน การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
ท้ังนี้ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ องค์การสหประชาชาติได้เสนอวาระการพัฒนา ๒๐๓๐ (Agenda 2030) ใน
การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ โดยการร่วมกันบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยืน ภายในปี
พ.ศ. ๒๕๗๓ หรือ ค.ศ. ๒๐๓๐ ดังเช่นแนวพระราชดาริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency
Economy) ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในการนี้
สมาชิกรัฐสภาสิงคโปร์เช่ือม่ันว่าทกุ ประเทศจะมแี นวทางและศกั ยภาพ มงุ่ มนั่ ท่จี ะบรรลเุ ป้าหมายการ
พฒั นาท่ยี ่งั ยนื ทง้ั ๑๗ เป้าหมาย
นอกจากนี้ วาระการประชุมสมาชิกรัฐสภาสตรียังมุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพ
ของสตรีเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ในอนาคต และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสตรีในการฟื้นฟู
เศรษฐกิจหลังการแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ อีกท้ังในการประชมุ APPF ครงั้ ท่ี ๓๐
ได้ให้ความสาคัญกับวาระด้านเศรษฐกิจและการค้าอีกด้วย
๔. สมาชิกรัฐสภาสิงคโปร์ได้แสดงความคิดเห็นในประเด็นความขัดแย้งระหว่าง
สหรัฐอเมริกากับจีน ในฐานะที่สิงคโปร์เป็นประเทศขนาดเล็ก การดาเนินการต่าง ๆ ต้องยึดมั่นตาม
หลักกฎหมายทั่วไปและกฎหมายระหว่างประเทศเป็นหลักสาคัญ ดังนั้น บทบาทของสิงคโปร์จึงเป็น
การติดตามสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้น
๕. สาหรับประเด็นปัญหาการเมืองภายในของฝรั่งเศสที่อาจส่งผลกระทบต่ออาเซียน
สมาชิกรัฐสภาสิงคโปร์เห็นว่าประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องกิจการภายในประเทศ (Domestic Affairs)
จึงไม่มีนโยบายในการแทรกแซงกิจการภายใน และเช่ือม่ันว่าไทยและสิงคโปร์จะดาเนินการโดยใ ช้
วิธีการทางการทูต
-๕-
๒. การเข้าเยี่ยมคารวะนายชุตินทร คงศักด์ิ เอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ และรับฟัง
บรรยายสรุปความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐสงิ คโปร์ ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย
ณ สงิ คโปร์
วันศุกร์ที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๓๐ นาฬิกา นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ประธาน
คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการเดินทางไปยังสถาน
เอกอัครราชทูตไทย ณ สิงคโปร์ เพ่ือเข้าเยี่ยมคารวะนายชุตินทร คงศักดิ์ เอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์
และรับฟังบรรยายสรุปในประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐสิงคโปรใ์ นภาพรวม
อาทิ ด้านการเมืองและความม่นั คง ดา้ นเศรษฐกิจ และดา้ นสังคมและวฒั นธรรม
ในการน้ี นายชุตินทร คงศักดิ์ เอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ ได้บรรยายสรุปความสัมพันธ์
ระหว่างประเทศไทยกบั สาธารณรัฐสิงคโปรใ์ นภาพรวม สรุปได้ดงั นี้
๑. ภาพรวมความสมั พันธ์
๑.๑ ไทยและสิงคโปร์มีความสัมพันธ์ท่ีใกล้ชิดรอบด้าน ไม่มีปมทางประวัติศาสตร์
ระหว่างกัน และมกี ารแลกเปลยี่ นการเยอื นระดบั สงู อยา่ งตอ่ เน่อื ง
๑.๒ ไทยกับสิงคโปร์มีมุมมองในประเด็นด้านภูมิภาคคล้ายกัน โดยให้ความสาคัญกับ
การเสริมสร้างความเขม้ แขง็ ของประชาคมอาเซียน การรกั ษาความเปน็ ศูนย์กลางของอาเซียนในภูมิภาค
และการเสริมสร้างดุลอานาจทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมหาอานาจในภูมิภาค โดยเฉพาะ
สหรัฐอเมริกากับจีน ในปี ๒๕๕๘ ไทยและสิงคโปร์เฉลิมฉลองการครบรอบ ๕๐ ปีของการสถาปนา
ความสัมพันธท์ างการทตู (วันท่ี ๒๐ กันยายน ๒๕๕๘)
๒. ความสมั พนั ธด์ ้านการเมืองและความม่ันคง
ไทยกับสิงคโปร์ดาเนินความสัมพันธ์ภายใต้กรอบ Singapore-Thailand Enhanced
Partnership (STEP) มกี ลไกทวิภาคสี าคัญ ๔ กลไก ได้แก่ (๑) การประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหวา่ ง
นายกรัฐมนตรี (Leaders’ Retreat) ซึ่งสิงคโปร์เป็นเจ้าภาพเมื่อปี ๒๕๕๙ (๒) โครงการความร่วมมือ
ระหว่างหน่วยราชการไทยกับสิงคโปร์ (Civil Service Exchange Program: CSEP) โดยสิงคโปร์เป็น
เจา้ ภาพการประชมุ CSEP คร้งั ที่ ๑๓ เมอ่ื วนั ที่ ๒๑-๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ (๓) การประชุม Singapore-
-๖-
Thailand Enhanced Economic Relationship (STEER) ครั้งที่ ๕ ซึ่งฝ่ายสิงคโปร์เป็นเจ้าภาพเม่ือปี
๒๕๖๐ และไทยมีแผนจะเป็นเจ้าภาพการประชุม STEER คร้ังที่ ๖ ในเดือนตุลาคม ๒๕๖๕ (๔) ความ
ร่วมมือด้านความม่นั คงผา่ นการแลกเปล่ยี นการเยอื นระหวา่ งผู้บงั คับบัญชาระดับสูงอย่างสมา่ เสมอ การ
ประชุม Defence Policy Dialogue ระดับรองปลัดกระทรวงกลาโหม ซ่ึงไทยเป็นเจ้าภาพคร้ังแรกใน
วันท่ี ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ และการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านการฝึกบุคลากร และการซ้อมรบร่วม
อาทิ การฝึกร่วมผสม Cope Tiger การฝึก Cobra Gold การฝึก SINGSIAM และการฝกึ Kocha Singa
๓. ดา้ นเศรษฐกิจ
๓.๑ ในปี ๒๕๖๕ (มกราคม-พฤษภาคม ๒๕๖๕) สิงคโปร์เป็นคู่ค้าอันดับที่ ๘ ของไทย
(อันดบั ท่ี ๔ ในอาเซียน รองจากมาเลเซีย เวยี ดนาม และอินโดนีเซยี ) ในขณะท่ีไทยเป็นค่คู า้ อันดบั ที่ ๑๐
ของสงิ คโปร์ การคา้ ในชว่ ง ๕ เดอื นแรกมมี ูลคา่ ๘,๐๙๓ ล้านดอลลาร์สหรฐั เพมิ่ ขนึ้ รอ้ ยละ ๒๖ จากช่วง
เดียวกันของปีก่อนหน้า ท้ังนี้ ในปี ๒๕๖๔ การค้าระหว่างไทยกับสิงคโปร์มีมูลค่ารวม ๑๖,๓๗๕ ล้าน
ดอลลาร์สหรัฐ (ลดลงร้อยละ ๓.๖๕ เมื่อเทียบกับปี ๒๕๖๓) ไทยส่งออก ๙,๐๑๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นาเข้า ๗,๓๖๕ ล้านดอลลารส์ หรฐั และได้ดลุ การคา้ ๑,๖๔๕ ลา้ นดอลลารส์ หรัฐ
๓.๒ ในปี ๒๕๖๔ สิงคโปร์เปน็ ผู้ลงทนุ อนั ดับท่ี ๓ ของไทย (รองจากญ่ปี ุ่นและจนี ) โดยมี
มูลค่าการลงทุนรวม ๒๙,๖๖๙ ล้านบาท จานวน ๙๖ โครงการ และเป็นผู้ลงทุนอันดับหนึ่งของไทยใน
อาเซียนเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกว่า ๑๐ ปี การลงทุนของสิงคโปร์ในไทยมีมูลค่าเงินลงทุนส่วนใหญ่มา
จากโครงการขนาดใหญ่ อาทิ กิจการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์และแผงเซลลแ์ สงอาทติ ย์ กิจการผลิตรถยนต์
และรถบรรทุกขนาดเลก็ กิจการผลิตหัวฉีดเชอ้ื เพลงิ กิจการศนู ยก์ ระจายสินค้าระหวา่ งประเทศ กจิ การ
ผลิตช้ินส่วนยานพาหนะ และกิจการผลิตช้ินสว่ นสาหรับยานยนต์ รวมถึงกิจการการผลิตอาหาร เหมือง
แรแ่ ละเหมืองหิน และการผลิตกระดาษ
๓.๓ ในด้านการทอ่ งเทยี่ ว ในปี ๒๕๖๔ นักท่องเทย่ี วชาวสิงคโปร์เดินทางมาไทยจานวน
๕,๙๔๑ คน ขณะท่ีนักท่องเท่ียวชาวไทยเดินทางไปสิงคโปร์จานวน ๔,๓๗๙ คน ท้ังนี้ ระหว่างเดือน
มกราคม-สิงหาคม ๒๕๖๕ นกั ทอ่ งเทยี่ วชาวสิงคโปร์เดินทางเข้าประเทศไทยมากเป็นลาดบั ที่ ๔ จานวน
๒๑๓,๕๒๓ คน
-๗-
๔. ดา้ นสังคมและวฒั นธรรม
๔.๑ ไทยมีความรว่ มมอื ดา้ นวัฒนธรรมกับสงิ คโปร์ มีโครงการแลกเปลยี่ นดา้ นพิพธิ ภณั ฑ์
ศลิ ปวตั ถุ และโบราณวตั ถุ
๔.๒ ไทยมีความร่วมมอื ด้านการศึกษากบั สิงคโปร์ โดยกระทรวงศึกษาธิการทง้ั ของไทย
และสิงคโปรม์ คี วามรว่ มมอื กนั อย่างใกลช้ ิดภายใตค้ วามรว่ มมือ CSEP
๓. การประชมุ ทวภิ าคี และเยอื น Strategy Group ณ Prime Minister’s Office
เม่ือวันศุกร์ท่ี ๙ กันยายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๑.๐๐ นาฬิกา นางพิกุลแกว้ ไกรฤกษ์ ประธาน
คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการต่างประเทศ วุฒิสภา และ
นายชุตินทร คงศักดิ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ สงิ คโปร์ เข้าร่วมหารือทวิภาคีกบั ผ้แู ทนของ Strategy Group
โดยมี นางสาว Cindy Khoo รองเลขาธิการ นาย Arjun Naid รองผู้อานวยการฝ่ายวางแผนยทุ ธศาสตร์
นางสาว Zhi Xu Tan รองผู้อานวยการฝ่ายนโยบายเชิงภูมิยุทธศาสตร์ และนางสาว Valerie Chua
ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวางแผนยุทธศาสตร์ ได้ให้การต้อนรับและร่วมแลกเปล่ียนความคิดเห็นกับ
คณะกรรมาธกิ าร
ในโอกาสนี้ นางสาว Cindy Khoo รองเลขาธิการ และคณะได้อธิบายถึงความเป็นมา
โครงสร้างและการทางานของ Strategy Group ว่าหน่วยงานน้ีได้ก่อต้ังขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็น
หน่วยงานภายใต้การกากับดูแลของสานักงานนายกรัฐมนตรี มีหน้าท่ีและความรับผิดชอบในการ
สนบั สนนุ ภารกิจของนายกรฐั มนตรีและคณะรัฐมนตรี โดยหน่วยงานดังกลา่ วทาหน้าทเ่ี ป็นผนู้ าในการจดั
ระเบียบบริการสาธารณะเพื่อพัฒนาและดาเนินการตามลาดับความสาคัญของแผนยุทธศาสตร์ของ
รัฐบาลสิงคโปร์ กล่าวคือทาหน้าที่เป็นตัวเช่ือมระหว่างผู้ดารงตาแหน่งทางการเมืองและการบริการ
สาธารณะ
-๘-
Strategy Group มีหน้าที่หลักสาคัญ ๔ ประการ ได้แก่ ๑) การวางแผนยุทธศาสตร์
๒) การประสาน การสนับสนุนและการพัฒนานโยบาย ๓) การจัดการทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ และ
๔) การกากับดูแล ท้งั น้ี เพือ่ สง่ ต่อวาระนโยบายให้แตล่ ะกระทรวงและคณะกรรมการต่าง ๆ ท่ีจัดตัง้ ขึ้น
ตามกฎหมาย (Statutory Board) โดยทาหนา้ ทีเ่ ป็นผู้ประสานงานไปยังหนว่ ยงานต่าง ๆ ให้ดาเนนิ การ
จัดลาดับความสาคัญของงานตามแผนประจาปีโดยยึดจากแนวทางท่ีกาหนดไว้ และให้ความม่ันใจว่ามี
เงินทุนและกาลงั คนเพียงพอทีจ่ ะดาเนินการ ตลอดจนสนับสนุนการเสริมสร้างขีดความสามารถในงานที่
มคี วามเก่ียวข้องกัน อาทิ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและวศิ วกรรม และงานบริการ
ในส่วนของระบบการวางแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลสิงคโปร์ ประกอบด้วย ข้ันตอนการ
วางแผนหลกั ๒ ขั้นตอน ได้แก่ การวางแผนระยะยาว (Big Loops) ซ่ึงมกี รอบระยะเวลา ๕ ปี และการ
วางแผนระยะส้ัน (Small Loops) ท่ีมีกรอบระยะเวลาเป็นรายปี โดยแผนระยะส้ันจะเป็นแผนที่
สนับสนุนแผนระยะยาวให้สามารถบรรลุตามเป้าหมาย นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงาน The Centre for
Strategic Futures (CSF) ซ่ึงเป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้ Strategy Group มีหน้าที่หลักในการวาง
ยุทธศาสตร์ชาติแห่งอนาคตของสิงคโปร์ โดยใช้การวางแผนระยะยาวท่ีมีการคาดการณ์อนาคต
(Foresight) และให้มุมมองกับหน่วยงานต่าง ๆ เพ่ือนาไปใช้ในการดาเนินงาน รวมทั้งเป็นผู้นาในการ
วางแผนสถานการณ์ตา่ ง ๆ เพ่ือระบแุ รงขบั เคลื่อนการดาเนินงานในระยะยาว และเตรยี มความพรอ้ มใน
การเผชิญกับความท้าทายและโอกาสที่สาคัญของสิงคโปร์ในอีก ๒๐ ปีข้างหน้า ตลอดจนสร้างความ
เข้าใจร่วมกันในเหตุการณท์ ี่จะเกิดข้ึนในอนาคต อย่างไรก็ตาม การวางแผนระยะยาว (Big Loops) จะ
ช่วยในแง่ของการพฒั นายุทธศาสตรข์ องสิงคโปร์ให้สามารถตอบสนองความท้าทายและโอกาสท่ีเกิดข้ึน
ใหม่ ทั้งนี้ การคาดการณอ์ นาคตของ Strategy Group มกี ารกาหนดวาระนโยบายระยะกลาง ซึ่งช่วยใน
เรื่อง (๑) เสริมสร้างความยืดหยุ่น (Resilience) (๒) รักษาตาแหน่งในเวทีโลก (๓) คว้าโอกาสใหม่ใน
การเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกิจ (๔) เสรมิ สร้างความเขม้ แข็งในการเช่ือมโยงนโยบายเศรษฐกิจและสงั คม
(๕) สร้างสังคมท่ียุตธิ รรมและเอื้ออาทร (๖) สร้างสังคมทยี่ ืดหยุ่นและเป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน (๗) สร้าง
อนาคตทพ่ี ร้อมและยัง่ ยืน และ (๘) พฒั นาโครงสรา้ งตามแนวนอน
-๙-
อย่างไรก็ตาม Strategy Group เช่ือว่า ความยืดหยุ่น (Resilience) มีความสาคัญกับทุก
หน่วยงาน ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ได้แสดงให้เห็นถึง
ความสาคัญของความยืดหยุ่นในนโยบายและแผนหลายฉบับ โดย Strategy Group ได้ทางานร่วมกับ
หน่วยงานตา่ ง ๆ เพือ่ ให้ม่นั ใจว่าการบรกิ ารสาธารณะไดเ้ ตรียมความพรอ้ มในการรบั มอื กบั สถานการณ์ท่ี
ส่งผลกระทบเป็นวงกวา้ งและเกดิ การเปลี่ยนแปลง รวมท้ังสามารถฟื้นตวั ได้อยา่ งรวดเรว็ ทั้งนี้ มขี ้อควร
พจิ ารณาทส่ี าคญั ๓ ประการ ได้แก่ ๑) การลดการพ่ึงพากนั และการกระจายความเสย่ี ง ๒) การวางแผน
เพื่อปรับตัวระหว่างเกิดผลกระทบ และ ๓) การสร้างบัฟเฟอร์/การสารองต่าง ๆ ในภาวะปกติ เพื่อ
เตรยี มใช้งานเม่ือเกดิ วิกฤต
ในโอกาสนี้ คณะกรรมาธิการได้ร่วมแลกเปล่ียนและแสดงความคิดเห็นกับผู้แทนของ
Strategy Group โดยสรปุ สาระสาคัญได้ ดงั นี้
๑. ที่ผ่านมาประเทศไทยมีความพยายามอย่างต่อเน่ืองในการแสวงหาแนวทางและเรียนรู้
แพลตฟอร์มในด้านการวางแผนยุทธศาสตร์ชาติจากหน่วยงานต่าง ๆ และ Strategy Group เป็น
หน่วยงานหน่ึงท่ีคณะกรรมาธิการได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซ่ึงหากเปรียบเทียบแล้วจะเห็นได้ว่า
Strategy Group เป็นหนว่ ยงานท่มี ีขอบเขตการทางานคล้ายกับสานักงานขับเคลือ่ นการปฏริ ูปประเทศ
ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือสานักงาน ป.ย.ป. ( Strategic
Transformation Office) ของไทย ดังน้ัน การหารือร่วมกันในคร้ังน้ี คณะกรรมาธิการได้รับความรู้ท่ี
เปน็ ประโยชนแ์ ละสามารถนามาปรบั ใช้ให้เหมาะสม เพอ่ื ใหม้ ีการทางานแบบบูรณาการต่อไป
๒. Strategy Group เป็นหน่วยงานขนาดเล็ก ไม่มีกลุ่มงานท่ีทาหน้าท่ีตรวจสอบภายใน
(Internal Audit) ซึ่งต้องอาศัยทีมผู้ตรวจสอบภายในจากส่วนกลาง ส่วนโครงสร้างและเทคนิคการ
ดาเนินงานมุ่งเน้นการทางานร่วมกัน ใช้วิธีการส่งเสริมให้มีการหมุนเวียนงานภายในหน่วยงาน มีการ
สร้างวฒั นธรรมการทางานรว่ มกัน ตลอดจนการจัดให้มกี ารประชุมเพ่ือแลกเปล่ยี นความเห็นร่วมกนั ทุก
สัปดาห์ เพอ่ื เป็นการเสริมสร้างความสัมพนั ธอ์ ันดีระหว่างกันในการทางาน และมีการรับสมัครนักศึกษา
ฝึกงานด้วย
-๑๐-
ทง้ั น้ี คณะกรรมาธกิ ารเห็นถึงความมศี กั ยภาพของ Strategy Group ท่มี ีการดาเนนิ งาน
อย่างเปน็ ระบบ มรี ะบบการติดตามการทางานของหนว่ ยงานต่าง ๆ และท่ีน่าสนใจคอื ผ้บู ริหารระดับสูง
เป็นคนรนุ่ ใหม่ท่อี ายยุ ังนอ้ ย มเี จ้าหนา้ ทใ่ี นวยั หนุ่มสาวโดยมีอายรุ ะหว่าง ๒๘-๔๐ ปี
๔. การประชมุ ทวภิ าคี และเยือน Yusof Ishak Institute (The Institute of Southeast
Asian Studies: ISEAS) ณ ISEAS
เม่ือวันศุกร์ท่ี ๙ กันยายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๔.๓๐ นาฬิกา นางพกิ ุลแก้ว ไกรฤกษ์ ประธาน
คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการต่างประเทศ วุฒิสภา เข้าร่วม
หารือทวิภาคีกับผู้แทนของ ISEAS โดยมี นางสาว Lee Sue-Ann นักวิจัยอาวุโสและผู้ประสานงาน
ประจาโครงการยทุ ธศาสตร์ระดับภมู ภิ าคและการเมืองศึกษา และนางสาว Joanne Lin หัวหนา้ นักวจิ ัย
ฝ่ายการเมืองและความมั่นคง สังกัดศูนย์อาเซียนศึกษา (ASEAN Studies Centre) ได้ให้การต้อนรับ
และรว่ มแลกเปล่ียนความคิดเห็นกับคณะกรรมาธิการ
ผู้แทนของสถาบัน ISEAS ได้อธิบายถึงบทบาทและหน้าที่ของสถาบัน ซึ่งนับได้ว่าเป็น
สถาบันคลังความคดิ (Think Tank) ของสงิ คโปร์ทกี่ ่อต้งั ข้นึ เมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ และได้มกี ารผลิตงานวิจัย
ต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับอาเซียน อาทิ อาเซียนกับเอสเอ็มอี อาเซียนกับเศรษฐกิจสังคม การบูรณาการ
อาเซียน สิ่งแวดล้อมและการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ และได้นาเสนอรายงานการศึกษาจากการ
สารวจทัศนคติในประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอมริกาและจีนที่ ส่งผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชีย
ตะวนั ออกเฉียงใต้ และถือเป็นความท้าทายในการบรู ณาการระดับภมู ิภาค โดยสรปุ สาระสาคญั ได้ ดังน้ี
๑. ประเด็นการแขง่ ขันระหว่างสหรัฐอเมรกิ ากับจีนเพอื่ เข้ามามีอิทธพิ ลเหนือภูมิภาคเอเชีย
ตะวนั ออกเฉียงใต้ และสถานการณ์ความตงึ เครียดระหว่างทง้ั สองประเทศที่สง่ ผลกระทบต่อภมู ภิ าค
จากผลการสารวจทัศนคติในประเด็นต่าง ๆ และจากการสัมภาษณ์บุคลากรภาครัฐ
บุคลากรทางการศึกษา องค์กรเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รวมจานวน ๑๐ ประเทศ พบว่า จีนเป็นประเทศท่ีมีอิทธิพลทางด้านเศรษฐกิจและด้านการเมืองและ
ยทุ ธศาสตรม์ ากทสี่ ดุ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะท่ีสหรฐั อเมรกิ า เป็นประเทศทไ่ี ดร้ ับความเชอ่ื ม่ัน
-๑๑-
ว่ามีอิทธิพลระหว่างประเทศมากท่ีสุด รวมท้ังเป็นผู้นาและส่งเสริมเกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศ
ส่วนประเด็นการแข่งขันในเรื่องการมีอิทธิพลทางด้านเศรษฐกิจ พบว่าส่วนใหญ่จะยินยอมให้
สหรัฐอเมรกิ าเข้ามามอี ทิ ธพิ ลในภูมิภาค
๒. สหรัฐอเมริกาและจีนมีการแข่งขันด้านการสร้างดุลแห่งอานาจ การมีอิทธิพล การค้า
และความม่นั คง
เน่ืองด้วยความแตกต่างด้านระบบการปกครองและวัฒนธรรม จึงเป็นเหตุผลสาคัญท่ี
ทาให้ทั้งสองประเทศพยายามช่วงชิงความมีบทบาทดังกล่าว โดยแต่ละฝ่ายได้ส่งผู้แทนระดับสูงเยือน
ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา และ
รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมรกิ า รวมท้ังการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซยี น (ASEAN
Summit) ของประธานาธบิ ดีสหรฐั อเมริกา
ในขณะท่ีจนี ได้ส่งนายหวัง อี้ มนตรีแหง่ รฐั และรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการตา่ งประเทศ
ของจีนเดนิ ทางเยือนประเทศไทย และไดส้ ง่ กองกาลงั ทหารเขา้ รว่ มซ้อมรบกบั ฝา่ ยไทย ในขณะเดียวกัน
สหรัฐอเมริกา และอินโดนีเซียได้เปิดปฏิบัติการซ้อมรบร่วมกันภายใต้ช่ือปฏิบัติการ “Super Garuda
Shield” ตลอดจนมีการซอ้ มรบกับสิงคโปรแ์ ละอินโดนเี ซยี และร่วมกับอกี ๑๒ ประเทศ
๓. การแข่งขันระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนเพื่อเข้ามามีอิทธิพลด้านความมั่นคงในภูมิภาค
เอเชียตะวันออกเฉยี งใต้
สหรัฐอเมริกาได้แสดงท่าทีต่อต้านจีนชัดเจนมากขึ้น และในช่วงท่ีนายไมค์ ปอมเปโอ
(Mr. Mike Pompeo) อดตี รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการตา่ งประเทศสหรฐั อเมรกิ า ไดม้ กี ารเตรยี มจดั ต้งั
กลมุ่ ภาคี ๔ ฝา่ ยต้านจีน (Quad) ประกอบดว้ ย สหรัฐอเมริกา ญ่ปี ุ่น อินเดยี และออสเตรเลยี นอกจากน้ี
สหรฐั อเมริกา องั กฤษ และออสเตรเลีย ไดท้ าสนธสิ ัญญาความรว่ มมอื ด้านความม่ันคงฉบับใหม่ทีเ่ รยี กวา่
“AUKUS” ที่ระบุถึงข้อตกลงในการแบ่งปันข้อมูลและเทคโนโลยี โดยพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่
ออสเตรเลียในการสร้างเรือดาน้าพลังงานนิวเคลียร์ เพ่ือคานอานาจกับจีนที่กาลังแผ่อิทธิพลในภูมิภาค
เอเชีย-แปซิฟิก แต่สหรัฐอเมริกาและจีนยังคงมีการสร้างความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐานและการ
ลงทนุ เชน่ G7 หรอื ผู้นากลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชัน้ นา ๗ ประเทศ
-๑๒-
อย่างไรก็ตาม จากผลการสารวจพบว่า ประชาชนมีความกังวลต่อการเข้ามามีอิทธิพล
ของจีนในทุกมิติ ท้ังมิติด้านสังคม การเมือง และความมั่นคง ในขณะท่ีผลจากการสัมภาษณ์พบว่า
สหรัฐอเมริกาและจีนได้พยายามแข่งขันกันเพื่อสร้างอิทธิพลเหนือภูมิภาคอาเซียน สาหรับประเด็นที่
อาเซียนอยู่ตรงกลางความขัดแย้งระหว่างผู้นาสหรัฐอเมรกิ าและผ้นู าจนี จากผลสารวจพบว่า เสียงส่วน
ใหญ่สนับสนุนความเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกันของอาเซียน กล่าวโดยสรุปคือ ภูมิภาคอาเซียนต้องการจีน
เพอื่ ผลประโยชน์ทางการค้า และตอ้ งการสหรฐั อเมริกาเพอื่ ผลประโยชน์ทางดา้ นความม่นั คง ในส่วนของ
ประเทศไทยตอ้ งการให้มีการลงทุนโดยตรงจากสหรฐั อเมรกิ า (Foreign Direct Investment: FDI)
คณะกรรมาธิการได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสอบถามถึงประเด็นระหว่างประเทศท่ี
ไดร้ บั ความสนใจจากนานาประเทศ โดยสรุปสาระสาคญั ได้ ดงั น้ี
๑. บทบาทของจีน คณะกรรมาธิการได้แสดงความคิดเห็นว่า จีนเป็นประเทศที่มี
ความสัมพันธใ์ กลช้ ิดกบั กมั พูชาเนอื่ งจากจนี เขา้ ไปลงทนุ ในกัมพชู าเป็นจานวนมาก และในดา้ นการศึกษา
ลาวไดร้ ับอิทธพิ ลจากจีนเน่ืองจากจีนใหก้ ารสนับสนนุ ดา้ นการเงินแก่สถานศกึ ษาในลาว ทาใหป้ ระชาชน
ส่วนใหญข่ องลาวมีโอกาสได้เรยี นภาษาจนี เป็นภาษาทีส่ อง รวมท้ังการมีนกั ธรุ กจิ จนี จานวนมากท่ีเขา้ ไป
ลงทุนในลาว จึงส่งผลดีต่อประชาชนลาวท่ีสามารถส่ือสารภาษาจีนได้เพราะมีโอกาสได้รับการจ้างงาน
จากบริษทั ของจนี ในขณะท่ไี ทยเป็นประเทศทีม่ งุ่ เน้นการดาเนนิ ธรุ กจิ การค้ากับจีนเปน็ หลกั สาคญั
๒. สถานการณ์ในเมียนมา เกี่ยวกับปัญหาชาวโรฮีนจา เนื่องจากเมียนมาไม่ยอมรับชาว
โรฮีนจา ทาให้ชาวโรฮีนจาต้องอพยพหนีภัยออกนอกประเทศเมียนมา ทาให้ไทยเป็นประเทศหนึ่งที่
ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว คณะกรรมาธิการเห็นว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนควรร่วมกันให้
ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวโรฮีนจาอย่างเป็นรูปธรรม และเห็นว่าประเทศหมู่เกาะอย่าง
อนิ โดนีเซียน่าจะใหค้ วามช่วยเหลือได้ ทั้งน้ี จะประสานข้อเสนอนี้ต่อไปยังสานักงานเลขาธิการอาเซียน
ต่อไป ทั้งยังได้ยกตัวอย่างท่ีเกิดข้ึนในอดีตช่วงสงครามเวียดนาม เม่ือปี ๒๕๑๘ มีกลุ่มผู้อพยพทางเรือ
(Boat People) ล่องเรือไปข้ึนฝ่ังที่เกาะหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย ทราบภายหลังว่าอพยพมาจาก
ประเทศเวียดนาม รัฐบาลออสเตรเลียได้ให้ความช่วยเหลือด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม สร้าง
สาธารณูปโภค ใหค้ วามช่วยเหลือด้านปจั จัย ๔ หลังจากนั้นประมาณ ๑๕ ปีต่อมา ประเทศออสเตรเลีย
เป็นประเทศที่ส่งออกผัก ผลไม้เขตร้อน (Tropical Fruit) เป็นอันดับที่ ๑ ของโลก และประชากรบางส่วน
ได้ย้ายไปต้ังถ่ินฐานใหม่ที่สหรัฐอเมริกาด้วย และผู้อพยพชาวเวียดนามกลุ่มนี้เป็นชนชาติที่มีความ
เชี่ยวชาญเร่ืองการประมง การเกษตรท่ีสุดในรฐั เทกซสั สหรัฐอเมริกา
อยา่ งไรก็ตาม ท่ีผ่านมารัฐบาลไทยได้ให้ความชว่ ยเหลอื แก่ผหู้ นภี ยั จากการส้รู บเมียนมา
เป็นระยะเวลายาวนานกว่า ๓๐ ปี ทั้งการสร้างพ้ืนที่พักพิงชั่วคราว การสนับสนุนการตรวจพิสูจน์
เอกลกั ษณบ์ ุคคล (DNA) ของผทู้ ่ีมปี ัญหาสถานะทางทะเบยี นหรือผทู้ ่ไี ม่มีบตั รประจาตัวประชาชน
คณะกรรมาธิการได้สอบถามถึงกรณีท่าทีของอาเซียนเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา
ซึ่งผู้แทนของสถาบัน ISEAS มีความเห็นว่า อาเซียนไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งท่ีเกิดข้ึนได้
เนื่องจากอาเซียนมีฉันทามติร่วมกัน ๑๐ ประเทศ และแต่ละประเทศมีระบบการบริหารประเทศ
วัฒนธรรม ศาสนา สภาพทางการเมือง และมีแงม่ ุมของความสัมพันธก์ บั จนี และสหรัฐอเมริกาทีแ่ ตกต่าง
-๑๓-
กันออกไป จึงทาให้ยากต่อการตัดสินใจท่ีจะดาเนินการในเร่ืองใดเร่ืองหน่ึงให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
โดยเฉพาะเร่ืองความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และความร่วมมือของประเทศในอาเซียนด้านเศรษฐกิจ
อาทิ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic
Partnership: RCEP) และประเด็นวิกฤตการณ์ในยูเครนที่สหภาพยุโรปได้ประณามรัสเซีย ในขณะท่ี
เวยี ดนามและลาวงดออกเสยี งการลงมติในทป่ี ระชุมสมัชชาสหประชาชาติ
ผู้แทนของสถาบัน ISEAS ได้ให้ข้อมูลว่า ในประเด็นปัญหาสถานการณ์ในเมียนมา
สหประชาชาติได้ให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมโดยดาเนินการผ่านกลไกต่าง ๆ และตระหนักถึง
ความสาคัญของอาเซียนในการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว ที่ผา่ นมาผู้แทนพิเศษของประธานอาเซียนได้
มีแผนการเยือนภูมิภาคเพ่ือหารือกับผู้มีส่วนเก่ียวข้องต่าง ๆ และผู้แทนของสถาบัน ISEAS แจ้งว่าในเดือน
พฤศจิกายน ๒๕๖๕ หากมีโอกาสได้พบปะกับเลขาธิการอาเซียนในระหว่างเข้าร่วมการประชุมท่ีอินโดนีเซีย
จะได้หารือในประเด็นสถานการณ์ในเมียนมาดว้ ย ในการนี้ คณะกรรมาธิการได้ตง้ั ขอ้ สงั เกตเก่ยี วกับประเด็น
ท่ีมีการเลื่อนการเลือกตั้งทั่วไปในเมียนมา ซ่ึงผู้แทนของสถาบัน ISEAS คาดการณ์ว่าการเลือกต้ังดังกล่าวจะ
จัดขึ้นในช่วงเดอื นกุมภาพันธ์-มีนาคม ๒๕๖๖ เนอื่ งจากรัฐบาลเมยี นมาได้เล่ือนการเลอื กต้ังมาแลว้ หลายครง้ั
๓. ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศต่าง ๆ ใน
ภมู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออกฉยี งใต้ โดยคณะกรรมาธกิ ารเหน็ วา่ อาเซยี นเปน็ ภูมภิ าคที่มีท่ีต้ังทางภูมิศาสตร์ที่
สาคัญ และยึดหลักความเป็นแกนกลางของอาเซียน (ASEAN Centrality) ซึ่งสถาบัน ISEAS ควรเป็น
สถาบันทมี่ ีความแขง็ แกร่ง และผลิตผลงานวจิ ยั ทม่ี คี ุณภาพต่อไป
นอกจากน้ี คณะกรรมาธิการได้กล่าวถึงการเดินทางมาร่วมประชุมทวิภาคี และเยือน
องคก์ ร และหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ณ สาธารณรฐั สงิ คโปร์ในครง้ั นี้วา่ คณะกรรมาธิการไดม้ ีโอกาสพบปะพดู คยุ
และแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ กับนกั ธุรกจิ และผู้แทนภาคเอกชนต่าง ๆ ของสงิ คโปร์ เม่ือวันพฤหัสบดีท่ี
๘ กันยายน ๒๕๖๕ โดยคณะกรรมาธิการได้แจ้งกับนักธุรกิจ และผู้แทนภาคเอกชนต่าง ๆ ของสิงคโปร์ว่า
ขณะนี้ประเทศไทยได้สนับสนุนให้นักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยเปิด
โอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาถือครองอสังหาริมทรัพย์ได้ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกาหนด เป็นการ
สร้างแรงจงู ใจใหก้ บั นักลงทนุ ต่างประเทศอีกทางหนง่ึ
-๑๔-
๕. การประชุมทวิภาคีกบั Professor Chan Heng Chee, Chairperson of ISEAS
เม่ือวันเสาร์ที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา คณะกรรมาธิการต่างประเทศ
วุฒิสภา ได้ร่วมหารือทวิภาคีกับ Professor Chan Heng Chee ประธานคณะกรรมการแห่ง ISEAS–
Yusof Ishak Institute ณ โรงแรม Conrad Centennial Singapore
ในโอกาสนี้ Professor Chan Heng Chee ได้อธิบายถึงประเด็นความสัมพันธ์ระหว่าง
สหรฐั อเมริกาและจีน โดยสรุปสาระสาคญั ได้ ดงั น้ี
๑. Professor Chan Heng Chee ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้ง
ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนในปัจจุบัน โดยเม่ือเดือนสิงหาคม ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา นางแนนซี เพโลซี
(Mrs. Nancy Pelosi) ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาได้เดินทางเยือนไตห้ วัน และถือเป็นการ
เดินทางเยือนที่เป็นการจุดชนวนความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน เนื่องจากจีนมองว่า
สหรฐั อเมรกิ าไมย่ ดึ มนั่ ใน “นโยบายจีนเดยี ว” (One China Policy) ท้ังน้ี นายโจ ไบเดน ประธานาธบิ ดี
สหรัฐอเมริกาได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการเดินทางเยือนดังกล่าว เนื่องจากต้องการให้สหรัฐอเมริกา
ผกู มติ รกบั จีนในฐานะทีจ่ นี เป็นตลาดการค้าขนาดใหญข่ องโลก
๒. ในปี พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๑ สหรัฐอเมริกาเกิดวกิ ฤตการณ์ทางการเงินอยา่ งหนัก ในขณะ
ทีจ่ นี ก็ไดร้ บั ผลกระทบจากเหตกุ ารณด์ งั กลา่ วเช่นกนั แตส่ ามารถแกไ้ ขปญั หาจนกระทัง่ เศรษฐกิจฟ้นื ตัว
-๑๕-
กลับมาได้ โดยเมือ่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๔ จีนไดเ้ ขา้ เป็นสมาชิกองคก์ ารการค้าโลก (WTO) และส่งผลกระทบต่อ
การจา้ งงานภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐอเมริกา และยโุ รป ตอ่ มาจึงทาใหส้ หรฐั อเมรกิ าเร่ิมมองจนี ในฐานะ
คู่แขง่ มากกวา่ การเปน็ หนุ้ ส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership)
๓. จีนได้มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดด ท้ังด้านเศรษฐกิจ การทหาร เทคโนโลยี และ
การเมืองการปกครอง โดยเฉพาะในสมัยของนายสี จ้ินผิง ประธานาธิบดีจีน ท่ีมองว่าจีนต้องเป็นอนั ดับ
หนง่ึ ของโลก และมุ่งเน้นการเปน็ ทห่ี นงึ่ ด้านเทคโนโลยีปัญญาประดษิ ฐ์ (Artificial Intelligence: AI)
๔. ในปี ๒๕๖๔ ภายใต้การนาของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบัน
ได้เริ่มมีแนวคิดที่จะส่งสัญญาณเพื่อยุติสงครามทางการค้ากับจีน และหันมาให้ความสาคัญกับภูมิภาค
เอเชียมากขึ้น แม้ที่ผ่านมาท้ังสองประเทศได้ใช้มาตรการการตั้งกาแพงภาษีเพ่ือกีดกันการนาเข้าสินค้า
ระหว่างกันก็ตาม ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการและ Professor Chan Heng Chee ต่างเห็นพ้อง และหวังว่า
อาเซียนจะสามารถเปน็ ตัวแปรในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากบั จนี ต่อไปในอนาคต
-------------------------------
ภาคผนวก
(๑)
กาหนดการเดนิ ทางไปประชุมทวิภาคี และเยอื นองค์กรและหน่วยงานตา่ ง ๆ
ณ สาธารณรัฐสงิ คโปร์
ของคณะกรรมาธิการการตา่ งประเทศ วฒุ สิ ภา
ระหวา่ งวันพฤหสั บดีที่ ๘ – วนั เสารท์ ี่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๕
----------------------------
วันพฤหสั บดีท่ี ๘ กนั ยายน ๒๕๖๕ (ทา่ อากาศยานสวุ รรณภูมิ-สงิ คโปร์)
เวลา ๐๖.๓๐ นาฬิกา : คณะเดนิ ทางพร้อมกัน ณ ทา่ อากาศยานสุวรรณภูมิ
เวลา ๐๙.๔๐ นาฬกิ า : ออกเดินทางไปท่าอากาศยานชางงี
โดยเครือ่ งบนิ โดยสารของ Singapore Airlines
เท่ยี วบนิ ท่ี SQ705
เวลา ๑๓.๐๕ นาฬิกา : เดินทางถงึ ท่าอากาศยานชางงี
เวลา ๑๔.๐๐ นาฬกิ า : ออกเดนิ ทางไปโรงแรมท่พี กั
ณ โรงแรม Conrad Centennial Singapore
เวลา ๑๔.๑๕ นาฬกิ า : เดินทางถงึ โรงแรม Conrad Centennial Singapore
เวลา ๑๔.๓๐ นาฬกิ า : รบั ประทานอาหารกลางวัน ณ โรงแรมทีพ่ ัก
เวลา ๑๕.๓๐ นาฬกิ า : ออกเดินทางไปรฐั สภาสาธารณรัฐสิงคโปร์
เวลา ๑๖.๐๐-๑๗.๐๐ นาฬิกา : เขา้ เยย่ี มคารวะ และหารือข้อราชการกับ
สมาชกิ รัฐสภาสาธารณรฐั สิงคโปร์
เวลา ๑๗.๑๕ นาฬิกา : เดินทางกลบั โรงแรมที่พกั
เวลา ๑๘.๓๐ นาฬกิ า : ออกเดินทางไปโรงแรม Four Seasons
เวลา ๑๘.๔๕ นาฬิกา : เดนิ ทางถงึ โรงแรม Four Seasons
เวลา ๑๙.๐๐ นาฬกิ า : รบั ประทานอาหารคา่ /พบปะและแลกเปลีย่ นความเห็น
เวลา ๒๒.๐๐ นาฬกิ า กบั นกั ธุรกิจสงิ คโปร์
: เดินทางกลบั โรงแรมท่ีพกั
วันศุกรท์ ่ี ๙ กนั ยายน ๒๕๖๕ (สิงคโปร์)
เวลา ๐๘.๐๐ นาฬิกา : รับประทานอาหารเชา้
เวลา ๐๙.๑๐ นาฬกิ า : ออกเดินทางไปสถานเอกอัครราชทตู ไทย ณ สิงคโปร์
เวลา ๐๙.๒๕ นาฬกิ า : เดนิ ทางถงึ สถานเอกอัครราชทตู ไทย ณ สงิ คโปร์
เวลา ๐๙.๓๐-๑๐.๓๐ นาฬิกา : เข้าเยย่ี มคารวะและรบั ฟังบรรยายสรปุ จากนายชตุ นิ ทร คงศักด์ิ
เอกอคั รราชทูต ณ สงิ คโปร์ เกี่ยวกบั ความสมั พนั ธ์ระหว่าง
ไทยกบั สิงคโปร์ ทัง้ ในดา้ นสังคมเศรษฐกจิ วัฒนธรรมและอ่นื ๆท่เี กี่ยวข้อง
(๒)
เวลา ๑๐.๓๕ นาฬกิ า : ออกเดนิ ทางไป Prime Minister Office
เวลา ๑๑.๐๐ นาฬกิ า : เดนิ ทางถงึ Prime Minister Office
เวลา ๑๑.๐๐-๑๒.๐๐ นาฬกิ า : พบปะและประชุมรว่ มกับผแู้ ทน Strategy Group
เวลา ๑๒.๓๐ นาฬกิ า : รับประทานอาหารกลางวนั
เวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกา : ออกเดินทางไป Yusof Ishak Institute (ISEAS)
เวลา ๑๔.๓๐ นาฬกิ า : เดินทางถงึ ISEAS
เวลา ๑๔.๓๐-๑๕.๓๐ นาฬกิ า : พบปะและประชุมรว่ มกับผแู้ ทน ISEAS
เวลา ๑๕.๓๕ นาฬิกา : เดินทางกลบั โรงแรมทีพ่ กั
เวลา ๑๖.๐๐ นาฬิกา : เดินทางถงึ โรงแรมทพ่ี ัก
เวลา ๑๗.๓๐ นาฬิกา : ออกเดนิ ทางไปโรงแรม St. Regis
เวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกา : เดินทางถงึ โรงแรม St. Regis
เวลา ๑๘.๐๐ นาฬกิ า : รับประทานอาหารคา่
เวลา ๑๙.๓๐ นาฬิกา : เดนิ ทางกลบั โรงแรมทีพ่ กั
วันเสาร์ท่ี ๑๐ กนั ยายน ๒๕๖๕ (สิงคโปร์-ทา่ อากาศยานสวุ รรณภมู ิ)
เวลา ๐๘.๐๐ นาฬกิ า : รบั ประทานอาหารเชา้
เวลา ๑๐.๐๐-๑๑.๓๐ นาฬิกา : พบปะและหารอื กบั Professor Chan Heng Chee,
Chairperson of ISEAS ณ โรงแรมท่ีพัก
เวลา ๑๒.๐๐ นาฬิกา : รบั ประทานอาหารกลางวนั
เวลา ๑๔.๓๐ นาฬิกา : ออกเดนิ ทางไปทา่ อากาศยานชางงี
เวลา ๑๔.๕๐ นาฬกิ า : เดินทางถงึ ทา่ อากาศยานชางงี
เวลา ๑๗.๓๐ นาฬิกา : เดินทางกลบั กรงุ เทพฯ โดยเคร่ืองบินโดยสารของ
เวลา ๑๙.๐๐ นาฬิกา Singapore Airlines เท่ยี วบนิ ท่ี SQ 714
: เดินทางถงึ ทา่ อากาศยานสวุ รรณภูมิ
-----------------------------
(๓)
รายชื่อคณะเดนิ ทางไปประชุมทวิภาคี และเยอื น
ณ สาธารณรฐั สงิ คโปร์
ระหวา่ งวนั พฤหสั บดีท่ี ๘ ถึงวนั เสาร์ท่ี ๑๐ กันยายน ๒๕๖๕
ของคณะกรรมาธกิ ารการตา่ งประเทศ วุฒสิ ภา
----------------------------
กรรมาธกิ าร
๑. นางพกิ ุลแกว้ ไกรฤกษ์ ประธานคณะกรรมาธกิ าร
๒. พลเอก สุรพงษ์ สวุ รรณอตั ถ์ รองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนท่ีสอง
๓. ศาสตราจารย์พิเศษกาญจนารัตน์ ลวี โิ รจน์ รองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนท่สี าม
๔. นางดวงพร รอดพยาธ์ิ เลขานกุ ารคณะกรรมาธกิ าร
๕. พลเอก นาวนิ ดาริกาญจน์ รองโฆษกคณะกรรมาธิการ คนท่ีหนึ่ง
๖. พลเอก ธีรเดช มีเพียร ประธานที่ปรกึ ษาคณะกรรมาธิการ
๗. นายสวุ พันธ์ุ ตันยวุ รรธนะ ทีป่ รึกษาคณะกรรมาธกิ าร
๘. นางผาณติ นิตทิ ณั ฑ์ประภาศ ท่ีปรึกษาคณะกรรมาธกิ าร
๙. พลเอก ฉตั รเฉลมิ เฉลมิ สุข ทป่ี รกึ ษาคณะกรรมาธกิ าร
๑๐. นายสมชาย ชาญณรงคก์ ลุ กรรมาธกิ าร
๑๑. นายบรรชา พงศ์อายกุ ูล กรรมาธิการ
๑๒. นายกูรดิสถ์ จนั ทรศ์ รชี วาลา กรรมาธกิ าร
เจ้าหนา้ ท่ี วิทยากรชานาญการ
๑. นางกญั จนก์ มล พิธรตั น์ (เลขานุการคณะเดนิ ทาง)
นกั วเิ ทศสมั พนั ธช์ านาญการ
๒. นางศวิ พร แกว้ วเิ ศษ (ผ้ชู ว่ ยเลขานกุ ารคณะเดินทาง)
------------------------
(๔)
ความสมั พันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรฐั สิงคโปร์
ด้านรัฐสภา
ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาไทยและรัฐสภาสิงคโปร์อยู่ในระดับดี โดยในระดับทวิภาคไี ทยได้
จัดต้ังกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-สิงคโปร์ขึ้น เม่ือวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๔๘ เพ่ือเป็นส่ือกลางใน
การแลกเปล่ียนความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศ และได้ดาเนินกิจกรรมเพื่อกระชับ
ความสัมพันธ์ระหวา่ งรัฐสภาทั้งสองตลอดมา ทงั้ รปู แบบการรบั รองบุคคลสาคญั และการแลกเปลย่ี นการ
เยือนระหวา่ งกนั และไดม้ กี ารเลอื กต้งั กรรมการบรหิ ารฯ ชดุ ใหม่เมือ่ วนั ที่ ๘ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๕
รายช่อื คณะกรรมการบรหิ ารกลุม่ มิตรภาพฯ ไทย-สิงคโปร์ ชดุ ปัจจุบันประกอบด้วย
๑. นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ (ส.ส.) ประธาน
๒. นางผาณิต นติ ทิ ัณฑป์ ระภาศ (ส.ว.) รองประธาน
๓. พลตารวจตรี สุพิศาล ภักดนี ฤนาถ (ส.ส.) กรรมการ
๔. นายซูการ์โน มะทา (ส.ส.) กรรมการ
๕. นายเฉลียว เกาะแกว้ (ส.ว.) กรรมการบรหิ าร
๖. นางกอบกลุ อาภากร ณ อยุธยา (ส.ว.) กรรมการบริหาร
๗. นายพสิ ฐิ ลี้อาธรรม (ส.ส.) กรรมการบรหิ าร
๘. นายนคิ ม บุญวเิ ศษ (ส.ส.) กรรมการบริหาร
๙. นายทววี งษ์ จลุ กมนตรี (ส.ว.) กรรมการและเลขานุการ
นอกจากนี้ ยงั มกี ารแลกเปลีย่ นการเยอื น ศึกษาดูงานและประชมุ ระหวา่ งกัน อาทิ
ฝ่ายไทย
- ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้า
คณะผแู้ ทนสมาชกิ สภานติ ิบัญญัติแหง่ ชาติ นาคณะผ้แู ทนไทยเดนิ ทางไปเขา้ รว่ มการประชุมใหญ่สมัชชา
รัฐสภาอาเซียน (AIPA) คร้ังท่ี ๓๙ ระหว่างวันที่ ๓-๗ กนั ยายน ๒๕๖๑ ณ สาธารณรฐั สิงคโปร์
- นายวิทวสั บุญญสถติ ย์ โฆษกคณะกรรมาธกิ ารการเศรษฐกจิ การเงนิ และการคลงั พรอ้ มดว้ ย
นายเจน นาชัยศิริ กรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และการแรงงาน เดินทางไป
เข้ารว่ มการประชุมเชิงปฏิบัติการสมาชกิ รัฐสภาว่าด้วยการคา้ ระหวา่ งประเทศ คร้ังท่ี ๙ ปี ระหว่างวันที่
๖-๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ สาธารณรฐั สิงคโปร์
- พลอากาศเอก ชาลี จันทร์เรือง ประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-สิงคโปร์
นาคณะผูแ้ ทนกลุ่มมติ รภาพฯ เข้ารว่ มการประชมุ ทวภิ าคกี บั Ms. Foo Mee Har สมาชกิ รัฐสภาสงิ คโปร์
รองประธานกลมุ่ มิตรภาพสมาชกิ รัฐสภาสิงคโปร์-ไทย เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๙
(๕)
ฝ่ายสิงคโปร์
- น าย ตัน ช ว น - จิ น (H.E. Mr. Tan Chuan-Jin)ป ร ะ ธ าน รั ฐ สภ าสิ งคโ ปร์ เ ข้ า ร่ ว ม
การประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ ๔๐ ระหว่างวันที่ ๒๕-๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๒ และเข้าพบปะ
หารือทวิภาคีกับศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในวันอังคารที่ ๒๗ สิงหาคม
๒๕๖๒ ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรงุ เทพฯ
- นายชาร์ลส์ จง รองประธานรัฐสภาสิงคโปร์และคณะ เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมเตรียมการ
ของคณะผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียน๙ (AIPA-ASEAN Interface) ครั้งท่ี ๙ ในวันที่ ๒๑ มิถุนายน
๒๕๖๒
ระดบั ข้าราชการ
- คณะข้าราชการสานักงานเลขาธิการวุฒิสภาเดินทางไปศึกษาดูงาน ต่างประเทศ
เพ่ือเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ด้านการสนับสนุนระบบงานนิติบัญญัติ ณ สาธารณรัฐ
สงิ คโปร์ ระหวา่ งวันท่ี ๒๓-๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๗
- คณะข้าราชการสานักงานเลขาธิการวุฒิสภาเดินทางไปศึกษาดูงานการเตรียม
ความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในการจัดทาข้อมูลวิชาการ ระหว่างวันที่ ๑๗-๒๑ กันยายน ๒๕๕๕
โดยคณะไดม้ ีโอกาสรับฟังการบรรยายสรุปหัวขอ้ ดังกลา่ วจากรฐั สภาสงิ คโปร์
- คณะข้าราชการสานักงานเลขาธกิ ารวุฒิสภาเดนิ ทางไปศกึ ษาดงู านดา้ นการพฒั นาองค์การ ณ
สาธารณรฐั สิงคโปร์ เมอื่ วันท่ี ๑๓-๑๗ กนั ยายน ๒๕๕๓
ในระดับพหุภาคี รัฐสภาของท้ังสองประเทศยังเป็นภาคีสมาชิกสหภาพรัฐสภา (Inter-
Parliamentary Union: IPU)สมัชชารฐั สภาอาเซียน (ASEAN Inter-Parliamentary Assembly: AIPA)
และรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (Asia-Pacific Parliamentary Forum: APPF) ร่วมกัน
ทาให้สมาชกิ ของรัฐสภาทั้งสองไดม้ โี อกาสพบปะกันบ่อยครง้ั
ทั้งน้ี ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐสภาภาคพ้ืนเอเชียและแปซิฟิก (Asia-
Pacific Parliamentary Forum: APPF) ครั้งที่ ๓๐ ณ อาคารรัฐสภาไทย ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๖-๒๙ ตลุ าคม
๒๕๖๕ นี้ หวังว่า สมาชิกรัฐสภาท้ังสองฝ่ายจะได้พบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ
ในการประชุมดังกล่าวนี้
ดา้ นการทตู
ไทยและสงิ คโปร์ไดส้ ถาปนาความสัมพนั ธ์ทางการทตู ระหวา่ งกันเม่อื วนั ท่ี ๒๐กนั ยายน ๒๕๐๘
ความสัมพันธ์ได้ดาเนินมาอย่างราบร่ืนมาตลอด ๕๗ ปี และได้พัฒนาไปเป็นลักษณะ "หุ้นส่วนทาง
ยุทธศาสตร์" ในการดาเนินการเชิงรุกในภูมิภาคและระดับระหว่างประเทศ อาทิ การเร่งรัดรวมตัวทาง
เศรษฐกิจของอาเซียนตามแนวทาง ๒+x และความร่วมมือเพ่ือลดช่องว่างทางการพัฒนาแก่ประเทศ
สมาชกิ ใหม่อาเซยี น (กัมพชู า ลาว เวียดนามและพม่า)
(๖)
ไทยกบั สิงคโปร์มมี ุมมองในประเด็นด้านภูมภิ าคคลา้ ยกนั โดยให้ความสาคัญกบั การเสริมสรา้ ง
ความเข้มแข็งของประชาคมอาเซียน การรักษาความเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในภูมิภาค และการ
เสรมิ สร้างดลุ อานาจทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมหาอานาจในภมู ิภาค โดยเฉพาะสหรัฐฯ กบั จนี
ไทยกับสิงคโปร์มีกลไกความร่วมมือทวิภาคีหลัก ๔ กรอบ ได้แก่ (๑) การหารือระหว่าง
นายกรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (Prime Ministerial Retreat) (๒) โครงการความร่วมมือระหว่าง
หน่วยราชการพลเรือนไทย-สิงคโปร์ (Civil Service Exchange Programme: CSEP) ครอบคลุมความ
ร่วมมือ ๑๓ สาขา (๓) Singapore-Thailand Enhanced Economic Relationship (STEER) (จัดตั้ง
ข้ึนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๕) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจใน
อตุ สาหกรรม ๕ สาขา ได้แก่ การเกษตรและอาหาร การทอ่ งเท่ียว การบริการทางการเงนิ อิเล็กทรอนกิ ส์
และชิ้นส่วนประกอบยานยนต์และการขนส่ง และเป็นการนาร่องการรวมตัวทางเศรษฐกิจในกรอบ
อาเซียนตามแนวทาง ๒+x และ (๔) ความร่วมมือด้านการทหาร
ไทยและสิงคโปร์มีจุดแข็งและมีศักยภาพที่เอ้ือประโยชน์ต่อกันเป็นอย่าง ดี ไทยมี
ทรัพยากรธรรมชาติ มีแรงงานจานวนมากและมีพื้นที่กว้างใหญ่ ส่วนสิงคโปร์ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ
และพน้ื ท่ีน้อย แต่มีความก้าวหน้าทางด้านทรัพยากรมนุษย์ เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมระดับสูง จงึ ได้
มีการนาจุดแข็งของทั้งสองประเทศมาใช้ร่วมกันจนนาไปสู่การส่งเสริมความ สัมพันธ์และการพัฒนา
รว่ มกนั ทยี่ งั่ ยืน
เอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ คนปัจจุบัน คือ นายชุตินทร คงศักด์ิ และมีหน่วยงานในสถาน
เอกอัครราชทตู ได้แก่ สานักงานผู้ช่วยทูตฝา่ ยทหาร สานักงานสง่ เสรมิ การค้าในต่างประเทศ สานักงาน
แรงงาน และสานกั งานการทอ่ งเท่ยี วแหง่ ประเทศไทย
เอกอัครราชทตู สงิ คโปรป์ ระจาประเทศไทยคนปัจจบุ ัน คอื นายเควิน ฉ็อก (H.E. Mr. Kevin Cheok)
การเยือนท่สี าคญั
ฝา่ ยไทย
- สมเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า เจ้าฟ้ามหาจักรสี ริ นิ ธร มหา
วชิราลงกรณวรราชภกั ดี สริ กิ จิ การิณีพีรยพฒั น รัฐสมี าคณุ ากรปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี จะเสดจ็ พระ
ราชดาเนนิ เยือนสาธารณรฐั สิงคโปร์ ระหวา่ งวนั ที่ ๑๗ ถงึ วันท่ี ๑๙ กรกฏาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
- สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จ
พระราชดาเนินเยือนสาธารณรฐั สิงคโปร์ ในวนั ท่ี ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๒ ในการเสด็จพระราชดาเนินเยือน
คร้ังนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงนา
นกั เรียนนายร้อยและคณะขา้ ราชการโรงเรยี นนายร้อยพระจุลจอมเกลา้ ไปทศั นศกึ ษาสถานท่สี าคญั ต่าง ๆ
- สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ ๘-๙
กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๑
- นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางเข้าร่วมการ
ประชมุ รัฐมนตรเี ศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งท่ี ๕๐ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๘-๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๑
(๗)
ฝา่ ยสิงคโปร์
- นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรสี ิงคโปร์เดนิ ทางเยอื นประเทศไทยเพ่ือเข้าร่วมการประชุมสุดยอด
อาเซียน ครัง้ ท่ี ๓๔ เมอ่ื วันท่ี ๒๓ มถิ ุนายน ๒๕๖๒ ณ กรุงเทพฯ
- พลจัตวา โก๊ะ ซือ เฮา ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ เข้าเยี่ยมคานับ พลเอก เทพพงศ์ ทิพย
จันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของ
กองทัพบก เมอ่ื วนั ท่ี ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑
- Dr. Koh Poh Koon รัฐมนตรีแห่งรัฐอาวุโสของสิงคโปร์ กระทรวงการค้าอุตสาหกรรม และ
กระทรวงการพัฒนาแห่งชาติ เดินทางเยือนประเทศไทย ในโอกาสเปิดสานักงาน TheSingapore Global
Innovation Alliance (GIA) ณ กรุงเทพฯ เม่อื วนั ที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๑
- นายโก๊ะ จ๊ก ตง รัฐมนตรีอาวุโสเกียรติคุณสิงคโปร์ เดินทางมาเยือนและเข้าเย่ียมคารวะพล
เอก ประยทุ ธ์ จันทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรี เมื่อวันท่ี ๑๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๐
ดา้ นเศรษฐกจิ
ไทยพร้อมใหร้ ่วมมือกับสิงคโปร์เพื่อเพ่ิมมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยไทยขอให้
สิงคโปร์สนับสนุนความร่วมมือด้าน start–ups และ e-commerceเนื่องจากเห็นว่าสิงคโปร์
มีความโดดเด่นในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสาหรับ start-upsและมีความก้าวหน้าทาง
เทคโนโลยีเปน็ อย่างมาก โดยสิงคโปร์เลอื กเปิดสานักงาน Global Innovation Alliance หรือ GIA เป็น
แห่งที่ ๔ ณ กรุงเทพฯ (สานักงาน GIA ๓ แห่ง ได้แก่ เมืองซานฟรานซิสโก กรุงปักก่ิง และกรุงจาการ์ตา)
ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านนวัตกรรม และระบบนิเวศเทคโนโลยี ระหว่าง start-upsไทยกับ
สงิ คโปรท์ าให้ start-ups ของสองประเทศมกี ารเตบิ โต และมีการแลกเปล่ยี นแนวคดิ ระหว่างกนั สาหรับ
ไทยมีสถาบันพฒั นาผูป้ ระกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA)ทีท่ าหนา้ ทฝ่ี กึ อบรม และพัฒนาศักยภาพ start–
ups ในการดาเนินธุรกิจในโลกการค้ายุคใหม่ ทาให้ไทยและสิงคโปร์มีความร่วมมือในด้านนี้กันมากข้ึน
เชน่ การแลกเปลี่ยนประสบการณแ์ ละองค์ความรู้ การจัดฝึกอบรมเพอื่ พฒั นา start–ups รว่ มกัน เปน็ ตน้
เป้าหมายของการต้ังสานักงาน The Singapore Global Innovation Alliance (GIA)
ในไทย คือ การช่วยให้บริษัทสตาร์ทอัพสิงคโปร์เข้าถึงตลาดเพ่ือโอกาสทางธุรกิจได้ง่ายขึ้น รวมท้ัง
ผลักดนั ความร่วมมือระหวา่ งบริษทั สตารท์ อัพสิงคโปร์และไทย เพือ่ ร่วมสร้างสรรค์โซลูชนั่ ดา้ นนวตั กรรม
สร้างโอกาสในการเป็นผู้ประกอบการและนวัตกรรม ด้วยการเปิดโอกาสให้นักศึกษาและนักเรียนใน
สิงคโปรไ์ ดท้ าความเข้าใจและสัมผัสภูมิทัศน์ด้านเทคโนโลยีของไทยผ่านการฝึกงานและโปรแกรมตา่ ง ๆ
ในอนาคต
มลู คา่ การคา้ ระหวา่ งไทยกบั สงิ คโปร์ ปี ๒๕๖๕
ในปี ๒๕๖๕ (ม.ค. - พ.ค. ๖๕) สิงคโปร์เป็นคู่ค้าอันดับท่ี ๘ ของไทย (อันดับที่ ๔
ในอาเซยี น รองจากมาเลเซยี เวยี ดนาม และอนิ โดนีเซยี ) ในขณะที่ไทยเปน็ คูค่ า้ อันดับที่ ๑๐ ของสงิ คโปร์
การค้าในชว่ ง ๕ เดือนแรกมมี ูลค่า ๘,๐๙๓ ล้านดอลลาร์สหรฐั เพ่ิมขึ้นร้อยละ ๒๖ จากช่วงเดียวกันของ
ปกี ่อนหนา้
(๘)
การลงทนุ ระหวา่ งไทยกบั สงิ คโปร์ ปี ๒๕๖๔
ในปี ๒๕๖๔ สิงคโปร์เป็นผู้ลงทุนอันดับที่ ๓ ของไทย (รองจากญี่ปุ่นและจีน) โดยมีมูลค่าการ
ลงทุนรวม ๒๙,๖๖๙ ล้านบาท จานวน ๙๖ โครงการ และเปน็ ผลู้ งทนุ อนั ดับหน่ึงของไทยในอาเซยี นเป็น
ระยะเวลาต่อเน่ืองกว่า ๑๐ ปี การลงทุนของสิงคโปร์ในไทยมีมูลค่าเงินลงทุนส่วนใหญ่มาจากโครงการ
ขนาดใหญ่ อาทิ กิจการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์และแผงเซลล์แสงอาทิตย์ กิจการผลิตรถยนต์และ
รถบรรทกุ ขนาดเล็ก กิจการผลิต หวั ฉีดเชื้อเพลงิ กจิ การศูนย์กระจายสนิ ค้าระหว่างประเทศ กิจการผลติ
ชิ้นส่วนยานพาหนะ และกิจการผลิตช้ินส่วนสาหรับยานยนต์ รวมถึงกิจการการผลิตอาหาร เหมืองแร่
และเหมอื งหิน และการผลิตกระดาษ
ดา้ นความมนั่ คง
ไทยกับสิงคโปร์ดาเนินความสัมพันธ์ภายใต้กรอบ Singapore - Thailand Enhanced
Partnership (STEP) มกี ลไกทวิภาคสี าคัญ ๔ กลไก ได้แก่ (๑) การประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหวา่ ง
นายกรัฐมนตรี (Leaders’ Retreat) ซ่ึงสิงคโปร์เป็นเจ้าภาพเม่ือปี ๒๕๕๙ (๒) โครงการความร่วมมือ
ระหว่างหน่วยราชการไทย กับสิงคโปร์ (Civil Service Exchange Program - CSEP) โดยสิงคโปร์เป็น
เจา้ ภาพการประชุม CSEP ครงั้ ท่ี ๑๓ เมื่อวนั ท่ี ๒๑ - ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ (๓) การประชุม Singapore
- Thailand Enhanced Economic Relationship (STEER) คร้ังที่ ๕ ซึง่ ฝา่ ยสิงคโปรเ์ ป็นเจา้ ภาพเมอ่ื ปี
๒๕๖๐ และไทยมีแผนจะเป็นเจ้าภาพการประชุม STEER ครั้งที่ ๖ ในเดือนตุลาคม ๒๕๖๕ (๔) ความ
รว่ มมือด้านความม่ันคงผา่ นการแลกเปลีย่ นการเยอื นระหว่างผ้บู งั คับบัญชาระดับสูงอย่างสม่าเสมอ การ
ประชุม Defence Policy Dialogue ระดับรองปลัดกระทรวงกลาโหม ซ่ึงไทยเป็นเจ้าภาพครั้งแรกใน
วันท่ี ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕) และการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านการฝึกบุคลากร และการซ้อมรบร่วม
อาทิ การฝึกรว่ มผสม Cope Tiger การฝกึ Cobra Gold การฝกึ SINGSIAM และการฝกึ Kocha Singa
ดา้ นการทอ่ งเที่ยว
ในปี ๒๕๖๔ นักท่องเท่ียวชาวสงิ คโปร์เดินทางมาไทยจานวน ๕,๙๔๑ คน ขณะทนี่ ักท่องเที่ยว
ชาวไทยเดินทางไปสิงคโปร์จานวน ๔,๓๗๙ คน ท้ังน้ี ระหว่างเดือนมกราคม-สิงหาคม ๒๕๖๕
นักท่องเทย่ี วชาวสิงคโปร์เดนิ ทางเข้าประเทศไทยมากเป็นลาดับท่ี ๔ จานวน ๒๑๓,๕๒๓ คน
การผ่อนปรนมาตรการเขา้ ประเทศสิงคโปรท์ าให้มีนักเดินทางท่สี ะสมมานานกลับมาท่องเท่ยี ว
เพิ่มข้ึนอีกครั้ง มีการคาดการณ์ตัวเลขนักท่องเท่ียวต่างชาติ จะเข้าสิงคโปร์ในปี ๒๕๖๕ประมาณ ๔-๖
ลา้ นคน
ภายหลังเปิดประเทศภายใต้นโยบายฉีดวัคซีน (Vaccinated Travel Framework) ตาม
ประกาศใช้เมื่อวันท่ี ๑ เมษายน ๒๕๖๕ ท่ีผ่านมา ทาให้เกิดกระแสการเดินทางท่ัวโลกเพิ่มขึ้น และ
ในช่วงคร่ึงปีแรกของปีน้ี มีนักท่องเท่ียวเดินทางมาเยือนสิงคโปร์ถึง ๑.๕ ล้านคน มากกว่าในช่วงเวลา
เดยี วกนั ของปี ๒๕๖๔ ถึง ๑๒ เทา่ ซึ่งการท่องเที่ยวสงิ คโปร์ยงั คงเปน็ หน่วยงานหลักท่ีพัฒนาและสง่ เสรมิ
ภาคการท่องเที่ยวด้วยข้อเสนอพเิ ศษใหม่ ๆ และแนวคิดใหม่ ๆ ท่จี ะชว่ ยสร้างความน่าสนใจ และโปรโมทให้
(๙)
สิงคโปร์เป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางจากท่ัวโลกต่างสนใจมาเยือน รวมถึงการเพิ่มศักยภาพ
ทางด้านอื่น ๆ อย่างการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการท่องเท่ียวอย่างย่ังยืน หรือ Wellness&
Sustainability และหลังจากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปสิงคโปร์
รวมถงึ นกั ทอ่ งเทย่ี วสงิ คโปร์เดินทางเยือนประเทศไทยเป็นจานวนมากขึ้น
คนไทยในสงิ คโปร์
ในปี ๒๕๖๔ มีคนไทยในสิงคโปร์ประมาณ ๓๐,๐๐๐ คน ในจานวนน้ี เป็นแรงงาน
ประมาณ ๑๘,๐๐๐ คน โดยทางานในภาคก่อสร้าง ๑๓,๐๐๐ คน ภาคอุตสาหกรรม ๑,๕๐๐ คน ภาค
บริการ ๑,๔๐๐ คน ภาคเกษตร ๖๐ คน และอ่ืน ๆ ๒,๐๙๐ คน ในจานวนนี้เป็นแรงงานผิดกฎหมาย
ประมาณ ๑๕๐ คน
------------------------------
สาธารณรฐั สิงคโปร์ (Republic of Singapore)
มเี สถยี รภาพทางการเมอื งสูงโดยมพี รรค People’s Action Party (PAP) บริหารประเทศตง้ั แตก่ ่อต้ังประเทศ
ทาใหม้ คี วามต่อเน่อื งของนโยบาย รัฐบาลมธี รรมาภิบาล เปน็ ผู้นาด้าน e-government
มนี โยบายการทูตเชิงรุก เปน็ ผู้นาของอาเซียนประเทศหนงึ่ และเปน็ ประธานอาเซียนเมอ่ื ปี ๒๕๖๑
เป็นศูนย์กลางภูมิภาคด้านธุรกจิ การค้าและบรกิ าร โทรคมนาคม การเงนิ และมเี ปา้ หมายเป็น
ศูนย์กลางเทคโนโลยสี ารสนเทศ พลงั งาน และเคมภี ัณฑ์
มีระบบโครงสรา้ งสาธารณูปโภคพนื้ ฐานและเทคโนโลยสี ารสนเทศท่ีทนั สมัย
เปน็ พันธมติ รและหนุ้ ส่วนยทุ ธศาสตร์กบั ไทยทัง้ ในด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ มีระบบการศกึ ษา
และการแพทย์ท่ดี รี ะดบั แนวหน้าของเอเชีย และให้ความสาคัญกบั การพฒั นาทรัพยากรมนุษย์
ขอ้ มลู ทวั่ ไป
พน้ื ท่ี ๗๒๘.๓ ตร. กม. (ประมาณเกาะภูเก็ต) ประธานาธบิ ดี นางฮะลีมะห์ ยาคอบ (๑๔ กันยายน ๒๕๖๐ - ปัจจุบัน)
เมอื งหลวง สงิ คโปร์ นายกรัฐมนตรี นายลี เซยี น ลุง (๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗ - ปจั จบุ นั )
ประชากร ๕.๔๕ ลา้ นคน (ประมาณ ๑ ใน ๓ รมว.กต. ดร. วิเวยี น บาลากริชนนั (๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ - ปัจจุบัน)
ของประชากรเป็นชาวต่างชาติ)
ภาษาราชการ จีนกลาง องั กฤษ มลายู และทมิฬ วันชาติ ๙ สิงหาคม (ครบ ๕๐ ปี การสถาปนาประเทศในปี ๒๕๕๘)
ศาสนา พุทธมหายาน (๔๒.๕%) ไม่มศี าสนา (๒๕%) วันสถาปนาความสัมพนั ธ์ทางการทตู กับไทย ๒๐ กันยายน ๒๕๐๘
อิสลาม (๑๔.๙%) ครสิ ต์ (๑๔.๖%) ฮินดู (๔%)
ขอ้ มลู เศรษฐกจิ (๒๕๖๔)
GDP ๓.๓๗ แสนลา้ นดอลลาร์สหรฐั สกุลเงิน ดอลลาร์สงิ คโปร์ (๑ ดอลลารส์ ิงคโปร์ เท่ากบั ๒๖ บาท
(ไทย: ๕.๐๖ แสนลา้ นดอลลารส์ หรัฐ) สถานะ ๒๒ ส.ค. ๒๕๖๕)
GDP per Capita ๕๘,๔๘๔ ดอลลารส์ หรฐั เงนิ ทนุ สารอง ๓.๑๔ แสนลา้ นดอลลารส์ หรัฐ (สถานะ มิ.ย. ๒๕๖๕)
(ไทย: ๗,๒๕๖ ดอลลารส์ หรฐั ) (ไทย: ๒.๒๕ แสนลา้ นดอลลารส์ หรัฐ สถานะ มิ.ย. ๒๕๖๕)
Real GDP Growth ขยายตวั ร้อยละ ๗.๖ อตั ราเงินเฟ้อ รอ้ ยละ ๖.๖๗ (สถานะ มิ.ย. ๒๕๖๕)
(ไทย: ร้อยละ ๑.๕) (ไทย: รอ้ ยละ ๗.๖ สถานะ ม.ิ ย. ๒๕๖๕)
ทรัพยากรสาคญั ทรพั ยากรมนุษย์ เทคโนโลยี
อตุ สาหกรรมหลัก การผลิต การกอ่ สร้าง การคมนาคมขนส่ง และโทรคมนาคม การเงนิ และการธนาคาร และการบริการอนื่ ๆ
สนิ ค้าสง่ ออกทีส่ าคญั เครอ่ื งจกั รไฟฟ้า อปุ กรณ์การขนส่ง เคมีภัณฑ์และอปุ กรณเ์ คมี สินคา้ แปรรปู และน้ามนั ปโิ ตรเลียม
ตลาดสง่ ออกที่สาคัญ จีน ฮอ่ งกง มาเลเซยี สหรัฐฯ สหภาพยุโรป อินโดนเี ซยี ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญีป่ ่นุ และไทย
สนิ ค้านาเขา้ ทส่ี าคัญ แผงวงจรไฟฟา้ น้ามนั ปิโตรเลยี ม น้ามนั ดบิ ทองคา คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์ สว่ นประกอบอากาศยาน
ตลาดนาเขา้ ท่สี าคญั จนี มาเลเซยี ไตห้ วัน สหภาพยโุ รป สหรฐั ฯ เกาหลีใต้ ญี่ปุน่ อินโดนเี ซยี ไทย และฮอ่ งกง
สถติ ทิ ีส่ าคัญไทย - สงิ คโปร์ (๒๕๖๓ - ๒๕๖๔)
มูลค่าการคา้ รวม สิงคโปรเ์ ปน็ คูค่ ้าอนั ดับท่ี ๕ ของไทย ในขณะท่ไี ทยเปน็ คคู่ า้ อันดับที่ ๑๐ ของสงิ คโปร์ ในปี ๒๕๖๔ การค้าระหวา่ งไทยกับ
สนิ ค้าส่งออกของไทย สิงคโปร์มมี ลู คา่ รวม ๑๖,๓๗๕ ลา้ นดอลลาร์สหรฐั (ลดลงรอ้ ยละ ๓.๖๕ เม่อื เทียบกับปี ๒๕๖๓) ไทยส่งออก ๙,๐๑๐
สนิ คา้ นาเขา้ จากสิงคโปร์ ลา้ นดอลลาร์สหรฐั นาเขา้ ๗,๓๖๕ ล้านดอลลารส์ หรัฐ และไดด้ ลุ การค้า ๑,๖๔๕ ลา้ นดอลลารส์ หรฐั
การลงทุน อัญมณีและเคร่อื งประดับ / นา้ มนั สาเร็จรูป / แผงวงจรไฟฟ้า / เครื่องคอมพวิ เตอร์ อปุ กรณ์และส่วนประกอบ / เคร่อื งยนต์
การทอ่ งเท่ียว สนั ดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ / เคมภี ณั ฑ์ / ข้าว / เครอื่ งจักรกลและส่วนประกอบของเครอื่ งจักรกล /
คนไทยในสงิ คโปร์ เครอื่ งปรบั อากาศและสว่ นประกอบ / รถยนต์ อปุ กรณ์และส่วนประกอบ
นักโทษไทยในสงิ คโปร์ เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ อปุ กรณ์และสว่ นประกอบ / เครือ่ งเพชรพลอย อัญมณี เงนิ แท่งและทองคา/ เคมภี ณั ฑ์ / นา้ มนั
สานักงานของไทยในสงิ คโปร์ สาเร็จรูป / แผงวงจรไฟฟา้ / พืชและผลิตภณั ฑจ์ ากพืช / เครอื่ งจกั รกลและสว่ นประกอบ / ผลติ ภณั ฑ์อาหารอ่ืน ๆ /
สานักงานของสงิ คโปร์ในไทย เครือ่ งจักรไฟฟ้าและสว่ นประกอบ / กระดาษและผลติ ภัณฑ์กระดาษ
ในปี ๒๕๖๔ สงิ คโปร์เป็นผู้ลงทนุ อันดับท่ี ๓ ของไทย (รองจากญ่ีปุ่น และจีน) โดยมีมลู ค่าการลงทนุ รวม ๒๙,๖๖๙ ลา้ นบาท
จานวน ๙๖ โครงการ และเป็นผ้ลู งทนุ อนั ดบั หนึ่งของไทยในอาเซียนเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกวา่ ๑๐ ปี
ในปี ๒๕๖๔ นักทอ่ งเทยี่ วชาวสิงคโปร์เดนิ ทางมาไทยจานวน ๕,๙๔๑ คน ขณะทน่ี ักท่องเทยี่ วชาวไทยเดนิ ทางไปสิงคโปร์
จานวน ๔,๓๗๙ คน
ในปี ๒๕๖๔ มีคนไทยในสิงคโปร์ประมาณ ๓๐,๐๐๐ คน ในจานวนน้ี เปน็ แรงงานประมาณ ๑๘,๐๐๐ คน โดยทางานในภาค
ก่อสร้าง ๑๓,๐๐๐ คน ภาคอุตสาหกรรม ๑,๕๐๐ คน ภาคบรกิ าร ๑,๔๐๐ คน ภาคเกษตร ๖๐ คน และอืน่ ๆ ๒,๐๙๐ คน ใน
จานวนนเ้ี ป็นแรงงานผดิ กฎหมายประมาณ ๑๕๐ คน
มีนักโทษไทยในสิงคโปร์ ๑๕ คน เปน็ ชาย ๗ คน หญงิ ๘ คน สว่ นใหญ่ถกู ดาเนินคดขี อ้ หายาเสพตดิ
สงิ คโปร์ (สถานเอกอคั รราชทูต)
กรุงเทพฯ (สถานเอกอคั รราชทตู )
สิงหาคม ๒๕๖๕
(๑๓)
เอกสารประกอบการประชุมทวิภาคี
Strategy Group, PMO
Singapore’s Whole-of-
Government
Strategic Planning System
Meeting with Delegation from Thailand’s
Senate Committee on Foreign Affairs
9 Sep 2022
Presented by: Strategy Group,
Prime Minister’s Office
1
OFFICIAL (CLOSED) \ NON-SENSITIVE
Strategy Group was set up in 2015 to bring Singapore
Government together on national priorities
“ The office will support the Prime Minister and
his Cabinet to establish priorities and
strengthen strategic alignment across
Government. It will create the capacity and
space for Government to do medium to long-
term planning – three, five, 10 years, and
even further into the future. It will help build
a shared understanding of the Government’s
priorities, and be responsible for strategic
resource allocation, in terms of budget,
manpower, and where necessary, land, or
”even carbon emissions.
Then-Deputy Prime Minister Teo Chee Hean,
when announcing the formation of the unit,
on 1 Apr 2015
2
OFFICIAL (CLOSED) \ NON-SENSITIVE
Strategy Group leads four key central functions…
Prime Minister and Cabinet
Serving as a nexus between the Political Office Holders & Public Service
Strategy Group
Whole-of-Govt Whole-of-Govt Strategic Systems
strategic policy Resource Governance
planning Management
coordination,
support and
development
Leading and organising the Public Service
Public Service
3
OFFICIAL (CLOSED) \ NON-SENSITIVE
.. to provide impetus for change and ensure clear intent
and unity of action across Government
Set Ambition Ensure Alignment Enable Action
• Chart out collective • Ensure coherence and • Set up systems and
direction coordination across structures to translate
agencies on strategic priorities into outcomes
• Provide impetus for change, priorities
rallying the Singapore Public • Drive the development of
Service to push bounds of • Align these priorities with key enablers e.g. data-
ambition in how we plan the necessary resourcing driven policymaking
and build for the long term and capability development
4
OFFICIAL (CLOSED) \ NON-SENSITIVE
Strategy Group coordinates across all Ministries and
Statutory Boards to deliver our policy agenda…
Centre of Government
Coordinates policy agenda across Ministries and Statutory Boards
Public Service
Economic Social Infrastructure Security
Statutory
Boards Ministries
5
… and leads the Centre-of-Government agencies
Public Service Communications a. Communicating Whole-of-Govt
Division Group priorities through an annual Planning
Guidance issued to all agencies
Strategy Centre-of- Ministry of Culture,
Group Government Community & b. Ensuring these priorities are well-
Youth resourced with funding and workforce
levers
Ministry of Finance Science & Tech c. Supporting capability-building in cross-
Office cutting functional areas, such as
Smart Nation & Science, Tech and Engineering, Service
Digital Gov Delivery, and Partnerships &
Office Engagement
6
OFFICIAL (CLOSED) \ NON-SENSITIVE
Strategy Group stewards Singapore’s whole-of-
Government strategic planning system
Strategic foresight Informs • Translate insights into strategies
• Set common direction & priorities
• Understand driving forces, future trends &
implications for Whole-of-Government
• Translate longer-term scenarios and key Strategies Translates into
uncertainties into nearer-term insights (e.g.
Plan with resourcing angle,
from research studies, quantitative & qualitative data) optimise resourcing of planned
Ensure Accountability Resourcing priorities, for long-term
accountability of sustainability
progress & Policies Develop policies &
outcomes and & Plans programmes to
deliver value execute priorities
Track and evaluate effectiveness of Outcomes
policies & programmes
Implementation
Implement policies & programmes,
7 and ensure resources, capabilities &
OFFICIAL (CLOSED) \ NON-SENSITIVE
structures enable us to deliver well
Within this system are two main planning processes - Big
Loops and Small Loops
BIG LOOP Year 1 Year 2 Year 3 Year 4 Year 5
Once every Strategic Medium-term Implementation
~4-5 years Foresight Policy Agenda
Feedback between the two
to ensure agile planning
SMALL LOOPS
~Annually
(e.g. Regular sense-
making, policy-
making)
8
OFFICIAL (CLOSED) \ NON-SENSITIVE