93
4. โครงการอบรมพัฒนาแผนดจิ ทิ ลั หนว่ ยงานสังกดั กรมสุขภาพจิต
หลกั การและเหตุผล
ตามนโยบายเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของรัฐบาล ให้หน่วยงานภาครัฐจัดท�ำแผนพัฒนาดิจิทัลเพ่ือให้
ก้าวทันต่อสถานการณ์โลกดิจิทัลท่ีมีการเปลี่ยนแปลง กรมสุขภาพจิตได้ด�ำเนินงานพัฒนาระบบเทคโนโลยี
สารสนเทศด้านสุขภาพจิตและจิตเวช ให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และเป็นส่วนส�ำคัญในการสนับสนุน
การขบั เคลอื่ นงานตามยทุ ธศาสตรส์ ขุ ภาพจติ และตอบสนองนโยบายรฐั บาลในการใชโ้ มเดลการขบั เคลอ่ื นประเทศ
ด้วยนวัตกรรม หรือ “ไทยแลนด์ 4.0” และให้สอดรับกับยุทธศาสตร์เทคโนโลยีสารสนเทศสุขภาพ กระทรวง
สาธารณสุข ส�ำนกั เทคโนโลยสี ารสนเทศ ได้จัดทำ� “แผนพฒั นาดิจทิ ัล กรมสขุ ภาพจติ ฉบับที่ 1” (ปงี บประมาณ
พ.ศ. 2562 – 2565) วิสัยทัศน์ ภายในปี 2565 กรมสุขภาพจิตเป็นองค์กรดิจิทัล ด้านสุขภาพจิตและจิตเวช
ปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ก�ำหนดเป้าประสงค์ยุทธศาสตร์ให้หน่วยงาน สังกัดกรมสุขภาพจิต มีการด�ำเนินงาน
ตามแผนพัฒนาดิจิทัล กรมสุขภาพจิต และเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ ให้หน่วยงานในสังกัดกรมสุขภาพจิต
มแี ผนพฒั นาดจิ ทิ ลั ของหนว่ ยงาน รอ้ ยละ 80 จำ� เปน็ ตอ้ งสอื่ สารแผนดงั กลา่ วฯใหห้ นว่ ยงานในสงั กดั กรมสขุ ภาพจติ
ใช้เป็นแนวทางในการดำ� เนินงาน พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสุขภาพจิตไปในทิศเดียวกัน และให้เกิด
การนำ� ไปปฏิบตั จิ ริง และทำ� ใหอ้ งคก์ รมปี ระสิทธภิ าพและพรอ้ มให้บริการประชาชนมีสขุ ภาพจติ ทีด่ ี
ผลผลิต / ผลลัพธ์ทีไ่ ดจ้ ากการด�ำเนินงาน
1. หนว่ ยงานในสงั กดั กรมสขุ ภาพจติ ดำ� เนนิ งานตามแผนพฒั นาดจิ ทิ ลั กรมสขุ ภาพจติ ฉบบั ที่ 1 ในทศิ ทาง
เดยี วกัน
2. หนว่ ยงานในสงั กดั กรมสขุ ภาพจติ พฒั นาแผนพฒั นาดจิ ทิ ลั เปน็ แนวทางในการดำ� เนนิ งานพฒั นาระบบ
เทคโนโลยีสารสนเทศสุขภาพจิตสูก่ ารปฏิบัติจริง
94 รปาีงยบงปารนะมปารณะจ�ำ2ป5ีก63รมสุขภาพจิต
5. โครงการอบรมพัฒนาระบบความม่ันคงปลอดภยั ไซเบอร์ (Cyber Security)
หลักการและเหตผุ ล
ตามพระราชบัญญัติการรักษาความม่ันคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 ก�ำหนดให้หน่วยงานภาครัฐ
ดำ� เนนิ การกำ� หนดโครงสรา้ งพน้ื ฐานสำ� คญั ทางสารสนเทศของหนว่ ยงานใหเ้ ปน็ มาตรฐานมแี นวทางปฏบิ ตั ใิ นการ
รักษาความม่ันคงปลอดภัยไซเบอร์ พร้อมท้ังเฝ้าระวังภัยคุกคาม ตลอดจนแผนรับมือเพ่ือกู้คืนระบบให้กลับมา
ทำ� งานไดต้ ามปกติ ตลอดจนใหค้ วามรว่ มมอื และประสานงานกบั สำ� นกั งานรกั ษาความมน่ั คงปลอดภยั ไซเบอรข์ อง
ประเทศไทย และตามแผนพฒั นาดจิ ทิ ลั กรมสขุ ภาพจติ ฉบบั ท่ี 1 (ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 – 2565) ยทุ ธศาสตร์
ท่ี 3 สรา้ งความม่ันคงปลอดภัยทางดจิ ิทลั ตามมาตรฐานสากล ใหม้ รี ะบบรกั ษาความม่นั คงปลอดภัยไซเบอรแ์ ละ
พัฒนาคุณภาพระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพระบบเทคโนโลยี
สารสนเทศพรอ้ มทงั้ กำ� หนดแนวปฏบิ ตั ใิ นการรกั ษาความมน่ั คงปลอดภยั ไซเบอร์ ใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมายทเี่ กย่ี วขอ้ ง
โดยหน่วยงานสังกัดกรมสุขภาพจิตใช้เป็นแนวทางในการด�ำเนินงานระบบรักษาความม่ันคงปลอดภัยไซเบอร์
ไปในทิศทางเดยี วกัน ท�ำใหอ้ งค์กรเกดิ ประสิทธิภาพ พร้อมใหบ้ ริการประชาชนใหม้ สี ุขภาพจิตท่ดี ี
ผลผลิต / ผลลัพธ์ทไ่ี ดจ้ ากการดำ� เนินงาน
1. กรมสุขภาพจิตมีโครงสร้างพนื้ ฐานสำ� คัญทางสารสนเทศที่เปน็ มาตรฐาน
2. กรมสุขภาพจิตมีแนวทางปฏิบัตใิ นการรักษาความมน่ั คงปลอดภยั ไซเบอร์
3. บุคลากรในสังกัดกรมสขุ ภาพจติ มีความร้คู วามเขา้ ใจ เกีย่ วกับการรกั ษาความมัน่ คงปลอดภยั ไซเบอร์
และน�ำไปปฏิบัติใหเ้ กดิ ประโยชน์อย่างมีประสิทธภิ าพตอ่ หนว่ ยงาน
95
6. โครงการพฒั นาทกั ษะดา้ นดจิ ทิ ลั สำ� หรบั บคุ ลากรภาครฐั เพอ่ื การปรบั เปลย่ี นเปน็ รฐั บาลดจิ ทิ ลั
หลกั การและเหตผุ ล
ในการประชุมเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2560 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการพัฒนาทักษะด้าน
ดิจิทัลของข้าราชการและบุคลากรภาครัฐเพื่อการปรับเปล่ียนเป็นรัฐบาลดิจิทัล ตามท่ีส�ำนักงาน ก.พ. เสนอ
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ภาครัฐมีกําลังคนที่มีทักษะด้านดิจิทัลท่ีเหมาะสมที่จะเป็นกลไกขับเคลื่อนภารกิจที่
ทนั กบั การเปลยี่ นแปลงดา้ นเทคโนโลยี มคี วามพรอ้ มทจี่ ะปฏบิ ตั งิ านตามบทบาทและพฤตกิ รรมทค่ี าดหวงั ในบรบิ ท
ของการปรับเปลยี่ นเปน็ รฐั บาลดิจทิ ัล และสามารถนาํ เทคโนโลยีดจิ ิทลั มาใช้ให้เกิดประโยชนส์ ูงสุด
สำ� หรบั กรมสขุ ภาพจติ ไดด้ ำ� เนนิ การพฒั นาทกั ษะดา้ นดจิ ทิ ลั ของบคุ ลากรทกุ กลมุ่ ประเภท คอื ขา้ ราชการ
พนักงานราชการ ลูกจา้ งประจำ� และพนักงานกระทรวงสาธารณสุข โดยอาศัยกลไกการขับเคลื่อนงานตามแผน
ยทุ ธศาสตร์ ผา่ นระบบบรหิ ารผลการปฏบิ ตั งิ านทกี่ ำ� หนดใหท้ กุ หนว่ ยงานดำ� เนนิ การพฒั นาบคุ ลากรในหนว่ ยงาน
ตามค�ำรับรองการปฏิบัติราชการระหว่างกรมสุขภาพจิตกับหน่วยงานในสังกัดกรมสุขภาพจิตทุกหน่วยงาน
โดยมตี วั ชว้ี ดั ผลดำ� เนนิ การ คอื รอ้ ยละของบคุ ลากรในสงั กดั กรมสขุ ภาพจติ ไดร้ บั การพฒั นาใหม้ คี วามรู้ และทกั ษะ
ด้านการใช้ขอ้ มลู สอื่ และเทคโนโลยดี ิจทิ ัล (MIDL) (เป้าหมายร้อยละ 80) นอกจากน้ีในทกุ หลกั สูตรการพฒั นา
บุคลากรที่ได้อนุมัติให้ด�ำเนินการ ได้มีการก�ำหนดให้ทุกหลักสูตรมีเน้ือของการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลเป็น
สว่ นหนึง่ ของหลักสูตรทีจ่ ัดด้วย รวมทั้งการกำ� หนดหลักสูตรด้านดจิ ิทัลท่กี ำ� หนดให้บคุ ลากรตอ้ งไดร้ บั การพัฒนา
เพื่อให้เกดิ ทกั ษะในการท�ำงานนอกสำ� นกั งาน (Work Form Home) สามารถให้บริการและปฏบิ ัตงิ านตามแผน
ไดอ้ ยา่ งตอ่ เนือ่ ง ในชว่ งทีเ่ กดิ วิกฤตกิ ารณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคโคโรนา 2019 (COVID-19)
วัตถุประสงค์
1. เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มแกผ่ เู้ ขา้ รบั การอบรมในการกา้ วสกู่ ารพฒั นาบรกิ ารดา้ นดจิ ทิ ลั ทมี่ กี ารบรู ณาการ
ระหว่างหน่วยงาน ทง้ั ระดบั หนว่ ยงานย่อยไปจนถงึ ระดบั กรมและกระทรวง
2. เพอื่ สรา้ งความตระหนกั ถงึ บทบาทหนา้ ทใี่ นการพฒั นาตนเอง พฒั นางานและการทำ� งานรว่ มกบั ผอู้ น่ื
3. เพื่อการสรา้ งความเชื่อมโยงข้อมูล บรกิ าร ไปจนถงึ การดำ� เนินงาน เพอ่ื ยกระดับประสทิ ธภิ าพในการ
ปฏิบัติงานและการใหบ้ ริการของรัฐ
ผลลพั ธ์ทเี่ กดิ ข้นึ
1. บุคลากรในสงั กดั กรมสขุ ภาพจิต ไดร้ บั การพฒั นาทกั ษะด้านจทิ ลั รอ้ ยละ 91
2. ผู้ได้รับการพัฒนามีทักษะด้านจิทัลที่พร้อมการปรับเปล่ียนเป็นรัฐบาลดิจิทัล สามารถปฏิบัติงาน
และให้บริการด้านดิจิทัลไดใ้ นทุกระดับขององค์กร ตัง้ แตห่ น่วยงาน กรม และกระทรวง
3. ผู้ได้รับการพัฒนาทราบถึงบทบาทหน้าที่ของตนเองยอมรับการพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ือง และ
สามารถทำ� งานกับผอู้ นื่ ได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพทั้งในภาวะปกตแิ ละภาวะวกิ ฤติ
4. ขอ้ มูลการใหบ้ ริการตา่ ง ๆ มีการเชื่อมโยงทกุ ระดบั สามารถใชข้ ้อมูลร่วมกนั ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
96 ปรางี ยบงปารนะมปารณะจ�ำ2ป5ีก63รมสขุ ภาพจิต
การเคพิด่อื เชสงิรกอ้าางอรสกอรแบรบครบ์งมาห(นDลแeักลsสะigูตนnรวTัตhกiรnรkมing)
สกู่ ารเป็นองคอก์ กบรารดรมจิปหทิ รลลัับักเ(สปDตูลigรี่ยiพtนaัฒอlงนTคrาก์aผnรู้นs�ำf ormation)
ด้วยการปกราะรยทกุ �ำตวใ์ ิจชยัเ้ ทอคอโนนไโลลนย์ ใี นยคุ 4.0
97
7. โครงการเสรมิ สร้างความสุขบคุ ลากรเพอ่ื การพัฒนาไปสกู่ ารเปน็ องค์กรแหง่ ความสขุ
(Happy Organization)
หลักการและเหตผุ ล
กรมสุขภาพจิตได้ด�ำเนินการวัดความสุขของบุคลากรโดยใช้แบบส�ำรวจคุณภาพชีวิต ความสุขและ
ความผูกพันในองค์กร เพ่ือประเมินความสุขบุคลากรกรมสุขภาพจิต (Happinometer) และประเมินสุขภาวะ
องคก์ รภาครัฐ (Happy Organization Public Index : HPI) จากผลการประเมนิ จะสามารถวดั ความสขุ ของ
บคุ ลากรได้ โดยมกี ารจำ� แนกรายมติ ดิ งั นี้ มติ สิ ขุ ภาพดี มติ ผิ อ่ นคลายดี มติ นิ ำ้� ใจดี มติ จิ ติ วญิ ญาณดี มติ คิ รอบครวั ดี
มิตสิ ังคมดี มติ ิใฝ่รูด้ ี มิตสิ ุขภาพเงนิ ดี และมติ กิ ารงานดี กรมสขุ ภาพจิตเลง็ เห็นความส�ำคัญของการปฏริ ปู ระบบ
ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายในการพฒั นาคนใหเ้ ปน็ คนดี มคี ณุ คา่ และมคี วามผาสกุ จงึ ไดก้ ำ� หนดใหท้ กุ หนว่ ยงานดำ� เนนิ การ
เสรมิ สรา้ งความสขุ แกบ่ คุ ลากร เพอ่ื พฒั นาหนว่ ยงานใหเ้ ปน็ องคก์ รแหง่ ความสขุ ตามคำ� รบั รองการปฏบิ ตั ริ าชการ
ระหวา่ งกรมสุขภาพจติ กับหนว่ ยงานในสังกัดกรมสขุ ภาพจติ ทกุ หนว่ ยงาน โดยมตี วั ชว้ี ัดผลดำ� เนินการ คอื ระดบั
ความส�ำเร็จของการพัฒนาไปสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุข (Happy Organization) ท้ังนี้ก�ำหนดเป้าหมายว่า
กรมสขุ ภาพจิตจะมหี น่วยงานท่ีเปน็ องคก์ รแห่งความสุขร้อยละ 80
ผลลัพธ์ท่เี กดิ ขึ้น
1. หน่วยงานมีการขับเคล่ือนแผนปฏิบัติการเสริมสร้างความสุขของบุคลากรไปสู่การเป็นองค์กร
แหง่ ความสุข ซง่ึ ผลด�ำเนนิ การทเี่ กิดขึน้ พบว่า มหี น่วยงานท่เี ป็นองค์กรแหง่ ความสุข รอ้ ยละ 100 (ได้ด�ำเนินการ
ตามระดับความสำ� เร็จทก่ี �ำหนด ได้ครบทกุ หน่วยงาน จ�ำนวน 47 หน่วยงาน)
2. หน่วยงานมีการเสริมสร้างความสุข ดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพให้คงอยู่กับองค์กร ซ่ึงจะ
ส่งผลให้บุคลากรเพ่ิมประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการท�ำงานให้บรรลุเป้าหมายรวมขององค์กร “ประชาชน
สุขภาพดี เจา้ หน้าที่มคี วามสขุ ระบบสุขภาพยง่ั ยนื ” โดยมกี ารจัดกิจกรรมอย่างเป็นรูปธรรม ให้ทุกหนว่ ยงานมี
การเสนอผลงานโดดเด่น 1 เร่ือง (Success Story หรอื Bright Spot)
98 รปาีงยบงปารนะมปารณะจ�ำ2ป5ีก63รมสุขภาพจติ
3. จัดกิจกรรมแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ (Learn & Share) เก่ียวกับองค์กรแห่งความสขุ มกี ารคดั เลอื กผลงาน
ทีโ่ ดดเดน่ (Success Story หรอื Bright Spot) ไดแ้ ก่ โดยมีผลการคดั เลอื ก ดงั นี้
ลำ� ดบั ท่ี 1 ชื่อ ผลงาน “มีน�้ำใจอารีย์ องค์กรแห่งความสุข” ของโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่น
ราชนครนิ ทร์
ล�ำดบั ท่ี 2 ชอื่ ผลงาน “องคก์ รแหง่ ความสุขคู่คุณธรรม” ของสถาบนั พฒั นาการเด็กราชนครินทร์
ลำ� ดบั ท่ี 3
3.1 ชื่อ ผลงาน “โครงการเสริมสร้างความสุขทางการเงินของมนุษย์เงินเดือน : ตลาดนัด
กัลยาณ”์ ของสถาบันกัลยาณร์ าชนครนิ ทร์
3.2 ชอ่ื ผลงาน “กจิ กรรมเสรมิ สรา้ งความสขุ ในรปู แบบ New Normal” ของสถาบนั สขุ ภาพจติ
เดก็ และวยั รนุ่ ราชนครนิ ทร์
3.3 ชอ่ื ผลงาน “โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร การพฒั นาบคุ ลากรจากภานในสกู่ ารพฒั นาการ
ท�ำงานอยา่ งยัง่ ยืน” ของโรงพยาบาลสวนปรุง
ส่วนท่ี 3
รายงานการเงนิ
100 รปางี ยบงปารนะมปารณะจ�ำ2ป5กี63รมสขุ ภาพจติ
ส่วนที่ 3 รายงานการเงิน
1. รายงานการเงินของกรมสุขภาพจติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
ดว้ ยพระราชบัญญัตวิ นิ ัยการเงินการคลงั ของรัฐ พ.ศ. 2561 ก�ำหนดใหห้ น่วยงานของรฐั จดั ทำ� บัญชแี ละ
รายงานการเงินตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐ โดยรายงานการเงินประจ�ำ
ปีงบประมาณ ต้องประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการด�ำเนินงานทางการเงินทั้งเงินงบ
ประมาณ เงินนอกงบประมาณ และเงินอื่นใด รวมถึงการก่อหนี้ ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่
กระทรวงการคลังก�ำหนด และนำ� สง่ รายงานการเงินให้ส�ำนกั งานการตรวจเงินแผ่นดนิ เพอ่ื ตรวจสอบภายใน 90
วันนบั แต่วันสนิ้ ปีงบประมาณ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 กรมสุขภาพจิต จัดท�ำรายงานการเงินตามมาตรฐานและนโยบาย การบัญชี
ภาครัฐ โดยรวมรายการบัญชีทีเ่ กดิ ขน้ึ ทง้ั หนว่ ยงานส่วนกลาง และหน่วยงานในสว่ นภูมิภาค จ�ำนวน 21 หนว่ ย
ซ่ึงแต่ละหน่วยเบิกจ่ายรับผิดชอบบริหารจัดการเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณ ที่ได้รับการจัดสรร
โดยรายการบัญชีของหน่วยเบิกจ่ายทุกแห่ง ได้น�ำมาแสดงรวมไว้ในงบการเงินฉบับน้ี โดยมีกองบริหารการคลัง
เป็นผู้รับผิดชอบในการเสนอรายงานและจัดทำ� งบการเงนิ ภาพรวมของกรมสุขภาพจติ
นโยบายการบญั ชที ี่สำ� คัญ
วัสดุคงเหลือ บันทึกบัญชีโดยวิธีการตรวจนับเมื่อสิ้นงวด และตีราคาวัสดุคงเหลือตามราคาทุนโดยวิธี
เข้าก่อนออกก่อน (First in – First out : FIFO)
อาคาร และอปุ กรณ์
m อาคารและส่ิงปลูกสร้าง รวมทั้งส่วนปรับปรุงอาคาร ทั้งอาคารและส่ิงปลูกสร้างที่กรมสุขภาพจิตมี
กรรมสทิ ธแิ์ ละไมม่ กี รรมสทิ ธิ์ แตก่ รมสขุ ภาพจติ ไดค้ รอบครองและนำ� มาใชป้ ระโยชนใ์ นการดำ� เนนิ งาน แสดงมลู คา่
สทุ ธิตามบญั ชที ่ีเกิดจากราคาทุนหักคา่ เสือ่ มราคาสะสม อาคารทอ่ี ยูร่ ะหว่างการกอ่ สร้างแสดงตามราคาทุน
m อปุ กรณ์ ไดแ้ ก่ ครภุ ณั ฑป์ ระเภทตา่ งๆ รบั รเู้ ปน็ สนิ ทรพั ยเ์ ฉพาะรายการทม่ี มี ลู คา่ ตอ่ หนว่ ยตงั้ แต่ 5,000
บาท ขึน้ ไป แสดงมูลคา่ ตามมูลค่าสทุ ธิตามบญั ชีทเี่ กดิ จากราคาทุนหกั คา่ เสอื่ มราคาสะสม
m ค่าเส่ือมราคา บนั ทึกเป็นค่าใชจ้ ่ายในงบแสดงผลการดำ� เนินงานทางการเงนิ ค�ำนวณโดย วธิ ีเสน้ ตรง
ตามอายุการใชง้ าน
- อาคารสำ� นักงาน อายกุ ารใช้งาน 25 ปี
- ครภุ ณั ฑ์ส�ำนกั งาน อายกุ ารใช้งาน 8 ปี
- ครุภัณฑ์คอมพวิ เตอร ์ อายุการใชง้ าน 3 ปี
101
กรมสุขภาพจติ
งบแสดงฐานะการเงนิ
ณ วันที่ 30 กนั ยายน 2563
(หน่วย : บาท)
สนิ ทรัพย์ 2563 2562
สนิ ทรัพย์หมุนเวียน
เงินสดและรายการเทียบเทา่ เงินสด 808,944,433.22 1,066,595,469.30
ลกู หนีร้ ะยะสน้ั 535,067,196.67 684,900,992.04
ลกู หน้เี งินโอนและรายการอุดหนุนระยะสัน้ - -
เงนิ ใหก้ ยู้ มื ระยะส้นั - -
เงินลงทนุ ระยะส้ัน 23,266,445.73 23,122,518.61
สินคา้ และวสั ดุคงเหลือ 130,796,100.05 129,659,514.68
สนิ ทรพั ย์หมุนเวยี นอ่ืน - 33,386.60
รวมสนิ ทรัพย์หมนุ เวยี น 1,498,074,175.67 1,904,311,881.23
สนิ ทรัพย์ไม่หมุนเวยี น
ลูกหนี้ระยะยาว - -
ลกู หน้ีเงินโอนและรายการอุดหนนุ ระยะยาว - -
เงินใหก้ ้ยู มื ระยะยาว - -
เงินลงทนุ ระยะยาว - -
ทด่ี ิน อาคารและอปุ กรณ์ (สุทธิ) 3,487,370,718.01 3,154,835,296.29
สินทรพั ย์โครงสร้างพืน้ ฐาน (สทุ ธิ) 248,930.49 262,219.89
สนิ ทรัพย์ไมม่ ีตัวตน (สุทธ)ิ 5,844,854.55 2,079,777.99
สินทรัพย์ไมห่ มุนเวียนอ่ืน - -
รวมสนิ ทรัพยไ์ มห่ มุนเวียน 3,493,464,503.05 3,157,177,294.17
รวมสินทรัพย ์ 4,991,538,678.72 5,061,489,175.40
หมายเหตุ ข้อมลู จากระบบ GFMIS ณ วนั ที่ 20 ตลุ าคม 2563
102 รปางี ยบงปารนะมปารณะจ�ำ2ป5กี63รมสขุ ภาพจติ
กรมสุขภาพจติ
งบแสดงฐานะการเงิน
ณ วันที่ 30 กันยายน 2563
(หน่วย : บาท)
หนส้ี นิ 2563 2562
หน้สี ินหมุนเวยี น
เจ้าหนีร้ ะยะสนั้ 159,591,846.07 94,778,170.38
เจ้าหนีเ้ งนิ โอนและรายการอุดหนนุ ระยะสนั้ 22,869.00 22,869.00
รายได้แผน่ ดินรอน�ำสง่ คลัง - -
เงินทดรองราชการรับจากคลังระยะส้นั - -
เงินรบั ฝากระยะส้ัน 54,303,130.31 59,722,049.49
เงินกรู้ ะยะส้นั - -
หนสี้ นิ หมนุ เวียนอื่น 1,132.00 704,196.24
รวมหนส้ี นิ หมนุ เวยี น 213,918,977.38 155,227,285.11
หน้ีสินไมห่ มนุ เวยี น
เจา้ หน้ีระยะยาว - -
เงินทดรองราชการรบั จากคลงั ระยะยาว 15,430,000.00 15,430,000.00
เงนิ รบั ฝากระยะยาว - -
เงินก้รู ะยะยาว - -
รวมหน้สี ินไม่หมนุ เวยี นอน่ื 37,223,876.84 38,196,825.87
รวมหนี้สนิ ไมห่ มุนเวยี น 52,653,876.84 53,626,825.87
รวมหนี้สนิ 266,572,854.22 208,854,110.98
สนิ ทรัพยส์ ทุ ธิ/ส่วนทนุ 4,724,965,824.50 4,852,635,064.42
สินทรพั ย์สุทธ/ิ สว่ นทุน
ทนุ 2,760,626,763.11 2,760,584,263.11
รายไดส้ ูง (ต�่ำ) กวา่ คา่ ใช้จ่ายสะสม 1,964,339,061.39 2,092,050,801.31
รวมสนิ ทรัพยส์ ทุ ธิ/สว่ นทุน 4,724,965,824.50 4,852,635,064.42
หมายเหตปุ ระกอบงบการเงินเปน็ ส่วนหนง่ึ ของงบการเงินน ี้
103
กรมสขุ ภาพจติ
งบแสดงผลการดำ� เนินงานทางการเงิน
ส�ำหรับปี สิ้นสุดวนั ท่ี 30 กนั ยายน 2563
(หน่วย : บาท)
2563 2562
รายได้
รายได้จากงบประมาณ 4,299,424,077.87 4,239,590,404.45
รายได้จากเงนิ กู้และรายได้อ่ืนจากรฐั บาล - -
รายได้จากการขายสนิ ค้าและบรกิ าร 2,497,014,234.65 2,604,405,100.73
รายไดจ้ ากการอุดหนนุ และบริจาค 71,442,708.95 52,164,539.55
รายไดอ้ ื่น 54,416,443.25 43,402,341.74
รวมรายได ้ 6,922,297,464.72 6,939,562,386.47
คา่ ใชจ้ า่ ย
คา่ ใชจ้ า่ ยบุคลากร 2,635,657,584.01 2,609,690,038.62
ค่าบำ� เหนจ็ บำ� นาญ 746,996,767.46 678,147,703.33
ค่าตอบแทน 339,494,532.32 306,138,456.46
ค่าใช้สอย 44,871,078.28 923,473,240.38
ค่าวัสดุ 1,217,411,095.80 1,083,072,782.89
ค่าสาธารณูปโภค 139,109,227.41 134,511,882.99
คา่ เสื่อมราคาและคา่ ตัดจำ� หนา่ ย 381,214,814.40 346,821,430.60
ค่าใช้จา่ ยจากการอุดหนนุ และบริจาค 7,963,750.00 251,124.24
คา่ ใช้จ่ายอ่ืน 733,500,135.16 752,340,103.40
รวมคา่ ใช้จ่าย 7,046,218,984.84 6,834,446,762.91
รายได้สงู /(ต�่ำ) กวา่ คา่ ใช้จ่ายกอ่ นต้นทนุ ทางการเงนิ
ตน้ ทุนทางการเงนิ - -
รายไดส้ ูง/(ต�่ำ) กว่าคา่ ใชจ้ า่ ยสทุ ธิ (123,921,520.12) 105,115,623.56
หมายเหตปุ ระกอบงบการเงินเป็นส่วนหนง่ึ ของงบการเงินนี้
หมายเหตุ ขอ้ มูลจากระบบ GFMIS ณ วันที่ 20 ตลุ าคม 2563
104 ปรางี ยบงปารนะมปารณะจำ�2ป5กี63รมสุขภาพจิต
2. รายงานการวเิ คราะห์งบการเงินเปรยี บเทียบปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 กับ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 กรมสุขภาพจติ
ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เป็นต้นมา กรมสุขภาพจิตด�ำเนินการด้านการเงินการคลังด้วยระบบ
GFMIS เพยี งระบบเดยี ว เพื่อใหไ้ ดข้ อ้ มูลและรายงานการเงินทีส่ ะท้อนใหเ้ ห็นประสทิ ธภิ าพในการบริหารจดั การ
สินทรัพย์หรือทรัพยากรที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยงาน และให้เป็นไปตามรูปแบบรายงานการเงินของ
หน่วยงานภาครัฐตามมาตรฐานและนโยบายการบัญชีภาครัฐ รายงานการเงินส่วนน้ีใช้แหล่งท่ีมาของข้อมูลจาก
ระบบบรหิ ารการเงนิ การคลงั ภาครฐั ดว้ ยระบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ จากสถาบนั เฉพาะทางพฒั นาและถา่ ยทอดวชิ าการ
งานสุขภาพจิตและจิตเวช จ�ำนวน 8 แห่ง โรงพยาบาลจิตเวชในการให้บริการสุขภาพจิตครอบคลุมท่ัวประเทศ
จำ� นวน 12 แหง่ และศนู ยว์ ชิ าการในการสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การดำ� เนนิ ดา้ นสขุ ภาพจติ ชมุ ชนในพนื้ ทร่ี บั ผดิ ชอบ
ครอบคลุมการแบง่ เขตของกระทรวงสาธารณสุข จำ� นวน 12 เขตของประเทศ
และจากการบนั ทกึ รายการบญั ชใี นระบบ GFMIS ของหนว่ ยงานในสงั กดั กรมสขุ ภาพจติ จำ� นวน 21 หนว่ ย
เบิกจา่ ย สามารถวเิ คราะห์งบการเงนิ เปรยี บเทียบ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 กบั ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ของ
ส่วนราชการกรมสุขภาพจิต ในภาพรวมการวิเคราะหท์ างการเงิน ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. การวิเคราะห์การย่อส่วนตามแนวดิ่ง (Common Size Analysis) จากอัตราย่อส่วนตามแนวด่ิง
จะเห็นได้ว่า กรมสุขภาพจิตมีงบแสดงฐานะการเงิน ซ่ึงมีสัดส่วนของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดต่อ
สนิ ทรพั ยร์ วม ลดลงจาก 21.1 % ในปี 2562 เป็น 16.2 % ในปี 2563 สดั ส่วนของลูกหน้รี ะยะส้ันต่อสนิ ทรัพย์
รวม ลดลงจาก 13.5 % ในปี 2562 เปน็ 10.7 % ในปี 2563 สดั สว่ นท่ีดนิ อาคาร และอุปกรณ์ (สทุ ธิ) ต่อสินทรพั ย์
รวม เพ่ิมขึ้น 62.3 % ในปี 2562 เปน็ 69.9 % ในปี 2563 สัดสว่ นเจา้ หน้ีระยะสัน้ ต่อสินทรัพยส์ ทุ ธ/ิ ส่วนทุน
เพ่มิ ข้นึ จาก 2.0 % ในปี 2562 เปน็ 3.4 % ในปี 2563 สำ� หรบั งบแสดงผลการดำ� เนนิ งานทางการเงนิ สดั ส่วน
ของรายไดจ้ ากงบประมาณตอ่ รายได้รวม เพมิ่ ขึ้นจาก 61.1 % ในปี 2562 เป็น 62.1 % ในปี 2563 สัดสว่ นของ
รายได้จากการขายสินค้าและบรกิ าร (รายไดค้ า่ รักษาพยาบาล) ต่อรายไดร้ วม ลดลงจาก 37.5 % ในปี 2562
เปน็ 36.1 % ในปี 2563 สดั ส่วนคา่ ใชจ้ า่ ยบุคลากร ตอ่ รายไดร้ วม เพม่ิ ข้ึนจาก 37.6 % ในปี 2562 เป็น 38.1 %
ในปี 2563 สัดส่วนคา่ ตอบแทน ตอ่ รายไดร้ วม เพมิ่ ขึน้ จาก 4.4 % ในปี 2562 เป็น 4.9 % ในปี 2563 คา่ ใช้สอย
ต่อรายได้รวม ลดลงจาก 13.3 % ในปี 2562 เป็น 12.2 % ในปี 2563 ค่าวัสดุ ต่อรายได้รวม เพิ่มข้ึนจาก
15.6 % ในปี 2562 เป็น 17.6 % ในปี 2563 และคา่ สาธารณปู โภค ตอ่ รายได้รวม เพม่ิ ขึ้นจาก 1.9 % ในปี 2562
เป็น 2.0 % ในปี 2563 สดั ส่วนของค่าเส่อื มราคาและคา่ ตดั จ�ำหนา่ ย ต่อรายไดร้ วม เพม่ิ ขึ้นจาก 5.0 % ในปี 2562
เปน็ 5.5 % ในปี 2563
2. การวเิ คราะหต์ ามแนวโนม้ (Trend Analysis) จากอตั รายอ่ สว่ นตามแนวโนม้ /จำ� แนก ตามรายไดแ้ ละ
คา่ ใชจ้ า่ ย จะเหน็ ไดว้ า่ ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 กรมสขุ ภาพจติ มรี ายการในงบแสดงฐานะการเงนิ ทเี่ ปน็ เงนิ สด
และรายการเทียบเท่าเงนิ สด ลดลง ลกู หนี้ระยะสั้น ลดลง ส�ำหรับ อาคาร (สุทธิ) เพม่ิ ขึน้ ครภุ ัณฑ์ (สุทธิ) เพ่มิ ข้ึน
และสินทรัพย์ไม่มีตัวตน (สุทธิ) เพ่ิมขึ้น ส�ำหรับรายการในงบแสดงผลการด�ำเนินงานทางการเงิน จะเห็นได้ว่า
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 กรมสุขภาพจิตมีรายได้จากงบประมาณเพิ่มข้ึน รายได้ ค่ารักษาพยาบาลลดลง
และมรี ายไดจ้ ากการอดุ หนนุ และบรจิ าคเพมิ่ ขนึ้ คา่ ใชจ้ า่ ยบคุ ลากรเพมิ่ ขน้ึ คา่ ใชจ้ า่ ยบำ� เหนจ็ บำ� นาญเพม่ิ ขนึ้ และ
ค่าใช้จา่ ยด�ำเนินงานเพิม่ ขน้ึ และมคี า่ เสอ่ื มราคาและค่าตดั จ�ำหน่ายทีเ่ พิม่ ขนึ้ สอดคลอ้ งกับการทีก่ รมสขุ ภาพจิต
มสี ินทรพั ย์เพ่ิมมากข้นึ
105
3. การวเิ คราะหอ์ ัตราสว่ นทางการเงนิ (Ratio Analysis) จากสภาพคลอ่ งทางการเงิน (Short – term
Risk or Liquidity Risk) จะเห็นไดว้ า่ กรมสขุ ภาพจติ มีสภาพคลอ่ ง Current Ratio ลดลงจาก 12.27 ในปี 2562
เป็น 7.00 ในปี 2563 และ Quick Ratio ลดลงจาก 11.43 ในปี 2562 เปน็ 6.39 ในปี 2563 ความสามารถ
ในการบรหิ ารสินทรัพย์ โดยระยะเวลาเฉลยี่ ในการเรียกเก็บหนี้ลดลงจาก 112.85 วัน ในปี 2562 เป็น 103.45
วนั ในปี 2563 ส�ำหรบั การบริหารความเสี่ยงระยะยาว อัตราสว่ นหนี้สนิ รวมตอ่ สินทรพั ย์รวม เพ่มิ ขึ้นจาก 4.13
ในปี 2562 เปน็ 5.34 ในปี 2563 สรุป ปงี บประมาณ 2563 กรมสุขภาพจติ มรี ายไดน้ ้อยกวา่ คา่ ใชจ้ า่ ย ภาพรวม
ฐานะการเงินม่ันคงถึงแม้ว่าอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนเร็วจะลดลงจากปี 2562 แต่ก็ยังมีความสามารถในการ
ชำ� ระหน้สี นิ หมุนเวยี นไดเ้ ป็นอยา่ งดี สนิ ทรพั ย์ไม่หมนุ เวียน เพมิ่ ขน้ึ จาก ปี 2562 ซงึ่ สินทรัพยไ์ ม่หมุนเวยี นนี้จะ
สามารถกอ่ ใหเ้ กดิ รายไดท้ เี่ พม่ิ ขนึ้ ระยะเวลาเฉลย่ี ในการเรยี กเกบ็ หน้ี คา่ รกั ษาพยาบาลลดลงจากปี 2562 ประมาณ
9 วัน ส�ำหรับการบรหิ ารความเสย่ี งระยะยาว อตั ราส่วนหนสี้ ินรวมตอ่ สนิ ทรัพย์รวม ปี 2563 สงู กว่า ปี 2562
ขอ้ สงั เกต ในปงี บประมาณ 2563 กรมสขุ ภาพจติ มลี กู หนี้ คา่ รกั ษาพยาบาลคงเหลอื ลดลงจากปงี บประมาณ 2562
ร้อยละ 2.8 เมื่อเทยี บกบั รายไดค้ า่ รกั ษาพยาบาล ปงี บประมาณ 2563 ลดลงจากปงี บประมาณ 2562 ร้อยละ
1.4 แสดงถึงการเรียกเก็บหน้ีค่ารักษาพยาบาล ได้เพ่ิมข้ึน ซึ่งสอดคล้องกับระยะเวลาเฉล่ียในการเรียกเก็บหนี้
ค่ารกั ษาพยาบาลท่ลี ดลง จากปี 2562 ประมาณ 9 วัน
ข้อเสนอแนะ : หน่วยงานในสงั กัดกรมสุขภาพจติ ควรดำ� เนนิ การดงั ต่อไปน้ี
1. บรหิ ารสนิ ทรพั ยถ์ าวรหรอื ใชท้ รพั ยากรของหนว่ ยงานอยา่ งคมุ้ คา่ ใหเ้ กดิ รายไดแ้ ละประโยชน์
สูงสดุ
2. ให้ถือปฏิบัติตามมาตรการในการบริหารหนี้ค่ารักษาพยาบาล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการ
ด�ำเนินงาน โดยมีการเร่งรัดการเรียกเก็บหนี้ค่ารักษาพยาบาล (เฉพาะหน่วยงาน สถาบัน/
โรงพยาบาล)
3. ควบคมุ คา่ ใชจ้ า่ ยในการด�ำเนินงานของหนว่ ยงาน
106 รปาีงยบงปารนะมปารณะจ�ำ2ป5กี63รมสขุ ภาพจติ
- การวเิ คราะห์การยอ่ ส่วนตามแนวดิ่ง (Common Size Analysis) กรมสุขภาพจติ
วเิ คราะห์งบแสดงฐานะการเงนิ
ณ วนั ท่ี 30 กันยายน 2563 และ 2562
(พนั บาท) อตั รายอ่ สว่ นตามแนวดิ่ง
2563 2562 2563 2562
สินทรพั ย์
สินทรัพยห์ มนุ เวยี น
เงนิ สดและรายการเทียบเท่าเงนิ สด 808,944.4 1,066,595.5 16.2 21.1
ลกู หนี้ระยะส้นั 535,067.2 684,901.0 10.7 13.5
ลูกหนเ้ี งนิ โอนและรายการอดุ หนุนระยะสนั้ - - - -
เงนิ ให้กยู้ ืมระยะส้ัน - - - -
เงินลงทนุ ระยะส้นั 23,266.4 23,122.5 0.5 0.5
สินค้าและวัสดคุ งเหลือ 130,796.1 129,659.5 2.6 2.6
สินทรพั ย์หมุนเวยี นอ่นื - 33.4 - -
รวมสนิ ทรพั ย์หมนุ เวยี น 1,498,074.2 1,904,311.9 30.0 37.6
สินทรพั ยไ์ มห่ มุนเวยี น
ลกู หนร้ี ะยะยาว - - - -
ลกู หนี้เงนิ โอนและรายการอดุ หนุนระยะยาว - - - -
เงินให้ก้ยู มื ระยะยาว - - - -
เงนิ ลงทุนระยะยาว - - - -
ทดี่ ิน อาคารและอุปกรณ์ (สุทธ)ิ 3,487,370.7 3,154,835.3 69.9 62.3
สินทรพั ย์โครงสร้างพ้นื ฐาน (สุทธิ) 248.9 262.2 - -
สินทรัพยไ์ ม่มตี ัวตน (สทุ ธิ) 5,844.9 2,079.8 0.1 -
สินทรัพย์ไม่หมนุ เวียนอื่น - - - -
รวมสินทรัพยไ์ มห่ มนุ เวยี น 3,493,464.5 3,157,177.3 70.0 62.4
รวมสินทรัพย์ 4,991,538.7 5,061,489.2 100.0 100.0
107
วิเคราะหง์ บแสดงฐานะการเงนิ
ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 และ 2562
(พนั บาท) อัตราย่อสว่ นตามแนวด่ิง
2563 2562 2563 2562
หนีส้ นิ
หน้สี นิ หมุนเวียน
เจา้ หนี้ระยะสัน้ 159,591.8 94,778.2 3.4 2.0
เจา้ หนเ้ี งินโอนและรายการอดุ หนุนระยะสน้ั 22.9 22.9 - -
รายไดแ้ ผน่ ดนิ รอน�ำสง่ คลงั - - - -
เงนิ ทดรองราชการรับจากคลงั ระยะส้นั - - - -
เงินรับฝากระยะสน้ั 54,303.1 59,722.0 1.1 1.2
เงนิ กู้ระยะส้ัน - - - -
หนส้ี ินหมนุ เวียนอืน่ 1.1 704.2 - -
รวมหนส้ี ินหมนุ เวียน 213,919.0 155,227.3 4.5 3.2
หน้สี ินไมห่ มุนเวียน
เจา้ หนร้ี ะยะยาว - - - -
เงินทดรองราชการรับจากคลังระยะยาว 15,430.0 15,430.0 0.3 0.3
เงินรับฝากระยะยาว - - - -
เงินกรู้ ะยะยาว - - - -
รวมหน้ีสนิ ไมห่ มุนเวียนอ่นื 37,223.9 38,196.8 0.8 0.8
รวมหนส้ี ินไมห่ มุนเวยี น 52,653.9 53,626.8 1.1 1.1
รวมหนี้สิน 266,572.9 208,854.1 5.6 4.3
สนิ ทรัพย์สทุ ธ/ิ สว่ นทุน 4,724,965.8 4,852,635.1 94.4 95.7
สินทรพั ย์สทุ ธ/ิ ส่วนทนุ
ทนุ 2,760,626.8 2,760,584.3 58.4 56.9
รายได้สงู (ต่ำ� ) กว่าค่าใชจ้ า่ ยสะสม 1,964,339.1 2,092,050.8 41.6 43.1
รวมสินทรัพย์สทุ ธ/ิ สว่ นทุน 4,724,965.8 4,852,635.1 100.0 100.0
108 ปราีงยบงปารนะมปารณะจ�ำ2ป5กี63รมสุขภาพจิต
วิเคราะหง์ บแสดงผลการด�ำเนินงานทางการเงนิ
ส�ำหรับปี สน้ิ สุดวนั ท่ี 30 กนั ยายน 2563 และ 2562
(พันบาท) อตั รายอ่ ส่วนตามแนวดง่ิ
2563 2562 2563 2562
รวมรายได ้ 6,922,297.5 6,939,562.4 100 100
รายได้จากการดำ� เนินงาน
รายได้จากรัฐบาล
รายไดจ้ ากงบประมาณ
รายได้จากเงินกแู้ ละรายไดอ้ ืน่ จากรัฐบาล 4,299,424.1 4,239,590.4 62.1 61.1
รายได้จากการขายสินค้าและบริการ - - - -
รายไดจ้ ากการอดุ หนุนและบรจิ าค
รายไดอ้ น่ื 2,497,014.2 2,604,405.1 36.1 37.5
รวมรายได้ 71,442.7 52,164.5 1.0 0.8
54,416.4 43,402.3 0.8 0.6
100.0 100.0
6,922,297.5 6,939,562.4
คา่ ใช้จ่ายจากการดำ� เนนิ งาน
ค่าใชจ้ ่ายบุคลากร 2,635,657.6 2,609,690.0 38.1 37.6
ค่าบำ� เหน็จบำ� นาญ 746,996.8 10.8 9.8
ค่าตอบแทน 339,494.5 678,147.7 4.9 4.4
คา่ ใชส้ อย 844,871.1 306,138.5 12.2 13.3
คา่ วสั ดุ 1,217,411.1 923,473.2 17.6 15.6
ค่าสาธารณปู โภค 139,109.2 1,083,072.8 2.0 1.9
คา่ เสื่อมราคาและค่าตดั จ�ำหน่าย 381,214.8 134,511.9 5.5 5.0
คา่ ใช้จ่ายจากการอุดหนนุ และบรจิ าค 7,963.8 346,821.4 0.10
คา่ ใชจ้ ่ายอืน่ 733,500.1 10.6 -
รวมคา่ ใช้จา่ ยจากการดำ� เนินงาน 7,046,219.0 251.1 101.8 10.8
รายไดส้ งู (ต�ำ่ ) กว่าคา่ ใชจ้ า่ ย - 123,921.5 752,340.1 -1.8 98.5
จากการดำ� เนินงาน 6,834,446.8 - 1.5
รายได/้ ค่าใช้จา่ ยที่ไม่เกดิ จากการด�ำเนินงาน - 105,115.6 -1.8 -
รายไดส้ งู (ตำ่� ) กวา่ คา่ ใชจ้ า่ ยจากกจิ กรรมปกต ิ - 123,921.5 - 1.5
รายการพเิ ศษ - - -1.8 -
รายไดส้ ูง (ต�่ำ) กวา่ ค่าใชจ้ า่ ยกอ่ นรายการ - 123,921.5 105,115.6 1.5
รายไดแ้ ผน่ ดิน
-
105,115.6
109
22.-.กกกาาารรรวววเิ คเิ ิเคครราราะาะหะหOตหOตา์ตามมาแมแนนแวนวโโนวนม_โน_ม//้มจจำ/ำแจแนนำ� กแกตนตาากมมตรราาายมยไไรดดาแ_ แ_ ยลลไะดะคค้แา# า# ลใใชะชค_จ_จ#าา่ #ายใยช(จ้ (TTา่ rrยeenn(TddreAAnndnaalAlyynssaiissl)y)sis)
110 รปาีงยบงปารนะมปารณะจ�ำ2ป5ีก63รมสุขภาพจติ
- การวิเคราะหอ์ ัตราสว่ นทางการเงนิ (Ratio Analysis)
สตู ร ปี 2563 ปี 2562
3.1 การบรหิ ารสภาพคล่อง
อตั ราส่วนเงินทนุ หมนุ เวียน Current Ratio
สนิ ทรัพยห์ มนุ เวียน 1,498,074,175.67 1,904,311,881.23
หน้ีสินหมนุ เวยี น 213,918,977.38 155,227,285.11
= 7.00 = 12.27
อัตราสว่ นเงนิ ทนุ หมุนเวียนเรว็ Quick Ratio
สินทรพั ยห์ มุนเวียน – สนิ ค้าและวสั ดุคงเหลือ 1,498,074,175.67 - 130,796,100.05 1,904,311,881.23 - 129,659,514.68
หนสี้ ินหมุนเวยี น 213,918,977.38 155,227,285.11
= 6.39 11.43
3.2 ความสามารถในการบริหารสนิ ทรพั ย์
ลูกหน้ีถัวเฉลี่ย
ลูกหนี้ต้นปี + ลกู หน้ปี ลายป ี 807,297,514.46 + 628,699,544.20 824,374,933.84 + 807,297,514.46
2 2 2
= 717,998,529.33 = 815,836,224.15
อัตราการหมนุ ของลกู หนี้ (ครงั้ )
รายได้ค่ารักษาพยาบาล 2,496,128,627.40 2,604,405,100.73
ลูกหนถ้ี วั เฉลย่ี 717,998,529.33 815,836,224.15
= 3.48 = 3.19
ระยะเวลาเฉล่ยี ในการเรยี กเกบ็ หน้ี (วัน)
360 วัน 360 วนั 360 วัน
อตั ราการหมนุ ของลกู หน้ ี 3.48 3.19
= 103.45 วนั = 112.85 วัน
3.3 การบริหารความเสย่ี งระยะยาว
อัตราสว่ นหนี้สินตอ่ สินทรพั ยร์ วม
หนสี้ ินรวม x 100 266,572,854.22 x 100 208,854,110.98 x 100
สนิ ทรัพยร์ วม 4,991,538,678.72 5,061,306,492.49
= 5.34 = 4.13
สว่ นท่ี 4
โครงการส�ำคัญ
ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
112 รปางี ยบงปารนะมปารณะจ�ำ2ป5กี63รมสขุ ภาพจติ
สว่ นที่ 4 โครงการสำ� คญั ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
ยุทธศาสตร์ที่ 1 สง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ ปอ้ งกนั และควบคมุ ปจั จยั ทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ ปญั หาสขุ ภาพ
จติ ตลอดช่วงชวี ติ
1. โครงการรณรงค์ปอ้ งกันและแก้ไขปัญหายาเสพตดิ (TO BE NUMBER ONE)
หลักการและเหตุผล
โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิง
อบุ ลรตั นราชกญั ญา สริ วิ ฒั นาพรรณวดี เปน็ โครงการทด่ี ำ� เนนิ งานดา้ นการปอ้ งกนั ปญั หายาเสพตดิ ในกลมุ่ เยาวชน
วัยรุ่น ในรูปแบบใหม่ที่เข้าถึงจิตวิทยาวัยรุ่น ภายใต้ยุทธศาสตร์แห่งชาติท่ี 1 คือ การปลุกพลังแผ่นดินและ
การปอ้ งกันปญั หายาเสพติด
โครงการ TO BE NUMBER ONE มกี ารพฒั นาความสามารถทีเ่ ห็นเด่นชัดในเรือ่ งความกล้าพดู กล้าคดิ
กลา้ แสดงออก มจี ติ อาสา มภี าวะผนู้ ำ� มกี ารปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมในทางทด่ี ี จดุ แขง็ ของโครงการ TO BE NUMBER
ONE คอื การบรู ณาการความรว่ มมอื ระหวา่ งหนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ ง การสนบั สนนุ จากภาคสว่ นตา่ ง ๆ ทเ่ี ขา้ ใจและ
มองเห็นประโยชน์ท่ีจะเกิดกับเยาวชน การมียุทธศาสตร์และวิธีการด�ำเนินโครงการท่ียึดเยาวชนเป็นศูนย์กลาง
บนพ้ืนฐานการเข้าถึงสาเหตุของปัญหา เข้าใจธรรมชาติ พฤติกรรม และความต้องการของเยาวชนวัยรุ่นอย่าง
แทจ้ ริง ซง่ึ จากผลการด�ำเนนิ งานทีผ่ า่ นมา ทำ� ใหโ้ ครงการ TO BE NUMBER ONE เปน็ โครงการรณรงคท์ ีป่ ระสบ
ความสำ� เรจ็ และสรา้ งคณุ ภาพใหแ้ กเ่ ยาวชนตลอดมา แตก่ ารรณรงคป์ อ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ ตามแนวทาง
ของโครงการ TO BE NUMBER ONE ยงั คงตอ้ งด�ำเนนิ การต่อไปอย่างต่อเนอื่ ง เพ่ือให้ทันกบั สถานการณป์ ญั หา
ยาเสพตดิ และสรา้ งกระแสใหก้ ับเยาวชนกลุ่มเป้าหมายท่ีเติบโตมาจากกลมุ่ เด็กเขา้ สูก่ ลมุ่ วัยรุ่น
วัตถุประสงค์
1. เพอื่ สร้างกระแส “การเป็นหนง่ึ โดยไม่พึง่ ยาเสพติด”ในกล่มุ วัยรุน่ และเยาวชนอย่างตอ่ เนอื่ ง
2. เพอื่ ขยายบรกิ ารและกจิ กรรมเสรมิ สรา้ งภมู คิ มุ้ กนั ทางจติ ใหค้ รอบคลมุ กลมุ่ เปา้ หมายวยั รนุ่ และเยาวชน
3. เพอ่ื จดั บรกิ ารบำ� บดั รกั ษาและฟน้ื ฟจู ติ ใจเยาวชนสมาชกิ “ใครตดิ ยายกมอื ขนึ้ ” ตามแนวทางโครงการ
TO BE NUMBER ONE
4. เพอื่ สรา้ งการมสี ว่ นรว่ มของเยาวชน วยั รนุ่ ในการดำ� เนนิ กจิ กรรมสรา้ งสรรคท์ เี่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง
ชุมชน สงั คม และประเทศชาติ
5. เพือ่ สนับสนุนและเพิ่มโอกาส ใหผ้ ูเ้ สพ ผตู้ ดิ ยาเสพติด ในการกลับตวั เป็นคนดีของสงั คม
6. เพื่อพัฒนาการด�ำเนินงานด้านการป้องกันปัญหายาเสพติดในกลุ่มเยาวชนวัยรุ่น ส�ำหรับเครือข่าย
หนว่ ยงาน /องคก์ รภาครัฐ/เอกชนและสมาชิก TO BE NUMBER ONE ท่วั ประเทศ อยา่ งตอ่ เนื่องและยงั่ ยืน
7. เพอื่ สรา้ งขวัญก�ำลังใจแก่บคุ ลากรท่ีเกย่ี วข้องในการดำ� เนินงานป้องกันและแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ
ผลทค่ี าดวา่ จะได้รบั
1. กลมุ่ วัยรุน่ และเยาวชนมีคา่ นยิ ม “การเป็นหน่งึ โดยไมพ่ ่ึงยาเสพติด”
2. มีบรกิ ารและกิจกรรมเสริมสร้างภมู ิคุ้มกันทางจติ ใหค้ รอบคลุม กลุม่ เปา้ หมายวยั รนุ่ และเยาวชน
113
3. มีบริการบ�ำบัดรักษาและฟื้นฟูจิตใจเยาวชนสมาชิก “ใครติดยายกมือข้ึน” ตามแนวทางโครงการ
TO BE NUMBER ONE
4. กลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนมีส่วนร่วมในการด�ำเนินกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ชุมชน
สงั คม และ ประเทศชาติ
5. ผู้เสพ ผตู้ ดิ ยาเสพตดิ ได้รบั การสนับสนนุ และเพ่ิมโอกาส ให้ ในการกลบั ตวั เปน็ คนดีของสงั คม
6. เครือข่ายหน่วยงาน/องค์กรภาครัฐ และเอกชน และเครือข่ายสมาชิก TO BE NUMBER ONE
ท่ัวประเทศได้รับการพัฒนาในการด�ำเนินงานด้านการป้องกันปัญหายาเสพติดในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนอย่าง
ตอ่ เนื่อง
7. บุคลากรท่ีเกีย่ วขอ้ งในการดำ� เนนิ งานปอ้ งกันและแก้ไขปัญหาสารเสพติดมีขวัญและก�ำลงั ใจ
114 รปางี ยบงปารนะมปารณะจ�ำ2ป5กี63รมสุขภาพจติ
2. โครงการเสริมสร้างพัฒนาการเด็กลา่ ช้า
หลกั การและเหตผุ ล
เด็กเป็นทรัพยากรท่ีมีคุณค่ายิ่งต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต การที่เด็กจะเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มี
คุณภาพนั้น เด็กจะต้องมีพัฒนาการที่สมบูรณ์พร้อมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และ สติปัญญา
จึงมีความจ�ำเป็นที่เด็กจะต้องได้รับการพัฒนาต้ังแต่อยู่ในครรภ์มารดาและต่อเน่ืองไปจนถึงวัยรุ่นโดยเฉพาะ
พฒั นาการดา้ นสตปิ ญั ญาและความฉลาดทางอารมณ์ ซงึ่ มคี วามจำ� เปน็ ตอ่ การดำ� รงชวี ติ ทง้ั ในปจั จบุ นั และอนาคต
กรมสขุ ภาพจติ ไดต้ ระหนักถงึ ปัญหาพัฒนาการของเด็กไทยทเี่ กิดข้นึ จงึ ไดร้ ว่ มมอื กับกรมอนามัย นกั วชิ าการดา้ น
พัฒนาการจากสถาบันการศึกษา และหน่วยงานภาครัฐที่ท�ำงานด้านเด็ก เพื่อวางแผนบูรณาการงานร่วมกันใน
การพฒั นาและแก้ไขปญั หามาตง้ั แต่ปีงบประมาณ 2557 และในปี 2558 กระทรวงสาธารณสขุ ไดย้ กระดับเป็น
นโยบายท่ีส�ำคัญของกระทรวง ให้ทุกหน่วยงานที่เก่ียวข้องด�ำเนินงานภายใต้โครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก
เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เน่ืองในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ
2 เมษายน 2558 ซ่งึ ได้มีการด�ำเนินงานตอ่ เน่อื งมาจนถงึ ปัจจบุ นั
ปงี บประมาณ 2564 กรมสขุ ภาพจติ ยงั ตอ้ งเนน้ คณุ ภาพการจดั ระบบดแู ลเดก็ พฒั นาการลา่ ชา้ เพอื่ ตดิ ตาม
ดแู ลเดก็ ทม่ี พี ฒั นาการลา่ ชา้ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง เพม่ิ คณุ ภาพการเลยี้ งดู การสง่ เสรมิ /กระตนุ้ พฒั นาการเดก็ ทม่ี พี ฒั นาการ
ล่าช้า/เด็กกลุ่มเส่ียงต่อปัญหาพัฒนาการท้ังกลุ่มท่ีเสี่ยงด้านกายภาพและจิตใจและสังคมแก่พ่อแม่ ผู้ดูแล มีการ
ก�ำกับ ติดตาม ประเมินผลการด�ำเนินงานบริการกระตุ้นพัฒนาการให้ได้ตามมาตรฐานหรือแนวทางที่ก�ำหนดไว้
การเพ่ิมคุณภาพผู้ปฏิบัติงานให้มีทักษะในการใช้เครื่องมือในการคัดกรอง ประเมินเพ่ือส่งเสริม/ช่วยเหลือเด็ก
ตลอดจนการให้และค�ำแนะน�ำพ่อแม่/ผู้ดูแล เพื่อให้เด็กพัฒนาการล่าช้า/เด็กกลุ่มเส่ียงฯ มีพัฒนาการตามวัย
ซึ่งจะท�ำให้เด็กกลุ่มนี้มีปัญหาด้านการเรียนรู้ลดลงเม่ือเข้าสู่วัยเรียน ตลอดจนส่งผลต่อการมีระดับสติปัญญา
ที่ไม่ต่�ำกว่าค่ากลางมาตรฐานสากล และมีความฉลาดทางอารมณ์อยู่ในเกณฑ์ปกติ จะได้เป็นก�ำลังส�ำคัญในการ
พฒั นาชาตไิ ทยใหม้ ีความทัดเทียมกบั อารยประเทศตอ่ ไป
วตั ถปุ ระสงค์
1. เพือ่ ให้เด็กปฐมวยั กลุ่มเสีย่ งได้รบั การตดิ ตามกระต้นุ พฒั นาการและดูแลตอ่ เนอื่ ง
2. เพอื่ ใหเ้ ดก็ พฒั นาการลา่ ชา้ ไดร้ ับการกระตุน้ พัฒนาการจนมีพัฒนาการสมวยั
3. เพอ่ื ให้ รพช. มีระบบดูแลชว่ ยเหลือเดก็ พัฒนาการล่าชา้ ทม่ี ีคุณภาพตามแนวทางท่ีกำ� หนด
4. เพื่อให้เด็กปฐมวัยได้รบั การเสริมสรา้ งความฉลาดทางอารมณ์ “คดิ เป็น คิดดี คดิ ให”้
ผลทคี่ าดวา่ จะไดร้ บั
1. มีหน่วยบริการสาธารณสุขที่มีระบบดูแลพัฒนาการเด็กล่าช้าเพื่อติดตามพัฒนาการเด็กกลุ่มเส่ียง/
เดก็ พฒั นาการล่าชา้ อยา่ งตอ่ เน่อื งเพม่ิ ขนึ้
2. เด็กปฐมวัยกลุ่มเส่ียง/พัฒนาการล่าช้าได้รับการดูแลจากสถานบริการและครอบครัวอย่างถูกต้อง
เหมาะสม และต่อเน่ืองเพมิ่ ข้ึน
3. ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ /โรงเรยี นอนบุ าล/สถานรบั เลยี้ งเดก็ มกี ารเสรมิ สรา้ งความฉลาดทางอารมณ์ พฒั นา
เด็กไทย คิดเปน็ คิดดี คดิ ให้
115
3. โครงการสร้างเสริมสุขภาพจติ เดก็ ไทยวัยเรียน
หลกั การและเหตุผล
จากขอ้ มลู ทศิ ทางแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาตฉิ บบั ที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) ไดใ้ หค้ วามสำ� คญั
กับการพัฒนาศักยภาพคนในทุกช่วงวัยให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศ เน้นให้มีการส่งเสริมให้เด็ก
มีความร้สู อดรับกับทกั ษะในศตวรรษที่ 21 ทัง้ ทกั ษะการเรยี นรู้ในเชงิ คดิ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ในเชงิ สรา้ งสรรค์
และตอ่ ยอดไปสกู่ ารสรา้ งนวตั กรรมความรู้ ซง่ึ ทกั ษะเหลา่ นม้ี คี วามสำ� คญั สำ� หรบั การดำ� เนนิ ชวี ติ ของเดก็ จะทำ� ให้
เดก็ คดิ เปน็ ท�ำเปน็ แก้ปญั หาเป็น ใช้ชีวติ ไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ อกี ทั้งยงั เปน็ การตดิ อาวธุ ใหก้ ับเดก็ เพื่อป้องกนั การ
เข้าไปพวั พนั กบั ปญั หาสงั คมต่างๆ ไม่ว่าจะเปน็ ยาเสพตดิ การพนนั และอาชญากรรมต่างๆ
ผลการสำ� รวจสถานการณร์ ะดบั สตปิ ญั ญา และความฉลาดทางอารมณเ์ ดก็ นกั เรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1
ในปี 2559 โดยกรมสขุ ภาพจติ พบระดบั สตปิ ญั ญาเฉลยี่ เทา่ กบั 98.23 ซงึ่ ตำ�่ กวา่ คา่ กลางมาตรฐานสากล (IQ=100)
และเมื่อพจิ ารณาในภาพรวมของประเทศ พบว่า ยังมเี ด็กประถมศึกษาปที ่ี 1 ทมี่ ี IQ ต่ำ� กวา่ เกณฑป์ กติ (IQ < 90)
อยถู่ งึ รอ้ ยละ 31.81 (ไม่ควรเกนิ ร้อยละ 25) และยงั มีนกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 ท่ีมรี ะดบั สตปิ ญั ญาอยูใ่ น
เกณฑบ์ กพรอ่ ง (IQ < 70) อยู่ถึงร้อยละ 5.8 ซง่ึ สงู กวา่ มาตรฐานสากลคอื ไม่ควรเกินร้อยละ 2 ในสว่ นของผลการ
ส�ำรวจระดบั ความฉลาดทางอารมณ์ พบว่า เดก็ นกั เรียนไทยอายุ 6-11 ปี มคี วามฉลาดทางอารมณ์อย่ใู นเกณฑ์
ปกติขนึ้ ไป รอ้ ยละ 77
ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560 เป็นต้นมา กรมสุขภาพจิตด�ำเนินการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบดูแล
ช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาพฤติกรรม อารมณ์ การเรียนรู้ ให้เกิดความต่อเนื่อง มีการเชื่อมต่อกันอย่างเป็น
รูปธรรมระหว่างระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นักเรียนท่มี ปี ัญหาปญั หาพฤตกิ รรม อารมณ์ และการเรยี นรู้ ในโรงเรยี น
และระบบบรกิ ารสาธารณสขุ ปี 2562 มีโรงเรียนประถมศกึ ษาสังกัด สพฐ.ทม่ี ีระบบดูแลช่วยเหลอื พฤติกรรม -
อารมณ์ในเด็กวัยเรียน 9,879 แห่งจาก 26,006 แห่ง (ร้อยละ 37.99) มีรพช. รพท. และรพศ.ที่มีระบบดูแล
ชว่ ยเหลอื พฤตกิ รรม - อารมณ์ในเดก็ วยั เรียนร่วมกับโรงเรียนส่งเสรมิ สุขภาพ 828 แห่งจาก 895 แห่ง (รอ้ ยละ
92.15) โดยร้อยละ 75.56 ของนักเรียนที่มีปัญหาพฤติกรรม - อารมณ์ได้รับการดูแลช่วยเหลือตามแนวทางที่
กำ� หนด และรอ้ ยละ 85.52 นกั เรยี นทม่ี ปี ญั หาพฤตกิ รรม-อารมณไ์ ดร้ บั การดแู ลชว่ ยเหลอื จนดขี นึ้ ในปงี บประมาณ
2564 ยังมีการด�ำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือเด็กกลุ่มเส่ียงที่ครูค้นพบอย่างต่อเนื่อง
เพ่ือส่งเสริมคุณภาพและศักยภาพของเด็กไทยอันเป็นทรัพยากรท่ีมีคุณค่าของประเทศชาติ ให้มีความฉลาด
ทง้ั สติปญั ญาและอารมณอ์ ยู่ในเกณฑม์ าตรฐานสากล มีศกั ยภาพสามารถแขง่ ขนั กับนานาประเทศได้
วตั ถปุ ระสงค์
1. เพ่ือให้เด็กวัยเรียนกลุ่มเสี่ยงต่อระดับสติปัญญาต�่ำกว่ามาตรฐาน ปัญหาการเรียนรู้ ออทิสติก และ
ปญั หาพฤตกิ รรม-อารมณ์ ได้รบั การดแู ลช่วยเหลือ
2. เพอื่ พฒั นานวตั กรรมเพอ่ื เพม่ิ ไอควิ / พฒั นาทกั ษะดา้ นอารมณแ์ ละสงั คม (EQ) พฒั นาเดก็ ไทยคดิ เปน็
คดิ ดี คดิ ให้
ผลทคี่ าดวา่ จะไดร้ ับ
1. เด็กนกั เรยี นกล่มุ เสย่ี ง/ มปี ญั หา ไดร้ ับการดูแลชว่ ยเหลอื ครอบคลมุ ทกุ ดา้ น
2. มีระบบการดแู ลสขุ ภาพจิตเด็กวัยเรยี น เชอื่ มตอ่ กันระหวา่ งสาธารณสุขกับโรงเรียน
116 ปรางี ยบงปารนะมปารณะจ�ำ2ป5กี63รมสขุ ภาพจิต
4. โครงการเสริมสร้างทกั ษะชีวิตและป้องกนั พฤตกิ รรมเสยี่ งของวัยรุ่น
หลกั การและเหตุผล
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ.2560-2564) มุ่งเน้นด้านการพัฒนาและ
เสรมิ สร้างศักยภาพในทกุ ช่วงวัย โดยในวยั รุน่ ให้ความสำ� คญั กับการปลูกฝังให้เป็นคนดี มีวินยั มที ักษะการเรียนรู้
ท่ีสอดรบั กบั การดำ� รงชวี ติ ในศตวรรษท่ี 21 และมที ักษะการเตรียมความพร้อมที่จะเข้าสวู่ ัยทำ� งาน ซง่ึ สอดคล้อง
กับแผนแมบ่ ทภายใต้ยทุ ธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561-2580) มุ่งพฒั นาคนในทกุ มติ ิ และในทุกชว่ งวยั ใหเ้ ป็นคนดี เก่ง
มีคุณภาพ มีสุขภาวะที่ดี มีคุณธรรม มีระเบียบวินัย มีความรอบรู้ และพร้อมส�ำหรับวิถีชีวิตในศตวรรษท่ี 21
กระทรวงสาธารณสุข ได้ก�ำหนดแผนยุทธศาสตรด์ า้ นสาธารณสุข (พ.ศ.2560-2564) มีเป้าประสงค์ เพ่ือพัฒนา
สุขภาพวัยร่นุ ไทย ใหว้ ยั รนุ่ มที ักษะการใช้ชีวิตทีด่ ี ลดความเสี่ยงในด้านพฤติกรรม และสขุ ภาพ ผลกั ดนั ใหว้ ยั รนุ่
ไทยได้รับการดูแลและเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ มีระบบสนับสนุนสุขภาพท่ีสามารถตอบสนองสถานการณ์ได้
ทนั ทว่ งที และมเี ครอื ขา่ ยฯ ท่ีมีขดี ความสามารถในการดแู ลสุขภาพวยั รนุ่ จากขอ้ มลู กระทรวงสาธารณสุข พบว่า
รอ้ ยละ 51ของวัยรนุ่ ไทยเคยดมื่ เคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ อายุเฉลีย่ ของการด่มื ครง้ั แรกคือ 13 ปี วัยร่นุ ทีเ่ คยสูบบุหรี่
รวมแล้วมากกว่า 100 มวน มีประมาณร้อยละ 30 ด้านการบาดเจ็บรุนแรงท่ีท�ำให้เกิดการเสียชีวิตสูงที่สุดใน
วัยรุ่น คือ อุบัติเหตุจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ นอกจากน้ีอัตราการฆ่าตัวตายของวัยรุ่นที่มีจ�ำนวนมากข้ึน
จากการรวบรวมข้อมลู จากกรมสุขภาพจิต และใบมรณบัตรจากกระทรวงมหาดไทย ในชว่ ง 3 ปีทีผ่ า่ นมา พบว่า
วยั รุ่นไทยช่วงอายุ 10-19 ปี มีอัตราความพยายามฆา่ ตัวตายประมาณ 1,500 - 2,000 คน โดยขณะทอี่ ัตราการ
ฆ่าตัวตายส�ำเร็จอยู่ท่ีประมาณ 140-160 คน ซ่ึงสาเหตุส�ำคัญส่วนใหญ่มาจากเร่ืองสัมพันธภาพ ความน้อยใจ
การถกู ตอ่ ว่า รองลงมาคอื เรื่องโรคทางจติ เวช และยาเสพตดิ ตามลำ� ดับ
กรมสุขภาพจิต ได้ก�ำหนดนโยบายในการพัฒนาสุขภาพจิตตามกลุ่มโดยในกลุ่มวัยรุ่นเน้นการดูแล
ช่วยเหลือวยั ร่นุ ท่ีมีปัญหาพฤตกิ รรมและอารมณ์ทั้งในและนอกระบบการศึกษา เฝา้ ระวัง ป้องกนั ดแู ลช่วยเหลอื
และเยียวยาวัยรนุ่ ทีม่ ีพฤตกิ รรมเสย่ี งตา่ ง ๆ พัฒนามาตรฐานการดูแลสุขภาพจิตวัยรุ่นกลุ่มเสีย่ งท้งั ในทกุ ระดบั
โรงเรยี นและในชมุ ชน สรา้ งความตอ่ เนอื่ งในการพฒั นานกั จดั ทมี วยั รนุ่ (Teen Manager) รวมทงั้ สง่ เสรมิ ใหว้ ยั รนุ่
สามารถสรา้ งทักษะชวี ติ เพอื่ เปน็ ภูมคิ ุ้มกันในการด�ำเนนิ ชีวิตไดอ้ ย่างเข้มแขง็
วัตถุประสงค์
1. เพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะชีวติ ป้องกนั ปญั หาสุขภาพจติ และพฤติกรรมเสี่ยงของวัยร่นุ
2. เพื่อลดปัญหาพฤติกรรม-อารมณใ์ นวัยร่นุ กลุม่ เสี่ยง
3. เพอื่ เพม่ิ อัตราการเขา้ ถงึ บริการจิตเวชวัยรุน่
ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั
1. เด็กวยั รุ่นกลมุ่ เสี่ยงได้รับการดแู ลและเขา้ ถึงบริการสุขภาพ
2. บคุ ลากรในสถานศกึ ษา และสถานบรกิ ารสาธารณสขุ มคี วามสามารถในการดแู ลสขุ ภาพวยั รนุ่ ในเขต
สุขภาพ
3. มีระบบการดแู ลเฝ้าระวงั ปัญหาพฤติกรรมวัยรนุ่ ในระดับจังหวดั
117
5. โครงการเสรมิ สรา้ งสุขภาวะและสุขภาพจติ ทดี่ แี ก่ประชาชนวัยท�ำงาน
หลักการและเหตุผล
จากรายงานการส�ำรวจภาวะประชากร ในเดือนมิถุนายน 2562 ประชากรวัยท�ำงานอายุระหว่าง
15-59 ปี ประชากรวยั แรงงานมจี �ำนวน 56.57 ล้านคน เปน็ ผทู้ ่ีอยใู่ นวยั กำ� ลังแรงงาน 38.82 ลา้ นคน และเปน็
ผ้อู ยนู่ อกกำ� ลงั แรงงาน 17.75 ลา้ นคน (ส�ำนกั งานสถติ แิ ห่งชาติ,2562) ด้านสุขภาพ ในวยั แรงงานมกั เจ็บป่วยด้วย
โรคเรื้อรัง มีพฤติกรรมทางสุขภาพที่ไม่เหมาะสมทั้งพฤติกรรมทางสุขภาพกายและสุขภาพจิต ซึ่งพฤติกรรม
สุขภาพกาย ไดแ้ ก่ การรับประทานอาหารทไี่ มเ่ หมาะสม ไม่ออกกำ� ลงั กาย พักผ่อนไมเ่ พียงพอ การสบู บหุ ร่แี ละ
การดม่ื เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล์ ในสว่ นพฤตกิ รรมสขุ ภาพจติ เชน่ ภาวะเครยี ดและวติ กกงั วล และจากรายงานจำ� นวน
การฆ่าตัวตายของประเทศไทย พบกลุม่ วัยทำ� งาน อายุ 20-59 ปี พบจ�ำนวนการฆ่าตัวตายสงู ท่ีสุดถึง 3,091 ราย
(กรมสขุ ภาพจิต, 2561) การดำ� เนนิ การขบั เคลื่อนงานสขุ ภาพจิตคนวยั ท�ำงานผ่านโครงการโปรแกรมสร้างสุขวัย
ท�ำงานในชุมชนและโปรแกรมสร้างสุขวยั ท�ำงานในสถานประกอบการ ครอบคลมุ ทุกเขตสขุ ภาพ โดยปี 2562 มี
พื้นที่ดำ� เนินการ ท้ังสนิ้ 294 อ�ำเภอ/เขต การบูรณาการ ระดบั กระทรวงภายใต้โครงการ “สถานประกอบการ/
วสิ าหกจิ ชุมชนปลอดโรคปลอดภยั กายใจเปน็ สุข” โดยสถานประกอบการทกุ แหง่ ที่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ระดับ
ประเทศมีการจัดบริการส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตให้กับคนวัยท�ำงานตามเกณฑ์ท่ีก�ำหนด
คิดเป็นร้อยละ 100 ครอบคลุมจ�ำนวนคนวัยท�ำงาน 594,930 คน เม่ือเทียบผลก่อนและหลังการด�ำเนินการ
โครงการฯ พบวา่ พนกั งานมีความสุขเพิม่ ข้ึน พนกั งานมีความเครยี ดลดลง ความขัดแย้งในองค์กรลดลง และเกดิ
การดูแลสุขภาพจิตให้กับพนักงานในสถานประกอบการอย่างเป็นรูปธรรม ท�ำให้พนักงานมีขวัญก�ำลังใจในการ
ท�ำงานสามารถเพ่ิมผลผลิต คุณภาพ ประสิทธิภาพในการท�ำงานของพนักงานให้แก่สถานประกอบการและเพิ่ม
ความสามารถในการแข่งขนั ในตลาดได้มากย่งิ ขน้ึ
ในปีงบประมาณ 2564 จึงมคี วามจำ� เป็นตอ้ งดำ� เนนิ การขบั เคล่อื นงานสขุ ภาพจติ วัยทำ� งานอยา่ งตอ่ เนื่อง
เพื่อให้คนวัยท�ำงานมีศักยภาพในการดูแลตนเองและครอบครัวได้ทั้งในด้านร่างกาย คือมีความรอบรู้ ตระหนัก
และเห็นความส�ำคัญในการดูแลสุขภาพและเลือกบริการด้านสุขภาพที่เหมาะสมให้กับตนเองและครอบครัวได้
ด้านอารมณ์ สามารถแสดงออก จัดการกับอารมณ์ ของตนเองได้อย่างเหมาะสมเพื่อลดความขัดแย้ง ลดความ
รุนแรงท้ังกับคนในครอบครัวและคนในสังคมได้ ด้านสังคม มีความเอื้อเฟื้อแบ่งปัน ท�ำประโยชน์ให้กับผู้อื่น
มจี ติ อาสา ทำ� ใหร้ สู้ กึ มคี ณุ คา่ ของตนเองได้ และดา้ นจติ ใจ สามารถคดิ บวก สรา้ งความสขุ ใหก้ บั ตนเองไดจ้ ากภายใน
เพ่ือให้มีประชาชนวัยท�ำงานสุขภาวะที่ดีพร้อมที่จะเป็นก�ำลังส�ำคัญในการพัฒนาประเทศ และเป็นไปตามมติ
สมชั ชาครอบครวั ระดบั ชาติ ประจำ� ปี 2562 ในประเดน็ สอ่ื สารในครอบครวั เชอื่ มสมั พนั ธท์ กุ ชว่ งวยั ภายใตแ้ นวคดิ
“พื้นที่เรียนรู้เพอื่ ครอบครวั ทกุ ช่วงวัย : ส่อื สารสร้างสรรค์ สรา้ งสัมพนั ธค์ รอบครัวไทย”
วตั ถุประสงค์
1. เพอ่ื พฒั นาและสนบั สนนุ ใหเ้ กดิ การจดั บรกิ ารสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ และปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ วยั ทำ� งาน
2. เพ่ือพัฒนาเทคโนโลยีด้านการส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตวัยท�ำงานที่เกี่ยวข้อง
กับการเสริมสรา้ งสขุ ภาวะทีด่ ีแก่ประชาชนวัยทำ� งาน
ผลท่ีคาดว่าจะได้รบั
ประชาชนกลุ่มวัยท�ำงานในชุมชน สถานประกอบการ สามารถดูแลสุขภาพจิตของตนเอง สมาชิกใน
ครอบครวั ชว่ ยเหลอื ผู้อื่น และอย่ใู นสังคมไดอ้ ยา่ งปกตสิ ุข
118 รปาีงยบงปารนะมปารณะจำ�2ป5กี63รมสุขภาพจติ
6. โครงการสร้างสุขภาวะทางใจเพือ่ เป็นผูส้ ูงวัยที่มคี ุณค่าและความสขุ
หลกั การและเหตผุ ล
ประเทศไทยซึง่ มจี �ำนวนผ้สู ูงอายเุ พิ่มขน้ึ อยา่ งรวดเร็ว ปัจจบุ ันมปี ระชากรผสู้ งู อายุทมี่ อี ายุ 60 ปี จำ� นวน
11.3 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 17.1 ของประชากรท้ังหมด และคาดว่าภายในปี พ.ศ.2578 จะมีถึงร้อยละ 30
ของประชากรท้งั หมด โดยพบว่าเพม่ิ ด้วยอัตราเฉลี่ยร้อยละ 4 ต่อปี ขณะทีผ่ ู้ทีม่ ีอายุ 80 ปีขึ้นไปเพ่ิมดว้ ยอัตรา
สงู กวา่ ร้อยละ 6 ตอ่ ปี ดังนัน้ ในอกี 20 ปขี ้างหน้าคาดวา่ หนงึ่ ในสามของคนไทยจะเป็นผู้สงู อายุ โดยจะมีผูท้ อี่ ายุ
80 ปขี น้ึ ไปมากกวา่ 3.5 ลา้ นคน
กรมสขุ ภาพจติ ซง่ึ มบี ทบาทในการพฒั นาสขุ ภาพจติ ประชาชนทกุ กลมุ่ วยั ไดว้ างนโยบายกำ� หนดยทุ ธศาสตร์
ในการด�ำเนินงานพัฒนาสุขภาพจิตผู้สูงอายุในประเด็นยุทธศาสตร์ท่ี 1 ส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันปัญหา
สขุ ภาพจติ ประชาชน ทกุ กลมุ่ วยั รวมทงั้ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 3 สรา้ งความตระหนกั และความเขา้ ใจตอ่ ปญั หาสขุ ภาพจติ
ในปี 2564 ได้พัฒนาระบบเฝ้าระวังภาวะสมองเส่ือมท่ีมีปัญหาพฤติกรรมและจิตใจเพ่ิมเข้ามา ซึ่งเป็นปัญหาที่
ส่งผลกระทบหนักต่อครอบครัว ผู้ดูแลและชุมชน ขณะเดียวกันการพัฒนาให้มีการด�ำเนินงานเสริมสร้างพลังใจ
แก่ญาตผิ ้ดู แู ลผูส้ ูงอายุ ในระบบผดู้ ูแลระยะยาว (Long Term Care) เพื่อใหเ้ กดิ ความเข้าใจและสร้างพลังใจกบั
ผู้สูงอายแุ ละครอบครวั โดยเช่อื มโยงจากบ้านถงึ สถานบรกิ ารสาธารณสขุ และเพอ่ื รองรบั สังคมสูงวยั และการเพ่ิม
ของประชากรผู้สูงอายุท่ีเพิ่มอย่างรวดเร็วน้ัน จึงก�ำหนดพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการเตรียมใจเข้าสู่สูงวัย
ทม่ี คี วามสขุ และพรอ้ มปรบั ตวั ซงึ่ จะสง่ ผลใหเ้ ปน็ ผสู้ งู วยั ทส่ี ามารถปรบั ตวั มคี วามสขุ มคี ณุ คา่ มสี ขุ ภาพทแ่ี ขง็ แรง
สามารถดแู ลตนเองและชว่ ยเหลอื ตนเองและผอู้ น่ื ในสงั คมได้อยา่ งยาวนานตอ่ ไป
วตั ถุประสงค์
1. เพ่ือใหผ้ ู้สูงอายุกลมุ่ ตดิ สังคม มีความรอบรแู้ ละมที ักษะในการสร้างสขุ การสรา้ งคุณคา่ ในตนเอง
2. เพอื่ มรี ะบบบรกิ ารดแู ลทางสงั คมจติ ใจ การเฝา้ ระวงั ผสู้ งู อายสุ มองเสอื่ มทม่ี ปี ญั หาพฤตกิ รรมและจติ ใจ
และการเสริมพลงั ใจญาติผู้ดูแลในระบบการดูแลสขุ ภาพผ้สู ูงอายุระยะยาว
3. เพอื่ พัฒนาศกั ยภาพผดู้ แู ลผูส้ ูงอายุในด้านการดูแลสุขภาพจติ ผู้สูงอายุ
4. เพื่อพัฒนานวตั กรรมเทคโนโลยดี า้ นสขุ ภาพจติ ผูส้ ูงอายุ
4.1 โปรแกรมเตรยี มใจสวู่ ยั สงู อายุอยา่ งมคี วามสขุ (Pre-Aging)
4.2 นวตั กรรมเพ่ือส่งเสรมิ ความพึงพอใจในชีวติ ของผ้สู งู อายุ
4.3 นวัตกรรมเทคโนโลยสี �ำหรับญาติผ้ดู แู ล (CPR-E: Caregiver’ s Psychosocial Resilience for
Elderly)
ผลทคี่ าดวา่ จะไดร้ ับ
1. มนี วตั กรรมเทคโนโลยีเพอ่ื เตรยี มพรอ้ มเข้าส่วู ัยสูงอายทุ ม่ี คี วามสขุ
2. มนี วตั กรรมเทคโนโลยีท่เี ขา้ ถึงงา่ ยในการดูแลผูส้ งู อายุและการดูแลสุขภาพจติ ตนเองของญาตผิ ดู้ ูแล
3. ผู้สูงอายุและญาติในระบบดูแลระยะยาวเข้าถึงการบริการด้านสุขภาพจิต ท้ังการเฝ้าระวังภาวะ
ซึมเศรา้ ภาวะสมองเสื่อมที่มีปญั หาพฤติกรรมอารมณ์ รวมทงั้ มีทกั ษะในการเสริมสรา้ งพลงั ใจตนเอง ส่งผลให้มี
ความสุขและคุณภาพชวี ิตดีข้ึน
119
4. ผสู้ งู อายทุ ต่ี ดิ สงั คมมคี วามรอบรใู้ นการสรา้ งสขุ มคี วามสขุ รสู้ กึ มคี ณุ คา่ สามารถดแู ลสขุ ภาพจติ ตนเอง
และใชศ้ กั ยภาพในการชว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื ไดใ้ นสงั คมได้ ขณะเดยี วกนั ผสู้ งู อายทุ มี่ ภี าวะพงึ่ พงิ ไดร้ บั การเฝา้ ระวงั ปญั หา
สขุ ภาพจติ และไดร้ บั การดูแลทางสงั คมจิตใจทีมีคณุ ภาพและมาตรฐาน
5. ชมุ ชนเขม้ แขง็ และมบี คุ ลากรในชมุ ชนทใ่ี หก้ ารดแู ลชว่ ยเหลอื สนบั สนนุ ใหผ้ สู้ งู อายมุ คี ณุ ภาพชวี ติ ทดี่ มี ี
ความสขุ
7. โครงการขบั เคล่อื นการดแู ลสขุ ภาพจติ ทุกกลมุ่ วยั ในระบบสุขภาพปฐมภมู ิ
หลักการและเหตผุ ล
กระทรวงสาธารณสุขได้ก�ำหนดแผนยุทธศาสตร์กระทรวงสาธารณสุขท่ีสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ
ระยะ 20 ปี (ดา้ นสาธารณสขุ ) โดยมียทุ ธศาสตรค์ วามเป็นเลิศ 4 ดา้ น ท้ังนี้ ด้านส่งเสรมิ สขุ ภาพ ปอ้ งกนั โรค และ
คุ้มครองผู้บริโภค (PP&P Excellence) เป็นหน่ึงในยุทธศาสตร์ความเป็นเลิศที่ให้ความส�ำคัญกับการส่งเสริม
สขุ ภาพ และการปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพของประชาชนทกุ ชว่ งวยั ผา่ นการใหบ้ รกิ ารในระดบั ปฐมภมู ิ (Primary Care)
กระทรวงสาธารณสุขจึงก�ำหนดเข็มมุ่งส�ำคัญเพื่อสอดรับกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยการ
ผลกั ดันให้เกิด กฎหมายระเบียบส�ำนกั นายกรฐั มนตรวี ่าด้วยเร่ืองของ “คณะกรรมการพฒั นาคุณภาพชวี ิตระดบั
อ�ำเภอ หรือ พชอ.” ขึ้น เพื่อให้การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนถูกก�ำหนดให้เป็นหน่ึงในประเด็นส�ำคัญ
ท่ีทุกอ�ำเภอท่ัวประเทศต้องด�ำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้หลักการประชารัฐที่ทุกภาคส่วนต้องเข้ามา
มสี ่วนรว่ มในการพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตร่วมกัน
กรมสุขภาพจิตจึงก�ำหนดยุทธศาสตร์ที่ 1 ส่งเสริมสุขภาพจิต และป้องกันปัญหาสุขภาพจิตประชาชน
ทุกกลุ่มวัย เป็นยุทธศาสตร์ส�ำคัญท่ีมุ่งส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงก�ำหนดกลไก
การขบั เคลอ่ื นการดำ� เนนิ งานสำ� คญั ทบ่ี รู ณาการการดำ� เนนิ งานสขุ ภาพจติ เขา้ กบั นโยบายการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ
และคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอ�ำเภอ ผ่านโครงการขับเคล่ือนการดูแลสุขภาพจิตทุกกลุ่มวัยใน
ระบบสุขภาพปฐมภูมิ ประจ�ำปีงบประมาณ 2564 โดยมุ่งหวังให้ประชาชนทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาศักยภาพ
และดแู ลครอบคลมุ ทกุ มติ ิ โดยเฉพาะอย่างยงิ่ การดแู ลจิตใจซ่งึ ถอื เปน็ หวั ใจสำ� คัญอยา่ งยง่ิ ส่กู ารมคี ุณภาพชวี ติ ท่ีดี
มกี ารขบั เคลอื่ นการดำ� เนนิ งานสขุ ภาพจติ ในชมุ ชนทต่ี รงกบั บรบิ ทชมุ ชน เพอื่ ใหป้ ระชาชนทกุ กลมุ่ สามารถเขา้ ถงึ
องคค์ วามรสู้ ขุ ภาพจติ ได้ รวมถงึ การพฒั นาระบบการดแู ลจติ ใจของประชาชนในระบบสขุ ภาพปฐมภมู ิ เปดิ โอกาส
ใหเ้ ครอื ขา่ ยแตล่ ะภาคสว่ นไดม้ โี อกาสแลกเปลยี่ นเรยี นรรู้ ว่ มกนั และการประเมนิ ผลลพั ธท์ เี่ ปน็ รปู ธรรม มเี ปา้ หมาย
คือ การที่ประชาชนมีความสุข สามารถจัดการกับความเครียด เพื่อให้เกิดการด�ำเนินงานท่ีครอบคลุมทั่วถึงทุก
พื้นที่ท่ัวประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบการด�ำเนินงานด้านสุขภาพจิตที่รองรับแนวทางและองค์ความรู้
สุขภาพจิตทุกกลุ่มวัยของกรมสุขภาพจิต เพ่ือให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยท่ัวท้ังประเทศ ได้รับการดูแลสุขภาพจิตท่ี
เหมาะสม นอกจากนนั้ ยงั เกดิ ระบบการดำ� เนนิ งานสขุ ภาพจติ ในระบบ บรกิ ารปฐมภมู ทิ เ่ี ปน็ รปู ธรรมซง่ึ เปน็ รากฐาน
สำ� คญั ของการด�ำเนนิ งานสุขภาพจติ ในชมุ ชนของกรมสุขภาพจิตตอ่ ไป
120 รปางี ยบงปารนะมปารณะจำ�2ป5ีก63รมสุขภาพจติ
วัตถปุ ระสงค์
1. เพ่อื ใหป้ ระชาชนมคี วามสขุ มคี ุณภาพชีวติ ทดี่ ี สามารถดแู ลตนเองและผู้อน่ื ได้
2. เพื่อให้เกิดการดูแลสุขภาพจิตประชาชนทุกกลุ่มวัย ด้วยการบูรณาการงานสุขภาพจิตเข้ากับระบบ
สุขภาพปฐมภมู ิ
3. เพอ่ื สรา้ งการมสี ว่ นรว่ มและเกดิ ความรว่ มมอื ของภาคที กุ ภาคสว่ นทงั้ ภาครฐั เอกชน และภาคประชาสงั คม
ในการดำ� เนนิ งานสุขภาพจิต
4. เพอื่ พัฒนาระบบการดำ� เนนิ งานสุขภาพจิตในระบบสุขภาพปฐมภมู ิ
5. เพอ่ื พัฒนาฐานขอ้ มลู สุขภาพจิตของประเทศ
ผลท่คี าดวา่ จะไดร้ ับ
เกิดการพัฒนารูปแบบการด�ำเนินงานสุขภาพจิตในระบบสุขภาพปฐมภูมิของประเทศ ท่ีบูรณาการ
การดำ� เนนิ งานสขุ ภาพจติ ทกุ กลมุ่ วยั เขา้ กบั ประเดน็ การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของคณะกรรมการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ
ระดับอ�ำเภอ ในการร่วมกันดูแลสุขภาพจิต และส่งเสริมให้ประชาชนในทุกอ�ำเภอทั่วประเทศ ได้รับการดูแล
สุขภาพจิตท่เี หมาะสม มีสขุ ภาวะ และคณุ ภาพชวี ติ ที่ดี สามารถดแู ลช่วยเหลอื พึง่ ตนเองได้
121
ยุทธศาสตรท์ ่ี 2 พัฒนาคณุ ภาพระบบบริการและวิชาการสุขภาพจติ และจิตเวช
8. โครงการราชทณั ฑ์ปนั สุขเพ่อื พัฒนางานดา้ นสุขภาพจติ และจติ เวช
หลักการและเหตุผล
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมี
พระราชด�ำริให้มีการจัดต้ังโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ท�ำความดี เพ่ือชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นโครงการที่มุ่งเน้น
การพฒั นาระบบบรกิ ารสขุ ภาพในเรอื นจำ� ใหผ้ ตู้ อ้ งขงั เขา้ ถงึ บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพทงั้ กายและจติ ไดท้ ดั เทยี มกบั บคุ คล
ภายนอก เพอื่ มงุ่ เนน้ ในการสนบั สนนุ อปุ กรณ์ เครอ่ื งมอื แพทย์ การจดั บรกิ ารทางการแพทย์ สำ� หรบั สถานพยาบาล
ในเรอื นจำ� และทณั ฑสถาน การใหค้ วามรดู้ า้ นสขุ ภาพอนามยั ทจี่ ำ� เปน็ แกผ่ ตู้ อ้ งขงั และการจดั ทำ� หลกั สตู รฝกึ อบรม
อาสาสมัครสาธารณสขุ ในเรือนจำ� (อสรจ.) โดยความรว่ มมอื จากทุกกระทรวง ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข
ตอ้ งจดั ทีมแพทย์ จิตแพทย์ ทันตแพทย์ และจกั ษแุ พทย์ เข้าไปดูแลผตู้ ้องขังในเรอื นจ�ำอย่างสม่ำ� เสมอในเขตพืน้ ท่ี
รบั ผดิ ชอบของแตล่ ะโรงพยาบาล ส่วนเรอื นจ�ำในเขตกรงุ เทพมหานคร กรมการแพทยจ์ ะเปน็ ผรู้ ับผิดชอบ
จากการด�ำเนินงานด้านสุขภาพจิตและจิตเวชของหน่วยงานในสังกัดกรมสุขภาพจิตท่ีผ่านมา พบว่า
มีจ�ำนวนผู้ต้องขังที่เข้าถึงบริการสุขภาพจิตและจิตเวช ประมาณ 4,000 ราย จากจ�ำนวนผู้ต้องขังทั่วประเทศ
ตามรายงานสถิติผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศ ส�ำรวจ ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 จ�ำนวน 365,384 ราย
ซ่ึงนับว่ามีจ�ำนวนน้อยมาก เม่ือพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆท่ีท�ำให้ผู้ต้องขังมีปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวช ดังนั้น
เพื่อตอบสนองพระราชด�ำริในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้า
เจา้ อยหู่ วั กรมสขุ ภาพจติ โดยสถาบนั กลั ยาณร์ าชนครนิ ทรซ์ งึ่ เปน็ หนว่ ยงานหลกั ทดี่ ำ� เนนิ การพฒั นาระบบบรกิ าร
สุขภาพจิตและจิตเวชส�ำหรับผู้ต้องขังของประเทศไทย จึงได้จัดท�ำโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทําความดีเพื่อชาติ
ศาสน์ กษัตริย์: การพัฒนางานด้านสุขภาพจิตและจิตเวช ประจ�ำปีงบประมาณ ๒๕๖๓ ข้ึน เพ่ือวางแผนและ
ดำ� เนนิ การพฒั นางานดา้ นสขุ ภาพจติ และจติ เวชสำ� หรบั ผตู้ อ้ งขงั ในเรอื นจำ� ทวั่ ประเทศ ให้ เปน็ ไปในทศิ ทางเดยี วกนั
และยั่งยืน อันจะน�ำไปสู่การเข้าถึงบริการของผู้ต้องขังท่ีมีปัญหาด้านสุขภาพจิตและจิตเวชได้อย่างเท่าเทียม
เช่นเดียวกับบคุ คลอ่นื ตลอดไป
วตั ถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาระบบบริการด้านสุขภาพจิตและจิตเวชในเรือนจ�ำท่ัวประเทศให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
และย่งั ยนื
2. เพ่ือให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านสุขภาพจิตและจิตเวชส�ำหรับผู้ต้องขังในเรือนจ�ำ
มีแนวทางการให้บริการด้านสขุ ภาพจิตและจติ เวชทีเ่ ปน็ ไปในทิศทางเดยี วกนั
3. ผตู้ อ้ งขงั ในเรือนจ�ำทวั่ ประเทศสามารถเข้าถงึ บรกิ ารไดเ้ ทา่ เทยี มกับบคุ คลทว่ั ไป
ผลทคี่ าดวา่ จะไดร้ บั
เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างเครือข่ายสาธารณสุข เครือข่ายในกระบวนการยุติธรรม และเครือข่าย
ทางสังคมในการดำ� เนินงานดา้ นนิติสขุ ภาพจติ
122 ปราีงยบงปารนะมปารณะจำ�2ป5กี63รมสขุ ภาพจิต
9. โครงการเพ่ิมประสิทธภิ าพการดูแลผู้ปว่ ยโรคจติ เภท
หลักการและเหตผุ ล
กรมสุขภาพจติ ได้ตระหนกั ถึงความสำ� คญั ของการเพิ่มการเข้าถึงบริการของโรคจติ ซ่ึงพบวา่ ผู้ป่วยโรคจิต
เข้าถึงบริการเพิ่มขึ้น ร้อยละ 67.80 ในปีงบประมาณ 2558 ได้ขยายพื้นท่ีน�ำร่อง 1 อ�ำเภอ 1 จังหวัด ใน 1
เขตสุขภาพ และเพื่อให้การบริการผู้ป่วยโรคจิตมีประสิทธิภาพ และเป็นไปอย่างต่อเน่ือง กรมสุขภาพจิตจึงได้
วางแผนในการด�ำเนินงานใหค้ รอบคลมุ ทุกพ้นื ทีใ่ นปงี บประมาณ 2559 – 2564 โดยจดั ทำ� โครงการเพมิ่ คุณภาพ
ระบบบริการโรคจิตเวชท่ีส�ำคัญในระบบสาธารณสุข มุ่งเน้นการพัฒนาระบบบริการสุขภาพจิตและจิตเวช
ในเขตสขุ ภาพและเพมิ่ การเขา้ ถงึ บรกิ ารผปู้ ว่ ยโรคจติ ทคี่ รอบคลมุ การสง่ เสรมิ ปอ้ งกนั การคดั กรองและการประเมนิ
ความรุนแรงของอาการ การบ�ำบัดรักษาที่มีประสิทธิภาพ การติดตามเฝ้าระวังอย่างต่อเน่ือง ป้องกันการกลับ
เปน็ ซำ้� ทำ� ใหก้ ลมุ่ ประชาชนทว่ั ไป กลมุ่ เสยี่ งไดร้ บั การปอ้ งกนั ไมใ่ หป้ ว่ ย และกลมุ่ ทป่ี ว่ ยใหไ้ ดร้ บั บรกิ ารทมี่ คี ณุ ภาพ
ทำ� ให้ประชาชนสามารถเข้าถงึ บริการเพ่ิมมากขนึ้ ภายใต้การด�ำเนินงานสุขภาพจติ ในเขตสขุ ภาพของประเทศ
วัตถปุ ระสงค์
1. เพอ่ื พฒั นาระบบบรกิ ารสุขภาพจิตและจติ เวชของหน่วยบรกิ ารในเขตสขุ ภาพและกรงุ เทพมหานคร
2. เพื่อให้ผู้ป่วยโรคจิตเภทเข้าถึงบริการเพ่ิมมากขึ้น มีการดูแลต่อเนื่อง ไม่กลับเป็นซ้�ำ ป้องกัน
ความรุนแรง และการฆา่ ตวั ตาย
3. เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรสาธารณสุขของหน่วยบริการ รพ.สต./รพช./รพท./รพศ./รพจ. และ
กรุงเทพมหานคร ใหส้ ามารถบรกิ ารผ้ปู ว่ ยโรคจติ เภทท่ีมีประสทิ ธิภาพ
4. เพื่อให้เครือข่ายในชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภทให้ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
ไม่ขาดยา เฝา้ ระวงั การกลบั เปน็ ซ�้ำ
5. เพอ่ื พัฒนาระบบฐานข้อมลู การบรกิ ารผูป้ ว่ ยโรคจิตเภทในเขตสุขภาพ
ผลทีค่ าดว่าจะได้รบั
1. ผ้ปู ว่ ยโรคจิตเภทเข้าถึงบรกิ ารเพม่ิ มากขึ้น
2. ประชากรกลุ่มเส่ียงต่อการป่วยเป็นโรคจิตเภทท่ีอาศัยอยู่ในประเทศไทยทุกคน อายุ 15 ปีข้ึนไป
ได้รับการคัดกรองแนวโน้มการป่วยเป็นโรคจิตเภท ประเมินอาการโรคจิต การประเมินความเส่ียงต่อการมี
พฤตกิ รรมรนุ แรงตอ่ ตนเองและผู้อืน่ และถกู ส่งตอ่ ไปรบั การวนิ จิ ฉยั โรคและบ�ำบัดรักษา
3. ผทู้ มี่ อี าการโรคจติ เภทไดร้ บั การบำ� บดั รกั ษาทท่ี นั ทว่ งที การบำ� บดั รกั ษาทค่ี รบตามมาตรฐานการบำ� บดั
4. บคุ ลากรสาธารณสขุ ของหนว่ ยบรกิ ารสาธารณสขุ ในเขตสขุ ภาพและกรงุ เทพมหานครไดร้ บั การพฒั นา
ศักยภาพ
5. บคุ ลากรสาธารณสุขของหน่วยบริการปฐมภมู ิ (PCC) รพ.สต./รพช./รพศ./รพจ. ใหก้ ารบรกิ ารผปู้ ่วย
โรคจติ เภทท่มี ปี ระสิทธิภาพ
6. มเี ครอื ขา่ ยสขุ ภาพจติ ทม่ี สี ว่ นรว่ มในการดแู ลผปู้ ว่ ยโรคจติ เภทใหไ้ ดร้ บั การรกั ษาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ไมข่ าดยา
เฝา้ ระวังการกลบั เปน็ ซำ�้ ทว่ั ประเทศ
7. มีระบบฐานข้อมูลการบริการผู้ป่วยโรคจิตเภทท่ีเป็นทั้งส่วนของผู้รับบริการและผู้ให้บริการ รวมทั้ง
เครือขา่ ยสุขภาพจิตของประเทศไทย
123
10. โครงการพัฒนาระบบดูแลผู้ป่วยจิตเวชที่มคี วามเสี่ยงสงู ต่อการก่อความรนุ แรงในชุมชน
หลักการและเหตผุ ล
จากการส�ำรวจระบาดวิทยาสุขภาพจิตระดับชาติ ปี 2551 พบว่าความชุกของปัญหาสุขภาพจิตหลัก
มีถึงร้อยละ 14 ได้แก่ โรคจิต โรคซึมเศร้า โรคสุราและสารเสพติด และโรควิตกกังวล โดยพบว่า โรคจิตเภท
(schizophrenia) เปน็ โรคจิตชนดิ ที่พบบอ่ ยทีส่ ดุ และตดิ อันดับ 1 ใน 10 ของโรคทท่ี ำ� ใหเ้ กิดภาวะทุพพลภาพ
สงู สดุ (YLD) สง่ ผลต่อความพิการเรือ้ รัง การเป็นภาระทางสงั คมและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
กรมสุขภาพจิตได้ตระหนักถึงความส�ำคัญและจ�ำเป็นท่ีจะต้องมีระบบดูแล เฝ้าระวังติดตามผู้ป่วยจิตเวช
ท่ีมีความเส่ียงสูงต่อการก่อความรุนแรง (Serious Mental Illness With High Risk to Violence: SMI-V)
ซ่ึงเป็นกลุ่มเส่ียงสูงที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องตลอดช่วงชีวิตการเจ็บป่วย จึงได้จัดท�ำโครงการพัฒนา
ระบบการดแู ลผู้ปว่ ยจิตเวชท่มี คี วามเสยี่ งสงู ต่อการกอ่ ความรนุ แรงในสงั คม ตัง้ แตป่ ี พ.ศ. 2558 และดำ� เนนิ การ
มาอย่างต่อเนื่อง โดยสถาบัน/โรงพยาบาลจิตเวช สังกัดกรมสุขภาพจิต มีการคัดกรอง ค้นหาผู้ป่วยกลุ่มเส่ียง
ลงทะเบยี น ใหก้ ารดแู ลรกั ษาและมกี ารตดิ ตามดแู ลอยา่ งเขม้ ขน้ ปจั จบุ นั (กรกฎาคม 2561) มผี ปู้ ว่ ย SMI-V จำ� นวน
11,054 คน โดยเป็นผู้ป่วยกลุ่มโรคจิตเภท พฤติกรรมแบบโรคจิตเภทและโรคหลงผิด มากที่สุด รองลงมาเป็น
กลุ่มโรคความผิดปกติทางอารมณ์และกลุ่มโรคความผิดปกติทางจิตและพฤติกรรมที่เกิดจากการใช้สารออกฤทธิ์
ต่อจิตประสาท ส�ำหรับในปี 2564 เป็นการพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยจิตเวชที่มีความเส่ียงสูงต่อการก่อความ
รนุ แรงทเ่ี ชอ่ื มโยงกบั หนว่ ยบรกิ ารในเขตสขุ ภาพแบบไรร้ อยตอ่ โดยมเี ปา้ หมายสำ� คญั คอื ผปู้ ว่ ยไดร้ บั การรกั ษา ฟน้ื ฟู
สมรรถภาพ มีการติดตาม เฝ้าระวัง ในระบบอย่างต่อเน่ือง การเสริมพลังครอบครัว ชุมชนให้มีความเข้มแข็ง
เพอื่ ให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างต่อเน่ือง ไม่กอ่ เหตคุ วามรุนแรงต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม และมีคุณภาพ
ชวี ิตทดี่ ี ชมุ ชน สังคมมคี วามปลอดภยั
วตั ถุประสงค์
1. เพอ่ื พัฒนาระบบบริการผูป้ ว่ ยจิตเวชทมี่ คี วามเสย่ี งสงู ตอ่ การก่อความรุนแรงให้มมี าตรฐาน
2. เพ่ือสนับสนุนให้หน่วยบริการจิตเวชท่ีรับผิดชอบเขตสุขภาพมีระบบการติดตาม เฝ้าระวัง และดูแล
ผู้ปว่ ยจิตเวชทมี่ คี วามเส่ยี งสงู ต่อการกอ่ ความรนุ แรงอย่างตอ่ เนอ่ื งในชมุ ชน
3. เพ่ือเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชที่มีความเส่ียงสูงต่อการก่อความ
รนุ แรง
ผลทีค่ าดวา่ จะไดร้ บั
1. หน่วยบริการจิตเวชสามารถให้บริการดูแลผู้ป่วยจิตเวชที่มีความเส่ียงสูงต่อการก่อความรุนแรง
อยา่ งมมี าตรฐาน
2. หน่วยบริการจิตเวชที่รับผิดชอบเขตสุขภาพมีระบบการติดตาม เฝ้าระวัง และดูแลผู้ป่วยจิตเวชท่ีมี
ความเสีย่ งสงู ต่อการกอ่ ความรุนแรงอยา่ งตอ่ เนอื่ งในชุมชน
3. เครอื ขา่ ยมีความเขม้ แข็งและสามารถติดตาม เฝ้าระวัง และดูแลผู้ป่วยจติ เวชที่มคี วามเสย่ี งสงู ต่อการ
กอ่ ความรนุ แรงตอ่ เนื่องในชุมชน
124 ปรางี ยบงปารนะมปารณะจ�ำ2ป5ีก63รมสุขภาพจติ
11. โครงการพัฒนาคณุ ภาพระบบบริการสขุ ภาพจิตและจิตเวชระดับเหนอื ตติยภมู ิ
หลกั การและเหตผุ ล
กรมสขุ ภาพจติ เปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบหลกั ในการดแู ลสขุ ภาพจติ ของประชาชน และจดั ระบบบรกิ ารสำ� หรบั ดแู ล
ผู้ป่วยจิตเวชท่ียุ่งยากซับซ้อน ท่ีส่งต่อมารักษาเน่ืองจากโรงพยาบาลในเขตสุขภาพไม่สามารถให้บริการได้
มเี ปา้ หมายเพอ่ื ใหผ้ ปู้ ่วยไดร้ บั การดแู ลตอ่ เนอ่ื งตลอดช่วงชวี ติ ของการเจบ็ ปว่ ย สามารถอยรู่ ว่ มในสงั คมได้ รวมทง้ั
มคี ณุ ภาพชวี ติ ทด่ี ี ผปู้ ว่ ยไมก่ ลบั มาปว่ ยซำ�้ ในขณะเดยี วกนั สถาบนั /โรงพยาบาลในสงั กดั กรมสขุ ภาพจติ ยงั ไดม้ กี าร
พัฒนาวิชาการด้านการบริการสุขภาพจิตและจิตเวช ศึกษาวิจัย พัฒนานวัตกรรมเฉพาะโรค เฉพาะทาง ผลิต
บุคลากรด้านสุขภาพจิตและจิตเวชเพ่ือให้บริการในเขตสุขภาพ ก�ำหนดนโยบายท่ีเก่ียวข้องกับปัญหาสุขภาพจิต
และจิตเวชที่ส�ำคัญในระดับประเทศ ด้วยการพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศด้านสุขภาพจิตและจิตเวช ท�ำให้ปัญหา
สุขภาพจิตและผูป้ ว่ ยจติ เวชระดับท่รี นุ แรง ยงุ่ ยากซับซอ้ น ในระดับประเทศได้รับการดูแล และมีนวัตกรรมการ
รกั ษาทมี่ คี ณุ ภาพ ประสทิ ธภิ าพ ผปู้ ว่ ยจติ เวชสามารถเขา้ ถงึ บรกิ ารและไดร้ บั การบรกิ ารทมี่ คี ณุ ภาพ อยา่ งไรกต็ าม
ยังพบช่องว่างในการด�ำเนินงานท่ีจ�ำเป็นต้องได้รับการพัฒนา ในด้านขีดความสามารถระบบบริการ เช่น ระบบ
การส่งต่อผู้ป่วยท่ียังมีความไม่ครอบคลุม ด้านบุคลากรที่ขาดแคลนบุคลากรด้านสุขภาพจิตและจิตเวช เช่น
จิตแพทย์ สหวิชาชพี เฉพาะทาง ปัญหาความแออัดในโรงพยาบาลจิตเวชในเมอื งใหญ่ นอกจากนี้ ในดา้ นสถานที่
มีการพัฒนาบริการด่านหน้าของสถาบัน/โรงพยาบาลจิตเวช ด้วยการปรับโฉมโรงพยาบาลจิตเวช ท้ังในด้าน
ส่ิงแวดล้อมเพ่ือการรักษา และการน�ำระบบดิจิทัลมาใช้ในระบบคิวตรวจรักษา เพื่อลดการรอคอย ก่อให้เกิด
ความสะดวก รวดเรว็ ของผรู้ บั บรกิ ารและลดความแออดั กรมสขุ ภาพจติ จงึ ไดด้ ำ� เนนิ การโครงการพฒั นาคณุ ภาพ
ระบบบรกิ ารสขุ ภาพจิตและจิตเวชระดบั เหนือตติยภูมิขึ้น เพอ่ื ใหห้ น่วยบริการจิตเวชในสงั กดั กรมสขุ ภาพจิต 20
แห่ง มีการพฒั นาระบบบริการ และวชิ าการในการดูแลผปู้ ว่ ยจิตเวชท่มี คี วามรุนแรง ย่งุ ยาก ซับซอ้ น และระบบ
บริการเฉพาะทางทง้ั ในจติ เวชทวั่ ไปและจติ เวชเดก็ และวยั รุน่ ได้อยา่ งมีคุณภาพมาตรฐาน และเชอ่ื มโยงกับระบบ
บรกิ ารสุขภาพในเขตสขุ ภาพ 12 เขต และพื้นที่กรงุ เทพมหานคร ในรูปแบบเครอื ขา่ ยบรกิ ารท่ีไร้รอยต่อ อนั สง่ ผล
ใหผ้ ปู้ ่วยจิตเวช ญาติ/ผดู้ ูแล ได้รบั บรกิ ารทีด่ ี มีมาตรฐาน อาการสงบ ปลอดภยั
วตั ถุประสงค์
1. เพ่ือพัฒนาระบบบริการผู้ป่วยจิตเวชรุนแรง ยุ่งยากซับซ้อน ในสถาบัน/โรงพยาบาลจิตเวช ให้
เชือ่ มโยงและตอบสนองต่อความต้องการในเขตสุขภาพ
2. เพ่ือพัฒนา ขีดความสามารถ และบรกิ ารเฉพาะทางส�ำหรับผู้ป่วยจิตเวชรนุ แรง ยงุ่ ยาก ซบั ซอ้ นให้มี
คณุ ภาพ มาตรฐาน
3. เพอ่ื พฒั นาศกั ยภาพบคุ ลากรใหม้ สี มรรถนะทง้ั ทางดา้ นบรกิ าร วชิ าการในการดแู ลผปู้ ว่ ยจติ เวชรนุ แรง
ยุง่ ยากซับซ้อน
4. เพ่ือพัฒนาระบบบริการด่านหน้าของสถาบัน/โรงพยาบาลจิตเวช ให้มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ ผู้รับ
บรกิ ารมคี วามพึงพอใจ
ผลทคี่ าดวา่ จะได้รับ
1. หน่วยบริการจิตเวชมีระบบบริการผู้ป่วยจิตเวชรุนแรง ยุ่งยาก ซับซ้อน ท่ีเช่ือมโยงและตอบสนอง
ตอ่ ความต้องการในเขตสขุ ภาพ
2. บคุ ลากรในสถาบนั /โรงพยาบาลจติ เวช มสี มรรถนะและสามารถใหบ้ รกิ ารผปู้ ว่ ยจติ เวชรนุ แรง ยงุ่ ยาก
ซับซอ้ น ได้ตามมาตรฐานบรกิ าร
125
12. โครงการพฒั นาระบบบรกิ ารวกิ ฤตสุขภาพจติ ของประเทศ
หลกั การและเหตผุ ล
กรมสุขภาพจิตได้รับมอบหมายให้ดูแลและพัฒนาระบบงานวิกฤตสุขภาพจิตระดับประเทศ ท�ำหน้าท่ี
ในการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูด้านจิตใจผู้ประสบสาธารณภัยหรือภัยพิบัติ และสนับสนุนการปฏิบัติงาน
ในภาวะฉุกเฉิน สปฉ.6 สวัสดิการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และ สปฉ.8 การแพทย์และสาธารณสุข
พ.ศ. 2558 จงึ ไดพ้ ฒั นางานดา้ นวกิ ฤตสขุ ภาพจติ อยา่ งตอ่ เนอื่ งตลอดมา โดยเฉพาะการผลกั ดนั ใหเ้ กดิ ทมี ชว่ ยเหลอื
เยยี วยาจติ ใจผปู้ ระสบภาวะวกิ ฤต (MCATT) ทงั้ ประเทศ รวมทง้ั ไดเ้ ลง็ เหน็ ความสำ� คญั ของการสรา้ งความเขม้ แขง็
ในระดบั ชมุ ชนต่อการรับรู้ การปรบั ตัวกบั ผลกระทบเพ่ือรบั มือกบั สถานการณว์ กิ ฤต/ภยั พิบตั ิ จงึ ได้มีการพฒั นา
ทีม MCATT ระดับต�ำบล ขณะเดียวกันได้มีการพัฒนาองค์ความรู้คู่มือการปฏิบัติงานด้านวิกฤติสุขภาพจิต
อยา่ งตอ่ เนอื่ งแกเ่ ครอื ขา่ ยทงั้ ในและนอกกระทรวงสาธารณสขุ ดงั นน้ั เพอื่ ใหเ้ กดิ การขบั เคลอื่ นงานวกิ ฤตสขุ ภาพจติ
อยา่ งเปน็ ระบบและเปน็ รปู ธรรมในปงี บประมาณ 2564 กรมสขุ ภาพจติ โดยโรงพยาบาลจติ เวชสงขลาราชนครนิ ทร์
ร่วมกับกองบริหารระบบบริการสุขภาพจิตจึงได้ด�ำเนินโครงการพัฒนาระบบบริการวิกฤตสุขภาพจิตของ
ประเทศไทยขึ้นเพ่ือให้เกิดระบบบริการ/การบริหารจัดการในภาวะวิกฤตให้มีประสิทธิภาพและมีความต่อเน่ือง
โดยมคี วามเช่อื มโยงบูรณาการท้งั ระดบั จังหวดั ระดับเขต และระดับประเทศ
วตั ถุประสงค์
1. พัฒนาระบบบริการ/การบริหารจัดการในภาวะวิกฤตให้มีประสิทธิภาพและมีความต่อเนื่อง โดยมี
ความเช่ือมโยงบรู ณาการท้ังระดบั จังหวดั เขตสุขภาพ และประเทศ
2. พฒั นาระบบการเตรยี มความพรอ้ มของชมุ ชนในการรบั มอื กบั ภาวะวกิ ฤตและการฟน้ื คนื สขุ ภาวะทางจติ
3. พัฒนาศกั ยภาพผูป้ ฏิบัติงานทมี MCATT และเครือข่ายชุมชนในการดำ� เนนิ งานวกิ ฤตสุขภาพจิต
4. พัฒนาองค์ความรู้/การวิจยั ดา้ นวกิ ฤตสุขภาพจิตในการปฏิบตั งิ านทมี MCATT และเครอื ข่ายชุมชน
ผลทค่ี าดวา่ จะได้รับ
1. เกิดภาคีเครือข่ายด้านวิกฤตสุขภาพจิตและสุขภาพจิตฉุกเฉินท้ังในและนอกระบบสาธารณสุข
ทีเ่ ข้มแขง็ ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภาวะวกิ ฤต
2. เกิดการประสานและพฒั นาภาคีเครือข่ายด้านวิกฤตสขุ ภาพจติ ทีเ่ ปน็ ระบบ
3. เกดิ การบรู ณการงานดา้ นสขุ ภาพจติ ดา้ นวกิ ฤตฉกุ เฉนิ และสขุ ภาพกายเขา้ ดว้ ยกนั ทง้ั วกิ ฤตระดบั บคุ คล
(Individual Crisis) สังคม (Social Crisis) ครอบครัว (Family Crisis) และภยั พบิ ตั ิ (Disaster)
4. มีหลักสูตรบูรณาการระบบการด�ำเนินงานช่วยเหลือเยียวยาจิตใจด้านวิกฤตสุขภาพจิตและ
สุขภาพกายส�ำหรบั บุคลากรท้งั ภาครฐั และเอกชน
5. เกดิ แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพระบบบรกิ ารดา้ นวกิ ฤตสิ ขุ ภาพจติ สำ� หรบั เครอื ขา่ ยสาธารณสขุ ทกุ ระดบั
6. มกี ารจดั ตง้ั ระบบเฝา้ ระวงั วิกฤตสุขภาพจติ และสขุ ภาพจติ ฉุกเฉิน
7. บุคลากรทุกภาคส่วนใน AHB มีการซ้อมแผนรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติด้านสุขภาพจิตและมีการ
บูรณาการแผนและซ้อมแผนระดบั จงั หวัด ระดับเขตและระดับประเทศ
8. มีระบบ Logistic ทพี่ รอ้ มในการด�ำเนินงานเม่ือเกดิ สถานการณ์วิกฤต
9. มรี ะบบส่งั การการรกั ษาความปลอดภยั การสอ่ื สาร ในการด�ำเนินการช่วยเหลอื ผ้ปู ระสบภาวะวกิ ฤต
ที่มีประสิทธิภาพ
10. มรี ะบบการสอ่ื สารขอ้ มลู อย่างรวดเร็วและถกู ตอ้ งในการดูแลตนเองเมือ่ เกดิ สถานการณว์ กิ ฤต
126 ปรางี ยบงปารนะมปารณะจำ�2ป5กี63รมสุขภาพจิต
13. โครงการแก้ไขปัญหาวิกฤตสขุ ภาพจติ ในพน้ื ท่ีจงั หวัดชายแดนใต้
หลักการและเหตุผล
กรมสขุ ภาพจิตมอบหมายให้โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครนิ ทร์รบั ผดิ ชอบเร่อื งการปอ้ งกันและแกไ้ ข
ปญั หาความไมส่ งบในจังหวดั ชายแดนภาคใต้ เน้นการพฒั นางานวิชาการ งานวิจยั งานบรกิ าร และงานบรหิ าร
จัดการด้านสุขภาพจิตและจิตเวชด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของเครือข่ายในการดูแลสุขภาพจิตของประชาชน
ในทุกกลุ่มวัย ท้ังในสภาวะปกติและสภาวะวิกฤต เน้นการเยียวยาด้านจิตใจผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์
ความไม่สงบในพ้ืนที่ชายแดนใต้โดยพัฒนาศักยภาพบุคลากรเครือข่ายให้มีความสามารถในการดูแลช่วยเหลือ
เยยี วยาจติ ใจและเสรมิ สรา้ งความเขม้ แขง็ ของจติ ใจของประชาชนผไู้ ดร้ บั ผลกระทบจากเหตกุ ารณค์ วามไมส่ งบได้
การพัฒนาฐานข้อมูลด้านเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพจิตส�ำหรับผู้ประสบภัยพิบัติในภาวะวิกฤติ จากสถานการณ์
ความไม่สงบจังหวดั ชายแดนใตท้ ่ีเกดิ ขน้ึ อยา่ งต่อเน่ืองตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2547 ถึง พ.ศ. 2562 พบว่า มสี ถานการณ์
ความไม่สงบทรี่ ุนแรง เชน่ การลอบยิง การลอบวางระเบดิ เกิดขึ้นจำ� นวน 20,376 ครงั้ มีผู้เสียชีวติ 7,017 คน
(เป็นเดก็ และเยาวชนจำ� นวน 238 คน) ผบู้ าดเจบ็ 13,673 คน (เปน็ เดก็ และเยาวชนจ�ำนวน 1,151 คน) ท�ำให้
เด็กพกิ าร 36 คน กำ� พรา้ พอ่ และหรือแม่ จำ� นวน 6,998 คน โรงเรยี นหรอื สถานศึกษาถกู วางเพลงิ 360 แหง่
(ศนู ยเ์ ฝา้ ระวงั สถานการณภ์ าคใต,้ 2560) สง่ ผลกระทบตอ่ สภาวะสขุ ภาพจติ ของประชาชนในพนื้ ทท่ี ง้ั ทางตรงและ
ทางอ้อม
ในปีงบประมาณ 2562 โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ร่วมกับศูนย์สุขภาพจิตท่ี 12 ได้ด�ำเนิน
โครงการแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยเสริมสร้างพลังสุขภาพจิต ส�ำหรับผู้ได้รับ
ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนใต้ พัฒนาศักยภาพแบบบูรณาการในการดูแลผู้ป่วยและผู้ที่มี
ปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวชด้วยระบบดิจิทัลเครือข่ายสุขภาพที่ 12 พัฒนาเครือข่ายในการจัดบริการดูแล
เบื้องตันปัญหาสุขภาพจิตผู้ประสบภาวะวิกฤติแบบองค์รวมและทบทวนระบบการส่งต่อ รวมถึงการส่งเสริม
สุขภาพจิตในกลุ่มประชาชนทั่วไปให้เกิดความรู้และสามารถจัดการสุขภาพจิตตนเองเบ้ืองต้นได้โดยการเรียน
ออนไลน์ PFA E-Learning และการรว่ มกันดูแลสุขภาพจิตในรปู แบบของชุมชนโดยการมีสว่ นร่วมของประชาชน
โดยใชร้ ูปแบบของ HUGS Model จากการทบทวนและจดั ทำ� ยุทธศาสตรก์ ารแกป้ ญั หาสุขภาพจิตในพน้ื ทจี่ ังหวัด
ชายแดนใตท้ ผี่ า่ นมาโรงพยาบาลจติ เวชสงขลาราชนครนิ ทรร์ ว่ มกบั ศนู ยส์ ขุ ภาพจติ ที่ 12 ไดก้ ำ� หนดแนวทางในการ
ด�ำเนนิ งาน ดงั นี้ 1) ศึกษาปัญหาสขุ ภาพจิต 2) สง่ เสรมิ พฒั นาเชาว์ปญั ญา และความฉลาดทางอารมณ์ และ
3) พฒั นาศักยภาพบุคลากร เพื่อใหป้ ระชาชนได้รบั การดแู ลและเข้าถงึ บริการสุขภาพจิตทีม่ คี ุณภาพ ท้งั ในภาวะ
ปกตแิ ละภาวะวิกฤต ตามเปา้ ประสงค์กรมสุขภาพจิตตอ่ ไป
วตั ถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาปัญหาสุขภาพจติ ของประชาชนในพืน้ ที่จังหวดั ชายแดนใต้
2. เพ่ือส่งเสริม พัฒนาเชาว์ปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์เด็กท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์
ความไมส่ งบในพนื้ ท่จี งั หวดั ชายแดนใต้
3. เพอื่ พฒั นาศกั ยภาพบคุ ลากรเครอื ขา่ ยใหส้ ามารถดแู ลเยยี วยาจติ ใจผไู้ ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์
ความไม่สงบในพ้นื ทีจ่ ังหวัดชายแดนใต้ และลงบันทกึ ขอ้ มลู ในฐานขอ้ มูล CMS ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ
ผลทีค่ าดวา่ จะไดร้ บั
ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนใต้ เข้าถึงบริการสุขภาพจิตที่มี
คณุ ภาพ
127
14. โครงการพฒั นาระบบการดแู ลสุขภาพจิตครบวงจรด้วยกลไกทางกฎหมาย
หลักการและเหตุผล
กรมสุขภาพจิตได้ด�ำเนินงานในการพัฒนางานสุขภาพจิตท้ังด้านการส่งเสริม ป้องกัน รักษา และฟื้นฟู
ผู้มีปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวช ซ่ึงได้มีการพัฒนาระบบบริการสุขภาพจิตและจิตเวช รวมทั้งได้ด�ำเนินการ
ตามบทบัญญัตใิ นพระราชบญั ญัตสิ ุขภาพจิต พ.ศ. 2551 โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มการเขา้ ถงึ บริการบำ� บดั รกั ษา
ของผู้ป่วยจิตเวชทุกช่วงอายุ ปัจจุบันผู้มีปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวชมีแนวโน้มเพ่ิมสูงข้ึน ซึ่งเม่ือพิจารณาจาก
ข้อมูลผลการดำ� เนนิ งานของสถานบ�ำบัดรกั ษาตามพระราชบัญญัติสขุ ภาพจติ พ.ศ. 2551 ประจำ� ปี พ.ศ. 2560
พบวา่ ผปู้ ว่ ยทมี่ ารบั บรกิ ารในสถานบำ� บดั รกั ษาเปน็ ผปู้ ว่ ยจติ เวชรวมทง้ั สนิ้ 1,674 ราย โดยเปน็ ผปู้ ว่ ยจติ เวชทว่ั ไป
ตามพระราชบัญญัตสิ ุขภาพจติ พ.ศ. 2551 จำ� นวน 1,254 ราย และเปน็ ผู้ป่วยนิตจิ ิตเวช (ผปู้ ่วยคด)ี จำ� นวน 420
ราย ดงั นน้ั เพ่ือใหผ้ ูม้ ปี ัญหาสุขภาพจิตและจิตเวชไดร้ ับการคมุ้ ครองสิทธแิ ละได้รับการบ�ำบดั รักษาอย่างถกู ตอ้ ง
และเพ่มิ ประสทิ ธิภาพในการดแู ลผ้มู คี วามผดิ ปกติทางจิต จงึ จำ� เปน็ ตอ้ งด�ำเนินการสื่อสารความรู้ ความเข้าใจใน
พระราชบัญญัตสิ ุขภาพจติ พ.ศ. 2551 สสู่ ังคม รวมท้งั พฒั นาแนวทางในการปฏิบัติต่อผูม้ ีปญั หาด้านสุขภาพจิต
และจิตเวช รวมถึงกฎหมายอ่นื ๆ ทีเ่ กยี่ วข้องให้เป็นทเี่ ขา้ ใจและเกิดผลอันดตี ่อผ้มู ีปัญหาทางจิตและจติ เวช และ
สังคม
การด�ำเนินงานขับเคลื่อนการบังคับใช้พระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. 2551 ในระดับพื้นที่ท่ีผ่านมา
พบว่าปัญหาหลักในการด�ำเนินงานของจังหวัด คือ ขาดงบประมาณในการจัดประชุมคณะอนุกรรมการ
ประสานงานเพอ่ื การบังคับใชพ้ ระราชบญั ญัตสิ ขุ ภาพจติ พ.ศ. 2551 ระดบั จังหวัด ทัง้ นี้ตามค�ำส่งั คณะกรรมการ
สุขภาพจิตแห่งชาติ 1/2559 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการประสานงานเพื่อการบังคับใช้พระราชบัญญัติ
สุขภาพจิต พ.ศ. 2551 ระดับจังหวัด ก�ำหนดให้มีการประชุม 2 คร้ังต่อปี ซึ่งการประชุมคณะอนุกรรมการฯ
เปน็ กลไกสำ� คญั ในการสนบั สนนุ และผลกั ดนั การขบั เคลอ่ื นงานดา้ นสขุ ภาพจติ รวมทงั้ วางแผน ถา่ ยทอดแนวทาง
การดำ� เนนิ งานการสร้างเสรมิ ป้องกนั รักษา ฟื้นฟู ผูม้ ีปญั หาสขุ ภาพจติ และประสาน แกไ้ ขปัญหาท่ีเกดิ ขน้ึ จาก
การบงั คบั ใชพ้ ระราชบญั ญตั สิ ุขภาพจิต พ.ศ. 2551 จากความสำ� คัญและปัญหาดงั กลา่ วข้างต้น กองยุทธศาสตร์
และแผนงานจึงได้จัดท�ำโครงการพัฒนาระบบการดูแลผู้มีปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวชตามพระราชบัญญัติ
สุขภาพจิต พ.ศ. 2551 ข้ึน เพ่ือเป็นการยกระดับคุณภาพในการดูแลบ�ำบัดรักษาผู้มีปัญหาทางสุขภาพจิตและ
จิตเวชอย่างมีประสิทธภิ าพ ต่อไป
วัตถปุ ระสงค์
1. ผู้มีความผิดปกติทางจิต ได้รับการคุ้มครองสิทธิและได้รับการดูแลอย่างครบวงจรเพื่อลดอาการ
ความผิดปกติ ความรุนแรงท่ีอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของบุคคลน้ัน และของผู้อ่ืน
ในสงั คม
2. เพ่ือขับเคลอื่ นการดำ� เนนิ งานตามพระราชบัญญตั สิ ุขภาพจติ พ.ศ. 2551 ในระดับพืน้ ที่
3. ผมู้ ปี ญั หาสขุ ภาพจติ และผมู้ คี วามผดิ ปกตทิ างจติ ไดร้ บั การเฝา้ ระวงั ตดิ ตามดแู ลตามมาตรฐานโดยการ
มสี ่วนร่วมของชุมชนและเครอื ขา่ ยที่เกย่ี วข้อง
ผลทีค่ าดว่าจะได้รับ
1. เกดิ ระบบการดแู ลผมู้ ปี ัญหาสุขภาพจิตและจติ เวชในเขตสขุ ภาพ ทีม่ ีความเช่อื มโยงระหว่างเครอื ข่าย
ท้ังในและนอกระบบบริการสาธารณสขุ รวมท้ังเครอื ข่ายภาคประชาชน
2. ผู้มีปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวชได้รับการดูแลในพื้นที่อย่างถูกต้อง เหมาะสม และทันท่วงที อันจะ
เป็นการชว่ ยลดปจั จยั ท่กี ่อให้เกิดปัญหาความรุนแรงในสังคม
128 รปาีงยบงปารนะมปารณะจำ�2ป5ีก63รมสุขภาพจิต
15. โครงการป้องกนั และแก้ไขปัญหาการฆา่ ตัวตายในคนไทย
หลกั การและเหตุผล
การฆ่าตัวตาย นับเป็นการบาดเจ็บที่เป็นปัญหาสาธารณสุขท่ีส�ำคัญของท่ัวโลกรวมถึงประเทศไทยและ
กำ� ลังมแี นวโน้มเพม่ิ ข้ึนอย่างต่อเน่อื ง ปี พ.ศ.2561 ปญั หาการฆา่ ตวั ตายของประเทศ ยังคงมจี ำ� นวนผทู้ ่ีเสียชวี ิต
จากการฆ่าตัวตายมากถึง 4,137 คน หรือ เท่ากบั 6.32 ตอ่ ประชากรแสนคน โดยผู้ที่ฆา่ ตัวตายส�ำเร็จ สว่ นใหญ่
ยังคงเปน็ วัยทำ� งาน อายเุ ฉล่ยี 44 ปี ผชู้ ายยังคงฆา่ ตัวตายส�ำเรจ็ (อตั รา 10.41 ตอ่ ประชากรแสนคน) มากกว่า
ผู้หญิง (กรมยุทธศาสตร์และแผนงาน, 2561) นับเป็นความสูญเสียด้านทรัพยากรบุคคลที่ส�ำคัญของประเทศ
ในขณะที่ปีงบประมาณ 2561 จากฐานข้อมลู HDC ประเทศ มผี ทู้ ำ� ร้ายตนเองเพียง 22,845 คนท่เี ขา้ ถงึ บริการ
สุขภาพ และยงั พบว่า มากเกินกวา่ ครึ่งของผทู้ ำ� รา้ ยตนเองจะเป็นการทำ� ร้ายตนเองคร้งั แรกและเสยี ชีวติ ในชุมชน
ก่อนมาถึงหน่วยบริการ เม่ือวิเคราะห์ปัจจัยท่ีมาเก่ียวข้องกับการฆ่าตัวตาย ยังคงเกี่ยวข้องในมิติด้านบุคคล
ครอบครวั ชมุ ชนและสงั คม โดยเฉพาะในยคุ สงั คมออนไลน์ วถิ ชี วี ติ ทเี่ ปน็ ไปดว้ ย ความเรง่ รบี และการทป่ี ระเทศไทย
ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว การฆ่าตัวตาย จึงไม่ใช่ปัจจัยที่มีสาเหตุมาจากการเจ็บป่วยด้วยโรค แต่เป็น
พฤติกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความเก่ียวพันธ์ของปัจจัยท่ีหลากหลาย การแก้ไขปัญหาจึงควรมุ่งประเด็นให้มี
ความครอบคลุม คอื การป้องกัน จนถงึ จดุ ทมี่ กี ารสง่ ตอ่ เขา้ สู่ระบบบรกิ าร รกั ษาและฟนื้ ฟจู ิตใจในชมุ ชน อกี ท้งั
ต้องเป็นการด�ำเนินงานในยุทธศาสตร์และความร่วมมือของทุกภาคส่วนร่วมมือและแก้ไขปัญหาไปอย่างต่อเน่ือง
และจริงจัง
วัตถุประสงค์
1. ประชากรกลุ่มเส่ียงได้รับการเสริมสร้างความรอบรู้และเข้าใจถึงปัจจัยที่เก่ียวข้องกับการเกิดปัญหา
การฆ่าตัวตาย การปรับตัวเผชิญปัญหาสุขภาพจิต และมีทักษะในการประเมินตนเอง บุคคลใกล้ชิด และการ
ปฐมพยาบาลใจเบ้อื งตน้ เม่ือพบเหน็ ถงึ สญั ญาณเตอื นของความเสยี่ งต่อการฆ่าตัวตาย
2. บคุ ลากรสาธารณสขุ มคี วามรดู้ า้ นการบำ� บดั และการดแู ลชว่ ยเหลอื ตามลกั ษณะของปญั หาทเี่ กย่ี วขอ้ ง
กับการฆ่าตวั ตายได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม
3. ทมี หมอครอบครวั และแพทย์มีความมั่นใจในการวนิ จิ ฉัย และการรักษา สอดคลอ้ งไปกบั ปัญหาของ
ผู้ท�ำร้ายตนเอง รวมไปถึงการมีความรู้ทักษะด้านการเยียวยาจิตใจและผู้ใกล้ชิดท่ีได้รับผลจากการฆ่าตัวตายได้
อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม
4. แกนนำ� ชมุ ชน สื่อมวลชน ไดร้ ับการถ่ายทอดความรู้ ความเขา้ ใจและมที ักษะดแู ลช่วยเหลือเบอื้ งตน้
เมื่อตรวจพบสัญญาณเตือนของผ้ทู ม่ี ีความเสย่ี งตอ่ การฆ่าตวั ตาย
5. พฒั นาหนว่ ยบรกิ ารสาธารณสขุ แตล่ ะระดบั ใหม้ รี ะบบรกิ ารสขุ ภาพตามมาตรฐานการดำ� เนนิ งานดแู ล
รักษาและช่วยเหลือผูท้ ีฆ่ า่ ตวั ตายไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
6. สนบั สนนุ ใหห้ นว่ ยบรกิ ารสาธารณสขุ ระดบั จงั หวดั มที มี งานเฝา้ ระวงั สอบสวนระบาดวทิ ยาการฆา่ ตวั ตาย
ที่มปี ระสิทธภิ าพ
7. มีระบบฐานข้อมูลด้านระบาดวิทยาท่ีบ่งบอกถึงลักษณะประชากรที่ฆ่าตัวตายท้ังที่เสียชีวิตและไม่
เสยี ชีวิตระดับประเทศท่ีทันสมัยและถกู นำ� มาใชใ้ นการก�ำหนดมาตรการการแกไ้ ขปญั หาในพื้นทไ่ี ด้
129
ผลที่คาดวา่ จะได้รับ
1. ประชากรกลุ่มเสี่ยง มีความรอบรู้ถึงปัจจัยท่ีเกี่ยวข้องกับการเกิดปัญหาการฆ่าตัวตาย การปรับตัว
เผชญิ ปัญหาสุขภาพจิต และมที ักษะในการประเมนิ ตนเอง บุคคลใกลช้ ิด ถงึ สัญญาณเตือนของความเส่ียงตอ่ การ
ฆ่าตวั ตาย ส่งผลใหผ้ ้ทู �ำรา้ ยตนเองเข้าถงึ ระบบบริการได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
2. บคุ ลากรสาธารณสุข สามารถประยกุ ตใ์ ชช้ ุดความรดู้ า้ นการบ�ำบัดดแู ลชว่ ยเหลือตามหลัก 3 ส Plus
ได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม
3. ทมี หมอครอบครวั และแพทย์มีความมนั่ ใจในการวนิ ิจฉัย และการรักษา สอดคล้องไปกบั ปญั หาของ
ผู้ท�ำร้ายตนเอง รวมไปถึงการมีความรู้ทักษะด้านการเยียวยาจิตใจและผู้ใกล้ชิดที่ได้รับผลจากการฆ่าตัวตาย
ไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม
4. แกนน�ำชุมชน สื่อมวลชน มีความรู้ ความเข้าใจและมีทักษะดูแลช่วยเหลือเบื้องต้นเม่ือตรวจพบ
สัญญาณเตือนของผ้ทู ม่ี ีความเส่ียงตอ่ การฆ่าตัวตาย
5. หนว่ ยบรกิ ารสาธารณสขุ ในแตล่ ะระดบั มรี ะบบรกิ ารสขุ ภาพตามมาตรฐานการดำ� เนนิ งานดแู ลรกั ษา
และชว่ ยเหลือผู้ทฆ่ี ่าตัวตายไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
6. หน่วยบริการสาธารณสุขระดับจังหวัด มีทีมงานเฝ้าระวังสอบสวนระบาดวิทยาการฆ่าตัวตายและ
เออื้ อำ� นวยต่อการนำ� มาซง่ึ ขอ้ มูลทใ่ี ช้ในการวางแผนงานแกไ้ ขปัญหาการฆา่ ตวั ตายที่มปี ระสทิ ธิภาพ
7. มีระบบฐานข้อมูลด้านระบาดวิทยาท่ีบ่งบอกถึงลักษณะประชากรท่ีฆ่าตัวตายท้ังท่ีเสียชีวิตและไม่
เสยี ชวี ติ ในระดบั ประเทศท่ที ันสมยั และถูกน�ำมาใชใ้ นการก�ำหนดมาตรการการแก้ไขปัญหาในพ้นื ท่ไี ด้
130 รปางี ยบงปารนะมปารณะจำ�2ป5กี63รมสุขภาพจิต
16. โครงการเพ่ิมประสทิ ธภิ าพการดูแลผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
หลักการและเหตผุ ล
โรคซึมเศร้า เป็นอีกโรคท่ีพบได้บ่อยจากความผิดปกติทางจิต ท่ีพบได้ท่ัวไปในประชาชนทุกเพศทุกวัย
จากการคาดการณ์ภาระของโรคทัว่ โลก ปี 2563 โรคซึมเศร้าจะก่อใหเ้ กดิ ความสญู เสียด้านสุขภาพ แกป่ ระชากร
โลกเป็นอันดับ 2 ในการศึกษาภาระทางสุขภาพจากโรคและการบาดเจ็บของประชากรในปี 2008 พบว่า
โรคซมึ เศร้า (MDD) 3.2% ของประชากรไทยซง่ึ มีคนไทยปว่ ยเปน็ โรคซึมเศร้าถึง 1.5 ล้านคน โรคซึมเศร้าเป็น
ภาวะผดิ ปกตทิ เี่ กดิ กบั รา่ งกายและจติ ใจทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ กจิ กรรมประจำ� ทกุ วนั ทกุ ดา้ น รวมทง้ั การกนิ การนอน
การท�ำงาน สัมพันธภาพและความรู้สกึ นกึ คดิ ต่อตนเอง จงึ ทำ� ให้โรคซึมเศรา้ กลายเปน็ ปญั หาสุขภาพจิตทส่ี �ำคัญ
ตามแผนยุทธศาสตร์กรมสุขภาพจิต ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12
(พ.ศ.2560-2564) ในประเด็นยุทธศาสตร์ท่ี 2 พัฒนาคุณภาพระบบบริการและวิชาการสุขภาพจิตและจิตเวช
โดยก�ำหนดค่าเป้าหมาย ในปี พ.ศ. 2564 ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเข้าถึงบริการได้ร้อยละ 71 โดยโรงพยาบาล
พระศรีมหาโพธ์ิเป็นหน่วยงานในกรมสุขภาพจิตที่รับผิดชอบ บริหารติดตามผลร่วมกับกองบริหารระบบบริการ
สขุ ภาพจติ ซง่ึ มบี ทบาทหนา้ ทคี่ วามรบั ผดิ ชอบวางแผนและกำ� หนดแนวทางการดำ� เนนิ งานทจ่ี ะเปน็ การตอบสนอง
ตัวชี้วัดในภาพรวมทั้งประเทศ อ�ำนวยการและประสานงานให้เกิดการด�ำเนินงานระหว่างหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง
ทั้งในและนอกกรมสุขภาพจิต มีการสนับสนุนด้านวิชาการ สร้างแรงจูงใจ และก�ำกับติดตามการดูแลเฝ้าระวัง
โรคซึมเศร้าในกล่มุ เส่ยี งแกส่ ถานบรกิ ารสาธารณสุข ดำ� เนินการรว่ มกบั โรงพยาบาลจติ เวชในแตล่ ะพืน้ ท่ี ตดิ ตาม
กำ� กบั รวบรวมรายงานความกา้ วหนา้ จดั ทำ� และสง่ ผลการดำ� เนนิ งานตามรอบระยะเวลาการ รายงานตามเนอ้ื หา
ของตวั ชว้ี ัดในภาพรวม
วตั ถุประสงค์
1. เพ่ือใหผ้ ปู้ ว่ ยโรคซมึ เศรา้ เขา้ ถึงบรกิ ารเพิ่มมากขนึ้
2. เพอ่ื ใหป้ ระชาชนกลมุ่ เสย่ี งอายุ 15 ปขี น้ึ ไป ไดร้ บั การคดั กรองแนวโนม้ การปว่ ยเปน็ โรคซมึ เศรา้ ประเมนิ
อาการโรคซึมเศร้า การประเมินความเสี่ยงต่อการมีพฤติกรรมรุนแรงต่อตนเองและผู้อ่ืน และถูกส่งต่อไปรับการ
วนิ จิ ฉยั โรคและบำ� บดั รักษา
3. เพอ่ื ใหผ้ ทู้ มี่ อี าการโรคซมึ เศรา้ ไดร้ บั บรกิ ารบำ� บดั รกั ษาทที่ นั ทว่ งที การบำ� บดั รกั ษาทคี่ รบตามมาตรฐาน
การบำ� บดั ต่อเน่อื งจนอาการทเุ ลา ไม่กลับเป็นซ้�ำ และมคี ณุ ภาพชวี ิตทด่ี ี
4. เพอ่ื ใหผ้ ปู้ ว่ ยโรคซมึ เศรา้ ทไี่ ดร้ บั บรกิ ารมคี วามปลอดภยั ลดการฆา่ ตวั ตาย ลดความรนุ แรง ไมไ่ ดร้ บั ผล
ทไ่ี ม่พงึ ประสงคจ์ ากการดูแลรกั ษาทัง้ ทางรา่ งกาย จติ ใจ และสังคม
5. เพอ่ื พฒั นาศกั ยภาพบคุ ลากรสาธารณสขุ ของหนว่ ยบรกิ าร รพ.สต./ รพช./ รพจ./ รพศ. ใหก้ ารบรกิ าร
ผู้ปว่ ยโรคซมึ เศรา้ ที่มปี ระสทิ ธิภาพ
6. เพ่ือให้เครือข่ายสุขภาพจิตมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยโรคซึมเศร้าให้ได้รับการรักษาอย่างต่อเน่ือง
ไม่ขาดยา และเฝ้าระวังการกลบั เป็นซ้ำ�
7. เพ่ือให้เกิดการเช่ือมฐานขอ้ มูลระบบการดแู ลผู้ปว่ ยระหว่างกรมสขุ ภาพจติ และเครอื ขา่ ยสขุ ภาพจติ
131
ผลที่คาดวา่ จะไดร้ บั
1. ผ้ปู ว่ ยโรคซมึ เศร้าเข้าถงึ บริการเพ่ิมมากข้นึ
2. ประชาชนกลุ่มเส่ียงอายุ 15 ปีขึ้นไป ได้รับการคัดกรองแนวโน้มการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ประเมิน
อาการโรคซึมเศร้า การประเมินความเสี่ยงต่อการมีพฤติกรรมรุนแรงต่อตนเองและผู้อื่น และถูกส่งต่อไปรับการ
วินิจฉยั โรคและบ�ำบัดรกั ษา
3. ผู้ที่มีอาการโรคซึมเศร้าได้รับบริการบ�ำบัดรักษาท่ีทันท่วงที การบ�ำบัดรักษาท่ีครบตามมาตรฐาน
การบำ� บดั ตอ่ เนอ่ื ง จนอาการทเุ ลา ไม่กลบั เป็นซ้�ำ และมีคณุ ภาพชวี ติ ที่ดี
4. ผ้ปู ว่ ยโรคซึมเศรา้ ทไี่ ด้รับบริการมคี วามปลอดภัย ลดการฆา่ ตัวตาย ลดความรนุ แรง ไมไ่ ดร้ บั ผลท่ีไม่
พึงประสงค์จากการดแู ลรักษาทัง้ ทางรา่ งกาย จติ ใจ และสังคม
5. บคุ ลากรสาธารณสุขของหน่วยบรกิ าร รพ.สต./ รพช./ รพจ./ รพศ. ให้การบรกิ ารผปู้ ว่ ยโรคซึมเศร้า
ทมี่ ีประสิทธิภาพ
6. เครอื ขา่ ยสขุ ภาพจติ มสี ว่ นรว่ มในการดแู ลผปู้ ว่ ยโรคซมึ เศรา้ ใหไ้ ดร้ บั การรกั ษาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ไมข่ าดยา
และเฝ้าระวงั การกลบั เปน็ ซ้�ำ
7. ฐานข้อมูลระบบการดูแลผู้ป่วยระหว่างกรมสุขภาพจิตและเครือข่ายสุขภาพจิตมีการเช่ือมโยงและ
ใชป้ ระโยชนร์ ่วมกนั
132 รปาีงยบงปารนะมปารณะจำ�2ป5กี63รมสุขภาพจติ
17. โครงการแก้ไขปญั หาสุขภาพจติ และจติ เวชเด็กและวยั รนุ่
หลกั การและเหตุผล
กระทรวงสาธารณสุขเปน็ หน่วยงานในการขบั เคลือ่ นงานสาธารณสขุ ซง่ึ ได้มกี ารพฒั นาระบบบริการดว้ ย
การด�ำเนินการจัดท�ำแผนพฒั นาระบบบริการสขุ ภาพ (Service Plan) ปี พ.ศ.2561 – 2565 โดยมีเป้าหมายใน
การลดอัตราป่วย ลดอัตราตาย ลดความแออัด และลดระยะเวลารอคอย กระบวนการด�ำเนินงานคือวิเคราะห์
ส่วนขาดและวางแผนสนับสนุนเพื่อให้มีศักยภาพในการด�ำเนินการจัดบริการสุขภาพให้เป็นไปตามเป้าหมายท่ี
ก�ำหนดภายในปี พ.ศ. 2565 โดยมีสาขาสุขภาพจิตและจิตเวชเป็นสาขาหน่ึงท่ีเขตสุขภาพจะต้องพัฒนาเพ่ือให้
สามารถจดั บรกิ ารทไี่ ดต้ ามมาตรฐานในเขตสขุ ภาพ ซงึ่ ครอบคลมุ ไปถงึ การพฒั นาบรกิ ารสขุ ภาพจติ และจติ เวชเดก็
และวยั รนุ่ ทน่ี บั วา่ เปน็ ปญั หาทม่ี คี วามสำ� คญั เนอ่ื งจากปญั หาสขุ ภาพจติ และจติ เวชในเดก็ และวยั รนุ่ หากเกดิ ขนึ้ แลว้
จะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาศักยภาพของเด็ก หากไม่ได้รับการแก้ไขก็จะเกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อเนื่อง
ยาวนานต่อศักยภาพในการเรียน ความสามารถในการพัฒนาตนเองของเด็กเพื่อให้เป็นผู้ใหญ่ที่มีความสมบูรณ์
พรอ้ มทัง้ กายและใจ
ในปี 2562 ผลการดำ� เนนิ งาน รอ้ ยละ 42.86 ของ รพศ./ รพท. ระดบั A และ S มกี ารจดั บรกิ ารสขุ ภาพจติ
และจิตเวชเด็กท่ีมีคุณภาพตามมาตรฐาน ในระดับ1 (วัดเฉพาะขีดความสามารถ) และ ร้อยละ 50 ของ รพช.
ระดับ M1/M2 ในแต่ละเขตบริการสุขภาพมีการจัดบริการสุขภาพจิตและจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ที่มีคุณภาพ
ตามมาตรฐานในระดบั 3 (วดั เฉพาะขดี ความสามารถ) ข้อมลู ณ วันท่ี 2 สงิ หาคม 2562 การเข้าถงึ บรกิ าร ASD
(อายุ 2-5 ป)ี เทา่ กบั รอ้ ยละ 61.06 และการเขา้ ถึงบรกิ าร ADHD (อายุ 6-15ป)ี เทา่ กับรอ้ ยละ 19.18
วัตถุประสงค์
1. เพ่ือพัฒนาระบบบริการสุขภาพจิตและจิตเวชเด็กและวัยรุ่นในเครือข่ายบริการสุขภาพให้มีคุณภาพ
ในการจัดบริการท่เี หมาะสมในเขตสุขภาพของตน
2. เพอ่ื เพม่ิ การเขา้ ถงึ บริการโรคจิตเวชเดก็ และวัยรุ่นในเขตสุขภาพ
3. เพ่ือให้เด็กสมาธิส้ันได้รับการดูแล มีศักยภาพในการเรียนรู้ดีข้ึน และลดการเกิดพฤติกรรมก้าวร้าว
รนุ แรง (ทศวรรษสมาธิส้ัน)
4. เพอ่ื พฒั นาองคค์ วามรู้ เทคโนโลยี สนบั สนนุ การใหบ้ รกิ ารประชาชนในหนว่ ยบรกิ ารในเครอื ขา่ ยบรกิ าร
สขุ ภาพเพ่อื เพ่มิ การเข้าถึงบรกิ ารทม่ี ปี ระสิทธภิ าพ โดยเฉพาะในระดบั โรงพยาบาลทวั่ ไปและโรงพยาบาลชุมชน
5. เพ่อื พฒั นาศกั ยภาพของบคุ ลากรในหน่วยงานกรมสุขภาพจิตให้มีศักยภาพในการเปน็ ผนู้ เิ ทศ พี่เลีย้ ง
และวทิ ยากรเกยี่ วกับการบรกิ ารสขุ ภาพจติ ใหก้ ับบุคลากรในเครอื ขา่ ยบริการสขุ ภาพ ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
6. เพ่ือประเมินผล นิเทศติดตาม ให้การดูแลช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการให้บริการผู้มี
ปัญหาสขุ ภาพจิตและผู้ปว่ ยจิตเวชเดก็ และวัยร่นุ ในเครอื ขา่ ยบริการสขุ ภาพ
7. เพ่ือให้ได้ฐานข้อมูลด้านจิตเวชเด็กและวัยรุ่นท่ีมีข้อมูลที่จ�ำเป็นครบถ้วนและสามารถน�ำไปวางแผน
กำ� หนดนโยบายได้อย่างถูกตอ้ ง
133
ผลที่คาดวา่ จะได้รบั
1. บุคลากรท่ีรับผิดชอบการด�ำเนินงานสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นมีความรู้ความสามารถในการบริการ
สุขภาพจติ เด็กและวยั ร่นุ ในเครอื ข่ายบรกิ ารสุขภาพทม่ี ีประสทิ ธภิ าพ
2. ประชาชนทุกกลุ่มวยั ที่มีปญั หาด้านสขุ ภาพจติ และจิตเวช และจติ เวชอื่นๆ ตามบรบิ ทของพ้นื ท่ไี ด้รับ
บรกิ ารดูแลช่วยเหลือ และเฝา้ ระวังอย่างต่อเนื่อง
3. มรี ะบบสารสนเทศการบรกิ ารผปู้ ว่ ยจติ เวชในเครอื ขา่ ยบรกิ ารสขุ ภาพทส่ี ามารถนำ� ไปใชป้ ระโยชนแ์ ละ
เชอ่ื มโยงกันไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบทั้งประเทศ
134 รปางี ยบงปารนะมปารณะจ�ำ2ป5กี63รมสุขภาพจิต
18. โครงการพฒั นาระบบการฟนื้ ฟสู มรรถภาพคนพิการทางจิตใจ
หรอื พฤตกิ รรมสู่การมงี านท�ำ
หลักการและเหตุผล
นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ท่ีมุ่งเน้นการสร้างเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชากรไทย
ตลอดช่วงชีวิต จึงเกิดแนวทางในการก�ำหนดนโยบายด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการดูแล
สุขภาพจิตของประชาชนในกลุ่มคนพิการ เน้นการสร้างความเข้มแข็งของภาคีเครือข่ายคนพิการและการเข้าถึง
สิทธิ จากรายงานสถานการณ์ด้านคนพิการในประเทศไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์
กรมส่งเสรมิ และพัฒนาคุณภาพชีวติ คนพกิ าร ณ วันท่ี 30 มถิ ุนายน 2562 พบวา่ ปัจจุบันมคี นพกิ ารทีจ่ ดทะเบียน
จ�ำนวน 2,038,929 คน (ร้อยละ3.07) ของประชากรท่ัวประเทศและเพ่มิ ข้ึน ปีละประมาณ 100,000 - 130,000
คน ซง่ึ ในจำ� นวนคนพกิ ารทง้ั หมดนีม้ คี นพิการทางจติ ใจหรือพฤตกิ รรม จำ� นวน 154,443 คน ( ร้อยละ 7.57) คน
พิการส่วนหนึ่งมีประสิทธิภาพและสามารถท�ำงานเพื่อเล้ียงชีพตนเองได้ แต่ยังไม่มีงานท�ำหรือได้รับการจ้างงาน
เพราะฉะนนั้ งานและการจา้ งงาน จงึ เป็นสิง่ สำ� คญั ในการสร้างโอกาสให้กับคนพกิ าร
โรงพยาบาลศรีธัญญาซึ่งได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในกลุ่มความพิการประเภทความพิการทางจิตใจ
หรือพฤติกรรมจากกรมสุขภาพจิต ที่มุ่งเน้นการดูแลฟื้นฟูคนพิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม สติปัญญาและการ
เรียนรู้ ออทิสติก มีคุณภาพชีวิตท่ีดีข้ึน ด้วยระบบการดูแลคนพิการท่ีบูรณาการร่วมกันในรูปแบบประชารัฐ
สนับสนุนให้เกิดการจ้างงานหรือสร้างรายได้ให้แก่คนพิการผ่านระบบการสนับสนุนอาชีพ จึงเห็นว่าการด�ำเนิน
โครงการพัฒนาระบบการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการทางจิตใจหรือพฤติกรรมสู่การมีงานท�ำของภาคีเครือข่ายทั้ง
ภาครฐั และเอกชน เปน็ สงิ่ จ�ำเป็นในการทจ่ี ะสง่ เสรมิ สนับสนนุ คนพิการเข้าถงึ และใชป้ ระโยชนจ์ ากสิทธิคนพิการ
ได้อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม มรี ูปแบบการท�ำงานเพื่อคนพกิ ารท่ีมปี ระสิทธภิ าพมากข้ึน สง่ ผลให้คนพกิ ารทาง
จิตใจหรือพฤติกรรมมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถด�ำรงชีวิตอิสระได้ (พึ่งพาตนเองได้/ท�ำงานได้/ได้รับการ
จ้างงาน) หรอื อยู่ร่วมในสงั คมได้อยา่ งมศี ักดศ์ิ รคี วามเปน็ มนษุ ย์เทียบเทา่ ผอู้ นื่ ในสังคม
วัตถปุ ระสงค์
1. เพื่อพฒั นาระบบการฟืน้ ฟสู มรรถภาพคนพิการทางจิตใจหรือพฤติกรรมสู่การมงี านท�ำ
2. พัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนเพื่อการด�ำรงชีวิตอิสระ/การมีงานท�ำของคนพิการ
ทางจติ ใจหรอื พฤติกรรม
3. เพอ่ื ใหค้ นพกิ ารทางจติ ใจหรอื พฤตกิ รรมในเขตสขุ ภาพมกี ารเขา้ ถงึ และใชป้ ระโยชนจ์ ากสทิ ธคิ นพกิ าร
ได้อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมสามารถท�ำงานได้ในครอบครัว/ชุมชน สามารถพึ่งพาตนเองได้ไม่เป็นภาระของ
ครอบครัวและชุมชนสง่ ผลใหม้ ีระดบั คณุ ภาพชวี ิตท่ีดขี นึ้
ผลท่ีคาดว่าจะได้รับ
1. มีระบบการฟ้นื ฟสู มรรถภาพคนพิการทางจติ ใจหรอื พฤติกรรมสู่การมงี านท�ำ
2. ภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนมีศักยภาพเข้มแข็งในการส่งเสริมดูแลฟื้นฟูการด�ำรงชีวิตอิสระ/
การมงี านท�ำของคนพกิ ารทางจติ ใจหรอื พฤติกรรม
3. คนพกิ ารทางจติ ใจหรอื พฤตกิ รรมมที กั ษะการทำ� งาน สามารถทำ� งานไดใ้ นครอบครวั และชมุ ชนเขา้ ถงึ
และใช้ประโยชนจ์ ากสิทธคิ นพกิ ารไดอ้ ย่างเทา่ เทยี มและเปน็ ธรรม มคี ณุ ภาพชวี ิตท่ดี ี
135
19. โครงการระบาดวิทยาสุขภาพจติ
หลักการและเหตุผล
ระบาดวทิ ยาสุขภาพจิตเปน็ เครื่องมือทบี่ อกถึงการกระจาย สถานการณ์ สาเหตุ และปจั จยั เสี่ยง เพือ่ เป็น
ประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมปัญหา หรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพจิตและจิตเวชในประชากรกลุ่ม
เป้าหมายนั้นๆ นำ� ไปส่กู ารเป็นข้อมูลท่ถี กู ต้อง ใหข้ นาด ความรนุ แรง ล�ำดบั ความส�ำคญั และสาเหตทุ ี่เกิดขน้ึ ของ
ปญั หา เพอ่ื ประกอบการตดั สนิ ใจสำ� หรบั ผบู้ รหิ ารในการใหน้ โยบาย มาตรการสำ� คญั สำ� หรบั พฒั นางานสขุ ภาพจติ
และจิตเวชตอ่ ไป ซง่ึ กิจกรรมหลักหรือการดำ� เนินงานทางระบาดวทิ ยาสุขภาพจติ ไดแ้ ก่ การเฝา้ ระวงั ทเ่ี ปน็ การ
ติดตามรวบรวมข้อมูลปัญหาหรือเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ได้ลักษณะและการเปล่ียนแปลง
ตรวจจบั สงิ่ ผดิ ปกตทิ อ่ี าจสงู ขนึ้ หรอื ตำ่� ลง หรอื คาดการณว์ า่ จะเกดิ ขน้ึ การสอบสวนเปน็ การคน้ หาขอ้ เทจ็ จรงิ ของ
ปัญหาหรอื เหตกุ ารณ์ที่เกิดขึน้ เพื่อดวู า่ เกิดจากอะไร เพราะอะไร เพอื่ ชว่ ยในการวางแผนควบคุมป้องกนั และการ
ศกึ ษาวิจยั เพอื่ ทราบรายละเอียดของปญั หาในลกั ษณะต่างๆ ตามหลักการศกึ ษาทางระบาดวทิ ยา ท้ัง 3 กจิ กรรม
ต้องใช้การรวบรวม เรียบเรียง น�ำเสนอผล และเผยแพร่ ท้ังนี้โครงการน้ีสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์
กรมสขุ ภาพจติ ในชว่ งแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์
ที่ 2 พัฒนาคุณภาพระบบบริการและวิชาการสุขภาพจิตและจิตเวช เป้าประสงค์ 2.2 หน่วยงานในสังกัด
กรมสุขภาพจิตมีความเชี่ยวชาญทางการบริการและวิชาการด้านสุขภาพจิตและจิตเวช กลยุทธ์ท่ี 2.2.3 พัฒนา
นวัตกรรม/องค์ความรู้ท่ีเหมาะสมกับบริบทสังคมไทยเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวชของ
ประเทศ แนวทางการดำ� เนนิ งาน ขอ้ 4 พฒั นางานวจิ ยั /นวตั กรรม/องคค์ วามรดู้ า้ นสขุ ภาพจติ ใหม้ คี ณุ ภาพมาตรฐาน
สอดคล้องกับแผนแม่บทการวิจัยของกรมสุขภาพจิต และเหมาะสมกับบริบทสังคมไทย รวมท้ังสอดคล้องกับ
นโยบายกรมสขุ ภาพจติ ท่ี 2 การพฒั นาความเปน็ เลศิ ทางบรกิ าร/วชิ าการดา้ นสขุ ภาพจติ และจติ เวช ขอ้ 2.6 พฒั นา
วชิ าการด้านสุขภาพจิตและจติ เวช
วัตถปุ ระสงค์
1. พฒั นาระบบเฝา้ ระวงั และสอบสวนสขุ ภาพจติ ทมี่ กี ารรายงานเปน็ ปกตปิ ระจำ� (passive surveillance)
และในสถานการณ์วกิ ฤติสขุ ภาพจิต (sentinel surveillance) ท่ีตอบสนองตอ่ สถานการณ์ทีม่ ผี ลต่อสขุ ภาพจิต
อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
2. พฒั นาระบบการส�ำรวจทางระบาดวทิ ยาสขุ ภาพจติ
ผลท่คี าดว่าจะได้รับ
1. มีองค์ความรู้และนวัตกรรมสุขภาพจิตและจิตเวชท่ีส�ำคัญที่ผ่านการทบทวนวรรณกรรมและงานวิจัย
ทเี่ กย่ี วขอ้ ง การทบทวนวรรณกรรมอยา่ งเป็นระบบ การเฝา้ ระวงั การสอบสวน และการส�ำรวจทางระบาดวิทยา
สุขภาพจิต อย่างนอ้ ย 1 เรื่อง
2. มีรายงานรายไตรมาสของสถานการณ์และแนวโน้มทางระบาดวิทยาสุขภาพจิตของโรคจิตเวชและ
ปญั หาสุขภาพจติ ทส่ี �ำคญั จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่
3. มี (รา่ ง) ระบบเฝ้าระวังและสอบสวนสขุ ภาพจิตและโรคจติ เวชในสถานการณ์วิกฤติสุขภาพจิต
4. มเี คร่อื งมอื ทีพ่ ร้อมใชใ้ นการเก็บข้อมลู ในสถานการณว์ กิ ฤติสขุ ภาพจติ
5. มีเครอื ข่ายทางระบาดวทิ ยาสขุ ภาพจิต อยา่ งน้อย 40 คน
6. มี 2 โครงรา่ งวจิ ัย การสำ� รวจระบาดวิทยาสุขภาพจิตของคนไทย และเดก็ /วยั รุ่นระดบั ชาติท่พี ร้อม
นำ� เสนอขอสนับสนุนงบประมาณ
7. ได้ 1 ชดุ ขอ้ มูล และรายงานความสุขของคนไทย ปี 2564
136 ปรางี ยบงปารนะมปารณะจ�ำ2ป5กี63รมสุขภาพจติ
20. โครงการพัฒนาดูแลเดก็ สมาธสิ นั้
หลักการและเหตผุ ล
โรคสมาธสิ น้ั เปน็ โรคทพ่ี บบอ่ ยในเดก็ ทมี่ ปี ญั หาการเรยี น เดก็ ทเ่ี ปน็ โรคนอี้ าจพบแอลดรี ว่ มดว้ ยและมโี อกาส
ทจี่ ะเกดิ ปญั หาพฤตกิ รรมและอารมณ์ทีผ่ ดิ ปกตจิ นสรา้ งปัญหาใหก้ ับครอบครวั ชุมชน สังคม และประเทศชาติได้
จากการสำ� รวจระบาดวทิ ยาของโรคสมาธสิ น้ั ปี 2558 โดยกรมสขุ ภาพจติ พบโรคสมาธสิ นั้ รอ้ ยละ 5.47 การสำ� รวจ
สุขภาพเดก็ ระดบั ชาติในประเทศสหรัฐอเมรกิ าในปี พ.ศ. 2559 ซง่ึ ทำ� ในเด็กอายุ 2-17 ปี มเี ดก็ ท่ไี ด้รับการวินิจฉยั
วา่ เป็นโรคสมาธสิ ้ัน ร้อยละ 8.4 โดยส่วนใหญ่เปน็ ชว่ งอายุ 12-17 ปี มีอาการรุนแรงในระดบั ปานกลาง รอ้ ยละ
43.7 และระดับรุนแรงร้อยละ 14.5 ประมาณ 2 ใน 3 มีโรคอื่นร่วม โดยเป็นปัญหาพฤติกรรมร้อยละ 51.5
วติ กกงั วลร้อยละ 32.7 และโรคซึมเศรา้ รอ้ ยละ 16.8 นอกจากนี้ งานวิจัยในต่างประเทศยงั พบวา่ มีความสมั พันธ์
กันระหว่างค่าคะแนนระดับสติปัญญาหรือ IQ กับเด็กสมาธิส้ัน คือ เด็กสมาธิสั้นจะมีค่า IQ ต่�ำเมื่อเทียบกับ
เด็กปกติ และการศึกษาในเด็กอายุ 5-9 ปี พบว่ามีความสมั พนั ธ์ระหวา่ งโรคสมาธิสัน้ ทเี่ ปน็ ประเภท inattention
subtype กบั ค่า IQ
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสขุ ไดจ้ ดั ท�ำแผนทศวรรษแหง่ การดูแลเดก็ สมาธสิ ้นั เพอื่ พัฒนาระบบ
งานส่งเสริมป้องกันและดูแลรักษาเด็กสมาธิสั้นให้มีประสิทธิภาพ สร้างการมีส่วนร่วมของหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง
กบั การพฒั นาเด็ก เพื่อใหเ้ ดก็ ไทยมีศกั ยภาพและเตบิ โตเป็นประชากรทมี่ คี ุณภาพต่อไป
วตั ถปุ ระสงค์
1. เพือ่ เพ่มิ การเข้าถึงบริการอย่างเปน็ ธรรมส�ำหรับเด็กสมาธสิ ้นั (equitable service accessibility)
2. เพอื่ ใหเ้ ดก็ สมาธสิ น้ั ไดร้ บั การดแู ลท่ีมคี ุณภาพ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นดขี ้นึ ลดปัญหาพฤตกิ รรมและ
อารมณ์ คณุ ภาพชีวิตดขี ้ึน ดำ� รงชวี ิตอยูร่ ว่ มกับผอู้ ่นื ในสังคมไดอ้ ยา่ งมคี ุณคา่
3. เพือ่ พฒั นาระบบบริการในเขตสขุ ภาพใหม้ ปี ระสิทธิภาพในการดูแลเด็กสมาธิสัน้
4. เพอื่ เพ่ิมความรอบร้ดู ้านสขุ ภาพเรอื่ งโรคสมาธิส้นั แกป่ ระชาชนและภาคส่วนท่เี กีย่ วขอ้ ง
5. พัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี ในการสนบั สนุนบริการโรคสมาธิสน้ั ในเขตสุขภาพ โดยเฉพาะในระดบั
โรงพยาบาลท่วั ไปและโรงพยาบาลชมุ ชน
6. เพ่ือพัฒนาศกั ยภาพของบุคลากรในหนว่ ยงานกรมสุขภาพจิตให้มีศกั ยภาพในการเปน็ ผูน้ ิเทศ พเี่ ลี้ยง
และวทิ ยากรเกยี่ วกบั การบรกิ ารสขุ ภาพจิตใหก้ ับบคุ ลากรในเครือขา่ ยบริการสขุ ภาพไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
7. เพื่อประเมินผล นิเทศติดตาม ให้การดูแลช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการให้บริการผู้มี
ปัญหาสขุ ภาพจิตและผปู้ ่วยจิตเวชเดก็ และวยั รุ่นในเครอื ข่ายบรกิ ารสขุ ภาพ
8. เพื่อให้ได้ฐานข้อมูลด้านจิตเวชเด็กและวัยรุ่นท่ีมีข้อมูลท่ีจ�ำเป็นครบถ้วนและสามารถน�ำไปวางแผน
ก�ำหนดนโยบายได้อยา่ งถูกตอ้ ง
ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ
1. เด็กสมาธิสั้นเข้าถงึ บริการเพิม่ ข้นึ เด็กอาการดีข้ึน ใชช้ วี ิตในสังคมอย่างมคี ณุ คา่
2. ผ้ปู กครองและครูสามารถดูแลเด็กสมาธสิ ั้นไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ลดการเกิดปญั หาพฤติกรรมในวัยรนุ่
3. บุคลากรท่ีรับผิดชอบการด�ำเนินงานสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นมีความรู้ความสามารถในการบริการ
สขุ ภาพจติ เดก็ และวยั รนุ่ ในเครอื ขา่ ยบริการสขุ ภาพท่ีมปี ระสิทธิภาพ
4. มรี ะบบสารสนเทศการบรกิ ารผปู้ ว่ ยจติ เวชในเครอื ขา่ ยบรกิ ารสขุ ภาพทสี่ ามารถนำ� ไปใชป้ ระโยชนแ์ ละ
เชอื่ มโยงกนั ได้อยา่ งเป็นระบบท้งั ประเทศ
137
ยทุ ธศาสตร์ที่ 3 สรา้ งความตระหนกั และความเขา้ ใจตอ่ ปญั หาสขุ ภาพจติ
21. โครงการเสรมิ สรา้ งความรอบรแู้ ละพฒั นาพฤตกิ รรมสขุ ภาพจติ ทพ่ี งึ ประสงคแ์ กป่ ระชาชน
หลกั การและเหตผุ ล
จากผลการประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพจิตประชาชนไทย ปี 2560 พบว่าคนไทยมีความรอบรู้ด้าน
สุขภาพจิต คดิ เปน็ ร้อยละ 43.79 จงึ จำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารส่งเสริมความรอบร้ดู ้านสุขภาพจติ ให้มากขึ้น โดยเฉพาะใน
ประเดน็ เม่ือมีปัญหาสขุ ภาพจติ สามารถรแู้ หลง่ บริการ ร้อยละ 44.8 และประเดน็ การหาคำ� แนะนำ� จากแหลง่
ขอ้ มลู ทเ่ี ชอื่ ถอื ไดเ้ พยี งรอ้ ยละ 43.7 ตลอดจนในดา้ นการรบั รขู้ อ้ มลู ขา่ วสาร ประชาชนสว่ นใหญร่ วู้ า่ จะไปหาแหลง่
ข้อมลู ความรสู้ ุขภาพจิตไดจ้ ากท่ีโรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพต�ำบล หรอื โรงพยาบาลชุมชน คดิ เปน็ ร้อยละ 69.30
แต่ในขณะเดยี วกันมีประชาชนพียงรอ้ ยละ 41.9 ท่ีรู้จักเบอรส์ ายด่วนสุขภาพจติ 1323 ดงั นัน้ การมแี หล่งความรู้
ข้อมูล และแหล่งบริการสุขภาพจิตที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ มีข้อมูลความรู้ที่ได้รวบรวมอยู่ในแหล่งเดียวกัน
จะทำ� ใหเ้ ครอื ขา่ ยและประชาชนเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ไดง้ า่ ย เพอ่ื นำ� ไปสกู่ ารตดั สนิ ใจทจี่ ะปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมสขุ ภาพจติ
ของตนเองได้ รวมถึงการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพจิตและสร้างความตระหนักเพ่ือลดอคติที่มีต่อผู้ป่วย
ทางจติ /โรคทางจติ เวช ผา่ นกจิ กรรมและชอ่ งทางตา่ งๆ เชน่ สอ่ื หลกั สอื่ ออนไลน์ ซง่ึ อยใู่ นวงกวา้ งใหก้ บั ประชาชน
นอกจากนน้ั การเสรมิ สรา้ งความรอบรทู้ างสขุ ภาพจติ ใหก้ บั ประชาชนในชมุ ชนนน้ั จำ� เปน็ ตอ้ งมเี ครอื ขา่ ยหรอื Gate
keeper ท่ีเป็นตัวกลางเชื่อมโยงความรู้สุขภาพจิตจากกรมสุขภาพจิตสู่การสื่อสารให้กับประชาชนในชุมชน
ตามแตล่ ะชว่ งวยั และบรบิ ท
กรมสุขภาพจิตจึงได้จัดท�ำโครงการเสริมสร้างความรอบรู้และพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพจิตที่พึงประสงค์
แก่ประชาชน โดยในปี 2564 มีแนวทางการเสริมสร้างความรอบรแู้ ละพฒั นาพฤตกิ รรมสุขภาพจิตท่ีพึงประสงค์
แก่ประชาชน ได้แก่ 1. การสร้างช่องทางในการเข้าถึงความรู้ ข้อมูล และแหล่งบริการสุขภาพจิตที่เข้าถึงง่าย
2. การสง่ เสรมิ ความรอบรดู้ า้ นสขุ ภาพจติ และสรา้ งความตระหนกั เพอ่ื ลดอคตทิ ม่ี ตี อ่ ผปู้ ว่ ยทางจติ /โรคทางจติ เวช
3. การสง่ เสรมิ ความรอบรดู้ ้านสขุ ภาพจติ ของประชาชน ผ่านการจดั การในชมุ ชน โดย Gate keeper เพือ่ ใหเ้ กิด
การดำ� เนนิ งานทคี่ รอบคลมุ กบั องคป์ ระกอบของความรอบรดู้ า้ นสขุ ภาพจติ ของประชาชน สง่ ผลใหป้ ระชาชนเกดิ
ความรอบรดู้ า้ นสขุ ภาพจติ เกดิ ความตระหนกั และเหน็ ความสำ� คญั ในเรอ่ื งสขุ ภาพจติ สามารถดแู ลสขุ ภาพจติ ของ
ตนเองและคนใกล้ชิดในเบอ้ื งต้นได้ และเกดิ การยอมรบั ผูท้ อี่ ย่กู บั ปัญหาสขุ ภาพจติ ท้งั ในระดบั บุคคล ครอบครวั
ชุมชน และสังคม
วตั ถุประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพจิตและสร้างความตระหนักเพื่อลดอคติท่ีมีต่อผู้ป่วยทางจิต/
โรคทางจติ เวช
2. เพื่อพัฒนาเครือข่ายหรือ Gate Keepers ในการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพจิตท่ีสอดคล้องกับ
บรบิ ทชมุ ชน
3. เพ่ือพฒั นาให้ประชาชนมีพฤติกรรมสขุ ภาพจิตทีพ่ งึ ประสงค์
138 รปาีงยบงปารนะมปารณะจ�ำ2ป5กี63รมสขุ ภาพจิต
ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั
1. มขี อ้ มลู และองคค์ วามรู้ในเร่อื งสุขภาพจิตท่มี มี าตรฐานและเป็นปจั จุบนั
2. มรี ะบบการจัดเกบ็ ขอ้ มูล/องค์ความร้สู ขุ ภาพจติ ผ่านช่องทางออนไลน์
3. มีคลงั ความรู้ ความรอบรูด้ ้านสขุ ภาพจติ เพอ่ื ตอบสนองสถานการณ์ทางสังคม
4. ผลการด�ำเนนิ งานรณรงคส์ รา้ งความตระหนักตอ่ สุขภาพจิตและลดการตตี ราผูม้ ปี ญั หาสุขภาพจิต
5. เกดิ ระบบการเสรมิ สรา้ งความรอบรทู้ างสขุ ภาพจติ ในชมุ ชนทสี่ ามารถตอบสนองตอ่ ความตอ้ งการของ
ประชาชนได้อยา่ งแท้จรงิ
6. ประชาชนไดร้ บั การเสรมิ สรา้ งความรอบรทู้ างสขุ ภาพจติ ทส่ี อดคลอ้ งกบั บรบิ ทความตอ้ งการของชมุ ชน
139
22. โครงการสอ่ื สารประชาสมั พนั ธด์ า้ นสขุ ภาพจติ
หลักการและเหตุผล
ตามแผนพัฒนาสุขภาพจติ แห่งชาติ ฉบับท่ี 1 (พ.ศ. 2561 – 2580) ก�ำหนด วิสยั ทศั น์ (Vision) “คนไทย
มีปัญญา อารมณ์ดี และมีความสุข อยู่ในสังคมอย่างทรงคุณค่า” โดยมี พันธกิจ (Mission) คือ พัฒนาและ
ขบั เคลือ่ นงานสุขภาพจติ และจิตเวชให้มีประสิทธิภาพ ลดปจั จัยเสย่ี ง เพ่ิมปจั จยั คุม้ ครอง ด้านสุขภาพจิตสง่ เสริม
ให้ประชาชนมคี วามตระหนักและความเข้าใจต่อปญั หาสุขภาพจิต รวมทง้ั สร้างความเขม้ แขง็ ของภาคเี ครอื ขา่ ย
ในการลดอคติต่อผมู้ ปี ญั หาสุขภาพจติ จากพันธกิจดงั กลา่ ว จำ� เป็นตอ้ งใช้กลยุทธ์ และเครอ่ื งมอื ด้าน การสือ่ สาร
ประชาสมั พันธข์ บั เคล่ือนการดำ� เนินงานส่เู ป้าหมาย (Goals) คอื การสง่ เสริมให้เดก็ มคี วามฉลาดทางสตปิ ัญญา
(IQ) มีความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ครอบครัวมีความเข้มแข็ง และความอบอุ่น มีอัตราการฆ่าตัวตายลดลง
มกี ารบรณู าการการดำ� เนินงานสขุ ภาพจติ ตามมาตรฐาน ท�ำให้ประชาชนมีความสุขและ คุณภาพชีวติ ทด่ี ี ทง้ั น้ี
เนื่องจากการส่ือสารและประชาสัมพันธ์ จะช่วยให้เกิด การรับรู้ เข้าใจ ยอมรับ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
รวมท้ังช่วยสรา้ งความสมั พนั ธ์อันดกี ับสาธารณชน ทำ� ให้มีทศั นคติ ความเช่อื ม่นั หรอื มมุ มองทด่ี ตี อ่ องคก์ ร และ
ตอ่ งานดา้ นสุขภาพจติ อันจะสง่ ผลต่อการด�ำเนนิ งานอยา่ งราบร่นื และน�ำไปสคู่ วามส�ำเร็จตามเป้าหมายไดใ้ นที่สดุ
วตั ถปุ ระสงค์
1. เสริมสร้างความรอบรู้ของประชาชนในการดูแลสุขภาพจิตทันต่อสภาพปัญหา และทันต่อกระแส
ความสนใจของสังคม (Mental Health Literacy)
2. ปฏบิ ตั กิ ารดา้ นขา่ วสารเพอ่ื ขบั เคลอ่ื นนโยบาย/ ปอ้ งกนั /ลดกระแส/ปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมสขุ ภาพจติ
เชงิ ลบ
3. เสรมิ สร้างทศั นคติเชงิ บวก ตอ่ งานสขุ ภาพจติ และจิตเวช
4. สร้างและพฒั นาเครือข่ายสือ่ สารสุขภาพจติ
ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ
- ไม่มขี ้อมลู
140 รปางี ยบงปารนะมปารณะจำ�2ป5กี63รมสุขภาพจิต
ยุทธศาสตรท์ ี่ 4 พฒั นาระบบบริหารจัดการให้มีประสทิ ธภิ าพและมีธรรมาภิบาล
23. โครงการพฒั นาระบบดจิ ิทัลเพื่อสนบั สนุนงานสขุ ภาพจติ
หลกั การและเหตผุ ล
กรมสุขภาพจิต พัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลด้านสุขภาพจิตมาอย่างต่อเน่ือง เพ่ือให้ทุกคนได้ใช้
ประโยชน์จากสารสนเทศดา้ นสุขภาพจติ อยา่ งมคี ุณภาพ รวมถึงผลกั ดันการพฒั นาระบบสารสนเทศโรงพยาบาล
(HIS) ใหใ้ ชม้ าตรฐานเดยี วกนั เพอื่ รองรบั การเชอื่ มโยงแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ระหวา่ งหนว่ ยงาน (HIE) ตลอดจนสามารถ
คนื ขอ้ มลู สว่ นบคุ คล (PHR) กลบั ไปใหแ้ กป่ ระชาชนไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และปลอดภยั ในปจั จบุ นั ประเทศไทยประกาศ
ใชพ้ ระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองขอ้ มลู สว่ นบคุ คล พ.ศ. 2562 และพระราชบญั ญตั กิ ารรกั ษาความมน่ั คงปลอดภยั ไซเบอร์
พ.ศ. 2562 ซึ่งส่งผลให้การด�ำเนินงานเก่ียวกับข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลจ�ำเป็นต้องปรับเปล่ียนและเพ่ิม
ประสิทธิภาพของระบบบริหารจัดการ เพื่อให้การปฏิบัติงานถูกต้องตามกฎหมายและปลอดภัยทั้งต่อเจ้าหน้าท่ี
ผ้ปู ฏิบัตงิ านและผ้ใู ช้ประโยชนจ์ ากข้อมลู สารสนเทศสุขภาพ ประกอบกบั เทคโนโลยดี ิจทิ ลั ในปจั จบุ ัน เปดิ โอกาส
ให้หน่วยงานพฒั นาคณุ ภาพช่องทางการให้บรกิ ารแก่ประชาชน ท้งั ด้านสง่ เสริม ป้องกัน บำ� บดั รักษา และฟนื้ ฟู
สมรรถภาพ ได้สะดวกในการเข้าถึงบริการ และครอบคลมุ ทุกกลุม่ วยั มากย่งิ ข้นึ
สำ� นกั เทคโนโลยสี ารสนเทศ จงึ เสนอการดำ� เนนิ โครงการซง่ึ ครอบคลมุ ดา้ น Cyber Security ดา้ นมาตรฐาน
ขอ้ มลู รองรบั การแลกเปลย่ี นเชอื่ มโยง HL7-FHIR ดา้ นการพฒั นาระบบงานคอมพวิ เตอรแ์ ละ Mobile Application
ดา้ นการพฒั นาโรงพยาบาลสคู่ วามเปน็ Smart Hospital และปจั จยั สำ� คญั ทจี่ ะนำ� ไปสกู่ ารพฒั นาศกั ยภาพบคุ ลากร
ในสายงานเทคโนโลยี เพอ่ื สนบั สนนุ การพฒั นาคณุ ภาพบรกิ ารประชาชน ใหป้ ระชาชนมคี วามรอบรดู้ า้ นสขุ ภาพจติ
(Mental Health Literacy) ทีเ่ หมาะสมเฉพาะตัวบคุ คล และน�ำไปส่กู ารปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรม ทำ� ให้สขุ ภาพจติ
ดไี ด้อยา่ งเป็นรปู ธรรมและยง่ั ยืน
วัตถปุ ระสงค์
1. เพอ่ื พฒั นาระบบข้อมลู สารสนเทศสุขภาพจติ ใหม้ คี วามม่นั คงปลอดภัย ตามแนวทางพระราชบัญญตั ิ
การรักษาความมัน่ คงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562
2. เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศโรงพยาบาลใหใ้ ชม้ าตรฐาน HL7-FHIR รองรับการแลกเปล่ยี นเช่ือมโยง
ข้อมลู ได้
3. เพ่อื พัฒนาระบบบรหิ ารจัดการ Big Data และ Data Center ในรปู แบบ Dash Board สนับสนนุ การ
ตัดสนิ ใจระดับนโยบาย
4. เพ่ือพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ช่วยในการวิเคราะห์ วินิจฉัย และวิจัยด้าน
สุขภาพจติ และจติ เวช
5. เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีสำ� หรับให้บรกิ ารประชาชนได้อย่างมีคณุ ภาพ รวดเร็ว แมน่ ยำ� และปลอดภยั
6. เพอื่ พฒั นาเครอื่ งมอื สำ� หรบั ประชาชน ในการเขา้ ถงึ บรกิ ารสขุ ภาพจติ ไดส้ ะดวก รวดเรว็ และปลอดภยั
7. เพอ่ื ใหป้ ระชาชนมคี วามรอบรดู้ า้ นสขุ ภาพจติ (Mental Health Literacy) ทเี่ หมาะสมเฉพาะตวั บคุ คล
น�ำไปส่กู ารปรับเปลย่ี นพฤตกิ รรม ทำ� ใหส้ ุขภาพจิตดี
141
ผลทีค่ าดวา่ จะได้รับ
1. กรมสขุ ภาพจติ มี Data Center ทแี่ สดงผลตวั ชวี้ ดั สำ� คญั ในรปู แบบ Dash Board on Mobile Devices
2. หน่วยงานในสังกดั มชี ุดข้อมลู มาตรฐาน แลกเปล่ียนกันไดอ้ ย่างไร้รอยต่อ
3. หน่วยงานในสงั กัดมกี ารรกั ษาความม่ันคงปลอดภยั ไซเบอร์ ตามเกณฑม์ าตรฐาน
4. ประชาชนสามารถรับรขู้ อ้ มูลสุขภาพสว่ นบคุ คลจากระบบ PHR
5. โรงพยาบาลในสงั กดั ทกุ แหง่ เปน็ Smart Psychiatric Hospital ตามหลกั เกณฑ์ของกรมสขุ ภาพจิต
เพือ่ การใหบ้ ริการทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพมากขน้ึ
6. ศูนย์สุขภาพจิตในสังกัดเป็น Smart Mental Health Center ตามหลักเกณฑ์ของกรมสุขภาพจิต
เพ่ือการให้บริการทีม่ ปี ระสิทธภิ าพมากข้ึน
ภาคผนวก 1
สถานการณส์ ขุ ภาพจิต/
ขอ้ มูลสถิตทิ ส่ี ำ� คัญ