9914
เมื่อบนั ทึกขอมลู แลวเสรจ็ ใหกดปมุ “ดําเนินการข้ันตอนตอ ไป”
สําหรับขอมูลในสวนนี้ ใหผูใชงานกดปุม เพอ่ื เลอื กผูชนะการเสนอราคา จากนั้นใหบันทึกขอมูล
“ราคาที่เสนอ” และราคาท่ีตกลงซือ้ หรือจา ง จากน้ันใหก ดปุม “ยนื ยนั ผูชนะการเสนอราคา”
ชน้ั ที่ 4 จดั ทาํ รายชอื่ ผชู นะ
ช้ันท่ี 4
9925
ในช้ันที่ 4 การจัดทํารายช่ือผูชนะ กรณีที่ผูใชงานไดจัดทําคําสั่งแตงตั้งคณะกรรมการ/ผูตรวจรับพัสดุ
ตั้งแตขั้นตอนรายงานขอซ้ือขอจางไวแลว จะมีขอมูล 2 สวนท่ีตองบันทึกในชั้นนี้ ไดแก หนังสือขออนุมัติส่ังซ้ือ
สงั่ จา ง และ รา งประกาศรายชื่อผชู นะการเสนอราคา
ลําดบั แรกใหก ดปมุ “รายละเอยี ด/แกไข” หลังลําดับขอมูลที่ 1 หนงั สอื อนมุ ตั สิ ั่งซอ้ื ส่งั จา ง
จากนัน้ ใหกรอกขอมูลในข้นั ตอนที่ 1 โดยมีรายละเอยี ด ดงั นี้
963
B1 ชอื่ หนว ยงาน (ตามที่ระบบตัง้ คา เรม่ิ ตนมาให)
B2 ชอ่ื เรอ่ื ง เปนคาตัง้ ตน ของระบบท่ีถูกดึงมาจากขอมูลในรายงานขอซื้อขอจา ง
B3 กรอกรายละเอยี ดผมู ีอํานาจในการอนุมัติซื้อ/จาง ตามลาํ ดับชน้ั
P1P6 กรอกช่ือเจาหนา ท่ีพัสดุผูลงนามในหนงั สอื ขออนุมตั ิ (ไมใชผมู อี ํานาจอนมุ ตั ิ)
จากนน้ั กดปุม “บันทึก” และ “ไปขัน้ ตอนท่ี 2”
ในขั้นตอนที่ 2 ผูใชงานสามารถพิมพขอความเพิ่มเติมลงใน Template เอกสารขออนุมัติสั่งซื้อสั่งจาง
เมื่อดําเนนิ การแลว เสร็จใหก ดปมุ “บนั ทกึ ” และ “ไปข้ันตอนที่ 3”
9497
ในขั้นตอนท่ี 3 ผูใชงานสามารถจัดพิมพเอกสารโดยกดปุม “พิมพ” เพ่ือใชในการเสนอผูมีอาํ นาจอนุมัติได
จากหนา จอสว นน้ี จากนน้ั ใหกดปมุ “กลบั สหู นาหลัก”
จากน้นั ใหกดปุม “รายละเอียด/แกไข” หลังลาํ ดับขอมูลที่ 3 รางประกาศรายชอ่ื ผูชนะการเสนอราคา
9958
ในข้ันตอนที่ 1 ใหบันทึกช่ือผูมีอํานาจลงนามในประกาศรายชื่อผูชนะการเสนอราคา จากนั้นใหกดปุม
“บนั ทึก” และ “ไปขัน้ ตอนท่ี 2”
ในขั้นตอนท่ี 2 ผูใชงานสามารถจัดพิมพขอความเพ่ิมเติมใน Template รางประกาศผูชนะการเสนอราคา
จากน้นั ใหกดปุม “บนั ทึก” และ “ไปข้นั ตอนที่ 3
9969
ในข้ันตอนท่ี 3 ผูใชงานสามารถจัดทําพิมพเอกสารโดยกดปุม “พิมพ” เพ่ือใชในการเสนอผูมีอํานาจอนุมัติได
จากหนาจอสว นนี้ จากนัน้ ใหก ดปมุ “กลบั สูหนาหลกั ”
เมื่อผูมีอํานาจลงนามในหนังสืออนุมัติส่ังซ้ือส่ังจาง และประกาศรายช่ือผูชนะการเสนอราคาแลว
ใหผูใชงานกลับเขาสูระบบเพ่ือบันทึกเลขที่และวันท่ีหนังสือขออนุมัติ รวมไปถึงวันท่ีประกาศผูชนะการเสนอราคา
รายละเอยี ดตามภาพดา นลา ง ขอแนะนําวา ควรจัดพิมพเอกสารที่ไมลงวันท่ีเสนอผูมีอํานาจลงนามกอน จึงคอย
นําประกาศรายชื่อผูชนะการเสนอราคาขึ้นเว็บไซต เพ่ือใหวันที่เอกสารสอดคลองกับขอเท็จจริงในการ
ปฏิบัติงาน เมือ่ บันทึกขอ มูลแลวเสรจ็ ใหก ดปมุ “บนั ทึก” และ “ไปข้นั ตอนที่ 2”
19070
ในข้ันตอนท่ี 1 ถึงข้ันตอนที่ 3 ระบบจะแสดงตัวอยางหนังสือขออนุมัติ และตัวอยางคําส่ังแตงตั้งคณะกรรมการ/
ผตู รวจรับพสั ดุ และประกาศรายช่อื ผูชนะ ซ่ึงเอกสารท้งั หมดลงวนั ทเ่ี รียบรอยแลว
สาํ หรับประกาศรายช่ือผูชนะ ขอแนะนาํ ใหผูใชงานสั่งพิมพเก็บไวในรูปแบบ PDF file เพื่อใช ใน
การอพั โหลดขอมูลข้นึ เวบ็ ไซตหนวยงาน และปดประกาศโดยเปด เผย เพอ่ื ใหเ ปน ไปตาม พ.ร.บ. มาตรา 66
98
101
19092
ในลําดับสุดทาย (ข้ันตอนที่ 4) จะเปนการนําประกาศรายช่ือผูชนะข้ึนเว็บไซต โดยใหผูใชงานกดปุม
“ประกาศขึ้นเวบ็ ไซต”
หมายเหตุ * ในสวนของหนาน้ใี หใ ช “รหสั หัวหนา เจา หนา ทีพ่ ัสดุ” เปน ผปู ระกาศข้ึนเว็บไซต
ขอ พงึ ระวัง เม่ือนาํ ประกาศรายชื่อผูชนะขึ้นเว็บไซตจัดซื้อจัดจางภาครัฐ (eGP) เรียบรอยแลว
ใหนําประกาศข้ึนเว็บไซตหนวยงาน และปดประกาศ ณ สถานที่ปดประกาศ
ของหนวยงาน โดยเปดเผยดวย ไมเชนนั้น อาจขัดกับ พ.ร.บ. มาตรา 66
ช้ันท่ี 5 จัดทํารางสัญญา
ชัน้ ที่ 5
101003
1. จากหนาจอหลักของชั้นท่ี 5 ใหผูใชงานกดปุม เพือ่ เลอื กประเภทสญั ญา
แมวาการจัดซื้อจัดจางตาม พ.ร.บ. มาตรา 56 (2) (ข) จะไดรับการยกเวนใหทําเปนหนังสือขอตกลง
(ใบสั่งซ้ือสั่งจาง) ไดแทนสัญญา แตในการพิจารณาเลือกใชสัญญา หรือใบส่ังซื้อสั่งจาง เปนดุลยพินิจของ
หัวหนา หนวยงาน โดยใหพิจารณาความสาํ คญั ของพัสดุทจ่ี ะจัดหา เพือ่ ใหห นว ยงานไดประโยชนสูงสุดเปนสาํ คญั
สาํ หรับกรณีตวั อยา งนี้ ขอเลอื กประเภท “ใบสง่ั ซ้ือ/ส่ังจาง”
2. เม่อื เลอื กประเภทสัญญาเรียบรอ ยแลว ใหกดปุม “รายละเอียด/แกไ ข” เพื่อเขา สขู ้ันตอนการจดั ทาํ
รา งสญั ญา (ใบส่ังซ้ือสง่ั จา ง)
110014
สาํ หรบั การจัดทาํ รางสัญญาในขน้ั ตอนที่ 1 ใหดําเนนิ การตามลาํ ดับ ดังนี้
101205
B4B9 ใหผ ใู ชงานตรวจสอบช่อื ทีอ่ ยู ของหนวยงานใหถกู ตอ งอีกครงั้
B14B19 ใหผใู ชง านตรวจสอบช่ือ ที่อยู ของผูขาย/ผรู ับจาง ใหถ ูกตอ งอีกคร้งั
C1C4 ระบบจะแสดงราคาที่ตกลงซอื้ หรอื จา ง ซ่ึงผูใชง านไดกรอกขอมูลไวตง้ั แตช ้นั ท่ี 4
(ในกรณีผูขายหรือผูรับจางไมไดจดทะเบียนภาษีมูลคาเพ่ิม ผูใชงานสามารถแกไข
ภาษมี ลู คา เพมิ่ ไดในข้ันตอนที่ 2 “Template รางสญั ญาหรือขอตกลง”)
C5 กาํ หนดรูปแบบการสงมอบงาน
ในกรณีท่ตี อ งการใหผขู าย/ผรู ับจา ง สง มอบพสั ดทุ ั้งหมดพรอมกันใหเลือก “รวมรายการ”
ในกรณที ่ตี องการใหผูข าย/ผูรบั จาง สงมอบพสั ดแุ ยกรายการได ใหเลือก “แยกรายการ”
C7 ใหก รอกกาํ หนดวันสง มอบ กรณตี องการใหร ะบบนับกําหนดสง มอบเปน วนั ทาํ การ
ใหท าํ เคร่อื งหมาย ☑ ดา นหนา คาํ วา “นับเฉพาะวันทาํ การ”
C8 ในกรณที ตี่ องการใหผ ขู าย/ผรู ับจาง สงมอบพัสดุ/งานจาง ทอี่ ่นื ๆ นอกเหนือจากสถานทท่ี ําการ
ใหก รอกขอมูลสถานท่ีสง มอบตามขอเท็จจริง
C10 ใหผูใชง านเลือกประเภทการจา ยเงนิ ในท่ีน้เี ลอื ก “จา ยตามงวดเงินที่กาํ หนด”
C11 ระบงุ วดงานและงวดเงนิ จากน้นั ใหก ดปุม “รายละเอยี ด” แลวหนาจอจะปรากฏตามภาพที่ 1
1) ใหผใู ชงานบันทึกขอ มลู ในชองท่มี ีเคร่ืองหมาย *(ดอกจันสีแดง) ใหครบถว น จากนั้นให
กดปุม เพอ่ื บนั ทึกขอมูลการสงมอบและการชําระเงนิ ขอมูลงบประมาณตามภาพท่ี 2
110063
2) ในสวนของรายละเอียดงวดงานงวดเงิน ใหผูใชงานบันทึกขอมูลในสวนที่มีเครื่องหมาย *
(ดอกจันสแี ดง) รวมถึงบันทึกรหสั งบประมาณ รหัสแหลงของเงิน และจํานวนเงินงบประมาณใหเรียบรอยและ
กดปมุ “บันทึก”
C111 เม่ือบนั ทกึ ขอมูลในชอ ง C11 เรยี บรอ ย ระบบจะดงึ ขอ มูลมาแสดงในชองน้ี
C12C18 ในกรณีที่หนวยงานเลือกประเภทการจายเงินเปน “ผาน GFMIS” ตั้งแตข้ันตอนสรางโครงการ
ขอมูลในสวนนี้จะตองกดปุม “ตรวจสอบ GFMIS” เพื่อตรวจสอบวาผูขาย/ผูรับจาง มีขอมูลหลัก
ผขู ายหรอื ไม ในขัน้ ตอนการตรวจสอบหากพบวาขอมูลในชองใดมีเคร่ืองหมาย ☒ หนวยงานตอง
ดําเนินการผูกพันขอมูลหลักผูขาย หรือแกไขขอมูลใหเรียบรอยกอน จึงจะสามารถดําเนินการใน
ขัน้ ตอนตอ ไปได
D1 ในกรณีเลือกประเภทสัญญา “ใบสั่งซื้อ/ส่ังจาง” ระบบจะไมบังคับใหกรอกระยะเวลารับประกัน
ความชํารุดบกพรอง แตการพิจารณาวาควรมีระยะเวลารับประกันความชํารุดบกพรองหรือไม ให
ผูใชงานพจิ ารณาเปนรายกรณี
E1E2 ใหเลือกประเภทคาปรับและกําหนดอัตราคาปรับ (ประเภทคาปรับและอัตราคาปรับ ผูใชงาน
สามารถศึกษาไดจากระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยการจัดซื้อจัดจางและการบริหารพัสดุภาครัฐ
พ.ศ.2560 ขอ 162)
F11F14 ใหก รอกขอ มูลผูสง่ั ซื้อ/ผูสัง่ จาง
F21F24 ระบบจะยังไมเ ปดใหกรอกขอมูลของผรู บั ใบส่ังซ้ือ/ใบส่ังจาง ในขัน้ ตอนน้ี
เม่ือดาํ เนนิ การบันทึกขอ มลู ในทกุ ลาํ ดบั แลวเสร็จ ใหกดปมุ “บนั ทึก” และ “ไปขั้นตอนท่ี 2”
101407
เมื่อจัดทํารางสัญญาแลวเสร็จ ในข้ันตอนท่ี 2 ระบบจะแสดง Template ของใบส่ังซ้ือส่ังจาง กรณีที่
ผูใชงานตองการเพ่ิมเติม ตัดทอน ขอความ สามารถทําไดในสวนนี้ (กรณีผูขาย/ผูรับจางไมไดจดทะเบียน
ภาษีมลู คาเพมิ่ ) เมอื่ ดําเนินการแลวเสรจ็ ใหก ดปุม“บันทึก” และ “ไปขน้ั ตอนที่ 3”
110058
ในข้ันตอนที่ 3 ผใู ชงานสามารถสัง่ พมิ พใ บสัง่ ซอ้ื /ส่งั จา ง และนาํ ไปใหผูรับใบส่ังซื้อ/ส่ังจาง ลงนาม รวมถึงเสนอ
ผูมีอํานาจลงนามไดโ ดยการกดปุม “พิมพ”
เม่ือดําเนินการเรียบรอ ย ใหเ ขามาในระบบอีกครง้ั และกดปุม “บันทึกเลขทีแ่ ละวนั ท่ี”
101069
สาํ หรับขน้ั ตอนการบนั ทกึ เลขท่ีและวันท่ี และชอ่ื ผูร บั ใบสง่ั ซ้ือ/สั่งจา ง ตามขอเท็จจริง จากนั้นใหกดปุม
“บนั ทึก” และ “ไปขน้ั ตอนที่ 2”
เม่อื บันทกึ ขอ มูลเลขทีแ่ ละวนั ท่แี ลว เสร็จ ระบบจะแสดงตัวอยางใบส่ังซ้ือ/สั่งจาง ที่มีช่ือผูส่ังจาง ผูรับใบสั่งจาง
วันทีใ่ บสงั่ จาง วนั ที่ครบกาํ หนดสงมอบ เมื่อตรวจสอบความถูกตองแลวใหกดปุม “ดําเนินการข้ันตอนตอไป”
จากนน้ั ระบบจะกลับไปหนาจอหลกั ของข้ันตอนใบส่งั ซือ้ /สง่ั จา ง อีกครั้ง
110170
108
111
ในลําดับสุดทาย เมื่อระบบกลับมาที่หนาจอหลักของการจัดทํารางสัญญา ใหผูใชงานกดปุม
“ดาํ เนนิ การขัน้ ตอนตอไป”
ชั้นท่ี 6 ตรวจสอบหลักประกันและจดั ทําสัญญา
ชัน้ ท่ี 6
110192
ในข้ันตอนนี้ กรณีท่ีผูใชงานจัดทําเปนสัญญา ระบบจะบังคับใหกรอกขอมูลหลักประกันสัญญา แตใน
กรณีเลอื กทาํ เปน ใบส่ังซื้อ/ส่งั จา ง สามารถกดปมุ “ดาํ เนนิ การขน้ั ตอนตอ ไป” เพอื่ ไปดาํ เนินการในชน้ั ที่ 7 ไดเ ลย
ชั้นท่ี 7 ขอมลู สาระสาํ คัญในสญั ญา
ช้ันท่ี 7
111013
เมอ่ื เขา สูหนา จอหลกั ของช้ันที่ 7 ใหผูใชง านกดปุม “รายละเอยี ด/แกไข”
จากน้ันในหนาจอของขอมูลสาระสําคัญของสัญญา ใหผูใชงานกดปุม “นําขอมูลแสดงบนเว็บไซต”
(กรณีที่ผูใชงานทําตามขั้นตอนจนครบถวนแลว ปุมนี้ไมมีใหกด ใหแจงใหหัวหนาเจาหนาที่พัสดุ
เปนผดู ําเนินการเน่อื งจากในบางกรณตี อ งใชรหัสของหัวหนาเจา หนาทพ่ี สั ดเุ ทา นน้ั )
ขอแนะนาํ : เนอ่ื งจากใน พ.ร.บ. มาตรา 98 กาํ หนดใหหนวยงานของรฐั ประกาศเผยแพรสาระสําคัญของสัญญา
หรือขอตกลงท่ีลงนามแลว รวมถึงสัญญาแกไขเพิ่มเติม ไวในเว็บไซตระบบ eGP และ เว็บไซต
หนวยงาน ใหผูใชงานจัดพิมพขอมูลในหนาน้ีใหอยูในรูปแบบของไฟล PDF เพ่ือนําขอมูลในสวนนี้ไป
ประกาศบนเวบ็ ไซตของหนว ยงาน (สัง่ พิมพ โดยกดปุม Ctrl+P จาก Web Browser Google Chrome
และเลอื กปลายทางเครอ่ื งพิมพเปน “บันทกึ เปน ” PDF)
111411
เม่ือนําขอมูลสาระสําคัญของสัญญาขึ้นเว็บไซตเรียบรอยแลว ระบบจะกลับสูหนาจอหลักของชั้นท่ี 7
อกี ครงั้ ในขัน้ ตอนนผี้ ใู ชง านกดปมุ “ดาํ เนนิ การขน้ั ตอนตอ ไป”
ชั้นที่ 8
ช้นั ท่ี 8 บริหารสญั ญา
111215
ในหนาจอหลกั ของช้ันท่ี 8 ใหกดปมุ “รายละเอียด” ตามภาพดานลาง เพ่อื เขา สกู ระบวนการบันทกึ
ขอมลู การสง มอบ การตรวจรับ และการเบิกจาย
111163
ในหนาจอขอมูลสญั ญา ใหบ นั ทกึ ขอมูลตามลําดับ ดังนี้
1. กดปมุ “สง มอบงาน”
114117
1.1 ในหนา จอของการสง มอบงาน ลาํ ดับแรกใหกดปุม “บันทึกขอมูลการสงมอบงาน”
1.2 จากนนั้ ใหก ดปุม “เลือกงวดงานที่สง มอบ”
1.3 ในขนั้ ตอนน้ีใหเลือกงวดงานที่ผูขาย/ผูรบั จา ง สง มอบโดยกดปมุ ☑หนางวดงานทตี่ องการ
จากนนั้ ใหกดปุม “บนั ทกึ ”
111518
1.4 จากนน้ั ระบบจะกลับมาที่หนา จอบันทกึ ขอมูลสงมอบงาน ใหผูใชงานกรอกขอมูลวันที่สงมอบและวันท่ี
รับเรื่องจากงานสารบรรณตามขอเท็จจริง (กรณีไมไดลงรับใหถือเอาวันท่ีเซ็นรับเอกสารเปนวันท่ีรับเรื่องจาก
งานสารบรรณ) จากน้ันกดปมุ “บันทึก” และกดปุม “ดาํ เนินการขั้นตอนตอ ไป”
2. เมอื่ บนั ทกึ ในขัน้ ตอนท่ี 1 แลวเสรจ็ ใหก ลบั มาที่หนา จอหลักของบรหิ ารสญั ญาและกดปุม “ตรวจรบั งาน”
116
119
2.1 ในหนา จอแรกของการตรวจรบั งานใหก ดปมุ “บันทึกขอมลู การตรวจรบั ”
2.2 ในหนา จอของขอมลู การตรวจรับใหกดปุม “เลอื กเอกสารทสี่ ง มอบ”
2.3 ในหนาจอเอกสารการสงมอบระบบจะนําขอมูลที่เราบันทึกขั้นตอนการสงมอบงานตามขอ 1
มาแสดงผลไว ใหเ รากดปุม ☑ เลือกขอมลู สงมอบงานทเ่ี ราตอ งการ
11720
2.4 เมื่อเลือกขอมูลการสงมอบงานแลว ระบบจะนํากลับมาที่หนาจอบันทึกขอมูลการตรวจรับให
ผูใชงานดาํ เนินตามลาํ ดบั ในภาพ ดังนี้
1. ระบุ “วนั ท่ีตรวจรับแลวเสร็จต้งั แต”
2. เลือกผลการตรวจรับ “ถูกตองท้งั จากทั้งหมดและรับไวท งั้ หมด”
3. กดปุม “บันทกึ การตรวจรับ”
4. โดยปกตริ ะบบจะนําขอมูลจากใบสั่งซ้ือสงั่ จา งมาแสดงในสว นน้ี ใหผ ูใชงานตรวจสอบความถกู ตอ งอีกครง้ั
5. กรณีมีคาปรับ หรือเงินหักลวงหนา หรือหักเงินประกันผลงาน ระบบจะคํานวณใหโดยอัตโนมัติ
แตขอใหผ ูใชงานตรวจสอบความถกู ตอ งอกี คร้งั
6. กดปมุ “บนั ทกึ ”
7. กดปุม “ดําเนนิ การข้ันตอนตอ ไป”
111821
3. เม่ือบันทึกในข้ันตอนท่ี 1 แลวเสร็จใหกลับมาที่หนาจอหลักของบริหารสัญญาและกดปุม “จัดทํา
เอกสารการเบิกจาย”
3.1 ในหนา จอแรกของการจัดทาํ เอกสารเบกิ จา ยใหกดปุม “บนั ทกึ ขอมลู การเบิกจา ยเงิน”
111292
3.2 จากนน้ั ใหกดปุม “เลือกเอกสารที่ตรวจรับ”
3.3 ในหนาจอเลอื กเอกสารท่ีตรวจรบั ระบบจะนําขอมูลทบี่ นั ทกึ ในขั้นตอนที่ 2 มาแสดงผลในสวนนี้ ให
กดปุม ☑ หนาขอ มูลการตรวจรับ จากนั้นใหก ดปุม “บนั ทึก”
3.4 เม่ือเลอื กขอมลู ตรวจรบั งานแลว ระบบจะนํากลับมาที่หนา จอบนั ทกึ ขอมลู จดั ทาํ เอกสารจา ยเงิน
จากนั้นใหเลือก “จดั ทาํ ” และ “บนั ทกึ ”
120
123
3.5 เมอ่ื บนั ทึกขอมลู แลว เสร็จใหกดปมุ “รายละเอียด/แกไ ข”
ในขน้ั ตอนท่ี 1 ใหบ นั ทึกขอมูลในระบบตามลําดับ ดงั นี้
112214
B1 ชอ่ื หนว ยงาน (ตามทีร่ ะบบต้งั คาเริ่มตน มาให)
B2 ท่ีอยหู นว ยงาน (ตามท่รี ะบบต้ังคาเร่ิมตนมาให)
B3 ชื่อเรอ่ื ง ท่จี ะสงเบิกจา ย (เรอ่ื งซือ้ หรอื จาง)
B4 กรอกรายละเอียดผูมีอาํ นาจในการเบิกจา ย
B5 รหัสผูขาย (ระบบจะดงึ มาตามทลี่ งทะเบียนไว)
B6 เลขท่ีใบP/O ระบบจะดึงตามทไ่ี ดทาํ ไวใ น ช้นั ที่ 8
B7 เลขท่ีเอกสารรับพัสดุ (บางครั้งกไ็ มด ึงมาควรสังเกตดว ย)
D1D4 กรอกขอ มลู ของผูมีอาํ นาจลงนาม
เมื่อดาํ เนนิ การแลวเสรจ็ ใหก ดปมุ “บันทกึ ” และ “ไปขั้นตอนท่ี 2”
ในขัน้ ตอนท่ี 2 ผูใชงานตรวจสอบความถูกตองของเอกสารใน Template อีกครั้ง ซึ่งหากมีความจําเปนตอง
เพิ่มเติมขอความ สามารถพิมพไดในสวนนี้ เมื่อตรวจสอบขอมูลเรียบรอยใหกดปุม “บันทึก” และกดปุม
“ไปข้ันตอนที่ 3”
121225
ในขน้ั ตอนท่ี 3 ผใู ชง านสามารถจดั พิมพเ อกสารโดยกดปมุ “พิมพ” เพ่ือใชใ นการเสนอผมู ีอาํ นาจลงนาม
ไดจ ากหนาจอสวนน้ี
112236
หลังจากน้ันผูใชงานเสนอบันทึกสงเบิกจายใหผูมีอํานาจลงนามแลว ใหกลับเขาสูระบบอีกครั้ง เพ่ือ
บันทึกเลขท่ีและวันที่เอกสารดังกลาว (แมในข้ันตอนนี้จะสามารถบันทึกยอนหลังได แตผูเขียนแนะนําวาควร
บันทกึ ใหส อดคลองกบั ขอเท็จจรงิ จึงเหมาะสมทีส่ ดุ ) โดยกดปมุ “บันทึกเลขที่และวันท่ี”
124
127
ในขั้นตอนที่ 1 เม่อื บันทึกเลขท่แี ละวนั ทข่ี องเอกสารเรียบรอยแลว ใหกดปมุ “บนั ทกึ ” และ “ไปขัน้ ตอนที่ 2”
ในข้ันตอนที่ 2 ระบบจะแสดงตัวอยางบันทึกสงเบิกจาย กรอกเลขที่และวันท่ีเรียบรอยแลว ซึ่งข้ันตอนน้ี
ไมจ ําเปนตอ งสัง่ พมิ พอ ีกครั้ง เพียงแตใ หเกบ็ ไวเปน ขอ มูลในระบบเทา นั้น จากนั้นใหก ดปุม “ดําเนินการข้ันตอน
ตอ ไป”
1258
ในลําดับสุดทายของการบันทึก ใหกดปุม “ดําเนินการข้ันตอนตอไป” ซึ่งหลังจากเสร็จส้ินในขั้นตอน
ในทุกๆชั้นของขอมูลจะเปนสีฟาและมีเคร่ืองหมายถูกดานหลังชั้นขอมูล ซึ่งแสดงใหเห็นวาผูใชงานดําเนินการ
บันทกึ ขอมลู ครบถว นสมบรู ณแ ลว
บทที่ 9
คำถำม – คำตอบ ปญั หำกำรจดั ซ้ือจดั จ้ำง
1. คำถำม : งานก่อสร้าง จาเป็นต้องมีการทดสอบวัสดุหรือไม่ ทาไมบางหน่วยงานมีผลทดสอบ
โดยวิศวกรเอง โดยไม่ผ่านหน่วยงานราชการ แต่บางหน่วยงานมีผลทดสอบออกจาก
หนว่ ยงานราชการท่ีเช่ือถือได้
คำตอบ : งานก่อสร้างจาเป็นต้องมีการทดสอบวัสดุ เพื่อดูความแข็งแรงของวัสดุที่จะใช้ก่อสร้าง
วัสดุใดจะต้องทดสอบ จะกาหนดไว้ในเง่ือนไขการก่อสร้าง เช่น คอนกรีตจะต้องรับ
แรงปะลัยได้ 200 กโิ ลกรัม/เซนติเมตร ซ่งึ จะต้องมกี ารทดสอบกอ่ นเทคอนกรีต แต่วัสดุ
บางอย่างจะมีมาตรฐานอุตสาหกรรมประทับตราหรือแสดงไว้ท่ีวัสดุแล้ว เช่น เหล็ก
ก็ไม่จาเป็นต้องทดสอบ แตถ่ ้าผู้ใช้วัสดนุ ั้นไม่แนใ่ จก็อาจทาการทดสอบว่าถูกต้อง ตาม
มาตรฐานหรอื ตามทปี่ ระทับตราหรือไม่ สาหรับหน่วยงานที่จะทาหน้าท่ีทดสอบนั้น
ข้นึ อยู่กับข้อกาหนดในสญั ญา หากหน่วยงานผู้วา่ จ้างมีแผนกหรอื กองท่ที าหน้าทท่ี ดสอบ
มาตรฐาน หรือวิเคราะห์วิจัยอยู่แล้วก็จะกาหนดให้แผนกหรือกองนั้นเป็นผู้ทดสอบ
(ทมี่ าของคาตอบจากเว็บไซต์ สตง.)
2. คำถำม : กรณีสัญญาเกิน 1 ล้านบาท ขึ้นไป มีข้อกาหนดตามระเบียบเกี่ยวกับการแจ้งให้
สตง. ส่ง จนท. มาร่วมกับคณะกรรมการตรวจรับพัสดุของส่วนราชการเพ่ือดาเนินการ
ตรวจสอบพสั ด/ุ งานหรอื ไม่
คำตอบ : กรณีท่ีวงเงินตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ต้องส่งสาเนาสัญญาให้ สตง. เพื่อใช้เป็นข้อมูล
ในการตรวจสอบและติดตามผลการปฏิบัติตามเง่ือนไข หรอื ขอ้ กาหนดท่กี าหนดไว้ใน
สัญญา ทั้งน้ี ตามแนวทางการตรวจสอบที่ สตง. ได้กาหนดไว้ สาหรับส่วนราชการ
จะตอ้ งส่งสาเนาให้ สตง. (ตามระเบยี บกระทรวงการคลงั ว่าด้วยการจัดซือ้ จดั จ้างและ
การบริหารพัสดภุ าครฐั พ .ศ.2560 ข้อ 164)
3. คำถำม : ใครเป็นผู้มีหน้าที่ตรวจสอบความชารุดบกพร่องก่อนคืนหลักประกันสัญญา และ
มีระยะเวลาในการตรวจสอบอย่างไร
คำตอบ : หัวหน้าหน่วยงานผ้คู รอบครองพัสดุหรอื ผไู้ ด้รับมอบหมายดูแลบารุงรักษาและตรวจสอบ
ถ้าไม่มีผู้รับผิดชอบให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุตรวจสอบ โดยให้ตรวจสอบก่อน
ระยะเวลาประกันความชารุดบกพร่อง โดยมีระยะเวลาในการตรวจสอบภายใน 15 วัน
กรณีหลักประกันไม่เกิน 6 เดือน และภายใน 30 วัน ถ้าหลักประกันมีอายุ 6 เดือนข้ึนไป
(ตามหนังสอื สานักนายกรัฐมนตรี ท่ี นร (กวพ) 1305/ว 8608 ลงวันที่ 5 ตลุ าคม 2544)
12370
4. คำถำม : การจ่ายเงินค่าจ้างตามสัญญาจ้างเหมาบริการจากบุคคลธรรมดา ต้องทาใบ PO
หรอื ไม่
คำตอบ : การเบกิ จา่ ยเงนิ เพอ่ื จา่ ยตามสัญญาจ้างเหมาบรกิ ารที่เป็นการจา้ งบุคคลธรรมดาท้ังใน
กรณีการจ้างลูกจ้างที่ไม่ได้เกิดจากคาส่ังจ้างตามระเบียบกระทรวงการคลัง การจ้าง
ที่ปรึกษาหรือการจ้างกรณีอ่ืนๆ ในลักษณะเดียวกัน ส่วนราชการไม่ต้องสร้างข้อมูล
หลักผู้ขาย และไม่ต้องจัดทาใบส่ังซ้ือส่ังจ้าง ตามแบบ บส 01 หรือ บส 01-1 โดยให้
ตั้งเบิกเงินเพื่อจ่ายเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของส่วนราชการ ตามแบบ ขบ.02
เพ่ือให้ส่วนราชการนาเงินไปจ่ายให้กับผู้รับจ้างโดยตรงต่อไป (ตามหนังสือกระทรวง
การคลงั ด่วนทีส่ ุด ท่ี กค 0409.3/ว 33 ลงวนั ที่ 2 พฤษภาคม 2549)
5. คำถำม : สัญญาจ้างตอ้ งปิดอากรแสตมปห์ รือไม่
คำตอบ : มาตรา 104 แห่งประมวลรัษฎากร กาหนดให้สัญญาจ้างทาของเป็นตราสารที่ระบุไว้
ในบัญชีท้ายหมวด 6 อากรแสตมป์ ตามลักษณะแห่งตราสาร 4 แห่งบัญชอี ัตราอากร
แสตมป์ ต้องปิดแสตมป์บริบูรณ์ตามอัตราที่กาหนดไว้ในบัญชีนั้น ประกอบกับ
ประกาศอธิบดีกรมสรรพกรเกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 37) เรื่องกาหนดวิธีการ
ชาระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากร สาหรับตราสารบางลักษณะ ลงวันท่ี
2 ธันวาคม พ.ศ. 2538 กาหนดให้ผู้รับจ้างทาของกับรัฐบาล องค์การของรัฐบาล
เทศบาล สุขาภิบาลหรือองค์การบริหารส่วนท้องถ่ิน และมีสินจ้างตั้งแต่ 200,000 บาท
ข้ึนไป ตามลักษณะแห่งตราสาร 4 แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ให้ชาระอากรเป็น
ตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรได้ ดังนั้น หน่วยราชการรัฐวิสาหกิจและหน่วยงาน
ของรัฐทุกแห่งต้องกาหนดให้คู่สัญญาปิดอากรแสตมป์ กรณีวงเงินตามสัญญาจ้าง
ต่ากว่า 200,000 บาท หรือต้องชาระอากรแสตมป์เป็นตัวเงินต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ี
อากรแสตมป์ โดยต้องนาตราสารมาสลักหลัง กรณีวงเงินตามสัญญาจ้างตั้งแต่
200,000 บาท ขึ้นไป ให้ถูกต้องครบถ้วนก่อนลงนามในสัญญาจ้างทุกคร้ัง (ตามหนังสือ
กระทรวงการคลัง ท่ี กค 0727/ว 95 ลงวนั ท่ี 3 พฤศจิกายน 2549)
6. คำถำม : สัญญาจ้างกาหนดเวลาแล้วเสร็จวันที่ 31 มีนาคม 2561 (ตรงกับวันเสาร์) ผู้ว่าจ้าง
สง่ มอบงานเมอื่ วันท่ี 20 เมษายน 2561 ต้องคานวณค่าปรับอย่างไร
ประเดน็ แรก วันใดเปน็ วนั สุดท้ายท่ีผรู้ บั จ้างจะสง่ มอบงานได้
คำตอบ : กรณีวันสุดท้ายของกาหนดส่งมอบงานตรงกับวันหยุดราชการ ต้องเร่ิมนับวันที่เริ่ม
ทาการใหม่ตอ่ จากวันหยุดราชการน้ันเป็นวนั สดุ ท้ายของระยะเวลาการส่งมอบสญั ญา
กาหนดแล้วเสร็จวันที่ 31 มีนาคม 2561 ตรงกับวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ
เพราะฉะนั้น จึงต้องเล่ือนวันครบกาหนดเป็นวันจันทร์ ที่ 2 เมษายน 2561 ซ่ึงเป็น
วันเริ่มทาการใหม่ ตอ่ จากวนั หยดุ ราชการ
121831
ประเดน็ ที่สอง จะเร่ิมนบั วนั ปรับไดต้ งั้ แตว่ นั ใด
คำตอบ : ต้องนับวันตั้งแต่วันถัดจากวันแรกท่ีทางราชการเปิดทาการ ไม่ใช่นับวันแรกที่เปิด
ทาการ เพราะวันดังกล่าวถือว่ายังอยู่ในระยะเวลา ผู้รับจ้างจึงยังสามารถส่งมอบงาน
โดยไม่เสียค่าปรับ( ผู้รับจ้างส่งมอบงานวันที่ 20 เมษายน 2561 การเร่ิมนับวันปรับ
จงึ ต้องเริ่มนบั ตง้ั แต่วันท่ี 3 เมษายน 2561 ซึ่งเป็นวนั ถดั จากวนั สุดทา้ ย
ประเดน็ ท่ีสำม การนับวนั ปรับจะตอ้ งนบั ถึงวันใด
คำตอบ : การนับวันปรบั ต้องนับถึงวันที่ผู้รับจา้ งสง่ มอบงาน เช่น ส่งมอบงานวันท่ี 20 ต้องนับ
วันที่ 20 เป็นวันปรับด้วย ไม่ใช่นับถึงวันที่ 19 เมื่อผู้รับจ้างส่งมอบงานวันที่ 20
เมษายน 2561 วันสุดท้ายของการปรับ คือ วันที่ 20 เมษายน 2561 (ตามหนังสือ
สานกั นายกรัฐมนตรี ท่ี นร (กวพ) 1204/6114 ลงวนั ที่ 20 กรกฎาคม 2536)
7. คำถำม : การแต่งตั้งคณะกรรมการกาหนดราคากลาง สามารถแต่งตั้งเจ้าหน้าที่พัสดุเป็น
คณะกรรมการกาหนดราคากลางงานซือ้ ได้หรอื ไม่
คำตอบ : ตามระเบียบฯ ไม่ได้มีข้อห้ามไว้สามารถแต่งตั้งได้ โดยคานึงถึงลักษณะงาน หน้าท่ี
และความรบั ผดิ ชอบของผู้ไดร้ บั แต่งต้ังเป็นสาคัญ
8. คำถำม : วธิ เี ฉพาะเจาะจงตามมาตรา 56 (2) ข หน่วยงานต้องจัดทาและประกาศเผยแพร่แผน
การจัดซือ้ จดั จา้ งหรือไม่ อย่างไร
คำตอบ : หน่วยงานไม่ต้องจัดทาแผนการจัดซ้ือจัดจ้างประจาปี และเนื่องจากได้รับการยกเว้น
ตามพ.ร.บ. มาตรา 11
9. คำถำม : การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ตามมาตรา 56 (2) ข ต้องมีการจัดทาและ
ประกาศเผยแพรร่ าคากลางงานจัดซ้อื จัดจ้างหรือไม่อย่างไร
คำตอบ : วงเงินในการจดั ซ้อื จดั จ้างไม่เกิน 500,000 บาท ไม่ต้อง ประกาศเผยแพร่ราคากลาง
ตามข้อกาหนดของสานักงาน ปปช. แจ้งตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนท่ีสุด ที่
กค 0405.3/ว 132 ลงวนั ที่ 14 มีนาคม 2561
10. คำถำม : งานก่อสรา้ งอาคารเกดิ ชารุดบกพร่องภายในระยะเวลารับประกัน (2 ปี) หากไดแ้ จ้ง
ให้ผู้รับจ้างแก้ไขแล้วแต่ไม่มาดาเนินการ หน่วยงานสามารถจัดการซ่อมแซมแก้ไข
แทนได้หรอื ไม่
คำตอบ : สัญญาจ้างก่อสรา้ งได้กาหนดให้ผูร้ ับจ้างตอ้ งรบั ผิดชอบในการรับประกันความชารุด
บกพร่องของงานจ้างมีกาหนดระยะเวลา 2 ปี นับถัดจากวันท่ีได้รับมอบงาน หากมี
ความชารุดบกพรอ่ งเกิดข้นึ จากการท่ีผูร้ บั จ้างใช้วัสดุไมถ่ ูกต้อง หรือทาไวไ้ ม่เรยี บรอ้ ย
113229
หรือทาไวไ้ ม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ดังนั้น หากข้อเท็จจริงปรากฏว่างานก่อสร้างตาม
สญั ญาได้เกิดความชารุดบกพร่องข้ึนด้วยเหตุดังกล่าว และได้แจ้งให้ผู้รับจ้างทราบแล้ว
แต่ไม่เข้ามาดาเนนิ การซ่อมแซมแก้ไข ก็ชอบที่จะใช้สิทธิตามสัญญาโดยจ้างผู้อ่ืนเข้ามา
ทาการซอ่ มแซมแทนได้ เม่อื ได้จา้ งผู้อ่นื เข้าดาเนนิ การซอ่ มแซมความชารุดบกพรอ่ ง
ของงานดังกล่าวแทนผู้รับจ้างแล้ว ก็ชอบที่จะใช้สิทธิริบหลักประกันสัญญาหรือ
เรยี กร้องเอาจากธนาคารผูค้ ้าประกนั ตามส่วนของคา่ จ้างน้นั ได้
สาหรับวงเงินประกันสัญญาในระหว่างการรับประกันความชารุดบกพร่องของงานจ้าง
เป็นวงเงินสูงสุดที่ผู้รับประกันจะต้องรับผิดชอบ เม่ือได้ใช้สิทธิเรียกร้องให้ธนาคารนา
เงินมาชาระบางส่วนแล้ว ก็ไม่จาเป็นต้องเรียกร้องให้มีการนาเงินมาค้าประกันให้ครบ
ตามจานวนอีก (ตามหนังสือสานักนายกรัฐมนตรี ที่ นร (กวพ) 1305/7790 ลงวันท่ี
21 กนั ยายน 2541)
11. คำถำม : เอกสารแนบท้ายสัญญาในกรณีท่ีมีเอกสารเป็นจานวนมาก คู่สัญญาต้องลงนามใน
เอกสารทุกแผน่ หรอื ไม่
คำตอบ : ตามระเบียบฯ มิได้กาหนดหลักเกณฑ์ให้คู่สัญญาต้องลงนามในเอกสารแนบท้าย
ดังนั้น จึงเป็นเร่ืองวิธีการในทางปฏิบัติ ซึ่งเป็นดุลยพินิจที่จะพิจารณาให้ได้ตาม
ความเหมาะสมและจาเป็น ซึ่งหากพิจารณาเห็นว่าเอกสารแนบท้ายสัญญาดังกล่าว
มีสาระสาคัญอาจเกิดเป็นข้อพิพาททางคดีได้ก็อยู่ในดุลยพินิจที่จะลงลายมือชื่อ
กากับไว้ในเอกสารแนบท้ายสัญญาดังกล่าวทุกแผ่นก็ได้ (ตามหนังสือสานักนายก
รัฐมนตรี ที่ นร (กวพ) 1204/8176 ลงวนั ท่ี 25 สงิ หาคม 2536)
12. คำถำม : การตรวจรับพัสดุหรือตรวจการจ้างของคณะกรรมการ หากปรากฏว่ามีกรรมการ
บางคนไม่ยอมรบั มอบพสั ดหุ รอื งานโดยมีความเหน็ แย้ง จะต้องดาเนินการอย่างไร
คำตอบ : ตามระเบียบฯ วา่ ด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ขอ้ 36 ได้กาหนดว่า “ในการประชุมปรกึ ษา
ของคณะกรรมการแต่ละคณะต้องมีกรรมการมาพร้อมกันไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของ
จานวนกรรมการท้ังหมด ให้ประธานกรรมการและกรรมการแต่ละคนมีเสียงหน่ึง
ในการลงมติ” ดังน้ัน การตรวจรับพัสดุและตรวจการจ้าง คณะกรรมการฯ จะต้อง
มาปฏิบัติหน้าท่ีพร้อมกันไม่น้อยกว่าก่ึงหนึ่งของจานวนกรรมการท้ังหมด แต่ทั้งน้ี
กรรมการคนหนึ่งในจานวนที่มาปฏิบตั ิหน้าท่ีนั้นจะต้องเป็นประธานกรรมการ หรือ
เป็นผู้ซึ่งหัวหน้าส่วนราชการแต่งตั้งให้ทาหน้าที่เป็นประธานกรรมการแทน ตามนัย
แห่งระเบียบฯ ข้อ 35 ด้วย และหากปรากฏว่า กรรมการทุกคนที่มาปฏิบัติหน้าที่
มีมติใหร้ ับพัสดุหรืองานจา้ งนน้ั โดยไม่มคี วามเห็นแย้ง ยอ่ มถือได้วา่ มติของกรรมการ
ดังกล่าวเป็นมติเอกฉันท์ของคณะกรรมการตามความหมายของระเบียบฯ ข้อ 36
วรรคสองแล้ว (ตามหนังสือสานักนายกรัฐมนตรี ท่ี นร (กวพ) 1305/10119 ลงวันท่ี
8 ตุลาคม 2540)
ภาคผนวก
ภาคผนวก ๒
โครงสรา้ งการจดั หาพัสดุตาม พรบ. จดั ซ้ือจัดจ้างและการบรหิ ารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ.2560
กาหนดความต้องการ
ของบประมาณ กระบวนการจดั หา
หน่วยงานของรฐั (ม.4) ทราบยอดเงิน คุณสมบัติผจู้ ะเข้า - วธิ ีประกาศเชญิ ชวนท่วั ไป
ยน่ื ขอ้ เสนอ (ม.64) - วิธีคัดเลือก
- วิธเี ฉพาะเจาะจง
ที่ปรกึ ษาทจ่ี ะเข้ารว่ ม (ม.55 การจดั ซอ้ื จัดจา้ ง)
- วธิ ีประกาศเชิญชวนทว่ั ไป
จดั ทาแผน (ม.11) เสนองานตอ้ งขึ้น - วธิ ีคดั เลอื ก
- วธิ ีเฉพาะเจาะจง
ทะเบยี นท่ีศูนย์ขอ้ มูล (ม.69 งานจา้ งท่ีปรกึ ษา)
ที่ปรึกษากระทรวง - วธิ ีประกาศเชญิ ชวนทว่ั ไป
- วธิ ีคดั เลือก
การคลงั (ม.73) - วิธเี ฉพาะเจาะจง
- จัดทารายละเอียดคณุ ลกั ษณะเฉพาะ - วธิ ีประกวดแบบ
- กาหนดราคากลาง (ม.79 งานจ้างออกแบบหรือควบคุม
(ม.59, 60) งานกอ่ สรา้ ง)
อานาจหวั หนา้ - จัดทารายงานขอซอื้ ขอจา้ ง
หนว่ ยงานของรฐั - แตง่ ต้ังคณะกรรมการชดุ ตา่ งๆ
ใหค้ วามเห็นชอบ
คณะกรรมการ/เจ้าหนา้ ทผี่ ู้รับผิดชอบ ผู้ให้บริการงานจา้ ง
การจัดซื้อจดั จ้าง (ม.61, 74, 89) ออกแบบหรอื ควบคุมงาน
ก่อสรา้ งตอ้ งมใี บอนุญาต
การพจิ ารณาคดั เลือกผ้ชู นะ ประกอบวชิ าชีพ (ม.87)
(ม.65, 74, 75, 88)
ผู้มสี ิทธอิ ุทธรณย์ ่นื อทุ ธรณ์ ประกาศผลผู้ชนะ การอทุ ธรณ์
ตอ่ หน่วยงานฯ ภายใน 7 วัน (ม.66, 77, 91)
นับแตว่ ันประกาศผลฯ ม.117
หนว่ ยงานฯ พิจารณาใหเ้ สร็จ
ภายใน 7 วนั ทาการ นบั แต่
วนั ที่ไดร้ บั อทุ ธรณ์ ม.118