The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือการปฏิบัติงานเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ของกรมที่ดิน (ปี 2560)

สำนักงานเลขานุการกรม

Keywords: ด้านทั่วไป

. ..

..

, “”

“”

“” “”

“” “”

“” “ ”

ĥĥ

ส่วนท่ี ๒
คาสั่ง หนงั สือส่ังการ แนวทางปฏิบตั ิเกีย่ วกบั

เร่ืองรอ้ งเรียน รอ้ งทุกข์

(สาเนา) ศนู ย์ดารงธรรม มท.

ที่ มท ๐๒๐๕.๓/ว ๔๓๑๓ กระทรวงมหาดไทย
ถนนอษั ฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐

๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๐

เรอื่ ง ซกั ซ้อมแนวทางปฏิบัติเกย่ี วกบั เรอ่ื งราวร้องทกุ ขแ์ ละกล่าวโทษข้าราชการ

เรยี น ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม
และหัวหนา้ หน่วยงานรฐั วิสาหกจิ ในสงั กัดกระทรวงมหาดไทย

อา้ งถงึ หนังสอื กระทรวงมหาดไทย ที่ มท ๐๒๐๕.๓/ว ๓ ลงวนั ท่ี ๔ มกราคม ๒๕๔๙

สิง่ ทสี่ ง่ มาด้วย ๑. สาเนาหนังสือกระทรวงมหาดไทย ท่ี มท ๐๒๐๕.๓/ว ๓ ลงวันท่ี ๔
มกราคม ๒๕๔๙

๒. สาเนาหนังสือสานักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย ที่ มท ๐๑๐๑/๖๐๐๑
ลงวนั ท่ี ๒๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๐

ตามหนังสือท่ีอ้างถึง ได้แจ้งแนวทางการดาเนินการเร่ืองราวร้องทุกข์กล่าวโทษ
และแจ้งเบาะแสการกระทาผิดกฎหมายมาเพอ่ื ทราบและถอื ปฏิบตั ิ รายละเอียดตามทแ่ี จ้งแลว้ นั้น

สานักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งเพ่ิมเติมกรณี มีผู้ร้องเรียนต่อ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า ไดร้ บั ความเดอื ดรอ้ นจากการร้องเรยี นกล่าวโทษข้าราชการ
และได้รับผลร้าย ถูกข่มขู่จากผู้ที่ตนร้องเรียนรวมทั้งนาเอาเอกสารการร้องเรียนไปฟูองร้อง
ดาเนินคดีในช้ันศาล ซ่ึงกรณีดังกล่าวกระทรวงมหาดไทยได้เคยกาหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับ
เร่ืองราวร้องทุกข์และกล่าวโทษข้าราชการไว้ โดยให้ดาเนินการเป็นความลับปกปิดชื่อผู้ร้อง
และระมัดระวังในการเก็บรักษาเอกสารคาร้อง รวมทั้งมิให้ผู้ร้องต้องได้รับภัยหรือความไม่ชอบธรรม
อันเน่ืองมาจากการร้องเรียนกล่าวโทษ ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอีกอันจะทาให้ผู้ร้อง
ต้องได้รบั ภยั หรอื ความไมช่ อบธรรม อันเนอ่ื งมาจากการรอ้ งเรยี นกลา่ วโทษ หากพบว่าเจ้าหน้าที่

/ ผู้รบั ผดิ ชอบ...

๔๕

ผู้ รั บ ผิ ด ช อ บ น า เ รื่ อ ง ไ ป เ ปิ ด เ ผ ย แ ก่ ผู้ ไ ม่ มี ห น้ า ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง ห รื อ ผู้ ถู ก ร้ อ ง เ รี ย น ไ ป ข่ ม ขู่ ผู้ ร้ อ ง
ก็ใหพ้ ิจารณาโทษทางวนิ ัยต่อไป รายละเอยี ดตามทส่ี ง่ มาดว้ ย

จงึ เรยี นมาเพื่อทราบและถือปฏิบตั โิ ดยเคร่งครัด

ขอแสดงความนับถอื

(ลงช่อื ) พงศโ์ พยม วาศภตู ิ
(นายพงศ์โพยม วาศภูติ)
ปลดั กระทรวงมหาดไทย

ที่ มท ๐๕๐๑.๓/๑๓๑๔

เรยี น อธบิ ดี

เพือ่ โปรดทราบ และเหน็ ควรเวียนแจง้ ให้
สานัก/กองตา่ ง ๆ ทราบและถือปฏบิ ตั ิโดยเครง่ ครดั

(ลงช่ือ) ณรงคศ์ ักดิ์ โอสถธนากร
(นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร)
เลขานกุ ารกรม

(ลงชอ่ื ) ประทีป เจริญพร
(นายประทีป เจริญพร)
รองอธบิ ดีกรมทดี่ นิ

สานักงานปลัดกระทรวง เห็นชอบ
สานกั ตรวจราชการและเรอ่ื งราวรอ้ งทกุ ข์
โทร ๐ ๒๒๒๑ ๑๑๓๓ มท ๕๐๔๕๔ (ลงชอื่ ) ชัยฤกษ์ ดษิ ฐ์อานาจ
(นายชัยฤกษ์ ดษิ ฐอ์ านาจ)
อธบิ ดกี รมที่ดนิ

(
น า ย ชั ย
ฤ ก ษ์
ดิ ษ ฐ์
อานาจ)

๔๖

(สาเนา)

บันทึกข้อความ

สว่ นราชการ……ส…า…น…ัก…งา…น…รัฐ…ม…น…ต…รฯี……ก…ล…มุ่ ง…า…น…ร้อ…ง…ท…ุกข…์ …โ…ท…ร.…๐…๒…–……๒…๒๒..…–…๑…๒…๐…๑…..…………..…
ท…่ี ………ม…ท……๐…๑…๐๑…/…๖…๐…๐…๑………………..วันที่………๒…๒……พ…ฤศ…จ…กิ …าย…น……๒…๕…๕…๐……………………..……….
เรือ่ ง……ซ…ัก…ซ…้อ…มแ…น…ว…ท…าง…ป…ฏ…ิบ…ัติเ…ก…ี่ยว…ก…ับ…เร…ือ่ …งร…า…วร…อ้ …ง…ทกุ…ข…แ์ …ล…ะก…ล…่า…วโ…ท…ษ…ขา้…ร…าช…ก…า…ร………..…………..
เรยี น ปลดั กระทรวงมหาดไทย

ด้วยปรากฏวา่ มผี ู้ร้องเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าได้รับความ
เดือดร้อนจากการร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการและได้รับผลร้าย ถูกข่มขู่จากผู้ที่ตนร้องเรียน
รวมทั้งนาเอกสารการร้องเรียนไปฟูองดาเนินคดีในชั้นศาล กรณี ดังกล่าวกระทรวงมหาดไทย
ได้เคยกาหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับเร่ืองราวร้องทุกข์และกล่าวโทษข้าราชการไว้ โดยให้
ดาเนนิ การเป็นความลบั ปกปดิ ชอื่ ผรู้ ้องและระมัดระวังในการเก็บรักษาเอกสาร รวมท้ังมิให้ผู้ร้อง
ตอ้ งได้รับภยั หรอื ความไมช่ อบธรรมอนั เนื่องมาจากการรอ้ งเรยี นกล่าวโทษ

ดังนั้นเพ่ือให้มิให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอันจะทาให้ผู้ร้องเกิดความหวาดกลัวภัย
และรู้สึกวา่ ไมไ่ ด้รับความเป็นธรรมจากการพิจารณาของหน่วยงานบังคับบัญชาของผู้ถูกร้องเรียน
จึงเห็นควรซักซ้อมแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษไปยังส่วนราชการต่าง ๆ ในสังกัด
กระทรวงมหาดไทย หากพบว่าเจ้าหน้าท่ีผู้รับผิดชอบนาเรื่องไปเปิดเผยแก่ผู้ไม่มีหน้าที่เก่ียวข้อง
หรือผูถ้ ูกรอ้ งเรยี นไปข่มขู่ผู้ร้องก็ให้พิจารณาโทษทางวินัย ตอ่ ไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดกาชับส่วนราชการและเจ้าหน้าท่ีผู้เก่ียวข้องให้ถือปฏิบัติ
โดยเคร่งครัด

(ลงช่ือ) พลโท เนาวรัตน์ ทองคาวงศ์
(เนาวรตั น์ ทองคาวงศ์)

เลขานุการรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย

๔๗

(สาเนา)

ท่ี มท ๐๒๐๕.๓/ว ๑๘๖๒ กระทรวงมหาดไทย
ถนนอัษฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐

๘ มิถุนายน ๒๕๕๐

เรอ่ื ง แนวทางปฏิบตั ิเกย่ี วกบั การรายงานผลการดาเนินการตรวจสอบข้อเทจ็ จรงิ

เรยี น หวั หนา้ ส่วนราชการระดับกรม และผู้วา่ ราชการจงั หวดั ทุกจังหวดั

อา้ งถึง หนังสือกระทรวงมหาดไทย ดว่ นมาก ท่ี มท ๐๒๐๕.๓/ว ๓๐๓๒ ลงวนั ท่ี ๘ กนั ยายน ๒๕๔๗

ตามหนังสือที่อ้างถึง กระทรวงมหาดไทยแจ้งให้ส่วนราชการและจังหวัดทุกจังหวัดถือปฏิบัติตาม
แนวทางเกีย่ วกบั การรายงานผลการดาเนนิ การ การเรง่ รัดตดิ ตามผลการดาเนนิ การ และการแจ้งเตือนเรื่องร้องทุกข์/
ร้องเรียน ในปัญหาที่พบและข้อเสนอให้ปฏบิ ัติ น้ัน

เนื่องจากปัจจุบันปรากฏว่า ยังมีส่วนราชการและจังหวัดบางจังหวัด รายงานผลการตรวจสอบ
ข้อเท็จจริง กรณีเร่ืองที่ได้ข้อยุติแล้วไปให้กระทรวงมหาดไทยทราบ โดยหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมหรือผู้ว่า
ราชการจังหวัดไม่ได้เป็นผู้ให้ความเห็นชอบในการพิจารณายุติเร่ือง แต่จะทาเป็นหนังสือประทับตราแทนการลงชื่อ
และรวมเอกสารส่งไปเท่านั้น ซึ่งเป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามระเบียบการดาเนินงานเร่ืองร้องเรียนร้องทุกข์
ของกระทรวงมหาดไทย ดังน้ัน จึงขอให้ส่วนราชการและจังหวัดทุกจังหวัด เสนอความเห็นประกอบการพิจารณา
เรือ่ งรอ้ งเรียนท่ีไดข้ อ้ ยุติแล้วไปใหก้ ระทรวงมหาดไทยทุกครั้ง โดยให้หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมหรือผู้ว่าราชการจังหวัด
เปน็ ผลู้ งนามในหนังสอื แทนการใชห้ นังสอื ประทบั ตราแทนการลงช่อื

จึงเรยี นมาเพ่อื ทราบและถอื ปฏิบัตโิ ดยเครง่ ครัดตอ่ ไป

ขอแสดงความนับถอื

(ลงช่ือ) สรุ พล กาญจนะจิตรา
(นายสรุ พล กาญจนะจิตรา)

หวั หนา้ ผูต้ รวจราชการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบตั ิราชการแทน
ปลัดกระทรวงมหาดไทย

สานักงานปลดั กระทรวง
สานักตรวจราชการและเรือ่ งราวรอ้ งทกุ ข์
โทร ๐ ๒๒๒๑ ๑๑๓๓ มท ๕๐๔๕๘
โทรสาร ๐ ๒๒๒๒ ๖๘๓๘ มท ๕๐๒๖๔

๔๘

(สาเนา)

ที่ มท ๐๒๑๙/ว ๓๘๙ กระทรวงมหาดไทย
ถนนอัษฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐

๒๙ มกราคม ๒๕๕๐

เร่ือง แนวทางการดาเนนิ การแก้ไขปญั หาการรอ้ งทุกข์/ร้องเรียน

เรียน ผูว้ ่าราชการจังหวัดทุกจงั หวัด

อา้ งถึง ๑. หนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนมาก ท่ี มท ๐๒๐๕.๓/ว ๒๙๐๔๐ ลงวันที่ ๓๐
สิงหาคม ๒๕๔๗

๒. หนงั สอื กระทรวงมหาดไทย ท่ี มท ๐๒๑๙/ว ๐๑ ลงวนั ท่ี ๑ มกราคม ๒๕๔๗

ตามท่ีกระทรวงมหาดไทยได้กาหนดนโยบายในการบริหารราชการเพื่อเป็นแนวทาง
การดาเนินงานของศนู ยด์ ารงธรรมจงั หวดั โดยมีเปาู หมายเพอื่ ให้ประเทศชาติมีความม่ันคง สงั คม
และประชาชน ร่มเย็นเป็นสุข ซ่ึงการดาเนินการนโยบายดังกล่าวได้กาหนดงาน “ศูนย์ดารงธรรม”
เป็นกลไกหนึ่งท่จี ะช่วยสนับสนุนนโยบายใหบ้ รรลุวตั ถปุ ระสงค์ นนั้

เพื่อให้การขบั เคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ในการแกไ้ ขปญั หาทจุ ริตและประพฤตมิ ิชอบ
ที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง รวมถึงปัญหาความเสื่อมศรัทธาในการบริหารราชการแผ่นดิน
และฟน้ื ฟูระบบคณุ ธรรม จริยธรรม และธรรมาภบิ าล ในการบรหิ ารราชการแผ่นดนิ ตลอดจนเปิดโอกาส
ให้ภาคประชาชนเข้ามามีสว่ นร่วม รวมท้ังการพฒั นาสมรรถนะของข้าราชการทปี่ ฏบิ ัติหนา้ ท่ี ของ
ศูนย์ดารงธรรมจังหวัดให้พร้อมรับต่อการเป็นกลไกการขับเคลื่อนให้เกิดผลในการปฏิบัติอย่างสมบูรณ์
จงึ ใหจ้ งั หวัดดาเนนิ การ ดงั น้ี

๑. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสาคัญในเร่ืองร้องทุกข์/ร้องเรียน โดยมอบหมาย
ให้สานักงานจังหวัดรับผิดชอบงานของศูนย์ดารงธรรมจังหวัด และให้รองผู้ว่าราชการจังหวัด
ที่รับผิดชอบสายงานดา้ นปกครอง เปน็ ผรู้ ับผิดชอบกากับ ดูแล ศูนย์ดารงธรรมจังหวัดอย่างชัดเจนและ
อย่างเปน็ ระบบครบวงจร

/ ๒. ปรบั ปรงุ ...

๔๙

๒. ปรับปรุงช่องทางการรับเรื่องร้องทุกข์/ร้องเรียน ที่เปิดให้บริการประชาชน
เพือ่ รับเรื่องรอ้ งทกุ ข์/ร้องเรยี น ไมว่ ่าจะผ่านทางระบบอิเลก็ ทรอนิกสข์ องจังหวัด เช่น เว็บไซต์ของจังหวัด
ของกระทรวงมหาดไทย (www.mahadthai.com) หรือของรัฐบาล รวมทั้งศูนย์บริการข้อมูล
ข่าวสารและรับเรื่องร้องทุกข์/ร้องเรียน ผ่านระบบ Call Center หมายเลขโทรศัพท์ ๑๕๖๗
จะตอ้ งมกี ารมอบหมายให้มเี จา้ หนา้ ท่รี บั ผดิ ชอบ ดูแล รักษาระบบใหใ้ ช้การไดต้ ลอดเวลา และมี
ประสทิ ธิภาพสงู สดุ ตลอดจนให้มกี ารอบรม พัฒนา ฝกึ ฝน บุคลากร ผู้รับผดิ ชอบใหส้ ับเปลี่ยน
หมุนเวยี นใชเ้ ครอื่ งมือตามช่องทางดงั กล่าวไดอ้ ย่างเต็มประสิทธภิ าพ

๓. ให้ศูนย์ดารงธรรมจังหวัดนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาเป็นเครื่องมือ
ในการจัดทาระบบฐานข้อมูลเรื่องราวร้องทุกข์ (Database) และระบบ E – inspection
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการระบบรับเรื่องร้องทุกข์/ร้องเรียน ระบบติดตามงาน
ระบบการสบื ค้นข้อมลู การจดั เก็บทเ่ี ป็นระบบ ใหส้ ามารถตอบสนองการแก้ไขปัญหาการร้องเรียน
ของประชาชนได้

๔. ให้ศูนย์ดารงธรรมจังหวัดดาเนินการประชาสัมพันธ์ในเชิงรุก เพื่อให้สังคม
และประชาชนท่ัวไปได้รับทราบบทบาท และผลการดาเนินงาน อย่างกว้างขวาง โดยขอสนับสนุน
งบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการจัดทาประชาสัมพันธ์ทางสื่อโฆษณา
ปูายประชาสัมพนั ธ์ และกจิ กรรมสนบั สนุนในรูปแบบอนื่ ๆ

จงึ เรียนมาเพื่อทราบและถือปฏบิ ตั โิ ดยเครง่ ครดั ทงั้ น้จี ะไดม้ อบหมายให้ผู้ตรวจราชการ
กระทรวงมหาดไทยตรวจติดตามการดาเนินงานของศนู ย์ดารงธรรมจงั หวัดต่อไป

ขอแสดงความนับถือ

(ลงชื่อ) อารีย์ วงศ์อารยะ
(นายอารยี ์ วงศ์อารยะ)

รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย

สานักงานปลดั กระทรวง
ศูนยด์ ารงธรรมกระทรวงมหาดไทย
โทร ๐ ๒๒๒๓ ๒๒๑๕, ๕๐๙๙๔
โทรสาร ๐ ๒๒๒๒ ๖๘๓๘

๕๐

(สาเนา)

ที่ มท ๐๒๐๕.๓/ ว ๒๘๘๐ กระทรวงมหาดไทย
ถนนอัษฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐

๒๒ สงิ หาคม ๒๕๔๙

เรอื่ ง แนวทางปฏบิ ตั เิ ก่ยี วกับการพจิ ารณาฎีกาขอพระราชทานพระมหากรุณา

เรียน หัวหน้าสว่ นราชการระดบั กรมในสงั กัดกระทรวงมหาดไทย ผู้วา่ ราชการจงั หวัดทกุ จังหวัด

อ้างถึง หนงั สอื กระทรวงมหาดไทย ที่ มท ๐๒๐๕.๓/ ว ๖๘๗ ลงวนั ที่ ๒๗ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๔๙

ตามหนังสือที่อ้างถึง แจ้งให้ทราบและถือปฏิบัติเกี่ยวกับแนวทางการพิจารณาฎีกาที่ราษฎรขอ
พระราชทานพระมหากรุณาต่าง ๆ ซ่ึงสานักราชเลขาธิการให้พิจารณาเฉพาะในประเด็นว่า ผู้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา เป็นผู้
สมควรจะได้รับความช่วยเหลือหรือไม่ เช่น เป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนจริง ไม่มีผลประโยชน์อ่ืนแอบแฝง เป็นต้น ท้ังนี้
ให้ส่วนราชการและจงั หวัดถือเป็นหลกั การวา่ การขอพระราชทานความเป็นธรรมและการขอพระราชทานพระบรมราชานเุ คราะห์
ให้ถือเป็นเร่ืองสาคัญท่ีจะต้องพิจารณาดาเนินการหรือหาข้อยุติโดยเร็ว เพ่ือเป็นการลดพระราชภาระ โดยให้แจ้งข้อมูล
ให้สานักราชเลขาธิการทราบภายใน ๑๕ วัน น้ัน

กระทรวงมหาดไทย ได้รบั แจง้ ประสานจากสานักราชเลขาธกิ ารวา่ มีบางจังหวัดได้พิจารณาฎีกา
และเสนอข้อมูลหรือข้อคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาในการนาความกราบ บังคมทูลพระกรุณาทราบ
ฝุาละอองธุลีพระบาทให้สานักราชเลขาธิการทราบ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดเป็นผู้ลงนามตอบฎีกาแทนผู้ว่า
ราชการจงั หวดั เป็นการดาเนินการที่ไม่เหมาะสมบางกรณผี วู้ า่ ราชการจงั หวดั ไม่ทราบเรือ่ งฎีกาดังกล่าว ทาให้เกิดปัญหาในการ
ปฏิบัติ เป็นการไม่ให้ความสาคัญในการพิจารณาฎีกาขอพระราชทานพระมหากรุณา เพื่อให้การดาเนินการดังกล่าว
เป็นไปตามแนวทางที่ถูกต้อง จึงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ลงนามตอบฎีกาเกี่ยวกับการขอพระราชทานพระมหากรุณา
ใหส้ านกั ราชเลขาธกิ ารทราบทุกครัง้

จึงเรยี นมาเพื่อทราบ และถือปฏบิ ัติโดยเคร่งครัดตอ่ ไป

ขอแสดงความนบั ถือ

(ลงชอื่ ) สุจรติ ปจั ฉมิ นันท์
(นายสุจรติ ปัจฉมิ นนั ท์)
ปลดั กระทรวงมหาดไทย

สานักงานปลัดกระทรวง
กองตรวจราชการและเรอ่ื งราวรอ้ งทุกข์
โทร./โทรสาร ๐ ๒๒๒๑ ๒๘๙๓

๕๑

(สาเนา)

ท่ี มท ๐๒๐๕.๓/ ว ๖๘๗ กระทรวงมหาดไทย
ถนนอษั ฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐

๒๗ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๔๙

เร่ือง แนวทางปฏบิ ัติเกี่ยวกบั การพจิ ารณาฎีกาขอพระราชทานพระมหากรุณา

เรียน หัวหนา้ ส่วนราชการระดับกรมในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ผ้วู า่ ราชการจงั หวดั ทกุ จังหวัด

อ้างถึง ๑. หนังสือกระทรวงมหาดไทย ท่ี มท ๐๒๐๕.๓/ ว ๓๒๓๖ ลงวนั ที่ ๒๘ กนั ยายน ๒๕๔๗
๒. หนงั สอื กระทรวงมหาดไทย ท่ี มท ๐๒๐๕.๓/ ว ๒๑๙๓ ลงวนั ท่ี ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๔๘

ตามหนังสือที่อ้างถึง แจ้งให้จังหวัดทราบและถือปฏิบัติเก่ียวกับการพิจารณา
การขอพระราชทานความเป็นธรรม และการขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ซ่ึงสานัก
ราชเลขาธกิ ารให้จงั หวดั พิจารณาในประเดน็ ว่า ผู้ทลู เกล้าฯ ถวายฎีกา เป็นผู้สมควรจะได้รับความ
ช่วยเหลือหรือไม่ และจังหวัดมีแผนงานที่จะดาเนินการในเร่ืองท่ีมีผู้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาอยู่แล้ว
หรอื ไม่ นั้น

สานักราชเลขาธิการ ได้เชิญหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องประชุมเพื่อพิจารณาแนวทาง
ปฏิบัติเก่ียวกับการพิจารณาฎีกาขอพระราชทานพระมหากรุณาต่างๆ เมื่อวันท่ี ๑๗ มกราคม
๒๕๔๙ ณ สานักราชเลขาธกิ าร โดยมีผลการประชมุ สรปุ ได้ว่า

๑. เนื่องจากท่ีผ่านมาการพิจารณาฎีกาขอพระราชทานพระมหากรุณาต่าง ๆ
ที่สานักราชเลขาธิการสอบถามไปยังจังหวัดและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องได้รับทราบข้อมูลล่าช้า
ท่ีประชุมจึงมีมติให้ลดประเด็นในการรายงานข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาฎีกาให้เหลือเพียง
ประเด็นเดยี ว คือ ผทู้ ูลเกล้าฯ ถวายฎกี า เป็นผู้ทส่ี มควรไดร้ บั ความช่วยเหลือหรอื ไม่ เชน่ มีตวั ตนจรงิ
ไดร้ ับความเดือดรอ้ นจริง ไม่ได้เป็นพวกมีผลประโยชน์แอบแฝง

๒. ใหจ้ ังหวัดตอบเรื่องฎีกามายังสานักราชเลขาธกิ าร ภายใน ๑๕ วัน ท้ังน้ี สานัก
ราชเลขาธิการจะได้รวบรวมทาเป็นบัญชีฎีกาท้ังหมด และส่งให้กระทรวงมหาดไทยติดตามเรื่อง
ต่อไป

/ ๓. ใหจ้ งั หวดั ...

๕๒

๓. ให้จังหวดั ตดิ ตามผลความก้าวหนา้ ของฎีกาทที่ รงรบั ไว้เป็นโครงการอันเน่ืองมาจาก
พระราชดาริ และรายงานผลความกา้ วหน้าของการดาเนินงานโครงการพร้อมภาพถ่ายไปยังสานัก
ราชเลขาธิการทุกไตรมาส ( ๓ เดือน ) จนกว่าโครงการจะเสร็จสมบูรณ์ โดยสานักราชเลขาธิการ
จะรวบรวมบัญชีฎีกาท่ีทรงรับไว้เป็นโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ ให้กระทรวงมหาดไทย
เรง่ รดั ติดตามรายงานผลจากจงั หวัดตอ่ ไป

จึงเรียนมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติในส่วนท่ีเกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ท้ังน้ี
ให้ส่วนราชการถือเปน็ หลกั การว่า การขอพระราชทานความเป็นธรรม และการขอพระราชทาน
พระบรมราชานุเคราะห์ให้ถือเป็นเรื่องสาคัญท่ีจะต้องพิจารณาดาเนินการแจ้งข้อมูลให้ สานัก
ราชเลขาธิการทราบภายในกาหนดหากส่วนราชการใดไม่สามารถดาเนินการภายในกาหนดได้
ใหแ้ จ้งอุปสรรค ข้อขัดขอ้ งให้สานักราชเลขาธกิ ารทราบภายในกาหนดด้วย

ขอแสดงความนับถือ
(ลงชือ่ ) สรุ พล กาญจนะจติ รา

(นายสุรพล กาญจนะจติ รา)
หัวหนา้ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบตั ริ าชการแทน

ปลัดกระทรวงมหาดไทย

สานักงานปลัดกระทรวง
กองตรวจราชการและเรอ่ื งราวร้องทกุ ข์
โทร./โทรสาร ๐ ๒๒๒๑ ๒๘๙๓ ( มท ) ๕๐๔๕๔

๕๓

(สาเนา)

ท่ี มท ๐๒๐๕.๓/ว ๓ กระทรวงมหาดไทย
ถนนอษั ฏางค์ กท ๑๐๒๐๐

๔ มกราคม ๒๕๔๙

เรอ่ื ง แนวทางการดาเนนิ การเรอื่ งราวรอ้ งทุกขก์ ล่าวโทษและแจ้งเบาะแสการกระทาผิดกฎหมาย

เรยี น ปลดั กรงุ เทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวดั ทุกจังหวดั หัวหน้าส่วนราชการระดบั กรม
และหวั หนา้ หน่วยงานรัฐวิสาหกจิ ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย

ด้วยสานักนายกรัฐมนตรี แจ้งหลักเกณฑ์ ขั้นตอนและวิธีการดาเนินการ เก่ียวกับ
เร่ืองราวร้องทุกข์กล่าวโทษและแจ้งเบาะแสการกระทาผิดกฎหมายหรือเกี่ยวข้องกับความม่ันคง
ของประเทศที่ประชาชนย่ืนคาร้องต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งสานักงานปลัดสานักนายกรัฐมนตรี
ได้สง่ เรอื่ งให้หน่วยงานทีเ่ ก่ยี วขอ้ งพจิ ารณาหรอื ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเหน็ ว่า เพือ่ ให้การดาเนินการ
ดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและผู้ร้องมีความเชื่อมั่นในการดาเนินการของส่วนราชการ
และหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ ง จงึ เห็นควรใหป้ ฏิบตั ิตามมติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๔๑
และไดก้ าหนดหลกั เกณฑ์ ขัน้ ตอนและวิธกี ารดาเนนิ การ ดงั น้ี

๑) ในเบ้ืองต้นให้ถือเป็นความลับของทางราชการ หากเป็นบัตรสนเท่ห์ให้พิจารณา
เฉพาะรายท่รี ะบุหลกั ฐาน กรณแี วดล้อมปรากฏชดั แจง้

๒) ส่งสาเนาเร่ืองโดยปกปิดช่ือผู้ร้องให้ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ดาเนนิ การในทางลบั

๓) ให้ส่วนราชการและหน่วยงานเจ้าของเรื่องแจ้งให้ผู้ร้องกับสานักงานปลัดสานัก
นายกรัฐมนตรีให้ทราบในทางลับ หลังจากได้รับเรื่องและภายหลังจากสืบสวนไม่เกิน ๑๕ วัน
โดยหากปรากฏว่า มีความจริงอันเป็นกรณีความผิดกฎหมายบ้านเมืองให้ดาเนินคดีอาญา
และถ้าปรากฏมีมูลความจริงเป็นกรณีความผิดทางวินัยให้ดาเนินการสอบสวนหรือตั้งกรรมการ
สอบสวนไปตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. ๒๕๓๕

๔) ให้มีการคุ้มครองผรู้ ้องและผูเ้ กย่ี วข้อง อย่าให้ตอ้ งได้รับภยั หรอื ความไมช่ อบธรรม
ซ่ึงอาจเนอ่ื งมาจากการร้องเรียน รวมท้ังให้มกี ารพิจารณาดาเนนิ การเป็นกรณีพเิ ศษเฉพาะในเรอื่ ง

/ ท่ีเก่ียวข้อง...

๕๔

ท่ีเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ/กรณีท่ีอาจมีผลกระทบต่อชีวิตและความปลอดภัยของผู้ร้อง/
กรณีท่ีอาจเก่ียวข้องกับคดีหรือทาให้เป็นคดีความได้และกรณีท่ีเก่ียวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
รายละเอียดปรากฏตามส่ิงทส่ี ่งมาด้วย

จงึ เรียนมาเพอ่ื ทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ท้ังนี้ หากข้าราชการหรือเจ้าหน้าท่ี
ไม่ปฏบิ ัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอนและวิธีการดังกล่าว ให้ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าท่ี
หรือประมาทเลินเลอ่ เป็นเหตใุ ห้ราชการเสียหาย ให้มกี ารดาเนนิ การทางวินยั ต่อไป

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชือ่ ) สุจริต ปัจฉมิ นันท์

(นายสจุ ริต ปจั ฉมิ นันท์)
ปลัดกระทรวงมหาดไทย

สานักงานปลดั กระทรวง
กองตรวจราชการและเร่ืองราวร้องทกุ ข์
โทร. /โทรสาร ๐ ๒๒๑ ๑๑๓๓ (มท) ๕๐๔๕๘

๕๕

(สาเนา)

ท่ี นร ๐๑๐๔.๓๓/ ว ๖๘๑๒ สานักนายกรฐั มนตรี
ทาเนียบรฐั บาล กทม. ๑๐๓๐๐

๒๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๔๘

เรื่อง การดาเนนิ การเร่อื งราวร้องทกุ ขก์ ลา่ วโทษและแจ้งเบาะแสการกระทาทีผ่ ิดกฎหมาย

เรียน อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถนิ่

ส่งิ ท่สี ่งมาด้วย สาเนาหนังสือสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ท่ี นร ๐๒๐๖ /ว ๒๑๘ ลงวันท่ี
๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๑ และเอกสารประกอบ จานวน ๗ แผ่น

ดว้ ย สานักงานปลัดสานักนายกรัฐมนตรี โดยศูนย์บริการประชาชนมีภารกิจใน
การรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนท่ียื่นคาร้องต่อนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีประจาสานักนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการดาเนินการเร่ืองราวร้องทุกข์กล่าวโทษ
และแจ้งเบาะแสการกระทาที่ผิดกฎหมาย ซึ่งสานักงานปลัดสานักนายกรัฐมนตรีได้ส่งเร่ืองให้
หนว่ ยงานที่เก่ยี วข้องพจิ ารณาหรอื พิจารณาตรวจสอบขอ้ เท็จจรงิ แล้วแจ้งผลให้ทราบ เพอื่ นากราบเรียน
นายกรฐั มนตรี นาเรียนรองนายกรัฐมนตรีและรฐั มนตรปี ระจาสานักนายกรัฐมนตรีตอ่ ไป

เม่ือวันท่ี ๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้เชิญรอง
เลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝุายการเมือง (พลโท ปรีชา วรรณรัตน์) ปลัดสานักนายกรัฐมนตรี
ผู้อานวยการศูนย์บริการประชาชน และคณะกรรมการติดตามและประสานงานตามการส่ังการ
ของนายกรัฐมนตรี (คตส.นรม.) บ้านพิษณุโลก ร่วมประชุมปรึกษาหารือเก่ียวกับแนวทาง
การดาเนินการเร่ืองราวร้องทุกข์กล่าวโทษและแจ้งเบาะแสการกระทาท่ีผิดกฎหมายที่ประชาชน
ยื่นคาร้องต่อนายกรัฐมนตรี และมีบัญชาให้มีการกาหนดหลักเกณฑ์ ขั้นตอนและวิธีการดาเนินการ
รวมท้ังกาชับเจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงานให้ดาเนินการด้วยความระมัดระวังและละเอียดรอบคอบ
เพอ่ื ให้ความคุ้มครองผูร้ ้องและผเู้ กีย่ วขอ้ ง มิให้ตอ้ งรบั ภัยหรือความไมช่ อบธรรมจากการร้องทุกข์
กลา่ วโทษและแจ้งเบาะแสการกระทาท่ผี ิดกฎหมายดงั กล่าว

สานักงานปลัดสานักนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่า เพ่ือให้การดาเนินการ
เรือ่ งราวรอ้ งทุกข์กลา่ วโทษและแจ้งเบาะแสการกระทาทผี่ ดิ กฎหมายหรือเกี่ยวข้องกับความม่ันคง
ของประเทศที่ประชาชนยื่นคาร้องต่อนายกรัฐมนตรีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และผู้ร้อง

/ มีความ...

๕๖

มีความเช่ือม่ันในการดาเนินการของส่วนราชการและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง จึงเห็นควรให้ปฏิบัติ
ตามมติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๔๑ รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
และกาหนดหลักเกณฑ์ ขน้ั ตอนและวิธีการดาเนนิ การ ดังน้ี

๑. ในเบ้ืองต้นถอื เป็นความลับของทางราชการ หากเปน็ บตั รสนเท่หใ์ ห้พิจารณา
เฉพาะรายทีร่ ะบหุ ลักฐาน กรณีแวดลอ้ มปรากฏชดั แจง้ ตลอดจนชพ้ี ยานบคุ คลแนน่ อน

๒. ส่งสาเนาเรื่องโดยปกปิดชื่อผู้ร้องให้ส่วนราชการและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง
ดาเนินการในทางลบั

๓. ขอให้ส่วนราชการและหน่วยงานเจ้าของเร่ืองแจ้งให้ผ้รู ้องกับสานักงานปลัด
สานกั นายกรัฐมนตรที ราบในทางลับ หลงั จากไดร้ ับเรอ่ื งและภายหลังการสืบสวนไม่เกนิ ๑๕ วนั
โดยหากปรากฏว่า มคี วามจรงิ อันเป็นกรณีความผดิ กฎหมายบ้านเมืองให้ดาเนินคดอี าญา และถา้
ปรากฏมมี ลู ความจริงเป็นกรณีความผิดทางวนิ ยั ใหด้ าเนินการสอบสวนหรอื ตง้ั กรรมการสอบสวน
ไปตามพระราชบัญญตั ริ ะเบียบข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. ๒๕๓๕

๔. ให้มีการคุ้มครองผู้ร้องและผู้ท่ีเก่ียวข้อง อย่าให้ต้องรับภัยหรือความไม่ชอบ
ธรรม

ซึ่งอาจเน่ืองมาจากการร้องเรียน การเป็นพยาน หรือการให้ข้อมูลน้ัน โดยประสานขอความ
ร่วมมือใหส้ ว่ นราชการและหนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ งถอื ปฏบิ ัติอย่างเครง่ ครัด รวมท้ังใหม้ กี ารพิจารณา
ดาเนินการเป็นกรณีพิเศษเฉพาะเร่อื ง ดังนี้

๔.๑ กรณที เี่ กี่ยวขอ้ งกบั ความม่ันคงของประเทศ
เห็นควรสง่ เร่อื งใหส้ ภาความมัน่ คงแหง่ ชาตพิ จิ ารณาดาเนนิ การตอ่ ไป

๔.๒ กรณีทอี่ าจมผี ลกระทบต่อชวี ิตและความปลอดภยั ของผรู้ อ้ ง
เหน็ ควรสรุปสาระสาคัญตามคารอ้ งเฉพาะท่หี น่วยงานเจา้ ของเรื่อง

จะสามารถนาไปพิจารณาดาเนินการต่อไปได้ โดยไม่นาส่งเอกสารคาร้องต้นฉบับ รวมทั้งหากมี
ความจาเป็นเห็นควรประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพ่ือให้การคุ้มครองผู้ร้องเป็นพิเศษรายกรณี
ด้วย ทั้งนี้ หากหน่วยงานเจ้าของเรื่องประสานร้องขอทราบข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมให้
พจิ ารณาเปน็ รายกรณี

๔.๓ กรณที ่อี าจเก่ยี วข้องกบั คดหี รอื ทาให้เป็นคดคี วามได้
เหน็ ควรแจ้งรายละเอียดเฉพาะทห่ี น่วยงานเจ้าของเรอื่ งจะสามารถ

นาไปพิจารณาดาเนินการต่อไปได้ โดยอาจมีการปกปิดข้อความตามคาร้องบางส่วนด้วยก็ได้
ทั้งนี้ หากหน่วยงานเจ้าของเร่ืองประสานร้องขอทราบข้อมูลรายละเอียดเพ่ิมเติมให้พิจารณา
เป็นรายกรณี

/๔.๔ กรณี...

๕๗

๔.๔ กรณีทีเ่ กีย่ วข้องกบั เจา้ หนา้ ท่ขี องรฐั
เหน็ ควรสง่ เรอ่ื งให้หวั หนา้ ส่วนราชการที่สงู หรือเหนอื กว่าสว่ นราชการ

ต้นสงั กดั ของผถู้ ูกร้อง และส่งเร่ืองให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานที่มีอานาจหน้าท่ีในการสืบสวน
หรือสอบสวนเรื่องร้องเรียนของส่วนราชการหรือหน่วยงานน้ันเป็นการเฉพาะด้วย

ทั้งนี้ หากข้าราชการหรือเจ้าหน้าท่ีไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน
และวิธีการดังกล่าว ให้ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ราชการ
เสยี หาย เหน็ ควรใหม้ กี ารดาเนนิ การทางวินัย

จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และขอให้ถือปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวด้วย
จักขอบคณุ ยิ่ง

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชอื่ ) รองพล เจริญพนั ธุ์

(นายรองพล เจรญิ พนั ธุ์)
ปลดั สานกั นายกรฐั มนตรี

สานักงานปลดั สานักนายกรฐั มนตรี
ศนู ยบ์ รกิ ารประชาชน E-mail : [email protected]
โทร. ๐ ๒๒๘๓ ๑๒๙๔-๖ โทรสาร ๐ ๒๒๘๑-๔๓๕๘
ประสานงานนายวสิ ุทธ์ิ ฉตั รานฉุ ตั ร
Psc-63/My Documents/ฝปน.48/Wisrt/17พ.ย.48 แนวทางเรอื่ งกลา่ วโทษ 1

๕๘

(สาเนา)

ท่ี มท ๐๒๐๕.๓/ว ๒๑๙๓ กระทรวงมหาดไทย
ถนนอษั ฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐

๑๒ กรกฎาคม ๒๕๔๘

เร่ือง แนวทางปฏบิ ัตเิ กีย่ วกบั การพิจารณาฎีกาขอพระราชทานพระมหากรณุ า

เรียน ผู้ว่าราชการจังหวดั ทกุ จังหวัด

อา้ งถงึ หนังสือกระทรวงมหาดไทย ท่ี มท ๐๒๐๕.๓/ว ๓๒๓๖ ลงวนั ท่ี ๒๘ กนั ยายน ๒๕๔๗

สิง่ ทสี่ ่งมาดว้ ย สาเนาหนังสือสานักราชเลขาธิการ ท่ี รล ๐๐๐๕.๑/๙๑๘๓ ลงวันท่ี ๒๓ มิถุนายน ๒๕๔๘
จานวน ๑ แผน่

ตามหนังสือท่ีอ้างถึง แจ้งให้จังหวัดทราบและถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๓๐
ธันวาคม ๒๕๔๐ เก่ียวกับการขอพระราชทานความเป็นธรรมและการขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์
โดยมีสาระสาคญั สรุปไดว้ า่ ใหส้ ว่ นราชการถอื เป็นหลักการว่า ในการขอพระราชทานความเป็นธรรมและการขอพระราชทาน
พระบรมราชานเุ คราะห์ เปน็ เรอ่ื งสาคัญที่จะตอ้ งพิจารณาดาเนินการ หรอื หาข้อยุติให้ไดโ้ ดยเร็ว เพ่ือเป็นการลดพระราชภาระ
และเปน็ การแก้ไขปัญหาความทกุ ข์ยาก ความเดอื ดร้อนของประชาชน น้นั

บัดน้ี สานักราชเลขาธิการ ได้กาหนดประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาการขอพระราชทาน
ความเป็นธรรม และการขอพระราชทานพระบรมราชานเุ คราะห์ โดยขอใหพ้ จิ ารณาในประเดน็ ดังนี้

๑. ผู้ทูลเกล้าถวายฎีกา เป็นผู้สมควรจะได้รับความช่วยเหลือหรือไม่ เช่น เป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนจริง
ไม่มผี ลประโยชน์อน่ื แอบแฝง เปน็ ต้น

๒. จังหวัดมีแผนงานที่จะดาเนินการในเร่ืองที่มีผู้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาอยู่แล้วหรือไม่ หากจังหวัด
มแี ผนงานรองรบั อยแู่ ล้ว สานกั ราชเลขาธกิ ารจักได้ไม่ดาเนินการซ้าซ้อนในเรือ่ งดงั กล่าว รายละเอียดปรากฏตามสง่ิ ท่ีส่งมาดว้ ย

จึงเรียนมาเพ่อื ทราบและถอื ปฏิบตั ใิ นส่วนที่เก่ยี วข้องต่อไป

ขอแสดงความนบั ถอื

(ลงชื่อ) ชยั ฤกษ์ ดิษฐอานาจ
(นายชัยฤกษ์ ดษิ ฐอานาจ)

รองปลดั กระทรวงมหาดไทย ปฏิบัตริ าชการแทน
ปลดั กระทรวงมหาดไทย

สานกั งานปลดั กระทรวง
กองตรวจราชการและเรอ่ื งราวร้องทกุ ข์
โทร. / โทรสาร ๐ ๒๒๒๑ ๑๑๓๓ (มท) ๕๐๔๕๔

๕๙

(สาเนา)

ท่ี มท ๐๒๐๕.๓/ ว ๓๓๗๖ กระทรวงมหาดไทย
ถนนอัษฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐

๑๑ ตลุ าคม ๒๕๔๗

เรอ่ื ง หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับการร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการและการสอบสวนเร่ืองร้องเรียน
กล่าวโทษขา้ ราชการว่ากระทาผิดวินัย

เรียน หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัด มท. และผู้ว่าราชการจังหวัด
ทกุ จังหวดั

ส่งิ ทสี่ ่งมาด้วย ๑. สาเนาหนงั สอื สานกั เลขาธิการคณะรฐั มนตรี ท่ี นร ๐๒๐๖/ว ๒๑๘ ลงวนั ที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๔๑
๒. สาเนาหนงั สือสานักเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี ที่ นร ๐๒๐๕/ว ๓๑ ลงวนั ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒

ด้วยสานักงาน ก.พ. แจ้งว่า นายกรัฐมนตรีได้ส่ังการให้แจ้งให้ส่วนราชการถือปฏิบัติตามมติ
คณะรฐั มนตรี เมื่อวนั ท่ี ๒๒ ธันวาคม ๒๕๔๑ เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับการร้องเรียนกล่าวโทษ
ข้าราชการ และการสอบสวนเรื่องราวร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการว่ากระทาผิดวินัยและมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๓
กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ เรื่อง มาตรการให้ความคุ้มครองข้าราชการผู้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ
รายละเอียดปรากฏตามสิง่ ทส่ี ่งมาด้วย

กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้ว เพื่อให้การปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเรื่องดังกล่าวทั้งสองฉบับ
เป็นไปด้วยความเรยี บรอ้ ย จึงขอซักซ้อมแนวทางปฏบิ ตั ิเกี่ยวกบั การร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการและการสอบสวน
เรอ่ื งราวรอ้ งเรียนกลา่ วโทษขา้ ราชการวา่ กระทาผิดวนิ ยั ใหส้ ่วนราชการ / หนว่ ยงานในสังกัด และจงั หวดั ถอื ปฏบิ ัตดิ งั น้ี

๑. เม่ือผู้บังคับบัญชาได้รับเร่ืองราวกล่าวโทษข้าราชการ ในเบ้ืองต้นให้ถือเป็นความลับทาง
ราชการ หากเป็นบัตรสนเท่ห์ให้พิจารณาเฉพาะรายท่ีระบุหลักฐาน กรณีแวดล้อมปรากฏชัดแจ้งตลอดจนช้ีพยาน
บคุ คลแน่นอนเทา่ น้ัน

๒. ส่งสาเนาเรื่องราวกล่าวโทษข้าราชการโดยปกปิดช่ือผู้ร้องหรือสาเนาบัตรสนเท่ห์ให้ผู้บังคับบัญชา
ของผู้ถูกกลา่ วโทษทาการสืบสวนทางลบั ว่ามีมูลความจริงเพยี งใดหรอื ไม่ ถ้าเห็นว่ากรณีไม่มีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทา
ผิดวินัย จึงจะยุติเรื่องได้ ทั้งน้ี ให้ดาเนินการให้แล้วเสร็จโดยเรว็ แล้วรายงานให้ผบู้ งั คับบญั ชาทไี่ ด้รับเรื่องราวทราบ

๓. ให้ผู้บังคับบัญชาที่เป็นผู้ได้รับเรื่องราวกล่าวโทษข้าราชการ แจ้งให้ผู้ร้องเรียนทราบในทางลับ
หลังจากที่ไดร้ บั เร่อื งราวรอ้ งทุกข์ และภายหลงั การสบื สวนในเวลาอนั สมควร

๔. ถ้าปรากฏว่า มีความจริงอันเป็นกรณีความผิดทางกฎหมายบ้านเมือง ให้ดาเนินคดีทางอาญา
ถ้าปรากฏว่า มีมูลความจริงเป็นกรณีความผิดทางวินัย ให้ดาเนินการสอบสวน หรือตั้งกรรมการสอบสวนไปตาม
พระราชบญั ญัตริ ะเบยี บขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕

๕. ใหผ้ ู้บงั คบั บัญชาใชด้ ุลพินจิ ส่ังการทสี่ มควรเพ่ือค้มุ ครองผู้รอ้ ง พยาน และบคุ คลที่ให้ข้อมูลในการ
สืบสวนสอบสวน อย่าให้ต้องรับภัยหรือความไม่ชอบธรรม ซงึ่ อาจเนื่องมาจากการร้องเรียน การเป็นพยาน หรือ
การใหข้ อ้ มูล นนั้

/ ๖. ในการ...

๖๐

๖. ในการดาเนินการตามข้ันตอนสืบสวนในทางลับเพ่ือหาข้อเท็จจริง หากเจา้ หนา้ ท่ผี ้สู บื สวน
ในทางลับได้กระทาละเมิดต่อขา้ ราชการผถู้ กู กล่าวโทษหรือบคุ คลภายนอก และความเสียหายดังกล่าวเกิดข้ึนจากการ
กระทาในหน้าท่ี แม้มไิ ด้กระทาโดยจงใจหรอื ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หน่วยงานต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
แก่ผู้เสียหายตามหลกั เกณฑ์ในพระราชบัญญตั คิ วามรับผดิ ทางละเมดิ ของเจ้าหน้าท่ี พ.ศ. ๒๕๓๙

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรียังได้วางมาตรการให้ผู้บังคับบัญชาให้ความคุ้มครอง และให้ความเป็นธรรม
แก่ข้าราชการผู้ให้ข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูล การให้ถ้อยคาหรือการส่งเอกสาร
หลักฐานทจี่ ะไม่ถกู กลัน่ แกล้ง ตามนยั หนงั สอื ฯ ส่ิงท่สี ่งมาดว้ ย ๒

จงึ เรยี นมาเพือ่ ทราบและถือปฏบิ ัติตามมตคิ ณะรัฐมนตรีเรอ่ื งดงั กลา่ ว โดยเครง่ ครัดต่อไป
ขอแสดงความนบั ถอื

(ลงช่ือ) ชยั ฤกษ์ ดษิ ฐอานาจ
(นายชัยฤกษ์ ดษิ ฐอานาจ)

รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏบิ ัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงมหาดไทย

สานกั งานปลดั กระทรวง
กองตรวจราชการและเร่ืองราวร้องทกุ ข์
โทร. / โทรสาร ๐ ๒๒๒๑ ๑๑๓๓

๖๑

(สาเนา)

ที่ มท ๐๒๐๕.๓/ ว ๓๒๓๖ กระทรวงมหาดไทย
ถนนอษั ฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐

๒๘ กันยายน ๒๕๔๗

เรอ่ื ง การขอพระราชทานความเป็นธรรมและการขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์

เรยี น หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ในสังกัด มท. ผู้ว่าราชการ
จังหวดั ทกุ จงั หวัด และหัวหนา้ สว่ นราชการ / หนว่ ยงาน ในสงั กัด สป.

ส่ิงท่ีส่งมาด้วย ๑. สาเนาหนังสือสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ท่ี นร ๐๒๐๗/ว ๗ ลงวันท่ี
๘ มกราคม ๒๕๔๑

๒. สาเนาหนงั สอื สานกั เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี ที่ นร ๐๕๐๗/ว ๑๘๑ ลงวันท่ี
๑๐ กันยายน ๒๕๔๗

ด้วยสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แจ้งว่า ตามที่ได้มีมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๔๐ เห็นชอบตามท่ีสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอเกี่ยวกับ
การขอพระราชทานความเปน็ ธรรมและการขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ โดยมีสาระสาคัญ
สรุปไดว้ า่ ใหส้ ว่ นราชการถือเปน็ หลักการว่าการขอพระราชทานความเป็นธรรมและการขอพระราชทาน
พระบรมราชานุเคราะห์เป็นเร่ืองสาคัญท่ีจะต้องพิจารณาดาเนินการ หรือหาข้อยุติให้ได้โดยเร็ว
เพ่ือเปน็ การลดพระราชภาระ และเป็นการแก้ไขปัญหาความทุกข์ยาก ความเดือดร้อนของประชาชน
ในเรอื่ งดงั กลา่ ว รายละเอียดปรากฏตามสง่ิ ท่ีส่งมาด้วย

กระทรวงมหาดไทยพจิ ารณาแลว้ เพ่อื ให้การดาเนินการเก่ียวกับการขอพระราชทาน
ความเปน็ ธรรมและการขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์เรื่องต่าง ๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
และเปน็ ไปตามพระราชกฤษฎกี าว่าดว้ ยหลกั เกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖
จงึ ให้สว่ นราชการ/หนว่ ยงานรัฐวิสาหกิจในสังกดั และจงั หวัด ถือปฏิบตั ิในเรื่องดังกล่าว ดงั น้ี

/ ๑. กรณี

๖๒

๑. กรณีสว่ นราชการได้รับเรอ่ื งการขอพระราชทานความเป็นธรรม หรือการขอ
พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์จากสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขอให้ส่วนราชการ
พิจารณาเสนอข้อมูล หรือข้อคิดเห็นเพ่ือประกอบการพิจารณาในการนาความกราบบังคมทูล
พระกรุณาทราบฝุาละอองธุลีพระบาท ให้สานักเลขาธิการคณะรฐั มนตรที ราบภายในกาหนด ๑๕ วนั
นบั แต่วันท่ไี ด้รับหนังสอื ตามนัยมาตรา ๓๘ แหง่ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการ
บรหิ ารกจิ การบา้ นเมอื งทด่ี ี พ.ศ. ๒๕๔๖

๒. หากส่วนราชการไม่สามารถดาเนินการพิจารณาแก้ไขปัญหาหรือหาข้อยุติ
เพื่อนาเสนอข้อมูลหรือข้อคิดเห็นให้สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายในระยะเวลา
ที่กาหนดตามข้อ ๑. ขอให้ส่วนราชการชี้แจงถึงสาเหตุที่ไม่สามารถดาเนินการในเรื่องดังกล่าว
ว่ามาจากเหตใุ ดเหตุหน่งึ ดังนี้

๑) การขอพระราชทานความเป็นธรรม หรือการขอพระราชทานพระบรม
ราชานุเคราะห์ดังกล่าว จัดเป็นงานซึ่งส่วนราชการได้มีประกาศกาหนดระยะเวลาแล้วเสร็จ
ให้ประชาชนและขา้ ราชการทราบเป็นการท่ัวไปแล้ว แต่มีอุปสรรคข้อขัดข้องท่ียังไม่อาจดาเนินการ
ให้แล้วเสร็จภายในกาหนดเวลาดังกล่าวได้ และขณะน้ีอยู่ระหว่างดาเนินการแก้ไขอุปสรรค
ขอ้ ขดั ขอ้ งอยา่ งไร จะดาเนนิ การแล้วเสรจ็ ภายในกาหนดเวลาใดหรอื

๒) การขอพระราชทานความเป็นธรรม หรือการขอพระราชทานพระบรม
ราชานุเคราะห์ดังกล่าว เป็นงานซึ่งส่วนราชการมิได้มีการประกาศกาหนดระยะเวลาแล้วเสร็จ
ให้ประชาชนและข้าราชการทราบเป็นการทั่วไป และยังดาเนินการไม่แล้วเสร็จอันเนื่องมาจาก
อุปสรรคขอ้ ขดั ขอ้ งใด และจะดาเนินการใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายในกาหนดเวลาใด หรือ

๓) เหตอุ นื่ ๆ
โดยจะต้องดาเนินการภายในกาหนด ๑๕ วัน หลังจากท่ีได้รับเรื่อง

จากสานกั เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตามนัยมาตรา ๓๘ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์
และวิธีการบรหิ ารกจิ การบา้ นเมืองทด่ี ี พ.ศ. ๒๕๔๖

๓. หลังจากท่ีได้ดาเนินการตามข้อ ๒. แล้ว ขอให้ส่วนราชการนั้น แจ้งผล
การพิจารณาดาเนินการให้สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ และหากพ้นระยะเวลาที่กาหนดแล้ว
แตเ่ รอ่ื งดงั กลา่ วยังไมส่ ามารถดาเนนิ การใหแ้ ลว้ เสร็จได้ ให้ส่วนราชการนั้น แจ้งผลการพิจารณา
ให้สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะทุก ๓๐ วัน จนกว่าจะดาเนินการได้แล้วเสร็จ
ทงั้ น้ี เพ่ือเป็นข้อมูลรายงานผลความคบื หนา้ ให้สานักราชเลขาธกิ ารและผู้เกีย่ วข้องทราบ

/ ๔. ในการ...

๖๓

๔. ในการดาเนินการแก้ไขปัญหาหรือหาข้อยุติเพื่อเสนอข้อมูลหรือข้อคิดเห็น
ใหส้ านักเลขาธิการคณะรฐั มนตรี แจง้ สานักราชเลขาธิการเพื่อนาความกราบบังคมทูลพระกรุณา
ทราบฝาุ ละอองธลุ พี ระบาทในเรื่องดังกลา่ ว ควรดาเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซ่ึงไม่ควรใช้เวลาเกิน
๑ ปี ยกเวน้ เร่อื งทตี่ อ้ งใช้เวลานาน เช่น คดีท่ีต้องรอฟังผลคาพพิ ากษาศาลถึงท่สี ดุ

๕. หากส่วนราชการไม่สามารถดาเนินการในเรื่องใด ขอให้แจ้งอุปสรรค
ข้อขัดข้องให้สานกั เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรที ราบแต่เนิ่น ๆ ไม่ควรปล่อยให้ล่วงเลยเป็นเวลานาน
ซึ่งสานักเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรีอาจพจิ ารณาเสนอ กพร. พิจารณากาหนดระยะเวลาดาเนินการ
ให้แก่ส่วนราชการรับไปปฏิบัติตามนัยมาตรา ๓๗ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์
และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ เพ่ือมิให้ผู้ขอพระราชทานความเป็นธรรม
หรอื ขอพระราชทานพระบรมราชานเุ คราะหต์ ้องรอนานเกนิ ควร

จึงเรียนมาเพอ่ื ทราบและถอื ปฏบิ ตั ิในเรอื่ งดังกลา่ วตอ่ ไป
ขอแสดงความนบั ถือ

(ลงชือ่ ) ชยั ฤกษ์ ดิษฐอานาจ
(นายชัยฤกษ์ ดษิ ฐอานาจ)

รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏบิ ตั ริ าชการแทน
ปลัดกระทรวงมหาดไทย

สานกั งานปลดั กระทรวง
กองตรวจราชการและเร่อื งราวร้องทุกข์
โทร. / โทรสาร ๐ ๒๒๒๑ ๑๑๓๓ (มท) ๕๐๔๕๔

๖๔

(สาเนา)

ที่ นร ๐๕๐๔/ว ๑๘๘ สานักเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี
ทาเนียบรฐั บาล กทม.๑๐๓๐๐

๑๗ กันยายน ๒๕๔๗

เรื่อง ขอใหถ้ ือปฏิบัตติ ามกฎหมายว่าดว้ ยการปูองกันและปราบปรามการทจุ ริต พ.ศ.๒๕๔๒ โดยเคร่งครัด

เรยี น เลขาธิการคณะกรรมการปอู งกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

ด้วย พลตารวจเอก วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ ประธานกรรมการปูองกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(ป.ป.ช.) ไดม้ หี นังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ขอใหพ้ ิจารณาสงั่ การตามกฎหมายกรณผี ้บู งั คบั บัญชาไมพ่ ิจารณาโทษเจา้ หนา้ ที่
ของรัฐตามฐานความผดิ ท่คี ณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติช้ีมลู ความผิดทางวนิ ัยภายใน ๓๐ วนั นับแต่วนั ทไ่ี ด้รับเรือ่ งตามมาตรา ๙๓
แหง่ พระราชบญั ญตั ิ ประกอบรฐั ธรรมนญู ซง่ึ นายกรฐั มนตรีได้มอบหมายให้รองนายกรฐั มนตรี (นายวษิ ณุ เครอื งาม)
รับไปติดตามผลการดาเนินงานในเรื่องดังกล่าวและรายงานให้คณะกรรมการ ป .ป.ช. ทราบแล้ว นอกจากน้ี
นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการปูองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒
โดยเครง่ ครดั ดว้ ย

คณะรฐั มนตรีได้ลงมตเิ ม่อื วันท่ี ๑๔ กันยายน ๒๕๔๗ รับทราบและเห็นชอบให้กาชับส่วนราชการต่าง ๆ
ปฏิบัติตามมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. และดาเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปูองกันและ
ปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยเคร่งครัด เพ่ือปราบปรามเจ้าหน้าท่ีของรัฐผู้ทุจริต และสนับสนุนให้เจ้าหน้าท่ีของรัฐ
ปฏิบัตหิ น้าทดี่ ว้ ยความสจุ รติ โดยยึดถือประโยชน์ส่วนรวมเปน็ สาคญั

จงึ เรียนมาเพอื่ โปรดทราบ และขอไดแ้ จง้ ให้สว่ นราชการในสงั กดั ทราบและถอื ปฏบิ ัติตอ่ ไปดว้ ย

ขอแสดงความนบั ถือ

(ลงช่ือ) บวรศักดิ์ อุวรรณโณ
(นายบวรศกั ด์ิ อุวรรณโณ)
เลขาธิการคณะรัฐมนตรี

สานักบริหารการประชุมคณะรฐั มนตรี
โทร. ๐ ๒๒๘๐ ๙๐๐๐ ตอ่ ๓๓๒ – ๓
โทรสาร ๐ ๒๒๘๐ ๙๐๖๕

๖๕

(สาเนา)

ท่ี มท ๐๒๐๕.๓/ว ๑๖๘๗ กระทรวงมหาดไทย
ถนนอัษฎางค์ กท ๑๐๒๐๐

๒๐ พฤษภาคม ๒๕๔๗

เร่ือง การประสานความรว่ มมือกับหนว่ ยงานภาครฐั ในการแกไ้ ขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน

เรียน ผวู้ ่าราชการจังหวดั ทุกจังหวดั

สิ่งทีส่ ง่ มาดว้ ย สาเนาหนังสือสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ท่ี นร ๐๕๐๓/ว ๙๘ ลงวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๔๗
จานวน ๑ ชดุ

ด้วยสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แจ้งมติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๗ เห็นชอบ
แนวทางปฏิบัติตามที่สานักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาเสนอ โดยให้ถือปฏิบัติว่า เมื่อได้รับหนังสือหรือได้รับการติดต่อ
จากผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา หรือสานักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา เพ่ือให้ชี้แจงข้อเท็จจริง หรือส่งเอกสารหลักฐาน
เพ่ือประกอบการพิจารณาเร่ืองร้องเรียนแล้ว เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานดังกล่าวจะต้องรายงานให้หัวหน้าหน่วยงานทราบ
โดยเร็ว และให้หัวหน้าหน่วยงานสั่งการ เร่งรัดและติดตามให้รีบช้ีแจงหรือส่งเอกสารหลักฐานที่เก่ียวข้องไปยัง
สานักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาโดยเร็ว เพื่อท่ีผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาจะได้พิจารณาวินิจฉัยคาร้องเรียนเพื่อแก้ไข
ทุกข์ร้อนให้แก่ประชาชนโดยเร็ว ตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองท่ีดีตามนโยบายของรัฐบาล รายละเอียดปรากฏตาม
สิ่งทีม่ าดว้ ย

จงึ เรยี นมาเพอ่ื ทราบและถือปฏบิ ตั โิ ดยเครง่ ครดั

ขอแสดงความนบั ถอื

(ลงช่ือ) ชยั ฤกษ์ ดิษฐอานาจ
(นายชยั ฤกษ์ ดษิ ฐอานาจ)

รองปลัดกระทรวง ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงมหาดไทย

สานกั งานปลดั กระทรวง
กองตรวจราชการและเร่ืองราวรอ้ งทุกข์
โทร./โทรสาร ๐ ๒๒๒๑ ๑๑๓๓

๖๖

(สาเนา)

ที่ นร ๐๕๐๓/ว ๙๘ สานักเลขาธิการคณะรฐั มนตรี
ทาเนียบรฐั บาล กทม. ๑๐๓๐๐

๒๙ เมษายน ๒๕๔๗

เร่ือง การประสานความร่วมมอื กับหนว่ ยงานภาครฐั ในการแกป้ ญั หาความเดอื ดรอ้ นใหแ้ กป่ ระชาชน

เรยี น เลขาธกิ ารสานักงานผตู้ รวจการแผ่นดินของรัฐสภา

สง่ิ ท่ีส่งมาด้วย ๑. สาเนาหนังสือสานักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ท่ี ผร ๓๑/๔๘๗๗ ลงวันท่ี ๑๐
พฤศจกิ ายน ๒๕๔๖

๒. สาเนาหนังสือสานักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ด่วนท่ีสุด ท่ี ผร ๓๑/๒๑๒๓ ลงวันที่ ๑๙
มนี าคม ๒๕๔๗

ดว้ ยสานักงานผู้ตรวจการแผน่ ดินของรฐั สภาเสนอวา่ เพื่อใหก้ ารประสานงานและรว่ มมอื ในการแก้ไข
ปญั หาทุกข์ร้อนของประชาชนเป็นไปโดยรวดเร็วตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงขอให้คณะรัฐมนตรี
กาหนดแนวปฏิบัติไปยังทุกหน่วยงานภายใต้บังคับบัญชาและกากับดูแลของรัฐบาล โดยให้ถือปฏิบัติว่า เม่ือได้รับหนังสือ
หรือได้รับการติดต่อจากผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาหรือสานักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาเพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริง
หรือส่งเอกสารหลักฐานเพ่อื ประกอบการพจิ ารณาเรือ่ งร้องเรียนแล้ว เจ้าหน้าท่ีของหน่วยงานดังกล่าวจะต้องรายงานให้หัวหน้า
หน่วยงานทราบโดยเร็ว และให้หัวหน้าหน่วยงานส่ังการเร่งรัดและติดตามให้รีบช้ีแจงหรือส่งเอกสารหลักฐานท่ีเก่ียวข้องไปยัง
สานกั งานผู้ตรวจการแผน่ ดนิ ของรฐั สภาโดยเรว็ เพอื่ ทีผ่ ตู้ รวจการแผน่ ดนิ ของรฐั สภาจะไดพ้ จิ ารณาวินจิ ฉัยคารอ้ งเรยี นเพอื่ แกไ้ ข
ทุกข์ร้อน ให้แก่ประชาชนโดยเร็วตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป ความละเอียด
ปรากฏตามสิ่งทส่ี ่งมาด้วย

คณะรัฐมนตรีได้มีมติเม่ือวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๗ เห็นชอบแนวทางปฏิบัติตามที่สานักงาน
ผู้ตรวจการแผ่นดนิ ของรัฐสภาเสนอและใหแ้ จง้ เวียนให้สว่ นราชการหรือหนว่ ยงานของรฐั ทราบและถือปฏบิ ัตติ ่อไป

จงึ เรยี นมาเพอ่ื ทราบ

ขอแสดงความนบั ถอื

(ลงช่ือ) บวรศักดิ์ อุวรรณโณ
(นายบวรศกั ด์ิ อวุ รรณโณ)
เลขาธิการคณะรัฐมนตรี

สานักนติ ิธรรม
โทร. ๐ ๒๒๘๐ ๙๐๐๐ ต่อ ๓๐๘ – ๙
โทรสาร ๐ ๒๒๘๐ ๙๐๕๘

๖๗

(สาเนา)

ที่ มท ๐๒๐๘.๓/ว ๑๔๐ กระทรวงมหาดไทย
ถนนอษั ฎางค์ กท ๑๐๒๐๐

๑๔ สิงหาคม ๒๕๔๔

เรอื่ ง แนวทางปฏิบตั เิ ก่ยี วกบั เรื่องราวรอ้ งทุกขแ์ ละกลา่ วโทษข้าราชการ

เรียน หัวหนา้ ส่วนราชการระดบั กรมในสังกัดกระทรวงมหาดไทย หวั หน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ
ในสงั กดั กระทรวงมหาดไทยและผูว้ า่ ราชการจงั หวัดทุกจังหวดั

อ้างถึง ๑. หนังสอื กระทรวงมหาดไทย ปกปดิ ท่ี มท ๐๒๐๘.๓/ว ๑๐๒ ลงวันที่ ๑๗ กนั ยายน ๒๕๔๑
๒. หนังสอื กระทรวงมหาดไทย ดว่ นมาก ท่ี มท ๐๒๐๘.๓/ว ๒๐๗ ลงวันท่ี ๒๕ มกราคม ๒๕๔๒

ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องราวร้องทุกข์และ
กลา่ วโทษขา้ ราชการมาเพ่อื ทราบและถอื ปฏบิ ัติโดยเครง่ ครดั น้ัน

เนื่องจากยงั มีหน่วยงานในสงั กัดกระทรวงมหาดไทยมิได้ปฏิบัติตามหนังสือสั่งการดังกล่าว
ข้างต้นโดยเครง่ ครัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงจึงมีบัญชาให้กาชับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย
ใหถ้ อื ปฏิบตั ติ ามหนงั สือสั่งการดงั กลา่ ว และหากพบว่าเจ้าหนา้ ที่เกยี่ วข้องมไิ ดป้ ฏบิ ัตติ ามก็ใหด้ าเนนิ การ
ทางวินยั ตามควรแกก่ รณี

จึงเรยี นมาเพ่อื ทราบและถอื ปฏิบตั ิโดยเคร่งครดั

ขอแสดงความนบั ถือ

(ลงชอื่ ) ชนะศักดิ์ ยวุ บูรณ์
(นายชนะศักด์ิ ยวุ บรู ณ์)
ปลัดกระทรวงมหาดไทย

สานักงานปลดั กระทรวง
กองตรวจราชการและเร่ืองราวรอ้ งทกุ ข์
โทร./โทรสาร ๐ ๒๒๒๑ ๑๑๓๓ มท ๕๐๔๕๔

๖๘

(สาเนา)

ท่ี นร ๐๒๐๕/ว ๓๑ สานักเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี
ทาเนยี บรัฐบาล กทม.๑๐๓๐๐

๒๕ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๔๒

เร่อื ง มาตรการให้ความคมุ้ ครองข้าราชการผใู้ ห้ขอ้ มูลทีเ่ ป็นประโยชนต์ ่อทางราชการ

เรียน (เวียนกระทรวง ทบวง กรม)

ด้วยสานกั งาน ก.พ. ได้ขอให้นาเสนอคณะรฐั มนตรพี ิจารณาหลักการมาตรการให้ความ
คุ้มครองข้าราชการผู้ใหข้ อ้ มูลทีเ่ ป็นประโยชนต์ ่อทางราชการ ดังน้ี

๑. ใหถ้ อื ว่าการใหข้ อ้ มลู หรอื การเปน็ พยาน หรือการส่งเอกสารหลักฐานเป็นการปฏิบัติ
หนา้ ท่รี าชการ

๒. ผู้บังคับบัญชาจะต้องไม่กล่ันแกล้งในทางใด ๆ ต่อข้าราชการผู้ให้ข้อมูล
หรือให้ถ้อยคาในฐานะพยาน

๓. ผู้บังคับบัญชาจะต้องให้ความคุ้มครองแก่ข้าราชการผู้ให้ข้อมูล หรือให้ถ้อยคา
ในฐานะพยาน โดยมิใหถ้ ูกกลัน่ แกลง้ หรอื ข่มข่จู ากผู้ถูกร้องเรียนหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และขอความร่วมมือ
หรือประสานกับสานักงานอยั การสูงสดุ เพ่อื เป็นทนายแกต้ า่ งในกรณีที่ผูใ้ ห้ข้อมูลถกู ฟอู งรอ้ งในคดแี พง่
หรอื อาญา

๔. ผบู้ งั คับบญั ชาอาจพจิ ารณาให้บาเหนจ็ ความชอบเป็นกรณีพเิ ศษแก่ข้าราชการ
ผใู้ หข้ ้อมลู หรอื ใหถ้ อ้ ยคาในฐานะพยานทเ่ี ปน็ ประโยชน์และเป็นผลดียง่ิ ต่อทางราชการได้

๕. คณะกรรมการสอบสวน หรอื ผบู้ ังคบั บัญชาสามารถใช้ดุลพินิจ เพ่ือกันบุคคล
ผูม้ ีส่วนร่วมกระทาผิดไวเ้ ป็นพยาน หรือลดหย่อนผ่อนโทษไดต้ ามเหตุและผลของเรือ่ ง

๖. ข้าราชการผู้ให้ข้อมลู หรือให้ถ้อยคาในฐานะพยานสามารถร้องขอความเป็นธรรมต่อ
ก.พ. ไดเ้ มอ่ื ถูกกลั่นแกลง้ อนั เป็นผลจากการใหข้ อ้ มูลหรอื ให้ถ้อยคาในฐานะพยาน

๗. ให้ข้าราชการทุกประเภทถือปฏิบัติตามมาตรการนี้ และองค์กรกลางบริหารบุคคล
สาหรับข้าราชการแต่ละประเภทอาจกาหนดหลกั เกณฑ์และวิธีการในรายละเอียดเพ่ิมเติมเพื่อให้กระบวนการ
ให้ความค้มุ ครองข้าราชการผ้ใู ห้ขอ้ มลู ที่เปน็ ประโยชนต์ อ่ ทางราชการเกิดความเป็นธรรม และเหมาะสม
ตามควรแก่กรณตี ่อไป

/ คณะรฐั มนตรี...

๖๙

คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาเมื่อวันท่ี ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ ลงมติเห็นชอบ
มาตรการใหค้ วามคมุ้ ครองข้าราชการผใู้ ห้ข้อมูลทเ่ี ปน็ ประโยชน์ตอ่ ทางราชการ ตามที่สานักงาน ก.พ.
เสนอทง้ั ๗ ข้อ และให้สว่ นราชการและรฐั วิสาหกจิ ถอื ปฏิบตั ิต่อไป

จงึ เรียนมาเพ่อื โปรดทราบ และถอื ปฏิบัติต่อไป
ขอแสดงความนับถอื

(ลงชือ่ ) วษิ ณุ เครืองาม
(นายวิษณุ เครอื งาม)
เลขาธิการคณะรัฐมนตรี

สานักบรหิ ารการประชมุ คณะรฐั มนตรี
โทร. ๒๘๐๐๓๙๑ โทรสาร ๒๘๑๐๖๒๗

๗๐

(สาเนา)
บญั ชรี ายช่อื มตคิ ณะรฐั มนตรี/คาสง่ั นายกรฐั มนตรี
เก่ียวกบั การร้องเรยี นกล่าวโทษข้าราชการและการสอบสวน
เรื่องราวรอ้ งเรียนกล่าวโทษข้าราชการว่ากระทาผดิ วินัย ทีย่ กเลกิ

ลาดบั ท่ี คาสง่ั นายกรฐั มนตรแี จ้งตามหนังสอื กรมเลขาธิการ
คณะรฐั มนตรี ท่ี น.ว. ๒๖๓/๒๔๙๕ ลงวนั ที่ ๕
๑. การสอบสวนเรอื่ งราวรอ้ งทกุ ข์ พฤศจิกายน ๒๔๙๕
กล่าวโทษข้าราชการ

๒. ระเบียบการสอบสวนเรื่องราวร้อง มตคิ ณะรฐั มนตรี (๒๑ สงิ หาคม ๒๔๙๖) แจง้ ตาม
กลา่ วโทษ ข้าราชการวา่ กระทา หนงั สอื กรมเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี ที่ น.ว. ๑๙๗/
ผดิ วนิ ยั ๒๔๙๖ ลงวนั ท่ี ๒๒ สงิ หาคม ๒๔๙๖

๓. บัตรสนเทห่ ์ มตคิ ณะรฐั มนตรี (๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๐๒) แจ้งตาม
หนงั สอื สานกั เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ น.ว. ๑๔๘/
๒๕๐๒ ลงวนั ที่ ๑๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๐๒

๗๑

(สาเนา)

ดว่ นมาก กระทรวงมหาดไทย
ถนนอษั ฎางค์ กท ๑๐๒๐๐
ท่ี มท ๐๒๐๘.๓/ว ๒๐๗

๒๕ มกราคม ๒๕๔๒

เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับเร่ืองร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการ และการ
สอบสวนเร่อื งราวร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการวา่ กระทาผดิ วินัย

เรียน หัวหน้าสว่ นราชการระดับกรม หวั หน้าหน่วยงานรฐั วิสาหกิจในสงั กดั กระทรวงมหาดไทย
และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด

อา้ งถึง ๑. หนงั สือกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ น.ว. ๒๖๓/๒๔๙๕ ลงวันท่ี ๕ พฤศจิกายน ๒๔๙๕
๒. หนังสอื กรมเลขาธิการคณะรฐั มนตรี ท่ี น.ว. ๑๙๗/๒๔๙๖ ลงวันที่ ๒๒ สงิ หาคม ๒๔๙๖
๓. หนังสือสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ น.ว. ๑๔๘/๒๕๐๒ ลงวันท่ี ๑๘
พฤศจกิ ายน ๒๕๐๒

สง่ิ ท่ีส่งมาด้วย สาเนาหนังสอื สานกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี ที่ นร ๐๒๐๖/๑๗๐๘๕ ลงวันที่
๒๕ ธนั วาคม ๒๕๔๑

ตามหนังสือท่ีอ้างถึง คณะรัฐมนตรีได้ประชุมเมื่อวันท่ี ๒๒ ธันวาคม ๒๕๔๑
และมีมติยกเลิกหนังสือดังกล่าว จานวน ๓ ฉบับ และกาหนดหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติ
เกย่ี วกับการร้องเรยี นกล่าวโทษข้าราชการว่ากระทาผิดวนิ ยั ขนึ้ ใหม่ ดังน้ี

๑. เมื่อผ้บู งั คบั บัญชาได้รับเรอื่ งราวกล่าวโทษข้าราชการ ในเบื้องตน้ ให้ถือเป็นความลับ
ทางราชการ หากเป็นบัตรสนเท่ห์ ให้พิจารณาเฉพาะรายท่ีระบุหลักฐาน กรณีแวดล้อมปรากฏ
ชัดแจง้ ตลอดจนช้ีพยานบคุ คลแนน่ อนเทา่ น้นั

๒. ส่งสาเนาเร่ืองราวกล่าวโทษข้าราชการโดยปิดชื่อผู้ร้องหรือสาเนาบัตรสนเท่ห์
ให้ผูบ้ ังคบั บญั ชาของผ้ถู กู ลา่ วโทษทาการสืบสวนทางลบั ว่ามมี ูลความจริงเพียงใด หรือไม่ ถ้าเห็น
วา่ กรณีไมม่ ีมูลท่คี วร กล่าวหาวา่ กระทาผดิ วนิ ยั จึงจะยุติเร่อื งได้ ทงั้ น้ี ให้รบี ดาเนินการให้แล้วเสร็จ
โดยเร็ว แลว้ รายงานให้ผ้บู ังคับบัญชาที่ได้รบั เรื่องราวทราบ

/๓. ให้ผ.ู้ ..

๗๒

๓. ให้ผู้บังคับบัญชาที่เป็นผู้ได้รับเรื่องราวฯ แจ้งให้ผู้ร้องเรียนทราบในทางลับ
หลงั จากท่ีไดร้ ับเร่ืองราวร้องทุกข์ และภายหลังการสบื สวนในเวลาอนั สมควร

๔. ถ้าปรากฏว่า มีความจริงอันเป็นกรณีความผิดทางกฎหมายบ้านเมือง ให้
ดาเนินคดีทางอาญา ถา้ ปรากฏมีมลู ความจริงเป็นกรณีความผิดทางวินัย ให้ดาเนินการสอบสวน
หรอื ต้ังกรรมการสอบสวนไปตามพระราชบัญญตั ริ ะเบยี บขา้ ราชการพลเรือน

๕. ใหผ้ ู้บงั คบั บัญชาใช้ดุลพินิจสั่งการท่ีสมควรเพ่ือคุ้มครองผู้ร้องพยานและบุคคล
ทีใ่ หข้ ้อมูลในการสืบสวน สอบสวน อย่าใหต้ อ้ งรบั ภยั หรือความไม่ชอบธรรม ซึง่ อาจเนื่องมาจาก
การร้องเรียน การเป็นพยานหรือการให้ข้อมูลนั้น

๖. ในการดาเนินการตามข้ันตอนสืบสวนในทางลับเพื่อหาข้อเท็จจริง หาก
เจ้าหน้าที่สืบสวนในทางลับได้กระทาละเมิดต่อข้าราชการผู้ถูกกล่าวโทษหรือบุคคลภายนอกและ
ความเสยี หายดงั กล่าวเกดิ ขึน้ จากการกระทาในหน้าที่แมม้ ไิ ด้กระทาโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ
อย่างร้ายแรง หน่วยงานต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายตามหลักเกณฑ์ใน
พระราชบัญญัตคิ วามรับผดิ ทางละเมดิ ของเจา้ หน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙

จงึ เรยี นมาเพอ่ื ทราบและถือปฏิบตั ิ

ขอแสดงความนับถอื
(ลงช่อื ) ชนะศักดิ์ ยวุ บรู ณ์

(นายชนะศักด์ิ ยุวบรู ณ์)
ปลดั กระทรวงมหาดไทย

สานักงานปลดั กระทรวง
กองตรวจราชการและเร่อื งราวรอ้ งทุกข์
โทร./โทรสาร ๒๒๑๑๑๓๓

๗๓

(สาเนา)

ที่ นร ๐๒๐๖/๑๗๐๘๕ สานกั เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี
ทาเนียบรฐั บาล กท ๑๐๓๐๐

๒๕ ธันวาคม ๒๕๔๑

เร่ือง หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับการร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการและการสอบสวน
เร่อื งราวรอ้ งเรยี นกล่าวโทษข้าราชการวา่ กระทาผิดวินัย

เรยี น รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

อา้ งถงึ หนังสอื กระทรวงมหาดไทย ดว่ นมาก ที่ มท ๐๒๐๘.๓/๙๑๒๕ ลงวนั ท่ี ๑ กรกฎาคม ๒๕๔๑

ส่ิงท่สี ง่ มาดว้ ย ๑. บัญชีรายชอ่ื มตคิ ณะรฐั มนตรี/คาสั่งนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการร้องเรียนกล่าวโทษ
ข้าราชการ และการสอบสวนเรือ่ งราวร้องทุกข์กล่าวโทษข้าราชการว่ากระทาผิดวินัย
ที่ยกเลกิ

๒. สาเนาหนังสือสานกั งาน ก.พ. ที่ นร ๐๗๐๙.๒/๕๘๐ ลงวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๑
๓. สาเนาหนงั สือสานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ท่ี นร ๐๖๐๑/๒๕๖๕ ลงวันที่ ๑๖

ธันวาคม ๒๕๔๐

ตามท่ีได้เสนอความเห็นเกี่ยวกับเรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับ
การร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการและการสอบสวนเร่ืองราวร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการ
ว่ากระทาผิดวนิ ัยไปเพือ่ ประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ความละเอยี ดแจง้ แล้ว นนั้

สานักงาน ก.พ. และสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้เสนอความเห็น
มาเพ่ือประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีด้วย ซึ่งสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ได้พิจารณาความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สานักงาน ก.พ. และสานักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกาแล้ว เห็นสมควรพิจารณายกเลิกมติคณะรัฐมนตรีและคาส่ังนายกรัฐมนตรีเกี่ยวข้อง
ทั้ง ๓ ฉบับ และกาหนดหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการ
และการสอบสวนเรอื่ งราวร้องเรียนกล่าวโทษขา้ ราชการวา่ กระทาผดิ วินัยขน้ึ ใหม่ ดงั นี้

/ ๑. เม่ือผ้บู งั คับ...

๗๔

๑. เมือ่ ผู้บงั คบั บัญชาไดร้ บั เร่อื งราวกลา่ วโทษข้าราชการ ในเบื้องต้น ให้ถือเป็น
ความลบั ทางราชการ หากเป็นบัตรสนเทห่ ์ ใหพ้ จิ ารณาเฉพาะรายท่ีระบหุ ลกั ฐาน กรณีแวดล้อม
ปรากฏชัดแจง้ ตลอดจนช้ีพยานบคุ คลแนน่ อนเทา่ น้นั

๒. สง่ สาเนาเรอื่ งราวกลา่ วโทษข้าราชการโดยปิดชือ่ ผรู้ อ้ งหรือสาเนาบตั รสนเท่ห์
ให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกล่าวโทษทาการสืบสวนทางลับว่ามีมูลความจริงเพียงใด หรือไม่
ถ้าเห็นว่ากรณีไม่มีมูลท่ีควรกล่าวหาว่ากระทาผิดวินัย จึงจะยุติเร่ืองได้ ท้ังน้ี ให้รีบดาเนินการ
ใหแ้ ลว้ เสร็จโดยเรว็ แล้วรายงานให้ผบู้ ังคบั บัญชาท่ไี ด้รับเร่อื งราวทราบ

๓. ให้ผู้บังคับบัญชาท่ีเป็นผู้ได้รับเรื่องราวฯ แจ้งให้ผู้ร้องทราบในทางลับ
หลงั จากทีไ่ ดร้ ับเรอื่ งราวร้องทกุ ข์ และภายหลังการสืบสวนในเวลาอนั สมควร

๔. ถ้าปรากฏว่า มีความจริงอันเป็นกรณีความผิดทางกฎหมายบ้านเมือง
ให้ดาเนินคดีทางอาญา ถ้าปรากฏมีมูลความจริงเป็นกรณีความผิดทางวินัย ให้ดาเนินการสอบสวน
หรือตัง้ กรรมการสอบสวนไปตามพระราชบญั ญัตริ ะเบียบขา้ ราชการพลเรือน

๕. ให้ผู้บังคับบัญชาใช้ดุลพินิจส่ังการที่สมควรเพื่อคุ้มครองผู้ร้องและพยาน
อยา่ ใหต้ ้องรบั ภยั หรอื ความไม่ชอบธรรม ซ่ึงอาจเนือ่ งมาจากการรอ้ งเรียนหรอื การเปน็ พยาน นน้ั

๖. ในการดาเนินการตามข้ันตอนสืบสวนในทางลับเพ่ือหาข้อเท็จจริง
หากเจ้าหนา้ ที่ผู้สืบสวนในทางลับได้กระทาละเมดิ ต่อขา้ ราชการผ้ถู ูกกลา่ วโทษหรอื บุคคลภายนอก
และความเสียหายดังกล่าวเกิดขึ้นจากการกระทาในหน้าท่ีแม้มิได้กระทาโดยจงใจหรือประมาท
เลินเล่ออย่างร้ายแรง หน่วยงานต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย
ตามหลกั เกณฑใ์ นพระราชบัญญตั ิความรบั ผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าท่ี พ.ศ. ๒๕๓๙ จึงขอเสนอ
คณะรฐั มนตรีพจิ ารณาตอ่ ไป ความละเอียดปรากฏตามส่ิงที่ส่งมาด้วยนี้

คณะรัฐมนตรไี ด้ประชมุ ปรกึ ษาเม่ือวันที่ ๒๒ ธนั วาคม ๒๕๔๑ ลงมติวา่
๑. อนุมัติให้ยกเลิกคาสั่งนายกรัฐมนตรี เรื่อง การสอบสวนเร่ืองราวร้องทุกข์
กล่าวโทษข้าราชการว่ากระทาผดิ วินยั และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันท่ี ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๐๒
เร่อื งบัตรสนเท่ห์ ท้งั ๓ ฉบบั
๒. เห็นชอบหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการร้องเรียนกล่าวโทษ
ข้าราชการและการสอบสวนเร่ืองราวร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการว่ากระทาผิดวินัย ตามที่สานักเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรีเสนอโดยปรับปรุงข้อ ๕ เป็นว่า “ให้ผู้บังคับบัญชาใช้ดุลพินิจส่ังการที่สมควร
เพ่ือคุ้มครองผู้ร้อง พยาน และบุคคลที่ให้ข้อมูลในการสืบสวนสอบสวน อย่าให้ต้องรับภัย

/ หรือ...

๗๕

หรอื ความไม่ชอบธรรม ซ่ึงอาจเน่ืองมาจากการรอ้ งเรียน การเป็นพยาน หรือการให้ขอ้ มูล นน้ั ”
และใหส้ ่วนราชการถือปฏบิ ตั ิตอ่ ไป

จึงเรยี นยืนยันมา
ขอแสดงความนบั ถอื

(ลงช่ือ) วษิ ณุ เครืองาม
(นายวษิ ณุ เครอื งาม)
เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี

สานักบริหารงานสารสนเทศ
โทร ๒๘๐๑๔๔๕
โทรสาร ๒๘๐๑๑๔๖, ๒๘๒๔๐๔๕

๗๖

(สาเนา)

ที่ นร ๐๒๐๖/ว ๒๑๘ สานกั เลขาธิการคณะรฐั มนตรี
ทาเนยี บรฐั บาล กทม. ๑๐๓๐๐

๒๕ ธันวาคม ๒๕๔๑

เร่ือง หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการและการ
สอบสวนเรื่องราวรอ้ งเรียนกลา่ วโทษขา้ ราชการว่ากระทาผิดวินยั

เรียน (เวยี นกระทรวง ทบวง กรม)

สิง่ ท่ีส่งมาดว้ ย ๑. บัญชีรายชื่อมติคณะรัฐมนตรี/คาสั่งนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการร้องเรียน
กลา่ วโทษขา้ ราชการและการสอบสวนเรอื่ งราวรอ้ งเรียนกล่าวโทษข้าราชการ
วา่ กระทาผิดวินัยทยี่ กเลิก

๒. สาเนาหนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนมาก ที่ มท ๐๒๐๘.๓/๙๑๒๕
ลงวันท่ี ๑ กรกฎาคม ๒๕๔๑

๒. สาเนาหนังสือสานักงาน ก.พ. ท่ี นร ๐๗๐๙.๒/๕๘๐ ลงวันท่ี ๔
พฤศจิกายน ๒๕๔๑

๔. สาเนาหนังสือสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ท่ี นร ๐๖๐๑/๒๕๖๕
ลงวนั ท่ี ๑๖ ธนั วาคม ๒๕๔๐

เดมิ คณะรัฐมนตรีไดม้ มี ติเกี่ยวกับระเบยี บการสอบสวนเรอ่ื งราวรอ้ งเรยี นกลา่ วโทษ
ข้าราชการว่ากระทาผิดวินัยและการรับพิจารณาบัตรสนเท่ห์ จานวน ๒ ฉบับ และคาสั่ง
นายกรัฐมนตรีเก่ียวกับการสอบสวนเร่ืองราวร้องทุกข์กล่าวโทษข้าราชการ จานวน ๑ ฉบับ
ตามสง่ิ ที่ส่งมาดว้ ย ๑

สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า มติคณะรัฐมนตรีและคาส่ัง
นายกรฐั มนตรีเก่ียวกบั หลกั เกณฑแ์ ละแนวทางปฏิบตั ิเก่ยี วกับการร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการ
และการสอบสวนเร่ืองราวรอ้ งเรียนกลา่ วโทษข้าราชการวา่ กระทาผดิ วนิ ัยดงั กลา่ ว ได้ถอื ปฏบิ ตั มิ า
นานแลว้ สมควรนามตคิ ณะรฐั มนตรีและคาสั่งนายกรัฐมนตรดี ังกลา่ วมารวบรวม ปรับปรุงแก้ไข
และยกรา่ งเปน็ หลกั เกณฑแ์ ละแนวทางปฏิบตั ิในเร่อื งน้ใี หม่ ใหม้ ีความสมบูรณ์อยู่ในฉบับเดียวกัน

/โดยมี...

๗๗

โดยมคี วามสอดคล้องกับหลักการของกฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง มีขั้นตอนการปฏิบัติท่ีละเอียดชัดเจน
สะดวกในการอ้างอิงและเหมาะสมในการถือปฏิบัติ สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จึงได้นา
หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับการร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการและการสอบสวน
เร่ืองราวร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการว่ากระทาผิดวินัยตามมติคณะรัฐมนตรีและคาส่ัง
นายกรัฐมนตรีดังกล่าวมากาหนดข้ึนใหม่ ซ่ึงกระทรวงมหาดไทย สานักงาน ก.พ. และสานักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกาได้เสนอความเห็นมาเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีด้วย
และสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาความเห็นดังกล่าวแล้ว เห็นสมควรปรับปรุงมติ
คณะรัฐมนตรีและคาสั่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าวโดยพิจารณายกเลิกมติคณะรัฐมนตรีและคาส่ัง
นายกรัฐมนตรีท่ีเก่ียวข้องท้ัง ๓ ฉบับ และกาหนดหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับ
การร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการและการสอบสวนเร่ืองราวร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการ
ว่ากระทาผิดวนิ ยั ขน้ึ ใหม่ ดังน้ี

๑. เมื่อผู้บังคับบัญชาได้รับเรื่องราวกล่าวโทษข้าราชการในเบ้ืองต้น ให้ถือเป็น
ความลบั ทางราชการ หากเป็นบตั รสนเท่ห์ ใหพ้ ิจารณาเฉพาะรายทร่ี ะบุหลกั ฐาน กรณแี วดล้อม
ปรากฏชัดแจ้งตลอดจนชพ้ี ยานบคุ คลแน่นอนเท่านัน้

๒. ส่งสาเนาเร่ืองราวกล่าวโทษข้าราชการโดยปิดชื่อผู้ร้องหรือสาเนาบัตรสนเท่ห์
ให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกกล่าวโทษทาการสืบสวนทางลับว่ามีมูลความจริงเพียงใด หรือไม่
ถ้าเห็นว่ากรณีไม่มีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทาผิดวินัย จึงจะยุติเรื่องได้ ท้ังนี้ ให้รีบดาเนินการ
ใหแ้ ลว้ เสร็จโดยเร็ว แล้วรายงานให้ผูบ้ ังคับบัญชาทไี่ ด้รบั เร่อื งราวทราบ

๓. ให้ผู้บังคับบัญชาที่เป็นผู้ได้รับเร่ืองราวฯ แจ้งให้ผู้ร้องเรียนทราบในทางลับ
หลังจากทไ่ี ด้รบั เรอ่ื งราวร้องทกุ ข์ และภายหลังการสบื สวนในเวลาอนั สมควร

๔. ถา้ ปรากฏว่า มีความจริงอนั เป็นกรณคี วามผดิ ทางกฎหมายบ้านเมอื ง ใหด้ าเนนิ คดี
ทางอาญา ถ้าปรากฏมีมูลความจริงเป็นกรณีความผิดทางวินัย ให้ดาเนินการสอบสวนหรือ
ตงั้ กรรมการสอบสวนไปตามพระราชบัญญตั ริ ะเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕

๕. ให้ผู้บังคับบัญชาใช้ดุลพินิจส่ังการที่สมควรเพื่อคุ้มครองผู้ร้องและพยาน
อย่าใหต้ อ้ งรบั ภยั หรอื ความไมช่ อบธรรม ซ่ึงอาจเน่ืองมาจากการรอ้ งเรยี นหรือการเปน็ พยานนัน้

๖. ในการดาเนนิ การตามขน้ั ตอนสืบสวนในทางลับเพื่อหาข้อเท็จจริง หากเจ้าหน้าท่ี
ผ้สู ืบสวนในทางลับไดก้ ระทาละเมิดตอ่ ขา้ ราชการผ้ถู กู กล่าวโทษหรือบุคคลภายนอกและความเสียหาย
ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการกระทาในหน้าที่ แม้มิได้กระทาโดยตรงจงใจหรือประมาทเลินเล่อ
อย่างร้ายแรงหน่วยงานต้องรับผิดชอบใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายตา มหลักเกณฑ์
ในพระราชบัญญตั คิ วามรับผดิ ทางละเมดิ ของเจ้าหน้าท่ี พ.ศ. ๒๕๓๙

/คณะรัฐมนตรี...

๗๘

คณะรฐั มนตรไี ดป้ ระชุมปรึกษาเมือ่ วนั ท่ี ๒๒ ธนั วาคม ๒๕๔๑ ลงมตวิ า่
๑. อนุมัติให้ยกเลิกคาสั่งนายกรัฐมนตรี เร่ือง การสอบสวนเรื่องราวร้องทุกข์
กลา่ วโทษขา้ ราชการ มติคณะรัฐมนตรีเม่อื วันท่ี ๒๑ สิงหาคม ๒๔๙๖ เร่ือง ระเบียบการสอบสวน
เร่ืองราวร้องกล่าวโทษข้าราชการว่ากระทาผิดวินัย และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗
พฤศจกิ ายน ๒๕๐๒ เรื่อง บตั รสนเท่ห์ ท้ัง ๓ ฉบับ
๒. เห็นชอบหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับการร้องเรียนกล่าวโทษ
ข้าราชการและการสอบสวนเรื่องราวร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการว่ากระทาผดิ วินัย ตามที่สานัก
เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ โดยปรับปรุงข้อ ๕ เป็นว่า “ให้ผู้บังคับบัญชาใช้ดุลพินิจส่ังการ
ท่ีสมควรเพ่ือคุ้มครองผู้ร้อง พยานและบุคคลที่ให้ข้อมูลในการสืบสวน อย่าให้ต้องรับภัย
หรือความไมช่ อบธรรม ซึ่งอาจเนื่องมาจากการร้องเรียน การเป็นพยาน หรือการให้ข้อมูลน้ัน”
และใหส้ ่วนราชการถอื ปฏิบัติต่อไป
จงึ เรียนมาเพือ่ โปรดทราบ และถอื ปฏิบตั ติ ่อไป

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชือ่ ) วษิ ณุ เครอื งาม

(นายวษิ ณุ เครอื งาม)
เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี

สานักบริหารงานสารสนเทศ
โทร. ๒๘๐๑๔๔๕
โทรสาร ๒๘๐๑๔๔๖, ๒๘๒๔๐๔๕

๗๙

(สาเนา)

ท่ี นร ๐๗๐๙.๒/๕๘๐ สานกั งาน ก.พ.
ถนนพษิ ณโุ ลก กท ๑๐๓๐๐

๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๑

เร่อื ง การร้องเรยี นกลา่ วโทษขา้ ราชการและการสอบสวน

เรียน เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี

อา้ งถึง หนงั สอื สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ท่ี นร ๐๒๐๖/๑๕๙๒๑ ลงวนั ท่ี ๒๗ ตลุ าคม ๒๕๔๐

ตามหนังสือท่ีอ้างถึง สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งว่าได้พิจารณาหนังสือเวียน
เก่ียวกับการร้องเรียนมายังหน่วยงานของรัฐ และระเบียบการสอบสวนเรื่องราวร้องเรียน
กลา่ วโทษขา้ ราชการวา่ กระทาผดิ วนิ ัย จานวน ๓ ฉบบั แล้วเหน็ ควรนามารวบรวมไวใ้ นฉบบั เดยี วกัน
และปรับปรุงแก้ไขเพ่ิมเติมให้เป็นปัจจุบันเพ่ือถือปฏิบัติต่อไป ทั้งน้ี ได้ขอให้สานักงาน ก .พ.
พิจารณาเสนอความเหน็ เก่ยี วกับเร่อื งดังกล่าวด้วย ความละเอยี ดแจง้ แลว้ นั้น

สานักงาน ก.พ. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การท่ีสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
จะพิจารณาปรับปรุงหนังสือเวียนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการร้องเรียนมายังหน่วยงานของรัฐ
ระเบียบการสอบสวนเรื่องราวร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการว่ากระทาผิดวินัย และการรับพิจารณา
บัตรสนเท่ห์ โดยเห็นควรนามารวมไว้เป็นฉบับเดียวกัน และแก้ไขเพิ่มเติมให้เป็นปัจจุบัน
เพื่อซักซ้อมให้เกิดความเข้าใจและถือปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกันนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่สมควร
จะดาเนินการเป็นอย่างย่ิง อย่างไรก็ตาม สานักงาน ก.พ. มีข้อสังเกตบางประการที่ขอเรียน
เพือ่ ประกอบการพจิ ารณาดาเนนิ การดงั น้ี

๑. หลักการสืบสวนกอ่ นดาเนนิ การทางวนิ ัยที่ปรากฏในหนงั สือเวียนท้ัง ๓ ฉบับ
เป็นการกาหนดทางปฏิบัติตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๑๘
ซ่ึงยกเลิกไปแล้ว แต่ปัจจุบัน กระบวนการสืบสวนได้ถูกกาหนดไว้ในมาตรา ๙๙ วรรคห้า
แห่งพระราชบัญญัตริ ะเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ แล้ว จึงไม่มีความจาเป็นจะต้อง
นามากาหนดในหนังสอื เวยี นหรอื ระเบียบฉบับใหม่น้อี ีก

/๒. กรณี...

๘๐

๒. กรณีให้ส่งสาเนาเร่ืองราวร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการโดยปกปิดช่ือผู้ร้อง
หรือสาเนาบัตรสนเท่ห์ให้ผู้บังคับบัญชาไม่ต่ากว่าระดับ ๗ ของผู้กล่าวโทษ ทาการสืบสวนทางวินัย
ว่ามีมูลความจริงเพียงใดนั้น สานักงาน ก.พ. เข้าใจว่าความในประการน้ีคงจะหมายถึงผู้บังคับบัญชา
ของผูถ้ ูกกล่าวโทษ และมีความเห็นในกรณีน้ีว่า ไม่ควรกาหนดระดับของผู้บังคับบัญชาผู้ทาการ
สืบสวนไว้ เพราะตามมาตรา ๙๙ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕
กาหนดให้เป็นหน้าท่ีของผู้บังคับบัญชาที่จะต้องทาการสืบสวนและใช้ดุลพินิจว่าจะสมควร
ดาเนินการทางวินัยหรือไม่ ดังน้ัน หากข้าราชการผู้ใดมีฐานะเป็นผู้บังคับบัญชา ไม่ว่าจะดารง
ตาแหน่งระดับใดก็ตาม กย็ ่อมถือเป็นผ้มู หี นา้ ทตี่ ามกฎหมายอยูแ่ ลว้ นอกจากน้ัน การไมก่ าหนด
ระดบั ตาแหน่งของผบู้ งั คบั บัญชาไวจ้ ะทาให้การสบื สวนคลอ่ งตวั ข้นึ

๓. สานักงาน ก.พ. เห็นว่า การกาหนดระยะเวลาสืบสวนให้แล้วเสร็จภายใน
๓๐ วัน อาจจะทาให้การสืบสวนเร็วขึ้น แต่ในบางเรื่องท่ีมีข้อมูลมาก ผู้สืบสวนอาจจะ
ดาเนนิ การไมท่ ันภายในกาหนดเวลา จงึ ไม่ควรกาหนดระยะเวลาตายตัว แต่ควรใช้คาว่า “รีบ”
ในระเบียบเพอ่ื เป็นการบง่ บอกเจตนารมณ์ในการท่ีจะเร่งรัดใหม้ ีการสืบสวนให้เสรจ็ โดยเรว็ ท่ีสดุ

นอกเหนือจากข้อสังเกตดังกล่าวข้างต้นแล้ว สานักงาน ก.พ. เห็นด้วยกับ
มาตรการนเ้ี พราะการกาหนดมาตรการเพ่อื คุ้มครองผ้รู อ้ งดงั กลา่ ว จะทาใหป้ ระชาชนเข้ามามีส่วนร่วม
ในการตรวจสอบการทางานของขา้ ราชการหรือเจา้ หนา้ ทขี่ องรัฐมากยิ่งขึ้น เน่ืองจากผู้ร้องไม่ต้อง
กงั วลกบั การท่จี ะตอ้ งไดร้ ับโทษภัยหรือความไมช่ อบธรรมท้งั ปวงดว้ ย

จึงเรียนมาเพอ่ื โปรดทราบ

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชื่อ) สมี า สมี านนั ท์

(นายสมี า สีมานนั ท์)
รองเลขาธกิ าร ก.พ. ปฏิบตั ริ าชการแทน

เลขาธกิ าร ก.พ.

สานกั เสรมิ สรา้ งวนิ ยั และรกั ษาระบบคุณธรรม
กลมุ่ รักษามาตรฐานวนิ ัย
โทร. ๒๘๑๘๐๗๗

๘๑

(สาเนา)

ปกปดิ

ที่ มท ๐๒๐๘.๓/ว ๑๐๒ กระทรวงมหาดไทย
ถนนอษั ฎางค์ กท ๑๐๒๐๐

๑๗ กนั ยายน ๒๕๔๑

เร่อื ง แนวทางปฏบิ ัตเิ กีย่ วกับเรอ่ื งราวรอ้ งทุกขแ์ ละกลา่ วโทษข้าราชการ

เรียน ปลัดกรุงเทพมหานคร หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัด และผู้ว่าราชการ
จงั หวัดทกุ จงั หวัด

อ้างถึง หนงั สอื กระทรวงมหาดไทย ลบั ด่วนมาก ท่ี มท ๐๒๐๘.๓/ว ๑๒๒ ลงวันท่ี ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๐

ตามท่ีกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งแนวทางปฏิบัติเมื่อได้รับเรื่องร้องทุกข์หรือกล่าวโทษข้าราชการ
โดยใหด้ าเนนิ การเป็นความลบั และระมัดระวงั ในการเกบ็ รักษาเอกสารคารอ้ งเรียนอย่าให้ผู้ร้องต้องได้รับภัยหรือความไม่ชอบธรรม
อันเน่อื งมาจากการรอ้ งทุกข์ รายละเอยี ดแจง้ แลว้ ตามหนงั สอื ทอ่ี า้ งถงึ นัน้

เน่ืองจากในขณะน้ียังปรากฏว่า ผู้ถูกร้องเรียนได้รับทราบข้อมูลต่าง ๆ ตามที่ตนถูกร้องเรียน
ซึ่งเป็นผลให้ผรู้ อ้ งเรยี นได้รับความเดอื ดร้อน ดงั นัน้ จึงขอให้กาชบั ให้เจ้าหน้าท่ีผู้มีหน้าท่ีรับผิดชอบเก่ียวกับเรื่องร้องทุกข์
ร้องเรียนถือปฏิบัติตามนัยหนังสือ ลับ ด่วนมาก ที่ มท ๐๒๐๘.๓/ว ๑๒๒ ลงวันท่ี ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๐
โดยเคร่งครัด อยา่ ใหข้ อ้ มูลการร้องเรียนรว่ั ไหลไปถึงผถู้ ูกรอ้ งเรยี น อนั อาจจะทาให้ผู้ร้องเรยี นไดร้ ับอนั ตรายหรือได้รับ
ความเดือดร้อนได้

จึงเรียนมาเพอ่ื โปรดทราบและถอื ปฏบิ ตั โิ ดยเคร่งครัด

ขอแสดงความนบั ถือ

(ลงช่ือ) สชุ าติ ธรรมมงคล
(นายสุชาติ ธรรมมงคล)

ผูต้ รวจราชการกระทรวง ปฏิบัตริ าชการแทน
ปลดั กระทรวงมหาดไทย

สานกั งานปลดั กระทรวง
กองตรวจราชการและเร่ืองราวรอ้ งทุกข์
โทร./โทรสาร ๒๒๑๑๑๓๓

ปกปดิ

๘๒

(สาเนา)

ดว่ นมาก กระทรวงมหาดไทย
ถนนอษั ฎางค์ กท ๑๐๒๐๐
ท่ี มท ๐๒๐๘.๓/๙๑๒๕

๑ กรกฎาคม ๒๕๔๑

เรอ่ื ง การร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการและการสอบสวน

เรยี น เลขาธิการคณะรัฐมนตรี

อ้างถึง หนังสือสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนมาก ท่ี นร ๐๒๐๘/๑๕๙๒๐ ลงวันที่
๒๗ ตลุ าคม ๒๕๔๐

ตามหนังสือท่ีอ้างถึง สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเห็นควรยกเลิกหนังสือเวียน
รวม ๓ ฉบับ และแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบการสอบสวนเรื่องราวร้องกล่าวโทษข้าราชการกระทา
ผดิ วนิ ัย เพอ่ื ถอื ปฏบิ ัตโิ ดยขอใหก้ ระทรวงมหาดไทยพิจารณาเสนอความเหน็ น้นั

กระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาข้อมูลข้างต้นแล้ว เห็นด้วยกับการยกเลิก
หนังสือเวียนและการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบการสอบสวนเรื่องราวร้องทุกข์กล่าวโทษข้าราชการ
กระทาผดิ วินัยตามทสี่ านกั เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแกไ้ ขทุกประการ

จึงเรยี นมาเพ่อื โปรดทราบและดาเนินการต่อไป

ขอแสดงความนับถอื

(ลงชื่อ) พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์
(สน่นั ขจรประศาสน์)

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

สานกั งานปลดั กระทรวง
กองตรวจราชการและเรอ่ื งราวร้องทุกข์
โทร./โทรสาร ๒๒๑๑๑๓๓

๘๓

(สาเนา)

ท่ี นร ๐๖๐๑/๒๕๖๕ สานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ทา่ ชา้ งวังหน้ากรงุ เทพฯ๑๐๒๐๐

๑๖ ธันวาคม ๒๕๔๐

เรื่อง การรอ้ งเรียนกล่าวโทษขา้ ราชการและการสอบสวน

เรียน เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี

อ้างถึง หนงั สอื สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ดว่ นมาก ท่ี นร ๐๒๐๖/๐๕๙๒๒ ลงวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๔๐

ตามหนังสือท่ีอ้างถึง สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเห็นควรแก้ไขเพ่ิมเติมระเบียบการสอบสวน
เร่อื งราวรอ้ งกล่าวโทษข้าราชการกระทาผิดวินัย และขอให้สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นในประเด็น
ทางกฎหมายทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ และพระราชบัญญัติความรับผิด
ทางละเมิดของเจา้ หนา้ ท่ี พ.ศ. ๒๕๓๙ ความละเอียดแจ้งแล้ว นัน้

สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้พิจารณาแล้วขอเรียนว่า ข้ันตอนต่าง ๆ เก่ียวกับการสืบสวน
ในทางลบั เพ่อื หาขอ้ เทจ็ จรงิ วา่ มมี ลู ตามท่ถี กู ร้องเรยี นหรือไม่โดยยังไม่มกี ารตัง้ คณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัย
เป็นเพียงข้ันตอนทางบริหารภายในของฝุายปกครองเท่านั้น มิใช่ข้ันตอนการทาคาส่ังทางปกครอง จึงไม่เก่ียวข้อง
กบั พระราชบัญญตั ิวธิ ปี ฏิบัตริ าชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙

อนึ่ง ในการดาเนนิ การข้ันตอนสบื สวนในทางลับเพ่อื หาขอ้ เทจ็ จรงิ น้ัน หากเจา้ หนา้ ทผี่ ูส้ ืบสวนในทางลับ
ได้กระทาละเมิดต่อข้าราชการผู้ถูกล่าวโทษหรือบุคคลภายนอก หากความเสียหายดังกล่าวเกิดข้ึนจากการกระทาในหน้าท่ี
และมิได้กระทาโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หน่วยงานต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย
ตามหลกั เกณฑ์ในพระราชบญั ญัตคิ วามรับผดิ ทางละเมดิ ของเจ้าหนา้ ที่ พ.ศ. ๒๕๓๙

จึงเรียนมาเพอ่ื โปรดทราบ

ขอแสดงความนับถอื

(ลงชอ่ื ) อักษราทร จฬุ ารัตน
(นายอกั ษราทร จุฬารตั น)

เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา

ฝาุ ยปฏบิ ัตริ าชการทางปกครอง
โทร. ๒๒๒๐๒๐๖ – ๙ ต่อ ๔๐๔
โทรสาร ๒๒๖๓๖๑๒

๘๔

(สลาเับนา)

ด่วนมาก กระทรวงมหาดไทย
ถนนอัษฎางค์ กท ๑๐๒๐๐
ท่ี มท ๐๒๐๘.๓/ว ๑๒๒

๑๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๔๐

เรื่อง แนวทางปฏิบัตเิ กี่ยวกับเรอื่ งราวรอ้ งทกุ ข์และกล่าวโทษขา้ ราชการ

เรียน ปลัดกรุงเทพมหานคร หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ
และผูว้ า่ ราชการจงั หวัดทุกจังหวดั

ด้วยในปัจจบุ ันมีผ้ยู ่ืนเรือ่ งราวรอ้ งทุกขห์ รอื กล่าวโทษขา้ ราชการตอ่ รัฐมนตรวี า่ การ
กระทรวงมหาดไทย และต่อมาถูกคู่กรณีฟูองร้องหมิ่นประมาท เพื่อบีบบังคับให้ผู้ร้องถอนคา
ร้องเรียน หรือเพ่ือให้ได้รับความเดือดร้อนในการต่อสู้คดี โดยนาสาเนาคาร้องของผู้ร้องมาเป็น
หลักฐานในการฟูองรอ้ งต่อศาล

ดังนัน้ เพ่ือเป็นการปูองกนั มใิ หเ้ กดิ ปญั หาดงั กล่าว รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย
จงึ ไดโ้ ปรดมีบัญชาให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ถือปฏิบัติว่าเม่ือได้รับเรื่องร้องทุกข์
หรือกล่าวโทษข้าราชการแล้ว ให้ดาเนินการเป็นความลับ และระมัดระวังในการเก็บรักษา
เอกสารคาร้อง อย่าให้ผู้ร้องได้รับภัยหรือความไม่ชอบธรรมอันอาจเนื่องมาจากการร้องทุกข์
กล่าวโทษ หากพบว่าเจ้าหน้าท่ีผู้รับผิดชอบนาเรื่องไปเปิดเผยต่อผู้ไม่มีหน้าที่เก่ียวข้องก็ให้
พจิ ารณาโทษทางวนิ ยั ตามควรแก่กรณี

จงึ เรยี นมาเพ่อื ทราบและถือปฏบิ ตั โิ ดยเคร่งครดั

ขอแสดงความนบั ถอื

(ลงชอ่ื ) ชนะศักดิ์ ยวุ บรู ณ์

(นายชนะศกั ดิ์ ยวุ บูรณ)์

ปลดั กระทรวงมหาดไทย

สานักงานปลดั กระทรวง

กองตรวจราชการและเรอื่ งราวรอ้ งทกุ ข์

โทร./โทรสาร. ๒๒๑๑๑๓๓ ลับ

๘๕

(สาเนา)

ลบั

ที่ มท ๐๒๐๘.๓/ว ๐๘๓ กระทรวงมหาดไทย
ถนนอัษฎางค์ กท ๑๐๒๐๐

๒๔ กรกฎาคม ๒๕๔๐

เรื่อง แนวทางปฏบิ ตั ิเกย่ี วกับเรื่องร้องเรยี น

เรียน ปลัดกรุงเทพมหานคร หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และผู้ว่าราชการ
จังหวดั ทุกจงั หวดั

ดว้ ยในปจั จบุ นั มีเร่อื งร้องเรยี นตอ่ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทยเป็นจานวนมาก และเท่าที่ผ่านมา
หน่วยงานที่เก่ียวข้องใช้เวลาในการดาเนินการจนเป็นท่ียุตินานเกินควร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีบัญชาว่า
เพ่อื เป็นการขจัดปญั หาความเดอื ดรอ้ นของประชาชนใหไ้ ด้ และใหเ้ จ้าหนา้ ทีเ่ อาใจใส่ดูแลปัญหาดังกล่าวมากย่ิงข้ึน จึงได้
กาหนดแนวทางปฏบิ ตั ิดงั น้ี

๑. เรอ่ื งร้องเรียนรายใดใช้เวลาในการพจิ ารณาต้ังแต่ ๓ เดอื นข้ึนไป แล้วยังไมเ่ สร็จส้นิ (ยกเว้นเรื่องท่ีอยู่
ระหว่างการพิจารณาของศาล หรือต้องใช้เงินงบประมาณในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน) ให้หน่วยงานเจ้าของ
เรื่องชี้แจงเหตุขัดข้องล่าช้าท่ีไม่อาจพิจารณาให้เป็นที่ยุติมาให้ทราบ และหากพบว่าเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบละเลยขาด
การเอาใจใส่ดแู ลก็ใหพ้ จิ ารณาขอ้ บกพรอ่ งตามควรแก่กรณี

๒. เรื่องร้องเรยี นรายใดทไี่ ด้เตอื นขอทราบผลการดาเนนิ การครบ ๓ ครั้ง แลว้ ยงั ไม่รายงานผลหรือ
ช้ีแจงเหตุขัดข้องล่าช้า ให้พิจารณาข้อบกพร่องของเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตามควรแก่กรณีทุกรายโดยทันที พร้อมทั้งส่ง
เร่อื งใหผ้ ู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยสอบสวนข้อเทจ็ จริงเก่ียวกบั เร่อื งรอ้ งเรยี นดังกลา่ วอกี ทางหน่ึงดว้ ย

จึงเรยี นมาเพ่อื ทราบและถือเป็นแนวทางปฏบิ ตั ิตอ่ ไป

ขอแสดงความนบั ถือ

(ลงช่ือ) สวสั ดิ์ ส่งสัมพนั ธ์
(นายสวสั ด์ิ ส่งสัมพนั ธ์)

รองปลัดกระทรวง ปฏบิ ตั ริ าชการแทน
ปลดั กระทรวงมหาดไทย

สานกั งานปลดั กระทรวง
กองตรวจราชการและเรือ่ งราวรอ้ งทกุ ข์
โทร./โทรสาร. ๒๒๑๑๑๓๓

ลับ

๘๖

(สาเนา)

ดว่ นมาก บันทกึ ขอ้ ความ

ส่วนราชการ...........ส..า..น...กั..ง..า..น...ป..ล...ดั ..ก...ร..ะ..ท..ร..ว...ง.ม...ห...า.ด...ไ.ท...ย.....โ..ท..ร.....๒..๒...๑....–....๑...๑...๓..๓....................................
ท่.ี ....ม..ท.....๐...๒...๐..๔.../..ว...๒...๙...๕...๐.....................................วนั ที่.........๒...๓......พ..ฤ...ศ..จ..ิก...า..ย..น.....๒...๕...๒...๕......................
เรอื่ ง......ก..า..ร..ด...า..เ.น...ิน..ก...า..ร..เ.ก..ยี่...ว..ก..ับ...เ.ร..่อื..ง..ร..้อ...ง.ท...กุ...ข..์ ..................................................................................

เสนอ

ด้วยปรากฏว่า ส่วนราชการบางแห่งในสังกัดกระทรวงมหาดไทยยังขาดความสนใจ
และละเลยในเร่ืองร้องทุกข์ของราษฎร เป็นเหตุให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและในบางคร้ัง
การรายงานผลการดาเนินการเป็นไปด้วยความล่าช้า ทาให้ไม่สามารถบรรเทาความเดือดร้อน
ของราษฎรไดท้ นั ท่วงที ก่อให้เกดิ ปญั หาทางการปกครองจนยากตอ่ การแกไ้ ข

ฉะน้ัน เพื่อให้การปฏิบัติเก่ียวกับการร้องทุกข์ของราษฎรและการรายงานผล
การดาเนินการในเรื่องน้ีเป็นไปด้วยความรวดเร็วและบังเกิดผลดีต่อทางราชการ จึงให้ส่วนราชการ
ในสังกดั ถือปฏบิ ัติ ดงั น้ี

๑. ขอให้ส่วนราชการในสังกัดเพิ่มความสนใจปัญหาร้องเรียนที่เกิดข้ึนโดยใกล้ชิด
เป็นกรณีพิเศษพร้อมทั้งกาชับเจ้าหน้าที่ให้เอาใจใส่ในการบาบัดทุกข์บารุงสุขโดยแก้ไขปัญหา
ความเดอื ดร้อนของราษฎรในทนั ทีที่ไดร้ ับการรอ้ งเรยี น และพจิ ารณาคลี่คลายปัญหาตามอานาจหนา้ ท่ี
โดยฉับพลันหรอื ทันต่อเหตกุ ารณ์

๒. หากได้สดับตรับฟังปัญหาบางเรื่องที่เกิดข้ึน ขอให้เร่งรัดหน่วยงานท่ี
รับผิดชอบรีบดาเนินการแก้ไขปัญหาทันทีโดยไม่ต้องให้มีการร้องเรียนเกิดขึ้นซ้าอีก และชี้แจง
ให้ราษฎรเข้าใจโดยถ่องแทว้ า่ หากไม่ได้รับความเปน็ ธรรมก็ขอให้ยนื่ เรอ่ื งราวรอ้ งทกุ ข์ตอ่ หนว่ ยงาน
ที่เกี่ยวข้อง เพ่ือจะได้ดาเนินการแก้ไขต่อไป และเม่ือได้ดาเนินการแก้ไขไปแล้วประการใด
ให้มกี ารประชาสัมพนั ธ์ตอ่ ส่อื มวลชนเพอ่ื สรา้ งความเข้าใจต่อประชาชนทเ่ี กยี่ วขอ้ งโดยสว่ นรวม

๓. เม่ือมีผู้ย่ืนเร่ืองราวร้องทุกข์ประสงค์ให้ได้รับการปลดเปลื้องทุกข์ท่ีตนได้รับ
โดยมีความจาเปน็ ทีจ่ ะตอ้ งขอใหร้ ฐั บาลช่วยเหลือและเปน็ เรือ่ งราวท่ีผยู้ ่นื หรือผอู้ น่ื หรือสาธารณชน
ได้รบั ความเสียหายเน่ืองจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลปฏิบัตินอกเหนืออานาจหน้าท่ีหรือละเลยต่อหน้าท่ี
หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร หรือใช้ดุลพินิจเกินสมควรแก่เหตุหรือไม่สุจริตเป็นเหตุให้เกิด
ความเดือดร้อนแก่ประชาชนขอให้ส่วนราชการพิ จารณาแก้ไขปัญหาหรือให้ความช่วยเหลือ
หรือให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ย่ืนเรื่องราวร้องทุกข์หรือประชาชนขอให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว
ทันต่อเหตุการณ์ โดยให้ถือว่าทุกข์ของประชาชนเป็นเรื่องสาคัญท่ีจะต้องบาบัดทุกข์ให้โดยมี
ประสทิ ธภิ าพอยา่ งแทจ้ ริง หากเร่อื งใดไมส่ ามารถดาเนนิ การไดก้ ็ให้รายงานให้กระทรวงมหาดไทย
ทราบ

/ ๔. ในกรณี...

๘๗

๔. ในกรณปี ญั หารอ้ งเรียนท่ีเกดิ ขึน้ เกนิ อานาจในการพิจารณาแก้ไขของส่วนราชการ
ขอให้รวบรวมปัญหาร้องเรียนรายงานไปยังกระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้องทราบโดยตรง
โดยด่วนท่ีสุดเพ่ือท่ีจะได้พิจารณาข้อยุติแนวทางในการแก้ไขปัญหาร้องเรียนในทันทีต่อไป
ในกรณีนี้ขอให้รีบรายงานกระทรวงมหาดไทยทราบเพ่ือจะได้ประสานงานกับกระทรวง ทบวง
กรมทเี่ ก่ียวขอ้ งอกี ทางหน่งึ ดว้ ย

๕. ใหก้ วดขันหนว่ ยงานเจา้ ของเร่ืองผ้รู ับผิดชอบหาทางแก้ไขข้อบกพร่องในเรอ่ื ง
การรายงานผลการดาเนนิ การเกย่ี วกับเรอื่ งรอ้ งทุกข์ หากหน่วยงานใดยงั มขี ้อบกพรอ่ งหรือละเลย
ไม่รีบดาเนินการเกี่ยวกับเรื่องร้องทุกข์ตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. ๒๕๒๒
ก็ให้พิจารณาโทษตวั บุคคลผรู้ ับผดิ ชอบด้วย

๖. ให้เจ้าหน้าทีท่ ุกระดบั ทาตัวให้เป็นท่ีพึ่งของราษฎรอย่างแท้จรงิ โดยพยายาม
ปูองกันและแก้ไขความทุกข์ร้อนของราษฎรในกรณีท่ีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากฝุายหน่ึงฝุายใด
และเพื่อเปน็ กาลังใจในการปฏิบัตหิ น้าที่ราชการ หากผใู้ ดปฏบิ ัติหน้าทดี่ ว้ ยความเอาใจใส่เป็นผลดี
ต่อส่วนรวมแล้วกข็ อใหพ้ ิจารณาบาเหนจ็ ความชอบตามควรแกก่ รณี

จึงเสนอมาเพ่ือโปรดทราบและถอื ปฏิบตั ิโดยเคร่งครัด
(ลงช่ือ) พศิ าล มลู ศาสตรสาทร
(นายพศิ าล มลู ศาสตรสาทร)
ปลัดกระทรวงมหาดไทย

๘๘

(สาเนา)

ด่วนที่สดุ กระทรวงมหาดไทย

ที่ มท ๐๓๐๙/ว ๖๑๔

๒๐ พฤษภาคม ๒๕๒๔

เร่ือง การแก้ไขปญั หาร้องเรียนและเดินขบวน

เรียน ผู้วา่ ราชการจงั หวัด ทุกจงั หวดั

อ้างถงึ หนงั สอื ดว่ นทสี่ ดุ ท่ี มท ๐๓๐๙/ว ๑๕๙๙ ลงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๒๓

ตามท่ีให้จังหวัดถือปฏิบัติเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาร้องเรียนและเดินขบวน
โดยให้กาชับนายอาเภอ ทุกอาเภอ เอาใจใส่ในการบาบัดทุกข์ บารุงสุข โดยแก้ไขปัญหา
ความเดือดร้อนของราษฎรในทันทีเมื่อได้รับการร้องเรียน หากปรากฏว่ามีข่าวเคล่ือนไหวหรือ
ส่ิงบอกเหตุว่าจะเกิดการร้องเรียนและเดินขบวนขึ้น ก็ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือรองผู้ว่า
ราชการจังหวัด หรือปลัดจังหวัด พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด หรือผู้แทน
หนว่ ยราชการภูมิภาคที่รับผิดชอบเก่ียวข้องกับปัญหาที่ร้องเรียน รวมท้ังนายอาเภอท้องท่ีเข้าไป
รับฟังปัญหาร้องเรียนและพิจารณาคล่ีคลายปัญหาตามอานาจหน้าท่ีของผู้ว่าราชการจังหวัด
โดยฉับพลันและทันต่อเหตุการณ์ อย่ารอหรือปล่อยให้ปัญหาร้องเรียนก่อตัวและลุกลามจนถึง
ขั้นเดินขบวนมายังศาลากลางจังหวัด และเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อร้องเรียนรัฐบาล
ในที่สุด ความละเอยี ดตามหนงั สอื อา้ งถงึ นัน้

ปรากฏวา่ หลายจังหวัดไดพ้ ิจารณาดาเนินการแก้ไขปญั หารอ้ งเรยี นและเดินขบวน
ทเ่ี กดิ ขึ้น อย่างมีประสทิ ธิภาพสามารถระงับเหตุการณ์ได้โดยฉับพลันอย่างน่าชมเชย แต่ก็มีบาง
จังหวัดท่ียังขาดความสนใจเก่ียวกับปัญหาดังกล่าวเท่าท่ีควร ทาให้ยังมีการยกขบวนเดินทางเข้า
กรุงเทพมหานครร้องเรียนรัฐบาลอยู่อีก จนเป็นเหตุให้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีปรารภเก่ียวกับ
เรื่องน้ีในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันท่ี ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๒๔ และได้ขอให้กระทรวง
มหาดไทยกาชับจังหวัดอีกครั้งหน่ึง ฉะน้ัน เพื่อปฏิบัติตามนัยบัญชา ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี
ดังกล่าวให้จังหวัดวางแผนทางการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาร้องเรียนและเดินขบวนให้รัดกุม
มีประสิทธิภาพและให้ดาเนินการ ดงั นนั้

/๑. ใหก้ วดขนั ...

๘๙

๑. ให้กวดขันกาชับเจ้าหน้าท่ีรับผิดชอบในการรับเร่ืองร้องเรียน ทั้งในระดับ
จังหวดั และอาเภอ เม่ือได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว ให้รีบเสนอต่อผู้บังคับบัญชาทันทีในวันเดียวกัน
เพอ่ื ใหห้ น่วยงานทีเ่ กี่ยวข้องตรวจสอบขอ้ เท็จจริงและพิจารณาแก้ไขปัญหาร้องเรียนโดยด่วนท่ีสุด
อย่ารอหรอื ปล่อยทิ้งไวจ้ นเปน็ เหตุให้ปัญหาร้องเรียนลุกลามจนถึงข้ันเดินขบวนเป็นอันขาด ท้ังนี้
ใหม้ ีการตดิ ตามผลการดาเนนิ งานทุกระยะ

๒. โดยท่ีผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอาเภอ เป็นผู้รับผิดชอบงานของทุก
กระทรวงทบวงกรมในเขตจงั หวดั และอาเภอ ตามประกาศคณะปฏวิ ตั ิ ฉบบั ที่ ๒๑๘ ข้อ ๕๐
และข้อ ๕๗ ฉะน้ัน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอาเภอควบคุม ติดตาม ดูแล
การปฏิบัติงานของหน่วยราชการต่าง ๆ ในความรับผิดชอบ อย่าปล่อยให้หัวหน้าส่วนราชการ
ปฏบิ ัตจิ ดั ทาไปโดยไม่ควบคุมโดยใกลช้ ิด โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในปญั หาเกี่ยวกบั การรอ้ งเรียน

๓. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอาเภอ หม่ันออกท้องท่ีเพื่อเย่ียมเยียน
ประชาชนโดยมีข้าราชการ สมาชิกสภาจังหวัด หรือผู้นาท้องถิ่นท่ีสาคัญฯ ท่ีประชาชนให้ความ
เคารพนับถือร่วมไปด้วย ในการออกพบปะเย่ียมเยียนประชาชนทุกครั้ง เม่ือได้สดับตรับฟัง
ปัญหาท่ีเกิดข้ึนให้เร่งรัดหน่วยงานท่ีรับผิดชอบรีบดาเนินการแก้ไขปัญหาในทันที ไม่ต้องให้มี
การร้องเรียนเกดิ ขึ้นซ้าอกี และเมื่อได้ดาเนินการแกไ้ ขไปแลว้ ประการใด ให้มีการประชาสัมพันธ์
ต่อสือ่ มวลชนเพอื่ สรา้ งความเข้าใจต่อประชาชนทเ่ี กยี่ วข้องโดยสว่ นรวม

๔. กรณีปัญหาร้องเรียนท่ีเกิดขึ้นเกินอานาจในการพิจารณาแก้ไขของจังหวัด
และจังหวัดได้รวบรวมปัญหาร้องเรียนรายงานไปยังกระทรวง ทบวง กรมที่เก่ียวข้องพิจารณา
ดาเนินการโดยตรงโดยด่วนท่ีสุดแล้ว แต่ปรากฏว่าข้อร้องเรียนดังกล่าวยังไม่ได้รับการพิจารณา
แก้ไข และผู้ร้องเรียนมีปฏิกิริยาที่จะเดินขบวนไปกรุงเทพมหานครเพ่ือร้องเรียนต่อรัฐบาล
ให้จังหวัดช้ีแจงเจรจากับกลุ่มผู้ร้องเรียน ต้ังตัวแทน ๒-๓ คน เพ่ือนาข้อร้องเรียนดังกล่าวไป
เสนอตอ่ กระทรวงเจา้ สังกัดที่เกี่ยวข้องโดยตรง โดยให้จังหวัดเป็นตัวประสานในเร่ืองนี้ ในการนี้
ใหจ้ ังหวดั แจ้งกระทรวงท่เี ก่ยี วข้องทราบล่วงหนา้ และสาเนาให้กระทรวงมหาดไทยทราบด้วย

จงึ เรยี นมาเพือ่ ถือปฏบิ ตั ติ ่อไป

ขอแสดงความนบั ถืออย่างสงู

(ลงชอ่ื ) พิศาล มลู ศาสตรสาทร
(นายพิศาล มูลศาสตรสาทร)
กรมการปกครอง
โทร. ๒๒๒๙๘๘๘, ๒๒๑๙๑๒๑ ปลดั กระทรวงมหาดไทย

๙๐

(สาเนา)

ที่ มท ๐๓๐๗/ว ๕๖๘ กระทรวงมหาดไทย

๒๘ ธนั วาคม ๒๕๑๓

เร่ือง การปรับปรุงงานเก่ียวกับการพจิ ารณาเรอื่ งราวร้องทุกข์

เรียน ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ทุกจังหวัด

ส่ิงทส่ี ง่ มาดว้ ย ตวั อย่างทะเบยี นเร่อื งราวรอ้ งทกุ ข์

ด้วยคณะทีป่ รึกษาทางการเมอื งของกระทรวงมหาดไทยพจิ ารณาเหน็ วา่ เร่ืองราวร้องทุกข์
ซง่ึ มผี ูร้ ้องเรยี น แบ่งออกไดเ้ ป็น ๒ ประเภท คอื

๑. เรื่องราวรอ้ งทกุ ข์เกย่ี วกับการปฏิบัติงานของหน่วยราชการ เช่น การขอให้
ตัดถนนหนทาง ขุดบอ่ นา้ สร้างโรงเรยี น หรอื สถานอี นามัย เป็นต้น

๒. เร่ืองราวร้องทุกข์กล่าวโทษข้าราชการว่าใช้อานาจหน้าท่ีในทางทุจริต หรือ
ถกู ขา้ ราชการกลัน่ แกลง้ ไมใ่ หค้ วามเป็นธรรม

เพื่อให้การปฏิบัติกรณีท่ีมีผู้ยื่นเร่ืองราวร้องทุกข์ดาเนินไปด้วยความเรียบร้อย
คณะที่ปรึกษาทางการเมืองของกระทรวงมหาดไทยจึงได้เสนอความคิดเห็นเก่ียวกับการปรับปรุงงาน
กรณีมีผู้ยื่นเร่ืองราวร้องทุกข์ระดับจังหวัดและอาเภอ ว่าควรให้มีการลงสารบบบัญชี
เป็นหลักฐานเพ่ือสะดวกในการตรวจสอบ และการติดตามผล ซึ่ง ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงมหาดไทยพจิ ารณาแล้วเห็นชอบด้วย ฉะนน้ั จึงให้จังหวัดและอาเภอปฏบิ ัติดงั นี้ คอื

ระดับจงั หวดั
วิธปี ้องกันการย่นื เรื่องราวรอ้ งทกุ ข์
เนื่องจากปรากฏว่าขณะน้ีมีผู้ย่ืนเรื่องราวร้องทุกข์เป็นจานวนมาก เพ่ือเป็นการปูองกัน
มิให้เกดิ การรอ้ งเรยี น จงึ ขอใหจ้ งั หวดั พจิ ารณาดาเนนิ การดงั นี้
๑. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดวางมาตรการในการปูองกันและกวดขันไม่ให้
ข้าราชการใช้อานาจหน้าที่ในทางทุจริตกลั่นแกล้งหรือไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ราษฎร และหาก
ข้าราชการผู้ใดมีพฤติการณ์ส่อไปในทางจะทุจริตต่อหน้าท่ีหรือไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ราษฎร
ก็ให้เรียกตัวมาว่ากล่าวตักเตือน และแนะนาให้ละเว้นการกระทาดังกล่าวเสีย หรือให้ประพฤติ

/ปฏิบัติ...

๙๑

ปฏิบตั ิในทางท่ถี ูกทคี่ วร เมอ่ื ตกั เตือนแล้วไม่พยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีข้ึนก็ให้แต่งตั้งกรรมการ
สอบสวนเพ่อื ลงโทษอย่างเดด็ ขาดต่อไป

๒. วิธีการแก้ไขกรณีท่ีราษฎรและสมาชิกสภาผู้แทนร้องทุกข์เกี่ยวกับการ
ปฏบิ ัตงิ านของหนว่ ยราชการ เช่น การขอให้สร้างถนน ขุดบ่อน้า สร้างโรงเรียน หรือสถานีอนามัย
นั้น จังหวัดควรวางแผนพัฒนาจังหวัดไว้ให้แน่นอนโดยเชิญสมาชิกสภาผู้แทนและผู้นาท้องถิ่น
เข้ามาร่วมพิจารณาในการวางแผนพัฒนาจังหวัด ตามแนวทางท่ีคณะกรรมการพัฒนา
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือถือปฏิบัติในปัจจุบัน และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบแผนการ
ดาเนินงานโดยทั่วถึง การวางแผนพัฒนาจังหวัดให้แน่นอนและมีการปฏิบัติตามแผนการที่วางไว้
ล่วงหนา้ จะทาให้การรอ้ งเรยี นในเร่อื งดังกลา่ วลดน้อยลงได้

วิธกี ารดาเนินการเมอื่ ได้รับเรื่องราวรอ้ งทกุ ข์
เมือ่ ไดร้ ับเร่ืองราวรอ้ งทกุ ขไ์ วแ้ ลว้ ใหด้ าเนนิ การ ดงั นี้
๑. ตอบรับและแจ้งให้ผู้ย่ืนเรื่องราวร้องทุกข์ทราบว่าจะดาเนินการ หรือได้
ดาเนินการไปแลว้ อยา่ งใด
๒. ประสานงานกับหน่วยราชการที่เก่ียวข้องอื่น ๆ ให้ทราบเร่ือง ถ้าเป็นไปได้
ควรให้ทราบขอ้ เทจ็ จรงิ และการดาเนนิ การท่ไี ด้ปฏิบัติไปแลว้ ดว้ ย
๓. แจ้งผลการดาเนนิ การตลอดจนผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ให้ผู้ร้องทุกข์หรือ
หน่วยท่ีสอบถามได้ทราบ สาหรับการสืบสวนสอบสวนที่ยังไม่ทราบผล ควรแจ้งผลระหว่าง
การดาเนนิ การใหท้ ราบอยา่ งนอ้ ยเดือนละคร้งั

วิธีการปฏิบตั ิเก่ียวกบั การสืบสวนสอบสวน
เพื่อความสะดวกในการติดตามผลการเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนตลอดจน
ตรวจสอบเร่อื งราวรอ้ งทกุ ขใ์ ห้จงั หวัดดาเนนิ การ ดังน้ี
๑. ใหจ้ ัดทาทะเบยี นเรอ่ื งราวรอ้ งทกุ ข์โดยใหม้ รี ายการดังตวั อยา่ งที่สง่ มาพร้อมนี้
เม่ือมีผู้ย่นื เรือ่ งราวรอ้ งทุกข์ต่อจังหวัดโดยตรง หรือส่วนราชการตา่ ง ๆ สง่ มาใหจ้ ังหวัดดาเนนิ การ
หรือเรื่องราวรอ้ งทกุ ข์ที่มีผู้ย่ืนต่อทางอาเภอ และทางอาเภอได้ทาการสืบสวนสอบสวนแจ้งผลให้
จังหวดั ทราบใหน้ าลงทะเบยี นเรือ่ งราวร้องทุกข์ทกุ เรอ่ื ง
๒. ให้จา่ จงั หวดั เป็นเจ้าหนา้ ท่ีรบั ผิดชอบการลงรายการในทะเบยี นเรื่องราวรอ้ งทุกข์
ต้ังแต่ต้นจนเสร็จเร่ือง ตลอดจนการติดตามเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนของผู้รับผิดชอบ
ตามระเบียบของทางราชการ และเป็นเจ้าหน้าท่ีแจ้งผลการดาเนินการให้ผู้ยื่นเร่ืองราวร้องทุกข์
หรือส่วนราชการทเี่ กี่ยวข้องทราบ

/๓. ให้ผวู้ ่า...

๙๒


Click to View FlipBook Version