คำนำ
การดาเนินการทางวินัย กฎหมายบัญญัติให้เป็นหน้าท่ีของผู้บังคับบัญชาในการรักษาวินัย
ของผใู้ ตบ้ งั คับบญั ชา การดาเนินการทางวินัยจะกอ่ ใหเ้ กดิ ความเป็นธรรมมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่ว่ามีการดาเนินการ
อย่างถกู ตอ้ งกับผ้ถู ูกดาเนนิ การและเหมาะสมหรือไม่ เพยี งใด
กองการเจ้าหน้าที่ตระหนักดีถึงการดาเนินการทางวินัยที่ดาเนินการโดยถูกต้องตามแนวทาง
ที่กฎหมายกาหนด และเป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ต้องถูกดาเนินการ
ทางวินัย จึงได้จัดทาหนังสือแนวทางการลงโทษทางวินัย โดยเรียบเรียงจากกรณีลงโทษต่างๆ ที่กรมที่ดิน
ได้ลงโทษแล้ว และผ่านการพิจารณาของ อ.ก.พ. กระทรวงมหาดไทย หรือ ก.พ. แล้ว ย้อนหลังไปเป็นเวลา 10 ปี
โดยเปน็ กรณคี วามผดิ ทเี่ กิดบ่อยครงั้ นาข้อเท็จจรงิ หรอื พฤตกิ ารณม์ าแสดงใหเ้ ห็นถึงการปรับระดับโทษที่ต่างกัน
เพ่ือให้บุคคลากรท่ีทาหน้าที่ดาเนินการทางวินัยสามารถใช้ดุลยพินิจพิจารณาปรับระดับโทษในการดาเนินการ
ทางวินัยได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ภายในกรอบของกฎหมายและพฤติการณ์แห่งความผิดแต่ละกรณี พร้อมท้ัง
ในตอนท้ายของหนังสือได้เพิ่มเติมพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562
ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วต้ังแต่วันที่ 6 เมษายน 2562 โดยเป็นการกาหนดหลักเกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับการดาเนินการ
ทางวินัยกับข้าราชการพลเรือนซ่ึงออกจากราชการไปแล้วตามมาตรา 100 และ มาตรา 100/1 พร้อมทั้งได้
นาสรุปสาระสาคญั ของพระราชบัญญตั ดิ งั กลา่ วเพม่ิ เติมไว้ดว้ ย เพื่อใหง้ า่ ยตอ่ การทาความเข้าใจ
กองการเจ้าหน้าท่ีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้บังคับบัญชา
และเจ้าหนา้ ท่ผี ู้มีสว่ นเก่ยี วขอ้ งกับการดาเนินการทางวินยั รวมทัง้ ผู้สนใจให้เข้าใจหลักการพิจารณาโทษทางวินัยได้
อย่างถอ่ งแท้และดว้ ยความเปน็ ธรรม
กองการเจา้ หนา้ ท่ี
สิงหาคม 2562
สารบัญ
หนา
ภาคผนวก
คณะผจู ัดทํา
เรยี กรับเงนิ
-๒-
1. เรียกรบั เงิน
(1.) นายช่างรังวัด 6 เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ทาการรังวัด เรียกเงินจากราษฎรผู้ขอออกโฉนดท่ีดิน
จานวน 7,000 บาท โดยอ้างว่าเงินจานวน 4,000 บาท จะนาไปเป็นค่าดูแลเจ้าท่า ส่วนอีก 3,000 บาท
เปน็ การกู้ยืมเงินเพอ่ื เป็นค่าใช้จ่ายในการรังวัด ผู้ขอออกโฉนดติดตามเรื่องและทวงเงินหลายครั้ง แต่กลับบ่ายเบี่ยง
และหลบหนา้ ตลอดจนผูข้ อออกโฉนดมีหนงั สอื ร้องเรยี นตอ่ อธิบดีกรมทีด่ ิน
พฤติการณ์ กระทาผิดวนิ ยั ตามมาตรา 82 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรอื น พ.ศ. 2535
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(2.) นักจัดการงานทั่วไปชานาญการ เม่ือคร้ังดารงตาแหน่งนักวิชาการท่ีดินชานาญการ
มีหน้าท่ีรับผิดชอบเกี่ยวกับการดาเนินการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ได้เรียกรับเงินจากราษฎรผู้มาติดต่อ
ราชการ จานวน 50,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าดาเนินการออกโฉนดท่ีดิน โดยผู้มาติดต่อจ่ายเงินให้ก่อน
จานวน 30,000 บาท ท่ีเหลือจะจ่ายให้เมื่อได้รับโฉนดท่ีดินแล้ว ต่อมาภายหลังผู้มาติดต่อได้ติดตามเร่ือง
จงึ พบว่าไม่มคี าขอออกโฉนดที่ดินของตน
พฤติการณ์ เป็นความผิดวินัยตามมาตรา 85 (1) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(3.) นายช่างรังวัดชานาญงาน เม่ือครั้งดารงตาแหน่งนายช่างรังวัดปฏิบัติงาน ได้เรียกและ
รบั เงินจากราษฎรผู้มาตดิ ต่อยืน่ คาขอรงั วดั ท่ดี นิ หลายราย เพื่อเปน็ ค่าใชจ้ ่ายในการรงั วัดออกโฉนดท่ดี ิน
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยตามมาตรา 82 (3) มาตรา 85 (1) (4) (7)
แหง่ พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ไล่ออกจากราชการ
(4.) นายชา่ งรงั วดั ชานาญงาน ปฏิบัติหนา้ ท่ีราชการไม่เป็นไปตามกฎระเบียบของทางราชการ
และล่าช้าโดยไม่มีเหตุอันควร อีกท้ังเรียกรับเงินเป็นค่าดาเนินการออกโฉนดท่ีดินและปฏิบัติหน้าท่ีราชการ
โดยทุจริต โดยกระทาการหรือยอมให้บุคคลอ่ืนอาศัยตาแหน่งหน้าท่ีราชการเพื่อให้ได้รับผลประโยชน์
อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายเพ่อื ตนเองหรือผอู้ ่ืน
พฤติการณ์ กระทาผิดวินัยตามมาตรา 82 (2) (8), มาตรา 83 (3) (5), มาตรา 84
และมาตรา 85 (1) (4) (7) แหง่ พระราชบัญญัตริ ะเบียบขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ไล่ออกจากราชการ
-๓-
(5.) นายช่างรังวัดชานาญงาน เม่ือคร้ังปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าท่ีเดินสารวจปักหลักเขต
ของศูนย์อานวยการเดินสารวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดกาแพงเพชร รับเงิน จานวน 10,000 บาท
เพ่ือเปน็ คา่ ตอบแทนในการเรง่ ดาเนนิ การรังวัดออกโฉนดท่ีดิน ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่ากระทาผิดวินัย
อยา่ งรา้ ยแรง
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยตามมาตรา 82 (1) (2) มาตรา 83 (3) (5) ประกอบ
มาตรา 85 (7) และมาตรา 85 (1) (4) แหง่ พระราชบัญญัตริ ะเบียบขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ไล่ออกจากราชการ
(6.) นายช่างรังวัดชานาญงาน ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ทาการรังวัดออกโฉนดที่ดิน แต่ไม่ไป
ทาการรังวัดด้วยตนเอง กลับให้คนงานรังวัดออกไปทาการรังวัดแทน และเรียกรับเงินเป็นค่าตอบแทน
ในการออกโฉนดโดยมชิ อบ เปน็ จานวน 20,000 บาท
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 85 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
พ.ศ. 2535 อนั เปน็ กฎหมายทใ่ี ช้บังคับขณะกระทาความผิด
โทษ ปลดออกจากราชการ
(7.) เจ้าพนักงานธุรการชานาญงาน เรียกรับเงินจานวน 20,000 บาท จากผู้ซ้ือและขาย
โดยอา้ งว่าช่วยเหลือลดคา่ ใช้จา่ ยในการจดทะเบยี น
พฤติการณ์ เป็นการกระทาความผิดวินัยตามมาตรา 85 (1) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(8.) เจ้าพนักงานท่ีดินอาวุโส ได้เรียกรับเงินในการออกไปตรวจพิสูจน์ท่ีดินตามกฎกระทรวง
ฉบับท่ี 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497
ในเขตปา่ ไม้ถาวร (ปา่ ดงรกั บ้านนา้ คา้ นอย)
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยตามมาตรา 85 (1) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
-๔-
(9.) นายช่างรังวัดชานาญงาน ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ควบคุม ดูแล บังคับบัญชาและ
เร่งรัดการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สายสารวจที่เข้าดาเนินการในพ้ืนท่ีอาเภอแกลง จังหวัดระยอง โดยไม่ได้รับ
มอบหมายให้รับผิดชอบพ้ืนท่ีอาเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง แต่กลับนา GPS ไปจับพิกัดตาแหน่งท่ีดิน
ให้กับราษฎรจานวนหลายราย ซ่ึงอยู่ในพื้นที่อาเภอเมืองระยอง และนาหลักเขตที่ดินให้ราษฎรนาไปปักลงใน
แปลงที่ดินโดยพลการ เพื่อให้ราษฎรเข้าใจว่าพื้นท่ีดังกล่าวสามารถออกโฉนดที่ดินได้ท้ังที่ท่ีดินอยู่ในเขตป่า
และภูเขา ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ท่ีสามารถออกโฉนดท่ีดินได้ และเรียกรับเงินเป็นค่าตอบแทนในอัตรา
ไร่ละ 3,000 บาท เป็นประโยชน์แก่ตนเองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย การกระทาดังกล่าว ทาให้เส่ือมเสียเกียรติศักดิ์
ตอ่ ตาแหน่งหน้าที่ราชการ เป็นท่รี งั เกยี จของสงั คมอยา่ งร้ายแรง
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยตามมาตรา 85 (4) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(10.) นักวิชาการท่ีดินชานาญการ ทาหน้าท่ีเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้จดทะเบียน ได้ให้ผู้ให้
และผู้รับให้พิมพ์ลายน้ิวมือและลงลายน้ิวมือชื่อในแบบพิมพ์คาขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม (ท.ด. 1)
หนังสือสญั ญาใหท้ ด่ี ิน (ท.ด. 14) บันทึกการชาระภาษีอากร (ท.ด. 16) และบันทึกการประเมินราคาทรัพย์สิน
(ท.ด. 86) ซึ่งเป็นเอกสารเปล่า และรับเงินจานวน 3,800 บาท แต่มิได้มีการจดทะเบียนประเภทให้และ
ประเภทให้รวมสองโฉนด ภายหลังผู้ขอมาติดต่อจึงจดทะเบียนดังกล่าวให้แก่ผู้ขอไปโดยไม่มีการนาคาขอ
ลงบัญชีรับทาการ (บ.ท.ด. 2) ไม่มีการพิมพ์หรือกรอกข้อความใด ๆ ลงในแบบพิมพ์ท่ีจัดเตรียมไว้ ไม่มีการ
เรยี กเกบ็ คา่ ธรรมเนยี มและภาษอี ากรส่งเปน็ รายได้แผ่นดิน
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผดิ วินยั อย่างร้ายแรง ตามมาตรา 82 (2) และมาตรา 85 (4) (7)
แห่งพระราชบัญญัตริ ะเบียบข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ไล่ออกจากราชการ
-๕-
ทุจริตเงนิ ราชการ
-๖-
2. ทจุ ริตเงินราชการ
(1.) เจ้าหน้าท่ีการเงินและบัญชีระดับ 4 กรณีเมื่อคร้ังปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าท่ีสอบสวน
สิทธิได้เรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียม ภาษีเงินได้ และอากรแสตมป์ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
จานวน 4 ราย โดยไมม่ กี ารออกใบเสร็จรับเงินและไมไ่ ด้นาเงนิ ท่ีจัดเกบ็ นาสง่ คลังตามระเบียบ
พฤติการณ์ เป็นความผิดวินัยตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 82 (3) และ 85 (2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
พ.ศ. 2535 อนั เปน็ กฎหมายที่ใชบ้ งั คับขณะกระทาความผิด
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(2.) เจ้าพนักงานท่ีดินชานาญงาน เม่ือครั้งดารงตาแหน่งเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี
ชานาญงาน มีหน้าท่ีจัดเก็บ รักษา นาฝาก และนาส่งเงินค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายและค่าภาษีอากร เกี่ยวกับ
การดาเนินการจดทะเบียนฯ หรือธุรกรรมเกี่ยวกับราชการ เบิก – จ่าย และเก็บรักษาเงินงบประมาณ
ตามหมวดรายงานต่างๆ ของสว่ นราชการ ปฏิบัติหน้าท่ีไปโดยมิชอบนาเงินที่จัดเก็บเป็นรายได้ของทางราชการ
ไปหมุนใช้เพ่ือประโยชน์ส่วนตัว และนาส่งเงินรายได้แผ่นดินขาด จานวน 1,133,000 บาท (หน่ึงล้าน
หนงึ่ แสนสามหมืน่ สามพันบาทถ้วน)
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยตามมาตรา 82 (2) มาตรา 83 (1) มาตรา 85 (1) (4)
(7) แหง่ พระราชบัญญัติระเบยี บขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ไล่ออกจากราชการ
(3.) เจ้าพนักงานธุรการชานาญงาน เม่ือคร้ังดารงตาแหน่งเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี
ปฏิบัติงาน มีหน้าท่ีจัดเก็บ นาฝาก นาส่งเงินค่าธรรมเนียม ภาษีอากร จัดเก็บ นาฝาก นาส่งเงินและการเบิก
จ่ายเงินมัดจารังวัด รวมตลอดถึงการจัดทาบัญชีการรับและนาส่งเงินรายได้แผ่นดิน จัดทาทะเบียนคุมเงิน
นอกงบประมาณ (เงินมัดจารังวัด) เสนอผู้บังคับบัญชาตรวจสอบใบสาคัญการจ่ายเงินมัดจารังวัด รวมทั้ง
จัดทารายละเอียดเงินมัดจารังวัดและจ่ายเงินมัดจารังวัด (บ.ท.ด. 59) แต่ไม่ได้ดาเนินการจัดทาบัญชีต่างๆ
เสนอคณะกรรมการเก็บรักษาเงินทาการตรวจ และนาเก็บรักษาเงินตามระเบียบของทางราชการ ต่ อมา
เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยตรวจสอบภายในกรมที่ดินได้เข้าทาการตรวจสอบด้านการเงินและบัญชี ปรากฏว่า
มียอดเงินมัดจารังวัดคงเหลือไม่ตรงตามบัญชี ขาดไปจานวน 340,625 บาท (สามแสนส่ีหมื่นหกร้อย
ยสี่ ิบห้าบาทถ้วน) พฤตกิ ารณเ์ ป็นการนาเงินมดั จารังวัดไปหมุนใชส้ ่วนตัวโดยมิชอบ
-๗-
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยตามมาตรา 82 (2) มาตรา 83 (1) และมาตรา 85 (1)
(4) (7) แหง่ พระราชบัญญัติระเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(4.) นักวิชาการท่ีดินชานาญการ เม่ือคร้ังดารงตาแหน่งหัวหน้าฝ่ายอานวยการ มีหน้าที่
ควบคุมดูแลงานธุรการและการเงิน ในกรณีมีการจ้างห้างหุ้นส่วนจากัด เพื่อทาการก่อสร้างอาคาร
สานักงานที่ดินอาเภอ โดยห้างหุ้นส่วนจากัดดังกล่าวได้มีหนังสือแจ้งการโอนสิทธิเรียกร้องค่าจ้างให้แก่โจทก์
แต่ตนได้ออกเช็คส่ังจ่ายเงินให้ห้างหุ้นส่วนจากัด ไม่ได้จ่ายให้แก่โจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย
โจทกจ์ งึ ไดฟ้ ้องเป็นคดีแพง่ และคดอี าญา โดยคดีอาญาศาลมีคาพิพากษาถึงท่ีสุดให้รับโทษจาคกุ
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยตามมาตรา 85 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ปลดออกจากราชการ
(5.) เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชานาญงาน ได้จัดทาเอกสารสาเนาใบฝากเงินและบันทึก
รายการนาฝากและถอนเงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร อันเป็นเท็จ ตั้งแต่วันที่ 3
ตุลาคม 2556 ถึงวันท่ี 9 กันยายน 2557 รวมจานวนเงินท้ังส้ิน 2,294,361 บาท (สองล้านสองแสน
เกา้ หมนื่ สพ่ี ันสามร้อยหกสบิ เอ็ดบาทถ้วน) แลว้ นาเงินไปใชป้ ระโยชน์ส่วนตวั
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยตามมาตรา 85 (1) (7) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ไล่ออกจากราชการ
(6.) นักวิชาการท่ีดินชานาญการ เม่ือครั้งปฏิบัติหน้าท่ีทางสานักงานท่ีดินอาเภอ มีหน้าท่ี
รับคาขอ จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมประเภทต่างๆ และเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ภาษี อากร ได้ดาเนินการ
จดทะเบียนใน น.ส. 3 จานวน 19 ฉบับ ได้จัดทาใบเสร็จรับเงินฉบับเจ้าของที่ดินและฉบับสานักงานที่ดิน
ให้มีจานวนตรงตามท่ีเรียกเก็บ ส่วนใบเสร็จรับเงินฉบับติดต้นข้ัวได้ออกเป็นค่าธรรมเนียมรายอ่ืนซ่ึงไม่ตรง
ตามจานวนตามท่ีเรียกเก็บและมีจานวนน้อยกว่า โดยนาเงินที่ได้รับจากผู้ขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
ดังกลา่ วไปใชเ้ ป็นประโยชน์ส่วนตน
-๘-
พฤติการณ์ เป็นความผิดทางวินัยตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 82 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 98 วรรคสอง
แห่งพระราชบญั ญัตริ ะเบียบขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2535 ซ่ึงเป็นกฎหมายที่ใช้บงั คบั ขณะกระทาความผิด
โทษ ไล่ออกจากราชการ
(7.) นกั วิชาการท่ีดินชานาญการ ได้อาศยั โอกาสที่ตนมีตาแหน่งหน้าท่ีราชการในการรับคาขอ
จดทะเบยี นสิทธแิ ละสอบสวนสทิ ธิ กระทาการอันมิชอบด้วยหน้าที่ ด้วยการเรียกเก็บเอกสารสิทธิและหลักฐาน
ซ่ึงใช้ในการจดทะเบียนของเจา้ ของทด่ี ินไว้ เมอ่ื มรี าษฎรซึ่งเปน็ เจา้ ของท่ีดินมายื่นคาขอเพื่อทานิติกรรมเก่ียวกับ
ท่ีดินหลอกลวงว่าจะดาเนินการให้ เพื่อให้ตนเองมีโอกาสในการกระทาการทุจริตด้วยการจัดทาใบสั่ง
ค่าธรรมเนยี มระบคุ าขอผิดประเภท ใหไ้ ดม้ าซงึ่ ใบเสรจ็ รับเงินของทางราชการแล้วแก้ไขตัวเลขในใบเสร็จรับเงิน
ใหม้ ีจานวนเงินเพ่ิมขึ้น พร้อมท้ังลงช่ือเป็นผู้จดทะเบียนโดยไม่มีอานาจและไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้ตนเอง
ไดร้ บั ประโยชน์ทม่ี คิ วรได้เป็นเงนิ ค่าธรรมเนียมจากเจ้าของทดี่ นิ เสรจ็ แลว้ จงึ จะนาโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง
การทาประโยชน์และใบเสร็จรับเงินไปมอบคืนให้เจ้าของท่ีดินที่บ้านหรือโทรศัพท์ตามให้มารับที่สานักงานท่ีดิน
ในวันหยดุ ราชการ และรบั เงนิ คา่ ธรรมเนยี มจากเจ้าของที่ดิน โดยจานวนเงินท่ีจ่าย เป็นจานวนตามที่ปรากฏใน
ใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียม ทาให้เจ้าของที่ดินหลงเชื่อว่ามีการดาเนินการจดทะเบียนสิทธิเป็นไปโดยถูกต้อง
ตามกฎหมาย ทัง้ ยงั ปรากฏว่า ร่วมรู้เหน็ เป็นใจกับบคุ คลภายนอกแสดงตนเปน็ นายหน้าไปตดิ ต่อกับเจา้ ของท่ีดิน
เพ่ือดาเนินการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและเรียกรับเงินเป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยมิได้ดาเนินการจด
ทะเบียนสทิ ธิและนิตกิ รรมใหต้ ามความประสงค์
พฤติการณ์ เป็นความผิดวินัยตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 82 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.
2535 สาหรบั กรณคี วามผดิ ทีเ่ กดิ ขึน้ ก่อนวนั ที่ 11 ธนั วาคม 2551 อันเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะกระทา
ความผิดตามมาตรา 85 (1) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 สาหรับความผิดที่
เกดิ ข้ึนหลงั วนั ที่ 11 ธนั วาคม 2551
โทษ ไล่ออกจากราชการ
(8.) เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชานาญงาน จัดเก็บเงินรายได้ของสานักงานที่ดิน แต่ไม่นา
เงินท่จี ดั เก็บสง่ เปน็ รายไดแ้ ผ่นดิน แตน่ าเงนิ ไปใช้ประโยชนส์ ่วนตวั จัดทารายงานเงินคงเหลือประจาวันเป็นเท็จ
และเก็บรกั ษาเงินมดั จารังวัดไวเ้ กนิ วงเงนิ ทไี่ ด้รบั อนมุ ัติตอ่ เนอื่ งเป็นระยะเวลานาน
พฤติการณ์ เป็นความผิดวินัยตามมาตรา 82 (1) (2) (3) มาตรา 83 (1) ประกอบมาตรา
85 (7) และมาตรา 85 (1) (4) แห่งพระราชบัญญตั ริ ะเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ไล่ออกจากราชการ
-๙-
ออกเอกสารสทิ ธิ
โดยมชิ อบ
- ๑๐ -
3. ออกเอกสารสทิ ธิโดยมิชอบ
(1.) นักจัดการงานท่ัวไปปฏิบัติการ เมื่อคร้ังดารงตาแหน่งนักวิชาการที่ดินปฏิบัติการ
ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เป็นเจ้าหน้าท่ีรับผิดชอบเร่ืองการรังวัดแบ่งกรรมสิทธ์ิรวมโฉนดที่ดิน
แต่ในกระบวนการพิจารณาดาเนินการได้จดทะเบียนแบ่งกรรมสิทธ์ิรวมโดยไม่ได้เสนอผู้บังคับบัญชาตามลาดับช้ัน
ไม่นาคาขอลงบัญชีรับทาการประจาวัน (บ.ท.ด. 2) และไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม โดยได้ปลอมลายมือชื่อ
ผู้บังคบั บญั ชา เปน็ เหตุทาใหเ้ ปน็ โฉนดทดี่ นิ ท่ีไมช่ อบด้วยกฎหมาย โดยมีเจตนาปกปิดการทางานที่ล่าช้าของตน
มิให้ผู้บังคับบัญชาตาหนิ เป็นเหตุให้ผู้ถือกรรมสิทธิ์รวมได้รับโฉนดท่ีดินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและถูกยกเลิก
ในทีส่ ดุ
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยตามมาตรา 82 (2) มาตรา 85 (4) (7) แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(2.) ผู้ตรวจราชการกรม คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า เมื่อคร้ังดารงตาแหน่งเจ้าพนักงานที่ดิน
จังหวัด (สาขา) (เจ้าหน้าที่บริหารงานท่ีดิน 7) มีหน้าที่ในการควบคุม กากับ ดูแล ให้คาปรึกษา แนะนา
และบริหารราชการภายในหน่วยงาน พิจารณาตรวจสอบเรื่องราวและอนุมัติในการออกหนังสือแสดงสิทธิ
ในที่ดิน โดยอาศัยหลักฐานใบจอง (น.ส. 2) แต่ปรากฏผลการไต่สวนข้อเท็จจริงตามรายงานของคณะทางาน
อ่าน แปล ตีความ วิเคราะห์ข้อมูลภูมิสารสนเทศและสารวจสภาพพื้นท่ีบริเวณตาบลโยนก อาเภอเชียงแสน
จังหวัดเชียงราย ภายใต้คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบข้อมูลภูมิสารสนเทศสานักงานคณะกรรมการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าในปี พ.ศ. 2540 ท่ีดินตามใบจอง (น.ส. 2) มีสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่
ไม่มีการใช้ประโยชน์ ที่ดินมีสภาพเป็นหนองน้า บึง ป่าไม่ผลัดใบทุติยภูมิพ้ืนท่ีส่วนน้อยมีการใช้ประโยชน์
จึงเป็นที่ดินท่ีไม่สามารถออกใบจองได้ ตามมาตรา 33 แห่งประมวลกฎหมายท่ีดินและกฎกระทรวง ฉบับท่ี 43
(พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 ข้อ 14 (1) (2) และ
(3) ซึ่งในการเสนอเรื่องราวการออกโฉนดท่ีดิน หัวหน้าฝ่ายรังวัดได้เสนอความเห็นว่าจากการตรวจสอบ
จากภาพถา่ ยทางอากาศ ทีด่ ินบริเวณทรี่ งั วดั มีลักษณะลวดลายเปน็ หนองนา้ ควรสอบถามไปทางอาเภอเชียงแสน
และองค์การบริหารส่วนตาบลโยนก ว่าเป็นหนองน้าสาธารณประโยชน์หรือไม่ แต่ได้จงใจไม่ทาการตรวจสอบ
ให้รอบคอบและพิจารณาอนุมัติลงนามออกโฉนดท่ีดิน อันเป็นการออกโฉนดท่ีดินในที่ไม่มีการทาประโยชน์
มีสภาพเป็นหนองน้า บึง และเป็นพื้นที่ลุ่ม เป็นการออกโฉนดท่ีดินโดยมิชอบด้วยประมวลกฎหมายที่ดิน
มาตรา 59 ประกอบกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้
ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. 2497 ข้อ 14 (1) (2) และ (3) ทาใหเ้ กดิ ความเสยี หายแกท่ างราชการ
- ๑๑ -
พฤติการณ์ เป็นความผิดวินัยตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 84 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
พ.ศ. 2535 อนั เปน็ กฎหมายทีใ่ ชบ้ ังคบั ขณะกระทาผิด
โทษ ปลดออกจากราชการ
(3.) นายช่างรังวัดชานาญงาน คณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติว่า เมื่อคร้ังดารงตาแหน่ง
ช่างรังวัด 4 ปฏิบัติหน้าที่เดินสารวจปักหลักเขตในโครงการเดินสารวจออกโฉนดท่ีดินและสอบเขตที่ดิน
ทั้งตาบลโครงการเปล่ียน น.ส. 3 ก. เป็นโฉนดที่ดิน และการเดินสารวจออกโฉนดท่ีดินโดยใช้ระวางแผนท่ี
รูปถา่ ยทางอากาศ พนื้ ที่อย่ใู นเขตเขาสว่ นใหญ่มีความลาดชันเกินร้อยละ 35 แต่กลับมิได้ทาการรายงานสภาพ
ที่ดินว่าเป็นอย่างไรในฐานะเจ้าหน้าที่สารวจปักหลักเขต ย่อมรู้ว่าสภาพที่ดินดังกล่าวไม่อยู่ในหลักเกณฑ์
ท่ีจะออกโฉนดท่ีดินได้ตามกฎกระทรวงฉบับท่ี 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้
ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 ข้อ 14 (2) การกระทาดังกล่าวถือว่าเป็นการปฏิบัติหรือละเว้น
การปฏิบตั หิ นา้ ทร่ี าชการโดยมชิ อบ เพอ่ื ให้ตนเองหรือผู้อนื่ ได้ประโยชน์ท่ีมิควรได้
พฤติการณ์ เป็นการกระทาความผิดวินัยตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 82 วรรคสาม และมาตรา 85 วรรค สอง
แห่งพระราชบัญญัตริ ะเบยี บข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 อนั เปน็ กฎหมายที่ใชบ้ งั คบั ขณะกระทาผดิ
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(4.) เจ้าหน้าที่บริหารงานที่ดินอาเภอ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า ได้ดาเนินการออก
น.ส. 3 ก. จากหลักฐาน ส.ค. 1 โดยมิชอบ เน่ืองจากตาแหน่งที่ต้ังของท่ีดินตาม ส.ค. 1 ท่ีใช้เป็นหลักฐาน
ในการขอออก น.ส. 3 ก. ไม่ตรงตามตาแหน่ง และอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และเขตป่าสงวน
แห่งชาติเทือกเขากมลาแต่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างกรมที่ดินกับ ส.ป.ก. และไม่ต้ังคณะกรรมการ
ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537)
พฤตกิ ารณ์ เป็นการประทาความผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 82 วรรคสาม และมาตรา 85 วรรคสอง มาตรา 90
วรรคสอง และมาตรา 98 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 อันเป็น
กฎหมายท่ีใช้บงั คับขณะกระทาผดิ
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
- ๑๒ -
(5.) เจา้ พนักงานท่ดี ินชานาญงาน เมอื่ ครง้ั ดารงตาแหน่งผู้กากับการเดินสารวจ และเจ้าพนักงานท่ีดิน
ชานาญงาน เมื่อคร้ังดารงตาแหน่งเจ้าหน้าท่ีสอบสวนสิทธิ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า เมื่อครั้งปฏิบัติงาน
ในโครงการเร่งรัดการออกโฉนดท่ีดินท่ัวประเทศ ตามนโยบายแปลงสินทรัพย์เป็นทุนของรัฐบาล
ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ระยะที่ 2 มีอานาจหน้าที่ควบคุมดูแลงานสอบสวนสิทธิ ทราบข้อเท็จจริง
ดีอยู่แล้วว่าโฉนดที่ดินตาบลหนองทะเล อาเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ รวม 33 แปลง อยู่ในเขตป่าไม้ถาว ร
ซ่ึงต้องห้ามมิให้ออกโฉนดที่ดินมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แต่กลับรับรองและรายงานข้อเท็จจริง
นาเสนอวา่ ทด่ี ินไม่อยใู่ นเขตป่าไม้ถาวร
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 82 วรรคสาม และมาตรา 85 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2535
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(6.) นายชา่ งรังวัดชานาญงาน เจ้าพนักงานที่ดินชานาญงาน และนักวิชาการท่ีดินชานาญการ
ได้ร่วมกันเดินสารวจออกโฉนดที่ดินจากหลักฐาน ส.ค. 1 เป็นโฉนดที่ดินจานวน 9 แปลง โดยมิชอบ
ด้วยระเบียบและกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับท่ี 12
(พ.ศ. 2532) ว่าด้วยเงื่อนไขการออกโฉนดที่ดิน ข้อ 10 และจากการวิเคราะห์อ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศ
จากร่องรอยการทาประโยชน์และการตรวจสอบภาคสนามน่าเชื่อได้ว่า ส.ค. 1 ดังกล่าว ไม่ใช่ตาแหน่ง
ทอ่ี อกโฉนดทด่ี ินทงั้ 9 แปลง และเป็นการพยายามเดนิ สารวจออกโฉนดท่ีดินมากกวา่ ทแ่ี จ้งไวใ้ น ส.ค. 1
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยตามมาตรา 82 (2) (3) และ มาตรา 85 (1) (4) (7)
แห่งพระราชบัญญัติระเบยี บข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(7.) เจ้าพนักงานที่ดินอาวุโส เม่ือคร้ังดารงตาแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานที่ดิน 7 ได้รับมอบหมาย
ให้ปฏิบัติหน้าที่ผู้อานวยการศูนย์อานวยการเดินสารวจ ได้กระทาการร่วมกับเจ้าหน้าท่ีอ่ืนเดินสารวจ
ออกโฉนดท่ีดิน ในพื้นท่ีซึ่งอาจอยู่ในเขตอุทยานฯ และเป็นการออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินโดยไม่ได้มี
การแจ้งการครอบครอง (ส.ค. 1) และเป็นการเข้าครอบครองภายหลังวันท่ีประมวลกฎหมายท่ีดินใช้บังคับ
แตก่ ลับปลอ่ ยปละละเลย จนเปน็ เหตุให้มกี ารออกโฉนดท่ดี ินโดยมชิ อบดว้ ยกฎหมาย
- ๑๓ -
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 82 วรรคสาม และมาตรา 85 วรรคสอง มาตรา 90 วรรคสอง
และมาตรา 98 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 อันเป็นกฎหมาย
ท่ใี ช้บังคบั ขณะกระทาผิด
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(8.) เจ้าหน้าท่ีที่ดิน 5 มีหน้าท่ีความรับผิดชอบในการประชุมชี้แจงนัดหมายเจ้าของท่ีดิน
เจ้าของที่ดินข้างเคียง และผู้ปกครองท้องท่ี เพื่อนารังวัดปักหลักเขต เม่ือถึงวันนัดรังวัดให้วัดระยะหลักเขต
ถึงหลักเขต จดหมายเลขหลักเขต และทาแผนท่ีประมาณแสดงลักษณะแปลงที่ดิน (ร.ว. 31 ง) ส่งให้เจ้าหน้าท่ี
โยงยึดหลักเขตเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับระยะได้กระทาการร่วมกับเจ้าหน้าท่ีอื่นเดินสารวจออกเอกสารสิทธิ
โฉนดที่ดิน จานวน 8 แปลง ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานฯ และพ้ืนที่หวงห้ามตามประกาศกระทรวงมหาดไทย
ซ่ึงที่ดินดังกล่าวไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ท่ีจะออกโฉนดได้ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 และ 58 ทวิ
และกฎกระทรวง ฉบับท่ี 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน
พ.ศ. 2497 ข้อ 5 และ 14 เปน็ เหตุใหม้ กี ารออกเอกสารสทิ ธโิ ฉนดทีด่ นิ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบกับมาตรา 82 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง มาตรา 90 วรรคสอง
และมาตรา 89 วรรคสอง แห่งพระราชบญั ญตั ิระเบียบข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2535
โทษ ไล่ออกจากราชการ
(9.) เจ้าหน้าที่ที่ดิน 5 มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการสอบสวนสิทธิสร้างใบไต่สวน (น.ส. 5)
และบันทึกถ้อยคาผู้ปกครองท้องที่ ได้กระทาการร่วมกับเจ้าหน้าท่ีอื่นเดินสารวจออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดิน
จานวน 8 แปลง ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานฯ และพื้นท่ีหวงห้ามตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ซึ่งที่ดินดังกล่าว
ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ท่ีจะออกโฉนดได้ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 และ 58 ทวิ และกฎกระทรวง
ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ข้อ 5
และขอ้ 14 เป็นเหตุให้มีการออกเอกสารสทิ ธิโฉนดท่ดี นิ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบยี บขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551 ประกอบกบั มาตรา 82 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง มาตรา 90
วรรคสอง และมาตรา 89 วรรคสอง แหง่ พระราชบัญญัตริ ะเบยี บขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2535
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
- ๑๔ -
(10.) เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด (สาขา) ได้ทาการออก น.ส. 3 ก. จานวนเน้ือที่เกินกว่า
หลักฐาน ส.ค. 1 เดิม ท้ังๆ ที่ช่างผู้ทาการรังวัดได้เสนอผลการรังวัดว่าผู้ขอรังวัดได้นาท่ีดินนอกหลักฐาน
มารวมในการนาช้ีรังวัดด้วย อีกท้ังคณะกรรมการตรวจสอบสภาพที่ดินก็ได้มีบันทึกว่าผู้ขอได้นารังวัด
เกินหลักฐานเดิม การออก น.ส. 3 ก. ดังกล่าว จึงมิชอบด้วยระเบียบและกฎหมาย ประกอบกับผู้ใหญ่บ้าน
ไดล้ งชื่อรับรองโดยไม่ได้ลงพน้ื ทไ่ี ปรว่ มรงั วัดแปลงท่ีดนิ ดังกลา่ วแต่อย่างใด
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยตามมาตรา 85 (1) (7) ประกอบกับมาตรา 82 (2)
แหง่ พระราชบญั ญตั ริ ะเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
- ๑๕ -
ละท้งิ
หน้าที่ราชการ
- ๑๖ -
4. ละทิง้ หน้าทร่ี าชการ
(1.) เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชานาญงาน ละท้ิงหน้าที่ราชการต้ังแต่วันท่ี 18 กันยายน
2560 เป็นต้นไป และไมก่ ลับมาปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีราชการอกี เลย โดยไม่มีเหตผุ ลอันควร
พฤติการณ์ เป็นการกระทาความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละท้ิงหน้าที่ราชการติดต่อ
ในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่าสิบห้าวันโดยไม่มีเหตุผลอันควร ตามมาตรา 85 (3) แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการพลเรอื น พ.ศ.2551
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(2.) ลูกจ้างประจากรมทด่ี นิ ตาแหน่งพนักงานสถานที่ จงใจละท้ิงหน้าที่ราชการต้ังแต่วันท่ี 1
พฤษภาคม 2558 ถงึ วนั ท่ี 20 พฤษภาคม 2558 จนถงึ ปัจจบุ ันก็ยังไม่กลับมาปฏบิ ตั หิ นา้ ทรี่ าชการอกี เลย
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามข้อ 40 แห่งระเบียบกระทรวงการคลัง
ว่าด้วยลกู จา้ งประจาส่วนราชการ พ.ศ. 2537
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(3.) นายช่างรงั วัดชานาญงาน ไดร้ ับคาส่ังแตง่ ต้ังใหป้ ฏบิ ตั งิ านรังวัดและจัดทาแผนท่ีเพ่ือแสดง
แนวเขตที่ดินของรัฐ แต่ได้ผลงานต่ากว่าเป้าหมายที่กาหนด อีกท้ังมิได้ลงชื่อปฏิบัติงานในเวลาราชการที่
สานักงานที่ดินเกินกว่าสิบห้าวัน โดยมิได้ย่ืนใบลาตามระเบียบและมิได้แจ้งเหตุที่ไม่มาปฏิบัติราชการ
ให้ผ้บู งั คับบัญชาทราบ
พฤติการณ์ เป็นการกระทาความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 85 (3) แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ไลอ่ อกจาราชการ
(4.) นายชา่ งรังวดั ปฏบิ ตั ิงาน ไดร้ ับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบการรังวัดท่ีดินสาธารณประโยชน์
ผลการปฏิบัตงิ านไดร้ ายงานเฉพาะบญั ชรี าษฎรผู้ครอบครองทาประโยชน์เท่าน้ัน โดยไม่ได้รายงานผลการรังวัด
ออกหนังสอื สาคัญสาหรับท่ีหลวง และไม่ได้ส่งมอบงานตามโครงการฯ ก่อให้เกิดผลเสียหาย และได้ยืมเงินจาก
กองคลัง กรมที่ดิน เพ่ือเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานรังวัด แต่กลับไม่ไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย
โดยละทิ้งหน้าท่ีราชการเป็นระยะเวลาติดต่อในคราวเดียวกันสิบห้าวันโดยไม่มีเหตุอันสมควร และมีเจตนา
ไม่คนื เงินให้กบั กรมทดี่ ิน
- ๑๗ -
พฤตกิ ารณ์ เปน็ การกระทาผิดวินยั อยา่ งร้ายแรง ตามมาตรา 82 (3) ประกอบกับมาตรา 85
(7) และมาตรา 85 (1) (3) แหง่ พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(5.) นายช่างรังวัดปฏิบัติงาน ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าท่ีช่างโยงยึด ประจาศูนย์
อานวยการเดินสารวจออกโฉนดท่ีดิน ปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และได้มีการกาหนดแผนให้แก้ไขงาน
ให้แล้วเสร็จหลายคร้ัง แต่มิได้ใส่ใจปฏิบัติตาม และมิได้เข้ามาปฏิบัติงานเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 78 วัน
โดยมิได้ขออนญุ าตลาตามระเบยี บฯ
พฤติการณ์ เป็นการกระทาความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 85 (3) แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบยี บขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ปลดออกจากราชการ
(6.) นักวิชาการท่ีดินปฏิบัติการ ไม่มาปฏิบัติงานตามหน้าที่ท่ีได้รับมอบหมายต้ังแต่วันท่ี 28
มกราคม 2558 ถึงปจั จุบนั โดยไมย่ ืน่ ใบลาและไม่แจ้งเหตุท่ีไม่มาปฏิบัติงานให้ผู้บังคับบัญชาหรือเพื่อนร่วมงานทราบ
เม่ืออยู่บังคับบัญชามอบหมายเพื่อนร่วมงานให้ติดต่อทางโทรศัพท์ ก็ไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน คร้ันเมื่อ
ให้ไปติดตามท่ีบ้านพักเพื่อสอบถามถึงสาเหตุก็ไม่พบ พบแต่พี่ชายซึ่งแจ้งว่านักวิชาการที่ดินคนดังกล่าว
มิได้เจบ็ ปว่ ย คงพกั อยทู่ ีบ่ า้ นกับบิดาและมารดา
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 85 (3) แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบยี บข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(7.) นายช่างรังวัดปฏิบัติงาน ได้ปฏิบัติงานรังวัดและจัดทาแผนท่ีเพื่อแสดงแนวเขตที่ดินของรัฐ
ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 โดยมีเป้าหมายจานวน 88 แปลง ภายหลังส้ินสุดระยะเวลาปฏิบัติงาน
ตามโครงการฯ ได้ขอผัดการเดินทางเพื่อสะสางและแก้ไขงาน และกรมที่ดินอนุญาตให้ผัดการเดินทางได้
โดยกาหนดเง่ือนไขให้ต้องลงชื่อปฏิบัติงานในเวลาราชการ ณ สานักงานที่ดินพื้นท่ีท่ีดาเนินการ แต่ก็มิได้ลงชื่อ
ปฏบิ ัติงานเปน็ ระยะเวลาเกนิ สิบห้าวัน โดยไม่มีเหตุอนั สมควร
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามมาตรา 85 (3) แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบยี บข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ไล่ออกจากราชการ
- ๑๘ -
(8.) เจ้าหน้าที่ท่ีดินระดับ 4 ละทิ้งหน้าท่ีราชการในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่าสิบห้าวัน
โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และไม่กลับมาปฏิบัติราชการอีกเลย โดยไม่ปรากฏใบลา จึงถือว่าเป็นความผิดท่ี
ปรากฏชดั แจง้
พฤตกิ ารณ์ เป็นการกระทาความผดิ วนิ ัยอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบกับมาตรา 92 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 อันเปน็ กฎหมายท่ใี ชบ้ งั คับขณะกระทาความผิด
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(9.) นักวิชาการท่ีดินชานาญการ ได้รับมอบหมายจากเจ้าพนักงานท่ีดิน ให้มีหน้าท่ีพิจารณา
ออกโฉนดท่ีดินและนาเสนอผู้บังคับบัญชาลงนาม และรับผิดชอบในการเบิก – จ่าย และเก็บรักษาแบบพิมพ์
โฉนดท่ีดิน ได้อาศัยโอกาสท่ีตนมีตาแหน่งหน้าที่และครอบครองเอกสารดังกล่าว ปลอมลายมือช่ือเจ้าพนักงานท่ีดิน
ในการพิมพ์โฉนดท่ีดิน จานวน 10 ฉบับ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และไม่มาปฏิบัติหน้าท่ีราชการติดต่อ
ในคราวเดยี วกนั เปน็ เวลาเกนิ กวา่ สบิ ห้าวัน โดยไม่ย่ืนขออนญุ าตตอ่ ผู้บงั คับบญั ชา
พฤติการณ์ เป็นการกระทาความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 85 (1) (3) และ (4)
แห่งพระราชบญั ญตั ริ ะเบียบข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(10.) นายช่างรังวัดชานาญงาน ได้ละทิ้งหน้าท่ีราชการต้ังแต่วันท่ี 9 มกราคม 2560 ติดต่อ
ในคราวเดยี วกันเปน็ เวลาเกนิ กว่าสิบห้าวัน โดยไม่มีเหตุผลอันควร และได้กลับมาปฏิบัติราชการอีก รวม 4 วัน
ตอ่ มาไมม่ าปฏิบตั ริ าชการอีก รวม 7 วนั และตง้ั แตว่ นั ที่ 19 เมษายน 2560 ไมก่ ลับมาปฏิบตั ริ าชการอีกเลย
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามมาตรา 85 (3) แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ไล่ออกจากราชการ
(11.) นายช่างรงั วัดชานาญงาน กรมทด่ี ินได้มีคาส่งั ให้ย้ายไปดารงตาแหน่งอีกจังหวัดหนึ่งโดย
ไม่มีนโยบายให้เล่ือนการเดินทาง แต่ไม่เดินทางไปปฏิบัติหน้าท่ีตามคาสั่งที่ได้รับแต่งตั้งภายในเวลาที่กาหนด
และขาดราชการ 7 ครัง้ รวม 45 วนั โดยไมป่ รากฏว่าขออนญุ าตลากจิ ป่วย หรือลาพกั ผ่อน
- ๑๙ -
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) (3) และ (5) ประกอบ
มาตรา 84 แหง่ พระราชบัญญัตริ ะเบียบขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ลดเงนิ เดือนในอตั ราร้อยละ 2
(12.) นายชา่ งรังวัดปฏิบัติงาน ปฏิบัติงานตามโครงการแผนปฏิบัติการรังวัดและจัดทาแผนที่
เพ่ือแสดงแนวเขตทีด่ นิ ของรฐั ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ในทอ้ งทจ่ี ังหวัดหนง่ึ เม่ือสิ้นสุดระยะเวลาดาเนินการ
มีงานรังวัดค้างดาเนินการจานวน 37 แปลง ภายหลังกลับมาแก้ไขงานไม่ได้ลงชื่อปฏิบัติราชการตามระเบียบ
ในหลายช่วงเวลา รวม 23 วนั
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) ประกอบมาตรา 84
แหง่ พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ภาคทณั ฑ์
(13.) นักวิชาการท่ีดินชานาญการ ได้ละท้ิงหน้าท่ีราชการโ ดยไม่มีเหตุอันสมควร
แต่ไม่ติดต่อกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน ต้ังแต่เดือนพฤศจิกายน 2558 ถึงเดือนมกราคม 2559
รวมทั้งสิ้น 35 วัน และมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไม่มาปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ
โดยมไิ ดส้ ่งใบลาตามระเบยี บสานักนายกรัฐมนตรวี า่ ดว้ ยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) (3) และ (5)
ประกอบกบั มาตรา 84 แหง่ พระราชบัญญตั ิระเบยี บขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ลดเงนิ เดอื นในอัตราร้อยละ 4
(14.) นักวิชาการที่ดินชานาญการ ละท้ิงหน้าท่ีราชการโดยไม่ย่ืนใบลา รวม 42 วัน (33 วัน
ทาการ) แต่ไม่ตดิ ต่อกนั เป็นเวลาเกนิ กวา่ สิบหา้ วนั
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) (3) (5) ประกอบ
มาตรา 84 แหง่ พระราชบัญญตั ิระเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ลดเงินเดือนในอตั ราร้อยละ 4
- ๒๐ -
ได้รับโทษ
ตามคาพิพากษา
ถงึ ทีส่ ุดใหจ้ าคุก
- ๒๑ -
5. ไดร้ บั โทษตามคาพิพากษาถึงท่สี ุดใหจ้ าคุก
(1.) อดีตข้าราชการพลเรือนสามัญ ตาแหน่งนายช่างรังวัด 6 ได้กระทาผิดวินัยในกรณี
ถกู คมุ ขงั ตามหมายจาคกุ
พฤติการณ์ เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทาผิดอาญาจนได้รับโทษจาคุกโดย
คาพิพากษาถึงท่ีสุดให้จาคุก และเป็นความผิดที่ปรากฏชัดแจ้ง ตามมาตรา 85 (6) 95 วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบข้อ 65 (2) ของกฎ ก.พ. ว่าด้วย
การดาเนนิ การทางวนิ ัย พ.ศ. 2556
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(2.) เจ้าหน้าท่ีบริหารงานท่ีดิน 8 (เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด) มีหน้าที่ในการพิจารณาและ
ดาเนินการแบ่งแยกกรรมสิทธ์ิรวม ร่วมกันนาที่ดินตามโฉนดที่ดินท่ีมีพื้นที่ติดต่อกันหลายแปลงย่ืนคาขอ
แบ่งแยกออกเป็นที่ดินแปลงย่อย จานวน 653 แปลงติดต่อกัน เพื่อนาไปปรับปรุงให้เป็นท่ีอยู่อาศัย
ท่ีประกอบการพาณิชย์ จัดให้มีสาธารณูปโภคหรือบริการสาธารณะ แล้วจัดสรรท่ีดินดังกล่าวจาหน่ายให้แก่ผู้มีช่ือ
และประชาชนท่ัวไปโดยหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 286 เป็นเหตุให้รัฐได้รับ
ความเสยี หาย เป็นความผดิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ศาลฎีกามีคาพิพากษาให้ลงโทษจาคุก 3 ปี
พฤติการณ์ ความผิดวินัย ฐานกระทาความผิดอาญาจนได้รับโทษจาคุก หรือโทษท่ีหนักกว่า
จาคกุ โดยคาพพิ ากษาถึงทส่ี ดุ ให้จาคกุ หรือให้รับโทษทห่ี นกั กวา่ จาคกุ เว้นแตเ่ ปน็ โทษสาหรบั ความผิดทไ่ี ด้กระทา
โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 98 วรรคสอง และมาตรา 102 วรรคแปด แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 อนั เป็นกฎหมายท่ีใชบ้ ังคับขณะกระทาผิด
โทษ ปลดออกจากราชการ
(3.) พนักงานราชการ ตาแหน่งพนักงานพิมพ์ ได้กระทาผิดวินัยกรณีศาลอุทธรณ์ได้มี
คาพิพากษาคดีถึงท่ีสุดว่าได้กระทาผิดกฎหมายอาญา ฐานมีเมทแอมเฟตามีนและกัญชาไว้ในครอบครอง
ฐานผูเ้ สพเมทแอมเฟตามีน โทษจาคุก 17 เดือน 15 วนั
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามข้อ 24 (8) แห่งระเบียบ
สานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยพนกั งานราชการ พ.ศ. 2547
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
- ๒๒ -
(4.) ลูกจ้างประจา ตาแหน่งพนักงานพิมพ์ ระดับ ส.2 ได้กระทาผิดวินัยกรณีศาลจังหวัด
หนองคาย ได้มีคาพิพากษาถงึ ท่สี ดุ วา่ ไดก้ ระทาผิดอาญา ฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341
รวม 3 คดี โดยศาลให้จาคุก มกี าหนดรวม 15 เดือน
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามข้อ 46 แห่งระเบียบกระทรวงการคลัง
วา่ ดว้ ยลูกจ้างประจาของสว่ นราชการ พ.ศ. 2537
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
(5.) เจ้าพนักงานที่ดินปฏิบัติงาน ได้ใช้อาวุธปืนยิงนายช่างรังวัด ถึงแก่ความตาย ศาลชั้นต้น
และศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 371 และ 376
พระราชบัญญัติกระสุนปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490
มาตรา 7, 8 ทวิ วรรคหน่ึง 72 วรรคสาม และ 72 ทวิ วรรคสอง ให้จาคุก 10 ปี 6 เดือน คดีถึงที่สุดแล้ว
โดยศาลฎีกามีคาสัง่ ไม่รับฎกี า
พฤตกิ ารณ์ เป็นการกระทาความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 85 (6) และมาตรา 133
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 98 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบยี บขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 อนั เป็นกฎหมายทใี่ ช้บงั คับขณะกระทาความผิด
โทษ ไล่ออกจากราชการ
- ๒๓ -
จดทะเบยี นสทิ ธิ
และนติ กิ รรม
โดยมิชอบ
- ๒๔ -
6. จดทะเบียนสิทธแิ ละนติ กิ รรมโดยมชิ อบ
(1.) นักวิชาการทด่ี นิ ชานาญการ ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าหน้าที่รับคาขอและสอบสวนสิทธิ
และนิติกรรมประเภทขายที่ดินมีโฉนด ไม่ได้ทาการตรวจสอบให้ชัดเจนว่าผู้ซ้ือซ่ึงเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ
ไม่จดทะเบียนจัดต้ังเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย ไม่อาจดาเนินการขอจดทะเบียนซ้ือขายและลงนามห้างหุ้นส่วนฯ
เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดท่ีดินดังกล่าวได้ ทาให้การจดทะเบียนขายเป็นไปโดยคลาดเคล่ือน และมีผลให้
รายการจดทะเบียนแบ่งแยกในนามเดิมและแบ่งหักเป็นท่ีสาธารณประโยชน์ ซึ่งจดทะเบียนในลาดับถัดมา
คลาดเคลอ่ื นตามไปด้วย
พฤตกิ ารณ์ เป็นการกระทาความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบยี บขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 83 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
พ.ศ. 2535 อนั เป็นกฎหมายทใี่ ชบ้ งั คับขณะทาความผิด
โทษ ภาคทณั ฑ์
(2.) นกั วชิ าการท่ีดินชานาญการ ไดจ้ ดทะเบียนขายเฉพาะส่วนท่ีดนิ ตามโฉนดท่ีดินเกินอานาจ
และทุนทรัพย์ท่ีได้รับมอบหมาย และมิได้นาเร่ืองเสนอเจ้าพนักงานท่ีดินจังหวัด (สาขา) ซ่ึงเป็นผู้มีอานาจและ
ทุนทรัพย์ในการจดทะเบียนท่ีดินแปลงน้ีทราบ แต่กลับเสนอเร่ืองการจดทะเบียนดังกล่าวให้หัวหน้า
ฝ่ายทะเบียนทราบเทา่ นั้น
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ตามมาตรา 82 (2) มาตรา 83 (1)
ประกอบมาตรา 84 แหง่ พระราชบัญญัติระเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตัดเงนิ เดือนในอัตราร้อยละ 4 เป็นเวลาสองเดือน
(3.) นักวิชาการที่ดินชานาญการ เป็นเจ้าพนักงานท่ีดินผู้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
ประเภทให้ในโฉนดที่ดินไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นการจดทะเบียนระหว่างข้อกาหนด
ห้ามโอนสิบปีและได้มีการจดแจ้งรายการห้ามโอนในสารบัญจดทะเบียนด้านหลั งโฉนดท่ีดินอย่างชัดเจน
แต่ไม่ได้ตรวจสอบด้วยความรอบคอบเป็นผลทาให้การจดทะเบียนฯ ประเภทให้ในโฉนดท่ีดินดังกล่าว
ไมช่ อบด้วยกฎหมาย ตกเปน็ โมฆะ
พฤติการณ์ เป็นการกระทาความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ตามมาตรา 82 (2) ประกอบ
มาตรา 84 แหง่ พระราชบญั ญตั ิระเบยี บขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตัดเงนิ เดือนในอัตรารอ้ ยละ 4 เปน็ เวลาสองเดือน
- ๒๕ -
(4.) เจ้าพนักงานท่ีดินชานาญงาน เม่ือคร้ังดารงตาแหน่งเจ้าหน้าท่ีท่ีดิน 4 เป็นเจ้าหน้าท่ี
ผู้รับคาขอและสอบสวนสิทธิการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมประเภทโอนมรดก ได้ทาการโอนมรดก
ไปโดยผิดพลาดคลาดเคล่ือนไม่ตรวจสอบช่ือผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ถูกต้อง แต่การกระทาไม่ก่อให้เกิด
ความเสียหายร้ายแรงแกร่ าชการ และสามารถแก้ไขใหถ้ กู ตอ้ งได้
พฤติการณ์ เป็นการกระทาความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 84 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 อนั เปน็ กฎหมายทใี่ ช้บงั คับขณะทาความผดิ
โทษ ภาคทณั ฑ์
(5.) นกั วชิ าการทด่ี ินชานาญการ เป็นเจา้ พนักงานท่ีดินผู้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในที่ดิน
ตามโฉนดท่ีดินปราศจากความระมัดระวังในการตรวจสอบความถูกต้องประเภทของสัญญา และหนังสือ
มอบอานาจให้ถูกต้องตามระเบียบคาส่ังจนเป็นเหตุให้การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให้ที่ดินเฉพาะส่วน
ในโฉนดท่ดี ินดังกลา่ วไปไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยทีถ่ กู ต้องเปน็ การจดทะเบยี นโอนมรดกเฉพาะส่วน เป็นเหตุให้
อธบิ ดีกรมทีด่ ินมีคาส่งั เพิกถอนรายการจดทะเบียนดังกล่าว
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ตามมาตรา 82 (2) และมาตรา 84
แหง่ พระราชบัญญัตริ ะเบยี บขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตัดเงนิ เดอื นในอัตรารอ้ ยละ 4 เปน็ เวลาสองเดอื น
(6.) นักวิชาการที่ดินชานาญการ ปฏิบัติหน้าท่ีหัวหน้าฝ่ายทะเบียน ได้รับทราบการจดทะเบียน
เกินทุนทรัพย์ท่ีได้รับมอบหมาย โดยได้ลงลายมือช่ือรับทราบการจดทะเบียนดังกล่าวในฐานะหัวหน้า
ฝ่ายทะเบียน ซึ่งทุนทรัพย์ในการจดทะเบียนขายรายนี้ เป็นอานาจหน้าที่และทุนทรัพย์ในการจดทะเบียนสิทธิ
และนติ กิ รรมของเจา้ พนกั งานทีด่ ินจังหวดั และยังใชถ้ อ้ ยคาชี้แจงข้อเท็จจริงตอ่ ผ้บู งั คบั บญั ชาเปน็ ความเท็จ
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ตามมาตรา 82 (2) และมาตรา 83 (1)
ประกอบมาตรา 84 แห่งพระราชบัญญัติระเบยี บขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ภาคทณั ฑ์
(7.) เจ้าพนักงานท่ีดินอาวุโส เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ส่ังรับคาขอและจดทะเบียนโอนมรดก
ให้แก่บุคคลผู้ไม่มีสิทธิรับมรดก อธิบดีกรมที่ดินจึงได้มีคาสั่งให้แก้ไขรายการจดทะเบียนดังกล่าว อีกท้ัง
ผู้มสี ว่ นได้เสยี ยังไดน้ าความฟ้องเป็นคดตี ่อศาลปกครองกลาง
- ๒๖ -
พฤติการณ์ กระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) (3) ประกอบมาตรา 84
แหง่ พระราชบญั ญัติระเบียบข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ตัดเงนิ เดอื นในอตั ราร้อยละ 4 เป็นเวลาสองเดือน
(8.) เจ้าพนักงานที่ดินชานาญงาน เป็นพนักงานเจ้าหน้าท่ีผู้ตรวจเรื่องเสนอความเห็น
ใหจ้ ดทะเบยี นโอนมรดก โดยมิได้ตรวจเรื่องการจดทะเบียนโอนมรดกแปลงดังกล่าวในส่วนการรับมรดกแทนที่
ซ่ึงมิใช่ผู้สืบสันดานของทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดก จึงไม่มีสิทธิรับมรดกแทนที่ร่วมกับทายาทคนอื่น ๆ
อันเป็นการโอนมรดกให้แก่บุคคลผู้ไม่มีสิทธิรับมรดก เป็นเหตุให้การจดทะเบียนโอนมรดกคลาดเคล่ือนไม่ชอบ
ด้วยกฎหมาย และอธิบดีกรมที่ดินได้มีคาสั่งให้แก้ไขรายการจดทะเบียนดังกล่าว อีกท้ังผู้มีส่วนได้เสียยังได้
นาความฟ้องเป็นคดตี อ่ ศาลปกครองกลาง
พฤติการณ์ กระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) (3) ประกอบมาตรา 84
แหง่ พระราชบัญญตั ริ ะเบยี บข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ภาคทณั ฑ์
(9.) เจ้าพนักงานธุรการชานาญงาน เป็นพนักงานเจ้าหน้าท่ีผู้รับคาขอสอบสวนสิทธิ
ในการจดทะเบียนโอนมรดกและเป็นผู้ตรวจเรื่องเสนอความเห็นให้จดทะเบียนโอนมรดกให้กับผู้ซึ่งมิใช่
ผสู้ ืบสนั ดานเปน็ ผู้รับมรดกแทนที่ร่วมกับทายาทคนอ่ืน ๆ อันเป็นการโอนมรดกให้กับบุคคลผู้ไม่มีสิทธิรับมรดก
และยังจดบัญชีเครือญาติไม่ครบถ้วน โดยไม่ได้ระบุวัน เดือน ปี ท่ีตายไว้ใต้ช่ือทายาทและมิได้เขียนอายุและ
ระบุถ้อยคาว่า “ผู้เยาว์” ไว้ใต้ชื่อทายาท เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนโอนมรดก
ไปโดยคลาดเคล่ือนไม่ชอบด้วยกฎหมายและอธิบดีกรมที่ดินได้มีคาส่ังให้แก้ไขรายการจดทะเบียนดังกล่าว
อีกท้ังผูม้ ีส่วนได้เสียยังไดน้ าความฟ้องเป็นคดตี ่อศาลปกครองกลาง
พฤติการณ์ เป็นความผิดทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) (3) ประกอบมาตรา 84
แหง่ พระราชบัญญตั ิระเบยี บข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตดั เงินเดอื นในอตั รารอ้ ยละ 4 เป็นเวลาสองเดอื น
(10.) นักวิชาการที่ดินชานาญการ ทาการจดทะเบียนขายฝากที่ดินตามคาขอจดทะเบียนสิทธิ
และนิติกรรมและการสอบสวนสิทธิในท่ดี นิ (ท.ด. 1) ประเภทขายฝากมกี าหนดหนึ่งปีรวมสองแปลงและลงนาม
จดทะเบยี นในสารบัญจดทะเบียนหลังโฉนดที่ดินทั้งสองแปลง แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าท่ีจัดทาหนังสือสัญญาขายฝาก
เปน็ สบิ ปีแตกต่างจากในคาขอจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิตกิ รรมและการสอบสวนสทิ ธิในทดี่ ิน (ท.ด. 1) และสารบัญ
- ๒๗ -
การจดทะเบียนด้านหลังโฉนดที่ดินทั้งสอบฉบับ ซ่ึงหากตรวจสอบโดยละเอียดจะเห็นข้อแตกต่าง แต่ไม่ตรวจสอบ
ทาให้มีการจดแจ้งเอกสารรายการจดทะเบียนไปโดยคลาดเคลื่อน เป็นเหตุให้รองอธิบดีซ่ึงได้รับมอบหมาย
จากอธบิ ดกี รมทด่ี ินไดม้ คี าสัง่ แกไ้ ขเอกสารรายการจดทะเบยี นดงั กล่าว
พฤติการณ์ กระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 83 (4) ประกอบมาตรา 84
แหง่ พระราชบัญญัติระเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตดั เงินเดือนในอตั ราร้อยละ 4 เป็นเวลาสองเดือน
(11.) นักวิชาการท่ีดินชานาญการพิเศษ เมื่อคร้ังดารงตาแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานท่ีดิน
อาเภอ เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับคาขอสอบสวนสิทธิ และจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ประเภทขาย
ในหนังสือรับรองการทาประโยชน์ น.ส. 3 ก. โดยไม่ตรวจสอบสิทธิและความสามารถของบุคคลจากเอกสาร
หลักฐานในการจดทะเบียนและความถูกต้องก่อนจดทะเบียนด้วยความละเอียดรอบคอบ ระมัดระวัง ทั้งที่
ขณะทานติ กิ รรมผู้ขายร่วม ยงั เปน็ ผูเ้ ยาว์ไม่บรรลนุ ิติภาวะ ซึ่งจาเป็นต้องขออนุญาตจากศาลกอ่ น ทาให้นิติกรรม
ดังกล่าวในส่วนของผู้เยาว์ตกเป็นโมฆะ จึงเป็นการจดทะเบียนไปโดยคลาดเคลื่อน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เฉพาะในส่วนของผู้เยาว์เป็นเหตุให้รองอธิบดีซ่ึงได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมท่ีดินมีคาสั่งแก้ไขรายการ
จดทะเบียนท่ดี นิ ประเภทขายใน น.ส. 3 ก. ดงั กล่าว
พฤติการณ์ กระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 83 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
พ.ศ. 2535 ซึง่ เป็นกฎหมายท่ีใช้บังคบั ขณะกระทาความผดิ
โทษ ภาคทณั ฑ์
(12.) นักจัดการงานทั่วไปชานาญการ กรณีเม่อื คร้ังดารงตาแหนง่ เจ้าหนา้ ที่บริหารงานท่ีดิน 6
ฝ่ายทะเบียน ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามวิธีปฏิบัติของทางราชการ กรณีคาขอแบ่งแยกที่ค้างระหว่างดาเนินการของ
ฝ่ายทะเบียน ซง่ึ วธิ ปี ฏิบตั ิกาหนดว่า ถ้าโอนกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองไปยังบุคคลภายนอกแล้ว หากผู้รับโอน
มีความประสงค์จะดาเนินการต่อไปให้ผู้รับโอนขอสรวมสิทธิ และทาเรื่องดาเนินการต่อไป แต่กรณีน้ี
มีการรังวัดแบ่งขายไว้ก่อนจดทะเบียนขาย ซ่ึงผู้รับโอนประสงค์จะสรวมสิทธิผู้ขาย แต่เจ้าหน้าที่รายน้ี
กลับไม่ยนิ ยอมให้ผขู้ อสรวมสทิ ธิการรังวัดแบ่งขาย แตจ่ ะให้ผขู้ อยกเลิกคาขอรงั วัดเดิม จนเป็นเหตุให้ผู้ขอสรวมสิทธิ
ต้องเจ้าพบเจ้าพนกั งานที่ดินจงั หวดั จึงยอมดาเนนิ การให้ผู้ขอสรวมสทิ ธิตามประสงค์
พฤติการณ์ กระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 85 วรรคหน่ึง และมาตรา 94 วรรคหนึ่ง
แห่งพระราชบัญญัตริ ะเบียบข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2535 อนั เป็นกฎหมายท่ใี ชบ้ ังคบั ขณะกระทาความผดิ
โทษ ตัดเงนิ เดอื นในอัตรารอ้ ยละ 4 เป็นเวลาสองเดอื น
- ๒๘ -
(13.) นักวิชาการท่ีดินชานาญการ เป็นเจ้าพนักงานที่ดินผู้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
ประเภทให้ที่ดินเฉพาะส่วนในโฉนดที่ดินไปโดยคลาดเคลื่อน เป็นเหตุให้อธิบดีกรมที่ดินมีคาส่ังให้เพิกถอน
รายการจดทะเบียน แม้คู่กรณีจะยินยอมให้แก้ไขเพ่ือเพิกถอน อันไม่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง
แต่การดาเนินการที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน และไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว ย่อมกระทบต่อความเชื่อมั่น
ตอ่ ระบบการจดทะเบียน
พฤติการณ์ กระทาผิดวนิ ัยอย่างไม่รา้ ยแรงตามมาตรา 82 (2) และมาตรา 84 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบยี บข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ภาคทณั ฑ์
(14.) เจ้าพนักงานที่ดินชานาญงาน เป็นเจ้าหน้าท่ีสอบสวนสิทธิในการจดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรมประเภทให้ มีหน้าท่ีตรวจสอบการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและภาษีอากรให้ถูกต้องตามระเบียบ
กอ่ นเสนอจดทะเบยี น ได้เรียกเก็บคา่ ธรรมเนยี มในการจดทะเบียนขาดไปและเรยี กเก็บภาษีเงินไดบ้ คุ คลธรรมดา
เกินไป เนอื่ งจากผ้รู บั ใหเ้ ปน็ ญาตขิ องผู้ใหม้ ิใชเ่ ปน็ การให้ระหวา่ งผ้บู พุ การกี บั ผสู้ ืบสนั ดาน หรือระหว่างค่สู มรส
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (3) ประกอบมาตรา 84
แห่งพระราชบัญญตั ริ ะเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตัดเงินเดือนในอัตราร้อยละ 4 เปน็ เวลาสองเดอื น
(15.) นกั วชิ าการท่ีดินชานาญการ เปน็ เจ้าพนกั งานทีด่ นิ ผ้จู ดทะเบียน ในการจดทะเบียนสิทธิ
และนิติกรรมประเภทให้ มีหน้าที่ตรวจสอบการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและภาษีอากรให้ถูกต้องตามระเบียบ
ก่อนจดทะเบียน แต่ไม่ตรวจสอบโดยละเอียดว่า ผู้รับให้เป็นญาติของผู้ให้ มิใช่ผู้บุพการีกับผู้สืบสันดานหรือ
ระหวา่ งคู่สมรส ทาให้เรยี กเกบ็ ค่าธรรมเนยี มในการจดทะเบียนและเรยี กเกบ็ ภาษเี งินได้บุคคลธรรมดาไม่ถูกต้อง
แตไ่ ม่ปรากฏข้อเทจ็ จรงิ วา่ มพี ฤตกิ ารณท์ จุ ริต
พฤติการณ์ กระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (3) ประกอบมาตรา 84
แหง่ พระราชบัญญัติระเบยี บข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตัดเงินเดอื นในอัตรารอ้ ยละ 4 เป็นเวลาสองเดอื น
(16.) เจ้าพนักงานท่ีดินชานาญงาน เป็นพนักงานเจ้าหน้าท่ีสอบสวนสิทธิและนิติกรรม
ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมประเภทขาย แต่ไม่ได้สอบสวนถึงสิทธิแล้วความสามารถของตัวแทน
และของอานาจของตัวแทนท่ีจะทาการตามที่ได้รับมอบหมาย แต่กลับใช้ความรู้สึกส่วนตัวตัดสินใจดาเนินการ
ทาให้การจดทะเบียนขายไม่ชอบด้วยกฎหมาย ภายหลังรองอธิบดีกรมท่ีดิน ซ่ึงได้รับมอบหมายจากอธิบดี
มคี าสั่งให้เพิกถอนรายการจดทะเบยี นดงั กล่าว
- ๒๙ -
พฤติการณ์ กระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) ประกอบมาตรา 84
แหง่ พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตดั เงนิ เดอื นในอัตราร้อยละ 4 เป็นเวลาสองเดือน
(17.) นักวชิ าการที่ดนิ ปฏบิ ัตกิ าร กรณีเปน็ เจา้ หนา้ ทสี่ อบสวนสิทธิการจดทะเบียนประเภทให้
ท้ังที่สารบัญจดทะเบียนด้านหลังโฉนดระบุห้ามโอนภายในสิบปีอย่างชัดเจน แต่ไม่ตรวจสอบรายละเอียด
เก่ียวกับโฉนดที่ดินดังกล่าวด้วยความละเอียดรอบคอบ เป็นผลให้การจดทะเบียนประเภทให้รายน้ีไม่ชอบด้วย
กฎหมาย ตกเป็นโมฆะ และอธิบดีกรมท่ีดินให้เพิกถอนรายการจดทะเบียนดังกล่าว แต่ไม่ปรากฏว่ามีเจตนา
กระทาโดยทุจริต และผู้มีส่วนได้เสียยินยอมให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดาเนินการเพิกถอนรายการจดทะเบียนได้
จงึ ไมก่ อ่ ให้เกิดความเสียหายรา้ ยแรงแกร่ าชการ
พฤติการณ์ กระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) ประกอบมาตรา 84
แหง่ พระราชบัญญตั ริ ะเบียบข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ตดั เงินเดือนในอัตรารอ้ ยละ 4 เปน็ เวลาสองเดือน
(18.) นักวิชาการท่ีดินชานาญการ เป็นเจ้าพนักงานท่ีดินผู้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
ประเภทให้ ซ่ึงมีการจดแจ้งรายการห้ามโอนในสารบัญจดทะเบียนด้านหลังท่ีดินอย่างชัดเจน แต่ไม่ตรวจสอบ
รายละเอียดเก่ียวกับโฉนดท่ีดินดังกล่าวด้วยความละเอียดรอบคอบ และได้ดาเนินการจดทะเบียนให้แก่ผู้ขอ
เป็นผลทาให้การจดทะเบียนประเภทให้รายดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตกเป็นโมฆะ มาตรา 150
แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และอธิบดีกรมที่ดินมีคาสั่งเพิกถอนรายการจดทะเบียนดังกล่าว
แต่เน่ืองจากทางการสอบสวนไม่ปรากฏว่า มีเจตนากระทาโดยทุจริต และผู้มีส่วนได้เสียยินยอมให้พนักงาน
เจ้าหน้าท่ีดาเนนิ การเพกิ ถอนรายการจดทะเบยี นได้ จงึ ไม่ก่อให้เกดิ ความเสยี หายรา้ ยแรงแกท่ างราชการ
พฤติการณ์ กระทาผิดวินัยอย่างไม่รา้ ยแรงตามมาตรา 82 (2) ประกอบมาตรา 84
แห่งพระราชบญั ญัตริ ะเบยี บขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตัดเงินเดือนในอัตราร้อยละ 4 เปน็ เวลาสองเดือน
(19.) เจ้าพนักงานท่ีดินชานาญงาน เมื่อคร้ังดารงตาแหน่งเจ้าหน้าท่ีที่ดิน 4 เป็นเจ้าหน้าที่
รับคาขอและสอบสวนสิทธิเพ่ือดาเนินการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามคาขอจดทะเบียนจานองที่ดิน
เป็นประกัน แต่ไม่ได้ดาเนินการสอบสวนสิทธิว่าผู้ขอจานองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์
ที่ขอจดทะเบียนจานองที่แท้จริง ดังน้ัน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ขอจานองไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธ์ิท่ีแท้จริง
จึงทาให้การจานองไม่ชอบด้วยกฎหมาย ภายหลังรองอธิบดีซึ่งได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมท่ีดินมีคาสั่ง
ใหเ้ พิกถอนรายการจดทะเบียนจานองเปน็ ประกนั ดังกล่าว
- ๓๐ -
พฤติการณ์ เป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 84 วรรคหนึ่ง และมาตรา 85 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2535 อนั เป็นกฎหมายทใ่ี ช้บงั คับขณะกระทาความผิด
โทษ ตดั เงนิ เดือนในอัตรารอ้ ยละ 4 เปน็ เวลาสองเดือน
(20.) นักวิชาการท่ีดินชานาญการพิเศษ เม่ือครั้งดารงตาแหน่งนักวิชาการที่ดิน 5
เป็นเจ้าหน้าท่ผี ู้สอบสวนสิทธกิ ารจดทะเบียนประเภทจานองเปน็ ประกัน ให้ดาเนินการจดทะเบียนจานองให้กับ
ผู้ท่ีไมใ่ ช้ผู้มกี รรมสิทธ์ิ เปน็ เหตใุ ห้การจดทะเบียนดังกลา่ วไม่ชอบด้วยกฎหมาย รองอธิบดีซึง่ ได้รับมอบหมายจาก
อธิบดกี รมทด่ี ินมคี าสง่ั อธิบดีกรมทีด่ นิ ให้เพกิ ถอนรายการจดทะเบียนดังกล่าว
พฤติการณ์ กระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 84 วรรคหนึ่ง และมาตรา 85 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2535 อันเป็นกฎหมายทีใ่ ชบ้ ังคบั ขณะกระทาความผิด
โทษ ตัดเงินเดือนในอัตราร้อยละ 4 เป็นเวลาสองเดือน
(21.) เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด (สาขา) (นักวิชาการท่ีดิน) ชานาญการ กรณีเมื่อคร้ัง
ดารงตาแหน่งนักวิชาการท่ีดิน 6 เป็นเจ้าพนักงานท่ีดินผู้จดทะเบียนประเภทแบ่งทรัพย์สินระหว่างคู่สมรส
ทั้งที่ผู้ขอยังคงเป็นสามีภรรยากันอยู่ตามกฎหมาย การสมรสมิได้ส้ินสุดลงด้วยการหย่าแต่อย่างใด จึงไม่อยู่ในเกณฑ์
ที่จะจดทะเบียนประเภทแบ่งทรัพย์สินระหว่างคู่สมรสได้ ซ่ึ งเป็นการไม่ปฏิบัติตามคาสั่งกรมที่ดิน
เร่ืองจดทะเบียนประเภทแบ่งทรัพย์สินระหว่างคู่สมรส แม้ข้อเท็จจริงจะปรากฏว่า ผู้มีส่วนได้เสียไม่คัดค้าน
และยนิ ยอมให้ทาการแก้ไขและเพิกถอนรายการจดทะเบยี นได้
พฤติการณ์ เป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 85 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรอื น พ.ศ. 2535
โทษ ตดั เงนิ เดือนในอตั ราร้อยละ 4 เปน็ เวลาสองเดอื น
(22.) นักวิชาการที่ดินชานาญการ เป็นเจ้าพนักงานที่ดินผู้ดาเนินการจดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรมประเภทขาย ซ่ึงก่อนมีการจดทะเบียนรายน้ีได้มีการจดทะเบียนให้ระหว่างระยะเวลาห้ามโอนยังไม่ส้ินสุด
ทาให้การจดทะเบียนเป็นโมฆะต้องเพิกถอน ดังน้ัน ผู้มีชื่อขายรายน้ีไม่ใช่ผู้ถือกรรมสิทธ์ิ แม้ในเวลาท่ีย่ืนคาขอ
ขยายระยะเวลาห้ามโอนจะสิ้นสุด ผู้ขายจึงไม่อาจขายท่ีดินได้ เม่ือจดทะเบียนขายไปการจดทะเบียนดังกล่าว
จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เปน็ เหตใุ ห้อธบิ ดกี รมท่ดี นิ มีคาสง่ั เพิกถอนรายการจดทะเบยี นดังกลา่ ว แม้ผู้มีสว่ นได้เสีย
ยินยอมใหเ้ พกิ ถอนได้และไม่กอ่ ใหเ้ กดิ ความเสียหายรา้ ยแรงแก่ราชการกต็ าม
- ๓๑ -
พฤติการณ์ กระทาผิดวินัยอย่างไม่รา้ ยแรงตามมาตรา 82 (2) ประกอบมาตรา 84
แห่งพระราชบัญญตั ิระเบียบขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ตดั เงนิ เดอื นในอัตราร้อยละ 4 เป็นเวลาสองเดือน
(23.) นักวิชาการท่ีดินชานาญการ เป็นเจ้าหน้าที่รับคาขอและสอบสวนสิทธิ การจดทะเบียน
สทิ ธแิ ละนติ ิกรรมประเภทให้ ไม่สอบสวนสิทธิและความสามารถของบุคคลตลอดถึงความสมบูรณ์แห่งนิติกรรม
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และไม่ตรวจสอบเอกสารที่เก่ียวข้องกับการจดทะเบียนด้วยความ
ละเอียดรอบคอบ ก่อนเสนอเจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียน ทาให้ไม่พบว่าโฉนดท่ีดินดังกล่าวได้มีการลงบัญชี
อายัดแจ้งการยึดท่ีดิน ทั้งยังได้รายงานต่อผู้บังคับบัญชาในสัญญาให้ที่ดินว่าตรวจสอบแล้วไม่มีอายัดท้ังท่ีบัญชี
อายัดเรียกตามตัวอักษร (บ.ท.ด. 27) มีการบันทึกรายการอายัดท่ีดินโฉนดท่ีดินไว้อย่างชัดเจนเป็นเหตุให้
ผู้บังคับบัญชาหลงเชื่อและทาการจดทะเบียนประเภทให้ไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต่อมาอธิบดีกรมที่ดิน
ได้มีคาส่ังเพิกถอนรายการจดทะเบียนดังกล่าว แม้ตามทางการสอบสวนผู้มีส่วนได้เสียไม่คัดค้านการเพิกถอน
รายการจดทะเบียน และไมก่ ่อใหเ้ กิดความเสียหายอยา่ งรา้ ยแรงแก่ทางราชการ
พฤตกิ ารณ์ กระทาผิดวินยั อยา่ งไม่รา้ ยแรงตามมาตรา 82 (2) และมาตรา 83 (1) ประกอบ
มาตรา 84 แหง่ พระราชบัญญัติระเบยี บขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตดั เงินเดือนในอัตราร้อยละ 4 เปน็ เวลาสองเดือน
(24.) นักวชิ าการทดี่ นิ ชานาญการ เมอ่ื ครั้งปฏบิ ตั หิ นา้ ทที่ างฝา่ ยทะเบียน ได้รับมอบหมายจาก
ผู้บังคับบัญชาให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าท่ีลงบันทึกการอายัดท่ีดินตามหนังสือสรรพากรพ้ืนที่กรุงเทพมหานคร
ซึ่งแจ้งคาส่ังและประกาศของกรมสรรพากรให้ยึดโฉนดที่ดิน รวม 5 แปลง แต่ไม่ได้เอาใจใส่ ระมัดระวัง
ตรวจสอบให้ละเอียดรอบคอบ โดยได้ลงบันทึกการอายัดในบัญชีอายัดท่ีดิน (บ.ท.ด. 27) ท้ังสองบัญชี
และในระบบคอมพิวเตอร์ เพียง 3 แปลง ส่วนอีก 2 แปลง ไม่ได้ลงบันทึกอายัดไว้ ต่อมากรมบังคับคดี
มีหนงั สือแจ้งยดึ ทรพั ย์โฉนดทีด่ ิน รวม 6 แปลง (รวม 5 แปลงท่ีสรรพากรพื้นที่ฯ แจ้งยึดด้วย) และได้ลงบันทึก
การอายัดแล้ว แต่เมื่อกรมบังคับคดีมีหนังสือแจ้งถอนการอายัดท่ีดินท้ัง 6 แปลง กลับถอนอายัดท่ีดิน
ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ในคราวเดียวกันท้ังสองกรณี อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามคาส่ังกระทรวงมหาดไทย
เปน็ เหตใุ ห้การจดทะเบียนโอนขายรวม 6 โฉนดไมช่ อบด้วยกฎหมาย ทาให้เสียหายแก่ทางราชการ
พฤติการณ์ เป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 84 วรรคหน่ึง และมาตรา 85 วรรคหนึ่ง
แห่งพระราชบญั ญัตริ ะเบยี บข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2535
โทษ ลดเงินเดอื นในอัตราร้อยละ 4
- ๓๒ -
(25.) เจ้าพนักงานท่ีดินจังหวัด บ่ายเบ่ียงไม่ทาการจดทะเบียนจานองลาดับสองรวม 11
โฉนดทงั้ ที่อยใู่ นอานาจหน้าท่ีและทุนทรพั ย์ของตน
พฤติการณ์ เป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ตามมาตรา 82 (2) (8) ประกอบมาตรา 84
แห่งพระราชบญั ญัติระเบยี บขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตดั เงนิ เดือนในอัตรารอ้ ยละ 4 เปน็ เวลาสองเดือน
(26.) นักจัดการงานท่ัวไปชานาญการ เมื่อคร้ังปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานท่ีดินอาเภอได้ปฏิบัติ
หน้าที่ราชการดว้ ยความประมาทเลนิ เลอ่ ไม่รอบคอบรัดกุมในการพิจารณาสงั่ การ ในหนังสือมอบอานาจในการ
ดาเนินการออกใบแทนหนังสือรับรองการทาประโยชน์ และจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมประเภทขายท่ีดิน
อนั เปน็ เหตใุ ห้เกิดความเสียหาย
พฤติการณ์ เป็นการกระทาความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ตามมาตรา 83 (4)
แหง่ พระราชบญั ญัตริ ะเบียบขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ภาคทัณฑ์
(27.) เจา้ พนักงานที่ดินจังหวัด (สาขา) เมื่อคร้ังปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าฝ่ายทะเบียนได้สอบสวน
สิทธิและจดทะเบียนไถ่ถอนจากจานองในหนังสือรับรองการทาประโยชน์ โดยท่ีผู้ไถ่ถอนได้นาเอกสารสิทธิ
น.ส. 3 ก. และสัญญาจานอง ฉบับผู้จานองปรากฏข้อความว่า ได้รับเงินเรียบร้อยแล้วและยินยอมให้ไถ่ถอน
ลงช่ือผู้รับจานองมาจดทะเบียนไถ่ถอนจากจานอง แต่เมื่อได้เปรียบเทียบลายมือช่ือและพบข้อพิรุธลายมือช่ือ
ของผู้รับจานอง ท่ีสลักหลังสัญญาจานองมีความแตกต่างจากลายมือช่ือในหนังสือมอบอานาจท่ีเคยทาไว้
แต่หาได้ใช้ความระมัดระวังดังเช่นพนักงานเจ้าหน้าที่ทั่วไปพึงปฏิบัติด้วยการตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนไม่
กลับเชื่อคากล่าวอ้างของผู้ไถ่ถอน ซึ่งเป็นความเท็จ และต่อมาศาลได้มีคาพิพากษาให้ผู้ไถ่ถอนมีความผิด
ฐานปลอมเอกสาร โดยทาหลักฐานการสลักหลังสัญญาจานองปลอมมาขอยื่นไถ่ถอนจากจานองมีผลให้
รายการจดทะเบียนไถ่ถอนจากจานองดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอธิบดีกรมที่ดินคาส่ังให้เพิกถอน
รายการจดทะเบียนดังกล่าว
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ตามมาตรา 82 (2) และมาตรา 83 (4)
ประกอบกับมาตรา 84 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ภาคทัณฑ์
- ๓๓ -
(28.) นักวิชาการท่ีดินชานาญการ เป็นพนักงานเจ้าหน้าท่ีผู้จดทะเบียน ได้ดาเนินการ
จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมประเภทให้ในโฉนดที่ดิน โดยท่ีก่อนจดทะเบียนมิได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน
รายการในสารบัญแกท้ ะเบยี นด้านหลังโฉนดท่ีดินที่มีข้อกาหนดห้ามโอนไว้ ซึ่งปรากฏอยู่ท้ังฉบับสานักงานที่ดิน
และเจา้ ของที่ดนิ ถอื ว่าเปน็ การจดทะเบียนฝ่าฝนื ข้อหา้ มของกฎหมายโดยชดั แจง้
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ตามมาตรา 82 (2) ประกอบกับมาตรา 84
แหง่ พระราชบัญญตั ริ ะเบยี บข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตัดเงนิ เดือนในอัตรารอ้ ยละ 4 เป็นเวลาสองเดือน
- ๓๔ -
การรังวัดไม่ถูกตอ้ ง
ตามระเบยี บ
- ๓๕ -
7. การรังวดั ไม่ถูกต้องตามระเบยี บ
(1.) นายช่างรังวัดชานาญงาน เป็นพนักงานเจ้าหน้าท่ีผู้ได้รับมอบหมายให้ดาเนินการรังวัด
แบ่งแยกในนามเดิม แต่ได้ดาเนินการเพียงรายงานข้อขัดข้องในการรังวัดให้ผู้บังคับบัญชาทราบด้วยวาจา
รวมทั้งบันทึกเจ้าของที่ดินข้างเคียงและคนงานรังวัดว่ายังรังวัดไม่แล้วเสร็จ เพราะเจ้าของท่ีดินไม่มานารังวั ด
และสภาพท่ีดินรกมาก โดยมิได้จัดทาบันทึกถ้อยคา (ท.ด. 16) รายงานเหตุขัดข้องเพื่อทาการงดรังวัด
ให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามนัยหนังสือกรมท่ีดินท่ีกาหนดว่ากรณีสภาพพ้ืนท่ีมีปัญหาอุปสรรคจนถึงขนาด
ไม่สามารถรงั วัดได้ หากผู้ขอรังวัดมีความประสงค์ให้งดทาการรังวัดให้ช่างรังวัดจัดทาบันทึกถ้อยคา (ท.ด. 16)
และให้ช่างรังวัดอ่านข้อความในบันทึกให้ผู้ขอรังวัดทราบก่อนลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน หรือกรณีผู้ขอ
ไม่มานาทาการรังวัดให้บันทึกถ้อยคา (ท.ด. 16) เจ้าของท่ีดินข้างเคียงหรือผู้ปกครองท้องที่ พร้อมลงชื่อไว้
เปน็ หลักฐานและนาบนั ทึกดังกล่าวรวมไวใ้ นเรือ่ งพร้อมรายงานผลการรงั วัด (ร.ว. 3 ก) ถึงสาเหตกุ ารรงั วดั
พฤติการณ์ กระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) ประกอบมาตรา 84
แหง่ พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ภาคทัณฑ์
(2.) นายช่างรังวัดชานาญงาน ทาการรังวัดที่ดินประเภทแ บ่งแยกในนามเดิมที่ดิน
ตามหลักฐานโฉนดทด่ี นิ แตไ่ ม่ปกั หลกั เขตจานวน 6 หลัก แต่กลับรายงานผลการรังวัด (ร.ว. 3 ก) ว่าได้ทาการ
ปักหลักเขตแล้วจานวน 13 หลัก นอกจากนี้ได้ทาการรังวัดออกโฉนดท่ีดินตามหลักฐาน น.ส. 3 ก. ทาการ
รงั วดั เมือ่ วนั ที่ 8 ธนั วาคม 2557 แตร่ ายงานผลการรังวดั เมื่อวันที่ 7 มิถนุ ายน 2559 เปน็ ระยะเวลาหา่ งจาก
วนั ทาการรังวดั ถงึ 1 ปี 6 เดอื น
พฤติการณ์ การกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงมาตรา 82 (3) ประกอบมาตรา 84
แหง่ พระราชบัญญตั ิเดียวกัน
โทษ ตัดเงินเดอื นในอตั ราร้อยละ 4 เปน็ เวลาสามเดอื น
(3.) นายช่างรังวัดชานาญงาน เป็นเจ้าหน้าที่เดินสารวจปักหลักเขตท่ีดิน ได้ตรวจสอบ
น.ส. 3 ก. ทีผ่ ขู้ อใชเ้ ปน็ หลกั ฐานทดี่ ินในการนาเดินสารวจพบวา่ ไม่ตรงตามตาแหน่งทีด่ ิน แต่ผู้ขอนาเดินสารวจ
ขอให้ทาการรังวัดไปก่อนโดยจะส่งมอบหลักฐาน น.ส. 3 ก. ซ่ึงเป็นหลักฐานของที่ดินแปลงท่ีนาเดินสารวจ
ต่อเจ้าหน้าท่ีสอบสวนสิทธิในภายหลัง จึงดาเนินการทาการรังวัดปักหลักเขตท่ีดินแล้วเขียนรายการสารวจ
เขตที่ดินนาส่งผู้สอบสวน (ร.ว. 40) โดยระบุสาระสาคัญ สรุปได้ว่า ผู้นารังวัดมีหนังสือสาคัญเดิมเพ่ือให้
เจ้าหนา้ ที่สอบสวนสิทธดิ าเนนิ การตอ่ ไป การกระทาดงั กล่าวเข้าลักษณะเปน็ การไมป่ ฏิบัติตามระเบียบกรมท่ีดิน
- ๓๖ -
ว่าด้วยการกาหนดหน้าท่ีและความรับผิดของเจ้าหน้าท่ีที่ปฏิบัติงานโครงการเดินสารวจออกโฉนดที่ดิน
และสอบเขตท่ีดินทั้งตาบล พ.ศ. 2521 และระเบียบกรมท่ีดิน ว่าด้วยการเดินสารวจออกโฉนดท่ีดินและ
สอบเขตท่ีดิน พ.ศ. 2529 ซึ่งใช้บังคับขณะนั้น จนเป็นเหตุให้อธิบดีกรมท่ีดินได้มีคาสั่งเพิกถอนโฉนดท่ีดิน
เนื่องจากออกคนละตาแหน่งกับตาแหน่งท่ีดินของ น.ส. 3 ก. ทีใช้เป็นหลักฐานในการออกโฉนดท่ีดิน
และออกทบั ท่ีดนิ ตามหลักฐาน น.ส. 3 ก. แปลงอื่น
พฤติการณ์ กระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 133 แห่ง พระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 85 วรรคหน่ึง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 85 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือน พ.ศ. 2535 อันเป็นกฎหมายท่ีใชบ้ งั คบั ขณะกระทาความผิด
โทษ ตัดเงินเดือนในอัตราร้อยละ 4 เป็นเวลาสองเดอื น
(4.) นายช่างรังวัดชานาญงาน ได้กระทาการสารวจรังวัดเพ่ือออกโฉนด โดยตรวจหลักฐานที่
ที่ดินท่ีขอออกโฉนดไม่ตรงตามตาแหน่งที่ดินที่ขอรังวัด แต่ผู้ขอขอให้ดาเนินการไปก่อน โดยจะส่งหลักฐาน
ให้ภายหลัง จึงดาเนินการรังวัดปักหลักเขตและเขียนรายงานสารวจเขตที่ดินว่าผู้นารังวัดมีหลักฐานที่ดินครบถ้วน
กรณีจึงไม่เป็นไปตามที่ระเบียบกฎหมายกาหนด ทาให้ภายหลังอธิบดีกรมท่ีดินมีคาส่ังเพิกถอนโฉนดที่ดิน
เน่ืองจากออกไม่ตรงตาแหน่งท่ีดนิ
พฤติการณ์ เป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 96 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบข้อ 67 (2) และ 70 (2) ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดาเนินการ
ทางวินัย พ.ศ. 2556
โทษ ตัดเงินเดือนในอตั ราร้อยละ 4 เปน็ เวลาสองเดอื น
(5.) นายช่างรังวัดชานาญงาน เม่ือวันที่ 8 ธันวาคม 2531 ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ทาการ
รังวัดตามคาขอรังวัดออกโฉนดที่ดิน แต่ไม่ปรากฏว่าได้มีการตรวจสอบและพิจารณาถึงสาเหตุท่ีรูปแผนท่ี
แตกต่างจากเดมิ และแนวเขตทด่ี ินเปลย่ี นแปลงไปจากเดิม ว่าเปน็ เพราะเหตใุ ด ทั้งท่ีมีรูปแผนท่ีแตกต่างจากเดิม
อย่างเห็นได้ชัดและแนวเขตท่ีดินเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งเดิมจดทางสาธารณประโยชน์เพียงด้านเดียว
กลายเป็นจดทางสาธารณประโยชน์สองด้านและไม่ปรากฏว่าได้มีการปฏิบัติตามระเบียบของคณะกรรมการ
จัดท่ีดินแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2532) ข้อ 9 แต่อย่างใด จึงเป็นเหตุให้มีการออกโฉนดท่ีดินทับที่ดิน
ตามหลักฐาน น.ส. 3 แปลงข้างเคียงบางส่วน และต่อมาศาลฎีกาได้มีคาส่ังพิพากษาให้เพิกถอนโฉนดที่ดิน
ที่ออกไปดังกลา่ ว
- ๓๗ -
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 68 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2518 อนั เป็นกฎหมายทใ่ี ช้บงั คบั ในขณะกระทาความผดิ
โทษ ตดั เงนิ เดอื นในอัตราร้อยละ 4 เป็นเวลาสองเดือน
(6.) นายช่างรังวัดชานาญงาน เมื่อคร้ังดารงตาแหน่งนายช่างรังวัด 4 ปฏิบัติหน้าท่ี
เจ้าหน้าท่ีเดินสารวจปักหลักเขต ศูนย์อานวยการเดินสารวจออกโฉนดที่ดิน เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ. 2544
มีหน้าท่ีและความรับผิดชอบในการนัดหมายเจ้าของที่ดิน เจ้าของท่ีดินข้างเคียงและผู้ปกครองท้องที่
เพ่ือนารังวัดปักหลักเขตตรวจสอบหลักฐานเอกสารท่ีดินเดิม เขียนรายละเอียดเก่ียวกับระยะ ชื่อเจ้าของท่ีดิน
และเจ้าของที่ดินข้างเคียงพร้อมท้ังให้เลขท่ีดินสมมุติ เขียนรายการสารวจเขตที่ดิน (ร.ว. 40) ส่งให้
เจ้าหน้าท่ีสอบสวนสิทธิได้ทาการเดินสารวจออกโฉนดท่ีดิน 4 แปลง โดยอาศัยแบบแจ้งการครอบครอง
(ส.ค. 1) แต่ไม่ได้ตรวจสอบว่าที่ดินท่ีขอออกโฉนดเป็นที่ดินแปลงเดียวกันที่ดินตาม ส.ค. 1 หรือไม่
ซ่ึงหากตรวจสอบจะพบว่าข้างเคียงทุกด้านเปล่ียนแปลงไม่สอดคล้องกับข้างเคียงตามหลักฐาน ส.ค. 1
และหากตรวจสอบกับทะเบียนครอบครองจะพบว่า ส.ค. 1 ดังกล่าว ได้ออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์
(น.ส. 3) ไปแลว้ จงึ เป็นเหตใุ หภ้ ายหลังอธบิ ดีกรมที่ดินมีคาสง่ั เพิกถอนโฉนดที่ดินท้งั 4 แปลง
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 85 วรรคหน่ึง แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2535 ซงึ่ เปน็ กฎหมายที่ใช้บงั คบั ในขณะกระทาความผิด
โทษ ตดั เงินเดอื นในอตั รารอ้ ยละ 4 เป็นเวลาสองเดือน
(7.) นายช่างรังวัดชานาญงาน เมื่อคร้ังดารงตาแหน่งช่างรังวัด 2 ได้รับมอบหมายให้
ปฏิบัติหนา้ ที่เจ้าหนา้ ที่เดินสารวจปักหลักเขต ในโครงการเดินสารวจออกโฉนดท่ีดินและสอบเขตท่ีดินท้ังตาบล
และงานโครงการเปล่ียน น.ส. 3 ก. เป็นโฉนดที่ดินตามมาตรา 85 ตรี ขาดความระมัดระวังในการตรวจสอบ
หลักฐานที่ดินขา้ งเคียง ทาให้ผู้มิใช่เจ้าของท่ีดินข้างเคียงลงชื่อรับแนวเขตท่ีดิน เป็นเหตุให้เจ้าหน้าท่ีสอบสวนสิทธิ
เชื่อและดาเนินการให้ผู้มิใช่เจ้าของ ทาให้การออกโฉนดท่ีดินดังกล่าวมีแนวเขตท่ีดินบางส่วนด้านทิศตะวันตก
รกุ ลา้ เขา้ ไปในบริเวณท่ดี นิ แปลงอ่ืน
พฤติการณ์ เป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบยี บข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 85 วรรคหน่ึง แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ซง่ึ เป็นกฎหมายทใ่ี ช้บังคับในขณะกระทาความผดิ
โทษ ตดั เงินเดือนในอตั รารอ้ ยละ 4 เปน็ เวลาสองเดือน
- ๓๘ -
(8.) นายช่างรังวัดชานาญงาน ได้ทาการรังวัดเพ่ือออกโฉนดที่ดิน เมื่อครั้งรังวัดเสร็จได้นา
รปู แผนทีล่ งระวางภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งระวางแผนทีด่ ังกล่าวไมม่ กี ารขีดเขตป่าไม้ ทาใหไ้ ม่ทราบตาแหน่งท่ีดิน
ว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และไม่สามารถออกโฉนดที่ดินได้ เป็นเหตุให้มีการออกโฉนดที่ดินโดยไม่ชอบ
ด้วยกฎหมาย และอธบิ ดกี รมท่ีดนิ ไดม้ คี าสง่ั เพิกถอนโฉนดท่ีดินดงั กล่าว
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 83 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
พ.ศ. 2535 ซงึ่ เปน็ กฎหมายที่ใช้บงั คับในขณะกระทาความผิด
โทษ ภาคทณั ฑ์
(9.) เจ้าพนักงานท่ีดินชานาญงาน เม่ือคร้ังปฏิบัติหน้าท่ีเจ้าหน้าที่ที่ดิน 3 เป็นเจ้าหน้าท่ี
ผู้มีส่วนเก่ียวข้องในการดาเนินการออก น.ส. 3 ก. รวม 17 แปลง โดยได้ลงลายมือชื่อในเอกสารการรังวัด
และสอบสวน ทั้งท่มี ิไดอ้ อกไปทาการรังวดั จริง และมิได้ตรวจสอบวา่ หลักฐาน ส.ค. 1 และใบเหยียบย่าท่ีใช้เป็น
หลักฐานในการออก น.ส. 3 ก. ดังกล่าว เจ้าของท่ีดินได้นาไปใช้เป็นหลักฐานสาหรับท่ีดินแปลงอื่นแล้วหรือไม่
อีกท้ังเป็นที่ดินท่ีออกในเขตป่าคุ้มครองอันเป็นการต้องห้ามมิให้ออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดิน เป็นเหตุให้
อธิบดกี รมทดี่ นิ ไดม้ คี าส่งั เพิกถอน น.ส. 3 ก. ดังกลา่ ว
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 68 วรรคหน่ึง และมาตรา 73 วรรคหน่ึง
แหง่ พระราชบญั ญัตริ ะเบยี บข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2518 อันเป็นกฎหมายทใ่ี ช้บังคับในขณะกระทาผดิ
โทษ ตัดเงินเดือนในอตั ราร้อยละ 4 เปน็ เวลาสองเดอื น
(10.) เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชานาญงาน เมื่อคร้ังปฏิบัติหน้าท่ีเจ้าหน้าท่ีการเงินและ
บัญชี 1 เป็นเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนร่วมเก่ียวข้องในการดาเนินการออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์ (น.ส. 3 ก.)
จานวน 20 แปลง โดยได้ลงลายมือช่ือในเอกสารการรังวัดและสอบสวน ทั้งท่ีมิได้ออกไปทาการรังวัดจริงและ
มิได้ตรวจสอบว่าหลักฐาน ส.ค. 1 และใบเหยียบย่าที่ใช้เป็นหลักฐานในการออก .น.ส. 3 ก. ดังกล่าว เจ้าของ
ที่ดินได้นาไปใช้เป็นหลักฐานสาหรับท่ีดินแปลงอื่นแล้วหรือไม่ อีกท้ังเป็นที่ดินท่ีออกในเขตป่าคุ้มครองอันเป็น
การต้องห้ามมิให้ออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดิน เป็นเหตุให้อธิบดีกรมที่ดินได้มีคาส่ังเพิกถอน น.ส. 3 ก.
ดงั กลา่ ว
- ๓๙ -
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 68 วรรคหน่ึง และมาตรา 73 วรรคหน่ึง
แหง่ พระราชบัญญตั ริ ะเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2518 อนั เปน็ กฎหมายทใี่ ช้บงั คับในขณะกระทาผิด
โทษ ตดั เงนิ เดอื นในอตั ราร้อยละ 4 เป็นเวลาสองเดอื น
(11.) นายช่างรังวัดชานาญงาน ได้รับมอบหมายจากเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด ให้ไปทาการ
รงั วัดท่ดี นิ ตามหลกั ฐานโฉนดทีด่ นิ โดยในวนั รงั วดั เจ้าของท่ีดินข้างเคียงและผู้ปกครองท้องที่ ได้ร่วมระวังชี้แนวเขต
และลงนามในแนวเขตครบ แต่ปรากฏว่าการระวังช้ีแนวเขตของเจ้าของที่ดินข้างเคียง ด้านหน่ึงไม่ถูกต้อง
และได้นัดรังวัดใหม่ เมื่อถึงวันนัดรังวัดใหม่เจ้าของท่ีดินข้างเคียงดังกล่าว ไม่มาระวังชี้แนวเขตและลงนาม
รับรองแนวเขต จึงได้ทาการลบลายมือช่ือเจ้าของท่ีดินผู้นั้นท่ีได้ลงช่ือรับรองแนวเขตในครั้งแรกออกโดยสุจริต
และมีเจตนาเพื่อมิให้มีการสมยอมแนวเขตโดยผิดกฎหมายและรุกล้าทางสาธารณประโยชน์ ถึงแม้จะถือว่า
ไม่ได้มีเจตนาปิดบังข้อเท็จจริงต่อผู้บังคับบัญชาก็ตาม แต่การที่นัดรังวัดใหม่โดยพลการ ไม่รายงานเหตุขัดข้อง
ดงั กลา่ วให้ผบู้ งั คบั บัญชาทราบ ทง้ั ยังลบลายมือชื่อของเจ้าของท่ีดินข้างเคียงท่ีได้ลงลายมือช่ือไว้แล้วออก กรณี
เป็นการปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการรังวัดสอบเขต แบ่งแยก และรวมโฉนดที่ดิน
พ.ศ. 2527
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 85 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
พ.ศ. 2535 ซึ่งเปน็ กฎหมายทีใ่ ชบ้ ังคบั ในขณะกระทาความผิด
โทษ ภาคทณั ฑ์
(12.) นายช่างรังวัดชานาญงาน กระทาการรังวัดออกโฉนดท่ีดินโดยมีการนัดรังวัดทั้งหมด
สี่คร้ัง ซึ่งการรังวัดคร้ังท่ี 1 ถึงคร้ังที่ 3 กระทาการโดยเจ้าของท่ีดินข้างเคียงไม่ได้ไประวังช้ีและลงช่ือรับรอง
แนวเขตที่ดิน และเจ้าของท่ีดินข้างเคียงบางด้านหนังสือแจ้งให้มาระวังช้ีแนวเขตส่งไม่ถึงผู้รับ เน่ืองจากท่ีอยู่
ท่ีจัดส่งไปไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่ได้ดาเนินการตรวจสอบแก้ไข หากใส่ใจในการปฏิบัติหน้าท่ีราชการและถือปฏิบัติ
ตามระเบียบโดยเคร่งครัดแล้ว ก็ไม่จาเป็นต้องนัดรังวัดอีกเป็นคร้ังท่ีสองที่สาม เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้า
ในการออกโฉนดทีด่ นิ
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) ประกอบมาตรา 84
แหง่ พระราชบญั ญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตดั เงินเดอื นในอตั ราร้อยละ 4 เปน็ เวลาสองเดือน
- ๔๐ -
(13.) นายช่างรังวัดชานาญงาน ทาการสารวจรังวัดเพ่ือออกโฉนดให้กับผู้ขอ โดยจัดทา
เอกสารหลักฐานเรื่องราวการรังวัดย้อนหลังว่าเป็นการดาเนินการตา มกระบวนการและวิธีการเดินสารวจ
ออกโฉนดท่ีดิน ตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน ตามโครงการเดินสารวจออกโฉนดท่ีดินซ่ึงส้ินสุด
โครงการไปแล้ว และไม่มีการขยายระยะเวลาดาเนินการออกไป ทาให้ภายหลังอธิบดีกรมท่ีดินมีคาส่ังให้เพิกถอน
โฉนดที่ดิน เนอ่ื งจากออกโดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย ตามบทบัญญัติของมาตรา 58 ทวิ แห่งประมวล
กฎหมายที่ดิน แม้การกระทาของนายช่างรังวัดคนดังกล่าวมิได้เป็นผู้ก่อหรือเกิดจากเจตนาทุจริตแต่เป็นการ
กระทาภายใต้การส่ังการของผู้บังคับบัญชาก็ตาม แต่ย่อมต้องทราบดีว่า การรายงานข้อเท็จจริงอันเป็นเท็จ
ย่อมนาไปสู่การออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย การออกเดินสารวจรังวัดที่ดินภายหลังเดินสารวจ
ปิดไปแล้ว ย่อมเป็นการกระทาโดยไม่มอี านาจและเป็นการกระทานอกเหนอื คาสั่งกรมท่ดี นิ
พฤติการณ์ เป็นความผดิ วินยั อยา่ งรา้ ยแรง ตามมาตรา 82 (2) และมาตรา 83 (1) ประกอบ
มาตรา 85 (7) และ มาตรา 85 (1) และ พระราชบัญญตั ิระเบยี บขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ไลอ่ อกจากราชการ
- ๔๑ -
งานรงั วัดคา้ ง
- ๔๒ -
8. งานรงั วดั ค้าง
(1.) นายช่างรังวัดชานาญงาน มีงานรังวัดค้างดาเนินการเกินกว่า 20 วัน จานวน 15 เรื่อง
ซ่ึงผูบ้ งั คับบญั ชาได้มอบหมายงานรังวัดคา้ งดาเนนิ การให้ช่างรังวัดรายอน่ื ช่วย จานวน 4 ราย 11 เรื่อง ปรากฏ
วา่ งานรังวดั คา้ งดาเนินการทีช่ า่ งรังวัดรายอ่นื ชว่ ยรับไปดาเนนิ การสามารถดาเนินการให้แลว้ เสร็จภายในกาหนด
สว่ นของตนดาเนนิ การไม่แล้วเสรจ็ ภายในกาหนด
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (3) ประกอบมาตรา 84
แห่งพระราชบัญญัติระเบยี บข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตดั เงนิ เดอื นในอตั รารอ้ ยละ 4 เป็นเวลาสองเดอื น
(2.) นายช่างรังวดั ชานาญงาน ได้นัดงานรังวัดในเดือนมิถุนายน 2557 จานวน 3 ราย เดือน
กรกฎาคม 2557 จานวน 14 ราย แต่เพราะไม่เขา้ ใจระเบียบแนวทางปฏบิ ัตงิ านทถี่ ูกตอ้ ง ทาให้งานติดขัดต้อง
แกไ้ ข ผู้บงั คับบญั ชาไดใ้ หโ้ อกาสปรบั ปรุงตวั เองและวธิ กี ารปฏบิ ตั งิ าน โดยสั่งงดนัดงานรงั วัดต้งั แต่เดือนสิงหาคม
ถึงเดือนพฤศจิกายน 2557 เป็นเวลา 4 เดือน และให้ออกไปทาการรังวัดร่วมกับช่างรังวัดอื่นเพ่ือเป็นการ
เรยี นรู้งาน ตอ่ มาเดือนธนั วาคม 2557 จานวน 7 ราย โดยมงี านคา้ งจานวน 24 ราย เป็นงานค้างเกิน 20 วัน
ทาการ จานวน 13 ราย ฝ่ายรังวัดจึงได้งดรับงานตั้งแต่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 เพื่อให้โอกาสสะสางงานรังวัด
แต่ยังคงมีงานรังวัดค้าง จานวน 16 ราย เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้มอบหมายให้ช่างรังวัดอ่ืน
ดาเนินการแทนจนเสร็จส้ิน แสดงถึงความไม่มุ่งมั่นตั้งใจทางานในการปฏิบัติหน้าที่ราชการให้สาเร็จลุล่วงไปได้
ทั้งท่ีก่อนหน้านี้ผู้บังคับบัญชาได้ให้โอกาสท่ีจะปรับปรุงตนเองและวิธีการทางานและให้ออกไปทาการรังวัด
ร่วมกบั ช่างรงั วดั อนื่ เพือ่ เปน็ การเรียนรูง้ านแล้วก็ตาม
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) (3) ประกอบกับ
มาตรา 84 แห่งพระราชบญั ญัติระเบยี บขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตัดเงินเดอื นในอตั รารอ้ ยละ 4 เปน็ เวลาสองเดอื น
(3.) นายช่างรังวัดชานาญงาน มีงานรังวัดค้างและเม่ือเกิดเร่ืองรังวัดสูญหายไม่ติดตามแก้ไข
ข้อขดั ขอ้ งและไมร่ ายงานผูบ้ งั คบั บญั ชาจนทาให้เกิดเรอื่ งร้องเรียน กอ่ ให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) และมาตรา 83 (4)
ประกอบมาตรา 84 แห่งพระราชบัญญัติระเบยี บขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ภาคทณั ฑ์
- ๔๓ -
(4.) นายชา่ งรังวดั ชานาญงาน ไดร้ บั มอบหมายให้ปฏิบัติงานรังวัดตามโครงการบริหารจัดการ
การใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ที่มีการบุกรุกฯ แต่ดาเนินการไม่แล้วเสร็จตามกาหนดแม้กรมที่ดิน
จะได้ขยายเวลาให้แล้วก็ตาม รวมถึงไม่มาปฏิบัติราชการและไม่ได้ลงชื่อปฏิบัติราชการจานวน 39 วันทาการ
ไม่ติดต่อกัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร ไม่มีการขออนุญาตลากิจ ลาป่วย ลาพักผ่อน หรือบันทึกขออนุญาต
ไปราชการ
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวนิ ัยอยา่ งไม่รา้ ยแรงตามมาตรา 82 (2) (3) และ (5) ประกอบ
มาตรา 84 แห่งพระราชบัญญัติระเบยี บข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ตัดเงนิ เดือนในอตั รารอ้ ยละ 4 เป็นเวลาสามเดือน
(5.) นายช่างรังวัดชานาญงาน มีงานรังวัดค้างในมือเกินกาหนดระยะเวลาของระเบียบกรม
ท่ีดินที่ไดก้ าหนดไว้ นอกจากน้ยี ังดาเนนิ การรงั วดั แบ่งแยกท่ีดินแลว้ ไม่ปกั หลกั เขตในขณะทาการรงั วดั
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) และ (4) แห่ง
พระราชบัญญตั ิระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ลดเงินเดือนในอตั รารอ้ ยละ 2
(6.) นายช่างรังวัดชานาญงาน ผลการปฏิบัติงานในเดือนกรกฎาคม 2559 มีงานรังวัดค้าง
ดาเนินการในความรับผิดชอบ จานวน 82 เรื่อง ทั้งที่ได้มีการงดรังวัดในเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม
2559 เพ่ือให้แก้ไขงานค้าง และในเดือนกันยายน 2559 ยังคงมีงานค้างอีก 30 เร่ือง โดยงานส่วนใหญ่ไม่มี
ขอ้ ขดั ข้อง
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) ประกอบมาตรา 84
แหง่ พระราชบัญญตั ิระเบยี บข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551
โทษ ตดั เงนิ เดอื นในอัตรารอ้ ยละ 4 เปน็ เวลาสองเดือน
(7.) นายช่างรังวดั ชานาญงาน ผลการปฏิบตั งิ านรังวัดเดือนกรกฎาคม 2559 ค้างดาเนินการ
จานวน 52 เร่ือง และค้างเกิน 30 วัน และมีงานรังวัดแบบกลุ่มและงานที่เจ้าพนักงานที่ดินสั่งแก้ไขซึ่งยัง
ดาเนินการไม่แล้วเสรจ็ อกี จานวน 17 เร่ือง และถือเปน็ งานรังวดั ค้างในมอื ช่างรงั วดั แต่กลับนาไปนัดรังวัดใหม่
โดยไม่ถูกต้องเพ่ือลดยอดงานรังวัดค้างจาก 69 เร่ือง ให้เหลือเพียง 52 เรื่อง โดยผู้บังคับบัญชาได้เร่งติดตาม
และให้งดรังวัดเพ่ือแก้ไขปัญหางานรังวัดค้างแล้ว แต่จนถึงเดือนตุลาคม 2559 ยังคงมีงานค้างเกิน 30 วัน
จานวน 21 เรื่อง ท้ังๆ ที่งานส่วนใหญ่ที่ค้างไม่มีข้อขัดข้อง แสดงถึงพฤติกรรมไม่ใส่ใจในการปฏิบัติหน้าที่ตาม
นโยบายของกรมทดี่ นิ ในการเรง่ รัดงานรงั วัด
- ๔๔ -
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) และ (3) ประกอบ
มาตรา 84 แห่งพระราชบญั ญัตริ ะเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตัดเงินเดือนในอัตรารอ้ ยละ 4 เปน็ เวลาสองเดือน
(8.) นายช่างรังวัดชานาญงาน มีงานรังวัดค้างไม่เป็นไปตามประกาศกรมท่ีดิน เร่ือง การลด
ขนั้ ตอนและระยะเวลาการปฏิบัติราชการเพ่ือประชาชน จานวน 53 เรื่อง ได้ขอขยายเวลาเร่งรัดงานด้างรังวัด
ออกไปแตเ่ ม่อื ครบกาหนดยงั คงมีงานทีด่ าเนนิ การไมแ่ ลว้ เสรจ็ จานวน 4 เร่อื ง
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (3) ประกอบมาตรา 84
แห่งพระราชบญั ญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 แตเ่ น่ืองจากได้ใช้ความพยายามในการสะสางงาน
คา้ งจนแล้วเสร็จจานวน 49 เรอื่ ง คงเหลอื เพยี ง 4 เรือ่ ง และภายหลังได้ส่งตรวจเร่ืองจนเสรจ็
โทษ ภาคทัณฑ์
- ๔๕ -
แบบพิมพส์ ูญหาย
- ๔๖ -
9. แบบพมิ พส์ ญู หาย
(1.) เจ้าพนักงานที่ดิน ระดับอาวุโส กรณีเม่ือคร้ังดารงตาแหน่งเจ้าพนักงานท่ีดินชานาญงาน
เป็นผู้ดาเนินการเก่ียวกับงานออกโฉนดท่ีดิน ได้เบิกแบบพิมพ์โฉนดที่ดินจานวน 2 คู่ฉบับ ไปเพ่ือประกอบ
การดาเนินการ จึงมีหน้าที่เก็บรักษาแบบพิมพ์โฉนดที่ดินมิให้สูญหาย และเก็บไว้ในท่ีปลอดภัย ตามระเบียบ
กรมท่ีดิน ว่าด้วยการพิมพ์ การควบคุมรักษาและเบิกจ่ายแบบพิมพ์โฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทาประโยชน์
และหนงั สอื กรรมสทิ ธิห์ อ้ งชุด พ.ศ. 2547 แตไ่ ม่ใช้ความระมดั ระวังหรอื เอาใจใสใ่ นการเกบ็ รักษา ควบคุม ดูแล
แบบพิมพโ์ ฉนดทดี่ นิ ซึ่งเป็นเอกสารสาคัญของทางราชการ ในขั้นตอนส่งงานให้ฝ่ายรังวัด เพื่อดาเนินการแก้ไข
และรับงานกลบั คืน เป็นเหตุให้แบบพิมพโ์ ฉนดทดี่ ินจานวน 2 คู่ฉบบั ดังกลา่ วสญู หายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (3) ประกอบมาตรา 84
แห่งพระราชบญั ญัติระเบยี บขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตัดเงินเดือนในอตั ราร้อยละ 4 เป็นเวลาสองเดอื น
(2.) เจ้าพนักงานธุรการชานาญงาน เมื่อคร้ังดารงตาแหน่งเจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน
ไดท้ าแบบพิมพ์หนงั สอื กรรมสิทธห์ิ อ้ งชดุ จานวน 2 คูฉ่ บบั สญู หาย
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (3) แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตัดเงนิ เดอื นในอตั รารอ้ ยละ 4 เป็นเวลาสองเดอื น
(3.) นักวิชาการท่ีดินปฏิบัติการ ได้รับมอบหมายให้ดาเนินการเรื่องการออกโฉนดที่ดินโดยใน
ระหว่างที่เก็บเรื่องราวการออกโฉนดที่ดนิ ทรี่ อดาเนินการให้กับผู้ขอ มีผู้ถือกรรมสิทธิ์รวม ในท่ีดินแปลงดังกล่าว
มาขอถ่ายเอกสารรูปแผนที่โฉนดที่ดิน จึงได้มอบเร่ืองราวการออกโฉนดที่ดินให้กับผู้มาขอถ่ายรับไปตรวจดูเอง
โดยมิได้ควบคุมดูแล และมิได้ใส่ใจติดตามเรื่องกลับคืน จนเป็นเหตุให้แบบพิมพ์โฉนดท่ีดินจานวน 4 คู่ฉบับ
และเอกสารเร่อื งราวการออกโฉนดท่ดี นิ สูญหาย
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (3) ประกอบมาตรา 84
แหง่ พระราชบัญญตั ริ ะเบยี บข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตดั เงนิ เดือนในอัตราร้อยละ 4 เปน็ เวลาสองเดือน
- ๔๗ -
(4.) นกั วิชาการทด่ี นิ ชานาญการ เมอื่ คร้ังดารงตาแหน่งทางฝ่ายทะเบียน ได้รับมอบแบบพิมพ์
หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด จานวนรวม 1,978 คู่ฉบับ เพื่อจัดสร้างหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด แต่ระหว่างทยอย
นาแบบพิมพ์ไปขึ้นรปู แผนท่ี ไม่ใชค้ วามระมัดระวังในการเก็บรักษาแบบพิมพ์ ตามระเบียบกรมท่ีดินว่าด้วยการ
พิมพ์ การควบคุมรักษาและการเบิกจ่ายแบบพิมพ์โฉนดท่ีดิน หนังสือรับรองการทาประโยชน์และหนังสือ
กรรมสทิ ธห์ิ อ้ งชดุ พ.ศ. 2547 เป็นเหตุใหแ้ บบพมิ พ์ จานวน 1 คฉู่ บับสูญหายไปโดยไมท่ ราบสาเหตุ
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (3) ประกอบมาตรา 84
แห่งพระราชบญั ญตั ิระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตดั เงนิ เดือนในอัตราร้อยละ 4 เปน็ เวลาสองเดือน
(5.) เจา้ พนกั งานที่ดนิ ชานาญงาน เบิกโฉนดท่ีดินและสารบบท่ีดินมาไว้ในครอบครองไม่ได้นา
สง่ คืนหอ้ งสารบบทดี่ นิ เปน็ เหตุให้โฉนดทีด่ นิ และสารบบท่ีดนิ สูญหาย
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (2) ประกอบมาตรา 84
แห่งพระราชบัญญตั ิระเบยี บข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตดั เงินเดอื นในอตั ราร้อยละ 4 เปน็ เวลาสองเดอื น
(6.) เจ้าพนักงานท่ีดินชานาญงาน ได้ทาแบบพิมพ์โฉนดท่ีดินท่ีอยู่ระหว่างดาเนินการยังไม่ได้
แจกใหแ้ ก่เจา้ ของท่ีดนิ สญู หายไป
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 84 วรรคหน่ึง และมาตรา 58 วรรคหนึ่ง แห่ง
พระราชบญั ญตั ริ ะเบียบขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2535 ซง่ึ ใชบ้ งั คับอยู่ในขณะกระทาความผดิ
โทษ ตัดเงินเดือนในอัตรารอ้ ยละ 4 เป็นเวลาสองเดอื น
(7.) นกั วิชาการท่ีดินปฏิบัติการ ได้ทาแบบพิมพ์โฉนดท่ีดิน จานวน 1 คู่ฉบับ สูญหายไปขณะ
อยใู่ นความรับผิดชอบ
พฤติการณ์ เป็นการกระทาผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามมาตรา 82 (3) ประกอบกับมาตรา
84 แห่งพระราชบญั ญตั ิระเบยี บข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
โทษ ตัดเงินเดอื นในอตั ราร้อยละ 4 เป็นเวลาสองเดอื น