-2-
ขอ้ 3 กรม/สาํ นกั งานตกลงจา้ งพนกั งานราชการมกี ําหนด …. ปี …….. เดอื น เรมิ ตงั แต่
วนั ที … เดอื น ……………. พ.ศ. ……. และสนิ สุดในวนั ที …. เดอื น ………….…… พ.ศ. ………
กําหนดระยะเวลาการมาปฏิบัติงานทีกรม/สํานักงานให้เป็นไปตามรายละเอียด
แนบทา้ ยสญั ญาจา้ ง และใหถ้ อื วา่ เอกสารแนบทา้ ยสญั ญาจา้ งดงั กล่าวเป็นส่วนหนึงของสญั ญาจา้ ง
ขอ้ 4 กรม/สาํ นักงานตกลงจ่าย และพนักงานราชการตกลงรบั ค่าตอบแทน ดงั นี
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
ทงั นี พนกั งานราชการตอ้ งเป็นผูร้ บั ผดิ ชอบในการเสยี ภาษเี งนิ ได้ โดยกรม/สาํ นกั งาน
จะเป็นผหู้ กั ไว้ ณ ทจี ่าย
ขอ้ 5 พนกั งานราชการอาจไดร้ บั สทิ ธปิ ระโยชน์อนื ตามระเบยี บสํานกั นายกรฐั มนตรี
ว่าดว้ ยพนกั งานราชการ พ.ศ. 2547 หรอื ตามทคี ณะกรรมการ หรอื กรม/สาํ นกั งานกําหนด
ขอ้ 6 กรม/สาํ นักงานจะทาํ การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านของพนักงานราชการตาม
หลกั เกณฑ์ และวธิ กี ารทกี รม/สาํ นกั งานกาํ หนด
ผลการประเมนิ ตามวรรคหนึงเป็นประการใด ใหถ้ อื เป็นทสี ดุ
ขอ้ 7 สญั ญานีสนิ สดุ ลงเมอื เขา้ กรณใี ดกรณหี นึง ดงั ต่อไปนี
(1) เขา้ กรณใี ดกรณหี นึงตามทกี าํ หนดในขอ้ 28 ของระเบยี บสาํ นกั นายกรฐั มนตรี
วา่ ดว้ ยพนกั งานราชการ พ.ศ. 2547
(2) พนักงานราชการลาออกจากการปฏบิ ตั ิงาน ตามข้อ 29 ของระเบยี บสาํ นัก-
นายกรฐั มนตรวี ่าดว้ ยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547
(3) มกี ารเลกิ สญั ญาจ้างตามข้อ 30 ของระเบยี บสาํ นักนายกรฐั มนตรวี ่าด้วย
พนักงานราชการ พ.ศ. 2547
(4) เหตุอนื ๆ ดงั ต่อไปนี
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
(5) เหตุอนื ๆ ตามทกี รม/สาํ นกั งานประกาศกําหนด
-3–
ขอ้ 8 พนกั งานราชการมหี น้าทตี อ้ งรกั ษาวนิ ัยและยอมรบั การลงโทษทางวนิ ยั ตามที
กาํ หนดในระเบยี บสํานกั นายกรฐั มนตรวี ่าดว้ ยพนกั งานราชการ พ.ศ. 2547 และหรอื ทกี รม/สาํ นกั งาน
ประกาศกําหนด
ข้อ 9 ในกรณีพนักงานราชการละทิงงานก่อนครบกําหนดเวลาตามข้อ 3 หรอื
ปฏบิ ตั งิ านใดๆ จนเป็นเหตุใหเ้ กดิ ความเสยี หายแก่กรม/สํานกั งาน ในระหว่างอายุสญั ญาพนักงานราชการ
ยนิ ยอมชดใชค้ ่าเสยี หายใหก้ รม/สาํ นกั งานทกุ ประการภายในกําหนดเวลาทกี รม/สํานักงานเรยี กรอ้ งให้
ชดใช้ และยนิ ยอมให้กรม/สํานักงานหักค่าจ้างหรือเงนิ อืนใดทีพนักงานราชการมีสิทธิได้รบั จาก
กรม/สาํ นกั งานเป็นการชดใชค้ ่าเสยี หายได้ เวน้ แต่ความเสยี หายนนั เกดิ จากเหตุสุดวสิ ยั
ขอ้ 10 พนักงานราชการจะต้องปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บสํานักนายกรฐั มนตรวี ่าด้วย
พนักงานราชการ พ.ศ. 2547 ประกาศหรอื มตขิ องคณะกรรมการบรหิ ารพนักงานราชการ ประกาศ
หรอื คาํ สงั ของกรม/สาํ นกั งานทอี อกตามระเบยี บสาํ นกั นายกรฐั มนตรวี า่ ดว้ ยพนกั งานราชการ พ.ศ. 2547
ขอ้ 11 พนกั งานราชการจะตอ้ งประพฤติ และปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั และ
คาํ สงั ของทางราชการ ทงั ทไี ดอ้ อกใชบ้ งั คบั แก่พนกั งานราชการอยแู่ ลว้ ก่อนวนั ทลี งนามในสญั ญาจา้ งนี
และทจี ะออกใชบ้ งั คบั ต่อไปในภายหลงั โดยพนกั งานราชการยนิ ยอมใหถ้ อื วา่ กฎหมาย ระเบยี บ หรอื
คาํ สงั ต่าง ๆ ดงั กล่าวเป็นสว่ นหนึงของสญั ญาจา้ งนี
ขอ้ 12 พนักงานราชการต้องปฏบิ ตั งิ านใหก้ บั กรม/สํานกั งานตามทไี ดร้ บั มอบหมาย
ดว้ ยความซอื สตั ย์ สุจรติ และตงั ใจปฏบิ ตั งิ านอยา่ งเตม็ กาํ ลงั ความสามารถของตน โดยแสวงหาความรู้
และทักษะเพิมเติมหรอื กระทําการใด ๆ เพือให้ผลงานในหน้าทีมคี ุณภาพดีขนึ ทังนี ต้องรกั ษา
ผลประโยชน์ และชือเสยี งของราชการ และไม่เปิดเผยความลบั หรอื ขอ้ มลู ของทางราชการให้
ผูห้ นึงผู้ใดทราบ โดยมไิ ด้รบั อนุญาตจากผู้รบั ผดิ ชอบงานนัน ๆ
ขอ้ 13 ในระหวา่ งอายสุ ญั ญาจา้ งนี หากพนกั งานราชการปฏบิ ตั งิ านตามสญั ญาจา้ งแลว้
ก่อใหเ้ กดิ ผลงานสรา้ งสรรคข์ นึ ใหม่ ใหล้ ขิ สทิ ธขิ องผลงานดงั กล่าวเป็นกรรมสทิ ธขิ องกรม/สาํ นกั งาน
ขอ้ 14 พนกั งานราชการจะตอ้ งรบั ผดิ ชอบต่อการละเมดิ บทบญั ญตั แิ หง่ กฎหมายหรอื
สทิ ธใิ ดๆ ในสทิ ธบิ ตั ร หรอื ลขิ สทิ ธขิ องบุคคลทสี าม ซงึ พนกั งานราชการนํามาใชใ้ นการปฏบิ ตั ติ ามสญั ญานี
ขอ้ 15 สทิ ธิ หน้าทแี ละความรบั ผดิ ชอบของพนกั งานราชการนอกเหนือจากทกี ําหนด
ไวใ้ นสญั ญาจา้ งนี ใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ทที างราชการกาํ หนดไว้
-4-
สญั ญานีทําขนึ สองฉบบั มขี อ้ ความถูกต้องตรงกนั คู่สญั ญาอ่าน ตรวจสอบและเขา้ ใจ
ขอ้ ความในสญั ญาโดยละเอียดแล้ว จงึ ลงลายมอื ชอื ไว้เป็นหลกั ฐานต่อหน้าพยาน ณ วนั เดอื น ปี
ดงั กล่าวขา้ งตน้ และต่างฝา่ ยต่างเกบ็ รกั ษาไวฝ้ า่ ยละฉบบั
(ลงชอื ) ……………………………………….. กรม/สาํ นกั งาน
(……………………………………….)
(ลงชอื ) …………………………………….. พนกั งานราชการ
(……………………………………….)
(ลงชอื ) ……………………………………….. พยาน
(……………………………………….)
(ลงชอื ………………………………………….. พยาน
(……………………………………….)
เอกสารแนบท้ายสญั ญาจ้าง
ผนวก ก.
--------------------------
หน้าทีความรบั ผิดชอบของพนักงานราชการ
1. พนักงานราชการพิเศษ (ใหร้ ะบขุ อบเขตของลกั ษณะการปฏบิ ตั งิ าน ระยะเวลา ผลผลติ
หรอื วธิ ปี ฏบิ ตั งิ านกรณอี นื ทแี สดงใหเ้ หน็ ผลสาํ เรจ็ ของงาน)
…………………………………………………………………………………………………
………………….……………………………………………………………………………………….…
………………….……………………………………………………………………………………….
………………….……………………………………………………………………………………….
………………….…………………………………………………………………………………………
………………….…………………………………………………………………………………………
.………………….………………………………………………………………………………………
2. พนักงานราชการทวั ไป (ใหร้ ะบหุ น้าทคี วามรบั ผดิ ชอบหรอื ผลผลติ ตามระยะเวลา)
…………………………………………………………………………………………………
………………….……………………………………………………………………..……………………
………………….………………………………………………………………………..…………………
………………….…………………………………………………………………………..………………
………………….……………………………………………………………………………..……………
………………….………………………………………………………………………………..…………
………………….…………………………………………………………………………………..………
หมายเหตุ 1. ในกรณีทกี รม/สาํ นกั งานไดก้ ําหนดรายละเอยี ดมาตรฐานทวั ไปของงาน
ในตําแหน่งใดไวแ้ ลว้ อาจกําหนดหน้าทีความรบั ผดิ ชอบของพนักงานราชการใหป้ ฏบิ ตั ติ ามที
กรม/สาํ นกั งานกําหนดไว้ สาํ หรบั ตําแหน่งนันกไ็ ด้
2. ในกรณจี าํ เป็นเพอื ประโยชน์ของทางราชการ กรม/สาํ นกั งาน อาจมคี าํ สงั
มอบหมายงานให้พนักงานราชการปฏบิ ตั เิ ป็นพเิ ศษนอกเหนือจากขอบเขตหน้าทคี วามรบั ผดิ ชอบ
ทกี ําหนดไว้ได้ โดยไม่ต้องแก้ไขสญั ญา และพนักงานราชการยนิ ยอมปฏบิ ตั ิตามคําสงั ของกรม/
สาํ นกั งาน โดยถอื เป็นการกําหนดหน้าทคี วามรบั ผดิ ชอบตามสญั ญานี
เอกสารแนบท้ายสญั ญาจ้าง
ผนวก ข.
---------------------------
กาํ หนดระยะเวลาการมาปฏิบตั ิหน้าที
1. พนักงานราชการพิเศษ
ปฏบิ ตั งิ านตามเวลาการปฏบิ ตั ริ าชการปกติ
ปฏบิ ตั งิ านตามระยะเวลา ดงั นี ………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
ปฏบิ ตั งิ านตามผลผลติ ของงาน ดงั นี …………………………………………
…………………………………………………………….……………………
…………………………………………………………………………………
อนื ๆ …………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
2. พนักงานราชการทวั ไป
ปฏบิ ตั งิ านตามเวลาการปฏบิ ตั ริ าชการปกติ
ปฏบิ ตั งิ านตามระยะเวลา ดงั นี ………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
อนื ๆ …………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
หมายเหตุ ในกรณีทมี คี วามจาํ เป็นเพอื ประโยชน์ของทางราชการ กรม/สาํ นกั งาน
อาจมคี ําสงั เปลียนแปลงระยะเวลาการมาปฏบิ ตั ิหน้าทหี รอื มคี ําสงั ให้ปฏบิ ตั ิหน้าทเี ป็นอย่างอืนได้
โดยไมต่ อ้ งแกไ้ ขสญั ญา และพนกั งานราชการยนิ ยอมปฏบิ ตั ติ ามคาํ สงั ของกรม/สาํ นกั งาน โดยถอื เป็น
การกําหนดระยะเวลาการมาปฏบิ ตั งิ านตามสญั ญานี
ประกาศคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ
เรือง เครอื งแบบพิธีการของพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๕๒
โดยทีได้มีการกําหนดให้พนักงานราชการมีเครืองแบบพิธีการตามระเบียบ
สาํ นกั นายกรฐั มนตรวี า่ ดว้ ยพนกั งานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ จงึ สมควรกาํ หนดเครอื งแบบพธิ กี าร
ของพนกั งานราชการเพอื ใหส้ ว่ นราชการถอื ปฏบิ ตั ิ
อาศยั อาํ นาจตามความในขอ้ ๑๒ วรรคสอง ของระเบยี บสาํ นักนายกรฐั มนตรวี ่าดว้ ย
พนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ คณะกรรมการบรหิ ารพนักงานราชการ จงึ กําหนดเครอื งแบบ
พธิ กี ารของพนกั งานราชการไวด้ งั นี
ข้อ ๑ ประกาศนีเรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ เรือง
เครอื งแบบพธิ กี ารของพนกั งานราชการ พ.ศ. ๒๕๕๒”
ขอ้ ๒ ประกาศนใี หใ้ ชบ้ งั คบั ตงั แต่บดั นีเป็นตน้ ไป
ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการบรหิ ารพนักงานราชการ เรือง เครืองแบบ
พธิ กี ารของพนกั งานราชการ ตามประกาศ ณ วนั ที ๒๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๘
ข้อ ๔ เครืองแบบพิธีการของพนักงานราชการให้ใช้เครืองแบบพิธีการในลักษณะ
อยา่ งเดยี วกนั กบั ลกู จา้ งประจาํ
ขอ้ ๕ อนิ ทรธนูประดบั เครอื งแบบพธิ กี ารใหใ้ ชต้ ามแบบทา้ ยประกาศนี
ประกาศ ณ วนั ที ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
(นายวรี ะชยั วรี ะเมธกี ลุ )
รฐั มนตรปี ระจาํ สาํ นกั นายกรฐั มนตรี
ประธานกรรมการบรหิ ารพนกั งานราชการ
แบบพเิ ศษ แบบทวั ไป
แบบอนิ ทรธนูประดับเครืองแบบพธิ ีการพนักงานราชการ
แนวความคิดในการออกแบบ
ได้คดิ นําดอกพิกลุ มาใช้ในการออกแบบ ดอกพิกุลเป็ นดอกไม้ไทยๆ มีอายยุ ืน (จดั เป็ นไม้มงคลชนิดหนึง)
ดอกมขี นาดเลก็ แตม่ ีกลนิ หอมติดทนนาน จึงได้นํามาใช้เป็ นสญั ลกั ษณ์ของพนักงานราชการซึงตําแหน่ง
พนกั งานราชการก็เป็นสว่ นหนงึ ของระบบราชการไทย ผลงานทีพนกั งานราชการสร้ างขึนมีคุณค่าเปรียบ
ได้กบั กลนิ หอมของดอกพิกลุ ทีหอมขจรขจาย แม้ว่าดอกจะแห้งแล้วกย็ งั มีกลนิ หอม
และผลงานเหลา่ นนั กเ็ ป็นสว่ นหนงึ ทีทําให้ประเทศชาตเิ จริญรุ่งเรือง
สีทอง ให้ความรู้สกึ ถึงความเจริญรุ่งเรือง
สีดาํ ให้ความรู้สกึ เข้มแขง็ จริงจงั
ผู้ออกแบบ นายนันทศกั ดิ ฉัตรแก้ว
กลุ่มงานศลิ ปประยกุ ต์ กลุ่มจติ รกรรม ศลิ ปะประยุกต์ และสายรดนํา
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๑
.
เลม ๑๒๓ ตอนท่ี ๖๒ ก หนา ๑๐ ๑๔ มถิ นุ ายน ๒๕๔๙
ราชกจิ จานเุ บกษา
พระราชกฤษฎกี า
กาํ หนดเจาหนาทข่ี องรฐั และผูมีอํานาจออกบตั รประจาํ ตวั
เจา หนาท่ขี องรฐั ตามพระราชบญั ญัตบิ ัตรประจําตวั
เจา หนา ที่ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับที่ ๑๐)
พ.ศ. ๒๕๔๙
ภูมพิ ลอดลุ ยเดช ป.ร.
ใหไว ณ วนั ท่ี ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙
เปน ปท ่ี ๖๑ ในรชั กาลปจจบุ นั
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหประกาศวา
โดยทเ่ี ปนการสมควรกําหนดเจา หนาท่ีของรัฐและผูมีอํานาจออกบัตรประจําตัวเจาหนาที่ของรัฐ
ตามพระราชบัญญัติบัตรประจําตวั เจาหนา ทีข่ องรฐั พ.ศ. ๒๕๔๒
อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๒๒๑ ของรฐั ธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๔ (๑๖)
และมาตรา ๗ แหงพระราชบัญญัติบัตรประจําตัวเจาหนาท่ีของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๒ จึงทรงพระกรุณา
โปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว ดงั ตอไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกาน้ีเรียกวา “พระราชกฤษฎีกากําหนดเจาหนาท่ีของรัฐและผูมี
อาํ นาจออกบตั รประจําตัวเจาหนา ท่ขี องรฐั ตามพระราชบัญญตั บิ ตั รประจาํ ตัวเจา หนาท่ขี องรฐั พ.ศ. ๒๕๔๒
(ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๔๙”
เลม ๑๒๓ ตอนที่ ๖๒ ก หนา ๑๑ ๑๔ มิถนุ ายน ๒๕๔๙
ราชกจิ จานเุ บกษา
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎกี าน้ีใหใชบ งั คับตงั้ แตวนั ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เปนตนไป
มาตรา ๓ ใหเพิ่มความตอไปน้ีเปน ๒๐. ในหัวขอเจาหนาท่ีของรัฐ และผูมีอํานาจออก
บตั รประจาํ ตัวสาํ หรบั เจาหนาทขี่ องรฐั ตามลําดับของมาตรา ๔ แหง พระราชกฤษฎกี ากําหนดเจาหนาที่
ของรัฐและผูมีอํานาจออกบัตรประจําตัวเจาหนาท่ีของรัฐตามพระราชบัญญัติบัตรประจําตัวเจาหนาท่ี
ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๔๕
“๒๐. พนักงานราชการซง่ึ มีวาระ ๒๐. ปลัดกระทรวงสําหรบั พนักงาน
การจางไมนอ ยกวาหน่ึงป ราชการในสํานกั งานปลดั กระทรวง
อธบิ ดี หัวหนา สว นราชการของ
สวนราชการทีม่ ฐี านะเปนกรม หรือ
ผูวา ราชการจังหวัดสําหรบั พนกั งาน
ราชการในราชการสวนภูมภิ าค
ทส่ี ังกดั จงั หวัดน้ัน หรือผูท่ไี ดร บั
มอบหมายจากผดู าํ รงตําแหนงดังกลาว”
ผูรบั สนองพระบรมราชโองการ
พลตํารวจเอก ชิดชยั วรรณสถิตย
รองนายกรฐั มนตรี
เลม ๑๒๓ ตอนที่ ๖๒ ก หนา ๑๒ ๑๔ มถิ นุ ายน ๒๕๔๙
ราชกจิ จานุเบกษา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชกฤษฎีกาฉบับน้ี คือ เนื่องจากพนักงานราชการเปนบุคลากร
ภาครฐั ประเภทหน่งึ ซงึ่ ปฏิบตั งิ านควบคไู ปกับขา ราชการไดท้งั ในภารกิจหลัก ภารกจิ รอง และภารกิจสนับสนุน
ของสวนราชการ แตปรากฏวาตามพระราชบัญญัติบัตรประจําตัวเจาหนาท่ีของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๒ ยังมิได
กําหนดใหพนักงานราชการเปนเจาหนาที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติดังกลาว ประกอบกับระเบียบ
สํานักนายกรัฐมนตรี วาดว ยพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ ก็มิไดกําหนดเรื่องบัตรประจําตัวพนักงานราชการ
ไวเปนการเฉพาะ สมควรใหบุคคลดังกลาวเปนเจาหนาท่ีของรัฐเพื่อปฏิบัติหนาที่โดยมีบัตรประจําตัวสําหรับ
เจาหนาทีข่ องรัฐตามกฎหมายวา ดว ยบตั รประจาํ ตัวเจา หนาที่ของรัฐได รวมท้ังกําหนดผูมีอํานาจออกบัตรประจําตัว
ไวด ว ย จึงจาํ เปนตอ งตราพระราชกฤษฎีกานี้