บทที่ 6
แนวทางการปฏิบัติงานรงั วัดภาคสนาม
6.1 การเลือกตาํ แหนงรับสัญญาณดาวเทียมและหลักเกณฑการรับสัญญาณดาวเทียม
6.1.1 การเลือกตําแหนงรับสัญญาณดาวเทียม
GNSS (Global Navigation Satellite System) เปนระบบท่ีใชในการหาคาพิกัดโดยการรับ
สัญญาณดาวเทยี ม โดยดาวเทยี มจะสงสัญญาณคล่ืนวิทยุลงมายังพื้นโลก เมื่อเคร่ืองรับสัญญาณดาวเทียม
รับสัญญาณจากดาวเทียมไดแลว จะนําเอาขอมูลตาง ๆ ท่ีไดไปประมวลหาตําแหนง ณ จุดที่เครื่องรับ
สญั ญาณต้ังอยู ประกอบดวยสวนประกอบ 3 สวนหลกั ๆ ไดแก สวนอวกาศ สวนควบคุม และสวนผูใช
ระบบดาวเทียมปจ จุบันไดมกี ารพัฒนาระบบดาวเทียมขึ้นมาหลายระบบ เชน GPS, GLONASS, BeiDou,
Galileo, QZSS เปนตน
รปู ภาพแสดงการหาตําแหนง โดยการรบั สญั ญาณดาวเทยี ม
กรมที่ดิน ไดนําระบบการรังวัดดวยดาวเทียมมาใชในการรังวัด เพื่อใหไดคาพิกัดที่มี
ความละเอยี ดถูกตอ งอยใู นเกณฑท ่ีกาํ หนด ซ่งึ มีปจจยั หลักท่ีมีผลตอความคลาดเคล่อื นของคา พกิ ัด ไดแ ก
ความคลาดเคล่ือนเก่ียวกับดาวเทียม ตัวอยางเชน นาฬิกาดาวเทียม ขอมูลวงโคจรดาวเทียม
ความคลาดเคล่ือนเกี่ยวกับการแพรกระจายสัญญาณดาวเทียม ตัวอยางเชน คลื่นหลายวิถี
การหกั เหในชน้ั บรรยากาศ การเกดิ คล่นื หลุด
ความคลาดเคลือ่ นเกีย่ วกับเครอื่ งรับสัญญาณ ตัวอยางเชน นาฬิกาเครื่องรับ สัญญาณรบกวน
ในเครอื่ งรับ
62
6-2
รูปภาพแสดงความคลาดเคลื่อนของการรบั สญั ญาณดาวเทียม
(ทมี่ า : https://www.semanticscholar.org/paper/GNSSCarrierPhaseAnomalyDetection
andValidationWonAhn/0c33d8145500b5bd0f360006fb1ef63f04610e67)
สําหรับความคลาดเคลื่อนท่กี ลาวมาขา งตน บางปจจยั สามารถควบคมุ ไดโดยการเลือกตําแหนง
รับสัญญาณดาวเทยี ม ตัวอยา งเชน
ความคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับสัญญาณรบกวนเคร่ืองรับสัญญาณดาวเทียม ตัวอยา งเชน
บรเิ วณสายไฟฟาแรงสูง เสาโทรศัพท หมอแปลงไฟฟา เพราะบริเวณดังกลาวมีสนามแมเหล็กไฟฟา
ซึ่งไปรบกวนสัญญาณดาวเทียมที่สงมายังเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม ทําใหคาพิกัดที่คํานวณได
มีความคลาดเคล่อื นสูง
รปู ภาพแสดงตาํ แหนงใกลหมอแปลงไฟฟา ซงึ่ เปนตําแหนง ท่ีไมเหมาะสมในการรบั สญั ญาณดาวเทยี ม
6 6- 33
รูปภาพแสดงบรเิ วณเสาสัญญาณตาง ๆ ซ่ึงเปนตาํ แหนงที่ไมเหมาะสมในการรับสญั ญาณดาวเทยี ม
คล่ืนหลายวิถี (Multipath) คือ การแพรกระจายของคล่ืนท่ีมีการสะทอนบนพ้ืนผิวตั้งแต
หนง่ึ คร้ังขึ้นไป พ้นื ผวิ ที่สะทอ นอาจอยูในแนวด่งิ ราบ หรือ เอียง เชน ตกึ อาคาร แหลงนํ้าขนาดใหญ
รูปภาพแสดงคลน่ื หลายวถิ ี (Multipath)
66-4 4
รปู ภาพแสดงตําแหนงใกลแหลง น้าํ ซ่งึ อาจทาํ ใหเกิดคลื่นหลายวิถีได
ควรเลือกบริเวณท่ีไมมีสิ่งบดบัง (obstruction) เพ่ือใหสามารถรับสัญญาณดาวเทียม
และรูปแบบของดาวเทียมมีการกระจายตัวที่ดี ซ่ึงถาการกระจายตัวของดาวเทียมมีตําแหนงทางเรขาคณิต
ทไ่ี มดี ทําใหคาพกิ ัดมคี วามคลาดเคลือ่ นสงู สามารถสงั เกตไดจ ากคา PDOP คายิ่งนอยย่ิงดี ตามระเบียบ
กรมทด่ี นิ วา ดว ยการรงั วัดทําแผนท่ีโดยวิธีแผนทชี่ ัน้ หนง่ึ ดวยระบบโครงขายการรังวัดดวยดาวเทียมแบบจลน
(RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562 กาํ หนดใหคา PDOP ไมเกนิ 5.0
รปู ภาพแสดงรปู แบบของดาวเทียมทม่ี ีการกระจายตวั ท่ีดี
66- 55
ตกึ
รูปภาพแสดงรปู แบบของดาวเทียมท่ีมีการกระจายตวั ท่ีไมด ี
(ท่มี า: https://www.agsgis.com/WhatisPDOPAndWhyitsObsolete_b_43.html)
6.1.2 หลักเกณฑการรับสญั ญาณดาวเทยี ม
ตามระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการรังวัดทําแผนที่โดยวิธีแผนท่ีชั้นหน่ึงดวยระบบโครงขาย
การรังวดั ดวยดาวเทียมแบบจลน (RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562 กําหนดใหมีเง่ือนใขในการรังวัด
ตามภาคผนวก ข. ดงั นี้
PDOP คือ คาท่ีบง ชี้ถึงความถูกตองของตําแหนงการกระจายตัวของดาวเทียมในสามมิติ
โดยท่ีคา PDOP ย่ิงนอย คาความถูกตองของการรังวัดตําแหนงยิ่งดี ตามระเบียบฯ คา PDOP ขณะทํา
การรังวดั ไมเกนิ 5.0
รปู ภาพแสดงตัวอยางคาความถกู ตองของตําแหนง
66 -6 6
จํานวนดาวเทียม คือ การแสดงถึงจํานวนดาวเทียมท่ีเครื่องรับสัญญาณรับสัญญาณได ณ
เวลาใด ๆ ถา ตาํ แหนงทร่ี ับสญั ญาณมกี ารบดบงั จะทาํ ใหร บั สัญญาณดาวเทียมไดจํานวนนอย ซึ่งจํานวน
ดาวเทยี มยิ่งนอยความคลาดเคล่อื นยิง่ มาก
รปู ภาพแสดงตวั อยางแสดงจาํ นวนดาวเทียม
Horizontal Error คอื คา ความคลาดเคล่ือนทางราบ เปนตัวช้ีวัดอยางหนึ่งวา ถาการรับ
สัญญาณดาวเทยี มเมอื่ มีการเลือกตาํ แหนงท่ีดี คาพกิ ดั จะมีความคลาดเคลื่อนนอย ตามระเบียบฯ คา Horizontal
Error มคี าไมเกนิ 3.0 เซนติเมตร
รูปภาพแสดงคา ความคลาดเคลอื่ นทางราบ
6 6- 77
ฟก ซ (Fix) คอื สถานะของการรับสญั ญาณดาวเทียม ซึ่งจํานวนลูกคลื่นไดถูกคํานวณแลว
และไดผลลัพธเปนจาํ นวนลูกคลื่นเต็มลูกคล่ืน ตามระเบียบฯ ขณะทําการรับสัญญาณดาวเทยี มสถานะ
ตอ งเปน ฟก ซ
รูปภาพแสดงสถานการณรับสัญญาณดาวเทียม
6.2 กรณกี ารรบั สญั ญาณดาวเทียมโดยตรงที่หลักเขตท่ีดิน
ระเบียบกรมที่ดนิ วาดว ยการรังวัดทําแผนที่โดยวิธีแผนท่ีชั้นหน่ึงดวยระบบโครงขายการรังวัด
ดว ยดาวเทียมแบบจลน (RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562 กาํ หนดใหสามารถทําการรังวัดโดยระบบ
โครงขายดาวเทียมแบบจลนไดโดยตรงที่หลักเขตที่ดิน เพราะเปนวิธีใหคาความถูกตองเชิงตําแหนงถูกตอง
มากท่สี ุด
6.2.1 การเลอื กตาํ แหนง ในการรับสัญญาณดาวเทียมโดยตรงบนหวั หลกั เขตทด่ี นิ ไดแ ก
พื้นท่ีบรเิ วณน้ัน โลง ไมมีสิ่งบดบงั ไมมวี ตั ถสุ ะทอน และใกลสิ่งรบกวนคลน่ื สญั ญาณดาวเทียม
พน้ื ที่บริเวณนั้น สามารถต้ังขา Tripod (สามขา) ได
พน้ื ทีท่ ําการรับสญั ญาณดาวเทยี มตองมีสัญญาณอนิ เทอรเน็ต
68
6-8
หลักเขตทีดนิ
รูปภาพแสดงการเลือกตําแหนงในการรบั สัญญาณดาวเทียมโดยตรงบนหัวหลักเขตท่ดี ิน
6.2.2 เงื่อนไขและข้ันตอนการรังวัด อางอิงจากภาคผนวก ข. ของระเบียบกรมที่ดิน วาดวย
การรงั วัดทาํ แผนทโ่ี ดยวธิ ีแผนทช่ี ้นั หนึ่งดว ยระบบโครงขายการรังวัดดวยดาวเทียมแบบจลน (RTK GNSS
Network) พ.ศ. 2562 ขอ ที่ 2. ดงั น้ี
1) ใชวธิ ีการรงั วัดตามรูปแบบหมดุ ดาวเทยี ม RTK Network โดยรับสัญญาณทุก 1 วินาที
และไดขอมูลการรบั สัญญาณดาวเทยี ม ไมนอยกวา 60 วนิ าที อยา งตอเนื่อง จาํ นวน 3 ครง้ั
2) การรับสัญญาณดาวเทียมโดยระบบโครงขายการรังวัดดวยดาวเทียมแบบจลน ณ สถานีจร
ใหใ ชเครื่องรบั สญั ญาณดาวเทียมประกอบขากลอง ต้งั ใหตรงศนู ยก ลางหมุดหลกั เขตท่ีดิน
3) กอ นการรับสัญญาณดาวเทียมทุกคร้ัง ใหปดเครือ่ งแลว เปดเครื่องใหม เพื่อใหเคร่ืองรับ
สญั ญาณมีสภาพเริ่มตนการทาํ งานใหม โดยคาความแตกตางของคาพิกัดตองอยูในเกณฑความคลาดเคล่ือน
เชงิ ตาํ แหนงในทางราบ ± 4 เซนตเิ มตร และใหใชค า เฉลี่ย
4) เมือ่ ทาํ การรับสัญญาณแลวเสรจ็ ใหพจิ ารณาหลกั เกณฑตามหัวขอ 6.1.2
5) กรณีที่ทําการรงั วดั โดยรับสัญญาณดาวเทียมโดยตรงท่ีหลักเขตที่ดิน ใหถายภาพขณะทํา
การรังวัด หลักเขตละอยางนอย 1 ภาพ และอัปโหลด (Upload) ภาพถายดังกลาว เขาสูสถานีควบคุม
(Control Station)
6 6- 99
รูปภาพแสดงการรบั สญั ญาณดาวเทียมบนหมดุ หลักเขต
6.3 กรณกี ารรงั วัดโยงยึดหลกั เขตทด่ี นิ จากหมุดดาวเทยี ม RTK Network
การรังวัดแปลงที่ดินเพื่อรังวัดโยงยึดหลักเขตที่ดินจากหมุดดาวเทียม RTK Network
ตามระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการรังวัดทาํ แผนท่ีโดยวิธีแผนท่ีชั้นหนึ่งดวยระบบโครงขายการรังวัด
ดว ยดาวเทียมแบบจลน (RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562 ควรทาํ การวางแผนการรับสัญญาณในพ้ืนที่
เพ่อื ใหการรังวัดเปนไปตามระเบียบฯ และมีความถูกตอง โดยเลือกใชรูปแบบวิธีการรังวัดใหเหมาะสม
กับสภาพพ้ืนที่บรเิ วณโดยรอบของแตละหมดุ หลกั เขตท่ดี นิ เพือ่ ใหไ ดม าซ่ึงคาพิกัดของหมุดหลักเขตที่ดิน
ท่มี คี วามถกู ตอง ควรเลือกใชร ปู แบบวิธีการรังวัดท่ีทําใหเกิดคาความคลาดเคล่ือนท่ีนอยกวา โดยเฉพาะ
แปลงที่ดินที่มีขนาดใหญอาจจําเปน ตอ งใชว ิธกี ารรงั วัดหลายรปู แบบผสมกัน
ตวั อยางดังรปู เปน พื้นที่สลับซับซอนมีหลักเขตที่ดินอยู 5 หมุด ท่ีตองทําการรังวัดตามระเบียบ
กรมท่ีดิน วา ดวยการรังวัดทําแผนที่โดยวิธีแผนทช่ี ้นั หนึง่ ดวยระบบโครงขายการรังวัดดวยดาวเทียมแบบจลน
(RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562
66 -1010
รูปภาพแสดงแปลงทีด่ นิ และหมุดหลกั เขตท่ีดินโดยรอบที่ตอ งดาํ เนินการตามระเบยี บฯ
ในการดาํ เนินการตามระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการรังวัดทาํ แผนที่โดยวิธีแผนที่ช้ันหน่ึง
ดวยระบบโครงขายการรังวัดดวยดาวเทียมแบบจลน (RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562 ในแตละวัน
กอนท่ีจะไปทําการรังวัดในพ้ืนท่ี ตองทําการรับสัญญาณดาวเทียมที่หมุดตรวจสอบ RTK Network
สวนใหญจะอยูในบริเวณสาํ นักงานที่ดินที่อยูใกลกับพื้นที่แปลงที่ดินที่จะทําการรังวัดเพ่ือทดสอบระบบ
คาพกิ ดั ของการรับสัญญาณดาวเทียมดวยระบบโครงขายการรังวัดดวยดาวเทียมแบบจลน วายังใชงาน
ไดปกติหรือไม และเปนการทดสอบเครื่องมือรับสัญญาณดาวเทียมกอนที่จะออกไปในพื้นที่งานรังวัด
วายังใชงานไดปกติหรือไมเชนกัน โดยจะสังเกตไดจากคาพิกัดที่ไดจากเคร่ืองมือรับสัญญาณดาวเทยี ม
เมื่อเปรียบเทียบกับคาพิกัดของหมุดตรวจสอบ RTK Network จะตองมีคาความแตกตางทางระยะราบ
ไมเกิน 4 เซนติเมตร และคาความแตกตางของคาระดับจะตางกันในระดับ 10 เซนติเมตร จึงจะมั่นใจ
ไดวาการปฏิบัติงานรังวัดดวยระบบดาวเทียม RTK GNSS Network ในแปลงที่ดินวันน้ัน จะไดคาพิกัด
ท่ีถูกตองไมผ ดิ เพ้ยี นไป
6 11
6 - 11
การรบั สญั ญาณดาวเทยี มท่ีหมดุ ตรวจสอบ RTK Network
รบั สญั ญาณดาวเทยี มสถานะฟกซ (Fixed) อยางนอย 1 ครั้ง คร้ังละไมตํ่ากวา 60 วนิ าที
จํานวนดาวเทียมตั้งแต 5 ดวงข้ึนไปและคาเรขาคณิตของดาวเทยี ม PDOP ไมเกิน 5
คา ความคลาดเคลอื่ นทางราบ Horizontal Error ไมเกิน 3 เซนติเมตร
อตั ราการบนั ทกึ ขอ มูลดาวเทียม (Epoch rate) เทากบั 1 epoch/วนิ าที
เมื่อนาํ คาพิกัดรับสัญญาณดาวเทียมที่ไดไปเปรียบเทียบกับคาพิกัดหมุดตรวจสอบ
RTK Network จะมีคา ตา งกันทางระยะราบ ไมเ กนิ 4 เซนตเิ มตร
คาระดับของคาพิกัดรับสัญญาณดาวเทียมท่ีไดเมื่อเปรียบเทียบกับคาพิกัดหมุดตรวจสอบ
RTK Network จะตางกันในระดับ 10 เซนติเมตร ถามีคาระดับแตกตางกันในระดับเมตร
ตองทําการต้ังคาเคร่ืองใหมีการทอนคาระดับใหเปนคาระดับท่ีอางอิงบนระดับนํ้าทะเล
ปานกลางกอนทําการรังวัด
รปู ภาพแสดงภาพ QRCode เพือ่ ลิงกไปดูวิดีโอประกอบเพ่ิมความเขา ใจ
6 12
6 - 12
การวางแผนกําหนดวิธีทําการรังวัดใหเหมาะสมในแตละหลักเขตท่ีดิน ข้ึนอยูกับการออกแบบ
ของชา งที่ทําการรังวัด ในแตละบุคคลอาจเลือกใชรูปแบบวิธีการท่ีแตกตางกัน ในที่น้ีจะออกแบบวิธีการ
รังวดั ใหครบทกุ รปู แบบ เพ่ือจะไดใชเปน แนวทางเบอื้ งตน ในการวางแผนงาน ดงั น้ี
รปู แบบท่ี 1 (หมดุ หลักเขตที่ดนิ ที่ 1) รบั สัญญาณดาวเทยี มทห่ี ัวหมดุ หลกั เขตที่ดิน
รูปแบบที่ 2 (หมุดหลกั เขตที่ดิน ท่ี 2) รังวัดโยงยึดออกจากหมุดดาวเทยี ม RTK Network
รูปแบบท่ี 3 (หมุดหลกั เขตที่ดนิ ท่ี 3) สรางหมดุ ลอยออกจากหมดุ ดาวเทียม RTK Network
แลว ใชห มดุ ลอยทาํ การรงั วดั โยงยดึ หมดุ หลักเขตทด่ี ิน
รูปแบบที่ 4 (หมุดหลักเขตท่ดี ิน ท่ี 4) รังวดั โยงยึดออกจากหมดุ เสน โครงงานหมุดหลักฐานแผนท่ี
รปู แบบท่ี 5 (หมดุ หลกั เขตที่ดนิ ท่ี 5) สรางหมดุ ลอยออกจากหมุดเสนโครงงานหมุด
หลักฐานแผนที่ แลวใชห มุดลอยทําการรังวดั โยงยดึ หมุดหลักเขตท่ีดิน
รูปภาพแสดงแผนการรงั วัดหมุดหลกั เขตท่ดี ินในรูปแบบตา ง ๆ ตามระเบียบกรมที่ดิน
วาดวยการรังวัดทําแผนที่โดยวิธีแผนท่ีช้ันหนึ่งดว ยระบบโครงขายการรังวัดดวยดาวเทยี มแบบจลน
(RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562
66- 1133
รปู แบบที่ 1 (หมดุ หลักเขตท่ีดิน ที่ 1) รับสญั ญาณดาวเทียมทีห่ ัวหมดุ หลักเขตทด่ี ิน
ซ่ึงรายละเอียดขั้นตอนการปฏิบตั งิ านไดกลา วแลวในหัวขอ 6.2
รูปภาพแสดงวิธีการรับสญั ญาณดาวเทียมทีห่ วั หมุดหลักเขตทดี่ นิ
กอนที่จะทําการรังวัดตามรูปแบบท่ี 2 และรูปแบบที่ 3 สิ่งที่ตองทําเปนข้ันตอนแรก คือ
สรา งคูห มดุ ดาวเทียม RTK Network โดยตองสรา งอยางนอย 1 ชุด แตละชุดประกอบดวยหมุดดาวเทียม
อยา งนอย 2 หมุด
รูปภาพแสดงการสรางหมุดดาวเทียม ชุดละ 2 หมดุ หรือมากกวานั้น
6 14
6 - 14
วธิ สี รางคหู มดุ ดาวเทียม RTK Network
รูปภาพแสดงการฝง หมุดดาวเทยี ม เลือกสถานทีฝ่ งหมดุ ใหม ีพื้นที่โลงและรับสัญญาณดาวเทียม
ไดดีโดยรอบในทุกดานใหมากท่ีสุด ใหหางจากจุดท่ีมีคลื่น
แมเหล็กไฟฟาพอสมควร เพ่ือจะทําใหมีโอกาสไดคาพิกัดท่ีมี
ความถูกตองอยางรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยใหมีระยะหางภายใน
คูหมุดดาวเทียม ไมตํา่ กวา 100 เมตร และใหใชกลองสํารวจ
ทาํ การวัดระยะหางทางราบภายในคูหมุดดาวเทียม ซ่ึงกอน
จะทาํ การวัดระยะทางราบใหท าํ การต้ังคาคงท่ีของกลองสํารวจ
ในเร่ืองคาคงที่ของเปา ปรซิ มึ PC (Prism Constant) ใหถูกตอง
ตรงตามรุนของปริซึมนั้น ท้ังน้ี ตองดูรายละเอียดตามคูมือ
ของบริษทั ผูผ ลิตเปา ปริซมึ โดยเปา ปรซิ ึมทพ่ี บสวนใหญจะมี
คาคงท่ีของเปาปริซึม PC = 0 หรือ PC = 30 สังเกตได
ตามรปู ขา งลาง
รปู ภาพแสดงการตง้ั คาคงที่ของปริซึมและการวดั ระยะทางราบของคหู มุดดาวเทียม RTK Network
6 15
6 - 15
ถาจะสรา งหมุดดาวเทียม RTK Network ที่มีระยะหางภายในคูหมุดส้ันกวา 100 เมตร
ตองไดรับการพจิ ารณาอนญุ าตจากหัวหนาฝา ยรังวดั หรอื ผูมหี นา ทีค่ วบคมุ การรังวัด แตตองมีระยะไมน อยกวา
50 เมตร ควรถายรูปแนบประกอบการพจิ ารณา แลว ใหท าํ เชนสนาม ร.ว. 31 ง ดว ย
รูปภาพแสดงการถา ยรูปประกอบการขออนุญาตสรา งคูห มุดดาวเทยี มทีม่ รี ะยะสัน้ กวา 100 เมตร
รูปภาพแสดงการสรางคหู มดุ ดาวเทยี ม จาํ นวน 2 คู ในแปลงรังวดั ทด่ี นิ เดียวกนั
6 16
6 - 16
การรบั สัญญาณคูหมดุ ดาวเทยี ม RTK Network
รูปภาพแสดงการรับสัญญาณดาวเทียมและเกณฑใ นการรับสญั ญาณดาวเทยี ม
6 17
6 - 17
การตรวจสอบระยะภายในคูหมุดดาวเทียม RTK Network
การปฏิบัติงานรังวัด RTK GNSS Network หลายทานอาจจะละเลยการตรวจสอบระยะ
ภายในคูหมุดดาวเทียมในสนามวาไดผานเกณฑการตรวจสอบทางระยะหรือไม ซึ่งการรังวัดสวนใหญ
ก็จะผา นเกณฑน้ีไดไ มย าก แตในบางคร้ังเมื่อนําเขาขอมูลดาวเทียมเขาระบบถาระยะไมผานเกณฑอาจจะ
ทําใหตองกลับไปตรวจสอบในสนามอีกครั้งหน่ึง ในหัวขอนี้จะแนะนําการตรวจสอบระยะในสนามและ
ขอแนะนาํ ในการทาํ งานเพ่อื ใหค าผา นเกณฑการตรวจสอบทางระยะไดโดยงา ยขึน้
เมอ่ื ทาํ การรับสัญญาณคูหมดุ ดาวเทยี มผา นเกณฑเ บอื้ งตน ของแตล ะหมุดแลว ควรทําการหาคา
ระยะกริดทางราบของคูหมุดดาวเทียม (ระยะแผนที่) ซ่ึงในเครื่องควบคุม Controller จะมีฟงกชัน Inverse
ในการหาคาดังกลาว เม่ือไดระยะแผนทแี่ ลวใหท ําการหาระยะจรงิ ซง่ึ ในเครือ่ งควบคุม Controller จะมี
ฟง กช นั Apply Grid to Ground จะทําใหทราบคาระยะจริง
รูปภาพแสดงความสัมพนั ธร ะหวา งระยะกรดิ กับระยะจรงิ จากการคาํ นวณของคาพิกดั ดาวเทียม
เพือ่ นําไปเปรียบเทยี บกับระยะตรวจสอบที่ไดจาการวัดระยะราบของกลองสํารวจ
6 18
6 - 18
ใชกลองสํารวจวัดระยะราบภายในคูหมุดดาวเทียม โดยตองทาํ การต้ังคาคงที่ปริซึม PC
(Prism Constant) ในกลองสํารวจใหถูกตอง ถาไมถูกตองจะทาํ ใหการวัดระยะในแตล ะครั้งผิดพลาด
หลายเซนติเมตร แลวใหนําระยะจริงภายในคูหมุดดาวเทียมมาเทียบกับระยะราบจากการสองกลอง
จะยอมรบั ใหต า งกันไดไ มเ กินเกณฑ 1 :3,000 ถาผานเกณฑในสนาม เม่ือไดนําขอมูลดาวเทียมเขาสูระบบ
ในรายงานการตรวจสอบความถูกตอ งของระยะ (ร.ว. 80 ข) จะสรปุ ใหวา “ผา น”
รปู ภาพแสดงตวั อยางรายงานการตรวจสอบความถูกตองทางระยะภายในคหู มดุ ดาวเทยี ม
ถาระยะขา งตน มคี วามแตกตางมากกวาเกณฑ 1 :3,000 ใหตรวจสอบท้ังการวัดระยะของกลอง
และการรับสัญญาณดาวเทียม บางทีระยะกลองอาจจะผิดพลาด หรือบางครั้งคาพิกัดดาวเทียมที่มี
ความแมน ยําสูง แตมคี วามถูกตองไมดีพอ ปญหานี้มักเกดิ จากการรบั สัญญาณในชว งท่สี ภาพอากาศแปรปรวน
ขอแนะนําเน่ืองจากหมุดดาวเทียมมีความคลาดเคล่ือนท่ีจํากัดไมเกินเฉลี่ยทางราบ (HRMS) ควรสรางคู
หมดุ ดาวเทยี มใหม รี ะยะภายในคูหมุดทยี่ าวขน้ึ จะไดเพ่มิ คา ความถูกตอง (Accuracy) ทางระยะดวย มีผล
ทําใหระยะภายในคูหมุดดาวเทียมผานเกณฑการตรวจสอบ 1 :3,000 งายขึ้นและทิศทางของคหู มดุ
ดาวเทยี มทเี่ ปน ธงหลังจะมีความถูกตองสูงตามไปดวย ตัวอยางเชน ถาคูหมุดดาวเทียมมีระยะ 100 เมตร
เกณฑย อมรบั ใหระยะราบของกลองตางจากระยะจริงของคูหมุดดาวเทียมไดประมาณ 3.3 เซนติเมตร
แตถ าคูหมุดดาวเทียมมีระยะ 200 เมตร จะยอมใหระยะราบของกลองตางจากระยะจริงของคูหมุดดาวเทียม
ไดถึงประมาณ 6.6 เซนติเมตร ซึ่งทําใหผานเกณฑไดงายกวา ดังนั้น ระยะหมุดธงหลังยิ่งยาวมากยิ่งดี
แตการรังวัดระยะหมุดธงหนาจะมีคาความคลาดเคลื่อนแปรผันตามความยาวของระยะ เชน ถาความผิด
ทางมุม 60 ฟลิปดา ท่ีระยะ 100 เมตร จะมีคาความคลาดเคล่ือน 2.9 เซนติเมตร ดังนั้น ระยะหมุดธงหนา
ไมค วรเกนิ ระยะหมดุ ธงหลัง เพราะไมต องการใหเ กดิ คาความคลาดเคลือ่ นทีม่ ากกวา
รปู ภาพแสดงคาความคลาดเคล่ือนแปรผนั ตามระยะของหมุดธงหนา
66- 19
19
รูปแบบที่ 2 (หมุดหลักเขตท่ีดิน ที่ 2) รังวัดโยงยึดออกจากหมุดดาวเทียม RTK Network
การรังวัดโยงยึดออกจากหมุดดาวเทียม RTK Network ตองมีระยะระหวางหมุดดาวเทียม
RTK Network แรกออกถึงหมุดหลักเขตที่ดินไมเกินระยะของคูหมุดดาวเทียม RTK Network ท่ีใชเปนฐาน
และตอ งไมเ กนิ กวา 200 เมตร ควรสองกลองทั้งกลองหนาซายและหนาขวาเพื่อขจัดความคลาดเคล่ือน
ของแกนด่ิงของกลอง อีกท้ังเปนการตรวจสอบความผิดพลาดในการวัดมุมและใหใชคาเฉลี่ยของการวัดมุม
และระยะในการคาํ นวณ
รปู ภาพแสดงการรังวดั โยงยึดหลกั หมดุ เขตทดี่ ินจากหมดุ ดาวเทียม RTK Network โดยตรง
การใช pole รังวัดในการสองกลองเพ่ือเก็บรายละเอียดหมุดหลักเขตท่ีดิน ใหระมัดระวัง
การตง้ั pole รังวัดใหอ ยูในแนวดิ่ง ถาเปนไปไดควรใช Bipod ประกอบเขากับ pole รังวัดเพื่อใหการรังวัด
มีความถูกตอง ลดความคลาดเคล่อื นกรณีตั้ง pole ไมน ง่ิ ในแนวด่ิง
สว นการรบั สัญญาณดาวเทยี มใหใชขาตั้งกลองสามขา (tripod) จะใช pole รังวัดเพียงแค
ใชรบั สญั ญาณดาวเทยี มเพ่อื การหาคา พกิ ัดโดยวธิ กี าร Stake out
6 20
6 - 20
รูปแบบที่ 3 (หมุดหลักเขตที่ดิน ท่ี 3) สรางหมุดลอยออกจากหมุดดาวเทียม RTK Network
แลว ใชห มดุ ลอยทาํ การรงั วัดโยงยดึ หมุดหลักเขตที่ดนิ
กรณไี มสามารถทาํ การรังวัดโยงยึดหมุดหลักเขตที่ดินจากหมุดดาวเทียม RTK Network
โดยตรงได เน่อื งจากมีระยะระหวางหมดุ ดาวเทียม RTK Network แรกออกถึงหมุดหลักเขตท่ีดิน เกินกวา
ระยะของคูหมุดดาวเทียม RTK Network ที่ใชเปนฐาน หรือระยะระหวางหมุดดาวเทียม RTK Network
แรกออกถึงหมุดหลักเขตที่ดิน เกินกวา 200 เมตร สามารถสรางหมุดลอยได แตใชในกรณีท่ีจําเปนเทานั้น
และตองไดร ับการอนุมัตจิ ากหัวหนา ฝายรงั วดั หรอื ผูมีหนาทีค่ วบคุมการรังวัด โดยจะตองมีระยะระหวาง
หมุดดาวเทียม RTK Network แรกออกถึงหมุดลอยไมเกินกวาระยะของคูหมุดดาวเทียม RTK Network
ท่ีใชเปนฐาน และตองไมเกินกวา 200 เมตร ควรสองกลองท้ังกลองหนาซายและหนาขวา เพื่อขจัด
ความคลาดเคลื่อนของแกนดิ่งของกลอง อีกทั้งเปนการตรวจสอบความผิดพลาดในการวัดมุมและใหใช
คา เฉลยี่ ของการวัดมมุ และระยะในการคํานวณ
รปู ภาพแสดงการสรา งหมุดลอยออกจากหมดุ ดาวเทยี ม RTK Network
หลังจากน้ัน ใชหมุดลอยนี้เพ่ือการรังวัดโยงยึดหมุดหลักเขตที่ดิน โดยใหมีระยะระหวาง
หมุดลอยถึงหมุดหลักเขตที่ดิน ไมเกินกวาระยะระหวางหมุดดาวเทียม RTK Network แรกออกถึงหมุดลอย
และตองไมเกินกวา 100 เมตร ควรสองกลองทั้งกลองหนาซายและหนาขวาเพ่ือขจัดความคลาดเคลื่อน
ของแกนด่ิงของกลอง อีกท้ังเปนการตรวจสอบความผิดพลาดในการวัดมุมและใหใชคาเฉล่ียของการวัดมุม
และระยะในการคาํ นวณ
6 21
6 - 21
รูปภาพแสดงการโยงยึดหมดุ หลักเขตท่ดี นิ จากหมุดลอยที่ออกจากหมดุ ดาวเทียม RTK Network
6 22
6 - 22
6.4 กรณีการรังวดั โยงยดึ หลกั เขตท่ดี นิ จากหมดุ หลักฐานแผนท่เี สนโครงงานเพ่อื เกบ็ รายละเอยี ด
ขอ แนะนาํ เพ่อื เปน แนวทางเพิม่ ความถูกตอ งในการรังวดั ของแปลงที่ดินท่ดี ีข้นึ
คูห มุดดาวเทียมที่ใชออกและเขาบรรจบเสนโครงงาน ควรมีคาความถูกตองอยูในเกณฑ
1 :5,000 เทียบเทามาตรฐานการวางโครงหมุดหลักฐานแผนที่ยอยของกองเทคโนโลยีทาํ แผนท่ี โดยมี
รายละเอียดพอสังเขป ดงั น้ี
ควรใชก ลองวดั มุมท่อี านไดละเอยี ดโดยตรง 1 ฟลปิ ดา
ควรมีจํานวนชุดของการวัดมมุ อยา งนอยไมตํา่ กวา 3 ชดุ
ควรมีคาความแตกตางของมุมในแตละชุดเม่ือเทียบกับคาเฉลี่ยของมุมทั้งหมดจะตอง
ไมเ กิน 5 ฟลปิ ดา
ความคลาดเคลื่อนทางมุม (Angular Error) ไมควรเกิน 30′′ N โดยท่ี N = จํานวนหมุด
ทต่ี ง้ั กลอง
ความคลาดเคล่ือนบรรจบของวงรอบ (Error of Closure) ไมค วรเกนิ 1 :5,000
รปู ภาพแสดงการวางเสนโครงงานหมุดหลกั ฐานแผนทเ่ี พ่ือใชใ นการรงั วัดท่ีดนิ
6 23
6 - 23
รปู แบบท่ี 4 (หมดุ หลักเขตทด่ี ิน ท่ี 4) รังวดั โยงยึดออกจากหมุดเสนโครงงานหมุดหลักฐานแผนท่ี
กรณที ไี่ มส ามารถทําการรงั วดั โยงยึดหลักเขตท่ีดินจากหมุดดาวเทียม RTK Network ตาม
รูปแบบท่ี 1 ถึงรูปแบบที่ 3 ได อาจตองทําการวางเสนโครงงานหมุดหลักฐานแผนท่ี ควรทําตามคําแนะนํา
ขอ 6.4 ขางตน และสามารถทาํ การโยงยึดออกจากหมุดเสนโครงงานฯ โดยตองมีระยะระหวางหมุด
เสนโครงงานฯ แรกออกถึงหมุดหลักเขตท่ีดิน ไมเกินกวาระยะเสนฐานและตองไมเกินกวา 200 เมตร
ควรสอ งกลอ งท้ังกลองหนาซายและหนาขวา เพื่อขจัดความคลาดเคลื่อนของแกนด่ิงของกลอง
อีกทง้ั เปน การตรวจสอบความผดิ พลาดในการวัดมุมและใหใ ชคาเฉล่ียของการวัดมุมและระยะในการคาํ นวณ
รูปภาพแสดงการโยงยดึ หมุดหลกั เขตทดี่ ินจากหมุดเสนโครงงานหมดุ หลักฐานแผนที่
6 24
6 - 24
รปู แบบที่ 5 (หมุดหลกั เขตท่ดี ิน ที่ 5) สรางหมุดลอยออกจากหมุดเสนโครงงานหมุดหลักฐาน
แผนที่ แลวใชหมุดลอยทําการรังวัดโยงยึดหมุดหลักเขตท่ีดิน (การสรางหมุดลอยออกจากหมุดเสนโครงงานฯ
ไมจ าํ เปน ไมค วรทาํ เพราะจะมีความคลาดเคลื่อนสูง)
กรณีท่ีไมสามารถทําการรังวัดโยงยึดหลักเขตท่ีดินจากหมุดเสนโครงงานฯ ได เนื่องจากมี
ระยะระหวางหมดุ เสน โครงงานฯ ถึงหมุดหลักเขตที่ดินเกินกวาระยะของเสนฐาน หรือระยะระหวางหมุด
เสน โครงงานฯ แรกออกถงึ หมุดหลักเขตท่ีดิน เกินกวา 200 เมตร ใหสรางหมุดลอยแตใชในกรณีที่จําเปน
เทาน้ัน และตอ งไดรับการอนุมตั จิ ากหวั หนาฝายรังวัดหรือผูมีหนาที่ควบคุมการรังวัด โดยจะตองมีระยะ
ระหวา งหมดุ เสนโครงงานฯ แรกออกถึงหมดุ ลอยไมเ กนิ กวา ระยะเสนฐานและตอ งไมเกนิ กวา 200 เมตร
ควรสอ งกลองทั้งกลองหนาซายและหนาขวา เพ่ือขจัดความคลาดเคล่ือนของแกนด่ิงของกลอง
อีกทัง้ เปน การตรวจสอบความผดิ พลาดในการวดั มมุ และใหใชคาเฉล่ยี ของการวดั มุมและระยะในการคาํ นวณ
รูปภาพแสดงการสรา งหมดุ ลอยออกจากหมดุ เสน โครงงานหมดุ หลักฐานแผนที่
6 25
6 - 25
การใชห มดุ ลอยที่ออกจากหมุดเสนโครงงานฯ โยงยึดหมุดหลักเขตท่ีดิน ตองมีระยะระหวาง
หมุดลอยถงึ หมุดหลักเขตที่ดนิ ไมเ กินกวา ระยะของเสนฐาน และตอ งไมเกนิ กวา 100 เมตร
ควรสอ งกลอ งท้งั กลอ งหนาซายและหนา ขวาเพ่อื ขจัดความคลาดเคล่ือนของแกนด่ิงของกลอง
อกี ท้งั เปน การตรวจสอบความผดิ พลาดในการวัดมมุ และใหใ ชคา เฉลีย่ ของการวดั มุมและระยะในการคํานวณ
5
รูปภาพแสดงการโยงยึดหมดุ หลกั เขตที่ดินจากหมดุ ลอยท่ีออกจากหมดุ เสนโครงงานหมดุ หลักฐานแผนที่
6 26
6 - 26
การคํานวณคาความคลาดเคลอื่ นของคาพกิ ัดของหมุดหลักเขตทีด่ ิน
สืบเนอ่ื งมาจากระเบียบกรมทด่ี นิ วาดว ยการรังวัดทาํ แผนท่โี ดยวิธแี ผนที่ชน้ั หนง่ึ ดวยระบบ
โครงขา ยการรังวัดดวยดาวเทียมแบบจลน (RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562
รูปภาพแสดงแผนผังการรังวัดโยงยึดคาพิกัดของหมุดหลักเขตท่ีดินและระยะหางระหวาง
หมุดหลักฐานแผนท่ี เพอ่ื ใชใ นการคาํ นวณคา ความคลาดเคลอื่ นของหมดุ หลกั เขตทีด่ ินในรูปแบบตา ง ๆ
รปู แบบที่ 1 (หมุดหลกั เขตที่ดนิ ท่ี 1) รับสัญญาณดาวเทียมท่หี วั หมุดหลักเขตท่ดี ิน
คาความคลาดเคล่ือนเชิงตําแหนงในทางราบของหมุดหลักเขตที่ดินตามรูปแบบท่ี 1 อางอิง
ตามระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการรังวัดทําแผนที่โดยวิธีแผนท่ีชั้นหน่ึงดวยระบบโครงขายการรังวัดดวย
ดาวเทยี มแบบจลน (RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562 ภาคผนวก ค. ขอ 3.1 จะมีคาไมเ กนิ 4 เซนตเิ มตร
6 27
6 - 27
รปู แบบท่ี 2 (หมดุ หลักเขตที่ดิน ที่ 2) รังวัดโยงยดึ ออกจากหมุดดาวเทียม RTK Network
คาความคลาดเคลื่อนเชิงตําแหนงในทางราบของหมุดหลักเขตท่ีดินตามรูปแบบท่ี 2 อางอิง
ตามระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการรังวัดทําแผนท่ีโดยวิธีแผนท่ีช้ันหน่ึงดวยระบบโครงขายการรังวัดดวย
ดาวเทียมแบบจลน (RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562 ภาคผนวก ค. ขอ 3.2 สามารถคํานวณได
ตามขางลา งนี้
คา ความคลาดเคลื่อน = + 4 + (48.433 x 100)
10,000
= + 4.484 เซนติเมตร
รูปแบบท่ี 3 (หมุดหลักเขตท่ีดิน ที่ 3) สรางหมุดลอยออกจากหมุดดาวเทียม RTK Network
แลว ใชหมดุ ลอยทาํ การรังวัดโยงยึดหมดุ หลักเขตท่ดี นิ
คาความคลาดเคลื่อนเชิงตําแหนงในทางราบของหมุดหลักเขตท่ีดินตามรูปแบบท่ี 3 อางอิง
ตามระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการรังวัดทําแผนที่โดยวิธีแผนที่ช้ันหน่ึงดวยระบบโครงขายการรังวัดดวย
ดาวเทียมแบบจลน (RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562 ภาคผนวก ค. ขอ 3.2 สามารถคํานวณได
ตามขางลา งนี้
คา ความคลาดเคลอ่ื น = + 4 +((56.726+46.699) x 100)
10,000
= + 5.034 เซนติเมตร
6 28
6 - 28
รูปแบบท่ี 4 (หมดุ หลกั เขตท่ีดนิ ที่ 4) รังวดั โยงยดึ ออกจากหมุดเสน โครงงานหมดุ หลักฐานแผนที่
คาความคลาดเคลื่อนเชิงตําแหนงในทางราบของหมุดหลักเขตที่ดินตามรูปแบบท่ี 4 อางอิง
ตามระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการรังวัดทําแผนท่ีโดยวิธีแผนท่ีช้ันหน่ึงดวยระบบโครงขายการรังวัดดวย
ดาวเทียมแบบจลน (RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562 ภาคผนวก ค. ขอ 3.3 สามารถคํานวณได
ตามขา งลา งนี้
คา ความคลาดเคล่ือน = + 4 + ((73.974+43.454) x 100)
10,000
= + 5.174 เซนตเิ มตร
รปู แบบที่ 5 (หมดุ หลกั เขตที่ดนิ ท่ี 5) สรางหมุดลอยออกจากหมุดเสนโครงงานหมุดหลักฐาน
แผนท่ี แลวใชหมดุ ลอยทําการรังวัดโยงยึดหมุดหลักเขตท่ดี นิ
คาความคลาดเคล่ือนเชิงตําแหนงในทางราบของหมุดหลักเขตที่ดินตามรูปแบบที่ 5 อางอิง
ตามระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการรังวัดทําแผนท่ีโดยวิธีแผนท่ีช้ันหน่ึงดวยระบบโครงขายการรังวัดดวย
ดาวเทียมแบบจลน (RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562 ภาคผนวก ค. ขอ 3.3 สามารถคํานวณได
ตามขางลา งน้ี
คาความคลาดเคลอ่ื น = + 4 + ((60.502+37.869+31.805) x 100)
10,000
= + 5.301 เซนตเิ มตร
6 29
6 - 29
หมายเหตุ : หมุดหลักเขตทดี่ นิ ที่ไดรงั วัดตามระเบียบกรมท่ดี ิน วา ดว ยการรังวัดโดยระบบโครงขา ยการรงั วดั
ดวยดาวเทียมแบบจลน (RTK Network) ในงานรังวัดเฉพาะราย พ.ศ. 2558 ซ่ึงระเบียบน้ีไดยกเลิกไปแลว
การคํานวณคา ความคลาดเคลือ่ นของหมุดหลักเขตท่ีดินดังกลาว ท่ีไดรังวัดโยงยึดหลักเขตที่ดินจากหมุด
ดาวเทียม RTK Network และที่ไดรังวัดโยงยึดจากหมุดเสนโครงงานฯ เพ่ือเก็บรายละเอียดแปลงท่ีดิน
ใหใชเกณฑความคลาดเคลื่อนตามระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการรังวัดทําแผนที่โดยวิธีแผนท่ีช้ันหน่ึงดวย
ระบบโครงขายการรังวัดดวยดาวเทียมแบบจลน (RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562 ภาคผนวก ค. ขอ 3.2
และขอ 3.3 แทนตามลําดบั
กลาวโดยสรปุ หมดุ หลักเขตทด่ี นิ ทไี่ ดร งั วัด สืบเนือ่ งมาจากระเบยี บกรมทดี่ ิน วาดวยการรังวดั
ทาํ แผนทโี่ ดยวธิ แี ผนที่ช้ันหน่ึงดวยระบบโครงขายการรังวัดดวยดาวเทียมแบบจลน (RTK GNSS Network)
พ.ศ. 2562 น้ัน วิธีการรังวัดที่สงผลทําใหเกิดคาความคลาดเคลื่อนของหมุดหลักเขตท่ีดินนอยที่สุด
คอื การรับสญั ญาณดาวเทียมโดยตรงท่ีหัวหมุดหลักเขตท่ีดิน สวนวิธีการรังวัดท่ีควรระมัดระวังเปนพิเศษ
คอื การรังวัดหมุดหลักเขตที่ดินที่ไดรังวัดสืบเนื่องมาจากเสนโครงงานหมุดหลักฐานแผนท่ี เนื่องจากคา
ความคลาดเคลอ่ื นท่ีคํานวณไดตามรูปแบบท่ี 4 (หมุดหลักเขตที่ดิน ที่ 4) และตามรูปแบบท่ี 5 (หมุดหลักเขต
ที่ดิน ที่ 5) จากตัวอยางขางตน เปนเพียงแคความคลาดเคล่ือนสวนหนึ่งท่ีไดคํานวณตามระเบียบกรมที่ดิน
วาดวยการรังวัดทาํ แผนที่โดยวิธีแผนที่ชั้นหนึ่งดวยระบบโครงขายการรังวัดดวยดาวเทียมแบบจลน
(RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562 เทา นั้น แตความคลาดเคล่ือนแทจริงอีกสวนหน่ึงจะอยูที่ความคลาดเคลื่อน
ท่ีสะสมภายในเสนโครงงานหมุดหลักฐานแผนท่ีน้ันเอง เพราะฉะนั้นการที่จะทาํ การรังวัดตามขอ 6.4
ควรปฏิบัติตามขอแนะนําตามมาตรฐานการวางโครงหมุดหลักฐานแผนท่ียอย ของกองเทคโนโลยีทําแผนท่ี
เพื่อเปนแนวทางเพ่ิมความถกู ตองในการรงั วดั แปลงทดี่ นิ ใหด ขี ้นึ
6 30
6 - 30
การพิจารณาคา ความคลาดเคลือ่ นของหมุดหลกั เขตที่ดินสําหรับการรงั วัดในแตล ะครั้ง
Principles of Surveying การรงั วัดทกุ ครัง้ ยอ มมีความคลาดเคล่ือนเกิดข้ึนเสมอ ในพ้ืนท่ีที่เคย
รงั วดั ดว ยระบบ RTK Network แลว หมดุ หลกั เขตทีด่ นิ เดียวกันจะมคี าความคลาดเคลือ่ นเกิดข้นึ ในการรังวัด
แตละคร้งั ใหคาํ นวณคาความคลาดเคลื่อนเชิงตําแหนงจากการรังวัดตามระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการรังวัด
ทาํ แผนทโ่ี ดยวิธแี ผนท่ชี ้ันหน่ึงดวยระบบโครงขายการรังวัดดวยดาวเทียมแบบจลน (RTK GNSS Network)
พ.ศ. 2562 ภาคผนวก ค. และใหใชคาความคลาดเคล่ือนมากที่สุดเปนเกณฑในการเลือกใชคาพิกัด
หมดุ หลักเขตทีด่ นิ ที่สืบเนือ่ งมาจากระบบดาวเทียม
รูปภาพแสดงขนาดของคาความคลาดเคลื่อนในการรังวดั หมุดหลกั เขตที่ดินเดียวกนั ในแตล ะครง้ั
จากรปู ดานบน ใหใชคาความคลาดเคล่ือนท่ีมากที่สุดในแตละกรณี เปนเกณฑในการเลือกใช
คาพกิ ดั ถาผลตางของคา พกิ ัดหมุดหลักเขตท่ดี นิ ใหมกับคา พิกดั เดิมไมเกินเกณฑสูงสุดของคาคลาดเคล่ือนแลว
ใหใชคาพิกดั หมดุ หลักเขตทดี่ ินเดิม
6 31
6 - 31
แผนผัง (Flowchart) แสดงการเลอื กใชคาพกิ ดั หมุดหลักเขตท่ดี นิ ที่สืบเน่อื งมาจากระบบดาวเทยี ม
จากแผนผังดานบนสรุปไดวา ถาผลตางของคาพิกัดหมุดหลักเขตที่ดินใหมกับคาพิกัดเดิม
ไมเกินเกณฑสูงสุดของคา คลาดเคล่อื นแลว ใหใชคา พกิ ัดหมุดหลักเขตที่ดินเดิม แตถาผลตางของคาพิกัด
หมดุ หลกั เขตท่ดี ินใหมกับคาพกิ ดั เดมิ มากกวาเกณฑสูงสุดของคา คลาดเคลอ่ื นแลว แสดงวา เกดิ ความผิดพลาด
ตองทาํ การตรวจสอบตามระเบยี บกรมทด่ี นิ วาดวยการรังวัดทําแผนท่ีโดยวิธีแผนที่ชั้นหนึ่งดวยระบบ
โครงขา ยการรังวัดดวยดาวเทยี มแบบจลน (RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562 ขอ 14 (2)
6 32
6 - 32
6.5 การรบั สญั ญาณดาวเทียมในพื้นทที่ ่ไี มม ีสัญญาณมือถือ
ตามระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการรังวัดทําแผนที่โดยวิธีแผนที่ชั้นหนึ่งดวยระบบโครงขาย
การรังวัดดวยดาวเทียมแบบจลน (RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562 ภาคผนวก ข. ขอ 6 กรณีทําการรังวัด
ในพื้นที่ท่ีไมม ีระบบสอ่ื สาร หรือระบบสื่อสารขัดของ ไมเสถียร ยกตัวอยางเชน พื้นที่บริเวณชายแดนที่มี
สญั ญาณโทรศพั ทประเทศเพอ่ื นบานรบกวน ใหป ฏิบตั ดิ งั นี้
1) กอนทําการรบั สัญญาณ ตองทาํ การแจง ผดู แู ลระบบเพอื่ สราง Virtual Point ในพ้ืนที่
2) ตอ งแจง ผูด แู ลระบบอยา งนอย 1 ชัว่ โมง กอ นทําการรับสัญญาณ โทร. 0921421555
3) แจงชื่อและสงั กดั ของผูทาํ การรงั วัด
4) ใหใชผลการรงั วัดเปน แบบ Fixed
5) แจงพิกัด Latitude , Longitude (WGS) ตําแหนงท่ีไปทําการรังวัด โดยใหคลิกท่ีวงกลม
สีแดง ตามภาพจะปรากฏคา พกิ ดั WGS84 Lat , Lon , H ขึ้นมา ใหน าํ คา นีแ้ จงผดู แู ลระบบ
6 33
6 - 33
6.5.1 การรับสัญญาณดาวเทียมดว ยวิธี Rapid Static ในภาคสนาม
ใหผ ูรังวดั เลือกตําแหนงในการรับสัญญาณดาวเทียม โดยมีขอพึงระวังคือ การเลือกตําแหนง
จะตองเปนพื้นที่เหมาะสมโลงแจง เพราะการรับสัญญาณดาวเทียมดวยวิธีนี้จะไมทราบผลการรังวัด
ในภาคสนาม หากขอมูลท่ีรับสัญญาณมาไมสมบูรณ จะตองมีการซอมดวยการกลับมารับสัญญาณใหม
ซ่ึงจะแตกตางจากวิธี RTK Network ปกติ ที่สามารถทราบผลการรังวัดในภาคสนามไดทันที โดยมีการตั้งคา
กอ นรบั สญั ญาณดวยวิธีการ ดงั น้ี
ไปทแ่ี ถบเมนู Static Setting และใหท าํ การตง้ั คาดังน้ี
1) Start Record ใหเ ลือ่ นแถบสีฟา เปน Yes
2) Data Format หรอื รูปแบบไฟล เลือกเปน HCN
3) Interval หรือความถขี่ องขอ มลู ต้ังเปน 1 Hz
4) Elevation Mask หรอื มมุ ตดั ดาว ต้งั เปน 15 Degree
5) Duration หรือระยะเวลาทรี่ บั ใหต้งั เปน 1440 ตามคา เดิม
6) Station Name ใหใ สช่อื หมุดท่ที ําการสราง
7) Antenna Height หรือความสูงของเคร่ืองรับสัญญาณดาวเทยี ม ใหใ สความสูงทีว่ ดั ได
8) Measurement Type หรอื ประเภทการวัด ใหต งั้ เปน Slant Height หรือวัดแบบเอียง
9) RINEX Version หรอื เวอรช ั่นของขอมลู ดบิ ต้ังเปน RINEX Version 3.02
เม่ือต้ังคาเสร็จแลว ใหก ด Set
6 34
6 - 34
6.5.2 การตรวจสอบหนา จอเครือ่ งรับสญั ญาณดาวเทยี ม i80 ขณะรับสัญญาณ
เม่ือต้ังคา สาํ เร็จ หนาจอ Controller จะแสดงขอ ความวา “Set Successfully” ใหผูรังวัด
ไปดูที่เคร่ืองรับสัญญาณดาวเทียม i80 จะข้ึนขอความ “Static On Record” ดังภาพดานลาง หากขึ้น
ขอ ความน้ี แสดงวา เครื่องรบั สญั ญาณเร่มิ รบั ขอ มูลดิบแลว ใหทาํ การจับเวลารบั สัญญาณดังนี้
1) ตั้งเคร่ืองรบั สัญญาณทห่ี มดุ P1 โดยทาํ การรบั สัญญาณ 2 ครัง้ คร้ังละไมน อยกวา 10 นาที
2) ตั้งเคร่ืองรับสญั ญาณท่ีหมดุ P2 โดยทาํ การรบั สญั ญาณ 2 ครัง้ ครัง้ ละไมน อยกวา 10 นาที
ขอควรระวัง : เมื่อจับเวลาครบ 10 นาที ขึ้นไปในแตละครั้งแลว ใหปดเคร่ืองและเปดเครื่องใหมกอนจะรับ
ครงั้ ถดั ไป
6.5.3 ข้ันตอนการโหลดขอมูลจากเคร่ืองรบั สัญญาณ i80
ทําการเสยี บสาย USB ลงิ กระหวาง เขา My Computer จะปรากฏ Drive ของเครอ่ื ง
เครื่องรับสัญญาณกับเคร่ืองคอมพวิ เตอร รับสญั ญาณ ใหคลิกเปด โฟลเดอรดงั กลา ว
6 6- 3355
คลกิ เปดโฟลเดอร “Repo_1041029” คลกิ เปด โฟลเดอร “record_1”
(ช่อื ตาม S/N ของเครื่องรบั สัญญาณ)
ขอมูลสญั ญาณดาวเทยี มท่ีรังวัดได จะอยูใน ทาํ การ copy โฟลเดอรดงั กลาว ลงคอมพวิ เตอร
โฟลเดอร ตามวันที่รงั วัด เชน “20180717” เพื่อสง ใหเ จา หนาทีค่ ํานวณคา ใหตอ ไป
6 36
6 - 36
6.5.4 ขัน้ ตอนการสง ไฟลใหเจา หนาท่ีคาํ นวณ
ใหผูใชง านเขาสูร ะบบท่ี www.dolrtknetwork.com และไปทีเ่ มนูทางดา นซายมือ ที่เมนู
นาํ เขา Fast Static เมื่อคลิกแลว จะมีหนาตางใหกรอกขอมูล เพ่ือประกอบแบบรายงาน ร.ว. 80 ก และ
ร.ว. 80 ข ดังภาพ แลวจึงกดบันทึก
เม่อื ปรากฏหนา ตางใหมข ึ้นมา ใหคลกิ ท่ีปุม Browse เพื่อสงไฟลขอมูลใหกับวิศวกรผูคํานวณ
โดยจะตอ งสง ไฟลที่อยูในรูปแบบท่ีถูกบีบอัดแลวดวยโปรแกรม WinZip หรือ WinRAR (.rar หรือ .zip)
ซ่งึ ในไฟลตอ งประกอบไปดวยขอมูล ดงั นี้
1) ไฟลท ่ีคัดลอกมาจากเครื่องรบั สญั ญาณ
2) ภาพเชนรังวดั
3) CSV, HTML, RAW หมดุ ตรวจสอบ
4) ภาพจดุ ที่รับสัญญาณ
ใหกด Save & Upload แลวจะมีหนาตางใหมปรากฏข้ึนมาเพื่อบอกสถานะของขอมูล
วาอยูในขั้นตอนไหน และจะบอกวาเจาหนาท่ีผูรับผิดชอบในการคาํ นวณช่ืออะไร
6 37
6 - 37
หมายเหตุ : โดยทั่วไปแลว เจา หนาทจ่ี ะสามารถคํานวณผลการรังวัดไดภายใน 3 วันทําการ นับจากวันที่
ไดสงขอมูลเขาระบบ หากไมไดรับผลการคํานวณ สามารถติดตอไดที่ สวนพัฒนาการรังวัดหมุด
หลักฐานแผนที่โดยระบบดาวเทียม โทร. 025033367
6.5.5 การพิมพแ บบรายงาน ร.ว. 80 ก และ ร.ว. 80 ข
การพิมพแบบรายงาน ร.ว. 80 ก และ ร.ว. 80 ข เพ่ือนําไปประกอบรายงานการรังวดั
สามารถทําไดโ ดย ใหคลกิ ทปี่ ุม รายการนําเขา ขอมูล Fast Static ทางดานซายมือของหนาแรก
6 38
6 - 38
เมื่อคลิกแลว จะปรากฏหนาตางใหมขึ้นมา ใหคลิกที่ชื่อโปรเจกตน้ันเพื่อตรวจสอบขอมูล
การรังวดั ของหมดุ ดาวเทยี ม Rapid Static
โดยจะประกอบไปดว ยขอ มูลดังนี้คือ
1) ภาพของหมดุ ดาวเทียมบนแผนท่ภี าพถายทางอากาศ
6 39
6 - 39
2) ภาพเชน หรอื แบบรายการรังวัดหมดุ ดาวเทยี ม ร.ว. 31 ง
3) รายงานการตรวจสอบความถูกตองการรังวัดโดยระบบโครงขายการรังวัดดวย
ดาวเทยี ม ร.ว. 80 ก และรายงานการตรวจสอบความถูกตองของระยะทางที่รังวัดโดยระบบโครงขาย
การรังวดั ดวยดาวเทียม ร.ว. 80 ข
6 40
6 - 40
6.6 การประยุกตใ ชงานฟงกชนั ตา ง ๆ ของเครอ่ื งควบคุม (Controller)
ปจจุบัน Application Landstar ไดพัฒนาถึงเวอรชั่น 7.3.4 ซึ่งไดมีเมนูเพ่ิมเติมขน้ึ มา
หลายเมนู ในท่ีน้ีจะกลาวถงึ เมนูตาง ๆ ทีเ่ กยี่ วของกับการรับสัญญาณดาวเทียมตามระเบียบกรมท่ีดินฯ ไดแก
การหาคา เฉลีย่ ของพกิ ัดจุดเดยี วที่รับมาหลาย ๆ ครง้ั เพอื่ ชวยในการขน้ึ ตน รางในภาคสนาม และการหา
ระยะทางระหวา งจดุ สองจดุ เพื่อใชเ ทยี บกบั ระยะทส่ี องกลองเพอื่ ดูความแมนยําถูกตองจากการรบั สัญญาณ
6.6.1 การหาคา เฉล่ยี ของคา พกิ ัดจากการรับสญั ญาณดาวเทียมทจ่ี ุดเดยี วหลาย ๆ ครัง้
ในภาคสนามนั้น ผูรังวัดจาํ เปนตองขึ้นรูปแปลงที่หนางาน ซึ่งส่ิงที่ตองทราบในการขึ้น
รูปแปลง คอื คา พิกดั ของหมุดดาวเทียม แตเ นอ่ื งจากกอนที่จะทราบคา พิกดั นน้ั ผูรงั วดั จะตอ งทาํ การอัปโหลด
หมุดดาวเทยี มเพ่ือใหระบบเฉล่ียคา พิกดั ใหกอน ดังน้นั ในงานภาคสนามหากผูรังวดั จําเปนตองหาคา เฉลย่ี
เพ่ือขนึ้ รูปแปลง ผรู งั วัดสามารถหาคา เฉลีย่ ไดด วยวธิ กี าร ดงั น้ี
ไปทเี่ มนู Tools เลอื กหวั ขอ กดปมุ Select เพอ่ื เลือกขอมูล กดเลอื กขอมลู หมุด
Average Value of Points ทีจ่ ะนาํ มาเฉล่ีย ทีจ่ ะนํามาเฉลีย่
กดปุม OK โปรแกรมจะแสดงคาเฉล่ียของ N, E, H ใหดังภาพ
6 41
6 - 41
6.6.2 การหาระยะทางระหวา งจดุ สองจุดจากการรบั สัญญาณดาวเทยี ม
ในการหาระยะทางระหวางจุดสองจุดที่เปนระยะบนพื้นดินนั้น จะตองทําการหาคา
Scale Factor (K) หรอื คาตัวคูณมาตราสวน สาํ หรับทอนระยะท่ีระดบั นาํ้ ทะเลปานกลางเปนระยะบนแผนท่ี
ของพ้นื ที่บริเวณที่ทําการรังวดั กอ น โดยมีวธิ ีการหาคาตัวคูณมาตราสวน ดังนี้
ไปทเี่ มนู Tools เลอื กหวั ขอ ไปที่ปุมสเ่ี หล่ียมดานบน เลือกขอมลู มาหนึง่ จุด เพื่อหาคา
Grid To Ground เพื่อเลือกขอ มลู Scale Factor ณ บริเวณนั้น
โปรแกรมจะทําการประมวลผลคา Scale Factor ของบรเิ วณน้มี าให
จากน้นั ใหก ดปุม Apply To Project เพอ่ื ใหโปรแกรมทาํ การทอนระยะ
ท่ีไดจากการรับสญั ญาณดาวเทียมตอ ไป
6 42
6 - 42
ใหก ดยอนกลับมาท่ปี มุ Inverse ที่ชอง A ทช่ี อง B
เพือ่ หาระยะทางระหวา งสองจุด ใหคลกิ ท่ปี ุมสเี่ หล่ียมดานหลงั ใหค ลกิ ทป่ี ุมสีเ่ หลย่ี มดา นหลัง
เพอ่ื เลือกหมุดดาวเทียมหมุดทหี่ นง่ึ เพอ่ื เลือกหมุดดาวเทยี มหมุดท่ีสอง
ใหค ลิกท่ปี ุมวงกลมสีฟา หนา คําวา Ground และสังเกตท่ีชอง Horizontal Distance
โปรแกรมจะแสดงระยะทางระหวางหมดุ ดาวเทียมสองหมุดทเี่ ปน Ground Distance
(ระยะบนพ้ืนดินหรือระยะจริง)
บทท่ี 7
การนําเขา ขอมลู หมุดดาวเทยี มและขึ้นรูปแปลงท่ีดนิ ดิจิทัล
การรับสัญญาณดาวเทียมตามระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการรังวัดทําแผนท่ีโดยวิธีแผนที่
ช้ันหน่ึงดวยระบบโครงขายการรังวัดดวยดาวเทียมแบบจลน (RTK GNSS Network) พ.ศ. 2562 ใหทํา
การรับสัญญาณดาวเทียมที่หมุดดาวเทียม RTK Network เพ่ือใชในการโยงยึดหลักเขตที่ดิน หรือใช
เปน หมดุ ออกหรือหมุดเขาบรรจบเสนโครงงานหมุดหลักฐานแผนที่ เพ่ือเก็บรายละเอียดแปลงท่ีดิน
หรอื ทําการรับสัญญาณดาวเทียมโดยตรงท่ีหลักเขตท่ีดิน เมื่อการรับสัญญาณดาวเทียมในภาคสนาม
เสรจ็ แลว ผใู ชงานจะทําการประมวลผลคาพิกัดตําแหนงท่ีไดรับสัญญาณดาวเทียมจากการรังวัดโดยระบบ
โครงขายฯ เปนการนําขอมูลการรังวัดจากเครื่องรับสัญญาณดาวเทียมมาประมวลผลโดยการนําเขา
ขอมูลการรับสัญญาณดาวเทียมผานเว็บไซต www.dolrtknetwork.com ซ่ึงจะทําการตรวจสอบ
ขอมูล คาพิกัดฉาก ความถูกตองของการรับสัญญาณดาวเทียม และการคํานวณคาระยะตรวจสอบ
พรอมความคลาดเคล่ือนเชิงตําแหนง เพื่อนาํ ขอมูลจากการรังวัดโดยระบบโครงขายฯ เปนขอมูลของ
ระบบพกิ ัดฉาก ยู ที เอม็ ซง่ึ สามารถนําไปประมวลผล เพอ่ื คํานวณเน้อื ทแ่ี ละข้นึ รูปแปลงท่ดี ินดวยโปรแกรม
คาํ นวณรังวัด DOLCAD จากการรังวัดโดยระบบโครงขายฯ เพื่อการจัดทําหลักฐานการรังวัดประกอบเร่ือง
ที่รังวัดไดตอไป
7.1 การนําเขา ขอ มูลหมดุ ดาวเทียม
การนําเขาขอมูลหมุดดาวเทียมจะมีหมุดดาวเทียม RTK Network และหมุดหลักเขตท่ีดิน
มีรายละเอียดข้นั ตอน ดังนี้
1) เขาสูเว็บไซต www.dolrtknetwork.com หรือพิมพคําวา “ระบบโครงขายการรังวัด
ดว ยดาวเทียม”
2) ใส Username และ Password แลวกด Login
1
2
72
7-2
3) ขอชื่อหมุด หรือตรวจสอบช่ือหมุดท่ีจะนําเขาขอมูล (กรณีที่การนําเขาขอมูลเปน
หมุดดาวเทยี ม RTK Network) โดยกดที่ รายละเอยี ด แถบสีสม
3
4) เลือกช่ือหมุดท่ีมีสถานะวางมาใชงานอยางนอยจํานวน 2 หมุด ในกรณีท่ีการนําเขา
ขอ มลู เปน หมดุ ดาวเทยี ม RTK Network โดยทําการจดชื่อหมุดที่เลือกน้ันไว (หากไมมีหมุด ใหเลือกที่
รบั หมุดเพ่ิม)
5) นําเขาขอ มลู โดยเลอื กท่ี Program LandGNSS (นาํ เขาขอ มลู ) แถบสีเขยี ว
45
6) ทาํ การใสข อ มูลเบื้องตนเกี่ยวกับเรื่องที่รังวัดพรอมตรวจสอบขอมูลใหถูกตองอีกครั้ง
จากนั้น เลือก บนั ทึก & ดําเนนิ การขน้ั ตอไป
73
7-3
6
7) เลอื กยหี่ อเครือ่ งรับสญั ญาณดาวเทียมแบบเคลื่อนท่ี (Rover) และเครื่องควบคมุ การทํางาน
เครือ่ งรับสญั ญาณดาวเทียม (Controller) ทที่ าํ การรังวดั
7
8) เลือก Choose File แลวใหทําการอัปโหลดไฟลขอมูล ตามชนิดของเคร่ืองควบคุม
การทํางานเคร่ืองรับสัญญาณดาวเทยี ม (Controller) ดงั นี้
เครือ่ งรนุ LT500 ไฟลข อมูล CSV, HCD และ HTML
เคร่อื งรุน HCE300 ไฟลขอมลู CSV, RAW และ HTML
เครือ่ งรนุ HCE320 ไฟลข อมูล CSV, RAW และ HTML
จากนั้นเลือก Upload
74
7-4
ขอ ควรระวงั
ตรวจสอบนามสกุลไฟลขอมลู CSV, RAW และ HTML ใหถ ูกตอ งตามลําดับ
ชื่อไฟลขอมูลของท้ัง 3 ไฟลตองเหมือนกัน หากไมเหมือนกันใหแกช่ือไฟลขอมูล
(Rename) ใหตรงกนั
8
9) เมือ่ อัปโหลดเรยี บรอยแลว จะปรากฏขอ มูลดงั ภาพ
ขอ สังเกต : หากผลการรังวัดเกินเกณฑท่ีระเบียบกรมท่ีดินกําหนด เชน RMS > 0.03, Epoch < 60
และ PDOP > 5.0 ระบบจะปฏเิ สธการเลอื กผลการรงั วดั ดังกลาว
9
75
7-5
10) ใหเลือกหมุดท่ีทําการรับสัญญาณมาจุดละ 3 ครั้ง ยกเวนหมุดตรวจสอบ เลือกมาแค
1 คร้ัง แลวเลอื ก คาํ นวณหาคา เฉล่ียหรอื เลอื กหมดุ ตรวจสอบ ดูผลการหาคา เฉลี่ยหรือเกณฑความคลาดเคลื่อน
ของหมดุ ตรวจสอบวาผานเกณฑหรือไม จากนั้นทําการแกช่ือหมุดโดยเลือก Edit (ใหเลือกหมุดท่ีทําการรับ
สญั ญาณมาอยางนอ ย 2 หมดุ )
10
11) ทําการแกไขชื่อหมดุ ดังนี้
กรณีท่ีการนําเขาขอมูลเปนหมุดเทียม RTK Network ชื่อหมุดตามที่ขอไวในระบบ
เชน V6400001 จากนัน้ เลอื กเปน หมดุ ดาวเทียม RTK Network
กรณีท่ีการนําเขาขอมูลเปนหมุดหลักเขตท่ีดิน ใหใชช่ือบนหัวหลักเขตท่ีดิน เชน
8ฆ4708 (ไมต องเวน วรรค) จากนนั้ เลือกเปน หมุดหลกั เขต
กรณีหมุดตรวจสอบ ชื่อหมุดตามท่ีมีไวใ นระบบ เชน CHK240001 จากน้นั เลือก
เปน หมดุ ตรวจสอบ
แลว เลือกยืนยนั แกไขชือ่ หมดุ
11
76
7-6
12) เมื่อโปรแกรมตรวจสอบคาพิกัดและการแกไขช่ือหมุดผานแลว จะปรากฏปุม บันทึก
เขา ระบบ จากนนั้ เลอื ก บนั ทกึ เขาระบบ
กรณีท่ีการนาํ เขาขอมูลเปนหมุดดาวเทียม RTK Network ชองขอหมุดไวแลว
จะเปน เคร่ืองหมายถกู ซงึ่ แตกตางจากหมดุ หลักเขตทดี่ ิน
12
กรณที ่ีการนําเขา ขอมูลเปน หมุดหลักเขตทดี่ ิน ชองขอหมุดไวแ ลว จะเปนเครื่องหมายลบ
12
77
7-7
13) ทําการตรวจสอบระยะระหวางหมุด โดย เลือก ชื่อหมุด จากหมุดท่ี 1 ไปหมุดที่ 2
และใสระยะตรวจสอบที่รังวัดมาดวยกลองและสามารถเพ่ิมแถวในการใสระยะตรวจสอบไดในกรณีท่ี
หมดุ ดาวเทียม RTK Network มีมากกวา 2 หมุด แลวเลือก บันทึกจัดเก็บระยะ (กรณีที่การนําเขาขอมูล
เปน หมุดหลกั เขตทด่ี นิ จะไมมีขั้นตอนของการใสระยะตรวจสอบจากกลอง)
13
14) จากนั้นทําการใสเลขคําขอ (ร.ว. 12) และอัปโหลดไฟลรูปเชนสนามแลวเลือก Save
& Upload
กรณที ่กี ารนําเขาขอมูลเปนหมุดดาวเทียม RTK Network เลือก Choose File
ของภาพเชนการรังวัด คอื ร.ว. 31 ง ของหมดุ ดาวเทียม RTK Network
14