เอกสารวิชาการ แัตมรลูทงเุ ร-ยี นไร
ำนกั วจิ ยั พัฒนาการอารักขาพืช
กรมวชิ าการเกษตร
ประจำปงบประมาณ 2562
เอกสารวิชาการ แมลง-ไร ศตั รูทุเรยี น
ข้อมลู ทางบรรณานุกรมของสา� นักหอสมดุ แห่งชาติ
National Library of Thailand cataloging in Publication Data
สำ� นกั วจิ ัยพฒั นำกำรอำรักขำพชื กรมวชิ ำกำรเกษตร.
เอกสำรวิชำกำร แมลง-ไร ศัตรทู เุ รียน -- กรงุ เทพฯ :
สำ� นักวจิ ัยพฒั นำกำรอำรักขำพืช กรมวชิ ำกำรเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ,์ 2562
ISBN 978-974-436-932-1
สงวนสิทธิ์
ปีที่พมิ พ์ : 2562
จ�ำนวนหน้ำ : 88 หนำ้
จ�ำนวนที่พิมพ ์ : 1,000 เล่ม
จดั พมิ พโ์ ดย
สำ� นักวจิ ัยพัฒนำกำรอำรกั ขำพืช กรมวชิ ำกำรเกษตร
เลขท่ ี 50 ถนนพหลโยธนิ แขวงลำดยำว เขตจตจุ ักร กรงุ เทพฯ 10900
โทร. 0 2579 5583 โทรสำร 0 2940 5396
เวบ็ ไซต์ http://www.doa.go.th/plprotect/
พมิ พ์ที่
บริษทั นิวธรรมดำกำรพมิ พ ์ (ประเทศไทย) จำ� กดั
เลขท ี่ 202 ซอยเจริญกรงุ 57 แขวงยำนนำวำ เขตสำทร กรุงเทพฯ 10120
ค�ำ นำ�
ส�ำนักวิจัยพัฒนำกำรอำรักขำพืช มีหน้ำที่ ศึกษำ ค้นคว้ำ วิจัย ทดลองและพัฒนำวิชำกำรเกษตร
ด้ำนอำรักขำพืชซึ่งเป็นหน้ำที่หลักข้อหน่ึงของกรมวิชำกำรเกษตร เพ่ือให้ได้ข้อมูลควำมรู้ด้ำนวิชำกำรในกำรป้องกัน
ควบคุม หรือจัดกำรศัตรูพืช เป็นกำรเพิ่มผลผลิตและคุณภำพของพืชปลูกให้ได้มำตรฐำนตำมที่ก�ำหนด ซ่ึงจะท�ำ
ใหผ้ ลผลติ มมี ลู คำ่ และควำมปลอดภยั สงู ขนึ้ โดยสำ� นกั วจิ ยั พฒั นำกำรอำรกั ขำพชื ไดต้ ระหนกั ถงึ ควำมสำ� คญั ของกำรจดั กำร
ศัตรูพืชในกำรผลติ ทเุ รยี น เพื่อให้ได้ปริมำณและคณุ ภำพทต่ี ลำดตอ้ งกำรท้งั ภำยในและต่ำงประเทศ
ปี พ.ศ. 2560 ประเทศไทยมีพื้นท่ีปลูกทุเรียนรวม 788,000 ไร่ ผลผลิตรวม 635,000 ตัน
แหล่งปลูก 10 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี ชุมพร ระยอง ยะลำ สุรำษฎร์ธำนี นครศรีธรรมรำช อุตรดิตถ์
ต ร ำ ด น ร ำ ธิ ว ำ ส แ ล ะ ส ง ข ล ำ ส� ำ ห รั บ ก ำ ร ผ ลิ ต ทุ เรี ย น เ พ่ื อ ใ ห้ ไ ด้ คุ ณ ภ ำ พ ท่ี ดี ต ำ ม ท่ี ต้ อ ง ก ำ ร น้ั น จ� ำ เ ป็ น ต้ อ ง
มีกำรบริหำรจัดกำรที่ดีตั้งแต่ก่อนปลูกจนกระทั่งถึงกำรเก็บเก่ียว ปัจจุบันแมลง-ไรศัตรูทุเรียน มีกำรระบำดและ
เ ป็ น ส ำ เ ห ตุ ส� ำ คั ญ ท่ี ท� ำ ใ ห้ ผ ล ผ ลิ ต ทุ เ รี ย น ไ ม่ ไ ด้ คุ ณ ภ ำ พ ต ำ ม ที่ ต้ อ ง ก ำ ร จ ำ ก ป ร ะ เ ด็ น ปั ญ ห ำ ดั ง ก ล่ ำ ว ส� ำ นั ก
วิ จั ย พั ฒ น ำ ก ำ ร อ ำ รั ก ข ำ พื ช จึ ง ไ ด้ จั ด ท� ำ เ อ ก ส ำ ร วิ ช ำ ก ำ ร “ แ ม ล ง - ไ ร ศั ต รู ทุ เ รี ย น ” โ ด ย มี วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์
เพ่ือรวบรวมข้อมูลแมลง-ไร ศัตรูทุเรียนที่ส�ำคัญ และเทคนิคกำรใช้สำรป้องกันก�ำจัดแมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
ท่ี ส� ำ คั ญ โ ด ย ร ว บ ร ว ม ท บ ท ว น ป รั บ ป รุ ง แ ล ะ เ พ่ิ ม เ ติ ม ข้ อ มู ล ท ำ ง วิ ช ำ ก ำ ร ที่ ไ ด้ จ ำ ก ห น่ ว ย ง ำ น ต่ ำ ง ๆ ซ่ึ ง ไ ด้ น� ำ
ข้อมูลมำประมวลและกลั่นกรองให้ถูกต้องโดยผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะท�ำงำน เพื่อจัดเป็นองค์ควำมรู้ที่สมบรูณ์
ครบถ้วน ถูกต้องและมีควำมเหมำะสม สำมำรถน�ำไปปฏิบัติได้ ซ่ึงส�ำนักวิจัยพัฒนำกำรอำรักขำพืชหวังเป็นอย่ำงยิ่งว่ำ
เอกสำรวชิ ำกำรฉบบั นจี้ ะเปน็ ประโยชนส์ ำ� หรบั น�ำไปใช้ในกำรจัดกำรแมลง-ไร ศัตรทู ุเรียนอย่ำงมปี ระสิทธิภำพต่อไป
(นำงวไิ ลวรรณ พรหมค�ำ)
ผอู้ ำ� นวยกำรส�ำนักวิจัยพฒั นำกำรอำรกั ขำพืช
ส�รบัญ หน้�
1
สถ�นก�รณข์ องทเุ รยี น 4
ก�รพัฒน�ของทุเรยี น 7
สถ�นก�รณแ์ มลงศัตรูทุเรยี น 8
แมลง-ไร ศัตรูทส่ี �ำ คัญ 10
16
หนอนเจาะเมล็ดทุเรียน 20
เพล้ียไก่แจ้ทเุ รยี น 24
หนอนเจาะผล 28
เพลย้ี แปง้ 31
เพลยี้ ไฟพริก 34
มอดเจาะลา� ต้น 40
ดว้ งหนวดยาวเจาะลา� ต้นทเุ รยี น 44
เพลย้ี หอยเกลด็ ทเุ รยี น 48
ไรแดงแอฟริกนั
50
วธิ ีก�รติดต�มสถ�นก�รณแ์ มลง-ไร ศัตรทู เุ รยี นทสี่ �ำ คัญ 73
และศัตรูธรรมช�ติ 76
เทคนคิ ก�รใช้ส�รป้องกนั ก�ำ จัดแมลง-ไร ศัตรทู เุ รยี น
บรรณ�นุกรม
ดชั นี
สถานการณ์ของทุเรยี น
ทเุ รยี น (Durio zibethinus L.) เปน็ ไมผ้ ลยนื ตน้ ขนาดใหญ่ เจรญิ เตบิ โตไดด้ ใี นเขตรอ้ นชนื้ ทมี่ ฝี นตกชกุ และ
สมา่� เสมอ มีปรมิ าณน้า� ฝนเฉล่ยี 1,600 - 4,000 มลิ ลิเมตรต่อปี มคี วามช้ืนในอากาศสงู 75 - 85% และมีอุณหภูมิ
ที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 25 - 30 องศาเซลเซียส ดินที่เหมาะสมควรระบายน้�าได้ดีและมีสภาพความเป็น
กรดเปน็ ดา่ ง (pH) ประมาณ 5.5 - 6.5 ทเุ รยี นมแี หลง่ ผลติ อยใู่ นภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ เชน่ ไทย มาเลเซยี
อนิ โดนเี ซยี และเวยี ดนาม ในประเทศไทยซงึ่ เปน็ ผผู้ ลติ รายใหญข่ องโลกมปี ลกู ทกุ ภาค แตแ่ หลง่ ปลกู ในเชงิ การคา้
จะอยู่ในภาคตะวันออก ได้แก่ จันทบุรี ระยอง และตราด ภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี
และยะลา ภาคเหนือ ได้แก่ อุตรดิตถ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ศรีสะเกษ โดยมีพันธุ์ท่ีนิยมปลูกคือ
หมอนทอง กระดุมทอง ชะนี พวงมณี และก้านยาว
เน่ืองจากทุเรียนเป็นพืชท่ีท�ารายได้ต่อเกษตรกรสูง เกษตรกรจึงมีการดูแลรักษาให้ต้นทุเรียนมี
ความอุดมสมบูรณ์เพ่ือให้พร้อมส�าหรับการออกดอกติดผล และมีการป้องกันก�าจัดศัตรูพืชเพ่ือป้องกันผลผลิต
แต่เนื่องจากทุเรียนมีแมลงศัตรูหลายชนิด ทั้งที่เป็นแมลงศัตรูที่ส�าคัญและพบระบาดเป็นประจ�าในพื้นที่
ปลูกทุเรียนทั่วไป บางชนิดมีการระบาดรุนแรงเฉพาะในบางพ้ืนที่ บางชนิดมีความรุนแรงถึงข้ันท�าให้ต้นทุเรียน
ตายได้ นอกจากนี้มีแมลงศัตรูทุเรียนชนิดใหม่หลายชนิดเกิดขึ้นเนื่องจากการดูแลรักษาของเกษตรกรที่
มีการใช้สารฆ่าแมลงค่อนข้างมาก ท�าให้แมลงศัตรูท่ีไม่เคยเป็นปัญหามาก่อนมีการระบาดที่รุนแรงและเกิดขึ้น
เป็นประจ�า แมลงศัตรูทุเรียนชนิดใหม่บางชนิดเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพแวดล้อมท่ีเปลี่ยนไป รวมทั้งการจัดการ
ของเกษตรกรเอง
ทเุ รยี นเปน็ ผลไมท้ มี่ ขี นาดผลใหญ่ มหี นาม รสชาตหิ วานมนั ไดช้ อ่ื วา่ เปน็ ราชาของผลไม้ (King of the fruits)
ทุ เ รี ย น จั ด เ ป ็ น พื ช เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ท่ี ส� า คั ญ ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย มี แ ห ล ่ ง ป ลู ก ที่ ส� า คั ญ อ ยู ่ ใ น ภ า ค ต ะ วั น อ อ ก
และภาคใต้ รองลงมาคือภาคเหนือบางส่วน ภาคกลาง และ ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื บางสว่ น ในปี พ.ศ. 2560
มีพื้นท่ีปลูกรวมประมาณ 788,000 ไร่ ผลผลิตรวม 635,000 ตัน (ตารางที่ 1) และมีการขยายตลาดไปสู่ต่าง
ประเทศโดยสง่ ไปในรปู ผลสด ทเุ รยี นแชแ่ ขง็ และทเุ รยี นแปรรปู ทเุ รยี นเปน็ ผลไมท้ ม่ี คี วามส�าคญั ตอ่ ภาคการเกษตร
ของไทยโดยสร้างรายได้มากเป็นอันดับที่ 3 ในสินค้ากลุ่มไม้ผลและผลิตภัณฑ์ รองจากล�าไยและสับปะรด
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
ทา� รายได้เข้าประเทศและต่อเกษตรกรผู้ปลูกเป็นจ�านวนมาก ดังน้ัน เกษตรกรจึงมีการดูแลรักษาทุเรียนอย่างดี
ทงั้ ดา้ นการผลติ และอารกั ขาพชื เพอื่ ปอ้ งกนั ผลผลติ ในปจั จบุ นั มกี ารใชเ้ ทคโนโลยหี ลายอยา่ งเพอ่ื บงั คบั ใหท้ เุ รยี น
ออกผลในช่วงฤดูท่ีต้องการ และได้ผลผลิตท่ีตรงต่อความต้องการของตลาด อย่างไรก็ตามเกษตรกรต้องประสบ
กับปัญหาการผลิตด้านต่างๆ เช่น สภาพดินฟ้าอากาศท่ีผันแปร และปัญหาศัตรูพืชทั้งโรคและแมลงที่ระบาด
ท�าความเสียหายต่อทุเรียนอย่างมาก ทุเรียนมีแมลงศัตรูหลายชนิดเข้าท�าลายท�าความเสียหายส่งผลให้ผลผลิต
ลดลง คุณภาพผลผลิตต่�าลงท�าให้ชาวสวนทุเรียนต้องใช้สารฆ่าแมลงเพ่ิมข้ึนอย่างมาก จากการส�ารวจการใช้
สารเคมีของเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนในภาคตะวันออกปี พ.ศ. 2538 พบว่าเกษตรกรใช้สารฆ่าแมลงเฉลี่ยทุกๆ
15 วัน การใช้วิธีการป้องกันก�าจัดโดยใช้สารฆ่าแมลงน้ีเป็นวิธีท่ีใช้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่าน้ันไม่สามารถ
ใช้ได้ตลอดไป และยังก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย เช่น แมลงสร้างความต้านทานต่อสารฆ่าแมลง
การระบาดของแมลงท่ียังไม่เป็นศัตรูพืชท่ีส�าคัญขณะนี้ และปัญหามลพิษต่อสภาพแวดล้อม นอกจากน้ียังเป็น
อนั ตรายตอ่ เกษตรกรและผูบ้ รโิ ภคดว้ ย
ตารางที่ 1 พื้นที่ปลูก พ้ืนทใี่ ห้ผล ผลผลิต ผลผลิตตอ่ ไร่ ราคา และมูลค่าของผลผลิตตามราคา
ทเ่ี กษตรกรขายได้
ปี พ้นื ท่เี พาะปลูก พน้ื ท่ใี หผ้ ล ผลผลิต ผลผลิต ราคาทีเ่ กษตรกร มูลคา่ ของผลผลิตตาม
(ไร่) (ไร่) (ตนั ) ต่อไร่ ขายได้ ราคาท่เี กษตรกรขายได้
(กก.)
2551 729,000 668,000 638,000 955 (บาท / กก.) (ล้านบาท)
2552 686,000 629,000 662,000 1,053 20.93 13,353
2553 668,000 612,000 569,000 929 21.52 14,246
2554 665,000 605,000 509,000 843 25.36 14,430
2555 649,000 582,000 524,000 902 27.76 14,130
2556 656,000 577,000 569,000 986 31.92 16,726
2557 667,000 571,000 632,000 1,107 40.45 23,016
2558 707,000 583,000 601,000 1,031 34.29 21,671
2559 736,000 591,000 512,000 867 46.96 28,223
2560 788,000 605,000 635,000 1,049 62.96 32,613
71.81 44,235
ที่มา : สาำ นักงานเศรษฐกิจเกษตร
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
การผลิตทเุ รยี นส่งออก หนอนเจาะเมล็ดทุเรียน และเพล้ียแปง้ นบั เป็นแมลงศัตรูทางด้านกักกันพชื ท่ี
หลายๆ ประเทศไมย่ อมใหต้ ดิ ไปกบั ผลผลติ เนอ่ื งจากหนอนเจาะเมล็ดทเุ รยี นและเพล้ียแปง้ อาจจะเข้าไประบาด
ทา� ใหเ้ กดิ ความเสยี หายแกพ่ ชื ผลอนื่ ๆ ในประเทศนน้ั ๆ ได้ จงึ ตงั้ เงอ่ื นไขในการนา� เขา้ ผลทเุ รยี นสดจากประเทศไทย
โดยใช้พันธกรณีว่าด้วยมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS Agreement) มาเป็นข้อก�าหนด ซ่ึงสินค้า
ทางการเกษตรจากประเทศไทยต้องปลอดจากศัตรูพืชและสารพิษตกค้าง เช่น กรณีของประเทศออสเตรเลีย
ไดว้ เิ คราะหค์ วามเสย่ี งของหนอนเจาะเมลด็ ทเุ รยี น และจดั เปน็ แมลงศตั รทู ม่ี คี วามเสยี่ งสงู จงึ ใชม้ าตรการเขม้ งวด
ส�าหรับการน�าเข้าผลทุเรียนสดจากประเทศไทยโดยข้ันตอนการตรวจสอบก่อนการส่งออกท่ีศูนย์บรรจุภัณฑ์
จะตอ้ งสมุ่ ผ่าผลจา� นวน 450 ผล ในกรณที ่ตี อ้ งการสง่ ออกต่�ากว่า 1,000 ผล แต่ถา้ มีการส่งออกมากกวา่ 1,000 ผล
จะต้องมกี ารสุม่ ผ่า 600 ผล รวมท้งั มกี ารสุ่มตรวจอีก 600 ผล เมอ่ื สนิ คา้ ถงึ ปลายทาง ถา้ ตรวจพบหนอนเพียงตวั
เดียวหรือผลทเุ รียนถูกท�าลายเพียงผลเดียว ผลทเุ รียนทั้งหมดจะตอ้ งถกู สง่ กลับหรือถกู ท�าลายทนั ที
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
การพัฒนาของทเุ รยี น
จากบันทึกชาวสวนผลไม้ 2537 รายงานว่า หลังเก็บเก่ียวผลผลิต ทุเรียนจะมีการแตกใบอ่อนหลัก
2 - 3 ครั้ง ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายน และจะมีการแตกใบอ่อนย่อยอีกคร้ังในช่วงต้นปี ทุเรียนแทง
ช่อดอกในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม ดอกบานในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ และมีช่วงติดผลใน
ช่วงเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม ซ่ึงขึ้นอยู่กับพันธุ์ทุเรียน ผลทุเรียนส่วนใหญ่จะแก่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึง
กลางเดอื นกรกฎาคม
ระยะพัฒนาการของทเุ รยี น (ภาคตะวนั ออก)
ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
แตกใบอ่อน
แทงช่อดอก
ดอกบาน
ติดผล
ผลแก่
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
ทเุ รียนระยะเเตกใบออ่ น ชดุ ใบทเุ รียนที่สมบรู ณ์
ทเุ รียนระยะแทงชอ่ ดอก หรือไขป่ ลา ทุเรียนระยะดอกตมู หรอื หัวก�าไล
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
ทเุ รยี นระยะดอกบาน ทุเรยี นระยะหางแย้ไหม้ หรือไมก้ ลดั หรือปิ่น
ทุเรยี นระยะผลอ่อน ทเุ รยี นระยะเกบ็ เกย่ี ว
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
สถานการณแ์ มลงศัตรทู ุเรยี น
แมลงศัตรูทุเรียนท่ีพบในประเทศไทย มีทั้งท่ีเป็นแมลงศัตรูท่ีส�าคัญพบระบาดเป็นประจ�าและพบเป็น
ครงั้ คราว บางชนดิ ท�าความเสียหายอยา่ งรนุ แรงส่วนบางชนดิ ไมท่ �าความเสียหายมากนัก แมลง-ไร ศัตรทู ่สี ำ�คญั
และทำ�คว�มเสยี ห�ยท�งเศรษฐกิจให้แกท่ ุเรยี นมี 7 ชนิด ไดแ้ ก่ หนอนเจ�ะเมลด็ ทุเรยี น เพล้ยี ไก่แจท้ ุเรยี น
หนอนเจ�ะผล เพล้ียแป้ง เพล้ียไฟ มอดเจ�ะลำ�ต้น และไรแดงแอฟริกัน นอกจากนี้ยังมีแมลงศัตรูทุเรียนท่ี
อุบตั ิใหมใ่ นทเุ รยี น จ�านวน 2 ชนิด ได้แก่ หนอนด้วงหนวดย�วเจ�ะล�ำ ตน้ ทุเรยี น และ เพลย้ี หอยเกล็ดทุเรยี น
จากการสา� รวจแมลงศตั รบู นตน้ ทเุ รยี นสว่ นใหญ่ พบวา่ จา� นวนประชากรจะสงู เมอ่ื มอี าหารมาก หรอื เมอ่ื
ถึงระยะพชื ท่เี หมาะสม เช่น เพลย้ี ไกแ่ จ้จะระบาดเฉพาะระยะที่ทเุ รยี นแตกใบออ่ นเท่าน้นั หนอนเจาะเมลด็ และ
หนอนเจาะผล จะระบาดในช่วงทุเรียนติดผล ส่วนศัตรูพืชบางชนิดที่ระบาดทุกระยะพืช เช่น มอดเจาะล�าต้น
หนอนด้วงหนวดยาวเจาะล�าตน้ ทเุ รยี น เป็นต้น
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
ตารางท่ี 2 รายช่อื แมลง - ไร ศตั รทู ุเรียนในประเทศไทย
ชื่อภาษาไทย ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ส่วนของพชื ทถี่ กู
ทา� ลาย
แมลงและไรศัตรูที่สา� คญั Mudaria luteileprosa Holloway
หนอนเจาะเมลด็ ทเุ รยี น Allocarsidara malayensis (Crawford) เมล็ด ผล
เพลย้ี ไก่แจท้ ุเรยี น Conogethes punctiferalis (Guenee) ใบอ่อน
หนอนเจาะผล Planococcus minor (Maskell) ผล
เพล้ียแปง้ แปซฟิ ิค Planococcus lilacinus (Cockerell) ผล ใบออ่ น ยอดอ่อน
เพลี้ยแป้งกาแฟ Scirtothrips dorsalis Hood ผล ใบอ่อน ยอดอ่อน
เพลย้ี ไฟพริก Xyleborus fornicatus (Eichhoff) ผลอ่อน ดอก
มอดเจาะลาำ ต้น Batocera rufomaculata De Geer ลำาต้น กง่ิ
ดว้ งหนวดยาวเจาะลาำ ต้นทเุ รียน ลำาตน้ กง่ิ
ใบ กงิ่
เพลยี้ หอยเกลด็ ทเุ รยี น Aulacaspis vitis Green
ใบ
ไรแดงแอฟริกัน Eutetranychus africanus (Tucker)
ใบ
แมลงและไรศัตรูท่ีพบเปน็ คร้ังคราว ราก
ใบอ่อน
ดว้ งกินใบ Aprosterna pallida Fabricius ผลอ่อน
ดอก
หนอนด้วงปีกแขง็ กินรากทเุ รยี น Leucopholis sp. ดอก
ดอก
เพลี้ยจกั จ่ันฝอยทุเรียน Amrasca durianae Hongsaprug ดอก
ใบ
เพลีย้ ไฟดอกไม้ Frankiniella sp. ดอก ใบอ่อน
ใบออ่ น
เพลี้ยไฟดอกถวั่ Megalurothrips sjostedti Trybom ใบ
ใบ
เพลย้ี ไฟหลากสี Thrips coloratus Schmutz
เพลีย้ ไฟดอกไม้ฮาวาย Thrips hawaiiensis (Morgan)
เพลี้ยไฟฝา้ ย Thrips palmi Karny
เพลย้ี หอยเกล็ดมะพร้าว Aspidiotus destructor Signoret
เพลย้ี อ่อนฝ้าย Aphis gossypii Glover
เพลี้ยออ่ นดาำ ส้ม Toxoptera aurantii (Boyer de Fonscolombe)
แมลงคอ่ มทอง Hypomeces squamosua (Fabricius)
ดว้ งงวง Platytrachelus psittacinus Faust
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
ตารางที่ 2 (ตอ่ ) รายช่ือแมลง - ไร ศตั รูทุเรยี นในประเทศไทย
ชอ่ื ภาษาไทย ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ ส่วนของพชื ท่ีถูก
ท�าลาย
หนอนกนิ ดอก Autoba versicolor Walker
หนอนกนิ ดอก Rapala dieneces dieneces (Hewitson) ดอก ใบ
หนอนบุ้งกนิ ใบ Suana concolor (Walker) ดอก
หนอนกินใบ Arctornis cygna (Moore) ใบ
หนอนคบื กินใบ Athisma scissuralis Moore ใบ
ผเี สือ้ หนอนวุ้น Chalcocelis albiguttatus (Snellen) ใบ
หนอนบุ้งกินใบ Olene inclusa (Walker) ใบ
หนอนกนิ ใบ Erizada lichenaria Walker ใบ
ผเี สือ้ ตาลคู่หางไหม้ Remelana jangala ravata (Moore) ใบ
ผเี สอ้ื หนอนเจาะผล Tirathaba ruptilinea (Walker) ผล
หนอนเจาะสมอฝา้ ย Helicoverpa armigera (Hübner) ผล
หนอนกินดอก Horaga onyx onyx (Moore) ดอก ใบ
หนอนกินใบ Daphnusa ocellaris Walker ใบ
หนอนบงุ้ กินใบ Olene mendosa (Hübner) ใบ
หนอนบุง้ กินใบ Lymantria marginata Walker ใบ
หนอนบ้งุ ปกเหลอื ง Orgyia postica (Walker) ใบ
หนอนกนิ ใบ Paracrama dulcissima Walker ใบ
หนอนร่านสเี่ ขา Setora fletcheri Holloway ใบ
หนอนกินใบ Tiruvaca subcostalis Walker ใบ
หนอนมว้ นใบ Adoxophyes privatana Walker ใบ
หนอนมว้ นใบ Archips machlopis Meyrick ใบ
หนอนม้วนใบ Homona difficilis (Meyrick) ใบ
ไรแดงชมพู่ Oligonychus biharensis (Hirst) ใบ
ไรแมงมุมฟจิ ิ Tetranychus fijiensis Hirst ใบ
ใบ
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
หนอนเจาะเมลด็ ทเุ รียน
Common name durian seed borer
ชือ่ สามญั /ชือ่ พืน้ เมือง หนอนใต้ หนอนรู หนอนมาเลย์
ช่อื วิทยาศาสตร์ Mudaria luteileprosa Holloway
วงศ์ Noctuidae
อนั ดับ Lepidoptera
ชว่ งการระบาดของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน : ระยะผลจนถงึ เก็บเกย่ี ว
มม..คค.. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
ความสา� คญั และลักษณะการทา� ลาย
หนอนเจาะเมลด็ ทเุ รยี นเปน็ แมลงศตั รทู มี่ คี วามสา� คญั และทา� ความเสยี หายตอ่ ผลผลติ ทเุ รยี นมากในเขต
ภาคตะวันออก หนอนชนิดนี้มีถิ่นก�าเนิดอยู่ในประเทศมาเลเซียแล้วระบาดเข้ามาทางภาคใต้ของประเทศไทย
เม่ือเกษตรกรน�าเมล็ดทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองซ่ึงมีขนาดโตมาจากภาคใต้เพ่ือใช้เป็นต้นตอ จะได้ต้นกล้าที่แข็งแรง
เจรญิ เติบโตไดร้ วดเรว็ และมคี วามทนทานตอ่ โรคสงู การนา� เมลด็ พนั ธจ์ุ ากทางภาคใตม้ าเปน็ เหตทุ �าใหห้ นอนชนดิ นี้
ติดมาด้วย เกษตรกรจึงเรียกหนอนชนิดนี้ว่า “หนอนใต้” หรือ “หนอนมาเลย์” หนอนชนิดนี้เมื่อเข้าท�าลาย
ผลทุเรียนจะไม่สามารถสังเกตจากลักษณะภายนอกได้ หนอนเจาะเข้าไปในผลทุเรียนถ่ายมูลออกมาปะปน
อยู่กับเนื้อทุเรียนท�าให้เนื้อทุเรียนเสียคุณภาพ เกษตรกรไม่สามารถขายเน้ือทุเรียนสดได้ ต้องน�าไปแปรรูปซึ่ง
ราคาตา�่ ทา� ใหส้ ญู เสยี รายไดไ้ ปมาก จนกระทง่ั เมอ่ื หนอนโตเตม็ ทพี่ รอ้ มเขา้ ดกั แด้ จะเจาะเปลอื กเปน็ รอู อกมาและ
ทงิ้ ตวั ลงบนพืน้ ดินเพ่อื เขา้ ดกั แด้ในดิน เกษตรกรเห็นแต่รูไม่พบตวั หนอนอยู่ภายในหรือบางคร้งั พบความเสียหาย
เมอ่ื เก็บเกีย่ วผลผลิตเรยี บร้อยแลว้ หลงั จากหนอนเจาะออกมา จงึ เรียกหนอนชนิดน้อี ีกชื่อวา่ “หนอนรู”
หนอนชนิดน้ีพบระบาดเป็นครั้งแรกที่ อ�าเภอแกลง จังหวัดระยอง เม่ือปี 2530 ในปี พ.ศ. 2533
ที่จังหวดั ระยอง พบหนอนชนิดนรี้ ะบาดใน 8 ตา� บล คือ ซากโดน สองสลึง ห้วยยาง เนินค้อ ทางเกวยี น วงั หว้า
บา้ นนา และกรา�่ ทตี่ า� บลซากโดนเสยี หายสงู สดุ ถงึ 26% ของพนื้ ทปี่ ลกู สว่ นทจ่ี งั หวดั จนั ทบรุ พี บเฉพาะ 2-3 ตา� บล
ในเขตอา� เภอเมอื งเท่านน้ั และความเสียหาย 4% ในปี พ.ศ. 2534 ท่จี ังหวัดระยอง พนื้ ทร่ี ะบาดโดยเฉลี่ยเพิ่มขน้ึ
พนื้ ทเี่ สยี หายสงู สดุ 29% ทต่ี า� บลเนนิ คอ้ สว่ นทจี่ งั หวดั จนั ทบรุ พี บหนอนชนดิ นเี้ พม่ิ เปน็ 4 อา� เภอ คอื อา� เภอเมอื ง
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
แหลมสงิ ห์ ขลงุ และมะขาม สวนทุเรียนบางแหง่ ไดร้ ับความเสยี หายจากหนอนชนิดนสี้ งู ถึง 80 - 90% และพ้นื ที่
การระบาดไดข้ ยายออกจากแหลง่ ทพี่ บการระบาดครงั้ แรกไปในหลายพนื้ ทขี่ องจงั หวดั ระยอง จนั ทบรุ ี ตราด และ
ในปัจจุบันพบการระบาดของหนอนชนิดน้ีทุกแหล่งปลูกทุเรียนในประเทศ ในระยะที่ผ่านมาพบว่ามี
หนอนเจาะเมล็ดทุเรียนติดไปจนถึงผู้บริโภคทั้งตลาดภายในและต่างประเทศ เป็นผลท�าให้ขาดความเช่ือถือต่อ
สินค้าทส่ี ง่ ไปและอาจมีผลกระทบตอ่ ตลาดการคา้ ได้
ความเสียหายทีเ่ กดิ จากหนอนเจาะเมล็ดทเุ รยี น
รูปรา่ งลกั ษณะและชวี ประวตั ิ
ตวั เตม็ วัย เป็นผีเสือ้ กลางคนื สามารถวางไข่ได้ 100 - 200 ฟองต่อตวั วางไข่เปน็ ฟองเด่ียวบนผลทเุ รียน
ในขณะทผี่ ลยงั ออ่ น จากนน้ั ตวั หนอนทเ่ี พงิ่ ฟกั จากไขจ่ ะเจาะเขา้ ไปกดั กนิ เมลด็ ภายในผล การเขา้ ทา� ลายจะสงั เกต
รอยเจาะของหนอนไดย้ าก เนอื่ งจากมขี นาดเลก็ มากและเปลอื กทเุ รยี นทก่ี า� ลงั ขยายจะปดิ รเู จาะของหนอน ทเุ รยี น
ทถ่ี กู ทา� ลายสว่ นใหญจ่ ะอยใู่ นระยะทเ่ี มลด็ แขง็ แลว้ หนอนเจรญิ เตบิ โตอยภู่ ายในผลทเุ รยี นกดั กนิ เมลด็ เปน็ อาหาร
ประมาณ 30 - 40 วัน โดยคาดคะเนจากเวลาท่จี ับแมผ่ ีเสื้อตัวแรกไดแ้ ละเวลาทพี่ บหนอนท่โี ตเตม็ ทพ่ี รอ้ มจะเขา้
ดักแด้ซึ่งห่างกันประมาณ 48 วัน จึงคาดว่าระยะต้ังแต่ผีเส้ือออกจากดักแด้ ผสมพันธุ์ วางไข่ และไข่ฟักเป็น
ตวั หนอน จะกินเวลาประมาณ 10 วัน ดงั นน้ั ระยะหนอนประมาณ 38 วัน การทา� ลายของหนอนเจาะเมลด็ ทุเรยี น
จะเจาะไชเขา้ ไปในเมลด็ กดั กนิ และถา่ ยมลู ออกมาทา� ใหเ้ นอื้ ทเุ รยี นเปรอะเปอื้ นเสยี หาย หนอนอาศยั อยใู่ นผลทเุ รยี น
จนกระทั่งผลแก่ เมื่อหนอนโตเต็มที่หรือถ้าผลร่วงก่อน หนอนจะเจาะรูกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ
5 - 8 มลิ ลิเมตร ออกมาและเข้าดักแดใ้ นดิน ระยะกอ่ นเข้าดกั แด้ 8 - 10 วนั ระยะดักแด้ 1 - 9 เดอื น ผีเสอื้
ตัวเต็มวัยท่อี อกจากดกั แดภ้ ายในหนึง่ เดือนอาจจะเข้าทา� ลายทเุ รยี นรุน่ หลงั ในปีเดียวกนั ได้ หรืออาจจะออกจาก
ดักแดใ้ นปีถัดไปโดยมฝี นในชว่ งต้นปีเปน็ ตวั กระตุน้ ให้ตวั เต็มวัยออกจากดกั แด้ ผีเส้อื ตัวเต็มวัยท่จี บั ไดจ้ ากกับดัก
แสงไฟจะมีชวี ิตเพียง 7 - 10 วันเทา่ นั้น
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
หนอนเจาะเมลด็ ทเุ รยี น ตัวเตม็ วัย (ผเี สอื้ ) หนอนเจาะเมล็ดทเุ รยี น
ผีเสอ้ื วางไข่เปน็ ฟองเดี่ยวๆ บนผลทเุ รยี น หนอนกดั กนิ เฉพาะเนื้อเมลด็ ทเุ รียน
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
รูท่หี นอนเจาะออกมาเพ่ือเข้าดักแด้ ดกั แดข้ องหนอนเจาะเมลด็ ทุเรยี นมดี นิ หุ้ม
การติดตามสถานการณ์การระบาดหนอนเจาะเมลด็ ทเุ รียน
• ช่วงทุเรียนติดผลให้ตรวจดูตัวเต็มวัยของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนในกับดักแสงไฟ (black light)
ทุก 2 - 3 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะหลังฝนตกหนักตรวจดูทุกวัน
ระดับเศรษฐกิจ
ตวั เต็มวัยในกบั ดักแสงไฟ 1 ตัว
พชื อาหาร
ทุเรยี น
ศัตรูธรรมชาติ
จากการสำารวจยงั ไมพ่ บ
การป้องกันก�าจัด
1. เกษตรกรไม่ควรขนย้ายเมล็ดทุเรียนจากท่ีอ่ืนเข้ามาในแหล่งปลูก ถ้ามีความจ�าเป็นควรท�าการ
คัดเลือกเมลด็ อย่างระมัดระวงั หรือแชเ่ มล็ดดว้ ยสารฆา่ แมลง เชน่ มาลาไทออน (malathion) 83% EC อตั รา
40 มลิ ลลิ ิตร ต่อนา้� 20 ลติ ร หรือ คารบ์ าริล (carbaryl) 85% WP อตั รา 50 กรัม ต่อน�้า 20 ลติ ร กอ่ นทา� การ
ขนย้ายจะช่วยกา� จัดหนอนได้
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
2. การห่อผลระยะยาวโดยใชถ้ ุงพลาสตกิ สีขาวขุ่นขนาด 40 x 75 เซนตเิ มตร เจาะกน้ ถุงเพอ่ื ระบายนา�้
สามารถปอ้ งกนั ไมใ่ หต้ วั เตม็ วยั มาวางไขไ่ ด้ โดยเรมิ่ หอ่ ผลตงั้ แตผ่ ลทเุ รยี นมอี ายุ 6 สปั ดาหเ์ ปน็ ตน้ ไปจนถงึ เกบ็ เกยี่ ว
ก่อนห่อตรวจสอบผลทุเรียนท่ีจะห่อให้ปราศจากการท�าลายของหนอนเจาะผลและเพลี้ยแป้ง ถ้ามีให้ก�าจัดโดย
การเข่ียหรือใชแ้ ปรงปัดออก แลว้ พน่ ดว้ ยสารฆ่าแมลง คลอร์ไพรฟิ อส (chlorpyrifos) อัตรา 15 มิลลิลติ ร ตอ่ น�้า 20 ลติ ร
3. การป้องกันก�าจัดด้วยวิธีผสมผสาน โดยการพ่นสารฆ่าแมลง แลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน
(lambda-cyhalothrin) 2.5% CS อัตรา 20 มิลลิลติ ร ตอ่ น้�า 20 ลิตร หรือ คารบ์ ารลิ (carbaryl) 85% WP
อัตรา 50 กรมั ตอ่ น�้า 20 ลติ ร หา่ งกันครง้ั ละ 1 สัปดาห์ เร่ิมเมือ่ ผลอายุ 6 สปั ดาห์ และหอ่ ดว้ ยถงุ พลาสติก
ขาวขุน่ ขนาด 40 x 75 เซนติเมตร เจาะก้นถุงเพ่ือระบายนา้� เมอื่ ผลอายุ 10 สัปดาห์ โดยการเลอื กห่อเฉพาะผล
ท่ีมีขนาดและรูปทรงได้มาตรฐาน ก่อนห่อผลควรมีการส�ารวจเพล้ียแป้ง ถ้าพบเพลี้ยแป้งระบาดควรพ่นสาร
คลอร์ไพรฟิ อส (chlorpyrifos) อตั รา 15 มิลลิลติ ร ต่อน้า� 20 ลิตร
4. การใช้กับดักแสงไฟโดยใช้หลอด black light เพ่ือล่อตัวเต็มวัยหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนมาท�าลาย
สามารถช่วยลดการระบาดของแมลงชนดิ น้ีลงได้มากเนอื่ งจากตวั เตม็ วัยแตล่ ะตวั มไี ขป่ ระมาณ 100 - 200 ฟอง
และกับดักแสงไฟยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือตรวจการระบาดของแมลงชนิดนี้ได้ เพ่ือให้ทราบว่ามีแมลงระบาด
ในช่วงไหน ควรใช้สารฆ่าแมลง (ถ้าจ�าเป็น) มีประสิทธิภาพมากข้ึน สามารถลดจ�านวนการพ่นสารฆ่าแมลง
อยา่ งทีเ่ กษตรกรปฏบิ ตั อิ ย่ตู งั้ แตท่ ุเรยี นเรม่ิ ออกดอก
5. การปอ้ งกันกา� จัดโดยใชส้ ารฆา่ แมลง เมอื่ พบว่าตัวเต็มวัยเรม่ิ ระบาดใหใ้ ชส้ าร คารบ์ ารลิ (carbaryl)
85% WP อัตรา 50 มิลลลิ ติ ร ตอ่ น้�า 20 ลิตร หรอื เดลทาเมทริน (deltamethrin) 3% EC อตั รา 15 มลิ ลลิ ติ ร
ต่อน้�า 20 ลิตร หรือ แลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน (lambda-cyhalothrin) 2.5% CS อัตรา 20 มิลลิลิตร ต่อน�้า
20 ลติ ร หรอื เบตา-ไซฟลทู ริน (beta-cyfluthrin) 2.5% EC อตั รา 20 มลิ ลิลติ ร ต่อน�า้ 20 ลิตร ห่างกันคร้งั ละ
1 สปั ดาห์ เรมิ่ เมอื่ ผลอายุ 6 สัปดาห์
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
เมลด็ ทุเรียนท่เี กษตรกรนา� มาใชเ้ ปน็ ต้นตอ การใช้กบั ดักแสงไฟเพือ่ ตรวจการระบาด
การห่อผลทเุ รยี นด้วยถงุ พลาสติกสขี าวข่นุ การหอ่ ผลทเุ รยี นโดยใชเ้ คร่อื งมอื ใชไ้ ดส้ ะดวกกับผล
การห่อผลทเุ รยี น เม่อื ผลอายุประมาณ 10 สปั ดาห์
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
เพล้ียไก่แจ้ทเุ รยี น
Common name durian psyllid
ช่อื สามญั /ชื่อพ้นื เมือง เพลย้ี ไกฟ่ า้
ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Allocarsidara malayensis (Crawford)
วงศ์ Psyllidae
อนั ดบั Hemiptera
ชว่ งการระบาดของเพลี้ยไก่แจ้ทเุ รียน : ระยะทุเรยี นแตกใบออ่ น
มม..คค.. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
ความสา� คญั และลกั ษณะการท�าลาย
เพลย้ี ไกแ่ จท้ เุ รยี น พบระบาดทา� ความเสยี หายใหก้ บั ทเุ รยี นอยา่ งมากในแหลง่ ปลกู ทเุ รยี นทวั่ ไป ตวั ออ่ น
และตัวเต็มวัยดูดกินน�้าเลี้ยงจากใบอ่อน ท�าให้ใบอ่อนเป็นจุดสีเหลือง ไม่เจริญเติบโต เมื่อระบาดมากๆ ท�าให้
ใบหงิกงอ ถ้าเพลี้ยไก่แจ้ทุเรียนเข้าท�าลายในช่วงที่ใบอ่อนยังเล็กมากและยังไม่คลี่ออกจะท�าให้ใบแห้งและร่วง
ตวั ออ่ นของแมลงชนดิ นี้จะขับสารเหนยี วสขี าวออกมาปกคลุมใบทุเรยี น เป็นสาเหตุทา� ให้เกิดเชื้อราตามบรเิ วณที่
สารชนิดน้ีถูกขับออกมา ระยะตัวอ่อนท�าความเสียหายมากท่ีสุด นอกจากน้ี ได้รายงานว่าแมลงชนิดน้ีท�าความ
เสยี หายใหก้ ับทุเรียนพนั ธุ์ชะนีมากท่สี ดุ
ตวั อ่อนและตัวเตม็ วัยเพล้ียไก่แจท้ เุ รยี น การท�าลายของเพล้ยี ไกแ่ จ้ทุเรียน
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
รปู รา่ งลักษณะและชวี ประวตั ิ
ตัวเต็มวัยของแมลงชนิดนี้วางไข่เข้าไปในเนื้อเย่ือของใบพืช มีลักษณะเป็นตุ่มสีเหลืองหรือน้�าตาลเป็น
กลมุ่ ๆ แตล่ ะกลมุ่ มไี ขป่ ระมาณ 8 - 14 ฟอง หลงั จากนน้ั ไขจ่ ะฟกั เปน็ ตวั ออ่ นมขี นาดเลก็ มากประมาณ 1 มลิ ลเิ มตร
และเม่ือพฒั นาเปน็ ตัวอ่อนระยะต่อไปมขี นาดใหญ่ขึน้ ยาวประมาณ 3 มิลลิเมตร มปี ยุ สขี าวตดิ อย่ตู ามล�าตวั โดย
เฉพาะท่ีด้านท้ายของล�าตัวจะมีปุยยาวสีขาวคล้ายๆ กับหางไก่ แมลงชนิดนี้จึงได้ช่ือว่า “เพลี้ยไก่แจ้” หรือ
“เพล้ียไก่ฟ้า” เมื่อตวั อ่อนลอกคราบเป็นตวั เต็มวยั จะมสี ีน้า� ตาลปนเขยี ว ขนาดยาวประมาณ 5 มลิ ลิเมตร และ
มอี ายยุ าวถงึ 6 เดอื น โดยปกตติ วั เตม็ วยั จะไมค่ อ่ ยบนิ นอกจากถกู รบกวน แมลงชนดิ นมี้ รี ะบาดในทอ้ งทปี่ ลกู ทเุ รยี น
ท่วั ไป และระบาดในชว่ งทุเรยี นแตกใบออ่ น
ตัวเต็มวัยเพลย้ี ไกแ่ จ้ทเุ รียน
ตวั ออ่ นเพล้ียไก่แจท้ ุเรยี นเขา้ ทา� ลาย เพลี้ยไกเ่ เจท้ เุ รยี นวางไขใ่ นเนื้อใบรวมเปน็ กลุ่ม
ในระยะทเุ รียนแตกใบ
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
ไขข่ องเพล้ยี ไก่แจ้ทุเรยี นฝังอยู่ในเนอื้ ใบ ตวั อ่อนเพลย้ี ไกแ่ จ้ทุเรยี นวัยท่ี 1
การติดตามสถานการณ์การระบาดเพล้ียไก่แจท้ ุเรียนและศัตรูธรรมชาติ
• สำารวจ 10% ของต้นทัง้ หมด ทุก 7 วัน
• ตรวจนบั 5 ยอดตอ่ ต้น ทง้ั เพล้ียไก่แจ้ทเุ รยี นและศตั รธู รรมชาติ
• พบเพลี้ยไกแ่ จ้ทุเรยี น มากกวา่ 5 ตวั ต่อยอด ถือวา่ ยอดถกู ทาำ ลาย
• ประเมินประสิทธิภาพของศัตรูธรรมชาติในการควบคุมเพล้ียไก่แจ้ทุเรียน และปริมาณของยอดท่ี
ถกู เพลีย้ ไกแ่ จ้ทุเรียนทำาลาย
ระดับเศรษฐกิจ
พบยอดถูกทำาลาย มากกว่า 50% ต่อต้น หรือ ยอดที่พบไข่ มากกว่า 20% ต่อต้น ของการแตกใบอ่อน
คร้งั ที่ 1 และ 2
พชื อาหาร
ทเุ รียน
ศตั รูธรรมชาติ
แมลงศัตรูธรรมชาติของเพล้ียไก่แจ้ทุเรียนมีหลายชนิดทั้งแมลงหำ้าได้แก่ ด้วงเต่าลาย 3 ชนิดในวงศ์
Coccinellidae คือ Menochilus sexmaculatus (Fabricius) Micraspis discolor (Fabicius) และ
Coccinella transversalis Fabricius และ แมลงช้างปีกใสสกุล Chrysopa, Hemerobius และชนิด
Ankylopteryx octopunctata สำาหรับแมลงเบียน พบแตนเบียนตัวอ่อนเพล้ียไก่แจ้ในวงศ์ Encyrtidae พบ
ปรมิ าณคอ่ นขา้ งสูงโดยเฉพาะในสวนท่ใี ชส้ ารเคมนี อ้ ย
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
แตนเบยี นตวั อ่อนของเพลี้ยไก่เเจท้ ุเรียน ด้วงเต่าลายกนิ เพลยี้ ไกเ่ เจท้ ุเรยี นเปน็ อาหาร
การป้องกันก�าจดั
1. เพล้ียไก่แจ้ทุเรียนจะท�าลายเฉพาะใบอ่อนทุเรียนท่ียังไม่โตเต็มที่ และโดยปกติทุเรียนแตกใบอ่อน
ไมพ่ รอ้ มกนั แมแ้ ตท่ เุ รยี นในสวนเดยี วกนั ชาวสวนทเุ รยี นควรจะพน่ สารฆา่ แมลงเมอื่ ทเุ รยี นสว่ นใหญแ่ ตกใบออ่ น
ส�าหรับต้นที่แตกใบอ่อนไม่พร้อมต้นอ่ืนควรพ่นเฉพาะต้น วิธีนี้ช่วยลดการใช้สารฆ่าแมลงและเปิดโอกาสให้ศัตรู
ธรรมชาตไิ ด้มบี ทบาทในการควบคุมเพลยี้ ไกแ่ จ้ทเุ รียน และยงั เปน็ การอนรุ ักษ์ศตั รูธรรมชาติเหลา่ น้ีอีกดว้ ย
2. วิธีบังคบั ใหท้ ุเรยี นแตกใบอ่อนพรอ้ มกนั ซง่ึ อาจกระต้นุ ด้วยการพ่นยูเรยี (46 - 0 - 0) 200 กรัม
ต่อน้�า 20 ลิตร เพ่ือลดช่วงการเข้าท�าลายของเพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน จะช่วยลดการใช้สารเคมีลงได้มาก โดยปกติ
ทเุ รียนตอ้ งการใบอ่อนที่สมบรู ณ์ 2 - 3 ชุดตอ่ ปี เพ่อี ให้ตน้ ทเุ รียนพร้อมทจี่ ะให้ผลผลิตทดี่ ี
3. สารฆ่าแมลงท่ีมีประสิทธิภาพเมื่อเพลี้ยไก่แจ้ทุเรียนระบาดมาก คือ แลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน
(lambda-cyhalothrin) 2.5% EC อัตรา 10 มิลลลิ ติ ร ตอ่ น�้า 20 ลติ ร หรือ อมิ ิดาโคลพรดิ (imidacloprid)
70% WG อัตรา 5 กรมั ต่อน�า้ 20 ลติ ร หรือ ไทอะมีทอกแซม (thiamethoxam) 25% WG อัตรา 8 กรัม
ต่อน้�า 20 ลิตร หรือ ไดโนทีฟูแรน (dinotefuran) 10% WP อัตรา 15 กรัม ต่อน้�า 20 ลิตร หรือ
ไทอะมีทอกแซม/แลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน (thiamethoxam/lambda-cyhalothrin) 14.1%/10.6% ZC
อัตรา 30 มิลลิลิตร ต่อน้�า 20 ลิตร หรือ คาร์บาริล (carbaryl) 85% WP อัตรา 10 กรัม ต่อน�้า 20 ลิตร
พ่นทกุ 7 - 10 วนั ในช่วงระยะแตกใบอ่อน
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
หนอนเจาะผล
Common name yellow peach moth
ชื่อสามญั /ชอ่ื พ้ืนเมือง หนอนเจาะผลละห่งุ
ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Conogethes punctiferalis Guenee
วงศ์ Crambidae
อนั ดบั Lepidoptera
ชว่ งการระบาดของหนอนเจาะผล : ระยะผล
มม..คค.. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
ความส�าคญั และลกั ษณะการท�าลาย
หนอนเจาะผลเป็นศัตรูทุเรียนท่ีส�าคัญพบระบาดท่ัวไปในแหล่งปลูกทุเรียนทั่วประเทศ หนอนเจาะผล
จะเขา้ ทา� ลายทเุ รยี นตงั้ แตผ่ ลยงั เลก็ อายปุ ระมาณ 2 เดอื นไปจนถงึ ผลใหญท่ า� ใหผ้ ลเปน็ แผล อาจเปน็ ผลใหผ้ ลเนา่
และรว่ งเนอ่ื งจากเชอื้ ราเขา้ ทา� ลายซา้� การทผ่ี ลมรี อยแมลงทา� ลายทา� ใหข้ ายไมไ่ ดร้ าคา ถา้ หากหนอนเจาะกนิ เขา้ ไป
จนถึงเน้ือผล ท�าให้บริเวณดังกล่าวเน่าเมื่อผลสุก ภายนอกผลทุเรียนจะสังเกตเห็นมูลและรังของหนอน
ได้อย่างชัดเจน และจะมีน้�าไหลเยิ้มเมื่อทุเรียนใกล้แก่ ผลทุเรียนท่ีอยู่ชิดติดกันหนอนจะเข้าท�าลายมากกว่าผล
ทอ่ี ยเู่ ด่ียวๆ เพราะแม่ผเี สื้อชอบวางไขใ่ นบริเวณรอยสัมผัสน้ี
หนอนเจาะผลทา� รังบริเวณเปลือกทุเรียน รอยเนา่ บนเปลือกเนอ่ื งจากหนอนเจาะผล
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
รปู ร่างลกั ษณะและชวี ประวตั ิ
ตัวเต็มวัยของหนอนเจาะผลเป็นผีเสื้อกลางคืนขนาดค่อนข้างเล็ก เม่ือกางปีกกว้างประมาณ 2.3
เซนตเิ มตร ปกี ทั้งคมู่ ีสีเหลือง มีจดุ สีดา� กระจายอยู่ทวั่ ปีก วางไข่ไว้บนเปลือกผลทุเรียน ระยะไข่ 4 วนั หนอนวยั
แรกมีสขี าว หวั สนี า�้ ตาล แทะกนิ ผิวทเุ รียนก่อน เมอื่ โตขนึ้ จึงเจาะกนิ เขา้ ไปในเปลือกผลทเุ รยี น ตวั หนอนวยั ตอ่ มา
มีลักษณะสีน้�าตาลอ่อนและมีจุดสีน�้าตาลเข้มประอยู่บริเวณหลังตลอดล�าตัวและมีหัวสีน�้าตาลเข้ม หนอนเจริญ
เตม็ ทมี่ ีขนาดยาวประมาณ 1.5 - 1.8 เซนติเมตร จะเขา้ ดักแดอ้ ยู่ระหว่างหนามของผลทเุ รยี นโดยมีใยและมูลของ
หนอนหุ้มตวั เม่ือเลยี้ งดว้ ยผลละหุ่ง ระยะหนอน 12 - 13 วนั ระยะดกั แด้ 7 - 9 วนั ระยะตัวเตม็ วยั เพศผู้ 10 - 18 วัน
และเพศเมีย 14 - 18 วัน หนอนเจาะผลระบาดทา� ความเสียหายแก่ผลทเุ รียน เข้าทา� ลายในระยะท่ีทเุ รยี นติดผลจน
กระท่ังผลโตเต็มท่พี รอ้ มท่จี ะเก็บเกี่ยว
หนอนเจาะผลกัดทา� ลายบรเิ วณเปลือกทเุ รยี น ผเี สือ้ ตวั เต็มวยั หนอนเจาะผล
หนอนเจาะผลกดั เเทะผิวเปลือก
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
การติดตามสถานการณ์การระบาดหนอนเจาะผลและศัตรธู รรมชาติ
• สำารวจ 10% ของตน้ ทัง้ หมด ทกุ 7 วัน
• ตรวจนบั 5 ผลตอ่ ตน้ ทั้งหนอนเจาะผลและศัตรธู รรมชาติ
• ประเมินประสิทธภิ าพของศตั รธู รรมชาติในการควบคมุ หนอนเจาะผล และปริมาณของผลทีถ่ กู หนอน
เจาะผลทาำ ลาย
ระดบั เศรษฐกจิ
ผลถกู ทำาลาย มากกว่า 20% ตอ่ ต้น หลงั การตดั แตง่ ผลคร้งั ท่ี 3
พืชอาหาร
แมลงชนิดนีพ้ บทั่วไปตลอดทั้งปีเนื่องจากมพี ืชอาศยั กวา้ ง นอกจากทุเรยี นแล้วมรี ายงานวา่ หนอน
ชนิดนที้ าำ ลายผลไม้ชนดิ อ่ืน เช่น มะหวด ลำาไย ล้ินจี่ เงาะ ทับทิม ละหงุ่ หม่อน และโกโก้
ศตั รธู รรมชาติ
แตนเบียน Apanteles sp.
การปอ้ งกนั ก�าจัด
1. หม่นั ตรวจดตู ามผลทุเรียน เมอื่ พบรอยทำาลายของหนอน ใหใ้ ชไ้ มห้ รอื ลวดแขง็ เขย่ี ตวั หนอนออกมาทาำ ลาย
2. ผลทเุ รยี นท่เี น่าและรว่ งเพราะถกู หนอนทาำ ลายควรเก็บทาำ ลายโดยเผาไฟหรอื ฝังเสยี
3. ตัดแต่งผลทุเรียนท่ีมีจำานวนมากเกินไป โดยเฉพาะผลที่อยู่ติดกันควรใช้กิ่งไม้หรือกาบมะพร้าวค่ัน
ระหว่างผล เพ่อื ปอ้ งกนั ไม่ใหต้ ัวเตม็ วัยวางไขห่ รอื ตัวหนอนเข้าหลบอาศยั
4. การห่อผลดว้ ยถงุ มุ้งไนล่อน ถงุ รีเมย์ หรือถุงพลาสติกสีขาวขุ่น เจาะรูที่บรเิ วณขอบล่างเพื่อใหห้ ยดน้ำา
ระบายออก โดยเรม่ิ ห่อผลต้ังแต่ผลทุเรียนมอี ายุ 6 สปั ดาห์เปน็ ตน้ ไปจะช่วยลดความเสยี หายได้
5. สารฆา่ แมลงที่มปี ระสิทธภิ าพเม่ือจาำ เป็นต้องใช้ คือ แลมบด์ า-ไซฮาโลทรนิ (lambda-cyhalothrin)
5% EC อัตรา 20 มลิ ลิลิตร ตอ่ นาำ้ 20 ลติ ร หรอื คลอรไ์ พรฟิ อส (chlorpyrifos) 40% EC อตั รา 20 มิลลลิ ติ ร
ตอ่ นาำ้ 20 ลิตร พ่นเฉพาะสว่ นผลทุเรยี นทกี่ ารทำาลายของหนอนเจาะผล
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
ใชไ้ ม้ค่นั ระหว่างผล และตัดเเต่งไมใ่ ห้ผลติดกัน ชว่ ยลดการเขา้ ท�าลายได้
การหอ่ ผลด้วยถงุ พลาสตกิ ช่วยป้องกันการเขา้ ทา� ลายได้
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
เพล้ียแป้ง
Common name mealybugs
ช่ือสามัญ/ช่ือพนื้ เมือง เพลี้ยแปง้ แปซฟิ ิค เพล้ยี แป้งกาแฟ
ช่ือวิทยาศาสตร์ Planococcus minor (Maskell)
Planococcus lilacinus (Cockerell)
วงศ์ Pseudococcidae
อนั ดบั Hemiptera
ชว่ งการระบาดของเพล้ยี แปง้ : ระยะผล ดอก และยอดออ่ น
มม..คค.. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
ความสา� คญั และลักษณะการท�าลาย
เพลี้ยแป้งเป็นแมลงศัตรูท่ีส�าคัญพบระบาดท�าความเสียหายต่อทุเรียนในแหล่งปลูกท่ัวไป
ดูดกนิ น�้าเลย้ี งจากบริเวณกิ่ง ชอ่ ดอก ผลออ่ น ผลแก่ โดยมมี ดชว่ ยคาบพาไปตามสว่ นต่างๆ ของพชื สว่ นทถี่ กู
ทา� ลายจะแคระแกรน็ และชะงกั การเจริญเติบโต นอกจากนเ้ี พล้ียแปง้ จะขบั มลู หวาน (honeydew) ออกมา
เปน็ เหตุให้ราดา� เข้าทา� ลายซ้�า เพลีย้ แป้งเขา้ ทา� ลายทเุ รียนผลเล็ก ท�าใหผ้ ลแคระแกรน็ ไมเ่ จรญิ เตบิ โตต่อไป
ถ้าเปน็ ทเุ รยี นผลใหญ่ ไม่มีผลทา� ใหเ้ นอ้ื ของทุเรียนเสยี หาย แต่ทา� ใหค้ ณุ ภาพของผลทุเรียนเสียไป ราคาต�่า
และเปน็ ที่รังเกยี จของผูบ้ รโิ ภค
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
เพลย้ี แปง้ ทา� ลายผลอ่อนท�าใหแ้ คระแกรน็ เพล้ยี แป้งขับนา�้ หวานออกมาเป็นเหตุ
ให้ราด�าเขา้ ท�าลาย
เพล้ียแปง้ ทา� ลายผลทเุ รยี นระยะหางแย้ไหม้ เพลย้ี แปง้ ท�าลายยอดออ่ นทุเรยี น
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
เพลีย้ แปง้ ทา� ลายทเุ รียนผลออ่ น เพลี้ยแป้งชนิดท่ที า� ลายผลทุเรียนแก่
รปู ร่างลกั ษณะและชวี ประวัติ
เพลี้ยแป้งเพศเมีย มีขนาดลำาตัวยาวประมาณ 3 มิลลิเมตร มีสีเหลืองอ่อนหรือชมพู ลักษณะอ้วนส้ัน มี
ผงสีขาวคล้ายผงแปง้ ปกคลุมลำาตัวอยู่ ไขเ่ ป็นกลุ่ม จำานวนไข่แต่ละกลุ่ม 100 - 200 ฟอง เพศเมยี ตัวหน่งึ สามารถ
วางไขไ่ ด้ 600 - 800 ฟอง ในเวลา 14 วนั ไขจ่ ะฟกั อยใู่ นถงุ ใตท้ อ้ งเพศเมยี ระยะไขป่ ระมาณ 6 - 10 วัน สว่ นเพศเมีย
เมื่อหยุดไข่ก็จะตายไป ตัวอ่อนที่ฟักออกจากไข่ใหม่ๆ มีสีเหลืองอ่อนไม่มีผงสีขาวปกคลุม ตัวอ่อนจะคลานออก
จากกลุ่มไข่ไปหาที่เหมาะสมเพ่ืออยู่อาศัย เพศเมียมีการลอกคราบ 3 ครั้ง และไม่มีปีก ส่วนเพศผู้ลอกคราบ
4 คร้ัง มีปีก และมีขนาดเล็กกว่าเพศเมีย เพศเมียจะวางไข่หลังการลอกคราบครั้งที่ 3 เพลี้ยแป้งสามารถขยาย
พันธ์ไุ ด้ 2 - 3 รุน่ ใน 1 ปี ในระยะท่ีพืชอาหารไม่เหมาะสม เพล้ยี แปง้ อาศยั อยู่ใต้ดนิ ตามรากพืช เช่น หญ้าแห้วหมู
โดยมมี ดทอี่ าศัยกนิ สิ่งขบั ถา่ ยของเพลย้ี แปง้ เป็นตัวพาไป
เพลี้ยแป้งจะระบาดทำาความเสียหายแก่ผลทุเรียน ต้ังแต่ระยะท่ีทุเรียนเริ่มติดผลจนกระทั่งผลโตเต็มที่
พร้อมที่จะเก็บเกี่ยว หรือกลางเดือนกรกฎาคมสำาหรับทุเรียนรนุ่ หลงั
การตดิ ตามสถานการณก์ ารระบาดเพล้ยี แป้งและศตั รูธรรมชาติ
• สาำ รวจ 10% ของต้นทง้ั หมด ทุก 7 วัน ในช่วงทเุ รียนติดผล
• ตรวจนับ 5 ผลต่อตน้ ท้ังเพล้ียแปง้ และศัตรธู รรมชาติ
• ประเมินประสิทธิภาพของศัตรูธรรมชาติในการควบคุมเพล้ียแป้ง และปริมาณของผลท่ีถูกเพลี้ยแป้ง
ทาำ ลาย
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
ระดบั เศรษฐกจิ
ผลถกู ทาำ ลาย มากกวา่ 20% ต่อต้น หลงั การตัดแตง่ ผลครั้งท่ี 3
พชื อาหาร
ทเุ รยี น มงั คุด เงาะ และ สับปะรด
ศัตรูธรรมชาติ
พบด้วงเต่าในวงศ์ Coccinellidae เป็นแมลงหำ้า 3 ชนิด คือ Cryptolaemus montrouzieri
Scymnus sp. และ Nephus sp.
การป้องกนั ก�าจัด
1. หากพบเพลีย้ แป้งระบาดเลก็ น้อยใหต้ ัดส่วนของพืชท่ีพบการระบาดน�าไปเผาทา� ลาย
2. เมอ่ื พบเพลย้ี แปง้ ปรมิ าณนอ้ ยบนผลทเุ รยี นใชน้ า้� พน่ ใหเ้ พลย้ี แปง้ หลดุ ไป หรอื การใชน้ า�้ ผสม white oil
อัตรา 20 มิลลิลติ ร ต่อน�้า 20 ลิตร ช่วยในการก�าจัดเพลยี้ แปง้ ได้ดี
3. เนอื่ งจากเพลย้ี แปง้ แพรร่ ะบาดโดยมมี ดพาไป การปอ้ งกนั โดยใชผ้ า้ ชบุ สารฆา่ แมลง เชน่ มาลาไทออน
(malathion) 83% EC อัตรา 20 มลิ ลลิ ติ ร ต่อน้า� 20 ลติ ร หรอื คาร์บาริล (carbaryl) 85% WP อัตรา 10 กรมั
ตอ่ น�้า 20 ลติ ร พันไว้ตามกิ่งสามารถป้องกนั ไม่ให้มดคาบเพลีย้ แป้งไปยงั ส่วนตา่ งๆ ของทเุ รียน หรือการพน่ สาร
ฆ่าแมลงไปที่โคนต้นจะช่วยป้องกนั มดและลดการเขา้ ท�าลายของเพล้ียแป้งไดม้ าก
4. สารฆ่าแมลงที่ไดผ้ ลในการควบคุมเพล้ยี แป้งคือ สารคลอรไ์ พริฟอส (chlorpyrifos) 40% EC อัตรา
30 มลิ ลลิ ิตร ต่อน�า้ 20 ลติ ร หรือ คลอร์ไพริฟอส (chlorpyrifos)/ไซเพอร์เมทรนิ (cypermethrin) 50% / 5% EC
อัตรา 30 มลิ ลลิ ติ ร ต่อนา้� 20 ลติ ร โดยพ่นสารเฉพาะต้นท่ีพบเพล้ียแป้งท�าลาย
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
เพล้ยี ไฟพรกิ
Common name chili thrips
ชอื่ สามญั /ชือ่ พ้ืนเมอื ง เพล้ียไฟพริก
ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Scirtothrips dorsalis (Hood)
วงศ์ Thripidae
อนั ดับ Thysanoptera
ชว่ งการระบาดของเพลี้ยไฟ : ช่วงดอก ผลอ่อน และใบออ่ น
มม..คค.. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
ความส�าคญั และลกั ษณะการท�าลาย
ในทุเรียนพบเพล้ียไฟหลายชนิดทำาลายทุเรียนในระยะพัฒนาการต่างๆ แต่ที่พบมากและสำาคัญท่ีสุดคือ
เพลย้ี ไฟพรกิ ระบาดทาำ ลายในชว่ งผลออ่ นและใบออ่ น รองลงมาคอื เพลยี้ ไฟดอกไมฮ้ าวายระบาดในชว่ งดอกบาน
สาำ หรับเพล้ยี ไฟพรกิ ระบาดทาำ ลายไมผ้ ลหลายชนิด เช่น มังคุด มะมว่ ง เงาะ สม้ โอ ส้มเขยี วหวาน ลน้ิ จ่ี และลำาไย
ท้ังตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้ำาเล้ียงจากส่วนต่างๆ ของพืช มีผลทำาให้ใบอ่อนหรือยอดอ่อน ชะงักการเจริญ
เติบโต แคระแกรน็ ใบโคง้ แห้ง หงกิ งอ และไหม้ การทำาลายในชว่ งดอก ทาำ ให้ดอกแห้ง ดอกและกา้ นดอกเปลย่ี นเปน็ สี
น้ำาตาล แคระแกร็น และร่วงได้ และในช่วงผลอ่อน ทำาให้ชะงักการเจริญเติบโต หนามเป็นแผลและเกิดอาการ
ปลายหนามแหง้ ผลไมส่ มบรู ณแ์ ละแคระแกรน็ เนอื่ งจากทเุ รยี นมปี รมิ าณดอกมากโดยเฉลย่ี สงู ถงึ ตน้ ละประมาณ
20,000 ดอก ทำาให้เพลี้ยไฟสามารถเพ่ิมปริมาณได้มากในช่วงดอกบาน เกษตรกรบางส่วนพยายามรักษาดอก
ทเุ รยี นทงั้ หมดไวจ้ งึ มกี ารใชส้ ารปอ้ งกนั กาำ จดั แมลงศตั รพู ชื คอ่ นขา้ งมากและเกนิ ความจาำ เปน็ ทง้ั ทค่ี วรใหม้ จี าำ นวน
ผลทเุ รยี นอยูบ่ นตน้ ท่เี หมาะสมประมาณ 50 - 150 ผลต่อตน้ สาำ หรบั ในชว่ งพัฒนาการของใบ ต้นทุเรียนแต่ละต้น
มคี วามสมบรู ณไ์ มเ่ ทา่ เทยี มกนั จงึ มกี ารแตกใบออ่ นไมพ่ รอ้ มเพรยี งกนั และเมอ่ื มกี ารแตกใบออ่ นชดุ ใหมจ่ ะดงึ ดดู
ให้เพล้ียไฟเข้ามาทำาลาย ทำาให้เพลี้ยไฟระบาดอย่างต่อเน่ือง เกษตรกรต้องทำาการป้องกันกำาจัดด้วยสารฆ่า
แมลงซง่ึ เป็นการเพิม่ ต้นทุนการผลติ
เพลี้ยไฟจะระบาดรุนแรงในช่วงแล้ง ระหว่างเดือนธันวาคม - พฤษภาคม ซ่ึงตรงกับระยะที่ต้นทุเรียน
ออกดอกตดิ ผล เพลยี้ ไฟมอี าหารอยา่ งอดุ มสมบรู ณ์ สามารถเพม่ิ ปรมิ าณไดม้ ากเนอื่ งมาจากดอกทเุ รยี นเปน็ แหลง่
อาหารและแหลง่ ขยายพนั ธท์ุ ด่ี ขี องเพลยี้ ไฟ รวมทงั้ ตน้ ทเุ รยี นมปี รมิ าณดอกมาก ประกอบดว้ ยเพลย้ี ไฟมวี งจรชวี ติ
ทคี่ อ่ นข้างสน้ั
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
เพล้ยี ไฟพริกในทุเรียน เพลยี้ ไฟปีกมลี ักษณะเป็นเส้นขน
เพลยี้ ไฟระบาดในระยะใบอ่อนท�าใหโ้ ค้งงอ เพลยี้ ไฟทา� ลายทุเรียนผลอ่อนท�าใหป้ ลายหนามแห้ง
รูปร�่ งลกั ษณะและชวี ประวตั ิ
เพลยี้ ไฟพริก (Scirtothrips dorsalis Hood) มีลา� ตัวสีเหลอื ง หรอื สีนา้� ตาลออ่ น ขอบปกี มเี สน้ ขนเปน็
แผง เคล่อื นไหวได้รวดเรว็ เพศเมีย มคี วามยาว 1.05 มลิ ลิเมตร กว้าง 0.19 มลิ ลิเมตร บรเิ วณส่วนปลายของปล้อง
ทอ้ งมอี วัยวะวางไข่เห็นไดช้ ดั เจน เพศผู้ มีความยาว 0.71 มลิ ลิเมตร กว้าง 0.14 มิลลเิ มตร มักอยรู่ วมกันเป็นกลุ่ม
ไข่มขี นาดเลก็ ลกั ษณะคล้ายเมล็ดถั่วสขี าว ขนาดยาว 0.25 มิลลิเมตร กว้าง 0.10 มิลลเิ มตร ฝงั อยใู่ นเนือ้ เย่ือพืช
บริเวณใกลเ้ ส้นกลางใบ เพศเมยี วางไขว่ นั ละ 2 - 3 ฟอง ระยะไข่ประมาณ 6 - 9 วนั ตัวอ่อนที่เพง่ิ ฟักใหม่มีสีเหลอื งออ่ น
ขนาดยาว 0.29 มิลลิเมตร กว้าง 0.09 มลิ ลเิ มตร ส่วนอกกวา้ ง และส่วนทอ้ งเรียวแหลมไปทางส่วนปลาย ตัวอ่อน
วัยทส่ี อง มสี เี หลอื งส้ม ขนาดยาว 0.59 มลิ ลเิ มตร กว้าง 0.18 มิลลิเมตร โดยมรี ะยะตัวออ่ นวยั แรกและวยั ทส่ี อง
เฉลยี่ 4.3 - 5.7 วนั ในระยะกอ่ นเข้าดักแดจ้ ะมีตมุ่ ปกี สั้น ๆ ทบ่ี ริเวณสว่ นอก และหนวดชไ้ี ปทางด้านหน้าของลา� ตัว
ล�าตวั ยาว 0.59 มลิ ลิเมตร กว้าง 0.24 มลิ ลิเมตร ในระยะดักแด้ ปกี มีการพฒั นายาวข้นึ จนเกอื บเทา่ ความยาวของ
สว่ นท้อง ล�าตัวยาว 0.63 มิลลิเมตร กว้าง 0.26 มลิ ลิเมตร รวมระยะกอ่ นเข้าดกั แดแ้ ละระยะดักแด้ ใช้เวลาเฉล่ีย
2.9 - 4.1 วัน และมสี ัดส่วนของเพศเมียตอ่ เพศผู้ เท่ากับ 4:1 สรุปไดว้ า่ เมอื่ เลย้ี งบนใบออ่ นมงั คดุ ระยะตัวออ่ น 6 - 7 วนั
จึงเตรียมเขา้ ดักแด้ 1 - 2 วนั และตวั เตม็ วัยมชี ีวิตอยู่ไดน้ านประมาณ 22 วนั เพศเมียแตล่ ะตวั วางไข่เฉลยี่ 60 ฟอง
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
เพลี้ยไฟมปี ริมาณสูงสดุ ในชว่ งดอกบาน เพลี้ยไฟท�าลายทุเรยี นระยะติดผลท�าความเสียหายมาก
การติดตามสถานการณ์การระบาดเพลี้ยไฟและศตั รูธรรมชาติ
• สำารวจ 10% ของตน้ ทัง้ หมด ทุก 7 วัน ในชว่ งทเุ รียนดอกบาน ผลอ่อน และใบออ่ น
• ตรวจนับเพลีย้ ไฟ โดยใชว้ ธิ เี คาะ ช่อดอก หรือ ยอด ลงบนแผน่ พลาสตกิ จำานวน 5 ชอ่ ดอก หรือ
ยอดต่อตน้ ทั้งเพลี้ยไฟและศตั รูธรรมชาติ
• พบเพลย้ี ไฟ มากกว่า 5 ตวั ต่อยอด หรือ ชอ่ ดอก ถือว่ายอดหรอื ชอ่ ดอกถูกทาำ ลาย
• ประเมินประสิทธิภาพของศัตรูธรรมชาติในการควบคุมเพล้ียไฟ และปริมาณของยอดหรือช่อดอก
ทีถ่ กู เพลี้ยไฟทาำ ลาย
• ใช้กับดักกาวเหนยี วสเี หลืองตดิ บนตน้ ทเุ รียนทร่ี ะดับความสงู 2 เมตรจากพื้นดนิ (จำานวน 5 กับดกั
ต่อไร่ ในแนวเส้นทแยงมุม) เพื่อตรวจเช็คปริมาณประชากรตัวเต็มวัยเพลี้ยไฟท่ีเคลื่อนย้ายเข้า
แปลงทเุ รยี น
ระดบั เศรษฐกิจ
ยอด หรือ ช่อดอก หรือ ผลออ่ นถกู ทำาลาย มากกวา่ 20% ตอ่ ตน้
พชื อาหาร
เพลย้ี ไฟพรกิ ระบาดทาำ ลายไมผ้ ลได้หลายชนิด เช่น มังคดุ มะมว่ ง เงาะ สม้ โอ สม้ เขียวหวาน ลิ้นจ่ี และ
ลาำ ไย สว่ นเพล้ียไฟดอกไม้ฮาวาย ทาำ ลายสว่ นดอกของพืชหลายชนิด เชน่ มะม่วง ส้มโอ กลว้ ย กุหลาบ เนคทาลีน
บัว พดุ ฯลฯ
ศัตรูธรรมชาติ
ศตั รูธรรมชาตขิ องเพลี้ยไฟ ได้แก่ แมงมุมชนดิ ต่าง ๆ ตัวอ่อนแมลงช้าง และเพลีย้ ไฟตัวห้าำ
การปอ้ งกนั ก�าจดั
1. หากพบเพลี้ยไฟระบาดเล็กน้อยใหต้ ัดส่วนที่ถกู ทาำ ลายทิ้ง
2. เมื่อพบเพล้ียไฟระบาดรุนแรง ใช้สารฆ่าแมลงท่ีมีประสิทธิภาพในการป้องกันกำาจัดเพล้ียไฟ ได้แก่
อมิ ิดาโคลพริด (imidacloprid) 10% SL อตั รา 10 มิลลิลิตร ต่อนา้ำ 20 ลิตร หรือ ฟโิ พรนลิ (fipronil) 5% SC
อตั รา 10 มลิ ลลิ ติ ร ต่อนำ้า 20 ลิตร และไมค่ วรใช้สารฆา่ แมลงชนิดใดชนิดหน่งึ ซำ้าตดิ ตอ่ กนั หลายครง้ั เพราะทาำ ให้
เพลยี้ ไฟสรา้ งความต้านทานตอ่ สารฆา่ แมลง และอาจเกิดแมลงศัตรชู นิดอืน่ ระบาดข้ึนมาได้
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
มอดเจาะลาำ ตน้
Common name shot hole borer
ชอ่ื สามัญ/ช่ือพืน้ เมอื ง มอดเจาะล�าต้น
ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Xyleborus fornicatus (Eichhoff)
วงศ์ Scolytidae
อันดบั Coleoptera
ชว่ งการระบาดของมอดเจาะลาำ ต้น : ทุกระยะพืช
มม..คค.. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
ความส�าคญั และลกั ษณะการทา� ลาย
มอดเจาะลำาต้นเป็นแมลงศัตรูทุเรียนพบระบาดในแหลง่ ปลูกทเุ รียนบางพนื้ ที่ ตัวหนอนและตวั เตม็ วยั
เจาะเข้าไปกินในลำาต้นและก่ิงของทุเรียน ส่วนมากพบทำาลายบริเวณโคนต้น และกิ่งขนาดใหญ่ ต้นทุเรียนท่ีถูก
แมลงชนิดน้ีทำาลายสังเกตได้ง่ายคือมีรูพรุนตามโคนต้น และที่ปากรูมีมูลของหนอนลักษณะเป็นขุยละเอียดอยู่
ทัว่ ไป มอดเจาะเข้าไปกินในลำาต้นหรือกงิ่ ลกึ ตัง้ แต่ 2 - 3 เซนตเิ มตรข้นึ ไป หากเป็นทเุ รียนตน้ เลก็ ทำาใหต้ ้นตายได้
สำาหรับทุเรียนต้นใหญ่ถ้าถูกทำาลายน้อยจะไม่เป็นอันตรายมากนัก แต่รอยเจาะของมอดเป็นทางให้เชื้อของโรค
รากเนา่ -โคนเนา่ เขา้ ทาำ ลายและทาำ ใหท้ เุ รยี นตายได้ โดยทวั่ ไปมกั พบมอดเจาะลาำ ตน้ ระบาดรว่ มกบั โรครากเนา่ -โคนเนา่
ในบางคร้งั จงึ สามารถใชร้ อ่ งรอยการทาำ ลายของมอดในการหาแผลเน่าทอี่ ยู่ภายใตเ้ ปลือกไมไ้ ด้
รอยเจาะของมอดจะมีข้มี อดทบ่ี รเิ วณปากรู หนอนของมอดเจาะล�าตน้ ชอนไชกัดกนิ เน้อื ไม้
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
รูปรา่ งลักษณะและชีวประวัติ
ตวั เต็มวัยมีขนาดลำาตัวยาว 3 - 4 มลิ ลิเมตร มสี ดี าำ มันปนนาำ้ ตาล รปู ร่างทรงกระบอกหัวและทา้ ยตดั
ตัวเต็มวัยเจาะเข้าไปที่ลำาต้นหรือกิ่งทำาให้เป็นรูพรุน หลังจากผสมพันธุ์ตัวเมียวางไข่ในรูท่ีเจาะ เมื่อไข่ฟักเป็นตัว
หนอนกัดกินชอนไชภายในก่ิงและลำาต้นทุเรียน เข้าดักแด้อยู่ภายในรูท่ีมอดอาศัยอยู่ เจริญเป็น
ตัวเต็มวัย ผสมพันธุ์และวางไข่ต่อไป สำาหรับด้วงชนิดน้ีพบเพศเมียมากกว่าเพศผู้ถึง 10 เท่า เมื่อผสมพันธุ์แล้ว
เพศเมียจะบนิ ไปยังตน้ อ่ืน แตเ่ พศผู้ไม่บนิ วงจรชวี ิตประมาณ 30 - 35 วนั และเพศเมยี ตัวหนึ่งสามารถขยายพันธไ์ุ ด้
30 - 50 ตวั
แมลงชนดิ น้มี ีรายงานวา่ พบในมาดากัสการ์ อนิ เดยี เอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ และปาปัวนวิ กนิ ี สำาหรบั
ในประเทศไทยพบระบาดตลอดปีในบรเิ วณท่ีปลกู ทเุ รยี น โดยเฉพาะอย่างย่ิงทีจ่ งั หวัดจันทบุรี ระยอง และตราด
เกือบทุกสวนจะพบมอดชนิดนี้ โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2538 มีการระบาดของมอดเจาะลำาต้นมาก เน่ืองมาจาก
มกี ารระบาดของโรครากเนา่ -โคนเนา่ อยา่ งรนุ แรงในภาคตะวนั ออกเนอื่ งจากมปี รมิ าณฝนมากและตกชกุ ตลอดปี
มอดเจาะลา� ต้นทุเรยี น ลักษณะกลุม่ ไข่ของมอดเจาะล�าตน้ ทเุ รยี นภายในรู
ไข่ หนอน และดักแดม้ อดเจาะล�าต้นทเุ รยี น
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
การติดตามสถานการณก์ ารระบาดมอดเจาะล�าตน้ ทเุ รียน
• สำารวจรอยเจาะของมอดเจาะลำาต้นท่ีบริเวณลำาต้นและก่ิง โดยเฉพาะบริเวณรอยแผลของโรค
รากเน่า-โคนเน่า
• ใช้กับดักกาวเหนียวพร้อมด้วยขวดบรรจุน้ำาส้มสายชูสำาหรับดึงดูดตัวเต็มวัยมอดเจาะลำาต้นทุเรียน
ตดิ บนตน้ ทุเรียน เพ่ือตรวจเชค็ ปรมิ าณประชากรมอดในแปลงทุเรียน
ระดับเศรษฐกิจ
ไม่มีระดบั เศรษฐกจิ
พืชอาหาร
ทุเรียน ชา พืชตระกูลสม้ และโกโก้
ศตั รธู รรมชาติ
จากการสาำ รวจยังไมพ่ บ
การป้องกนั กา� จัด
1. หมั่นตรวจดตู ามลาำ ต้นทเุ รยี น ถา้ พบกงิ่ แห้งทถี่ กู มอดทาำ ลาย ควรตัดและเผาทำาลายเสยี อย่าปลอ่ ย
ทงิ้ ไว้ใหม้ อดขยายปริมาณและการทาำ ลายออกไปยังตน้ อน่ื ๆ
2. สาำ หรบั สว่ นทไี่ มส่ ามารถตดั ทง้ิ ได้ เชน่ ในสว่ นของลาำ ตน้ หรอื กง่ิ ใหญ่ อาจจาำ เปน็ ตอ้ งใชส้ ารฆา่ แมลง
เช่น คลอร์ไพริฟอส (chlorpyrifos) 40% EC อัตรา 40 มิลลิลิตร ต่อนำ้า 20 ลิตร พ่นบนลำาต้น หรือก่ิงที่มี
รูมอดเจาะ
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
ดว้ งหนวดยาวเจาะลำาตน้ ทุเรียน
Common name durian stem borer
ช่ือสามญั /ชือ่ พน้ื เมือง ด้วงบา่ หนามจุดนูนดา�
ชอื่ วิทยาศาสตร์ Batocera rufomaculata De Geer
วงศ์ Cerambycidae
อนั ดบั Coleoptera
ช่วงการระบาดของหนอนด้วงหนวดยาวเจาะลาำ ต้น : ทกุ ระยะพืช
มม..คค.. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
ความสา� คัญและลักษณะการทา� ลาย
ดว้ งหนวดยาวเจาะลาำ ตน้ ทุเรียน (Batocera rufomaculata De Geer) เป็นด้วงหนวดยาวทำาลาย
ทเุ รยี นทพ่ี บมาก จดั อยใู่ นอนั ดบั Coleoptera วงศ์ Cerambycidae การระบาดของแมลงศตั รชู นดิ นี้ เกดิ ขนึ้ และ
คอ่ ยๆ สะสมความรนุ แรงแบบภยั มดื โดยชาวสวนไมท่ ราบวา่ มกี ารระบาด เนอื่ งจากเปน็ แมลงทมี่ พี ฤตกิ รรมตา่ งๆ
เกิดข้ึนในช่วงกลางคืน โดยด้วงชนิดนี้พบระบาดทำาความเสียหายต่อทุเรียนอย่างรุนแรงในพื้นท่ีปลูกทุเรียนภาค
ตะวนั ออก ในปี พ.ศ. 2545 - 2547 ในจงั หวัดระยองพบการระบาดแทบทกุ อาำ เภอท่ีปลูกทุเรียน สว่ นในจังหวดั
จันทบรุ ี และ ตราด พบระบาดเฉพาะในบางพนื้ ท่ี แล้วยังพบระบาดในทุเรยี นท่ปี ลกู ในภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ
ภาคเหนอื ภาคกลาง และ ภาคใต้ การทาำ ลายในทุเรยี น ส่วนใหญ่พบทาำ ลายทุเรยี นพันธุ์หมอนทอง ตัวเตม็ วัยกดั
เปลอื กไม้เปน็ แผลเล็กๆ ตามลำาตน้ จากโคนถงึ ยอดรวมทัง้ กงิ่ ที่มีขนาดใหญ่ จากการสาำ รวจและติดตามพฤติกรรม
การวางไข่ ซ่ึงเป็นแมลงกลางคนื พบว่า ในชว่ งเวลา 19.00 - 06.00 น. ตัวเมยี แต่ละตวั จะเดินขน้ึ เดนิ ลงจากโคน
ไปยอดตน้ ทเุ รยี น ใชเ้ ขย้ี วกดั เปลอื กไมเ้ พอ่ื หาจดุ วางไขท่ เี่ หมาะสมและวางไขเ่ ฉลย่ี ประมาณ 15 ฟองตอ่ คนื ในสวน
ที่มกี ารระบาดรนุ แรงจึงพบหนอนด้วงหนวดยาวระยะต่างๆ ในตน้ ทเุ รียนเป็นจำานวนมาก เฉล่ีย 40 - 50 ตัวตอ่ ต้น
ตัวหนอนท่ีฟกั จากไข่ใหม่ๆ จะกดั กนิ ไชชอนไปตามเปลอื กไมด้ า้ นใน หรอื อาจกัดควั่นเปลือกรอบต้น ขณะหนอน
ยังเล็กอยู่ สังเกตแทบไม่พบรอยทำาลาย แต่เมื่อหนอนโตข้ึนจะพบขุยไม้ละเอียดซ่ึงเป็นมูลของหนอนบริเวณ
ใกลๆ้ รอยทาำ ลาย หรือตรงบริเวณทหี่ นอนทาำ ลายกดั กนิ เนื้อไม้อยู่ภายในจะเหน็ มนี ้าำ เปน็ สนี าำ้ ตาลแดงไหลเยิ้มอยู่
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
ในระยะตอ่ มาจงึ จะพบมูลหนอนออกมากองเป็นกระจุกอยขู่ ้างนอกเปลือก เม่ือใชม้ ดี แหลมแกะเปลอื กไม้ จะพบ
หนอนอยภู่ ายใน เกษตรกรจะสงั เกตพบรอยทำาลายตอ่ เมื่อหนอนตัวโตและอาจเจาะเข้าเน้ือไม้ หรอื กินควนั่ รอบ
ตน้ ทเุ รยี นแลว้ ซงึ่ จะมผี ลทาำ ใหท้ อ่ นาำ้ ทอ่ อาหารถกู ตดั ทาำ ลายเปน็ เหตใุ หท้ เุ รยี นเรมิ่ ทรดุ โทรม ใบเหลอื งและรว่ ง และ
ยืนต้นตายได้ หนอนแต่ละตัวสามารถกัดกินเปลือกไมไ้ ด้เปน็ ทางยาวมากกว่า 1 เมตร เน่ืองจากตวั เตม็ วยั มีอายขุ ัย
ยาวนาน ชว่ งเวลาการวางไข่จึงมีระยะเวลายาว ในตน้ หนึ่งๆ จงึ พบไข่และหนอนระยะตา่ งๆ กนั เปน็ จำานวนมาก
ตัวหนอนด้วงกดั กนิ เปลอื กไม้อยู่ดา้ นใน ดา้ นนอกท่หี นอนท�าลายมีน้�าเป็นสีน�้าตาลแดงไหลเย้ิม
ลกั ษณะขุยไมล้ ะเอยี ดทพ่ี บได้ทีเ่ ปลือกต้นทุเรียน ขยุ ไมท้ ีพ่ บได้ท่บี รเิ วณคบไม้หรอื บนพื้นบริเวณโคนตน้
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
หนอนกดั กนิ บริเวณเปลอื กไม้ทมี่ ที ่อน�้าท่ออาหาร เม่ือถากเปลือกออกจะเหน็ รอยท�าลายของหนอน
ของตน้ ทเุ รียนจนกวา่ จะพรอ้ มทจี่ ะเข้าดกั แด้ เปน็ รอยคว่นั รอบตน้
รปู รา่ งลกั ษณะและชีวประวัติ
ตัวเต็มวัย มีขนาดยาว 49 - 56 มิลลิเมตร สีนำ้าตาล ด้านบนปีกมีจุดสีเหลือง หรือสีส้มประปราย
ส่วนนอกมีหนามแหลมย่ืนออกทางด้านข้างท้ังสองด้าน ใต้ปีกมีแถบสีขาวยาวตลอดจากส่วนข้างถึงส่วนท้อง
มีฟันเป็นแบบเขี้ยวขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร เพศผู้มีหนวดยาวกว่าลำาตัว ส่วนเพศเมียมีหนวดสั้น
หรือเทา่ กับลำาตวั ตวั เตม็ วยั มอี ายุขยั ประมาณ 4 - 6 เดือน
ตวั เตม็ วยั ดว้ งหนวดยาวเปน็ แมลงกลางคืน
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
ดว้ งเพศเมยี หาจดุ ท่ีเหมาะสมบนต้นทเุ รียนและวางไข่ ไข่มลี ักษณะเหมือนเมล็ดข้าวสารฝังอยู่ใตผ้ วิ เปลอื ก
การวางไข่ ตวั เมยี ทไ่ี ดร้ บั การผสมพนั ธ์ุ และพรอ้ มวางไขจ่ ะออกจากทหี่ ลบซอ่ น เพอ่ื วางไขบ่ นตน้ ทเุ รยี น
ในช่วงเวลากลางคนื โดยเดนิ สาำ รวจเพือ่ หาตำาแหนง่ ทเี่ หมาะสม และใชเ้ ข้ียวกดั เปลอื กไม้เป็นแผลลึกขนาดความ
ยาวของเข้ียว ประมาณ 5 มิลลเิ มตร แล้ววางไขเ่ ปน็ ฟองเดย่ี วๆ ฝังไว้ในรอยแผล เมือ่ วางไขเ่ สร็จจะกลบรอยแผล
โดยใชอ้ วัยวะวางไขด่ ้วยขยุ ไมห้ รือเปลอื กไม้ ในบางครัง้ เมือ่ ตวั เมียพบเพศผ้ทู ี่รอจับคบู่ นตน้ ทุเรียน เพศผจู้ ะใช้ขา
คหู่ นา้ เกาะหลงั เพศเมยี ไวแ้ ละเดนิ ตามเพศเมยี เพอ่ื ผสมพนั ธใ์ุ นขณะทตี่ วั เมยี ยงั เดนิ หาทว่ี างไข่ โดยจะมกี ารวางไข่
สลบั กบั ผสมพนั ธก์ุ บั เพศผเู้ ปน็ ชว่ งๆ และเพศเมยี สามารถผสมไดห้ ลายครง้ั ตอ่ คนื พบเรมิ่ วางไขเ่ มอ่ื เวลาประมาณ
20.00 น. ถึงเช้ามดื ไขม่ ีลักษณะคล้ายเมล็ดข้าวสาร ขนาด 2 x 6 มลิ ลิเมตร สขี าวขุน่ เพศเมียวางไข่เปน็ รนุ่ ๆ แตล่ ะ
รนุ่ มีไขเ่ ฉล่ยี ประมาณ 30 ฟอง ตลอดอายุขัยวางไขไ่ ด้เฉลี่ยประมาณ 200 ฟอง ไข่จะฟกั ภายใน 14 วนั ตวั หนอน
มีเข้ียวขนาดใหญ่และแข็งแรง สีนำ้าตาลเข้ม ลำาตัวสีขาวขุ่นและค่อนข้างใส หลังฟักจากไข่จะกัดกินไชชอนอยู่ใต้
เปลือกไม้ หนอนโตเต็มที่มีขนาดยาว 8 - 10 เซนตเิ มตร และจะเจาะเข้าเน้อื ไม้กลางกง่ิ หรอื ลำาตน้ เมอ่ื ถงึ ระยะเข้า
ดกั แด้ ระยะหนอนประมาณ 3 - 6 เดอื น
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
หนอนมขี นาดใหญ่กดั กินเปลือกไม้ดา้ นใน ระยะหนอนโตเต็มที่มคี วามยาว 8 - 10 เซนติเมตร
ดกั แด้ เมอื่ หนอนโตเตม็ ทีจ่ ะเจาะเขา้ สูก่ ลางกิ่งหรือลาำ ตน้ ทเุ รยี นโดยกดั เนื้อไมเ้ ปน็ ช่องรปู รสี ำาหรบั เขา้
ดกั แดใ้ นแนวตงั้ และใชข้ ้ไี มผ้ สมกบั สารทข่ี ับออกมาปดิ ชอ่ งทางทเ่ี จาะเขา้ ไปไว้ หนอนเริ่มหดตวั และเขา้ ดกั แดใ้ น
เวลาต่อมา ระยะดักแด้ประมาณ 1 เดือน เม่ือฟักจากดักแด้แล้วตัวเต็มวัยจะพักตัวอยู่ระยะหนึ่งจนแข็งแรง
จงึ เจาะออกสภู่ ายนอกเปน็ ชอ่ งกลมขนาดประมาณ 1.5 - 2.0 เซนตเิ มตร เพอื่ ผสมพนั ธแ์ุ ละวางไขต่ ่อไป
การตดิ ตามสถานการณ์การระบาดด้วงหนวดยาวเจาะลา� ต้นทเุ รยี น
สำารวจต้นทเุ รียนว่ามีอาการทรุดโทรม ใบเหลือง และร่วง โดยสังเกตดรู อยขุยไม้ หรือรอยชำ้าเปน็ นาำ้ สี
นำา้ ตาลแดงไหลเย้มิ ที่บนลำาตน้ หรอื ก่งิ และใช้มีดปลายแหลมแกะเปลอื กไม้ดู หรือสังเกตรอยเศษขีไ้ มท้ ี่ตดิ อยบู่ น
คบไม้และบนพ้ืนดินบริเวณโคนต้น
ระดบั เศรษฐกจิ
ไม่มีระดบั เศรษฐกจิ
พชื อาหาร
ด้วงชนดิ นี้เป็นแมลงศตั รปู า่ ไม้มพี ชื อาศัยกวา้ ง และเป็นศัตรูพชื เศรษฐกิจหลายชนิด เชน่ ทเุ รียน มะม่วง
และ นุ่น
ศัตรธู รรมชาติ
ในต่างประเทศมีรายงานว่าแตนเบยี น Callimomoides ovivorus และ Avetianella batocerae
เป็นแมลงศัตรูธรรมชาติของดว้ งหนวดยาวเจาะลำาตน้ Batocera rufomaculata (Duffy, 1968) นอกจากน้ี
มีนกหลายชนิด เชน่ นกหวั ขวาน และ นกกะปูด เปน็ ศัตรธู รรมชาตขิ องหนอน และ ดว้ ง ตามลาำ ดบั
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
การป้องกนั ก�าจดั
1. กาำ จัดแหล่งขยายพันธุ์ โดยตดั ตน้ ทุเรยี นทถ่ี ูกทาำ ลายรนุ แรงจนไมส่ ามารถให้ผลผลติ เผาท้งิ และควร
มีการดูแลรกั ษาตน้ ทเุ รียน ให้มีความสมบรู ณ์ แขง็ แรงอยูเ่ สมอ
2. กาำ จดั ตวั เตม็ วยั ดว้ งหนวดยาว โดยใชไ้ ฟสอ่ งจบั ตวั เตม็ วยั ตามตน้ ทเุ รยี นในชว่ งเวลา 20.00 น. ถงึ ชว่ ง
เช้ามืด หรือใช้ตาข่ายดกั ปลาตาชนิดถีพ่ ันรอบต้นหลายๆ รอบ เพ่อื ดักตวั ดว้ ง
3. หมั่นตรวจสวนเป็นประจำา โดยสังเกตรอยแผล ซึ่งเป็นแผลเล็กและช้ืนท่ีตัวเต็มวัยทำาขึ้นเพ่ือการ
วางไข่ ถา้ พบให้ทาำ ลายไข่ทิ้ง หรอื ถา้ พบขุยและการทาำ ลายท่ีเปลือกไม้ให้ใชม้ ีดแกะ และจับตวั หนอนทาำ ลาย
4. ถา้ ระบาดไมร่ นุ แรง และหนอนเจาะเขา้ เนอ้ื ไมแ้ ลว้ ใหใ้ ชม้ ดี แกะหารู ฉดี สารคลอรไ์ พรฟิ อส (chlorpy-
rifos) 40% EC อตั รา 1 มิลลลิ ติ ร เขา้ ในรูแลว้ ใชด้ ินเหนียวอุด
5. แหลง่ ทม่ี ีการระบาดรนุ แรงควรป้องกนั การเขา้ ทาำ ลายของด้วงหนวดยาวเจาะลาำ ต้นทุเรยี น โดยพ่น
สารฆา่ แมลง ไทอะมที อกแซม/แลมบด์ า-ไซฮาโลทรนิ (thiamethoxam/lambda-cyhalothrin) 14.1%/10.6%
ZC อตั รา 40 มิลลิลิตร ตอ่ นาำ้ 20 ลติ ร หรือ โคลไทอะนดิ ิน (clothianidin) 16% SG อตั รา 20 กรมั ต่อนาำ้ 20
ลิตร หรอื อิมิดาโคลพริด (imidacloprid) 10% SL อัตรา 30 มิลลลิ ติ ร ต่อนา้ำ 20 ลติ ร หรอื อะซที ามพิ รดิ (aceta-
miprid) 20% SP อัตรา 50 กรัม ต่อน้ำา 20 ลิตร ใหท้ วั่ บริเวณตน้ และก่งิ ขนาดใหญ่
การระบาดของด้วงหนวดยาวอย่างรุนแรงในพน้ื ทก่ี วา้ ง
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
เพลีย้ หอยเกลด็ ทเุ รยี น
Common name armored scale
ช่ือสามัญ/ชือ่ พ้นื เมอื ง เพลี้ยหอยเกล็ดทุเรยี น
ช่ือวิทยาศาสตร์ Aulacaspis vitis Green
วงศ์ Diaspididae
อันดับ Hemiptera
ชว่ งการระบาดของเพล้ียหอยเกลด็ ทเุ รยี น : ทุกระยะพืช
มม..คค.. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
ความสา� คัญและลกั ษณะการท�าลาย
เพลย้ี หอยเกล็ดทุเรยี นเปน็ แมลงศตั รูทพี่ บระบาดทำาความเสยี หายตอ่ ทุเรียนในแหล่งปลูกทว่ั ไป ดดู กนิ
นำา้ เลยี้ งจากบริเวณใบ กงิ่ ตา และขั้วผล เม่อื มีการระบาดรนุ แรงจะทาำ ใหส้ ว่ นต่างๆ ของพชื เหลอื งหรอื แห้งตาย
การระบาดของเพลย้ี หอยเกลด็ ทเุ รยี น มกั มกี ารระบาดเปน็ กลมุ่ ๆ เนอ่ื งจากแมลงชนดิ นส้ี ามารถเคลอื่ นทไ่ี ดเ้ ฉพาะ
ระยะตัวอ่อนวัยท่ี 1 (crawler) เท่านั้น เมื่อมีการลอกคราบเพ่ือเจริญเติบโตไปสู่วัยต่างๆ โดยคราบเก่าของ
วยั ท่ี 1, 2 และ 3 จะอยดู่ า้ นขา้ งของแผน่ ปกคลมุ ลาำ ตวั ซง่ึ จะขยายขนาดใหญอ่ อกเรอ่ื ยๆ ตามระยะการเจรญิ เตบิ โต
ของเพลยี้ หอยเกลด็ ทเุ รยี น ดงั นน้ั เพลย้ี หอยเกลด็ ทเุ รยี นจะปกคลมุ ทวั่ ทง้ั ใบ กง่ิ ตา และขวั้ ผล ทาำ ใหพ้ ชื ไมส่ ามารถ
สังเคราะหแ์ สงได้
ตัวเต็มวัยเพลี้ยหอยเกล็ดทุเรียน (Aulacaspis vitis Green) มีลักษณะภายนอกคล้ายคลึงกับ
เพลย้ี หอยเกลด็ มะม่วง (Aulacaspis tubercularis Newstead) อย่างมากเน่ืองจากอยู่ในสกลุ เดียวกัน และไม่
สามารถจำาแนกได้จากลักษณะภายนอกแต่สามารถจำาแนกความแตกต่างอย่างชัดเจนได้จากการทำาสไลด์เพ่ือดู
ภายใตก้ ลอ้ งจุลทรรศน์
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
รปู ร่างลักษณะและชวี ประวตั ิ
ตัวเต็มวัยเพศเมีย มีแผ่นปกคลุมลำาตัวสีขาวขุ่น รูปร่างค่อนข้างกลม หรือยาวรี ตัวเต็มวัย
เพศเมยี ภายใตแ้ ผน่ ปกคลมุ ลาำ ตวั มสี แี ดงอมสม้ ลาำ ตวั ยาวประมาณ 1.3 - 2.0 มลิ ลเิ มตร ตวั ออ่ นวยั ท่ี 1 หรอื
crawler มีขนาดคอ่ นขา้ งเลก็ ปรากฏเห็นส่วนขา 3 คู่ ชัดเจนทาำ ใหส้ ามารถเคลื่อนย้ายไปยังจดุ ทีเ่ หมาะสม
บนพชื อาศยั เพอ่ื หาตาำ แหนง่ ทสี่ ามารถดดู กนิ นาำ้ เลยี้ งของพชื ไดต้ ลอดอายขุ ยั เนอื่ งจากเมอ่ื มกี ารลอกคราบ
เพื่อเจริญเติบโตไปสู่วัยต่างๆ โดยคราบเก่าของวัยที่ 1, 2 และ 3 จะอยู่ด้านข้างของแผ่นปกคลุมลำาตัว
ตัวเต็มวัย ไม่มีการเคล่ือนย้ายตำาแหน่งไปยังจุดอ่ืนๆ ของพืชอาศัยอีก เพราะส่วนของขาจะลดรูปไป
จนไมส่ ามารถเคล่อื นย้ายได้อีก
ตวั เตม็ วยั เพศผู้ มแี ผน่ ปกคลมุ ลาำ ตวั มขี นาดเลก็ กวา่ เพศเมยี วยั ท่ี 2 เปน็ วยั สดุ ทา้ ยทจ่ี ะกนิ อาหาร
ตอ่ จากนนั้ จะเขา้ สรู่ ะยะกอ่ นเขา้ ดกั แด้ ระยะดกั แด้ และตวั เตม็ วยั ซง่ึ มปี กี 1 คู่ สว่ นของปากไมพ่ ฒั นา มอี ายุ
ประมาณ 1 - 7 วัน เทา่ นน้ั เพล้ยี หอยเกล็ดทเุ รียนมกี ารสบื พันธโ์ุ ดยอาศยั เพศ วงจรชวี ติ ประมาณ 35 - 40 วัน
ต่อรุ่น มีประมาณ 4 - 5 รุ่นต่อปี เพล้ียหอยเกล็ดทุเรียนระบาดทำาความเสียหายแก่สวนทุเรียนทั่วทุก
พื้นทข่ี องประเทศไทย
การตดิ ตามสถานการณ์การระบาดเพลยี้ หอยเกล็ดทเุ รียน
สาำ รวจ 10% ของต้นทง้ั หมด ทกุ 7 วนั
ตรวจนบั 5 ใบตอ่ ตน้ ท้งั เพล้ียหอยเกลด็ ทเุ รียนและศัตรูธรรมชาติ
พบเพลยี้ หอยเกลด็ ทเุ รยี น มากกวา่ 5 ตวั ตอ่ ใบ ถอื วา่ ถกู ทาำ ลาย ประเมนิ ประสทิ ธภิ าพของศตั รธู รรมชาติ
ในการควบคมุ เพล้ียหอยเกล็ดทเุ รียน และปรมิ าณของใบท่ีถกู เพลี้ยหอยเกล็ดทุเรยี นทาำ ลาย
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
ระดับเศรษฐกิจ
ใบถกู ทำาลายมากกวา่ 20% ต่อตน้
พืชอาหาร
ทเุ รียน
ศัตรูธรรมชาติ
ไมม่ ีขอ้ มลู
การป้องกนั กา� จดั
1. หากพบเพล้ียหอยเกลด็ ทเุ รยี นระบาดเล็กนอ้ ยใหต้ ัดส่วนทถี่ กู ทำาลายเผาท้งิ
2. เม่อื พบเพลยี้ หอยเกล็ดทุเรียนปริมาณน้อยบนใบใชน้ ้ำาผสม white oil อัตรา 20 มลิ ลลิ ิตร ตอ่ นา้ำ
20 ลิตร พน่ ใหท้ ว่ั ช่วยในการกาำ จดั เพลย้ี หอยเกลด็ ได้ดี
3. สารฆ่าแมลงทไ่ี ด้ผลในการควบคุมเพลี้ยหอยเกลด็ ทเุ รยี น คอื สารคลอรไ์ พริฟอส (chlorpyrifos)
40% EC อตั รา 30 มลิ ลลิ ติ ร ตอ่ นา้ำ 20 ลติ ร หรอื คลอรไ์ พรฟิ อส/ไซเพอรเ์ มทรนิ (chlorpyrifos/cypermethrin)
50% EC อัตรา 30 มลิ ลิลติ ร ตอ่ นา้ำ 20 ลติ ร โดยพน่ สารเฉพาะตน้ ทีพ่ บเพลี้ยหอยเกลด็ ทเุ รียนเข้าทำาลาย
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน
เพลย้ี หอยเกลด็ ทุเรยี นดูดกินน�า้ เลย้ี งจากกง่ิ และใบ
ลักษณะของดักแดเ้ พลย้ี หอยเกล็ดทเุ รียนเพศผู้
เอกสารวิชาการ
แมลง-ไร ศัตรูทุเรียน