The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by varut.kulp666, 2020-10-26 02:19:20

หนังสือกฐินวัดกัลยาณมิตร 5-10-2563

ประวัติ



วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร





พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระมหาเจษฎาราชเจ้า รัชกาลที่ ๓


และสาระความรู้ต่างๆ





จัดพิมพ์เป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาส
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานผ้าพระกฐินให้

มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

น�าโดย พลเอกจรัล กุลละวณิชย์ ประธานมูลนิธิฯ

น้อมน�าทอดถวาย ณ วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร

ถนนอรุณอัมรินทร์ตัดใหม่ แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร

วันเสาร์ที่ ๑๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓



1




������������������������ 2563 ������������.indd 1 21/10/2563 BE 13:43

มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพระอุปถัมภ์

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์จัดพิมพ์



เป็นท่ระลึกเน่องในโอกาส งานกฐินพระราชทาน ทอดถวาย ณ วัดกัลยาณมิตร
วรมหาวิหาร วันเสาร์ที่ ๑๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓


จัดพิมพ์เผยแพร่ พุทธศักราช ๒๕๖๓


จ�านวน ๒,๐๐๐ เล่ม

ข้อมูลทางบรรณานุกรมของหอสมุดแห่งชาติ

มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพระอุปถัมภ์ฯ

ประวัติวัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร และพระราชประวัติพระบาทสมเด็จ




พระนั่งเกลาเจาอยูหัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า กรุงเทพฯ : มูลนิธิฯ, ๒๕๖๓.
96 หน้า



จัดท�าโดย มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

ในพระอุปถัมภ์ฯ

ISBN
ที่ปรึกษา พลเอก จรัล กุลละวณิชย์

คณะบรรณาธิการ นายกุลกุมุท สิงหรา ณ อยุธยา, นางสายไหม จบกลศึก
นางสุวรรณี ณ ระนอง, นางวรัญญา ขาวเหลือง
นางสาวรุจิรัตน์ ลิขิตวงษ์

ผู้ออกแบบปก, จัดรูปเล่ม นางสาวรุจิรัตน์ ลิขิตวงษ์, นางสุวรรณี ณ ระนอง,
นางสาวชุติกาญจน์ ตันจริยภรณ์

พิมพ์ที่ บริษัท กราฟิคอาร์ตพริ้นติ้ง จ�ากัด
๑๐๕/๑๙-๒๑ ถนนนเรศ แขวงสี่พระยา

เขตบางรัก กรุงเทพฯ ๑๐๕๐๐
โทร.๐-๒๒๓๓-๐๓๐๓-๔ โทรสาร.๐-๒๒๓๗-๕๙๔๕

E-Mail : [email protected]
ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นายสิทธิกาจ อัชวรานนท์ ๒๕๖๓


2




������������������������ 2563 ������������.indd 2 21/10/2563 BE 13:43

ค�าน�า




พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระ

วชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรด

กระหม่อมพระราชทานผ้าพระกฐินให้มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระ

นั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา

กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตามที่มูลนิธิฯ ขอพระราชทานไป ซึ่งเป็นพระ

มหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น โดยมีพลเอก จรัล กุลละวณิชย์ ประธานมูลนิธิฯ น�า


ไปทอดถวายพระสงฆ์จาพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร
ในวันเสาร์ที่ ๑๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓





มลนธิเฉลมพระเกยรติพระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอย่หัว มี








วัตถุประสงค์ประการหน่งท่จะช่วยทานุบารุงศาสนสถานและพระอารามท่เน่อง



ด้วยพระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ทรงสร้างและ



บูรณปฏิสังขรณ์ไว้ รวมกับวัดวาอารามท่สมาชิกแห่งราชสกุลท่เก่ยวเน่องกับ


พระองค์ท่านตลอดท้งข้าราชการสร้างและร่วมบูรณะถวาย เพ่อเป็นมรดก

ตกทอดที่เชิดชูเกียรติภูมิประเทศชาติ เป็นการเผยแพร่พระเกียรติคุณพระบาท
สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้าให้แผ่ไพศาล จึงได้จัดพิมพ์
หนังสือที่ระลึก เรื่องประวัติวัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร และพระราชประวัติ
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ดังที่ปรากฏ
มูลนิธิฯ หวังว่า หนังสือนี้จะเกิดประโยชน์แก่การศึกษาประวัติศาสตร์ต้น



กรุงรัตนโกสินทร์ สมัยรัชกาลท่ ๓ เพ่อเป็นเอกสารท่แสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณ

ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ในการท�านุ




บารงพระบวรพทธศาสนา สร้างสรรค์มรดกทางวัฒนธรรม กอให้เกดความมนคง



3

������������������������ 2563 ������������.indd 3 21/10/2563 BE 13:43




ทางเศรษฐกิจและวางรากฐานการป้องกันประเทศให้ม่นคงสืบต่อมาถงปัจจบัน

และด้วยพระราชปณิธานแห่งพระองค์ได้เป็นพละกาลังอันกล้าแกร่งถ่ายทอดสู่
สายราชสกุลต่อๆ มา ตลอดจนประชาชนและพลเมือง ได้แสดงกตเวทิตาสนอง

พระมหากรุณาธิคุณ ให้เกิดประโยชน์แก่พระอารามในพระพุทธศาสนาอย่าง

มั่นคงยั่งยืน


ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม โดยเสด็จพระราชกุศลในการทอดผ้าพระ

กฐินพระราชทานครั้งนี้ ด้วยความส�านึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น













พลเอก

(จรัล กุลละวณิชย์)

ประธานมูลนิธิเฉลิมพระเกียรติ
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ

































4




������������������������ 2563 ������������.indd 4 21/10/2563 BE 13:43

ก�าหนดการงานถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน

ณ วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร

ถนนอรุณอัมรินทร์ตัดใหม่ แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร

วันเสาร์ที่ ๑๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓




เวลา ๑๓.๐๐ น. • ผู้มีเกียรติพร้อมเพรียงกันบริเวณพระอุโบสถ

วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร

เวลา ๑๔.๐๐ น. • ประธานในพิธีฯ เดินทางถึงวัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร

• ประธานฯ ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร

มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

• ประธานฯ ยกผ้าพระกฐินพระราชทาน

จากพานอุ้มประคองไว้ตรงอกยืนตรงแสดงความเคารพ

• ประธานฯ อัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทาน เดินเข้าสู่พิธี

• จุดเทียน ธูป บูชาพระประธาน (พระรัตนตรัย) กราบ ๓ ครั้ง


• ประธานฯ กล่าวคาถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน แด่พระสงฆ์
• พระสงฆ์กระท�าพิธีอปโลกนกรรม (กฐินกรรม)

• ประธานฯ ถวายเครื่องบริวารพระกฐินพระราชทาน

• ประเคนเครื่องไทยธรรม ถวายพระคู่สวด ทั้ง ๒ รูป

• ประธานฯ ถวายใบปวารณาจตุปัจจัยแด่ประธานสงฆ์

• พระสงฆ์อนุโมทนา

• ประธานฯ กรวดน�้า รับพร

• ประธานฯ มอบเงินบ�ารุงสถานศึกษา

• ประธานฯ กราบลาพระรัตนตรัย กราบลาพระสงฆ์

• เสร็จพิธี





5




������������������������ 2563 ������������.indd 5 21/10/2563 BE 13:43

6




������������������������ 2563 ������������.indd 6 21/10/2563 BE 13:43

สารบาญ






หน้า ๑๓

พระราชประวัติ

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระมหาเจษฎาราชเจ้า รัชกาลที่ ๓
...................
หน้า ๒๖

ประวัติวัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร

...................
หน้า ๔๒

โลหะปราสาท
...................

หน้า ๕๒

ประวัติการถวายอดิเรก
...................
หน้า ๕๔

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย

...................
หน้า ๗๑

สมุททานุภาพ สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

...................
หน้า ๘๒

สวัสดี HELLO HALLO HI

...................











7




������������������������ 2563 ������������.indd 7 21/10/2563 BE 13:43

8




������������������������ 2563 ������������.indd 8 21/10/2563 BE 13:43

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ

พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐

สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี


9




������������������������ 2563 ������������.indd 9 21/10/2563 BE 13:43

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า ฯ ราชสดุดี



สรวมชีพอาศิรพจน์ น้อมประณตพระภูมินทร์

กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ พระนั่งเกล้าฯ เจ้าสยาม
รัชกาลที่สามเทิด กลแก้วเกิดประเสริฐงาม
ราชวงศ์จักรีนาม ยังสถิตจิตประชา
ทรงทะนุพุทธศาสน์ สร้างอาวาสราษฎร์ศรัทธา
ดังวัดราชโอรสา งามอารามประจ�าองค์
ทรงโปรดผู้สร้างวัด โสมนัสราชประสงค์

วัดเก่ายังด�ารง บรูณะปฏิสังขรณ์
อีกวัดพระเชตุพนฯ แหล่งพูนผลพิชาธร
ศิลาจารึกขจร ปฐมมหาวิทยาลัยไทย
ทรงส่งส�าเภาค้า ได้เงินตรา “เจ้าสัวใหญ่”
“ถุงแดง” เงินออมไว้ ภายหลังใช้กู้บ้านเมือง
สยามทันสมัย ศรีวิไลไทยรุ่งเรือง

มิชชันนารีเฟื่อง แพทย์แผนใหม่หมายรักษา
สมุดไทยเปลี่ยนสมุดฝรั่ง แท่นพิมพ์ตั้งพิมพ์สารา
วรรณกรมเผยแพร่พา การศึกษาก้าวด�ารง
รัชสมัยพระองค์นั้น ลาวเวียงจันทร์เจ้าอนุวงศ์
คิดคดกบฏทะนง ชาวโคราชกวาดต้อนไป
สตรีเก่งคุณหญิงโม รวมราษฎร์โต้จนมีชัย
“ท้าวสุรนารี” ไซร้ พระราชทานนามสดุดี

ทัพไทยสมัยพระองค์ ยิ่งยรรยงปราบไพรี
เขมรญวนมลายูนี้ อีกพม่าปลาตไป
พระองค์ตรัสไว้ว่า ศึกญวณพม่าหมดสมัย
แต่ฝรั่งระวังไว้ อย่าให้ต้องถึงเสียที
แผ่นดินพระนั่งเกล้าฯ ชาวไทยเฝ้ามุ่งภักดี
สยามร่มเย็นทวี ราษฎร์สุขศรีไม่มีภัย

หกสิบสี่พระพรรษา พระลับลาประชาไทย
เฉกสูรย์นิราลัย ฟ้ามืดมนอนธการ
พระเดชพระคุณนั้น สุดร�าพันจารึกขาน
สดุดีเทิดภูบาล พระนั่งเกล้าฯ ของชาวไทย


ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า ร.ศ.ประพนธ์ เรืองณรงค์ : ผู้ประพันธ์


10




������������������������ 2563 ������������.indd 10 21/10/2563 BE 13:43

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า


รัชกาลที่ ๓ พระบิดาแห่งการค้าไทย

พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย



11




������������������������ 2563 ������������.indd 11 21/10/2563 BE 13:43

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา

กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

องค์อุปถัมภ์

มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว











12




������������������������ 2563 ������������.indd 12 21/10/2563 BE 13:43

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว



พระมหาเจษฎาราชเจ้า รัชกาลที่ ๓


พระบิดาแห่งการค้าไทย


พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย


พระมหากษัตริย์

ผู้ริเริ่มการออม ซึ่งเป็นต้นแบบการคลังของชาติ





เรียบเรียง : เอกอัครราชทูตกุลกุมุท สิงหรา ณ อยุธยา








13




������������������������ 2563 ������������.indd 13 21/10/2563 BE 13:43

พระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระนามเดิมว่า “ทับ” ทรงเป็นพระ

ราชโอรสพระองค์ใหญ่ของพระบาทสมเดจพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และเจ้าจอมมารดา

เรียม (ต่อมาทรงได้รับการเฉลิมพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระศรีสุลาลัย) เสด็จพระราช
สมภพเมื่อวันจันทร์ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๓๓๐ และทรงเป็นหลานปู่พระองค์ใหญ่และเป็นที่




โปรดปรานของพระบาทสมเดจพระพทธยอดฟ้าจฬาโลกมหาราชอย่างมาก เนองจาก


ทรงมีพระลักษณะคล้ายกับล้นเกล้ารัชกาลที่ ๑ ทั้งท่วงที ท่าทาง และพระวรกาย จน
เป็นที่กล่าวขวัญเลื่องลือไปทั่ว
มีเร่องราวบันทึกไว้ว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ (พระอัยกา) ทรงให้

ความส�าคัญกับหลานปู่องค์ใหญ่มาก โปรดเกล้า ฯ ให้ประกอบพิธีโสกันต์ (โกนจุก) ณ

พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และเมื่อพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าชายทับ มีพระชันษา




ครบอปสมบท กทรงให้ประกอบพธบรรพชาและอปสมบทเฉพาะพระพกตร์ทวดพระ





ศรีรัตนศาสดารามในปีพ.ศ. ๒๓๔๙ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ซึ่งขณะนั้นแม้
จะมีพระชนมายุถึง ๗๒ พรรษาแล้ว แต่ก็ทรงพระวิริยะอุตสาหะเสด็จฯ ออกในพิธ ี
บรรพชาและอุปสมบทของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าชายทับ ตั้งแต่ต้นจนเสร็จพิธี
และโปรด ฯ ให้เสด็จไปประทับจ�าพรรษาอยู่ ณ วัดราชสิทธาราม บางกอกใหญ่ ธนบุรี



14




������������������������ 2563 ������������.indd 14 21/10/2563 BE 13:43

ในปี พ.ศ. ๒๓๕๒ เมื่อพระราชบิดาเสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์เจ้าชายทับ จึง


ได้เล่อนฐานันดรศักด์จาก พระเจ้าหลานเธอ เป็นพระเจ้าลูกยาเธอตามขัตติยราช

ประเพณีและต่อมาในปี พ.ศ.๒๓๕๖ พระเจ้าลูกยาเธอทับ ได้รับสถาปนาข้นเป็นเจ้าต่าง
กรม ทรงพระนามว่า พระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ เจษฎา แปลว่า ผู้


เป็นใหญ่ท่สุด บดินทร์ แปลว่า พระเจ้าแผ่นดิน จึงมีนัยให้คิดว่าสมเด็จพระราชบิดา




ทรงตงพระราชหฤทยจะให้พระราชโอรสองค์นเป็น “พระเจ้าแผ่นดินผู้เป็นใหญ่”


หรือ “พระราชทานนามให้เป็นศิริมงคล”


กรมหม่นเจษฎาบดินทร์ ทรงพระปรีชาสามารถในศาสตร์หลายแขนง ท้งในด้าน
อักษรศาสตร์ พุทธศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ นิติศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์



เศรษฐศาสตรและพาณชยศาสตร จงเปนเหตใหไดรบความไววางพระราชหฤทยจากพระ








ราชบิดาและโปรดเกล้า ฯ ให้ก�ากับดูแลงานกรมท่า กรมพระคลังมหาสมบัติ กรมพระ
ตารวจว่าการฎีกา ซ่งเป็นส่วนราชการท่มีความสาคัญอย่างย่งในสมัยน้น นอกจากน้ ยัง







โปรดเกล้า ฯ ให้รับราชการต่างพระเนตรพระกรรณอีกด้วย


ในขณะน้น เป็นช่วงต้นของกรุงรัตนโกสินทร์ ซ่งอยู่ในระหว่างการก่อร่างสร้าง


ตัวต่อเน่องเร่อยมาต้งแต่สมัยรัชกาลท่ ๑ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศยังไม่










มนคง จงเกดความคดในเรองของการค้าขายกบต่างประเทศเพอเพมพนรายได้เข้า






ประเทศอย่างจริงจัง กรมหม่นเจษฎาบดินทร์ ฯ ทรงได้รับพระกรุณาให้แต่งสาเภาหลวง



รวมท้งสาเภาของพระองค์เอง และทรงชักชวนเจ้านายกับขุนนางต่างๆ ร่วมค้าสาเภา

ออกไปค้าขายกับจีน ทรงรับราชการสนองพระเดชพระคุณอย่างเต็มความสามารถและ
ด้วยพระวิริยะอุตสาหะแรงกล้า ด้วยความรักและปรารถนาดีต่อประเทศชาติตลอดจน


ด้วยพระเมตากรุณาต่อปวงชนข้าแผ่นดิน ในยามท่เงินของแผ่นดินขาดแคลน กรมหม่น
เจษฎาบดินทร์ ฯ ก็ได้นาเงินส่วนพระองค์จากการค้าสาเภาข้นน้อมเกล้า ฯ ถวายสมเด็จ



พระราชบิดา เพ่อใช้ประโยชน์ในราชการ บรรเทาความเดือดร้อนของบ้านเมืองไปได้

ด้วยเหตุผล ดังกล่าว สมเด็จพระราชบิดาจึงตรัสเรียกพระราชโอรสองค์นี้ว่า “เจ้าสัว”

เจ้าสัว ทรงประหยัดและระมัดระวังในการใช้จ่ายอย่างย่ง ไม่โปรดการจับจ่าย
ใช้สอยอย่างฟุ่มเฟือยเพื่อพระองค์เอง หรือแม้แต่พระโอรสธิดาของพระองค์ แต่ส�าหรับ
15
������������������������ 2563 ������������.indd 15 21/10/2563 BE 13:43




ประชาชนผู้ขัดสน พระองค์จะให้ความสาคัญอย่างมากและได้ทรงต้งโรงทานเพ่อช่วย
















เหลอเลยงดผ้ยากไร้ทหน้าวงท่าพระซงเป็นทประทบของพระองค์ขณะนน นบเป็นท ี ่
ซาบซ้งในพระมหากรุณาธิคุณท่พระองค์ได้ทรงเสียสละเพ่อประเทศชาติและพสกนิกร



ของพระองค์อันควรค่าแก่การเคารพบูชาอย่างที่สุด พระองค์ได้แบ่งแยกพระราชทรัพย์
ของหลวงและของพระองค์ออกจากกันอย่างเด็ดขาด ทรงเก็บหอมรอมริบพระราชทรัพย์
ส่วน พระองค์จากการค้าส�าเภาทีละเล็กทีละน้อยใส่ถุงแดง (เงินถุงแดง) เก็บรักษาไว้ที่


ข้างพระแท่นท่บรรทม (เงินข้างท่) ต่อมามีจานวนมากข้นก็ทรงเก็บไว้ในห้องข้างๆ ท ี ่


บรรทม (คลังข้างที่) เพื่อไว้สนับสนุนในยามที่ประเทศชาติเกิดความจ�าเป็น
ในปี พ.ศ. ๒๓๖๗ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จสวรรคต และ



มได้มอบหมายให้ผู้ใดเป็นผู้สืบราชสนตติวงศ์ กอปรกบกฎมณเฑียรบาลครงกรุง





ศรอยธยาและได้มการปรบปรงแก้ไขในสมยรตนโกสนทร์ ได้ระบไว้เพยงกว้างๆ ว่า







“ราชกุมารท่เกิดด้วยพระอัครมเหสี เป็นสมเด็จหน่อพุทธเจ้า”อย่างไรก็ดี ในสมัยรัชกาล



ที่ ๒ แม้จะทรงมีพระราชชายาเป็นเจ้าฟ้าฯ แต่ไม่ได้ทรงแต่งต้งให้ใครเป็นอัครมเหส
หรือ มเหสี ต�าแหน่งใด ที่ประชุมของเสนาบดีและพระบรมวงศานุวงศ์ จึงมีความเห็น
เป็นอเนกมหาชนนิกรสโมสรสมมุต (ผท่พสกนกรชนชมยินดอัญเชิญข้นเป็นพระมหา








กษัตริย์) ว่า พระเจ้าลูกยาเธอกรมหม่นเจษฎาบดินทร์มีความเหมาะสมและสมควรอย่าง


ย่งท่จะข้นครองสิริราชสมบัติรักษาแผ่นดินสืบพระบรมราชตระกูลต่อไป ในฐานะ


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์สืบต่อมาตั้งแต่วันพุธที่
๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๓๖๗ ทรงพระนามตามพระสุพรรณบัฏว่า พระบาทสมเด็จพระ
ปรมาธิวรเสริฐ มหาเจษฎาบดินทร์ สยามินทราวโรดม บรมธรรมิกมหา
ราชาธิราช บรมนารถบพิตร พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
อนึ่ง มีพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕


ซ่งได้ฟังจากพระโอษฐ์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ ๔ ตอนหน่ง

ว่า
...“คร้นมาในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เพราะพระบาท



สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ไม่ได้ดาเนินพระบรมราชโองการมอบสิริราช

สมบัติด้วยประชวรเป็นปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัวอันเป็นพระ
16
������������������������ 2563 ������������.indd 16 21/10/2563 BE 13:43

ราชโอรสเกิดด้วยพระสนมก็จริงอยู่ แต่เป็นพระองค์ใหญ่ ทรงพระสติปัญญา โอบ

อ้อม เผื่อแผ่ และในเวลานั้นทูลกระหม่อม (รัชกาลที่ ๔) ก็ทรงผนวชและยังอ่อน













แกราชการ ขาราชการทงปวงจงได้พรอมกนยินยอมใหพระบาทสมเดจพระนงเกลา
เจ้าอยู่หัว ข้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ หากแม้นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า

นภาลัยมีพระสติที่จะสั่งการได้ ท่าน (รัชกาลที่ ๔) ก็ไม่แน่พระทัยว่า จะทรงมอบ

พระราชสมบตพระราชทานท่านหรอพระราชทานสมเดจพระนงเกล้าเจ้าอย่หว









ด้วยในเวลาน้น บ้านเมืองยังต้องรบพุ่งติดพันอยู่กับพม่า จาต้องหาพระเจ้าแผ่นดิน
ที่รอบรู้ในราชการทั้งปวง และเป็นที่นิยมยินดีทั่วหน้าจะได้ป้องกันดัสกรภายนอก
ได้ เพราะฉะน้น พระองค์ท่านจึงมิได้มีความโทมนัสเสียพระทัยและก่อการลุกลาม

อันใดขึ้นในบ้านเมืองตามค�าแนะน�าของบางคนซึ่งคิดจะแก่งแย่ง”...
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์ทรงปกครอง

ประเทศด้วยพระปรีชาสามารถ ทรงสร้างเสริมก�าลังป้องกันราชอาณาจักรและโปรดให้
สร้างป้อมปราการตามปากแม่น�้าส�าคัญ และหัวเมืองชายทะเล


ในด้านการพัฒนาประเทศ ทรงส่งเสริมการขุดคลองและใช้ทางนาเป็นสาคัญ



ท้งในการทาสงครามและการค้าขาย คลองจึงมีความสาคัญมากในการช่วยย่นระยะทาง


และทรงโปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองบางขุนเทียน คลองบางขนาก คลองหมาหอน เพ่อเช่อม




กับแม่นาสายสาคัญและออกสู่ทะเล ทรงสร้างป้อมปราการป้องกันข้าศึก ทรงริเร่มระบบ
ภาษีอากร ทรงแต่งส�าเภาไปค้าขายกับต่างประเทศ ทรงเก็บออมรายได้จากการค้าเพื่อ
มาใช้ในการพัฒนาประเทศ เป็นที่กล่าวกันว่าในยุคสมัยของพระองค์เป็นยุคที่ประเทศ
ชาติมีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ในด้านการศึกษา ทรงโปรดเกล้า ฯ ให้กรมหลวงวงศาธิราชสนิท แต่งต�ารา
เรียนภาษาไทย “จินดามณี” โปรดเกล้า ฯ ให้ผู้รู้ต�าราแขนงต่างๆ อาทิ อักษรศาสตร์


แพทย์ศาสตร์ พุทธศาสตร์ โบราณคดี ฯลฯ จารึกลงในแผ่นศิลาเพ่อเผยแพร่ความรู้ตาม
ศาลารอบพุทธาวาส วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซ่งถือเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของ




ประเทศไทย และ องค์การ UNESCO ได้ประกาศข้นทะเบียนแผ่นจารึกตาราสาคัญ
ต่างๆ ที่ทรงมีพระวิสัยทัศน์ เผยแพร่ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปเป็น“มรดกแห่งความ
ทรงจ�าโลก”


17




������������������������ 2563 ������������.indd 17 21/10/2563 BE 13:44



ในด้านการทานุบารุงพระพุทธศาสนา
พระองค์ทรงเล่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างมาก ได้

ทรงสร้างพระพุทธรูปมากมาย เช่น พระประธานใน

อุโบสถวัดสุทัศน์ วัดเฉลิมพระเกียรติ วัดปรินายกและ

วัดนางนอง ทรงสร้างวัดใหม่ขึ้น ๓ วัด คือ วัดเฉลิม


พระเกยรติ วดเทพธดาราม และวัดราชนัดดาราม ทรง


บูรณปฏิสังขรณ์วัดเก่าอีก ๓๕ วัด เช่น วัดพระ
ศรีรัตนศาสดาราม วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) วัดอรุณ


ราชวราราม วัดราชโอรสาราม ฯลฯ อน่ง ในช่วงท ่ ี

พระองค์ทรงพระประชวรก่อนท่จะเสด็จสวรรคตก็ได้ม ี

รับส่งกับเสนาบดีแสดงความเป็นห่วงกังวล อยากจะ



ให้กันเงินถุงแดงไว้ส่วนหน่ง สาหรับใช้ในการบารุง
วัดวาที่ยังค้างคาอยู่

ในด้านชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร พระองค์ทรงกากับราชการและควบคุม
ดูแลงานด้านการเมืองการปกครองอย่างใกล้ชิด ทรงตรากฎหมายเพ่อใช้ปราบปราม

โจรผู้ร้าย ทรงปราบปรามปัญหาฝิ่นอย่างเด็ดขาดและจริงจัง ทรงโปรดให้ต้งกลองวินิจฉัย


เภรี ไว้ให้ราษฎรท่มีทุกข์ร้อนมาตีร้องฎีกาและโปรดให้มีการสอบสวนตามคาร้องทุกข์

ด้วย ในรัชสมัยของพระองค์ได้มีศาสนาจารย์ แพทย์ชาวอเมริกันและอังกฤษ เดินทาง





มาเผยแพร่คริสต์ศาสนาเพ่มมากข้น อาทิ คุณหมอบรัดเลย์ ซ่งเป็นผู้ริเร่มให้มีการปลูกฝี

ป้องกันไข้ทรพิษและฉีดวัคซีนป้องกันอหิวาตกโรคและการทาผ่าตัดข้นเป็นคร้งแรกใน


กรุงรัตนโกสินทร นอกจากนี้หมอบรัดเลยยังไดคิดตัวพิมพอักษรไทยขึ้น (พ.ศ. ๒๓๗๙)




ท�าให้มีการพิมพ์ภาษาไทยเป็นครั้งแรก


ในดานการเมืองระหวางประเทศ มีชาวตะวันตกเข้ามาขอเจริญความสัมพันธ์
ทางพระราชไมตรีหลายประเทศ หลังจากขาดการติดต่อกันมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาเสีย
แก่พม่า พระองค์ทรงระมัดระวังเรื่องการได้เปรียบเสียเปรียบในการเจรจาความกับชาว
ตะวันตกอย่างมาก ทรงยึดหลักการการรักษาศักด์ศรและความเท่าเทียมในการรักษา



ผลประโยชน์ของชาติเป็นสาคัญ พระองค์ทรงเล็งเห็นและทรงเตือนให้ตระหนักถึง


18




������������������������ 2563 ������������.indd 18 21/10/2563 BE 13:44





อันตรายและเป้าหมายสาคัญของมหาอานาจตะวันตกในรูปแบบต่างๆ ท่กระทาต่อ
ประเทศเพื่อนบ้าน ดังพระบรมราโชวาทว่า
“การศึกสงครามข้างญวน ข้างพม่า ก็เห็นจะไม่มีแล้ว จะมีอยู่ก็แต่ข้าง



พวกฝร่ง ให้ระวังให้ดี อย่าให้เสียทีแก่เขาได้ การงานส่งใดของเขาท่คิดควรจะ
เรียนเอาไว้ ก็ให้เอาอย่างเขาแต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสไปทีเดียว”


ตลอดรัชกาล มีเหตุการณ์สาคัญและกลายเป็นจุดเปล่ยนของประเทศหลาย
เหตุการณ์ ได้แก่ เฮนรี่ เบอร์นี เจ้าเมืองเบงกอลของอังกฤษ เข้ามาขอท�าสนธิสัญญา


ทางพระราชไมตรีและการพาณิชย์ฉบับแรก เจ้าอนุวงศ์ก่อกบฏ กาเนิดวีรกรรมท้าว
สุรนารี บังเกิดขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้วประจ�ารัชกาล ประธานาธิบดีอเมริกาส่งเอ็ดมันด์



โรเบิร์ต เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีคร้งแรก ญวนก่อกบฏ ทรงอภิเษกองค์ด้วงข้นเป็น



สมเด็จพระหริรักษ์ฯ ครองกรุงกัมพูชา การปราบอ้งย่ท่ฉะเชิงเทรา การเกิดอหิวาตกโรค
ใหญ่ อังกฤษและสหรัฐอเมริกาขอแก้สนธิสัญญา การปรับปรุงภาษีอากร ซ่งเป็น

เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง


พระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปกครองและบริหารประเทศด้วยความ


สงบร่มเย็นเป็นสุขถ้วนหน้า ทรงสร้างความเจริญก้าวหน้าและความสง่าม่งค่งให้กับ
ประเทศชาติอย่างมากจวบจนกระทั่งพระองค์ทรงพระประชวรเมื่อปลายปี ๒๓๙๓ ด้วย

พระบรรทมไม่หลับ เสวยพระกระยาหารไม่ได้ด และไม่สบายพระองค์ แม้กระน้นกตาม







พระองค์ทรงแสดงนาพระทัยอันประเสริฐย่ง ปกติพระองค์ท่านทรงประทับท่พระท่น่ง





จักรพรรดิพิมานดานองคตะวันออก แตเมื่อทรงพระประชวรหนัก ทรงมีพระราชปรารภ
กับข้าราชบริพารว่า ถ้าสวรรคต ณ ที่นั่น พระเจ้าแผ่นดินองค์ต่อๆ ไป อาจรังเกียจ จึง
โปรดให้เชิญพระองค์ออกไปบรรทมรอวันเสด็จสวรรคตทางด้านองค์ตะวันตก ซึ่งจะไม่
เกี่ยวข้องกับการจัดพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์องค์ต่อไป

ในส่วนของผู้สืบราชสมบัติท่ปรากฏในพระราชพงศาวดาร พระองค์ทรงแสดง
ความห่วงใยต่อประเทศชาติและความสงบสุขของราษฎร หากพระองค์มอบราชสมบัต ิ


แก่ผู้ใดตามพระราชดาริของพระองค์แต่เพียงผู้เดียวแล้ว แต่ไม่เป็นท่ชอบใจของประชาชน

และบรรดาข้าราชการ ก็อาจจะเกิดการแตกความสามัคคีข้นได้ พระองค์ตระหนักดีว่า




19




������������������������ 2563 ������������.indd 19 21/10/2563 BE 13:44

ในทุกยุคทุกสมัย ประเทศชาติต้องการความสมัครสมานสามัคคี พระองค์จึงทรงม ี
จดหมายกระแสพระบรมราชโองการตอนหน่งว่า “ทรงปฏิญาณยกพระนามพระรัตนตรัย


สรณคมน์ อันอุดมเป็นปณิธานพยานอันย่งให้เห็นจริงในพระราชหฤทัยแล้ว ทรงพระ



ราชดารัส ยอมอนุญาตให้เจ้าพระยาพระคลัง ซ่งว่าท่สมุหพระกลาโหม พระยาศรีพิพัฒน์
รัตนราชโกษาธิบดี พระยาราชสุภาวดีสมุหนายกกับขุนนางผู้น้อยท้งปวง จงมีความ




สโมสรสามัคคี ปรึกษาพร้อมกันเม่อเห็นว่า พระบรมวงศานุวงศ์พระองค์ใดท่มีวัยวุฒ






ปรชารอบร้ราชานวัตรเป็นศาสนปถมภก ยกพระบวรพทธศาสนา และปกป้องไพร่ฟ้า
อาณาประชาราษฎร์ รักษาแผ่นดินให้เป็นสุขสวัสด์โดยย่งเป็นยินดีแก่มหาชนท้งปวงได้



ก็สุดแต่จะเห็นดี ประนีประนอมพร้อมใจกันยกพระบรมวงศ์องค์น้นข้นเสวยมไห


ศวรรยธิปัตย์ถวัลยราช สืบสันตติวงศ์ด�ารงราชประเพณีต่อไปเถิด อย่าได้กริ่งเกรงพระ
ราชอัธยาศัยเลย เอาแต่ให้ได้เป็นสุขท่วหน้า อย่าให้เกิดการรบราฆ่าฟันให้ได้ความทุกข์

ร้อนแก่ราษฎร” พระวิจารณญาณของพระองค์แสดงให้เห็นถึงนาพระทัยอันย่งใหญ่ท ่ ี



เปี่ยมล้นไปด้วยความรัก ความเสียสละ และความห่วงใยต่อประเทศชาติเหนือสิ่งอื่นใด
และเหนือประโยชน์ของพระองค์เอง ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ท่านได้ทรงประพฤติปฏิบัติมา
โดยตลอดตราบจนวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพ

พระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคต ณ พระท่น่งจักรพรรดิพิมาน


องค์ตะวันตก เมื่อวันพุธที่ ๒ เมษายน พ.ศ.๒๓๙๔ สิริรวมพระชนมพรรษา ๖๔ พรรษา
๒ วัน สถิตในสิริราชสมบัติ ๒๖ ปี ๘ เดือน ๑๒ วัน และทรงให้ก�าเนิดสายสืบสกุล ๑๓

ราชสกุล ประกอบด้วย







๑. ศิริวงศ์ สบสายจาก สมเดจพระบรมราชมาตามหยกาเธอ พระองคเจาศรวงศ ์

กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ ทรงประสูติวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๓๕๕
๒. งอนรถ สืบสายจาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้างอนรถ ทรงประสูติ
วันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๓๕๘
๓. ลดาวัลย์ สืบสายจาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลดาวัลย์ กรมหมื่น

ภูมินทรภักดี ทรงประสูติวันที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๓๕๘

๔. โกเมน สืบสายจาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโกเมน กรมหมื่นเชษฐา

ธิเบนทร์ ทรงประสูติวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๕๘


20




������������������������ 2563 ������������.indd 20 21/10/2563 BE 13:44

๕. คเนจร สืบเชื้อสายจาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคเนจร กรมหมื่น
อมเรนทรบดินทร์ ทรงประสูติวันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๕๘

๖. ชุมสาย สืบสายจาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชุมสาย กรมขุนราชสีห

วิกรม ทรงประสูติวันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๓๕๙

๗. ปิยากร สืบสายจาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปียก ทรงประสูติวันที่

๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๖๒


๘. อุไรพงศ์ สืบสายจาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุไร กรมหม่น
อดุลยลักษณสมบัติ ทรงประสูติ พ.ศ. ๒๓๖๒
๙. อรณพ สืบสายจาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรรณพ กรมหมื่นอุดม

รัตนราษี ทรงประสูติวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๓๖๓

๑๐. ล�ายอง สืบสายจาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าล�ายอง ทรงประสูติ

วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๓๖๗

๑๑. สุบรรณ สืบสายจาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุบรรณ กรมขุน

ภูวนัยนฤเบนทราธิบาล ทรงประสูติวันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๓๖๙
๑๒. สิงหรา สืบสายจาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิงหรา กรมหลวง

บดินทรไพศาลโสภณฑีมชนม์เชษฐประยูร ทรงประสูติวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๓๖๙

๑๓. ชมพูนุท สืบสายจาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชมพูนุท กรมขุน

เจริญผลพูลสวัสดิ์ ทรงประสูติวันที่ ๒๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๓๗๐




























21




������������������������ 2563 ������������.indd 21 21/10/2563 BE 13:44

วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร





พระวิหารหลวง


























สถานที่ตั้ง


วัดกัลยาณมิตร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ปากคลอง

บางกอกใหญ่ฝั่งใต้ หน้าวัดหันลงแม่น้าเจ้าพระยา เลขที่ ๓๗๑ แขวงวัดกัลยาณ์ เขต

ธนบุรี กรุงเทพมหานคร ๑๐๖๐๐

อาณาเขตและอุปจาร


มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๓๓ ไร่ ๑ งาน ๑๘ ตารางวา เขตวิสุงคามสีมา หรือ บริเวณ
พระอุโบสถ ด้านกว้าง ๓๑.๗๕ เมตร ด้านยาว ๔๑.๕๓ เมตร ส่วนบริเวณของวัด โดย

รอบที่ธรณีสงฆ์วัดกัลยาณมิตรนั้นมีอีก ๘ แปลง พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าบีเอ

ตริศภัทรายุวดี และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเจริญศรีชนมายุ พระราชธิดา ใน

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมารดาแสง ธิดาพระยาไชยวิชิต

(ช่วง กัลยาณมิตร บุตรเจ้าพระยานิกรบดินทร) ถวายวัดไว้จ�านวนเนื้อที่ ๓๘ ไร่ ๑ งาน
๖๐ ตารางวา คือ ที่ดินต�าบลบ้านแขกตึกขาว อ�าเภอคลองสาน จังหวัดธนบุรี หรือใน

ปัจจุบันคือ ที่ดินในซอยช่างนาค ถนนสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร






22




������������������������ 2563 ������������.indd 22 21/10/2563 BE 13:44

ประวัติความเป็นมา


ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เจ้าพระยานิกร

บดินทร (เจ้าสัวโต ต้นสกุลกัลยาณมิตร) ว่าที่สมุหนายก ชื่อจีนว่า เต๋า แซ่อึ้ง เมื่อ

ครั้งยังเป็นพระยาราชสุภาวดี เจ้ากรมพระสุรัสวดีกลาง (ชื่อกรมในสมัยโบราณ มีหน้า



ท่เก่ยวข้องกับการทาบัญชีไพร่พล�ตลอดจนการเกณฑ์ชายฉกรรจ์เข้ามาฝึกอาวุธและ
วิชาการรบ เพื่อเป็นก�าลังส�ารองเวลาบ้านเมืองมีศึกสงคราม) ได้อุทิศที่บ้านและซื้อ




ท่ดินบริเวณใกล้เคียงเพ่มเติมเข้าด้วยกันเพ่อสร้างพระอาราม�ท่ดินบริเวณท่จะสร้างวัด

กัลยาณมิตรนี้เดิมในสมัยกรุงศรีอยุธยาไม่มีดิน�เป็นแม่น�้าดอนขึ้น ครั้งกรุงธนบุรีเป็น
ที่จอดแพได้ ครั้นนานวันผันกลับดอนเป็นดินกลายเป็นที่ตั้งบ้านเรือนของพ่อค้าชาว
จีนฮกเกี้ยนที่ได้รับพระราชทานที่ดินจากพระมหากษัตริย์ไทย เช่น หลวงพิชัยวารี (เจ้า

สัวมั่ง แซ่อึ้ง) บิดาของเจ้าพระยานิกรบดินทร�ชุมชนย่านนี้นอกจากชาวจีนแล้ว�ยังเป็น

ที่อยู่อาศัยของทั้งชาวโปรตุเกส ชาวมุสลิม ชาวไทย และยังมีพระภิกษุจีนพ�านักอยู่ด้วย

ชาวบ้านจึงเรียกย่านนี้ว่า ชุมชนกะดีจีน หรือกุฎีจีน




การก่อสร้างพระอารามเรมลงมอ

เมื่อปีระกา พ.ศ.๒๓๖๘ เป็นปีที่ ๒ ในสมัย
รัชกาลท่�๓�แล้วถวายเป็นพระอาราม

หลวง�พระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้า

อยู่หัวโปรดเกล้าฯ�พระราชทานนาม

ว่า�“วัดกัลยาณมิตร”�ในพระราช

พงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๓

บันทึกไว้ว่า “...เจ้าพระยานิกรบดินทร

ยกที่บ้านเดิมของท่าน แล้วซื้อที่บ้าน
ข้าราชการและบ้านเจ้าสัว เจ้าภาษีนาย

อากรอ่นอีกหลายบ้าน�สร้างเป็นวัด

ใหญ่ พระราชทานชื่อวัดกัลยาณมิตร แต่

พระวิหารใหญ่เป็นของหลวง...”
เจ้าพระยานิกรบดินทร (โต กัลยาณมิตร) ผู้สร้างวัด


23




������������������������ 2563 ������������.indd 23 21/10/2563 BE 13:44


พระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามวัดว่า“วัดกัลยาณมิตร”


หมายถึง มิตรดีหรือเพ่อนด เพื่อนผู้มีกัลยาณมิตร��คงมาจากความสัมพันธ์ส่วน


พระองค์ท่มีต่อเจ้าพระยานิกรบดินทร��ผู้สร้างวัดน้�ซ่งได้ถวายตัวเป็นข้าหลวงเดิม�ใน

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มาตั้งแต่พระองค์ยังด�ารงพระยศในสมัยพระบาท
สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยรัชกาลที่ ๒ เป็นพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎา

บดินทร์ ประทับอยู่ที่วังท่าพระ ทรงก�ากับราชการกรมท่า เจ้าพระยานิกรบดินทรได้

เข้านอกออกในวังท่าพระทุกวัน จนคุ้นเคยสนิทสนมกับข้าในวังโดยเฉพาะห้องเครื่อง�

เพราะท่านเป็นผู้จัดท�าแกงจืดอย่างจีนที่เรียกว่า “เกาเหลา” ถวายเสด็จในกรมฯ เลี้ยง
บรรดาเจ้านายข้าราชการที่เมื่อออกจากเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรัชกาลที่ ๒ แล้ว ส่วน

มากมักแวะมาพักและรับประทานอาหารว่างที่วังท่าพระก่อน

เสด็จในกรมฯ ทรงค้าขายทางส�าเภาด้วย ท�าให้เจ้าพระยานิกรบดินทรได้ ค้าขาย

ส�าเภาร่วมกับพระองค์ทั้งก่อนและภายหลังเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ และจะเห็นได้จาก

การที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระวิหารหลวงพระราชทานช่วยเมื่อ เจ้าพระยา

นิกรบดินทรสร้างวัดถวาย ด้วยทรงพระเมตตากรุณารักใคร่เป็นพิเศษ พร้อมกับเสด็จ

พระราชด�าเนินก่อพระฤกษ์พระโต เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๘๐ พระราชทาน

เป็นพระประธานในพระวิหารหลวง พระพุทธรูปขนาดใหญ่องค์นี้เป็นพระพุทธรูปปูน
ปั้นลงรักปิดทอง�ปางมารวิชัย�ด้วยมีพระราชประสงค์จะให้เหมือนกรุงเก่าคือมีพระโต

อยู่นอกก�าแพงเมืองอย่างเช่นวัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา




























24




������������������������ 2563 ������������.indd 24 21/10/2563 BE 13:44

พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโตซ�าปอกง






































พระวิหารหลวง มองจากแม่น�้าเจ้าพระยา
25




������������������������ 2563 ������������.indd 25 21/10/2563 BE 13:44

พระพุทธดิลกโลกเชษฐ์ พระประธานในพระวิหารน้อย

นอกจากน้ยังโปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระพุทธรูปปางป่าเลไลย์ พระราชทานช่วย
เป็นพระประธานในพระอุโบสถ และสร้างศาลาการเปรียญพระราชทานช่วยเจ้าพระยา

นิกรบดินทร ผู้เป็นกัลยาณมิตรของพระองค์

คร้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ ๔ เสด็จข้นครอง



ราชย์�โปรดเกล้าฯ ให้สร้างหอไตร ณ วัดกัลยาณมิตร

เม่อ พ.ศ.๒๔๐๘ พระราชทานนามว่า “หอพระธรรม




มณเฑียรเถลิงพระเกียรต” ท้งน้ เพ่อเฉลิมพระเกียรต ิ
แห่งพระบรมราชมาตามหัยยิกา กรมพระศรีสุดารักษ์
(แก้ว)�ผู้เป็นพระเชษฐภคนี�ในพระบาทสมเดจ


พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระบรมราชมาตา
มหัยยิกาธิบดี พระภัสดาในกรมพระศรีสุดารักษ์

(ขรัวเงิน) ซ่งเป็นพระชนนีและพระชนกในสมเด็จพระ

ศรีสุริเยนทรามาตย์ (เจ้าฟ้าบุญรอด) พระอัครมเหส ี
ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และ

เป็นพระราชชนนีในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้า

อยู่หัว�ทรงสร้างตรงบริเวณท่จอดแพของสมเด็จกรม


พระศรีสุดารักษ์มาก่อน เพ่อประกอบพระราชกุศล
ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัว��พระ


26




������������������������ 2563 ������������.indd 26 21/10/2563 BE 13:44

พระพุทธดิลกโลกเชษฐ์ พระประธานในพระวิหารน้อย























เจดีย์ยอดปรางค์ ๑๖ พระอรหันต์ เจดีย์บรรจุอัฐิ เจ้าพระยานิกรบดินทร



























27




������������������������ 2563 ������������.indd 27 21/10/2563 BE 13:44



บรมเชษฐาธิราชกับท้งเป็นการปูนบาเหน็จเชิดชูเกียรติของเจ้าพระยานิกรบดินทรด้วย


(ในรัชกาลท่ ๔ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เล่อนพระยาราชสุภาวดี (โต) เป็นเจ้า



พระยานิกรบดินทร มหินทรมหากัลยาณมิตรฯ ท่สมุหนายกสาเร็จราชการท้งปวงใน
กรมมหาดไทย) นอกจากน้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังโปรดเกล้าฯ


พระราชทานนามพระพุทธรูปท่ประดิษฐานในพระวิหารหลวง ซ่งเดิมเรียกว่า “พระโต”

ว่า “พระพุทธไตรรัตนนายก” นามพระราชทานเหมือนกันกับท่พระราชทาน “พระ

โต” วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ ๕ เม่อพระ



องคเสดจพระราชดาเนินถวายผ้าพระกฐินหลวงพระราชทาน ณ วัดกัลยาณมิตร เม่อ




พ.ศ.๒๔๔๕ น้น ทรงทราบในพระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระบรมราชชนก�ในการททรงสร้างหอพระธรรมมณเฑยรเถลงพระเกยรต��จงมพระ








ราชดาริถามถึง และมีพระบรมราชโองการว่า หากหอพระธรรมมณเฑียรเถลิงพระเกียรต ิ
ทรุดโทรมลงเม่อใด�ให้กราบบังคมทูล�แล้วจะทรงซ่อมแซมด้วยพระราชทรัพย์ส่วน

พระองค์ ต่อมาเจ้าพระยารัตนบดินทร์ (รอด กัลยาณมิตร บุตรเจ้าพระยานิกรบดินทร)

กราบบังคมทูลถึงความชารุดทรุดโทรมของวัดและขาดทุนทรัพย์ในการซ่อมแซม��จึง
โปรดเกล้าฯ ให้กรมโยธาธิการจัดการซ่อมแซม


ยังมีเอกสารร่วมสมัยรัชกาลท่ ๕ ท่กล่าวถึงวัดกัลยาณมิตรได้อย่างน่าสนใจ คือ

“นิราศย่สาร” ผลงานร้อยกรองของนายกุหลาบ หรือ ก.ศ.ร.กุหลาบ นักคิด นักเขียน


และ นักหนังสือพิมพ์ท่มีบทบาทสาคัญมาต้งแต่สมัยรัชกาลท่ ๕ ถึงรัชกาลท่ ๖






นิราศย่สาร ของนายกุหลาบเขียนขึ้นเม่อ พ.ศ.๒๔๒๒ ขณะน้นนายกุหลาบ อาย ุ
๔๕ ปี เป็นการเดินทางโดยเรือจากกรุงเทพฯไปตาบลย่สาร เพ่อนมัสการปูชนียสถาน





และพระพุทธรูปสาคัญ สานวนกลอนนิราศของนายกุหลาบมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์
และโบราณคดีอยู่เต็มเปี่ยม ดังท่พรรณนาไว้ในกลอนนิราศยี่สารตอนท่เรือล่องเข้าปาก


คลองบางกอกใหญ่ผ่านหน้าบ้านหมอบรัดเลย์ มิชชันนารีชาวอเมริกัน ซ่งฝั่งตรงข้าม

บ้านหมอบรัดเลย์ก็คือวัดกัลยาณมิตร ว่า

28




������������������������ 2563 ������������.indd 28 21/10/2563 BE 13:44


แลเหนวัดกัลยาน่าบ้านหมอ โบถลออสูงเย่ยมเทียมไสล

อิฐก่อพุทธรูปสะถูปไว้ ท้งโตใหญ่เหลือแลชะแง้ด ู

เกือบจะเท่าวัดเจ้าพระยานางเชิง สูงทะเกิงวัดไหนไม่มีส ู้
ได้ทราบความตามเหตุสังเกตร คือท่านผู้ท่บุรณะเจ้าพระยา

ู้

นิกรบดินทรสะมุหะ ท่านสละทรัพย์สินส้นหนักหนา
สร้างอารามนามวัดกัลยา ถวายแก่ราชาพระทรงธรรม์




ซ่งบารุงกรุงเทพในท่สาม ครองสยามนัคเรศเปนเขตรขันธ์

ประทานนามตามเหตุพิเสศครัน ช่อวัดกัลยาณะมิตรประสิทธ์พร ฯ


ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานรูปหล่อทรงเครื่อง

จอมพลทหารมหาดเล็กของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทาน
ธรรมาสน์ สลักลวดลายปิดทองประดับมุกและกระจก เนื่องในงานพระราชพิธี ถวาย

พระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


สมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชด�าเนิน ทรงบรรจุพระ
อุณาโลมพระพุทธไตรรัตนนายก ซึ่งเป็นทองค�าหนัก ๔๐ บาท แต่น่าเสียดายที่มีคนมา

ลักลอบขโมยไปในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

เสด็จพระราชด�าเนินถวายผ้าพระกฐิน เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๐ และ พ.ศ.๒๕๑๙

ต่อมาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จ

พระราชด�าเนินแทนพระองค์ พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และ

พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระธิดาในสมเด็จพระบรมโอรสา

ธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ไปทรงปิดทององค์พระพุทธไตรรัตนนายก พระประธาน

ประจ�าพระวิหารหลวง เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๐

โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระ

ราชด�าเนินแทนพระองค์ ไปทรงยกช่อฟ้าพระวิหารหลวง เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม
พ.ศ.๒๕๔๒








29




������������������������ 2563 ������������.indd 29 21/10/2563 BE 13:44

วัดกัลยาณมิตรเป็นพระอารามหลวงขนาดใหญ่ มีผังวัดที่แบ่งเขตพุทธาวาสและ
สังฆาวาสอย่างชัดเจน มีถนนคั่นระหว่างพื้นที่ทั้งสองส่วน เขตพุทธาวาสอยู่ริมฝั่งแม่น�้า

เจ้าพระยา จากริมฝั่งแม่น�้าขึ้นมาผ่านศาลาจัตุรมุข (ท่าฉนวน) มีทางเดินเข้าสู่ลานกว้าง

มีศาลาเก๋งจีน ๒ หลัง สองฝั่งทางเดินทั้งสองด้านของศาลาเก๋งจีน มีพระเจดีย์แบบพิเศษ

๒ องค์ คือ พระเจดีย์ทรงถะยอดปรางค์ และพระเจดีย์ทรงเครื่องหินอ่อน ทางทิศตะวัน

ออกเป็นที่ตั้งของตึกหินและศาลาการเปรียญ ผ่านศาลาเก๋งจีนเข้าสู่ศาลาตรีมุข เข้ามา

ภายในก�าแพงแก้วเขตพุทธาวาสที่มีพระอุโบสถพระวิหารหลวง พระวิหารน้อย และ สิ่ง

ก่อสร้างอื่นๆ เช่น หอพระธรรมมณเฑียรเถลิงพระเกียรติ หอระฆัง ส่วนเขตสังฆาวาส

มีอาคารหมู่กุฏิคณะต่างๆ และอาคารเจ้าพระยานิกรบดินทร


ล�าดับเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร


ในระยะเวลา ๑๘๔ ปีที่ผ่านมา นับแต่พุทธศักราช ๒๓๗๙ พระบาทสมเด็จพระ

นั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดให้อาราธนาพระพิมลธรรม (พร) จากวัดราช

บูรณะ จังหวัดกรุงเทพมหานคร�มาเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ ๑ นับถึงปัจจุบัน มีเจ้าอาวาส

๑๐ รูป ดังนี้
๑. พระพิมลธรรม (พร) พ.ศ.๒๓๗๙ – ๒๓๘๕

๒. พระญาณรังสี (สิน) พ.ศ.๒๓๘๕ – ๒๓๙๔

๓. พระธรรมเจดีย์ (เนียม ป.ธ. ๓) พ.ศ.๒๓๙๔ – ๒๔๒๖
๔. พระปริยัติบัณฑิต (ครุฑ ป.ธ. ๗) พ.ศ.๒๔๒๖ – ๒๔๓๖

๕. พระวิเชียรคุณาธาร (โสตถิ์) พ.ศ.๒๔๓๖ – ๒๔๓๗

๖. พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (เปีย จนฺทสิริ ป.ธ.๕) พ.ศ.๒๔๓๘ – ๒๔๖๔

๗. พระวินัยกิจโกศล (ตรี จนฺทสโร ป.ธ.๗) พ.ศ.๒๔๖๔ – ๒๔๘๙

๘. พระราชปริยัติ (สุวรรณ โฆสโก ป.ธ.๘) พ.ศ.๒๔๙๒ – ๒๕๒๘

๙. พระราชสังวรวิมล (พร ยโสธโร ป.ธ.๗) พ.ศ.๒๕๒๙ – ๒๕๔๒

๑๐. พระพรหมกวี (พงศ์สันต์ ธมฺมเสฏฺโ ป.ธ.๙) พ.ศ.๒๕๔๕ – ปัจจุบัน







30




������������������������ 2563 ������������.indd 30 21/10/2563 BE 13:44

ประวัติ


พระพรหมกวี (พงศ์สันต์ ธมฺมเสฏฺโฐ ป.ธ.๙)


วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร








































ชื่อ พระพรหมกวี (พงศ์สันต์ ธมฺมเสฏฺโ) อายุ ๖๕ ปี พรรษา ๔๕

วิทยฐานะ ป.ธ. ๙ น.ธ.เอก วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร แขวงวัดกัลยาณ์

เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร

ปัจจุบันด�ารงต�าแหน่ง

๑. เจ้าคณะภาค ๑๓ รก.
๒. เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร



สถานะเดิม ช่อ พงศ์สันต์ (ประกอบ) นามสกุล วงศ์พรนิมิตร เกิดวัน ๗ ฯ ๖ ปีมะแม
๑๕
ตรงกับวันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๘
บิดาชื่อ นายวงษ์ มารดาชื่อ นางกิมล้วน

บ้านเลขที่ ๘ หมู่ที่ ๒ ต�าบลท่าไม้ อ�าเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร


31




������������������������ 2563 ������������.indd 31 21/10/2563 BE 13:44

บรรพชา วัน ๓ ฯ ๖ ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๙
๑๓
ณ วัดดอนไก่ดี ต�าบลตลาด อ�าเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

พระอุปัชฌาย์ พระสมุทรคุณาจารย์ (ฮะ จนฺทสโร)

ที่ปรึกษาเจ้าคณะ จังหวัดสมุทรสาคร วัดดอนไก่ดี ต�าบลตลาด

อ�าเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

อุปสมบท วัน ๑ ฯ ๘ ปีมะโรง ตรงกับวันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๙

ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม แขวงพระบรมมหาราชวัง

เขตพระนคร กรุงเทพฯ
พระอุปัชฌาย์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินฺธโร ป.ธ.๙)

วัดสามพระยา แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

พระกรรมวาจาจารย์ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม ฐานิสฺสโร ป.ธ.๙)

(ขณะด�ารงสมณศักดิ์ ที่ พระธรรมปิฎก) วัดชนะสงคราม

แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

พระอนุสาวนาจารย์ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ ป.ธ.๙)

(ขณะด�ารงสมณศักดิ์ ที่ พระธรรมธีรราชมหามุนี)
วัดปากน�้า แขวงปากคลอง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ

วิทยฐานะ พ.ศ. ๒๕๐๙ ส�าเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนบ้านปล่องเหลี่ยม

อ�าเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

พ.ศ. ๒๕๐๙ สอบได้นักธรรมตรี ส�านักเรียนวัดดอนไก่ดี

อ�าเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

พ.ศ. ๒๕๑๐ สอบได้นักธรรมโท ส�านักเรียนวัดไร่ขิง

อ�าเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
พ.ศ. ๒๕๑๒ สอบได้ประโยค ๑-๒ ส�านักเรียนวัดไร่ขิง

อ�าเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

พ.ศ. ๒๕๑๓ สอบได้ น.ธ.เอก และป.ธ.๓ ส�านักเรียนวัดชนะสงคราม

เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร





32




������������������������ 2563 ������������.indd 32 21/10/2563 BE 13:44

พ.ศ. ๒๕๑๙ สอบได้ ป.ธ.๙ ส�านักเรียนวัดชนะสงคราม
เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

ความรู้พิเศษ พ.ศ. ๒๕๒๙ สอบได้ปริญญาเอก (สาขาประวัติศาสตร์เอเชียโบราณ)

มหาวิทยาลัยมคธ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย

พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้รับปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์

สาขาวิชาพระพุทธศาสนาจาก

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

พ.ศ. ๒๕๕๗ ได้รับปริญญาศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
สาขาวิชาพุทธศาสน์ศึกษา

จากมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย จังหวัดนครปฐม

งานปกครอง พ.ศ. ๒๕๒๙ เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร

เขตพระนคร กรุงเทพฯ

พ.ศ. ๒๕๓๑-๒๕๔๐

เป็นเลขานุการเจ้าคณะภาค ๑๓

(สมเด็จพระมหาธีราจารย์)

พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นรองเจ้าคณะภาค ๑๓
พ.ศ. ๒๕๔๐-ปัจจุบัน

เป็นเจ้าคณะภาค ๑๓ ปกครองคณะสงฆ์ในเขตจังหวัด

ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

พ.ศ. ๒๕๔๒ เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.๒๕๔๕-ปัจจุบัน

ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง
วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร


สมณศักดิ์ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๐
ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ

ที่ พระเมธีวราลังการ





33




������������������������ 2563 ������������.indd 33 21/10/2563 BE 13:44

๕ ธันวาคม ๒๕๓๕
ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราช

ที่ พระราชปริยัติเมธี ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร

บวรสังฆาราม คามวาสี

๕ ธันวาคม ๒๕๔๑

ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ

ที่ พระเทพเวที ศรีธรรมสาธก ตรีปิฎกบัณฑิต
มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

๕ ธันวาคม ๒๕๔๖

ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม

ที่ พระธรรมเจดีย์ ศรีปริวรรติโกศล โสภณธรรมสาธก

ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาส ี

๕ ธันวาคม ๒๕๕๗
ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์

เป็นรองสมเด็จพระราชาคณะ ที่ พระพรหมกวี สีลาจาร

โสภณวิมลศาสนกิจวิธาน ไพศาลปริยัตินายก

ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี































34




������������������������ 2563 ������������.indd 34 21/10/2563 BE 13:44

ภาคผนวก























พระอุโบสถ





ต้งอยู่ข้างพระวิหารหลวงด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ท่ต้งพระอุโบสถเดิมเป็นบ้าน
ของเจ้าพระยานิกรบดินทร (โต กัลยาณมิตร) สร้างเมื่อพุทธศักราช ๒๓๗๐ เป็นอาคาร
ก่ออิฐถือปูน กว้าง ๒๐.๘๘ เมตร ยาว ๓๐.๙๐ เมตร ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบ

จีน ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ประดับหน้าบันปั้นลายดอกไม้ กระเบื้องเคลือบสลับ

สีลายจีน ซุ้มประตูหน้าต่างปั้นลายดอกไม้ประดับกระจก ภายในพระอุโบสถมีภาพ




จิตรกรรมฝาผนังเก่ยวกับพุทธประวัติ และรูปเคร่องบูชาอย่างม้าหมู่แบบ ไทยปนจีน ซ่ง









เขยนตามแบบฝาผนงพระอโบสถวดราชโอรส (ปจจบนบางส่วนไดลบเลอนไป) เสาเขยน











ลายทรงขาวบณฑ์ บรเวณหนาพระอโบสถมซมเสมาและศลาสลักจากประเทศจนประดบ

เป็นระยะๆ ซุ้มเสมารอบพระอุโบสถทาด้วยศิลาสลักลวดลายสวยงาม และตุ๊กตาหินจาก

เมืองจีน หลังพระอุโบสถมีเจดีย์เหลี่ยมย่อมุม ๑๒ ตั้งบนฐานทักษิณสูง เข้าใจว่าจะสั่ง


ทาสาเร็จมาจากเมืองจีน ด้วยเน้อหินเป็นของมาจากเมืองจีนและมีฝีมือช่างจีนปรากฏ

เห็นได้ชัด ข้างเจดีย์องค์นี้มีเจดีย์ทรงกลมแบบรัชกาลที่ ๔ ตั้งอยู่เคียงกัน
พระพุทธปฏิมาประธานในพระอุโบสถ
เป็นพระพุทธรูปหล่อปางปาลิไลยก์ พระอังสา กว้าง ๖๐ เซนติเมตร วัดฐานบัว
ถึงพระเกศสูง ๓.๗๐ เมตร จากพระบาทถึงพระเกศสูง ๕.๖๕ เมตร ประดิษฐานเป็น
พระประธานในพระอุโบสถ เล่ากันว่าเดิมเจ้าพระยานิกรบดินทร (โต กัลยาณมิตร)ด�าริ

จะสร้างพระพุทธรูปปางอ่นเป็นพระประธาน แต่ยังมิทันได้จัดการสร้าง พระบาทสมเด็จ
พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างพระประธานปางปาลิไลย์พระราชทานช่วยก่อน
35

������������������������ 2563 ������������.indd 35 21/10/2563 BE 13:44

พระวิหารหลวง



ตั้งอยู่กลางวัดกัลยาณมิตร ระหว่างพระอุโบสถกับพระวิหารน้อย หันหน้าไป

ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สู่แม่น้าเจ้าพระยา สร้างขึ้นเมื่อพุทธศักราช ๒๓๘๐ ได้รับ

พระมหากรุณาจากพระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างพระราชทานช่วย

เป็นพระวิหารที่ใหญ่และสร้างได้สัดส่วน สวยงาม การก่อสร้างวางรากฐานโดยไม่ได้

ตอกเสาเข็ม ใช้วิธีขุดพื้นรูปสี่เหลี่ยมฐานกว้าง ใช้ไม้ซุงทั้งท่อนเรียงทับซ้อนกัน ๒ – ๓

ชั้น พระวิหารมีขนาดกว้าง ๓๑.๔๒ เมตร ยาว ๓๕.๘๔ เมตร ลักษณะก่อสร้างเป็นรูป

แบบสถาปัตยกรรมไทยก่ออิฐถือปูนหลังคามุงกระเบื้องเคลือบ ประดับช่อฟ้า ใบระกา

หางหงส์ เชิงชาย หน้าบันท�าด้วยไม้แกะสลักลายดอกไม้ลงรักปิดทอง ประดับกระจก

ประตูหน้าต่างเป็นไม้สักหนาแผ่นเดียวเขียนเป็นลายรดน�้า ลายทองรูปธรรมบาล ด้าน
ในมีผนังลายดอกไม้ ปัจจุบันเลือนไปมาก


เสาภายในพระวิหารเขียนเป็นลายดอกไม้ตั้งแต่พื้นจดเพดาน เขียนเมื่อพุทธ
ศักราช ๒๔๓๙ ในรัชกาลที่ ๔ ด้านหน้าพระวิหารหลวงมีซุ้มประตูหิน และตุ๊กตาหิน

ศิลปะจีนตั้งเรียงรายอยู่


พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโต


หลวงพ่อโตวัดกัลยาณมิตร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ปางมารวิชัย หน้าตัก

กว้าง ๑๑.๗๕ เมตร สูง ๑๕.๔๕ เมตร มีประวัติความเป็นมาว่า เจ้าพระยานิกรบดินทร

(โต กัลยาณมิตร) ครั้งยังเป็นพระยาราชสุภาวดี สร้างวัดกัลยาณมิตรนั้น พระบาท

สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างขึ้น สันนิษฐานถึงมูลเหตุที่โปรดเกล้าฯ ให้


36




������������������������ 2563 ������������.indd 36 21/10/2563 BE 13:44

สร้างได้หลาย ประการ เช่น


๑.ทรงมีพระราชประสงค์จะให้มพระพุทธรูปองค์ใหญ่�ในกรุงรัตนโกสินทร์


เหมือนท่กรุงเก่า คือกรุงศรีอยุธยา ซ่งมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ท่วัดพนัญเชิง

๒. เพื่อให้เหมาะสมกับชื่อเดิมของเจ้าพระยานิกรบดินทร เพราะท่านมีนามเดิม
ว่า โต

๓. สมเด็จพระบรมราชชนก คือรัชกาลที่ ๒ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์ใหญ่ ไว้
ที่วัดแจ้ง (คือพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามในปัจจุบัน) ถ้าพระองค์จะโปรดเกล้าฯ ให้

สร้างเจดีย์อีกจะเป็นการซ้าซ้อน จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธรูปองค์โตและสร้าง

พระวิหารหลวง ซึ่งเป็นวิหารที่สูงสุดในสมัยนั้น เมื่อสร้างเสร็จแล้วจึงได้พระราชทาน

นามถวายพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระโต ชาวจีนเรียกว่า ซ�าปอกง

พระราชพงศาวดารรัชกาลที่ ๓ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์กล่าวว่า พระบาท

สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จมาก่อพระฤกษ์ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พุทธ

ศักราช ๒๓๘๐ ไม่ปรากฏว่าสร้างอยู่กี่ปี ส�าเร็จแล้วก็พระราชทานนามว่า “พระโต”

ต่อมาในรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามใหม่ว่า

พระพุทธไตรรัตนนายก หมายถึง เป็นผู้ใหญ่หรือผู้น�า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

(ไตรรัตน์ คือ แก้ว ๓ ประการ) ชาวจีนเรียกว่า ซ�าปอกง หรือซ�าปอฮุดกง อาจหมาย
ถึงหลวงปู่ผู้ ยิ่งใหญ่ทั้งสาม (ซ�า แปลว่า สาม, ป้อ แปลว่า สูงส่ง ยิ่งใหญ่, ฮุด แปลว่า

พระ, กง หรือก๋ง แปลว่า ปู่ ผู้เฒ่า หรือผู้ใหญ่)

ต�านานซ�าปอกง เล่าว่า ซ�าปอกงหรือเจิ้งเหอ เดิมชื่อว่า หม่าเหอ เกิดใน

ครอบครัวชาวมุสลิมที่เมืองคุนหยาง มณฑลยูนนานตอนใต้ประเทศจีน ต่อมา ค.ศ.

๑๓๘๑ เกิดสงคราม กวาดล้างกองก�าลังมองโกลที่ปักหลักอยู่ในแถบยูนนาน ท่ามกลาง

ความวุ่นวายของสงคราม หม่าเหอ วัย ๑๑ ปี ตกเป็นเชลยศึก ถูกส่งตัวเข้ามาเป็นขันที

เพื่อท�างานรับใช้ในกองทัพ

หม่าเหอ ติดตามกองทัพเข้าร่วมในสมรภูมิรบจนอายุ ๑๙ ปี ได้มารับใช้ เอี้ยน

หวัง จูตี้ องค์ชายสี่แห่งราชวงศ์หมิงที่ปักกิ่ง นับแต่นั้น หม่าเหอ ก็ติดตามอยู่ข้างกาย

เอี้ยนหวัง จูตี้ กลายเป็นคนสนิท ได้รับความไว้วางใจมาก หม่าเหอได้สร้างความดี



37




������������������������ 2563 ������������.indd 37 21/10/2563 BE 13:44

ความชอบไว้มาก โดยเฉพาะช่วยให้จูตี้ได้ก้าวขึ้นครองบัลลังก์เป็นจักรพรรดิหมิงเฉิง
จู่ ในที่สุดหม่าเหอ ได้รับการเลื่อนฐานะเป็นหัวหน้าขันที ได้รับพระราชทานแซ่เจิ้ง จึง

กลายเป็นเจิ้งเหอ หรือที่รู้จัก กันในนาม ซ�าปอกง

การที่เจิ้งเหอเป็นบุคคลที่จูตี้ให้ความไว้วางใจมากที่สุด ทั้งจากการเป็นขันทีคน

สนิทและความดีความชอบหนุนจูตี้ขึ้นสู่บัลลังก์ จึงได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการ

กองเรือขนาดใหญ่ออกเดินทางไปในมหาสมุทรอันกว้างไกล เล่ากันว่านอกจากจะเป็น

การเดินทางเพื่อประโยชน์ทางการค้า การเผยแพร่ความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรจีนแล้ว

ยังแฝงนัยส�าคัญทางการเมืองและการสืบราชบัลลังก์ ค้นหาร่องรอยของอดีตจักรพรรดิ

หมิงฮุ่ยตี้ เพื่อสร้างความมั่นคงและมั่นใจแก่ราชบัลลังก์ของจูตี้ ว่าหมิงฮุ่ยตี้จะไม่มา

เป็นหอกข้างแคร่

การเดินทางออกสู่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ของเจ้งเหอ ๗ ครั้งในรอบ ๒๘ ปีเป็น


ท่เล่องลือไปท่ว กองเรือและการเดินทางของเจ้งเหออาจกล่าวได้ว่า เป็นการเดินทาง





คร้งย่งใหญ่ของประวัติศาสตร์การเดินเรือของโลก นามาซ่งความสาเร็จทางการทูตและ



ทางเศรษฐกิจ ทาให้ชาวจีนกลายเป็นมหาอานาจทางเอเชียอาคเนย์ อินเดีย และ


แอฟริกา แต่บันทึกเร่องราวการเดินทางท่เป็นลายลักษณ์อักษรโดยตรงแทบไม่มีหลง



เหลือ ความรุ่งเรืองทางทะเลของจีนจึงจบส้นลงพร้อมกับการจากไปของเจ้งเหอผู้ย่งใหญ่


ต�านานที่เล่าขานกันต่อมาหลายร้อยปี จึงกลายมาเป็นซ�าปอกง หรือที่คนไทย
รู้จักกันในนาม หลวงพ่อโต เป็นที่เคารพสักการบูชาทั้งคนจีนคนไทยและคนไทยเชื้อ
สายจีนทั่วประเทศ ซึ่งในประเทศไทยมีซ�าปอกงองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่เพียง ๓ แห่ง
เท่านั้น ผู้ที่ไปกราบไหว้สักการบูชาซ�าปอกงส่วนใหญ่ นอกจากจะกราบไหว้เพื่อความ
เป็นสิริมงคลแล้ว ยังนิยมไปกราบไหว้เพื่อให้รุ่งเรืองทางด้านการค้าพาณิชย์ มีโชคลาภ

และประสบแต่โชคดีในการเดินทาง

ซ�าปอกง องค์แรก อยู่ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลวง

พ่อโตวัดพนัญเชิง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๒๐ เมตร สูง ๑๙ เมตร

เป็นหน่งในพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง�ท่ชาวไทยเคารพนับถือมาช้านานหลายร้อยปี


เพราะความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโตเป็นที่ร�่าลือไปไกล มีผู้เลื่อมใสศรัทธาทั้งชาวไทย



38




������������������������ 2563 ������������.indd 38 21/10/2563 BE 13:44

และชาวต่างชาติต่างเดินทางมาสักการบูชาจ�านวนมาก

ซ�าปอกง องค์ที่ ๒ อยู่ที่วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น

ปางมารวิชัยที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ถือเป็นที่เคารพสักการะคนไทยและคนไทยเชื้อ
สายจีนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน และวันทิ้งกระจาด


ซ�าปอกง องค์ที่ ๓ อยู่ที่วัดอุภัยภาติการาม อ�าเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัด

ฉะเชิงเทรา ถนนศุภกิจใกล้ตลาดบ้านใหม่ เดิมวัดนี้เป็นวิหารลักษณะศาลเจ้า ปัจจุบัน
แปรสภาพเป็นวัดญวนในลัทธิมหายาน มีชาวพุทธแวะเวียนไปกราบไหว้กันไม่ได้ขาด

ส่วนใหญ่ก็จะไปขอให้ท�ามาค้าขึ้น กิจการรุ่งเรืองก้าวหน้า


พระวิหารน้อย


เริ่มก่อสร้างเมื่อ พุทธศักราช

๒๓๗๐ ส�าเร็จพร้อมกับพระอุโบสถ

เมื่อ พุทธศักราช ๒๓๗๘ ตั้งอยู่
ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ

พระวิหารหลวง ขนาดรูปทรงเดียว

กับพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐาน

พระพุทธรูปปางต่างๆ จ�านวนมาก


พระประธานในพระวหารน้อยเป็น
พระพุทธรูปปางมารวิชัย ภายในมีภาพเขียนพุทธประวัติที่มีความส�าคัญด้านศิลปะ

และประวัติศาสตร์ ฝีมือช่างศิลปกรรมสมัยรัชกาลที่ ๓ เป็นศิลปะชิ้นเอกของวัด พระ
วิหารน้อยมีลักษณะศิลปะแบบราชนิยม เช่นเดียวกับพระอุโบสถ


หอพระธรรมมณเฑียรเถลิงพระเกียรติ


พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อพุทธ

ศักราช ๒๔๐๘ แทนหอไตรเดิม สร้างไว้ ณ ที่ซึ่งเคยเป็นที่จอดแพของสมเด็จพระเจ้า

บรมวงศ์เธอ กรมพระศรีสุดารักษ์ เพื่อเป็นที่เก็บพระไตรปิฎกและคัมภีร์ต่างๆ






39




������������������������ 2563 ������������.indd 39 21/10/2563 BE 13:44

เจดีย์บรรจุอัฐิเจ้าพระยานิกรบดินทร


(โต กัลยาณมิตร)

สร้างเมื่อพุทธศักราช ๒๔๐๗ เป็นเจดีย์เหลี่ยม

ย่อมุมไม้สิบสอง ตั้งบนฐานแปดเหลี่ยม ประดับ

หินอ่อน มีก�าแพงแก้วล้อมรอบ บันไดขึ้นลง ๒ ข้าง

และมีปรางค์หินแบบจีน (ถะ) ทั้ง ๔ มุม ตั้งอยู่ทาง

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของศาลาตรีมุข





เจดีย์บรรจุอัฐิเจ้าพระยารัตนบดินทร

(รอด หรือ บุญรอด กัลยาณมิตร)


ท่านเป็นบุตรของเจ้าพระยานิกรบดินทร

(โต กัลยาณมิตร) ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆังคว�่าสี

ขาว�ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังพระวิหารหลวง













เจดีย์เหลี่ยมยอดปรางค์


ส่วนบนเป็นถะ ยอดบนสูงสุดท�าเป็น

ปรางค์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ
ศาลาตรีมุข คู่กับเจดีย์บรรจุอัฐิเจ้าพระยา

นิกรบดินทร (โต กัลยาณมิตร)









40




������������������������ 2563 ������������.indd 40 21/10/2563 BE 13:44

ศาลาการเปรียญ


ตั้งอยู่มุมวัดด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เดิมสร้างด้วยไม้ มี ๕ ห้อง รัชกาล
ที่ ๓ โปรดให้สร้างพระราชทานช่วยเจ้าพระยานิกรบดินทร (โต กัลยาณมิตร) ปัจจุบัน

สร้างขึ้นใหม่ ณ สถานที่เดิม เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน


ศาลาเก๋งจีน

มี ๒ หลัง ตั้งอยู่ ๒ ข้างถนนหน้าพระวิหารหลวง เป็นศาลาก่ออิฐ ถือปูน มี

พาไลรอบ

ศาลาตรีมุข


อยู่หน้าพระวิหารหลวงต่อกับก�าแพงแก้ว หน้าบันสลักรูปเทพบุตร ประดับ

กระจกสี พระหัตถ์ถือสมุด ประทับยืนในเรือนแก้ว


หอระฆัง

ต้งอยู่ทางทิศเหนือของพระวิหารหลวงและหอพระธรรมมณเฑียรเถลิงพระ

เกียรติ ผู้สร้างคือพระสุนทรสมาจาร (พรหม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เมื่อพุทธศักราช ๒๔๗๔

เป็นฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ ๗ และรัชกาลที่ ๘ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม กว้าง ๙ เมตร

สูง ๓๐ เมตร ชั้นบนของหอระฆังประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ชั้นล่างแขวน

ระฆังใบใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๑๙๒ เซนติเมตร หล่อโดยช่าง

ชาวญี่ปุ่น ชื่อ ฟูยีวารา

























41




������������������������ 2563 ������������.indd 41 21/10/2563 BE 13:44

โลหะปราสาท






















































พระมหาแสง สิวโร

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชนัดดาราม วรวิหาร

เรียบเรียง















42




������������������������ 2563 ������������.indd 42 21/10/2563 BE 13:44

โลหะปราสาท หมายถึง ปราสาทที่มียอดเป็นโลหะ เป็นชื่อดั้งเดิมของอินเดีย
เรียกมาแต่ครั้งพุทธกาล มีอยู่ ๓ แห่งๆ แรกสร้างขึ้นในประเทศอินเดีย แห่งที่ ๒ สร้าง



ข้นในประเทศศรีลังกา และแห่งท่ ๓ สร้างข้นในประเทศไทย ปัจจุบันโลหะปราสาท

วัดราชนัดดารามวรวิหาร เป็นโลหะปราสาทที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในโลก เนื่องจาก
โลหะปราสาททั้งสองแห่งก่อนหน้านั้นได้เสื่อมสลายไปตามกาลเวลา

โลหะปราสาทแห่งแรก สร้างโดย นางวิสาขา มหาอุบาสิกา บุตรีธนัญชัย


เศรษฐี โดยการประมูลราคาเคร่องประดับของตนช่อ “มหาลดาประสาธน์” เป็น

จ�านวน ๙ โกฏิ ๑ แสน แล้วน�าเงินสร้างถวาย ณ วัดบุพพาราม ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับ

เชตวันมหาวิหาร เมืองสาเกต ด้านทิศตะวันออกของกรุงสาวัตถี มัธยมประเทศ (อินเดีย)

ให้เป็นที่อยู่แก่พระสงฆ์ มีลักษณะเป็นปราสาทใหญ่ ๒ ชั้น ชั้นละ ๕๐๐ ห้อง รวมเป็น
๑,๐๐๐ ห้อง ยอดปราสาทบรรจุน�้าได้ ๖๐ หม้อ บุด้วยทองค�าสีสุก พระพุทธเจ้าทรง

มอบหมายให้พระมหาโมคคัลลานเถระ เป็นนวกัมมาธิฏฐายี คือ ผู้ควบคุมดูแลการ

ก่อสร้าง ภายในมีลานส�าหรับพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม ชื่อว่า “มิคารมาตุปราสาท”


หรือเรียกกันโดยท่วไปตาม ลักษณะว่า “โลหะปราสาท” ปัจจุบันปราศจากร่องรอยแล้ว

โลหะปราสาทแห่งท่ ๒ สร้างโดย พระเจ้าทุฏฐคามณีอภัย กษัตริย์แห่ง
กรุงอนุราธปุระ ประเทศศรีลังกา เมื่อประมาณพุทธศักราช ๓๘๒ พระองค์เป็นพระราช

นัดดาของพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ ทรงอ่านพบจารึกแผ่นทองคาและแบบเขียนทิพย











วมาน ดงกลาว จงเกดความโสมนส และดารสร้างโลหะปราสาท โปรดประชมสงฆ์ทเมฆ

วันมหาวิหาร มอบหมายให้คณะสงฆ์ออกแบบ มีความกว้างด้านละ ๑๐๐ ศอก มีเสา
หินทั้งสิ้น ๑,๖๐๐ ต้น มี ๙ ชั้น มีห้อง ๑,๐๐๐ ห้อง ชั้นหนึ่งๆ มีเรือนยอดชั้นละ ๑๐๐
หลัง ล้วนแต่ประดับประดาด้วยแก้วมณี และของมีค่าท้งส้น ตัวปราสาทสร้างด้วยไม้


ประดับหินมีค่าและงาช้าง ปราสาทน้นมีส่งลาค่าอยู่ ๔ ประการ คือ ตัวปราสาท ๑




เศวตฉัตร ๑ บัลลังก์ ๑ มณฑป ๑ ซุ้มประตูก่อก�าแพงแก้วสวยงาม หลังคามุงด้วยแผ่น
ทองแดง ด้วยเหตุนี้จึง เรียกว่า “โลหะปราสาท” พระสงฆ์อาศัยอยู่แต่ละชั้นตามความ
รู้ของตน คือผู้มีคุณวิเศษสูง อยู่ชั้นบนลดหลั่นรองลงมาตามล�าดับ ผังของอาคารจะเป็น






รูปส่เหล่ยมจัตรัส ชนล่างเป็นเสาหินรองรับตัวปราสาทซงเป็นอาคารไม้ทงหมด และ



43
������������������������ 2563 ������������.indd 43 21/10/2563 BE 13:44

เป็นที่แสดงธรรม เนื่องจากหลังคาโลหะปราสาทมุงด้วยแผ่นทองแดง เมื่ออสุนีบาตตก

จึงเกิดไฟไหม้ เป็นเหตุให้โลหะปราสาทได้รับ ความเสียหายหลายคร้ง หลังจากน้น


พระเจ้าสัทธาติสสะโปรดให้สร้างใหม่สูงเพียง ๗ ช้น ต่อมาโลหะปราสาทปรักหักพังหมด
สิ้น ปัจจุบันเหลือแต่ซากเสาหินให้เห็นเป็นอนุสรณ์

โลหะปราสาทหลังที่ ๓ สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว


อันเป็นยุคท่การค้าพาณิชย์เฟื่องฟูมีการติดต่อการค้าขายกับประเทศต่างๆ มากมาย จน
ได้รับการกล่าวขนานสมญานามของพระองค์ท่านว่า“KING OF COMMERCE” ชาว

ต่างประเทศได้กล่าวขานเล่าลือถึงความวิจิตรของวัด โบสถ์ โบราณสถานของชาติต่างๆ


โดยเฉพาะโลหะปราสาทของประเทศศรีลังกา พระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรง


อ่มเอมพระราชหฤทัยท่ได้ทรงทราบข่าว จึงโปรดให้ช่างออกแบบก่อสร้างตามลักษณะ
ของแบบโลหะปราสาทที่พรรณนาไว้ในคัมภีร์มหาวงศ์ พงศาวดารลังกา

ในพุทธศักราช ๒๓๘๙ พระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราช


ประสงค์จะสร้างโลหะปราสาทไว้ให้อนุชนรุ่นหลังรู้จักและเพ่อเป็นเกียรติแก่พระนคร
สืบไป จึงได้โปรดฯให้สร้างขึ้นที่วัดราชนัดดารามวรวิหาร เป็นประธานของพระอาราม

แทนคติการสร้างพระมหาเจดีย์ โดยกาหนดให้ต้งอยู่บริเวณศูนย์กลางของวัด เป็นอาคาร


หลักที่สูงที่สุด มีแผนผังรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเช่นเดียวกับโลหะปราสาท ณ กรุงอนุราธปุระ

ประเทศศรีลังกา ฐานกว้างด้านละ ๒๓ วา เป็นปราสาท ๗ ชั้น ลดหลั่นกัน การสร้าง



โลหะปราสาทน้น สันนิษฐานว่ามีพระราชประสงค์เพ่อให้เป็นอุเทสิกเจดีย์และเป็นท ่ ี
ปฏิบัติธรรมกรรมฐานของพระสงฆ์ตามแบบอย่างโลหะปราสาทหลังที่ ๒


โดยทรงมอบหมายให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาต (ทัต บุนนาค)
ขณะดารงตาแหน่งพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา อธิบดีกรมช่างสิบหมู่และช่างศิลา


เป็นแม่กองกากับการสร้างโลหะปราสาท การออกแบบก่อนก่อสร้างได้เล่าขานกันว่า

พระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้ช่างเดินทางด้วยเรือสาเภาไปดูแบบโลหะ


ปราสาท ณ ประเทศศรีลังกา โดยนาเค้าเดิมมาเป็นแบบแล้วปรับปรุงให้เป็น

สถาปัตยกรรม ตามลักษณะศิลปกรรมของไทย

โลหะปราสาท วัดราชนัดดาราม วรวิหาร สร้างตามลักษณะสถาปัตยกรรม




44




������������������������ 2563 ������������.indd 44 21/10/2563 BE 13:44

ไทย ฐานกว้างด้านละ ๒๓ วา เป็นปราสาท ๗ ชั้น ลดหลั่นกัน ชั้นล่าง ท�าเป็นคูหาจัตุร
มุข มีซุ้มคูหาโดยรอบ ๓๒ ซุ้ม ชั้นที่ ๓ และชั้นที่ ๕ ท�าเป็นคูหาระเบียงรอบ ส่วนชั้นที่

๒ ชั้นที่ ๔ ท�าเป็นคูหาจัตุรมุขมียอดเป็นบุษบก ชั้นที่ ๒ มี ๑๒ ยอด ชั้นที่ ๔ มี ๒๔ ยอด







ช้นท่ ๖ ทาเป็นจัตุรมุขมีระเบียงรอบ และช้นท่ ๗ ทาเป็นยอดมณฑปจัตุรมุขสาหรับ

ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ รวมเป็น ๓๗ ยอด หมายถึงหลักธรรมในพระพุทธ
ศาสนา ๓๗ ประการ ที่เป็นปัจจัยให้ด�าเนินไปสู่ความหลุดพ้น เรียกว่า “โพธิปักขิย
ธรรม ๓๗ ประการ”


โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ เป็นหลักธรรมสาคัญของพระพุทธศาสนาท่ช่วย
ให้บรรลุถึงพระโพธิญาณ ประกอบด้วยหลักปฏิบัติ ๗ หมวดธรรมะ คือ





สตปฏฐาน ๔ คือ การกาหนดสติพจารณาธรรมทเป็นกุศลและอกุศล ๔ ประการ


ได้แก่ กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน
และธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน
สัมมัปปธาน ๔ คือ การประกอบความเพียรให้มีในตน ๔ ประการ ได้แก่

สังวรปธาน ปหานปธาน ภาวนาปธาน อนุรักขนาปธาน

อิทธิบาท ๔ คือ เครื่องให้ส�าเร็จความประสงค์ ๔ ประการ ได้แก่ ฉันทะ วิริยะ

จิตตะ วิมังสา

อินทรีย์ ๕ คือ ความเป็นใหญ่ ๕ ประการ ได้แก่ สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สติน

ทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์

พละ ๕ คือ ธรรมเป็นก�าลัง ๕ ประการ ได้แก่ ศรัทธาพละ วิริยะพละ สติพละ

สมาธิพละ ปัญญาพละ


โพชฌงค์ ๗ คือ องค์แห่งธรรมเป็นเคร่องตรัสรู้ ๗ ประการ ได้แก่ สติสัมโพชฌงค์

ธมมวิจย สมโพชฌงค์ วิรยสมโพชฌงค์ ปีตสัมโพชฌงค์ ปัสสทธิสมโพชฌงค์ สมาธ ิ






สัมโพชฌงค์ อุเบกขาสัมโพชฌงค์
มรรค ๘ คือ หนทางสู่ความพ้นทุกข์อันชอบ ๘ ประการ ได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมา
สังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สมมาสติ สัมมาสมาธิ




45




������������������������ 2563 ������������.indd 45 21/10/2563 BE 13:44




การข้นสู่โลหะปราสาทแต่ละช้น จะมีบันไดเวียนต้งอยู่ตรงใจกลางของปราสาท
โดยตั้งซุงต้นใหญ่ยึดเป็นแม่บันไดสูงถึงยอดปราสาท มีบันได ๖๗ ขั้น และได้น�าศิลา
แลงที่มีอยู่ในเมืองสวรรคโลกมาเป็นวัสดุก่อฐานรากและเสาอาคารด้วย

การสร้างโลหะปราสาท ดาเนินการไปถึงพุทธศักราช ๒๓๙๔ นับเวลาจากปีท ี ่

เริ่มก่อสร้างวัดราชนัดดารามวรวิหารได้ ๕ ปี งานก่อสร้างลุล่วงไปเพียงโครงก่ออิฐสลับ

ศิลาแลง และยังมิได้ถือปูนเป็นส่วนใหญ่ ส�าเร็จเพียงปราสาทโกลน ความงดงามขึ้นอยู่










กบการประดบตกแต่ง ซงเป็นรายละเอยดทจะต้องใช้เวลาและฝีมออกมาก พระบาท
สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวก็เสด็จสวรรคต


ในรชสมัยของพระบาทสมเดจพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หว ไม่ปรากฏหลักฐานเกยว



กับการบูรณปฏิสังขรณ์โลหะปราสาทแต่อย่างใด จนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระ

จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช ๒๔๔๖ โลหะปราสาท มีการชารุดปรักหักพังเสียหาย
เป็นอันมาก พระประสิทธิ์สุตคุณ (แดง เขมทตฺโต) ด�ารงต�าแหน่งเจ้าอาวาส ได้น�า
ความข้นกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทาน




พระบรมราชานุญาตบูรณปฏิสังขรณ์โลหะปราสาทตามกาลังทรัพย์ โดยเร่มบูรณะต้งแต่
ชั้นบนลงมา คือท�าพื้นก่อมณฑปโบกปูนสีแดง และตั้งฉัตรยอดเจดีย์สูงสุดและชั้นที่ ๔
ทั้งหมด ยังเหลือชั้นที่ ๒ กับพื้นชั้นล่างยังไม่แล้วเสร็จ ถึงสมัยพระญาณปริยัติ (พริ้ง)
ด�ารงต�าแหน่งเจ้าอาวาส ได้บูรณะยอดเจดีย์ชั้นที่ ๒ ส�าเร็จเพิ่มอีก ๒ ยอด และโครงการ

จะบูรณะท้งหมดโดยร่วมกับฝ่ายรัฐบาล แต่งานต้องชะงักไป เพราะกรณีพิพาทอินโดจีน
และภาวะสงครามโลกครั้งที่ ๒


จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช การบูรณปฏิสังขรณ์



โลหะปราสาทคร้งใหญ่ก็ดาเนินข้นโดยพระราชปัญญาโสภณ (สุขปญฺาร�สี) ดารง


ตาแหน่งเจ้าอาวาสร่วมกับเจ้าหน้าท่รัฐบาลหลายฝ่ายด้วยกัน โดยมี จอมพลสฤษด ์ ิ


ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในขณะน้นได้มอบหมายให้กรมโยธาเทศบาล ดาเนินการ


บูรณปฏิสังขรณ์ระหว่างพุทธศักราช ๒๕๐๖-๒๕๑๕ ทั้งนี้ ได้พยายามรักษาแบบแผน
ดั้งเดิมของโลหะปราสาทในสมัยรัชกาลที่ ๓ ไว้ให้มากที่สุดที่จะท�าได้ เพื่อความมั่นคง


แข็งแรงโดยต้งแบบทาเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กท้งหมด ยอดเจดีย์และหลังคาตกแต่งด้วย


46




������������������������ 2563 ������������.indd 46 21/10/2563 BE 13:44




ลวดลายปูนปั้นศิลปกรรมไทย ผนังทาเป็นหินล้างสีเหลือง พ้นแต่ละช้นเทคอนกรีตเสริม
เหล็กผิวขัดมันทาสีแดง ใช้เวลาในการบูรณปฏิสังขรณ์ ๙ ปี จึงแล้วเสร็จ
โลหะปราสาทวัดราชนัดดาราม น้ กรมศิลปากรได้ประกาศข้นทะเบียนเป็น


โบราณสถานที่ส�าคัญของชาติ เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๙๒



เม่อคร้งสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี ในพุทธศักราช ๒๕๒๕ คณะ

กรรมการโครงการกรุงรัตนโกสินทร์ได้มีมติให้กาหนดเป็นนโยบายในการปรับปรุงส่ง




แวดล้อมในบริเวณถนนราชดาเนินกลาง โดยให้ร้อโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทยซ่งสร้าง
บดบังโลหะปราสาท เมื่อรื้อถอนเสร็จจะท�าให้โลหะปราสาทได้เป็นที่ประจักษ์สู่สายตา

ของชาวโลกอย่างชัดเจนและสง่างามย่ง และต่อมาได้มีการจัดงานเฉลิมพระเกียรต ิ
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวในมหามงคลสมัยครบ ๒๐๐ ปี วันพระบรมราช

สมภพเมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐ รัฐบาลได้สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์

พระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัวและพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ เพ่อเป็นสถาน










ทสาคญรบพระราชอาคนตกะจากตางประเทศมาเยือนไทยอยางสมพระเกยรต ในวาระ



น้ กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาเห็นว่าถ้าได้บูรณปฏิสังขรณ์โลหะปราสาทให้งดงาม

โลหะปราสาทจะปรากฏเด่นเป็นศรีสง่าแก่พระนครอย่างย่ง และสมควรสร้างบุษบก

ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุไว้ในมณฑปยอดเจดีย์สูงสุดของโลหะปราสาท ซ่งจะ

ท�าให้โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวสมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึง
มอบหมายให้กรมศิลปากรบูรณปฏิสังขรณ์โลหะปราสาท และสร้างบุษบกโลหะปิดทอง
ไว้ในมณฑปยอดเจดีย์สูงสุดของโลหะปราสาท ซ่งเป็นเหมือนบุษบกวัดพระ

ศรีรัตนศาสดาราม
ต่อมาสมัยพระราชปัญญารังษี (เอี่ยม ธมฺมภาโร) ด�ารงต�าแหน่งเจ้าอาวาส


ได้ดาเนนงานต่อด้วยการสร้างบษบก ได้รับแรงศรัทธาจากภาคเอกชน ๒ หน่วยงาน



คือ บริษัท อเมริกันเอ็กซ์เพรส (ไทย) จากัด สนับสนุนงบประมาณในการสร้างเป็น
บุษบกโลหะ ปิดทอง และธนาคารไทยพาณิชย์สร้างผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาต

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ได้ประทาน

พระบรมสารีริกธาตุ ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช




47




������������������������ 2563 ������������.indd 47 21/10/2563 BE 13:44



สาหรับอัญเชิญมา ประดิษฐานไว้ ณ เจดีย์โลหะปราสาท โดยกาหนดการเสด็จ


พระราชดาเนินมาทรงประกอบพระราชพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุข้นสู่บุษบกบน




ยอดปราสาทน้น เป็นพระราชพิธีแรกท่ทรงบาเพ็ญพระราชกุศลเน่องในมหามงคลสมัย
ฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๘

เม่อถึงวันประกอบพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระ
กรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระ

ราชดาเนินแทนพระองค์ ไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงจุดธูปเทียนเคร่องนมัสการ


บูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ประทับพระเก้าอ้ข้างพระราชอาสน์ ทรงบาเพ็ญพระ


ราชกุศลมาฆบูชาแล้ว เจ้าหน้าที่อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์ ๓๐ รูป เจริญพระพุทธ
มนต์ จบแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชด�าเนิน

ไปทรงโปรยดอกมะลิ ๑,๒๕๐ ดอก ที่พระบรมสารีริกธาตุซึ่งประดิษฐาน ณ ธรรมาสน์




ศิลาแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเคร่องทรงธรรมท่หน้าพระราชอาสน์ ประทับพระเก้าอ้เดิม เจ้า
หน้าที่อาราธนาศีลและอาราธนาธรรม พระราชาคณะถวายศีล และถวายธรรมเทศนา
กัณฑ์ ๑ แล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงหลั่งทักษิโณทก
พระสงฆ์ถวายอนโมทนา ทรงประเคนจตปัจจยไทยธรรมบชากณฑ์เทศน์ และประทบ






ยืนประเคนใบปวารณาแด่พระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์แล้วประทับพระเก้าอี้เดิม พระ
ราชาคณะถวายอดิเรก จบแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฏราชกุมาร สรง
นาด้วยพระมหาสังข์ และทรงเจิมท่พระบรมสารีริกธาตุแล้วพระราชทานให้รัฐมนตรีช่วย



ว่าการกระทรวงศึกษาธการอัญเชิญไปยังวัดราชนดดารามวรวิหาร ต่อไป ระหว่างน้น




พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานประโคม จบแล้วทรงกราบท่หน้าเคร่อง


นมัสการทรงรับความเคารพจากผู้มาเฝ้าฯ ออกจากพระอุโบสถ เสด็จพระราชดาเนิน
กลับเวลา ๑๗ นาฬิกา ๒๖ นาที
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นเสลี่ยง










ไปประดษฐานบนบษบกราชรถ ซงเจ้าหน้าทกรมศลปากรและสานกพระราชวงจดตง




กระบวนราชอิสริยยศแห่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไว้พร้อมแล้ว เคล่อนมายังถนน


ราชดาเนินกลาง เล้ยวเข้ามาถนนมหาไชยถึงหน้าวัดราชนัดดารามวรวิหาร รัฐมนตร ี

ช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานยังแท่นหน้า
48
������������������������ 2563 ������������.indd 48 21/10/2563 BE 13:44


Click to View FlipBook Version