หลกั สตู รโรงเรียนวัดท่ากระบอื (ท่ากระบอื พิทยาคาร) พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ๙๖
คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน
ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชพี กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี
เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ความเข้าใจ การจัดการในการทำงานร่วมกัน การวางแผนเตรียมงาน ทำงาน
อย่างเป็นขั้นตอนและปลอดภัย เลือกใช้ เก็บ บำรุงรักษา และซ่อมแซมเครื่องมือ เครื่องใช้ และอุปกรณ์ที่ใช้
ในการทำงานเลือกวัสดุเหลือใช้ในชีวิตประจำวันมาสร้างสรรค์เป็นชิ้นงานอย่างคุ้มค่าต่อตนเองและส่วนรวม
รู้จักอาชีพต่างๆของคนในท้องถิ่นในจังหวัดสมุทรสาครและในกลุ่มประชาคมอาเซียน มีทักษะในการวางแผน
เตรียมงานและการทำงานตามขั้นตอน กระบวนการทำงาน มีความรับผิดชอบ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัดอดออม
ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า สามารถอภิปราย
แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันและสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข นำเสนอผลงาน
ของตนเองอย่างม่ันใจและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
มีเจตคติที่ดีต่อการทำงานมีความรับผิดชอบ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัดอดออม ตระหนักถึงความสำคัญ
ของทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมทำงาน มีคุณธรรมตามหลักศาสนาพุทธและใช้ชวี ิตพอเพียงตามศาสตร์
พระราชา
มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
ง ๑.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓
ง ๒.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒
รวม ๒ มาตรฐาน ๕ ตัวช้ีวัด
หลกั สตู รโรงเรยี นวัดทา่ กระบอื (ท่ากระบือพิทยาคาร) พทุ ธศักราช ๒๕๖๕ ๙๗
คำอธิบายรายวชิ า
กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
หลักสตู รโรงเรียนวดั ท่ากระบอื (ทา่ กระบือพิทยาคาร) พทุ ธศักราช ๒๕๖๕ ๙๘
อ ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ คำอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๑
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
เวลา ๑๖๐ ช่ัวโมง/ปี
ศึกษาทำความเข้าใจและปฏิบัติตามคำสั่งง่ายๆ ที่ใช้ในห้องเรียน การใช้ภาษาในการฟัง-พูด
ในสถานการณ์ง่ายๆ ทเี่ กิดขึน้ ในหอ้ งเรียน การระบตุ วั อกั ษร เสยี งตัวอักษร เสยี งสระของภาษาตา่ งประเทศและ
แสวงหาความรู้ความเพลิดเพลินจากภาษาต่างประเทศที่เกี่ยวกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ ตลอดจนการสื่อสารขั้นพื้นฐาน
เกี่ยวกับอาชีพต่างๆ ในท้องถิ่นของตนภาษาไทย การอ่าน ออกเสียง การสะกดคำง่ายๆ การออกเสียงพยัญชนะต้น
คำ พยัญชนะท้ายคำ การออกเสียงเน้นหนัก-เบา ในคำและกลุ่มคำ การออกเสียงตามระดับเสียง สูง-ต่ำ
ในประโยค การเลือกภาพตรงกับความหมายของคำและกลุ่มคำที่เกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน
สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว อาหาร เครื่องดื่ม และนันทนาการ (ภายในวงคำศัพท์ประมาณ ๑๕๐-๒๐๐ คำ ) การตอบ
คำถามจากเรื่องที่ฟัง ประโยคคำถามและการตอบคำถาม Yes/No Question การสนทนาโต้ตอบสั้นๆ ง่ายๆ
การใช้คำศัพท์ สำนวนภาษาและประโยคที่ใช้บอกความต้องการของตนเอง การพูดขอและให้ข้อมูลง่ายๆ
เก่ียวกบั ตนเอง บคุ คลใกล้ตวั และเรื่องใกล้ตวั จำนวนนับ ๑-๒๐ สี ขนาด ตำแหนง่ การโบกมอื การแสดงอาการ
ตอบรับหรือปฏิเสธตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา คำศัพท์เกี่ยวกับเทศกาล วันสำคัญและกิจกรรมทางภาษา
และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา การเลน่ เกม การร้องเพลง การเลา่ นทิ านประกอบท่าทางกลุ่มสาระการเรียนรู้
อ่นื การใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ทเี่ ก่ียวข้องใกลต้ ัวจากสือ่ ต่างๆ
โดยใช้ทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะ
ในการส่อื สารทางภาษา สามารถแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ขา่ วสารแสดงความรู้สกึ แสดงความคดิ เห็นได้อย่างเหมาะสม
กบั วัย
เพื่อให้เห็นความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อนำเข้าสู่อาเซยี น ใฝ่เรียนรู้ มีความภูมิใจในชาติ
และศาสนาความเป็นไทย แสวงหาความรู้ความเพลิดเพลินจากภาษาต่างประเทศที่เกี่ยวกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ
ตลอดจนการสื่อสารขั้นพื้นฐานในท้องถิ่นของตน สามารถดำรงชีวิตร่วมกับผู้อื่นโดยยึดหลักของศาสตร์
พระราชา ได้อยา่ งมีความสุข
มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั
ต ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔
ต ๑.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔
ต ๑.๓ ป.๑/๑
ต ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
ต ๒.๒ ป.๒/๑
ต ๓.๑ ป.๑/๑
ต ๔.๑ ป.๑/๑
ต ๔.๒ ป.๑/๑
รวม ๘ มาตรฐาน ๑๖ ตัวชว้ี ัด
หลกั สตู รโรงเรยี นวดั ท่ากระบอื (ทา่ กระบือพทิ ยาคาร) พทุ ธศักราช ๒๕๖๕ ๙๙
อ ๑๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ คำอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๒
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ
เวลา ๑๖๐ ช่ัวโมง/ปี
ศึกษาทำความเข้าใจและปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้องง่ายๆ ที่ใช้ในห้องเรียน การระบุตัวอักษร
เสียงตัวอักษรของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย เสียงสระ การสะกดคำ การอ่านประโยคง่ายๆ ตามหลัก
การอ่านออกเสียงการเลือกภาพให้ตรงกับความหมายของคำ กลุ่มคำและประโยคเดี่ยว เกี่ยวกับตนเอง
ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว อาหาร เครื่องดื่ม และนันทนาการ (ภายในวงคำศัพท์ประมาณ
๒๕๐-๓๐๐ คำ) การตอบคำถามจากการฟังประโยคสนทนา หรือนิทานง่ายๆ ที่มีภาพประกอบการพูดโต้ตอบ
ด้วยคำตอบสั้นๆ ง่ายๆ ในการสื่อสารระหว่างบุคคล การใช้ประโยคหรือข้อความที่ใช้แนะนำตนเอง
การใช้คำศัพท์ สำนวนภาษาและประโยคที่ใช้บอกความต้องการหรือการพูดขอและให้ข้อมูลง่ายๆ เกี่ยวกับ
ตวั เองและเรื่องใกล้ตวั การพูดและทำทา่ ทางประกอบตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา การบอกชือ่ และคำศัพท์
เกี่ยวกับเทศกาลสำคัญของเจ้าของภาษา การเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับวัย
คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนๆ การฟัง/พูด ในสถานการณ์ง่ายๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรยี น การใช้
ภาษาต่างประเทศเพ่ือรวบรวมคำศัพท์ทเ่ี ก่ยี วข้องใกล้ตวั จากส่ือตา่ งๆ
โดยใช้ทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะ
ในการสือ่ สารทางภาษา สามารถแลกเปล่ียนข้อมลู ข่าวสารแสดงความร้สู กึ แสดงความคิดเหน็ ได้อย่างเหมาะสม
กบั วัย
เพื่อให้เห็นความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อนำเข้าสู่อาเซียน ใฝ่เรียนรู้ มีความภูมิใจในชาติ
และศาสนาความเป็นไทย แสวงหาความรู้ความเพลิดเพลินจากภาษาต่างประเทศที่เกี่ยวกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ
ตลอดจนการสื่อสารขั้นพื้นฐานในท้องถิ่นของตน สามารถดำรงชีวิตร่วมกับผู้อื่นโดยยึดหลักของศาสตร์
พระราชา ไดอ้ ย่างมีความสุข
มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด
ต ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ต ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ต ๑.๓ ป.๒/๑
ต ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓
ต ๒.๒ ป.๒/๑
ต ๓.๑ ป.๒/๑
ต ๔.๑ ป.๒/๑
ต ๔.๒ ป.๒/๑
รวม ๘ มาตรฐาน ๑๖ ตัวช้ีวัด
หลักสตู รโรงเรยี นวัดทา่ กระบอื (ทา่ กระบอื พทิ ยาคาร) พุทธศักราช ๒๕๖๕ ๑๐๐
อ ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ คำอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๓
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง/ปี
ศึกษาทำความเข้าใจคำสั่ง คำขอร้องที่ใช้ในห้องเรยี น การอ่านออกเสียง คำ กลุ่มคำ ประโยคเดี่ยว
และบทพูดเข้าจังหวะ การสะกดคำตามหลักการอ่านออกเสียง และการใช้พจนานุกรม การเลือก/ระบุภาพ
ให้ตรงกับความหมายของคำ กลุ่มคำและประโยคเดี่ยว เกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อมใกลต้ ัว
อาหาร เครื่องดื่ม และนันทนาการ (ภายในวงคำศัพท์ประมาณ ๓๕๐-๔๐๐ คำ) การตอบคำถามจากการฟัง
ประโยคสนทนา หรือนิทานงา่ ยๆ ทีม่ ีภาพประกอบการพูดโตต้ อบดว้ ยคำตอบสั้นๆ ง่ายๆ ในการสอ่ื สารระหว่าง
บุคคล การใช้ประโยคหรือข้อความที่ใช้แนะนำตนเอง การใช้คำสั่ง คำขอร้องง่ายๆ ที่ใช้ในห้องเรียน การใช้
คำศพั ท์ สำนวนภาษาและประโยคท่ีใช้บอกความต้องการหรือการพูดขอและให้ข้อมูลง่ายๆ เกย่ี วกับตัวเองและ
เรื่องใกล้ตัว คำและประโยคที่ใช้แสดงความรู้สึกเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ใกล้ตัว หรือกิจกรรมต่างๆ คำและประโยค
ท่ีใช้ในการพูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง บุคคลใกล้ตัว และเรื่องใกล้ตัว คำ กลุ่มคำ สัตว์ และสิ่งของ การพูด
และทำท่าประกอบตามมารยาทสังคม วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา คำศัพท์เกี่ยวกับเทศกาล วันสำคัญ
งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา การเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม
การเปรยี บเทียบความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คำ กล่มุ คำ และประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
การค้นคว้า การรวบรวม และการนำเสนอคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ การใช้ภาษา
ในการฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา การใช้ภาษาต่างประเทศ
ในการสบื คน้ และการรวบรวมคำศพั ทท์ เ่ี กี่ยวข้องใกล้ตัวจากส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ตา่ งๆ
โดยใช้ทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะ
ในการสอ่ื สารทางภาษา สามารถแลกเปลยี่ นขอ้ มูลข่าวสารแสดงความรสู้ กึ แสดงความคดิ เห็นได้อย่างเหมาะสม
กับวัย
เพื่อให้เห็นความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อนำเข้าสู่อาเซียน ใฝ่เรียนรู้ มีความภูมิใจในชาติ
และศาสนาความเป็นไทย แสวงหาความรู้ความเพลิดเพลินจากภาษาต่างประเทศที่เกี่ยวกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ
ตลอดจนการสื่อสารขั้นพื้นฐานในท้องถิ่นของตน สามารถดำรงชีวิตร่วมกับผู้อื่นโดยยึดหลักของศาสตร์
พระราชาไดอ้ ยา่ งมีความสุข
มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด ต ๑.๒ ป.๓/๑ - ป.๓/๕
ต ๑.๑ ป.๓/๑- ป.๓/๔ ต ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
ต ๑.๓ ป.๓/๑, ป.๓/๒ ต ๓.๑ ป.๓/๑
ต ๒.๒ ป.๓/๑ ต ๔.๒ ป.๓/๑
ต ๔.๑ ป.๓/๑
รวม ๘ มาตรฐาน ๑๘ ตัวชี้วดั
หลักสตู รโรงเรยี นวดั ท่ากระบอื (ทา่ กระบือพิทยาคาร) พุทธศักราช ๒๕๖๕ ๑๐๑
อ ๑๔๑๐๑ ภาษาอังกฤษ คำอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๔
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
เวลา ๑๖๐ ชวั่ โมง/ปี
ศึกษาทำความเข้าใจคำสั่ง คำขอร้อง ภาษาท่าทาง คำแนะนำที่ใช้ในห้องเรียนและในสถานศึกษา
การอ่าน ออกเสียง คำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความง่ายๆ บทพูดเข้าจังหวะ ตามหลักการอ่านออกเสียง การใช้
พจนานุกรม การเลือก/ระบุภาพให้ตรงกับความหมายของคำ กลุ่มคำและประโยคเดี่ยว เกี่ยวกับตนเอง
ครอบครวั โรงเรียน สง่ิ แวดล้อมใกล้ตัว อาหาร เครือ่ งดืม่ เวลาวา่ งนันทนาการ สขุ ภาพ สวัสดิการ การซ้ือ-ขาย
ลมฟ้าอากาศ และเป็นวงคำศัพท์สะสมประมาณ ๕๕๐-๗๐๐ คำ ให้ตรงกับความหมายของกลุ่มคำ ประโยค
เดี่ยว สัญลักษณ์ และเครื่องหมายต่างๆ การหาใจความสำคัญของเรื่องและการถามตอบด้วยประโยค
บทสนทนา หรือนิทานที่มีภาพประกอบ การพูดและเขียนบทสนทนา ประโยค ข้อความที่ใช้ในการสื่อสาร
ระหว่างตนเอง เพ่ือน บุคคลใกล้ตวั การใช้คำส่ัง คำขอร้อง คำขออนุญาตงา่ ยๆ ที่ใชใ้ นหอ้ งเรียน การใช้คำศัพท์
สำนวนภาษาและประโยคท่ีใช้บอกความต้องการ และขอความช่วยเหลือในสถานการณ์ง่ายๆ การใช้
เครื่องหมายวรรคตอน การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของภาพกับคำหรือกลุ่มคำโดยใช้ภาพ แผนภูมิ แผนภาพ
แผนผัง การใช้ประโยคแสดงความคิดเห็นง่ายๆ เกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัว การพูดและทำท่าประกอบตามมารยาท
สังคม วัฒนธรรม คำศัพท์ และข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาล วันสำคัญ งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของ
ภาษา กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา การเปรียบเทียบความเหมือนและ ความแตกต่าง
ระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย การค้นคว้า การรวบรวม และการ
นำเสนอคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ การใช้ภาษาในการสื่อสารในสถานการณ์ที่เกิดข้ึน
ในห้องเรียนและสถานศึกษาและในท้องถิ่น การใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น และการรวบรวมคำศัพท์
ทีเ่ กย่ี วขอ้ งใกลต้ วั จากสอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้ตา่ งๆ
โดยใช้ทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะ
ในการสื่อสารทางภาษา สามารถแลกเปล่ียนขอ้ มูลข่าวสารแสดงความรู้สกึ แสดงความคดิ เห็นได้อย่างเหมาะสม
กบั วยั
เพื่อให้เห็นความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อนำเข้าสู่อาเซียน ใฝ่เรียนรู้ มีความภูมิใจ
ในชาติและศาสนาความเป็นไทย ตลอดจนมีความสามารถในการสื่อสาร มีทักษะชีวิต มีความรักภาคภูมิใจ
ในวัฒนธรรมประเพณีในท้องถ่ิน สามารถดำรงชีวิตรว่ มกับผ้อู ื่นโดยยึดหลกั ของศาสตร์พระราชาได้อย่างมีความสุข
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ต ๑.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕
ต ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ ต ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ต ๑.๓ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ ต ๓.๑ ป.๔/๑
ต ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒ ต ๔.๒ ป.๔/๑
ต ๔.๑ ป.๔/๑
รวม ๘ มาตรฐาน ๒๐ ตัวชวี้ ัด
หลกั สูตรโรงเรียนวดั ท่ากระบอื (ทา่ กระบือพทิ ยาคาร) พุทธศักราช ๒๕๖๕ ๑๐๒
อ ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ คำอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕
กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ
เวลา ๑๖๐ ชวั่ โมง/ปี
ศึกษาทำความเข้าใจคำสั่ง คำขอร้อง ภาษาท่าทาง คำแนะนำที่ใช้ในห้องเรียนและในสถานศึกษา
การอา่ นออกเสยี ง คำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความง่ายๆ บทกลอน ตามหลักการอ่านออกเสียง การใชพ้ จนานกุ รม
การระบุภาพ/วาดภาพ เกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว อาหาร เครื่องดื่ม เวลาว่าง
นันทนาการ สุขภาพ สวัสดิการ การซื้อ-ขาย ลมฟ้าอากาศ และเป็นวงคำศัพท์สะสมประมาณ ๗๕๐-๙๕๐ คำ
ให้ตรงกับความหมายของกลุ่มคำ การหาใจความสำคัญของประโยค บทสนทนา นิทาน เรื่องสั้น จากการฟัง
และอ่าน การพูดและเขียนบทสนทนาที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างตนเอง เพื่อน บุคคลใกล้ตัว และสำนวน
การตอบรับ การใช้คำสั่ง คำขอร้อง คำขออนุญาต การใช้คำศัพท์ สำนวนภาษาและประโยคที่ใช้บอก
ความต้องการ และขอความชว่ ยเหลอื การตอบรับและปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ การใช้
คำศัพท์ สำนวนภาษาและประโยคเพ่ือขอให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว การใช้คำ
และประโยคง่ายๆ ในการแสดงความรู้สกึ และการใหเ้ หตุผลประกอบ การใช้ประโยคและข้อความในการพูดให้
ข้อมูลเกี่ยวกับ บุคคล สัตว์ สถานที่และกิจกรรมต่างๆ และการใช้เครือ่ งหมายวรรคตอน การนำเสนอความคดิ
รวบยอดในรูปของภาพ แผนภูมิ แผนภาพ แผนผัง ตาราง จากเรื่องที่ฟังและอ่าน การใช้ประโยคในการพูด
แสดงความคิดเห็นเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว การใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทาง สำนวนในการติดต่อปฏิสัมพันธ์
ตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา การใช้ชีวิตความเป็นอยู่ งานเทศกาล วันสำคัญ งานฉลอง ของเจ้าของภาษา
และการเขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม การเปรยี บเทยี บความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยค
ต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรคตอน การลำดับตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
การเปรยี บเทยี บความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กับของไทย การค้นคว้า การรวบรวม และการนำเสนอคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ การใช้
ภาษาในการสือ่ สารในสถานการณท์ ี่เกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา การใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบคน้
และการรวบรวมคำศัพท์ท่เี กย่ี วขอ้ งใกลต้ วั จากส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้ต่างๆ
โดยใช้ทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะในการ
สอ่ื สารทางภาษา สามารถแลกเปลี่ยนขอ้ มูลขา่ วสารแสดงความรู้สึก แสดงความคิดเหน็ ได้อย่างเหมาะสมกับวัย
เพื่อให้เห็นความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อนำเข้าสู่อาเซียน ใฝ่เรียนรู้ มีความภูมิใจในชาติ
และศาสนาความเป็นไทย ตลอดจนมีความสามารถในการสื่อสาร มีทักษะชีวิต มีความรักภาคภูมิใจ
ในวฒั นธรรมประเพณีในท้องถิ่น สามารถดำรงชีวติ ร่วมกับผ้อู ่ืนโดยยึดหลักของศาสตร์พระราชาได้อย่างมีความสุข
มาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด
ต ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ต ๓.๑ ป.๕/๑
ต ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ต ๔.๑ ป.๕/๑
ต ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ต ๔.๒ ป.๕/๑
ต ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ต ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒
รวม ๘ มาตรฐาน ๒๐ ตัวชว้ี ัด
หลกั สูตรโรงเรียนวัดทา่ กระบอื (ทา่ กระบือพทิ ยาคาร) พุทธศักราช ๒๕๖๕ ๑๐๓
อ ๑๖๑๐๑ ภาษาอังกฤษ คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๖
กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ
เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง/ปี
ศึกษาทำความเข้าใจคำสั่ง คำขอร้อง ภาษาท่าทาง คำแนะนำในการเล่นเกม การวาดภาพ
การทำอาหาร เครื่องดื่ม และการประดิษฐ์ การอ่านออกเสียงข้อความ นิทาน บทกลอน ตามหลักการอ่าน
ออกเสียง และการใช้พจนานุกรม การเลือก/ระบุประโยคหรือข้อความสั้นๆ สัญลักษณ์ เครื่องหมายที่อ่าน
ให้ตรงกับความหมายเก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว อาหาร เครื่องดื่ม เวลาว่าง
นันทนาการ สุขภาพ สวัสดิการ การซื้อ-ขาย ลมฟ้าอากาศ และเป็นวงคำศพั ท์สะสมประมาณ ๑,๐๕๐-๑,๒๐๐
คำ การหาใจความสำคัญของในประโยค บทสนทนา นิทาน เรอื่ งเล่าและการตอบคำถามจากเร่ืองท่ีฟังและอ่าน
การพูดและเขียนบทสนทนาที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างตนเอง เพื่อน บุคคลใกล้ตัว และสำนวนการตอบรับ
การใช้คำสั่ง คำขอร้อง คำขออนุญาต คำแนะนำ การใช้คำศัพท์ สำนวนภาษาและประโยคที่ใช้บอก
ความต้องการ และขอความช่วยเหลือ การตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ
การใช้คำศัพท์ สำนวนภาษา และประโยคเพื่อขอให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว
การใช้คำและประโยคในการแสดงความรู้สึกและการให้เหตุผลประกอบ การใช้ประโยคและข้อความในการ
ให้ขอ้ มลู เกยี่ วกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน เพื่อน สิง่ แวดล้อมใกล้ตัว การใช้เครอื่ งหมายวรรคตอน การนำเสนอ
ความคิดรวบยอดในรูปของภาพ แผนภูมิ แผนภาพ แผนผัง ตาราง จากเรื่องที่ฟังและอ่าน การใช้ประโยค
ในการพูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว การใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทาง สำนวนใน
การติดต่อปฏิสัมพันธ์ตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา การใช้ชีวิตความเป็นอยู่ งานเทศกาล วันสำคัญ
งานฉลองของเจ้าของภาษา และการเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม การใช้เครื่องหมายวรรคตอน
การลำดับตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย การเปรียบเทียบความเหมื อนและ
ความแตกต่างระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย การค้นคว้า
การรวบรวม และการนำเสนอคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ การใช้ภาษาในการสื่อสาร
ในสถานการณท์ ่ีเกดิ ข้นึ ในห้องเรยี นและสถานศึกษา
โดยใช้ทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะในการ
ส่ือสารทางภาษา สามารถแลกเปลย่ี นข้อมูลขา่ วสารแสดงความร้สู ึก แสดงความคดิ เหน็ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั วัย
เพื่อให้เห็นความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อนำเข้าสู่อาเซียน ใฝ่เรียนรู้ มีความภูมิใจในชาติ
และศาสนาความเป็นไทย ตลอดจนมีความสามารถในการสื่อสาร มีทักษะชีวิต มีความรักภาคภูมิใจ
ในวัฒนธรรมประเพณีในท้องถ่ิน สามารถดำรงชีวติ รว่ มกับผู้อ่นื โดยยดึ หลกั ของศาสตร์พระราชาได้อย่างมีความสขุ
มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั ต ๔.๑ ป.๖/๑
ต ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ ต ๔.๒ ป.๖/๑
ต ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕ ต ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ต ๑.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ต ๓.๑ ป.๖/๑
ต ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒
รวม ๘ มาตรฐาน ๒๐ ตัวชี้วดั
หลักสูตรโรงเรียนวดั ทา่ กระบอื (ทา่ กระบือพิทยาคาร) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๐๔
อ ๑๑๒๐๑ Basic Conversation คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
ชนั้ ประถมศกึ ษา ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
ใชค้ ำสัง่ ที่ใชใ้ นห้องเรยี น ตัวอกั ษร เสยี งตวั อกั ษร สระ การสะกดคำ ให้ขอ้ มลู เกย่ี วกับตนเอง ประโยค
บอกความต้องการเกี่ยวกับตนเอง ประโยค ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง คำสั่งที่ใช้ในห้องเรียน ข้อความที่ใช้
ในการพูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง และเรื่องใกล้ตัว คำ ที่มีความหมายสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆใกล้ตัว อาหาร เครื่องดื่ม
วัฒนธรรมเจ้าของภาษาแสดงกิริยา การขอบคุณ ขอโทษ การพูดแนะนำตนเอง การใช้ภาษาในการฟัง พูด
อา่ นในสถานการณ์ท่เี กิดขึ้นในหอ้ งเรียน
โดยใช้ทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะในการ
สือ่ สารทางภาษา สามารถแลกเปลีย่ นข้อมูลขา่ วสารแสดงความรู้สึก แสดงความคิดเห็น ได้อยา่ งเหมาะสมกับวัย
เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารโดยการเชื่อมโยงกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นรู้จัก
การทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย มีความมุ่งมั่น ในการปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่นและมีจิตสาธารณะ
ต่อทอ้ งถิน่ สถานศกึ ษา ชมุ ชนและใหเ้ ห็นความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อนำเขา้ สู่อาเซียน ใฝ่เรียนรู้
มีความภูมิใจในชาติและศาสนาความเป็นไทย สามารถดำรงชีวิตร่วมกับผู้อื่นโดยยึดหลักของศาสตร์พระราชา
ไดอ้ ย่างมคี วามสุข
ผลการเรียนรู้
๑. ปฏบิ ตั ติ ามขั้นตอนของกระบวนการฟงั ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ มีทักษะในการฟงั
๒. ปฏบิ ัติตามขั้นตอนของกระบวนการพูดได้อยา่ งถูกตอ้ ง โดยสามารถพูดในหวั ขอ้ ต่างๆ ไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์
๓. ระบุการเน้นเสียงหนัก-เบาในคำ กลมุ่ คำ ระดับเสียงสงู -ต่ำ เสียงเชอ่ื มโยง การแบง่ วรรคตอน คำสำคัญ
๔. ใช้ภาษาง่ายๆ เพื่อขอและให้ข้อมูล อธิบาย บรรยาย เปรียบเทียบ เรื่องราวต่างๆในชีวิตประจำวัน
ประสบการณข์ องตนเอง
๕. ให้ความหมายของสีหน้าท่าทาง น้ำเสียง เข้าใจ ตีความ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความข้อมูล
รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนวัดท่ากระบอื (ทา่ กระบือพทิ ยาคาร) พทุ ธศักราช ๒๕๖๕ ๑๐๕
อ ๑๒๒๐๑ Basic Conversation คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
ช้ันประถมศึกษา ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ
เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ปี
ใช้คำสั่งที่ใช้ในห้องเรียน ตัวอักษร เสียงตัวอักษร สระ การสะกดคำ การอ่านออกเสียง คำ กลุ่มคำ
บทอ่าน บทสนทนา ประโยค ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองคำ ประโยคบทอ่าน บทสนทนา ประโยค ให้ข้อมูล
เกี่ยวกับตนเอง ข้อความที่ใช้ในการพูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง และเรื่องใกล้ตัว คำ ที่มีความหมายสัมพันธ์
กับสิ่งต่างๆใกล้ตัว อาหาร เครื่องดื่ม วัฒนธรรมเจ้าของภาษาแสดงกิริยา การขอบคุณ ขอโทษ การพูดแนะนำ
ตนเอง กิจกรรมทางภาษา การรอ้ งเพลง การใชภ้ าษาในการฟงั พูด อา่ นในสถานการณ์ทีเ่ กิดขึน้ ในห้องเรียน
โดยใช้ทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะในการ
ส่ือสารทางภาษา สามารถแลกเปล่ยี นข้อมูลข่าวสารแสดงความรูส้ ึก แสดงความคิดเหน็ ไดอ้ ย่างเหมาะสมกับวยั
เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจสามารถสื่อสารโดยการเชื่อมโยงกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นรู้จัก
การทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย มีความมุ่งมั่น ในการปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่นและมีจิตสาธารณะ
ต่อทอ้ งถ่นิ สถานศกึ ษา ชมุ ชนและใหเ้ หน็ ความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อนำเข้าสู่อาเซียน ใฝ่เรียนรู้
มีความภูมิใจในชาติและศาสนาความเป็นไทย สามารถดำรงชีวิตร่วมกับผู้อื่นโดยยึดหลักของศาสตร์พระราชา
ไดอ้ ย่างมีความสขุ
ผลการเรยี นรู้
๑. ปฏบิ ัติตามขั้นตอนของกระบวนการฟังไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ มีทักษะในการฟงั
๒. ปฏิบัตติ ามขัน้ ตอนของกระบวนการพดู ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง โดยสามารถพดู ในหวั ขอ้ ต่างๆ ไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์
๓ .ระบกุ ารเนน้ เสยี งหนัก-เบาในคำ กลุม่ คำ ระดบั เสยี งสงู -ต่ำ เสียงเช่อื มโยง การแบง่ วรรคตอนคำสำคัญ
๔. ใช้ภาษาง่ายๆ เพื่อขอและให้ข้อมูล อธิบาย บรรยาย เปรียบเทียบ เรื่องราวต่างๆในชีวิตประจำวัน
ประสบการณ์ของตนเอง
๕. ให้ความหมายของสีหน้าท่าทาง น้ำเสียง เข้าใจ ตีความ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความข้อมูล
รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรยี นวดั ท่ากระบอื (ท่ากระบือพิทยาคาร) พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๐๖
อ ๑๓๒๐๑ Basic Conversation คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ
เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
ใช้คำสั่งที่ใช้ในห้องเรียน ตัวอักษร เสียงตัวอักษร สระ การสะกดคำ การอ่านออกเสียง คำ กลุ่มคำ
บทอ่าน พูดเข้าจังหวะ บทสนทนา ประโยค ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองคำ เลือกระบุภาพ ตรงความหมาย
บทสนทนา ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ประโยคบอกความต้องการเกี่ยวกับตนเองคำ คำสั่งที่ใช้ในห้องเรียน
ข้อความที่ใช้ในการพูดให้ข้อมูลความรู้สึกเกี่ยวกับตนเอง และเรื่องใกล้ตัว วัฒนธรรมเจ้าของภาษาแสดงกิริยา
การขอบคณุ ขอโทษ การพูดแนะนำตนเอง การใชภ้ าษาในการฟงั พูด อา่ นในสถานการณท์ เ่ี กิดขน้ึ ในห้องเรียน
โดยใช้ทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะในการ
ส่อื สารทางภาษา สามารถแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสารแสดงความร้สู ึก แสดงความคิดเห็น ไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั วัย
เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารโดยการเชื่อมโยงกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นรู้จัก
การทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย มีความมุ่งมั่น ในการปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่นและมีจิตสาธารณะ
ต่อทอ้ งถ่ินสถานศึกษา ชุมชนและ ให้เหน็ ความสำคญั ของการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อนำเข้าสู่อาเซยี น ใฝเ่ รียนรู้
มีความภูมิใจในชาติและศาสนาความเป็นไทย สามารถดำรงชีวิตร่วมกับผู้อื่นโดยยึดหลักของศาสตร์พระราชา
ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ
ผลการเรยี นรู้
๑. ปฏบิ ัติตามขั้นตอนของกระบวนการฟังได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ มีทกั ษะในการฟัง
๒. ปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอนของกระบวนการพดู ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง โดยสามารถพูดในหัวข้อตา่ งๆ ได้อย่างสร้างสรรค์
๓. ระบกุ ารเน้นเสยี งหนัก-เบาในคำ กลมุ่ คำ ระดับเสียงสูง-ต่ำ เสยี งเช่อื มโยง การแบง่ วรรคตอน คำสำคัญ
๔. ใช้ภาษาง่ายๆ เพื่อขอและให้ข้อมูล อธิบาย บรรยาย เปรียบเทียบ เรื่องราวต่างๆในชีวิตประจำวนั
ประสบการณข์ องตนเอง
๕. ให้ความหมายของสีหน้าท่าทาง น้ำเสียง เข้าใจ ตีความ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความข้อมูล
รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรียนวัดท่ากระบอื (ทา่ กระบอื พทิ ยาคาร) พุทธศักราช ๒๕๖๕ ๑๐๗
อ ๑๔๒๐๑ Basic Conversation คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
ช้นั ประถมศกึ ษาปี ๔ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ
เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
ศึกษาภาษาท่าทาง คำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ การถ่ายโอนข้อความเรื่องสั้น เรื่องเล่า ข้อมูลและ
ข่าวสารจากส่ิงพิมพ์และอิเล็กทรอนิกส์ ภาษาง่ายๆ เพื่อแสดงความสัมพันธร์ ะหว่างบุคคล แสดงความต้องการ
ของตน ขอและให้ข้อมูล อธิบายเกี่ยวกับบุคคลและสิ่งต่างๆ ที่ได้พบเห็น ใช้ภาษาเพื่อฝึกทักษะต่างๆ ข้อมูล
เกี่ยวกับตนเอง สิ่งแวดล้อม สังคม เรื่องใกล้ตัว หรือข้อมูลจากสื่อประเภทต่างๆ รูปแบบการใช้ถ้อยคำสำนวน
การตดิ ตอ่ ปฏิสัมพนั ธ์ตามวัฒนธรรมตะวนั ตก ขนมธรรมเนียมประเพณี เทศกาลงานฉลองในวฒั นธรรมตะวันตก
ความแตกต่างระหว่างภาษาอังกฤษกับภาษาไทยในเรื่องเสียงสระ พยัญชนะ คำ วลี ประโยค เข้าใจและ
ถา่ ยทอดเนอื้ หา เกีย่ วกับกลุ่มการเรียนรู้อื่น ใชภ้ าษาองั กฤษสอ่ื สารกบั บุคคลในสถานศึกษาได้
โดยใช้ทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะในการ
สอื่ สารทางภาษา สามารถแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ขา่ วสารแสดงความรู้สึก แสดงความคิดเหน็ ได้อย่างเหมาะสมกับวยั
เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ แสวงหาความรู้ความเพลิดเพลินจากภาษาต่างประเทศที่เกี่ยวกับ
กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ ตลอดจนการสื่อสารขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับท้องถิ่นและชุมชนของตนและให้เห็น
ความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อนำเข้าสู่อาเซียน ใฝ่เรียนรู้ มีความภูมิใจในชาติและศาสนาความเป็นไทย
สามารถดำรงชีวิตร่วมกับผอู้ ่ืนโดยยึดหลกั ของศาสตร์พระราชาไดอ้ ยา่ งมีความสขุ
ผลการเรียนรู้
๑. ปฏิบตั ติ ามคำสั่ง คำแนะนำ และขอ้ ความทีม่ ขี ั้นตอนการปฏิบตั ิ
๒. ระบกุ ารเนน้ เสยี งหนัก-เบาในคำ กลมุ่ คำ ระดบั เสยี งสงู -ต่ำ เสยี งเชอ่ื มโยง การแบ่งวรรคตอน คำสำคญั
๓. ให้ความหมายของสีหน้าท่าทาง น้ำเสียง เข้าใจ ตีความ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ
ข้อมูลและข่าวสารจากสื่อสิ่งพิมพ์ หรือสื่ออิเล็คทรอนิคส์เกี่ยวกับเรื่องที่อยู่ในความสนใจใน
ชวี ติ ประจำวัน
๔. ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล สถานที่ เหตุการณ์ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วิถีชีวิตของเจ้าของ
ภาษา และเปรียบเทยี บกับของไทย
๕. ใช้ภาษาตามมารยาททางสังคมเพื่อสร้างความสมั พนั ธ์ระหวา่ งบคุ คลและสามารถดำเนินการสื่อสาร
อยา่ งตอ่ เนอ่ื งโดยใชเ้ ทคโนโลยีท่มี ีอย่ใู นแหลง่ เรยี นรู้ท้งั ในและนอกสถานศึกษา
รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนวดั ท่ากระบอื (ทา่ กระบอื พทิ ยาคาร) พทุ ธศักราช ๒๕๖๕ ๑๐๘
อ ๑๕๒๐๑ Basic Conversation คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม
ช้นั ประถมศึกษาปี ๕ กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ
เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
ศึกษาภาษาท่าทาง คำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ การถ่ายโอนข้อความเรื่องสั้น เรื่องเล่า ข้อมูล
และข่าวสารจากสิ่งพิมพ์และอิเล็กทรอนิกส์ ภาษาง่ายๆ เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล แสดงความ
ต้องการของตน ขอและให้ข้อมูล อธิบายเกี่ยวกับบุคคลและสิ่งต่างๆ ที่ได้พบเห็น ใช้ภาษาเพื่อฝึกทักษะต่างๆ
ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง สิ่งแวดล้อม สังคม เรื่องใกล้ตัว หรือข้อมูลจากสื่อประเภทต่างๆ รูปแบบการใช้ถ้อยคำ
สำนวน การติดตอ่ ปฏสิ มั พันธต์ ามวฒั นธรรมตะวันตก ขนมธรรมเนียมประเพณี เทศกาลงานฉลองในวัฒนธรรม
ตะวันตก ความแตกต่างระหว่างภาษาอังกฤษกับภาษาไทยในเรื่องเสียงสระ พยัญชนะ คำ วลี ประโยค เข้าใจ
และถ่ายทอดเน้อื หา เกย่ี วกบั กลมุ่ การเรียนรู้อนื่ ใชภ้ าษาองั กฤษสือ่ สารกับบคุ คลในสถานศึกษาได้
โดยใช้ทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะในการ
สอ่ื สารทางภาษา สามารถแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ขา่ วสารแสดงความรู้สึก แสดงความคดิ เหน็ ไดอ้ ย่างเหมาะสมกับวยั
เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนการสื่อสารขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับท้องถิ่นและชุมชนของตน
และ ให้เห็นความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อนำเข้าสู่อาเซียน ใฝ่เรียนรู้ มีความภูมิใจในชาติและ
ศาสนาความเป็นไทย สามารถดำรงชวี ติ ร่วมกบั ผู้อืน่ โดยยดึ หลกั ของศาสตร์พระราชาได้อย่างมคี วามสุข
ผลการเรียนรู้
๑. ปฏิบัตติ ามคำส่ัง คำแนะนำ และข้อความทีม่ ีข้ันตอนการปฏบิ ตั ิ
๒. ระบุการเนน้ เสียงหนัก-เบาในคำ กลุ่มคำ ระดับเสยี งสูง-ต่ำ เสียงเช่อื มโยง การแบง่ วรรคตอน คำสำคญั
๓. ให้ความหมายของสีหน้าท่าทาง น้ำเสียง เข้าใจ ตีความ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ
ข้อมูลและข่าวสารจากสื่อสิ่งพิมพ์ หรือสื่ออิเล็คทรอนิคส์เกี่ยวกับเรื่องที่อยู่ในความสนใจใน
ชวี ติ ประจำวนั
๔. ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล สถานที่ เหตุการณ์ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วิถีชีวิตของเจ้าของ
ภาษา และเปรยี บเทยี บกบั ของไทย
๕. ใชภ้ าษาตามมารยาททางสังคมเพ่ือสร้างความสัมพนั ธ์ระหว่างบคุ คลและสามารถดำเนินการส่ือสาร
อย่างตอ่ เน่ืองโดยใชเ้ ทคโนโลยีทมี่ ีอยูใ่ นแหล่งเรยี นรทู้ ง้ั ในและนอกสถานศึกษา
รวมท้งั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรยี นวัดท่ากระบอื (ทา่ กระบอื พทิ ยาคาร) พุทธศักราช ๒๕๖๕ ๑๐๙
อ ๑๖๒๐๑ Basic Conversation คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
ช้ันประถมศกึ ษาปี ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
ศึกษาภาษาท่าทาง คำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ การถ่ายโอนข้อความเรื่องสั้น เรื่องเล่า ข้อมูล
และข่าวสารจากสิ่งพิมพ์และอิเล็กทรอนิกส์ ภาษาง่ายๆ เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล แสดงความ
ต้องการของตน ขอและให้ข้อมูล อธิบายเกี่ยวกับบุคคลและสิ่งต่างๆ ที่ได้พบเห็น ใช้ภาษาเพื่อฝึกทักษะต่างๆ
ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง สิ่งแวดล้อม สังคม เรื่องใกล้ตัว หรือข้อมูลจากสื่อประเภทต่างๆ รูปแบบการใช้ถ้อยคำ
สำนวน การตดิ ตอ่ ปฏิสัมพันธต์ ามวฒั นธรรมตะวันตก ขนมธรรมเนียมประเพณี เทศกาลงานฉลองในวัฒนธรรม
ตะวันตก ความแตกต่างระหว่างภาษาอังกฤษกับภาษาไทยในเรื่องเสียงสระ พยัญชนะ คำ วลี ประโยค เข้าใจ
และถ่ายทอดเนื้อหา เก่ยี วกับกล่มุ การเรยี นรู้อน่ื ใช้ภาษาองั กฤษส่อื สารกับบุคคลในสถานศึกษาได้
โดยใช้ทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะในการ
สื่อสารทางภาษา สามารถแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารแสดงความรูส้ กึ แสดงความคิดเหน็ ได้อย่างเหมาะสมกับวยั
เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนการสื่อสารขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับท้องถิ่นและชุมชนของตน
และให้เห็นความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อนำเข้าสู่อาเซียน ใฝ่เรียนรู้ มีความภูมิใจในชาติ
และศาสนาความเป็นไทย สามารถดำรงชีวติ รว่ มกับผอู้ น่ื โดยยดึ หลกั ของศาสตร์พระราชาได้อยา่ งมีความสุข
ผลการเรยี นรู้
๑. ปฏิบัตติ ามคำส่งั คำแนะนำ และข้อความทมี่ ขี ัน้ ตอนการปฏิบตั ิ
๒. ระบกุ ารเน้นเสียงหนัก-เบาในคำ กลุ่มคำ ระดบั เสยี งสูง-ต่ำ เสยี งเชอ่ื มโยง การแบ่งวรรคตอน คำสำคัญ
๓. ให้ความหมายของสีหน้าท่าทาง น้ำเสียง เข้าใจ ตีความ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ
ข้อมูลและข่าวสารจากสื่อสิ่งพิมพ์ หรือสื่ออิเล็คทรอนิคส์เกี่ยวกับเรื่องที่อยู่ในความสนใจใน
ชีวติ ประจำวนั
๔. ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล สถานที่ เหตุการณ์ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วิถีชีวิตของเจ้าของ
ภาษา และเปรยี บเทยี บกบั ของไทย
๕. ใช้ภาษาตามมารยาททางสังคมเพ่ือสร้างความสมั พนั ธ์ระหว่างบุคคลและสามารถดำเนินการส่ือสาร
อยา่ งตอ่ เนอื่ งโดยใชเ้ ทคโนโลยที ่ีมีอยใู่ นแหล่งเรยี นรทู้ ้ังในและนอกสถานศึกษา
รวมท้งั หมด ๕ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นวัดท่ากระบอื (ท่ากระบอื พทิ ยาคาร) พุทธศักราช ๒๕๖๕ ๑๑๐
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน
หลักสตู รโรงเรียนวดั ท่ากระบอื (ท่ากระบือพทิ ยาคาร) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๑๑
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น
โรงเรยี นวดั ท่ากระบือ(ท่ากระบือพิทยาคาร)ได้จัดกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนโดยมุ่งให้ผู้เรยี นเกิดการเรียนรู้
จากประสบการณ์ตรง ได้ฝึกปฏิบัติจริงและค้นพบความถนัดของตนเอง สามารถค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม
ตามความสนใจจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย บำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม มีทักษะในการดำเนินงาน ส่งเสริม
ให้มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ สังคม ศีลธรรม จริยธรรม ให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง สามารถวางแผนชีวิต
และอาชพี ได้อยา่ งเหมาะสม
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นกิจกรรมที่มุ่งให้ผู้เรียนพัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาการเรียนรู้
อย่างรอบด้านเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มี
ศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังให้สร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจัดการ
ตนเองได้และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข โรงเรียนวัดท่ากระบอื (ท่ากระบือพิทยาคาร)ได้จัดกิจกรรมพัฒนา
ผูเ้ รยี น โดยแบ่งออกเป็น ๓ ลกั ษณะ ดงั น้ี
๑. กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม
สามารถตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตท้ังด้านการเรยี น และอาชีพ สามารถปรับตนได้
อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือและให้คำปรึกษา
แก่ผู้ปกครองในการมีส่วนร่วมพัฒนาผู้เรียน โดยนักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว ๔๐ ชั่วโมงต่อปี
การศึกษา
๒. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี ความรับผิดชอบ
การทำงานร่วมกัน รู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือแบ่งปันเอื้ออาทร
และสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียน ให้ได้ปฏิบัติ
ด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผนประเมินและปรับปรุงการทำงาน
เน้นการทำงานรวมกันเป็นกลุ่มตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียนและบริบท
ของสถานศึกษาและท้องถิ่น กิจกรรมนักเรียน ประกอบด้วย กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี นักเรียนทุกคน
ต้องเข้าร่วม กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ๓๐ ชั่งโมงต่อปีการศึกษา กิจกรรมชุมนุม นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วม
กจิ กรรมชุมนุม ๔๐ ชั่งโมงตอ่ ปีการศกึ ษา
๓. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบำเพ็ญตน
ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชนและท้องถิ่นตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึง
ความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละการมีจิตสาธารณะ เช่น กิจกรรมอาสาพัฒนาต่างๆ กิจกรรม
สรา้ งสรรคส์ ังคม นักเรยี นทกุ คนตอ้ งเขา้ รว่ มกิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ชั่วโมงต่อปี
หลักสูตรโรงเรยี นวัดท่ากระบอื (ทา่ กระบือพทิ ยาคาร) พทุ ธศักราช ๒๕๖๕ ๑๑๒
โครงสร้างและอตั ราเวลาการจัดกจิ กรรม
กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น ระดบั ประถมศึกษา
ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖
๑. กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
๒. กจิ กรรมนกั เรยี น
๒.๑ ลูกเสอื -เนตรนารี ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐
๒.๒ กจิ กรรมชมุ นมุ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
๓. กิจกรรมเพอื่ สังคม ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐
และสาธารณประโยชน์
เวลาเรียนรวม ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
๑.กิจกรรมแนะแนว
วตั ถุประสงค์
๑. เพื่อผู้เรียนค้นพบความถนัด ความสามารถ ความสนใจของตนเอง รักละเห็นคุณค่าในตนเอง
และผูอ้ ่ืน
๒. เพื่อให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้จากข้อมูล ข่าวสาร แหล่งเรียนรู้ ทั้งด้านการศึกษา อาชีพส่วนตัว
สังคม เพื่อนำไปใช้ในการวางแผน เลือกแนวทางการศึกษาอาชีพได้อย่างเหมาะสมสอดคล้อง
กับศกั ยภาพของตนเอง
๓. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนได้พฒั นาบคุ ลิกภาพ และรับตวั อยใู่ นสังคมได้อย่างมีความสขุ
๔. เพือ่ ให้ผู้เรยี นมีความรู้ มที กั ษะ มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ในงานอาชพี และมเี จตคติท่ีดตี อ่ อาชีพสุจริต
๕. เพื่อให้ผู้เรียนมีค่านิยมที่ดีงามในการดำเนินชีวิต สร้างเสริมวินัย คุณธรรมและจริยธรรม
แกน่ กั เรยี น
๖. เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมจี ิตสำนกึ ในการรบั ผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สงั คม และประเทศชาติ
แนวการจัดกิจกรรม โรงเรียนวัดท่ากระบือ(ท่ากระบือพิทยาคาร) ได้จัดกิจกรรมแนะแนว
เพื่อชว่ ยเหลอื และพัฒนาผูเ้ รียน ดังน้ี
๑. จัดกิจกรรมเพื่อให้ครูได้รู้จักและช่วยเหลือผู้เรียนมากขึ้น โดยใช้กระบวนการทางจิตวิทยา
การจดั บริการสนเทศ โดยใหม้ ีเอกสารเพือ่ ใชใ้ นการสำรวจข้อมูลเก่ียวกับตัวผเู้ รียน ด้วยการสังเกต
สัมภาษณ์ การใช้แบบสอบถาม การเขียนประวัติ การพบผู้ปกครองก่อนและระหว่างเรียน
การเยี่ยมบ้านนักเรียน การให้ความช่วยเหลอื ผู้เรียนเรือ่ งสุขภาพจิต เศรษฐกิจ การจัดทำระเบยี น
สะสม สมุดรายงานประจำตัวนักเรียน และบตั รสขุ ภาพ
๒. การจัดกิจกรรมพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ โดยทำแบบทดสอบเพื่อรู้จักและเข้าใจตนเอง
มีทกั ษะในการตัดสนิ ใจ การปรับตวั การวางแผนเพ่อื เลอื กศกึ ษาตอ่ เลอื กอาชพี
หลักสตู รโรงเรยี นวัดทา่ กระบอื (ท่ากระบอื พิทยาคาร) พทุ ธศักราช ๒๕๖๕ ๑๑๓
๓. การจัดบรกิ ารให้คำปรึกษาแกผ่ ู้เรียนรายบุคคล และรายกลุ่ม ในด้านการศึกษาอาชีพ และส่วนตัว
โดยมีผู้ให้คำปรึกษาที่มีคุณวุฒิ และมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการให้คำปรึกษา ตลอดจนมีห้อง
ใหค้ ำปรกึ ษาท่ีเหมาะสม
๓.๑ ช่วยเหลือผู้เรยี นที่ประสบปัญหาดา้ นการเงิน โดยการใหท้ นุ การศึกษาแกผ่ เู้ รียน
๓.๒ ติดตามเก็บขอ้ มูลของนกั เรียนทสี่ ำเร็จการศกึ ษา
๒. กจิ กรรมนักเรียน
๑. กิจกรรมลกู เสือ
กิจกรรมลูกเสอื - เนตรนารี
ผู้เรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ ทุกคน ได้ฝึกอบรมวิชาลูกเสือ - เนตรนารี เพื่อส่งเสริม
หลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ส่งเสริมความสามัคคี มีวินัย
และบำเพ็ญประโยชนต์ อ่ สงั คม โดยดำเนนิ การจัดกจิ กรรมตามข้อกำหนดของคณะกรรมการลูกเสือแห่งชาติ
วตั ถปุ ระสงค์
พระราชบัญญัติลูกเสือ พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๘ ได้กำหนดวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม เพื่อพัฒนา
ลูกเสือทงั้ ทางกาย สติปัญญา จิตใจ และศลี ธรรมให้เป็นพลเมืองดี มีความรบั ผดิ ชอบ และช่วยสร้างสรรค์สังคม
เพื่อให้เกิดความสามัคคี และความเจริญก้าวหน้า ทั้งนี้เพื่อความสงบสุข และความมั่งคงของประเทศชาติ
ตามแนวทางดงั ต่อไปนี้
๑. ให้มนี ิสยั ในการสังเกต จดจำ เช่อื ฟัง และพง่ึ ตนเอง
๒. ให้มคี วามซ่อื สตั ย์สจุ ริต มีระเบียบวินัย และเหน็ อกเหน็ ใจผ้อู ่ืน
๓. ให้รู้จกั บำเพ็ญตนเพ่ือสาธารณประโยชน์
๔. ให้รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกิจกรรมต่างๆตามความเหมาะสม
๕. ให้รจู้ กั รักษาและสง่ เสริมจารีตประเพณี วฒั นธรรม และความมง่ั คงชองชาติ
แนวการจัดกิจกรรม
กิจกรรมลูกเสอื เนตรนารี ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑-๓
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบานการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษาวิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบตั ิกิจกรรมตามมาตรฐาน โดยเน้นระบบหมู่ สรุปผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ปดิ ประชุมกอง โดยใหผ้ ้เู รียนศึกษา
และฝกึ ปฏิบัตดิ งั น้ี
๑. เตรียมลูกเสือสำรอง นิยายเรื่อเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจกรรมลูกเสือสำรอง การทำ
ความเคารพเป็นหมู่ (แกรนด์ฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย
ระเบยี บแถวเบื้องต้น คำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลกู เสอื สำรอง
๒. ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ , ๒ และ ๓ อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ
การค้นหาธรรมชาติ ความปลอดภัย บริการ ธง และประเทศต่างๆ การฝีมือ กิจกรรม
กลางแจ้ง การบันเทิง การผูกเงื่อน คำปฏิญาณ และกฎของลูกเสือสำรองโดยใช้
กระบวนการทำงาน กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการจัดการ
หลักสตู รโรงเรียนวดั ทา่ กระบอื (ท่ากระบอื พทิ ยาคาร) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๑๔
กระบวนการคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ กระบวนการฝึกปฏิบัติ ทางลูกเสือ กระบวนการ
ทางเทคโนโลยี และภมู ิปัญญาท้องถิน่ ได้อย่างเหมาะสม
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์
ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสงั เกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง ซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอก
เห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือ พัฒนากาย จิตใจ และศีลธร รม ทั้งนี้
โดยไม่เกี่ยวขอ้ งกับลัทธิทางการเมอื งใดๆ สนใจและอนรุ ักษ์ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม นำไปใชใ้ นชีวิตประจำวัน
ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ
กจิ กรรมลกู เสือ - เนตรนารี ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔-๖
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัติกิจกรรมตามมาตรฐาน โดยเน้นระบบหมู่ สรุปการปฏิบัติกิจกรรม ปิดประชุมกอง โดยให้ผู้เรียนศึกษา
และปฏบิ ตั ใิ นเร่อื ง
๑. ลูกเสือตรี ความรู้เกี่ยวกับขบวนการลูกเสือ คำปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามัญ กิจกรรม
กลางแจง้ ระเบียบแถว
๒. ลกู เสอื โท การรู้จักดูแลตนเอง การชว่ ยเหลอื ผู้อ่นื การเดินทางไปยังสถานท่ีต่างๆ ทักษะทางวิชา
ลูกเสอื งานอดิเรกและเรอ่ื ที่นา่ สนใจ คำปฏิญาณ และกฎของลกู เสอื ระเบียบแถว
๓. ลูกเสือเอก การพึ่งพาตนเอง การบริการ การผจญภัย วิชาการของลูกเสือ ระเบียบแถว
โดยใช้กระบวนการทำงาน กระบวนการแก้ปัญหา ระบวนการกลุ่ม กระบวนการจัดการ
กระบวนการคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์ กระบวนการฝกึ ปฏบิ ัตทิ างลกู เสือ กระบวนการทางเทคโนโลยี
และภูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ได้อยา่ งเหมาะสม
เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ ของลูกเ สือ
สามัญ มนี ิสยั ในการสังเกต จดจำ เชอื่ ฟัง และพงึ่ ตนเอง ซื่อสตั ย์ สจุ ริต มรี ะเบียบวนิ ยั และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
บำเพ็ญตนเพื่อสารธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือ พัฒนากาย จิตใจ และศีลธรรม ทั้งนี้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับ
ลัทธิทางการเมืองใดๆ สนใจและอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่าง
มปี ระสิทธิภาพ
หมายเหตุ ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรม และผ่านการทดสอบแล้ว จะได้รับเครื่องหมายลูกเสือตรี ลูกเสือโท
และลกู เสือเอก
๒. กจิ กรรมชมุ นุม
วัตถุประสงค์
๑. เพอ่ื ให้ผู้เรียนได้ปฏิบตั ิกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัด และความต้องการของตน
๒. เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิด
ประสบการณ์ทง้ั ทางวิชาการและวชิ าชพี ตามศักยภาพ
๓. เพ่ือส่งเสริมใหผ้ เู้ รยี นใชเ้ วลาให้เกดิ ประโยชน์ตอ่ ตนเองและส่วนรวม
๔. เพือ่ ให้ผ้เู รียนทำงานรว่ มกับผ้อู ่ืน ได้ตามวถิ ปี ระชาธิปไตย
หลกั สตู รโรงเรยี นวัดท่ากระบอื (ท่ากระบือพทิ ยาคาร) พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๑๕
แนวการจัดกจิ กรรม
การจัดกิจกรรมตามความสนใจ (ชุมนุม) ผู้เรียนสามารถเลือกเข้าเป็นสมาชิกชมรม วางแผน
การดำเนินกิจกรรมร่วมกัน โดยมีชมรมที่หลากหลาย เหมาะสมกับเพศ วัย และความสนใจของผู้เรียน
ประกอบด้วยกิจกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งเสริมประชาธิปไตย ส่งเสริม
การเรยี นรู้ และคา่ ยวิชาการ การศกึ ษาดงู าน การฝึกปฏิบัติ การบรรยายพิเศษดงั ตัวอยา่ งพอสังเขปต่อไปนี้
๑. กิจกรรมพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ ศีลธรรมและจริยธรรม จัดสอนจริยธรรมในห้องเรียน
จัดให้มีการปฏิบัติกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญทั้งทางชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยผู้เรียน
มีสว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทง้ั ในดา้ นวัฒนธรรม ประเพณี กฬี า และศีลปะ
๒. กิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสีทุกช่วงชั้น โดยผู้เรียนได้ฝึกทักษะ
การทำงาน และการแก้ปญั หาทกุ ขนั้ ตอน
๓. กิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการทำงาน จัดกิจกรรมวันวิชาการโดยผู้เรียนมีโอกาสปฏิบัติจริง
และฝึกทักษะการจดั การ
๔. กิจกรรมเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม โดยจัดกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมไทย
เช่น ประเพณีไหวค้ รู ประเพณีลอยกระทง
๕. กิจกรรมส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย จัดให้มีการเลือกคณะกรรมการนักเรียน
โดยใหน้ ำกระบวนการประชาธปิ ไตยไปใชใ้ นการรว่ มวางแผนดำเนินงานพฒั นาโรงเรียน
๖. กิจกรรมคนดีของสังคม จัดให้มีการบรรยายให้ความรู้ เพื่อป้องกันปัญหาโรคติดต่อร้ายแรง
ปัญหายาเสพตดิ ปญั หาวัยรุน่ ให้ความรูเ้ พ่ือปลกู ฝงั ใหเ้ ปน็ สุภาพบุรุษ สภุ าพสตรี
๗. กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ โดยจัดแหล่งเรียนรู้ ได้แก่ ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการทางภาษา
หอ้ งปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ห้องเทคโนโลยสี ารสนเทศ
๘. กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพและอนามัย ให้บริการห้องพยาบาล มีบริการให้ความรู้แก่ผู้เรียน
เพ่ือปอ้ งกันโรคระบาดอย่างทันเหตกุ ารณ์
๓. กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์
วตั ถปุ ระสงค์
๑. เพอ่ื ให้ผ้เู รียนบำเพ็ญตนใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรยี น ชุมชน และประเทศชาติ
๒. เพื่อให้ผเู้ รียนออกแบบกิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตามความถนัด
และความสนใจในลกั ษณะอาสาสมัคร
๓. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาศักยภาพในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ได้
อยา่ งมีประสิทธิภาพ
๔. เพื่อให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรม
ตามคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๕. เพ่ือให้ผู้เรยี นมจี ิตสาธารณะและใชเ้ วลาว่างให้เกิดประโยชน์
หลกั สตู รโรงเรียนวดั ทา่ กระบอื (ทา่ กระบอื พิทยาคาร) พุทธศักราช ๒๕๖๕ ๑๑๖
แนวการจดั กิจกรรม
การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรยี นได้ทำประโยชน์
ตามความสามารถ ความถนัดและความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม
ความเสียสละต่อสังคม มีจิตใจมุ่งทำประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชนและสังคมกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ กิจกรรม
บำเพญ็ ประโยชน์ กจิ กรรมสรา้ งสรรค์สังคม กจิ กรรมดำรงรกั ษา สืบสาน ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม กิจกรรม
พฒั นานวัตกรรมและเทคโนโลยี
เวลาเรียนสำหรับกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ในส่วนกิจกรรมเพื่อสังคม
และสาธารณประโยชน์ จัดสรรเวลาให้ผู้เรียนระดับประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ รวม ๖ ปี จำนวน ๖๐ ชั่วโมง
(เฉล่ียปลี ะ ๑๐ ช่ัวโมง)
การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ในระดับประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ เป็นการจัด
กิจกรรมภายในเวลาเรียน โดยให้ผู้เรียนรายงานแสดงกรเข้าร่วมกิจกรรมลงในสมุดบันทึก และมีผู้รับรองผล
การเขา้ รว่ มกิจกรรมทุกครงั้
แนวทางการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน
โรงเรียนวัดทา่ กระบอื (ทา่ กระบอื พทิ ยาคาร) กำหนดแนวทางในการประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผู้เรียนดงั นี้
๑. การประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนรายกจิ กรรม มแี นวทางปฏบิ ัติดังน้ี
๑.๑ การตรวจสอบเวลาเข้ารว่ มกิจกรรมของผู้เรยี น ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรียนตลอด
ปีการศึกษา
๑.๒ ประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจากการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/ชิ้นงานของผู้เรียน
ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกผลการเรียนรู้ และผ่านทุกผลการเรียนรู้ โดยแต่ละผลการเรียนรู้ผ่านไม่น้อย
กว่าร้อยละ ๕๐ หรือมคี ณุ ภาพในระดับ ๑ ข้ึนไป
๑.๓ ผเู้ รยี นมีเวลาเขา้ ร่วมกิจกรรม การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมและผลงาน/ชิน้ งานของผู้เรียนตามเกณฑ์
ขอ้ ๑.๑ และขอ้ ๑.๒ ถือว่าผูเ้ รยี นมีผลการเรยี น “ผ” ผา่ นการประเมินกจิ กรรมและนำผลการประเมนิ ไปบันทึก
ในระเบียนแสดงผลการเรยี น
๑.๔ ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การปฏิบัติกิจกรรมและผลงานไม่เป็นไป
ตามเกณฑ์ ข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ถือว่าผู้เรียนมีผลการเรียน “มผ” โรงเรียนต้องจัดซ่อมเสริมให้ผู้เรียน
ทำกิจกรรมในส่วนที่ผู้เรียนไม่ได้เข้าร่วมหรือไม่ได้ทำจนครบถ้วน แล้วจึงเปลี่ยนผลการเรียนจาก “มผ”
เปน็ “ผ” และนำผลการประเมนิ ไปบนั ทกึ ในระเบียนแสดงผลการเรยี น
๒. การประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียนเพอ่ื การตดั สิน มีแนวปฏิบตั ิดังน้ี
๒.๑ กำหนดให้ผู้รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรี ยน
ของผเู้ รียนทกุ คนตลอดระดบั การศกึ ษา
๒.๒ ผู้รับผิดชอบสรุปและตัดสินการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของผู้เรียนเป็นรายบุคคล
ตามเกณฑท์ โ่ี รงเรยี นกำหนด ผ้เู รยี นจะตอ้ งผ่านกจิ กรรม ๓ กิจกรรมสำคญั ดังนี้
๒.๒.๑ กจิ กรรมแนะแนว
หลกั สตู รโรงเรยี นวดั ท่ากระบอื (ทา่ กระบอื พทิ ยาคาร) พุทธศักราช ๒๕๖๕ ๑๑๗
๒.๒.๒ กจิ กรรมนกั เรยี น ได้แก่
๑. กิจกรรมลูกเสอื เนตรนารี
๒. กิจกรรมชุมนมุ
๒.๒.๓ กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์
๒.๓ การนำเสนอผลการประเมินต่อคณะกรรมการกลุ่มสาระการเรยี นรแู้ ละกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น
๒.๔ เสนอผู้บริหารโรงเรียนพิจารณาอนุมัติผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนผ่านเกณฑ์
การจบแตล่ ะระดบั การศึกษา
หลกั สตู รโรงเรียนวัดท่ากระบอื (ท่ากระบือพิทยาคาร) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๑๘
คำอธิบายรายวิชา
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น
หลกั สูตรโรงเรยี นวดั ท่ากระบอื (ทา่ กระบอื พิทยาคาร) พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๑๙
คำอธิบายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น
กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น กจิ กรรมแนะแนว
ช้นั ประถมศึกษาปีที ๑ - ๖ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
รู้จักและเข้าใจตนเอง รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีเจตคติที่ดี
ต่อการมีชีวิตที่ดีมีคุณภาพ มีทักษะในการดำเนินชีวิต สามารถปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้
อย่างมีความสุข รู้จักตนเองในทุกด้าน รู้ความถนัดความสนใจ และบุคลิกภาพของตนเอง รู้และเข้าใจโลก
ของงานอาชีพอย่างหลากหลาย มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพสุจรติ รู้ข้อมูลอาชีพ สามารถเลือกตนแนวทาง
ในการประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม มีการเตรียมตัวสู่อาชีพ สามารถวางแผนเพื่อประกอบอาชีพ
ตามที่ตนเองมีความถนัดและสนใจ มีคุณลักษณะพื้นฐานที่จำเป็นในการประกอบอาชีพและพัฒนางาน
ให้ประสบความสำเร็จเพือ่ สรา้ งฐานะทางเศรษฐกจิ ใหก้ ับตนเอง ครอบครัว ชมุ ชนและประเทศชาติ
พัฒนาตนเองในด้านการเรียนอย่างเต็มศักยภาพ รู้จักแสวงหาความรู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียนให้เป็นคนดีมีความรู้
และทักษะทางวิชาการ รู้จักแสวงหาและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้
อย่างมีประสิทธิภาพ มีวิธีการเรียนรู้ มีทักษะการคิด แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ คิดเป็น ทำเป็น มีคุณธรรม
จรยิ ธรรม เอื้ออาทรและสมานฉันท์ เพ่อื ดำรงชวี ิตอยู่รวมกนั อยา่ งสงบสขุ ตามวิถชี ีวติ เศรษฐกิจพอเพียง
เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ รู้จัก เข้าใจ รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น เกิดการเรียนรู้สามารถ
วางแผนการเรียนรู้ อาชีพ รวมทั้งการดำเนินชีวิตและมีทักษะทางสังคม เกิดการเรียนรู้สามารถปรับตัวได้
อย่างเหมาะสม อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข พึ่งตนเองได้มีทักษะในการเลือกแนวทางการศึกษา
การงานและอาชีพ ชีวิตและสังคม มีสุขภาพจิตที่ดีและจิตสำนึกในการทำประโยชน์ต่อครอบครัว สังคม
และประเทศชาตติ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ผลการเรียนรู้
๑. เพือ่ ให้ผู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้ รจู้ กั เขา้ ใจ รัก และเห็นคุณค่าในตนเองและผอู้ น่ื
๒. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถวางแผนการเรียน การศึกษาต่อ อาชีพ รวมทั้งการดำเนิน
ชีวิต และมีทกั ษะทางสงั คม
๓. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้
อยา่ งเหมาะสม
๔. สามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้
รวม ๔ ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรียนวัดท่ากระบอื (ท่ากระบือพทิ ยาคาร) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๒๐
กจิ กรรมนกั เรียน คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ เตรยี มลูกเสือสำรองและลูกเสอื สำรองดาวดวงที่ ๑
เวลา ๓๐ ช่ัวโมง/ปี
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือและจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่และปฏิบัติกิจกรรมตามคำปฏิญาณและกฎ
ของลูกเสือสำรอง เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความเป็นเอกลักษณ์
ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาตใิ นชมุ ชนดว้ ยความสนใจ ใฝ่รู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง สรปุ ผลการปฏิบัติ
กิจกรรม ปดิ ประชมุ กอง ในเรือ่ งต่อไปน้ี
๑. เตรียมลูกเสือสำรอง นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่
(แกรนด์ฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว เบื้องต้น
คำปฏิญาณ กฎและคติพจนข์ องลูกเสอื สำรอง
๒. ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติ
ความปลอดภัย บริการ ธงและประเทศต่างๆ การฝีมือ กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงการผูกเงื่อน
คำปฏิญาณและกฎของลกู เสือสำรอง
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ
กฎ และคติ
พจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย
และเห็นอกเหน็ ใจผู้อ่ืน รู้จกั บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รจู้ กั ทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรม
ต่างๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคงของชาติ และสามารถ
ประยกุ ตใ์ ชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ผลการเรียนรู้
๑. มีนสิ ยั ในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพึ่งพาตนเองได้
๒. มคี วามซื่อสัตย์ สจุ ริต มีระเบียบวนิ ัยและเห็นอกเหน็ ใจผอู้ ื่น
๓. บำเพญ็ ตนเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์
๔. ทำการฝมี ือและฝึกฝนการทำกิจกรรมตา่ งๆ ตามความเหมาะสม
๕. รกั ษาและสง่ เสริมจารตี ประเพณี วฒั นธรรมประเพณี ภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่นและความม่ันคง
๖. อนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดลอ้ มและลดภาวะโลกร้อน
๗. สามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้
รวม ๗ ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรียนวดั ทา่ กระบอื (ท่ากระบอื พทิ ยาคาร) พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๒๑
คำอธบิ ายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน
กจิ กรรมนกั เรียน ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๒
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ เวลา ๓๐ ชั่วโมง/ปี
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสอื และจัดกิจกรรมให้ศกึ ษา วิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์และกฎของลูกเสือ
สำรอง ศกึ ษาเรยี นรูจ้ ากการคิดและปฏบิ ตั จิ ริงใช้สญั ลักษณ์สมาชกิ ลูกเสือสำรองทีม่ ีความเปน็ เอกลักษณ์ร่วมกัน
ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจใฝ่รู้ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัติกิจกรรมปิดประชุม
กองในเรอ่ื งต่อไปนี้
ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๒ นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่
(แกรนฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว คำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์
ของลูกเสือสำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติการอนุรักษ์ทรัพยากร
ในชุมชนทอ้ งถ่นิ ความปลอดภยั บรกิ าร การผกู เงอ่ื น ธง และประเทศตา่ งๆ การฝมี ือท่ใี ชว้ ัสดเุ หลือใช้ในท้องถ่ิน
กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงที่ส่งเสริมสุขภาพกายสุขภาพจิตและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาตสิ ิ่งแวดลอ้ มลดภาวะโลกรอ้ น
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๒ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ
และคตพิ จน์ของลูกเสือสำรอง มนี สิ ัยในการสงั เกต จดจำ เชื่อฟงั และพ่ึงตนเอง มีความซ่ือสัตยส์ ุจริต มีระเบียบ
วินัย และเห็นอกเห็นใจ รู้จักบำเพ็ญเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรม
ต่างๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงของชาติ และสามารถประยุกต์ใช้หลักปรัช ญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง
ผลการเรยี นรู้
๑. มีนสิ ัยในการสังเกต จดจำ เชือ่ ฟังและพึ่งตนเองได้
๒. มีความซื่อสตั ย์ สจุ รติ มรี ะเบยี บวนิ ยั และเห็นอกเห็นใจผอู้ นื่
๓. บำเพ็ญตนเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์
๔. ทำการฝมี อื และฝึกฝนทำกิจกรรมตา่ งๆ ตามความเหมาะสม
๕. รกั ษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ และความมน่ั คงของชาติ
๖. อนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม ลดภาวะโลกรอ้ น สามารถประยกุ ตใ์ ช้หลกั ปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี งได้
รวม ๖ ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรยี นวัดท่ากระบอื (ทา่ กระบอื พิทยาคาร) พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๒๒
คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน
กจิ กรรมนักเรียน ลูกเสอื สำรองดาวดวงท่ี ๓
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ เวลา ๓๐ ช่ัวโมง/ปี
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์และกฎของลูกเสือ
สำรอง ศึกษาเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความเป็นเอกลักษณ์
ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจใฝ่รู้ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัติกิจกรรม
ปดิ ประชุมกองในเร่อื งตอ่ ไปนี้
ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๓ นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่
(แกรนฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว คำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์
ของลูกเสือสำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติการอนุรักษ์ทรัพยากรใน
ชุมชนท้องถิ่น ความปลอดภัย บริการ การผูกเงื่อน ธง และประเทศต่างๆ การฝีมือที่ใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถน่ิ
กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงที่ส่งเสริมสุขภาพกายสุขภาพจิตและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติส่ิงแวดล้อมลดภาวะโลกร้อน
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๓ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ
และคติพจน์ของลูกเสือสำรอง มนี สิ ัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟงั และพ่งึ ตนเอง มีความซอ่ื สัตยส์ ุจริต มีระเบียบ
วินัย และเห็นอกเห็นใจ รู้จักบำเพ็ญเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรม
ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงของชาติ และสามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง
ผลการเรยี นรู้
๑. มนี สิ ยั ในการสงั เกต จดจำ เช่ือฟงั และพึ่งตนเองได้
๒. มีความซื่อสตั ย์ สุจริต มีระเบียบวนิ ัย และเหน็ อกเห็นใจผู้อ่ืน
๓. บำเพญ็ ตนเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์
๔. ทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกจิ กรรมตา่ งๆ ตามความเหมาะสม
๕. รกั ษาและสง่ เสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ และความมัน่ คงของชาติ
๖. อนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน สามารถประยุกต์ใชห้ ลกั ปรชั ญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้
รวม ๖ ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรียนวดั ท่ากระบอื (ท่ากระบอื พทิ ยาคาร) พุทธศักราช ๒๕๖๕ ๑๒๓
คำอธิบายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน
กิจกรรมนกั เรยี น ลูกเสือสามญั (ลูกเสือตรี)
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๓๐ ชั่วโมง/ปี
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคำปฏิญาณ คติพจน์
และกฎของลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญที่มีความเป็น
เอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้และมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ลดภาวะโลกร้อนและประยุกต์ใช้ปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการลูกเสือ ประวัติของ Load Baden Powell พระราชประวัติ
สังเขปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว วิวัฒนาการของกระบวนการ ลูกเสือไทยและลูกเสือโลก
การทำความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถวท่ามือเปล่า ท่ามือไม้พลอง
การใชส้ ญั ญามือและนกหวดี การตัง้ แถวและการเรยี นแถว
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัตติ ามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์
ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย
และเห็นอกเห็นใจผอู้ ่นื บำเพญ็ ตนเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกิจกรรมต่างๆ
ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคง
ประโยชนแ์ ละสามารถประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ผลการเรียนรู้
๑. มีนิสยั ในการสงั เกต จดจำ เช่ือฟังและพึ่งตนเองได้
๒. มีความซ่อื สัตยส์ ุจรติ มีระเบยี บ วินัยและเห็นอกเหน็ ใจผอู้ ่ืน
๓. บำเพ็ญตนเพื่อสง่ เสริมและสาธารณะประโยชน์
๔. ทำการฝมี อื และฝกึ ฝนทำกิจกรรมต่างๆ ตามความถนดั และความสนใจ
๕. รกั ษาและส่งเสริมจารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น และความม่นั คงของชาติ
๖. อนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน
๗. สามารถประยกุ ต์ใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
รวม ๗ ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รโรงเรียนวัดท่ากระบอื (ทา่ กระบอื พทิ ยาคาร) พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๒๔
คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน
กิจกรรมนกั เรียน ลกู เสอื สามญั (ลูกเสือโท)
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ เวลา ๓๐ ช่ัวโมง/ปี
เปิดประชุมกองดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคำปฏิญาณ คติพจน์
และกฎของลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญที่มีความเป็น
เอกลักษณร์ ่วมกัน ศกึ ษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ มจี ิตสำนกึ ในการอนรุ ักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติ
วัฒนธรรม ภูมิปญั ญาทอ้ งถิ่น ลดภาวะโลกรอ้ นและการประยุกต์ใชป้ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยใช้ทักษะ
ในทางวิชาลูกเสือ การรู้จักดูแลตนเอง การช่วยเหลือผู้อื่น การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทำงานอดิเรก
และเรอื่ งท่สี นใจ
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์
ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย
และเห็นอกเหน็ ใจผอู้ ่นื บำเพ็ญตนเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมอื และฝึกฝนการทำกจิ กรรมต่างๆ
ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคง
ประโยชน์และสามารถประยุกต์ใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ผลการเรียนรู้
๑. มนี สิ ยั ในการสงั เกต จดจำ เชอ่ื ฟงั และพ่ึงตนเองได้
๒. มคี วามซ่ือสัตยส์ จุ รติ มรี ะเบียบ วินัยและเหน็ อกเหน็ ใจผอู้ นื่
๓. บำเพ็ญตนเพื่อส่งเสริมและสาธารณะประโยชน์
๔. ทำการฝมี อื และฝึกฝนทำกิจกรรมต่างๆ ตามความถนดั และความสนใจ
๕. รกั ษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรม ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่นิ และความม่นั คงของชาติ
๖. อนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน
๗. สามารถประยกุ ต์ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
รวม ๗ ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรยี นวดั ทา่ กระบอื (ท่ากระบือพิทยาคาร) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๒๕
คำอธบิ ายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
กจิ กรรมนักเรียน ลกู เสือสามัญ (ลกู เสือเอก)
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี ๖ เวลา ๓๐ ชั่วโมง/ปี
เปิดประชุมกองดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของลู กเสือ
สามัญ วิชาการของลูกเสือ ระเบียบแถว การพึ่งตนเอง การผจญภัย การใช้สัญลักษณ์ สมาชิกลูกเสือสามัญ
ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ศึกษาธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณี
ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ และประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการปฏิบัติ
กจิ กรรมเพ่อื การอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาติและลดภาวะโลกร้อน
เพอื่ ให้มีความรู้ ความเขา้ ใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏญิ าณ กฎ และคติพจน์ของ
ลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็น
อกเห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกิจกรรมต่างๆ
ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคง
ประโยชนแ์ ละสามารถประยุกตใ์ ช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ผลการเรียนรู้
๑. มนี สิ ัยในการสังเกต จดจำ เชือ่ ฟังและพ่ึงตนเองได้
๒. มคี วามซ่อื สัตยส์ จุ รติ มรี ะเบียบ วินัยและเห็นอกเหน็ ใจผูอ้ ่นื
๓. บำเพญ็ ตนเพื่อส่งเสริมและสาธารณะประโยชน์
๔. ทำการฝมี อื และฝึกฝนทำกิจกรรมตา่ งๆ ตามความถนัดและความสนใจ
๕. รกั ษาและส่งเสรมิ จารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ และความม่นั คงของชาติ
๖. อนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกรอ้ น
๗. สามารถประยกุ ต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
รวม ๗ ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรยี นวัดท่ากระบอื (ทา่ กระบอื พทิ ยาคาร) พุทธศักราช ๒๕๖๕ ๑๒๖
กจิ กรรมนกั เรียน คำอธิบายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที ๑ - ๖ กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์
เวลา ๑๐ ชั่วโมง/ปี
ฝึกปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสมัครใจผ่านกจิ กรรมที่หลากหลาย ฝึกการทำงานท่ีสอดคล้องกับชีวิตจริง
ตลอดจนสะท้อนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ สำรวจและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนอย่างเป็นระบบ
เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ และใช้ความคิดสร้างสรรค์ การบริการด้านต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง
และส่วนรวม เสริมสร้างความมีน้ำใจ เอื้ออาทร ความเป็นพลเมืองดีและความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว
และสังคม คิดออกแบบกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ในลักษณะอาสาสมัคร จิตอาสา เพื่อแสดงความรับผิดชอบ
ต่อสงั คมตามแนวทางวถิ ชี ีวิตเศรษฐกิจพอเพียง
เพื่อให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคมและประเทศชาติ
สามารถออกแบบการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตามความถนัด และความสนใจ
ในลักษณะอาสาสมัคร พัฒนาศักยภาพตนเองในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม และสาธารณประโยชน์ ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์
มีจิตสาธารณะและใชเ้ วลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ และสามารถประยกุ ตใ์ ช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้
ผลการเรยี นรู้
๑. บำเพญ็ ตนใหเ้ ป็นประโยชนต์ ่อครอบครัว โรงเรยี น ชุมชน สังคมและประเทศชาติ
๒. ออกแบบการจดั กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชนอ์ ยา่ งสรา้ งสรรค์ ตามความถนัด
และความสนใจในลกั ษณะอาสาสมคั ร
๓. สามารถพฒั นาศักยภาพในการจดั กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ไดอ้ ย่างมี
ประสิทธภิ าพ
๔. ปฏิบตั กิ จิ การเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์จนเกดิ คุณธรรม จริยธรรมตามคุณลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์
๕. สามารถประยุกต์ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้
รวม ๕ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนวดั ท่ากระบอื (ท่ากระบอื พทิ ยาคาร) พทุ ธศักราช ๒๕๖๕ ๑๒๗
คำอธบิ ายรายวชิ า
กิจกรรมชุมนุม
หลกั สตู รโรงเรยี นวัดท่ากระบอื (ท่ากระบือพิทยาคาร) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๒๘
คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชุมนมุ สนุกกับภาษา
กิจกรรมชุมนมุ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖
หลักการและเหตุผล
ชุมนุมสนุกกับภาษาเป็นกิจกรรมกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มุ่งพัฒนา ปรับปรุง ซ่อมเสริมทักษะ
ทางดา้ นการอา่ นและการเขียน ผ่านกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ เพอื่ ส่งเสริมใหน้ กั เรียนกลา้ คดิ กล้าแสดงออกและ
เห็นความสำคัญของการอา่ น การเขียน
โดยใช้ทกั ษะทางภาษาทั้งทางดา้ น การอ่าน การฟัง การพูด การเขียน และสื่อตา่ งๆ มุ่งพฒั นาการ
อา่ นออก เขยี นได้ และอ่านคลอ่ ง เขียนคล่อง สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชวี ิตประจำวนั ได้
เพอ่ื ให้มีทักษะพ้นื ฐานในการอ่านออก เขยี นได้ และอ่านคล่อง เขยี นคลอ่ งเป็นลำดบั ตอ่ ไป
ผลการเรียนรู้
๑. นกั เรยี นสามารถอ่านออกเสียงคำ สะกดคำ กลุ่มคำ และประโยคได้
๒. นักเรียนสามารถเขยี นคำ กลุ่มคำ และประโยคได้
๓. นกั เรียนรักและเห็นความสำคัญของการอ่าน การเขียน
รวมท้ังหมด ๓ ผลการเรียนรู้
หลักสตู รโรงเรียนวัดทา่ กระบอื (ท่ากระบือพิทยาคาร) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๒๙
คำอธบิ ายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชมุ นุม คณิตคิดสนุก
กิจกรรมชุมุนุม เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี
ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๓
หลกั การและเหตผุ ล
ศึกษาวิธีคิด วิเคราะห์หาคำตอบ จากเกมคณิตศาสตร์ที่หลากหลาย ความหมายและความสำคัญของ
เกมคณติ ศาสตรแ์ บบตา่ ง ๆ
ฝึกวธิ ีการเลน่ เกมให้ถูกกฎ กตกิ า มารยาท มีนำ้ ใจ โดยใช้เกมรวมผลจำนวน ทายจำนวน การบวกลบ
การดูตวั เลขจากภาพ
เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ความเข้าใจ มีความสามารถในการเลน่ เกมคณติ ศาสตร์ตา่ ง ๆ และนำความรู้ท่ีได้จาก
การเล่นเกมคณิตศาสตร์มาปรับใช้ในการเรยี นคณิตศาสตรใ์ ห้มปี ระสทิ ธภิ าพเพิม่ ข้นึ
ผลการเรยี นรู้
๑. นักเรียนเกิดเจตคตทิ ีด่ ีต่อคณิตศาสตร์
๒. ฝกึ เสรมิ ทักษะคิดคำนวณเพือ่ ไปใช้ในชวี ิตประจำวัน
๓. นกั เรียนมีความสนุกสนาน และมคี วามคดิ ริเริม่ สร้างสรรคก์ ับตวั เลขท่ีเหมาะสมกับวัย
รวมท้ังหมด ๓ ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรยี นวดั ทา่ กระบอื (ท่ากระบอื พทิ ยาคาร) พทุ ธศักราช ๒๕๖๕ ๑๓๐
คำอธบิ ายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น
กจิ กรรมชุมนุม ชุมนุม“เล่น แบบ วิทย์” (Play science)
ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑-๓ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ปี
หลกั การและเหตุผล
วิทยาศาสตร์มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตในประจำวันของมนุษย์ การนำความรู้ทาง
วิทยาศาสตร์ ไปใช้ในทางที่ถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยให้เกิดการพัฒนาความคิดให้เป็นคนที่มีเหตุผล
มีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์รู้จักการคิดวิเคราะห์และสามารถแก้ปัญหาต่างๆได้ ครูผู้สอนได้ตระหนักถึง
ความสำคัญของวทิ ยาศาสตร์ต่อการพัฒนานักเรียนระดับประถมศึกษา โดยเฉพาะด้านสติปญั ญา ที่เป็นช่วงวัย
แห่งการเรยี นรู้ การอยากรู้อยากเห็น อยากทดลอง เพอื่ เป็นการพฒั นานักเรียนใหร้ ้จู ักตั้งคำถามอยา่ งมีเหตุมีผล
ใช้ทักษะ ที่เหมาะสมกับวัย มีการใช้จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์และใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้
อยา่ งเปน็ ระบบ
การทดลองทางวิทยาศาสตร์ (Science experiment) เป็นกิจกรรมที่ตอบสนองต่อธรรมชาติ
การเรียนรู้ ของนักเรียนและสามารถเรียนรู้จากการเล่น การปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง การมีปฏิสัมพันธ์กับ
สิ่งแวดล้อม
ดังนั้นครูผู้สอนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ จึงได้จัดทำ ชุมนุม “เล่น แบบ วิทย์”(Play
science) เพื่อเป็นการพัฒนาให้นักเรียนมีทักษะความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ และการเรียนรู้ผ่านเล่นด้วยการ
ลงมือปฏิบัติกิจกรรม วิทยาศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างนิสัยการเรียนรู้อย่างมีกระบวนการ ส่งเสริมการคิดอย่าเป็น
ระบบ และศึกษา สิ่งต่างๆ ด้วยการนำทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้เป็นส่ิงกระตุ้นการเรียนรู้ และ
ให้นักเรียนได้พัฒนาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และได้พัฒนาองค์ความรู้ใหม่จากส่ิงที่ได้เรียนรู้จากการลงมอื
ปฏิบตั กิ ิจกรรมต่างๆ ในชมุ นมุ “เลน่ แบบ วิทย”์ (Play science)
ผลการเรยี นรู้
๑. นกั เรียนใชท้ กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการแกป้ ัญหาและความคดิ สร้างสรรค์
๒. นักเรยี น เรียนรผู้ า่ นกิจกรรมการทดลองทางวทิ ยาศาสตร์
๓. นักเรียนเกิดความความอยากรู้อยากเห็น ความสนใจ และเจตคติท่ีดีต่อวิทยาศาสตร์ด้วยการเล่น
ผ่านกจิ กรรมทางวิทยาศาสตร์
รวมทั้งหมด ๓ ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรียนวดั ทา่ กระบอื (ท่ากระบือพทิ ยาคาร) พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๓๑
คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน
กิจกรรมชุมนุม ชุมนมุ เรขาคณิต…คิดสรา้ งสรรค์
ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี
หลักการและเหตุผล
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ได้จัดชุมนุมเรขาคณิต...คิดสร้างสรรค์ ขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน
ไดใ้ ห้ความสนใจด้านคณิตศาสตร์ ได้พฒั นาทกั ษะทางคณติ ศาสตร์ด้วยความสนุกสนานและสร้างสรรค์ โดยการ
เข้าร่วมชุมนุมเรขาคณิต...คิดสร้างสรรค์ เป็นการส่งเสริมให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ เพื่อต่อ
ยอดไปสกู่ ารสรา้ งผลงานทางศลิ ปะโดยใชร้ ูปเรขาคณติ เปน็ พืน้ ฐาน
ฝึกให้นักเรียนมีทักษะทางคณิตศาสตร์ ในด้านการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผ่านกิจกรรมการสร้างผลงาน
ศลิ ปะจากรูปเรขาคณติ ทัง้ รปู เรขาคณิต ๒ มิติ และ ๓ มิติ
ใหน้ กั เรียนได้ฝกึ ฝนทักษะดว้ ยกจิ กรรมท่ีหลากหลาย มีความสุขและสนกุ สนานในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
เพ่ือให้นักเรยี นมีเจตคติท่ดี ีตอ่ วิชาคณิตศาสตร์ และสามารถนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้
ผลการเรียนรู้
๑. มคี วามร้คู วามเขา้ ใจเกี่ยวกับรูปเรขาคณติ ทัง้ ๒ มิติ และ ๓ มติ ิ
๒. มีทกั ษะการคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ทางคณิตศาสตร์
๓. นกั เรยี นมีความรบั ผดิ ชอบ ตรงตอ่ เวลา มีระเบียบ วินยั อดทน มีสมาธิ
๔. นกั เรียนสามารถ สื่อความคิดจนิ ตนาการ ความรู้สึก ความประทับใจด้วยวิธกี ารทางศิลปะได้
๕. สามารถนำความรไู้ ปปรับใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้เปน็ อย่างดี
รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้
หลกั สตู รโรงเรยี นวัดทา่ กระบอื (ทา่ กระบอื พทิ ยาคาร) พุทธศักราช ๒๕๖๕ ๑๓๒
คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ชมุ นมุ English is fun
กิจกรรมชุมนุ ุม เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑-๖
หลักการและเหตุผล
กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศได้จัดชุมนุม English is fun ขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มนักเรียน
ทีม่ คี วามสนใจด้านภาษาอังกฤษ ไดพ้ ฒั นาทักษะทางภาษาอย่างรอบดา้ นดว้ ยความสนุกสนาน ดว้ ยการเข้าร่วม
ชมุ นุม English is fun เปน็ การส่งเสริมความถนัดในทักษะภาษาอังกฤษดา้ นต่างๆ การศกึ ษาเก่ียวกับบทกลอน
สั้นๆ นิทานภาษาอังกฤษที่นักเรยี นคุ้นเคย บทสนทนาสั้นๆ งา่ ยๆ ท่ีนักเรยี นสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ได้ เทศกาลและวัฒนธรรมที่สำคัญ อีกทั้งเกมภาษาอังกฤษที่ช่วยพัฒนาและส่งเสริมให้นักเรียนได้มีทักษะทาง
ภาษาอังกฤษที่ดีเพิ่มขึ้น เกิดความมั่นใจในการใช้และพูดภาษาอังกฤษ สามารถนำความรู้และทักษะ
ทางภาษาองั กฤษทไี่ ด้ไปบูรณาการปรับประยุกตใ์ ชใ้ หเ้ ขา้ กบั สถานการณ์ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
โดยการใช้เทคโนโลยีและแอพพลิเคชั่นต่างๆมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พัฒนาและฝึกทักษะ
การฟงั การพูด การอ่าน และการเขียนภาษาอังกฤษของนกั เรียน ส่งเสริมใหน้ ักเรียนมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ การ
ส่อื สาร การแกป้ ญั หา และความกล้าแสดงออก เกดิ ความม่ันใจในตนเอง
ให้นกั เรียนไดฝ้ กึ ฝนทักษะภาษาอังกฤษด้วยกจิ กรรมท่ีหลากหลาย สนบั สนนุ นักเรยี นใหม้ โี อกาสในการ
พัฒนาตนเองในด้านภาษาอังกฤษ มีความสุขและสนุกสนานในการเข้าร่วมกิจกรรม นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อ
การเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ และสามารถนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้
ผลการเรยี นรู้
๑. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคำ กลมุ่ คำ ประโยค ง่ายๆ ได้ถกู ตอ้ งตามหลักไวยากรณ์
๒. นกั เรียนสามารถตอบคำถามจากการฟัง/การอา่ นประโยค บทสนทนาหรอื นทิ านงา่ ย ๆ
๓. ใช้ทักษะภาษาอังกฤษเพื่อสื่อความเกี่ยวกับ ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัวได้
๔. พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คล พูด/เขียนแสดงความต้องการและขอความช่วยเหลือ
พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และครอบครัว พูดแสดงความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัวและ
กจิ กรรมต่าง ๆ ได้
๕. นกั เรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจเก่ยี วกับเทศกาลสำคญั ประเพณแี ละวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรียนวัดท่ากระบอื (ท่ากระบอื พิทยาคาร) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๓๓
คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชุมนมุ กีฬาพาเพลนิ
กิจกรรมชุมนุม เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑-๖
หลักการและเหตผุ ล
ศึกษารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความรู้ ความเข้าใจ ความสำคัญ กฎ กติกา มารยาท และประโยชน์ของ
การออกกำลังกาย มีทักษะพื้นฐานของการเล่นกีฬาประเภทบุคคล และประเภททีม การเคลื่อนไหวที่มี
ความสมั พันธ์ตอ่ ระบบกลา้ มเนอ้ื และระบบประสาท รวมไปถึงการมีสมรรถภาพทางกายทดี่ ี
โดยใช้การฝึกปฏิบัติ การทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย การนำเสนอผลจากการฝึกปฏิบัติอย่าง
สม่ำเสมอ การมสี ่วนรว่ มในการทำกจิ กรรม
เพื่อที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรง และเจริญเติบโตตามวัย เป็นผู้ที่มีระเบียบวินัย รู้จักการมีน้ำใจเป็น
นกั กีฬา ร้แู พ้ รู้ชนะ ร้อู ภยั มสี ขุ ปฏิบตั ิที่ดี
ผลการเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นมคี วามรู้และความเขา้ ใจ ในทกั ษะการบริหารร่างกายที่ถกู ต้อง
๒. นกั เรียนสามารถเคล่อื นไหวร่างกายในการเลน่ กฬี าได้อย่างมีประสิทธภิ าพ
๓. นักเรียนรักในการออกกำลังกาย
๔. นักเรยี นมีนำ้ ใจนักกีฬา รู้จักการใหแ้ ละการเสยี สละ
รวมทั้งหมด ๔ ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรยี นวดั ท่ากระบอื (ทา่ กระบือพิทยาคาร) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๓๔
เกณฑก์ ารจบการศึกษา
หลักสูตรโรงเรียนวัดท่ากระบือ(ท่ากระบือพิทยาคาร) พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กำหนดเกณฑ์สำหรับการจบการศึกษา
ดังนี้
เกณฑ์การจบระดบั ประถมศึกษา
๑. ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน จำนวน ๘๔๐ ชั่วโมง และรายวิชาเพิ่มเติมจำนวน ๑๖๐ ชั่วโมง
และมีผลการประเมินรายวชิ าพ้ืนฐานผ่านทกุ รายวชิ า
๒. ผ้เู รยี นตอ้ งมีผลการประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี น ระดับ “ผา่ น” ขนึ้ ไป
๓. ผ้เู รียนมผี ลการประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับ “ผา่ น” ข้นึ ไป
๔. ผ้เู รยี นต้องเข้าร่วมกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี นและได้รบั การตดั สนิ ผลการเรียน “ผ่าน” ทกุ กจิ กรรม
การจัดการเรยี นรู้
การจดั การเรียนรู้เป็นกระบวนการสำคัญในการนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติ หลกั สตู รแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน
เป็นเป้าหมายสำหรบั พฒั นาเด็กและเยาวชน
ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลักสูตร ผู้สอนพยายามคัดสรร กระบวนการเรียนรู้
จัดการเรียนรู้โดยช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านสาระท่ีกำหนดไว้ในหลักสูตร ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมทั้งปลูกฝัง
เสริมสร้างคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ พัฒนาทกั ษะต่างๆ อันเป็นสมรรถนะสำคัญใหผ้ ูเ้ รยี นบรรลตุ ามเป้าหมาย
๑. หลักการจัดการเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญ
และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยยึดหลักว่า
ผเู้ รียนมีความสำคัญท่ีสุด เชื่อว่าทุกคนมคี วามสามารถเรียนรแู้ ละพฒั นาตนเองได้ ยึดประโยชนท์ เี่ กิดกับผู้เรียน
กระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ คำนึงถึง
ความแตกต่างระหว่างบคุ คลและพฒั นาการทางสมองเนน้ ใหค้ วามสำคัญทั้งความรู้ และคณุ ธรรม
๒. กระบวนการเรยี นรู้
การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย
เป็นเครื่องมือที่จะนำพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้เรียน อาทิ
กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม
กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง กระบวนการปฏิบัติ
ลงมือทำจริง กระบวนการจัดการ กระบวนการวิจัย กระบวนการเรียนรู้การเรียนรู้ของตนเอง
กระบวนการพฒั นาลกั ษณะนสิ ยั
กระบวนการเหล่านี้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนควรได้ รับการฝึกฝน พัฒนา
เพราะจะสามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ดังนั้น ผู้สอน จึงจำเป็นต้อง
หลกั สตู รโรงเรยี นวดั ทา่ กระบอื (ท่ากระบอื พิทยาคาร) พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๓๕
ศึกษาทำความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ได้
อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
๓. การออกแบบการจัดการเรยี นรู้
ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญ
ของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึงพิจารณาออกแบบ
การจัดการเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เพื่อให้
ผเู้ รียนได้พฒั นาเตม็ ตามศกั ยภาพและบรรลุตามเปา้ หมายที่กำหนด
๔. บทบาทของผสู้ อนและผ้เู รียน
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ทั้งผู้สอนและผู้เรียน
ควรมีบทบาท ดงั นี้
๔.๑ บทบาทของผูส้ อน
๑) ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล แล้วนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการจัดการเรียนรู้
ท่ที า้ ทความสามารถของผู้เรยี น
๒) กำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะกระบวนการ
ท่ีเป็นความคิดรวบยอด หลกั การ และความสมั พนั ธ์ รวมท้งั คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล
และพัฒนาการทางสมอง เพอ่ื นำผู้เรยี นไปสู่เปา้ หมาย
๔) จัดบรรยากาศทเ่ี ออื้ ต่อการเรยี นรู้ และดูแลชว่ ยเหลือผ้เู รยี นให้เกิดการเรยี นรู้
๕) จัดเตรียมและเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรม นำภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยี
ทีเ่ หมาะสมมาประยกุ ตใ์ ช้ในการจดั การเรียนการสอน
๖) ประเมนิ ความกา้ วหนา้ ของผู้เรียนดว้ ยวธิ ีการทหี่ ลากหลาย เหมาะสมกับธรรมชาตขิ องวิชา
และระดบั พฒั นาการของผเู้ รยี น
๗) วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสริมและพัฒนาผู้เรียน รวมทั้งปรับปรุง
การจดั การเรยี นการสอนของตนเอง
๔.๒ บทบาทของผ้เู รียน
๑) กำหนดเปา้ หมาย วางแผน และรบั ผิดชอบการเรียนรขู้ องตนเอง
๒) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ตั้งคำถาม คิดหา
คำตอบหรือหาแนวทางแก้ปัญหาดว้ ยวธิ กี ารตา่ งๆ
๓) ลงมือปฏบิ ตั จิ รงิ สรุปส่ิงทีไ่ ด้เรียนรู้ด้วยตนเอง และนำความรู้ไปประยกุ ตใ์ ช้ในสถานการณ์ต่างๆ
๔) มปี ฏิสัมพันธ์ ทำงาน ทำกิจกรรมรว่ มกับกล่มุ และครู
๕) ประเมนิ และพัฒนากระบวนการเรียนร้ขู องตนเองอยา่ งตอ่ เน่อื ง
สื่อการเรยี นรู้
สื่อการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้
ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อการเรียนรู้
หลกั สตู รโรงเรียนวัดท่ากระบอื (ท่ากระบอื พิทยาคาร) พุทธศักราช ๒๕๖๕ ๑๓๖
มหี ลากหลายประเภท ท้ังสื่อธรรมชาติ ส่ือส่งิ พิมพ์ สอ่ื เทคโนโลยี และเครือข่าย การเรยี นรู้ต่างๆ ที่มีในท้องถิ่น
การเลอื กใชส้ ือ่ ควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับระดับพฒั นาการ และลลี าการเรยี นรทู้ ่หี ลากหลายของผูเ้ รยี น
การจัดหาสื่อการเรียนรู้ ผู้เรียนและผู้สอนสามารถจัดทำและพัฒนาขึ้นเอง หรือปรับปรุงเลือกใช้
อย่างมีคุณภาพจากสื่อต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริม
และสื่อสารให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียน
เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีหน้าที่จัดการศึกษา
ขั้นพนื้ ฐาน ควรดำเนินการดังนี้
๑. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์สื่อการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่าย
การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปลี่ยน
ประสบการณก์ ารเรียนรู้ ระหว่างสถานศึกษา ท้องถ่นิ ชุมชน สงั คมโลก
๒. จัดทำและจัดหาสื่อการเรียนรู้สำหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน
รวมทงั้ จดั หาส่งิ ที่มีอยู่ในทอ้ งถ่ินมาประยุกต์ใช้เป็นสื่อการเรยี นรู้
๓. เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้อง กับวิธี
การเรียนรู้ ธรรมชาตขิ องสาระการเรียนรู้ และความแตกต่างระหวา่ งบุคคลของผ้เู รยี น
๔. ประเมินคณุ ภาพของส่ือการเรยี นรู้ทเ่ี ลอื กใช้อยา่ งเปน็ ระบบ
๕. ศกึ ษาค้นคว้า วิจยั เพื่อพฒั นาสื่อการเรียนรู้ใหส้ อดคล้องกับกระบวนการเรียนร้ขู องผู้เรียน
๖. จัดให้มีการกำกับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับสื่อและการใช้สื่อ
การเรียนรเู้ ป็นระยะๆ และสมำ่ เสมอ
ในการจัดทำ การเลือกใช้ และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ในสถานศึกษา ควรคำนึงถึง
หลักการสำคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบ
กิจกรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เนื้อหามีความถูกต้องและทันสมัย ไม่กระทบความมั่นคง
ของชาติ ไมข่ ัดต่อศลี ธรรม มกี ารใช้ภาษาที่ถกู ตอ้ ง รปู แบบการนำเสนอที่เข้าใจง่าย และนา่ สนใจ
การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนตอ้ งอยู่บนหลักการพื้นฐานสองประการ คือ การประเมิน
เพื่อพัฒนาผู้เรียนและเพื่อตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบผลสำเร็จ
นั้น ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อน
สมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผล
การเรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูล
และสารสนเทศที่แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนข้อมูล
ทเ่ี ปน็ ประโยชน์ตอ่ การส่งเสริมใหผ้ ูเ้ รียนเกิด การพัฒนาและเรยี นรู้อยา่ งเตม็ ตามศักยภาพ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา
ระดบั เขตพน้ื ทีก่ ารศึกษา และระดบั ชาติ มีรายละเอียด ดงั น้ี
๑. การประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้
ผู้สอนดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย
หลกั สูตรโรงเรียนวัดทา่ กระบอื (ทา่ กระบือพทิ ยาคาร) พทุ ธศักราช ๒๕๖๕ ๑๓๗
เช่น การซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน
แฟ้มสะสมงาน การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง
เพ่ือนประเมินเพ่ือน ผู้ปกครองร่วมประเมนิ ในกรณีท่ไี มผ่ า่ นตวั ช้วี ัดใหม้ กี ารสอนซอ่ มเสริม
การประเมินระดับชั้นเรียนเป็นการตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้
อันเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีสิ่งที่จะต้องไดร้ ับการพัฒนา
ปรับปรุงและส่งเสรมิ ในดา้ นใด นอกจากนี้ยังเป็นขอ้ มูลให้ผู้สอนใช้ปรับปรงุ การเรียนการสอนของตนดว้ ย ทั้งน้ี
โดยสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชี้วดั
๒. การประเมินระดับสถานศึกษา เป็นการประเมนิ ทีส่ ถานศึกษาดำเนนิ การเพื่อตัดสินผล การเรียน
ของผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์
และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษา ของสถานศึกษา ว่าส่งผล
ต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมทั้งสามารถนำผลการเรียน
ของผู้เรียนในสถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูล
และสารสนเทศเพื่อการปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจน
เพื่อการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษา
และการรายงานผลการจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน ผู้ปกครองและชุมชน
๓. การประเมนิ ระดบั เขตพืน้ ทีก่ ารศึกษา เป็นการประเมินคณุ ภาพผูเ้ รยี นในระดบั เขตพ้นื ท่ีการศึกษา
ตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนา
คุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดยประเมินคุณภาพ
ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานที่จัดทำและดำเนินการโดยเขตพื้นที่การศึกษา หรือด้วยความ
ร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัด ในการดำเนินการจัดสอบ นอกจากนี้ยังได้จากการตรวจสอบทบทวนข้อมูล
จากการประเมนิ ระดบั สถานศึกษาในเขตพื้นท่ีการศึกษา
๔. การประเมินระดับชาติ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐานการเรียนรู้
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนที่เรียน ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เข้ารับการประเมิน ผลจากการประเมินใช้เป็นข้อมูลในการเทียบเคียงคุณภาพ
การศึกษาในระดับต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ตลอดจนเป็นข้อมูล
สนบั สนุนการตัดสินใจในระดับนโยบายของประเทศ
ข้อมูลการประเมินในระดบั ต่างๆ ขา้ งตน้ เปน็ ประโยชน์ตอ่ สถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวนพัฒนา
คุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข
ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลที่จำแนก
ตามสภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียน
ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน
กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูลจากการ
ประเมินจึงเป็นหัวใจของสถานศึกษาในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที ปิดโอกาสให้ผู้เรียน
ไดร้ บั การพัฒนาและประสบความสำเรจ็ ในการเรียน
หลักสูตรโรงเรยี นวดั ทา่ กระบอื (ท่ากระบอื พิทยาคาร) พุทธศักราช ๒๕๖๕ ๑๓๘
สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดทำระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผล
การเรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติท่ีเป็นข้อกำหนดของหลักสูตร
แกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน เพ่ือให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องทกุ ฝา่ ยถือปฏิบัตริ ่วมกัน
เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการเรียน
๑. การตัดสนิ การใหร้ ะดบั และการรายงานผลการเรยี น
๑.๑ การตัดสินผลการเรยี น
ในการตัดสินผลการเรียนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนั้น ผู้สอนต้องคำนึงถึงการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคน
เป็นหลัก และต้องเก็บข้อมูลของผู้เรียนทุกด้านอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในแต่ละภาคเรียน รวมทั้งสอน
ซ่อมเสรมิ ผูเ้ รยี นให้พัฒนาจนเตม็ ตามศักยภาพ
ระดับประถมศึกษา
(๑) ผ้เู รยี นตอ้ งมีเวลาเรียนไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นท้งั หมด
(๒) ผ้เู รียนตอ้ งไดร้ บั การประเมินทุกตวั ช้วี ัด และผา่ นตามเกณฑ์ท่สี ถานศกึ ษากำหนด
(๓) ผู้เรียนต้องไดร้ ับการตัดสนิ ผลการเรยี นทุกรายวิชา
(๔) ผู้เรียนต้องได้รบั การประเมนิ และมีผลการประเมินผา่ นตามเกณฑท์ ส่ี ถานศึกษากำหนด
ในการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน
การพิจารณาเลื่อนชั้น ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่า
สามารถพัฒนาและสอนซ่อมเสรมิ ได้ ใหอ้ ยูใ่ นดุลพนิ จิ ของสถานศึกษาที่จะผ่อนผนั ใหเ้ ล่ือนชั้นได้ แต่หากผู้เรียน
ไม่ผ่านรายวิชาจำนวนมาก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นปญั หาต่อการเรียนในระดับชั้นที่สงู ขึ้น สถานศึกษาอาจต้ัง
คณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้ำชั้นได้ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงวุฒิภาวะและความรู้ความสามารถของผู้เรียน
เปน็ สำคญั
๑.๒ การให้ระดับผลการเรยี น
ระดับประถมศกึ ษา ในการตัดสินเพ่อื ให้ระดับผลการเรียนรายวชิ า สถานศึกษาสามารถให้ระดับ
ผลการเรียนหรือระดับคุณภาพการปฏิบตั ิของผู้เรียน เปน็ ระบบตวั เลข ระบบตวั อักษร ระบบร้อยละและระบบ
ทใี่ ชค้ ำสำคญั สะท้อนมาตรฐาน
การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผล
การประเมนิ เป็น ดเี ย่ยี ม ดี และผ่าน
การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ
กิจกรรมและผลงานของผู้เรียน ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด และให้ผลการเข้าร่วมกิจกรรมเป็นผ่าน
และไม่ผา่ น
หลกั สตู รโรงเรียนวดั ท่ากระบอื (ท่ากระบอื พิทยาคาร) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๓๙
๑.๓ การรายงานผลการเรียน
การรายงานผลการเรียนเป็นการส่ือสารใหผ้ ้ปู กครองและผเู้ รียนทราบความก้าวหนา้ ในการเรียนรู้
ของผู้เรียน ซึ่งสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินและจัดทำเอกสารรายงานให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะๆ
หรอื อย่างนอ้ ยภาคเรียนละ ๑ ครั้ง
การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเป็นระดับคณุ ภาพการปฏิบตั ขิ องผูเ้ รยี นทสี่ ะทอ้ น
มาตรฐานการเรยี นรู้กลุ่มสาระการเรยี นรู้
๒. เกณฑ์การจบการศึกษา
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน กำหนดเกณฑ์กลางสำหรบั การจบการศึกษาเป็น ๑ ระดับ คือ
ระดบั ประถมศกึ ษา
๒.๑ เกณฑก์ ารจบระดบั ประถมศึกษา
(๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน และรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติมตามโครงสร้างเวลาเรียน
ท่ีหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐานกำหนด
(๒) ผู้เรียนตอ้ งมผี ลการประเมินรายวชิ าพ้ืนฐาน ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินตามทีส่ ถานศึกษากำหนด
(๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน
ตามท่ีสถานศกึ ษากำหนด
(๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตาม
ทส่ี ถานศึกษากำหนด
(๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตาม
ที่สถานศึกษากำหนด
สำหรับการจบการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น การศึกษาเฉพาะทาง การศึกษาสำหรับ
ผู้มีความสามารถพิเศษ การศึกษาทางเลือก การศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส การศึกษาตามอั ธยาศัย
ให้คณะกรรมการของสถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการวัดและประเมินผล
การเรียนรู้ตามหลักเกณฑ์ในแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐานสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
หลกั สตู รโรงเรยี นวัดทา่ กระบอื (ท่ากระบอื พทิ ยาคาร) พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๔๐
เอกสารหลกั ฐานการศึกษา
เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็นเอกสารสำคัญที่บันทึกผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง
กบั พฒั นาการของผูเ้ รยี นในดา้ นตา่ ง ๆ แบง่ ออกเป็น ๒ ประเภท ดงั นี้
๑. เอกสารหลกั ฐานการศึกษาทก่ี ระทรวงศึกษาธิการกำหนด
๑.๑ ระเบียนแสดงผลการเรียน เป็นเอกสารแสดงผลการเรียนและรับรองผลการเรียน
ของผู้เรียนตามรายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ของสถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้องบันทึกข้อมูลและออกเอกสารนี้
ให้ผู้เรยี นเปน็ รายบคุ คล เมอ่ื ผเู้ รียนจบการศึกษาระดับประถมศกึ ษา (ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๖)
๑.๓ แบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา เป็นเอกสารอนุมัติการจบหลักสูตรโดยบันทึกรายชื่อ
และขอ้ มลู ของผ้จู บการศึกษาระดบั ประถมศึกษา (ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖)
๒. เอกสารหลกั ฐานการศึกษาทสี่ ถานศึกษากำหนด
เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทำขึ้นเพื่อบันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลสำคัญ เกี่ยวกับ
ผู้เรียน เช่น แบบรายงานประจำตัวนักเรียน แบบบันทึกผลการเรียนประจำรายวิชา ระเบียนสะสม ใบรับรอง
ผลการเรยี น และ เอกสารอนื่ ๆ ตามวัตถุประสงค์ของการนำเอกสารไปใช้
การเทยี บโอนผลการเรียน
สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของผู้เรียนในกรณีต่างๆได้แก่ การย้ายสถานศึกษา
การเปลี่ยนรูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การออกกลางคันและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษา
จากต่างประเทศและขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ ยังสามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์
จากแหลง่ การเรียนรอู้ ื่นๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบันศาสนา สถาบนั การฝกึ อบรมอาชีพ การจดั การศึกษา
โดยครอบครัว
การเทียบโอนผลการเรียนควรดำเนินการในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนแรก หรือต้นภาคเรียนแรก
ที่สถานศึกษารับผู้ขอเทียบโอนเป็นผู้เรียน ทั้งนี้ ผู้เรียนที่ได้รับการเทียบโอนผลการเรียนต้องศึกษาต่อเนื่องใน
สถานศึกษาที่รับเทียบโอนอย่างน้อย ๑ ภาคเรียน โดยสถานศึกษาที่รับผู้เรียนจากการเทียบโอนควรกำหนด
รายวิชา/จำนวนหน่วยกิตทจี่ ะรบั เทียบโอนตามความเหมาะสม
การพจิ ารณาการเทยี บโอน สามารถดำเนนิ การได้ ดังนี้
๑. พิจารณาจากหลักฐานการศึกษา และเอกสารอื่นๆ ที่ให้ข้อมูลแสดงความรู้ ความสามารถ
ของผเู้ รยี น
๒. พิจารณาจากความรู้ ความสามารถของผู้เรียนโดยการทดสอบด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งภาคความรู้
และภาคปฏบิ ตั ิ
๓. พิจารณาจากความสามารถและการปฏบิ ัตใิ นสภาพจริง
การเทียบโอนผลการเรียนใหเ้ ปน็ ไปตาม ประกาศ หรือ แนวปฏบิ ัติ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ
หลกั สูตรโรงเรียนวดั ทา่ กระบอื (ทา่ กระบอื พิทยาคาร) พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๔๑
การบรหิ ารจัดการหลักสตู ร
ในระบบการศึกษาที่มีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นและสถานศึกษามีบทบาทในการพัฒนาหลักสูตร
นั้น หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในแต่ละระดับ ตั้งแต่ระดับชาติ ระดับท้องถิ่น จนถึงระดับสถานศึกษา
มีบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบในการพัฒนา สนับสนุน ส่งเสริม การใช้และพัฒนาหลักสูตรให้เป็นไป
อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การดำเนินการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาและการจัดการเรียนการสอนของ
สถานศึกษามีประสิทธิภาพสูงสุด อันจะส่งผลให้การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้
ทกี่ ำหนดไว้ในระดบั ชาติ
ระดับท้องถิ่น ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานต้นสงั กัดอื่นๆ เป็นหน่วยงานที่มีบทบาท
ในการขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา เป็นตัวกลางที่จะเชื่อมโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ที่กำหนดในระดับชาติให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่การจัดทำหลักสูตร
ของสถานศึกษา ส่งเสริมการใช้และพัฒนาหลักสูตรในระดับสถานศึกษา ให้ประสบความสำเร็จ โดยมีภารกิจ
สำคัญ คือ กำหนดเป้าหมายและจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผูเ้ รียน ในระดับท้องถิ่นโดยพิจารณาให้สอดคล้อง
กับสิ่งที่เป็นความต้องการในระดับชาติ พัฒนาสาระ การเรียนรู้ท้องถิ่น ประเมินคุณภาพการศึกษาในระดับ
ท้องถ่นิ รวมทัง้ เพิม่ พนู คุณภาพการใชห้ ลักสูตรดว้ ยการวิจัยและพัฒนา การพฒั นาบุคลากร สนับสนนุ ส่งเสริม
ติดตามผล ประเมินผล วเิ คราะห์ และรายงานผลคณุ ภาพของผ้เู รียน
สถานศึกษามีหน้าที่สำคัญในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การวางแผนและดำเนินการใช้หลักสูตร
การเพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรจัดทำระเบียบ
การวัดและประเมินผล ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาต้องพิจารณาให้สอดคล้อง กับหลักสู ตรแกนกลาง
การศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน และรายละเอยี ดทีเ่ ขตพืน้ ท่ีการศึกษา หรือหนว่ ยงาน สังกัดอนื่ ๆ ในระดับทอ้ งถิ่นได้จัดทำ
เพิ่มเติม รวมทั้ง สถานศึกษาสามารถเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวกับสภาพปัญหาในชุมชนและสังคมภูมิปัญญา
ท้องถนิ่ และความตอ้ งการของผเู้ รยี น โดยทุกภาคสว่ นเข้ามามีสว่ นร่วมในการพฒั นาหลักสตู รสถานศกึ ษา
หลักสูตรโรงเรยี นวดั ท่ากระบอื (ทา่ กระบอื พิทยาคาร) พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๔๒
ภาคผนวก
หลักสตู รโรงเรยี นวดั ท่ากระบอื (ท่ากระบือพิทยาคาร) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๔๓
หลักสตู รโรงเรยี นวดั ท่ากระบอื (ท่ากระบือพิทยาคาร) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๔๔
หลักสตู รโรงเรยี นวดั ท่ากระบอื (ท่ากระบือพิทยาคาร) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ๑๔๕