หนว่ ย ชอ่ื หน่วย มาตรฐาน/ ๗๔
ที่ ตัวช้ีวดั
๗ ทำงานอย่างเป็นระบบ ว ๔.๒ ป. ๑/๓ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน
(ชม.)
๘ ปลอดภัยไว้ก่อน ว ๔.๒ ป. ๑/๕
การเขียนโปรแกรมเป็นการสร้าง ๕ ๕
สอบ ลำดับคำสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน
รวมทั้งส้ิน การเขียนโปรแกรมเพื่อสั่งให้ตัว
ละครย้ายตำแหน่ง ย่อขยายขนาด
หรือเปลี่ยนรูปร่างทำให้เข้าใจระบบ
การทำงานของคอมพิวเตอร์และการ
เขียนโปรแกรม การเขียนโปรแกรม
โดยใช้บัตรคำสั่งและใช้สื่อใน
เว็บไซต์ ทำให้เข้าใจระบบการ
ทำงานของคอมพิวเตอร์ การเขียน
โปรแกรม การวิเคราะห์ปัญหา และ
การวางแผนแก้ปัญหา สามารถ
แก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็น
ขน้ั ตอน และเป็นระบบ และสามารถ
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน
และการแก้ปัญหาได้อย ่างมี
ประสทิ ธิภาพ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ๔ ๕
ปลอดภัย เช่น การไม่เปิดเผย
ข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลอื่น ยกเว้น
ผปู้ กครองหรอื ครู
ก า ร แ จ ้ ง ผ ู ้ ท ี ่ เ ก ี ่ ย ว ข ้ อ ง เ มื่ อ
ต้องการความช่วยเหลือในการใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศ ก่อให้เกิด
ความปลอดภัยทั้งชีวิตและ
ทรัพย์สนิ
การใช้งานและการดูแลรักษา
อุปกรณ์เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม
ก่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งร่างกาย
และทรัพยส์ ิน
๒ ๔๐
๘๐ ๑๐๐
โครงสรา้ งรายวชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๗๕
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๒
กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หนว่ ย ชื่อหน่วย มาตรฐาน/
ที่ ตวั ชวี้ ดั จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง/ปี
๑ ความแตกต่างที่เปน็ ว ๑.๓ ป.๒/๑
จริง สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน
(ชม.)
๒ อัศจรรยพ์ ันธ์ุพืช ว ๑.๒ ป.๒/๑
ว ๑.๒ ป.๒/๒ สิ่งที่อยู่รอบตัวเรามีทั้งที่เป็น ๑๐ ๕
ว ๑.๒ ป.๒/๓ ส่ิงมชี ีวิตและสง่ิ ไมม่ ีชีวิต ส่ิงมีชีวิต
ต้องการอาหารมีการหายใจ
๓ ตวั ตนของฉนั ว ๒.๑ ป.๒/๑ เจริญเติบโต ขับถ่ายเคลื่อนไหว
ว ๒.๑ ป.๒/๒ ตอบสนองต่อสิ่งเร้าและสืบพันธ์ุ
ว ๒.๑ ป.๒/๓ ได้ลูกที่มลี ักษณะคล้ายคลึงกับพ่อ
ว ๒.๑ ป.๒/๔ แม่ ส่วนสิ่งไม่มีชีวิตจะไม่มี
ลกั ษณะดงั กลา่ ว
๔ แสงและการมองเห็น ว ๒.๓ ป.๒/๑ พืชต้องการ น้ำ แสง เพื่อการ ๑๒ ๑๐
ว ๒.๓ ป.๒/๒ ดำรงชีวิตและการเจริญเติบโต
พืชดอกเมื่อเจริญเติบโตและมี
ดอกจะมีการสืบพันธ์ หมุนเวียน
ต่อเน่อื งเป็นวัฏจักรของพืชดอก
วัสดุแต่ละชนิดมีสมบัติการดูดซับ ๑๕ ๑๐
น้ำแตกต่างกัน วัสดุบางอย่าง
สามารถนำมาผสมกันซึ่งทำให้ได้
สมบัติที่เหมาะสม เพื่อนำไปใช้
ประโยชน์ตาม ต้องการ การนำ
วัสดุมาทำเป็นวัตถุในการใช้งาน
ตาม วตั ถปุ ระสงคข์ ้นึ อยู่กับสมบัติ
ของวัสดุ วัสดุที่ใช้ แล้วอาจนำ
กลับมาใช้ใหม่ได้
แสงเคลื่อนที่จากแหล่งกำเนิด ๑๐ ๕
แสงทุกทิศทางเป็นแนวตรงเมื่อมี
แสงจากวัตถุมาเข้าตาจะทำให้
มองเห็นวัตถุนั้น ถ้ามีแสงที่สว่าง
มากๆ เข้าสู่ตา อาจเกิดอันตราย
ต่อตาได้ จึงตอ้ งหลกี เลี่ยงการมอง
หรือใชแ้ ผ่นกรองแสงท่มี ีคณุ ภาพ
๗๖
หน่วย ชอื่ หน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน
ท่ี ตัวชีว้ ัด (ชม.)
๕ ดนิ ดมี ีประโยชน์ ว ๓.๒ ป.๒/๑ ดินประกอบดว้ ยเศษหนิ ซ า ก พื ช ๑๑ ๑๐
ว ๓.๒ ป.๒/๒ ซากสัตว์ผสมอยู่ในเน้ือดนิ มีอากาศ
และน้ำแทรกอยู่ตามช่องว่าง ใน ๕๔
๖ สนุกกับปัญหา ว ๔.๒ ป.๒/๑ เนื้อดิน ดินจำแนกเป็นดินร่วน ดิน ๖๖
เหนียว และดินทราย ตามลักษณะ
๗ โปรแกรมนา่ รู้ ว ๔.๒ ป.๒/๒ เนื้อดินและการจับตัว ดินแต่ละ ๕๖
ชนิดนำไปใช้ประโยชน์ได้แตกต่าง
๘ การใช้เทคโนโลยีในการ ว ๔.๒ ป.๒/๓ กนั ๔๔
สร้างงาน การแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหา ทำ ๒ ๔๐
ได้โดยการเขียน บอกเล่า วาดภาพ ๘๐ ๑๐๐
๙ ปลอดภัยไวก้ ่อน ว ๔.๒ ป.๒/๔ หรือใช้สัญลักษณ์ การแก้ปัญหา
อย่างง่ายโดยใชเ้ กม
เขียนโปรแกรมสั่งให้ตัวละครทำงาน
ตามที่ต้องการและตรวจสอบ
ข้อผิดพลาดปรับแก้ไขให้ได้ผลลัพธ์
ตามที่กำหนดการตรวจหาข้อผิดข้อ
พลาดทำได้โดยตรวจสอบคำสั่ง
การใช้งานซอฟต์แวร์เบื้องต้น เช่น
การเข้าและออกจากโปรแกรม การ
สร้างไฟล์ การจัดเก็บการเรียกใช้
ไฟล์ การแก้ไขตกแต่งเอกสาร การ
สร้าง คัดลอก ย้าย ลบ เปลี่ยนช่ือ
จัดหมวด หมู่ไฟล์ และโฟลเดอร์
อย่างเป็นระบบจะทำให้ เรียกใช้
คน้ หาขอ้ มูลได้งา่ ยและรวดเรว็
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง
ปลอดภัย ข้อปฏิบัติในการใช้งาน
และการดูแลรักษาอุปกรณ์ การใช้
งานอย่างเหมาะสม
สอบ
รวมท้ังสิ้น
๗๗
โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๓ จำนวน ๘๐ ชั่วโมง/ปี
หน่วย ช่อื หน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน
ท่ี ตัวชว้ี ดั (ชม.)
๑ ชวี ติ สัมพนั ธ์ ว ๑.๒ ป.๓/๑ มนุษย์และสัตว์ต้องการอาหาร น้ำ และ ๑๔ ๕
ว ๑.๒ ป.๓/๒ อากาศเพื่อการดำรงชีวิตและการ
ว ๑.๒ ป.๓/๓ เจริญเติบโต อาหารช่วยให้ร่างกาย ๖๕
ว ๑.๒ ป.๓/๔ แข็งแรงและเจริญเติบโตน้ำช่วยให้ ๑๐ ๑๐
ร่างกายทำงานได้อย่างปกติอากาศใช้ใน
๒ วสั ดุรอบตวั ว ๒.๑ ป.๓/๑ การหายใจ สัตว์เมื่อเป็นตัวเต็มวัยจะ
ว ๒.๑ ป.๓/๒ สืบพันธุ์มีลูกเมื่อลูก เจริญเติบโตเป็นตัว
เ ต ็ ม ว ั ย ก ็ ส ื บ พ ั น ธ ุ ์ ม ี ล ู ก ต ่ อ ไ ป ไ ด ้ อี ก
๓ ดว้ ยแรงแหง่ รกั ว ๒.๒ ป.๓/๑ หมุนเวียนต่อเนื่องเป็นวัฏจักรชีวิตของ
ว ๒.๒ ป.๓/๒ สัตว์ ซึ่งสัตว์แต่ละชนิด เช่น ผีเสื้อ กบ
ว ๒.๒ ป.๓/๓ ไก่มนุษย์ จะมีวัฏจักรชีวิตที่เฉพาะและ
ว ๒.๒ ป.๓/๔ แตกต่างกนั
วัตถุอาจทำจากชิ้นส่วนย่อยๆ แต่ละช้ิน
ของวัตถุออกจากกันสามารถนำชิ้นส่วน
เหล่าน้นั มาประกอบเปน็ วตั ถุช้นิ ใหม่ได้
วัสดุจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เช่น สี
เปลย่ี น รปู ร่างเปลย่ี น
การดงึ หรือการผลักเป็นการออกแรง
กระทำตอ่ วัตถุ การเปลย่ี นแปลงการ
เคลือ่ นที่ของวตั ถุ แรงสมั ผสั และแรงไม่
สัมผสั แมเ่ หลก็ สามารถดึงดูดสาร
แมเ่ หลก็ ได้ แรงแมเ่ หล็กเป็นแรงท่ี
เกดิ ขน้ึ ระหว่างแม่เหลก็ กบั สารแม่เหล็ก
หรอื แม่เหลก็ กับแมเ่ หลก็ แม่เหลก็ มี ๒
ข้ัว คือข้วั เหนือและขว้ั ใต้ ขั้วแมเ่ หลก็
ชนิดเดยี วกนั จะผลกั กนั จะผลักกนั ต่าง
ชนดิ กัน จะดงึ ดดู กนั
๗๘
หน่วย ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน
ท่ี ตวั ชว้ี ดั (ชม.)
๔ ความผูกพนั ธ์อนั ว ๓.๑ ป.๓/๑ ดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้นทางด้านหนึ่งและตก ๑๐ ๕
ยิ่งใหญ่ ว ๓.๑ ป.๓/๒ ทางอีกด้านหนึ่งทุกวัน โลกกลมและ
ว ๓.๑ ป.๓/๓ หมุนรอบตัวเองขณะโคจรรอบดวง อาทิตย์
ทำให้บริเวณของโลกได้รับแสงอาทิตย์ไม่
พร้อมกัน ในเวลากลางวันโลกจะได้รับ
พลงั งานแสงและ พลังงานความร้อนจากดวง
อาทติ ย์ทำใหส้ ิง่ มชี ีวติ ดำรงชีวิตอยู่ได้
๕ ขาดฉนั แลว้ เธอ ว ๓.๒ ป.๓/๑ อากาศโดยทั่วไปไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มี ๑๐ ๑๐
จะร้สู กึ ว ๓.๒ ป.๓/๒ ความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตหากส่วนประกอบ
ว ๓.๒ ป.๓/๓ ของอากาศไม่เหมาะสม เนื่องจากมีแก๊สบาง
ว ๓.๒ ป.๓/๔ ชนิดหรือ ฝุ่นละอองในปริมาณมากอาจเป็น
อันตรายต่อ สิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ จัดเป็น
มลพิษทางอากาศ ลม คืออากาศที่เคลื่อนท่ี
เ ก ิ ด จ า ก ค ว า ม แ ต ก ต ่ า ง ก ั น ข อ ง อ ุ ณ ห ภ ู มิ
อากาศบริเวณที่อยู่ใกล้กัน โดยอากาศ
บริเวณที่มีอุณหภูมิสูง จะลอยตัวสูงขึ้นและ
อากาศ บริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจะเคลื่อน
เข้าไปแทนที่
๖ ไฟฟา้ ในบ้าน ว ๒.๒ ป.๓/๑ พลงั งานเปน็ ปริมาณที่แสดงถึงความสามารถ ๑๐ ๕
ว ๒.๒ ป.๓/๒ ในการทำงานพลังงานมีหลายแบบ ไฟฟ้า
ว ๒.๒ ป.๓/๓ ผลิตจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าซึ่งใช้พลังงาน
จากแหล่งพลังงานธรรมชาติหลายแหล่ง
พ ล ั ง ง า น ไ ฟ ฟ ้ า ม ี ค ว า ม ส ำ ค ั ญ ต่ อ
ชีวิตประจำวันการใช้ไฟฟ้านอกจากต้องใช้
อย่างถูกวิธี ประหยัดและคุ้มค่าแล้วยังต้อง
คำนึงถงึ ความปลอดภยั ดว้ ย
๗ ปัญหาพาสนุก ว ๔.๒ ป. ๓/๑ อัลกอริทึมเป็นขั้นตอนที่ใช้ในการแก้ปัญหา ๕ ๔
การแสดงอลั กอรทิ ึม ทำไดโ้ ดยการเขียนบอก
เล่า วาดภาพ หรือใช้สัญลักษณ์ ตัวอย่าง
ปัญหาเช่น เกมเศรษฐี เกมบันไดงู การเดิน
ไปโรงอาหารการทำความสะอาดห้องเรยี น
หน่วย ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด ๗๙
ที่ ตวั ช้วี ดั เวลา คะแนน
๘ โปรแกรมหรรษา ว ๔.๒ ป.๓/๒ การเขียนโปรแกรมเป็นการสร้าง (ชม.)
ลำดับของคำสั่งให้คอมพิวเตอร์ ๕๖
๙ เทคโนโลยสี ร้างสรรค์ ว ๔.๒ ป.๓/๓ ทำงาน การตรวจหาข้อผิดพลาดทำ
ว ๔.๒ ป.๓/๔ ได้โดยตรวจสอบคำสั่ง ที่แจ้ง ๔๖
ข้อผิดพลาดหรือหากผลลัพธ์ไม่
๑๐ ปลอดภยั ไวก้ ่อน ว ๔.๒ ป.๓/๕ เป็นไปตาม ที่ต้องการให้ตรวจสอบ ๔๔
การทำงานทีละคำสั่ง ซอฟต์แวร์
สอบ หรือสื่อที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม ๒ ๔๐
รวมท้ังสน้ิ เช่นใช้บัตรคำสั่งแสดงการเขียน ๘๐ ๑๐๐
โปรแกรม, Code.org
การใช้อินเทอร์เน็ตในการสืบค้น
ข้อมลู และการใช้อินเทอร์เน็ตอย่าง
ปลอดภัย การรวบรวมข้อมูล การ
นำเสนอข้อมูล การใช้ซอฟต์แวร์
ทำงานตามวัตถุประสงค์ เช่นใช้
ซอฟต์แวร์นำเสนอ หรือซอฟต์แวร์
กราฟกิ สรา้ งแผนภูมิรูปภาพ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง
ปลอดภัย เช่นปกป้องข้อมูลส่วนตวั
ข อ ค ว า ม ช ่ ว ย เ ห ล ื อ จ า ก ค ร ู ห รื อ
ผู้ปกครองเมื่อเกดิ ปัญหาจากการใช้
งาน การปฏิบัติตามข้อตกลงในการ
ใช้อินเทอร์เน็ต ข้อดีและข้อเสียใน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ
การส่อื สาร
๘๐
โครงสรา้ งรายวชิ าวิทยาศาสตร์ กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง/ปี
หนว่ ย ช่ือหน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน
ท่ี ตวั ชี้วดั (ชม.)
๑ ชีวิตทห่ี ลากหลาย ว ๑.๓ ป.๔/๑ สิ่งมีชีวิตมีหลายชนิด โดยแต่ละชนิดจะมี ๑๕ ๘
ว ๑.๔ ป.๔/๒ ลักษณะสำคัญบางอย่างเหมือนกันหรือแตกต่าง
ว ๑.๓ ป.๔/๓ กันไป ซึ่งสามารถใช้เป็นเกณฑ์ในการจัดกลุ่ม
ว ๑.๓ ป.๔/๔ สิ่งมีชีวิตออกเป็นกลุ่มพืช กลุ่มสัตว์ และกลุ่มท่ี
ไม่ใช่พืชและสัตว์ ในการจำแนกพืชสามารถใช้
ลักษณะการมีดอกของพชื เป็นเกณฑ์ และในการ
จำแนกสัตว์สามารถใช้การมีกระดูกสันหลังของ
สัตวเ์ ป็นเกณฑ์ได้ สตั ว์มีกระดูกสันหลังแบ่งออก
ได้ 5 กลุ่ม ซึ่งสัตว์มีกระดูกสันหลังแต่ละกลุ่ม
จะมีลักษณะเฉพาะที่ สังเกตไดแ้ ตกต่างกนั
๒ เรียนร้สู ่วนต่างๆ ว ๑.๒ ป.๔/๑ สว่ นตา่ งๆของพืชดอกทำหน้าท่ีแตกต่างกัน ราก ๑๔ ๘
ของพชื ทำหน้าที่ดูดน้ำและธาตุอาหารขึ้นไปยังลำต้น
ลำต้นทำหน้าทลี่ ำเลียงนำ้ ตอ่ ไปยงั สว่ นตา่ งๆของ
พืช ใบทำหน้าที่สร้างอาหาร อาหารที่พืชสร้าง
ขึ้นคือน้ำตาลซึ่งจะเปลี่ยนเป็นแป้ง ดอกทำ
หน้าที่สืบพันธุ์ ประกอบด้วยส่วนประกอบต่างๆ
ไดแ้ ก่ กลบี เลย้ี ง กลีบดอก เกสรเพศผู้ และเกสร
เพศเมีย ซึ่งส่วนประกอบแต่ละส่วนของดอกทำ
หนา้ ทแี่ ตกตา่ งกัน
๓ ใครๆก็รักฉัน ว ๒.๒ ป.๔/๑ แรงโน้มถ่วงของโลก เป็นแรงดงึ ดดู ที่โลกกระทำ ๖ ๓
ว ๒.๒ ป.๔/๒ ต่อมวลของวัตถุทุกชนิดที่อยู่บนโลกและที่อยู่
ว ๒.๒ ป.๔/๓ ใกล้โลก ซึ่งมีทิศทางเข้าสู่ศูนย์กลางของโลก ทำ
ใหว้ ัตถุมีนำ้ หนักและตกลงสู่พนื้ โลก เราสามารถ
วัดนำ้ หนกั ของวัตถไุ ดโ้ ดยใช้เครอ่ื งชัง่ สปริง
มวลของวัตถุต่างๆ มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง
การเคลื่อนที่ของวัตถุ วัตถุที่มีมวลมากจะ
เปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ได้ยากกว่าวัตถุที่มี
มวลน้อย
๘๑
หนว่ ย ช่อื หน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน
ที่ ตวั ช้วี ัด (ชม.)
๔ แสงกบั การเดินทาง ว ๒.๓ ป.๔/๑ เมื่อมองสิ่งต่าง ๆ โดยมีวัตถุต่างชนิด ๕๓
มากั้นแสง จะทำให้มองเห็นสิ่งนั้น ๆ
๕ สมบัตทิ างกายภาพ ว ๒.๑ ป.๔/๑ ชัดเจนแตกต่างกันไป จึงจำแนกวัตถุที่ ๑๔ ๘
นำมากั้นแสงได้เป็นตัวกลางโปร่งใสซึ่ง
ของวัสดุ ว ๒.๑ ป.๔/๒ ทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆได้ชัดเจน
ตัวกลางโปร่งแสงทำให้มองเห็นส่ิง
ต่างๆได้ไม่ชัดเจน และวัตถุทึบแสงทำ
ให้มองไม่เห็นสงิ่ ต่างๆ
วัสดุต่าง ๆ มีสมบัติทางกายภาพท่ี
สามารถสังเกตและทดสอบได้แตกต่าง
กันไป วัสดุที่มีความแข็งจะทนต่อแรง
ขูดขีด วัสดุที่มีสภาพยืดหยุ่นจะ
เปล่ยี นแปลงรปู รา่ งเม่ือมีแรงมากระทำ
และกลับสภาพเดิมได้ วัสดุที่นำความ
ร้อนจะร้อนได้เร็วเมื่อได้รับความร้อน
แ ล ะ ว ั ส ด ุ ท ี ่ น ำ ไ ฟ ฟ ้ า ไ ด ้ จ ะ ใ ห้
กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ ดังนั้นจึงอาจ
นำสมบัติต่างๆมาพิจารณาเพื่อใช้ใน
กระบวนการออกแบบชิ้นงานเพื่อใช้
ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั
๖ สสารเปลยี่ นรปู ว ๒.๑ ป.๔/๓ วัสดุเป็นสสารเพราะมีมวลและ ๑๓ ๕
ว ๒.๑ ป.๔/๔ ต้องการที่อยู่ สสารมีสถานะเป็น
ของแขง็ ของเหลว หรอื แก๊ส ของแข็งมี
ปริมาตรและรูปร่างคงที่ ของเหลวมี
ปริมาตรคงที่แต่มีรูปร่างเปลี่ยนไปตาม
ภาชนะที่เฉพาะส่วนที่บรรจุของเหลว
ส่วนแก๊สมีปริมาตรและรูปร่าง
เปลีย่ นไปตามภาชนะทีบ่ รรจุ
๘๒
หน่วย ช่ือหน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน
ที่
๗ ความย่ิงใหญใ่ น ตวั ชว้ี ดั (ชม.)
อวกาศ
ว ๓.๑ ป.๔/๓ ระบบสุริยะนั้นเป็นระบบที่มี ดวงอาทิตย์เป็น ๑๓ ๕
ศูนย์กลาง และมีดาวบริวารต่างๆ โคจรอยู่
โดยรอบ ประกอบด้วยดาวเคราะห์8 ดวง รวมท้ัง
ดวงจันทร์บริวารของดาวเคราะห์ต่าง ๆ ดาว
เคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง และ
วัตถุขนาดเลก็ อืน่ ๆ โคจรอยรู่ อบดวงอาทติ ย์
ดาวเคราะหท์ โี่ คจรรอบดวงอาทติ ยแ์ ตล่ ะดวง
จะมีขนาดของดาว ระยะหา่ งจากดวงอาทิตย์
และคาบการโคจรรอบดวงอาทติ ย์แตกต่างกนั ไป
ดวงจันทร์โคจรรอบโลกพร้อมกับหมุนรอบตวั เอง
ในขณะท่ีโลกหมุนรอบตัวเองจะทำใหเ้ รามองเห็น
ดวงจันทร์ปรากฏขึ้นทางด้านทิศตะวันออกและ
ว ๓.๑ ป.๔/๑ ตกทางด้านทศิ ตะวันตก ซ่ึงหมุนเวียนเป็นแบบรูป
ว ๓.๑ ป.๔/ ซ้ำ ๆ
๒ ดวงจันทร์น้ันเป็นทรงกลม แต่รูปร่างของดวง
จันทร์ที่ปรากฏในแต่ละวันจะแตกต่างกัน ดวง
จันทร์จะมีรูปร่างปรากฏเป็นเสี้ยวโดยจะมีขนาด
เพิ่มขึ้นในแต่ละวันจนเต็มดวง และมีขนาดลดลง
จนมองไม่เห็นดวงจันทร์ จากนั้นรูปร่างปรากฏ
ของดวงจันทร์จะเป็นเสี้ยวใหญ่ขึ้นจนสว่างเต็ม
ดวงอีกครั้ง และเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เป็น
แบบรปู ซำ้ ๆ ทุกเดือน
รวม ๘๐ ๔๐
๘๓
โครงสรา้ งรายวชิ าวิทยาศาสตร์ (วิทยาการคำนวณ) กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ จำนวน ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
หนว่ ย ชือ่ หน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน
ที่ ตัวช้ีวดั
๑ ทา้ ทาย ว ๔.๒ ป. ๔/๑ (ชม.)
กบั ปัญหา
ขั้นตอนวิธหี รืออัลกอริทมึ คอื กระบวนการแก้ปัญหา ๕ ๓
ที่มีลำดับชัดเจน สามารถคาดคะเนผลลัพธ์ได้การ
อธิบายอัลกอริทึมแบ่งได้เป็นการแสดงอัลกอริทึม
ด้วยข้อความ การแสดงอัลกอริทึมด้วยรหัสจำลอง
และการแสดงอลั กอรทิ มึ ด้วยผังงาน
๒ Scratch ว ๔.๒ ป. ๔/๒ โปรแกรม Scratch สามารถนำมาใช้พัฒนา ๑๐ ๕
พาเพลนิ
ซอฟตแ์ วรเ์ ชงิ สรา้ งสรรค์ เชน่ การสรา้ งนิทาน การสรา้ ง
เกม เปน็ ต้น การเขยี นโปรแกรมเปน็ การสร้างลำดบั ของ
คำสง่ั ให้คอมพวิ เตอร์ทำงาน เพือ่ ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธ์ตามความ
ต้องการ หากมีข้อผิดพลาดให้ตรวจสอบ การทำงานที
ละคำส่งั เมอื่ พบจดุ ทีท่ ำให้ผลลพั ธ์ ไมถ่ ูกต้อง ให้ทำการ
แกไ้ ขจนกวา่ จะไดผ้ ลลพั ธ์ทถ่ี ูกต้อง
ตัวอย่างโปรแกรมที่มีเรื่องราว เช่น นิทานที่มีการ
ตอบโต้กับผู้ใช้การ์ตูนสั้น เล่ากิจวัตรประจำวัน
ภาพเคลื่อนไหว การฝึกตรวจหาข้อผิดพลาดจาก
โปรแกรมของผู้อื่นจะช่วยพัฒนาทักษะการหาสาเหตุ
ของปญั หาไดด้ ียงิ่ ข้นึ
๓ ทอ่ งไปในโลก ว ๔.๒ ป.๔/๓ อินเตอร์เน็ต คือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมตอ่ กนั ๑๐ ๕
กว้าง
จำนวนมากและครอบคลุมไปทั่วโลก การค้นหาข้อมูล
ความรู้จากอินเตอร์เน็ต ควรใช้คำค้นที่ตรงประเด็น
กระชับ จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและตรงตามความ
ต้องการ การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล เช่น
พิจารณาประเภทของเว็บไซต์ (หน่วยงานราชการ
สำนักข่าว องค์กร) ผู้เขียน วันที่เผยแพร่ข้อมูล การ
อ้างอิง เมื่อได้ข้อมูลที่ต้องการจากเว็บไซต์ต่าง ๆ
จะต้องนำเนื้อหามาพิจารณา เปรียบเทียบ แล้วเลือก
ข้อมูล ที่มีความสอดคล้องและสัมพันธ์กัน การทำ
รายงานหรือการนำเสนอข้อมูลจะต้อง นำข้อมูลมา
เรียบเรียง สรุป เป็นภาษาของตนเอง ที่เหมาะสมกับ
กลุ่มเป้าหมายและวิธกี ารนำเสนอ
๘๔
หนว่ ย ช่ือหน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน
ที่ ตัวชวี้ ดั (ชม.)
๔ นำเสนอด้วย ว ๔.๒ ป.๔/๔ การรวบรวมข้อมูลที่ต้องการจากแหล่งต่าง ๘ ๔
เทคโนโลยี ๆ ทำได้โดยกำหนดหัวข้อที่ต้องการ เตรียม
อุปกรณ์ในการจดบันทึก การประมวลผลอย่าง
ง่าย เช่น เปรียบเทียบ จัดกลุ่ม เรียงลำดับ
การหาผลรวม การวิเคราะห์ผล การสร้าง
ท า ง เ ล ื อ ก ท ี ่ เ ป ็ น ไ ป ไ ด ้ แ ล ะ ก า ร ป ร ะ เ มิ น
ทางเลือก การนำเสนอข้อมูลโดยใช้โปรแกรม
ต่างๆ เช่น ไมโครซอฟต์เวิร์ดไมโครซอฟต์เอ็ก
เซล ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยด์การใช้
ซอฟต์แวร์ในการทำงาน เช่น ใช้พิมพ์เอกสาร
ใช้คำนวณ ใช้สร้างกราฟ ใช้ออกแบบ และ
นำเสนองาน
๕ ปลอดภยั ไว้ก่อน ว ๔.๒ ป. ๔/๕ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในยุคดิจิทัล ๕ ๓
อย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน
เคารพในสิทธิของผู้อื่น เช่น ไม่สร้างข้อความ
เทจ็ และสง่ ให้ผอู้ ่ืน ไม่สร้างความเดอื ดร้อนต่อ
ผู้อื่นโดยการส่งสแปม ข้อความลูกโซ่ ส่งต่อ
โพสต์ที่มีข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น ส่งคำเชิญ
เล่นเกม ไม่เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวหรือการบ้าน
ของบคุ คลอ่ืนโดยไม่ไดร้ ับอนุญาต ไมใ่ ช้เคร่ือง
คอมพิวเตอร์/ชื่อบัญชีของผู้อื่น การปกป้อง
ข้อมูลส่วนตัว เชน่ การออกจากระบบเมื่อเลิก
ใช้งาน ไมบ่ อกรหสั ผ่าน ไม่บอกเลขประจำตัว
ประชาชน
รวม ๓๘ ๒๐
สอบ (วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี) ๒ ๔๐
รวมทั้งส้นิ (วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี) ๑๒๐ ๑๐๐
๘๕
โครงสรา้ งรายวิชาวิทยาศาสตร์ กล่มุ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕ จำนวน ๘๐ ช่ัวโมง/ปี
หน่วย ช่อื หน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน
ท่ี ตัวชีว้ ัด
๑ มหศั จรรย์สิ่งมชี ีวติ ว ๑.๑ ป.๕/๑ (ชม.)
ว ๑.๑ ป.๕/๒
ว ๑.๑ ป.๕/๓ สิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์มีโครงสร้างและ ๑๕ ๑๐
ว ๑.๑ ป.๕/๔
ว ๑.๓ ป.๕/๑ ลักษณะที่เหมาะสมในแต่ละแหล่งที่อยู่ซึ่งเป็น
ว ๑.๓ ป.๕/๒
ผลมาจากการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตเพื่อให้
ดำรงชีวิตและ อยู่รอดได้ในแต่ละแหล่งที่อยู่
สิ่งมีชีวิตจะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันและ
สัมพันธ์กับสิ่งไม่มีชีวิตเพื่อ ประโยชน์ต่อการ
ดำรงชวี ติ ส่งิ มีชีวิตมีการกนิ กนั เปน็ อาหาร โดย
กินต่อกันเป็นทอดๆ ในรูปแบบของโซอ่าหาร
ทำให้สามารถ ระบุบทบาทหน้าที่ของสิ่งมีชีวิต
เปน็ ผู้ผลิตและ ผ้บู ริโภค
สิ่งมีชีวิตทั้งพืช สัตว์และมนษุ ย์ เมื่อโตเต็มที่จะ
มี การสืบพันธุ์เพื่อเพิ่มจำนวนและดำรงพันธ์ุ
พืชและสัตว์มีการถ่ายทอดลักษณะทาง
พันธุกรรม มนุษย์มีการถ่ายทอดลักษณะทาง
พันธุกรรม เช่นเชิงผมที่หน้าผาก ลักยิ้ม
ลักษณะหนงั ตา การหอ่ ลิ้น ลกั ษณะของต่ิงหู
๒ แรงในชีวติ ประจำวนั ว ๒.๒ ป.๕/๑ แรงลัพธ์เป็นผลรวมของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ๑๑ ๕
ว ๒.๒ ป.๕/๒ โดย แรงลัพธ์ของแรง ๒ แรงที่กระทำต่อวัตถุ
ว ๒.๒ ป.๕/๓ เดียวกัน จะมีขนาดเท่ากับผลรวมของแรงท้ัง
ว ๒.๒ ป.๕/๔ สองเมื่อแรง ทั้งสองอยู่ในแนวเดียวกันและมี
ว ๒.๒ ป.๕/๔ ทิศทางเดียวกันแตจ่ ะมีขนาดเทา่ กบั ผลตา่ งของ
แรงทั้งสอง เมื่อแรงทั้งสองอยู่ในแนวเดียวกัน
แต่มีทิศทางตรงข้ามกันสำหรบั วัตถุที่อยู่นิง่ แรง
ลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุมีค่าเป็นศูนย์ การเขียน
แผนภาพของแรงที่กระทำต่อวัตถุ แรงเสียด
ทานเป็นแรงที่เกิดขึ้นระหว่างผิวสัมผัส ของ
วตั ถุเพ่ือตา้ นการเคล่อื นที่ของวตั ถนุ ้ัน
๘๖
หน่วย ช่อื หน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน
ที่ ตัวชี้วัด
๓ เสยี งกบั การไดย้ นิ ว ๒.๓ ป.๕/๑ (ชม.)
ว ๒.๓ ป.๕/๒
ว ๒.๓ ป.๕/๓ การได้ยินเสียงต้องอาศัยตัวกลางโดย อาจ ๑๔ ๕
ว ๒.๓ ป.๕/๔
ว ๒.๓ ป.๕/๕ เป็น ของแข็ง ของเหลวหรืออากาศ เสียงที่ได้
ยินมีระดับสูงต่ำของเสียงต่างกันขึ้นกับ
ความถี่ของการสั่นของแหล่งกำเนิดเสียง
เสียงดังมากๆเป็นอันตรายต่อการได้ยินและ
เสยี งทก่ี อ่ ใหเ้ กิดความรำคาญเปน็ มลพษิ ทาง
๔ สารและการ ว ๒.๑ ป.๕/๑ การเปลี่ยนสถานะของสสารเป็นการ ๑๔ ๕
เปล่ียนแปลง ว ๒.๑ ป.๕/๒ เปลี่ยนแปลง ทางกายภาพ เมื่อใส่สารลงใน ๘ ๕
ว ๒.๑ ป.๕/๓ นำ้ แล้วสารน้นั รวมเปน็ เนื้อเดียวกันกับน้ำท่ัว
๕ นำ้ เพ่อื ชีวิต ว ๒.๑ ป.๕/๔ ทุกส่วนแสดงว่าสารเกดิ การละลายเรียกสาร
ผสมที่ได้ว่าสารละลายการเปลี่ยนแปลงทาง
ว ๓.๒ ป.๕/๑ เคมี ซึ่งสังเกตได้จากมีสีหรือกลิ่นต่างจาก
ว ๓.๒ ป.๕/๒ สารเดมิ หรือมฟี องแกส๊ หรือมีตะกอนเกิดขึ้น
หรือมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของอุณหภูมิ
เมื่อสารเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว สาร
สามารถ เปลี่ยนกลับเป็นสารเดิมได้เป็นการ
เปลย่ี นแปลงท่ผี ันกลบั ได้
โลกมีทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มซึ่งอยู่ในแหล่งน้ำ
ต่าง ๆ ที่มีทั้งแหล่งน้ำผิวดิน เช่น ทะเล
มหาสมุทร บึง แมน่ ้ำ และแหล่งนำ้ ใต้ดิน เชน่
น้ำในดิน และน้ำบาดาล น้ำทั้งหมดของโลก
แบ่งเป็นน้ำเค็มประมาณร้อยละ ๙๗.๕ซึ่งอยู่
ในมหาสมุทรและแหล่งน้ำอื่น ๆ และที่เหลือ
อีก ประมาณร้อยละ ๒.๕ เป็นน้ำจืด น้ำจืดท่ี
มนุษย์นำมาใช้ได้มีปริมาณน้อยมาก จึงควร
ใชน้ ำ้ อยา่ งประหยัดและรว่ มกนั อนุรกั ษน์ ำ้
๘๗
หนว่ ย ชอ่ื หน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน
ท่ี ตวั ชีว้ ดั (ชม.)
๖ นำ้ ฟ้า ว ๓.๒ ป.๕/๓ ไอน้ำในอากาศที่ควบแน่นเป็น ๑๒ ๕
ว ๓.๒ ป.๕/๔ ละอองน้ำเล็กๆ ทำให้เกิดหมอก
ว ๓.๒ ป.๕/๕ และเมฆ ละอองน้ำเล็กๆ ที่รวมกัน ๖๕
เป็นหยดน้ำ จะทำให้เกิดน้ำค้าง
๗ ปรากฎการณ์ของดวงดาว ว ๓.๑ ป.๕/๑ และฝน หยดน้ำฝนที่ถูกพายุพัดวน ๘๐ ๔๐
ว ๓.๑ ป.๕/๒ ในเมฆระดับสูง จะกลายเป็นก้อน
น้ำแข็งขนาดใหญ่ขึ้น แล้วตกลงมา
รวม ทำให้เกิดลูกเห็บ ส่วนวัฏจักรน้ำ
เกิดจากการหมุนเว ียนอ ย่ า ง
ต่อเนื่องระหว่างน้ำบริเวณผิวโลก
กบั นำ้ ในบรรยากาศ
ดาวที่มองเห็นบนท้องฟ้าอยู่ใน
อวกาศซึ่งเป็น บริเวณที่อยู่นอก
บรรยากาศของโลกมีทั้งดาวฤกษ์
และดาวเคราะห์ การมองเห็นกลุ่ม
ดาวฤกษ์มีรูปร่างต่างๆ เกิดจาก
จินตนาการของผูส้ ังเกต การสังเกต
ตำแหน่งและการขึ้นและตกของ
ดาวฤกษ์และกลุ่มดาวฤกษ์สามารถ
ทำได้โดยใชแ้ ผนทด่ี าว
๘๘
โครงสร้างรายวชิ าวิทยาศาสตร์ (วทิ ยาการคำนวณ) กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ จำนวน ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
หน่วย ช่ือหน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน
ท่ี ตัวช้ีวัด (ชม.)
๑ สบื ค้นด้วย ว ๔.๒ ป.๕/๓ การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และการ ๖๓
เทคโนโลยีที่ ว ๔.๒ ป.๕/๕ พิจารณาผล การค้นหา การติดต่อสื่อสารผ่าน
ปลอดภยั อินเทอร์เน็ต เช่น อีเมล บล็อก โปรแกรม ๓๒
ว ๔.๒ ป.๕/๑ สนทนา การเขียนจดหมาย (บูรณาการกับวิชา
๒ แก้ปญั หาอย่าง ภาษาไทย) ใช้อินเทอร์เน็ตในการตดิ ต่อสื่อสาร
ฉลาด และทำงานร่วมกัน เช่น ใช้นัดหมายในการ
ประชุมกลุ ่มประชาสัมพันธ์ กิจกรรมใน
ห้องเรยี น การแลกเปล่ยี นความรู้ ความคิดเห็น
ในการเรียน ภายใต้การดูแลของครู ความ
คิดเห็นในการเรียนภายใต้การดูแลของครู การ
ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล เช่น
เปรียบเทียบ ความสอดคล้อง สมบูรณ์ของ
ข้อมูลจากหลายแหล่ง แหล่งต้นตอของข้อมูล
ผู้เขียน วันที่เผยแพร่ข้อมูล ข้อมูลที่ดีต้องมี
รายละเอียดครบทุกด้าน เช่น ข้อดี และข้อเสีย
ประโยชน์และโทษ
อนั ตรายจากการใชง้ านและอาชญากรรมทาง
อินเทอร์เน็ต มารยาทในการติดต่อสื่อสารผ่าน
อินเทอร์เน็ต
การใช้เหตุผลเชิงตรรกะเป็นการนำกฎเกณฑ์
หรือ เงื่อนไขที่ครอบคลุมทุกกรณีมาใช้
พิจารณาในการ แก้ปัญหาการอธิบายการ
ทำงานหรือการคาดการณ์ผลลัพธ์ สถานะ
เริ่มต้นของการทำงานที่แตกต่างกันจะให้
ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันตัวอย่างปัญหาเช่น เกม
Sudoku โปรแกรม ทำนายตัวเลข
โปรแกรมสร้างรูปเรขาคณติ ตามค่าขอ้ มูลเข้า
๘๙
หนว่ ย ช่ือหน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน
ที่ ตวั ชว้ี ัด (ชม.)
๓ เทคโนโลยสี ร้างสรรค์ ว ๔.๒ ป.๕/๔ การรวบรวมข้อมูล ประมวลผลสร้าง ๘ ๔
ทางเลือก ประเมินผล จะทำให้ได้สารสนเทศ
เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการ ตัดสินใจได้
อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ซอฟต์แวร์หรือ
บริการบนอินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย ในการ
รวบรวม ประมวลผลสร้างทางเลือก
ประเมินผล นำเสนอ จะช่วยให้การแก้ปัญหา
ทำได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำ
ตัวอย่างปัญหา เช่น ถ่ายภาพ และสำ รว
จแผนที่ใน ท้องถิ่นเพื่อนำ เสนอแนวทางใน
การจัดการพน้ื ท่วี ่าง ใหเ้ กิดประโยชน์ ทำแบบ
สำรวจความคิดเห็นออนไลน์ และวิเคราะห์
ข้อมูล นำ เสนอขอ้ มูลโดยใช้ blog หรือ web
page
๔ โปรแกรมหรรษา ว ๔.๒ ป.๕/๒ การออกแบบโปรแกรมสามารถทำ ได้โดย ๑๓ ๗
เขียนเป็น ข้อความหรือผังงาน การออกแบบ
และเขยี นโปรแกรมท่ีมีการตรวจสอบ เงื่อนไข
ที่ครอบคลุมทุกกรณีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ท่ี
ถูกต้อง ตรงตามความต้องการ หากมี
ข้อผิดพลาดให้ตรวจสอบการทำ งานทีละ
คำสัง่ เมอ่ื พบจุดที่ทำ ให้ผลลพั ธไ์ มถ่ ูกต้อง ให้
ทำการแก้ไข จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง
การฝกึ ตรวจหาข้อผดิ พลาดจากโปรแกรมของ
ผู้อื่น จะช่วยพัฒนาทักษะการหาสาเหตุของ
ปัญหาได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย ่างโปรแกรม เช่น
โปรแกรมตรวจสอบเลขคู่ เลขคี่ โปรแกรมรับ
ขอ้ มลู น้าหนกั หรอื สว่ นสงู แล้วแสดง ผลความ
สมส่วนของร่างกาย โปรแกรมสั่งให้ตัวละคร
ทำตามเงื่อนไขที่กำ หนด ซอฟต์แวร์ที่ใช้ใน
การเขยี นโปรแกรม เช่น Scratch, Logo
๙๐
หนว่ ย ชอื่ หน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน
ที่ ตวั ชี้วัด (ชม.)
๕ การเขยี นโปรแกรม ว ๔.๒ ป.๕/๒ ขั้นตอนการเขียนโปรแกรมเพื่อสร้างชิ้นงาน ๘ ๔
เพอื่ สรา้ งชนิ้ งาน เริ่มจากการวิเคราะห์ปัญหา ออกแบบ
วิธีการแก้ปัญหา เขียนรหัส ลำลอง และ
เขียนโปรแกรม การเขียนสตอรีบอร์ด
ประกอบด้วย การออกแบบเวทแี ละตัวละคร
การเขียนรหัสลำลอง และสคริปต์ของเวที
และตัวละคร การทดสอบการทำ งานของ
โปรแกรม การปรบั ปรงุ แกไ้ ข
รวม ๓๘ ๒๐
สอบ (วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี) ๒ ๔๐
รวมทั้งสนิ้ (วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย)ี ๑๒๐ ๑๐๐
๙๑
โครงสร้างรายวชิ าวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง/ปี
หน่วย ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน
ท่ี ตวั ช้ีวดั (ชม.)
๑ เตบิ โตตามวยั ว ๑.๒ ป.๖/๑ มนษุ ย์มีการเจริญเตบิ โตและมกี ารเปลย่ี นแปลง ๑๕ ๕
ว ๑.๒ ป.๖/๒ ทางด้านร่างกายตั้งแต่วัยแรกเกิดจนถึงวัยผู้ใหญ่
๒ แรงไฟฟ้า ว ๑.๒ ป.๖/๓ ซึ่งในการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิต มนุษย์ ๕๒
ว ๑.๒ ป.๖/๔ จำเป็นต้องได้รับสารอาหารในสัดส่วนที่เหมาะสม
๓ เราแยกกันนะ ว ๑.๒ ป.๖/๕ กับเพศและวัย ๑๕ ๘
ว ๒.๒ ป. ๖/๑ ระบบย่อยอาหารประกอบด้วยอวัยวะต่างๆ
ได้แก่ ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหารลำไส้
ว ๒.๑ ป. ๖/๑ เล็ก ลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก ตับ และตับอ่อน ซึ่งทำ
หน้าที่ร่วมกันในการย่อยและดูดซึมสารอาหาร
อวัยวะต่าง ๆ ในระบบยอ่ ยอาหารมคี วามสำคัญจึง
ควรปฏบิ ตั ิตนดูแลรักษาอวยั วะให้ทำงานเป็นปกติ
วตั ถุ ๒ ชนิดที่ผ่านการขัดถูการขัดถู เมื่อนำเข้า
มาใกล้กัน อาจดึงดูดหรือผลักกันแรงที่เกิดขึ้นน้ี
เปน็ แรงไฟฟ้า ซง่ึ เปน็ แรงไม่สัมผสั เกิดขึ้นระหว่าง
วัตถุ ที่มีประจุไฟฟ้าซึ่งประจุไฟฟ้ามี ๒ ชนิด คือ
ประจุไฟฟ้าบวกและประจุไฟฟ้าลบวัตถุที่มี ประจุ
ไฟฟา้ เดยี วกนั ผลักกัน ชนดิ ตรงขา้ มกนั ดงึ ดดู กนั
สารผสมประกอบด้วยสารตั้งแต่ ๒ชนิดขึ้นไปผสม
กัน เช่นน้ำมันผสมน้ำ ข้าวสารปนกรวดทราย
วิธีการ ที่เหมาะสมในการแยกสารผสมขึ้นอยู่กับ
ลักษณะ และสมบัติของสารที่ผสมกัน ถ้า
องค์ประกอบของสารผสมเปน็ ของแข็งกับของแข็ง
ที่มีขนาด แตกต่างกันอย่างชัดเจนอาจใช้วิธีการ
หยิบออก หรือการร่อนผ่านวัสดุที่มีรู้ ถ้ามี สาร
ใดสารหนึ่งเป็นสารแม่เหล็ก อาจใช้วิธีการใช้
แม่เหล็กดึงดูดถ้าองค์ประกอบเป็นของแข็งที่ไม่
ละลายใน ของเหลว อาจใช้วิธีการรินออก การ
กรอง หรือการตกตะกอนซึ่งวิธีการแยกสาร
สามารถนำไปใช้ ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวันได้
๙๒
หนว่ ย ชอื่ หน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน
ที่ ตวั ชีว้ ดั (ชม.)
๔ ไฟฟา้ นา่ รู้ ว ๒.๓ ป. ๖/๑ วงจรไฟฟ้าอย่างง่ายประกอบด้วยแหล่งกำเนิด ๑๕ ๘
ว ๒.๓ ป. ๖/๒ ไฟฟ้า สายไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์
ว ๒.๓ ป. ๖/๓ ไฟฟา้ แหล่งกำเนิดไฟฟ้า เม่อื นำเซลล์ไฟฟ้าหลาย
ว ๒.๓ ป. ๖/๔ เซลล์มาต่อเรียงกัน โดยให้ขั้วบวกของเซลล์ไฟฟ้า
ว ๒.๓ ป. ๖/๕ เซลล์หนึ่งต่อกับ ขั้วลบของอีกเซลล์หนึ่งเป็นการ
ว ๒.๓ ป. ๖/๖ ต่อแบบอนุกรมทำให้มีพลังงานไฟฟ้าเหมาะสม
กับเครื่องใช้ไฟฟ้า การต่อหลอดไฟฟ้าแบบ
อนุกรมเมื่อถอดหลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหนึ่งออก
ทำให้หลอดไฟฟ้า ที่เหลือดับทั้งหมด ส่วนการต่อ
หลอดไฟฟ้าแบบขนานเม่ือถอดหลอดไฟฟ้าดวงใด
ดวงหนึ่งออกหลอดไฟฟ้าที่เหลือก็ยังสว่างได้การ
ต่อหลอดไฟฟ้าแต่ละแบบสามารถนำไปใช้
ประโยชน์ได้ เช่น การต่อหลอดไฟฟ้าหลายดวงใน
บา้ นจงึ ต้อง ต่อหลอดไฟฟา้ แบบขนาน
๕ เล่นกบั เงา ว ๒.๓ ป. ๖/๗ เมื่อนำวัตถุทึบแสงมากั้นแสงจะเกิดเงาบนฉาก ๕ ๒
ว ๒.๓ ป. ๖/๘ รับแสงที่อยู่ด้านหลังวัตถุ โดยเงามีรูปร่างคลา้ ย
วัตถุที่ทำให้เกิดเงา เงามัวเป็นบริเวณที่มีแสง
บางส่วนตกลงบนฉากส่วนเงามืดเป็นบริเวณท่ี
ไม่มแี สงตกลงบนฉากเลย
๖ โลกทีไ่ ม่หยุดนิง่ ว ๓.๒ ป. ๖/๑ หินเป็นวัสดุแข็งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ๑๕ ๑๐
ว ๓.๒ ป. ๖/๒ ประกอบด้วยแร่ตั้งแต่หนึ่งชนิดขึ้นไปสามารถ
ว ๓.๒ ป. ๖/๓ จำแนกหินตามกระบวนการเกิดได้เป็น ๓
ว ๓.๒ ป. ๖/๔ ประเภทได้แก่ หินอัคนี หินตะกอนและหินแปร
ว ๓.๒ ป. ๖/๕ หินและแร่แต่ละชนิดมีลักษณะและสมบัติ
ว ๓.๒ ป. ๖/๖ แตกต่างกันมนุษย์ใช้ประโยชน์จากแร่ในชีวิต
ว ๓.๒ ป. ๖/๗ ประจำวนั ในลักษณะต่าง ๆซากดึกดำบรรพ์เกิด
ว ๓.๒ ป. ๖/๘ จากการทับถมหรือการ ประทับรอยของ
ว ๓.๒ ป. ๖/๙ สง่ิ มชี ีวิตในอดีต จนเกิดเปน็ โครงสร้างของซาก
หรือร่องรอยของสง่ิ มีชวี ิตท่ปี รากฏอยใู่ นหนิ
๙๓
หน่วย ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน
ท่ี ตัวช้ีวัด (ชม.)
ซ า ก ด ึ ก ด ำ บ ร ร พ ์ ส า ม า ร ถ ใ ช ้ เ ป็ น
หลักฐานหนึ่งที่ช่วยอธิบาย
สภาพแวดลอ้ มของพืน้ ทใ่ี นอดตี ขณะ
เกิดสิ่งมีชีวิตนั้นลมบก ลมทะเลและ
มรสุมเกิดจากพื้นดินและพื้นน้ำร้อน
และเย็นไม่เท่ากันทำให้อุณหภูมิ
อ า ก า ศ เ ห น ื อ พ ื ้ น ด ิ น แ ล ะ พ ื ้ น น้ ำ
แตกต่างกันจึงเกิดการเคลื่อนที่ของ
อากาศจากบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำไป
ยังบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง มรสุมเป็น
ลมประจำฤดูเกดิ บรเิ วณเขตร้อน
ของโลก ผลกระทบของภัยธรรมชาติ
ปรากฏการณ์เรือนกระจก หากมี
ความรนุ แรงก็จะส่งผลตอ่ มนษุ ย์
๗ ทอ่ งแดนมหศั จรรย์ ว ๓.๑ ป.๖/๑ โลก ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ ๑๐ ๕
ว ๓.๑ ป.๖/๒ เป็นดวงดาวท่ีมีความสัมพันธ์กนั ดวง ๘๐ ๔๐
จันทร์โคจรรอบโลกและโลกโคจร
รวม ร อ บ ด ว ง อ า ท ิ ต ย ์ ท ำ ใ ห ้ เ กิ ด
ปรากฏการณ์ต่างๆ แต่เมื่อโลก ดวง
จนั ทร์ และดวงอาทติ ย์ โคจรมาอยู่ใน
แนวเส้นตรงเดียวกัน ทำให้เกิด
ปรากฏการณ์จันทรุปราคา และ
สุริยุปราคา ความก้าวหน้าและ
ประโยชน์ของเทคโนโลยอี วกาศทำให้
มนุษย์นำมาใช้ประโยชน์ในการ
สำรวจสภาพอากาศ การสอ่ื สาร และ
อน่ื ๆ
๙๔
โครงสรา้ งรายวชิ าวิทยาศาสตร์ (วิทยาการคำนวณ) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง/ปี
หน่วย ช่อื หน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน
ที่ ตวั ชวี้ ดั (ชม.)
๑ ปัญหาทา้ ทายความคดิ ว ๔.๒ ป.๖/๑ การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนจะช่วย ๑๐ ๕
แกป้ ญั หา ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ การ
ใช้เหตุผลเชิงตรรกะเปน็ การนำ
กฎเกณฑห์ รือ เงื่อนไขท่คี รอบคลมุ ทกุ
กรณีมาใช้พิจารณา ในการแก้ปัญหา
แนวคดิ ของการทำงานแบบวนซ้ำและ
เงอ่ื นไข
๒ โปรแกรมพาเพลนิ ว ๔.๒ ป.๖/๒ การออกแบบโปรแกรมสามารถทำได้ ๑๓ ๗
โดยเขยี นเปน็ ข้อความหรือผังงาน การ
ออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการ
ใช้ตัวแปรการวนซ้ำ การตรวจสอบ
ข้อผิดพลาดการฝึกตรวจหา
ข้อผิดพลาดจากโปรแกรมของผู้อ่ืน
และหาสาเหตขุ องปัญหา
๓ สุดยอดนักค้น ว ๔.๒ ป.๖/๓ การค้นหาอย่างมีประสิทธิภาพเป็น ๑๐ ๕
การค้นหา ข้อมูลที่ได้ตรงตามความ
ต้องการในเวลาที่รวดเร็วจาก
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือหลายแหล่ง
และขอ้ มลู มีความสอดคลอ้ งกัน
๔ ปลอดภัยไวก้ ่อน ว ๔.๒ ป.๖/๔ อ ั น ต ร า ย จ า ก ก า ร ใ ช ้ ง า น แ ล ะ ๕ ๓
อ า ช ญ า ก ร ร ม ท า ง อ ิ น เ ท อ ร ์ เ น็ต
แนวทางในการป้องกัน วิธีกำหนด
รหัสผ่าน การกำหนดสิทธิ์การใช้งาน
แนวทางการตรวจสอบและ
ป้องกันมัลแวร์ อนั ตรายจากการติดตั้ง
ซอฟตแ์ วรอ์ ยบู่ นอนิ เทอร์เน็ต
รวม ๓๘ ๒๐
สอบ (วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี) ๒ ๔๐
รวมท้ังสน้ิ (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลย)ี ๑๒๐ ๑๐๐
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม ๙๕
รหสั วิชา ว ๑๑๒๐๑ รายวิชา วทิ ยาการคอมพิวเตอร์
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
ศึกษาชื่อและหน้าที่ของอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ หลักการทำงานเบื้องต้นของคอมพิวเตอร์
การใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ ฝึกทักษะในการแก้ปัญหาโดยใช้ขั้นตอนการแก้ปัญหาอย่างง่าย
การแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหาโดยการเขียน บอกเล่า วาดภาพ หรือใช้สัญลักษณ์ ใช้งานซอฟต์แวร์กราฟิก
สร้างชิ้นงานจากจินตนาการและวาดภาพธงชาติในประเทศอาเซียนและภาพชุมชนในท้องถิ่นโดยใช้ซอฟต์แวร์กราฟกิ
การเขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รือสื่อ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ข้อปฏิบัติ ในการใช้
งานและการดแู ลรักษาอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี และการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างเหมาะสม
โดยใชก้ ระบวนการเทคโนโลยใี นการสบื เสาะหาความรู้ การอธบิ าย วเิ คราะห์ ใชเ้ หตุผล การแก้ปัญหารวบรวม
ข้อมูล เลือกวิธีการ ออกแบบและปฏิบัติการ ปรับปรุง ประเมินผลและนำเสนอ นำกระบวนการเทคโนโลยี ไป
ประยุกต์ใช้ในการทำงานตา่ งๆ ในชวี ติ ประจำวนั
เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการคิดเชิงคำนวณ มีความสามารถในการตัดสินใจ
มีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และค่านิยมที่เหมาะสม ใช้ชีวิตตามหลักของศาสตร์พระราชา
รวมถึงการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั และสร้างสรรค์
ผลการเรยี นรู้
๑. บอกชอ่ื หน้าที่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หลักการทำงานและการใช้งานอปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์
๒. ใช้งานซอฟตแ์ วรก์ ราฟิก สร้างชิน้ งานจากจนิ ตนาการโดยใชซ้ อฟต์แวร์กราฟิก
๓. แกป้ ัญหาอย่างงา่ ยโดยใชก้ ารลองผดิ ลองถูกการเปรยี บเทียบ
๔. แกป้ ญั หาโดยใช้ขน้ั ตอนการแกป้ ัญหาอยา่ งง่าย การแสดงขัน้ ตอนการแก้ปญั หาโดยการเขียน บอกเล่า วาด
ภาพ หรือใชส้ ัญลักษณ์
๕. เขียนโปรแกรมอยา่ งง่ายโดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสอ่ื
๖. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอรร์ ่วมกนั ดแู ลรักษา
อปุ กรณ์เบ้อื งต้น ใช้งานอยา่ งเหมาะสม
รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรยี นรู้
คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม ๙๖
รหสั วิชา ว ๑๒๒๐๑ รายวิชา วิทยาการคอมพิวเตอร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
ศกึ ษาความหมายของข้อมูล แหล่งขอ้ มูล ประโยชน์ของข้อมลู ขน้ั ตอน วธิ ีการรวบรวมข้อมูลท่ีน่าสนใจจาก
แหล่งข้อมูล ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับประเทศต่างๆในกลุม่ ประเทศอาเซียนและข้อมูลเก่ียวกับท้องถิ่นของตนเอง การใช้
งานซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ การเข้าและออกจากโปรแกรม การสร้างไฟล์ การจัดเก็บ การเรียกใช้ไฟล์ การแก้ไข
ตกแตง่ เอกสาร การสร้าง คดั ลอก ยา้ ย ลบ เปลย่ี นชือ่ จัด หมวดหมไู่ ฟล์และโฟลเดอร์อย่างเป็นระบบ การแสดงลำดับ
ขั้นตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่าย โดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ การเขียนโปรแกรมสร้างล ำดับ
ของคำสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม การจัดการไฟล์อย่างมีระบบ ปฏิบัติตาม
ข้อตกลงในการใชค้ อมพิวเตอรร์ ว่ มกัน ดแู ลรักษา อปุ กรณ์เบ้อื งต้น การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย
โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยีในการสืบเสาะหาความรู้ การอธิบาย วิเคราะห์ ใช้เหตุผล การแก้ปัญหา
รวบรวมขอ้ มลู เลอื กวิธกี าร ออกแบบและปฏิบัติการ ปรบั ปรุง ประเมินผลและนำเสนอ นำกระบวนการเทคโนโลยี ไป
ประยุกตใ์ ชใ้ นการทำงานตา่ งๆ ในชีวิตประจำวนั
เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการคิดเชิงคำนวณ มีความสามารถในการตัดสินใจ
มีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และค่านิยมที่เหมาะสม ใช้ชีวิตตามหลักของศาสตร์พระราชา
รวมถงึ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยและสรา้ งสรรค์
ผลการเรียนรู้
๑. บอกความหมายของข้อมูล แหลง่ ข้อมลู ประโยชน์ของข้อมูล ข้นั ตอน วิธกี ารรวบรวมข้อมลู ท่นี ่าสนใจจาก
แหล่งขอ้ มลู
๒. ใชง้ านซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ
๓. การจดั การไฟล์อยา่ งมีระบบ
๔. แสดงลำดบั ขั้นตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาอยา่ งงา่ ย โดยใช้ภาพ สัญลกั ษณ์ หรอื ข้อความ
๕. เขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม
๖. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ปฏิบตั ิตามข้อตกลงในการใช้คอมพวิ เตอร์รว่ มกันดูแลรักษา
อุปกรณ์เบื้องต้น ใชง้ านอย่างเหมาะสม
รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรียนรู้
คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ ๙๗
รหสั วชิ า ว ๑๓๒๐๑ รายวชิ า วิทยาการคอมพิวเตอร์
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
ศกึ ษาการแสดงอลั กอรทิ มึ ในการทำงานหรือการแกป้ ญั หาอย่างงา่ ย เขยี นโปรแกรมอย่างง่ายสร้างลำดับของ
คำสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหา
ความรู้ ใช้เว็บไซตส์ ำหรบั สบื ค้น รวบรวมข้อมลู ประมวลผลอย่างงา่ ย และนำเสนอข้อมูลเกี่ยวประเทศสมาชิกอาเซียน
และนำเสนอข้อมูลประวัติท้องถิ่นตนเอง โดยใช้ซอฟต์แวร์นำเสนอ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปกป้อง
ขอ้ มลู สว่ นตวั ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลงในการใชอ้ นิ เทอร์เนต็ ขอ้ ดีและขอ้ เสยี ในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร
โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยีในการสืบเสาะหาความรู้ การอธิบาย วิเคราะห์ ใช้เหตุผล การแก้ปัญหา
รวบรวมข้อมูล เลือกวิธีการ ออกแบบและปฏิบัติการ ปรับปรุง ประเมินผลและนำเสนอ นำกระบวนการเทคโนโลยี
ไปประยุกตใ์ ชใ้ นการทำงานตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวัน
เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการคิดเชิงคำนวณ มีความสามารถในการตัดสินใจ
มีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และค่านิยมที่เหมาะสม ใช้ชีวิตตามหลักของศาสตร์พระราชา
รวมถงึ การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์
ผลการเรยี นรู้
๑. สบื ค้นขอ้ มูลบนอินเทอรเ์ น็ตโดยใชเ้ ว็บไซต์สำหรับสืบคน้ และกำหนดคำคน้ ที่เหมาะสม
๒. รวบรวม ประมวลผล และนำเสนอข้อมูลโดยใชซ้ อฟตแ์ วร์นำเสนอ
๓. แสดงอลั กอริทึมในการทำงาน หรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ และ
ตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม
๔. เขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรอื ส่ือ และตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
๕. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลงในการใชอ้ ินเทอร์เน็ต
๖. บอกขอ้ ดแี ละข้อเสียในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร
รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรียนรู้
คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม ๙๘
รหสั วิชา ว ๑๔๒๐๑ รายวชิ า วิทยาการคอมพิวเตอร์
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี
ศึกษาและฝึกทักษะเกีย่ วกับใช้ซอฟตแ์ วร์ตารางทำงานเพ่ือประมวลผลขอ้ มูล จัดรูปแบบของขอ้ มูลบนเวิร์ก
ชีต ใช้สูตรและฟังก์ชั่นในการคำนวณ เปรียบเทียบค่าเงินในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยการใช้ซอฟต์แวร์ตาราง
ทำงาน สำรวจอาชีพในชุมชนตนเองใช้ซอฟต์แวร์ตารางทำงานสรุปผล ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้ คำค้นที่ตรง
ประเด็น กระชับ ความน่าเชื่อถือของข้อมูล ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การออกแบบโปรแกรม โดยใช้
storyboard การออกแบบอลั กอริทึม ใช้ซอฟตแ์ วร์ในการเขียนโปรแกรม สร้างเกมอย่างง่าย การตรวจหาข้อผิดพลาด
ในโปรแกรม ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้ง
ผ้เู ก่ียวข้องเมือ่ พบขอ้ มลู หรือบคุ คลทไ่ี มเ่ หมาะสม สื่อสารอยา่ ง มีมารยาทและรูก้ าลเทศะ การปกป้องขอ้ มูลสว่ นตวั
โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยีในการสืบเสาะหาความรู้ การอธิบาย วิเคราะห์ ใช้เหตุผล การแก้ปัญหา
รวบรวมข้อมลู เลือกวธิ กี าร ออกแบบและปฏบิ ัติการ ปรับปรุง ประเมินผลและนำเสนอ นำกระบวนการเทคโนโลยี ไป
ประยุกต์ใชใ้ นการทำงานต่างๆ ในชีวติ ประจำวนั
เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการคิดเชิงคำนวณ มีความสามารถในการตัดสินใจ
มีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และค่านิยมที่เหมาะสม ใช้ชีวิตตามหลักของศาสตร์พระราชา
รวมถงึ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัยและสรา้ งสรรค์
ผลการเรียนรู้
๑. นำเสนอข้อมลู ไดห้ ลายลักษณะตามความเหมาะสม ใช้ซอฟต์แวรเ์ พอ่ื แก้ปัญหาในชวี ติ ประจำวนั
๒. ใช้อินเทอร์เน็ตคน้ หาความรู้ และประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของข้อมลู
๓. มีเหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปญั หา การอธบิ ายการทำงาน การคาดการณ์ผลลพั ธ์จากปัญหาอย่างง่าย
๔. ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใชซ้ อฟต์แวร์หรือส่ือ และตรวจหาข้อผดิ พลาดและแก้ไข
๕. รวบรวมขอ้ มูล การประมวลผลอยา่ งง่าย วเิ คราะห์ผลและสรา้ งทางเลือกทเี่ ปน็ ไปได้
๖. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัยเข้าใจสทิ ธิและหน้าท่ขี องตน เคารพในสทิ ธขิ องผ้อู น่ื
แจง้ ผเู้ กย่ี วข้องเมื่อพบข้อมลู หรือบุคคลที่ไม่เหมาะสม
รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรยี นรู้
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม ๙๙
รหัสวชิ า ว ๑๕๒๐๑ รายวิชา วิทยาการคอมพิวเตอร์
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
ศึกษาการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการตรวจสอบเงื่อนไข
โดยเขียนเป็นข้อความ หรือผังงาน ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต การติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต อีเมล บล็อก
โปรแกรมสนทนา การเขียนจดหมาย ใช้อินเทอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสารในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนและทำงาน
ร่วมกัน ใช้ซอฟต์แวรห์ รือบริการบนอินเทอร์เนต็ ที่หลากหลาย ทำแบบสำรวจความคดิ เห็นเกีย่ วกับท้องถ่ินของตนเอง
แบบออนไลน์โดยการใช้ Blog หรือ web page การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย อันตรายจากการใชงาน
และอาชญากรรมทางอินเทอรเน็ต มารยาทในการติดต่อสอ่ื สารผ่านอนิ เทอรเ์ นต็
โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยีในการสืบเสาะหาความรู้ การอธิบาย วิเคราะห์ ใช้เหตุผล การแก้ปัญหา
รวบรวมข้อมูล เลอื กวิธีการ ออกแบบและปฏบิ ัติการ ปรับปรงุ ประเมินผลและนำเสนอ นำกระบวนการเทคโนโลยี ไป
ประยกุ ต์ใช้ในการทำงานตา่ งๆ ในชวี ติ ประจำวัน
เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการคิดเชิงคำนวณ มีความสามารถในการตัดสินใจ
มีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และค่านิยมที่เหมาะสม ใช้ชีวิตตามหลักของศาสตร์พระราชา
รวมถึงการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั และสรา้ งสรรค์
ผลการเรียนรู้
๑. ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแกป้ ญั หาการอธิบายการทำงาน การคาดการณผ์ ลลัพธ์จากปัญหาอย่างงา่ ย
๒. ออกแบบและการเขียนโปรแกรมที่มีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะอย่างงา่ ย ตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไข
๓. ใชอินเทอรเน็ตค้นหาขอมูล ตดิ ต่อสื่อสารและการทำงานร่วมกัน การประเมินความนาเช่ือถือของขอมูล
๔. รวบรวมข้อมลู ประเมนิ ผล นำเสนอ ขอ้ มลู และสารสนเทศตามวัตถปุ ระสงค์
๕. ใช้ซอฟตแ์ วรห์ รอื บริการบนอนิ เทอรเ์ นต็ ท่ีหลากหลายเพ่ือแก้ปัญหาในชวี ติ ประจำวนั ๖.
ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั มีมารยาท เขา้ ใจสิทธแิ ละหน้าที่ของตน เคารพในสทิ ธิของผอู้ นื่ แจง้ ผเู้ กยี่ วข้อง
เมือ่ พบข้อมลู หรอื บุคคลที่ไมเ่ หมาะสม
รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรยี นรู้
คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม ๑๐๐
รหสั วิชา ว ๑๖๒๐๑ รายวิชา วิทยาการคอมพิวเตอร์
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี
ศึกษาและฝึกษะการทำแผ่นพับ สร้างแผ่นพับแนะนำสถานที่สำคัญในกลุ่มประเทศอาเซียนและแผ่นพับ
แนะนำทอ้ งถนิ่ ของตนเอง โดยเผยแพร่ผลงานและนำเสนอผลงานผ่าน QR Code ใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะแก้ปัญหาอย่าง
เป็นขั้นตอน แนวคิดของการทำงานแบบวนซ้ำ และเงื่อนไข ออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการใช้ตัวแปรการวนซ้ำ
การตรวจสอบเงื่อนไข ตรวจหาข้อผิดพลาดจากโปรแกรมของผู้อื่น ใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูล ใช้เทคนิคการ
ค้นหาขั้นสูง การใช้ตัวดำเนินการ การระบุรูปแบบของข้อมูล ชนิดของไฟล์ อันตรายจากการใช้งานและอาชญากรรม
ทางอินเทอร์เน็ต แนวทางในการป้องกัน วิธีกำหนดรหัสผ่าน การกำหนดสิทธิ์การใช้งาน แนวทางการตรวจสอบและ
ปอ้ งกันมัลแวร์ อนั ตรายจากการตดิ ต้ังซอฟตแ์ วร์ท่ีอยูบ่ นอินเทอรเ์ นต็
โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยีในการสืบเสาะหาความรู้ การอธิบาย วิเคราะห์ ใช้เหตุผล การแก้ปัญหา
รวบรวมข้อมลู เลือกวิธกี าร ออกแบบและปฏบิ ัตกิ าร ปรบั ปรงุ ประเมินผลและนำเสนอ นำกระบวนการเทคโนโลยี ไป
ประยุกต์ใชใ้ นการทำงานต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการคิดเชิงคำนวณ มีความสามารถในการตัดสินใจ
มีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และค่านิยมที่เหมาะสม ใช้ชีวิตตามหลักของศาสตร์พระราชา
รวมถึงการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัยและสร้างสรรค์
ผลการเรยี นรู้
๑. สร้างแผ่นพบั ดว้ ยซอฟต์แวรต์ า่ งๆ
๒. เผยแพร่ผลงานและนำเสนอผลงานโดยการสร้าง QR Code
๓. ใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ในการคน้ หาข้อมลู อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
๔. ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการอธบิ ายและออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหาที่พบในชวี ิตประจำวัน
๕. ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยา่ งง่ายเพื่อแก้ปญั หาในชีวิตประจำวนั ตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม
และแก้ไข
๖. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เข้าใจสทิ ธแิ ละหน้าท่ขี องตน เคารพในสิทธขิ องผูอ้ นื่ แจ้ง
ผ้เู กี่ยวขอ้ งเม่ือพบข้อมูลหรือบคุ คลที่ไมเ่ หมาะสม
รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรียนรู้
๑๐๑
โครงสรา้ งรายวชิ าวิทยาการคอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ จำนวน ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
หน่วย ชอ่ื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน
ท่ี (ชม.)
๑ คอมพวิ เตอรน์ ่ารู้ ป ๑/๑ รู้จักส่วนประกอบต่างๆ ของ ๕ ๑๕
ป ๑/๖ คอมพิวเตอร์ รู้จักหน้าที่ของ
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หลักการ
ทำงานเละเปรียบเทียบการ
ทำงานของคอมพวิ เตอรก์ ับมนุษย์
การใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
เบือ้ งตน้
๒ สร้างสรรคง์ านศิลป์ ป ๑/๒ การใช้งานซอฟต์แวร์กราฟกิ ๕ ๒๐
ป ๑/๖
ส ร ้ า ง ช ิ ้ น ง า น จ า ก ซ อ ฟ ต ์ แ ว ร์
กราฟิก
๓ หากนั จนเจอ ป ๑/๒ เปรียบเทียบความเหมือนและ ๑๐ ๒๕
ป ๑/๔
ความแตกต่างของสิ่งต่างๆ เล่า
เรื่องราวหรือเหตุการณ์ได้อย่าง
ถูกต้อง โดยใช้ภาพ สัญลักษณ์
หรือข้อความ แก้ปัญหาอย่างง่าย
โดยการลองผิดลองถกู
๔ โปรแกรมแสนสนกุ ป ๑/๕ แก้ปญั หาโดยแสดงลำดับขั้นตอน ๑๕ ๓๐
ป ๑/๖ ที่ชัดเจนและครบถ้วน เขียน
โปรแกรมเบ้อื งตน้ เพื่อตวั ละคร
เคลอื่ นท่ี
๕ ปลอดภยั ไว้ก่อน ป ๑/๑ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ๕ ๑๐
ป ๑/๖
อย่างปลอดภัย ข้อตกลงการใช้
คอมพิวเตอร์ร่วมกัน การดูแล
รักษาอุปกรณ์และการใช้งาน
อยา่ งเหมาะสม
รวมท้ังสนิ้ ๔๐ ๑๐๐
๑๐๒
โครงสร้างรายวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโลยี
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๒ จำนวน ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
หนว่ ย ชือ่ หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน
ท่ี (ชม.)
๑ นกั สบื ตัวจ๋ิว ป ๒/๑ ความหมายของขอ้ มูล แหลง่ ข้อมูล ๕ ๑๐
ป ๒/๖ ประโยชน์ของข้อมูล ขั้นตอน
วิธีการรวบรวมข้อมูล ที่น่าสนใจ
จากแหล่งข้อมูล
๒ Hello Microsoft World ป ๒/๒ เริ่มต้นใช้งานโปรแกรม Microsoft ๕ ๒๐
World เครื่องมือใช้งานโปรแกรม
Microsoft World การฝึกพิมพ์ด้วย
Microsoft World
๓ ไฟล์สวยด้วยมือเรา ป ๒/๓ การสร้างเอกสารด้วย Microsoft ๑๐ ๒๕
World การจัดเก็บ ตกแต่งเอกสาร
เรียกใช้ไฟล์ Microsoft World
การประยุกต์ใช้ Microsoft World
ในชีวิตประจำวนั
๔ โปรแกรมหรรษา ป ๒/๔ การแก้ปัญหาเบื้องต้น การแสดง ๑๕ ๓๐
ป ๒/๕ ขั้นตอนการแก้ปัญหา การหา
รูปแบบของปัญหาอย่างง่าย การ
เขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ ตัวอย่าง
การเขยี นโปรแกรมด้วย Code.org
๕ ใช้เทคโนโลยอี ยา่ ง ป ๒/๖ รู้จักข้อมูลสว่ นตัว อันตรายจากการ ๕ ๒๐
ปลอดภัย เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว ข้อควร
ป ฏ ิ บ ั ต ิ ใ น ก า ร ใ ช ้ ง า น อ ุ ป ก ร ณ์
เทคโนโลยี การดูแลรักษาอุปกรณ์
เทคโนโลยี การใช้งานอุปกรณ์
เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม
รวมท้ังส้นิ ๔๐ ๑๐๐
๑๐๓
โครงสร้างรายวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง/ปี
หน่วย ชอ่ื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน
ท่ี (ชม.)
๑ แบบนต้ี อ้ งเสริ ซ์ ป ๓/๑ การใช้งานอนิ เทอรเ์ น็ตเบอื้ งต้น ๕ ๑๕
ป ๓/๕ โปรแกรม Search Engine
การสบื คน้ ข้อมลู ในอนิ เทอร์เน็ต
การนำข้อมลู อินเทอร์เน็ตมาใช้งาน
การใช้อนิ เทอร์เนต็ อย่างปลอดภัย
๒ สดุ ยอดนักนำเสนอ ป ๓/๒ รจู้ กั โปรแกรม Microsoft ๗ ๒๕
ป ๓/๕
Power Point เคร่ืองมือใน
Microsoft Power Point การสร้าง
งานด้วยMicrosoft Power
Point นำเสนอผลงานด้วย
Microsoft Power Point
๓ อัลกอรึทมึ ป ๓/๓ รู้จักอลั กอรทิ มึ แสดงอลั กอริทึม ๑๐ ๒๕
ป ๓/๕
โดยการเขยี น บอกเลา่ วาดภาพ
หรอื ใช้สญั ลักษณ์ แก้ปัญหาด้วย
อลั กอริทมึ ดว้ ย ผังงานหรือโฟลว
ชาร์ตอย่างง่าย
๔ นกั ออกแบบตวั น้อย ป ๓/๔ รูจ้ กั โปรแกรม code.org ๑๕ ๒๕
ป ๓/๕
การใช้งานโปรแกรม code.org
เขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ยโดยใช้
โปรแกรม code.org
ออกแบบและสร้างแอนิเมชั่น
อยา่ งงา่ ย
๕ ขอ้ ดี ข้อเสียการใช้ ป ๓/๖ การใช้เทคโนโลยอี ย่างปลอดภยั ๓ ๑๐
เทคโนโลยีสารสนเทศ
ขอ้ ดี ข้อเสยี การใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศ การนำเทคโนยมี าใช้
ในชวี ิตประจำวนั
รวมท้ังสิน้ ๔๐ ๑๐๐
๑๐๔
โครงสรา้ งรายวชิ าวิทยาการคอมพิวเตอร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔
จำนวน ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
หนว่ ย ช่ือหน่วย ผลการเรียนรู้
ที่ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน
๑ โปรแกรมจดั การตวั เลข ป ๔/๑
ป ๔/๕ (ชม.)
รจู้ ักโปรแกรม Microsoft excel ๕ ๑๕
เครอ่ื งมอื การใช้โปรแกรม
Microsoft excel
การสรา้ งงานดว้ ยโปรแกรม
Microsoft excel
๒ คน้ ปบุ๊ เจอปับ๊ ป ๔/๒ ใชอ้ ินเทอร์เนต็ คน้ หาความรู้ ๕ ๒๐
๓ เจา้ หนูยอดนักสืบ ป ๔/๕
ป ๔/๖ คำค้นท่ีตรงประเดน็ กระชับ
ป ๔/๓
ความนา่ เชือ่ ถือของขอ้ มลู
มเี หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการ ๑๐ ๒๕
แกป้ ัญหา ข้ันตอนวธิ ีการ
แก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน
การคาดการณ์ผลลัพธจ์ ากปัญหา
อยา่ งง่าย
๔ โลกของ Scratch ป ๔/๔ การเข้าใชง้ านโปรแกรม Scratch ๑๕ ๓๐
ป ๔/๕
การเขียนโปรแกรม
ภาษาคอมพวิ เตอร์ scratch
เบือ้ งตน้
การสร้างงานดว้ ยโปรแกรม
Scratch
๕ แชรไ์ ดไ้ หมนะ ป ๔/๖ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ๕ ๑๐
อย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและ
หน้าที่ของตน เคารพในสิทธิของ
ผู้อ่นื แจ้งผเู้ กี่ยวข้องเมอ่ื พบข้อมูล
หรอื บุคคลทไ่ี ม่เหมาะสม
รวมท้ังส้ิน ๔๐ ๑๐๐
๑๐๕
โครงสร้างรายวชิ าวิทยาการคอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง/ปี
หนว่ ย ชอื่ หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน
ท่ี (ชม.)
๑ รหสั ลำลอง ป ๕/๑ การแก้ปัญหาด้วยเหตุผลเชงิ ๕ ๑๕
ป ๕/๖ ตรรกะ การทำนายผลลพั ธจ์ าก
ปญั หาอย่างง่าย
๒ โรบอทเอ็กซ์โป ป ๕/๒ การออกแบบโปรแกรมด้วยการ ๑๐ ๒๕
ป ๕/๖
เขียนขอ้ ความ การออกแบบ
โปรแกรมดว้ ยการเขียนผังงาน
การเขยี นโปรแกรมโดยใช้ภาษา
Scratch การตรวจสอบ
ข้อผิดพลาดของโปรแกรม
๓ ไลฟ์สาระ ป ๕/๓ ขอ้ มลู สารสนเทศ ค้นหาข้อมูลใน ๑๐ ๒๕
ป ๕/๔
อินเทอรเ์ น็ต ข้อมลู เพื่อการ
ตัดสินใจ การตดิ ต่อส่ือสารผ่าน
อินเทอรเ์ นต็ อเี มล บล็อก
โปรแกรมสนทนา การเขียน
จดหมาย
๔ Blog Blog ป ๕/๕ ใช้ซอฟต์แวร์หรือบรกิ ารบน ๑๐ ๒๕
ป ๕/๖
อนิ เทอรเ์ น็ตทห่ี ลากหลาย
ทำแบบสำรวจความคดิ เห็น
ออนไลน์โดยการใช้ Blog หรือ
web page
๕ ชิม ช๊อป แชะ ป ๕/๖ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง ๕ ๑๐
ปลอดภัย อันตรายจากการใชงาน
และอาชญากรรมทางอนิ เทอร
เน็ต มารยาทในการติดต่อส่ือสาร
ผ่านอินเทอรเ์ น็ต
รวมทั้งส้นิ ๔๐ ๑๐๐
๑๐๖
โครงสรา้ งรายวชิ าวิทยาการคอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖
จำนวน ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
หนว่ ย ชือ่ หน่วย ผลการเรยี นรู้
ท่ี สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน
๑ Brochures สรา้ งสรรค์ ป ๖/๑
ป ๖/๕ (ชม.)
ป ๖/๖
รู้จักแผนพับ โปรแกรมทใี่ ชใ้ นการ ๑๐ ๑๕
๒ ดนิ แดน สแกน QR Code ป ๖/๒
ป ๖/๖ สร้างแผน่ พับ เครือ่ งมือในการใช้
งาน สรา้ งแผน่ พับจากโปรแกรม
ตา่ งๆ
รู้จัก QR Code โปรแกรมหรือ ๕ ๒๐
ซอฟต์แวร์ท่ีใชส้ ร้าง QR Code
การนำข้อมูลมาสร้าง QR Code
การสรา้ ง QR Code
๓ ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลย ป ๖/๓ ใช้อนิ เทอรเ์ น็ตในการคน้ หาข้อมลู ๕ ๒๕
ป ๖/๖
ใชเ้ ทคนคิ การคน้ หาขั้นสงู การใช้
ตัวดำเนนิ การ การระบุรูปแบบ
ของข้อมลู ชนิดของไฟล์
๔ micro:bit ป ๖/๔ ใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะในการอธิบาย ๑๕ ๓๐
ป ๖/๕
และออกแบบวิธกี ารแกป้ ัญหาที่
พบในชีวิตประจำวัน ออกแบบ
และเขยี นโปรแกรม Make code
ลงบอร์ด micro:bit ตรวจหา
ข้อผดิ พลาดของโปรแกรมและ
แกไ้ ข
๕ อนั ตรายจากมลั แวร์ ป๖/๖ อนั ตรายจากการใช้งานและ ๕ ๑๐
อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ต
แนวทางในการป้องกนั วิธกี ำหนด
รหัสผา่ น การกำหนดสิทธกิ์ ารใช้
งาน แนวทางการตรวจสอบและ
ป้องกนั มัลแวร์ อันตรายจากการ
ตดิ ตั้งซอฟตแ์ วรท์ ่ีอยบู่ น
อนิ เทอร์เน็ต
รวมท้ังส้ิน ๔๐ ๑๐๐
๑๐๗
แนวทางการวดั และประเมินผล กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ความสำคัญ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑
เปน็ กระบวนการเก็บรวบรวม ตรวจสอบ ตีความผลการเรียนรแู้ ละพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของผู้เรยี นตามมาตรฐานการ
เรียนรู้ /ตัวชี้วัด ของหลักสูตร นำผลไปปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนรู้ และใช้เป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินผลการ
เรียน โดยมอี งค์ประกอบของการวัดผลและประเมนิ การเรยี นรู้ ที่หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑ ได้กำหนด จุดหมาย สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และมาตรฐานการเรียนรู้ไว้เป็น
เป้าหมายและกรอบทิศทางในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีขีดความสามารถในการ
แข่งขันในเวทีระดับโลก กำหนดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด ที่กำหนดในสาระการเรียนรู้ ๘
กลุ่มสาระ มีความสามารถดา้ นการอ่าน คิด วเิ คราะหแ์ ละเขียน มีคุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงคแ์ ละเขา้ รว่ มกิจกรรมพัฒนา
ผู้เรียนการวัดและประเมินผลรายกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ผู้สอนวัดและประเมินผลการเรียนรู้ผู้เรียนตาม
ตัวชี้วัดในรายวิชาพื้นฐาน ตามที่กำหนดไว้ในหน่วยการเรียนรู้ ใช้วิธีการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย จาก
แหล่งข้อมูลหลาย ๆ แหล่ง เพื่อให้ได้ผลการประเมินที่สะท้อนความรู้ความสามารถที่แท้จริงของผู้เรียนโดยการวัดและ
ประเมินผลการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องไปพร้อมกับการจัดการเรียนการสอนโดยสงั เกตพัฒนาการและความประพฤติของผู้เรียน
สังเกตพฤติกรรมการเรียนการร่วมกิจกรรม การประเมินตามสภาพจริง เช่นการประเมินการปฏิบัติงาน การประเมิน
จากแฟ้มสะสมงาน เป็นต้น ควบคู่กับการใช้การทดสอบแบบต่างๆ อย่างสมดุลและครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ด้าน
ทักษะ และด้านเจต และใช้เป็นข้อมูลเพื่อการประเมินการเลือ่ นชั้นและการจบการศึกษาและเพื่อให้การจดั การเรยี น
การสอนมีประสิทธิภาพผู้สอนต้องตรวจสอบความรู้ความสามารถที่แสดงพัฒนาการของผู้เรียนอย่างสม่ำเสมอและ
ต่อเนอ่ื ง และผู้เรยี นตอ้ งรบั ผดิ ชอบและตรวจสอบความกา้ วหน้าของตนเองอยา่ งสม่ำเสมอเช่นกนั หนว่ ยการเรยี นรู้เป็น
สว่ นท่ผี ูส้ อนและผู้เรียนใช้ตรวจสอบย้อนกลบั ว่าผเู้ รียนเกิดการเรียนรหู้ รือยัง การประเมินในระดับชั้นเรยี นตอ้ งอาศัยทั้งผล
การประเมินยอ่ ยเพอื่ พฒั นา และการประเมนิ ผลรวมเพอ่ื สรปุ ผลการเรยี นรูเ้ มือ่ จบหน่วยการเรียนร้แู ละจบรายวิชา
วิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ให้บรรลุผลตามเป้าหมายของการเรียนรู้ที่วางไว้ควรมีแนวทาง
ดังต่อไปน้ี
๑. ต้องวัดทั้งความรู้ ความคิด ความสามารถ ทักษะกระบวนการ เจตคติ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม
รวมทงั้ โอกาสในการเรยี นของผู้เรยี น
๒. วิธีการวดั ผลและประเมนิ ผล ตอ้ งสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชวี้ ดั /ผลการเรียนรู้ ที่กำหนดไว้
๓. ต้องเก็บข้อมูลทไี่ ดจ้ ากการวัดผลและประเมินผลตามความเป็นจริงและต้องประเมินผลภายใต้ขอ้ มลู ท่มี ีอยู่
๔. ผลการวัดและประเมินผลการเรียนร้ขู องผเู้ รียนต้องนำไปสกู่ ารแปลผลและลงข้อสรปุ ท่ีสมเหตุสมผล
๕. การวดั ผลต้องเทีย่ งตรงและเปน็ ธรรม ทัง้ ด้านของวิธกี ารวดั โอกาสของการประเมนิ
๑๐๘
วัตถปุ ระสงค์ของการวัดในรายวชิ า กล่มุ สาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
๑. เพอื่ วนิ จิ ฉยั ความรู้ ความสามารถ ทกั ษะกระบวนการ เจตคติ คณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ มของผู้เรียนและ
เพือ่ สง่ เสรมิ ผู้เรียนให้พัฒนาความรู้ความสามารถและทักษะได้เต็มศกั ยภาพ
๒. เพ่อื ใชเ้ ป็นขอ้ มลู ปอ้ นกลบั ให้แกต่ วั ผู้เรียนเองวา่ บรรลตุ ามมาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด/
ผลการเรยี นรูม้ ากน้อยเพยี งใด
๓. เพื่อใชเ้ ป็นข้อมูลสรปุ ผลการเรียนรู้และเปรยี บเทยี บถงึ ระดบั พัฒนาการของการเรยี นรู้
การวดั ผลประเมินผลตามสภาพจรงิ
กิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนมีหลากหลาย เช่นกิจกรรมในห้องเรียน กิจกรรมการปฏิบัติ กิจกรรมการสำรวจ
กิจกรรมการตรวจสอบ การทดลอง กิจกรรมศึกษาค้นคว้า อย่างไรก็ตามในการทำกิจกรรมต้องคำนึง ว่าผู้เรียนแต่ละ
คนมีศักยภาพ ที่แตกต่างกัน ผู้เรียนแต่ละคนจึงอาจทำงานชิ้นเดียวกันได้เสร็จในเวลาทีแ่ ตกต่างกัน และผลของงานท่ี
ได้อาจแตกต่างกันด้วย เมื่อผู้เรียนทำกิจกรรมเหล่านี้เสร็จแล้วก็จะต้องเก็บรวบรวมผลงาน เช่น รายงาน ชิ้นงาน
บนั ทกึ และรวมถึงทักษะปฏิบตั ิตา่ งๆ เจตคติ ความรกั ความซาบซึ้ง กจิ กรรมทผี่ ้เู รียนไดท้ ำเหลา่ นี้ต้องใช้วิธีประเมินที่
มีความแตกต่างกัน เพื่อช่วยให้สามารถประเมินความรู้ ความสามารถและความรูส้ กึ นึกคิดทีแ่ ทจ้ ริงของผู้เรียนได้ การ
วัดและประเมินผลตามสภาพจริงจะมีประสิทธภิ าพก็ต่อเม่ือมีการประเมินหลายๆ ดา้ น หลากหลายวิธีในสถานการณ์ตา่ ง ๆ
กนั สอดคล้องกบั ชวี ติ จรงิ และตอ้ งประเมินอยา่ งตอ่ เนื่องเพื่อจะได้ขอ้ มลู ทมี่ ากพอทจ่ี ะสะทอ้ นของผเู้ รยี นได้
ลกั ษณะสำคญั ของการวัดและประเมินผลจากสภาพจรงิ
๑. การวัดประเมินผลตามสภาพจริง มีลักษณะที่สำคัญคือใช้วิธีการประเมินกระบวนการคิดที่ซับซ้อน
ความสามารถในการปฏบิ ตั งิ าน ศักยภาพผเู้ รียนในดา้ นของผู้ผลติ และกระบวนการที่ได้ผลผลติ มากกว่าทจ่ี ะประเมินว่า
ผูเ้ รียนจดจำความร้อู ะไรบา้ ง
๒. เป็นการประเมินความสามารถของผู้เรียนเพ่ือวินจิ ฉัยผูเ้ รียนในสว่ นที่ควรส่งเสริมและส่วนท่ีแก้ไขปรับปรุง
เพ่ือใหผ้ เู้ รียนได้พัฒนาอยา่ งเตม็ ศกั ยภาพตามความสามารถ ความสนใจและความตอ้ งการของแตล่ ะบุคคล
๓. เป็นการประเมินที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมประเมินผลงานของตนเองและของเพื่อนร่วมห้อง
เพือ่ ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรียนรู้จกั ตนเอง เชื่อมั่นในตนเอง สามารถพฒั นาตนเองได้
๔. ข้อมูลที่ได้จากการประเมินจะสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการเรียนการสอนและการวางแผนการสอนของ
ผู้สอนว่าสามารถตอบสนองความสามารถ ความสนใจและความต้องการของผู้เรยี นแต่ละบุคคลได้หรือไม่
๕. ประเมนิ ความสามารถของผูเ้ รยี นในการถา่ ยโอนการเรยี นไปสชู่ วี ติ จรงิ ได้
๖. ประเมนิ ด้านต่างๆดว้ ยวิธที ่หี ลากหลายในสถานการณต์ า่ ง ๆอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ควรจัดให้ครอบคลุมทั้ง
ดา้ นความรู้ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ และดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนรู้และ
ตัวชีว้ ัดตามทห่ี ลกั สูตรแกนกลางข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ กำหนดไว้ ควรม่งุ เน้นการวัดสมรรถภาพโดยรวมของ
ผู้เรียนเป็นหลัก จุดประสงค์หลักของการวัดประเมินไม่ใช่อยู่ที่การวัดผลเพื่อตัดสินผลการเรียนของผู้เรียนเพียงอย่าง
เดียว แต่เป็นการวัดและประเมินผลเพื่อนำผลการประเมินไปใช้ในการปรับปรุงการเรียนการสอนเพื่อช่วยพัฒนาให้
ผู้เรียนสามารถเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพและเตม็ ตามศกั ยภาพ
๑๐๙
คณุ ภาพของผเู้ รยี นที่ต้องประเมิน
การวัดและประเมินผลของกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์นั้นแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) กำหนดให้ทำการวัดและประเมินผลตามมาตรฐานและตัวชี้วัด ตัวชี้วัดในการวัดและ
ประเมินผล ที่ต้องนำมาพจิ ารณา ดังนี้
๑. ดา้ นความรู้
ในการวดั ประเมนิ ผลดา้ นความร้ตู อ้ งสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู้ ๓ สาระ ดังนี้
สาระที่ ๑ วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ
สาระที่ ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
สาระที่ ๓ วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ
สาระที่ ๔ เทคโนโลยี
๒. ดา้ นทักษะ / กระบวนการ
ทักษะสำคัญที่ครูผู้สอนจำเป็นต้องพัฒนาให้เกิดขึ้นกับนักเรียนเมื่อมีการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
เชน่ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑
๒.๑ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (Science Process Skills)
๒.๑.๑ ทักษะการสังเกต (Observing)
๒.๑.๒ ทักษะการวดั (Measuring)
๒.๑.๓ ทกั ษะการลงความเหน็ จากขอ้ มลู (Inferring)
๒.๑.๔ ทักษะการจำแนกประเภท (Classifying)
๒.๑.๕ ทกั ษะการหาความสมั พันธข์ องสเปซกับเวลา (Relationship of Space and Time)
๒.๑.๖ ทกั ษะการใช้จำนวน (Using Number)
๒.๑.๗ ทักษะการจัดกระทำและส่ือความหมายข้อมูล (Organizing and Communicating Data)
๒.๑.๘ ทักษะการพยากรณ์ (Predicting)
๒.๑.๙ ทกั ษะการต้ังสมมติฐาน (Formulating Hypotheses)
๒.๑.๑๐ ทักษะการกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ (Defining Operationally)
๒.๑.๑๑ ทักษะการกำหนดและควบคมุ ตัวแปร (Controlling Variables)
๒.๑.๑๒ ทกั ษะการทดลอง (Experimenting)
๒.๑.๑๓ ทกั ษะการตคี วามหมายข้อมลู และลงข้อสรุป (Interpreting and Making Conclusion)
๒.๑.๑๔ ทักษะการสร้างแบบจำลอง (Formulating Models)
๒.๒ ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ (21st Century Skills)
๒.๒.๑ การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ (Critical Thinking)
๒.๒.๒ การแกป้ ัญหา (Problem Solving)
๒.๒.๓ การส่ือสาร (Communications)
๑๑๐
๒.๒.๔ ความร่วมมือ (Collaboration)
๒.๒.๕ การสร้างสรรค์ (Creativity)
๒.๒.๖ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication
Technology (ICT))
วธิ กี ารและแหลง่ ข้อมลู ท่ใี ช้ในการวัดผลและประเมนิ ผล
เพอ่ื ให้การวัดผลและประเมินผลได้สะท้อนความสามารถที่แท้จริงของนักเรยี น ผลการประเมนิ อาจ ได้มาจาก
แหลง่ ข้อมูลและวธิ กี ารต่างๆ ดงั ต่อไปน้ี
1. สังเกตการแสดงออกเปน็ รายบคุ คลหรอื รายกลมุ่
2. ช้ินงาน ผลงาน รายงาน
3. การสัมภาษณ์ทง้ั แบบเป็นทางการและไม่เปน็ ทางการ
4. บนั ทกึ ของนักเรยี น
5. การประชมุ ปรึกษาหารือรว่ มกนั ระหว่างนักเรียนและครู
6. การวดั และประเมินผลภาคปฏิบตั ิ
7. การวัดและประเมินผลด้านความสามารถ
8. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรโู้ ดยใช้แฟม้ ผลงาน
เกณฑก์ ารประเมิน
เกณฑ์การประเมินท่ีนำเสนอนี้เพ่ือเป็นแนวทางให้ครผู ้สู อนใช้เป็นกรอบในการประเมินคุณภาพของผเู้ รยี นใน
ด้านตา่ ง ๆ ดงั นี้
๑. เกณฑ์การให้คะแนนผลการเรียนรู้โดยการสอบ
สำหรับแบบทดสอบท่ีเป็นปรนัยเลอื กตอบ สามารถกำหนดเกณฑใ์ นการใหค้ ะแนนอย่างกว้าง ๆ คอื
ตอบถูกได้ ๑ คะแนน ตอบผดิ ได้ ๐ คะแนน
สำหรับแบบทดสอบที่เป็นอัตนัย หรือแบบความเรียงสามารถกำหนดตัวบ่งชี้และเกณฑ์ในการให้คะแนน
มากกว่าสองระดับ เชน่ อาจกำหนดคะแนนเต็มเปน็ ๔ คะแนน แลว้ พจิ ารณากำหนดเกณฑ์การใหค้ ะแนนลดหล่ันลง
มา สำหรับนักเรียนทีแ่ สดงผลการเรยี นยังไม่ถงึ เกณฑก์ ำหนด
เกณฑ์การให้คะแนนผลการทำข้อสอบแบบอัตนัยที่พิจารณาจากการแสดงวิธีการหาคำตอบ และความถูก
ต้องของคำตอบ
๑๑๑
คะแนน / ความหมาย ผลการทำข้อสอบทีป่ รากฏใหเ้ ห็น
๔ ดีมาก การแสดงวธิ ีทำชดั เจน สมบรู ณ์ คำตอบถกู ต้อง ครบถ้วน
๓ ดี การแสดงวิธที ำยงั ไม่ชัดเจนดีนัก แต่อยูใ่ นแนวทางที่ถกู ต้อง คำตอบถูกต้อง
ครบถ้วน
๒ พอใช้ การแสดงวธิ ีทำยงั ไมช่ ัดเจน หรือไม่แสดงวิธีทำ คำตอบถูกต้องครบถ้วน หรอื
การแสดงวิธที ำชัดเจน สมบรู ณ์ แตค่ ำตอบไม่ถูกตอ้ ง ขาดการตรวจสอบ
๑ ควรแกไ้ ข การแสดงวิธที ำยงั ไม่ชัดเจนดีนกั แตอ่ ย่ใู นแนวทางท่ีถูกต้อง คำตอบไมถ่ ูกต้อง
หรือ ไมแ่ สดงวิธที ำ และคำตอบท่ีไดไ้ มถ่ ูกตอ้ งแต่อยใู่ นแนวทางท่ีถูกต้อง
๐ ตอ้ งปรบั ปรุง ทำได้ไม่ถึงเกณฑ์
นอกจากการพิจารณาจากการแสดงวิธีการในการหาคำตอบและความถูกต้องของคำตอบแล้ว เกณฑ์ในการ
ให้คะแนนแบบทดสอบอัตนัยอาจพิจารณาจากด้านอื่น ๆ อีกก็ได้ สำหรับเกณฑ์ในการให้คะแนนของการสังเกต
การสัมภาษณ์ และการประเมินชิ้นงานสามารถสร้างเกณฑ์ในทำนองเดียวกับเกณฑ์การให้คะแนนด้านทักษะ /
กระบวนการทางวิทยาศาสตรก์ ไ็ ด้
๒. เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นทักษะ/กระบวนการทางวิทยาศาสตร์/ ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 (21st Century
Skills)
คะแนน/ความหมาย ความสามารถในการปฏิบัติ
๓ ดี สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ด้วยตนเองโดยไม่เพม่ิ ความคดิ เหน็
๒ พอใช้ สามารถปฏิบัตไิ ด้แตต่ ้องอาศัยการชี้แนะจากผู้อื่น
๑ ตอ้ งปรับปรุง มีไมส่ ามารถปฏิบตั ิไดแ้ มว้ ่าครูหรอื ผู้อื่นชว่ ยแนะนำหรือชี้แนะ
๓. เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
คะแนน/ความหมาย คุณลกั ษณะท่ปี รากฏให้เห็น
๓ ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ
๒ ดี ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง
๑ พอใช้ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง
เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
คะแนน ระดับคุณภาพ
๓ ดีเยีย่ ม
๒ ดี
๑ ผ่าน
0 ไม่ผา่ น
๑๑๒
๔. เกณฑก์ ารประเมนิ ชิ้นงานแบบองคร์ วม
คะแนน/ความหมาย คณุ ภาพของช้ินงานท่ีปรากฏใหเ้ ห็น
๓ ดี - ชิ้นงานมคี วามถูกต้องตามท่ีออกแบบไว้ มีขนาดเหมาะสม รปู แบบนา่ สนใจ
แปลกตา และสรา้ งสรรค์
- เลือกใชว้ สั ดมุ าสรา้ งช้ินงานตามท่ีกำหนดได้ถูกต้อง และวัสดุมีความเหมาะสม
กับการสร้างชิ้นงานดีมาก
- จำแนกกลมุ่ พืชออกเปน็ กลุ่มพชื ดอก และกลมุ่ พชื ไมม่ ีดอกได้ถูกต้องครบถว้ น
- ตกแตง่ ชนิ้ งานได้สวยงามดมี าก
- ส่งชิ้นงานภายในเวลาที่กำหนด
๒ พอใช้ - ชน้ิ งานมีความถกู ตอ้ งตามที่ออกแบบไว้มขี นาดเหมาะสม รูปแบบน่าสนใจ
และสร้างสรรค์
- เลอื กใช้วัสดุมาสรา้ งช้ินงานตามทกี่ ำหนดได้ถกู ต้อง และวสั ดมุ คี วามเหมาะสม
กับการสรา้ งชิ้นงานดี
- จำแนกกลุ่มพชื ออกเป็น กลุ่มพชื ดอก และกลุม่ พชื ไม่มีดอกได้ถกู ต้องบ้าง
- ตกแตง่ ชิ้นงานได้สวยงามดี
- ส่งชนิ้ งานชา้ กวา่ กำหนด ๑-๒ วัน
๑ ตอ้ งปรบั ปรุง - ชน้ิ งานมีความถกู ตอ้ งตามท่ีออกแบบไว้ มขี นาดเหมาะสม รูปแบบน่าสนใจ
- เลือกใชว้ ัสดมุ าสร้างช้ินงานไมต่ รงตามท่กี ำหนด แต่วัสดมุ ีความเหมาะสมกบั
การสรา้ งชน้ิ งาน
- จำแนกกลุ่มพชื ออกเป็น กลุ่มพืชดอก และกลุม่ พชื ไมม่ ีดอกได้ถูกต้องน้อย
- ตกแตง่ ชนิ้ งานไดส้ วยงามน้อย
- ส่งชิน้ งานชา้ กว่ากำหนดเกนิ ๓ วันขึ้นไป
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
๑๔-๑๕ ดมี าก
๑๑-๑๓ ดี
๘-๑๐ พอใช้
ตำ่ กวา่ ๘ ปรับปรุง
๑๑๓
๕. เกณฑก์ ารนำเสนอผลงาน
คะแนน/ความหมาย คณุ ภาพการนำเสนอผลงานท่ีปรากฏให้เหน็
๓ ดี - เนือ้ หาละเอียดชดั เจน ความถูกต้องของเนื้อหา ภาษาท่ใี ช้เข้าใจงา่ ย ประโยชน์
ทไ่ี ดจ้ ากการนำเสนอ วธิ ีการนำเสนอผลงาน สอดคล้องกบั รายการประเมิน
สมบรู ณช์ ดั เจน
๒ พอใช้ - เนื้อหาละเอยี ดชดั เจน ความถกู ต้องของเน้ือหา ภาษาทใี่ ชเ้ ข้าใจงา่ ย ประโยชน์
ท่ีได้จากการนำเสนอ วิธกี ารนำเสนอผลงาน สอดคล้องกับรายการประเมินเป็น
สว่ นใหญ่
๑ ต้องปรบั ปรงุ - เนื้อหาละเอยี ดชัดเจน ความถกู ต้องของเนื้อหา ภาษาทใ่ี ช้เข้าใจงา่ ย ประโยชน์
ท่ีได้จากการนำเสนอ วธิ ีการนำเสนอผลงาน สอดคล้องกบั รายการประเมนิ
บางส่วน
๖. เกณฑป์ ระเมินพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
คะแนน/ความหมาย พฤติกรรมท่ีปรากฏใหเ้ ห็น
๓ ดี - การแสดงความคิดเหน็ การยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผู้อนื่ การทำงานตาม
หนา้ ที่ที่ได้รบั มอบหมาย ความมนี ำ้ ใจ การตรงตอ่ เวลา แสดงพฤติกรรมอยา่ ง
สมำ่ เสมอ
๒ พอใช้ - การแสดงความคิดเห็น การยอมรับฟังความคดิ เห็นของผู้อ่ืน การทำงานตาม
หน้าท่ที ไี่ ด้รบั มอบหมาย ความมีน้ำใจ การตรงตอ่ เวลา แสดงพฤติกรรมอยา่ ง
สม่ำเสมอ แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั
๑ ตอ้ งปรบั ปรงุ - การแสดงความคดิ เหน็ การยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผู้อืน่ การทำงานตาม
หนา้ ที่ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ความมนี ำ้ ใจ การตรงตอ่ เวลา แสดงพฤติกรรมอย่าง
สม่ำเสมอ แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง
๗. เกณฑป์ ระเมินดา้ นคุณธรรม
คะแนน/ความหมาย ความสามารถในการปฏบิ ัติ
๑ เกิดพฤติกรรม เกดิ พฤติกรรมดา้ นคุณธรรมตามรายการทีป่ ระเมิน
๐ ไม่เกดิ พฤตกิ รรม ไมเ่ กิดพฤตกิ รรมด้านคุณธรรมตามรายการทป่ี ระเมนิ
เกณฑก์ ารตัดสนิ - มากกว่า ๘๐ % ระดบั ดีมาก - ๗๐% - ๘๐ % ระดับดี
- ๖๐ % - ๗๐ % ระดบั พอใช้ - ต่ำกว่า ๖๐ % ระดับปรับปรุง
๑๑๔
๘. เกณฑพ์ ฤติกรรมการทำงานกล่มุ
คะแนน/ความหมาย พฤติกรรมที่ปรากฏใหเ้ ห็น
๓ ดี - การแสดงความคดิ เห็น การยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผู้อน่ื การทำงานตาม
หนา้ ท่ีทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ความมีน้ำใจ การมีส่วนรว่ มในการปรับปรุงผลงานกลุ่ม
แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ
๒ พอใช้ - การแสดงความคดิ เห็น การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่นื การทำงานตาม
หนา้ ทท่ี ี่ไดร้ บั มอบหมาย ความมีน้ำใจ การมสี ว่ นร่วมในการปรับปรุงผลงานกลุ่ม
แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั
๑ ต้องปรบั ปรงุ - การแสดงความคิดเหน็ การยอมรบั ฟังความคิดเหน็ ของผู้อืน่ การทำงานตาม
หนา้ ท่ีทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ความมีน้ำใจ การมสี ่วนร่วมในการปรบั ปรุงผลงานกลุ่ม
แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ แสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้ แสดงพฤติกรรม
บางคร้ัง
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
๑๔-๑๕ ดีมาก
๑๑-๑๓ ดี
๘-๑๐ พอใช้
ตำ่ กวา่ ๘ ปรับปรุง
เกณฑ์การวัดและประเมินผลการเรียน
๑. การกำหนดคะแนนระหวา่ งเรียนและปลายปี
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ กำหนดดังนี้ คะแนนระหวา่ งปี ๖๐ คะแนน คะแนนปลายปี ๔๐ คะแนน
รวม ๑๐๐ คะแนน
๒. การตดั สิน การให้ระดบั และการรายงานผลการเรียน
๒.๑ การตัดสินผลการเรยี น
ในการตัดสินผลการเรยี นของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนั้น ผู้สอนต้องคำนึงถึงการพัฒนานักเรียนแต่ละคนเป็นหลัก และต้องเก็บข้อมูล
ของนักเรียนทุกด้านอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในแต่ละภาคเรียน รวมทั้งสอนซ่อมเสริมผู้เรียนให้พัฒนาจนเต็มตาม
ศักยภาพ
ระดับประถมศกึ ษา
(๑) ผู้เรยี นตอ้ งมีเวลาเรียนไม่น้อยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นท้ังหมด
๑๑๕
(๒) ผู้เรยี นตอ้ งได้รับการประเมินทุกตัวชวี้ ัด และผา่ นเกณฑ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของจำนวนตัวช้ีวดั
(๓) ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา ไม่น้อยกว่าระดับ “ ๑ ” จึงจะถือว่าผ่านเกณฑ์
ตามท่ีสถานศกึ ษากำหนด
(๔) นักเรียนต้องได้รับการประเมิน และมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน
ในระดับ “ ผ่าน ” ขึ้นไป มีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับ“ ผ่าน ” ขึ้นไป และมีผลการประเมิน
กจิ กรรมพัฒนานักเรียนในระดับ “ ผา่ น ”
การพิจารณาเลื่อนชั้นทั้งระดับประถมศึกษา ถ้านักเรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และพิจารณาเห็นว่า
สามารถพัฒนาและสอนซ่อมเสริมได้ ให้ผ่อนผันให้เลื่อนชั้นได้ แต่หากนักเรียนไม่ผ่านรายวิชาจำนวนมาก และมี
แนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น ให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้ำชั้นได้ ทั้งนี้ให้
คำนงึ ถึงวุฒิภาวะและความรู้ความสามารถของนกั เรียนเป็นสำคัญ
๒.๒ การให้ระดบั ผลการเรียน
ระดบั ประถมศึกษา ในการตัดสินเพ่ือให้ระดับผลการเรยี นรายวชิ า ให้ระดบั ผลการเรียนหรือระดบั
คณุ ภาพการปฏิบัตขิ องนกั เรียน เปน็ ระบบตัวเลขแสดงระดับผลการเรียนเปน็ ๘ ระดบั ดังน้ี
ระดบั ผลการเรยี น ความหมาย ชว่ งคะแนนรอ้ ยละ
๔ ผลการเรียนดเี ย่ยี ม ๘๐ - ๑๐๐
๓.๕ ผลการเรียนดีมาก ๗๕ - ๗๙
๓ ผลการเรียนดี ๗๐ - ๗๔
๒.๕ ผลการเรียนค่อนข้างดี ๖๕ - ๖๙
๒ ผลการเรยี นนา่ พอใจ ๖๐ - ๖๔
๑.๕ ผลการเรียนพอใช้ ๕๕ - ๕๙
๑ ผลการเรียนผ่านเกณฑข์ ้ันต่ำ ๕๐ - ๕๔
๐ ผลการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ ๐ - ๔๙
การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงคน์ ัน้ ให้ระดับผลการประเมินเป็น
ดีเย่ยี ม ดี ผ่าน และไม่ผ่าน
การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและ
ผลงานของผเู้ รยี น ตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากำหนด และใหผ้ ลการเข้ารว่ มกจิ กรรมเป็นผา่ น และไมผ่ า่ น
๒.๓ การรายงานผลการเรียน
การรายงานผลการเรียนเป็นการสือ่ สารให้ผู้ปกครองและนักเรยี นทราบความก้าวหนา้ ในการเรียนรู้ของ
นกั เรียน ตอ้ งสรปุ ผลการประเมินและจัดทำเอกสารรายงานให้ผ้ปู กครองทราบเป็นระยะ ๆ หรอื อยา่ งนอ้ ยภาคเรียนละ
๑ คร้งั
๑๑๖
การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเป็นระดับคุณภาพการปฏิบัติของนักเรียนที่สะท้อนมาตรฐาน
การเรยี นรกู้ ลุม่ สาระการเรยี นรู้
๓. เกณฑ์การจบการศกึ ษา
หลักสูตรโรงเรียนวัดท่ากระบือ(ท่ากระบือพิทยาคาร) กำหนดเกณฑ์กลางสำหรับการจบการศึกษา ระดับ
ประถมศึกษา ดังน้ี
๓.๑ เกณฑ์การจบระดบั ประถมศกึ ษา
๑. ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน จำนวน ๕,๐๔๐ ชั่วโมง และรายวิชาเพิ่มเติม/กิจกรรมเพิ่มเติม
จำนวน ๑๒๐ ช่ัวโมง และมีผลการประเมนิ รายวชิ าพ้นื ฐานผ่านทกุ รายวิชา
๒. ผู้เรยี นต้องมผี ลการประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียน ระดบั “ผ่าน” ขน้ึ ไป
๓. ผู้เรยี นต้องมีผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดับ “ผ่าน” ขนึ้ ไป
๔. ผู้เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และได้รับการตัดสินผลการเรียน ”ผ่าน”
ทุกกจิ กรรม
๕. การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนจากการประเมินปลายปี ในกลุ่มสาระการเรียนรู้
กลุ่มละ ๑๐๐ คะแนน
๑๑๗
ภาคผนวก
๑๑๘
อภิธานศัพท์
ศัพทท์ ีเ่ กีย่ วข้องกบั ตัวชี้วดั กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ท่ี ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ความหมาย
๑. กำหนดปญั หา define problem ระบุคำถาม ประเด็น หรือสถานการณ์ ท่ีเป็น
ขอ้ สงสัยเพอ่ื นำไปสูก่ ารแกป้ ัญหา หรอื อภปิ ราย
ร่วมกัน
๒. แก้ปัญหา solve problem หาคำตอบของปญั หาทีย่ ังไม่รูว้ ิธกี ารมาก่อน ทงั้
๓. เขยี นแผนผงั / วาดภาพ ปญั หาทเ่ี กย่ี วข้องกบั วิทยาศาสตร์โดยตรง และ
๔. คำดคะเน
๕. คำนวณ ปญั หาในชวี ิตประจำวนั โดยใชเ้ ทคนิคและ
๖. จำแนก
๗. ตั้งคำถาม วิธีการตา่ ง ๆ
๘. ทดลอง
construct diagram/ นำเสนอข้อมลู หรอื ผลการสำรวจตรวจสอบดว้ ย
illustrate แผนผงั กราฟ หรือภาพวาด
predict คาดการณผ์ ลทีจ่ ะเกดิ ขึ้นในอนาคต โดยอาศัย
ขอ้ มูลทสี่ งั เกตได้ และประสบการณท์ ี่มี
calculate หาผลลพั ธ์จากข้อมูลโดยใชห้ ลักการ ทฤษฎี หรือ
วธิ ีการทางคณิตศาสตร์
classify จัดกล่มุ ของส่ิงตา่ ง ๆ โดยอาศัยลักษณะท่ี
เหมือนกันเปน็ เกณฑ์
ask question พูดหรอื เขยี นประโยค หรือวลเี พ่ือใหไ้ ด้มาซง่ึ
การคน้ หาคำตอบท่ีต้องการ
conduct/ ปฏบิ ตั ิการเพื่อหาคำตอบของคำถาม หรือปญั หา
experiment ในการทดลอง โดยต้ังสมมติฐานเพื่อเปน็ แนวทาง
ในการกำหนดตัวแปรและวางแผนดำเนนิ การ
๙. นำเสนอ present แสดงข้อมลู เร่ืองราว หรือ ความคิด เพื่อให้ผอู้ ่ืน
๑๐. บรรยาย describe รบั ร้หู รือพิจารณา
ใหร้ ายละเอยี ดของเหตกุ ารณ์หรอื ปรากฏการณท์ ี่
เกดิ ขน้ึ ใหผ้ อู้ ืน่ ได้รับรูด้ ้วยการบอกหรือเขียน
ท่ี ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ๑๑๙
๑๑. บอก tell
๑๒. บนั ทึก record ความหมาย
๑๓. เปรยี บเทียบ ใหข้ อ้ มลู ขอ้ เท็จจรงิ แกผ่ อู้ น่ื ดว้ ยการพดู หรอื เขียน
๑๔. แปลความหมาย compare
๑๕. ยกตัวอยา่ ง เขยี นขอ้ มูลที่ไดจ้ ากการสังเกต เพอ่ื ชว่ ยจำ หรือ
๑๖. ระบุ interpret เพ่ือเป็นหลักฐาน
๑๗. เลือกใช้ บอกความเหมือน และ/หรือ ความแตกต่างของ
๑๘. วัด give examples ส่ิงที่เทียบเคยี งกัน
๑๙. วิเคราะห์ แสดงความหมายของข้อมลู จากหลกั ฐานทป่ี รากฎ
๒๐. สรา้ งแบบจำลอง identify เพื่อลงขอ้ สรุป
ให้ขอ้ มูล เหตกุ ารณ์ หรอื สถานการณ์ เพอ่ื แสดง
๒๑. สงั เกต ความเขา้ ใจในส่ิงที่ได้เรยี นรู้
ชีบ้ อกสิง่ ตา่ ง ๆ โดยใช้ข้อมลู ประกอบอยา่ งเพียงพอ
๒๒. สำรวจ
select พิจารณาและตดั สินใจนำวสั ดุ สง่ิ ของ อปุ กรณ์
๒๓. สบื คน้ ข้อมูล measure หรอื วิธีการมาใช้ได้อย่างเหมาะสม
analyze
construct model หาขนาดหรือปริมาณของสิง่ ต่าง ๆ โดยใช้เครื่องมือ
ที่เหมาะสม
observe แยกแยะ จัดระบบ เปรียบเทยี บ จัดลำดับ
explore จัดจำแนก หรอื เช่อื มโยงข้อมูล
search
นำเสนอแนวคิดหรือเหตุการณใ์ นรปู ของ แผนภาพ
ช้ินงาน สมการ ข้อความ คำพดู และ/หรือใช้
แบบจำลองเพอ่ื อธิบายความคิด วัตถุ หรอื
เหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ
หาขอ้ มลู ด้วยการใช้ประสาทสัมผสั ท้งั หา้ ท่เี หมาะสม
ตามข้อเทจ็ จรงิ ท่ีปรากฏ โดยไม่ใช้ประสบการณ์เดมิ ของ
ผูส้ ังเกต
หาขอ้ มลู เก่ียวกบั สิ่งตา่ ง ๆ โดยใช้วิธกี ารและเทคนคิ ที่
เหมาะสมเพ่ือนำข้อมลู มาใช้ตามวตั ถุประสงคท์ ่ีกำหนด
ไว้
หาข้อมลู หรือข้อสนเทศทม่ี ผี รู้ วบรวมไวแ้ ลว้ จาก
แหลง่ ต่าง ๆ มาใชป้ ระโยชน์
๑๒๐
ที่ ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ ความหมาย
๒๔. สอื่ สาร communicate
๒๕. อธบิ าย explain นำเสนอและแลกเปลีย่ นความคดิ ขอ้ มูล หรอื ผล
๒๖. อภิปราย discuss จากการสำรวจตรวจสอบดว้ ยวิธีที่เหมาะสม
๒๗. ออกแบบการทดลอง design experiment กล่าวถงึ เรือ่ งราวต่าง ๆ อยา่ งมีเหตุผล และมี
ข้อมูล หรือประจกั ษ์พยานอา้ งอิง
แสดงความคิดเหน็ ต่อประเดน็ หรือคำถามอย่าง
มีเหตุผลโดยอาศัยความรูแ้ ละประสบการณ์ของ
ผอู้ ภิปรายและข้อมลู ประกอบ
กำหนดและวางแผนวธิ กี ารทดลองให้สอดคลอ้ งกับ
สมมตฐิ านและตัวแปรต่าง ๆ รวมทง้ั การบนั ทึกข้อมูล
ศัพท์ท่เี กีย่ วข้องกบั ตัวช้ีวัด สาระเทคโนโลยี
ท่ี ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ ความหมาย
๑ การใช้ลขิ สิทธิข์ อง fair use การนำส่อื หรอื ข้อมูลที่เปน็ ลขิ สิทธิข์ องผอู้ นื่ ไปใช้
โดยชอบดว้ ยกฎหมาย ภายใตเ้ งอื่ นไขบางประการ
ผูอ้ ่นื โดยชอบธรรม เชน่
๑) นำไปใชใ้ นการศึกษา หรอื การค้า
๒ การตรวจและแกไ้ ข debugging ๒) งานน้ันเปน็ งานวชิ าการ หรอื บันเทงิ
ขอ้ ผดิ พลาด ๓) คัดลอกเพียงส่วนน้อย หรอื คัดลอกจำนวนมาก
๔) ทำใหเ้ จา้ ของเสียผลประโยชนท์ างการเงนิ
๓ การประมวลผลข้อมลู data processing มากน้อยเพยี งใด
๔ การรวบรวมข้อมูล data collection กระบวนการในการคน้ หาขอ้ ผิดพลาดของ
โปรแกรม เพอ่ื แกไ้ ขใหท้ ำงานไดถ้ กู ต้อง
๕ ขอ้ มลู ปฐมภมู ิ primary data
การดำเนินการต่าง ๆ กบั ขอ้ มูลเพ่อื ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธท์ ี่
มคี วามหมาย และมปี ระโยชน์ต่อการนำไปใช้งาน
มากย่งิ ข้นึ
กระบวนการในการรวบรวมข้อมลู ท่ีเกยี่ วข้องจาก
แหล่งขอ้ มูลต่าง ๆ
ขอ้ มลู ท่ีรวบรวมโดยตรงจากแหลง่ ข้อมูลขนั้ ตน้
โดยอาจใช้วธิ ีการสังเกต การทดลอง การสำรวจ
การสัมภาษณ์
๑๒๑
ท่ี ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ ความหมาย
๖ เทคโนโลยี technology สง่ิ ทีม่ นษุ ย์สร้าง หรอื พัฒนาขนึ้ ซงึ่ อาจเปน็ ได้ทัง้
ชิน้ งาน หรอื วธิ ีการ เพื่อใชแ้ กป้ ัญหา สนองความ
ตอ้ งการ หรอื เพ่ิมความสามารถในการทำงานของ
มนุษย์
๗ แนวคิดเชงิ คำนวณ computational กระบวนการในการแก้ปญั หา การคดิ วเิ คราะห์
thinking อยา่ งมีเหตุผลเป็นขนั้ ตอน เพอื่ หาวธิ ีการแกป้ ญั หา
ในรูปแบบทส่ี ามารถนำไปประมวลผลได้
๘ แนวคิดเชิงนามธรรม abstraction การพิจารณารายละเอยี ดทส่ี ำคัญของปญั หา
แยกแยะสาระสำคญั ออกจากสว่ นท่ีไมส่ ำคัญ
๙ ระบบถามเทคโนโลยี technological กลุ่มของสว่ นต่าง ๆ ตง้ั แตส่ องสว่ นขนึ้ ไปประกอบ
system เขา้ ด้วยกันและทำงานร่วมกันเพือ่ ให้บรรลุ
วัตถุประสงค์ โดยในการทำงานของระบบถาม
เทคโนโลยีจะประกอบไปด้วย ตวั ปอ้ น (input)
กระบวนการ (process) และผลผลติ (output)
ทสี่ ัมพันธก์ นั นอกจากน้ีระบบถามเทคโนโลยอี าจ
มี ข้อมลู ย้อนกลับ (feedback) เพื่อใช้ปรับปรุง
การทำงานไดต้ ามวตั ถปุ ระสงค์
๑๐ เหตุผลเชิงตรรกะ logical reasoning การใช้เหตผุ ล กฎ กฎเกณฑ์ หรอื เง่อื นไข
ท่เี ก่ยี วขอ้ ง เพือ่ แก้ปัญหาได้ครอบคลมุ ทกุ กรณี
๑๑ เหตผุ ลวบิ ตั ิ logical fallacy การใช้เหตุผลที่ผิดพลาด ไม่อยู่บนพื้นฐานของความจรงิ
ไม่มีน้ำหนักสมเหตุสมผล มาสนับสนุน หรือชี้นำขอ้ สรปุ
ทผ่ี ดิ ใหด้ นู า่ เชื่อถอื
๑๒ อัตลักษณ์ Identity ลกั ษณะเฉพาะ หรอื ข้อมลู สำคญั ท่บี ง่ บอกถงึ ความ
เปน็ ตวั ตนของบคุ คลหรอื สง่ิ ใดสงิ่ หนึ่ง เช่น ชอื่ บัญชี
ผู้ใช้ ใบหน้า ลายนวิ้ มอื
๑๓ อลั กอริทมึ algorithm ขั้นตอนในการแก้ปัญหา หรือการทำงานโดยมีลำดับของ
คำสั่งหรือวิธีการทีช่ ัดเจน ที่คอมพิวเตอร์สามารถปฏบิ ตั ิ
ตามได้
๑๔ แอพพลิเคชนั software ซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ ที่ทำงานบนคอมพิวเตอร์
application สมารท์ โฟน แทบ็ เล็ต หรืออปุ กรณ์เทคโนโลยีอนื่ ๆ
๑๒๒