มหาวิทยาลัยธนบุรี สร ุ ปโครงการพัฒนานักศก ึ ษาด ้ านค ุ ณลักษณะบัณฑ ิ ตทพ ี่ง ึ ประสงค์ (TQF) ก ิ จกรรมศก ึ ษาด ู งานด ้ านธ ุ รก ิ จระหว่างประเทศ ณ บร ิ ษัท บางซอ ื่โรงส ีไฟเจ ี ยเม ้ ง จา กัด สาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ และ สาขาการจัดการ ประจ าปี การศึกษา 2565 ในวันพฤหัสบด ี ท ี่1 ม ิ ถ ุ นายน 2566
มหาวิทยาลัยธนบุรี แบบสรุปโครงการ ประจ าปี งบประมาณ 2565 1. ชื่อโครงการพัฒนานักศึกษาด้านคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค ์(TQF) กิจกรรม ศึกษาดูงานด้านธุรกิจระหว่างประเทศ ณ บริษัท บางซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง จ ากัด 2. หน่วยงานที่เสนอโครงการ สาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ ผู้รับผิดชอบโครงการ อาจารยอ์าร ี รตัน์จนัทรโพธิ์ศร ี อาจารยป์ระจาสาขาการจดัการธุรกิจระหวา่ง ประเทศ ดร.อินทิรา มีอินทร์เกิด ผู้ช่วยคณบดีคณะบริหารธุรกิจ ผู้ประสานงานโครงการ 1. นางสาวกุลธิดา กันโอภาส นักศึกษาสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ 2. นางสาวแคทลียา วงศ์พรมศรี นักศึกษาสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ 3. นางสาวกัญญธนัฏฐ์ วันแก้ว นักศึกษาสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ 4. นางสาวทิพย์สุดา จันอยู่ นักศึกษาสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ 5. นางสาวภาวิณี พิลาโท นักศึกษาสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ 6. นางสาวสุภาวดี ชินโคตร นักศึกษาสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ 7. ว่าที่ร้อยตรีหญิงนิรฌา แซ่ตั๊ง นักศึกษาสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ 8. นางสาวผนัชฎา ราชคงแก้ว นักศึกษาสาขาการจัดการธุรกิจระหว่าง ประเทศ ที่ปรึกษาโครงการ ดร. สุณัฐวีย์ น้อยโสภา หัวหน้าหลักสูตรการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ
ประวัติความเป็ นมา 8 ทศวรรษ ของบริษัท บางซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง จ ากัด เริ่มต้นจากพ่อค้าข้าว ก้าวมาเป็น ผู้ผลิตข้าวและผู้ส่งออกหอมมะลิคุณภาพสูงของไทยไปสู่ตลาดโลก ปี พ.ศ. 2480 "ห้างหุ้นส่วนจ ากัดโรงสีไฟเจียเม้ง" ก่อตั้งโดยนายบัวลิ้ม แซ่โค้ว และมีบุตรชายทั้งสองคน คือ นายโกศล และ นายกมล มานะธัญญา ผู้เป็นเรี่ยวแรงส าคัญในการด าเนินกิจการธุรกิจค้า ข้าวของบิดามาตั้งแต่วัยเยาว์ ในช่วงเริ่มต้น บริษัท ฯ ด าเนินกิจการเพียงการซื้อข้าวและขายใน ประเทศเท่านั้น
ปี พ.ศ. 2498 บรษิัทฯ ไดค ้ ดิคน ้ วิธ ี การสา หรบัการผลติขา ้ วหอมมะลไิทยบรสิทุธิ์(ขา ้ วหอมมะลิ105) และเริ่มส่งออกข้าวไปจ าหน่ายในต่างประเทศโดยใช้ตราสัญลักษณ์ เป็น “หงษ์” (แบรนด์หงษ์ ทอง) นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ข้าวตราหงษ์ทองก็ได้รับการยอมรับว่าจากผู้บริโภคในตลาด ต่างประเทศว่าเป็นข้าวหอมมะลิชั้นเลิศ มีคุณภาพดี สม ่าเสมอ ปี พ.ศ. 2511 เปลี่ยนชื่อจากห้างหุ้นส่วนจ ากัดโรงสีไฟเจียเม้ง เป็น เป็น บริษัท บางซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง จ ากัด หรือปัจจุบันเรียกว่า "BSCM"
ปี พ. ศ. 2516 จัดตั้ง “โรงสีไฟมานะธัญญาพาณิชย์” ณ จังหวัดนนทบุรีโดยในขณะนั้นมีก าลังการผลิต 7,500 ตันต่อเดือน ต่อมาในภายหลังโรงสีแห่งนี้ได้รวมเป็นสาขาของ บริษัท บางซื่อโรงสีไฟ เจียเม้ง จ ากัด ปี พ. ศ. 2533 จัดตั้งโรงสีข้าวแห่งที่สาม ในจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิ ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของข้าวหอมมะลิไทย ในขณะนั้นมีก าลังการผลิต 6,000 ตันต่อเดือน ปี พ. ศ. 2537 ก่อตั้ง “บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จ ากัด ” เพื่อด าเนินการจัดจ าหน่ายข้าวสาร ตราหงษ์ ทอง ในประเทศไทย เพื่อให้คนไทยได้บริโภคข้าวคุณภาพดี
ปี พ.ศ. 2552 บริษัทฯ ได้ริเริ่มการพัฒนาโครงการพัฒนาพันธุ์ข้าวหอมมะลิไทยในเขตภาคอีสานของ ประเทศไทยเพื่อรักษาคุณภาพข้าวหอมมะลิไทยให้คงอยู่ต่อไป ปี พ.ศ. 2555 จัดตั้ง "บริษัท บีเอสซีฟู้ดส์ จ ากัด " เพื่อขยายธุรกิจไปสู่ยุคใหม่ของผลิตภัณฑ์ข้าว จาก ผู้ผลิตข้าวเป็นอาหารไปสู่ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่สร้างสรรค์จากข้าว
ปัจจุบัน กลุ่มบริษัท บางซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง จ ากัด ( BSCM group ) ด าเนินการธุรกิจด้านข้าวอย่าง ครบวงจร ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การตรวจสอบคุณภาพ การบรรจุสินค้า และการจัด จ าหน่าย ส่งออกข้าวคุณภาพสูงมากกว่า 100,000 ตันต่อปีไปยังกว่า 50 ประเทศทั่วโลกด้วย ความใส่ใจและมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ
รางวัลรับรอง ตั้ งแต่ปี ค.ศ. 1937 – จนปัจจุบัน
ฃฃ
ปรัชญาธุรกิจ “ ส ำนึกในคุณค่ำของชีวิต ” บริษัท บำงซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง จ ำกัด ไม่เพียงแต่กำรผลิตข้ำวที่มีคุณภำพ แต่เรำ เห็นถึงคุณค่ำของชีวิต เรำจึงใส่ใจ และให้ควำมส ำคัญกับควำมสุขของทุกๆส่วน ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจของเรำ ไม่ว่ำจะเป็น เกษตกรชำวนำผู้ปลูกข้ำว คู่ค้ำ พนักงำน บริษัทของเรำ และ ลูกค้ำ - เรำจะพัฒนำทำงวัตถุดิบและเทคโนโลยีกำรผลิตด้วยนวัตกรรม - เรำจะยืนหยัดในกำรด ำเนินงำนด้วยควำมซื่อสัตย์ เที่ยงตรงและเป็นธรรม - เรำจะสร้ำงสรรค์ข้ำวคุณภำพดี มีประโยชน์ ต่อสุขภำพแก่คนไทยและคน ทั้งโลก เพื่อคุณภำพชีวิตที่ดีของทุกคน
ใส่ใจ สร้างสรรค์ ข้าวของโลก เพอ ื่ค ุ ณค่าชี วต ิ ว่ำกันว่ำกินข้ำวแล้วจะมีควำมสุข เป็นควำมจริงที่พิสูจน์ได้ นักวิทยำศำสตร์ได้วิจัยพบว่ำ ในเมล็ดข้ำว มีสำรส ำคัญชื่อ “แกมม่ำ ออไร ซำนอล (Gamma Oryzanal)” ที่ช่วยก ำจัดอนุมูลอิสระ ลด Cholesterol, Triglyceride, เพิ่มระดับของ HDL ในเลือด กระตุ้นกำรท ำงำนของต่อมใต้ สมอง และเพิ่มระดับฮอร์โมนอินซูลิน ผู้ที่รับประทำนข้ำวหอมมะลิหงษ์ ทองเป็นประจ ำ จึงสุขภำพดี มีระดับควำมสุขสูง ออไรซอนอล ในข้ำวเพียง อย่ำงเดียว แต่เกิดจำกควำมมุ่งมั่นของเรำที่ว่ำ “ใส่ใจ สร้ำงสรรค์ ข้ำวของ โลก เพื่อคุณค่ำชีวิต”
เรำใส่ใจ ซื่อสัตย์ ในกำรด ำเนินธุรกิจ โดยค ำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ให้ได้รับ ผลประโยชน์อย่ำงสมดุลและยุติธรรม ชำวนำ : ผู้เป็นต้นน ้ำของกำรผลิตข้ำวเปลือก ที่ดีให้แก่เรำ ลูกค้ำ : ผู้ให้กำรอุปกำรคุณ และสนับสนุนธุรกิจของเรำ ให้เติบโตอย่ำง ต่อเนื่อง พนักงำน : ผู้ทุ่มเท กำรท ำงำนอย่ำงเต็มที่ สร้ำงสรรค์ผลงำน แก่ธุรกิจให้ ก้ำวหน้ำ คู่ค้ำ : ผู้สนับสนุน ให้ธุรกิจเติบโตอย่ำงเต็มที่ไปด้วยกัน ผู้ถือหุ้น : ผู้สนับสนุนและมอบควำมไว้ใจ ให้ทุกคนในบริษัท บริหำร อย่ำง เต็มก ำลังควำมสำมำรถ จำกจุดเริ่มต้น คือ คดัเล ื อกพนัธุข์ำ ้ วหอมมะลทิ่ี ม ี ควำมบรสิทุธิ์ใหช ้ ำวนำได ้ เพำะปลูก พร้อมแบ่งปันควำมรู้ใหม่ๆ และเพิ่มมูลค่ำ สร้ำงชีวิตควำมเป็นอยู่ของ ชำวนำให้ดีขึ้น ผู้ขำยข้ำวได้รับข้ำวคุณภำพดี มำจ ำหน่ำย, พนักงำนของเรำร่วม แรง ร่วมใจท ำงำน, คู่ค้ำประทับใจในบริกำร, ลูกค้ำได้รับสินค้ำคุณภำพ ตรงเวลำ และผู้บริโภคได้รับประทำนข้ำวที่มีคุณภำพ สุขภำพจึงแข็งแรง และคุณภำพชีวิต ดีขึ้น
ข้าวหอมมะลิ ข้าวหงษ์ทอง ด ู แลตั้ งแต่เมล ็ ดพันธ ุ จ ์ นถง ึ เส ิ รฟ์ ให ้ ค ุ ณ คัดสรรเมล ็ ดพันธุข ์ ้าวทดี่ใีห้ชาวนา ข้ำวหอมมะลิที่ดีเมล็ดพันธุ์ข้ำวต้องมีกำรเปลี่ยนทุก ๆ ปี หำกใช้เมล็ด พันธุ์ซ ้ำจำกแปลงนำเดิม ๆ จะท ำให้คุณภำพด้อยลง ข้ำวหงษ์ทองให้ ควำมส ำคัญเป็นอย่ำงมำกกับคุณภำพของเมล็ดพันธุ์ข้ำว จึงมีแปลงนำเพำะพันธุ์ ข้ำวหอมมะลิ 105และน ำเมล็ดพันธุ์นี้ให้ชำวนำน ำไปเพำะปลูกเพื่อให้ได้ข้ำว หอมมะลิแท้ที่มีคุณภำพควำมหอม ควำมนุ่ม คงเอกลักษณ์ของข้ำวหอมมะลิ ไทย ใส่ใจดูแลคู่ค้า ตลอดระยะเวลำกว่ำ 70 ปีที่ท ำธุรกิจ มีปนิธำนกำรท ำงำน ที่ยึดถือ ปฏิบัติอย่ำงเคร่งครัดคือ “คุณภำพน ำหน้ำ รำคำยุติธรรม บริกำรด้วย ควำมซื่อสัตย์สุจริต” เรำมีคู่ค้ำที่เติบโตอย่ำงมั่นคงมำพร้อมๆกัน ให้กำรสนับสนุน ให้ควำมไว้วำงใจ ดูแลเหมือนเป็นที่ปรึกษำทำงกำรค้ำ วำงแผนกำรด ำเนินงำน และทิศทำงของธุรกิจร่วมกัน
ใส่ใจดูแลชาวนาและการเพาะปลูก ข้ำวหงษ์ทองใส่ใจให้ควำมรู้กับชำวนำ ดูแลกรรมวิธีกำรเพำะปลูก ตั้งแต่กำรตรวจดิน กำรไถกลบ กำรคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ กำรหว่ำน กำรป้องกันและบ ำรุงต้นข้ำว เพื่อให้ชำวนำลดต้นทุนกำรผลิต และได้ปริมำณ ข้ำวต่อไร่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังรับซื้อผลผลิตจำกชำวนำในรำคำยุติธรรม ท ำให้มี รำยได้เพิ่ม มีควำมสุขในกำรท ำนำ ใส่ใจผู้บริโภค ข้ำวหอมมะลิ 105 ที่มีคุณภำพดีที่สุดต้องปลูกที่ภำคอีสำน ดินแดน ทุ่งกุลำร้องไห้ เพรำะสภำพดิน น ้ำ อำกำศเหมำะสมอย่ำงยิ่ง เรำคัด สรรวัตถุดิบข้ำวหอมมะลิ 105 จำกภำคอีสำนน ำมำผลิตและปรับปรุงคุณภำพให้ ได้มำตรฐำนเพรำะฉะนั้นข้ำวหอมมะลิ “ตรำหงษ์ทอง” จึงเป็นข้ำวที่หอม นุ่ม อร่อยและได้มำตรฐำนเหมือนกันทุกถุง
ผลิตภัณฑ์ของข้าวหงษ์ทอง 1. ข้าวขาวหอมมะลิ 100% พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ข้าว พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ของไทย ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกเรื่องความ อร่อย และกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เราคัด ทุกเมล็ดด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ให้ได้เหนือ มาตราฐานข้าวหอมมะลิส่งออก มีเมล็ดที่สวย ยาว เรียว ใส เป็นมันเลื่อม เมื่อหุง สุกจึงได้ข้าวที่กรุ่นหอมให้สัมผัสนุ่มเหนียว รับประทานอร่อย 2. ข้าวกล้องหอมมะลิ ข้าวหอมมะลิที่ผ่านการขัดสีแบบพอเหมาะ เก็บ รักษาคุณค่าวิตามินและแร่ธาตุต่างๆไว้เต็มทั้ง เมล็ด เมื่อหุงสุก จะให้สัมผัสเคี้ยวนุ่มเหนียว กลิ่ม หอมเฉพาะ
3. ข้าวกล้องแดง ข้าวหอมมะลิแดงที่ผ่านการขัดสีแบบพอเหมาะ อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุสูง จัดเป็นข้าวเพื่อ สุขภาพที่อร่อยเหมาะส าหรับหุงเพื่อรับประทาน เป็นข้าวสวย 4. ข้าวกล้องผสม ข้าวกล้องผสมข้าวแดง เป็นข้าวสูตรผสม เฉพาะ ที่มีคุณค่าแร่ธาตุ, วิตามินควบคู่กับ ความอร่อย รับประทานง่าย ให้สัมผัสที่ แตกต่างทุกค าที่เคี้ยวเหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอม กรุ่น
5. ข้าวกล้องงอก ผลิตอย่างพิถีพิถันจากข้าวหอมมะลิ พันธุ์ขาว ดอกมะลิ 105 น าไปผ่านกระบวนการกระตุ้นให้ จมูกข้าวงอกแบบพอดี เพื่อควบคุมให้ได้สารกา บา GABA ( Gamma-Aminobutyric Acid ) ใน ปริมาณสูงสุด ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลายระบบประสาท ปรับสมดุลร่างกาย 6. ข้าวกล้องแดงงอก ผลิตอย่างพิถีพิถันจากข้าวหอมมะลิแดงน าไป ผ่านกระบวนการกระตุ้นให้จมูกข้าวงอกแบบ พอดี เพื่อควบคุมให้ได้สารกาบา GABA ( Gamma- Aminobutyric Acid ) ในปริมาณ สูงสุด ซึ่งมีคุณสมบัติ ช่วยผ่อนคลายระบบ ประสาท ปรับสมดุลย์ร่างกาย นอกจากนี้ ข้าวกล้องแดงงอกยังมีสาร แอนติออก ซิแดนท์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเรื่องผิวพรรณ
7. ข้าวกล้องหอมมะลินิลงอก ผลิตอย่างพิถีพิถันจากข้าวหอมมะลินิลน าไปผ่าน กระบวนการกระตุ้นให้จมูกข้าวงอกแบบพอดี เพื่อ ควบคุมให้ได้สารกาบา GABA ( GammaAminobutyric Acid ) ในปริมาณสูงสุด ซึ่งมี คุณสมบัติ ช่วยผ่อนคลายระบบประสาท ปรับสมดุลย์ร่างกาย นอกจากนี้ ข้าว หอมมะลินิลยังมีสาร แอนโทไซยานิน ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ป้องกัน การเกิดโรคมะเร็ง 8. ข้าวเหนียวขาว คัดเลือกจากข้าวเหนียวพันธุ์ดีเลิศ จากภาค ตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ลักษณะเมล็ดข้าว ป้อมอวบอิ่ม สีขาวเต็มเมล็ด เมื่อนึ่งสุก จะให้ สัมผัสนุ่มเหนียว หนึบ อร่อย
9. ข้าวเหนียวด า อุดมด้วยสารแอนโทไซยานิน เมื่อหุงสุกมีกลิ่น หอม นุ่มเหนียวเป็นเอกลักษณ์ นิยมน าไปท าเป็น ขนมหวาน 10. ข้าวขาว คัดเลือกจากข้าวพันธุ์แท้คุณภาพดี ที่ปลูกในฤดู นาปี น ามาผ่านขั้นตอนการผลิตพิถีพิถันทันสมัย จนได้เมล็ดข้าวขาวสวย สะอาดไร้สิ่งเจือปน หุง ขึ้นหม้อ สวยเต็มเมล็ด
11. ปลายข้าวหอมมะลิ ปลายข้าวหอมมะลิคัดคุณภาพ เหมาะส าหรับหุง ข้าวต้มหรือเคี่ยวเป็นโจ๊ก หอมอร่อย ย่อยง่าย เปี่ยมด้วยคุณค่า เรามีปลายข้าวหอมมะลิ ให้ เลือกหลายขนาดตามวัตถุประสงค์ของคุณ
กระบวนการสรรหาข้าวเปลือก ปัจจุบันโรงสีในเครือของบริษัท บางซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง จ ากัด (ข้าว หงส์ทอง) มีสาขาทั้งหมด 5 แห่ง 1.นนทบุรี- ส านักงานใหญ่ น าข้าวเปลือกมา สีบรรจุและขนย้ายเพื่อ น าไปจ าหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ 2.ศรีสะเกษ - รับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร โรงสี และแหล่งขาย ข้าวเปลือก น ามา สีและบรรจุ ส่งออกโดยผ่านที่ท่าเรือแหลมฉบัง
3.ร้อยเอ็ด - รับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร โรงสี และแหล่งขายข้าวเปลือก น ามา สีและบรรจุ บางส่วนส่งให้ส านักงานใหญ่ที่จ.นนทบุรีบรรจุ 4.อุบลราชธานี- รับซื้อข้าวเปลือกจาก เกษตรกร โรงสี และ แหล่งขายข้าวเปลือก น ามา สีและบรรจุ ซึ่ง จากการค้นคว้าวิจัยของบริษัทร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ท าให้ ทราบว่าจากอากาศและความชื้นของจ.อุบลราชานี ท าให้ข้าวหอมมะลิสามารถ คงความหอมและอายุการเก็บรักษานานขึ้น 5.สุพรรณบุรี- โรงสีสาขาใหม่ล่าสุด ที่จะเพิ่มก าลังการผลิตให้กับบริษัท ในอนาคต และบางส่วนทางบริษัทได้ท าการสั่งซื้อจากผู้จัดจ าหน่าย ภายในประเทศ
กระบวนการผลิต “บริษัทยึดหลักการมุ่งม่ันพฒันาสู่ความเป็ นเลิศด้านการผลิตข้าวทมี่คีุณภาพ ในราคาทเี่หมาะสม” ข้าวเปลือกที่ผ่านการคัดเลือกคุณภาพจะถูกน าไปจัดเก็บภายในคลังสินค้าของบริษัทฯ
ข้าวเปลือกจะถูกน ามาผ่านขั้นตอนต่างๆในกระบวนการผลิต ด้วยเครื่องจักรทันสมัย ท างานในระบบอัตโนมัติ ควบคุมงานโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ
บริษัทมีการตรวจสอบคุณภาพในทุกขั้นตอนการผลิตและการบรรจุจนเป็นสินค้าส าเร็จรูป เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าที่พร้อมจะส่งมอบให้แก่ลูกค้านั้น ได้คุณภาพ ปราศจากสิ่งเจือปนและผ่าน เกณฑ์มาตรฐานการรับรองสากล ตรงตามความต้องการของลูกค้าอย่างสม ่าเสมอ
“เราส่งมอบข้าวทเี่ราผลิตด้วยความใส่ใจไปสู่ผู้บริโภคท่ัวโลก”
เทคโนโลยีการผลิต การสุ่มตัวอย่าง : เริ่มต้นด้วยการสุ่มตัวอย่างข้าวเปลือกมาตรวจสอบมาตรฐาน รับวัตถุดิบ : รับวัตถุดิบอย่างรวดเร็วด้วยอุปกรณ์ระบบปิด ท าความสะอาด : ท าความสะอาดข้าวเปลือกก่อนน าไปเก็บในโซโล การเก็บรักษา : เก็บรักษาในโซโลขนาดใหญ่พร้อมรองรับลูกค้าได้ตลอดปี ตรวจสอบ : ตรวจสอบคุณสมบัติของเมล็ดข้าวก่อนส่งเข้ากระบวนการสีข้าว กะเทาะเปลือก : ข้าวเปลือกจะถูกแปรสภาพเป็นข้าวกล้อง ขัดขาว: เพื่อขัดเอาชั้นของร าออกจากข้าวกล้องและแปรสภาพเป็นข้าวสาร ขัดมัน : เพิ่มความเงางามให้ข้าวสาร และยืดอายุการเก็บรักษา
คัดแยกสิ่งเจือปน : คัดแยกสิ่งเจือปนด้วย Infrared จนได้เฉพาะข้าวสารที่สะอาด คัดแยกขนาด : เพื่อให้ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ ตรวจสอบขั้นสุดท้าย : เพื่อให้ได้ข้าวสารที่มีมาตรฐานสูงสุดของกลุ่มบริษัทฯ บรรจุ: ด้วยเครื่องจักรทันสมัย ท างานอัตโนมัติ จนเป็นผลิตภัณฑ์ที่พร้อมส่งมอบให้ ลูกค้า การส่งมอบ : สินค้าที่สะอาดมีมาตรฐาน ปราศจากสิ่งเจือปน จะส่งมอบให้กับลูกค้าโดย รวดเร็วทันเวลา
การตรวจสอบคุณภาพข้าวหงษ์ทอง ผลิตภัณฑ์ข้างหงษ์ทองทุกถุง จะผ่านการตรวจสอบคุณภาพอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การตรวจรับวัตถุดิบ การตรวจสอบในระหว่างกระบววนการผลิต และการสุ่มตรวจ สินค้าส าเร็จรูป เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่มีมาตรฐาน ปลอดภัยและมีความพึงพอใจสูงสุด โดยจะท าการตรวจสอบด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ทั้งทางด้านกายภาพ เช่น ปริมาณของข้าวเต็ม เมล็ด ปลายข้าวหัก คุณภาพการขัดสี ความชื้นและสิ่งเจือปนต่างๆ ได้แก่ เมล็ดข้าวเสีย ข้าว ท้องไข่ วัชพืชต่างๆ การตรวจสอบทางเคมี เช่น ปริมาณอะมิโลส (Amylose) , การสลายของ เมล็ดข้าวในด่าง (Alkali Test) เพ่ื อตรวจสอบความบรสิทุธิ์ของขา ้ วหอมมะลิเป็นตน ้ นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบเพื่อควบคุมคุณภาพการหุงต้ม โดยใช้เทคโนโลยีจากเครื่อง Texture Analyzer , เครื่อง Rapid Visco Analyzer (RVR) และการทดสอบทางประสาทสัมผัส (Sensory Test) เป็นต้น
ปัจจุบันบริษัท บางซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง จ ากัด (ข้าวหงส์ทอง) มีก าลังการผลิตต่อปีประมาณ 2 แสนตัน มีการส่งข้าวไปขายในต่างประเทศ โดยเฉลี่ยขายในประเทศ 1 แสนตันและส่งออก ขายต่างประเทศ 1 แสนตัน ข้าวคุณภาพเดียวกันในการขายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมี การส่งออกมากกว่า 50 ประเทศในปัจจุบัน ประเทศที่น าเข้าผลิตภัณฑ์ของข้าวหงส์ทองมาก ที่สุดคือ ฮ่องกงและสิงคโปร์ ยอดขายมากกว่า 5 หมื่นตันต่อปี
ผล ิ ตภัณฑข ์ องบร ิ ษัทข ้ าวหงสท ์ องทม ี่ี จา หน่าย ณ ปัจจ ุ บัน
“โครงการหงษท ์ องนาหยอด เก ิ ดจากแนวค ิ ดท ี่ต ้ องการยกระดับให ้ เกษตรกรม ี รายได ้ เพม ิ่ข ึ น ้ จากการลดต ้ นท ุ นการปล ู กข ้ าว แต่ได ้ ผลผล ิ ตเพม ิ่ข ึ น ้ ” ประเทศไทยมีข้าวเป็นสินค้าส่งออกที่ ส าคัญโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิของ ไทย นับว่าเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั่ว โลก แต่ในอดีตเรามีปัญหาว่า ข้าว หอมมะลมิกัจะไม่บรสิทุธิ์100% ม ี พันธุ์ข้าวอื่นปะปนอยู่ด้วย สาเหตุมา จากการเก็บเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวจะ มีข้าวเปลือกติดมากับรถและข้าว หล่นลงบนพื้นนา ฤดูกาลถัดไปข้าวที่ หล่นก็จะขึ้นปะปนกับข้าวที่หว่านลง ไป ไม่สามารถแยกแยะออกได้ อีกทั้งชาวนาจะเก็บเมล็ดข้าว ส่วนหนึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ส าหรับการ เพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป เรียกได้ว่าเกิดการปะปนกันตลอดไปอย่างไม่สิ้นสุด ในฐานะที่บริษัทข้าวหงษ์ทอง ประกอบธุรกิจผลิตและจ าหน่ายข้าวอยู่คู่เมืองไทยมา ยาวนานกว่า 80 ปี จึงได้คิดแก้ไขปัญหานี้
เมื่อปี 2551 จึงได้เกิดโครงการไตรภาคีระหว่างรัฐ เอกชน และเกษตรกร ร่วมมือกันพัฒนา ศกัยภาพขา ้ วหอมมะลขิองไทยใหบ ้ รสิทุธิ์100% จากการศก ึ ษารว่มกนัหลายฝ่าย คน ้ พบว่าการ เพาะปลูกด้วยกรรมวิธีการหยอดเมล็ดพันธุ์ให้เป็นแถวเรียงกัน มีระยะห่างซ้าย ขวา หน้า หลัง ด้านละ 20-25 เซนติเมตร จะท าให้ต้นข้าวขึ้นเป็นแถวห่างกันอย่างเห็นได้ชัด หากมีต้นข้าวที่ขึ้น นอกแถวก็จะรู้ได้ว่าไม่ใช่ข้าวเมล็ดพันธุ์ที่เราหยอดลงไป ก็จะท าการถอนทิ้งออกไป เราก็จะได้ ขา ้ วหอมมะลแิทบ ้ รสิทุธิ์ทงั้หมด นอกจากนนั้การปลกูหา่งกนัก็จะใชเ ้ มลด็พนัธุน์อ ้ ยลงจากท่ี เคย หว่านประมาณ 30 กิโลกรัมต่อไร่ แต่การหยอดใช้เพียงประมาณ 10 กิโลกรัมต่อไร่ และยัง สามารถลดปริมาณการใส่ปุ๋ ยลงไปด้วย ช่วยลดค่าใช้จ่าย และการมีช่องว่างระหว่างแถว ท าให้ ข้าวแตกกอได้ดี มีรวงมากเพิ่มขึ้น ได้ปริมาณข้าวเพิ่มขึ้น สรุปว่าลดทั้งค่าใช้จ่ายและได้ข้าวเพิ่ม มากขึ้น
การทดลองที่กล่าวมาใช้เวลาหลายปีจนเห็นว่าได้ผลจริง จึงได้เริ่มชักชวนให้เกษตรกร ชาวนาในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ มาท านาหยอด โดยบริษัทข้าวหงษ์ทอง เป็นผู้ให้ค าแนะน าและ ให้การสนับสนุน ตั้งแต่ปี 2558 เป็นปีแรกที่เริ่มโครงการหงษ์ทองนาหยอดมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการเพียง 500 กว่าไร่ เนื่องจากยังขาดความเชื่อมั่นว่าจะได้ผลหรือไม่แต่ผลลัพธ์ของปีแรกเห็นได้ชัดว่า สามารถลดต้นทุนการเพาะปลูกลง 20% และผลผลิตเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเปรียบเทียบกับการท า นาหว่าน ดังนั้นในปี 2559 เกษตรกรชาวนาจึงเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นถึง 10,000 ไร่ และเพิ่มขึ้น ทุกปีจนถึงปัจจุบัน มีเกษตรกรชาวนาเข้าร่วมโครงการสูงถึง 80,000 ไร่ เป็นพื้นที่จังหวัดศรีสะ เกษและอุบลราชธานีแห่งละประมาณ 40,000 ไร่ และมั่นใจว่าในปี 2563 จะมีเกษตรกรที่มา เข้าร่วมโครงการสูงถึง 100,000 ไร่
ดร.มนัสยังได้กล่าวอีกว่า “โครงการหงษ์ทองนาหยอดไม่ได้มีเป้าหมายเป็นตัวเลขว่าต้องมี เกษตรกรเข้ามาท ากี่ไร่กี่จังหวัด แต่สิ่งที่เรามุ่งหวังคือให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น แม้ข้าวจะเป็น สินค้าออกที่ส าคัญ แต่รายได้ของเขาย ่าแย่มาก เราต้องการให้เขาลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต โดย โครงการหงษ์ทองนาหยอดเป็นโครงการเปิดนะครับ ใครที่สนใจก็มาศึกษากับเราแล้วไปท าได้ เลย” ดร.มนัส ยังได้เล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาในอดีตของเกษตรกรไทย คือ เมื่อชาวนาน าข้าว ไปขาย โรงสีตรวจพบว่ามีข้าวอื่นปนมาก็จะตัดราคา ชาวนาก็รู้สึกว่าโรงสีเอาเปรียบต่างฝ่ายต่าง ไม่เชื่อใจกัน แต่ส าหรับโครงการหงษ์ทองนาหยอด ไม่มีปัญหาเหล่านี้เลย เพราะพิสูจน์ได้ว่าเป็น ข้าวหอมมะลิที่คุณภาพดีจริงไม่มีพันธุ์อื่นปะปนมา โรงสีก็รับซื้อในราคายุติธรรม ทั้งนี้เราเองก็ มิได้ผูกขาดว่าจะต้องมาขายเรา ชาวนาสามารถขายให้โรงสีไหนก็ได้
นอกจากนั้น บริษัทหงษ์ทองยัง พยายามช่วยเกษตรกรให้มีรายได้จากการ เพาะปลูกพืชอื่นหลังฤดูกาลท านาอีกด้วย แต่ มีปัญหาอุปสรรคเรื่องการขาดแคลนน ้า จึง พยายามศึกษาการเพาะปลูกพืชที่ใช้น ้าน้อย และการพัฒนาแหล่งน ้าด้วยวิธีการต่าง ๆ ท้ายที่สุด ดร.มนัส กล่าวโดยสรุปว่าจุดมุ่งหวังที่ส าคัญ คือ “เราต้องการให้เกษตรกรมี รายได้เพิ่มมากขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถเพาะปลูกให้ได้ผลผลิตที่ดีออกสู่ตลาด ซึ่งจะ ส่งผลดีต่อผู้ประกอบธุรกิจข้าว ผู้ค้าข้าว ผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ส่งผลดีต่อผู้บริโภคเรียกได้ว่าเกิดผล ที่ดีกับทุกภาคส่วนเลยครับ”
วทิยากร ท่าน ดร. มนัส ชูผกา (Dr.Manas Choopakar) ต ำแหน่งผู้จัดกำรทั่วไปอำวุโส บริษัท บำงซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง จ ำกัด (ข้ำวหงส์ทอง) หน้ำที่ควำมรับผิดชอบดูแลเกี่ยวกับทรัพยำกรมนุษย์ พัฒนำองค์กร ซึ่งสถำนกำรณ์โควิด-19 ที่ผ่ำนมำด้วยควำมสำมำรถในกำรจัดกำร ท ำให้รับมือได้อย่ำงชำญ ฉลำดทันท่วงที ต่อสู้กับสถำนกำรณ์โควิด-19 จนไม่ต้องปิดโรงงำนเหมือนโรงงำนแห่งอื่นๆอีกทั้ง บริษัทยังให้ควำมช่วยเหลือชำวบ้ำนรอบข้ำง เช่น ท ำวิดีโอประชำสัมพันธ์ว่ำโรงงำนรับมือกับโค วิด-19 ยังไง และยังได้ประสำนงำนกับหน่วยงำนรำชกำร, โรงพยำบำลพระนั่งเกล้ำในกำรให้ ควำมช่วยเหลือ เปิดโรงงำนท ำเป็นหน่วย Home Isolation ที่พักพิง กักตัวส ำหรับผู้ป่วยโควิด-19
มีกำรคอยสอดส่องดูแลพนักงำน หำกพื้นที่ที่พนักงำนอำศัยอยู่มีกำรประกำศเป็นพื้นที่สี แดง ทำงบริษัทจะสั่งหยุดงำนพนักงำนคนนั้นทันที เพื่อป้องกันควำมเสี่ยงและกำรแพร่กระจำย กำรท ำงำนในโรงงำน จะมีกำรจัดกลุ่มกำรท ำงำน หำกในกลุ่มมีคนติด 1 คน พนักงำนในกลุ่มจะ ถูกสั่งหยุดงำนเพื่อลดควำมแพร่กระจำย ณ สถำนกำรณ์ตอนนั้นที่มีพนักงำนในโรงงำน ประมำณ 300 คน และครอบครัวของพนักงำน รวมทั้งสิ้นประมำณ 600 คน ด้วยควำมสำมำรถ ในกำรจัดกำรของท่ำนดร.มนัส ชูผกำ ท ำให้มีพนักงำนติดเชื้อโควิด-19 ไปเพียง 60 คน
บรรยากาศการเข้าชมโรงงาน มหาวิทยาลัยธนบุรีได้รับความกรุณาจากบริษัท บางซื่อโรงสีเจียเม้ง จ ากัดให้เข้าชม โรงงาน ณ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2566 โดยการเข้าชมโรงงานประกอลไปด้วย ทั้งหมด 3 ส่วน 1.กระบวนการบรรจุ ที่โรงงานมีการบรรจุข้าวตั้งแต่ขนาด - 300 กรัม - 500 กรัม - 1 กิโลกรัม - 2 กิโลกรัม - 5 กิโลกรัม - 8 กิโลกรัม - 10 กิโลกรัม - 40 กิโลกรัม - 45 กิโลกรัม - 48 กิโลกรัม - 50 กิโลกรัม - 1,000 กิโลกรัม และ 1,200 กิโลกรัม ซึ่งการบรรจุขนาดหรือปริมาณของข้าวนั้น จะท าตามค าสั่งซื้อที่ลูกค้าสั่ง
ก าลังการบรรจุต่อวันอยู่ที่ 500-600 ตัน โดยประมาณ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับค าสั่งซื้อของลูกค้าที่เข้า มาว่ามีมากน้อยเพียงใด โดยที่โรงงานจะผลิตตามค าสั่งซื้อของลูกค้า
ณ ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในกระบวนการบรรจุ โดยที่ความเร็วใน การบรรจุของหุ่นยนต์จะอยู่ที่ 8 ถุงต่อนาที ซึ่งสามารถเพิ่มก าลังการผลิต เพื่อตอบสนอง ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
กระบวนการต่อไปคือการบรรจุหีบห่อลงในแต่ละแพ็คเพื่อรอส่งจัดจ าหน่าย เมื่อบรรจุได้ตามขนาดที่ต้องการแล้ว จะต้องน าข้าวในแต่ละชุดมาชั่งน ้าหนักเพื่อตรวจสอบ อีกครั้งว่า ได้น ้าหนักที่ตรงตามความต้องการ ครบตามจ านวนและน ้าหนักที่ก าหนดหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบทุกกระบวนการและขั้นตอน เพราะในการจัดส่งสินค้าในแต่ละ รอบ น ้าหนักของสินค้าไม่ควรขาด หรือ เกิน มากกว่า 5 กิโลกรับ
ส าหรับบรรจุภัณฑ์ที่ขายในประเทศ และต่างประเทศ ลักษณะของบรรจุภัณฑ์จะ ขึ้นอยู่กับค าสั่งซื้อของลูกค้า ซึ่งจะแตกต่าง กันที่ความหนาและบางของวัสดุที่ใช้ผลิต หากส่งขายในต่างประเทศจะใช้บรรจุภัณฑ์ที่ มีความหนากว่า เพื่อความทนทานของบรรจุ ภัณฑ์และป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น จากการขนส่ง หลังจากบรรจุเสร็จแล้วข้าวจะถูกจัดเก็บ รอจัดส่ง หากขายในประเทศจะถูกเก็บเข้าคลัง เก็บรักษา หากส่งออกนอกประเทศจะถูกเก็บไว้ ที่ลานเก็บของคลังสินค้าเพื่อรอจัดส่ง
หลังจากบรรจุเสร็จแล้วข้าวจะถูกจัดเก็บ รอจัดส่ง หากขายในประเทศจะถูกเก็บเข้าคลัง เก็บรักษา หากส่งออกนอกประเทศจะถูกเก็บไว้ที่ลานเก็บของคลังสินค้า เพื่อรอจัดส่ง