2. นักเรยี นจับคู่กับเพอ่ื นทำแบบฝกึ หัด ในหนังสอื เรยี น หนา้ 19 Ex. 7 (To practice the
interrogative form of the verb ‘have got’ as well as short answers) โดยเติม have / has ลงใน
ประโยคคำถามใหถ้ กู ต้อง พรอ้ มตอบคำถาม เสร็จแลว้ ถามตอบกับเพื่อน ครูเดินรอบๆ ช้ันเรียนเพือ่ สังเกตคำตอบ
ของนักเรยี น แล้วครูเฉลยคำตอบกระดาน
1. Has – Yes, he has. 4. Has – No, he hasn’t.
2. Has – No, she hasn’t. 5. Has – No, he hasn’t.
3. Have – No, they haven’t.
ข้ันท่ี 4 (ขั้นนำไปใช)้ Production
1. ครูให้นักเรียนเลอื กตวั การต์ ูนในหนงั สอื เรียน หน้า 19 มา 1 ตัว แลว้ จับคกู่ บั เพื่อนฝกึ ถามตอบ
เกีย่ วกบั ลกั ษณะตัวการ์ตูนท่นี ักเรยี นเลือก โดยใช้คำถาม Yes / No Questions 5 คำถาม และให้เพอื่ นทายวา่
คอื ตัวการต์ ูนตวั ใด กอ่ นทำกิจกรรมครเู รยี กนักเรยี น 2 คน อา่ นตัวอย่างใน Ex. 8(Topractise asking and
answering questions about a person’s appearance) แลว้ ใหน้ กั เรียนจบั ค่ฝู ึกตามตัวอย่างครสู ุ่มนกั เรยี น
2 คน จากแตล่ ะคู่ ออกมาถามตอบหนา้ ชนั้ เรียน
Suggested Answer Key
A: Is she beautiful?
B: Yes, she is.
A: Has she got black hair?
B: Yes, she has. etc
8. นักเรยี นทำแบบฝกึ หัด Unit 2a ใน Workbook หนา้ 10 Exs. 1-4 เสรจ็ แล้วเฉลยคำตอบร่วมกัน
ขั้นที่ 5 (ขน้ั สรปุ ) Wrap up
1. นักเรียนทำใบงาน have/has got เป็นการบ้าน
9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี น Access ม. 1
2. Power point Access ม.1 Module 2
3. ใบงาน have/has got
4. Google meet
10. การวัดและประเมินผล เครอื่ งมือ เกณฑ์
วิธีการวดั เกณฑ์การประเมนิ ช้นิ งาน รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟัง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด
ประเมนิ การฟัง
วธิ ีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ประเมนิ การพดู แบบประเมินการพูดโตต้ อบ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมินการอ่านออกเสียง ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ด้านทักษะ/สมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
1. ประเมนิ การทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ประเมินการทำแบบฝึกหัด
3. สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นร้ใู นช่วงการทำกจิ กรรม
4. ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12
วชิ า ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน รหัสวชิ า อ21101 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 My favorites!
เรอ่ื ง My things 1 เวลา 13 ชวั่ โมง
ครผู สู้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรยี น บา้ นแม่ยางหา้ เวลา 2 ชัว่ โมง
สอนวนั ท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั
ต 1.1 ม.1/2 อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ นทิ าน และบทรอ้ ยกรอง (poem) สั้นๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ม.1/3 เลอื ก/ระบุ ประโยคและข้อความให้สัมพันธก์ บั ส่อื ทไี่ มใ่ ช่ความเรยี ง (non-text
information) ท่ีอ่าน
ต 1.3 ม.1/1 พูดและเขยี นบรรยายเกยี่ วกบั ตนเอง กจิ วัตรประจำวัน ประสบการณ์ และสิ่งแวดล้อม
ใกลต้ ัว
ต 2.2 ม.1/1 บอกความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา่ งๆ
การใช้เครอ่ื งหมายวรรคตอน และการลำดบั คำตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศ
และภาษาไทย
ต 4.1 ม.1/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองทเ่ี กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและ
สถานศกึ ษา
2. สาระสำคญั
การเรยี นรกู้ ารสอ่ื สารด้วยการพูดและเขียนระบุส่ิงของตา่ งๆ ท่เี ป็นคำนามที่เป็นคำนามนับได้และ
คำนามทนี่ ับไม่ได้ และสามารถเปลี่ยนรูปคำนามท่ีนบั ได้จากคำนามเอกพจน์เป็นคำนามพหูพจน์
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- เขยี นคำศพั ทร์ อบตัวเก่ยี วกับคำนามท่เี ป็นคำนาม นบั ได้และคำนามท่นี บั ไม่ได้ - ตอบคำถามจากการอ่านบท
สนทนา
- สามารถเปลยี่ นรปู คำนามทน่ี บั ได้จากคำนามเอกพจน์เปน็ คำนามพหูพจน์
- เปรยี บเทยี บความเหมือนระหว่างการออกเสยี งคำศพั ท์เกี่ยวกบั สง่ิ ของตา่ งๆ ของภาษาต่างประเทศและ
ภาษาไทย
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- ภาษาทีใ่ ช้ในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คล เชน่ การแลกเปลี่ยนขอ้ มูลเกีย่ วกับตนเอง กจิ กรรมและสถานการณ์
ตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวนั
- ประโยคและข้อความทีใ่ ชใ้ นการบรรยายเก่ยี วกับตนเอง ประสบการณ์ และสิง่ แวดลอ้ มใกล้ตวั
- กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม
- ความเหมอื นระหว่างการออกเสยี งคำศพั ท์ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
- Singular and Plurals Noun
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟัง พดู อา่ นและเขยี นเก่ียวกบั การบรรยายเก่ียวกับสิ่งของ ประสบการณ์ ตลอดจนสถานการณ์ตา่ งๆ ใน
ชวี ติ ประจำวนั
6. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
ความสามารถในการส่ือสาร
7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
-ใฝเ่ รยี นรู้
8. กิจกรรมการเรียนรู้
ขัน้ ท่ี 1 (ขัน้ นำ) Warm up
1. นกั เรยี นดชู ่ือหน่วยการเรยี นรู้ Unit 2b และภาพในหนังสอื เรยี น หนา้ 20 แล้วบอกว่าบคุ คลใน
ภาพมีสิ่งของอะไรบ้าง จากนัน้ ให้จบั คูส่ นทนากนั ว่า นกั เรียนแตล่ ะคนมสี ่งิ ของส่วนตัวอะไรบ้าง และส่ิงของท่ี
นกั เรยี นมีนนั้ เหมือนหรอื แตกต่างจากสิ่งของท่เี หน็ ในภาพ
2. ครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ว่า ใน Unit 2b นักเรยี นจะได้เรยี นรูเ้ กีย่ วกับสง่ิ ของเครอื่ งใชส้ ่วนตัว
ต่าง ๆ (personal objects) การใชค้ ำนามพหูพจน์ (plurals)
ขั้นท่ี 2 (ขั้นนำเสนอ) Presentation
1. นักเรียนฟังการออกเสยี งคำศพั ทเ์ กยี่ วกบั ส่งิ ของส่วนตวั ในหนังสอื เรยี น หน้า 20 Ex. 1 (To learn
new vocabulary associated with personal objects and practice pronunciation) แลว้ ฝกึ ออกเสียงตาม
และเทยี บเคยี งวา่ มีคำศัพท์ใดทีอ่ อกเสียงคลา้ ยคลึงกบั คำในภาษาไทยบ้าง จากนัน้ นักเรียนช่วยกันแปลความหมาย
ของคำศัพท์ แลว้ จดบันทึกคำศัพท์พร้อมคำแปลลงในสมดุ
Suggested Answer Key
Students’ own answers
ข้ันท่ี 3 ( ข้ันฝกึ ) Practice
1. นักเรยี นดูภาพในหนงั สอื เรยี น หน้า 20 Ex. 1 อีกครั้ง แล้วบอกกับเพ่อื นวา่ นกั เรยี นบอกวา่ สิง่ ของ
ใดบ้างท่ีนกั เรียนมี และมสี ีอะไร ใหน้ กั เรียนดูตวั อย่างประโยคใน Ex. 3(To talk about personal things
Suggested Answer Key
I’ve got a cap and a scarf. My cap is brown and my scarf is green.
2. ครบู อกนักเรยี นว่า เม่ือเราพดู ถงึ สง่ิ ของมากกว่า 1 สิง่ โดยปกติเราจะเตมิ -s ที่คำนาม เช่น desk -
desks จากนั้นครูใหน้ ักเรยี นอ่านกฎการเปล่ยี นคำนามให้เป็นพหูพจน์ในหนังสือเรยี น หนา้ 21 หัวขอ้ Grammar
แล้วครพู ดู คำนามเอกพจน์ ใหน้ กั เรียนเปลย่ี นเป็นคำนามพหูพจน์ เช่น
T : one box Ss : two boxes
T : one knife Ss : two knives
T : one man Ss : two men
3. นักเรยี นเรียนรู้กฎการเปล่ยี นนามเอกพจน์ให้เป็นนามพหูพจนจ์ ากใบความรู้ ดังตวั อย่าง
ขัน้ ที่ 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
1.ครใู ห้เวลานักเรียน 5 นาที ทำ Ex. 6 (To form plurals) โดยเขยี นคำนามพหูพจนข์ องคำนามที่
กำหนดใหแ้ ล้วครตู รวจคำตอบบนกระดาน
Key 2. feet 3. men 4. boxes 5. balls 6. boys 7. knives 8. watches
2. ครูบอกนกั เรียนว่า -s ท่ีเตมิ ท้ายคำนามพหพู จน์สามารถออกเสยี งได้ 3 แบบ คือ /s/,
/z/, /ɪz/ จากนน้ั ครูออกเสยี ง ใหน้ ักเรียนฟงั แลว้ ทำเครอ่ื งหมายPลงในตาราง ในหนังสอื เรยี น หน้า 21 Ex.
7 (To listen and practice pronunciation of plural forms) เสรจ็ แลว้ ตรวจคำตอบ ครูออกเสียงให้นักเรียน
ฟงั อกี ครง้ั โดย เพอ่ื ใหน้ กั เรียนออกเสียงตามพร้อมกัน
Key
/s/ /z/ /Iz/ /s//z//Iz/
hats / cats /
ties / glasses /
flies / lamps /
3. นักเรียนทำใบงานเร่อื ง Singular and Plural Nouns ลงในสมุด
ขั้นท่ี 5 (ขัน้ สรุป) Wrap up
1. นกั เรยี นทบทวนกฎการเปลยี่ นนามเอกพจน์ และพหพู จน์ แลว้ ครูสมุ่ ถามนักเรียนรายบคุ คล
9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี น Access ม. 1
2. Power point Access ม.1 Module 2b
3. ใบงาน Singular and Plural Nouns
4. Google meet
5.ใบความรู้ Singular and Plural Nouns
10. การวัดและประเมินผล
วธิ กี ารวัด เคร่อื งมอื เกณฑ์
รอ้ ยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมนิ ชนิ้ งาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ การพูดโต้ตอบ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการออกเสยี ง แบบประเมนิ การอ่านออกเสยี ง
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ประเมนิ การทำแบบฝึกหัด
2. สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ในชว่ งการทำกิจกรรม
3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 13
วิชา ภาษาองั กฤษพื้นฐาน รหสั วิชา อ21101 ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 My favorites!
เร่ือง My things 2 เวลา 13 ชวั่ โมง
ครูผสู้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรียน บ้านแม่ยางหา้ เวลา 2 ชว่ั โมง
สอนวนั ท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด
ต 1.1 ม.1/2 อ่านออกเสียงข้อความ นทิ าน และบทรอ้ ยกรอง (poem) ส้ันๆ ถูกต้องตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม.1/3 เลือก/ระบุ ประโยคและขอ้ ความให้สมั พันธ์กบั สือ่ ท่ีไม่ใช่ความเรียง (non-text
information) ท่อี ่าน
ต 1.3 ม.1/1 พดู และเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวัตรประจำวนั ประสบการณ์ และส่งิ แวดล้อม
ใกล้ตวั
ต 2.2 ม.1/1 บอกความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ
การใช้เคร่ืองหมายวรรคตอน และการลำดบั คำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย
ต 4.1 ม.1/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรยี นและ
สถานศกึ ษา
2. สาระสำคัญ
บทสนทนา การบรรยายเกยี่ วกบั ส่ิงของ โดยการใช้ This / These - That / Those
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- อา่ นออกเสยี งคำศพั ทเ์ ก่ียวกบั สิง่ ของ บอกความหมาย และอ่านบทสนทนา
- ตอบคำถามจากการอ่านบทสนทนา
- สนทนาแลกเปลีย่ นข้อมูลเก่ียวกับตนเอง กจิ กรรม และสถานการณ์ต่างๆ ในชีวติ ประจำวัน
- พดู และเขยี นบรรยายเก่ยี วกับตนเอง และสิง่ แวดล้อมใกล้ตัว
- ใช้ภาษา นำ้ เสียง และกิริยาทา่ ทาง เหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
- เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาตามความสนใจ
- เปรียบเทียบความเหมือนระหว่างการออกเสยี งคำศพั ท์เกี่ยวกบั สงิ่ ของต่างๆ ของภาษาต่างประเทศและ
ภาษาไทย
- ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองท่ีเกิดขึ้นในห้องเรียน
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- การออกเสยี งสูง-ตำ่ ในประโยค
- การจับใจความสำคัญ คำถามเกยี่ วกับใจความสำคัญ เชน่ Wh-Questions
- ภาษาทีใ่ ชใ้ นการสอื่ สารระหว่างบุคคล เช่น การแลกเปลย่ี นข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง กจิ กรรมและสถานการณ์
ตา่ งๆ ในชีวิตประจำวัน
- ประโยคและข้อความทใ่ี ชใ้ นการบรรยายเกย่ี วกับตนเอง ประสบการณ์ และสงิ่ แวดลอ้ มใกล้ตัว
- การใชภ้ าษา น้ำเสียง และกริ ิยาท่าทางในการสนทนา ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น
การแสดงสีหนา้ ท่าทาง
- การใชภ้ าษาสือ่ สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ ำลองทเ่ี กิดขึ้นในหอ้ งเรยี น
- Plurals, This / These - That / Those
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟัง พูด อา่ นและเขยี นเกี่ยวกับบทสนทนา การบรรยายเกยี่ วกับสงิ่ ของ ประสบการณ์ ตลอดจนสถานการณ์
ต่างๆ ในชวี ิตประจำวัน
6. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
ความสามารถในการคดิ
- การคดิ สงั เคราะห์
7. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
- มีวนิ ัย
- ม่งุ มัน่ ในการทำงาน
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั ที่ 1 (ขนั้ นำ) Warm up
1. ครแู จง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้วา่ ใน Unit 2b นักเรียนจะได้เรยี นรเู้ กย่ี วกบั สิ่งของเครือ่ งใชส้ ่วนตัว
ต่าง ๆ (personal objects) การใชค้ ำนามพหพู จน์ (plurals) และการใช้ This/These - That/Those
ขนั้ ที่ 2 (ขนั้ นำเสนอ) Presentation
1. นักเรียนอ่านกฎการใช้ This / These - That / Those ในหนงั สอื เรยี น หน้า 21 Ex. 8a (To use
this / these - that / those) แล้วครอู ธิบายการใช้ This / These - That / Those โดยชี้ท่หี นงั สือในมือครู
แลว้ พูด This is a book. จากน้ันชท้ี ีห่ นงั สือเรียนของนักเรียนทอ่ี ย่ไู กลตวั ครู แล้วพูด That is a book, too. ครู
เขียนประโยคทั้ง 2 บนกระดาน แลว้ ถามคำถามเพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นว่า What do
we use for things near us? (This / These) What do we use for things far away from us? (That /
Those) และศึกษาใบงานเพ่ิมเติม ดงั ตวั อย่าง
ขั้นท่ี 3 ( ขั้นฝึก ) Practice
1.นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ เลน่ เกม โดยครแู สดงรปู ภาพ แลว้ พูดประโยคโดยใช้ This / These - That / Those
ถ้าพดู ประโยคถกู ตอ้ งจะได้ 1 คะแนน เช่น
T:
S1 : This is an apple.
T:
S2 : These are apples etc
2. นกั เรียนดภู าพในหนังสอื เรยี น หนา้ 21 Ex. 8b (To practise this / these – that / those) ครู
เรียกนักเรยี น 1 คน อ่านประโยคตัวอยา่ ง จากนน้ั ให้นักเรยี นแต่งประโยคจากภาพลงในสมุด โดยใช้ This /
These – That / Those ครูสมุ่ นักเรยี กอา่ นออกเสียงประโยคทีต่ นเองแต่ง แลว้ ตรวจคำตอบพรอ้ มกัน
Key 2. This is a camera. 6. Those are gloves.
3. These are balls. 7. That is a skateboard.
4. These are watches. 8. That is a bicycle.
5. Those are trainers.
ขนั้ ท่ี 4 (ขัน้ นำไปใช)้ Production
1. ครูใหน้ ักเรยี นฝกึ แต่งประโยคโดยใช้ This / These - That / Those โดยสุ่มเรียกนกั เรยี นสาธิต
เปน็ ตวั อยา่ งตามหนงั สือเรียน หนา้ 21 Ex. 9 (To consolidate grammar) จากน้นั ใหน้ กั เรียนในชนั้ ปฏบิ ตั ิ
กิจกรรมตามตัวอย่าง
Suggested Answer Key
A : (points to the desk near you)
B : This is a desk. (points to the window which is far from you)
A : That is a window.
ขนั้ ท่ี 5 (ขัน้ สรุป) Wrap up
1. นักเรยี นทำใบงาน เรอ่ื ง This / These - That / Those เป็นการบ้าน
9. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรียน Access ม. 1
2. Power point Access ม.1 Module 2
3. ใบความรู้ This / These - That / Those
3. ใบงาน This / These - That / Those
4. Google meet
10. การวัดและประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์
วิธีการวดั เกณฑก์ ารประเมนิ ชน้ิ งาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินการพูดโต้ตอบ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทักษะ/สมรรถนะ
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ประเมินการทำแบบฝึกหัด
2. สังเกตพฤติกรรมการเรียนร้ใู นชว่ งการทำกิจกรรม
3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 14
วิชา ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน รหสั วชิ า อ21101 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 My favorites!
เรอื่ ง My collection เวลา 13 ชวั่ โมง
ครูผู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรียน บา้ นแมย่ างหา้ เวลา 2 ช่ัวโมง
สอนวนั ที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษา เชยี งใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัด
ต 1.1 ม.1/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นทิ าน และบทรอ้ ยกรอง (poem) ส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม.1/4 ระบหุ วั ข้อเรอื่ ง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและ
อา่ นบทสนทนา นิทาน และเรื่อง
ต 1.2 ม.1/4 พดู และเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล และแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั เรือ่ งทีฟ่ งั หรอื อา่ น
อยา่ งเหมาะสม
ต 2.1 ม.1/1 ใช้ภาษา นำ้ เสียง และกริ ิยาท่าทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คมและ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
ต 4.1ม.1/1 ใช้ภาษาสอื่ สารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองท่ีเกิดขนึ้ ในห้องเรยี นและ
สถานศึกษา
2. สาระสำคญั
ขอ้ ความ การบรรยายเกย่ี วกบั ของสะสมที่ชอบ ตลอดจนความรู้เกีย่ วกับส่งิ ของทร่ี ะลกึ ชอ่ื ประเทศ
และสัญชาติ
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- อ่านออกเสยี งคำศพั ทช์ ่อื ประเทศ สัญชาติ ของที่ระลกึ
- สนทนาแลกเปลีย่ นข้อมูลเก่ยี วกับของที่ระลึก
- พูดแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเรื่องที่อ่าน
- เขียน email แสดงความรู้สึกเก่ยี วกับของที่ระลึกท่ีสะสม พรอ้ มให้เหตุผลส้นั ๆ ประกอบ
- การใช้เครือ่ งหมายต่างๆ เช่น full stop, exclamation mark, comma, question mark
- ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกดิ ข้นึ ในห้องเรียน
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- การออกเสยี งเนน้ หนัก-เบา ในคำและกลุม่ คำ
- ภาษาท่ีใช้ในการส่อื สารระหวา่ งบุคคล เชน่ การแลกเปลย่ี นข้อมูลเกยี่ วกบั เร่ืองใกล้ตัว
- คำศัพท์และประโยคทใี่ ช้ในการแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั เร่อื งท่ีอ่าน
- ภาษาท่ีใช้ในการแสดงความรู้สึก และใหเ้ หตุผลประกอบ เชน่ ชอบ ไมช่ อบ I like… because…, I love…
because…
- การใชเ้ ครอ่ื งหมายวรรคตอน
- การใชภ้ าษาสอื่ สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ ำลองทเี่ กิดข้นึ ในห้องเรียน
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟัง พดู อ่านและเขียนเกยี่ วกับขอ้ ความ การบรรยายเก่ยี วกบั ของสะสมทช่ี อบ ตลอดจนความรู้เก่ยี วกบั
ส่งิ ของทร่ี ะลกึ ชือ่ ประเทศ และสัญชาติ
6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
- ความสามารถในการสื่อสาร
7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- มีวนิ ยั
- ใฝ่เรียนรู้
- มงุ่ ม่ันในการทำงาน
8. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ ที่ 1 (ขน้ั นำ) Warm up
1. นกั เรียนอ่านช่อื เร่ือง Unit 2c และดภู าพท่ีอยูใ่ นกรอบ email ในหนังสือเรยี น หน้า 22 แล้ว
รว่ มกันแสดงความคิดเหน็ ว่าหนว่ ยการเรยี นรยู้ ่อยนน้ี ่าจะเกี่ยวกบั อะไร (Collections)
2. ครชู แี้ จงใหน้ กั เรยี นทราบว่าใน Unit 2c นกั เรียนจะได้เรยี นรู้เก่ยี วกับ Countries &
nationalities การอา่ นเพ่ือหาข้อมูลเฉพาะ (Reading for specific information) และการใช้ Punctuation
3. นำเขา้ สู่บทเรียนด้วยการถามคำถามเพื่อตรวจสอบความรพู้ น้ื ฐานของนักเรยี นเกยี่ วกับชอื่ ประเทศ
เชือ้ ชาติ และเมอื งหลวงของประเทศ ดงั ตอ่ ไปน้ี
· What is the name of your country?
· How do you spell it?
· What is the capital city of your country?
· What is your nationality?
ขน้ั ที่ 2 (ขัน้ นำเสนอ) Presentation
1. นกั เรยี นสำรวจชื่อประเทศ (Countries) ทปี่ รากฏในหนังสือเรยี น หนา้ 22 Ex. 1 (To match the
names of countries to the nationalities) แล้วบอกช่อื ประเทศทีไ่ มร่ ู้จกั จากนัน้ ครถู ามนักเรียนว่า ชือ่ ประเทศ
ของนักเรยี นและสัญชาตใิ นภาษาอังกฤษคอื อะไร แลว้ ครเู ขยี นช่ือประเทศและสญั ชาตบิ นกระดาน และเปิด CD 1 /
Track 18 ให้นักเรยี นฟงั แลว้ จบั คชู่ อ่ื ประเทศและสญั ชาตใิ ห้ถูกต้อง พร้อมทั้งตอบคำถาม What nationality are
you? เสร็จแล้วครเู ฉลยคำตอบบนกระดาน
Key 1. c 2. a 3. e 4. b 5. d 6. f 7. g
Suggested Answer Key
I’m Spanish.
ข้นั ท่ี 3 ( ขัน้ ฝกึ ) Practice
1. ครูให้นกั เรียนอาสาสมัคร 2 คน อา่ นตวั อยา่ ง ในหนงั สอื เรียน หน้า 22 Ex. 2 (To practise asking
and answering questions about the origin of things (i.e. nationality)) แล้วครอู ธิบายคำศัพทท์ ่ีนักเรียนไม่
รู้ความหมาย จากนั้นนกั เรยี นจบั คู่ถามและตอบเก่ียวกบั สิ่งของในภาพ ในขณะท่นี กั เรยี นฝึกพดู ครเู ดินสงั เกตรอบๆ
ช้นั เรียน
Key 2. A: What’s this? 4. A: What’s this?
B: It’s a mask. B: It’s a fan.
A: Where is it from? A: Where is it from?
B: It’s from Japan. It’s Japanese. B: It’s from Spain. It’s Spanish.
3. A: What’s this?
B: It’s a Matryoshka.
A: Where is it from?
B: It’s from Russia. It’s Russian.
2. ใหน้ ักเรียนจบั คแู่ ตง่ บทสนทนาเช่นเดียวกบั ที่ได้ฝกึ ไปแล้ว โดยใช้สิ่งของท่รี ะลกึ อ่ืนๆ นอกเหนือจากใน
ภาพ จำนวน 3 ชน้ิ จาก 3 ประเทศ โดยเขียนบทสนทนาลงในสมุด และส่งให้ครูตรวจประเมิน
3. นักเรยี นอา่ นออกเสยี งชอ่ื เร่อื ง “I Love Stuffed Animals” ในหนงั สือเรียน หน้า 22 พรอ้ มกัน แลว้
ครูถามนักเรียนวา่ สญั ลักษณร์ ปู หวั ใจทป่ี รากฏในชอื่ เรือ่ งหมายความวา่ อยา่ งไร (= love) จากนน้ั ใหน้ กั เรียนดูภาพ
สิง่ ของต่างๆ แล้วช่วยกนั บอกว่าภาพแต่ละภาพคืออะไร แล้วครูอา่ นออกเสียงคำศัพทป์ ระกอบภาพ ให้นกั เรียนอา่ น
ตาม
4. นักเรียนชว่ ยกนั แสดงความคิดเห็นว่า บทอ่านในหนังสือเรยี น หนา้ 22 มาจากท่ใี ด (an Internet
site)จากน้ันให้นกั เรียนอา่ นประโยคใน Ex. 3 (To read for specific information) และบอกว่าข้อมลู ประเภทใดท่ี
หายไป (e.g. age, name of a country, number etc) แลว้ นกั เรยี นอา่ นบทอ่านและเตมิ คำลงในประโยคให้
ถูกต้อง เสร็จแลว้ ตรวจคำตอบ พร้อมทั้งอธบิ ายคำศัพทท์ ่ไี ม่รู้ความหมาย
Key 1. eleven 2. Australia 3. twenty-two
4. China, France, Australia, Canada and Spain
ขัน้ ท่ี 4 (ขัน้ นำไปใช)้ Production
1. นกั เรียนศึกษาเคร่ืองหมายตา่ งๆ ในหนังสอื เรยี น หนา้ 22 หัวขอ้ Learning to learn แล้วหา
ตวั อย่าง เครือ่ งหมายเหลา่ นี้ในบทอ่าน ใน Ex. 3 และรว่ มกันอภิปรายวา่ ทำไมเครอ่ื งหมายเหล่านี้จึงถูกใชใ้ น
ประโยค โดยครูถามคำถามต่อไปนี้ในการสร้างความเขา้ ใจใหก้ ับนักเรยี น
· Why is there a full stop after Ann in the first sentence? (It is the end of the sentence.)
· Why is there an exclamation mark after collection in the second sentence? (She’s happy
about her collection.)
· Why is there a comma between the countries? (There is a list of countries and the
comma separate these words.)
จากนนั้ ใหน้ กั เรียนเติมกฎการใช้เครอ่ื งหมายต่างๆ ในกรอบ Learning to learn ให้สมบรู ณ์ แล้วเฉลยคำตอบ
Key 1. full stop 3. comma
2. question mark 4. exclamation mark
ขั้นท่ี 5 (ขั้นสรปุ ) Wrap up
1. นักเรยี นตอบคำถามในหนงั สอื เรียน หน้า 22 Ex. 4 (To write an email about your collection)
แลว้ นำคำตอบมาเขียน email เกย่ี วกับการสะสมของที่ระลกึ ของตนเอง ความยาวประมาณ 40-50 คำ โดยใช้
บทอา่ นใน Ex. 3 เป็นแบบในการเขียน ครูเน้นวา่ ควรเชอ่ื มประโยคดว้ ย and และการแสดงความคิดจะให้เหตุผล
โดยใช้ because
Suggested Answer Key
Hi! My name’s Sharon. I’m ten years old and I’m South African. I’ve got a great
stamp collection! I’ve got two hundred stamps. They are from Britain, Portugal,
China, Germany and Chile. I like stamps because they show interesting pictures.
I’m proud of my collection! It makes me happy. What about you? What’s your
favourite hobby?
สำหรับนกั เรยี นท่เี รยี นออ่ น ครเู ขยี นขอ้ ความต่อไปน้ีบนกระดาน ให้นักเรียนคัดลอกลงสมดุ แล้วเติมข้อความ
ใหส้ มบูรณ์
Hello! My name’s … . I’m from … . I’ve got a … .
I’m proud of … .
9. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสอื เรียน Access ม. 1
2. Power point Access ม.1 Module 2
3. Google meet
10. การวัดและประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์
วิธกี ารวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ช้ินงาน รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟงั ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ การพดู โตต้ อบ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการฟงั แบบประเมนิ การเขยี น ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพดู แบบประเมินการอ่านออกเสียง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขยี น แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ประเมินการทำแบบฝึกหัด
2. สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรใู้ นช่วงการทำกิจกรรม
3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
4. ประเมนิ ผลงานเขยี น email แสดงความรู้สกึ เกี่ยวกบั ของท่รี ะลึกทส่ี ะสม พร้อมให้เหตุผลสนั้ ๆ ประกอบ
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 15
วิชา ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน รหสั วชิ า อ21101 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 My favorites!
เรือ่ ง Souvenirs เวลา 13 ช่ัวโมง
ครูผูส้ อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
โรงเรยี น บ้านแมย่ างห้า เวลา 1 ชัว่ โมง
สอนวนั ที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั
ต 1.1 ม.1/2 อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน และบทรอ้ ยกรอง (poem) สน้ั ๆ ถกู ต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1ม.1/4 ระบุหวั ขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสำคญั (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและ
อ่านบทสนทนา นทิ าน และเรื่อง
ต 1.2 ม.1/4 พดู และเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั เร่ืองที่ฟงั หรืออ่าน
อย่างเหมาะสม
ต 2.1 ม.1/1 ใช้ภาษา นำ้ เสยี ง และกิริยาทา่ ทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
2. สาระสำคัญ
ขอ้ ความ การบรรยายเก่ียวกบั ของทร่ี ะลึกทง้ั ของตา่ งประเทศและของไทย ตลอดจนความรู้เกี่ยวกบั
ชอ่ื ประเทศ และสัญชาติ
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- ตอบคำถามจากการฟงั และอา่ นบทอ่านเก่ียวกบั ของทรี่ ะลกึ จากสหราชอาณาจกั ร
- พดู แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับเรื่องทอ่ี า่ น
- เขยี นบรรยายเก่ียวกบั ของทร่ี ะลึกในแต่ละภมู ภิ าคของไทย
- เปรียบเทียบของที่ระลึกของประเทศองั กฤษกบั ของไทย
- ค้นคว้า รวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกับของทร่ี ะลกึ ในแต่ละภมู ิภาคของไทยจากแหลง่ เรียนรู้ตา่ งๆ และนำเสนอดว้ ย
การพดู /การเขียน
- ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์จำลองทีเ่ กิดขน้ึ ในห้องเรยี น
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- คำถามเกี่ยวกบั ใจความสำคญั เชน่ Yes/No Questions, Wh-Questions
- ประโยคและขอ้ ความท่ใี ช้ในการแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั เร่ืองท่อี ่าน
- ประโยคและข้อความทีใ่ ชใ้ นการบรรยายเกยี่ วกับประสบการณ์ สิง่ แวดล้อมใกล้ตวั เช่น การเดนิ ทาง
การท่องเท่ียว
- ความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างของท่ีระลึกของประเทศอังกฤษกับของไทย
- การคน้ คว้า การรวบรวม และการนำเสนอข้อมูลท่เี ก่ยี วขอ้ งกับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื (สังคมศกึ ษาฯ)
- การใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณจ์ ำลองท่เี กิดขึน้ ในหอ้ งเรียน
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟัง พดู อ่านและเขียนเกีย่ วกบั ขอ้ ความ การบรรยายเกยี่ วกับของสะสมที่ชอบ ตลอดจนความรู้เกยี่ วกับ
ส่งิ ของท่รี ะลกึ ชื่อประเทศ และสัญชาติ
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ความสามารถในการส่ือสาร
ความสามารถในการคดิ
- การคิดสงั เคราะห์
7. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- มีวนิ ยั
- มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
- รักความเปน็ ไทย
8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั ท่ี 1 (ขั้นนำ) Warm up
1. นกั เรียนดบู ทอ่านในหนังสอื เรียน หน้า 23 แล้วชว่ ยกนั พจิ ารณาว่า บทอ่านนน้ี ่าจะเก่ียวขอ้ งกบั
เรอ่ื งอะไร
Suggested Answer Key
I think the text is about holidays in the UK and what souvenirs I can buy
while I am there on holidays.
2. ครชู ้ีแจงให้นักเรียนทราบว่า ใน Unit 2d นักเรียนจะได้เรียนรู้เกีย่ วกบั การใชท้ ักษะการพูด
เก่ยี วกบั วนั หยุดพักผอ่ นในประเทศอังกฤษและการแนะนำประเทศต่างๆ ทร่ี วมกันเปน็ สหราชอาณาจักร
3.นกั เรียนสำรวจของทีร่ ะลกึ ในหนงั สือเรยี น หนา้ 23 วา่ มอี ะไรบ้าง และมาจากประเทศใดของ
สหราชอาณาจกั ร จากน้นั แลกเปล่ียนความคดิ เห็นกนั ว่า ถ้ามีโอกาสไดไ้ ปเยอื นประเทศดงั กลา่ ว ของท่ีระลึกช้ิน
ใดทนี่ า่ จะมีเกบ็ สะสมไว้ และเหตุใดจงึ เลือกของช้ินนัน้
ข้นั ที่ 2 (ขนั้ นำเสนอ) Presentation
1. นักเรียนเดาความหมายของคำศัพท์ในหนงั สอื เรยี น หน้า 23 และครเู พ่มิ เตมิ คำอธิบายท่ีจำเป็นใน
การเรยี นรู้คำศัพท์ใหม่ เชน่ คำวา่ Scotland, Northern Ireland, Wales, popular, England, souvenir,
symbol, stuffed toy, double-decker bus, a Union Jack, a mug, a dragon etc แลว้ นกั เรยี นเขยี น
คำศพั ทแ์ ละความหมายลงในสมดุ
2. นกั เรยี นดูแผนทส่ี หราชอาณาจกั รทีป่ รากฏในหนงั สอื เรยี น หน้า 23 แล้วครูอธบิ ายว่า สหราช
อาณาจกั รประกอบไปดว้ ยประเทศ 4 ประเทศ ได้แก่ องั กฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอรแ์ ลนดเ์ หนือ และใช้
ภาษาอังกฤษในการส่ือสาร แตจ่ ะมสี ำเนยี งแตกต่างกนั ไปตามแตล่ ะประเทศ จากนั้นครูให้นกั เรยี นจับคู่ช่ือประเทศ
กบั สญั ชาติ ใน Ex. 1 (To learn the countries which make up the United Kingdom and the
corresponding nationalities) แลว้ ครเู ฉลยคำตอบ
Key 1. e 2. d 3. b 4. a 5. c
3. นักเรียนเข้ากลมุ่ กลุม่ ละ 5-6 คน อ่านบทอา่ น Holidays in the UKและทำความเขา้ ใจร่วมกนั
จากนั้นครูใชค้ ำถามช่วยในการซกั ถามความเข้าใจในการอ่านของนักเรยี น เชน่
· What does the word “the UK” stand for? (The United Kingdom.)
· What are the popular souvenirs in the UK? (The shamrock hat, scarf, stuffed toy, mug,
toy bus, and the Union Jack pin.)
· What is the Union Jack? (The Union Jack is the flag of the UK.)
· What is on the flag of Wales? (A Welsh dragon.)
· What is the symbol of Northern Ireland? (The shamrock.) etc
ขั้นท่ี 3 ( ขนั้ ฝึก ) Practice
1. ครใู ห้นักเรยี นดแู ผนท่ี แล้วต้ังคำถามว่าของท่รี ะลึกแตล่ ะช้ินมาจากประเทศใดบา้ ง จากน้นั ให้
นักเรยี นอ่านบทอ่านตามไปด้วยเพอ่ื หาคำตอบ เมื่อฟงั จบครูถามคำถามเดิมกับนกั เรยี นทีละคน และให้นักเรยี น
ตอบคำถามตามตวั อยา่ งใน Ex. 2 (To practice speaking skills) เชน่
T : Where is the scarf from?
S1: It’s from Scotland. The scarf is Scottish.
T : Where is the stuffed toy from?
S2: It’s from Scotland. The stuffed toy is Scottish.
T : Where is the toy buses from?
S3: They are from England. The toy buses are English.
ครูดำเนินกิจกรรมเช่นเดียวกันนี้กับของที่ระลกึ ชน้ิ อนื่ ๆ
ข้ันที่ 4 (ขนั้ นำไปใช)้ Production
1. นักเรียนร่วมกนั อภิปรายเปรียบเทียบความเหมือนและความต่างระหวา่ งของท่ีระลกึ จากประเทศ
อังกฤษกบั ของประเทศไทย แล้วให้นกั เรยี นจับคู่ผลดั กนั แสดงความคิดเหน็ ว่าชอบของทีร่ ะลกึ จากประเทศใด
มากกวา่ กนั พร้อมให้เหตผุ ลประกอบ (คำศพั ทภ์ าษาองั กฤษคำใดท่นี กั เรียนไม่รู้ สามารถใชภ้ าษาไทย
ประกอบการแสดงความคิดเห็นในบางตอนได้) เช่น
I think the souvenir from Thailand is cheaper than those from England.
The souvenirs in Thailand are more beautiful and colorful.
ขน้ั ที่ 5 (ข้ันสรุป) Wrap up
1.นักเรยี นค้นคว้าและวาดรปู ธงชาติของประเทศอาเซยี นพรอ้ มทง้ั บรรยายของท่ีระลกึ ที่เป็นทรี่ จู้ ัก
สามารถหาซ้ือไดใ้ นแต่ละประเทศลงในกระดาษ
9. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรียน Access ม. 1
2. ใบความรู้เรอื่ ง Countries and nationality
3. ใบงานเรอ่ื ง Countries and souvenirs
4. Power point Access ม. 1 module2
5. Google meet
10. การวัดและประเมินผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์
วิธีการวดั เกณฑ์การประเมนิ ชิ้นงาน ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟงั ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมินการพูดโตต้ อบ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟงั แบบประเมินการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพดู แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขยี น แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ประเมินการทำแบบฝึกหัด
2. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในชว่ งการทำกจิ กรรม
3. ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
4. ประเมนิ ผลการเขยี นบรรยายเกีย่ วกับของทีร่ ะลกึ ในแตล่ ะประเทศของ อาเซยี น
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 16
วิชา ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน รหสั วิชา อ21101 ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 My favorites!
เรอ่ื ง Here you are! เวลา 13 ชัว่ โมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรียน บา้ นแม่ยางหา้ เวลา 1 ช่ัวโมง
สอนวนั ที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษา เชยี งใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชี้วดั
ต 1.1 ม.1/4 ระบุหวั ขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสำคญั (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและ
อา่ นบทสนทนา นิทาน และเรอ่ื ง
ต 1.3 ม.1/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ยี วกับตนเอง กจิ วตั รประจำวัน ประสบการณ์ และส่งิ แวดล้อม
ใกลต้ วั
ต 2.2 ม.1/1 บอกความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดตา่ งๆ
การใช้เคร่ืองหมายวรรคตอน และการลำดบั คำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย
ต 2.2 ม.1/2 เปรยี บเทยี บความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งเทศกาล งานฉลอง วันสำคัญ
และชวี ิตความเป็นอยู่ของเจา้ ของภาษากับของไทย
ต 3.1 ม.1/1 ค้นควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เทจ็ จรงิ ที่เกี่ยวข้องกับกลุม่ สาระการเรียนร้อู ืน่
จากแหลง่ เรยี นรแู้ ละนำเสนอด้วยการพูด/การเขยี น
ต 4.2 ม.1/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื คน้ /ค้นควา้ ความร/ู้ ขอ้ มูลต่างๆ จากส่ือและ
แหลง่ การเรยี นรู้ต่างๆ ในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ
2. สาระสำคญั
สำนวนในการซือ้ ของ บทสนทนา การออกเสียงคำศัพท์ ตลอดจนการสนทนาเกีย่ วกับของทีร่ ะลกึ จาก
ประเทศตา่ งๆ
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
- อา่ นออกเสียงสำนวนทใ่ี ช้ในการซื้อของ
- อา่ นออกเสียงคำศพั ทท์ ่อี อกเสียง /u:/, /Λ/
- จบั ใจความสำคัญ และตอบคำถามจากการอา่ นบทสนทนา
- สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมูลเกีย่ วกบั ของท่รี ะลึก
- ใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกิรยิ าท่าทาง เหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
- ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่เี กิดข้ึนในห้องเรียน
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- การออกเสยี งตามระดบั เสยี งสงู -ต่ำ ในประโยค
- การออกเสียงสระ /u:/, /Λ/
- การจบั ใจความสำคญั ของบทสนทนา คำถามเก่ียวกับใจความสำคญั เช่น Wh-Questions
- ภาษาทีใ่ ชใ้ นการสอื่ สารระหวา่ งบคุ คล เช่น การแลกเปลี่ยนขอ้ มูลเกีย่ วกบั สถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวิตประจำวนั
- การใชภ้ าษา น้ำเสียง และกริ ยิ าท่าทางในการสนทนา ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เชน่
การแสดงสีหน้าท่าทาง
- การใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่เี กิดข้ึนในห้องเรยี น
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟัง พดู อา่ นและเขยี นเก่ียวกบั สำนวนในการซ้ือของ บทสนทนา การออกเสยี งคำศัพท์ ตลอดจนการ
สนทนาเกีย่ วกับของทีร่ ะลึกจากประเทศต่างๆ
6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
- ความสามารถในการสื่อสาร
7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- มีวินยั
- ม่งุ มั่นในการทำงาน
8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ ที่ 1 (ขัน้ นำ) Warm up
1. นักเรยี นดูช่อื Unit 2e Here you are! ในหนงั สอื เรยี น หน้า 24 แลว้ ชว่ ยกนั พิจารณาวา่ หนว่ ย
การเรยี นรูย้ ่อยนนี้ า่ จะเกีย่ วข้องกบั อะไร (shopping)
2. นักเรียนสำรวจภาพทปี่ รากฏในหนงั สือเรยี น หน้า 24 วา่ มภี าพอะไรบ้าง และอา่ นออกเสียง
คำศัพท์ส่ิงของเหล่าน้ี ได้แก่ key rings, doll, umbrella, bell, thermos flask, T-shirt, teddy bear และ
scarf จากนนั้ บอกความหมายของคำศพั ท์แลว้ จดลงในสมดุ
ขนั้ ที่ 2 (ขนั้ นำเสนอ) Presentation
1. นกั เรียนฟังการออกเสียงสำนวนทใ่ี ช้ในการซ้อื ของ ในหนงั สือเรียน หน้า 24 Ex. 1a (To practice
pronunciation & intonation) แลว้ ฝกึ ออกเสียงตาม โดยใหค้ วามสำคญั กับพยางคท์ ่ีเน้นเสยี ง
2. นักเรยี นทำกจิ กรรมในหนงั สอื เรียน หน้า 24 Ex. 1b (To recognize language in a
given situation)โดยครอู ธิบายให้นักเรียนฟงั วา่ บทสนทนาที่จะไดฟ้ ังน้เี ปน็ สถานการณ์ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั พนกั งานขาย
ของกบั ลูกค้า แล้วชว่ ยกนั พจิ ารณาว่า ใครเปน็ ผู้พูดประโยค 1-6 ใน Ex. 1a
Key 1. shop assistant 2. customer 3. shop assistant
4. customer 5. shop assistant 6. customer
3. นกั เรยี นอ่านออกเสยี งบทสนทนา ในหนงั สือเรียน หนา้ 24 Ex. 2a (To read for specific
information) สนทนาให้เสียงพร้อมกัน แล้วหาคำตอบวา่ What is Marta buying?
Key Marta is buying 2 key rings.
ข้นั ท่ี 3 ( ขัน้ ฝกึ ) Practice
1. นกั เรยี นจับคูฝ่ ึกอา่ นบทสนทนาในหนงั สือเรยี น หนา้ 24Ex. 2a ครูสังเกตและตรวจสอบการออกเสยี ง
สูงตำ่ ของนักเรยี น จากน้นั สุ่มเรียกนักเรียนบางคอู่ า่ นบทสนทนาใหฟ้ ัง
2. ครใู หน้ กั เรียนสรา้ งสถานการณส์ มมตวิ ่า นกั เรียนอยู่ในรา้ นขายของทีร่ ะลึกในสหราชอาณาจกั ร ให้
นักเรียนจับคแู่ ตง่ บทสนทนาเหมอื นในหนงั สอื เรียน หน้า 24 Ex. 2a โดยใชป้ ระโยคใน Ex. 1a และใช้ของทรี่ ะลกึ
จากภาพท่ีเหน็ ใน Ex. 3 (To act out a dialogue) ครูชว่ ยเหลอื นกั เรียนโดยการวาด diagram แสดงวลที ี่ควรใช้
บนกระดาน ดงั นี้
ในขณะทน่ี ักเรียนปฏิบัติกจิ กรรม ครเู ดนิ สงั เกตและชว่ ยเหลอื การอา่ นบทสนทนาของนักเรียนให้ถูกตอ้ ง แลว้ สมุ่
เรยี กบางคอู่ อกมาพูดสนทนาหนา้ ชั้นเรียน
Suggested Answer Key
A: Good morning. How can I help you?
B: Good morning. I want to buy a souvenir.
A: How about this T-shirt?
B: That’s a good idea. How much is it?
A: It’s £8.00.
B: Can I have two, please?
A: Sure. That’s £16.00.
B: Here you are.
ขั้นที่ 4 (ข้นั นำไปใช)้ Production
1. ครูส่มุ เรยี กนักเรียนแปลประโยคในหนงั สอื เรียน หน้า 24 Ex. 1 เป็นภาษาไทย (To consolidate
the meaning of new vocabulary through translation) ครเู น้นวา่ ควรแปลเป็นถอ้ ยคำทเี่ ทยี บเท่ากับ
ภาษาไทยมากกวา่ จะแปลตรงตัว
Suggested Answer Key
Students’ own answers
ขั้นที่ 5 (ขั้นสรปุ ) Wrap up
1. 2. นกั เรียนฟงั การออกเสียง /u:/, /Λ/ แล้วฝกึ ออกเสยี งตาม จากนัน้ ช่วยกนั คิดว่ามีคำศัพท์ทอ่ี อก
เสยี ง /u:/, /Λ/ อีกหรือไม่ ให้นกั เรียนยกตวั อยา่ งมา 10 คำ แลว้ บันทกึ ลงสมดุ
Suggested Answer Key
/u:/ = you, souvenir, two
/Λ/ = umbrella, mug, bus
2. นักเรียนทำแบบฝกึ หดั Unit 2e ใน Workbook หน้า 15 Exs.2-5 เปน็ การบ้าน
9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี น Access ม. 1
2. Power point Access ม. 1 module2
3. Google meet
10. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมอื เกณฑ์
วิธีการวัด เกณฑก์ ารประเมินชิ้นงาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟงั ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบประเมินการพูดโต้ตอบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟงั แบบประเมินการเขยี น ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขยี น แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ประเมนิ การทำแบบฝึกหัด
2. สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรใู้ นช่วงการทำกิจกรรม
3. ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
4. ประเมินผลการพูดสนทนาแลกเปล่ยี นขอ้ มูลเก่ียวกับของที่ระลกึ
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 17
วชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน รหัสวิชา อ21101 ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 1
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 My favorites!
เร่อื ง English-speaking countries เวลา 13 ชว่ั โมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรยี น บา้ นแมย่ างห้า เวลา 1 ชว่ั โมง
สอนวนั ที่ …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษา เชยี งใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด
ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลีย่ นข้อมูลเก่ยี วกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่างๆ ในชวี ิตประจำวัน
ต 1.2 ม.1/4 พูดและเขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ ้อมลู และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรอื่ งทฟ่ี งั หรืออา่ น
อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม.1/5 พูดและเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องตา่ งๆ ใกล้ตวั
กิจกรรมตา่ งๆ พร้อมทง้ั ใหเ้ หตุผลส้ันๆ ประกอบอย่างเหมาะสม
ต 1.3 ม.1/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกับตนเอง กิจวตั รประจำวนั ประสบการณ์ และส่งิ แวดล้อม
ใกลต้ ัว
ต 2.1 ม.1/1 ใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกิริยาท่าทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม.1/3 เขา้ ร่วม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
ต 3.1 ม.1/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรปุ ข้อมลู /ข้อเทจ็ จริงที่เกี่ยวขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่ืน
จากแหลง่ เรยี นร้แู ละนำเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น
2. สาระสำคัญ
คำศพั ท์ชอ่ื ทวีป ประเทศ เมอื งหลวง สญั ชาติ การบรรยายเกย่ี วกับประเทศและเมอื งหลวง ตลอดจน
การคน้ คว้าความร/ู้ ข้อมูลเกี่ยวกับเมืองหลวงของประเทศตา่ งๆ
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
- อ่านออกเสยี งคำศัพท์ชือ่ ทวปี ช่อื เมืองหลวง และบอกความหมาย
- พูดและเขียนเพ่ือขอและใหข้ อ้ มูลเกีย่ วกับเมืองหลวงของแตล่ ะประเทศ และสญั ชาติ
- เขยี นบรรยายเก่ยี วกับประเทศใดประเทศหนงึ่ ที่ใช้ภาษาองั กฤษเป็นภาษาแม่ (ภาษาที่ 1)
- คน้ ควา้ รวบรวมข้อมลู เกยี่ วกับชอื่ เมืองหลวงของประเทศในทวปี ยุโรป จากแหล่งเรยี นรู้ และนำเสนอด้วยการ
จดั ทำเป็นแบบทดสอบ
- ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองท่ีเกดิ ข้นึ ในห้องเรียน
- ใช้ภาษาต่างประเทศในการคน้ ควา้ รวบรวมความรู้/ขอ้ มลู จากส่อื และแหล่งการเรียนรู้ตา่ งๆ
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- การออกเสยี งเน้นหนกั -เบา ในคำ
- คำศัพท์ สำนวน และประโยคทใ่ี ช้ในการขอและใหข้ อ้ มูล
- ประโยคและขอ้ ความท่ใี ชบ้ รรยายเกย่ี วกับประสบการณ์ และสง่ิ แวดล้อมใกล้ตัว
- การคน้ ควา้ การรวบรวม และการนำเสนอข้อมูลท่ีเกี่ยวขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ นื่ (สังคมศึกษาฯ)
- การใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองทเี่ กิดขนึ้ ในห้องเรียน
- การใช้ภาษาต่างประเทศในการคน้ คว้า ความร/ู้ ข้อมลู ต่างๆ จากสอ่ื และแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟงั พูด อ่านและเขยี นเก่ียวกบั คำศัพท์ชื่อทวีป ประเทศ เมืองหลวง สญั ชาติ การบรรยายเกย่ี วกบั ประเทศ
และเมืองหลวง ตลอดจนการคน้ คว้าความร/ู้ ข้อมูลเกี่ยวกับเมืองหลวงของประเทศตา่ งๆ
6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ความสามารถในการส่ือสาร
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
- ซือ่ สัตย์สุจริต
- มวี ินัย
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ ที่ 1 (ข้ันนำ) Warm up
1. นำเข้าสู่บทเรียนดว้ ยการช้แี จงใหน้ กั เรยี นทราบวา่ ใน Unit 2f นีน้ ักเรียนจะไดเ้ รยี นรูเ้ กีย่ วกับการ
แนะนำประเทศท่สี ื่อสารโดยใช้ภาษาอังกฤษ (To introduce English-speaking countries)
2. นักเรยี นดูภาพแผนทีใ่ นหนังสอื เรียน หนา้ 25 และครูถามนักเรยี นวา่ มีทวปี และประเทศอะไรบ้าง
ขน้ั ท่ี 2 (ข้ันนำเสนอ) Presentation
1. นกั เรียนอ่านออกเสียงคำศัพทช์ ่อื ทวปี (Continent) และชอื่ เมอื งหลวง (Capital city) ท่ปี รากฏใน
หนังสือเรียน หน้า 25 พร้อมกัน แล้วชว่ ยกนั บอกความหมาย จากน้ันจดบนั ทึกคำศัพท์และความหมายลงในสมดุ
2. นักเรยี นศึกษาหวั ข้อ Learning to learn ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 25 เกี่ยวกบั เทคนคิ การจดจำชอ่ื ทวปี
และประเทศ โดยดูสถานท่ตี ั้งจากแผนท่ี
3. ครูให้นักเรียนดูชอื่ เมอื งหลวงทป่ี รากฏในแผนท่ี ในหนงั สือเรียน หน้า 25 Ex. 1 (To
analyze a map) และตอบคำถามวา่ เมอื งหลวงแต่ละแหง่ อยใู่ นทวีปใด โดยครเู รียกนกั เรียน 1 คน อ่านประโยค
ตัวอยา่ งใหเ้ พื่อนฟงั เสร็จแล้วครูตรวจคำตอบโดยเรียกนกั เรยี นพดู ประโยคทีละคน
Key Ottawa is in North America.
Washington DC is in North America.
Canberra is in Australia.
ข้ันท่ี 3 ( ข้ันฝึก ) Practice
1. ครอู ่านประโยคตัวอยา่ งในหนังสือเรียน หนา้ 25 Ex. 2(To match capital cities to countries) ให้
นักเรยี นฟงั แลว้ ใหน้ ักเรียนจับคูช่ อื่ เมอื งหลวงในแผนท่ีกับชือ่ ประเทศทกี่ ำหนดให้ และเขยี นเป็นประโยคเหมือน
ตวั อย่างลงในสมุด เสร็จแล้วตรวจคำตอบพร้อมกนั
Key Washington DC is the capital of the USA.
Canberra is the capital of Australia.
Wellington is the capital of New Zealand.
Ottawa is the capital of Canada.
ขนั้ ที่ 4 (ขนั้ นำไปใช)้ Production
2. นักเรยี นฝกึ ถามและตอบเกยี่ วกับประเทศ เมืองหลวง และสัญชาติ โดยใช้คำที่กำหนดใหใ้ นหนงั สือ
เรียน หนา้ 25 Ex. 3(To consolidate new vocabulary) โดยครเู รียกนักเรียน 2 คน อ่านตัวอยา่ งให้เพื่อนฟัง
กอ่ น จากนน้ั นักเรียนจบั คู่ฝึกถามตอบ ครเู ดินสังเกตรอบๆ ชน้ั เรยี น แล้วเรียกนกั เรียนออกมาสนทนาถามตอบหน้า
ชัน้ เรียนทลี ะคู่
Key 2. A: Where’s Tom from?
B: He’s from Australia.
A: What’s the capital of Australia?
B: Canberra.
A: What nationality is he?
B: He’s Australian.
* ขอ้ 3-6 ใชร้ ปู แบบการสนทนาเหมือนข้อ 1
3. UK, London, British
4. USA, Washington DC, American
5. Canada, Ottawa, Canadian
6. Spain, Madrid, Spanish
ขน้ั ที่ 5 (ขน้ั สรปุ ) Wrap up
1. นักเรยี นคน้ คว้าขอ้ มลู เกยี่ วกบั ประเทศใดประเทศหนงึ่ ที่ใชภ้ าษาอังกฤษเปน็ ภาษาแม่จากอนิ เทอรเ์ นต็
จากนน้ั เขียนเปน็ บทความแนะนำประเทศนั้นๆ
2. นกั เรียนประเมินทำแบบทดสอบ self check ในหนังสือเรยี น หน้า 26
9. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี น Access ม. 1
2. Power point Access ม. 1 module2
3. Google meet
4. อนิ เทอรเ์ น็ต
10. การวัดและประเมนิ ผล เครือ่ งมอื เกณฑ์
วธิ กี ารวัด เกณฑ์การประเมนิ ช้นิ งาน ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมินการฟงั ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบประเมินการพูดโตต้ อบ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการฟงั แบบประเมินการเขยี น ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู แบบประเมินการอา่ นออกเสียง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขยี น แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นทักษะ/สมรรถนะ
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ประเมินการทำแบบฝึกหัด
2. สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรูใ้ นชว่ งการทำกจิ กรรม
3. ประเมนิ การทำแบบทดสอบหลังเรยี น
4. ประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
5. ประเมินผลการจัดทำแบบทดสอบความรู้เกีย่ วกบั ชอื่ เมืองหลวงในประเทศตา่ งๆ ในทวีปยุโรป
6. ประเมินผลการเขยี นบทความเกีย่ วกบั ประเทศทใ่ี ช้ภาษาอังกฤษเปน็ ภาษาแม่
แผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชา ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน (อ21101)
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1
นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย
โรงเรยี นบา้ นแม่ยางหา้
สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๒
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 18
วิชา ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน รหสั วิชา อ21101 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 My home, my castle เวลา 14 ชว่ั โมง
เรื่อง My home 1 เวลา 2 ช่ัวโมง
ครูผ้สู อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวันท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
โรงเรียน บา้ นแมย่ างห้า สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ม.1/4 พูดและเขยี นเพอ่ื ขอและให้ข้อมูล และแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับเรื่องทฟี่ งั หรืออา่ น
อย่างเหมาะสม
ต 1.3 ม.1/1 พูดและเขยี นบรรยายเกีย่ วกับตนเอง กจิ วัตรประจำวัน ประสบการณ์ และสง่ิ แวดล้อม
ใกลต้ วั
ต 2.1 ม.1/1 ใช้ภาษา น้ำเสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ม.1/3 เข้ารว่ ม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
ต 3.1 ม.1/ 1 ค้นคว้า รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ขอ้ เท็จจริงทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั กล่มุ สาระการเรยี นรู้อ่นื
จากแหลง่ เรยี นร้แู ละนำเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น
ต 4.2 ม.1/1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบคน้ /ค้นคว้า ความร/ู้ ขอ้ มูลต่างๆ จากสื่อและ
แหลง่ การเรียนรตู้ ่างๆ ในการศึกษาต่อ และประกอบอาชพี
2. สาระสำคญั
เลขลำดบั ท่ีภาษาองั กฤษ (Ordinal Number)
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- อา่ นออกเสยี ง สะกดคำ และบอกความหมาย คำศพั ท์เกย่ี วกบั หอ้ งต่างๆ ภายในบ้าน เลขลำดับที่
- อ่านบทอ่าน
- ตอบคำถามจากการอ่านบทอ่าน
- พดู สรปุ รูปแบบบ้านท่ีมใี นประเทศอังกฤษจากบทอ่าน
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- การออกเสยี งเนน้ หนัก-เบา ในคำ
- การแบ่งวรรคตอนในการอา่ น
- ข้อความท่ีสัมพันธก์ ับสอ่ื ที่ไม่ใชค่ วามเรยี ง เชน่ ภาพสตั ว์ สิง่ ของ บุคคล สถานที่
- Ordinal numbers:1st - 20th
5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟงั พูด อา่ นและเขยี นเก่ียวกับเลขลำดับท่ี
6. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
ความสามารถในการสอื่ สาร
7. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
- มวี ินยั
- มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
8. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ันท่ี 1 (ขน้ั นำ) Warm up
1. นำเข้าสู่บทเรยี นดว้ ยการชี้แจงให้นกั เรยี นทราบวา่ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3: My home, my castle
น้ี นกั เรียนจะได้เรียนรเู้ ก่ยี วกับ
- Rooms, furniture & appliances
- Ordinal numbers (1st-20th)
- There is / There are
- Some, any
- Possessive adjectives
- Prepositions of place
- Describing your house or flat
ข้นั ท่ี 2 (ขน้ั นำเสนอ) Presentation
1. นกั เรียนดภู าพ 1-3 ในหนงั สือเรียน หน้า 27 ครดู ึงความสนใจของนักเรียนโดยถามคำถามเพ่อื กระตนุ้
การอภิปรายเกีย่ วกบั ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ว่า ครอบคลุมเรอื่ งอะไรบา้ ง
Suggested Answer Key
T : What page is pic. 1 from?
Ss : It’s from p. 30.
T : What can you see in pic. 1?
Ss : The inside of a house.
T : Which house do you think is the same as pic. 1, the house in pic. 2 or
the house in pic. 3?
Ss : The house in pic. 3.
T : What about pic. 2? (p. 33) What can you see in the picture?
What is this building called? Which country do you think it is in?
Do you have buildings like this your country?
T : What page pic. 3 is from? (p. 28) What can you see in the picture?
What else can you see on p. 28? What about you? Where do you live?
ขน้ั ที่ 3 ( ข้นั ฝกึ ) Practice
1. นักเรียนฟงั และฝกึ ออกเสยี งคำศัพท์เกย่ี วกับห้องตา่ งๆ ภายในบ้าน ในหนงั สือเรยี น หน้า 27 หวั ข้อ
Vocabulary จากน้ันช่วยกนั แปลเป็นภาษาไทย
2. นักเรียนดูช่อื หนว่ ยการเรียนรยู้ อ่ ย Unit 3a และภาพประกอบ ในหนังสือเรยี น หนา้ 28 แลว้ ครถู าม
วา่ หนว่ ยการเรยี นร้ยู ่อยนี้น่าจะเกย่ี วขอ้ งกับเรื่องอะไร (English home)
3. นักเรียนศกึ ษาหัวขอ้ Learning to learn ในหนังสือเรยี น หน้า 28 แล้วครูอธบิ ายวา่ นอกเหนอื จาก
เนอ้ื หาทชี่ ่วยทำให้นกั เรยี นเข้าใจบทอา่ นแล้ว ภาพประกอบก็สามารถชว่ ยทำใหน้ กั เรียนเดาเน้อื หาของบทอ่านได้
4. นกั เรยี นดูภาพประกอบและชอ่ื เร่ืองของบทอา่ น ในหนังสือเรียน หนา้ 28 Ex. 1 (To predict the
content of an article from picture and its title) และตอบคำถามว่าบทอา่ นนี้เก่ียวข้องกบั อะไร
Key The article is about different types of houses in England.
5. ครใู หน้ ักเรียนฟัง พรอ้ มอา่ นบทอา่ น ในหนงั สือเรียน หนา้ 28 แล้วจับคู่ข้อความ A-E กับภาพ 1-5
จากน้ันนักเรียนจับคกู่ ับเพ่ือนอ่านประโยค 1-5 ใน Ex. 2 หน้า 29 (To listen and read for specific
information) แลว้ บอกว่าประโยคนั้นถูกหรอื ผิด เสรจ็ แลว้ ตรวจคำตอบ
Key T : Which text is pic. 1 from?
S1: Text A.
T : How do you know?
S2: There are no houses next to it.
T : What else does the text say about the house?
S3 : It has a garage.
T : Well done!
- Which text is pic. 2 from? (E) How do you know? (It is semi-detached.)
What else does the text say about this house? (large garden, lovely flowers)
- Which text is pic. 3 from? (D) How do you know? (flat, fourth floor, nice view)
- Which text is pic. 4 from? (C) How do you know? (number 10, famous,
policeman in front)
- Which text is pic. 5 from? (B) How do you know? (cottage, countryside, lovely flowers)
1. F (There is a back garden.)
2. F (She has a small kitchen.)
3. T (This terraced house is …)
4. F (It’s got three bedrooms, …a bathroom)
5. T (There is also a garden...)
ข้ันท่ี 4 (ขั้นนำไปใช)้ Production
1. นกั เรียนเรยี นรู้เลขลำดบั ที่ (Ordinal numbers) 1st-20thในหนงั สือเรียน หนา้ 29 Ex. 3a (To
learn ordinal numbers and practise pronunciation) นกั เรียนฟังและฝึกออกเสียง ครูใหน้ ักเรียนจบั คผู่ ลัด
กันสะกดเลขลำดบั ที่ โดยนักเรียนคนแรกสะกดคำอกี คนหนง่ึ ตรวจความถกู ต้อง
2. นักเรยี นดภู าพ ในหนงั สอื เรยี น หน้า 29 Ex. 3b (To practise asking and answering
questions using ordinal numbers) แลว้ ครเู รียกนักเรียน 2 คน อา่ นตัวอยา่ งให้เพอ่ื นฟัง จากนนั้ ให้นักเรียน
จบั คู่ฝึกถามตอบวา่ ใครอยู่ชั้นไหนบ้าง ครูเดนิ สังเกตการออกเสยี งของนักเรียน แล้วสุ่มเรยี กนักเรยี นยนื ข้นึ ถาม
ตอบ
Key A : Which floor is Tony on?
B : He is on the 8th floor.
A : Which floor are Mary & Helen on?
B : They are on the 6th floor.
A : Which floor is Linda on?
B : She is on the 4th floor.
A : Which floor is Steve on?
B : He is on the 2nd floor.
A : Which floor are John & Bob on?
B : They are on the 7th floor.
A : Which floor is Billy on?
B : He is on the 5th floor.
A : Which floor are Lucy & Peter on?
B : They are on the 1st floor.
3. นักเรียนศกึ ษาหวั ขอ้ Learning to learn ในหนังสอื เรียน หน้า 29 เกย่ี วกับการเรยี งลำดบั คำใน
ประโยคแลว้ ครอู ธิบายว่า ท้ังประโยคบอกเล่าและประโยคปฏิเสธจะขึ้นต้นประโยคดว้ ยประธาน
4. ครใู หน้ ักเรียนทำ Ex. 4 (To practice word order) ในหนังสือเรียน หน้า 29 โดย
เรียงลำดับคำในประโยคใหถ้ ูกต้อง แลว้ ตรวจคำตอบ
Key 1. Anne has got a nice flat.
2. Laura’s house is semi-detached.
3. The house hasn’t got a garden.
ขน้ั ที่ 5 (ข้นั สรุป) Wrap up
1. ครใู หน้ กั เรยี นเขียนประโยคโดยใช้ ‘have got’
Key 1. It’s got three bedrooms upstairs.
2. It’s got one living room downstairs.
3. It’s got one small kitchen downstairs.
4. It’s got two bathrooms upstairs.
9. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียน Access ม. 1
2. Power point Access ม.1 Module 3
3. ใบงาน Ordinal number
4. Google meet
10. การวัดและประเมนิ ผล
วธิ ีการวดั เคร่อื งมือ เกณฑ์
รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด เกณฑ์การประเมนิ ช้นิ งาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมนิ การฟัง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพดู แบบประเมินการพูดโตต้ อบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขยี น แบบประเมนิ การเขยี น
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมินการอา่ นออกเสียง
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ประเมนิ การทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
2. ประเมนิ การทำแบบฝึกหัด
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรใู้ นชว่ งการทำกิจกรรม
4. ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5. ประเมินผลการเขียนบรรยายเกยี่ วกับบา้ นของตนเอง
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 19
วชิ า ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน รหัสวชิ า อ21101 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 My home, my castle เวลา 14 ช่วั โมง
เรอ่ื ง My home 2 เวลา 2 ชั่วโมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวนั ท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
โรงเรยี น บ้านแม่ยางหา้ สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
ต 1.2 ม.1/4 พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูล และแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับเรื่องทฟ่ี งั หรืออา่ น
อย่างเหมาะสม
ต 1.3 ม.1/1 พดู และเขียนบรรยายเก่ยี วกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และสิง่ แวดลอ้ ม
ใกล้ตัว
ต 2.1 ม.1/1 ใชภ้ าษา นำ้ เสียง และกริ ยิ าทา่ ทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คมและ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ม.1/ 3 เข้ารว่ ม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
ต 3.1 ม.1/1 คน้ คว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจรงิ ทีเ่ ก่ียวข้องกบั กล่มุ สาระการเรยี นร้อู ื่น
จากแหลง่ เรียนรแู้ ละนำเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น
ต 4.2 ม.1/1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบคน้ /ค้นคว้า ความร้/ู ขอ้ มลู ต่างๆ จากสอ่ื และ
แหลง่ การเรียนรูต้ ่างๆ ในการศกึ ษาต่อ และประกอบอาชีพ
2. สาระสำคญั
บรรยายเกย่ี วกบั สง่ิ ของเครือ่ งใชภ้ ายในบา้ นโดยใช้โครงสร้าง There is/There are ในประโยคบอก
เลา่ และปฏิเสธไดถ้ ูกตอ้ ง
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- การใช้ There is / There are
- อ่านออกเสียง สะกดคำ และบอกความหมาย คำศพั ทเ์ กีย่ วกบั หอ้ งต่างๆ ภายในบ้าน
- เขยี นบรรยายเก่ยี วกบั บ้านของตนเอง
- ใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณจ์ ำลองทเี่ กิดขนึ้ ในห้องเรียน
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- การออกเสียงเนน้ หนัก-เบา ในคำ
- ขอ้ ความทสี่ มั พนั ธก์ ับสื่อที่ไม่ใชค่ วามเรยี ง เช่น ภาพสัตว์ สงิ่ ของ บุคคล สถานท่ี
- คำถามเก่ยี วกับใจความสำคญั เชน่ Yes/No Questions, Wh-Questions
- คำศพั ท์ สำนวน และประโยคทใี่ ชใ้ นการขอและให้ข้อมลู
- ประโยคและขอ้ ความทใ่ี ชบ้ รรยายเกย่ี วกับตนเอง ส่งิ แวดล้อมใกล้ตวั
- การลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ
- Language Structure
There is/There are: There is a kitchen downstairs. There are three bedrooms upstairs.
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
เขยี นบรรยายเก่ียวกบั ส่ิงของเครอ่ื งใช้ภายในบา้ นโดยใชโ้ ครงสร้าง There is/There are ในประโยค
บอกเล่าและปฏิเสธไดถ้ ูกตอ้ ง
6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
ความสามารถในการคิด
- การคดิ วิเคราะห์
7. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
- มีวินยั
- มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
8. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ ที่ 1 (ข้นั นำ) Warm up
1. นำเขา้ สู่บทเรียนด้วยการชีแ้ จงให้นกั เรยี นทราบว่า คาบนเี้ ราจะเรียนรู้เรอื่ ง There is / There
are และการบรรยายลักษณะบ้าน
จากน้ันถามนักเรยี นวา่ เคยไดย้ นิ สุภาษิต (Proverb) “My home, my castle” หรอื ไม่ ครูเปิด
โอกาสให้นักเรียนเดาความหมาย จากนัน้ อธิบายว่า “My home, my castle is an English proverb which
means that the English people consider their house to be very special.”
ขน้ั ที่ 2 (ขน้ั นำเสนอ) Presentation
1. นกั เรียนปดิ หนังสอื เรียน แลว้ ครอู ธิบายการใช้ There is / There are โดยชี้ไปท่ีรปู ภาพพร้อมพดู ว่า
There is a board in the classroom. แล้วเขียนประโยคดงั กลา่ วบนกระดาน และขีดเสน้ ใตค้ ำวา่ there is
จากน้ันครูพดู ว่า There isn’t a computer in the classroom. แลว้ เขยี นประโยคบนกระดานและขีดเสน้ ใตค้ ำว่า
There isn’t แลว้ ถามนกั เรียนว่า Is there a window in the classroom? พร้อมเขยี นประโยคบนกระดาน ครู
พูดต่อไปว่า There are eight desks in the classroom. There aren’t any flowers in the
classroom. Are there computers in the classroom? แลว้ เขยี นประโยคเหล่านี้บนกระดาน และขีดเส้นใต้
คำวา่ There areและบอกนกั เรียนวา่ There are เปน็ รปู พหพู จนข์ องThere is
ข้ันที่ 3 ( ขนั้ ฝึก ) Practice
1. นกั เรียนอ่านตารางในหนงั สอื เรยี น หน้า 29 Ex. 5 (To use there is / there are) แลว้ เตมิ กฎการ
ใชใ้ ห้สมบรู ณ์ จากนน้ั หาประโยคตัวอย่าง There is / There are ในบทอ่าน หน้า 28
Key 1. there is 2. there are 3. Is there / Are there?
Text A: There are no houses …
There is a living …
… there are three …
There is a …
There is also …
Text B: There are two …
There are lovely flowers …
Text C: … there is a garden
Text E: There are lovely flowers …
2. นกั เรียนใชต้ ารางในหนังสือเรียน หน้า 29 Ex. 5 เปน็ แนวทางในการเขียนประโยคเก่ียวกบั บ้านของ
Rosa ร่วมกับคำท่ีกำหนดให้ ใน Ex. 6 (To practise there is / there are) ใหน้ กั เรยี นเขยี นลงในสมดุ แลว้ ครู
ตรวจคำตอบโดยส่มุ เรียกนักเรียนออกมาเขยี นประโยคบนกระดาน
Key 2. There is one living room downstairs.
3. There is a small kitchen downstairs.
4. There are two bathrooms upstairs.
5. There isn’t a garden.
6. There isn’t a garage.
ขั้นท่ี 4 (ข้ันนำไปใช)้ Production
1. นกั เรยี นดูบทอ่านในหนงั สือเรียน หน้า 28 แล้วจบั คพู่ ูดบอกเพ่ือนวา่ บ้านแบบใดที่มใี นประเทศ
องั กฤษ (To consolidate vocabulary and grammar used in this unit) โดยใช้ There are
Suggested Answer Key
There are beautiful cottages in the countryside.
There are terraced houses in England.
There are lots of block of flats. Etc
ขน้ั ที่ 5 (ข้ันสรุป) Wrap up
1. นักเรยี นเขยี นประโยคเกีย่ วกับบา้ นของตนเอง 4 ประโยค (To write sentences about your
house using vocabulary and grammar used in the unit) โดยใช้ประโยคบอกเล่าและปฏิเสธ There is /
There are
Suggested Answer Key
There are two bedrooms in my house.
There is a big living room.
There is a small kitchen and a bathroom.
There isn’t a garden.
9. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Access ม. 1
2. Power point Access ม.1 Module 3
3. Google meet
10. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมอื เกณฑ์
วิธกี ารวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ชิ้นงาน รอ้ ยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมินการเขยี น ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การเขียน แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ประเมนิ การทำแบบทดสอบก่อนเรียน
2. ประเมนิ การทำแบบฝึกหัด
3. สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นร้ใู นชว่ งการทำกจิ กรรม
4. ประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5. ประเมนิ ผลการเขียนบรรยายเกย่ี วกับบา้ นของตนเอง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 20
วชิ า ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน รหสั วชิ า อ21101 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 My home, my castle เวลา 14 ช่ัวโมง
เรอื่ ง Furniture and Appliances เวลา 2 ชว่ั โมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า สอนวนั ท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
โรงเรยี น บา้ นแมย่ างห้า สำนักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้ีวัด
ต 1.2 ม.1/4 พดู และเขียนเพอื่ ขอและใหข้ อ้ มูล และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเรื่องทีฟ่ ังหรืออ่าน
อย่างเหมาะสม
ต 2.1 ม.1/1 ใชภ้ าษา น้ำเสียง และกริ ิยาทา่ ทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
ต 2.1 ม.1/3 เขา้ รว่ ม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
ต 3.1 ม.1/1 ค้นควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจรงิ ทเี่ ก่ียวข้องกบั กลมุ่ สาระการเรยี นร้อู ่ืน
จากแหล่งเรยี นรแู้ ละนำเสนอด้วยการพดู /การเขยี น
ต 4.2 ม.1/1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบคน้ /คน้ ควา้ ความรู้/ขอ้ มูลต่างๆ จากสื่อและ
แหลง่ การเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ
2. สาระสำคัญ
บทสนทนา โฆษณา การบรรยายเกยี่ วกับบา้ น สง่ิ ของเครื่องใช้ในบ้าน และการแสดงความคิดเห็น
พร้อมทงั้ ให้เหตุผลประกอบ
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
- อ่านออกเสยี งคำศพั ท์เก่ียวกบั เครื่องเรือนเครอื่ งใช้ และบอกความหมาย
- จับใจความสำคญั (main idea) และตอบคำถามจากการอา่ นบทสนทนา
- พดู และเขียนเพือ่ ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพห้องตา่ งๆ ภายในบ้าน
- พูดแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั เรอื่ งที่ฟัง
- วาดภาพและเขียนบรรยายเกยี่ วกับบ้านของตนเอง
- เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาตามความสนใจ
- ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ในห้องเรียน
- Vocabulary
Furniture & Appliances: e.g. window, wardrobe, pillow, bed, lamp, desk, bookcase,
carpet, mirror, washbasin, toilet, mat, towel, bath, stairs, floor, sink, cooker, cupboard, fridge,
chair, table, painting, armchair, curtain, cushion, sofa, coffee table
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- ประโยคและข้อความทีใ่ ชใ้ นการขอและใหข้ ้อมูล
- คำศพั ท์ และประโยคทีใ่ ชใ้ นการแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับเรอื่ งทฟ่ี ัง
- ประโยคและข้อความที่ใชบ้ รรยายเกย่ี วกับตนเอง สง่ิ แวดล้อมใกลต้ ัว
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเลน่ เกม
- การใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองท่ีเกิดขึ้นในห้องเรยี น
- Possessive adjectives
- การใช้ some / any
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟัง พูด อา่ นและเขียนเกย่ี วกับบทสนทนา โฆษณา การบรรยายเกีย่ วกบั บา้ น ส่งิ ของเครอ่ื งใช้ในบา้ น และ
การแสดงความคิดเห็น พรอ้ มทัง้ ใหเ้ หตุผลประกอบ
6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ความสามารถในการสอ่ื สาร
ความสามารถในการคิด
- การคิดวิเคราะห์
7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
- มีวนิ ยั
- มุ่งมัน่ ในการทำงาน
8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ ท่ี 1 (ข้นั นำ) Warm up
1. นำเขา้ สู่บทเรียนด้วยการชีแ้ จงให้นกั เรียนทราบว่าใน Unit 3b นักเรยี นจะไดเ้ รียนรูค้ ำศพั ท์
เกย่ี วกับเครอื่ งเรอื นและเคร่อื งใช้ การใช้ some / any และคำคณุ ศพั ท์แสดงความเปน็ เจ้าของ
2. ครใู ห้นกั เรยี นอ่านชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ย่อย Unit 3b และดภู าพ ในหนงั สือเรยี น หน้า 30 แลว้
อธิบายความหมายของชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ (We ask this question in order for someone to describe
something to us)
ข้นั ท่ี 2 (ข้นั นำเสนอ) Presentation
1. นกั เรียนฝึกออกเสยี งคำศพั ท์ ในหนงั สือเรียน หน้า 30 Ex. 1 (To learn vocabulary
associated with household furniture and appliances) และออกเสยี งตามพร้อมกนั หรอื ทีละคน แลว้ ช่วยกนั
บอกความหมายของคำศพั ท์
2. นกั เรียนศึกษาหวั ข้อ Learning to learn ในหนังสือเรยี น หน้า 30 แล้วครูอธบิ ายวา่ การจัดคำศัพท์
เปน็ หมวดหมจู่ ะชว่ ยให้จดจำคำศัพทใ์ หม่ไดง้ ่าย
3. นักเรียนจดั คำศพั ท์ในหนงั สือเรยี น หนา้ 30 Ex. 2 (To learn new words through association)
ให้ตรงตามหมวดหมทู่ ่ีกำหนด แล้วครเู ฉลยคำตอบบนกระดาน
Key Bedroom : bed, desk, wardrobe
Bathroom : washbasin, toilet, towel
Living room : sofa, armchair, coffee table
Kitchen : sink, fridges.
ข้ันท่ี 3 ( ข้นั ฝึก ) Practice
1. นกั เรยี นดูภาพห้องตา่ งๆ ในหนังสอื เรยี น หน้า 30 ครเู รียกนักเรียน 1 คน อ่านตัวอย่าง จากนนั้ ให้
นักเรียนจับคู่ผลดั กันบอกว่า ในแต่ละหอ้ งมีเครอ่ื งเรอื นเคร่ืองใชอ้ ะไรบา้ ง (To consolidate vocabulary and
revise there is, there are)
Suggested Answer Key
A : What is there in the bedroom?
B : There’s a window, a bed, a desk, a lamp and a bookcase.
There are books in the bedroom.
A : What is there in the bathroom?
B : There’s a washbasin, a toilet and a towel.
A : What is there in the living room?
B : There’s a window, a sofa, an armchair, and a coffee table.
There are paintings and cushions in the living room.
A : What is there in the kitchen?
B : There’s a cooker, a fridge, a sink and a table.
There are cupboards and two chairs in the kitchen.
2. ครูอธิบายสถานการณข์ องบทสนทนา ในหนังสอื เรียน หน้า 31 Ex. 4 (To read for specific
information) ให้นกั เรียนฟงั ว่า Olga สนทนากบั Sandyเกยี่ วกับแฟลตใหม่ของพ่สี าว Olga จากนั้นให้นกั เรยี น
อ่านคำถาม แล้วฟังบทสนทนาจาก CD 1 / Track 27 เพือ่ หาคำตอบ และตรวจคำตอบพร้อมกัน
Key 1. (There are) four rooms (in the flat).
2. Living room: sofa, armchair
Bedroom: bed & desk
Kitchen: cooker, fridge, table
3. นักเรยี นเรียนรกู้ ารใช้ some / any โดยครูชกู ระเปา๋ ทมี่ หี นงั สืออย่ใู นนนั้ หลายเลม่ พรอ้ มพูดวา่
There are some books in the bag. และเขยี นประโยคที่พูดบนกระดาน จากนน้ั หยบิ หนังสอื ทงั้ หมดออกจาก
กระเป๋า แลว้ ถามนกั เรียนวา่
T: Are there any books in the bag?
Ss: No.
T: That’s right. There aren’t any books in the bag.
ครูเขียนประโยคคำถามและประโยคปฏิเสธทีพ่ ดู บนกระดาน และขดี เส้นใต้คำวา่ any ท้ัง 2 ประโยค
จากน้นั ให้นกั เรียนอ่านประโยคตวั อย่าง 3 ประโยค ในหนังสือเรยี น หนา้ 31 Ex. 5 (To learn the use of some
/ any) แลว้ เตมิ กฎการใช้ some / any และเฉลยคำตอบพร้อมกนั
Key 1. some 2. any 3. Any
ขัน้ ที่ 4 (ขัน้ นำไปใช)้ Production
1. ให้นักเรียนเติมประโยคในหนงั สือเรยี น หนา้ 31 Ex. 6 (To practise some / any) ให้สมบูรณ์
แลว้ ครูให้นกั เรยี นอ่านประโยคทีละคน เพ่ือตรวจคำตอบ
Key 1. any 2. any 3. any 4. some
2. นักเรยี นเรียนรูเ้ กี่ยวกบั คำแสดงความเปน็ เจา้ ของทมี่ คี ำนามตอ่ ท้าย (Possessive adjectives)
โดยครูใหน้ ักเรียนปดิ หนังสอื แล้วช้ีทต่ี ัวเองและพูดว่า I am a teacher. แล้วเขยี นประโยคดงั กลา่ วบนกระดาน
และขีดเสน้ ใตค้ ำว่า Iจากนั้นพูดวา่ This is my pen. และเขียนประโยคบนกระดาน พร้อมขดี เสน้ ใตค้ ำว่าmy
แล้วอธบิ ายวา่ my เปน็ คำแสดงความเป็นเจ้าของท่เี รียกวา่ possessive adjective โดยจะวางไวห้ น้าคำนาม
เพ่ือแสดงความเปน็ เจา้ ของ จากนั้นครูชี้ไปทีน่ ักเรียนชายคนหนึ่ง และพูดวา่ You are Bill. แล้วเขียนประโยคนี้
บนกระดาน และขีดเสน้ ใต้คำว่า You แล้วครูชี้ไปทด่ี นิ สอของ Bill พร้อมพดู วา่ This is your pencil. และเขียน
ประโยคบนกระดาน แล้วขีดเสน้ ใต้คำวา่ your ครใู ช้วิธีการเดยี วกนั น้ีในการอธิบายคำแสดงความเป็นเจ้าของคำ
อื่น
3. นกั เรยี นเปดิ หนังสือเรยี น หน้า 31 แลว้ อา่ นตารางใน Ex. 7 (To learn the use of possessive
adjectives) เพอื่ สรา้ งความเขา้ ใจเก่ียวกบั การใช้ Possessive adjectives และแปล Possessive adjectives
เหลา่ นเ้ี ปน็ ภาษาไทย เพ่อื ตรวจสอบว่านกั เรยี นเขา้ ใจความหมายหรอื ไม่ จากนนั้ ครฝู ึกนกั เรยี นโดยเขยี นประโยค
This is my notebook. บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรยี นหาคำแสดงความเป็นเจ้าของที่เหมาะสมมาแทนคำว่า my
ด้วยวธิ กี ารตอ่ ไปน้ี
T : ครูช้ไี ปทนี่ กั เรียนชายคนหน่ึง
S1 : This is his notebook.
T : ครูชไ้ี ปท่นี ักเรียนหญิงคนหนึ่ง
S2 : This is her notebook. etc
4. นกั เรยี นทำ Ex. 8 ในหนงั สอื เรียน หน้า 31 แล้วเฉลยคำตอบพรอ้ มกนั
Key 1. their 2. her 3. our 4. your 5. his 6. my
5. นักเรียนอา่ นขอ้ ความในหนังสือเรียน หน้า 31 Ex. 9(To listen for specific information and
to distinguish between text types) แลว้ ครบู อกวา่ ขอ้ มูลท่หี ายไปอาจจะเปน็ คำหรอื ตัวเลขก็ได้ แลว้ เติม
ข้อมลู ท่ีหายไป เสร็จแลว้ ตรวจคำตอบ และอา่ นข้อความทส่ี มบรู ณแ์ ล้วพร้อมกัน และตอบคำถามว่าขอ้ ความน้ี
เป็น email หรือ โฆษณา พร้อมกบั อธบิ ายวา่ ทำไมจงึ ตอบเชน่ นนั้ เช่น It has a price, there is a picture, it
looks like an advert, it does not look like an email. An email starts with Dear etc …
Key 1. 5 2. bathrooms 3. 15 4. garden 5. Pedro
The text is an advert.
ขนั้ ท่ี 5 (ขน้ั สรุป) Wrap up
1. นกั เรียนดภู าพบา้ นในหนังสือเรยี น หนา้ 30 แลว้ วาดภาพของตนเองในลกั ษณะน้ี พรอ้ มระบายสีให้
สวยงาม แล้วนำเสนอหน้าชัน้ เรียน จากนนั้ เขียนประโยคบรรยายสิง่ ทมี่ ีในแต่ละห้อง โดยใช้ there is / there
are, some / any (To practice vocabulary and grammar presented in this unit)
Suggested Answer Key
There are two bedrooms in my house. There is a big living room, a kitchen and
a bathroom.
There is a bed, a desk, and a wardrobe in each bedroom.
There is a sofa and a coffee table in the living room. There are also two armchairs
and some paintings.
There is a cooker, a sink, a fridge and a table with four chairs in the kitchen.
There is a washbasin and a toilet in the bathroom. There is also a mat and some
towels.
9. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรียน Access ม. 1
2. Power point Access ม.1 Module 3
3. Google meet
10. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมอื เกณฑ์
วิธกี ารวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ชิน้ งาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟงั ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมินการพูดโต้ตอบ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการฟัง แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการพูด
ประเมนิ การเขียน
วิธกี ารวดั เครื่องมอื เกณฑ์
ประเมนิ การออกเสยี ง แบบประเมนิ การอ่านออกเสยี ง ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทักษะ/สมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
1. ประเมนิ การทำแบบฝกึ หัด
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรูใ้ นช่วงการทำกจิ กรรม
3. ประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
4. ประเมนิ ผลการวาดภาพและเขยี นบรรยายเกยี่ วกบั หอ้ งต่างๆ ภายในบา้ น
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 21
วิชา ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน รหัสวิชา อ21101 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 My home, my castle เวลา 14 ชั่วโมง
เร่ือง Preposition of place เวลา 2 ชัว่ โมง
ครูผสู้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า สอนวนั ที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
โรงเรยี น บ้านแม่ยางห้า สำนกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั
ต 1.2 ข้อ ม.1/4 พูดและเขียนเพอื่ ขอและให้ขอ้ มูล และแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับเรอื่ งท่ีฟงั หรอื อา่ น
อยา่ งเหมาะสม
ต 2.1 ขอ้ ม.1/1 ใชภ้ าษา นำ้ เสยี ง และกิริยาทา่ ทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและ
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ข้อ ม.1/3 เข้ารว่ ม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
ต 3.1 ขอ้ ม.1/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรปุ ขอ้ มลู /ข้อเทจ็ จริงทเี่ กีย่ วข้องกับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อนื่
จากแหลง่ เรยี นรู้และนำเสนอด้วยการพดู /การเขียน
ต 4.2 ข้อ ม.1/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื คน้ /ค้นคว้า ความร้/ู ข้อมูลต่างๆ จากสื่อและ
แหล่งการเรียนรตู้ า่ งๆ ในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ
2. สาระสำคญั
การถามหาสถานที่ตั้งของสง่ิ ของ การบรรยายห้องนอน การถา่ ยโอนขอ้ มูลจากข้อความเปน็ ภาพวาด
และการอา่ นเพ่ือหาขอ้ มูลเฉพาะ
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
- อ่านออกเสยี งบทอ่าน
- ตอบคำถามจากการอ่านบทอ่าน
- วาดภาพใหส้ ัมพนั ธก์ บั บทอา่ น
- สนทนา แลกเปลย่ี นขอ้ มลู เก่ยี วกบั ตนเอง
- พดู เพ่อื ขอและใหข้ อ้ มลู เกีย่ วกับตำแหนง่ ของสง่ิ ของ
- เขยี นบรรยายเกย่ี วกับห้องนอนของตนเอง
- ใช้ภาษา นำ้ เสียง และกริ ิยาทา่ ทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
- ใช้ภาษาสอื่ สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- การแบง่ วรรคตอนในการอ่าน
- การจับใจความสำคัญ เชน่ ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน คำถามเก่ยี วกับใจความสำคญั เชน่ Yes/No
Questions, Wh-Questions
- การถา่ ยโอนข้อมูลใหส้ ัมพนั ธ์กบั ภาพ
- ภาษาทีใ่ ช้ในการส่ือสารระหวา่ งบุคคล เช่น การแลกเปล่ยี นข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
- ประโยคและขอ้ ความที่ใช้ในการขอและให้ข้อมูล
- ประโยคและขอ้ ความทใี่ ช้ในการบรรยายเก่ยี วกับตนเอง สง่ิ แวดลอ้ มใกล้ตัว
- การใชภ้ าษา นำ้ เสียง และกริ ยิ าท่าทางในการสนทนา ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น
การแสดงอาการตอบรบั หรือปฏเิ สธ
- การใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองท่ีเกิดขนึ้ ในห้องเรียน
- Language Structure
- Prepositions of place: e.g. in, on, under, behind, next to, in front of, between
- Functional Exponents
-Saying where things are in the room:
A: Where is the football?
B: It’s under the bed.
-Talking about furniture and appliances:
A: Where is Ann’s bed?
B: Her bed is next to the wardrobe.
A: Where is Ann’s desk?
B: Her desk is under the window.
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟัง พูด อ่านและเขยี นเกี่ยวกบั การถามหาสถานทต่ี ง้ั ของสง่ิ ของ การบรรยายห้องนอน การถ่ายโอนข้อมลู
จากข้อความเปน็ ภาพวาด และการอา่ นเพอื่ หาข้อมูลเฉพาะ
6. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
ความสามารถในการส่ือสาร
ความสามารถในการคิด
- การคิดวิเคราะห์
7. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
- มวี นิ ัย
- ใฝเ่ รยี นรู้
- มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ ที่ 1 (ขั้นนำ) Warm up
1. ครูชี้แจงให้นักเรยี นทราบวา่ ใน Unit 3c นี้นักเรยี นจะได้เรียนรู้เก่ยี วกับการพดู ถงึ หอ้ งนอนของ
ตนเอง และคำบพุ บทบอกสถานท่ี
2. นักเรยี นดูภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 32 แล้วบอกส่งิ ท่ีมีในหอ้ งนอนของนักเรยี น
ขน้ั ที่ 2 (ขั้นนำเสนอ) Presentation
1. นักเรยี นดูภาพกลอ่ งและลกู บอล ในหนงั สือเรียน หน้า 32 Ex. 1(To present prepositions of
place) แล้วครูออกเสยี งคำศพท์ preposition of place ให้นักเรียนฟงั แลว้ ใหน้ ักเรยี นออกเสียงตาม จากนัน้
นักเรยี นจบั คถู่ ามและตอบตำแหนง่ ของลกู บอล ครูให้นักเรียนอาสาสมัครออกมาเขยี นประโยคบอกตำแหน่งของลูก
บอล เพื่อตรวจคำตอบ
Key The ball is on the box.
The ball is under the box.
The ball is behind the box.
The ball is next to the box.
The ball is in front of the box.
The red ball is between the blue balls.
ขัน้ ท่ี 3 ( ขนั้ ฝึก ) Practice
1. นกั เรียนดภู าพห้องนอนของ Peter ในหนงั สอื เรยี น หน้า 32 และชว่ ยกันบอกสิง่ ท่มี ีในห้องนอนของ
Peter โดยครเู ขียนคำศพั ท์ท่ีนักเรยี นไม่รู้บนกระดาน เช่น stereo, speaker, computer, lamp, bed, desk,
chair, bookshelf, bookcase, magazines, poster etc จากน้ันนักเรียนจับคู่กันอ่านตวั อย่าง ใน Ex. 2 (To
practice using prepositions of place) และฝึกถามตอบตำแหน่งของส่ิงของตา่ งๆ ในห้องนอนของ Peter ครู
เดินสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียน
Suggested Answer Key
A : Where are his trainers?
B : They’re under his bed.
A : Where is the stereo?
B : It’s in the bookcase. Etc
2. นักเรียนจับคกู่ บั เพือ่ น ฝกึ ถามตอบเก่ยี วกับห้องนอนของตนเอง (To practice asking questions
about location and answering using prepositions of place) แลว้ ครสู ุ่มเรยี กนกั เรียนออกมาพดู ถามตอบ
หนา้ ช้นั เรยี น
Suggested Answer Key
A : Is there a TV in your room?
B : Yes, there is.
A : Where exactly is it?
B : It is in the bookcase.
A : Is there a computer in your bedroom?
B : Yes, there is.
A : Where exactly is it?
B : It is on the desk. Etc
ขั้นที่ 4 (ข้ันนำไปใช)้ Production
1. นกั เรยี นอา่ นบทอ่านในหนังสือเรยี น หนา้ 32 Ex. 4 (To read for specific information) แล้ว
ตอบคำถามว่า มีส่งิ ของอะไรในห้องนอนของ Ann บา้ ง
Key furniture, bed, desk, chair, wardrobe, bookcase, poster, computer,
lamp, books, CD player
2. นกั เรยี นอา่ นบทอ่านใน Ex. 4 อีกครัง้ แลว้ ครถู ามคำถามเกยี่ วกับตำแหนง่ ของส่งิ ของต่างๆ ใน
ห้องนอนของ Ann เชน่
T : Where is Ann’s bed?
S1 : Her bed is next to the wardrobe.
T : Where is Ann’s desk?
S1 : Her desk is under the window.
จากน้ันให้นักเรยี นวาดภาพห้องนอนของ Ann ตามทีอ่ ่านจากบทอ่าน แลว้ นำภาพวาดของตนเองมา
เปรยี บเทียบกบั เพอ่ื น
ข้ันที่ 5 (ขน้ั สรปุ ) Wrap up
1. ครสู ุม่ เรยี กนักเรยี นตอบคำถามในหนงั สือเรยี น หนา้ 32 Ex. 5 (To practise vocabulary and
grammar presented in this unit by writing a descriptive paragraph) จากนน้ั ให้นักเรียนเขียนบรรยาย
หอ้ งนอนของตนเอง โดยใชค้ ำบุพบทบอกสถานท่ีและบทอา่ นใน Ex. 4 เป็นแบบในการเขยี น ครูสนบั สนุนให้
นกั เรียนใชค้ ำคณุ ศัพท์ เช่น big, small, great, round etc ในกรณที นี่ ักเรยี นทำงานไม่เสร็จในชั้น ครู
อาจมอบหมายให้นกั เรียนทำเปน็ การบา้ น
Suggested Answer Key
My bedroom is great! It’s very big and there is a lot of furniture in it.
Everything is blue in my bed room and I call it ‘the blue room’. I’ve got
a bed, a desk, a chair, a wardrobe and a bookcase. Behind the bed there are
two windows. There is a wardrobe next to the bed. My desk is quite modern.
There’s a computer on it and I’ve got books in the book case next to my desk.
There are also some pictures and a poster on the walls. There’s a TV under
the poster. I like my bedroom very much.
9. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Access ม. 1
2. Power point Access ม.1 Module 3
3. ใบงาน Ordinal number
4. Google meet
10. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมอื เกณฑ์
วิธกี ารวดั เกณฑก์ ารประเมินช้นิ งาน รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟงั ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ การพดู โต้ตอบ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟงั แบบประเมนิ การเขยี น ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ การอ่านออกเสียง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การเขยี น แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ประเมนิ การทำแบบฝกึ หัด
2. สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ในชว่ งการทำกิจกรรม
3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
4. ประเมนิ ผลการวาดภาพให้สมั พันธ์กบั บทอา่ น
5. ประเมนิ ผลการเขียนบรรยายหอ้ งนอนของตนเอง
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 22
วชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน รหสั วิชา อ21101 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 1
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 My home, my castle เวลา 14 ช่ัวโมง
เร่อื ง Haunted castles เวลา 2 ช่วั โมง
ครผู ้สู อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวันที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
โรงเรยี น บา้ นแม่ยางหา้ สำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด
ต 1.1 ม.1/1 ปฏิบตั ิตามคำสัง่ คำขอรอ้ ง คำแนะนำ และคำช้แี จงง่ายๆ ทฟี่ งั และอ่าน
ต 1.2 ม.1/4 พูดและเขียนเพ่ือขอและใหข้ ้อมูล และแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับเร่อื งที่ฟังหรอื อา่ น
อยา่ งเหมาะสม
ต 2.1 ม.1/1 ใช้ภาษา นำ้ เสียง และกิริยาท่าทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
ต 4.1 ม.1/1 ใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองทเี่ กิดขน้ึ ในหอ้ งเรยี นและ
สถานศกึ ษา
2. สาระสำคญั
การฟงั จบั ใจความสำคญั การอา่ นเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ และการคน้ คว้า รวบรวมข้อมูลเก่ียวกบั
ปราสาท / พระราชวัง และสถานทีท่ อ่ งเทยี่ วในประเทศไทย
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- ตอบคำถามจากการอ่านบทอ่าน
- พูดและเขียนบรรยายเกีย่ วกับปราสาท / พระราชวังในประเทศไทย
- ใช้ภาษา น้ำเสียง และกริ ยิ าทา่ ทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
- ค้นคว้า รวบรวมข้อมลู เกย่ี วกบั ปราสาท / พระราชวัง แหล่งท่องเทีย่ วในประเทศไทย จากแหลง่ เรียนรู้
- ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกิดขน้ึ ในหอ้ งเรยี น
- ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นควา้ ความร/ู้ ข้อมูล จากสอื่ และแหล่งการเรยี นรตู้ ่างๆ
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- คำศพั ทแ์ ละขอ้ ความที่ใช้ในการแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั เสยี งทไ่ี ด้ฟัง
- คำถามเกยี่ วกับใจความสำคัญของเร่อื ง เช่น Yes/No Questions, Wh-Questions
- ประโยคและขอ้ ความทใี่ ช้ในการบรรยายเก่ยี วกับประสบการณ์ ส่ิงแวดล้อมใกล้ตวั เชน่ การท่องเท่ยี ว
- การใชภ้ าษา นำ้ เสยี ง และกิริยาท่าทางในการสนทนา ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษา เช่น การแสดงสหี นา้ และท่าทางประกอบ
- การค้นคว้า การรวบรวม และการนำเสนอข้อมูลที่เก่ยี วขอ้ งกับกลุม่ สาระการเรียนรู้อ่ืน (สงั คมศึกษาฯ)
- การใช้ภาษาสือ่ สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองท่ีเกิดขึ้นในหอ้ งเรียน
- การใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื คน้ /การค้นคว้า ความรู/้ ข้อมลู ต่างๆ จากส่ือและแหล่งการเรียนรู้ตา่ งๆ
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟัง พูด อา่ นและเขยี นเกี่ยวกับการฟังจบั ใจความสำคญั การอ่านเพอื่ หาข้อมูลเฉพาะ และการค้นควา้
รวบรวมข้อมูลเกีย่ วกบั ปราสาท / พระราชวัง และสถานท่ีท่องเท่ยี วในประเทศไทย
6. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
ความสามารถในการคิด
- การคิดวิเคราะห์
- การคดิ สังเคราะห์
- การคดิ อย่างสรา้ งสรรค์
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
7. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
- มวี นิ ยั
- ใฝเ่ รียนรู้
- ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
- รักความเปน็ ไทย
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ ท่ี 1 (ขัน้ นำ) Warm up
1. ครูช้ีแจงให้นักเรียนทราบวา่ ใน Unit 3d นี้ นักเรียนจะได้เรียนรู้เก่ียวกบั การอ่านเพอ่ื หาข้อมูล
เฉพาะ
ข้ันท่ี 2 (ขนั้ นำเสนอ) Presentation
1. นักเรยี นดคู ำศพั ท์ในหนงั สอื เรียน หนา้ 33 Ex. 1 (To listen for gist) แล้วครูอธบิ ายคำศัพท์ที่
นักเรยี นไมร่ คู้ วามหมาย ใหน้ กั เรยี นฟังและชว่ ยกนั เดาว่าคือเสยี งอะไร แลว้ วงรอบคำศัพทท์ ี่ตรงกบั เสียงท่ีได้ยิน
และตรวจคำตอบพร้อมกนั
Key - heavy doors opening and closing