- battle drums
- pipes
- strange noises
ข้นั ที่ 3 ( ขัน้ ฝึก ) Practice
1. นักเรียนอ่านบทอา่ น “Haunted castles of Britain” ในหนังสือเรยี น หนา้ 33 พร้อมกนั แลว้ ตอบ
คำถามใน Ex. 2 (To read for specific information) แลว้ ครตู รวจคำตอบ และอธบิ ายคำศัพท์ที่นักเรียนไมร่ ู้
Key Edinburgh Castle is in Edinburgh, Scotland. There is a ghost without a head.
He plays the battle drum at night. There is also the ghost of the Tunnel Piper.
He plays the pipes but you can’t see him.
Cardiff Castle is in Cardiff, Wales. It has got a ghost that can pass through walls.
Dover Castle is in Kent, England. There are two ghosts. One is a woman in a long
red dress on the stairs and the other is a man in the king’s bedroom.
ขน้ั ที่ 4 (ขนั้ นำไปใช)้ Production
1. ครูถามนกั เรียนวา่ นกั เรียนรู้จักปราสาท / พระราชวงั ท่มี ใี นประเทศไทยหรอื ไม่ จากนนั้ ให้นกั เรยี น
แบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 4-5 คน สืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกับปราสาท / พระราชวังในประเทศไทยจากอินเทอรเ์ นต็ สารานุกรม
หนงั สอื เรยี น หรือแหล่งเรียนร้อู น่ื ๆ แลว้ จดั ทำเปน็ โปสเตอร์ พร้อมติดภาพประกอบเพ่อื เพ่มิ ความน่าสนใจ แล้ว
นำเสนอข้อมูลหนา้ ช้นั เรียน นักเรียนอาจสืบค้นขอ้ มูลไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ www.castles.org/castles/
Suggested Answer Key
Pena Palace is a beautiful castle in Costa de Lisbon, Portugal. It is very big
with very tall walls and towers. It has also got a dome and beautiful tiled terraces.
St George’s Castle is a big castle in Lisbon, Portugal. It dates from the
14th century and it has got twelve gateways and eighteen towers.
It is popular with tourists and there is a fantastic view of the city from the top.
ขนั้ ที่ 5 (ข้นั สรปุ ) Wrap up
1. นักเรียนค้นหาแหล่งทอ่ งเที่ยวในประเทศไทยความล้ีลับ นกั เรียนสามารถค้นควา้ ขอ้ มูลได้
จาก
- www.trueghosttales.com
- www.thailandlife.com/thai-culture/nang-nak-a-thai-ghost-story.html - 27k –
- paranormalstories.blogspot.com/
Suggested Answer Key
Pee Ta Khon
Pee Ta Khon (the Ghost Festival) is the most common name for a group offestivals
held in Dan Sai, Loei province, Isan, Thailand. The events take place over three days
some time between March and July, the dates being selected annually by the
town’smediums.
9. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสือเรียน Access ม. 1
2. Power point Access ม.1 Module 3
3. ใบงาน Ordinal number
4. Google meet
5. อนิ เทอรเ์ น็ต หรือสารานกุ รม
10. การวัดและประเมนิ ผล เครือ่ งมือ เกณฑ์
วธิ กี ารวดั เกณฑ์การประเมินชนิ้ งาน ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมินการฟัง ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบประเมนิ การพูดโตต้ อบ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟงั แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู แบบประเมนิ การอ่านออกเสียง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขยี น แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ประเมินการทำแบบฝกึ หัด
2. สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ในชว่ งการทำกจิ กรรม
3. ประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
4. ประเมนิ ผลการจดั ทำโปสเตอร์เกี่ยวกับปราสาท / พระราชวังในประเทศไทย
5. ประเมนิ ผลการแสดงบทบาทสมมติในการบรรยายสถานท่ีท่องเทยี่ วในประเทศไทยหรือต่างประเทศทมี่ ี
ตำนานความล้ีลับ
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 23
วชิ า ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน รหสั วชิ า อ21101 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 My home, my castle เวลา 14 ชั่วโมง
เรื่อง New House เวลา 2 ชั่วโมง
ครูผสู้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า สอนวนั ที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
โรงเรยี น บา้ นแมย่ างหา้ สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษา เชยี งใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชว้ี ดั
ต 1.1 ม.1/1 ปฏบิ ัตติ ามคำสง่ั คำขอรอ้ ง คำแนะนำ และคำชแ้ี จงง่ายๆ ที่ฟงั และอ่าน
ต 1.1 ม.1/4 ระบหุ ัวขอ้ เร่ือง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและ
อ่านบทสนทนา นิทาน และเรอื่ งส้นั
ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลย่ี นขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง กจิ กรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวิตประจำวนั
ต 4.1 ม.1/1 ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองที่เกดิ ขน้ึ ในห้องเรียนและ
สถานศกึ ษา
2. สาระสำคญั
ประโยค บทสนทนา ทเ่ี กย่ี วข้องกบั การบรรยายลักษณะบา้ น และการแสดงความคิดเห็น พร้อมท้ังให้
เหตผุ ลประกอบ
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- อา่ นออกเสียงสำนวนภาษาท่ีใช้พูดเกย่ี วกับบ้าน
- ระบุภาพให้สมั พันธ์กับบทสนทนาท่อี ่าน
- สนทนา แลกเปลีย่ นข้อมลู เกี่ยวกับสถานการณ์ตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวนั
- พดู แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั คำตอบของตนเอง พรอ้ มทั้งใหเ้ หตผุ ลส้นั ๆ ประกอบ
- ระบุผพู้ ดู ประโยคแต่ละประโยคในบทสนทนา
- ใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์จำลองทีเ่ กิดขึน้ ในห้องเรียน
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
- การออกเสยี งตามระดับเสยี งสงู -ตำ่ ในประโยค
- ประโยคหรือข้อความ การตคี วาม/ถ่ายโอนขอ้ มลู ให้สัมพนั ธ์กบั สอื่ ท่ีไมใ่ ช่ความเรียง เช่น ภาพสัตว์ ส่ิงของ
บุคคล สถานที่
- ภาษาทีใ่ ชใ้ นการสอื่ สารระหวา่ งบุคคล เชน่ การชมเชย การชักชวน การแลกเปล่ียนข้อมลู เกีย่ วกับ
สถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
- ภาษาทใี่ ชใ้ นการแสดงความคดิ เห็น และใหเ้ หตุผลประกอบ เชน่ I feel… because…, I think…
- การวเิ คราะหป์ ระโยค
- การใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองท่เี กิดขน้ึ ในหอ้ งเรียน
- Phonology
//: sixth, seventh, eighth, ninth, tenth
/ð/: the, this, those, there
5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟงั พูด อา่ นและเขยี นเก่ยี วกับประโยค บทสนทนา ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั การบรรยายลักษณะบ้าน และการแสดง
ความคิดเหน็ พร้อมทง้ั ให้เหตุผลประกอบ
6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
ความสามารถในการสอ่ื สาร
ความสามารถในการคิด
- การคิดวิเคราะห์
7. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
- มวี นิ ัย
- มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั ที่ 1 (ขนั้ นำ) Warm up
1. ครชู ้ีแจงใหน้ ักเรียนทราบว่า ใน Unit 3e นี้ นักเรยี นจะได้เรียนรู้เก่ยี วกบั สำนวนทีใ่ ชใ้ นการพูดถงึ
บ้านใหม่ และการอ่านเพื่อหาข้อมลู เฉพาะ
2. นกั เรียนดูชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ย่อย และภาพ ในหนังสือเรยี น หนา้ 34 แลว้ ชว่ ยกนั คดิ ว่า Unit 3e
นี้ จะเกีย่ วกับเรอ่ื งอะไร (possibly people who have bought a new house or are moving into a new
house)
ขัน้ ที่ 2 (ขั้นนำเสนอ) Presentation
1. นักเรียนฝกึ ออกเสียงสำนวนภาษาที่ใช้พดู เกีย่ วกบั บ้านหลังใหม่ ในหนังสือเรยี น หนา้ 34 Ex. 1a (To
practice pronunciation)
2. ครอู ธบิ ายวา่ ประโยคทนี่ กั เรยี นจะได้ฟงั นี้มาจากบทสนทนาระหว่างพอ่ กับลกู ชาย แลว้
บอกว่าใครเป็นผพู้ ดู แตล่ ะประโยค (To identify register and speakers) จากนั้นนกั เรียนฟงั CD อกี คร้ังเพ่ือ
ตรวจคำตอบ
Key Which house is it, Dad? (son)
This one. Here we are. (father)
Let’s go in. (father)
The living room is very big. (son)
Let’s go upstairs. (father)
Which is my bedroom? (son)
It’s great, Dad! (son)
ขั้นที่ 3 ( ขนั้ ฝกึ ) Practice
1. นกั เรยี นอ่านประโยค1-3 ในหนังสอื เรียน หนา้ 34 Ex. 2a (To read for specific information)
แล้วเดาว่าคำทพ่ี ิมพ์สฟี า้ อ้างถึงอะไร จากน้นั อ่านบทสนทนา และหาคำที่อยู่ในบทสนทนามาแทนที่คำท่ีพมิ พ์สฟี ้าใน
ประโยค แลว้ ตรวจคำตอบ
Key 2. It is upstairs. (The bedroom)
3. This is his favorite color. (Blue)
2. นกั เรียนดภู าพบ้าน A และ B ในหนงั สือเรียน หน้า 34 แลว้ ตอบคำถามว่า บ้านหลงั ใดเป็นบ้านของ
Ryan และพ่อ ตามบทสนทนาใน Ex. 2a พร้อมให้เหตผุ ลว่าทำไมจงึ ตอบเชน่ นัน้
Key House A because it has two floors. (Key word: upstairs)
ขั้นท่ี 4 (ข้ันนำไปใช)้ Production
1. ครอู ธิบายให้นักเรียนฟังวา่ ‘th’ สามารถออกเสียงได้ 2 แบบ คือ /q/ และ /ð/ จากนั้นใหน้ กั เรยี นฟัง
CD 1 / Track 33 และฝึกออกเสียง /q/ และ /ð/ ในหนังสือเรยี น หนา้ 34 Ex. 4(To present /q/,/ð/) แล้วครู
อธบิ ายเพิ่มเติมว่า คำท่ีลงท้ายดว้ ย ‘th’ ใหอ้ อกเสียง /q/ เสมอ และคำสรรพนาม (pronouns) ที่ขึ้นตน้ ดว้ ย‘th’
ใหอ้ ่านออกเสยี ง/ð/
หมายเหตุ: คำนาม คำคุณศัพท์ และคำกรยิ า ทขี่ น้ึ ต้นดว้ ย‘th’ ใหอ้ า่ นออกเสียง /q/ เช่น
- nouns: thought, thimble etc
- adjectives: thirsty, thatched etc
- verbs: think, thrive etc
2. ครใู หน้ กั เรียนอา่ นออกเสยี งประโยคใน Ex. 4 เพื่อตรวจสอบการออกเสยี ง แลว้ ใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ ง
คำศพั ท์ทีอ่ อกเสยี ง /q/ และ /ð/
Suggested Answer Key
/q/ : think, through, bathroom
/ð/ : they, themselves, there
ขัน้ ที่ 5 (ข้ันสรุป) Wrap up
1. นักเรียนสมมติสถานการณ์วา่ พอ่ แมข่ องนักเรียนต้องการยา้ ยไปอย่บู า้ นหลงั ใหม่ และพวกเขาได้พา
นกั เรยี นไปดบู ้าน จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นจับคูแ่ ต่งบทสนทนาและแสดงบทบาทสมมตริ ะหว่างนักเรียนกับพ่อหรือแม่ (To
practice role-playing) โดยใชบ้ ทสนทนาในหนงั สือเรยี น หน้า 34 Ex. 2a เปน็ แบบ
9. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้
1. 1. หนังสือเรียน Access ม. 1
2. Power point Access ม.1 Module 3
3. Google meet
10. การวัดและประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
วธิ กี ารวัด เกณฑ์การประเมินช้ินงาน รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินการฟัง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ การพูดโตต้ อบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การฟงั แบบประเมนิ การเขยี น ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การเขียน แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ประเมินการทำแบบฝกึ หัด
2. สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ในช่วงการทำกจิ กรรม
3. ประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์
4. ประเมินผลการแสดงบทบาทสมมติเก่ยี วกบั การยา้ ยไปอยูบ่ า้ นหลงั ใหม่
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 24
วิชา ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน รหสั วิชา อ21101 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 My home, my castle เวลา 14 ช่ัวโมง
เร่ือง Taj Mahal เวลา 2 ชัว่ โมง
ครูผสู้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า สอนวนั ที่ …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
โรงเรยี น บ้านแมย่ างหา้ สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ดั
ต 1.1 ม.1/1 ปฏบิ ตั ติ ามคำสง่ั คำขอรอ้ ง คำแนะนำ และคำชีแ้ จงง่ายๆ ทีฟ่ ังและอ่าน
ต 1.1 ม.1/4 ระบุหัวข้อเร่ือง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและ
อ่านบทสนทนา นทิ าน และเรื่องสนั้
ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลีย่ นข้อมูลเกีย่ วกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวนั
ต 4.1 ม.1/1 ใชภ้ าษาสอื่ สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองท่เี กิดขึน้ ในหอ้ งเรียนและ
สถานศกึ ษา
2. สาระสำคัญ
การอ่านเพือ่ หาข้อมูลเฉพาะเกย่ี วกับ Taj Mahal ตลอดจนการค้นควา้ รวบรวมข้อมูลเกีย่ วกับสถานท่ี
ท่องเทยี่ วทเี่ ป็นส่ิงมหัศจรรยข์ องโลก
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- ปฏบิ ตั ิตามคำแนะนำในการคน้ ควา้ ข้อมลู
- ตอบคำถามจากการอ่านบทอ่าน
- พูดบรรยายเก่ยี วกับ Taj Mahal
- ค้นควา้ รวบรวมข้อมลู เกยี่ วกับสถานที่ที่เปน็ 7 ส่งิ มหศั จรรย์ของโลก จากแหลง่ เรียนรู้
- ใชภ้ าษาสอื่ สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรยี น
- ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นควา้ ความรู้/ข้อมูล จากส่ือและแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- คำแนะนำเกย่ี วกับสถานท่ตี ่างๆ ท่ีจะนำไปคน้ ควา้ ข้อมูล
- คำถามเกีย่ วกบั ใจความสำคัญ เชน่ Yes/No Questions, Wh-Questions
- ประโยคและขอ้ ความท่ีใชใ้ นการบรรยายเกีย่ วกับประสบการณ์ สิง่ แวดล้อมใกลต้ วั เชน่ สถานที่ การท่องเที่ยว
- การคน้ ควา้ การรวบรวม และการนำเสนอข้อมูลที่เกย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ ืน่ (สงั คมศกึ ษาฯ)
- การใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ ำลองท่เี กิดขน้ึ ในหอ้ งเรยี น
- การใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื ค้น/การคน้ คว้า ความร/ู้ ข้อมูลต่างๆ จากสอ่ื และแหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟัง พูด อา่ นและเขียนเกีย่ วกบั การอ่านเพือ่ หาข้อมูลเฉพาะเก่ยี วกับ Taj Mahal ตลอดจนการค้นคว้า
รวบรวมขอ้ มูลเกีย่ วกับสถานทที่ ่องเทยี่ วทเี่ ป็นสิง่ มหัศจรรยข์ องโลก
6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
ความสามารถในการสอ่ื สาร
ความสามารถในการคิด
- การคิดสงั เคราะห์
- การคดิ อย่างสรา้ งสรรค์
7. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
- มีวนิ ยั
- ใฝ่เรยี นรู้
- มงุ่ ม่ันในการทำงาน
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นท่ี 1 (ขัน้ นำ) Warm up
1. นกั เรยี นดชู อ่ื เรื่องและภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 35 แล้วคดิ วา่ ใน Unit 3fนี้ นักเรยี นจะได้เรียนรู้
เกี่ยวกับเร่ืองอะไร (Art & Design, Taj Mahal)
2. ครนู ำเขา้ ส่บู ทเรยี นดว้ ยการถามคำถาม เพ่ือกระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นคิดเกย่ี วกบั Taj Mahal ว่า Do
you know Taj Mahal? And would you like to see it?
ขั้นท่ี 2 (ขั้นนำเสนอ) Presentation
1. ครบู อกความหมายของหัวขอ้ Art & Design ในหนงั สอื เรยี น หน้า 35 โดยอธิบายให้นักเรยี นฟังว่า
ส่ิงกอ่ สรา้ งบางอย่างได้รับพิจารณาวา่ เปน็ งานศลิ ปะ เพราะการออกแบบที่ไมธ่ รรมดาของมัน จากน้นั ถามนกั เรยี นวา่
รขู้ อ้ มูลอะไรเกยี่ วกับ Taj Mahal บ้าง ครกู ระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นบอกขอ้ มลู โดยการถามคำถามและเขียนลงบนกระดาน
เชน่ Where is it located? What is it made of? What color is it? How many floors has it got? How
many rooms has it got? Is there a garden? etc
ขัน้ ที่ 3 ( ข้นั ฝกึ ) Practice
1. นักเรียนอ่านบทอา่ นเรื่อง Taj Mahal ในหนงั สอื เรยี น หน้า 35 Ex. 1 (To read for specific
information) จากนนั้ ครูอธบิ ายคำศัพท์ทนี่ กั เรยี นไม่รคู้ วามหมาย
2. ครูให้นักเรียนอ่านประโยคข้อ 1 ในหนงั สอื เรียน หน้า 35 Ex. 2 (To read for specific
information) แลว้ ถามวา่ ขอ้ มูลชนดิ ใดทหี่ ายไป ตวั อยา่ งเชน่ location, number, noun etc.แล้วเติมคำใน
ประโยคใน Ex. 2 ให้สมบรู ณ์ แล้วครูเรยี กนักเรยี นอา่ นประโยคทีละคนเพอื่ ตรวจคำตอบ
Key 1. Agra, India
2. white marble and precious stones
3. 16
4. minarets
5. four pools
3. นกั เรียนดภู าพ Taj Mahal ในหนงั สือเรยี น หนา้ 35 แล้วบรรยายลักษณะ Taj Mahal (To
consolidate and practice the vocabulary we use to describe building) และจับคู่พูดบรรยายให้เพ่อื นฟงั
Suggested Answer Key
It is a large building with two floors and big windows. There are four minarets and a
hugedome in the centre that looks like a ball. Outside there is a large garden and a pool.
ขั้นท่ี 4 (ขั้นนำไปใช)้ Production
1. นักเรยี น คน้ คว้า รวบรวมข้อมูลเก่ียวกับสถานทที่ ่เี ป็น 7 สงิ่ มหัศจรรยข์ องโลก โดยครอู าจแนะนำว่ามี
สถานทใ่ี ดบ้าง เช่น Pyramid of Giza (Egypt), The Great Wall of China (China), The Taj Mahal (India)
นกั เรยี นสามารถคน้ คว้า รวบรวมข้อมลู จากสารานุกรม หนังสือเรียน นติ ยสาร และแหลง่ เรียนรอู้ นื่ ๆ
ขัน้ ที่ 5 (ข้ันสรุป) Wrap up
1. นักเรยี นเลอื กสถานทีม่ า 1 แหง่ และตอบคำถามในหนังสอื เรยี น หนา้ 35 Ex. 4 (To gather
information about a famous tourist travel wonder and present it to the class) แลว้ นำข้อมลู ที่
รวบรวมได้มาเขียน โดยจดั ทำเปน็ โปสเตอร์ พร้อมตกแต่งด้วยภาพประกอบ
2. นกั เรียนทำแบบทดสอบความรู้หลังเรียน โดยใช้ self check ในหนงั สอื เรยี นหนา้ 36
9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสอื เรียน Access ม. 1
2. Power point Access ม.1 Module 3
3. Google meet
4. อินเทอร์เน็ต สารานุกรม หรอื นติ ยสาร
10. การวัดและประเมินผล เคร่อื งมอื เกณฑ์
วธิ กี ารวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ชนิ้ งาน ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟัง ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ การพดู โต้ตอบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟงั แบบประเมนิ การเขยี น ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียง ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การเขยี น แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นทักษะ/สมรรถนะ
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ประเมินการทำแบบฝึกหัด
2. สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ในช่วงการทำกจิ กรรม
3. ประเมินการทำแบบทดสอบหลังเรยี น
4. ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
5. ประเมนิ ผลการพดู บรรยายเกี่ยวกับ Taj Mahal
6. ประเมินผลการคน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกบั สถานทใี่ ดสถานทห่ี น่งึ ทเี่ ปน็ 7 สิ่งมหัศจรรยข์ องโลก แลว้
จัดทำเป็นโปสเตอร์
แผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชา ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน (อ21101)
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1
นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย
โรงเรยี นบา้ นแม่ยางหา้
สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๒
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 25
วชิ า ภาษาองั กฤษพื้นฐาน รหัสวิชา อ21101 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 Strong ties
เร่ือง About family เวลา 12 ชว่ั โมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรยี น บา้ นแม่ยางหา้ เวลา 2 ชวั่ โมง
สอนวันท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั
ต 1.3 ม.1/1 พูดและเขยี นบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง กจิ วตั รประจำวัน ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม
ใกล้ตวั
ต 2.1 ม.1/3 เข้าร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
ต 2.2 ม.1/1 บอกความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยคชนดิ ต่างๆ
การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการลำดบั คำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย
ต 3.1 ม.1/1 ค้นควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เท็จจริงท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั กลุม่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื
จากแหลง่ เรยี นรแู้ ละนำเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน
ต 4.1 ม.1/1 ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ ำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรยี นและ
สถานศกึ ษา
2. สาระสำคญั
การพดู สนทนาใหข้ ้อมูลเก่ียวกบั ตนเอง การเขียน diary บรรยายเก่ยี วกับสมาชกิ ในครอบครัว
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- อา่ นออกเสียงคำศพั ทเ์ ก่ียวกับสมาชกิ ในครอบครัว บอกความหมาย และอา่ นออกเสยี งบทอ่าน
- ตอบคำถามจากการอา่ นบทอ่าน
- สนทนา แลกเปล่ียนข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเอง
- เขียนบรรยายเกยี่ วกับตนเอง โดยใช้ can, can’t
- เขยี น diary เกีย่ วกบั ตนเอง และสมาชกิ ในครอบครวั
- ใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่เี กิดขน้ึ ในห้องเรยี น
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
- การออกเสยี งเน้นหนัก-เบา ในคำ การออกเสียงตามระดบั เสยี งสงู -ตำ่ ในประโยค
- คำถามเก่ียวกบั ใจความสำคัญ เช่น Yes/No Questions, Wh-Questions
- ภาษาทีใ่ ช้ในการส่ือสารระหวา่ งบคุ คล เชน่ การแลกเปลย่ี นขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง และบุคคลใกลต้ ัว
- ประโยคและขอ้ ความทใ่ี ชบ้ รรยายเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ สง่ิ แวดล้อมใกลต้ วั
- การใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณจ์ ำลองท่เี กิดขึ้นในห้องเรยี น
- Family members: e.g. grandfather, grandmother, grandpa and grandma, father/dad,
mother/mum, brother, sister
- Character: e.g. cool, kind, sweet, clever, friendly, noisy, funny, naughty, caring, playful,
proud, quiet, wise, busy, gentle, strong, stubborn, slow
5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟัง พูด อา่ นและเขียนเกี่ยวกบั การพูดสนทนาให้ขอ้ มูลเก่ียวกับตนเอง การเขียน diary บรรยายเก่ยี วกับ
สมาชิกในครอบครวั
6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
ความสามารถในการสื่อสาร
ความสามารถในการคิด
- การคดิ อย่างสรา้ งสรรค์
7. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
- มวี นิ ัย
- ใฝ่เรยี นรู้
- ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
8. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขั้นที่ 1 (ขน้ั นำ) Warm up
1. นำเข้าสู่บทเรยี นด้วยการชีแ้ จงให้นักเรียนทราบว่า หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 : Strong ties นักเรียนจะ
ไดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั
- your family
- your daily routine
- describing people
- can (ability)
- ’s genitive, whose
- Present simple
- preposition of time
- linkers (and,but)
ขั้นท่ี 2 (ข้นั นำเสนอ) Presentation
1. ครสู อบถามความรู้พ้ืนฐาน และกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นโดยอาจใช้คำถามต่อไปน้ี
- Could you list the adjectives describing people in your family? Which are the interesting
adjectives for describing them? Why do you think so?
- Do you know any famous footballers? Who are they? What are their teams? Why do you
like them, please give the reasons?
2. นักเรียนดูชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ (Strong ties) แลว้ ชว่ ยกันแสดงความคิดเห็นวา่ หนว่ ยการเรยี นรนู้ ้ี
นา่ จะเปน็ การเรยี นรู้เกี่ยวกบั เร่ืองใด พร้อมให้เหตุผลวา่ ทำไมจงึ คิดเชน่ นั้น จากน้นั สรุปรว่ มกนั วา่ “The title refers
to the strong relationships I think we will learn about family members.”
3. นกั เรียนดภู าพ 1-3 ในหนังสือเรยี น หนา้ 37 ครูกระตนุ้ ให้นักเรียนอภปิ รายแสดงความคิดเหน็ เพ่อื ดงึ
ความสนใจของนกั เรียนเข้าสหู่ นว่ ยการเรยี นรู้โดยการถามคำถาม
Suggested Answer Key
T : What page is pic. 1 from?
S1 : It’s from p. 39.
T : What can you see in pic. 1?
S2 : A family treewith pictures of each family member.
T : How many members are there in this family?
S3 : There are 7 people.
T : What about your family?
S4 : There are 5 people in my family.
T : What about pic. 2? (p. 43) What can you see in the picture?
How is it related to the title of the unit? Do you watch this show?
Do you know about any other famous TV families?
T : What page is pic. 3? (p. 41) How is it related to the title of the unit?
What else can you see on p. 41? What time do you get up in the morning?
ข้ันท่ี 3 ( ขนั้ ฝึก ) Practice
1. นกั เรียนชว่ ยกันหาภาพว่า a diary, a poem และ a famous footballer อยใู่ นหน้าใดของหนังสอื
เรยี น จากนัน้ เฉลยคำตอบพร้อมกนั แล้วครถู ามคำถามเกีย่ วกับแต่ละภาพ เพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น
Key - A diary (p. 38) What is a diary? Whose diary is this?
How are the pictures related to the title of the unit? etc
- A poem (p. 45) What is a poem? How can you tell it is a poem?
Do you know any poems or rhymes? etc
- A famous footballer (p. 40) Who is he? Which team does he play for?
Do you know any other footballers in the same team?
What is your favourite English football team?
2. นกั เรยี นดูภาพที่ 1 ในหนังสอื เรียน หนา้ 37 หัวขอ้ Vocabulary แล้วฝึกออกเสยี งคำศพั ท์ จากนัน้
ชว่ ยกนั บอกความหมายเป็นภาษาไทย
3. นักเรียนดชู ่อื หนว่ ยการเรยี นร้ยู ่อย Unit 4a และบทอ่าน diary ในหนังสอื เรียน หน้า 38 แลว้ บอกครู
วา่ นกั เรียนคดิ ว่าใน Unit 4a น้ี จะไดเ้ รยี นเกย่ี วกบั เรื่องอะไร (family)
4. นกั เรียนดู diary และภาพในหนังสอื เรยี น หนา้ 38 แล้วครูถามคำถาม
- Who’s diary is it? (Kate’s)
- How old is she? (12)
- Who are the people in the pictures? (A: her mum, B: her dad etc)
จากน้ันใหน้ ักเรียนอ่าน diary ในใจ แล้วตอบคำถามใน Ex. 1 หนา้ 39 (To read a diary for specific
information) และตรวจคำตอบ แลว้ ครใู หน้ กั เรียนอา่ นออกเสยี งคนละย่อหน้า ครคู อยชว่ ยเหลือนักเรยี นในการ
ออกเสยี งสงู -ต่ำ และอธิบายคำศพั ทท์ ีไ่ มร่ ูค้ วามหมาย
Key 1. Kate has got a father, mother, grandfather, grandmother, brother and a baby sister.
2. Father’s name: David, Mother’s name: Jane, Grandfather’s name: Ben,
Grandmother’s name: Helen, Brother’s name: Tom, Sister’s name: Emma
3. Father: 42, Mother: 35, Grandfather: 72, Grandmother: 70, Brother: 8, Sister: baby
4. Her father is very cool.
5. Her mother can play the guitar.
5. นักเรียนศึกษาหวั ข้อ Learning to learn เก่ยี วกบั การใช้ dictionary ในหนังสอื เรยี น หน้า 39 ครใู ห้
นกั เรยี นดตู วั อย่างคำว่า cool ในกรอบ แล้วอธิบายว่าใน dictionary จะบอกการออกเสยี ง /ku:l/, ประเภทของคำ
(adj), ความหมายfashionable และตวั อยา่ งประโยคแสดงการใช้คำในความหมายน้ัน
6. นักเรียนหาความหมายของคำคุณศพั ท์ทกี่ ำหนดให้ ในหนงั สือเรยี น หนา้ 39 Ex. 2 (To present
adjectives describing character and to practise using a dictionary) จาก dictionary แล้วเขยี น
ความหมายลงในสมุด ถา้ นกั เรียนใช้ dictionary อังกฤษ-อังกฤษ ให้บอกความหมายเปน็ ภาษาไทยดว้ ย เพือ่
ตรวจสอบความเขา้ ใจในแต่ละคำ แลว้ ครูส่มุ เรียกนกั เรียนบอกความหมายทลี ะคำ จากนน้ั นกั เรยี นอ่านออกเสียง
คำคุณศัพท์พรอ้ มกนั แล้วตอบคำถามว่าสมาชกิ ในครอบครัวของ Kate มบี ุคลิกอย่างไร โดยใชค้ ำคุณศัพทท์ ี่กำหนด
ครใู หน้ ักเรยี นออกมาเขียนคำตอบบนกระดาน แล้วครูตรวจคำตอบ
Key 2. kind = nice, caring 6. noisy = loud, not quiet
3. sweet = lovable, cute 7. funny = amusing, comical
4. clever = smart, intelligent 8. naughty = bad, badly, behaved
5. friendly = sociable, pleasant 9. caring = kind, thoughtful
Her mother is clever.
Her grandma is kind and friendly.
Her grandpa is funny.
Her brother is naughty but caring.
Her sister is sweet but noisy.
7. ครูเรียกนักเรยี น 1 คู่ อ่านตัวอยา่ งในหนงั สอื เรียน หน้า 39 Ex. 3 (To practice using new
vocabulary) แลว้ ให้นักเรยี นจับคฝู่ กึ ถามและตอบเกย่ี วกบั สมาชกิ ในครอบครัว ครเู ดินสงั เกตพฤติกรรมการทำ
กจิ กรรมของนักเรยี นรอบช้นั เรียน จากน้ันสุ่มเรยี กนกั เรียนออกมาพดู ถามตอบหนา้ ช้ันเรียน
Suggested Answer Key
A: What’s your brother like?
B: He’s funny but noisy.
A: What’s your mum like?
B: She’s kind and friendly. Etc
ขั้นท่ี 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
1. นกั เรยี นปิดหนงั สือ ครูทำทา่ เขยี น พรอ้ มพูดประโยค I can write. และเขียนประโยคบนกระดานแล้ว
ชี้ทีน่ กั เรียน 1 คน และพูดวา่ You can write. พร้อมเขยี นประโยคบนกระดาน แล้วอ่านออกเสยี งทั้ง 2 ประโยค
และสรุปวา่ can ใช้ได้ทง้ั ประธานเอกพจน์และพหูพจน์
ครูสอนประโยคปฏิเสธ โดยพูดว่าI can’t drive. และเขียนประโยคบนกระดาน แล้วช้ีท่ีนักเรียน 1 คน และพดู ว่า
You can’t drive. แลว้ เขยี นประโยคบนกระดาน ครูอ่านออกเสยี งท้ัง 2 ประโยค แลว้ สรปุ วา่ can’t ใชไ้ ดท้ ้ัง
ประธานเอกพจนแ์ ละพหพู จน์ และบอกว่ารปู เต็มของ can’t คือ cannot
จากน้นั ครสู อนประโยคคำถามและการตอบคำถามแบบสน้ั โดยเขียนคำถามและคำตอบบนกระดาน ดังนี้ Can I
drive? No, you can’t. Can I talk? Yes, you can. แล้วอา่ นประโยคใหน้ ักเรยี นฟงั และสรุปรปู แบบการตอบ
คำถามแบบสัน้ ว่า No, + ประธานสรรพนาม + can’t. หรอื Yes, + ประธานสรรพนาม + can.
2. นกั เรียนเปิดหนงั สือเรียน หน้า 39 แล้วอ่านตารางใน Ex. 4 (To present the verb can when
used for ability) จากน้นั หาประโยคทีใ่ ช้ can ท้ังประโยคบอกเลา่ และปฏิเสธ ใน diary หน้า 38
Key She can play the guitar. She can make biscuits.
He can speak French. She can’t walk.
3. นักเรียนอ่าน diary ในหนงั สือเรยี น หน้า 38 แลว้ เติมประโยคใน Ex. 5 หน้า39
(Practice the use of can) ใหส้ มบรู ณด์ ว้ ย can หรอื can’t เสรจ็ แล้วตรวจคำตอบ จากน้นั ใหน้ กั เรยี นเขียน
ประโยคเกี่ยวกบั ตนเอง โดยใช้ can และ can’t
Key 1. can 2. can’t 3. can 4. can’t 5. can
Suggested answer: I can sing but I can’t dance.
4. นกั เรียนปิดหนังสอื ครูชีไ้ ปทนี่ กั เรยี นหญงิ คนหนงึ่ และพูด This is her pencil. – It’s the girl’s
pencil. แลว้ ครชู ี้ท่ีนักเรยี นชายคนหนง่ึ และพูด This is his schoolbag. – It’s the boy’s schoolbag. ครูเขียน
ประโยคเหลา่ นบี้ นกระดาน และขดี เสน้ ใต้ ’s ครชู ้ีที่นกั เรียนหญิงหลายคน และพูดThese are their books. –
They are the girls’ books. พร้อมเขยี นบนกระดาน ครเู ขียนประโยคThese are the men’s pens. เพ่มิ บน
กระดาน และใหน้ ักเรยี นสงั เกตตำแหนง่ ของ apostrophe(’) ครเู ขียนประโยคคำถาม Whose pen is this? บน
กระดาน แล้วอธิบายวา่ การใช้คำถามท่ีขน้ึ ต้นดว้ ย Whose จะใชเ้ ม่ือถามวา่ ใครเปน็ เจา้ ของบางสิง่
5. นกั เรยี นเปดิ หนงั สอื เรยี น หนา้ 39 แล้วอา่ นตารางใน Ex. 6(To present and practise Possessive
/whose) นกั เรยี นอาจศึกษารายละเอียดเพ่ิมเติมจาก Grammar Reference Section หนา้ 112 ครูใหน้ กั เรยี นดู
Family tree แลว้ จบั คอู่ ่านตัวอย่าง จากน้ันถามตอบเกี่ยวกับ George, Kevin, Sarah, Sally, Joe และ Kate โดย
ใชค้ ำถามคลา้ ยกับตวั อยา่ ง ครูเดนิ สงั เกตการทำกิจกรรมของนักเรียน แล้วสุ่มเรียกนักเรียนหลายๆ คู่ ออกมาถาม
ตอบเกย่ี วกบั สมาชกิ ในครอบครวั หน้าชนั้ เรียน
Suggested Answer Key
Who’s George? He is Kevin’s father.
Who’s Kevin? He is Sally, Joe and Kate’s father.
Who is Sarah? She is Sally, Joe and Kate’s mother.
Who is Sally? She is Joe and Kate’s sister.
Who is Joe? He is Sally and Kate’s brother.
Who is Kate? She is Sally and Joe’s sister.
Whose brother is Joe? He is Sally and Kate’s brother. Etc
ข้นั ท่ี 5 (ขนั้ สรุป) Wrap up
1. ครูใหน้ ักเรียนเขียน diary(To write a diary about your family using vocabulary and grammar
presented in this unit) โดยก่อนเขียนครถู ามนักเรียนว่า diary ควรมลี ักษณะอย่างไร (colorful, interesting,
with pictures etc) รปู แบบภาษาควรเป็นแบบใด (friendly) นกั เรียนควรเขยี นเก่ยี วกับอะไรบา้ ง (family
members, their names, ages what they can do / can’t do) ให้นกั เรยี นใช้ diary ในหนงั สือเรียน หนา้
38 เป็นแบบ ครูชี้แนะวา่ นกั เรียนควรวางแผนการเขยี น diary โดยเขยี นรายชื่อสมาชิกในครอบครวั อายุ บคุ ลกิ
และสง่ิ ทพี่ วกเขาทำได้ / ทำไมไ่ ด้ และครูเดินสังเกตการทำงานของนักเรียน
Suggested Answer Key
My mum’s name is Isabel. She’s 37 and an English teacher.
She can play the piano. She’s very kind.
This is my dad, Diego. He’s 45 and he’s a doctor.
He can speak Italian. He’s very cool.
Carlos is my baby brother. He’s sweet, but very noisy!
He can’t talk or walk yet.
Evita is my grandma. She’s 70 years old. She’s friendly.
She can cook really well.
Juan is my grandpa. He’s 74. He’s really funny.
He can make people laugh.
สำหรบั นักเรยี นท่ีเรยี นอ่อน ครใู ห้นักเรยี นเตรียมภาพครอบครัวของตนเองมานำเสนอในชั้น
2. นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั เพ่มิ เตมิ ใน Teacher’s Resource Pack & Tests Module 4 หนา้ 23
3. นักเรยี นทำแบบฝึกหัด Unit 4a ในWorkbook หนา้ 26-27 Exs. 1-4
9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรียน Access ม. 1
2. Power point Access ม.1 Module 4
3. Google meet
10. การวัดและประเมินผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์
วิธกี ารวัด เกณฑ์การประเมินชน้ิ งาน รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟงั ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ การพดู โต้ตอบ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการฟัง แบบประเมินการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพดู แบบประเมนิ การอ่านออกเสยี ง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ประเมนิ การทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน
2. ประเมินการทำแบบฝึกหัด
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ในชว่ งการทำกจิ กรรม
4. ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5. ประเมินผลการเขยี น diary บรรยายเก่ยี วกบั ตนเอง และสมาชกิ ในครอบครวั
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 26
วิชา ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน รหสั วชิ า อ21101 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 Strong ties เวลา 12 ช่ัวโมง
เร่อื ง Present Simple (Affirmative) เวลา 2 ชว่ั โมง
ครูผสู้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า สอนวันท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
โรงเรยี น บา้ นแมย่ างหา้ สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด
ต 1.3 ม.1/1 พูดและเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กจิ วัตรประจำวัน ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม
ใกล้ตวั
ต 2.1 ม.1/3 เข้ารว่ ม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
ต 2.2 ม.1/1 บอกความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา่ งๆ
การใช้เครอ่ื งหมายวรรคตอน และการลำดบั คำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย
ต 4.1 ม.1/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองที่เกดิ ข้ึนในห้องเรียนและ
สถานศึกษา
2. สาระสำคญั
การพดู และเขยี นเพือ่ ให้ข้อมลู เก่ยี วกับตนเอง บุคคลอ่นื กิจวัตรประจำวัน ส่งิ แวดล้อมใกล้ตวั และ
สถานการณ์ต่างๆ ในชวี ติ ประจำวนั
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- อา่ นออกเสยี งบทอา่ น
- จบั ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการอ่านบทอา่ น
- สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมูลเก่ยี วกับตนเอง และสถานการณ์ต่างๆ ในชวี ิตประจำวัน
- เขียนบรรยายเกย่ี วกับตนเอง กจิ วัตรประจำวัน และส่งิ แวดล้อมใกล้ตวั โดยใช้คำบุพบทบอกเวลา
- เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
- ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกิดขึ้นในห้องเรยี น
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
- การออกเสียงตามระดับเสียงสูง-ต่ำ ในประโยค และการใชพ้ จนานุกรม
- การจบั ใจความสำคัญ เชน่ ใจความสำคญั รายละเอียดสนบั สนนุ คำถามเกยี่ วกับใจความสำคัญ เชน่
Yes/No Questions, Wh-Questions
- ภาษาทใ่ี ชใ้ นการสอ่ื สารระหว่างบุคคล เช่น การแลกเปล่ยี นขอ้ มูลเกย่ี วกับตนเอง บุคคลอ่ืน และสถานการณ์
ตา่ งๆ ในชวี ติ ประจำวนั
- ประโยคและข้อความท่ใี ช้บรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง กิจวตั รประจำวนั ส่งิ แวดล้อมใกลต้ วั เช่น การรับประทาน
อาหาร การเรยี น
- กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเลน่ เกม
- การใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองทเี่ กิดข้นึ ในห้องเรียน
- Present simple (affirmative)
- Prepositions of time
5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟงั พูด อ่านและเขียนเกยี่ วกบั การพดู และเขยี นเพ่อื ใหข้ ้อมูลเกย่ี วกับตนเอง บุคคลอน่ื กจิ วตั รประจำวัน
ส่งิ แวดลอ้ มใกล้ตวั และสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวนั
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ความสามารถในการส่ือสาร
7. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
- มีวนิ ยั
- ใฝเ่ รยี นรู้
- มงุ่ ม่ันในการทำงาน
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นท่ี 1 (ขน้ั นำ) Warm up
1. ครูบอกจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ของ Unit 4b วา่ นกั เรยี นจะไดเ้ รียนรเู้ กย่ี วกบั การอ่านและการฟงั
เพ่อื หารายละเอียด (Reading and listening for detailed information)
2. ครใู ห้นกั เรยี นดูภาพบุคคล ในหนงั สือเรียน หนา้ 40 แลว้ ตอบคำถามใน Ex. 1 (To infer
information from a picture) จากนั้นครถู ามนักเรยี นวา่ รจู้ กั นกั ฟตุ บอลทมี่ ชี ่อื เสยี งคนอนื่ อีกหรอื ไม่ ทีม
ฟุตบอลที่พวกเขาชื่นชอบคอื ทมี อะไร
Key The man in the picture is Steven Gerrard. He is a famous footballer.
ขน้ั ท่ี 2 (ข้ันนำเสนอ) Presentation
1. นกั เรยี นอ่านคำถามในหนงั สอื เรียน หน้า 40 Ex. 2 (To read and listen for
detailed information) แล้วครูอธบิ ายความหมายของคำศพั ท์ที่นกั เรยี นไมร่ จู้ ากน้ันดึงความสนใจของนักเรียนมา
ที่กรอบ Fact file และอธิบายวา่ เปน็ ข้อความสนั้ ๆ ท่ใี ห้ข้อมูลพ้ืนฐานเกยี่ วกบั บางคนหรอื บางสิ่ง แลว้ ให้เวลา
นกั เรยี น 2 นาที อ่านบทอ่านในใจ และตอบคำถาม
Key 1. Stevie G or Stevie Wonder 4. With a big breakfast
2. May 30th 5. His dad
3. Roy Keane & Patrick Vieira 6. He goes to the fans to thank them
2. นักเรียนปดิ หนงั สอื ครสู อนรูปประโยค Present simple โดยพดู ว่า I live in Barcelona. และเขียน
ประโยคบนกระดาน แล้วขีดเสน้ ใต้คำวา่ live และอธิบายว่าคำนเี้ ป็นคำกรยิ าในประโยค Present simple จากนน้ั
ครูช้ไี ปทน่ี กั เรียนคนหนงึ่ แล้วพูดว่า You live in Barcelona. และเขียนบนประโยคบนกระดาน พรอ้ มขดี เส้นใต้คำ
ว่า live แลว้ ครชู ้ีทนี่ ักเรียนชายคนหนง่ึ พรอ้ มพดู วา่ He lives in Barcelona. แล้วเขยี นบนกระดาน และขดี เสน้ ใต้
คำวา่ lives แลว้ อธบิ ายว่าถ้าประธานเป็นเอกพจน์บรุ ษุ ท่ี 3 คำกรยิ าให้เตมิ -s ครนู ำเสนอประธานสรรพนามคำ
อืน่ ๆ ในแบบเดียวกนั
ขัน้ ท่ี 3 ( ขนั้ ฝกึ ) Practice
1. ครูอธบิ ายกฎการเตมิ -s หลงั คำกริยาเมื่อประธานเปน็ เอกพจน์บุรษุ ท่ี 3 โดยเขียนคำกรยิ า miss,
finish, watch, mix, go, cry บนกระดาน ครูเนน้ ให้นักเรยี นสังเกตความแตกต่างระหว่างการเติม -s ในคำว่า
play และ cry แล้วใหน้ ักเรียนเล่นเกมเพื่อเปน็ การฝึก โดยแบ่งนกั เรยี นเปน็ กลมุ่ แลว้ ครพู ดู ประธาน เอกพจน์บุรุษท่ี
1 + คำกริยา ใหแ้ ต่ละกลมุ่ เปลี่ยนเปน็ ประธานเอกพจนบ์ รุ ุษท่ี3+คำกรยิ า ประโยคที่ถูกต้องจะได้ 1 คะแนน กล่มุ ที่
ได้คะแนนมากท่สี ุดเป็นผู้ชนะ
T : I brush.
Team A S1 : He brushes. (B - R - U - S - H - E - S)
T : I fix.
Team B S1 : He fixes. (F - I - X - E - S) etc
2. นกั เรยี นเปิดหนังสือเรียน หน้า 41 แล้วอ่านตารางใน Ex. 3 (To present the present simple and
understand its use for routines/habits, repeated actions and permanent states) ครใู ห้นักเรยี นสังเกต
การใช้ Tense (for repeated actions, permanent states and habits) จากนนั้ ให้นกั เรียนหาตัวอยา่ งประโยค
ในบทอา่ น หน้า 40 และแบ่งประโยคตามการใช้ Tense
Suggested Answer Key
Habits: Steven always starts his day with a big breakfast. He always kisses
his daughters. He always checks his football boots.
Repeated actions: He tries his best and never gives up. His dad goes to
every match. Steven goes to the fans to thank them.
Permanent states: He loves egg on toast. Steven works hard. His fans
love him.
“Our fans are the best.”
3. นกั เรียนทำ Ex. 4 (To consolidate the spelling rules of the third person singular in the
present simple) ในหนงั สอื เรียนหน้า 41 โดยเปลยี่ นประธานเอกพจน์บุรษุ ที่ 1 ให้เป็นประธานเอกพจนบ์ ุรษุ ที่3
กอ่ นทำนักเรียนช่วยกันบอกคำกรยิ าทไ่ี มท่ ราบความหมาย โดยค้นจาก dictionary แลว้ ครใู หเ้ วลานักเรียน 2-3
นาที ทำ Ex. 4 เสร็จแล้วตรวจคำตอบบนกระดาน สำหรับนกั เรยี นที่เรียนเกง่ ครูใหน้ กั เรียนจบั คกู่ บั เพ่ือน เขยี น
ประโยค 5 ประโยค เก่ยี วกบั คู่ของตนโดยใช้คำกรยิ าใน Ex. 4 และให้นักเรยี นเขยี นประโยคด้วยคำกรยิ ากับประธาน
เอกพจนบ์ รุ ุษที่ 3 เชน่ He kisses his mother good night. She washes her hair. He watches TV. etc
Key 1. loves 3. kisses 5. says 7. goes
2. leaves 4. puts 6. works 8. washes
4. นกั เรยี นศกึ ษาการใช้คำบพุ บทบอกเวลา (Prepositions of time) ในหนงั สอื เรยี นหน้า 41 Ex. 5 (To
learn the use of prepositions of time) ครูอธบิ ายคำศัพท์ท่นี กั เรยี นไมท่ ราบความหมาย จากนน้ั ให้นกั เรียน
เตมิ คำบุพบทลงในขอ้ 1-6 ให้ถูกตอ้ ง และครตู รวจคำตอบ แล้วให้นักเรยี นแตง่ ประโยคโดยใช้วลีในขอ้ 1-6 แล้วครู
สมุ่ เรียกนกั เรียนอ่านประโยคทีละคน
Key 1. at 2. in 3. in 4. at 5. in 6. on
Suggested Answer Key
I have lunch at 3 o’clock.
I get up at 7 o’clock in the morning.
We go skiing in the winter.
I have lunch at midday.
I watch TV in the evening.
I have a piano lesson on Monday.
ขน้ั ท่ี 4 (ขั้นนำไปใช)้ Production
1. ครูใหน้ กั เรียนเลน่ เกม โดยแบง่ นกั เรียนเปน็ 2 กลุ่ม แล้วครพู ูดวลี ใหน้ ักเรยี นพูดคำบุพบท at, in หรอื
on ทใี่ ชก้ ับวลีท่ีครพู ดู ให้ถูกตอ้ ง ถ้าพูดคำบพุ บทไดถ้ กู ตอ้ งจะได้ 1 คะแนน กลมุ่ ทไี่ ด้คะแนนมากทีส่ ุดเป็นผูช้ นะ
T : 6 o’clock
Team A S1 : at 6 o’clock
T : the morning
Team B S1 : in the morning etc
2. นกั เรียนดภู าพในหนังสอื เรียน หนา้ 41 Ex. 6 (To practise using the present simple to talk
about daily routine) แล้วบอกวา่ แตล่ ะภาพคอื กจิ กรรมอะไร จากนั้นครูเขยี นMorning, Afternoon, Evening
บนกระดาน และให้นกั เรยี นตอบคำถามเกยี่ วกับกิจวัตรประจำวนั ของ Laura โดยใช้ Present simple
แล้วครเู ฉลยคำตอบบนกระดาน โดยเขียนคำตอบไวใ้ ตห้ ัวข้อ Morning, Afternoon, Evening
Key T: What does Laura do in the morning / afternoon / evening?
Ss: Laura gets up / goes jogging / has breakfast / goes to school
in the morning.
Laura has lunch / does her homework / has a cup of tea /
works on her computer in the afternoon.
Laura does the shopping / has dinner / watches a DVD /
goes to bed in the evening.
ข้ันที่ 5 (ขน้ั สรปุ ) Wrap up
1. นกั เรยี นเขียนบทความส้ันๆ เกี่ยวกับกจิ วตั รประจำวันของตนเอง เพอื่ ลงในวารสารโรงเรียน (To
consolidate the use of the present simple and prepositions of time by writing an article about
your daily routine) ภายใต้หัวข้อใน Ex. 6(Morning, Afternoon, Evening) และใหน้ กั เรยี นใชบ้ ทอ่านในหนังสือ
เรียน หนา้ 40 เป็นแบบ ครใู ห้นกั เรยี นทำงานในชน้ั หรอื อาจมอบหมายใหเ้ ปน็ การบ้าน
Suggested Answer Key
- In the morning
I get up at 7:30 in the morning. Then, I have breakfast.
At 8:30 I go to school.
- In the afternoon
In the afternoon I do my homework and work on my computer.
- In the evening
At eight o’clock I have dinner and then I watch a DVD.
I go to bed at 10:00.
9. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียน Access ม. 1
2. Power point Access ม.1 Module 4
3. Google meet
10. การวัดและประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
วิธีการวดั เกณฑก์ ารประเมินชิ้นงาน รอ้ ยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมินการฟงั ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบประเมินการพดู โต้ตอบ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมินการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพูด แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การเขียน แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการออกเสยี ง แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นทักษะ/สมรรถนะ
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ประเมนิ การทำแบบฝึกหัด
2. สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นร้ใู นชว่ งการทำกจิ กรรม
3. ประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
4. ประเมนิ ผลการเขยี นบทความสน้ั ๆ เกีย่ วกับกิจวตั รประจำวันของตนเอง
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 27
วิชา ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน รหัสวชิ า อ21101 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 Strong ties เวลา 12 ชั่วโมง
เรอ่ื ง Present Simple (Negative and Interrogative) เวลา 2 ชวั่ โมง
ครผู สู้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า สอนวนั ที่ …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
โรงเรียน บ้านแม่ยางห้า สำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้วี ดั
ต 1.3 ม.1/1 พดู และเขยี นบรรยายเกย่ี วกบั ตนเอง กิจวัตรประจำวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม
ใกลต้ วั
ต 2.1 ม.1/3 เขา้ ร่วม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
ต 2.2 ม.1/1 บอกความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดตา่ งๆ
การใชเ้ คร่อื งหมายวรรคตอน และการลำดบั คำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาตา่ งประเทศ
และภาษาไทย
ต 4.1 ม.1/1 ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองทเี่ กิดขนึ้ ในหอ้ งเรยี นและ
สถานศกึ ษา
2. สาระสำคัญ
การพดู ใหข้ ้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กจิ กรรม สถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวติ ประจำวัน และการเขียนบรรยาย
เกย่ี วกบั นกั แสดงที่ชืน่ ชอบ
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- ตอบคำถามจากการฟงั และอ่านบทอา่ น
- สนทนา แลกเปลยี่ นข้อมลู เก่ยี วกบั ตนเอง กจิ กรรม และสถานการณต์ ่างๆ ในชวี ิตประจำวนั
- เขียนบรรยายเกย่ี วกบั นกั แสดงท่ีชน่ื ชอบ
- ใช้ภาษา น้ำเสยี ง และกริ ิยาท่าทางเหมาะสม ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
- ใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองทเี่ กดิ ข้ึนในห้องเรยี น
- ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ /ค้นควา้ ข้อมูลต่างๆ จากสอื่ และแหลง่ การเรียนรตู้ า่ งๆ
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
- การจบั ใจความสำคัญ คำถามเกี่ยวกับใจความสำคัญ เชน่ Yes/No Questions, Wh-Questions
- ภาษาทใี่ ช้ในการสอื่ สารระหวา่ งบคุ คล เช่น การแลกเปลยี่ นข้อมูลเกย่ี วกับตนเอง กิจกรรม และ
สถานการณต์ ่างๆ ในชีวิตประจำวนั
- ประโยคและขอ้ ความที่ใช้ในการบรรยายเกีย่ วกับตนเอง ประสบการณ์ สงิ่ แวดลอ้ มใกล้ตวั
- การใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกริ ิยาท่าทางในการสนทนา ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น
การแสดงสหี น้าท่าทางประกอบ การแสดงอาการตอบรบั หรือปฏิเสธ
- การใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองทเ่ี กิดขึน้ ในห้องเรยี น
- การใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื ค้น/การค้นคว้า ความร/ู้ ข้อมูลต่างๆ จากสอ่ื และแหล่งการเรียนรตู้ า่ งๆ
- Present simple (negative & interrogative)
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟงั พดู อ่านและเขียนเกย่ี วกับการพูดให้ขอ้ มลู เก่ยี วกบั ตนเอง กจิ กรรม สถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวิตประจำวัน
และการเขียนบรรยายเกีย่ วกบั นกั แสดงท่ีชน่ื ชอบ
6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
- ความสามารถในการสอ่ื สาร
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
- มวี ินัย
- ใฝ่เรยี นรู้
- มงุ่ ม่ันในการทำงาน
8. กิจกรรมการเรียนรู้
ขัน้ ท่ี 1 (ขนั้ นำ) Warm up
1. ครบู อกจดุ ประสงคก์ ารเรียนรใู้ น Unit 4c ว่านักเรียนจะได้เรยี นรู้เกย่ี วกับการอา่ นและการฟังเพอื่
หาขอ้ มูลเฉพาะ และการเขยี นบทความเก่ยี วกบั บุคคลทีม่ ีชอ่ื เสยี ง
2. ครนู ำเขา้ ส่บู ทเรยี นโดยใหน้ ักเรยี นอา่ นชื่อหนว่ ยการเรียนรยู้ ่อย Unit 4c แล้วบอกความหมาย
(People who everyone knows about)
ข้ันท่ี 2 (ขัน้ นำเสนอ) Presentation
1. นกั เรยี นดภู าพและชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ยอ่ ย Unit 4c ในหนงั สือเรียน หน้า 42 และบอกข้อมูล
เก่ียวกบั Shakira ทนี่ ักเรยี นทราบ ครใู หน้ กั เรยี นบอกช่ือบุคคลท่มี ีช่ือเสียงทน่ี ักเรียนรจู้ กั แล้วถามนักเรียนวา่ ข้อมลู
ชนดิ ใดทีน่ ักเรียนคดิ ว่าจะพบในบทอา่ นน้ี (e.g. her full name, where and when she was born,
what her family is like, what she likes / dislikes etc) และบอกนกั เรยี นว่าขอ้ มลู แบบนเี้ รียกว่าประวตั โิ ดยย่อ
(profile)
2. นักเรียนอ่านคำถามในหนงั สอื เรยี น หน้า 42 Ex. 1 (To read or listen to a profile for
specific information)แลว้ ครูให้เวลา 2 นาที อา่ นบทอา่ นในใจ แล้วตอบคำถาม จากน้นั ครูตรวจคำตอบและ
อธบิ ายคำศัพทท์ ่นี กั เรยี นไม่รูค้ วามหมาย แล้วสุม่ เรยี กนักเรียนอ่านออกเสยี งบทอ่าน
Key 1. Shakira Isabel Mebarak Ripoll.
2. Barranquilla, Colombia.
3. 2nd February.
4. Four brothers and four sisters.
5. She can speak five languages and she dances and sings well.
6. Painting and listening to jazz music.
ข้นั ท่ี 3 ( ข้นั ฝกึ ) Practice
1. นักเรยี นปดิ หนงั สอื แลว้ ครเู ขียนประโยค I don’t like jazz.และ She doesn’t like rock. บน
กระดาน และขีดเสน้ ใต้ I don’t ในประโยคแรก และ She doesn’t ในประโยคที่ 2 และอธบิ ายว่าเราใช้ I / you
/ we / they กบั do not / don’t และใช้ he / she / it กบั does not / doesn’t ในประโยคปฏิเสธรปู
Present simple ครชู ีใ้ หน้ กั เรยี นเห็นวา่ คำกรยิ าหลกั จะมีรูปเหมอื นกนั เม่อื ใชก้ บั ประธานทุกตัว จากนน้ั ครเู ขยี น
ประโยค Do I like jazz? - No, I don’t. และ Does she like rock? - No, she doesn’t. แล้วอธิบายว่า เราใช้
Do กับ I / you / we / they และใช้ Does กบั he / she / it ในประโยคคำถามรปู Present simple ครใู ห้
นกั เรยี นสงั เกตตำแหน่งของ do / does จะวางไวห้ น้าคำสรรพนามแทนบคุ คลครูบอกนักเรยี นวา่ เราตอบคำถาม
แบบสัน้ ดว้ ยรูปแบบ Yes / No, + I / you / we / they + do / don’t. และ Yes / No, + he / she / it +
does / doesn’t. แลว้ ครถู ามคำถามนกั เรียนเพื่อตรวจสอบความเข้าใจ ดังนี้
T : Do you like painting?
S1 : No, I don’t. / Yes, I do.
T : Does your mother sing?
S2 : No, she doesn’t. / Yes, she does.
T : Do we live in Spain?
S3 : Yes, we do. etc
นักเรียนเปิดหนังสือเรยี น หนา้ 42 และอ่านกฎ Present simpleในตาราง Ex. 2 (To Present the present
simple (negative & interrogative) แลว้ ให้นกั เรียนหาตวั อย่างประโยคในบทอ่าน เสรจ็ แล้วตรวจคำตอบ
Key She doesn’t like hip hop. Do you like her?
2. นกั เรียนทำ Ex. 3 (To practise using the present simple in the negative and
interrogative forms) ในหนังสือเรยี น หน้า 42 โดยเตมิ do, does, don’t หรือ doesn’t ลงในประโยคใหถ้ ูกต้อง
แล้วครตู รวจคำตอบโดยเรียกนักเรยี นอ่านคำตอบทีละคน
Key 1. Do, do 3. Does, doesn’t
2. Do, don’t 4. Does, does
ขน้ั ที่ 4 (ข้ันนำไปใช)้ Production
1. นักเรียนจบั คู่ฝึกสนทนาถามตอบ ในหนงั สือเรียน หน้า42Ex. 4 (To consolidate students’
understanding of the present simple (negative & interrogative) through dialogue practise) ก่อนทำ
กจิ กรรมครูเรียกนักเรียน 1 คู่ อ่านตัวอยา่ งในข้อ 1 และครูเดินรอบๆ ช้ันเรียนเพือ่ สงั เกตการทำกิจกรรมของ
นกั เรียน แลว้ สุ่มนักเรียนหลายๆ คู่ ออกมาสนทนาหน้าชัน้ เรียน
Key 2. Does, Yes, she does. / No, she doesn’t.
3. Does, Yes, he / she does. / No, he / she doesn’t.
4. Do, Yes, I do. / No, I don’t.
5. Do, Yes, I do. / No, I don’t.
6. Does, Yes, he does. / No, he doesn’t
ขั้นที่ 5 (ขน้ั สรุป) Wrap up
1. นกั เรียนเขยี นบทความสัน้ ๆ เกีย่ วกับนกั แสดงชาย / หญงิ ท่ตี นเองชื่นชอบ เพอ่ื ลงวารสารโรงเรยี นครใู ห้
เวลานกั เรยี นเตรยี มคำตอบสำหรับคำถามขอ้ 1-5 ในหนังสอื เรียน หน้า 42Ex. 5 (To write an article about a
famous person) แล้วนำคำตอบท่ีไดม้ าเขยี นบทความ ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนทำเปน็ การบา้ น และสนับสนุนให้
ใช้อินเทอรเ์ นต็ ค้นหาขอ้ มูลที่ตอ้ งการเพ่อื นำมาเขียนบทความ
Suggested Answer Key
Penelope Cruz is from Madrid, Spain. Her birthday is on 28th April. She’s got a
brother and a sister. Penelope can speak four languages. She can dance really well. ‘Captain
Corelli’s Mandolin’, ‘Vanilla Sky’ and ‘Volver’ are her most famous films.
9. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสือเรียน Access ม. 1
2. อินเทอร์เนต็
3. Power point Access ม.1 Module 4
4. Google meet
10. การวัดและประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
วธิ ีการวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ชน้ิ งาน ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟัง ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบประเมินการพดู โต้ตอบ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู แบบประเมินการอ่านออกเสียง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การเขียน แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ประเมินการทำแบบฝึกหัด
2. สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ในชว่ งการทำกจิ กรรม
3. ประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
4. ประเมนิ ผลการพูดสนทนาเกี่ยวกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่างๆ ในชีวติ ประจำวนั
5. ประเมินผลการเขียนบทความส้นั ๆ เกีย่ วกับนักแสดงทชี่ นื่ ชอบ
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 28
วชิ า ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน รหสั วชิ า อ21101 ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 Strong ties
เรือ่ ง linkers (and, but) เวลา 12 ช่ัวโมง
ครูผสู้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรยี น บา้ นแมย่ างหา้ เวลา 2 ชัว่ โมง
สอนวันท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
สำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา เชยี งใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั
ต 1.1 ม.1/1 ปฏิบตั ติ ามคำส่งั คำขอรอ้ ง คำแนะนำ และคำชแี้ จงงา่ ยๆ ที่ฟังและอ่าน
ต 1.2 ม.1/4 พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ ้อมลู และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องท่ฟี ังหรืออ่าน
อยา่ งเหมาะสม
ต 2.1 ม.1/1 ใชภ้ าษา นำ้ เสยี ง และกริ ิยาท่าทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและ
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 4.1 ม.1/1 ใชภ้ าษาสือ่ สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกดิ ขึ้นในหอ้ งเรียนและ
สถานศึกษา
2. สาระสำคัญ
การอ่านเพ่อื หาขอ้ มลู เฉพาะ ข้อความเกี่ยวกบั รายการโทรทศั น์ และการเขยี นบรรยายบุคลิกลักษณะ
ของตัวละคร
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
- อา่ นออกเสียงบทอา่ น
- สนทนา แลกเปลย่ี นขอ้ มูลเกย่ี วกบั เรอื่ งต่างๆ ใกล้ตัว
- พูดเพ่ือขอและให้ข้อมลู เก่ียวกับเรื่องที่อา่ น
- เขียนบรรยายเกี่ยวกับครอบครัวในรายการทีวี
- ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิรยิ าทา่ ทางเหมาะสม ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
- ใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองที่เกดิ ขึน้ ในห้องเรยี น
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- การออกเสียงตามระดับเสียงสูง-ต่ำ ในประโยค และการแบง่ วรรคตอนในการอา่ น
- ภาษาทใี่ ชใ้ นการส่อื สารระหว่างบุคคล เช่น การแลกเปลีย่ นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องตา่ งๆ ใกล้ตวั
- ประโยคและขอ้ ความทีใ่ ช้ในการขอและให้ข้อมูลเกย่ี วกบั เร่อื งที่อา่ น
- ประโยคและข้อความทใ่ี ช้ในการบรรยายเกยี่ วกับส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ ัว เช่น การดทู ีวี
- การใช้ภาษา นำ้ เสียง และกิริยาท่าทางในการสนทนา ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เชน่
การแสดงสีหน้าท่าทางประกอบ
- การใชภ้ าษาสือ่ สารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองท่เี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียน
- Linkers (and, but)
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟัง พูด อา่ นและเขียนเกย่ี วกับการอ่านเพ่ือหาขอ้ มลู เฉพาะ ข้อความเกีย่ วกบั รายการโทรทัศน์ และการ
เขียนบรรยายบุคลกิ ลักษณะของตัวละคร
6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
ความสามารถในการสอื่ สาร
ความสามารถในการคิด
- การคิดอย่างเป็นระบบ
7. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- มวี นิ ัย
- มุ่งมัน่ ในการทำงาน
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นที่ 1 (ขัน้ นำ) Warm up
1. ครชู แ้ี จงให้นักเรยี นทราบวา่ ใน Unit 4d น้ี นักเรยี นจะไดเ้ รียนรู้เกี่ยวกับการฟังเพือ่ หาข้อมูล
เฉพาะ และการเช่อื มประโยคโดยใช้คำเชื่อม and และ but
2. นักเรียนดภู าพในหนงั สอื เรียน หน้า 43 แล้วครถู ามนกั เรยี นวา่ รหู้ รือไม่ว่าครอบครวั ในภาพคือใคร
ให้นักเรียนบอกชือ่ ตวั ละคร ครถู ามคำถามต่อวา่ รู้จักครอบครัวอ่นื ในทีวีท่มี ีชื่อเสยี งในประเทศไทยหรือไม่
ขั้นที่ 2 (ขัน้ นำเสนอ) Presentation
1. นกั เรยี นปดิ หนังสือ และครเู ขยี นประโยค I can dance. I can sing. I can’t drive a car. บน
กระดานแล้วอธิบายวา่ เราสามารถใช้คำเช่ือมเพือ่ เช่อื มประโยคเข้าด้วยกนั เพอ่ื ทำให้การเขยี นนา่ สนใจมากข้ึน ครู
อธบิ ายว่าเมอื่ เรามีความคดิ 2 อยา่ งทคี่ ล้ายกัน เราสามารถใช้ and เชื่อมเขา้ ดว้ ยกัน แลว้ เขียนประโยคI can sing
and dance. บนกระดาน และอธิบายต่อวา่ เมอื่ เรามคี วามคิด 2 อยา่ งท่ตี รงข้ามกนั (ขัดแย้ง) เราใช้ but เป็น
คำเชอื่ ม แลว้ เขยี นประโยค I can sing but I can’t drive a car. บนกระดานจากน้นั ครูให้นักเรยี นเปดิ หนังสอื
เรยี น หน้า 43 และอ่านประโยคในกรอบ Ex. 1 (To understand the use of linkers (and, but) in
sentences) แลว้ เตมิ คำเช่อื มในประโยค 1-4 ให้ถกู ต้อง เสร็จแลว้ ตรวจคำตอบพรอ้ มกัน
Key 1. and 2. but 3. and 4. but
2. ครใู หน้ ักเรยี นอ่านบทอ่านในหนังสอื เรียน หนา้ 43 แลว้ เติมคำท่หี ายไป (To listen for specific
information) ก่อนอ่านครูชี้ให้นักเรียนดชู ่องวา่ งในบทอา่ น และถามว่าคำที่หายไปนา่ จะเป็นคำชนิดใด (e.g.
noun, verb, adjective, pronoun etc) โดยบอกให้นกั เรยี นดูคำท่อี ย่หู น้าและหลงั ชอ่ งว่าง แล้วครอู า่ นตวั อย่าง
ข้อ 0 และช้ีใหน้ กั เรียนเหน็ วา่ เราต้องใช้คำเชอ่ื มเพื่อรวม 2 ประโยคเขา้ ดว้ ยกนั แล้วให้นกั เรยี นอ่านบทอา่ นในใจ
และเตมิ คำทห่ี ายไป จากน้ันเปรยี บเทยี บคำตอบกับเพ่อื น แล้วครเู รยี กนักเรยี นอ่านออกเสียงบทอ่านทลี ะคน พร้อม
ท้ังอธิบายคำศพั ทท์ ่ไี ม่รู้ความหมาย
Key 1. can 2. got 3. and 4. old 5. Her
ขั้นที่ 3 ( ข้นั ฝกึ ) Practice
1. ครใู หน้ ักเรียน 2 คน อ่านตวั อย่างในหนังสือเรียน หนา้ 43 Ex. 3 (To check understanding of
the text and revise question words) จากน้ันนกั เรยี นจบั คู่ถามตอบเกี่ยวกบั ครอบครวั Simpsons ตาม
ตัวอยา่ ง ครเู ดินสังเกตการทำกิจกรรมของนักเรยี น และเรยี กนกั เรียนหลายๆ คู่ ออกมาถามตอบหน้าชนั้
Suggested Answer Key
A: Who’s Marge?
B: The mother of the family.
A: How old is she?
B: She is 38 years old.
A: What does she look like?
B: She’s tall and slim and she’s got blue hair! etc
ขั้นที่ 4 (ข้นั นำไปใช)้ Production
1. นกั เรียนเขยี นบรรยายเกย่ี วกบั ครอบครัวในรายการทีวี (To consolidate vocabulary and
grammar structures presented in this module and the use of linkers by writing a short description
of a TV family in your country) โดยครบู อกนักเรียนวา่ ครอบครัวท่บี รรยายอาจมาจากรายการทวี ีแบบใดกไ็ ด้
(e.g. drama, comedy etc) นักเรียนบรรยายตัวละครโดยวางแผนการทำงานคอื เขียนรายการขอ้ มลู ของแต่ละคน
ใตช้ ื่อตวั ละครแต่ละตวั (e.g. Tony: tall, likes to play football, Susan: beautiful, blue eyes, likes to
dance etc) นักเรียนจบั กลุม่ จดบันทึกข้อมูล ครูเดินสังเกตการจดบันทกึ ขอ้ มูลของนกั เรยี นและชว่ ยเหลอื เร่ือง
คำศัพท์ แล้วให้เวลานักเรียนเขียนบรรยาย จากนั้นให้แตล่ ะกลุ่มออกมาอ่านคำบรรยายให้เพอ่ื นฟงั หน้าช้ัน
Suggested Answer Key
The American TV programme Little House On The Prairie is about a very close family named
the Ingalls. There are five people in the family. Charles is the father. He is very handsome and
kind and wise. His wife, Caroline, is very pretty. She is tall and has long, blonde hair. She is very
caring and is a great mother. This couple has three daughters.
The oldest girl is Mary. She is beautiful, with blue eyes and straight fair hair. She is very
smart. Next is Laura. She is very sweet. The youngest girl’s name is Carrie. She is cute and has
got dark hair. She’s a very good child.
ขนั้ ที่ 5 (ขั้นสรุป) Wrap up
1. นกั เรียนทำใบงาน เรอื่ ง Linkers
9. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี น Access ม. 1
2. แบบฝกึ หัด Access ม. 1
3. Power point Access ม.1 Module 4
4. ใบงาน เรื่อง Linkers
5. Google meet
10. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
วธิ กี ารวดั เกณฑ์การประเมนิ ชิน้ งาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินการฟงั ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบประเมินการพูดโตต้ อบ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟงั แบบประเมินการเขยี น ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพูด แบบประเมินการอา่ นออกเสียง ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสยี ง แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ด้านทักษะ/สมรรถนะ
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ประเมนิ การทำแบบฝกึ หัด
2. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทำกจิ กรรม
3. ประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
4. ประเมินผลการเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ครอบครัวในรายการทวี ขี องไทย
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 28
วชิ า ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน รหสั วิชา อ21101 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 Strong ties เวลา 12 ช่ัวโมง
เรอื่ ง Identifying and Describing People เวลา 2 ชวั่ โมง
ครูผ้สู อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวนั ที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….
โรงเรยี น บา้ นแมย่ างห้า สำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษา เชยี งใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชว้ี ัด
ต 1.1 ม.1/1 ปฏิบัตติ ามคำสงั่ คำขอรอ้ ง คำแนะนำ และคำชีแ้ จงง่ายๆ ท่ฟี ังและอ่าน
ต 1.1 ม.1/4 ระบหุ ัวขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและ
อ่านบทสนทนา นิทาน และเรือ่ งสัน้
ต 1.2 ม.1/5 พูดและเขยี นแสดงความรู้สึกและความคิดเหน็ ของตนเองเกย่ี วกบั เร่อื งตา่ งๆ ใกล้ตัว
กจิ กรรมต่างๆ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลส้ันๆ ประกอบอยา่ งเหมาะสม
ต 1.3 ม.1/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ยี วกับตนเอง กจิ วัตรประจำวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม
ใกล้ตัว
2. สาระสำคญั
การอ่านประโยค และบทสนทนาที่ใชร้ ะบตุ ัวบุคคล การพดู ให้ข้อมูลเกย่ี วกบั บุคคล การบรรยาย
ลักษณะของบุคคล
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
- อา่ นออกเสียงประโยคคำถามท่ีใช้ระบุตัวบคุ คล
- ระบภุ าพบุคคลใหส้ ัมพนั ธก์ บั บทสนทนาท่ีอา่ น
- สนทนา แลกเปล่ียนขอ้ มลู เกี่ยวกับบุคคลใกลต้ วั
- ใชภ้ าษา น้ำเสียง และกิรยิ าท่าทางเหมาะสม ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
- ใชภ้ าษาสอื่ สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองที่เกดิ ขึ้นในหอ้ งเรียน
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- การออกเสียงตามระดับเสยี งสงู -ตำ่ ในประโยค
- การตคี วาม/ถ่ายโอนขอ้ มูลให้สมั พนั ธก์ ับส่ือทไ่ี ม่ใช่ความเรยี ง เช่น ภาพสัตว์ ส่งิ ของ บคุ คล สถานท่ี
- ภาษาทใ่ี ช้ในการสอ่ื สารระหวา่ งบุคคล เชน่ การแลกเปล่ยี นขอ้ มูลเก่ียวกบั บคุ คลใกล้ตัวและ
สถานการณต์ ่างๆ ในชวี ติ ประจำวัน
- การใชภ้ าษา น้ำเสียง และกริ ิยาท่าทางในการสนทนา ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เชน่
การแสดงทา่ ทางประกอบการพดู
- การใชภ้ าษาสอื่ สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองท่เี กิดขนึ้ ในห้องเรยี น
- Pronunciation: /s/, /z/, /Iz/
5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟงั พดู อา่ นและเขียนเกย่ี วกบั การอา่ นประโยค และบทสนทนาที่ใชร้ ะบตุ วั บุคคล การพดู ใหข้ ้อมลู เกย่ี วกบั
บุคคล การบรรยายลักษณะของบคุ คล
6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
ความสามารถในการสอ่ื สาร
7. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
- มีวนิ ัย
- มุง่ มั่นในการทำงาน
8. กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั ที่ 1 (ข้ันนำ) Warm up
1. ครูช้แี จงใหน้ ักเรยี นทราบว่าในหน่วยการเรยี นรยู้ ่อย Unit 4e นีน้ กั เรียนจะไดเ้ รยี นรเู้ กีย่ วกับการ
อา่ นและฟังเพื่อจับใจความสำคญั และการออกเสียงสงู -ตำ่ ในประโยค
2. นกั เรยี นดชู ่อื หวั ข้อ Identifying & describing people ในหนงั สอื เรียน หน้า 44 แลว้ ครบู อก
ความหมาย (การระบุ/ช้ีตวั และการบรรยายลักษณะของคน)
3. นกั เรยี นดปู ระโยคคำถาม 4 ประโยค ในหนังสือเรียน หน้า 44Ex. 1 (To practise
pronunciation and intonation)
ขัน้ ท่ี 2 (ขน้ั นำเสนอ) Presentation
1. นกั เรยี นอา่ นบทสนทนาในหนังสือเรยี น หน้า 44Ex. 2 (To read and listen for gist) แล้วหาว่า
Laura คือผู้หญิงคนใดในภาพ จากน้ันครูตรวจคำตอบ
Key Laura is the girl with fair hair. There is only one girl with fair hair.
2. นักเรยี นดูประโยคในหนงั สือเรียน หนา้ 44 Ex. 3 (To consolidate students’
understanding of how to identify and describe people through translation) แล้วช่วยกันแปลเปน็
ภาษาไทย ครูเน้นวา่ ควรแปลเปน็ ถอ้ ยคำท่ใี ชใ้ นภาษาไทยมากกวา่ การแปลตรงตัว
Suggested Answer Key
Students’ own answers
ขน้ั ที่ 3 ( ข้ันฝกึ ) Practice
1. ครูใหน้ กั เรียนบอกคำศพั ท์เกยี่ วกบั ลกั ษณะทางรา่ งกาย (short, thin, plump, long, short hair
etc) แล้วครูเขียนบนกระดาน จากน้นั ให้นักเรียนจับคู่ แลว้ สมมตวิ ่าตนเองอย่ใู นสนามเด็กเล่นของโรงเรยี น และ
เลอื กเพ่อื น 1 คน จากอีกคู่หนึ่ง แล้วสนทนาเกย่ี วกบั เพอื่ นคนน้ี โดยใช้ประโยคจาก Ex. 1 และ 3 แลว้ ใชบ้ ทสนทนา
ใน Ex. 2 เปน็ แบบ (To consolidate vocabulary and sentence structure through role-playing) ครู
ชว่ ยเหลือนักเรียนโดยการเขยี น diagram แสดงประโยคทคี่ วรนำมาใชบ้ นกระดาน
ครเู ดนิ สังเกตนกั เรียนระหว่างทำกิจกรรม แล้วให้นกั เรยี น 4-5 คู่ ออกมาสนทนาหน้าช้ันเรียน
Suggested Answer Key
A: Look at that boy over there. Who is he?
B: The one with the dark hair?
A: Yes. What’s his name?
B: Oh, that’s Jim, Mary’s brother.
A: How old is he?
B: He’s 15.
A: What’s he like?
B: He’s friendly and clever.
ขัน้ ท่ี 4 (ข้ันนำไปใช)้ Production
1. ครูอธบิ ายวา่ คำกริยารูป Present simple ของประธานเอกพจน์บุรุษท่ี 3 สามารถออกเสยี งได้ 3
แบบ คอื /s/, /z/, /Iz/ แล้วนกั เรยี นฟงั และขีด / ลงในชอ่ งการออกเสยี งท่ตี รงกบั ทไี่ ด้ยิน ในหนังสือเรยี น หน้า44
Ex. 5 (To present /s/, /z/, /Iz/) แล้วครตู รวจคำตอบ นักเรียนฟังและฝกึ ออกเสยี งพร้อมกนั
ขนั้ ท่ี 5 (ขั้นสรุป) Wrap up
1. นกั เรยี นทำใบงานเรือ่ ง Describing people เป็นการบ้าน
9. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี น Access ม. 1
2. แบบฝึกหัด Access ม. 1
3. ใบงาน Describing people
4. Power point Access ม.1 Module 4
5. Google meet
10. การวัดและประเมนิ ผล
วิธกี ารวัด เคร่อื งมือ เกณฑ์
ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด เกณฑ์การประเมินชน้ิ งาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการฟงั แบบประเมินการฟัง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู แบบประเมนิ การพดู โต้ตอบ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมนิ การเขียน
ประเมนิ การออกเสยี ง แบบประเมินการอา่ นออกเสียง
ด้านทักษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ประเมนิ การทำแบบฝึกหัด
2. สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรูใ้ นชว่ งการทำกิจกรรม
3. ประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
4. ประเมนิ ผลการแสดงบทบาทสมมติพดู สนทนาให้ข้อมลู เกยี่ วกบั บุคคล
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 30
วชิ า ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน รหสั วิชา อ21101 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 Strong ties เวลา 12 ชว่ั โมง
เรื่อง Present Simple (Negative and Interrogative) เวลา 2 ชว่ั โมง
ครูผสู้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า สอนวันท่ี …….. เดือน………… พ.ศ. ……….
โรงเรียน บ้านแมย่ างหา้ สำนักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา เชยี งใหม่ เขต 2
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั
ต 1.1 ม.1/1 ปฏิบัตติ ามคำสัง่ คำขอร้อง คำแนะนำ และคำชี้แจงง่ายๆ ท่ีฟงั และอ่าน
ต 1.1 ม.2/2 อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ นทิ าน และบทร้อยกรอง (poem) ส้นั ๆ ถกู ต้องตามหลกั การอา่ น
ต 1.2 ม.2/1 สนทนา แลกเปลีย่ นขอ้ มูลเกี่ยวกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวนั
ต 1.2 ม.2/4 พูดและเขียนเพอ่ื ขอและใหข้ ้อมลู และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรือ่ งทฟ่ี งั หรืออา่ น
อย่างเหมาะสม
ต 1.3 ม.2/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กจิ วัตรประจำวนั ประสบการณ์ และสิง่ แวดลอ้ ม
ใกลต้ ัว
2. สาระสำคัญ
คำเปรยี บเทียบ/คำอุปมาอุปไมย(simile) การอา่ นบทกลอนและแสดงความคดิ เหน็ การเขยี นบท
กลอนโดยใชค้ ำเปรยี บเทยี บบรรยายบุคลกิ ลกั ษณะของสมาชิกในครอบครัว
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
- อ่านออกเสียงบทกลอน(poem)
- ระบุคำคุณศัพทท์ ่ีมคี วามหมายเปรยี บเทียบสัมพนั ธ์กับภาพ
- พูดแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั บทกลอนทฟ่ี ังหรืออ่าน
- เขยี นบทกลอนเกีย่ วกบั สมาชกิ ในครอบครวั โดยใช้คำเปรยี บเทียบ
- ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิรยิ าทา่ ทางเหมาะสม ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
- เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
- ใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองท่เี กดิ ข้ึนในหอ้ งเรยี น
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนร้แู กนกลาง
- การอา่ นบทรอ้ ยกรองตามจงั หวะ และการใชพ้ จนานุกรม
- การตคี วาม/ถ่ายโอนข้อมูลให้สัมพันธก์ ับสอ่ื ทไ่ี ม่ใชค่ วามเรยี ง เช่น ภาพสัตว์ สิง่ ของ บคุ คล สถานท่ี
- คำศพั ท์ สำนวน ประโยค ที่ใช้ในการแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั บทกลอนที่ฟงั หรอื อ่าน
- ประโยคและข้อความทใี่ ช้บรรยายเกยี่ วกบั ตนเอง และบคุ คลใกล้ตัว
- การใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกริ ิยาท่าทางในการสนทนา ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เช่น
การแสดงสหี น้าท่าทางประกอบ
- กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเล่นเกม
- การใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณจ์ ำลองทเ่ี กิดขึ้นในหอ้ งเรียน
5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟัง พดู อา่ นและเขียนเกยี่ วกบั คำเปรยี บเทียบ/คำอุปมาอปุ ไมย(simile) การอา่ นบทกลอนและแสดงความ
คดิ เห็น การเขยี นบทกลอนโดยใชค้ ำเปรียบเทียบบรรยายบุคลิกลกั ษณะของสมาชิกในครอบครวั
6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
ความสามารถในการส่อื สาร
ความสามารถในการคิด
- การคดิ สงั เคราะห์
7. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
- มวี ินยั
- ใฝ่เรียนรู้
- มุ่งมัน่ ในการทำงาน
8. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั ที่ 1 (ข้นั นำ) Warm up
1. ครชู ้ีแจงใหน้ ักเรยี นทราบวา่ ใน Unit 4f น้ี นักเรียนจะไดเ้ รียนรเู้ กย่ี วกบั การอา่ นและฟังเพอ่ื หา
ขอ้ มลู เฉพาะ
2. นกั เรยี นดชู ่อื หัวข้อ Literature และบทอ่านในหนงั สอื เรยี น หนา้ 45 แล้วครูอธิบายว่า นเี่ ปน็ บท
กวี / บทกลอน(poem)
ข้นั ท่ี 2 (ขนั้ นำเสนอ) Presentation
1. นักเรียนดภู าพในหนงั สือเรยี น หนา้ 45 และชว่ ยกนั บรรยายภาพสตั ว์เหล่านีเ้ ป็นภาษาไทย และครู
ถามวา่ ภาพสตั ว์เหลา่ น้ีเกย่ี วข้องกบั บทกวอี ย่างไร แลว้ ใหน้ ักเรียนดูคำคุณศพั ท์ (adjectives) ใน Ex. 1 (To learn
new adjectives) และคน้ ความหมายของคำเหล่านใ้ี น dictionary จากนน้ั ใหน้ กั เรียนจบั คกู่ บั เพือ่ น ดภู าพ แล้วนำ
คำคุณศัพท์ไปเติมในช่องว่างใตภ้ าพท่มี คี วามหมายเปรียบเทยี บตรงกนั โดยครูทำข้อ 1 บนกระดานพร้อมกบั
นักเรยี น และอธิบายว่า วลนี ้ีเป็นคำเปรียบเทยี บ / คำอุปมาอุปไมย(simile) แล้วตรวจคำตอบพรอ้ มกัน
Key 1. busy 4. slow 7. strong
2. wise 5. quiet 8. proud
3. playful 6. stubborn 9. Gentle
ขั้นที่ 3 ( ขัน้ ฝกึ ) Practice
1.นักเรียนฟงั และอ่านบทกวีในหนงั สอื เรยี น หนา้ 45 (To read and listen for specific
information) แล้วบอกว่าบทกวีนเี้ กี่ยวกับอะไร (It is about the poet’s family.) ครถู ามนักเรียนว่า คิดว่าเปน็
บทกวีที่สนกุ สรา้ งสรรค์หรือไม่ แล้วอธิบายความหมายของคำศพั ท์ทไ่ี ม่รู้ จากน้ันให้นักเรียนบอกคำเปรยี บเทยี บที่
พบในบทกวี
Key as busy as a bee, as strong as an ox, as quiet as amouse,
as slow as a snail, as stubborn as a mule
2. ครเู ขยี นคำว่า bee และ me บนกระดาน และบอกวา่ 2 คำน้มี ีเสียงสัมผัสกัน / คล้องจองกัน แล้ว
อธบิ ายว่าคำที่มีเสียงสัมผสั กนั คือ ออกเสียง (สระ) เหมอื นกนั แม้วา่ จะสะกดและมีความหมายตา่ งกนั (To
understand rhyme) และช้ีใหเ้ ห็นว่าคำทม่ี ีเสียงสัมผสั กนั แต่ละคจู่ ะอยูท่ ี่คำสุดทา้ ยในแต่ละบรรทัด ของบทกวีใน
หนังสือเรียน หนา้ 45จากน้นั ครูใหน้ กั เรยี นหาคำทม่ี เี สียงสมั ผสั กนั ในบทกวี
Key bee, me mouse, house mule, cool
ox, box snail, fail
กิจกรรมพเิ ศษ ครูให้นักเรยี นคิดถงึ คำอื่นท่มี ีเสยี งสัมผสั กนั และเขยี นบนกระดาน (e.g. bee, me, free, tea,
see etc)
ข้ันท่ี 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
1. ครใู หน้ กั เรยี นเขยี นบทกวเี กยี่ วกบั ครอบครวั ของตนเอง โดยใชค้ ำเปรียบเทียบกับสตั ว์ (To practice
similes by writing a poem about your family) ก่อนเขยี นครใู ห้นักเรียนหาคำเปรียบเทยี บกบั สตั ว์ทเ่ี หมาะสม
กับสมาชิกแตล่ ะคนในครอบครัว แลว้ หาคำท่มี ีเสยี งสมั ผสั กนั เพือ่ เปน็ เคา้ โครงสำหรบั บทกวี โดยให้เวลานกั เรียน
เตรียมเคา้ โครงบทกวี แลว้ ครเู ดนิ ดูนักเรียนทำกจิ กรรม อธบิ ายคำศัพท์ และช่วยเหลอื เรอื่ งคำทมี่ ีเสียงสมั ผัสกนั ครู
ใหน้ ักเรยี นทำงานในช้นั หรือมอบหมายเปน็ การบ้าน แล้วนำมาอา่ นใหเ้ พ่อื นฟงั
Suggested Answer Key
My Family
My mum is as busy as a bee
Because she’s very busy with me
My dad is as wise as an owl
Because he helps me with my homework and doesn’t howl
My sis is as proud as a peacock
And I can’t go in her room unless I knock
ข้ันท่ี 5 (ขนั้ สรุป) Wrap up
1. นักเรียนทำแบบฝกึ Self check ในหนังสอื เรียน หน้า 46
9. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี น Access ม. 1
2. Power point Access ม.1 Module 4
3. Google meet
10. การวัดและประเมินผล
วธิ กี ารวัด เคร่ืองมือ เกณฑ์
ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด เกณฑก์ ารประเมนิ ชิ้นงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมนิ การฟงั ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ การพูดโตต้ อบ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมนิ การเขยี น
ประเมนิ การออกเสยี ง แบบประเมนิ การอ่านออกเสยี ง
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ประเมินการทำแบบฝึกหัด
2. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทำกิจกรรม
3. ประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
4. ประเมนิ ผลการแสดงบทบาทสมมติพดู สนทนาให้ข้อมลู เก่ยี วกบั บุคคล
โรงเรียนบา้ นแม่ยางห้า
สานักสงานานักคงณานะเกขตรรพมื้นกทาก่ีรากราศรกึศษึกาษปารขน้ัะถพมื้นศฐกึ าษนา กเชรยี ะทงรใหวมง่ศเขกึ ตษา2ธกิ าร
แผนการจดั การเรยี นรู้
วิชา ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน
ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1
กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ