หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 242 10. สื่อการเรียนรู้/ แหล่งเรียนรู้ 10.1 สื่อการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง Exclamation 10.2 แหล่งเรียนรู้ 1. ใบงานเรื่อง Exclamation 11. การวัดและประเมินผล ลำดับ รายการที่วัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ใบงานเรื่อง Exclamation ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นั ก เรีย น ให้ ค วาม ร่วม มื อใน การท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 12. เกณฑ์การประเมิน 16 - 20 คะแนน ดีมาก 11 - 15 คะแนน ดี 6 - 10 คะแนน พอใช้ น้อยกว่า 6 คะแนน ควรปรับปรุง ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู บันทึกหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู วันที่..............เดือน..................................พ.ศ. ..................
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 243 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง What are you going to do? แผนการจัดการเรียนรู้ที่15 เรื่อง Exclamation (Revision) รหัสวิชา อ22122 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุจินดา ปรากฏวงศ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับ ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม 1.2 ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.2/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.2 ม.2/5 พูดและเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอย่าง เหมาะสม ต 2.1 ม.2/2 อธิบายเกี่ยวกับเทศกาล วันสำคัญ ชีวิตความเป็นอยู่ และประเพณีของเจ้าของภาษา ต 2.2 ม.2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค ชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยค ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับการอ่านออกเสียง Vocabulary บทสนทนา - นักเรียนมีความรู้ เรื่องการใช้ใช้ประโยค exclamation ในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล 2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง Vocabulary บทสนทนา ได้ถูกต้อง - นักเรียนสามารถใช้ประโยค exclamation ตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศใน ชีวิตประจำวันเพื่อนแสดงความรู้สึก ความคิดเห็น ให้เหตุผลประกอบ อธิบายเกี่ยวกับเทศกาล วันสำคัญ ชีวิตความ เป็นอยู่ และประเพณีของเจ้าของภาษาได้
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 244 2.3 คุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - รักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและฝึกฝนอย่างจริงจังเพียงพอ - ผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีมารยาท ถูกต้องตามกาลเทศะ และบุคคล 3. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด - พูดและเขียนโดยใช้ Exclamation แสดงความรู้สึก ความคิดเห็น และให้เหตุผลประกอบ เพื่ออธิบาย เกี่ยวกับเทศกาล วันสำคัญ ชีวิตความเป็นอยู่ และประเพณีของเจ้าของภาษา ในชีวิตประจำวันและอ่านออกเสียง Vocabulary ในบทสนทนา มีทักษะในการเลือก พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม ในการปฏิบัติ ตนอย่างเหมาะสม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง พูดและเขียนโดยใช้ Exclamation แสดงความรู้สึก ความคิดเห็น และให้เหตุผลประกอบ เพื่อ อธิบายเกี่ยวกับเทศกาล วันสำคัญ ชีวิตความเป็นอยู่ และประเพณีของเจ้าของภาษา ในชีวิตประจำวันและอ่านออก เสียง Vocabulary ในบทสนทนาได้ 4.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1. คำศัพท์ในเรื่อง Unit 10 : What are you going to do? 2. บทสนทนาในเรื่อง Unit 10 : What are you going to do? 3. การใช้โครงสร้าง exclamation ในรูปแบบต่าง ๆ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 5.1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ตามหลักสูตรแกนกลาง) 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 5.2 คุณลักษณะตามหลักสูตรมาตรฐานสากล 1) มีความรู้พื้นฐานในยุคดิจิตอล วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา พหุวัฒนธรรม ตระหนักสำนึกระดับโลก 2) สามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ปรับตัวใฝ่รู้ ใฝ่เรียน วิเคราะห์ สังเคราะห์สรุป สร้างองค์ความรู้ 3) มีทักษะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 4) มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 7C เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 6.1 ทักษะการอ่าน (Reading) 6.2 ทักษะการเขียน (Writing) 6.3 ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic) 6.4 ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving)
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 245 6.5 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) 6.6 ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, teamwork and leadership) 6.7 ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) 6.8 ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication information and media literacy) 6.9 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing) 6.10 ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) 7. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 7.1 บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 7.2 บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 7.3 บูรณาการห้องเรียนสีเขียว 7.4 อื่น ๆ (โปรดระบุ)................................................................................................................................................. 8. ชิ้นงาน / ภาระงาน 1. ภาระงาน - ใบงานเรื่องExclamation (Revision) 2. ชิ้นงาน - 9. กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) เรื่อง Exclamation (Revision) วิธีสอน (วิธีการสอนแบบโมเดลซิปปา CIPPA Model) 1. ขั้นทบทวนความรู้เดิม 1.1 นักเรียนทำกิจกรรมทบทวนความรู้เรื่อง Exclamation โดยนักเรียนนั่งเป็นกลุ่มและช่วยกันตอบ คำถามบน PowerPoint จำนวน 8 ข้อ จาก https://wordwall.net/resource/11273205/question-andexclamation-sentences
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 246 2. ขั้นแสวงหาความรู้ใหม่ 2.1 นักเรียนแบ่งออกกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน แต่ละกลุ่มประกอบไปด้วยนักเรียนเก่ง ปานกลางและอ่อน เพื่อ ช่ วย กั น ต อ บ ค ำถ าม What is the difference between “what” and “how” in questions and exclamations? 2.2 นักเรียนสามารถอธิบายได้ว่าประโยคคำถามและประโยคอุทานที่ใช้คำว่า what และ how มีความ แตกต่างกันดังนี้ 1. ประโยคคำถามกับ what และ how หลัง what และ how ถ้าเป็นประโยคคคำถามจะตามด้วย กริยาช่วย verb to be (is / are / was / were) แล้วตามด้วยประธาน (Subject) และอาจจะมีส่วนขยายหรือไม่มี ก็ได้เช่นกันและถ้าหลัง what และ how ตามด้วยกริยาช่วย do / does / did แล้วตามด้วย ประธาน (Subject) และตามด้วยกริยาช่อง 1 (base form) และนอกจากนี้ยังสามารถใช้ have / has / had ในประโยคคำถาม what และ how ได้เช่นกัน โดยวางไว้ด้านหลัง what และ how ตามด้วย have / has / had ตามด้วยประธาน (Subject) ตามด้วยกริยาช่อง 3 (past participle form) และยังสามารถใช้กับ Modal Verb ได้เช่นกัน ดังตัวอย่าง What How is are was were • What is it? • What are you doing? • What was your elementary school? • What were you thinking? • How is your new teacher? • How are you feeling now? • How was your vacation? • How were they supposed to live? do does did • What do you want to be? • What did you watch at the cinema? • What did you do yesterday? • How do you cook spaghetti? • How does this machine work? • How did you do that? have has had • What has she done now? • What have they decided? • What had she done to provoke his wrath? • How have you weathered the storm? • How has your car been running lately? • How had he got hold of that name? modal • What will I talk to her about? • How can I improve my English?
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 247 2. ประโยคอุทานกับ what และ how จะไม่มี verb ช่วยต่าง ๆ อยู่ด้านหลัง แต่จะตามด้วย adjective / adverb ตามด้วยประธานและกริยา • How + adjective / adverb. + subject + verb • What + a / an + adjective + นามเอกพจน์นับได้ + subject + verb • What + a / an + นามวลี + ((subject + verb) (+tag)) 3. ขั้นศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล / ความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม 3.1 นักเรียนแต่กลุ่มช่วยกันศึกษาและหาความหมาย วิธีการใช้Exclamation จากแหล่งเรียนรู้ Internet เพิ่มเติม 3.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มเขียนสรุปเนื้อหาที่ได้ศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ Internet ลงบนกระดาษที่ครูเตรียม ให้ 3.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มสามารถเขียนสรุปเนื้อหาได้ดังนี้ Exclamatory Sentence คือประโยคอุทานในภาษาอังกฤษ ที่มักจะใช้ What + (กลุ่ม) นาม และ How + adjective / adverb การใช้ what, how ในประโยคอุทาน exclamatory sentence 1. ตัวอย่าง การใช้ What + (กลุ่ม) นาม ในประโยคอุทาน • What a lovely flower! [What + a + adjective + noun (singular)] ดอกไม้ดอกนี้น่ารักจัง • What lovely flower! [What + adjective + noun (plural)] ดอกไม้พวกนี้น่ารักจัง (a lovely flower, lovely flowers = กลุ่มนาม) 2. ตัวอย่าง การใช้ How + adjective / adverb ในประโยคอุทาน • How lovely she is! [How + adjective + noun + be] เธอช่างน่ารักจัง • How beautifully she sings! [How + adverb + noun + verb] เธอร้องเพลงเพราะจริง ๆ 4. ขั้นแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม 4.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มนำข้อมูลที่ได้ศึกษามาแลกเปลี่ยนกับสมาชิกกลุ่มอื่น ๆ เมื่อนักเรียนได้รับ กระดาษที่มีข้อมูลมาแล้วให้แต่ละกลุ่มวิเคราะห์ความเหมือนและความแตกต่างจากข้อมูลที่กลุ่มตนเองมีและไม่มี 4.2 นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มร่วมแสดงความคิดเห็น แบ่งปัน อธิบายความรู้ความเข้าใจของตนเองให้ เพื่อน ๆ สมาชิกในกลุ่มฟัง 5. ขั้นสรุปและจัดระเบียบความรู้ 5.1 สมาชิกในแต่ละกลุ่มช่วยกันสรุปความรู้เกี่ยวกับ Exclamatory Sentence ที่ได้จากการแลกเปลี่ยน ข้อมูลจากกลุ่มอื่น ๆ และจากสมาชิกในกลุ่ม 5.2 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Exclamation ประโยคอุทาน (Exclamatory Sentence) คือ ประโยคคำพูดแสดงความรู้สึกหรืออารมณ์ต่าง ๆ เช่น ดีใจ ประหลาดใจ ผิดหวัง เสียใจ โดยพื้นฐานทั่วไปประโยคอุทานจะกำหนดขึ้นตามหน้าที่ (วัตถุประสงค์) แล้ว ปิดท้ายประโยคด้วยเครื่องหมาย Exclamation Mark (!) เช่น
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 248 • I love it ! ฉันรักมัน ! • You did a great job ! คุณทำได้ดีมาก ! และนอกจากนี้ยังมีรูปแบบการสร้างประโยคอุทานจากคำว่า What, How รวมถึงประโยคอุทานใน แบบประโยคคำถามปฏิเสธด้วย หลักการสร้างประโยคอุทาน 1. ประโยคอุทานที่ขึ้นต้นด้วย How มีโครงสร้าง How + adjective / adverb. + subject + verb เช่น • How funny she looks ! เธอช่างดูสนุกสนานอะไรอย่างนี้! • How interesting this film is ! หนังเรื่องนี้น่าสนใจอะไรอย่างนี้! • How lucky they are ! พวกเขาโชคดีจัง ! • How well he sings ! เขาร้องเพลงได้ไพเราะอะไรอย่างนี้! หรือบางครั้งอาจมีโครงสร้าง How + adjective / adverb เช่น How strange! (ประหลาดอะไร เช่นนี้!) หรือ How + subject + verb เช่น How you’ve grown! (คุณโตเป็นผู้ใหญ่อะไรอย่างนี้!) 2. ประโยคอุทานที่ขึ้นต้นด้วย What มีโครงสร้าง คือ 2.1 What + a / an + adjective + นามเอกพจน์นับได้ + subject + verb เช่น • What a nice house you buy ! คุณซื้อบ้านที่ดีเยี่ยมอะไรอย่างนี้! • What a rude boy ! ช่างเป็นเด็กชายที่หยาบคายอะไรอย่างนี้! 2.2 What + a / an + นามวลี + ((subject + verb) (+tag)) เช่น • What a pity ! ช่างน่าสงสารจัง ! • What a mess ! ช่างสับสนอะไรอย่างนี้! • What a long trip ! ช่างเป็นทริปที่ยาวนาน ! • What a beautiful day it is ! มันช่างเป็นวันที่ดี! • What a beautiful day it is, isn’t it ! มันช่างเป็นวันที่ดี ว่าไหม !
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 249 เพิ่มเติม : tag คือ Question Tag ประโยคที่ใช้แสดงความคิดเห็นและถามย้ำเพื่อความแน่ใจไป ในคราวเดียวกัน 2.3 What + adjective + นามพหูพจน์/ นามนับไม่ได้ + subject + verb เช่น • What fools ! โง่อะไรอย่างนี้! • What lovely roses ! ดอกกุหลาบช่างสวยอะไรอย่างนี้! • What beautiful weather ! อากาศช่างดีอะไรอย่างนี้! • What interesting questions you’ve asked ! คุณถามคำถามได้น่าสนใจอะไรอย่างนี้! 6. ขั้นปฏิบัติและ / หรือแสดงผลงาน 6.1 นักเรียนส่งตัวแทน 1 คนออกมาหน้าชั้น แล้วเขียนคำว่า Exclamatory Sentence ตรงบริเวณตรง กลางกระดาน 6.2 นักเรียนตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมาเขียน mind mapping ตามความเข้าใจของนักเรียน โดย ประกอบไปด้วยหลักการใช้ โครงสร้าง และตัวอย่างประโยค 6.3 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบข้อมูลและประโยคที่แต่ละกลุ่มเขียนบนกระดาน 7. ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 7.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำแบบฝึกหัด Exclamation (Revision) ในเอกสารประกอบการเรียน 7.2 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเพื่อเสริมความเข้าใจในเรื่อง Exclamation เขียนตัวอย่างประโยคบน กระดานให้นักเรียนเห็นความหลากหลายมากขึ้น 7.3 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบแบบฝึกหัด Exclamation (Revision) ในเอกสาร ประกอบการเรียน 7.4 นักเรียนฟังครูอธิบายถึงสาเหตุในการตอบคำถามหรือเลือกตอบในแต่ละข้อให้นักเรียนเข้าใจ หลักการใช้Exclamation ครูสรุปหลักการของกฎต่าง ๆ ให้นักเรียนฟังอีกครั้ง 10. สื่อการเรียนรู้/ แหล่งเรียนรู้ 10.1 สื่อการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง Exclamation (Revision) 10.2 แหล่งเรียนรู้ 1. ใบงานเรื่อง Exclamation (Revision)
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 250 11. การวัดและประเมินผล ลำดับ รายการที่วัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ใบงานเรื่อง Exclamation (Revision) ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นั ก เรีย น ให้ ค วาม ร่วม มื อใน การท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 12. เกณฑ์การประเมิน 16 - 20 คะแนน ดีมาก 11 - 15 คะแนน ดี 6 - 10 คะแนน พอใช้ น้อยกว่า 6 คะแนน ควรปรับปรุง ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู บันทึกหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู วันที่..............เดือน..................................พ.ศ. ..................
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 251 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 เรื่อง Who were they? รหัสวิชา อ22122 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 16 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุจินดา ปรากฏวงศ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม 1.2 ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.2/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.2 ม.2/2 ใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายตามสถานการณ์ ต 4.1 ม.2/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริงท /สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา และชุมชน 2. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด - พูดและเขียน Question Tag ในคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายในสถานการณ์จริง / สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนสถานศึกษาและชุมชนได้มีทักษะในการเลือก พอประมาณ มีเหตุผล มี ภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม ในการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3. สาระการเรียนรู้ 3.5สาระการเรียนรู้แกนกลาง - พูดและเขียน Question Tag ในคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายในสถานการณ์จริง / สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนสถานศึกษาและชุมชนได้ 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1. คำศัพท์ในเรื่อง Unit 11 : Who were they? 2. บทสนทนาในเรื่อง Unit 11 : Who were they? 3. การใช้Question Tag ในรูปแบบต่าง ๆ
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 252 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 4.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 5.1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ตามหลักสูตรแกนกลาง) 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 5.2 คุณลักษณะตามหลักสูตรมาตรฐานสากล 1) มีความรู้พื้นฐานในยุคดิจิตอล วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา พหุวัฒนธรรม ตระหนักสำนึกระดับโลก 2) สามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ปรับตัวใฝ่รู้ ใฝ่เรียน วิเคราะห์ สังเคราะห์สรุป สร้างองค์ความรู้ 3) มีทักษะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 4) มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 7C เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 6.1 ทักษะการอ่าน (Reading) 6.2 ทักษะการเขียน (Writing) 6.3 ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic) 6.4 ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) 6.5 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) 6.6 ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, teamwork and leadership) 6.7 ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) 6.8 ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication information and media literacy) 6.9 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing) 6.10 ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) 7. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 7.1 บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 7.2 บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 7.3 บูรณาการห้องเรียนสีเขียว 7.4 อื่น ๆ (โปรดระบุ)…………………………………………………………………………..………………………….…………………………
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 253 8. ชิ้นงาน / ภาระงาน 1. ภาระงาน - ใบงานเรื่อง Vocabulary - แบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 - ใบงานเรื่อง Question Tag - ใบงานเรื่อง Question Tag (Revision) 2. ชิ้นงาน - 9. การวัดและประเมินผล 9.1 การวัดและประเมินผลชิ้นงาน/ภาระงาน 1. วิธีการ 1. ตรวจใบงานเรื่อง Vocabulary 2. ตรวจแบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3. ตรวจใบงานเรื่อง Question Tag 4. ตรวจใบงานเรื่อง Question Tag (Revision) 2. เครื่องมือ 1. ใบงานเรื่อง Vocabulary 2. แบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3. ใบงานเรื่อง Question Tag 4. ใบงานเรื่อง Question Tag (Revision) 3. เกณฑ์ 1. ตรวจใบงานและแบบฝึกหัดร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 9.2 การวัดและประเมินผลระหว่างการจัดกิจกรรม ลำดับ รายการที่วัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ใบงานเรื่อง Vocabulary ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นักเรียนให้ความ ร่วมมือในการทำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 254 9.2 การวัดและประเมินผลระหว่างการจัดกิจกรรม (ต่อ) 2 แบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ใน ห นั งสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด นักเรียนให้ความ ร่วมมือในการทำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 3 ใบงานเรื่อง Question Tag ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นักเรียนให้ความ ร่วมมือในการทำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 4 ใบงานเรื่อง Question Tag and (Revision) ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นักเรียนให้ความ ร่วมมือในการทำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 10. กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องที่ 1 เรื่อง Vocabulary, reading and conversation จำนวนเวลาเรียน 2 ชั่วโมง วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบค้นพบ Discovery Method) กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) ชั่วโมงที่ 1 1. ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1.1 นักเรียนดูรูปภาพบน PowerPoint และช่วยกันตอบคำถาม • Look at the picture and tell me what you see on the screen of PowerPoint • What do you know about the people on the screen? 1.2 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็น โดยครูรับคำตอบทุกคำ 1.3 นักเรียนดูรูปภาพในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 Student’s book ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 80 และช่วยกันตอบคำถาม “Who Were They?”
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 255 1.4 นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับคำกริยา Were จากประโยคคำถาม Who Were They? โดยครู อธิบายให้นักเรียนทราบว่า were ในประโยคคำถามนั้นบ่งบอกถึงความเป็นอดีต พร้อมยกตัวอย่างประกอบดังนี้ • Neil Armstrong was an astronaut. • The Beatles were pop group. 1.5 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ was และ were ว่าทั้ง 2 คำ เป็น Past Tense of the verb: be 1.6 นักกเรียนฝึกพูดการใช้ was และ were จากภาพอื่น ๆ ที่เหลือในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 80 จนครบหมดทุกภาพ 1.7 นักเรียนทำกิจกรรม Language Check พร้อมดูภาพจากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 80 และ 81 เพื่อตอบคำถาม true or false 1.8 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยทำกิจกรรม Language Check ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 80 และ 81 หากมีข้อใดที่นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น 1.9 นักเรียนทำกิจกรรม Practice : Ask and answer ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 หน้า 81 ชั่วโมงที่ 2 2. ขั้นเรียนรู้ 2.1 นักเรียนฟังบทสนทนาในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 หน้าที่ 82 2.2 นักเรียนจับคู่เพื่อฝึกบทสนทนา และส่งตัวแทนออกมา 1 - 2 คู่เพื่อออกมาพูดบทสนทนา 2.3 นักเรียนทำกิจกรรมตอบคำถามในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 82 กิจกรรม About the conversation 2.4 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยกิจกรรมในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 82 กิจกรรม About the conversation หากมีข้อใดที่นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น 2.5 นักเรียนทำกิจกรรม Reading : What is intelligent? ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 85 2.6 นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อเรื่องจากการทำกิจกรรม Reading : What is intelligent? ในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 85 2.7 นักเรียนทำกิจกรรม About the reading ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 85 2.8 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยกิจกรรม About the reading ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 85 หากมีข้อใดที่นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอน อธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น 3. ขั้นนำไปใช้ 3.1 นักเรียนศึกษาคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน 3.2 นักเรียนทำใบงานแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 256 3.3 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน หากมีข้อใดที่ นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น เรื่องที่ 2 เรื่อง Question Tag จำนวนเวลาเรียน 4 ชั่วโมง วิธีสอน (วิธีการสอนแบบโมเดลซิปปา CIPPA Model และวิธีการสอนแบบ Inquiry Method : 5Es) กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) ชั่วโมงที่ 1 - 2 1. ขั้นทบทวนความรู้เดิม 1.1 นักเรียนดูรูปประโยคคำถามบน PowerPoint และร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าเป็นประโยคคำถาม แบบใด • Do you like dogs? • Are they your friends? • Can you help me, please? • What is your name? • How old are those babies? 1.2 นักเรียนสามารถตอบได้ว่า 1. ประโยคคำถาม Do you like dogs? Are they your friends? และ Can you help me, please? เป็นประโยคคําถามภาษาอังกฤษ แบบ Yes / No question ซึ่งประโยคคำถามที่ใช้ในการถามคำถาม ที่ ต้องการคำตอบ Yes หรือ No (ใช่หรือไม่ใช่) ซึ่งมักพบได้บ่อยและมีประโยชน์มากในการสนทนาในชีวิตประจำวัน ประโยคคำถามรูปแบบนี้ ถ้าเปรียบเทียบกับภาษาไทย ก็คือคำถามที่ถามว่า ใช่หรือไม่ ใช่ไหม 2. ประโยคคำถาม What is your name? และ How old are those babies? เป็นประโยค คําถามภาษาอังกฤษ แบบ Wh-question คือ ประโยคคำถาม ที่ไม่ต้องการคำตอบว่า Yes หรือ No แต่ต้องการเป็น รายละเอียด ซึ่งประโยคคำถามแบบ Wh-question จะประกอบด้วย Question Words หมายถึง คำที่ใช้ขึ้นต้น ประโยค เพื่อทำให้ประโยคนั้นเป็นคำถาม ซึ่งต้องการให้ผู้ตอบได้ตอบโดยใช้ข้อมูล หรือข้อเท็จจริง ประโยคคำถาม ส่วนใหญ่จะขึ้นต้นด้วย “W” และ “H” คำที่ใช้ในการตั้งคำถามมีอยู่หลายคำ เช่น who, whom, whose, which, what, when, where, why, how long, how often, how many, how much, how far และประโยคคำถาม Question Word ไม่ได้ ตอบว่า yes หรือ no 2. ขั้นแสวงหาความรู้ใหม่ 2.1 นักเรียนดูประโยคคำถามบน PowerPoint และร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าเป็นประโยคคำถาม แบบใด ซึ่งนักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น เสนอความคิดตามความเข้าใจของตนเอง โดยครูรับทุกคำตอบของ นักเรียนทุกคนโดยไม่มีคำตอบถูกหรือผิด • You eat a lot of oranges, don’t you? • You will have the exam next month, won’t you? • She came here yesterday, didn’t she? • She doesn’t want to disturb you, does she? • They haven’t turned it off, have they?
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 257 2.2 นักเรียนดูประโยคที่ครูเขียนบนกระดาน Question Tag 3. ขั้นศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม 3.1 นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน โดยสมาชิกประกอบไปด้วยนักเรียนเก่ง ปานกลางและอ่อน 3.2 นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มช่วยกันหาความหมายและศึกษาหลักการใช้ประโยคคำถามแบบ Question Tag จากแหล่งเรียนรู้ Internet 3.3 นักเรียนตอบคำถาม You’re a student, aren’t you? ในขณะที่นักเรียนตอบครูสังเกตการตอบ คำถามของนักเรียนว่านักเรียนจะรู้หรือไม่ว่าคำตอบที่สามารถตอบได้นั้นต้องเป็น Yes และ No ตามด้วยรูป Tense ของประโยคคำถามนั้น เช่น • Yes, I am. • No, I’m not. 3.4 นักเรียนฟังครูอธิบายการตอบประโยคคำถามแบบ Question Tag คำถามชนิดนี้เป็นคำถามสั้น ๆ ท้ายประโยค ภาษาไทยประมาณว่า ใช่ใหม่ ไม่ใช่หรือ คำตอบก็คล้ายกับ Yes / No Question คือตอบ Yes และ No 4. ขั้นแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม 4.1 นักเรียนในกลุ่มช่วยกันนำเสนอข้อมูลที่ได้ศึกษาความหมายและศึกษาหลักการใช้ประโยคคำถาม แบบ Question Tag จากแหล่งเรียนรู้ Internet โดยสลับกันนำเสนอจนครบทุกคน 4.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันเขียนสรุปข้อมูลที่ได้จากการนำเสนอของสมาชิกแต่ละคน โดยเขียนสรุป ลงในกระดาษที่ครูเตรียมให้ 5. ขั้นสรุปและจัดระเบียบความรู้ 5.1 สมาชิกในแต่ละกลุ่มช่วยกันสรุปความรู้เกี่ยวกับประโยคคำถามแบบ Question Tag 5.2 นักเรียนศึกษาประโยคคำถามแบบ Question Tag บน PowerPoint 5.3 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยคคำถามแบบ Question Tag Question Tag เป็นประโยคที่มีส่วนประกอบสองส่วนคือ ส่วน Statement ซึ่งเป็นประโยคบอก เล่าที่ใช้แสดงความคิดเห็น และส่วน Tag เป็นประโยคคำถามส่วนหลังห้อยท้ายซึ่งใช้ถามย้ำ โดยหากประโยคใด ประโยคหนึ่งเป็นบอกเล่า อีกประโยคจะอยู่ในรูปปฏิเสธเพื่อใช้ถามย้ำให้แน่ใจว่าผู้ฟังเห็นด้วยกับข้อความก่อนหน้าที่ ได้ถามขึ้นมาหรือไม่ ประโยคคำถามแบบ Question Tag มีสองรูปแบบด้วยกัน คือ 1. เมื่อต้องการให้ผู้ฟังแสดงความไม่เห็นด้วยเช่นเดียวกับประโยคหลัก ประโยค Question Tag แบบนี้ จะมีประโยคหลักเป็นประโยคปฏิเสธ และประโยคท้ายเป็น ประโยคคำถามถามย้ำเพื่อความแน่ใจว่าเห็นด้วยกับประโยคหลัก คือ Negative, Affirmative Tag?
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 258 2. เมื่อต้องการให้ผู้ฟังแสดงความเห็นด้วย แบบที่สองนี้ใช้ถามย้ำเพื่อให้ผู้ฟังแสดงความเห็นด้วย โดยประโยคหลักจะเป็นประโยคบอกเล่า ปกติ และประโยคหลังเป็นประโยคคำถามรูปปฏิเสธ คือ Statement, Negative Tag? Question tag หรือ Tag question นี้จึงประกอบด้วยประโยคสองส่วน คือส่วนต้นเป็นประโยค ธรรมดา ส่วนท้ายเป็นประโยคคำถาม ซึ่งเป็นรูปคำถามแบบ Yes / No Question คำถามชนิดนี้นิยมใช้ในการ พูดคุยสนทนา โดยเฉพาะในการใช้ประโยคยาวๆ จะทำให้ไม่สับสน อาจกล่าวได้ว่า คำถามชนิดนี้เป็นการแสดง ความรู้สึกหรือความเข้าใจของตนเองก่อนแล้วจึงขมวดเป็นการถามทีหลัง ว่าเป็นอย่างที่พูดมาข้างต้นหรือเปล่า ลักษณะสำคัญของ โครงสร้างคำถามชนิดนี้ก็คือ ท่อนต้นเป็นประโยคบอกเล่าหรือปฏิเสธ ท่อนหลังเป็นคำถามแบบ Yes / No Question แต่ใช้สรรพนาม (Pronoun) ของประธานในท่อนต้นมาเป็นประธานในท่อนคำถาม หลักการ สร้างประโยค Question tag จะมีดังต่อไปนี้ ถ้าประโยคที่มาข้างหน้าเป็นประโยคบอกเล่า ต้องใช้ question tag เป็นรูปปฏิเสธ • You eat a lot of oranges, don’t you? • You will have the exam next month, won’t you? • She came here yesterday, didn’t she? ถ้าประโยคที่มาข้างหน้าเป็นประโยคปฏิเสธ ต้องใช้ question tag เป็นรูปบอกเล่า • She doesn’t want to disturb you, does she? • They haven’t turned it off, have they? ถ้าประโยคข้างหน้ามี verb to have (a) เมื่อ have แปลว่า “มี” จะใช้ tag ว่า haven’t หรือ don’t ก็ได้ • She has a lot of teddy bears, hasn’t she? • Sam and Smith have only one child, don’t they? (แบบ American) (b) เมื่อ have แปลอย่างอื่น ที่ไม่ได้แปลว่า “มี” ให้ใช้ verb to do มาช่วย • We have breakfast at six o’clock, don’t we? • I had his letter last week, didn’t I? • John had his hair cut by the best hairstylist in town, didn’t he? (c) question tag ของ “have to” (=จำเป็นต้อง) ใช้ verb to do มาช่วย • You often have to go to the dentist’s, don’t you? ในประโยค tag ที่เป็นรูปปฏิเสธ ต้องใช้ รูปย่อเสมอ • We shall go skiing, shan’t we? • He will come to my birthday party, won’t he? • Question tag ของ I am คือ aren’t I (เนื่องจาก am not ไม่มีรูปย่อ) • I am late for school for 30 minutes, aren’t I ? Question tag ของกริยาช่วย can, could, may, might, will, shall, ought to, should, V. be, etc. จะใช้กริยาช่วยเหล่านี้เป็น question tag ได้ • She can speak English it well, can’t she? • You ought to study hard, oughtn’t you?
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 259 คำว่า “need” (ต้องการ) และ “dare” (กล้า) มีวิธีใช้ 2 แบบ คือ (a) ใช้เป็นกริยาแท้ tag ก็จะใช้ verb to do มาช่วย • He needs to go there alone, doesn’t he? • She does not need any help, does she? • We don’t dare to tell a lie, do we? (ข้อสังเกต ถ้า “need” “dare” ใช้เป็นกริยาแท้ จะตามหลังด้วย to + V1 โดยที่กริยา need / dare สามารถผันตามประธานได้ หรืออาจตามด้วย noun ก็ได้ ) (b) ใช้เป็นกริยาช่วย tag จะใช้ need / dare เป็นกริยาช่วยใน tag • She needn’t come on Sunday, need she? • You dare not go out alone at night, dare you? (ข้อสังเกต ถ้า need / dare เป็นกริยาช่วย จะตามหลังด้วย V1 ) question tag ของ used to (เคย) คือ didn’t หรือ usedn’t ( เก่ามากหรือล้าสมัย ) • She used to be his secretary, didn’t she (usedn’t she)? ประธานที่ใช้ใน tag ต้องเป็น pronoun เสมอ • Vinai went to Chiang Mai yesterday, didn’t he? • The children are playing in the garden, aren’t they? • tag ของ would like (=ต้องการ) ใช้ wouldn’t • We’d like to go now, wouldn’t we? • tag ของ would rather (= อยากจะ) ใช้ wouldn’t • You’d rather stay at home, wouldn’t you? • We would rather not go there, would we? • tag ของ had better ใช้ hadn’t • You’d better finish your homework , hadn’t you? • She had better not go out alone, had she? ประโยคคำสั่ง หรือ ขอร้อง (Imperative, order, request) จะกลายเป็นประโยคสุภาพ ด้วยการ เติม question tag ว่า will you หรือ won’t you? • Open your book, will you? • Stop talking, will you? • Go out, will you? หากต้องการแสดงคำขอให้ใช้ “will“: • Take these things away, will you? • Let us go to the movies, will you? หากต้องการแสดงคำเชิญให้ใช้ “won’t“: • Drink some juice, won’t you? • Take a seat, won’t you?
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 260 ถ้าประโยคข้างหน้ามีประธานเป็น There is , There are , There was, There were (=มี) question tag ใช้ verb to be นั้น ๆ + there • There is a purse in my bag, isn’t there? • There are many flowers in the garden, aren’t there? • There was an accident last night, wasn’t there? Question Tag ของ That is.., This is คือ isn’t it ? หรือ is it? • This is my book, isn’t it? • That is not your bag, is it? Question Tag ของ These are, Those are ใช้ aren’t they? หรือ are they? • These are your exercise books, aren’t they? • Those are not our balls, are they? คำต่อไปนี้คือ few, little, never, rarely, scarcely, hardly, seldom, neither, none, no one, nobody, nothing มีความหมายกึ่งปฏิเสธและปฏิเสธ เพราะฉะนั้น tag จะเป็นการบอกเล่า • Few students knew the answers to this question, did they? • Little progress has gradually been made, has it? • He never comes to the office early, does he? • That vacancy is hardly suitable for Chatichai, is it? • We have seldom seen such large watermelons, have we? • I scarcely know who he is, do I? • Nothing was done on time, was it? • We saw no one we knew in that ceremony, did we? • None of the boys liked that song, did they? • You rarely go to the cinema to enjoy a film alone, do you? ประโยคที่ใช้ประธาน one ใน tag จะใช้ one เช่น • One wants to be rich, doesn’t one? ถ้าประธานเป็น everyone, everybody, everything, no one, nobody, anybody, neither ในส่วน tag ให้ใช้ they เช่น • Everyone likes eating ice cream, don’t they? • Nobody knows the answer to this exercise, do they? • Neither of the boys complained about that noise, did they? • None of the workmen arrived at the work site on time, did they? ถ้าเป็นประโยคซับซ้อน ให้ใช้กริยาใน main clause เป็นหลัก ยกเว้น ถ้าใน main clause หมายถึง ตัวเองหรือบุรุษที่ 1 เช่น • He said he would come to my graduation day, did he? • If he said it under oath, it must be true, mustn’t it?
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 261 6. ขั้นปฏิบัติและ / หรือแสดงผลงาน 6.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มฝึกแต่งประโยคคำถามแบบ Question Tag โดยสร้างคำถามเพื่อถามเพื่อน ๆ ใน สมาชิก 6.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันนำประโยคคำถามแบบ Question Tag ของสมาชิกแต่ละคนนำมาเขียน ลงในกระดาษเพื่อนำเสนอหน้าชั้น 7. ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 7.1 นักเรียนส่งตัวแทนอาสาสมัครกลุ่มละ 1 คน ออกมาหน้าชั้นเรียนเพื่ออ่านประโยคคำถามแบบ Question Tag ของกลุ่มตนเองทีละข้อ โดยก่อนที่จะอ่านคำถามให้ตัวแทนเลือกสมาชิกในห้องที่ไม่ใช่ในกลุ่มเตรียม ความพร้อมเพื่อที่จะตอบคำถาม และเปลี่ยนผู้ตอบไปเรื่อย ๆ จนหมดคำถาม 7.2 นักเรียนจับคู่กันฝึกสนทนาโต้ตอบโดยใช้ประโยคคำถามแบบ Question Tag 7.3 ครูวัดและประเมินผลจากการสนทนาของนักเรียนถูกต้องตามหลักโครงสร้างของประโยคคำถาม แบบ Question Tag 7.4 นักเรียนทำแบบฝึกหัดเรื่อง Question Tag บน PowerPoint จำนวน 12 ข้อ Instructions : Complete the sentences with the correct question tags. 1. Steve and Jessy aren’t watching a film on TV,……………………………. ? 2. They played volleyball last Sunday,……………………………. ? 3. Your neighbours have got a blue house,……………………………. ? 4. My brother always arrives late at school,……………………………. ? 5. There’s a swimming pool in our town,……………………………. ? 6. Elephants can’t fly,……………………………. ? 7. She must lose some weight,……………………………. ? 8. He didn’t take a driving lesson yesterday,……………………………. ? 9. They won’t move to Manhattan,……………………………. ? 10. Your sister doesn’t want to become a housewife,……………………………. ? 11. Ken was doing his homework yesterday at 5.00pm,……………………………. ? 12. Your grandparents seem happy active people,……………………………. ? Answer Key : 1. are they 2. didn’t they 3. haven’t they 4. doesn’t he 5. isn’t there 6. can they 7. mustn’t she 8. did he 9. will they 10. does she 11. wasn’t he 12. don’t they 7.5 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเพื่อเสริมความเข้าใจในเรื่องประโยคคำถามแบบ Question Tag เขียนตัวอย่างประโยคบนกระดานให้นักเรียนเห็นความหลากหลายมากขึ้น 7.6 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบจากการทำแบบฝึกหัดเรื่อง Question Tag บน PowerPoint 7.7 นักเรียนฟังครูอธิบายถึงสาเหตุในการตอบคำถามหรือเลือกตอบในแต่ละข้อให้นักเรียนเข้าใจ หลักการใช้ Question Tag และครูสรุปหลักการของกฎต่าง ๆ ให้นักเรียนฟังอีกครั้ง
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 262 ชั่วโมงที่ 3 1. สร้างความสนใจ (Engage) 1.1 นักเรียนทำกิจกรรมทบทวนความรู้เรื่อง Question Tag โดยนักเรียนนั่งเป็นกลุ่มและช่วยกันตอบ คำถามบน PowerPoint จำนวน 10 ข้อ 2. สำรวจและค้นหา (Explore) 2.1 นักเรียนจับคู่กับเพื่อนเพื่อทำกิจกรรม Word search 2.2 นักเรียนทำกิจกรรม Complete the sentences จำนวน 12 ข้อ 1. You study English,……………………………. ? 2. They were busy,……………………………. ? 3. It’s two o’clock,……………………………. ? 4. You don’t drive,……………………………. ? 5. She is a teacher,……………………………. ? 6. We aren’t late,……………………………. ? 7. Mr. Smith has a car,……………………………. ? 8. They weren’t late,……………………………. ? 9. I was right,……………………………. ? 10. Today is Monday,……………………………. ? 11. The phone rang,……………………………. ? 12. He didn’t win,……………………………. ? Answer Key : 1. don’t you 2. weren’t they 3. isn’t it 4. do you 5. isn’t she 6. are we 7. doesn’t he 8. were they 9. wasn’t I 10. isn’t it 11. didn’t it 12. did he หลังจากตอบคำถามครบทั้ง 12 ข้อแล้วแต่ละคู่ช่วยกันหาคำตอบซ่อนอยู่ในตาราง
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 263 3. อธิบาย (Explain) 3.1 นักเรียนส่งตัวแทนออกมาตอบคำถามที่ 1 คน โดยเขียนคำตอบลงบนกระดาน 3.2 นักเรียนสำตรวจสอบคำตอบของคู่ตนเองว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างจากเพื่อนหรือไม่ 3.3 นักเรียนช่วยกันอธิบายประโยคและคำตอบของแต่ละข้อว่าเพราะเหตุใดจึงต้องตอบแบบนี้ 4. ขยายความรู้ (Elaborate) 4.1 นักเรียนแต่ละคู่ช่วยกันทำแบบฝึกหัด Miscellaneous Error เรื่อง Question Tag โดยทำลงใน กระดาษที่ครูเตรียมให้ จำนวน 16 ข้อ Instructions : Find and correct the mistakes below (one mistake per sentence). Some sentences use the present tense, others use the past tense. 1. They live in San Franciso, aren’t they? 2. He didn’t buy the chairs, did they? 3. We are late, do we? 4. He can’t swim, does he? 5. She was a student, isn’t she? 6. Thomas saw a movie, wasn’t he? 7. He couldn’t answer the question, did he? 8. Mr. Smith were late, wasn’t he? 9. They had dinner, were they? 10. Your sister bought a new house, didn’t it? 11. You don’t exercise, don’t you?
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 264 12. It’s three o’clock, aren’t it? 13. She is your friend, don’t she? 14. He is from Canada, isn’t it? 15. Your father doesn’t drink tea, is he? 16. They already started their class, don’t they? Answer Key : 1. don’t they 2. did he 3. aren’t we 4. can he 5. wasn’t she 6. didn’t he 7. could he 8. wasn’t he 9. didn’t they 10. didn’t she 11. do you 12. isn’t it 13. isn’t she 14. isn’t h 15. does he 16. didn’t they 5. ประเมินผล (Evaluate) 5.1 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบแบบฝึกหัด Miscellaneous Error เรื่อง Question Tag5.2 นักเรียนสอบถาม / ซักถามถึงสาเหตุในการตอบคำถามหรือเลือกตอบในแต่ละข้อเพื่อความเข้าใจมากขึ้น ชั่วโมงที่ 4 1. สร้างความสนใจ (Engage) 1.1 นักเรียนดูรูปประโยคแบบ Question Tag บน PowerPoint พร้อมช่วยกันแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเครื่องหมายบวก (+) และเครื่องหมายลบ (-) บนประโยคและประโยคที่ทำเป็นสีต่าง ๆ ว่ามีความหมายหรือ รูปแบบประโยคแบบใด 1.2 นักเรียนทำกิจกรรมทบทวนความรู้เรื่อง Question Tag โดยนักเรียนนั่งเป็นกลุ่มและช่วยกันตอบ คำถามบน PowerPoint จำนวน 10 ข้อ Instructions : Complete the sentences with the correct question tags. 1. Mr. McGuinness is from Ireland,……………………………. ? 2. The car isn’t in the garage,……………………………. ? 3. You are John,……………………………. ? 4. She went to the library yesterday,……………………………. ? 5. He didn’t recognize me,……………………………. ? 6. Cars pollute the environment,……………………………. ? 7. Mr. Pritchard has been to Scotland recently,……………………………. ? 8. The trip is very expensive,……………………………. ? 9. He won’t tell her,……………………………. ? 10. Hugh had a red car,……………………………. ?
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 265 Answer Key : 1. isn’t he 2. is it 3. aren’t you 4. didn’t she 5. did he 6. don’t they 7. hasn’t he 8. isn’t it 9. will he 10. didn’t he 2. สำรวจและค้นหา (Explore) 2.1 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Question tags คืออะไร และวิธีการทำ question tags เป็นประโยค บอกความคิดเห็น คำสั่ง ขอร้อง จาก https://www.youtube.com/watch?v=S9u6hbWVw4I 2.2 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่องสรุปประโยค Question Tags ใช่ไหม ใช่ป่ะ จริงไหม จาก https://www.youtube.com/watch?v=IffdxwnQ75Q 2.3 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่องTag question จาก https://www.youtube.com/watch? v=CYwHf9GkLT8 2.4 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Question Tags in English - Grammar Lesson จาก https://www.youtube.com/watch?v=6CSdK651k9Y 3. อธิบาย (Explain) 3.1 นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้จากการดูวิดีโอทั้ง 4 คลิป 3.2 นักเรียนฟังครูอธิบายเรื่อง Question tag เพิ่มเติม Question tags คือ การถามแบบสั้นๆ ท้ายประโยคคำถาม ประมาณว่า ใช่มั้ย ใช่ปล่าว อะไร ประมาณนี้ถ้าประโยคแรกเป็นประโยคบอกเล่า ประโยคหลังจะเป็นปฎิเสธ แต่ถ้าประโยคแรกเป็นประโยคปฎิเสธ ประโยคหลังจะเป็นบอกเล่า ถ้าบางประโยคเไม่เห็นกิริยาช่วยในประโยค เช่น ไม่มี is – am – are – was – were – do – does – did เป็นต้น อันดับแรกเราจะต้องดูประโยคว่าเป็น Tense อะไร จากนั้นเราจะดึงกิริยาช่วยของ Tense นั้น เช่น • My father drives a car fast, doesn’t he ? ประโยคเป็น Present Simple Tense กิริยาช่วยคือ do / does แต่ my father เป็นเอกพจน์ แทนด้วย he จึงใช้ does ประโยคแรกเป็นบอกเล่า ประโยคหลังจึงเป็นปฎิเสธ • The children ate many sandwiches last night, didn’t they ? ประโยคเป็น Past Simple Tense กิริยาช่วยคือ did และ The children เป็นพหูพจน์แทนด้วย They ประโยคแรกเป็นบอกเล่า ประโยคหลังจึงเป็นปฎิเสธ ในบางประโยคต้องดูดีๆ เพราะส่วนใหญ่จะสับสนและตอบผิด เช่น 1. He has breakfast at 7 o’clock,……………………………. ? 2. He has swum in the pool for 2 hours,……………………………. ? ข้อ 1 ดูดีๆ ประโยคจะเป็นเพียง Present Simple Tense เราจึงใช้ doesn’t he ? เพราะ ประธาน he เป็นเอกพจน์He has breakfast at 7 o’clock, doesn’t he ? แต่ถ้ามองผ่าน ๆ พอเราเห็น has เราจะรีบตอบ hasn’t he ? ทันที จึงทำให้ผิด เพราะไม่ใช่ Present Perfect tense ข้อ 2 ส่วนใหญ่จะตอบกันถูก เพราะเจอ has ก็จะตอบ hasn’t he ? ประโยคนี้ Subject + has / have + Verb 3 จะอยู่ในโครงสร้างของ Present Perfect tense กิริยาช่วยคือ has / have ดังนั้นจึงสามารถดึง กิริยาช่วยออกมาตอบได้เลย
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 266 3.3 นักเรียนสอบถามความรู้เพิ่มเติมเพื่อเสริมความเข้าใจในเรื่อง Question tag โดยครูเขียนตัวอย่าง ประโยคบนกระดานให้นักเรียนเห็นความหลากหลายมากขึ้น 4. ขยายความรู้ (Elaborate) 4.1 นักเรียนศึกษาเนื้อหาเรื่อง Question tag บน PowerPoint 4.2 นักเรียนทำแบบฝึกหัดบน PowerPoint ร่วมกันวิเคราะห์ แสดงความคิดและตอบคำถาม แบบฝึกหัดจำนวน 10 ข้อ Instructions : Choose the best alternative. It tests what you learned on the Tag Questions 1. He’s still sleeping,……………………………. ? 1) is not he 2) isn’t he 3) wasn’t he 2. You do go to school,……………………………. ? 1) do you 2) aren’t you 3) don’t you 3. Let's go for a walk,……………………………. ? 1) shall we 2) shan’t we 3) will we 4. We won’t be late,……………………………. ? 1) won’t we 2) will we 3) are we 5. Nobody called,……………………………. ? 1) do they 2) didn’t they 3) did they
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 267 6. They will wash the car,……………………………. ? 1) will it 2) won’t they 3) wouldn’t they 7. We must lock the doors,……………………………. 1) mustn’t they 2) shouldn’t we 3) mustn’t we 8. I’m right,……………………………. ? 1) amn’t I 2) am not I 3) aren’t I 9. So you bought a car,……………………………. ? 1) did you 2) haven’t you 3) weren’t you 10. You wouldn't like to invite my Dad,……………………………. ? 1) did you 2) would you 3) won’t you Answer Key : 1. 2) 2. 3) 3. 1) 4. 2) 5. 3) 6. 2) 7. 3) 8. 3) 9. 1) 10. 2) 4.3 นักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง Question tag ในเอกสารประกอบการเรียน 4.4 นักเรียนทำใบงานเรื่อง Question tag ในเอกสารประกอบการเรียน 4.5 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดเรื่อง Question tag ในเอกสารประกอบการเรียน 5. ประเมินผล (Evaluate) 5.1 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบแบบฝึกหัดเรื่อง Question tag ในเอกสารประกอบการ เรียน 5.2 นักเรียนสอบถาม / ซักถามถึงสาเหตุในการตอบคำถามหรือเลือกตอบในแต่ละข้อเพื่อความเข้าใจ มากขึ้น เรื่องที่ 4 เรื่อง Question Tag (Revision) จำนวนเวลาเรียน 2 ชั่วโมง วิธีสอน (วิธีการสอนแบบการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)) กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 ขั้นนำ 1.1 นักเรียนทบทวนความรู้เรื่อง Question Tag โดยดูภาพและประโยคบน PowerPoint
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 268 1.2 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเกี่ยวกับประโยค Question Tag บน PowerPoint ว่าเป็น ประโยค Question Tag ประเภทใด 1.3 นักเรียนสามารถตอบและอธิบายได้ว่า 1. Nice day, isn’t it? เป็น question tag ในรูปบอกเล่า จากประโยคจะเห็นได้ว่าประโยค question tag เป็นประโยคบอกเล่าประเภท Present simple ใช้ Verb to be เป็น Helping Verb 2. Let’s go out, shall we? เป็น question tags ในรูปปฏิเสธ จากประโยคจะเห็นได้ว่า ประโยค question tag เป็นประโยคปฏิเสธประเภท Future simple ใช้ Verb Tense (helping Verb) เป็น shall ขั้นที่ 2 ขั้นการสืบค้นความรู้จากแหล่งข้อมูลและสารสนเทศ 2.1 นักเรียนดูภาพประโยค Question Tag บน PowerPoint You will be here in ten minutes, won’t you? 2.2 นักเรียนช่วยกันแยกประโยคตามหัวข้อที่ครูเขียนบนกระดาน Subject = …………………………………………. . Auxiliary Verb = …………………………………………. . Main Verb = …………………………………………. . Auxiliary Verb + not = …………………………………………. . Subject pronoun = …………………………………………. . 2.3 นักเรียนสามารถแยกประโยคได้ว่า Subject = You Auxiliary Verb = Will Main Verb = Be Auxiliary Verb + not = Won’t Subject pronoun = You 2.4 นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ประโยค Question Tag บน PowerPoint ว่าประโยคที่นักเรียนเห็น นั้นมีความถูกต้องหรือไม่ถูกต้องอย่างไร และถ้านักเรียนคิดว่าไม่ถูกต้อง จะแก้ไขประโยคให้ถูกต้องอย่างไร I’m invited to the party, am not I? 2.5 นักเรียนสามารถวิเคราะห์ประโยค Question Tag บน PowerPoint ได้ว่า เป็นประโยคที่ไม่ ถูกต้อง ซึ่ง Question Tag ถ้าประโยคหลักใช้ I’m ส่วนของ Tag ต้องใช้ aren’t I? แต่ถ้าประโยคหลักใช้ I’m not ส่วนของ Tag ต้องใช้ am I? และประโยคจะต้องแก้ไขเป็น I’m invited to the party, aren’t I? 2.6 นักเรียนสืบค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอย่างประโยคที่ใช้Question Tag จากเว็บไซต์ ต่าง ๆ จากอินเทอร์เน็ต โดยครูตั้งกติกาว่าจะต้องศึกษาอย่างน้อย 2 เว็บไซต์ ขั้นที่ 3 ขั้นเชื่อมโยงความรู้ 2.1 นักเรียนส่งตัวแทนจำนวน 10 คน เพื่อรับบัตรประโยคและบัตร Question Tag 2.2 นักเรียนที่ได้รับบัตรประโยคและบัตร Question Tag แสดงบัตรคำพร้อมออกเสียงประโยคให้ เพื่อนฟังด้วยความมั่นใจ 2.3 นักเรียนที่มีบัตร Question Tag เดินค้นหาเพื่อนที่มีบัตรประโยคที่สามารถเชื่อมต่อกันและมี ความหมายถูกต้อง
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 269 2.4 เมื่อนักเรียนเจอคู่ของตัวเองแล้ว เช่น บัตรประโยค You did your homework yesterday,………………………. ? คู่กับ บัตรคำ Question Tag didn’t you ให้นักเรียนพูดออกเสียงประโยคและ Question Tag นั้น ๆ ทีละคู่แล้วนำบัตรประโยคและ บัตร Question Tag ติดที่กระดาน 2.5 เมื่อนักเรียนติดบัตรคำครบทุกคำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบความ ถูกต้องของประโยคจากบัตรคำประโยคและบัตร Question Tag ที่นักเรียนติดบนกระดาน 2.6 นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ประโยคบนกระดานพร้อมจดบันทึกลงในสมุด ขั้นที่ 4 ขั้นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ปฏิบัติงานกลุ่ม 4.1 นักเรียนแบ่งออกเป็น 10 กลุ่มๆ ละ 5 คน และ โดยแต่ละกลุ่มประกอบไปด้วยสมาชิก นักเรียน เก่ง ปานกลางและอ่อน ให้แต่ละกลุ่มเลือกหัวหน้ากลุ่มของตนเอง 4.2 นักเรียนนั่งเป็นวงกลม และช่วยกันศึกษา Question Tag บน PowerPoint
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 270 4.3 นักเรียนนั่งเป็นวงกลม และช่วยกันศึกษา Question Tag จากเอกสารประกอบการเรียน 4.4 นักเรียนสลับกันนำเสนอข้อมูลที่ได้จากการศึกษา โดยพูดสรุปตามความเข้าใจ 4.5 หัวหน้ากลุ่มรวบรวมข้อมูลที่สมาชิกพูด และเขียนลงในแผ่นกระดาษที่ครูเตรียมให้ 4.6 นักเรียนแต่ละกลุ่มทำการแลกเปลี่ยนกระดาษที่เขียนสรุปข้อมูล Question Tag กับกลุ่มอื่น ๆ จนครบ โดยทำการจดบันทึกข้อมูลเพิ่มเติมในส่งที่กลุ่มตนเองไม่มี 4.7 นักเรียนฟังครูอธิบายหลักการใช้ Question Tag Question tag หรือ Tag question คือ รูปประโยคคำถามย่อ ๆ ที่ถูกนำมาต่อท้ายประโยค บอกเล่า เพื่อให้ประโยคนั้นกลายเป็นประโยคคำถาม หรือเพื่อให้ผู้ฟังได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น *** ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคบอกเล่า (Affirmative Sentence) ส่วนของ Tag จะต้องเป็น ประโยคปฏิเสธ (Negative Sentence) *** ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคปฏิเสธ (Negative Sentence) ส่วนของ Tag จะต้องเป็น ประโยคบอกเล่า (Affirmative Sentence) 1. หลักการสร้าง Question tag มีดังต่อไปนี้ 1.1 ประโยคบอกเล่าที่มีกริยาช่วย (to be, V. to have, V. to do, will, would, shall, should, may, might, can, could) ให้ใช้กริยาช่วยเหล่านั้นมาทำเป็น Question tag ได้เลย • Jack is from Spain, isn’t he? • Mary can speak English, can’t she? • He shouldn’t say things like that, should he? • They aren’t funny, are they? 1.2 ถ้าประโยคหลักอยู่ในรูปของ present simple (รูปประโยค ประธาน + กริยาช่อง 1) ให้ใช้ do, does เข้ามาช่วยในการสร้างส่วนของ Tag • She loves shopping, doesn’t she? • They have a lot of friends, don’t they? (have ในประโยคไม่ได้ทำหน้าที่ เป็นกริยาช่วยแต่ทำหน้าที่เป็นกริยาแท้ แปลว่า มี) 1.3 ถ้าประโยคหลักอยู่ในรูปของ past simple (รูปประโยค ประธาน + กริยาช่อง 2) ให้ใช้ did เข้ามาช่วยในการสร้างส่วนของ Tag เช่น • You killed her, didn’t you? • He ate the banana, didn’t he? 1.4 ถ้าประโยคหลักใช้ I’m ส่วนของ Tag ต้องใช้ aren’t I? แต่ถ้าประโยคหลักใช้ I’m not ส่วนของ Tag ต้องใช้ am I ? • I am attractive, aren’t I ? • I am not the last one, am I ? 1.5 ถ้าประโยคที่มี This is, That is อยู่ในประโยคหลัก ส่วนของ Tag จะต้องใช้เป็น isn’t it? หรือ is it? (ขึ้นอยู่ว่าประโยคหลักอยู่ในรูปบอกเล่าหรือปฏิเสธ) • This is my friend, isn’t it? • That is a book, isn’t it?
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 271 1.6 ถ้าประโยคที่มี These are, Those are อยู่ในประโยคหลัก ส่วนของ Tag จะต้องใช้ เป็น aren't they? หรือ are they? (ขึ้นอยู่ว่าประโยคหลักอยู่ในรูปบอกเล่าหรือปฏิเสธ) • These are pens, aren't they? • Those are not your shoes, are they? 1.7 ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคคำสั่ง(แต่ไม่ใช่ในเชิงปฏิเสธหรือประโยคคำสั่งที่ไม่มี not) ส่วนของ Tag จะเป็น will you? หรือ won't you? ก็ได้ • Stop daydreaming, will / won’t you? • Be quiet, will / won’t you? 1.8 ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคคำสั่ง(ในเชิงปฏิเสธหรือประโยคคำสั่งที่มี not) ส่วนของ Tag จะเป็นต้องเป็น will you? เช่น • Don’t stop running, will you? 1.9 ถ้าประโยคหลักมี Let’s (Let us) ส่วนของ Tag จะต้องเป็น shall we? แต่ถ้าประโยค หลักมี Let + Objective + Verb 1 ส่วนของ Tag จะต้องเป็น will you? • Let’s go, shall we? • Let it go, will you? 2. การตอบคำถามของประโยค Question tag นั้นเราจะใช้ Yes และ No เข้ามาช่วยในการ ตอบคำถาม 2.1 ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคบอกเล่า จะตอบ Yes เมื่อเห็นด้วยกับประโยคหลัก จะตอบ No เมื่อไม่เห็นด้วยกับประโยคหลัก • He can speak Thai, can’t he? เขาพูดภาษาไทยได้,ใช่ไหม Yes, he can. ใช่ เขาพูดภาษาไทยได้ No, he can’t. ไม่ เขาพูดภาษาไทยไม่ได้ 2.2 ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคปฏิเสธ จะตอบ No เมื่อเราเห็นด้วยกับประโยคหลัก จะตอบ Yes เมื่อเราไม่เห็นด้วยกับประโยคหลัก • You don’t like dog, do you? คุณไม่ชอบสุนัข,ใช่ไหม No, I don’t. ใช่ ฉันไม่ชอบสุนัข Yes, I do. ไม่นะ ฉันชอบสุนัข
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 272 ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 5 ขั้นการสร้างองค์ความรู้ร่วมกัน 5.1 นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์และตอบคำถามบน PowerPoint จำนวน 15 ข้อ Instructions : Choose the best answer for each of the following sentences 1. She goes to school every day,…………………………….? 1) does not she 2) doesn’t she 3) doesn’t she go 4) does she 2. He never used to give sweet words,…………………………….he? 1) usedn’t 2) didn’t 3) did 4) never used 3. My car needs cleaning every morning,…………………………….? 1) doesn’t it 2) needsn’t it 3) isn’t it 4) needs it 4. I am a teacher by profession,…………………………….? 1) aren’t I 2) amn’t I 3) am I 4) are I 5. Let’s sing a national song,…………………………….? 1) don’t we 2) don’t you 3) shall we 4) shan’t we 6. Please come and see me at home tomorrow,…………………………….? 1) won’t you 2) will you 3) don’t you 4) do you 7. We have our lunch at school every day,…………………………….? 1) don’t we 2) do you 3) don’t you 4) don’t you have 8. You’d better finish your report this week,…………………………….? 1) hadn’t you 2) don’t you 3) do you 4) better you 9. That job is hardly suitable for Peter,…………………………….? 1) isn’t it 2) is it 3) hardly it 4) is that job 10. Nothing else was done,…………………………….? 1) wasn’t it 2) was it 3) wasn’t else 4) was else
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 273 11. She rarely goes to the cinema,…………………………….? 1) does she 2) rarely she 3) doesn’t she 4) doesn’t rarely 12. These are my belongings,…………………………….? 1) are they 2) aren’t they 3) aren’t these 4) are these 13. Nobody liked him,…………………………….? 1) didn’t they 2) didn’t he 3) didn’t nobody 4) did they 14. None of us loved her,…………………………….? 1) did none 2) did they 3) did we 4) did her 15. I think he is a doctor,…………………………….? 1) isn’t he 2) is he 3) don’t I 4) doesn’t he Answer Key : 1. 2) 2. 3) 3. 1) 4. 1) 5. 3) 6. 2) 7. 1) 8. 1) 9. 2) 10. 2) 11. 1) 12. 2) 13. 4) 14. 3) 15. 1 5.2 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบจากการทำแบบฝึกหัดเรื่อง Question tag บน PowerPoint 5.3 นักเรียนซักถามครูเพิ่มเติมแต่ละข้อเมื่อนักเรียนไม่เข้าใจ โดยครูอธิบายโจทย์และตัวเลือกอย่าง ชัดเจน 5.4 นักเรียนทำใบงานเรื่อง Question tag (Revision) ในเอกสารประกอบการเรียนรู้ 5.5 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบจากการทำใบงานเรื่อง Question tag (Revision) ใน เอกสารประกอบการเรียนรู้ ขั้นที่ 6 ขั้นการสื่อสารและการนำเสนอ 6.1 นักเรียนนำข้อมูลที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลการสรุปเรื่อง Question tag จากกลุ่มอื่น นำมารวบรวมเข้ากับข้อมูลของกลุ่มตนเอง 6.2 ตัวแทนกลุ่มรับกระดาษและอุปกรณ์การเขียนเพื่อทำการสรุปเนื้อหา Question tag ที่นักเรียน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ 6.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอข้อมูลเรื่อง Question tag ของกลุ่มตนเองหน้าชั้นเรียน ขั้นที่ 7 ขั้นประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 7.1 นักเรียนร่วมกันสรุป Question tag ที่เรียนไปแล้ว 7.2 นักเรียนยกตัวอย่างการนำความรู้เรื่อง Question tag ที่แต่ละกลุ่มได้เรียนรู้โดยสรุปร่วมกันทั้ง ห้องแล้วบันทึกความรู้ลงในสมุดบันทึก
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 274 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 เรื่อง Who were they? แผนการจัดการเรียนรู้ที่16 เรื่อง Vocabulary, readingand conversation รหัสวิชา อ22122 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุจินดา ปรากฏวงศ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม 1.2 ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.2/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.2 ม.2/2 ใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายตามสถานการณ์ ต 4.1 ม.2/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริงท /สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา และชุมชน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับการอ่านออกเสียง Vocabulary บทสนทนา - นักเรียนมีความรู้ เรื่องการใช้ Question Tag 2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง Vocabulary บทสนทนา ได้ถูกต้อง - นักเรียนสามารถใช้ประโยค Question Tag ในคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบาย ใน สถานการณ์จริง / สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษาและชุมชนได้ 2.3 คุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - รักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและฝึกฝนอย่างจริงจังเพียงพอ - ผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีมารยาท ถูกต้องตามกาลเทศะ และบุคคล 3. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด - พูดและเขียนโดยใช้ Vocabulary ในคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายในสถานการณ์จริง / สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษาและชุมชน มีทักษะในการเลือก พอประมาณ มีเหตุผล มี ภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม ในการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 275 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง พูดและเขียนโดยใช้ Vocabulary ในคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายในสถานการณ์จริง / สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษาและชุมชน 4.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1. คำศัพท์ในเรื่อง Unit 11 : Who were they? 2. บทสนทนาในเรื่อง Unit 11 : Who were they? 3. การใช้ Vocabulary ในรูปแบบต่าง ๆ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 5.1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ตามหลักสูตรแกนกลาง) 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 5.2 คุณลักษณะตามหลักสูตรมาตรฐานสากล 1) มีความรู้พื้นฐานในยุคดิจิตอล วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา พหุวัฒนธรรม ตระหนักสำนึกระดับโลก 2) สามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ปรับตัวใฝ่รู้ ใฝ่เรียน วิเคราะห์ สังเคราะห์สรุป สร้างองค์ความรู้ 3) มีทักษะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 4) มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 7C เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 6.1 ทักษะการอ่าน (Reading) 6.2 ทักษะการเขียน (Writing) 6.3 ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic) 6.4 ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) 6.5 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) 6.6 ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, teamwork and leadership) 6.7 ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) 6.8 ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication information and media literacy) 6.9 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing) 6.10 ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 276 7. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 7.1 บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 7.2 บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 7.3 บูรณาการห้องเรียนสีเขียว 7.4 อื่น ๆ (โปรดระบุ)................................................................................................................................................. 8. ชิ้นงาน / ภาระงาน 1. ภาระงาน - ใบงานเรื่องVocabulary - แบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2. ชิ้นงาน - 9. กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) เรื่อง Vocabulary, reading and conversation วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบค้นพบ Discovery Method) ชั่วโมงที่ 1 1. ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1.1 นักเรียนดูรูปภาพบน PowerPoint และช่วยกันตอบคำถาม • Look at the picture and tell me what you see on the screen of PowerPoint • What do you know about the people on the screen? 1.2 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็น โดยครูรับคำตอบทุกคำ 1.3 นักเรียนดูรูปภาพในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 Student’s book ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 80 และช่วยกันตอบคำถาม “Who Were They?” 1.4 นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับคำกริยา Were จากประโยคคำถาม Who Were They? โดยครู อธิบายให้นักเรียนทราบว่า were ในประโยคคำถามนั้นบ่งบอกถึงความเป็นอดีต พร้อมยกตัวอย่างประกอบดังนี้ • Neil Armstrong was an astronaut. • The Beatles were pop group. 1.5 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ was และ were ว่าทั้ง 2 คำ เป็น Past Tense of the verb: be
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 277 1.6 นักกเรียนฝึกพูดการใช้ was และ were จากภาพอื่น ๆ ที่เหลือในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 80 จนครบหมดทุกภาพ 1.7 นักเรียนทำกิจกรรม Language Check พร้อมดูภาพจากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 80 และ 81 เพื่อตอบคำถาม true or false 1.8 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยทำกิจกรรม Language Check ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 80 และ 81 หากมีข้อใดที่นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น 1.9 นักเรียนทำกิจกรรม Practice : Ask and answer ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 หน้า 81 ชั่วโมงที่ 2 2. ขั้นเรียนรู้ 2.1 นักเรียนฟังบทสนทนาในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 หน้าที่ 82 2.2 นักเรียนจับคู่เพื่อฝึกบทสนทนา และส่งตัวแทนออกมา 1 - 2 คู่เพื่อออกมาพูดบทสนทนา 2.3 นักเรียนทำกิจกรรมตอบคำถามในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 82 กิจกรรม About the conversation 2.4 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยกิจกรรมในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 82 กิจกรรม About the conversation หากมีข้อใดที่นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น 2.5 นักเรียนทำกิจกรรม Reading : What is intelligent? ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 85 2.6 นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อเรื่องจากการทำกิจกรรม Reading : What is intelligent? ในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 85 2.7 นักเรียนทำกิจกรรม About the reading ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 85 2.8 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยกิจกรรม About the reading ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้าที่ 85 หากมีข้อใดที่นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอน อธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น 3. ขั้นนำไปใช้ 3.1 นักเรียนศึกษาคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน 3.2 นักเรียนทำใบงานแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน 3.3 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน หากมีข้อใดที่ นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 278 10. สื่อการเรียนรู้ / แหล่งเรียนรู้ 10.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2. ใบความรู้เรื่อง Vocabulary 3. ใบงานเรื่อง Vocabulary 4. แบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 10.2 แหล่งเรียนรู้ 1. หนังสือพิมพ์ 2. อินเทอร์เน็ตหรือสื่ออื่น ๆ 11. การวัดและประเมินผล ลำดับ รายการที่วัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ใบงานเรื่อง Vocabulary ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นั ก เรีย น ให้ ค วาม ร่วม มื อใน การท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 2 แ บ บ ฝึ ก หั ด เรื่อ ง Reading and conversation ใน ห นั งสื อ เรี ย น รายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ New World 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด นั ก เรีย น ให้ ค วาม ร่วม มื อใน การท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 12. เกณฑ์การประเมิน 16 - 20 คะแนน ดีมาก 11 - 15 คะแนน ดี 6 - 10 คะแนน พอใช้ น้อยกว่า 6 คะแนน ควรปรับปรุง ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 279 บันทึกหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู วันที่..............เดือน..................................พ.ศ. ..................
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 280 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 เรื่อง Who were they? แผนการจัดการเรียนรู้ที่17 เรื่อง Question Tag รหัสวิชา อ22122 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 4 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุจินดา ปรากฏวงศ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม 1.2 ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.2/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.2 ม.2/2 ใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายตามสถานการณ์ ต 4.1 ม.2/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริงท /สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา และชุมชน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับการอ่านออกเสียง Vocabulary บทสนทนา - นักเรียนมีความรู้ เรื่องการใช้ Question Tag 2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง Vocabulary บทสนทนา ได้ถูกต้อง - นักเรียนสามารถใช้ประโยค Question Tag ในคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบาย ใน สถานการณ์จริง / สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษาและชุมชนได้ 2.3 คุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - รักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและฝึกฝนอย่างจริงจังเพียงพอ - ผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีมารยาท ถูกต้องตามกาลเทศะ และบุคคล 3. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด - พูดและเขียนโดยใช้ Question Tag ในคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายในสถานการณ์จริง / สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษาและชุมชน มีทักษะในการเลือก พอประมาณ มีเหตุผล มี ภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม ในการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 281 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง พูดและเขียนโดยใช้ Question Tag ในคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายในสถานการณ์จริง / สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษาและชุมชน 4.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1. คำศัพท์ในเรื่อง Unit 11 : Who were they? 2. บทสนทนาในเรื่อง Unit 11 : Who were they? 3. การใช้โครงสร้าง Question Tag ในรูปแบบต่าง ๆ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 5.1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ตามหลักสูตรแกนกลาง) 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 5.2 คุณลักษณะตามหลักสูตรมาตรฐานสากล 1) มีความรู้พื้นฐานในยุคดิจิตอล วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา พหุวัฒนธรรม ตระหนักสำนึกระดับโลก 2) สามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ปรับตัวใฝ่รู้ ใฝ่เรียน วิเคราะห์ สังเคราะห์สรุป สร้างองค์ความรู้ 3) มีทักษะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 4) มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 7C เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 6.1 ทักษะการอ่าน (Reading) 6.2 ทักษะการเขียน (Writing) 6.3 ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic) 6.4 ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) 6.5 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) 6.6 ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, teamwork and leadership) 6.7 ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) 6.8 ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication information and media literacy) 6.9 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing) 6.10 ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 282 7. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 7.1 บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 7.2 บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 7.3 บูรณาการห้องเรียนสีเขียว 7.4 อื่น ๆ (โปรดระบุ)................................................................................................................................................. 8. ชิ้นงาน / ภาระงาน 1. ภาระงาน - ใบงานเรื่อง Question Tag 2. ชิ้นงาน - 9. กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) เรื่อง Question Tag วิธีสอน (วิธีการสอนแบบโมเดลซิปปา CIPPA Model และวิธีการสอนแบบ Inquiry Method : 5Es) ชั่วโมงที่ 1 - 2 1. ขั้นทบทวนความรู้เดิม 1.1 นักเรียนดูรูปประโยคคำถามบน PowerPoint และร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าเป็นประโยคคำถาม แบบใด • Do you like dogs? • Are they your friends? • Can you help me, please? • What is your name? • How old are those babies? 1.2 นักเรียนสามารถตอบได้ว่า 1. ประโยคคำถาม Do you like dogs? Are they your friends? และ Can you help me, please? เป็นประโยคคําถามภาษาอังกฤษ แบบ Yes / No question ซึ่งประโยคคำถามที่ใช้ในการถามคำถาม ที่ ต้องการคำตอบ Yes หรือ No (ใช่หรือไม่ใช่) ซึ่งมักพบได้บ่อยและมีประโยชน์มากในการสนทนาในชีวิตประจำวัน ประโยคคำถามรูปแบบนี้ ถ้าเปรียบเทียบกับภาษาไทย ก็คือคำถามที่ถามว่า ใช่หรือไม่ ใช่ไหม 2. ประโยคคำถาม What is your name? และ How old are those babies? เป็นประโยค คําถามภาษาอังกฤษ แบบ Wh-question คือ ประโยคคำถาม ที่ไม่ต้องการคำตอบว่า Yes หรือ No แต่ต้องการเป็น รายละเอียด ซึ่งประโยคคำถามแบบ Wh-question จะประกอบด้วย Question Words หมายถึง คำที่ใช้ขึ้นต้น ประโยค เพื่อทำให้ประโยคนั้นเป็นคำถาม ซึ่งต้องการให้ผู้ตอบได้ตอบโดยใช้ข้อมูล หรือข้อเท็จจริง ประโยคคำถาม ส่วนใหญ่จะขึ้นต้นด้วย “W” และ “H” คำที่ใช้ในการตั้งคำถามมีอยู่หลายคำ เช่น who, whom, whose, which, what, when, where, why, how long, how often, how many, how much, how far และประโยคคำถาม Question Word ไม่ได้ ตอบว่า yes หรือ no
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 283 2. ขั้นแสวงหาความรู้ใหม่ 2.1 นักเรียนดูประโยคคำถามบน PowerPoint และร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าเป็นประโยคคำถาม แบบใด ซึ่งนักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น เสนอความคิดตามความเข้าใจของตนเอง โดยครูรับทุกคำตอบของ นักเรียนทุกคนโดยไม่มีคำตอบถูกหรือผิด • You eat a lot of oranges, don’t you? • You will have the exam next month, won’t you? • She came here yesterday, didn’t she? • She doesn’t want to disturb you, does she? • They haven’t turned it off, have they? 2.2 นักเรียนดูประโยคที่ครูเขียนบนกระดาน Question Tag 3. ขั้นศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม 3.1 นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน โดยสมาชิกประกอบไปด้วยนักเรียนเก่ง ปานกลางและอ่อน 3.2 นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มช่วยกันหาความหมายและศึกษาหลักการใช้ประโยคคำถามแบบ Question Tag จากแหล่งเรียนรู้ Internet 3.3 นักเรียนตอบคำถาม You’re a student, aren’t you? ในขณะที่นักเรียนตอบครูสังเกตการตอบ คำถามของนักเรียนว่านักเรียนจะรู้หรือไม่ว่าคำตอบที่สามารถตอบได้นั้นต้องเป็น Yes และ No ตามด้วยรูป Tense ของประโยคคำถามนั้น เช่น • Yes, I am. • No, I’m not. 3.4 นักเรียนฟังครูอธิบายการตอบประโยคคำถามแบบ Question Tag คำถามชนิดนี้เป็นคำถามสั้น ๆ ท้ายประโยค ภาษาไทยประมาณว่า ใช่ใหม่ ไม่ใช่หรือ คำตอบก็คล้ายกับ Yes / No Question คือตอบ Yes และ No 4. ขั้นแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม 4.1 นักเรียนในกลุ่มช่วยกันนำเสนอข้อมูลที่ได้ศึกษาความหมายและศึกษาหลักการใช้ประโยคคำถาม แบบ Question Tag จากแหล่งเรียนรู้ Internet โดยสลับกันนำเสนอจนครบทุกคน 4.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันเขียนสรุปข้อมูลที่ได้จากการนำเสนอของสมาชิกแต่ละคน โดยเขียนสรุป ลงในกระดาษที่ครูเตรียมให้ 5. ขั้นสรุปและจัดระเบียบความรู้ 5.1 สมาชิกในแต่ละกลุ่มช่วยกันสรุปความรู้เกี่ยวกับประโยคคำถามแบบ Question Tag 5.2 นักเรียนศึกษาประโยคคำถามแบบ Question Tag บน PowerPoint
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 284 5.3 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยคคำถามแบบ Question Tag Question Tag เป็นประโยคที่มีส่วนประกอบสองส่วนคือ ส่วน Statement ซึ่งเป็นประโยคบอก เล่าที่ใช้แสดงความคิดเห็น และส่วน Tag เป็นประโยคคำถามส่วนหลังห้อยท้ายซึ่งใช้ถามย้ำ โดยหากประโยคใด ประโยคหนึ่งเป็นบอกเล่า อีกประโยคจะอยู่ในรูปปฏิเสธเพื่อใช้ถามย้ำให้แน่ใจว่าผู้ฟังเห็นด้วยกับข้อความก่อนหน้าที่ ได้ถามขึ้นมาหรือไม่ ประโยคคำถามแบบ Question Tag มีสองรูปแบบด้วยกัน คือ 1. เมื่อต้องการให้ผู้ฟังแสดงความไม่เห็นด้วยเช่นเดียวกับประโยคหลัก ประโยค Question Tag แบบนี้ จะมีประโยคหลักเป็นประโยคปฏิเสธ และประโยคท้ายเป็น ประโยคคำถามถามย้ำเพื่อความแน่ใจว่าเห็นด้วยกับประโยคหลัก คือ Negative, Affirmative Tag? 2. เมื่อต้องการให้ผู้ฟังแสดงความเห็นด้วย แบบที่สองนี้ใช้ถามย้ำเพื่อให้ผู้ฟังแสดงความเห็นด้วย โดยประโยคหลักจะเป็นประโยคบอกเล่า ปกติ และประโยคหลังเป็นประโยคคำถามรูปปฏิเสธ คือ Statement, Negative Tag? Question tag หรือ Tag question นี้จึงประกอบด้วยประโยคสองส่วน คือส่วนต้นเป็นประโยค ธรรมดา ส่วนท้ายเป็นประโยคคำถาม ซึ่งเป็นรูปคำถามแบบ Yes / No Question คำถามชนิดนี้นิยมใช้ในการ พูดคุยสนทนา โดยเฉพาะในการใช้ประโยคยาวๆ จะทำให้ไม่สับสน อาจกล่าวได้ว่า คำถามชนิดนี้เป็นการแสดง ความรู้สึกหรือความเข้าใจของตนเองก่อนแล้วจึงขมวดเป็นการถามทีหลัง ว่าเป็นอย่างที่พูดมาข้างต้นหรือเปล่า ลักษณะสำคัญของ โครงสร้างคำถามชนิดนี้ก็คือ ท่อนต้นเป็นประโยคบอกเล่าหรือปฏิเสธ ท่อนหลังเป็นคำถามแบบ Yes / No Question แต่ใช้สรรพนาม (Pronoun) ของประธานในท่อนต้นมาเป็นประธานในท่อนคำถาม หลักการ สร้างประโยค Question tag จะมีดังต่อไปนี้ ถ้าประโยคที่มาข้างหน้าเป็นประโยคบอกเล่า ต้องใช้ question tag เป็นรูปปฏิเสธ • You eat a lot of oranges, don’t you? • You will have the exam next month, won’t you? • She came here yesterday, didn’t she? ถ้าประโยคที่มาข้างหน้าเป็นประโยคปฏิเสธ ต้องใช้ question tag เป็นรูปบอกเล่า • She doesn’t want to disturb you, does she? • They haven’t turned it off, have they? ถ้าประโยคข้างหน้ามี verb to have (a) เมื่อ have แปลว่า “มี” จะใช้ tag ว่า haven’t หรือ don’t ก็ได้ • She has a lot of teddy bears, hasn’t she? • Sam and Smith have only one child, don’t they? (แบบ American) (b) เมื่อ have แปลอย่างอื่น ที่ไม่ได้แปลว่า “มี” ให้ใช้ verb to do มาช่วย • We have breakfast at six o’clock, don’t we? • I had his letter last week, didn’t I? • John had his hair cut by the best hairstylist in town, didn’t he? (c) question tag ของ “have to” (=จำเป็นต้อง) ใช้ verb to do มาช่วย • You often have to go to the dentist’s, don’t you?
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 285 ในประโยค tag ที่เป็นรูปปฏิเสธ ต้องใช้ รูปย่อเสมอ • We shall go skiing, shan’t we? • He will come to my birthday party, won’t he? • Question tag ของ I am คือ aren’t I (เนื่องจาก am not ไม่มีรูปย่อ) • I am late for school for 30 minutes, aren’t I ? Question tag ของกริยาช่วย can, could, may, might, will, shall, ought to, should, V. be, etc. จะใช้กริยาช่วยเหล่านี้เป็น question tag ได้ • She can speak English it well, can’t she? • You ought to study hard, oughtn’t you? คำว่า “need” (ต้องการ) และ “dare” (กล้า) มีวิธีใช้ 2 แบบ คือ (a) ใช้เป็นกริยาแท้ tag ก็จะใช้ verb to do มาช่วย • He needs to go there alone, doesn’t he? • She does not need any help, does she? • We don’t dare to tell a lie, do we? (ข้อสังเกต ถ้า “need” “dare” ใช้เป็นกริยาแท้ จะตามหลังด้วย to + V1 โดยที่กริยา need / dare สามารถผันตามประธานได้ หรืออาจตามด้วย noun ก็ได้ ) (b) ใช้เป็นกริยาช่วย tag จะใช้ need / dare เป็นกริยาช่วยใน tag • She needn’t come on Sunday, need she? • You dare not go out alone at night, dare you? (ข้อสังเกต ถ้า need / dare เป็นกริยาช่วย จะตามหลังด้วย V1 ) question tag ของ used to (เคย) คือ didn’t หรือ usedn’t ( เก่ามากหรือล้าสมัย ) • She used to be his secretary, didn’t she (usedn’t she)? ประธานที่ใช้ใน tag ต้องเป็น pronoun เสมอ • Vinai went to Chiang Mai yesterday, didn’t he? • The children are playing in the garden, aren’t they? • tag ของ would like (=ต้องการ) ใช้ wouldn’t • We’d like to go now, wouldn’t we? • tag ของ would rather (= อยากจะ) ใช้ wouldn’t • You’d rather stay at home, wouldn’t you? • We would rather not go there, would we? • tag ของ had better ใช้ hadn’t • You’d better finish your homework , hadn’t you? • She had better not go out alone, had she? ประโยคคำสั่ง หรือ ขอร้อง (Imperative, order, request) จะกลายเป็นประโยคสุภาพ ด้วยการ เติม question tag ว่า will you หรือ won’t you? • Open your book, will you?
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 286 • Stop talking, will you? • Go out, will you? หากต้องการแสดงคำขอให้ใช้ “will“: • Take these things away, will you? • Let us go to the movies, will you? หากต้องการแสดงคำเชิญให้ใช้ “won’t“: • Drink some juice, won’t you? • Take a seat, won’t you? ถ้าประโยคข้างหน้ามีประธานเป็น There is , There are , There was, There were (=มี) question tag ใช้ verb to be นั้น ๆ + there • There is a purse in my bag, isn’t there? • There are many flowers in the garden, aren’t there? • There was an accident last night, wasn’t there? Question Tag ของ That is.., This is คือ isn’t it ? หรือ is it? • This is my book, isn’t it? • That is not your bag, is it? Question Tag ของ These are, Those are ใช้ aren’t they? หรือ are they? • These are your exercise books, aren’t they? • Those are not our balls, are they? คำต่อไปนี้คือ few, little, never, rarely, scarcely, hardly, seldom, neither, none, no one, nobody, nothing มีความหมายกึ่งปฏิเสธและปฏิเสธ เพราะฉะนั้น tag จะเป็นการบอกเล่า • Few students knew the answers to this question, did they? • Little progress has gradually been made, has it? • He never comes to the office early, does he? • That vacancy is hardly suitable for Chatichai, is it? • We have seldom seen such large watermelons, have we? • I scarcely know who he is, do I? • Nothing was done on time, was it? • We saw no one we knew in that ceremony, did we? • None of the boys liked that song, did they? • You rarely go to the cinema to enjoy a film alone, do you? ประโยคที่ใช้ประธาน one ใน tag จะใช้ one เช่น • One wants to be rich, doesn’t one? ถ้าประธานเป็น everyone, everybody, everything, no one, nobody, anybody, neither ในส่วน tag ให้ใช้ they เช่น
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 287 • Everyone likes eating ice cream, don’t they? • Nobody knows the answer to this exercise, do they? • Neither of the boys complained about that noise, did they? • None of the workmen arrived at the work site on time, did they? ถ้าเป็นประโยคซับซ้อน ให้ใช้กริยาใน main clause เป็นหลัก ยกเว้น ถ้าใน main clause หมายถึง ตัวเองหรือบุรุษที่ 1 เช่น • He said he would come to my graduation day, did he? • If he said it under oath, it must be true, mustn’t it? 6. ขั้นปฏิบัติและ / หรือแสดงผลงาน 6.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มฝึกแต่งประโยคคำถามแบบ Question Tag โดยสร้างคำถามเพื่อถามเพื่อน ๆ ใน สมาชิก 6.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันนำประโยคคำถามแบบ Question Tag ของสมาชิกแต่ละคนนำมาเขียน ลงในกระดาษเพื่อนำเสนอหน้าชั้น 7. ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 7.1 นักเรียนส่งตัวแทนอาสาสมัครกลุ่มละ 1 คน ออกมาหน้าชั้นเรียนเพื่ออ่านประโยคคำถามแบบ Question Tag ของกลุ่มตนเองทีละข้อ โดยก่อนที่จะอ่านคำถามให้ตัวแทนเลือกสมาชิกในห้องที่ไม่ใช่ในกลุ่มเตรียม ความพร้อมเพื่อที่จะตอบคำถาม และเปลี่ยนผู้ตอบไปเรื่อย ๆ จนหมดคำถาม 7.2 นักเรียนจับคู่กันฝึกสนทนาโต้ตอบโดยใช้ประโยคคำถามแบบ Question Tag 7.3 ครูวัดและประเมินผลจากการสนทนาของนักเรียนถูกต้องตามหลักโครงสร้างของประโยคคำถาม แบบ Question Tag 7.4 นักเรียนทำแบบฝึกหัดเรื่อง Question Tag บน PowerPoint จำนวน 12 ข้อ Instructions : Complete the sentences with the correct question tags. 1. Steve and Jessy aren’t watching a film on TV,……………………………. ? 2. They played volleyball last Sunday,……………………………. ? 3. Your neighbours have got a blue house,……………………………. ? 4. My brother always arrives late at school,……………………………. ? 5. There’s a swimming pool in our town,……………………………. ? 6. Elephants can’t fly,……………………………. ? 7. She must lose some weight,……………………………. ? 8. He didn’t take a driving lesson yesterday,……………………………. ? 9. They won’t move to Manhattan,……………………………. ? 10. Your sister doesn’t want to become a housewife,……………………………. ? 11. Ken was doing his homework yesterday at 5.00pm,……………………………. ? 12. Your grandparents seem happy active people,……………………………. ? Answer Key : 1. are they 2. didn’t they 3. haven’t they 4. doesn’t he 5. isn’t there 6. can they 7. mustn’t she 8. did he 9. will they 10. does she 11. wasn’t he 12. don’t they
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 288 7.5 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเพื่อเสริมความเข้าใจในเรื่องประโยคคำถามแบบ Question Tag เขียนตัวอย่างประโยคบนกระดานให้นักเรียนเห็นความหลากหลายมากขึ้น 7.6 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบจากการทำแบบฝึกหัดเรื่อง Question Tag บน PowerPoint 7.7 นักเรียนฟังครูอธิบายถึงสาเหตุในการตอบคำถามหรือเลือกตอบในแต่ละข้อให้นักเรียนเข้าใจ หลักการใช้ Question Tag และครูสรุปหลักการของกฎต่าง ๆ ให้นักเรียนฟังอีกครั้ง ชั่วโมงที่ 3 1. สร้างความสนใจ (Engage) 1.1 นักเรียนทำกิจกรรมทบทวนความรู้เรื่อง Question Tag โดยนักเรียนนั่งเป็นกลุ่มและช่วยกันตอบ คำถามบน PowerPoint จำนวน 10 ข้อ 2. สำรวจและค้นหา (Explore) 2.1 นักเรียนจับคู่กับเพื่อนเพื่อทำกิจกรรม Word search 2.2 นักเรียนทำกิจกรรม Complete the sentences จำนวน 12 ข้อ 1. You study English,……………………………. ? 2. They were busy,……………………………. ? 3. It’s two o’clock,……………………………. ? 4. You don’t drive,……………………………. ? 5. She is a teacher,……………………………. ? 6. We aren’t late,……………………………. ? 7. Mr. Smith has a car,……………………………. ? 8. They weren’t late,……………………………. ? 9. I was right,……………………………. ? 10. Today is Monday,……………………………. ? 11. The phone rang,……………………………. ? 12. He didn’t win,……………………………. ? Answer Key : 1. don’t you 2. weren’t they 3. isn’t it 4. do you 5. isn’t she 6. are we 7. doesn’t he 8. were they 9. wasn’t I 10. isn’t it 11. didn’t it 12. did he หลังจากตอบคำถามครบทั้ง 12 ข้อแล้วแต่ละคู่ช่วยกันหาคำตอบซ่อนอยู่ในตาราง
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 289 3. อธิบาย (Explain) 3.1 นักเรียนส่งตัวแทนออกมาตอบคำถามที่ 1 คน โดยเขียนคำตอบลงบนกระดาน 3.2 นักเรียนสำตรวจสอบคำตอบของคู่ตนเองว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างจากเพื่อนหรือไม่ 3.3 นักเรียนช่วยกันอธิบายประโยคและคำตอบของแต่ละข้อว่าเพราะเหตุใดจึงต้องตอบแบบนี้ 4. ขยายความรู้ (Elaborate) 4.1 นักเรียนแต่ละคู่ช่วยกันทำแบบฝึกหัด Miscellaneous Error เรื่อง Question Tag โดยทำลงใน กระดาษที่ครูเตรียมให้ จำนวน 16 ข้อ Instructions : Find and correct the mistakes below (one mistake per sentence). Some sentences use the present tense, others use the past tense. 1. They live in San Franciso, aren’t they? 2. He didn’t buy the chairs, did they? 3. We are late, do we? 4. He can’t swim, does he? 5. She was a student, isn’t she? 6. Thomas saw a movie, wasn’t he? 7. He couldn’t answer the question, did he? 8. Mr. Smith were late, wasn’t he? 9. They had dinner, were they? 10. Your sister bought a new house, didn’t it? 11. You don’t exercise, don’t you?
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 290 12. It’s three o’clock, aren’t it? 13. She is your friend, don’t she? 14. He is from Canada, isn’t it? 15. Your father doesn’t drink tea, is he? 16. They already started their class, don’t they? Answer Key : 1. don’t they 2. did he 3. aren’t we 4. can he 5. wasn’t she 6. didn’t he 7. could he 8. wasn’t he 9. didn’t they 10. didn’t she 11. do you 12. isn’t it 13. isn’t she 14. isn’t h 15. does he 16. didn’t they 5. ประเมินผล (Evaluate) 5.1 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบแบบฝึกหัด Miscellaneous Error เรื่อง Question Tag 5.2 นักเรียนสอบถาม / ซักถามถึงสาเหตุในการตอบคำถามหรือเลือกตอบในแต่ละข้อเพื่อความเข้าใจ มากขึ้น ชั่วโมงที่ 4 1. สร้างความสนใจ (Engage) 1.1 นักเรียนดูรูปประโยคแบบ Question Tag บน PowerPoint พร้อมช่วยกันแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเครื่องหมายบวก (+) และเครื่องหมายลบ (-) บนประโยคและประโยคที่ทำเป็นสีต่าง ๆ ว่ามีความหมายหรือ รูปแบบประโยคแบบใด 1.2 นักเรียนทำกิจกรรมทบทวนความรู้เรื่อง Question Tag โดยนักเรียนนั่งเป็นกลุ่มและช่วยกันตอบ คำถามบน PowerPoint จำนวน 10 ข้อ Instructions : Complete the sentences with the correct question tags. 1. Mr. McGuinness is from Ireland,……………………………. ? 2. The car isn’t in the garage,……………………………. ? 3. You are John,……………………………. ? 4. She went to the library yesterday,……………………………. ? 5. He didn’t recognize me,……………………………. ? 6. Cars pollute the environment,……………………………. ? 7. Mr. Pritchard has been to Scotland recently,……………………………. ? 8. The trip is very expensive,……………………………. ? 9. He won’t tell her,……………………………. ?
หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22112) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน้า 291 10. Hugh had a red car,……………………………. ? Answer Key : 1. isn’t he 2. is it 3. aren’t you 4. didn’t she 5. did he 6. don’t they 7. hasn’t he 8. isn’t it 9. will he 10. didn’t he 2. สำรวจและค้นหา (Explore) 2.1 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Question tags คืออะไร และวิธีการทำ question tags เป็นประโยค บอกความคิดเห็น คำสั่ง ขอร้อง จาก https://www.youtube.com/watch?v=S9u6hbWVw4I 2.2 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่องสรุปประโยค Question Tags ใช่ไหม ใช่ป่ะ จริงไหม จาก https://www.youtube.com/watch?v=IffdxwnQ75Q 2.3 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่องTag question จาก https://www.youtube.com/watch? v=CYwHf9GkLT8 2.4 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Question Tags in English - Grammar Lesson จาก https://www.youtube.com/watch?v=6CSdK651k9Y 3. อธิบาย (Explain) 3.1 นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้จากการดูวิดีโอทั้ง 4 คลิป 3.2 นักเรียนฟังครูอธิบายเรื่อง Question tag เพิ่มเติม Question tags คือ การถามแบบสั้นๆ ท้ายประโยคคำถาม ประมาณว่า ใช่มั้ย ใช่ปล่าว อะไร ประมาณนี้ถ้าประโยคแรกเป็นประโยคบอกเล่า ประโยคหลังจะเป็นปฎิเสธ แต่ถ้าประโยคแรกเป็นประโยคปฎิเสธ ประโยคหลังจะเป็นบอกเล่า ถ้าบางประโยคเไม่เห็นกิริยาช่วยในประโยค เช่น ไม่มี is – am – are – was – were – do – does – did เป็นต้น อันดับแรกเราจะต้องดูประโยคว่าเป็น Tense อะไร จากนั้นเราจะดึงกิริยาช่วยของ Tense นั้น เช่น • My father drives a car fast, doesn’t he ? ประโยคเป็น Present Simple Tense กิริยาช่วยคือ do / does แต่ my father เป็นเอกพจน์ แทนด้วย he จึงใช้ does ประโยคแรกเป็นบอกเล่า ประโยคหลังจึงเป็นปฎิเสธ • The children ate many sandwiches last night, didn’t they ? ประโยคเป็น Past Simple Tense กิริยาช่วยคือ did และ The children เป็นพหูพจน์แทนด้วย They ประโยคแรกเป็นบอกเล่า ประโยคหลังจึงเป็นปฎิเสธ ในบางประโยคต้องดูดีๆ เพราะส่วนใหญ่จะสับสนและตอบผิด เช่น 1. He has breakfast at 7 o’clock,……………………………. ? 2. He has swum in the pool for 2 hours,……………………………. ? ข้อ 1 ดูดีๆ ประโยคจะเป็นเพียง Present Simple Tense เราจึงใช้ doesn’t he ? เพราะ ประธาน he เป็นเอกพจน์He has breakfast at 7 o’clock, doesn’t he ? แต่ถ้ามองผ่าน ๆ พอเราเห็น has เราจะรีบตอบ hasn’t he ? ทันที จึงทำให้ผิด เพราะไม่ใช่ Present Perfect tense