The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ป.3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by THAWATSON SINGSUTH, 2020-09-03 07:55:41

คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ป.3

คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ป.3

5. การประเมนิ ผล
5.1 สังเกตความร่วมมอื ในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม
5.2 สังเกตกระบวนการคิดจากการอภปิ ราย

6. องคป์ ระกอบทกั ษะชวี ิตสาคญั ท่ีเกิดจากกิจกรรม
คือ การคดิ วเิ คราะหแ์ ละตระหนกั ถงึ ความสาํ คญั ของการประหยดั ไฟ

ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมท่ี 25

เพลง (เลือกใช้เพลงให้เหมาะกบั กจิ กรรม)
วนั นยี้ นิ ดี
วนั นี้ยินดี ท่ีเราไดม้ าพบกนั วันนย้ี ินดที ี่เราไดม้ าพบกนั

ยินดี ยินดี ยนิ ดี มาเถดิ มาเรามาร่วมจติ

ปลดเปลอื้ งความทุกข์ให้มนั สน้ิ ไป มาเถิดมาเรามารว่ มจิต

ช่วยกันคดิ ทาํ ใหก้ ารลกู เสอื เจรญิ

ใบความรู้ วธิ ปี ระหยัดไฟฟา้

1. ปดิ สวติ ชไ์ ฟและเครอื่ งใช้ไฟฟฺาทุกชนดิ เม่อื เลิกใช้งานสร้างใหเ้ ป็นนิสัยในการดบั ไฟทกุ ครงั้
ทอ่ี อกจากห้อง

2. ตัง้ อณุ หภูมเิ ครื่องปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส ซึ่งเปน็ อุณหภมู ิที่กําลังสบาย อุณหภูมิ

ท่ีเพิ่มข้ึน 1 องศาต้องใช้พลังงานเพ่ิมข้ึนร้อยละ 5-10 และปิดประตูห้องทุกคร้ังท่ีเปิด
เคร่อื งปรับอากาศ

3. ควรปลกู ตน้ ไมร้ อบๆ บ้านเพอ่ื ช่วยบงั แดด และต้นไมข้ นาดใหญ่ 1 ตน้ ให้ความเยน็ เทา่ กับ
เครื่องปรบั อากาศ 1 ตัน

4. หากอากาศไมร่ อ้ นเกนิ ไปควรเปิดพดั ลมแทนเครอื่ งปรับอากาศ จะช่วยประหยดั ไฟ
5. หมน่ั ทําความสะอาดหลอดไฟท่ีบา้ นเพราะจะช่วยเพ่ิมแสงสว่างโดยไม่ต้องใช้พลังงานมากข้ึน
ควรทําอยา่ งนอ้ ย 4 ครงั้ ตอ่ ปี
6. ปิดตู้เย็นให้สนิททําความสะอาดภายในตู้เย็น และแผ่นระบายความร้อนหลังตู้เย็น
สมํา่ เสมอเพ่อื ให้ตู้เยน็ ไม่ต้องทาํ งานหนกั และเปลอื งไฟ
7. อยา่ เปิดตู้เยน็ บ่อยอย่านําของรอ้ นเข้าแช่ในตู้เย็น เพราะจะทําให้ตู้เย็นทํางานเพ่ิมข้ึนกินไฟ
มากขน้ึ
8. ตรวจสอบขอบยางประตูของตเู้ ย็นไมใ่ หเ้ สอ่ื มสภาพเพราะจะทําให้ความเย็นรั่วออกมาได้

ทําใหส้ ้นิ เปลืองไฟมากกวา่ ท่จี าํ เปน็

92100 คูม่ คือสมู่ ง่ อื เสสร่งมิ เสแลระิมพแฒั ลนะพากัฒิจกนรารกมจิลกกู เรสรอื มทลกั กูษเะสชอื วี ทติ ใักนษสะถชานีวศิตกึใษนาสถปาระนเศภทกึ ลษูกาเสือลสกู ำ�เรสอืองสหาลรกั อสงตู ชรดัน้ วปงรดะาถวทมี่ ศ3กึ ษาปที ี่ 3
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3

9. ควรละลายนา้ํ แขง็ ในตู้เยน็ สม่ําเสมอการปลอ่ ยให้นํ้าแข็งจับหนาเกินไป จะทาํ ใหเ้ คร่ืองตอ้ ง
ทํางานหนัก ทําใหก้ นิ ไฟมาก

10 ไม่ควรพรมน้ําจนแฉะเวลารีดผ้าเพราะต้องใช้ความร้อนในการรีดมากขึ้น เสียพลังงาน
มากข้ึนเสียคา่ ไฟเพม่ิ ข้ึน

11. ดึงปล๊กั ออกก่อนการรดี เส้อื ผา้ เสร็จเพราะความรอ้ นท่ีเหลอื ในเตารดี ยังสามารถรีดต่อได้

จนกระท่งั เสรจ็
12. เสียบปลก๊ั ครงั้ เดียวต้องรดี เส้ือผ้าให้เสร็จ ไม่ควรเสียบและถอดปล๊ักเตารีดบ่อยๆเพราะ

การทาํ ใหเ้ ตารดี รอ้ นแต่ละครง้ั กนิ ไฟมาก
13. ซักผ้าดว้ ยเครื่องควรใส่ผ้าให้เต็มกําลังของเครื่อง เพราะซัก1 ตัวกับซัก 20 ตัวก็ต้องใช้

ไฟปริมาณเท่าๆ กัน

14. ปิดโทรทัศนท์ นั ทีเมอ่ื ไม่มีคนดูเพราะการเปดิ ทง้ิ ไว้โดยไม่มีคนดู เป็นการส้นิ เปลอื งไฟฟฺา
โดยใชเ่ หตแุ ถมยังต้องซ่อมเรว็ อกี ดว้ ย

15. ไม่ควรปรับจอโทรทศั น์ให้สว่างเกินไปและอย่าเปิดโทรทัศน์ให้เสียงดังเกินความจําเป็น
เพราะเปลืองไฟทําใหอ้ ายุเครื่องสั้นลงด้วย

16. อย่บู ้านเดียวกันดูโทรทศั นร์ ายการเดยี วกนั กค็ วรจะดูเครื่องเดียวกัน
17. อย่าเสียบปลกั๊ หม้อหุงข้าวไวเ้ พราะระบบอุน่ จะทํางานตลอดเวลา ทาํ ให้ส้ินเปลืองไฟเกิน

ความจาํ เป็น
18. กาต้มน้ําไฟฟฺาต้องดึงปลั๊กออกทันทีเม่ือนํ้าเดือด อย่าเสียบไฟไว้เม่ือไม่มีคนอยู่เพราะ

นอกจากจะไมป่ ระหยดั พลงั งานแลว้ ยงั อาจทาํ ให้เกดิ ไฟไหมไ้ ด้
19. อยา่ เปิดคอมพิวเตอร์ทิง้ ไวถ้ า้ ไมใ่ ชง้ าน

เรื่องสน้ั ท่ีเป็นประโยชน์ ขมุ ทรพั ย์ในไร่อง่นุ

ท่ีไร่องุน่ แหง่ หนึ่งมพี อ่ ผสู้ ูงอายุกบั ลูกชายจอมข้ีเกียจ 3 คนอาศัยอยู่ต่อมาพ่อล้มปูวยลงและ
ก่อนท่ีจะสิ้นลมหายใจได้เรียกลูกชายท้ัง 3 มาสั่งเสียว่าอย่าขายที่ดินเพราะพ่อได้ซ่อนขุมทรัพย์
มหาศาลเอาไวใ้ หข้ ุดดนิ พรวนดินขดุ หาใหท้ ่วั ทกุ ตารางนิ้วของไร่เมอ่ื พอ่ ได้สนิ้ ใจตายลงไปแลว้ ลูกชาย
ทง้ั 3 กล็ งมอื และต้ังหน้าตั้งตาไถคราดพรวนดินพวกเขาก็ไม่พบแม้แต่เศษเงินอย่างท่ีพ่อได้บอกไว้

หนง่ึ ปผี ่านไปไรอ่ ง่นุ ที่พวกเขาตั้งหนา้ ตัง้ ตาขดุ พรวนดนิ เพือ่ หาขมุ ทรัพย์นั้นกลบั เกดิ ผลออกดอกออก
ผลออกมาและเม่อื เปน็ เชน่ นนั้ ลูกชายทั้ง 3 จงึ หนั มาชว่ ยกนั นําผลองนุ่ เหล่านัน้ ออกขายและพวกเขารู้
ว่าขุมทรัพย์ท่ีพ่อพูดถึงน้ันหมายถึงการทํางานหนักขยันขันแข็งเอาหยาดเหง่ือแรงงานเข้าแลกใน
ที่ดินทีพ่ อ่ ของพวกเขาได้ทง้ิ ไว้ใหม้ ากกว่านั่นเอง

เร่ืองน้ีสอนให้รู้วา่ ความขยนั ทาํ ให้ทาํ งานสาํ เรจ็

คู่มอื ส่งเสริมและพัฒนากจิ กรรมลกู เสือทักษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือสารอง ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 101
คู่มือสง่ เสริมและพฒั นากิจกรรมลูกเสอื ทักษะชวี ิตในสถานศึกษา ประเภทลูกเสอื ส�ำ รอง หลกั สตู รดวงดาวที่ 3
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 93

แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสือสารอง ดาวดวงที่ 3 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3

หนว่ ยที่ 13 คาปฏิญาณและกฎของลกู เสือสารอง เวลา 1 ชว่ั โมง
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 26 การส่อื สารทางบวก

1. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ลกู เสอื มที ักษะในการสอ่ื สารทที่ ําใหผ้ ฟู้ งั เกดิ ความรูส้ ึกทดี่ ีได้

2. เนือ้ หา
การสือ่ สารทางบวก

3. ส่อื การเรียนรู้
3.1 แผนภูมเิ พลง, เกม
3.2 เร่อื งสัน้ ทเ่ี ปน็ ประโยชน์

4. กจิ กรรม
4.1 พธิ ีเปดิ ประชมุ กอง (แกรนดฮ์ าวล์ ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก)
4.2 เพลงหรือเกม
4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) หมู่ลูกเสือร่วมกันคิดคําพูดและท่าทางท่ีลูกเสือไม่ชอบ และไม่อยากให้ใครมาใช้กับ

ลกู เสอื หมูล่ ะ 1 เรอ่ื ง และใหช้ ว่ ยกนั เปล่ียนเป็นคาํ พูดและท่าทางท่ีลูกเสอื ชอบอยากให้พูดกับลูกเสือ
แบบนัน้ เตรียมซ้อมบทบาทสมมติ เป็น 2 รอบ รอบแรกแบบที่ลูกเสือไม่ชอบ รอบที่ 2 เปลี่ยนเป็น
แบบที่ลูกเสอื ชอบ นาํ เสนอในกองลูกเสอื ใช้เวลาหมลู่ ะไม่เกิน 3 นาที

2) ลูกเสือแต่ละหมู่แสดงบทบาทสมมติ หม่ลู ะ 2 รอบ รอบแรกเปน็ แบบทไ่ี ม่ชอบ และรอบ
ที่ 2 เป็นแบบท่ีชอบ

3) ผกู้ าํ กบั ลูกเสือ ตงั้ คาํ ถาม ชวนคิด
(1) คําพูดและทา่ ทาง ทีล่ ูกเสือไมช่ อบมักเปน็ คาํ พดู และท่าทางอยา่ งไร ทาํ ไมจงึ ไม่

ชอบ (ลอ้ เลยี น ด่าว่า ประชด กากวมไมเ่ ข้าใจ ดูถูก รงั เกียจ เหยียดหยาม ฯลฯ ทไ่ี ม่ชอบเพราะทาให้

เกิดความรู้สกึ ทไ่ี มด่ ี)
(2) คาํ พดู และท่าทางทีล่ กู เสอื ชอบมกั เป็นคาํ พดู และท่าทางอยา่ งไร ทําไมจงึ ชอบ

(สภุ าพ จริงใจ เข้าใจไดช้ ดั เจน ใหก้ าลังใจ ใหค้ วามภาคภมู ใิ จ ให้ความเปน็ มติ รฯลฯ ทชี่ อบเพราะเกดิ
ความร้สู กึ ท่ีด)ี

(3)ผู้กาํ กบั ลูกเสอื และลูกเสอื รว่ มกนั สรปุ ข้อคดิ ที่ได้และการนาํ ไปใช้ ( ส่ิงที่เราไมช่ อบ
คนอ่นื ก็ไมช่ อบเชน่ กนั จงึ ควรใช้คาพดู และทา่ ทางทเี่ ราชอบ กับเพอื่ นเพอื่ สร้างมติ ร )

4.4 ผู้กาํ กบั ลกู เสอื เลา่ เร่อื งสนั้ ทเ่ี ปน็ ประโยชน์
4.5 พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเคร่อื งแบบ แกรนด์ฮาวล์ ชกั ธงลง เลกิ )

94102 คมู่ คอื สู่มง่ อื เสสร่งมิ เสแลระมิ พแฒั ลนะพากฒั จิ กนรารกมิจลกกู เรสรอื มทลักูกษเะสชือีวทติ ใกั นษสะถชานวี ศติ ึกใษนาสถปาระนเศภทกึ ลษกู าเสือลสกู ำ�เรสอืองสหาลรักอสงูตชรดนั้ วปงรดะาถวทมี่ ศ3กึ ษาปีท่ี 3
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3

5.การประเมินผล
5.1 สงั เกตความร่วมมอื ในการปฏิบัตกิ ิจกรรม
5.2 สังเกตกระบวนการคิดจากการแสดงบทบาทสมมตุ ิและการอภิปราย

6.องค์ประกอบทักษะชีวติ สาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม
คอื การสร้างสมั พนั ธภาพและการสอื่ สาร

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 26
เพลง

สวสั ดี

เม่อื เจอะกนั เราทักกันสวสั ดี (สวัสดคี ะ่ , สวสั ดคี รบั )
เม่อื ผดิ พลง้ั ขออภยั ขอโทษที (ขอโทษคะ่ , ขอโทษครับ)
เมอ่ื จากไปยกมอื ไหวส้ วสั ดี (สวสั ดคี ่ะ , สวัสดคี รับ)
ผู้ใดมจี ติ ไมตรขี อขอบคุณ (ขอบคณุ คะ่ , ขอบคุณครับ)

เกม

แข่งขันคิดแปลก
วธิ เี ล่น ลกู เสอื แตล่ ะหมู่ร่วมกันคิดถึงสิ่งที่มีลักษณะกลม มีสีเหลือง มาให้มากท่ีสุดเท่าที่จะมากได้
ภาภยใานยเใวนลเาว ล5านา5ที นาที

การตัดสิน หมู่ไหนบอกส่ิงท่ีมีลักษณะกลมมีสีเหลือง มากที่สุด และคิดได้แปลกมากท่ีสุดเป็นหมู่ท่ี
ชนะ (สะสมแต้ม)

เรื่องส้ันท่ีเปน็ ประโยชน์

ไก่ฟ้ากบั สนุ ขั จิง้ จอกเจา้ เล่ห์

สุนขั จง้ิ จอกเจ้าเล่ห์ตวั หนึ่งเดนิ ผา่ นมาเห็นไกฟ่ าฺ เกาะอยู่บนกิ่งไม้สูงข้างทาง มันอยากจะกิน
ไก่ฟาฺ เปน็ ย่ิงนักจงึ คดิ หาอบุ ายเเล้วเอ่ยขึน้ วา่ "ไก่ฟาฺ เอย๋ ทา่ นช่างเป็นสัตว์ทง่ี ดงามนัก ปีกของท่านมี

สีสันสดใสหลายสีปากก็งดงามไม่เหมือนใคร อยากรู้จังว่าถ้าท่านหลับตาเเล้วยังจะงามอยู่หรือไม่"
ไก่ฟฺาได้ฟังคํายกยอก็หลงเคลิบเคลิ้ม รีบหลับตาอวดทันที สุนัขจิ้งจอกก็รีบฉวยโอกาสน้ัน

กระโดดงบั ตัวไกฟ่ ฺาไวไ้ ด้ เม่อื ไก่ฟฺาพลาดท่า เเต่ก็ยังมสี ติ จงึ เอย่ ขึน้ วา่
"จ้งิ จอกเอย๋ กอ่ นตายขา้ อยากฟังเสียงอันไพเราะของทา่ น อกี คร้งั ไดไ้ หม"
สุนขั จิง้ จอกไดฟ้ ังคาํ ปฺอยอกห็ ลงกล รบี อา้ ปากเห่าคําราม ไก่ฟาฺ จึงรีบบินหนีจากไปทนั ที

เรอื่ งนีส้ อนใหร้ ู้ว่า คํายกยอปอป้ันทําให้คนหลงเคลบิ เคลิม้ จนไม่ระวังตนไดเ้ สมอ

คูม่ อื ส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลกู เสือทักษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ลกู เสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 103
ค่มู ือส่งเสริมและพัฒนากจิ กรรมลกู เสือทกั ษะชวี ิตในสถานศึกษา ประเภทลูกเสอื สำ�รอง หลกั สูตรดวงดาวที่ 3
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 95

แแผผนนกกาารรจจัดดั กกจิ จิ กกรรรรมมลลกู ูกเสเสืออื สสาารรอองง ดดาาววดดววงงทท่ี 3ี่ 3 ชช้นั ัน้ ปปรระะถถมมศศกึ ึกษษาาปปีทีท่ี 3ี่ 3

หหนน่ว่วยยทท่ี 1่ี 133 คคาาปปฏฏิญญิ าาณณแแลละะกกฎฎขขอองงลลูกูกเสเสอื อื สสาารรอองง เวเวลลาา 11 ชชว่ั ว่ั โมโมงง
แแผผนนกกาารรจจดั ัดกกจิ ิจกกรรรมมทท่ี 2ี่ 277 ไไมมล่ ่ลอ้ อ้ เลเลยี ยี นนกกนั ันไไดดไ้ ไ้หหมม

11. .จจดุ ดุ ปปรระะสสงงคค์กก์ าารรเรเรยี ยี นนรรู้ ู้
ลลกู ูกเสเสอื ือบบออกกผผลลเสเสียียขขอองงกกาารรลล้ออ้ เลเลยี ียนนกกนั นั ในในหหมมเู่ พเู่ พ่อื ื่อนนแแลละะววธิ ิธกี ีกาารรสส่ือือ่ สสาารรเพเพือ่ ื่อแแกกไ้ ไ้ขขปปญั ญั หหาาไไดด้ ้

22. .เนเนื้อื้อหหาา
22.1.1ผผลลเสเสยี ยี ขขอองงกกาารรลล้อ้อเลเลยี ียนนกกันันในในหหมมเู่ พเู่ พ่อื ่อืนน
22.2.2กกาารรสสอื่ อื่สสาารรเพเพื่ออ่ื แแกกป้ ้ปญั ญั หหาาแแลละะปปฺอฺองงกกนั นั คคววาามมรรนุ นุ แแรรงง

33. .สสื่อือ่ กกาารรเรเรยี ียนนรรู้ ู้
33.1.1แแผผนนภภูมูมเิ พเิ พลลงง
33.2.2เรเรือ่ ือ่ งงสสั้นัน้ ททเ่ี ปเี่ ป็นน็ ปปรระะโยโยชชนน์ ์

44. .กกิจจิ กกรรรมม
44.1.1พพธิ ิธีเปเี ปิดดิ ปปรระะชชมุ ุมกกอองง(แ(แกกรรนนดดฮ์ ์ฮาาววลล์ ช์ ชกั กั ธธงงขขนึ้ น้ึ สสววดดมมนนตต์ ส์ สงงบบนนิ่งงิ่ ตตรรววจจแแยยกก))
44.2.2เพเพลลงงหหรรือือเกเกมม
44.3.3กกจิ จิกกรรรมมตตาามมจจดุ ุดปปรระะสสงงคคก์ ก์ าารรเรเรยี ยี นนรรู้ ู้
11))ผผกู้ ้กู ําาํกกบั ับลลกู ูกเสเสอื อื ชชววนนคคดิ ิดชชววนนคคุยยุ “ใ“คใครรเคเคยยถถูกูกเพเพ่อื ่อื นนลลอ้ อ้เลเลียียนนบบา้ า้งงยยกกมมอื อืขขึ้น้ึน”ใ”หใหเ้ อ้เอาามมอื อืลลงง
22))ขขออออาาสสาาสสมมคั คั รร11––22คคนนทท่เี คเ่ี คยยถถกู กู ลล้อ้อเลเลยี ยีนนมมาาเลเล่าา่ใหให้เพ้เพอื่ อื่นนฟฟังงัททีลลีะะคคนนโดโดยยผผู้กกู้ าํ าํกกบั ับ

ลลกู กู เสเสอื ือคคออยยตตงั้ ง้ัคคาํ ําถถาามมชชววนนคคดิ ิดชชววนนคคยุ ยุ “ห“หนนถู ูถูกูกลลอ้ อ้เลเลยี ยี นนววา่ า่ออยย่าา่งงไไรร/ /ททําาํไไมมเพเพอื่ อ่ืนนจจงึ งึลลอ้ อ้เลเลยี ียนนเชเชน่ น่ นน้นั ัน้ / /
เมเมอื่ อ่ื ถถูกกู ลลอ้ อ้หหนนมู มู คี ีคววาามมรรสู้ ู้สึกกึ ออยยา่ า่งงไไรร/ /มมีปีปฏฏิกิกริ ิรยยิ าาโตโต้ต้ตออบบออยยา่ ่างงไไรร/ /ททําําไไปปแแลล้วว้เกเกิดดิ ผผลลออะะไไรรตตาามมมมาาบบ้าา้งง/ /
ออยยาากกบบออกกออะะไไรรกกับับคคนนททีล่ ลี่้อ้อหหนนบู บู ้า้างง””

33)3)ต)ต ้งั ต้งัคคงั้าํ คําถ�ถาำถามามใมหใหใฉ้ห้ฉุกฉ้ ุกใุกจใใจคจคิดคดิ ดิ
(1(1))ททาํ าํไไมมคคนนบบาางงคคนนจจึงึงชชออบบลลอ้ อ้เลเลียยี นนคคนนออื่น่นื เขเขาาททําําเพเพรราาะะออะะไไรร(ส(สนนกุ กุ ออยยาากกแแกกลลง้ ง้ใหใหอ้ อ้าายย))
(2(2))เรเร่อื ือ่ งงทท่เี อีเ่ อาามมาาลล้ออ้ เลเลยี ยี นนกกันนั มมักกั เปเป็นน็ เรเรอื่ ่อื งงเกเกีย่ ่ียววกกับับออะะไไรร(จ(จุดุดออ่อ่อนนปปมมดด้อ้อยยขขอองงคคนนออื่น่นื ))
(3(3))คคนนทท่ถี ีถ่ ูกกู ลล้อ้อเลเลยี ียนนจจะะเปเป็น็นออยยา่ ่างงไไรรบบา้ า้งงเขเขาาสสนนุกุกหหรรอื ือไไมม่ (่ ไ(ไมมส่ ส่ นนกุ กุ /ไ/ไมมช่ ช่ ออบบ/อ/อาายยจจนนไไมม่ ่

ออยยาากกมมาาโรโรงงเรเรียียนน/โ/กโกรรธธจจนนมมเี รเี รอ่ื อ่ืงงททะะเลเลาาะะหหรรอื ือใชใชก้ ก้ าาลลงั ัง))
(4(4))คคดิ ิดวว่าา่กกาารรลลอ้ อ้เลเลยี ยีนนเลเลน่ ่นกกันันในในหหมมู่เพเู่ พ่ืออ่ืนนคคววรรมมขี ีขออบบเขเขตตออยย่าา่งงไไรร(ไ(มไม่ทท่ าาในในสสิง่ ิ่งททเ่ี พ่ีเพอ่ื ่ือนนไไมม่ ่

ชชออบบเชเช่น่นไไมมต่ ่ตออกกยยา้ ้าจจุดุดออ่ออ่นนหหรรอื ือปปมมดด้อ้อยยไไมมท่ ท่ าาใหให้เพเ้ พ่ือ่อืนนเสเสยี ยี ใจใจหหรรือืออบั บั ออาายยขขาายยหหนน้า้า))
44))จจบั บั คคู่ให่ใู ห้ลล้กู กู เสเสอื ือคคยุ ุยกกันนั “ส“สมมมมตตวิ ิวา่ า่ตตนนเอเองงถถกู กู ลลอ้ อ้ แแลละะไไมมช่ ่ชออบบลลกู กู เสเสือือคคดิ ิดวว่า่าคคววรรจจะะมมีววีธิ ิธี ี

บบออกกเพเพื่อือ่ นนออยย่าา่งงไไรรใหให้เข้เขาาเขเข้า้าใจใจแแลละะเลเลิกิกลลอ้ ้อเลเลยี ยี นนเรเราา
55) )สสุ่ มุ่ มถถาามมคคววาามมเหเห็น็นแแลละะคครรูชูช่ว่วยยเพเพ่ิม่ิมเตเติมิม(ใ(ชใช้ห้หลลักักกกาารรสส่ื อ่ื อสสาารรเพเพื่อ่ือแแกก้ไ้ไขขคคววาามมขขัดัดแแยย้ ง้ ง

33ขขน้ั ั้นตตออนน
(1(1).)บ.บออกกคคววาามมรรู้สู้สึกึกตต่อ่อเหเหตตุกุกาารรณณ์ท์ที่เก่ีเกิดิดเชเช่น่น“ไ“ไมม่ช่ชออบบเลเลยยฉฉันันออาายยมมาากกทที่เธ่ีเธออมมาาลล้อ้อฉฉันัน

แแบบบบนนี้” ้ี”

91610044 คคูม่ คคูม่อื ู่มสมู่อื ง่ือสอื เสส่งสเร่ง่งสมิเเสรสแรมิลริมะมิแพแลแฒัละลพะนะพพาฒั กัฒัฒนิจนกนาราการกจิกมจิกจิลกรกูกรเรสรมรอืมมลทลกูลักกู เูกษสเเะสอืสชอืทอื ีวททกัิตกัใษกั นษษะสชะะถชีวชาวีิตนวี ติ ศิตในใกึในษนสสาถสถาถปานารนะนศเศศึกภึกทษึกษลษาูกาาเลสลือกูลกสูเกู สำ�เเสรือสออืสืองสาสหาราลรอรกัองอสงงชูตชนั้ชร้ันด้นัปวปปรงระรดถะะาถมถวมทมศี่ศศึก3ึกษกึ ษษาาปาปปีทีทีท่ 3ี่ ่ี 33
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3

(2).บอกความตอ้ งการของเรา เชน่ “ขอร้องละ เลิกลอ้ ฉนั ซะที”
(3) ถามความเห็นเขา เชน่ “ได้ไหม” “เธอทาไดไ้ หม”
6) ผกู้ าํ กบั ลกู เสอื และลกู เสือ ร่วมกนั สรุปข้ันตอนการสือ่ สารเพือ่ แก้ไขความขัดแยง้ และ
สรุปแนวคดิ ทไี่ ด้รบั
4.4 ผู้กํากับลูกเสือเลา่ เร่ืองสั้นท่ีเปน็ ประโยชน์
4.5 พธิ ปี ดิ ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแบบ แกรนดฮ์ าวล์ ชกั ธงลง เลกิ )

5. การประเมินผล
5.1 สงั เกตความรว่ มมือในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม
5.2 ซกั ถามความคิดของลูกเสอื ต่อการลอ้ เลียนกนั ในหมเู่ พอื่ นทอ่ี าจทําให้เกดิ ความรนุ แรง

และวธิ กี ารสอ่ื สารท่ีหยดุ ความรนุ แรง
6. องค์ประกอบทกั ษะชวี ติ สาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม

คอื เขา้ ใจ/ เหน็ ใจผูอ้ ืน่ การสร้างสมั พันธภาพและการสอ่ื สาร

ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมท่ี 27
เพลง

ฉนั และเธอ

ฉันและเธอ เจอกนั แทบทกุ วันเลยเชยี ว เมอ่ื เจอกันเราทักกนั เพอ่ื สมานไมตรี
ย้มิ ใหก้ นั ทไี ร สุขฤทยั เปรมปรี ตา่ งพดู จาพาทสี วัสดีลากอ่ น

เรอื่ งสน้ั ท่ีเป็นประโยชน์

ต้นสนอวดดี
ต้นสนมกั จะคดิ วา่ ตนนนั้ มคี วามสวยงามกวา่ ตน้ จามจรุ ี อกี ทั้งยังมีประโยชน์มากกว่าดว้ ย
"คนตอ้ งการตน้ สนอย่างเราเพอื่ ไปสร้างเป็นทอ่ี ยูอ่ าศยั เเละ ขา้ วของเครื่องใชต้ ่างๆ"
ต้นสนคยุ ข่มตน้ จามจรุ ีท่ียนื อยใู่ กลๆ้ กนั "เเต่เจ้านะ่ ไมเ่ หน็ จะเปน็ ประโยชน์ต่อใครเลย"
"ข้ารูต้ ัวดี วา่ ขา้ นน้ั ตํ่าต้อยด้อยคา่ กวา่ ท่าน เเตล่ องดขู า้ งหนา้ นัน่ สมิ ีคนเอาเลอ่ื ยกบั ขวานมาเเลว้
ทนี ท้ี ่านยงั อยากเปน็ ตน้ สนหรอื ตน้ จามจุละ่ "

เรอื่ งน้สี อนให้รวู้ ่า เทยี่ วโอ้อวด ความดี ความเดน่ ยอ่ มเปน็ โทษเปน็ ภยั เเกต่ นเอง

คมู่ ือส่งเสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลูกเสอื ทกั ษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 105
คมู่ อื สง่ เสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลกู เสือทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสือสำ�รอง หลกั สตู รดวงดาวท่ี 3
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 97

แผนการจดั กจิ กรรมลูกเสือสารอง ดาวดวงท่ี 3 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3

หน่วยท่ี 13 คาปฏิญาณและกฎของลูกเสอื สารอง
แผนการสอนที่ 28 คคำ� าปปฏิญาณณแแลละะกกฎฎขของอลงกู ลเกูสือเสสอื ามสัญามแญลั ะแกลจิ ะกการิจลกกู าเรสลือกูโลเกสอื โลกเ วลเวาลา22 ชว่ั ่ โมง

1. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.1 ลูกเสอื บอกความหมายของคําปฏิญาณและกฎลูกเสอื สามัญได้
1.2 ลกู เสอื ปฏิบัติตามคําปฏญิ าณและกฎลกู เสอื สามัญได้
1.3 ลูกเสอื เลา่ ประวัติของผใู้ ห้กําเนิดลกู เสอื โลกและการกําเนดิ ลูกเสือโลกพอสงั เขปได้
1.4 ลูกเสอื พร้อมทจ่ี ะเข้ารว่ มกิจกรรมทจี่ ะนําสเู่ กณฑก์ ารรับเคร่อื งหมายลกู เสือสมั พันธไ์ ด้

2. เนื้อหา
2.1 คาํ ปฏญิ าณและกฎลูกเสือสามัญ
2.2 ประวตั ิผใู้ หก้ าํ เนิดลูกเสอื โลกและกําเนดิ ลูกเสือโลก
2.3 เคเรค่ือรื่งอหงหมมายายลลูกูกเสเสือือสสัมัมพพันันธธ์ต์ตาามมขข้อ้อบบังังคคับับคคณณะะลลูกูกเสือแห่งชาติว่าด้วยกาารรปปกกคครรอองง
หหลลกั ักฐสาตู นรแแลละะววชิ ชิ าาชพพี ิเพศเิษศลษกู ลเกูสเือสสอื ําสร�ำอรงอง(ฉ(ฉบบั บัทท่ี ๑่ี ๑๐๐) )

3. ส่ือการเรยี นรู้
3.1 แผนภูมเิ พลง
3.2 ใบความรู้
3.3 เรื่องสนั้ ที่เปน็ ประโยชน์

4. กิจกรรม
4.1 กิจกรรมครั้งท่ี 1
1) พิธีเปิดประชมุ กอง (แกรนด์ฮาวล์ ชกั ธงขึ้น สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก)
2) เพลงหรอื เกม
3) กิจกรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
(1) ผ้กู ํากับลูกเสอื สนทนาเรอื่ งเครอื่ งหมายลกู เสอื สมั พนั ธแ์ ละแจง้ เกณฑท์ ี่จะสง่ เสรมิ
ใหล้ ูกเสอื สาํ รองทกุ คนปฏิบัตงิ านเพอ่ื ให้เข้าเกณฑท์ ี่จะรบั เคร่อื งหมายน้ี
(2) ผ้กู ํากบั ลูกเสอื นําเสนอคําปฏญิ าณและกฎลูกเสือสามัญ วิธกี ารแสดงรหสั เมอ่ื กล่าว
คําปฏิญาณ
(3) ลกู เสอื แต่ละหมจู่ ับฉลากกฏลูกเสอื สามญั และแสดงบทบาทสมมุตหิ ม่ลู ะ 1 ขอ้
(4) ผู้กาํ กบั ลูกเสอื และลกู เสอื ร่วมกนั สรุป
4) ผกู้ าํ กับลูกเสอื เล่าเรอื่ งสนั้ ทเ่ี ปน็ ประโยชน์
5) พิธีปิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครือ่ งแบบ แกรนดฮ์ าวล์ ชกั ธงลง เลกิ )
4.2 กิจกรรมครงั้ ที่ 2
1) พิธีเปดิ ประชุมกอง (แกรนดฮ์ าวล์ ชักธงข้ึน สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก)

98106 ค่มู คอื สมู่ ง่ ือเสสร่งิมเสแลระิมพแฒั ลนะพากัฒิจกนรารกมจิลกูกเรสรือมทลกั ูกษเะสชือีวทติ ใกั นษสะถชานวี ศติ กึใษนาสถปาระนเศภทกึ ลษูกาเสือลสกู �ำ เรสออื งสหาลรกั อสงตู ชรดนั้ วปงรดะาถวทม่ี ศ3กึ ษาปีท่ี 3
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3

2) เพลงหรือเกม
3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

(1) ผกู้ าํ กับลูกเสอื เล่าประวัติลอรด์ เบเดลเพาเวลล์ (บี.-พ.ี ) และกําเนิดลกู เสือ
(2) ผกู้ าํ กบั ลกู เสอื ทบทวนความรู้ของลกู เสอื โดยให้จับฉลากคาํ ถามหมลู่ ะ 1 ขอ้
ชว่ ยกันคิดคําตอบ เชน่

- บี.-พ.ี เป็นใคร
- บ.ี -พ.ี เป็นชนชาตใิ ด
- บ.ี -พี. เคยประกอบอาชีพใด
- บ.ี -พี. ฝึกเด็กๆ ใหท้ ําอะไร
- บี.-พ.ี นําเดก็ ๆ ไปพักแรมทเี่ กาะใด ฯลฯ

4) ผ้กู ํากับลูกเสอื เลา่ เร่ืองสน้ั ที่เปน็ ประโยชน์
5) พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ แกรนด์ฮาวล์ ชักธงลง เลิก)

5. การประเมินผล
5.1 สงั เกตความร่วมมือในการปฏิบตั กิ จิ กรรม
5.2 ตรวจผลงานการนาํ เสนองานกลมุ่

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 1

เพลง

กฎลูกเสอื

นา้ํ คา้ งพรมลมเย็นเมื่อยามดึก คนึงนกึ กฎลกู เสอื เพอ่ื ปรุงสมอง
หนง่ึ มเี กียรตสิ องจงรกั ภักดีปอง สามประคองหนา้ ทส่ี ่มี ิตรคน
หา้ สภุ าพไมง่ ันงกหกเมตตา เจ็ดเชือ่ ฟังแปดเร่งิ รา่ อยา่ สับสน
เกา้ เป็นผู้มัธยสั ถไ์ ม่อบั จน สิบฝึกตนประพฤตชิ อบวาจาใจ

ลกู เสอื ไทย

ลกู เสอื ลกู เสอื ไวศ้ ักด์ซิ ิลกู ผชู้ าย ลูกเสอื ลกู เสือไว้ลายซลิ กู เสือไทย
รกั เกียรติรักวินยั แขง็ แรงและอดทน เราจะบาํ เพญ็ ตนให้เป็นประโยชน์ต่อผอู้ น่ื
แมล้ ําบากตรากตรํากต็ อ้ งทําใหส้ าํ เรจ็ ทํา ทํา ทาํ ขา้ สญั ญาวา่ จะทาํ
เสยี ชพี อยา่ เสยี สตั ว์ รักษ์ชาติใหม้ น่ั ไว้ ดังนามอนั เกรยี งไกร พระมงกฎุ ทรงประทาน

คู่มือส่งเสริมและพฒั นากจิ กรรมลูกเสอื ทกั ษะชวี ติ ในสถานศึกษา ลกู เสอื สารอง ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 107
ค่มู ือส่งเสรมิ และพฒั นากิจกรรมลกู เสอื ทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา ประเภทลกู เสอื สำ�รอง หลกั สตู รดวงดาวท่ี 3
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 99

ใบความรู้

การปฏบิ ตั ติ ามคาปฏญิ าณและกฎของลูกเสือ

1. ลูกเสอื ได้รับมอบหมายการงานใด ไดก้ ระทาํ จนเป็นผลสําเรจ็
2. แสดงความจงรักภกั ดตี อ่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นนจิ

3. บําเพญ็ ตนเปน็ ประโยชน์ตอ่ สาธารณชนทกุ วนั (อยา่ งนอ้ ยวนั ละ 1 ครั้ง)
4. จะต้องปฏิบตั ิตนต่อเพื่อร่วมหมู่ รว่ มคณะของตนและยังมเี พ่อื นตา่ งโรงเรยี น

ตา่ งอาํ เภออกี (อยา่ งนอ้ ยสัปดาห์ละ 2 คน)
5. ไมเ่ คยถกู ลงโทษ เพราะความไมถ่ ูกตอ้ งเรยี บร้อย
6. ไดเ้ คยชว่ ยเหลอื ชีวติ สตั วแ์ ละมีความเมตตตาสงสารสตั ว์
7. ไม่เคยถูกลงโทษ เพราะขัดคาํ สง่ั บิดามารดา ครู อาจารย์

8. ไมเ่ คยหลีกเลยี่ งงานท่ีไดร้ ับมอบหมายให้ทาํ รว่ มกบั คนอ่ืน
9. ไดส้ ะสมเงนิ ซึง่ หาได้โดยน้าํ พกั นํา้ แรง หรอื ไดอ้ ดออมจากทบี่ ิดามารดาใหไ้ ว้ แลว้ เก็บ

ฝากออมสินไวว้ นั ละ .......บาท หรอื สัปดาหล์ ะ......บาท
10. เคยทําความผดิ มาบา้ ง แตไ่ ด้กลบั ตวั กลบั ใจปฏบิ ตั เิ ปน็ คนดีของบ้าน ของโรงเรียน

และของสังคม และจะไมท่ ําในทางท่เี สอ่ื มเสียอกี เด็ดขาด

อธบิ าย คาํ ปฏิญาณของลูกเสือเป็นถอ้ ยคําทกี่ ลา่ วออกมาดว้ ยความจริงใจ เพือ่ เปน็

หลักยึดเหน่ียวให้ลูกเสือปฏิบัติในส่ิงท่ีดีและถูกต้อง คําปฏิญาณของลูกเสือสามัญ คือ
คําม่ันสัญญา ทีล่ กู เสอื ใหไ้ ว้แก่ผบู้ งั คับบัญชา ต่อหน้าแถว หรอื ในพิธีทางลูกเสือ เปน็ หลัก
สากลซงึ่ ลูกเสือทกุ ประเทศปฏบิ ตั เิ ชน่ เดียวกันหมด ลกู เสือจะเปน็ พลเมอื งของชาตบิ ้านเมือง
กโ็ ดยอาศยั ยดึ หลักคาํ ปฏิญาณเปน็ อดุ มการณน์ ําไปปฏบิ ตั ใิ นชวี ิต

คําปฏญิ าณ ขอ้ 1 “ข้าจะจงรักภักดตี อ่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” หมายถึง

ลูกเสอื ต้องมคี วามเคารพ บชู า เทิดทูนไว้ดว้ ยความซอื่ สตั ย์ จริงใจ เพราะชาติหมายถงึ ผืน
แผน่ ดินและประชาชนท่ีอยู่ร่วมกัน มีธรรมเนียมประเพณี มีกฏหมายอันเดียวกันคุ้มครอง
จึงคงคววรปรปฏฏบิ บิตั ตัิ ิตอ่ ชอ่ าชตาดิตงัิดนงั ้ีนี้

1. ประพฤติตนเปน็ พลเมอื งดี
2. เคารพปฏิบัติตามคําสัง่ และกฏหมายบา้ นเมอื ง
3. ประพฤติตนตามธรรมเนยี มประเพณีนยิ ม

4. รกั คนในชาตแิ ละรักแผ่นดินถ่ินเกิดของตน
ศาสนา มพี ระคุณแกเ่ รา คอื ชว่ ยแนะนาํ สั่งสอนให้รดู้ ีรู้ชอบ ละเว้นความช่วั
ไมใ่ ห้เบยี ดเบยี นกันประพฤตชิ อบท้ังกาย วาจา ใจ ฉะน้ัน ลกู เสอื จงึ ต้องเคารพ และ
ปฏิบตั ติ นตามศาสนา ดังน้ี
1. ประพฤติปฏิบตั ิตอ่ กจิ การของศาสนา
2. เคารพเชอ่ื ฟังปฏบิ ัติตามคาํ สอนโดยมเิ ลอื กศาสนา

3. ละเว้นการกระทาํ ชัว่ กระทาํ แตค่ วามดี

101008 คู่มคือสมู่ ง่ ือเสสร่งมิ เสแลระิมพแัฒลนะพากฒั ิจกนรารกมจิลกูกเรสรอื มทลกั ูกษเะสชอื ีวทิตใักนษสะถชานีวศติ ึกใษนาสถปาระนเศภทึกลษูกาเสือลสกู ำ�เรสอืองสหาลรักอสงตู ชรด้นั วปงรดะาถวทมี่ ศ3กึ ษาปที ี่ 3
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3

4. ทาํ�ำบญุ บา้ งในเววลลาาหหรรอื อื โโออกกาาสศททส่ี ีส่ ะะดดววกก
พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขของประเทศชาติ ทรงเป็นพระประมุขของคณะ
ลกู เสอื แห่งชาติและทรงเปน็ มงิ่ ขวั ญของปวงชนชาวไทยทัง้ ชาติ ลูกเสอื ตอ้ งปฏบิ ตั ดิ ังนี้
1. แสดงความเคารพสกั การะตอ่ องคพ์ ระประมขุ และพระบรมฉายาลกั ษณ์
2. ไม่กระทาํ การใด ท่เี ปน็ การกระทบกระเทือนเสอ่ื มเสียพระเกียรตคิ ุณ

3. ลกู เสอื ตอ้ งชว่ ยกันปอฺ งกันมิใหค้ นอืน่ กระทําการนน้ั ด้วย
คําปฏิญาณ ข้อ 2 “ขา้ จะช่วยเหลือผ้อู ่นื ทกุ เมื่อ” การบาํ เพญ็ ประโยชนต์ ่อผู้อื่นเป็น
เรื่องสําคัญของลูกเสือสามัญที่พึงปฏิบัติ ลูกเสือพึงช่วยเหลือดูแล มีใจเมตตา กรุณา
เอื้อเฟ้ือต่อผู้อื่น ลูกเสือกระทําได้ทุกโอกาส เช่น ช่วยพ่อแม่ ครู อาจารย์ ช่วยเหลือ
โรงเรยี นตลอดจนชมุ ชน

คําปฏิญาณ ข้อ 3 “ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ” คําปฏิญาณและกฎของ
ลูกเสอื เปรยี บเสมอื นศีลของลูกเสือทเ่ี ป็นหลักยึดเหนย่ี วให้ลูกเสือประพฤติปฏิบัติในส่ิงดีงาม
ตามกฎของลูกเสือ 10 ขอ้ อยา่ งเคร่งครัดโดยไมห่ ลีกเลีย่ ง

กฎของลกู เสือ มี 10 ขอ้
1. ลูกเสือมีเกียรตเิ ชื่อถอื ได้
2. ลูกเสอื มคี วามจงรกั ภักดตี อ่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และซ่ือตรง

ตอ่ ผูม้ ีพระคณุ
3. ลูกเสือมหี น้าทก่ี ระทําตนใหเ้ ป็นประโยชน์และชว่ ยเหลอื ผ้อู น่ื
4. ลกู เสอื เป็นมติ รของคนทกุ คนและเปน็ พ่ีน้องกบั ลูกเสืออ่นื ท่ัวโลก
5. ลกู เสือเปน็ ผสู้ ภุ าพเรียบรอ้ ย
6. ลกู เสอื มคี วามเมตตากรณุ าต่อสัตว์
7. ลูกเสอื เชือ่ ฟงั คําส่ังของบิดามารดา และผ้บู ังคับบัญชาดว้ ยความเคารพ

8. ลูกเสอื มีใจรา่ เริง และไมย่ อ่ ท้อต่อความยากลําบาก
9. ลกู เสือเป็นผูม้ ธั ยสั ถ์
10. ลกู เสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ
ข้อ 1 “ลกู เสอื มีเกยี รติเชือ่ ถอื ได”้ คอื เปน็ ผ้มู เี กยี รตเิ ป็นที่ไว้วางใจของผอู้ นื่ เชอ่ื ถือ
ได้เมื่อกล่าวส่ิงใดออกไปต้องรกั ษาสจั จะ ปฏบิ ัตเิ หมือนปากพูดเสมอ เม่ือได้รบั มอบยหมายสิง่ ใด

ต้องทําส่ิงน้ันให้เสร็จเรียบร้อยด้วยความตั้งใจจริงจนเต็มความสามารถ ตามสติกําลัง ไม่เพิกเฉย
หลกี เลี่ยง

ขอ้ 2 “ลกู เสือมีความจงรกั ภักดตี อ่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซ่ือตรงต่อผู้มี
พระคณุ ” หมายความวา่ จะต้องมีความจงรักภักดีต่อประเทศชาติของตน ศาสนา พระมหากษัตริย์
ด้วยใจจริง ประพฤติตนเปน็ พลเมืองดี ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนประเพณี และมีความ
ซ่อื ตรงต่อพอ่ แม่ ครู อาจารย์ ผ้บู งั คบั บญั ชา และผ้มู พี ระคณุ

คูม่ ือส่งเสรมิ และพฒั นากิจกรรมลูกเสอื ทกั ษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสอื สารอง ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 109
คมู่ ือส่งเสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสือส�ำ รอง หลกั สูตรดวงดาวท่ี 3
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 101

ข้อ 3 “ลกู เสอื มหี น้าทก่ี ระทาํ ตนให้เป็นประโยชนแ์ ละช่วยเหลอื ผ้อู ืน่ ” หมายความว่า
จะต้องพยายามทําประโยชน์แก่ผู้อ่ืน เตรียมความพร้อมเสมอท่ีจะช่วยชีวิตผู้อื่นให้รอดพ้นจาก
อนั ตราย

ขอ้ 4 “ลกู เสอื เปน็ มติ รของคนทกุ คนและเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นท่ัวโลก” หมายถึง
ลกู เสอื จะตอ้ งเป็นผูโ้ อบอ้อมอารแี ก่คนทั่วไปโดยไมเ่ ลอื กชาติหรือช้ันวรรณะ โดยถือว่าเป็นพี่น้องกัน
ทว่ั โลก

ข้อ 5 “ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อย” หมายความว่า เป็นผู้มีกิริยาวาจาสุภาพแก่
บุคคลท่ัวไป โดยเฉพาะเดก็ และคนชรา

ขอ้ 6 “ลกู เสือมีความเมตตากรณุ าตอ่ สตั ว”์ หมายถึง เป็นผู้มีจิตใจเมตตากรุณา ไม่
ฆ่า ไมท่ รมานสตั ว์ เม่ือเจบ็ ปูวยตอ้ งดูแลรกั ษา ถ้าเปน็ สตั ว์ทีใ่ ชง้ านก็พยายามใช้แต่พอสมควร และ
ใหส้ ตั วน์ ั้นได้รับความสบายพอสมควร

ข้อ 7 “ลูกเสือเชื่อฟังคําส่ังของบิดามารดา และผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ”
หมายความวา่ ลูกเสือจะต้องเป็นผู้ปฏิบตั ติ ามคําสง่ั โดยไมล่ งั เลใจ กระทําด้วยความเตม็ ใจเขม้ แขง็

ข้อ 8 “ลกู เสอื มีใจรา่ เริง และไม่ย่อทอ้ ตอ่ ความยากลําบาก” หมายถึง เป็นผู้มคี วาม
ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่บ่น ไม่ย่อทอ้ ต่อความยากลาํ บาก แมจ้ ะพบอปุ สรรคก็ต้องฟนั ฝูาและอดทน

ขอ้ 9 “ลกู เสือเป็นผมู้ ธั ยัสถ์” หมายความว่า ลูกเสือจะต้องเป็นผู้รู้จักประหยัด รู้จัก
เก็บหอมรอมริบ ใช้จ่ายอย่างประหยัด ไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ และรู้จักรักษา
ทรัพยส์ ิ่งของทัง้ ของตนเองและผู้อนื่

ข้อ 10 “ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ” หมายความว่า ลูกเสือจะต้อง
ประพฤติตนดงี าม วาจาเรียบรอ้ ย มคี วามละอายต่อบาปและเกรงกลัวความช่ัว มสี ตเิ หนีย่ วร้ัง
ไมย่ อมกระทําสง่ิ ทผ่ี ิด

ประวตั ิของ ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ ( บ.ี - พี. )

ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ เปน็ ผู้ใหก้ ําเนดิ ลกู เสอื โลก มชี ือ่ เต็มว่า โรเบิร์ต สติเฟสัน สไมธ์ เบเดน
เพาเวลล์ เรียกยอ่ ๆ ว่า บี.-พี. เกิดวันที่ 22 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2400 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
มบี ิดาเป็นศาสตราจารย์สอนวชิ าเรขาคณติ และธรรมชาตศิ ึกษา ณ มหาวทิ ยาลยั ออกซฟ์ อร์ด มารดา
ของเขาเป็นธดิ าของพลเรือเอก ดบั บวิ .ท.ี สไมธ์ แหง่ ราชนาวีองั กฤษ บ.ี -พี. ได้สมรสกบั
นางสาวโมลาฟ เซน็ ตแ์ คลร์ เม่ืออายไุ ด้ 55 ปี
ชีวิตในวัยเด็ก

บ.ี -พ.ี เข้าศึกษาในระดับประถมศึกษา และมธั ยมศึกษาในกรุงลอนดอน ประเทศองั กฤษ ต่อมา
โรงเรยี นมัธยมช่ือชาเตอร์เฮาส์ ทเ่ี ขาศกึ ษาอยูไ่ ด้ยา้ ยไปอยู่ในชนบท ณ เมอื งโกคาลมงิ ในแคว้น
เซอรเ์ รย์ ซ่งึ อยใู่ กล้กบั ปาู ใหญ่ มีธรรมชาติสวยงาม มลี าํ ธารนํา้ ไหลผา่ น เขาจงึ มักใชเ้ วลาว่างหลบเข้า
ไปใช้ชีวิตศึกษาธรรมชาติ ชวี ิตสตั วแ์ ละต้นไม้ เขาชอบวาดภาพ ร้องเพลง แสดงละคร นอกจากน้ี
บ.ี -พ.ี ยังไดร้ บั ความรพู้ ิเศษจากพลเรือเอกสไมธ์ผู้เป็นตา เก่ียวกบั การว่ายนา้ํ เลน่ สเกต ข่ีม้า

101210 ค่มู คือสู่ม่งอื เสสร่งมิ เสแลระมิ พแฒั ลนะพากฒั ิจกนรารกมิจลกูกเรสรือมทลักกูษเะสชือวี ทติ ใกั นษสะถชานีวศิตกึใษนาสถปาระนเศภทึกลษกู าเสอืลสกู �ำ เรสอืองสหาลรักอสงูตชรด้ันวปงรดะาถวทม่ี ศ3กึ ษาปที ่ี 3
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3

การวัดแดดและดดู าว ตลอดจนความรู้เชิงพราน ในช่วงปิดภาคเขาจึงมักจะท่องเท่ียวพักแรมไปกับ
พ่ีชายอีก 3 คน

เม่อื จบชนั้ มัธยมศึกษา บี.-พี. สอบเข้าเรียนที่โรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิสต์ หลังจบการศึกษา
เขาได้รับการแต่งต้ังเป็นนายร้อยตรีแห่งกองทัพบกของอังกฤษ และถูกส่งไปประจําการที่ประเทศ
อินเดีย เม่ืออายุ 19 ปี

ชวี ิตในการรับราชการทหาร
บ.ี -พ.ี รับราชการทหารในประเทศอินเดีย ประจํากองทหารม้าอุสซาร์ท่ี 13 เป็นเวลา 8 ปี

โดยปฏิบตั ิหนา้ ทดี่ ้วยความเข้มแขง็ ขณะทีม่ ยี ศเปน็ ร้อยตรีเขาไดร้ ับเงนิ เดือนนอ้ ยมาก จึงดําเนินชีวิต

อย่างประหยัด คอื ไมส่ ูบบุหรี่ ดม่ื สรุ าแต่นอ้ ย และยังหารายได้พเิ ศษโดยการเขียนเรอื่ งและเขียนภาพ

ลงหนังสือพมิ พ์ ชวี ติ ราชการทหารของเขาส่วนใหญ่อยู่ในประเทศอินเดียและอาฟริกา ได้รับยศร้อย

เอกตง้ั แต่อายุ 26 ปี ในระหวา่ งน้ีมเี หตุการณท์ แี่ สดงถึงลักษณะพเิ ศษของเขาหลายอย่าง เช่นได้รับ

รางวัลชนะเลศิ ในการแข่งขันกีฬาแทงหมูปูา ขณะอยู่บนหลังม้าโดยใช้หอกสั้นเม่ือ พ.ศ. 2426 และมี

เรื่องราวประทับใจทีเ่ กยี่ วข้องกับกิจการลกู เสือหลายครง้ั ดังนี้

คร้งั ท่ี 1 พ.ศ. 2431 ไปปราบชนเผ่าซลู ูซึ่งมีหัวหน้าเผ่าชื่อ ดินีส ซูลู ในอาฟริกาใต้ได้สําเร็จ
เขานําประสบการณบ์ างอย่างในครง้ั น้ีมาใชใ้ นกิจการลกู เสือด้วย ไดแ้ กบ่ ทเพลง อินกอน ยามา

(หัวหนา้ ) อิน กอน -ยา-มา กอน-ยา-มา

(ลูกค)ู่ อิน-วู-บู ยาโบห์ ยาโบห์ อนิ -ว-ู บู

สร้อยคอของดินิส ซูลู ทําด้วยไม้ แกะเป็นท่อนเล็กๆ ซ่ึงต่อมา บี.พี.ได้นํามาเป็นบีด

เครอื่ งหมายวดู แบดจ์ สาํ หรบั ผทู้ ผี่ า่ นการอบรมผบู้ งั คับบญั ชาลูกเสือขนั้ ความรชู้ นั้ สูง

คร้ังท่ี 2 พ.ศ. 2432 ท่ีเกาะมอลต้า บี.-พี. ได้รับแต่งต้ังเป็นผู้ช่วยทูตทหาร ทําหน้าท่ีเป็น
ทหารสบื ราชการลับ

ครง้ั ที่ 3 พ.ศ. 2438 ทําการรบกับเผ่าอาซนั ติ ซ่ึงมีกษตั ริยช์ อ่ื วา่ คงิ เปรมเปห์ และได้รบั

ชยั ชนะ เหตกุ ารณ์ครงั้ น้ี บี.-พ.ี ไดป้ ระสบการณด์ งั ตอ่ ไปนี้

1. การบุกเบิก เช่นการโคน่ ตน้ ไม้ การทาํ สะพาน การสร้างคา่ ยพกั

2.ทดลองการแต่งกายของตนเอง ใช้หมวกปีกแบบโคบาล จนได้รับฉายาจากพวกพื้นเมืองว่า

คัมตะไค แปลวา่ คนสวมหมวกปกี กวา้ ง
3. ประเพณกี ารจับมอื ซา้ ย จากการแสดงความเป็นมิตรของคนพื้นเมือง

ครัง้ ท่ี 4 พ.ศ. 2439 พวกมาตาบลิ ี ซ่ึงเปน็ เผา่ หน่ึงของซลู ู เดมิ อย่ใู นทรานสวาล และถูกพวก

บวั ร์ขบั ไล่ จึงอพยพไปอย่ใู นมาตบิ ลิ ี (ปจั จบุ ันเรียกโรดเิ ซีย) พวกมาตาบลิ ีก่อการกบฏ รัฐบาลอังกฤษ

จงึ สั่งทหารไปปราบบี.พี. ไดป้ ฏบิ ตั ิหน้าทด่ี ว้ ยความเข้มแข็ง ครัง้ นเี้ ขาไดร้ บั ประสบการณ์เร่ืองการ

สอดแนม โดยเฉพาะการปฏบิ ตั ิงานตอนกลางคืน เลยได้รับฉายาว่า "อิมปซี ่า" แปลวา่ หมาปาู

ผไู้ ม่เคยนอนหลบั

คร้ังที่ 5 พ.ศ. 2442 หลังจากที่ บี.-พี. กลับจากการปฏิบัติงานที่ อินเดีย 2 ปี ก็ได้รับคําสั่ง
ด่วนให้เดินทางไปอาฟริกาเพื่อหาทางปฺองกันการรุกรานที่เมืองมาฟีคิง จากพวกบัวร์ (ชาวดัทซ์ท่ี

คู่มือส่งเสรมิ และพัฒนากิจกรรมลกู เสอื ทกั ษะชวี ติ ในสถานศึกษา ลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 111
คมู่ ือสง่ เสริมและพฒั นากจิ กรรมลูกเสอื ทกั ษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสือสำ�รอง หลกั สูตรดวงดาวท่ี 3
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 103

อพยพไปอย่ใู นแอฟรกิ าใต้) ในทรานสวาลและออเร้นจ์ทรีสเตท ซึ่งจะตั้งตนเป็นเอกราช บี.-พี.ได้นํา
กองทหารไปรักษาเมืองมาฟีคิง ซ่ึงถูกล้อมโดยกองทหารบัวร์เป็นเวลานานถึง 217 วัน จนกระทั่งกองทัพ
ใหญไ่ ปถึงทาํ ใหพ้ วกบัวรต์ ้องลา่ ถอยไป

ในการปฺองกันเมืองมาฟีคิง บี.-พี. ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง อดทนร่าเริงไม่ย่อท้อ
ใช้สตปิ ญั ญาหาวธิ แี กป้ ญั หา ทํากลอบุ ายลวงข้าศกึ ให้เข้าใจผิด คดิ ว่ามกี าํ ลังทหารมากมายและมีการ
ปฺองกันรักษาเมืองอย่างเข้มแข็ง ตลอดจนใช้เด็กอาสาสมัครที่ได้รับการอบรมทําหน้าที่ส่งข่าว
ปรากฏวา่ ทํางานไดผ้ ลดี ทําให้ บี.-พี. มีความประทับใจในตัวเด็กและเห็นว่า ถ้าฝึกอบรมเด็กให้
ถูกทางแล้วจะเกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างมาก จึงได้ริเริ่มการลูกเสือในเวลาต่อมา จาก
เหตุการณ์ทีเ่ มืองมาฟคี ิง ทาํ ให้ บี.-พ.ี ไดร้ บั ฉายาวา่ "ผปู้ ฺองกนั มาฟีคงิ "

การกาเนิดลูกเสือ
บ.ี -พี.เดินทางกลบั อังกฤษในฐานะวีรบุรุษและไดน้ ําประสบการณ์จากเมอื งมาฟีคิงมาใช้ เขาจัดให้

เด็กๆ เขา้ มาชว่ ยเหลือในการรกั ษาเมือง โดยทําหนา้ ท่เี ป็นผู้ส่อื ข่าวและสอดแนมของกองทพั รกั ษา
ความสงบภายใน ปฏิบัติงานต่างๆ ที่อยู่ในความสามารถ เช่น อยู่ยามบนหอคอย ให้สัญญาณแก่
ประชาชนเมอื่ พวกบัวร์โจมตี เดก็ ๆ เหลา่ นส้ี ามารถทาํ หน้าทท่ี ี่ได้รับมอบหมายอยา่ งเข้มแข็ง ว่องไว
ได้ผลดไี มแ่ พผ้ ู้ใหญ่ ดังนน้ั บี.พ.ี จงึ คดิ ตั้งขบวนการลกู เสือข้ึน โดยนําความคดิ และประสบการณ์
ต่าง ๆ มาพัฒนาอย่างรอบคอบ จัดตั้งขบวนการลูกเสือขึ้นในปี พ.ศ. 2450 โดยบี.-พี. ได้รวบรวม
เดก็ ชาย 20 คน ไปอยู่ทเี่ กาะบราวน์ซี ในชอ่ งแคบองั กฤษ นับเปน็ การพกั แรมของลูกเสอื คร้งั แรก
ของโลก

ปตี ่อมากองลกู เสอื ไดเ้ รม่ิ กอ่ ต้งั ขึน้ อย่างจริงจังเปน็ คร้งั แรกในอังกฤษ และขยายตวั แพร่หลาย
อยา่ งรวดเรว็ ขบวนการลกู เสือได้เจริญขน้ึ ตามลําดับ ทําให้ บี.-พี. มองเห็นการณ์ไกลวา่ ลกู เสือจะเปน็
งานสําคัญในชีวิต ช่วยฝึกอบรมเด็ก ๆ ให้เป็นพลเมืองดีของชาติ เป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองอย่าง
มากต่อไป บี.-พี. จึงลาออกจากราชการทหาร มาใช้"ชวี ิตทีส่ อง" ซงึ่ เป็นชวี ติ ทีใ่ ห้บริการแก่ลูกเสือ
ทัว่ โลก

พ.ศ. 2454 บ.ี -พ.ี เดินทางรอบโลก เพอื่ พบลูกเสอื ประเทศตา่ งๆ เปน็ การเร่ิมต้นสง่ เสรมิ
ความเป็นพี่นอ้ งกนั ของลูกเสือทวั่ โลก

พ.ศ. 2463 มงี านชมุ นุมลูกเสือโลกครั้งแรก ในการชุมนุมครัง้ นี้ลกู เสือท่วั โลกท่ีมาร่วมประชุม
ได้พร้อมใจกนั ประกาศให้ บ.ี -พ.ี อยูใ่ นตาํ แหน่งประมุขคณะลูกเสือโลก

เมื่อการลูกเสือมีอายุครบ 21 ปี ซ่ึงเปรียบเหมือนการบรรลุ "นิติภาวะ" ตามกฎหมาย
องั กฤษ มีลูกเสอื ทั่วโลกถงึ กวา่ 2 ลา้ นคน พระเจา้ ยอรช์ ที่ 5 ไดพ้ ระราชทานบรรดาศักดใิ์ ห้ บ.ี -พี.
เป็นบารอน จากนนั้ มากจิ การลูกเสือก็เจริญกา้ วหนา้ ไม่หยุดยงั้ และมกี ารชมุ นมุ ลกู เสอื โลกอีก
หลายครั้ง

เม่ือ บี.-พี. มีอายุ 80 ปี เขาได้กลับไปพักผ่อนในช่วงสุดท้ายของชีวิตอยู่ท่ีประเทศเคนยา
ในทวีปอาฟริกาอกี ครง้ั หนึ่ง และถงึ แก่กรรมทน่ี ั่นเม่ือวันท่ี 8 มกราคม พ.ศ.2484

101412 คู่มคอื สมู่ ่งอื เสสร่งิมเสแลระิมพแฒั ลนะพากัฒจิ กนรารกมิจลกกู เรสรอื มทลักกูษเะสชือีวทติ ใักนษสะถชานีวศติ กึใษนาสถปาระนเศภทึกลษูกาเสือลสกู �ำ เรสออื งสหาลรกั อสงตู ชรดัน้ วปงรดะาถวทมี่ ศ3กึ ษาปที ี่ 3
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3

เรอื่ งสั้นที่เปน็ ประโยชน์

จั๊กจั่นกับมดง่ามใจดี
น.ส.จุฑามาส ชมุ่ เมอื งปัก ผู้แต่ง

กาลคร้ังหน่ึง มีจ๊กั จน่ั เจ้าสาํ ราญตัวหนง่ึ นสิ ยั เกยี จคร้าน ชอบความสะดวกสบาย ตลอด
ชว่ งฤดูร้อนมดงา่ มพากนั หาอาหารไปเก็บสะสมไวใ้ นรัง เจา้ จั๊กจ่นั มัวแต่ร้องรําทําเพลง สนุกสนาน
ไปวันๆ

ครัน้ ถงึ ฤดูหนาวหิมะตกหนัก มดง่ามเก็บตัวอยู่กับเมล็ดพืชท่ีมันได้หาเก็บเตรียมพร้อมไว้
จั๊กจ่นั ไมส่ ามารถหาอาหารกินได้ อดอยหู่ ลายวนั ในทีส่ ดุ ต้องซมซานด้วยความหวิ โหยมาเคาะประตู
ร้องขอมดงา่ มซง่ึ เคยรู้จักกัน “ได้โปรดเถดิ เพื่อน ขออาหารให้ฉันประทงั ชวี ิตสักหน่อย เมอื่ พ้น
ฤดูหนาวอนั แสนทารณุ น้ีแลว้ ฉนั สัญญาว่าจะหามาใช้คนื ใหเ้ ป็นเท่าตวั ” จ๊ักจน่ั พยายามวิงวอน
มดง่ามจงึ กล่าวต่อจัก๊ จนั่ ว่า “เม่อื ฤดรู ้อนทีใ่ ครๆเขาก็ต่างพากนั ทํามาหากินตัวเป็นเกลียว เจ้ามัวทํา
อะไรอยู่” “เพราะว่าฉันไม่มีเวลาน่ะสิ ฉนั ยุ่งอยู่กับการร้องเพลง เมื่อตอนที่เธอและเพื่อนๆขนอาหาร
ผา่ นมา เจา้ กไ็ ด้ยินมใิ ชห่ รอื ” มดงา่ มหัวเราะคําตอบของจ๊ักจ่ันแล้วตอบว่า “ได้ยินสิ เม่ือเจ้ามัวแต่
ร้องเพลงฤดรู ้อน เม่ือฤดหู นาวเจา้ ก็จงเต้นรําใหส้ นกุ เถดิ แต่ขา้ คงไมใ่ จดาํ พอจะไม่แบง่ อาหารใหเ้ จา้
หรอกนะ เจา้ ต้องสัญญวา่ ปีต่อไปเจ้าตอ้ งรจู้ ักหาอาหารไว้กินในฤดูหนาวเองด้วย” ว่าแล้วมดง่ามก็
คาบอาหารมาแบง่ ใหจ้ ๊ักจ่นั นบั แตน่ ้นั มาจักจน่ั ก็หาอาหารและแบง่ ปนั ให้มดงา่ มด้วยมติ รภาพทีด่ ี
ตอ่ กนั

เรอ่ื งน้ีสอนใหร้ ู้วา่ การแบง่ ปันและการช่วยเหลอื กันในยามคบั ขนั จะช่วยให้ได้มติ รเพม่ิ ขึ้น

คนดขี องครอบครวั

น.ส.จุฑามาส ชุม่ เมอื งปัก ผู้แต่ง
พงษ์ชยั เป็นลูกชายคนถบี สามล้อทยี่ ากจน เขาต้องทาํ งานชว่ ยพ่อแมต่ ง้ั แต่เล็กจนโต เพ่ือหา
เงินเรยี นหนังสือและซอ้ื อาหาร เขาเปน็ คนขยนั ขันแข็งไมป่ ลอ่ ยใหโ้ อกาสเข้ามาหา แต่เขาจะเป็นผู้ไป
หาโอกาสด้วยตวั เอง นน่ั คอื เขาว่างจากเรียนเขาจะต้องไปทํางาน เช่น ล้างจานร้านอาหาร ทําความ
สะอาดบา้ น เลี้ยงเด็ก เมื่อเรยี นชนั้ มัธยมศึกษา เขาก็รับสอนการบ้านน้องที่เรียนประถมศึกษา ด้วย
ความม่งุ ม่ันต้ังใจในการเรยี นและการทํางานชว่ ยครอบครัวน้ี ทาํ ใหเ้ ขาสามารถเรยี นจบปรญิ ญาตรีได้
ทํางานที่มั่นคงมีรายได้ เล้ียงดูครอบครัว เขาให้พ่อเลิกถีบสามล้อ ทํางานเบาๆ ท่ีบ้าน พ่อกับแม่
ภมู ใิ จในตัวของพงษ์ชยั มาก เขาเป็นตวั อยา่ งทด่ี ีของคนในชุมชนและผู้อน่ื

เรอื่ งนีส้ อนใหร้ ูว้ า่ ความขยนั อดทน ทําใหป้ ระสบความสาํ เรจ็ ในชีวติ

คมู่ ือส่งเสริมและพัฒนากจิ กรรมลูกเสือทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือสารอง ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 113
คู่มือสง่ เสริมและพัฒนากจิ กรรมลูกเสือทักษะชวี ิตในสถานศึกษา ประเภทลูกเสือส�ำ รอง หลกั สูตรดวงดาวท่ี 3
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 105

แผนการจดั กิจกรรมลูกเสอื สารอง ดาวดวงท่ี 3 ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3

หนว่ ยที่ 13 คาปฏิญาณและกฎของลกู เสือสารอง เวลา 1 ชัว่ โมง
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 29 การร่วมกจิ กรรมกับลกู เสอื สามัญ

1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ลกู เสือสามารถรว่ มกจิ กรรมกับลูกเสอื สามญั เพอ่ื ความสมั พนั ธอ์ นั ดแี ละเป็นไปตามเกณฑก์ าร

รับเคร่ืองหมายลกู เสอื สมั พนั ธ์ได้

2. เน้ือหา
กิจกรรมสาํ คญั ของลกู เสอื สามัญท่ลี กู เสอื สํารองควรมสี ว่ นร่วม

3. สื่อการเรียนรู้

3.1 แผนภมู เิ พลง
3.2 ใบความรู้

4. กิจกรรม
4.1 พิธีเปิดประชุมกอง (แกรนด์ฮาวล์ ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก)
4.2 กิจกรรมตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1) ผูก้ ํากับลูกเสอื และลกู เสอื สนทนาเรือ่ งการร่วมกจิ กรรมกบั ลูกเสอื สามญั ให้ลกู เสอื แตล่ ะหมู่

อภปิ รายวา่ จะรว่ มกิจกรรมใดบ้างและเกิดประโยชน์อยา่ งไรในการรว่ มกจิ กรรมน้ันๆ
2) ลกู เสือนําเสนอผลการอภิปรายทีละหมู่
3) ผูก้ าํ กับลูกเสอื สรุปและนัดหมายการร่วมกจิ กรรมในโอกาสตา่ งๆกับลูกเสือสามญั
4.3 ผูก้ าํ กับลูกเสอื เลา่ เร่ืองสน้ั ท่ีเปน็ ประโยชน์
4.4 พิธีปิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครือ่ งแบบ แกรนดฮ์ าวส์ ชักธงลง เลิก)

5. การประเมนิ ผล
5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
5.2 สงั เกตการอภปิ รายและการนาํ เสนอผลงาน

เพลง ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมที่ 29

ลกู เสอื ไมจ่ ับมอื ขวา
ลกู เสือเขาไมจ่ ับมอื ขวา ยนื่ ซ้ายมาจบั มอื กันมนั่

มือขวาใชเ้ คารพกัน มือขวาใชเ้ คารพกนั

ยื่นมอื ซา้ ยออกมาพลัน จับมือจับมอื

จบั มือน้นั หมายถึงมิตร เหมอื นญาติสนทิ ทค่ี วรยดึ ถือ

ยิ้มด้วยเม่อื ยามจับมือ ย้มิ ด้วยเม่อื ยามจับมือ

เพราะพวกเราคือลกู เสือดว้ ยกนั เพราะพวกเราคือลกู เสือดว้ ยกนั

101614 คูม่ คือสู่ม่งือเสสร่งิมเสแลระมิ พแัฒลนะพากฒั ิจกนรารกมจิลกูกเรสรือมทลกั กูษเะสชือีวทิตใกั นษสะถชานีวศติ กึใษนาสถปาระนเศภทึกลษูกาเสือลสกู ำ�เรสออื งสหาลรกั อสงตู ชรดน้ั วปงรดะาถวทม่ี ศ3ึกษาปที ี่ 3
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3

ใบความรู้

กิจกรรมลูกเสือสามัญท่ีลูกเสือสารองเข้าร่วม

มีกิจกรรมลูกเสือสามัญหลายกิจกรรมท่ีลูกเสือสาํ รองสามารถเข้าร่วมได้ เช่น
1. พิธีการ

1.1 พิธีส่งลูกเสือสาํ รองไปเป็นลูกเสือสามัญ
ข้อ 291 พิธีส่งลูกเสือสาํ รองไปเป็นลูกเสือสามัญ
พิธีส่งลูกเสือสาํ รองไปเป็นลูกเสือสามัญ ให้ปฏิบัติดังต่อไปน้ี
1) กองลูกเสือสํารองทํารูปวงกลมใหญ่ กองลูกเสือสามัญทํารูปเกือกม้า
2) ระหว่างกองทั้งสองมีการแบ่งเขตแดน(อาจใช้เชือก ไม้พลอง หรือโรยปูนขาว
ไว้ก็ได้)

3) กองลูกเสอื ทง้ั สองมธี งประจํากองและปฺายคําขวัญของตน และอยู่ในแดนของตน
ใหร้ องผกู้ ํากับลูกเสอื เปน็ คนถอื ไว้

4) กองลกู เสอื สาํ รองทาํ แกรนดฮ์ าวล์
5) ผูก้ ํากบั ลูกเสอื สํารองอธบิ ายความหมายของการจะทําพิธีสง่ ใหก้ องทราบ
6) ผกู้ ํากบั ลูกเสือสาํ รองเรียกลกู เสือท่จี ะส่งออกมายืนหน้าผกู้ ํากับลูกเสือ แล้วอบรม
สง่ั สอนในการท่ีจะจากไปและให้ทวนคําปฏิญาณอีกคร้ังหนึ่ง โดยส่ังว่า “เพ่ือเป็นที่แน่ใจว่า

เจ้ายังจําคําปฏิญาณของเจ้าได้ขอให้เจ้าทบทวนคําปฏิญาณอีกครั้ง” แล้วลูกเสือก็กล่าวคํา
ปฏญิ าณ

7) ลูกเสือกลับหลังหัน ไปลํ่าลาลูกเสือเฉพาะในหมู่ของตน โดยการสัมผัสมือแล้ว
กลับมายนื หนา้ ผ้กู ํากับลูกเสือกองลกู เสอื สํารองไชโยใหแ้ กเ่ ขาสามครั้ง

8) ผู้กํากับลูกเสือสํารองสั่งเปิดทางเพื่อนําลูกเสือออกไปหาผู้กํากับลูกเสือสามัญท่ี

เส้นกนั้ แดน
9) ผู้กํากับลกู เสือสํารองจะแนะนําและฝากฝังลูกเสือสํารองกับผู้กํากับลูกเสือสามัญ

แล้วนําลูกเสือสํารองข้ามแดนไป (ถ้าหากลูกเสือสํารองผู้ใดได้รับเครื่องหมายเสือเผ่นก็ให้
กระโดดข้าม)

10) ผู้กํากับลูกเสือสามัญนําลูกเสือสํารองไปแนะนําให้รู้จักนายหมู่ของลูกเสือที่จะ
เขา้ ไปอยู่

11) นายหมู่ลกู เสอื สามัญแนะนาํ ให้ลูกเสือสํารองรู้จกั กับลูกเสือสามัญในหมู่ท่ีตนเข้า
ไปอยนู่ ้ัน

12) พิธีเสร็จส้นิ ดว้ ยการเปล่งเสยี งร้องของลกู เสอื สามญั ร้องไชโยสามคร้ัง
2) กิจกรรมบาํ เพญ็ ประโยชน์
3) กจิ กรรมการเดนิ ทางไกลและแรมคนื ฯลฯ

คมู่ อื ส่งเสริมและพัฒนากจิ กรรมลกู เสือทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ลกู เสือสารอง ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 115
คู่มอื สง่ เสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลกู เสอื ทักษะชีวิตในสถานศึกษา ประเภทลกู เสอื ส�ำ รอง หลักสตู รดวงดาวที่ 3
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 107

เรอ่ื งส้ันท่ีเป็นประโยชน์

ดนิ สอกบั ยางลบ
ครั้งหนึ่งมีดินสอที่เขียนอย่างไรก็ไม่มีวันหมดอยู่แท่งหนึ่ง และมียางลบที่ลบอย่างไรก็ไม่มี
หมดอยกู่ ้อนหนง่ึ ดนิ สอเป็น็ เเพพอ่ื ่ือนกกับบั ยยาางงลลบบไปไหนมาไไหหนนดดว้ ้วยยกกนั ัน ทําอะไรทําด้วยกัน หน้าที่ของ
ดินสอคือเขียน มันจึงเขียนทุกที่ทุกอย่างตลอดเวลาที่อยู่กับยางลบ หน้าที่ของยางลบคือ ลบทุก
อย่างทีด่ นิ สอเขียนทกุ ท่ีทกุ เวลา
เวลาผ่านไปนานหลายปี ทุกอย่างดําเนินไปเหมือนเดิม จนกระท่ังดินสอเอ่ยกับยางลบว่า
“เราคงอย่กู ันไมไ่ ดแ้ ลว้ ” ยางลบถามว่า “ทําไม” ดนิ สอตอบว่า “ก็เราเขียน นายลบ แล้วมันก็ไม่เหลือ
อะไรเลย” ยางลบเถยี งวา่ “เรากล็ บตามหน้าท่ีของเรา เราไม่ผดิ ” ทง้ั คู่จงึ แยกทางกนั
เมื่อเวลาผ่านไป ดินสอเรม่ิ เขยี นผดิ ข้อความท่ีเคยเขียนสวยๆ มีรอยขีดฆา่ สกปรก เพราะ
ไมม่ ีใครลบให้ ดินสอ “คิดถึงยางลบจับใจ” ฝูายยางลบเม่ือแยกทางกับดินสอก็สบายใจท่ีตัวมันไม่
ตอ้ งเปื้อน แต่เวลาผา่ นไปยางลบเรมิ่ ร้สู กึ วา่ ตัวเองไรค้ า่ เพราะไม่มีอะไรให้ลบ ยบาางงลลบบ “คิดถึงดนิ นจสบั อ
จใจบั ”ใจ”
ทั้งคจู่ ึงกลับมาคบกันใหม่ คราวน้ีดินสอเขียนน้อยลง เขียนเฉพาะส่ิงดีๆ ส่วนยางลบก็ลบ
เฉพาะสิง่ ทดี่ นิ สอเขียนผิดเทา่ นนั้ ถา้ เปรยี บการเขียนดนิ สอเป็นการจํา ตอนแรกดินสอจําทุกเรอื่ งทั้ง
ดีและไมด่ ี แต่พอเปลย่ี นไปกห็ ดั เลอื กจําแตส่ ง่ิ ดีๆเทา่ นนั้ ส่วนการลบเปรียบเสมือนการลืม ยางลบ
นั้นตอนแรกจะลมื ทุกอยา่ งทั้งดแี ละไมด่ ี ทุกคร้งั ที่ลืมมันกจ็ ะสกปรก แต่ตอนหลังมันเลือกลืม คือลืม
เรอื่ งไม่ดี ซ่งึ กค็ อื “การใหอ้ ภัย” นน่ั เอง

เรอื่ งน้ีสอนใหร้ วู้ า่ เพ่อื นท่ีดคี วรจาํ สิ่งทด่ี ขี องกันและกัน ควรลมื สิ่งทไ่ี ม่ดเี สยี จะทาํ ให้มติ รภาพ
ยนื ยาว

101816 คมู่ คือสูม่ ่งือเสสร่งิมเสแลระิมพแัฒลนะพากัฒิจกนรารกมิจลกูกเรสรือมทลกั ูกษเะสชอื ีวทิตใักนษสะถชานวี ศิตกึใษนาสถปาระนเศภทึกลษกู าเสือลสกู ำ�เรสออื งสหาลรกั อสงูตชรดน้ั วปงรดะาถวทมี่ ศ3กึ ษาปีท่ี 3
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3

แผนการจดั กจิ กรรมลูกเสือสารอง ดาวดวงที่ 3 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3

หนว่ ยที่ 14 ประเมนิ ผล เวลา 1 ชวั่ โมง
แผนการจดั กิจกรรมท่ี 30 การประเมินผล

1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.1 เพ่ือให้ลกู เสือเขา้ ใจการประเมนิ ผลเพอ่ื การตดั สนิ ผลการผา่ น ไมผ่ า่ นกจิ กรรม
1.2 เพอ่ื ให้ลูกเสอื เขา้ ใจการประเมนิ พฤตกิ รรมทกั ษะชวี ติ ท่ีลูกเสอื ไดร้ บั การพัฒนา
1.3 เตรยี มความพรอ้ มรบั การประเมินตามวธิ กี ารของผู้กาํ กับกองลูกเสอื

2. เนอ้ื หา

2.1 เกณฑก์ ารตัดสินกิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี นตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน
พ.ศ. 2551

2.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมทักษะชวี ิต

3. ส่ือการเรียนรู้

3.1 Flow Chart การประเมนิ เพ่อื ตดั สนิ ผลการเลื่อนชั้นของลูกเสอื และจบการศกึ ษา
3.2 การประเมนิ ทักษะชีวติ ของลกู เสอื รายบคุ คลหรอื รายหม่ลู ูกเสือ
3.3 ใบความรู้

4. กจิ กรรม
4.1 ผ้กู ํากับลูกเสืออธิบายหลกั เกณฑ์ วธิ ีการประเมนิ ผลการเรียนรตู้ ามทหี่ ลักสตู รแกนกลาง

การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พ.ศ. 2551 กาํ หนดเพอ่ื ตดั สินการจบการศึกษา
4.2 ผ้กู ํากับลูกเสืออธบิ ายถึงพฤตกิ รรมของลกู เสอื ทไี่ ดร้ ับการเสรมิ สรา้ งทกั ษะชีวิตผ่าน

กิจกรรมลกู เสือ

4.3 ลกู เสอื ประเมนิ ความพรอ้ มของตนเองเพ่ือรบั การประเมินและวางแผนพัฒนาตนเองใน
ส่วนทไ่ี มม่ นั่ ใจ

4.4 ผู้กํากับลกู เสือและลูกเสอื กาํ หนดขอ้ ตกลงรว่ มกันถงึ ช่วงเวลาการประเมนิ
4.5 ผกู้ าํ กบั ลูกเสือนดั หมายและดาํ เนินการประเมนิ

5. การประเมินผล
5.1 สังเกตจากผลการประเมนิ ตนเองของลกู เสอื
5.2 สังเกตความม่นั ใจและการยนื ยนั ความพรอ้ มของลกู เสอื

ค่มู อื ส่งเสริมและพฒั นากิจกรรมลกู เสือทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 117
ค่มู อื ส่งเสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลกู เสือทกั ษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสอื ส�ำ รอง หลกั สตู รดวงดาวท่ี 3
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 109

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 30
1. การประเมนิ ผลตามเกณฑ์ของหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551

ผังกระบวนการประเมนิ ผลลูกเสอื

ลกู เสอื เรียนรูจ้ ากกิจกรรม เกณฑก์ ารประเมิน
ลูกเสือเสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ิต 1. เวลาเขา้ ร่วมกิจกรรม
2. การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
ผกู้ ากับประเมนิ ผลเรียนของ 3. ผลงาน / ชนิ้ งาน
ลกู เสือท่ีร่วมกจิ กรรม 4. พฤตกิ รรม/คุณลกั ษณะ
ของลูกเสือ
ผลการประเมนิ
ผ่าน ไม่ผา่ น - ซอ่ มเสรมิ
- พัฒนาซา้
ตัดสนิ ผลการเรยี นรผู้ ่านเกณฑ์
ผ่าน

รบั เครื่องหมายชน้ั ลกู เสอื
ตามประเภทลกู เสอื

111018 คูม่ คอื สมู่ ง่ อื เสสร่งมิ เสแลระมิ พแฒั ลนะพากฒั ิจกนรารกมจิลกกู เรสรอื มทลกั ูกษเะสชอื ีวทติ ใกั นษสะถชานีวศติ กึใษนาสถปาระนเศภทึกลษกู าเสอืลสกู ำ�เรสออื งสหาลรกั อสงูตชรด้ันวปงรดะาถวทมี่ ศ3กึ ษาปที ่ี 3
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3

แบบประเมนิ ตนเองของลูกเสือ
ชือ่ ..........................................................ประเภทลกู เสอื ...........................ชน้ั ................................

เกณฑท์ ่ี การประเมินตนเอง ข้อคิดเหน็
การพัฒนา
ที่ รายการท่ีรับการประเมิน สถานศกึ ษา ครบ/ ไมค่ รบ/
กาหนด ผา่ น ไมผ่ ่าน

1 1. เขา้ รว่ มกจิ กรรมลกู เสอื

1.1 ร่วมกจิ กรรมการฝกึ อบรม 30 ช่วั โมง/ ปี

1.2 ร่วมกจิ กรรมวนั สาํ คัญไม่นอ้ ย 5 ครั้ง/ ปี

กวา่ 5 ครง้ั เชน่

- วนั สถาปนาลูกเสอื

- วันถวายราชสดุดี

- วนั พ่อแหง่ ชาติ

- วันแม่แห่งชาติ

- วันต้านยาเสพตดิ

- กจิ กรรมบาํ เพญ็ ประโยชน์อนื่ ๆ 2 คร้ัง/ ปี

- กิจกรรมวฒั นธรรม/ ประเพณี 1 ครัง้ / ปี

1.3 เดินทางไกล/ อยคู่ ่ายพกั แรม

2 2. มผี ลงาน/ ช้นิ งานจากการเรียนรู้

กิจกรรมลกู เสือ

2.1 ผลงานการบรกิ าร 1 รายการ/ ปี

2.2 ช้ินงาน/ งานท่คี ดิ สร้างสรรค์ 1 รายการ/ ปี

2.3 อืน่ ๆ เชน่ รายงานฯ 1 รายการ/ ปี

3 3. มคี วามพรอ้ มเขา้ รับการทดสอบเพ่ือ

รบั เคร่ืองหมายวิชาพเิ ศษตามประเภท

ของลกู เสือ

3.1.............................................

3.2.............................................

3.3.............................................

3.4.............................................

3.5.............................................

ผา่ นและพร้อม

คู่มือส่งเสรมิ และพฒั นากิจกรรมลูกเสอื ทักษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ลกู เสือสารอง ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 119 111

คูม่ อื ส่งเสรมิ และพฒั นากิจกรรมลูกเสือทกั ษะชีวติ ในสถานศึกษา ประเภทลูกเสือสำ�รอง หลักสตู รดวงดาวที่ 3
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3

สรุป  ฉนั มน่ั ใจวา่ ผา่ น  ฉันมีความพรอ้ มให้ประเมนิ  ฉนั ยังไมพ่ รอ้ ม
สรปุ ผลการประเมินตนเอง

1. กรณลี ูกเสือสํารอง (ให้เลือกภาพต่อไปน้ีแทนการยนื ยนั การประเมินตนเอง)


ม่ันใจมากทไี่ ด้รับ พร้อมแลว้ ไมแ่ น่ใจ ต้องขอความ งนุ งง
ไมเ่ ขา้ ใจ
เครอ่ื งหมาย ช่วยเหลอื จาก
วิชาพเิ ศษ ผู้กาํ กบั

2. กรณีลกู เสือสามัญ-สามัญรุ่นใหญ่

 มัน่ ใจมาก พรอ้ มรบั การประเมนิ เครอื่ งหมายวชิ าพิเศษ
 พรอ้ มรบั การประเมิน
 ยังตอ้ งพัฒนา/ ซอ่ มเสริมบางเรอ่ื ง
 ต้องการความชว่ ยเหลอื จากผ้กู าํ กับลกู เสอื

111220 คคมู่ ู่มอื ือสง่สเ่งสเรสมิ รแมิ ลแะพลฒัะพนัฒากนิจากกรรจิ มกลรูกรเสมือลทูกกั เษสะอื ชทีวกัติ ษในะสชถวี าติ นใศนึกสษถา าปนรศะเึกภษทลาูกเลสกูอื สเส�ำ อืรอสงาหรอลกังสชตู ั้นรดปวรงะดถามวทศ่ีกึ 3ษาปที ่ี 3
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3

แบบประเมินพฤติกรรมทักษะชวี ิตของลกู เสือสาหรบั ผู้กากบั ลกู เสอื
คาชแ้ี จง ใหผ้ ู้ตอบทาํ แบบประเมินทุกขอ้ โดยแตล่ ะข้อให้ทาํ เคร่ืองหมาย/ ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ความ

เปน็ จริง
2.1 พฤตกิ รรมลกู เสอื สารองท่คี าดหวัง

รายการประเมนิ ใช่ ไม่ใช่

1. ลูกเสือมีทกั ษะในการสงั เกตและจดจาํ
2. ลกู เสือสามารถพึ่งตนเองและดแู ลตนเองได้
3. ลูกเสือสาํ รองปฏิบตั กิ ิจกรรมบําเพญ็ ประโยชน์รักษาสงิ่ แวดลอ้ ม
และอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาติ
4. ลลกู กู เเสสอื อื ไไมมม่ ม่ ปี ปี ัญญั หหาาททนั นั ตตสสขุ ขุภภาพาพแลแะลไะมไเ่มจเ่ บ็จป็บ่วปยวู ดยว้ดย้วโยรโครตคดิ ตตดิ ่อตอ่
ตามฤดกู าล
5. ลลกู ูกเเสสอื ือรรจู้ จู้ กั กั รรกั ักษษาาสสขุ ุขภภาพาพแและลปะปฏฏเิ สเิ ธสสธงิ่สเ่งิสเพสตพดิตดิ
6. ลลกู ูกเเสสอื อื รรจู้ ู้จกั กั แแกกป้ ้ปัญัญหหาเาฉเฉพพาะาหะหนน้าหา้ หรอื รใอื หใกห้ าก้ ราชรว่ชย่วเยหเลหอื ล/ือแจ/ ง้แเจห้งตเหุเมตอ่ื ุเปมรอื่ ะปสรบะเสหบตเุหตุ
วิกฤต
7. ลกู เสือมีสว่ นสงู และนํา้ หนักตามเกณฑม์ าตรฐาน
8. ลกู เสอื มที กั ษะในการสอ่ื สารไดถ้ กู กาลเทศะและไม่กา้ วร้าวรนุ แรง

สรุปแบบการประเมินตนเอง

  

ฉันมที กั ษะชวี ิต ฉนั จะมที กั ษะชีวติ ฉนั ต้องพัฒนาตนเองอกี มาก
ถ้าแกไ้ ขปรบั ปรุงพฤตกิ รรม

คู่มอื ส่งเสริมและพฒั นากิจกรรมลูกเสือทกั ษะชวี ติ ในสถานศึกษา ลกู เสอื สารอง ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 121
คูม่ ือสง่ เสริมและพฒั นากิจกรรมลกู เสอื ทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา ประเภทลกู เสอื ส�ำ รอง หลักสูตรดวงดาวที่ 3
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 113

2.2พฤติกรรมลกู เสือสามัญที่คาดหวัง

รายการประเมนิ ใช่ ไม่ใช่

1. ลกู เสอื มีทกั ษะในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมกลางแจง้
2. ลกู เสือร่วมกิจกรรมบําเพญ็ ประโยชน์
3. ลูกเสือช่วยตนเองและครอบครวั ได้
4. ลกู เสือไม่มปี ัญหาทันตสขุ ภาพ ไมด่ ม่ื น้าํ อัดลมขนมกรบุ กรอบ
ไมร่ ับประทานขนมหวานเป็นประจํา
5. ลูกเสือรู้จักใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์และไมต่ ดิ เกม
6. ลกู เสือประพฤติตนเหมาะสมกบั เพศและวัยมีทักษะการสรา้ ง
สัมพนั ธภาพและการสอื่ สารไม่กา้ วร้าวรนุ แรง
7. ลกู เสอื แสดงออกถึงความซอื่ สตั ย์ รู้จกั แก้ปญั หา หรอื ใหค้ วาม
ชว่ ยเหลอื ผู้อืน่

8. ลูกเสือมนี า้ํ หนกั และสว่ นสูงตามเกณฑม์ าตรฐาน

สรปุ แบบการประเมนิ ตนเอง

มที กั ษะชวี ิต   
พรอ้ มเผชญิ จะมที ักษะชวี ติ
อยา่ งรอดปลอดภัย แก้ไขปรับปรุง ต้องพฒั นาตนเอง ไม่แน่ใจชีวิต
อีกมาก (มปี ญั หาแล้ว)
พฤตกิ รรม
(เส่ียงนะเน่ยี )

เรือ่ งท่ฉี นั จะตอ้ งปรับปรงุ
1)..................................................................................................................................................
2)..................................................................................................................................................
3)..................................................................................................................................................
4)..................................................................................................................................................

111242 คคมู่ มู่ อื ือส่งสเ่งสเรสิมรแิมลแะพลัฒะพนฒัากนจิ ากกรรจิ มกลรกู รเสมือลทกู ักเษสะอื ชทีวกัิตษในะสชถีวาติ นใศนกึ สษถา าปนรศะเกึภษทลาูกเลสกูือสเสำ�ือรอสงาหรอลกังสชตู ้นั รดปวรงะดถามวทศ่ีกึ 3ษาปที ี่ 3
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3

2.3 พฤตกิ รรมลูกเสอื สามัญรนุ่ ใหญ่ท่ีคาดหวัง

รายการประเมนิ ใช่ ไมใ่ ช่
1. ลูกเสือพฒั นาตนเองใหม้ ที กั ษะในการทาํ กจิ กรรมลูกเสอื

ตามความสนใจและได้รบั เครือ่ งหมายวิชาพิเศษ
2. ลกู เสอื ทํากิจกรรมบาํ เพญ็ ประโยชน์ตอ่ ครอบครวั

สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม

3. ลูกเสอื ใชเ้ วลาวา่ งทเี่ ป็นประโยชน์ทาํ กิจกรรม อนุรกั ษส์ ่งเสริมจารตี ประเพณี
ศิลปวฒั นธรรมไทย

4. ลูกเสอื รเู้ ทา่ ทนั ส่ือโฆษณาและรูจ้ ักใช้ประโยชน์จาก Internet

5. ลูกเสือเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรมหรอื ปรับปรุงและพัฒนาตนเองได้
เหมาะสมกับเพศวัยไม่กา้ วร้าวรุนแรง
6. ลกู เสือทาํ กจิ กรรมหรือโครงการประหยดั พลงั งาน/ทรพั ยากร

7. ลูกเสอื มกี ารออม หรอื ทาํ บญั ชรี ายรับ รายจา่ ยอย่างต่อเนอื่ ง
8. ลกู เสอื ไมเ่ คยประสบอบุ ัติเหตจุ ากการใชย้ านพาหนะ

สรุปแบบการประเมนิ ตนเอง

มีทักษะชีวติ 
พร้อมเผชญิ จะมที ักษะชีวิต ตอ้ งพฒั นาตนเอง ไม่แน่ใจชีวติ
อย่างรอดปลอดภัย แก้ไขปรับปรงุ อกี มาก (มีปัญหาแลว้ )

พฤติกรรม (เสีย่ งนะเน่ีย)

เรือ่ งท่ฉี นั จะตอ้ งปรบั ปรุง
1)..................................................................................................................................................
2)..................................................................................................................................................
3)..................................................................................................................................................
4)..................................................................................................................................................

คมู่ อื ส่งเสรมิ และพฒั นากิจกรรมลูกเสือทกั ษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสอื สารอง ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 123
คูม่ อื สง่ เสริมและพฒั นากจิ กรรมลกู เสือทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสือสำ�รอง หลกั สูตรดวงดาวที่ 3
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 115

2.4 พฤติกรรมลกู เสอื วสิ ามญั ทีค่ าดหวงั

รายการประเมิน ใช่ ไม่ใช่
1. ลกู เสือทํากิจกรรม/โครงการ ตามความถนดั และความสนใจ
2. ลกู เสือบริการผอู้ นื่ ชว่ ยเหลอื ชมุ ชน สงั คม และประเทศชาติ

3. ลูกเสอื รจู้ กั วธิ ีปอฺ งกนั ความเสย่ี งทางเพศ
4. ลกู เสือใชเ้ วลากับสอ่ื ไอทไี ดอ้ ย่างเหมาะสม
5. ลกู เสอื ตระหนกั ถงึ พิษภัยและหลกี เล่ยี งจากสง่ิ ยาเสพตดิ
6. ลูกเสอื มคี า่ นยิ มสขุ ภาพ ดา้ นอาหาร และความงามท่เี หมาะสม

7. ลกู เสอื ทํางานหารายไดร้ ะหว่างเรยี น

8. ลกู เสือไม่มพี ฤตกิ รรมกา้ วร้าวและไม่กอ่ เหตรุ นุ แรง

สรุปแบบการประเมินตนเอง

มที กั ษะชีวติ 
พร้อมเผชิญ จะมที ักษะชีวติ ตอ้ งพัฒนาตนเอง ไมแ่ นใ่ จชวี ิต
แกไ้ ขปรับปรุง อกี มาก (มปี ญั หาแล้ว)
อยา่ งรอดปลอดภัย
พฤตกิ รรม (เสย่ี งนะเนยี่ )

เรื่องทฉี่ ันจะต้องปรบั ปรุง
1)..................................................................................................................................................
2)..................................................................................................................................................

3)..................................................................................................................................................
4)..................................................................................................................................................

111624 คมู่ คอื สู่มง่ อื เสสร่งิมเสแลระิมพแัฒลนะพากฒั ิจกนรารกมจิลกกู เรสรอื มทลักูกษเะสชอื ีวทติ ใักนษสะถชานีวศติ กึใษนาสถปาระนเศภทกึ ลษูกาเสอืลสกู �ำ เรสอืองสหาลรักอสงูตชรดัน้ วปงรดะาถวทมี่ ศ3ึกษาปที ่ี 3
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3

ใบความรู้ การประเมินกจิ กรรมลกู เสือ

1.การประเมินผลการเรียนรูต้ ามแนวทางหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน 2551

หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน กําหนดใหก้ ิจกรรมลูกเสือเป็นกิจกรรมท่ีมุ่งปลูกฝัง
ระเบียบวินัยและกฎเกณฑ์เพ่ือการอยู่ร่วมกัน รู้จักการเสียสละ บําเพ็ญประโยชน์แก่สังคมและ
ดาํ เนินวถิ ชี วี ิตในระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนมีทักษะชีวิตเป็นภูมิคุ้มกันปัญหาสังคมตามช่วงวัย
ของลกู เสอื

การ จัดกิ จกร รมลู กเสื อยัง ต้อง เป็น ไปต าม ข้อบั งคับ ของ สํานั กงา นลูก เสือ แห่ง ชาติ แล ะ
สอดคลอ้ งกับหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐานอกี ดว้ ย

แนวทางการประเมนิ ผลกิจกรรมลกู เสอื
กิจกรรมลูกเสอื เป็นกจิ กรรมนักเรียนที่ลูกเสือทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือ 40 ช่ัวโมง
ต่อปกี ารศึกษาในระดบั ประถมศึกษาและมัธยมศกึ ษา
การประเมินการจดั กจิ กรรมลกู เสอื ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐานมปี ระเด็น/สิ่ง
ท่ตี อ้ งประเมินดังน้ี

1. เวลาในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผเู้ รยี นตอ้ งมเี วลาเข้าร่วมกจิ กรรมตามทีส่ ถานศกึ ษากาํ หนด
2. การเรยี นรผู้ า่ นกจิ กรรมหรือการปฏบิ ตั ิกิจกรรมอย่างต่อเน่ือง มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพ
ของตนและการทํางานกล่มุ
3. ผลงาน / ช้นิ งาน / พฤติกรรม / คุณลักษณะของผู้เรียน ท่ีปรากฏจากการเรียนรู้หรือการ
เปลี่ยนแปลงตนเอง

คมู่ อื ส่งเสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลกู เสอื ทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ลกู เสือสารอง ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 125
คมู่ ือสง่ เสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา ประเภทลูกเสือส�ำ รอง หลกั สตู รดวงดาวท่ี 3
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3 117

แนวทางการประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ิจกรรมลูกเสอื

แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสอื

จดั กิจกรรมลกู เสอื เกณฑ์การประเมนิ
ตามคมู่ อื การจัดกิจการลกู เสือท่ี 1. เวลาเข้าร่วมกิจกรรม
2. การปฏิบตั กิ ิจกรรม
เสริมสร้างทกั ษะชวี ิต 3. ผลงาน / ช้ินงาน
4. พฤตกิ รรม/คณุ ลกั ษณะ
ประเมินผลการเรียนรู้ ของลูกเสือ

ผลการประเมิน ไมผ่ า่ น
ผา่ น ซอ่ มเสรมิ

สรปุ ผลการประเมิน/ ผ่าน
ตดั สินผลการเรยี นรู้

รายงาน / สารสนเทศ

จดั พธิ ีประดับเครอ่ื งหมายลกู เสือ
ตามประเภทลกู เสอื

111826 คมู่ คือสมู่ ่งือเสสร่งิมเสแลระมิ พแัฒลนะพากัฒิจกนรารกมิจลกกู เรสรือมทลกั ูกษเะสชอื วี ทิตใกั นษสะถชานวี ศติ กึใษนาสถปาระนเศภทกึ ลษูกาเสือลสกู ำ�เรสออื งสหาลรักอสงตู ชรดนั้ วปงรดะาถวทมี่ ศ3ึกษาปที ่ี 3
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3

การประเมินกจิ กรรมลกู เสอื มี 2 แนวทาง คือ
1. การประเมนิ กิจกรรมลูกเสอื รายกจิ กรรมมแี นวปฏิบตั ดิ ังนี้
1.1 ตรวจสอบเวลาเข้าร่วมกิจกรรมของลูกเสือให้เป็นไปตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษา

กําหนด
1.2 ประเมินกิจกรรมการเรียนรู้จากการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน / ชิ้นงาน /

คุณลกั ษณะของผู้เรยี นตามเกณฑท์ ่ีสถานศกึ ษากาํ หนดดว้ ยวิธีการท่ีหลากหลาย เน้นการมีส่วนร่วม
ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม

1.3 ลูกเสอื ท่ีมเี วลาการเขา้ ร่วมกจิ กรรม มกี ารปฏิบตั ิกจิ กรรมและผลงาน / ชิ้นงาน /
คุณลักษณะตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากําหนดเป็นผู้ผ่านการประเมินรายกิจกรรมและนําผลการ
ประเมนิ ไปบันทกึ ในระเบียนแสดงผลการเรียน

1.4 ลูกเสือท่มี ีผลการประเมินไม่ผ่านในเกณฑ์เวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ
กิจกรรมและผลงาน / ช้ินงาน / คุณลกั ษณะตามท่สี ถานศกึ ษากําหนด ผูก้ าํ กับลูกเสือต้องดําเนินการ
ซอ่ มเสรมิ และประเมินจนผา่ น ทง้ั นคี้ วรดาํ เนินการให้เสร็จสิ้นในปีการศึกษานน้ั ๆ ยกเวน้ มีเหตุสุดวิสยั
ใหอ้ ยูใ่ นดลุ พินิจของสถานศึกษา

2. การประเมินกจิ กรรมลกู เสอื เพื่อการตัดสินใจ
การประเมินกิจกรรมลูกเสือเพื่อตัดสินควรได้รับเคร่ืองหมายและเลื่อนระดับทาง

ลูกเสอื และจบการศกึ ษาเปน็ การประเมินการผ่านกิจกรรมลูกเสือเป็นรายปี / รายภาค / เพ่ือสรุปผล
การผา่ นในแต่ละกจิ กรรม สรุปผลรวมเพอ่ื สรปุ ผลการผา่ นในแตล่ ะกจิ กรรม สรุปผลรวมเพ่ือเลอ่ื นช้นั
ระดับลูกเสือและประมวลผลรวมในปีสุดท้ายเพื่อการจบแต่ละระดับการศึกษา โดยการดําเนินการ
ดงั กลา่ วมแี นวทางปฏบิ ัติ ดังน้ี

2.1 กําหนดให้มีผู้รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าร่วมกิจกรรม
ลูกเสอื ของลกู เสอื ทุกคนตลอดระดบั การศกึ ษา

2.2 ผู้รับผิดชอบสรุปและตัดสินใจผลการร่วมกิจกรรมลูกเสือของลูกเสือเป็น
รายบุคคล รายหมู่ ตามเกณฑท์ ส่ี ถานศึกษากําหนด

เกณฑก์ ารตัดสนิ
1. กําหนดเกณฑ์การประเมินตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานกําหนดไว้

2 ระดบั คอื ผา่ น และ ไมผ่ ่าน
2. เกณฑก์ ารตัดสินผลการประเมินรายกจิ กรรม
ผา่ น หมายถงึ ลูกเสือมเี วลาเข้าร่วมกจิ กรรมครบตามเกณฑ์ ปฏิบัติกิจกรรมและมผี ลงาน

/ ชน้ิ งาน / คุณลกั ษณะตามเกณฑ์ท่ีสถานศกึ ษากําหนด
ไม่ผ่าน หมายถึง ลูกเสือมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่ครบตามเกณฑ์ ไม่ผ่านการปฏิบัติ

กจิ กรรมหรอื มีผลงาน / ช้ินงาน / คณุ ลกั ษณะไม่เป็นไปตามเกณฑท์ ีส่ ถานศกึ ษากาํ หนด

3. เกณฑก์ ารตดั สินผลการประเมนิ กิจกรรมลกู เสือรายปี / รายภาค

คู่มอื ส่งเสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลูกเสอื ทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสอื สารอง ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 127
ค่มู อื สง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลูกเสอื ทักษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสือสำ�รอง หลักสูตรดวงดาวที่ 3
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 119

ผ่าน หมายถึง ลูกเสือมีผลการประเมินระดับ “ผ่าน” ในกิจกรรมสําคัญตามหลักสูตร
ลกู เสือแตล่ ะประเภทกาํ หนด รวมถึงหลักสตู รลกู เสอื ทักษะชวี ติ

ไมผ่ า่ น หมายถงึ ลูกเสือมีผลการประเมินระดับ “ไม่ผ่าน” ในกิจกรรมสําคัญท่ีหลักสูตร
ลูกเสือแตล่ ะประเภทกําหนดและลูกเสือทกั ษะชีวติ

4. เกณฑ์การตดั สนิ ผลการประเมินกิจกรรมลูกเสือเพอ่ื จบหลกั สูตรลกู เสือแตล่ ะประเภทเป็น
รายชัน้ ปี

ผ่าน หมายถึง ลูกเสือมีผลการประเมินระดับ “ผ่าน” ทุกช้ันปีในระดับการศึกษาน้ัน
ไมผ่ า่ น หมายถึง ลกู เสอื มผี ลการประเมินระดับ “ไมผ่ า่ น” บางชั้นปใี นระดบั การศกึ ษานนั้

(หมายเหตุ การประเมินผลอาจเขียนแยกการประเมินผลแต่ละกิจกรรม หรือเขียนรวมในภาพรวม
ของกจิ กรรมลูกเสอื กไ็ ด้)

ุุุุุุุุุุุุุุุ

เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551.กรุงเทพมหานคร :
โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จาํ กัด. 2551.

2. การประเมนิ พฤตกิ รรมทกั ษะชวี ิตและคุณลกั ษณะทางลูกเสือ
2.1 ความสามารถทีค่ าดหวงั ให้เกิดขึ้นกบั ลูกเสอื โดยรวม คือ
1) ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์
2) ความสามารถในการคดิ สรา้ งสรรค์
3) ความสามารถในการเหน็ ใจผูอ้ ื่น
4) เหน็ คณุ ค่าตนเอง
5) รบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม
6) ความสามารถในการสื่อสารเพอื่ สร้างสมั พนั ธภาพ
7) ความสามารถในการตัดสนิ ใจ
8) ความสามารถในการจดั การแกไ้ ขปญั หา
9) ความสามารถในการจดั การกับอารมณ์
10) ความสามารถในการจัดการกบั ความเครียด
2.2 พฤติกรรมท่คี าดหวังใหเ้ กิดข้นึ กับลกู เสือโดยรวม คอื
1) ลูกเสือสํารอง
(1) มีทกั ษะในการสงั เกตและจดจาํ
(2) พ่ึงตนเอง ดูแลตนเองได้

121028 ค่มู คือสู่ม่งอื เสสร่งมิ เสแลระิมพแฒั ลนะพากัฒิจกนรารกมจิลกกู เรสรือมทลกั ูกษเะสชือวี ทติ ใักนษสะถชานวี ศติ กึใษนาสถปาระนเศภทกึ ลษกู าเสอืลสกู �ำ เรสอืองสหาลรกั อสงูตชรด้ันวปงรดะาถวทมี่ ศ3ึกษาปีท่ี 3
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3

(3) รู้จกั รกั ษาส่ิงแวดล้อม
(4) ไมเ่ จ็บปวู ยด้วยโรคตดิ ตอ่ ตามฤดูกาล
(5) ปฏิเสธสิ่งเสพติดทกุ ชนดิ
(6) พดู จาสอื่ สารเชงิ บวก ไมก่ า้ วรา้ วรุนแรง
(7) แกป้ ญั หาเฉพาะหนา้ ได้

(8) ใหค้ วามช่วยเหลอื เพ่อื นในภาวะวิกฤติ
2) ลูกเสอื สามัญ

(1) มที ักษะในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมกลางแจง้
(2) รว่ มกจิ กรรมบําเพญ็ ประโยชนด์ ว้ ยจิตอาสา
(3) พงึ่ ตนเองและช่วยเหลือครอบครวั

(4) ไม่ด่มื นาํ้ อัดลม
(5) ไม่รบั ประทานขนมหวานและขนมกรุบกรอบ
(6) ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์
(7) ร้จู ักพดู เชิงบวก ไมพ่ ดู กา้ วรา้ วรุนแรง
(8) มีความซ่อื สตั ย์ ไม่โกหก
(9) ร้จู กั แก้ปัญหาด้วยสนั ติวธิ ี

(10) มนี ํา้ หนักส่วนสงู ตามเกณฑ์มาตรฐาน

3) ลูกเสือสามัญรนุ่ ใหญ่
(1) มีทักษะในการทํากจิ กรรมตามความสนใจ
(2) มีจติ อาสาทาํ ประโยชน/์ ไมก่ อ่ ความเดอื ดรอ้ น ใหก้ ับครอบครวั

สถานศึกษา ชมุ ชน สงั คม

(3) ใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์
(4) ร่วมกิจกรรมสง่ เสรมิ อนรุ ักษ์ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรมไทย
(5) มีทกั ษะการคิดวิเคราะห์ การยับยั้งไม่เปน็ ทาสของสอ่ื โฆษณา
(6) มที ักษะการใช้ประโยชน์จาก Internet
(7) มผี ลงาน/ โครงการการประหยัดพลังงาน/ ทรพั ยากร

(8) มีการออมหรือทาํ บญั ชรี ายรับ รายจ่ายของตนเองอย่างต่อเนือ่ ง
(9) มที กั ษะการหลีกเล่ียง ลอดพ้นและไมเ่ กิดอบุ ัติเหตจุ ากการใช้
ยานพาหนะ
(10) ไมเ่ กีย่ วขอ้ งกับสิง่ เสพติดทกุ ประเภท
4) ลูกเสอื วสิ ามญั
(1) มีผลงาน/ โครงการเฉพาะท่เี ป็นประโยชนต์ อ่ ตวั เอง/ สังคม

(2) มีจติ อาสาและบรกิ าร

ค่มู ือส่งเสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ลกู เสอื สารอง ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 129
คู่มือสง่ เสรมิ และพัฒนากิจกรรมลกู เสอื ทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา ประเภทลูกเสือส�ำ รอง หลกั สตู รดวงดาวท่ี 3
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 121

(3) รวู้ ิธีปฺองกัน/ และหลีกเลี่ยงความเสยี่ งทางเพศ
(4) ใช้เวลากับสื่อ IT อย่างเหมาะสม ไม่เกิดความเสยี หายตอ่ วถิ ีชีวติ ปกติ
ของตนเอง
(5) ไมเ่ ก่ยี วขอ้ งกับสิ่งเสพติด
(6) มีคา่ นิยมด้านสขุ ภาพอยา่ งเหมาะสม ไมเ่ กดิ ผลเสียตามมา
(7) มคี า่ นิยมด้านการรบั ประทานอาหารทีเ่ หมาะสม ไม่เกดิ ผลเสยี หาย
ตามมา
(8) มคี า่ นยิ มด้านความงามทีเ่ หมาะสมไม่เกดิ ผลเสยี หายตามมา
(9) ไม่มพี ฤติกรรมก้าวร้าวและกอ่ เหตรุ นุ แรง

อ้างอิงจาก หวั ขอ้ ในคมู่ ือ Bench Marking

121230 คู่มคือสูม่ ่งือเสสร่งิมเสแลระิมพแฒั ลนะพากัฒจิ กนรารกมิจลกูกเรสรอื มทลกั ูกษเะสชือวี ทิตใกั นษสะถชานีวศติ กึใษนาสถปาระนเศภทึกลษูกาเสอืลสกู �ำ เรสออื งสหาลรกั อสงูตชรด้นั วปงรดะาถวทมี่ ศ3กึ ษาปีที่ 3
ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3

แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสอื สารอง ดาวดวงท่ี 3 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3

หน่วยท่ี 15 พธิ กี าร
แผนการจดั กิจกรรมที่ 31 พิธปี ระดดับบั ดดาาววดดววงงทที่ 3่ี 3แแลละะเเคครร่อื อื่ งงหหมมาายยลลกู กู เสเสืออืสสมั มัพพันนธั ์ธ์ เวลา 1 ชว่ั โมง

1. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.1 ลกู เสือสาํ รองได้รับการประดับดาวดวงท่ี 3
1.2 ลกู เสือสํารองได้รบั เครือ่ งหมายลูกเสอื สมั พนั ธ์

2. เนอ้ื หา
กิจกรรมสาํ คญั ของลกู เสือสามญั ทล่ี กู เสอื สํารองควรมีสว่ นร่วม

3. สอ่ื การเรียนรู้
3.1 แผนภูมิเพลง
3.2 ดาวประดบั หมวก
3.3 ใบความรู้
3.4 เรื่องสน้ั ทเี่ ป็นประโยชน์

4. กิจกรรม
4.1 ผกู้ าํ กบั ลูกเสือและลกู เสือสํารองทุกคนพร้อมกันบริเวณที่นัดหมาย เช่น สนามโรงเรียน

หอ้ งประชุมหรอื บริเวณท่เี หมาะสม
4.2 ผกู้ าํ กับลกู เสอื จัดพธิ ีประดบั ดาวดวงที่ 3
4.3 ผู้ผกู้�กำกํากับับกกอองลงูลกูกเสเสือือแแสสดดงงคคววาามมยยินินดดีกีกับับลลูกูกเสเสือือททุกุกคคนนแแลละะนนัดัดหหมมาายย เพ่ือร่วมกิจกรรม

ลูกเสอื สามญั
5. การประเมินผล

5.1 สงั เกตความร่วมกิจกรรม
5.2 จาํ นวนลกู เสอื ท่ีประดบั ดาวดวงที่ 3

คู่มอื ส่งเสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลกู เสือทักษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือสารอง ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 131
คูม่ อื สง่ เสริมและพฒั นากจิ กรรมลกู เสือทกั ษะชวี ิตในสถานศึกษา ประเภทลกู เสอื ส�ำ รอง หลักสตู รดวงดาวท่ี 3
ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 123

เพลง ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมท่ี 31

ในหมู่ลกู เสอื ในหม่ลู ูกเสอื เม่ือเรามาร่วมอยู่

ต่างคนตา่ งรูก้ นั ดี วา่ หน้าท่ีทกุ อย่าง

ต้องชว่ ยกันทาํ ทาํ ไม่เวน้ วา่ ง

งานทกุ อยา่ ง (ซํ้า) จะเสรจ็ โดยงา่ ยดาย

ใบความรู้

พิธีประดับดาวดวงท่ี 3

1) จัดให้ลูกเสือท่ีจะรับดาวดวงที่ 3 ให้ยืนอยู่ในแถววงกลมติดกับนายหมู่บริการ
ทางดา้ นขวาตรงหน้าผกู้ าํ กบั ลูกเสือ

2) กองลกู เสอื สํารองทําแกรนดฮ์ าวล์ นายหม่บู รกิ ารเป็นผรู้ อ้ ง “จงทาํ ดี จงทาํ ดี จงทําดี”

3) หมวกท่ตี ดิ ดาวดวงท่ี 3 อย่ทู ี่ผ้กู ํากบั ลกู เสือ
4) ผูก้ าํ กบั ลูกเสอื เรียกลูกเสอื ทจ่ี ะรับดาวดวงที่ 3 ทั้งหมดมายืนในวงกลมตรงหน้าผู้กํากับ
ลกู เสอื เป็นแถวหน้ากระดาน แถวละไมเ่ กิน 6 คน
5) ผู้กํากับลูกเสืออธิบายความหมายของดาวดวงท่ี 3 และให้โอวาทส่ังสอน แล้วสั่งให้
ลกู เสอื กล่าวทบทวนคาํ ปฏญิ าณอีกครั้งหน่งึ
6) ผู้กํากับลูกเสือมอบหมวกให้ลูกเสือ ลูกเสือรับไปสวมเอง แล้วทําความเคารพผู้กํากับ

ลกู เสอื ผกู้ าํ กับลูกเสือแสดงความยินดี ด้วยการสมั ผัสมือกบั ลูกเสอื
7) ลกู เสือทไ่ี ดร้ บั ดาวดวงที่ 3 ทาํ กลับหลงั หนั วิง่ เข้าประจาํ ทขี่ องตน
8) ลูกเสอื ทกุ คนในแถววงกลม สัมผัสมอื แสดงความยนิ ดี กบั ลูกเสอื ท่ไี ด้รบั ดาวดวงที่ 3

(ให้เวยี นจากซ้ายไปขวา)
9) กองลูกเสอื สํารองทําแกรนดฮ์ าวล์แสดงความยนิ ดอี กี ครัง้ หนึง่ ให้ลกู เสือที่ได้รับดาวดวง

ท่ี 3 เป็นผ้รู ้อง “จงทาํ ดี จงทําดี จงทาํ ดี” พรอ้ ม ๆ กนั

121432 คูม่ คอื สู่ม่งอื เสสร่งิมเสแลระิมพแฒั ลนะพากฒั ิจกนรารกมิจลกูกเรสรอื มทลักกูษเะสชอื วี ทิตใกั นษสะถชานวี ศติ กึใษนาสถปาระนเศภทกึ ลษูกาเสอืลสกู �ำ เรสอืองสหาลรกั อสงตู ชรดน้ั วปงรดะาถวทมี่ ศ3ึกษาปที ี่ 3
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3

เคร่อื งหมายลกู เสอื สมั พนั ธ์

ลักษณะ
เปน็ รปู ลกู เสือกระโดดข้ามหว่ งสีทองสามห่วง บนพน้ื สเี ขยี ว
ผู้กาํ กับลูกเสอื สํารองเป็นผูร้ บั ผิดชอบในการใหเ้ ครื่องหมายนแี้ ละควรหาทางสง่ เสริมให้

ลูกเสือสาํ รองทกุ คนปฏบิ ัตงิ าน เพอ่ื ให้เขา้ เกณฑท์ จี่ ะรบั เคร่อื งหมายน้ี
1. มีอายอุ ยา่ งน้อย 10 ปี 6 เดือนและสอบได้ดาวดวงที่ 3 แลว้
2. ทาํ ความคุ้นเคยกบั ผกู้ ํากับลกู เสอื สามัญ และผทู้ ก่ี ําลังเป็นลกู เสอื สามัญ ก่อนที่ตนเองจะ
เข้าเป็นลกู เสือสามัญ
3. เขา้ รว่ มในกิจกรรมกลางแจง้ ของกองลกู เสอื สามัญ อยา่ งนอ้ ย 1 ครง้ั
4. มคี วามรทู้ ัว่ ไปเก่ียวกับขบวนการลกู เสือ และพฒั นาการของกจิ การลกู เสือโลก
5. รู้จักคําปฏิญาณและกฎของลกู เสอื สามัญ

คมู่ ือส่งเสริมและพฒั นากิจกรรมลกู เสือทักษะชีวิตในสถานศกึ ษา ลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 133
คู่มอื ส่งเสรมิ และพฒั นากิจกรรมลูกเสอื ทกั ษะชวี ิตในสถานศึกษา ประเภทลกู เสือส�ำ รอง หลกั สตู รดวงดาวที่ 3
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 125



ภาคผนวก

ภาคผนวก ก

แนวคดิ เร่อื งทักษะชีวิต

ความหมายและองค์ประกอบทกั ษะชวี ติ

ทกั ษะชีวติ เปน็ ความสามารถของบุคคล ทจี่ าํ เป็นต่อการปรับตัวในการเผชญิ ปญั หาต่าง ๆ
และสามารถดําเนนิ ชีวิตทา่ มกลางสภาพสงั คมทีม่ กี ารเปล่ียนแปลงทั้งในปจั จบุ ัน และเตรยี มพรอ้ ม
สําหรับการเผชิญปัญหาในอนาคต

องค์ประกอบทักษะชีวิต มี 12 องค์ประกอบ จัดเป็น 6 คู่ โดยแบ่งตามพฤติกรรมการเรียนรู้
3 ดา้ น ดงั นี้

องhgคhj์ปhgรfะgjกjhอgfบf jทhhักgfษfdะsdชsdีวsติ6คู่ 3 ดา้ น

ความตระหนัก การสร้าง
ร้ใู นตน สมั พนั ธภาพและ

การส่อื สาร

ความเห็นใจ ความคดิ การ ทักษะพิสยั
ผู้อนื่ สร้างสรรค์ ตัดสนิ ใจ
พุทธพิ ิสัย
จติ พิสัย และแก้ไข
ความ ความคิดวิเคราะห์ ปญั หา
ภาคภูมิใจ วจิ ารณ์

ในตัวเอง ความ การจัดการกับ
อารมณ์และ
รบั ผดิ ชอบ ความเครยี ด
ต่อสังคม

แผนภาพท่ี 1 องค์ประกอบของทักษะชีวิต

1. ดา้ นพุทธิพิสัย จดั ไว้ตรงกลางของแผนภาพ เพราะเปน็ องคป์ ระกอบร่วมและเปน็ พนื้ ฐาน
ของทกุ องคป์ ระกอบ ไดแ้ ก่

- ความคิดวิเคราะหว์ ิจารณ์ เปน็ ความสามารถทจ่ี ะวิเคราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ
ขอ้ มลู ขา่ วสาร ปัญหา และสถานการณต์ ่าง ๆ รอบตัว

- ความคดิ สร้างสรรค์ เป็นความสามารถในการคดิ ออกไปอย่างกว้างขวางโดยไม่
ยึดตดิ อยู่ในกรอบ และการสรา้ งสรรคส์ ิ่งใหม่

คมู่ อื ส่งเสริมและพัฒนากจิ กรรมลูกเสอื ทักษะชวี ิตในสถานศึกษา ลกู เสอื สารอง ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 135
คมู่ อื สง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลูกเสอื ทกั ษะชีวิตในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสอื ส�ำ รอง หลกั สูตรดวงดาวท่ี 3
128 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3

2. ด้านจิตพสิ ัย หรอื เจตคติ มี 2 คู่ คอื
คู่ที่ 1 ความตระหนักร้ใู นตนเอง และ ความเข้าใจ/เหน็ ใจผอู้ ่ืน
ค่ทู ี่ 2 เห็นคณุ คา่ /ภูมิใจตนเอง และ ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม
- ความตระหนักรู้ในตนเอง เป็นความสามารถในการค้นหาและเข้าใจในจุดดีจุด

ด้อยของตนเอง ยอมรับความแตกต่างของตนเองกับบุคคลอื่น ไม่ว่าจะในแง่ความสามารถ เพศ วัย
อาชพี ระดบั การศึกษา ฐานะทางเศรษฐกิจ ฐานะทางสงั คม ศาสนา สผี วิ ท้องถิ่น สขุ ภาพ ฯลฯ

- ความเขา้ ใจ/เหน็ ใจผู้อืน่ เปน็ ความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อ่ืน เห็น
อกเห็นใจและยอมรับตัวตนของบุคคลอ่ืนที่แตกต่างกับเรา ไม่ว่าจะในแง่ความสามารถ เพศ วั ย
อาชีพ ระดบั การศึกษา ฐานะทางเศรษฐกจิ ฐานะทางสงั คม ศาสนา สผี ิว ท้องถ่นิ สขุ ภาพ ฯลฯ

- เห็นคณุ คา่ /ภูมใิ จตนเอง เป็นการค้นพบ คุณสมบัติเฉพาะตัวของตนเอง รู้สึกว่า
ตนเองมีคุณค่า เช่น เป็นคนมีน้ําใจ ซ่ือสัตย์ ยุติธรรม และภูมิใจในความสามารถด้านต่าง ๆ ของ
ตนเอง เชน่ ด้านสังคม ดนตรี กฬี า ศิลปะ การเรียน ฯลฯ

- ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม เป็นความรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหน่ึงของสังคมและมี
สว่ นรบั ผิดชอบในความเจรญิ หรือเส่อื มของสังคมน้นั คนท่ีเหน็ คณุ ค่าตนเองจะมแี รงจูงใจที่จะทําดีกับ
ผู้อน่ื และสงั คมส่วนรวมมากข้ึน จึงจดั เข้าคกู่ ับความรับผิดชอบต่อสงั คม

3. ด้านทักษะพิสัยหรอื ทกั ษะ ประกอบด้วย 3 คู่ คอื
คูท่ ี่ 1 การสอ่ื สารและการสร้างสมั พันธภาพ
ค่ทู ี่ 2 การตดั สินใจและการแกไ้ ขปญั หา
คทู่ ี่ 3 การจดั การกับอารมณ์และความเครยี ด
- ทกั ษะการการสื่อสารและการสรา้ งสมั พันธภาพ เปน็ ความสามารถในการใช้

คาํ พูดและภาษาท่าทาง เพอื่ สอ่ื สารความรสู้ กึ นึกคดิ ของตนเอง และสามารถรับรคู้ วามรู้สกึ นึกคดิ
ความต้องการ ของอกี ฝาู ยหนึ่ง มกี ารตอบสนองอยา่ งเหมาะสมและเกดิ สัมพนั ธภาพทด่ี ตี อ่ กัน

- ทักษะการตดั สนิ ใจและการแกไ้ ขปัญหา การตดั สนิ ใจใชใ้ นกรณีทม่ี ีทางเลอื กอยู่
แล้ว จึงเร่มิ ตน้ ด้วยการวเิ คราะห์ขอ้ ดขี อ้ เสยี ของแต่ละทางเลือกเพอ่ื หาทางเลอื กท่ดี ีที่สดุ และนาํ ไป
ปฏิบัติ สว่ นการแกไ้ ขปญั หาเป็นความสามารถในการรบั รู้ปัญหาและสาเหตุของปัญหา หาทางเลอื ก
ได้หลากหลาย วเิ คราะหข์ อ้ ดขี อ้ เสียของแต่ละทางเลือก ตดั สนิ ใจเลือกทางเลือกในการแกป้ ัญหาท่ี
เหมาะสมทีส่ ดุ และนําไปปฏิบตั ิ

- ทักษะการจดั การกบั อารมณ์และความเครยี ด เปน็ ความสามารถในการรบั รู้
อารมณ์ตนเอง ประเมนิ และร้เู ทา่ ทนั ว่าอารมณจ์ ะมอี ทิ ธพิ ลตอ่ พฤตกิ รรมของตนอยา่ งไร และเลือกใช้
วธิ ีจดั การกับอารมณ์ทเ่ี กิดขน้ึ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม สว่ นการจดั การความเครยี ดเป็นความสามารถในการ
รบั รรู้ ะดบั ความเครียดของตนเอง รสู้ าเหตุ หาทางแกไ้ ข และมวี ิธีผอ่ นคลายความเครยี ดของตนเอง
อย่างเหมาะสม

136 คู่มคอื ู่มสอื่งเสส่งรเมิ สแรลิมะแพลัฒะนพาัฒกจิ นการรกมจิ ลกกู รเสรมอื ทลักูกษเสะชอื วี ทิตกั ในษสะถชาีวนติ ศใึกนษสาถปารนะเศภึกทษลกูาเสลอื กูสเำ�สรออื งสชาหนั้ รลปอกั รงสะตู ถชรมน้ัดศวปึกงรษดะาาถปวมีททศ่ีี่ 33ึกษาป1ที 2่ี 39

ความแตกต่างระหว่างทักษะชีวติ ทั่วไปและทักษะชีวิตเฉพาะ

ทักษะชีวิตท่ัวไป เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม สําหรับปัญหาทั่ว ๆ ไปใน
ชวี ติ ประจาํ วัน ดว้ ยทกั ษะชีวติ 12 องค์ประกอบ ให้กับเด็กทุกคน

ทักษะชีวิตเฉพาะ เป็นการประยุกต์ใช้ทักษะชีวิต 12 องค์ประกอบ ท่ีมีเน้ือหา
เก่ียวกับการปฺองกันปัญหาเฉพาะเร่ืองสําหรับเด็กกลุ่มเส่ียง โดยมีครูที่ปรึกษาและระบบดูแล
ชว่ ยเหลอื นักเรยี นรองรับ

ทกั ษะชีวิตกับการพฒั นาเยาวชน

เม่ือแบ่งเยาวชนออกเป็น 3 กลุ่ม คือเด็กปกติ เด็กกลุ่มเส่ียง และเด็กที่มีปัญหา
ทักษะชีวิตจะเป็นกลยุทธ์สําคัญในการส่งเสริมภูมิคุ้มกันทางสังคม ให้กับเด็กปกติ และเด็กทุกคน
สําหรับเด็กกลุ่มเสี่ยงต้องมีการสอนทักษะชีวิตเฉพาะในแต่ละปัญหา มีครูที่ปรึกษาและระบบดูแล
ชว่ ยเหลอื นักเรียนรองรับ ส่วนเดก็ ท่มี ีปัญหาแล้วใช้การดูแลใกล้ชิดเพ่ือหาทางแก้ปัญหาท่ีเหมาะสม
เป็นรายบุคคล และมีระบบส่งต่อยังวิชาชพี เฉพาะที่เกย่ี วข้อง

คมู่ ือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชวี ิตในสถานศึกษา ลกู เสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 137
คู่มือสง่ เสริมและพัฒนากจิ กรรมลกู เสือทกั ษะชวี ิตในสถานศึกษา ประเภทลูกเสอื สำ�รอง หลักสตู รดวงดาวท่ี 3
130 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3

ตัวอยา่ งทักษะชวี ิตเฉพาะ

เสพติด

138 คมู่ คือู่มสอื่งเสส่งรเิมสแรลมิ ะแพลฒั ะนพาัฒกิจนการรกมจิ ลกูกรเสรมอื ทลกั ูกษเสะชือวี ทิตกั ในษสะถชาีวนิตศใกึ นษสาถปารนะเศภกึ ทษลกูาเสลอื กูสเำ�สรอืองสชาหั้นรลปอกั รงสะตู ถชรม้นัดศวปกึ งรษดะาาถปวมทีทศี่่ี 33กึ ษาป1ที 3่ี 31

ผิดชอบและปลอดภยั

ความแตกตา่ งระหว่างทกั ษะชวี ิต และทกั ษะการดารงชวี ิต

ทกั ษะชีวิต (Life Skills) เปน็ ความสามารถทางจติ สงั คม อันประกอบ ดว้ ย ความรู้ เจตคติ
และทกั ษะ ที่จาํ เปน็ ในการดาํ เนนิ ชวี ิตทา่ มกลางสภาพสังคมทเี่ ปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ในปัจจบุ ัน
และเตรียมพรอ้ มสาํ หรับการเผชญิ ปญั หาในอนาคต มี 6 คู่ 12 องคป์ ระกอบ

ทกั ษะการดารงชีวติ (Living Skills) เปน็ ทกั ษะท่ใี ช้ในกจิ วัตรประจาํ วนั ในเรือ่ งพนื้ ฐาน
ของชีวิต มกั เปน็ ทกั ษะทางกายภาพ เชน่ อาบน้าํ แต่งตวั ซักเส้ือผา้ ปรุงอาหาร
ขจี่ ักรยาน วา่ ยน้ํา ผกู เงอื่ นเชือก การจดั กระเปา฼ เดินทาง การใชแ้ ผนท่เี ขม็ ทศิ ฯลฯ

ความเชอื่ มโยงระหว่างทกั ษะชวี ติ และทักษะการดารงชีวิต
ทกั ษะชวี ติ และทักษะการดํารงชีวิต มกั ถกู ใช้ผสมผสาน เชอ่ื มโยงกัน ทง้ั ในกจิ วตั รประจําวนั
ปกติ และในสถานการณต์ ่าง ๆ ทเี่ กิดขึน้ ไมแ่ ยกส่วน โดยทกั ษะชีวิตจะเป็นตวั ช่วยในการเลือกและ
ใชท้ ักษะการดาํ รงชวี ติ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ถกู ที่ ถูกเวลา และเกิดผลลัพธท์ ี่ดี
สถานการณ์ทางจิตสงั คม มักใชท้ กั ษะชวี ิตเป็นหลกั ตัวอยา่ ง เช่น

การจัดการกบั อารมณ์โกรธ ความขดั แยง้ และ ความรุนแรง

ตระหนักร้แู ละหลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมเส่ยี งตา่ ง ๆ รวมถึงการปฺองกนั อุบตั เิ หตุ

การช่วยเหลือผอู้ ่นื และรบั ผิดชอบต่อส่วนรวม

การสอ่ื สารเชิงบวกและสร้างสมั พนั ธภาพทดี่ ี
กจิ วัตรทท่ี ําเป็นประจํา ใช้ทักษะการดาํ รงชวี ติ เปน็ หลกั เชน่ อาบน้ํา แต่งตัว แปรงฟัน ซกั
เสอื้ ผา้ ปรุงอาหาร ขจี่ กั รยาน ว่ายน้าํ ผูกเงอ่ื นเชอื ก ใช้แผนท่ีเขม็ ทศิ ฯลฯ

คูม่ ือส่งเสริมและพัฒนากจิ กรรมลกู เสอื ทักษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือสารอง ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 139
คู่มือสง่ เสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ประเภทลูกเสอื สำ�รอง หลกั สตู รดวงดาวที่ 3
132 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3

ทักษะชีวติ สร้างได้อยา่ งไร

สรา้ งดว้ ย 2 วิธีการใหญ่ ๆ คือ
1. เรยี นรู้เองตามธรรมชาติ ซง่ึ ขึ้นกบั ประสบการณแ์ ละการมแี บบอย่างทดี่ ี จงึ ไมม่ ีทิศทางที่
แนน่ อน และกว่าจะเรียนรกู้ อ็ าจชา้ เกนิ ไป
2. สร้างโดยกระบวนการเรยี นการสอนทย่ี ดึ ผเู้ รียนเปน็ ศูนย์กลาง ใหเ้ ดก็ เรียนรู้รว่ มกันใน
กลุ่ม ผา่ นกจิ กรรมรูปแบบตา่ ง ๆ ทเี่ ดก็ ตอ้ งมีส่วนร่วมท้ังทางรา่ งกายคอื ลงมอื ปฏิบัติ และทาง
ความคดิ คอื การอภิปรายแลกเปลี่ยนความคดิ และประสบการณ์ เพ่อื สร้างองคค์ วามรู้ใหม่ร่วมกนั

การสอนทย่ี ดึ ผเู้ รยี นเป็ นศนู ยก์ ลาง

• สรา้ งความรู้ (Construction) กจิ กรรมทใ่ี หผ้ เู ้ รยี นมสี ว่ นรว่ มทาง
สตปิ ัญญา คน้ พบความรดู ้ ว้ ยตนเอง

• ปฏสิ มั พนั ธ์ (Interaction) กจิ กรรมตอ้ งสง่ เสรมิ ปฏสิ มั พนั ธก์ บั
ผอู ้ น่ื และแหลง่ ความรทู ้ ห่ี ลากหลาย

• เป็ นกระบวนการ (Process Learning)
• มสี ว่ นรว่ ม (Physical Participation) มสี ว่ นรว่ มดา้ นรา่ งกาย ลง

มอื กระทากจิ กรรมในลกั ษณะตา่ ง ๆ
• มกี ารประยกุ ตใ์ ช้ (Application)

การมีส่วนร่วมทางสติปัญญาทําให้เกดิ ทกั ษะชีวติ 2 องค์ประกอบแกนหลักคือความคิดวิเคราะห์
และความคดิ วจิ ารณ์

ปฏสิ ัมพันธใ์ นกลมุ่ เพอื่ ทํากิจกรรมร่วมกนั ทาํ ใหเ้ ดก็ ไดฝ้ ึกองคป์ ระกอบทักษะชีวติ ด้านทกั ษะทั้ง
3 คู่ คอื การสรา้ งสมั พันธภาพและการส่อื สาร การตัดสินใจและการแกไ้ ขปัญหา การจดั การอารมณ์และ
ความเครียด

การรับฟงั ความคิดเห็นของคนอ่ืน ทําให้เกิดความเข้าใจคนอ่ืนมากข้นึ ขณะเดยี วกันกเ็ กดิ การ
ไตรต่ รองทําความเข้าใจและตรวจสอบตนเอง จัดเปน็ องค์ประกอบทักษะชีวติ ด้านเจตคตคิ อื การเข้าใจ
ตนเอง และเข้าใจ/เหน็ ใจผูอ้ นื่

การได้รับการยอมรับจากกลุ่ม การทํางานสําเร็จได้รับคําชม ทําให้เกิดความภูมิใจและเห็น
คณุ คา่ ตนเอง นําไปสู่ความรับผิดชอบมากขึน้ ทั้งตอ่ ตนเองและสงั คม

กระบวนการและการมีส่วนร่วม ช่วยให้กิจกรรมสนุกสนานน่าสนใจ และนําไปสู่จุดประสงค์
ทตี่ ง้ั ไว้ รวมท้ังการประยุกต์ใช้เปน็ การเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรียนได้เชอื่ มองค์ความรู้ใหมท่ ี่เกิดขึน้ เข้าสู่ชีวิต
จรงิ วา่ ได้เกิดการเรียนร้อู ะไรและนาํ ไปใช้ในชวี ิตประจาํ วันอย่างไร

140 คูม่ คือมู่ สือง่ เสส่งรเิมสแรลิมะแพลฒั ะนพาฒักิจนการรกมจิ ลกูกรเสรมอื ทลกั ูกษเสะชอื ีวทติ ักในษสะถชาีวนติ ศใกึ นษสาถปารนะเศภกึ ทษลกูาเสลอื กูสเ�ำ สรอืองสชาหนั้ รลปอกั รงสะตู ถชรมั้นดศวปกึ งรษดะาาถปวมีททศี่่ี 33กึ ษาป1ีท3ี่ 33

8







ความหมายของกระบวนการลกู เสอื (Scout movement)

ตามคาํ นิยามของลกู เสือโลก หมายถึง กระบวนการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
สําหรับเยาวชน เพ่ือสร้างเยาวชนที่มีจิตใจเสียสละ รับผิดชอบ และอุทิศตนแก่สังคม ด้วยวิธีการ
ลกู เสือ

ตามแนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 2522 (สพฐ.) หมายถึงกระบวนการทาง
การศึกษาส่วนหนึ่ง ซึ่งมุ่งพัฒนาสมรรถภาพของบุคคล ท้ังทางสมอง ร่างกาย จิตใจ และศีลธรรม
เพื่อให้เป็นบุคคลที่มีความประพฤติดีงาม ไม่กระทําตนเป็นปัญหาสังคม และดํารงชีวิตอย่างมี
ความหมาย และสุขสบาย

หลักการลกู เสือ (Scout principle)

หลักการลกู เสือโลกเนน้ ทห่ี น้าทหี่ ลกั 3 ประการ คอื

1.หน้าท่ีต่อพระเจ้า/ศาสนา ได้แก่ การแสวงหาและดําเนินชีวิตอย่างมีคุณค่าและ
ความหมาย

2.หน้าท่ีต่อผู้อื่น ได้แก่ การเคารพ ให้เกียรติ ช่วยเหลือผู้อื่น รวมถึงการดูแลสังคมและ
สง่ิ แวดล้อม

3.หน้าท่ีต่อตนเอง ได้แก่ พัฒนาตนเองทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และ
จติ วิญญาณ

คมู่ ือส่งเสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลกู เสอื ทกั ษะชีวติ ในสถานศึกษา ลกู เสอื สารอง ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 141
คู่มอื ส่งเสรมิ และพัฒนากิจกรรมลกู เสอื ทักษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลูกเสือสำ�รอง หลกั สูตรดวงดาวท่ี 3
134 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3

หลกั การลูกเสือไทย มี 5 ข้อ คอื
1. มศี าสนาเป็นหลักยึดทางใจ
2. จงรักภักดตี ่อพระมหากษัตริยแ์ ละประเทศชาติ
3. เข้าร่วมพัฒนาสังคม ยอมรับ เคารพในเกียรติและศักด์ิศรีผู้อื่นและเพื่อนมนุษย์ทุกคน

รวมทั้งธรรมชาติ และสรรพสิง่ ท้ังหลายในโลก
4. รบั ผิดชอบต่อการพฒั นาตนเองอย่างตอ่ เนอ่ื ง
5. ยดึ มัน่ ในคําปฏิญาณและกฎของลกู เสอื

วธิ กี ารลกู เสือ (Scout method)

วิธกี ารลูกเสอื โลก มี 8 องค์ประกอบ โดยแบง่ ออกเปน็ 3 กล่มุ คอื
กลุ่มท่ี 1 ผใู้ หญ่มีหนา้ ทชี่ ่วยเหลอื และส่งเสรมิ เยาวชนใหเ้ กดิ การเรยี นรใู้ นกลุม่
กล่มุ ท่ี 2 มกี จิ กรรมที่บรรลุวัตถุประสงคใ์ นการพฒั นาเยาวชนอย่างตอ่ เนอ่ื งและเปน็ ระบบ
กล่มุ ท่ี 3 เปน็ ลักษณะกิจกรรมทใี่ ช้ มี 6 องคป์ ระกอบ
1. ยึดม่ันในคาํ ปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื
2. ใช้ระบบสญั ลกั ษณ์เปน็ แรงกระต้นุ ไปสเู่ ปาฺ หมายในการพฒั นาตนเอง
3. ระบบหมู่ (กลมุ่ เรียนรรู้ ว่ มกนั )
4. เรยี นร้ใู กลช้ ดิ ธรรมชาติ
5. เรียนรู้จากการลงมอื ปฏบิ ตั ิ / เกม
6. เรียนร้จู ากการบริการผูอ้ นื่
วธิ กี ารลูกเสอื ไทย ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน 2551 มี 7 องค์ประกอบ
คือ
1. ความกา้ วหนา้ ในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม
2. การสนบั สนนุ โดยผใู้ หญ่
3. ยึดมน่ั ในคาํ ปฏญิ าณและกฎ
4. การใช้สัญลกั ษณ์รว่ มกัน
5. ระบบหมู่
6. การศึกษาธรรมชาติ

7. เรยี นรู้จากการกระทํา
142 คูม่ อื ส่งเสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลกู เสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา ลกู เสือสารอง ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3

วธิ ีการลคู่มูกือเสสง่ เสอื รสิมแรล้าะพงฒัทนักากษิจกะรชรมีวลติูกเไสอืดท้อักษยะา่ชวีงติ ไใรนสถานศึกษา ประเภทลูกเสือสำ�รอง หลักสตู รดวงดาวที่ 3 135
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3
วธิ ีการลกู เสอื มอี งค์ประกอบครบท้งั 5 ประการ ของกระบวนการเรยี นการสอนที่ยึดผู้เรียน

7. เรยี นรจู้ ากการกระทํา

วธิ กี ารลกู เสอื สรา้ งทักษะชีวิตได้อยา่ งไร

วิธีการลูกเสอื มอี งคป์ ระกอบครบท้งั 5 ประการ ของกระบวนการเรียนการสอนท่ียึดผู้เรียน
เป็นศูนย์กลาง การสร้างทักษะชีวิตท้ัง 12 องค์ประกอบ เกิดขนึ้ ดว้ ยกจิ กรรมดงั ตารางต่อไปนี้





















วตั ถปุ ระสงคค์ ณะลกู เสอื แหง่ ชาติ (พระราชบญั ญตั ิลกู เสือ พ.ศ. 2551 มาตรา 8)

เพื่อพัฒนาลูกเสือทั้งทางกาย สติปัญญา จิตใจ และศีลธรรม ให้เป็นพลเมืองดี มีความ
รบั ผิดชอบ และชว่ ยสร้างสรรค์สังคมให้เกิดความสามัคคี และมีความเจริญก้าวหน้า ท้ังนี้เพ่ือความ
สงบสุข และความม่นั คงของประเทศชาติ ตามแนวทางดังตอ่ ไปน้ี

1. ใหม้ นี สิ ยั ชา่ งสงั เกต จดจาํ เชือ่ ฟงั และพง่ึ ตนเอง

2. ให้ซื่อสัตย์สุจรติ มีระเบียบวินยั และเห็นอกเหน็ ใจผูอ้ ่ืน

3. ให้รจู้ ักบําเพ็ญตนเพอื่ สาธารณประโยชน์

4. ให้รจู้ ักทาํ การฝีมอื และฝกึ ฝนใหท้ าํ กิจการตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม

5. ใหร้ ูจ้ กั รกั ษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วฒั นธรรม และความม่นั คงของประเทศชาติ

หลักสูตรลูกเสอื เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต

คมู่ อื ส่งเสริมและพฒั นากจิ กรรมลกู เสือทักษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ลกู เสอื สารอง ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3 143

136 คู่มือสง่ เสรมิ และพัฒนากิจกรรมลกู เสือทกั ษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสือสำ�รอง หลักสตู รดวงดาวที่ 3
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3

3. ใหร้ จู้ กั บาํ เพ็ญตนเพอ่ื สาธารณประโยชน์
4. ให้รจู้ ักทาํ การฝมี อื และฝกึ ฝนให้ทาํ กิจการตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม
5. ให้รู้จกั รกั ษาและส่งเสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรม และความมน่ั คงของประเทศชาติ

หลกั สตู รลกู เสอื เสริมสร้างทักษะชวี ิต

หลักสูตรลกู เสอื เสรมิ สร้างทักษะชวี ิตไดใ้ ช้ขอ้ บังคบั คณะลกู เสือแห่งชาตวิ า่ ด้วยการปกครอง
ค่มู อื หสล่งักเสสรตูมิ รแแลละพะวฒั ชิ นาาชกพีจิ กพริเรศมษลลกู เกู สเอื สทอื ักสษาํ ะรชอีวงิตใสนาสมถัญานสศากึ มษญัา รลุ่นกู ใเหสอืญส่ าแรลอะงวชสิ ้ันาปมรญั ะถเมปศ็นกึ หษลาปักที แ่ี 3ละเพ1ิ่ม4เ3น้ือหา

ทส่ี อดคลอ้ งกบั ปญั หาตามวยั และพฒั นาการดา้ นต่าง ๆ ของลกู เสือ โดยจัดหน่วยกิจกรรมตามท่ีระบุ
ในหลกั สตู รของลูกเสอื แต่ละประเภท ดังนัน้ ช่อื หน่วยกิจกรรม และจาํ นวนหน่วยกิจกรรมของลูกเสือ
แต่ละประเภทจึงแตกต่างกัน

แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิตในคู่มือชุดนี้ ได้ออกแบบโดยบูรณาการ
กจิ กรรมท่ีเสริมสร้างทกั ษะชวี ิตเข้ากับวิธีการลกู เสอื คือการใชร้ ะบบหมหู่ รือกลมุ่ ยอ่ ย โดยให้เด็กเป็น
ศนู ยก์ ลาง และมผี ้ใู หญท่ ําหนา้ ท่ีช่วยเหลือและส่งเสริมให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ในกลุ่ม แนะนํา สั่ง
สอน และฝึกอบรมให้สามารถพึ่งตนเองได้ มีจิตอาสา รับผิดชอบต่อส่วนรวม ยึดม่ันในคําปฏิญาณ
และกฎของลกู เสือ เสริมสรา้ งคณุ คา่ ในตนเอง รวมท้งั ใชร้ ะบบเคร่ืองหมายหรือสัญลักษณ์ทางลูกเสือ
และเครื่องหมายวิชาพเิ ศษ เป็นแรงกระตุน้ ไปสูเ่ ปฺาหมายในการพฒั นาตนเอง

องค์ประกอบในการประชมุ กอง เน้นการใช้ชีวิตกลางแจ้ง นอกห้องเรียน ใกล้ชิดธรรมชาติ
เรียนร้จู ากการลงมือปฏิบตั ิดว้ ยตนเอง เกม และการบริการผู้อื่น ซึ่งถือเป็นหัวใจของกิจกรรมลูกเสือ
ทกุ ประเภท โดยกจิ กรรมทีใ่ ช้ แบง่ ออกเปน็ 5 ประเภท คอื การแสดงออก การรายงานและการสาํ รวจ
การวิเคราะห์และการประเมิน เกมและการแข่งขัน การบําเพ็ญประโยชน์ การออกแบบกิจกรรม
เพ่ือให้ลูกเสือใช้กระบวนการกลุ่มในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แลกเปลี่ยนความคิดความเชื่อ
สรา้ งองคค์ วามรแู้ ละสรุปความคิดรวบยอด รวมทั้งเปิดโอกาสให้ลูกเสือได้ประยุกต์ใช้ส่ิงที่ได้เรียนรู้
อีกดว้ ย

เนือ้ หาสาระในแผนการจัดกจิ กรรมแบง่ ออกได้เปน็ 3 กลมุ่ ประกอบด้วย

1.กิจกรรมตามข้อบังคับของคณะลูกเสือแห่งชาติ (ไม่รวมกิจกรรมทดสอบเพื่อรับ
เครอ่ื งหมายหรือสญั ลกั ษณท์ างลูกเสอื และเคร่ืองหมายวชิ าพิเศษ)

2. กจิ กรรมตามข้อบังคับของคณะลูกเสือแหง่ ชาติทีช่ ว่ ยเสรมิ สร้างทักษะชีวิตด้านคุณธรรม
จรยิ ธรรม ความภาคภมู ใิ จในตนเอง ความรบั ผดิ ชอบตอ่ ส่วนรวม

3.กิจกรรมเสริมสร้างทักษะชีวิต เพ่ือสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมต่อเหตุการณ์และสภาพ
ปญั หาของเด็กแตล่ ะวัย

สําหรับกิจกรรมลูกเสือตามข้อบังคับ เพ่ือการขอรับเคร่ืองหมายลูกเสือชั้นพิเศษ และ
เคร่ืองหมายลูกเสอื หลวง ไม่ไดน้ ํามารวบรวมไว้ในคู่มือการจัดกจิ กรรมลกู เสอื ชดุ น้ี

คู่มือมีจํานวน 11 เล่ม ตามชั้นปีของลูกเสือ 4 ประเภท แต่ละเล่ม ได้จัดทําตารางหน่วย
กิจกรรม และแผนการจัดกิจกรรมครบ 40 ชั่วโมง เพื่อให้เห็นภาพรวมของการจัดกิจกรรมลูกเสือ
เสรมิ สร้างทกั ษะชวี ิตของลกู เสอื ในแต่ละระดับชน้ั และมีหมายเหตุบอกไวใ้ นตารางชอ่ งขวาสุด ว่าเป็น
แผนการจัดกิจกรรมเสริมสร้างทกั ษะชีวติ

ค่มู ือส่งเสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลูกเสอื ทกั ษะชีวติ ในสถานศึกษา ประเภทลูกเสอื ส�ำ รอง หลกั สตู รดวงดาวท่ี 3 137
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3
144 คมู่ ือส่งเสริมและพฒั นากจิ กรรมลูกเสือทกั ษะชวี ติ ในสถานศึกษา ลกู เสือสารอง ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3

แผนการจัดกิจกรรมประกอบด้วย จุดประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา ส่ือการเรียนรู้ กิจกรรม
การประเมนิ ผล องคป์ ระกอบทกั ษะชวี ิตสําคัญท่ีเกดิ จากกิจกรรม และภาคผนวกประกอบแผนการจัด
กิจกรรม (เพลง เกม ใบงาน ใบความรู้ เรอื่ งทีเ่ ป็นประโยชน์)

ภาพรวมการพัฒนาหลักสตู รลกู เสอื เสริมสรา้ งทักษะชวี ติ

1. เริ่มจากการศึกษาเอกสาร งานวิจัย หลักสูตรลูกเสือไทยและต่างประเทศ รวมท้ัง
สมั ภาษณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านลกู เสอื

2. สมั มนาครู ผู้ปกครอง นักพัฒนาเยาวชน และผู้เช่ียวชาญด้านกิจกรรมเด็กและเยาวชน
เพ่ือร่วมกนั ค้นหาปญั หาจรงิ ของเดก็ แต่ละวัย และออกแบบกิจกรรมท่ีเหมาะสม

3. จดั ทําคมู่ อื การจัดกจิ กรรมลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิต 4 ประเภท ได้แก่ ลูกเสือสํารอง
ลูกเสือสามัญ ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่และลูกเสือวิสามัญ รวมทั้งส้ิน 11 เล่ม โดยผ่านการประเมิน
ปรบั ปรงุ และพฒั นา จนเป็นทยี่ อมรบั และนําไปใช้ในสถานศกึ ษาจาํ นวนมาก

4. จัดทําหลักสูตรการฝึกอบรมผู้กํากับลูกเสือสํารอง ลูกเสือสามัญ ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่
และลกู เสือวิสามญั ข้ันความรเู้ บอ้ื งตน้ และขน้ั ความรู้ชัน้ สงู รวม 8 ประเภท โดยไดร้ บั การอนุมัติจาก
คณะกรรมการบริหารลูกเสอื แห่งชาติ ในการประชุม คร้ังท่ี 2/2557 เม่ือวันท่ี 22 กันยายน 2557 ให้
ใช้เปน็ หลักสูตรการฝกึ อบรมผู้กาํ กบั ลกู เสอื ของสํานักงานลูกเสือแห่งชาติ

5. จัดทํา คู่มือฝึกอบรมวิทยากรลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิต เพ่ือขยายผลในการสร้าง
วทิ ยากรและฝึกอบรมผู้กํากับลูกเสอื ในสถานศึกษาท่วั ประเทศ

คมู่ ือส่งเสริมและพัฒนากจิ กรรมลูกเสอื ทักษะชวี ติ ในสถานศึกษา ลกู เสือสารอง ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 145
ค่มู อื ส่งเสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลกู เสอื ทกั ษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสอื ส�ำ รอง หลักสูตรดวงดาวท่ี 3
138 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3

ภาคผนวก ข

กจิ กรรมลูกเสอื เสริมสร้างทกั ษะชีวติ

การจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิตน้ัน ยังคงหลักการ และวิธีการของลูกเสือไว้ ทุก
ประการ แต่เนน้ การสอดแทรกการเรียนรู้ทักษะชีวิตเพิ่มเข้าไปด้วยเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ที่รอบ
ดา้ น และครอบคลุมการดํารงชีวติ ในปจั จบุ ัน

คุณคา่ ของสือ่ การเรียนการสอนประเภทกิจกรรม

สอื่ การเรยี นการสอนประเภทกจิ กรรม เป็นกระบวนการเรียนการสอนที่ให้ผู้เรียนได้ มีโอกาส
เรยี นร้ปู ระสบการณ์ตา่ งๆ ด้วยตนเอง ผ่านการทํากิจกรรมร่วมกัน ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์
ของเพื่อนในกลุ่ม ทําให้สามารถเรียนรู้ได้มากข้ึนโดยใช้เวลาน้อยลง การออกแบบกิจกรรมจะต้อง
กระตนุ้ ให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ และร่วมมือในการทํากิจกรรมท่ีกําหนดให้อย่างเต็มท่ี จึงจะ เกิดการ
เรียนรูไ้ ดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ผลทเ่ี กิดขน้ึ ต่อผู้เรยี นมีดังนี้

1. ส่งเสริมให้ผเู้ รยี นกล้าแสดงออกและทํางานรว่ มกับผ้อู น่ื ได้
2. เกิดความสนกุ สนานเพลิดเพลนิ ซึง่ เป็นลกั ษณะเฉพาะของสอ่ื การสอนประเภทกิจกรรม
3. เปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นมสี ่วนรว่ มในการกําหนดขอบข่าย เนอื้ หา และวัตถปุ ระสงค์
4. ผเู้ รียนได้ฝกึ ฝน พฤตกิ รรมการเรยี นรทู้ ้ังทางดา้ นความรู้ เจตคติ และทกั ษะ รวมท้งั ความคดิ
สรา้ งสรรค์ และจินตนาการดว้ ย

ประเภทของกจิ กรรมลกู เสือเสริมสร้างทกั ษะชวี ิต

เมอ่ื จดั ประเภทตามทกั ษะ/ความสามารถ ในการปฏบิ ัติกจิ กรรม แบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท คือ
1. กิจกรรมการแสดงออก เป็นกิจกรรมท่ีเปิดโอกาสให้ลูกเสือได้ใช้ความสามารถในการ
แสดงออก แสดงความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการในรปู แบบตา่ ง ๆ ซง่ึ มกั จะเป็นการจาํ ลองประสบการณ์
ต่าง ๆ มาเพ่ือการเรียนรู้ได้ง่ายและสะดวกข้ึน หรือเป็นสิ่งท่ีใช้แทนประสบการณ์จริง เพราะศาสตร์
ต่างๆ ในโลก มีมากเกินกว่าที่จะเรียนรู้ได้หมดสิ้นจากประสบการณ์ตรงในชีวิต และบางกรณีก็อยู่ใน
อดตี หรือซบั ซ้อนเรน้ ลบั หรือเปน็ อนั ตราย ไม่สะดวกตอ่ การเรียนร้จู ากประสบการณจ์ ริง
ตวั อย่างกจิ กรรม เช่น
1.1 สถานการณ์จําลอง เป็นการจัดสภาพแวดลอ้ มให้ใกลเ้ คียงกบั สภาพความเป็นจริงมากท่ีสุด
เพือ่ ใหผ้ ูเ้ รียนได้ฝกึ ฝน แกป้ ัญหาและตดั สินใจจากสภาพการณท์ ่กี าํ ลงั เผชญิ อยูน่ ัน้ แล้วนําประสบการณ์
แห่งความสําเร็จไปเปน็ แนวทางในการแกป้ ัญหา
1.2 การสาธิต กระบวนการท่ีผู้สอนช่วยให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ โดยการ
แสดงหรอื กระทําให้ดเู ป็นตัวอยา่ ง ใหค้ วามสําคญั กบั กระบวนการท้ังหมดท่ีผู้เรียนจะต้องเฝฺาสังเกตอยู่
โดยตลอด
1.3 เล่านิทาน

146 คมู่ คือมู่ สือ่งเสส่งรเมิ สแรลิมะแพลัฒะนพาฒักจิ นการรกมจิ ลกกู รเสรมือทลกั ูกษเสะชือวี ทติ ักในษสะถชาีวนติ ศใกึ นษสาถปารนะเศภกึ ทษลกูาเสลอื กูสเ�ำ สรอืองสชาหน้ั รลปอกั รงสะตู ถชรมั้นดศวปึกงรษดะาาถปวมทีทศี่ี่ 33ึกษาป1ีท3่ี 39

1.4 ละคร ห่นุ จําลอง
1.5 เพลง ดนตรี การเคลอ่ื นไหวตามจังหวะดนตรี หมายถึง กจิ กรรมท่ีเน้นการใช้ดนตรีเป็นส่ือ
ในการเรียนรู้ทั้งในแง่เนอ้ื หาและความบันเทงิ ผอ่ นคลาย และเขา้ ถงึ วัฒนธรรมต่าง ๆ
1.6 ศิลปะ แขนงอ่ืน ๆ เช่น การวาดรปู การปนั้ ดินเหนียว งานหตั ถกรรม การรอ้ ยดอกไม้
1.7 การโต้วาที

ฯลฯ
2. กิจกรรมการการสาํ รวจและการรายงาน เป็นกจิ กรรมท่ีเนน้ ให้ลกู เสอื ได้เรยี นรู้จากความเป็น
จริง /เหตุการณ์จริง ในชีวิตประจําวัน ผ่านประสบการณ์ตรงด้วยตนเอง ซ่ึงเป็นรากฐานสําคัญของ
การศึกษา เช่น การทําแผนท่ี การสํารวจ หมายถึง การเรียนรู้ผ่านสถานการณ์จริงด้วยการลงพ้ืนที่
สาํ รวจ และจําลองสิง่ ที่ได้เรียนรู้สู่แผนที่ ภาพ หรือสัญลักษณ์ เพื่อแสดงความคิดรวบยอดของสิ่งที่ได้
เรียนรู้นัน้
ตวั อยา่ งกจิ กรรม เช่น
การสัมภาษณ์ การเปน็ ผูส้ ื่อขา่ ว การทําสารคดี การศกึ ษานอกสถานที่ ชมุ ชนศึกษา การผลิตส่ือ การทํา
ปมู ชวี ติ บคุ คลตวั อย่าง การจดั นิทรรศการ การสอดแนม การสํารวจ การทําแผนที่ การเขียนเรียงความ
การเล่าเรอื่ ง ฯลฯ
3. กิจกรรมการวเิ คราะห์และการประเมนิ เป็นการเรียนรู้ทเ่ี กดิ จากการแลกเปลยี่ นความคิดเห็น
และร่วมกันวิเคราะห์/ประเมิน สิง่ ตา่ งๆท่ีเกิดขึ้น
ตัวอย่างกจิ กรรม เชน่
การเปรียบเทียบคุณค่า การประเมนิ ความเส่ียง การทําแผนทีค่ วามคิด ฯลฯ
4. การเลน่ เกมและการแขง่ ขัน

4.1 เกม เป็น กิจกรรมที่มีกฎกติกา และลําดับข้ันตอน ท่ีเอื้อให้ลูกเสือเกิดการเรียนรู้
ผา่ นการเลน่ เกม ให้ข้อคิดทส่ี อดคลอ้ งกับผลการเรียนรู้ทต่ี ้องการ เช่น เกมกระซิบ เปน็ ตน้

4.2 การแข่งขัน เป็นกิจกรรมที่มีกติกาในการแข่งขัน และมีการตัดสินหาผู้ชนะ เช่น
การตอบปญั หาในเรื่องต่าง ๆ เพื่อกระต้นุ ให้เกดิ ความสนใจใฝรู ู้มากขนึ้ ฯลฯ

5. กิจกรรมบําเพ็ญประโยชน์ เป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เน้นการฝึกความเสียสละของลูกเสือ
ไดแ้ ก่ การจดั กจิ กรรมการกศุ ล การซอ่ มของเลน่ ให้นอ้ ง การดแู ลทําความสะอาดสถานที่ การปลูกและ
ดแู ลตน้ ไม้ การเกบ็ ผกั จากแปลงไปประกอบอาหารเลีย้ งน้อง ฯลฯ

หลักการออกแบบกจิ กรรม

1. การเลือกประเภทของกิจกรรม ต้องสอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรทู้ ีต่ อ้ งการ เช่น

ผลการเรยี นรู้ด้านพุทธิพสิ ยั มักเลือกใช้ กจิ กรรมการวิเคราะห์และการประเมิน การรายงาน

และการแขง่ ขันตอบปญั หาในเรอื่ งเนื้อหาทต่ี อ้ งการใหเ้ รยี นรู้ เปน็ ต้น

ผลการเรยี นรดู้ ้านจิตพสิ ยั มกั เลือกกจิ กรรมท่ีสร้างความรู้สึกที่สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่
ต้องการ เชน่ กจิ กรรมการแสดงออก เกม กิจกรรมบําเพญ็ ประโยชน์ เปน็ ต้น

คมู่ อื ส่งเสริมและพฒั นากิจกรรมลกู เสอื ทักษะชวี ติ ในสถานศึกษา ลกู เสือสารอง ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 147
ค่มู อื ส่งเสริมและพฒั นากิจกรรมลกู เสอื ทกั ษะชีวิตในสถานศกึ ษา ประเภทลกู เสือสำ�รอง หลกั สูตรดวงดาวท่ี 3
140 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3

ผลการเรยี นร้ดู า้ นทกั ษะพสิ ยั ถา้ เปน็ ทักษะทางสติปญั ญานิยมใช้กิจกรรมการวิเคราะห์ และ
ประเมินสว่ นทักษะทางกายภาพ เลอื กไดเ้ กือบทกุ ประเภท

2. การตั้งประเด็นอภิปราย เพื่อให้ลูกเสือได้ร่วมอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในเร่ืองที่
สอดคล้องกับผลการเรยี นรู้ทตี่ อ้ งการ เช่น

ผลการเรียนรู้ด้านพุทธพิ ิสัย ต้งั ประเด็นให้ วเิ คราะห์ /สงั เคราะห์ /ประเมิน เนื้อหาท่ีต้องการ
ใหผ้ ู้เรยี นเกดิ ความเขา้ ใจอยา่ งถ่องแท้ เกดิ ความคิดรวบยอดท่ีชัดเจน และสามารถนําไปประยุกต์ใช้ได้
จรงิ

ผลการเรียนรู้ด้านจติ พิสยั ต้งั ประเด็นใหเ้ กิดการโตแ้ ยง้ กันดว้ ยเหตุผลในเรือ่ งความคิดความ
เชื่อ ท่เี กยี่ วข้องกับเจตคตทิ ่ีต้องการ เพ่อื ให้สมาชกิ แตล่ ะคนไดม้ โี อกาสตรวจสอบความคิดความเช่ือของ
ตนเอง ท่ีแตกต่างจากคนอืน่ ทําให้เกิดการปรับเปล่ยี นความคิดความเชือ่ จากการโต้แย้งกันด้วยเหตุผล
ในกระบวนการกลุ่ม

ผลการเรียนรู้ด้านทักษะพิสัย ต้ังประเด็นให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในขั้นตอนการทํา
ทกั ษะ นน้ั ๆ เชน่ การวเิ คราะห์ความครบถว้ นในการทําตามข้ันตอนของทกั ษะ การวิเคราะห์จุดอ่อน
ท่มี กั จะทาํ ทักษะน้นั ๆ ไม่สําเรจ็ เป็นต้น

3. การสรุปความคิดรวบยอดและประยุกต์ใช้ ทุกกิจกรรมควรมีการสรุปความคิดรวบยอดท่ี
เกิดข้นึ ใหช้ ดั เจน และเปิดโอกาสใหไ้ ด้ลองประยุกต์ใช้ ได้แก่

ผลการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย ความคิดรวบยอดคือเนื้อหา องค์ความรู้ท่ีต้องการให้เกิดขึ้น
ประยกุ ตใ์ ช้โดยผลติ ซ้ําความคดิ รวบยอดในรูปแบบทีต่ า่ งจากเดมิ เชน่ การทํารายงาน ทําสรปุ ย่อ ฯลฯ

ผลการเรียนรู้ด้านจิตพิสัย ความคิดรวบยอดไม่มีเนื้อหา แต่เป็นความรู้สึกและความคิด
ความเชอ่ื ทีเ่ กิดขึ้นภายในตวั ผ้เู รยี น ประยุกต์โดยการแสดงออกที่สอดคล้องกับเจตคติท่ีเกิด เช่น การ
กระทําท่แี สดงออกถึงความซอ่ื สตั ย์ การกระทาํ ท่แี สดงออกถงึ ความเปน็ สุภาพบรุ ุษ สภุ าพสตรี เป็นต้น

ผลการเรียนรูด้ า้ นทักษะพิสัย ความคิดรวบยอดที่เกิดคือ ความเข้าใจข้ันตอนและทําทักษะ
น้นั ๆ ได้ ประยกุ ต์โดยการฝึกฝนทกั ษะนั้นจนชาํ นาญ

148 คมู่ คือ่มู สอืง่ เสส่งรเิมสแรลมิ ะแพลัฒะนพาฒักิจนการรกมิจลกกู รเสรมอื ทลักกู ษเสะชอื ีวทิตกั ในษสะถชาวี นิตศใกึ นษสาถปารนะเศภกึ ทษลกูาเสลอื กูสเำ�สรออื งสชาหนั้ รลปอักรงสะูตถชรมั้นดศวปกึ งรษดะาาถปวมีททศี่ี่ 33ึกษาป1ที 4่ี 31


Click to View FlipBook Version