รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) ปีการศึกษา ๒๕๖๕ โรงเรียนบ้านแหลมหิน ตำบลไม้เค็ด อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรีเขต ๑ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ บทสรุปสำหรับผู้บริหาร โรงเรียนบ้านแหลมหินได้ดำเนินงานด้านการสร้างความเข้มแข็งของระบบประกันคุณภาพภายใน อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันโดยได้ดำเนินงานตามกฎกระทรวง การประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ มีผลการดำเนินงานในภาพรวม ดังนี้ 1. ศึกษามาตรฐานการศึกษาปฐมวัยและมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการประกันคุณภาพ ภายในสถานศึกษา ร่วมกันพิจารณาและกำหนดมาตรฐานเพื่อการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียน กำหนดค่าเป้าหมาย และประกาศให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ 2. กำหนดวิธีการพัฒนา และจัดทำแผนพัฒนาการจัดการของสถานศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปี เพื่อให้การดำเนินงานของสถานศึกษาบรรลุตามมาตรฐานและประเด็นการพิจารณา 3. ดำเนินการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษามาใช้ในการบริหารงานและการจัด กระบวนการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ 4. แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามตรวจสอบการดำเนินงานการจัดการศึกษาของสถานศึกษา เพื่อให้ บรรลุผลตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาปฐมวัยและการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 5. เก็บรวมรวมข้อมูลสรุปและรายงานผลการพัฒนา สถานศึกษานำรายงานที่ได้รับความเห็นชอบจาก คณะกรรมการสถานศึกษา เผยแพร่ต่อสาธารณชนและผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ ครู ผู้ปกครอง ชุมชน หน่วยงานต้น สังกัด เป็นต้น โดยผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น แผ่นพับ เว็บไซด์ของโรงเรียน การประชุมผู้ปกครอง เป็นต้น ระดับการศึกษาปฐมวัย ๑. มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับการศึกษาปฐมวัย : ยอดเยี่ยม โรงเรียนบ้านแหลมหินได้มีการดำเนินการบริหารงานและจัดสถานศึกษาที่ครอบคลุมด้านวิชาการ ด้านครูและบุคลากร ด้านสภาพแวดล้อม สื่อ และแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนเพื่อการเรียนรู้ และด้านระบบ ประกันคุณภาพภายในโดยเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา มีการกำกับติดตามการ ดำเนินงาน มีหลักสูตรที่ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน โดยมีผู้บริหารให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษา ปฐมวัย มีการส่งเสริมสนับสนุนด้านบุคลากร สื่อ เทคโนโลยี การปรับปรุงอาคารสถานที่ ดังนี้ ๒. ผลการดำเนินงาน ๑. มีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น สถานศึกษามีหลักสูตรที่ยืดหยุ่น จัดประสบการณ์ที่สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยของ สถานศึกษาและบริบทของท้องถิ่น โดยครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน เน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่นและลงมือ ปฏิบัติ ๒. จัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนระดับปฐมวัย จำนวน 8 ห้องเรียน คือ ชั้นอนุบาลปีที่ ๑ จำนวน ๒ ห้อง อนุบาลปีที่ ๒ จำนวน 3 ห้อง อนุบาลปีที่ ๓ จำนวน 3 ห้อง ซึ่งครูมีวุฒิการศึกษา จบการศึกษา ปริญญาตรี สาขาการศึกษาปฐมวัย และผู้ช่วยครูที่มีประสบการณ์สอนในระดับปฐมวัย ครบชั้นเรียน
๓. ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ ผู้บริหารส่งเสริมสนับสนุนให้ครูได้รับการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เข้ารับการอบรมและพัฒนา ตนเองจากการอบรมที่จัดโดยหน่วยงานต้นสังกัดและหน่วยงานอื่น ๆส่งเสริมให้ครูมีทักษะในการจัดประสบการณ์ และประเมินพัฒนาการเด็กครบทั้ง ๔ ด้าน ออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ตรงตามหลักสูตรการ จัดการศึกษาปฐมวัย โดยมีแผนงาน โครงการและกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาบุคลากร มีการนิเทศภายใน เพื่อให้คำแนะนำ ร่วมถึงสนับสนุนให้ครูมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครอง ๔. จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัยและพอเพียง สถานศึกษาจัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรียนที่คำนึงถึงความปลอดภัย ครูจัดห้อง สะอาด อากาศถ่ายเท ปลอดภัย น่าเรียน น่าอยู่ มีพื้นที่แสดงผลงานเด็ก พื้นที่สำหรับมุมประสบการณ์ หลากหลาย มีห้องน้ำสำหรับเด็ก มีลานสำหรับการจัดกิจกรรม จัดของใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็ก เช่น แก้วน้ำ แปรงสีฟัน ห้องเรียนมีป้ายนิเทศ มีสื่อ ทีวี สื่อของเล่นที่กระตุ้น เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน ๕. ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์สำหรับครู สถานศึกษามีสื่อโทรทัศน์ทุกห้องเรียน และห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ระบบอินเตอร์เน็ต ป้ายนิเทศ มุมเสริมประสบการณ์ ห้องสมุด เพื่อเป็นแหล่งสืบค้นหาความรู้ เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์และพัฒนา ครู ในด้านจัดการเรียนการสอนเป็นสื่อการเรียนการสอนให้กับเด็กอย่างสะดวกรวดเร็ว ๖. มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม โดยการสร้างความเข้าใจกับผู้ปกครองโดยการจัดกิจกรรมปฐมนิเทศผู้ปกครอง กิจกรรมประชุม ผู้ปกครอง กิจกรรมวันแม่แห่งชาติ กิจกรรมวันไหว้ครู กิจกรรมวันวิสาขบูชา กิจกรรมวันเข้าพรรษา กิจกรรม วันเด็กแห่งชาติ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก แสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานีอนามัย องค์กรเอกชน จากผู้เกี่ยวข้องในการมีส่วนร่วมในการ พัฒนาการเด็กทั้ง ๔ ด้าน ๓. จุดเด่น สถานศึกษาจัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน ส่งเสริมให้ครูมีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ด้านการจัดประสบการณ์ จัดสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก จัดห้องสะอาด ปลอดภัย น่าเรียน น่าอยู่ มีมุมประสบการณ์ และ สื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัยและพอเพียง ๔. จุดควรพัฒนา - โรงเรียนควรสร้างเครือข่ายผู้ปกครองและเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็น และจัดกิจกรรมที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการศึกษาปฐมวัย เพื่อพัฒนาผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง - การพัฒนาปรับปรุงซ่อมแซมสนามเด็กเล่นให้ได้มาตรฐานและพอเพียงต่อความต้องการของเด็ก ๕. แผนพัฒนาเพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น แผนปฏิบัติงานที่ ๑ กิจกรรมจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นแหล่งเรียนรู้ แผนปฏิบัติงานที่ ๒ กิจกรรมพัฒนาให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1. มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน : ยอดเยี่ยม การดำเนินการกระบวนการบริหารและการจัดการ สถานศึกษาได้ดำเนินการวิเคราะห์สภาพปัญหา โดยการศึกษาข้อมูลสารสนเทศและผลการจัดการศึกษาที่ผ่านมากำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์และพันธกิจอย่าง ชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน ความต้องการของชุมชน และท้องถิ่น วัตถุประสงค์ของแผนการศึกษา แห่งชาติ นโยบายของรัฐบาลและต้นสังกัด รวมทั้งทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม ปรับแผนพัฒนาคุณภาพ การศึกษา จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีการจัดสรรงบประมาณ ทรัพยากรต่าง ๆ และมอบหมายให้แก่ ผู้รับผิดชอบได้ดำเนินการพัฒนางานโดยนำแผนไปปฏิบัติมีการนิเทศ ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลการ ดำเนินงานโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องด้วยกระบวนการ PDCA มีการบริหารอัตรากำลัง การ นิเทศภายใน นำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาบุคลากร และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการวางแผน ปรับปรุง พัฒนาและร่วมกันรับผิดชอบต่อการจัดการศึกษา ดำเนินการพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพนักเรียนรอบด้าน ตามหลักสูตรสถานศึกษาทุกกลุ่มเป้าหมาย จัดการศึกษาโดยนำมาเชื่อมโยงกับชีวิตจริง พัฒนาครูและบุคลากร ให้มีความเชี่ยวชาญทางด้านวิชาชีพตามความต้องการของครู จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อ ต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและ การเรียนรู้ที่เหมาะสมกับสภาพของโรงเรียน ๒. ผลการดำเนินงาน 1. โรงเรียนมีเป้าหมาย วิสัยทัศน์และพันธกิจที่ชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนและความ ต้องการของชุมชน 2. มีระบบการบริหารจัดการคุณภาพอย่างเป็นระบบ วางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยจัดทำ แผนปฏิบัติการประจำปี โครงการ/กิจกรรมมีผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจน ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และ ปรับปรุงพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง 3. มีการบริหารจัดการงานวิชาการและการจัดการเรียนการสอนของครูตามวิชาเอกและความถนัด มี การนิเทศภายในเพื่อนำข้อมูลมาใช้พัฒนาการจัดการเรียนการสอน 4. ส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความรู้ความชำนาญตามความต้องการ โดยเข้ารับ อบรมการพัฒนาตนเอง และอบรมเชิงปฏิบัติการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย ๒๐ ชั่วโมง/ปี 5. โรงเรียนมีสภาพแวดล้อม ร่มรื่น ปลอดภัย สร้างหลังคาทางเดินเท้า ปรับปรุงห้องน้ำห้องส้วม ติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วบริเวณโรงเรียน 6. จัดครูเวรและสารวัตรนักเรียนดูแลความปลอดภัยหน้าบริเวณโรงเรียนในช่วงเช้าและหลังเลิกเรียน 7. ห้องเรียน ห้องพิเศษ และห้องปฏิบัติการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน 8. ติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตเพื่อกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้ครอบคลุมทั่วถึงทั้งบริเวณโรงเรียน เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอน และสะดวกต่อการติดต่อประสานงานและอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ 9. พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อรองรับฐานข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับผู้เรียน เช่น ข้อมูลพื้นฐานของนักเรียน ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้ฐานข้อมูลต่าง ๆ ของ นักเรียนถูกต้องและเป็นปัจจุบันมากที่สุด
๓. จุดเด่น 1. โรงเรียนมีการบริหารและการจัดการอย่างเป็นระบบ 2. มีการประชุมให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ที่ชัดเจน 3. ปรับปรุงแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี 4. มุ่งเน้นการพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา 5. ครูได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 6. สภาพแวดล้อมร่มรื่นสวยงามปลอดภัยและเอื้อต่อการเรียนรู้ 7. มีการจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่นำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานของสถานศึกษาอย่างเป็น ระบบ และสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ ๔. จุดควรพัฒนา ๑. มีการนิเทศ ติดตาม อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ๒. เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียน ๓. สร้างเครือข่ายความร่วมมือของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาของโรงเรียนให้มีความเข้มแข็ง ในการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษา ๔. จัดสภาพแวดล้อมภายในสถานศึกษาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ๕. แผนพัฒนาเพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น แผนปฏิบัติงานที่ ๑ กิจกรรมเสริมหลักสูตรที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้าน แผนปฏิบัติงานที่ ๒ กิจกรรมการสอนนักเรียน LD แผนปฏิบัติงานที่ ๓ กิจกรรมจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นแหล่งเรียนรู้
คำนำ รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๕ โรงเรียนบ้านแหลมหินฉบับนี้ จัดทำ ขึ้นตามกฎกระทรวง การประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ ข้อ ๓ ระบุให้สถานศึกษาจัดส่งรายงานผล การประเมินตนเองให้แก่หน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลสถานศึกษาเป็นประจำทุกปีเพื่อรายงาน ผลการดำเนินงานตามมาตรฐานการศึกษาที่สะท้อนผลการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการบริหาร จัดการศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาในระดับปฐมวัย ๓ มาตรฐาน ได้แก่ คุณภาพของเด็ก กระบวนการบริหารและการจัดการ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๓ มาตรฐานได้แก่คุณภาพของผู้เรียน กระบวนการบริหารและการจัดการกระบวนการจัดการเรียนการสอน ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพื่อนำเสนอรายงานผลการจัดการศึกษาในรอบปีที่ผ่านมาต่อหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้รับทราบ และเตรียมความพร้อมในการรับ การประเมินภายนอก โดยสำนักงานรับรองมาตรฐานการศึกษาและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ต่อไป ขอขอบคุณคณะครู ผู้ปกครอง นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการจัดทำรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษาปีการศึกษา ๒๕๖๕ ฉบับนี้ คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารรายงานฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาของโรงเรียนบ้านแหลมหิน ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ต่อไป (นายสุรศักดิ์ แสงบุราณ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแหลมหิน วันที่ ๑๐ เดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖
สารบัญ เรื่อง หน้า บทสรุปผู้บริหาร คำนำ สารบัญ ส่วนที่ ๑ ข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา 1 ข้อมูลทั่วไป 1 ข้อมูลครูและบุคลากร 9 ข้อมูลนักเรียน 11 สรุปข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา 12 ผลการทดสอบระดับชาติของผู้เรียน 15 ส่วนที่ ๒ ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา ระดับปฐมวัย 39 ระดับปฐมวัย 39 ผลการประเมินมาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก 39 มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ 41 มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ 43 ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 45 ผลการประเมินมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน 45 มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ 53 มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 55 ส่วนที่ ๓ สรุปผล และแนวทางการพัฒนา 60 ส่วนที่ ๔ ภาคผนวก 65 ประกาศโรงเรียนบ้านแหลมหิน เรื่อง การใช้มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับปฐมวัย และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 66 ประกาศโรงเรียนบ้านแหลมหิน เรื่อง การกำหนดค่าเป้าหมายการพัฒนาตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษาระดับปฐมวัย และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2565 67 ประกาศ โรงเรียนบ้านแหลมหิน เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินคุณภาพภายในตามระบบ การประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ประจำปีการศึกษา 2565 76 คำสั่งโรงเรียนบ้านแหลมหิน ที่ 19 /๒๕66 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำรายงานผลการ ประเมินตนเอง ประจำปีการศึกษา 2565 78 บันทึกการพิจารณาให้ความเห็นชอบ การใช้มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับปฐมวัย และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีการศึกษา 2565 โรงเรียนบ้านแหลมหิน สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 79 นวัตกรรมด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา 80
๑ ส่วนที่ ๑ ข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา ๑. ข้อมูลทั่วไป 1.1 ชื่อสถานศึกษา โรงเรียนบ้านแหลมหิน ตั้งอยู่เลขที่ 11/1 . บ้าน หมู่ที่ 11 ถนน ตำบล ไม้เค็ด . อำเภอ เมืองปราจีนบุรีจังหวัด ปราจีนบุรี รหัสไปรษณีย์ 25230 โทรศัพท์ ๐๓๗-๔๕๔๐๙๘. โทรสาร - E-mail [email protected] . Website http://sites.google.com/view/banleamhin . สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต ๑ 1.2 เปิดสอนตั้งแต่ระดับปฐมวัย ถึง ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 1.3 มีเขตพื้นที่บริการ 1 ตำบล 4 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านแหลมหิน , บ้านเกาะเค็ดนอก , บ้านเกาะเค็ดใน และ บ้านอ่าวพยอม 1.4 มีเนื้อที่ 32 ไร่ - งาน 1.5 ประวัติโรงเรียนโดยย่อ คำขวัญ และวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา โรงเรียนบ้านแหลมหิน เดิมชื่อโรงเรียนวัดแหลมหิน ก่อตั้งเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2486 ใช้ศาลาการเปรียญวัดแหลมหินเป็นสถานที่เรียน มีนายชาญ วิทยาคงเป็นครูใหญ่ มีนายกรานต์ โชติกันตะ ศึกษาธิการเมืองปราจีนบุรี เป็นประธานเปิด โรงเรียนเปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2502 ได้ย้ายสถานที่เรียนจากศาลาการเปรียญวัดแหลมหิน มายังอาคารเรียน ชั่วคราว ขนาด 9x18 เมตร บนที่ดินของนายปลั่ง สกุลนคร เป็นอาคารไม้ จำนวน 2 ห้องเรียน ซึ่งตั้งอยู่ ทิศตะวันออกของวัดแหลมหิน ติดถนนสุวินทวงศ์ วันที่ 1 มิถุนายน 2503 กระทรวงศึกษาธิการให้งบประมาณ จำนวน 50,000 บาท สร้างอาคาร เรียนแบบถาวร เป็นอาคารไม้ชั้นเดียว ขนาด 8x32 เมตร จำนวน 4 ห้องเรียน ตั้งอยู่บนที่ดิน สาธารณประโยชน์ ริมถนนสุวินทวงศ์ มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 40 ไร่ ในหมู่ที่ 1 ตำบลไม้เค็ด อำเภอเมือง จังหวัด ปราจีนบุรี โดยเปลี่ยนชื่อโรงเรียน เป็นโรงเรียนบ้านแหลมหิน วันที่ 1 ตุลาคม 2509 โอนสังกัดจากกระทรวงศึกษาธิการ เป็นสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด ปราจีนบุรี ปีการศึกษา 2516 ขยายชั้นเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ ได้รับงบประมาณต่อเติมอาคาร เรียน 2 ห้องเรียน เป็นเงิน 80,000 บาท ได้รับงบประมาณก่อสร้างบ้านพักครู1 หลัง จำนวน 25,000 บาท ปีการศึกษา 2517 ขยายชั้นเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้รับงบประมาณสร้างห้องส้วม 1 หลัง จำนวน 5 ที่นั่ง เป็นเงิน 12,000 บาท รับงบประมาณสร้างบ้านพักครู 1 หลัง ราคา 25,000 บาท
2 ปีการศึกษา 2518 สภาตำบลไม้เค็ดจัดสรรงบประมาณ ปชลต. ต่อเติมอาคารเรียน 3 ห้อง เป็นเงิน 180,000 บาท สร้างถังเก็บน้ำฝน เป็นเงิน 40,000 บาท ได้รับงบประมาณสร้างโรงอาหาร งบประมาณ 25,000 บาท ปีการศึกษา 2519 ได้พัฒนาโรงเรียนโดยชุมชนร่วมกันปรับปรุงสถานที่ซึ่งเป็นป่ารก นำโดยทหาร กองสัตว์ปราจีนบุรีและนายอนันต์ อารยะสกุล นำแทรกเตอร์บุกเบิกสถานที่ ปีการศึกษา 2520 โรงเรียนร่วมกับสภาตำบลไม้เค็ด ได้ดำเนินการขยายเขตไฟฟ้าเป็นเงิน 12,700 บาท และขุดบ่อน้ำขนาด 3 x 5 เมตร ลึก 13.50 เมตร จัดทำการระบบประปาสิ้นเงิน 19,074 บาท แขวงการทางปรับลู่วิ่ง 800 เมตร เป็นเงิน 8,000 บาท ก่อสร้างรั้วลวดหนามโดยโรงเลื่อยโง้งเหลือง บริจาคลวดหนามใช้งบประมาณ 3,840 บาท ปี พ.ศ. 2522 ขยายโรงอาหารโดนนำวัสดุจากโรงเรียนวัดบ้านยาง และเงินบริจาคจากสภาตำบล ไม้เค็ด เป็นเงิน 80,000 บาท และรับงบจากสภาตำบลไม้เค็ด เทพื้นคอนกรีตรอบโรงอาหารในปี พ.ศ. 2523 สิ้นเงิน 24,000 บาท ปี พ.ศ. 2524 นายวงศ์ ตันจ้อย รักษาการในตำแหน่งครูใหญ่ ได้ร่วมกับชุมชนก่อสร้างรั้ว สนาม เด็กเล่น ศาลาที่พัก ถังเก็บน้ำคอนกรีต ปี พ.ศ. 2527 รับงบประมาณจาก สพป.ปราจีนบุรี สร้างสนามฟุตบอล สนามวอลเลย์บอล เป็นเงิน 95,000 บาท ปี พ.ศ. 2528 รับประมาณสร้างเรือนเพาะชำ เป็นเงิน 15,000 บาท ปี พ.ศ. 2531 รับงบประมาณก่อสร้างส้วม 1 หลัง 4 ที่นั่ง 40,000 บาท วันที่ 3 สิงหาคม 2533 นายสุวิทย์ศรีคล้อ ย้ายมาดำรงอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนบ้านแหลมหิน แทนนายวงศ์ตันจ้อย ซึ่งย้ายไปโรงเรียนวัดลำดวน ปี พ.ศ. 2534 ได้รับงบประมาณสร้างอาคารเรียน แบบ สปช. 102/26 จำนวน 3 ห้องเรียน เป็นเงิน 621,000 บาท ปีพ.ศ. 2537 ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนแบบ สปช. 105/26 จำนวน 1 หลัง 4 ห้องเรียน เป็นเงิน 1,639,000 บาท ปีพ.ศ. 2543 จังหวัดปราจีนบุรี ได้ย้ายศาลากลางจังหวัดมาสร้างศูนย์ราชการบนพื้นที่ของ โรงเรียนบ้านแหลมหิน และให้โรงเรียนบ้านแหลมหินย้ายไปอยู่ หมู่ที่ 11 ตำบลไม้เค็ด อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี บนเนื้อที่สาธารณประโยชน์ จำนวน 39 ไร่ โดยจังหวัดปราจีนบุรีได้ก่อสร้างอาคารเรียน อาคารประกอบทดแทน ดังนี้ 1. อาคารเรียนแบบ สปช. 105/29 จำนวน 3 หลัง 2. อาคารเรียนแบบ สปช. 102/26 จำนวน 1 หลัง 3. โรงฝึกงาน สปช. 203/26 จำนวน 1 หลัง 4. โรงอาหาร จำนวน 1 หลัง 5. บ้านพักครู สปช. 301/26 จำนวน 2 หลัง 6. ส้วม สปช. 601/26 จำนวน 4 หลัง 7. ส้วม สปช. 602/26 จำนวน 1 หลัง 8. เรือนเพาะชำ 1 หลัง 9. อาคารโรงเลี้ยงไก่ 1 หลัง
3 10. อาคารฝึกงานอาชีพ 1 หลัง 11. ถังเก็บน้ำฝน ฝ.33 จำนวน 4 ชุด 12. สนามฟุตบอล 1 สนาม 13. สนามบาสเกตบอล 1 สนาม 14. สนามวอลเล่ย์บอล 1 สนาม 15. แท่นประดิษฐานพระพุทธรูป ปีการศึกษา 2543 ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนแบบ สปช. 105/29 เป็นเงิน 1,739,000 บาท อาคารเรียนแบบ รย. 106/43 และส้วมแบบ 601/26 รวม 105,000 บาท ได้นำวัสดุ การก่อสร้างอาคารเดิม สร้างอาคารเรียนแบบ ป.1 ช ยกพื้นด้วยงบประมาณของโรงเรียนเป็นเงิน 400,000 บาท ปี พ.ศ. 2553 ก่อสร้างอาคารเรียน สปช. 105/29 (ปรับปรุง) 4 ห้อง (ICT) งบประมาณ 2,760,000 บาท ปี พ.ศ. 2553 นายสุวิทย์ ศรีคล้อ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแหลมหิน เข้าร่วมโครงการเกษียณอายุ ราชการก่อนกำหนด โดยมีนายดิเรก ทวีวงษ์ มาดำรงตำแหน่งแทนในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2553 สร้างที่ ประดิษฐานพระพุทธรูปด้านทิศตะวันตก งบบริจาค 50,000 บาท ปี พ.ศ. 2554 รับงบประมาณรับงบประมาณก่อสร้างอาคารพยาบาล 139,000 บาท รับงบประมาณก่อสร้างรั้วคอนกรีตยาว 390 เมตร 817,000 บาท ปีพ.ศ.2555 ได้รับงบประมาณก่อสร้างห้องส้วมแบบ ส้วมหญิง 4 ที่นั่ง/49 จำนวน 1 หลัง 335,000 บาท ต่อเติมห้องประชุมใต้ถุนอาคารแบบ สปช. 105/29 เป็นเงิน 850,000 บาท ปี พ.ศ. 2557 นายมงคล ทวีทรัพย์ ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแหลมหิน ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2557 ปี พ.ศ. 2558 - ปรับปรุงโรงเรือนฝึกงาน จำนวน 3 หลัง ด้วยเงินงบประมาณ เป็นเงิน 650,000 บาท - ปรับปรุงซ่อมแซมเปลี่ยนหลังคา อาคารแบบ สปช. 105/29 และอาคารแบบพิเศษ จำนวน 2 หลัง ด้วยเงินงบประมาณ จำนวน 193,500 บาท ปี พ.ศ. 2559 นายวิรัตน์ อรัญญิก ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแหลมหิน เมื่อ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 - ได้ปรับถมพื้นที่ด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกของอาคารเอนกประสงค์ด้วยเงินบริจาค จำนวน 2,000 คิว เป็นเงิน 300,000 บาท ปี พ.ศ. 2560 ปรับปรุงสวนหย่อมหน้าอาคารเรียน ป. 1-3 ,ป. 4-6 และอาคารอนุบาล ด้วยปูน กั้นดิน ปลูกหญ้า เป็นเงิน 50,000 บาท - เปลี่ยนหลังคาและรางน้ำอาคารเรียนแบบ สปช. 105/29 (อาคาร ป. 1-3) และอาคาร ประกอบ เป็นเงิน 300,000 บาท - ซ่อมแซมบ้านพักครูแบบ สปช. 301/26 รวม 2 หลัง เป็นเงิน 200,000 บาท - ซ่อมแซมเปลี่ยนหลังคา ห้องส้วมหญิง 4 ที่นั่ง/49 และห้องส้วม สปช. 601/26 เนื่องจากถูก พายุต้นไม้ล้มทับ งบประมาณ จำนวน 50,000 บาท ปี พ.ศ. 2561 ได้รับจัดสรรงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียน ประเภทงบลงทุนเป็นค่าก่อสร้าง อาคารเรียน แบบ 318ล/55-ก วงเงิน 20,012,800 บาท
4 ปี พ.ศ. 2562 ก่อสร้างห้องน้ำห้องส้วมอนุบาล จำนวน 4 ที่ ด้วยโครงสร้างเหล็ก ผนังเชอร่าบอร์ด เทพื้นคอนกรีต และอ่างล้างมือ จำนวน 1 ชุด - วันที่ 22 กันยายน 2562 เปิดใช้อาคารเรียน “พระราชา” อย่างเป็นทางการ มีการปรับย้าย อาคารเรียน ดังนี้ อาคารปาริชาติ เป็นอาคารเรียนของนักเรียนระดับชั้นปฐมวัย อาคารราชาวดี เป็นอาคารเรียนของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 อาคารตติรัตน์ เป็นอาคารเรียนของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 อาคารพระราชา เป็นอาคารเรียนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ปี พ.ศ. 2562 ได้รับงบประมาณซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบ 425,200 บาท ดำเนินการซ่อมแซมส้วมนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา - ก่อสร้างซุ้มทางเดินด้านทิศเหนือตลอดแนว ยาว 150 เมตร ด้วยโครงเหล็กมุงหลังคาเมทัลชีท เทพื้นคอนกรีต - สร้างห้องน้ำหลังอาคารปาริชาติ สำหรับนักเรียนชั้นปฐมวัย - ปลูกต้นไม้ยืนต้น (ต้นพิกุล) จำนวน 45 ต้น - เทพื้นคอนกรีตหน้าอาคารเอนกประสงค์ - สร้างลานกีฬามัธยมหน้าอาคารพระราชา - จัดทำซุ้มที่นั่งสำหรับผู้ปกครองที่มารอรับบุตรหลานบริเวณประตูทางเข้าโรงเรียน - สร้างห้องน้ำหลังอาคารปาริชาติเพิ่มเติม สำหรับนักเรียนปฐมวัย ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ นายวิรัตน์ อรัญญิก เกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔ และ นายสุรศักดิ์ แสงบุราณ ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแหลมหิน เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ปี พ.ศ. 2565 โรงเรียนบ้านแหลมหิน ได้รับจัดสรรงบประมาณปี พ.ศ. 2565 ประเภทงบลงทุน เป็นค่าก่อสร้างโรงฝึกงานแบบ 204/27 ทางโรงเรียนจึงได้สำรวจอาคารเรียน รย. 106/43 ซึ่งเป็นอาคาร ไม้หลังเก่า ไม่ได้ใช้ในการจัดการเรียนการสอน มีสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะเกรงว่า จะไม่ปลอดภัย ด้วยเหตุนี้ทางโรงเรียนบ้านแหลมหิน จึงขออนุญาตรื้อถอนอาคารเรียน รย. 106/43 อาคาร ไม้ชั้นเดียวหลังดังกล่าว เพื่อดำเนินการก่อสร้างโรงฝึกงานแบบ 204/27 ขึ้นมา และขอรื้อถอนถังน้ำซีเมนต์ ฝ33 จำนวน 1 ชุด (3 ถัง) เนื่องจากอยู่ในสภาพชำรุด ปัจจุบัน มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 739 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 21 เมษายน 2566) ผู้บริหาร 2 คน ครูผู้สอน 3๒ คน พนักงานราชการ 1 คน ผู้ช่วยครู ปฐมวัย จำนวน 1 คน ครูอัตราจ้าง 4 คน เจ้าหน้าที่ธุรการ 1 คน นักเรียนภารโรง 2 คน รวมข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 43 คน
5 1.6 ระบบโครงสร้างการบริหาร 1.7 แผนที่โรงเรียน
6 ห้องปฏิบัติการ ประเภท แบบ จำนวน หน่วย/ห้อง หมายเหตุ อาคารเรียน อาคารพิเศษ (วิชาการ) อาคารพิเศษ (คอมพิวเตอร์) อาคารพยาบาล สปช. 105 / 29 สปช. 105/29 (ปรับปรุง) สปช. รย. 106/43 สปช. 102 / 26 318 ล./55-ก 3/24 1/4 1/4 1/3 1/18 1 1 1 หลัง/ห้อง หลัง/ห้อง หลัง/ห้อง หลัง/ห้อง หลัง/ห้อง หลัง หลัง หลัง รื้อถอน แหล่งเรียนรู้ภายในและภายนอก ประเภท แบบ จำนวน หน่วย/ห้อง หมายเหตุ ห้องสมุด สปช. 203/26 1 หลัง อาคารห้องประชุมเล็ก - 1 ห้อง สนามเด็กเล่น - 1 สนาม สนามฟุตบอล - 1 สนาม สนามบาสเกตบอล - 1 สนาม สนามตะกร้อ - 1 สนาม สนามฟุตซอล - 1 สนาม ข้อมูลด้านการบริหาร ผู้บริหารสถานศึกษา แบ่งโครงสร้างการบริหารงานเป็น 4 งาน ได้แก่ งานวิชาการ งานงบประมาณ งานบริหารงานบุคคล และงานบริหารทั่วไป ผู้บริหารยึดหลักการบริหารเทคนิคการบริหารแบบการพัฒนา ตามกระบวนการ PDCA วิสัยทัศน์ของโรงเรียน โรงเรียนบ้านแหลมหิน มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา ก้าวหน้าเทคโนโลยี มีแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ดำรงชีวิตอย่างมีความสุขตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พันธกิจ ➢ พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา และมาตรฐานสากล มีสุขภาพกายและสุขภาพจิต ที่สมบูรณ์ มีคุณธรรม จริยธรรม รักความเป็นไทยและรับผิดชอบต่อสังคม ➢ ส่งเสริมครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ ความสามารถ มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ ➢ พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อสนองต่อความแตกต่างระหว่างบุคคลให้ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถตามมาตรฐานสากล สู่ความเป็นเลิศทางวิชาการอย่างยั่งยืน
7 ➢ พัฒนาสื่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพทางการศึกษา ➢ จัดกระบวนการเรียนการสอน การวัดและประเมินผลที่หลากหลายอย่างมีคุณภาพ เอื้อต่อการ พัฒนาผู้เรียนรอบด้าน ➢ พัฒนาการบริหารจัดการศึกษาอย่างมีระบบตามหลักธรรมาภิบาล ➢ พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นแหล่งเรียนรู้และมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ ➢ ประสานความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และสร้างภาคีเครือข่าย เพื่อสนับสนุนการ จัดการศึกษา เป้าประสงค์ 1. ผู้เรียนเป็นผู้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา เป็นคนเก่ง คนดี มีความสุข มีความรู้ความสามารถ ตามมาตรฐานสากล มีคุณธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม บนพื้นฐานความเป็นไทย น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การดำรงชีวิต 2. ครู และบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาศักยภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ และสามารถจัดการ เรียนการสอนตามมาตรฐานสากล 3. โรงเรียนมีหลักสูตรสถานศึกษาที่ส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชาการตามมาตรฐานสากล ตอบสนอง ความถนัดความต้องการของผู้เรียน ชุมชน และสังคม 4. โรงเรียนพัฒนาสื่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูและ นักเรียนใช้ในการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ 5. โรงเรียนมีการจัดกระบวนการเรียนการสอน กิจกรรมการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลที่มีคุณภาพที่ เอื้อต่อการพัฒนานักเรียนอย่างรอบด้าน 6. โรงเรียนมีการบริหารจัดการศึกษาอย่างมีระบบตามหลักธรรมาภิบาล 7. โรงเรียนพัฒนาแหล่งเรียนรู้ และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ 8. ชุมชน ผู้ปกครอง และภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ จุดเน้น คุณภาพของเด็ก โรงเรียนบ้านแหลมหิน เน้นการจัดการเรียนการสอนระดับปฐมวัยที่ส่งเสริมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน และความคิดสร้างสรรค์อย่างเหมาะสม มุ่งหวังให้เด็กปฐมวัยได้รับการพัฒนาให้มีความสมบูรณ์ ทางกาย ทาง จิตใจ ทางสังคม และสติปัญญา ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการสร้างเสริมสุขภาพอนามัย และสุขนิสัยที่ดีให้กับเด็ก และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือการออกกำลังกาย ทำจิตใจให้ร่าเริง แจ่มใสอยู่ เสมอด้วยการให้เด็กตระหนักถึงการมองโลกในแง่ดีครูจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามศักยภาพของ ผู้เรียน ฝึกให้ผู้เรียนมีระเบียบวินัย และเป็นไปตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตร การศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช ๒๕๖๐ ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน เป็นไปตามพัฒนาการและ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ โรงเรียนบ้านแหลมหินในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและเป็นไปตามศักยภาพ ของผู้เรียน มุ่งพัฒนาผู้เรียนโดยยึดหลัก 3R ผู้เรียนสามารถอ่าน เขียนและสื่อสารภาษาไทยได้เหมาะสมตาม ระดับชั้น มีนิสัยรักการอ่านและแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง โดยผ่านโครงการและจัดกิจกรรมส่งเสริมการคิด วิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหาทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ เน้น การคิดแบบโครงงาน ใช้กระบวนการกลุ่มในการทำงาน ให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ สามารถสร้างนวัตกรรมได้ด้วย
8 ตนเอง ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ โปรแกรมที่จำเป็นสำหรับนักเรียนตามระดับชั้น สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการประกอบการเรียนรู้ในกลุ่ม สาระต่าง ๆ ส่งเสริมให้นักเรียนได้มีความรู้ทักษะและเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถในการเตรียมความพร้อมทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ด้วยวิธีการการวัดและ ประเมินผลอย่างหลากหลาย กระบวนการบริหารและการจัดการ การดำเนินการกระบวนการบริหารและการจัดการ สถานศึกษาได้ดำเนินการวิเคราะห์สภาพปัญหา โดยการศึกษาข้อมูลสารสนเทศผลการจัดการศึกษาที่ผ่านมากำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์และพันธกิจอย่าง ชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน ความต้องการของชุมชน และท้องถิ่น วัตถุประสงค์ของแผนการศึกษา แห่งชาติ นโยบายของรัฐบาลและต้นสังกัด รวมทั้งทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม ปรับแผนพัฒนาคุณภาพ การศึกษา จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีการศึกษาจัดสรรงบประมาณ ทรัพยากรต่าง ๆ และมอบหมายให้แก่ ผู้รับผิดชอบได้ดำเนินงานพัฒนางาน โดยนำแผนไปปฏิบัติมีการนิเทศ ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลการ ดำเนินงานโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องด้วยกระบวนการ PDCA มีการบริหารอัตรากำลัง การ นิเทศภายใน นำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาบุคลากรและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการวางแผน ปรับปรุง พัฒนา และร่วมกันรับผิดชอบต่อการจัดการศึกษา เน้นคุณภาพนักเรียนรอบด้าน พัฒนาครูและบุคลากรให้มี ความเชี่ยวชาญทางด้านวิชาชีพตามความต้องการของครู จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อ การจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการ เรียนรู้ที่เหมาะสมกับสภาพของโรงเรียน กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สถานศึกษาส่งเสริมให้เด็กมีทักษะทางภาษาที่เหมาะสมในการเรียนการสอนระดับปฐมวัย การ ออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน โดยผ่านกิจกรรมหลัก ๖ กิจกรรม มีการจัดการเรียนรู้จัด ประสบการณ์บูรณาการวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์การจัดการเรียนการสอนแบบโครงการ (The Project Approach) ในแต่ละห้องเรียน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาปฐมวัย จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการ เรียนรู้ ใช้สื่อเทคโนโลยีที่มาบูรณาการกับการสอนตามหน่วยการเรียนรู้ และฝึกความเป็นระเบียบวินัย มารยาท โดยใช้กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม กิจกรรมหนูน้อยมารยาทงาม โรงเรียนส่งเสริมกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ปรับปรุงและพัฒนา หลักสูตร ดำเนินงานโครงการและกิจกรรมอย่างหลากหลาย ส่งเสริมให้ครูจัดการเรียนการสอนเน้นให้ผู้เรียน เรียนผ่านกระบวนการคิด ให้นักเรียนมีส่วนร่วม ปฏิบัติจริง เพื่อนำไปสู่การเรียนรู้ที่ลึกซึ้งและคงทน ตาม มาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา ครูมีการวางแผนการจัดการเรียนรู้ จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ สามารถนำไปใช้จัดกิจกรรมได้จริง ครูใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้ให้ผู้เรียนผ่านกระบวนการคิด จัดทำแผนการ จัดการเรียนรู้เน้นให้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ ลงมือปฏิบัติจริงสามารถสรุปองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง มีการวัดและประเมินผลผู้เรียนอย่างหลากหลายเพื่อนำผลมาพัฒนาผู้เรียน ครูร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้และ ประสบการณ์ด้วยกระบวนการ PLC นำผลที่ได้มาปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้
9 ๒. ข้อมูลบุคลากรของสถานศึกษา ๑. จำนวนบุคลากร บุคลากร ผู้บริหาร ข้าราชการครู พนักงาน ราชการ ครูอัตราจ้าง เจ้าหน้าที่ อื่นๆ รวมทั้งหมด จำนวน 2 3๒ 1 5 3 43 ๒. วุฒิการศึกษาสูงสุดของบุคลากร บุคลากร ต่ำกว่า ปริญญาตรี ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก รวมทั้งหมด จำนวน 2 36 5 - 43 ๒.๑ สัดส่วนครู : นักเรียน = 1 : 20 . มีครูที่สอนวิชาตรงตามวิชาเอก 35 คน (คิดเป็นร้อยละ 92.11 ) มีครูที่สอนวิชาตามความถนัด 3 คน (คิดเป็นร้อยละ 7.89 ) 2.๒ รางวัลและผลงานดีเด่น ๑. ผู้บริหาร (ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน) ได้รับรางวัลรางวัลครูดีศรีปราจีนบุรีประเภทผู้บริหารสถานศึกษา อำเภอเมืองปราจีนบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 รางวัลสถานศึกษาปลอดภัย ระดับดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2565 ปีที่ 4 ติดต่อกัน และเป็นผู้ให้การสนับสนุนการเรียนการสอนตามโครงการการศึกษาเพื่อต่อต้าน ยาเสพติดในเด็กนักเรียน (D.A.R.E. ประเทศไทย) ปีการศึกษา 2565 2. รองผู้อำนวยการ (โดยตำแหน่ง) ได้รับรางวัลรางวัลผู้บริหารสถานศึกษาต้นแบบ ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 ประจำปี พ.ศ. 2565 รางวัลโรงเรียนต้นแบบการพัฒนานวัตกรรม ระดับ เหรียญเงิน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 รางวัลสถานศึกษาปลอดภัย ระดับ ดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2565 ปีที่ 4 ติดต่อกัน และเป็นผู้ให้การสนับสนุนการเรียนการสอนตามโครงการ การศึกษาเพื่อต่อต้านยาเสพติดในเด็กนักเรียน (D.A.R.E. ประเทศไทย) ปีการศึกษา 2565 ๓. ครูที่ได้รับผลงานดีเด่น ประเภท รางวัลการประเมินห้องเรียนคุณภาพ ระดับดีเยี่ยม จำนวน 9 คน ประเภท รางวัลการประกวดผลงานนักเรียน จังหวัดปราจีนบุรี ตามโครงการอัจฉริยะ ยุวชน ประกันภัย ผลงานรูปแบบเพลง ระดับชนะเลิศ ประจำปี พ.ศ. 2565 จำนวน 2 คน ประเภท รางวัลการประกวดผลงานนักเรียน ภาค 4 (นครราชสีมา) ตามโครงการอัจฉริยะ ยุวชนประกันภัย ผลงานรูปแบบเพลง ระดับชมเชย ประจำปี พ.ศ. 2565 จำนวน 2 คน ประเภท รางวัลครูต้นแบบ ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 จำนวน 3 คน ประเภท รางวัลครูดีศรีปราจีนบุรี อำเภอเมืองปราจีนบุรีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 จำนวน 9 คน
10 ประเภท ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลการประกวดโครงงานคุณธรรม ม.1-ม.3 ระดับ เหรียญทอง งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ภาคกลางและภาคตะวันออก ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 2 คน ประเภท ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลการประกวดเล่านิทานคุณธรรม ม.1-ม.3 ระดับเหรียญทอง งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ภาคกลางและภาคตะวันออก ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 1 คน ประเภท ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลการแข่งขันการเขียนภาพจิตรกรรมไทยสีเอกรงค์ ม.1-ม.3 ระดับเหรียญทอง งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ภาคกลางและภาคตะวันออก ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 1 คน ประเภท ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลการแข่งขันขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ ประเภท ชาย ม.1-ม.3 ระดับเหรียญทอง งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ภาคกลางและภาคตะวันออก ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 1 คน ประเภท ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลการแข่งขันคัดลายมือสื่อภาษาไทย ป.4-ป.6 ระดับเหรียญเงิน งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ภาคกลางและภาคตะวันออก ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 1 คน ประเภท ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภท สิ่งประดิษฐ์ ม.1-ม.3 ระดับเหรียญเงิน งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติภาคกลางและภาคตะวันออก ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 1 คน ประเภท ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลการแข่งขันการสร้างสรรค์ภาพด้วยการปะติด ม.1-ม.3 ระดับเหรียญเงิน งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ภาคกลางและภาคตะวันออก ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 1 คน ประเภท ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลการแข่งขันจัดสวนถาดแบบชื้น ม.1-ม.3 ระดับเหรียญเงิน งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ภาคกลางและภาคตะวันออก ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 1 คน ประเภท ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลการแข่งขันกวีเยาวชนคนรุ่นใหม่ กลอนสี่ (๔ บท) ป.4-ป.6 เข้าร่วม งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ภาคกลางและภาคตะวันออก ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 1 คน ๓. สาขาวิชาที่จบการศึกษาและภาระงานสอน สาขาวิชา จำนวน (คน) ภาระงานสอนเฉลี่ยของครู ๑ คน ในแต่ละสาขาวิชา (ชม./สัปดาห์) ๑. บริหารการศึกษา 5 20 ๒. ภาษาไทย ๑ 20 ๓. คณิตศาสตร์ 4 20 ๔. วิทยาศาสตร์ 2 20 ๕. ภาษาอังกฤษ 5 20 ๖. สังคมศึกษา 1 20 ๗. พลศึกษา 2 20
11 สาขาวิชา จำนวน (คน) ภาระงานสอนเฉลี่ยของครู ๑ คน ในแต่ละสาขาวิชา (ชม./สัปดาห์) ๘. ประถมศึกษา 4 20 ๙. บรรณารักษ์ 2 20 10. คอมพิวเตอร์ 2 20 11. คหกรรม 1 20 12. ปฐมวัย 7 30 13. ฟิสิกส์ 1 20 14. ครุศาสตร์การออกแบบ 1 20 15. พัฒนาผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม 1 20 16. ชีววิทยา 1 20 รวม 40 21 ๔. ข้อมูลนักเรียน จำนวนนักเรียน ปีการศึกษา ๒๕๖๕ รวม 739 คน ระดับชั้นเรียน จำนวนห้อง เพศ รวม เฉลี่ยต่อห้อง ชาย หญิง อ.๑ 2 17 26 43 22 อ.๒ 3 32 35 67 22 อ.๓ 3 35 34 70 23 รวม 8 85 95 180 ป.๑ 2 34 25 59 30 ป.๒ 2 26 28 54 27 ป.๓ 2 35 33 68 34 ป.๔ 2 40 28 68 34 ป.๕ 2 27 33 60 30 ป.๖ 2 31 40 71 36 รวม 12 193 187 380 ม.๑ 2 33 29 62 31 ม.๒ 2 37 26 63 32 ม.๓ 2 28 26 54 27 รวม 6 98 81 179 รวมทั้งหมด 26 376 363 739
12 ๕. ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษาปีการศึกษา ๒๕๖๕ ระดับปฐมวัย ร้อยละของนักเรียนที่มีผลการประเมินพัฒนาการแต่ละด้านในระดับ ๒ ขึ้นไปหรือ ระดับ ๓ ระดับชั้น ผลการประเมินพัฒนาการนักเรียนด้าน ครบทั้ง ๔ ด้าน ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญา อ.๑ 43 43 43 43 100 อ.๒ ๖6 ๖6 ๖6 66 98.51 อ.๓ 70 70 70 70 100 รวม 179 179 179 179 99.44 ร้อยละ 99.44 99.44 99.44 99.44 99.44 ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑) ร้อยละของนักเรียนที่มีเกรดเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแต่ละรายวิชาในระดับ ๓ ขึ้นไป ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้แสดงจำนวนนักเรียนที่ได้ระดับ ๒ ขึ้นไปหรือระดับ ๓ ขึ้นไปตามเป้าหมาย ที่โรงเรียนกำหนด ชั้น (ป.๑ - ป.๖ และ ม.๑ - ม.๓) จำนวนนักเรียนที่ เข้าสอบ จำนวนนักเรียนที่ได้ระดับ ๒ ขึ้นไปหรือระดับ ๓ขึ้นไป ร้อยละ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ รวม ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๑ ๒ ๓ 59 54 68 69 59 71 62 63 58 563 ภาษาไทย 50 38 54 62 51 68 24 49 50 446 79.22 คณิตศาสตร์ 52 36 56 64 42 68 35 46 43 442 78.51 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 56 44 63 66 54 69 39 44 41 476 84.55 สังคมศึกษา 57 43 56 66 53 69 40 45 47 476 84.55 ภาษาอังกฤษ 56 48 49 65 46 66 36 44 37 447 79.40 สุขศึกษา 59 54 67 66 59 69 56 39 51 520 92.36 ศิลปะ 59 54 58 66 47 67 32 60 47 490 87.03 กอท. 58 49 67 66 57 69 27 41 48 482 85.61 เฉลี่ยร้อยละ 83.90 กลุ่มสาระ การเรียนรู้
13 ๒) ร้อยละของนักเรียนที่มีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ในระดับผ่านขึ้นไปหรือระดับดีขึ้น ไประดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ระดับชั้น จำนวน นักเรียน ผลการประเมิน ระดับดี ขึ้นไป ร้อยละ ไม่ผ่าน ผ่าน ดี ดีเยี่ยม ป.๑ 59 - 6 26 24 50 84.75 ป.๒ 54 - 6 26 22 48 88.89 ป.๓ 68 1 - 12 55 67 98.53 ป.๔ 69 2 1 23 42 65 94.20 ป.๕ 59 - - 11 48 59 100.00 ป.๖ 71 2 1 16 52 68 95.77 ม.๑ 62 2 1 47 12 59 95.16 ม.๒ 63 - 1 36 26 62 98.41 ม.๓ 58 - 2 23 29 52 89.66 รวม 563 7 18 220 310 530 94.13 ๓) ร้อยละของนักเรียนที่มีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านขึ้นไปหรือระดับดีขึ้นไป ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ระดับชั้น จำนวน นักเรียน ผลการประเมิน ระดับดี ขึ้นไป ร้อยละ ไม่ผ่าน ผ่าน ดี ดีเยี่ยม ป.๑ 59 - - 16 43 59 100.00 ป.๒ 54 - - 12 42 54 100.00 ป.๓ 68 1 - - 67 67 98.52 ป.๔ 69 2 1 - 66 66 95.65 ป.๕ 59 - - - 59 59 100.00 ป.๖ 71 2 - 3 65 68 95.77 ม.๑ 62 2 41 19 60 96.77 ม.๒ 63 - 1 24 38 62 98.41 ม.๓ 58 - - 9 45 54 93.10 รวม 563 7 2 105 459 549 97.51
14 ๔) ร้อยละของนักเรียนที่มีผลการประเมินสมรรถนะสำคัญตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในระดับผ่านขึ้นไปหรือระดับดีขึ้นไประดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ ๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ สมรรถนะสำคัญ ผลการประเมิน ระดับดี ขึ้นไป ร้อยละ ไม่ผ่าน ผ่าน ดี ดีเยี่ยม ๑. ความสามารถ ในการสื่อสาร 7 11 200 352 552 98.04 ๒. ความสามารถ ในการคิด 7 13 204 343 547 97.15 ๓. ความสามารถ ในการแก้ปัญหา 7 10 214 339 553 98.22 ๔. ความสามารถใน การใช้ทักษะชีวิต 7 13 201 349 550 97.69 ๕. ความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี 7 13 203 347 550 97.69 รวม 35 60 1,144 1,730 2,752 97.76 ๖. ผลการประเมินทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ (NT) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๑) ผลการประเมินทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ(NT) ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ความสามารถ คะแนนเฉลี่ยร้อยละ ระดับโรงเรียน ระดับสพฐ. ระดับประเทศ ด้านภาษาไทย 63.62 48.81 49.12 ด้านคณิตศาสตร์ 65.32 55.33 55.86 รวมความสามารถทั้ง ๒ ด้าน 64.47 52.07 52.50 ๒) การเปรียบเทียบผลการประเมินทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ(NT) ปีการศึกษา ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕ ความสามารถ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ร้อยละของผลต่าง ระหว่างปีการศึกษา ด้านภาษาไทย 65.22 63.62 -1.60 ด้านคณิตศาสตร์ 70.33 65.32 -5.01 รวมความสามารถทั้ง ๒ ด้าน 67.78 64.47 -3.31
15 ๗. ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ๑) ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา ๒๕๖๕ รายวิชา คะแนนเฉลี่ย ระดับโรงเรียน ระดับ สพฐ. ระดับประเทศ ภาษาไทย 58.59 52.80 53.89 คณิตศาสตร์ 23.43 26.52 28.06 วิทยาศาสตร์ 35.24 37.90 39.34 ภาษาอังกฤษ 32.16 33.57 37.62 ๒) การเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา ๒๕๖๔ – ๒๕๖๕ รายวิชา คะแนนเฉลี่ย ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ร้อยละของผลต่าง ระหว่างปีการศึกษา ภาษาไทย 45.74 58.59 +12.85 คณิตศาสตร์ 35.32 23.43 -11.89 วิทยาศาสตร์ 31.77 35.24 +3.47 ภาษาอังกฤษ 27.21 32.16 +4.95 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ๑) ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา ๒๕๖๕ รายวิชา คะแนนเฉลี่ย ระดับโรงเรียน ระดับ สพฐ. ระดับประเทศ ภาษาไทย 54.17 53.91 52.95 คณิตศาสตร์ 24.10 24.66 24.39 วิทยาศาสตร์ 33.44 33.67 33.32 ภาษาอังกฤษ 25.92 31.75 32.05 ๒) การเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา ๒๕๖๔ – ๒๕๖๕ รายวิชา คะแนนเฉลี่ย ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ร้อยละของผลต่าง ระหว่างปีการศึกษา ภาษาไทย 57.62 54.17 -3.45 คณิตศาสตร์ 14.25 24.10 +9.85 วิทยาศาสตร์ 32.55 33.44 +0.89 ภาษาอังกฤษ 32.19 25.92 -6.27
16 ๘. ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (RT) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ๑) ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (RT) ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ความสามารถ คะแนนเฉลี่ยร้อยละ ระดับโรงเรียน ระดับสพฐ. ระดับประเทศ การอ่านออกเสียง 90.19 77.24 77.38 การอ่านรู้เรื่อง 88.78 77.19 77.19 รวมความสามารถทั้ง ๒ ด้าน 89.48 77.22 77.28 ๒) การเปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (RT) ปีการศึกษา ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕ ความสามารถ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ร้อยละของผลต่าง ระหว่างปีการศึกษา การอ่านออกเสียง 88.83 90.19 +1.36 การอ่านรู้เรื่อง 92.16 88.78 -3.38 รวมความสามารถทั้ง ๒ ด้าน 90.50 89.48 -1.02
17 ๙. โครงสร้างหลักสูตร โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านแหลมหิน ระดับประถมศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรียน (ชม. / ปี) รายวิชาพื้นฐาน 840 ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย 1 ๒๐๐ ค๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ 1 ๒๐๐ ว๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐ วิทยาการคำนวณ 1 40 ส๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา 1 4๐ ส๑๑๑๐๒ ประวัติศาสตร์ 1 ๔๐ พ๑๑๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา 1 ๔๐ ศ๑๑๑๐๑ ศิลปะ 1 ๔๐ ง๑๑๑๐๑ การงานอาชีพ 1 ๔๐ อ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ 1 120 รายวิชาเพิ่มเติม 12๐ ว๑๑๒๐๑ คอมพิวเตอร์ 1 ๔๐ อ๑๑2๐๑ เสริมทักษะภาษาอังกฤษ 1 80 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๒๐ ▪ กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ▪ ลูกเสือ / เนตรนารี และกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ 4๐ ▪ กิจกรรมชุมนุม ๔๐ กิจกรรมเสริมหลักสูตร 120 ซ่อมเสริม 120 รวมเวลาเรียนทั้งสิ้น ๑,2๐๐
18 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรียน (ชม. / ปี) รายวิชาพื้นฐาน 840 ท๑2๑๐๑ ภาษาไทย 2 ๒๐๐ ค๑2๑๐๑ คณิตศาสตร์ 2 ๒๐๐ ว๑2๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐ วิทยาการคำนวณ 2 40 ส๑2๑๐๑ สังคมศึกษา 2 4๐ ส๑2๑๐๒ ประวัติศาสตร์ 2 ๔๐ พ๑2๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา 2 ๔๐ ศ๑2๑๐๑ ศิลปะ 2 ๔๐ ง๑2๑๐๑ การงานอาชีพ 2 ๔๐ อ๑2๑๐๑ ภาษาอังกฤษ 2 120 รายวิชาเพิ่มเติม 12๐ ว๑2๒๐1 คอมพิวเตอร์ 2 ๔๐ อ๑22๐๑ เสริมทักษะภาษาอังกฤษ 2 80 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๒๐ ▪ กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ▪ ลูกเสือ / เนตรนารี และกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ 4๐ ▪ กิจกรรมชุมนุม ๔๐ กิจกรรมเสริมหลักสูตร 120 ซ่อมเสริม 120 รวมเวลาเรียนทั้งสิ้น ๑,2๐๐
19 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรียน (ชม. / ปี) รายวิชาพื้นฐาน 840 ท๑3๑๐๑ ภาษาไทย 3 ๒๐๐ ค๑3๑๐๑ คณิตศาสตร์3 ๒๐๐ ว๑3๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐ วิทยาการคำนวณ 3 40 ส๑3๑๐๑ สังคมศึกษา 3 4๐ ส๑3๑๐๒ ประวัติศาสตร์ 3 ๔๐ พ๑3๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา 3 ๔๐ ศ๑3๑๐๑ ศิลปะ 3 ๔๐ ง๑3๑๐๑ การงานอาชีพ 3 ๔๐ อ๑3๑๐๑ ภาษาอังกฤษ 3 120 รายวิชาเพิ่มเติม 12๐ ว๑3๒๐1 คอมพิวเตอร์ 3 ๔๐ อ๑32๐๑ เสริมทักษะภาษาอังกฤษ 3 80 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๒๐ ▪ กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ▪ ลูกเสือ / เนตรนารี และกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ 4๐ ▪ กิจกรรมชุมนุม ๔๐ กิจกรรมเสริมหลักสูตร 120 ซ่อมเสริม 120 รวมเวลาเรียนทั้งสิ้น ๑,2๐๐
20 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรียน (ชม. / ปี) รายวิชาพื้นฐาน 840 ท๑4๑๐๑ ภาษาไทย 4 160 ค๑4๑๐๑ คณิตศาสตร์ 4 160 ว๑4๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐ วิทยาการคำนวณ 4 40 ส๑4๑๐๑ สังคมศึกษา 4 ๘๐ ส๑4๑๐๒ ประวัติศาสตร์4 ๔๐ พ๑4๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา 4 80 ศ๑4๑๐๑ ศิลปะ 4 80 ง๑4๑๐๑ การงานอาชีพ 4 40 อ๑4๑๐๑ ภาษาอังกฤษ 4 80 รายวิชาเพิ่มเติม 12๐ ว๑4๒๐1 คอมพิวเตอร์ 4 ๔๐ อ๑42๐๑ เสริมทักษะภาษาอังกฤษ 4 80 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๒๐ ▪ กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ▪ ลูกเสือ / เนตรนารี และกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ 4๐ ▪ กิจกรรมชุมนุม ๔๐ กิจกรรมเสริมหลักสูตร 80 ซ่อมเสริม 120 รวมเวลาเรียนทั้งสิ้น ๑,2๐๐
21 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรียน (ชม. / ปี) รายวิชาพื้นฐาน 840 ท๑5๑๐๑ ภาษาไทย 5 160 ค๑51๐๑ คณิตศาสตร์ 5 160 ว๑5๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐ วิทยาการคำนวณ 5 40 ส๑5๑๐๑ สังคมศึกษา 5 ๘๐ ส๑5๑๐๒ ประวัติศาสตร์ 5 ๔๐ พ๑5๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา 5 80 ศ๑5๑๐๑ ศิลปะ 5 80 ง๑5๑๐๑ การงานอาชีพ 5 40 อ๑4๑๐๑ ภาษาอังกฤษ 5 80 รายวิชาเพิ่มเติม 12๐ ว๑5๒๐1 คอมพิวเตอร์ 5 ๔๐ อ๑52๐๑ เสริมทักษะภาษาอังกฤษ 5 80 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๒๐ ▪ กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ▪ ลูกเสือ / เนตรนารี และกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ 4๐ ▪ กิจกรรมชุมนุม ๔๐ กิจกรรมเสริมหลักสูตร 80 ซ่อมเสริม 120 รวมเวลาเรียนทั้งสิ้น ๑,2๐๐
22 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรียน (ชม. / ปี) รายวิชาพื้นฐาน 840 ท๑6๑๐๑ ภาษาไทย 6 160 ค๑6๑๐๑ คณิตศาสตร์ 6 160 ว๑6๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐ วิทยาการคำนวณ 6 40 ส๑6๑๐๑ สังคมศึกษา 6 ๘๐ ส๑6๑๐๒ ประวัติศาสตร์ 6 ๔๐ พ๑6๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา 6 80 ศ๑6๑๐๑ ศิลปะ 6 80 ง๑6๑๐๑ การงานอาชีพ 6 80 อ๑6๑๐๑ ภาษาอังกฤษ 6 80 รายวิชาเพิ่มเติม 12๐ ว๑6๒๐1 คอมพิวเตอร์ 6 ๔๐ อ๑62๐๑ เสริมทักษะภาษาอังกฤษ 6 80 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๒๐ ▪ กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ▪ ลูกเสือ / เนตรนารีและกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ 4๐ ▪ กิจกรรมชุมนุม ๔๐ กิจกรรมเสริมหลักสูตร 80 ซ่อมเสริม 120 รวมเวลาเรียนทั้งสิ้น ๑,2๐๐
23 โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านแหลมหิน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ (ภาคเรียนที่ ๑) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ (ภาคเรียนที่ ๒) รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรียน (หน่วยกิต/ ชม.) รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรียน (หน่วยกิต/ ชม.) รายวิชาพื้นฐาน ๑๑ (๔40) รายวิชาพื้นฐาน ๑๑ (๔40) ท๒๑๑๐๑ ภาษาไทย๑ ๑.๕ (๖๐) ท๒๑๑๐๒ ภาษาไทย๒ ๑.๕ (๖๐) ค๒๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ ๑.๕ (๖๐) ค๒๑๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๒ ๑.๕ (๖๐) ว๒๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๑ ๑.๕ (๖๐) ว๒๑๑๐3 วิทยาศาสตร์ 2 ๑.๕ (๖๐) ว21102 วิทยาการคำนวณ1 ๐.๕ (๒๐) ว21104 การออกแบบและเทคโนโลยี 1 ๐.๕ (๒๐) ส๒๑๑๐๑ สังคมศึกษา ๑ ๑.๐ (๔๐) ส๒๑๑๐๔ สังคมศึกษา ๒ ๑.๐ (๔๐) ส๒๑๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๑ ๐.๕ (๒๐) ส๒๑๑๐๕ ประวัติศาสตร์ ๒ ๐.๕ (๒๐) ส๒๑๑๐๓ พระพุทธศาสนา ๑ ๐.๕ (๒๐) ส๒๑๑๐๖ พระพุทธศาสนา ๒ ๐.๕ (๒๐) พ๒๑๑๐๑ สุขศึกษา ๑ ๐.๕ (๒๐) พ๒๑๑๐๓ สุขศึกษา ๒ ๐.๕ (๒๐) พ๒๑๑๐๒ พลศึกษา ๑ ๐.๕ (๒๐) พ๒๑๑๐๔ พลศึกษา ๒ ๐.๕ (๒๐) ศ๒๑๑๐๑ ศิลปศึกษา ๑ ๐.๕ (๒๐) ศ๒๑๑๐๓ ศิลปศึกษา ๒ ๐.๕ (๒๐) ศ๒๑๑๐๒ ดนตรีและนาฏศิลป์ ๑ ๐.๕ (๒๐) ศ๒๑๑๐๔ ดนตรีและนาฏศิลป์ ๒ ๐.๕ (๒๐) ง๒๑๑๐๑ การงานอาชีพ ๑ 0.5 (2๐) ง๒๑๑๐๒ การงานอาชีพ ๒ 0.5 (2๐) อ๒๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ ๑.๕ (๖๐) อ๒๑๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๒ ๑.๕ (๖๐) รายวิชาเพิ่มเติม ๒.๕ (๑๐๐) รายวิชาเพิ่มเติม ๒.๕ (๑๐๐) ค๒๑๒๐๑ เสริมทักษะภาษาอังกฤษ ๑ 1.0 (4๐) ค๒๑๒๐๒ เสริมทักษะภาษาอังกฤษ 2 ๑.๐ (๔๐) ว๒๑๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๑ ๐.๕ (๒๐) ว๒๑๒๐๒ คอมพิวเตอร์ ๒ ๐.๕ (๒๐) ง๒๑๒๐1 - ง๒๑๒๐๔ งานอาชีพ ๑.๐ (๔๐) ง๒๑๒๐5 - ง๒๑๒๐๘ งานอาชีพ ๑.๐ (๔๐) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (๖๐) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (๖๐) ▪ กิจกรรมแนะแนว (๒๐) ▪ กิจกรรมแนะแนว (๒๐) ▪ กิจกรรมนักเรียน ▪ กิจกรรมนักเรียน ลูกเสือ / เนตรนารี (๑๐) ลูกเสือ / เนตรนารี (๑๐) ชุมนุม (๒๐) ชุมนุม (๒๐) ▪ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะ ประโยชน์ ๑๐ ▪ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะ ประโยชน์ ๑๐ รวมเวลาทั้งสิ้น ๖๐๐ รวมเวลาทั้งสิ้น ๖๐๐
24 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ (ภาคเรียนที่ ๑) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ (ภาคเรียนที่ ๒) รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรียน (หน่วยกิต/ ชม.) รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรียน (หน่วยกิต/ ชม.) รายวิชาพื้นฐาน ๑๑ (๔4๐) รายวิชาพื้นฐาน ๑๑ (๔4๐) ท๒๒๑๐๑ ภาษาไทย๓ ๑.๕ (๖๐) ท๒๒๑๐๒ ภาษาไทย๔ ๑.๕ (๖๐) ค๒๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ ๑.๕ (๖๐) ค๒๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๔ ๑.๕ (๖๐) ว๒๒๑๐1 วิทยาศาสตร์ ๓ ๑.๕ (๖๐) ว๒๒๑๐3 วิทยาศาสตร์ ๔ ๑.๕ (๖๐) ว22102 วิทยาการคำนวณ 2 ๐.๕ (๒๐) ว22104 การออกแบบและเทคโนโลยี 2 ๐.๕ (๒๐) ส๒๒๑๐๑ สังคมศึกษา ๓ ๑.๐ (๔๐) ส๒๒๑๐๔ สังคมศึกษา ๔ ๑.๐ (๔๐) ส๒๒๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๓ ๐.๕ (๒๐) ส๒๒๑๐๕ ประวัติศาสตร์ ๔ ๐.๕ (๒๐) ส๒๒๑๐๓ พระพุทธศาสนา ๓ ๐.๕ (๒๐) ส๒๒๑๐๖ พระพุทธศาสนา ๔ ๐.๕ (๒๐) พ๒๒๑๐๑ สุขศึกษา ๓ ๐.๕ (๒๐) พ๒๒๑๐๓ สุขศึกษา ๔ ๐.๕ (๒๐) พ๒๒๑๐๒ พลศึกษา ๓ ๐.๕ (๒๐) พ๒๒๑๐๔ พลศึกษา ๔ ๐.๕ (๒๐) ศ๒๒๑๐๑ ศิลปศึกษา ๓ ๐.๕ (๒๐) ศ๒๒๑๐๓ ศิลปศึกษา ๔ ๐.๕ (๒๐) ศ๒๒๑๐๒ ดนตรีและนาฏศิลป์ ๓ ๐.๕ (๒๐) ศ๒๒๑๐๔ ดนตรีและนาฏศิลป์๔ ๐.๕ (๒๐) ง๒๒๑๐๑ การงานอาชีพ ๓ 0.5 (2๐) ง๒๒๑๐๒ การงานอาชีพ ๔ ๐.5 (2๐) อ๒๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๓ ๑.๕ (๖๐) อ๒๒๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๔ ๑.๕ (๖๐) รายวิชาเพิ่มเติม ๒.๕ (๑๐๐) รายวิชาเพิ่มเติม ๒.๕ (๑๐๐) ค๒๒๒๐๑ เสริมทักษะภาษาอังกฤษ 3 ๑.๐ (๔๐) ค๒๒๒๐๒ เสริมทักษะภาษาอังกฤษ 4 ๑.๐ (๔๐) ว๒๒๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๓ ๐.๕ (๒๐) ว๒๒๒๐2 คอมพิวเตอร์ ๔ ๐.๕ (๒๐) ง๒๒๒๐1 - ง๒๒๒๐๔ งานอาชีพ ๑.๐ (๔๐) ง๒๒๒๐5 - ง๒๒๒๐๘ งานอาชีพ ๑.๐ (๔๐) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (๖๐) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (๖๐) ▪ กิจกรรมแนะแนว (๒๐) ▪ กิจกรรมแนะแนว (๒๐) ▪ กิจกรรมนักเรียน ▪ กิจกรรมนักเรียน ลูกเสือ / เนตรนารี (๑๕) ลูกเสือ / เนตรนารี (๑๐) ชุมนุม (๒๐) ชุมนุม (๒๐) ▪ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะ ประโยชน์ ๕ ▪ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะ ประโยชน์ ๑๐ รวมเวลาเรียนทั้งสิ้น ๖๐๐ รวมเวลาเรียนทั้งสิ้น ๖๐๐
25 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ (ภาคเรียนที่ ๑) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ (ภาคเรียนที่ ๒) รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรียน (หน่วยกิต/ ชม.) รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรียน (หน่วยกิต/ ชม.) รายวิชาพื้นฐาน ๑๑ (๔4๐) รายวิชาพื้นฐาน ๑๑ (๔4๐) ท๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ๑.๕ (๖๐) ท๒๓๑๐๒ ภาษาไทย ๖ ๑.๕ (๖๐) ค๒๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ ๑.๕ (๖๐) ค๒๓๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๖ ๑.๕ (๖๐) ว๒๓๑๐1 วิทยาศาสตร์ ๕ ๑.๕ (๖๐) ว๒๓๑03 วิทยาศาสตร์ ๖ ๑.๕ (๖๐) ว23102 วิทยาการคำนวณ 3 ๐.๕ (๒๐) ว23104 การออกแบบและเทคโนโลยี 3 ๐.๕ (๒๐) ส๒๓๑๐๑ สังคมศึกษา ๕ ๑.๐ (๔๐) ส๒๓๑๐๔ สังคมศึกษา ๖ ๑.๐ (๔๐) ส๒๓๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๕ ๐.๕ (๒๐) ส๒๓๑๐๕ ประวัติศาสตร์ ๖ ๐.๕ (๒๐) ส๒๓๑๐๓ พระพุทธศาสนา ๕ ๐.๕ (๒๐) ส๒๓๑๐๖ พระพุทธศาสนา ๖ ๐.๕ (๒๐) พ๒๓๑๐๑ สุขศึกษา ๕ ๐.๕ (๒๐) พ๒๓๑๐๓ สุขศึกษา ๖ ๐.๕ (๒๐) พ๒๓๑๐๒ พลศึกษา ๕ ๐.๕ (๒๐) พ๒๓๑๐๔ พลศึกษา ๖ ๐.๕ (๒๐) ศ๒๓๑๐๑ ศิลปศึกษา ๕ ๐.๕ (๒๐) ศ๒๓๑๐๓ ศิลปศึกษา ๖ ๐.๕ (๒๐) ศ๒๓๑๐๒ ดนตรีและนาฏศิลป์ ๕ ๐.๕ (๒๐) ศ๒๓๑๐๔ ดนตรีและนาฏศิลป์ ๖ ๐.๕ (๒๐) ง๒๓๑๐๑ การงานอาชีพ ๕ 0.5 (2๐) ง๒๓๑๐๒ การงานอาชีพ๖ 0.5 (2๐) อ๒๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๕ ๑.๕ (๖๐) อ๒๓๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๖ ๑.๕ (๖๐) รายวิชาเพิ่มเติม ๒.๕ (๑๐๐) รายวิชาเพิ่มเติม ๒.๕ (๑๐๐) ค๒๓๒๐๑ เสริมทักษะภาษาอังกฤษ 5 ๑.๐ (๔๐) ค๒๓๒๐๒ เสริมทักษะภาษาอังกฤษ 6 ๑.๐ (๔๐) ว๒๓๒๐๑ คอมพิวเตอร์ ๕ ๐.๕ (๒๐) ว๒๓๒๐2 คอมพิวเตอร์ ๖ ๐.๕ (๒๐) ง๒๓๒๐1 - ง๒๓๒๐๔ งานอาชีพ ๑.๐ (๔๐) ง๒๓๒๐5 - ง๒๓๒๐๘ งานอาชีพ ๑.๐ (๔๐) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (๖๐) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (๖๐) ▪ กิจกรรมแนะแนว (๒๐) ▪ กิจกรรมแนะแนว (๒๐) ▪ กิจกรรมนักเรียน ▪ กิจกรรมนักเรียน ลูกเสือ / เนตรนารี (๑๕) ลูกเสือ / เนตรนารี (๑๐) ชุมนุม (๒๐) ชุมนุม (๒๐) ▪ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะ ประโยชน์ ๕ ▪ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะ ประโยชน์ ๑๐ รวมเวลาเรียนทั้งสิ้น ๖๐๐ รวมเวลาเรียนทั้งสิ้น ๖๐๐
26 ๑๐. โครงสร้างเวลาเรียน ระดับ สาระ / กิจกรรม เวลาเรียน หมายเหตุ ประถมศึกษา มัธยมศึกษา ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑.๒๐ วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี 120 120 120 120 120 120 ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ วิทยาการคำนวณ 40 40 40 สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม 40 40 40 80 80 80 80 80 80 ประวัติศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ พุทธศาสนา 40 40 40 สุขศึกษาและพลศึกษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ศิลปะ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ การงานอาชีพ ๔๐ ๔๐ ๔๐ 40 40 40 4๐ 4๐ 4๐ ภาษาต่างประเทศ 120 120 120 80 80 80 ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ รวมเวลาเรียนพื้นฐาน 840 840 840 840 840 840 ๘๘๐ ๘๘๐ ๘๘๐ รายวิชาเพิ่มเติม คอมพิวเตอร์ ๔๐ 40 ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ เสริมทักษะภาษาอังกฤษ 80 80 80 80 80 80 80 80 80 งานอาชีพ - - - - - - 80 80 80 รวมเวลาเรียน(เพิ่มเติม) 120 120 12๐ 12๐ 12๐ 12๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ กิจกรรมเสริมหลักสูตร ซ่อมเสริม 120 120 120 120 120 120 - - -
27 ระดับ สาระ / กิจกรรม เวลาเรียน หมายเหตุ ประถมศึกษา มัธยมศึกษา ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ - ลูกเสือ / เนตรนารี ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ 30 30 30 - ชุมนุม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ กิจกรรมเพื่อสังคมและ สาธารณะประโยชน์ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ 10 10 10 รวมเวลากิจกรรม พัฒนาผู้เรียน ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ รวมเวลาเรียน 1,200 1,200 1,200 1,200 1,200 1,200 ๑,๒๐๐ ๑,๒๐๐ ๑,๒๐๐
28 ๑๑. แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการใช้ ห้องสมุดมีขนาด 240 ตารางเมตร จำนวนหนังสือในห้องสมุดทั้งหมด 1,000 เล่ม การสืบค้น หนังสือ และการยืม-คืนใช้ระบบ แมนนวล จำนวนนักเรียนที่ใช้ห้องสมุดในปีการศึกษานี้ คิดเป็น 100 คน/วัน แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน (นอกจากห้องสมุด) และแหล่งเรียนรู้ภายนอกห้องเรียน พร้อมทั้งสถิติ การใช้ 40 จำนวนครั้ง/ปี) เฉลี่ยสูงสุดเดือน กรกฎาคม ต่ำสุดเดือน กุมภาพันธ์ . ชื่อแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน สถิติการใช้ (จำนวนครั้ง/ปี) ชื่อแหล่งเรียนรู้ภายนอกโรงเรียน สถิติการใช้ (จำนวน ครั้ง/ปี) (ทั้งแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติและที่สร้างขึ้น รวมทั้งสถานประกอบการ) 1.แปลงเกษตร 40 1.วิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร 2.วัดเกาะเค็ดใน 3.วัดเกาะเค็ดนอก 1 ๑ 1 ปราชญ์ชาวบ้าน/ภูมิปัญญาท้องถิ่น/ผู้ทรงคุณวุฒิที่สถานศึกษาเชิญมาให้ความรู้แก่ครู/นักเรียน ในปีการศึกษานี้ 1.ชื่อ นางประกิจ ทำมี ให้ความรู้เรื่อง การทำขนมไทย 2.ชื่อ นายสำเนา เมืองสุข ให้ความรู้เรื่อง การทำสวนผสม เช่น สวนทุเรียน มังคุด เงาะ เป็นต้น 12. ผลการประเมินคุณภาพภายนอก ผลการประเมินคุณภาพรอบสี่ (พ.ศ. 2559-2563) โรงเรียนบ้านแหลมหิน ได้รับการประเมินภายนอก รอบสี่ จากสมศ. ระหว่างวันที่ ๖ – ๘ มกราคม ๒๕๖๓ โดยมีผลการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ดังนี้ ระดับปฐมวัย จุดเด่น ด้านคุณภาพของผู้เรียน เด็กส่วนใหญ่มีพัฒนาการด้านร่างกายสมวัย มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง รูปร่างสมส่วน มีทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะเพลง เคลื่อนไหวอิสระได้คล่องแคล่ว ได้รับประทานอาหารกลางวันที่มีสารอาหารครบ ๕ หมู่ตามหลักโภชนาการ มีทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ได้ดีเด็กสร้างภาพจากงานศิลปะด้วยความคิดสร้างสรรค์ได้หลากหลาย ทั้งวาดภาพ ระบายสีหยดสีสร้างภาพ ด้วยการฉีก ตัด ปะ กระดาษ และวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น การปั้นดินน้ำมัน เด็กส่วนใหญ่มีพัฒนาการด้าน อารมณ์และจิตใจสมวัย มีความกล้าแสดงออก สนุกสนานร่าเริงแจ่มใส ชื่นชอบงานศิลปะ มีอารมณ์ร่วมและ ตอบสนองต่อเพลงและจังหวะ ชอบทำท่าทางประกอบการเคลื่อนไหวร่างกายตามเพลง มีความซื่อสัตย์รู้จัก การแบ่งปันผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของทางสถานศึกษา
29 ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ ๑. ภาคีเครือข่าย ได้แก่คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง ชุมชนและท้องถิ่น มีความเข็มแข็งให้การส่งเสริมสนับสนุนในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างสม่ำเสมอและมีความต่อเนื่อง มีการจัดสรรงบประมาณให้สถานศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้านปฐมวัยร่วมกับสถานศึกษาในการ ระดมทุนเพื่อหางบประมาณเพิ่มเติม เพื่อมาพัฒนาการศึกษาปฐมวัย เช่น การทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา เป็นต้น ๒. สถานศึกษามีเนื้อที่กว้างขวางพอเพียงต่อการจัดกิจกรรมและมีอาณาเขตที่มีความ ปลอดภัย สภาพแวดล้อมและบรรยากาศภายในสถานศึกษาที่มีความร่มรื่น สวยงาม เอื้อต่อการจัด ประสบการณ์การเรียนรู้ตลอดจนการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในส่วนที่เป็นของสถานศึกษาและในส่วนที่ ให้บริการแก่ชุมชน ท้องถิ่นและหน่วยงานต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ๑. มีครูผู้สอนที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาปฐมวัย และสาขาที่เกี่ยวข้องทั้งห้องเรียน มีความรู้เกี่ยวกับจิตวิทยาพัฒนาการของเด็กแต่ละวัย มีการพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ ทั้งจากการเข้ารับการ อบรมจากหน่วยงานต้นสังกัด การศึกษาดูงาน การจัดให้มีPLC และการจัดทำรายงานการประเมินตนเอง (SAR) ร้ายงานการเข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของครูผู้สอนปฐมวัยทุกคน ๒. ครูและครูพี่เลี้ยงเด็ก มีความมุ่งมั่นอุทิศตนในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ มีความ สุภาพ อ่อนน้อม เป็นที่ยอมรับของผู้ปกครองและชุมชน เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ให้ความรักและดูแลเด็ก ทุกคน ๓. ครูจัดห้องเรียนได้เหมาะสม สะอาด อากาศถ่ายเทได้ดีมีมุมประสบการณ์ครบ มีป้ายนิเทศ และพื้นที่แสดงผลงานเด็ก จุดที่ควรพัฒนา ด้านคุณภาพของผู้เรียน การฝึกให้เด็กมีสุขนิสัยที่ดีในการดูแลรักษาสุขอนามัยส่วนตน และปฏิบัติจนเป็นนิสัย ปฏิบัติ ตนตามข้อตกลงในการระมัดระวังความปลอดภัยในตนเองต่อการทำกิจกรรม หรือการเล่นในสถานที่ต่าง ๆ ภายในสถานศึกษาที่อาจเกิดอันตรายได้การพัฒนาเด็กให้มีระเบียบวินัยในการเข้าแถวและเดินเป็นแถว ขณะปฏิบัติกิจกรรมทั้งในและนอกห้องเรียน เด็กได้รับการพัฒนาด้านสติปัญญายังไม่หลากหลายในด้านการคิด แก้ปัญหา การคิดรวบยอด ตลอดจนทักษะการสื่อสารให้เหมาะสมตามวัย ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ ๑. การทำกิจกรรมหน้าเสาธงเด็กปฐมวัยควรอยู่ในแถวที่อาการสงบเรียบร้อย ๒. สนามเด็กเล่นของเด็กปฐมวัย ควรได้รับการพัฒนาเป็นอย่างยิ่ง ๓. พื้นระเบียงทางเดินหน้าห้องเรียน และตามจุดต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณอาคารเด็กปฐมวัยควรได้ รับการปรับปรงพัฒนาให้มีความปลอดภัยและสวยงามขึ้น ๔. สถานศึกษายังขาดครูปฐมวัย จำนวน ๒ คน ครูพี่เลี้ยง จำนวน ๒ คน สถานศึกษาควร สรรหาครูปฐมวัยและครูพี่เลี้ยงให้ครบตามจำนวนชั้นเรียนตามเกณฑ์ที่กระทรวงกำหนด ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ๑. การส่งเสริมศักยภาพครูและครูพี่เลี้ยงเด็ก ในการจัดประสบการณ์เรียนรู้ตามกระบวนการ รูปแบบโครงการ (Project Approach)
30 ๒. การฝึกให้เด็กมีสุขนิสัยที่ดีในการดูแลรักษาสุขอนามัยส่วนตน และการรักษาความ ปลอดภัยของตนเองในขณะปฏิบัติกิจกรรมหรือขณะเล่น ๓. การฝึกให้มีระเบียบวินัยในการปฏิบัติกิจกรรมประจำวัน 1. ข้อเสนอแนะ ด้านคุณภาพของผู้เรียน ๑. เด็กปฐมวัยควรได้รับการฝึกให้มีสุขนิสัยที่ดีในการดูแลรักษาสุขอนามัยส่วนตนจนเป็นนิสัย ครูหรือครูพี่เลี้ยงควรกำชับในเรื่องการปฏิบัติตนตามข้อตกลงในการระมัดระวังความปลอดภัยตนเองในขณะ ปฏิบัติกิจกรรมหรือขณะเล่น และตามจุดเสี่ยงทั้งภายในสถานศึกษา และสถานที่อื่นที่อาจเกิดอันตรายได้ ๒. เด็กควรได้รับการฝึกให้มีระเบียบวินัยในการเข้าแถว และเดินเป็นแถวระหว่างไปร่วม กิจกรรมต่าง ๆ นอกห้องเรียนอย่างเป็นระเบียบ เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการด้านสังคมเหมาะสมกับวัยมากขึ้น เช่น กิจกรรมหน้าเสาธง กิจกรรมกลางแจ้ง การรับประทานอาหาร การเข้าห้องน้ำ แปรงฟัน ล้างมือ ตลอดจน กำชับเรื่องมารยาทในการรับประทานอาหาร เป็นต้น โดยครูหรือครูพี่เลี้ยงควรกำชับให้เด็กฝึกปฏิบัติผ่าน กิจกรรมประจำวัน ทุกกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ ๓. เด็กควรได้รับการพัฒนาด้นสติปัญญาอย่างหลากหลาย ไม่ควรเน้นเพียงด้านใดด้านหนึ่ง โดยเฉพาะ ให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการเล่นและทำกิจกรรมตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖0 ให้เด็กได้มีโอกาสนำเสนอผลงานจากกระบวนการเรียนรู้อย่างมีความหมายผ่านประสาทสัมผัสทั้ง ๕ เพื่อพัฒนาทักษะภาษาและการสื่อสาร ฝึกทักษะผ่านเกมการศึกษาที่สัมพันธ์กับหน่วยการเรียนรู้ในแต่ละ สัปดาห์เช่น เกมจับคู่ภาพ เกมเรียงลำดับภาพและเหตุการณ์เป็นต้น ส่วนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ควรจัด ให้เด็กเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ผ่านรูปแบบโครงการ (Project Approach) เด็กนำเสนอสิ่งที่พบเห็นหรือ ค้นพบโดยการเล่า วาดภาพ ถ่ายภาพ หรือเขียนสื่อความง่าย ๆ ตามวัย ตลอดจนให้เด็กได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีตามกระบวนการสะเต็มศึกษา (Stem Education) ที่เป็นจุดเน้นของสถานศึกษา ที่ได้เข้าร่วมโครงการของต้นสังกัด ให้มีความชัดเจนและลุ่มลึกมากยิ่งขึ้น ฝึกให้เด็กตอบคำถามจากคำถาม ปลายเปิด อะไร ทำไม อย่างไร เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการด้านสติปัญญาสมวัย กำหนดการดำเนินการปรับปรุงตามข้อเสนอแนะภายใน ๑ ปี ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ ๑. ครูปฐมวัยต้องฝึกและกำกับดูแลให้เด็กปฐมวัยมีระเบียบ มีวินัยในการเข้าแถวทำกิจกรรม หน้าเสาธงในตอนเช้า และควรฝึกให้เด็กปฐมวัยอยู่ในอาการที่สงบมีความอดทน ขณะที่กิจกรรมกำลัง ดำเนินการตามกระบวนการ เช่น ชักธงร้องเพลงชาติสวดมนต์ไหว้พระ ครูปฐมวัยควรกำกับเด็กอยู่ด้านหลัง แถวที่เด็กปฐมวัยยืนเข้าแถว ๒. สถานศึกษาควรรีบดำเนินปรับปรุงซ่อมแซมเครื่องเล่นต่าง ๆ เช่น ไม้กระดก อุโมงค์ชิงช้า เป็นต้น ให้มีสภาพที่ใช้งานได้ดีอยู่เสมอและมีความปลอดภัย ควรจัดหาเครื่องเล่นของเด็กปฐมวัยมาเพิ่มเติม ให้พอเพียงกับจำนวนเด็กปฐมวัย ปรับพื้นที่สนามเด็กเล่นให้มีความสวยงามปลอดภัยดูแล้วน่าเข้าไปเล่น ๓. สถานศึกษาควรรีบดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมพื้นทางเดินหน้าระเบียงหน้าห้องเรียน และตามจุดต่าง ๆ ที่อยู่ตามอาคารปฐมวัย ให้มีความสวยงามและมีความปลอดภัย และควรจัดตกแต่งสภาพ บรรยากาศให้มีความสวยงาม ด้วยการปลูกและตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับ เพื่อให้เกิดสีสันอย่างยั่งยืนถาวร ตลอดไป
31 ๔. สถานศึกษาควรดำเนินการสรรหาครูปฐมวัย และครูพี่เลี้ยงที่เพื่อให้ครบตามจำนวน ชั้นเรียน ซึ่งสถานศึกษาอาจจะประสานงานกับหน่วยงานต้นสังกัด หรือจากการระดมทุนเพื่อจ้างครูปฐมวัย และครูพี่เลี้ยงมาทดแทนให้ครบตามเกณฑ์ที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด กำหนดการดำเนินการปรับปรุงตามข้อเสนอแนะภายใน ๑ ปี ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ๑. ครูควรได้รับการส่งเสริมพัฒนาในการจัดประสบการณ์เรียนรู้ตามขั้นตอน กระบวนการ ของรูปแบบโครงการ (Project Approach) ให้เด็กได้เลือกเรียนรู้ลงมือกระทำผ่านการเล่น และสามารถ สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ฝึกกระบวนการทำงานกลุ่ม ฝึกการเป็นผู้นำ ผู้ตาม ฝึกการอดทนรอคอย และ ความรับผิดชอบร่วมกัน มีการจัดแสดงผลงานโดยเชิญผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เด็ก เกิดความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง ๒. ครูควรใช้แหล่งเรียนรู้ทั้งในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษาที่มีอยู่หลากหลาย เพื่อเสริม ประสบการณ์การเรียนรู้เช่น วัด ตลาด สวนผัก สวนผลไม้แปลงเกษตร หรือสถานที่สำคัญในชุมชน เพื่อเสริม ประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัส ให้เด็กมีโอกาสเลือกและนำเสนอผลการเรียนรู้อย่างอิสระตาม ความต้องการ ความสนใจ ความสามารถ ตอบสนองต่อวิธีการเรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคล ๓. ครูควรหารูปแบบที่หลากหลายเพื่อส่งเสริมคุณธรรมด้านวินัยและความรับผิดชอบให้กับ เด็ก เช่น การจัดทำโครงการ การวิจัย หรือการเล่านิทานก่อนเริ่มกิจกรรมตามตารางกิจกรรมประจำวัน โดย อาจสลับกับการฟังนิทานจากสื่อทีวีดิจิตอลที่มีในห้องเรียน ซึ่งครูสามารถสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมด้าน วินัยและความรับผิดชอบ การอดทนรอคอย ความกตัญญูความเมตตากรุณา ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความ ประหยัดอดออม ความซื่อสัตย์สุจริต และด้านสุขนิสัยที่ดีในการปฏิบัติตน รวมทั้งคุณธรรมด้านอื่น ๆ ได้จาก การเล่า เพื่อให้เด็กได้ซึมซับสิ่งดีๆ จากน้ำเสียงของนิทานที่ครูเล่าในทุกเช้า และควรเปิดโอกาสให้เด็กมีส่วน ร่วมในการเล่านิทานบ้าง เพื่อกระตุ้นกล้าแสดงออกของเด็ก โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ กำหนดการดำเนินการปรับปรุงตามข้อเสนอแนะภายใน ๑ ปี 2. การนำผลการประเมินคุณภาพภายนอกไปใช้ จากผลการประเมินตามมาตรฐานที่ ๑ พบว่าด้านคุณภาพของเด็ก มีคุณภาพอยู่ในระดับ ดีนั้น โรงเรียนได้มีวิธีวิเคราะห์หาสาเหตุได้มีการศึกษาและพัฒนาเด็กรายคน โดยร่วมกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ด้วย กิจกรรมเยี่ยมบ้านเด็กปฐมวัยครบทุกคน กิจกรรมปฐมนิเทศผู้ปกครองเด็กปฐมวัย และจัดทำสมุดบันทึกความ ดีเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาและพัฒนาเด็กอย่างต่อเนื่องทุก 1 ปีนับได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ถือเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งนี้หากสถานศึกษามีการปรับรูปแบบกิจกรรมด้วยรูปแบบที่หลากหลายอย่างเป็นระบบ ในรูปแบบงานวิจัย และพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาที่เกิดในบริบทครอบครัวของเด็กในปัจจุบันทำทราบถึงสาเหตุที่จะ ทำให้เด็กมีสุขนิสัยที่ดีในการดูแลรักษาสุขอนามัยส่วนตนได้โดยต้องฝึกปฏิบัติจนให้เกิดเป็นนิสัย ปฏิบัติตาม ข้อตกลงในการระมัดระวังความปลอดภัยในตนเองต่อการทำกิจกรรม หรือการเล่นในสถานที่ต่าง ๆภายใน สถานศึกษาที่อาจเกิดอันตราย มีการเด็กให้มีระเบียบวินัยในการเข้าแถวและเดินเป็นแถวขณะปฏิบัติกิจกรรม ทั้งในและนอกห้องเรียน และเด็กสามารถรับการพัฒนาด้านสติปัญญาที่หลากหลายในด้านการคิด แก้ปัญหา การคิดรวบยอด ตลอดจนทักษะการสื่อสารให้เหมาะสมตามวัย
32 ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จุดเด่น ด้านคุณภาพของผู้เรียน ๑. ผู้เรียน มีกิริยามารยาทเรียบร้อย รู้จักไหว้ทักทายผู้ใหญ่ที่มาเยี่ยมสถานศึกษา มีจิตอาสา มาโรงเรียนแต่เช้าและร่วมมือกันทำความสะอาดตามเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบของแต่ละชั้นเรียน ๒. ผู้เรียนมีสุนทรียภาพทางด้านศิลปะ ดนตรีและกีฬา ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ ๑. ภาคีเครือข่าย ได้แก่คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง ชุมชนและท้องถิ่น มีความเข็มแข็งให้การส่งเสริมสนับสนุนสถานศึกษาในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างสม่ำเสมอ มีความ ต่อเนื่อง ในการจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ร่วมกับสถานศึกษาในการระดมทุน ได้แก่ การทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา เพื่อหารายได้มาพัฒนาการศึกษา เช่น การสร้างหลังคาคลุมทางเดินการจัดสภาพ แวดล้อมในสถานศึกษา เป็นต้น ๒. สถานศึกษามีเนื้อที่กว้างขวางเหมาะต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและกิจกรรม ต่าง ๆ สภาพแวดล้อมและบรรยากาศในสถานศึกษามีความร่มรื่น สวยงาม เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้และการ จัดกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งที่เป็นของสถานศึกษา ตลอดจนสามารถให้บริหารแก่ชุมชน ท้องถิ่น และหน่วยงาน ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ๓. สถานศึกษาเป็นโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. เนื่องจากสถานศึกษามีโครงการ/กิจกรรม ให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติได้แก่ โครงงานคุณธรรม ห้องเรียนคุณธรรม การเดินแถว และจิตอาสา ผู้เรียนทุกคนปฏิบัติ กิจกรรมมีความต่อเนื่องสม่ำเสมอ ดำเนินงานติดต่อกันมารวม ๕ ปีจนสถานศึกษาได้รับรางวัลหลายปี ติดต่อกัน ๔. ครูและผู้เรียนมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีมารยาท มีวินัยในตนเอง พบเห็นผู้อาวุโส หรือบุคคลภายนอก ทุกคนจะยกมือไหว้อย่างสวยงาม ซึ่งตรงกับ อัตลักษณ์ของโรงเรียนที่ว่า "จิตอาสา มารยาทดีมีวินัย" และตรงกับเอกลักษณ์ที่ว่า "ไหว้งาม ตามแบบไทย" ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ครูมีความมุ่งมั่นพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ โดยเพิ่มศักยภาพ ความรู้ความสามารถ ในการจัดการเรียนการสอนเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จากการเข้ารับการอบรมและประชุมเชิงปฏิบัติการมีจำนวน ชั่วโมงเฉลี่ยสูงกว่าที่สถานศึกษากำหนด และเพิ่มจำนวนครูมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโทและดำรงตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ (ครูคศ.๓) ที่ถือว่ามีทักษะชั้นสูงในการใช้กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียน เป็นสำคัญและการวิจัยในชั้นเรียน จุดที่ควรพัฒนา ด้านคุณภาพของผู้เรียน ๑. ผู้เรียนร้อยละ ๒๕.๖0 ที่เริ่มอ้วน และอ้วนมากกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ๒. ผู้เรียนส่วนใหญ่ยังไม่กล้าตอบคำถาม และไม่กล้าแสดงความคิดเห็น ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ ๑. สถานศึกษาควรเสริมสภาพบรรยากาศรอบ ๆ สนามเพื่อให้มีความร่มรื่นมากขึ้น ด้วยไม้ ยืนต้นและไม้ดอกไม้ประดับ และสถานศึกษาควรทำป้ายบอกชื่อต้นไม้ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ เมื่อได้พบเห็น
33 ๒. ห้องน้ำ-ห้องส้วม ที่ล้างมือ ของนักเรียนชาย-หญิง ยังไม่สะอาดเท่าที่ควร ๓. การเดินแถวกลับบ้านของนักเรียนทุกระดับชั้นขาดความเป็นระเบียบเป็นบางชั้นเรียน ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ๑. ในการดำเนินการตรวจสอบและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน ครูผู้สอนใช้วิธีการ และเครื่องมือที่ขาดความหลากหลาย ดำเนินการใช้เครื่องมือทดสอบผู้เรียนก่อนการตรวจสอบคุณภาพ ซึ่งไม่ สอดคล้องกับการประเมินตามสภาพจริง และความเชื่อมั่นในกระบวนการ วิธีการ และเครื่องมือวัดผล ประเมินผล รวมถึงไม่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการประเมินผลความก้าวหน้าในการเรียนรู้ ๒. การจัดทำวิจัยในชั้นเรียนของครูไม่เชื่อมโยงกับข้อมูลที่ปรากฏในบันทึกผลการสอนหรือ หลังการสอน เนื่องจากครูบันทึกข้อมูลไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กำหนดขึ้น ส่งผลให้ครูผู้สอน กำหนดสิ่งที่ต้องการวิจัยนั้นไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการแก้ไข ปรับปรุง และพัฒนา ดังนั้นข้อมูลที่ได้จากการ วิจัยในชั้นเรียนจึงไม่สะท้อนความเป็นจริงที่ตรงจุดการพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน ๓. ทักษะการใช้กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและการวิจัยในชั้น เรียนของครูเป็นเรื่องที่ต้องเร่งพัฒนาทั้งสองทักษะดังกล่าว ให้แก่ครูคศ. ๒ ครูคศ.๑ และครูผู้ช่วย โดย สถานศึกษาต้องมุ่งเน้นพัฒนางานนิเทศภายในสถานศึกษาให้เป็นไปตามระบบบริหารคุณภาพ (PDCA) แบบ เข้มอย่างต่อเนื่อง โดยจัดกระบวนการนิเทศภายในให้มีกิจกรรมที่หลากหลายทั้งรูปแบบและวิธีการ มีการ ประเมินผลทุกขั้นตอนของการนิเทศ เพื่อนำไปสู่การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community) ในสถานศึกษาอย่างยั่งยืน 1. ข้อเสนอแนะ ด้านคุณภาพของผู้เรียน ๑. ผู้เรียนที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มากๆ และผู้ที่เริ่มอ้วนควรได้รับการพัฒนาโดยการส่งเสริม สนับสนุนให้ความรู้เรื่องผลเสียของการเป็นโรคอ้วน และสถานศึกษาควรจัดกิจกรรมการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารเพื่อการควบคุมลดน้ำหนักลงอย่างถูกวิธีและจริงจัง ๒. ผู้เรียนควรได้รับการพัฒนาให้กล้าแสดงออก สถานศึกษาควรมีกิจกรรมให้ผู้เรียน ได้ทำงานกลุ่มอย่างเป็นระบบ และมีการอภิปรายแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ๓. ผู้เรียนระดับประถมศึกษาควรได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้ร่วมเป็นคณะกรรมการ สภา นักเรียน เพื่อได้มีสิทธิ์มีเสียง บอกความต้องการของระดับชั้นของตน และนำผลการประชุมมาแจ้งให้เพื่อนร่วม ชั้นได้รับทราบ กำหนดการดำเนินการปรับปรุงตามข้อเสนอแนะภายใน ๑ ปี ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ ๑. สถานศึกษาควรสรรหาต้นไม้ประเภทไม้ยืนต้น ไม้ดอก ไม้ประดับมาปลูกเพิ่มเติม ในบริเวณพื้นที่ที่ยังมีความว่างเปล่า เพื่อให้สภาพแวดล้อมและบรรยากาศในสถานศึกษามีความร่มรื่น สวยงาม ขึ้น ตลอดจนสถานศึกษาควรจัดทำป้ายบอกชื่อต้นไม้ต่าง ๆ ที่ปลูกไว้โดยรอบบริเวณสถานศึกษา เพื่อให้ผู้เรียน ทุกคนได้เกิดการเรียนรู้และรู้จักชื่อต้นไม้พันธุ์ต่าง ๆ เหล่านั้นได้ถูกต้อง และควรเป็นป้ายชื่อทั้งภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ พร้อมด้วยข้อความที่มีสาระการเรียนรู้บทเรียนหรือหน่วยการเรียนต่าง ๆ (แบบต้นไม้พูดได้) อีกทางหนึ่ง ๒. สถานศึกษาควรดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมสภาพภายในห้องน้ำ-ห้องส้วม อ่างล้างมือ ของนักเรียนชาย-หญิง ให้มีความสะอาด มีกลิ่นหอมอยู่เสมอและต่อเนื่อง บริเวณโถส้วมและโถปัสสาวะ
34 ควรหาน้ำยามากำจัดคราบสกปรกให้เกิดความสะอาดสวยงามขึ้นและควรหาสมุนไพรเพื่อมากำจัดกลิ่นเพื่อให้ สอดคล้องกับท้องถิ่น เช่น ผิวมะกรูด ใบเตย ตลอดจนสถานศึกษาควรมีการตรวจสอบระบบน้ำประปาภายใน สถานศึกษาไม่ให้มีการรั่วไหล กระทั่งระบบกลอนประตูต้องมีความแข็งแรง และมีความปลอดภัยเสมอ ๓. สถานศึกษาควรจัดระบบการเดินแถวกลับบ้านของผู้เรียนทุกระดับชั้นให้มีความ เป็นระเบียบ และควรถือปฏิบัติจนเกิดความเคยชินติดเป็นนิสัย ครูเวรประจำวันควรรับทำความเคารพผู้เรียน กรณีผู้เรียนยกมือไหว้สถานศึกษาควรกำหนดจำนวนผู้เรียนทำความเคารพครูก่อนกลับบ้านด้วย เช่น กำหนด ครั้งละ ๑0 คน เป็นต้น (นักเรียนไหว้ครูรับไหว้ตอบ) ซึ่งจะตรงกับ อัตลักษณ์ของสถานศึกษาที่ว่า "จิตอาสา มารยาทดีมีวินัย " และตรงกับเอกลักษณ์สถานศึกษาที่ว่า "ไหว้งาม ตามแบบไทย" กำหนดการดำเนินการปรับปรุงตามข้อเสนอแนะภายใน ๑ ปี ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ๑. ครูต้องตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบและนำผลไปพัฒนาผู้เรียน โดย ประเมินผลทุกขั้นตอนของการเรียนรู้ได้แก่ ก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลังเรียน เพื่อตรวจสอบ ความก้าวหน้าในการเรียนรู้ด้วยเครื่องมือวัดผลประเมินผลที่หลากหลายและผ่านการตรวจสอบคุณภาพ ก่อน นำไปใช้รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการประเมินผล ๒. ครูต้องนำข้อมูลบันทึกผลการสอนไปวิเคราะห์สังเคราะห์เพื่อกำหนดปัญหาที่แท้จริง หรือสิ่งที่ต้องการพัฒนาไปจัดทำวิจัยในชั้นเรียน จากนั้นนำข้อมูลผลการวิจัยในชั้นเรียนไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างครูผู้สอนด้วยกัน และเป็นข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อการพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ ๓. ครูผู้สอนต้องสร้างองค์ความรู้ที่ได้รับการศึกษาจากการอบรม ประชุมเชิงปฏิบัติการ และ วิจัยในชั้นเรียน เพื่อนำไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกิจกรรมการนิเทศภายใน ที่เกิดจากการจัดกระบวนการนิเทศ ภายในของสถานศึกษาตามระบบบริหารคุณภาพ (PDCA) อย่างกัลยาณมิตร ร่วมมือ ร่วมใจ และเรียนรู้ร่วมกัน มุ่งเน้นครูที่ไม่มีทักษะการใช้กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและการวิจัยในชั้นเรียน โดยจัดกิจกรรมการนิเทศที่หลากหลายทั้งรูปแบบและวิธีการ มีการประเมินผลทุกขั้นตอนของการนิเทศ เพื่อ นำไปสู่การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community) ในสถานศึกษา อย่างยั่งยืน กำหนดการดำเนินการปรับปรุงตามข้อเสนอแนะภายใน ๑ ปี 2. การนำผลการประเมินคุณภาพภายนอกไปใช้ จากผลการประเมินตามมาตรฐานที่ ๑ พบว่า ด้านคุณภาพของผู้เรียนมีคุณภาพอยู่ในระดับ ดีนั้น โรงเรียนควรให้ความรู้เรื่องผลเสียของการเป็นโรคอ้วน และควรจัดกิจกรรมการออกกำลังกาย การรับประทาน อาหารเพื่อการควบคุมและลดน้ำหนักลง และผู้เรียนควรได้รับการพัฒนาให้กล้าแสดงออก มีกิจกรรมให้ผู้เรียน ได้ทำงานกลุ่มอย่างเป็นระบบ และมีการอภิปรายแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ผู้เรียนระดับประถมศึกษา ควรได้รับการส่งเสริมสนับสนุนให้ร่วมเป็นคณะกรรมการสภานักเรียน เพื่อได้มีสิทธิ์มีเสียง บอกความต้องการ ของระดับชั้นของตนเอง และนำผลการประชุมมาแจ้งให้เพื่อนร่วมชั้นได้รับทราบ ทำให้ทราบว่าสาเหตุผู้เรียน ร้อยละ ๒๕.๖0 ที่เริ่มอ้วน และอ้วนมากกว่าเกณฑ์ที่กำหนดและผู้เรียนยังไม่กล้าตอบคำถาม และไม่กล้าแสดง ความคิดเห็น
35 13. การนำผลประเมินไปใช้ ด้วยเหตุนี้โรงเรียนจึงวางแผนที่จะแก้ไข/ปรับปรุง/พัฒนาจากการวิเคราะห์ผลการประเมินภายนอก และผลการประเมินตนเอง (Self-Assessment Report : SAR)) โดยจัดทำโครงการ โรงเรียนบ้านแหลมหินมีกระบวนการพัฒนาผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลาย เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและ เป็นไปตามศักยภาพของผู้เรียน มุ่งพัฒนาผู้เรียนโดยยึดหลัก 3R ผู้เรียนสามารถอ่าน เขียนและสื่อสาร ภาษาไทยได้เหมาะสมตามระดับชั้น มีนิสัยรักการอ่านและแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง โดยผ่านโครงการพัฒนา คุณภาพการอ่านออกเขียนได้ กิจกรรมฝึกทักษะการอ่าน กิจกรรมฝึกทักษะการเขียนและกิจกรรมฝึกทักษะ เพื่อการสื่อสาร โครงการห้องสมุด 3 ดีและพัฒนาการอ่าน เขียน การสื่อสารภาษาอังกฤษโดยโครงการ พัฒนาการสื่อสารภาษาอังกฤษ กิจกรรมฝึกทักษะภาษาอังกฤษ ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความสามารถในการคิด คำนวณตามระดับชั้นโดยจัดโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยกิจกรรมคิดเลขเร็ว จัดกิจกรรม ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์คิดอย่างมีวิจารณญาณอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหาทุกกลุ่มสาระ การเรียนรู้เน้นการคิดแบบโครงงาน ใช้กระบวนการกลุ่มในการทำงาน ให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติสามารถสร้าง นวัตกรรมได้ด้วยตนเองโดยจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษา และโครงงานคุณธรรมส่งเสริมให้ผู้เรียน มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้โปรแกรมที่จำเป็น สำหรับนักเรียนตามระดับชั้น สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการประกอบการเรียนรู้ในกลุ่มสาระต่าง ๆ ได้โดย ผ่านโครงการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ส่งเสริมให้นักเรียนได้มีความรู้ทักษะและเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ ด้วยโครงการพัฒนาหลักสูตรทักษะอาชีพ โครงการเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถใน การเตรียมความพร้อมในเรื่องการเข้าร่วมการแข่งขันทักษะทางวิชาการในระดับต่าง ๆ และผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ด้วยวิธีการการวัดและประเมินผลอย่างหลากหลายนอกจากนี้โรงเรียนได้ ดำเนินการพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนมุ่งสร้างคนดีเพื่อให้อยู่ในสังคมไทยได้อย่างมีความสุข ส่งเสริมให้ ผู้เรียนมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่สถานศึกษากำหนด และตามคุณธรรม อัตลักษณ์ของโรงเรียนได้แก่จิตอาสา มารยาทดีมีวินัย โดยผู้เรียนเข้าร่วมโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม โครงการโรงเรียนคุณธรรมและโครงงานคุณธรรมประจำห้องเรียน โครงการวิถีพุทธโครงการโรงเรียนสุจริตและ ต่อต้านคอรัปชั่น ITA กิจกรรมวันสำคัญทางชาติศาสนา และพระมหากษัตริย์เช่น กิจกรรมวันมาฆบูชา กิจกรรมค่ายธรรมะ กิจกรรมเวียนเทียนวันอาสาฬหบูชา กิจกรรมวันไหว้ครูกิจกรรมวันเฉลิมพระชมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กิจกรรมวันแม่แห่งชาติกิจกรรมน้องไหว้พี่ เป็นต้น มีการประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์จัดทำระเบียบข้อตกลงในห้องเรียน กิจกรรมจิตอาสานำภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ามาร่วมจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนทั้งเชิญภูมิปัญญาท้องถิ่นให้ความรู้แก่ผู้เรียนและนำผู้เรียนออกไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น มี การฝึกสอนทักษะด้านอาชีพให้กับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมในวิชาสาระเพิ่มเติม เช่น ขนมไทย อาหารไทย การตัดผม แปรรูปอาหารและกิจกรรมอนุรักษ์ไทยโดยการแต่งกายด้วยผ้าไทย ส่งเสริมศิลปะ ดนตรีและกีฬา ส่งเสริมให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นด้วยโครงการประชาธิปไตย ให้ความรู้การ ดูแลสุขภาวะทางร่างกายและจิตสังคม การป้องกันตนเองจากสิ่งเสพติดให้โทษ และหลีกเลี่ยงตนเองจากภาวะ เสี่ยงของโรคภัย อุบัติเหตุ ปัญหาทางเพศ ด้วยโครงการสถานศึกษาสีขาวโครงการส่งเสริมสุขภาพและจัด กิจกรรมการเรียนการสอนแทรกในกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา รวมทั้งจัดระบบแนะแนวและดูแล ช่วยเหลือผู้เรียนอย่างเป็นระบบ
36 14. วิธีการบริหารจัดการ โรงเรียนบ้านแหลมหินแบ่งเป็นการบริหารงานเป็น.....4.....ฝ่าย ได้แก่ งานวิชาการ งานงบประมาณ งานบริหารบุคคล และงานบริหารทั่วไป ผู้บริหารยึดหลักการบริหารเทคนิคการบริหารแบบการพัฒนาตาม กระบวนการ PDCA โดยได้กำหนดปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมายการพัฒนาไว้ ดังนี้ วิสัยทัศน์ “โรงเรียนบ้านแหลมหิน มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา ก้าวหน้าเทคโนโลยี มีแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ดำรงชีวิตอย่างมีความสุขตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” พันธกิจ ➢ พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา และมาตรฐานสากล มีสุขภาพกายและสุขภาพจิต ที่สมบูรณ์ มีคุณธรรม จริยธรรม รักความเป็นไทยและรับผิดชอบต่อสังคม ➢ ส่งเสริมครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ ความสามารถ มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ ➢ พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อสนองต่อความแตกต่างระหว่างบุคคลให้ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถตามมาตรฐานสากล สู่ความเป็นเลิศทางวิชาการอย่างยั่งยืน ➢ พัฒนาสื่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพทางการศึกษา ➢ จัดกระบวนการเรียนการสอน การวัดและประเมินผลที่หลากหลายอย่างมีคุณภาพ เอื้อต่อการ พัฒนาผู้เรียนรอบด้าน ➢ พัฒนาการบริหารจัดการศึกษาอย่างมีระบบตามหลักธรรมาภิบาล ➢ พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นแหล่งเรียนรู้และมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ ➢ ประสานความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และสร้างภาคีเครือข่าย เพื่อสนับสนุนการ จัดการศึกษา เป้าหมายการพัฒนา 1. ผู้เรียนเป็นผู้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา เป็นคนเก่ง คนดีมีความสุข มีความรู้ ความสามารถตามมาตรฐานสากล มีคุณธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม บน พื้นฐานความเป็นไทย น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การดำรงชีวิต 2. ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาศักยภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ และสามารถจัดการ เรียนการสอนตามมาตรฐานสากล 3. โรงเรียนมีหลักสูตรสถานศึกษาที่ส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชาการตามมาตรฐานสากล ตอบสนอง ความถนัดความต้องการของผู้เรียน ชุมชน และสังคม 4. โรงเรียนพัฒนาสื่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูและ นักเรียนใช้ในการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ 5. โรงเรียนมีการจัดกระบวนการเรียนการสอน กิจกรรมการเรียนรู้การวัดและประเมินผลที่มี คุณภาพที่เอื้อต่อการพัฒนานักเรียนอย่างรอบด้าน 6. โรงเรียนมีการบริหารจัดการศึกษาอย่างมีระบบตามหลักธรรมภิบาล 7. โรงเรียนพัฒนาแหล่งเรียนรู้และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ 8. ชุมชน ผู้ปกครอง ละภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ
37 15. ผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา ในรอบปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2565) โรงเรียนประสบความสำเร็จ และที่ต้องเร่งปรับปรุง แก้ไข ในการ ดำเนินโครงการต่อไปนี้ 1) งาน/โครงการ/กิจกรรมที่ประสบความสำเร็จ ชื่องาน/โครงการ/กิจกรรม ผลที่ได้รับและหลักฐานยืนยันความสำเร็จ (ร้อยละการบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนด) 1. โครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและพัฒนาทักษะ ความสามารถเด็กหัวปานกลาง 85.38 2. โครงการพัฒนางานวิชาการและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา 91.66 3. โครงการพัฒนาผู้เรียน 100.00 4. โครงการนิเทศภายใน 100.00 5. โครงการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา 96.66 6. โครงการพัฒนามาตรฐานและคุณภาพการจัดการศึกษาปฐมวัย 100.00 7. โครงการแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น 76.00 8. โครงการห้องสมุด ๓D 96.00 9. โครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม 88.33 10. โครงการพัฒนาสื่อสารภาษาอังกฤษ 97.75 11. โครงการพัฒนาการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษา 100.00 12. โครงการส่งเสริมระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน 93.12 13. โครงการพัฒนาคุณภาพการอ่านออกเขียนได้ 98.00 14. โครงการสนองพระบรมราโชบาย ด้านการศึกษาของในหลวง รัชกาลที่ 10 และเศรษฐกิจพอเพียง 97.75 15. โครงการโรงเรียนวิถีพุทธ 96.00 16. โครงการโรงเรียนสุจริตและต่อต้านคอรัปชั่น ITA 94.00 17. โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสำหรับนักเรียนพิเศษเรียนร่วม 90.00 18. โครงการส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำ 100.00 19. โครงการการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 98.00 20. โครงการส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา 90.00 21. โครงการห้องเรียนคุณภาพ 90.00 22. โครงการพัฒนาครูและบุคลากร 100.00 23. โครงการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจบุคลากร 100.00 24. โครงการบริหารงบประมาณ 93.33 25. โครงการพัฒนางานธุรการ 100.00 26. โครงการโรงเรียนคุณภาพของชุมชน 96.00 27. โครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ 98.00 28. โครงการส่งเสริมประชาธิปไตย 96.07
38 ชื่องาน/โครงการ/กิจกรรม ผลที่ได้รับและหลักฐานยืนยันความสำเร็จ (ร้อยละการบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนด) 29. โครงการพัฒนาข้อมูลสารสนเทศ 100.00 30. โครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข 98.40 31. โครงการโรงเรียนปลอดขยะและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 100.00 32. โครงการอาหารกลางวัน 99.33 33. โครงการสหกรณ์ 91.60 2) งาน/โครงการ/กิจกรรมที่ควรปรับปรุง ชื่องาน/โครงการ/กิจกรรม สาเหตุที่ไม่บรรลุ - - 16. นวัตกรรมด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา ชื่อการบริหารจัดการการประกันคุณภาพภายใน สถานศึกษาโดยระบบสารสนเทศออนไลน์ (รายละเอียดอยู่ภาคผนวก)
39 ส่วนที่ ๒ ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา ระดับปฐมวัย ผลการประเมินมาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย มาตรฐานการศึกษา: ยอดเยี่ยม คิดเป็นร้อยละ 96.09 มาตรฐานการศึกษา ระดับคุณภาพ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก ยอดเยี่ยม มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ยอดเยี่ยม มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ยอดเยี่ยม มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก ระดับคุณภาพ : ยอดเยี่ยม คิดเป็นร้อยละ 95.80 ๑. กระบวนการพัฒนา โรงเรียนบ้านแหลมหินมีกระบวนการพัฒนาผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลาย เน้นการจัดทำกิจกรรม ที่พัฒนาผู้เรียนให้ได้รับการส่งเสริมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน และความคิดสร้างสรรค์อย่างเหมาะสม มุ่งหวังให้เด็ก ปฐมวัยได้รับการพัฒนาให้มีความสมบูรณ์ ทางกาย ทางจิตใจ ทางสังคม และสติปัญญา ภายใต้สภาพแวดล้อม ที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการเสริมสร้างสุขภาพอนามัยและสุขนิสัยที่ดีให้กับเด็ก เพราะการเสริมสร้างสุขภาพ และสุขนิสัยเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กปฐมวัยให้มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน และสิ่ง สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ การออกกำลังกาย ทำจิตใจให้ร่าเริง แจ่มใสอยู่เสมอ ด้วยการให้เด็กตระหนักถึง การมองโลกในแง่ดี ให้อภัยและยอมรับผู้อื่น ครูจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามศักยภาพของเด็ก และเป็นไปตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา และหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช ๒๕๖๐ ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน เป็นไปตามพัฒนาการและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๒. ผลการดำเนินงาน จัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย ได้แก่ - กิจกรรมออกกำลังกายร่างกายแข็งแรง (ฮูลาฮูป,โยคะสำหรับเด็ก,แอโรบิค,การละเล่นเด็กไทย) - กิจกรรมสุขบัญญัติ 10 ประการ - กิจกรรมหนูๆรู้ไว้ปลอดภัยไว้ก่อน เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดีและดูแลความปลอดภัยของ ตนเองได้ดีมีน้ำหนักส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐาน มีทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องแคล่ว ทรงตัวได้ดี สามารถใช้มือและตาประสานสัมพันธ์ได้ดีเหมาะสมตามวัย มีสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพของตนและปฏิบัติจน เป็นนิสัย หลีกเลี่ยงต่อสภาวะที่เสี่ยงต่อโรค อุบัติเหตุ ภัย และสิ่งเสพติดได้ดี จัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์จิตใจ ได้แก่ - กิจกรรม Art for all - กิจกรรมร้องเล่นเต้นสนุก - กิจกรรมนักกลองยาวน้อย
40 - กิจกรรมนักเล่านิทานน้อย - กิจกรรมฝึกสมาธิ เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ เด็กร่าเริงแจ่มใส มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง มีความมั่นใจและกล้า แสดงออก ควบคุมอารมณ์ตนเองได้ รู้จักยับยั้งชั่งใจ ยอมรับและพอใจในความสามารถ ผลงานของตนเองและ ผู้อื่น มีคุณธรรม จริยธรรม มีความชื่นชมและมีความสุขกับศิลปะ ดนตรี การเคลื่อนไหว และรักษาธรรมชาติ จัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม ได้แก่ - กิจกรรมวันสำคัญ - กิจกรรมบันทึกความดี - กิจกรรมหนูน้อยมารยาทงาม - กิจกรรมหนูน้อยตามรอยพ่อผู้พอเพียง - กิจกรรมเยี่ยมบ้าน เด็กมีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจำวัน ได้แก่ การล้างมือ การเก็บถาดอาหาร การล้างหน้าแปรงฟัน การแต่งตัว การเข้าห้องน้ำ การรับประทานอาหาร รู้จักช่วยเหลือและแบ่งปันมีน้ำใจ ประหยัดและพอเพียง มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในและนอกห้องเรียน มีมารยาทประพฤติตนตาม วัฒนธรรมไทยและศาสนาที่ตนนับถือ เช่น การไหว้ การยิ้ม การทักทาย และมีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ สามารถ เล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ จัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา ได้แก่ - กิจกรรมนวัตกรรมการสอนแบบโครงการ (The Project Approach) - กิจกรรมบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย - กิจกรรมคณิตศาสตร์หรรษา กิจกรรมภาษาพาเพลิน - กิจกรรม Computer for Kids เด็กมีพัฒนาการด้านสติปัญญา เด็กสนทนาโต้ตอบและเล่าเรื่องให้ผู้อื่นเข้าใจได้ สนใจเรียนรู้สิ่งรอบตัว ซักถามอย่างตั้งใจในสิ่งที่ตนเองสนใจและสงสัย มีทักษะทางภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร ด้วยการพูด การอ่าน การ เขียน ที่เหมาะสมกับวัย เล่าเรื่องได้เหมาะกับวัย มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เช่น การสังเกต การจำแนก และการเปรียบเทียบ ที่เกิดจากประสบการณ์การเรียนรู้โดยการลงมือปฏิบัติ สร้างสรรค์ผลงานตามความคิดและมีจินตนาการ การเคลื่อนไหวท่าทางและการเล่นอิสระ รู้จักใช้สื่อเทคโนโลยี ได้เหมาะสมกับวัย ๓. จุดเด่น ด้านร่างกาย เด็กมีทักษะการเคลื่อนไหวที่เหมาะสมกับวัย มีสุขนิสัยที่ดีในการดูแลรักษาสุขภาพ อนามัยของตนเองและปฏิบัติจนเป็นนิสัย ปฏิบัติตนตามข้อตกลงเกี่ยวกับความปลอดภัย ดูแลความปลอดภัย ของตนเองได้และหลีกเลี่ยงสภาวะที่เสี่ยงต่อโรคและสิ่งเสพติดได้ดี ด้านอารมณ์ จิตใจ เด็กความร่าเริงแจ่มใสมีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและแสดงอารมณ์ความรู้สึกได้ อย่างเหมาะสมกับวัย ยอมรับและพอใจในควาใมสามารถผลงานของตนเองและผู้อื่นได้ มีความชื่นชมและ มีความสุขกับศิลปะ ดนตรีเคลื่อนไหวประกอบเพลง อย่างสนุกสนาน ด้านสังคม เด็กสามารถเล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข สามารถช่วยเหลือตนเองในการ ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้เหมาะสมกับวัย มีประพฤติตามวัฒนธรรมไทยและศาสนาที่ตนนับถือ เช่น การไหว้ การยิ้มทักทาย มีความซื่อสัตย์สุจริต รู้จักช่วยเหลือและแบ่งปันผู้อื่นได้ดี
41 ด้านสติปัญญา เด็กมีทักษะทางภาษา อ่านนิทาน และเล่าเรื่องได้เหมาะกับวัย สร้างสรรค์ผลงานตาม ความคิดและจินตนาการงานศิลปะการเคลื่อนไหวท่าทางอย่างอิสระ และทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ โดยครูจัดการเรียนการสอนแบบโครงการ(Project Approach) และบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ที่เน้นให้เด็กได้เลือกในสิ่งที่ตนเองสนใจ เรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง โดยเน้นการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้แบบเชิงรุก Active Learning ๔. จุดควรพัฒนา โรงเรียนควรส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และหลากหลาย เพิ่มประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับเด็กได้ทดลองและปฏิบัติจริง ศึกษาแหล่งเรียนรู้ภายนอก โรงเรียน เรียนรู้จากสื่อและภูมิปัญญาท้องถิ่น จัดหาสื่อการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับจัดประสบการณ์ การเรียนรู้แบบเชิงรุก Active Learning ๕. แผนพัฒนาเพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น แผนปฏิบัติงานที่ ๑ การพัฒนาเด็กให้มีทักษะทางด้านภาษา และกระบวนการทางคณิตศาสตร์ โดยบูรณาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีสำหรับเด็กปฐมวัย มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ระดับคุณภาพ : ยอดเยี่ยม คิดเป็นร้อยละ 97.61 ๑. กระบวนการพัฒนา โรงเรียนบ้านแหลมหินได้มีการดำเนินการบริหารงานและจัดสถานศึกษาที่ครอบคลุมด้านวิชาการ ด้านครูและบุคลากร ด้านสภาพแวดล้อมและสื่อ แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนเพื่อการเรียนรู้ และด้านระบบ ประกันคุณภาพภายในโดยเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา มีการกำกับติดตามการ ดำเนินงาน มีหลักสูตรที่ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน โดยมีผู้บริหารให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษา ปฐมวัย มีการส่งเสริมสนับสนุนด้านบุคลากร สื่อ เทคโนโลยี การปรับปรุงอาคารสถานที่ ๒. ผลการดำเนินงาน ๑. มีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น สถานศึกษามีหลักสูตรที่ยืดหยุ่น จัดประสบการณ์ที่สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ของสถานศึกษาและบริบทของท้องถิ่น โดยครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน เน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่นและ ลงมือปฏิบัติ ๒. จัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนระดับปฐมวัย จำนวน 8 ห้องเรียน คือ ชั้นอนุบาลปีที่ ๑ จำนวน ๒ ห้อง อนุบาลปีที่ ๒ จำนวน 3 ห้อง อนุบาลปีที่ ๓ จำนวน 3 ห้อง ซึ่งครูมีวุฒิการศึกษา จบการศึกษา ปริญญาตรี สาขาการศึกษาปฐมวัย และผู้ช่วยครูที่มีประสบการณ์สอนในระดับปฐมวัย ครบชั้นเรียน ๓. ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ ผู้บริหารส่งเสริมสนับสนุนให้ครูได้รับการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เข้ารับการอบรมและพัฒนา ตนเองจากการอบรมที่จัดโดยหน่วยงานต้นสังกัด และหน่วยงานอื่น ๆ ส่งเสริมให้ครูมีทักษะในการจัด ประสบการณ์และประเมินพัฒนาการเด็กครบทั้ง ๔ ด้าน ออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ตรง
42 ตามหลักสูตรการจัดการศึกษาปฐมวัย โดยมีแผนงาน โครงการและกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาบุคลากร มีการนิเทศภายในเพื่อให้คำแนะนำ ร่วมถึงสนับสนุนให้ครูมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครอง ๔. จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัยและพอเพียง สถานศึกษาจัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรียนที่คำนึงถึงความปลอดภัย ครูจัดห้อง สะอาด อากาศถ่ายเท ปลอดภัย น่าเรียน น่าอยู่ มีพื้นที่แสดงผลงานเด็ก พื้นที่สำหรับมุมประสบการณ์ หลากหลาย มีห้องน้ำสำหรับเด็ก มีลานสำหรับการจัดกิจกรรม จัดของใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็ก เช่น แก้วน้ำ แปรงสีฟัน ห้องเรียนมีป้ายนิเทศ มีสื่อ ทีวี สื่อของเล่นที่กระตุ้น เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน ๕. ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์สำหรับครู สถานศึกษา มีสื่อโทรทัศน์ทุกห้องเรียน และห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ระบบอินเตอร์เน็ต ป้าย นิเทศ มุมเสริมประสบการณ์ ห้องสมุด เพื่อเป็นแหล่งสืบค้นหาความรู้ เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์และ พัฒนาครู ในด้านจัดการเรียนการสอนเป็นสื่อการเรียนการสอนให้กับเด็กอย่างสะดวกรวดเร็ว ๖. มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม โดยการสร้างความเข้าใจกับผู้ปกครองโดยการจัดกิจกรรมปฐมนิเทศผู้ปกครอง กิจกรรมประชุม ผู้ปกครอง กิจกรรมวันแม่แห่งชาติ กิจกรรมวันไหว้ครู กิจกรรมวันวิสาขบูชา กิจกรรมวันเข้าพรรษา กิจกรรม วันเด็กแห่งชาติ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก แสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานีอนามัย องค์กรเอกชน จากผู้เกี่ยวข้องในการมีส่วนร่วมในการ พัฒนาการเด็กทั้ง ๔ ด้าน ๓. จุดเด่น สถานศึกษาจัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน ส่งเสริมให้ครูมีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ด้านการจัด ประสบการณ์ จัดสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก จัดห้องสะอาด ปลอดภัย น่าเรียน น่าอยู่ มีมุม ประสบการณ์ และสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัยและพอเพียง ๔. จุดควรพัฒนา - โรงเรียนควรสร้างเครือข่ายผู้ปกครองและเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็น และจัดกิจกรรมที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการศึกษาปฐมวัย เพื่อพัฒนาผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง - การพัฒนาปรับปรุงซ่อมแซมสนามเด็กเล่นให้ได้มาตรฐานและพอเพียงต่อความต้องการของเด็ก ๕. แผนพัฒนาเพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น แผนปฏิบัติงานที่ ๑ กิจกรรมจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นแหล่งเรียนรู้ แผนปฏิบัติงานที่ ๒ กิจกรรมพัฒนาให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ