The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by somruthai, 2022-06-20 06:21:56

RTE 01

Test 1

จ ด ห ม า ย เ ห ตุ ๒ ๕ ๖ ๓ : บั น ทึ ก ค ว า ม ท ร ง จำ ใ น ก า ร ป รั บ ป รุ ง ซ่ อ ม แ ซ ม
ส ถ า น เ อ ก อั ค ร ร า ช ทู ต แ ล ะ ทำ เ นี ย บ เ อ ก อั ค ร ร า ช ทู ต ณ ก รุ ง ล อ น ด อ น

Chronicle 2020 : Memoir on Major Renovation
of the Royal Thai Embassy

and the Thai Residence in London

จ ด ห ม า ย เ ห ตุ ๒ ๕ ๖ ๓ : บั น ทึ ก ค ว า ม ท ร ง จำ ใ น ก า ร ป รั บ ป รุ ง ซ่ อ ม แ ซ ม
ส ถ า น เ อ ก อั ค ร ร า ช ทู ต แ ล ะ ทำ เ นี ย บ เ อ ก อั ค ร ร า ช ทู ต ณ ก รุ ง ล อ น ด อ น

Chronicle 2020 : Memoir on Major Renovation
of the Royal Thai Embassy

and the Thai Residence in London





สถานเอกอัครราชทูต
และทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน

ROYAL THAI EMBASSY, LONDON
AND RESIDENCE

ส า ร จ า ก เ อ ก อั ค ร ร า ช ทู ต ณ ก รุ ง ล อ น ด อ น

MESSAGE FROM AMBASSADOR OF THAILAND TO THE UNITED KINGDOM

นายพิษณุ สุวรรณะชฎ
เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๕)
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน นับตั้งแต่รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศมาตรการล็อกดาวน์ครั้งแรกในช่วงปลายมีนาคม ๒๕๖๓ เพื่อควบคุมเชื้อไวรัส
โควิด-19 จนถึงขณะนี้ก็ประมาณ ๑ ปีแล้ว วิถีชีวิตในภาวะปกติใหม่หลายอย่างเริ่มกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน โดยเฉพาะการล้างมือนาน ๒๐
วินาที การใส่หน้ากากอนามัย การรักษาระยะห่าง การใช้ชีวิตอยู่ในบ้านและผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งล้วนเป็นมาตรการด้านสุขอนามัยที่
จำเป็น ทุกคนต่างตั้งตารอวันที่จะได้อยู่ใกล้ชิดครอบครัว พบปะสังสรรค์เพื่อนฝูง และท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ข้อจำกัดต่าง ๆ ย่อมทำให้
เกิดความเครียดบ้าง แต่หากทุกคนให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ในขณะที่การฉีดวัคซีนดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
มาตรการล็อกดาวน์ก็น่าจะสิ้นสุดลงในไม่ช้าเช่นกัน ในช่วงนี้ สิ่งสำคัญคือ ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อพร้อมกลับไป
ใช้ชีวิตหลังยุคโควิด-๑๙ นะครับ

บ ท นำ

INTRODUCTION

ประการแรก สุขภาพสำคัญที่สุด เพราะผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงก็ติดเชื้อได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่แสดงอาการและสามารถ
แพร่เชื้อไปให้ผู้อื่นได้ ดังนั้น ทุกคนทุกเพศทุกวัยควรหันมาใส่ใจสุขภาพ แม้ในยามปกติ เพื่อดูแลสุขอนามัยที่ดีทั้งของ
คุณเองและคนที่คุณรัก การรักษาระยะห่างทำให้เราเห็นความสำคัญของครอบครัวและเพื่อนฝูงมากขึ้น คนเราไม่
สามารถอยู่คนเดียวได้ แต่ต้องอยู่ร่วมกันในสังคมกับญาติมิตรและเพื่อนมนุษย์โดยรวม การมีปฏิสัมพันธ์กันจะช่วย
คลายเหงาในยามที่ต้องอยู่บ้านเป็นเวลานาน เทคโนโลยีต่าง ๆ ช่วยให้คนเราใกล้ชิดกันมากขึ้น แม้ว่าจะไม่สามารถ
กลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัวได้ แต่ก็สามารถพูดคุยกันและเห็นหน้ากันได้ทุกวัน

ในยามที่หลายคนต้องทำงานที่บ้าน ก็ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังต้องไปทำงานทุกวันและเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส เพื่อ
ให้พวกเราสามารถดำเนินชีวิตไปได้ใกล้เคียงกับช่วงปกติมากที่สุด คนเหล่านี้อาจดูเหมือนไม่สำคัญเท่าใดนักในยาม
ปกติและอาจถูกมองข้ามไป แต่วันนี้ พวกเขาเป็นกลุ่มคนสำคัญ เป็นวีรบุรุษผู้เสียสละ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานขับรถ
สาธารณะ พนักงานในซุปเปอร์มาร์เก็ต พยาบาลและเจ้าหน้าที่ประจำรถพยาบาล พนักงานส่งของ พนักงานทำความ
สะอาดในโรงพยาบาลและสถานที่ต่าง ๆ เป็นต้น หากไม่มีคนกลุ่มนี้ ชีวิตของพวกเราจะลำบากเพียงใด สถานการณ์
เช่นนี้สะท้อนให้ตระหนักถึงความสำคัญของคนในทุกสาขาอาชีพที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ สถานเอก
อัครราชทูตฯ ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้แก่ทุกคนในการทำงานในภาวะที่ท้าทายเช่นนี้



ส า ร บั ญ

CONTENTS

๑. ย้อนระลึก (Reminiscence) ๑

๒. ประวัติศาสตร์สังเขป (Short History) ๒
๒.๑ อาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน (The Chancery) ๓
๒.๒ ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน และเรือนรับรอง (The Thai Residence)

๓. เรื่องเล่าจากความทรงจำ (An Oral History) ๔

๔. โครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูตฯ ๕
ทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ~และเรือนรับรอง (The Renovation Project)

๕. “บ้านใหม่” ของเรา (Our New “Home”) ๖

๖. ปีศาจสถานทูต (Phantom of the Embassy) ๗

๗. ศิลปกรรมล้ำค่าในสถานเอกอัครราชทูตฯ และทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ (Precious Art Pieces) ๘

๑ . ย้ อ น ร ะ ลึ ก

REMINISCENCE

ผมจำได้ดีถึงวันที่ได้ย่างก้าวเข้ามาเป็นครั้งแรกในวันที่มารับตำแหน่งในสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอนเมื่อ
วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๐ อากาศยังเย็นอยู่มากในวันนั้น และในสำนักงานก็ได้เห็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของเราหลายคนที่
แผนกกงสุลต้องสวมโอเวอร์โค้ตนั่งทำงาน ครั้นเดินตรวจเยี่ยมสำนักงานก็ได้พบถึงสภาพของสำนักงานที่เต็มไป
ด้วยความเสื่อมโทรมและขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย และไม่มีสิ่งใดที่พร้อมและเอื้ออำนวยให้สำหรับการทำงาน
เชิงรุก ห้องหับส่วนใหญ่สกปรกรกรุงรัง หลายห้องที่ควรจะใช้ประโยชน์ได้ กลับกลายเป็นห้องสำหรับทิ้งของเหลือใช้
จนรำพึงในใจว่า เหตุใดสถานทูตไทยในประเทศมหาอำนาจ เช่น สหราชอาณาจักร จึงมีความเสื่อมโทรมมากถึงเพียงนี้

เมื่อเข้าไปที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ บ้านช่องแม้ดูเรียบร้อยดี ทว่าเมื่อหยิบจับสิ่งของใดของเหล่านั้นก็ดูเหมือนจะ
หลุดติดมือออกมาได้ สระว่ายน้ำในทำเนียบมีน้ำใสดีแต่เย็นจัดไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากระบบทำความร้อนชำรุด
ห้องใต้ดินเต็มไปด้วยความชื้นและเชื้อราแบบที่สามารถได้กลิ่นเมื่อสูดลมหายใจเข้าไปเนื่องจากระบบทำความร้อนและ
ระบายอากาศของห้องใต้ดินชำรุด ห้องอบความร้อนที่ดูมีสภาพดีมากแต่ใช้ไม่ได้ก็ถูกแปรสภาพไปเป็นห้องเก็บเครื่อง
ถ้วยชามที่ไม่ใช้แล้ว สนามหลังบ้านรกรุงรังและเป็นที่พำนักของสุนัขจิ้งจอกตัวน้อยน่ารักที่ได้เข้ามาอาศัย สภาพห้อง
ครัวเก่าทรุดโทรมมากและไม่มีครัวสำหรับประกอบอาหารไทย เมื่อมีการประกอบอาหารไทยกลิ่นอาหารจึงคละคลุ้งไป
ทั่วทั้งทำเนียบ คืนวันหนึ่งขณะกำลังพักผ่อนก็ได้กลิ่นก๊าซของระบบทำความร้อนในบ้านรั่วไหลออกมา โซฟารับแขก
ของทำเนียบดูสวยงามดี แต่เมื่อหย่อนก้นลงไปสปริงของโซฟาก็เด้งขึ้นมาคล้ายกับจะรอทิ่มแทง ที่บ้านพักรับรองนั้น
เล่าก็ไม่มีสภาพใดที่จะเรียกว่าจะสามารถรับรองอาคันตุกะใด ๆ ได้



ประสบการณ์เลวร้ายเหล่านี้จุดประกายความคิดว่าถึงคราวที่จะต้องปรับปรุงซ่อมแซมอาคารสถาน เอกอัครราชทูตฯ
และทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ รวมทั้งบ้านพักรับรองครั้งใหญ่ และจะต้องทำให้สำเร็จให้จงได้เพื่อกำหนดมาตรฐาน
ใหม่ของอาคารสถานเอกอัครราชทูตฯ และทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ ของไทยในต่างประเทศที่มาตรฐาน ไม่เพียง
เพราะเป็นเรื่องหน้าตาของประเทศชาติและสิ่งที่เรียกว่า Soft Power ของไทย แต่ยังรวมถึงการมีเครื่องมือพื้นฐาน
สำหรับการทำงานเชิงรุกของไทยในสหราชอาณาจักรที่จะประหยัดกว่า ได้ผลมากกว่า และมีประสิทธิภาพโดยแท้จริง
ยิ่งกว่านั้น คือเพื่อยกระดับมาตรฐานการดำรงชีพในสถานที่ทำงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคนเพื่อผลิตภาพ
ของงานที่สร้างสรรค์เป็นมาตรฐาน ตลอดจนเพื่อคุณภาพชีวิตของทุกผู้คนที่อาศัยอยู่ในชายคาของทำเนียบเอกอัคร
ราชทูตฯ ด้วย

ความคิดนำทางสู่การปฏิบัติ เริ่มด้วยการระดมความคิดเห็นภายในสถานเอกอัครราชทูตฯ ถึงทัศนะและความพร้อมที่

จะก่อการปฏิรูปครั้งใหญ่ และการหาข้อมูลเพื่อการขออนุมัติโครงการปรับปรุงเปลี่ยนครั้งสำคัญนี้ หลายบริษัท

ก่อสร้างชาวบริติชได้รับการเชื้อเชิญให้เข้ามาประเมินสภาพอาคาร แผนงานการปรับปรุง และประเมินราคา ผลการ

ประเมินของบริษัทผู้ประอบการบริติชปรากฏไปในทิศทางเดียวกันว่า มีความจำเป็นที่จะต้องปิดสถานเอกอัครราชทูตฯ

เป็นเวลาประมาณสามปีเพื่อการปรับปรุงซ่อมแซมใหญ่ และต้องออกไปเช่าสำนักงานเพื่อการทำงานเป็นการชั่วคราว

และลำพังอาคารที่ทำการแห่งเดียวน่าจะต้องใช้งบประมาณสูงถึงกว่ายี่สิบล้านปอนด์ ไม่นับรวมค่าเช่าอาคาร

สำนักงานชั่วคราวและไม่รวมถึงการปรับปรุงทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ และบ้านพักรับรอง

ความท้อถอยบังเกิด ความเข้าใจถึงเหตุแห่งความเสื่อมโทรมของ “ที่ทำงาน” และ “บ้าน” ปรากฏ แต่ความรู้สึกเหล่านี้

ไม่มีผลต่อความความตั้งใจจริงที่จะต้องปรับปรุงให้สถานเอกอัครราชทูตฯ และทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ ดีขึ้นกว่าที่

เป็นอยู่



โชคยังเข้าข้างที่วันหนึ่งมีโทรศัพท์จากกรุงเทพฯ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยได้ติดต่อมาเพื่อ

ขอให้ผมช่วยเหลือในการประสานงานต่าง ๆ เกี่ยวกับการจำหน่ายที่ดินสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่ถนนเพลินจิต คงมี

บางสิ่งมาดลใจให้ได้เจรจาทางโทรศัพท์ไปถึงความเป็นไปได้ที่จะขอให้เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ผู้ซึ่งเป็น

กัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน ได้ช่วยเหลือให้ไทยสามารถทำการซ่อมแซมและปรับปรุงสถานเอกอัครราชทูตฯ และทำเนียบ

เอกอัครราชทูตในกรุงลอนดอนด้วยในลักษณะของการประติบัติต่างตอบแทน โดยเฉพาะการอนุญาตให้เราสามารถ

ใช้สถาปนิก มัณฑนากร และผู้รับเหมาก่อสร้างชาวไทยในการริเริ่มปรับปรุงซ่อมแซมที่ทำการและทำเนียบได้ ด้วย

มิตรภาพที่ดีต่อกันทั้งระหว่างสองประเทศและระหว่างตัวบุคคล ได้ช่วยให้เราสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ในหลักการ

เบื้องต้นที่จะร่วมมือกัน

ความหวังมาถึงพวกเราเต็มเปี่ ยม บันทึกข้อตกลงยินยอมให้ความร่วมมือในโครงการของสถานเอกอัครราชทูตฯ

ของทั้งสองประเทศได้รับการจัดทำขึ้นและลงนามโดยเอกอัครราชทูตฯ ของทั้งสองฝ่ายโดยความเห็นชอบของ

รัฐบาลทั้งสองฝ่าย กระบวนการประสานงานระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับกระทรวงฯ เริ่มขึ้นอย่างจริงจัง ที่

ปรึกษา สถาปนิก มัณฑนากร บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างได้รับการคัดเลือก งานด้านการประเมินและตรวจสอบเริ่มต้น

ขึ้น

แทนการต้องปิดที่ทำการสามปีและใช้งบประมาณกว่า ๙๐๐ ล้านบาท ถูกแทนที่ด้วยความคิดสร้างสรรค์และความ
ชำนาญของบุคลากรที่เชี่ยวชาญของไทยที่ได้ประเมินว่า คงจะใช้งบประมาณราวสามร้อยล้านบาท ซึ่งเงินก้อนนี้จะ
รวมถึงการบูรณะปรับปรุงทำเนียบเอกอัครราชทูตและบ้านพักรับรองด้วย ระยะเวลาในการทำงานทั้งหมดประเมินว่า
ใช้เพียงหนึ่งปี ไม่จำเป็นต้องออกไปหาอาคารสำนักงานชั่วคราว แต่จำเป็นที่พวกเราจะต้องอดทนทำงานในพื้นที่ที่มี
การก่อสร้าง ทั้งกับสิ่งที่อาจจะมองเห็นด้วยสายตา คือพื้นที่ก่อสร้างที่รกรุงรัง และที่ไม่เห็นด้วยสายตา คือ ฝุ่น เสียง
และกลิ่น ซึ่งอุปสรรคเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาของพวกเรา เนื่องจากสมาชิกทุกคนของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ตกลงใจ
ร่วมกันแล้วว่า เราพร้อมทุกเรื่องหากจะสามารถบันดาลให้เรามี “บ้านใหม่” ที่สมฐานะหน้าตาของชาติไทยให้จงได้



บนเส้นทางของการทำงานปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่ทำการและทำเนียบมีขวากหนามและความท้าทายเกิดขึ้นตลอด
เวลา ทั้งเรื่องกฎ ระบียบของบ้านเมืองอังกฤษ การปรับปรุงก่อสร้างที่ยุ่งยากเนื่องจากเกี่ยวข้องกับงานระบบต่าง ๆ
ของประเทศเมืองหนาวที่มีความซับซ้อน ประกอบกับทั้งอาคารที่ทำการและทำเนียเอกอัครราชทูตฯ ล้วนเป็นอาคาร
อนุรักษ์ การปรับปรุงแก้ไขสิ่งใดให้สอดคล้องกับยุคสมัยและสภาพการณ์ปัจจุบันยิ่งมีความซับซ้อนยุ่งยากขึ้นไปอีก
สภาพแวดล้อมในการทำงานที่พื้นที่ก่อสร้างก็เป็นสิ่งที่ท้าทายความอดทนของพวกเราตลอดเวลา เนื่องจากในความ
ไม่พร้อมด้านสภาพแวดล้อม ในขณะที่พวกเราต้องพร้อมในการทำงานอย่างเต็มกำลัง ต้องสามารถผลักดันผลงาน
อย่างสร้างสรรค์ สมบูรณ์ด้วยประสิทธิภาพ และสร้างประโยชน์กับประเทศไทยไทยและความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สห
ราชอาณาจักร

บนเส้นทางอันขรุขระนี้ เรายังต้องเผชิญกับขวากหนามที่ไม่คาดคิดอีกด้วย โรคระบาดโควิด-๑๙ ระลอกแล้วระลอก
เล่า ช่างผีมือที่มาทำงานให้เราด้วยความมุมานะต้องเทียวเดินทางไปกลับกรุงเทพฯ-ลอนดอน ในโควิดระลอกแรกที่มี
ความรุนแรง และกลับมาทำงานในช่วงที่เราเชื่อว่าสถานการณ์ดีขึ้น แล้วกลับต้องพบการระบาดระลอกสองซึ่งช่าง
ฝีมือที่มาทำงาน ๑๒ คน ได้ติดเชื้อและต้องพักงานรักษาตัวถึง ๑๑ คน
ทั้งหมดนี้ได้ทำให้โครงการปรับปรุงซ่อมแซมต้องล่าช้าออกไปจากที่คาดว่าจะใช้เวลาราวหนึ่งปี เป็นใช้เวลาทั้งสิ้นรวม
หนึ่งปีกับแปดเดือน แม้จะใช้เวลานานขึ้น แต่เราได้ใช้เงินงบประมาณทั้งหมดไปเพื่อการปรับปรุง “บ้านใหม่” ของเรา
ทั้งสิ้นเพียง ๒๙๘ ล้านบาท ได้ผลงานที่สมใจและประหยัดงบประมาณได้หลายร้อยล้านบาท

ความมุ่งมั่นอดทนและเสียสละของสมาชิกทุกคนในสถานเอกอัครราชทูตฯ ด้วยความเข้าอกเข้าใจย่อมให้ผล

ตอบแทนที่คุ้มค่าเสมอ วันที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงอาคารที่เก่าแก่และขาดการบำรุงรักษา ให้กลายเป็นอาคาร “อา

รยะสถาปัตย์” ตอบสนองความต้องการของผู้คนทุกกลุ่ม ทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และบุคคลภายนอกที่เข้ามา

ใช้บริการด้านการกงสุลของสถานเอกอัครราชทูตฯ “บ้าน” ของเรางดงามน่าอยู่อาศัยและใช้ชีวิตในการทำงานที่เปี่ ยม

ด้วยพลังสร้างสรรค์ ข้าราชการของเรามีห้องทำงานส่วนตัวเป็นสัดส่วน สะอาดเรียบร้อย และสวยงาม เจ้าหน้าที่ท้อง

ถิ่นมีพื้นที่ทำงานที่เป็นระเบียบและถูกสุขลักษณะ การหมุนเวียนของอากาศในอาคารคือลมบริสุทธิ์ที่เราสามารถ

หายใจเข้าไปได้ด้วยความมั่นใจ เราสามารถทำงานในอาคารที่มีอุณหภูมิพอเหมาะแบบที่ควรเป็นโดยไม่ต้องกังวลกับ

ความร้อนหนาวของภูมิอากาศตามฤดูกาล มีระบบอินเตอร์เน็ตรองรับการทำงานยุคใหม่ที่รวดเร็ว เสถียร และมี

ประสิทธิภาพ และ “บ้าน” ของเรามีความมั่นคงปลอดภัยทั้งต่อสวัสดิภาพและทรัพย์สินเช่นเดียวกับสถาน

เอกอัครราชทูตของประเทศอารยะทุกแห่งในกรุงลอนดอน



ภายหลังการปรับปรุงซ่อมแซม เราสามารถเปลี่ยนห้องดี ๆ ที่เคยทิ้งร้างหรือใช้ประโยชน์เพียงแค่ไว้ทิ้งของที่ไม่ใช้
แล้ว ให้เป็นห้องรับแขกที่สวยงามได้บรรยากาศแบบไทย ๆ ได้แก่ ห้อง “สุโขทัย” มีห้องประชุมน้อยใหญ่และ
เอนกประสงค์ทีมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครัน ได้แก่ ห้อง “ศรีอยุธยา” “ธนบุรี” และ “รัตนโกสินทร์”
เรามีห้องบอลรูมขนาดพอเหมาะที่ใช้ประโยชน์ในวาระโอกาสต่าง ๆ ที่งดงามและใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่สำหรับ
ภารกิจของประเทศไทยในสหราชอาณาจักร ได้แก่ ห้อง “มิตราสมาคม” นอกจากนั้น เราได้แปรทุกตารางนิ้วของ
อาคารที่ทำการให้มีความสง่างามและมีงานศิลปะดี ๆ ให้พวกเราได้ภาคภูมิใจและสามารถใช้ชีวิตในที่ทำงานด้วย
สุนทรียภาพ สามารถรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของอาคารสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่ควรค่าแก่การรักษาเอาไว้ได้
เป็นอย่างดี และที่สำคัญกว่านั้น ยังสามารถวางตัวองค์กรของเราใน “บ้านใหม่” แห่งนี้ นอกจากความสง่าสมสมฐานะ
ความเป็นไทยแล้ว ยังให้เป็นอาคารสถานที่ทำงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความรับผิดชอบต่อสังคมบริติชที่
เราอาศัยอยู่ได้ด้วย โดยเฉพาะเรื่องความสะอาดและตกแต่งอาคารภายนอกให้งดงาม การลดการใช้กระดาษ การลด
ขยะโดยเฉพาะขยะพลาสติก ฯลฯ

สำหรับที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ เราสามารถแปรสภาพสถานที่ “ดูดีแต่ใช้งานไม่ได้” หรือ “ใช้งานได้แต่ดูไม่ดี” ให้
เป็นสถานที่ที่ “ใช้ได้และโชว์ได้” แก้ไขทุกสิ่งที่ชำรุดให้คืนสู่สภาพที่สมบูรณ์และใช้งานได้ดี จัดระเบียบสถานที่ใหม่หมด
ปรับปรุงครัวและสิ่งอำนวยความสะดวกให้ใช้งานได้สมประโยชน์ อีกทั้งปรับทุกตารางนิ้วของทำเนียบฯ ให้สามารถใช้
ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ทุกวันนี้ เรามีทำเนียบฯ ที่งดงามไม่น้อยหน้าใครในลอนดอน เราเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน
และพรมใหม่ทั้งหมด โดยนำเข้าผลิตภัณฑ์และชิ้นงานท้งหมดจากประเทศไทยและเป็นฝีมือคนไทย ทำให้เจ้าบ้าน
สามารถมีเรื่องเล่าต่าง ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ประเทศไทยได้ไม่รู้จบ และทำให้เรามีทั้งอาคารสถานเอกอัครราชทูตฯ และ
ทำเนียบฯ ที่เป็นเสมือนห้องแสดงสินค้าคุณภาพจากประเทศไทย เราเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยให้กับทำเนียบฯ
จากที่เคยไม่มีเลยเป็นระบบที่รอบคอบรัดกุม เราเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ ๆ อาทิ ห้องรับประทานอาหารใหญ่
พื้นที่สนามหญ้าที่ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นและกว้างขวางขึ้น ของที่เคยใช้ไม่ได้เช่นสระว่ายน้ำ ห้องอบความร้อน
ซ่อมแซมให้ใช้งานได้ตามอรรถประโยชน์ รวมทั้งสร้างห้องสันทนาการใหม่ที่สามารถใช้ประโยชน์ในการผูกมิตรไมตรี
กับผู้คนที่จะให้ประโยชน์กับสังคมและประเทศไทย

“บ้านใหม่” ของเราวันนี้จึงพร้อมรองรับการปฏิบัติหน้าที่เชิงรุกทางการทูตของไทยในสหราชอาณาจักรได้อย่าง
สมบูรณ์แบบ



หากจะนับว่าการซ่อมแซมปรับปรุงสถานเอกอัครราชทูตฯ และทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน คือตัวอย่างที่
อาจเรียกได้ว่าเป็น “ความสำเร็จ” สิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากการสนับสนุนของผู้บริหารที่เกี่ยวข้องของ
กระทรวงการต่างประเทศ ความเป็นมืออาชีพของที่ปรึกษา สถาปนิก มัณฑทนากร และบริษัทผู้รับเหมา การอุทิศตัวให้
กับงานและผลงานของช่างฝีมือทุกท่านจากประเทศไทยได้อุทิศให้กับโครงการ และที่สำคัญที่สุดคือความมุ่งมั่นตั้งใจ
และเป็นอันเหนึ่งอันเดียวกันของสมาชิกทุกคนของสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่จะทำให้ที่ทำงานของเราเป็น “บ้านใหม่”
ที่แท้จริงและเป็นตัวแทนของประเทศไทยในสหราชอาณาจักรที่สมเกียรติและน่าภาคภูมิใจ
หากพัฒนาการที่แม้จะยากลำบากและต้องผ่านการท้าทายหลากหลายรูปแบบที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน
ได้ผ่านประสบการณ์มาแล้ว จะสามารถเป็น “ต้นแบบ” อย่างใดอย่างหนึ่งให้สำนักงานไทยในต่างประเทศอื่น ๆ

ได้ดำเนินรอยตามและพบกับความสำเร็จเช่นเดียวกัน เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานการทูตเชิงรุกให้มีประสิทธิภาพ
รวมทั้งเพื่อแสดง Soft Power ของประเทศไทยให้เป็นที่ประจักษ์ ความตั้งใจดังกล่าวนี้ย่อมจะเป็นสิ่งที่พวกเราชาว
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอนจะขอร่วมเป็นกำลังใจให้ และขอแสดงความยินดีด้วยความเต็มใจ



ประวัติความเป็นมาของสถานเอกอัครราชทูต
HISTORY OF THE EMBASSY

พระยามนตรีสุริยวงศ์ (ชุ่ม บุนนาค) ผู้ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ได้โปรดเกล้า ฯ ให้เป็น ราชทูตไทยคนแรก
แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เชิญพระราชสาส์น และ เครื่องราชบรรณาการไปถวายสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียเมื่อ วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔oo

เป็นการเจริญพระราชไมตรีตอบแทนที่พระเจ้าแผ่นดินแห่งสหราชอาณาจักรได้ส่ง เซอร์ จอห์น บาวริ่ง (Sir John Bowring)
เป็นราชทูตมายังกรุงสยามในปี พ.ศ. ๒๓๙๘

เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน fig. 3 เอกอัครราชทูต

A nebula (Latin for "cloud"pl. nebulae, nebulæ, or nebulas) is an
A nebula (Latin for "cloud"pl. nebulae, nebulæ, or nebulas) is an
interstellar cloud of dust, hydrogen, helium and other ionized
interstellar cloud of dust, hydrogen, helium and other ionized
gases. Originally, nebula was a name for any diffuse
gases. Originally, nebula was a name for any diffuse
astronomical object, including galaxies beyond the Milky Way.
astronomical object, including galaxies beyond the Milky Way. 
The Andromeda Galaxy, for instance was once referred to as 

๒ . ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ สั ง เ ข ป

SHORT HISTORY

fig. 1 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน fig. 2 ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน







ส ถ า น เ อ ก อั ค ร ร า ช ทู ต ณ ก รุ ง ล อ น ด อ น



ROYAL THAI EMBASSY, LONDON AND RESIDENCE

๒ . ๑ อ า ค า ร ที่ ทำ ก า ร ส ถ า น เ อ ก อั ค ร ร า ช ทู ต ณ ก รุ ง ล อ น ด อ น




Royal Thai Embassy
29-30 Queen's Gate,

London, SW7 5JB

อาคารเลขที่ 29 – 30 Queen’s Gate ตั้งอยู่ในย่าน South Kensington มีลักษณะเป็นอาคารสูง ๖ ชั้นพร้อมชั้น
ใต้ดิน รูปลักษณ์สไตล์วิคตอเรีย กรอบหน้าต่างทรงสูงแบบอังกฤษ ผนังด้านหน้าอาคารเป็นลวดลายปูนปั้ นอ่อนช้อย
และมีประตูรั้วที่เป็นเหล็กดัดแบบโบราณ ถูกจัดให้เป็นอาคารอนุรักษ์ Grade II Listed Building อยู่ใกล้กับสวน
สาธารณะ Hyde Park และสถานที่สำคัญ ๆ จึงถือว่าตั้งอยู่ในทำเลที่มีมูลค่าสูงและดีที่สุดแห่งหนึ่งใจกลางกรุง
ลอนดอน

จากเอกสารหลักฐานที่ปรากฏ ไม่พบข้อมูลชัดเจนว่าอาคารดังกล่าวได้ก่อสร้างขึ้นเมื่อใด แต่สันนิษฐานได้ว่า อาคาร
และถนนหนทางส่วนใหญ่ในย่านนี้ได้ก่อสร้างขึ้นประมาณช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ ๑๙ ประมาณปี พ.ศ. ๒๓๙๘
(ค.ศ. ๑๘๕๕) เป็นต้นมา โดยภายหลังการจัดงาน Great Exhibition of the Works of Industry of All Nations
(Great Exhibition) ที่สวนสาธารณะ Hyde Park ในปี พ.ศ. ๒๓๙๔ (ค.ศ. ๑๘๕๑) แล้วเสร็จ คณะกรรมการจัดงาน
Great Exhibition (The Royal Commission for the Exhibition of 1851) ได้นำกำไรจากจัดงานไปซื้อที่ดินใน
บริเวณที่ตั้งอยู่โดยรอบถนน Queen’s Gate และถนน Exhibition ในปัจจุบัน เพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางด้านการ
ศึกษาและวัฒนธรรม มีการสร้างอาคารโดยรอบและถนนหนทางในบริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีชื่อเรียกขาน
กันในสมัยนั้นว่า Albertopolis เพื่อเฉลิมพระเกียรติเจ้าชายอัลเบิร์ต พระสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรีย จาก
การที่พระองค์ ทรงผลักดันและมีบทบาทสำคัญในการจัดงาน Great Exhibition จนประสบความสำเร็จ



ปัจจุบันในบริเวณดังกล่าวมีสถานที่สำคัญและเป็นที่รู้จักในระดับโลก อาทิ Albert Memorial, Royal Albert Hall,
Natural History Museum, Victoria and Albert Museum, Science Museum, Royal College of Art,
Royal College of Music และ Imperial College London

สำหรับอาคารสถานเอกอัครราชทูตฯ นี้ ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าก่อนหน้าที่ทางการไทยจะเข้าถือครองกรรมสิทธิ์
เคยเป็นอาคารของผู้ใดและใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด แต่เล่ากันต่อ ๆ มาว่า เดิมเคยเป็นบ้านพักคนชราบ้าง เป็นสถาน
ที่พักของผู้ป่วยระยะสุดท้าย (Hospice) บ้าง และบ้างก็ว่าเป็นสถานพยาบาลของผู้ป่วยจิตเวช

ไม่ว่าจะมีภูมิหลังเช่นไร รัฐบาลไทยได้ซื้ออาคารเลขที่ 30 Queen’s Gate โฉนดที่ดินเลขที่ LN233892 ในราคา
๕๐,๐๐๐ ปอนด์ เมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ (ค.ศ. ๑๙๖๓) และอีกประมาณสามสัปดาห์ต่อมาในวันที่ ๒๘ ตุลาคม
พ.ศ. ๒๕๐๖ (ค.ศ. ๑๙๖๓) ได้ซื้ออาคารเลขที่ 29 Queen’s Gate โฉนดที่ดินเลขที่ LN187648 ในราคา ๔๐,๐๐๐
ปอนด์ โดยเป็นการซื้อขายแบบที่รัฐบาลไทยได้สิทธิ์การครอบครองอสังหาริมทรัพย์โดยสมบูรณ์ (Freehold) การซื้อ
อาคารทั้งสองหลังนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นอาคารที่ทำการแห่งใหม่ของสถานเอกอัครราชทูตฯ ทดแทนอาคาร
ที่ทำการเดิมซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารเลขที่ 21 – 23 Ashburn Place, London SW7 ที่สัญญาเช่าระยะยาว (Leasehold)
อายุ ๑๐๗ ปี (พ.ศ. ๒๔๐๐ – ๒๕๐๗ หรือ ค.ศ. ๑๘๕๗ - ๑๙๖๔) กำลังจะหมดอายุลง

ภายหลังการจัดซื้อแล้วเสร็จ อาคารทั้งสองหลังนี้ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมใหญ่ ผนังอาคารบางส่วนได้ถูกรื้อถอน
เพื่อเชื่อมอาคารทั้งสองหลังนี้เข้าด้วยกัน รวมทั้งดำเนินการตกแต่งภายในเพื่อให้เหมาะสมต่อการใช้งานเป็นอาคาร
ที่ทำการและทำเนียบเอกอัครราชทูต เดิมอาคารเลขที่ 29 Queen’s Gate เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงรับรองต่าง ๆ ที่
ชั้น Ground Floor และชั้น ๑ สำหรับชั้น ๒ ใช้เป็นส่วนพักรับรองของบุคคลสำคัญ และชั้น ๔ และ ๕ เป็นที่พักของ
เอกอัครราชทูตและครอบครัว ส่วนผู้ติดตามพักอยู่ที่ชั้นใต้ดิน สำหรับอาคารเลขที่ 30 Queen’s Gate เป็นที่ทำงาน
ของข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้สถานเอกอัครราชทูตฯ โดยชั้น Ground Floor
เป็นฝ่ายกงสุลที่ให้บริการชาวไทยและชาวต่างชาติ



ในเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๓๙ (ค.ศ. ๑๙๙๖) อาคารที่ทำการแห่งนี้ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมใหญ่ทั้งอาคารเป็น ครั้ง
ที่สอง ใช้เวลาดำเนินการประมาณ ๑๕ เดือน เป็นการปรับปรุงงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารทั้งหมด รวมทั้งปรับ
เปลี่ยนและขยายห้องทำงานและห้องต่าง ๆ โดยในขณะนั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ออกไปเช่าอาคาร Yorkshire
House ถนน Grosvenor Crescent ย่าน Belgravia ใกล้กับ Hyde Park Corner เป็นที่ทำการชั่วคราว ก่อนที่จะ
ย้ายกลับเข้าที่ตั้งเดิมเมื่อการบูรณะปรับปรุงแล้วเสร็จ
อาคารแห่งนี้เป็นอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่มีความสง่างาม และยืนหยัดท้าทายกาลเวลายาวนานเกือบ
ถึงหกสิบปี (ในปี ๒๕๖๖) ได้มีโอกาสต้อนรับบุคคลสำคัญทั้งในระดับพระบรมวงศานุวงศ์และผู้นำรัฐบาลตลอดมานับ
แต่เริ่มต้นจวบจนปัจจุบัน จึงจำเป็นอยู่เองที่จะต้องได้รับการดูแลทำนุบำรุงให้สมฐานะและเกียรติภูมิของประเทศไทย
ตลอดไป

*****



๒ . ๒ ป ร ะ วั ติ ทำ เ นี ย บ เ อ ก อั ค ร ร า ช ทู ต ณ ก รุ ง ล อ น ด อ น แ ล ะ เ รื อ น รั บ ร อ ง




The Thai Residence
9 Tregunter Road and 10 Cathcart Road

London SW10

ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน เป็นอาคารพักอาศัยในลักษณะทาวเฮ้าส์แบบอังกฤษ ตั้งอยู่ในย่าน
Chelsea ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่สำคัญใจกลางเมืองและอยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะ Hyde Park จึงถือว่าตั้งอยู่ใน
ทำเลที่มีมูลค่าสูงและดีที่สุดใจกลางกรุงลอนดอน จากเอกสารหลักฐานที่ปรากฏ ไม่พบข้อมูลชัดเจนว่าอาคารพัก
อาศัยดังกล่าวได้ก่อสร้างขึ้นเมื่อใด แต่พบว่าได้รับการพัฒนาและปรับปรุงซ่อมแซมเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๓๙๔ –
๒๓๙๕ (ค.ศ. ๑๘๕๑ – ๑๘๕๒) เพื่อเป็นบ้านพักอาศัยสำหรับคหบดีในสมัยนั้น โดยมีการซื้อขายและเช่าเปลี่ยนมือผู้
ครอบครองเรื่อยมาจวบจนประมาณปี พ.ศ. ๒๕๐๒ (ค.ศ. ๑๙๕๙) เท่าที่ปรากฏข้อมูล

บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Northacre Investments Limited โดยนาย John Hunter และนาย Klas Nilsson
สถาปนิก ได้เริ่มโครงการพัฒนาอาคารพักอาศัยแห่งนี้ในปี พ.ศ. ๒๕๓๓ (ค.ศ. ๑๙๙๐) โดยซื้อบ้านพร้อมที่ดินสอง
แปลง ประกอบด้วย (๑) บ้านเลขที่ 9 Tregunter Road เป็นอาคารพักอาศัย ๕ ชั้น และ (๒) บ้านเลขที่ 10 Cathcart
Road เป็นบ้าน ๒ ชั้นขนาดเล็ก ซึ่งในขณะนั้นมีสภาพทรุดโทรม และได้วางแผนการพัฒนาที่ดินและออกแบบอย่าง
สวยงาม ทันสมัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยเชื่อมต่อที่ดินทั้งสองแปลงเข้าด้วยกันด้วยสนามหญ้า
ปรับปรุงซ่อมแซมให้บ้านเลขที่ 9 Tregunter Road เป็นอาคารพักอาศัยหลักด้านหน้า รื้อถอนบ้านเลขที่ 10
Cathcart Road ของเดิมและสร้างใหม่ให้เป็นเรือนรับรอง บริษัท Northacre Investments Limited ได้เริ่มดำเนิน
การปรับปรุงซ่อมแซมและก่อสร้างในเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ (ค.ศ. ๑๙๙๑) แล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ (ค.ศ. ๑๙๙๓)
ใช้เวลาประมาณ ๒ ปี



อาคารพักอาศัยด้านหน้าเป็นอาคาร ๕ ชั้นเล่นระดับพร้อมชั้นใต้ดินและมีลิฟต์โดยสาร ส่วนหน้าอาคารคงรูปลักษณ์
สไตล์วิคตอเรียตามเดิมด้วยข้อกฎหมายว่าด้วยเขตอนุรักษ์ กรอบหน้าต่างทรงสูงแบบอังกฤษ ผนังอาคารเป็นอิฐตัด
กับลวดลายปูนปั้ นอ่อนช้อย และประตูรั้วที่เป็นเหล็กดัดแบบโบราณ เรือนรับรองด้านหลังเป็นอาคาร ๔ ชั้นเล่นระดับ
พร้อมโรงจอดรถและมีลิฟต์โดยสาร ทั้งสองอาคารถูกเชื่อมต่อด้วยสนามหญ้าเปิดโล่งขนาดย่อมที่มีพรรณไม้ใหญ่
ร่มรื่น บริเวณใต้สนามหญ้าได้ขุดพื้นทำชั้นใต้ดินที่มีทางเดินถึงกัน เป็นพื้นที่สันทนาการ ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ
ขนาด ๓๒ ฟุต ห้องอบไอน้ำ ห้องอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า และห้องสันทนาการ รวมพื้นที่ใช้สอยภายในอาคารทั้งหมด
ประมาณ ๑๐,๐๐๐ ตารางฟุต แบ่งเป็น อาคารพักอาศัยด้านหน้า ๕,๐๐๐ ตารางฟุต เรือนรับรอง ๓,๐๐๐ ตารางฟุต
ส่วนสันทนาการ ห้องอาหาร และห้องครัวที่อยู่ชั้นใต้ดิน ๒,๐๐๐ ตารางฟุต

โครงการพัฒนาอาคารพักอาศัยแห่งนี้ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางว่า ได้รับการปรับปรุงบนพื้นฐานหลักวิชาการด้าน
สถาปัตยกรรมและวิศวกรรมที่สมบูรณ์แบบและทันสมัยที่สุดในสมัยนั้นจนเป็นที่เลื่ องลือในแวดวงอสังหาริมทรัพย์
ของอังกฤษ มีข่าวและบทความที่เกี่ยวข้องตีพิมพ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ชั้นนำหลายฉบับ อาทิ Financial Times Herald
Tribune, The Times,Daily Express, Daily Mirror และ The London Magazine โดยมีราคาที่ประกาศขายใน
ขณะนั้น ๙,๐๐๐,๐๐๐ ปอนด์

เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๖ (ค.ศ. ๑๙๙๓) กระทรวงการต่างประเทศได้เห็นชอบให้จัดหาบ้านพร้อมที่ดินในกรุงลอนดอนเพื่อเป็น
ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน หลังใหม่ โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้สำรวจและเสาะหาบ้านพร้อมที่ดิน
หลายแห่งในกรุงลอนดอนในย่านต่าง ๆ อาทิ Holland Park และ Wimbledon รวมทั้งบ้านหลังนี้ในย่าน Chelsea
ซึ่งภายหลังการพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ อย่างรอบด้านแล้ว ได้เสนอกระทรวงฯ ให้จัดซื้อบ้านเลขที่ 9 Tregunter
Road และบ้านเลขที่ 10 Cathcart Road ในย่าน Chelsea เป็นทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน หลังใหม่
ทดแทนหลังเดิม ซึ่งตั้งอยู่ในย่าน Cheam ชานกรุงลอนดอน



เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ (ค.ศ. ๑๙๙๓) รัฐบาลไทยได้เข้าถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินและอาคารแห่งนี้เพื่อใช้เป็น
ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน โดยจัดซื้อบ้านพร้อมที่ดินและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งทั้งหมดในราคา
๗,๗๐๐,๐๐๐ ปอนด์ ลดลงจากราคาที่ประกาศขายไว้ มีโฉนดที่ดินแยกเป็นสองฉบับ ได้แก่ (๑) โฉนดเลขที่ LN70825
สำหรับบ้านเลขที่ 9 Tregunter Road และ (๒) โฉนดเลขที่ LN115092 สำหรับบ้านเลขที่ 10 Cathcart Road จาก
นั้นได้ขายทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน หลังเดิมในย่าน Cheam ในปี พ.ศ. ๒๕๓๗ (ค.ศ. ๑๙๙๔)
สถานที่ที่สวยงามแห่งนี้จึงได้กลายเป็นทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาจวบจน
ปัจจุบัน

*****



๓ . เ รื่ อ ง เ ล่ า จ า ก ค ว า ม ท ร ง จำ

AN ORAL HISTORY

นายรนยุทธ์ โภคานันท์: สถานเอกอัครราชทูตสยาม ณ กรุงลอนดอนแห่งแรก (21-23 Ashburn Place, SW7)

เมื่อปี พ.ศ. 2398 (ค.ศ. 1856) รัชการที่ 4 สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงลงพระปรมาภิไธย กับ เซอร์ จอห์น บาวริง
(Sir John Bowring) ผู้แทน สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ Victoria ในการลงนามสนธิสัญญาบาวริง ถือเป็นจุด
เปลี่ยนที่สำคัญของการพัฒนาการทางเศรษฐกิจของไทย และเพื่อเพิ่มพูลความสัมพันธิ์ระหว่างสองประเทศ หลังจากรัฐบาล
ของ Queen Victoria ส่ง เซอร์ จอห์น บาวริง มาเป็นราชทูตฯ ท่านแรกประจำกรุงสยาม เมื่อปี พ.ศ. 2398 (ค.ศ. 1855)
พระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชประสงค์ส่งราชทูตฯ สยามไปประจำกรุงลอนดอน เป็นการเจริญพระราชไมตรีตอบแทนสมเด็จพระ
ราชีนีวิคตอเรีย ที่ส่ง เซอร์ จอร์น บาวริ่ง เป็นราชทูตยังกรุงสยาม รัฐบาลของสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงจัดซื้อ
อาคารตึกเป็นแห่งแรกในสหราชอาณาจักร “เช่าซื้อ” โดยกำหนดเวลาเช่าซื้อ 107 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2398 (ค.ศ. 1855) เพื่อใช้
เป็นที่พักเอกอัครราชทูตฯ และที่ทำการคณะทูตไทย โดยเลือกทำเลย่าน Gloucester Road อาคารตึกเลขที่ 21-23
Ashburn Place, SW7 เดินทางเท้าถึง สอท. ปัจจุบัน ประมาณ 13 นาที จากนั้น ได้ปรับปรุง/ซ่อมแซมเพื่อเป็นที่พักเอกอัคร
ราชทูตฯ และเป็นที่ทำการของคณะทูตไทย ใช้ชื่อทางทางการ Royal Siamese Embassy พระยามนตรีสุริยวงศ์ (ชุ่ม
บุญนาค) ผู้ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้โปรดเกล้าฯ ให้เป็นราชทูตฯ สยามท่านแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันที่
19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2400 (ค.ศ. 1857)



ตามเอกสารข้อมูลชองไทยและกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร ได้เอ่ยถึงการเยือน สอท. 21-23 Ashburn Place ของ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาท ซึ่งเสด็จเยือนสหราชอาณาจักรฯ อย่างเป็น

ทางการ (State Visit) เป็นครั้งแรก (สมัยทัวร์ยุโรป แคนาดา และอเมริกา) ในฐานะพระราชอาคันตุกะของสมเด็จพระนางเจ้า

พระบรมราชินีเอลิซาเบธที่ II ระหว่างวันที่ 19 ถึง 23 กรกฏาคม พ.ศ. 2503 (ค.ศ. 1960) โดยเสด็จประทับเครื่องบินพระที่นั่ง จาก

นครเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถึงสนามบิน Gatwick สหราชอาณาจักร เวลา 11.15 น. โดย Princess Alexandra of Kent

ผู้แทนในสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ II เสด็จขึ้นเครื่องบินพระที่นั่งเพื่อถวายการต้อนรับพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ

พระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถและกราบบังโคมทูลเชิญทั้งสองพระองค์เสด็จลงจากเครื่องบินพระที่นั่ง พร้อมจากนั้นได้เสด็จ

ประทับโดยรถไฟเข้ากรุงลอนดอน ถึงสถานีรถไฟวิกตอเรียเวลา 11.45 น. สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ II และท่านดยุกแห่ง

เอดินบะระ เสด็จพระราชดำเนินรอรับเสด็จ ณ สถานีรถไฟวิกตอเรีย 2/15 พร้อม ขรก. ระดับสูงฝ่ายอังกฤษ น.ร.ม. แมกมิลแลน -

ร.ม.ว. กต. เซลวิน ลอยด์ - ออท. อังกฤษประจำไทย เซอร์ ริชาร์ต วิตทิงตัน - ขรก ฝ่ายไทย: หม่อมหลวงปีกทิพย์ มาลากุล

เอกอัครราชทูต - หลวงปราโมชย์ จรรยาวิภาธ ผู้ดูแลนักเรียนไทย - ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมชย์ (Press Officer) ผู้ช่วยทูตทหาร

สามเหล่าทัพ จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบทที่ II เสด็จขึ้นรถม้าพระที่นั่งเป็นคู่แรก ต่อ

จากนั้นท่านดยุกแห่งเอดินบะระและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จขึ้นรถม้าพระที่นั่งเป็นคู่ที่สอง เสด็จไปยังที่ประทับ

ณ พระราชวังบั้กกิ้งแฮม จากนั้น ทั้งสองพระองค์ทรงเริ่มพระราชกรณียกิจตลอดสองวันข้างหน้าจนถึงยามค่ำของวันที่ 20 กรกฏ

าคม เวลา 20.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงจัดเลี้ยงถวายพระกระยาหารค่ำ เป็นการเจริญพระราชไมตรีตอบแทนแก่

สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ II และท่านดยุกแห่งเอดินบะระ รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์อังกฤษ ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย

เลขที่ 21-23 Ashburn Place, Gloucester Road โดยมีหม่อมหลวงปีกทิพย์ มาลากุล เป็นเอกอัครราชทูตฯ

เมื่อวันที่ 22 กรกฏาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนินไปเสวยพระกระยาหารกลางวันที่สถานเอกอัครราช
ทูตฯ และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บรรดาคนไทยในอังกฤษเข้าเฝ้า ณ ห้องรับรองสถานเอกอัครราชทูตฯ โดยมีพระราช
ปฏิสันถารกับนักเรียนไทย สมาชิกสามัคคีสมาคม ในช่วงบ่ายได้เสด็จออกจากสถานเอกอัคราชทูตฯ ไปกลับโรงแรมที่ประทับ
Claridges โดยทั้งสองพระองค์เสด็จขึ้นประทับบนรถเมล์ประจำทางกรุงลอนดอน เป็นการลำลองปะปนกับผู้โดยสารอื่นๆ



นายถนัด คอมันตร์ รมว. กระทรวงการต่างประเทศ และนายปรียาชว์ คุณะเกษม เลขานุการ รมว. พำนักที่ สอท. Ashburn Place
ช่วงตามเสด็จฯ

· สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เช่าซื้ออาคารตึก เลขที่ 21-23 Ashburn Place เพื่อใช้เป็นที่ทำการสถานเอ

กอัครรชทูตสยามแห่งแรกในสหราชอาณาจักร สมัยสมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย มีอายุเช่าซื้อ (lease) 107 ปี ซึ่งหมดอายุลงเมื่อปี

พ.ศ. 2507 (ค.ศ. 1964) เอกอัครราชทูตฯ ประจำสถานทูตแห่งนี้รวม 23 ท่าน

บ้านโรงรถ: Earl’s Court

เมื่อปี พ.ศ. 2506/7 (ค.ศ. 1963/64) เอกอัครราชทูต หม่อมเจ้าเพลิงนพดล รพีพัฒน์ ซื้อบ้านพัก 3 ห้องนอน ย่าน Earl’s

Court บ้านเลขที่ 13 Pembrook Mews, Kensington W8 ราคา £10,000 แบบซื้อขาด (Freehold) เพื่อเป็นบ้านพัก ขรก.

พร้อมโรงรถจอดรถยนต์ขนาดกว้าง หลายปีต่อจากนั้นในปี พ.ศ. 2513 (ค.ศ. 1971) เอกอัครราชทูตกนต์ธีร์ ศุภมงคล

ดำรงค์ตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ได้ซื้อรถยนต์ราชการยี่ห้อ Daimler จุดประสงค์เพื่อใช้เป็นรถยนต์

พระที่นั่งสมเด็จพระบรม โอรสสาธิราชฯ ซึ่งกำลังศึกษาในระดับระดับมัธยมในสหราชอาณาจักร ขนาดของรถยนต์คันนี้

ใหญ่/ยาว โดยที่บ้านหลังนี้ มีโรงจอดรถยนต์ขนาดกว้าง และบ้านพักนี้อยู่ใกล้ สอท. จึงเป็นประโยชย์ในการเก็บรถยนต์

พระที่นั่ง Daimler ซึ่งสะดวกกว่าที่จะเก็บรถยนต์ที่บ้านทำเนียบ Cheam ซึ่งอยู่นอกลอนดอน นอกจากรถยนต์ Daimler ใช้เป็น

รถยนต์พระที่นั่งถวายพระบรมวงศานุวงศ์ต่างๆ ได้มีโอกาสใช้ต้อนรับบุคคลสำคัญเช่น นายกรัฐมนตรี เปรม ติลสุลานนท์ –

เจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา - เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ต่อมาหลังจากบ้านหลังนี้ไม่ได้ใช้เป็นบ้านพัก ขรก. ออท.

โอวาท สุธิวาทนฤพุทธิ จึงให้พนักงานลูกจ้าง สอท. (คุณสีนาทฯ) และครอบครัวพักอาศรัยแทนเป็นเวลาร่วม 10 ปี เพื่อดูแลบ้าน -

สอท. ให้ฉายาว่า “บ้านโรงรถ” ซึ่งขายไปประมาณปี พ.ศ. 2541 (ค.ศ. 1998) ช่วงวาระ ออท. วิทย์ รายานานนท์ จากนั้น สอท. ได้ส่ง

รถยนต์ Daimler เข้าพระราชวังฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระบรมฯ (ร. 10)



ทำเนียบ Cheam: “Northdown” 28 Golf Side, Cheam, Sutton, Surrey

เลขที่โฉนดที่ดิน: SY65003

เอกอัครราชทูต กนต์ธีร์ ศุภมงคล พิจารณาเลือกทำเนียบ ออท. หลังแรก เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2514 (ค.ศ. 1971) ราคา

£41,000 ลักษณะบ้านสองชั้น 7 ห้องนอน และห้องอเนกประสงค์หลายห้อง เช่น study room - billiard room - drawing

room - music room - breakfast room ทำเลอยู่ห่างจาก สอท. ประมาณ 21 ไมล์ เดินทาง 40 นาที เนื้อที่กว้างประมาณ 3 ไร่ มี

สนามหญ้าใหญ่กว้าง บรรยากาศร่มรื่น ออท. กนต์ธีร์ฯ ใช้เนื้อที่บ้านที่กว้างขวางให้เป็นประโยชย์ โดยต่อเติม Summer

Pavillion/Chalet บริเวณสระว่ายน้ำ รื้อถอนโรงจอดรถยนต์หน้าบ้าน เพื่อสร้างบ้านพักสองห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ สำหรับ

พนักงานคนสวนและครอบครัวอยู่พักอาศรัย และสนามเทนนิส เป็นต้น จากนั้นมีการซ่อมแซมเล็กน้อย

ทำนุบำรุงทุกระยะ ซ่อมรั้วจากลมพายุพัดเสียหาย - ซ่อมห้องใต้หลังคาบ้าน (Loft) – เปลี่ยนกระจกหน้าต่างสระว่ายน้ำ - ทาสี

เป็นต้น เนื่องจากระยะทางทำเนียบนั้นไกลจากลอนดอน และการจราจรบนถนนเพิ่มพูลมากขึ้นในยุคหลัง ซึ่งใช้เวลาเดินทางถึงที่

ทำการ สอท. เฉลี่ยหนึ่งชั่วโมงครึ่ง และโดยที่ ออท. ในยุคนั้น มีภาระกิจงานเสด็จของพระบรมวงศานุวงศ์และงานพิธีฯ ต่างๆ

อย่างไม่ขาดช่วง เริ่มปฏิบัติหน้าที่แต่เช้าตรู่จนยามดึก ดังนั้น เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงาน ออท. แต่ละท่านและครอบครัว

รวมทั้งผู้ติดตาม จึงพักนอน สอท. บนชั้น 4 ตลอดช่วงวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ส่วนวันหยุดบางสัปดาห์ ออท. จะกลับพักทำเนียบ

Cheam “ตามความทรงจำ” สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา เสด็จร่วมงานนิทรรศการที่ศูนย์ Barbican กรุงลอนดอน

และได้เสด็จเยือนทำเนียบ Cheam เสวยพระกระยาหารค่ำ

สอท. ขายบ้านทำเนียบ Cheam เมื่อปี พ.ศ. 2540 ( ค.ศ. 1997) - บ้านพัก Cheam มี ออท. พำนัก 5 ท่าน คือ ออท. กนต์ธีร์ -
ออท. แผนฯ - ออท. โอวาท - ออท. สุธีฯ - ส่วน ออท. ธงฉานฯ พักทำเนียบบ้าน Cheam เป็นเวลา 2 ปี 2 เดือน และเป็น ออท. ท่าน
แรกที่ย้ายเข้าบ้านทำเนียบใหม่ เลขที่ 9 Tregunter Road เมื่อต้นเดือนมกราคม พ.ศ. 2537 (ค.ศ. 1994) เป็นเวลา 10 เดือน
ก่อนเกษียรณอายุงานราชการ



ทำเนียบ ออท. ปัจจุบัน - เลขที่ 9 Tregunter Road, London SW10 9LS

หลังจากกระทรวงการต่างประเทศฯ อนุมัติ สอท. จัดหาซื้อที่ดินและอาคารบ้านในกรุงลอนดอน เพื่อเป็นบ้านพักใหม่ชอง เอกอัคร

ราชทูตฯ แทนบ้านพักเดิมที่ Cheam - สอท. ได้ติดต่อบริษัท Hamptons เพื่อสำรวจหาบ้านพักเอกอัครราชทูตหลังใหม่ที่

เหมาะสม บริษัทฯ จึงได้นัดหมาย จนท. สอท. โดยมี ออท. ธงฉานฯ - อท. วรพจน์ สนิทวงศ์ - อทป. พิทักษ์ พรมบุพภา -

อทป. ปิยะวัติ นิยมฤกษ์และ ดร. วีรชัย พลาศรัย เลขานุการเอก ซึ่งบริษัทเอเย่นต์พาชมบ้านหลายหลังในบริเวณต่างๆ

เช่น Holland Park - The Boltons (Chelsea) และชานกรุงฯ ย่าน Wimbledon ซึ่งอยู่ตรงข้ามวัดพุทธประทีป หลังจาก

พิจารณาบ้านทุกหลังแล้ว จึงส่งรายละเอียดเสนอความเห็นแก่กระทรวงฯ โดย สอท. เสนอบ้านพักเลขที่ 9 Tregunter พร้อมบ้าน

หลังสวนแบบสอง

ชั้น เลขที่ 10 Cathcart Road (The Lodge) พร้อมโรงรถจอดรถยนต์ได้สองคัน บ้านเลขที่ 10 หันหน้าออกถนน Cathcart
(เปรียบเสมือนบ้านสองหลัง)

จึงได้ที่อยู่ไปรษณีย์ต่างหาก กระทรวงอนุมัติซื้อบ้านพักหลังนี้ในวงเงิน £7,700,000.00 ในราคาลด พร้อมเฟอร์นิเจอร์ ภาพวาด

ติดพนังสวยงาม (fully furnished) - สอท. - กต. และบริษัทผู้ขาย ตรวจร่างสัญญาซื้อขาย - โดย อธิบดี กฤษณ์ กาจนกุญชร -

รองอธิบดี เพ็ญศักดิ์ ชลารักษ์ กรมสนธิสัญญาและกฏหมาย และ ดร. วีรชัย พลาศรัย เลขานุการเอก ประจำ สอท. เป็นผู้

ตรวจ/แก้ไขสัญญา จากนั้น ออท. ธงฉานฯ เอกอัครราชทูตฯ ฐานะตัวแทน สอท. ได้ลงนามเซ็นสัญญาซื้อบ้านดังกล่าว

โดยวางเงินมัดจำ £4,750,000.00 กระบวนการซื้อ/ขายตามขั้นตอน โดยมีบริษัท Hamptons - ทนายฝ่าย สอท. บริษัท Cambell

Hooper ทนายฝ่ายบริษัทผู้ขาย บริษัท Radcliffes - กต. สหราชอาณาจักร (FCO) - สอท. อังกฤษประจำไทย ยืนยันการยกเว้น

ภาษีอากรแสตมป์จากการซื้ออสังห์หาริมทรัพทย์ (Stamp Duties) - กรมที่ดิน (HM Land Registry และเทศบาลเขต Royal

Borough of Kensington & Chelsea ซึ่งใช้เวลาร่วมสามเดือน และเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2536 (ค.ศ. 1993) บ้าน

เลขที่ 9 Tregunter และ เลขที่ 10 Cathcart (The Lodge) เป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐบาลไทยอย่างสมบูรณ์ โดยโฉนดที่ดินแยก

สองฉบับระหว่างบ้านสองหลัง เลขที่โฉนด LN70825 และ LN115092 ตามลำดับ ออท. ธงฉานฯ เป็น ออท. ท่านแรกที่

ได้พำนักบ้านพักหลังใหม่เนี้เป็นเวลา 10 เดือน ก่อนเกษียรณอายุงานราชการ



บ้านเลขที่ 9 Tregunter Road และ 10 Cathcart Road (The Lodge) ขายโดยบริษัท Prepmist Limited (Property

Developer) ตามราคาที่ระบุไว้ข้างต้น เริ่มโครงการก่อสร้างมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2534 (ค.ศ. 1991) โดยบริษัท

สถาปนิกออกแบบ Nilsson Associates และ Charter Construction Plc บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้าน 6

ชั้นพร้อมลิฟท์ (รวมชั้นใต้ดิน) มีห้องนอน 10 ห้อง เนื่อที่ 5,000 ตารางฟุต โต๊ะทานอาหารสร้างจากต้นหม่อน (Mulberry Tree)

ซึ่งปลูกในสวนหลังบ้านนานร่วม 160 ปี โดนพายุพัดโค้นหักเสียหาย จึงนำมาดัดแปลงเป็นโต๊ะอาหารใหญ่ดังกล่าว มุมท้ายสุดสวน

สนามหญ้า มีบ้านเลขที่ 10 Cathcart เป็นบ้านสองชั้นพร้อมลิฟท์ เนื้อที่ 3,000 ตารางฟุต สนามหญ้าขั้นกลางระหว่างบ้าน

สองหลัง ชั้นใต้ดินมีเนื้อที่ 2,000 ตารางฟุต สระว่ายน้ำขนาด 32 ฟุต - บาร์เคาน์เตอร์ - ห้องอบไอน้ำ - อ่างน้ำวนขนาดเล็ก - ห้อง

ออกกำลังกาย ห้องอาบน้ำ - ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า และห้องโต๊ะสนุกเกอร์ขนาด มารตฐาน ทำเลบ้านอยู่ในย่าน The Boltons ซึ่ง

เงียบสงบจากผู้คนและจราจรบนถนน ไม่ไกลจาก King’s Road ตำบล Chelsea ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนแห่งแฟชั่นและดนตรี

แต่สมัยก่อน ผู้คนส่วนใหญ่เป็นคน

ชั้นกลาง จะแต่งตัวสวยเต็มที่ออกมาเดินอวดโชว์ เป็นแหล่งช้อปปิ่ ง/ร้านอาหาร รถยนต์หรู/รถมอเตอร์ไซด์ออกมาขับ/ขี่โชว์ขึ้นลง

บนถนน King’s Road ในยามค่ำ เป็นที่น่าเพลินตาในสมันนั้น

พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จประทับบ้านทำเนียบ เช่น เจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา - สมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ - พระองค์เจ้าโสม

เสาวลี - เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ วลัยลักษณ์ - พระองศ์ภาฯ - คุณพลอย ไพรินทร์ - คุณพุ่ม เจนเสน - ออท. วิทย์ รายานานนท์ ได้

ถวายพระกายาหารค่ำแก่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ (ร. 10) พร้อมด้วยเจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา ซึ่งช่วงนั้นได้เสด็จไป

ร่วมงาน World Travel Market ที่ศูนย์นิทรรศการ Excel นอกจากนั้นได้ต้อนรับ ขรก. กต อาวุโส ปลัดประชา คุณะเกษม - รมว.

เตช บุญนาค อธิบดีกฤษณ์ กาญจนกุญชร ฯลฯ - คณะของหน่วยงานราชการไทย - คณะหน่วยงานฝ่ายเอกชนฯ เข้าเยี่ยม คาราวะ

ออท.ฯ รวมทั้ง หน่วยงานของสหราชอาณาจักร เช่น กระทรวงการต่างประเทศ - กรมการค้า และอุตสาหกรรม (Department

of Trade & Industry - DTI) - เทสโก้ โลตัส ซุปเปอร์มาร์เก็ต โดย Prince Andrew ผู้แทนพิเศษด้านการค้าลงทุน

เพื่อเปิดตลาดในประเทศไทย ฯลฯ



บ้านทำเนียบฯ มีการทำนุบำรุงทุกระยะ และเมื่อปี ค.ศ. 2007 ช่วงวาระ ออท. กิตติฯ มีการซ่อมแซมระดับใหญ่บริเวณพื้นที่ชั้นใต้ดิน

เนื่องจากประสพความชื่นลามขึ้นตามกำแพง - พื้นกระเบื่อง - ขอบสระว่ายน้ำ - ใต้พรมใหญ่ห้องสนุกเกอร์ - ห้องอบไออุ่น - ห้อง

อาบน้ำ - ห้องสุขา - ห้องเปลี่ยนเสื่อผ้า ฯลฯ ความชื่นได้ลามไปเกือบทั่วบริเวณชั้นใต้ดิน ซึ่งได้ทำการซ่อมแซมเป็นที่เรียบร้อย -

สมัย ออท. กิตติพงศ์ ณ ระนอง ได้ปรับปรุงครัว ผู้เชี่ยวชาญขัดพื้นกระเบื่องในครัวและทางเดินนอกครัว เปลี่ยนเครื่อง

ทำความร้อน จากนั้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2562 (ค.ศ. 2019) ออท. พิษณุฯ มีดำริโครงการปรับปรุงบ้านทำเนียบ เลขที่ 9 และเลขที่ 10

ครั้งใหญ่ รวมทั้งการต่อเติม Conservatory ขนาดใหญ่ที่บ้านหลังสวนเลขที่ 10 โดยว่าจ้างบริษัทผู้

เชี่ยวชาญ...................................................ซึ่งเคยรับงานพระราชวัง Kensington ส่วนงานด้านการปรับปรุง/ตกแต่งบ้านทั้งสอง

หลัง บริษัท ชูจักรฯ ประเทศไทย เข้ามาดูโครงการนี้ โดยนำทีมงานจากไทย ช่างตกแต่งภายใน ช่างไม้ ช่างทาสี ช่างปูน โครงการนี้

นางวิภาวี รังสิมาภร อัครราชทูตที่ปรึกษา/หัวหน้าที่ทำการ สอท. (Head of Chancery) เป็นผู้ประสาน/ควบคุม/ดูแลความราบรื่น

ของโครงการ โดยนายธีภพ กล้าณรงค์ จนท. ท้องถิ่น รับผิดชอบการประสานงานทุกด้าน รวมทั้งดูแลความเป็นอยู่ของทีมงาน

ช่างไทย ความคืบหน้าของโครงการมีเหตุล่าช้ากว่ากำหนดหลายเดือน จากผลกระทบโรคระบาด Corona Virus โครงการเสร็จ

สมบูรณ์เมื่อวันที่..................................พ.ศ. 2564 (ค.ศ. 2021)

สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน 29-30 Queen’s Gate, London SW7 5JB

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2503 (ค.ศ. 1960) มีการประชุมคณะกรรมการจัดหาสถานที่ในการรับเสด็จประพาสประเทศอังกฤษ

อย่างเป็นทางการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ซึ่งจะเสด็จกลางปีนี้ โดยที่อาคาร

Ashburn Place มิได้ขายให้รัฐบาลไทยแบบ freehold เป็นการเช่าซื้อระยะยาว (Leasehold) ซึ่งจะหมดอายุสัญญาลงอีก 4 ปี

ข้างหน้า ปี พ.ศ. 2507 (ค.ศ. 1964) สอท. เห็นว่าควรจัดหาสถานที่ต้อนรับเสด็จฯ และหากเป็นไปได้เพื่อเป็นที่ตั้งสถานเอกอัค

ราชทูตใหม่ด้วย ในการนี้ จึงได้ตั้งคณะกรรมการจัดซื้อ โดยมี ดร. ป๋วย อี๊งภากรณ์ ดำรงค์ตำแหน่งที่ปรึกษาประจำ สนง.

เศรษฐกิจและการคลังซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการซึ่งสำรวจอาคารตึกหลายแห่ง เช่น 11, Belgrave Square, 16 Avenue

Road และ 33 Portland Place ปรากฏว่าอาคารตึกแห่งสุดท้ายเหมาะสม แต่ตัวแทนเอเย่นต์ขายแจ้งว่า อาคารตึกนี้ขาย

แบบเช่าซื้อ (Leasehold) เช่นกัน จึงไม่ตรงกับความต้องการของคณะกรรมการฯ จากนั้น ไม่ปรากฏหลักฐานอื่นที่อาจระบุความ

คืบหน้าในเรื่องดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2506 (ค.ศ. 1963)



สอท. ซื้ออาคารตึกแบบซื้อขาด (Freehold) เลขที่ 30 Queen’s Gate, SW7 ในราคา £50,000 โฉนดที่ดินเลขที่ LN233892
สามสัปดาห์ต่อมาเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2506 (ค.ศ. 1963) สอท. ซื้ออาคารตึกแบบซื้อขาด (Freehold) เลขที่ 29 Queen’s
Gate, SW7 ในราคา £40,000 โฉนดที่ดินเลขที่ LN187648 ซึ่งเป็นอาคารตึกอนุรักษ์ระดับ II (Grade II Listed Building) จาก
นั้น สอท. ได้ปรับปรุงซ่อมแซม/เปลี่ยนแปลงภายใน (Alterations & Refurbishment Works) ให้เหมาะสมต่อการใช้เป็นที่ทำการ
สอท. และเชื่อมสองอาคารตึกเพื่อเดินถึงกันได้ สอท.จึงมอบหมายบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง H.J. Brown (Builders) Limited of
108 Brompton Road, Knightsbridge เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ โดยบริษัทฯ คิดค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น £32,020 - สอท. เปิด
ที่ทำการในปีต่อมา – ออท. หม่อมเจ้าเพลิงนภดล รพีพัฒน์ ย้ายออกจาก สอท. Ashburn Place เข้าที่ทำการ สอท. 29-30
Queen’s Gate ซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตท่านแรกประจำ สอท. ใหม่แห่งนี้

สามสิบเอ็ดปีต่อมา ข่วงปลายปี พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995) ในวาระ ออท. วิทย์ รายนานนท์ มีนโยบายปรัปปรุง เปลี่ยนแปลงภายใน
(Alterations & Refurbishment Works) อาคาร สอท. ครั้งที่สอง ซึ่งเป็นการปรัปปรุงระดับใหญ่ จึงต้องย้ายที่ทำการออกไป
ชั่วคราว สอท. จึงวางแผนงาน โดย ขรก. ระดับอาวุโสทุกคน มีส่วนร่วมรับผิดชอบโครงการ แบ่งหน้าที่บริหาร/ปรึกษางานอย่าง
ละเอียดและรัดกุม รวมทั้การงหาเช่าออฟฟิส ที่ทำการชั่วคราว

ลำดับขั้นตอนหลักในการเตรียมงาน: M. Carrier
1. บริษัทสถาปนิกออกแบบ ที่ปรึกษาโครงการ….”HLM Architects”
2. เชิญบริษัทผู้รับเหมายื่นซองประมูลโครงการ...”HL Smith Construction Ltd.”
3. สถาปนิกยื่นเรื่องขอ Planning Permission จากเทศบาล….”อนุมัติ.”
4. เช่าอาคารพาณิชย์ชั่วคราว......”Yorkshire House, Grosvenor Crescent, Hyde Park”
5. ยืนยันระเบียบเอกสิทธิ์ทางการทูต ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม HMRC.....”ไม่ยกเว้น”
6. แจ้ง FCO สอท. ย้ายสำนักงานชั่วคราว ขอชักธงไทยบนตึกอาคารเช่า.....”อนุมัติ”
7. เช่าโกดังเก็บเอกสารของ สนง. และใช้บ้านโรงรถเป็นที่เก็บพัสดุสิ่งของด้วย โดยว่าจ้างบริษัทโยกย้าย



นสอท. ติดต่อบริษัทสถาปนิก HLM Architects และได้เซ็นสัญญาว่าจ้างบริษัทฯ ในการออกแบบและเป็นที่ปรึกษา

ตลอดโครงการ และแนะนำ Commercial Letting Agency ที่ไว้วางใจ อทป. พิทักษ์ พรมบุพภา และ อทป. ปิยะ

วัฒน์ นิยมฤกษ์ เป็นผู้รับผิดชอบการเช่าอาคารพาณิชย์ ได้ติดต่อบริษัท Chesterton,Commercial Letting

Agency ได้เสนออาคารพาณิชย์ห้าชั้น unfurnished มีที่จอดรถยนต์ใต้อาคารได้ร่วม 10 คัน อยู่ใกล้วงเวียนใหญ่

Hyde Park ตรงข้ามโรงแรม Lanesboro ซื่ออาคาร Yorkshire House, Grosvenor Crescent, Hyde park

Corner, SW1 – อัตตราค่าเช่าต่อปี £173,160.00 จ่ายล่วงหน้า อัตตราค่าส่วนกลางจ่าย quarterly £43,290.00 -

บริษัท Chesterton Letting Agency คิดค่านายหน้า £17,000 โดยที่ระยะเวลาโครงการปรับปรุง สอท. นั้น เป็นสิ่ง

ที่ระบุแน่ชัดไม่ได้ ซึ่งผู้รับเหมาประเมินเวลาไว้ 52 สัปดาห์ เป็นการเสี่ยงถ้าเช่าอาคารพาณิชย์หนึ่งปี หลังจากได้เมีการ

จรจาระหว่างทนายของ สอท. และทนายของบริษัทเจ้าของอาคารพาณิชย์ซึ่งจึงตกลงให้ สอท. ทำสัญญาเช่าสองปี

สามารถยกเลิกสัญญาได้ในปี ที่สอง โดยแจ้งย้ายออกล่วงหน้าสองเดือน สอท. ได้ลงนามเซ็นสัญญาเช่า โดยเริ่มเช่า

วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538 (ค.ศ.1995) ซึ่งในวันเดียวกัน บริษัทผู้รับเหมา HL. Smith Construction Ltd.

เริ่มประกอบติดตั้งอุปกรณ์ออฟฟิสทันทีอย่างเร่งด่วนให้แล้วาสร็จภายในสองวันเช่นติดตั้ง Reception area,

Waiting room, Visa counter area, Digital door lock entry, Entry phone, Buzzer remote control

door release, Queuing dispenser – Fire alarm – CCTV Seating for public ฯลฯ บริษัทฯ คิดใช้จ่ายเป็น

จำนวนเงิน £29,928.00 ซึ่งรวมการรื้อถอนเก็บอุปกรณ์ แปลงอาคารตึกกลับมาสู่สภาพเดิม หลังจากสัญญาเช่าจบ

สิ้นลง

ระเบียบการก่อสร้างเพื่อความปลอดภัยของช่างก่อสร้างก่อนเรื่มงาน ผู้รับเหมามอบหมายผู้เชี่ยวชาญเข้าไปสำรวจ

หาแร่ใยหิน (Asbestos) ที่ใช้ผสมในวัสดุต่างๆ ในอาคารตึก ซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นใยเป็นมัด เป็นแร่

ธรรมชาติ มีคุณสมบัติพิเศษในความเหนียว ทนทานต่อแรงดึงได้สูง ทนความร้อน ทนต่อกรดและสารเคมีหลายชนิด

แร่ใยหินถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแกร่ง ทนกรด ความร้อน ใช้ตามข้อ (joint)

ท่อน้ำไหลในระบบเครื่องทำความร้อน กำแพงปูนพลาสเตอร์ กระเบื่องกันความร้อน เป็นต้น ถึงแม้แร่ดังกล่าวมีประ

โยชย์หลายด้านในการก่อสร้างแต่เป็นแร่ที่อันตรายต่อมนุษย์ถ้าแปรเป็นฝุ่นละอองหายใจเข้าปอด อาจก่อให้เกิดโรค

ร้ายแรง เช่น มะเร็ง อย่างเป็นที่ทราบกันมานาน หลายประเทศเลิกใช้แร่ตัวนี้ บางประเทศยังใช้ในการก่อสร้างรวมทั้ง

ประเทศไทย



รายละเอียดของโครงการ:- รื้อถอน (strip) ระบบเก่าทั้งหมด เพื่อเตรียมติดตั้งระบบที่ทันสมัย เพิ่มการ

ประหยัดพลังงาน เช่น ระบบทำความร้อน/น้ำร้อนบนชั้น 5 ของอาคาร ห้องระบบน้ำชั้นใต้ดิน เครื่องปรับอากาศ ระบบ

ไฟฟ้า ห้องสุขา เปลี่ยนจุดที่ตั้งสิฟท์ ฯลฯ - รื้อถอน เปลี่ยนจุด/ขยายห้องทำงานทุกห้อง รวมงห้องทำงาน ออท. -

ห้องรับรองชั้นหนึ่ง - ซ่อมเพดาน/พื้น - บรรใด - ห้องพักอาศรัยชั้น 5 ลิฟท์ส่งอาหาร - ครัว

หลังจากการเปิดซองประมูลราคาโครงการฯ บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง HL Smith Construction Ltd. ประสพผลสำ
เหร็จจากการประมูลราคาโดยเสนอต่ำกว่าบริษัทอื่นในวงเงิน £2,270,000 สอท. จึงตั้งคณะกรรมการ ตรวจการจ้าง
การปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่ทำการ สอท. โดยมี อัครราชทูต อสิพล จับจิตใจดล ประธานคณะกรรมการ - นายอิสิน
ธร สอนไว อัครราชทูตที่ปรึกษา - นายเฉลิมพล ทันจิตต์ ที่ปรึกษา - นายจักรี ศรีชวนะ เลขานุการเอก

HLM Architects บริษัทสถาปนิก ที่ปรึกษาโครงการ/ออกแบบ - ประสานงานกับบริษัทผู้รับเหมา HL Smith
Construction Ltd. โดยมี project manager, interior design & space planning, quantity survey & cost
consultant, mechanical & electrical engineer, structural engineer, town planning, building

regulations, health & safety, furniture layouts, temporary office relocation เป็นต้น ซึ่งบริษัท HLM
Architects คิดค่า Professional Fee เป็นจำนวนเงิน £488,849.35

“ค่าใช้จ่ายโครงการปรับปรุง สอท. สรุปยอดเป็นจำนวนเงิน £2,809,800.00”

(ไม่รวมค่าเช่าอาคารที่ทำการชั่วคราว Yorkshire House ซึ่งระบุค่าใช้จ่ายไว้ก่อนหน้า)

สอท. เปิดที่ทำการชั่วคราว โดยทำสัญญาช่าอาคารตึก Yorkshire House เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.

2538 (ค.ศ. 1995)

บริษัท HL Smith Construction Ltd. เริ่มงานโครงการปรับปรุงอาคาร สอท. 29-30 Queen’s Gate วันที่ 9

มกราคม พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1996)

โครงการเสร็จสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2540 (ค.ศ 1997) โดยบริษัทผู้รับเหมา HL

Construction Ltd. มอบงาน พร้อมสัญญารับประกัน Defect liability 1 ปี โดยสอท. ถือเงินประกันจำนวน

£16,499.35



· ช่วงวาระ ออท. ปสันต์ เทพารักษ์ - อท. อดิสรเดช สุขสวัสดิ์ - หัวหน้าแผนกกลสุล นายณัฐวุฒิ มาลิสุวรรณ มี

การปรับปรุงแผนกกงสุลชั้นใต้ดินทั้งหมดรวมห้องสุขา เมื่อปี พ.ศ. 2556/57 (ค.ศ. 2013/14) โดยว่าจ้าง

บริษัทผู้รับเหมาเยอรมัน การออกแบบไสตล์หน้าเคาน์เตอร์รับเอกสารคล้ายเคาน์เตอร์ กต. แผนกกงสุลย้ายที่ทำการ

ขึ้นไปบนชั้น G ชั่วคราว ใช้เนื้อที่ทั้งหมดบริเวณห้องประชุมปัจจุบัน โดยว่าจ้างผู้รับเหมาไทยดำเนินการโย้กย้าย ปฏิรู

ปออฟิสชั่วคราว สร้างเคาน์เตอร์รับเอกสาร/เดินสายไฟติดตั้งตั้งอุปกรณ์ฯลฯ โครงการปรับปรุงแผนกกงสุลใช้เวลา

ห้าเดือน ค่าใช้จ่ายงานโครงการประมานสามแสนปอนด์

โครงการซ่อมแซม/ปรับปรุงอาคารที่ทำการ สอท..29-30 Queen’s Gate ครั้งที่ 3

หลังจาก ออท พิษณุฯ มาประจำการ สอท. ณ กรุงลอนดอน เมื่อวันที่...................พ.ศ. 2560 (ค.ศ. 2518)

ได้มีดำริโครงการปรัปปรุงอาคารที่ทำงาน สอท. ให้เป็นออฟฟิสทันสมัย เน้นความปลอดภัย จุดประสงค์ ออท.

เพื่อ จนท. พนักงาน ทำงานในสิ่งแวดล้อมที่ดี บรรยากาศภายในออฟิสปรอดโปร่ง จากการใช้ระบบระบาย

อากาศที่ทันสมัย ใช้เนื้อที่ปรับปรุง/ย้ายห้องทำงานให้สอดคล้องเป็นประโยชย์มากที่สุด ปรับปรุงห้องสุขาคน

พิการ เคาเตอร์รีเซพชั่น ห้องประชุมใหญ่พร้อมโต๊ะประชุมไม้โอ่โถงขนาดใหญ่ อุปกรณ์ของใข้เล็กใหญืต่างๆ นำเข้า

จากประเทศไทยทั้งนั้น บาร์เคาเตอร์ ปรับปรุงห้องพักแขกสามห้องบนชั้นห้า ระบบความปลอดภัย ระบบไฟ ระบบ

เครื่องทำน้ำร้อน ลิฟท์คนพิการ Key Card Entry เป็นต้น โดยมีนโยบาย

นำทีมงานก่อสร้าง/ตกแต่งจากประเทศไทย บริษัท Jujak Construction Interior & Decorating Co. Ltd. โดยที่
บริษัทฯ มีชื่อเสียงทางคุณภาพงาน งานตกแต่ง งานด้านฝีมือ รวมทั้งมีความยึดหยุ่นให้ลูกค้า บริษัทชูจักร์ รับงาน
ออกแบบ/ปรับปรุงอาคารตึกกระทรวงการต่างประเทศ งานปรับปรุง สอท. ไทยบางแห่งในกลุ่มประเทศยุโรป และ
เป็นการประหยัดเงินงบประมาณค่าใช้จ่ายมาก ต่างกับการว่าจ้างผู้รับเหมาท้องถิ่ง ยกเว้นงานบางจุดซึ่งจำเป็นงต้อง
ใช้ผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นในด้านงานระบบ เช่น สถาปนิกฯ เป็นที่ปรึกษาโครงการ ระเบียบท้องถิ่น และการขอ Planning
Application - บริษัท Chuub ระบบอัคคีภัย – Goodacre Electrical ระบบไฟฟ้า - RJ Pro-Vue ระบบกันขโมย
บัตรกุญแจประตูเข้า/ออก กล้องวงจรปิด - บริษัท...........................Platform Lift คนพี่การ



สอท. เริ่มวางแผนงานโครงการ คำนวนสรุปค่าใช้จ่าย ส่งรายงานกระทรวงฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณ

โครงการปรับปรุงครั้งที่ 3 นี้ เริ่มปรับปรุงเป็นส่วนๆ ของแต่ละชั้นในอาคารตึกเพื่อพนักงานสามารถทำงาน ได้ตาม

ปรกติจนกระทั่งเมื่อจำเป็นที่ต้องเขยิบโยกย้ายตามเฟสของงานแต่ละชั้นเพื่อเลี่ยงการเช่าอาคารพาณิชย์เป็นที่ทำการ

ชั่วคราวซึ่งประหยัดงบประมาณค่าใช้สอยลงอย่างมาก แต่ละโครงการการก่อสร้าง มิใช่จะราบรื่นปราศจากปัญหา

ร้อนใจเสมอไปเป็นเหตุให้บั่นทอนเวลางานโครงการลงไม่น้อยทีเดียว ยกตัวอย่าง Planning Application ภายใต้

ความดูแลของเทศบาลขต Kensington & Chelsea โดยที่อาคารตึก สอท. จัดเป็นอาคารตึกอนุรักษ์ระดับ 2

(Grade II Listed Building) เทศบาลจึงเข้มงวดกับรายละเอียด ของโครงการ ซึ่งอาจส่งผลกระทบสิ่ง

อนุรักษ์บางส่วนในอาคารตึก ซึ่ง สอท. ประสพณ์มาแล้ว เป็นผลให้งานบางส่วนติดขัดล่าช้า การใช้สถาปนิกในเขต

ท้องถิ่นเดียวกับโครงการจะมีภาษีดีขึ้นบ้างในการช่วยสถาปนิกเขียนรายละเอียดโครงการ/ความเห็นใน planning

application ด้วยความมั่นใจมากขึ้น เพราะสถาปนิกท้องถิ่นจะคุ้นเคยและพอรู้แนวความคิด/ความเข้มงวด

ของหน่วยงานเทศบาล

การส่งทีมงานผู้เชี่ยวชาญของบริษัทชูจักรฯ จำนวนร่วม 49 คน จากประเทศไทยเพื่อช่วยโครงการการศึกษาข้อมูล

และขั้นตอนในการขอประเภทวีซ่าที่ถูกต้องให้แก่ทีมงานของบริษัทฯนั้น สอท. จึงต้องพึ่ง นาย Tanup

Ghadia จนท. อาวุโสจาก Home Office, Compliance Unit ซึ่ง สอท. มีความสนิทคุ้นเคยและให้ความอนุเคราะห์

สอท. มายาวนาน เพื่อขอคำปรึกษา/ชี้แนวทาง ซึ่งนาย Tanup แจ้งว่า ความคิดที่จะนำทีมงานไทยเข้ามาช่วยโครงการ

ปรับปรุงอาคารที่ทำการ สอท. ในสหราชอาณาจักร เป็นสิ่งที่ไม่สามารถตอบได้ชัดเจนในชั้นนี้ จึงขอปรึกษากับทีมงาน

Home Office และจะประสานกับ Foreign Office เนื่องจากการขออนุญาติเข้าประเทศแนวจุดประสงค์ลักษณะนี้ ไม่

เข้าข่ายประเภทวีซ่าใดๆ ตามระเบียบ Immigration จึงเรียก



ได้ว่าเป็นการขอวีซ่าแบบ “นอกระบบ” (Outside Immigration Rules) ซึ่งเกินอำนาจหน่วยงาน Immigration ที่จะ
พิจารณาได้โดยลำพัง ด้วยเหตุนี้ นาย Tanup เห็นสมควรที่ สอท. นำเรื่องถึงหัวหน้ากองในForeign Office ที่ดูแล
ส่วนภูมิภาคไทย เพื่อส่งเรื่องขึ้นไปถึงระดับ Ministerial พิจารณาความเหมาะสม หลังจากนาย Tanup ให้คำปรึกษา
และชี้ภาพรวมให้ สอท. เป็นที่เข้าใจแล้ว - อัคคราชทูตที่ปรึกษา วิภาวี รังสิมาภร มีหนังสือถึงนาง Emily Clark
หัวหน้ากอง South East Asia Department, FCO ชี้แจงรายละเอียดของครงการปรับปรุงอาคารที่ทำการ สอท.
โดยชี้แจงถึงความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้ทีมงานผู้เชี่ยวชาญไทยมาช่วยงานโครงการดังกล่าว ต่อจากนั้น อทป. วิภา
วีฯ ได้สื่อสารอย่างต่อเนื่องกับ นาง Emily Clark และ สอท. อังกฤษประจำไทย ซึ่งผลจากการการสื่อสารเจรจากับ
นาง Emily Clark แต่ละครั้ง ยืดเยื้อล่าช้า สร้างความเหน็จเหนื่อยใจต่อ อทป. วิภาวีฯ ที่พยายามมุ่งมั่นให้เรื่องนี้บรรลุ
ผลสำเร็จ ในที่สุด นาง Emily Clark แจ้งว่า ไม่ขัดข้องที่ สอท. นำทีมงานช่างมาช่วยโครงการ ตราบใดที่ สอท. แลก
เปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ “Memorandum of Understanding” (MOU) จึงส่งร่างบันทึกฯ ถึง สอท. และหลังจาก
พิจารณาเนื้อความบันทึกฯ - สอท. ลงนาม MOU ตามความประสงค์ของ FCO - จากนั้น นาย Tanup ได้ชี้แนวทาง
วีซ่า “นอกระบบ” (Outside Immigration Rules) และได้ alert สอท อังกฤษประจำไทยไว้แล้ว ซึ่งจากนั้น
สอท. อังกฤษประจำไทยอนุมัติออกวีซ่าแก่ทีมงานบริษัทชูจักรฯ โครงการเริ่มวันที่.....................................พ.ศ. 2561
(ค.ศ.2018) เสร็จสิ้นสมบูรณ์เมิ่อวันที่..........................พ.ศ. 2564 (ค.ศ. 2021)
ค่าใช้จ่ายโครงการ 29-30 Queen’s Gate ทั้งสิ้น เป็นจำนวนเงิน £...........................

“สถานเอกอัครราชทูตไทย กรุงลอนดอน เปิดอย่างเป็นทางการมา 57 ปี มีเอกอัครราชทูตรวม 13 ท่านถึง
ปัจจุบัน”



บุคคลสำคัญที่เคยเยือนหรือพำนักสถาณเอกอัครราชทูตฯ

·สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 เสด็จพระราชดำเนินเยือนอังกฤษ เป็นการส่วน

พระองค์ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2510 (ค.ศ. 1967) เป็นเวลา 6 วัน ถึงแม้หลักฐานเอกสารจาก

หนังสือลงนามของ ออท. หม่อมเจ้า เพลิงนพดล รพิพัฒน์ ถึง ที่ปรึกษาการวัฒนธรรม มิได้ระบุว่าทรง

ประทับหรือเสด็จเยือน สอท. มีความเป็นไปได้ ว่าออท.หม่อมเจ้าเพลิงนพดลฯกราบบังโคมทูลเชิญเสด็จร่วมงาน

เลี้ยงถวายเป็นการต้อนรับ และเสวยพระกระยาหาร ณ ห้องรับรอง สอท. Queen’s Gate

·สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จเยือนสหราชอาณาจักรเป็นการส่วนพระองค์เสด็จประทับบนชั้น 5 ของ สอท.

เสมอ จนกระทั้งยุค ออท. ธงฉานฯ เป็นต้นไป ทรงเสด็จประทับหลากหลายแห่ง เช่น Service Apartment ถนน

Gloucester Road (ตรงข้าม Maxim Casino) - Service Apartment ย่าน Chelsea - และ Service Apartment

ย่าน Grosvenor Square ใกล้ สอท. อินโดนิเซียและ สอท. อเมิริกัน - เสด็จประทับพระตำหนักต่างจังหวัดที่

Sunningdale Village ตำบล Virginia Water ที่ท่านซื้อไว้

· นรม. ชาติชาย ชุณหวรรณ เยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการ ออท. สุธีฯ จัดงาน cocktail reception ณ ห้องรับรอง
สอท. (ท่าน นรม. โปรด Cognac มาก พร้อมหนีบ Havana Cigar ในมือ ผมยืนถือที่เขี่ยบุหรี่รอรับ ash อยู่ใกล้ๆ
จ้องเฝ้ารอเมื่อไหร่ ash จะหล่น ขณะท่านยืนคุยกับแขกเป็นเวลานาน - Cigar ใหญ่ยาวจ้าวตำหรับจาก Cuba ไม่หมด
ซะที จน cognac หมดขวดก่อน)
·นรม. ชวน หลีกภัย เยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการ ออท. สุธี ประศาสน์วินิจฉัย จัดเลี้ยงอาหาร Evening Buffet ณ
ห้องรับรอง สอท.

· สมเด็จพระเทพฯ เสด็จเยือนสหราชอาณาจักรเป็นการส่วนพระองค์ เสด็จประทับ สอท. บนห้องที่ประทับชั้น 5



· สมเด็จพระราชินีนาถสิริกิตฯ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราสฯ (ร.10) เสด็จจากประเทศสหรัฐอเมริกาเยือนกรุง

ลอนดอน ปลายปี พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) พร้อมท่านผู้หญิงพระสหาย

ตามเสด็จหลายท่านพร้อมข้าราชบริภาร (และหม่อมเบ๊น/สุจารินีฯ) โดยนำ (import) พ่อครัวพนักงานครัว พนักงาน

บริการ เนื้อ/ผัก เครื่องปรุง อุปกรณ์ครัว แบบครบชุด โดยหม่อมเบ๊น

(สุจารินีฯ) ดูแลความเรียบร้อยในครัวตลอดเวลาในคืนนั้น (มิได้ร่วมโต๊ะเสวย) เสวยพระกระ ยาหารค่ำในห้อง

ธนบุรีปัจจุบัน - ออท. ธงฉานฯ และ อท. ดอนฯ เข้าร่วมโต๊ะเสวย

· นรม. อภิสิทธิ์ เวชาชีวะ เยือนอังกฤษฐานะแขกของรัฐบาลอังกฤษอย่างเป็นทางการ ระหว่าง 13-15 มีนาคม

พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) ประชุมหารือทวิภาคี วิกฤติทางเศษฐกิจ ที่ทำเนียบ นรม. Gordon Brown 10 Downing

Street - ทานอาหารที่พระราชวัง Buckingham Palace กับ Duke of York ผู้แทนพิเศษด้านการค้า การลงทุน -

ออท. กิตติฯ เรียนเชิญ นรม อภิสิทธิ์ฯ ร่วมงาน Reception ณ ห้อง รับรอง สอท. (ไม่แน่ชัดว่า ออท. จัด

เลี้ยงอาหารหรือไม่ สังเกตุพนักงานหญิง สอท. หลายคนแอบดู นรม. แสดงความตื่นเต้น – ทุกวันนี้ไม่สามารถเข้าถึง

ความคิดน้องๆ)

·(ออท. วิทย์ รายนานนท์) สมเด็จพระเทพฯ ทรงพระกรุณาตัด ribbon เปิดอาคารตึก สอท. เมื่อปี พ.ศ. 2540

(ค.ศ. 1997) หลังเสร็จสิ้นการปรับปรุงที่ทำการครั้งที่สอง (ภาพถ่ายแนบ) เสด็จประทับบ้านทำเนียบ 9

Tregunter

·(ออท. กิตติ วะสีนนท์) คณะวงดนตรีสองพี่น้อง อัสนีย์-วสันต์มาแสดงคอนเสิร์ตที่ศูนย์ O2 ลอนดอน สปอนด์เซอร์
โดยเบียร์สิงห์ ได้รับเชิญมางาน cocktail reception ที่ สอท. ประมาณ ปี พ.ศ. 2552 (ค.ศ. 2009)



·(ออท. ปสัน เทพารักษ์) ระหว่าง 6 - 10 กันยายน พ.ศ. 2557 (ค.ศ. 2014) สมเด็จพระเทพฯ เสด็จเยือน Ireland,
เพื่อศึกษางานค้นคว้าที่กรุงดับลิน จากนั้น เสด็จเยือนสหราชอาณาจักร เพื่อร่วมเปิดพิธีงานประชุมสากลครั้งที่ 16
เกี่ยวกับพฤกษาไทย (Thai Flora) ที่สวน The Royal Botanic Gardens, Kew จากนั้น เมื่อวันที่ 9 กันยายน ทรง
เด็จพระราชดำเนินเยื่ยมสมาชิก ชมรมดนตรีไทยที่ สอท. และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าสมาชิกฯ เข้าเฝ้าที่ห้องรับรอง
สถานทูตไทย และทรงขับร้องเพลงและทรงระนาดนำร่วมกับคณะวงชมรมฯ
·(ออท. กิตติพงศ์ ณ ระนอง) วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ( ค.ศ. 2015) สมเด็จพระเทพฯ เสด็จอาคาร Senate
House, University of London เพื่อทรงร่วมบรรเลงและขับร้องกับ วงชมรมดนตรีไทย (Thai Music Circle,
London) เนื่องในวารโอกาสคล้ายวันพระราชสมภพครบ 60 ของสมเด็จพระเทพฯ
·Prince Andrew เสด็จ สอท. ปี พ.ศ. 2559 (ค.ศ. 2016) เพื่อลงพระนามแสดงความเสียพระทัยจากการสรรวคต
ของรัชกาลที่ 9 โดยทรงรถยนต์เสด็จ สอท. มีรถตำรวจนอกเครื่องแบบตามหลัง 1 คัน ท่านมีการปฏิสันถาร กับ
ออท. กิตติพงศ์ฯ ประมาณ 7-8 นาที จึงเสด็จกลับ
·(ออท. วิกรม คุ้มไพโรจน์) สมเด็จพระเทพฯ เสด็จประทับบ้านพักพระสหาย ถนน Victoria Grove เสมอแต่นั้นมา
· (ออท. วิกรมฯ) สมเด็จพระบรมฯ (ร. 10) เสด็จประทับโรงแรม Landmark, Marylebone เสมอแต่นั้นมา

***



ในฐานะที่ผมอยู่ใกล้เหตุการณ์ทั้ง 4 โครงการปรับปรุง มีโอกาส contribute งานบางจุด ถึงแม้ จะมีความเลื่ อน

ลืมเนื่องจากย้อนหลังหลายปี/หลายทศวรรษ ค้นคว้าข้อมูลเอกสาร Archives ให้มากที่สุด รวมทั้งไต่ถาม

อดีตเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่และพึ่งความทรงจำตัวเอง ข้อมูลอาจตกความแม่นยำบ้าง เช่น ปี พ.ศ. ของบางปี ซึ่งกราบ

ขออภัย

ถ้าผมขออนุญาติแสดงความรู้สึกเห็นควรมิควรว่า ความรับผิดชอบโครงการปรับปรุงอาคาร สนง. ระดับนี้ ย่อมมี

ความซับซ้อน ติดขัด ความยากเข็น แม้แต่การคำนึงพึงระวังการตุกติกของบริษัทผู้รับเหมา สถาปนิก ซึ่งฝ่ายเราต้อง

ละเอียด ปัญหาที่คาดไม่ถึงที่เกิดขั้นได้รอบด้าน แต่ด้วยความอดทน สติปัญญา ความอุตสาหะ พร้อมกำลังใจและ

ความตั้งใจมุ่งมั่นที่ดีต่อองค์กรณ์และส่วนรวม นำมาถึงความประสพผลสำเร็จดั่งตั้งใจในที่สุด อทป ควรรับการชื่นชม

รับบทบาทโครงการนี้เป็นหลักเพียงผู้เดียวด้วยความยินดี สมควรควรเอ่ยถึงในบันทึกนี้ เห็นตามสมควร

โดย นายรนยุทธ์ โภคานันท์
พนักงานท้องถิ่น พ.ศ. 25.. - ปัจจุบัน



๓ . เ รื่ อ ง เ ล่ า จ า ก ค ว า ม ท ร ง จำ ( ต่ อ )

AN ORAL HISTORY

สถานเอกอัครราชทูตฯ ในความทรงจำของนายสิริศักดิ์ ชาญภูมิดล

เดิมสถานเอกอัครราชทูตฯ ตั้งอยู่เลขที่ 23 Ashburn Place, South Kensington, London SW7 ภายหลังที่ได้หมด
สัญญา 100 ปีแล้วจึงได้ย้ายมาอยู่ที่ปัจจุบันนี้คือ เลขที่ 29-30 Queen’s Gate, London SW7 5JB อาคารใหม่นี้เป็นตึก
ขนาดใหญ่มีอยู่ด้วยกัน 2 ตึก แต่ละตึกมีความสูง 6 ชั้น และมีชั้นใต้ดิน ตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญของอังกฤษ เช่น
Natural History Museum Royal Albert Hall มหาวิทยาลัย Imperial college และ Hyde Park อีกด้วย

ในอดีตนั้นอาคารสถานเอกอัครราชทูตฯ จะใช้เป็นทำเนียบของท่านเอกอัครราชทูตฯ ด้วย โดยท่านและครอบครัวจะพัก
อยู่ตึกเลขที่ 29 บนชั้นที่ 4 และชั้นที่ 5 ส่วนชั้นที่ 3 เป็นห้องทำงานของท่านเอกอัครราชทูตฯ ชั้น 2 เป็นห้องรับรองของ VVIP
ส่วนชั้น 1 และชั้น Ground Floor เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงรับรองต่าง ๆ ส่วนชั้นใต้ดินเป็นที่พักของผู้ติดตามของท่านเอก
อัครราชทูตฯ ที่ติดตามมาจากเมืองไทย แต่ต่อมาได้ย้ายทำเนียบออกไปอยู่ภายนอก เป็นบ้านแยกต่างหากออกไป

ในอดีตตึกฝั่ งเลขที่ 30 นั้นเป็นสถานที่ทำงานของข้าราชการและของหน่วยงานต่าง ๆ ที่อยู่ภายในสถานเอกอัครราช
ทูตฯ ฝ่ายกงสุลจะอยู่ที่ชั้น Ground Floor เป็นสถานที่ให้บริการสำหรับคนไทยและคนต่างชาติที่มาติดต่อในเรื่องต่าง ๆ ส่วน
ชั้นที่ 1 จะเป็นที่ทำการของฝ่ายเศรฐกิจการคลัง ชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 จะเป็นห้องทำงานของข้าราชการที่มาประจำการ ชั้นที่
4จะเป็นชั้นที่ทำการของสำนักงานผู้ช่วยทูตทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ



ในปี พ.ศ.2520 ได้เดินทางเป็นผู้ติดตามมากับท่านเอกอัครราชทูต แผน วรรณเมธี และภรรยา ซึ่งท่านมาดำรงตำแหน่ง
เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศอังกฤษ โดยตัวผมปกติจะปฏิบัติหน้าที่ประจำอยู่ที่ทำเนียบ ซึ่งอยู่ห่างจากสถานเอกอัครราช
ทูตฯ ไปทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน ประมาณ 15 ไมล์ ในบางโอกาสที่มีบุคคลสำคัญของเมืองไทยเดินทางมาเยือน
ประเทศอังกฤษ ท่านเอกอัครราชทูตฯ จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนั้น ผมเองก็ได้มีโอกาสเข้ามาช่วยงานที่
อาคารสถานเอกอัคราชทูตฯ มาโดยตลอดในเวลาที่มีการจัดงานต่าง ๆ

ในสมัยท่านเอกอัครราชทูต แผน วรรณเมธี นั้น พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามมกุฎราชกุมาร ในขณะนั้น) ได้เคยเสด็จมาประทับที่อาคารสถานเอกอัครราขทูตฯ อยู่หลายครั้ง และต่อมาก็ยังมี สมเด็จ
พระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนาฯ ได้เคยเสด็จมาประทับที่อาคารสถานเอกอัครราขทูตฯ ของ
เราอีกด้วย ซึ่งผมเองได้มีโอกาสถวายงานอยู่เสมอ นับเป็นบุญวาสนาและความภาคภูมิใจอย่างสุดซึ้งและหาที่สุดมิได้ที่ได้มี
โอกาสถวายงานแด่พระบรมวงศานุวงศ์มาโดยตลอด

ในอดีตนั้นอาคารสถานเอกอัครราขทูตฯ ได้มีการซ่อมแซมและปรับปรุงมาโดยตลอด ใหญ่บ้าง เล็กบ้างแล้วแต่กรณีมา
จนถึงปัจจุบัน จนกระทั่งเมื่อปี 2562 สถานเอกอัครราขทูตฯ ได้มีการปรับปรุงและซ่อมแซมใหญ่อีกครั้ง เพื่อให้ดูสวยงามและ
ทันสมัย ซึ่งในการซ่อมแซมครั้งนี้ ในความรู้สึกส่วนตัวของผมแล้วตั้งแต่เห็นการเปลี่ยนแปลงมาตลอด รู้สึกว่าการปรับปรุง
ครั้งนี้ดีที่สุดกว่าในแต่ละครั้งที่ผ่านมามีความสวยงาม เป็นสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นห้องทำงานของแต่ละหน่วยงาน ห้องรับ
ประทานอาหารของพนักงาน ห้องประชุมห้องจัดงานเลี้ยงรับรองในโอกาสต่าง ๆ ตลอดจนห้องพักรับรองแขกและสถานที่
ให้การบริการประชาชนที่มาติดต่อราชการทั้งคนไทยและคนต่างชาติ

สำหรับเรื่องความประทับใจที่ผ่านมาทั้งในอดีตและปัจจุบัน ผมดีใจที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ทำงานที่สถานเอกอัค
ราชทูตฯ และทำเนียบมาโดยตลอด ได้ช่วยงานท่านเอกอัครราชทูตฯ และภรรยา ข้าราชการทุกคน ตลอดจนทำงานร่วมกับ
น้อง ๆ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทุกคน ที่ให้ความเป็นกันเองมาโดยตลอด ซึ่งต้องขอขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างมาก มา ณ ที่นี้



๔ . โ ค ร ง ก า ร ป รั บ ป รุ ง ซ่ อ ม แ ซ ม อ า ค า ร ที่ ทำ ก า ร ส ถ า น เ อ ก อั ค ร ร า ช ทู ต ฯ
ทำ เ นี ย บ เ อ ก อั ค ร ร า ช ทู ต ฯ ~ แ ล ะ เ รื อ น รั บ ร อ ง

THE RONOVATION PROJECT

·ความเข้มงวดของ สนง. เขต / การใช้รถเครน / การรื้อและเตรียมสถานที่ก่อนเริ่มโครงการฯ
·เหตุการณ์ จนท. เขตมาตรวจ แล้วเพดานรั่วใส่
·ความท้าทายของการก่อสร้างเรือนกระจก เป็นต้น
ใส่รูประหว่างการดำเนินงาน / behind the scenes



๕ . “ บ้ า น ใ ห ม่ ” ข อ ง เ ร า

OUR NEW "HOME"

มีเรื่องเล่าลือมากมายเกี่ยวกับประสบการณ์ภูต ผี วิญญาณ ในสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน น่าสังเกต
ว่าเรื่องเล่าเหล่านี้ ส่วนใหญ่มีความเกี่ยวข้องกับประวัติความเป็นมาของตัวอาคารนี้ในหนหลัง และข้อเท็จจริงทาง
ประวัติศาสตร์ กล่าวคือ จากการที่อาคารแห่งนี้เก่าแก่มีอายุนับร้อยปี และมีเรื่องราวเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์
อังกฤษที่สามารถย้อนไปได้ถึงรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย อีกส่วนหนึ่งมาจากข้อเท็จจริงที่ก่อนหน้าที่
รัฐบาลไทยจะได้ซื้ออสังหาริมทรัพย์นี้เพื่อจัดเป็นที่ทำการสถานเอกอัครราชทูตฯ อาคารเก่าแก่แห่งนี้เคยเป็นทั้งที่พัก
และสถานประกอบการหลายอย่าง รวมถึงเคยเป็นสถานพยาบาลคนชรา และบางกระแสเล่าว่าเป็นสถานพยาบาล
สำหรับผู้ป่วยจิตเวช เป็นต้น

ด้วยความเก่าแก่และประวัติอันยาวนานของอาคารแห่งนี้ เรื่องเล่าจากปากคำของผู้ผ่านประสบการณ์ปีศาจและ
วิญญาณจึงมีอยู่อย่างหลากหลาย อย่างไรก็ดี จุดที่ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์เหนือธรรมชาติเหล่านี้มีอยู่ไม่กี่ตำแหน่งใน
สถานเอกอัครราชทูตฯ แห่งที่หนึ่งคือบริเวณโถงบันไดหน้าห้องทำงานเอกอัครราชทูตฯ แห่งที่สองคือในมุมห้องบอล
รูม (ก่อนปรับปรุงใหม่และเรียกชื่อห้องว่า “มิตราสมาคม”) และแห่งที่สามคือที่บริเวณโถงหน้าเตาผิงชั้นห้าของอาคาร
สำหรับช่วงเวลาที่มีพบเห็นปรากฏการณ์แปลก ๆ กัน มักจะเป็นช่วงเวลากลางวันหรือช่วงรอยต่อระหว่างก่อนที่แสง
สว่างจากดวงอาทิตย์จะหมดลงในแต่ละวัน



๖ . ปี ศ า จ ส ถ า น ทู ต

PHANTOM OF THE EMBASSY

มีเรื่องเล่าลือมากมายเกี่ยวกับประสบการณ์ภูต ผี วิญญาณ ในสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน
น่าสังเกตว่าเรื่องเล่าเหล่านี้ ส่วนใหญ่มีความเกี่ยวข้องกับประวัติความเป็นมาของตัวอาคารนี้ในหนหลัง และข้อเท็จ
จริงทางประวัติศาสตร์ กล่าวคือ จากการที่อาคารแห่งนี้เก่าแก่มีอายุนับร้อยปี และมีเรื่องราวเชื่อมโยงกับ
ประวัติศาสตร์อังกฤษที่สามารถย้อนไปได้ถึงรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย อีกส่วนหนึ่งมาจากข้อเท็จ
จริงที่ก่อนหน้าที่รัฐบาลไทยจะได้ซื้ออสังหาริมทรัพย์นี้เพื่อจัดเป็นที่ทำการสถานเอกอัครราชทูตฯ อาคารเก่าแก่แห่งนี้
เคยเป็นทั้งที่พักและสถานประกอบการหลายอย่าง รวมถึงเคยเป็นสถานพยาบาลคนชรา และบางกระแสเล่าว่าเป็น
สถานพยาบาลสำหรับผู้ป่วยจิตเวช เป็นต้น

ด้วยความเก่าแก่และประวัติอันยาวนานของอาคารแห่งนี้ เรื่องเล่าจากปากคำของผู้ผ่านประสบการณ์
ปีศาจและวิญญาณจึงมีอยู่อย่างหลากหลาย อย่างไรก็ดี จุดที่ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์เหนือธรรมชาติเหล่านี้มีอยู่ไม่กี่
ตำแหน่งในสถานเอกอัครราชทูตฯ แห่งที่หนึ่งคือบริเวณโถงบันไดหน้าห้องทำงานเอกอัครราชทูตฯ แห่งที่สองคือใน
มุมห้องบอลรูม (ก่อนปรับปรุงใหม่และเรียกชื่อห้องว่า “มิตราสมาคม”) และแห่งที่สามคือที่บริเวณโถงหน้าเตาผิงชั้น
ห้าของอาคาร สำหรับช่วงเวลาที่มีพบเห็นปรากฏการณ์แปลก ๆ กัน มักจะเป็นช่วงเวลากลางวันหรือช่วงรอยต่อ
ระหว่างก่อนที่แสงสว่างจากดวงอาทิตย์จะหมดลงในแต่ละวัน



สุภาพบุรุษชาวยุโรป

ผู้คนจำนวนหนึ่งเล่าว่า เคยพบเงารางของสุภาพบุรุษยุโรปในเครื่องแต่งกายแบบโบราณ และสวมวิก
“เป็นหลอด ๆ” เหมือนคนสูงศักดิ์โบราณปรากฏให้เห็นแล้วก็เลือนหายไป แถวโถงบันไดหน้าหน้าห้องทำงานเอ
กอัครรชทูตฯ แต่ดูเหมือนเป็นการปรากฏที่เป็นมิตร กล่าวคือปรากฏร่างให้เห็นแล้วก็เลือนหายไปเท่านั้น

ประสบการณ์คล้ายคลึงกันเกิดขึ้นในช่วงของการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารสถานเอกอัครราชทูตฯ เมื่อ
ผู้ช่วยสถาปนิกซึ่งเป็นสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ขณะที่มาทำการถอดแบบเพื่อทำพิมพ์เขียวใหม่ของสถานเอกอัครราช
ทูตฯ สำหรับการวางแผนงานปรับปรุงและก่อสร้าง เธอได้เล่าว่า ในช่วงโพล้เพล่ของวันหนึ่งขณะจะเดินทางเข้าไปวัด
พื้นที่ในห้องบอลรูม ได้เห็นเหมือนเงารางของสุภาพบุรุษชาวยุโรปปรากฏที่มุมห้องบอลรูมด้านที่ติดกับห้องทำงาน
เอกอัครราชทูตฯ อาการตกใจและคิดว่าเป็นคนแปลกหน้าจึงได้เดินออกจากห้อง และเมื่อตั้งสติและกลับไปดูก็ไม่พบ
ว่ามีใครอยู่ในห้องดังกล่าว อย่างไรก็ดี เมื่อสอบถามต่อไปเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของชายคนดังกล่าว ได้รับแจ้งว่า เป็น
ชาวตะวันตกแต่งกายในชุดสากลแบบลำลอง เช่นเดียวกัน การปรากฏของสุภาพบุรุษท่านนี้ก็มิได้มีสัญญาณของการ
คุกคามหรือทำให้หวาดกลัว หรือสุภาพบุรุษชาวยุโรปทั้งสองท่านนี้จะเป็นเจ้าของอาคาร หรือเคยใช้ชีวิตในอาคารแห่ง
นี้ในอดีต ???






พยาบาลชาวบริติช

ในพิธีการทางพุทธศาสนาครั้งหนึ่งในสถานเอกอัครราชทูตฯ ก่อนเริ่มงานปรับปรุง พระสงฆ์รูปหนึ่งที่มา
ประกอบพิธีสงฆ์ซึ่งจัดที่ห้องบอลรูม ได้สอบถามภริยาเอกอัครราชทูตฯ หลังเสร็จพิธีว่า “ที่สถานทูตแห่งนี้มี “เนิร์ส”
(nurse) อยู่ด้วยหรือ ???” ภริยาเอกอัครราชทูตฯ ถามพระสงฆ์รูปนั้นว่า “ระหว่างสวดมนต์ท่านเห็นอะไรหรือคะ ??? ที่
สถานทูตนี้ไม่มีพยาบาล แต่ในอดีตมีประวัติว่าเคยเป็นสถานพยาบาล” พระสงฆ์ถามต่อว่า “แล้วโยมเชิญเขามาหรือ
???” ภริยาเอกอัครราชทูตฯ ตอบว่า “ไม่ถึงกับได้เชิญค่ะ เพียงแต่บอกกล่าวไปว่า หากใครต้องการรับบุญก็ให้มารับได้”
พระสงฆ์รูปนั้นจึงสรุปว่า “เขาคงมารับบุญน่ะ อาตมาเห็นเขายืนเงียบ ๆ อยู่ที่มุมห้อง” หรือนางพยาบาลท่านนี้จะเป็นผู้
ที่เคยทำงานอยู่ที่นี่ในช่วงเวลาที่ยังคงเป็นสถานพยาบาล ???

ลิฟต์สถานทูตทำงานเองในยามค่ำคืนที่ไม่มีคนอยู่

เรื่องเล่าที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของสถานเอกอัครราชทูตฯ พบเสมอ ๆ ก่อนหน้าการปรับปรุงบูรณะอาคาร
ที่ทำการสถานเอกอัครราชทูตฯ คือ การที่ลิฟต์ของสำนักงานทำงานเอง แม้จะเป็นช่วงหลังเวลาราชการที่ไม่มีผู้คน
แล้วในอาคาร โดยเคลื่อนตัวจากชั้นบนลงมาแล้วลิฟต์ก็เปิดเองตามชั้นต่าง ๆ โดยไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดในลิฟต์ หรือว่า
เมื่อพ้นเวลาราชการแล้ว งานการต่าง ๆ ในโลกของวิญญาณได้เริ่มต้นขึ้น ???






ชายยุโรปวัยกลางคนที่เก้าอี้สนามในมุมสวนทำเนียบ

ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ ก็มีเรื่องที่คนในทำเนียบประสบกับเหตุการณ์ที่ยากแก่การอธิบาย กล่าวคือ
ก่อนหน้าปรับปรุงทำเนียบ หัวมุมสวนทำเนียบฝั่ งบ้านเลขที่ ๑๐ ถนน Cathcart เป็นสระบัวเล็ก ๆ และมีสวนกรวดที่
ขาดการบำรุงรักษา กับมีการใช้พื้นที่ไว้ถมกองเศษวัสดุจนรกและได้กลายเป็นที่อาศัยถาวรของลูกสุนัขจิ้งจอกสีเทา
ขนปุกปุยขนาดเท่าแมวใหญ่ที่มักจะออกมาขุ้ยเขี่ยหาอาหารจากถังขยะในยามค่ำคืนและขับถ่ายทิ้งไว้ในสนามหญ้าให้
เห็นร่องรอยของความเป็น “เจ้าที่” เสมอ ๆ

ด้วยเหตุที่จำเป็นจะต้องเชิญ “เจ้าที่” นี้ออกไปโดยเร่งด่วน และทำให้สนามทำเนียบเป็นระเบียบเรียบร้อย
อย่างที่ควรเป็น (ก่อนหน้าที่จะเริ่มโครงการบูรณะปรับปรุงทำเนียบครั้งใหญ่) จึงได้ระดมสรรพกำลังที่มีของสถานเอก
อัครราชทูตฯ รื้อความไม่เป็นระเบียบร้อยต่าง ๆ และจัดสวนหย่อมใหม่ให้ดูดีขึ้น โดยตรงบริเวณที่เคยเป็นรังสุนัข
จิ้งจอกนอกจากจะได้รื้อกองเศษวัสดุออกและทำความสะอาดให้หมดจดแล้ว ก็ได้จัดซื้อแผ่นหินมาปูพื้นและจัดวาง
เก้าอี้สนามเอาไว้ตรงมุมบ้าน เพื่อให้พอได้อาศัยนั่งเล่นฟังเสียงน้ำพุ (ที่จัดทำขึ้นใหม่) จากสระบัวน้อย

สุนัขจิ้งจอกได้รับเชิญออกไปจากสนามของทำเนียบแล้ว แต่ที่น่าแปลกใจคือแม่บ้านของทำเนียบเคยเห็น
เงารางของชายยุโรปวัยกลางคนนั่งเล่นอ่านหนังสือสบายใจอยู่ที่เก้าอี้สนาม และเป็นการแลเห็นที่แปลกประหลาด คือ
สามารถมองเห็นได้จากจอโทรทัศน์ของกล้องวงจรปิดเท่านั้น เพราะเมื่อมองด้วยตาเปล่าก็ไม่มีผู้ใดอยู่ตรงนั้น หรือนี่
คือประสบการณ์ “ผีวิทยาศาสตร์” ???






แฟชั่นนิสต้าที่สถานทูต

มีเรื่องเล่าจากปากคำของแม่บ้านสถานเอกอัครราชทูตฯ ซึ่งเป็นคนเก่าคนแก่ว่า น่าจะเป็น
ประมาณปี ๒๕๓๕ มีงานใหญ่ของสถานเอกอัครราชทูตฯ ซึ่งมีกิจกรรมมากมาย รวมทั้งการเดินแฟชั่น
โชว์ที่แสดงเสื้อผ้าแฟชั่นงดงามที่ทำขึ้นจากผ้าไหมไทยด้วยฝีมืออันปราณีตของคนไทย และนางแบบ
ที่มาเดินแฟชั่นครั้งนั้นก็ล้วนแต่เป็นนางแบบ กิตติมศักดิ์ที่มีชื่อเสียงจากประเทศไทย ซึ่งคณะนาง
แบบกิตติมศักดิ์เหล่านี้ได้อาศัยอาคารสถานเอกอัครราชทูตฯ เป็นที่พำนัก

ราวตีสี่ของเช้าวันหนึ่ง ขณะที่แม่บ้านตื่นขึ้นเพื่อมาดูแลความเรียบร้อยและเตรียมอาหาร
เช้าให้อาคันตุกะ เธอได้พบกับสิ่งที่ทำให้ตกใจถึงขั้นหมดสติ เพราะเธอได้เผชิญหน้ากับสุภาพสตรีในชุด
ขาวหน้าตาซีดเผือดเดินย่างเท้าเบาบางจนเหมือนเลื่ อนลอยผ่านสายตาไปราวกับมีปาฏิหาริย์

แม่บ้านได้ฟื้ นคืนสติขึ้น ใบหน้าและศรีษะพาดอยู่บนหน้าตักที่คลุมอยู่ด้วยชุดยูกาตะทำ
ด้วยผ้าขนหนู สีขาวสะอาดหนานุ่ม และเมื่อลืมตาขึ้นก็ได้พบว่าเธอกำลังได้รับความช่วยเหลือให้ฟื้ นสติ
โดยนางแบบกิตติมศักดิ์ท่านหนึ่งด้วยความเอื้ ออารีย์และห่วงใย

“โถหนู!!! คงตกใจมากเลยซินะจ้ะ พอดีพี่ยังไม่ได้ลงเมคอัพแต่งหน้า พี่ขอโทษด้วย” นางแบบได้กล่าว
กับแม่บ้านที่ลืมตาอยู่บนหน้าตักนุ่มนวลและฝ่ามืออ่อนละไมที่นวดเบา ๆ ให้เธอฟื้ นคืนสติ






“ปีศาจสถานทูต” ความจริง VS ความเชื่อ ๕

ประสบการณ์ปีศาจในสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน เป็นเรื่องที่ยากแก่การ
พิสูจน์ มีทั้งที่เป็นประสบการณ์ตรงที่ยากแก่การอธิบาย และบางปรากฏการณ์ก็เป็นเพียงอุปาทานดัง
ที่ได้บรรยายข้างต้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ในทุกประสบการณ์เหล่านี้ ไม่มีเหตุการณ์ใดเลยที่ผู้ประสบ
พบเห็นจะรู้สึกถึงการหลอกหลอนหรือการคุกคาม ทั้งหมดของประสบการณ์ที่เล่าต่อ ๆ กันมาเป็น
เพียงการปรากฏให้เห็น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อสำแดงให้เห็นว่าเรื่องเหนือธรรมชาติอาจจะมีอยู่จริง หรือ
ด้วยวัตถุประสงค์อื่น จึงไม่ใช่สิ่งที่น่าหวาดกลัว ตราบที่สามารถมั่นใจว่าได้ประพฤติตนและปฏิบัติงาน
ด้วยความเคารพต่อสถานที่

ในวันที่สถานเอกอัครราชทูตฯ มีความครบถ้วนสมบูรณ์ เป็นสถานที่ทำงานและที่พักที่เป็น
“อารยสถาปัตย์” ข้าราชการทุกคนมีห้องทำงานส่วนตัว เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมีสถานที่ทำงานที่สะอาดและ
เป็นสัดส่วน มี “ห้องพระ” ส่วนกลางที่นอกจากสำหรับเก็บรักษาพระพุทธรูปสำคัญต่าง ๆ ของสถาน
เอกอัครราชทูตฯ แล้ว ยังทำไว้ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้มีสถานที่กลางไว้ใช้สวดมนต์ ฝึก
สติ และรักษาความสงบและความมั่นคงทางจิตใจ มีห้องหับที่สามารถประยุกต์ใช้สำหรับกิจกรรม
จรรโลงใจ เช่น พิธีกรรมและศาสนกิจต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้ไม่มีผู้ใดได้พบกับประสบการณ์แปลก ๆ
อีกเลย

ข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ เมื่อโครงการฟื้ นฟูบูรณะสถานเอกอัครราชทูตฯ แล้วเสร็จ โดยได้
แปรความทรุดโทรมให้เป็นความงดงาม เปลี่ยนความสกปรกรกรุงรังไร้ระเบียบให้เป็นความสะอาด
เรียบร้อยและสว่าง ไสว แก้ไขสิ่งที่ชำรุดให้สามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ทำสิ่งแวดล้อมในสถานที่
ทำงานให้รื่นรมย์ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และให้สามารถปฏิบัติงานได้ด้วยสมาธิ ได้สร้างคุณภาพ
ให้แก่ทุกชีวิตในสถานเอกอัครราชทูตฯ

ข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ เมื่อโครงการฟื้ นฟูบูรณะสถานเอกอัครราชทูตฯ แล้วเสร็จ โดยได้
แปรความทรุดโทรมให้เป็นความงดงาม เปลี่ยนความสกปรกรกรุงรังไร้ระเบียบให้เป็นความสะอาด
เรียบร้อยและสว่าง ไสว แก้ไขสิ่งที่ชำรุดให้สามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ทำสิ่งแวดล้อมในสถานที่
ทำงานให้รื่นรมย์ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และให้สามารถปฏิบัติงานได้ด้วยสมาธิ ได้สร้างคุณภาพ
ให้แก่ทุกชีวิตในสถานเอกอัครราชทูตฯ

เรายังได้คำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ที่มาพร้อมกับความสำเร็จของโครงการบูรณะฟื้ นฟูสถานเอกอัคร
ราชทูตฯ และทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ อีกด้วย อาทิ เมื่อได้เปลี่ยนกล้องทีวีวงจรปิดใหม่ทั้งหมดทั้งที่
สถานเอกอัครราชทูตฯ และทำเนียบ ก็ไม่มีผู้ใดได้พบประสบการณ์เห็นภาพเรืองรางของสิ่งที่เชื่อว่า
เป็นวิญญาณในจอโทรทัศน์กล้องวงจรปิดอีกต่อไป หรือเมื่อได้ซ่อมลิฟต์ทั้งที่สถานเอกอัครราชทูตฯ
และทำเนียบใหม่ให้สมบูรณ์ ไม่ติดขัดและมีความปลอดภัย ก็ได้เข้าใจกันถึงหลักพื้นฐานว่า ลิฟต์อาคาร
ในสหราชอาณาจักรจะถูกระบบคอมพิวเตอร์ตั้งโปรแกรมให้ลงไปจอดที่ชั้นที่ติดกับพื้นดินเสมอ เพื่อ
รักษาอุปกรณ์ต่าง ๆ และระบบควบคุมให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด เป็นต้น

เป็นสัจธรรมที่ความเชื่อและความจริงมักจะผสมปะปนกันอยู่เสมอในสภาวะจิตของมนุษย์ และก็เป็น
สัจธรรมอีกเช่นเดียวกันว่า คุณภาพชีวิตที่ดีของมนุษย์จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อได้ดำรงชีพอยู่ในสภาวะ
แวดล้อมที่ดีเท่านั้น สภาพแวดล้อมของสถานที่ทำงานที่ดีไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อผลิตภาพในการ
ทำงานเท่านั้น แต่ยังสร้างความมั่นคงและความสุขทางใจ อีกทั้งเป็นภูมิคุ้มกันความหวาดกลัวและหวั่น
ระแวงทุกเรื่องในสถานที่ทำงานได้เสมอ

******


Click to View FlipBook Version