AW ทำเนียบ Benjamarachutit School (BM)

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ ๑99

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

200 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 20๑

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

202 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 203

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

204 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 20๕

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

206 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 20๗

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

208 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 209

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

2๑0 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 2๑๑

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

2๑2 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 2๑3

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

2๑4 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 2๑๕

ทําเนียบศิษยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

นายสุขุม เกษรสิทธิ์ Sukhoom kesornsit

เกดิ วันที่ 29 ตลุ าคม 2499
ท่ีอยปู จุบัน : 9/117 ถ.พฒั นาการ ซอยออ นนชุ 17 แยก 19 แขวง/เขตสวนหลวง

กรุงเทพฯ 10250 โทร. 088 6254894
การศึกษา :
• ป.4 ร.ร. วดั ศิลาชลเขต ต.เปลย่ี น อ.สชิ ล นครศรธี รรมราช
• ป.7 ร.ร.สตรีมธั ยมทวศี ลิ ป บดิ าคณุ ครูธูป และคณุ แมพนู สขุ เกษรสิทธิ์

เปน เจา ของ ร.ร. เอกชน (เลกิ กิจการแลว )
• ม.ศ. 3 ร.ร.เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช
• ม.ศ. 5 (สายวิทย) ร.ร.ชโิ นรสวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร
• ป.ตรี คณะมนษุ ยศ าสตร เอกศลิ ปะ (ศศ.บ.) มศว ประสานมติ ร
• ป. โท รฐั ศาตร คณะรัฐศาสตร ม. รามคําแหง
กรงุ เทพมหานคร
การทํางาน :
เคยเปน artist
ท่ีสาํ นักพมิ พเ ดอะเนชนั่
มลั ตมิ เี ดยี
ปจจบุ นั ;
เปน artist อสิ ระ

2๑6 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 2๑๗

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

2๑8 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 2๑9

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

220 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 22๑

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

222 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 223

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

224 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 22๕

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

226 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 22๗

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

228 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 229

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

230 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 23๑

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

232 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 233

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

234 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 23๕

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

236 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 23๗

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

238 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 239

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

240 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 24๑

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

242 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 243

ทําเนยี บศิษยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรธี รรมราช รนุ ๗๕

244 เบญจมฯ ๑๕๑๗

ทาํ เนยี บศษิ ยเกา เบญจมราชทู ศิ นครศรธี รรมราช รุน ๗๕

เบญจมฯ ๑๕๑๗ 24๕



๖ และอ่นื ๆ อกี ม�กม�ย

ทําเนียบศษิ ยเ กา เบญจมราชูทศิ นครศรีธรรมราช รุน ๗๕

เรื่อง เนือ้ ๆๆ

ธนบดี (หนยุ่ ) รอดสม
ผมอยใู่ นวงการปศสุ ตั วไ์ ทยมาตงั้ แตเ่ รยี นคณะสตั วแพทยศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั รหสั ๑๘๕๕๔๘๙ มหี ลายเรอ่ื ง
ทอ่ี ยากจะแชรป์ ระสบการณก์ บั เพอื่ นๆ แตอ่ าจจะเปน็ จดุ เลก็ เทา่ นน้ั นะครบั ทคี่ ดิ วา่ จะเกย่ี วขอ้ ง เพราะทกุ คนกนิ เนอ้ื สตั ว์ นอ้ ยคนนกั
ท่ไี มก่ ินนะครับ
พดู ถงึ เนอ้ื สตั วแ์ ลว้ ทกุ คนทราบดวี า่ เปน็ แหลง่ โปรตนี ทม่ี ปี ระโยชนก์ บั คนและสตั วม์ าก ทงั้ เนอ้ื สตั วบ์ ก สตั วน์ า้ำ คนเรากนิ เปน็
อาหารมานาน สัตวบ์ กทเ่ี ป็นอาหารหลกั ๆของคนได้แก่ เน้อื ววั เน้อื หมู เนื้อไก่ ใน ๓ ชนดิ นี้ เนื้อหมูคนทว่ั โลกกนิ มากท่สี ดุ
๑๑๒,๙๓๘ พันตัน จากหมูเป็น ๗๘๑,๒๙๐ พันตัว จีนมีมากท่ีสุด ๕๔,๐๔๐ พันตัน กินมากที่สุด ๕๕,๓๙๘ พันตัน (ต้องนำาเข้า)
รองลงมาเนอ้ื ไก่ คนกนิ เนอื้ ไก่ ๙๕,๕๖๘ พนั ตนั สหรฐั อเมรกิ ามมี ากทสี่ ดุ ๑๙,๓๖๑ พนั ตนั และกนิ เนอ้ื ไกม่ ากทส่ี ดุ ดว้ ย ๑๖,๑๘๔ พนั ตนั
(สง่ ออกดว้ ย) สว่ นจนี กนิ เปน็ อนั ดบั สอง ๑๑,๕๙๕ พนั ตนั (สง่ ออกเลก็ นอ้ ย) ตอ่ มาคอื เนอ้ื ววั ๖๒,๔๗๗ พนั ตนั จากววั ๙๙๕,๙๖๒ พนั ตวั
อนิ เดยี มมี ากทส่ี ดุ ๓๐๕,๐๐๐ พนั ตวั รองลงมาคอื บราซลิ ๒๓๒,๓๘๗ พนั ตวั ผลติ เนอ้ื ววั มากทส่ี ดุ คอื สหรฐั อเมรกิ า ๑๒,๒๕๖ พนั ตนั
รองลงมาคือบราซิล ๙,๙๐๐ พันตนั กินเนื้อววั มาท่สี ดุ คอื สหรัฐอเมรกิ า ๑๒,๑๘๐ พนั ตัน (ส่งออกเล็กน้อย) รองลงมาคือ อยี ู
๘,๐๒๕ พนั ตนั (นาำ เขา้ ) อนั ดบั สาม จนี ๗,๙๑๐ พนั ตนั (นาำ เขา้ ดว้ ย) การกนิ เนอ้ื สตั วเ์ พม่ิ ขน้ึ ทกุ ปี สตั วธ์ รรมชาตกิ ล็ ดลงเกอื บทกุ แหง่
เพราะคนมากข้นึ พื้นทส่ี ำาหรับสัตวท์ ไี่ มไ่ ด้เล้ยี งก็ลดลงทกุ ปเี พราะคนไปแยง่ ที่สัตวอ์ ยู่อาศยั ทัง้ ทพี่ กั อาศัย ทีท่ าำ กนิ ประกอบกับ
สภาพแวดลอ้ มทเ่ี ปลีย่ นไป ภัยธรรมชาติต่างๆ อาจมีมากข้นึ ทาำ ให้ตอ้ งเลี้ยงสตั วเ์ พอื่ เป็นอาหารมากขน้ึ แต่การเลี้ยงสัตวก์ ต็ อ้ งมี
ต้นทุนธรรมชาติท่ตี ้องแลกกัน ได้แก่
๑. ตอ้ งมวี ัตถดุ ิบอาหารสตั วม์ ากข้นึ การเพาะปลูกพืชอาหารสตั ว์มากขึน้ ทำาลายพื้นท่ปี า่ เช่นการบุกปา่ อเมซอนเพ่อื
ทำาเปน็ แปลงเกษตรขนาดใหญเ่ พอื่ ปลูกขา้ วโพด ถัว่ เหลอื ง เป็นต้น
๒. นา้ำ ท่ีใช้เลีย้ งสัตว์จำานวนมหาศาล มีท้งั นา้ำ จากแหล่งบนดิน นา้ำ ใต้ดิน กต็ อ้ งใชก้ ันอย่างมากมาย
๓. สง่ิ ขบั ถ่าย ปฏิกูลท่เี กิดจากการเล้ียงสตั ว์ ทำาให้เกดิ ยเู รยี กา๊ ซมเี ทน ทาำ ให้เกิดก๊าซเรือนกระจก กล่นิ สิง่ ปนเป้ือน
กระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม คนท่ีพักอาศัยใกล้เคยี ง มขี องเสียลงแหลง่ น้าำ
๔. การเลย้ี งสตั วจ์ าำ นวนมาก แออดั เพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลผลติ ทค่ี มุ้ กบั ตน้ ทนุ อาจตอ้ งใชย้ า สารเคมตี า่ งๆ เพอ่ื ปอ้ งกนั โรค ปอ้ งกนั
การติดเชื้อต่างๆ อาจมผี ลตกคา้ งในสตั วแ์ ละส่งิ แวดล้อม มีผลกระทบต่อสขุ ภาพอนามัยของคนได้ เชน่ เชื้อดอื้ ยา
๕. โรคสัตวต์ ิดคนตา่ งๆ ทอ่ี าจจะเกิดกบั สัตว์ท่เี ล้ียงเปน็ อาหารได้ เชน่ โรคหวัดนก โรคนปิ ปาร์ โรคแทง้ ตดิ ตอ่ วัณโรค
ในปจั จุบันเรมิ่ มีการใชส้ ตั วพ์ วกแมลง มาเปน็ อาหารท้งั ในคนและสัตว์ในลักษณะอุตสาหกรรม เช่นจ้ิงหรดี มกี ารทำาเป็น
ฟาร์มมาตรฐานส่งออกขายไปยโุ รป มกี ารนาำ หนอนแมลงวัน(black soldier fly) มาทาำ เป็นผงใช้เป็นแหลง่ โปรตีนในอาหารสัตว์
ตอ่ ไปคนและสตั ว์คงต้องหาแหลง่ โปรตนี จากแมลงมาทดแทนมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีการนำาโปรตนี จากจุลชพี เชน่ ผนงั เซลยิสต์
หรือตัวยสิ ตเ์ องทาำ ใหเ้ พิ่มจำานวนมากๆ แล้วมาทาำ ให้แหง้ เปน็ ผงเป็นแหล่งของโปรตีนได้

248 เบญจมฯ ๑๕๑๗