The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนงานธุรกิจขนาดกลางและย่อม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sirinya, 2022-05-13 03:51:07

แผนการจัดการเรียนรู้

แผนการสอนงานธุรกิจขนาดกลางและย่อม

รหัสวชิ า ง23101 ช่ือวิชา งานธรุ กิจขนาดกลางและย่อม
จานวน 0.5 หน่วยกิต 1 ช่ัวโมง/สัปดาห์

จุดประสงคร์ ายวิชา เพ่ือให้

1. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการดาเนนิ ธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม
2. มที ักษะในการเขยี นแผนธรุ กจิ สาหรบั ธุรกจิ ขนาดย่อม
3. มีเจตคตแิ ละกิจนสิ ัยทีด่ ีในการทางานด้วยความรับผิดชอบ ความอดทน อดกลน้ั
ความเช่ือม่ันในตนเอง ความละเอยี ดรอบคอบ และความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์

สมรรถนะรายวชิ า

1. แสดงความรเู้ กยี่ วกับหลกั การและกระบวนการดาเนนิ ธุรกจิ ขนาดย่อม
2. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั กฎหมายและองค์การท่เี กย่ี วข้องกับการดาเนนิ ธุรกิจขนาดยอ่ ม
3. แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั การตลาดและแผนธรุ กิจสาหรับธุรกจิ ขนาดย่อม
4. เลอื กทาเลทตี่ ้ังและแหลง่ เงินทนุ สาหรบั ธรุ กจิ ขนาดย่อมตามหลกั การ
5. เขยี นแผนธรุ กิจสาหรบั ธุรกิจขนาดย่อมตามหลักการ

คาอธบิ ายรายวชิ า

ศึกษาและปฏิบัตเิ กยี่ วกบั หลกั การดาเนินธรุ กิจขนาดย่อม ประเภทและรปู แบบของธรุ กิจขนาดย่อม
การเปน็ ผปู้ ระกอบการ การเร่ิมต้นธุรกิจขนาดย่อม การจดทะเบยี นจดั ตงั้ ธุรกจิ กฎหมายและองคก์ ารที่
เก่ยี วข้องกับการดาเนนิ ธุรกจิ ขนาดยอ่ ม ทาเลท่ีตั้ง แหล่งเงินทนุ การตลาดสาหรบั ธุรกจิ ขนาดย่อมและแผน
ธุรกิจ

หนว่ ยการเรียนรู้และสมรรถนะรายวชิ า

รหสั วชิ า ง23101 ชอ่ื วชิ า งานธรุ กจิ ขนาดกลางและย่อม

จานวน 0.5 หน่วยกิต 1 ช่วั โมง/สัปดาห์

หนว่ ย ชื่อหนว่ ย สมรรถนะรายหนว่ ย

1 ความร้ทู ่วั ไปเกี่ยวกับธุรกจิ ขนาดยอ่ ม แสดงความรเู้ กี่ยวกับคณุ ลักษณะของธรุ กิจและ
คุณสมบัติของการเป็นผปู้ ระกอบการธรุ กจิ ขนาด

ยอ่ ม

2 รปู แบบและประเภทของธุรกิจขนาดย่อม เลือกรูปแบบการจัดตง้ั ธุรกจิ ขนาดยอ่ มให้

เหมาะสมกบั ธรุ กิจแต่ละประเภท

3 เอกสารท่ตี ้องยืน่ ขออนุญาตจดทะเบยี น แสดงความรู้เก่ยี วกับจดทะเบียนพาณชิ ย์ตาม

การค้าค้าและการพาณิชย์ พระราชบัญญัติทะเบยี นพาณิชย์ พ.ศ. 2499

4 กฎหมายและภาษีเกีย่ วกับธรุ กจิ ขนาดย่อม แสดงความรเู้ กย่ี วกับกฎหมายและภาษีในการ

ประกอบธุรกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม

5 ทาเลทต่ี งั้ และแหล่งเงนิ ทนุ - วเิ คราะหป์ จั จยั ในการเลือกทาเลทีต่ ั้งให้
เหมาะสมกับธรุ กจิ ขนาดย่อม

- วเิ คราะห์แหล่งทมี่ าของเงนิ ทุนสาหรับธุรกจิ

ขนาดย่อม

6 การตลาดสาหรบั ธุรกิจขนาดย่อม กาหนดกลยุทธ์การตลาดและวเิ คราะหค์ แู่ ข่งขัน
เพอื่ วางแผนการตลาดสาหรบั ธรุ กิจขนาดย่อม

7 แผนธุรกจิ เขียนแผนธุรกิจสาหรับธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม (ตาม
แบบยอ่ ) ได้ครบตามองค์ประกอบของแผน

ธุรกิจ

ตารางวเิ คราะหห์ น่วยการเรยี นรูแ้ ละเวลาท่ใี ชใ้ นการจดั การเรียนรู้

รหัสวิชา ง23101 ชอ่ื วชิ า งานธุรกิจขนาดกลางและย่อม
จานวน 0.5 หน่วยกิต 1 ช่ัวโมง/สัปดาห์

หน่วย ชื่อหนว่ ยเรยี น สปั ดาหท์ ี่ ชั่วโมงที่

1 ความรู้ท่วั ไปเกี่ยวกับธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม 1-2 1-2
1.1 ความร้ทู ่ัวไปเก่ียวกับธุรกิจขนาดย่อม

1.1.1 ความหมายของธรุ กิจขนาดยอ่ ม
1.1.2 ความสาคญั ของธรุ กิจขนาดยอ่ ม
1.1.3 ปญั หาและข้อจากดั ของธุรกิจขนาดย่อม
1.1.4 ลักษณะของธุรกจิ ขนาดย่อม
1.2 คุณลกั ษณะของผปู้ ระกอบการธรุ กิจขนาดย่อม
1.2.1 คุณสมบัตขิ องผู้ประกอบการ
1.2.2 กระบวนการสรา้ งผ้ปู ระกอบการใหม่
1.2.3 การวิเคราะห์สภาพปัญหาของผปู้ ระกอบการใหม่
1.2.4 แนวทางในการเริ่มต้นประกอบธรุ กิจ

2 รูปแบบและประเภทของธรุ กิจขนาดยอ่ ม 3-5 3-5

2.1 รูปแบบธุรกิจขนาดย่อม

2.1.1 กจิ การเจา้ ของคนเดียว (Sold Proprietorship)

2.1.2 กจิ การห้างหุ้นสว่ น (Partnership)

2.1.3 บริษทั จากดั (Limited Company)

2.1.4 บรษิ ัทมหาชนจากัด (Public Limited

Company)

2.1.5 ธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise)

2.2 ประเภทของธรุ กจิ ขนาดย่อม

2.2.1 ธุรกิจการผลติ (Manufacturing)

2.2.2 ธุรกิจการค้าสง่ (Wholesaling)

2.2.3 ธรุ กิจกิจคา้ ปลีก (Retailing)

2.2.4 ธรุ กจิ บริการ (Service)

หนว่ ย ชื่อหนว่ ยเรียน สัปดาหท์ ี่ ชวั่ โมงท่ี
3 6-7 6-7
การจดทะเบียนพาณิชย์
3.1 จดทะเบียนพาณชิ ย์ ตามพระราชบัญญตั ิทะเบียน
พาณชิ ย์
พ.ศ. 2499

3.1.1 กจิ การท่ตี อ้ งจดทะเบียนพาณชิ ย์
3.1.2 พาณิชยกิจท่ไี ดร้ บั การยกเวน้ ไมต่ ้องจดทะเบยี น
พาณชิ ย์
3.2 การจดทะเบียนห้างหนุ้ ส่วนสามญั นิติบุคคลและหา้ ง
หนุ้ ส่วนจากัด
3.2.1 การจดทะเบยี นจัดตง้ั ห้างหุ้นสว่ น
3.2.2 เอกสารหลักฐานท่ใี ช้ในการจดทะเบยี น
3.3 การจดทะเบยี นบริษทั
3.3.1 การจดทะเบียนหนงั สือบริคณห์สนธิ
3.3.2 เอกสารหลักฐานท่ีต้องใชใ้ นการจดทะเบยี น
หนงั สอื บรคิ ณห์สนธิ
3.3.3 การจดทะเบียนจดั ต้ังบริษทั
3.3.4 เอกสารหลกั ฐานทตี่ ้องใชใ้ นการจดทะเบียน
จดั ตง้ั บรษิ ัท
3.4 การจดทะเบียนบริษัทมหาชนจากดั
3.4.1 ข้ันตอนการจดทะเบียนบริษทั มหาชนจากัด
3.4.2 ขน้ั ตอนการแปรสภาพบริษัทเอกชนเปน็ บรษิ ัท
มหาชนจากดั
3.4.3 เอกสารหลกั ฐานทีต่ ้องใช้ในการจดทะเบียน
บรษิ ทั มหาชนจากัด

หน่วย ชอื่ หนว่ ย สปั ดาหท์ ี่ ชวั่ โมงท่ี
4 8-10 8-10
กฎหมายและภาษีเกี่ยวกับธุรกจิ ขนาดยอ่ ม
5 4.1 พระราชบัญญตั ิสง่ เสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด 11-13 11-13
ย่อม

4.1.1 วัตถปุ ระสงค์ของการจัดตงั้ สานักงานสง่ เสริม
วสิ าหกิจ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม

4.1.2 หนา้ ท่ขี องสานกั งานงานวิสาหกิจขนาดกลางและ
ขนาดย่อม

4.1.3 การจดสทิ ธิบตั ร/อนสุ ทิ ธิบตั รในธรุ กจิ ขนาดย่อม
4.1.4 การจดทะเบียนเครื่องหมายการคา้ ในธุรกจิ ขนาด
ยอ่ ม
4.1.5 งานลิขสทิ ธิใ์ นธรุ กิจขนาดย่อม
4.1.6 องค์ความรภู้ มู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ ไทย
4.2 ภาษีสาหรบั ธุรกจิ ขนาดย่อม
4.2.1 ลักษณะของธุรกจิ ขนาดยอ่ มตามประมวล
รษั ฎากร
4.2.2 รูปแบบธรุ กิจขนาดย่อมตามประมวลรัษฎากร
4.2.3 ภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร
4.2.4 สิทธปิ ระโยชน์ทางภาษสี าหรบั ธรุ กิจขนาดย่อม
4.2.5 การลดอัตราภาษี
ทาเลทต่ี ง้ั และแหล่งเงนิ ทุนสาหรับธุรกจิ ขนาดย่อม
5.1 การเลือกทาเลทต่ี ัง้ สาหรับธรุ กิจขนาดย่อม
5.1.1 ความหมายและความสาคัญของทาเลที่ต้งั
5.1.2 รูปแบบทาเลทีต่ ัง้ ของธรุ กิจขนาดย่อม
5.1.3 ปจั จยั ในการเลือกทาเลทีต่ ้ังธุรกิจขนาดย่อม
5.1.4 หลกั ในการเลือกทาเลทต่ี ้งั ธรุ กจิ ขนาดย่อม
5.2 การจดั หาแหล่งเงินทุนสาหรบั ธุรกจิ ขนาดย่อม

5.2.1 การคัดเลอื กแหล่งเงินทนุ
5.2.2 ฐานะทางการเงินของธุรกิจ
5.2.3 ความสามารถในการชาระหนี้
5.2.4 การนาเสนอคาขอเพ่ือให้ได้เงินทนุ

หนว่ ย ชื่อหนว่ ย สัปดาห์ที่ ช่ัวโมงที่
6 14-16 14-16
การตลาดสาหรบั ธุรกิจขนาดยอ่ ม
7 6.2 สว่ นประสมทางการตลาด 17-20 17-20

6.2.1 สินค้าหรอื ผลติ ภณั ฑ์ (Product)
6.2.2 ราคา (Price)
6.2.3 การจดั จาหนา่ ย (Place)
6.2.4 การส่งเสริมการตลาด (Promotion)
6.3 การแข่งขันในตลาดธรุ กจิ ขนาดย่อม
6.3.1 การวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อมการแขง่ ขัน โดยใช้
หลัก Five Force Model
6.3.2 แนวทางการปรับปรงุ เพ่ือเพิ่มขดี ความสามารถการ
แขง่ ขนั
6.3.3 แนวทางการตลาดที่สามารถนามาปรับใช้
6.4 แผนการตลาดสาหรับธรุ กจิ ขนาดย่อม
6.4.1 องค์ประกอบของแผนการตลาด
6.4.2 การเขยี นแผนการตลาด
แผนธรุ กิจ
7.1 ความหมาย ความสาคญั และวตั ถุประสงค์ของแผน
ธรุ กจิ
7.1.1 ความหมายของแผนธุรกิจ
7.1.2 ความสาคญั ของแผนธุรกจิ
7.1.3 วตั ถุประสงค์ของแผนธรุ กิจ
7.2 แผนธรุ กิจ
7.2.1 องค์ประกอบของแผนธุรกิจ
7.2.2 ขั้นตอนการเขยี นแผนธุรกจิ

หนว่ ยท่ี 1 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 สอนสปั ดาห์ที่ 1-2
ระดับ ม.3 จานวน 2 ชว่ั โมง
ชื่อวิชา งานธุรกิจขนาดกลางและย่อม รหสั วิชา ง23101
ช่ือหน่วย ความรูท้ ั่วไปเกยี่ วกับธุรกิจขนาดยอ่ ม
ชือ่ ผู้สอน นางศิรนิ ยา น้อยพลทนั

สาระสาคญั
ปัจจุบนั เปน็ ทยี่ อมรบั ว่าธรุ กิจขนาดย่อมเป็นพลังขับเคลอ่ื นในการพัฒนาสงั คมและเศรษฐกิจของ

ประเทศไทยใหเ้ จรญิ รงุ่ เรอื ง และมบี ทบาทสาคัญต่อระบบเศรษฐกจิ ของประเทศ ทาใหเ้ กิดการสรา้ งงาน การ

ใชภ้ มู ิปัญญาภายในชมุ ชน รวมถึงการสร้างโอกาสให้กับประชาชนในท้องถ่นิ เกิดการลงทนุ เพม่ิ ขนึ้ โดยมกี าร

ระดมทนุ หรือทรัพยากรในทอ้ งถิน่ ให้เกิดประโยชน์และมูลค่าเพิ่มสงู สดุ มีการหมนุ เวยี นเงินตราและกระจาย

การพัฒนาด้านต่าง ๆ ไปสู่ระดบั ภูมิภาคไม่วา่ จะเป็นดา้ นอุตสาหกรรม การเกษตรกรรม เศรษฐกิจ สังคม

การเมือง เทคโนโลยี การค้าระหว่างประเทศและการแขง่ ขัน ธรุ กิจขนาดยอ่ มยังเป็นกาลังสาคญั ในการพฒั นา

สง่ เสรมิ ธรุ กจิ ขนาดใหญ่ และ อาศัยโอกาสทางธุรกิจหลายรปู แบบด้วยการดาเนนิ การผ่านจดุ แขง็ ของธรุ กิจ

โดยเปน็ ส่วนประกอบหลักของโครงสร้างธรุ กิจท่ีหลากหลาย แล้วนามาบรู ณาการเพื่อลดตน้ ทนุ ต่อหน่วยให้

ตา่ ลง ตลอดจนเป็นแนวทางในการก้าวไปสู่อตุ สาหกรรมขนาดใหญใ่ นชนบทและระดับประเทศ

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. บอกความหมายของธรุ กิจขนาดยอ่ มได้
2. บอกความสาคัญของธรุ กจิ ขนาดยอ่ มได้
3. อธิบายปญั หาและขอ้ จากดั ของธรุ กิจขนาดย่อมได้
4. อธบิ ายลักษณะของธุรกจิ ขนาดย่อมได้
5. บอกคุณสมบัติของผปู้ ระกอบการได้
6. อธิบายกระบวนการสรา้ งผปู้ ระกอบการใหมไ่ ด้
7. วิเคราะหส์ ภาพปญั หาของผปู้ ระกอบการใหม่ได้
8. บอกแนวทางในการเร่ิมตน้ ประกอบธุรกจิ ได้
9. ผ้เู รียนมคี วามพยายามและความตั้งใจในการปฏบิ ัติงานจนสาสาเรจ็

สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรู้เกีย่ วกับคุณลกั ษณะของธุรกจิ และคุณสมบตั ขิ องการเปน็ ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดยอ่ ม

สาระการเรยี นรู้
1. ความรูท้ ว่ั ไปเกย่ี วกับธุรกิจขนาดยอ่ ม
1.1 ความรูท้ วั่ ไปเกย่ี วกบั ธรุ กิจขนาดย่อม
1.1.1 ความหมายของธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม
1.1.2 ความสาคญั ของธรุ กิจขนาดย่อม
1.1.3 ปญั หาและข้อจากัดของธรุ กิจขนาดยอ่ ม
1.1.4 ลักษณะของธรุ กิจขนาดย่อม
1.2 คุณลกั ษณะของผูป้ ระกอบการธุรกิจขนาดย่อม
1.2.1 คุณสมบัตขิ องผปู้ ระกอบการ
1.2.2 กระบวนการสร้างผู้ประกอบการใหม่
1.2.3 การวเิ คราะหส์ ภาพปัญหาของผู้ประกอบการใหม่
1.2.4 แนวทางในการเร่ิมตน้ ประกอบธรุ กิจ

ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงและคุณธรรมทีม่ ุ่งเนน้
1. พอประมาณ ผู้เรียนสามารถคิดวิเคราะหไ์ ด้เหมาะกับวตั ถุประสงค์การเรียนรู้
2. มีเหตุผล ผเู้ รียนทางานตามที่ไดร้ บั มอบหมายโดยคานงึ ถึงเหตุและปัจจยั แวดล้อมท้งั หมด เพอ่ื ให้

การ ดาเนนิ งานเปน็ ไปอย่างถูกต้อง
3. ขยนั อดทน ผ้เู รยี นมคี วามตง้ั ใจในการทางาน ไม่ละเลย ไมท่ อดทง้ิ งานท่ีได้รบั มอบหมาย จนทาให้

ประสบ ผลสาเร็จในทส่ี ดุ
4. รอบรู้ ผู้เรยี นมคี วามรอบรู้เก่ยี วกบั วชิ าการต่างๆ ที่เกย่ี วขอ้ งอยา่ งรอบด้าน
5. รอบคอบ ผู้เรียนมีความรอบคอบท่ีจะนาความรู้ที่ได้จากการศกึ ษาคน้ คว้า มาประยุกต์ใช้ในการ

เรยี นไดอ้ ยา่ ง ถกู ต้องตามเกณฑ์ทก่ี าหนด นาปัญหาและอุปสรรคในการเรยี นการสอนมาปรบั ปรงุ การเรียน
การสอน ผู้เรียนยงั ไม่กล้าแสดงความคดิ เหน็ ในการตอบคาถาม ผูส้ อนต้องเสริมทางบวกและกระตุ้นให้ผู้เรียน
กล้าแสดงความคิดเหน็ มากข้ึน

กิจกรรมการเรียนการสอน (สปั ดาหท์ ี่ 1 ชว่ั โมงท่ี 1)

1. ผู้สอนช้ีแจงขอ้ ตกลงในการเรียนในเรื่องตา่ งๆ โดยใช้ PowerPoint ได้แก่ การตรวจช่ือเข้าชัน้ เรยี น การ
ออกนอกห้องเรยี นในเวลาเรียน การพดู คุยในชัน้ เรยี น การใช้โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์
ตา่ งๆ วธิ ีการเรียน และการส่งงาน

2. ผ้สู อนแจง้ เกณฑ์การวดั ผลและประเมนิ ผล สัดสว่ นคะแนน (คะแนนเตม็ 100 คะแนน) มาจากคะแนน
การ เข้าเรียน คะแนนจิตพิสยั คะแนนงาน และคะแนนสอบ

3. ผู้สอนแนะนารายละเอียดเกยี่ วรายวชิ า โดยการซักถาม และทบทวนความรู้เดิมของผู้เรยี นเพื่อการเป็น
สารวจพ้ืนฐานความรูก้ ่อนที่จะเริ่มเรยี น

4. ผู้สอนแจ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นรูป้ ระจาหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื งความรู้ทั่วไปในการดาเนินธรุ กิจขนาด
ย่อม

5. ผู้สอนชใี้ ห้ผู้เรยี นเห็นถึงความสาคญั ของการดาเนนิ ธุรกิจขนาดย่อมจะช่วยทาให้ประชาชนมีอาชพี และทา
ให้มี รายได้มากขึ้นอยา่ งไร

6. ผูส้ อนอภปิ รายเนอ้ื หาประกอบพร้อมรูปภาพสนิ คา้ และอืน่ ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อส่ือความหมายสาระสาคัญ
ของ เนื้อหาใหเ้ ข้าใจยิ่งขนึ้ ซ่ึงเน้อื หาทศี่ ึกษาได้แก่

1) ความหมายของธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม
2) ความสาคญั ของธรุ กิจขนาดยอ่ ม
3) ปัญหาและขอ้ จากดั ของธุรกจิ ขนาดย่อม
4) ลักษณะของธุรกจิ ขนาดย่อม
7. ผู้สอนใชเ้ ทคนิคการสอนโดยการตัง้ คาถามแบบ 5W1H ให้ผู้เรียนวิเคราะห์ลักษณะของธรุ กิจจาก
คลิป VDO รายการ SMEs ตแี ตก โดยให้ช่วยกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวธรุ กจิ และใหบ้ ูรณาการแนวคิดแบบ
เศรษฐกิจ พอเพียงกบั ธุรกจิ ขนาดย่อม ตามรูปภาพสามหว่ ง 2 เงอื่ นไข
8. ใหผ้ ู้เรียนแบง่ กลมุ่ 3-4 คน ใหช้ ว่ ยกนั ยกตัวอยา่ ง ธรุ กจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม" หรือ SMEs
(Small and Medium Enterprises) ตามหวั ข้อดงั น้ี
1) กิจการการผลติ (Production Sector)
2) กิจการการคา้ (Trading Sector)
3) กิจการบริการ (Service Sector)
9. ผู้สอนตรวจประเมนิ ผลงานผเู้ รยี นแบบภาพรวมเปน็ รายบุคคลและแบบกลมุ่
10. ผู้สอนและผ้เู รียนรว่ มกนั สรุปเนือ้ หาแบบ Mind Mapping เพ่ือทบทวนความเข้าใจอกี คร้ัง และ
เปิดโอกาสให้ ผู้เรยี นได้ซักถามข้อสงสัย
11. มอบหมายให้ผูเ้ รยี นไปศึกษาเกยี่ วกับเกี่ยวกบั ประวตั บิ ุคคลทป่ี ระสบความสาเรจ็ จากการประกอบ
ธรุ กิจ
12. ผูเ้ รียนสามารถทบทวนความรู้ หรอื ดาวนโ์ หลด PowerPoint และ ใบงานไดจ้ าก
https://www.facebook.com/groups (กลมุ่ ชื่อ SMEs 3/1 MKT)

เทคนิควิธีการสอนท่นี ามาใช้
1. วธิ ีสอนแบบแบ่งกลุ่มทางาน เป็นวธิ ีสอนทผ่ี สู้ อนมอบหมายใหน้ ักเรยี นทางานร่วมกนั เปน็ กลุ่ม

รว่ มมือกนั ศกึ ษาคน้ คว้าหาวธิ ีการแกป้ ัญหาหรอื ปฏิบัติกจิ กรรมตามความสามารถ ความถนดั หรือความสนใจ
เปน็ การฝกึ ใหผ้ เู้ รียนทางานรว่ มกันตามวถิ ีแห่งประชาธปิ ไตย

2. วิธสี อนแบบใชค้ าถาม เป็นกระบวนการเรยี นรู้ที่มุง่ พฒั นากระบวนการทางความคดิ ของผู้เรียน
โดยผ้สู อนจะ ป้อนคาถามในลกั ษณะตา่ ง ๆ ที่เป็นคาถามที่ดี สามารถพัฒนาความคิดผูเ้ รียน ถามเพ่ือใหผ้ ู้เรียน
ใช้ความคดิ เชิงเหตผุ ล วเิ คราะห์ วิจารณ์ สังเคราะห์ หรือ การประเมนิ คา่ เพ่ือจะตอบคาถามเหลา่ นัน้

สอื่ การเรยี นการสอนและแหลง่ การเรียนรู้
1. สื่อสงิ่ พิมพ์ ได้แก่ หนังสือเรยี นวิชาการดาเนินธุรกิจขนาดย่อม
2. โสตทัศน์ ได้แก่ โปรเจคเตอร์, ลาโพง
3. ส่อื เทคโนโลยขี น้ั สูง ได้แก่ PowerPoint , Clip VDO
4. อินเทอร์เนต็ ไดแ้ ก่ https://www.facebook.com/groups

http://www.thaifranchisecenter.com (ตัวอย่างแผนธุรกิจ)
https://www.kasikornbank.com/th/business/sme/KSMEKnowledge/ClipVDO/Pages/sme-
teetak.aspx (รายการ SMEs ตแี ตก)

การวัดประเมินผล เกณฑก์ ารประเมินผล
1.ประเมนิ จากสภาพจริง โดยการสงั เกต 1. ผเู้ รยี นมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมการเรียนรอ้ ยละ 70
พฤติกรรมการมสี ่วนรว่ มของผูเ้ รยี นเป็น ขึ้นไป
รายบคุ คล
2. การสมุ่ เรยี กถาม-ตอบ เป็นรายบุคคล 2. ผเู้ รียนสามารถตอบคาถามได้ถูกต้องเกินร้อยละ
80 ขนึ้ ไป
3. ประเมนิ ผลงานจากใบงาน 3. เกณฑต์ ดั สินคุณภาพใบงาน
คะแนน 10-12 = ดี
4. ประเมินผลจากการทากิจกรรมกลุ่ม คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรับปรุง
4. เกณฑ์ตดั สินคณุ ภาพกิจกรรมกลุ่ม
คะแนน 10-12 = ดี
คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรบั ปรุง

เอกสารอ้างอิง/เวบ็ ไซต์
1. สฏิ ฐากร ชทู รพั ย์ และ เพ็ญศรี เลิศเกยี รตวิ ิทยา. การดาเนนิ ธุรกิจขนาดย่อม. กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พ์
เอมพนั ธ์ จากดั
2. http://www.thaifranchisecenter.com (ตัวอยา่ งแผนธุรกจิ )
3. https://www.kasikornbank.com/th/business/sme/KSMEKnowledge/ClipVDO/Pages/sme-
teetak.aspx (รายการ SMEs ตแี ตก

กิจกรรมการเรียนการสอน (สปั ดาหท์ ี่ 2 ชัว่ โมงท่ี 2)

1. ผสู้ อนช้ีแจ้งเกณฑ์การวัดผลและประเมนิ ผล และข้อตกลงในการปฏบิ ัติงานของผูเ้ รยี น
2. ผสู้ อนแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นร้ปู ระจาหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เรือ่ งความรทู้ ั่วไปในการดาเนินธุรกิจ
ขนาดย่อม
3. ผูส้ อนทบทวนความรเู้ ดมิ ให้กบั ผ้เู รยี น โดยการถาม-ตอบกอ่ นทีจ่ ะเร่มิ เรยี นหวั ข้อใหม่ โดยใช้
PowerPoint ประกอบการสอน
4. ผูส้ อนเปิดรูปภาพบุคคลท่ีประสบความสาเร็จจากการประกอบธุรกิจของในประเทศและ
ตา่ งประเทศ
5. ผู้สอนให้ผู้เรียนยกตัวอยา่ งบคุ คลท่ีประสบความสาเร็จจากการประกอบธุรกจิ ทต่ี นชืน่ ชอบ และ
แสดงความ คดิ เห็นเกีย่ วกบั คุณสมบัตทิ ดี่ ีของเป็นผ้ปู ระกอบธรุ กจิ
6. ครูผ้สู อนอธบิ ายคุณลักษณะพื้นฐานของผปู้ ระกอบการธุรกิจขนาดย่อมที่ควรมีดงั นี้

1) เน้นการใช้นวัตกรรม (Innovation)
2) มีความคดิ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์ (Creativity)
3) เน้นการพฒั นาทักษะ ความชานาญ (Skill Based)
4) มศี ักยภาพเชงิ พาณชิ ย์ (High Potential)
7. ผสู้ อนใชเ้ ทคนิควธิ กี ารจดั การเรียนร้แู บบอภิปรายกลุม่ ย่อย ผสู้ อนจดั กลุ่มผู้เรียนออกเปน็ กลมุ่ ย่อย
ประมาณ 3-4 คน ใหผ้ เู้ รียนแตล่ ะกล่มุ พูด คยุ แลกเปล่ียนข้อมูลความคดิ เห็น ประสบการณใ์ นประเดน็ หรือ
ปัญหาที่ กาหนด ดงั นี้
กจิ กรรมที่ 1 ใหว้ ิเคราะห์จากรปู ภาพสินค้าที่ครูผ้สู อนนามาเป็นตวั อยา่ ง ให้ช่วยกันแสดงความคดิ เห็น
ว่า ผู้ประกอบการควรมีคุณสมบตั หิ รือคุณลักษณะอยา่ งไร จงึ จะทาให้ประสบความสาเร็จในการทาธรุ กจิ
กิจกรรมที่ 2 ใหว้ ิเคราะห์จากรปู ภาพศลิ ปะจากก้อนดิน ดอกไมป้ ระดษิ ฐจ์ าก สินค้า OTOP แลว้
ชว่ ยกนั แสดงความคดิ เหน็ วา่ ผู้ประกอบการควรมคี ณุ สมบัติหรอื คุณลักษณะอย่างไร จงึ จะทาใหป้ ระสบ
ความสาเร็จในการทาธุรกจิ
8. ผสู้ อนคอยสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั ิงานของผ้เู รยี นเป็นรายบุคคลและเป็นกลุ่มคอยคาใหค้ าแนะ
นา และ เปิดโอกาสใหซ้ กั ถามข้อสงสัยหรือหวั ข้อที่ยังไมเ่ ขา้ ใจได้

9. ผู้สอนตรวจประเมนิ ผลงานผ้เู รยี นแบบภาพรวมเปน็ รายบุคคลและแบบกลมุ่
10. ผู้สอนและผเู้ รยี นรว่ มกันสรปุ เนอื้ หาแบบ Mind Mapping เพ่ือทบทวนความเข้าใจอกี ครั้ง และ
เปิดโอกาสให้ ผ้เู รยี นได้ซกั ถามขอ้ สงสยั
11. มอบหมายใหผ้ ู้เรยี นไปศึกษาเก่ยี วกับ แผนธุรกิจ จากเว็บไซต์
http://www.thaifranchisecenter.com (ตัวอย่างแผนธรุ กิจ)
12. ผู้เรียนสามารถทบทวนความรู้ หรอื ดาวนโ์ หลด PowerPoint และ ใบงานได้จาก
https://www.facebook.com/groups (กลมุ่ ช่ือ SMEs 3/1 MKT)

เทคนคิ วิธกี ารสอนทนี่ ามาใช้

1. วิธสี อนแบบแบง่ กลุ่มทางาน เปน็ วธิ สี อนทผี่ ู้สอนมอบหมายใหน้ กั เรยี นทางานร่วมกนั เปน็ กลุม่
ร่วมมอื กัน ศกึ ษาค้นคว้าหาวธิ ีการแก้ปัญหาหรอื ปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามความสามารถ ความถนัด หรอื ความสนใจ
เปน็ การฝกึ ใหผ้ เู้ รียนทางานรว่ มกันตามวิถีแหง่ ประชาธิปไตย

2. วิธสี อนแบบอภปิ รายกลุม่ ย่อย เป็นการสอนโดยทผ่ี เู้ รียนแลกเปล่ียนความคิดเหน็ ซงึ่ กนั และกนั
เพื่อช่วย แก้ไขปัญหาอย่างใดอยา่ งหน่ึง การอภิปรายกระทาระหว่างครกู บั นักเรยี น หรือระหว่างนักเรียน
ด้วยกนั โดยมี ผู้สอนเป็นผ้ปู ระสานงาน

สอื่ การเรียนการสอนและแหล่งการเรียนรู้
1. ส่ือสิ่งพิมพ์ ได้แก่ หนงั สือเรียนวิชาการดาเนนิ ธุรกิจขนาดย่อม
2. โสตทัศน์ ได้แก่ โปรเจคเตอร์, ลาโพง
3. ส่อื เทคโนโลยีข้นั สงู ไดแ้ ก่ PowerPoint , Clip VDO
4. อนิ เทอรเ์ น็ต ไดแ้ ก่ https://www.facebook.com/groups

http://www.thaifranchisecenter.com (ตวั อย่างแผนธุรกจิ )
https://www.kasikornbank.com/th/business/sme/KSMEKnowledge/ClipVDO/Pages/sme-
teetak.aspx (รายการ SMEs ตแี ตก)

การวดั ประเมนิ ผล เกณฑ์การประเมินผล
1.ประเมินจากสภาพจริง โดยการสังเกต 1. ผ้เู รยี นมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมการเรยี นรอ้ ยละ 70
พฤติกรรมการมสี ว่ นร่วมของผู้เรยี นเป็น ขนึ้ ไป
รายบุคคล
2. การสุ่มเรยี กถาม-ตอบ เปน็ รายบุคคล 2. ผเู้ รียนสามารถตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ งเกินร้อยละ
80 ข้ึนไป
3. ประเมนิ ผลงานจากใบงาน 3. เกณฑ์ตดั สนิ คุณภาพใบงาน
คะแนน 10-12 = ดี
4. ประเมนิ ผลจากการทากิจกรรมกลมุ่ คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรบั ปรงุ
4. เกณฑ์ตดั สินคณุ ภาพกจิ กรรมกลมุ่
คะแนน 10-12 = ดี
คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรับปรุง

เอกสารอ้างอิง/เวบ็ ไซต์

1. สฏิ ฐากร ชูทรัพย์ และ เพ็ญศรี เลิศเกียรตวิ ทิ ยา. การดาเนินธุรกจิ ขนาดยอ่ ม. กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพ์
เอมพันธ์ จากัด
2. http://www.thaifranchisecenter.com (ตัวอย่างแผนธุรกจิ )
3. https://www.kasikornbank.com/th/business/sme/KSMEKnowledge/ClipVDO/Pages/sme-
teetak.aspx (รายการ SMEs ตแี ตก)

ใบงานที่ 1 ความรทู้ ่วั ไปเก่ียวกบั ธรุ กิจขนาดยอ่ ม
ช่อื .....................................................................สกุล..................................................ห้อง ...............เลขท.่ี ......

กจิ กรรมที่มอบหมาย ให้นักศึกษาวเิ คราะห์คุณสมบัติของผู้ประกอบการทป่ี ระสบความสาเรจ็ ในการทาธรุ กจิ
พรอ้ มอธิบายเหตุผล (5 ข้อ)

1. คุณอทิ ธิพัทธ์ พรี ะเดชาพันธ์ เจา้ ของธรุ กจิ “สาหร่าย ตราเถ้าแก่น้อย”

2. คุณตนั ภาสกรนที เจ้าของธุรกิจชาเขียว “ตราอชิ ติ ัน”

หน่วยที่ 2 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 สอนสัปดาห์ที่ 3-5
ระดบั ม.3 จานวน 3 ช่ัวโมง
ช่อื วิชา งานธุรกิจขนาดกลางและย่อม รหัสวิชา ง23101
ชอื่ หน่วย รปู แบบและประเภทของธุรกิจขนาดยอ่ ม
ชอื่ ผสู้ อน นางศิรินยา น้อยพลทนั

สาระสาคญั

รปู แบบการประกอบธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม สามารถดาเนินการได้หลายรปู แบบ ทง้ั น้ีข้ึนอยู่กับความตอ้ งการ และ
ความรคู้ วามสามารถของผ้ปู ระกอบการวา่ จะเลือกรูปแบบใดจึงจะเหมาะสมกับตนเองมากทสี่ ุดไมว่ า่ จะเป็น
การดาเนินกจิ การคนเดยี วหรือหลายคน นอกจากน้ีการเลือกประเภทธรุ กิจเพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกับรูปแบบท่ี
เหมาะสมกค็ วรคานงึ ถงึ ด้วย เนือ่ งจากผ้ปู ระกอบการแตล่ ะบุคคลอาจจะมีทกั ษะ ความรู้ความชานาญแตกต่าง
กันไมว่ า่ จะเป็นธรุ กจิ การผลติ ธรุ กจิ การค้าส่ง ธรุ กิจการค้าปลกี และธรุ กิจการบริการ โดยคานงึ ถงึ เงินทุนทนี่ า
มาลงทุนและผลตอบแทนจากการดาเนนิ งานท่ไี ด้รับเปน็ สาคัญ รวมทง้ั ประโยชน์ต่าง ๆ ที่ลกู ค้าจะไดร้ บั ด้วย

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงคท์ ั่วไป
1. รแู้ ละเขา้ ใจเกยี่ วกบั รปู แบบของธรุ กิจขนาดย่อม
2. รแู้ ละเขา้ ใจเกยี่ วกับประเภทของธรุ กิจขนาดย่อม

จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1. อธิบายรปู แบบกิจการเจ้าของคนเดียวได้
2. อธบิ ายรูปแบบกิจการห้างหุ้นส่วนได้
3. อธบิ ายรูปแบบกจิ การบรษิ ัทจากดั ได้
4. อธบิ ายรูปแบบกจิ การบรษิ ัทจากดั มหาชนได้
5. อธบิ ายรูปแบบธรุ กจิ แฟรนไชสไ์ ด้
6. อธิบายประเภทธรุ กิจการผลิตได้
7. อธบิ ายประเภทธรุ กจิ การค้าสง่ ได้
8. อธบิ ายประเภทธุรกจิ การค้าปลีกได้
9. อธบิ ายประเภทธุรกิจบริการได้
10. ผู้เรียนมคี วามพยายามและความตั้งใจในการปฏบิ ตั ิงานจนสาเรจ็

สมรรถนะรายหน่วย เลือกรูปแบบการจัดต้งั ธรุ กจิ ขนาดย่อมให้เหมาะสมกบั ธรุ กิจแตล่ ะประเภท

สาระการเรยี นรู้

2. รปู แบบและประเภทของธรุ กิจขนาดย่อม
2.1 รปู แบบธรุ กิจขนาดย่อม
2.1.1 กิจการเจ้าของคนเดยี ว (Sole Proprietorship)
2.1.2 กิจการหา้ งหุ้นสว่ น (Partnership)
2.1.3 บริษทั จากัด (Limited Company)
2.1.4 บรษิ ทั มหาชนจากดั (Public Limited Company)
2.1.5 ธุรกจิ แฟรนไชส์ (Franchise)
2.2 ประเภทของธุรกจิ ขนาดย่อม
2.2.1 ธุรกิจการผลิต (Manufacturing) 2.2.2 ธุรกจิ การคา้ สง่ (Wholesaling)
2.2.3 ธุรกิจกจิ ค้าปลีก (Retailing) 2.2.4 ธุรกิจบริการ (Service)

ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงและคณุ ธรรมทีม่ ่งุ เนน้

6. พอประมาณ ผเู้ รียนสามารถคดิ วเิ คราะห์ไดเ้ หมาะกบั วัตถปุ ระสงค์การเรียนรู้
7. มีเหตุผล ผเู้ รยี นทางานตามท่ีได้รับมอบหมายโดยคานงึ ถงึ เหตแุ ละปจั จยั แวดล้อมท้ังหมด เพ่ือให้
การ ดาเนินงานเปน็ ไปอย่างถูกต้อง
8. ขยัน อดทน ผู้เรียนมีความต้ังใจในการทางาน ไม่ละเลย ไมท่ อดทิง้ งานท่ีไดร้ บั มอบหมาย จนทาให้
ประสบ ผลสาเรจ็ ในที่สดุ
9. รอบรู้ ผ้เู รยี นมีความรอบรู้เกีย่ วกับวชิ าการตา่ งๆ ที่เก่ยี วข้องอยา่ งรอบดา้ น
10. รอบคอบ ผู้เรียนมีความรอบคอบท่จี ะนาความรู้ที่ไดจ้ ากการศึกษาค้นควา้ มาประยุกต์ใชใ้ นการ
เรียนไดอ้ ย่าง ถกู ต้องตามเกณฑท์ ่กี าหนด

นาปญั หาและอุปสรรคใ์ นการเรยี นการสอนมาปรับปรงุ การเรยี นการสอน

นกั ศกึ ษาสว่ นใหญ่มีความรคู้ วามเข้าใจเนื้อหาสาระทส่ี อนได้อยา่ งรวดเรว็ มีนักศึกษาบางราย ท่ผี ้สู อนต้อง
กระตุ้นให้มีสว่ นร่วมและกลา้ แสดงความคิดเห็น

กิจกรรมการเรยี นการสอน (สปั ดาห์ท่ี 3 ช่ัวโมงที่ 3)

1. ผู้สอนชี้แจง้ เกณฑ์การวดั ผลและประเมนิ ผล และข้อตกลงในการปฏิบตั งิ านของผเู้ รยี น
2. ผสู้ อนทบทวนความรูเ้ ดิมใหก้ ับผเู้ รียน โดยการถาม-ตอบก่อนทจี่ ะเริ่มเรียนหวั ข้อใหม่ โดยใช้
PowerPoint ประกอบการสอน
3. ผสู้ อนแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรปู้ ระจาหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เร่อื งรูปแบบของธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม
4. ผสู้ อนยกตัวอยา่ งชอ่ื ธุรกิจทั้งในและตา่ งประเทศใหผ้ เู้ รียนชว่ ยกันวเิ คราะหว์ า่ เป็นธรุ กิจรปู แบบใด
5. ผสู้ อนให้ผูเ้ รียนแบ่งกลุ่มการเรียนแบบกลมุ่ รว่ มมือตามลาดับคะแนนเฉลย่ี สะสม ในแต่ละกลุ่มต้อง
มผี เู้ รียน ระดบั เก่ง 1 คน ปานกลาง 2 คน อ่อน 1 คน กลุ่มละ 3-4 คน

6. ใหผ้ เู้ รียนอภิปรายกลุ่มยอ่ ยเกย่ี วกบั หวั ข้อรูปแบบของธรุ กจิ ขนาดย่อม พร้อมยกตวั อย่างรปู แบบ
ธุรกจิ ท่ีกอ่ ต้ังท้งั ในและต่างประเทศ โดยสง่ ตวั แทนออกมาจบั ฉลากหวั ขอ้ กล่มุ ละ 1 หัวข้อท่จี ะนาเสนอ มี
หวั ขอ้ ดังนี้

1) กจิ การเจ้าของคนเดยี ว (Sold Proprietorship)
2) กิจการหา้ งหนุ้ สว่ น (Partnership)
3) บริษทั จากัด (Limited Company)
4) บรษิ ัทมหาชนจากัด (Public limited company)
5) ธรุ กิจแฟรนไชส์ (Franchise)
7. ผ้สู อนสมุ่ เรยี กโดยการจับฉลากรายชอ่ื จากแต่ละกลมุ่ 1 คน ใหอ้ อกมานาเสนอ ใชเ้ วลา 5-10 นาที
โดยให้เพือ่ นในห้องเรียนไดม้ ีโอกาสซักถามข้อสงสัยได้
8. ผสู้ อนคอยสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัตงิ านของผู้เรียนเป็นรายบคุ คลและเป็นกลมุ่ คอยคาใหค้ าแนะ
นา และ เปิดโอกาสใหซ้ ักถามข้อสงสัยหรอื หวั ข้อทีย่ งั ไมเ่ ขา้ ใจได้
9. ผู้สอนตรวจประเมินผลงานผเู้ รียนแบบภาพรวมเปน็ รายบุคคลและแบบกลมุ่ ให้ข้อเสนอแนะ เชน่
การแตง่ กาย การพดู แตล่ ะกลุ่มหลงั จากการนาเสนอเสร็จสิน้
10. ผ้สู อนและผเู้ รียนรว่ มกันสรปุ เน้ือหาแบบ Mind Mapping เพื่อทบทวนความเข้าใจอกี คร้ัง และ
เปดิ โอกาสให้ ผเู้ รยี นได้ซกั ถามข้อสงสยั
11. มอบหมายให้ผเู้ รียนไปศึกษาเกย่ี วกบั แผนธรุ กิจ จากเวบ็ ไซต์
http://www.thaifranchisecenter.com (ตัวอย่างแผนธุรกจิ )
12. ผเู้ รยี นสามารถทบทวนความรู้ หรอื ดาวนโ์ หลด PowerPoint และ ใบงานได้จาก
https://www.facebook.com/groups (กลมุ่ ชื่อ SMEs 3/1 MKT)

เทคนิควิธกี ารสอนทีน่ ามาใช้

1. วธิ ีสอนแบบแบ่งกลุ่มทางาน เป็นวิธีสอนทผี่ สู้ อนมอบหมายใหน้ กั เรยี นทางานรว่ มกนั เป็นกลมุ่
รว่ มมือกัน ศกึ ษาค้นคว้าหาวิธีการแก้ปัญหาหรือปฏิบตั ิกิจกรรมตามความสามารถ ความถนดั หรอื ความสนใจ
เป็นการฝกึ ให้ผูเ้ รียนทางานรว่ มกนั ตามวถิ ีแห่งประชาธปิ ไตย

2. แบบกลุ่มร่วมมือ เปน็ การจดั การเรยี นร้โู ดยการผสมผสานระหวา่ งการเรยี นรู้แบบกลุ่มและการ
สอนรายบุคคล โดยให้ผู้เรียนได้ลงมอื ทากิจกรรมในการเรียนไดด้ ว้ ยตนเองตามความสามารถของตน สมาชกิ ใน
กลุม่ มกี าร แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ซง่ึ กนั และกนั นอกจากนัน้ ยงั เป็นการจดั การเรียนการสอนท่ีเน้นการมีปฏิสมั พันธ์
ซึ่งกนั และ กันระหว่างผเู้ รยี นกบั ผเู้ รยี น

3. วิธีสอนแบบอภิปรายกลมุ่ ยอ่ ย เปน็ การสอนโดยทีผ่ ู้เรยี นแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ ซึง่ กันและกัน
เพือ่ ชว่ ย แก้ไขปญั หาอยา่ งใดอย่างหนึ่ง การอภิปรายกระทาระหวา่ งครูกบั นักเรยี น หรอื ระหว่างนักเรียน
ด้วยกัน โดยมี ผูส้ อนเป็นผ้ปู ระสานงาน

สอื่ การเรียนการสอนและแหลง่ การเรียนรู้

1. สื่อสงิ่ พิมพ์ ได้แก่ หนงั สือเรยี นวิชาการดาเนินธุรกิจขนาดยอ่ ม
2. โสตทศั น์ ได้แก่ โปรเจคเตอร์
3. สื่อเทคโนโลยีขั้นสงู ไดแ้ ก่ PowerPoint
4. อนิ เทอร์เนต็ ได้แก่ https://www.facebook.com/groups

การวดั ประเมนิ ผล เกณฑ์การประเมนิ ผล
1.ประเมินจากสภาพจรงิ โดยการสังเกต 1. ผเู้ รียนมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมการเรยี นรอ้ ยละ 70
พฤติกรรมการมีสว่ นรว่ มของผู้เรยี นเปน็ ขึ้นไป
รายบคุ คล
2. การสุ่มเรยี กถาม-ตอบ เป็นรายบุคคล 2. ผูเ้ รียนสามารถตอบคาถามได้ถูกต้องเกนิ ร้อยละ
80 ขนึ้ ไป
3. ประเมินผลงานจากใบงาน 3. เกณฑต์ ัดสนิ คุณภาพใบงาน
คะแนน 10-12 = ดี
4. ประเมนิ ผลจากการทากจิ กรรมกลุม่ คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรบั ปรุง
4. เกณฑ์ตัดสินคณุ ภาพกจิ กรรมกลมุ่
คะแนน 10-12 = ดี
คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรบั ปรุง

เอกสารอา้ งอิง/เว็บไซต์

1. สฏิ ฐากร ชูทรพั ย์ และ เพ็ญศรี เลศิ เกียรตวิ ิทยา. การดาเนนิ ธรุ กิจขนาดยอ่ ม. กรงุ เทพมหานคร :
สานกั พิมพ์ เอมพนั ธ์ จากัด

2. เพญ็ ศรี เขมะสวุ รรณ และ ภควดี เลศิ กาญจนวตั ิ. การดาเนินธุรกิจขนาดย่อม. กรุงเทพมหานคร :
สานักพิมพ์ศูนย์ ส่งเสริมวชิ าการ

กจิ กรรมการเรียนการสอน (สัปดาห์ท่ี 4 ชั่วโมงท่ี 4-5 )

1. ผสู้ อนช้ีแจ้งเกณฑ์การวัดผลและประเมนิ ผล และข้อตกลงในการปฏบิ ตั งิ านของผู้เรียน
2. ผสู้ อนทบทวนความรเู้ ดิมให้กบั ผูเ้ รยี น โดยการถาม-ตอบกอ่ นท่ีจะเรมิ่ เรียนหัวข้อใหม่ โดยใช้
PowerPoint ประกอบการสอน
3. ผสู้ อนแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นร้ปู ระจาหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ืองประเภทของธุรกจิ ขนาดยอ่ ม

4. ใหผ้ ู้เรียนแบ่งกลุ่มเป็น 2 ทีม เพอื่ แข่งขันกันตอบ โดยผสู้ อนจะยกตัวอยา่ งชื่อธรุ กจิ ทง้ั ในและ
ตา่ งประเทศ ให้ผู้เรียนแข่งขันกันตอบว่าเปน็ ธรุ กจิ รูปแบบใด

5. ผูส้ อนบรรยายเนื้อหาประกอบพรอ้ มรปู ภาพธุรกิจทเี่ ก่ียวข้องเพอื่ ส่ือความหมายสาระสาคัญของ
เนือ้ หาให้เข้าใจ ยิ่งขึน้ ซึง่ เน้ือหาทศ่ี กึ ษาได้แก่

1) ธุรกจิ การผลิต
2) ธุรกิจการคา้ สง่
3) ธุรกจิ บรกิ าร
6. ระหวา่ งการบรรยายเน้อื หาผู้สอนตั้งคาถามใหผ้ ู้เรยี นมีส่วนร่วมในการตอบและแสดงความคิดเหน็
โดการสมุ่ เรยี กรายช่ือ หรอื จิตอาสา
7. ผู้สอนใชเ้ ทคนิควธิ กี ารจัดการเรยี นรแู้ บบอภปิ รายกลมุ่ ย่อย จัดกล่มุ ผูเ้ รยี นแบบกลุม่ รว่ มมอื
ออกเป็นกลมุ่ ย่อย ประมาณ 3-4 คน ใหผ้ เู้ รียนชว่ ยกนั ศกึ ษาค้นคว้าจากหนังสือ หรือินเทอรเ์ นต็ แล้วนาขอ้ มลู
มาพดู คยุ แลกเปล่ียนข้อมลู ความคิดเหน็ จากโจทยท์ ี่กาหนด ดงั น้ี
1) ใหน้ ักศึกษาคดิ ธุรกิจในรปู แบบกิจการเจ้าของคนเดียวมา 1 ธุรกจิ
2. อธิบายลักษณะการดาเนนิ ธรุ กจิ ดังน้ี 2.1 ต้งั ช่อื ธรุ กจิ 2.2 บอกประเภทธุรกจิ
3. วเิ คราะหป์ จั จัยในการทาธรุ กิจนี้ (4 M’s) ว่าเป็นอยา่ งไร
8. ผ้สู อนคอยสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัตงิ านของผู้เรียนเป็นรายบคุ คลและเป็นกลุ่มคอยชว่ ยเหลือ
และให้คาแนะนา
9. ผ้สู อนสุ่มเรียกผลงาน 2-3 ชิ้นงาน ให้ออกมานาเสนอหน้าชน้ั เรียนเพ่อื แลกเปลี่ยนความร้กู นั
10. ผู้สอนสรปุ และให้ข้อเสนอแนะกลุ่มที่ออกมานาเสนอผลงานเพ่อื ปรับปรงุ ในครั้งตอ่ ไป
11. ผู้สอนตรวจประเมนิ ผลงานผู้เรยี นแบบภาพรวมเปน็ รายบคุ คลและแบบกลุ่ม
12. ผู้สอนและผู้เรยี นร่วมกนั สรุปเน้ือหาแบบ Mind Mapping เพ่ือทบทวนความเข้าใจอกี ครั้ง และ
เปดิ โอกาสให้ ผ้เู รียนได้ซักถามขอ้ สงสัยท่ยี ังไม่เขา้ ใจได้
13. ผสู้ อนใหผ้ ูเ้ รียนไปศึกษาหาข้อมลู เกย่ี วกับรปู แบบธรุ กจิ ขนาดย่อม จาก Link เวบ็ ไซต์เกย่ี วกับ
ธุรกิจ SMEs จาก www.Facebook.com สาหรับการเรียนในสปั ดาห์ต่อไป

เทคนคิ วธิ ีการสอนท่นี ามาใช้

1. วิธีสอนแบบแบง่ กลุ่มทางาน
เป็นวธิ ีสอนท่ผี ้สู อนมอบหมายให้นักเรียนทางานรว่ มกนั เป็นกลมุ่ รว่ มมือกนั ศึกษาค้นควา้ หาวิธีการแกป้ ัญหา
หรือปฏิบตั ิกิจกรรมตามความสามารถ ความถนดั หรือความสนใจ เปน็ การฝึกใหผ้ เู้ รยี นทางานร่วมกันตามวิถี
แห่งประชาธิปไตย

2. แบบกลุ่มร่วมมือ
เปน็ การจัดการเรยี นรู้โดยการผสมผสานระหวา่ งการเรยี นรู้แบบกลุม่ และการสอนรายบคุ คล โดยให้ผูเ้ รยี นไดล้ ง
มือทากจิ กรรมในการเรยี นได้ด้วยตนเองตามความสามารถของตน สมาชิกในกลมุ่ มกี ารแลกเปล่ียนเรยี นรู้ ซง่ึ
กันและกัน

นอกจากนั้นยงั เปน็ การจัดการเรียนการสอนท่เี นน้ การมปี ฏิสัมพันธ์ซง่ึ กนั และกันระหวา่ งผูเ้ รยี นกบั ผู้เรยี น

3. วิธีสอนแบบอภิปรายกลุ่มย่อย

เปน็ การสอนโดยทผ่ี เู้ รียนแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ ซึ่งกันและกันเพ่ือช่วยแก้ไขปัญหาอย่างใดอยา่ งหนึง่ การ

อภิปราย กระทาระหวา่ งครกู ับนักเรียน หรอื ระหวา่ งนักเรียนด้วยกัน โดยมีผสู้ อนเปน็ ผู้ประสานงาน

4. วิธีสอนแบบศกึ ษาด้วยตนเอง (Self Study Method)

วิธสี อนแบบศึกษาด้วยตนเอง เปน็ วธิ ีสอนที่เปดิ โอกาสใหผ้ ูเ้ รียนศกึ ษาหาความรู้จากแหลง่ วชิ าดว้ ยตนเอง ได้แก่

การศึกษาจากหนังสอื และการศึกษานอกสถานท่ี การสอนวิธนี บ้ี างครง้ั เรียกว่าวิธี Problem Solving หรือ

Discovery Method

สอื่ การเรียนการสอนและแหลง่ การเรียนรู้

1. สือ่ ส่ิงพมิ พ์ ได้แก่ หนังสือเรยี นวิชาการดาเนินธรุ กิจขนาดยอ่ ม

2. โสตทัศน์ ไดแ้ ก่ โปรเจคเตอร์

3. สอ่ื เทคโนโลยขี นั้ สูง ไดแ้ ก่ PowerPoint

4. อนิ เทอร์เน็ต ไดแ้ ก่ https://www.facebook.com/groups

การวดั ประเมนิ ผล เกณฑ์การประเมนิ ผล

1.ประเมนิ จากสภาพจรงิ โดยการสงั เกต 1. ผเู้ รียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรอ้ ยละ 70

พฤติกรรมการมสี ว่ นรว่ มของผูเ้ รียนเปน็ ข้ึนไป

รายบคุ คล

2. การสุม่ เรยี กถาม-ตอบ เป็นรายบุคคล 2. ผ้เู รียนสามารถตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ งเกนิ ร้อยละ

80 ขึน้ ไป

3. ประเมินผลงานจากใบงาน 3. เกณฑ์ตัดสินคณุ ภาพใบงาน

คะแนน 10-12 = ดี

คะแนน 7-9 = พอใช้

คะแนน 4-6 = ปรบั ปรงุ

4. ประเมนิ ผลจากการทากิจกรรมกลมุ่ 4. เกณฑต์ ดั สินคณุ ภาพกจิ กรรมกลมุ่

คะแนน 10-12 = ดี

คะแนน 7-9 = พอใช้

คะแนน 4-6 = ปรับปรงุ

เอกสารอ้างอิง/เว็บไซต์

1. สิฏฐากร ชทู รัพย์ และ เพ็ญศรี เลศิ เกียรตวิ ทิ ยา. การดาเนนิ ธรุ กิจขนาดย่อม. กรงุ เทพมหานคร :
สานักพิมพ์ เอมพันธ์ จากัด
2. เพญ็ ศรี เขมะสวุ รรณ และ ภควดี เลิศกาญจนวตั ิ. การดาเนินธุรกจิ ขนาดย่อม. กรงุ เทพมหานคร : สานัก
พิมพ์ศูนย์ สง่ เสริมวิชาการ

ใบงานท่ี 2 รปู แบบและประเภทของธรุ กิจขนาดย่อม

ชื่อ ......................................................สกลุ ..................................................หอ้ ง ...............เลขท.่ี ......

กจิ กรรมท่ีมอบหมาย

1. ให้นกั ศกึ ษาคิดธุรกจิ อะไรก็ได้มา 1 ธรุ กิจ
2. อธิบายลกั ษณะการดาเนนิ ธรุ กจิ ดงั นี้

2.1 ตั้งชื่อธุรกจิ
2.2 กาหนดรปู แบบธุรกจิ พร้อมอธิบายลกั ษณะ และข้อดี ข้อเสีย
2.3 กาหนดประเภทธุรกจิ พร้อมอธบิ ายลักษณะ
3. วิเคราะห์ปจั จัยในการทาธรุ กจิ น้ี (4 M’s) ว่าเป็นอยา่ งไร

หน่วยท่ี 3 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 สอนสปั ดาห์ท่ี 6-7
ระดับ ม.3 จานวน 2 ช่ัวโมง
ชอื่ วิชา งานธรุ กิจขนาดกลางและย่อม รหสั วิชา ง23101
ชื่อหน่วย การจดทะเบยี นพาณิชย์
ชอื่ ผ้สู อน นางศริ ินยา นอ้ ยพลทนั

สาระสาคญั

ผูม้ ีหนา้ ทจ่ี ดทะเบยี นพาณิชย์ คอื บคุ คลธรรมดาคนเดยี ว หรือหลายคนหรือนิติบคุ คลรวมท้งั นิติบุคคล
ท่ีต้ังข้ึนตามกฎหมายต่างประเทศที่มาต้ังสานักงานสาขาในประเทศไทย ซึง่ ประกอบกจิ การอนั เป็นพาณชิ ยกิจ
ตามทีก่ ระทรวงพาณชิ ย์กาหนด กิจการเจ้าของคนเดยี วทตี่ ้องจดทะเบียนการค้า ใหด้ าเนนิ การจดทะเบียนตาม
พระราชบัญญัติทะเบยี นพาณิชย์ พ.ศ.2499 และกิจการห้างห้นุ ส่วนต้องจดทะเบยี นห้างหนุ้ สว่ นสามัญนติ ิ
บุคคลและหา้ งหนุ้ ส่วนจากดั ตามรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศใหผ้ ู้ประกอบกจิ การ

จุดประสงค์การเรยี นรู้

จุดประสงคท์ ่ัวไป
1. รูแ้ ละเข้าใจเก่ียวกบั การจดทะเบียนพาณิชย์ ตามพระราชบญั ญตั ทิ ะเบยี นพาณิชย์ พ.ศ. 2499
2. รู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั การจดทะเบยี นหา้ งหุ้นสว่ นสามัญนิติบุคคลและห้างหุ้นสว่ นจากัด
3. รูแ้ ละเข้าใจเกีย่ วกบั การจดทะเบียนบรษิ ัทและบริษัทมหาชนจากดั

จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1. บอกกจิ การทีต่ ้องจดทะเบียนพาณชิ ยไ์ ด้
2. บอกพาณิชย์กิจท่ีได้รบั การยกเว้นไมต่ ้องจดทะเบียนพาณชิ ย์ได้
3. อธบิ ายการจดทะเบยี นจัดต้งั หา้ งห้นุ ส่วนได้
4. บอกเอกสารหลกั ฐานที่ใช้ในการจดทะเบยี นได้
5. อธบิ ายการจดทะเบียนหนังสือบริคณหส์ นธิได้
6. บอกเอกสารหลกั ฐานทต่ี ้องใชใ้ นการจดทะเบยี นหนงั สือบริคณห์สนธิได้
7. อธิบายการจดทะเบียนจดั ตัง้ บริษัทได้
8. บอกเอกสารหลกั ฐานที่ต้องใชใ้ นการจดทะเบียนจดั ต้ังบรษิ ทั ได้
9. อธบิ ายขนั้ ตอนการจดทะเบยี นบริษทั มหาชนจากัดได้
10. อธิบายขั้นตอนการแปรสภาพบริษทั เอกชนเปน็ บริษทั มหาชนจากัดได้
11. บอกเอกสารหลกั ฐานทีต่ ้องใช้ในการจดทะเบยี นบริษทั มหาชนจากดั ได้
12. ผเู้ รยี นมคี วามพยายามและความตงั้ ใจในการปฏบิ ตั ิงานจนสาเร็จ

สมรรถนะรายหน่วย

แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั จดทะเบียนพาณิชย์ตามพระราชบญั ญัตทิ ะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499

สาระการเรียนรู้

3. กาจดทะเบียนพาณิชย์
3.1 จดทะเบียนพาณชิ ย์ ตามพระราชบัญญตั ิทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499
3.1.1 กจิ การทต่ี ้องจดทะเบียนพาณิชย์
3.1.2 พาณชิ ย์กิจท่ีได้รับการยกเวน้ ไมต่ ้องจดทะเบยี นพาณิชย์
3.2 การจดทะเบยี นหา้ งหุ้นส่วนสามญั นติ ิบุคคลและห้างหุ้นสว่ นจากดั
3.2.1 การจดทะเบียนจัดต้ังห้างหนุ้ ส่วน
3.2.2 เอกสารหลักฐานที่ใชใ้ นการจดทะเบยี น
3.3 การจดทะเบียนบริษทั
3.3.1 การจดทะเบยี นหนงั สือบริคณห์สนธิ
3.3.2 เอกสารหลกั ฐานทตี่ ้องใช้ในการจดทะเบยี นหนังสือบริคณหส์ นธิ
3.3.3 การจดทะเบยี นจัดตง้ั บริษทั
3.3.4 เอกสารหลักฐานที่ต้องใชใ้ นการจดทะเบียนจดั ต้งั บรษิ ัท
3.4 การจดทะเบยี นบรษิ ัทมหาชนจากัด
3.4.1 ขัน้ ตอนการจดทะเบยี นบริษัทมหาชนจากัด
3.4.2 ขน้ั ตอนการแปรสภาพบริษทั เอกชนเป็นบรษิ ทั มหาชนจากดั
3.4.3 เอกสารหลกั ฐานทีต่ ้องใชใ้ นการจดทะเบียนบรษิ ัทมหาชนจากัด

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและคณุ ธรรมท่มี งุ่ เน้น

1. พอประมาณ ผเู้ รยี นสามารถคดิ วเิ คราะหไ์ ด้เหมาะกับวตั ถปุ ระสงค์การเรยี นรู้
2. มเี หตผุ ล ผู้เรียนทางานตามท่ไี ดร้ บั มอบหมายโดยคานึงถึงเหตแุ ละปจั จยั แวดล้อมทง้ั หมด เพ่ือให้
การ ดาเนนิ งานเป็นไปอย่างถูกตอ้ ง
3. ขยนั อดทน ผเู้ รียนมคี วามตงั้ ใจในการทางาน ไมล่ ะเลย ไมท่ อดทิง้ งานท่ีได้รบั มอบหมาย จนทาให้
ประสบผลสาเรจ็ ในที่สุด
4. รอบรู้ ผู้เรียนมีความรอบรู้เก่ยี วกบั วชิ าการตา่ งๆ ทเ่ี กี่ยวข้องอย่างรอบด้าน
5. รอบคอบ ผู้เรยี นมีความรอบคอบทจ่ี ะนาความรทู้ ี่ได้จากการศึกษาคน้ ควา้ มาประยุกต์ใช้ในการ
เรยี นได้อย่าง ถูกต้องตามเกณฑท์ กี่ าหนด

นาปญั หาและอุปสรรคใ์ นการเรียนการสอนมาปรับปรุงการเรียนการสอน

ผเู้ รียนยงั ขาดทักษะการในการนาเสนองานและทักษะการคิด ดังนั้นผสู้ อนจึงกระตนุ้ โดยใชแ้ รงจงู ใจให้ผูเ้ รียน
สนใจและให้ผูเ้ รียนได้มีโอกาสเรียนรู้และค้นคว้าจากแหลง่ เรยี นรอู้ ่ืนๆ

กิจกรรมการเรียนการสอน (สปั ดาหท์ ่ี 6 ชวั่ โมงท่ี 6)

1. ผสู้ อนชแี้ จง้ เกณฑ์การวัดผลและประเมนิ ผล และข้อตกลงในการปฏิบตั ิงานของผเู้ รยี น
2. ผูส้ อนทบทวนความรูเ้ ดิมให้กบั ผู้เรยี น โดยการถาม-ตอบก่อนทีจ่ ะเรม่ิ เรียนหวั ข้อใหม่ ดยใช้
PowerPoint ประกอบการสอน
3. ผ้สู อนแจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นร้ปู ระจาหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรื่อง การจดทะเบยี นพาณชิ ย์
4. ผู้สอนยกตัวอย่างบริษัททจี่ ัดตั้งในประเทศไทย แลว้ ต้ังคาถามใหผ้ เู้ รยี นตอบ วา่ จะต้องจดทะเบียน
จัดตงั้ ธรุ กจิ ใน รปู แบบใด
5. ผ้สู อนให้ผู้เรียนนาเอกสารท่เี ก่ยี วข้องกับการจดทะเบียนจดั ตง้ั ธุรกิจแต่ละประเภทมาประกอบการ
ปฏิบตั ิ กิจกรรม ผูส้ อนใชเ้ ทคนิคการสอนแบบศึกษาดว้ ยตนเองโดยให้ผเู้ รียนสืบค้นด้วยแบบฟอรม์ การจด
ทะเบียนและ ตวั อย่าการจดทะเบียนด้วยตนเองจากอินเทอรเ์ นต็ เพือ่ นาข้อมลู มาประกอบการเรียน
6. ให้ผเู้ รียนแบง่ กลุม่ การเรียนแบบร่วมมอื กลุม่ ละ 3-4 คน ใหช้ ่วยกนั ระดมสมอง และศึกษาเกย่ี วกบั
เอกสารการจดทะเบยี นจดั ต้ังธรุ กิจดังน้ี
- จดทะเบยี นจัดต้งั หา้ งหนุ้ ส่วน
- การจดทะเบียนจัดตงั้ บริษทั จากัด
- การจดทะเบียนจัดตง้ั บริษทั มหาชนจากดั
7. ให้ผู้เรยี นกรอกข้อความในเอกสารตวั อยา่ งเกย่ี วกับการย่ืนขอจดทะเบียนห้างห้นุ สว่ น บริษัทจากัด
บรษิ ัทมหาชน ตามขัน้ ตอนของกฏหมาย ตามพระราชบญั ญัติทะเบียนพาณชิ ย์ พ.ศ. 2499
8. หลงั จากกรอกเอกสารตัวอย่างเก่ียวกับการยื่นขอจดทะเบียน ให้สรุปสาระสาคัญดังน้ี
- การจดทะเบยี นจดั ตัง้ ธุรกิจ ต้องมีข้อมลู เกย่ี วกับอะไรบา้ ง
- เอกสารหลกั ฐานทีต่ ้องใชใ้ นการจดทะเบยี นอะไรบ้าง
9. ผสู้ อนคอยสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั งิ านของผเู้ รยี นเป็นรายบุคคลและเป็นกลุม่ คอยคาให้
คาแนะนา และเปดิ โอกาสให้ซกั ถามข้อสงสยั หรือหัวข้อที่ยังไม่เข้าใจได้
10. ผสู้ อนเฉลยคาตอบและอธิบายเพิม่ เตมิ ในแต่ละหัวขอ้ อีกครง้ั
11. ผ้สู อนตรวจประเมนิ ผลงานผู้เรยี นแบบภาพรวมเปน็ รายบุคคลและแบบกล่มุ ให้ข้อเสนอแนะเพื่อ
ปรบั ปรงุ งานในครั้งตอ่ ไป
12. ผู้สอนกบั ผ้เู รียนรว่ มกนั สรุปและทบวนเนอ้ื หาอีกคร้งั เปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี นได้ซกั ถามข้อสงสัย
13. ผู้สอนตรวจและประเมนิ ผลงานพรอ้ มใหข้ ้อเสนอแนะ
14. ใหผ้ ูเ้ รยี นศกึ ษาการเร่มิ ต้นธรุ กิจการคา้ ระบบสาขาแฟรนไชส์ของธุรกิจใดก็ได้ ท่ีนา่ สนใจมา 1
ธรุ กิจ

เทคนคิ วิธีการสอนทีน่ ามาใช้

1. วธิ สี อนแบบแบ่งกลุ่มทางาน
เปน็ วธิ สี อนท่ผี ้สู อนมอบหมายให้นักเรยี นทางานร่วมกันเปน็ กลุ่มร่วมมอื กันศึกษาค้นควา้ หาวธิ กี ารแกป้ ัญหา
หรอื ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามความสามารถ ความถนดั หรอื ความสนใจ เป็นการฝกึ ให้ผเู้ รยี นทางานรว่ มกันตามวถิ ี
แห่งประชาธิปไตย

2. แบบกลุ่มรว่ มมือ
เป็นการจัดการเรยี นรู้โดยการผสมผสานระหวา่ งการเรยี นรู้แบบกลุม่ และการสอนรายบคุ คล โดยใหผ้ ้เู รยี นได้ลง
มือทากจิ กรรมในการเรยี นได้ด้วยตนเองตามความสามารถของตน สมาชิกในกล่มุ มีการแลกเปล่ียนเรยี นรู้ ซง่ึ
กนั และกัน เนน้ การมปี ฏสิ มั พันธซ์ ่ึงกันและกันระหวา่ งผ้เู รยี นกบั ผเู้ รยี น

3. วิธีสอนแบบอภิปรายกลุ่มยอ่ ย
เป็นการสอนโดยทผ่ี ู้เรยี นแลกเปลีย่ นความคดิ เห็นซง่ึ กันและกันเพ่ือชว่ ยแก้ไขปัญหาอย่างใดอยา่ งหนึง่ การ
อภิปราย กระทาระหวา่ งครูกับนักเรยี น หรือระหว่างนักเรยี นด้วยกัน โดยมผี สู้ อนเป็นผ้ปู ระสานงาน

4. วิธีสอนแบบใช้คาถาม
ผู้สอนจะป้อนคาถามในลกั ษณะตา่ ง ๆ ทเ่ี ป็นคาถามทด่ี ี สามารถพฒั นาความคดิ ผเู้ รียน ถามเพือ่ ให้ผเู้ รยี นใช้
ความคิด เชงิ เหตุผล วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ สงั เคราะห์ หรือ การประเมินค่าเพื่อจะตอบคาถามเหลา่ นน้ั

5. วิธสี อนแบบระดมพลังสมอง
การแบง่ นักเรยี นเปน็ กล่มุ ย่อย ผสู้ อนและผเู้ รยี นเรียนร่วมกันกาหนดปญั หาในการระดมพลังสมองโดยใชเ้ วลา
สัน้ ๆ ประมาณ 10-15 นาที ให้สมาชิกในกลุ่มแสดงความคิดเห็น ซ่งึ ความคดิ เหน็ ไม่มีการตานิวา่ “ถกู ” หรือ ”
ผิด” จากนนั้ ผแู้ ทนกลุม่ นามารายงานให้กลุม่ ใหญ่ในชั้นเรียนทราบผลการระดมพลังสมอง

6. วธิ ีสอนแบบศึกษาดว้ ยตนเอง (Self-Study Method)
วธิ สี อนแบบศึกษาด้วยตนเอง เปน็ วิธีสอนท่ีเปดิ โอกาสให้ผเู้ รียนศึกษาหาความรู้จากแหล่งวิชาด้วยตนเอง ไดแ้ ก่
การศกึ ษาจากหนังสอื การศกึ ษานอกสถานที่ หรือแหลง่ เรยี นรอู้ ืน่ ๆ

สอ่ื การเรียนการสอนและแหล่งการเรียนรู้

1. สอ่ื ส่งิ พิมพ์ ได้แก่ หนงั สอื เรยี นวิชาการดาเนินธรุ กิจขนาดย่อม
2. โสตทัศน์ ไดแ้ ก่ โปรเจคเตอร์
3. สือ่ เทคโนโลยีข้นั สงู ได้แก่ PowerPoint
4. อินเทอรเ์ น็ต ไดแ้ ก่ https://www.facebook.com/group

การวดั ประเมนิ ผล เกณฑก์ ารประเมินผล
1.ประเมินจากสภาพจรงิ โดยการสงั เกต 1. ผูเ้ รยี นมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรียนร้อยละ 70
พฤติกรรมการมีสว่ นร่วมของผ้เู รียนเปน็ ขึน้ ไป
รายบคุ คล
2. การสุ่มเรยี กถาม-ตอบ เป็นรายบคุ คล 2. ผ้เู รียนสามารถตอบคาถามได้ถูกตอ้ งเกินร้อยละ
80 ขึน้ ไป
3. ประเมนิ ผลงานจากใบงาน 3. เกณฑต์ ดั สนิ คุณภาพใบงาน
คะแนน 10-12 = ดี
4. ประเมนิ ผลจากการทากิจกรรมกลุ่ม คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรบั ปรงุ
4. เกณฑต์ ดั สนิ คณุ ภาพกิจกรรมกลุ่ม
คะแนน 10-12 = ดี
คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรับปรุง

เอกสารอ้างอิง/เว็บไซต์
1. สิฏฐากร ชูทรัพย์ และ เพ็ญศรี เลิศเกียรตวิ ิทยา. การดาเนินธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม. กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพ์
เอมพันธ์ จากัด
2. เพ็ญศรี เขมะสุวรรณ และ ภควดี เลิศกาญจนวัติ. การดาเนินธุรกจิ ขนาดยอ่ ม. กรุงเทพมหานคร : สานกั
พิมพศ์ ูนย์
สง่ เสรมิ วิชาการ

กิจกรรมการเรียนการสอน (สปั ดาหท์ ี่ 7 ช่วั โมงท่ี 7)

1. ผู้สอนชแี้ จ้งเกณฑ์การวดั ผลและประเมนิ ผล และข้อตกลงในการปฏิบตั งิ านของผูเ้ รยี น
2. ผสู้ อนทบทวนความรเู้ ดมิ ให้กบั ผู้เรียน โดยการถาม-ตอบกอ่ นทจ่ี ะเร่ิมเรียนหวั ข้อใหม่ โดยใช้
PowerPoint ประกอบการสอน
3. ผู้สอนแจง้ จุดประสงค์การเรยี นรปู้ ระจาหน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เรื่องธุรกจิ แฟรนไชส์ (ความรเู้ พิม่ เติม)
4. ผู้สอนยกตัวอยา่ งธุรกจิ แฟรนไชส์ท่ปี ระสบความสาเร็จ หัวข้อเรื่อง แฟรนไชส์ Seoul Bekery
ธุรกิจแนวใหม่ เอาใจคนรกั ขนมปงั ! จากคลปิ VDO (ท่ีมา
https://www.youtube.com/watch?v=7xq_E_8lpGw)

5. ผู้สุ่มเรยี กผเู้ รียนใหย้ กตวั อย่างธรุ กจิ ธรุ กิจแฟรนไชส์ท่ตี นรูจ้ กั และสนใจ โดยบอกช่อื ตราสนิ คา้ และ
ลกั ษณะของ สนิ คา้ วา่ เป็นอย่างไร

6. ผ้สู อนใหผ้ ู้เรียนแบง่ กลุ่มการเรียนแบบร่วมมือ กลุ่มละ 3-4 คน ใหช้ ่วยกันระดมสมองและแสดง
ความคิดเห็น เก่ยี วกบั ธุรกจิ แฟรนไชน์ จากการเปดิ คลปิ VDO เร่ือง แฟรนไชส์ คอื อะไร? จากเว็บไซต์
https://www.youtube.com/watch?v=x-LEzV2TIBU

7. ผสู้ อนตั้งคาถามให้ผเู้ รียนตอบจากการดู คลิป VDO โดยเขียนความคดิ เหน็ ลงในกระดาษทแี่ จกให้
8. ผสู้ อนสรปุ คาตอบจากการดูคลิป VDO ให้ผู้เรียนอกี คร้งั
9. ใหผ้ เู้ รยี นปฏิบัติกิจกรรมกล่มุ โดยให้นาข้อมูลที่ศึกษาค้นคว้าเพมิ่ เก่ยี วกบั การเรมิ่ ต้นธุรกิจการค้า
ระบบสาขา แฟรนไชสข์ อง “7-Eleven” โดยศกึ ษาจาก www.7eleven.co.th ให้วเิ คราะห์ตามหัวข้อดงั นี้
1) ความหมายของสัมปทาน แฟรนไชส์และคาศัพท์อนื่ ๆ ที่เก่ียวข้อง
2) ลักษณะของธรุ กิจแฟรนไชส์
3) ลกั ษณะของผูซ้ ้ือสิทธิ
4) องคป์ ระกอบของแฟรนไชส์
5) ปัจจยั ความสาเร็จของธรุ กิจแฟรนไชส์
10. ผ้สู อนจบั ฉลากเลือก 1-2 กลุ่ม (ท่ียังไมเ่ คยออกมานาเสนองาน) กลุ่มที่ถูกเลอื กต้องส่งตวั แทน
ออกมานาเสนองาน หน้าชั้นเรยี น 1 คน ให้ใช้เวลาในการนาเสนอ 5-10 นาที
11. ผู้สอนกบั ผูเ้ รียนร่วมกนั สรปุ และทบวนเน้ือหาอีกคร้งั
12. ผสู้ อนตรวจและประเมินผลงานภาพรวมเป็นกลุ่ม
13. ผสู้ อนให้ผูเ้ รยี นไปศึกษาหาข้อมลู เกี่ยวกับรปู แบบธรุ กิจขนาดยอ่ ม จาก Link เว็บไซต์เกี่ยวกับ
ธุรกิจ SMEs ไดแ้ ก่ http://www.kasikornbank.com/th/sme/Pages/SME.aspx
http://www.thaifranchisecenter.com/home.php

เทคนคิ วธิ กี ารสอนทนี่ ามาใช้

1. วิธีสอนแบบแบง่ กลุ่มทางาน
เป็นวิธีสอนทผี่ สู้ อนมอบหมายให้นักเรยี นทางานรว่ มกนั เป็นกล่มุ ร่วมมอื กนั ศึกษาค้นควา้ หาวธิ ีการแก้ปญั หา
หรือปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามความสามารถ ความถนดั หรอื ความสนใจ เปน็ การฝึกใหผ้ เู้ รียนทางานรว่ มกันตามวถิ ี
แห่งประชาธิปไตย

2. แบบกลุ่มรว่ มมือ
เป็นการจัดการเรยี นรโู้ ดยการผสมผสานระหวา่ งการเรียนรู้แบบกล่มุ และการสอนรายบุคคล โดยให้ผเู้ รยี นได้ลง
มือทากจิ กรรมในการเรียนได้ดว้ ยตนเองตามความสามารถของตน สมาชิกในกล่มุ มีการแลกเปลยี่ นเรียนรู้ ซง่ึ
กนั และกัน เนน้ การมีปฏสิ มั พันธ์ซ่ึงกันและกนั ระหว่างผูเ้ รียนกบั ผู้เรียน

4. วธิ สี อนแบบใช้คาถาม
ผ้สู อนจะปอ้ นคาถามในลักษณะต่าง ๆ ที่เปน็ คาถามท่ีดี สามารถพัฒนาความคิดผเู้ รยี น ถามเพื่อให้ผเู้ รยี นใช้
ความคดิ เชิงเหตผุ ล วิเคราะห์ วิจารณ์ สงั เคราะห์ หรอื การประเมินค่าเพื่อจะตอบคาถามเหลา่ น้ัน

5. วธิ ีสอนแบบระดมพลงั สมอง
การแบ่งนักเรียนเปน็ กลมุ่ ย่อย ผสู้ อนและผเู้ รียนเรยี นรว่ มกันกาหนดปญั หาในการระดมพลงั สมองโดยใชเ้ วลา
สน้ั ๆ ประมาณ 10-15 นาที ให้สมาชิกในกลุม่ แสดงความคิดเหน็ ซ่ึงความคดิ เห็นไม่มีการตานวิ ่า “ถกู ” หรือ ”
ผดิ ” จากนั้นผ้แู ทนกลุ่มนามารายงานใหก้ ลุ่มใหญใ่ นชน้ั เรียนทราบผลการระดมพลังสมอง

สอ่ื การเรียนการสอนและแหลง่ การเรยี นรู้

1. สอื่ ส่ิงพมิ พ์ ไดแ้ ก่ หนงั สอื เรยี นวิชาการดาเนนิ ธุรกิจขนาดยอ่ ม
2. โสตทศั น์ ได้แก่ โปรเจคเตอร์ ลาโพง คลปิ VDO
3. สือ่ เทคโนโลยีข้นั สูง ไดแ้ ก่ PowerPoint
4. อินเทอร์เน็ต ไดแ้ ก่ https://www.facebook.com/groups
http://www.kasikornbank.com/th/sme/Pages/SME.aspx (ตัวอยา่ งธุรกจิ SMEs)
http://www.thaifranchisecenter.com/home.php (ตวั อย่างธุรกิจ SMEs)
คลิป VDO เรือ่ ง แฟรนไชส์ คืออะไร? จากเวบ็ ไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=x-LEzV2TIBU

การวัดประเมินผล เกณฑก์ ารประเมินผล
1.ประเมินจากสภาพจรงิ โดยการสังเกต 1. ผเู้ รยี นมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรียนรอ้ ยละ 70
พฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผเู้ รียนเปน็ ข้นึ ไป
รายบุคคล
2. การสุ่มเรียกถาม-ตอบ เปน็ รายบคุ คล 2. ผู้เรยี นสามารถตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ งเกนิ ร้อยละ
80 ขึ้นไป
3. ประเมินผลงานจากใบงาน 3. เกณฑต์ ดั สินคุณภาพใบงาน
คะแนน 10-12 = ดี
4. ประเมนิ ผลจากการทากจิ กรรมกล่มุ คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรับปรุง
4. เกณฑ์ตัดสินคุณภาพกจิ กรรมกลมุ่
คะแนน 10-12 = ดี
คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรับปรงุ

เอกสารอา้ งองิ /เว็บไซต์

1. สิฏฐากร ชทู รัพย์ และ เพ็ญศรี เลศิ เกียรติวทิ ยา. การดาเนนิ ธุรกจิ ขนาดยอ่ ม. กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพ์
เอมพนั ธ์ จากัด
2. เพ็ญศรี เขมะสุวรรณ และ ภควดี เลิศกาญจนวัติ. การดาเนินธุรกิจขนาดยอ่ ม. กรุงเทพมหานคร : สานกั
พมิ พศ์ นู ย์
ส่งเสรมิ วิชาการ
3. http://www.kasikornbank.com/th/sme/Pages/SME.aspx (ตวั อย่างธุรกิจ SMEs)
http://www.thaifranchisecenter.com/home.php (ตวั อย่างธุรกจิ SMEs)
https://www.youtube.com/watch?v=x-LEzV2TIBU

ใบงานท่ี 3 รปู แบบและประเภทของธรุ กจิ ขนาดย่อม
ชอ่ื ......................................................สกลุ ..................................................ห้อง ...............เลขที่.......

คาสง่ั
1. ใหผ้ เู้ รียนแบง่ กลุ่มๆ ละ 3-4 คน ใหช้ ว่ ยกนั ระดมสมองและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับธรุ กิจแฟรน

ไชน์
2. ให้ผู้เรยี นนาขอ้ มูลที่ศึกษาคน้ ควา้ เพ่ิมเกีย่ วกับการเริม่ ต้นธุรกิจการคา้ ระบบสาขาแฟรนไชสข์ อง

“7-Eleven”
โดยศึกษาจาก www.7eleven.co.th ใหว้ ิเคราะห์ตามหัวขอ้ ดังน้ี
1) ความหมายของสมั ปทาน แฟรนไชส์และคาศัพท์อนื่ ๆ ทีเ่ ก่ียวข้อง
2) ลกั ษณะของธรุ กจิ แฟรนไชส์
3) ลักษณะของผู้ซื้อสิทธิ
4) องคป์ ระกอบของแฟรนไชส์
5) ปจั จยั ความสาเรจ็ ของธรุ กิจแฟรนไชส์

หน่วยที่ 4 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 4 สอนสปั ดาห์ท่ี 8-10
ระดบั ม.3 จานวน 3 ชั่วโมง
ชือ่ วิชา งานธรุ กิจขนาดกลางและย่อม รหสั วิชา ง23101
ชือ่ หน่วย กฎหมายและและภาษสี าหรบั ธุรกิจขนาดยอ่ ม
ชื่อผูส้ อน นางศริ ินยา นอ้ ยพลทนั

สาระสาคัญ

ในการประกอบธุรกิจขนาดย่อม มีกฎหมายหลายฉบับท่เี ก่ยี วข้อง ดงั นนั้ ผู้ประกอบการควรจะศึกษา
หาความรู้เพิ่มเตมิ เพ่อื ให้การจัดตงั้ ธรุ กิจขนาดย่อม หรอื การประกอบการเป็นไปอยา่ งถูกตอ้ ง และเพื่อใหเ้ กิด
ความสะดวกแกผ่ ู้ประกอบการ ในการนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ หมาะสมไม่วา่ จะเป็นพระราชบญั ญตั ิส่งเสริม
วสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม, สิทธบิ ตั ร/อนุสทิ ธบิ ัตร, เครอ่ื งหมายการค้า, ลขิ สิทธิ์ และภมู ิปญั ญา
ท้องถ่นิ ไทย

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

จุดประสงค์ท่ัวไป
1. รแู้ ละเขา้ ใจกฎหมายเกยี่ วกับธรุ กจิ ขนาดย่อม
2. รู้และเขา้ ใจเก่ียวกบั ภาษสี าหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม

จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม
1. บอกวัตถปุ ระสงคข์ องการจัดตั้งสานักงานส่งเสริมวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้
2. บอกหน้าท่ีของสานักงานงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ มได้
3. อธบิ ายการจดสทิ ธิบตั ร/อนสุ ทิ ธิบตั รในธรุ กิจขนาดย่อมได้
4. อธบิ ายการจดทะเบียนเคร่ืองหมายการค้าในธรุ กิจขนาดยอ่ มได้
5. อธิบายการใช้ลิขสทิ ธใิ์ นธุรกจิ ขนาดย่อมได้
6. อธบิ ายเกยี่ วกบั องค์ความรู้ภูมปิ ญั ญาท้องถ่นิ ไทยได้
7. อธิบายลักษณะของธุรกิจขนาดยอ่ มตามประมวลรัษฎากรได้
8. อธิบายรปู แบบธุรกจิ ขนาดยอ่ มตามประมวลรัษฎากรได้
9. อธบิ ายเกย่ี วภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรได้
10. บอกสทิ ธิประโยชนท์ างภาษีสาหรับธรุ กิจขนาดย่อมได้
11. อธบิ ายเกี่ยวกบั การลดอัตราภาษไี ด้
12. ผ้เู รียนมีความพยายามและความตงั้ ใจในการปฏิบตั ิงานจนสาเรจ็

สมรรถนะรายหน่วย

แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั กฎหมายและภาษีในการประกอบธรุ กิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม

สาระการเรียนรู้

4. กฎหมายและภาษเี กย่ี วกบั ธุรกิจขนาดยอ่ ม
4.1 พระราชบัญญัติสง่ เสรมิ วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม
4.1.1 วัตถปุ ระสงคข์ องการจัดต้งั สานกั งานสง่ เสรมิ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
4.1.2 หน้าทข่ี องสานักงานงานวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
4.1.3 การจดสิทธบิ ัตร/อนสุ ทิ ธิบัตรในธุรกจิ ขนาดยอ่ ม
4.1.4 การจดทะเบยี นเคร่ืองหมายการค้าในธรุ กจิ ขนาดย่อม
4.1.5 งานลิขสทิ ธ์ิในธุรกจิ ขนาดย่อม
4.1.6 องคค์ วามร้ภู มู ปิ ญั ญาท้องถิ่นไทย
4.2 ภาษีสาหรบั ธุรกิจขนาดย่อม
4.2.1 ลักษณะของธรุ กิจขนาดยอ่ มตามประมวลรษั ฎากร
4.2.2 รปู แบบธรุ กจิ ขนาดย่อมตามประมวลรัษฎากร
4.2.3 ภาษอี ากรตามประมวลรษั ฎากร
4.2.4 สิทธปิ ระโยชนท์ างภาษีสาหรับธรุ กิจขนาดยอ่ ม
4.2.5 การลดอัตราภาษี

ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งและคณุ ธรรมทม่ี ุ่งเนน้

1. พอประมาณ ผู้เรยี นสามารถคดิ วิเคราะห์ได้เหมาะกับวตั ถปุ ระสงค์การเรียนรู้
2. มีเหตุผล ผู้เรียนทางานตามท่ไี ดร้ ับมอบหมายโดยคานึงถงึ เหตแุ ละปัจจัยแวดลอ้ มทัง้ หมด เพอ่ื ให้
การ ดาเนนิ งานเป็นไปอย่างถูกตอ้ ง
3. รอบรู้ ผเู้ รยี นมคี วามรอบรูเ้ กย่ี วกับวิชาการตา่ งๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งอย่างรอบดา้ น
4. รอบคอบ ผูเ้ รยี นมีความรอบคอบที่จะนาความรูท้ ี่ได้จากการศกึ ษาค้นควา้ มาประยุกต์ใชใ้ นการ
เรียนได้อย่าง ถกู ต้องตามเกณฑ์ทก่ี าหนด
5. ซื่อสตั ยส์ ุจริต ผเู้ รียนมีความพยามยามที่จะเรยี นรแู้ ละปฏิบัตดิ ้วยตนเอง งานจนสาเรจ็ ตาม

ป้าหมาย นาปญั หาและอุปสรรค์ในการเรียนการสอนมาปรับปรุงการเรยี นการสอน

ผ้เู รยี นขาดทกั ษะด้านการศกึ ษาค้นควา้ ความรจู้ ากแหล่งเรียนรอู้ นื่ ๆ เช่น การอ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสาร
เกี่ยวกับการตลาด ขา่ วสารจากอนิ เทอรเ์ น็ต เปน็ ตน้

กิจกรรมการเรยี นการสอน (สัปดาห์ที่ 8-9 ชั่วโมงที่ 8 -9)

1. ผู้สอนทบทวนความรเู้ ดิมท่ีเรยี นไปสัปดาห์ท่แี ลว้ เพื่อเชอื่ มโยงให้ผ้เู รียนเชอ่ื มโยงกับเนื้อหาใหม่ได้ง่ายขน้ึ
2. ผสู้ อนแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ประจาหนว่ ยการเรยี นท่ี 4 เร่อื งกฎหมายสาหรับธุรกจิ ขนาดยอ่ ม
3. ผูส้ อนให้นกั ศึกษาชว่ ยกนั แสดงความคิดเหน็ รปู ภาพ เครื่องหมายการค้าในธรุ กิจขนาดย่อม

1) เคร่อื งหมายการคา้
2) เครื่องหมายบริการ
3) เครื่องหมายรับรอง
4) เคร่ืองหมายร่วม
4. ผสู้ อนเขา้ ส่เู น้ือหาโดยการเปดิ คลปิ VDO เรื่อง รูท้ ันลขิ สิทธ์ิ ตอน ทาความรจู้ ักกบั ลิขสิทธ์ิ เพือ่ เชอื่ มโยง
เน้ือหาทจี่ ะเรยี นในสปั ดาหน์ ี้ มี 3 ตอนดงั นี้
1) ตอนที่ 1 https://www.youtube.com/watch?v=fXtkCDe1ui4
2) ตอนที่ 2 https://www.youtube.com/watch?v=WgLvvLIZ72w
3) ตอนท่ี 3 https://www.youtube.com/watch?v=rtgiIh3N5Uw
5. ผ้สู อนตัง้ คาถามให้ผเู้ รียนช่วยกนั แสดงความคดิ เหน็ จาก คลปิ VDO
6. ผ้สู อนใหผ้ ู้เรียนปฏบิ ัตกิ จิ กรรมเป็นรายบคุ คล โดยใหน้ ่งั แบบกลุ่มรว่ มมือ กลมุ่ ๆ ละ 3-4 คน แบบ
เพอื่ นช่วยเพ่ือน

1) ใหต้ อบคาถามลงในกระดาษทแี่ จกให้ ตามหัวข้อดงั น้ี
2) ความหมายของลิขสิทธิ์ (Copyright)
3) งานที่มลี ิขสิทธิ์
4) งานท่ีไมถ่ ือวา่ เป็นงานอันมีลขิ สิทธิ์
5) การคุ้มครองลขิ สิทธิ์
7. ผู้สอนคอยสงั เกตพฤติกรรมงานทางานกลุม่ และชว่ ยเหลอื ใหค้ าแนะนา และข้อเสนอแนะเพ่ิมเป็น
รายบคุ คล
8. ให้ผ้เู รยี นสลบั กันตรวจกับเพือ่ โดยผูส้ อนเฉลยคาตอบและอธบิ ายเพม่ิ เติม สรุปและทบวนเนือ้ หา
อีกครั้ง
9. ผสู้ อนตรวจและประเมนิ ผลงานอกี ครงั้
10. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนไปศึกษาหาขอ้ มลู เกยี่ วกับรูปแบบธรุ กจิ ขนาดย่อม จาก Link เวบ็ ไซต์เก่ียวกบั
ธรุ กจิ SMEs ได้แก่ http://www.kasikornbank.com/th/sme/Pages/SME.aspx
http://www.thaifranchisecenter.com/home.php

เทคนิควิธกี ารสอนทีน่ ามาใช้

1. วธิ สี อนแบบแบง่ กลุ่มทางาน
เป็นวธิ ีสอนท่ีผสู้ อนมอบหมายให้นักเรียนทางานร่วมกนั เป็นกลมุ่ ร่วมมอื กนั ศึกษาค้นคว้าหาวิธกี ารแกป้ ัญหา
หรอื ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามความสามารถ ความถนัด หรือความสนใจ เปน็ การฝกึ ให้ผ้เู รียนทางานร่วมกันตามวถิ ี
แห่งประชาธปิ ไตย

2. แบบกลุ่มรว่ มมือ
เป็นการจดั การเรยี นรู้โดยการผสมผสานระหว่างการเรียนรู้แบบกล่มุ และการสอนรายบุคคล โดยใหผ้ เู้ รยี นได้ลง
มือทา กจิ กรรมในการเรียนได้ด้วยตนเองตามความสามารถของตน สมาชิกในกลุม่ มกี ารแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ซง่ึ
กนั และกัน เนน้ การมีปฏิสมั พันธ์ซ่งึ กันและกนั ระหว่างผเู้ รยี นกบั ผู้เรยี น

3. วธิ ีสอนแบบใชค้ าถาม
ผู้สอนจะปอ้ นคาถามในลักษณะตา่ ง ๆ ท่ีเป็นคาถามท่ีดี สามารถพฒั นาความคิดผู้เรยี น ถามเพื่อใหผ้ ้เู รียนใช้
ความคดิ เชิงเหตผุ ล วิเคราะห์ วิจารณ์ สงั เคราะห์ หรือ การประเมนิ ค่าเพื่อจะตอบคาถามเหล่านน้ั

4. วิธสี อนแบบระดมพลังสมอง
การแบง่ นักเรียนเป็นกลุ่มย่อย ผู้สอนและผูเ้ รยี นเรียนรว่ มกันกาหนดปญั หาในการระดมพลงั สมองโดยใชเ้ วลา
สน้ั ๆ ประมาณ 10-15 นาที ใหส้ มาชิกในกลุ่มแสดงความคิดเหน็ ซง่ึ ความคดิ เหน็ ไม่มีการตานวิ ่า “ถกู ” หรือ ”
ผดิ ” จากน้นั ผู้แทนกลุ่มนามารายงานให้กลุ่มใหญ่ในชน้ั เรียนทราบผลการระดมพลงั สมอง

สือ่ การเรียนการสอนและแหล่งการเรียนรู้

1. สอื่ ส่ิงพมิ พ์ ได้แก่ หนังสือเรียนวชิ าการดาเนนิ ธรุ กจิ ขนาดย่อม
2. โสตทัศน์ ไดแ้ ก่ โปรเจคเตอร์ ลาโพง คลิป VDO
3. ส่อื เทคโนโลยีขนั้ สูง ได้แก่ PowerPoint
4. อินเทอร์เนต็ ไดแ้ ก่ https://www.facebook.com/groups

ตอนท่ี 1 https://www.youtube.com/watch?v=fXtkCDe1ui4
ตอนที่ 2 https://www.youtube.com/watch?v=WgLvvLIZ72w
ตอนท่ี 3 https://www.youtube.com/watch?v=rtgiIh3N5Uw

การวัดประเมินผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1.ประเมนิ จากสภาพจรงิ โดยการสงั เกต 1. ผเู้ รยี นมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมการเรียนร้อยละ 70
พฤติกรรมการมีสว่ นร่วมของผเู้ รยี นเปน็ ขนึ้ ไป
รายบคุ คล
2. การสุ่มเรยี กถาม-ตอบ เป็นรายบคุ คล 2. ผเู้ รียนสามารถตอบคาถามได้ถูกต้องเกินร้อยละ
80 ขึน้ ไป

3. ประเมินผลงานจากใบงาน 3. เกณฑต์ ดั สินคุณภาพใบงาน
4. ประเมนิ ผลจากการทากจิ กรรมกล่มุ คะแนน 10-12 = ดี
คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรบั ปรงุ
4. เกณฑ์ตดั สินคุณภาพกจิ กรรมกลุ่ม
คะแนน 10-12 = ดี
คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรบั ปรุง

เอกสารอา้ งอิง/เวบ็ ไซต์

1. สิฏฐากร ชทู รพั ย์ และ เพ็ญศรี เลิศเกียรตวิ ิทยา. การดาเนินธุรกิจขนาดยอ่ ม. กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พ์
เอมพนั ธ์ จากัด
2. เพ็ญศรี เขมะสวุ รรณ และ ภควดี เลิศกาญจนวัติ. การดาเนินธุรกจิ ขนาดยอ่ ม. กรงุ เทพมหานคร : สานัก
พิมพ์ศนู ย์ ส่งเสรมิ วชิ าการ
3. https://www.youtube.com/watch?v=fXtkCDe1ui4
https://www.youtube.com/watch?v=WgLvvLIZ72w
https://www.youtube.com/watch?v=rtgiIh3N5Uw
http://www.kasikornbank.com/th/sme/Pages/SME.aspx
http://www.thaifranchisecenter.com/home.php

กิจกรรมการเรยี นการสอน (สัปดาห์ท่ี 10 ชั่วโมงท่ี 10)

1. ผ้สู อนชแี้ จ้งเกณฑ์การวัดผลและประเมินผล และข้อตกลงในการปฏิบตั ิงานของผู้เรยี น
2. ผู้สอนทบทวนความร้เู ดิมใหก้ บั ผ้เู รียน โดยการถาม-ตอบก่อนที่จะเร่มิ เรยี นหวั ข้อใหม่ โดยใช้
PowerPoint
3. ประกอบการสอน
4. ผูส้ อนแจ้งจุดประสงค์การเรยี นร้ปู ระจาหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรือ่ งภาษสี าหรบั ธุรกิจขนาดยอ่ ม
5. มอบหมายใบงานท่ี 4 ให้ผเู้ รยี นจับคู่ 2 คน แลว้ ชว่ ยกันศึกษาเก่ยี วแบบฟอรม์ การชาระภาษี นา
แบบฟอร์มการเสีย
6. ภาษสี าหรบั ธรุ กิจแตล่ ะประเภทมาประกอบการปฏบิ ตั ิกิจกรรม โดยให้ Download แบบฟอร์ม
7. http://www.thaitaxinfo.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=371444 หรอื จาก
เวบ็ ไซต์อ่ืนๆ ท่ี
8. เกี่ยวข้องก็ได้ มหี วั ข้อดังน้ี

9. แบบฟอร์มเอกสาร สาหรบั บริษทั จากัด
10. แบบฟอรม์ เอกสาร สาหรับห้างหุ้นสว่ นจากัด
11. แบบฟอร์มเอกสาร ร้านค้า-ทะเบยี นพาณิชย์
12. แบบฟอร์มเอกสาร การจดทะเบียนเลิกบรษิ ทั ฯ-หา้ งหุ้นส่วนฯ
13. แบบฟอร์มเอกสาร การจดทะเบยี นธรุ กิจของ บริษัทต่างดา้ ว
14. ให้สมมตุ ิตนเองว่า เป็นผ้ปู ระกอบการธรุ กจิ SMEs ประเภทใดกไ็ ด้และกรอกขอ้ มลู ลงในเอกสาร
ตัวอยา่ ง
15. ให้สรุปวา่ มีต้องเตรียมข้อมูลอะไรบ้างในกรอกแบบฟอร์มการชาระภาษสี าหรับธุรกจิ ประเภทต่าง
ๆ มาโดยรายละเอยี ด
16. ผูส้ อนคอยสังเกตพฤตกิ รรมงานทางานกล่มุ และช่วยเหลือให้คาแนะนา และข้อเสนอแนะเพิ่มเป็น
รายบุคคล
17. ให้ผ้เู รยี นตรวจผลงานของด้วยเองดว้ ยความซื้อสตั ย์ โดยผสู้ อนเฉลยคาตอบและอธบิ ายเพ่ิมเติม
สรุปและทบวนเน้อื หาใหอ้ ีกครั้ง
18. ผู้สอนตรวจและประเมนิ ผลงานอีกคร้ัง
19. ผ้สู อนให้ผู้เรียนไปศึกษาหาขอ้ มูลเกี่ยวกบั รูปแบบธรุ กิจขนาดย่อม จาก Link เว็บไซต์เก่ยี วกับ
ธรุ กิจ SMEs ได้แก่ http://www.kasikornbank.com/th/sme/Pages/SME.aspx
http://www.thaifranchisecenter.com/home.php

เทคนิควธิ ีการสอนที่นามาใช้

1. วิธสี อนแบบแบ่งกลุ่มทางาน
เป็นวิธสี อนทผ่ี ้สู อนมอบหมายให้นักเรียนทางานรว่ มกันเป็นกลุ่มร่วมมือกนั ศึกษาคน้ คว้าหาวธิ ีการแก้ปัญหา
หรอื ปฏิบตั ิกจิ กรรมตามความสามารถ ความถนดั หรอื ความสนใจ เป็นการฝกึ ใหผ้ ูเ้ รียนทางานรว่ มกันตามวิถี
แหง่ ประชาธปิ ไตย

2. แบบกลุ่มรว่ มมือ
เปน็ การจัดการเรยี นร้โู ดยการผสมผสานระหว่างการเรียนรู้แบบกลมุ่ และการสอนรายบคุ คล โดยใหผ้ ูเ้ รยี นได้ลง
มอื ทา กจิ กรรมในการเรียนได้ดว้ ยตนเองตามความสามารถของตน สมาชิกในกล่มุ มกี ารแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ ซง่ึ
กันและกัน เนน้ การมีปฏสิ มั พันธ์ซงึ่ กนั และกันระหวา่ งผู้เรยี นกับผู้เรียน

สือ่ การเรยี นการสอนและแหล่งการเรยี นรู้

1. สือ่ สงิ่ พิมพ์ ได้แก่ หนังสอื เรียนวิชาการดาเนนิ ธุรกิจขนาดย่อม
2. โสตทศั น์ ไดแ้ ก่ โปรเจคเตอร์
3. สือ่ เทคโนโลยขี ัน้ สูง ได้แก่ PowerPoint
4. อินเทอร์เน็ต ไดแ้ ก่ https://www.facebook.com/groups
http://www.thaitaxinfo.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=371444

การวัดประเมินผล เกณฑ์การประเมนิ ผล
1.ประเมินจากสภาพจรงิ โดยการสังเกต 1. ผเู้ รียนมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมการเรยี นรอ้ ยละ 70
พฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้เรียนเปน็ ขึน้ ไป
รายบุคคล
2. การสุ่มเรยี กถาม-ตอบ เปน็ รายบุคคล 2. ผเู้ รียนสามารถตอบคาถามได้ถูกตอ้ งเกินร้อยละ
80 ข้ึนไป
3. ประเมินผลงานจากใบงาน 3. เกณฑ์ตัดสินคณุ ภาพใบงาน
คะแนน 10-12 = ดี
4. ประเมินผลจากการทากิจกรรมกลมุ่ คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรบั ปรุง
4. เกณฑต์ ัดสินคุณภาพกิจกรรมกล่มุ
คะแนน 10-12 = ดี
คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรับปรุง

เอกสารอ้างอิง/เวบ็ ไซต์

1. สฏิ ฐากร ชทู รพั ย์ และ เพ็ญศรี เลิศเกียรตวิ ทิ ยา. การดาเนินธรุ กิจขนาดยอ่ ม. กรงุ เทพมหานคร : สานักพิมพ์
เอมพนั ธ์ จากัด
2. เพญ็ ศรี เขมะสวุ รรณ และ ภควดี เลิศกาญจนวตั ิ. การดาเนินธรุ กิจขนาดย่อม. กรงุ เทพมหานคร : สานกั
พมิ พ์ศูนย์ สง่ เสริมวิชาการ
3. http://www.thaitaxinfo.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=371444

ใบงานที่ 4 กฎหมายและภาษีเกย่ี วกับธุรกจิ ขนาดย่อม

ชอ่ื ......................................................สกลุ ..................................................ห้อง ...............เลขท.ี่ ......

คาส่ัง
1. ให้นักศกึ ษานาแบบฟอร์มการเสียภาษสี าหรบั ธรุ กจิ แตล่ ะประเภทมาประกอบการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ดงั นี้

1) แบบฟอรม์ เอกสาร สาหรบั บรษิ ทั จากัด
2) แบบฟอร์มเอกสาร สาหรบั ห้างหุ้นส่วนจากัด
3) แบบฟอร์มเอกสาร รา้ นค้า-ทะเบยี นพาณชิ ย์
4) แบบฟอร์มเอกสาร การจดทะเบยี นเลิกบริษทั ฯ-ห้างหุ้นส่วนฯ
5) แบบฟอรม์ เอกสาร การจดทะเบียนธรุ กิจของ บริษทั ต่างดา้ ว
2. ให้ศกึ ษาเกยี่ วกบั เอกสารเพอื่ กรอกข้อมลู ลงในในแบบฟอร์มที่นามา
3. ให้สมมตุ ิตนเองว่าเปน็ ผปู้ ระกอบการ และกรอกข้อมลู ลงในเอกสารตวั อยา่ ง
4. ให้สรปุ สาระเกย่ี วกบั การชาระภาษีสาหรับธรุ กจิ ประเภทตา่ ง ๆ มาโดยรายละเอียด

หนว่ ยที่ 5 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 สอนสัปดาห์ที่ 11-13
ระดบั ม.3 จานวน 3 ช่ัวโมง
ช่ือวิชา งานธุรกิจขนาดกลางและย่อม รหัสวิชา ง23101
ชอื่ หน่วย ทาเลท่ตี ้ังและแหล่งเงนิ ทนุ สาหรับธรุ กจิ
ขนาดยอ่ ม
ช่อื ผ้สู อน นางศิรนิ ยา น้อยพลทนั

สาระสาคัญ

ทาลที่ตั้ง เปน็ สถานท่ีที่จะใชเ้ ปน็ แหล่งผลติ หรอื จาหนา่ ยสนิ ค้าหรอื บริการของสถานประกอบการ ซง่ึ
ในการเลือกทาเลท่ีตง้ั ท่ีเหมาะสมจะทาให้ธุรกิจประสบผลสาเรจ็ หรือล้มเหลวได้ ดงั น้นั การเลือกทาเลทต่ี ้งั สา
หรับธรุ กิจขนาดย่อม จึงเป็นการตดั สนิ ใจท่ีมคี วามสาคัญ ในการท่ีจะทาธุรกิจนน้ั เข้าถึงลกู คา้ ได้โดยง่าย รวมทั้ง
ปจั จยั อ่ืน ๆ ทคี่ วรนามาพจิ ารณาเลือกทาเลท่ีตั้งให้เหมาะสม เงนิ ทุนถือเป็นปัจจัยหลกั ของการประกอบกจิ การ
เพือ่ อานวยความสะดวกสาหรับผปู้ ระกอบแหลง่ เงินทุนทผี่ ปู้ ระกอบการสามารถขอกู้ทง้ั ภาครัฐ เอกชน และ
แหล่งเงินทุนอื่นๆ โดยทัว่ ไปแลว้ ธรุ กจิ ขนาดยอ่ มมักจะเรม่ิ ต้นด้วยเงนิ ทนุ จากเจ้าของกจิ การ และเม่ือกิจการดา
เนินไปไดร้ ะยะเวลาหนงึ่ กจ็ ะขยายธรุ กิจ โดยแสวงหาแหล่งเงนิ ทนุ ทใี่ ช้ในการขยายธุรกิจ โดยอาจต้องใชว้ ิธเี พมิ่
ทนุ จากสมาชกิ ทีร่ ว่ มลงทนุ หรืออาจต้องกยู้ มื ญาติพีน่ ้องในครอบครวั หรือเพ่อื นฝงู หรือกยู้ ืมจากแหลง่ ภายนอก
ซึ่งผ้ปู ระกอบการต้องทาความเข้าใจในรายละเอียดของแหล่งเงินกแู้ ต่ละแห่งและแตล่ ะรูปแบบใหเ้ หมาะสมกบั
ธรุ กิจของตนเองต่อไป

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

จดุ ประสงค์ท่ัวไป
1. รูแ้ ละเขา้ ใจเกย่ี วกับการเลือกทาเลท่ีตั้งสาหรับธุรกิจขนาดย่อม
2. รแู้ ละเข้าใจเกย่ี วกบั การแหลง่ ที่มาของเงินทนุ สาหรับธุรกิจขนาดย่อม

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. บอกความหมายและความสาคัญของทาเลท่ีต้งั ได้
2. บอกรปู แบบทาเลที่ตงั้ ของธรุ กิจขนาดย่อมได้
3. วเิ คราะหป์ จั จัยในการเลือกทาเลท่ตี ั้งธุรกิจขนาดย่อมได้
4. อธิบายหลักในการเลือกทาเลที่ตัง้ ธุรกิจขนาดย่อมได้
5. อธบิ ายการคดั เลือกแหล่งเงนิ ทนุ ได้
6. อธิบายฐานะทางการเงินของธรุ กจิ ได้
7. อธิบายความสามารถในการชาระหนีไ้ ด้
8. อธิบายการนาเสนอคาขอเพอ่ื ให้ได้เงนิ ทุนได้

9. ผ้เู รยี นมีความพยายามและความต้งั ใจในการปฏบิ ัตงิ านจนสาเร็จ

สมรรถนะรายหนว่ ย

- วิเคราะห์ปจั จัยในการเลือกทาเลทตี่ ง้ั ให้เหมาะสมกับธรุ กิจขนาดยอ่ ม
- วเิ คราะหแ์ หล่งท่ีมาของเงินทุนสาหรบั ธรุ กิจขนาดย่อม

สาระการเรียนรู้

5. ทาเลท่ีตงั้ และแหล่งเงนิ ทนุ สาหรับธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม
5.1 การเลือกทาเลท่ีตงั้ สาหรับธุรกจิ ขนาดย่อม
5.1.1 ความหมายและความสาคญั ของทาเลที่ตงั้
5.1.2 รูปแบบทาเลที่ตั้งของธุรกิจขนาดย่อม
5.1.3 ปัจจัยในการเลือกทาเลทีต่ ้งั ธรุ กิจขนาดย่อม
5.1.4 หลักในการเลือกทาเลท่ีต้งั ธุรกจิ ขนาดย่อม
5.2 การจัดหาแหล่งเงินทนุ สาหรบั ธรุ กิจขนาดยอ่ ม
5.2.1 การคัดเลือกแหลง่ เงินทุน
5.2.2 ฐานะทางการเงินของธุรกจิ
5.2.3 ความสามารถในการชาระหน้ี
5.2.4 การนาเสนอคาขอเพื่อให้ได้เงินทนุ

ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงและคุณธรรมที่ม่งุ เน้น

พอประมาณ ผู้เรยี นสามารถคิดวเิ คราะหไ์ ดเ้ หมาะกับวตั ถุประสงคก์ ารเรียนรู้ มีเหตผุ ลผล ผู้เรียนทา
งานตามที่ไดร้ บั มอบหมายโดยคานงึ ถึงเหตุและปจั จัยแวดล้อมทั้งหมด เพ่ือให้การ ดาเนินงานเปน็ ไปอยา่ ง
ถูกต้อง ขยัน อดทน ผู้เรียนมีความตงั้ ใจในการทางาน ไมล่ ะเลย ไม่ทอดทง้ิ งานท่ีไดร้ บั มอบหมาย จนทาให้
ประสบ ผลสาเร็จในท่สี ุด รอบรู้ ผูเ้ รียนมคี วามรอบรูเ้ กีย่ วกับวชิ าการตา่ งๆ ที่เกีย่ วข้องอย่างรอบดา้ น
รอบคอบ ผู้เรียนมคี วามรอบคอบที่จะนาความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาคน้ ควา้ มาประยุกต์ใช้ในการเรยี นได้
อย่างถูกต้องตามเกณฑท์ ่ีกาหนด นาปัญหาและอปุ สรรค์ในการเรยี นการสอนมาปรบั ปรงุ การเรยี นการสอน
ผู้เรยี นยงั ขาดทักษะการในการนาเสนองานและทกั ษะการคิด ดงั นนั้ ผสู้ อนจงึ กระต้นุ โดยใช้แรงจูงใจให้ผู้เรียน
สนใจและให้ผู้เรยี นได้มีโอกาสเรยี นรแู้ ละค้นคว้าจากแหลง่ เรียนรอู้ ่ืนๆ
.

กจิ กรรมการเรียนการสอน (สปั ดาห์ท่ี 11-12 ชัว่ โมงท่ี 11-12)

1. ผู้สอนชีแ้ จ้งเกณฑ์การวัดผลและประเมินผล และข้อตกลงในการปฏบิ ัติงานของผเู้ รียน
2. ผสู้ อนทบทวนความร้เู ดิมให้กบั ผู้เรียน โดยการถาม-ตอบก่อนที่จะเริม่ เรียนหวั ข้อใหม่ โดยใช้
PowerPoint ประกอบการสอน

- ผสู้ อนแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ประจาหน่วยการเรียนร้ทู ี่ 5 เรอ่ื งการเลือกทาเลทตี่ ้งั สา
หรบั ธุรกจิ ขนาดย่อม

3. ผสู้ อนเขา้ สู่เนือ้ หาเรยี นโดยเปดิ Clip VDO เรอ่ื ง 4 ปัจจยั สาคัญในการเลือกทาเลท่ดี ี
https://www.youtube.com/watch?v=Y2DZmz7ndIE

4. ผสู้ อนต้ังคาถามปลายเปดิ ใหผ้ ้เู รียนได้แสดงความคิดเหน็ จากการดู Clip VDO แลว้ ใส่ในกระดาษที่
แจกให้คนละ 1 คาตอบ

5. ผ้สู อนกบั ผู้เรียนชว่ ยกันตรวจคาตอบวา่ มีคาตอบว่าใดถูกตอ้ งบา้ ง โดยผู้สอนจะสรปุ เนื้อหาให้อีก
ครง้ั เพ่ือเช่อื มโยงเนื้อหาเขา้ กิจกรรมการปฏิบตั ิงาน

6. ให้ผูเ้ รียนแบง่ กลุ่มๆ ละ 4 คน ปฏิบัติกิจกรรม ใบงานที่ 5.1 ใหช้ ่วยกันระดมสมองเพื่อวเิ คราะห์
ทาเลทต่ี ั้งจากรปู ภาพ และตอบคาถามให้ถูกต้อง ดังนี้

รปู ภาพที่ 1 ทาเลทต่ี ้ังของ “ตลาดโบเ๊ บ๊”
รูปภาพท่ี 2 ทาเลที่ต้ังของ “โรงหนงั เมเจอร์ สาขารัชโยธิน”
คาถามมีดงั น้ี
1) รปู แบบทาเลท่ตี ัง้ ของธรุ กิจขนาดยอ่ มเปน็ อย่างไร
2) ปจั จัยในการเลือกทาเลทต่ี ้ังธรุ กจิ ขนาดยอ่ มเปน็ อยา่ งไร
3) หลักในการเลือกทาเลท่ีตง้ั ธรุ กจิ ขนาดย่อมมีอะไรบา้ ง จงอธิบาย

- ใหผ้ ู้เรยี นสลบั กนั ตรวจระหวา่ งเพ่ือนในดว้ ยกนั และใหช้ ว่ ยกนั พิจารณาและคัดเลอื ก
ผลงานที่ดีทสี่ ดุ 2-3 ผลงาน เพ่ือออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน

- เปิดโอกาสใหเ้ พื่อนในห้องเรียนซกั ถามข้อสงสัย
- ผสู้ อนเฉลยคาตอบ ตรวจประเมนิ ผลงาน และสรปุ ทบวนเนอื้ หาแบบภาพรวมอีกครัง้
- ให้ผู้เรยี น Download ใบมอบหมายงาน ล่วงหน้า ไดจ้ าก
www.facebook.com/#!/groups/998756883491606/
- ผสู้ อนมอบหมายให้ผู้เรียนเตรยี มข้อมูลทางการตลาดจากส่อื ประเภทต่าง ๆ เช่น
หนังสอื พมิ พ์ธุรกจิ นิตยสาร วารสารธุรกจิ เป็นต้น

เทคนคิ วิธีการสอนท่ีนามาใช้

1. วิธีสอนแบบระดมพลงั สมอง
เป็นวธิ สี อนที่ครแู บ่งนักเรยี นเปน็ กล่มุ ยอ่ ย ครูและนักเรยี นร่วมกนั กาหนดปญั หาในการระดมพลังสมองโดยใช้
เวลาสั้นๆ ประมาณ 10-15 นาที ให้สมาชิกในกลุ่มแสดงความคิดเหน็ ซง่ึ ความคดิ เหน็ ไม่มกี ารตานวิ า่ “ถูก”
หรือ ”ผดิ ” จากน้ันผ้แู ทนกลุ่มนามารายงานให้กลุ่มใหญใ่ นช้นั เรียนทราบผลการระดมพลังสมอง

2. วธิ ีสอนแบบแบง่ กลุ่มทางาน
เป็นวิธสี อนท่ีผ้สู อนมอบหมายใหน้ กั เรียนทางานร่วมกนั เปน็ กลมุ่ ร่วมมอื กันศึกษาค้นคว้าหาวธิ ีการแก้ปัญหา
หรอื ปฏิบตั ิกจิ กรรมตามความสามารถ ความถนดั หรือความสนใจ เป็นการฝึกให้ผู้เรยี นทางานร่วมกนั ตามวิถี
แหง่ ประชาธปิ ไตย

3. วธิ ีสอนแบบใช้คาถาม
เปน็ กระบวนการเรยี นรู้ท่มี ่งุ พัฒนากระบวนการทางความคิดของผู้เรียน โดยผสู้ อนจะป้อนคาถามในลกั ษณะ
ตา่ ง ๆ ทเ่ี ป็นคาถามท่ดี ี สามารถพัฒนาความคิดผเู้ รยี น ถามเพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นใชค้ วามคดิ เชิงเหตผุ ล วิเคราะห์
วจิ ารณ์
สงั เคราะห์ หรอื การประเมินค่าเพื่อจะตอบคาถามเหล่านัน้

4. วธิ ีการสอนโดยใช้กรณตี ัวอยา่ ง (Case)
การให้ผู้เรยี นศึกษาเร่ืองทีส่ มมตขิ ึน้ จากความเปน็ จริง และตอบประเดน็ คาถามเก่ยี วกับเรือ่ งน้ัน แล้วนาคาตอบ
และ เหตผุ ลทม่ี าของคาตอบน้ันมาใช้เป็นข้อมลู ในการอภิปราย เพอื่ ให้ผเู้ รียนเกิดการเรียนรู้

สอื่ การเรียนการสอนและแหล่งการเรยี นรู้

1. ส่อื ส่ิงพิมพ์ ได้แก่ หนงั สอื เรียนวชิ าการดาเนนิ ธุรกจิ ขนาดย่อม, ใบงาน
2. โสตทศั น์ ไดแ้ ก่ โปรเจคเตอร์ ลาโพง คลปิ VDO
3. สอื่ เทคโนโลยีข้ันสงู ไดแ้ ก่ PowerPoint
4. อนิ เทอรเ์ นต็ ได้แก่ https://www.facebook.com/groups
https://www.youtube.com/watch?v=Y2DZmz7ndIE (4 ปจั จัยสาคญั ในการเลือกทาเลทด่ี ี)

การวดั ประเมนิ ผล เกณฑก์ ารประเมินผล
1.ประเมินจากสภาพจริง โดยการสงั เกต 1. ผเู้ รียนมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมการเรียนรอ้ ยละ 70
พฤติกรรมการมีสว่ นรว่ มของผเู้ รยี นเปน็ ขน้ึ ไป
รายบุคคล
2. การส่มุ เรยี กถาม-ตอบ เปน็ รายบคุ คล 2. ผู้เรียนสามารถตอบคาถามไดถ้ ูกต้องเกนิ ร้อยละ
80 ข้นึ ไป
3. ประเมินผลงานจากใบงาน 3. เกณฑต์ ดั สินคุณภาพใบงาน
คะแนน 10-12 = ดี
4. ประเมินผลจากการทากจิ กรรมกลุ่ม คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรบั ปรุง
4. เกณฑ์ตดั สนิ คณุ ภาพกจิ กรรมกลมุ่
คะแนน 10-12 = ดี
คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรบั ปรงุ

เอกสารอ้างอิง/เวบ็ ไซต์

1. สฏิ ฐากร ชูทรัพย์ และ เพ็ญศรี เลศิ เกียรติวิทยา. การดาเนินธุรกจิ ขนาดย่อม. กรงุ เทพมหานคร :
สานักพมิ พ์ เอมพันธ์ จากัด

2. เพญ็ ศรี เขมะสุวรรณ และ ภควดี เลศิ กาญจนวัติ. การดาเนนิ ธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม. กรงุ เทพมหานคร :
สานักพมิ พ์ ศนู ยส์ ง่ เสริมวิชาการ

3. https://www.youtube.com/watch?v=Y2DZmz7ndIE (4 ปัจจัยสาคัญในการเลอื กทาเลทดี่ ี)

กิจกรรมการเรยี นการสอน (สปั ดาห์ท่ี 13 ชว่ั โมงท่ี 13)

- ผสู้ อนช้แี จ้งเกณฑ์การวัดผลและประเมินผล และข้อตกลงในการปฏิบตั งิ านของผเู้ รยี น
- ผ้สู อนทบทวนความรูเ้ ดมิ ให้กบั ผเู้ รยี น โดยการถาม-ตอบให้ผ้เู รยี นชว่ ยกนั ตอบและแสดงความ
คดิ เห็นก่อนท่ีจะเริ่มเรยี นหวั ข้อใหม่ โดยใช้ PowerPoint ประกอบการสอน
- ผสู้ อนแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ประจาหน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 เร่ืองการเลือกทาเลที่ตัง้ สาหรบั ธรุ กิจ
ขนาดยอ่ ม
- ผสู้ อนบรรยายเน้อื หาเพื่อส่ือความหมายสาระสาคัญของเนื้อหาใหเ้ ขา้ ใจย่ิงขน้ึ ซ่ึงเนือ้ หาทศ่ี ึกษาตาม
หวั ขอ้ ดงั น้ี

1. แหลง่ เงินทุนสาหรบั ธุรกจิ ขนาดยอ่ ม
2. กระบวนการจดั หาเงินทุน
- ผสู้ อนเปิด กรณตี ัวอย่างรปู ภาพ Logo สถาบันการเงนิ ทเี่ ปน็ หน่วยงานของรัฐบาลและสถาบัน
การเงนิ เฉพาะกจิ ท่ี สนบั สนนุ ด้านการเงนิ ให้แก่ธุรกจิ ขนาดย่อม
- ผู้สอนต้ังคาถามให้ผ้เู รียนชว่ ยกนั ว่าแตล่ ะสถาบนั การเงินมีหนา้ ทอี่ ย่างไรบ้าง
- ผสู้ อนสรุปเนอื้ หา และเปดิ โอกาสให้ผเู้ รยี นไดซ้ กั ถามข้อสงสยั
- มอบหมายใบงานท่ี 5.2 ใหผ้ ู้เรียน แบง่ กลุ่มๆ ละ 4 คน ช่วยกนั ระดมสมองและร่วมกนั แสดงความ
คดิ เห็น เพ่ือตอบ คาถาม ดังนี้
1. ในการลงทุนต้องคานึงถงึ ส่ิงใดเปน็ สาคัญ
2. ก่อนการลงทุน เราควรเตรียมตัวอย่างไร
- เปิดโอกาสใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ แลกเปลยี่ นข้อมลู กันได้ หรือซกั ถามข้อสงสัยแบบเพ่ือชว่ ยเพื่อนได้
- ผู้สอนเฉลยและสรปุ ให้ข้อเสนอแนะและอธบิ ายเพ่ิมเติมอีกครงั้ และเปดิ โอกาสใหซ้ กั ถามขอ้ สงสัยอีก
คร้งั
- ผสู้ อนตรวจประเมนิ และเฉลยคาตอบ
- ให้ผเู้ รียนไปศกึ ษา ค้นควา้ ข้อมลู เพิ่มเตมิ จาก www.smebank.co.th/

เทคนิควิธีการสอนที่นามาใช้

1. วิธสี อนแบบระดมพลังสมอง
เป็นวธิ สี อนทค่ี รแู บ่งนักเรยี นเปน็ กลมุ่ ยอ่ ย ครูและนักเรยี นร่วมกันกาหนดปญั หาในการระดมพลงั สมองโดยใช้
เวลา สั้นๆ ประมาณ 10-15 นาที ให้สมาชิกในกลุ่มแสดงความคิดเห็น ซ่งึ ความคดิ เห็นไม่มีการตานิว่า “ถูก”
หรอื ”ผิด” จากนนั้ ผ้แู ทนกลุ่มนามารายงานใหก้ ลุ่มใหญ่ในชน้ั เรยี นทราบผลการระดมพลังสมอง

2. วธิ สี อนแบบแบง่ กลุ่มทางาน
เป็นวิธสี อนทผ่ี สู้ อนมอบหมายให้นกั เรียนทางานรว่ มกนั เป็นกล่มุ รว่ มมอื กันศึกษาค้นควา้ หาวิธีการแก้ปญั หา
หรือ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามความสามารถ ความถนดั หรอื ความสนใจ เปน็ การฝกึ ให้ผูเ้ รยี นทางานร่วมกันตามวิถี
แห่ง ประชาธปิ ไตย

3. วิธีสอนแบบใช้คาถาม
เป็นกระบวนการเรยี นรู้ที่มงุ่ พัฒนากระบวนการทางความคิดของผเู้ รยี น โดยผู้สอนจะปอ้ นคาถามในลักษณะ
ตา่ ง ๆ ทเ่ี ปน็ คาถามที่ดี สามารถพฒั นาความคิดผู้เรยี น ถามเพ่อื ใหผ้ ูเ้ รียนใชค้ วามคดิ เชิงเหตุผล วิเคราะห์
วจิ ารณ์ สงั เคราะห์ หรอื การประเมนิ ค่าเพ่ือจะตอบคาถามเหล่าน้นั

4. วิธีการสอนโดยใช้กรณีตัวอยา่ ง(Case)
การให้ผเู้ รียนศึกษาเร่ืองทีส่ มมติขึ้นจากความเปน็ จริง และตอบประเดน็ คาถามเกี่ยวกบั เรอื่ งนั้น แล้วนาคาตอบ
และ เหตผุ ลทม่ี าของคาตอบนั้นมาใช้เปน็ ข้อมูลในการอภปิ ราย เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้

สื่อการเรยี นการสอนและแหลง่ การเรยี นรู้

1. ส่อื สงิ่ พิมพ์ ไดแ้ ก่ หนังสือเรยี นวิชาการดาเนินธุรกจิ ขนาดยอ่ ม, ใบงาน
2. โสตทัศน์ ได้แก่ โปรเจคเตอร์
3. สือ่ เทคโนโลยขี ั้นสงู ไดแ้ ก่ PowerPoint
4. อนิ เทอร์เนต็ ได้แก่ https://www.facebook.com/groups

การวดั ประเมนิ ผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1.ประเมนิ จากสภาพจริง โดยการสังเกต 1. ผเู้ รียนมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมการเรียนรอ้ ยละ 70
พฤติกรรมการมสี ่วนรว่ มของผเู้ รยี นเป็น ขึ้นไป
รายบคุ คล
2. การสุ่มเรยี กถาม-ตอบ เป็นรายบคุ คล 2. ผู้เรียนสามารถตอบคาถามไดถ้ ูกต้องเกนิ ร้อยละ
80 ข้ึนไป
3. ประเมินผลงานจากใบงาน 3. เกณฑต์ ัดสนิ คณุ ภาพใบงาน
คะแนน 10-12 = ดี
คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรับปรุง

4. ประเมนิ ผลจากการทากิจกรรมกลุ่ม 4. เกณฑต์ ัดสินคณุ ภาพกิจกรรมกลมุ่
คะแนน 10-12 = ดี
คะแนน 7-9 = พอใช้
คะแนน 4-6 = ปรบั ปรุง

เอกสารอ้างองิ /เว็บไซต์

1. สิฏฐากร ชทู รัพย์ และ เพ็ญศรี เลศิ เกยี รติวทิ ยา. การดาเนินธุรกิจขนาดย่อม. กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพ์
เอมพนั ธ์ จากัด
2. เพ็ญศรี เขมะสวุ รรณ และ ภควดี เลิศกาญจนวัติ. การดาเนินธุรกจิ ขนาดย่อม. กรุงเทพมหานคร : สานกั
พมิ พ์ศูนยส์ ง่ เสริมวิชาการ

ใบงานที่ 5.1 ทาเลท่ีตั้งสาหรบั ธุรกจิ ขนาดย่อม
ชอ่ื ......................................................สกลุ ..................................................หอ้ ง ...............เลขที่.......
คาส่ัง ให้นักศกึ ษาวเิ คราะห์ทาเลท่ีตั้งจากรูปภาพท่ีกาหนดให้ ดงั น้ี

รูปภาพท่ี 1 รูปภาพท่ี 1
ทาเลที่ตง้ั ของ “ตลาดโบ๊เบ๊” ทาเลท่ตี ง้ั ของ “โรงหนงั เมเจอร์ สาขารัชโยธิน”

คาถามสาหรบั ตอบรูปภาพที่ 1 และ 2
1) รปู แบบทาเลทีต่ ั้งของธุรกจิ ขนาดยอ่ มเปน็ อย่างไร
2) ปัจจัยในการเลือกทาเลท่ตี ้ังธรุ กจิ ขนาดยอ่ มเปน็ อย่างไร
3) หลักในการเลือกทาเลท่ตี ้งั ธรุ กิจขนาดย่อมมีอะไรบา้ ง จงอธิบาย

ใบงานที่ 5.2 แหล่งเงินทนุ สาหรับธรุ กจิ ขนาดยอ่ ม
ช่ือ ......................................................สกลุ ..................................................หอ้ ง ...............เลขท.่ี ......

คาสง่ั ใหแ้ บง่ กลุ่มๆ ละ 4 คน ชว่ ยกนั ระดมสมองและร่วมกันแสดงความคิดเห็น เพ่ือตอบคาถาม ดังน้ี

1. ในการลงทนุ ต้องคานงึ ถงึ ส่งิ ใดเปน็ สาคญั

........................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................

2. กอ่ นการลงทุน เราควรเตรียมตัวอย่างไร

........................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................

ตง้ั แต่ขอ้ 3-7 ให้เลือกระดับความเสีย่ งในการลงทุน

1 = ความเสีย่ งนอ้ ย 2=ความเส่ยี งปานกลาง 3=ความเสย่ี งมาก

3. บญั ชีเงนิ ฝากออมทรพั ย์ เปน็ การฝากเงินไว้กบั ธนาคารโดยผฝู้ ากจะไดร้ ับดอกเบ้ียเปน็ การตอบแทน ทั้งนี้

อตั ราดอกเบ้ียอาจไม่สงู มากนักเมือ่ เทียบกบั ประเภทอนื่ ๆ ข้อดคี ือไมจ่ าเปน็ ต้องใช้เงินมากในการเปดิ บัญชีและ

สามารถถอนเงนิ คนื เมือ่ ใดก็ได้ตามต้องการ

ความเสย่ี งทางการเงิน 123

ความเสย่ี งจากการตลาด 123

ความเส่ยี งดา้ นสภาพคลอ่ ง 1 2 3

ความเสย่ี งจากเงนิ เฟ้อ 12 3

ผลตอบแทน 123

4. บัญชเี งินฝากประจา ผู้ฝากเงนิ จะต้องฝากเงินไวใ้ นบัญชี โดยมเี งินข้นั ต่าในบญั ชี (500-1,000 บาทแลว้ แต่

กรณ)ี เปน็ เวลานานตามระยะเวลาทก่ี าหนดไวจ้ งึ ไดร้ ับดอกเบ้ยี ท้งั นี้หากต้องการถอนเงนิ ออกมากอ่ น

ระยะเวลาท่ีกาหนดจะไม่ได้รับดอกเบ้ียตามที่กาหนด

ความเสย่ี งทางการเงนิ 123

ความเสีย่ งจากการตลาด 123

ความเสี่ยงด้านสภาพคลอ่ ง 1 2 3

ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ 123

ผลตอบแทน 123

5. หนุ้ หุน้ แสดงการมีส่วนร่วมในการเปน็ เจ้าของกิจการร่วมกนั ดังนัน้ เม่อื ซื้อหุ้น ส่งิ ที่เราตอ้ งยอมรบั นน่ั คือ

ความเสย่ี งทเี่ พิม่ ข้ึน เมือ่ เทยี บกบั การลงทุนประเภทอนื่ ๆ ผลตอบแทนท่ไี ดร้ ับน้นั กจ็ ะไม่แน่นอนขน้ึ อย่กู บั สว่ น

ตา่ งราคาห้นุ ที่เราซื้อกับเงินปันผลทจ่ี ะได้รับ

ความเสยี่ งทางการเงิน 123

ความเส่ียงจากการตลาด 123

ความเสี่ยงดา้ นสภาพคลอ่ ง 1 2 3

ความเสยี่ งจากเงินเฟ้อ 123

ผลตอบแทน 123

6. พนั ธบัตรรัฐบาล ในประเทศไทย กระทรวงการคลงั โดยธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผุ้ออกพนั ธบัตรขาย

ใหป้ ระชาชน ซง่ึ พันธบตั รที่ออกโดยรฐั บาลนั้นประชาชนสามารถขายก่อนครบกาหนดได้ โดยผซู้ ื้อจะหัก

ส่วนลดไป

ความเสี่ยงทางการเงนิ 123

ความเสี่ยงจากการตลาด 123

ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง 1 2 3

ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ 123

ผลตอบแทน 123

7. อสังหาริมทรพั ย์ โดยปกติราคาบา้ นและท่ดี นิ จะสงู ขึ้นทุกปี จึงมกี ารซื้อเพ่ือที่จะเก็งกาไรไว้ ทั้งน้ีกาไรขึ้นอยู่

กับสภาพเศรษฐกจิ ดว้ ย เชน่ บางคร้งั ราคาทด่ี นิ จะเพิ่มขนึ้ น้อยกวา่ อัตราเงินเฟ้อ การท่ีจะขายอสังหาริมทรัพย์

ไดน้ นั้ จะต้องหาผ้ซู ้ือทม่ี ีความตอ้ งการตรงกบั ส่งิ ท่เี รามี ซ่งึ ปัจจบุ ันจะมีนายหนา้ คอยใหบ้ ริการจัดหาผซู้ ื้อผู้ขาย

ความเสี่ยงทางการเงนิ 123

ความเสีย่ งจากการตลาด 123

ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง 1 2 3

ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ 123

ผลตอบแทน 123

หน่วยท่ี 6 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 สอนสัปดาห์ที่ 14-16
ระดบั ม.3 จานวน 3 ช่ัวโมง
ช่ือวิชา งานธุรกิจขนาดกลางและย่อม รหัสวิชา ง23101
ชือ่ หน่วย การตลาดสาหรับธรุ กิจขนาดย่อม
ชอ่ื ผสู้ อน นางศิรินยา นอ้ ยพลทนั

สาระสาคญั

การดาเนนิ ธรุ กจิ ในปัจจุบนั หากขาดความรูแ้ ละความเข้าใจดา้ นการตลาดอาจทาให้กิจการเกิดความ
ผิดพลาดได้ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดย่อม ซง่ึ มกี ารเปิดตวั ธรุ กิจใหม่เพิม่ มากขน้ึ ดงั นนั้ ผู้ประกอบการจาเป็น
จะต้องมคี วามรู้เร่ือง “การตลาดสาหรับธุรกิจขนาดย่อม” เพอื่ ใช้ในการวางแผนการดาเนินงาน และพัฒนา
ปรับปรงุ ธุรกิจให้สามารถสร้างความสาเร็จได้ โดยการเขยี นแผนการตลาดสาหรับการดาเนินธรุ กจิ ข้นึ ใช้เป็น
แนวทางในการบรหิ ารธรุ กิจขนาดยอ่ มต่อไป

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

จุดประสงคท์ ่ัวไป
1. รู้และเข้าใจเกี่ยวกบั สว่ นประสมทางการตลาดสาหรับธรุ กิจขนาดย่อม
2. รูแ้ ละเข้าใจเกย่ี วกับการแข่งขันในตลาดธุรกิจขนาดยอ่ ม
3. รแู้ ละเขา้ ใจเก่ยี วกับแผนการตลาดสาหรบั ธรุ กิจขนาดยอ่ ม

จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. กาหนดกลยทุ ธผ์ ลติ ภณั ฑส์ าหรับธรุ กิจขนาดย่อมได้
2. กาหนดกลยุทธร์ าคาสาหรับธุรกจิ ขนาดยอ่ มได้
3. กาหนดกลยทุ ธก์ ารจดั จาหนา่ ยสาหรับธรุ กิจขนาดยอ่ มได้
4. กาหนดกลยทุ ธ์การส่งเสรมิ การตลาดสาหรบั ธุรกจิ ขนาดย่อมได้
5. วิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มการแขง่ ขนั โดยใช้หลกั Five Force Model ได้
6. กาหนดแนวทางการปรับปรุงเพือ่ เพิม่ ขีดความสามารถการแขง่ ขนั ได้
7. บอกองคป์ ระกอบของแผนการตลาดสาหรับธุรกิจขนาดย่อมได้
8. เขยี นแผนการตลาดสาหรบั ธุรกิจขนาดย่อมได้

9. ผเู้ รียนมคี วามพยายามและความตง้ั ใจในการปฏบิ ตั ิงานจนสาเร็จ

สมรรถนะรายหน่วย

กาหนดกลยทุ ธก์ ารตลาดและวเิ คราะหค์ ู่แข่งขันเพ่ือวางแผนการตลาดสาหรบั ธรุ กจิ ขนาดย่อม

สาระการเรียนรู้

6. การตลาดสาหรับธรุ กิจขนาดย่อม
6.2 ส่วนประสมทางการตลาด
6.2.1 สนิ ค้าหรอื ผลิตภัณฑ์ (Product)
6.2.2 ราคา (Price)
6.2.3 การจดั จาหน่าย (Place)
6.2.4 การสง่ เสรมิ การตลาด (Promotion)
6.3 การแข่งขันในตลาดธุรกิจขนาดยอ่ ม
6.3.1 การวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มการแข่งขนั โดยใช้หลกั Five Force Model
6.3.2 แนวทางการปรับปรุงเพอ่ื เพมิ่ ขีดความสามารถการแข่งขัน
6.3.3 แนวทางการตลาดท่สี ามารถนามาปรับใช้
6.4 แผนการตลาดสาหรบั ธรุ กิจขนาดย่อม
6.4.1 องค์ประกอบของแผนการตลาด
6.4.2 การเขยี นแผนการตลาด

ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงและคุณธรรมท่มี ุง่ เนน้

20. พอประมาณ ผ้เู รียนสามารถคดิ วิเคราะห์ได้เหมาะกับวัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้
21. มีเหตุผล ผ้เู รียนทางานตามท่ไี ดร้ ับมอบหมายโดยคานึงถึงเหตแุ ละปจั จยั แวดล้อมทงั้ หมด เพอ่ื ให้
การ ดาเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้อง
22. ขยนั อดทน ผู้เรยี นมีความต้ังใจในการทางาน ไม่ละเลย ไม่ทอดท้งิ งานท่ีไดร้ บั มอบหมาย จนทา
ใหป้ ระสบ ผลสาเร็จในที่สดุ
23. รอบรู้ ผ้เู รยี นมคี วามรอบรู้เกย่ี วกับวิชาการต่างๆ ท่เี กี่ยวข้องอย่างรอบดา้ น
24. รอบคอบ ผู้เรยี นมคี วามรอบคอบที่จะนาความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการศึกษาค้นควา้ มาประยกุ ต์ใช้ในการ
เรียนไดอ้ ย่าง ถูกต้องตามเกณฑท์ ่กี าหนด

นาปัญหาและอุปสรรค์ในการเรยี นการสอนมาปรบั ปรุงการเรียนการสอน

ผู้เรยี น (บางส่วน) ยังไม่ค่อยมีส่วนรว่ มการเรยี น เช่น การแสดงความคดิ เห็น การตอบคาถาม ผ้สู อนต้อง
เสริมแรงทางบวกและกระตุ้นให้ผ้เู รียนกลา้ แสดงความคดิ เหน็ มากข้ึน


Click to View FlipBook Version