คำนำ
แผนการจดั การเรียนรูร้ ายวิชาภาษาไทย ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๖ จดั ทาข้นึ เพื่อใชเ้ ป็นแนวทางในการ
จดั การเรียนการสอนท่เี น้นผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๔๑
แผนการจดการเรียนรู้ประกอบด้วยเนื้อหาสาระดังต่อไปน้ี แผนการจัดการเรียนรู้รายปีซ่ึงประกอบด้วย
มาตรฐานและตวั ช้ีวัดกลมุ่ สาระการเรียนรู้วชิ าภาษาไทยแผนการจัดการเรียนรู้รายคาบท้ังหมด ๓ แผนการจัด การ
เรียนรู้ประกอบด้วยกทลีตานี นิทานแสนสนุก และสมุดมิตรภาพซ่ึงแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ได้ระบุมาตรฐาน
ตัวชี้วดั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ที่หลากหลายอัน
ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบผังมโนทัศน์ รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบใช้ชุดการสอน และรูปแบบการ
จัดการรู้แบบแฮร์บาร์ดซ่ึงแต่ละรูปแบบมีวิธีการจดการเรียนการสอนที่แตกต่างกัน แต่ทั้งหมดนามาซ่ึงการบรรลุ
จุดประสงค์การเรียนรู้ นอกจากนี้ยังมีใบงานและเกณฑ์การประเมนผล เพ่ือใช้ในการประเมนผลการเรียนรู้ของ
นักเรียนแต่ละคนว่าหลังจากเสร็จสิ้นการเรียน นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ เน้ือหาสาระมากน้อยเพียงใด ผ่าน
เกณฑก์ ารประเมินหรอื ไม่
นายศศิพงศ์ ทองอนิ ทร์
ผูจ้ ัดทา
สำรบญั หนา้
เรอ่ื ง ๑
๘
แผนการจัดการเรยี นรู้รายปี ๑
ตารางโครงสร้างรายวชิ า ๒๕
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑ ชมรมคนรักวรรณคดี ๒๖
๒๗
ใบงานที่ ๑ ๒๘
ใบงานท่ี ๒ ๓๖
ใบงานที่ ๓ ๔๕
ใบงานท่ี ๔ ๔๗
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒ นิทานแสนสนกุ ๔๘
ใบงานท่ี ๑ ๕๖
ใบงานที่ ๒ ๖๔
ใบงานที่ ๓ ๖๕
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๓ สมดุ มติ รภาพ ๖๖
ใบงานท่ี ๑
ใบงานที่ ๒
ใบงานที่ ๓
๑
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้
รำยวิชำพื้นฐำน รหัสวิชำ ท ๑๔๑๐๑ รำยวิชำภำษำไทย กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย
ช้ันประถมศึกษำปีท่ี ๖ ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๔ เวลำ ๑๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๔ หน่วยกิต
ผู้สอน นำยศศิพงศ์ ทองอินทร์
๑. มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วัด
มำตรฐำนกำรเรียนรู้
มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการ
ดาเนิน ชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน
มำตรฐำน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ใน
รูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ
มำตรฐำน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดู อย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และ
ความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์
มำตรฐำน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง
ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ
มำตรฐำน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยางเห็นคุณค่า
และนามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
ตัวช้ีวัด
มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้ กระบวนการอ่านสร้างความรู้ และความคิดเพื่อนาไปตัดสินใจแก้ปัญหาในการ
ดาเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน
ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง
ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความท่ีเป็นโวหาร
ท ๑.๑ ป.๖/๓ อ่านเรื่องส้ัน ๆ อย่างหลากหลายโดยจับเวลาแล้วถามเกี่ยวกับเร่ืองท่ีอ่าน
ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเร่ืองท่ีอ่าน
ท ๑.๑ ป.๖/๕ อธิบายการนาความรู้และความคิด จากเร่ืองท่ีอ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหาในการดาเนินชีวิต
๒
ท ๑.๑ ป.๖/๖ อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คาส่ัง ข้อแนะนา และปฏิบัติตาม
ท ๑.๑ ป.๖/๗ อธิบายความหมายของข้อมูล จากการอ่านแผนผัง แผนท่ี แผนภูมิ และกราฟ
ท ๑.๑ ป.๖/๘ อ่านหนังสือตามความสนใจและอธิบายคุณค่าท่ี
ได้รับ ท ๑.๑ ป.๖/๙ มีมารยาทในการอ่าน
มำตรฐำน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราว
ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมี
ประสิทธิภาพ ท ๒.๑ ป.๖/๑ คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัด
ท ๒.๑ ป.๖/๒ เขียนส่ือสารโดยใช้คาได้ถูกต้องชัดเจน และเหมาะสม
ท ๒.๑ ป.๖/๓ เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางาน
เขียน ท ๒.๑ ป.๖/๔ เขียนเรียงความ
ท ๒.๑ ป.๖/๕ เขียนย่อความจากเรื่องท่ีอ่าน
ท ๒.๑ ป.๖/๖ เขียนจดหมายส่วนตัว
ท ๒.๑ ป.๖/๗ กรอกแบบรายการต่าง ๆ
ท ๒.๑ ป.๖/๘ เขียนเรื่องตามจินตนาการและสร้างสรรค์
ท ๒.๑ ป.๖/๙ มีมารยาทในการเขียน
มำตรฐำน ท ๓.๑ สามารถเลื อกฟังและดูอย่างมี วิ จารณญาณ และพู ดแสดงความรู้ความคิด และ
ความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์
ท ๓.๑ ป.๖/๑ พูดแสดงความรู้ ความเข้าใจจุดประสงค์ของเรื่องที่ฟังและดู
ท ๓.๑ ป.๖/๒ ตั้งคาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลจากเรื่องที่ฟังและดู
ท ๓.๑ ป.๖/๓ วิเคราะห์ความน่าเช่ือถือจากการฟังและดูส่ือโฆษณาอย่างมีเหตุผล
ท ๓.๑ ป.๖/๔ พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และการสนทนา
ท ๓.๑ ป.๖/๕ พูดโน้มน้าวอย่างมีเหตุผล และน่าเชื่อถือ
ท ๓.๑ ป.๖/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด
มำตรฐำน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง
ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ
ท ๔.๑ ป.๖/๑ วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค
ท ๔.๑ ป.๖/๒ ใช้คาได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล
ท ๔.๑ ป.๖/๓ รวบรวมและบอกความหมายของคาภาษาต่างประเทศที่ใช้ใน
ภาษาไทย ท ๔.๑ ป.๖/๔ ระบุลักษณะของประโยค
ท ๔.๑ ป.๖/๕ แต่งบทร้อยกรอง
๓
ท ๔.๑ ป.๖/๖ วิเคราะห์และเปรียบเทียบสานวนท่ีเป็นคาพังเพยและสุภาษิต
มำตรฐำน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดเห็นวจารณวรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ
นามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
ท ๕.๑ ป.๖/๑ แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมท่ีอ่าน
ท ๕.๑ ป.๖/๒ เล่านิทานพื้นบ้านท้องถ่ินตนเองและนิทานพื้นบ้านของท้องถิ่นอ่ืน
ท ๕.๑ ป.๖/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านและนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิต
จริง ท ๕.๑ ป.๖/๔ ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ
๒. จุดประสงค์กำรเรียนรู้
๒.๑ ควำมรู้ (K)
๑. นักเรียนอธิบายความหมายของคา ประโยค และข้อความท่ีเป็นโวหารได้ (K)
๒. นักเรียนตั้งคาถามจากเรื่องส้ัน ๆ ที่อ่านได้ (K)
๓. นักเรียนจาแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเร่ืองท่ีอ่านได้ (K)
๔. นักเรียนอธิบายข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องท่ีอ่านได้ (K)
๕. นักเรียนนาเสนอการนาความรู้และความคดจากเรื่องท่ีอ่านไปใช้แก้ปัญหาในการดาเนินชีวิตประจาวัน
ได้อย่างหลากหลาย (K)
๖. นักเรียนอธิบายสาระความรู้ท่ีได้จากงานเขียนเชิงอธิบาย คาส่ัง และข้อแนะนาได้ (K)
๗. นักเรียนจาแนกงานเขียนเชิงอธิบาย คาสั่ง และข้อแนะนาได้อย่างถูกต้อง (K)
๘. นักเรียนอธิบายความหมายของข้อมูลจากการอ่านแผนผัง แผนที่ แผนภูมิและกราฟได้อย่างถูกต้อง (K)
๙. นักเรียนอธิบายคุณค่าท่ีได้รับจากการอ่านหนังสือตามความสนใจได้อย่างหลากหลาย (K)
๑๐. นักเรียนวิเคราะห์ความน่าเช่ือถือจากการฟังและดูส่ือโฆษณาได้อย่างมีเหตุผล (K)
๑๑. นักเรียนวิเคราะห์และจาแนกชนิดและหน้าที่ของคาในประโยคได้อย่างถกต้อง (K)
๑๒. นักเรียนจาแนกคาตามระดับภาษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม (K)
๑๓. นักเรียนบอกความหมายของคาท่ีมาจากภาษาต่างประเทศได้อย่างถูกต้อง (K)
๑๔. นักเรียนระบุลักษณะของประโยคตามประเภทได้อย่างถูกต้อง (K)
๑๕. นักเรียนเปรียบเทียบสานวนที่เป็นคาพังเพยและสุภาษิตได้อย่างถูกต้อง (K)
๑๖. นักเรียนแสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่านได้อย่างเหมาะสม (K)
๑๗. นักเรียนอธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมจากเร่ืองท่ีอ่านได้ (K)
๒.๒ ทักษะ (P)
๑. นักเรียนอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้อย่างถูกต้อง (P)
๒. นักเรียนอ่านเร่ืองส้ัน ๆ ตามเวลาท่ีกาหนดได้ (P)
๔
๓. นักเรียนอ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คาส่ัง และข้อแนะนาได้ (P)
๔. นักเรียนปฏิบัติตามคาอธิบาย คาส่ัง และข้อแนะนาได้อย่างถูกต้อง (P)
๕. นักเรียนอ่านหนังสือตามความสนใจได้ (P)
๖. นักเรียนคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดได้อย่างถูกต้อง (P)
๗. นักเรียนคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัดได้อย่างถูกต้อง (P)
๘. นักเรียนเขียนสื่อสารโดยใช้คาได้อย่างถูกต้อง ความหมายชัดเจน และมีความเหมาะสมกับกาลเทศะ
(P)
๙. นักเรียนเขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดได้อย่างถูกต้อง (P)
๑๐. นักเรียนเขียนเรียงความได้ถูกต้องตามรูปแบบการเขียนเรียงความ (P)
๑๑. นักเรียนเขียนย่อความจากวรรณคดีและวรรณกรรมในหนังสือเรียนหรือส่ือต่าง ๆ ได้ (P)
๑๒. นักเรียนเขียนจดหมายส่วนตัวได้ถูกต้องตามหลักการเขียนประเภทนั้น ๆ (P)
๑๓. นักเรียนกรอกแบบรายการต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง (P)
๑๔. นักเรียนเขียนเรื่องตามจินตนาการได้อย่างสร้างสรรค์ (P)
๑๕. นักเรียนพูดแสดงความรู้ ความเข้าใจจุดประสงค์ของเร่ืองที่ฟังและดูได้อย่างชัดเจนและเหมาะสม (P)
๑๖. นักเรียนตั้งคาถามจากเรื่องที่ฟังและดูได้อย่างเหมาะสม (P)
๑๗. นักเรียนพูดรายงานประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง ดู และการสนทนาได้อย่างเหมาะสม (P)
๑๘. นักเรียนพูดโน้มน้าวใจอย่างมีเหตุผลและน่าเช่ือถือ (P)
๑๙. นักเรียนใช้คาได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล (P)
๒๐. นักเรียนรวบรวมคาที่มาจากภาษาต่างประเทศได้อย่างหลากหลาย (P)
๒๑. นักเรียนแต่งคาประพันธ์ร้อยกรองประเภทกลอนสุภาพได้ถูกต้องตามฉันท์ลักษณ์ (P)
๒๒. นักเรียนเล่านิทานพื้นบ้านของท้องถ่ินของตนเองได้ (P)
๒๓. นักเรียนเล่านิทานพื้นบ้านของท้องถิ่นอื่นได้อย่างหลากหลาย (P)
๒๔. นั กเรี ยนนาเสนอการนาคุ ณค่ าของวรรณคดี และวรรณกรรมจากเรื่องที่อ่านไปประยุ กต์ ใช้ ใน
ชีวิตประจาวัน (P)
๒๕. นักเรียนท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจได้ (P)
๒.๓ ทัศนคติ (A)
๑. นักเรียนตระหนักถึงมารยาทในการอ่าน (A)
๒. นักเรียนตระหนักถึงมารยาทในการเขียน (A)
๓. นักเรียนตระหนักถึงมารยาทในการฟัง การดูและการพูด (A)
๕
๓. คำอธิบำยรำยวิชำ
การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง การศึกษาความหมายของคา ประโยคและข้อความ ท่ี
เป็นโวหารที่ได้จากบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง การอ่านจั บใจความจากสื่อต่าง ๆ ร่วมถึงการแยกข้อเท็จจริง
และข้ อคิ ดเห็ นจากสื่อท่ีอ่ าน การนาความรู้ และความคิ ดจากเรื่องที่ อ่ านไปใช้ แก่ปั ญหาในการดาเนินชีวิต
และการอ่ านงานเขี ยนเชิ งอธิ บาย คาส่ั ง ข้อแนะนา การอ่ านข้ อมู ลจากแผนผั ง แผนที่ แผนภู มิ หรือกราฟ
หลักการอ่านหนังสือที่นักเรียนสนใจและเหมาะสมกับวัย รวมถึงหนังสือท่ีครูและนักเรียนกาหนดร่วมกัน การเขียน
ประเภทตาง ๆ ได้แก่ การคัดลายมือ การเขียนส่ือสาร การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง แผนภาพความคิด เรียงความ
ย่อความ จดหมาย และการกรอกเอกสารแบบรายการ การวิ เคราะห์ ความน่ าเชื่ อถื อของเรื่องที่ฟังและดู
ความรู้เกี่ยวกับชนิดและหน้าที่ ของคา คาราชาศัพท์ คาที่มาจากภาษาต่างประเทศ ระดับภาษา ส่วนประกอบ
ของประโยค กลอนสภาพ สานวนไทยที่เป็นคาพังเพยและสุภาษิต ความรู้เรื่องวรรณคดีและวรรณกรรม คุณค่า
จากวรรณกรรมท่ีสามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน
โดยใช้กระบวนการทางภาษา ฝึกทักษะการคิด ทักษะการวิเคราะห์สาระความรู้ รวมถึงฝึกทักษะในสาระ
การเรียนรู้ภาษไทย ด้านการอ่าน การเขียน ความสามารถในการฟัง ดู พูด การวิเคราะห์และแยกแยะความรู้
เกี่ยวกับสาระและคุณค่าในบทเรียนการฝึกปฏิบัติทางภาษาจนเกิดทักษะที่ชานาญ สืบค้นข้อมูลความรู้ เก็บ
รวบรวมความรู้และฝึกจาแนกแยกแยะประเภทความรู้ในสาระต่างๆ ทักษะการบันทึกและสรุปข้อมูลต่าง ๆ จน
สามารถนาความรู้ในรายวิชามาอภิปรายได้อย่างมีหลักการ
เพื่อให้ ผู้เรียนตระหนักในการใช้ ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะต่างๆที่เกี่ยวของกับภาษาไทยได้อย่าง
ถูกต้อง เห็นคุณค่าและตระหนักถึงความสาคัญของการนาความรู้ ไปประยุกต์ ใช้ ในชีวิตประจาวัน ในการ
แก้ปัญหาและสร้างประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเอง มีมารยาทในการอ่าน เขียน ฟัง ดูและพูด ก่อให้เกิดนิสัย รัก
การอ่าน มีความต้องการในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ และมีลักษณะที่พึ่งประสงค์ตามมาตรฐาน การ
เรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
รหัสตัวช้ีวัด
ท ๑.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ป.๖/๕ ป.๖/๖ ป.๖/๗ ป.๖/๘ ป.๖/๙
ท ๒.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ป.๖/๕ ป.๖/๖ ป.๖/๗ ป.๖/๘ ป.๖/๙
ท ๓.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ป.๖/๕ ป.๖/๖
ท ๔.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ป.๖/๕ ป.๖/๖
ท ๕.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ รวม ๓๔ ตวั ชวัด
๖
โครงสร้ำงรำยวิชำ
รำยวิชำพ้ืนฐำน รหัสวชิ ำ ท๑๖๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรียนรภำษำไทย
ประถมศกษำปที ี่ ๖ ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๔ จำนวน ๑๖๐ช่ัวโมง
หน่วยท่ี ช่ือหน่วยกำรเรียนรู้ เวลำ
๑ ชมรมคนรักวรรณคดี (ช่ัวโมง)
๑.๑ วรรณคดีและวรรณกรรมไทย
๖
๒
๑.๒ วรรณคดีที่ได้รับการยกย่อง ๒
๑.๓ การนาคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน ๒
๒ จำกผำแต้มสู่อียิปต์ ๘
๒.๑ พยางค์และคา ๒
๒.๒ คา ประโยค และข้อความที่เป็นโวหาร ๓
๒.๒ การวิเคราะห์คุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม ๓
๓ นักสืบทองอิน ๗
๓
๓.๑ วรรณคดีและวรรณกรรมไทย
- นาคพระโขนง ๒
๒
๓.๒ การวิเคราะห์ข้อคิดที่ได้จากการอ่าน
๓.๓ การวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น ๙
๒
- ข้อเท็จจริง
- ข้อคิดเห็น
๔ ควำย ข้ำว และชำวนำ
๔.๑ อักษรสามหมู่
๔.๒ การผันวรรณยุกต์ ๑
๔.๓ คาเป็น คาตาย ๒
๔.๔ เร่ืองสั้นต่าง ๆ ๒
๔.๒ การอ่านหนังสือตามความสนใจ ๒
๕ กำรเดินทำงของพลำยน้อย ๙
๕.๑ บทร้อยกรองท่ีมีคุณค่า ๒
๗ ชื่อหน่วยกำรเรียนรู้ เวลำ
(ช่ัวโมง)
หน่วยที่
๒
๕.๒ การอ่านบทร้อยกรอง ๓
๕.๓ การท่องจาบทอาขยาน ๒
๕.๔ การวิเคราะห์คุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม ๔
๖ อ่ำนป้ำยได้สำระ
๒
๖.๑ ระดับภาษา ๒
๖.๒ หลักการใช้คาอย่างเหมาะสม ชัดเจนและถูกต้อง ๔
๗ อย่ำชิงสุกก่อนห่ำมไมงำมดี
๒
๗.๑ สานวนไทยที่เป็นคาพังเพยและสุภาษิต ๒
๗.๒ การประยุกต์ความรู้และความคิดจากเรื่องที่อ่านเพอนาไปใช้ในการแก้ปัญหา
๘
ในการดาเนินชีวิต
๘ กทลีตำน ๒
๒
๘.๑ ชนิดของคา
๘.๒ คานาม ๒
๒
๘.๓ คาสรรพยาม ๖
๘.๔ คากริยา
๙ ศึกสำยเลือด ๓
๒
๙.๑ วรรณคดีและวรรณกรรมไทย
๙.๒ การวิเคราะห์คุณค่าวรรณคดีไทย ๑
๘
๙.๓ การประยุกต์วรรณคดีกับชีวิตประจาวัน
๑๐ ละครย้อนคิด ๒
๒
๑๐.๑ ระดับภาษา
๑๐.๒ ชนิดและหน้าที่ของคา ๒
๒
๑๐.๓ คาวิเศษณ์ ๖
๑๐.๔ คาบุพบท
๑๑ สมุดมิตรภำพ ๒
๑๑.๑ การเขียนส่ือสาร
๘ ชื่อหน่วยกำรเรียนรู้ เวลำ
(ช่ัวโมง)
หน่วยที่
๒
๑๑.๒ การเขียนจดหมายส่วนตัวในชีวิตประจาวัน ๒
๑๑.๓ การกรอกแบบรายการ
๑๐
สอบปลายภาค ภาคเรียนที่ ๑
๑๒ กลอนกำนต์จำกบ้ำนไทย ๒
๑๒.๑ หลักการแต่งบทร้อยกรอง ๒
๒
๑๒.๒ ฉันทลักษณ์ร้อยกรองไทย
๑๒.๓ กลอนสุภาพ ๒
๒
๑๒.๔ คาเช่ือม ๖
๑๒.๕ คาอุทาน
๑๓ กว่ำแผ่นดินจะกลบหน้ำ ๓
๓
๑๓.๑ สานวนไทยท่ีเป็นคาพังเพยและสุภาษิต ๙
๑๓.๒ การวิเคราะห์สานวนท่ีเป็นคาพังเพย สุภาษิต
๑๔ ไม้งำมในสวนแก้ว ๓
๑๔.๑ การวิเคราะห์ส่วนประกอบของประโยค ๒
๒
๑๔.๒ ประโยคความรวม
๑๔.๓ ประโยคความซ้อน ๒
๑๑
๑๔.๔ คาประพันธ์ประเภทร้อยแก้วและร้อยกรอง
๑๕ ครื้นเครงเพลงพื้นบ้ำน ๓
๑๕.๑ การอ่านบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง ๒
๒
๑๕.๒ เพลงพื้นบ้าน ๒
๒
๑๕.๓ หลักการแต่งเพลงพ้ืนบ้าน ๙
๑๕.๔ การอ่านงานเขียนเชิงอธิบาย ๔
๑๕.๕ การอ่านงานคาส่ัง และข้อแนะนาต่าง ๆ
๑๖ ช้อนกลำงสร้ำงสุขภำพ
๑๖.๑ การพูดโน้มน้าวใจ
๙ ช่ือหน่วยกำรเรียนรู้ เวลำ
(ช่ัวโมง)
หน่วยท่ี
๒
๑๖.๒ การพูดปฏิเสธหรือโต้แย้ง ๒
๑๖.๓ การย่อความ สรุปความ ๑
๑๖.๔ มารยาทในการฟัง ดู และพูด ๗
๑๗ สวยร้ำยสำยลับ
๓
๑๗.๑ การเขียนคัดลายมือตามรูปแบบการเขียนของไทย ๓
๑๗.๒ การเขียนเรื่องตามจินตนาการ
๑
๑๗.๓ มารยาทในการเขียน ๕
๑๘ ส่ีศิษย์พระดำบส ๓
๑๘.๑ การเขียนย่อความจากวรรณคดีและวรรณกรรมในหนังสือเรียนหรือส่ือต่าง ๆ ๒
๑๘.๒ การพูดนาเสนอรายงานการศึกษาค้นคว้า ๑๐
๑๙ หนึ่งในประชำคม
๓
๑๙.๑ การสืบค้นข้อมูลจากส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ๓
๑๙.๒ การเขียนจดหมายกิจธุระ
๔
๑๙.๓ คาท่ีมาจากภาษาต่างประเทศ ๘
๒๐ เสียแล้วไม่กลับคืน
๓
๒๐.๑ การพูดแสดงความรู้ ความเข้าใจจากเร่ืองท่ีฟังและดู ๒
๒๐.๒ การวิเคราะห์ความน่าเช่ือถือของเร่ืองที่ฟังและดูจากส่ือโฆษณา
๓
๒๐.๓ การอ่านแผนผัง แผนท่ี แผนภูมิและกราฟ ๗
๒๑ นิทำนแสนสนุก
๒
๒๑.๑ นิทานพื้นบ้าน ๓
๒๑.๒ การเล่านิทานพื้นบ้าน
๒
๒๑.๓ การแต่งนิทาน ๓
๒๒ พำงเพี้ยงพสุธำ
๓
๒๒.๑ คาราชาศัพท์
สอบปลายภาค ภาคเรียนท่ี ๒ ๑๖๐
รวม
๑๐
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้รำยหน่วย
๑๑
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๑
๑๒
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑ รำยวิชำภำษำไทย
ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๔
สำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทย
ชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๖ เวลำ ๘ ชั่วโมง
หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๑ เร่ือง กทลีตำน
๑. มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วัด
มำตรฐำน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง
ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ
ท ๔.๑ ป๖/๑ วิเคราะห์ชนิดและหน้าท่ีของคาในประโยค
๒. จุดประสงค์กำรเรียนรู้
๒.๑ นักเรียนวิเคราะห์และจาแนกชนิดและหน้าที่ของคาในประโยคได้อย่างถูกต้อง (K)
๓. สำระสำคัญ
ศึกษาชนิดและหน้าที่ ของคาในประโยค โดยประกอบด้วย คานาม คือคาที่ ใช้เรียกคน สัตว์ สิ่งของ
สถานที่ คาสรรพนาม คือคาที่ ใช้เรียกแทนคานามหรือแทนคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ และคากริยา คือคา บอก
อาการ ซ่ึงเป็นกริยาในภาคแสดงของประโยคที่ ใช้ ในการติดต่อสื่อสาร และให้ นักเรียนได้วิเคราะห์ ชนิดของคา
ต่าง ๆ ในประโยค
๔. สำระกำรเรียนรู้
๔.๑ ด้ำนควำมรู้ (K)
๑. ชนิดและหน้าท่ีของคา ได้แก่
- คานาม
- คาสรรพนาม
- คากริยา
๔.๒ ด้ำนทักษะ (P)
๑. นักเรียนสามารถจาแนกชนิดของคาในประโยคได้
๔.๓ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
รักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์
ซื่อสัตย์ สุจริต
๑๓
มีวินัย
ใฝ่เรียนรู้
อยู่อย่างพอเพียง
มุ่งม่ันในการทางาน
รักความเป็นไทย
มีจิตสาธารณะ
๕. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ความสามารถในการสื่อสาร
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ปัญหา
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
๖. ช้ินงำน/ภำระงำน
๖.๑ ใบงานที่ ๑ เรื่อง “ชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค”
๖.๒ ใบงานท่ี ๒ เร่ือง “คานาม”
๖.๓ ใบงานท่ี ๓ เร่ือง “คาสรรพนาม”
๖.๔ ใบงานที่ ๔ เร่ือง “คากริยา”
๖.๕ ผังมโนทัศน์สรุปความรู้
๖.๖ แบบทดสอบเก็บคะแนนประจาหน่วยการเรียนรู้
๗. กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้
รูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอน : แบบผังมโนทัศน์
หน่วยย่อยที่ ๑ เร่ือง ชนิดของคำ
(ช่ัวโมงท่ี ๑-๒)
ขั้นที่ ๑ ตรวจสอบมโนทัศน์พื้นฐำน
๑. ครูให้นักเรียนดูวีดีทัศน์ ๑ เรื่อง แล้วให้นักเรียนค้นหาคาศัพท์ ที่อยู่ ในวีดีทัศนั้น ทั้งสิ่งมีชีวิต
สิ่งไม่มีชีวิต และอาการของส่ิงต่าง ๆ ในเวลาท่ีกาหนด
๒. ครูให้ตัวแทนนักเรียนนาเสนอคาศัพท์ที่ค้นหาได้จากวีดีทัศน์
๓. ครูใช้การถามคาถามเกี่ยวกับคาศัพท์เหล่านั้น โดยมีข้อคาถามดังนี้
๓.๑ คาศัพท์ที่นักเรียนหาได้แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร
๑๔
เป็นก่ีชนิด ๓.๒ หากจะจาแนกคาศัพท์เหล่าน้ี จะใช้เกณฑ์อะไรในการจาแนกและสามารถจาแนกได้
๔. ให้นักเรียนจาแนกคาศัพท์ท่ีหาได้ทั้งหมด และครูแจ้งรายละเอียดในการเรียนว่าหัวข้อที่ จะ
จัดการเรียนการสอนคือ เร่ือง “ชนิดและหน้าท่ีของคาในประโยค”
ข้ันที่ ๒ ระบุและเสริมมโนทัศน์พ้ืนฐำนท่ีผู้เรียนขำด
หลังจากที่นักเรียนจาแนกคาศัพท์ทั้งหมดที่คนหาได้ จากวีดีทัศน์ แล้วครูทบทวนความรู้ พื้นฐาน เรื่อง
“ชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค” โดยระบุจากชนิดท่ีนักเรียนจาแนก และระบุเสริมให้ครบท้ัง ๗ ชนิด
ข้ันท่ี ๓ เรียนรู้
ครูจัดการเรียนการสอนเร่ือง “ชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค” คือคาทั้ง ๗ ชนิดในภาษาไทย โดยบอก
ความหมายและอธิบายลักษณะพ้ืนฐานของคาประเภทต่าง ๆ ได้แก
๑. คานาม
๒. คาสรรพนาม
๓. คากริยา
๔. คาวิเศษณ์
๕. คาบุพบท
๖. คาสันธาน
๗. คาอุทาน
โดยครูอธิบายเนื้อหาของคาแต่ละชนิดและบอกหน้าท่ีของคาเหล่าน้ีว่าแต่ละชนิดทาหน้าท่ีใด อยู่ส่วนไหน
ในประโยคบ้าง
ขั้นท่ี ๔ สรุปด้วยกรอบมโนทัศน์
๑. ครูทบทวนความรู้เดิมจากเนื้อหาในช่ัวโมงแรก และอธิบายการสรุปความรู้องค์รวม
๒. ครูยกตัวอย่างประเภทของกรอบมโนทัศน์และให้นักเรียนเลือกกรอบมโนทัศน์ที่สนใจ หรือ
กาหนดร่วมกันว่าใช้ประเภทใดประเภทหน่ึง เช่น สรุปสาระความรู้ในรูปแบบผังมโนทัศน์
ขั้นที่ ๕ ประเมินผล
หลังจากเสร็จสิ้นการเรียนการสอนแล้ว ครู และนักเรียนรวมกันสรุปเรื่อง “ชนิดและหน้าที่ ของคา ใน
ประโยค” อีกคร้ัง พร้อมท้ังให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดท่ีครูกาหนด
รูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอน : แบบผังมโนทัศน์
หน่วยย่อยท่ี ๒ เร่ือง คำนำม
(ชั่วโมงที่ ๓-๔)
ข้ันท่ี ๑ ตรวจสอบมโนทัศน์พ้ืนฐำน
๑๕
๑. ครูทบทวนความรู้เร่ืองชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค
๒. ครูยกตัวอย่างบัตรคาที่มีคานามชนิดต่างๆ มาให้นักเรียนสังเกตว่า คานามแต่ละคาแตกต่างกัน
อย่างไร
ขั้นท่ี ๒ ระบุและเสริมมโนทัศน์พื้นฐำนที่ผู้เรียนขำด
๑. ครูอธิบายความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคานาม ว่าคานามมี ทั้งหมด ๕ ประเภทย่อย พร้อมท้ังยกตัวอย่าง
แต่ละประเภทให้ตรงกับบัตรคาที่ครูกาหนดมาให้ในช่วงแรก
ข้ันที่ ๓ เรียนรู้
๑. ครูจัดการเรียนการสอน เร่ือง “คานาม” โดยอธิบายสาระความรู้เกี่ยวกับคานามและประเภทของ
คานามโดยละเอียด
ขั้นท่ี ๔ สรุปด้วยกรอบมโนทัศน์
ครูและนักเรียนทาการทบทวนความรู้เก่ียวกับคานามทั้ง ๕ ประเภท และสรุปความรู้ร่วมกัน จากน้ัน
รวมกันเลือกกรอบมโนทัศน์ว่าจะใช้ประเภทใดในการสรุปความรู้ทั้งหมด นักเรียนสรุปสาระความรู้ลงในกรอบ
มโนทัศน์ท่ีทาการคัดเลือกแล้ว
ข้ันที่ ๕ ประเมินผล
ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด เรื่อง “คานาม”
รูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอน : แบบผังมโนทัศน์
หน่วยย่อยท่ี ๓ เร่ือง คำสรรพนำม
(ชั่วโมงที่ ๕-๖)
ขั้นท่ี ๑ ตรวจสอบมโนทัศน์พื้นฐำน
ครูต้ังคาถามเก่ียวกับคาสรรพนาม โดยเป็นคาถามที่วัดความรู้พ้ืนฐานเก่ียวกับคาสรรพนามและประเภท
ของคาสรรพนาม เช่น
- คาสรรพนามคออะไร
- คาสรรพนามมีหน้าที่อย่างไร
- คาสรรพนามมีท้ังหมดกี่ประเภท
- ให้นักเรียนยกตัวอย่างคาสรรพนามที่รู้จัก พร้อมทั้งบอกประเภทของคาน้ัน
ข้ันที่ ๒ ระบุและเสริมมโนทัศน์พื้นฐำนที่ผู้เรียนขำด
ครูทาการสรุปสาระความรู้เรื่อง “คาสรรพนาม” โดยนาคาตอบที่นักเรียนตอบมาสรุป และเสริมความรู้
หากนักเรียนยังระบุประเภทของคาสรรพนามไม่ครบตามเน้ือหา
ขั้นที่ ๓ เรียนรู้
๑. ครูทาการสอนเน้ือหาสาระเร่ือง “คาสรรพนาม”
๑๖
๒. ครูอธิบายประเภทของคาสรรพนาม
๓. ครูยกตัวอย่างคาท่ีอยู่ในประเภทของคาสรรพนาม และให้นักเรียนยกตัวอย่างคาสรรพนามแต่ละ
ประเภท โดยให้ออกมาเขียนบนกระดาน ประเภทละ ๑ คา รวม ๕ คา ๕ ประเภท
๔. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เก่ียวกับคาสรรพนาม
ขั้นท่ี ๔ สรุปด้วยกรอบมโนทัศน์
๑. ครูทบทวนความรู้เรื่องคาสรรพนาม
๒. ครูกาหนดกรอบมโนทัศน์ที่นักเรียนต้องสรุปสาระความรู้เรื่องคาสรรพนามและให้นกเรียนทาการสรุป
ความรู้ตามผังมโนทัศน์ที่ครูกาหนด
ขั้นท่ี ๕ ประเมินผล
ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดเรื่อง “คาสรรพนาม”
รูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอน : แบบผังมโนทัศน์
หน่วยย่อยที่ ๔ เรื่อง
คำกริยำ (ชั่วโมงที่ ๗-๘)
ข้ันท่ี ๑ ตรวจสอบมโนทัศน์พ้ืนฐำน
๑. ครูยกตัวอย่างประโยคต่าง ๆ ที่มีคากริยาอยู่ในประโยค และถามคาถามเกี่ยวกับคากริยาในประโยค
ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร
ขั้นท่ี ๒ ระบุและเสริมมโนทัศน์พ้ืนฐำนที่ผู้เรียนขำด
ครู ระบุ ประเภทของคากริยาจากประโยคตัวอย่างและให้ นักเรียนแต่ ละคนยกตัวอย่างเพิ่มเติม ตามท่ี
นักเรียนเข้าใจ
ขั้นท่ี ๓ เรียนรู้
ครูสอนเน้ือหาสาระเร่ืองคากริยาและประเภทต่าง ๆ ของคากริยาทั้ง ๕ ประเภท ได้แก
๑. สกรรมกริยา
๒. อกรรมกริยา
๓. วิกตรรถกริยา
๔. กริยานุเคราะห์
๕. กริยาสภาวมาลา
ขั้นท่ี ๔ สรุปด้วยกรอบมโนทัศน์
๑. ครูทบทวนความรู้เรื่องคากริยาที่ได้เรียนเม่ือคาบที่ผ่านมา
๒. ครูทาการแบ่งนักเรียนออกเป็น ๕ กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน
๑๗
๓. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสรุปสาระความรู้เรื่องคากริยาลงในผังมโนทัศน์ พร้อมยกตัวอย่างประกอบ
๔. ให้ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผังมโนทัศน์ของกลุ่มตนเองหน้าช้ันเรียน
ขั้นที่ ๕ ประเมินผล
ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดเรื่อง “คากริยา” และทาแบบทดสอบเก็บคะแนนรวมเรื่องคาและชนิด
ของ คาท่ีได้ศึกษามาประจาหน่วยการเรียนรู้
๘. ส่ือกำรสอน
๘.๑ วีดิทัศน์ประกอบการเรียนการสอน
๘.๒ ใบความรู้
๘.๓ บัตรคา
๘.๔ ใบงาน/แบบทดสอบ
๘.๕ ส่ือการเรียนการสอนประกอบการนาเสนอ power point
๙. แหล่งเรียนรู้ในหรือนอกสถำนที่
๙.๑ ห้องสมุด
๑๐. กำรวัดและประเมินผล เคร่ืองมือวัดผล เกณฑ์กำรให้คะแนน เกณฑ์กำรประเมิน
ใบงาน ตอบถูกต้องตามใบงาน คะแนน ๑๖-๒๐ = ดีมาก
ชิ้นงำน/ภำระงำน วิธีวัดผล
ใบงานที่ ๑ ชนิด ตรวจใบงาน ที่ให้ทา คะแนน ๑๑-๑๕ = ดี
และหน้าที่ของคาใน คะแนน ๖-๑๐ = พอใช้
คะแนน ๐-๕ = ปรับปรุง
ประโยค
ผ่านเกณฑ์ในระดับดีข้ึนไป
ใบงานที่ ๒ คานาม ตรวจใบงาน ใบงาน ตอบถูกต้องตามใบงาน คะแนน ๑๖-๒๐ = ดีมาก
ที่ให้ทา คะแนน ๑๑-๑๕ = ดี
คะแนน ๖-๑๐ = พอใช้
คะแนน ๐-๕ = ปรับปรุง
ผ่านเกณฑ์ในระดับดีขึ้นไป
ใบงานที่ ๓ คา ตรวจใบงาน ใบงาน ตอบถูกต้องตามใบงาน คะแนน ๑๖-๒๐ = ดีมาก
สรรพนาม ที่ให้ทา คะแนน ๑๑-๑๕ = ดี
คะแนน ๖-๑๐ = พอใช้
คะแนน ๐-๕ = ปรับปรุง
ผ่านเกณฑ์ในระดับดีขึ้นไป
๑๘
ช้ินงำน/ภำระงำน วิธีวัดผล เคร่ืองมือวัดผล เกณฑ์กำรให้คะแนน เกณฑ์กำรประเมิน
ใบงานท่ี ๔ คากริยา ตรวจใบงาน ใบงาน ตอบถูกต้องตามใบงาน คะแนน ๑๖-๒๐ = ดีมาก
ท่ีให้ทา คะแนน ๑๑-๑๕ = ดี
แบบทดสอบเก็บ แบบทดสอบ แบบทดสอบ
คะแนน เรื่อง ชนิด คะแนน ๖-๑๐ = พอใช้
และหน้าที่ของคา คะแนน ๐-๕ = ปรับปรุง
ผ่านเกณฑ์ในระดับดีขึ้นไป
ตอบคาถามถูกต้องจึง คะแนน ๙-๑๐ = ดีมาก
ได้คะแนน คะแนน ๗-๘ = ดี
คะแนน ๕-๖ = พอใช้
คะแนน ๑-๔ = ปรับปรุง
ผ่านเกณฑ์ในระดับดีข้ึนไป
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์กำรให้คะแนน เกณฑ์กำรประเมิน
มีวินัย ส ัง เ ก ต แบบสังเกต ตารางเกณฑ์การให้ ผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ระดับ
พ ฤ ต ิก ร ร ม คะแนนคุณลักษณะอัน ปานกลางขึ้นไป
พฤติกรรม รายบุคคล พึงประสงค์
ใฝ่เรียนรู้ ส ัง เ ก ต แบบสังเกต ตารางเกณฑ์การให้ ผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ระดับ
พฤติกรรม พ ฤ ต ิก ร ร ม คะแนนคุณลักษณะอัน ปานกลางขึ้นไป
รายบุคคล พึงประสงค์
มุ่งม่ันในการทางาน ส ัง เ ก ต
พฤติกรรม แบบสังเกต ตารางเกณฑ์การให้ ผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ระดับ
พ ฤ ต ิก ร ร ม คะแนนคุณลักษณะอัน ปานกลางข้ึนไป
รายบุคคล พึงประสงค์
สมรรถนะของผู้เรียน วิธีวัดผล เคร่ืองมือวัดผล เกณฑ์กำรให้คะแนน เกณฑ์กำรประเมิน
๑. ความสามารถในการ สังเกต แ บ บ ส ัง เ ก ต ต า ร า ง เ ก ณ ฑ ์ก า ร ใ ห้ ผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ระดับ
ส่ือสาร พฤติกรรมการ คะแนนสมรรถนะของ ปานกลางข้ึนไป
ป ฏ ิบ ัต ิง า น ผู้เรียน
รายบุคคล
๑๙
สมรรถนะของผู้เรียน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์กำรให้คะแนน เกณฑ์กำรประเมิน
๒. ความสามารถในการคิด สังเกต แบบประเมินใบ ต า ร า ง เ ก ณ ฑ ์ก า ร ใ ห้ ผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ระดับ
งาน คะแนนสมรรถนะของ ปานกลางขึ้นไป
๓. ความสามารถในการ สังเกต ผู้เรียน
แก้ปัญหา แ บ บ ส ัง เ ก ต ผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ระดับ
พฤติกรรมการ ต า ร า ง เ ก ณ ฑ ์ก า ร ใ ห้ ปานกลางข้ึนไป
ป ฏ ิบ ัต ิง า น คะแนนสมรรถนะของ
รายบุคคล ผู้เรียน
๑๑. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................... ...........................................
........................................................................................ ............................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
๑๒. บันทึกผลหลงกำรสอน สรุปผลกำร
จัดกำรเรียนกำรสอน
นักเรียนทั้งหมด...............คน
จุดประสงค์กำรเรียนรู้ จำนวนนักเรียนที่ผ่ำน จำนวนนักเรียนที่ไม่ผ่ำน
จำนวน (คน) ร้อยละ
จำนวน (คน) ร้อยละ
๑๓. ปัญหำ/อุปสรรค/กำรแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................................................................. ..
............................................................................................................................. .......................................................
๒๐
๑๔. ข้อเสนอแนะ
.............................................................................................................................
.......................................................
............................................................................
........................................................................................................
.............................................................................................................................
.......................................................
ควำมเห็นของหัวหน้ำสถำนศึกษำ
ได้ทาการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ.............................................................................แล้วมี
ความ คิดเห็นดังน้ี
๑. เป็นแผนการเรียนรู้ท่ี
ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง
๒. การจัดกิจกรรมได้นาเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป
๓. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ
.....................................................................................
...............................................................................................
.............................................................................................................................
.......................................................
.............................................................................................................................
.......................................................
ลงช่ือ....................................................................
()
ผู ้อ า น ว ย ก า ร โ ร ง เ ร ีย น
............................................
๒๒
ใบงำนท่ี ๑ เรื่อง “คำนำม”
คาช้ีแจง : ให้นักเรียนหาคานามและจาแนกหน้าท่ีของคานามต่อไปน้ี
ข้อ ประโยค คำนำม หน้ำที่
ในประโยค ประธำน กรรม
ตัวอย่ำง
นักเรียนเรียนหนังสือ นักเรียน, หนังสือ นักเรียน หนังสือ
๑ คุณครูทาโทษนักเรียนที่ทาผิด ........................... ................... ...................
๒ น้องกินมะม่วง ........................... ................... ....................
๓ แม่ของฉันทากับข้าว ........................... ................... ...................
๔ ต๊ิดตี่เดินไปโรงเรียน ........................... ................... ...................
๕ คุณยายขับรถ ........................... ................... ...................
๖ เด็ก ๆ เล่นกับเจ้ามอม ........................... ................... ...................
๗ พ่อไปยิงนกในป่าเมื่อวาน ........................... ................... ...................
๘ น้าไปจ่ายตลาด ........................... ................... ...................
๙ คุณแม่กินปลานิล ........................... ................... ...................
๑๐ แมวกินปลาย่าง ........................... ................... ...................
๒๓
ใบงำนท่ี ๒ เร่ือง “คำสรรพนำม”
คาชี้แจง : ให้นักเรียนกาเครื่องหมาย หน้าคาสรรพนามแล้วนาไปแต่งประโยค
๑. ..........พ่อ ๖. ..........คุณ ๑๑. ..........โน่น ๑๖. ..........ใต้เท้ำ
๒. ..........ฉัน ๗. ..........ทำน ๑๒. ..........เดิน ๑๗. ..........พระ
๓. ..........กิน ๘. ..........สำมำรถ ๑๓. ..........ไพเรำะ ๑๘. ..........ข้ำพเจ้ำ
๔. ..........เธอ ๙. ..........เขำ ๑๔. ..........โยม ๑๙. ..........จริง
๕. ..........น้อง ๑๐. .........ท่ำน ๑๕. ..........สวย ๒๐. ..........อำตมำ
ตัวอย่ำง เธอ ไปตลาดกับแม่
๑.
....................................................................................................................................................................
๒.
....................................................................................................................................................................
๓.
....................................................................................................................................................................
๔.
...................................................................................................................................................................
๕.
....................................................................................................................................................................
๖.
....................................................................................................................................................................
๗.
....................................................................................................................................................................
๒๓
๘.
....................................................................................................................................................................
๙.
....................................................................................................................................................................
๑๐.
...............................................................................................................................................
๒๔
ใบงำนที่ ๔ เรื่อง “คำกริยำ”
คาชี้แจง : ให้นักเรียนพิจารณาคาท่ีขีดเสนใต้ในแต่ละประโยคว่าเป็นคากริยาชนิดใด โดยทาเครื่องหมายถูก ()
ลงในตารางด้านขวามือท่ีตรงกับชนิดของคากริยาท่ีเลือกให้ถูกต้อง
ประโยค อกรรมกริยำ ชนิดของคำกริยำ
สกรรมกริยำ วิตรรถกริยำ กริยำนุเครำะห์
๑. พี่สาวมีหน้าตา เหมือน พ่อ
๒. คุณแม่ซ้ือรถคันใหม่
๓. จง ต้ังใจทางานของเธอให้สาเร็จ
๔. โจร ว่ิงหนีตารวจด้วยความเร็ว
๕. คุณปู่ห้ิวถังน้าขนาด ๕ ลิตร
๖. ประชาชน กำลัง เดินทางมากรุงเทพฯ
๗. สุชาดา เดิน ไปโรงเรียน
๘. เด็ก ๆ ดื่ม นมทุกวัน
๙. แม่ค้าขำยผักท่ีตลาด
๑๐. คุณยาย นั่ง เก้าอี้สีแดง
๑๑. ฉันซักผ้าเสร็จ แล้ว
๑๒. น้อง กิน ผลไม้
๑๓. ไก่ขันตอนเช้า
๑๔. ฉัน ต้อง ไ ปกับแม่ในวันพรุ่งน้ี
๑๕. พี่ ให้ดินสอน้อง
๑๖. น้อง นอน ตอนสองทุ่ม
๑๗. พี่น้องคู่นี้ คล้ำย กันมาก
๑๘. ครู แจก ขนมนักเรียน
๑๙. นายแดงเป็นพ่อค้าขายไข่ไก่
๒๐. ญาติโยม ถวำย อาหารแด่พระภิกษุ
๒๕
แบบทดสอบเก็บคะแนน เร่ือง ชนิดและหน้ำท่ีของคำ
คาชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกที่สุดเพียงคาตอบเดียว และกาเคร่ืองหมาย ลงในคาตอบ
๑. คานามคืออะไร
ก. คาที่แสดงความรู้สึกนึกคิด ข. คาที่แสดงอาการทางร่างกาย
ค. คาที่ใช้เรียนคน สัตว์ สงของ หรอสถานที่ ง.คาที่ใช้แทนส่ิงอ่ืน ๆ
๒. คานามในขอใดเป็นวิสามานิยนาม
ก. หนังสือ ข. โรงเรียน
ค. ปากกา ง. ครูมารียะ
๓. คานามในขอใดใช้ลักษณ์นามไม่ถูกต้อง
ก. ช้อ ๑ คัน ข. กระดาษ ๔ ชิ้น
ค. บ้าน ๓ หลัง ง.ปากกา ๒ ด้าม
๔. คากริยาในประโยคข้อใดเป็นกริยานุเคราะห์
ก. ฉันเปิดหน้าต่าง ข. นา้ พัดบ้านพัง
ค. เจ้าดาถูกรถชน ง. จ้อยกินอาหารว่าง
๕. คากริยาในขอใดเป็นอกรรมกริยา
ก. นักเรียนวิ่ง ข. แม่ขายน้า
ค. แมวกินปลา ง. ฉันถือถุง
๒๖
๖. คากริยาในประโยคข้อใดเป็นกริยานุเคราะห์ ข. น้าพัดบ้านพัง
ก. ฉันเปิดหน้าต่าง ง. จ้อยกินอาหารว่าง
ค. เจ้าดาถูกรถชน
ข. คาที่ใช้เป็นคาเชื่อม
๗. ข้อใดคือความหมายของคาสรรพนาม ง. คาท่ีใช้แทนคานาม
ก. คาที่ใช้ขยายคาอ่ืน
ค. คาที่ใช้เรียกช่ือคน สัตว ส่ิงของ ข.คาที่ใช้เป็นคาเชื่อม
ง.คาท่ีใช้แทนคานาม
๘. ข้อใดคอความหมายของคาสรรพนาม
ก.คาท่ีใช้ขยายคาอื่น ข. นิยมสรรพนาม
ค.คาที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ ส่ิงของ ง. สรรพนามบุรุษที่ ๑
๙. คาว่า บ้าง ต่าง ส่วน เป็นคาสรรพนามชนิดใด ข. เขาชอบทานข้าวผัด
ก. วิภาคสรรพนาม ง. ฉันกาลังรอรถ
ค. สาวิสรรพนาม
๑๐. ข้อใดไม่มีคาสรรพนามในประโยค
ก. ใครจะไปตลาดบ้าง
ค. แม่ออกไปทางาน
๒๗
แบบประเมินกิจกรรมรำยบุคคล
ชื่อ..............................................................นามสกุล........................................ชั้น........ .....................เลขที่
..............
ลำดับ ประเด็นกำรประเมิน ๔ (ดีเยี่ยม) คุณภำพกำรปฏิบัติกำร
๓ (ดี) ๒ (ปำกลำง) ๑ (ปรับปรุง)
๑ ตรงจุดประสงค์ที่กาหนด
๒ ถูกต้องสมบูรณ์
๓ มีความสร้างสรรค์
๔ มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
๕ ตรงต่อเวลา
รวม
ลงชื่อ.............................................................. ผู้
ประเมิน
ว ัน ที่
................/...................../.....................
๒๘
เกณฑ์กำรให้คะแนนใบงำน
ประเด็นกำรประเมิน คะแนน
๑. ผลงานตรงตาม
จุดประสงค์ ๔ (ดีมำก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง)
ผล งานมีคว าม ผ ล ง า น ม ีค ว า ม ผ ล ง า น ม ีค ว า ม ผลงานไม่สอดคล้องกับ
๒. ผลงานมีความ ส อ ด ค ล ้อ ง ก ับ เนื้อหาท่ีเรียน
ถูกต้อง จุดประสงค์ของ ส อ ด ค ล ้อ ง ก ับ ส อ ด ค ล ้อ ง ก ับ
เนื้อหาที่เรียนทุก เน้ือหาสาระไม่ถกต้อง
ประเด็น จุดประสงค์ของ จุดประสงค์ของ
เนื้อหาสาระถูกต้อง เนื้อหาที่เรียนเป็น เนื้อหาที่เรียนบาง
สมบูรณ์ ครบถ้วน
ส่วนใหญ่ ประเด็น
เนื้อหาสาระถูกต้อง เนื้อหาสาระถูกต้อง
เป็นส่วนใหญ่ บางประเด็น
๓. ผลงานมีความเป็น ผลงานมีความเป็น ผลงานมีความเป็น ผลงานค่อนข้างเป็น ผลงานไม่มความเป็น
ระเบียบเรียบร้อย ระเบียบเรียบร้อย
น่าอ่าน ระเบียบเรียบน้อยแต่ ระเบียบเรียบร้อย แต่ ระเบียบเรียบร้อย
๔. การส่งงานตรงต่อ
เวลา ส่งงานตรงตามเวลา ย ัง ม ีข อ บ ก พ ร ่อ ง มีข้อบกพร่อง
ท่ีกาหนด
บางส่วน เล็กน้อย
ส่งงานช้าเลยเวลาที่ ส่งงานช้าเลยเวลาท่ี ส่งงานช้าเลยเวลาที่
กาหนด ๑-๒ วัน กาหนด ๓-๕ กาหนดมากกว่า ๕ วัน
เกณฑ์กำรประเมิน
คะแนน ระดับคุณภำพ
๑๖-๒๐ ดีมำก
๑๑-๑๕ ดี
๖-๑๐ พอใช้
๐-๕ ปรับปรุง
๒๙
แบบสังเกตพฤติกรรมรำยบุคคล
ลำดับ ชื่อ-นำมสกุล คุณลักษณะอันพึงประสงค์
มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในกำรทำงำน
๕๔๓๒๑๕๔๓๒๑๕ ๔ ๓ ๒ ๑
ลงชื่อ.............................................................. ผู้
ประเมิน
ว ัน ที่
................/...................../.....................
๓๐
เกณฑ์กำรให้คะแนนสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
พฤติกรรมบ่งช คะแนน
๕ (ดีมำก) ๔ (ดี) ๓ (ปำนกลำง) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง)
๑.ความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ ความสามารถ
ในการส่ือสาร ในการสื่อสาร ในการสื่อสาร ในการสื่อสาร ในการสื่อสาร ในการส่ือสาร
อ อ ก ม า ไ ด ้ดี อ อ ก ม า ไ ด ้ดี ออกมาได้ระดับ ออกมาได้ระดับ
เยี่ยม ชัดเจน ชัดเจน ปานกลาง ไม่ ปานกลาง ควร
ชัดเจน ปรับปรุง
๒.ความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ ความสามารถ
ในการคิด ในการคิดอย่าง ใ น ก า ร ค ิด ใ น ก า ร ค ิด ต ัด ส ิน ใ จ ในการคิด การ
ส ร ้า ง ส ร ร ค์ ต ัด ส ิน ใ จ ต ัด ส ิน ใ จ เกี่ยวกับปัญหา ต ัด ส ิน ใ จ
ต ัด ส ิน ใ จ เกี่ยวกับปัญหา เกี่ยวกับปัญหา ของตนเองได้ไม่ เกี่ยวกับปัญหา
เกี่ยวกับปัญหา ของตนได้ดี ของตนเองได้ ดีเท่าท่ีควร ของตนเองได้
ข อ ง ต น เ อ ง ไ ด้
เหมาะสม
๓.ความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ ไ ม ่ส า ม า ร ถ
ในการแก้ปัญหา แกปัญหาเฉพาะ แก้ปัญหาเฉพาะ แก้ปัญหาเฉพาะ แก้ปัญหาเฉพาะ แก้ปัญหาเฉพาะ
สถานการณ์ หน้าได้เกอบทุก ห น ้า ไ ด ้บ า ง หน้าไ ด้ยังไ ม่ดี หน้าได้
สถานการณ์ สถานการณ์ เท่าที่ควร
๓๑
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๒
๓๒
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๒
สำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทย รำยวิชำภำษำไทย
ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๖ ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๔หน่วยกำร
เรียนรู้ท่ี ๑ เร่ือง นิทำนแสนสนุก
เวลำ ๗ ชั่วโมง
๑. มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวช้ีวัด
มำตรฐำน ท ๕.๑ เขาใจและแสดงความคดเห็นวจารณวรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ
นามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
ท ๕.๑ ป.๖/๒ เล่านิทานพื้นบ้านท้องถ่ินตนเองและนิทานพื้นบ้านของท้องถ่ินอื่น
๒. จุดประสงค์กำรเรียนรู้
๒.๑ นักเรียนบอกความหมายของนิทานพื้นบ้านได้ (K)
๒.๒ นักเรียนเล่านิทานพ้ืนบ้านของท้องถิ่นของตนเองได้ (P)
๒.๓ นักเรียนเล่านิทานพ้ืนบ้านของท้องถ่ินอื่นได้อย่างหลากหลาย (P)
๒.๔ นักเรียนเห็นคุณค่าโดยบอกขอคิดที่ได้จากการอ่านนิทานพื้นบ้านได้ (A)
๓. สำระสำคัญ
ศึกษาหน่วยการเรียนรู้ นิทานแสนสนุก เกี่ยวกับนิทานพื้นบ้านของไทย การอ่านนิทาน ร่วมถึงการแต่ง
นิทานให้ได้ใจความสอดแทรกขอคดทสามารถนาไปใช้ในชีวีตประจาวันได้ ใช้กระบวนการคิดพิจารณาคุณค่า ของ
นิทานท่ีตนเองได้ศึกษา
๔. สำระกำรเรียนรู้
๔.๑ ด้ำนควำมรู้ (K)
๑. นิทานพ้ืนบ้าน
๒. หลักการเล่านิทานพ้ืนบ้าน
๔.๒ ด้ำนทักษะ (P)
๑. การเล่านิทานพื้นบ้านเสริมสร้างความน่าสนใจ
๒. การแต่งนิทานพื้นบ้าน
๔.๓ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
รักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์
ซื่อสัตย์ สุจริต
มีวินัย
ใฝ่เรียนรู้
๓๓
อยู่อย่างพอเพียง
มุ่งม่ันในการทางาน
รักความเป็นไทย
มีจิตสาธารณะ
๕. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ความสามารถในการส่ือสาร
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ปัญหา
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
๖. ช้ินงำน/ภำระงำน
๖.๑ ใบงานท่ี ๑ นิทานเรื่องนี้ให้อะไรบ้าง
๖.๒ ใบงานที่ ๒ เล่านิทานอย่างไรให้คนฟัง
๖.๓ ใบงานที่ ๓ มาแต่งนิทานกันเถอะ
๗. กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้
รูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอน : กำรสอนแบบใช้ชุดกำร
สอน หน่วยย่อยท่ี ๑ เรื่อง นิทำนพ้ืนบ้ำน
(ช่ัวโมงท่ี ๑-๒)
ขั้นท่ี ๑ ขั้นทดสอบก่อนเรียน
๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียน
๒. ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างชื่อนิทานพื้นบ้านท่ีเคยได้ยินคนละ ๑ เรื่อง พร้อมระบุข้อคิดจากนิทานเรื่อง
ดังกล่าว
ขั้นที่ ๒ ขั้นนำเข้ำสู่บทเรียน
๑. ครูเล่านิทานให้นักเรียนฟัง ๑ เร่ือง และให้นักเรียนร่วมกันต้ังช่ือเรื่องว่านิทานที่ครูเล่าควรมีชื่อเร่ืองวา
อย่างไร
๒. ครูบอกความหมายของนิทานพื้นบ้านพร้อมให้นักเรียนบันทึกสาระความรู้ที่ได้รับลงในสมุดบันทึก
ข้ันท่ี ๓ ขั้นประกอบกิจกรรม
๑. ครูใช้สื่อการเรียนการสอน จดการเรียนการสอนประกอบ powerpoint ในหัวข้อ “ความรู้เบื้องต้น
เก่ียวกับนิทานพ้ืนบ้าน”
๒. ครูสุ่มเรียกชื่อนักเรียนเพื่อทาการถามตอบ เก่ียวกับหัวข้อความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับนิทานพื้นบ้าน
๓๔
ข้ันท่ี ๔ ขั้นสรุปและข้ันทดสอบหลังเรียน
ครู และนักเรียนร่วมกันสรุปสาระความรู้เกี่ยวกับนิทานพื้นบ้าน เพ่ือทบทวนความจา ความเข้าใจ
ของนักเรียนและทาใบงานเรื่อง “นิทานเรื่องนี้ให้อะไรบ้าง” โดยเป็นใบงานที่ให้นักเรียนอ่านนิทานที่ครูกาหนด
และวิเคราะห์ข้อคิด คุณค่าท่ีได้จากเรื่อง แล้วเขียนคาตอบลงในใบงาน
ขั้นท่ี ๕ ขั้นประเมินผลกำรเรียน
ครูให้นักเรียนทาใบงานโดยเป็นแบบทดสอบจานวน ๑๐ ข้อ เกี่ยวกับความรู้พื้นฐานเรื่อง “นิทาน
พ้ืนบ้าน” เพ่ือเป็นการทบทวนเน้ือหาและประเมินผลความเข้าใจหลังจากการจัดการเรียนการสอน
รูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอน : กำรสอนแบบใช้ชุดกำร
สอน หน่วยย่อยที่ ๒ เรื่อง กำรเล่ำนิทำนพ้ืนบ้ำน
(ช่ัวโมงที่ ๓-๕)
ขั้นท่ี ๑ ข้ันทดสอบก่อนเรียน
๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียน
๒. ครูเปิดวีดีทัศน์การเล่านิทานให้นักเรียนฟัง ๑ เร่ือง
๓. ครูสอบถามนักเรียนเกี่ยวกับวีดีทัศน์ที่ได้ดูว่าผู้เล่าเรื่องมีขอบกพร่องในการเล่าอย่างไรบ้าง เช่น
การ ลาดับข้ันตอน น้าเสียง ภาษาที่ใช้ในการเล่า
ขั้นที่ ๒ ข้ันนำเข้ำสู่บทเรียน
๑. ครูเล่านิทานให้นักเรียนฟัง ๑ เรื่อง หลังจากนั้นถามคาถามนักเรียนว่า เนื้อหานิทานที่เล่าประกอบ
ไป ด้วยอะไรบ้าง เช่น ตัวละครมีใครบ้าง ส่วนนาเป็นอย่างไร ภาษาที่ใช้มีความเหมาะสมหรือไม่
๒. ครูให้นักเรียนแต่ละคนระบุข้อคิดท่ีได้จากการฟังนิทานคนละ ๑ ประเด็น
ขั้นที่ ๓ ข้ันประกอบกิจกรรม
๑. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละประมาณ ๕-๖ คน และให้ตัวแทนกลุ่มหยิบหัวข้อนิทาน ๑ เรื่อง
๒. หลงจากท่ีแต่ละกลุ่มได้นิทานกลุ่มละ ๑ เร่ืองแล้ว ให้อ่านนิทานและวางแผนการเลาเรื่องประกอบ
การแสดง เพื่อออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน
๓. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาเล่านิทานประกอบการแสดงหน้าชั้นเรียน ตามลาดับ
ข้ันที่ ๔ ข้ันสรุปและข้ันทดสอบหลังเรียน
ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปกิจกรรมร่วมกันว่า จากการที่นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาเล่านิทานแล้ว ได้
อะไรจากการทากิจกรรมบ้าง และสรุปความรู้เกี่ยวกับการเล่านิทาน หัวข้อ “เล่านิทานอย่างไรให้คนฟัง”
๓๕
ขั้นที่ ๕ ข้ันประเมินผลกำรเรียน
ครูให้ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาพูดสรุปความรู้และประเดนท่ีได้การทากิจกรรมเล่านิทาน
พร้อมทั้งให้นักเรียนแต่ละคนทาใบงาน
รูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอน : กำรสอนแบบใช้ชุดกำร
สอน หน่วยย่อยท่ี ๓ เรื่อง กำรแต่งนิทำนพ้ืนบ้ำน
(ช่ัวโมงท่ี ๖-๗)
ข้ันที่ ๑ ข้ันทดสอบก่อนเรียน
๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียน
๒. ครูถามคาถามนักเรียนเก่ียวกับการเขียนบรรยายภาพ
ข้ันที่ ๒ ขั้นนำเข้ำสู่บทเรียน
๑. ครูนาตัวอย่างนิทานที่ มีภาพประกอบมาให้นักเรียนศึกษาจากนั้นอธิบายหลักการเขียนนิทาน
ประกอบภาพให้นักเรียนฟัง
ขั้นที่ ๓ ข้ันประกอบกิจกรรม
๑. ครูให้นักเรียนแต่ละคนสุ่มหยิบบัตรภาพ คนละ ๑ ภาพ
๒. เมื่อนักเรียนได้บัตรภาพแล้ว ครูให้นักเรียนแต่งนิทานโดยให้เนื้อหามีความสัมพันธ์กับภาพเป็น
นิทานพื้นบ้านที่ต้องสะท้อนวิถีชีวิตของท้องถิ่น สอดแทรกข้อคิดท่ีสามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้
ขั้นที่ ๔ ข้ันสรุปและข้ันทดสอบหลังเรียน
ครูและนักเรียนรวมกันสรุปหลักการแต่งนิทาน และให้ตัวแทนนักเรียนเลือกนิทานของเพ่ือนที่ มี ความ
น่าสนใจ จากนั้นให้เจ้าของผลงานออกมาเล่านิทานท่ีตนเองแต่งขึ้นหน้าชั้นเรียน
ข้ันท่ี ๕ ขั้นประเมินผลกำรเรียน
ครูให้นักเรียนทาใบงานการแต่งนิทานพื้นบ้านจากบัตรภาพที่ครูกาหนด โดยเนื้อหาต้องประกอบด้วย
ส่วนนา เนื้อเร่ือง สรุป และต้องให้ข้อคิดที่สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้
๘. ส่ือกำรสอน
๘.๑ วีดีทัศน์ประกอบการเรียนการสอน
๘.๒ ส่ือการเรียนการสอนประกอบส่ือ powerpoint
๘.๓ บัตรภาพ
๘.๔ หนังสือนิทานพ้ืนบ้าน
๙. แหล่งเรียนรู้ในหรือนอกสถำนที่
๙.๑ ห้องสมุด
๓๖
๑๐. กำรวัดและประเมินผล เคร่ืองมือวัดผล เกณฑ์กำรให้คะแนน เกณฑ์กำรประเมิน
ชิ้นงำน/ภำระงำน วิธีวัดผล ใบงาน ตอบถูกต้องตามใบงาน คะแนน ๑๖-๒๐ = ดีมาก
ใบงานที่ ๑ นิทาน ตรวจใบงาน ท่ีให้ทา คะแนน ๑๑-๑๕ = ดี
เรื่องน้ีให้อะไรบ้าง ใบงาน
คะแนน ๖-๑๐ = พอใช้
ใบงานที่ ๒ เล่า ตรวจใบงาน ใบงาน คะแนน ๐-๕ = ปรับปรุง
นิทานอย่างไรให้คน ผ่านเกณฑ์ในระดับดีขึ้นไป
ฟัง
ตอบถูกต้องตามใบงาน คะแนน ๑๖-๒๐ = ดีมาก
ใบงานที่ ๓ มาแต่ง ตรวจใบงาน ที่ให้ทา คะแนน ๑๑-๑๕ = ดี
นิทานกันเถอะ
คะแนน ๖-๑๐ = พอใช้
คะแนน ๐-๕ = ปรับปรุง
ผ่านเกณฑ์ในระดับดีขึ้นไป
ตอบถูกต้องตามใบงาน คะแนน ๑๖-๒๐ = ดีมาก
ที่ให้ทา คะแนน ๑๑-๑๕ = ดี
คะแนน ๖-๑๐ = พอใช้
คะแนน ๐-๕ = ปรับปรุง
ผ่านเกณฑ์ในระดับดีขึ้นไป
แบบทดสอบเก็บ แบบทดสอบ แบบทดสอบ ตอบคาถามถูกต้องจึง คะแนน ๙-๑๐ = ดีมาก
คะแนน เรื่อง
ค ว า ม รู ้พื ้น ฐ า น ได้คะแนน คะแนน ๗-๘ = ดี
เ กี ่ย ว ก ับ น ิท า น
พื้นบ้าน คะแนน ๕-๖ = พอใช้
คะแนน ๑-๔ = ปรับปรุง
ผ่านเกณฑ์ในระดับดีข้ึนไป
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ วิธีวัดผล เคร่ืองมือวัดผล เกณฑ์กำรให้คะแนน เกณฑ์กำรประเมิน
มีวินัย สังเกต แบบสังเกต ตารางเกณฑ์การให้ ผ่านเกณฑ์ต้ังแต่ระดับ
พฤติกรรม พฤติกรรม คะแนนคุณลักษณะอัน ปานกลางขึ้นไป
รายบุคคล พึงประสงค์
๓๗
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์กำรให้คะแนน เกณฑ์กำรประเมิน
แบบสังเกต ตารางเกณฑ์การให้ ผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ระดับ
ใฝ่เรียนรู้ พฤติกรรม พ ฤ ต ิก ร ร ม คะแนนคุณลักษณะอัน ปานกลางข้ึนไป
รายบุคคล พึงประสงค์
มุ่งม่ันในการทางาน พฤติกรรม
แบบสังเกต ตารางเกณฑ์การให้ ผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ระดับ
พ ฤ ต ิก ร ร ม คะแนนคุณลักษณะอัน ปานกลางขึ้นไป
รายบุคคล พึงประสงค์
สมรรถนะของผู้เรียน วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์กำรให้คะแนน เกณฑ์กำรประเมิน
๑. ความสามารถในการ สังเกต แ บ บ ส ัง เ ก ต ต า ร า ง เ ก ณ ฑ ์ก า ร ใ ห้ ผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ระดับ
สื่อสาร พฤติกรรมการ คะแนนสมรรถนะของ ปานกลางข้ึนไป
สังเกต ป ฏ ิบ ัต ิง า น ผู้เรียน
๒. ความสามารถในการคิด รายบุคคล ผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ระดับ
สังเกต แบบประเมินใบ ต า ร า ง เ ก ณ ฑ ์ก า ร ใ ห้ ปานกลางข้ึนไป
๓. ความสามารถในการ งาน คะแนนสมรรถนะของ
แก้ปัญหา ผู้เรียน ผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ระดับ
แ บ บ ส ัง เ ก ต ต า ร า ง เ ก ณ ฑ ์ก า ร ใ ห้ ปานกลางข้ึนไป
พฤติกรรม การ คะแนนสมรรถนะของ
ป ฏ ิบ ัต ิง า น ผู้เรียน
รายบุคคล
๑๑. กิจกรรมเสนอแนะ
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................ ........................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
๑๒. บันทึกผลหลงกำรสอน สรุปผลกำร
จัดกำรเรียนกำรสอน นักเรียน
ทั้งหมด...............คน
๓๘
จุดประสงค์กำรเรียนร จำนวนนักเรียนที่ผ่ำน จำนวนนักเรียนที่ไม่ผ่ำน
จำนวน (คน) ร้อยละ
จำนวน (คน) ร้อยละ
๑๓. ปัญหำ/อุปสรรค/กำรแก้ไข
.............................................................................................................................
.......................................................
........................................................................................... .....................................................................................
.. ..
.............................................................................................................................
.......................................................
๑๔. ข้อเสนอแนะ
.............................................................................................................................
.......................................................
......................................................................................................................................
..............................................
..................................................................................... .................................................................
( ) ตาแหน่งครูวิทยาฐานะ
............................................................................หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้
()
ลงช่ือ............................................................................รองผู้อานวยการกลุ่มบริหารวิชาการ
()
ควำมเห็นของหัวหน้ำสถำนศึกษำ
ได้ทาการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ.............................................................................แล้วมีความคิดเห็น
ดังนี้
๑. เป็นแผนการเรียนรู้ที่
ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง
๔๐
๒. การจัดกิจกรรมได้นาเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป
๓. ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ
.............................................................................................................................
.......................................................
.............................................................................................................................
.......................................................
๔๐
ใบงำนท่ี ๑ เร่ือง “นิทำนเรื่องน้ีให้อะไรบ้ำง”
คำชี้แจง : ให้นักเรียนอ่ำนนิทำนต่อไปนี้แล้วตอบคำถำมให้
ถูกต้อง “นำงแตงอ่อน”
ที่เมืองนครศรี เจ้าเมืองนามว่าพระยาโกศรี มเหสีนามว่า ทองแดง มีโอรสนามวา มหาวงศ์ ทาวมหาวงศ์
ชอบกีฬาชนไก่วันหน่ึงไปต่อไก่ในป่ากับขุนสี่คน คือ ขุนเครือ ขุนคาน ขุนเคลง และขุนทุมภู่ ได้ ธิดาจระเข้ ชื่อนาง
แตงอ่อน ผู้มีรูปกายเป็นมนุษย์มาเป็นมเหสี นางแตงอ่อนประสูติโอรส เมื่อทาวมหาวงศ์ไปคล้องช้างในป่า นางจึง
ถูกหมู่มเหสีทั้งหลายเปลี่ยนโอรสของนางเป็นจระเข้ และโอรสจริงเอาไปลอยนา เทพธิดาจึงนาไปเลี้ยงไว้ บน
สวรรค์ และต้ังชื่อว่า “สุริยง”
สวนนางแตงอ่อนถูกสามีขับไล่ออกจากเมืองเพราะประสูติโอรสเป็นจระเข้ นางแตงออนกลับไปเมืองนาค
พบกุมภาพ่ี ชายของตนปกครองเมืองนาคสืบต่อจากบิดา พี่ ชายกุมภารู้ ข่าวด้วยความสงสาร ได้มอบเมืองให้ กอ
ระกันผู้ เป็นน้องชายปกครองต่อ ส่วนตนกับแตงอ่อน ได้บวชเป็นฤาษี เพ่ือเรียนวิชาไว้แก้แคนมหาวงศ์ ซึ่งขับไล่
น้องสาวตน
สุริยงได้ศึกษาวิชาการต่างๆ และได้ลงมาพบว่า มารดาตนถูกยักษ์ลักพาตัวไป จึงได้ตามมารดาคืน และ
รบ กับยักษ์จนได้ชัยชนะ สุริยงได้นางปทุมมา นางอินทะวงศ์ นางหยาดคา และนางคาไหล เป็นภริยา ซึ่งยักษ์นั้น
ได้ลักพาตัวมาไว้ และสุริยงก็ได้พามารดากลับบ้านเมือง มหาวงษ์ได้ทราบความจริงว่านางแตงอ่อนถูกใส่ร้าย และ
สุริยงคื อลูกของตน พ่อแม่ลูกได้ พบกันแล้วเข้าใจกัน ทั้งสามคนจึงได้อยู่ด้วยกันอย่างสุขสันต์ ในบั้นปลายชีวิต
และครองคู่เมืองนครศรีสืบมา
๔๑
ตัวละครท่ีปรำกฏในเรื่อง
.....................................................................................................................................
...
.....................................................................................................................................
...
.....................................................................................................................................
...
.....................................................................................................................................
...
ข้อคิดท่ีได้รับ
.....................................................................................................................................
...
.....................................................................................................................................
...
.....................................................................................................................................
...
.....................................................................................................................................
...
๔๒
ใบงำนที่ ๒ เร่ือง “เล่ำนิทำนอย่ำงไรให้คนฟัง”
คาช้ีแจง : ให้นักเรียนระบุหลักการหรือกลวิธีในการเล่านิทานที่ มีสวนช่วยให้ผู้ฟังเกิดความสนใจและตองการ ท่ี
จะฟังนิทาน
๔๓
ใบงำนที่ ๓ เร่ือง “มำแต่งนิทำนกันเถอะ”
คาชี้แจง : ให้นักเรียนแต่งนิทานจากภาพตามจินตนาการ พร้อมทั้งตั้งชื่อเรื่อง และระบุข้อคิดที่ได้ ให้ได้ใจความ
สมบูรณ์ ความยาวอย่างน้อย ๑๐ บรรทัด ด้วยตัวบรรจงคร่ึงบรรทัด และระบายสีให้สวยงาม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๔๔
นิทำนเร่ืองนี้สอนให้รู้ว่ำ
…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………….
๔๕
แบบประเมินกิจกรรมรำยบุคคล
ชื่อ..............................................................นามสกุล........................................ชั้น........ .....................เลขท่ี
..............
ลำดับ ประเด็นกำรประเมิน ๔ (ดีเยี่ยม) คุณภำพกำรปฏิบัติกำร
๓ (ดี) ๒ (ปำกลำง) ๑ (ปรับปรุง)
๑ ตรงจุดประสงค์ท่ีกาหนด
๒ ถูกต้องสมบูรณ์
๓ มีความสร้างสรรค์
๔ มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
๕ ตรงต่อเวลา
รวม
ลงชื่อ.............................................................. ผู้ประเมิน
................/...................../.....................
๔๖
เกณฑ์กำรให้คะแนนใบงำน
ประเด็นกำรประเมิน คะแนน
๑. ผลงานตรงตาม
จุดประสงค์ ๔ (ดีมำก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง)
ผล งานมีคว าม ผ ล ง า น ม ีค ว า ม ผ ล ง า น ม ีค ว า ม ผลงานไม่สอดคล้องกับ
๒. ผลงานมีความ ส อ ด ค ล ้อ ง ก ับ เนื้อหาท่ีเรียน
ถูกต้อง จุดประสงค์ของ ส อ ด ค ล ้อ ง ก ับ ส อ ด ค ล ้อ ง ก ับ
เนื้อหาที่เรียนทุก เน้ือหาสาระไม่ถกต้อง
ประเด็น จุดประสงค์ของ จุดประสงค์ของ
เนื้อหาสาระถูกต้อง เนื้อหาที่เรียนเป็น เนื้อหาที่เรียนบาง
สมบูรณ์ ครบถ้วน
ส่วนใหญ่ ประเด็น
เนื้อหาสาระถูกต้อง เนื้อหาสาระถูกต้อง
เป็นส่วนใหญ่ บางประเด็น
๓. ผลงานมีความเป็น ผลงานมีความเป็น ผลงานมีความเป็น ผลงานค่อนข้างเป็น ผลงานไม่มความเป็น
ระเบียบเรียบร้อย ระเบียบเรียบร้อย
น่าอ่าน ระเบียบเรียบน้อยแต่ ระเบียบเรียบร้อย แต่ ระเบียบเรียบร้อย
๔. การส่งงานตรงต่อ
เวลา ส่งงานตรงตามเวลา ย ัง ม ีข อ บ ก พ ร ่อ ง มีข้อบกพร่อง
ท่ีกาหนด
บางส่วน เล็กน้อย
ส่งงานช้าเลยเวลาที่ ส่งงานช้าเลยเวลาท่ี ส่งงานช้าเลยเวลาที่
กาหนด ๑-๒ วัน กาหนด ๓-๕ กาหนดมากกว่า ๕ วัน
เกณฑ์กำรประเมิน
คะแนน ระดับคุณภำพ
๑๖-๒๐ ดีมำก
๑๑-๑๕ ดี
๖-๑๐ พอใช้
๐-๕ ปรับปรุง
๔๗
แบบสังเกตพฤติกรรมรำยบุคคล
ลำดับ ช่ือ-นำมสกุล คุณลักษณะอันพึงประสงค์
มีวินัย ใฝ่เรียนร มุ่งม่ันในกำรทำงำน
๕๔๓๒๑๕๔๓๒๑๕ ๔ ๓ ๒ ๑
ลงชื่อ.............................................................. ผู้ประเมิน
................/...................../.....................