๙๙
พระกริง่ ปวเรศฯ
วดั บวรนิเวศฯ
พระกริง่ วดั บวรนเิ วศฯ ซง่ึ สร้างโดยสมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยา-
ลงกรณ์ ปัจจุบันหาได้ยากย่ิง จัดสร้างจ�ำ นวนน้อย เป็นจักรพรรดิแห่ง
พระกร่ิง ในอาณาจักรพระเคร่ืองรางที่นับถือว่ามีอานุภาพขลังศักด์ิสิทธ์ิ
เป็นท่ีรู้จักแพร่หลายในหมู่นักนิยมพระเครื่อง มีราคาซ้ือขายสูงที่สุดใน
ประเภทพระโลหะ มที ้งั ตอกโคด้ เม็ดงาและไมต่ อกโคด้
พระกริง่ ปวเรศฯ มีพระพุทธรปู ลกั ษณะปางหมอยา เปน็ ช่ือเรียก
พระกรง่ิ ทส่ี รา้ งและอธษิ ฐานจติ โดยสมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาปว-
เรศวริยาลงกรณ์ ในสมัยที่สมเด็จฯ มีพระชนม์ชีพ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๐๔-
๒๔๓๔ พระกร่ิงปวเรศ รุ่น ๑ วดั บวรนิเวศฯ กล่าวไดว้ า่ เป็นพระกรง่ิ
รุ่นแรกที่สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ มีจำ�นวนทั้งหมดเท่าไรไม่ปรากฏ
หลกั ฐานแนช่ ดั ตง้ั แตส่ มเดจ็ ฯ ทา่ นเรม่ิ สรา้ งจนกระทงั่ สมเดจ็ ฯ สน้ิ พระชนม์
ชีพ จะสรา้ งกี่คร้งั หรืออธษิ ฐานจติ ท้งั หมด ลว้ นเปน็ พระกริ่งปวเรศ รนุ่ ๑
ทง้ั สนิ้
พระกร่ิงปวเรศฯ รนุ่ ๑ ปี พ.ศ. ๒๔๑๖ วาระท่ี ๑ (หน้า-หลงั )
พระกริง่ ปวเรศฯ รุน่ ๑ เบ้าพิมพ์ประกบสอง
ปี พ.ศ. ๒๔๓๔
352 : พระเครื่องเงนิ ล้าน
พระกรงิ่ ปวเรศฯ รนุ่ ๑ สร้างหลายวาระดว้ ยกัน สามารถแยกได้
เป็น ๒ ประเภท คือสมเด็จฯ เป็นผสู้ รา้ งและอธษิ ฐานจติ และพระกร่งิ ที่
ลกู ศิษย์ของสมเด็จฯ เป็นผูส้ ร้าง และสมเดจ็ ฯ เปน็ ผอู้ ธษิ ฐานจิต
ประวตั ิการสรา้ งพระกร่ิงปวเรศ ร่นุ ๑
การสรา้ งครั้งท่ี ๑ ในวนั ท่ี ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๐๔ สมเดจ็ ฯ
ทรงสร้างเพ่ือทดแทนพระกริ่งเนื้อทองคำ�ท่ีหายไปเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๓
เพ่ือใช้ในพระราชพิธีเจริญน�ำ้ พระพุทธมนต์ในพิธีรับพระสุพรรณบัฏถวาย
สมเดจ็ พระนางเจา้ สุขมุ าลมารศรฯี จำ�นวนการสรา้ ง ๓ องค์
การสร้างครง้ั ท่ี ๒ วันท่ี ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๐๙ เพือ่ ถวาย
รชั กาลท่ี ๔ ในพระราชพธิ ที รี่ ชั กาลที่ ๕ ทรงผนวชเปน็ สามเณร จ�ำ นวนการ
สรา้ ง ๙ องค์
การสรา้ งคร้ังที่ ๓
วาระท่ี ๑ ปี พ.ศ. ๒๔๑๑ เพ่ือเปน็ อนุสรณ์ถวายรชั กาลท่ี ๕
พระชนมายุ ๑๕ พระชนั ษา ในพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก กรงิ่ รนุ่ นไี้ มม่ เี สน้
พระศก
วาระที่ ๒ เมือ่ วนั ที่ ๒๕ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๑๑ บวรราชาภิเษก
กรมพระราชวงั บวรวิไชยชาญขน้ึ เปน็ วงั หนา้ การสรา้ งทั้ง ๒ วาระ เปน็ เนอ้ื
สมั ฤทธิ์ มี ๓ ชนดิ เนอื้ สมั ฤทธเิ ดช เนอื้ สมั ฤทธศิ กั ดิ์ เนอ้ื สมั ฤทธโิ ชค จำ�นวน
การสร้างไม่ไดก้ ลา่ วไว้
การสร้างครัง้ ที่ ๔
วาระท่ี ๑ วนั ท่ี ๑๕ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๑๖ รัชกาลท่ี ๕ ทรงผนวช
เป็นพระภิกษุ
วาระที่ ๒ วันท่ี ๑๖ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๑๖ บรมราชาภิเษกครอง
ราชยเ์ ปน็ ครงั้ ท่ี ๒ สมเดจ็ ฯ ทรงออกแบบเปน็ ๒ แบบ เพอื่ ทรงถวายในพระ
ราชพธิ ีทรงผนวชและบรมราชาภิเษกข้ึนครองราชสมบตั ิ จ�ำ นวนการสร้าง
ไม่ไดก้ ล่าวไว้
ประเสริฐ โลห่ เ์ พชรัตน์-กติ ติ โลห่ เ์ พชรัตน์ : 353
การสร้างครั้งที่ ๕ ในปี พ.ศ. ๒๔๒๖ เรียกกริ่งปราบฮ่อ ร. ๕
จ�ำ นวนการสรา้ งไม่ไดก้ ล่าวไว้
การสร้างคร้ังที่ ๖ ในปี พ.ศ. ๒๔๓๔ จดั สร้างเพือ่ เปน็ อนสุ รณ์
ทรงได้รับมหาสมณุตตมาภิเษก ตำ�แหน่งสมเด็จพระสังฆราชองค์ท่ี ๘ มี
หลายแบบพิมพ์ แบบใช้แม่พิมพเ์ กา่ บางองคเ์ ปน็ แมพ่ ิมพใ์ หม่ จำ�นวนการ
สร้างไม่ได้ระบไุ ว้
การสรา้ งพระกรง่ิ ปวเรศฯ รุ่น ๑ ปี พ.ศ. ๒๔๓๔
วาระที่ ๑ วันท่ี ๑๐ กนั ยายน สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟา้
มหาวชิรณุ หศิ สยามมกฎุ ราชกุมาร ทรงพระผนวช
วาระท่ี ๒ ไม่ทราบวันที่ พระราชพิธีเฉลิมพระนามในพระ
สุพรรณบัฏ พระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าบริพัตร ภายหลังเปล่ียนเป็นสมเด็จ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ุ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
และพระเจา้ ลกู ยาเธอเจ้าฟ้าจักรพงษ์ ภายหลังเปลยี่ นเปน็ สมเด็จพระอนชุ า
ธริ าช เจ้าฟา้ จักรพงษภ์ วู นาถ กรมหลวงพษิ ณโุ ลกประชานาถ
วาระที่ ๓ วนั ที่ ๒๗ พฤศจกิ ายน พระราชพธิ มี หาสมณตุ ตมาภเิ ษก
พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวรยิ าลงกรณ์ ได้รับสถาปนาเลอ่ื นพระ
อิสรยิ ยศขน้ึ เปน็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
สมเดจ็ พระสงั ฆราชเจา้ กรมหลวงวชริ ญาณวงศ์ เคยมดี ำ�รสั ถงึ เรอ่ื ง
พระกรงิ่ ปวเรศฯ นวี้ า่ ตำ�ราการสรา้ งพระกรงิ่ และตำ�รามงคลโลหะทม่ี มี าแต่
โบราณ สืบค้นได้ถึงสมัยสมเด็จพระพนรัตน วัดป่าแก้ว ท่านอาจารย์
ตรยี มั ปวาย ไดก้ ลา่ วถงึ เรอื่ งพระกรง่ิ ปวเรศฯ ไวด้ งั นี้ พระกรง่ิ ปวเรศฯ ทค่ี น
โบราณเขานยิ มกนั นน้ั มอี ยเู่ นอื้ เดยี ว คอื เนอ้ื นวโลหะผวิ กลบั ด�ำ เมอื่ ขดั เนอื้
ในจะเป็นสีจำ�ปาเทศ และเมื่อทิ้งไว้ถูกกับอากาศจะกลับด�ำ อีกครั้งหน่ึงใน
เวลาไมน่ าน เนอ้ื นวโลหะประกอบไปดว้ ยโลหะ ๙ อย่าง ได้แก่ ทองค�ำ เงนิ
ทองแดง จา้ วน�ำ้ เงนิ (พลวง) เหลก็ ละลายตวั ชนิ (ตะกวั่ +ดบี กุ ) ตะกว่ั น�ำ้ นม
ปรอท และสงั กะสี
354 : พระเครื่องเงนิ ล้าน
สมเด็จพระมหาสมณเจา้
กรมพระยาปวเรศวรยิ าลงกรณ์
สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวรยิ าลง-
กรณ์ เป็นพระโอรสพระองค์ท่ี ๑๘ ในสมเด็จพระบวรราชเจา้ มหา
เสนานุรักษ์ ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาน้อยเล็ก เมื่อวันที่ ๑๔
กนั ยายน พ.ศ. ๒๓๕๒ เม่อื พระชนมายุได้ ๑๓ พรรษา ทรงผนวช
เป็นสามเณร ณ วดั มหาธาตยุ วุ ราชรังสฤษฏฯ์ิ โดยมีสมเดจ็ พระ
สงั ฆราช (ม)ี เป็นพระอุปัชฌาย์ และทรงผนวชเปน็ พระภกิ ษุเมอ่ื
มีพระชนมายุครบ ๒๐ พรรษา
ในปี พ.ศ. ๒๓๙๔ รชั กาลที่ ๔ ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ
สถาปนาขนึ้ เปน็ พระองคเ์ จา้ ตา่ งกรม มพี ระนามวา่ พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ
พระองคเ์ จา้ ฤกษ์ กรมหมน่ื บวรรงั ษสี รุ ยิ พนั ธ์ุ เปน็ เจา้ คณะใหญ่
ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย นับว่าทรงเป็นเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุติ
พระองค์แรก เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๖ พระองคท์ รงเป็นพระราชอปุ ัธ-
ยาจารย์ของรัชกาลที่ ๕ ซึ่งในปีเดียวกันนี้ ทรงได้รับการโปรด
เกลา้ ฯ เล่ือนพระอสิ ริยยศขึ้นเป็น พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระ
ปวเรศวรยิ าลงกรณ์ การท่ีเล่อื นพระอิสริยยศครง้ั น้แี มว้ ่าพระองค์
จะไม่ทรงรับถวายมหาสมณุตตมาภิเษกในที่สมเด็จพระสังฆราช
แตพ่ ระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั กถ็ วายพระเกยี รตยิ ศ
ในทางสมณศักด์ิสูงสุด เท่ากับทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช
ประเสรฐิ โลห่ เ์ พชรัตน์-กติ ติ โล่หเ์ พชรัตน์ : 355
รชั กาลท่ี ๕ ทรงมไิ ดส้ ถาปนาพระเถระรปู ใดเปน็ สมเดจ็ พระสงั ฆราช
เปน็ ระยะเวลาถึง ๒๓ ปี จงึ ได้ทรงสถาปนาพระองค์ขน้ึ เป็นสมเดจ็
พระสังฆราชในกาลต่อมา
ในปี พ.ศ. ๒๔๓๔ รัชกาลท่ี ๕ ทรงมีพระราชดำ�ริว่า
สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระปวเรศวรยิ าลงกรณ์ ทรงเจรญิ
พระชนมายุ ไมม่ ีพระบรมวงศานวุ งศพ์ ระองค์ใดในพระบรมราช-
ตระกูลอันนี้ ทลี่ ่วงลับไปแลว้ ก็ดี ยงั ด�ำ รงอย่กู ด็ ี ทจี่ ะมีพระชนมายุ
เทียมถึง รวมท้ังยังเป็นท่ีนับถือของคนทั่วไปท้ังฝ่ายคฤหัสถ์และ
ฝ่ายบรรพชิต พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งพระ
ราชพิธีมหาสมณุตตมาภิเษกเล่ือนพระอิสริยยศขึ้นเป็นพระเจ้า
บรมวงศเ์ ธอ กรมสมเดจ็ พระปวเรศวริยาลงกรณ์ มพี ระนามตาม
จารึกในพระสุพรรณบฏั วา่
“พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมสมเด็จพระปวเรศวรยิ าลง
กรณ์ บวรรงั ษสี รุ ยิ พนั ธุ์ ปยิ พรหมจรรยธ์ รรมวรยตุ ปฏบิ ตั สิ ทุ ธ
คณนายก ธรรมนิติสาธกปวรยั ยะบรรพชติ สรรพธรรมิกกิจ
โกศล สุวมิ ลปรีชา ปญั ญาอรรคมหาสมณุดม บรมพงษาธบิ ดี
จกั รกรบี รมนารถ มหาเสนานรุ กั ษอ์ นรุ าชวรางกรู ปรมนิ ทร
บดินทรสูรย์หิโตปัธยาจารย์ มโหฬารเมตยาภิธยาไศรย
ไตรปฎิ กโหรกลาโกศล เบญจปดลเสวตรฉตั ร ศริ ริ ตั โนปลกั ษณ
มหาสมณุตตมาภิเศกาภิสิต ปรมกุ ฤษฐสมณศกั ดิธำ�รง มหา
สงฆปรินายก พุทธสาสนดิลกโลกุตมมหาบัณฑิตย์ สุนทร
วิจิตรปฏิภาณ ไวยัตติยญาณมหากระวี พุทธาทิศรีรัตนไตร
356 : พระเคร่อื งเงินลา้ น
คณุ ารกั ษ์ เอกอรรคมหาอนาคารนิ รตั น สยามาขโิ ลกยปฏพิ ทั ธ
พุทธปริสัษยเนตร สมณคณินทราธิเบศรสกลพุทธจักโร
ปการกิจ สฤษดิศุภการ มหาปาดมกษประธานวโรดม
บรมนารถบพติ ร”
ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ท่ี ๘ แห่งกรุง
รัตนโกสินทร์ ประทับอยู่ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ได้รับมหาสมณุต-
ตมาภเิ ษก เมอื่ ปี พ.ศ. ๒๔๓๔ เมอ่ื พระชนมายุได้ ๘๒ พรรษา เปน็
พระมหาสมณเจ้าฯ ได้ ๑๐ เดือน ก็ส้ินพระชนม์ เมื่อวันท่ี ๒๘
กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๓๕ พระชมมายไุ ด้ ๘๓ พรรษา ๑๓ วนั ทรงผนวช
เปน็ พระภิกษุได้ ๖๓ พรรษา
ประเสรฐิ โลห่ เ์ พชรัตน์-กติ ติ โลห่ ์เพชรัตน์ : 357
อ้างอิง
“ผเู้ ขยี นขอขอบพระคณุ เปน็ อยา่ งสงู ส�ำ หรบั ขอ้ มลู และรปู ภาพ
จากแหล่งตา่ งๆ ทน่ี �ำ มาประกอบในหนงั สือเล่มน้ี ไว้ ณ ทนี่ ้ี
ด้วย ขออำ�นาจและพระบารมีแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย จง
คุ้มครองคุ้มภัยให้แก่ทุกท่านด้วย ขอขอบพระคุณอย่างสูง
อกี ครง้ั ครบั ”
ผเู้ รยี บเรยี ง
ความรู้ ดุจแสงสวา่ งนำ�ทาง การอา่ น คอื ยา่ งก้าวสโู่ ลกกวา้ ง
Knowledge is the shining light. Reading opens the door to the world.
Kaoraek Publishing
ยินดีรบั ต้นฉบบั ทตี่ รงกบั แนวทางของสำ�นกั พมิ พ์
กรุณาสง่ มาท่ี [email protected]
ส�ำ นักพมิ พ์ กา้ วแรก
๖๗/๑๘๑ หมู่ท่ี ๗ อาคาร E ดาลนิ เพลส ซอยพหลโยธนิ ๖๙
แขวงอนุสาวรยี ์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ๑๐๒๒๐
โทรศัพท์ ๐-๒๙๗๒-๔๖๙๐ โทรสาร ๐-๒๙๗๒-๕๒๖๕