พระชัยวฒั น์ หลวงปบู่ ุญ พิมพช์ ะลูด พระชัยวฒั น์ หลวงปบู่ ุญ พมิ พต์ ้อ
พระชัยวัฒน์ หลวงปูบ่ ญุ พระชัยวฒั น์ หลวงปบู่ ุญ
พิมพ์ป้อมเล็ก พิมพ์ตอ้ (หนา้ -หลัง)
สนนราคาพระชัยวัฒน์หลวงปู่บุญ ทุกพิมพ์อยู่ท่ีหลักหม่ืน
ขนึ้ ไปทงั้ สน้ิ พมิ พช์ ะลดู จะแพง รองลงมาเปน็ พมิ พต์ อ้ พมิ พป์ อ้ มใหญ่
พมิ พ์คอหอก และพิมพป์ อ้ มเล็ก สว่ นพระพิมพ์ชะลูดองคย์ อดชอ่
ที่เรียกกันว่าพิมพ์ ร.ศ. ๑๑๘ น้ัน ยิ่งนิยมและสนนราคาแพงกว่า
พิมพ์อ่ืน เพราะจำ�นวนน้อยกว่าพิมพ์อื่นมาก ราคาของพิมพ์ชะลูด
พมิ พต์ ้อ อยู่ทห่ี ลักแสนตน้
พุทธคุณพระชัยวัฒน์หลวงปู่บุญมีนานัปการท้ังทางเมตตา
มหานิยม มหาลาภ คงกระพันชาตรี และแคลว้ คลาด
หลวงปบู่ ุญ
หลวงป่บู ญุ วดั กลางบางแก้ว จ. นครปฐม เกิดเมือ่ วัน
จันทร์ท่ี ๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๓๙๑ ณ อ. สามพราน จ. นครปฐม
เปน็ บตุ รของนายเสง็ และนางลิม้ เมอื่ ยงั เยาว์เป็นไขห้ นักจนสลบ
ไมห่ ายใจ พวกผใู้ หญเ่ ขา้ ใจวา่ ตายเสยี แลว้ ระหวา่ งทจี่ ดั แจงจะเอา
ไปฝัง ไดก้ ลบั ฟืน้ ขนึ้ มาจนหายเปน็ ปกติ ครั้งนนั้ เปน็ นมิ ติ ดี จึงให้
ช่ือวา่ บญุ ท่านบรรพชาเม่ืออายุ ๑๕ ปี ณ วดั คงคาราม (วัดกลาง
บางแก้ว) อุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๑๒ ณ
พทั ธสมี าวดั กลางบางแกว้ โดยมพี ระปลดั ปาน เจา้ อาวาสวดั ตกุ๊ ตา
เปน็ พระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาวา่ ขนฺธโชติ ทา่ นมรณภาพเมอ่ื วนั ท่ี ๘
เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๘ สริ ริ วมอายุ ๘๗ ปี ๖๖ พรรษา
302 : พระเครื่องเงนิ ล้าน
๘๖
พระชัยวฒั น์ ท่านเจ้ามา
วดั สามปลืม้
วัตถุมงคลท่ีได้รับความนิยมของท่านเจ้ามาได้สร้างไว้หลายชนิด มีทั้ง
เหรยี ญและพระชยั วฒั น์ ซง่ึ พระชยั วฒั นข์ องทา่ นสรา้ งตามต�ำ รบั โบราณของ
พระวันรัต วดั ปา่ แกว้ มีหลายพมิ พ์ ลว้ นแตไ่ ดร้ ับความนิยมทงั้ ส้นิ ทีน่ ิยม
และรจู้ กั มพี มิ พต์ า่ งๆ ดงั นี้ ๑. พมิ พล์ ม้ ลกุ ๒. พมิ พ์ ร.ศ. ๑๑๘ ๓. พมิ พแ์ ซยดิ
๔. พมิ พบ์ วั ฟันปลา ๕. พมิ พ์กริง่ ใบ้ ๖. พมิ พ์หนา้ ครฑุ ๗. พิมพ์คอหนอก
๘. พิมพ์ฐาน ๖ เหลยี่ ม ๙. พมิ พเ์ ศยี รทุย ๑๐. พิมพ์สงิ หเสนี ๑๑. พมิ พ์
แม่คา้ ๑๒. พมิ พห์ น้ากระบ่ี ๑๓. พมิ พฐ์ านเต้ีย ๑๔. พิมพ์ฐานสงู
ทา่ นไดป้ ลกุ เสกเดย่ี ว เนอ้ื พระทา่ นสรา้ งดว้ ยโลหะผสม มหี ลายเนอ้ื
เชน่ เนอ้ื ทองผสม บางองคอ์ อกทองเหลอื งประแจจนี ออกแดง ขนั ลงหนิ หรอื
แมแ้ ตเ่ นอ้ื กลบั ด�ำ กม็ ี แบบมปี ระกายเงนิ ในแบบนวโลหะหรอื ออกแกท่ องค�ำ
แก่เงิน หรือแก่สำ�รดิ ก็มี แต่โดยท่วั ไปเนอ้ื พระของท่านจะหนกั ไปทางทอง
เหลอื ง สว่ นสาเหตทุ เ่ี นอ้ื พระบางองคก์ ลบั ด�ำ ประกายเงนิ หรอื ประกายทองนน้ั
พระชยั วฒั น์ พิมพล์ ม้ ลุก พระชัยวัฒน์ พิมพ์ล้มลกุ
เนอ้ื กลับดำ�
พระชยั วฒั น์ พมิ พ์แซยิด (หน้า-หลงั ) พระชยั วัฒน์ พิมพ์ฐาน ๖ เหลีย่ ม
(หนา้ -หลงั )
พระชยั วัฒน์ พมิ พ์เศียรทุย
ทม่ี าคอื ครง้ั หนง่ึ ไฟไดไ้ หมพ้ ระมณฑป ทา่ นไดเ้ กบ็ เศษเสอ่ื เงนิ เสอ่ื ทองท่ี
ไฟไหม้ มาหลอ่ หลอมขน้ึ มาเป็นเส้นทองและเส้นเงินใหม่ ท่านได้เก็บเศษ
โลหะเงนิ ทองเหลา่ นน้ั มาผสมกบั เนอื้ พระ ทา่ นท�ำ ใหบ้ างรนุ่ เนอ้ื กลบั ด�ำ ออก
ประกายเงนิ หรือประกายทอง
พมิ พล์ ม้ ลกุ ค�ำ วา่ ลม้ ลกุ เพราะองคพ์ ระเหมอื นตกุ๊ ตาลม้ ลกุ ตงั้ วาง
ไว้ไมม่ ีล้ม จะกล้งิ ลุกขนึ้ มาไดต้ ลอด องคพ์ ระขดั สมาธิ นัง่ บนบวั เล็บช้าง
มหี ลายเนื้อ หายาก และราคาแพงท่สี ดุ คือเน้ือกลับด�ำ แกเ่ งินมาก
พระชัยวัฒน์ของท่านเจ้ามาถือเป็นสุดยอดพระชัยวัฒน์อันดับ
หนงึ่ และถูกจดั ให้อยใู่ นท�ำ เนยี บเบญจภาคชี ยั วัฒน์ อนั ประกอบไปดว้ ย
พระชัยวัฒน์ท่านเจ้ามา วัดสามปล้ืม พระชัยวัฒน์หลวงปู่บุญ วัดกลาง
บางแกว้ พระชยั วัฒนส์ มเด็จสงั ฆราช (แพ) วัดสุทศั น์ฯ พระชยั วัฒนห์ ลวง
ปู่เอีย่ ม วดั หนัง และพระชยั วัฒน์พระครูลมื วัดอรณุ ฯ
ราคาค่านิยม ถ้าสวยๆ ราคาหลักหมื่นต้นหมดทุกพิมพ์ มี
ราคาต้ังแต่หลักหม่ืนต้นไปถึงทะลุแสนกลาง ข้ึนกับความนิยมของ
พิมพ์พระ พิมพ์ล้มลุกแบบเนื้อกลับดำ�ราคาทะลุแสนกลาง พิมพ์ที่
ถอื ว่าราคาเบาทส่ี ุดคอื พระพมิ พ์ฐานสงู อยใู่ นหลกั หมน่ื ตน้ พระท่ไี ม่
สวยยังพอหาไดใ้ นหลกั พนั ปลายๆ
พุทธคุณท่ีเล่าสืบทอดกันมาในองค์พระเด่นทางเมตตามหา
นยิ มและคงกระพันชาตรี
ประเสรฐิ โลห่ ์เพชรัตน-์ กติ ติ โล่ห์เพชรัตน์ : 305
พระชยั วฒั น์ พมิ พบ์ วั ฟันปลา (หนา้ -ขา้ ง-ฐาน-หลัง)
พระชยั วัฒน์ พิมพ์กรงิ่ ใบ้ (หนา้ -หลัง)
ทา่ นเจา้ มา
ทา่ นเจา้ มา วดั สามปลื้ม (วดั จักรวรรดิฯ) เกดิ เมื่อปี พ.ศ.
๒๓๘๐ เปน็ บตุ รของนายทองอยู่ และนางแชม่ อุปสมบทเมอ่ื อายุ
๒๔ ปี ณ พัทธสีมาวดั จักรวรรดิ (สามปล้ืม) ตรงกบั ปี พ.ศ. ๒๔๐๔
ทา่ นมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๗ รวมสิรอิ ายุ ๗๗ ปี ๕๓ พรรษา
ประเสริฐ โลห่ ์เพชรตั น-์ กิตติ โล่หเ์ พชรัตน์ : 307
๘๗
พระหลวงปทู่ วด
วัดชา้ งให้ เนอื้ โลหะ
พระหลวงปทู่ วด เนอ้ื โลหะ เปน็ ทนี่ ยิ มกนั มากในวงการนกั สะสม มดี ว้ ยกนั
หลายพมิ พ์ พระหลวงปู่ทวด รุ่นหลังเตารดี ปี พ.ศ. ๒๕๐๕ พมิ พ์ใหญ่
ในปัจจบุ นั วงการพระตา่ งยอมรบั มีทั้งเน้ือทองค�ำ นวโลหะ และโลหะผสม
มี ๒ วรรณะ คอื เนอื้ วรรณะแดง หลอ่ โดยโรงหลอ่ แถววัดคอกหมู และเนอ้ื
วรรณะเหลือง หล่อขนึ้ ทว่ี ดั
พระหลวงปทู่ วดรนุ่ หลงั เตารดี เนอ้ื โลหะผสมทม่ี คี วามหลากหลาย
มาก เชน่ แกท่ องบ้าง แกท่ องเหลืองบา้ ง บางองคม์ ีทองเปน็ จ้�ำ ๆ ในองค์
พระ องคท์ แี่ กเ่ งนิ จะมสี อี อกด�ำ พระรนุ่ นเ้ี มอ่ื ทงิ้ ไวน้ านกจ็ ะมเี นอื้ กลบั ด�ำ คล�้ำ
ซงึ่ เป็นที่มาของค�ำ วา่ เตารดี เนื้อกลบั บางองคเ์ ป็นทองคำ�ท้ังองค์กม็ ี
สว่ นพระหลวงปูท่ วด รนุ่ หลงั เตารดี ท่ีสร้างออกจากโรงหลอ่ แถว
วดั คอกหมู (เนอื้ แดง) ชา่ งมคี วามชำ�นาญมากกวา่ ทว่ี ดั ยอ่ มจะหลอ่ พระได้
ดีกว่าและสวยงามกว่า พระเนื้อแดงสร้างจำ�นวนมากกว่า ทำ�ให้ในตลาด
หลวงปูท่ วด วัดช้างให้
พมิ พ์เตารดี ใหญ่ A หนา้ -หลงั
หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ พมิ พ์เตารีดใหญ่ ปี พ.ศ. ๒๕๐๕ 309
(องคซ์ า้ ยเนอ้ื แดง องค์ขวาเนอ้ื เหลือง)
ประเสริฐ โลห่ เ์ พชรัตน-์ กติ ติ โล่ห์เพชรัตน์ :
หลวงปทู่ วด วัดช้างให้ หลวงปทู่ วดวัดชา้ งให้ รุ่นพนิ ยั กรรม พมิ พ์ใหญ่
พิมพ์เตารดี กลางปั๊มซ�ำ้ หนา้ ใหญ่ ปี พ.ศ. ๒๕๐๕
หลวงปู่ทวด วดั ชา้ งให้ พมิ พเ์ ตารีดเลก็ หนา้ แหงน (องคซ์ า้ ย)
พิมพ์เตารีดเลก็ อาปาเช่ (องคข์ วา)
310 : พระเครอ่ื งเงนิ ลา้ น
พระได้มกี ารเปลยี่ นมือมากคร้งั กวา่ ราคาย่งิ เพ่ิมข้นึ ตามไปด้วย สว่ นทาง
ใตจ้ ะนิยมเกบ็ พระเนื้อเหลือง เพราะถือว่าเปน็ พระทีท่ �ำ ขึน้ ท่วี ดั
สนนราคาขึ้นอยู่กับพิมพ์ ราคามีตั้งแต่หลักหมื่นปลายไป
จนถึงหลักล้าน อย่างพมิ พ์เตารดี เล็กหนา้ แหงน อยู่ทห่ี ลกั หม่นื กลาง
(พิมพ์นี้ถูกกว่าหน้าอาปาเช่ แต่หายากกว่ามาก) ส่วนพิมพ์เตารีด
กลาง พิมพ์เตารีดเล็กอาปาเช่ ราคาจะหนักกระเป๋าขึ้นมา ถ้าพิมพ์
เตารดี ใหญ่เอ อย่ทู ่ีแสนตน้ ข้ึนไป ถ้าสวยๆ ราคาจะสงู เป็นล้าน
พุทธคุณในองค์พระเด่นทางเมตตามหานิยม โชคลาภ
คงกระพนั ชาตรี และแคล้วคลาด
คาถาบชู าหลวงปทู่ วด
ตง้ั นะโม ๓ จบ ตามด้วยคาถานี้ ๓ จบ นะโม โพธสิ ัตโต อาคันติ
มายะ อติ ภิ ะคะวา
พระอาจารย์ทิม
ประวตั ิของพระอาจารย์ทิม ผ้ปู ลกุ เสกพระหลวงปู่ทวด
วัดช้างให้ เนอื้ โลหะ กบั ประวตั ิของหลวงปทู่ วด ไดม้ อี ย่ใู นเลม่ นี้
แลว้ มีอยู่ในบทที่ ๑๔ พระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เนือ้ วา่ น
ประเสริฐ โลห่ ์เพชรัตน-์ กติ ติ โล่หเ์ พชรัตน์ : 311
๘๘
พระปดิ ตาหลวงปู่โตะ๊
วัดประดูฉ่ มิ พลี
พระปดิ ตาหลวงปโู่ ตะ๊ วดั ประดฉู่ มิ พลี เปน็ พระเครอื่ งทโี่ ดง่ ดงั มากทสี่ ดุ
ของหลวงปูโ่ ตะ๊ พระปิดตาซง่ึ ทา่ นไดส้ ร้างไว้มีมากรนุ่ เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๒๑-
๒๕๒๓ ทา่ นไดส้ ร้างพระปิดตา เนือ้ ผงพทุ ธคณุ (สีเหลอื งออ่ น) และเนื้อผง
ใบลาน (สเี ทาดำ�) หลายพิมพห์ ลายขนาดด้วยกนั เรียกรวมๆ กนั วา่ พระ
ปดิ ตารุน่ ๓ ไตรมาส เพราะหลวงปู่ได้ปลกุ เสกตลอดพรรษา (หรอื ๓ เดอื น
ซงึ่ เทา่ กบั ๑ ไตรมาส) ในชว่ ง ๓ ปนี ั้น จงึ เชื่อกนั ว่าพทุ ธคุณจะต้องเป่ียม
ล้นองค์พระอย่างแน่นอน บรรดาศิษย์กลุ่มหนึ่งจึงขนานนามพระปิดตา
รุ่นนี้เสียใหม่ว่า พระปิดตารุ่นปลดหนี้ พระปิดตารุ่นนี้มีหลายพิมพ์
หลายเนอ้ื
พระปดิ ตาของทา่ นเปน็ หนงึ่ ในชดุ เบญจภาคี พระปดิ ตาเนอื้ ผงที่
ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบันมีท้ังประเภทเน้ือผงคลุกรักจุ่มรักและ
เน้อื ผงจ่มุ รกั สว่ นผสมภายในเนื้อพระหลกั ๆ ประกอบไปด้วย ผงพุทธคุณ
ไตรสรณคมน์ ผงพทุ ธคุณอิติปโิ ส ว่านเครอ่ื งยา ชนั ยาเรอื และรกั แบง่ เป็น
พระปิดตาหลวงป่โู ตะ๊ พมิ พป์ ลดหนี้ พระปดิ ตาหลวงปโู่ ตะ๊ พิมพป์ ลดหนี้
ยนั ต์นะ ใบลาน ยนั ตน์ ะ เน้อื เกสร
พระปดิ ตาหลวงปูโ่ ต๊ะ เนอ้ื ใบลาน เน้ือนิยม (หน้า-ขา้ ง-หลัง)
พระปิดตาหลวงปูโ่ ตะ๊ เน้อื ใบลาน : 313
ประเสริฐ โลห่ เ์ พชรัตน์-กติ ติ โล่ห์เพชรตั น์
๓ พิมพ์ คอื พิมพช์ ะลดู ใหญ่หรือว่าวจฬุ าใหญ่ พิมพ์ตะพาบหรอื พมิ พว์ า่ ว
จฬุ าเลก็ พิมพ์พนมมือ มที ้งั หน้าเดยี วและสองหน้า
สนนราคาพระปดิ ตาของทา่ นสงู มาก เชน่ พระปดิ ตารนุ่ ปลดหน้ี
เนื้อผงเกสร หลังยันต์นะ อยู่ที่หลักแสนต้น พระปิดตารุ่นปลดหน้ี
เน้อื ผงใบลาน (สเี ทาด�ำ ) หลงั ยนั ตน์ ะ สวยๆ อยู่ทีห่ ลักแสนกลาง
ทถี่ กู กว่าน้นั จะเปน็ พระปิดตารุ่นปลดหน้ี หลงั ยนั ตต์ รีนิสงิ เห เนื้อผง
ใบลาน พระหลวงปู่โต๊ะไมว่ ่าร่นุ ไหน ในช่วั โมงน้ชี นดิ ท่ตี ่ำ�กวา่ หม่ืนมี
นอ้ ยมาก
พทุ ธคณุ ทเ่ี ลา่ สบื ทอดกนั มาเดน่ ทางเมตตามหานยิ ม รวมทงั้
เร่อื งโชคลาภ ดีเย่ยี มจริงๆ
หลวงปู่โต๊ะ
ประวตั ขิ องหลวงปโู่ ตะ๊ วดั ประดฉู่ มิ พลี ผปู้ ลกุ เสกพระ
ปดิ ตาหลวงปโู่ ตะ๊ ไดม้ อี ยใู่ นเลม่ นแี้ ลว้ มอี ยใู่ นบทที่ ๘๘ พระปดิ
ตาหลวงปูโ่ ตะ๊ วัดประดูฉ่ มิ พลี
314 : พระเครือ่ งเงินลา้ น
๘๙
พระปิดตาหลวงปูเ่ อี่ยม
วดั หนงั
พระปดิ ตาของหลวงปเู่ อย่ี ม วดั หนงั กรงุ เทพฯ ถอื เปน็ หนงึ่ ในชดุ เบญจ-
ภาคพี ระปดิ ตา ทา่ นเรมิ่ สรา้ งพระปดิ ตาขนึ้ ครงั้ แรกประมาณปี พ.ศ. ๒๔๓๖
เมอ่ื คราวเกดิ วกิ ฤตการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ เรอื รบฝรงั่ เศสเขา้ มาปดิ อา่ วสยาม และ
ไดส้ รา้ งข้ึนอกี ๒ ครัง้ คือเม่อื เกดิ สงครามโลกครั้งท่ี ๑ (ปี พ.ศ. ๒๔๕๘-
๒๔๖๑) และเมื่อคราวบรู ณะเข่อื นหน้าวดั ปี พ.ศ. ๒๔๖๓
พระปิดตาและพระปิดทวารของหลวงปู่เอ่ียม วัดหนัง แบ่ง
ออกได้ ๔ แบบคือ
๑. พระปดิ ตาไม้แกะ อดุ ชันนะโรง
๒. พระปิดตาเนื้อสัมฤทธิ์และเนอื้ ตะกวั่ พมิ พ์ยันตย์ งุ่
๓. พระปดิ ตาและพระปิดทวารเน้ือตะกว่ั ผสมดบี ุก
พระปดิ ตาหลวงปเู่ อยี่ ม พมิ พส์ องหนา้ เนอ้ื สมั ฤทธ์ิ (หน้า-หลัง)
พระปิดตาหลวงปเู่ อ่ยี ม พระปิดตาหลวงปู่เอ่ียม ข้าวตอกแตก
เน้ือชิน พมิ พ์สงั ฆาฏิ เนอื้ ผงใบลาน
พระปิดตาหลวงปเู่ อย่ี ม
พมิ พ์ยนั ต์ยงุ่ เนอ้ื ตะกั่ว
๓.๑ พระปดิ ตา พมิ พ์ข้าวตอกแตก
๓.๒ พระปดิ ทวาร พิมพส์ ังฆาฏิ
๓.๓ พระปิดทวาร พิมพน์ ะหวั เขา่
๔. พระปดิ ตาและปดิ ทวารเนอ้ื ผง
๔.๑ พระปิดตา พมิ พ์ข้าวตอกแตก เน้อื ผง
๔.๒ พระปิดตา พมิ พ์สังฆาฏิ เน้อื ผงใบลาน
๔.๓ พระปดิ ทวาร พิมพ์นะหัวเข่า เนือ้ ผงคลุกรักและเน้อื
ผงใบลาน
สนนราคาในองค์พระปิดตาของท่านอยู่ท่ีหลักหม่ืนกลางไป
ถงึ หลักแสน
พุทธคุณท่ีเล่าสืบทอดกันมาในพระของท่านเด่นทางเมตตา
มหานยิ มและคงกระพัน
หลวงปเู่ อีย่ ม วดั หนัง
ประวัตขิ องหลวงปเู่ อีย่ ม วดั หนงั ผู้ปลุกเสกพระปิดตา
หลวงปู่เอย่ี ม ได้มอี ย่ใู นเล่มนี้แลว้ มอี ยู่ในบทที่ ๗๐ เหรยี ญหลวง
ปู่เอ่ยี ม วดั หนงั
ประเสรฐิ โล่หเ์ พชรัตน-์ กิตติ โล่หเ์ พชรตั น์ : 317
๙๐
พระปิดตาหลวงป่เู อ่ียม
วัดสะพานสงู
หลวงปู่เอี่ยมผู้สร้างพระปิดตาอันลือล่ัน ซ่ึงหายากยิ่ง และสนนราคาค่า
งวดเพชรสู้ไมไ่ ด้
ทา่ นสรา้ งพระปิดตา ๓ พมิ พ์ ทัง้ ๓ พิมพ์น้เี นื้อเดยี วกัน คอื
คลุกรักจุม่ รกั ทา่ นเริ่มสรา้ งเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๓๙๖ เพ่อื แจกเป็นของ
ช�ำ รว่ ยแกผ่ ู้บริจาคสร้างถาวรสถานของวัด
หลวงปู่เอ่ียมท่านได้สร้างพระภควัมบดี หรือที่เรียกกันว่าพระ
ปดิ ตา แบง่ เป็น ๓ พมิ พค์ ือ
๑. พระปิดตาพมิ พพ์ นมมือหลงั แบน มลี ักษณะปอ้ มตอ้ เน้อื ผงสี
เหลืองจุ่มรัก (ผงคลุมรัก) เน้ือน้ีหลวงปู่เอี่ยมได้ผสมสมุนไพร ว่าน
เครอื่ งยา กับผงอิทธฤิ ทธ์ิและรกั เปน็ ตวั ประสาน แลว้ จงึ น�ำ มาจุ่มรัก
๒. พระปิดตาพิมพ์ตะพาบ มีลักษณะป้อมต้อ ลอยองค์คล้าย
ตะพาบ จึงถูกขนานนามวา่ พิมพ์ตะพาบ พิมพ์น้มี ีเนอ้ื ผงสีเหลอื ง-คลุกรัก
จมุ่ รัก เนือ้ เดยี วกับพระปดิ ตาพมิ พพ์ นมมอื
พระปดิ ตา พิมพ์ตะพาบ พระปดิ ตา
เนือ้ คลุกรกั จ่มุ รัก พิมพต์ ะพาบ
พระปิดตา พมิ พ์พนมมือ ๒ หนา้ เนื้อคลกุ รกั จ่มุ รกั (หนา้ -หลงั )
๓. พระปิดตาพิมพ์พนมมือ ๒ หน้า ซ่งึ เปน็ พิมพ์เดยี วกบั พมิ พ์
พนมมือ แต่ลูกศิษย์ของหลวงปู่เอ่ียมน�ำ เอาสององค์ประกบกัน จึงเป็น
พระปิดตา ๒ หนา้
พระปิดตาสร้างจากผงพุทธคุณที่ได้กล่าวมาข้างต้นน้ีแล้ว
ทา่ นยงั เลน่ ผงพุทธคุณอกี ๓ อยา่ งคอื
๑. ผงพทุ ธคุณ มหาโสฬสมงคล
๒. ผงพทุ ธคณุ ไตรสรณคมน์
๓. ผงพทุ ธคุณ อติ ิปโิ ส
พระปดิ ตาของท่านได้ใชว้ ่าน ๑๐๘ ทีเ่ ป็นมงคลนาม และว่านท่ี
มีอานุภาพคงกระพันศักด์ิสิทธิ์ในตัวมาเป็นส่วนผสมสร้างพระร่วมกับ
ผงพุทธคุณ ส่วนตัวประสานพระปิดตา ท่านได้ใช้ชันยาเรือมาตำ�ปน
คลกุ เคล้ากันไปในเนื้อหามวลสารของพระดว้ ย
สนนราคาในองคพ์ ระปดิ ตาของทา่ น อยทู่ หี่ ลกั หมน่ื ตน้ จนถงึ
หลกั แสน
พทุ ธคุณในองค์พระของทา่ นเดน่ ทางคงกระพนั ชาตรี
320 : พระเคร่อื งเงนิ ลา้ น
หลวงปูเ่ อย่ี ม วดั สะพานสงู
หลวงปู่เอ่ยี ม วัดสะพานสูง จ. นนทบรุ ี ท่านเกดิ เมือ่ ปี
พ.ศ. ๒๓๕๙ ท่ี อ. ปากเกรด็ จ. นนทบุรี เป็นบตุ รของนายนาค
และนางจนั ทร์ เม่ืออายไุ ด้ ๒๒ ปี ไดอ้ ปุ สมบทท่ีวัดบอ่ จ. นนทบุรี
หลังจากอุปสมบทได้ ๑ เดือน ท่านก็ย้ายมาจำ�พรรษาอยู่ที่วัด
กัลยาณมิตร ท่านอยู่ที่วัดน้ีเกือบ ๗ พรรษา จึงย้ายมาอยู่ที่วัด
ประยรุ วงศาวาส ในปี พ.ศ. ๒๓๘๘ ตอ่ มาในปี พ.ศ. ๒๓๙๖ ญาตโิ ยม
ชาวบา้ นภมู ลิ �ำ เนาในคลองบา้ นแหลมใหญไ่ ดเ้ ดนิ ทางมาอาราธนา
หลวงปู่เอย่ี ม ให้กลบั ไปปกครองวดั สวา่ งอารมณ์ (ปจั จบุ นั คือวัด
สะพานสูง) ท่านมรณภาพในปี พ.ศ. ๒๔๓๙ สิริอายุได้ ๘๐ ปี
พรรษาที่ ๕๘
ประเสรฐิ โล่ห์เพชรัตน์-กิตติ โลห่ เ์ พชรัตน์ : 321
๙๑
พระปิดตาหลวงพ่อทบั
วดั ทอง
ยอดพระปดิ ตามหาอตุ มข์ องหลวงพอ่ ทบั วดั สวุ รรณาราม (วดั ทอง)
กรงุ เทพฯ นอกจากพระปดิ ตาหลวงปเู่ อยี่ ม วดั หนงั แลว้ กต็ อ้ งกลา่ วถงึ พระ
ปิดตาหลวงพ่อทับ วัดทอง ควบคู่กันไปทั้งสองสำ�นัก เป็นพระปิดตาที่มี
ความนยิ มแสวงหากนั มาโดยตลอด
พระปิดตามหาอตุ ม์มที ง้ั เน้อื ส�ำ ริดเงิน เนื้อชนิ ตะกว่ั เน้อื เมฆพัตร
เน้ือส�ำ รดิ แบบขนั ลงหิน เนอื้ ผงคลกุ รกั และเนือ้ แร่บางไผ่ ซงึ่ ถือไดว้ า่ เป็น
เนอ้ื พิเศษทพ่ี บเห็นไดย้ าก หลวงพ่อทบั ได้เนือ้ แร่บางไผ่มาจากหลวงปู่จัน
วดั โมลี เจา้ ของและตน้ ฉบบั พระปดิ ตาแรบ่ างไผ่ พระปดิ ตาของหลวงพอ่ ทบั
ถูกจดั อยใู่ นชุดเบญจภาคมี หาอตุ ม์
ในวงการแบ่งแยกพิมพ์ทรงพระปิดตาหลวงพ่อทับไว้หลายพิมพ์
เชน่ พิมพช์ ะลูด พิมพ์น่ังยอง พมิ พภ์ ควัม พมิ พ์หัวบายศรี พิมพต์ กุ๊ ตายนั ต์
นอ่ ง พมิ พน์ งั่ บัวเศยี รแหลม เปน็ ตน้
พระปิดตาวดั ทอง พิมพย์ ันต์ยงุ่ เศยี รบาตร เนอื้ ส�ำ ริด
พระปดิ ตาวัดทอง พมิ พ์เศียรบายศรี พระปิดตาวัดทอง พมิ พ์ยันต์ย่งุ เนอ้ื สำ�รดิ
พระปดิ ตาวัดทอง เนื้อเมฆพตั ร และพระปดิ ตาวัดทอง พิมพ์ยนั ตน์ อ่ ง
พระปิดตาวดั ทอง พิมพน์ ั่งยอง พระปิดตาวดั ทอง พมิ พล์ ูกอม
และพระปิดตาวัดทอง พิมพ์ต๊กุ ตา
พระปิดตามหาอุตม์ พิมพ์ยันต์ยุ่ง เป็นพระปิดตาน่ังสมาธิเพชร
ขาไขว้ บางองคม์ ีพระกร ๓ คู่ บางองค์มถี งึ ๔ คู่ โดยคแู่ รกยกข้ึนปิดพระ
พักตร์ คู่ที่สองยกมือข้ึนปิดพระกรรณ คู่ท่ีสามล้วงลงปิดทวารหนักและ
ทวารเบา คู่ที่สป่ี ดิ พระนาภี (สะดอื ) ทางดา้ นลกั ษณะขององค์พระท่ีปดิ ตา
น้ันมีท้งั ในลักษณะตอ้ บางองคม์ พี ระชานุทกี่ วา้ ง ขณะเดียวกันกบั ในบาง
องคเ์ ปน็ แบบพระชานุแคบ ซ่ึงเรียกขานแยกเปน็ พมิ พ์ได้ว่า พมิ พย์ นั ตย์ งุ่
เศียรโต พมิ พ์ยันตย์ ่งุ ต้อเข่ากว้าง พมิ พย์ นั ตย์ งุ่ ชะลดู เขา่ แคบ พมิ พต์ ุ๊กตา
และในพระปิดตาพิมพย์ ันต์ยุ่งนี้ หากพมิ พ์ใดหรอื พระองค์ใดมีอกั ขระขอม
ปรากฏตรงพระเพลา จะเปน็ อกี พมิ พห์ นง่ึ ทเี่ รยี กกนั วา่ พมิ พย์ นั ตน์ อ่ ง ดา้ น
หลงั องคพ์ ระตรงกลางเปน็ ยนั ตเ์ ฑาะว์ อณุ าโลมหางสะบดั ขน้ึ ดา้ นบนเศยี ร
หรืออาจเป็นตัวอักขระขอมตัวอ่ืน ด้านข้างตัวเฑาะว์อุณาโลมเป็นตัว
อณุ าโลมขนาบขา้ ง ๒ ตวั ด้านล่างเป็นอักขระวา่ “นะ มะ พะ ธะ” ใต้ฐาน
องคพ์ ระเป็นแอ่งลึก
324 : พระเคร่ืองเงินล้าน
ราคาการเช่าหาบูชาแพงท่ีสุดคือพิมพ์ยันต์ยุ่งเศียรบาตร
มลู คา่ ในการเชา่ หาบชู าสงู ถงึ หลกั แสนตน้ ถงึ กลางเลยทเี ดยี ว สว่ น
พิมพ์อนื่ อยทู่ ี่หลกั หมนื่ ปลาย
ด้านพุทธคุณในพระของท่านข้ึนช่ือลือชามากทางด้านมหา
อตุ ม์
หลวงพ่อทบั
ชอื่ เสยี งของวดั สุวรรณาราม (วดั ทอง) เป็นท่ีรจู้ ักกนั ของ
นกั สะสมพระเครอ่ื ง สว่ นหนง่ึ มาจากพระปดิ ตามหาอตุ มย์ นั ตย์ งุ่ เปน็
พระที่สรา้ งข้ึนโดยอดีตเจ้าอาวาสวดั รูปท่ี ๙ คอื พระครูเทพสทิ ธิเท-
พาธบิ ดี หรือหลวงพ่อทบั ท่านเกิดในตระกลู ปทั มานนท์ เม่อื วัน
เสารท์ ่ี ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๙๐ ทีบ่ างกอกนอ้ ย กรงุ เทพฯ เป็น
บตุ รของนายทมิ และนางนอ้ ย ปทั มานนท์ ไดบ้ รรพชาเปน็ สามเณร
เม่ือปี พ.ศ. ๒๔๐๘ เข้ารับการอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๑ ณ
พทั ธสมี าวดั ชา่ งเหลก็ บางกอกนอ้ ย โดยมพี ระอธกิ ารมว่ ง เปน็ พระ
อปุ ชั ฌาย์ ไดร้ บั ฉายาวา่ อนิ ทโชติ ในปี พ.ศ. ๒๔๕๐ ไดร้ บั ตำ�แหนง่
เจา้ อาวาสสืบต่อจากพระครวู ิมลปัญญา (เนยี ม) ทา่ นมรณภาพลง
เม่ือวนั ที่ ๒๙ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๕๕ รวมอายุได้ ๖๕ ปี พรรษา ๔๔
ประเสริฐ โล่หเ์ พชรัตน-์ กิตติ โลห่ ์เพชรตั น์ : 325
๙๒
พระปิดตาหลวงพ่อทา
วดั พะเนียงแตก
วัตถมุ งคลทที่ า่ นไดส้ รา้ งเอาไวม้ หี ลายชนดิ ดว้ ยกนั เชน่ พระปดิ ตา เหรยี ญ
รูปหล่อ ตะกรดุ และเคร่อื งรางชนิดต่างๆ แต่ทีโ่ ด่งดงั คอื พระปิดตา
พระปดิ ตา หลวงพอ่ ทา วดั พะเนยี งแตก จ. นครปฐม เปน็ พระ
เคร่ืองทผ่ี คู้ นนยิ มสนใจเชา่ หา พระปดิ ตาเน้ือเมฆพัตร มที ง้ั พิมพพ์ ระ
ปดิ ตาองคเ์ ดยี ว ทเ่ี รยี กกนั วา่ พระปดิ ตาเกลอเดย่ี ว หากมพี ระปดิ ตา ๒ องค์
หลงั ตดิ กนั เรยี กว่าพระปดิ ตา ๒ เกลอ และทมี่ พี ระปิดตา ๓ องคห์ ลังตดิ กัน
เรยี กวา่ พระปิดตา ๓ เกลอ ในวงการพระหากเอ่ยชอ่ื พระปิดตาเกลอเดย่ี ว
๒ เกลอ ๓ เกลอ จะรกู้ นั ทนั ทวี า่ เปน็ พระปดิ ตาหลวงพอ่ ทา วดั พะเนยี งแตก
สนนราคายามนอี้ ยูท่ ่ีหลักหม่นื ถึงหลกั แสน อย่างพมิ พ์เกลอ
เด่ียว สวยๆ อยทู่ ี่หลกั แสนตน้
พทุ ธคณุ ทเ่ี ลา่ สบื ทอดกนั มาในพระของทา่ นโดง่ ดงั ทางเมตตา
มหานยิ ม ทางแคลว้ คลาด มหาอุตม์ และคงกระพนั ชาตรี
พระปดิ ตาหลวงพอ่ ทา พระปิดตาหลวงพอ่ ทา พมิ พ์ ๓ เกลอ
พิมพเ์ กลอเด่ยี ว เนือ้ เมฆพัตร
พระปดิ ตาหลวงพ่อทา เนื้อสำ�ริดเงนิ (ท้งั สององค์)
หลวงพ่อทา
หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ท่านเป็นชาวโพธาราม
จ. ราชบุรี เกดิ เมอื่ ปี พ.ศ. ๒๓๗๙ บรรพชาเม่ือปี พ.ศ. ๒๓๙๔ ณ
วัดโพธาราม อุปสมบทเมื่ออายุ ๓๖ ปี ในปี พ.ศ. ๒๔๑๕ ณ
พทั ธสีมาวัดบ้านฆอ้ ง ทา่ นได้ออกเดนิ ธดุ งค์ไปตามท่ีตา่ งๆ เปน็
เวลานานปี จนมาถึงบริเวณท่เี ป็นวัดพะเนยี งแตก (ท่เี รียกชอ่ื
วัดนี้ เพราะหลวงพ่อทาทา่ นได้เอานิ้วอุดกระบอกไฟพะเนียง
ท่ีชาวบ้านจุดกัน ปรากฏว่ากระบอกไฟพะเนียงระเบิดแตกออก
แต่มือท่านไม่เป็นอะไร ชาวบ้านจึงเรียกวัดพะเนียงแตก) ท่าน
มรณภาพเม่อื ปี พ.ศ. ๒๔๖๓ สริ ิรวมอายุ ๘๔ ปี พรรษา ๔๘
328 : พระเครอื่ งเงินล้าน
๙๓
พระปดิ ตาแรบ่ างไผ่
หลวงปูจ่ นั วดั โมลี
วัตถมุ งคลที่ไดร้ บั ความนยิ มและมีชื่อของหลวงปู่จัน วดั โมลี คือพระ
ปดิ ตาแรบ่ างไผ่ ถอื ว่าเป็นพระปิดตาที่ได้รบั ความนยิ มสงู มพี ทุ ธลักษณะ
แบบลอยองค์ ตรงกลางพระอุระหล่อเปน็ รปู ยนั ต์ เรยี กกนั ว่ายนั ต์นะมหา
อตุ ม์ มว้ นเลน่ หางคลา้ ยอณุ าโลม ดา้ นหลงั เปน็ ยนั ตเ์ ฑาะวไ์ ขวก้ นั สว่ นดา้ น
ลา่ งปรากฏตวั อกั ขระอา่ นวา่ “นะ มะ พะ ธะ” พระปดิ ตาของทา่ นเปน็ ศลิ ปะ
เขมร มจี ุดเดน่ ทีย่ นั ต์ตวั ขอมเปน็ แบบเฉพาะตัวของทา่ น
พระปดิ ตาแร่บางไผข่ องหลวงปจู่ นั แบ่งแยกได้ดังน้ี
๑. พมิ พ์เศียรตัด
๒. พมิ พ์หมวกแกป๊
๓. พิมพเ์ ศยี รเงาะ
๔. พิมพฐ์ านสงู
๕. พิมพ์สามหนา้
๖. พมิ พ์สองหน้า
๗. พมิ พเ์ ศียรโต
พระปดิ ตาแร่บางไผ่ พมิ พ์หมวกแกป๊ พระปิดตาแรบ่ างไผ่ พมิ พ์เศียรตัด
พระปิดตาแร่บางไผ่ หลวงปจู่ นั (หนา้ -หลงั ) และพระปิดตาแร่บางไผ่ หลวงปูจ่ ัน วดั โมลี
330 : พระเครื่องเงินลา้ น พระปดิ ตาแร่บางไผ่ หลวงปูจ่ ัน
ในมมุ ต่างๆ
พระปดิ ตาแรบ่ างไผ่ ในองคท์ ยี่ งั ไมผ่ า่ นการใชจ้ ะพบวา่ มสี นมิ เหลก็
สแี ดงเกาะหมุ้ หนา ความส�ำ คญั คอื เสย้ี นจะเกาะตดิ เนอื้ พระตามซอก เสย้ี น
จะมสี แี ดงปนด�ำ บางองคจ์ ะเหลอื งแดง เสน้ เสยี้ นเปน็ ขแี้ รท่ ห่ี ลอมไลอ่ อกไม่
หมด บางองคอ์ าจจะไมพ่ บเสยี้ น แตถ่ า้ สอ่ งกลอ้ งดบู รเิ วณรอยตดั ของเศยี ร
จะปรากฏวา่ เสยี้ นหลบมมุ เสยี้ นนี้สำ�คัญมาก การปลอมจะท�ำ ได้ยาก
จดุ ออ่ นของพระปดิ ตาแรบ่ างไผอ่ ยตู่ รงความเปราะบาง จงึ ตกไมไ่ ด้
ซ�ำ้ เนอ้ื แรบ่ างไผเ่ ปน็ แรท่ สี่ นมิ กนิ ตวั เอง หากไมช่ โลมน�ำ้ มนั จนั ทนใ์ หด้ ี อาจ
เกดิ สนิมกินตัวจนหมดไปได้
ราคาเช่าบูชาในปัจจุบันน้ันสูงถึงหลักแสนต้น ในพิมพ์นิยม
สูงสุด คือพมิ พห์ มวกแกป๊ ในสภาพสวยแจ่มอาจถึงแสนกลางๆ เลย
ทเี ดยี ว
พุทธคุณในวัตถุมงคลของทา่ นเด่นทางด้านอยู่ยงคงกระพัน
และเมตตามหานิยม
หลวงปจู่ นั
หลวงปู่จนั วดั โมลี ทา่ นเกดิ เมอ่ื ประมาณปี พ.ศ. ๒๓๕๕
เป็นพระภิกษุชาวเขมรที่ออกธุดงค์ผ่านมาจำ�พรรษาที่วัดโมลี
กระทง่ั ไดเ้ ปน็ เจา้ อาวาสวดั ในทส่ี ดุ หลวงปจู่ นั ทา่ นเปน็ เจา้ อาวาสรปู
ที่ ๓ ของวดั โมลี เปน็ เจา้ อาวาสวดั โมลนี านถงึ ๔๒ ปี ทา่ นมรณภาพ
เมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๔๓๗ รวมสริ อิ ายุ ๘๒ ปี
ประเสริฐ โลห่ ์เพชรัตน์-กติ ติ โลห่ ์เพชรตั น์ : 331
๙๔
พระปดิ ตาหลวงพ่อเจยี ม
วัดกำ�แพง
หลวงพอ่ เจยี ม เปน็ ยอดพระเกจอิ าจารยย์ คุ เกา่ ของเมอื งชลบรุ ี วตั ถมุ งคล
ที่ได้รับความนิยมของท่านที่ข้ึนชื่อคือพระปิดตา เป็นหน่ึงในห้าแห่งพระ
ปดิ ตาเบญจภาคี พระพทุ ธประตมิ ากรรมสดุ เลอเลศิ ในศลิ ปะ รปู แบบศลิ ปะ
พิมพ์ทรงสวยงามไม่เหมือนใคร เน้ือพระละเอียดแน่น สีนำ้�ตาลอมเหลือง
จัดเป็นโครงสรา้ งแม่พมิ พ์พระปดิ ตามหาอุตมท์ พี่ ฒั นาถงึ จดุ สงู สดุ
พระปดิ ตาทหี่ ลวงพอ่ เจยี มสรา้ งจะมากกวา่ วตั ถมุ งคลอยา่ งอนื่ แต่
นับจำ�นวนแลว้ ก็ยงั ถือวา่ มีนอ้ ยอยู่ดี
พระปดิ ตาหลวงปเู่ จยี มเปน็ เพชรน�ำ้ เอกพระปดิ ตาทม่ี อี ายยุ าวนาน
มากว่าร้อยปี ซ่ึงแต่ละพิมพ์นั้นจัดเป็นพิมพ์นิยมท้ังสิ้น สามารถจำ�แนก
ลกั ษณะเนอ้ื พระไว้ ๒ ชนดิ คอื เนอ้ื ผงคลกุ รกั ทารกั และเนอื้ ผงทารกั ส�ำ หรบั
พมิ พส์ ามารถจ�ำ แนกไดด้ งั น้ี พระปดิ ตาโยงกน้ พมิ พใ์ หญ่ หลงั ยนั ตอ์ ใุ หญ-่
อเุ ลก็ พระปิดตาโยงก้น พมิ พ์กลาง หลงั ยนั ตอ์ ใุ หญ่-อุเล็ก พระปิดตาโยงก้น
พิมพเ์ ลก็ หลงั ยนั ตอ์ ุใหญ่ (บางองค์มกี รงิ่ เปน็ พมิ พ์หายาก) พิมพ์ ๒ มอื
และพิมพ์ ๒ หน้า
พระปิดตาหลวงพอ่ เจียม พระปดิ ตาหลวงพอ่ เจียม
โยงก้นพิมพ์ใหญ่ เน้อื ผงคลุกรัก โยงก้นพิมพ์พิเศษ มกี ริง่
พระปดิ ตาหลวงพ่อเจยี ม
โยงกน้ ผงทารกั
และพระปิดตาหลวงพ่อเจียม
โยงกน้ ผงคลกุ รัก
พระปิดตาหลวงพอ่ เจียม
เนื้อผงคลกุ รัก (หน้า-หลัง)
สนนราคาพระปิดตาของท่านเช่าหากันในราคาหลักหมื่น
กลางเป็นอย่างน้อย
พทุ ธคณุ ในวตั ถมุ งคลของท่านเดน่ ทางดา้ นเมตตามหานยิ ม
แคล้วคลาด คงกระพนั แถมโชคลาภก็เป็นยอด
หลวงพอ่ เจียม
หลวงพอ่ เจยี ม วดั ก�ำ แพง จ. ชลบรุ ี ทา่ นเปน็ ชาวชลบรุ ี
โดยกำ�เนิด เกดิ เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๙๘ ทา่ นอุปสมบทเมอื่ อายุ ๒๑ ปี
ณ วดั ก�ำ แพง ในปี พ.ศ. ๒๔๑๙ ทา่ นเปน็ เจา้ อาวาสรปู ท่ี ๓ ของวดั
ก�ำ แพง ไดร้ บั ต�ำ แหนง่ เจา้ คณะอ�ำ เภอเมอื งชลบรุ ใี นปี พ.ศ. ๒๔๔๒
และเป็นพระครูเจียมในปีเดียวกัน ดำ�รงตำ�แหน่งรองเจ้าคณะ
จังหวัดชลบุรีที่พระครูชลธารมุนี ในปี พ.ศ. ๒๔๔๖ ดำ�รง
ต�ำ แหนง่ เจ้าคณะจงั หวดั ชลบรุ ี เป็นพระครูชลโธปมคุณมนุ ี ใน
ปี พ.ศ. ๒๔๔๙ ทา่ นมรณภาพเมือ่ วันท่ี ๒๕ พฤศจกิ ายน พ.ศ.
๒๔๕๔ รวมสริ อิ ายุ ๕๖ ปี ๓๕ พรรษา
334 : พระเครอ่ื งเงนิ ลา้ น
๙๕
พระปดิ ตาหลวงปู่ย้ิม
วัดศรีอุปลาราม
วัตถุมงคลของหลวงปู่ย้ิมท่ีได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมีอยู่มากมาย
แตท่ ไี่ ดร้ บั ความนยิ มเปน็ พเิ ศษคอื พระปดิ ตา ทไี่ ดร้ บั ความนยิ มแพรห่ ลาย
สามารถจำ�แนกพิมพ์ได้ดังน้ี
๑. พระปิดตาพมิ พใ์ หญ่ หรอื พิมพ์ชะลดู
๒. พระปดิ ตาพมิ พ์พระสังกัจจายน์ หรอื พิมพ์พงุ ป่อง
๓. พระปิดตาพิมพ์แขง้ ซ้อน
๔. พระปิดตาพิมพ์โบราณ
พระปิดตาพิมพ์ต้อ หรือท่ีชาวบ้านเรียกกันว่าพิมพ์แข้งซ้อน
ลักษณะของพระเป็นรูปลอยองค์คร่ึงซีก พระหัตถ์ท้ังสองข้างยกปิด
พระเนตร ประทับน่งั สมาธิ ปลายพระเพลาขา้ งขวาชข้ี น้ึ มลี กั ษณะเหมอื น
กบั ยกแข้ง จงึ มองดูคลา้ ยแขง้ ซอ้ น ดา้ นหลงั อมู คล้ายกบั หลังเบี้ย มวลสาร
วรรณะจะมสี เี หลอื งอมน�ำ้ ตาลและสเี ขยี วอมเทา พระพมิ พน์ จ้ี ดั เปน็ พระพมิ พ์
พระปิดตา พมิ พแ์ ขง้ ซ้อน พระปดิ ตา พมิ พ์ตอ้ หรอื พมิ พ์แข้งซอ้ น
พระปิดตา พมิ พพ์ ระสังกจั จายน์ พระปดิ ตา พมิ พใ์ หญ่ หรือพมิ พช์ ะลูด
(หนา้ -หลงั ) (หน้า-หลัง)
พระปิดตา พิมพ์ใหญ่
เนอ้ื ชนิ (หน้า-หลงั )
336 : พระเคร่อื งเงินล้าน
มาตรฐาน เนือ้ หามวลสารแตกต่างจากพระพมิ พใ์ หญ่และพิมพ์สังกจั จายน์
อีกท้งั พระพิมพ์นสี้ ่วนใหญ่จะลงรักมาแต่เดมิ
เนอ้ื ผงพทุ ธคณุ ของพระพมิ พห์ ลวงปยู่ มิ้ ทกุ พมิ พ์ เนอื้ พระจะมสี ว่ น
ผสมของรังหมาล่าท่ีขึ้นในตาพระพุทธ ในเน้ือจะมีเกล็ดของเปลือกหอย
ลักษณะเป็นเกล็ดเล็กๆ สีขาว ข้อนี้เป็นจุดพิจารณาที่สำ�คัญในพระปิดตา
พิมพ์ใหญ่ ส่วนพิมพ์พระสังกัจจายน์และพิมพ์แข้งซ้อน จะพบว่ามีทั้ง
ประเภทลงรักเก่ามาแต่เดิม วรรณะองค์พระเป็นพระเน้ือเหลืองอมนำ้�ตาล
จงึ ท�ำ ใหว้ รรณะขององคพ์ ระนมี้ สี คี ล�ำ้ เนอ่ื งจากพระพมิ พน์ เ้ี ปน็ พมิ พย์ คุ ตน้
และมกี ารจ่มุ รกั มานาน ทำ�ใหพ้ จิ ารณาไดง้ ่าย แตด่ ว้ ยองค์พระมกี ารหดตัว
สูง ท�ำ ให้เห็นองคพ์ ระนีม้ กี ารห่อตวั มาทางด้านหนา้ ขององคพ์ ระ
เน้ือมวลสารของพระพิมพ์ปิดตาน้ันมีทั้งเน้ือผงพุทธคุณ เนื้อผง
คลุกรัก รวมเนื้อชินและเน้ือดีบุก ปัจจุบันพระปิดตาของท่านได้รับความ
นยิ มสูง เปน็ หน่ึงในชดุ เบญจภาคพี ระปิดตา
สนนราคาในพระปดิ ตาของทา่ นตอ้ งวา่ กนั ทห่ี ลกั หมน่ื ปลาย
ถงึ หลกั แสน
พุทธคุณในพระปิดตาของท่านเด่นทางเมตตามหานิยมและ
คงกระพนั ชาตรี
ประเสริฐ โล่ห์เพชรตั น์-กิตติ โล่ห์เพชรัตน์ : 337
หลวงปูย่ ม้ิ
หลวงปู่ยมิ้ จนทฺ โชติ วดั ศรอี ปุ ลาราม (วดั หนองบัว)
จ. กาญจนบรุ ี เกดิ เมอื่ วนั องั คาร พ.ศ. ๒๓๘๗ บรรพชาเปน็ สามเณร
ณ วดั บ้านเกิด จ. กาญจนบรุ ี อุปสมบทเม่อื อายุ ๒๐ ปี โดยมีพระ-
อธกิ ารรอด วดั ทุง่ สมอ เปน็ พระอปุ ชั ฌาย์ ในปี พ.ศ. ๒๔๑๘
เจา้ อาวาสวดั หนองบวั มรณภาพลง ทา่ นจงึ ไดร้ บั แตง่ ตง้ั ใหเ้ ปน็
เจา้ อาวาสแทน หลวงปูย่ ม้ิ เป็นพระอาจารย์ท่มี วี ชิ าอาคมแกรง่ กลา้
มลี กู ศษิ ย์มากมาย เช่น หลวงพอ่ คง วัดบางกะพอ้ ม, หลวงป่ใู จ
วดั เสด็จ, หลวงพ่อแชม่ วดั จุฬามณี เปน็ ต้น ทา่ นมรณภาพเมอ่ื ปี
พ.ศ. ๒๔๕๕ รวมสิรอิ ายุ ๖๘ ปี ๔๘ พรรษา
338 : พระเครอ่ื งเงนิ ลา้ น
๙๖
พระปดิ ตาหลวงปูน่ าค
วัดห้วยจระเข้
หลวงปนู่ าค สรา้ งพระปดิ ตามหาอตุ ม์ เนอื้ เมฆพตั ร อนั โดง่ ดงั ทา่ นมคี วาม
เชย่ี วชาญดา้ นการสรา้ งเนอื้ เมฆพตั รมาก การผสมเนอื้ แรต่ า่ งๆ การปนั้ พมิ พ์
และการเทหล่อองค์พระ ท่านทำ�ด้วยตัวท่านเอง องค์พระท่ีท่านหล่อออก
มาสวยงาม ไมม่ รี อยตะเข็บ ไม่เปน็ ฟองอากาศ เนือ้ พระเปน็ สดี �ำ อมเขียว
สดี �ำ เงาคลา้ ยปกี แมลงทบั สวยงามพสิ ดาร เนอ้ื พระผวิ ตงึ สมบรู ณแ์ บบดา้ น
รปู ทรง ในการสร้างพระปิดตาท่านสร้างหลายครั้งดว้ ยกัน เอกลักษณข์ อง
พระปดิ ตาหว้ ยจระเขน้ อกจากจะดพู มิ พเ์ ปน็ หลกั แลว้ พระปดิ ตาหว้ ยจระเข้
จะตอ้ งมกี ารลงเหลก็ จารทกุ องคด์ ว้ ย การเชา่ มาบชู าควรพจิ ารณารอยเหลก็
จารว่าต้องมีความเก่า
วัตถุมงคลท่ีท่านปลุกเสกหนักไปทางพลังเย็นเข้มขลังอย่างเอกอุ
จากพิธีกรรมการสร้างอันเข้มขลังนี้เอง ทำ�ให้พระปิดตาห้วยจระเข้เป็น
จกั รพรรดขิ องพระปดิ ตาเนอ้ื เมฆพตั รทง้ั ปวง พระปดิ ตาหว้ ยจระเขไ้ มใ่ ช่
มแี ต่เฉพาะเน้อื เมฆพัตรชนดิ เดยี ว แต่ไดม้ ีชนิดท่ีสรา้ งดว้ ยเน้อื ชินอกี ด้วย
พระปดิ ตาหลวงปนู่ าค เนือ้ เมฆพัตร พระปดิ ตา เนอื้ เมฆพตั ร พิมพ์หูกระต่าย
พระปิดตา เนื้อเมฆพตั ร (หน้า-หลัง) และพระปดิ ตาหลวงปู่นาค เนื้อเมฆพัตร พมิ พ์หูกระต่าย
340 : พระเครอื่ งเงินลา้ น
ซึ่งพระปิดตาเน้ือชินเป็นแบบชินตะก่ัว โดยหลวงปู่นำ�เอาแผ่นตะก่ัวมาลง
อกั ขระแล้วหลอมเทเป็นพระปดิ ตา และลงเหล็กจารด้วยกรรมวธิ ีการเดียว
กับพระปิดตาเนื้อเมฆพตั ร พระปดิ ตาหว้ ยจระเขเ้ นอ้ื ชนิ ตะก่วั นี้มกี ารสรา้ ง
ในยคุ แรก เปน็ พระปิดตาทหี่ ลวงปู่ทา่ นสร้างขนึ้ ก่อนท่ีท่านจะสรา้ งเน้ือ
เมฆพัตรไดส้ �ำ เร็จ
พระปิดตาเน้ือเมฆพัตรของท่านสร้างประมาณปี พ.ศ. ๒๔๓๒-
๒๔๓๕ พระปดิ ตาของท่านมีทงั้ หมด ๕ พมิ พ์ แตพ่ มิ พท์ ไ่ี ด้รบั ความนยิ ม
มาก ไดแ้ ก่ พมิ พ์ทอ้ งแฟบ พิมพ์ท้องป่อง และพมิ พห์ ูกระต่าย
ปจั จบุ นั พระปดิ ตาหว้ ยจระเขก้ ลายเปน็ พระปดิ ตาทห่ี ายากอกี
ส�ำ นกั หนง่ึ ราคามกี ารเลน่ หากนั สงู ตง้ั แตห่ ลกั หมน่ื ตน้ ๆ ถงึ หลกั หมนื่
กลางๆ จนเลยถงึ หลกั แสนไปแลว้ พระปดิ ตาหว้ ยจระเขเ้ นอ้ื ชนิ ตะกวั่
จะถูกกว่าเนื้อเมฆพัตร
พุทธคุณที่เล่าสืบทอดกันมาในพระปิดตาของหลวงปู่นาค
เดน่ ทางเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรี
ประเสริฐ โลห่ เ์ พชรัตน-์ กติ ติ โล่หเ์ พชรัตน์ : 341
หลวงปู่นาค
หลวงปนู่ าค โชตโิ ก วดั หว้ ยจระเข้ จ. นครปฐม ทา่ น
เกดิ เม่ือปี พ.ศ. ๒๓๕๘ อปุ สมบท ณ วดั พระปฐมเจดยี ์ เมือ่ ปี
พ.ศ. ๒๓๗๘ ถงึ กาลละสงั ขารเม่อื ปี พ.ศ. ๒๔๕๓ ด้วยโรคชรา
รวมสริ ิอายุ ๙๕ ปี ๗๕ พรรษา
หลวงปนู่ าคจดั เปน็ พระปรมาจารยเ์ มอื งนครปฐมในสมยั
แรก เปน็ ตน้ ต�ำ รบั พระปดิ ตาเนอ้ื เมฆพตั ร รชั กาลท่ี ๖ และสมเดจ็
กรมพระยาด�ำ รงราชานภุ าพ เมือ่ คราวเสด็จประพาสพักแรม ณ
พระราชวังสนามจนั ทร์ ทรงเสดจ็ ฯ แวะกราบนมสั การหลวง
ปู่นาคเป็นประจำ� และหลวงปู่นาคได้มอบพระปิดตาให้ท้ัง
สองพระองคไ์ ว้บชู าคพู่ ระวรกายด้วย
342 : พระเครอ่ื งเงนิ ลา้ น
๙๗
พระปิดตาหลวงพ่อครน
วดั บางแซะ (มาเลเซยี )
หลวงพ่อครน วัดอุตตมาราม หรือวัดบางแซะ (มาเลเซีย) เป็น
เกจอิ าจารย์เพยี งรูปเดียวทอ่ี ยู่ตา่ งแดน คือวัดตั้งอยู่ ณ รัฐกลันตนั ประเทศ
มาเลเซยี
วตั ถมุ งคลของทา่ นทไ่ี ดร้ บั ความนยิ มคอื พระปดิ ตาเนอื้ ผงคลกุ
รัก เป็นพระปดิ ตาที่ราคาแพงท่สี ดุ ของภาคใต้ โดยเรม่ิ สร้างมาตงั้ แต่
ปี พ.ศ. ๒๔๘๐ การสรา้ งใชก้ รรมวิธีการปน้ั หุน่ ทลี ะองค์ แลว้ ลงเหลก็ จาร
ไว้ท่ัวทั้งองค์ ท่านสร้างติดต่อกันมาเร่ือยๆ พระปิดตาเน้ือผงคลุกรัก
ภายในองค์พระท่านได้บรรจุกระดาษสาลงยันต์เอาไว้ทุกองค์ ลักษณะ
พิมพ์จะชะลูดตามแบบฉบับของพระปิดตาสายเขาอ้อ เมื่อกดพิมพ์แล้ว
ทา่ นจะเอาพระปดิ ตามาแตง่ ดว้ ยมอื ทหี ลงั อกี พระปดิ ตาพมิ พน์ ที้ างวดั อตุ ต-
มารามจดั สร้างพมิ พ์ออกแบบเปน็ ปรศิ นาธรรม ด้านลา่ งใตฐ้ านตอกโค้ด
และหมายเลข
พระปิดตาหลวงพอ่ ครน พิมพช์ ะลดู มหี ู พระปิดตาหลวงพอ่ ครน พิมพ์ ๒ หนา้
พระปิดตาหลวงพ่อครน พมิ พช์ ะลูด มีหู
344 : พระเครือ่ งเงินลา้ น
พระปิดตาหลวงพอ่ ครนเปน็ ทน่ี ยิ มมากของคนไทยแลว้ ยังเป็น
ทน่ี ยิ มอยา่ งสงู ในหมพู่ ทุ ธศาสนกิ ชนและมสุ ลมิ ชาวมาเลเซยี และสงิ คโปร์
อกี ด้วย
สนนราคาพระปดิ ตาหลวงพอ่ ครนทีเ่ ช่าหากันอยทู่ ่ีหลกั แสน
ตน้ ถึงแสนกลาง
พุทธคุณของพระปิดตาหลวงพ่อครนโดดเด่นมากด้าน
มหาอุตม์ อยยู่ งคงกระพัน เมตตามหานิยม และโชคลาภ
หลวงพอ่ ครน
หลวงพ่อครน เป็นชาวบ้านบางแซะ เกิดเมื่อปี พ.ศ.
๒๔๑๙ เป็นบุตรของนายชุม และนางแก้ว ราษฎร์เจริญ ท่าน
อปุ สมบท ณ วดั บางแซะ ทา่ นเปน็ ทเี่ คารพทง้ั ของชาวพทุ ธศาสนกิ ชน
และชาวมสุ ลมิ แตก่ อ่ นรฐั กลนั ตนั เคยเปน็ ของไทย แตต่ อ้ งยกใหเ้ ปน็
ของมาเลเซยี เมอ่ื ครัง้ ทอี่ ังกฤษปกครองมาเลเซีย หลวงพอ่ ครนจึง
ตอ้ งกลายเปน็ คนมาเลเซยี ไป
วัดบางแซะน้ันแวดลอ้ มไปด้วยชาวบา้ นทีเ่ ปน็ มสุ ลมิ แต่
หลวงพ่อครนท่านก็ได้รับความเคารพนับถืออย่างย่ิงจากชาวบ้าน
คนสงิ คโปรแ์ ละมาเลเซยี ไมไ่ ดเ้ รยี กทา่ นวา่ หลวงพอ่ ครน แตจ่ ะเรยี ก
ท่านวา่ โต๊ะรายา ซง่ึ มีความหมายเทียบเทา่ สงั ฆราชน่นั เอง
ทา่ นไดร้ บั การแตง่ ตง้ั ใหเ้ ปน็ พระอปุ ชั ฌายใ์ นปี พ.ศ. ๒๔๘๘
ท่านไดเ้ ลอ่ื นจากพระครูชั้นพิเศษ โดยได้รบั พระราชทานทนิ นามที่
พระวจิ ารณญาณมนุ ี และด�ำ รงต�ำ แหนง่ เจา้ คณะใหญใ่ นรฐั กลนั ตนั
นับเป็นพระราชาคณะรูปแรกของรฐั กลันตนั ในปี พ.ศ. ๒๕๐๕
ทา่ นมรณภาพลง รวมสิรอิ ายุได้ ๘๖ ปี พรรษาท่ี ๖๖
ประเสริฐ โลห่ เ์ พชรตั น-์ กติ ติ โลห่ ์เพชรตั น์ : 345
๙๘
พระกริ่ง สมเดจ็ พระสงั ฆราช (แพ)
วดั สทุ ศั น์ฯ
มูลเหตุทส่ี มเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ฯ ทรงสร้างพระกร่ิงนั้น
ทรงเลา่ วา่ “สมเดจ็ พระวนั รตั (แดง) ไดอ้ าพาธเปน็ อหวิ าตกโรค สมเดจ็ พระ
มหาสมณเจ้า กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส เสดจ็ มาเย่ียม แล้วรับสัง่ วา่ เคย
เห็นกรมพระยาปวเรศฯ อาราธนาพระกร่งิ แช่น้�ำ อธิษฐาน ขอน�ำ้ พระพทุ ธ-
มนต์แล้วให้คนไข้เป็นอหิวาตกโรคกินหายเป็นปกติ พระองค์รับส่ังให้
มหาดเล็กที่ตามเสด็จไปนำ�พระกร่ิงท่ีวัดบวรนิเวศ แล้วอาราธนาพระกริ่ง
แชน่ �ำ้ อธษิ ฐาน ขอน�ำ้ พระพทุ ธมนตแ์ ลว้ น�ำ ไปถวายสมเดจ็ พระวนั รตั (แดง)
เม่ือฉันน้ำ�พระพุทธมนตแ์ ล้ว โรคอหิวาต์ก็บรรเทาหายเป็นปกติ” ตงั้ แต่
นั้นมา พระองคจ์ งึ เรมิ่ สนพระทยั ในการสรา้ งพระกร่ิง
พระกรง่ิ สายวดั สทุ ัศนฯ์ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) พระองค์สรา้ ง
แบบบรรจเุ มด็ กรง่ิ ไวใ้ นหุน่ ขี้ผง้ึ กอ่ นเททอง วิธีหลอ่ พระกริ่งแบบน้ีเรยี กกนั
ตอ่ มาวา่ พระกรงิ่ ใน สมเดจ็ พระสงั ฆราช (แพ) ทรงสรา้ งพระกรงิ่ ปีละครง้ั
ทรงถอื ฤกษว์ ันกลางเดือน ๑๒ เวลา ๒๔.๐๐ น. ตรงจำ�นวนพระกร่งิ ทรง
พระกรงิ่ สมเดจ็ พระสงั ฆราช (แพ) พระกริ่งหน้าไทย พระกริง่ สมเดจ็ พระสังฆราช
ปี พ.ศ. ๒๔๗๙ (แพ) ปี พ.ศ. ๒๔๘๒
พระกรงิ่ หน้าอินเดีย พมิ พ์หนา้ ใหญ่ พระกริง่ สมเดจ็ พระสังฆราช (แพ)
ปี พ.ศ. ๒๔๘๒ (หนา้ -หลงั ) ด้านหลังและฐาน
ประเสรฐิ โลห่ ์เพชรตั น์-กติ ติ โล่หเ์ พชรัตน์ : 347
กำ�หนดตามก�ำ ลังวนั เชน่ วันอาทิตย์ทรงสร้าง ๖ องค์ วันจันทร์ ๑๕ องค์
วนั อังคาร ๘ องค์
ในกระบวนพระกร่ิงทีน่ ิยมเล่นหาสะสมกัน พระกร่งิ วัดสุทัศนฯ์ ท่ี
สร้างโดยสมเด็จพระสังฆราช (แพ) น้ันนิยมกันมาก มีการสร้างด้วยกัน
หลายวาระ พระกร่ิงที่พระองคท์ รงสร้างในปี พ.ศ. ๒๔๘๒ ที่มจี �ำ นวนการ
สร้างค่อนข้างมากหน่อย รุ่นนี้ประกอบด้วยพระกริ่งพิมพ์นะโภคทรัพย์
จ�ำ นวนประมาณ ๔๐๐ องค์ พระกรง่ิ หน้าอนิ เดยี พมิ พห์ นา้ ใหญ่ และพมิ พ์
หนา้ เล็กประมาณ ๔,๐๐๐ องค์ เน้อื โลหะออกวรรณะเหลืองอมขาว เม่อื พธิ ี
เททองเสร็จแล้ว ชา่ งก็นำ�พระกร่ิงมาบรรจุเมด็ กร่งิ และอุดชอ่ งเมด็ กรง่ิ เจ้า
ประคณุ สมเดจ็ ฯ ทรงเหน็ วา่ ทกุ คนมคี วามเหนด็ เหนอ่ื ยและเสยี สละ จงึ รบั สงั่
ให้ทา่ นเจ้าคุณศรฯี น�ำ ทองชนวนทเี่ หลอื มาสรา้ งพระกร่งิ เพ่ือเป็นรางวัลให้
แกผ่ ทู้ ช่ี ว่ ยงาน ทา่ นเจา้ คณุ ศรฯี จงึ ทลู ขออนญุ าตจดั สรา้ งพระกรง่ิ ในวนั งาน
พระชนม์ของเจ้าประคุณสมเด็จฯ ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ.
๒๔๘๒ จ�ำ นวน ๕๐๐ องค์
พระกรงิ่ สงั ฆราช (แพ) วัดสทุ ศั น์ฯ ทุกรุ่นเริ่มแตร่ ุ่นแรก
ปี พ.ศ. ๒๔๔๑ จนถึงร่นุ สดุ ทา้ ย ปี พ.ศ. ๒๔๘๖ (รนุ่ เชียงตุง) มีจำ�นวน
นอ้ ย เปน็ ของหายาก ราคาจึงแพงมาก เชน่ พระกริ่ง ปี พ.ศ. ๒๔๗๙
สนนราคาเกอื บล้าน สวยๆ ก็เกินหลักลา้ น
พทุ ธคณุ ในพระกรงิ่ ของพระองคเ์ ดน่ ทางดา้ นเมตตามหานยิ ม
348 : พระเคร่ืองเงนิ ล้าน
สมเด็จพระสงั ฆราช (แพ)
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช
(แพ ติสฺสเทโว) วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร มี
พระนามเดิมวา่ แพ พงษป์ าละ พระนามฉายาวา่ ติสฺสเทโว ประสตู ิ
เม่อื วันพธุ ข้ึน ๑๕ ค�ำ่ เดอื น ๑๒ ปีมะโรง จุลศกั ราช ๑๒๑๘ ตรงกบั
วันท่ี ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๓๙๙ โยมบดิ ามีนามว่านตุ ร์ พงษ์ปาละ
โยมมารดามีนามว่าอ้น พงษ์ปาละ เป็นชาวสวน อ. คลองสาน
กรงุ เทพฯ ทรงศกึ ษาเมือ่ พระชนมายไุ ด้ ๗ ขวบ ทวี่ ัดทองนพคณุ
คร้ันชนมายุได้ ๑๒ ปี ได้ไปถวายตัวเป็นศิษย์สมเด็จพระวันรัต
(สมบูรณ)์ พระองคไ์ ดบ้ รรพชาเปน็ สามเณรเม่ือปี พ.ศ. ๒๔๑๑ ได้
ศึกษาพระปริยัติธรรมในสำ�นักพระอาจารย์โพ วัดเศวตฉัตร เมื่อ
ชนมายไุ ด้ ๑๖ ปี สมเดจ็ พระวนั รตั (สมบรู ณ)์ ใหไ้ ปรบั มาอยกู่ บั ทา่ น
ท่ีวัดพระเชตพุ นฯ คร้ันสมเด็จพระวนั รัต (สมบรู ณ)์ มรณภาพแลว้
จงึ ไดไ้ ปถวายตวั เปน็ ศษิ ย์สมเดจ็ พระวนั รตั (แดง) แลว้ อปุ สมบท
ทีว่ ัดเศวตฉตั ร เม่ือปี พ.ศ. ๒๔๒๒ โดยมสี มเด็จพระวันรัต (แดง)
วดั สทุ ัศน์ แตค่ รงั้ ยังเป็นพระธรรมวโรดม เป็นพระอุปชั ฌาย์ และได้
ไปเรยี นกบั สมเด็จพระสงั ฆราช (สา) วดั ราชประดิษฐ์
ทรงเปน็ สมเด็จพระราชาคณะ ๒ ตำ�แหน่ง ทรงได้รบั
พระราชทานสุพรรณบัฏเลื่อนสมณศักด์ิที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์
เม่อื วนั ศกุ ร์ท่ี ๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๖๖
ประเสริฐ โล่ห์เพชรตั น์-กิตติ โล่หเ์ พชรตั น์ : 349
คร้ันเม่ือ พ.ศ. ๒๔๘๐ สมเดจ็ พระสังฆราชเจา้ กรม-
หลวงชินวรสริ ิวัฒน์ สน้ิ พระชนม์ รชั กาลที่ ๘ ไดท้ รงพระกรุณา
โปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเดจ็ พระวนั รัต (แพ ตสิ ฺสเทโว) ข้นึ เปน็
สมเดจ็ พระอรยิ วงศาคตญาณ สมเดจ็ พระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆ-
ปรณิ ายก พระองคท์ รงเปน็ สมเดจ็ พระสงั ฆราชพระองคท์ ี่ ๑๒ แหง่
กรงุ รตั นโกสินทร์
วนั ที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๘ สมเดจ็ พระสังฆราช
(แพ) ไดเ้ สดจ็ ดบั ขนั ธส์ น้ิ พระชนมล์ งเมอื่ เวลา ๐๓.๐๐ น. ทต่ี �ำ หนกั
วัดสุทศั นฯ์ รวมสิริพระชนมายุ ๘๙ ปี โดยมพี ระพรรษา ๖๖ ทรง
ด�ำ รงต�ำ แหนง่ สมเด็จพระสงั ฆราชเป็นเวลา ๖ ปี ๑๑ วนั
350 : พระเคร่อื งเงินล้าน