96
– ความร่วมมือของนักเรยี น โดยการวเิ คราะห์ขอ้ มูลรว่ มกนั
– บรหิ ารจัดการข้อมูล โดยการคน้ คว้าขอ้ มูล
– ความรว่ มมอื ของครู โดยครทู ำงานรว่ มกนั เอง ทำงานรว่ มกบั นกั เรียน และเพื่อนภายนอก
โรงเรียน
– ความร่วมมอื ระหวา่ งโรงเรียน โดยนักเรยี นทำงานรว่ มกบั ผอู้ ื่นท่อี ยนู่ อกโรงเรียน
– การสรา้ งงาน โดยการจัดทำชิน้ งาน การเผยแพร่ผลงาน
– ชว่ ยบททวนบทเรียน โดยซอร์ฟแวรเ์ สริมการเรยี น
9.3 ประโยชน์จากการนำระบบ ICT มาประยกุ ต์ใช้ พอสรปุ ไดด้ ังน้ี
1. ความสะดวกรวดเรว็ ในระหว่างการดำเนนิ งาน
2. ลดปริมาณผู้ดำเนนิ งานและประหยัดพลังงานเชอ้ื เพลิงไดอ้ กี ทางหน่ึง
3. ระบบการปฏิบัตงิ านเปน็ ไปอย่างมีระเบียบมากขึน้ กวา่ เดิม
4. ลดขอ้ ผิดพลาดของเอกสารในระหวา่ งการดำเนนิ การได้
5. สร้างความโปรง่ ใสใหก้ ับหนว่ ยงานหรอื องค์กรได้
6. ลดปรมิ าณเอกสารในระหวา่ งการดำเนนิ งานไดม้ าก (กระดาษ)
7. ลดขน้ั ตอนในระหวา่ งการดำเนนิ การได้มาก
8. ประหยัดเนอื้ ท่จี ดั เก็บเอกสาร (กระดาษ)
10. การวิเคราะหป์ ญั หาทเ่ี กิดจากการใช้นวตั กรรม
10.1 ปญั หาการขาดแควนนวัตกรรม ส่ือ
อุปกรณ์ เทคโนโลยีสารสนเทศ
นบั เป็นปญั หาใหญท่ ่ีสำคญั โดยเฉพาะ
สถานศึกษาขนาดเลก็ พบวา่ ปจั จยั สนับสนนุ ในการ
จดั การศึกษาทใ่ี ชอ้ งค์ประกอบทางเทคโนโลยี
สารสนเทศ รวมไปถงึ นวัตกรรมรูปแบบต่างๆ
ค่อนขา้ งจะมีน้อยหรอื อาจกล่าวไดว้ ่าไม่มีเลย โดยเฉพาะโรงเรยี นในระดบั ประถมศึกษา ซึ่งเป็นสาเหตุสำคญั
ในการพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาที่ไม่สามารถขับเคลอื่ นใหม้ มี าตรฐานท่ีเท่าเทยี มกนั
ในการพฒั นาคณุ ภาพทางการศึกษา ด้านปจั จยั สนบั สนุนทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งรวมไปถงึ สื่อ
อุปกรณ์ เคร่ืองมอื และนวัตกรรมทางการศึกษา แม้วา่ พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 จะมงุ่ เนน้
ความเสมอภาคทางการศึกษา แต่ในสภาพความเป็นจริงในสงั คมประเทศไทย ยงั มีอีกหลายพนื้ ท่ี ท่ีสภาพ
การศึกษามีความแตกตา่ งอยา่ งเหน็ ได้ชัด บางพื้นที่ ขาดไฟฟ้า ขาดระบบส่ือสารขัน้ พนื้ ฐาน ทำใหเ้ ครื่องมอื
อปุ กรณ์ทางเทคโนโลยีท่ไี ด้ ก็ไมส่ ามารถเชื่อมต่อเครือข่ายใชง้ านได้ปญั หาการขาดแคลนนวัตกรรม สอ่ื
97
อปุ กรณเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศ พอจะสรปุ ได้ แยกเป็น 2 ปญั หาใหญๆ่ คือ
1. ปัญหาการขาดแคลนสอื่ เน้ือหา
2. ปัญหาด้านอปุ กรณ์ เครื่องมอื
ปญั หาการขาดแคลนสอ่ื เน้ือหา
1. ขาดแคลนตัวส่ือเน้อื หา สำหรับใช้ศึกษาเรยี นรู้ ในฐานะส่ือหลัก และสอ่ื เสริม
2. สอ่ื เน้อื หา ทมี่ ีอย่ไู มน่ ่าสนใจ ไมม่ สี ว่ นเร้าทตี่ รึงพฤตกิ รรมการเรยี นรู้
3. สอ่ื เนอื้ หา ทม่ี อี ยู่ ล้าสมัย เนือ้ หา ไม่ตรงกบั สภาพปจั จบุ นั
4. ส่ือ เน้ือหา ท่ีมีอยู่ ไมส่ ามารถใชก้ ับระบบ ของอุปกรณ์ เครอื่ งมอื ที่มีอย่ไู ด้
5. สอื่ บางเนือ้ หามีสือ่ การสอนน้อย ไม่เพยี งพอต่อการนำไปใช้
ปัญหาด้านอุปกรณ์ เคร่ืองมือ
1. เคร่อื งมือ อปุ กรณ์ มีไม่เพียงพอ หรือ ไม่มี
2. ขาดปัจจยั พืน้ ฐานทำใหเ้ ครือ่ งมือ อปุ กรณไ์ ม่สามารถใช้งานได้ เชน่ ไมม่ ไี ฟฟ้า ไม่มรี ะบบ
เครือข่าย
3. เคร่อื งมอื อปุ กรณ์ มสี ภาพล้าสมยั
4. ขาดงบประมาณในการปรับปรงุ ซ่อมแซม
ปัญหาจากการบรหิ ารและการบรกิ ารเทคโนโลยสี ารสนเทศในสถานศกึ ษา
การเขา้ สูม่ าตรฐานการบริหารจัดการ การใหบ้ ริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ในปจั จบุ นั ภาคเอกชนได้
ตระหนกั และให้ความสำคัญ ในการกำหนดมาตรฐานท่ีเกย่ี วข้องกับการใหบ้ ริการเทคโนโลยีสารสนเทศข้นึ มา
ใช้เพื่อการเตบิ โต การแขง่ ขนั ใน เชงิ ธรุ กจิ ท่นี บั วันจะมอี ตั ราท่สี งู ขน้ึ สง่ ผลให้สามารถชว่ ยลดภัยอันตรายจาก
เทคโนโลยีสารสนเทศได้ อาทิ เช่น มาตรฐาน การรักษาความมนั่ คงปลอดภัยในการประกอบธุรกรรมทาง
อเิ ล็กทรอนิกส์ การให้ความรู้ รวมถงึ การ ควบคมุ การใชง้ านคอมพิวเตอร์ใหเ้ ปน็ ไปตาม พระราชบัญญตั กิ าร
กระทำความผดิ เกี่ยวกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2550 การนำเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ในการพฒั นาองค์กร การ
นำเสนอ การสรุปผลการดำเนินงาน
ปญั หาในเชิงบริหารและการบริการ
ปญั หาในเชิงบรหิ ารและการบริการ พอสรปุ ปญั หาได้ ดังน้ี
1. ขาดขอ้ กำหนดวสิ ยั ทศั น์ วตั ถปุ ระสงค์ นโยบายและมาตรฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
2. สถานศึกษาขาดการวางแผนแมบ่ ท
3. ขาดการสนับสนุนดา้ นงบประมาณ หรอื หากสนับสนนุ กไ็ มเ่ พียงพอ
4. ขาดการตดิ ตามผลการใช้งาน ทัง้ ในเชงิ ระบบและมาตรฐานของบุคลากรด้านไอที
5. ขาดการสนับสนุนจากผบู้ ริหารอยา่ งจริงจัง
6. ไมม่ รี ะบบการเรียนรูผ้ า่ นเครือข่ายเปน็ ของสถานศึกษาเอง
7. ขาดกลไกการจดั การเรยี นการสอนผา่ นเครอื ข่ายอยา่ งถกู ระบบ
98
8. มกี ารเปล่ียนแปลงนโยบายหรือเปลีย่ นแปลงขอ้ มูลบอ่ ยครง้ั
9. ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศของสถานศึกษาขาดคุณภาพ ขาดมาตรฐาน
10. เวลา โอกาสการเขา้ ถึงชอ่ งทางการเรียนรูข้ องผู้เรียนยงั มีน้อย
11. ระบบ และอปุ กรณ์ทีม่ ี มีจำนวนไม่เพียงพอต่อการให้บริการในการจัดการศึกษา
12. ระบบ และอุปกรณท์ ่มี ี มีมาตรฐานตำ่ ไม่สอดคล้องกบั ววิ ัฒนาการของเทคโนโลยสี ารสนเทศที่
เปลี่ยนไป
13. การพฒั นาระบบสารสนเทศเพ่อื การเรยี นการสอนไมเ่ ปน็ ไปตามข้อกำหนด
14. ผู้บริหารและครูผสู้ อนขาดความรูพ้ ืน้ ฐานในการใช้งานและการพัฒนางานในหนา้ ที่ (บริหารและ
การศึกษา)
ปญั หาจากการพฒั นาด้านระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศในสถานศกึ ษา
ปัจจุบันเป็นท่ียอมรบั กันโดยทวั่ ไปแลว้ วา่ เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นส่วนจำเป็นในการขบั เคล่อื นการ
จดั การศึกษาใหก้ ว้างไกล เปน็ สว่ ตอ่ ยอดในการพัฒนาทางความคดิ ใหก้ ับผเู้ รยี นไดด้ อี ีกชอ่ งทางหนงึ่ ตลอด
ระยะเวลาท่ผี า่ นมา ประเทศไทยมกี ารปฏริ ูปการศึกษา เพ่อื พัฒนา และปรับเปล่ยี นรปู แบบ และวิธีการ จดั การ
เรยี นรู้ โดยเน้นผูเ้ รยี นเป็นสำคัญ ส่งเสรมิ พฒั นาการเรียนรขู้ องผเู้ รยี น โดยกี ารนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนนุ ใน
การจัดการศึกษา ส่งผลใหส้ ถานศึกษาเกอื บทุกแห่งในปจั จุบนั ต่างแข่งขัน เรง่ จัดหา เคร่ืองมอื อุปกรณ์ เพอื่ ให้
พอเพยี ง(เกินพอ) ตอ่ กระบวนการจดั การศึกษา
ปญั หาจากครูผู้สอนและผู้เรยี น
สาระสำคัญของการปฏริ ปู การเรยี นรู้ ก็คอื การปรบั เปลี่ยนวัฒนธรรมในการเรียนรู้ โดยมุ่งเน้น
ประโยชน์ทผ่ี ู้เรียนจะได้รับ พรอ้ มคำนึงถึงความแตกตา่ งระหว่างบุคคลเปน็ สงิ่ สำคญั ปลกู ฝังให้ผเู้ รียนรู้จกั
แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีนสิ ยั รกั การเรียนรู้ตลอดชีวติ รปู แบบการเรยี นการสอนแบบใหม่ มี
ความหลากหลาย ในรปู แบบลักษณะและชอ่ งทางของตัวสือ่ สนองตอบศกั ยภาพและความสนใจของผู้เรียน
เป็นสำคัญ ในการจัดการเรียนการสอนแบบน้ี ครูผูส้ อนจะต้องปรบั เปลยี่ นวธิ ีการสอนใหม่ ให้สอดคล้องกบั
กระบวนการศกึ ษาที่เปล่ียนไป ครูต้องใฝ่รู้ แสวงหา สาระเนอื้ หาใหมๆ่ ครูผู้สอนตอ้ งพัฒนาสื่อ นวัตกรรมการ
เรียนรรู้ ปู แบบใหม่ ที่สำคัญ ครผู ้สู อนตอ้ งเข้าใจ ต้องเรียนรู้ และใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำมาประยุกต์ใช้
ร่วมกับการจัดการศึกษาไดอ้ ย่างผสมผสานอกี ด้วย
สาเหตุแหง่ ปัญหาจากครูผู้สอน สาเหตุแหง่ ปญั หาจากครูผู้สอนในสถานศึกษา
1. ครูผสู้ อนไม่เหน็ ความสำคัญของนวัตกรรม และเทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. ครผู ู้สอนขาดประสบการณ์หรือความชำนาญในการใชส้ อ่ื นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ
3. ครผู ู้สอนปฎิเสธปฎเิ สธการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ เพราะกลัววา่ เม่อื เข้ามาแทนที่ ตนเองสญู เสยี
ความสำคญั
4. ครผู สู้ อนขาดความรใู้ นการสรา้ งชนิ้ ส่วน สอ่ื หรอื องคป์ ระกอบตา่ งๆเพือ่ จัดการเรยี นการสอน
5. ครผู ู้สอนไมม่ เี วลาเพียงพอทจ่ี ะศึกษาเรยี นรู้คณุ ลกั ษณะเแพาะของนวัตกรรม และเทคโนโลยสี ารสนเทศ
99
6. สอ่ื สาระการเรียนรทู้ ี่ทำโดยครมู กั มสี ภาพไมน่ ่าสนใจ
7. ครูผู้สอนมคี วามร้คู วามเขา้ ใจด้านการพัฒนาสือ่ เพ่อื การเรียนรผู้ า่ นเครือข่ายน้อย
8. ครูผสู้ อนที่ชำนาญการในการสอนโดยใช้เครอื่ งมือและสอ่ื เทคโนโลยีสารสนเทศยังมีไมเ่ พียงพอ
สาเหตุแหง่ ปญั หาจากผู้เรียน สาเหตแุ หง่ ปญั หาจากผ้เู รียน(นักเรียน/นักศึกษา)ในสถานศึกษา
1. ผู้เรยี นมุง่ เนน้ การเข้าหาสิง่ บันเทิง เกม หรอื การเข้าสงั คมการพูดคุยมากกว่าจะเขา้ สู่ดา้ นการเรยี นรู้
2. ผเู้ รียนขาดความตัง้ ใจในการเข้าเรียนรู้
3. ผเู้ รียนใช้เคร่ืองมอื ในการสืบค้นขอ้ มูลไมถ่ กู ต้องและไม่เหมาะสม
4. อปุ กรณ์ไม่เพยี งพอกบั ความต้องการของผเู้ รยี น
5. ผู้เรียน เนน้ ความสนกุ สนาน ขาดการใฝร่ ู้
6. การทำงานของระบบเครอื ข่ายและเครอื่ งคอมพวิ เตอรใ์ นห้องเรียนท่ีคอ่ นขา้ งชา้
7. เวลาในการใชง้ านและเรียนรู้ในสถานศึกษามีนอ้ ยเกินไป
8. ขาดการปลกู ฝังการเปน็ สังคมแหง่ นักอา่ น
9. เครือขา่ ยบางเครือข่ายไม่สมบรู ณ์ ทำใหไ้ ม่สามารถเข้าไปสืบคน้ หาข้อมูลทีต่ อ้ งการได้
แนวทางการแก้ไขปญั หา แนวทางการแก้ไขปญั หาในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศของครผู ู้สอนและผู้เรยี นใน
สถานศึกษา
1. สง่ เสริมใหค้ วามรู้ การใช้งาน เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การเรียนการสอนของครูผสู้ อน ให้มีความรู้
สามารถใชง้ าน เขา้ ถึงเครอื ข่ายอนิ เทอร์เนต็ ได้
2. สง่ เสริมให้ครูผู้สอนมีความรู้ ทกั ษะ การสร้างสอื่ นวตั กรรม และบทเรยี นด้วยวธิ ีการทางเทคโนโลยี
สารสนเทศ
3. สง่ เสรมิ ให้มกี ารพัฒนาสอ่ื (บทเรียน) โดยใชก้ ระบวนการทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ
4. เรง่ พัฒนาชอ่ งทางการเขา้ ถึงแหลง่ เรยี นรู้ การพฒั นาส่ือออนไลน์ ของหนว่ ยงานสถานศกึ ษา
5. กำหนดวธิ ีการให้ผู้เรยี น เข้ามาใชง้ าน การเรียนรุร้ ่วมกบั ชอ่ งทางการเรยี นรูข้ องสถานศกึ ษา
6. แลกเปลย่ี นเรียนรกู้ ันระหว่างครูผู้สอนกบั ผเู้ รยี น
7. ส่งเสรมิ ให้ครแู ละผ้เู รียนเกดิ การเรยี นรู้หรือการศกึ ษาดว้ ยตนเองผา่ นช่องทางเทคโนโลยสี ารสนเท
ปญั หาและผลกระทบด้านสังคม
ปจั จุบันมนุษยเ์ ราได้รบั ประโยชน์มหาศาลจากการใช้ช่องทาง เครือ่ งมือทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ใช้
เป็นชอ่ งทางในการเข้าถึงข่าวสาร ความรู้ สาระบันเทิง การติดต่อสือ่ สาร ซงึ่ เทคโนโลยีเครือข่ายได้
ผสมผสานกลไกการศ เช่ือมโยงไมว่ า่ จะคอมพิวเตอร์ สอ่ื พกพาตา่ งๆ ระบบโทรศัพท์ ต่างเชือ่ มโยงเข้าถงึ
กันไดอ้ ยา่ งน่าอศั จรรย์ ซึ่งสอื่ ตา่ งๆเหลา่ นี้มีผลตอ่ วถิ ขี องชีวิตมนุษย์ หากใช้สือ่ ต่างๆเหล่านไี้ มถ่ ูกวธิ ี อาจ
กอ่ ใหเ้ กิดปัญหาสงั คมขนึ้ ได้
ปญั หาทางสงั คมทพี่ บมากทีส่ ุด ปญั หาทางสงั คมในการใช้เทคโนดลยสี ารสนเทศในชวี ิตประจำวันท่ีพบมาก
ท่สี ดุ พอสรุป ปัญหาได้ ดงั นี้
1. มีผลต่อความคิดและพฤตกิ รรมของมนุษย์
100
2. ทำให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ ทม่ี ีพัฒนาการที่ดแี ละรวดเร็วขึ้น
3. เกิดการแพรก่ ระจายของข้อมูลที่เปน็ เท็จมากขนึ้
4. เกดิ ขอ้ มลู หลอกลวงสะดวกสบายมากข้ึนแต่ก็มี
ค่าใช้จา่ ยมากขน้ึ ตามไปด้วย
5. เกิดการบกุ รุก โจมตีข้อมูลองค์กรและส่วนราชการ
6. มีผลกระทบต่อการศกึ ษา ผู้เรียน เดก็ ตดิ เกม มากข้ึน
7. เกดิ การละเมดิ ลิขสทิ ธ์ิ
8. นำเทคโนโลยมี าใช้ในทางท่ีผดิ
9. เป็นช่องทางในการเกดิ อาชญากรรม
10. เกดิ การละเมิดสิทธสิ ว่ นบคุ คล
แนวทางในการปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหา แนวทางในการปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหาสังคมทีเ่ กดิ จากเทคโนโลยี
สารสนเทศ
1. ใช้แนวทางสรา้ งจรยิ ธรรม (Ethic) ในตัวผูใ้ ช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
แนวทางนีม้ ีหลักอยวู่ า่ ผูใ้ ชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ จะระมดั ระวงั ไม่สรา้ งความเดือดรอ้ นเสยี หายตอ่ ผูอ้ ่ืน
2. สร้างความเข้มแข็งให้กับตนเอง
ผู้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศพึงรำลึกอย่เู สมอว่า ในสังคมของเราทุกวันน้ยี งั มีคนไมด่ ีปะปนอยูม่ ากพอสมควร
3. ใชแ้ นวทางการควบคุมสงั คมโดยใช้วฒั นธรรมท่ีดี
แนวทางน้ีมหี ลักอยู่วา่ วฒั นธรรมที่ดีน้ันสามารถควบคุมและแกป้ ญั หาสังคมได้ การดำรงอย่แู ละสง่ เสรมิ
วฒั นธรรมทีด่ ไี ว้ เป็นส่ิงจำเป็นในยุคสารสนเทศ ยกตัวอย่างเช่น การใหเ้ กยี รติซึ่งกันและกนั ยกยอ่ งใน
ผลงานของผูอ้ ืน่ เปน็ วฒั นธรรมที่ดแี ละ
4. การสรา้ งความเขม้ แขง็ ใหก้ ับสงั คมชุมชน
ผรู้ บั ผิดชอบในการจดั การดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศและสมาชิกของสังคม พงึ ตระหนักถงึ ภัยอนั ตรายท่มี า
พรอ้ มกับเทคโนโลยีสารสนเทศ และหาการป้องกัน
5. ใช้แนวทางการเข้าสู่มาตรฐานการบริหารจดั การการให้บริการเทคโนโลยสี ารสนเทศ ในปจั จุบนั องค์กร
ตา่ งๆ
6. ใช้แนวทางการบังคับให้ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ กำหนดทางกฎหมาย และบทลงโทษของการละเมดิ เปน็ ส่งิ จำเป็น
ผู้บรหิ ารระบบสารสนเทศจะต้องระบุข้อกำหนดทางด้านกฎ ระเบยี บ
ปญั หาด้านสทิ ธแิ ละกฎหมาย
ในปัจจุบนั อตั ราการขยายตัวของผ้ใู ช้งานผา่ นระบบเครอื ขา่ ยและอนิ เทอรเ์ นตท่ัวโลกรวมทง้ั ประเทศไทยมมี าก
ข้นึ เป็นการเตบิ โตทร่ี วดเร็ว จะเหน็ ได้จากจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เนตในประเทศไทยมีจำนวนมากข้นึ ในแต่ละปี
หลายล้านคน เกดิ สังคมและชุมชนใหมๆ่ ในโลกไซเบอรท์ ่มี ที ้งั สังคมทีด่ ีนำมาซ่งึ การแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ขา่ วสาร
การเรยี นรู้ การศึกษา การดำเนนิ กจิ กรรมทางธุรกิจ และอ่นื ๆ
แตใ่ นโลกของสังคมท่ีแวดลอ้ มไปด้วยความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยี นำมาซง่ึ ความสะดวกสบาย เกิด
101
พัฒนาการทางความคดิ จากมวลความรู้ ทีม่ ากมายมหาศาลบนโลกเครอื ข่ายอินเทอรเ์ นต็ การติดต่อสอ่ื สารที่
รวดเร็ว กวา้ งไกล แตใ่ นความกา้ วหน้าของสงั คมท่ีเกิดขน้ึ สังคมร้ายที่แอบแฝง มีพฒั นาการในการรุกลำ้ สิทธิ
สว่ นบุคคล สิทธขิ ององค์กรในหลายลกั ษณะโดยเฉพาะการลุกล้ำสิทธิสว่ นบคุ คลทางอนิ เทอรเ์ นต็ ซ่งึ นับวันจะ
ทวีความรุนแรง สร้างความเสยี หายเป็นวงกว้าง นบั มูลค่ามหาศาล ดังนนั้ ในทุกๆประเทศรวมทง้ั ประเทศไทย
จงึ ตอ้ งมีกฎหมายให้การคมุ้ ครองสิทธพิ ื้นฐานต่างๆ กฎหมายทางเทคโนโลยีสารสนเทศจึงเป็นสงิ่ จำเปน็ ในสงั คม
ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยีสารสนเทศมิไดม้ ีเฉพาะในดา้ นดี แตย่ งั นำมาซึ่งปญั หาใหมๆ่ ท่ีเรยี กว่า
อาชญากรรมบนเครือขา่ ย ตวั อย่างเชน่
1. อาชญากรรมการขโมยขอ้ มลู
อาชญากรรมประเภทนี้อยู่ ในรูปของการเขา้ ถงึ ระบบเพื่อขโมยความลบั การขโมยขอ้ มูลสารสนเทศ
2. แพร่ข้อมูลหลอกลวง
เปน็ การสง่ ข้อมูลถึงผู้บริโภคดว้ ยข้อมูลท่ีเปน็ เท็จ หรอื ขอ้ มูลหลอกลวง ซง่ึ บางเร่ืองเกดิ การลุกลาม
แพรก่ ระจายไปอย่างมาก และรวดเร็ว จนระบบเมลข์ ององค์กรหรือหนว่ ยงานในบางแหง่ ไมส่ ามารถท่ีจะ
รองรบั ข้อมูลเมลไ์ ด้ เป็นผลทำใหร้ ะบบลม่ ทนั ที
3. การเผยแพรข่ อ้ มลู ที่ละเมิดสิทธิสว่ นบคุ คล
การละเมดิ สทิ ธเิ สรีภาพสว่ นบคุ คลโดยการเผยแพร่ขอ้ มูลหรือรูปภาพต่อสาธารณชน ซึง่ ขอ้ มลู บางอย่าง
อาจไมเ่ ปน็ จริงหรอื ยังไมไ่ ด้พสิ จู น์ความถูกตอ้ งออกส่สู าธารณชน ก่อให้เกดิ ความเสยี หายตอ่ บุคคลโดยไม่
สามารถปอ้ งกนั ตนเองได้ การละเมดิ สิทธิส่วน บุคคล เชน่ น้ีตอ้ งมกี ฎหมายออกมาใหค้ วามคุ้มครองเพื่อให้
นำขอ้ มูลต่างๆ มาใช้ในทางท่ีถกู ต้อง
4. การบกุ รุกและทำลายขอ้ มลู
การเขา้ ถงึ ระบบฐานขอ้ มลู ส่วนบคุ คลหรอื องค์กรโดยท่ีไม่ไดม้ หี น้าท่ีโดยตรง ปจั จุบนั พบว่ามีเวบ็ ไซตห์ ลาย
แห่งทง้ั ในสว่ นของภาครฐั และเอกชน ถูกบุกรกุ เขา้ ดู คน้ หา แก้ไข ทำลายขอ้ มูลท่ีมอี ยู่ในระบบ ทำให้เกดิ
ความเสยี หายโดยรวม
5. การโจมตีเผยแพร่ไวรสั
ปัจจุบนั พบวา่ การโจมตกี ารเผยแพร่ไวรสั ไปยังเวปไซต์ ไปยังอเี มลต์ า่ งๆ นบั วนั จะทวคี วามรุนแรงมากยิ่ง
ขี้น สรา้ งผลรา้ ยโดยรวม เปน็ อันมาก ยง่ิ เทคโนโลยกี ารใช้ส่อื พกพาประเภท Flash drive ที่นยิ มกันอย่าง
มาก กย็ ิง่ เป็นส่วนนำพาแพร่กระจายไวรัสไดม้ ากยิง่ ขน้ึ
6. การใช้ช่องทางด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศในการประกอบอาชญากรรมหรอื ส่ิงผดิ กฎหมาย
หน่วยงาน สถานศกึ ษา สถานทีร่ าชการหลายแหง่ ไดใ้ ห้บรกิ ารเครอื ข่ายอินเทอรเ์ น็ตไร้สาน (WiFi) ซึ่งบาง
แห่งเป็นบรกิ ารสาธารณะเปิดใช้โดยไม่มีระบบการเข้ารหสั การใชง้ าน ซ่ึงอาจจะมีผใู้ ช้ช่องทางน้ี นำไป
ประกอบอาชญากรรม หรอื กระทำความผดิ ในลักษณะต่างๆอาทิ การซัง่ ซือ้ ของผดิ กฎหมาย การก่อ
อาชญากรรมทางการเงนิ การส่งข่าวสารที่เปน็ ภัยต่อบคุ คล ตอ่ องค์กร ต่อความมนั่ คง และในด้านอ่ืนๆ อีก
ปญั หาการละเมดิ ลิขสิทธใิ์ นสถานศึกษา
102
สถานศกึ ษาสว่ นใหญ่ในปัจจุบันแมว้ ่าจะเร่ิมใหค้ วามสนใจตอ่ ปัญหาการละเมดิ ลิขสิทธก์ิ ันอย่างจริงจงั แต่
จากสภาพความเป็นจริง พบว่า ครู บคุ ลากรทางการศึกษา รวมถึงนกั เรยี น นักศกึ ษา ยงั ขาดความเข้าใจใน
สิทธขิ องการไฟล์ขอ้ มูลมลั ตมิ ีเดียต่างๆ โดยเฉพาะการใชโ้ ปรแกรมหรือตวั ซอฟทแ์ วร์ทม่ี ีอยู่ภายในเครอื่ ง
คอมพวิ เตอร์ ของหนว่ ยงานสถานศึกษาทม่ี ีอย่วู า่ ถูกต้องลขิ สทิ ธห์ิ รือไม่
ปัญหาการละเมิดลิขสิทธ์ใิ นสถานศึกษา ตามกฎหมาย การรับผดิ ชอบต่อการละเมิดสิทธิ์ในโปรแกรม หรอื
ซอฟทแ์ วร์ดังกล่าวจะตกเป็นของผคู้ รอบครองการใช้งานในเคร่ืองคอมพวิ เตอร์น้ันๆ รวมถึงผบู้ รหิ าร
สถานศึกษาแห่งน้นั ด้วย
ลขิ สิทธ์ิในท่นี ี้ มีอยู่ 3 ลักษณะ อันไดแ้ ก่
1. ลขิ สิทธ์ิในตัวโปรแกรมหรอื ซอฟทแ์ วร์ทีต่ ิดตั้งในเคร่อื งคอมพิวเตอร์และระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์
สถานศึกษา
2. ลิขสิทธิ์ของผลงานทางวชิ าการของสถานศกึ ษา
3. ลขิ สิทธผ์ิ ลงานส่ือรปู แบบต่างๆท่ีนำเขา้ มาไวใ้ นเครื่องคอมพวิ เตอร์ของสถานศึกษา
อาทิ ไฟล์เพลง ไฟลว์ ิดที ัศน์ หรอื มัลติมเี ดียในรปู แบบต่างๆท่จี ุดประสงคห์ ลักผูส้ รา้ ง ทำไว้เพื่อเชงิ พาณชิ ย์
ปจั จุบนั พบว่าสถานศึกษามีศักยภาพในการจัดการศึกษา มหี อ้ งคอมพวิ เตอรเ์ พอื่ สนบั สนนุ การเรยี นรู้ มี
โปรแกรมสำหรับใช้ ดำเนนิ กิจกรรมทางการศกึ ษาทห่ี ลากหลาย แต่สถานศึกษาสว่ นใหญไ่ ม่ไดต้ ระหนักถงึ
สิทธิท่ีมใี นโปรแกรมหรือซอฟทแ์ วรเ์ หล่านั้น ซ่ึงพบว่า โปรแกรมหรือซอฟทแ์ วร์ทมี่ ีอยูน่ น้ั เปน็ โปรแกรม
ซอฟท์แวรผ์ ิดกฎหมาย ละเมดิ ลขิ สิทธ์แทบท้งั สนิ้ นอกจากนก้ี ารพฒั นาโครงขา่ ยของยสถานศึกษา เพ่อื ใช้
ในการจัดการเรียนการสอน แต่ในเวลาเดียวกันก็พบวา่ ชอ่ งทางสำหรับการรบั สง่ สญั ญาณ (Bandwidth)
ของสถานศกึ ษานน้ั อาจถูกนำไปใช้ในทางทีผ่ ิดโดยอาจเปน็ แหลง่ ที่เกบ็ ข้อมลู ส่ือละเมดิ สิทธิ์ และละเมดิ
ลขิ สิทธต์ิ า่ งๆ (อาทิ ผลงานทางวชิ าการตา่ งๆ ไฟล์เพลง ไฟลว์ ดิ ที ัศน์ รปู ภาพ ที่มีจุดประสงค์ในเชิงพานชิ ย์
โปรแกรมหรอื ซอฟทแ์ วรต์ ่างๆ) และอาจเป็นเครือขา่ ยออนไลน์ท่เี ป็นตน้ ทางในการปอ้ นหรอื คดั ลอกข้อมลู
ใหแ้ ก่ผูด้ าวน์โหลดทัว่ โลก การใชไ้ ฟลร์ ว่ มกนั อยา่ งผดิ กฎหมาย (illegal file-sharing) อาจก่อให้เกิดความ
เสยี หายแกเ่ ครือข่ายคอมพวิ เตอร์ อันเนื่องมาจากการไดร้ ับไวรสั คอมพิวเตอร์ การจารกรรมข้อมูล และ
การคุกคามความปลอดภัยทางข้อมลู ของสถานศึกษาด้วย การละเมดิ ลิขสิทธดิ์ ังกล่าว ท้ังครูผสู้ อน ผู้เรยี น
ของหน่วยงานสถานศึกษาตอ้ งถูกไต่สวนทางกฎหมาย ซ่งึ ถอื ได้วา่ การกระทำความผดิ รวมถงึ หนว่ ยงาน
สถานศึกษาอาจตอ้ งร่วมรบั ผิดชอบจากผลของการกระทำดงั กลา่ วดว้ ยเชน่ กัน
ตามหลักการแล้วสถาบนั การศึกษามหี น้าท่ใี นการสร้างทัศนคติของนักศกึ ษาที่มีต่อเร่อื งลิขสทิ ธิ์
ซงึ่ ก็มขี ั้นตอนมาก มายท่ีสถาบนั การศึกษาสามารถทำไดแ้ ละควรกระทำเพ่ือเป็นการป้องกนั หรือเฝ้าระวงั
พฤตกิ รรมการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งเกียวโยงถึงปัญหาดา้ นความปลอดภยั ต่อเครอื ขา่ ย รวมถึงการส่อื สารการ
ทำความเขา้ ใจและให้ความรู้แก่นกั ศกึ ษา และบุคคลากรทเี่ กย่ี วข้อง รวมทั้ง การเฝา้ ระวงั เพื่อใหส้ ภาวะ
ออนไลน์มีความปลอดภยั และการใช้เครอื่ งมือป้องกัน ทางเทคโนโลยอี ย่างมีประสทิ ธิภาพ
103
แนวทางการแกไ้ ขปญั หา หนว่ ยงานทางการศึกษา บุคลากรในองค์กร ตอ้ งรว่ มกันศกึ ษา วางแผน และ
ดำเนินการ
1. จัดแผนการพฒั นา การปรับปรุง การใช้โปรแกรมหรือซอฟทแ์ วรล์ ขิ สิทธ์
โดยการสำรวจความตอ้ งการในหน่วยงานถึงความจำเป็นในการใช้โปรแกรม ทำการตรวจสอบเครอื่ ง
คอมพวิ เตอร์ เพ่อื ปลดโปรแกรมหรอื ซอฟทแ์ วรท์ ่ีไมจ่ ำเป็นต่อการใชง้ านออกจากระบบ
2.จดั งบประมาณเพ่ือจดั ซ้อื โปรแกรมหรอื ซอฟท์แวร์นำมาตดิ ตัง้
ซ่ึงงบประมาณดังกล่าวต้องใชเ้ ปน็ จำนวนมาก ไมอ่ าจเสรจ็ สนิ้ ในทนั ทีในปีหนงึ่ ได้ จงึ ต้องดำเนินการเป็น
ชว่ งเวลาโดยอาจจะตั้งเป็นแผนระยะยาว 3-5 ปี
3.การใหค้ วามรู้ การสื่อสารทำความเข้าใจ รวมถงึ ข้อกฎหมาย กำหนดนโยบายด้านลขิ สิทธทิ์ ่ี
เหมาะสมเรง่ รัดการใหค้ วามรู้แก่ครูผ้สู อนและผู้เรียนใหเ้ ขา้ ใจวา่ การใช้โปรแกรมหรือซอฟทแ์ วรท์ ่ีนำมาจาก
แหล่งอื่น ไมไ่ ด้เปน็ ผูถ้ ือครองสทิ ธิ์ จึงไม่มีสิทธใ์ิ นการใช้ รวมถึงคดั ลอกและการถ่ายโอนขอ้ มูล งาน หรอื ไฟล์
เพลง ไฟล์วิดีโอ ไฟล์มลั ตมิ เี ดียต่างๆ หรอื งานที่สร้างสรรคข์ องบุคคลอ่ืนๆโดยไม่ได้รับอนุญาตถอื เป็นการ
ละเมิดลขิ สทิ ธิ์ และผิดกฎหมาย
4.กำหนดแนวปฏิบตั เิ พ่ือความปลอดภยั ของเครอื ข่ายใหเ้ ป็นมาตรการของสถานศึกษา
มคี ณะทำงานเพื่อทำการตรวจสอบส่ิงท่อี ยู่ในคอมพวิ เตอร์และลบเนอื้ หาหรอื ข้อมูลทีล่ ะเมดิ ลขิ สทิ ธ์ิออก
นอกจากกรณีทีส่ ถาบันการศึกษา ตอ้ งตรวจสอบระบบคอมพิวเตอร์ของสถานศกึ ษา เพอื่ แกไ้ ขและป้องกัน
ปัญหาเร่อื งการละเมดิ ลิขสิทธ์ิ อาทิ การใช้โปรแกรมหรอื ซอฟแวรท์ ีไ่ มถ่ ูกตอ้ งตามกฎหมาย ไฟลเ์ พลง ไฟล์
วดิ ีโอ ไฟลม์ ัลตมิ ีเดียต่างๆ และงานสร้างสรรค์ประเภทอ่นื ๆ ทม่ี ลี ิขสทิ ธ์ไิ ว้ในรายการเพ่ือทต่ี ้องทำการตรวจสอบ
อกี ด้วย
104
ข้อสอบนวัตกรรมทางการศึกษา
1. นวัตกรรมทางการศกึ ษามีความหมายตรงกบั ขอ้ ใด
ก. สงิ่ ที่ประดิษฐ์ข้ึนมาใหม่
ข. การทำของเกา่ มาประดษิ ฐ์ใหม่ให้ดกี วา่ เดิม
ค. การปรบั ปรุงให้มปี ระสิทธิภาพมากยง่ิ ขึ้น
ง. ไม่มีข้อใดถกู ต้อง
2. ระบบสารสนเทศมคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด
ก. การรวบรวมข้อมูลเพอื่ การตดั สนิ ใจและการควบคุมในองค์กร
ข. เซ็ตขององคป์ ระกอบท่ีสัมพันธก์ นั จดั เกบ็ และเผยแพรส่ ารสนเทศ
ค. จัดเกบ็ ข้อมลู เพอื่ การเผยแพร่เพ่อื สนับสนนุ การตัดสนิ ใจและการควบคมุ ในองค์กร
ง. ขอ้ มูลทถ่ี กู นำมาประมวลผลให้อยู่ในรูปแบบทีม่ ีความหมายแก่ผู้รบั เพอ่ื ใช้ประกอบการตดั
สอบใจ
3. ขอ้ ใดคือความสำคญั ของการสื่อสาร
ก. ความเป็นสังคมต่อชีวติ ประจำวนั
ข. อุตสาหกรรมและธุรกจิ
ค. การปกครองต่อการเมอื งระหว่างประเทศ
ง. ถูกทกุ ขอ้
4. E – Learning มีความหมายว่าอย่างไร
ก. การเรยี นรู้แบบออนไลน์ (on – line)
ข. การเรียนร้ผู ่านดาวเทยี ม
ค. การเรียนรู้ดว้ ยโปรแกรม
ง. การเรยี นรูแ้ บบไมถ่ กู จำกัดเวลา
5.นวตั กรรมการศึกษามคี วามสำคัญต่อการจัดการศึกษาอย่างไร
ก.ลดความสำคัญในตวั ผู้สอน
ข.เพ่ิมความสำคัญในตวั ผเู้ รยี น
ค.เพมิ่ ความสำคญั ท้งั ในตวั ผู้เรยี นและผู้สอน
ง.ชว่ ยแก้ไขปัญหาและพัฒนาการจัดการศกึ ษา
105
6. เทคโนโลยีเปน็ เครื่องมือทมี่ ีความสำคญั ตอ่ สารสนเทศอยา่ งไร
ก.ชว่ ยในการเก็บข้อมลู
ข.ช่วยใหเ้ กดิ ผลผลิตที่มปี ระสทิ ธิภาพ
ค.สนบั สนุนการดำเนินงานใหค้ ลอ่ งตวั
ง.ช่วยในการเก็บข้อมลู ประมวลผลขอ้ มูล
7. Computer - Assisted Instruction : CAl คอื ขอ้ ใด
ก. เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์
ข. คอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน
ค. คอมพิวเตอรก์ ราฟิก
ง. เน็ตเวริ ค์ คอมพวิ เตอร์
8. Educational Innovation มคี วามหมายตรงกบั ข้อใด
ก. การปฏิรูปการศึกษา
ข. นวตั กรรมทางการศึกษา
ค. การศึกษาโลก
ง. การศกึ ษาทางไกลผา่ นดาวเทียม
9. การออกแบบนวัดกรรม ควรพิจารณาในข้อใดเปน็ อนั ดับแรก
ก. การนำไปใช้
ข. ทฤษฎีทีร่ องรับ
ค. ความจำเปน็ ของปัญหา
ง. วัตถุประสงค์
10. ในปัจจบุ นั เราใชอ้ ปุ กรณใ์ ดในการส่อื สารกบั บคุ คลท่ัวไป
ก. คอมพวิ เตอร์
ข. โทรศัพท์มอื ถือ
ค. อนิ เตอรเ์ นต็
ง. โทรทัศน์
106
เฉลย
1. ค
2. ข
3. ง
4. ก
5. ง
6. ง
7. ข
8. ข
9. ค
10. ข
107
ข้อสอบความรูเ้ บือ้ งตน้ เก่ียวกับเทคโนโลยีสาร-สนเทศ
1. อินเตอรเ์ น็ต คอื อะไร
ก. ระบบเมนเฟรม
ข. ระบบเครือข่ายทเ่ี ช่อื มโยงกันหลาย ๆ เครอื ขา่ ยทัว่ โลก
ค. ระบบเครือข่ายเดย่ี ว
ง. ระบบไมโครคอมพิวเตอร์
2. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลกั ษณะของขอ้ มูลท่ีดี
ก. มคี วามถูกตอ้ ง
ข. มีความทนั สมยั
ค. มีความสวยงาม
ง. มคี วามนา่ เชือ่ ถือ
3. ขอ้ ใดคอื ประเภทของขอ้ มลู ทแี่ บง่ ตามแหลง่ ข้อมูลทีไ่ ด้รับ
ก. ข้อมูลทไ่ี ดจ้ ากส่อื อเิ ล็กทรอนิกส์
ข. ข้อมลู ปฐมภมู แิ ละข้อมูลทุตยิ ภูมิ
ค. ขอ้ มูลตวั อกั ษรและขอ้ มลู รปู ภาพ
ง. ขอ้ มูลทไ่ี ด้จากประสารทสมั ผัสทัง้ 5
4. ขอ้ ใดคือความหมายท่ีถกู ต้องทส่ี ดุ ของ”นวตั กรรม”
ก. การกระทำทีไ่ ม่เคยมมี าก่อน
ข. การกระทำท่ีเอาแบบอย่างมาจากที่อ่ืน
ค. การกระทำท่ีใชแ้ นวคิดหรอื วธิ ปี ฏิบตั ใิ หม่ๆเพื่อแกป้ ัญหาและพฒั นางาน
ง. การกระทำทร่ี อ้ื ฟื้นมาจากของเดิม
5. ปัญหาหลักท่เี กิดจากการใชน้ วตั กรรมในสถานศึกษาคือข้อใด
ก. ครไู ม่มีความชำนาญในการใช้นวตั กรรม
ข. ขาดงบประมาณในการจัดซ้ือหรือสร้างนวตั กรรม
ค. มีจำนวนไม่เพยี งพอตอ่ การใช้
ง. ถูกทุกข้อ
108
6. นวตั กรรมการศึกษามคี วามสำคัญต่อการจัดการศกึ ษาอยา่ งไร
ก. ลดความสำคญั ในตัวผู้สอน
ข. เพิ่มความสำคญั ในตัวผเู้ รยี น
ค. เพ่มิ ความสำคญั ทัง้ ในตัวผเู้ รียนและผู้สอน
ง. ช่วยแก้ไขปญั หาและพัฒนาการจัดการศกึ ษา
7. ขอ้ ใดอธบิ ายความหมายของแหล่งทรพั ยากรการเรียนร้ไู ดด้ ที สี่ ุด
ก. การท่ีผเู้ รียนเข้าไปค้นควา้ หาความรู้ในห้องสมุด
ข. แหล่งรวบรวมทรัพยากรบุคคล วัสดุ อปุ กรณ์ ข้อมูลและสถานทีส่ ง่ เสรมิ การเรยี นรูแ้ ละ
คน้ หาคำตอบ
ค. สถานที่ที่บุคคลไปแสวงหาความรู้
ง. แหลง่ รวบรวมทรพั ยากรทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ การเรยี นการสอน
8. การสรา้ งและการพฒั นานวตั กรรมมีก่ีข้นั ตอน
ก. 5 ข้ันตอน
ข. 6 ขน้ั ตอน
ค. 7 ขั้นตอน
ง. 8 ขัน้ ตอน
9. ข้อใดคอื ประโยชนข์ องการส่ือสารข้อมูลผา่ นเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์
ก. ข้อมลู ปลอดภัย
ข. สือ่ สารได้รวดเร็ว
ค. ประหยัดแรงงาน
ง. มีความทันสมัย
10. ข้อใด เปน็ ลักษณะรูปแบบการเรยี นรู้แบบ e-learning
ก. การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
ข. การสร้างประสบการณ์เรียนรดู้ ว้ ยการใชเ้ วลาเดยี วกนั รว่ มกัน
ค. การสรา้ งประสบการณ์เรียนรู้ดว้ ยดว้ ยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารทางไกล
ง. การสรา้ งประสบการณ์เรยี นรู้จากจดุ ท่ีอยู่หา่ งไกล โดยผู้สอนและผเู้ รยี นแยกจากกันด้วยเวลาหรือ
สถานที่
109
เฉลย
1. ข
2. ค
3. ข
4. ค
5. ง
6. ง
7. ข
8. ก
9. ข
10. ค
110
ข้อสอบคอมพวิ เตอรแ์ ละอินเทอรเ์ นต็ กับเทคโนโลยสี ารสนเทศ
1. เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารตรงกบั ขอ้ ใด
ก. IT
ข. ICT
ค. Technology
ง. Innovation
2.กระทรวงศกึ ษาธิการมีเปา้ หมายการนำคอมพิวเตอร์และอนิ เตอรเ์ น็ตมาใช้กับการศกึ ษาดา้ นใด
ก. การเรียนการสอน
ข. การบรหิ ารจดั การ
ค. การเรียนรัสำหรับชุมชน
ง.ถกู ทกุ ข้อ
3. SchoolNet เปน็ เครอื ข่ายขอ้ มูลด้วยระบบสารสนเทศ (Network)ในโรงเรยี นมัธยมศึกษาซ่งึ
เกดิ ขนึ้ ตามแนวคดิ ของใคร
ก. พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ฯ
ข. สมเด็จพระเทพรฒั นราชสุดาฯ
ค. พลเอกเปรม ติณศลุ านนท์
ง. นายปองพล อดเิ รกสาร
4. Open Source ถกู จัดไวใ้ นขอ้ ใด
ก. Hardware
ข.Pepleware
ค. Software
ง. Technic
5. ทักษะตา่ ง ๆ ท่ีเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์ เรียกวา่ อะไร
ก. ความชำนาญทางคอมพิวเตอร์
ข. การรับรู้ด้านคอมพิวเตอร์
ค. การเชอื่ มตอ่ คอมพิวเตอร์
3. ง. เครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์
6. ซอฟต์แวร์ระบบในข้อใดท่ีสำคญั ท่ีสดุ
ก.โปรแกรมประมวลผลคำ
ข.โปรแกรมระบบจกั การฐานขอ้ มลู
ค.โปรแกรมระบบปฏิบตั ิการ
ง. ซอฟดแ์ วร์ประยกุ ด์
111
7. โนต้ บุ๊กคอมพิวเตอร์ เรยี กอย่างหน่งึ ว่าอะไร
ก. มนิ ิคอมพวิ เตอร์
ข. คอมพวิ เตอร์วางตัก
ค. ปาลม์ ท็อปคอมพวิ เดอร์
3. คอมพวิ เดอร์ขนาดกลาง
8. คำทใ่ี ชแ้ ทนหนว่ ยความจำช่ัวคราวคือคำใด
ก. พีดีเอ
ข.ซดี ี
ค. แรม
ง. ดีวดี ี
9.เครอื ข่ายทใ่ี หญ่ที่สดุ ในโลก เรียกว่าอะไร
ก.อินเตอรเ์ น็ต
ข. เวลิ ด์ไวดเ์ วบ็
ค. เว็บไซด์
ง. เว็บ
10. อนิ เตอรเ์ นต็ เกดิ ขึ้นในปี ค.ศ. 1969 ขณะท่ีสหรฐั อมรกิ าคน้ พบพัฒนาเครอื ข่ายของประเทศ
เรียกวา่ ..................
ก.CERN
ข.ARPANET
ค. The Web
ง. WWW
112
เฉลย
1. ข
2. ง
3. ข
4. ค
5. ก
6. ค
7. ข
8. ค
9. ก
10. ข
113
บรรณานุกรม
กิตานนั ท์ มลิทอง. 2543. เทโนโลการศกึ ษาและนวัตกรรม.กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั .
2548. เทตโนโลยีและการส่อื สารเพ่อื การศึกษา.
กรงุ เทพมหานคร: อรุณการพมิ พ์. 2536. เทตโนโลยกี ารศึกษาร่วมสมยั . กรงุ เทพมหานคระ เอพิสนั เพรส
โพรด้กส์ จำกัด
ครรชติ มาลยั วงศ.์ 2540. ทัศนะไอท.ี กรงุ เทพมหานคร : ชเี อด็ ยูเคช่ัน จำกดั (มหาชน).2540 .
จันทรา ตันติพงศานุรกั ษ.์ 254 4. การจดั การเรียนรูแ้ บบร่วมมอื (Cooperative Leamning)
วารสารวิชาการ. 12 (ธนั วาคม), 36-56.
ใจทิพย์ ณ สงขลา. 2547. การออกแบบการเรยี นการสอนบนเว็บในระบบการเรยี นอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์.
กรงุ เทพมหานคร : คณะคุรศุ าสตร จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .
ชยั ยงค์ พรหมวงศ.์ 2523. เอกสารการสอนซุวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศกึ ษา. บนทบรุ ี:
มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธริ าช
ไชยยศ เรือ่ งสุวรรณ. 2533. เทคโนโลการศกึ ษาทฤษฎแี ละการวจั ัย. กรงุ เทพมหานคร: โอ เอส พร้ินดง้ิ เฮา้ ส.์
ทิพยเ์ กสร บญุ อำไพ. 2540, อา้ งถึงในนวัตกรรมการศกึ ษาและเทคโนโลยีทางการศึกษา
(ออนไลน์) สบื คน้ ไดจ้ าก : htp://school.obec.go.th/sup br3/t 1.htm (15/05/2548)
ทิศนา แขมมณี. 2545. ศาสตร์การสอน : องคค์ วามรเู้ พ่อื การจัดกระบวนการเรยี นรู้ทม่ี ี
ประสทิ ธิภาพ. กรงุ เทพมหานคร : จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย.
ธวัชชัย อดเิ ทพสถติ . 2546. "E-Learning กบั ห้องเรียนเสมอื นจริง". วารสารวิทยบริการ.2
(พฤษภาคม - สิงหาคม), 62 - 65.
นวตั กรรมการศึกษาสำหรบั สหัสวรรษใหม่ ห้องเรียนเสมอื นจริง (The virtual Classroom)
(ออนไลน)์ สืบคน้ ไดจ้ าก : http://members. fortunecity.com,jojo246(21/12/2547)
114
นารี ขนั แกว้ . 2545. ผลการเรียนแบบร่วมมือในคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอนท่ใี ช้ปฏิสัมพันธ์ชี้นำ
ทางการเรยี น ในรายวชิ าคณิตศาสตร์ สำหรบั นักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่3ี ,วทิ ยานิพนธศ์ ึกษาศาสตร
มหาบัณฑติ สาขาวชิ าเทคโนโลยกี ารศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น.
นพิ นธ์ สขุ ปดี. 2533. นวัดกรรมเทคโนโลการศึกษา. นนทบรุ :ี มหาวทิ ยาลัย สุโขทัยธรรมาธิราช
บญุ ชม ศรีสะอาด. 2541. วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจยั เลม่ 1. มหาสารคาม : ภาควชิ าพืน้ ฐานของการศึกษา
คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครินทรวโิ รฒ มหาสารคาม.
บญุ เกอ้ื ควรหาเวช. 2542. อ้างถงึ ในนวตั กรรมการศึกษาและเทคโนโลยที างการศกึ ษา
(ออนไลน์) สบื ค้นได้จาก : htp://school.obec.go.th/sup br3/t_ 1.htm (15/05/2548)
ประวัติความเปน็ มาของคอมพิวเตอร์ (ออนไลน์). (2555). สืบคน้ จาก :
http://www.thaiwbi.com/course/ntro_con/ntro_com/wbi1./hie/menu2.htm
(วันท่ีสบื ต้น : 6 สิงหาคม 2555
เปรอื่ ง กมุ ท. 2535. อต ปัจจุบนั และอนาคดของเทคโนโลยีการศกึ ษา เอกสารประกอบสัมมนาทางวชิ าการ
โสดฯเทค โนฯ สม้ พันธแ์ หง่ ประเทศไทย ครั้งท่ี 7. กรุงเทพมหานตร มหาวทิ ยาลัยศรนี ครินทรวีโรณ
ประสานมิตร.
อปุ กรณค์ อมพิวเตอร์ Hardware. (ออนไลน์). (2555). สืบคน้ จาก :
http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet 1/hardware/index01.htm (วันทส่ี บื คนั :
สงิ หาคม 2555].
อ้างถงึ ในนวัตกรรมการศกึ ษาและเทคโนโลยีทางการศกึ ษา (ออนไลน)์ สืบค้นได้จาก :
htp://school.obec.go.th/sup br3/4t_1.htm (15/05/2548)
115