The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ป.3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2021-12-19 03:03:43

แผนการจัดการเรียนรู้ ป.3

แผนการจัดการเรียนรู้ ป.3

11. การวดั และการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมิน
11.1 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ประเมิน แบบประเมนิ รอ้ ยละ 70 ข้ึนไป
จุดประสงค์ การตอบคำถาม การตอบคำถาม ร้อยละ 70 ขึ้นไป
ร้อยละ 70 ขึ้นไป
1. สังเกตและอธิบายผลของแรงแมเ่ หล็กท่ี ประเมนิ แบบประเมนิ
กระทำตอ่ วตั ถุที่ทำมาจากสารแมเ่ หลก็ ได้ (K) การตอบคำถาม การตอบคำถาม
แบบประเมนิ
2. สอ่ื สารและนำความร้เู ร่ืองสมบตั ิของวัสดุ สังเกต พฤติกรรมรายบุคคล
ดา้ นความแข็งไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้ (P) พฤติกรรม
3. ทำงานร่วมกบั ผอู้ น่ื อยา่ งสร้างสรรค์ (A)

11.2 สมรรถนะของผ้เู รยี น

สมรรถนะของผูเ้ รยี น วธิ ีการวดั เครือ่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ความสามารถในการคิด การทดสอบ แบบทดสอบ ผา่ นเกณฑ์ระดับคณุ ภาพ
ก่อนเรยี น/หลงั เรยี น ระดบั 2 ข้นึ ไป ผ่านเกณฑ์
2. ความสารถในการส่ือสาร ประเมิน
การตอบคำถาม แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์ระดับคุณภาพ
11.3 คุณลักษณะอังพงึ ประสงค์ การตอบคำถาม ระดบั 2 ขน้ึ ไป ผ่านเกณฑ์
คุณลกั ษณะองั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ัย วธิ กี ารวดั เครื่องมอื วดั เกณฑ์การประเมิน
2. ใฝเ่ รยี นรู้ การสังเกต แบบสงั เกต ผ่านเกณฑร์ ะดบั คุณภาพ
3. มุง่ มั่นในการทำงาน พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั 2 ขึ้นไป ผา่ นเกณฑ์

การสังเกต แบบสงั เกต ผา่ นเกณฑร์ ะดบั คณุ ภาพ
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดับ 2 ข้ึนไป ผา่ นเกณฑ์
การสังเกต แบบสงั เกต ผ่านเกณฑร์ ะดับคุณภาพ
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั 2 ขน้ึ ไป ผ่านเกณฑ์

แบบประเมินจุดประสงคก์ ารเรียนรู้

คำชแ้ี จง ให้ผู้ประเมนิ สังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมรายบุคคลของนกั เรียนตามประเด็น

การประเมนิ ต่อไปน้ี แลว้ ให้น้ำหนักคะแนนตามระดบั คุณภาพ

1. สังเกตและอธบิ ายผลของแรงแมเ่ หล็กที่กระทำต่อวตั ถุท่ีทำมาจากสารแม่เหลก็ ได้ (K)

2. สอื่ สารและนำความรู้เรอ่ื งสมบตั ิของวสั ดุด้านความแขง็ ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ (P)

3. ทำงานรว่ มกบั ผ้อู ื่นอย่างสร้างสรรค์ (A)

ประเดน็ การประเมิน รวม ผลการ

เลขท่ี ชอื่ - นามสกลุ รายการท่ี 1 รายการที่ 2 รายการที่ 3 (12) ประเมนิ

123412341234

1 เดก็ ชายกฤษณพงษ์ เชียงสนธิ์

2 เดก็ ชายนันทชัย คำท้วม

3 เดก็ ชายธนพล จุย้ ศิริ

4 เด็กชายพฤกชัย จันทร์คำอา้ ย

5 เดก็ ชายธีรยุทธ มน่ั กนั นาน

6 เดก็ ชายนครนิ ทร์ คำคุ้ม

7 เดก็ ชายดาวพงษ์ คำถาเครือ

8 เดก็ ชายภวู ดล อมรใฝผ่ ่องศรี

9 เด็กชายสทิ ธิโชค จิตรประสงค์

10 เด็กหญิงสดุ าภรณ์ วงศ์วนั ศรี

11 เด็กหญิงรจุ ิดา สขุ เกษม

12 เดก็ หญิงปริณดา ใจค้มุ

13 เด็กหญงิ ณัฐลดั ดา พุม่ เกษา

14 เดก็ ชายตลุ ยากร ปัจฉิมเวช

15 เด็กหญงิ บุษรารัตน์ ศรจี ันทรม์ าก

ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวพรสดุ า โลมา )

เกณฑ์การประเมนิ ผลจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ประเดน็ การประเมนิ คำอธบิ ายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน

ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรบั ปรุง (๑)

1. สงั เกตและอธบิ ายผลของแรง สังเกตและอธิบาย สังเกตและอธบิ าย สงั เกตและอธิบาย สงั เกตและอธบิ าย

แม่เหลก็ ที่กระทำตอ่ วัตถุที่ทำ ผลของแรง ผลของแรงแม่เหล็ก ผลของแรงแมเ่ หลก็ ผลของแรง

มาจากสารแม่เหลก็ ได้ (K) แม่เหลก็ ท่ีกระทำ ทกี่ ระทำต่อวัตถทุ ี่ ทีก่ ระทำต่อวัตถุที่ แม่เหลก็ ท่ีกระทำ

ตอ่ วตั ถุที่ทำมา ทำมาจากสาร ทำมาจากสาร ตอ่ วัตถุท่ีทำมา

จากสารแมเ่ หล็ก แม่เหล็กได้ แมเ่ หลก็ ได้ถูกตอง จากสารแม่เหลก็

ไดล้ ะเอยี ด ถูกตองบางสว่ น เพียงเลก็ น้อย ไมไ่ ด้

ถกู ต้องทั้งหมด

2. สื่อสารและนำความรเู้ รื่อง สอ่ื สารและนำ สือ่ สารและนำ สื่อสารและนำ สื่อสารและนำ

สมบัตขิ องวัสดุด้านความแข็งไป ความรูเ้ รื่องไม้ไป ความรู้เรื่องไม้ไปใช้ ความร้เู ร่อื งไม้ไปใช้ ความร้เู รอ่ื งไม้ไป

ใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ (P) ใชใ้ น ในชวี ิตประจำวนั ในชวี ติ ประจำวนั ใชใ้ น

ชวี ติ ประจำวัน ได้ถูกตอ้ งบางส่วน ได้ถูกตอ้ งเพยี ง ชวี ติ ประจำวนั

ไดล้ ะเอียด เล็กนอ้ ย ไม่ได้

ถูกต้องทง้ั หมด

3. ทำงานรว่ มกบั ผู้อืน่ อยา่ ง ทำงานรว่ มกับ ทำงานร่วมกับผู้อ่ืน มที ำงานรว่ มกับ ไมม่ ีทำงาน

สรา้ งสรรค์ (A) ผอู้ น่ื อย่าง อย่างสร้างสรรค์ ผู้อื่นอย่าง รว่ มกับผู้อนื่ อย่าง

สรา้ งสรรค์ ไดด้ ี สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์

ได้ดมี าก ได้เล็กน้อย ไมถ่ ูกตองตาม

บรบิ ท

เกณฑก์ ารประเมิน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมมีข้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารตัดสนิ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
10-12 1 (ดีมาก)
7-9 2 (ดี)
4-6 3 (พอใช้)

น้อยกว่า 4 4 (ปรบั ปรงุ )

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

คำช้ีแจง ใหผ้ ปู้ ระเมินสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมรายบุคคลของนักเรียนตามประเด็น

การประเมนิ ต่อไปนี้ แล้วใหน้ ้ำหนักคะแนนตามระดับคณุ ภาพ

1. ใฝเรียนรู้

2. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

3. มีวินัย

ประเดน็ การประเมนิ รวม ผลการ
ประเมิน
เลขท่ี ชอ่ื - นามสกลุ รายการท่ี 1 รายการท่ี 2 รายการท่ี 3 (12)

123412341234

1 เดก็ ชายกฤษณพงษ์ เชียงสนธิ์

2 เดก็ ชายนันทชัย คำทว้ ม

3 เดก็ ชายธนพล จุ้ยศริ ิ

4 เดก็ ชายพฤกชยั จนั ทรค์ ำอา้ ย

5 เด็กชายธีรยทุ ธ ม่นั กันนาน

6 เดก็ ชายนครินทร์ คำคุ้ม

7 เดก็ ชายดาวพงษ์ คำถาเครือ

8 เด็กชายภวู ดล อมรใฝผ่ ่องศรี

9 เด็กชายสิทธโิ ชค จติ รประสงค์

10 เด็กหญงิ สดุ าภรณ์ วงศว์ นั ศรี

11 เดก็ หญงิ รจุ ดิ า สขุ เกษม

12 เด็กหญิงปรณิ ดา ใจคุม้

13 เด็กหญงิ ณฐั ลัดดา พุ่มเกษา

14 เดก็ ชายตุลยากร ปัจฉิมเวช

15 เดก็ หญิงบุษรารตั น์ ศรีจันทร์มาก

ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
(นางสาวพรสดุ า โลมา )

เกณฑ์การประเมินผลคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

ประเด็นการประเมนิ คำอธิบายระดบั คุณภาพ/ระดับคะแนน

ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)

1. มวี ินัย ปฏิบัตติ นตามข้อตกลง ปฏบิ ตั ิตนตามข้อตกลง ปฏบิ ัติตนตามข้อตกลง ไมป่ ฏบิ ัติตนตาม

กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์

ข้อบังคบั ของโรงเรยี น ข้อบังคบั ของโรงเรียน ขอ้ บังคบั ของโรงเรยี น ระเบียบ ข้อบงั คบั ของ

และไม่ละเมดิ สิทธิ ตรงตอ่ เวลาในการ ตรงต่อเวลาในการ โรงเรียน และไมต่ รง

ของผู้อืน่ ตรงตอ่ เวลา ปฏบิ ตั ิกิจกรรม ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิ

ในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม และรับผิดชอบใน กจิ กรรม

และรบั ผดิ ชอบในการ การทำงาน

ทำงาน

2. ใฝเ่ รียนรู้ เขา้ เรียนตรงเวลา เขา้ เรียนตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา ไม่ต้งั ใจเรียน

ต้งั ใจเรยี น เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้ังใจเรยี น เอาใจใส่ ไม่ศึกษาคน้ คว้าหา

ในการเรยี น และมี ในการเรียนและมีสว่ น ในการเรยี นและมีสว่ น ความรู้

สว่ นร่วมในการเรียนรู้ ร่วมในการเรียนรู้ ร่วมในการเรยี นรู้

และเข้าร่วมกิจกรรม และเขา้ รว่ มกจิ กรรม และเข้ารว่ มกจิ กรรม

การเรยี นรู้ต่าง ๆ การเรยี นรตู้ ่าง ๆ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ

ท้ังภายในและ บอ่ ยครงั้ เป็นบางคร้งั

ภายนอกโรงเรยี น

เป็นประจำ

3. มงุ่ ม่นั ในการ ต้ังใจและรับผิดชอบ ตัง้ ใจและรับผิดชอบ ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบ ไมต่ ้ังใจและไมม่ ี

ทำงาน ในการปฏบิ ตั หิ น้าที่ ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ ในการปฏบิ ัติหน้าท่ี ความรับผดิ ชอบในการ

ที่ไดร้ บั มอบหมายให้ ทไี่ ดร้ บั มอบหมายให้ ที่ได้รบั มอบหมาย ปฏบิ ัติหน้าท่ี

สำเรจ็ มกี ารปรับปรงุ สำเรจ็ มกี ารปรับปรงุ ใหส้ ำเร็จ ท่ีได้รบั มอบหมายให้

และพัฒนาการทำงาน และพฒั นาการทำงาน สำเร็จได้

ให้ดีขึ้นดว้ ยตนเอง ใหด้ ขี น้ึ

เกณฑ์การประเมิน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารตดั สนิ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
10-12 1 (ดมี าก)
7-9 2 (ดี)
4-6 3 (พอใช้)

น้อยกวา่ 4 4 (ปรบั ปรงุ )

แบบประเมนิ สมรรถนะของผู้เรียน

คำชแ้ี จง ใหผ้ ปู้ ระเมนิ สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติกจิ กรรมรายบุคคลของนกั เรยี นตามประเด็น

การประเมนิ ตอ่ ไปน้ี แลว้ ให้น้ำหนักคะแนนตามระดับคณุ ภาพ

๑. ความสามารถในการคดิ

๒. ความสามารถในการส่ือสาร

ประเดน็ การประเมนิ รวม ผลการ

เลขท่ี ชื่อ- นามสกุล (12) ประเมนิ

รายการท่ี 1 รายการที่ 2

12341234

1 เด็กชายกฤษณพงษ์ เชียงสนธิ์

2 เดก็ ชายนนั ทชยั คำท้วม

3 เดก็ ชายธนพล จยุ้ ศริ ิ

4 เด็กชายพฤกชัย จนั ทร์คำอ้าย

5 เด็กชายธีรยุทธ มัน่ กนั นาน

6 เด็กชายนครนิ ทร์ คำคมุ้

7 เด็กชายดาวพงษ์ คำถาเครือ

8 เด็กชายภวู ดล อมรใฝผ่ อ่ งศรี

9 เดก็ ชายสิทธิโชค จติ รประสงค์

10 เดก็ หญงิ สดุ าภรณ์ วงศ์วันศรี

11 เด็กหญิงรุจดิ า สุขเกษม

12 เด็กหญิงปริณดา ใจค้มุ

13 เดก็ หญงิ ณัฐลดั ดา พุม่ เกษา

14 เด็กชายตุลยากร ปจั ฉิมเวช

15 เด็กหญิงบษุ รารตั น์ ศรจี นั ทร์มาก

ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ
(นางสาวพรสุดา โลมา)

เกณฑก์ ารประเมนิ ผลสมรรถนะของผเู้ รยี น

ประเด็นการประเมนิ คำอธบิ ายระดบั คุณภาพ/ระดับคะแนน

ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)
ไม่ม่ีความสามารถใน
1. ความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มคี วามสามารถใน
การคิดวิเคราะห์
การคดิ การคดิ วเิ คราะห์ การคิดวเิ คราะห์ การคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์

สังเคราะห์ มีทักษะใน สงั เคราะห์ มีทักษะใน สังเคราะห์ คิดอย่างเปน็ ระบบ
มีวิจารณญาณ
การคิดนอกกรอบ การคดิ นอกกรอบ คิดอยา่ งเป็นระบบ ในการคดิ

อยา่ งสรา้ งสรรค์ อย่างสรา้ งสรรค์ มีวิจารณญาณ ไม่มี่ความสามารถใน
การรบั สาร – ส่งสาร
คดิ อยา่ งเปน็ ระบบ คิดอย่างเป็นระบบ ในการคดิ
ถ่ายถอดความรู้
มีวจิ ารณญาณใน มวี จิ ารณญาณ ความเขา้ ใจของ

การคิด สามารถ ในการคดิ ตนเองได้

ตดั สินใจ แกป้ ญั หา

ได้อย่างเหมาะสม

1. ความสามารถใน มคี วามสามารถในการ มคี วามสามารถในการ มีความสามารถในการ

การส่ือสาร รับสาร – สง่ สาร รับสาร – สง่ สาร รับสาร – ส่งสาร

ถา่ ยถอดความรู้ ถ่ายถอดความรู้ ถ่ายถอดความรู้ความ

ความเข้าใจของตนเอง ความเข้าใจของตนเอง เขา้ ใจของตนเองโดย

โดยใชภ้ าษาที่ โดยใชภ้ าษาท่ี ใชภ้ าษาท่ีเหมาะสม

เหมาะสมใช้วิธกี าร เหมาะสม ใช้วิธีการ

สื่อสารที่เหมาะสม สอ่ื สารท่เี หมาะสม

และเลือกรับหรือไมร่ ับ

ข้อมลู ดว้ ยตนเองได้

อย่างมีเหตผุ ล

เกณฑก์ ารประเมิน เกณฑ์การตดั สิน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน 7-8 1 (ดีมาก)
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครง้ั ให้ 1 คะแนน 5-6 2 (ด)ี
3-4 3 (พอใช้)

นอ้ ยกวา่ 3 4 (ปรบั ปรงุ )





แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7

กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2/2564

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 แรงและการเปล่ียนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ เรื่อง ผลของแรงแมเ่ หลก็ ข้วั แมเ่ หล็ก (2)

สอนวันที่ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 จำนวน 1 คาบ/สปั ดาห์

ผู้สอน นางสาวพรสดุ า โลมา โรงเรียนนำ้ ริดราษฎรบ์ ำรงุ

**********************************************************************************

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลักษณะการ

เคลื่อนท่ีแบบต่างๆ ของวตั ถุ รวมทง้ั นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

2. ตัวชี้วัดชน้ั ปี
1. เปรียบเทียบและยกตัวอย่างแรงสัมผัสและแรงไม่สมั ผัสที่มีผลต่อการเคล่ือนทีข่ องวัตถุ โดยใช้หลักฐาน

เชงิ ประจกั ษ์ (ว 2.2 ป. 3/2)
2. จำแนกวตั ถโุ ดยใชก้ ารดึงดดู กบั แม่เหลก็ เป็นเกณฑ์จากหลักฐานเชิงประจักษ์ (ว 2.2 ป. 3/3)

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายผลของแรงแมเ่ หลก็ ทีก่ ระทำต่อวตั ถทุ ่ที ำมาจากสารแมเ่ หล็กได้ (K)
2. มีความสนใจใฝร่ ้หู รืออยากรอู้ ยากเหน็ (A)
3. พอใจในประสบการณก์ ารเรยี นรู้ทเี่ ก่ียวกบั วทิ ยาศาสตร์ (A)
4. ทำงานร่วมกับผ้อู ่ืนอย่างสร้างสรรค์ (A)
5. สอ่ื สารและนำความร้เู รื่องผลของแรงแมเ่ หล็กไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ (P)

4. สาระสำคญั
สารที่แม่เหล็กสามารถดึงดูดได้ เรียกว่า สารแม่เหล็ก ส่วนใหญ่สารแม่เหล็กจะเป็นโลหะ เช่น เหล็ก

นิกเกิล และโคบอลต์ แม่เหล็กและสารแม่เหล็กสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย เช่น ใช้เป็นส่วนประกอบใน
ของเลน่ และของใช้ตา่ ง ๆ ใชป้ ระดิษฐเ์ ข็มทิศ และใช้เป็นสว่ นประกอบของเครอื่ งใช้ไฟฟา้ ท่มี ีมอเตอร์

5. สาระการเรยี นรู้
แรงไม่สมั ผสั
– ผลของแรงแม่เหล็ก

6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
4. มีจิตวทิ ยาศาสตร์

7. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะ/กระบวนการและทกั ษะในการดำเนินชีวติ

8. ช้ินงานหรือภาระงาน
ประดษิ ฐ์เบด็ ตกปลาพลังแม่เหลก็

9. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน

1) ครูกระตุน้ ความสนใจของนักเรยี น โดยครนู ำลวดเยบ็ กระดาษ ตะปู ชอ้ นพลาสตกิ ดนิ สอและไม้บรรทัด
เหลก็ มาให้นักเรียนดู แลว้ ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั อภปิ ราย ดังนี้

– ถ้านำแม่เหล็กเข้าใกล้วัตถุเหล่านี้ วัตถุชนิดใดที่แม่เหล็กสามารถดึงดูดได้ (แนวคำตอบ ลวดเย็บ
กระดาษ ตะปู และไม้บรรทัดเหลก็ )

– เพราะเหตุใดแม่เหล็กจงึ สามารถดงึ ดูดวตั ถุดังกลา่ วได้ (แนวคำตอบ เพราะลวดเยบ็ กระดาษ ตะปู
และไมบ้ รรทดั เหล็กเป็นวัตถุท่ที ำมาจากสารแมเ่ หลก็ )

2) นักเรียนร่วมกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตอบ เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้เรื่อง
ผลของแรงแม่เหลก็

ข้ันจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
จัดกจิ กรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ร่วมกับแบบกลับด้าน ช้ัน

เรยี น (flipped classroom) ซ่งึ มขี ัน้ ตอนดงั นี้

1) ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement)
(1) ครูถามคำถามนักเรียนเพอื่ กระตุ้นความสนใจ เชน่
– สิ่งต่างๆ รอบตัวของนักเรียนมีแม่เหล็กเป็นส่วนประกอบหรือไม่ ถ้ามี อะไรบ้าง (แนวคำตอบ มี

เชน่ แม่เหล็กติดตูเ้ ย็น กลอ่ งดินสอ และกระเป๋า)
(2) นกั เรยี นร่วมกันอภิปรายหาคำตอบเกี่ยวกับคำถามตามความคดิ เหน็ ของแตล่ ะคน

2) ขนั้ สำรวจและค้นหา (Exploration)
(1) ครูแบง่ นกั เรียนกลุม่ ละ 3 – 4 คน ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ประดิษฐเ์ บด็ ตกปลาพลงั แมเ่ หลก็ ตามขั้นตอน ดงั น้ี
– นำกระดาษแข็งมาตัดเป็นรปู ปลาประมาณ 4 – 5 ตัว แล้ววาดรูปและระบายสีให้สวยงาม จากน้ัน

ใชล้ วดเสยี บกระดาษเสียบกระดาษแขง็ รปู ปลาที่ตดั ไว้ จะได้สงิ่ ที่เรยี กว่า ปลากระดาษ
– นำปลายเชอื กด้านหนึ่งมาผูกกับปลายไมด้ า้ นหนง่ึ สว่ นปลายเชือกอีกด้านหนง่ึ นำมาผูกกับแม่เหล็ก

จะไดส้ ่งิ ทีเ่ รยี กวา่ เบด็ ตกปลาพลงั แมเ่ หลก็
– นำปลากระดาษใส่ลงในกลอ่ งกระดาษ
– แต่ละกลุ่มแข่งกันตกปลากระดาษที่อยู่ในกล่องกระดาษทีละตัว โดยกำหนดเวลาให้แต่ละกลุ่ม 30

วินาที กลุ่มที่สามารถตกปลากระดาษไดม้ ากท่ีสุดเป็นฝ่ายชนะ
(2) ครูคอยแนะนำช่วยเหลือนักเรยี นขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดรู อบ ๆ หอ้ งเรยี นและเปิดโอกาสให้

นักเรยี นทกุ คนซกั ถามเม่อื มีปัญหา

3) ขน้ั อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation)
(1) นกั เรียนแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลการปฏิบัติกจิ กรรมหนา้ ห้องเรยี น
(2) ครแู ละนักเรียนรว่ มกันอภปิ รายผลจากการปฏิบัตกิ จิ กรรม โดยใชแ้ นวคำถาม เช่น
– นักเรียนคิดว่า เพราะเหตุใดปลากระดาษจึงสามารถติดกับเบ็ดตกปลาพลังแม่เหล็กได้ (แนว

คำตอบ เพราะแม่เหล็กที่ติดอยู่กับปลายเบ็ดตกปลาพลังแม่เหล็กดึงดูดลวดเสียบกระดาษที่เสียบอยู่กับปลา
กระดาษ)

– นักเรียนได้ประโยชน์อะไรจากการปฏิบัติกิจกรรมครั้งนี้ (แนวคำตอบ สามารถนำแม่เหล็กและ
สารแม่เหลก็ มาใช้ในการประดษิ ฐ์ของเล่นและของใชไ้ ด้ เช่น แม่เหลก็ ตดิ ตู้เย็นและกลอ่ งดนิ สอ)

(3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า แรงแม่เหล็กมี
ผลตอ่ วัตถทุ ี่เปน็ สารแม่เหล็ก คือ สามารถดึงดดู วัตถทุ เ่ี ปน็ สารแม่เหลก็ ได้

4) ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration)
(1) ครูอธิบายเรื่องน่ารู้ เรื่อง ประโยชน์ของแรงแม่เหล็ก ให้นักเรียนเข้าใจว่า ปัจจุบันแม่เหล็กนำมาใช้

ประโยชนม์ ากมาย เชน่

– ใช้เป็นส่วนประกอบในของเล่นและของใช้ต่าง ๆ เช่น แม่เหล็กติดตู้เย็นหรือเครื่องซักผ้ากล่อง
ดนิ สอ และกระเปา๋ ใส่ของต่างๆ

– ใช้ประดิษฐ์เข็มทิศ เพื่อใช้ในการเดินทางซึ่งแม่เหล็กจะทำให้ลูกศรของเข็มทิศชี้ไปทางทิศเหนือ
เสมอ

– ใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์ เช่น พัดลม เครื่องผสมอาหาร เครื่องดูดฝุ่น
วทิ ยุ โทรทัศน์ และสวา่ นไฟฟา้

(2) ครูเชื่อมโยงความรู้เข้ากับหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า แรงแม่เหล็ก
สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ เช่น แม่เหล็กท่ีติดบริเวณขอบประตูตู้เย็น โดยใช้แผ่นยางหุ้มเพื่อให้ตู้เย็นปิดสนิท
ป้องกันไม่ให้ความเย็นรั่วออกจากตู้เย็น นอกจากตู้เย็นจะใช้แม่เหล็กเพื่อให้ประตูปิดสนิทแล้ว ยังมีวิธีต่างๆ เพื่อ
ช่วยประหยัดพลงั งานไฟฟ้าของตูเ้ ยน็ ดังน้ี

– หมั่นตรวจสอบยางขอบประตตู ู้เยน็
– ไมเ่ ปิดประตตู ู้เย็นบอ่ ยๆ
– ไม่ใส่ของรอ้ นหรือใสข่ องจนแน่นเกนิ ไป
(3) ครใู หน้ ักเรียนเล่นเกมจับค่คู ำ จากหวั ขอ้ สนุกทำ สนกุ คดิ กับวิทยาศาสตร์ ตามทีก่ ำหนด

5) ข้นั ประเมิน (Evaluation)
(1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างที่ยังไม่

เข้าใจหรือยงั มขี ้อสงสยั ถา้ มี ครูชว่ ยอธบิ ายเพิม่ เตมิ ให้นกั เรยี นเข้าใจ
(2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกจิ กรรมกลุม่ วา่ มีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไขอย่างไร

บ้าง
(3) ครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติกจิ กรรม และการนำ

ความรู้ท่ีได้ไปใช้ประโยชน์
(4) ครูทดสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยการให้ตอบคำถาม เช่น
– เมื่อนำแม่เหล็กเข้าใกล้ลวดเสียบกระดาษ ลวดเสียบกระดาษมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร

(แนวคำตอบ มีการเปลย่ี นแปลง คือ ลวดเสยี บกระดาษเคล่ือนตัวมาติดกบั แม่เหลก็ โดยทแ่ี ม่เหล็กไม่ต้องสัมผัส
กับลวดเสียบกระดาษ)

– สารแม่เหล็กมีประโยชน์อย่างไร (แนวคำตอบ นำไปใช้เป็นส่วนประกอบของของใช้ ต่างๆ ได้
เช่น ประตูตเู้ ย็นและกลอ่ งดินสอ)

ขั้นสรุป

1) ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ เกยี่ วกับผลของแรงแมเ่ หลก็ โดยร่วมกันเขียนเปน็ แผนทีค่ วามคิดหรือผงั มโน
ทัศน์

2) ครูดำเนินการทดสอบหลังเรียน โดยให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อวัดความก้าวหน้า/
ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 ของนกั เรียน

3) ครเู ช่อื มโยงเนื้อหาจากบทเรียนน้ีกับหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เพ่ือให้นักเรยี นเตรยี มความพร้อม โดยการใช้
คำถามกระตุ้น ดังนี้

– ความรู้เรื่องแม่เหล็กสามารถนำมาใช้ในการประดิษฐ์เครื่องกำเนิดไฟฟ้าได้หรือไม่ อย่างไร (แนว
คำตอบ ได้ โดยสามารถนำมาใช้ในประดิษฐ์ไดนาโม ซึ่งเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีส่วนประกอบหลัก คือ
แม่เหล็กและขดลวดทองแดง เมื่อหมุนแกนที่มีขดลวดทองแดงอยู่ระหว่างแม่เหล็ก หรือหมุนแกนที่มีแม่เหลก็
อยู่ระหวา่ งขดลวดทองแดง จะมไี ฟฟา้ เกิดขึ้น)

4) ครูมอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาค้นคว้าเนื้อหา เพื่อจัดการเรียนรู้ครั้งต่อไป โดยให้นักเรียนศึกษา
ค้นคว้าล่วงหน้าในหัวข้อการเปลย่ี นแปลงพลงั งาน

5) ครูให้นักเรียนเตรยี มประเด็นคำถามที่สงสัยมาอย่างน้อยคนละ 1 คำถาม เพื่อนำมาอภิปรายร่วมกนั ใน
หอ้ งเรียนครงั้ ตอ่ ไป

10. ส่ือการเรียนรู้
1. ลวดเยบ็ กระดาษ
2. ตะปู
3. ช้อนพลาสตกิ
4. ดนิ สอ
5. ไม้บรรทดั เหลก็
6. กระดาษแขง็
7. เชือก
8. ไม้
9. แมเ่ หล็ก
10. สีไม้/สเี ทียน
11. ดินสอ
12. กรรไกร
13. ลวดเสยี บกระดาษ
14. กลอ่ งกระดาษ
15. แบบทดสอบหลังเรียน

16. คู่มือการสอน วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3
17. สื่อการเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3
18. แบบฝกึ ทกั ษะรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3
19. หนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3

11. การวดั และการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วิธกี ารวดั เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน
11.1 จุดประสงค์การเรยี นรู้ ประเมิน แบบประเมนิ รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป
จดุ ประสงค์ การตอบคำถาม การตอบคำถาม ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป
ร้อยละ 70 ขึ้นไป
1. อธิบายผลของแรงแมเ่ หล็กท่ีกระทำต่อวตั ถุ ประเมนิ แบบประเมิน
ทท่ี ำมาจากสารแมเ่ หล็กได้ (K) การตอบคำถาม การตอบคำถาม
แบบประเมิน
2. สื่อสารและนำความรเู้ รื่องสมบัติของวัสดุ สังเกต พฤติกรรมรายบคุ คล
ด้านความแข็งไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ (P) พฤติกรรม
3. ทำงานรว่ มกับผู้อ่ืนอยา่ งสร้างสรรค์ (A)

11.2 สมรรถนะของผเู้ รยี น

สมรรถนะของผ้เู รยี น วิธกี ารวดั เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน
1. ความสามารถในการคดิ การทดสอบ แบบทดสอบ ผา่ นเกณฑ์ระดับคณุ ภาพ
กอ่ นเรียน/หลงั เรียน ระดับ 2 ข้นึ ไป ผา่ นเกณฑ์
2. ความสารถในการส่ือสาร ประเมิน
การตอบคำถาม แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์ระดับคณุ ภาพ
11.3 คุณลกั ษณะอังพงึ ประสงค์ การตอบคำถาม ระดบั 2 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอังพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ยั วิธกี ารวดั เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ
2. ใฝเ่ รยี นรู้ การสังเกต แบบสงั เกต ผ่านเกณฑ์ระดับคณุ ภาพ
3. ม่งุ มั่นในการทำงาน พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั 2 ขน้ึ ไป ผา่ นเกณฑ์

การสังเกต แบบสงั เกต ผ่านเกณฑ์ระดบั คุณภาพ
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั 2 ข้ึนไป ผา่ นเกณฑ์
การสังเกต แบบสังเกต ผา่ นเกณฑ์ระดบั คณุ ภาพ
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั 2 ขนึ้ ไป ผ่านเกณฑ์

เกณฑใ์ นการวัดและประเมินผลการเรียนรู้
เครื่องมือวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

แบบประเมินจุดประสงคก์ ารเรียนรู้

คำชแ้ี จง ใหผ้ ้ปู ระเมินสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติกจิ กรรมรายบคุ คลของนักเรยี นตามประเด็น

การประเมนิ ต่อไปนี้ แลว้ ใหน้ ้ำหนกั คะแนนตามระดบั คุณภาพ

1. อธบิ ายผลของแรงแมเ่ หลก็ ทก่ี ระทำต่อวัตถุทีท่ ำมาจากสารแม่เหลก็ ได้ (K)

2. ส่ือสารและนำความรู้เร่ืองสมบตั ิของวสั ดุดา้ นความแขง็ ไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้ (P)

3. ทำงานรว่ มกับผู้อ่นื อยา่ งสร้างสรรค์ (A)

ประเดน็ การประเมิน รวม ผลการ

เลขที่ ชื่อ- นามสกุล รายการท่ี 1 รายการที่ 2 รายการท่ี 3 (12) ประเมิน

123412341234

1 เด็กชายกฤษณพงษ์ เชยี งสนธ์ิ

2 เดก็ ชายนนั ทชยั คำท้วม

3 เด็กชายธนพล จุ้ยศิริ

4 เด็กชายพฤกชัย จนั ทร์คำอ้าย

5 เดก็ ชายธรี ยทุ ธ ม่ันกันนาน

6 เด็กชายนครินทร์ คำคุม้

7 เด็กชายดาวพงษ์ คำถาเครอื

8 เดก็ ชายภูวดล อมรใฝผ่ อ่ งศรี

9 เดก็ ชายสทิ ธิโชค จติ รประสงค์

10 เดก็ หญงิ สดุ าภรณ์ วงศว์ นั ศรี

11 เดก็ หญิงรจุ ิดา สขุ เกษม

12 เด็กหญิงปรณิ ดา ใจคุม้

13 เด็กหญงิ ณัฐลัดดา พุ่มเกษา

14 เดก็ ชายตลุ ยากร ปจั ฉิมเวช

15 เด็กหญงิ บษุ รารัตน์ ศรจี นั ทรม์ าก

ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
(นางสาวพรสุดา โลมา )

เกณฑก์ ารประเมินผลจุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ประเดน็ การประเมนิ ดีมาก (๔) คำอธิบายระดับคุณภาพ/ระดบั คะแนน
1. อธิบายผลของแรงแม่เหลก็ ที่ อธบิ ายผลของ ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรับปรงุ (๑)
กระทำต่อวตั ถุทที่ ำมาจากสาร แรงแมเ่ หลก็ ท่ี
แมเ่ หล็กได้ (K) กระทำตอ่ วัตถุที่ อธิบายผลของแรง อธบิ ายผลของแรง อธบิ ายผลของ
ทำมาจากสาร แมเ่ หล็กที่กระทำ แมเ่ หล็กที่กระทำ แรงแมเ่ หล็กท่ี
2. สือ่ สารและนำความร้เู ร่ือง แมเ่ หล็กได้ ตอ่ วัตถุที่ทำมาจาก ต่อวตั ถทุ ี่ทำมาจาก กระทำต่อวตั ถุท่ี
สมบัตขิ องวสั ดดุ า้ นความแขง็ ไป ละเอียด ถูกต้อง สารแม่เหลก็ ได้ สารแม่เหลก็ ได้ถูกต ทำมาจากสาร
ใชใ้ นชีวิตประจำวันได้ (P) ถกู ตองบางส่วน องเพยี งเลก็ น้อย แม่เหลก็ ไม่ได้
ทงั้ หมด
3. ทำงานรว่ มกบั ผอู้ ่ืนอย่าง สอื่ สารและนำ สื่อสารและนำ สือ่ สารและนำ สื่อสารและนำ
สร้างสรรค์ (A) ความร้เู รื่องไม้ไป ความรเู้ ร่อื งไม้ไปใช้ ความรเู้ ร่อื งไม้ไปใช้ ความรู้เรอื่ งไม้ไป
ในชีวิตประจำวัน ในชีวติ ประจำวัน
ใช้ใน ไดถ้ ูกตอ้ งบางส่วน ใชใ้ น
ชวี ติ ประจำวนั ได้ถูกต้องเพยี ง ชวี ติ ประจำวนั
ไดล้ ะเอียด เลก็ น้อย
ถูกต้องท้งั หมด ไมไ่ ด้
ทำงานร่วมกบั
ทำงานร่วมกับผู้อืน่ มที ำงานรว่ มกบั ไมม่ ีทำงาน
ผู้อื่นอยา่ ง อย่างสรา้ งสรรค์ ผู้อนื่ อยา่ ง รว่ มกับผู้อื่นอย่าง
สรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรค์
ไดด้ มี าก ได้ดี ไดเ้ ลก็ น้อย สรา้ งสรรค์
ไม่ถูกตองตาม

บรบิ ท

เกณฑก์ ารประเมิน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมมีข้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารตัดสนิ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
10-12 1 (ดีมาก)
7-9 2 (ดี)
4-6 3 (พอใช้)

น้อยกว่า 4 4 (ปรบั ปรงุ )

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

คำช้ีแจง ใหผ้ ปู้ ระเมินสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมรายบุคคลของนักเรียนตามประเด็น

การประเมนิ ต่อไปนี้ แล้วใหน้ ้ำหนักคะแนนตามระดับคณุ ภาพ

1. ใฝเรียนรู้

2. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

3. มีวินัย

ประเดน็ การประเมนิ รวม ผลการ
ประเมิน
เลขท่ี ชอ่ื - นามสกลุ รายการท่ี 1 รายการท่ี 2 รายการท่ี 3 (12)

123412341234

1 เดก็ ชายกฤษณพงษ์ เชียงสนธิ์

2 เดก็ ชายนันทชัย คำทว้ ม

3 เดก็ ชายธนพล จุ้ยศริ ิ

4 เดก็ ชายพฤกชยั จนั ทรค์ ำอา้ ย

5 เด็กชายธีรยทุ ธ ม่นั กันนาน

6 เดก็ ชายนครินทร์ คำคุ้ม

7 เดก็ ชายดาวพงษ์ คำถาเครือ

8 เด็กชายภวู ดล อมรใฝผ่ ่องศรี

9 เด็กชายสิทธโิ ชค จติ รประสงค์

10 เด็กหญงิ สดุ าภรณ์ วงศว์ นั ศรี

11 เดก็ หญงิ รจุ ดิ า สขุ เกษม

12 เด็กหญิงปรณิ ดา ใจคุม้

13 เด็กหญงิ ณฐั ลัดดา พุ่มเกษา

14 เดก็ ชายตุลยากร ปัจฉิมเวช

15 เดก็ หญิงบุษรารตั น์ ศรีจันทร์มาก

ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
(นางสาวพรสดุ า โลมา )

เกณฑ์การประเมินผลคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

ประเด็นการประเมนิ คำอธิบายระดบั คุณภาพ/ระดับคะแนน

ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)

1. มวี ินัย ปฏิบัตติ นตามข้อตกลง ปฏบิ ตั ิตนตามข้อตกลง ปฏบิ ัติตนตามข้อตกลง ไมป่ ฏบิ ัติตนตาม

กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์

ข้อบังคบั ของโรงเรยี น ข้อบังคบั ของโรงเรียน ขอ้ บังคบั ของโรงเรยี น ระเบียบ ข้อบงั คบั ของ

และไม่ละเมดิ สิทธิ ตรงตอ่ เวลาในการ ตรงต่อเวลาในการ โรงเรียน และไมต่ รง

ของผู้อืน่ ตรงตอ่ เวลา ปฏบิ ตั ิกิจกรรม ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิ

ในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม และรับผิดชอบใน กจิ กรรม

และรบั ผดิ ชอบในการ การทำงาน

ทำงาน

2. ใฝเ่ รียนรู้ เขา้ เรียนตรงเวลา เขา้ เรียนตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา ไม่ต้งั ใจเรียน

ต้งั ใจเรยี น เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้ังใจเรยี น เอาใจใส่ ไม่ศึกษาคน้ คว้าหา

ในการเรยี น และมี ในการเรียนและมีสว่ น ในการเรยี นและมีสว่ น ความรู้

สว่ นร่วมในการเรียนรู้ ร่วมในการเรียนรู้ ร่วมในการเรยี นรู้

และเข้าร่วมกิจกรรม และเขา้ รว่ มกจิ กรรม และเข้ารว่ มกจิ กรรม

การเรยี นรู้ต่าง ๆ การเรยี นรตู้ ่าง ๆ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ

ท้ังภายในและ บอ่ ยครงั้ เป็นบางคร้งั

ภายนอกโรงเรยี น

เป็นประจำ

3. มงุ่ ม่นั ในการ ต้ังใจและรับผิดชอบ ตัง้ ใจและรับผิดชอบ ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบ ไมต่ ้ังใจและไมม่ ี

ทำงาน ในการปฏบิ ตั หิ น้าที่ ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ ในการปฏบิ ัติหน้าท่ี ความรับผดิ ชอบในการ

ที่ไดร้ บั มอบหมายให้ ทไี่ ดร้ บั มอบหมายให้ ที่ได้รบั มอบหมาย ปฏบิ ัติหน้าท่ี

สำเรจ็ มกี ารปรับปรงุ สำเรจ็ มกี ารปรับปรงุ ใหส้ ำเร็จ ท่ีได้รบั มอบหมายให้

และพัฒนาการทำงาน และพฒั นาการทำงาน สำเร็จได้

ให้ดีขึ้นด้วยตนเอง ใหด้ ขี น้ึ

เกณฑ์การประเมิน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารตดั สนิ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
10-12 1 (ดมี าก)
7-9 2 (ดี)
4-6 3 (พอใช้)

น้อยกวา่ 4 4 (ปรบั ปรงุ )

แบบประเมนิ สมรรถนะของผู้เรียน

คำชแ้ี จง ใหผ้ ปู้ ระเมนิ สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติกจิ กรรมรายบุคคลของนกั เรยี นตามประเด็น

การประเมนิ ตอ่ ไปน้ี แลว้ ให้น้ำหนักคะแนนตามระดับคณุ ภาพ

๑. ความสามารถในการคดิ

๒. ความสามารถในการส่ือสาร

ประเดน็ การประเมนิ รวม ผลการ

เลขท่ี ชื่อ- นามสกุล (12) ประเมนิ

รายการท่ี 1 รายการที่ 2

12341234

1 เด็กชายกฤษณพงษ์ เชียงสนธิ์

2 เดก็ ชายนนั ทชยั คำท้วม

3 เดก็ ชายธนพล จยุ้ ศริ ิ

4 เด็กชายพฤกชัย จนั ทร์คำอ้าย

5 เด็กชายธีรยุทธ มัน่ กนั นาน

6 เด็กชายนครนิ ทร์ คำคมุ้

7 เด็กชายดาวพงษ์ คำถาเครือ

8 เด็กชายภวู ดล อมรใฝผ่ อ่ งศรี

9 เดก็ ชายสิทธิโชค จติ รประสงค์

10 เดก็ หญงิ สดุ าภรณ์ วงศ์วันศรี

11 เด็กหญิงรุจดิ า สุขเกษม

12 เด็กหญิงปริณดา ใจค้มุ

13 เดก็ หญงิ ณัฐลดั ดา พุม่ เกษา

14 เด็กชายตุลยากร ปจั ฉิมเวช

15 เด็กหญิงบษุ รารตั น์ ศรจี นั ทร์มาก

ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ
(นางสาวพรสุดา โลมา)

เกณฑก์ ารประเมนิ ผลสมรรถนะของผเู้ รยี น

ประเด็นการประเมนิ คำอธบิ ายระดบั คุณภาพ/ระดับคะแนน

ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)
ไม่ม่ีความสามารถใน
1. ความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มคี วามสามารถใน
การคิดวิเคราะห์
การคดิ การคดิ วเิ คราะห์ การคิดวเิ คราะห์ การคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์

สังเคราะห์ มีทักษะใน สงั เคราะห์ มีทักษะใน สังเคราะห์ คิดอย่างเปน็ ระบบ
มีวิจารณญาณ
การคิดนอกกรอบ การคดิ นอกกรอบ คิดอยา่ งเป็นระบบ ในการคดิ

อยา่ งสรา้ งสรรค์ อย่างสรา้ งสรรค์ มีวิจารณญาณ ไม่มี่ความสามารถใน
การรบั สาร – ส่งสาร
คดิ อยา่ งเปน็ ระบบ คิดอย่างเป็นระบบ ในการคดิ
ถ่ายถอดความรู้
มีวจิ ารณญาณใน มวี จิ ารณญาณ ความเขา้ ใจของ

การคิด สามารถ ในการคดิ ตนเองได้

ตดั สินใจ แกป้ ญั หา

ได้อย่างเหมาะสม

1. ความสามารถใน มคี วามสามารถในการ มคี วามสามารถในการ มีความสามารถในการ

การส่ือสาร รับสาร – สง่ สาร รับสาร – สง่ สาร รับสาร – ส่งสาร

ถา่ ยถอดความรู้ ถ่ายถอดความรู้ ถ่ายถอดความรู้ความ

ความเข้าใจของตนเอง ความเข้าใจของตนเอง เขา้ ใจของตนเองโดย

โดยใชภ้ าษาที่ โดยใชภ้ าษาท่ี ใชภ้ าษาท่ีเหมาะสม

เหมาะสมใช้วิธกี าร เหมาะสม ใช้วิธีการ

สื่อสารที่เหมาะสม สอ่ื สารท่เี หมาะสม

และเลือกรับหรือไมร่ ับ

ข้อมลู ดว้ ยตนเองได้

อย่างมีเหตผุ ล

เกณฑก์ ารประเมิน เกณฑ์การตดั สิน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน 7-8 1 (ดีมาก)
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครง้ั ให้ 1 คะแนน 5-6 2 (ด)ี
3-4 3 (พอใช้)

นอ้ ยกวา่ 3 4 (ปรบั ปรงุ )






Click to View FlipBook Version