The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนลูกเสือสามัญ-ป.5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Mr.Maruding Peatek, 2022-06-08 13:33:47

แผนการสอนลูกเสือสามัญ-ป.5

แผนการสอนลูกเสือสามัญ-ป.5

ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 5
ลกู เสอื โท

คำนำ

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 แผนความมุ่งหมาย และ
หลักการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เป็นคนดี คนเก่ง และอยู่ในสังคม
ไดอ้ ยา่ งมีความสุข บนพนื้ ฐานของความเป็นไทย

กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี เป็นองค์ประกองสำคญั หน่ึงที่จัดอยู่ในส่วนของกิจกรรมพัฒนา
ผูเ้ รียน ที่มงุ่ เน้นให้ผู้เรียน ปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ด้วยตนเอง โดย เริ่มตั้งแต่ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัตงิ าน และปรับปรุงการทำงาน โดยเนน้ กระบวนการกลมุ่

โรงเรียนบ้านสายควนได้ตระหนักถึงความสำคัญของกิจกรรมน้จี ึงได้จัดทำแนวทางการจัด
กิจกรรมแผนการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริงตามเน้ือหาของหลักสูตร และหวังเป็นอย่าง
ย่ิงวา่ แผนการเรยี นรู้เล่มนจ้ี ะเป็นประโยชนแ์ ก่กองลกู เสือ โรงเรยี น ครผู ้สู อน และนักเรยี น

สารบัญ หนา้

คำชีแ้ จงการใช้แผนการเรียนรู้ 1
2
หนว่ ยท่ี 1 10
ปฐมนิเทศ 23
31
หน่วยที่ 2 37
คำปฏญิ าณและกฎของลกู เสือสามญั 44
69
หน่วยที่ 3-4
ระเบียบแถว

หน่วยที่ 5-6
การช่วยเหลือ

หนว่ ยท่ี 7-9
การรู้จักดูแลตนเอง

หน่วยที่ 10-12
การเดินทางไปยงั สถานที่ตา่ งๆ

หนว่ ยที่ 13-16
ทกั ษะในทางวชิ าลูกเสือ

หนว่ ยที่ 17-18
ระเบียบแถว

หลักสตู รลูกเสือสามัญ

ลูกเสือตรี
แสดงว่ามคี วามรู้เก่ยี วกบั ขบวนการลกู เสือ

ประวตั สิ งั เขปของลอรด์ เบเดน พาวเวลล์
พระราชประวัตสิ ังเขปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจ้าอยูห่ วั
ววิ ัฒนาการของขบวนการลูกเสือไทยและลกู เสอื โลก
การทำความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย และคติพจนข์ องลูกเสอื
คำปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื สามญั
เข้าใจและยอมรบั คำปฏิญาณและกฎของลูกเสอื สามัญ
กจิ กรรมกลางแจง้
มีส่วนร่วมในกิจกรรมของหมหู่ รือกองลูกเสือนอกสถานท่ี
ระเบียบแถว
ท่ามือเปล่า ท่าถอื ไมพ้ ลอง การใชส้ ญั ญาณมือและสญั ญาณนกหวีด
การต้งั แถวและการเรยี กแถว

ลกู เสอื โท
1. การรู้จักดูแลตนเอง
2. การช่วยเหลอื ผู้อน่ื
3. การเดินทางไปยังสถานทต่ี า่ ง ๆ
4. ทกั ษะในทางวิชาลกู เสือ
5. งานอดิเรกและเรอื่ งที่สนใจ
6. คำปฏิญาณและกฎของลูกเสอื

ลกู เสอื เอก
1. การพ่งึ ตนเอง
2. การบรกิ าร
3. การผจญภยั
4. วชิ าการของลูกเสือ
5. ระเบียบแถว

เคร่อื งหมายวิชาพเิ ศษ 54 วิชา
เรยี นนอกเวลาหรือใช้วธิ บี รู ณาการเข้ากับกล่มุ สาระการเรยี นรู้

จดุ ประสงค์

เพอ่ื ให้ผู้เรยี นมพี ัฒนาการทางกาย สตปิ ัญญา จิตใจ และศลี ธรรม ใหเ้ ปน็
พลเมอื งดมี ีความรบั ผิดชอบ ช่วยสร้างสรรคส์ ังคมใหม้ คี วามเจริญก้าวหนา้ ความสงบสขุ และ
ความม่นั คงของประเทศชาติ จึงต้องปลูกฝังให้มีคณุ ลกั ษณะดังต่อไปน้ี

1. มีความรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถปฏิบตั ติ ามคำปฏญิ าณ กฎ และคตพิ จน์
ของลูกเสือสามญั

2. มีทักษะการสงั เกต จดจำ การใช้มือ การแก้ปัญหา และทกั ษะในการทำงาน
ร่วมกับผู้อ่ืน

3. มีความซ่อื สตั ย์สุจริต มรี ะเบยี บวินัย มคี วามสามัคคี เหน็ อกเห็นใจผอู้ ื่น มี
ความเสยี สละ บำเพญ็ ตนเพ่ือสาธารณประโยชน์

4. มกี ารพัฒนาตนเองอยูเ่ สมอ สรา้ งสรรค์งานฝมี อื สนใจและพฒั นาเรื่องของ
ธรรมชาติ

กำหนดหนว่ ยกจิ กรรมลกู เสอื สามัญ
ชว่ งชัน้ ท่ี 2 (ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5) วชิ าลกู เสือโท ภาคเรียนท่ี 1

ลำดับท่ี หนว่ ยการเรียนรู้ เวลา(ชั่วโมง) หมายเหตุ
1
1 การปฐมนิเทศ
3
- การจัดการเรยี นการสอน 2
3
- การแต่งกาย 6
2
2 การรู้จกั ดูแลตนเอง 2
19
3 การช่วยเหลอื ผู้อื่น

4 การเดินทางไปยังสถานที่ตา่ ง ๆ

5 ทกั ษะในทางวิชาลกู เสอื

6 งานอดิเรกและเรอื่ งที่สนใจ

7 คำปฏิญาณและกฎของลูกเสอื

รวม

ภาคเรียนท่ี 2 1. เรียนวชิ าพเิ ศษลกู เสอื สามัญ
2. จัดกิจกรรมการเดินทางไกลและอยู่คา่ ยพกั แรมลูกเสือสามญั

หมายเหตุ วชิ าลกู เสือโทใช้เวลาเรียนจำนวน 18 ชั่วโมง

กำหนดการจัดกิจกรรมลูกเสือสามัญ
ช่วงชั้นที่ 2 (ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5) วิชาลกู เสอื ตรี ภาคเรียนท่ี 1

สปั ดาห์ที่ เรื่อง จุดประสงค์ จำนวนชวั่ โมง หมายเหตุ
1. ปฏบิ ัตติ นอยใู่ นระบบหมู่ได้ 1
1 ปฐมนิเทศ 2. ชแี้ จงการเข้ารว่ มกจิ กรรมต่าง 1

2 คำปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื ๆ ได้ 1
1. บอกและปฏิบตั ติ ามคำ 1
3 คำปฏญิ าณและกฎของลกู เสือ 1
4 ระเบียบแถว ปฏิญาณของกฎของลูกเสือ 1
5 ระเบยี บแถว สามัญ
2. วางแผนในอนาคตได้ 1
6 การชว่ ยเหลอื ผู้อืน่ บอกและปฏบิ ัตติ ามคำปฏิญาณ
ของกฎของลูกเสือสามญั
7 การช่วยเหลือผู้อื่น (ต่อ) ปฏิบตั ติ นทา่ มอื เปล่าและท่ามไี ม้
พลองตามระเบยี บแถวได้
จัดรปู ขบวนสวนสนามและปฏิบัติ
ตามขั้นตอนการสวนสนามได้
ถูกตอ้ ง
1. แสดงวิธปี ฐมพยาบาล
บาดแผลท่ีเกิดจากแมลงหรอื
สัตวม์ ีพิษกัดตอ่ ยได้
2. แสดงวธิ ีปฐมพยาบาลเมอื ถกู
แดดเผา ไฟไหม้ นำ้ ร้อนลวก
และเปน็ ลมได้
1. บอกช่อื สถานทส่ี ำคัญใน
ทอ้ งถ่นิ ได้
2. ชี้แนะนำทางไปยังสถานที่
สำคัญในทอ้ งถ่ินได้

กำหนดการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามัญ (ต่อ)
ชว่ งช้ันท่ี 2 (ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 5) วชิ าลกู เสอื ตรี ภาคเรยี นท่ี 1

สปั ดาหท์ ี่ เร่ือง จดุ ประสงค์ จำนวนช่วั โมง หมายเหตุ
8 การรู้จกั ดูแลตนเอง 1. แสดงวิธบี รรจุสงิ่ ของลงเคร่อื ง 1

9 การร้จู กดูแลตนเอง (ต่อ) หลงั ได้ 1
10 การรู้จกดูแลตนเอง (ต่อ) 2. เตรยี มเครื่องปัจจบุ นั พยาบาล 1
11 1
การเดินทางไปยงั สถานทต่ี ่าง ๆ เป็นสว่ นตัวสำหรับเดนิ
12 ทางไกลได้ 1
13 การเดินทางไปยงั สถานที่ตา่ ง ๆ กอ่ ไฟปรงุ เคร่ืองด่มื ร้อน และปรุง 1
(ต่อ) อาหารงา่ ย ๆ นอกสถานทีไ่ ด้
การเดนิ ทางไปยงั สถานทต่ี า่ ง ๆ 1. กางเตน็ ทแ์ ละเกบ็ เต็นทไ์ ด้
(ตอ่ ) 2. อยู่ค่ายพักแรมอย่างน้อย 1
คืนได้
1. บอกชอ่ื ทิศทง้ั 8 ได้ถูกต้อง
2. บอกวิธีใช้เข็มทิศได้
3. บอกเครื่องหมายต่าง ๆ ใน
แผนที่ได้
4. หาทิศทางโดยใช้แผนที่และ
เข็มทศิ ได้
1. เดนิ ทางไกลไป - กลบั ตาม
ระยะทาง 10 กโิ ลเมตร ได้
2. กฎและเคร่ืองหมายจราจร
1. เลอื กศกึ ษาประเทศทน่ี ่าสนใจ
ได้ 1 ประเทศ
2. บอกสิ่งสำคัญของประเทศท่ี
น่าสนใจได้

กำหนดการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั (ตอ่ )
ชว่ งชัน้ ท่ี 2 (ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5) วิชาลกู เสือตรี ภาคเรยี นที่ 1

สปั ดาห์ท่ี เรื่อง จดุ ประสงค์ จำนวนช่วั โมง หมายเหตุ
1. บอกวธิ ใี ช้มดี และขวานอย่าง 1
14 ทกั ษะในทางวชิ าลูกเสอื
เหมาะสมกับงานได้ 1
15 ทกั ษะในทางวิชาลูกเสือ (ตอ่ ) 2. บอกวธิ ีเก็บรักษามดี และขวาน
1
16 ทักษะในทางวิชาลกู เสือ (ตอ่ ) ได้แสดงวธิ ีบรรจสุ งิ่ ของลง 1
17 ทกั ษะในทางวชิ าลกู เสือ (ตอ่ ) เครื่องหลังได้
3. เตรยี มเครื่องปัจจุบันพยาบาล
เปน็ สว่ นตัวสำหรบั เดนิ
ทางไกลได้
1. ผูกเงอื่ นจากเชือกทม่ี ขี นาด
เดียวกันและบอกประโยชน์ได้
อยา่ งนอ้ ย 1 เง่ือน
2. ผูกเงอ่ื นจากเชอื กที่มขี นาด
ต่างกันและบอกประโยชนไ์ ด้
อยา่ งน้อย 1 เงื่อน
3. ผูกเงอ่ื นด้วยเชือกกับวัสดุอย่าง
ใดอยา่ งหนึ่งและบอก
ประโยชนไ์ ด้อยา่ งน้อย 1 เงือ่ น
1. ผกู แน่นแบบต่าง ๆ ได้ถกู ตอ้ ง
และมั่นคง
2. บอกประโยชน์ของการผูก
แนน่ แบบตา่ ง ๆ ได้
1. บอกฤดูกาลต่าง ๆ ในท้องถ่นิ
ของตนได้
2. บอกทิศทางลม และชือ่ ลม
ประจำฤดูกาลท่พี ดั ผา่ นได้
3. บอกลักษณะอากาศตาม
ฤดูกาลน้ัน ๆ ได้

กำหนดการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั (ต่อ)
ชว่ งชน้ั ท่ี 2 (ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5) วิชาลกู เสือตรี ภาคเรียนท่ี 1

สปั ดาห์ที่ เรื่อง จดุ ประสงค์ จำนวนช่วั โมง หมายเหตุ
เดินสวนสนามได้ถูกต้อง พร้อม 1
18 ระเบียบแถว เพรียง
เดินสวนสนามได้ถกู ต้อง พร้อม 1
19 ระเบียบแถว เพรยี ง

1

แผนการจัดกิจกรรมลกู เสือสามัญ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5
แผนการจดั ท่ี 1 เรือ่ ง ปฐมนเิ ทศ จำนวน 1 ชัว่ โมง

จดุ ประสงค์ 1. ปฏบิ ัติตนอยใู่ นระบบหมู่ได้
2. ชแี้ จงการเข้าร่วมกจิ กรรมต่าง ๆ ได้

เน้อื หา 1. หม่แู ละระบบหมูล่ ูกเสือสามัญ
2. การปฏบิ ตั ิตนการเข้าร่วมกิจกรรม

กจิ กรรมการเรียนการสอน
1. แบ่งหมูล่ กู เสอื สามัญตามขอ้ บงั คับคณะลูกเสอื แหง่ ชาติ
2. สนทนาถึงระบบหมู่ การปฏบิ ัติกจิ กรรม
3. อธบิ ายถงึ การแตง่ เครอ่ื งแบบและการเตรียมอุปกรณ์

สื่อการเรียนการสอน ภาพลูกเสอื แตง่ เครื่องแบบ
การวัดผลและประเมนิ ผล 1. การสังเกต ความสนใจการเข้าร่วมกิจกรรม

2. ซักถามการแต่งเคร่ืองแบบ

บันทกึ หลังการ
สอน…………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………….…
ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารสถานศึกษา………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………

2 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5
จำนวน 1 ช่ัวโมง
แผนการจัดกจิ กรรมลูกเสอื สามญั
แผนการจดั ที่ 2 เร่ือง คำปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื

จุดประสงค์ 1. บอกและปฏิบัตติ ามคำปฏญิ าณของกฎของลูกเสือสามัญ

2. วางแผนในอนาคตได้

เน้ือหา 1. คำปฏญิ าณของลูกเสือสามัญ

2. กฎของลูกเสือสามัญ

3. การวางแผนปฏิบัติงานเพื่อความเจริญกา้ วหน้า

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

1. พิธีเปดิ ( ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก ) 10 นาที

2. เพลง “ กฎลกู เสอื ” 5 นาที

3. สอนตามเนื้อหา 30 นาที

3.1 ผู้กำกบั ทบทวนคำปฏิญาณและกฎ

3.2 ผ้กู ำกบั นัดหมายนายหมลู่ ูกเสือและแนะนำการวางแผนการปฏบิ ตั ิตาม

คำปฏิญาณและกฎนอกเวลาเรยี น

3.3 ให้นายหมสู่ นทนากบั ลูกเสอื ในหมขู่ องตน

3.4 ให้นายหมลู่ กู เสือเสนอผลงาน

4. เลา่ เรื่องสั้นท่ีเป็นคติ 5 นาที

5. พิธปี ดิ ( นัดหมาย ตรวจเครือ่ งแตง่ กาย ธงลง เลิก ) 10 นาที

ส่ือการเรียนการสอน 1. แบบรายงาน

2. แผนภมู เิ พลง

การวดั ผลและประเมินผล 1. การสังเกต

2. การซกั ถาม

บันทึกหลังการสอน………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………….…

…………………………………………………………………………………………………….…

…………………………………………………………………………………………………….…

…………………………………………………………………………………………………….…

ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศกึ ษา…………………………………………………………….…

…………………………………………………………………………………………………….…

3

ตัวอย่างบนั ทึกการสนทนาระหวา่ งนายหมูก่ ับสมาชกิ ในหมู่

1. ช่ือลกู เสือ……………………………………………………หมู่……………………………
2. ประวตั สิ ่วนตัว อายุ………..ปี อยบู่ า้ นเลขที่……………ถนน……………………………..

หมู่ท่ี……………….ตำบล……………….อำเภอ…………จงั หวดั …………………………
3. ความเจรญิ กา้ วหนา้ ทางลูกเสอื ของตน (ให้ใส่เคร่ืองหมาย / ลงใน 0 เฉพาะข้อทเ่ี ข้าใจเป็น

ความจรงิ ปฏิบตั ิไดห้ รือเคยปฏิบตั ิมาแลว้ เท่าน้ัน)
กอ่ นมาเป็นลกุ เสือสามัญ เคยเป็นลกู เสือสำรองมาแล้ว
ประวตั ิของผู้ใหก้ ำเนดิ ลูกเสือโลก
พระราชประวตั ิของพระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย
การทำความเคารพ การแสดงรหสั การจบั มือซา้ ยของลูกเสือ
คติพจนข์ องลูกเสอื
คำปฏิญาณและกฎของลกู เสอื
การบำเพ็ญประโยชน์ต่อชมุ ชนอยา่ งน้อย 2 ครัง้
ระเบียบแถมมือเปลา่ ทา่ ถอื พลอง สัญญาณมือ และสญั ญาณนกหวดี
เตรยี มอปุ กรณ์ต่าง ๆ ไปอยู่ค่ายพักแรมไดโ้ ดยไม่ต้องมีผ้ชู ่วยเหลือ
บอกสถานทสี่ ำคญั ในท้องถน่ิ ให้ผอู้ นื่ เขา้ ใจได้
ทิศทัง้ 8 และการใช้เข็มทิศ
เดนิ ทางไกลพร้อมกับเพอ่ื นลกู เสอื ระยะทางไป – กลับ 10 กโิ ลเมตร
เครื่องหมายจราจร และปฏบิ ตั ิตามเครื่องหมายจราจรได้
วิธีใชเ้ ก็บรักษามดี และขวาน
ผูกเงือ่ นประมง ผูกรน่ คนลาก อยา่ งหนง่ึ อย่างใดได้ 1 เงื่อน
ผูกเงอื่ นขัดสมาธิ ขัดสมาธิ 2 ช้นั อยา่ งหนง่ึ อยา่ งใดได้ 1 เง่ือน
ผูกเง่อื นผกู ซงุ ตะกรุดเบ็ด ผู้ร้ัง กับวัสดุอยา่ งหนงึ่ อยา่ งใดได้ 1 เงอ่ื น
ผูกแน่น เช่น ผูกประกบ ผกู ทแยง ผูกกากบาทได้
ลักษณะและสัญญาณเกีย่ วกับกาลอากาศในท้องถ่ิน
ใชเ้ วลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ดว้ ยการทำงานอดเิ รก คือ
1…………………………………..
2…………………………………..
3…………………………………..

4

4. การปฏิบตั ติ ามคำปฏญิ าณและกฎของลุกเสือ
เมอ่ื ได้รับมอบหมายงานได้กระทำจนสำเร็จไมเ่ หลวไหล
ไดป้ ฏบิ ตั ติ นแสดงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์อยู่เสมอ
ได้บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ตอ่ สว่ นรวมอย่างน้อยวนั ละ 1 ครั้ง
นอกจากเพื่อนในกองแล้ว ลูกเสอื ตา่ งกองต่างอำเภออีกอย่างนอ้ ย 2 คน
ไม่เคยถูกผู้บังคับบัญชาลงโทษเกย่ี วกบั การประพฤติตนไม่เรยี บรอ้ ย
เคยช่วยเหลอื สัตว์ทไ่ี ด้รบั อนั ตรายอย่างน้อย 1 ครง้ั
ไมเ่ คยถกู ลงโทษจากบดิ ามารดา หรือผู้บังคับบัญชาเนื่องจากไมท่ ำตามคำสั่ง
ไม่เคยหลีกงานทีไ่ ด้รบั มอบหมายหรือให้ทำงานร่วมกับผู้อื่น
ได้สะสมเงนิ จากน้ำพกั น้ำแรงของตนเองฝากออมสนิ ไว้แลว้
เคยกระทำความผิดมาแล้วแต่ขณะน้กี ลบั ประพฤติเป็นคนดีและจะไมป่ ฏบิ ัติในทาง

เสื่อมเสียโดยเด็ดขาด
5. ควรวางแผนเพื่อความเจริญก้าวหน้าในอนาคตของตนเอง

เม่อื จบลูกเสือโตรแี ล้วจะเรยี นวชิ าลกู เสือโทใหไ้ ด้หมดทกุ วชิ า
เมอ่ื สำเร็จการศึกษาระดบั ประถมศึกษาแลว้ จะสมัครช้ันมธั ยมศึกษาและเลอื กเรียนวิชา
ลูกเสอื สามัญรุ่นใหญ่ และวิสามัญตอ่ ไป
เมอ่ื สำเรจ็ การศึกษาแลว้ ต้องการประกอบอาชพี

ลงชื่อ……………………..ผูบ้ ันทึก
นายหมู่

5

คำปฏิญาณของลกู เสือ

คำปฏญิ าณของลูกเสอื ไม่มคี ำวา่ “อยา่ ” หรือ “ตอ้ ง” คอื ไม่มีการห้ามหรือบังคับ
แต่เปน็ คำปฏิญาณหรือคำมั่นสัญญาของลูกเสือ และผู้บังคบั บญั ชาได้กล่าวรับรอง ด้วยเกียรติของ
ตนเองและดว้ ยความสมคั รใจ ส่วนกฎของลูกเสอื ได้กำหนดไวเ้ ป็นกลาง เพ่ือให้ลกู เสือไดถ้ ือเป็น
หลกั ปฏิบัตใิ นชวี ติ ประจำวนั และโดยผบู้ งั คับบัญชาลูกเสอื จะตอ้ งเครง่ ครัดในการปฏิบตั ิตามกฎ
ของลูกเสอื เป็นพิเศษ เพ่อื บำเพ็ญตนให้เปน็ ตวั อย่างทดี่ แี ก่ลกู เสอื

คำปฏิญาณและกฎของลูกเสอื ทำใหล้ ูกเสอื มีความจงรกั ภักดีตอ่ ชาติ ศาสนา และ
พระมหากษตั รยิ ์ รู้จกั บำเพ็ญตนให้เปน็ ประโยชน์แกผ่ อู้ ่ืน มรี ะเบยี บวนิ ัย อยู่ในกรอบประเพณีอัน
ดงี าม และไมก่ ่อใหเ้ กดิ ความย่งุ ยากใด ๆ ในบ้านเมือง ดงั นน้ั จึงอาจกลา่ วได้ว่า การลูกเสือเป็น
กำลงั สว่ นหนงึ่ ในการสร้างความมนั่ คงใหแ้ กป่ ระเทศชาติ

คำวา่ “ปฏิญาณ” ตามพจนานกุ รมฉบบั ราชบัณฑติ สถาน แปลว่า “การใหค้ ำม่ัน
โดยสุจริต”

ลกู เสอื จะตอ้ งสำนกึ วา่ เขากล่าวคำปฏญิ าณด้วยความสมคั รใจของเขาเอง อน่งึ เขา
จะตอ้ งเข้าใจด้วยว่า ผูจ้ ะเรียกวา่ “คนจรงิ ” เพ่ือใหค้ นอน่ื นับถอื และเชอื่ ถือได้นนั้ จะต้องรักษา
คำพูด โดยเฉพาะทเี่ ป็นคำปฏิญาณหรือคำมน่ั สัญญาของตน กลา่ วคือ ขา้ สญั ญาวา่ จะทำอยา่ งไร
แล้ว ตอ้ งทำเหมอื นปากพดู ทุกอย่าง ดงั นั้นคำปฏญิ าณทก่ี ล่าววา่

ด้วยเกยี รตขิ องข้า ขา้ สัญญาว่า
ข้อ 1 ข้าจะจงรกั ภักดตี ่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
ข้อ 2 ข้าจะช่วยเหลือผอู้ ่ืนทุกเมอ่ื
ข้อ 3 ข้าจะปฏบิ ัตติ ามกฎของลูกเสอื
จากคำปฏญิ าณขอ้ ท่ี 1 นัน้ แสดงให้เห็นว่า ลกู เสอื มีหน้าท่ีดังตอ่ ไปน้ี
ก. หนา้ ทตี่ ่อชาติ
ชาติไทย คือ แผ่นดนิ และน่านน้ำท่รี วมกันเรียกว่า “ประเทศไทย” ประกอบด้วย
ประชาชนพลเมอื งท่ีรวมกนั เรยี กว่า “คนไทย”
ธงชาติ เป็นเครอ่ื งหมายแทนชาติ ฉะนน้ั ธงชาติจึงเปน็ สิง่ ท่ีควรแกก่ ารเคารพ เป็น
หนา้ ทีข่ องลกู เสือทกุ คน จะต้องแสดงความเคารพในโอกาสที่เชญิ ธงชาตขิ ึน้ สู่ยอดเสา และเวลา
เชญิ ธงชาติลงจากยอดเสา

พิธเี ชิญธงชาติขน้ึ สู่ยอดเสาหรือพธิ ีเชิญธงชาตลิ งจากยอดเสาน้ี เป็นพธิ ีสำคัญอย่าง
หนง่ึ ของลูกเสือ ซง่ึ จะตอ้ งกระทำด้วยความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ย ผู้ท่ีได้รับมอบหมายให้เชิญธง
ชาติลง ควรถอื วา่ เป็นเกยี รติท่ไี ด้รับมอบหมายให้ทำงานน้ี และจะตอ้ งระมัดระวงั ไม่ใหส้ ่วนใด

6

สว่ นหน่งึ ของธงสัมผัสพน้ื ดินเปน็ อนั ขาด ลกู เสอื ไมค่ วรกระทำการใด ๆ ในอันที่จะนำมาซง่ึ ความ
เสอ่ื มเสยี เกยี รติของธงชาติ เชน่ นำพ้ืนธงไปปพู น้ื เช็ดส่ิงของหรือเหยยี บย่ำและกองไวแ้ ทบเท้า

ธงชาติไทย เรยี กว่า “ธงไตรรงค์” แปลว่า ธงสามสี ลกู เสือควรจะทราบดว้ ยว่า แต่
ละสมี ีความหมายอย่างไร สญั ลกั ษณ์อีกอยา่ งหนงึ่ ของธงชาติ คือ เพลงชาติ ลกู เสอื และ
ผู้บังคับบญั ชาลูกเสอื ทกุ คน จะต้องสามารถร้องเพลงชาติไดอ้ ย่างถกู ต้อง

ข. หน้าทีต่ ่อศาสนา
ลกู เสือจะนับถือศาสนาใด ๆ กไ็ ด้ เพราะทกุ ศาสนากม็ คี วามมุง่ หมายอย่างเดียวกัน
คอื สอนให้บคุ คลเป็นคนดี และทำใจใหผ้ อ่ งใสบรสิ ทุ ธิ์
ค. หนา้ ท่ตี ่อพระมหากษตั รยิ ์
ผกู้ ำกบั ลกู เสือพงึ หาวธิ กี ารต่าง ๆ ทจ่ี ะทำให้ลกู เสือสนใจพระราชกรณีกิจของ
พระมหากษัตรยิ ์ โดยเนน้ ถึงเวลาทพ่ี ระองคท์ รงอทุ ศิ ให้แก่บา้ นเมอื ง และเสด็จพระราชดำเนนิ ไป
ทรงเยี่ยมเยียนประชาชน ในทอ้ งถ่ินตา่ ง ๆ ทว่ั ราชอาณาจกั ร
พระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ พระประมุขของชาติ เป็นทร่ี ่วมแหง่ ความเคารพสกั การะ
และความสามคั คีของคนไทยทง้ั ชาติ
ง. การบำเพ็ญประโยชน์ตอ่ ผู้อ่ืน
การบำเพญ็ ประโยชน์ต่อผู้อื่นเปน็ หลักสำคัญประการหนง่ึ ของลูกเสือ และเป็นส่งิ ที่
ทำใหก้ ารลกู เสอื มชี อื่ เสียง ไดร้ ับการยกยอ่ งจากประชาชนโดยท่ัวไป
โอกาสทลี่ กู เสอื จะบำเพ็ญประโยชนน์ ั้น ควรเร่มิ จากสง่ิ ที่ใกล้ตวั เดก็ กอ่ น แลว้ ขยาย
ออกไปตามวยั และความสามารถของเด็ก กล่าวคอื
1. บ้านเมืองของลกู เสือ ควรส่งเสริมใหเ้ ด็กทำงานในบา้ นหรือบำเพ็ญประโยชนต์ ่อ
ครอบครวั เพอ่ื เป็นการเพาะนิสยั ทด่ี ีให้แก่เดก็
2. โรงเรยี นหรือที่ตั้งกองลกู เสอื ผ้บู งั คบั บญั ชาลูกเสอื ควรสง่ เสรมิ ให้เด็กได้ทำงาน
เป็นประโยชนต์ ่อเพื่อน ต่อหอ้ งเรียน ต่อโรงเรียนใหม้ ากท่สี ุด โดยสอนให้ลกู เสอื ตระหนกั ว่า
งานเปน็ ส่ิงท่ีมเี กยี รติ งานเท่านนั้ เป็นเคร่ืองวัดคณุ คา่ ของคน

7

กฎของลูกเสอื

กฎของลกู เสือมี 10 ข้อ ลกู เสือจะตอ้ งจำใหไ้ ด้ รคู้ วามหมายและปฏิบตั ิเปน็ กิจวตั รจนเกิดเป็นนิสยั
ประจำตวั มีดังน้ี

ข้อ 1 ลูกเสอื มีเกยี รตเิ ชื่อถอื ได้
ข้อ 2 ลูกเสอื มคี วามจงรกั ภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ และซื่อตรงต่อผมู้ ี
พระคณุ
ข้อ 3 ลูกเสอื มีหน้าทีก่ ระทำตนใหเ้ ป็นประโยชนแ์ ละชว่ ยเหลือผู้อ่นื
ข้อ 4 ลูกเสอื เปน็ มิตรของคนทุกคน และเป็นพนี่ ้องกับลูกเสืออน่ื ท่ัวโลก
ข้อ 5 ลูกเสือเปน็ ผสู้ ุภาพเรยี บร้อย
ข้อ 6 ลกู เสือมีความเมตตากรณุ าต่อสัตว์
ข้อ 7 ลกู เสือเช่ือฟงั คำส่ังสอนของบดิ ามารดาและผบู้ งั คบั บัญชาด้วยความเคารพ
ข้อ 8 ลกู เสือมีใจรา่ เรงิ และไม่ย่อทอ้ ต่อความยากลำบาก
ข้อ 9 ลกู เสอื เป็นผู้มัธยสั ถ์
ข้อ 10 ลูกเสอื ประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ
กฎของลูกเสอื 10 ขอ้ นี้ ได้ดดั แปลงมาจากกฎของลูกเสือข้อ 10 ตามธรรมนูญของ
สมัชชาลกู เสอื โลกทว่ี า่ “ลกู เสอื เป็นผสู้ ะอาดในทางความคดิ วาจา และการกระทำ”
ข้อ 1 ลูกเสอื มีเกยี รตเิ ช่ือถือได้

ลกู เสือที่แท้จรงิ ถือว่า เกียรติของเขาสำคัญกวา่ สงิ่ ใด เกยี รติขงิ เขาเป็นส่ิง
ศกั ดิ์สทิ ธ์ิ คนท่ีรู้จักรักษาเกยี รติเป็นผู้ท่ีเชื่อถือได้เสมอ เขาจะไมก่ ระทำส่งิ ใด ๆ ทเี่ สยี เกยี รติ เช่น
พดู เท็จกับผบู้ ังคบั บัญชาหรือผู้อยใู่ ตบ้ ังคบั บญั ชาของเขา และเขาจะทำตวั เป็นทน่ี บั ถือของคนทวั่ ไป
ในฐานะทเ่ี ปน็ ลูกเสือทา่ นต้องไม่ยอมใหส้ ิง่ ย่วั ยวนใจ ไมว่ ่าจะลึกลบั หรือรุนแรงเพยี งใด มาชกั จูง
ใหท้ ่านกระทำการใดๆ ทไี่ ม่สุจรติ หรอื เป็นสง่ิ ท่นี ่าสงสยั ท่านจะไมล่ ะเมิดคำมั่นสญั ญาเป็นอันขาด

ข้อ 2 ลกู เสอื มคี วามจงรกั ภักดีตอ่ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ และซ่อื ตรงต่อผมู้ ี
พระคณุ

ในฐานะทเ่ี ปน็ พลเมืองดี ท่านจะต้องระลึกไว้เสมอว่า ท่านเป็นคนหน่งึ ใน
คณะ หรือเปน็ อิฐก้อนหนึง่ ในกำแพงทา่ นต้องทำหน้าทขี่ องทา่ นใหด้ ีท่ีสุด และซ่ือตรงกับผ้ทู ่ี
เก่ยี วขอ้ งกับทา่ น เช่น พอ่ แม่ พี่ นอ้ ง ท่านจะตอ้ งไม่ทำลายเกียรตขิ องท่านด้วยการเล่นไม่ซื่อ
นอกจากนั้นท่านต้องไมท่ ำใหผ้ ู้ทีไ่ วว้ างใจทา่ นไม่ว่าชายหรอื หญงิ ต้องผิดหวัง บรรพบรุ ุษของทา่ น
ไดท้ ำงานด้วยความแขง็ แรง ด้วยความทรหด และตายดว้ ยความองอาจเพื่อรกั ษาบา้ นเมืองไว้ให้
ทา่ น ขออย่า

8

ใหบ้ รรพบุรุษของท่านมองมาจากสวรรค์ แลเห็นท่านเทย่ี วเตร่เอามือใสก่ ระเป๋าโดยไม่ไดท้ ำ
ประโยชน์อะไรเพ่ือบ้านเมืองเลย

ขอ้ 3 ลูกเสอื มีหน้าทก่ี ระทำตนใหเ้ ป็นประโยชนแ์ ละชว่ ยเหลือผู้อน่ื
ลกู เสอื จะพยายามใหค้ วามเมตตากรุณา เพ่ือบำเพ็ญประโยชนต์ ่อประชาชนอย่เู สมอ
ความคิดของเขามีว่าทุกคนต้องตาย แตท่ ่านควรจะทำใจของทา่ นก่อนเวลาจากโลกนไี้ ปตามวิถที าง
ของธรรมชาติ ทา่ นควรจะทำความดบี ้าง ฉะนนั้ จงทำทันที เพราะท่านไม่รู้เลยว่าเม่อื ใดทา่ นจะต้อง
ลว่ งลบั ไป
ข้อ 4 ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคน และเปน็ พีน่ ้องกบั ลกู เสืออนื่ ทวั่ โลก
ในฐานะที่เป็นลูกเสอื ท่านต้องยอมรบั รูว้ ่าคนอ่ืนเปน็ เพ่อื มนษุ ย์ และทา่ นต้องไมร่ งั
เกียรติความแตกต่าง ในเร่ืองของความคดิ วรรณะ ศาสนา หรือชาติบา้ นเมือง ท่านต้องขจัดอคติ
ของท่าน และมองหาจุดดขี องคนอื่น สว่ นจุดชว่ั น้ันคนโง่ยอ่ มวิจารณไ์ ด้ ถา้ ทา่ นแสดงไมตรจี ิตต่อ
คนชาตอิ ื่นได้เช่นนี้ กน็ บั ว่าทา่ นได้ก่อใหเ้ กิดสันตภิ าพ และไมตรีจติ ระหว่างประเทศ และมวล
มนุษยชาติได้
ข้อ 5 ลกู เสอื เป็นผ้สู ุภาพเรียบร้อย
ในฐานะท่ที ่านเป็นลูกเสือ ท่าจะตอ้ งสภุ าพและคำนึงถงึ ผ้หู ญิง คนแก่ เด็กและ
บุคคลทัว่ ไป แต่ยง่ิ กว่าน้นั ท่านจะตอ้ งสภุ าพตอ่ ฝ่ายตรงขา้ มกบั ทา่ นดว้ ย รวมความวา่ ทา่ นจะต้อง
เปน็ สภุ าพบรุ ุษ สภุ าพบุรษุ คือ ผู้ปฏบิ ตั ติ ามกฎแห่งการบำเพญ็ ประโยชนข์ องลกู เสอื
ข้อ 6 ลูกเสอื มีความเมตตากรณุ าต่อสัตว์
สตั ว์ทัง้ หลายมคี วามรกั และความหวงแหนชวี ิตของตนย่งิ กว่าสงิ่ ใด ต่างก็ด้ินรน
ตอ่ สู้ เพือ่ ให้มชี ีวิตอยู่รอดปลอดภยั จากอนั ตราย ทุกชวี ิตปรารถนาความสขุ ความรกั ความอบอุ่น
และการชว่ ยเหลอื เก้ือกูล แต่เกลยี ดกลัวและหวาดระแวงต่อการล่วงเกนิ เบยี ดเบียน และการทำรา้ ย

ภารกิจอันสำคัญของลกู เสอื คือ การช่วยเหลือผู้อนื่ ให้พ้นจากความทุกขแ์ ละ
การบริการแก่ผ้อู ื่นให้ได้รบั ความสุข ดงั นั้น ลูกเสอื ทกุ คนควรจะเป็นผูม้ ีความรกั และความเมตตา
กรุณาต่อสัตว์ด้วย

ข้อ 7 ลกู เสือเชื่อฟังคำสง่ั สอนของบิดามารดาและผู้บงั คบั บญั ชาด้วยความเคารพ
ในฐานะท่เี ป็นลูกเสอื ท่านยอ่ มบังคับตนเองและเตม็ ใจเช่อื ฟงั คำสงั่ ของพ่อแม่

ครู อาจารย์ นายหมู่ และผกู้ ำกบั ลกู เสือ โดยชอบดว้ ยเหตผุ ลไมม่ กี ารโต้แย้ง ชมุ ชนท่ีมวี ินยั เปน็
ชุมชนท่ีมคี วามสุข แต่วินยั ต้องเกดิ มาจากภายใน มิใช่ถกู บังคบั จากภายนอก ดังน้นั ควรปฏบิ ัติตน
เป็นตัวอยา่ งท่ีดแี ก่ผู้อื่น จึงเป็นสิ่งทม่ี คี ณุ คา่ มาก

ข้อ 8 ลกู เสือมใี จร่าเรงิ และไม่ยอ่ ทอ้ ต่อความยากลำบาก

9

ในฐานะท่ีเป็นลกู เสอื คนด่ืน ๆ จะคอยมองดทู ่านและคดิ อยู่เสมอว่า ทา่ นคง

ไมห่ ัวเสียและจะยืนหยดั ต่อสู้ด้วยความเข้มแข็ง และร่าเริงอดทนในเมื่อมีเหตกุ ารณฉ์ ุกเฉนิ เกิดข้นึ

ข้อ 9 ลูกเสอื เปน็ ผมู้ ธั ยสั ถ์

ในฐานะทท่ี ่านเป็นลกู เสือ ท่านจะมองไปขา้ งหน้าและจะไม่ยอมเสียเวลา หรือ

เสียเงนิ สำหรับความสขุ คำสำราญในปัจจบุ ัน แตจ่ ะใช้โอกาสนั้นเพือ่ ให้ได้บรรลุความสำเร็จใน

หนา้ ทีท่ ท่ี ่านกระทำ ทั้งนีเ้ พ่ือวา่ จะไดไ้ ม่ต้องเป็นภาระแก่ผอู้ ่นื แต่กลับจะเปน็ การช่วยเหลอื ผู้อน่ื ได้

อีกด้วย

ข้อ 10 ลกู เสอื ประพฤตชิ อบด้วยกาย วาจา ใจ

ในฐานะท่ีทา่ นเป็นลูกเสือ ท่านต้องมใี จสะอาด คิดแต่เร่ืองเปน็ มงคล สามารถ

ควบคมุ สตแิ ละจิตใจของตนเอง ไมใ่ หฟ้ งุ้ ซา่ นในรูป รส กลน่ิ เสียง สัมผสั และของมนึ เมาจน

เกินกว่าเหตุ ท่านต้องเปน็ ตวั ของตวั เอง และเปน็ ตัวอยา่ งทีด่ แี กผ่ ู้อ่ืนในทุกสิง่ ทุกอยา่ งทท่ี ่านคิด

พดู และกระทำ โดยเฉพาะทา่ นควรมีสัมมาอาชีวะ คือ มีอาชพี สุจรติ เพื่อเป็นความสขุ ของตนเอง

และสังคม

คติพจน์

ลูกเสอื ทว่ั ไป “เสียชีพอย่าเสยี สตั ย์”

ลูกเสือสำรอง “ทำดที ส่ี ดุ ”

ลกู เสือสามัญ “จงเตรียมพร้อม”

ลูกเสอื สามัญรุน่ ใหญ่ “มองไกล”

ลกู เสือวสิ ามญั “บริการ”

10 ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5
จำนวน 1 ช่ัวโมง
แผนการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามัญ
แผนการจัดที่ 4 เรอ่ื ง คำปฏิญาณและกฎของลกู เสือสามัญ

จดุ ประสงค์

1. บอกความหมายและปฏิบตั ิตามกฎของลกู เสือได้

2. ทอ่ งกฎของลูกเสือสามญั ได้

เนือ้ หา

กฎของลกู เสอื สามัญ

กจิ กรรมการเรียนการสอน

1. พิธเี ปดิ ( ธงขึน้ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก ) 10 นาที

2. เกม “ ผู้วิเศษ ” 5 นาที

3. สอนตามเน้อื หา 30 นาที

3.1 ผ้กู ำกบั อธิบายความหมายของกฎของลกู เสอื

3.2 ใหล้ กู เสือแตล่ ะหมูอ่ ภปิ รายรายการปฏิบัติตามกฎโดยผ้กู ำกับกำหนด

หัวขอ้ ใหแ้ ล้วนำมารายงานหรอื แสดงบทบาทสมมติ

3.3 ให้ลูกเสือท่องจำกฎของลูกเสือสามญั

3.4 ผู้กำกบั ตดิ ตามการปฏิบัติตนตามคำปฏิญาณและกฎของลกู เสือแลว้

ให้ลกู เสอื บนั ทกึ รายงาน

3.5 ร้องเพลงกฎลูกเสือ

4.เลา่ เร่ืองส้ันทเ่ี ปน็ คติ 5 นาที

5. พิธปี ดิ ( นัดหมาย ตรวจเครื่องแต่งกาย ธงลง เลกิ ) 10 นาที

ส่ือการเรียนการสอน 1. แผนภมู ิเพลงกฎลูกเสอื

2. แผนภมู กิ ฎลกู เสอื

การวดั ผลและประเมินผล 1. สงั เกตความสนใจและการเข้าร่วมกจิ กรรม

2. สังเกตการปฏิบัติตามคำปฏิญาณและกฎของลูกเสอื หลังจากที่

ไดเ้ รียนไปแลว้

3. ทดสอบการท่องกฎของลูกเสอื สามัญ

11
บันทึกหลงั การสอน…………………..………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
.……………………………………………………………………………………............................

ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………

กฎของลูกเสอื
กฎของลูกเสือมี 10 ข้อ ลูกเสอื จะต้องจำใหไ้ ด้ ร้คู วามหมายและปฏบิ ตั ิเป็นกจิ วตั รจนเกิดเปน็ นสิ ยั
ประจำตวั มีดังนี้

ข้อ 1 ลกู เสือมเี กียรตเิ ช่ือถอื ได้
ข้อ 2 ลูกเสอื มีความจงรกั ภักดตี อ่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และซื่อตรงต่อผ้มู ี
พระคณุ
ข้อ 3 ลกู เสอื มีหนา้ ทกี่ ระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น
ข้อ 4 ลูกเสอื เปน็ มิตรของคนทกุ คน และเปน็ พ่ีน้องกับลกู เสืออื่นทวั่ โลก
ข้อ 5 ลูกเสอื เปน็ ผ้สู ภุ าพเรียบร้อย
ข้อ 6 ลกู เสือมคี วามเมตตากรุณาต่อสัตว์
ข้อ 7 ลกู เสือเช่ือฟังคำสง่ั สอนของบิดามารดาและผู้บงั คับบัญชาดว้ ยความเคารพ
ข้อ 8 ลูกเสือมีใจร่าเริง และไม่ยอ่ ทอ้ ต่อความยากลำบาก
ข้อ 9 ลูกเสือเปน็ ผ้มู ธั ยัสถ์
ข้อ 10 ลกู เสอื ประพฤตชิ อบด้วยกาย วาจา ใจ
กฎของลูกเสือ 10 ข้อน้ี ได้ดดั แปลงมาจากกฎของลกู เสือข้อ 10 ตามธรรมนูญของ
สมชั ชาลูกเสือโลกทีว่ า่ “ลกู เสือเปน็ ผสู้ ะอาดในทางความคดิ วาจา และการกระทำ”
ข้อ 1 ลูกเสือมเี กียรตเิ ช่ือถอื ได้

ลกู เสือทีแ่ ทจ้ รงิ ถือวา่ เกียรตขิ องเขาสำคญั กว่าสง่ิ ใด เกียรตขิ ิงเขาเป็นสิง่
ศกั ดิ์สทิ ธิ์ คนทร่ี ้จู กั รักษาเกยี รตเิ ป็นผทู้ ี่เชื่อถอื ได้เสมอ เขาจะไม่กระทำสิ่งใด ๆ ที่เสยี เกียรติ เชน่
พูดเท็จกบั ผบู้ งั คับบัญชาหรือผู้อยู่ใต้บังคบั บญั ชาของเขา และเขาจะทำตัวเป็นทนี่ ับถือของคนท่วั ไป
ในฐานะที่เปน็ ลูกเสอื ท่านต้องไม่ยอมใหส้ ิง่ ย่ัวยวนใจ ไมว่ า่ จะลกึ ลบั หรือรุนแรงเพียงใด มาชักจงู
ใหท้ า่ นกระทำการใดๆ ทีไ่ ม่สจุ ริตหรอื เปน็ สิ่งท่ีนา่ สงสัย ท่านจะไมล่ ะเมิดคำมัน่ สญั ญาเปน็ อันขาด

ข้อ 2 ลกู เสอื มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซอ่ื ตรงต่อผู้มี
พระคุณ

12
ในฐานะทีเ่ ป็นพลเมืองดี ทา่ นจะตอ้ งระลึกไว้เสมอว่า ทา่ นเปน็ คนหน่ึงใน

คณะ หรือเปน็ อฐิ ก้อนหนง่ึ ในกำแพงท่านต้องทำหนา้ ทข่ี องท่านให้ดีทส่ี ดุ และซอ่ื ตรงกบั ผ้ทู ่ี
เกี่ยวขอ้ งกบั ทา่ น เชน่ พ่อ แม่ พ่ี น้อง ทา่ นจะตอ้ งไมท่ ำลายเกยี รตขิ องท่านด้วยการเลน่ ไม่ซ่ือ
นอกจากนัน้ ทา่ นต้องไม่ทำให้ผู้ทไ่ี วว้ างใจทา่ นไมว่ ่าชายหรือหญงิ ต้องผิดหวงั บรรพบรุ ุษของทา่ น
ไดท้ ำงานด้วยความแข็งแรง ด้วยความทรหด และตายดว้ ยความองอาจเพื่อรกั ษาบา้ นเมืองไวใ้ ห้
ท่าน ขออยา่ ให้บรรพบรุ ุษของทา่ นมองมาจากสวรรค์ แลเห็นทา่ นเท่ยี วเตรเ่ อามือใสก่ ระเป๋าโดย
ไม่ไดท้ ำประโยชน์อะไรเพ่ือบา้ นเมืองเลย

ข้อ 3 ลกู เสอื มีหนา้ ท่ีกระทำตนใหเ้ ป็นประโยชนแ์ ละชว่ ยเหลอื ผู้อ่ืน
ลูกเสอื จะพยายามใหค้ วามเมตตากรุณา เพ่อื บำเพญ็ ประโยชน์ต่อประชาชนอยู่

เสมอ ความคดิ ของเขามีวา่ ทุกคนตอ้ งตาย แตท่ ่านควรจะทำใจของทา่ นก่อนเวลาจากโลกนไี้ ปตาม
วถิ ีทางของธรรมชาติ ท่านควรจะทำความดีบ้าง ฉะน้นั จงทำทันที เพราะทา่ นไมร่ ้เู ลยวา่ เมอื่ ใดท่าน
จะต้องลว่ งลบั ไป

ข้อ 4 ลูกเสือเปน็ มิตรของคนทุกคน และเป็นพีน่ ้องกบั ลูกเสืออ่ืนทว่ั โลก
ในฐานะทีเ่ ป็นลกู เสือ ทา่ นต้องยอมรับรูว้ ่าคนอื่นเปน็ เพ่ือมนษุ ย์ และท่านตอ้ ง

ไม่รังเกียรติความแตกต่าง ในเร่ืองของความคดิ วรรณะ ศาสนา หรอื ชาติบ้านเมอื ง ท่านต้องขจัด
อคติของทา่ น และมองหาจุดดีของคนอื่น ส่วนจดุ ช่ัวน้ันคนโงย่ ่อมวจิ ารณ์ได้ ถา้ ทา่ นแสดงไมตรี
จติ ต่อคนชาติอื่นไดเ้ ช่นนี้ ก็นับวา่ ทา่ นไดก้ ่อใหเ้ กิดสนั ติภาพ และไมตรีจติ ระหวา่ งประเทศ และ
มวลมนษุ ยชาตไิ ด้

ข้อ 5 ลกู เสอื เป็นผสู้ ุภาพเรียบรอ้ ย
ในฐานะท่ีทา่ นเป็นลกู เสือ ท่าจะตอ้ งสภุ าพและคำนึงถึงผู้หญิง คนแก่ เดก็ และ

บคุ คลทัว่ ไป แต่ยิง่ กวา่ น้นั ทา่ นจะต้องสุภาพตอ่ ฝา่ ยตรงขา้ มกบั ท่านดว้ ย รวมความวา่ ท่านจะต้อง
เปน็ สภุ าพบุรษุ สุภาพบุรุษ คือ ผ้ปู ฏิบตั ติ ามกฎแห่งการบำเพญ็ ประโยชนข์ องลกู เสือ

ข้อ 6 ลูกเสือมคี วามเมตตากรณุ าต่อสตั ว์
สัตว์ทง้ั หลายมีความรกั และความหวงแหนชวี ิตของตนย่งิ กว่าสง่ิ ใด ตา่ งก็

ดิน้ รนต่อสู้ เพือ่ ให้มีชวี ิตอยรู่ อดปลอดภัยจากอันตราย ทกุ ชีวติ ปรารถนาความสุข ความรัก
ความอบอุ่น และการช่วยเหลอื เกื้อกูล แต่เกลยี ดกลัวและหวาดระแวงตอ่ การลว่ งเกินเบยี ดเบยี น
และการทำร้าย

ภารกิจอันสำคญั ของลกู เสือ คือ การช่วยเหลือผู้อืน่ ให้พน้ จากความทกุ ขแ์ ละ
การบริการแกผ่ ูอ้ ื่นให้ไดร้ บั ความสขุ ดังน้ัน ลกู เสอื ทกุ คนควรจะเป็นผมู้ ีความรกั และความเมตตา
กรณุ าต่อสตั วด์ ว้ ย

ข้อ 7 ลูกเสอื เชื่อฟังคำสัง่ สอนของบดิ ามารดาและผู้บงั คับบัญชาดว้ ยความเคารพ

13

ในฐานะทเ่ี ปน็ ลูกเสือ ทา่ นยอ่ มบงั คับตนเองและเตม็ ใจเช่อื ฟังคำสั่งของพ่อแม่

ครู อาจารย์ นายหมู่ และผกู้ ำกับลูกเสือ โดยชอบดว้ ยเหตผุ ลไม่มกี ารโต้แย้ง ชุมชนทีม่ วี ินยั เป็น

ชุมชนทมี่ คี วามสขุ แตว่ ินยั ต้องเกิดมาจากภายใน มิใชถ่ กู บังคบั จากภายนอก ดงั น้ัน ควรปฏิบตั ติ น

เป็นตัวอยา่ งทด่ี แี ก่ผู้อน่ื จึงเป็นสิ่งทมี่ คี ณุ ค่ามาก

ข้อ 8 ลกู เสอื มีใจรา่ เรงิ และไมย่ ่อทอ้ ต่อความยากลำบาก

ในฐานะทเี่ ป็นลูกเสอื คนดื่น ๆ จะคอยมองดูทา่ นและคิดอย่เู สมอวา่ ท่านคง

ไม่หัวเสยี และจะยนื หยดั ตอ่ สู้ดว้ ยความเข้มแข็ง และรา่ เรงิ อดทนในเม่อื มีเหตกุ ารณ์ฉกุ เฉนิ เกดิ ขนึ้

ข้อ 9 ลูกเสอื เปน็ ผู้มธั ยสั ถ์

47

ในฐานะที่ท่านเป็นลกู เสือ ท่านจะมองไปข้างหนา้ และจะไมย่ อมเสียเวลา หรอื

เสียเงนิ สำหรับความสขุ คำสำราญในปจั จบุ นั แตจ่ ะใช้โอกาสนน้ั เพอ่ื ให้ได้บรรลคุ วามสำเรจ็ ใน

หน้าทีท่ ท่ี า่ นกระทำ ทง้ั น้เี พื่อว่าจะได้ไม่ต้องเป็นภาระแก่ผอู้ ื่น แต่กลับจะเปน็ การช่วยเหลอื ผู้อน่ื ได้

อกี ด้วย

ข้อ 10 ลกู เสือประพฤตชิ อบด้วยกาย วาจา ใจ

ในฐานะที่ทา่ นเป็นลูกเสอื ท่านต้องมีใจสะอาด คิดแต่เร่ืองเปน็ มงคล สามารถ

ควบคมุ สติและจติ ใจของตนเอง ไมใ่ หฟ้ ้งุ ซ่านในรูป รส กลิ่น เสียง สมั ผสั และของมนึ เมาจน

เกินกวา่ เหตุ ท่านต้องเปน็ ตวั ของตัวเอง และเปน็ ตัวอย่างทด่ี ีแกผ่ ้อู ื่นในทุกสง่ิ ทุกอย่างทท่ี ่านคดิ

พดู และกระทำ โดยเฉพาะท่านควรมสี ัมมาอาชีวะ คือ มีอาชีพสุจริต เพือ่ เป็นความสุขของตนเอง

และสังคม

คตพิ จน์

ลูกเสอื ท่วั ไป “เสยี ชีพอย่าเสียสัตย์”

ลูกเสือสำรอง “ทำดีทีส่ ดุ ”

ลกู เสอื สามัญ “จงเตรียมพร้อม”

ลกู เสอื สามญั รุ่นใหญ่ “มองไกล”

ลูกเสอื วิสามัญ “บริการ”

14

แผนการจัดกจิ กรรมลูกเสอื สามัญ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5

แผนการจดั ท่ี 3 เรือ่ ง ระเบยี บแถว จำนวน 1 ชัว่ โมง

จุดประสงค์ ปฏบิ ัตติ นทา่ มือเปลา่ และทา่ มไี มพ้ ลองตามระเบยี บแถวได้

เนื้อหา 1. ระเบยี บแถวท่ามอื เปลา่
2. ระเบียบแถวทา่ ถือไมพ้ ลอง

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

1. พธิ ีเปดิ ( ธงขึน้ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก ) 10 นาที

2. เพลง “ ลกู เสอื ธรี ราช ” 5 นาที
3. สอนตามเนอ้ื หา 30 นาที

3.1 ทบทวนระเบียบแถวทา่ มือเปล่า

3.2 ทบทวนระเบียบแถวท่าถอื ไมพ้ ลอง

4. เลา่ เร่ืองสนั้ ท่เี ปน็ คติ 5 นาที

5. พิธีปดิ ( นัดหมาย ตรวจเคร่อื งแต่งกาย ธงลง เลิก ) 10 นาที

สอ่ื การเรียนการสอน 1. นกหวดี

2. ไม้พลอง

3. แผนภูมเิ พลง

การวัดผลและประเมินผล 1. การสงั เกต

2. ฝกึ ปฏบิ ตั ิ

บันทึกหลังการสอน…………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา…………………………………………………………….…

…………………………………………………………………………………………………….…

15

การฝกึ เป็นบุคคลท่ามอื เปลา่

1. ทา่ ตรง
คำบอก “แถว – ตรง”
การปฏิบตั ิ ยืนให้ส้นเท้าชิด และอย่ใู นแนวเดียวกนั ปลายเทา้ แบะออกขา้ งละเท่า ๆ กนั หา่ ง
กันประมาณ 1 คืบ (ทำมุม 45 องศา) เข่าเหยียดตึงและบบี เข้าหากัน ลำตวั ยดื ตรงอกผาย
ไหล่เสมอกนั แขนทั้งสองขา้ งห้อยอย่ขู า้ งลำตวั และเหยียดตรงพลกิ ศอกไปข้างหนา้ เล็กน้อย จน
ไหลต่ งึ นิ้วมือเหยยี ดและชดิ กัน น้ิวกลางตดิ ขาตรงกึ่งกลาง ประมาณแนวตะเข็บกางเกง เปิดฝ่ามือ
เลก็ น้อย ลำคอยดื ตรงไมย่ น่ื คาง ตาแลตรงไปขา้ งหน้าได้ระดบั น้ำหนักตวั อยบู่ นเท้าทง้ั สองเทา่ ๆ
กนั และนิง่
หมายเหตุ 1. ท่าตรงเป็นทา่ เบ้ืองต้น และเปน็ รากฐานของการปฏบิ ตั ิท่าอน่ื ๆ

2.ใชเ้ ปน็ ทา่ สำหรบั แสดงการเคารพได้ท่าหน่ึง

2. ทา่ พกั
ก. พกั ตามปกติ

คำบอก “พกั ”
การปฏิบตั ิ หย่อนเขา่ ขวากอ่ น ต่อไปจงึ หย่อนและเคล่อื นไหวสว่ นต่าง ๆ ของร่างกาย และ
เปลีย่ นเข่าพักไดต้ ามสมควร แต่เทา้ ท้งั สองคงอยู่กบั ท่ี หา้ มพูดคยุ เมือ่ ไดย้ นิ คำบอกวา่ “แถว” ให้
ยดื ตวั ข้นึ และจัดทกุ สว่ นของรา่ งกายอย่ใู นท่าตรง นอกจากเข่าขวา ครน้ั เมื่อได้ยินคำบอกวา่
“ตรง” ใหก้ ระตกุ เขา่ ขวาโดยเรว็ และแข็งแรง กลับไปอยู่ในลกั ษณะของท่าตรง

ข. พักตามระเบยี บ
คำบอก “ตามระเบยี บ - พัก”
การปฏิบัติ แยกเท้าซา้ ยออกไปทางซ้ายประมาณ 30 ซม. (หรือประมาณเกือบคร่งึ ก้าวปกต)ิ
อยา่ งแข็งแรงและองอาจ พร้อมกับจับมอื ไขว้หลงั ให้หลังมอื เข้าหาตัว มือขวาทับมือซ้าย หลงั
มือซา้ ยแนบตดิ กบั ลำตัวในแนวก่งึ กลางหลงั และอยูใ่ ต้เข็มขดั เล็กน้อย ขาทั้งสองตึง น้ำหนักตวั
อยู่บนเท้าท้ังสองเทา่ ๆ กัน และนิง่

เม่อื ได้ยนิ คำวา่ “แถว - ตรง” ให้ชกั เท้าซา้ ยชิดเท้าขวาอยา่ งแข็งแรง พรอ้ มกบั มือ
ท้ังสองกลบั

ไปอยู่ในลักษณะท่าตรงตามเดิม
ค. พักตามสบาย
คำบอก “ตามสบาย – พกั ”
การปฏิบัติ หย่อยเข่าขวากอ่ น เชน่ เดียวกับ “พัก” ต่อไปจึงเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสบาย และ
พูดจากันได้ แต่เท้าขา้ งหน่งึ ตอ้ งอยู่กับที่ ถา้ มไิ ดร้ บั อนุญาตใหน้ ่งั จะนั่งไม่ได้

16

เมื่อไดย้ นิ คำวา่ “แถว – ตรง” ใหป้ ฏิบัตอิ ยา่ งเดยี วกบั ท่าพักปกติ
ช. พกั นอกแถว
คำบอก “พักแถว”
การปฏบิ ตั ิ ตา่ งคนตา่ งแยกออกจากแถวทันที แต่ตอ้ งอยบู่ รเิ วณใกล้เคยี งนน้ั และไม่ทำเสียง
อึกทกึ เมื่อ
ไดย้ ินคำบอกว่า “แถว” ใหร้ บี กลับมาเขา้ แถวตรงท่ีเดมิ โดยเร็ว ในรูปแถวเดิม
และเม่อื จัด
แถวเรยี บร้อยแลว้ ใหอ้ ยใู่ นท่าตรงจนกว่าจะมคี ำส่ังตอ่ ไป
หมายเหตุ สำหรับท่าพกั
ทา่ พกั เป็นทา่ เปลย่ี นอิรยิ าบทจากท่าตรง เพือ่ ผ่อยคลายความเครง่ เครียดตามโอกาส
ตา่ ง ๆ คือ
1. พกั ตามปกติ ใชพ้ ักในโอกาสระหว่างการฝกึ – สอน เพ่ืออธบิ าย หรอื แสดง
ตัวอย่างแก่ ลกู เสือ
2. พกั ตามระเบียบ ใช้พักในโอกาสเกย่ี วกับพธิ กี ารตา่ ง ๆ เช่นการตรวจพลสวน
สนาม หรืออยใู่ นแถวกองเกียรตยิ ศ ฯลฯ
3. พกั ตามสบาย ใชพ้ กั ในโอกาสที่ต้องรอรับคำส่ัง เพ่ือปฏบิ ตั ิต่อไปเป็น
ระยะเวลาสั้น ๆ เชน่ เมื่อผู้ควบคุมแถวตอ้ งไปรับคำสงั่ จากผู้บังคบั บญั ชา เปน็ ตน้
4. พักนอกแถวใชพ้ กั ในโอกาสทตี่ ้องรอรับคำสั่งเพือ่ ปฏิบตั ติ ่อไปเป็นระยะเวลานาน ๆ
หนั อยู่กับที่
1. ขวาหนั
คำบอก “ขวา – หัน”
การปฏบิ ตั ิ ทำเป็น 2 จงั หวะ คือ
จังหวะที่ 1 เปดิ ปลายเท้าขวา และยกส้นเท้าซ้าย ทนั ใดนัน้ ให้หันตัวไปทางขวาจนได้
90 องศา หมนุ เทา้ ทงั้ สองไปโดยใหส้ น้ เท้าและปลายเท้าซ่ึงเป็นหลักนน้ั ตดิ อยู่กบั พน้ื น้ำหนกั ตวั
อยู่ท่ีเท้าขวา ขาซ้ายเหยยี ดตงึ บิดสน้ เทา้ ซา้ ยออกข้างนอกพอตงึ
จงั หวะท่ี 2 ชกั เท้าซา้ ยมาชิดเท้าขวาในลักษณะท่าตรงโดยเร็วและแข็งแรง
2. ซ้ายหัน
คำบอก “ซ้าย – หนั ”
การปฏบิ ัติ ทำเป็น 2 จังหวะ อย่างเดียวกบั ท่าขวาหนั โดยเปลีย่ นคำว่า “ขวา”
เปน็ ”ซ้าย”

17

3. กลับหลงั หัน
คำบอก “กลับหลัง – หัน”
การปฏิบัติ ทำเป็น 2 จังหวะ คือ
จังหวะที่ 1 ทำเช่นเดียวกบั ทา่ ขวาหันจังหวะท่ี 1 แต่หนั เลยไปจนกลบั หนา้ เป็นหลัง

ครบ 180 องศา และให้ปลายเท้าซา้ ยไปหยดุ อยขู่ ้างหลังเฉยี งซ้ายประมาณครงึ่ ก้าว และในแนวส้น
เท้าขวา

จงั หวะท่ี 2 ทำเช่นเดยี วกบั ท่าขวาหนั จงั หวะท่ี 2

ทา่ เดิน – ทา่ หยุด

1. ท่าเดิน
คำบอก “หน้า – เดิน”
การปฏบิ ตั ิ โน้มนำ้ หนกั ตัวไปขา้ งหน้า พรอ้ มกบั ก้าวเทา้ ซา้ ยออกเดินก่อน ขา

เหยียดตรงปลายเท้างุ้ม สน้ เท้าสูงจากพื้นประมาณ 1 คืบ เมอื่ จะวางเท้าและกา้ วเทา้ ตอ่ ไปให้โนม้
น้ำหนักตัวไปขา้ งหน้า ตบเต็มฝ่าเท้าอยา่ งแรง ทรงตวั และศรี ษะอยู่ในทา่ ตรง แกวง่ แขนตาม
ธรรมดาเฉยี งไปขา้ งหนา้ และข้างหลงั พองาม เมอ่ื แกวง่ แขนไปขา้ งหนา้ ข้อศอกงอเลก็ น้อย เม่ือ
แกวง่ แขนไปขา้ งหลังให้แขเหยียดตรงตามธรรมชาติ หันหลงั มือออกนอกลำตัว แบมือให้น้ิวมือ
เรียงชิดตดิ กัน

ความยาวของก้าว 40 - 60 เซนติเมตร (นับจากสน้ เท้าถงึ สน้ เทา้ ) รักษาความยาว
ของก้าวใหค้ งที่ อัตราความเรว็ ในการเดินนาทีละ 90 – 100 ก้าว

2. ท่าหยดุ
คำบอก “แถว - หยุด”
การปฏบิ ตั ิ ในขณะทกี่ ำลงั เดนิ ตามปกติ เมือ่ ไดย้ นิ คำบอกว่า “แถว – หยุด” ไม่ว่า

เท้าขา้ งใดขา้ งหนึ่งจะตกถึงพื้นกต็ าม ให้ปฏบิ ตั ิเป็น 2 จังหวะ คือ จงั หวะท่ี 1 กา้ วเท้าไปอกี 1
กา้ ว จงั หวะที่ 2 ชักเท้าหลังชิดเทา้ หน้าในลกั ษณะทา่ ตรงอยา่ งแข็งแรง
หมายเหตุ 1) ท่าหยุดโดยธรรมดา ผบู้ อกแถวควรบอกให้ตกเทา้ ขวา

2) เมือ่ ใชค้ ำบอกวา่ “แถว” ลงเทา้ ใดใหบ้ อกคำว่า “หยดุ ” ลงเท้าน้ันในกา้ วตอ่ ไป
เชน่ บอก “แถว” ลงเทา้ ขวา เมือ่ กา้ วเท้าซ้ายต่อไป และลงเท้าขวาอกี เป็นครัง้ ที่ 2 จึงบอกคำ
วา่ ”หยุด”

ทา่ ถอื พลอง
1. ทา่ ตรง – พัก ท่าตรงและทา่ พกั ในเวลาถือไม้พลอง เหมือนกับท่ามอื เปลา่ ไม้พลองอยู่

ในทา่ เรยี บอาวธุ

18

ไม้พลองในท่าเรียบอาวธุ คือลกู เสอื อยูใ่ นท่าตรง ถือไม้พลองด้วยมือขวา ตน้ ไมพ้ ลองอยู่
ประมาณโคนนว้ิ กอ้ ยเทา้ ขวา และชดิ กบั เท้าขวา ไมพ้ ลองอยใู่ นระหว่างนิว้ หัวแมม่ ือกับนวิ้ ชี้
น้ิวหัวแม่มือจบั ไม้พลองชิดขา น้ิวอ่นื อกี 4 นิ้ว จบั ไมพ้ ลองเฉียงลงเบือ้ งลา่ ง นิ้วเรียงชดิ ติดกัน
ปลายไม้พลองอยใู่ นรอ่ งไหล่ขวาลำไมพ้ ลองตั้งตรงแนบตัว

สำหรบั พกั ตามระเบียบ เหมือนกับท่ามือเปล่า มือขวาที่ถือไมพ้ ลองให้เล่ือนขึ้นมาเสมอ
เอว แลว้ ผลกั ไมพ้ ลองไปข้างหลังเฉยี งไปข้างประมาณ 45 องศา มือซ้ายไพล่หลงั โดยมอื แบตาม
ธรรมชาติ นว้ิ เรียงชดิ ติดกัน

2. ท่าวันทยาวุธ – เรียบอาวธุ ทา่ วันทยาวธุ เป็นทา่ แสดงความเคารพ ใช้คำบอกว่า “วนั
ทยา – วธุ ” ใหล้ ูกเสอื ทำจงั หวะเดยี วโดยยกแขนซา้ ยขนึ้ มาเสมอแนวไหล่ศอกงอไปข้างหน้าให้ตั้ง
ฉากกับลำตวั ฝ่ามือแบค่ำ รวบนิว้ หัวแมม่ ือกับนิ้วก้อยจรดกนั คงเหลือนวิ้ ช้ี น้ิวกลาง และนว้ิ นาง
เหยียดตรงและชดิ ติดกัน ให้ข้างปลายนวิ้ ชี้แตะไม้พลอง หรอื ไม้ง่ามในร่องไหล่ขวา

เมอื่ เลิกทำความเคารพใช้คำบอก “เรียบ – อาวธุ ” ให้ลูกเสือลดแขนซ้ายมาอยู่ทีเ่ ดมิ โดยเร็ว
ถ้าผรู้ บั การเคารพมาทางขวา (ซ้าย) หรือตรงหน้าจะบอกโดยกล่าวทิศทางท่ีมาเสยี ก่อนก็
ไดว้ ่า “ขวา (ซ้ายหรือตรงหนา้ ) ระวงั – วันทยา – วธุ ” ใหล้ ูกเสอื ทำวันทยาวธุ มือซ้ายดันไม้
พลองขน้ึ ไปอย่ใู นทา่ แบกอาวธุ ดงั เดมิ พร้อมกบั หนั หนา้ แลตรง ลดแขนขวาลง แขนแกว่งต่อไป
ในทา่ เดินตามปกติ
3. ทา่ แบกอาวธุ – เรยี บอาวุธ ทา่ แบกอาวุธใช้คำบอกว่า “แบก – อาวธุ ” ให้ลกู เสอื ทำ
เปน็ 2 จังหวะ จังหวะที่ 1 ยกไม้พลองดว้ ยมอื ขวาผ่านหนา้ เฉยี ดลำตวั ไปทางซ้าย ให้ตน้ ไม้
พลองอยู่ในอ้งุ มือซ้าย ลำไม้พลองตั้งอยู่ตรงร่องไหล่ซา้ ย มอื ขวาคงจับไม้พลองอยู่ทเี่ ดิม ศอกงอ
ไปข้างหน้าแนวเดยี วกบั ไหล่ จงั หวะท่ี 2 ดนั ไมพ้ ลองด้วยมือซา้ ย พรอ้ งกบั ส่งไม้พลองดว้ ยมือ
ขวา ใหไ้ ม้พลองพาดขึน้ ไปบนบ่าซ้าย แขนซ้ายทอ่ นบนแนบชดิ ติดลำตวั ศอกซ้ายงอ หนา้ แขน
ตัง้ ได้ฉากกับลำตัว ขณะเดียวกนั ลดมือขวาลงในท่าตรงโดยเรว็

ข้อควรระวัง ขณะท่ลี กู เสอื ทำท่าแบกอาวธุ จังหวะท่ี 2 ระวังอย่าให้ศีรษะเคลอื่ นหลบ
ไม้พลอง ทรงศรี ษะใหค้ งท่เี หมือนอย่ใู นทา่ ตรงเสมอ ให้แขนซ้ายอยู่ในลกั ษณะที่ถูกตอ้ งและไม่
เคล่อื นไหว ปลายไมพ้ ลองจึงจะไดร้ ะดับและไมเ่ อียงไปมา

เรยี บอาวธุ ใช้คำบอก “เรียบ – อาวุธ” ใหล้ ูกเสอื ทำเป็น 3 จังหวะ จังหวะที่ 1 ยก
มอื ขวาข้ึนจับไม้พลอง ศอกงอไปข้างหน้าในแนวเดยี วกับไหล่ พรอ้ มกับเหยียดแขนซ้ายโดยลดไม้
พลองลงชดิ กบั ลำตัว จังหวะที่ 2 นำไมพ้ ลองด้วยมือขวามาไว้ข้างลำตัวในร่องไหลข่ วา (แขนซ้าย
เหยียดเกอื บสดุ ระยะท่มี ือขวาจบั ไม้พลองในท่าเรียบอาวุธ) ขณะเดยี วกันยกมอื ซา้ ยข้ึนกันไม้พลอง
ทร่ี อ่ งไหล่ขวา ศอกงอไปข้างหน้าในแนวเดยี วกบั ไหล่ จังหวะท่ี 3 ลดแขนซ้ายลงอย่ใู นทา่ เรียบ

19
อาวุธตามเดิม (ในจังหวะนเี้ หยยี ดแขนขวาลงสดุ ระยะท่มี ือขวาจบั ไมพ้ ลองอยู่ในทา่ เรียบอาวธุ
ตน้ ไม้พลองอยใู่ นท่าเรยี บอาวุธ ตน้ ไม้พลองจรดพน้ื )

ข้อสังเกต ตอนเหยียดแขนขวาจากจงั หวะที่ 2 ลงสุดระยะทม่ี อื ขวาจบั ไมพ้ ลองใน
ทา่ เรยี บอาวธุ ในจงั หวะท่ี 3 จะรูส้ ึกวา่ ต้นไมพ้ ลองจรดพ้ืน

20 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5
จำนวน 1 ชัว่ โมง
แผนการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั
แผนการจดั ที่ 4 เร่ือง ระเบียบแถว ( ตอ่ )

จดุ ประสงค์ จัดรูปขบวนสวนสนามและปฏิบตั ติ ามข้นั ตอนการสวนสนามไดถ้ ูกต้อง

เนอ้ื หา การเดินสวนสนาม

กิจกรรมการเรียนการสอน

1. พธิ เี ปดิ ( ธงข้ึน สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก ) 10 นาที

2. เพลง “ วชริ าวุธรำลกึ ” 5 นาที

3. สอนตามเนอ้ื หา 30 นาที

3.1 ผูก้ ำกับอธบิ าย และสาธติ การต้งั รปู ขบวน ในการเดินสวนสนาม

3.2 ฝกึ การเดนิ สวนสนาม

4. เล่าเร่ืองสั้นทีเ่ ปน็ คติ 5 นาที

5. พธิ ปี ดิ ( นดั หมาย ตรวจเคร่อื งแตง่ กาย ธงลง เลิก ) 10 นาที

สอ่ื การเรียนการสอน 1. แผนผงั รูปขบวนสวนสนาม

2. ธงประจำกอง

3. ป้ายชอื่ โรงเรยี น

4. ธงเขียว เหลือง แดง

5. พลอง

6. ไม้ถือของผกู้ ำกบั ลกู เสอื

7. นกหวดี

8. ดุรยิ างค์ ( ถา้ มี )

การวัดผลและประเมนิ ผล 1. การสงั เกต

2. ฝกึ ปฏิบัติ

บันทึกหลงั การสอน…………………….……………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา…………………………………………………………….…

…………………………………………………………………………………………………….…

21

การสวนสนาม

1. การเดนิ สวนสนาม
1.1 การจดั รปู ขบวนสวนสนาม
- กองลกู เสืออาจจัดแถวสวนสนามไดด้ งั นี้
1.2 เป็นแถวตอนเรียง 1 หรอื เป็นแถวหน้ากระดานตอนหมู่ ทง้ั นีแ้ ล้วแตค่ วามเหมาะสม
1.3 ถา้ ลูกเสือจังหวัดรวมกนั สวนสนาม ใหจ้ ดั เดินเป็นอำเภออำเภอไป เวน้ ระยะตอ่ ระหว่าง
อำเภอ 10 กา้ ว
ผ้อู ำนวยการลกู เสืออำเภอหรือผูแ้ ทนเป็นผู้บอกแถวสวนสนามของอำเภอ และ

ผู้อำนวยการลกู เสอื จงั หวัดหรอื ผู้แทนเป็นผบู้ อกแถวสวนสนามของจังหวัด
1.4 ในการสวนสนามให้เว้นระยะตอ่ ดงั น้ี
- ระหวา่ งกองลกู เสือ 5 กา้ ว
- ระหว่างลูกเสอื อำเภอ 15 กา้ ว
- ระหว่างลูกเสือจังหวัด 15 ก้าว ท้ังนีแ้ ลว้ แต่ความเหมาะสมของภูมปิ ระเทศ
1.5 เม่ือพร้อมแล้ว แตรเด่ยี วเปา่ ให้สญั ญาณ ผบู้ ังคบั ขบวนสวนสนามสงั่ “เตรยี มสวนสนาม”
แตรเดยี่ วเปา่ ใหส้ ัญญาณ “หน้าเดนิ ” ผูบ้ ังคบั ขบวนสวนสนามส่งั “ขวา - หนั ” “แบก –
อาวธุ ” และ “เดนิ หน้า” แตรวงบรรเลงแลว้ เดินขวนเคล่ือนทีอ่ อกไป ลกู เสอื ถือป้ายยืน
อยูต่ รงกึง่ กลางหน้าขบวน หลงั ลูกเสอื ถอื ป้าน 4 ก้าว เป็นลูกเสือถอื ธงหลังลกู เสอื ถือธง
5 ก้าวเป็นผู้กำกับลกู เสือ หลงั ผกู้ ำกบั ลกู เสอื 5 กา้ ว เปน็ รองผกู้ ำกบั ลูกเสอื ซงึ่ เป็นผู้
บงั คบั แถว และหลังรองผ้กู ำกับลกู เสอื 3 ก้าว เป็นกองลูกเสือ

22
ตัวอย่างแถวสวนสนาม หมู่แถวตอน

2. การทำความเคารพ
ก. เฉพาะผู้ถือธงการแสดงความเข้ารพในเวลาอย่กู ับที่ เม่อื มีคำบอกว่า “วันทยา – วธุ ”

ใหผ้ ูเ้ ชิญธงยกธงขนึ้ ในท่าเคารพ ครั้นแลว้ ใหเ้ ชิญผ้เู ชิญธงทำกงึ่ ขวาหนั ลดปลายคนั ธงลงข้างหนา้
อยา่ งช้า ๆ ใหไ้ ดจ้ ังหวะเช่นเดียวกบั ขาลง และให้คนเชิญธงอยู่ในท่าน้ีจนกวา่ จะมคี ำบอกว่า
“เรยี บ - อาวธุ ” จงึ ให้ลดธงลงแล้วจึงทำกงึ่ ซา้ ยหนั อยูใ่ นทา่ ตรง

ข. ลกู เสือ และผกู้ ำกับทำความเคารพตามวธิ กี ารของลกู เสอื
การทำความเคารพในขณะเดนิ
จดั สถานทใ่ี หใ้ ชธ้ งปักเปน็ เครอ่ื งหมาย 3 ธง ธงแรก (ธงสเี หลอื ง) หา่ งจากจดุ ทำความ
เคารพ 20 กา้ ว ธงที่ 2 (ธงสีเขียว) หา่ งจากผู้รบั การเคารพ 10 กา้ ว และธงท่ี 3 (ธงสีแดง) อยู่
ถัดจากผรู้ ับการเคารพไปอีก 10 กา้ ว ทำความเคารพดงั นี้
2.1 เม่อื ถงึ ธงท่ี 1 รองผูก้ ำกับจะบอกระวัง ทุกคนเร่ิมเตรยี มตบเทา้ แรง

23
2.2 เมือ่ ถงึ ธงท่ี 2 รองผกู้ ำกับจะบอก “แลขวา – ทำ” ให้ทุกคนทกุ หมู่ ทำความเคารพ
โดยสะบัดหนา้ หันไปทางผู้รับความเคารพ เวน้ คนขวาสุดแลตรงมองไปขา้ งหนา้ ทุกคนไม่แกว่ง
แขน (คนถือพลอง ไม้ง่ามแกวง่ แขนตามปกติ)
2.3 เม่ือถงึ ธงที่ 3 หมู่ใดถึงกอ่ นให้สะบดั หน้ากลบั แลตรงและแกวง่ แขนตามปกตโิ ดย
ไมต่ ้องออกคำสั่ง
หมายเหตุ การบอก “ระวงั ” หรอื “แลขวา” ทำ คำว่า “ระวงั ” และ “ทำ” ควรรบี บอกเมื่อตบ
เท้าขวา

ขบวนสวนสนาม (ภายในอำเภอ)

หมายเหตุ : ระยะต่ออาจเปล่ียนแปลงได้ตามความเหมาะสม

24
ขบวนสวนสนาม (ภายในจังหวัด)

หมายเหตุ 1) ระยะต่ออาจเปลีย่ นแปลงไดต้ ามความเหมาะสมของสถานท่แี ละภมู ปิ ระเทศ
2) ธงลูกเสอื ประจำจงั หวดั ถา้ เชิญมาประจำแท่นรบั การเคารพ(ดา้ นหน้าซ้ายมือของ

ประธาน) ห้ามใช้แสดงความเคารพผูเ้ ป็นประธานเดด็ ขาด(นอกจากสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั พระองค์
เดียว)

25

การเดนิ สวนสนาม
1. เม่อื จัดแถวพร้อมแลว้ ผบู้ งั คับขบวนสวนสนามจะบอก “แบก – อาวุธ” และ “ซอย

เทา้ ” แถวลกู เสอื จะซอยเทา้ จดั แถวรออยู่
2. ให้แถวและแตรเดีย่ วออกเดิน จนถงึ กองลกู เสอื ทอี่ ยู่หนา้ สดุ
3. ผู้บงั คับขบวนสวนสนามบอก “หนา้ เดนิ ” ผู้บงั คับบญั ชาและลกู เสือทัง้ หมดออกเดิน

ตามระยะที่จดั ไว้
ทา่ เดินสวนสนาม

1. ผ้กู ำกบั บอก “สวนสนาม หนา้ – เดิน” ใหล้ ูกเสอื เตะเท้าซ้ายออกไปก่อนอย่าง
แข็งแรง ขาตึง ปลายเท้างุ้มยกสงู จากพ้นื ดินประมาณ 1 คืบ

2. ขณะเตะเท้า ให้แกว่งแขนตรงขา้ มกับเทา้ ไปข้างหนา้ ตัดกบั ลำตัว ใหฝ้ ่ามอื ผา่ น
ประมาณก่งึ กลางลำตัว เสมอแนวเข็มขดั ห่างเขม็ ขดั ประมาณ 1 ฝ่ามือ แบน้วิ ชิด
ตดิ กนั ตามธรรมชาตแิ ละแกว่งแขนเลยเฉียงไปทางด้านหลังพองาม งอศอกเลก็ น้อย

3. เมื่อวางเทา้ เต็มฝ่าเท้าและกา้ วเทา้ และก้าวเท้าต่อไป ขณะวางเท้าก้าวไปข้างหน้า ให้
โน้มตัวไปขา้ งหนา้ เล็กน้อยตบฝ่าเทา้ อย่างแขง็ แรง ยดื ตวั อย่างองอาจ

4. เตะเท้าอกี ข้างหน่ึงข้ึน ปฏิบัตเิ ช่นเดยี วกับขอ้ 2 - 3 ทำสลับเท้าซ้ายและขวา
เมอ่ื ต้องการเปล่ยี นเท้าเดนิ สวนสนามเปน็ ปกตใิ ห้ใชค้ ำบอกวา่ “เดนิ ตามปกติ”

การทำความเคารพขณะเดินสวนสนาม
การจดั สถานทบี่ ริเวณสวนสนามดา้ นหน้าผู้เป็นประธานในพิธหี รือผรู้ ับการเคารพ จะมีธง

ปกั เปน็ เครอื่ งหมาย 3 ธง คือ
ธงที่ 1 (ธงสเี หลือง) ปกั ห่างจากจุดทำความเคารพ 20 กา้ ว
ธงท่ี 2 (ธงสเี ขยี ว) ปกั หา่ งจากจุดทำความเคารพ 10 ก้าว
ธงที่ 3 (ธงสีแดง) อย่ถู ัดผ้รู ับความเคารพไปอกี 10 กา้ ว

การทำความเคารพในขณะเดินสวนสนาม จะปฏิบัติดงั นี้
1. เมอ่ื คนทางขวาของแถวเดินถึงธงแรก ผบู้ อกแถวบอก “ระวงั ” ลกู เสอื ตบเท้าแขง็ แรง

และอยูใ่ นระเบียบอย่างดที ส่ี ุด
2. เมอ่ื ใกลธ้ งที่ 2 ใหผ้ ู้บอกแถวบอกวา่ “แลขวา – ทำ” ผ้บู อกวนั ทยาหัตถ์สะบดั หน้า

แลขวา ตาจับผู้รับทำความเคารพส่วนลูกเสอื สะบดั หนา้ แลขวา ตาจบั ผู้รบั การเคารพมือไม่แกวง่ คน
ขวาสุดของแต่ละตบั แลตรงรักษาแถวให้ตรงไว้

3. เมอ่ื พ้นธงท่ี 3 สะบดั หน้าแลตรง เลิกทำความเคารพเองและแกวง่ แขนตามปกติ
5. เมือ่ ธงคณะลูกเสือแหง่ ชาติ ธงคณะลกู เสือจงั หวัดผา่ นมากบั ขบวนลูกเสอื สวนสนาม

ใหผ้ ู้บงั คบั บัญชาทกุ คนที่อยตู่ รวจพลสวนสนามแสดงความเคารพ

26

การทำความเคารพของผู้ถือธงและถือป้าย
ธงต่าง ๆ หมายถึงธงลูกเสือแห่งชาติ ธงลกู เสอื ประจำจังหวัด ธงประจำกล่มุ หรือกอง

ลูกเสอื (เวน้ ธงระจำหมลู่ กู เสือ)
กรณีที่ 1 เวลาอยูก่ ับที่
ใหถ้ ือธงด้วยมอื ขวา โคนธงจรดกบั พืน้ ประมาณโคนน้ิวขวา คนั ธงแนบกับลำตวั อยู่ใน

รอ่ งไหล่ขวา เวลาทำความเคารพ เมือ่ เพลงสรรเสริญพระบารมเี ริม่ บรรเลงให้ผถู้ ือธงทำความเคารพ
ด้วยทา่ ธงตดิ ต่อกนั ไปดงั น้ี

1. เอามือซา้ ยไปจับคนั ธงเหนือมือขวาและชิดมือขวา แล้วยกคันธงขึน้ ด้วยมือซ้ายให้
เสมอแนวบ่า จนข้อศอกซ้ายต้ังไดม้ มุ ฉาก ขณะเดยี วกันมือขวาก็จับที่โคนคันธงและเหยียดตรง
แลว้ ทำกงึ ขวาหนั

2. คอ่ ย ๆ ลดปลายคนั ธงลงช้า ๆ ตามจังหวะเพลง จนคนั ธงขนานกับพ้ืน มอื ซ้ายอยู่
เสมอแนวบ่าห่างตวั พอสมควร มือขวาจบั คนั ธงโรยลง แขนเหยียดตรงไปตามคันธง(เมื่อบรรเลง
ไปได้ครึ่งของเพลง)

3. ครน้ั แลว้ ให้ยกปลายคนั ธงขนึ้ ทา่ เคารพชา้ ๆ ใหไ้ ดจ้ งั หวะเชน่ เดยี วกบั ขาลงเมือ่ เพลง
สรรเสรญิ พระบารมจี บ กใ็ ห้ลดธงลงในท่าตรงตามเดิม

4. แล้วให้ลดมือซ้ายกลบั ที่และทำขวาหนั กลบั ทเี่ ดมิ
กรณที ่ี 2 เวลาเคล่อื นท่ี
ใหแ้ บกธงด้วยบ่าขวา มอื ขวาจับด้ามธงห่างจากโคนธงพอสมควร ศอกขวาแนบลำตัว
ทำมุม 90 องศากับลำตวั

27

แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามญั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
แผนการจัดที่ 5 เรอ่ื ง การช่วยเหลือผู้อ่ืน จำนวน 1 ชวั่ โมง

จดุ ประสงค์ 1. แสดงวิธปี ฐมพยาบาลบาดแผลท่ีเกดิ จากแมลงหรอื สัตวม์ ีพิษกัดตอ่ ยได้

2. แสดงวธิ ปี ฐมพยาบาลเมอื ถูกแดดเผา ไฟลวก น้ำรอ้ นลวก และเปน็ ลมได้

เนอ้ื หา การช่วยเหลือผู้อน่ื

1. การปฐมพยาบาลเม่อื ถูกแมลงหรอื สัตวม์ ีพิษกัดต่อย

2. การปฐมพยาบาลเมอื ถกู แดดเผา ไฟลวก นำ้ ร้อนลวก และเปน็ ลม

กิจกรรมการเรยี นการสอน

1. พิธีเปดิ ( ธงขึ้น สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก ) 10 นาที

2. เกม “ เชอื้ โรคติดต่อ ” 5 นาที

3. สอนตามเน้ือหา 30 นาที

- แบ่งกลุ่มเรยี นเป็นฐาน ให้ผู้กำกบั อธบิ ายและสาธติ แล้วให้ลกู เสอื ปฏบิ ัติดงั น้ี

ฐานท่ี 1 การปฐมพยาบาลเม่ือแมลงมีพิษกัดต่อย

ฐานท่ี 2 การปฐมพยาบาลเมือ่ ถกู งูและสนุ ัขกัด

ฐานท่ี 3 การปฐมพยาบาลเม่ือถกู แดดเผา ไฟลวก นำ้ รอ้ นลวก

ฐานท่ี 4 การปฐมพยาบาลเมื่อคนเป็นลม

4. เลา่ เรื่องส้นั ท่เี ป็นคติ 5 นาที

5. พิธีปดิ ( นดั หมาย ตรวจเคร่อื งแตง่ กาย ธงลง เลิก ) 10 นาที

สอ่ื การเรียนการสอน

อปุ กรณ์ 1. ภาพแมลงและสัตวท์ ี่มพี ษิ

2. แผนภมู ิเพลง

การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. การสงั เกต

2. การทดสอบ

3. ระบบหมู่

4. ความสำเรจ็ ของงาน

บันทึกหลังกาสอน…………………….……………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา…………………………………………………………….…

…………………………………………………………………………………………………….…

28
การปฐมพยาบาล

การปฐมพยาบาล คือ การช่วยเหลอื เบ้ืองต้นแก่ผ้ทู ่ีได้รบั บาดเจ็บจากอุบตั ิเหตุ หรือ
จากการเจบ็ ปว่ ย เพื่อ

1. ช่วยชีวิตผปู้ ่วย
2. ชว่ ยมใิ หผ้ ปู้ ่วยตอ้ งทพุ พลภาพ
3. เพอ่ื ใหห้ ายเป็นปกตไิ ด้โดยเร็ว
หลกั ทั่วไปของการปฐมพยาบาล
1. อยา่ ตื่นเต้นตกใจ
2. ปฏิบัตกิ ารดว้ ยความรวดเรว็ ว่องไว และละเอยี ดรอบครอบ
3. ปลอบใจผปู้ ว่ ยใหส้ งบ ใหค้ วามอบอุ่น นอนในท่าสบาย ไม่ขัดต่อการ
ปฐมพยาบาล
4. ขยายเคร่ืองแต่งกายให้หลวม เพ่อื ผูป้ ว่ ยจะไดห้ ายใจสะดวก
5. อย่าใหค้ นมามุงดู
6. รีบตดิ ต่อแพทย์หรือพยาบาลที่อยใู่ กลท้ ีส่ ดุ แล้วรีบนำสง่ สถานพยาบาล

โดยเร็วทสี่ ุด
7. พยายามอย่าให้ผู้ป่วยทราบวา่ ตนเองอาการสาหัส หรืออยา่ ใหผ้ ูป้ ว่ ยเห็น

บาดแผลของตนเอง
8. พยายามปฐมพยาบาลตอ่ สิ่งทเ่ี ปน็ อันตรายมากเสยี ก่อน เชน่ การห้ามเลือด

ก่อนท่ีจะใหก้ ารปฐมพยาบาลกระดกู หกั ต่อไป
9. ถา้ ผู้ไดร้ ับบาดเจ็บมอี าการอาเจยี น ให้ผู้ป่วยนอนศีรษะตำ่ ตะแคงหน้าไป

ขา้ งใดข้างหนง่ึ เพื่อกนั มิให้สงิ่ ทีอ่ าเจียนเขา้ ไปในหลอดลม หรอื ปอด
ข้อควรระวงั

อยา่ ลืมชว่ ยผายปอดเมื่อจำเปน็ เช่น มกี ารหยุดหายใจ
อย่า ลมื เอาฟนั ปอมหรอื หมากฝรงั่ ฯลฯ ออกจากปากผู้ป่วยทห่ี มดสติ
อย่า ปลอ่ ยให้เลอื ดไหลออก โดยไมม่ กี ารหา้ มเลือด
อย่า ลมื สงั เกตอาการช็อกที่มีอยู่
อย่า ให้ผ้ปู ว่ ยที่สลบและหมดสตดิ ่ืมนำ้ หรือกินยา
อย่า แตะต้องบาดแผลของผู้ปว่ ยด้วยมือที่ไมส่ ะอาด ปิดบาดแผลด้วยผ้า

สะอาดกอ่ นนำสง่ แพทย์
อย่า ทำให้ผวิ หนงั ของผูบ้ าดเจบ็ พองไหม้ เพราะการวางกระเป๋าน้ำร้อนหรือ

29
ขวดน้ำร้อนโดยไมห่ ่อหุ้มก่อน
อยา่ เคล่ือนยา้ ยผู้ปว่ ยทีก่ ระดูกหกั หรอื สงสยั ว่ากระดกู หัก โดยไม่ไดเ้ ข้าเฝือก
ชั่วคราวไว้เสยี กอ่ น
อย่า เคลอ่ื นย้ายผู้ปว่ ยโดยไมจ่ ำเปน็ เพราะอาจทำให้อันตรายเพ่ิมมากขนึ้

วธิ กี ารปฐมพยาบาลผู้ป่วย

1. วิธีปฐมพยาบาลบาดแผลธรรมดา
1.1 ปลอ่ ยให้เลือดออกจนเห็นว่าแผลสะอาดพอสมควรแล้ว ใหใ้ ช้ยาฆ่าเชือ้
โรค เช่น แอลกอฮอล์ 70 % หรือทงิ เจอร์ไอโอดีน ทารอบ ๆ
บาดแผล
1.2 ปล่อยให้แหง้ แลว้ ใสย่ าแผลสด เช่น ยาแดง

2. วธิ ีปฐมพยาบาลผถู้ กู ไฟไหม้หรือน้ำรอ้ นลวก
ก. แผลทถี่ กู ของรอ้ นลวกไมแ่ ตก
1. ใชข้ ีผ้ งึ้ วาสลินบรสิ ทุ ธ์ิ นำ้ มันพชื ป้ายแผล
2. ปิดดว้ ยผ้ากอ็ ส หรือผ้าพนั แผล 2 ชั้น เพื่อป้องกนั มใิ หถ้ กู อากาศ
ภายนอก และเพอื่ ช่วยบรรเทาความเจ็บปวด หรือปวดแสบปวด
รอ้ น
3. ถ้าถูกลวกทมี ือ ระหว่างทห่ี าเคร่ืองช่วยปฐมพยาบาลอยู่นั้น ให้เอา
มือไปแชใ่ นนำ้ อ่นุ เพื่อระงับความเจ็บปวด
4. ถ้าไม่มีขึน้ ผงึ้ เราอาจใชผ้ งโซดาเชอื้ ขนมปงั ผสมน้ำเหลว ๆ ทาบน
ผ้าก็อส หรือผา้ บาง ๆ ปดิ ปากแผล
ข. แผลไฟไหม้เกรียมดำ หนงั และเนอื้ พอง
1. ใช้ผา้ กอ็ สจุ่มน้ำผสมกรดแทนนิค 5 %
2. ถ้าไม่มยี าดังกลา่ ว ให้ใชผ้ า้ กอ็ สที่ฆา่ เช้ือโรค แลว้ ชบุ นำ้ ดีเกลอื หรือ
โซดาเชื้อขนมปงั ผสมน้ำกไ็ ด้
3. ขณะแตง่ บาดแผล ควรใช้ชอ้ นสะอาด หรอื ถว้ ยสะอาดฆา่ เชอื้ โนค
แลว้ ตักกรดผสมน้ำรดแผลจนกว่าแพทย์จะทำการรักษา
4. ถา้ หากคนไข้กระหายนำ้ ให้ด่มื เพียงเล็กน้อย อย่าดมื่ นำ้ มากนกั
และก็อย่าใหน้ ้ำเย็นจัด

3. วิธีปฐมพยาบาลคนเป็นลม
การเป็นลมเน่ืองมาจากเลอื ดไปเล้ยี งสมองน้อยชัว่ คราว สาเหตุเน่ืองจากรา่ งกาย

ออ่ นเพลยี ควรปฐมพยาบาลดังน้ี

30
3.1 ใหผ้ ู้ปว่ ยนอนลงใหศ้ ีรษะต่ำกว่าเท้า ถ้าคนเจ็บกำลงั โงนเงนจะลม้ อย่า
ใหล้ ้มเปน็ อันขาด
3.2 ให้ศรี ษะของผ้ปู ่วยนอนตะแคงข้างใดขา้ งหน่งึ เพือ่ ป้องกนั ไม่ให้ล้ินตก
ลงไปปิดทางเดนิ หายใจ
3.3 ช่วยคลายเข็มขัดหรือเสื้อผ้าของผปู้ ่วยใหห้ ลวม ๆ เพ่ือจะได้หายใจได้
สะดวก
3.4 นำผ้ปู ่วยเข้าไปอยู่ในรม่ หรือในทที่ ีม่ กี ำบงั แสงแดด
3.5 ถา้ มีเสมหะหรอื เศษอาหารติดอยู่มาก ใหเ้ อามือหรอื ผ้าเชด็ หน้าพันนิว้
ล้วงเข้าไปให้เสมหะ หรือเศษอาหารนั้นออกมาใหไ้ ด้
3.6 ดูอาการคนไข้ คนเป็นลมธรรมดาจะฟนื้ ภายใน 1 – 2 นาที ถา้ เปน็ ลม
นานกว่า 5 นาทีข้ึนไป ให้รีบนำสง่ แพทย์
3.7 ใหด้ มยาเพ่ือกระตุ้นให้คนไข้รู้สึกตัว ห้ามรบั ประทานยาหรือน้ำจนกวา่
จะรสู้ ึกตัว

4. วธิ ปี ฐมพยาบาลผปู้ ่วยที่ถูกงูกดั
4.1 ต้องตรวจดูรอยเขย้ี วงูทีบ่ าดแผล ถา้ หากเปน็ งูพษิ กดั จะมรี อยเขี้ยวที่
บาดแผลลึกอยู่ 2 รอย และบาดแผลจะมีลกั ษณะเขี้ยวชำ้ ๆ ด้วยพิษงู ถ้า
เป็นงูท่ไี ม่มีพษิ ขอบเข้ียวทบี่ าดแผลจะมีลักษณะแผลลึกเทา่ ๆ กัน เป็น
ลกั ษณะของฟนั ธรรมดา
4.2 ถ้ารู้วา่ ถูกงูพษิ กัด ให้ใชเ้ ชือกรัดเหนือบาดแผล ห่างแผลประมาณ 4 – 5
ซม.ระหว่างบาดแผลกบั หวั ใจ ระวงั อยา่ ให้แน่นเกนิ ไปจะเกดิ อาการ
บวม
4.3 พยายามบบี โลหติ บริเวณบาดแผลใหอ้ อกมาก ๆ อาจจะใชม้ ีดคม ๆ กีด
ปากแผลให้กว้าง แล้วบบี โลหติ ออกใหม้ ากท่ีสุด การรีดพษิ งูอาจจะใช้
ปากสะอาด ๆ ดูดทบี่ รเิ วณปากแผลก็ได้ ควรดดู ตดิ ตอ่ กันทกุ ๆ คร่งึ
ชวั่ โมง
4.4 ลา้ งบาดแผลดว้ ยดา่ งทบั ทมิ แก่ ๆ หรอื ใช้เกล็ดด่างทับทมิ ปดิ แผล
4.5 ถ้าคนไขม้ ีอาการเป็นลม ควรใหด้ ื่มกาแฟแก่ ๆ หรอื ชาร้อน ๆ ห้ามดม่ื
สรุ าเป็นอันขาด
4.6 รบี นำผู้ป่วยส่งแพทยใ์ ห้เร็วท่ีสดุ

31

5. วิธปี ฐมพยาบาลแมลงกดั ตอ่ ย
5.1 ต้องพยายามเอาเหล็กไนออกเสยี ก่อน ถา้ หากมลี ูกกญุ แจที่มรี ูอยตู่ รงปลาย

ให้เอาปลายลกู กญุ แจกดลงท่ีตรงเหลก็ ไนฝงั อยู่ เหล็กไนกจ็ ะโผล่ขึ้นมา ใชป้ ากคีมคบี ออกมา
5.2 เมอ่ื เหลก็ ไนออกแล้ว ใช้สำลีชบุ นำ้ ยาทเ่ี ปน็ ด่างอ่อน ๆ เชน่ แอมโมเนยี
โซดาคาร์บอเนต น้ำปูนใส หรือนำ้ เกลือ ปิดแผลไว้
5.3 ถา้ หากมอี าการปวด ให้รบั ประทานยาแก้ปวด
5.4 ถ้าถกู แมลงกดั หรือต่อยบริเวณคอ หรือใบหน้าจนบวม ทำให้หายใจไม่
สะดวก ควรรบี นำส่งแพทย์ทำการรักษาโดยเร็ว

6. วิธปี ฐมพยาบาลแมงมุมกัด
6.1 ใช้เชอื กรดั บริเวณเหนอื บาดแผล เพอ่ื ปอ้ งกนั มใิ ห้พิษไหลเขา้ สหู่ วั ใจ
6.2 ใชป้ ากสะอาดดูดบาดแผลแล้วบว้ นพษิ ทง้ิ หรือใช้มดี กรดี ปากแผลให้
กวา้ ง แล้วบบี โลหติ ออกเพ่ือรดี พิษแมงมมุ ออกก็ได้
6.3 ใช้เหลก็ เผาไฟแล้วจีท้ บี่ าดแผล เพอื่ ทำลายพิษก็ได้
6.4 ทาแผลดว้ ยทิงเจอร์ไอโอดีน
6.5 ถ้าบริเวณแผลบวมมาก ใช้ถุงน้ำแข็งประคบอาการจะยุบเรว็ ขึ้น
6.6 ถ้าชพี จรเดินเบา อาจใชย้ าบำรงุ หวั ใจกไ็ ด้

7. วธิ ปี ฐมพยาบาลผิวหนังถลอก
7.1 ใช้ยาฆ่าเช้อื อ่อน ๆ ชะล้างแผลหรอื ใช้แอลกอฮอล์ชบุ สำลเี ชด็ แผลให้
สะอาด อย่าใชน้ ำ้ ล้างแผล เพราะอาจทำให้เลือดไหลออกมาได้
7.2 ใช้ยาทาแผลสดใหท้ ว่ั บริเวณผิวหนงั ที่ถลอก อาจไมต่ อ้ งใชผ้ า้ ปดิ
บาดแผลก็ได้ถ้าบาดแผลนั้นไมอ่ ยใู่ นตำแหน่งที่สกปรกหรอื ถกู นำ้ ไดง้ ่าย

8. วธิ ปี ฐมพยาบาลขอ้ เท้าแพลง
ข้อเทา้ แพลงเน่อื งจากข้อตำ่ ทขี่ ้อเท้าเทา้ เคล่ือนออกจากกัน แล้วกลับเขา้ ทเ่ี ดิม

ความเจ็บปวดยงั มอี ยู่ เพราะกลา้ มเนอื้ ส่วนนน้ั ถกู กระทบกระเทอื นมากเกินไป การปฐมพยาบาล
ควรปฏิบัตดิ ังต่อไปน้ี

1. ใชค้ วามเยน็ ประคบบรเิ วณข้อต่อ เพื่อมใิ ห้โลหิตตกภายในมากเกินไป จะ
เปน็ ผลทำให้หายเรว็ ยง่ิ ขึน้

2. ให้อวัยวะส่วนนน้ั ไดอ้ ย่นู ่ิง โดยใชผ้ ้า Bandage พนั หรอื จะให้อวยั วะ
สว่ นน้นั อยู่นิง่ ๆ ในทา่ ที่ผ้ปู ่วยไม่บาดเจบ็

3. เม่ือครบ 24 ชัว่ โมงแลว้ ให้ใช้นำ้ มันนวดบรเิ วณที่เจ็บปวดน้นั



32 ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 5
จำนวน 1 ชัว่ โมง
แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญ
แผนการจดั ท่ี 6 เรื่อง การช่วยเหลอื ผอู้ ื่น (ตอ่ )

จุดประสงค์ 1. บอกช่อื สถานท่ีสำคัญในทอ้ งถ่นิ ได้

2. ชีแ้ นะนำทางไปยงั สถานทสี่ ำคัญในท้องถ่ินได้

เนื้อหา

สถานท่ีสำคัญในท้องถ่ิน

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

1. พธิ เี ปดิ ( ธงขึ้น สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก ) 10 นาที

2. เกม “ แข่งขนั เขียนชอ่ื สถานทสี่ ำคัญ 5 นาที

3. สอนตามหลกั สตู ร 30 นาที

3.1 ผู้กำกบั อธิบายถงึ สถานทสี่ ำคญั ในท้องถิ่นเกย่ี วกับทต่ี ้งั ระยะทางและการเดนิ ทาง

3.2 ผู้กำกบั หรอื ลูกเสอื รุ่นพ่นี ำลูกเสือไปสำรวจสถานทส่ี ำคัญในทอ้ งถน่ิ แล้วกลับมา

รายงาน

3.3 ผูก้ ำกับและลกู เสืออภิปรายสรุปถึงเสน้ ทางที่เดินทางไปสำรวจสถานทส่ี ำคญั

เสนอแนะสถานทท่ี ่ลี ูกเสอื ยังไม่ไดอ้ ภิปรายเพิม่ เตมิ

3.4 ใหล้ ูกเสอื ช่วยกนั ทำแผนที่สถานท่สี ำคญั ในทอ้ งถนิ่ ไวใ้ นสถานทท่ี เี่ หมาะสม

(เพือ่ สะดวกสำหรับผ้มู าขอรับความช่วยเหลอื ในการให้บรกิ าร)

3.5 ร้องเพลง “ลกู เสือชว่ ยเหลือกนั ”

4. เลา่ เรื่องสั้นท่เี ป็นคติ 5 นาที

5. พิธีปิด ( นดั หมาย ตรวจเครอื่ งแตง่ กาย ธงลง เลกิ ) 10 นาที

สื่อการเรียนการสอน

อปุ กรณ์ 1. แผนท่ี

2. แผนภูมเิ พลง

การวดั ผลและประเมินผล 1. การสังเกต

1.1 ความสนใจ

1.2 การเขา้ ร่วมกิจกรรม

2. ตรวจผลงาน แผนทส่ี ถานทส่ี ำคญั ในท้องถิ่น

33
บนั ทึกหลงั การสอน…………………….……………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………….…
ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา…………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………….…

34

สถานทสี่ ำคญั ในท้องถ่ิน
เพ่อื ประโยชนใ์ นการใชบ้ ริการของสถานท่ีตา่ ง ๆ ในท้องถิน่ ท่เี ราอาศัยอยู่ หรือบริเวณ
ใกล้เคียงได้อย่างถกู ตอ้ ง ควรจะมกี ารสำรวจและการเยือนสถานท่ีดงั ตอ่ ไปนี้
1. สถานทีป่ ระกอบพิธีทางศาสนา เช่น วดั มัสยิด คริสตจกั ร ศาลเจา้ ฯลฯ
2. สถานทร่ี าชการ เช่น ทท่ี ำการเทศบาล ทท่ี ำการสภาตำบล สถานอี นามัย
สถานรี ถไฟ สถานีตำรวจ สถานีดับเพลิง การประปา ไปรษณีย์ เรือนจำ ฯลฯ
3. สถานทส่ี ำคญั ต่าง ๆ เช่น สถานทสี่ ำคญั ทางประวัตศิ าสตร์ โบราณสถาน
สถานทที่ อ่ งเที่ยว
4. สถานทบ่ี รกิ ารอน่ื ๆ เช่น ทา่ เรอื สถานท่ีจอดรถโดยสาร ทา่ อากาศยาน
5. ทพ่ี ักอาศยั บุคคลสำคัญของท้องถิ่น เช่น บ้านพกั กำนัน ผใู้ หญ่บา้ น บา้ นพกั
หัวหน้าสถานีอนามัย
สิง่ ทล่ี กู เสือจะต้องสังเกต จดจำ เพอ่ื ประโยชน์ในการช้ีแนะและนำทางไปยังสถานที่
สำคัญในท้องถ่นิ ประกอบด้วย
1. ช่ือสถานท่ี
2. ตรอง/ถนน ตำบล เขต/อำเภอ จงั หวัด
3. ชอื่ ผรู้ บั ผิดสอบสถานท่ี หมายเลขโทรศพั ท์
4. รายละเอียดลกั ษณะสถานที่ ใหบ้ อกรายละเอยี ดว่าเป็นสถานทที่ ำอะไร เช่น

สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น อาคาร สำนักงาน
5. ความสำคัญของสถานที่ ให้บอกรายละเอยี ดวา่ สำคัญในทางใด ให้บริการ

อะไรบา้ ง
6. ประวัตพิ นื้ บ้าน เช่น นทิ าน ตำนาน เพลงพนื้ บา้ นเกย่ี วกับสถานท่ีนัน้ ๆ หรอื เล่า

ดว้ ยจะดีมาก

35

ตัวอยา่ งแบบรายงานการสำรวจ

ช่ือสถานที่ …………………………ตัง้ อยู่ที่ ตรอก/ถนน……………………………
ตำบล……………อำเภอ……………………..จังหวดั …………………………………………….
ช่ือผรู้ บั ผิดชอบสถานท่ี…………………………………………โทรศัพท์……………………….

ลักษณะสถานที่………………………….การเดินทางจากจุดทีก่ ำหนดให้ระยะทาง
…………กิโลเมตร อยู่ทางทิศ……………เดนิ ทางโดย………….ใช้เวลาเดินทางประมาณ……
ชัว่ โมง………..นาที สถานท่หี รือสิ่งที่อยู่ใกล้เคียงกอ่ นถึง…………………………………..

ความสำคญั ของสถานท่ี รายละเอียดในการใหบ้ ริการทางใดบา้ ง………………..
……………………………………………………….

ลงชือ่ ………………………………………..ผูร้ ายงาน
วันที่ …..เดือน……………พ.ศ………….

36

แผนการจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5

แผนการจัดที่ 7 เร่อื ง การรจู้ ักดูแลตนเอง จำนวน 1 ช่วั โมง

จดุ ประสงค์ 1. แสดงวิธบี รรจสุ งิ่ ของลงเครื่องหลงั ได้

2. เตรยี มเคร่ืองปัจจุบันพยาบาลเปน็ ส่วนตวั สำหรับเดนิ ทางไกลได้

เนอ้ื หา 1. การบรรจสุ ง่ิ ของตา่ ง ๆ ลงในเคร่ืองหลงั สำหรบั การไปอยู่ค่ายพกั แรม

2. การเตรียมเครื่องปัจจบุ ันพยาบาลเป็นสว่ นตัวสำหรับการเดินทางไกล

กิจกรรมการเรยี นการสอน 10 นาที
1. พิธเี ปดิ ( ธงข้ึน สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก ) 5 นาที
2. เกม “ หนกู บั แมว ”

3. สอนตามเนื้อหา 30 นาที

3.1 กำกับและลูกเสอื ร่วมกันอภิปรายเก่ยี วกับเครื่องใช้ที่จำเปน็ ในการอย่คู า่ ยพกั แรม

3.2 ผกู้ ำกับอธิบายและสาธิตการบรรจุเคร่ืองหลงั

3.3 ผกู้ ำกับอธบิ านถึงความสำคญั ของเคร่ืองปจั จุบนั พยาบาล และส่ิงทค่ี วรเตรยี ม

3.4 ใหแ้ ตล่ ะหมู่ไปทำบัญชีรายชือ่ ตามรายการต่อไปน้ี แล้วนำมารายงาน

- เครื่องใช้สว่ นตัว

- เครื่องปจั จุบันพยาบาล

3.5 ใหล้ กู เสือเล่นเกมทดสอบ “ เกมเก็บของลงเครอื่ งหลงั ”

4. เลา่ เรื่องส้ันท่เี ป็นคติ 5 นาที
5. พธิ ปี ดิ ( นัดหมาย ตรวจเครื่องแต่งกาย ธงลง เลิก ) 10 นาที

สือ่ การเรียนการสอน 1. เคร่ืองหลัง
2. เครื่องปจั จบุ ันพยาบาล

3. เครื่องใชท้ ่ีจะนำไปอยคู่ า่ ยพกั แรม

4. แผนภูมเิ พลง

การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. การสงั เกต การรายงานผลงาน
2. การทดสอบ - แสดงวธิ เี ก็บของลงเคร่ืองหลงั

บนั ทกึ หลังการสอน…………………….……………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศึกษา…………………………………………………………….…

…………………………………………………………………………………………………….…

37

การบรรจุสง่ิ ของลงในเครอื่ งหลัง

เคร่ืองหลัง (ยา่ ม) ในการเดินทางไกลระยะส้ัน ๆ ใช้เวลาไม่นาม ลกู เสืออาจไมต่ ้องเตรยี ม
อาหารไปรบั ประทาน ถ้าไปไกลและใชเ้ วลานานถงึ ครง่ึ วนั กจ็ ะตอ้ งเตรยี มอาหารสำเรจ็ รูปไป
รบั ประทาน เช่น ขา้ วห่อ ขา้ วต้มมดั หรืออาหารห่ออยา่ งอ่นื ในกรณีเชน่ นีล้ ูกเสือจะต้องมี
เคร่ืองหลัง (ยา่ ม) เพื่อใส่อาหารสำเร็จรูปและสง่ิ ของจำเปน็ อน่ื ๆ นอกจากนี้ควรมีกระติกนำ้ ท่ี
สะอาดไปรบั ประทานด้วย

ในการเดินทางไกลขั้นตอ่ ไป ลูกเสือจะต้องนำภาชนะหงุ ตม้ และอาหารสด อาหารแห้งไป
ประกอบอาหารรบั ประทานเอง
หลักในการบรรจุเครอ่ื งหลัง

1. ของทจ่ี ะใช้ทีหลังควรจดั ลงกอ่ น เช่น ผ้าห่ม เส้ือลำลอง ถุงเทา้ ฯลฯ
2. ของทจ่ี ะใชก้ อ่ นควรจัดลงบรรจุทหี ลงั ของประเภทเคร่อื งครวั เป็นต้น
3. เสอ้ื กนั ฝน กล่องยา ไฟฉาย ควรเอาไว้หลังสดุ จะได้อย่ขู า้ งบนเวลาใชจ้ ะได้หยบิ

ออกใช้ไดง้ า่ ย
การเตรียมเคร่อื งปัจจบุ ันพยาบาลส่วนตัวสำหรบั การเดินทางไกล

ในการปฏิบตั กิ จิ กรรมเดินทางไกล บางครง้ั ลกู เสอื อาจเกิดอาการเจบ็ ป่วยหรือไม่สบาย
ดังนน้ั ควรเตรียมเคร่ืองปจั จุบนั พยาบาลสว่ นตัวไปด้วย ดังน้ี

1. ยาประเภทต่าง ๆ เชน่ ยาลม ยาแกป้ วดลดไข้ ยาแกป้ วดท้อง ฯลฯ
2. อปุ กรณป์ ฐมพยาบาลเชน่ ผา้ พันแผล ผา้ ก๊อซ สำลี ฯลฯ

38 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
จำนวน 1 ชัว่ โมง
แผนการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามัญ
แผนการจัดที่ 8 เร่ือง การร้จู กั ดแู ลตนเอง ( ตอ่ )

จดุ ประสงค์ กอ่ ไฟปรุงเคร่อื งดืม่ รอ้ น และปรงุ อาหารงา่ ย ๆ นอกสถานที่ได้

เนื้อหา การรู้จักดแู ลตนเอง ( ตอ่ )

- การก่อไฟ

- การปรุงเครือ่ งด่ืมรอ้ น

- การปรงุ อาหารอยา่ งงา่ ย ๆ

กจิ กรรมการเรียนการสอน

1. พิธเี ปิด ( ธงขนึ้ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก ) 10 นาที

2. สอนตามหลกั สตู ร 35 นาที

2.1 ผู้กำกบั อธบิ ายถึง สาธติ วธิ กี อ่ ไฟ ปรุงเคร่ืองดม่ื ร้อน และปรงุ อาหารอย่างง่าย ๆ

2.2 ใหล้ กู เสือแต่ละหมไู่ ปฝกึ ในเวลาท่ีกำหนดให้ แลว้ รายงาน

3. เลา่ เรื่องส้ันทเี่ ป็นคติ 5 นาที

4. พิธปี ดิ ( นดั หมาย ตรวจเครอื่ งแตง่ กาย ธงลง เลกิ ) 10 นาที

สื่อการเรียนการสอน 1. ถ่าน ฟืน เช้ือฟืน ไม้ขดี เตาประดิษฐ์

2. อปุ กรณ์ปรุงเคร่ืองด่ืมร้อน

3. อปุ กรณใ์ นการประกอบอาหาร

4. แผนภูมิเพลง

การวัดผลและประเมนิ ผล 1. การสงั เกต

2. ตรวจผลงาน การก่อไฟ ปรงุ เครอ่ื งด่มื ร้อน และปรุงอาหารอย่างง่าย ๆ

นอกสถานท่ี

บันทึกหลังการสอน…………………….…………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศึกษา…………………………………………………………….…

…………………………………………………………………………………………………….…

39

แผนการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามญั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5

แผนการจดั ที่ 9 เรอ่ื ง การรูจ้ ักดแู ลตนเอง ( ต่อ ) จำนวน 1 ชวั่ โมง

จุดประสงค์ 1. กางเต็นทแ์ ละเกบ็ เต็นท์ได้

2. อยู่ค่ายพกั แรมอย่างน้อย 1 คืนได้

เน้อื หา การรูจ้ ักดูแลตนเอง

1. การกางเต็นท์สำหรบั พกั แรมในการเดินทางไกล

2. การอยคู่ า่ ยพักแรม

กิจกรรมการเรียนการสอน 10 นาที
1. พธิ ีเปิด ( ธงข้ึน สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก )

2. เกม “ สบิ ทาง ” 5 นาที

3. สอนตามหลกั สตู ร 30 นาที

3.1 แบ่งลกู เสือเรยี นตามฐาน โดยผูก้ ำกบั อธบิ ายและสาธติ แล้วให้ลูกเสือฝกึ ปฏิบัติ

ฐานที่ 1 การกางเต็นท์ และเก็บเต็นท์

ฐานที่ 2 การเลอื กสถานทีใ่ นการกางเต็นท์และอยคู่ ่ายพกั แรมและปฏบิ ตั ิตน

เฉพาะอยู่ค่ายพกั แรม

3.2 เพลง “ ค่ายพักแรม ”

3.3 ผกู้ ำกับนัดลูกเสือให้มาอยู่คา่ ย

4. เล่าเร่ืองสนั้ ทีเ่ ป็นคติ 5 นาที

5. พิธีปิด ( นัดหมาย ตรวจเครื่องแตง่ กาย ธงลง เลิก ) 10 นาที

สอื่ การเรียนการสอน 1. เต็นท์ชนิดต่าง ๆ พรอ้ มอปุ กรณ์ ( ถา้ ไมม่ เี ต็นทห์ ลายชนดิ ใช้เตน็ ท์เพียง

ชนิดเดียวกไ็ ด้ )

2. รูปภาพเต็นท์ชนดิ ต่าง ๆ

3. แผนภูมิเพลง

การวัดผลและประเมนิ ผล 1. การสังเกต
2. การทดสอบ

บันทกึ หลงั การสอน…………………….…………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ ารสถานศึกษา…………………………………………………………….…

…………………………………………………………………………………………………….…

40

เตน็ ท์
เต็นท์มีอย่หู ลายชนดิ ทงั้ ทีน่ อนไดค้ นเดียวหรือมากกวา่ ขน้ึ ไป มีช่ือเรียกตา่ ง ๆ กันไป เชน่
เตน็ ท์กระแบะ เต็นท์กระโจม หรอื เต็นทช์ าวคา่ ย เปน็ ต้น สิง่ สำคญั ในการเลือกเต็นทเ์ พ่อื ไปอยู่
ค่ายพักแรมนัน้ เต็นท์จะต้องมนี ้ำหนกั เบา ไม่หนกั จนเกนิ ไป เหมาะท่จี ะนำไปกับตวั เองหรือหมู่
ลูกเสือของตนเองได้
อุปกรณท์ ่ีใชส้ ำหรับประกอบเตน็ ท์

1. เสาหลกั อาจทำด้วยโลหะหรือไม้ก็ได้มีความสงู พอประมาณตามลกั ษณะของเต็นท์
2. สมอบก ทำด้วยไม้หรือโลหะยาวประมาณ 1 ฟุต มปี ระมาณ 8 - 10 ตวั หรือ

มากกว่ากไ็ ดต้ ามลักษณะของเตน็ ท์
3. เชอื กร้อยหเู ตน็ ท์ เป็นเชือกยาวขนาด 1 - ½ ฟุต สำหรับรอ้ ยหูเตน็ ท์ผกู ตดิ กบั

สมอบก
4. เชอื กดงึ เสาหลกั เป็นเชือกขนาดยาวประมาณ 3 เมตร สำหรบั ผกู กบั ยอดเสาหลัก

แลว้ ดงึ ผกู กับสมอบก
การเลือกสถานท่กี างเต็นท์

1. เป็นทุง่ ราบโปร่ง มหี ญ้าข้นึ เขยี วขจี ลาดเอยี งบา้ งเลก็ นอ้ ย
2. อยูไ่ ม่ไกลแหลง่ นำ้
3. ไมเ่ ป็นแอ่ง หรือลุ่มนำ้ หรือหบุ เขา ที่นำ้ ขังหรืออาจท่วมถงึ
4. ไม่อยู่ใตต้ น้ ไม้ใหญ่ เพราะอาจเกดิ อันตรายเวลาเกิดพายุและอากาศไมด่ ีในตอน

กลางคนื
5. พนื้ ตอ้ งราบเรยี บ ไมข่ รขุ ระหรอื มีสิง่ แหลมคม อันอาจจะกอ่ ให้เกิดอันตราย
วธิ กี างเตน็ ท์
1. ถา้ เปน็ ฤดูหนาวหรือฤดูฝน ให้หันดา้ นหลังของเตน็ ทใ์ หก้ บั ทศิ ทางลม ถา้ เปน็ ฤดู
รอ้ นให้ประตูเต็นทส์ ู่ทิศทางลม
2. ตัง้ เสาหลกั ท้ังสองข้นึ
3. ใชเ้ ชือกผกู เสาหลกั แล้วดงึ เชือกขงึ ผูกกับสมอบกใหต้ ึง
4. ตอกสมอบกท่มี ุมเต็นท์ท้ังสี่
6. ใชเ้ ชอื กร้อยหูเต็นท์ผูกดึงกับสมอบกใหช้ ายเตน็ ท์ตึง
การปฏบิ ตั ิขณะอยู่ค่ายพักแรม
1. ปลดเครื่องหลังออกวางเป็นหมู่
2. แบง่ หน้าทีแ่ กห่ มู่เพอ่ื สรา้ งค่ายพัก
3. ปรับท่ีสร้างค่ายพกั


Click to View FlipBook Version