เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนหาดใหญว่ ทิ ยาลยั ก
หน้า
คำนำ
เอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชีพ) เล่มน้ี จัดทาขึ้น
ตรงตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ สาระที่ 1 การดารงชีวิต
และสาระที่ 2 การอาชีพ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ประกอบด้วยหน่วยการเรียนรู้ 2 หน่วย คือ หน่วย
ที่ 1 การประกอบธรุ กิจ และหน่วยที่ 2 โครงงานอาชพี
ขอขอบคุณ ดร.อุดม ชูลีวรรณ ผู้อานวยการโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย และรองผู้อานวยการ
ทุกกลมุ่ บรหิ าร ท่ีสนบั สนุนงบประมาณและเปน็ ขวัญกาลงั ใจในการปฏิบัตงิ าน ขอขอบคุณ หวั หน้ากลุ่ม
สาระการเรียนรู้ และครูกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพทุกคน ท่ีให้การช่วยเหลือ ให้คาแนะนา และ
ขอ้ เสนอแนะ จนเอกสารเล่มนสี้ าเร็จลุลว่ งด้วยดี
ขอขอบพระคุณนักวิชาการทุกท่านท่ีไดอ้ ้างถึงในบรรณานุกรม ท่ีผู้จัดทาได้นาผลงานของท่านมา
เรียบเรียงและสังเคราะห์เพ่ือใช้ในการจัดการเรียนรู้ และใช้ในการอ้างอิงในการจัดทาเอกสาร
ประกอบการเรียนเล่มนีเ้ ปน็ อยา่ งสูง
เอกสารเล่มนี้ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย หากมีข้อเสนอแนะ
ประการใด ผ้จู ัดทายินดนี อ้ มรับไว้ดว้ ยความขอบคณุ ยิง่ และจะแกไ้ ขให้ดขี น้ึ ในโอกาสต่อไป
สมหมาย พงศ์เศรษฐ์กุล
กล่มุ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี โรงเรียนหาดใหญ่วทิ ยาลัย
มนี าคม 2565
เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ิทยาลยั ข
หนา้
สำรบัญ หน้า
เรื่อง ก
ข
คานา 1
สารบญั 2
คาขแ้ี จงการใชเ้ อกสารประกอบการเรยี น 3
คาแนะนาการใช้เอกสารประกอบการเรยี น 4
คาอธบิ ายรายวชิ า 5
โครงสร้างรายวิชา 6
แบบบนั ทึกการออกแบบการเรียนรู้
หน่วยที่ 1 การประกอบธรุ กิจ 7
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลังเรยี น 12
ธรุ กจิ ทั่วไป 32
ธุรกจิ ออนไลน์
ธรุ กจิ SMEs 34
แบบฝึกหัด
บรรณานุกรม 41
หนว่ ยที่ 2 โครงงานอาชพี 42
แบบทดสอบก่อนเรยี น/หลงั เรยี น 43
โครงงานอาชีพ 44
แบบฟอรม์ ต่าง ๆ ท่ใี ช้ในการทาโครงงานอาชีพ 49
กิจกรรม 62
บรรณานุกรม 94
95
เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชีพ) ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ทิ ยาลยั 1
หน้า
คำชแ้ี จงกำรใช้เอกสำรประกอบกำรเรยี น
รำยวิชำ ง23102 กำรงำนอำชีพ 3 (โครงงำนอำชพี )
กลุ่มสำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชีพ ชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี 3
-------------------------------------------
เอกสารประกอบการเรียนวชิ า ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) เล่มน้ีเป็นแนวทางการ
ประกอบการเรยี นของนักเรียน และการสอนของครู ตลอดจนใชเ้ ป็นแนวทางสาหรบั ผทู้ ่สี นใจท่วั ไป
เอกสำรประกอบกำรเรียนเล่มน้ีประกอบดว้ ย
1. คาแนะนาในการใช้เอกสารประกอบการเรยี น
2. คาอธิบายรายวชิ า
3. โครงสร้างรายวิชา
4. ภาระงาน
5. แบบทดสอบก่อนเรียน
6. รายละเอยี ดเนื้อหา
7. กิจกรรม
8. แบบฝึกหดั
9. แบบทดสอบหลังเรยี น
10. บรรณานุกรม
เนอื้ หาวิชาประกอบด้วยเอกสารประกอบการเรยี นจานวน 2 หนว่ ยดังนี้
1. เอกสารประกอบการเรียนหน่วยท่ี 1 เร่ือง ความรู้เรือ่ งการประกอบธุรกิจ
2. เอกสารประกอบการเรยี นหน่วยที่ 2 เรื่อง โครงงานอาชีพ
เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลยั 2
หน้า
คำแนะนำกำรใช้เอกสำรประกอบกำรเรียน
เอกสารประกอบการเรียนเล่มน้ี เป็นเอกสารที่นักเรยี นสามารถศกึ ษาได้ด้วยตนเอง สามารถ
เรียนรไู้ ด้ตลอดเวลา โดยปฏบิ ัตติ ามข้นั ตอนดงั นี้
1. ศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้เพ่อื ให้ทราบวา่ เม่ือจบหนว่ ยการเรยี นรแู้ ตล่ ะหนว่ ยแลว้ นักเรียนมี
ความรู้ ทกั ษะ และคณุ ลักษณะด้านใดบ้าง
2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพ่ือประเมนิ พ้นื ฐานของตนเองว่ามีความรใู้ นหน่วยนั้นมากนอ้ ย
เพยี งใด
3. ศึกษาเอกสารประกอบการเรียน ทาแบบฝึกหดั และกิจกรรม ท่ีกาหนดไว้เพ่ือเป็นการ
ทบทวนให้มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในเนือ้ หาหน่วยการเรยี นรู้นั้นมากยิ่งข้นึ
4. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น เพื่อวัดความก้าวหนา้ หลงั การเรียนรู้
5. นักเรียนตอ้ งมีความซือ่ สัตยต์ ่อตนเอง โดยไมเ่ ปดิ เอกสารพลิกไปมาระหวา่ งทาแบบฝึกหัด
การทาแบบฝึกหัดไมใ่ ชก่ ารลอกเน้ือหาจากเลม่ แตเ่ ป็นการสังเคราะห์องค์ความรู้ท่ีได้ไปตอบใหต้ รงกับ
คาถาม
6. นกั เรียนทาใบกิจกรรมตามที่กาหนด เพื่อฝึกทกั ษะกระบวนการคดิ และการประยกุ ต์ใช้
ความรใู้ ห้เกิดประโยชน์
7. นกั เรยี นสามารถศกึ ษาเนือ้ หาเพมิ่ เติมไดจ้ ากบรรณานุกรมท้ายเลม่
เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรียนหาดใหญว่ ทิ ยาลยั 3
หนา้
คำอธิบำยรำยวิชำพนื้ ฐำน
รหัสวิชำ ง23102 ชื่อวิชำ กำรงำนอำชพี (โครงงำนอำชีพ)
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ กำรงำนอำชพี
ช้ันมัธยมศกึ ษำปที ่ี 3 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 20 คำบ จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
ศึกษา อภิปรายความหมาย และวัตถุประสงค์ของธุรกิจ ธุรกิจในชีวิตประจาวัน ธุรกิจ SMEs
และธุรกจิ ออนไลน์ วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ทางเลือกในการประกอบอาชีพ และการทาโครงงานอาชพี
ฝึกทักษะการทางานร่วมกัน การจัดการ การแสวงหาความรู้ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
การสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับอาชพี และการจัดทาโครงงานอาชีพ
เพ่ือให้เกิดนิสัยในการทางานด้วยความรับผิดชอบ ขยัน อดทน ประหยัดและอดออม ซ่ือสัตย์
ตรงต่อเวลา มีจิตสาธารณะ มีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพสุจริต และดารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง มที กั ษะในการส่ือสาร และการใช้เทคโนโลยี
รหัสตวั ช้ีวดั
ง 1.1 ม.3/1-3
ง 4.1 ม.3/1-3
เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ิทยาลยั 4
หน้า
โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ ง23102 กำรงำนอำชพี (โครงงำนอำชพี ) ชนั้ มัธยมศึกษำปีท่ี 3
ครูผสู้ อน นำงสมหมำย พงศ์เศรษฐก์ ุล
คณุ ลักษณะ/ ภาระงาน/ คะแนน
สมรรถนะ
ท่ี ชอ่ื หนว่ ย เนื้อหาสาระ จดุ ประสงค์ ชิน้ งาน K P A คาบ
คาบ
1 การ 1.ธุรกิจทว่ั ไป 1.อธิบายความหมาย ซ่ือสัตย์ -ทดสอบ 5 10 2 4
ประกอบ 2.ธุรกิจ SMEs ประโยชน์และรปู แบบธรุ กจิ มีวนิ ัย -แบบฝกึ หัด
ธุรกจิ 3.ธรุ กิจออนไลน์ ได้ ใฝ่เรยี นรู้ -กิจกรรม
2.อธิบายความหมาย การส่ือสาร
ประโยชน์และลักษณะธรุ กิจ การคิด
SMEs ได้ การใช้
3.อธิบายวธิ กี ารจดั ทาธุรกิจ เทคโนโลยี
ออนไลน์ได้
2 โครงงาน 1. ความรู้เบอื้ งตน้ 4.อธิบายความหมาย ซอื่ สัตย,์ มีวนิ ยั , - ทดสอบ 15 30 6 12
อาชพี เก่ียวกับโครงงาน ความสาคญั และประเภทของ ใฝเ่ รียนรู,้ อยู่ -แบบฝกึ หัด
2.การเขยี นเคา้ โครงงานได้ อย่างพอเพยี ง -ปฏบิ ตั งิ าน
โครง โครงงาน 5.วางแผนการจดั ทาโครงงาน มุ่งม่นั ในการ โครงงาน
อาชีพ ได้ ทางาน -รายงาน
3.การปฏบิ ตั งิ าน 6.ปฏิบตั ิงานโครงงานอาชพี รักความเป็น โครงงาน
โครงงานอาชีพ ได้ ไทย 5 บท
4.การทาบญั ชี 7.เขยี นรายงานโครงงาน มจี ิตสาธารณะ -กิจกรรม
5.การเขยี น อาชพี 5 บทได้ถูกตอ้ ง การส่อื สาร
รายงานโครงงาน 8.นาเสนอโครงงานอาชพี ได้ การคิด
อาชีพ การแก้ปญั หา
6.การนาเสนอ ทักษะชวี ติ
โครงงานอาชพี การใช้
เทคโนโลยี
3 บูรณาการ การนาหลกั ปรชั ญา 9.นาหลักปรัชญาของ อยู่อย่าง กิจกรรม 10 2 2
เศรษฐกจิ ของเศรษฐกิจ เศรษฐกจิ พอเพยี งมา พอเพียง
พอเพยี ง พอเพยี งมา ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั มุ่งมนั่ ในการ
ประยกุ ต์ใชใ้ น และอาชพี ทางาน
ชีวิตประจาวนั และ ทักษะชวี ติ
อาชพี ทักษะการคดิ
รวมระหวา่ งภาค 20 50 10 18
กลางภาค/ปลายภาค 20 2
รวม 100 20
เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลยั 5
หน้า
แบบบนั ทึกกำรออกแบบกำรจดั กำรเรยี นรู้
รหสั วิชำ ง23101 รำยวิชำ กำรงำนอำชพี ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 3
คณุ ครูผ้สู อน นำงสมหมำย พงศเ์ ศรษฐ์กุล กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ กำรงำนอำชีพ
อัตรำสว่ นคะแนนระหวำ่ งภำค: ปลำยภำค 80: 20
.
เชค็ คะแนน(100)
หนว่ ย ช่อื หน่วยการ มาตรฐาน/ ภาระงาน/ คะ ภาระ ระหว่าง กลาง ปลาย
ที่ เรยี นรู้ ตวั ช้ีวดั ชน้ิ งาน แนน งานทไ่ี ม่สง่ ภาค ภาค ภาค
แลว้ ตดิ ร
1 การประกอบ ง 1.1 การทาธรุ กจิ
ธุรกจิ ม.3/1-3 ออนไลน์ -- 17 - 6
2 โครงงานอาชีพ ง 1.1 รายงาน 20 - 53 - 14
10 - -
ม.3/1-3 โครงงาน 5 บท 80 - 20
ง 2.1
ม.3/1-3
3 บรู ณาการ ง 1.1 การปฏบิ ัตติ น -
เศรษฐกิจ ม.3/1-3 ตามหลัก
พอเพียง ง 2.1 ปรัชญาของ
ม.3/1-3 เศรษฐกจิ
พอเพยี ง
รวมคะแนน
เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญ่วทิ ยาลยั 6
หนา้
หนว่ ยท่ี 1 กำรประกอบธุรกิจ
ความหมายของธรุ กจิ
ธรุ กจิ ทว่ั ไป
รปู แบบของธรุ กิจ ประโยชนข์ องธุรกจิ
กำรประกอบธุรกจิ
ความหมายของธรุ กิจออนไลน์ ความหมายของ SMEs
ธรุ กจิ ออนไลน์ ธรุ กจิ SMEs
องคป์ ระกอบของธรุ กจิ ออนไลน์ ประเภทของธรุ กจิ ออนไลน์ ลกั ษณะของ ประโยชน์
ธรุ กิจ SMES
เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรยี นหาดใหญ่วทิ ยาลยั 7
หนา้
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลังเรยี น
เร่อื ง กำรประกอบธรุ กิจ
คำชแี้ จง ขอ้ สอบมี 2 ตอน ตอนท่ี 1 เป็นแบบปรนยั เลือกตอบ จานวน 20 ข้อ
ตอนท่ี 2 เป็นแบบจับคู่ จานวน 10 ข้อ
ตอนท่ี 1 จงเลือกคาตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพียงคาตอบเดยี ว แล้วทาเครอ่ื งหมายกากบาท (X)
ลงในกระดาษคาตอบ
1. จุดมุ่งหมายสาคัญที่สดุ ของการประกอบธุรกิจคือข้อใด
ก. ชือ่ เสียงของธรุ กิจ ข. การขยายกจิ การ
ค. ผลกาไร ง. ความเจริญเติบโตทางธุรกิจ
2. ขอ้ ใดมใิ ช่ประโยชนข์ องการประกอบธรุ กิจ
ก. ช่วยกระจายสินคา้ จากผู้ผลิตไปยงั ผ้บู รโิ ภค
ข. เปน็ แหล่งตลาดแรงงาน
ค. จดั หาสินค้าที่ไมจ่ าเปน็ มาสนองความต้องการของมนุษย์
ง. เปน็ แหล่งเพิม่ รายไดใ้ หแ้ ก่รฐั บาล
3. การประกอบธรุ กิจท่มี ีขบวนการแปรรปู วตั ถุดบิ ให้เปน็ สินคา้ หมายถึงขอ้ ใด
ก. ธรุ กิจการเงิน ข. ธรุ กิจบริการ
ค. ธุรกจิ อตุ สาหกรรม ง. ธรุ กจิ ขายส่ง
4. ข้อใดมีความหมายวา่ “กาไร”
ก. Social Responsibilities ข. Growth
ค. Loss and Profit ง. Profit
5. ข้อใดคือคุณสมบตั ขิ องนักธุรกิจ
ก. มคี ุณธรรมจริยธรรม ข. มีภาวะผนู้ า
ค มกี ารพฒั นาตนเองอยู่เสมอ ง. ถกู ทุกข้อ
6. ในแตล่ ะวนั คนส่วนมากเก่ียวข้องกบั ธรุ กจิ ประเภทใดนอ้ ยทีส่ ุด
ก. ธรุ กจิ อตุ สาหกรรม ข. ธรุ กิจบรกิ าร
ค. ธรุ กจิ พณิชยกรรม ง. ธรุ กจิ การเงิน
7. ข้อใดไมใ่ ช่บทบาทของธุรกิจต่อระบบเศรษฐกจิ
ก. สร้างงาน ข. ลดช่องวา่ งทางรายได้
ค. ทาใหม้ ลพษิ ลดลง ง. นาเงนิ ตราตา่ งประเทศเข้ามา
8. ขอ้ ใดไมใ่ ชค่ วามรบั ผิดชอบตอ่ สังคมภายนอกของธุรกจิ
ก. ควบคมุ มลพิษของกิจการ ข. มจี รรยาบรรณธุรกจิ
ค. ผลติ สินคา้ ทม่ี ีความปลอดภยั ง. จา่ ยสวสั ดิการพนกั งานดี
เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรยี นหาดใหญ่วิทยาลยั 8
หน้า
9. การผลติ สินคา้ ที่ใชแ้ รงงานในครอบครวั ซึ่งมกั จะเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นธรุ กจิ ประเภทใด
ก. อตุ สาหกรรมขนาดใหญ่ ข. อตุ สาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม
ค. การพาณชิ ยกรรม ง. การบรกิ าร
10. ปัจจัยสาคญั ใดท่ีต้องพิจารณาในการเลือกรูปแบบการประกอบธรุ กิจ
ก. ความยากง่ายของการก่อตง้ั ข. การรักษาความลับของธุรกิจ
ค. ความคล่องตัวในการดาเนินการ ง. ถูกทุกขอ้
11. กจิ การใดเหมาะสาหรับธุรกจิ เจา้ ของคนเดยี ว
ก. ประกันภยั ข. รา้ นอาหาร
ค. โรงพยาบาล ง. หา้ งสรรพสนิ ค้า
12. ห้างหุ้นส่วนใดจดั เป็นนติ บิ ุคคลตามกฎหมาย
ก. ห้างหุ้นสว่ นสามญั ทีม่ ไิ ด้จดทะเบยี น ข. หา้ งหุ้นส่วนสามญั จดทะเบียน
ค. หา้ งหุ้นส่วนจากดั ง. ถกู ทั้ง ข และ ค
13. ลกั ษณะของบริษัทจากัด ขอ้ ใดผดิ
ก. ผกู้ อ่ ตั้งไมน่ อ้ ยกวา่ 3 คน ข. การบริหารงานซับซ้อน
ค. มลู ค่าหุ้นหนง่ึ ๆ ไมต่ ่ากว่า 5 บาท ง. รบั ผดิ ชอบหนี้สนิ ไมจ่ ากดั จานวน
14. ลกั ษณะสาคญั ของสหกรณ์คือขอ้ ใด ข. มวี ตั ถปุ ระสงค์ของการดาเนินงาน
ก. เปน็ องค์การของรัฐ ง. ไมต่ ้องจดทะเบียน
ค. มีการรวมคนตงั้ แต่ 7 คนข้ึนไป
15. ธรุ กจิ แฟรนไชส์ ถือกาเนิดในประเทศใด ข. ประเทศไทย
ก. ประเทศสหรฐั อเมริกา ง. ประเทศเยอรมนั
ค. ประเทศญี่ปุ่น
16. ขอ้ ใดเปน็ การเตรียมความพร้อมพน้ื ฐานในการเปดิ รา้ นค้าออนไลน์
ก. สมศักดิ์วเิ คราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก
ข. สมบรู ณต์ งั้ ชือ่ ร้านที่มคี วามหมายเป็นมงคล
ค. สมบัติออกแบบบรรจุภณั ฑ์ใหมใ่ หท้ ันสมัยกว่าบรรจภุ ัณฑ์เดิม
ง. สมชายจัดเตรียมอปุ กรณส์ มารท์ โฟนและคอมพิวเตอร์ เชือ่ มต่อระบบอินเตอรเ์ น็ตพร้อมสมัคร
อีเมลเพอื่ ยืนยนั ตนเองในการรบั ข้อมูลข่าวสารหรือคาสั่งซื้อ
17.ร้านค้าออนไลน์ทดี่ จี าเป็นจะต้องมีข้อมลู รา้ นค้า เพื่อชแี้ จงข้อมูลใหแ้ กผ่ ูบ้ ริโภค ข้อมูลใดต่อไปนไ้ี มม่ ี
ความจาเปน็ ทจ่ี ะต้องแจง้ ให้ผ้บู ริโภคทราบ
ก. ทอี่ ยู่ทสี่ ามารถติดต่อได้
ข. อเี มลของผูจ้ าหน่ายสนิ คา้
ค. เบอรโ์ ทรศัพท์ของผจู้ าหน่ายสินค้า
ง. เลขที่บตั รประชาชนของผูจ้ าหนา่ ยสนิ คา้
เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ิทยาลยั 9
หน้า
18. ถ้านกั เรียนต้องการประกอบธุรกิจรา้ นค้าออนไลน์ โดยตง้ั เปา้ หมายวา่ จะขายสนิ ค้าให้กบั กลุม่ ลกู ค้าท่ี
เปน็ ผสู้ ูงอายุ นกั เรียนควรจะขายสินค้าชนดิ ใดจึงจะเหมาะสม
ก. สนิ คา้ ทีเ่ กย่ี วข้องกับอาหาร ข. สนิ ค้าที่เกี่ยวข้องกบั สมนุ ไพร
ค. สินคา้ ทีเ่ กย่ี วข้องกบั เทคโนโลยี ง. สินคา้ ท่ีเกี่ยวข้องกบั ความสวยงาม
19. ในกรณีท่ีผปู้ ระกอบการธุรกจิ ต้องการทาการตลาดดว้ ยการสง่ เสรมิ การขาย ใหล้ ูกค้ากลบั มาซ้ือซา้ อีก
ดงั นนั้ วิธใี ดเปน็ การส่งเสรมิ การขายท่ไี ดผ้ ลมากทส่ี ดุ
ก. โฆษณาผา่ นเฟซบกุ๊
ข. โฆษณาโดยใช้แบนเนอรผ์ ่านเวบ็ ไซต์
ค. สง่ จดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ขอ้ เสนอโปรโมชน่ั ใหม่
ง. ตดิ ต่อลกู ค้าเดิมเสนอขอ้ เสนอพิเศษผ่านทาง Line@
20. สมมติวา่ นักเรยี นเปดิ ร้านค้าออนไลน์เพอื่ จาหน่ายแชมพสู มุนไพร นกั เรียนเป็นเจ้าของและดูแล
ร้านคา้ ออนไลน์ดว้ ยตวั เอง กิจกรรมต่อไปน้ี ขอ้ ใดจัดเป็นกจิ กรรมที่ดีที่สุดสาหรับวธิ ีการดแู ลรา้ นค้า
ออนไลนข์ องนกั เรียน
ก. นกั เรยี นจะมาดรู ้านค้าออนไลนอ์ าทิตย์ละหน่ึงครงั้
ข. นกั เรียนจะเขา้ มาร้านค้าออนไลนเ์ ฉพาะเมื่อมีลูกคา้ ซื้อสินคา้
ค. นักเรยี นจะเข้าตอบคาถามลกู ค้าในรา้ นคา้ ออนไลนเ์ ดือนละครัง้
ง. นักเรียนจะประชาสมั พนั ธข์ ่าวสารหรอื โปรโมช่นั ของสินค้าใหม่ ๆ อยู่ทกุ วันในรา้ นคา้ ออนไลน์
21. ธุรกจิ ขนาดกลางและธุรกิจขนาดย่อมแบ่งออกได้ 3 ประเภทคือ
ก. ธรุ กิจการผลติ ข. ธรุ กิจการบรกิ าร
ค. ธรุ กิจการค้าหรอื ธุรกิจการจัดจาหนา่ ยสินคา้ ง. ถูกทกุ ข้อ
22. ธุรกิจท่ที าหน้าที่เป็นพ่อค้าคนกลางในการนาสนิ ค้าจากผผู้ ลิตเพื่อไปจาหน่ายต่อลูกค้าถา้ เปน็ พ่อค้าก็
จะนาสนิ คา้ ไปขายต่ออกี ทอดจะเรยี กธรุ กจิ ค้าสง่ ข้อใด.
ก. ห้างเทสโกโ้ ลตัส ข. หา้ งแมค็ โค
ค. ร้านค้าสง่ ง. ถูกทุกข้อ
ใช้ตัวเลอื กต่อไปน้ีตอบคาถามขอ้
ก. 200 ล้านบาท ข. 100 ลา้ นบาท
ค. ไม่เกิน 50ล้านบาท ง. ถกู ทกุ ขอ้
23. ธรุ กิจขนาดกลางประเภทธุรกิจการผลติ แบ่งตามมูลคา่ ชั้นสงู ของสินทรัพยถ์ าวรไม่เกนิ กล่ี ้านบาท.
24. ธรุ กิจขนาดย่อมประเภทการบรกิ ารแบ่งตามมูลค่าชนั้ สงู ของสินทรพั ยถ์ าวรไม่เกนิ กลี่ ้านบาท.
เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรียนหาดใหญว่ ทิ ยาลยั 10
หนา้
25. ธรุ กิจขนาดกลางประเภทธุรกจิ คา้ สง่ แบง่ ตามมูลค่าช้นั สูงของสนิ ทรัพย์ถาวรไม่เกนิ ก่ีล้าน.
ใชต้ ัวเลือกตอ่ ไปนีต้ อบคาถามขอ้
ก. ไมเ่ กนิ 50 คน ข. 51-200 คน
ค. 26-50 คน ง. 16-30 คน
26. ธรุ กิจขนาดกลางประเภทธรุ กจิ การผลติ แบง่ ตามจานวนการจ้างงานก่ีคน
27. ธุรกิจขนาดย่อมประเภทธรุ กิจการผลิตแบง่ ตามจานวนการจ้างงานกีค่ น.
28. ธุรกจิ ขนาดกลางประเภทธรุ กิจการคา้ สง่ แบ่งตามจานวนการจ้างงานกีคน.
29. ข้อใดคือลักษณะที่ดีของผู้ประกอบการ.
ก. มีความคิดร่ิเร่มิ สรา้ งสรรค์
ข. มีความกลา้ เสี่ยงต่อความสาเรจ็ ลม้ เหลว
ค. รู้จักแสวงหาความรู้ในการทางาน มีความรบั ผิดชอบตอ่ งาน ผลกระทบต่อสงั คม
ง. ถกู ทกุ ข้อ
30. ปัจจยั ด้านการตลาดทผ่ี ู้ประกอบการสามารถควบคมุ ไดป้ ระกอบด้วย.
ก. ตัวสนิ ค้า ข. ราคา
ค. สถานท่ีจาหน่าย การสง่ เสรมิ ตลาด ง. ถูกทุกข้อ
เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ิทยาลยั 11
หนา้
กระดำษคำตอบ
แบบทดสอบก่อนเรยี น/หลังเรยี น
หน่วยท่ี 1 กำรประกอบธุรกิจ
ชอ่ื -สกุล.............................................เลขที่.............ชั้น.............
กระดาษคาตอบ กระดาษคาตอบ
แบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบทดสอบหลังเรียน
ขอ้ ก ข ค ง ขอ้ ก ข ค ง
1 1
2 2
3 3
4 4
5 5
6 6
7 7
8 8
9 9
10 10
11 11
12 12
13 13
14 14
15 15
16 16
17 17
18 18
19 19
20 20
21 21
22 22
23 23
24 24
25 25
26 26
27 27
28 28
29 29
30 30
สรุปคะแนนก่อนเรียน
สรปุ คะแนนหลงั เรยี น
30 30
เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลยั 12
หน้า
เอกสำรประกอบกำรเรียนรู้ เวลาเรยี น
12 ช่วั โมง
ช่ือวิชำ กำรงำนอำชพี (โครงงำนอำชพี )
รหสั วชิ า ง23102
ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 3
หนว่ ยท่ี 1 ธรุ กิจทว่ั ไป
สำระกำรเรยี นรู้
1. ความรู้เบื้องเตน้ เกย่ี วกับธรุ กิจ
2. ธุรกิจ SMEs
3. ธุรกจิ ออนไลน์
ตัวชวี้ ัด
1. อภปิ รายขน้ั ตอนการทางานที่มีประสิทธิภาพ
2. ใช้ทักษะในการทางานรว่ มกนั อย่างมีคณุ ธรรม
3. อภิปรายการทางานโดยใช้ทกั ษะการจดั การเพือ่ การประหยดั พลงั งาน ทรัพยากร และ
สิง่ แวดล้อม
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรสู้ ูต่ วั ชี้วัด
1.อธิบายความหมาย ประโยชน์และรปู แบบธุรกิจได้
2.อธบิ ายความหมาย ประโยชน์และลักษณะธุรกจิ SMEs ได้
3.อธบิ ายวิธีการจดั ทาธุรกจิ ออนไลนไ์ ด้
4. เพอ่ื ให้ร้จู กั วิเคราะห์และวางแผนการทางานในชีวติ ประจาวัน มีนิสยั รักการทางาน ทางาน
ร่วมกบั ผอู้ ื่นได้ มีคุณธรรมในการทางาน และสามารถพ่ึงตนเองได้
เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนหาดใหญว่ ทิ ยาลยั 13
หน้า
เนอื้ หำ
ธุรกิจทัว่ ไป
ควำมหมำยของธุรกจิ
ธุรกจิ (Business) หมายถึง การกระทากิจกรรมของมนุษย์อย่างต่อเน่ืองเกีย่ วกบั การผลิต การ
จาหน่าย การซื้อขายแลกเปล่ียนและการให้บริการโดยหวังผลกาไรตอบแทนและมีผลความเส่ียงต่อการ
ขาดทุน
ธุรกิจ อาจหมายถึง บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มบุคคลท่ีทางานร่วมมือกันในการผลิต การ
จาหนา่ ย จ่ายแจก การแลกเปลย่ี นสินค้าหรอื บริการเพื่อตนเองและสงั คมโดยมุ่งหวังกาไรเปน็ ส่งิ ตอบแทน
หรืออาจกล่าวได้อีกว่า ธุรกิจเป็นองค์การท่ีให้สินค้าหรือบริการเพ่ือตอบสนองความต้องการของ
ลูกคา้ โดยหวงั กาไรเปน็ สิ่งตอบแทน
เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ิทยาลยั 14
หน้า
จุดม่งุ หมำยและประโยชน์ของธรุ กจิ
จดุ มุ่งหมำยของธุรกิจ
โดยทั่วไปธรุ กิจทกุ ประเภทมจี ุดมุง่ หมายดังตอ่ ไปน้ี
1. ต้องการมีกาไร (Profit)
ผปู้ ระกอบการทุกประเภทต้องการได้กาไรมากท่ีสุดกาไรคือผลตอบแทนของการลงทุนลง
แรง และเปน็ เคร่อื งจงู ใจใหก้ ระทากิจกรรมต่อไป ถา้ ธุรกจิ ไมม่ ีกาไร ธรุ กจิ จะไมส่ ามารถดาเนนิ การต่อไป
ได้ กาไรนีเ้ องทาให้ธุรกจิ สามารถปรบั ปรงุ พัฒนากิจการสินค้าและการบริการใหด้ ีขนึ้ ไปอกี และต้องการ
ทจ่ี ะขยายกจิ การของตนเองออกไปใหม้ ีความกา้ วหนา้ มัน่ คงขึ้นด้วย
2. ความอยูร่ อดและการขยายตวั ไดใ้ นระยะยาว
ธุรกิจนอกจากจะอยู่รอดแล้ว ธรุ กจิ จาเป็นต้องขยายขนาดของกิจการ ต้องผลิตสนิ คา้ หรอื
บรกิ ารเพิ่มขึ้น มีพนักงานเพ่ิมขนึ้ มีฐานะทางการเงนิ มนั่ คง มสี ินทรพั ยเ์ พิม่ ข้ึน
3. ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม
ธุรกจิ ตอ้ งให้ความเป็นธรรมต่อลกู ค้าและสังคม ต้องรบั ผิดชอบตอ่ สินคา้ ทตี่ นผลติ ตอ้ ง
รบั ผิดชอบต่อสภาพแวดลอ้ ม ต้องชว่ ยพัฒนาสังคมและชีวิตความเปน็ อยู่ ไมท่ าในส่งิ ท่ขี ัดกับกฎหมาย
หรอื ศีลธรรมอนั ดีงามของสงั คมนั้น ทั้งนีเ้ พราะสงั คมมีแต่การเอารัดเอาเปรยี บ ไมส่ งบสุข การทาธุรกิจก็
จะมีปญั หาดว้ ย
อน่ึง มีการประกอบธุรกิจบางประเภท ทไ่ี ม่ไดม้ ีวตั ถุประสงค์ในการหากาไรเป็นหลกั แต่เพอื่ ผลติ
สนิ คา้ และบริการให้แก่ประชาชน โดยมงุ่ หวังให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับความสะดวกสบายและรฐั มัก
ดาเนินการเอง ได้แก่ การประกอบธรุ กิจสาธารณปู โภคของไทย เชน่ การไฟฟ้า การประปา การรถไฟ
องค์การเภสชั กรรม เป็นตน้
เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลยั 15
หน้า
ประโยชน์ของธุรกิจ
ธุรกิจใหป้ ระโยชนแ์ ก่ประชาชนและเศรษฐกจิ โดยสว่ นรวม ดังนี้
1. ธรุ กจิ ผลิตสนิ คา้ และบรกิ ารเพ่ือสนองความต้องการของมนษุ ย์ในสงั คม
เน่ืองจากความต้องการของคนเราแตกต่างกัน และมีความต้องการไม่มีท่ีสิ้นสุด โดยความ
ตอ้ งการของคนเราจะเพ่ิมขน้ึ ตลอดเวลา เพ่ือสรา้ งความพงึ พอใจและความสะดวกสบายแก่ตนเอง ธุรกจิ
จงึ มหี น้าทีใ่ นการจัดหาส่งิ ต่าง ๆ มาสนองความต้องการดงั กล่าว
2. ธรุ กิจชว่ ยกระจายสินค้าจากผผู้ ลติ ไปสู่ผบู้ ริโภค
เมือ่ ธรุ กิจประเภทผลิตสินคา้ เช่น โรงงานอตุ สาหกรรมผลิตสนิ ค้าออกมาแล้ว การทส่ี ินคา้ จะ
กระจายไปสู่ผู้บริโภคได้นั้น จาเป็นต้องอาศัยธุรกิจประเภทอ่ืนช่วยกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภค
เป็นต้นว่า ธุรกิจการขนส่ง พ่อค้าคนกลาง การประชาสัมพันธ์ การบริการด้านการเงินของธนาคาร
การส่อื สาร ฯลฯ
3. ธุรกจิ เป็นแหลง่ ตลาดแรงงาน
ในการดาเนินธุรกิจ มีความจาเป็นต้องใช้แรงงาน เพ่ือทาการผลิตสินค้าและบริการ
ดังน้ัน การดาเนินธุรกิจจึงทาให้คนมีงานทา สามารถหารายได้เพ่ือเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ทาให้
ชีวติ ความเป็นอย่ขู องคนในสงั คมดีข้ึน นอกจากน้ันการทธ่ี ุรกิจกระจายไปอยู่ตามสว่ นต่าง ๆ ของประเทศ
ก็เป็นการกระจายรายได้และตลาดแรงงานไปสทู่ ้องถิ่นอกี ด้วย
4. ธรุ กจิ เป็นแหล่งเพม่ิ รายไดใ้ หแ้ กร่ ัฐบาล
เม่ือการดาเนินธุรกิจมีผลกาไร ผู้ประกอบธุรกิจก็มีหน้าที่เสียภาษีให้รัฐบาลตามที่กฎหมาย
กาหนด ทาให้รายได้ของรัฐเพ่ิมขึ้น และรายได้ดังกล่าวรัฐบาลนาไปใช้ในการพัฒนาประเทศ ได้แก่ การ
สรา้ งโรงพยาบาล ถนน โรงเรยี น ซ่ึงส่ิงเหลา่ นเ้ี ป็นการสร้างคุณภาพชีวิตให้เกิดแก่ประชาชน
5. ธรุ กจิ ชว่ ยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
ในการผลิตสินค้าและบริการของธุรกิจในระยะแรก ๆ ก็เพ่ือสนองความต้องการของ
ประชาชน แต่เม่ือธุรกิจขยายตัวเติบโตขึ้น สามารถผลิตสนิ คา้ และบริการได้มากจนเกินความต้องการของ
คนในประเทศ จึงส่งสินค้าออกไปจาหน่ายยังต่างประเทศ ทาให้รายได้เข้าสู่ประเทศ เป็นการพัฒนา
เศรษฐกจิ ของประเทศได้อกี ทางหน่งึ
เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนหาดใหญว่ ทิ ยาลยั 16
หน้า
รูปแบบของธุรกิจ
องค์กรธรุ กิจในประเทศไทยมีหลายรูปแบบ ผ้ปู ระกอบการสามารถเลือกรูปแบบการประกอบ
ธุรกิจใหเ้ หมาะสมกบั ตนเองได้ โดยจะต้องพจิ ารณาถึงความยากง่ายของการจดั ต้ัง ข้อดขี อ้ เสยี ของธุรกจิ
และการหาแหล่งเงนิ ทุน และสถานการณ์ทางเศรษฐกจิ
รปู แบบของธรุ กจิ จาแนกได้ดังนี้
1. กจิ การเจ้าของคนเดียว
2. กจิ การหา้ งหุ้นสว่ น
3. กจิ การบริษัท
4. กิจการสหกรณ์
5. รัฐวสิ าหกิจ
6. กิจการแฟรนไชส์
7. บรษิ ัทข้ามชาติ
เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนหาดใหญว่ ทิ ยาลยั 17
หนา้
1. กจิ กำรเจำ้ ของคนเดียว (Sole Proprietorship)
การดาเนินธรุ กิจประเภทน้ี เปน็ ธุรกจิ ท่มี มี าเปน็ เวลาช้านานและแพร่หลายทส่ี ดุ ในประเทศไทย
โดยเฉพาะธรุ กิจการค้าปลกี และการค้าส่ง ธุรกิจการใหบ้ รกิ ารธุรกจิ การเกษตรท่เี ป็นกจิ การขนาดเล็ก
การดาเนนิ งานกระทาได้งา่ ย เพราะมีบคุ คลเพยี งคนเดียวเปน็ เจ้าของ การตัดสินใจดาเนนิ งานมคี วาม
คล่องตัว กจิ การเจา้ ของคนเดยี วจงึ เป็นประเภทและชนิดของธุรกจิ ทผี่ ู้บรโิ ภคคนุ้ เคยและใกลช้ ดิ มากท่ีสดุ
จนถอื เป็นสว่ นหนึ่งของชีวติ ประจาวัน ได้แก่ ธรุ กจิ ค้าปลกี บนตกึ แถว ริมถนน หาบเรแ่ ผงลอย เช่น รา้ น
ขายอาหาร รา้ นขายของชา ร้านเสรมิ สวย รา้ นถา่ ยรูป รา้ นขายเสอื้ ผ้า เป็นตน้
ขอ้ ดแี ละข้อเสียของกิจกำรเจำ้ ของคนเดยี ว
ข้อดี ขอ้ เสีย
1. จดั ต้ังได้งา่ ย 1. เงินทุนจากัด
2. มอี สิ ระในการดาเนินงาน 2. มคี วามรับผดิ ไมจ่ ากดั
3. รกั ษาความลับของกจิ การได้ 3. ความผิดพลาดเกิดข้ึนได้งา่ ย
4. กฎระเบยี บและข้อบังคับมนี อ้ ย 4. กรณเี จ็บป่วยหรอื เสยี ชีวิต จะมผี ลทาให้
5. ผลกาไรไดร้ บั แต่เพยี งผูเ้ ดียว การดาเนนิ งานขาดความตอ่ เนอ่ื ง
6. การเลกิ กจิ การกระทาได้ง่าย 5. ขาดความเช่ือถือหรอื ขาดหลักทรพั ย์คา้
7. มีความใกล้ชิดและใหบ้ ริการแกล่ ูกคา้ ได้ ประกัน ทาใหห้ าแหล่งเงนิ ทนุ ได้ยาก
ดีกว่าธุรกจิ รปู แบบอน่ื 6. ไม่มีความมนั่ คงสาหรับลกู จา้ ง
เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ทิ ยาลยั 18
หน้า
2. กิจกำรหำ้ งห้นุ สว่ น (Partnership)
ห้างหุ้นสว่ น หมายถงึ การดาเนนิ ธรุ กจิ โดยการรว่ มกนั ของกลมุ่ บุคคลตง้ั แต่ 2 คนข้ึนไป ตกลง
ทีจ่ ะดาเนินธรุ กิจ โดยมวี ตั ถุประสงคท์ จ่ี ะแบ่งผลกาไรจากการดาเนนิ งาน
ลกั ษณะสาคัญของห้างหุ้นสว่ น มี 4 ประการคือ
1. มีสญั ญาระหวา่ งบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึน้ ไป สญั ญาจะทาดว้ ยวาจากไ็ ด้ ซ่งึ
กฎหมายมิไดบ้ งั คับให้ทาเป็นหนังสือ แตใ่ นทางปฏบิ ตั ิ สญั ญามกั จดั ทาเปน็ ลายลักษณ์อกั ษร
2. มีการตกลงรว่ มทุน คสู่ ญั ญาจะต้องมสี ่ิงหนง่ึ ส่ิงใดมาลงทนุ ไดแ้ ก่
เงนิ สด หรอื ทรพั ย์สิน เช่น เครอื่ งจักร สานกั งาน ทีด่ นิ ตลอดจนแรงงาน เปน็ ต้น
3. การกระทากจิ กรรมรว่ มกนั ผู้เป็นหนุ้ ส่วนจะต้องดาเนนิ ธรุ กจิ ท่จี ัดตงั้ ขึน้
รว่ มกัน
4. มีวัตถปุ ระสงค์แบ่งปันผลกาไรจากการร่วมทาธุรกจิ
ประเภทของหา้ งหนุ้ สว่ น
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ ห้างหุ้นส่วนแบง่ ออกได้ 2 ประเภท คือ
1. ห้างหนุ้ สว่ นสามัญ (Ordinary Partnership) หมายถึง ห้างห้นุ ส่วนท่ผี ลู้ งทนุ เข้าหุ้นทกุ คน
ต้องรับผิดในหนสี้ นิ ทง้ั ปวงของหา้ งหุ้นส่วนร่วมกันโดยไม่จากัดจานวน ห้างหนุ้ ส่วนสามญั จะจดทะเบียน
หรอื ไม่กไ็ ด้ หากไม่จดทะเบียนจะมีสภาพเปน็ ห้างหนุ้ สว่ นสามัญ แต่ถา้ จดทะเบยี นกจ็ ะมีสภาพเปน็ นิติ
บคุ คล ซ่งึ เรียกวา่ “หา้ งหนุ้ สว่ นสามัญนติ บิ ุคคล”(Registered Ordinary Partnership) ประกอบชือ่
เสมอไป
2. ห้างหนุ้ สว่ นจากดั (Limited Partnership) หมายถึง ห้างหุ้นส่วนทผี่ ้ปู ระกอบการจะต้อง
จดทะเบยี นเปน็ นิติบคุ คลเสมอ และจะต้องใช้คาว่า “ห้างหนุ้ ส่วนจากัด” ประกอบชอื่ ห้างเสมอ
ห้างหุ้นส่วนจากดั ประกอบด้วยหนุ้ สว่ น 2 ประเภท คอื
1. หุน้ ส่วนประเภทจากัดความรับผิด หมายถึง หนุ้ ส่วนท่รี ับผิดในหนส้ี ินของหา้ งเพยี ง
ไม่เกินจานวนท่ลี งทนุ ในหา้ งหุ้นส่วนนัน้
2. หนุ้ ส่วนประเภทไมจ่ ากัดความรับผดิ หมายถงึ หุ้นสว่ นทจ่ี ะต้องรบั ผิดในหนี้สนิ ของ
หา้ ง โดยไมม่ จี านวนจากัด หุ้นส่วนประเภทน้จี งึ มีสิทธทิ จี่ ะจดั การหรือบรหิ ารงาน
เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลยั 19
หน้า
ขอ้ แตกต่ำงระหว่ำงห้ำงหุ้นส่วนสำมัญและห้ำงหุน้ ส่วนจำกัด
ห้างหุ้นส่วนสามัญ หา้ งหุ้นสว่ นจากดั
1. ไมต่ ้องจดทะเบยี นหา้ งหุ้นสว่ น 1. ตอ้ งจดทะเบียนห้างหุน้ สว่ น
2. มสี ภาพเปน็ บคุ คลธรรมดา 2. มสี ภาพเปน็ นติ ิบุคคล
3. เปน็ หนุ้ ส่วนไมจ่ ากัดความรบั ผดิ 3. มีห้นุ สว่ น 2 ประเภท คือ หุ้นส่วน
4. หุ้นส่วนทุกคนเป็นผ้จู ัดการได้ ประเภทจากดั ความรับผดิ และไมจ่ ากดั
5. โอนห้นุ ไดย้ าก ความรับผิด
6. ความขดั แย้งมีมาก 4. ผจู้ ัดการจะมาจากหนุ้ ส่วนประเภทไม่
7. อายุของกิจการมีความต่อเนอ่ื งนอ้ ยกวา่ จากัดความรับผดิ
5. โอนหุ้นไดง้ ่าย
6. ความขัดแย้งมนี ้อย
7. อายขุ องกจิ การมีความต่อเนอื่ งมากกว่า
ขอ้ ดขี ้อเสียของกจิ กำรห้ำงหุ้นสว่ น
ขอ้ ดี ขอ้ เสยี
1. ก่อตง้ั ง่าย การก่อต้งั จะจดทะเบียน 1. ปัญหาความขดั แยง้
หรอื ไม่จดทะเบียนก็ได้ 2. ความรับผิดในหนสี้ ินไม่จากดั
2. เป็นการรวบรวมความรคู้ วามสามารถ 3. อายกุ ารดาเนนิ งานจากัด
3. มแี หลง่ เงินทนุ 4. การถอนหนุ้ ทาไดย้ าก
4. ความเชือ่ ถือของบุคคลภายนอก
5. การกระจายความเสยี หาย
เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ทิ ยาลยั 20
หนา้
3. กิจกำรบริษัทจำกดั และบรษิ ัทมหำชน (จำกัด)
บริษัทจำกัด (Limited Company) คือ กิจการท่ีก่อต้ังด้วยการแบง่ ทุนออกเป็นหุ้น แต่ละหุ้น
มมี ูลค่าเทา่ ๆ กนั ผ้ถู ือห้นุ แตล่ ะคนตา่ งรับผดิ จากัดเพียงไม่เกินจานวนเงนิ ที่ยังส่งใชไ้ ม่ครบตามมลู ค่าของ
หุ้นท่ีตนถืออยู่ ผู้ถือหุ้นจานวนมากมีสิทธ์ิในการบริหารงาน บริษัทแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ บริษัท
จากัด และบรษิ ัทมหาชน (จากัด)
ลักษณะสำคัญของบริษทั จำกัด
1. มีผู้ถอื หุ้นไม่นอ้ ยกว่า 3 คน
2. มลู คา่ ห้นุ ไม่ต่ากวา่ หุน้ ละ 5 บาท ซง่ึ จะต้องชาระคา่ หนุ้ ในครง้ั แรก
ก่อนจดทะเบียนตั้งบรษิ ทั ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 25 ของมลู คา่ หนุ้
3. มคี าว่า “บรษิ ัท” นาหน้าช่ือและต่อท้ายดว้ ยคาวา่ “จากดั ”
4. การบรหิ ารกจิ การเปน็ หน้าทีข่ องกรรมการบริษัท ที่ประชุมผูถ้ อื ห้นุ
เป็นเพียงผ้แู ต่งตัง้ หรือถอดถอนกรรมการบริษัท ตลอดจนกาหนดนโยบายและเงินปันผล
5. บรษิ ทั จะออกเอกสารให้กบั ผู้ถือห้นุ คือ ใบหนุ้
ข้อดขี ้อเสียของบริษัทจำกดั
ข้อดี ขอ้ เสยี
1. ผถู้ อื หนุ้ มีความรับผิดจากดั เพียงไมเ่ กิน 1. มีกฎหมายควบคุมทเ่ี คร่งครดั
มูลคา่ ห้นุ ทต่ี นยังคา้ งชาระ 2. การบริหารงานขาดความคลอ่ งตัว
2. มีการกระจายความเส่ยี ง 3. เสียคา่ ใชจ้ า่ ยในการดาเนนิ งานสงู
3. สามารถระดมทุนไดม้ าก 4. การบริการงานขาดประสิทธภิ าพ กรณี
4. เป็นทรี่ วมของบุคคลทม่ี คี วามรู้ จ้างบุคคลภายนอกที่ไมม่ ีความรู้
ความสามารถเขา้ มาบรหิ ารงาน ความสามารถ
5. หุ้นของกิจการสามารถเปลยี่ นมอื ได้ด้วย 5. ผู้ถือห้นุ รายย่อยไม่มโี อกาสบริหารงาน
การโอนหรือขาย ด้วยตนเอง
6. การดาเนนิ กิจการมีความมั่นคงและ
ต่อเนื่อง
เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรียนหาดใหญ่วทิ ยาลยั 21
หนา้
บรษิ ทั มหำชน (จำกดั ) (Public Company)
บรษิ ทั มหาชน (จากัด) : บมจ. มาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติ บรษิ ทั มหาชน
(จากัด) พ.ศ.2535ให้บทนิยามตอ่ ไปนี้ “บริษัทมหาชน (จากัด) คือ บรษิ ทั ประเภทซึ่งต้ังขน้ึ ดว้ ยความ
ประสงค์ทีจ่ ะเสนอขายหุน้ ต่อประชาชน โดยผถู้ อื หุน้ มีความรับผิดจากัดไมเ่ กนิ จานวนเงินค่าหุ้นท่ตี ้อง
ชาระ และบรษิ ัทดงั กล่าวได้ระบุความประสงคเ์ ชน่ น้นั ไว้ในหนังสอื บรคิ ณหส์ นธิ”
องค์ประกอบของบรษิ ัทมหำชน (จำกดั ) มดี งั นี้
1. เปน็ บรษิ ัทประเภทซ่งึ แบง่ ทุนออกเปน็ หนุ้ ๆ ละเท่า ๆ กัน เสนอขายหรอื โฆษณาขายต่อ
ประชาชนได้ หนุ้ ของบรษิ ทั แตล่ ะหนุ้ ต้องมีมลู คา่ เทา่ กนั และมมี ลู คา่ ไม่ต่ากว่า 5 บาท ถา้ กรณีบริษัท
มหาชน (จากดั ) ที่จดทะเบยี นในตลาดหลกั ทรัพย์ มูลค่าหุ้นทตี่ ราไว้ (Par Value) หนุ้ ละ 10 บาท เสนอ
ขายประชาชน
2. ผ้ถู ือหนุ้ มีความรบั ผิดจากัดไม่เกินจานวนเงนิ คา่ หุ้นที่ตอ้ งชาระ
3. บรษิ ัทมีความประสงค์ที่จะเสนอขายหุน้ ตอ่ ประชาชนเพื่อระดมทุนไดโ้ ดยระบุความประสงค์
ในหนังสอื บริคณห์สนธิ จะมีผถู้ ือหนุ้ เปน็ จานวนเทา่ ใดก็ได้ แต่อยา่ งต่าจะต้องมี 15 คนขึ้นไป
หมำยเหตุ กรณีบริษัทมหาชน (จากดั ) ท่ีจะนาหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตอ้ งมีผูถ้ ือหุ้น
สามญั รายย่อยอย่างน้อย 600 ราย (ตามพระราชบญั ญัตหิ ลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535)
เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ทิ ยาลยั 22
หน้า
4. กิจกำรสหกรณ์ (Co-Operative)
สหกรณ์ คอื องค์การทางธุรกจิ ทม่ี ีกลุม่ บคุ คล ซงึ่ มอี าชีพ มคี วามสนใจและความต้องการ
คล้ายคลงึ กนั มารวมตวั กัน ทาหนา้ ท่ีในธุรกจิ เพอ่ื ช่วยเหลือสมาชิกโดยมีจุดม่งุ หมายจะรักษาและส่งเสรมิ
ผลประโยชนข์ องสมาชกิ ให้ดีขึ้น
ประวตั สิ หกรณ์
กิจการสหกรณ์เกิดข้ึนตั้งแต่ปี ค.ศ.1530 ก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งมีผู้ร่วมจัดต้ังบริษัท
ประกันไฟ เพ่ือร่วมกันรับผิดชอบและแบ่งเบาภาระเมื่อเกิดอัคคีภัยในกรุงลอนดอนและกรุงปารีส
นอกจากนี้ยังมีกิจการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับสหกรณ์เกิดข้ึนในรูปของสหกรณ์ผู้บริโภค ตลอดจนเกิด
ร้านค้าสหกรณ์ที่ถือเป็นความพยายามในการจัดตั้งร้าน สหกรณ์ประสบผลสาเร็จ ส่วนกิจการสหกรณ์ใน
ประเทศไทย มีการเร่ิมต้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันท่ี 26 กุมภาพันธ์ 2459 กิจการสหกรณ์ท่ีจดทะเบียน
แห่งแรก คือ “สหกรณ์วัดจันทร์ไม่จากัดสินใช้” ต้ังอยู่ ณ อาเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก มีสมาชิกร่วม
ก่อต้ังจานวน 16 คน ปัจจุบนั ทางราชการถือเอาวนั ที่ 26 กุมภาพันธ์ ของทกุ ๆ ปี เป็นวนั สหกรณ์
ลกั ษณะสำคญั ของสหกรณ์
กจิ การสหกรณ์จะต้องมีบุคคลตง้ั แต่ 10 คนข้ึนไป รวมกาลงั และรวมทนุ เพื่อจดั ตั้งธรุ กจิ ตาม
วตั ถุประสงค์ทตี่ ง้ั ไว้อยา่ งเดยี วกัน เพอ่ื แก้ไขปัญหาความเดือดรอ้ นทางเศรษฐกจิ และสงั คมในหมูส่ มาชกิ ท่ี
ดาเนินธรุ กจิ รว่ มกันโดยถือหลกั ความสมัครใจหลกั ประชาธปิ ไตย หลักความยตุ ิธรรม หลกั การศึกษา การ
ชว่ ยเหลือตนเองและการชว่ ยเหลือซึง่ กันและกัน กจิ การสหกรณ์ซึ่งมีการจดทะเบียนถกู ต้องตาม
กฎหมาย มลี ักษณะสาคัญดงั นี้
1. เป็นองค์การธรุ กิจ และมวี ัตถุประสงคใ์ นการดาเนินธรุ กจิ ท่ีแนน่ อน
2. เกดิ จากการรวมตวั การรวมทุนของบุคคลตั้งแต่ 10 คนข้ึนไป
3. มกี ารจดทะเบยี นถูกต้องตามกฎหมาย
เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรยี นหาดใหญ่วิทยาลยั 23
หนา้
รูปแบบของสหกรณ์
กจิ การสหกรณ์มีหลายรูปแบบแตกตา่ งกนั ไปตามลักษณะของการกอ่ ต้งั และการดาเนินงานคือ
1. สหกรณ์การเกษตร คอื สหกรณท์ ่ีจัดตัง้ ข้ึนในหม่ผู มู้ ีอาชพี ทางการเกษตร รวมกันจัดตั้งขึ้น
และจดทะเบยี นเปน็ นติ ิบุคคลตอ่ นายทะเบียนสหกรณ์ โดยมจี ุดมงุ่ หมายเพื่อให้สมาชิกดาเนินการร่วมกัน
และช่วยเหลอื ซ่งึ กันและกัน เพือ่ แก้ไขความเดอื ดร้อนในการประกอบอาชีพของสมาชิก และช่วยยกฐานะ
ความเป็นอยู่ของสมาชิกให้ดีขึ้น
2. สหกรณป์ ระมง คือสหกรณท์ ่ีจัดตงั้ ข้ึนในหมู่ชาวประมง เพือ่ แก้ไขปญั หาและอุปสรรคในการ
ประกอบอาชีพ ซึง่ ชาวประมงแต่ละคนไม่สามารถแก้ไขให้ลุลว่ งไปไดต้ ามลาพงั บุคคลเหล่านจ้ี งึ รวมกัน
โดยยึดหลกั การช่วยตนเองและช่วยเหลือซง่ึ กนั และกนั
3. สหกรณน์ คิ ม คอื สหกรณ์การเกษตรในรปู แบบหน่งึ ที่มีการดาเนินการจัดสรรท่ีดนิ ทากนิ ให้
ราษฎรจัดสร้างปจั จัยพืน้ ฐานและสง่ิ อานวยความสะดวกให้ผู้ที่อยู่อาศยั ควบคู่ไปกบั การดาเนนิ การจดั หา
สนิ เชื่อปจั จยั การผลติ และสิ่งของท่ีจาเปน็ การแปรรปู การเกษตร การส่งเสริมอาชพี รวมทั้งกิจการ
ใหบ้ รกิ ารสาธารณูปโภคแกส่ มาชกิ
4. สหกรณ์ร้านคา้ คอื สหกรณ์ทีม่ ผี บู้ รโิ ภครวมกันจดั ต้งั ขึน้ เพือ่ จัดหาสนิ ค้า เครื่องอุปโภค
บรโิ ภคมาจาหน่ายแก่สมาชิกและบุคคลทัว่ ไป โดยจดทะเบียนตามกฎหมายสหกรณใ์ นเทศ สหกรณ์
รา้ นค้า มีสภาพเป็นนติ บิ ุคคล ซึง่ สมาชกิ ผ้ถู อื หนุ้ ทุกคนเป็นเจ้าของ สมาชกิ ลงทนุ รว่ มกันในสหกรณ์
รา้ นค้าดว้ ยความสมัครใจ เพื่อแกไ้ ขความเดือดร้อนในการซื้อเคร่ืองอปุ โภคบริโภคและเพื่อผดุงฐานะทาง
เศรษฐกจิ ของตนและหมู่คณะ
5. สหกรณ์ออมทรพั ย์ คือสถาบันการเงินแบบหนง่ึ ที่มีสมาชิกเป็นบคุ คลซงึ่ มอี าชพี อย่าง
เดียวกัน หรอื ที่อาศัยอยู่ในชมุ ชนเดยี วกัน มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมใหส้ มาชกิ รูจ้ ักการออมทรัพย์ และให้
กยู้ ืมเม่ือเกดิ ความจาเป็น หรือเพอ่ื กอ่ ใหเ้ กิดประโยชนง์ อกเงยและไดร้ ับการจดทะเบียนตาม
พระราชบัญญตั ิสหกรณ์ สามารถก้ยู มื เงนิ ไดเ้ มื่อยามจาเปน็ ตามหลกั การชว่ ยตนเองและชว่ ยเหลอื ซึ่งกนั
และกัน
6. สหกรณบ์ ริการ คอื สหกรณ์ท่จี ดั ต้ังข้ึนตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ โดยมปี ระชาชนไม่น้อย
กวา่ 10 คน ที่มีอาชีพอย่างเดียวกัน เพ่ือแก้ปญั หาต่าง ๆ รวมท้งั การสง่ เสรมิ ใหเ้ กิดความมน่ั คงในอาชพี
ตอ่ ไป
7. สหกรณเ์ ครดิตยูเนีย่ น เป็นสหกรณท์ ่ีจดั ตงั้ ขึ้นในชุมชน เพอื่ สง่ เสริมการออม มลี ักษณะ
สาคญั คอื สมาชิกมีอาชีพหลากหลายแต่อาศยั อยูใ่ นชมุ ชนเดียวกนั กิจการท่ีเปน็ ธรุ กจิ คือ การสง่ เสริม
การออม และการให้เงนิ กู้ โดยในอนาคตจะมีการขยายธุรกิจอน่ื ๆ ตามความต้องการของสมาชกิ เป็น
สหกรณท์ เี่ น้นเร่ืองความมีสจั จะ ความเช่อื ใจกนั และความซ่อื สัตย์
เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญ่วทิ ยาลยั 24
หนา้
ขอ้ แตกตำ่ งระหวำ่ งสหกรณ์กบั ธุรกจิ รูปแบบอ่ืน
สหกรณ์ ธุรกจิ รูปแบบอ่นื
1. จดุ มุ่งหมายเพอ่ื ช่วยเหลือสมาชิกโดยไม่ 1. มงุ่ หวงั ผลกาไร
มุ่งหวงั ผลกาไร 2. ผูถ้ ือหุ้นมีสทิ ธ์อิ อกเสยี งตามจานวนหุ้นท่ี
2. การดาเนินงาน สมาชิกมีสิทธ์ิออกเสยี ง ถอื
เลือกกรรมการเพ่ือควบคมุ การ 3. ลูกค้าไมไ่ ด้รับเงนิ ตอบแทน
ดาเนินงาน โดยสมาชิก 1 คน มเี สียง 4. คณะกรรมการของกจิ การมาจากผถู้ อื หนุ้
เพยี ง 1 เสยี ง หรอื บคุ คลภายนอกก็ได้
3. ผลตอบแทนลูกคา้ คือ สมาชิกไดร้ บั 5. ไม่มีการใหค้ วามรู้แก่ลูกค้า
ผลตอบแทนในรปู ของดอกเบ้ียจากเงนิ
ลงทุน และได้รับเงินปนั ผลเฉลยี่ คืนตาม
จานวนเงินทีซ่ ้ือหรือทาธรุ กจิ กับสหกรณ์
4. สทิ ธขิ องสมาชกิ คณะกรรมการ สหกรณ์
มาจากสมาชกิ สหกรณ์เท่านน้ั
5. ให้บริการแกส่ มาชกิ โดยใหค้ วามรูค้ วาม
เข้าใจเกี่ยวกับกิจการสหกรณ์
ข้อดีข้อเสยี ของกจิ กำรสหกรณ์
ขอ้ ดี ข้อเสยี
1. ได้รบั ผลอย่างเทย่ี งธรรมตามส่วนแหง่ 1. ทุนจากดั
ธรุ กจิ 2. ถ้าสมาชกิ ยังไม่เข้าใจหลกั และวธิ กี ารของ
2. กฎหมายใหก้ ารสนบั สนุนชว่ ยเหลอื สหกรณด์ พี อการพฒั นาสหกรณจ์ ะ
3. ขจดั การถูกเอารดั เอาเปรียบจากบคุ คล เป็นไปไดช้ ้า
อ่ืน 3. ถ้าสหกรณ์ไม่สามารถสนองความ
4. เปน็ การรวมคนเพอ่ื ช่วยเหลือซ่งึ กันและ ตอ้ งการของสมาชกิ ไดธ้ ุรกิจนี้ก็จะไมม่ ี
กันไมเ่ นน้ การรวมทนุ ความหมายและเกดิ ประโยชนน์ อ้ ยลง
เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ิทยาลยั 25
หนา้
5. รฐั วิสำหกจิ (State Enterprise)
รัฐวิสาหกจิ คอื องค์การของรัฐบาล หน่วยงานธุรกจิ ที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ รวมทง้ั บรษิ ัทหรือ
หา้ งหุ้นสว่ นนิตบิ คุ คลที่สว่ นราชการ องคก์ ารของรัฐบาล หรือหน่วยงานธรุ กิจของรัฐบาลมที นุ รวมอยดู่ ้วย
เกินกว่าร้อยละ 50
ลกั ษณะสำคญั ของรัฐวิสำหกิจ อำจสรุปได้ดงั น้ี
1. รัฐเปน็ เจา้ ของหรือมีหุน้ ส่วนอยู่มากกวา่ ร้อยละ 50
2. มฐี านะเปน็ นิตบิ ุคคลอาจฟ้องรอ้ งบคุ คลอืน่ หรือถกู ฟ้องร้องได้
3. พนกั งานรัฐวสิ าหกิจไม่มฐี านะเป็นข้าราชการ รัฐวสิ าหกจิ แต่ละแห่งจะ
บริหารบคุ คลของตนเอง
4. โดยปกตกิ ่อตัง้ ขนึ้ โดยกฎหมายเฉพาะหรือโดยพระราชกฤษฎีกาทีก่ าหนด
ขอบเขตอานาจหน้าที่และเอกสทิ ธ์คิ วามคุ้มครองจากรฐั รวมท้ังกาหนดโครงสร้างและการบรหิ ารไว้
5. เงินทีใ่ ช้ในการดาเนนิ การ นอกจากได้รับเงินจดั สรรจากงบประมาณ
ประจาปแี ลว้ อาจกูย้ ืมเงินจากรัฐ ประชาชน หรือต่างประเทศ
6. ไม่ถูกควบคุมตรวจสอบทางการเงนิ เคร่งครัดเหมือนหนว่ ยราชการ ทาให้
คลอ่ งตัวในการดาเนินงานทางธุรกจิ
7. รฐั วิสาหกจิ จะต้องจัดสรรผลกาไรส่งให้แกร่ ัฐบาลตามกฎเกณฑท์ ่ีกาหนด
ไวข้ องรฐั วิสาหกจิ แต่ละประเทศ เช่น รัฐวสิ าหกิจประเภทผกู ขาดต้องสง่ ผลกาไรสุทธใิ ห้แกร่ ฐั บาลไมต่ ่า
กวา่ รอ้ ยละ 80 เป็นต้น
เหตผุ ลในกำรจดั ตงั้ รฐั วิสำหกิจ
1. เพอ่ื หารายไดเ้ ขา้ รัฐ เน่อื งจากธรุ กจิ บางอย่างมีกาไรมหาศาล รฐั จึงดาเนินการเอง เชน่
สานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
2. เพือ่ บรกิ ารประชาชน เนอื่ งจากธุรกิจบางอย่างมีกาไรน้อย เอกชนไม่กล้าลงทนุ รัฐจึง
ดาเนนิ การเอง เช่น ประปา รถไฟ ไปรษณยี ์ เปน็ ตน้
3. เพอ่ื ใหส้ ะดวกในการควบคมุ เพราะหากปล่อยให้เอกชนดาเนนิ การเองอาจก่อใหเ้ กิดความ
เสยี หายได้ เช่น สุรา ยาสูบ เป็นต้น
4. เพอ่ื ความสะดวกในการบริหารงาน เพราะสามารถดาเนนิ การได้คล่องตัวกวา่ ระบบราชการ
เช่น งานด้านการวิจยั และพฒั นาเทคโนโลยี
5. เพอื่ ความมนั่ คงของประเทศชาติ เพราะหากปล่อยใหเ้ อกชนดาเนนิ การเองอาจเปน็ อุปสรรค
ทางยุทธศาสตร์ เชน่ กจิ การไฟฟ้า
6. เพอ่ื เผยแพร่ช่ือเสยี งของประเทศ เช่น การท่องเที่ยวแหง่ ประเทศไทย
ประเภทของรัฐวสิ ำหกจิ
รัฐวสิ ำหกิจ แบง่ ไดเ้ ปน็ 2 ประเภท คือ
1. รัฐวิสาหกจิ ท่ีเปน็ นติ บิ คุ คล ไดแ้ ก่ องค์การและหนว่ ยงานที่จัดตง้ั ข้นึ มฐี านเป็นบุคคลตาม
กฎหมาย มกี ารดาเนนิ งานที่แยกออกจากผู้ถือหุน้ หรือเจ้าของกจิ การโดยเฉพาะ แบ่งเป็น 4 ประเภท คอื
1.1 กิจการธุรกิจทจี่ ัดต้ังข้นึ ตามพระราชบญั ญัติ เช่น การส่อื สารแห่งประเทศไทย การ
ท่าเรอื การรถไฟแหง่ ประเทศไทย การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย การ
ปิโตรเลยี มแห่งประเทศไทย การทอ่ งเท่ียวแหง่ ประเทศไทย
เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนหาดใหญว่ ิทยาลยั 26
หนา้
1.2 กจิ การท่ีจดั ต้ังขน้ึ ตามพระราชกฤษฎกี า เชน่ องคก์ ารเภสัชกรรม องค์การสะพาน
ปลา องคก์ ารสวนสตั ว์ องค์การอุตสาหกรรมปา่ ไม้
1.3 กจิ การธุรกิจประเภทธนาคาร แบง่ เปน็ 2 ชนดิ คือ
1.3.1 ธนาคารทจ่ี ัดต้งั ขึ้นโดยมีพระราชบญั ญัตเิ ป็นเอกเทศ มีทุน
ดาเนินการทง้ั สน้ิ เป็นของรัฐ เชน่ ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกจิ ขนาดยอ่ ม
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นตน้
1.3.2 ธนาคารทีร่ ฐั ถอื ห้นุ เกนิ ร้อยละ 50 เชน่ ธนาคารกรุงไทย
1.4 กจิ การบริษัทจากัด แบ่งเป็น 2 ประเภท
1.4.1 บริษัทจากดั ทร่ี ัฐบาลลงทนุ เองทงั้ หมด เชน่ บรษิ ทั วทิ ยุการ
บินแหง่ ประเทศไทย จากัด บริษทั ไมอ้ ัดไทย จากัด บริษัท
เดนิ เรือทะเล
1.4.2 บรษิ ัทจากดั ที่รัฐถอื หุ้นเกินรอ้ ยละ 50 เชน่ บริษทั ขนส่ง
จากดั บรษิ ัทจงั หวดั พาณชิ ย์ จากดั
1. รฐั วสิ าหกิจทไ่ี ม่เป็นนติ ิบุคคล กิจการบางอย่างของรฐั ซงึ่ จดั ตั้งขึ้นโดยใช้
ทนุ ดาเนนิ การทงั้ สิ้นเป็นของรัฐ สังกัดหน่วยงานราชการท่ีเป็นผู้ก่อต้งั ข้ึน แต่ไมม่ ฐี านะเป็นนิติบคุ คล
เช่น โรงงานยาสูบ และสานักงานสลากกนิ แบ่งรฐั บาล สังกดั กระทรวงการคลัง เปน็ ต้น
เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรียนหาดใหญว่ ิทยาลยั 27
หนา้
ข้อดขี ้อเสียของรัฐวิสำหกจิ
ข้อดี ข้อเสยี
1. เหตุผลทางเศรษฐกิจ กิจการบางอย่างที่ต้องใช้ 1. เหตุผลในด้านการบรหิ ารงานของ
เงนิ ลงทนุ จานวนมหาศาลหรือเอกชนไมส่ นใจ รฐั วสิ าหกิจ มักจะถูกควบคุมดว้ ยระเบียบ
ลงทุนเพราะผลตอบแทนตา่ หรือได้รับผลประโยชน์ ตา่ ง ทาให้การดาเนินงานเป็นไปอยา่ งล่าช้า
ในระยะยาวเกินไปหรือบางกรณยี งั ไม่อยู่ในฐานะที่ ไม่ทนั ต่อเหตุการณ์ ต้องรอการสั่งการ
จะเสย่ี งใหเ้ อกชนลงทนุ เชน่ กิจการสาธารณปู โภค จากเบ้ืองบนอันเปน็ เหตุทาให้ขาดความ
ซ่ึงเปน็ กจิ การท่สี นองตอบประชาชนดว้ ยสวสั ดกิ าร รับผิดชอบและความคิดริเร่มิ ซง่ึ เปน็
และความเปน็ อย่แู ละเป็นกจิ การทจ่ี าเปน็ ต่อการ ส่ิงสาคัญของธรุ กิจ
พัฒนาประเทศ 2. เหตุผลทเ่ี กี่ยวกบั การขาดประสทิ ธิภาพ
2. เหตุผลทางการเมือง นโยบายดา้ นหนึ่งของ ในการผลิต เพราะการแต่งตั้งผูบ้ รหิ ารงาน
รฐั บาลทุกประเทศทต่ี ั้งรัฐวสิ าหกิจข้ึนมาเพ่อื จะใช้ มักจะเป็นไปตามเหตุผลอ่ืน ๆ มากกวา่
เป็นเคร่ืองมอื และประโยชนท์ างการเมือง ทง้ั น้ี การคานงึ ถงึ ความรู้ความสามารถ จงึ เป็น
เพราะกจิ การบางอยา่ งมีผลกระทบต่อความสงบ เหตทุ าใหผ้ ้บู รหิ ารมกั จะดาเนินนโยบาย
เรยี บรอ้ ยภายในประเทศ เช่น ผลิตสรุ า บุหรี่ ไพ่ เฉพาะหนา้ มากกวา่ ท่ีจะวางแผนระยะยาว
เป็นตน้ นอกจากนี้รัฐวสิ าหกิจส่วนมากจะซื้อ
3. เหตุผลทางการทหาร การรวบรวมกจิ การบาง วัตถดุ ิบในราคาทสี่ งู กว่าธรุ กิจเอกชนและ
ประเภทไวเ้ ปน็ ของรฐั ตามจุดม่งุ หมายทาง มีพนักงานเจา้ หน้าทเี่ กนิ ความจาเปน็ ทาให้
ยุทธศาสตร์ เชน่ สินคา้ ยุทธปจั จัย นา้ มนั ตน้ ทนุ การผลิตสูงเกนิ ไป อนั เปน็ เหตุ
เชอ้ื เพลิง อาหารสาเรจ็ รปู กิจการเหล่านีเ้ พ่ือ ทาให้การดาเนนิ ธรุ กจิ ส่วนใหญ่ขาดทุน
ปอ้ งการกันขาดแคลนและเพ่ือให้มีความสามารถ ซ่งึ จะทาให้ผบู้ ริโภคได้รับผลกระทบ
ในการผลิตยามสงคราม ในด้าน ตา่ ง ๆ เชน่ จะต้องรบั ภาระภาษี
อากรเพิ่มข้ึน หรือซ้ือสนิ คา้ และบรกิ าร
ในราคาทีส่ งู เป็นต้น
เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญ่วิทยาลยั 28
หนา้
6. กิจกำรธรุ กิจแฟรนไชส์ (Franchise)
ธรุ กจิ แฟรนไชส์ หมายถึง แผนการจาหน่ายซ่ึงเจา้ ของธุรกิจแตล่ ะคนดาเนนิ งานโดยเป็นเสมือน
หน่วยหนึ่งของบริษัทลูกโซ่ (Chain Store) ขนาดใหญ่ภายใต้ข้อตกลงรว่ มกันเกี่ยวกับเงื่อนไขต่าง ๆ ซ่ึง
มักจะระบไุ วใ้ นสญั ญา การดาเนนิ งานทุกดา้ นเปน็ มาตรฐานเดียวกัน แมแ้ ตอ่ ปุ กรณ์และการวางผงั ร้านจะ
เป็นรปู แบบเดียวกัน
ประวตั ิของธรุ กิจแฟรนไชส์
ธุรกิจแฟรนไชส์มีจุดกาเนิดในราวปี ค.ศ. 1850 ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็น วิธีการหน่ึง
ของผู้ผลิตหรือผู้จาหน่ายในฐานะท่ีเป็นผู้ให้สัมปทานเก่ียวกับการจาหน่ายสินค้า การสร้างภาพพจน์
ตลอดจนการสร้างชื่อเสียงของบริษัทแม่ พร้อมกับการสร้างธุรกิจระบบสัมปทานที่ดาเนินการโดยผู้รับ
สัมปทาน ต่อมาบริษัทซิงเกอร์ ได้นาธุรกิจระบบน้ีมาใช้ โดยมีการให้สิทธิ์และใช้สิทธ์ิด้วยการตั้งระบบ
ขายท่ีเป็นตัวแทน ซ่ึงต้องมีการจ่ายเป็นเงินค่าสิทธ์ิเพื่อแลกเปล่ียนกับสิทธ์ิในการขายสินค้าของบริษัท
นับเปน็ รากฐานสาคญั ของระบบแฟรนไชส์ ในเวลาตอ่ มา ปี ค.ศ.1955 เปน็ ยุคของธุรกิจ Mr.Ray Kroc
ผู้ให้กาเนิดแมคโดนัลด์ได้ขยายสาขาจึงทาให้ธุรกิจระบบน้ีโด่งดังไปท่ัวโลก ทาให้ธุรกิจหลายกิจการท้ัง
ขนาดเล็กและใหญ่ตา่ งนาแนวความคดิ น้ีไปดาเนินงานจนประสบความสาเร็จมากมาย
ธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทยได้แพร่เข้ามาเมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่ผ่านมา ธุรกิจแฟรนไชส์
เริ่มเป็นท่ีรู้จักและเป็นที่สนใจในหมู่นักธุรกิจชาวไทย คือ กิจการแมคโดนัลด์ ธุรกิจแฟรนไชส์ซ่ึงเป็นท่ี
รู้จักดีในหมู่นักธุรกิจและผู้บริโภคคนไทย คือ กิจการเซเว่น-อีเลฟเว่น เป็นกิจการร้านสะดวกซ้ือ
(Convenient Store) นับเป็นกิจการท่ีประสบความสาเร็จและเป็นรายแรก ๆ จากต่างประเทศท่ีขยาย
สาขาด้วยระบบแฟรนไชส์ โดยมบี รษิ ทั ซีพีเซเวน่ -อเี ลฟเว่น เปน็ ผูไ้ ด้รบั สทิ ธิจ์ ากต่างประเทศ
ประเภทของธรุ กจิ แฟรนไชส์
ธุรกิจแฟรนไชสห์ รือธุรกิจแบบสมั ปทานมี 2 ประเภท คือ
1. ธรุ กจิ แฟรนไชส์หรือแบบสัมปทานที่ใช้สินค้าและชอื่ สนิ ค้า (Product and Name
Franchising) เป็นธุรกจิ ทม่ี ีรูปแบบเกิดขน้ึ ในชว่ งปลายศตวรรษท่ี 19 ซึง่ ประกอบด้วยการจาหน่ายสินคา้
หรือผสู้ มั ปทาน หรอื แฟรนไชซจี ะได้รบั ช่ือการค้า เคร่ืองหมายการค้า หรือสนิ คา้ จากผ้ผู ลิตหรือผจู้ าหน่าย
หรือใหส้ ัมปทาน หรือ แฟรนไชชอร์ โดยจะถอื เสมือนหนึ่งวา่ เปน็ ผูจ้ าหนา่ ยโดยอาศัยสายผลิตภัณฑ์
ธุรกจิ ประเภทน้ไี ด้แก่ ตวั แทนจาหนา่ ยนา้ อดั ลมโคคาโคลา่ สถานบี รกิ ารน้ามันเชลล์ ตัวแทนจาหนา่ ย
รถยนตฟ์ อรด์ ฯลฯ
2. ธุรกิจแฟรนไชส์หรือแบบสัมปทานท่ใี ช้รูปแบบทางธุรกิจ (Business Format Franchising)
เปน็ ธุรกจิ ทใ่ี ห้สิทธแ์ิ ก่บุคคลอ่ืนในการดาเนนิ ธุรกิจ เพื่อขายสินค้าหรือบริการโดยใชเ้ ครือ่ งหมายการค้า
ของผใู้ ห้สัมปทานหรอื แฟรนไชซอร์ สิ่งสาคญั ของการดาเนินธรุ กิจประเภทนท้ี แ่ี ตกต่างจากประเภทแรก
คือ การใช้ระบบการดาเนินธุรกิจผ้ใู หส้ ัมปทานท่ีประสบความสาเรจ็ กจิ การประเภทน้ีได้แก่ กิจการแมค
โดนัลด์ พิซซา่ ฮทั เคเอฟซี เซเวน่ -อเี ลฟเว่น ฯลฯ
เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ทิ ยาลยั 29
หน้า
ข้อดขี ้อเสียของธรุ กิจแฟรนไชส์ที่มตี อ่ ผูใ้ ห้สมั ปทำน (Franchisors)
ขอ้ ดี ข้อเสยี
1. เปน็ การกระจายภาระด้านการลงทุนจาก 1. สูญเสียการควบคุมในกรณีท่ีผู้รับ
ผู้ใหส้ มั ปทานไปยังผู้รบั สัมปทานหลาย ๆ สมั ปทานลงทุนเอง ผู้ให้สัมปทานไม่
ราย สามารถออกคาสั่งให้ปฏบิ ตั ติ ามได้ อาจ
2. เปน็ เจา้ ของกจิ การทม่ี ภี าพลกั ษณท์ ดี่ ี มี ทาไดเ้ พียงให้คาแนะนา
สาขาหลายแห่งทัว่ ประเทศหรือท่วั โลก 2. อาจเกิดความขดั แย้งของสองฝ่าย
3. กจิ การขายตวั ได้อย่างรวดเร็ว โดยมีผูร้ บั เนอื่ งจากมพี ื้นฐานความรู้ ประสบการณ์
สัมปทานชว่ ยสนบั สนนุ การขยายธุรกิจ ที่ต่างกัน ปจั จยั ทจี่ ะช่วยลดความขัดแยง้
4. ศักยภาพการแข่งขนั เพิม่ จากการมี คือ การรักษาความสมั พนั ธ์ที่ดีของ 2
อานาจต่อรองในการซื้อสินค้าหรือ ฝา่ ย
วัตถุดิบจากผผู้ ลิต 3. หากผูร้ ับสัมปทานไม่ประสบความสาเรจ็
5. มสี ่วนแบง่ รายไดจ้ ากผูร้ บั สมั ปทานหลาย ในการดาเนินธรุ กิจหรือเกิดความขัดแยง้
ทาง เชน่ คา่ สทิ ธแิ รกเข้า คา่ สทิ ธิ อาจทาใหเ้ สยี ชื่อเสียงไป
ต่อเนื่อง ค่าธรรมเนยี มการตลาด เป็น 4. อาจเกิดการสญู เสยี ความลบั ในการทา
ตน้ ธุรกิจในกรณีทเี่ กดิ ปัญหาความขัดแยง้
6. สรา้ งภาพลักษณไ์ ด้เหมือนธรุ กจิ ขนาด ของ 2 ฝา่ ย อาจเกดิ การแยกตัวไปจาก
ใหญ่ดว้ ยการมีเครอื่ งหมายการค้าที่ ระบบของผูร้ ับสัมปทาน ซ่ึงจะนาไปสู่
เหมือนกันทุกสาขาทว่ั โลก คแู่ ข่งทางการตลาดได้ เช่น กรณขี องพิซ
7. ระบบแฟรนไชสท์ ่ีมีความยดื หยนุ่ ในการ ซ่าฮัทกบั พิซซ่าคอมปานี
นามาใช้สูง ไม่วา่ จะเปน็ กิจการขนาดเลก็
หรือใหญ่
เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ิทยาลยั 30
หน้า
ข้อดีข้อเสยี ของธรุ กิจแฟรนไชสต์ อ่ ผรู้ บั สัมปทำน (Franchisees)
ข้อดี ข้อเสีย
1. ไดร้ บั ความรใู้ นการประกอบธรุ กจิ 1. มกั ประสบปัญหาขาดแคลนเงินทนุ
ทั้งหมดทผี่ ู้ใหส้ ัมปทานไดด้ าเนินมาจน เพราะต้องใช้มากกว่าธรุ กิจอิสระ
ประสบความสาเรจ็ เน่อื งจากตอ้ งจ่ายค่าความรู้ ค่าสิทธิแรก
2. ไดร้ ับสทิ ธใิ์ นการใช้เครอื่ งหมายการคา้ เขา้ และค่าสิทธิต่อเน่ือง
ของธรุ กจิ ท่ปี ระสบความสาเร็จ มีสาขา 2. ขาดความเปน็ อิสระ เนื่องจากระบบ
เครอื ข่ายและผบู้ ริโภคร้จู ักเป็นจานวน แฟรนไชส์เป็นระบบท่ตี ้องการความเป็น
มาก ทาให้มโี อกาสทางธุรกิจมากขน้ึ มาตรฐานเดียวกนั ผใู้ ห้สัมปทานจงึ
3. ไดร้ ับการสนับสนุนหลายดา้ น เชน่ การ ควบคุมงานอย่างใกล้ชดิ ทาใหผ้ ู้รับ
ฝึกอบรม วัตถุดิบ การตลาด การ สมั ปทานขาดอสิ ระในการประกอบธรุ กจิ
โฆษณา การเงนิ และมีการควบคุมการ 3. หากผ้รู ับสัมปทานรายใดไม่สามารถ
ดาเนินงานใหอ้ ยใู่ นระบบเดียวกนั ปฏบิ ตั ติ ามเง่ือนไขท่เี ปน็ มาตรฐานท่ี
4. มคี วามคิดสร้างสรรค์และพัฒนางาน กาหนดไว้ ยอ่ มก่อใหผ้ ลเสียต่อ
เพื่อใหต้ รงกับความต้องการของผบู้ รโิ ภค ภาพลักษณ์ของผู้รับสัมปทานรายอ่นื ๆ
ในแตล่ ะท้องถิน่ มากข้นึ เช่น ในเมอื งไทย ท้งั ระบบ
มไี กร่ สเผด็ ของ เคเอฟซี ซ่ึงต่างจากที่
อน่ื เปน็ ต้น
เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลยั 31
หนา้
7. บริษัทข้ำมชำติ (Multination Corporations)
ควำมหมำย
บรษิ ัทข้ามชาตเิ กิดจากแนวคิดของการเกิดการขายแบบแฟรนไชส์ โดยจุดเริม่ ตน้ มาจากการ
นาเอาภูมิความรู้ทม่ี ีอยูด่ ้งั เดิมของบุคคลหนง่ึ หรือกลุ่มหน่ึงเอามาแจกจา่ ย(ขาย)ให้กบั กลุ่มหรือบุคคลอื่นๆ
นาไปใชใ้ นเชิงธุรกิจหรอื พานิชย์ อาทิเช่น ชายสบี่ ะหมี่เกยี๊ วลกู ชนิ้ ปลานายฮั่งเพง้ และ วนุ้ คณุ อุ๊
อธบิ ายความหมายของการขายแบบน้ีได้อยา่ งงา่ ยๆ ว่า เป็นการขายแบบ ขยำยสำขำ นั่นเอง ดงั นั้น
ธุรกจิ แบบ บริษัทข้ามชาติ ก็คือการขยายตัวของการค้าแบบขยายสาขาท่ีม่งุ ผลสาเรจ็ ไปที่การลงทนุ นอก
ประเทศ โดยทีจ่ ุดมุ่งหมายสูงสุดกค็ อื การเข้าควบคมุ ตลาดในรายการขายสนิ คา้ ของตนอยา่ งโลกาภิวัฒน์
ประเภท
เราอาจจะแบง่ ประเภทของบริษทั ข้ามชาตอิ อกเป็นสามแบบดงั น้ี
1. บริษัทข้ำมชำตแิ นวดงิ่ บริษัทข้ามชาตปิ ระเภทนนี้ น้ั จะมศี นู ยก์ ลางอยูท่ ่ีประเทศแม่เปน็ หลกั
แล้วจะผลติ ของออกไปขายยงั ตา่ งประเทศด้วยการเปิดเป็น outlet หรือ รา้ นสาขา หรอื ทเ่ี ราเรยี กกนั วา่
ตัวแทนจำหนำ่ ย
2. บริษัทข้ำมชำติแนวนอน บริษทั ขา้ มชาตปิ ระเภทนน้ี ้ัน จะมศี นู ย์กลางการผลิตอย่หู ลากหลายที่ โดน
ส่วนมากจะมองการลงทนุ ณ ประเทศที่วตั ถดุ ิบราคาถูกและค่าแรงไม่สงู มากนัก เชน่ จนี หรือ อนิ เดยี
เป็นต้น
3. บรษิ ัทขำ้ มชำตแิ บบหลำกหลำย ประเภทนี้น้นั จะเปน็ การผสมผสานแนวทางการผลติ และ
การลงทุน ระหว่างแบบแนวนอน และแนวดงิ่ เข้าด้วยกัน
ควำมแตกต่ำงของบริษทั ขำ้ มชำตแิ นวนอนและแนวดิง่
สิง่ สาคญั อนั ดบั แรกสุดที่แตกตา่ งของสองประเภทนี้คือ สินคำ้ และบริกำร ท่ีทง้ั สองประเภทผลิต แบบ
แนวนอนน้ัน จะผลิตสนิ คา้ และบรกิ ารประเภทเดียว ไม่หลากหลาย ในขณะท่ี แบบแนวดง่ิ น้ันจะ
หลากหลายกว่า
องคก์ รธุรกจิ บรษิ ัทข้ามชาติ มที ัง้ ข้อดีและขอ้ เสยี ต่อการพฒั นาประเทศพจิ ารณาได้ดงั นี้
ข้อดีของบริษทั ขา้ มชาติ มีดังนี้
1. เปน็ ฐานในการหาตลาดต่างประเทศ
2. ได้รบั เงินตราและเงินทนุ จากต่างประเทศ
3. เป็นการนาวธิ กี ารบริหารงานแบบใหม่มาใช้
4. ได้รับเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ และเรียนรู้ในระยะเวลาสัน้
5. เป็นแนวทางในการสร้างความชานาญงานแก่แรงงาน
ข้อเสียของบริษัทข้ามชาติ มดี ังน้ี
1. ถ้าผลิตสิง่ ของไม่จาเป็นต่อสงั คมจะทาใหเ้ กดิ การสูญเสียทางเศรษฐกิจ
2. ธุรกิจประเภทน้ีมีเงินทนุ มากสามารถใช้กลยทุ ธ์ทางการตลาดท่ีทาให้ผ้บู รโิ ภคเสยี เปรียบได้
3. เน่ืองจากมีสาขาอยหู่ ลายประเทศอาจใชเ้ ทคนคิ ในการลงบัญชหี ลกี เลีย่ งภาษไี ด้
เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรยี นหาดใหญ่วิทยาลยั 32
หน้า
ธรุ กจิ ออนไลน์
โลกปจั จบุ นั เป็นยุค 4.0 เทคโนโลยีเปน็ เรื่องสาคญั เชน่ เดยี วกบั ธุรกจิ ท่ใี นอดตี ใครสักคนคิด
อยากเปน็ เจา้ ของธรุ กจิ ตอ้ งคิดแล้วคิดอีก เพราะหมายถึงต้องลงทุนด้วยเงนิ มหาศาล พร้อมรบั ความเสี่ยง
ข้นั สุด ไมม่ วี ันร้ลู ว่ งหน้าวา่ ธรุ กิจจะประสบความสาเรจ็ หรอื ไม่ ถ้าไม่สาเร็จก็อาจหมายถึงตน้ ทุนหายไป
ดว้ ย ต่างกับยุคน้ี เทคโนโลยีนาหน้า ธรุ กิจเปลย่ี นโฉมหนา้ ใหมม่ าพ่ึงพาอาศัยโลกออนไลน์
ควำมหมำยของธุรกจิ ออนไลน์
การดาเนนิ กิจการบนพ้ืนฐานอาชีพ ท่ีจะทาใหเ้ กิดรายไดผ้ ่านโซเชยี ลเนต็ เวริ ค์ หากจะว่ากนั ตาม
กฎหมายทใี่ ห้นยิ ามคาวา่ “ธุรกจิ ” กห็ มายรวมกจิ การอาชีพเหล่านน้ั ว่า ไมว่ ่าจะเป็น “กิจการในทาง
เกษตรกรรมอตุ สาหกรรม หตั ถกรรม พาณชิ ยกรรม การบริการ หรอื กจิ การอย่างอ่ืนเป็นการค้า” ล้วนอยู่
ในกล่มุ นยิ าม “ธรุ กจิ ออนไลน์” ท้ังสิ้น แต่ถ้าเปน็ ความหมายทีเ่ ขา้ ใจกันงา่ ยๆ ก็คือ การประกอบอาชีพ
คา้ ขาย เพอื่ ก่อให้เกดิ กาไรเป็นรายได้แบบอาชีพประจา
องคป์ ระกอบท่เี รียกว่ำ “ธุรกจิ ออนไลน์”
1. มีกจิ การปรากฏในโซเชยี ลเน็ตเวิร์ค ไม่วา่ จะเป็น เวบ็ ไซตส์ ่วนตวั หรือชุมชนออนไลน์อืน่ ๆ ไมว่ า่
จะเปน็ เฟซบุ๊ค เพจ อินสตาแกรม หรือบลอ็ กอืน่ ๆ ทใี่ หบ้ ริการฟรี ในโลกออนไลน์
2. มีการดาเนนิ กจิ การ ไมว่ า่ จะเปน็ ซื้อมาขายไป การรบั จา้ งบริการ การผลิต หรืออื่นๆ ท่มี ีการใช้
เงินเป็นของแลกเปลย่ี น โดยที่ไมไ่ ด้สมั ผัสสินคา้ หรือเห็นสินคา้ จรงิ ๆ อาจเหน็ ผ่านรปู ถ่าย ไม่วา่ จะ
เปน็ ภาพนง่ิ หรือภาพเคลื่อนไหว
3. มกี ารติดต่อสื่อสารผ่านออนไลน์ การแชท การโทรศัพท์ หรอื อนื่ ๆ ท่ีไม่ได้มีการพบปะกันตรงๆ
4. มีตวั กลาง หรือ คนกลางที่ทาใหธ้ รุ กจิ การตดิ ต่อซื้อขายบรรลุผลสาเร็จ เช่น กจิ การไปรษณยี ์
หรือธรุ กจิ ขนส่งอื่นๆ มาเกีย่ วข้อง
5. มกี ารชาระเงินผา่ นช่องทางอ่ืนๆ อาจเปน็ เงนิ อิเลคโทรนคิ ส์ ผ่านการโอนผ่านธนาคาร ผ่าน
เง่ือนไขอื่นๆ ไม่ใชก่ ารส่งเงินถึงมอื โดยตรง
เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ิทยาลยั 33
หน้า
ประเภทของธุรกจิ ออนไลน์
ปัจจุบันนี้ ธรุ กิจออนไลน์ขยายตลาดกว้างขวาง ทุกอย่างไมว่ า่ จะเป็นสินค้าและบริการสามารถ
ทาเปน็ ธรุ กจิ ออนไลน์ไดท้ ง้ั ส้นิ ธรุ กิจออนไลน์จึงครอบคลมุ เร่อื งต่อไปน้ี
1. ธุรกจิ ซ้ือมาขายไป นับเปน็ ธรุ กิจทีส่ ามารถเปิดเปน็ ธุรกจิ ออนไลน์ได้ง่ายๆ เพราะมีแหล่งสินค้า
ขายสง่ โดยทเ่ี จ้าของธุรกิจรับหนา้ ทีไ่ ปซ้ือมาบริการลูกคา้ รายยอ่ ย
2. ธุรกจิ ทีม่ กี ารผลิตสนิ คา้ ไมว่ ่าจะเปน็ สินคา้ อปุ โภคหรือบริโภค สามารถเปดิ เป็นธุรกิจออนไลน์ได้
ทั้งสิน้ ปจั จุบนั น้ี แม้แต่เร่ืองอาหาร ขนม ท่ีเป็นของสด กส็ ามารถผลิตและจาหน่ายออนไลน์ได้
3. ธุรกจิ ท่ีเปน็ ลักษณะตัวแทนจาหน่าย การร่วมดาเนินธุรกจิ โดยรับสนิ คา้ มาจากผ้ผู ลติ รายอื่น
สามารถเป็นเจา้ ของธรุ กจิ ได้ คลา้ ยๆ กับการรับสินคา้ มาขายเช่นกัน
4. ธุรกจิ ล่วงหนา้ เปน็ เหมือนธุรกจิ บริการชว่ ยซ้อื สนิ คา้ ให้คนอน่ื ตามความตอ้ งการ
จดุ เดน่ ของธรุ กิจออนไลน์
1. ประหยดั คา่ ใช้จา่ ย – ต้องบอกเลยวา่ การขายของผ่านโลกออนไลน์จดุ เดน่ แรกทีเ่ หน็ ได้ชัดสุดๆ
สาหรับคนขายทุกคนคือคุณไมจ่ าเป็นต้องเสียเงนิ ในการเช่าพ้ืนท่ีรา้ น ตกแตง่ รา้ นใหด้ ูสะดุดตา
เพียงแค่สร้างเว็บหรอื แฟนเพจดว้ ยเงนิ ไม่กบี่ าทกส็ ามารถขายของไดแ้ ลว้
2. เข้าถึงต่อกลุ่มลูกคา้ เปา้ หมายได้ชัดเจน – การทาธุรกิจบนโลกออนไลน์เราสามารถกาหนดได้ว่า
ต้องการให้กล่มุ เป้าหมายเปน็ ใครดว้ ยการโฆษณาไปตามเว็บทีเ่ กยี่ วข้องหรือวา่ ไปตามกลุ่มต่างๆ
ซึ่งน่ันทาใหส้ ินคา้ จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าท่ีต้องการไดง้ า่ ยขึน้
3. สะดวกสบายทง้ั คนซ้อื และคนขาย – สาหรบั ผ้ทู เี่ ลือกซ้ือของออนไลนแ์ นน่ อนว่าความสะดวกของ
พวกเขาคือไมต่ ้องเสียเวลาในการเดนิ ทางมาเลือกซ้ือดว้ ยตนเอง แค่กดเข้ามาดแู ล้วก็เลือกสนิ ค้า
ตามตอ้ งการพร้อมกบั การโอนเงนิ ได้เลย ด้านคนขายเองก็ไม่ตอ้ งจัดแสดงสินค้าอะไรให้มากมาย
เพียงถา่ ยรูปให้ออกมาสวยงามกใ็ ชไ้ ด้แลว้
4. ตอ่ ยอดธรุ กจิ ได้รวดเร็ว – การขายของออนไลนห์ ากสนิ คา้ ของคุณขายดีมากๆ กจ็ ะทาใหเ้ ปน็ ท่ี
รูจ้ กั ในวงกว้างไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว เมือ่ คนรจู้ ักมากข้ึนเรื่อยๆ โอกาสในการต่อยอดทางธุรกิจด้วยการ
แตกประเภทสนิ คา้ ออกไปหรือสรา้ งแบรนด์สนิ คา้ ใหมๆ่ ก็มีโอกาสพัฒนาไปไดไ้ กลและรวดเร็ว
ดว้ ยเชน่ เดยี วกนั
5. ควบคุมต้นทนุ ได้ง่าย – การขายของออนไลนเ์ วลาท่เี ราเลือกสง่ สนิ ค้าไปยังลูกค้าเรากส็ ามารถที่
จะเชค็ จานวนของและเช็คต้นทนุ สนิ คา้ ทีแ่ นน่ อนได้ว่าในแต่ละวนั มกี ารขายสินคา้ ออกไปเท่าไหร่
มยี อดตรงกบั รายรับท่ีไดม้ าหรือไม่ ทาใหไ้ มเ่ กิดการสบั สนดว้ ย
6. ไม่จาเปน็ ต้องสต็อกสินคา้ เยอะ – จดุ เด่นอีกอย่างท่คี นขายของออนไลนช์ อบมากๆ ก็คือไม่
จาเป็นตอ้ งสต็อกสนิ ค้าเพื่อโชวใ์ หล้ กู คา้ เห็นเหมือนกบั การมีหน้าร้าน เพียงแค่ถา่ ยรูปสินค้าท่เี รารู้
วา่ มแี หล่งรบั มาแนน่ อนหลงั จากน้ันเมื่อลูกค้าสั่งเราก็ค่อยสั่งสินค้าเข้ามาเทา่ นี้กไ็ ด้แลว้
7. ทาเปน็ อาชีพเสรมิ ได้ – ต้องยอมรับวา่ สาหรบั คนที่มีงานประจาคงไม่มีใครอยากทิง้ เงินเดือนมา
ขายสนิ คา้ เพียงอย่างเดียวแน่นอน การขายแบบออนไลนจ์ ึงชว่ ยเพ่ิมรายได้และเปน็ อาชพี เสรมิ
ใหก้ ับหลายคนไดเ้ ป็นอย่างดี
เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญ่วทิ ยาลยั 34
หนา้
ธุรกิจ SMEs
ควำมหมำยของธรุ กิจ SMEs
ธุรกจิ SMEs หรือ ธรุ กจิ ขนำดย่อม หมำยถึง ธรุ กิจท่เี ป็นอิสระมีเอกชน เปน็ เจา้ ของ ดาเนินการ
โดยเจ้าของเอง ไม่เป็นเคร่ืองมอื ของธรุ กิจใด ไมต่ กอย่ภู ายใตอ้ ทิ ธิพล ของบุคคล หรือธุรกิจอืน่ มีต้นทุนใน
การดาเนินงานต่า และมีพนักงานจานวนไม่มาก
ควำมสำคัญของธรุ กิจขนำดย่อม
1. ธรุ กจิ ขนาดย่อม ช่วยในการพัฒนาดา้ นเศรษฐกิจและสังคม เน่อื งจากธรุ กจิ ขนาดยอ่ มช่วยให้
เกดิ การกระจายรายได้จากกลุ่มผู้ประกอบธรุ กิจ ไปสู่กลุ่มคนตา่ ง ๆ ทาให้เกิดการจา้ งงานและประชาชน
มีรายได้ ซงึ่ เปน็ ตัวช่วยให้โครงสร้างทางเศรษฐกจิ และสังคมดีขนึ้
2. ธรุ กิจขนาดยอ่ ม เปน็ จุดเริ่มต้นของธรุ กจิ ขนาดใหญ่เพราะความเจรญิ ก้าวหน้าของ ธรุ กิจ
ขนาดยอ่ มทาให้ธรุ กจิ มนั่ คงมียอดการผลิตที่สงู ขึ้น และมีการนาเทคโนโลยี ท่สี งู ข้นึ มาใช้ในการผลิตซึ่งสิง่
เหล่าน้ี เป็นฐานไปสธู่ รุ กิจขนาดใหญ่
3. ธุรกิจขนาดยอ่ ม เป็นแหล่งผลติ สนิ ค้าใหม่ ๆ เปน็ การรวมกลุ่มของบุคคลรว่ มกนั คิด และผลิต
ผลติ ภณั ฑใ์ หม่ ๆ ออกมาสตู่ ลาด โดยท่ีธรุ กจิ ขนาดใหญ่ไม่กลา้ เส่ยี ง ตอ่ การลงทุน
เอสเอม็ อี (SME หรือ SMEs)คอื อะไร
คาว่า เอสเอ็มอี นนั้ เป็นคายอ่ ของคาว่า Small and Medium Enterprise (SME) ใน
ภาษาองั กฤษนน่ั เอง สาหรับคาทีใ่ ช้กนั อย่างเปน็ ทางการของภาษาไทย คอื “วิสาหกจิ ขนาดกลางและ
ขนาดยอ่ ม”
สาหรบั ประเทศไทย ได้มีกฎหมาย ธุรกิจเอสเอ็มอี ประกาศออกมาอยา่ งเปน็ ทางการแล้ว ซึง่
เรียกวา่ พระราชบญั ญัติส่งเสรมิ วสิ าหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม พ.ศ. 2543โดยตาม กฎหมายฉบบั น้ี
นั้น ได้ใหอ้ านาจ รฐั มนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในการกาหนดว่า ใครบา้ งทีจ่ ะได้ ขน้ึ ชื่อวา่ เข้า
ข่ายเป็น ธรุ กจิ เอสเอม็ อี ซง่ึ จะประกาศออกมาเปน็ กฎกระทรวง กอ่ นหน้านี้ จะใชเ้ กณฑ์ ในการวัดว่า
ธุรกจิ ไหนเป็น เอสเอม็ อี ดังน้ีคอื
กิจการท่ีดาเนินงานเกยี่ วกบั การผลิตหรือบรกิ าร มีมลู คา่ ทรัพยส์ นิ ถาวรไมเ่ กนิ สองร้อยล้านบาท มี
การจา้ งงานไม่เกนิ สองร้อยคน
กจิ การค้าส่ง ทีม่ ีทรัพย์สนิ ถาวรไม่เกนิ หนงึ่ ร้อยล้านบาท มีการจ้างงานไมเ่ กนิ หา้ สบิ คน
กิจการค้าปลกี ทมี่ ีมูลคา่ ทรัพยส์ นิ ถาวรไมเ่ กิน หกสิบลา้ นบาท มกี ารจา้ งงานไม่เกนิ สามสบิ คน
เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ิทยาลยั 35
หนา้
ลักษณะของธุรกจิ ขนำดย่อมทวั่ ไป
1. ปรมิ ำณยอดขำยมนี ้อย โดยรายไดใ้ นท้องถ่นิ อาจจะตอบสนองธรุ กิจขนาดใหญไ่ ม่ได้ แตก่ ม็ าก
พอทีจ่ ะทาใหผ้ ปู้ ระกอบธรุ กิจขนาดยอ่ มสามารถอยรู่ อดไดต้ ามสมควร ดังน้ันธุรกจิ ขนาดใหญ่จงึ ไม่
ตอ้ งการแข่งขนั กบั ธรุ กิจขนาดเล็ก
2. มฝี ีมอื และประสบกำรณข์ องตนเองในกำรบริกำรลกู คำ้ เนือ่ งจากเจา้ ของเป็นผบู้ รหิ ารงาน
เอง จงึ ใชค้ วามสามารถส่วนตัวในการบริหารงาน เช่น ช่างตัดเส้อื นักออกแบบภายใน
3. มีกำรบริกำรในลกั ษณะเปน็ กำรสว่ นตวั โดยจะต้องขึ้นอยู่กบั ความสามารถ และบุคลิกภาพ
ของผปู้ ระกอบการเป็นสาคัญ ส่วนใหญแ่ ลว้ จะมอี ยู่ในธุรกิจขนาดยอ่ ม
4. มคี วำมสะดวก ธรุ กจิ ขนาดยอ่ มสามารถแขง่ ขันกบั ธรุ กจิ ขนาดใหญ่ได้โดยการเสนอความ
สะดวกสบายท่ธี ุรกิจขนาดใหญ่ซ่ึงเปน็ คู่แขง่ ขันไม่สามารถหาได้
5. สำมำรถปรับตัวเข้ำกับควำมต้องกำรของทอ้ งถิน่ ธุรกิจขนาดยอ่ มในท้องถิ่นท่ีตัดสนิ ใจดว้ ย
ตัวเองโดยใช้ความรคู้ วามตอ้ งการ และความพอใจของท้องถน่ิ จะได้เปรยี บธุรกิจขนาดใหญ่ และธรุ กิจมี
ความสมั พันธเ์ ป็นการส่วนตวั กับเจา้ ของและพนักงาน
6. มีแรงจูงใจสูง เมื่อประกอบธุรกิจของตนเอง เจ้าของจะต้องทางานหนักและเสียสละมากกวา่
การทางานใหก้ บั ผู้อน่ื เนอ่ื งจากเป็นเจ้าของธุรกิจเอง จึงทาใหม้ กี ารดาเนินธรุ กจิ ของตนเอง
7. มคี วำมคล่องตัวทำงกำรบรหิ ำร ธุรกจิ ขนาดเลก็ สามารถปรบั ตัวเองใหเ้ ข้ากับความ
เปลีย่ นแปลงได้เร็วย่งิ ข้ึน
8. ตน้ ทนุ ในกำรดำเนินงำนตำ่ เนือ่ งจากใชแ้ รงงานของสมาชิกในครอบครัวที่สามารถให้
ผลผลติ มากกว่า แต่จ่ายค่าจ้างตา่ กวา่ ค่าจา้ งทีจ่ ่ายให้กับแรงงานทจ่ี า้ งจากท่ีอ่นื
ประโยชนข์ องธุรกิจขนำดย่อม
ธรุ กิจขนาดย่อมเปรยี บเสมือนส่วนหนึง่ ของธุรกิจชมุ ชนซ่งึ เป็นการช่วยด้านสวสั ดิการทาง
เศรษฐกจิ ของประชาชน เพราะมีการผลติ จานวนมากถึงคร่ึงหนง่ึ ของสินค้าและบริการทงั้ หมด ประโยชน์
เชิงเศรษฐกจิ ของธรุ กจิ ขนาดยอ่ มจะเหมือนกับธุรกิจขนาดใหญ่ คือ สรา้ งรายได้ให้กบั ชุมชนและประเทศ
ช่วยจดั หางานใหม่ นาเสนอนวัตกรรม กระต้นุ การแข่งขนั ชว่ ยเหลือธุรกจิ ขนาดใหญต่ ลอดจนผลิตสินค้า
และบริการท่มี ปี ระสิทธิภาพ ประโยชน์ของธุรกจิ ขนาดยอ่ มมดี งั นี้
1. กำรสร้ำงงำนใหม่ เป็นการสนับสนุนผู้ท่ีตอ้ งการเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง โดยการลงทุนใน
ธุรกิจใหม่ๆ หรอื การขยายธุรกิจเดิม ถือวา่ เป็นโอกาสสาหรับตลาดแรงงาน ธุรกิจขนาดย่อมน้นั สามารถ
เตบิ โตเป็นธรุ กิจขนาดกลางและใหญ่ได้ตอ่ ไป
2. กำรสรำ้ งนวัตกรรม หรอื ผลิตภณั ฑใ์ หม่ จะมจี ุดเริม่ ตน้ จากงานวิจยั ในหอ้ งทดลองเพื่อให้
ได้รับการยอมรับ ซ่งึ จะมสี ว่ นชว่ ยเหลืออยา่ งมีคุณค่าใหเ้ กิดขึ้นกบั มาตรฐานการครองชีพของประชาชน
3. กำรกระตนุ้ ให้เกดิ กำรแข่งขนั ทำงเศรษฐกจิ การเพิม่ การแข่งขนั เปน็ สถานการณ์ซ่งึ ธุรกิจมี
การแขง่ ขนั ด้านการขาย การมธี รุ กิจขนาดย่อมเข้ามาแขง่ ขันด้วยจะทาให้การแขง่ ขนั ด้านราคาลดลง
ตลอดจนมกี ารเพิ่มผลผลิตและเพิ่มมาตรฐานของสนิ ค้าและการบริการ ซง่ึ เปน็ การเพม่ิ มาตรฐานการครอง
ชพี ให้แกป่ ระชาชนได้
4. ชว่ ยเหลือธรุ กจิ ขนำดใหญใ่ หผ้ ลิตสินค้ำและบรกิ ำรได้อย่ำงมีประสิทธภิ ำพมำกข้ึน หน้าท่ี
บางอย่างธุรกจิ ขนาดย่อมมักจะทาได้ดีกวา่ ธุรกจิ ขนาดใหญ่ เพราะธรุ กจิ ขนาดใหญน่ น้ั ไม่อาจทาหนา้ ที่
เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลยั 36
หนา้
ครบทุกประการ ในขณะท่ีธุรกจิ ขนาดย่อมสามารถทาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าซึ่งแบง่ ได้ เช่น การ
จดั จาหนา่ ย การขายปัจจัยการผลติ การบรกิ าร เปน็ ตน้
5.กำรผลิตสนิ ค้ำและบริกำรทม่ี ีประสทิ ธิภำพ ธรุ กิจขนาดย่อมจะต้องเกีย่ วข้องกับ
ประสิทธิภาพของงาน โดยเฉพาะธรุ กจิ ท่ตี ้องอาศยั ความประณตี และใช้ฝีมือ ธุรกจิ ขนาดย่อมจะทาได้
ดีกว่า ถือวา่ เป็นจดุ เร่ิมตน้ ในการพัฒนาความสามารถในการประกอบการด้วย
6. กำรกระจำยกำรพัฒนำประเทศ ธุรกจิ ขนาดย่อมมีการตง้ั กระจดั กระจายกันไปตามชุมชน
ตา่ ง ๆ จงึ มีบทบาทในการส่งเสรมิ การกระจายความเจรญิ เติบโตของท้องถ่นิ
7.กำรเพ่ิมกำรระดมทนุ ธุรกิจขนาดย่อมเป็นการรวบรวมเงนิ ทนุ ทเ่ี ปน็ ของผปู้ ระกอบการและ
ญาติพ่นี ้องมาก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์ในทางธรุ กจิ จงึ เป็นจดุ เริ่มต้นในการระดมทุน ซ่ึงเป็นการเพม่ิ
ความสามารถในการผลิตของประเทศดว้ ย เช่น ธุรกิจการผลิต ธรุ กิจเหมืองแร่ ธรุ กิจคา้ ส่ง ธุรกจิ คา้ ปลกี
และธรุ กจิ บรกิ าร
กำรจำแนกกจิ กำร SMEs
เกณฑ์ทีใ่ ช้ในการจาแนกกจิ การของ SMEs ว่าจะเป็นวิสาหกิจขนาดกลางหรือขนาดย่อม คือ
1. มูลค่าชัน้ สงู ของสนิ ทรัพยถ์ าวร
2. จานวนการจา้ งงาน
การจาแนกประเภทของ SMEs โดยใช้มูลค่าชนั้ สูงของสนิ ทรัพย์ถาวร สามารถจาแนกได้ดงั นี้
1. การผลติ : วิสาหกิจขนาดกลางไม่เกนิ 200 ล้านบาท วิสาหกิจขนาดเล็กไม่เกิน 50 ลา้ นบาท
2. การบรกิ าร : วิสาหกจิ ขนาดกลางไมเ่ กนิ 200 ลา้ นบาท วิสาหกจิ ขนาดเล็กไมเ่ กิน 50 ลา้ น
บาท
3. การคา้
3.1 ค้าสง่ : วิสาหกิจขนาดกลางไม่เกิน 100 ลา้ นบาท วสิ าหกิจขนาดเลก็ ไม่เกิน 50 ล้านบาท
3.2 ค้าปลีก : วิสาหกิจขนาดกลางไม่เกิน 60 ล้านบาท วสิ าหกิจขนาดเลก็ ไมเ่ กิน 30 ลา้ นบาท
การจาแนกประเภทของ SMEs โดยใชเ้ กณฑ์จากจานวนการจ้างงาน สามารถจาแนกได้ดงั นี้
1. การผลิต : วสิ าหกจิ ขนาดกลางไม่เกิน 200 คน วิสาหกจิ ขนาดเล็กไมเ่ กนิ 50 คน
2. การบริการ : วิสาหกจิ ขนาดกลางไมเ่ กนิ 200 คน วสิ าหกิจขนาดเลก็ ไม่เกิน 50 คน
3. การคา้
3.1 คา้ ส่ง : วสิ าหกิจขนาดกลางไม่เกนิ 50 คน วิสาหกจิ ขนาดเล็กไม่เกิน 25 คน
3.2 ค้าปลีก : วิสาหกจิ ขนาดกลางไม่เกนิ 30 คน วสิ าหกิจขนาดเล็กไมเ่ กิน 15 คน
ขนาดย่อม ขนาดกลาง
กิจการ จานวน (คน) สนิ ทรพั ยถ์ าวร จานวน (คน) สนิ ทรพั ย์ถาวร
(ลา้ นบาท) (ล้านบาท)
กิจการการผลิต
กิจการบริการ ไมเ่ กิน 50 ไมเ่ กนิ 50 51-200 เกนิ กว่า 50-200
กิจการคา้ ส่ง
กจิ การคา้ ปลีก ไมเ่ กนิ 50 ไมเ่ กนิ 50 51-200 เกนิ กวา่ 50-200
ไมเ่ กนิ 50 ไม่เกนิ 50 26-50 เกินกว่า 50-100
ไม่เกนิ 50 ไม่เกิน 50 16-30 เกนิ กว่า 30-60
เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญ่วิทยาลยั 37
หนา้
ประเภทของธรุ กจิ ขนำดย่อม
การประกอบธุรกจิ ขนาดย่อม (SMEs) นั้นมอี ยูม่ ากมายหลายสาขา ไมว่ ่าจะเปน็ ด้านการผลิต
การคา้ และการบริการ รวมถึงธุรกิจแฟรนไชส์ และ OTOP ด้วย ซ่ึงอาจเป็นธรุ กจิ ในภาคการเกษตร หรอื
นอกภาคเกษตร หรือในภาคบริการ ปัจจัยสาคัญในการเลือกประเภทธุรกจิ นนั้ ขนึ้ อยู่กับทักษะของ
ผปู้ ระกอบการทีส่ ามารถขับเคลื่อนธุรกจิ (Unique Skill Driven Product) โดยมกี ระบวนการผลติ ท่ี
ยดื หยุ่นสอดคลอ้ งกบั ความต้องการของตลาด และการยกระดับขดี ความสามารถในการแข่งขันใหเ้ ป็น
ธรุ กจิ ระหวา่ งประเทศไดต้ ่อไป ซงึ่ สามารถแบ่งประเภทธรุ กจิ ขนาดย่อมได้ดังนี้
1. กำรผลติ (Product Sector) ครอบคลุมการผลติ ในภาคเกษตรกรรม (Agricultural
Processing) ภาคอตุ สาหกรรม (Manufacturing) และเหมืองแร่ (Mining)
2. ธรุ กจิ กำรคำ้ สง่ (Wholesaling)
3. กำรคำ้ (Trading Sector)
4. กำรบริกำร (Service Sector)
ธุรกิจกำรผลิต
ธุรกิจกำรผลิต (Manufacturing) หมายถึง การแปรสภาพปัจจัยการผลติ โดยอาศัย
กระบวนการผลติ ในการแปลงสภาพวัตถุดิบให้เป็นสนิ คา้ หรือบริการ ตามความต้องการของผ้บู รโิ ภค ซ่ึงมี
สินคา้ จานวนมากที่ผลติ ขึ้นและจาหนา่ ยเองโดยใช้เครื่องจกั ร แรงงานและฝีมือในการแปรรปู
ปจั จัยในกำรผลติ หน้าท่ีสาคัญของผปู้ ระกอบการในการผลิตสนิ คา้ หรอื บริการ จาเป็นต้องแสวงหาปจั จยั
การผลติ (Factor of Production)
กำรส่งั ซ้ือวัตถุดิบ
1. กาหนดรายละเอียดของสินค้า
2. สารวจตลาดในเร่อื งแหล่งผลติ ราคา คุณภาพของสินคา้
3. เจรจาตอ่ รองในเรื่องของราคา จานวน และประเด็นต่าง ๆ
4. ส่ังซื้อโดยออกใบสั่งซื้อสนิ ค้า เป็นหลกั ฐานในการตดิ ต่อ
ขน้ั ตอนกำรเกบ็ รักษำ ผู้รบั ผดิ ชอบจะต้องเก็บรกั ษาวตั ถุดิบ วสั ดุ และสินค้าในสถานท่ีท่ีมีสภาพเหมาะสม
ทั้งอุณหภมู ิและความชน้ื ในสถานทจี่ ัดเก็บ ลกั ษณะการจัดเกบ็ วางสนิ ค้า ขน้ั ตอนการดาเนินการผลติ
วิธกี ารผลติ ขึน้ อยู่กบั ลกั ษณะของผลผลติ
เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรยี นหาดใหญ่วทิ ยาลยั 38
หนา้
ธรุ กิจคำ้ สง่
กำรค้ำสง่ (Wholesaling) หมายถึง กิจกรรมทั้งหมดทีเ่ ก่ียวข้องกบั การขายสนิ คา้ หรอื บริการ
ให้กบั องค์กรท่ีซือ้ ไปเพื่อการขายต่อหรอื เพื่อใชใ้ นทางธรุ กิจ (Kotler, 1997) หรอื หมายถึงกิจกรรมท้ังหมด
ของบุคคลหรือองค์กรที่ขายสินค้าใหก้ ับพอ่ ค้าปลีกและพอ่ คา้ คนอืน่ ๆ และ/หรือขายให้กับผใู้ ช้ทาง
อตุ สาหกรรม ผู้ใช้ทีเ่ ป็นสถาบันและผูใ้ ช้ทางธรุ กจิ แต่ไม่ไดข้ ายสินคา้ ในปรมิ าณทม่ี ากให้กับผูบ้ ริโภคคน
สุดทา้ ย (Stern, El-Ansary and Coughlan, 1996)
องคป์ ระกอบของการค้าส่งสรุปได้ดงั น้ี
1. จาทาหน้าทเี่ ป็นผขู้ ายต่อใหล้ กู คา้ โดยมปี ริมาณการสงั่ ซ้ือแต่ละคร้งั มจี านวนมาก
2. ลูกคา้ ของสถาบนั การคา้ สง่ คือ องค์กรท่ซี ้ือสินคา้ ไปเพื่อขายตอ่ หรือใชใ้ นการผลิต หรือ
ใหบ้ รกิ าร หรอื ใชใ้ นการดาเนินงานของกิจการ เชน่ พ่อค้าสง่ พอ่ คา้ ปลีก ผ้ใู ชท้ างอุตสาหกรรม ผใู้ ชท้ เี่ ป็น
สถาบนั และผู้ใชท้ างธรุ กจิ ต่าง ๆ
3. ไมไ่ ด้มงุ่ ขายสนิ คา้ ในปริมาณท่ีมากใหก้ บั กลุม่ ผูบ้ รโิ ภคคนสุดท้าย
ประเภทของกำรค้ำสง่
1. พ่อค้ำสง่ ทเ่ี ปน็ พ่อคำ้ (Merchant Wholesalers) เปน็ พ่อคา้ สง่ ทมี่ ีสิทธิ์เปน็ เจา้ ของสินคา้ ท่ี
ตนเองครอบครองอยู่ โดยจะซ้อื สนิ ค้าจากผู้ผลติ หรอื พ่อค้าส่งรายอน่ื ๆ และมีสนิ คา้ มากมายหลายชนดิ
เพื่อนามาจาหน่ายให้กับผู้ซอ้ื ทซี่ ้ือจานวนมาก การใหบ้ ริการแก่ลูกคา้ แตล่ พประเภทจะแตกตา่ งกนั ไป ซง่ึ
พ่อคา้ สง่ ท่ีเปน็ พอ่ ค้าแบ่งออกเปน็ 2 ประเภท คือ
1.1 พอ่ ค้ำส่งทีใ่ ห้บรกิ ำรครบถ้วน (Full Service Wholesalers)
1.2 พอ่ คำ้ ส่งที่ให้บริกำรจำกัด (Limited Service Wholesalers)
2. นำยหนำ้ และตัวแทน (Brokers and Agents)
นายหนา้ และตวั แทนเป็นคนกลางท่ที าหน้าท่ปี ระสานงานระหวา่ งผ้ซู อื้ กบั ผู้ขาย แต่ไมม่ ีกรรมสิทธ์ใิ นสินค้า
ทต่ี นดาเนินการ แบง่ ออกได้ 2 ประเภท คือ
2.1 นำยหนำ้ (Brokers)
2.2 ตัวแทน (Agents)
3. สำขำและสำนักขำยของผู้ผลติ (Manufacturers Sales Branches and Offices)
ผูผ้ ลิตจะตง้ั สาขาหรือสานักงานขายขน้ึ มาเองในแตล่ ะทอ้ งท่ี เพ่อื จัดจาหนา่ ยสนิ คา้ ใหผ้ ้ผู ลติ โดยซื้อสนิ คา้
จากผู้ผลิตโดยตรง สาขาและสานกั งานขาย อาจจะเปน็ การค้าสง่ หรอื การคา้ ปลกี ก็ได้ แบ่งออกเปน็ 2
ประเภท ไดแ้ ก่
3.1 สำขำขำยของผู้ผลติ ท่ีมีสนิ คำ้ (Manufacturers’Sales Branches with
Stocks)
3.2 สำนกั งำนขำยของผผู้ ลิตท่ไี มม่ ีสนิ ค้ำ (Manufacturers Sales Offices
Without Stocks)
4. พอ่ ค้าส่งประเภทอ่ืน ๆ (Miscellaneous Wholesalers)
4.1 พอ่ ค้ำส่งนำ้ มันเช้ือเพลิง คลังจ่ำย นำ้ มนั เช้อื เพลงิ และแก๊สปิโตรเลียมเหลว
(Petroleum Bulk Terminal and LPG Facilities)
4.2 พอ่ คำ้ ส่งรวบรวมสินคำ้ ทำงกำรเกษตร (Assemblers of Farm)
เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรียนหาดใหญ่วทิ ยาลยั 39
หน้า
ธุรกจิ คำ้ ปลกี
กำรคำ้ ปลีก (Retailing) หมายถงึ กิจกรรมต่างๆ ที่เกีย่ วข้องกบั การขายสินคา้ หรือบริการใหก้ ับ
ผู้บริโภคคนสุดทา้ ยเพ่ือนาไปใชส้ ่วนตวั (Stern, El-Ansary and Coughlan, 1996) หรือหมายถงึ
กจิ กรรมต่าง ๆ ทเี่ ก่ียวข้องกบั การขายสนิ คา้ หรือบรกิ ารโดยตรงแกผ่ ูบ้ ริโภคคนสุดทา้ ย เพื่อการใช้ส่วนตวั
และไมใ่ ช่เปน็ การใชเ้ พื่อธุรกจิ (Kotler, 1997)
ประเภทของกำรค้ำปลกี
การค้าปลีกจะแบ่งออกเป็นกี่ประเภทน้ันขนึ้ อยู่กับเกณฑ์ทใี่ ช้ในการพจิ ารณาแบ่งประเภท
เนอ่ื งจากรา้ นค้าปลีกหน่ึง ๆ อาจจะถูกจัดกลมุ่ ให้เข้าอย่หู ลายกลุม่ หลายประเภท เช่น ร้านเซเว่นอีเลฟ
เว่น ซง่ึ จัดอย่ใู นรา้ นค้าปลกี แบบร้านสะดวกซ้ือก็ได้ หรือเป็นร้านแบบลูกโซ่ก็ได้ หรือเปน็ รา้ นคา้ ปลีก
แบบแฟรนไชส์กไ็ ด้ เป็นตน้ ในท่นี จี้ ะแบง่ ออกเป็น 3 ประเภท คอื
1. การคา้ ปลกี แบบมรี า้ นคา้ (Stores Rrtailing) ลูกคา้ สามารถซอ้ื สินค้าหรือบริการได้จากรา้ นค้า
ปลีกท่วั ไป ซึง่ แบ่งออกได้ 11 ประเภท ดงั น้ี
o รา้ นค้าขายสนิ ค้าเฉพาะอยา่ ง (Specialty Store)
o ห้างสรรพสนิ คา้ (Department Store)
o ศนู ย์การคา้ ครบวงจร (Shopping Center or Shopping Complex)
o รา้ นสรรพาหาร (Supermarket)
o รา้ นคา้ สะดวกซ้ือ (Convenience Store)
o ร้านขายสนิ คา้ ลดราคา (Discount Store)
o พอ่ ค้าปลีกขายสนิ คา้ ราคาถูก (Off-Price Retailer)
o ร้านคา้ ขายสินค้าราคาถกู (Superstore)
o รา้ นค้าทใ่ี ช้แคตตาลอ็ ก (Catalog showroom)
1.10 มนิ มิ าร์ตหรือร้านสรรพาหารขนาดย่อม (Minimart or Superrette)
1.11 ร้านขายของชาหรอื โชห่วย (Grocery Store or Mom & Pop Store or Provincial
Store)
2. การคา้ ปลกี แบบไม่มีร้านค้า (Non-Stores Retailing) ในปจั จบุ ันได้รบั ความนยิ มมากขึ้น
ประกอบด้วย .
o การขายตรง (Direct Selling)
o การตลาดทางตรง (Direct Marketing)
o การขายโดยใชเ้ คร่ืองจักรอัตโนมตั ิ (Automatic Vending Machine)
o ธรุ กจิ ที่ให้บริการในการซื้อ (Buying Service)
3. องคก์ รทท่ี าการค้าปลีก (Retail Organizations) เปน็ ธรุ กิจที่ทาการคา้ ปลีกโดยขายสินคา้
ให้กบั ผ้บู ริโภค ซง่ึ เกดิ จากอานาจการซือ้ การยอมรับในตราสินค้า พนักงานขายจะได้รับการเข้าฝึกอบรม
อยา่ งดี ประกอบดว้ ย
o รา้ นค้าปลกี แบบลูกโซ่จากดั (Corporate Chain Store)
o ร้านคา้ ปลีกแบบลูกโซส่ มัครใจ (Voluntary Chain Store)
o สหกรณพ์ ่อคา้ ปลีก (Retailer Cooperative)
o สหกรณผ์ บู้ รโิ ภค (Consumer Cooperative)
เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรียนหาดใหญว่ ิทยาลยั 40
หน้า
o รา้ นคา้ ปลีกที่ไดร้ บั สทิ ธบิ ัตร (Franchise Organization)
o การร่วมมอื กนั บรหิ ารสนิ คา้ (Merchandising Conglomerate)
ธุรกิจใหบ้ ริกำร
ธรุ กิจบรกิ ำร (Service) หมายถึง ธรุ กิจทีใ่ ช้พนักงานบริการตอบสนองความต้องการของลกู ค้า
ธุรกิจขนาดยอ่ ม ทีเ่ ปน็ ธรุ กจิ ใหบ้ ริการทมี่ ีอยหู่ ลายชนิด เพราะเป็นธุรกิจทใ่ี ช้เงินลงทุนไมส่ ูงมากนัก แต่
ต้องอาศยั แรงงานและฝีมอื ของบุคลากร เช่น ร้านตดั ผม รา้ นตัดเส้อื ผ้า รา้ นซักรดี สานักงานบญั ชแี ละ
กฎหมาย รา้ นเสรมิ สวย เป็นตน้
ปัญหาการดาเนนิ งานของธุรกิจบริการ
ขาดข้อมูลพืน้ ฐานเกี่ยวกบั ผปู้ ระกอบการ เน่ืองจากยังไมม่ ีหน่วยงานท่ีดูแลโดยเฉพาะ
เนอื่ งจากธรุ กิจบริการมีความหลากหลายสงู ปัญหาทีเ่ กิดขึ้นจงึ มคี วามหลากหลายและเปน็
อุปสรรคตอ่ การแก้ไข ท้ังที่มหี นว่ ยงานเกี่ยวข้องมาก แต่ขาดการประสานงานกันอยา่ งใกลช้ ดิ
แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาธรุ กิจบรกิ าร
กล่มุ ธุรกจิ เปา้ หมาย ประเภทกลุ่มธุรกิจบรกิ ารที่ควรได้รับการส่งเสรมิ และพฒั นามดี งั น้ี
กลมุ่ ธุรกจิ บริการทีก่ าลังเติบโต
กลุ่มธุรกจิ บริการที่มีศักยภาพและมีความพร้อมสงู
กลุ่มธรุ กจิ บริการพ้ืนฐานที่ควรไดร้ บั การดูแล
กรอบแนวคิดการส่งเสรมิ และพัฒนาธุรกิจบริการ เพือ่ พฒั นาศกั ยภาพของผปู้ ระกอบการและสง่ เสรมิ การ
บรกิ ารท่มี ีมาตรฐาน โดยกรมพฒั นาธรุ กิจการคา้ ได้กาหนดภารกจิ หลกั ดงั น้ี
การพัฒนาศกั ยภาพผปู้ ระกอบการ
เพ่มิ ประสทิ ธภิ าพระบบการจัดการ
ยกระดบั คณุ ภาพและมาตรฐานการประกอบธุรกจิ
สง่ เสริมการพฒั นาระบบการตลาดสมยั ใหม่
ส่งเสริมการเพิ่มชอ่ งทางการตลาด
สรา้ งค่านิยมในการสนับสนุนบริการไทย
ส่งเสรมิ การรวมกล่มุ และเช่ือมโยงทางธรุ กิจบรกิ าร
เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรยี นหาดใหญ่วทิ ยาลยั 41
หน้า
แบบฝึกหดั
เร่ือง ธรุ กิจทว่ั ไป
ใหน้ ักเรยี นไปสบื คน้ ข้อมูลนักธรุ กจิ ท่ปี ระสบความสาเรจ็ และบอกชือ่ ธุรกจิ ที่ประสบความสาเร็จ
พร้อมภาพประกอบ
1. ชอื่ นักธุรกจิ
............................................................................................................................. ........................................
2. ประเภทของธรุ กจิ
.....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ........................................
............................................................................................................................. ........................................
.....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ........................................
...................................................................................................................................... ...............................
3. ปจั จยั ท่ีทาใหธ้ ุรกิจของเขาประสบความสาเรจ็
...................................................... ............................................................................................... ................
............................................................................................................................. ........................................
............................................................................................................................. ........................................
.....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ........................................
............................................................................................................................. ........................................
.....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ........................................
................................................................................................................................ .....................................
............................................................................................................................. ........................................
.......................................................................................... ........................................................... ................
............................................................................................................................. ........................................
เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ิทยาลยั 42
หน้า
บรรณำนกุ รม
กำรจัดตั้งบริษทั . สบื ค้นเม่อื วนั ท่ี 2 กุมภาพันธ์ 2563. จากhttp://incquity.com/
articles/startup/7-step-setting-your-business.
จริ วัฒน์ ปล้องใหม่. กำรจัดกำรธรุ กจิ เบอ้ื งตน้ . กรุงเทพฯ : เอด็ ดูเท็กซ์, 2545.
จุดเด่นของธรุ กิจออนไลน.์ สบื คน้ เมอ่ื วนั ที่ 2 กุมภาพนั ธ์ 2563. จาก https://gybo.org/.
ธรุ กจิ ขนำดกลำงและขนำดย่อม. สบื คน้ เม่ือวนั ท่ี 26 มนี าคม 2559 จาก
http://www.novabizz.com/Business/.
ธุรกจิ ออนไลน์. สืบคน้ เม่อื วันท่ี 2 กมุ ภาพนั ธ์ 2563 จาก https://www.mdsiglobal.com/online-
business/
พิเชฏฐ์ หล่งั ทรัพย.์ กำรจัดกำรธุรกิจเบ้ืองต้น. กรุงเทพฯ : ศูนย์ส่งเสริมอาชีวะ, 2545.
ไพรนิ ทร์ แย้มจินดา และ อุไรวรรณ บุญอาจ. กำรจัดกำรธรุ กจิ เบอื้ งตน้ .กรงุ เทพฯ : เอมพนั ธ,์ 2545.
วรรณา ทองเจรญิ ศิริกลุ และ อไุ รวรรณ บญุ อาจ. ธุรกจิ ทั่วไป. กรงุ เทพฯ : เอมพันธ์, 2545.
วิริยา อนนั ตศริ ิ และ คนอนื่ ๆ. ธุรกจิ ทว่ั ไป. กรุงเทพฯ : ศูนยส์ ่งเสริมวชิ าการ, 2545.
สมพิศ เลก็ เฟ่อื งฟ.ู งำนธรุ กิจ. กรงุ เทพฯ : วัฒนาพานิช, 2547.
อุดมการ อนิ ทใุ ส และคนอื่น ๆ. กำรจัดกำรธุรกิจเบ้อื งต้น. กรงุ เทพฯ :ฟิสกิ สเ์ ซ็นเตอร์, 2546.
เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรียนหาดใหญว่ ิทยาลยั 43
หน้า
หน่วยที่ 2 โครงงำนอำชพี
ความหมายของโครงงานอาชีพ
ขอบข่ายของโครงงาน ความสาคญั ของโครงงาน
ควำมรเู้ ร่ืองโครงงำน
การพิจารณาจัดทาโครงงาน ประเภทของโครงงาน
ทักษะการทางาน บญั ชเี งนิ สด
กำรปฏบิ ัติงำน โครงงำนอำชีพ กำรทำบัญชี
บนั ทกึ การปฏิบตั งิ าน งบแสดงฐานะการเงิน งบกาไรขาดทนุ
กำรเขยี นเค้ำโครง กำรเขียนรำยงำน
องค์ประกอบ รูปแบบ แบบงา่ ย แบบยาก
เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรียนหาดใหญว่ ทิ ยาลยั 44
หนา้
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลังเรยี น
หนว่ ยท่ี 3 โครงงำนอำชีพ
คำชี้แจง ข้อสอบเปน็ แบบปรนยั เลือกตอบ จานวน 30 ขอ้ ให้นกั เรยี นทาลงในกระดาษคาตอบ
คำสัง่ ให้นักเรยี นทาเครอื่ งหมายกากบาท (X) สาหรบั คาตอบท่ีเห็นว่าถูกตอ้ งทีส่ ดุ เพยี งข้อเดยี วลง
ในกระดาษคาตอบ
1. ในการวางแผนเพ่ือทากิจกรรมต่างๆ ได้มีการกาหนดหน้าท่ีของแตล่ ะคนที่แตกตา่ งกนั ซึง่ งานโดยรวม
จะสาเรจ็ ได้จาเปน็ จะต้องอาศัยขอ้ ใดเป็นสาคัญ
ก. ทาหน้าที่ของตนไดส้ าเร็จเรยี บร้อย
ข. ทางานร่วมกันโดยเน้นกระบวนการกลุ่ม
ค. ทางานของตนใหเ้ สรจ็ ก่อนแล้วจึงค่อยช่วยเหลืองานของผู้อน่ื
ง. ชว่ ยเหลอื งานของผูอ้ นื่ ใหเ้ สร็จก่อนแลว้ จงึ คอ่ ยทางานของตนเอง
2. ข้อใดมใิ ช่แหล่งศึกษาคน้ คว้าวชิ าโครงงาน
ก. สานกั งานข่าวกรองแหง่ ชาติ ข. หอ้ งสมุดและสถานประกอบการ
ค. เอกสาร วารสาร สิ่งตพี มิ พ์ ง. ผมู้ ีความรู้ ความชานาญ หรือมปี ระสบการณ์
3. ผลท่ีไดจ้ ากการทางานจะมีประสิทธิภาพเพียงใดขึ้นอยู่กับข้อใด
ก. ขั้นตอนการทางานท่ีรวดเรว็
ข. ความสามารถของแตล่ ะบุคคล
ค. ปริมาณข้อมูลท่ีเตรยี มในการวางแผน
ง. การแลกเปล่ยี นความคดิ เห็นและแก้ไขปัญหาของทุกคน
4. การประเมินผลงานควรปฏบิ ัตติ ามข้อใด
ก. ประเมนิ เป็นรายวัน ข. ประเมินทุกครั้งที่มีการปฏิบตั ิ
ค. ประเมนิ หลังจากเสรจ็ สิ้นโครงงาน ง. ประเมนิ เม่ือใดกไ็ ดข้ ึ้นอยู่กับผู้ทาโครงงาน
5. “ประพันธต์ ้องการทราบวา่ การเพาะเลี้ยงเนื้อเยอ่ื กลว้ ยสามารถทาไดห้ รือไม่” ประพนั ธค์ วรทา
โครงงานประเภทใด
ก. โครงงานสารวจ ข. โครงงานทดลอง
ค. โครงงานศกึ ษาทฤษฎี ง. โครงงานสรา้ งสง่ิ ประดิษฐ์
6. ขอ้ ใดไม่ใช่ประโยชน์ของการรายงานผลการทาโครงงาน
ก. ทาให้ทราบความก้าวหนา้ ของงาน
ข. ทาใหท้ ราบปญั หาและอุปสรรคในการทางาน
ค. ทาใหส้ ามารถแกป้ ัญหาทเี่ กิดขนึ้ ในการทางานได้
ง. ทาให้การปฏบิ ตั งิ านโครงงานเสรจ็ เรว็ กวา่ กาหนด
7. “นิดาเป็นผู้ทช่ี อบคานวณปริมาณโภชนาการทเี่ หมาะสมของแตล่ ะวัย” นดิ านาความรจู้ ากการทางาน
ในการดารงชวี ิตประจาวนั ใดมาใช้
ก. งานชา่ ง ข. งานบ้าน
ค. งานเกษตร ง. งานประดิษฐ์
เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ทิ ยาลยั 45
หน้า
8. การประดษิ ฐเ์ ครือ่ งอบพลังงานแสงอาทิตย์ ตอ้ งอาศยั ความรู้และประสบการณจ์ ากการทางานในการ
ดารงชวี ติ ประจาวันใดมาใช้
ก. งานชา่ ง ข. งานบ้าน
ค. งานเกษตร ง. งานประดิษฐ์
9. ผู้ท่เี ลอื กจาลองอาชพี จาหนา่ ยอาหารตามสั่งจะต้องมีความรู้ในด้านใดมากที่สดุ
ก. วิธกี ารใช้เคร่ืองปรุง ข. วิธีการเก็บรกั ษาอาหารสด
ค. วิธีการทาอาหารชนดิ ตา่ ง ๆ ง. วธิ ีการถนอมอาหารชนดิ ต่าง ๆ
10. ขอ้ ใดเป็นข้นั ตอนแรกของการทาโครงงานอาชีพ
ก. การเลือกโครงงานอาชีพ ข. การเขียนโครงงานอาชพี
ค. การพัฒนาโครงงานอาชีพ ง. การปฏิบตั ติ ามโครงงานอาชีพ
11. ส่วนประกอบใดของโครงงานอาชีพทท่ี าให้ทราบถงึ ผลผลิตท่ีจะไดร้ ับ
ก. จุดประสงค์ ข. หลกั การและเหตุผล
ค. ข้ันตอนการดาเนนิ งาน ง. การประเมินผลโครงงาน
12. คณุ ธรรมและจริยธรรมมีความสาคัญอยา่ งไร
ก. ช่วยใหบ้ ุคคลมีสตสิ มั ปชัญญะ ข. ช่วยสรา้ งความมีระเบียบวินัยในชาติ
ค. ชว่ ยควบคมุ ความเจรญิ ดา้ นวัตถุ ง. ถูกทุกข้อ
13. “สมโภชตัดกระดาษสมุดท่เี หลือแลว้ นามา เย็บรวมเปน็ เลม่ เพื่อไว้ใชต้ ่อไปอกี ” สมโภชมีคุณธรรมใด
ก. ความมนี า้ ใจ ข. ความประหยดั
ค. ความมรี ะเบียบวนิ ัย ง. ความขยนั หมนั่ เพยี ร
14. ความชานาญในวิชาชีพเกิดขน้ึ จากข้อใด
ก. การฝึกฝน ข. การสง่ั สอน
ค. การได้รับการอบรม ง. ถูกท้ังข้อ ก และ ค
15. การประกอบอาชพี ใดจาเปน็ ตอ้ งมจี รรยาบรรณ
ก. ขายเส้ือผา้ ข. รบั ราชการ
ค. ประกอบธุรกจิ ง. ทกุ สาขาอาชพี
16. การปรับปรุงงานควรทาเมื่อไร
ก. หลังจากทางานเสรจ็ ข. ก่อนลงมือปฏิบัติงาน
ค. ต่อจากการวเิ คราะห์งาน ง. เมือ่ ตรวจพบวา่ งานที่ทามีข้อบกพรอ่ ง
17. การทางานกล่มุ ใครควรปฏิบัตติ ามบทบาทหน้าทีข่ องตนใหด้ ที ่ีสดุ
ก. หัวหนา้ กลุ่ม ข. เลขานุการกลมุ่
ค. สมาชิกในกล่มุ ทุกคน ง. สมาชิกทมี่ คี วามสามารถ
18. ข้อใดเปน็ ประโยชน์จากการรายงานผลการทาโครงงาน
ก. ทาให้ทราบปัญหาในการทางาน
ข. ทาให้ทราบความก้าวหน้าของงาน
ค. ทาให้สามารถแก้ปัญหาทเ่ี กดิ จากการทางาน
ง. ถกู ทกุ ขอ้
เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา ง23102 การงานอาชพี (โครงงานอาชพี ) ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญ่วทิ ยาลยั 46
หน้า
19. ถ้าตอ้ งการทาโครงงานอาชพี ค้าขายสง่ิ ท่ตี อ้ งทาเป็นอนั ดบั แรกในข้ันการปฏิบัตงิ านตามโครงการคือ
อะไร
ก. หาทาเลท่ีตงั้ ข. สารวจตลาด
ค. จัดเตรยี มสินคา้ ง. หาแหล่งเงนิ ทนุ
20. ข้อใดสาคญั ท่ีสดุ ในข้นั ปฏิบตั ิโครงงานอาชีพ
ก. เงินทนุ ข. สถานท่ี
ค. ผูร้ บั ผดิ ชอบงาน ง. วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือ
21. การบันทกึ ผลการปฏิบัติงานจาเปน็ หรือไม่เพราะอะไร
ก. ไม่จาเปน็ เพราะเราลงมือปฏบิ ัตดิ ้วยตนเอง
ข. ไม่จาเป็น เพราะจะทาใหเ้ สียเวลาในการทางาน
ค. จาเปน็ เพราะทาใหท้ ราบผลการทางานทุกระยะ
ง. จาเป็น เพราะทาใหส้ ามารถทางานได้สาเร็จเรยี บรอ้ ย
22. การรายงานผลควรทาเมื่อใด
ก. ทาเมอื่ เกิดปัญหาในการทางาน
ข. ทาหลังจากปฏิบัติงานโครงงานเสร็จแล้ว
ค. ทาเมอ่ื ใดก็ไดต้ ามความพอใจของผู้ทาโครงงาน
ง. ทาเป็นระยะ ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นทาโครงงานจนส้นิ สุด
23. ผปู้ ระกอบอาชีพใดควรควรมคี วามซอ่ื สัตยส์ จุ รติ มากที่สดุ
ก. พนกั งานบัญชี ข. เจา้ หนา้ ท่ตี ารวจ
ค. พนักงานทาความสะอาด ง. เจ้าหน้าทีร่ ักษาความปลอดภัย
24. การเขยี นรายงานโครงงานที่ถกู ต้องควรเรยี งลาดบั ตามข้อใด
ก. บทนา วิธกี ารดาเนนิ งาน ผลการดาเนินการ สรุปผลการดาเนนิ งาน
ข. เอกสารท่ีเกี่ยวขอ้ ง วธิ กี ารดาเนนิ งาน ผลการดาเนนิ งาน และสรปุ ผลการดาเนนิ งาน
ค. เอกสารที่เกีย่ วข้อง บทนา วธิ ีการดาเนินงาน ผลการดาเนนิ งาน และสรปุ ผลการดาเนินงาน
ง. บทนา เอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง วธิ กี ารดาเนนิ งาน ผลการดาเนนิ งาน และสรปุ และอภิปรายผลการ
ดาเนินงาน
25. รายงานโครงงาน แบ่งออกเปน็ ส่วนใหญ่กส่ี ่วน
ก. 2 ส่วน ข. 3 สว่ น
ค. 4 สว่ น ง. 5 สว่ น
26. ที่มาและความสาคัญเขียนอยู่ในบทใดของรายงานโครงงาน
ก. บทท่ี 1 ข. บทที่ 2
ค. บทที่ 3 ง. บทท่ี 4
27. เอกสารทเ่ี ก่ียวข้องเขยี นไว้ในบทใด
ก. บทที่ 1 ข. บทที่ 2
ค. บทที่ 3 ง. บทท่ี 4
เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา ง23102 การงานอาชีพ (โครงงานอาชพี ) ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรยี นหาดใหญว่ ทิ ยาลยั 47
หน้า
28. การเขยี นกล่าวขอบคุณผู้มสี ่วนเกยี่ วข้องในความสาเรจ็ ของโครงงานเขียนไว้ในหนา้ ใด
ก. บรรณานุกรม ข. กิตตกิ รรมประกาศ
ค. บทคดั ย่อ ง. ภาคผนวก
29. เนอื้ หาสรปุ ย่อของโครงงานดไู ด้จากสว่ นใด
ก. บรรณานกุ รม ข. กิตตกิ รรมประกาศ
ค. บทคดั ยอ่ ง. ภาคผนวก
30. ส่วนใดของรายงานโครงงานที่สาคัญที่สดุ
ก. สว่ นต้น ข. ส่วนเนอ้ื เรอ่ื ง
ค. สว่ นท้าย ง. ถูกท้ัง ก. และ ค.