คม#ู ือเก่ียวกับข้ันตอนการดำเนินการจดทะเบยี น
ทรพั ยส< นิ ทางปญ@ ญา ประเภท
ลิขสทิ ธิ์
รายวิชาทรพั ย<สินทางป@ญญาไทย
ดร. ใยแกGว ศีลรกั ษ<
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลาG เจาG คณุ ทหารลาดกระบงั
““ความหมายของลขิ สิทธิ์
ลิขสิทธิ์ หมายถึง สิทธิแต2เพียงผู8เดียวที่จะกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับงานที่ผู8สร8างสรรคGได8ริเริ่มโดยการ
ใช8สติปLญญาความรู8 ความสามารถ และความวิริยะอุตสาหะของตนเองในการสร8างสรรคG โดยไม2ลอกเลียนงาน
ของผู8อื่น โดยงานที่สร8างสรรคGต8องเปQนงานตามประเภทที่กฎหมายลิขสิทธิ์ให8คุ8มครอง โดยผู8สร8างสรรคG
จะไดร8 ับความคุม8 ครองทันทที ่ีสร8างสรรคโG ดยไม2ต8องจดทะเบียน
การแจ8งข8อมูลลิขสิทธิ์ต2อกรมทรัพยGสินทางปLญญา มิได8เปQนการรับรองสิทธิ์ของเจ8าของ
ลิขสิทธิ์แต2อย2างใด แต2เปQนเพียงการแจ8งต2อหน2วยงานราชการว2าตนเองเปQนเจ8าของสิทธิ์
ในผลงานลิขสิทธิ์ที่แจ8งไว8เท2านั้น โดยผู8แจ8งต8องรับรองตนเองว2าเปQนเจ8าของผลงานที่นำมาแจ8งข8อมูลลิขสิทธิ์
และหนังสือรับรองที่กรมทรัพยGสินทางปLญญาออกให8 ก็มิได8รับรองว2าผู8แจ8ง
เปQนเจ8าของงานลิขสิทธิ์แต2อย2างใด หากมีข8อโต8แย8งเกี่ยวกับความเปQนเจ8าของลิขสิทธิ์ ผู8แจ8งจำเปQนต8องพิสูจนG
ความเปนQ เจา8 ของลขิ สิทธิ์
2
กฎหมายลขิ สทิ ธใ์ิ ห8ความคุม8 ครองแกง2 านสรา8 งสรรคG 9 ประเภท 3
ตามท+ีกฎหมายกําหนด ได้แก่
1. งานวรรณกรรม เชน, หนังสอื จุลสาร ส่ิงเขยี น ส่ิงพิมพ; คาํ ปราศรัย โปรแกรมคอมพิวเตอร;
2. งานนาฏกรรม เชน, งานท่ีเกยี่ วกบั การราํ การเตนF การทาํ ทา, หรือการแสดงประกอบ
ขึน้ เปKนเรอ่ื งราว รวมถึงการแสดงโดยวิธีใบดF Fวย
3. งานศิลปกรรม เชน, งานจติ รกรรม งานประติมากรรม ภาพพมิ พ; งานสถาปตP ยกรรม ภาพถ,าย
ภาพประกอบ หรอื งานสราF งสรรคร; ูปทรงสามมติ ิเกย่ี วกับภูมิประเทศ หรือวิทยาศาสตร; งาน
ศิลปะประยกุ ต; ซ่ึงรวมถงึ ภาพถ,ายและแผนผังของงานดงั กล,าวดFวย
4. งานดนตรีกรรม เชน, คํารFอง ทาํ นอง การเรียบเรยี งเสียงประสานรวมถึงโนFตเพลงทแ่ี ยกและ
เรียบเรียงเสียงประสานแลวF
5. งานสงิ่ บนั ทึกเสยี ง เชน, เทปเพลง แผ,นคอมแพค็ ดิสก; (ซดี ี) ทบ่ี ันทึกขอF มูลเสียง ท้งั นี้ไม,รวมถงึ
เสียงประกอบภาพยนตร; หรอื เสยี งประกอบโสตทัศนวัสดุอย,างอื่น
6. งานโสตทัศนวัสดุ เชน, วดี โี อเทป วซี ีดี ดีวีดี แผน, เลเซอรด; ิสก;ที่บนั ทกึ ขอF มูลประกอบดวF ย
ลาํ ดับของภาพหรอื ภาพและเสยี งอนั สามารถที่จะนาํ มาเล,นซ้ําไดอF กี
7. งานภาพยนตร; เชน, ภาพยนตร; รวมทง้ั เสียงประกอบของภาพยนตรน; ัน้ ดวF ย (ถาF ม)ี
2. งานนาฏกรรม เชน, งานท่เี กีย่ วกบั การรํา การเตนF การทาํ ทา, หรือการแสดงประกอบ
ขน้ึ เปนK เรอ่ื งราว รวมถงึ การแสดงโดยวิธีใบดF วF ย
3. งานศลิ ปกรรม เช,น งานจิตรกรรม งานประติมากรรม ภาพพมิ พ; งานสถาปPตยกรรม ภาพถา, ย
ภาพประกอบ หรืองานสรFางสรรคร; ูปทรงสามมติ ิเกย่ี วกับภูมิประเทศ หรอื วิทยาศาสตร; งาน
ศลิ ปะประยกุ ต; ซ่ึงกรฎวมหถมึงาภยาลพขิ ถสา,ิทยธแใิ์ หละค8 แวผามนคผมุ8ังขคอรองงาแนกด2งังากนลสา,รว8าดงสวF ยรรคG 9 ประเภท
4. งานดนตรีกรรม เช,น คํารอF ง ทาํ ตนาอมงทกี+กาฎรเหรมียบายเรกียํางหเสนยี ดงปไดร้ะแสกา่ (นตรอ่ ว)มถึงโนตF เพลงที่แยกและ
เรียบเรยี งเสียงประสานแลวF
5. งานสงิ่ บันทกึ เสยี ง เช,น เทปเพลง แผ,นคอมแพ็คดสิ ก; (ซดี ี) ทบี่ นั ทกึ ขอF มลู เสียง ทั้งนีไ้ ม,รวมถงึ
เสียงประกอบภาพยนตร; หรือเสยี งประกอบโสตทศั นวัสดอุ ย,างอนื่
6. งานโสตทศั นวสั ดุ เชน, วีดีโอเทป วีซดี ี ดีวดี ี แผ,นเลเซอรด; ิสกท; ่บี ันทึกขFอมลู ประกอบดวF ย
ลาํ ดับของภาพหรือภาพและเสียงอันสามารถทจี่ ะนาํ มาเลน, ซ้าํ ไดอF กี
7. งานภาพยนตร; เช,น ภาพยนตร; รวมทัง้ เสยี งประกอบของภาพยนตร;นนั้ ดFวย (ถาF ม)ี
8. งานแพรเ, สียงแพรภ, าพ เช,น การกระจายเสยี งวทิ ยุ การแพร,เสยี ง หรอื ภาพทางโทรทัศน;
9. งานอน่ื ใดในแผนกวรรณคดี แผนกวทิ ยาศาสตร; หรอื แผนกศลิ ปะ
4
1ลิขสิทธ์ิชนิดที่ งานลขิ วสทิ รธรช์ิ นณิดทกี่ 1รรม
วรรณกรรม หมายความว+า งานนิพนธ1ที่ทําข้ึนทกุ ชนดิ เชน+ หนังสอื จลุ สาร สิ่งเขียน สง่ิ พมิ พ1
ปาฐกถา เทศนา คําปราศรยั สนุ ทรพจน1 และใหหJ มายความรวมถึงโปรแกรมคอมพวิ เตอรด1 Jวย
โปรแกรมคอมพิวเตอร1 หมายความวา+ คาํ สัง่ ชุดคาํ สง่ั หรอื สงิ่ อ่นื ใดทีน่ ําไปใชJกบั เคร่ือง
คอมพวิ เตอร1 เพือ่ ใหเJ คร่ืองคอมพวิ เตอรท1 าํ งานหรอื เพื่อใหไJ ดJรับผลอย+างหน่งึ อย+างใด ท้งั น้ี
ไมว+ า+ จะเปPนภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร1ในลกั ษณะใด
5
การค&ุมครองงานสิง่ เขียน
การค&มุ ครองงานส่ิงเขียน
นกั เขยี นจะได,รบั ความคม,ุ ครองโดยอตั โนมัติจากกฎหมายลิขสิทธ์ทิ ันทที ีส่ ร,างสรรคAผลงานโดย
ไมตC อ, งไปจด ทะเบียน หรือไปจดแจ,งตCอหนCวยงานใด แม,นกั เขียนจะได,รับความคุ,มครองสิทธิ์ในผลงาน
ของตนเอง โดยทันที แตC นักเขียนสามารถนาํ ผลงาน (หนังสอื หรือแผนC ซดี )ี มาแจ,งขอ, มลู ลิขสทิ ธ์ทิ ี่
กรมทรพั ยสA นิ ทางปญP ญาโดยไมCเสีย คCาใชจ, าC ยใดๆ ทง้ั ส้ิน และกรมทรัพยสA ินทางปPญญาจะออกหนังสือ
รบั รองการแจง, ขอ, มูลลิขสิทธิ์ ซงึ่ สามารถใชเ, ปนV หลักฐานเบอื้ งตน, ในการแสดงความเปนV เจา, ของ
ลขิ สทิ ธ์ไิ ด, ขณะเดยี วกนั ยงั สามารถใช,เปVนหลักประกนั การก,ูยมื เงินจากธนาคารทีเ่ ข,ารCวมโครงการ
ตามนโยบายแปลงทรพั ยสA ินทางปPญญาเปVนทุนไดด, ,วย นอกจากน้ี นกั เขียนยัง อาจแสดงความเปVน
เจ,าของลิขสทิ ธใ์ิ นผลงานของตนโดยแสดงขอ, ความ เชนC “สงวนลิขสิทธ์ติ ามพระราชบญั ญัติ ลิขสิทธ์ิ
พ.ศ. 2537 โดย..” หรือแสดงสัญลกั ษณA ©
6
สทิ ธขิ องนักเขยี น
นักเขยี นจะมสี ทิ ธิแตเ1 พียงผเ6ู ดยี วในงานเขยี นของตนท่จี ะทําการใดๆ ดังต1อไปนี้
1. ทําซํ้า เชน1 การทาํ สาํ เนา การดาวนโF หลดลงเคร่อื งคอมพวิ เตอรF หรอื จดั พิมพFงานเปLนรปู เลม1
2. ดัดแปลง เช1น การนาํ งานวรรณกรรมไปแปลเปนL ภาษาต1างประเทศ หรือนาํ ไปจดั ทาํ เปLนบทละครโทรทศั นF
หรอื บทภาพยนตรF เปLนต6น
3. เผยแพรต1 อ1 สาธารณชน เชน1 การเผยแพร1ลงในเว็บไซตตF 1างๆ และการจาํ หน1าย แจกงานเขียน
4. อนญุ าตให6ผู6อืน่ ใชส6 ิทธ์ิ ไดแ6 ก1 อนญุ าตให6สาํ นักพมิ พFนาํ ไปจัดพมิ พF จัดจําหน1าย อนญุ าตใหด6 ดั แปลงหรอื
อนญุ าตใหน6 ําไปดาวFนโหลดและเผยแพร1ลงในเว็บไซตตF า1 งๆ
5. ให6ประโยชนFอันเกิดจากลิขสิทธ์ิแก1ผูอ6 ่ืน ได6แก1 การโอนผลตอบแทนท่ไี ดจ6 ากคา1 ลขิ สทิ ธิ์ให6แกบ1 ุคคลอน่ื
7
การแสดงข&อมูลเกย่ี วกบั สขิ สิทธิ์
นักเขียนควรระบุขอ. มูลเกีย่ วข.องกับงานทีต่ นได.สร.างสรรคข; ้นึ เช@น ชอื่ ผลงาน ชอ่ื ผสู. ร.างสรรค;
ชือ่ เจา. ของลิขสทิ ธิ์ ชอื่ สาํ นักพมิ พ; ปทJ สี่ รา. งสรรค; ปทJ พี่ ิมพ/; โฆษณา ปรมิ าณที่อนุญาตให.ใชง. านได.โดย
ไม@ตอ. งขอความยนิ ยอม เพอ่ื ให. ผ.อู นื่ ไดร. ับรขู. .อมลู เกี่ยวกับลิขสทิ ธ์ิและเพือ่ ประโยชนแ; กผ@ ูท. ปี่ ระสงค;จะ
ใช.งานในการตดิ ตอ@ ขออนุญาตใช.สิทธใิ์ นงานน้ัน
อายกุ ารคม&ุ ครองลขิ สิทธิ์
ลขิ สิทธงิ์ านเขียนจะมตี ลอดอายขุ องนกั เขียนผูน9 ้ันนบั แต=สร9างสรรคผ@ ลงาน และต=อไปอีก 50ปD
นับแต=นักเขยี นผูน9 นั้ เสยี ชวี ติ
การกสารรา% งสสรร&ารงคส(งรารนคลง=ขิ าสนิทลธขิิ์ สทิ ธ์ิ
การสร%างสรรคง( านลขิ สทิ ธิ์ ผูส% รา% งสรรคจ( ะต%องสร%างสรรคผ( ลงานดว% ยตัวเองคือไม?ลอกงาน
ของผอู% ื่น กรณขี องงาน เขียนกเ็ ชน? กัน นกั เขียนจะต%องเขียนงานจากความคดิ สร%างสรรค(ของตนเอง
โดยไมล? อกเลยี นตดั ต?อหรือดดั แปลง งานเขยี นของบคุ คลอ่นื
8
ข"อมลู เพิม่ เตมิ จากเอกสารการบรรยายของ ศ. (พิเศษ) สชุ าติ ธรรมาพิทกั ษก? ลุ
1. ลขิ สิทธ์มิ ีอยู-ตลอดอายุของผส4ู ร4างสรรคแ7 ละจะมอี ยูต- -อไปอีก เปน@ เวลา 50 ปC นบั แต-ผ4สู รา4 งสรรค7ถึง
แก-ความตาย
2. ในกรณีมีผ4ูสร4างสรรค7รว- มกนั มากกว-า 1 คน ลขิ สทิ ธิจ์ ะมีอยต-ู ลอดอายุของผู4สรา4 งสรรคร7 -วมและมีอย-ู
ตอ- ไปอีกเป@นเวลา 50 ปC นับแตผ- 4สู ร4างสรรคร7 -วมคนสุดท4ายถึงแกค- วามตาย
3. ถ4าผู4สร4างสรรคต7 ายเสียก-อนทไี่ ดม4 ีการโฆษณางานนั้น ลิขสิทธ์ิจะอย-ูเพยี ง 50 ปCนบั แต-ท่ีไดม4 กี าร
โฆษณา (แตต- 4องโฆษณากอ- นหมดอายุลิขสิทธิ์ คือ กอ- นครบ 50 ปC หลงั ผูส4 ร4างสรรคต7 าย) ขยายความใน
ข4อ 3 คือ ถ4านกั เขยี นสร4างสรรคง7 านไวแ4 ล4วตายก-อนมีการเผยแพรห- รอื โฆษณางาน (เช-น พิมพ7แจก
พมิ พข7 าย หรือโพสต7ลงเว็บไซต7ตา- งๆ) อาจอยู-ในรูปการจดบนั ทึก พิมพใ7 สไ- ฟลไ7 วอ4 า- นเอง ไมม- ใี ครร4ู แล4ว
บังเอิญทายาท (บตุ ร บดิ า มารดา ญาติพีน่ อ4 ง) มาพบเจอเขา4 นําไปจดั พมิ พเ7 ผยแพร- ลขิ สิทธิจ์ ะเปน@ ของ
ทายาทไปอกี 50 ปC แต-การนาํ ไปจัดพมิ พ7เผยแพรน- ้ันต4องก-อนครบ 50 ปC หลังนักเขยี นตาย ถ4าพบ
หลังจาก 50 ปC ทีน่ กั เขยี นตายไปแลว4 งานสร4างสรรคน7 ั้นก็ไม-ถือวา- มีลขิ สิทธ์ิ
9
กฎหมายที่เก่ยี วข&องกบั การละเมิดลิขสทิ ธซ์ิ อฟตแ= วร=
ซอฟต%แวร%หรือโปรแกรมคอมพวิ เตอรค% อื ส่งิ ที่ไดร: ับความคุม: ครองภายใตพ: ระราชบญั ญัตลิ ขิ สทิ ธิ์ พ.ศ.
2537 ("พ.ร.บ. ลิขสทิ ธิ์") โดยจัดเปนO งานอันมีลขิ สทิ ธ์ิประเภทงานวรรณกรรม (Literary work) ตาม
พ.ร.บ. ลขิ สทิ ธ์ิ กาํ หนดวSา โปรแกรมคอมพิวเตอร% หมายถึง คําสั่ง ชดุ คาํ สงั่ หรอื ส่งิ อ่ืนใด ทนี่ าํ ไปใช:กับ
คอมพิวเตอร% เพ่ือใหเ: ครอ่ื งคอมพิวเตอรท% ํางานหรอื ใหไ: ดผ: ลอยSางหนึ่งอยาS งใด ในกรณีท่ีบุคคลใด
ทาํ ซ้าํ ดัดแปลง เผยแพรตS อS สาธารณชน หรอื ให:เชาS ตน: ฉบับหรือสําเนาของโปรแกรมคอมพิวเตอร%
บคุ คลนั้น จะมีความผดิ ฐานละเมิดลิขสทิ ธซ์ิ อฟตแ% วร% มโี ทษปรบั ตั้งแตS 20,000 บาท
ถึง 200,000 บาท และหากเปOนการกระทําเพอ่ื การคา: จะตอ: งโทษจาํ คกุ ตั้งแตS 6 เดอื นถึง 4ป[ หรือ
ปรบั ตั้งแต1S 00,000ถงึ 800,000บาทหรอื ทง้ั จาํ ท้งั ปรับ
10
กฎหมายที่เกีย่ วข&องกับการละเมิดลขิ สิทธซิ์ อฟต=แวร= (ตอE )
นอกจากน้ี หากผใ,ู ดรู,หรอื มีเหตอุ ันควรรูว, า8 โปรแกรมคอมพวิ เตอร>นั้นทาํ ขน้ึ โดยละเมิดลิขสทิ ธ์ผิ ูอ, ่ืน แต8
ยังนําไปขาย มไี ว,เพื่อขาย เสนอขาย ใหเ, ชา8 เสนอให,เชา8 ใหเ, ชา8 ซอื้ เผยแพร8ต8อสาธารณชน แจกจ8ายใน
ลักษณะทอ่ี าจก8อให,เกิดความเสียหายแก8เจ,าของลขิ สิทธ์ิ นําเข,าหรือส่ังเข,ามาในประเทศไทย เพอื่ หา
กําไรกม็ ีความผิดฐานละเมิดลขิ สทิ ธิ์ โดยมโี ทษปรับตั้งแต8
10,000 บาท ถงึ 100,000 บาทและหากเปนU การทําเพ่ือการค,าผน,ู นั้ จะตอ, งโทษจาํ คกุ ตงั้ แต8 3 เดอื น
ถึง 2 ปV หรือปรับต้งั แต8 50,000 บาทถึง 400,000 บาท หรือท้ังจําทง้ั ปรบั
นอกเหนอื จากการแกไ, ขบรรเทาความเสียหายในคดีอาญาแล,ว เจ,าของลิขสทิ ธิ์ยังสามารถ
ฟอY งรอ, งดําเนินคดีแพง8 ในกรณกี ารละเมิดลขิ สทิ ธิ์ในซอฟต>แวร>ภายใต, พ.ร.บ.ลิขสิทธิห์ ากศาลพบว8ามี
การกระทาํ ความผดิ จริงอาจมีคําหา, มมิใหก, ระทําละเมิดอีกตอ8 ไป และมคี ําสง่ั ให,ชาํ ระค8าสนิ ไหม
ทดแทนสําหรบั ความเสยี หายทเ่ี กิดขึน้ จรงิ อนั เน่อื งจากการละเมดิ ดงั กล8าว
11
สทิ ธติ ามกฎหมาย
ภายใต& พ.ร.บ. ลขิ สทิ ธิ์ได&ให&ความค&มุ ครองเจา& ของลิขสิทธใิ์ นโปรแกรมคอมพิวเตอรC โดยให&สิทธแิ กD
ผส&ู ร&างสรรคเC พยี งผ&ูเดียว ในงานที่มีลิขสิทธ์ดิ งั กลDาว ดงั ตDอไปน้ี
• สทิ ธใิ นการสําเนาทัง้ หมดหรือบางสวD นของโปรแกรม
• สิทธิในการดัดแปลงหรอื เปล่ียนแปลงโปรแกรม สทิ ธิในการเผยแพรงD านตDอสาธารณชน
• สทิ ธใิ นการให&ผ&ูอืน่ เชาD โปรแกรม
นนั้ หมายความวDา คุณสามารถสําเนา , ดดั แปลง หรือเชDาโปรแกรมคอมพวิ เตอรCได& หากเจา& ของลขิ สทิ ธอ์ิ นญุ าต
โดยอยใูD นรปู ของการให&สิทธใิ นการใชง& าน ( license) ดังนั้น ทกุ ครงั้ ท่ีคณุ ซ้ือโปรแกรมคอมพวิ เตอรอC ยDางถกู
กฎหมาย คุณจะได&รับสญั ญาสทิ ธิการใชง& าน ( License Agreement) ซึง่ จะระบสุ ิทธิท่คี ุณไดร& ับเพ่ือการใช&งาน
โปรแกรมคอมพิวเตอรนC น้ั หากคณุ กระทาํ สิง่ ทีส่ ญั ญาไมอD นญุ าต หรือขดั ตDอ พ.ร.บ.ลขิ สิทธิ์ จะถือเปVนการฝXาฝYน
กฎหมายและต&องรบั โทษ
12
2ลขิ สทิ ธช์ิ นิดท่ี งานนาฏกรรม
นาฏกรรมหมายความวา, งานเกย่ี วกับการรําการเต5นการทาํ ท,าหรอื การแสดงทีป่ ระกอบเป>น
เร่อื งเป>นราวและหมายความรวมถงึ การแสดงโดยวิธใี บ5ดว5 ย ดังน้ันนาฏกรรมท่จี ะไดร5 บั ความคุม5 ครอง
ตามพระราชบญั ญตั ลิ ิขสิทธิ์ ต5องมลี ักษณะดงั นี้
1. เปน> การรําการเต5นการทาํ ท,าหรือการแสดงทีป่ ระกอบข้ึนเป>นเร่อื งเปน> ราวโดยใชม5 อื หรือใช5
เท5าหรอื ใชห5 น5าตาทแ่ี สดงออกถึงอารมณQ
2. การแสดงโดยวธิ ี การแสดงโดยวิธีใบ5หรือที่เรยี กกนั โดยทว่ั ไปวา, ละครใบเ5 ปน>
ศิลปะการแสดงแขนงหนึง่ ที่มวี วิ ัฒนาการอยา, งต,อเนื่องยาวนาน เป>นการใช5ภาษาทา, ทางเป>นภาษาพูด
ในการเล,าเรื่อง ซงึ่ การใชท5 ,าทางต,างๆและการแสดงออกทางสีหนา5 มคี วามเปน> สากล ทาํ ใหล5 ะครใบ5
สามารถดํารงอย,ูไดจ5 นถงึ ปจX จบุ ันและสามารถสรา5 งความบนั เทิงและใหแ5 ง,คดิ แกค, นโดยรวมไมเ, ฉพาะ
กล,มุ ใดกลม,ุ หนง่ึ ซึง่ เป>นการยอมรบั รูแ5 ละใหค5 วามคุม5 ครองตามการแสดงรปู แบบของการทาํ ทา, ทางที่
ทีไ่ มม, ีคาํ พูดประกอบ
13
งานอันมีลิขสิทธติ์ ามมาตรา6แหง5 พระราชบญั ญตั ลิ ขิ สิทธิ์พ.ศ. 2537 บัญญัตวิ า5 ‘‘งานอันมี
ลิขสิทธต์ิ ามพระราชบญั ญัตินี้ไดBแก5 งานสราB งสรรคปE ระเภทวรรณกรรม นาฏกรรม ศิลปกรรม ดนตรี
กรรม โสตทศั นวัสดุ ภาพยนตรE ภาพยนตรสE ิง่ บนั ทึกเสยี ง งานแพร5เสียงแพร5ภาพหรืองานอน่ื ใดใน
แผนกวรรณคดดี แี ผนกวทิ ยาศาสตรEหรอื แผนกศิลปะของผสBู ราB งสรรคไE ม5วา5 งานดงั กลา5 วจะแสดงออก
โดยวิธีหรือรปู แบบอย5างใด การคมBุ ครองลขิ สิทธไ์ิ ม5คลุมถึงความคดิ หรือขั้นตอนกรรมวิธหี รือระบบหรอื
วธิ ีใชหB รือทาํ งานหรือแนวความคดิ หลักการการคBนพบหรอื ทฤษฎีทางวิทยาศาสตรหE รอื คณิตศาสตรE ’’
การคุBมครองลขิ สทิ ธ์ใิ นงานนาฏกรรม เมอื่ มีการแสดงออกมาซ่ึงการเคลือ่ นไหวของรา5 งกายใหB
เปน\ ทา5 ทาง การรํา การเตนB การแสดง แตใ5 นความเป\นจริง การจดบนั ทกึ โนตB รําในระบบLabanotation
เปน\ ทยี่ อมรับกนั อย5างกวBางขวางในกระบวนการการบันทึกทา5 ราํ ทไ่ี ดมB าตรฐานและสามารถนํามาใชBไดB
กบั นาฏศิลป^ไทย ดังนัน้ หากเปรียบเทยี บกบั งานดนตรกี รรมตามความหมายของพระราชบญั ญตั ิ
ลขิ สิทธิ์ พ.ศ. 2537 ท่คี BุมครองไปถึงโนBตเพลง และแผนภมู ิเพลงที่ไดBเรยี บเรยี งเสียงประสานแลBว
จงึ ควรแกBไขความหมายของงานนาฏกรรมใหBหมายความรวมถงึ การบนั ทึกท5าราํ ตามระบบนาฏจารึก
ดBวย เพ่อื เปน\ การขยายความคุมB ครองนาฏกรรม เพอ่ื ใหสB อดคลBองกบั พฒั นาการของนาฏศลิ ป^
14
อายุการคุ&มครองลิขสิทธ์ิ
ลขิ สิทธจิ์ ะมีตลอดอายุของผู5น้ันนับแตส; รา5 งสรรค>ผลงาน และต;อไปอีก 50 ปC นบั แต;ผ5นู ้ัน
เสียชวี ติ
1. ลขิ สทิ ธิม์ อี ย;ูตลอดอายขุ องผ5ูสร5างสรรคแ> ละจะมีอยู;ต;อไปอกี เปHนเวลา 50ปC นบั แตผ; 5ู
สรา5 งสรรค>ถึงแก;ความตาย
2. ในกรณมี ีผ5สู ร5างสรรคร> ว; มกนั มากกวา; 1 คน ลขิ สทิ ธ์ิจะมอี ย;ูตลอดอายขุ องผ5สู ร5างสรรค>รว; ม
และมีอย;ูต;อไปอกี เปHนเวลา 50 ปC นับแตผ; 5ูสรา5 งสรรคร> ;วมคนสุดทา5 ยถงึ แก;ความตาย
3. ถ5าผูส5 รา5 งสรรค>ตายเสยี ก;อนท่ไี ดม5 ีการโฆษณางานนน้ั ลขิ สิทธิ์จะอยูเ; พยี ง 50ปCนับแต;ท่ีได5มี
การโฆษณา (แต; ต5องโฆษณาก;อนหมดอายุลิขสิทธ์ิ คือ ก;อนครบ 50ปC หลงั ผ5สู รา5 งสรรคต> าย) ขยาย
ความในข5อ 3 คือ ถ5าผูส5 รา5 งสรรค> สร5างสรรคง> านไวแ5 ลว5 ตายก;อนมกี ารเผยแพร;หรือโฆษณางาน
(เชน; พมิ พ>แจก พมิ พข> าย หรือโพสตล> งเวบ็ ไซตต> า; งๆ) อาจอยใู; นรูปการจดบนั ทกึ พมิ พ>ใสไ; ฟล>ไวอ5 ;านเอง
ไมม; ใี ครร5ูแลว5 บงั เอญิ ทายาท (บุตร บดิ า มารดา ญาตพิ ีน่ 5อง) มาพบเจอเข5านําไปจดั พมิ พ>เผยแพร;
ลิขสิทธจิ์ ะเปHนของทายาทไปอกี 50ปC แตก; ารนาํ ไปจัดพมิ พ>เผยแพรน; น้ั ตอ5 งกอ; นครบ 50ปC
หลังนักเขยี นตาย ถา5 พบหลงั จาก 50ปC ที่นักเขยี นตายไปแล5ว งานสร5างสรรคน> ัน้ กไ็ ม;ถือว;ามลี ิขสิทธ์ิ
15
การสรา& งสรรคง= านลขิ สทิ ธ์ิ
การสร&างสรรคง) านลขิ สทิ ธ์ิ ผสู& รา& งสรรค)จะต&องสรา& งสรรคผ) ลงานดว& ยตัวเองคอื ไมล? อกงาน
ของผ&ูอ่นื กรณขี องงาน เขียนกเ็ ช?นกัน นกั เขยี นจะตอ& งเขยี นงานจากความคิดสร&างสรรคข) องตนเอง
โดยไม?ลอกเลียนตัดต?อหรอื ดัดแปลง งานเขียนของบุคคลอื่น
การละเมดิ ลิขสทิ ธใิ์ นงานนาฎกรรม
การละเมิดลขิ สทิ ธใิ์ นงานนาฎกรรมพระราชบัญญัตลิ ิขสทิ ธ์ิ พ.ศ.2557 ไดบ@ ัญญัติถึงการ
ละเมดิ ลิขสิทธ์ไิ ว@ในมาตรา 27 วาD "การกระทําอยาD งใดอยาD งหนึง่ แกDงานอันมีลิขสทิ ธิ์ตามพระราชบญั ญัติ
โดยไมDไดร@ บั อนุญาตตามมาตรา 155 ให@ถอื วDาเปQนการละเมดิ ลขิ สิทธิ์ ถา@ ได@กระทาํ ดังตDอไปน้ี
(1) ทาํ ซํา้ หรือดดั แปลง
(2) เผยแพรตD อD สาธารณชน
16
ดงั น้นั การนาํ งานนาฏกรรมอันมลี ขิ สิทธิ์ไปทาํ ดัดแปลงหรือเผยแพร?ต?อสาธารณชนโดยท่ี
เจาF ของลิขสทิ ธไ์ิ มไ? ดFอนญุ าตนนั้ จึงถือเปนK การละเมดิ ลิขสทิ ธ์ิในงานนาฏกรรม
1. การทาํ ซ้าํ ในงานนาฏกรรม มาตรา 4 แห?งพระราชบัญญตั ิลิขสิทธไ์ิ ดFใหFความหมายของการทําซ้ํา
ไววF ?า "ทําซาํ้ หมายความรวมถึงคัดลอก ไม?วา? ดFวยวิธใี ด ๆ เลยี นแบบ ทําสําเนา ทําแมพ? ิมพT บนั ทึกเสยี ง
บันทกึ ภาพ หรือบนั ทกึ เสยี งและภาพจากตFนฉบบั จากสาํ เนาหรอื จากการโฆษณาในสว? นอนั เปKน
สาระสาํ คัญทง้ั น้ีไมว? า? ท้ังหมดหรือบางสว? น ดงั นี้ หากเปKนการทาํ ซ้ําในงานนาฏกรรม ย?อมอยู?ใน
ความหมายของการนําเอางานนาฏยประดษิ ฐขT องผูอF น่ื ไปคัดลอกไม?ว?าดFวยวิธใี ด ๆ นําไปทําเลยี นแบบ
และประการอ่นื ใด ตามมาตรา 4 แห?งพระราชบัญญัตลิ ิขสิทธ์โิ ดยทเ่ี จFาของลิขสทิ ธิไ์ มไ? ดอF นญุ าต
2.การดดั แปลงงานนาฏกรรม มาตรา 4 แหง? พระราบญั ญตั ลิ ขิ สิทธ์พิ .ศ.2537 บญั ญัตวิ ?า"ดัดแปลง
หมายความว?า ทาํ ซา้ํ โดยเปล่ยี นรปู ใหม? ปรับปรุงแกไF ขเพ่ิมเตมิ หรือจาํ ลองงานตนF ฉบับในส?วนอันเปนK
สาระสาํ คัญโดยไมม? ลี กั ษณะเปนK การจัดทํางานขึ้นใหม?ทงั้ น้ี ไม?วา? ท้ังหมดหรอื บางส?วน
17
(3) ในส(วนท่เี กย่ี วกบั นาฏกรรมใหห7 มายความรวมถึง เปลี่ยนงานท่มี ิใช(นาฏกรมใหเ7 ป@นงาน
นาฏกรรมหรอื เปลี่ยนนาฏกรรมใหเ7 ป@นงานท่ีมใิ ชน( าฏกรรม ทง้ั นี้ไมว( (าในภาษาเดมิ หรอื ภาษาตา( งกัน"
ดังน้นั การดัดแปลงงานนาฏกรรม ตามความหมายของพระราชบญั ญตั ิลขิ สทิ ธิ์ จึงหมายถงึ การทําซํา้
โดยเปลย่ี นรปู ใหม( เชน( นาํ งานนาฏกรรมทม่ี ีผูป7 ระดษิ ฐสX ร7างสรรคXขนึ้ มาเปลีย่ นรูปใหม( เชน( จากเดมิ
เป@นละครรอ7 ง เปลี่ยนรปู เปน@ ละครราํ หรือจากเดิมเป@นละครพูดมาเปล่ียนเปน@ ละครรอ7 งหรือละคร
เพลงเปน@ ต7นนอกจากนี้ ยังหมายความรวมถงึ เปลี่ยนงานที่มิใชน( าฏกรรมใหเ7 ปน@ นาฏกรรม เช(นเดมิ
เป@นนวนยิ าย ดดั แปลงเปน@ ละครเพลง หรอื ละครรํา หรอื เดมิ เปน@ งานประติมากรรม เชน( การนาํ ภาพ
แกะสลักนางอปั สรตามปราสาทมาดดั แปลงเปน@ งานนาฏกรรม เปน@ ตน7 หรือเปล่ียนงานนาฏกรรมให7
เป@นงานที่มิใช(นาฏกรรม เช(นเปลีย่ นจากละครรําเป@นจิตรกรรมหรือประติมากรรมเปน@ ตน7
18
3. การเผยแพร*งานนาฏกรรมตอ* สาธารณขนมาตรา 4 แห*งพระราชบญั ญตั ลิ ิขสทิ ธิ์ พ.ศ. 253 ไดD
บญั ญัตถิ งึ ความหมายของการเผยแพรต* อ* สาธารณชนไววD า* "เผยแพรต* อ* สาธารณชนหมายความวา* ทาํ ใหD
ปรากฏตอ* สาธารณชน โดยการแสดง การบรรยายการสวด การบรรเลง การทําใหปD รากฏดวD ยเสียง
และหรือภาพ การกอ* สรDาง การจาํ หน*าย หรอื โดยวธิ ีอืน่ ใด ซง่ึ งานท่ไี ดDจดั ทําขึ้น"ดงั น้ันลกั ษณะของการ
เผยแพร*งานนาฏกรรมต*อสาธารณชน ยอ* มหมายถงึ การนาํ งานนาฏกรรมออกแสดงต*อสาธารณชน
โดยการนาํ ออกแสดง หรอื หมายถงึ การนาํ งานนาฏกรรมใหDปรากฏดDวยภาพเชน* กนั
19
ขอ& ยกเว&นการละเมิดลิขสิทธิ์
การนํางานนาฏกรรม หรอื ดนตรีกรรมออกแสดงเพอื่ เผยแพร7ต7อสาธารณชนตามความ
เหมาะสม โดยมไิ ดAจดั ทําขนึ้ หรอื ดาํ เนนิ การเพือ่ หากําไรเน่ืองจากการจดั ใหAมีการเผยแพร7ตอ7
สาธารณชนน้ัน และมิไดจA ดั เก็บคา7 เขAาชมไม7ว7าโดยทางตรง หรือ โดยทางออA ม และ นักแสดงไมไ7 ดAรบั
ค7าตอบแทนในการแสดงนัน้ มใิ หถA อื วา7 เปนN การละเมิดลขิ สิทธ์ิ หากเปนN การดาํ เนินการโดยสมาคม
มลู นธิ ิ หรอื องคกQ ารอื่นที่มวี ัตถุประสงคเQ พ่ือการสาธารณกศุ ล การศกึ ษา การศาสนา หรือการสงั คม
สงเคราะหQ และไดAปฏิบัติตามมาตรา 32 วรรคหนึ่ง
20
3ลิขสทิ ธิ์ชนดิ ท่ี งานศิลปกรรม
ศลิ ปกรรม หมายความว.า งานอนั มีลกั ษณะอย.างหน่ึงอยา. งใดหรือหลายอยา. งดงั ต.อไปน้ี
(1) งานจติ รกรรม ไดCแก. งานสรCางสรรครF ูปทรงท่ปี ระกอบดCวยเสCน แสง สี หรอื สงิ่ อ่ืน อย.างใด
อย.างหนึง่ หรอื หลายอยา. งรวมกัน ลงบนวสั ดอุ ย.างเดยี วหรอื หลายอย.าง
(2) งานประตมิ ากรรม ไดCแก. งานสราC งสรรครF ูปทรงทเ่ี กีย่ วกับปริมาตรทสี่ มั ผสั และจับตอC งไดC
(3) งานภาพพมิ พF ไดแC ก. งานสรCางสรรคFภาพดวC ยกรรมวิธีทางการพมิ พF และหมายความ
รวมถึงแม.พมิ พF หรอื แบบพิมพFทใ่ี ชใC นการพมิ พFดCวย
(4) งานสถาปตU ยกรรม ไดแC ก. งานออกแบบอาคารหรอื สิ่งปลูกสรCาง งานออกแบบตกแตง.
ภายในหรือภายนอก ตลอดจนบริเวณของอาคารหรือสิ่งปลกู สรCาง หรอื การสรCางสรรคหF .ุนจําลองของ
อาคารหรอื สง่ิ ปลูกสราC ง
21
(5) งานภาพถา+ ย ได/แก+ งานสร/างสรรค5ภาพที่เกดิ จากการใช/เคร่ืองมอื บันทึกภาพโดยใหแ/ สง
ผา+ นเลนซไ5 ปยงั ฟลK 5มหรือกระจก และล/างดว/ ยนํ้ายาซ่ึงมสี ตู รเฉพาะ หรอื ดว/ ยกรรมวิธีใด ๆ อันทาํ ใหเ/ กดิ
ภาพขึ้น หรอื การบนั ทึกภาพโดยเคร่อื งมือหรือวิธีการอย+างอื่น
(6) งานภาพประกอบ แผนที่ โครงสร/าง ภาพร+าง หรอื งานสร/างสรรค5รปู ทรงสามมิติอัน
เกีย่ วกบั ภูมิศาสตร5 ภมู ิประเทศ หรือวิทยาศาสตร5
(7) งานศิลปประยกุ ต5 ไดแ/ ก+ งานที่นาํ เอางานตาม (1) ถึง (6) อย+างใดอย+างหน่ึงหรอื หลาย
อยา+ งรวมกนั ไปใช/ประโยชน5อยา+ งอื่น นอกเหนอื จากการชนื่ ชมในคณุ ค+าของตวั งานดงั กลา+ วนัน้ เช+น
นาํ ไปใช/สอย นําไปตกแตง+ วัสดหุ รอื ส่งิ ของอันเป\นเครื่องใช/ หรอื นําไปใช/เพื่อประโยชนท5 างการคา/ ทง้ั น้ี
ไม+ว+างานตาม (1) ถงึ (7) จะมคี ุณคา+ ทางศลิ ปะหรอื ไม+ และให/หมายความรวมถงึ ภาพถ+ายและ แผนผัง
ของงานดังกลา+ วด/วย
22
การคม&ุ ครองลิขสทิ ธิ์
มาตรา 15 ภายใต+บงั คับมาตรา 9 มาตรา 10 และมาตรา 14 เจา+ ของลขิ สทิ ธิย์ อ? มมีสิทธิ แตผ? +ู
เดียวดงั ตอ? ไปน้ี
(1) ทําซ้ําหรือดดั แปลง
(2) เผยแพรต? อ? สาธารณชน
(3) ให+เชา? ต+นฉบับหรอื สําเนางานโปรแกรมคอมพวิ เตอรW โสตทศั นวัสดุ ภาพยนตรW และ
สิ่งบนั ทึกเสยี ง
(4) ใหป+ ระโยชนWอันเกดิ จากลขิ สทิ ธิ์แกผ? ูอ+ นื่
(5) อนุญาตใหผ+ +อู ื่นใช+สิทธิตาม (1) (2) หรือ (3) โดยจะกาํ หนดเงอื่ นไข อยา? งใดหรอื ไม?
ก็ไดแ+ ตเ? ง่ือนไขดงั กล?าวจะกาํ หนด ในลักษณะทเี่ ปน_ การจํากดั การแขง? ขนั โดยไม?เป_นธรรมไมไ? ด+
23
อายแุ หEงการค&มุ ครองลิขสทิ ธิ์
ลิขสิทธิ์ในงานศลิ ปประยุกต4ใหม6 อี ายุยส่ี บิ หา6 ป<นับแตไ? ด6สรา6 งสรรคง4 านนัน้ ขนึ้ แตถ? า6 ไดม6 ี การ
โฆษณางานนน้ั ในระหวา? งระยะเวลาดังกลา? ว ให6ลขิ สิทธม์ิ อี ายุยสี่ ิบห6าป<นับแตไ? ดม6 ีการโฆษณาเปMนครง้ั
แรกตามพระ ราชบัญญตั ิ ลขิ สิทธิ์ พ.ศ.2537 นัน้ เจา6 ของลิขสิทธิ์ ได6แก? ผทู6 ่ีสรา6 งสรรคง4 านลขิ สทิ ธ์ิ
(ผทู6 ําหรอื ก?อให6เกดิ งานสร6างสรรคข4 ้ึน) ผ6ูวา? จา6 งทําของ และผูร6 ับโอนงานลขิ สิทธิ์ แลว6 แต?กรณี เปนM ต6น
24
ข&อยกเว&นอายแุ หEงการคมุ& ครองลิขสิทธิ์
1. ในกรณที ผ่ี ูส, รา, งสรรคเ1 ป4นนิตบิ ุคคล ให,ลิขสิทธ์ิมอี ายหุ ,าสิบปB (50ป)B นบั แตIผ,สู รา, งสรรคไ1 ด,สร,างสรรค1
ขึ้น แตถI า, ไดม, ีการโฆษณางานนั้น ในระหวาI งระยะเวลาดงั กลาI ว ใหล, ิขสิทธ์ิมอี ายหุ า, สบิ ปBนับแตไI ด,มีการโฆษณา
เป4นครงั้ แรก
2. ลิขสิทธใิ์ นงานภาพถาI ย โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร1 สง่ิ บันทึกเสียงหรอื งาน แพรเI สียงแพรIภาพให,มี
อายุหา, สบิ ป(B 50ป)B นบั แตไI ด, สร,างสรรค1งานนั้นขน้ึ แตIถ,าไดม, ีการโฆษณางานนัน้ ในระหวIางระยะเวลาดังกลIาว
ให,ลิขสิทธ์ิมีอายหุ ,าสิบปBนบั แตไI ดม, ีการโฆษณาเป4น ครงั้ แรก
3. ลิขสิทธิ์ในงานศิลปประยกุ ตใ1 ห,มี อายุย่ีสบิ หา, ปB (25 ป)B นบั แตไI ดส, รา, งสรรค1งานนั้นขนึ้ แตถI า, ได,มีการ
โฆษณางานนัน้ ในระหวIาง ระยะเวลาดงั กลIาวใหล, ิขสทิ ธ์ิมีอายยุ ีส่ บิ หา, ปBนับแตIได,มกี ารโฆษณาเปน4 คร้งั แรก
25
ขอ& ยกเว&นการละเมดิ ลขิ สทิ ธ์ิ
มาตรา 37 การวาดเขียน การเขยี นระบายสี การก3อสรา5 งการแกะลายเสน5 การป;:น การแกะสลัก การ
พิมพ?ภาพ การถา3 ยภาพ การถา3 ยภาพยนตร? การแพรภ3 าพ หรอื การกระทําใด ๆ ทาํ นองเดยี วกันน้ีซ่งึ ศิลปกรรม
ใดอันต้งั เปMดเผยประจาํ อย3ใู นทส่ี าธารณะ นอกจาก งานสถาปต: ยกรรม มิให5ถอื ว3าเปSนการละเมิดลิขสิทธ์ใิ น
ศิลปกรรมน้ัน
มาตรา 38 การวาดเขียน การเขยี นระบายสี การแกะลายเส5น การปน;: การแกะสลัก การพมิ พภ? าพ
การถ3ายภาพ การถ3ายภาพยนตร? หรือ การแพร3ภาพซ่งึ งานสถาป:ตยกรรมใด มิให5ถอื วา3 เปนS การละเมดิ ลขิ สิทธิ์
ในงานสถาปต: ยกรรมน้ัน
มาตรา 39 การถา3 ยภาพหรอื การถา3 ยภาพยนตร?หรือการแพรภ3 าพซึ่งงานใด ๆ อนั มศี ิลปกรรมใด
รวมอยเู3 ปSนสว3 นประกอบด5วย มใิ หถ5 อื ว3าเปนS การละเมดิ ลิขสทิ ธิ์ในศิลปกรรมนั้น
26
ขอ& ยกเว&นการละเมดิ ลขิ สิทธิ์ (ตอE ) 27
มาตรา 40 ในกรณที ีล่ ขิ สทิ ธใิ์ นศลิ ปกรรมใดมบี ุคคลอื่นนอกจากผู@สร@างสรรคเB ปนD เจ@าของอยFู
ด@วย การท่ีผสู@ รา@ งสรรคB คนเดยี วกนั ไดท@ าํ ศิลปกรรมน้นั อีกในภายหลงั ในลกั ษณะท่ีเปนD การทาํ ซ้าํ
บางสวF นกับศิลปกรรมเดิม หรือใช@แบบพิมพB ภาพราF ง แผนผัง แบบจําลอง หรือข@อมูลท่ไี ด@จาก
การศึกษาทีใ่ ชใ@ นการทําศลิ ปกรรมเดมิ ถา@ ปรากฏวFาผ@ูสร@างสรรคB มิได@ทําซ้าํ หรือลอกแบบ ในสวF น อัน
เปDนสาระสําคัญ ของศลิ ปกรรมเดมิ มิให@ถอื วFาเปนD การละเมดิ ลขิ สทิ ธ์ใิ นศิลปกรรมน้ัน
มาตรา 41 อาคารใดเปนD งานสถาปYตยกรรมอนั มีลขิ สิทธิ์ตามพระราชบัญญัตนิ ้ี การบูรณะ
อาคารน้นั ในรปู แบบเดิม มิให@ถอื วFาเปDนการละเมดิ ลขิ สทิ ธ์ิ
การจดแจ@งงานอนั มีลิขสทิ ธิส์ FวนใหญจF ะเปนD งานประเภทงานศลิ ปประยุกตB ท่ีมกี ารนาํ งาน
“ศิลปกรรม” ไปใชป@ ระโยชนอB ยFางอ่นื นอกเหนอื จากการชนื่ ชมในคณุ คาF ของตัวงาน เชFน นําไปใช@สอย
นาํ ไปตกแตFงวัสดุหรอื สิ่งของอนั เปDนเครอ่ื งใช@ หรอื นําไปใช@เพือ่ ประโยชนBทางการค@า เชนF สนิ คา@
ประเภท รFม เคสโทรศัพทมB ือถือ กระเป]า เปDนต@น จะนาํ งาน “ศลิ ปกรรม” ไปตกแตงF วัสดุหรอื สงิ่ ของ
อนั เปนD เคร่อื งใช@ หรือ นําไปใชเ@ พื่อประโยชนBทางการค@า ซ่งึ ระยะเวลาการค@มุ ครองจะมคี วามแตกตาF ง
กนั ดงั นี้งานอนั มลี ขิ สทิ ธต์ิ ามพระราชบัญญตั นิ ้ีใหม@ อี ยตFู ลอดอายขุ องผส@ู ร@างสรรคB และมอี ยูตF Fอไปอีก
ขอ& ยกเวน& การละเมดิ ลขิ สิทธ์ิ (ตEอ)
มาตรา 41 อาคารใดเป.นงานสถาป3ตยกรรมอนั มีลิขสทิ ธิต์ ามพระราชบัญญัตนิ ี้ การบรู ณะ
อาคารนัน้ ในรูปแบบเดมิ มใิ หHถือวาK เปน. การละเมิดลขิ สทิ ธ์ิ
การจดแจงH งานอนั มีลิขสิทธิ์สKวนใหญKจะเปน. งานประเภทงานศิลปประยุกตP ทมี่ ีการนาํ งาน
“ศิลปกรรม” ไปใชปH ระโยชนPอยาK งอ่ืน นอกเหนอื จากการชืน่ ชมในคณุ คKาของตวั งาน เชนK นําไปใชHสอย
นาํ ไปตกแตงK วสั ดหุ รอื สง่ิ ของอันเป.นเครอ่ื งใชH หรือนาํ ไปใชเH พอื่ ประโยชนPทางการคาH เชKน สินคาH
ประเภท รมK เคสโทรศพั ทมP ือถือ กระเปWา เปน. ตนH จะนาํ งาน “ศิลปกรรม” ไปตกแตงK วสั ดหุ รือสงิ่ ของ
อนั เป.นเครื่องใชH หรอื นาํ ไปใชเH พ่ือประโยชนPทางการคาH ซ่งึ ระยะเวลาการคมุH ครองจะมคี วามแตกตาK ง
กนั ดงั นี้งานอันมีลิขสทิ ธ์ิตามพระราชบัญญัตนิ ้ใี หHมีอยตูK ลอดอายุของผสHู รHางสรรคP และมีอยตูK Kอไปอกี
เป.นเวลา หาH สิบป[ นับแตผK ูสH รHางสรรคถP ึงแกคK วามตายในกรณีทมี่ ีผสูH ราH งสรรครP วK ม ลขิ สทิ ธ์ิในงาน
ดังกลKาวใหHมอี ยKูตลอดอายุของผูHสรHางสรรคPรวK ม และมีอยูK ตKอไปอีกเป.นเวลาหาH สิบปน[ บั แตKผสูH รHางสรรคP
รวK มคนสุดทาH ยถงึ แกคK วามตาย
28
บทกำหนดโทษ
มาตรา 69 ผใ*ู ดกระทําการละเมดิ ลิขสิทธิ์หรือสทิ ธิของนักแสดงตามมาตรา 27 มาตรา 28
มาตรา 29 มาตรา 30 หรือมาตรา 52 ตอ* งระวางโทษปรบั ต้งั แตสK องหมืน่ บาทถงึ สองแสนบาท ถา* การ
กระทําความผดิ ตามวรรคหนึง่ เปPน การกระทําเพอ่ื การค*า ผู*กระทํา ตอ* งระวางโทษจาํ คุกตัง้ แตหK ก
เดือนถงึ สป่ี U หรือปรับตัง้ แตKหนึง่ แสนบาทถงึ แปดแสนบาทหรือทั้งจาํ ทั้งปรับ มาตรา 70 ผู*ใดกระทํา
การอันละเมดิ ลขิ สทิ ธิต์ ามมาตรา 31 ตอ* งระวางโทษปรับต้งั แตหK นงึ่ หม่ืนบาทถงึ หน่ึงแสนบาท ถ*าการ
กระทาํ ความผิดตามวรรคหนงึ่ เปPนการกระทําเพอื่ การคา* ผูก* ระทาํ ต*องระวางโทษจาํ คกุ ตง้ั แตKสามเดือน
ถึงสองปU หรอื ปรับต้งั แตK หา* หมื่นบาทถงึ ส่แี สนบาทหรือทงั้ จําทัง้ ปรับ
29
4ลิขสทิ ธิ์ชนิดที่ งานดนตรกี รรม
ดนตรกี รรม หมายความวา. งานเก่ยี วกับเพลงที่แตง. ขนึ้ เพื่อบรรเลงหรอื ขับรอ= งไม.วา. จะมที าํ นอง
และคําร=อง หรอื ทาํ นองอย.างเดยี วและให=หมายความรวมถงึ โนต= เพลงหรอื แผนภมู เิ พลงท่ีไดแ= ยก และ
เรียบเรยี งเสยี งประสานแลว=
30
งานลขิ สิทธิท์ เี่ กย่ี วข2องกบั เพลงนนั้ โดยดง้ั เดิมได2แก= งานดนตรกี รรม ซึง่ ก็คือ งานทาํ นอง/คาํ
รอ2 ง ท่ีสรา2 งสรรคGโดยนักแตง= เพลง ตอ= มาเม่ือมีการนํา ทํานอง/คํารอ2 ง นั้นมาสรา2 งสรรคตG =อยอดเปIน
เสยี งดนตรี มีนกั ร2องร2องและทําการบันทึกเปนI เทป/ซีดี จัดทาํ เปนI สนิ ค2าจดั จาํ หน=ายซึง่ ตัวเสยี งดนตรี
เสยี งร2องต2นแบบของ งานทํานอง/คํารอ2 ง นนั้ เรียกว=าเปIน งานสิ่งบนั ทกึ เสียงทสี่ รา2 งสรรคGโดยบรษิ ทั
เทปน้ัน ในกฎหมายไทยเรากจ็ ดั วา= เปนI งานลขิ สิทธเ์ิ ชน= กัน การท่บี ริษทั เทปจะนาํ ทํานอง/คําร2อง ไป
ให2นกั ดนตรเี ลน= ให2นักรอ2 งรอ2 งบนั ทึกเปนI เทปตน2 แบบเพอื่ ปมRQ เปIน เทป/ซีดี ขายตอ= ไปนั้น กจ็ ะตอ2 งขอ
อนญุ าตสทิ ธทิ าํ ซาํ้ ทํานอง/คาํ ร2อง (งานดนตรกี รรม) นั้นจากนกั แต=งเพลงกอ= น โดยจา= ยผลตอบแทนให2
สิทธสิ =วนนเ้ี รยี กว=า "สทิ ธทิ าํ ซํา้ "
31
องค$กรบริหารจดั เกบ็ คา0 สทิ ธิงานดนตรีกรรมของนักแตง0 เพลงนั้น ทกุ ๆประเทศจะมีโครงสรDาง
ท่คี ลาD ยกนั คอื เปHนการรวมตัวของนกั แต0งเพลงเพ่ือดูแลสทิ ธิเผยแพรง0 านของตน องคก$ รทําหนาD ท่ี
เสมอื นคนกลาง อํานวยความสะดวกใหกD บั นกั แตง0 เพลง ซง่ึ หลกั การทาํ งานขององค$กรคือ บริหารการ
จดั เกบ็ คา0 สทิ ธเิ ผยแพรน0 น้ั ตDองไมแ0 สวงผลกาํ ไร หมายความว0าคา0 สทิ ธิทจ่ี ัดเก็บมาไดนD ้นั เม่ือหกั
คา0 ใชจD 0ายตามจริงแลวD ตDองจัดสรรใหDนกั แต0งเพลงตามปริมาณการใชเD พลง นน่ั คอื เพลงใครถกู ใชDมาก
จะไดDรบั คา0 สิทธิมากนัน่ เอง
32
คำนิยาม
1. คําว%า ดนตรกี รรม หมายถึง งานทีเ่ กย่ี วกบั เพลงท่แี ต%งข้ึนเพอื่ บรรเลง หรือขบั ร?องไมว% า% จะมี
ทํานองและคํารอ? งหรือมที าํ นองอยา% งเดยี วและใหห? มายความรวมถึงโนต? เพลง หรอื แผนภมู ิ
เพลงท่ีไดแ? ยกและเรยี บเรยี งเสียงประสานแล?ว และให?หมายความรวมถงึ เนื้อรอ? งที่ไมม% ดี นตรี
ประกอบ ท้ังนี้ไมว% า% จะบางสว% นหรือว%าทัง้ หมด
2. คาํ วา% สิทธิในการเผยแพรต% %อสาธารณชน หมายถงึ สทิ ธิท่จี ะกระทาํ การหรอื ใหผ? อู? ่นื กระทํา
การเกย่ี วกบั ดนตรีกรรมในลักษณะดงั นี้ ทําใหป? รากฎและหรือเผยแพรต% %อสาธารณชน โดย
การแสดงการบรรยายการสวด การบรรเลงการทําให?ปรากฎดว? ยเสยี งและหรือภาพ
หมายความรวมถงึ การแสดงตอ% สาธารณชน การกระจายเสยี ง สง% สัญญาณภาพและ/หรือเสียง
ท้งั ทางวิทยุกระจายเสยี งวิทยโุ ทรทัศนTไมว% %าจะใช?คลืน่ ความถ่หี รือไม%ก็ตามและทาง
อนิ เทอรเT นต็
33
2. คําวา% สิทธใิ นการเผยแพร%ตอ% สาธารณชน หมายถงึ สทิ ธทิ ี่จะกระทําการหรือให?ผอ?ู นื่ กระทาํ การ
เก่ียวกับ ดนตรกี รรมในลกั ษณะดังนี้ ทาํ ใหป? รากฎและหรือเผยแพร%ตอ% สาธารณชน โดยการแสดงการ
บรรยายการสวด การบรรเลงการทําใหป? รากฎด?วยเสียงและหรือภาพหมายความรวมถงึ การแสดงต%อ
สาธารณชน การกระจายเสียง ส%งสัญญาณภาพและ/หรอื เสียงทัง้ ทางวิทยุกระจายเสียงวิทยโุ ทรทัศนT
ไม%วา% จะใชค? ลน่ื ความถี่หรือไมก% ็ตามและทางอินเทอรTเนต็
3. คําว%า สทิ ธทิ าซ้าํ หมายความรวมถงึ คัดลอกไม%ว%าโดยวิธใี ดๆ เลียนแบบทํา สาํ เนา ทาํ แม%พมิ พT
บนั ทึกเสยี ง บันทึกภาพ หรือบนั ทึกเสยี งและภาพ จากตน? ฉบบั จากสาํ เนา หรือการโฆษณาในส%วนอัน
เปนZ สาระสําคัญ ทัง้ นี้ไม%วา% ทงั้ หมดหรือบางส%วน รวมถึงการทาํ ซํ้า เพ่อื ประกอบภาพเคล่ือนไหว
(Synchronization) ลงในรายการโทรทศั นT , ละครโทรทัศนT, ภาพยนตT, และงานโฆษณา, เกมสT, และ
เวบ็ ไซตเT พือ่ เผยแพรต% %อสาธารณชน
4. สิทธดิ ังกล%าวตามขอ? 1.2 และ 1.3 จะมอี ย%ตู ราบเทา% ทกี่ ฎหมายว%าด?วยลขิ สทิ ธขT องประเทศไทยจะ
อนญุ าต และหมายรวมไปถงึ สทิ ธกิ ารเผยแพร%ต%อสาธารณชน และทาํ ซ้ํา ที่มีอยู%ตามกฎหมายวา% ดว? ย
ลขิ สทิ ธข์ิ องประเทศอนื่ ๆ ด?วย
34
การอนุญาตสิทธิ
ผู#อนุญาตตกลงอนญุ าตให#ผู#รับอนญุ าตดูแล และจัดเก็บจากผู#ใชง# านท่วั โลกรวมทง้ั ผ#ูใชง# านใน
ประเทศไทยซง่ึ สิทธิดังตIอไปนี้
1. สทิ ธิการเผยแพรIตอI สาธารณชน
2. สทิ ธกิ ารทาํ ซ้ํา และอนญุ าตใหผ# ู#อื่นทาํ ซา้ํ เพ่ือเปาO หมายในการเผยแพรตI อI สาธารณชน ในงาน
ดนตรีกรรมทง้ั ปวงเทาI ท่ผี อ#ู นญุ าตมสี ทิ ธิอยใIู นเวลานี้หรือจะมีตอI ไปในอนาคต ไมวI IาจะเปนQ
สทิ ธิทีผ่ ู#อนุญาตไดม# า โดยการสร#างสรรคดR นตรกี รรมเองหรือโดยการรบั โอนหรอื ไดร# ับอนุญาต
ให#ใช#สทิ ธิมาจากผอู# ่นื ตลอดระยะเวลาตามสัญญาฉบับน้แี ละผูร# ับอนญุ าตขอรบั ซงึ่ สิทธิ
ดงั กลIาวทั้งหมดจากผูอ# นญุ าตเพ่อื ถือไวแ# ละใชใ# นการเรียกเก็บคาI อนุญาตใหใ# ช#สิทธแิ ละ/หรือ
อนญุ าตให#สทิ ธแิ กบI ุคคลอ่ืนตราบเทIาทสี่ ิทธิดงั กลIาวจะมีอยIู สิทธิดังกลาI วตอI ไปนีเ้ รยี กวาI
“สิทธทิ อ่ี นุญาต”
35
การจดั สรรคEาลิขสิทธิ์
ผร#ู บั อนุญาตสทิ ธติ กลงว5าผ#รู ับอนญุ าตจะจดั สรรเงินคนื ให#ผ#ูอนญุ าตสทิ ธโิ ดยเงินดังกล5าวจะมา
จากเงินที่ผ#รู บั อนญุ าตเรียกเก็บค5าอนุญาตใหใ# ชส# ิทธทิ อ่ี นุญาต จาํ นวนเงนิ ทีผ่ #ูอนญุ าตสทิ ธิจะไดร# บั น้ัน
จะข้ึนอยู5กบั ระบบการจ5ายคา5 อนญุ าตให#ใชส# ทิ ธิซึ่งค5ูสญั ญาไดต# กลงกนั โดยมีรายละเอียดใน
เอกสารแนบทา# ยหมายเลข1
36
การรับรองสิทธิ
1. ผู#อนุญาตสิทธิขอรับรองต3อผู#รับอนุญาตสทิ ธวิ 3าผู#อนุญาตสิทธมิ ลี ิขสทิ ธ์หิ รือได#รบั โอนสิทธหิ รอื
ได#รบั อนญุ าตใหใ# ช#สิทธิในดนตรกี รรมในส3วนของสทิ ธิทอ่ี นญุ าตโดยสมบรู ณแD ละผู#อนญุ าตสทิ ธิ
สามารถอนุญาตลิขสทิ ธิ์ในดนตรีกรรมในสว3 นดังกลา3 วได#ตามกฎหมาย ผอู# นญุ าตสิทธขิ อรับรอง
ด#วยวา3 ไม3มีดนตรกี รรมใด ๆ ของผู#อนญุ าตสิทธทิ ่ีละเมิดลิขสิทธใิ์ นงานใด ๆ ของผ#อู น่ื ไม3ว3าจะ
ทั้งหมดหรอื บางสว3 น และผู#อนุญาตสทิ ธจิ ะกระทําการใด ๆ ก็ตาม เพอ่ื ไม3ให#ผรู# ับอนุญาตสทิ ธิตอ# ง
ได#รบั ความเสยี หายหรอื ถกู ฟSองรอ# งดําเนนิ คดีและขอรับผิดชอบในค3าเสยี หาย หรือค3าใช#จา3 ยใด ๆ
ที่บคุ คลภายนอกอาจจะเรียกร#องเอาจากผ#รู ับอนญุ าตสทิ ธิอันเน่อื งมาจากการที่ผู#รบั อนญุ าตใช#
สทิ ธิทอี่ นุญาต
2. ผอ#ู นุญาตตกลงว3า ผอู# นุญาต จะไม3มอบสทิ ธใิ นลกั ษณะเดยี วกัน ตามสญั ญานี้ให#กบั ผูอ# นื่ อีก ใน
ระหว3างท่สี ญั ญายงั คงมีผลบังคับใช#
3. ผ#อู นุญาตตกลงรับผดิ ชอบในความเสียหายใดๆ อันเกิดจากผอ#ู นญุ าตละเมดิ ขอ# ตกลงในสัญญา
หรือให#ข#อมลู อนั เปWนเทจ็ แก3ผู#รบั อนุญาต
37
การแจง& ขอ& มูล
ผ#อู นุญาตสทิ ธิรับรองว3าจะแจ#งให#ผรู# ับอนุญาตสทิ ธทิ ราบในทนั ทเี กี่ยวกบั กรณดี ังตอ3 ไปน้ี
1. กรณีท่ีผอู# นุญาตสทิ ธิเปลีย่ นทอ่ี ยทู3 ี่ใชใ# นการตดิ ต3อ ท้ังน้เี พอื่ ประโยชนใI นการบริหารงานของรัฐ
อนุญาตสิทธิ
2. กรณีที่มีการเพมิ่ เติมหรอื คัดออกซงึ่ ดนตรกี รรมภายใตส# ัญญานหี้ รือมีการเปลยี่ นแปลงความ
เปนQ เจา# ของลขิ สิทธิ์สว3 นอื่น หรอื เปลย่ี นแปลงรายละเอยี ดทส่ี ําคัญใด ๆ ในดนตรกี รรมภายใต#
สัญญานี้
38
ระยะเวลาของสัญญา 39
1. สญั ญาน้มี ผี ลบังคับนบั แตว0 นั ท.ี่ ...................เปน7 ต8นไป จนกว0าค0ูสัญญาฝ?ายใดฝ?ายหนึ่งจะท ำ
หนงั สอื บอกกลา0 วเลกิ สญั ญาเปน7 ลายลักษณLอักษรส0งใหแ8 ก0คสู0 ญั ญาอีกฝา? ยล0วงหน8าเปน7
ระยะเวลาไม0นอ8 ยกว0า 3 เดือน
2. ในกรณีทคี่ 0สู ญั ญาฝา? ยใดพบวา0 อกี ฝา? ยไม0ปฏิบัตติ ามภาระผกู พันในสัญญาค0ูสัญญาฝ?ายที่
ปฎบิ ตั ิตา มสัญญามหี น8าทบี่ อกให8อีกฝ?ายดําเนินการแกไ8 ขและปฎบิ ตั ิตามสัญญาภายใน
ระยะเวลาตามสมควร หากอีกฝ?ายยงั คงไมป0 ฎิบตั ติ ามสญั ญาฝ?ายที่ปฎิบตั ิตามสญั ญา มีสิทธิ
บอกเลิกสัญญาน้ไี ด8 ทนั ทโี ดยทาํ หนงั สอื บอกกล0าวเลิกสญั ญาส0งให8คส0ู ญั ญาอกี ฝ?ายทราบเป7น
ลายลกั ษณLอักษร
3. เม่ือสัญญาไดส8 นิ้ สุดลง ไม0วา0 จะเป7นการครบกาํ หนดระยะเวลาของสญั ญา หรือ ฝ?ายหนง่ึ ฝ?าย
ใดบอกกลา0 วเลิกสัญญา คส0ู ัญญาตกลงร0วมกันว0า ใหก8 ารอนญุ าตลิขสทิ ธ์ใิ ดๆที่ไดก8 ระทําโดย
สจุ ริตกอ0 นการสิน้ สดุ ของสญั ญานย้ี ังคงมีผลบังคับได8ตอ0 ไป แตไ0 ม0เกนิ 12 เดอื นนับจากวัน
สิ้นสุดของสัญญาผ8ูรับอนุญาตยงั คงมภี าระผูกพันในการชําระสว0 นแบ0งจากการเรียกเก็บคา0
อนญุ าตจากสทิ ธิในการเผยแพร0ตอ0 สาธารณชนและ/หรอื สิทธทิ าํ ซ้าํ ตามสัญญาน้ใี หแ8 กผ0 ู8
2. ในกรณที ี่ค0ูสญั ญาฝา? ยใดพบว0าอกี ฝ?ายไม0ปฏิบัตติ ามภาระผกู พนั ในสญั ญาค0ูสญั ญาฝ?ายท่ี
ปฎบิ ตั ติ า มสัญญามีหนา8 ทบี่ อกให8อกี ฝา? ยดําเนินการแกไ8 ขและปฎบิ ัตติ ามสัญญาภายใน
ระยะเวลาตามสมควร หากอกี ฝ?ายยงั คงไมป0 ฎบิ ัตติ ามสญั ญาฝา? ยทีป่ ฎบิ ตั ติ ามสัญญา มีสทิ ธิ
ระบยอะกเเวลลกิ สาขัญอญงาสนัญ้ไี ดญ8 ทานั ท(ตีโดEอย)ทําหนงั สอื บอกกลา0 วเลกิ สัญญาส0งใหค8 0สู ญั ญาอกี ฝ?ายทราบเป7น
ลายลักษณLอักษร
3. เม่ือสญั ญาได8ส้ินสุดลง ไมว0 า0 จะเปน7 การครบกําหนดระยะเวลาของสัญญา หรือ ฝา? ยหน่งึ ฝ?าย
ใดบอกกลา0 วเลิกสัญญา คส0ู ัญญาตกลงร0วมกันวา0 ให8การอนุญาตลิขสิทธใิ์ ดๆทไ่ี ดก8 ระทาํ โดย
สุจริตกอ0 นการสน้ิ สุดของสญั ญาน้ียังคงมีผลบงั คบั ไดต8 อ0 ไป แตไ0 มเ0 กิน 12 เดอื นนบั จากวัน
สิ้นสุดของสญั ญาผรู8 บั อนญุ าตยังคงมีภาระผูกพันในการชาํ ระส0วนแบง0 จากการเรียกเกบ็ คา0
อนุญาตจากสิทธิในการเผยแพรต0 0อสาธารณชนและ/หรือสิทธิทาํ ซํา้ ตามสญั ญาน้ใี หแ8 กผ0 ู8
อนญุ าตจนครบถ8วน
40
สทิ ธเิ ผยแพรEตEอสาธารณะ
ซึ่งหมายถึงว+า ผ/ปู ระกอบการใดๆ ทมี่ ีการเป<ดหรือแสดงเพลงเปBนสว+ นหนึง่ ของธุรกจิ ต/องทําการขอ
อนุญาตสทิ ธิเผยแพร+ต+อสาธารณชน และจะต/องขออนุญาตงานลขิ สิทธ์ิประเภทใดบ/างนนั้ ขน้ึ อยู+กับ
ลักษณะการใชเ/ พลงของสถานประกอบการนน้ั ๆ เช+น ถา/ เลน+ ดนตรี รอ/ งเพลงสดในรา/ นอาหาร หรือ
เลน+ คอนเสิรTตถอื ว+าเปนB การเผยแพรง+ านดนตรีกรรม (ทํานอง/คํารอ/ ง) อย+างเดยี ว แตถ+ า/ เปด< เทปซีดี ก็
ถือว+าเปBน การเผยแพรท+ ้ังงานดนตรีกรรม และ งานส่ิงบนั ทึกเสียง
41
สทิ ธเิ ผยแพรEตEอสาธารณะ (ตEอ)
ดงั นน้ั จึงเห็นได,ว.า การจดั การสทิ ธิเผยแพร.นั้นจาํ เปน= ตอ, งมีระบบ เพราะเกีย่ วขอ, งกับงานลขิ สิทธหิ์ ลาย
ประเภท โดยมีผ,ูสร,างสรรคLและเจ,าของสิทธิในงานแตล. ะประเภทนัน้ เข,ามาเกี่ยวข,อง สําหรับหลกั การ
จดั เกบ็ คา. สิทธิเผยแพรน. น้ั โดยปกตแิ ลว, จะทําการจัดเก็บผา. นองคกL รกลางบรหิ ารจัดเก็บคา. สิทธิ
(Collective Management Organization) ซ่งึ จะแยกกันระหว.างงานดนตรีกรรม ทส่ี รา, งสรรคLโดย
นักแต.งเพลง กบั งานสิ่งบันทึกเสยี ง ทส่ี รา, งสรรคLโดยบริษัทเทป สาเหตทุ ่หี ลกั สากลนัน้ แยกเปน= 2
องคกL รตามประเภทงานกเ็ พราะ ต,องการสนบั สนุนให,เกดิ การรวมตวั ของนกั แต.งเพลงเพือ่ ดูแลจัดการ
สทิ ธิของตวั เอง เพราะเปน= ทีท่ ราบดีอย.ูแลว, วา. นักแตง. เพลงเด่ยี วๆ ย.อมมีอาํ นาจตอ. รองนอ, ย ซึ่งหากนกั
แตง. เพลงรวมตวั ดูแลสิทธิของกลมุ. ตวั เองได, ย.อมเพิ่มโอกาสท่ีจะสามารถรกั ษาความเปน= เจา, ของงาน
ดนตรกี รรมของตนได, นั่นเอง
42
กฎหมายท่ีเกย่ี วข&องกบั การละเมดิ ลขิ สิทธิด์ นตรี
ทนายวริ ัช หวงั ป.ติพาณชิ ย2 บอกว6า ทางกฎหมายเจ;าของลขิ สิทธิ์เทา6 นนั้ จงึ จะสามารถอนุญาตได; ตาม
กฎหมายพระราชบญั ญัตลิ ขิ สทิ ธ์ิ พ.ศ.2537 หากผใู; ดนําไปใช;โดยที่ไม6ได;รับอนุญาตนบั วา6 ผดิ ตาม
มาตรา 27 การกระทาํ อย6างใดอยา6 งหน่งึ แก6งานอนั มีลิขสทิ ธ์ติ ามพระราชบัญญัตนิ ้ี โดยไม6ได;รบั อนุญาต
ตามมาตรา 15 (5) ใหถ; อื วา6 เปน[ การละเมดิ ลิขสิทธิ์ ถ;าไดก; ระทาํ ดังต6อไปนี้ 16
(1) ทําซ้าํ หรือดัดแปลง
(2) เผยแพรต6 6อสาธารณชน
มาตรา 28 การกระทาํ อย6างใดอยา6 งหนงึ่ แก6โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร2 หรอื ส่งิ บันทึกเสยี งอันมี
ลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตนิ ี้ โดยไมไ6 ดร; ับอนญุ าตตามมาตรา 15 (5) ท้งั นี้ ไม6วา6 ในสว6 นท่ีเปน[ เสียงและ
หรอื ภาพ ให;ถอื ว6าเปน[ การละเมดิ ลขิ สิทธิ์ ถ;าไดก; ระทําดงั ต6อไปน้ี
(1) ทําซ้ําหรอื ดดั แปลง
(2) เผยแพรต6 อ6 สาธารณชน
(3) ให;เช6าต;นฉบับหรือสําเนางานดงั กล6าว
43
กฎหมายทีเ่ กย่ี วขอ& งกับการละเมดิ ลขิ สทิ ธดิ์ นตรี (ตอE ) 44
มาตรา 29 การกระทาํ อย.างใดอย.างหน่งึ แกง. านแพรเ. สียงแพร.ภาพอันมีลขิ สิทธติ์ าม
พระราชบญั ญัตนิ ้ี โดยไมไ. ดรH บั อนญุ าต ตามมาตรา 15 (5) ใหถH ือว.าเปนR การละเมิดลขิ สทิ ธิ์ ถHาไดH
กระทําดังตอ. ไปนี้
(1) จดั ทําโสตทัศนวัสดุ ภาพยนตรU สง่ิ บนั ทกึ เสียง หรอื งานแพรเ. สยี งแพร.ภาพ ทง้ั น้ี ไม.ว.าทง้ั หมดหรอื
บางส.วน
(2) แพรเ. สยี งแพรภ. าพซํ้า ทงั้ นี้ ไม.วา. ท้ังหมดหรอื บางส.วน
(3) จัดใหHประชาชนฟYงและหรือชมงานแพรเ. สียงแพร.ภาพ โดยเรียกเกบ็ เงินหรือผลประโยชนอU ย.างอ่นื
ในทางการคHา
มาตรา 30 การกระทาํ อย.างใดอยา. งหนึง่ แกโ. ปรแกรมคอมพิวเตอรอU นั มลี ขิ สทิ ธิ์ตาม
พระราชบญั ญตั ิน้ี โดยไม.ไดรH ับอนญุ าต ตามมาตรา 15 (5) ใหHถอื วา. เปนR การละเมิดลิขสทิ ธิ์ ถHาไดH
กระทาํ ดังตอ. ไปนี้
(1) ทาํ ซา้ํ หรอื ดดั แปลง
(2) เผยแพรต. อ. สาธารณชน
(3) ใหHเชา. ตHนฉบับหรือสําเนางานดงั กลา. ว
กฎหมายทเ่ี กี่ยวขอ& งกบั การละเมดิ ลิขสทิ ธดิ์ นตรี (ตEอ)
มาตรา 30 การกระทาํ อย.างใดอยา. งหนง่ึ แก.โปรแกรมคอมพวิ เตอร>อันมีลิขสทิ ธ์ิตาม
พระราชบญั ญัตนิ ี้ โดยไม.ไดKรบั อนญุ าต ตามมาตรา 15 (5) ใหถK ือว.าเปนS การละเมิดลขิ สทิ ธิ์ ถKาไดK
กระทาํ ดังต.อไปน้ี
(1) ทําซํ้าหรอื ดัดแปลง
(2) เผยแพรต. อ. สาธารณชน
(3) ใหเK ชา. ตKนฉบับหรือสําเนางานดังกลา. ว
“ถงึ แมวK า. เพลงนั้นจะเปSนเพลงทศี่ ิลปน\ รอK งแลKวดงั ข้ึนมา กไ็ ม.ไดหK มายความว.าจะเปSนเจาK ของ ดังน้นั
เม่ือศลิ ป\นเจKาของเพลงเม่อื นาํ เพลงไปรKองในงานต.างๆ ตKองกลบั มาจ.ายค.าลขิ สทิ ธิ์ดวK ย หากยKายค.าย
แลวK ก็ตKองจา. ยอยูด. ี ทุกอยา. งลวK นอยใ.ู นขอK ตกลง ตอK งยอมรบั ในสิทธข์ิ องเจKาของคา. ยทม่ี ีสทิ ธเิ์ ก็บ มีครู
เพลง” ทนายวิรชั ระบุ
45
5ลขิ สทิ ธชิ์ นดิ ที่ งานส่งิ บันทกึ เสยี ง
สงิ่ บนั ทกึ เสยี ง หมายถึง สงิ่ ทีป่ ระกอบขึ้นจากเสียงทีไ่ ดบ< ันทกึ ลงในสอื่ เชAน คอมแพคทEดสิ กE ,
คาสเสททE, เทป หรอื อุปกรณEอ่นื ใดที่สามารถบันทึกเสยี งได< หรอื อีกนยั หนึ่ง คอื ตอ< งเปนI เสียงที่อยูAบน
ซีดี (ไมใA ชตA ัวแผนA ซีดี) จึงจะถอื วAาเปนI สิ่งบนั ทึกเสียงได< ความคม<ุ ครองในงานสงิ่ บนั ทกึ เสียงนั้น เกิดขึ้น
ตามข<อกําหนดในพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ อนั ได<แกA ความคมุ< ครองในการนาํ งานออกเผยแพรA
ตอA สาธารณชน และการนาํ งานออกแพรAเสยี งแพรAภาพ
46
การนำออกเผยแพรตE อE สาธารณชนคืออะไร
บริษัทออกใบอนุญาตให0แกก2 ารนาํ สิง่ บนั ทกึ เสยี งหรอื มวิ สคิ วิดโี อออกเผยแพร2ต2อสาธารณชน
สิ่งบนั ทึกเสยี งจะเรียกวา2 “นาํ ออกเผยแพร”2 กต็ 2อเมอ่ื มีการ “ได0ยนิ เสียงเพลง” และเช2นเดยี วกนั
มิวสิควิดีโอจะเรียกวา2 “นาํ ออกเผยแพร”2 กเ็ ม่อื มีผู0ไดย0 นิ และไดร0 ับชม ดังนัน้ “การนาํ ออกเผยแพร2ตอ2
สาธารณชน” จงึ หมายถงึ การเล2นสงิ่ บันทึกเสียงหรอื การนําเสนอภาพประกอบเสยี งให0ได0รบั ชมรับฟงT
ในท่สี าธารณะ
การตีความคําวา2 “สาธารณะ” นนั้ ข้ึนอยู2กบั ประเภทของผูฟ0 Tง และผลกระทบทก่ี ารแสดงนัน้
มีตอ2 มูลค2าของงานลขิ สทิ ธ์ิ ดังน้ันการแสดงแต2ละประเภทก็ต0องมีการพิจารณาแยกเปWนคราวๆ ไป
วา2 กรณใี ดจึงจะเรียกวา2 “สาธารณะ” หรือ “สาธารณชน” อย2างไรกต็ าม ศาลไดม0 แี นวทางพิจารณาไว0
บางประการเก่ยี วกบั เร่อื ง สาธารณชน ว2าส่งิ เหล2าน้ถี ือวา2 เปนW สาธารณชน
1.ผ0ชู มกลม2ุ เลก็
2.ไมเ2 กบ็ ค2าเขา0 เพ่อื ฟงT หรือชมการแสดง
3.การแสดงนั้นมีเพอื่ กลุ2มบุคคลเฉพาะ เชน2 สโมสร
47
การนำออกเผยแพรEตอE สาธารณชนคืออะไร (ตอE )
ในสว$ นท่ีเก่ียวกับสงิ่ บันทึกเสียง การนําออกเผยแพรน$ ้นั ไม$สนใจว$าส่อื ทใ่ี ชจ? ะเปBนส่ือชนดิ ใด
ไมว$ $า เทป ซีดี ฯลฯ และเชน$ เดียวกัน มวิ สคิ วดิ โี อที่ฉายใหร? บั ชมน้ัน ไมว$ $าจะเปBนสอื่ ใด จอภาพยนตรM
โทรทศั นM วิดโี อ หรอื ดวี ีดี ในทกุ กรณตี ?องไดร? บั อนุญาตเพอื่ นําออกเผยแพรต$ $อสาธารณชนภายใต?
พระราชบญั ญัติลิขสทิ ธิ์ จากเจา? ของสทิ ธหิ รอื ผ?ไู ดร? บั มอบอาํ นาจอย$างถูกต?องเทา$ นั้น โดยใน
ประเทศไทย เจา? ของลขิ สทิ ธิ์ในงานส่ิงบันทึกเสียงเพลงสากล ได?รวมตัวกนั และมอบหมายให?
“บริษัท เอม็ พซี ี มิวสคิ จํากดั " ออกใบอนุญาตให?ใชส? ทิ ธิ ที่ครอบคลุมการใชง? านเพลงของเจา? ของสิทธิ
จํานวนมากในใบอนุญาตเพียงใบเดยี ว การขออนุญาตจงึ ง$ายและสะดวกสาํ หรบั ทกุ ฝ\ายท่เี ก่ยี วขอ? ง
48
การทำซ้ำคืออะไร
เพลงน้ันอยรู+ อบตัวเรา ทง้ั ในรา4 นค4า รถ รา4 นอาหาร และในโทรทัศน< กอ+ นท่ีคุณจะทาํ สาํ เนา
เพลงใดๆ ก็ตาม คณุ ควรเข4าใจกฎพ้ืนฐานในเร่ืองของการทาํ สาํ เนางานเพลงเสียกอ+ น
คณุ “ต4อง” ไดร4 ับอนญุ าต กอ+ นทจี่ ะมกี ารทาํ สําเนาเพลงทุกครัง้ ไมว+ า+ จะนาํ ใช4เพ่ือเผยแพรใ+ น
ที่สาธารณะ หรือเพือ่ ประโยชนส< +วนตวั (มีข4อยกเว4นอยเ+ู พียงไม+กี่กรณี ซง่ึ ระบุไว4อย+างชัดเจน
ในพระราชบัญญัติลิขสทิ ธ)์ิ ลขิ สทิ ธมิ์ ีผลกบั งานไม+วา+ จะอยใู+ นรปู แบบใดหรือมีตน4 ตอมาจากทใี่ ด
ไมว+ า+ คุณจะดาวน<โหลดเพลงมาจากเว็บไซต<ถูกกฎหมาย หรือทาํ สําเนามาจากซีดที ่ซี ้อื มาอย+างถูกตอ4 ง
กต็ าม บรษิ ทั เอ็มพซี ี มิวสิค จาํ กัด ออกใบอนญุ าตใหใ4 นนามของสมาชกิ สมาคมการคา4 ผู4ประกอบธุรกิจ
บันเทงิ ไทยแกบ+ คุ คลและองคก< รท่ีประสงคใ< หก4 ารกระทําซา้ํ เพ่อื จดุ ประสงค<ใดๆ ก็ตาม (เช+น อดั เพลง
เป\นเสียงแบค็ กราวนดจ< าํ หน+าย เปน\ ตน4 ) เป\นไปอยา+ งถูกกฎหมาย ด4วยบรกิ ารออกใบอนญุ าต
ของบริษัท ทา+ นจะสามารถใชง4 านเพลงได4อย+างกว4างขวาง ท้ังเพลงของบรษิ ัทใหญ+ทม่ี ีชือ่ เสยี ง
และคา+ ยเพลงอสิ ระจํานวนมาก
49
การละเมิดลขิ สทิ ธส์ิ งิ่ บนั ทึกเสยี ง
มาตรา 27 การกระทาํ อย.างใดอย.างหนึง่ แกง. านอนั มีลขิ สทิ ธต์ิ ามพระราชบญั ญตั ินี้ โดยไมไ. ดFรบั
อนุญาตตามมาตรา 15(5) ใหถF อื วา. เปQนการละเมดิ ลิขสทิ ธิ์ ถFาไดFกระทาํ ดงั ต.อไปน้ี
(1) ทําซํ้าหรือดัดแปลง
(2) เผยแพรต. .อสาธารณชน
50